Forex-Currency Trading-Swiss based forex related website. Home ----- กระดานสนทนาหน้าแรก ----- Gold Chart,Silver,Copper,Oil Chart ----- gold-trend-price-prediction ----- ติดต่อเรา
หน้า: 1 ... 6 7 [8] 9   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: นานาสาระ ... แต่ไม่ไร้สาระ เก็บมาฝาก.....  (อ่าน 27282 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 7 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
moddang
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 124



« ตอบ #105 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 06, 2010, 09:17:30 PM »

คัดจากบท "คำขอที่ยิ่งใหญ่"


        

...การขอโทษมิใช่เครื่องหมายแสดงความอ่อนแอ
มีแต่ในอาณาจักรสัตว์เท่านั้นที่ตัวอ่อนแอเป็นฝ่ายคืนดีก่อน
แต่สำหรับมนุษย์ผู้มีวัฒนธรรมแล้ว
ผู้ที่เอ่ยปากขอโทษก่อนต่างหาก คือผู้ที่เข้มแข็งกว่า
เข้มแข็งเพราะเขากล้ารับผิด
เข้มแข็งเพราะเขากล้าขัดขืนคำบัญชาของอัตตา
ที่ต้องการประกาศศักดาเหนือผู้อื่น...


ไม่มีการขออะไรที่ยิ่งใหญ่กว่าการขอโทษ
เพราะเป็นการขอที่ไม่ได้ออกมาจากจิตที่เห็นแก่ตัว
แต่มาจากจิตที่มีมโนธรรมสำนึก รู้สึกรู้สากับความทุกข์ของเพื่อนมนุษย์
และอ่อนน้อมถ่อมตน ไร้อหังการ
เป็นการขอที่ไม่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกสูญเสียเลยแม้แต่น้อย

คำขอโทษเป็นประดิษฐกรรมอันยิ่งใหญ่ของมนุษย์
ไม่ใช่เพราะมันทำให้มนุษย์แตกต่างจากสัตว์เท่านั้น
หากยังเพราะช่วยให้มนุษย์คืนดีและอยู่ร่วมกันอย่างสันติ
โดยไม่ใช้ความฉลาดที่ได้มาเพื่อการทำลายล้างกันเท่านั้น...

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 06, 2010, 09:21:51 PM โดย moddang » บันทึกการเข้า

สิ่งที่ควรทำคือความดี  สิ่งที่ควรมีคือคุณธรรม  สิ่งที่ควรจำคือบุญคุณ
Neung99k
Full Member
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 565



« ตอบ #106 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2010, 07:08:19 PM »

ขอบคุณสำหรับบทความดีดีครับ Grin
บันทึกการเข้า

http://www.smart90days.com/neung999kk/  ธุรกิจท่องเที่ยวรับเงินแสน
http://www.azpaypoint.com/chitdech  รายจ่ายจะกลับมาเป็นรายได้
moddang
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 124



« ตอบ #107 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2010, 08:31:45 PM »

กดจุดหยุดอาการจุกแน่นท้อง

http://www.doctor.or.th/node/6598

ภาวะ เศรษฐกิจในสังคมปัจจุบันนี้ ทำให้ประชาชนต้องรัดเข็มขัดตัวเอง ต้องทำงานแข่งกับเวลาเพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ แต่คนชนบทนับว่ายังโชคดีกว่าคนในเมืองหลวงอยู่มากนัก ทั้งนี้เพราะค่าครองชีพต่างกันราวฟ้ากับดิน คนเมืองหลวงจึงต้องรับกรรม มีเรื่องให้คิดคิดคอยกังวลอยู่ร้อยแปดพันประการ แล้วสิงที่ตามมาก็คือ โรคกระเพาะอาหารไม่ย่อย จุกเสียด แน่นท้อง

"เมื่อก่อนผมไม่เคยมีอาการจุกแน่นท้องเลย เพิ่งจะเป็นเมื่อเร็วๆ นี้เอง"
"พวก หมอเขาบอกว่า สาเหตุมักจะเกิดจากการกังวล เช่น กังวลในปัญหาครอบครัว เกี่ยวกับการทำมาหากิน การงาน เป็นต้น สาเหตุเหล่านี้ทำให้กระเพาะอาหารทำงานไม่เป็นปกติ เลยมีอาการจุกแน่น (มีลมในกระเพาะอาหาร) ตรงบริเวณยอดอกหรือใต้ลิ้นปี่ หลังกินข้าวอิ่ม ถ้ามีอาการเรอหรือผายลม จะรู้สึกสบายขึ้น บางครั้งก็มีอาการเบื่ออาหร นอนไม่หลับ ท้องผูก ใจสั่น มึนศีรษะ"

"นั่นซิ เมื่อก่อนผมอยู่ตัวคนเดียวไม่ต้องคิดอะไรมาก เดี๋ยวนี้มีครอบครัวแล้ว ต้องวุ่นอยู่กับปัญหาครอบครัวและยังต้องหาเงินมากขึ้นไม่งั้นไม่พอผ่อนบ้าน ไม่พอใช้ น่าจะเป็นสาเหตุนี้ที่ทำให้มีอาการแน่นท้องอยู่เสมอ"

"ใน ทางการแพทย์ตะวันตก (แผนปัจจุบัน) การรักษา คือ ให้ยาพวก มิกต์คาร์มิเนตีฟ หรือยาธาตุน้ำแดง ถ้ามีอากากังวลใจ นอนไม่หลับ ก็ให้ยากล่อมประสาท เช่นไดอะซีแพม"

"ผมก็กินยาที่ว่ามานาน ไม่เห็นหายเลย ไม่รู้ว่าจะกินไปได้อีกนานเท่าไหร่จึงจะหาย"
"ก็ อย่างว่าแหละ ทุกวันนี้เรามักจะเน้นเรื่องการรักษาเป็นหลัก แต่ไม่เคยสนใจที่จะเรียนรู้ป้องกันเลย เพราะการป้องกันนั้นยากกว่าการรักษา"

"ผมเห็นด้วยกับทรรศนะของคุณที่เน้นการป้องกันเป็นหลัก แล้วถ้าเผื่อมันเป็นตอนนี้ เราจะแก้ปัญหาเพราะ "หา" อย่างไรดีล่ะ"
"เอาง่ายๆ ก็ใช้วีการกดจุดก็แล้วกัน"

จุดที่กด จู๋ซานหลี, เน่ยกวาน


จุดเน่ยกวาน อยู่ห่างจากเส้นข้อมือระหว่างเอ็นทั้งสองโดยห่างจากเส้นข้อมือ 2 นิ้ว (รูปที่ 1)



จุดจู๋ซานหลี อยู่ใต้สะบ้าหัวเข่าล่างลงไปประมาณ 3 นิ้วข้างกระดูกหน้าแข้งด้านนอก (รูปที 2)

วิธีกด

ใช้ หัวแม่มือกด ที่จุดจู๋ซานหลี ทั้งสองข้างประมาณ 3-5 นาที หรือจะใช้จุดเน่ยกวานร่วมด้วยโดยกดข้างละ 3-5 นาที ก็จะช่วยให้ได้ผลดีขึ้น

ถ้าสามารถหาน้ำขิงโดยใช้ขิงแก่สดมาทุบให้แตกแล้วชงน้ำร้อนหรือต้มกิน จะช่วยให้อาการทุเลาลงเร็วขึ้น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 10, 2010, 08:33:52 PM โดย moddang » บันทึกการเข้า

สิ่งที่ควรทำคือความดี  สิ่งที่ควรมีคือคุณธรรม  สิ่งที่ควรจำคือบุญคุณ
moddang
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 124



« ตอบ #108 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 12, 2010, 03:23:12 PM »

กลุ่มยาลดความดันโลหิตสูง

มะขาม


ชื่อวิทยาศาสตร์ :   Tamarindus indica  L.

ชื่อสามัญ :   Tamarind, Indian date

วงศ์ :   Leguminosae - Caesalpinioideae

ชื่อ อื่น :  ขาม (ภาคใต้) ตะลูบ(ชาวบน-นครราชสีมา) ม่องโคล้ง (กะเหรี่ยง-กาญจนบุรี) อำเปียล (เขมร-สุรินทร์) หมากแกง (เงี้ยว-แม่ฮ่องสอน) ส่ามอเกล (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน)

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์: ไม้ต้นขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่แตกกิ่งก้านสาขามาก เปลือกต้นขรุขระและหนา สีน้ำตาลอ่อน ใบ เป็นใบประกอบ ใบเล็กออกตามกิ่งก้านใบเป็นคู่ ใบย่อยเป็นรูปขอบขนาน ปลายใบและโคนใบมน ดอก ออกเป็นช่อเล็กๆ ตามปลายกิ่ง หนึ่งช่อมี 10-15 ดอก ดอกย่อยขนาดเล็ก กลีบดอกสีเหลืองและมีจุดประสีแดงอยู่กลางดอก ผล เป็นฝักยาว รูปร่างยาวหรือโค้ง ยาว 3-20 ซม. ฝักอ่อนมีเปลือกสีเขียวอมเทา สีน้ำตาลเกรียม เนื้อในติดกับเปลือก เมื่อแก่ฝักเปลี่ยนเป็นเปลือกแข็งกรอบหักง่าย สีน้ำตาล เนื้อในกลายเป็นสีน้ำตาลหุ้มเมล็ด เนื้อมีรสเปรี้ยว และหวาน
ส่วนที่ใช้ :  ราก เปลือก ทั้งต้น แก่น ใบ เนื้อในฝัก ฝักดิบ เมล็ด เปลือกเมล็ด ดอกสด

สรรพคุณ :
   
    *       ราก -  แก้ท้องร่วง สมานแผล รักษาเริม และงูสวัด
   
    *      เปลือกต้น - แก้ไข้ ตัวร้อน
   
    *      แก่น - กล่อมเสมหะ และโลหิต ขับโลหิต ขับเสมหะ รักษาฝีในมดลูก รักษาโรคบุรุษ เป็นยาชักมดลูกให้เข้าอู่
   
    *      ใบสด (มีกรดเล็กน้อย) - เป็นยาถ่าย ยาระบาย ขับลมในลำไส้ แก้ไอ แก้บิด รักษาหวัด ขับเสมหะ หยอดตารักษาเยื่อตาอักเสบ แก้ตามัว  ฟอกโลหิต     ขับเหงื่อ ต้มผสมกับสมุนไพรอื่นๆ อาบหลังคลอดช่วยให้สะอาดขึ้น
   
    *      เนื้อหุ้มเมล็ด - แก้อาการท้องผูก เป็นยาระบาย ยาถ่าย ขับเสมหะ แก้ไอ กระหายน้ำ เป็นยาสวนล้างท้อง
   
    *      ฝักดิบ - ฟอกเลือด และลดความอ้วน เป็นยาระบายและลดอุณหภูมิในร่างกาย บรรเทาอาการไข้
   
    *      เมล็ดในสีขาว - เป็นยาถ่ายพยาธิไส้เดือนตัวกลมในลำไส้ พยาธิเส้นด้าย
   
    *      เปลือกเมล็ด - แก้ท้องร่วง แก้บิดลมป่วง สมานแผลที่ปาก ที่คอ ที่ลิ้น และตามร่างกาย รักษาแผลสด ถอนพิษและรักษาแผลที่ถูกไฟลวก รักษาแผลเบาหวาน
    *      เนื้อในฝักแก่ (มะขามเปียก) - รับประทานจิ้มเกลือ แก้ไอ ขับเสมหะ
   
    *      ดอกสด - เป็นยาลดความดันโลหิตสูง

วิธีและปริมาณที่ใช้ :

   1.       เป็นยาถ่ายพยาธิไส้เดือน ตัวกลม ตัวเส้นด้าย ได้ผลดี
      ใช้เมล็ดคั่วกะเทาะเปลือกออก แล้วเอาเนื้อในเมล็ดแช่น้ำเกลือจนนุ่ม รับประทานเนื้อทั้งหมด ครั้งละ 20-30 เมล็ด
 
   2.     เป็นยาระบาย ยาถ่าย
      - ใช้เนื้อที่หุ้มเมล็ด (มะขามเปียก) แกะเมล็ดแล้วขนาด 2 หัวแม่มือ (15-30 กรัม) จิ้มเกลือรับประทาน แล้วดื่มน้ำตามมากๆ
      - เอามะขามเปียกละลายน้ำอุ่นกับเกลือ ฉีดสวนแก้ท้องผูก
 
   3.      แก้ท้องร่วง
      -เมล็ดคั่วให้เกรียม กะเทาะเปลือกรับประทาน
      -เปลือกต้น ทั้งสดและแห้ง ประมาณ 1-2 กำมือ (15-30 กรัม) ต้มกับน้ำปูนใส หรือ น้ำ รับประทาน
 
   4.      รักษาแผล
      เมล็ดกะเทาะเปลือก ต้ม นำมาล้างแผลและสมานแผลได้
 
   5.      แก้ไอและขับเสมหะ
      ใช้เนื้อในฝักแก่ หรือมะขามเปียก จิ้มเกลือรับประทานพอควร
 
   6.     เป็นยาลดความดันสูง
      ใช้ดอกสด ไม่จำกัดจำนวน ใช้แกงส้มหรือต้มกับปลาสลิดรับประทาน

สารเคมี :

    *      ใบ  มี  Alcohols, phenolic esters and ethers. Sambubiose, Carboxylic acid, Oxalic acid
    *      ดอก  มี  a - Oxoglutaric acid, Glyoxalic acid , Oxaloacetic acid
    *      ผล มี  Alcohols, Aldehydes; Citric acid Ketones, Vitamin B1, Essential Oil, Enzyme.
    *      เมล็ด  มี  Phosphatidylcholine, Proteins Glutelin, Albumin, Prolamine, Lectin


 http://www.rspg.or.th/plants_data/herbs/herbs_16_3.html
บันทึกการเข้า

สิ่งที่ควรทำคือความดี  สิ่งที่ควรมีคือคุณธรรม  สิ่งที่ควรจำคือบุญคุณ
nokeang
Full Member
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 720



« ตอบ #109 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 13, 2010, 05:01:22 AM »

 Grin  สวัสดีค่ะ คุณมดแดง เอาอั่งเปามาแจกค่ะ ซินเจียยู่อี่ ซินนี่ฮวดไช้ค่ะ   Grin

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 13, 2010, 05:10:14 AM โดย nokeang » บันทึกการเข้า

ไม่มีน้ำหนักใด...หนักกว่ากรรม
ไม่มีหนทางใด...ยาวเท่าหนทางแห่งกรรม
moddang
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 124



« ตอบ #110 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2010, 09:28:40 PM »

ขอบคุณมากค่ะ คุณ nokeang

     
บันทึกการเข้า

สิ่งที่ควรทำคือความดี  สิ่งที่ควรมีคือคุณธรรม  สิ่งที่ควรจำคือบุญคุณ
moddang
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 124



« ตอบ #111 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2010, 09:32:56 PM »

ชอบนอนดึก-นอนไม่หลับ ทำลายสุขภาพระยะยาว




นาย สมศักดิ์ตื่นแต่เช้าไปทำงาน ด้วยสภาพร่างกายอิดโรย ต้องติดตามดูฟุตบอลโลกนัดสำคัญติดต่อกันหลายคืนกับเพื่อนๆ ท่ามกลางกับแกล้มและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตลอดคืน เวลาเข้านอนก็รู้สึกหลับไม่สนิท เพราะตื่นเต้นจากเหตุการณ์ในเกมกีฬาทำให้นำเอากลับไปฝันต่อ

เด็ก หญิงณิชา ชอบท่องอินเทอร์เน็ตติดต่อสื่อสารกับเพื่อนๆ เป็นชีวิตจิตใจ มักใช้เวลาตอนดึกๆ เพลิดเพลินจนติดลม กว่าจะได้นอนก็ตี ๑ ตี ๒ เข้าไปแล้ว นางอารี อาชีพพยาบาล ทำงานเข้าเวรดึกบ้าง เวรเช้าบ้าง เช่นเดียวกับนางสาวสมสกุล อาชีพแอร์โฮสเตส บริการผู้โดยสารสายการบินต่างประเทศ เวลาการนอนพักผ่อนไม่แน่นอนเหมือนคนทั่วไป หลังจากทำงานมา  ๕ ปี รู้สึกว่าตัวเองแก่ไปมาก สุขภาพระยะหลังก็ไม่ค่อยจะดี คนที่นอนไม่หลับ นอนไม่พอ นอนแล้วฝันบ่อยๆ (หลับไม่สนิท) นอนแล้วผวาตกใจตื่นกลางดึก เมื่อตื่นกลางดึกแล้วหลับต่อยาก คนที่นอนผิดเวลา เช่น นอนกลางวัน ทำงานกลางคืน จะมีความรู้สึกอ่อนเพลีย นอนไม่อิ่ม ต้องการพักมากกว่าคนทั่วไปคนที่นอนกลางคืนทำงานกลางวัน ที่กล่าวมาข้างต้นนี้จัดเป็นประเภทนอนไม่หลับ นอนไม่พอ นอนหลับไม่สนิท สรุปแล้วมีผลต่อสุขภาพเหมือนกัน
     
ทัศนะแพทย์แผนจีน ต่อการนอนหลับ

เวลา กลางวัน เป็นหยาง ระบบประสาทส่วนกลาง จะถูกกระตุ้นให้มีความตื่นตัว หลังเที่ยงวัน พลังหยางของธรรมชาติจะค่อยๆ ลดลงจนถึงเที่ยงคืน ภาวะความตื่นตัวของระบบประสาทส่วนกลางค่อยๆ อ่อนล้าหรือลดลง การทำงานของคนเราควรจะต้องให้สอดคล้องกับสภาพธรรมชาติ และสภาพของ "นาฬิกาชีวิต" ของร่างกาย
เวลากลางคืน เป็นยิน ระบบประสาทส่วนกลางควรอยู่ในสภาพสงบและพัก เพื่อขจัดความเมื่อยล้าจากการทำงาน การเคลื่อนไหวของร่างกาย จิตใจ ตลอดวันที่ผ่านมา
การนอนหลับจึงเป็นวิธีการพักผ่อนตามธรรมชาติที่ดีที่ สุด ถ้าการนอนหลับเพียงพอ หลับสนิท และเป็นการหลับตอนกลางคืนในช่วงเวลาที่เหมาะสมก็จะทำให้ร่างกายมีการฟื้นตัว ได้ดีที่สุด เมื่อตื่นนอนตอนเช้าก็จะมีความสดชื่น มีสภาพร่างกาย สภาพของสมองที่พร้อมจะทำงานให้เกิดประสิทธิภาพดีที่สุด ปัญหาจะเกิดขึ้นมากมาย เมื่อร่างกายและสมอง ไม่สามารถพักผ่อน และฟื้นฟูสภาพได้จากภาวะการนอนไม่หลับ หลับไม่สนิท หรือหลับไม่พอ

ร่าง กายคนเรามีระบบการทำงานของร่างกายที่มีกฎเกณฑ์ เพื่อดำรงไว้ซึ่งระบบสมดุล กฎเกณฑ์เหล่านี้เปรียบเสมือน "นาฬิกาชีวิต" การเคลื่อนไหวของมันเป็นไปตามวิถีการหมุนรอบตัวเองของโลก การเข้าใจกฎเกณฑ์ของ "นาฬิกาชีวิต" เป็นเครื่องมือสำคัญในการดำเนินชีวิตให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของ ธรรมชาติรอบตัว นำมาซึ่งสุขภาพที่ดี อายุยืนยาว การปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ

ตัวอย่างกฎเกณฑ์ทางสรีระของร่างกาย เช่น

ความดันของหัวใจ ประมาณ ๗๒ ครั้ง/นาที

การหายใจ ประมาณ ๑๖ ครั้ง/นาที

อุณหภูมิของร่างกาย ช่วงเช้าต่ำกว่าช่วงค่ำ

ความดันเลือด ช่วงกลางวันสูงกว่ากลางคืน

รอบของประจำเดือนประมาณ ๒๘ วัน

การนอนไม่หลับ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับระยะยาวจะมีผลกระทบต่อกฎเกณฑ์ธรรมชาติของร่างกาย หรือสัญญาณชีวิต (vital sign)

สาเหตุของการนอนไม่หลับ

สาเหตุของการนอนไม่หลับ แพทย์แผนจีนมองว่า เกิดจากหลายสาเหตุ

๑. ใช้ความคิดมาก ทำลายหัวใจ (สมอง ประสาท) และระบบม้าม (การย่อย)

๒. ความผิดปกติของไต (หัวใจและไตไม่สัมพันธ์ประสานกัน)

๓. ร่างกายอ่อนแอ ตกใจง่าย พบเหตุการณ์ภายนอกมากระทบ จะทำให้จิตใจตื่นตระหนก นอนไม่หลับ

๔. ใช้ยาบำรุงพลังหรือยากระตุ้นพลังอย่างไม่เหมาะสม เช่น เขากว
างอ่อน หมาหวง ยากระตุ้นหยางของร่างกาย

ข้อแนะนำเพื่อการนอนหลับที่ดี
การนอนหลับที่ดี ควรปฏิบัติตัวอย่างไร

๑. ตื่น นอนแต่เช้า หันหน้าไปทางทิศตะวันออก เคลื่อนไหว ออกกำลังกายประมาณ ๒๐ นาที เพื่อกระตุ้น "นาฬิกาชีวิต"  (รับพลังหยาง) เพื่ออุ่นร่างกาย ระบบประสาท ในการทำงานของวันใหม่

๒. การกินอาหารเช้าและกลางวันไม่ควรอิ่มเกินไป เพราะจะทำให้ง่วงนอนตอนกลางวัน (โดยเฉพาะคนที่ชอบหลับกลางวันบ่อยๆ แล้วกลางคืนไม่หลับ) การที่มีความหิวเล็กน้อย ช่วยกระตุ้นไม่ให้หลับกลางวัน

๓. ก่อนนอน ๒ ชั่วโมง ถ้าเป็นคนหลับยาก อาจออกกำลังกายเบาๆ สัก ๑๕-๓๐ นาที จะทำให้การนอนหลับดีขึ้น

๔. การ นอนหลับ ต้องตั้งใจนอนจริงๆ นอนให้พอ ไม่ใช่สักแต่ได้นอน เช่น นอนเปิดไฟ เปิดโทรทัศน์ ทำให้รบกวนการนอน และถูกกระตุ้นตลอดเวลาระหว่างนอนหลับ

๕. ฝึก เคล็ดลับการผ่อนคลายก่อนการนอนหลับ ให้นอนหงาย ผ่อนคลายทั่วร่างกาย มือทั้ง ๒ ข้าง วางใต้สะดือ ลิ้นแตะเพดานบน เมื่อมีน้ำลายเกิดขึ้นในปากให้ค่อยๆ กลืนลงไปช้าๆ เวลาที่สำคัญที่สุดที่ต้องหลับสนิทคือ ๐๑.๓๐-๐๒.๓๐ น. (จึงควรเข้านอนก่อน ๕ ทุ่ม) เพราะระดับฮอร์โมนและอุณหภูมิของร่างกายต่ำสุด ร่างกายมีผ่อนคลายและมีการทำงานน้อยที่สุด

๖. ใช้ลูกบอลสุขภาพ (ปัจจุบันมีจำหน่ายเป็นหินกลมขนาดกำมือ) โดยหลักการคือ กระตุ้นเส้นลมปราณ ปอด เยื่อหุ้มหัวใจ และหัวใจ ที่วิ่งผ่านบริเวณฝ่ามือ โดยเฉพาะใจกลางฝ่ามือ มีจุดฝังเข็ม เรียกว่า เหลากง  บนเส้นลมปราณเยื่อหุ้มหัวใจ เวลาอ่อนเพลีย ระบบประสาทตึงเครียด เวลากระตุ้นจุดนี้จะทำให้มีการปรับระบบสมดุลของสมองและประสาทได้ กระตุ้นวันละหลายครั้ง ครั้งละ ๒๐-๓๐ นาที มือซ้ายมือขวาทำสลับกัน เวลากำคลายนาทีละประมาณ ๖๐ ครั้ง

๗. เท้าแช่น้ำร้อนก่อนนอน เป็นวิธีธรรมชาติและเสริมสุขภาพที่ดี นอกจากเป็นการทำความสะอาดเท้า ควรใช้ฝ่ามือถูนวดบริเวณเท้าไปด้วย เป็นการกระตุ้นเลือดพลังให้ไหลเวียน อีกทั้งยังมีผลกระทบต่อองค์รวมของร่างกาย เราสามารถส่งสัญญาณการกระตุ้นไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ (Reflexology ) น้ำที่ใช้แช่อยู่ที่ประมาณ ๔๐-๕๐ องศาเซลเซียส ความร้อนจะทำให้หลอดเลือดบริเวณเท้าขยายตัว การไหลเวียนเลือดและการขับระบายของเสีย และการได้รับอาหารของเนื้อเยื่อบริเวณเท้าเร็วขึ้น ช่วยฟื้นฟูและขจัดความอ่อนล้าได้ดี การนวดที่บริเวณนิ้วก้อยของเท้าจะช่วยเรื่องของมดลูกและการปัสสาวะกลางคืน (เส้นกระเพาะปัสสาวะ ควรนวดร่วมกับจุดบำรุงไต หย่งฉวน ที่บริเวณอุ้งเท้าทั้ง ๒) การแช่เท้าด้วยน้ำร้อน จะดึงเลือดจากข้างบนมาสู่ข้างล่าง ลดภาวะตึงเครียดของสมอง ทำให้หลับสบาย และไม่ค่อยฝัน

    * คอลัมน์: แพทย์แผนจีน
    * หมวดหมู่: แพทย์ทางเลือก, แพทย์แผนจีน
    * นักเขียนหมอชาวบ้าน: นพ.วิทวัส (ภาสกิจ) วัณนาวิบูล

http://www.doctor.or.th/node/1519

บันทึกการเข้า

สิ่งที่ควรทำคือความดี  สิ่งที่ควรมีคือคุณธรรม  สิ่งที่ควรจำคือบุญคุณ
moddang
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 124



« ตอบ #112 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2010, 01:53:44 PM »

ขิง ยาอายุวัฒนะที่ไม่ควรมองข้าม


ขิงในทัศนะแพทย์แผนจีน เป็นทั้งยาสมุนไพรที่ใช้บ่อยและ เป็นทั้งอาหาร เครื่องปรุงรส ที่ต้องมีไว้ประจำครัวเรือน
ขงจื๊อ ปราชญ์จีนสมัยชุนชิว (ค.ศ.๔๗๙-ค.ศ.๕๐๐) ได้เสนอว่า "อาหารทุกมื้อไม่ควรละเลยขิง" ท่านเชื่อว่าบรรดาผักต่างๆ ขิงมีคุณค่ามากที่สุด สามารถทำให้มีชีวิตชีวา ขจัดของเสียในร่างกาย ขงจื๊อเป็นคน มณฑลซานตุง ปัจจุบันที่เมืองไหลอู๋ของซานตุง มีโรงงานผลิตเหล้าขิง ที่มีชื่อ ซึ่งแสดงถึงความเชื่อของขงจื๊อได้รับการสืบทอดต่อกันมา

ซูตงปอ กวีเอกสมัยซ่ง ได้เขียนบทกวี "ตงปอจ๋อจี้" พูดถึงพระที่วัดเฉียนถางจิ้ง แห่งเมืองหางเจ่า ซึ่งมีอายุกว่า ๘๐ ปี มีใบหน้า อันอิ่มเอิบ สุขภาพแข็งแรง ได้คำตอบจากพระท่านนั้นว่า" ท่านฉันขิงมากว่า ๔๐ ปี ท่านจึงไม่แก่" ซูตงปอจึงมีความเชื่อว่าขิงคือยาอายุวัฒนะดีๆ นี่เอง

ความเชื่อของคนจีนต่อขิงมีมากมาย เช่น
" เดือนสิบมีขิงคือโสมน้อยๆ นั้นเอง"
" ชา ๑ แก้ว ขิง ๑ แว่น ขับลมบำรุงกระเพาะดีนักแล"
" ตื่นนอน ขิง ๓ แว่น ไม่แพ้ซุปใส่โสม"
" ทุกวันกินขิง ๓ แว่น ไม่ต้องรบกวนหมอสั่งยา"
ความ เชื่อเหล่านี้ถูกถ่ายทอดไปในหมู่ประชาชน เป็นภูมิปัญญาที่ยึดถือเป็นหลักการดูแลสุขภาพ เพื่อป้องกันโรคและมีอายุยืนยาว สุขภาพแข็งแรง

ชนิดรูปแบบของขิง และสรรพคุณ

๑. ขิงสด คุณสมบัติร้อนเล็กน้อย รสเผ็ด
 สรรพคุณ ขับเหงื่อ อุ่นจงเจียว (กระเพาะอาหาร) แก้อาเจียน

๒. น้ำขิง คุณสมบัติร้อนเล็กน้อย รสเผ็ด
 สรรพคุณ แก้อาเจียน แก้ไอ ขับเสมหะ (เสมหะขาวใส)

๓. ขิงแห้ง คุณสมบัติร้อน อุ่นจงเจียว สลายความเย็น ใช้ ในกรณีระบบม้าม-กระเพาะอาหารพร่อง-เย็น

๔. ขิงหมกไฟ คุณสมบัติร้อน สามารถอุ่นเส้นลมปราณ หยุด เลือด ทะลวงหัวใจ เสริมหยาง

๕. เปลือกขิง คุณสมบัติร้อนเล็ก น้อย ขับปัสสาวะ ลดบวม

๖. ใบขิง คุณสมบัติร้อนเล็กน้อย ช่วยย่อย ขับน้ำ ทำให้เลือดไหลเวียนคล่อง

ข้อควรระวัง

เนื่อง จากขิงมีรสเผ็ด คุณสมบัติอุ่น คนที่ยินพร่อง มีความร้อนภายใน รวมทั้งริดสีดวง เหงื่อ ออกมาก เหงื่อออกกลางคืน ตา แดง เจ็บคอ หรือมีไฟในตัวมาก (ร้อนแกว่ง) ไม่เหมาะกับขิง รวม ทั้งฤดูกาลที่แห้ง (ฤดูใบไม้ร่วง) การกินขิงต้องระวัง เพราะขิงมักทำลายสารยิน

ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา

๑. ผลต่อระบบย่อยอาหาร

- น้ำต้มขิงเข้มข้นร้อยละ ๕๐ มีฤทธิ์ยับยั้งกรดในกระเพาะอาหารเป็นเวลาหลายชั่วโมง ต่อจากนั้นมีฤทธิ์กระตุ้น
- เสริมความแข็งแรง รักษาแผลกระเพาะอาหารบริเวณ ลำไส้เล็กส่วนต้น กระตุ้นความอยากอาหาร
- กระตุ้นการบีบตัวของกระเพาะอาหารและลำไส้อย่างอ่อน ทำให้ลดอาการท้องอืด แน่น
- กระตุ้น การบีบตัวของถุงน้ำดี ควบคุมการสร้างสารพรอสตาแกลนดิน (prostaglandin, PG) ซึ่งเป็นกรดไขมัน ชนิดหนึ่ง ทำให้ลดปริมาณเมือกและการเกาะตัวของเมือกในถุงน้ำดี
- ฤทธิ์ป้องกันและ รักษาตับอักเสบ ในหนูทดลองที่ได้ รับบาดเจ็บจากสารคาร์บอนเตตราคลอไรด์ ซึ่งเป็นสารพิษชนิดหนึ่ง การให้น้ำสกัดจากขิงหรือขิงผสมน้ำผึ้ง สามารถลดการอักเสบของตับได้
- แก้อาเจียนที่เกิดจากความผิดปกติของกระเพาะอาหาร และลำไส้ ซึ่งเกิดจากความผิดปกติของอาหารหรือสาร เคมีบางอย่าง

๒. ผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง

- กล่อมประสาท ทำให้นอนหลับสนิท
- ระงับ ความเจ็บปวด ควบคุมสารเกี่ยวกับการเจ็บปวด(prostaglandin E2) ซึ่งเป็นสารฮอร์โมนเฉพาะที่ ทำให้เกิดการหดตัวของกล้ามเนื้อเรียบ ทำให้เกิดอาการเจ็บปวดจากการขาดเลือด
- ลดไข้ กรณีใช้ขนาดน้อยๆ สามารถลดไข้ได้
- กระตุ้นระบบการหายใจ ทำให้หายใจคล่อง แก้ไอ แก้เสมหะ

๓. ผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด

- เสริมกระตุ้นการทำงานของหัวใจ ทำให้แรงบีบตัวของหัวใจดีขึ้น
- ต้านการเกาะตัวของเกล็ดเลือด การกินขิงมีประโยชน์ในการป้องกันโรคหลอดเลือด หัวใจตีบ

๔. ผลต่อเชื้อแบคทีเรียและพยาธิ

- ฤทธิ์ต่อต้านเชื้อโรค จากการทดลองน้ำที่ได้จากการแช่ขิง สามารถยับยั้งเชื้อโรคแบคทีเรีย การเติบโตของพยาธิต่างๆ ได้

๕. ผลต่อการต้านการอักเสบ

การ ทดลองในหนูที่มีอาการบวมอักเสบที่ขา เมื่อฉีดน้ำมันสกัดจากขิง ๑๔๐ มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว ๑ กิโลกรัม เข้าไปในกระเพาะอาหาร ตรวจวัดความเปลี่ยนแปลงของสารเคมี และการดูอาการภายนอก พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน

๖. แก้คลื่นไส้อาเจียน

มีการทดลองในคนและสัตว์ทดลอง พบว่าขิงมีคุณสมบัติออกฤทธิ์คล้ายกับยาแก้คลื่นไส้อาเจียน แผนปัจจุบัน

๗. ผลต่อร่างกายด้านอื่นๆ

- สารจากน้ำขิงมีบทบาทต่อ การต้านการเติบโตของมะเร็ง ในระดับหนึ่ง (เยอรมัน)
- ลดผลข้างเคียงของสารเคมีที่รักษามะเร็ง นักวิจัยชาวญี่ปุ่นแนะนำว่า ควรกินขิงควบคู่กับยารักษามะเร็ง
- ป้องกันภาวะภูมิไวเกินที่เกิดจากการกินยา หรืออาหารทะเลแล้วเกิดผื่นลมพิษหรือ ช็อก

การประยุกต์ใช้ทางคลินิก

๑. บรรเทาอาการอาเจียนรุนแรง
ใช้ขิงสดพอกที่จุดฝังเข็มไน่กวน(เหนือข้อมือด้าน ใน ๒ ชุ่น) ทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมงถึง ๑ ชั่วโมง อาการจะดีขึ้น

๒. บรรเทาอาการแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้น
ต้ม ขิงสดที่ตำให้ละเอียดกับน้ำ ๓๐๐ มิลลิลิตร นาน ๓๐ นาที กินวันละ ๓ เวลา เป็นเวลา ๒ วัน ในผู้ป่วยที่เป็นโรคกระเพาะอาหาร และลำไส้เล็กส่วนต้น พบว่าอาการปวดกระเพาะน้อยลงหรือหายไป ความรู้สึกแสบท้องเวลาหิวดีขึ้นมาก ท้องผูก หรือถ่ายอุจจาระสีดำ (แสดงว่ามีเลือดออก) ปกติ ความอยากอาหารดีขึ้น (พบว่าผู้ป่วยเหล่านั้นส่วนใหญ่กลับเป็นซ้ำได้อีก ซึ่งอาจต้องรักษาต่อเนื่อง หรือควบคุมปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วยจึงจะรักษาหายขาดได้)

๓. รักษาโรคบิด
ใช้ขิงสด ๗๕ กรัม น้ำตาลแดงตำเข้าด้วยกัน แบ่งกินเป็น ๓ มื้อต่อตำรับ

๔. ป้องกันรักษาอาการเมารถ เมาเรือ
- ใช้ขิงสดเป็นแผ่นปิดที่จุดไน่กวน(เหนือข้อมือด้านใน ๒ ชุ่น )ใช้เหรียญสตางค์ขนาดพอเหมาะปิดทับแล้วใช้ปลาสเตอร์หรือยางยืดรัดไว้
- ใช้ขิงสด ๒๕ กรัม ตำละเอียด คั้นเอาเฉพาะน้ำดื่ม (ไม่ต้องดื่มน้ำตาม)

๕. รักษาปัสสาวะรดที่นอนในผู้ป่วยที่มีภาวะหยางพร่อง มีความเย็นในร่างกายเป็นเหตุ
ให้ ใช้ขิง ๓๐ กรัม (ตำ)  ยาสมุนไพรฟู่จื่อ ๖ กรัม  ปู่กู่จื่อ ๑๒ กรัม บดคลุกให้เข้ากันฟอกในแอ่งสะดือ ใช้ผ้ากอซสะอาดปิดทับแล้วใช้ปลาสเตอร์ปิดให้แน่น

๖. รักษาลำไส้อุดกั้นจากพยาธิตัวกลม
ใช้ขิงสด ๑๒๐ กรัม ตำละเอียด คั้นเอาน้ำขิงผสมกับน้ำผึ้ง ๑๒๐ กรัม
กิน ครั้งเดียว หรือค่อยๆ กินหมดภายในครึ่งชั่วโมง การทดลองในผู้ป่วย ๖๔ คน พบว่าสามารถลดการอุดกั้นของลำไส้ ร้อยละ ๙๖.๘ ฤทธิ์ในการขับพยาธิร้อยละ ๖๑.๓

๗. เป็นหวัดตัวร้อนเป็นไข้เนื่อง จากกระทบความเย็น เช่น โดนฝน โดนลม ทำให้หนาว มีไข้ต่ำๆ
ให้หั่นขิงฝอย ๓๐ กรัม ชงกับน้ำตาลทรายแดง หรืออาจใส่หัวหอมทุบ ๓-๔ หัว (ช่วยกระจายลม) ดื่มขณะร้อนๆ แล้วห่มผ้าให้เหงื่อออก

๘. ฟื้นฟูร่างกายภายหลังคลอดบุตร
นิยมให้หญิงหลังคลอดกินไก่ผัดขิง โดยเฉพาะไก่ดำตัวผู้จะยิ่งมีหยางมากกว่าไก่ตัวเมีย
ร่าง กายของหญิงหลังคลอด จะเสียทั้งพลังหยางและเลือด มีน้ำในร่างกายตกค้างอยู่มาก การกินไก่ผัดขิงจะเสริมทั้งเลือดพลังหยาง ช่วยทำให้การย่อยดูดซึมอาหารดีขึ้น มีการขับระบายของเสียน้ำตกค้าง น้ำคาวปลาได้ดีขึ้น ทำให้ร่างกายกลับสู่ภาวะปกติเร็วขึ้น

คุณสมบัติ และสรรพคุณอันมากมายของขิง ทำให้ขิงจัดเป็นยาอายุวัฒนะที่หาง่ายที่สุดชนิดหนึ่ง ปัจจุบันยังพบว่ามีสารต้านมะเร็ง สารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) อย่างไรก็ตาม ต้องเข้าใจหลักพื้นฐานข้อหนึ่งที่ว่า มีข้อดี ก็มีข้อเสีย การเลือกปรับใช้ให้เหมาะสมกับภาวะร่างกายของปัจเจกบุคคล สภาพของภูมิประเทศ ภูมิอากาศที่เปลี่ยนไป ต้องนำมาพิจารณาด้วย ในคนที่มีภาวะยินพร่อง มีความร้อนหรือไฟอ่อนๆ ในตัว หรือคนที่ร้อนแกว่ง ต้องระวัง อาจทำให้โรคกำเริบ หรือหนักขึ้นได้ ตัวอย่างเช่น คนที่ยินของกระเพาะอาหารพร่อง ทำให้เกิดลมเป็นแผลในกระเพาะอาหาร ลำไส้ได้เหมือนกัน การรักษาด้วย ขิงเป็นจุดหลักไม่ช่วยให้อาการดีขึ้นกลับทำให้เป็นมากขึ้น ต้องใช้ยาสมุนไพรบำรุงยิน ยาขับลมที่มีฤทธิ์เย็นเป็นหลัก เป็นต้น

จึง ไม่แปลกที่หลายๆ ท่านกินขิงแล้วอะไรๆ ก็ดีไปหมด แต่บางท่านกลับรู้สึกว่าไม่ดีเท่าที่คาดหวังไว้ ก็อย่าได้เข้าใจผิดว่าไม่มีอะไรดี แต่โดยภาพรวม ระบบการย่อยอาหารของคนเราชอบความอุ่นร้อน ต้องการย่อยอาหารที่ดี และระบบย่อยอาหารถือเป็นแหล่งกำเนิดพลังของร่างกายที่สำคัญมาก ขิงจะมีคุณค่าต่อการช่วยเกิดพลัง ภูมิคุ้มกัน กระตุ้นการย่อย และกลไกต่างๆ ของร่างกาย ขิงจึงเป็นยาอายุวัฒนะที่ควรแก่การเรียนรู้และนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน

ขิงอ่อน-ขิงแก่ กับตำรับยาจีนอย่างง่าย

ขิงอ่อน : สรรพคุณหลักคือ แก้คลื่นไส้ อาเจียน

๑. คลื่นไส้อาเจียน อาเจียนมีน้ำลายมาก ไม่กระหายน้ำ
 ตำรับยาอย่างง่าย ขิงสด ๓ แว่น ป้านเซี่ย ๑๒ กรัม

๒. คลื่นไส้อาเจียน หรือเรอ สะอึก
 ตำรับยาอย่างง่าย ขิงสด ๓ แว่น เปลือกส้มจีน ๑๐ กรัม

๓. คลื่นไส้อาเจียน กลัวหนาว เบื่ออาหาร ระบบย่อยไม่ดี
 ตำรับยาอย่างง่าย ขิง ๕ แว่น พุทธาจีน ๑๐ ลูก

๔. อาเจียนไม่หยุด เบื่ออาหาร คนแพ้ท้อง
 ตำรับยาอย่างง่าย ขิงสด ๕ แว่น น้ำผึ้ง ๕ ช้อนโต๊ะ โสมคน ๑๐ กรัม
(ขนาดของขิงแต่ละแว่นประมาณ ๒ เซนติเมตร หนา ๑ เซนติเมตร)

ขิงแก่ : สรรพคุณหลักคือ รักษาภาวะน้ำลายมาก แก้อาเจียน มือเท้าเย็น แก้ไอ แก้ปวดเอว (มีความเย็นมาก) แก้ท้องอืด

๑. น้ำลายมาก อาเจียนเป็นน้ำใส ไอ
 ตำรับยาอย่างง่าย ขิงแห้ง ๑๐ กรัม ชะเอม  ๓ กรัม ป้านเซี่ย ๑๒ กรัม

๒. มือ เท้าเย็น คลำชีพจรไม่ได้ ช็อก โรคหัวใจ
 ตำรับยาอย่างง่าย ขิงแห้ง ๑๐ กรัม ฟู่จื่อ ๕ กรัม

๓. ไอ หอบ เสมหะขาวเหลวปริมาณมาก มีฟอง
 ตำรับยาอย่างง่าย ขิงแห้ง  ๑๐ กรัม ซี่ซิง  ๖ กรัม หวู เว่ย จื่อ ๑๐ กรัม

๔. ท้องอืด ปวดท้อง เย็นท้อง กลัวหนาว ปัสสาวะไม่คล่อง
 ตำรับยาอย่างง่าย ขิงแห้ง ๑๐ กรัมไป่จุ๊ ๑๐ กรัม ฟู่หลิง ๑๒ กรัม ชะเอม ๓ กรัม

http://www.doctor.or.th/node/2590
บันทึกการเข้า

สิ่งที่ควรทำคือความดี  สิ่งที่ควรมีคือคุณธรรม  สิ่งที่ควรจำคือบุญคุณ
moddang
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 124



« ตอบ #113 เมื่อ: มีนาคม 03, 2010, 08:32:41 AM »


                       
                                                             
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 03, 2010, 08:44:38 AM โดย moddang » บันทึกการเข้า

สิ่งที่ควรทำคือความดี  สิ่งที่ควรมีคือคุณธรรม  สิ่งที่ควรจำคือบุญคุณ
moddang
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 124



« ตอบ #114 เมื่อ: มีนาคม 03, 2010, 08:45:28 AM »



........................................แม่ชีศันสนีย์  เสถียรสุต
บันทึกการเข้า

สิ่งที่ควรทำคือความดี  สิ่งที่ควรมีคือคุณธรรม  สิ่งที่ควรจำคือบุญคุณ
moddang
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 124



« ตอบ #115 เมื่อ: มีนาคม 05, 2010, 08:55:18 AM »

>ให้อภัยตนเอง<
________________________________________
           คนทุกคนเคยทำทั้งดีและชั่ว ถูกและผิด ต่างกันตรงที่ใครจะทำฝ่ายไหนมากกว่ากัน@
เมื่อเราไม่ชอบใครคนใดคนหนึ่ง เรามักจะเห็นแต่ข้อบกพร่องของเขา และฝังใจอยู่กับข้อบกพร่องหรือสิ่งที่เราคิดว่าเขาทำไม่ดี ตราบที่เรายังรู้สึกไม่ดีต่อเขา เท่ากับว่าเรายึดติดในความคิดเดิม แม้ว่าสิ่งนั้นอาจจะผ่านไปแล้วเนิ่นนาน คนส่วนใหญ่ในโลกมากด้วยอคติ เราไม่ได้ตัดสินบุคคลอย่างมีเหตุผล นั่นคือตัดสินในพฤติกรรมที่เขากระทำในแต่ละครั้ง เรามักจะตัดสินตามความรู้สึกเดิมที่เคยมีต่อเขา ถือเอาความรู้สึกมากกว่าเหตุผล โดยลืมคิดว่า คนที่ทำดีในขณะหนึ่ง อาจจะทำผิดในโอกาสต่อไปก็ได้ เช่นเดียวกัน คนที่เคยทำไม่ดีในอดีต อาจจะทำดีในเวลาต่อมาก็ได้ ทุกคนแสดงพฤติกรรมอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน จึงมีทั้งถูกและผิดผสมระคนกันไป การให้อภัยตนเองก็เป็นสิ่งสำคัญมิใช่น้อย บางคนที่เคยทำผิดพลาดในเรื่องสำคัญของชีวิต มักจะย้ำจำถึงความผิดพลาดนั้นๆ ทำให้จิตใจจมปลักอยู่กับความเศร้าหมอง ทั้งๆ ที่เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นมานานแล้ว        
      
            "ไม่มีใครที่ดีโดยสมบูรณ์ และก็ไม่มีใครที่ชั่วโดยสมบูรณ์เช่นกัน"
             " ผู้อ่านให้อภัยคู่แค้นและให้อภัยตนเองแล้วหรือยัง "


จาก...นิตยสารรายปักษ์ ซีเคร็ต ฉบับที่ 09
คอลัมม์...You Are What You Do โดย...พระอาจารย์ชาญชัย อธิปํญโญ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 05, 2010, 08:57:42 AM โดย moddang » บันทึกการเข้า

สิ่งที่ควรทำคือความดี  สิ่งที่ควรมีคือคุณธรรม  สิ่งที่ควรจำคือบุญคุณ
moddang
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 124



« ตอบ #116 เมื่อ: มีนาคม 08, 2010, 03:46:13 PM »

 ....พรุ่งนี้อาจไม่มีเขา....

พระไพศาล วิสาโล



หลังจากที่ “หมวย” เรียนจบพยาบาลได้ไม่นาน ป้าก็ป่วยหนักและมารักษาตัวที่โรงพยาบาลของเธอ ป้าผู้นี้มีบุญคุณกับเธอมากเพราะได้ดูแลเธอแทนแม่จนเธอเรียนจบชั้นมัธยม หลังจากที่ย้ายไปเรียนจังหวัดอื่น เธอแทบไม่ได้พบหน้าป้าอีกเลยจนกระทั่งป้าล้มป่วย แต่ช่วงที่ป้ารักษาตัวที่ห้องไอซียูนั้น เธอมีเวลาไปเยี่ยมป้าน้อยมากเพราะงานรัดตัว ตั้งใจว่าวันเสาร์อาทิตย์จะไปเยี่ยมป้า แต่แล้วเพื่อน ๆ ก็ชวนเธอไปเที่ยวพัทยา เธออยากเล่นน้ำทะเลอยู่แล้ว จึงตัดสินใจไปเที่ยวกับเพื่อน คิดว่าเช้าวันจันทร์ไปเยี่ยมป้าก็ยังไม่สาย แต่พอเธอกลับถึงบ้านค่ำวันอาทิตย์ ก็ได้ข่าวว่าป้าเสียชีวิตแล้ว ผ่านมานับสิบปีแล้วเธอก็ยังรู้สึกผิดที่ไม่ได้ไปดูแลป้า ทั้ง ๆ ที่เป็นพยาบาลดูแลคนอื่นได้มากมาย แต่กลับไม่มีเวลาให้กับผู้มีพระคุณ

ตอนเรียนมัธยม “สมใจ” สนิทสนมกับ “ชัย”มาก แต่เมื่อเรียนจบทั้งสองก็แยกย้ายกันไปเรียนมหาวิทยาลัยคนละแห่ง มีช่วงหนึ่งที่ชัยโทรศัพท์มาคุยกับเธอแทบทุกคืน แต่ละครั้งคุยนานมาก คืนหนึ่งเธอรู้สึกเพลีย อยากพักผ่อน แต่ชัยก็ยังไม่เลิกคุย เธอรำคาญจึงพูดตัดบท แต่เขาก็ยังคุยต่อ เธอจึงต่อว่าเขาด้วยความโมโห แล้ววางหู วันรุ่งขึ้นขณะที่เธอกำลังเดินเข้าห้องเรียน แม่ของชัยก็โทรศัพท์มาบอกว่าชัยเสียชีวิตแล้วจากอุบัติเหตุรถยนต์หลังจากคุยกับเธอได้ไม่นาน เธอตกใจและรู้สึกเสียใจมากที่พูดไม่ดีกับชัยเมื่อคืน มันเป็นเสมือนบาดแผลในใจที่ยังอยู่จนทุกวันนี้

ทั้งหมวยและสมใจพูดตรงกันว่า หากรู้ว่าคนที่เธอรักจะต้องจากไปอย่างกะทันหันเช่นนั้น เธอจะไม่ทำอย่างที่ได้ทำไป หมวยจะใช้เวลาอยู่กับป้าให้นานที่สุดและอย่างดีที่สุด ส่วนสมใจก็จะพูดคุยกับชัยด้วยความใส่ใจและอย่างนุ่มนวล แต่ในโลกนี้มีใครบ้างที่สามารถรู้อนาคตล่วงหน้า

ความตายของคนที่เรารักมักจะมาอย่างไม่คาดฝัน มันพร้อมจะมาได้ทุกเวลา และไม่เลือกว่าจะเกิดกับผู้ใหญ่ก่อนเด็ก ใครที่มองข้ามความจริงข้อนี้ จะต้องพบกับความเสียใจอย่างสุดซึ้ง มิใช่เพียงเพราะคนรักจากไปอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะเขาได้พลั้งเผลอทำสิ่งที่ไม่สมควร(หรือไม่ได้ทำสิ่งที่สมควร )กับผู้ที่จากไป โดยไม่มีโอกาสขอโทษหรือแก้ตัวได้เลย สิบปีอาจนานพอที่จะเยียวยาความเศร้าใจที่สูญเสียคนรักไป แต่ยากจะลบเลือนความรู้สึกผิดที่ได้ทำสิ่งไม่สมควรกับคนรัก

หากไม่อยากมีบาดแผลในใจ ก็ควรปฏิบัติต่อคนที่เรารักอย่างดีที่สุด อ่อนโยนและใส่ใจกับความรู้สึกของเขาให้มาก ๆ แต่ปัญหาก็คือยิ่งเราสนิทสนมคุ้นเคยกับใคร เราก็ยิ่งคำนึงถึงความรู้สึกของเขาน้อยลง และทำตามอารมณ์ของเรามากขึ้น (ตรงกันข้ามกับคนที่ไม่ค่อยคุ้นเคย เรามักจะสุภาพและนุ่มนวลกับเขามากกว่า) ผลก็คือเรามักจะลืมตัวทำสิ่งที่ไม่เหมาะไม่ควรกับเขา

ความลืมตัวเป็นธรรมชาติของมนุษย์ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ช่วยไม่ให้เผลอทำสิ่งที่ไม่สมควรกับคนที่เรารัก นั่นคือการเตือนใจตนเองเสมอว่าพรุ่งนี้เขากับเราอาจจะต้องพรากจากกัน วันนี้อาจเป็นวันสุดท้ายที่เขากับเราจะได้อยู่ด้วยกัน ขณะที่เขากำลังอยู่ต่อหน้าเราตอนนี้อาจเป็นโอกาสสุดท้ายที่เราจะได้ทำสิ่งดี ๆ ให้แก่เขา

การเตือนใจเช่นนี้จะกระตุ้นเตือนให้เราปฏิบัติต่อเขาอย่างนุ่มนวล ไม่ทำตามอำเภอใจ รับฟังและใส่ใจกับความรู้สึกของเขามากขึ้น เมื่อเราทำอย่างดีที่สุดกับเขา หากใครเกิดมีอันเป็นไปในวันข้างหน้า ก็ไม่มีอะไรที่จะต้องรู้สึกผิดต่อกัน จะว่าไปแล้วการเตือนใจเช่นนี้ไม่ควรทำเฉพาะกับคนที่เรารักเท่านั้น แต่ควรทำกับทุกคนที่เรารู้จักหรือติดต่อสัมพันธ์ด้วย


คราว หนึ่ง “เขมานันทะ” ได้จาริกไปประเทศพม่า และได้รู้จักกับพระไทยใหญ่รูปหนึ่ง เมื่อไปถึงเจดีย์ชเวดากอง ท่านได้ชวนเขมานันทะถ่ายรูปคู่กัน แต่เขมานันทะนั้นไม่ชอบธรรมเนียมแบบนี้จึงเดินหนี แต่พระไทยใหญ่ขอร้องให้เขาไปถ่ายรูปด้วย คำพูดประโยคเดียวของท่านที่ทำให้เขมานันทะเปลี่ยนใจก็คือ “ชีวิตนี้เราอาจได้พบกันเพียงครั้งเดียว” เขมานันทะจึงยอมถ่ายรูปด้วย หลังจากเขมานันทะกลับมาเมืองไทยไม่นานก็มีจดหมายมาแจ้งข่าวว่า พระไทยใหญ่รูปนั้นมรณภาพแล้ว เขมานันทะเล่าในเวลาต่อมาว่าคำพูดประโยคนั้นสะเทือนอารมณ์ของตนมาก เพราะทำให้ได้คิดว่าคนเราเอาแต่แบ่งแยกเป็นเราเป็นเขา มัวแต่แก่งแย่งผลประโยชน์กัน จนลืมไปว่าคนที่อยู่ต่อหน้าเราอาจได้พบกันเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

การ ปฏิบัติต่อผู้คนที่เข้ามาในชีวิตของเราราวกับว่าเขาอาจพลัดพรากจากเราไปใน วันพรุ่งนี้ ไม่เพียงช่วยป้องกันมิให้เกิดบาดแผลในใจเราในวันข้างหน้าเท่านั้น หากยังช่วยสร้างสุขให้แก่เราในวันนี้ อันเป็นผลจากสัมพันธภาพที่ราบรื่นและงดงามทั้งกับคนใกล้และคนรอบตัว ยิ่งกว่านั้นมันยังทำให้ทุกวันที่คนรักยังอยู่กับเราเป็นวันที่มีความหมาย ยิ่งกว่าเดิม วันนี้จะกลายเป็นวันพิเศษ เพราะวันพรุ่งนี้อาจไม่มีเขาอยู่กับเราก็ได้

หญิงผู้หนึ่งเล่าว่า เพียงแค่ได้เห็นสามีและลูก ๆ ทุกคนพร้อมหน้าที่บ้าน เธอก็มีความสุขอย่างยิ่งแล้ว เพราะเธอไม่แน่ใจว่าพรุ่งนี้จะมีโอกาสแบบนี้อีกหรือไม่ สำหรับเธอ ไม่มีอะไรที่ทำให้มีความสุขเท่านี้อีกแล้ว

วามสุขนั้นไม่ได้อยู่ไกล และไม่จำเป็นต้องไขว่คว้าให้เหนื่อยยาก เพราะแท้จริงความสุขนั้นมีอยู่กับเราในขณะนี้แล้ว นั่นคือการที่คนรักยังอยู่กับเรา และให้โอกาสแก่เราได้ทำความดีกับเขาอย่างเต็มที่ อย่ามองข้ามความสุขอย่างนี้ และอย่าปล่อยให้โอกาสทองหลุดมือเราไป

นิตยสารซีเครท : No.38 26 January 2010 Vol.2

Joyful Life & Peaceful Death พรุ่งนี้อาจไม่มีเขา
บันทึกการเข้า

สิ่งที่ควรทำคือความดี  สิ่งที่ควรมีคือคุณธรรม  สิ่งที่ควรจำคือบุญคุณ
Asserengync
Skup samochodów
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1

http://www.autoskup.net - Skup samochodów warszawa


« ตอบ #117 เมื่อ: มิถุนายน 28, 2011, 08:06:21 AM »

hey there and thank you for your info – I have certainly picked up anything new from right here. Skup samochodów I did however expertise some technical issues using this web site, as I experienced to reload the web site many times previous to I could get it to load properly. I had been wondering if your web host is OK? Not that I am complaining, but sluggish loading instances times will very frequently affect your placement in google and can damage your high quality score if advertising and marketing with Adwords. Well I am adding this RSS to my email and can look out for a lot more of your respective fascinating content. Make sure you update this again very soon..
บันทึกการเข้า

Guivaalaffids
Nocleg Warszawa
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1

http://www.noclegi-warszawa.info/noclegi-warszawa/ - Noclegi Warszawa


« ตอบ #118 เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2011, 05:57:19 AM »

This is really interesting, You are a very skilled blogger. I've joined your rss feed and look forward to seeking more of your wonderful post. Noclegi Warszawa Also, I have shared your site in my social networks!
บันทึกการเข้า

hietrimurlerb
Kolektory Sloneczne
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1

http://www.scantermic.pl - Kolektory sloneczne Warszawa


« ตอบ #119 เมื่อ: กรกฎาคม 28, 2011, 05:09:36 AM »

Hi there, I found your blog via Google while looking for a related topic, your site came up, it looks good. Kolektory sloneczne Warszawa I've bookmarked it in my google bookmarks.
บันทึกการเข้า

Gold Price today, Gold Trend Price Prediction, ราคาทองคํา, วิเคราะห์ทิศทางทองคํา
   

images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary ---------------------Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. For more information on Moore Research products and services click here. --- http://www.mrci.com ---------- ---------------------------------------------รูปกราฟแสดงราคาทองในอดีตปี 1974-1999 ของ Moore Research Center, Inc. แสดงฤดูกาลที่ราคาทองขึ้นสูงสุดและตําสุด เอาแบบคร่าวๆ เส้นนําตาลหรือนําเงินก็ใกล้เคียงกัน เส้นนําตาลเฉลี่ย 15 ปี เส้นนําเงินเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุดของเส้นนําตาล หรือเฉลี่ย 15 ปี ในเดือน ปลายเดือน เมษ และปลายเดือน สค ต่อต้นเดือน กย[/color] สูงสุดในเดือน กพ กับ พย / ส่วนเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุด ต้น กค กับ ปลาย สค และราคาสูงสุดในเดือน กพ และ กลางเดือน ตค ----- แค่ดูคร่าวๆ เป็นแนวทาง อย่ายึดมั่นว่าจะต้องเป็นตามนี้ ข้างล่างเป็นกราฟราคานํามัน ตามฤดูกาล จาก Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary
 บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 6 7 [8] 9   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: