Forex-Currency Trading-Swiss based forex related website. Home ----- กระดานสนทนาหน้าแรก ----- Gold Chart,Silver,Copper,Oil Chart ----- gold-trend-price-prediction ----- ติดต่อเรา
หน้า: 1 ... 5 6 [7] 8 9   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: นานาสาระ ... แต่ไม่ไร้สาระ เก็บมาฝาก.....  (อ่าน 28911 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 7 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Neung99k
Full Member
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 565



« ตอบ #90 เมื่อ: มกราคม 16, 2010, 03:58:43 PM »

มีพวกพืชอาหารที่ทานแล้วช่วยลดอาการปวดบวมหรือปวดอักเสบบ้างป่ะครับ  ขอบคุณครับ Grin
บันทึกการเข้า

http://www.smart90days.com/neung999kk/  ธุรกิจท่องเที่ยวรับเงินแสน
http://www.azpaypoint.com/chitdech  รายจ่ายจะกลับมาเป็นรายได้
moddang
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 124



« ตอบ #91 เมื่อ: มกราคม 16, 2010, 10:07:53 PM »

มีพวกพืชอาหารที่ทานแล้วช่วยลดอาการปวดบวมหรือปวดอักเสบบ้างป่ะครับ  ขอบคุณครับ Grin


เท่าทีเคยอ่านนะคะ  เอาที่ตัวเองทานได้  อันที่ได้ผลกับตัวเองนะคะ  เถาวัลย์เปรียง  ของอภัยภูเบศร์  ทานแล้วโอเค ....บัวบก  ก็อ่านพบว่าลดการอักเสบแต่ตอนที่ปวดจริงๆไม่ได้ทาน     ส่วน ขมิ้นชัน ก็มีรายงานที่ทำวิจัยเคยอ่านในหนังสือ ว่าแก้ปวดเทียบกับยาของแผนปัจจุบัน   ไม่อยากเอ่ย เพราะไม่แน่ใจ  แต่ตัวเองทานไม่ได้เอาฤิทธ์แก้ปวด  เลยคงตอบได้ไม่ดีนักค่ะ  ทั้งหมดส่วนมากทานในรูปแคปซูล   แล้วจะหามาฝากค่ะ


ข้อมูลทางพฤกษศาสตร์

ชื่อวิทยศาสตร์   Centella asiatica (Linn.) Urban.

ชื่อวงศ์  Umbelliferae

ชื่ออังกฤษ  Asiatic pennywort

ชื่อท้องถิ่น  ผักแว่น, ผักหนอก, ปะหนะ, เอขาเด๊าะ

 

หลักฐานทางวิทยาศาสตร์

1.  ฤทธิ์ลดการอักเสบ

สารสกัดเอทานอลจากใบ มีฤทธิ์ลดการอักเสบอย่างอ่อนในหนูขาว โดยไปยับยั้งเอนไซม์ cyclooxygenase-1 ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์ prostraglandin (1) เมื่อป้อนสารสกัดน้ำจากทั้งต้น ขนาด 0.1 และ 0.25 ก./กก. และ asiaticoside ขนาด 5 และ 10 มก./กก. พบว่ามีผลลดการอักเสบในหนูขาวที่ถูกเหนี่ยวนำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารด้วยกรดอะซีติก โดยจะยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ inducible nitric oxide synthase (iNOS) (2) สาร saponin จากบัวบก จะลดอาการอักเสบและอาการบวมในหนูถีบจักรที่ถูกเหนี่ยวนำให้เกิดอาการบวมที่หูด้วย croton oil (3) บัวบกมีสาร triterpenes หลายชนิด ได้แก่ asiaticoside, madecassic acid, madecassosid, asiatic acid ซึ่งมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ (4) สาร madecassoside จากบัวบก มีฤทธิ์ลดการอักเสบที่เกิดจากการที่ผิวหนังแบ่งตัวผิดปกติ (5) ขี้ผึ้ง Madecassol ซึ่งประกอบด้วยสาร asiatic acid, madecassic acid และ asiaticoside สามารถลดการอักเสบ เมื่อใช้ทาที่ผิวหนังหนูซึ่งเกิดการอักเสบจากการฉายรังสี (6)

ยาเตรียมที่มีสาร asiaticoside ประกอบอยู่ 0.3% ที่ความเข้มข้นของยาเตรียม 0.5, 1 และ 1.5% มีฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของ NF-kB การสร้าง IL-8 และ TNF-a ในเซลล์ human monocytes (THP-1) ที่ถูกกระตุ้นด้วย lipopolysaccharide รวมทั้งยับยั้งการสร้าง IL-2 ในเซลล์ Jurkat ที่ถูกกระตุ้นด้วย Phytochematoglutinin ผลิตภัณฑ์รูปแบบต่างๆ ได้แก่ สบู่เหลวล้างหน้าและตัว โลชั่น และซีรั่มทาผิว ที่มียาเตรียมผสมอยู่ 1, 1.5 และ 3% ตามลำดับ เมื่อนำมาทดลองใช้กับผู้ป่วยที่มีอาการผิวหนังอักเสบเรื้อรัง พบว่าสามารถลดการอักเสบของผิวหนังได้ (7)  ผงแห้งจากส่วนเหนือดินของบัวบก ให้คนรับประทาน สามารถลดอาการอักเสบได้ (Cool  มีการจดสิทธิบัตรสารสกัดบัวบกซึ่งประกอบด้วยสาร madecassoside และ terminoloside ในการนำมาใช้ในเครื่องสำอางและยาเพื่อลดการอักเสบ (9) และตำรับยาซึ่งมีบัวบกเป็นส่วนประกอบ เพื่อใช้ในการรักษาการอักเสบของไตและกรวยไต กระเพาะปัสสาวะ และทางเดินปัสสาวะ (10)

2.        ฤทธิ์ต้านฮีสตามีน

สารสกัดใบบัวบกด้วยแอลกอฮอล์ผสมน้ำ (1:1) สามารถต้านอาการแพ้ได้   จึงช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด หรืออักเสบเนื่องจากแมลงกัดต่อย (11)

3.        ฤทธิ์แก้ปวด

สารสกัด 60% เอทานอลจากใบ ขนาด 20 มก./กก (12) และสารสกัด 95% เอทานอลจากทั้งต้น ขนาด 100 มก./กก. (13) มีฤทธิ์แก้ปวดในหนูขาวและหนูถีบจักร แต่สารสกัด 50% เอทานอลจากทั้งต้นในขนาด 125 มก./กก. ไม่มีฤทธิ์แก้ปวด เมื่อฉีดเข้าช่องท้องหนูถีบจักร (14)

4.     ฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย

สารสกัดเฮกเซนจากส่วนราก มีฤทธิ์ต้านเชื้อBacillus subtilis, Escherichia coli, Proteus vulgaris และ Pseudomonas cichorii  แต่ไม่มีผลต่อเชื้อ Salmonella typhimurium (15)  สารสกัดเอทานอล (16-18) และสารสกัดด้วยน้ำร้อน (16, 19) จากส่วนเหนือดิน มีฤทธิ์ต้านเชื้อ Staphylococcus aureus (16-19), b-streptococcus group A, Pseudomonas aeruginosa (18, 19) และ B.  subtilis (17)

สารสกัดเฮกเซน สารสกัดไดคลอโรมีเทน สารสกัดเอทิลอะซีเตท สารสกัดอีเทอร์ และสารสกัดเมทานอลจากใบ มีฤทธิ์ต้านเชื้อ S.  aureus, B. subtilis, Klebsiella aerugenes, P.  vulgaris แต่ไม่มีผลต่อเชื้อ E. coli และ P.  aerogenase (20)  สารสกัดเมทานอลจากใบและลำต้น มีฤทธิ์ต้านเชื้อ S. aureus, E. coli, B. subtilis,และ P.  aeruginosa (21)  สารสกัดอัลกอฮอล์จากใบ (22, 23) และน้ำหมักชีวภาพจากใบ (23) มีฤทธิ์ต้านเชื้อ S. aureus (22, 23)

สารสกัดอัลกอฮอล์จากทั้งต้น มีฤทธิ์ต้านเชื้อ S. aureus, E. coli, B. subtilis, P.  aeruginosa และ S. typhimurium (24)  สารสกัด 95% เอทานอล ไม่ระบุส่วนสกัด มีฤทธิ์ต้านเชื้อ Aeromonas hydrophila ได้ โดยมีค่า MIC 312.5 มก./มล. (25)  น้ำมันหอมระเหย ไม่ระบุความเข้มข้น (26, 27) และความเข้มข้น 0.05% (28) มีฤทธิ์ต้านเชื้อ B. subtilis, P. aeruginosa, Shigella sonnei (26), S. aureus (26, 28)และ E. coli (26-28)  สาร oxyasiaticoside ซึ่งเป็นอนุพันธ์ของ asiaticoside สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อวัณโรคในหลอดทดลอง และสามารถลดปริมาณแผลที่เกิดจากเชื้อวัณโรคในตับ ปอด ปมประสาทของหนูตะเภาที่ทำให้เป็นวัณโรคได้ (29)

5.  ฤทธิ์สมานแผล

สารสกัด 95% เอทานอลจากใบ ขนาด 1 มล./กก. พบว่ามีผลเพิ่มการเจริญเติบโตของเซลล์เยื่อบุผิว เพิ่มการสร้างคอลลาเจน เมื่อให้ทางปากและทาที่แผลของหนูขาว (30) สารสกัดจากบัวบก (titrated extract) ซึ่งประกอบด้วยสาร asiatic acid, madecassic acid และ asiaticoside มีฤทธิ์สมานแผล (31, 32) โดยจะเร่งการสร้าง connective tissue เพิ่มปริมาณคอลลาเจน และกรด uronic ในหนูขาว (31)  และกระตุ้นการแสดงออกของยีนในเซลล์ human fibroblast ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างหลอดเลือดและเนื้อเยื่อประสานในบริเวณที่เนื้อเยื่อถูกทำลาย (32)  เมื่อนำสารสกัดมาใช้ทาภายนอกเพื่อรักษาแผลในหนูขาว พบว่าทำให้แผลหายเร็วขึ้น และแผลมีขนาดเล็กลง แต่ถ้าใช้รับประทานจะไม่ได้ผล (33) ขณะที่รายงานบางฉบับ พบว่าเมื่อให้หนูขาวกินสารสกัดในขนาดวันละ 100 มก./กก. มีผลในการรักษาแผลโดยทำให้การสร้างผิวหนังชั้นนอกเร็วขึ้น และบาดแผลมีขนาดเล็กลง (34)

ครีม ขี้ผึ้งและเจลที่มีสารสกัดน้ำจากบัวบก 5% เมื่อใช้ทาที่แผลของหนูขาว 3 ครั้ง/วัน นาน 24 วัน พบว่ามีผลเพิ่มการเจริญเติบโตของเยื่อบุผิว เพิ่มการสร้างคอลลาเจนและเพิ่ม tensile strength ซึ่งสูตรที่อยู่ในรูปเจลจะให้ผลดีกว่าขี้ผึ้งและครีม (35) เจลที่ละลายน้ำได้ (hydrogel) ที่มีสารสกัดจากบัวบก (titrated extract) ซึ่งประกอบด้วย asiaticoside, asiatic acid และ madecassic acid  มีฤทธิ์สมานแผลได้ โดยจะลดขนาดของแผลที่ผิวหนังของหนูขาวใน 9 วัน (36) และเจลที่มีสารสกัดบัวบกอยู่ 0.5, 1 และ 2% มีฤทธิ์สมานแผลในเยื่อบุผิวในปากได้ (37)

สาร asiaticoside มีฤทธิ์สมานแผล เร่งการหายของแผล เมื่อทดลองในหนูขาว (38-40) หนูถีบจักร (41, 42) และในคน (43) เมื่อให้สาร asiaticoside ขนาด 1 มก./กก. ทางปากแก่หนูตะเภา และใช้ทาที่ผิวหนังในหนูตะเภาปกติและหนูขาวที่เป็นเบาหวานซึ่งแผลหายช้า ที่ความเข้มข้น 0.2% และ 0.4% ตามลำดับ พบว่ามีผลเพิ่มความแข็งแรงของเนื้อเยื่อ ( tensile strength) เพิ่มปริมาณของคอลลาเจน และลดขนาดของแผล (44) tincture ที่มี asiaticoside เป็นส่วนประกอบ 89.5% จะเร่งการหายของแผล เมื่อใช้ทาที่แผลของหนูตะเภา (45) สาร ethoxymethyl 2-oxo-3,23-isopropylidene-asiatate ซึ่งเป็นอนุพันธ์ของ asiatic acid มีฤทธิ์ดีในการเร่งการหายของแผล โดยมีแผลเป็นเกิดขึ้นน้อยมาก (46)

สำหรับการทดลองในคน มีรายงานว่าครีมที่มีสารสกัดอัลกอฮอล์จากบัวบกเป็นส่วนประกอบ 0.25-1% สามารถช่วยรักษาและสร้างผิวหนังในคนสูงอายุ (47) ครีมที่มีสารสกัดจากบัวบก 1% สามารถรักษาแผลอักเสบและแผลแยกหลังผ่าตัดในผู้ป่วยจำนวน 14 ราย ภายใน 2-8 สัปดาห์ โดยพบว่าได้ผลดี 28.6% ผลปานกลาง 28.6% และผลพอใช้ 35.7% ไม่ได้ผล 1 ราย (48, 49) และรักษาแผลเรื้อรังที่เกิดจากอุบัติเหตุ ในผู้ป่วยจำนวน 22 ราย ภายใน 21 วัน พบว่าขนาดของแผลจะลดลง มีแผลหายสนิท 17 ราย ยังไม่หายสนิท 5 ราย (50) tincture ที่อยู่ในรูป aerosol ซึ่งมี asiaticoside 89.5% เมื่อใช้ฉีดที่แผลของผู้ป่วยซึ่งเป็นแผลชนิดต่างๆ จำนวน 20 ราย พบว่าสามารถรักษาแผลหายได้ 16 ราย (64%) และทำให้อาการดีขึ้น 4 ราย (16%) โดยมีอาการข้างเคียงคือ การไหม้ของผิวหนัง (burning sensation) (45) เมื่อให้ผู้ป่วยที่เป็น postphlebitic syndrome รับประทานสารสกัด triterpenoid ในขนาด 90 มก./วัน นาน 3 สัปดาห์ พบว่าจะลดการเพิ่มจำนวนของการพบเซลล์เยื่อบุหลอดเลือดในเลือด (51)

ตำรับยาซึ่งมีส่วนสกัดที่ละลายน้ำได้จากบัวบกที่มี asiaticoside อยู่ 60% นำมาใช้ในการรักษาแผลบาดเจ็บ แผลผ่าตัด ไฟไหม้ แผลเป็น ผิวหนังหนา รวมทั้งลดการสร้างเนื้อเยื่อเส้นใยที่ผิดปกติของตับและไต (52) ยาเม็ดซึ่งมีสารซาโปนินจากบัวบกเป็นส่วนผสม มีผลในการเร่งการหายของแผล กระตุ้นการสร้าง granulation และหนังกำพร้าที่แผล (53)

6.   ทำให้เลือดหยุดเร็ว

สารสกัดบัวบกด้วยน้ำทำให้เลือดหยุดเร็ว activated partial thromboplastin time และ prothrombin time ลดลง (54, 55)

7.    ฤทธิ์ต้านเชื้อรา

สารสกัดเอทานอลจากทั้งต้น มีผลต้านเชื้อราที่ทำให้เกิดโรคกลาก Trichophyton mentagrophytes  และ T. rubrum (56) ในขณะที่สารสกัดด้วยน้ำร้อน ไม่มีผลต้านเชื้อราทั้ง 2 ชนิดนี้ และเชื้อ Candida albicans (57)      น้ำมันหอมระเหย มีฤทธิ์ต้านเชื้อ Aspergillus niger, Rhizopus oryzae, Fusarium solani, Candida albicans และ Colletotrichum musae (27)

8.  รักษาแผลในกระเพาะอาหาร

สารสกัดเอทานอลจากทั้งต้น  ขนาด 21.8 มก./กก. (58) และจากราก ขนาด 100 มก./กก. (59) สารสกัดน้ำจากทั้งต้น (60) และจากใบ (61) ขนาด 250 มก./กก. มีฤทธิ์รักษาแผลในกระเพาะอาหารในหนูขาวที่เหนี่ยวนำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารด้วยความเครียดและกรดเกลือในเอทานอล (61) เมื่อป้อนสารสกัดจากทั้งต้น ขนาด 0.05, 0.1 และ  0.25 ก./กก. และสาร asiaticoside ขนาด 1, 5 และ 10 มก./กก. แก่หนูขาวที่ถูกเหนี่ยวนำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารด้วยกรดอะซีติก พบว่ามีฤทธิ์รักษาแผลในกระเพาะอาหาร โดยจะลดขนาดของแผล เพิ่มจำนวนของหลอดเลือดขนาดเล็กในเนื้อเยื่อ เพิ่มจำนวนและการแพร่กระจายของเซลล์ที่แผล นอกจากนี้ยังเพิ่มการแสดงออกของ basic fibroblast growth factor และกดการทำงานของเอนไซม์ myeloperoxidase (62)

   น้ำคั้นขนาด 200 และ 600 มก./กก. เมื่อป้อนให้หนูขาว วันละ 2 ครั้ง นาน 5 วัน มีผลรักษาแผลในกระเพาะอาหารหนูที่ถูกเหนี่ยวนำด้วยเอทานอล แอสไพริน ความเย็น และการผูกกระเพาะอาหารได้  น้ำคั้นที่ขนาด 600 มก./กก. จะเพิ่มการหลั่ง gastric juice mucin และเพิ่ม mucosal cell glycoproteins (63)  เมื่อให้น้ำคั้นขนาด 1, 2, 4 และ 8 ก./กก. โดยการฉีดเข้าลำไส้เล็กหนูขาวที่ถูกกระตุ้นให้เกิดการหลั่งสารในกระเพาะอาหารด้วย histamine และ carbachol  พบว่าไม่มีผลต่อการหลั่งกรด เอนไซม์เปปซิน เมือกที่ละลายในน้ำย่อย และเมือกที่เคลือบเยื่อบุกระเพาะอาหารที่ถูกกระตุ้นด้วย histamine  แต่ที่ขนาด 4 และ 8 ก./กก. มีแนวโน้มที่จะเพิ่มการหลั่งเมือกที่ละลายในน้ำย่อยที่กระตุ้นด้วย carbachol  น้ำคั้นขนาด 4 ก./กก. มีฤทธิ์กระตุ้นการไหลเวียนโลหิตบริเวณเยื่อบุกระเพาะอาหาร ขณะที่ขนาด 8 ก./กก. จะลดการกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตบริเวณเยื่อบุกระเพาะอาหารที่ถูกกระตุ้นด้วย histamine (64)

การทดลองในคนพบว่า สารสกัดจากบัวบก (Madecassol) มีฤทธิ์ในการรักษาแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ได้เช่นกัน (65, 66)

หลักฐานความเป็นพิษและการทดสอบความเป็นพิษ

1. การทดสอบความเป็นพิษ

              ไม่พบความเป็นพิษของสารสกัดด้วย 50% เอทานอล เมื่อฉีดเข้าทางช่องท้องของหนูถีบจักร ขนาด 250 มก./กก. (67) และฉีดเข้าใต้ผิวหนังหรือให้ทางปากของหนูขาว ขนาด 10 ก./กก. (68) สารสกัด 70% เอทานอลมีค่า LD50 เท่ากับ 675 มก./กก. ในหนูขาวเพศผู้ (ไม่ระบุวิธีการให้) (69)  

      2. พิษต่อเซลล์

              สารไทรเทอร์ปีนส์จากทั้งต้น มีความเป็นพิษต่อเซลล์ fibroblast ของคน (70) สารสกัดเมทานอลและสารสกัดอะซีโตน ไม่เป็นพิษต่อเซลล์ human lymphocyte (71)

      3. ฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์

                 สารสกัดอัลกอฮอล์มีฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ในแบบที่ต้องการเอนไซม์จากตับกระตุ้นการออกฤทธิ์ต่อเชื้อ Salmonella typhimurium TA98, TA100 (72) โดยมีฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์แบบ frameshift เท่านั้น ไม่พบแบบ base-pair substitution สารสกัดน้ำจากส่วนเหนือดิน ไม่มีฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ต่อเชื้อ S. typhimurium TA98, TA100 (73)

      4. พิษต่อระบบสืบพันธุ์

         น้ำคั้นจากทั้งต้น ขนาด 0.5 มล. มีผลคุมกำเนิดในหนูถีบจักร 55.60% (74) สารสกัดจากบัวบกขนาด 0.2 มล. ฉีดเข้าใต้ผิวหนังของหนูถีบจักร พบว่าไม่มีผลต่อการฝังตัวของตัวอ่อน (75) สาร saponin จากทั้งต้น ขนาด 2% ไม่มีผลฆ่าเชื้ออสุจิของคน (76)

      5. ทำให้เกิดอาการแพ้

         สารสกัด 30% อีเทอร์ ทำให้เกิดการระคายเคืองอย่างอ่อนต่อผิวหนังหนูตะเภา (77) ในคนมีรายงานการแพ้และอักเสบต่อผิวหนัง เมื่อใช้ผงแห้ง (78) สารสกัดกลัยโคไซด์ 2% (79) สารสกัดน้ำ (80) สารสกัดจากทั้งต้น 2% (ไม่ระบุชนิดสารสกัด) และสารสกัด Madecassol ที่ประกอบด้วย asiatic acid, madecassic acid และ asiaticoside (81)  oinment ที่มีบัวบกเป็นส่วนประกอบ 1% ทำให้เกิด acute erythematobullous (82) การระคายเคืองต่อผิวหนังเกิดได้ทั้งการใช้พืชสดหรือแห้ง (83) อาการระคายเคืองต่อผิวหนังของบัวบกมีผลค่อนข้างต่ำ (84)


การใช้บัวบกรักษาอาการเนื่องจากแมลงกัดต่อย

ใช้ใบขยี้ทาแก้แมลงกัดต่อย (85, 86)

การใช้บัวบกรักษาแผล

ใช้ใบสดพอกแผลสด วันละ 2 ครั้ง (85)

http://www.medplant.mahidol.ac.th/pubhealth/centella.html
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 24, 2010, 06:01:27 PM โดย moddang » บันทึกการเข้า

สิ่งที่ควรทำคือความดี  สิ่งที่ควรมีคือคุณธรรม  สิ่งที่ควรจำคือบุญคุณ
moddang
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 124



« ตอบ #92 เมื่อ: มกราคม 20, 2010, 10:02:31 PM »

ดัดตนแก้ปวดหลังแบบประยุกต์


        เมื่อวันที่ ๓๐ พ.ค. ๒๕๔๙ ที่ผ่านมา เป็นวันหยุดของคลินิกผม ได้มีสุภาพบุรุษท่านหนึ่งเข้ามาที่คลินิกแล้วบอกว่า เขาก้มลงหยิบของพอยืดตัวขึ้นก็ปวดแปล๊บ ที่หลังส่วนเอว ตัวแข็งก้มลงไม่ได้ พอนั่งแล้วลุกขึ้นยืดตัวไม่ได้ จะนั่งจะลุกเดินก็ลำบาก
        
        ผมตรวจตามวิธีของการนวดโดยให้เขายกขาขึ้นตั้งฉากกับลำตัว เขาก็ยกขาขึ้นได้ไม่ถึง ๔๕ องศา ผมจึงให้เขานั่งไขว้ขาข้างที่ยกไม่ขึ้นพาดบนเข่าแบบไขว่ห้าง แล้วสอดแขนทั้ง ๒ ข้างเข้าใต้น่อง จากนั้นยกแขนขึ้นเข้าหาอก เขาทำไม่ได้เพราะปวดที่เอวมาก ผมก็ให้เปลี่ยนมาทำข้างที่ไม่ปวด  เขายกขาได้ถึงอก เสร็จแล้วผมก็ให้ทำแบบเดียวกันกับขาข้างที่ปวดใหม่ คราวนี้ยกขึ้นได้เหมือนข้างที่ไม่ปวดแล้ว เขาลองลุกขึ้นเดินก็รู้สึกดีขึ้น แต่หลังยังแข็งและปวดเล็กน้อย
      
        ผมก็ให้เขานอนลงชันเข่าทั้ง ๒ ขึ้นแยกขาออก ผมเอามือทั้ง ๒ ข้างจับเข่าเขาแล้วค่อยๆ นั่งลงบนท้อง จากนั้นค่อยๆ ยกขาเขาเข้าหาตัวผมทีละข้าง แล้วก็จับขาของเขามาทำท่าพนมเท้า ดึงเข้าหาตัวผมอีกครั้ง เมื่อทำเสร็จเขาบอกว่าหลังโล่งขึ้น ผมก็บอกให้เขาลองลุกขึ้นเดินใหม่ ทีนี้เขาเดินยืนนั่งนอนได้เป็นปกติ เขาเกริ่นถามถึงค่าบริการ ผมบอกว่าไม่คิดค่ารักษา แต่หากยังปวดอีกก็ให้กลับมานวดที่คลินิกของผมได้ ทีนี้คิดค่ารักษาตามปกติแน่นอน

                      


][url=http://www.doctor.or.th/node/1497]

เพิ่มเติมค่ะ
 
การออกกำลังกายหลัง

][url=http://www.thaigold.info/forum/index.php?topic=4633.160]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 26, 2010, 03:45:36 PM โดย moddang » บันทึกการเข้า

สิ่งที่ควรทำคือความดี  สิ่งที่ควรมีคือคุณธรรม  สิ่งที่ควรจำคือบุญคุณ
moddang
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 124



« ตอบ #93 เมื่อ: มกราคม 21, 2010, 06:45:26 PM »

"ความสุขที่แท้จริง"




ผม เคยอ่านนิทานเรื่องหนึ่งนานมาแล้ว เรื่องมีอยู่ว่า อาจารย์ท่านหนึ่งลากเส้นตรงขึ้นมาเส้นหนึ่ง แล้วบอกให้นักเรียนลองทำให้เส้นตรงเส้นนี้สั้นลงโดยไม่ต้องลบ นักเรียนต่างหาวิธีทำให้เส้นตรงนั้นสั้นลงไม่ได้เพราะทุกคนติดอยู่กับภาพ ลักษณ์ของการลบเส้นเดิมทิ้งไปเพื่อให้เส้นเดิมสั้นลงไป อาจารย์ท่านนั้นจึงขอให้นักเรียนรายหนึ่งเขียนเส้นตรงเส้นใหม่ที่ยาวกว่า เส้นเดิม ภายหลังจากที่นักเรียนลากเส้นตรงเส้นใหม่ที่ยาวกว่าเดิมแล้ว อาจารย์ท่านนั้นอธิบายให้นักเรียนฟังว่า

"การ ที่มีคนลากเส้นตรงขึ้นมาเส้นหนึ่ง ไม่ว่าเส้นตรงที่ลากมาจะยาวแค่ไหน เราสามารถทำให้เส้นตรงนั้นสั้นลงไปได้โดยที่เราไม่จำเป็นต้องไปลบเส้นของคน อื่นให้สั้นลง แต่เราสามารถทำให้เส้นของคนอื่นสั้นลงโดยที่เราลากเส้นของเราให้ยาวขึ้น ยิ่งเราลากเส้นยาวออกไปมากเท่าไหร่เส้นเดิมที่ลากไว้ก็จะสั้นลงไปทุกที เปรียบเหมือนการที่ใครซักคนทำในสิ่งหนึ่งที่ดีอยู่ประสบความสำเร็จอยู่ เราไม่ควรให้ความอิจฉาริษามาก่อให้จิตของเรารุ่มร้อนและหาทางกลั่นแกล้งคนๆ นั้นด้วยการหาทางทำลาย เหมือนกับการพยายามลบเส้นของคนอื่นให้สั้นลง ตรงกันข้ามควรจะยินดีกับความสำเร็จของคนอื่น เหมือนกับที่เรามองความยาวของเส้นตรงที่คนอื่นลากไว้ แต่เราหาทางพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นเรื่อยๆเหมือนกับการพยายามลากเส้นตรงเส้น ใหม่ให้ยาวขึ้นเรื่อยๆโดยไม่ไปลบเส้นของคนอื่น เส้นตรงที่เราลากก็จะยาวขึ้นเรื่อยๆ โดยเส้นเดิมที่เราลากไว้ก็จะสั้นลงไปเรื่อยๆโดยที่เราไม่จำเป็นต้องไปลบออก ให้สั้นลง"

การ คิดในเชิงสร้างสรรค์แบบนี้ทำให้จิตใจของเราโปร่งสบาย ไม่รุ่มร้อน เพราะเรารู้สึกว่าเราไม่ได้แข่งกับใครแต่เราแข่งกับตัวของเราเองอยู่ตลอด เวลาและเราไม่ได้ไปสร้างศัตรูหรือไปก่อเวรกับคนอื่น ตรงกันข้ามการแข่งขันระหว่างกันเป็นไปในทางเกื้อกูลกันทำให้ระบบโดยรวมมีการ เติบโตอยู่ตลอดเวลาไปในทางที่เป็นบวก คงไม่สำคัญว่าคุณต้องชนะคนทั้งหมด สิ่งสำคัญคงอยู่ที่คุณพยายามชนะตัวของคุณเองอยู่ตลอดเวลาต่างหาก เพียงแต่เมื่อใดคุณสามารถชนะตัวของคุณเองได้ ชัยชนะที่ได้ก็จะมีความหมายและทำให้คุณเกิดความภูมใจ และถ้าคุณยังไม่หยุดพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง คุณก็จะชนะตัวคุณไปเรื่อยๆ เมื่อคุณมองย้อนกลับมาเมื่อไหร่คุณก็จะมีแต่ความใจในชัยชนะที่ขาวสะอาด ชัยชนะที่เป็นแรงขับดันให้คุณพยายามพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นเรื่อยๆ

การ ประสพความสำเร็จในชีวิตของแต่ละคนมีอยู่หลายวิธี บางครั้งผู้คนต่างพยายามเลียนแบบเส้นทางประสพความสำเร็จของผู้อื่น แต่เมื่อเดินตามเส้นทางนั้นกลับพบว่าไม่ประสพความสำเร็จนัก ความสำเร็จในชีวิตของผู้คนคงไม่จำเป็นต้องมีรูปแบบอย่างเดียวกันเสมอไป และเส้นทางไปสู่ความสำเร็จก็ไม่จำเป็นต้องเป็นเส้นทางเดียวกันเสมอไป สิ่งสำคัญน่าจะอยู่ที่ความสุขใจที่ได้เลือกเส้นทางที่เหมาะกับตนเองมากที่ สุดมากกว่า

จง อย่าพยายามเลียนแบบเส้นทางไปสู่ความสุขของผู้อื่น เพราะนิยามความสุขของผู้คนต่างกัน ความสุขที่เราเห็นผู้คนอื่นมีความสุขกันอยู่ ถ้าเราไปอยู่ในสถานะนั้นเราอาจจะไม่มีความสุขอย่างที่เราเข้าใจก็ได้ สุขและทุกข์แท้จริงอยู่ที่ใจของเรากำหนดต่างหาก ลองมองทุกอย่าง อย่างเป็นกลางๆ ไม่เอาความรัก ความโลภ ความโกรธ ความหลง อคติ มาครอบงำ แล้ววันหนึ่งเราอาจจะค้นพบความหมายของคำว่าความสุขที่แท้จริงของตัวเราเอง


http://www.love4home.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=109733&Ntype=4
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 21, 2010, 06:49:38 PM โดย moddang » บันทึกการเข้า

สิ่งที่ควรทำคือความดี  สิ่งที่ควรมีคือคุณธรรม  สิ่งที่ควรจำคือบุญคุณ
Neung99k
Full Member
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 565



« ตอบ #94 เมื่อ: มกราคม 22, 2010, 10:26:20 PM »

ขอบคุณมากนะครับคุณมดแดง  ข้อมูลเรื่องดัดตนแก้ปวดหลังจะลองทำดูบ่อยๆ ผมปวดหลังบ่อยไม่ยอมหายสักที Grin
บันทึกการเข้า

http://www.smart90days.com/neung999kk/  ธุรกิจท่องเที่ยวรับเงินแสน
http://www.azpaypoint.com/chitdech  รายจ่ายจะกลับมาเป็นรายได้
moddang
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 124



« ตอบ #95 เมื่อ: มกราคม 23, 2010, 07:44:31 AM »

ขอบคุณค่ะ คุณ neung 99k
   ที่ข้อมูลมีประโยชน์บ้างค่ะ เมือวานก่อนนำมาลงต่อ ลักษณะการบริหารคล้ายๆกัน  แต่พอบันทึกแล้วรูปไม่มา  ตอนพรีวิวมี  แต่พอเซพแล้วมันจะซ้ำ อีก เลยทำให้เออเรอร์  แก้ไขยังไงก็ไม่ได้ เลยเปลี่ยนหัวข้อค่ะ
บันทึกการเข้า

สิ่งที่ควรทำคือความดี  สิ่งที่ควรมีคือคุณธรรม  สิ่งที่ควรจำคือบุญคุณ
moddang
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 124



« ตอบ #96 เมื่อ: มกราคม 24, 2010, 06:06:14 PM »

 กลุ่มยาลดความดันโลหิตสูง

" บัวบก "



ชื่อวิทยาศาสตร์ :   Centella asiatica (L.) Urban.

ชื่อสามัญ :   Asiatic pennywort, Indian pennywort

วงศ์ :  Apiaceae (Umbelliferae)

ชื่ออื่น :  ผักหนอก (ภาคเหนือ)  ผักแว่น (ภาคใต้)

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้ล้มลุก ลำต้นเป็นไหลทอดเลื้อยไปตามดินที่ชื้นแฉะ ขึ้นง่าย มีรากฝอยออกตามข้อ ใบชูตั้งขึ้น มีไหลงอกออกจากต้นเดิม ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ รูปไต ขนาดกว้างและยาว 2-5 ซม. ปลายใบกลม โคนใบเว้า ขอบใบหยัก แผ่นใบสีเขียวมีขนเล็กน้อย ก้านใบยาว ดอก ออกเป็นช่อแบบซี่ร่มตามซอกใบ มีดอกย่อย 2-3 ดอก กลีบดอกมี 5 กลีบ สีม่วงอมแดงกลับกัน ผล เป็นผลแห้งแตกแบน เมล็ดสีดำ

ส่วนที่ใช้ :  ทั้งต้นสด

สรรพคุณ :

    *  ใบ - มีสาร Asiaticoside ทำยาทาแก้แผลโรคเรื้อน
  
    *  ทั้งต้นสด
      - เป็นยำบำรุงกำลัง บำรุงหัวใจ แก้อ่อนเพลีย เมื่อยล้า
      - รักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก หรือมีการชอกช้ำจากการกระแทก แก้พิษงูกัด
      - ปวดศีรษะข้างเดียว
      - ขับปัสสาวะ
      - แก้เจ็บคอ
      - เป็นยาห้ามเลือด ส่าแผลสด แก้โรคผิวหนัง
      - ลดความดัน แก้ช้ำใน
  
   * เมล็ด - แก้บิด แก้ไข้ ปวดศีรษะ

วิธีและปริมาณที่ใช้ :
 

    * ใช้เป็นยาแก้ปวดศีรษะข้างเดียว
        ใช้ต้นสดไม่จำกัด รับประทาน หรือคั้นน้ำจากต้นสดรับประทาน ควรรับประทานติดต่อกัน 2-3 วัน
  
    * ใช้เป็นยาแก้เจ็บคอ
        ใช้ทั้งต้นสด 10-20 กรัม หรือ 1 กำมือ ตำคั้นน้ำเติมน้ำส้มสายชู 1-3 ช้อนแกง จิบบ่อยๆ
    
    * เป็นยาลดความดันโลหิตสูง
        ใช้ทั้งต้นสด 30-40 กรัม คั้นน้ำจากต้นสด เติมน้ำตาลเล็กน้อย รับประทาน 5-7 วัน   [/color]
  
    * ยาแก้ช้ำใน (พลัดตกหกล้ม)
        ใช้ต้นสด 1 กำมือ ล้างให้สะอาด ตำคั้นน้ำ เติมน้ำตาลเล็กน้อย ดื่ม 1 ครั้ง รับประทานติดต่อกัน 5-6 วัน
  
    * เป็นยาถอนพิษรักษาแผลน้ำร้อนลวก
         ใช้ทั้งต้นสด 2-3 ต้น ล้างให้สะอาด ตำให้ละเอียดพอกแผลไฟไหม้ ช่วยลดอาการปวดแสบปวดร้อน
  
    * เป็นยาห้ามเลือด ใส่แผลสด
         ใช้ใบสด 20-30 ใบ ล้างให้สะอาด ตำพอกแผลสด ช่วยห้ามเลือดและรักษาแผลให้หายเร็ว

สารเคมี : สารสกัดจากใบบัวบกประกอบด้วย madecassoside asiatic acid, asiaticoside, centelloside, centellic acid brahminoside, brahmic acid.

http://www.rspg.or.th/plants_data/herbs/herbs_16_2.htm
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 24, 2010, 06:19:05 PM โดย moddang » บันทึกการเข้า

สิ่งที่ควรทำคือความดี  สิ่งที่ควรมีคือคุณธรรม  สิ่งที่ควรจำคือบุญคุณ
Neung99k
Full Member
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 565



« ตอบ #97 เมื่อ: มกราคม 26, 2010, 11:00:37 AM »

สวัสดีครับคุณมดแดง จะลองทำดูสักเดือนได้ผลอย่างไรจะมาบอกนะครับ  ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่นำมาบอกกล่าวกันนะครับมีประโยชน์มาก ผมเองไม่ค่อยได้ศึกษาข้อมูลพวกนี้เท่าไหร่  เคยศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับใบพูลคาวแล้วก็เลิกไป มันเยอะจัดฮิๆ Grin
บันทึกการเข้า

http://www.smart90days.com/neung999kk/  ธุรกิจท่องเที่ยวรับเงินแสน
http://www.azpaypoint.com/chitdech  รายจ่ายจะกลับมาเป็นรายได้
moddang
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 124



« ตอบ #98 เมื่อ: มกราคม 26, 2010, 07:03:07 PM »

พรหมลิขิตกับคำว่าเพื่อน

คุณเชื่อในพรหมลิขิตมั้ย ?

ถ้าไม่.. แล้วอะไรล่ะ
ที่ทำให้เรามาพบกับคนอีกหลายคนที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน
ถ้าไม่.. แล้วอะไรล่ะที่ทำให้เราถูกชะตาจนเรียกคนๆนั้นว่า เพื่อน
.......เพื่อน..... คนๆนึงที่ครั้งนึงก็เป็นได้แค่คนแปลกหน้าคนหนึ่ง
เวลา ผ่าน เวลา คนแปลกหน้าคนนั้นก็กลับกลายมาเป็นคนที่เรา ไว้ใจ
.......เพื่อน..... คนที่พร้อมอยู่กับเราเสมอๆ
ไม่ว่า สุข ทุกข์ เหงา เศร้า
.......เพื่อน.....
คนที่พร้อมแชร์ความรู้สึกต่างๆโดยไม่เคยเอ่ยปากว่า
ถ้าทำอย่างนั้นแล้วฉันจะได้อะไร
.
......เพื่อน..... คนที่ไม่เคยสนใจว่าเราจะหน้าตาดี มีสกุล ร่ำรวย
ยากจน สูง ต่ำ ดำ ขาว หรือไม่
.......เพื่อน..... คนที่ไม่เคยเสแสร้ง แกล้งทำ
........แต่...... เพื่อนตาย หายากเหลือเกิน

เรามองด้วยตาเปล่าไม่ได้ ว่า คนๆนี้เป็นเพื่อนตายของเราหรือไม่
เรามองด้วยตาเปล่าไม่ได้ว่าคนๆนี้
เป็นคนที่พร้อมจะเคียงข้างเราเสมอไปมั้ย
เรามองด้วยตาเปล่าไม่ได้ว่าคนๆนี้จริงใจกับเราแค่ไหน
ทั้งหมดนี้ เราใช้ ตา มองไม่เห็น
........แต่...... ทั้งหมดนี้เราใช้ ใจ มองเห็นได้

เมื่อบทความ ล่วงเลยมาถึงตอนนี้ คุณล่ะ ?
ใช้ตามองเพื่อน หรือใช้ใจมองเพื่อน เราบอกไม่ได้ว่าคนๆไหนดี ไม่ดี
จนกว่า... เราจะมีโอกาส รู้จัก กับคนๆนั้น แล้วใช้ใจของเราสัมผัส
การคบใครสักคน คบเพียงกายก็ไร้ประโยชน์ แต่ การคบใครสักคน
จำเป็นต้องคบกันด้วย ใจ

วันนี้ คุณ ใช้อะไร คบเพื่อนของคุณ อย่าบอกนะ
ว่าคุณก็เป็นคนที่คบเพื่อนแค่ ตา เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น
คุณก็คงเป็นคนที่ไม่น่าคบคนหนึ่ง
สำหรับคนที่ได้รับการกระทำเช่นนี้
คุณ..โชคดีจัง ที่มีเพื่อนรักคุณ และ คบคุณด้วยใจ
อย่าลืม กระทำเช่นนี้ ให้กับเพื่อนที่คุณ รัก ด้วย ใจ
ที่สำคัญ กระทำเช่นนี้กลับไปให้เพื่อนคนที่กระทำเช่นนี้ให้คุณ

เพื่อบอกกับเค้าว่า......  คุณดีใจที่มีเพื่อนอย่างเค้าเช่นกัน......


http://moomsabuy.exteen.com/20070502/entry
บันทึกการเข้า

สิ่งที่ควรทำคือความดี  สิ่งที่ควรมีคือคุณธรรม  สิ่งที่ควรจำคือบุญคุณ
moddang
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 124



« ตอบ #99 เมื่อ: มกราคม 27, 2010, 12:50:39 PM »

บันทึกการเข้า

สิ่งที่ควรทำคือความดี  สิ่งที่ควรมีคือคุณธรรม  สิ่งที่ควรจำคือบุญคุณ
moddang
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 124



« ตอบ #100 เมื่อ: มกราคม 28, 2010, 11:52:12 AM »

เป็นกำลังใจให้ทุกฝัน..........................


 
ดีไม่ดี... อยู่ที่ใจเรา
หัวเราะ... เมื่ออยากหัวเราะ
ร้องไห้... เมื่ออยากร้องไห้
และต้องหัวเราะให้ได้หลังร้องไห้ทุกครั้ง!
อย่าทำอะไรที่ไม่อยากทำ...
จงทำอะไรที่ใจอยากทำ!


ตัวหนังสือ... เขียนผิด.... ลบได้
การกระทำ.... ทำผิด... เอาอะไรลบ



ทุกย่างก้าว ของ ความฝัน คือ ก้าวย่าง ของ ความเหน็ดเหนื่อย
ทุกก้าวย่าง ของ ความเหน็ดเหนื่อย คือ ก้าวย่าง ของ ความสำเร็จ


ต่อให้ทุกข์ที่สุด... ก็ต้องผ่านพ้นไปจนได้
เมื่อเรานั่งมองอดีต เรายังผ่านทุกข์มาได้ตั้งหลายทุกข์
ในเมื่อ... ชีวิต... มันยังมีชีวิต
ขอแค่อย่าทุกข์ก่อนเจอทุกข์
หลัง ทุกข์ อย่าทุกข์อีก
ให้ทุกข์ แค่ตอนทุกข์
แล้วทุกข์ที่สุด... ก็จะเป็นทุกข์แค่นี้เอง!


ให้ทำหน้าที่ทุกหน้าที่ด้วยหัวใจ
ให้หัวใจตระหนักในหน้าที่...
แล้วเราจะไม่รู้สึกว่าหน้าที่เป็นหน้าที่
แต่เป็นการกระทำที่เกิดจาก... หัวใจเรียกร้อง... ต่างหาก


ดีไม่ดี... อยู่ที่ใจเรา...
ถ้าใจเรา.... คิดดี ก็จะเจอแต่สิ่งดีๆ
ถ้าเรามองในทางที่ดี... ใจเราก็จะรู้สึกดี
ถ้ากำลังใจดี... สิ่งเลวร้าย.... ก็จะคลี่คลายเป็น.... ดี!
บันทึกการเข้า

สิ่งที่ควรทำคือความดี  สิ่งที่ควรมีคือคุณธรรม  สิ่งที่ควรจำคือบุญคุณ
nokeang
Full Member
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 720



« ตอบ #101 เมื่อ: มกราคม 28, 2010, 11:59:35 AM »

 Smiley สวัสดี ดี ดี ดี ค่ะ คุณมดแดง  Grin แวะมาอ่านเสมอนะค่ะ
บันทึกการเข้า

ไม่มีน้ำหนักใด...หนักกว่ากรรม
ไม่มีหนทางใด...ยาวเท่าหนทางแห่งกรรม
nokeang
Full Member
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 720



« ตอบ #102 เมื่อ: มกราคม 28, 2010, 12:08:39 PM »

Smiley   ข้อคิดดี ๆ จากผู้ที่ประสบความสำเร็จ?   ยิ้ม


ผมบอกพนักงานอยู่เสมอ คือในโลกนี้ ไม่มีคนไหนเก่งไปตลอดกาล
วันนี้คุณอาจเก่ง แต่พรุ่งนี้ อาจมีคนเก่งกว่าคุณ เพราะฉะนั้น
คนใดก็ตามที่ภูมิใจว่า ตนเองเก่ง จงจำเอาไว้ได้เลยว่า
ความหายนะใกล้มาถึงตัวคุณแล้วความโง่คืบคลานมาใกล้ตั วคุณแล้ว
------------ --------- --------- --------- --------- ธนินท์ เจียรวนนท์


ผมพร้อมจะเป็นน้ำนิ่ง อาจมีเขื่อนมาขวางหน้า แต่ถ้าวันใด
ที่เขื่อนนั้นเปราะบางและโอกาสแห่งการสำแดงพลังมาถึง
ผมก็พร้อมจะกลายเป็นกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากโหมกระหน่ำ ใส่ทุกสิ่งที่ขวางกั้น
แม้กระทั่งเขื่อนที่ครั้งหนึ่งผมเคยสยบยอมก็ตาม
------------ --------- --------- --------- --------- เจริญ สิริวัฒนภักดี


ถ้าคุณอดทน เพื่อจะทำอะไรสักอย่างให้สำเร็จ
คุณจำเป็นอย่างมากที่จะต้องลงมือศึกษาเรื่องนั้นๆ อย่างเป็นจริงเป็นจัง
แต่ถ้าคุณไม่อดทน โอกาสที่คุณจะผิดพลาดก็ย่อมมีสูงเช่นกัน
------------ --------- --------- --------- ------- อนันต์ กาญจนพาสน์



จงเดินไปหาภูเขา อย่าให้ภูเขาเดินมาหาเรา เพราะผมคิดว่า
ปกติผู้บริหารทั่วไปมักจะเรียกพนักงานมาประชุมกับเรา
มันเหมือนเราย้ายพนักงานทั้งกองทัพมาหาเรา แต่สำหรับผมผมจะเดินไปหาเขา
ผมบอกลูกน้องของผมว่าเราต้องเดินไปหาลูกค้า อย่าให้ลูกค้ามาหาเรา
------------ --------- --------- --------- -------- พรเทพ พรประภา


ในเรื่องของการพิจารณา ความดีความชอบ
ผมจะฟังเสียงตอบรับจากลูกค้าเป็นหลักว่าลูกน้องแต่ละ คนทำงานลงไปแล้วลูกค้า
พอใจแค่ไหนอย่างไร
ผมจะไม่เชื่อหัวหน้าอย่างเดียวเพราะถ้าเกิดหัวหน้าบา งคนไม่ชอบลูกน้องอาจ
เกิดกรณีหัวหน้าแกล้งลูกน้องได้
------------ --------- --------- --------- ------ ประกิต อภิสารธนรักษ์


ผมมีหลักของอาจารย์ที่สอนผมอย่างหนึ่งว่า มนุษย์เกิดมาไม่มีใครเก่งที่สุด
ดีที่สุด หรือแม้แต่เลวที่สุด
เพราะคนที่ดีสุดและเลวที่สุดได้ตายจากโลกนี้นานแล้ว
คนที่เหลืออยู่จึงเป็นเพียง ชีวิตที่มีขึ้นมีลงอย่างเดียว
------------ --------- --------- --------- -- ไชยวัฒน์ เหลืองอมรเลิศ


ไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ตามคุณต้องศึกษาให้รู้แจ้งเสียก่ อน ก่อนที่จะลงมือทำ
และเมื่อลงมือทำแล้ว ก็ต้องทำให้จริงๆ จังๆให้มันรู้ไปเลยว่า
เราทำไม่ไหวแล้ว
------------ --------- --------- --------- --------- - ชวน ตั้งมติธรรม


1. จงเผชิญกับความจริงอย่างที่เป็นอยู่ มิใช่อย่างที่คุณอยากเป็น
2. จริงใจกับทุกคน
3. อย่าเป็นแค่นักบริหารแต่จงออกไปนำทัพ
4. จงเปลี่ยนแปลงก่อนที่เหตุการณ์จะบังคับให้ต้องเปลี่ย น
5. ถ้าท่านไม่มีจุดแข็ง หรือข้อได้เปรียบจงอย่าแข่งกับเขา
6. จงคุมชะตาด้วยตนเองมิฉะนั้น ผู้อื่นจะมาคุมแทน
------------ --------- --------- ------ ท่านผู้หญิงนิรมล สุริยสัตย์


ในการทำงานใดๆ ไม่ว่าจะเป็นลูกจ้าง
หรือนายจ้างควรจะรับฟังความคิดของผู้ร่วมงานเสมอ
การเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
คือเป็นการเพิ่มประสบการณ์อื่นเป็นความรู้
นอกเหนือจากที่ได้รับมาจากการเอาเปรียบผู้อื่น
ไม่ใช่ความสำเร็จที่แท้จริง
------------ --------- --------- --------- -------- โพธิ์พงษ์ ล่ำซำ


ที่ชอบเป็นพิเศษ คือคำพูดของซุนวู่ ที่บอกว่า รู้เขา รู้เรา
รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง ผมฟังปุ๊บ รู้สึกประทับใจทันทีและเข้าใจว่า
คนเราถ้าอยู่ใกล้ใคร มักอยากเป็นแบบนั้น
ตอนนั้นจำได้ว่าผมอยากเป็นนักเขียนมาก
แต่ที่ได้รับคำแนะนำว่าถ้าคุณอยากเขียนหนังสือจงเริ่ มต้นจากสิ่งที่คุณรู้
ก่อนเป็นอันดับแรก
------------ --------- --------- --------- ----- อมรเทพ ดีโรจนวงศ์


อีก 1 เรื่อง
เรื่องมีอยู่ว่าชาวนาจีนแก่ ๆ
คนหนึ่งเดินไปตามถนนบนบ่ามีมีไม้พาดอยู่และที่ปลายไม ้นั้นก็มีหม้อดินใส่แกง
จืดเต้าหู้ผูกห้อยไว้ ขณะที่เดินไปเขาเกิดสะดุดก้อนหิน
และหม้อดินก็หล่นลงกระทบพื้นแตกกระจัดกระจายเป็นชิ้น เล็กชิ้นน้อย
ชาวนาผู้เฒ่าคนนี้ก็ลุกขึ้นแล้วก้มหน้าก้มตาเดินต่อไ ป
โดยไม่แสดงความรู้สึกใด ๆ
ชายหนุ่มคนหนึ่งที่เห็นเหตุการณ์รีบวิ่งมาหา แล้วพูดด้วยความตื่นเต้นว่า
"นี่ ๆ พ่อเฒ่าท่านไม่รู้หรือว่าหม้อดินหล่น"
ชายชราหันไปตอบว่า "ฉันรู้ ฉันได้ยินเสียงมันหล่นอยู่"
ผู้อ่อนอาวุโสมีสีหน้าประหลาดใจเมื่อได้ยินคำตอบเช่น นั้น
"อ้าวแล้วทำไมท่านไม่ย้อนกลับไปทำอย่างใดอย่างหนึ่งล่ ะ"
สีหน้าของผู้เฒ่ายังเป็นปกติขณะที่ตอบชายหนุ่มด้วยคำ พูดที่หนักแน่นชัดเจนว่า
" ก็หม้อดินมันแตกแล้วแกงจืดก็ไม่เหลือแล้วจะให้ฉันทำอะไรอีกล่ะ"
พูดจบชายชราผู้มากด้วยประสบการณ์ชีวิตก็ย่างเท้าก้าว ไปข้างหน้าอย่างมั่นคง
วันวานนี้สิ้นสุดลงตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว ทุก ๆ วันคือจุดเริ่มต้นใหม่
เรียนทักษะของการลืมอดีต แล้วก้าวไปข้างหน้าด้วยความมั่นใจ
เสมอต้น,เสมอปลาย...



บันทึกการเข้า

ไม่มีน้ำหนักใด...หนักกว่ากรรม
ไม่มีหนทางใด...ยาวเท่าหนทางแห่งกรรม
moddang
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 124



« ตอบ #103 เมื่อ: มกราคม 29, 2010, 04:01:15 PM »

แม่Iสอน ท่อนสุดท้ายจ๊าบมากๆ (ซึ้งกินใจ)



เพื่อน ๆ บอกผมว่า
ทำไมดูหน้าตาไม่ค่อยฉลาด แต่เรียนเก่งจังวะ
ผมบอกเพื่อนผมว่า
แม่Iสอน ให้ขยันแล้วก็ตั้งใจเรียน

เพื่อน ๆ ผมบอกว่า
ทำไมพอมีตังค์ ชอบเอาไปทำบุญ แจกเด็ก เลี้ยงพระวะ
ผมบอกเพื่อนผมว่า
แม่Iสอน ให้รู้จักแบ่งปันคนอื่น ถึงเราจะมีตังค์น้อย แต่ก็มีคนอื่นที่เขาลำบากกว่าเรา

เพื่อน ๆ ผมบอกว่า

ทำไมชอบเล่นกีฬา เล่นเป็นหลายอย่าง แล้วไม่เคยเห็นป่วยนอนโรงพยาบาลเลยวะ
ผมบอกเพื่อนผมว่า
แม่Iสอน ให้Iออกกำลังกาย จะได้แข็งแรง ไม่เจ็บ ไม่ป่วยง่าย ๆ เพราะเรามีตังค์น้อย เจ็บป่วยจะลำบาก

เพื่อน ๆ ผมบอกว่า
ทำไมอารมณ์ดี ไม่เครียด ไม่โกรธใครบ้างเลยหรือไงวะ
ผมบอกเพื่อนผมว่า
แม่Iสอน ให้เป็นคนอารมณ์ดี ทำให้คนที่อยู่ใกล้เรามีความสุข แล้วจะสบายใจกันทุกคน

เพื่อน ๆ ผมบอกว่า
ทำไมพูดกับคนอื่น ดูสุภาพ อ่อนน้อม ทั้ง ๆ ที่เขาเป็นลุงแก่ ๆ เป็นเด็กเสริฟอาหาร
หรือแม้แต่ขอทานที่ให้เศษตังค์แล้วเขาอวยพรให้ ทำไมต้องขอบคุณขอทานวะ
ผมบอกเพื่อนผมว่า
แม่Iสอน ให้พูดดี ๆ กับทุกคน ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร เราพูดดี ๆ กับเขา เขาก็จะได้พูดดี ๆ กับเรา

เพื่อน ๆ ผมบอกว่า
ทำไมพี่ ๆ น้อง ๆ ตั้งหลายคน ทำไมรักใคร่กันดี ไม่เคยทะเลาะกันเลยวะ
ผมบอกเพื่อนผมว่า
แม่Iสอน ให้พี่น้องรักกันทุกคน เพราะหมากับแมวที่อยู่บ้านเดียวกัน มันยังรักกันได้
ทำไมพี่น้องกัน จะรักกันไม่ได้

เพื่อน ๆ ผมบอกว่า
ทำไมถึงรักชาติ รักแผ่นดิน รัก มากมายนักวะ
ผมบอกเพื่อนว่า
แม่Iสอน ให้Iสำนึกถึงบุญคุณของแผ่นดิน บุญคุณของพระมหากษัติรย์ ทุกพระองค์
แม่Iสอน ให้Iจักคำว่า จงรักภักดี ตั้งแต่Iยังไม่รู้ความหมาย จนทุกวันนี้ guru็แล้วว่า
คำว่า จงรักภักดี นั้น ยิ่งใหญ่เพียงใด


เพื่อน ๆ ผมบอกว่า
ทำไมแม่ถึงสอนอะไรมากมายจังเลยวะ
ผมบอกเพื่อนว่า
ที่Iเป็นIอยู่จนทุกวันนี้ ก็เพราะ ' แม่Iสอน '
แม่Iสอนอะไร Iทำตามแม่Iสอนทุกอย่าง
มีอย่างเดียวที่แม่Iไม่ได้สอน แต่Iทำ แล้วIทำมาตั้งแต่เด็กแล้ว
แม่Iไม่ได้สอนให้รักแม่ แต่......Iรักแม่ว่ะ


ใครไม่รัก..................Iรัก      


หมายเหตุ  แม่กูสอน โดนบล็อก  ความหมายของภาษาพ่อขุนนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 29, 2010, 04:07:00 PM โดย moddang » บันทึกการเข้า

สิ่งที่ควรทำคือความดี  สิ่งที่ควรมีคือคุณธรรม  สิ่งที่ควรจำคือบุญคุณ
moddang
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 124



« ตอบ #104 เมื่อ: มกราคม 29, 2010, 04:10:21 PM »

ขอบคุณมากนะคะ  Smiley คุณ nokeang
เป็นข้อความที่ดีมากค่ะ แล้วขออนุญาตินำไปฝากบ้านโน้นด้วยนะคะ  Grin
บันทึกการเข้า

สิ่งที่ควรทำคือความดี  สิ่งที่ควรมีคือคุณธรรม  สิ่งที่ควรจำคือบุญคุณ
Gold Price today, Gold Trend Price Prediction, ราคาทองคํา, วิเคราะห์ทิศทางทองคํา
   

images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary ---------------------Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. For more information on Moore Research products and services click here. --- http://www.mrci.com ---------- ---------------------------------------------รูปกราฟแสดงราคาทองในอดีตปี 1974-1999 ของ Moore Research Center, Inc. แสดงฤดูกาลที่ราคาทองขึ้นสูงสุดและตําสุด เอาแบบคร่าวๆ เส้นนําตาลหรือนําเงินก็ใกล้เคียงกัน เส้นนําตาลเฉลี่ย 15 ปี เส้นนําเงินเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุดของเส้นนําตาล หรือเฉลี่ย 15 ปี ในเดือน ปลายเดือน เมษ และปลายเดือน สค ต่อต้นเดือน กย[/color] สูงสุดในเดือน กพ กับ พย / ส่วนเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุด ต้น กค กับ ปลาย สค และราคาสูงสุดในเดือน กพ และ กลางเดือน ตค ----- แค่ดูคร่าวๆ เป็นแนวทาง อย่ายึดมั่นว่าจะต้องเป็นตามนี้ ข้างล่างเป็นกราฟราคานํามัน ตามฤดูกาล จาก Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary
 บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 5 6 [7] 8 9   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: