nokeang
|
 |
« ตอบ #75 เมื่อ: มกราคม 20, 2010, 04:36:16 AM » |
|
mai ow laaw ja , pid pra too laaw ,mai mee fan dee wa na  yong mai dai long klon 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ไม่มีน้ำหนักใด...หนักกว่ากรรม ไม่มีหนทางใด...ยาวเท่าหนทางแห่งกรรม
|
|
|
nokeang
|
 |
« ตอบ #76 เมื่อ: มกราคม 20, 2010, 04:38:53 AM » |
|
 Morning Jaaaaaaaaaaaaaaa  เวลาที่ไม่ควรแปรงฟัน แม้ว่าการแปรงฟันเป็นประจำจะเป็นสุขนิสัยที่ดีแต่มีบ างเวลาที่ไม่ควรแปรงฟันในทันทีสมาคม ทันตกรรมชิคาโก ระบุว่า ไม่ควรแปรงฟันทันทีหลังจากดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผ สมของโซดาหรือกรด เช่น น้ำอัดลม น้ำส้ม เพราะการแปรงฟันขณะที่มีกรดหลงเหลืออยู่ในปากจะยิ่งก ระตุ้นให้ฟันผุง่ายยิ่ง ขึ้น วิธีที่ควรทำหลังจากดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้ คือ ดื่มน้ำเปล่าหรือเคี้ยวหมากฝรั่ง เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำลายมากขึ้น ซึ่งจะช่วยปรับสมดุลภายในปาก หลังจากนั้นค่อยแปรงฟัน วิธีนี้ใช้กับผู้ที่เป็นโรคกรดไหลย้อนซึ่งมักจะมีน้ำ ย่อยที่มีสถานะเป็นกรดไหลย้อนมาอยู่ในปากได้ด้วย ขอบคุณข้อมูล : นิตยสารแพรว ฉบับที่ 719
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ไม่มีน้ำหนักใด...หนักกว่ากรรม ไม่มีหนทางใด...ยาวเท่าหนทางแห่งกรรม
|
|
|
jainu
|
 |
« ตอบ #77 เมื่อ: มกราคม 20, 2010, 05:37:21 PM » |
|
ไหมขัดฟัน .. ใช้อย่างไร ? การใช้ไหมขัดฟันเพียงวันละครั้งมีส่วนช่วยลดคราบจุลิ นทรีย์บนผิวฟัน โดยเฉพาะส่วนโคนฟันที่อยู่ใกล้เหงือก และแปรงสีฟันมักจะ "เข้าไม่ถึง" ทำให้โอกาสเป็นโรคฟันผุ เหงือกอักเสบ เนื้อเยื่อรอบโคนฟัน(ปริทนต์)อักเสบลดลง การศึกษาที่ผ่านมาพบว่า คนที่แปรงฟันถูกวิธีเป็นประจำ และใช้ไหมขัดฟันวันละครั้งมีโอกาสอายุยืนเพิ่มขึ้นปร ะมาณ 3 ปี (1). ตัดไหมขัดฟันยาวประมาณฟุตครึ่ง หรือ 18 นิ้ว นำมาพันรอบนิ้วกลางกับนิ้วนาง (หรือนิ้วกลางนิ้วเดียวก็ได้ แต่อย่าพันกับนิ้วชี้) ให้แน่นพอประมาณ (แน่นพอที่จะทำให้ไม่ลื่นหลุด และไม่มากเกินจนบาดนิ้วหรือทำให้นิ้วเจ็บ) ให้เหลือเส้นไหมไว้ระหว่างมือประมาณ 3-4 นิ้ว เพื่อใช้ทำความสะอาดฟัน
2). ใช้นิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้จับเส้นไหมไว้สำหรับทำควา มสะอาดฟัน ให้เส้นไหมเหลืออยู่ระหว่างนิ้วมือ 2 ข้างประมาณ 1/2 นิ้วจนถึงนิ้วครึ่ง
(3). ค่อยๆ สอดเส้นไหมเข้าไประหว่างซี่ฟันเบาๆ ระวังอย่าให้เส้นไหมกระแทกหรือบาดเหงือก ทำความสะอาดฟันทีละซี่โดยการใช้เส้นไหมโอบล้อมฟันคล้ ายรูปตัวซี ('C')
(4). ให้ออกแรงถูเส้นไหมบนผิวฟันเบาๆ ในแนวนอน อย่าออกแรงในแนวตั้ง เพื่อป้องกันอันตรายต่อเหงือก ถูเส้นไหมบนผิวฟันเบาๆ ขึ้นบ้างลงบ้างซี่ละ 2-3 รอบ เริ่มจากส่วนบนสุดของซี่ฟันลงไปใต้แนวเส้นเหงือกเล็ก น้อย แล้วกลับขึ้นไปใหม่
(5). อย่าออกแรงกดเส้นไหมบนเหงือก ซึ่งอาจทำให้เหงือกชอกช้ำ เป็นแผล หรือเกิดการอักเสบได้
วิธีสังเกตว่า เราออกแรงกดบนเหงือกหรือไม่ คือ ให้ตรวจดูว่า มีรอยกดของเส้นไหมบนเหงือกหรือไม่ ซึ่งถ้าทำถูกวิธี... จะไม่มีรอยกดนี้เลย
(6). เมื่อทำความสะอาดฟันได้ประมาณ 2-3 ซี่ หรือเส้นไหมเกิดการฉีกขาดบางส่วน ให้เลื่อนตำแหน่งไหมขัดฟันจากส่วนที่ใช้แล้ว ไปยังส่วนที่ยังไม่ได้ใช้ หลังใช้ไหมขัดฟันแล้ว ควรบ้วนปากตามหลายๆ ครั้ง เพื่อกำจัดคราบจุลินทรีย์ออกจากปากเสมอ (7). ใช้ไหมขัดฟันก่อนแปรงฟัน เพื่อทำความสะอาดผิวฟันก่อน เมื่อผิวฟันสะอาดดีแล้ว แปรงฟันด้วยยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ตาม... ฟลูออไรด์จะเข้าไปจับกับกลุ่มแคลเซียมที่ผิวฟัน ทำให้ฟันแข็งแรง และช่วยป้องกันฟันผุได้ดีขึ้น
ถ้าไม่ใช้ไหมขัดฟันก่อนแปรงฟัน... ฟลูออไรด์ในยาสีฟันจะเข้าไปจับกับกลุ่มแคลเซียมที่ผิ วฟันไม่ค่อยได้ เนื่องจากมีคราบจุลินทรีย์ (plaque / พลัค) กีดกัน ถ้าใช้ไหมขัดฟันแล้วพบว่า มีเลือดออกมาก เหงือกบวม แดง หรือเจ็บเหงือกมาก... ควรปรึกษาทันตแพทย์ที่มา ... บ้านหมอ นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 20, 2010, 05:39:01 PM โดย nujai »
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
 |
« ตอบ #78 เมื่อ: มกราคม 20, 2010, 05:40:59 PM » |
|
mai ow laaw ja , pid pra too laaw ,mai mee fan dee wa na  yong mai dai long klon  ลงกลอนไม่ได้ เต็ม เข้าจัย 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
|
|
cupid
Jr. Member

ออฟไลน์
กระทู้: 455
|
 |
« ตอบ #81 เมื่อ: มกราคม 23, 2010, 01:34:31 AM » |
|
mai ow laaw ja , pid pra too laaw ,mai mee fan dee wa na  yong mai dai long klon  ลงกลอนไม่ได้ เต็ม เข้าจัย   อ๊ะจึ๋ย ล้นห้องเลยเหรอฮะป้าจัย คนจ๋วยก็หยั่งงี้แหละ น่าอิจฉาตาร้อนผ่าวๆ ฮิ ฮิ งั้นศรรักที่นู๋จะให้ป้า ขอคืนไปยิงคนอื่นนะฮะ เด๋วลงกลอนไม่ได้เหมือนพี่เอี้ยงบอก 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
jainu
|
 |
« ตอบ #83 เมื่อ: มกราคม 24, 2010, 07:06:34 PM » |
|
mai ow laaw ja , pid pra too laaw ,mai mee fan dee wa na  yong mai dai long klon  ลงกลอนไม่ได้ เต็ม เข้าจัย   อ๊ะจึ๋ย ล้นห้องเลยเหรอฮะป้าจัย คนจ๋วยก็หยั่งงี้แหละ น่าอิจฉาตาร้อนผ่าวๆ ฮิ ฮิ งั้นศรรักที่นู๋จะให้ป้า ขอคืนไปยิงคนอื่นนะฮะ เด๋วลงกลอนไม่ได้เหมือนพี่เอี้ยงบอก  มั่ยคืนจะเอาไว้ยิงคนเข้ามาเเล้วมั่ยจ่ายตังค์ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
|
nokeang
|
 |
« ตอบ #85 เมื่อ: มกราคม 27, 2010, 07:11:25 PM » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ไม่มีน้ำหนักใด...หนักกว่ากรรม ไม่มีหนทางใด...ยาวเท่าหนทางแห่งกรรม
|
|
|
jainu
|
 |
« ตอบ #86 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 08, 2010, 08:45:40 PM » |
|
 เข้ามาแย้วววววววววววววววววยังว่าอีกงั้นวาเลนทายยยยยยยยนี้อย่าได้กินช็อคแล็ตเลยยยยยยยย อิ อิ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
|
jainu
|
 |
« ตอบ #88 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 08, 2010, 08:58:39 PM » |
|
ควันขาว ภัยที่ไม่ควรมองข้าม โดย กรมควบคุมมลพิษ
ควันขาวจากจักรยานยนต์
ในปัจจุบันรถจักรยานยนต์ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวา งทั่วประเทศ โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีสภาพการจราจรแออัด จึงต้องการพาหนะที่มีความคล่องตัวสูง และสามารถขับเคลื่อนไปได้ดี รถจักรยายนต์ที่ใช้มี ๒ ประเภท คือ รถจักรยานยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ ๒ จังหวะ และ ๔ จังหวะ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ ๒ จังหวะ ได้รับความนิยมมากกว่า เนื่องจากสามารถให้สมรรถนะเป็นที่พอใจแก่ผู้ขับขี่ มีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา ซ่อมแซมง่าย
ควันขาว คือ กลุ่มของละอองน้ำมันหล่อลื่นที่ยังไม่เผาไหม้หรือเผา ไหม้เพียงบางส่วน เมื่อกระทบกับบรรยากาศภายนอกที่มีอุณหต่ำกว่า ก็จะควบแน่น มองเห็นเป็นควันขาวออกมาจากท่อไอเสีย
สาเหตุของการเกิดควันขาว
เนื่องจากรถจักรยานยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ จำเป็นต้องมีการหล่อลื่นชิ้นส่วนเคลื่อนไหวต่าง ๆ เช่น เพลาข้อเหวี่ยง ลูกสูบ ผนังกระบอกสูง ตลับลูกปืน ฯลฯ ซึ่งส่วนผสมของอากาศ น้ำมันเชื้อเพลิงและน้ำมันหล่อลื่นที่อยู่ในส่วนผสมก ็จะมีโอกาสสัมผัสกับชิ้นส่วนต่าง ๆ เพื่อทำหน้าที่ในการหล่อลื่นและระบายความร้อน ต่อมาเมื่อส่วนผสมไหลออกมาจากห้องเพลาข้อเหวี่ยงเข้า ไปในห้องเผาไหม้ น้ำมันหล่อลื่นที่มีส่วนประกอบหลักเป็น mineral oil เช่น bright stock ซึ่งเป็นสารที่เผาไหม้ยาก จะไม่ถูกเผาไปพร้อมกับน้ำมันเชื้อเพลิง จึงทำให้บางส่วนของน้ำมันหล่อลื่นเกาะอยู่ตามผนังห้อ งเผาไหม้ และช่องระบายไอเสีย ขณะที่อีกส่วนหนึ่งจะระเหยแล้วผสมกับไอเสียไหลออกสู่ บรรยากาศ ไอน้ำมันหล่อลื่นที่ยังไม่เผาไหม้เมื่อกระทบกับบรรยา กาศภายนอกที่มีอุณหต่ำกว่าก็จะควบแน่นเป็นละอองน ้ำมัน มองเห็นเป็นควันขาวที่ออกจากท่อไอเสียอย่างชัดเจน
น้ำมันหล่อลื่น
โดยทั่วไปคุณสมบัติของน้ำมันหล่อลื่นที่ดี ควรมีความสามารถในการหล่อลื่นสูง มีความต้านทานการครูดกร่อนของกระบอกสูบได้ดี มีความต้านทานต่อการติดเกาะของแหวนลูกสูบ ไม่ทำให้เกิดเขม่าแข็งอุดตันที่ช่องระบายไอเสีย และทำให้เกิดควันขาวน้อย แต่น้ำมันหล่อลื่นแบบธรรมดาส่วนใหญ่มักใช้ mineral oil เป็นองค์ประกอบหลัก ซึ่งจะให้สมรรถนะในการหล่อลื่นที่ดี แต่มีข้อเสียคือ ทำให้เกิดควันขาวมาก และเกิดเขม่าแข็งอุดตันช่องระบายไอเสีย ปัจจุบันได้กำหนดมาตรฐานน้ำมันหล่อลื่นแบบลดควันขาว (Low Smoke) เป็นมาตรฐานบังคับ ซึ่งน้ำมันหล่อลื่นที่ได้มาตรฐานต้องทำให้เกิดควันขา วน้อยกว่าร้อยละ 30
อันตรายของควันขาว
อันตรายต่อร่างกาย
ทำให้มีอาการแสบและระคายเคืองตา ระคายเคืองในระบบทางเดินหายใจ ทำให้เกิดโรคมะเร็ง
อันตรายต่อสภาพแวดล้อม ทำให้เกิดสภาพหมอกควัน บดบังทัศนวิสัยในการมองเห็น
อันตรายต่อเครื่องยนต์
เกิดการอุดตันที่ช่องระบายไอเสียในเวลาอันรวดเร็วทำใ ห้ไอเสียระบายออกได้ลำบาก จังหวัดการระบายไอเสียผิดไปจากเดิม เครื่องยนต์มีสมรรถนะต่ำ แรงม้าลดลง ต้องทำการซ่อมบำรุงบ่อย
วิธีที่จะลดปริมาณควันขาว
การลดอัตราส่วนผสมระหว่างน้ำมันหล่อลื่นต่อน้ำมันเชื ้อเพิลง แต่ยังคงรักษาสมรรถนะในการหล่อลื่นให้คงที่ ซึ่งทำให้ต้องมีการปรับปรุงคุณภาพน้ำมันหล่อลื่นและว ัสดุที่ใช้ผลิตเครื่องยนต์ให้ดีขึ้นตามคำแนะนำของบริ ษัทผู้ผลิต การลดหรือเปลี่ยนองค์ประกอบหลักจาก mineral oil โดยใช้สารตัวใหม่ เช่น สาร polyisobutene ซึ่งสามารถทำหน้าที่ในการหล่อลื่นได้เหมือนกับ mineral oil และก่อให้เกิดควันขาวน้อย ประชาชนควรบำรุงรักษาเครื่องยนต์เพื่อป้องกันและลดคว ันขาว
ไม่ควรปรับแต่งวาล์วจ่ายน้ำมันหล่อลื่นให้มากขึ้นกว่ าเดิมจากที่บริษัทกำหนดไว้ ใช้น้ำมันหล่อลื่นชนิดลดควันขาว (Low Smoke Oil) ที่ได้รับมาตรฐาน สมอ. ไม่เติมน้ำมันหล่อลื่นในถังน้ำมันเชื่อเพลิง หมั่นตรวจสอบและบำรุงรักษาเครื่องยนต์ตามคำแนะนำของผ ู้ผลิตอยู่เสมอ
กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 08, 2010, 09:00:15 PM โดย nujai »
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
|
Gold Price today, Gold Trend Price Prediction, ราคาทองคํา, วิเคราะห์ทิศทางทองคํา
|
Thanks: ฝากรูป dictionary
---------------------Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. For more information on Moore Research products and services click here. --- http://www.mrci.com ----------
---------------------------------------------รูปกราฟแสดงราคาทองในอดีตปี 1974-1999 ของ Moore Research Center, Inc.
แสดงฤดูกาลที่ราคาทองขึ้นสูงสุดและตําสุด เอาแบบคร่าวๆ เส้นนําตาลหรือนําเงินก็ใกล้เคียงกัน เส้นนําตาลเฉลี่ย
15 ปี เส้นนําเงินเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุดของเส้นนําตาล หรือเฉลี่ย 15 ปี ในเดือน ปลายเดือน เมษ และปลายเดือน สค
ต่อต้นเดือน กย[/color] สูงสุดในเดือน กพ กับ พย / ส่วนเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุด ต้น กค กับ ปลาย สค และราคาสูงสุดในเดือน
กพ และ กลางเดือน ตค -----
แค่ดูคร่าวๆ เป็นแนวทาง อย่ายึดมั่นว่าจะต้องเป็นตามนี้
ข้างล่างเป็นกราฟราคานํามัน ตามฤดูกาล จาก Charts courtesy of Moore Research Center, Inc.
Thanks: ฝากรูป dictionary
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|