Forex-Currency Trading-Swiss based forex related website. Home ----- กระดานสนทนาหน้าแรก ----- Gold Chart,Silver,Copper,Oil Chart ----- gold-trend-price-prediction ----- ติดต่อเรา
หน้า: 1 ... 14 15 [16] 17 18   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: read read readingggggggggggggg  (อ่าน 12554 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #225 เมื่อ: ธันวาคม 29, 2016, 12:01:23 PM »


มินิซีรี่ส์
 18. วิถีพอเพียง

ความจริงแล้ว คนไทยมีนิสัยรักความสบายแบบพอมีพอกิน หาได้แค่ไหนก็ใช้เท่านั้น หมดแล้วค่อยหาใหม่ ไม่ต้องดิ้นรนมาก

ลักษณะการเป็นอยู่แบบพอมีพอกินนี้อยู่กับคนไทยมาตลอด จนกระทั่งหลังจากที่มีการตั้งธนาคารแห่งประเทศไทยขึ้นมา มีการใช้ระบบธนาคารสมัยใหม่ที่เราอิมพอร์ตจากโลกตะวันตก และมีการเปิดเสรีทางการเงินอย่างสมบูรณ์ทำให้ความพอมีพอกินนี้สิ้นสุดลง

ความพอมีพอกินนี้ใช้ไม่ได้กับยุคปัจจุบัน เนื่องจากค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าใจหาย ค่าของเงินลดลง และเงินเฟ้อสูงขึ้นทุกปี

แต่ก่อนทองคำบาทละ400บาท ตอนนี้ราคาบาทละ20,000บาทแล้ว

แต่ก่อนก๋วยเตี๋ยวชามละ2-3บาท ตอนนี้ก๋วยเตี๋ยวราคา40-50บาท

แต่ก่อนมีรายได้1,000-2,000ก็สามารถเลี้ยงครอบครัวได้อย่างสบาย ตอนนี้มีรายได้40,000-50,000บาทยังชักหน้าไม่ถึงหลังกัน

ชาวประชาไทยหน้าไม่ใสอีกต่อไป เพราะว่ามีหนี้กันทั้งแผ่นดิน

สาเหตุหลักที่ทำให้ความพอมีพอกินของคนไทยที่มีมาช้านานสิ้นสุดลง เพราะว่าธนาคารสามารถเพิ่มปริมาณเงินได้ในระบบ ปริมาณเงินที่เพิ่มจากระบบสำรองเสี้ยวเดียวใจการทำธุรกรรมปล่อยกู้ (fractional reserve system) ทำให้เกิดเงินเฟ้อ

เงินเฟ้อทำให้ค่าเงินเสื่อม

เงินเฟ้อคือปรากฎการณ์ทางการเงินที่เกิดจากการเพิ่มปริมาณเงินอย่างมหาศาลในระบบการธนาคารสมัยใหม่

ด้วยเหตุนี้นายธนาคารจึงรวยเอาๆ ส่วนประชาชนส่วนมากจนลงๆ

จากตาราง จะเห็นว่าวิธีการเพิ่มปริมาณเงินในการทำธุรกรรมทางการเงินของธนาคารเกิดขึ้นได้อย่างไร เริ่มต้นด้วยแบงค์รับเงินฝากจากนายA100บาท สมมุติว่าต้องสำรอง20%ตามกฎของธนาคารกลาง แบงค์สามารถปล่อยกู้ได้80บาท โดยชัก20บาทเอาไว้เพื่อกันสำรองอ้างว่าเพื่อลดความเสี่ยง นายBรับเงินกู้จากแบงค์80บาทตัวเลขจะโผล่ขึ้นมาในบัญชีทันที ยังไม่ทันได้ใช้ แบงค์สามารถกันสำรอง16บาทจากจำนวนนี้ แล้วปล้อยกู้64บาท

ขบวนการนี้ดำเนินไปเรื่อยๆ จนท้ายที่สุดแล้ว จากเงินฝากของนายAเพียง100บาท สามารถสร้างเงินฝากใหม่ได้457.05บาท โดยที่มีอัตราเงินที่ปล่อยกู้ออกไป357.05บาท

การสร้างเงิน (money creation) โดยธนาคารนี้ผ่านระบบการกันสำรองเพียงเสี้ยวเดียวเป็นที่มาของความร่ำรวยของเหล่าบรรดานายธนาคารที่ควบคุมระบบการเงินโลกในปัจจุบัน และนำมาซึ่งอำนาจทางการเมืองที่ควบคู่กันไปด้วย

ระบบนี้ทำให้ค่าเงินเสื่อมอย่างรวดเร็ว เงินเฟ้อเพิ่มสูงอย่างน่ากลัว เพราะว่าปริมาณของเงินถูกสร้างขึ้นในระบบในปริมาณที่สูง

คนไทยที่มีชีวิตอยู่ในภาคเกษตรกรรมไม่มีทางที่จะมีรายได้มากพอที่จะยังชีพ เนื่องจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น ในขณะที่ราคาสินค้าเกษตรเพิ่มสูงขึ้นไม่ทัน หรือถูกกด แต่ราคาสินค้าอุตสาหกรรม หรือสินค้าผู้บริโภคอุปโภคเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทุกๆปี

ด้วยเหตุนี้คนไทยที่ต้องการอยู่อย่างพอเพียงก็อยู่ไม่ได้ ต้องทิ้งภาคเกษตรไปขายแรงงานในโรงงานอุตสาหกกรรม หรือตลาดบริการเพื่อให้มีรายได้เพิ่ม แต่รายได้เพิ่มก็ไม่พอกับรายจ่ายที่สูงกว่า เพราะว่าเงินเฟ้อมหันตภัยจากระบบกันสำรองเสี้ยวเดียวในระบบธนาคารสมัยใหม่ที่เราเอามาใช้ โดยอ้างว่าเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจให้เจริญเทียบเท่าอารยะประเทศ

thanong
 14/12/2016
https://www.facebook.com/notes/596509623721946/


บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #226 เมื่อ: ธันวาคม 29, 2016, 12:03:36 PM »


มินิซีรี่ส์
 19. วิถีพอเพียง

หนึ่งในศัตรูตัวร้ายของวิถีพอเพียงคือระบบสำรองเสี้ยวเดียวของธนาคาร (fractional reserve system)ในทุนนิยมการเงิน ที่เปิดโอกาสให้ธนาคารสร้างเงินใหม่เข้าไปในระบบการเงินทำให้เกิดเงินเฟ้อ และทำให้แบงค์ได้กำไรอย่างมหาศาล เพราะว่าพิมพ์เงินเองได้

คนไทยทั่วไปที่มีการกินอยู่อย่างพอเพียงต้องปากกัดตีนถีบ เพราะค่าครองชีพที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วจากเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นจากการเพิ่มปริมาณเงินของระบบสำรองเสี้ยวเดียวของธนาคาร

รายได้จากการขายสินค้าเกษตรไม่มีทางที่จะวิ่งตามทันเงินเฟ้อ แม้แต่คนชั้นกลางที่มีรายได้ที่สูงกว่าชาวบ้านมีปัญหาในการหารายได้ให้สูงกว่าค่าใช้จ่ายเหมือนกัน

ในปัจจุบันนี้เงินฝากในระบบธนาคารของเมืองไทยมีทั้งหมดประมาณ11ล้านล้านบาท และเงินปล่อยกู้มีประมาณเท่าๆกันคือ11ล้านล้านบาท เกือบจะเทียบเท่าขนาดของจีดีพีของประเทศที่ประมาณ12ล้านล้านบาท

แต่มีเม็ดเงินที่หมุนเวียนจริงๆในระบบการเงิน ทั้งธนบัตรและเหรียญที่ธนาคารแห่งประเทศพิมพ์เข้าไปเพียงแค่1.49ล้านล้านบาท

เงินฝาก11ล้านล้านบาท หรือเงินปล่อยกู้11ล้านล้านบาทผ่านระบบธนาคารเป็นเงินที่อยู่ในรูปบัญชีทั้งนั้น ไม่ได้มีอยู่จริง แต่เกิดจากการใช้ระบบสำรองเสี้ยวเดียวเพื่อเพิ่มปริมาณเงินทั้งเงินฝากและเครดิตในระบบ

เม็ดเงินจริงที่จับต้องได้มีเพียง1ใน10ของปริมาณเงินทั้งหมด ที่เหลือเป็นเงินสมมุติทางบัญชี

จากตารางจะเห็นได้ชัดเจนว่าเงินฝากเริ่มต้นที่$100 ธนาคารสามารถเอาเงินจำนวนนี้ไปปล่อยกู้เพิ่มเป็น$900ด้วยการกันสำรอง10%

ธนาคารสามารถเสกเงินจากอากาศได้ จำนวน$800ที่เพิ่มขึ้นจากเงินฝากเดิม$100เป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดแรงกดดันของเงินเฟ้ออย่างมหาศาล

เงินเฟ้อเป็นภัยต่อการกินดีอยู่ดีของทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนด้อยโอกาส หรือคนที่มีรายได้น้อยจะได้รับผลกระทบมากที่สุดจากเงินเฟ้อ

ในปี2013 Marc Faber นักลงทุนระดับโลก บอกกับผมว่าเงินเฟ้อไทยที่แท้จริงอยู่ที่10%ต่อปี เขาไม่เชื่อตัวเลขทางการไทยที่บอกว่าเงินเฟ้ออยู่ที่2%-3%

ชาวบ้านตาดำๆจะมีรายได้เพิ่มอย่างไร10%เพื่อที่จะรักษาความสามารถในการซื้อในระดับเดิมเมื่อเงินเฟ้อสูงอย่างนี้

วิถีพอเพียงจะไม่เกิด ถ้าหากว่ายังคงมีการเพิ่มปริมาณเงินอย่างมหาศาลด้วยอัตรา1ต่อ9ในเวลานี้

thanong
 14/12/2016

http://www2.bot.or.th/statistics/BOTWEBSTAT.aspx
http://www2.bot.or.th/statistics/BOTWEBSTAT.aspx
http://www2.bot.or.th/statistics/BOTWEBSTAT.aspx


บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #227 เมื่อ: ธันวาคม 29, 2016, 12:06:04 PM »


มินิซีรี่ส์
 20. วิถีพอเพียง

นอกจากธนาคารจะใช้ระบบสำรองเสี้ยวเดียวเพื่อทำกำไรมหาศาลจากการเพิ่มเงินในระบบถึง8-9เท่าจากยอดเงินฝากดั้งเดิม ซึ่งมีผลทำให้เกิดเงินเฟ้ออย่างรุนแรง ธนาคารยังคิดอัตราดอกเบี้ยที่ไม่เป็นธรรม

ธนาคารให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประมาณ1%โดยเฉลี่ย แต่ชาร์จอัตราดอกเบี้ยเงินกู้6-8%โดยเฉลี่ย

สินเชื่อส่วนบุคคลม่ีอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ19%-20%; ส่วนอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตจะอยู่ที่ประมาณ20%

ในขณะเดียวกัน เจ้ามือใหญ่คือธนาคารแห่งประเทศไทยมีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยพื้นฐานที่1.50%

ธนาคารพานิชย์ที่ขาดสภาพคล่องสามารถมาขอกู้เงินระยะสั้นจากธนาคารแห่งประเทศไทยได้ในอัตราดอกเบี้ย1.50% โดยเอาพันธบัตรของรัฐบาลหรือของรัฐวิสาหกิจที่น่าเชื่อถือมาวางเพื่อเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน

โครงสร้างดอกเบี้ยเงินฝาก และเงินกู้ในระบบการเงินไทยไม่มีความเป็นธรรม แบงค์กำไรเกินพอ ส่วนผู้ออมเงินฝากได้ดอกเบี้ยไม่พอ และผู้กู้เงินต้องจ่ายดอกเบี้ยเกินพอ

ด้วยเหตุนี้หนี้ภาคครัวเรือนของไทยจึงอยู่ในระดับสูงถึง11ล้านล้านกว่าบาท หรือเทียบเท่า81%ของจีดีพี

อัตราหนี้ภาคครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจากระยะ5-6ปีที่ผ่านมา เนื่องจากธนาคารแห่งประเทศไทยมีการกดดอกเบี้ยต่ำเป็นเวลานาน เหมือนกับธนาคารกลางของสหรัฐหรือของยุโรป ทำให้สภาพคล่องมีสูง ก่อหนี้ได้ง่าย

แม้ว่าตัวเลขเงินเฟ้อจะต่ำ แต่ค่าครองชีพที่แท้จริงกลับสูง ขึ้นทำให้คนไทยต้องใช้จ่ายมากยิ่งขึ้นในการซื้อบ้าน ซื้อรถ หรือจ่ายค่าเรียน ค่ารักษาพยาบาล ค่าอาหาร ฯลฯในระดับที่สูงขึ้น

แทนที่คนไทยจะได้ประโยชน์จากยุคดอกเบี้ย0%ที่ธนาคารกลางของสหรัฐ และยุโรป ใช้อยู่มาเป็นเวลา8ปีแล้ว แต่ความจริงแล้วคนไทยยังต้องจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ที่แพงเหมือนสภาวะการเงินปกติ

ถ้าหากว่าดอกเบี้ยต้องขยับขึ้นสู่สภาวะปกติ หรืออย่างน้อยต้องสูงกว่าระดับปัจจุบันอีก4%-5% ดอกเบี้ยเงินกู้ที่คนไทยต้องจ่ายจะไม่พุ่งทะลุฟ้าหรือ?

ระบบการเงินสมัยใหม่ไม่มีความเป็นธรรม เพราะว่าเอื้อให้แบงค์กำไรเกินพอ และสร้างภาวะให้ประชาชนเกินกำลังที่จะรับได้

ธนาคารแห่งประเทศไทยดูแลประโยชน์ของแบงก์มากกว่าที่จะดูแล หรือปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน

โครงสร้างที่ไม่เป็นธรรมนี้ และจะสร้างความเสียหายให้ประเทศในระยะต่อไปเมื่อคนไทยมีหนี้มากขึ้น มีกำลังซื้อน้อยลง และค่าครองชีพสูงขึ้น

ดูยังไงก็ไม่ใช่วิถีพอเพียง

thanong
 15/12/2016






บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #228 เมื่อ: ธันวาคม 29, 2016, 12:09:07 PM »

มินิซีรี่ส์
 21. วิถีพอเพียง

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูอดุลยเดชทรงสอนให้เราเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน สามัคคีกันและทำงานร่วมกันเป็นหมู่เป็นเหล่า เพราะว่าการสามัคคีกันและความรับผิดชอบร่วมกันจะเป็นพลังทำให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง เมื่อชุมชนเข็มแข็ง ครอบครัวและบุคคลที่อยู่ในชุมชนนั้นถึงจะกินดีอยู่ดี ความพอเพียงถึงจะเกิดขึ้นได้

หนึ่งในวิธีการที่จะทำให้ชุมชนเข้มแข็งคือการเป็นเจ้าของร่วมผ่านสหกรณ์ ระบบสหกรณ์เป็นวิถีพอเพียงในรูปแบบหนึ่ง

เมื่อประมาณ30ปีมาแล้ว พระองค์ทรงมีพระราชดำรัสเกี่ยวกับระบบสหกรณ์เนื่องในวาระหรือโอกาสต่างๆดังนี้:

"..ควรที่จะมีการแพร่ขยาย ให้ใช้ระบบสหกรณ์ขึ้นทั่วประเทศ เนื่องจากวิธีการสหกรณ์นั้นเอง เป็นรากฐานที่ดีของระบบประชาธิปไตยอย่างสำคัญ สอนให้คนรู้จักรับผิดชอบร่วมกันให้มีการเลือกตัวแทนเข้าไปบริหารสหกรณ์ ตลอดจนให้รู้ถึงคุณค่าของประโยชน์อันจะได้ร่วมกันเป็นส่วนรวม...”

“...คำว่าสหกรณ์นี้ก็เป็นที่เข้าใจกันดีแล้วเดี๋ยวนี้ ว่าเป็นการร่วมแรง ร่วมกำลัง “สห” ก็ด้วยกัน “กรณ์” ก็ปฏิบัติงาน สหกรณ์มีหลายจำพวก และตามตำราก็ได้แบ่งเป็นสหกรณ์หลายชนิดแต่ละสหกรณ์จะมีประโยชน์อย่างยิ่งก็อย่างที่กล่าวมาคือสหกรณ์อเนกประสงค์ คำว่า “อเนกประสงค์” แปลว่า ไม่ใช่เอกประสงค์ เอกก็หนึ่ง ประสงค์ความต้องการหรือกิจการ อเนกก็ไม่ใช่หนึ่ง ก็หมายความว่าหลายๆ ประสงค์ ทำไม ก็เพราะว่าชีวิตคนเราจะต้องมีหลายอย่าง...”

“...สหกรณ์ คือ การมีชีวิตร่วมกันและสร้างสรรค์ขึ้นมาสร้างสรรค์ร่วมกัน คือ สห เข้าด้วยกัน และ กรณ์ คือ การกระทำทำงานทำการสร้างชีวิตร่วมกัน เพราะคนเราอยู่คนเดียวไม่ได้ต้องร่วมกัน ถ้ามีจิตใจที่จะปฏิบัติการสหกรณ์ที่แท้จริงเช่นนี้ประกอบด้วยความรู้ก็จะทำให้มีความสำเร็จแน่นอน...”

“...ความคิดของการสหกรณ์ ซึ่งในเมืองไทยได้ปฏิบัติมาดังนี้เป็นเวลานานแล้วเป็นร้อยปี ไม่ใช่เพิ่งได้ทำเมื่อมีคำว่าสหกรณ์เกิดขึ้น คำว่าสหกรณ์นี้นับว่าเป็นคำใหม่ แต่ว่าแบบสหกรณ์ทำมานานแล้ว ทำมาในรูปการต่างๆ ถ้ายกตัวอย่างอย่างหนึ่ง อย่างเช่น การร่วมกันสร้างฝาย...”

“...การสหกรณ์นี้ถ้าเข้าใจดีแล้วก็เห็นได้ว่าเป็นวิธีทางเดียวที่จะทำให้มีความเจริญก้าวหน้าของประเทศได้ และต้องเข้าใจว่าเป็นการสหกรณ์ที่เรียกว่าสหกรณ์แบบเสรี คือ แต่ละคนต้องมีวินัยจริง แต่ว่าไม่อยู่ในบังคับของใครเลย อยู่ในบังคับของวินัยที่ตัวเองต้องเป็นผู้รับรอง...”

“...คำว่าสหกรณ์เป็นเพียงคำถ้าเราปฏิบัติ ก็เป็นวิถีชีวิตอย่างหนึ่ง แต่ถ้าเราถือว่าสหกรณ์เป็นคำศักดิ์สิทธิ์เฉยๆ ก็จะไม่เป็นประโยชน์อะไร ฉะนั้น ก็ขอให้ทุกคนตั้งใจที่จะดำเนินชีวิตอย่างมีความขยันหมั่นเพียร ความอดทน ความบริสุทธิ์ใจ และรักษาความสามัคคีโดยดี เอื้อเฟื้อซึ่งกันและกัน ดังนี้ ก็จะทำให้คำว่าสหกรณ์ศักดิ์สิทธิ์และทำให้ชีวิตของแต่ละคนมีความสุข...”

“...สหกรณ์นี่นะต้องอาศัยปัจจัยสำคัญที่สุด คือ ความสามัคคี ความซื่อสัตย์ ถ้าใครเข้ามาเป็นกลุ่มก็ต้องหวังดีซึ่งกันและกัน ถึงจะให้กลุ่มนั้นเจริญได้ ถ้าเข้ามาในกลุ่มเพื่อเอาเปรียบซึ่งกันและกัน มีหวังล้มแน่...”

“...การอยู่เป็นสหกรณ์มีตัวอย่างมาแล้วในหลายประเทศและในประเทศก็มี มีตัวอย่างมาแล้วเหมือนกันว่า เริ่มต้นด้วยความลำบากยากเย็น แต่ในที่สุดมีความร่ำรวย มีเกียรติเป็นคนที่คนนับถือทั่วทั้งประเทศว่า ผู้ที่ทำกิจการสหกรณ์อย่างดีก็เป็นคนที่มีความน่าชม คือ น่านับถือ น่ายกย่อง ฉะนั้นคนไหนมีอาชีพใดและตั้งตัวขึ้นมาได้ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และด้วยความเฉลียวฉลาดเป็นคนที่น่านับถือทั้งนั้น ยกย่องได้...”

“...การที่ไปกู้ยืมเขา ถ้าเอาเงินมาใช้ในทางที่ถูก สร้างสรรค์กิจการให้มีกำไรได้ ให้มีความก้าวหน้าได้ ก็ควรทำได้ โดยเฉพาะไปกู้ยืมจากธนาคารซึ่งตั้งขึ้นมาโดยเฉพาะสำหรับการเกษตรและสหกรณ์ อันนี้ก็นับว่าปลอดภัย แต่ว่าถ้ากู้ยืมไปซื้อเหล้ามาดื่ม หรือไปเล่นการพนันแล้วไปกู้ยืมเขามา ไม่มีทางที่จะใช้หนี้เขาได้ โดยเฉพาะอย่างดื่มเหล้านั้น ดื่มไปมันก็ไปแล้ว ร่างกายเราก็ทรุดโทรมก็ยิ่งทำให้เสียสองเท่า ฉะนั้นการที่จะไปกู้ยืมในฐานะบุคคลก็ตาม หรือ ในฐานะสหกรณ์ก็ตาม จะต้องคิดให้ดีว่าการกู้ยืมนั้นมีเหตุผลหรือไม่...”
http://mueang.chachoengsao.doae.go.th/King.html

จะเห็นได้ว่า ในระบบเศรษฐกิจพอเพียง ความเป็นเจ้าของจะอยู่ในมือของชุมชน (community ownership)

ต่างจากระบบทุนนิยมที่เน้นความเป็นเจ้าของที่เป็นบุคคล (private ownership)

ต่างจากระบบสังคมนิยมหรือระบบคอมมิวนิสต์ที่เน้นความเป็นเจ้าของที่เป็นรัฐ (state ownership)

ต่างจากระบบฟาสซิสท์เผด็จการที่เน้นความเป็นเจ้าของที่เป็นผู้นำเผด็จการและพวกพ้องกลุ่มเล็กๆ ( Oligarchic ownership)

สังคมไทยจะมีความเข้มแข็ง หรือความพอเพียงจะเกิดขึ้นได้เมื่อชุมชนมีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ความเป็นเจ้าร่วมของชุมชนผ่านระบบสหกรณ์เป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะว่าสหกรณ์จะดูแลทรัพยากรธรรมชาติ หรือที่ดินในพื้นที่ โดยคนในชุมชนจะเป็นผู้บริหารจัดการ โดยที่รัฐบาลหรือนายทุนข้างนอกยื่นมือเข้ามาเกี่ยวข้องน้อยที่สุด

มีทั้งสหกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ สหกรณ์ที่บริหารจัดการที่ดิน สหกรณ์ออมทรัพย์ สหกรณ์ที่เกี่ยวกับการประมง สหกรณ์โคนม สหกรณ์ป่าไม้ สหกรณ์พืชผักสมุนไพรฯลฯ

ที่ผ่านมาสหกรณ์ถูกทำให้อ่อนแอ หรือล้มเหลวเป็นส่วนมาก เพราะว่าถูกรัฐบาลส่วนกลาง และนายทุนเข้ามาบ่อนทำลาย ไม่สามารถต้านแรงทุนนิยมได้

สมาชิกของสหกรณ์ไม่ได้มีการรวมตัวกันจริงๆจังๆ ขาดวินัย+ความรับผิดชอบ ขาดความซื่อสัตย์ และขาดความรู้ในการบริหารจัดการที่ถูกต้อง

แร่โปรแตช บ่อน้ำมันหรือทองคำที่อยู่ใต้ดินที่ชุมชนไหน ชุมชนนั้นควรมีความเป็นเจ้าของ ถ้ารัฐบาลจะมีเอี่ยวก็ต้องคุยกัน หรือตกลงกันทางโครงสร้างความเป็นเจ้าเพื่อแบ่งปันผลประโยชน์กัน

แต่โครงสร้างปัจจุบัน ทรัพยากรธรรมชาติมีที่ไหนรัฐบาลส่วนกลางยึดไปหมด แล้วนักการเมืองจับมือกับข้าราชการเซ้งลี้ทรัพยากรธรรมชาตินั้นต่อให้นายทุนไทย หรือนายทุนต่างชาติกอบโกยผลประโยชน์แต่ฝ่ายเดียว โดยที่ชุมชนไม่ได้อะไรเลย

อย่างมากที่ชุมชนได้ คือรับจ้างแรงงาน หรือเป็นยาม

ถ้าไม่ไขปัญหาโครงสร้างนี้ วิถีพอเพียงจะไม่เกิด

วิถีพอเพียง คือการกลับไปสู่ความเป็นเจ้าของของชุมชนผ่านระบบสหกรณ์

คนที่อยู่ในชุมชนก็จะมีรายได้แบบพอมีพอกินอย่างแท้จริง เพราะว่ารายได้ส่วนหนึ่งจากสหกรณ์จะมาดูแลการศึกษา หรือการรักษาพยาบาล หรือสิทธิประโยชน์อื่นๆ

คนในชุมชนควรที่จะเรียนรู้วิทยาการ เทคโนโลยี่ หรือช่างเทคนิคเพื่อเอาความรู้ที่จับต้องได้นั้นมาพัฒนาชุมชน ทรัพยากรธรรมชาติของชุมชน และดูแลสหกรณ์ให้ประสบความสำเร็จ แทนที่จะเสียเงินเสียทองมากมายเรียนปริญญาตรีด้านนิติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ รัฐศาสตร์ การตลาด การโรงแรมที่ไม่มีประโยชน์อะไร เรียนจบออกมาก็ไม่มีความรู้ คิดก็ไม่เป็น

สาเหตุหนึ่งที่ภาคครัวเรือนมีหนี้สูง เพราะว่าต้องกู้ยืมเงินเพื่อส่งลูกหลานเรียนหนังสือที่เรียนแล้วได้แต่ปริญญา แต่ไม่ได้ความรู้ที่แท้จริง และความรู้นั้นเอามาประยุกต์ใช้กับการพัฒนาชุมชนไม่ได้ ต้องไปขายแรงงานในเมืองอย่างเดียว เป็นทาสของระบบทุนนิยม

เมื่อสหกรณ์ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งเข้มแข็ง จะมีการเชื่อมโยงกับสหกรณ์ในหมู่บ้านอื่นในระดับจุลภาค ก่อนที่จะเชื่อมโยงกับสหกรณ์ในตำบล ในจังหวัด และในพื้นที่อื่นๆทั่วประเทศ กลายเป็นระบบสหกรณ์นิยมที่สมบูรณ์ในระดับมหภาค

วิถีพอเพียงสำหรับคนไทยที่อยู่ที่ฐานของปิรามิดจะมีการกินดีอยู่ดี หรือเป็นไทที่แท้จริงด้วยหลักที่ง่ายๆของการเป็นเจ้าของร่วมของชุมชนที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูอดุลยเดชได้วางรากฐานให้พวกเรา

แค่เดินตามสิ่งที่พระองค์ทรงสอนพวกเราด้วยสติ ปัญญา ความซื่อสัตย์ต่อตนเองและผู้อื่นและความเพียรก็จะประสบกับความสำเร็จ และความพอเพียงจะเกิดขึ้น

ถ้าชุมชนไม่เข้มแข็ง จะถูกวิถีทุนนิยมผูกขาดรุกเข้าไปจังหวัด อำเภอและหมู่บ้านเพื่อที่จะกินรวบ โดยที่คนไทยจะไม่มีวันโงหัวขึ้นมาได้
 thanong
 15/12/2016


บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #229 เมื่อ: ธันวาคม 29, 2016, 12:09:50 PM »

มินิซีรี่ส์
 22. วิถีพอเพียง

อเมริกามีAmerican Dream จีนเอาอย่างมั่งมีChinese Dream แต่ไทยไม่มี Thai Dream เพราะว่าเราสบายอยู่แล้ว ไม่ต้องดิ้นรนอะไรมาก เรามีเพียงความพอเพียงที่เป็นจุดมุ่งหมายสูงสุดของทั้งทางโลกและทางธรรม

American Dream หรือความฝันอเมริกันเป็นคำขวัญของคนอเมริกันที่ส่วนใหญ่เป็นผู้อพยพเข้ามาดินแดนทวีปอเมริกาเหนือเพื่อแสวงหาเสรีภาพและชีวิตที่ดีกว่า

อเมริกาเป็นถิ่นของอินเดียนแดงที่อาศัยมาก่อน แต่ถูกคนผิวขาวปล้นแผ่นดิน และฆ่าตายเป็นจำนวนมากทำให้เผ่าพันธุ์อินเดียนแดงแทบจะไม่เหลือ

อเมริกาเป็นดินแดนที่เป็นป่าเขาลำเนาไพร (wilderness) ใครจับจองที่ดินหรือทรัพยากรได้ก่อนก็เอาไป มือใครยาวสาวได้สาวเอา

อเมริกาเป็นดินแดนของโอกาส (Land of Opportunities) ในระบบแข่งกันอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อความอยู่รอดนี้ มีความรุนแรงและเหตุร้ายเกิดขึ้นเป็นปกติ คนอเมริกันจำต้องพกปืนเพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของตัวเอง ด้วยเหตุนี้จึงมีการตราในบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญให้สิทธิ์คนอเมริกันที่จะครอบครองอาวุธปืน

อเมริกันดรีมมีรากเหง้ามาจากคำประกาศอิสระภาพของคนอเมริกันต่ออังกฤษในยุคก่อตั้งประเทศเมื่อ200กว่าปีมาแล้ว คำประกาศนี้เขียนเอาไว้ว่า ทุกคนถูกสร้างมาให้เท่าเทียมกัน มีสิทธิ์ในชีวิต เสรีภาพ และการแสวงหาความสุข

ต่อมา แนวคิดอเมริกันดรีมมีการพัฒนามาเป็นเสรีภาพ และโอกาสของความสำเร็จและความร่ำรวย หรือการยกระดับทางสังคมของครอบครัวและลูกหลาน ความสำเร็จนี้ต้องได้มาด้วยน้ำมือของตัวเอง หรือการทำงานหนัก โดยที่ไม่มีอุปสรรคอะไรทางสังคม หรือกฎหมายมาขวางกั้น

ในอเมริกันดรีม ลูกต้องมีชีวิตที่ดีกว่าพ่อแม่

นักการเมืองอเมริกันเวลาหาเสียง มักจะพูดว่าAre you better off than four years ago? หรือคุณมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่า4ปีที่แล้วหรือไม่ ถ้าไม่ดี ให้เลือกผม เพราะว่าผมจะทำให้ชีวิตของคุณดีขึ้น

อเมริกันดรีมเป็นความใฝ่ฝันที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้น หรือรวยขึ้นอย่างไม่มีวันพอ

ไชนิสดรีม หรือความฝันของจีนเป็นคำขวัญของจีนสมัยใหม่ ที่เพิ่งจะมีการประกาศออกมาในเดือนพฤศจิกายน ปี2012นี้เอง โดยประธานาธิบดี สี จิ้นผิง

ในฐานะผู้นำประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกรุ่นที่5 สีต้องการวางรากฐานของการกินดีอยู่ดีของคนจีน เพื่อให้ทุกคนมั่นใจว่าผู้นำจีนได้นำมาประเทศมาสู่แนวทางการพัฒนาประเทศ และมีหลักคิดที่ถูกต้องลงตัว หลังจากที่จีนมีการลองผิดลองถูก ล้มลุกคลุกคลานมาตลอดในการบริหารประเทศ

ในช่วงระยะเวลาเกือบ200ปีที่ผ่านมาที่จีนต้องต่อสู้กับสงครามล่าอาณานิคม สงครามกับญี่ปุ่นและสงครามกลางเมืองแย่งชิงอำนาจกันเอง ก่อนที่เหมาจะยึดอำนาจสร้างชาติใหม่ผ่านลัทธิคอมมิวนิสต์ในปี1949

คนจีนส่วนมากมีชีวิตการกินอยู่ที่ลำบาก แร้นแค้น ไม่พอกิน เพิ่งจะรวยขึ้นมา หรือมีชีวิตที่ดีขึ้นมาในช่วงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา เพราะว่ามีการปรับเปลี่ยนเอาระบบทุนนิยมทางเศรษฐกิจมาใช้ เพื่อดึงทุนและความรู้ด้านเทคโนโลยี่ของต่างชาติ ทำให้จีนมีการพัฒนาทางเศรษฐกิจแบบก้าวกระโดด

อย่างไรก็ตาม จีนมีประชากร1,300ล้านคน การที่จะทำให้ทุกคนกินดีอยู่ดีเป็นเรื่องลำบาก

แต่ทางการเมืองจีนยังคงรักษาระบบสังคมนิยมทางการเมือง จีนเรียกระบอบการปกครองของตัวเองว่า สังคมนิยมแบบจีนๆ

ไชนีสดรีมจึงเป็นการผนวกเอาความใฝ่ฝันของชาติและของชาวจีนเข้าด้วยกัน โดยมีเป้าหมายที่จะฟื้นฟูความภูมิใจในชาติจีนที่เป็นหนึ่งในอารยะธรรมที่เก่าแก่ที่สุดของโลก และการทำให้ชีวิตคนจีนมีการเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

ไชนีสดรีมจะเป็นจริงได้ ต้องมีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน การลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม และการกลับไปหารากเหง้าของวัฒนธรรมจีนเพื่อสร้างสมดุลกับวัตถุนิยม

ไทยดรีมไม่ปรากฎว่าเป็นคำขวัญหรือเป้าหมายอะไรของเมืองไทย เพราะว่าเรามีความพอเพียงที่สมบูรณ์อยู่แล้ว

คนไทยไม่ได้หวังรวย หรือต้องการมีชีวิตที่ดีขึ้น เพราะว่าอยู่สบายๆอยู่แล้ว มีกินมีใช้ตลอด เพราะว่าเมืองไทยมีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ไม่ต้องดิ้นรนมากก็มีกิน

แต่การพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจของไทยในระยะ60ปีที่ผ่านมาถูกครอบงำโดยความคิดตะวันตก ที่มุ่งเปลี่ยนระบบพอมีพอกินมาเป็นระบบสร้างความร่ำรวยผ่านการดันให้เศรษฐกิจมีการขยายตัวสูงๆ

มีการนำเอาระบบการเงินสมัยใหม่ที่สร้างเครดิตเอาเงินอนาคตมาใช้ และมีผลทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อที่เป็นปัญหาใหญ่

จากการผลิตการเกษตรเพื่อยังชีพ กลายเป็นการผลิตภาคอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออก

คนไทยไม่ได้เป็นไทต่อไป เพราะว่าต้องพึ่งพาเงินทุนต่างชาติ พึ่งพานักท่องเที่ยวต่างชาติ ผลิตสินค้าตามที่ตลาดนอกประเทศต้องการ แรงงานไทยทำงานให้ทุนต่างชาติ

ผู้ที่กำหนดนโยบายเศรษฐกิจ และการเงินของไทยที่แท้จริงคือต่างชาติ ที่คุมทั้งแบงค์ไทย และระบบอุตสาหกรรมการผลิตของประเทศ

ดูเผินๆ หรือวัดจากจีดีพี เมืองไทยมีการพัฒนาไปมากทางเศรษฐกิจ นับจากมีการใช้แผนพัฒนาสังคมเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่1ในช่วงกึ่งพุทธกาล แต่วิถีชีวิตดั้งเดิมถูกเปลี่ยนไป

ในเศรษฐกิจสมัยใหม่ คนเมือง คนมีเงินหรือคนที่มีการศึกษาดีได้ประโยชน์จากความร่ำรวยที่เพิ่มขึ้น มีบ้านมีรถใช้ มีการงานที่ดี ด้วยเหตุนี้จึงพอใจในการเปิดเสรีไปสู่ระบบทุนนิยมเต็มตัว ทำให้ลืมรากเหง้า หรือกำพืดของตัวเอง

แต่คนชนบท หรือคนส่วนมากของประเทศไม่ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของประเทศในช่วงที่ผ่านมา เพราะว่าพวกเขาวิ่งไล่ตามเงินเฟ้อไม่ทัน เกิดความเหลื่อมล้ำ รายได้จากภาคเกษตรไม่พอกับการดำรงชีวิตสมัยใหม่ที่วัตถุเข้ามาครอบงำ ทำให้ความอยากได้โน่นได้นี้มีไม่มีที่สิ้นสุด ทั้งๆที่เงินในกระเป๋ามีนิดเดียว

วิถีพอเพียงจึงเป็นทางออก หรือทางสายกลางที่จะลดความเหลื่อมล้ำ ด้วยการให้คนชนบทอยู่ได้บนขาตัวเองก่อน ก่อนที่จะมีการรวมตัวกันผ่านสหกรณ์หรือองค์กรต่างๆเพื่อเพิ่มอำนาจการต่อรองของตัวเอง

ต้องไม่กู้ยืมเงิน หรือทำธุรกิจในแนวทุนนิยม เพราะว่าจะเป็นการเล่นตามเกมที่พ่อค้านายทุนได้วางกับดักเอาไว้

มีการผลิตการซับไพลสินค้าของตัวเอง มีการทำธุรกรรมด้วยกันเอง ขนส่งกันเอง ซื้อขายกันเอง มีความรู้ที่แท้จริงและคุณธรรม

ใครจะรวยก็ช่างเขา แต่ขอให้เราพออยู่ได้

เมื่อทำเช่นนี้ได้ จากโครงการพอเพียงในระดับเศรษฐกิจจุลภาคจะมีการรวมตัวกันเป็นเครือข่าย หรือการทำธุรกรรมระหว่างกันจนกลายเป็นเศรษฐกิจมหภาค

เมื่อคนไทย35-40ล้านอยู่ได้ภายใต้ระบบพอเพียงนี้ ประเทศชาติถึงจะมั่นคง

ส่วนเศรษฐกิจภาคสมัยใหม่ก็พัฒนาของตัวเองไป แต่ไม่ควรมาเบียดเบียนชาวบ้าน เพราะว่าถึงที่สุดแล้ว ถ้าคนจนอยู่ไม่ได้ ประเทศชาติก็อยู่ไม่ได้

ถ้าจะถามว่าไทยดรีมคืออะไร คำตอบชัดเจนอยู่แล้วว่า ไทยดรีมคือความพอเพียงแบบเรียบง่ายนั้นเอง

ไม่รวยแต่ไม่จน พอมีพอกินอย่างสุขสบาย และมีเหลือที่จะให้แก่ผู้ไม่มีพอ เมื่อคนไม่มีได้ถูกเติมให้เต็มพอแล้ว เขามีความสุข และผู้ให้ก็มีความสุขไปด้วย
 thanong
 19/12/2016


บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #230 เมื่อ: ธันวาคม 29, 2016, 12:11:11 PM »

มินิซีรี่ส์
 23. วิถีพอเพียง

วิถีพอเพียง และระบอบการปกครองแบบพ่อปกครองลูกไปด้วยกัน และเป็นส่วนหนึ่งของความเป็นพุทธภูมิของบ้านเรา

เราอยู่ของเราอย่างนี้มาตั้งแต่ดั้งเดิมแล้ว

วิถีพอเพียงคือการดำรงชีวิตที่สอดคล้องกับธรรมชาติ ไม่ฝืนธรรมชาติ และเรียนรู้ที่จะอยู่กับธรรมชาติ

มีมากใช้มาก มีน้อยใช้น้อย แต่ไม่โลภ หรือไม่ทำอะไรที่เกินตัว

ในระบอบพ่อปกครองลูก มีพ่อหรือพระเจ้าแผ่นดินที่ทรงเป็นนักปกครอง ดูแลทุกข์สุขของประชาชน ให้ความยุติธรรม สร้างความเจริญและความมั่นคง และปกป้องประเทศจากภัยรุกรานของต่างชาติ

ผู้ปกครองมีหน้าที่ของกษัตริย์ที่จะต้องทำ ผู้ถูกปกครองมีหน้าที่ของพลเมืองที่ต้องทำ ต่างคนต่างมีหน้าที่และความรับผิดชอบต่างกัน

เมื่อทุกคนทำตามหน้าที่แล้ว บ้านเมืองมีความเจริญรุดหน้า และมั่นคง

สยามล่มสลายแล้วตั้งแต่เสียกรุงในปีพศ2310 แต่พระเจ้าตากสิน เจ้าพระยาจักรี และเจ้าพระยาสุรสีห์ช่วยกันกอบกู้ชาติ

ต่อมาเจ้าพระยาจักรีเป็นปฐมกษัตริย์ของจักรี ทรงมีพระคุณต่อคนไทยอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ เพราะว่าสามารถรักษาชาติไทยเอาไว้ได้

แผ่นดินสยามเป็นของพระองค์ คำว่าพระเจ้าแผ่นดิน ความหมายก็บอกอยู่แล้วว่า พระองค์เป็นเจ้าของแผ่นดินไทยทั้งหมด

แต่เนื่องจากพระองค์เป็นพ่อที่รักเมตตาลูก จึงแจกจ่ายแบ่งปันให้ลูกๆมีที่ดินทำกิน มากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่บุญบารมี หรือความสามารถของแต่ละคน แต่ทุกคนมีที่ดินทำกินหมด

รัชกาลที่9 และรัชกาลที่10ในปัจจุบันเป็นผู้สืบสันติวงศ์ เป็นพระเจ้าแผ่นดิน และเป็นเจ้าของแผ่นดินไทยที่แท้จริง

คนไทยยุคปัจจุบันไม่เข้าใจในประวัติศาสตร์ความจริงในเรื่องนี้ คิดว่าแผ่นดินเป็นของใครก็ได้ที่มีเงินซื้อ

บางคนทำธุรกิจรวยแสนล้านแล้วกว้านซื้อที่ดินมาครอบครองหลายแสนไร่ แล้วหลงคิดว่าตัวเองจะซื้อที่ดินให้หมดประเทศก็ได้ ใครจะทำไม?

ความจริง คนเรามีที่ดิน5-6ไร่ก็พออยู่พอกินแล้ว ถ้าจะมี50ไร่หรือเป็น100ไร่ก็ได้ ไม่ว่ากัน แต่ถ้าจะมีเป็นแสนไร่ มันไม่มากเกินไปหรือ?

ทำไมไม่แบ่งปันให้คนไม่มีที่ดินทำกินได้ใชัประโยชน์ หรือว่าคิดอย่างเดียวว่าจะปั่นราคาที่ดินเพื่อให้ได้กำไรสูงสุดโดยไม่รู้จักพอ

ที่เมืองจีนที่ดินเป็นของรัฐหมด แต่รัฐให้ประชาชนหรือเอกชนเช่าหรือครอบครองต่อ แต่เจ้าของแผ่นดินที่แท้จริงคือรัฐบาลจีนในระบบสังคมนิยม

วิถีพอเพียง และระบอบการปกครองแบบพ่อปกครองลูกนี้เองจึงเป็นรากฐานของความเป็นพุทธภูมิของเมืองไทย

ดินแดนที่ศักดิ์สิทธิ์จะเป็นดินแดนที่พระพุทธเจ้าองค์ที่5 หรือพระศรีอริยะเมตไตรยจะมาประสูติ ตรัสรู้ เผยแผ่คำสอน และปรินิพพาน

สภาวะของดินแดนที่เหมาะที่จะเป็นพุทธภูมิคือ ประชาชนส่วนใหญ่ต้องดำรงชีวิตตามวิถีพอเพียง และมีระบอบการปกครองแบบพ่อปกครองลูกที่บริสุทธิ์ยุติธรรม โดยทุกคนมีหน้าที่ที่พึงกระทำของตัวเอง

แต่คนไทยยุคปัจจุบันลืมวิถีพอเพียง ระบอบพ่อปกครองลูกและความเป็นพุทธภูมิของเมืองไทย จึงติดกับดักระบบที่ฝรั่งคิดขึ้นมาเมื่อไม่กี่ร้อยปีที่ผ่านมานี้เอง เพื่อหลอกชาวโลก ไม่ว่าจะเป็นทุนนิยม สังคมนิยม ฟาสซิสต์ คอมมิวนิสต์ และเสรีนิยมประชาธิปไตย

มีการเถียงกันไปเถียงกันมา แล้วฆ่ากันเพื่อให้ได้มาสังคมนิยม คอมมิวนิสต์ หรือประชาธิปไตยที่ตัวเองต้องการ หลังจากนั้นมีการออกจากระบบหนึ่งไปสู่ระบบหนึ่งวนเวียนกันแค่นี้

ทั้งๆที่ผู้ที่ชักใยตัวจริงเบื้องหลังทุกระบบใช้ระบบเผด็จการ หรือระบบล่าอาณานิคมเพื่อผลประโยชน์ และอำนาจของเฉพาะกลุ่มเล็กๆของตัวเอง

ได้เวลาตื่นรู้ได้แล้วว่า วิถีพอเพียงและระบอบพ่อปกครองลูก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพุทธภูมิเป็นของดีที่เราควรปกป้องและรักษา

ใครจะว่าเราเชย หรือไม่เป็นประชาธิปไตยก็ช่าง แต่เราอยู่เป็นของเราอย่างนี้ เพราะว่าเราอยู่สุขสบาย และเราเป็นของเราอย่างนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว
 thanong
 19/12/2016
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #231 เมื่อ: ธันวาคม 29, 2016, 12:12:39 PM »

มินิซีรี่ส์
 24. วิถีพอเพียง

ถ้าจะว่าไปแล้ว ระบบส่วนมากจะมีอายุอย่างมากไม่เกิน70ปี ทุกอย่างมีเกิดก็ต้องมีดับ ทุนนิยมไม่ได้เหนือกฎเกณฑ์นี้

ในศตวรรษที่20 เราได้เห็นการเกิดและการล่มสลายของระบอบฟาสซิสต์ในเยอรมันนี อิตาลี สเปน อเมริกาใต้ รวมทั้งประเทศโลกที่3

แม้แต่ในเมืองไทยก็มีการเอาระบอบฟาสซิสต์มาใช้ยุคของเผ่าและจอมพลแปลก หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองคศ. 1932ที่ตำรวจและทหารแย่งชิงอำนาจกัน

ระบอบคอมมิวนิสต์และระบอบสังคมนิยมแบบสุดขั้วนำโดยเลนินในรัสเซียมีกำเนิดจากการปฏิวัติบอลเชวิคในปีคศ. 1917 ก่อนที่จะเผยแพร่ลัทธิคอมมิวนิสต์/สังคมนิยมต่อไปยังยุโรปตะวันออก

ในปีคศ. 1949 เหมาปฏิวัติชาวนา เอาระบอบคอมมิวนิสต์มาสร้างชาติจีนใหม่

แต่ไม่เห็นมีระบอบไหนจะอยู่เกิน70ปี

กำแพงเบอร์ลินที่แยกเยอรมันนีตะวันออกและเยอรมันนีตะวันตกออกจากกันพังทะลายลงในปี1989 ก่อนที่จักรวรรดิโซเวียตจะล่มสลายในอีก2ปีต่อมา

ส่วนจีนละทิ้งคอมมิวนิสต์มารับเอาทุนนิยมในสมัยของเติ้งที่เปิดประเทศในปีคศ1979 เพื่อสร้างจีนสมัยใหม่ให้มีความเจริญก้าวหน้าแบบก้าวกระโดดเพื่อไล่ให้ทันมหาอำนาจโลกตะวันตก

คอมมิวนิสต์คิวบาและคอมมิวนิสต์เกาหลีเหนืออาจจะอยู่นานหน่อย แต่ไม่นานน่าจะเห็นความเปลี่ยนแปลง

อังกฤษและสหรัฐอเมริกา ผู้ชนะสงครามโลกครั้งที่2 นำโลกสู่ระบบเสรีนิยมประชาธิปไตย และทุนนิยมแบบแองโกลอเมริกันที่บูชาทุนเอกชน ความเป็นอิสระหรือเสรีภาพของปัจเจกบุคคล และการเลือกตั้งตามวิถีประชาธิปไตย

หลังจากที่ชนะสงครามเย็นเหนือรัสเซียและจีน ดูเหมือนว่าไม่มีอะไรที่จะหยุดยั้งอำนาจของกลุ่มแองโกลอเมริกันได้อีกต่อไปที่สามารถสร้างกลุ่มG-3มาครองโลกได้ผ่านสหรัฐ ยุโรปและญี่ปุ่น

การค้าโลก เศรษฐกิจโลก และการเงินโลกอยู่ในมือของกลุ่มแองโกล อเมริกันอย่างเบ็ดเสร็จผ่านการสร้างบริษัทและแบงก์ขนาดยักษ์ โดยมีการจัดตั้งองค์กรระหว่างประเทศไม่ว่าจะเป็นกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ธนาคารโลก ยูเอ็นเพื่อกวาดต้อนให้ทุกประเทศเข้าไปยู่ในระบบที่ออกแบบเอาไว้ให้ติดกับดัก

แองโกลอเมริกันดินหน้าส่งออกลัทธิเสรีนิยมประชาธิปไตยเพื่อให้รัฐบริเวารเปิดประเทศเพื่อรองรับทุนของG-3 มีการเขียนตำราการศึกษาและมีการควบคุมสื่ออย่างแยบยลให้คนทั่วโลกหลงใหลมัวเมาในเสรีนิยม+ทุนนิยม

ไทยแลนด์เป็นเด็กดี ถูกกวาดต้อนเข้าไปอยู่ในระบบแองโกลอเมริกันอย่างว่านอนสอนง่าย

หลังจากตีกินผ่านเสรีนิยม+ทุนนิยมแล้ว พวกแองโกลอเมริกันที่ไม่รู้จักพอ เดินหน้าสร้างลัทธิไร้พรมแดนของโลกาภิวัฒน์(Globalism) เพื่อให้มีการยกเลิกอำนาจอธิปไตยของแต่ละประเทศเพื่อนำไปสู่การสร้างรัฐบาลเดียว หรือเผด็จการโลก โดยที่นานาประเทศหลงผิดคิดว่าโลกาภิวัฒน์เป็นความร่วมมือกันเพื่ออยู่ร่วมกันแบบพึ่งพากัน (interdependence)

หารู้ไม่ว่าโลกาภิวัฒน์เป็นการสร้างระบบนายกับทาส (master and slave system)

พัฒนาการของไอทีและแรงผลักดันของการค้าเสรีทำให้โลกาภิวัฒน์เข้าใกล้ความเป็นจริงทุกขณะ แต่ระหว่างทางรัสเซีย จีนและประเทศเกิดใหม่เริ่มตั้งลำได้ มีการรวมตัวกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มบริกส์ (BRICS) หรือกลุ่มเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Cooperation Organization) เพื่อสร้างอำนาจการต่อรองกับพวกแองโกลอเมริกัน

จีดีพีของประเทศเกิดใหม่รวมกันแล้วเทียบเท่าจีดีพีของประเทศที่พัฒนาแล้ว

ทุนนิยมแท้ที่จริงแล้วน่าจะเรียกว่าหนี้นิยมมากกว่า เพราะว่าอีกด้านหนึ่งของทุนคือหนี้นั้นเอง มีการสร้างหนี้ สร้างเครดิต หรือใช้เงินในอนาคตอย่างมโหฬารมหาศาลเพื่อดันจีดีพีที่เป็นเป้าที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ทุกประเทศต้องโตขึ้นตลอดเวลา

แต่วงจรของระบบธนาคารกลางที่ควบคุมปริมาณเงิน (money supply) ด้วยการลดดอกเบี้ย เพ่ิมสภาพคล่องเข้าไปในระบบทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจที่บูม และขึ้นดอกเบี้ยและดูดเอาสภาพคล่องออกจากระบบทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำ

แต่ละรอบของวงจรธุรกิจที่ควบคุมโดยธนาคารกลาง โดยเฉาะอย่างยิ่งUS Federal Reserveที่ได้กลายเป็นธนาคารกลางของโลก เพราะว่าเป็นผู้พิมพ์ดอลล่าร์ที่เป็นเงินสกุลหลักของโลก ทำให้เกิดความเจริญและความเสื่อมที่นับวันจะมีขนาดใหญ่มากยิ่งข้ึน

วงจรของทุนนิยมเวลานี้อยู่ในช่วงขาลง จะดันขึ้นลำบาก เพราะว่ามีหนี้มากเกินกว่าระบบจะรับได้ ทำให้เกิดวิกฤติการเงิน+วิกฤติเศรษฐกิจ เกิดความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยและคนจน

มวลมหาประชาชนถูกลอยแพ ไม่ได้ประโยชน์จากโลกาภิวัฒน์ เพราะว่าความร่ำรวยตกอยู่ในมือของนายทุนเพียงหยิบมือเดียว

ทำให้เกิดกระแสประท้วงของกลุ่มคนจน 99%ต่อต้านคนรวย 1%

แทนที่จะปล่อยให้ระบบทุนนิยมพังลงมาบนหน้าตักตัวเอง อังกฤษรีบชิ่งออกจากโลกาภิวัฒน์และเสรีนิยมก่อนเพื่อน เพื่อด้วยการโหวตเบร็กซิท (Brexit)เพื่อขอออกจากสหภาพยุโรป และกลับไปปกป้องเศรษฐกิจ และสังคมของตัวเองผ่านลัทธิกีดกันการค้า และการปิดพรมแดนที่เคยเป็นเสรีกับอียู

อเมริกาโหวตให้ทรัมป์ชนะเป็นประธานาธิบดี เพราะว่าเขาไม่เอาการค้าเสรี และโลกาภิวัฒน์ โดยที่ทรัมป์สัญญาว่า จะทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง เขาขู่ว่าจะขึ้นภาษีบริษัทอเมริกัน35%ถ้าหากว่าไปลงทุนในต่างประเทศ ขู่จะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน45%ถ้าจีนไม่เลิกการค้าที่เอาเปรียบ

ที่สำคัญ ทรัมป์ต้องการสร้างกำแพงขวางกันพรมแดนทางตอนใต้ระหว่างสหรัฐและเม็กซิโก เพื่อสกัดการหนี้เข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายของชาวเม็กซิกัน

กระแสชาตินิยมกำลังมาแรงในยุโรปในเวลานี้

แองโกลอเมริกันคงจะเห็นแล้วว่า ตัวเองกำลังจะแพ้ในเกมทุนนิยมที่ตัวเองออกแบบ และเคยชนะมาก่อน จึงคิดที่จะล้มกระดาน หาเรื่องประเทศอื่นไปทั่วไม่ว่าจะเป็นรัสเซีย จีน อิหร่าน เกาหลีเหนือและคิวบา เพื่อกลบปัญหาความอ่อนแอภายใน อันเกิดจากการความไม่รู้จักพอของทุนนิยม

ด้วยเหตุนี้เอง เราจึงสามารถกล่าวได้ว่าทุนนิยมกำลังมาถึงจุดจบ เพราะว่าเจ้ามือแองโกลอเมริกันกำลังจะล้มโต๊ะเสียเอง ไม่เล่นตามกฎหรือระเบียบที่ตัวเองออกแบบมาและได้ประโยชน์มาก่อน

แต่แองโกลอเมริกันยังหวังที่จะครอบงำ หรือมีอิทธิพลเหนือโลกต่อไปผ่านกองทุนการเงินระหว่างประเทศ เงินดิจิตัล และระบบไอที หรือระบบสมองเทียม (artificial intelligence)

ในรอบต่อไปของวิกฤติการเงินโลก กองทุนการเงินระหว่างประเทศจะพิมพ์เงินเทียบเท่า$10ล้านล้านด้วยเงินสกุลSpecial Drawing Rights ของตัวเองเพื่อที่รักษาสถานภาพระบบแบงก์กิ้งที่ตัวเองยึดครองอยู่ และดูแลฐานะการคลังของกลุ่มG-3

เงินดิจิตัลจะเข้ามาแทนที่เงินกระดาษ เครื่องจักรเครื่องยนต์ สมองกลจะเข้ามาแทนแรงงานมนุษย์ มนุษย์โลกจะถูกตีตราด้วยรหัสประจำตัวเพื่อง่ายต่อการควบคุม

ทางรัสเซียและจีนบอกว่า ฝันไปก่อนเถอะ ได้เวลาที่พวกไอจะปลดแอกจากระบบกดขี่ของพวกยูแล้ว

ด้วยเหตุนี้จึงมีการเผชิญหน้าทางทหารระหว่างค่ายรัสเซีย+จีนและค่ายแองโกลอเมริกัน เพราะว่าต่างฝ่ายต่างไม่ยอมให้กัน

วิถีพอเพียงจะกลายเป็นโมเดลของโลกต่อไป เมื่อระบบทุนนิยม หรือหนี้นิยมล่มสลาย โดยที่ไทยแลนด์สามารถก้าวออกมาเป็นผู้นำของโมเดลพอเพียง เพื่อความอยู่รอดของชาติในยามหน้าสิ่วหน้าขวาน
 thanong
 20/12/2016
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #232 เมื่อ: ธันวาคม 29, 2016, 12:14:44 PM »

มินิซีรี่ส์
 25. วิถีพอเพียง (จบบริบูรณ์)

เดิมที เมืองไทยเป็นสวรรค์บนดิน เพราะว่าเรามีวิถีพอเพียง และระบอบการปกครองแบบพ่อปกครองลูกที่เป็นลักษณะเฉพาะที่ดำเนินมาตั้งแต่โบราณกาล

ที่สำคัญที่สุด เมืองไทยเป็นดินแดนพุทธภูมิที่ร่มเย็นสงบสุข เป็นทางสว่างของปัญญา

ปัญหาเกิดขึ้นผ่านกาลเวลาที่สะสมทีละเล็กทีละน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่สมัยฝรั่งล่าอาณานิคมในยุคของรัชกาลที่4 ที่มีความพยายามที่จะเอาสยามเป็นเมืองขึ้น ต่อเนื่องมาจากยุคของพระนารายณ์ในสมัยอยุธยาตอนกลาง

ทำให้สยามต้องเสียดินแดนบางส่วนให้พวกล่าอาณานิคม เพื่อรักษาความเป็นเอกภาพของส่วนใหญ่ให้ได้

ในเมื่อฝรั่งยึดเอาสยามเป็นเมืองขึ้นโดยตรงไม่ได้ ก็จะพยายามยึดทางอ้อมผ่านการบีบให้สยามเปิดประเทศเพื่อรับเอาการค้า การลงทุน และการเงิน

ในขณะเดียวกันมีการฟอกย้อมความคิดของคนไทยในเรื่องความเจริญทางวัตถุ ความทันสมัย และสิทธิเสรีภาพของโลกตะวันตก

ฝรั่ง เจ้าของลัทธิล่าอาณานิคม มีการส่งออกลัทธิบ้าๆบอๆเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นทุนนิยม เสรีนิยม อนุรักษ์นิยมประชาธิปไตย คอมมิวนิสต์ ฟาสซิสต์ สังคมนิยม ไปยังประเทศต่างๆทั่วโลก เพื่อให้ภายในของแต่ละประเทศรวมทั้งสยามเกิดความแตกแยกทางความคิด และปฏิเสธวิถีดั้งเดิมของตัวเอง

เมื่อเกิดความแตกแยกทางความคิด และเห็นกงจักรเป็นดอกบัว สิ่งที่ตามมาคือการล้มระบบดั้งเดิมเพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง ผ่านการทำรัฐประหาร หรือการปฏิวัติทางการเมืองและสังคมอย่างรุนแรง

ประเทศต่างๆทั่วโลก รวมทั้งสยามที่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปีคศ 1932ตกเป็นเหยื่อของลัทธิล่าอาณานิคมด้วยประการฉะนี้

เมื่อมีการล้มล้างระบบเดิม ฝรั่งสามารถเข้ามากอบโกยผลประโยชน์ภายในแต่ละประเทศได้ง่าย เพราะว่าเสาหลักถูกทำลาย ไม่ว่าจะเป็นการได้สัมปทาน การค้า การลงทุน หรือการกอบโกยทรัพยากร เพราะว่ามีคนท้องถิ่นให้ความร่วมมือ ยอมขายชาติ เพราะว่าไม่เคยเห็นเงินอามิสสินจ้าง ก้อนโต

ประชาชนส่วนใหญ่โดนปล้นโดยไม่รู้ตัว เพราะว่าสับสน งุนงง รู้เท่าไม่ถึงการ ไม่รู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับชาติบ้านเมือง ต่างคนต่างคิดถึงตัวเอง เอาตัวรอด

เมื่อเวลาผ่านไป ฝรั่งเริ่มมีอิทธิพลทางความคิดของเรามากขึ้น จนเราเชื่อสนิทใจว่าเขาดีกว่า เขาเก่งกว่า เราจึงยอมเดินตามระบบการเมือง การค้า เศรษฐกิจ และการเงินที่เขาเขียนขึ้นมาให้เราเดินอยู่ในกรอบอย่างว่านอนสอนง่าย

คนรวย เศรษฐีใหม่ นักการเมือง นักวิชาการ ชนชั้นกลาง พวกหัวนอกเริ่มลืมกำพืดของตัวเอง

พอมีเงิน มีการกินดีอยู่ดีจากข้าวของเครื่องใช้ที่อำนวยความสะดวก มีความรู้สมัยใหม่ คิดว่าตัวเองเก่ง ตัวเองแน่ มีความมั่นใจในตัวเองสูง รับเอากระแสโลกาภิวัฒน์อย่างไม่ลืมหูลืมตา และปฏิเสธรากเหง้าของตัวเอง แต่เดินตามกรอบที่พวกล่าอาณานิคมเขียนให้เดินอย่างไม่ลืมหูลืมตา

ท้ายที่สุดประเทศมาถึงจุดเสื่อม สูญเสียอำนาจอธิปไตยทางการเมืองและเศรษฐกิจให้ฝรั่ง

แม้บ้านเมืองจะมีความเจริญขึ้นทางวัตถุ แต่จิตใจแย่ลง เกิดความเหลื่อมล้ำระหว่างสังคมเมือง และสังคมชนบท ประชาชนเกือบค่อนประเทศติดหนี้จนโงหัวกันแทบไม่ขึ้น

หนังสือพระมหาชนกที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูทรงนิพนธ์ขึ้นมา ก็เพื่อเตือนสติคนไทยถึงความจำเป็นที่จะต้องร่วมมือกันสร้างชาติใหม่ หลังจากที่ชาติโดนปู้ยี่ปู้ยำจนมาถึงจุดเสื่อม

พระองค์ทรงใช้ต้นมะม่วงเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติของสยาม แต่คนไทยไม่รู้จักรักษา ร่วมกันทำลายต้นมะม่วงด้วยการถอนราก ตัดโค่นด้วยความโลภ

เมื่อต้นมะม่วงถูกโค่น ต่อไปก็ไม่สามารถออกดอกออกใบหรือออกผลให้เรากินได้

ต้นมะม่วงเปรียบเสมือนสังคมไทยในเวลานี้ การที่จะฟื้นต้นมะม่วงให้กลับขึ้นมามีชีวิตใหม่ ต้องมีวิทยาการความรู้ และต้องเป็นหน้าที่ที่คนไทยทุกคนต้องมีจิตสำนึกร่วมกันในการสร้างชาติใหม่ และธำรงชาติต่อไปให้ลูกหลาน

พระองค์ทรงแนะ9 วิธีการในการฟื้นต้นมะม่วงคือ เพาะเมล็ดมะม่วง ถนอมรากที่ยังมีอยู่ให้งอกรากใหม่ ปักชำกิ่งที่เหมาะแก่การปักชำ เอากิ่งดีมาเสียบยอดของต้นไม้ที่ยังไม่มีผลให้มีผล เอาตามาต่อกิ่งของอีกต้น เอากิ่งมาทาบกิ่ง ตอนกิ่งให้ออกราก รมควันต้นที่ไม่มีผลให้ออกผล ทำชีวาณูสงเคราะห์

รูปประกอบในหนังสือพระมหาชนกที่มีชาวบ้านร่วมกันปลูกต้นมะม่วงสื่อความหมายว่า ชาติจะฟื้นกลับขึ้นมาใหม่ได้ มวลมหาประชาชนต้องร่วมมือ ร่วมใจ ร่วมแรงกัน โดยต่างคนต่างทำหน้าที่ คนที่ถนัดปักชำก็ทำไป คนที่ถนัดตอนกิ่งก็ทำหน้าที่นี้ให้ดี คนที่ทาบกิ่งเก่งให้ทำหน้าที่โดยสมบูรณ์แบบ

เมื่อเป็นเช่นนี้ ต้นมะม่วงหรือชาติไทยถึงจะฟื้นขึ้นมาใหม่ได้ เพราะว่าเราแก้ปัญหาที่รากเหง้า โดยที่คนไทยทุกคนร่วมมือกันสร้างชาติใหม่ ผ่านความรู้วิทยาการที่ถูกต้อง มีความสามัคคี ไม่แตกแยก ไม่ถูกนักล่าอาณานิคมครอบงำ ไม่ตกอยู่ในอบาย หรือโมหะภูมิอีกต่อไป

เหมือนกับพระราชดำรัสที่ว่า: “...คนอื่นจะว่าอย่างไรก็ช่างเขา จะว่าเมืองไทยล้าสมัย ว่าเมืองไทยเชย ว่าเมืองไทยไม่มีสิ่งที่สมัยใหม่ แต่เราอยู่พอมีพอกิน และขอให้ทุกคนมีความปรารถนาที่จะให้เมืองไทย พออยู่พอกิน มีความสงบ และทำงานตั้งจิตอธิษฐานตั้งปณิธาน ในทางนี้ที่จะให้เมืองไทยอยู่แบบพออยู่พอกิน ไม่ใช่ว่าจะรุ่งเรืองอย่างยอด แต่ว่ามีความพออยู่พอกิน มีความสงบ เปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ถ้าเรารักษาความพออยู่พอกินนี้ได้ เราก็จะยอดยิ่งยวดได้

“...พอเพียง มีความหมายกว้างขวางยิ่งกว่านี้อีก คือคำว่าพอ ก็พอเพียงนี้ก็พอแค่นั้นเอง คนเราถ้าพอในความต้องการก็มีความโลภน้อย เมื่อมีความโลภน้อยก็เบียดเบียนคนอื่นน้อย ถ้าประเทศใดมีความคิดอันนี้ มีความคิดว่าทำอะไรต้องพอเพียง หมายความว่าพอประมาณ ซื่อตรง ไม่โลภอย่างมาก คนเราก็อยู่เป็นสุข พอเพียงนี้อาจจะมี มีมากอาจจะมีของหรูหราก็ได้ แต่ว่าต้องไม่ไปเบียดเบียนคนอื่น...”

นี้คือแนวทางในการย้อนกลับไปสู่วิถีพอเพียงของเมืองไทยที่เป็นดินแดนสุวรรณภูมิ หรือสวรรค์บนดินแห่งเดียวในโลกนี้
 thanong
 21/12/2016

บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #233 เมื่อ: ธันวาคม 29, 2016, 12:18:40 PM »

ปีไก่2017: ปีแห่งการดำรงอยู่อย่างไม่ประมาท

จะขอเริ่มซีรี่ส์สุดท้ายของปีนี้ให้แฟนคลับอ่านเล่นในช่วงฉลองเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ให้ชื่อว่า ปีไก่ของการดำรงอยู่อย่างไม่ประมาท

เนื้อหาของซีรีส์เกี่ยวกับภูมิรัฐศาสตร์โลกของปีระกา2017นี้จะหลายหลาก เริ่มด้วยการประกาศของปูตินหลังประชุมกับฝ่ายกลาโหมของหมีขาวว่า แสนยานุภาพทางทหารของรัสเซียไม่เป็นรองชาติใดในโลกในเวลานี้

ทรัมป์สวนทันควันว่าอีแร้งจะลงทุนสร้างอาวุธนิวเคลียร์ทำลายล้างโลกไม่ให้แพ้ใคร

อเล็ปโปตกเป็นของรัฐบาลซีเรียแล้ว ไอซิสของอีแร้งแพ้อย่างไม่เป็นท่า

รัสเซีย ตุรกี อิหร่านจับมือกันสร้างพันธมิตรเพื่อจัดการกับปัญหาซีเรียโดยไม่เชิญอีแร้งเข้ามายุ่ง และให้ยูเอ็นอยู่ไกลๆตีน สมดุลในตะวันออกกลาง และขั้วอำนาจของโลกเปลี่ยนไปแล้วอย่างมีนัยสำคัญ

อีแร้งกำลังเสื่อม ไม่สามารถบงการให้ประเทศอื่นเดินตามนโยบายต่างประเทศที่ตัวเองขีดเส้นให้เดินตามได้

เมื่อความเสื่อมมาถึงออกอาการฟาดงวงฟาดงา มีการฆ่าทูตรัสเซียประจำตุรกีเพื่อเสี้ยมไม่ให้รัสเซีย ตุรกี อิหร่านรวมกันเป็นพันธมิตร ฝีมือใครถ้าไม่ใช่ศัตรูของพี่แอร์หนวดจิ๋มที่อีแร้งให้การสนับสนุน รวมทั้งนาโต้และบางชาติในตะวันออกกลางที่รู้ตัวว่ากำลังจะสิ้นชาติ

มีการฆ่าทูตรัสเซียอีกคนในมอสโควอีกคน ออกตัวแรงอย่างโหดมอย่างนี้แล้วจะอยู่กันอย่างสันติได้อย่างไร

ปูตินรู้แล้วขบวนการฆ่าทูตสองคนเป็นใคร รอเช็คบิลทีเดียว ม้วนเดียวจบเกม

ทรัมป์จะเล่นบทเพนตากอน ตีปี๊บเรื่องลัทธิชาตินิยม และลัทธิกีดกันการค้า ด้วยการเร่งสร้างอาวุธและ ใช้มาตาการขึ้นภาษี10%สำหรับสินค้าที่มาจากจีน เพื่อเบี่ยงเบนประเด็นปัญหาทางโครงสร้างของเศรษฐกิจของสหรัฐที่ไม่มีความสามารถในการแข่งขันจากบริโภคนิยม และหนี้นิยมที่ไม่รู้จักพอ

สงครามการค้าและการเงินจะเริ่ม สถานการณ์เศรษฐกิจและการเงินโลกตอนนี้เหมือนช่วงหลังจากสงครามโลกครั้งที่1 ตอนนั้นอังกฤษออกจากมาตรฐานทองคำเพื่อพิมพ์เงินแก้ปัญหาทางการคลัง อีแร้งออกกฎหมายTariff Act of 1930เพื่อขึ้นภาษีนำเข้าสินค้า20,000รายการทั่วโลก โดยอ้างว่าต้องการปกป้องอุตสาหกรรมอเมริกัน ทั้งๆที่สหรัฐได้เปรียบดุลการค้าโลกในตอนนั้น

มีการตอบโต้กันทางการค้าทำให้โลกเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างรุนแรง กลายเป็นหนึ่งในเงื่อนไขของWW2

ตอนนี้อังกฤษ อีซีบี เฟดและธนาคารกลางญี่ปุ่นทำQEเพื่อเตรียมไฟแนนซ์ภาวะการคลังของประเทศ

เฟดขู่จะขึ้นดอกเบี้ยอีกอย่างน้อย3ครั้งในปีหน้าตลาดการเงินทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศที่เป็นตลาดเกิดใหม่ รวมทั้งจีนที่กู้ดอลล่าร์ในราคาถูกไป$60ล้านล้านที่เกิดการเพิ่มปริมาณเงิน20เท่าจากฐานของการพิมพ์เงินQEของเฟด$3.5ล้านล้าน จะทำให้หลายประเทศมีปัญหาในการชำระหนี้

กองทุนการเงินระหว่างประเทศจะขี่ม้าขาวออกมาเป็นพระเอกออกเพื่อพิมพ์เงิน$10 ล้านล้านเพื่อกอบกู้การเงินโลกหรือไม่เพื่อที่จะควบคุมการเงินโลกต่อไป โดยจะดันให้ทุกประเทศใช้เงินดิจิตัลที่สามารถควบคุมง่าย

จีนจะต้องมีการตอบโต้อย่างแน่นอน เพราะว่าเล่นเกมเผาบ้านกันอย่างนี้ เฮียสีจะเอาอะไรไปดูแลคนจีน1.3พันล้านคนที่ต่างหวังอยู่ดีกินดีที่ถลำตัวลึกเข้าไปในทุนนิยมโลก

บ้านเมืองจีนอาจจะมีปัญหาก็ได้ถ้าเจอมาตรการกีดกันการค้าของอีแร้ง รวมทั้่งมีการขู่จะปิดทะเลจีนใต้โดยกองทัพเรือสหรัฐ

แต่จีนลูบคมกองทัพเรืออีแร้งด้วยการจิ๊กโดรนใต้น้ำจับเอาไปแก้ผ้าดูเล่นว่าข้างในมีอะไรก่อนส่งคืนเทคโนโลยี่โดรนห่วยๆของอีแร้งที่โดนจีนแฮ๊คได้ง่ายเหมือนกินขนมไหว้พระจันทร์

ทะเลจีนอาจจะกลับมาเดือดอีกครั้ง

เมอร์เกิ้ลรับเอาผู้อพยพมุสลิมเข้าเยอรมัันนี้เพื่อสร้างเงื่อนไงให้เยอรมันเข้าทำสงครามในตะวันออกกลางช่วยอีแร้ง แต่หลังจากรัสเซียช่วยซีเรียยึดอเล็ปโปคืนมาได้ เมอร์เกิ้ลเลยเคว้ง มีไอซิส7,000คนในเยอรมันนีในเวลานี้ เวรกรรม!

นาโต้ก็เคว้งเพราะว่าไม่รู้ว่าทรัมป์จะเอายังไงกันแน่ โดนอีแร้งหลอกให้ไปปิดล้อมรัสเซียทางทหาร พอทรัมป์มาบอกว่าจ่ายเงินมาก่อนที่ไอจะไปช่วยยูยันรัสเซีย

ส่วนพี่ปูติดขีปนาวุธจ่อคอหอยทุกประเทศที่เป็นสมาชิกของนาโต้เรียบร้อยแล้ว ทั้งยุโรปอยู่ในอุ้งเล็บของหมีขาวแล้ว

มาดามเมอร์เกิ้ลขยับไม่ออก ปูตินและเฮียสีจะค่อยๆดึงพันธมิตรตะวันตกจากอ้อมอกของอีแร้งไปทีละประเทศ2ประเทศ จนกระทั่งให้อีแร้งถูกโดดเดี่ยว ต้องถอยไปตั้งรับมี่บ้านตัวเอง

อีแร้งจะมาซ่าตั้งฐานทัพ400กว่าแห่งทั่วโลกเหมือนเดิมไม่ได้อีกต่อไป เพราะว่าไม่คุ้ม

ญี่ปุ่นกำลังฟื้นลัทธิทางทหาร มีการเพิ่มการใช้จ่ายงบกลาโหม และมีการสร้างแสนยานุภาพทางทหารใหม่

เกาหลีเหนือคันมือยิ๊กๆ เมื่อเห็นญี่ปุ่นเริ่มขยับ

ไทยเราจะยังคงหน่อมแน้มต่อไปได้หรือไม่ ต้องคอยดู เพราะว่าดูๆแล้วบิ๊กตู่แข็งนอก แต่อ่อนใน
 โปรดติดตาม
 thanong
 23/12/2016


บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #234 เมื่อ: ธันวาคม 29, 2016, 12:20:10 PM »

1.

ปีไก่2017: ปีแห่งการดำรงอยู่อย่างไม่ประมาท

ในช่วงสัปดาห์นี้ กระทรวงกลาโหมของรัสเซียมีการสรุปแผนการประชุมประจำปี โดยเนื้อหาหลักคือ กองทัพรัสเซียต้องมีการปรับปรุงให้มีความทันสมัยไม่ให้ด้อยกว่าชาติมหาอำนาจใดในโลกต่อไป

ประธานาธิบดี วราดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียได้เข้าร่วมประชุมรับฟังบรรยายสรุปของกระทรวงกลาโหมในครั้งนี้ด้วย หลังจากนั้น เขาออกมาแถลงข่าวถึงแผนงานความมั่นคง และแนวคิดของการพัฒนากองทัพของรัสเซียให้ประชาชนรัสเซียน และประชาคมทั่วโลกได้รับทราบกันอย่างทั่วถึง

ปูตินประกาศอย่างมั่นใจว่า แสนยานุภาพทางทหารของรัสเซียในเวลานี้ไม่เป็นรองชาติใดในโลก

โปรดฟังอีกครั้งว่า ปูตินส่งสัญญานช็อคโลกอย่างชัดเจนว่า แสนยานุภาพทางทหารของรัสเซียได้มีความก้าวหน้าเหนือสหรัฐอเมริกา รวมทั้งทุกประเทศทั่วโลกแล้ว

หลังจากที่ปูตินหงายไพ่ขีปนาวุธนิวเคลียร์ออกมาให้ทางสหรัฐและนาโต้ได้รับรู้ โดนัลด์ ทรัปม์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐก้นร้อนขึ้นมาทันที ทรัมป์รีบเขียนทวิทเตอร์มีใจความว่า เขาจะเร่งให้สหรัฐเข้าสู่การแข่งขันกันผลิตอาวุธมหาประชัยล้างโลก โดยที่สหรัฐจะไม่ยอมเป็นรองใครในเรื่องนี้

มีเงาดำของเพนตากอนอยู่เบื้องหลังทวิทเตอร์ของทรัมป์ เพนตากอนรู้ตัวว่า ที่ใช้จ่ายเงินงบประมาณภาษีของสหรัฐไปปีหนึ่งเกือบ$1ล้านล้านในงบกลาโหมส่วนมากจะเป็นการใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือย ไม่ได้มีการพัฒนาแสนยานุภาพทางกองทัพอย่างคุ้มค่าเหมือนรัสเซีย ที่ใช้จ่ายเพียงปีละ$50,000ล้าน แต่สามารถพัฒนาอาวุธจรวดนิวเคลียร์ และอาวุธทำลายล้างอื่นๆได้ไม่แพ้เพนตากอน

ทรัมป์ต้องรับบทผู้นำที่เข้มแข็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายทางทหาร เพราะว่ารีพับรีกันสายเหยี่ยวขึ้นมามีอำนาจเป็นแผง เพนตากอนต้องเตรียมความพร้อมในการเผชิญหน้ากับรัสเซีย จีน อิหร่านและเกาหลีเหนือในทุกสมรภูมิ

ถ้าหากว่าทรัมป์แสดงความอ่อนแอ พันธมิตรของสหรัฐจะเริ่มตีจาก เพราะว่าไม่มีประเทศใดต้องการอยู่ข้างหัวหน้าฝูงที่อ่อนแอ ถ้ารบแล้วแพ้ ไม่มีใครคบด้วยอย่างแน่นอน

ชัยชนะของรัสเซียเหนือกลุ่มก่อการร้ายไอซิส อัลเค ด้า อัล นุสรา ฯลฯในซีเรียชี้ให้เห็นถึงแสนยานุภาพทางทหารของรัสเซียที่ได้กลายเป็นสิงห์ทะเลทรายตัวจริง ไม่ใช่สหรัฐอีกต่อไป เมื่อรัสเซียเข้มแข็งขึ้น และสหรัฐออกอาการอ่อนแอลงทำให้พันธมิตรเริ่มตีจาก ไม่ว่าจะเป็นตุรกี อิยิปต์ หรือแม่้กระทั่งฟิลิปปินส์ในแถบบ้านเรา ทำให้สหรัฐจะรักษาความเป็นมหาอำนาจของตัวเองต่อไปลำบาก

รัสเซีย ตุรกี และอิหร่านได้จับมือกันเพื่อแก้ปัญหาซีเรีย โดยไม่เชิญสหรัฐ หรือยูเอ็นเข้าร่วม หลังจากที่อเล็ปโป หรือสมรภูมิหลักของสงครามซีเรียที่ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพซีเรีย จากการช่วยเหลือของการทัพรัสเซียและอิหร่าน

สหรัฐ นาโต้ และกลุ่มประเทศอาหรับ ไม่ว่าจะเป็นซาอุดิ และกาต้าร์ได้ลงทุนมหาศาลเพื่อที่จะล้มซีเรีย และแบ่งซีเรียออกเป็นส่วนๆง่ายต่อการครอบครอง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ในการสกัดอิทธิพลของอิหร่าน แต่แผนการนี้ล้มอย่างไม่เป็นท่า

โอบามาแพ้ปูตินอย่างหมดรูปในสมรภูมิซีเรีย ทำให้รัสเซีย ตุรกีและอิหร่านกำลังจะกลายเป็นมหาอำนาจในภูมิภาคตะวันออกกลางแทนสหรัฐ อิสราเอลและซาอุดิ

ทหารสหรัฐและทหารนาโต้ตายเป็นเบือในซีเรีย เพราะว่าเปลี่ยนยูนิฟอร์มเข้าไปรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับพวกก่อการร้าย ด้วยเหตุนี้จอห์น แคร์รี่ รมวต่างประเทศสหรัฐจึงพยายามที่จะเจรจากับเซอร์เก้ ลาฟรอฟ รมวต่างประเทศรัสเซียเพื่อหาทางช่วยทหารรับจ้างพวกนี้ให้ออกมาจากอเล็ปโปได้อย่างปลอดภัย โดยอ้างแผนสันติภาพ หรืออ้างว่าต้องการรักษาชีวิตของชาวเมืองอเล็ปโป

ในขณะเดียวกันสื่อตะวันตกรายงานข่าวเท็จว่า รัสเซียได้ก่อการฆาตกรรมหมู่ต่อประชาชนชาวซีเรียนผู้บริสุทธิ์ในอเล็ปโป ยูเอ็นก็เต้นแร้งเต้นกาไปกับสหรัฐด้วย ทั้งๆที่หลังจากที่อล็ปโปถูกปลดแอกจากผู้ก่อการร้ายที่ยึดเมืองนี้ตั้งแต่ปี2012 ชาวเมืองอเล็ปโปออกมาแสดงความรู้สึกยินดีในชัยชนะของกองทัพซีเรียเหนือพวกก่อการร้ายที่จับเอาพวกเขาเป็นตัวประกัน หรือเป็นโล่ห์กำบังมาตลอด

กองทัพรัสเซียไม่สน ถล่มฐานที่มั่นของพวกก่อการร้ายในอเล็ปโปไม่ยั้งมือทั้งวันทั้งคืน มีจรวดเท่าไหร่ยิงใส่ให้หมด ถล่มจนพวกนี้ต้องยอมพ่ายแพ้

ทางรัฐบาลซีเรียเปิดโอกาสให้วางอาวุธแล้วเดินทางออกจากอเล็ปโป พวกก่อการร้าย มีผมทองปะปนอยู่ด้วยทะยอยเดินทางไปเมืองIdlibเพื่อหาทางแก้ลำต่อไป

แต่สหรัฐเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนถ่ายทางการเมือง หลังจากพ่ายแพ้ในสงครามซีเรียอย่างหมดรูปแล้ว จะขยับอะไรต่อไปลำบาก มีทางเดียวคือต้องใช้อิรักเป็นฐานในการทำสงครามในซีเรียต่อไป

ทางรัสเซีย จีน อิหร่านรวมทั้งตุรกีจึงมีความจำเป็นที่จะต้องโยกความสนใจมายังอิรักในอันดับต่อไป เมื่อรัสเซีย จีน ตุรกีและอิหร่านคุมซีเรีย และอิรักได้แล้ว อิสราเอลและซาอุดิจะอยู่ลำบาก

ปรากฎว่าการแถลงข่าวของปูตินถูกเลื่อนออกไปสองสามวัน หลังจากการที่ทูตรัสเซียถูกลอบสังหารอย่างโหดมถึง2คนด้วยกัน คนหนึ่งโดนฆ่าที่กรุงแองการ่าที่ประเทศตุรกี อีกคนถูกฆ่าที่บ้านพักของตัวเองในกรุงมอสโคว

เล่นกันแรงไปเลย เพื่อเสี้ยมหรือทำลายขั้วพันธมิตรใหม่ของรัสเซีย ตุรกีและอิหร่านให้แตกคอกัน แต่ปูตินรู้เกมสกปรกนี้ดี รู้แล้วว่าใครอยู่เบื้องหลังทั้งหมดในการฆ่าทูตรัสเซีย2คน

ขู่ใครไม่ขู่มาขู่หมีขาว ปูตินรอเช็คบิลพร้อมกันทีเดียวเลย
 thanong
 24/12/2016


บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #235 เมื่อ: ธันวาคม 29, 2016, 12:22:24 PM »


2.
 ปีไก่2017: ปีแห่งการดำรงอยู่อย่างไม่ประมาท

ในช่วงหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดี ทรัมป์ยอมรับว่ากองทัพสหรัฐตามหลังรัสเซียแล้วในด้านแสนยานุภาพทางทหาร และมีความจำเป็นที่สหรัฐต้องเร่งปรับปรุงอาวุธยุทโธปกรณ์ให้อยู่ระดับแนวหน้าของโลกต่อไป

แสนยานุภาพทางทหารของใครเหนือกว่ากันระหว่างสหรัฐและรัสเซีย? คำตอบนี้ขึ้นอยู่กับใครเป็นผู้ตอบ

แต่ฟังจากคำพูดของปูตินแล้วในระหว่างที่เขาแถลงข่าวในปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาแสดงความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมว่า รัสเซียไม่เป็นรองใครในด้านแสนยานุภาพทางทหาร ปูตินบอกว่า แม้ว่าสหรัฐจะมีขีปนาวุธ เรือดำน้ำ หรือเรือบรรทุกเครื่องบินรบมากกว่า แต่รัสเซียมีความเข้มแข็งกว่าศัตรูผู้รุกราน

ปูตินบอกว่า ขีปนาวุธของรัสเซียสามารถเจาะทะลุทะลวงระบบป้องกันขีปนาวุธได้ทุกระบบในโลกนี้
http://www.cbsnews.com/…/vladimir-putin-responds-to-trumps…/

ส่วนผู้เชี่ยวชาญของสหรัฐยังคงยืนกรานว่า แสนยานุภาพทางอาวุธของสหรัฐไม่ได้ด้อยกว่าของรัสเซียเลย
http://www.businessinsider.com/trump-tweet-us-nuclear-weapo

ความก้าวหน้าทางแสนยานุภาพทางทหารของรัสเซียเกิดขึ้นภายใต้การนำของปูติน ที่เล็งเห็นว่าสหรัฐจะยังคงเดินหน้าเพื่อที่จะทำลายรัสเซีย เพื่อกำจัดคู่แข่ง และยึดครองทรัพยากรธรรมชาติของรัสเซียที่อุดมสมบูรณ์มากที่สุดในโลก ในทางภูมิศาสตร์รัสเซียเป็นพื้นทีที่เป็นหัวใจของโลก (Heartland)อีกด้วย ใครครอบครองรัสเซียได้ ผู้นั้นจะเป็นจ้าวโลก

แม้ว่ารัสเซียจะพ่ายแพ้ต่อสงครามเย็นในปี1991 โดยที่กำแพงเบอร์ลินล่มสลายใน2ปีก่อน และมีข้อตกลงกันว่าสหรัฐจะไม่ขยายอิทธิพลเข้าไปในยุโรปตะวันออก หรือบริวารประเทศที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรโซเวียต แต่สหรัฐใช้สหภาพยุโรปในการยึดครองยุโรปตะวันออก และดึงเอายุโรปตะวันออกเข้าเป็นสมาชิกของนาโต้ เมื่อได้ยุโรปตะวันออกแล้ว เท่ากับว่าสหรัฐได้มาเคาะประตูหน้าบ้านรัสเซียทางฟากฝั่งตะวันตกของมอสโควแล้ว

นอกจากจะใช้การปิดล้อมรัสเซียทางทหาร สหรัฐใช้การส่งออกลัทธิประชาธิปไตย การก่อการรัฐประหาร การปฏิวัติ การลอบฆ่าผู้นำ รวมท้ังลัทธิการก่อการร้ายเพื่อทำลายบริวารประเทศที่ไม่ยอมเดินตามนโยบายต่างประเทศที่สหรัฐขีดเอาไว้ให้เดิน ปูตินจะตั้งรับในบ้านให้ถึงที่สุดก็ไม่ได้ เพราะว่าภัยของการคุกคามของสหรัฐได้มาถึงหน้าประตูบ้านแล้ว

นอกจากนี้ ในปี2001 พุ่มไม้ผู้ลูกฉีกสนธิสัญญาจำกัดการพัฒนา และติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการรักษาดุลอำนาจทางทหารระหว่างสหรัฐและรัสเซีย เมื่อสหรัฐเดินหน้าติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธในยุโรป ทำให้รัสเซียจำต้องพัฒนาระบบขีปนาวุธที่ใช้ในการโจมตีเพื่อรักษาดุลอำนาจไม่ให้เสียเปรียบ

เวลาผ่านไปแล้ว15ปี กองทัพรัสเซียมาถึงจุดของการพัฒนาแสนยานุภาพทางทหารให้ทันสมัยที่ปูตินแสดงความมั่นใจว่า ได้ก้าวหน้าเหนือกองทัพสหรัฐไปแล้ว กองทัพของนาโต้ในยุโรปไม่ได้อยู่ในสายตาของปูตินอีกต่อไป

ปูตินได้ออกไปรบนอกบ้านด้วยการช่วยซีเรียสู้รบกับพวกก่อการร้ายไอซิส และนักรบต่างชาติที่สหรัฐและซาอุ กาต้าร์ส่งเข้าไปเพื่อล้มซีเรีย ปรากฎว่ารัสเซียได้ชัยชนะในซีเรียเกือบจะเบ็ดเสร็จ ทำให้ภาพที่ปรากฎ คือแสนยานุภาพทางทหารของรัสเซียไม่ได้เป็นรองสหรัฐจริงๆ

โอบามาแพ้ในสงครามซีเรียอย่างหมดรูป และกำลังจะเสียอิรักให้กับอิหร่านและรัสเซียในอันดับต่อไป

ที่สำคัญรัสเซียยังสามารถดึงเอาตุรกี และอิหร่านเข้ามาเป็นพันธมิตรที่จะมีบทบาทในการกำหนดทิศทางของภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางต่อไป โดยกำลังเข้ามาแทนอิทธิพลเดิมของสหรัฐ อิสราเอล และซาอุ

ถ้าหากว่าจะต้องมีสงครามโลกครั้งต่อไป สหรัฐจะไม่สามารถรบนอกบ้านอีกต่อไปเหมือนสงครามโลกครั้งที่1หรือ2ที่สหรัฐใช้ยุโรปและเอเชียเป็นสมรภูมิของการรบ เพราะว่าทั้งรัสเซียและจีนได้พัฒนาขีปนาวุธข้ามทวีปที่สามารถยิงถึงสหรัฐ

ทรัมป์และทีมงานที่ปรึกษาทางทหารต้องคิดใหม่ทำใหม่ในเรื่องความมั่นคง เพราะว่าถ้าจะมีเรื่องกับรัสเซียและจีน จะโดนตีท้ายครัวอย่างแน่นอน ทำให้มีความจำเป็นที่สหรัฐจะต้องสร้างระบบป้องกันตัวเอง จะส่งกองกำลังทหารจะกระจัดกระจายไปทั่วโลกเหมือนเดิมอีกต่อไปไม่ได้ เพราะว่าต้องปกป้องบ้านเมืองของตัวเองก่อน

ด้วยเหตุนี้ทรัมป์ถึงได้แก้เกี้ยวว่า กองทัพสหรัฐจะไม่ปกป้องนาโต้ เยอรมันนี เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น หรือซาอุ เพราะว่าประเทศพวกนี้กระเป๋าหนากันทั้งนั้น ทำไมไม่ควักกระเป๋าเพื่อดูแลความมั่นคงของตัวเอง ความจริงแล้วทรัมป์กำลังปล่อยไก่ให้เห็นว่า กำลังมีความกังวลใจในการดูแลความมั่นคง หรือความปลอดภัยในบ้านตัวเอง ถ้าเกิดอะไรขึ้น ก็ตัวใครตัวมันก็แล้วกัน

ในขณะเดียวกัน ทรัมป์จะเร่งสร้างแสนยานุภาพทางทหารไม่ให้ด้อยไปกว่ารัสเซีย แต่เวลาจะมีพอหรือไม่

เมื่อสิงห์โตเจ้าป่าอ่อนแอลง ฝูงฮายีน่าจะไม่รีรอที่จะตีวงล้อมกรอบเข้ามาเพื่อขอเช็คบิล
 thanong
 25/12/2016



บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #236 เมื่อ: ธันวาคม 29, 2016, 12:23:54 PM »

3.
 ปีไก่2017: ปีแห่งการดำรงอยู่อย่างไม่ประมาท

หลังจากที่สงครามเย็นสิ้นสุดลงในปี1991 โดยที่จักรวรรดิโซเวียตล่มสลายอย่างไม่เป็นท่า สหรัฐอเมริกากลายเป็นมหาอำนาจโลกแต่เพียงผู้เดียว อีกหนึ่งปีต่อมา นายFrancis Fukuyama นักรัฐศาสตร์ชาวอเมริกันเชื้อสายญี่ปุ่นเขียนหนังสือThe End of History ซึ่งถือว่าเป็นคำภีร์ของรัฐศาสตร์สมัยใหม่

ในหนังสือเล่มนี้ การสิ้นสุดของประวัติศาสตร์หมายถึงชัยชนะของเสรีนิยมประชาธิปไตย และทุนนิยมที่มีเหนือต่อสังคมนิยม คอมมิวนิสต์หรืออุดมการณ์อื่นๆ ต่อไปประเทศต่างๆทั่วโลกจะสวมกอดความคิดของโลกตะวันตกที่มีเหนือความคิดของตัวเอง เพราะว่าโลกตะวันตกแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งหมายถึงสหรัฐสามารถสร้างสันติภาพและความร่ำรวย รวมทั้งรับประกันสิทธิเสรีภาพต่างๆ

จากแนวคิดนี้นำไปสู่นโยบายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของสหรัฐที่นำไปเผยแพร่ทั่วโลก รวมทั้งหลักการของสิทธิมนุษยชน และการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่มีระบบรัฐสภาควบคู่กัน ประเทศยุโรปตะวันออกที่ถูกปลดแอกออกจากจักรวรรดิโซเวียตรีบอ้าแขนรับเสรีนิยมประชาธิปไตย ทั้งรัสเซียก็อยู่ใต้แรงกดดันที่ต้องออกจากลัทธิสังคมนิยมเพื่อรับเอาระบบประชาธิปไตย ส่วนประเทศไทยก็ล้มลุกคลุกคลานมากับระบบประชาธิปไตยครึ่งใบมาตลอดนับตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงการปกครองตั้งแต่ปี1932

พวกนีโอคอน (Neo-Conservatives)ของสหรัฐนำโดยสมาชิกคนสำคัญของพรรครีพับรีกัน และตระกูลพุ่มไม้ขึ้นมาเป็นใหญ่ มีความคิดทะเยอทะยานที่จะครองโลก โดยมีเป้าหมายที่จะส่งออกสิทธิมนุษยชนและเสรีนิยมประชาธิปไปทั่วโลก ประเทศใดที่ขัดขืน จะถูกบังคับให้เปลี่ยน มิเช่นนั้นจะถูกเข้าแทรกแซงทางการเมืองให้เปลี่ยน

นายPaul Wolfowitz รัฐมนตรีช่วยว่าการกลาโหมของสหรัฐสมัยพุ่มไม้ผู้ลูกได้เขียนหลักนิยมWolfowitzขึ้นมา มีสาระดังนี้คือ:

1. ความเป็นมหาอำนาจแต่เพียงผู้เดียวของสหรัฐ หมายความว่าสหรัฐจะยอมให้มีมหาอำนาจอื่นขึ้นมาเทียบเคียงหรือแข่งขันไม่ได้
 2. สหรัฐสามารถแทรกแซงในทุกประเทศได้
 3. สหรัฐสามารถดำเนินการสกัด หรือโจมตีก่อนได้
 4. ทำลายความเข้มแข็งของรัสเซียให้อ่อนแอลง และลดอิทธิพลของรัสเซียในอดีตบริวารประเทศของโซเวียตที่ยังไม่รับเอาค่านิยมของตะวันตก เช่นยูเครน
 5. ประเทศมุสลิมทั้งหมดต้องยอมรับในการมีอยู่หรือการดำรงอยู่ของรัฐอิสราเอล โดยที่อิสราเอลเป็นผู้กำหนดเงื่อนไข

จะเห็นได้ว่าหลักนิยมWolfowitzจะไม่ปล่อยให้ประเทศใดในโลกสามารถดำเนินนโยบายต่างประเทศที่เป็นอิสระต่อวอชิงตันดีซีได้ มีการให้เงินสนับสนุนหรือปฏิบัติการลับเพื่อเปลี่ยนระบบการเมืองในลิเบีย ซีเรีย ตูนีเซีย อิยิปต์ จอร์เจีย ยูเครน ประเทศใดที่ขัดขืนต่ออิทธิพลของพวกนีโอคอนจะถูกสื่อกระแสหลักที่เป็นแขนขาของรัฐบาลสหรัฐโจมตีว่าเป็นผู้ร้ายหรือเผด็จการ ผู้นำซีเรีย รัสเซีย ลิเบีย อิรักจะโดนข้อกล่าวหาจากสื่อตะวันตกว่าเป็นเผด็จการที่นอกจากจะไม่เคารพสิทธิพื้นฐานของประชาชนแล้วยังทำร้ายประชาชนของตัวเองอีกด้วย แต่นโยบายสหรัฐและสื่อตะวันตกไม่แตะต้องซาอุดิที่มีความเผด็จการมากที่สุด

มีอยู่ไม่กี่ประเทศในโลกที่ขัดขืนหลักนิยมWolfowitz ทำให้ต้องถูกโดดเดี่ยวจากประชาคมโลก และถูกยูเอ็นประนาม ไม่ว่าจะเป็นรัสเซีย อิหร่าน เกาหลีเหนือ จีน คิวบา ต่อมามีการรวมตัวกันของกลุ่มบริกซ์และประเทศต่างๆเพื่อสร้างอำนาจการต่อรอง และลดอิทธิพลของวอชิงตันดีซี

รัสเซียกลับมาเกิดใหม่ภายใต้การนำของผู้นำที่เข้มแข็งของปูติน ที่สามารถใช้รายได้จากการขายพลังงานน้ำมันและก๊าซธรรมชาติมาพัฒนาแสนยานุภาพทางทหารไปล้ำหน้ากว่าสหรัฐแล้ว จีนเปิดประเทศมา30กว่าปีสามารถก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจของโลกทั้งการผลิต เทคโนโลยี่และการทหาร อินเดียกลายเป็นมหาอำนาจนิวเคลียร์ อิหร่านยอมกัดก้อนเกลือกินสามารถสร้างตัวเองเป็นมหาอำนาจของภูมิภาคตะวันออกกลางได้ เกาหลีเหนือมีอาวุธนิวเคลียร์และไม่เกรงกลัวใคร กลายเป็นตัวแปรในโลกอาวุธนิวเคลียร์

ในขณะเดียวกันทุนนิยมสหรัฐมาถึงจุดเสื่อม เพราะความโลภ การสร้างหนี้ที่เกินตัว และการบริโภคที่ไม่รู้จักพอ วิกฤติการเงินของWall Street ในปี2008สะท้อนให้เห็นว่าทุนนิยมแองโกลอเมริกันมาถึงจุดจบแล้ว เพราะว่าต้องกดดอกเบี้ยลงเหลือ0% และมีการดำเนินนโยบายดอกเบี้ยติดลบ เศรษฐกิจไม่ฟื้นจริง ประชาชนตกงานกันทั่วแผ่นดิน ยุโรปดูไม่มีอนาคตอีกต่อไป ลัทธิชาตินิยม และลัทธิฟาสซิสต์กำลังฟื้นคืนชีพ
https://gefira.org/…/russia-did-it-the-last-stand-of-neoco…/

เมื่อเสรีนิยม+ทุนนิยมมาถึงจุดจบ อังกฤษต้องรีบกระโดดออกจากอียูก่อน ผ่านการโหวตประชามติBrexit การขึ้นมามีอำนาจของทรัมป์เป็นการปฏิเสธกระแสโลกาภิวัฒน์ในลักษณะเดียวกัน สะท้อนให้เห็นลูกตุ้มนาฬิกาที่แกว่งกลับมายังลัทธิชาตินิยม ลัทธิกีดกันการค้าเพื่อเอาตัวรอด และเพื่อสร้างเกมรุกแนวใหม่

เจ้าลัทธิประชาธิปไตยรู้ตัวแล้วว่า ถ้ายังคงเล่นเกมเสรีนิยมทุนนิยมต่อไปจะพ่ายแพ้ต่อประเทศเกิดใหม่ไม่ว่าจะเป็นจีน หรืออินเดีย เพราะว่าทั้งฐานะทางเศรษฐกิจ และการเงินมาถึงจุดอ่ิมตัว รัสเซียพัฒนาแสนยานุภาพทางทหารอย่างเต็มที่เพื่อเตรียมการรับมือเจ้าลัทธิประชาธิปไตยที่อาจจะออกอาการบ้าของคนจนมุม หาเรื่องแว้งกัดชาวบ้าน

หลักนิยมWolfowitzถูกท้าทาย และทำลายแล้ว โดยที่สหรัฐทำอะไรไม่ได้ จากการที่สหรัฐถูกรัสเซีย ตุรกี และอิหร่านโดดเดี่ยว ไม่เชิญเข้าร่วมประชุมปัญหาซีเรีย โอบามาแพ้สงครามซีเรียต่อปูตินอย่างราบคาบ

แล้วทรัมป์จะทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อย่างไร?
 thanong
 25/12/2016


บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #237 เมื่อ: ธันวาคม 29, 2016, 12:28:37 PM »

4.
 ปีไก่2017: ปีแห่งการดำรงอยู่อย่างไม่ประมาท

ในปี2017 ลูกตุ้มของลัทธิชาตินิยมจะเหวี่ยงกลับมาอย่างหนักหน่วง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐและยุโรป เพราะว่ารูปแบบของเสรีนิยม+ทุนนิยมเดินหน้าต่อไม่ไหว จากการที่เศรษฐกิจมีความตกต่ำต่อเนื่องมายาวนานหลายปี และมีหนี้ที่ไม่มีวันชำระได้

ต้องคอยดูว่าจะเป็นลัทธิชาตินิยมที่กำลังก่อตัวจะเป็นชาตินิยมทางเศรษฐกิจ ชาตินิยมการเมือง หรือชาตินิยมทางทหาร หรืออาจจะผสมผสานกันก็ได้

ฝรั่งเขียนลัทธิเสรีนิยม ทุนนิยม การค้าเสรีด้วยมือ และบีบให้ทุกประเทศทั่วโลกเปิดประเทศ แต่มาวันนี้อังกฤษและสหรัฐเป็นผู้นำในการลบอุดมการณ์เหล่านี้ด้วยเท้า

อังกฤษโหวตBrexit เพื่อปฏิเสธการอยู่ร่วมกับแผ่นดินใหญ่ยุโรปในรูปแบบการรวมตัวกันอย่างไร้พรมแดน หรือแนวทางที่จะทำให้ยุโรปเป็นสมาพันธรัฐ

คนอเมริกันโหวตให้ทรัมป์เข้ามาเป็นประธานาธิบดีเพื่อปกป้องผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและการค้าของอเมริกา

ทรัมป์ประกาศว่าจะยกเลิกข้อตกลงการค้าเสรีทีพีพี (Trans-Pacific Partnership ) เพื่อส่งสัญญานว่าระบบการค้าเสรีโลกได้มาถึงจุดจบแล้ว

ต่อไปจะเป็นการค้าในรูปแบบตัวใครตัวมัน เจรจากันในระดับทวิภาคีกันไปแล้วแต่ใครจะมีอำนาจต่อรองมากกว่ากัน

ที่ยุโรป ผู้สมัครตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศส นางMarine Le Pen ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคNational Frontประกาศว่า ถ้าเธอได้รับเลือกเป็นผู้นำ เธอจะให้มีการลงประชามมติให้ฝรั่งเศสออกจากอียู และเลิกใช้เงินสกุลร่วมยูโร

นายFrancois Fillon ตัวแทนจากพรรคRepublicanของฝรั่งเศส บอกว่าผลประโยชน์ของฝรั่งเศสต้องมาก่อนผลประโยชน์ของสหภาพยุโรป

ที่อิตาลี ประชาชนเพิ่งจะโหวตไม่เอาแนวนโยบายปฏิรูปรัฐธรรมนูญและการเมืองที่ยังคงเดินหน้าในกรอบของการรวมตัวกันของประชาคมยุโรป คนอิตาลีออกอาการเบื่อหน่ายต่อการใช้เงินสกุลร่วมยูโร หรือการอยู่ร่วมกับประชาคมยุโรป เพราะเชื่อว่าการอยู่ร่วมในอียูเป็นที่มาของภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำ

ฝรั่งเศส เยอรมันนี และเนเธอร์แลนด์จะมีการเลือกตั้งในปีหน้า มีแนวโน้มสูงที่นักการเมืองฝ่ายขวาที่นำเสนอแนวชาตินิยมจะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง

โหวตBrexitคือ UK First โหวตให้ทรัมป์ชนะคือAmerica First โหวตให้Le Pen หรือFillonชนะคือFrance First หรืออาจจะเป็นFrexitไปเลย

เมื่อประเทศที่เป็นเสาหลักของโลกหันหลังให้กับความร่วมมือในทางเศรษฐกิจและการค้าของโลก เท่ากับว่ากำลังจะกลับไปใช้ลัทธิกีดกันการค้าแทน (protectionism) เพื่อที่จะปกป้องอุตสาหกรรม หรือธุรกิจของตัวเอง

ที่ผ่านมานักเศรษฐศาสตร์สายการค้าเชื่อว่า การยกเลิกอุปสรรคของการค้าไม่ว่าจะเป็นกำแพงภาษีหรือกฎระเบียบข้อห้ามต่างๆจะเป็นการส่งเสริมการค้าเสรี และจะทำให้เศรษฐกิจโลกรุ่งเรือง มีการจ้างงานและระดับมาตรฐานการครองชีพของแต่ละประเทศจะดีขึ้น ลดความเสี่ยงของการเกิดสงคราม

ข้อตกลงการค้าเสรีGeneral Agreement on Tariffs and Trade (Gatt)ที่เกิดขึ้นในสมัยประธานาธิบดีเคนเนดี้ และต่อมาได้พัฒนามาเป็นองค์การค้าโลก (World Trade Organization) เชื่ออย่างฝังหัวในการค้าเสรีที่จะทำให้เศรษฐกิตโลกเติบโตได้อย่างเข้มแข็งทำให้เกิดการเจรจาตกลงการค้าเสรีในระดับภูมิภาคอื่นๆไปทั่วโลก

บ้านเราก็กำลังบ้าเออีซีอยู่ โดยไม่ดูทิศทางลม

แต่มาวันนี้ มันเป็นข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนแล้วว่า การค้าเสรีแบบสุดขั้วไม่ได้ทำให้คนส่วนใหญ่มีงานทำหรือมีชีวิตที่ดีขึ้น เพราะว่าผู้ที่ตักตวงผลประโยชน์จากการค้าเสรีที่แท้จริงคือนายทุนใหญ่ บริษัทใหญ่ๆ รวมทั้งสถาบันการเงินใหญ่ๆ

ส่วนบริษัทเล็กบริษัทน้อยอยู่ไม่ได้ โดนคลื่นของโลกาภิวัฒน์พัดตายไปเป็นส่วนใหญ่ คนที่ใช้แรงงานโดยทั่วไปตกงาน หรือแม้จะมีงานทำแต่จะมีรายได้ไม่พอรายจ่าย

เกิดความเหลื่อมล้ำอย่างมหาศาล โดยที่ในระบบการค้าเสรีทุนนิยมคนรวยยิ่งมีทุนมากยิ่งขึ้น ส่วนประชาชนโดยทั่วไปไม่มีทุน ทีแต่หนี้แทน

จากการศึกษาของนักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด และปรินซ์ตันพบว่า เกือบ95% ของการจ้างงานใหม่10ล้านตำแหน่งในสมัยรัฐบาลโอบามาเป็นงานพาร์ทไทม งานจิปาถะ หรืองานฟรีแลนซ์ที่ไม่ได้รับเงินอย่างเป็นกอบเป็นกำที่แน่นอน

แต่นางJanet Yellenผู้ว่าการธนาคารUS Federal Reserveกลับใช้คำว่าตลาดแรงงานของสหรัฐมีการฟื้นตัวอย่างเข้มแข็ง (solid labour market)
http://www.investing.com/…/nearly-95-of-all-job-growth-duri…

เมื่อทุนนิยมมาถึงจุดวิกฤติ ลัทธิชาตินิยมจึงเป็นปฏิกิริยาที่โต้กลับ ต้องระวังลัทธิชาตินิยมว่าจะไม่นำไปสู่ชาตินิยมทางทหารเหมือนสมัยนาซีเยอรมันนี หรือมุสโสลินี
 รวมทั้งมีลัทธิฟาสซิสต์ที่โผล่มาให้เห็นในยูเครน หรือในเยอรมันนีบ้างแล้ว

เมื่อโลกไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ประเทศเล็กประเทศน้อยคงต้องมีการสำรวจตัวเองกันใหม่ ว่าต้องปรับตัวกันยังไงดี เพราะว่าโดนหลอกโดนต้อนให้เข้าคอกเสรีนิยมประชาธิปไตย ทุนนิยม การค้าเสรีมาค่อนศตวรรษแล้ว มาวันนี้จ่าฝูงกำลังจะล้มโต๊ะบอกว่าเอาลัทธิชาตินิยมดีกว่า
http://www.thairath.co.th/content/306918

มันจะไม่ใช้่ชาตินิยมแบบธรรมดา แต่เป็นชาตินิยม แบบBody Who Body It หรือชาตินิยมแบบตัวใครตัวมัน ซึ่งจะทำให้โลกาภิวัฒน์สะดุด การค้าโลกสะดุด และการเมืองโลกมีการสลับขั้วกันอย่างน่าหวาดเสียว

thanong
 27/12/2016
http://www.bbc.com/news/explainers-38266436


บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #238 เมื่อ: ธันวาคม 29, 2016, 12:30:13 PM »


5.
 ปีไก่2017: ปีแห่งการดำรงอยู่อย่างไม่ประมาท

มีสัญญานหลายอย่างที่ชี้ให้เห็นว่าระเบียบโลกปัจจุบันของเสรีนิยม การค้าเสรี ประชาธิปไตย ทุนนิยมภายใต้การนำของกลุ่มแองโกลอเมริกันกำลังมาถึงจุดจบ

เมื่อศูนย์กลางของเสรีนิยมทุนนิยมอยู่ไม่ได้ จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อบริวารประเทศที่อยู่รายล้อม

ลัทธิชาตินิยมแบบสุดขั้วจะเข้ามาแทนที่เสรีนิยมและโลกาภิวัฒน์

เอกอำนาจของสหรัฐ รวมทั้งสถาบันระหว่างประเทศที่เป็นเสาหลักของระเบียบโลกปัจจุบันกำลังถูกท้าทาย

ให้สังเกตุปัจจัยต่างๆของความเปลี่ยนแปลงดังนี้:

1. อเมริกาเข้าสู่ยุคเสื่อม เศรษฐกิจไม่ดี หนี้สูง ภาวะว่างงานเรื้อรังทำให้เกิดปรากฎการณ์ทรัมป์ขึ้นมาเพื่อเอาลัทธิชาตินิยม (America First)มาแก้ไขปัญหาความตกต่ำ

2. ศูนย์กลางของการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจจะไม่อยู่ที่นิวยอร์ค หรือลอนดอนอีกต่อไป แต่จะย้ายมาอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ หรือมูมไบแทนในอีกไม่เกิน10-20ปีข้างหน้า แองโกลอเมริกันยอมให้สิ่งนี้เกิดขึ้นไม่ได้จึงล้มโต๊เสรีนิยม+ทุนนิยม+โลกาภิวัฒน์ที่ตัวเองตั้งขึ้นมากับมือ

3. อังกฤษโหวตBrexitเพื่อฆ่าความเป็นสหภาพยุโรป ฝรั่งเศส อิตาลีและชาติยุโรปอื่นๆจะเดินตามอังกฤษเมื่อภาวะเศรษฐกิจตกต่ำมากขึ้น อันจะนำมาสู่การล่มสลายของอียู รวมทั้งเงินสกุลยูโร

4. คนในโลกตะวันตกเริ่มต่อต้านโลกาภิวัฒน์ หรือการรวมตัวของกลุ่มประเทศ โดยต้องการให้นักการเมืองกลับมาดูแลปัญหาพื้นฐานของประเทศแทน

5. รัสเซีย ตุรกีและอิหร่านประชุมแผนสันติภาพซีเรียในสัปดาห์ที่แล้ว โดยไม่เชิญสหรัฐเข้าร่วม แสดงว่าสหรัฐไม่มีอำนาจต่อรองในตะวันออกกลางเหมือนเดิม นอกจากนี้แผนสันติภาพซีเรียไม่ได้เดินในกรอบของยูเอ็น รัสเซียไม่ได้ให้ความสำคัญกับยูเอ็นอีกต่อไป

6. ทรัมป์ไม่ต้องการให้เงินสนับสนุนนาโต้อีกต่อไป โดยบอกว่าองค์กรนี้ไม่เห็นจะมีประโยชน์อะไร การรวมตัวกันทางทหารของประเทศนาโต้กำลังมีปัญหา เพราะว่าอเมริกาเลี้ยวรถยูเทิร์นโดยไม่บอกเพื่อน

7. ยูเอ็นกำลังเสื่อม นักการเมืองฝ่ายขวาของอเมริกันไม่ว่าจะเป็น John McCain, Mike Huckabeeรวมทั้งTed Cruzขู่จะตัดเงินช่วยเหลือยูเอ็น ถ้ายูเอ็นไม่ล้มมติของตัวเองที่ประนามการสร้างบ้านเรือนของอิสราเอลรุกล้ำเข้าไปในเขตแดนของปาเลสไตน์ในเขตเวสท์แบงค์ กาซ่า และเยรูซาเลมตะวันออก อิสราเอลประนามยูเอ็นที่ไม่สนับสนุนการรุกดินแดนปาเลสไตน์ของตัวเอง ผู้นำฟิลิปปินส์นายโรดริโก ดูเตอร์เต้บอกว่ายูเอ็นไม่ใช้พ่อ อย่ามายุ่งในกิจการภายในของฟิลิิปปินส์ในขณะที่เขากำลังกวาดล้างพวกพ่อค้ายาเสพติดด้วยนโยบาววิสามัญ

8.
 9.
 10.


บันทึกการเข้า

finghting!!!
palawast
เจ้าของเว็บ SEARCHMONOPOLY
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2



เว็บไซต์
« ตอบ #239 เมื่อ: มกราคม 16, 2017, 09:09:40 PM »

อ่านแล้ว ยัง งงๆ อยู่เลยครับ แต่ว่างๆ เข้ามาอ่านก็เพลินๆดีครับผม ห้าๆ
ตอนนี้ผมใช้งาน บริการของคนไทย สำหรับการโอนเงินจากเยอรมันมาไทย ใครเคยใช้ของค่ายนี้บ้างครับ ใช้ดีไหมครับ ?
บันทึกการเข้า

มาเข้าแก๊งส์กันครับ | ชมชนคนทำงาน > SEARCHMONOPOLY - สังคมคนออนไลน์ 24 ชั่วโมง
Gold Price today, Gold Trend Price Prediction, ราคาทองคํา, วิเคราะห์ทิศทางทองคํา
   

images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary ---------------------Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. For more information on Moore Research products and services click here. --- http://www.mrci.com ---------- ---------------------------------------------รูปกราฟแสดงราคาทองในอดีตปี 1974-1999 ของ Moore Research Center, Inc. แสดงฤดูกาลที่ราคาทองขึ้นสูงสุดและตําสุด เอาแบบคร่าวๆ เส้นนําตาลหรือนําเงินก็ใกล้เคียงกัน เส้นนําตาลเฉลี่ย 15 ปี เส้นนําเงินเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุดของเส้นนําตาล หรือเฉลี่ย 15 ปี ในเดือน ปลายเดือน เมษ และปลายเดือน สค ต่อต้นเดือน กย[/color] สูงสุดในเดือน กพ กับ พย / ส่วนเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุด ต้น กค กับ ปลาย สค และราคาสูงสุดในเดือน กพ และ กลางเดือน ตค ----- แค่ดูคร่าวๆ เป็นแนวทาง อย่ายึดมั่นว่าจะต้องเป็นตามนี้ ข้างล่างเป็นกราฟราคานํามัน ตามฤดูกาล จาก Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary
 บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 14 15 [16] 17 18   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: