ทองใหม่
|
 |
« ตอบ #45 เมื่อ: มกราคม 05, 2010, 10:10:26 AM » |
|
รายได้ปี 2552 ของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ และเบิร์คเชียร์ แฮทธาเวย์ ต่ำสุดในรอบ 10 ปี
Posted on Tuesday, January 05, 2010 บัฟเฟตต์ทำรายได้จากหุ้นในปี 2552 น้อยสุดในรอบ 10 ปี
วอร์เรน บัฟเฟตต์ ประธานบริษัท เบิร์คเชียร์ แฮทธาเวย์ มีรายได้จากการซื้อขายหุ้นในปี 2552 น้อยที่สุดในรอบ 10 ปี หลังจากทุ่มเงิน 26,000 ล้านดอลลาร์ ซื้อกิจการบริษัท เบอร์ลิงตัน นอร์ทเธิร์น ซานตาเฟ คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทสร้างทางรถไฟขนาดใหญ่ที่บัฟเฟตต์ พร้อมกับปรับลดคาดการณ์ผลตอบแทนที่จะได้จากการซื้อธุรกิจเบอร์ลิงตัน
หุ้นบริษัท เบิร์คเชียร์ แฮทธาเวย์ ของบัฟเฟตต์ ปรับตัวขึ้น 2.7% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กตลอดปี 2552 ขณะที่ราคาหุ้นเบิร์คเชียร์ที่เข้าเทรดในดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 23% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าบัฟเฟตต์มีรายได้จากการซื้อขายหุ้นน้อยที่สุดในรอบ 10 ปี
ทั้งนี้ บัฟเฟตต์ยอมรับว่า การที่เบิร์คเชียร์ แฮทธาเวย์จะกลับมาทำกำไรได้มากเป็นสองเท่าเหมือนเมื่อก่อนนั้น อาจเป็นไปได้ยาก หลังจากที่เขาตัดสินใจเข้าซื้อกิจการเบอร์ลิงตัน นอร์ทเธิร์น ซานตาเฟ คอร์ป เมื่อวันที่ 3 พ.ย.2552 ซึ่งถือเป็นการเข้าซื้อกิจการในวงเงินสูงสุดในประวัติศาสตร์การก่อตั้งอาณาจักรเบิร์คเชียร์ แฮทธาเวย์
นอกจากนี้ บัฟเฟตต์ยอมรับว่าการทุ่มเงินมหาศาลซื้อกิจการเบอร์ลิงตันนั้น อาจส่งผลกระทบถึงกิจการอื่นๆที่เบิร์คเชียร์ซื้อเข้ามาไว้ในเครือข่ายเมื่อเศรษฐกิจซบเซาลง
บัฟเฟตต์ ซึ่งมีฉายาว่า "Oracle of Omaha" หรือปราชญ์ผู้ทรงปัญญาแห่งเมืองโอมาฮา มลรัฐเนบราสก้า เป็นกูรูด้านการลงทุนที่นักลงทุนทั่วโลกจับตาดูมากที่สุด ตัดสินใจเข้าซื้อกิจการเบอร์ลิงตัน นอร์ทเธิร์น ซานตาเฟ คอร์ป แบบหมดหน้าตักเพราะมั่นใจในอนาคตของเศรษฐกิจสหรัฐ และเชื่อมั่นว่าเบอร์ลิงตันจะให้บริการรถไฟขนส่งสินค้าจากประเทศคู่ค้าของสหรัฐในเอเชียมากขึ้น รวมถึงจีน
อย่างไรก็ตาม การเข้าซื้อกิจการเบอร์ลิงตัน นอร์ทเธิร์น ทำให้สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ขู่ลดอันดับเครดิตบริษัท เบิร์คเชียร์ แฮทธาเวย์ เพราะเกรงว่าอาจทำให้สภาพคล่องและเงินทุนในธุรกิจประกันของเบิร์คเชียร์หดตัวลง
นอกจากนี้ S&P ยังให้เครดิตพินิจ ซึ่งมีนัยว่า เบิร์คเชียร์อาจถูกลดอันดับเครดิตลงจากระดับปัจจุบันที่ระดับ AAA
หุ้น-โภคภัณฑ์ร้อน ประเดิมปีเสือดุ
เพียงแค่วันทำการแรกของปี ตลาดหุ้นโลกก็บวกสดใส รวมถึงราคาน้ำมันที่ขึ้นไปยืนอยู่เหนือ 80 เหรียญต่อบาร์เรลเรียบร้อยแล้ว ขณะเดียวกัน เงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักได้ส่งผลให้ราคาทองคำบวกขึ้นแรงที่สุดในรอบกว่า 2 เดือน ส่วนราคาทองแดงก็แรลลี่ขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 16 เดือนเช่นกัน จากปัจจัยการหยุดงานประท้วงของแรงงานในเหมืองที่ประเทศชิลี
จริงๆ แล้วความร้อนแรงของตลาดหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์ปะทุขึ้นต่อเนื่องมาตั้งแต่เมื่อวานนี้ เมื่อดัชนี MSCI Asia Pacific บวกขึ้นได้กว่า 1% หลังจากเห็นตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ดัชนีชี้สภาวะการผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้นด้วยสถิติสูงสุดหากนับย้อนไปจนถึงเดือนเมษายน ปี 2004 ก่อนที่จะตามมาด้วยตัวเลขทางฝั่งสหรัฐฯ ที่ดัชนีภาคโรงงาน (ISM factory index) ปรับขึ้นมาอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบมากกว่า 3 ปี
แรงซื้อที่ตลาดสหรัฐฯ เมื่อคืนนี้มีเข้ายังหุ้นกลุ่มพลังงาน นำโดย Exxon Mobil และ Chevron ขณะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีก็มาแรงไม่แพ้กัน เมื่อมีนักวิเคราะห์ปรับเพิ่มคำแนะนำในหุ้นผู้ผลิตชิพคอมพิวเตอร์รายใหญ่ที่สุดของโลก อย่าง Intel ด้วยการเก็งว่า ความต้องการเครื่อง PC จะเดินหน้าขยายตัวต่อ
ส่วนที่ยุโรป ดัชนี Dow Jones Stoxx 600 ก็บวกได้ 1.5% ในวันทำการแรกของปี 2553 ด้วยคำสั่งซื้อของนักลงทุนที่กระจายเข้ามายังหุ้นทุกกลุ่ม หลังจากปีที่แล้วดัชนีทำสถิติบวกขึ้นมา 28% ซึ่งถือว่าดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2542 โดยหุ้นยักษ์ใหญ่ในวงการเหมือง อย่าง BHP Billiton ปรับตัวขึ้น 3.4% ที่ตลาดหุ้นลอนดอน
หลายคนยังติดตามความเคลื่อนไหวของบริษัททางด้านอุปโภคบริโภครายใหญ่ อย่าง Nestle ที่ราคาหุ้นขยับขึ้นกว่า 1% เมื่อคืนนี้ที่ตลาดหุ้นสวิส เมื่อบริษัท Novartis ตัดสินใจใช้สิทธิ option เพื่อซื้อหุ้นของบริษัท Alcon ที่เป็นผู้ทำผลิตภัณฑ์ดูแลดวงตารายใหญ่ที่สุดของโลก ในส่วนที่ Nestle ถืออยู่ ด้วยมูลค่ารวมเฉียด 40,000 ล้านเหรียญ ในขณะเดียวกัน ผู้ผลิต Nescafe รายนี้ ยังประกาศแผนการซื้อหุ้นคืนในวงเงินรวม 10,000 ล้านฟรังก์สวิส หรือราว 9,650 ล้านเหรียญอีกด้วย
GM ตีปีกหลังยอดขายตลาดจีนพุ่ง 67% ในปี 2552
หลังจากรอดพ้นสภาวะล้มละลายมาได้ไม่นาน General Motors ก็ประเดิมบอกข่าวดีด้วยยอดขายรถยนต์ในตลาดจีนของทั้งปี 2009 ว่าทำได้กว่า 1.83 ล้านคัน หรือถีบตัวขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 67% ซึ่งปรากฏการณ์นี้ได้ตอกย้ำถึงความสำคัญของตลาดเอเชียที่มีต่อบริษัท
ผู้ผลิตรถจาก Detroit รายนี้ รายงานด้วยว่า ส่วนแบ่งตลาดของตนในจีนขยับขึ้นมาอีก 1.3% ไปอยู่ที่ 13.4% และรั้งตำแหน่งค่ายรถจากต่างประเทศรายใหญ่ที่สุดในประเทศที่มีจำนวนประชากรมหาศาลนี้
ภายหลังจากที่ยักษ์ใหญ่แห่งวงการรถสามารถสลัดหลุดออกมาได้จากแผนล้มละลายเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา GM ก็ได้เร่งการลงทุนขนานใหญ่ที่ประเทศจีน ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจของที่นี่กำลังขยายตัวและได้รับผลดีจากมาตรการกระตุ้นภาครัฐ จนได้ชื่อว่าเป็นตลาดรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก แซงหน้าสหรัฐฯ ไปได้เรียบร้อยแล้ว และในเวลาเดียวกัน ที่ประเทศบ้านเกิด บริษัทที่มีรัฐบาลอเมริกันเข้าไปเป็นผู้ดูแลบริหารงานแทนนั้น ก็ได้ทำการปิดโรงงานไปหลายแห่งเพื่อรับมือกับความต้องการที่หดหายลง ถึงขนาดที่นักวิเคราะห์บางรายพูดออกมาว่า ตลาดรถจีนได้ช่วยชีวิต GM ไว้ แม้อัตราการเติบโตในปีนี้ อาจไม่แรงเทียบเท่ากับปี 2552 แต่ที่แน่ๆ ก็คือดีมานด์ที่แข็งแกร่งในตลาดนี้จะยังคงอยู่
สำหรับบริษัท Shanghai General Motors ที่ GM เป็นหุ้นส่วนอยู่กับบริษัท SAIC Motor เปิดเผยยอดขายรถที่สูงถึง 727,620 คันในปีที่แล้ว หรือเพิ่มขึ้น 63% จากปี 2551 ขณะยอดขายของบริษัท SAIC-GM-Wuling Automobile ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถมินิแวนรายใหญ่ที่สุดของประเทศ ก็รายงานยอดขายที่สูงถึง 1.1 ล้านคัน หรือเพิ่มขึ้นถึง 64% โดยตัวเลขยอดขายในส่วนนี้คิดเป็นสัดส่วนถึงราว 60% สำหรับยอดขายรวมทั้งหมดของ GM ในจีนเลยทีเดียว จากการที่ราคาขายเฉลี่ยต่อคันของรถประเภทนี้เริ่มต้นแค่เพียง 4,000 เหรียญเท่านั้น
ตอนนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่าตลาดรถจีนเป็นที่ดึงดูดใจต่อผู้ผลิตจากตะวันตกและเพื่อนบ้านในเอเชียด้วยกันให้เข้ามาขยายการลงทุน นำทีมโดย Ford Motor, Volkswagen และ Hyundai Motor ซึ่งทางด้าน Ford ก็กำลังอัดฉัดเงินทุนกว่า 490 ล้านเหรียญสำหรับโรงงานแห่งที่ 3 ในจีน
ขณะที่ Volkswagen มีแผนที่จะลงทุน 4,000 ล้านยูโร หรือราว 5,700 ล้านเหรียญในประเทศนี้ภายในปี 2554 ส่วนผู้ผลิตจากกรุงโซล อย่าง Hyundai ก็มีแผนที่จะเปิดตัวโรงงานแห่งที่ 3 ที่บริษัทหวังว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตในประเทศได้ถึง 50% ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 900,000 คันต่อปี ภายในปี 2554
PIMCO ลดการถือครองพันธบัตรสหรัฐและอังกฤษ
แปซิฟิก อินเวสเมนท์ แมเนจเมนท์ (PIMCO) ซึ่งเป็นบริษัทจัดการกองทุนพันธบัตรรายใหญ่สุดของโลก ลดการถือครองพันธบัตรสหรัฐและอังกฤษ หลังจากทั้งสองประเทศมีอัตราการกู้ยืมสูงสุดเป็นประวัติการณ์
พอล แมคคัลลีย์ คณะกรรมการบอร์ดและผู้จัดการพอร์ทของพิมโค กล่าวว่า PIMCO เพิ่มความระมัดระวังในการถือครองพันธบัตร โดยได้ตัดสินใจลดการถือพันธบัตรและตราสารที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยรองรับ (MBS) นอกจากนี้ PIMCO ยังลดการถือครองหลักทรัพย์ที่เป็นเครื่องมือการลงทุนหลีกเลี่ยงความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ
เมอร์ริล ลินช์ คาดการณ์ว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรในสหรัฐและอังกฤษจะสูงขึ้นในปีนี้ หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐร่วงลง 3.7% ในปี 2552 ซึ่งเป็นสถิติที่ร่วงลงหนักสุดในรอบกว่า 30 ปี ขณะที่ยอดขายพันบัตรของสรหัฐร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1930
กองทุนพิมโค โททัล รีเทิร์น ฟันด์ ของบิล กรอส ได้ลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และสามารถกระตุ้นเงินสดหมุนเวียนได้มากที่สุดนับตั้งแต่การล้มละลายของเลห์แมน บราเธอร์สในปี 2551 โดยกองทุน PIMCO มีผลตอบแทนสูงถึง 13.8% ในปีที่แล้ว ซึ่งสูงมากกว่าคู่แข่งรายอื่นๆถึงครึ่งหนึ่ง ส่งผลให้พิมโค โททัล รีเทิร์น ก้าวขึ้นเป็นกองทุนรายใหญ่สุดในประวัติศาสตร์กองทุนโลก ด้วยทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูงถึง 2.025 แสนล้านดอลลาร์ ณ วันที่ 17 ธ.ค.2552
นายกฯญี่ปุ่นเร่งผ่านร่างงบฯ สกัดเศรษฐกิจถดถอย
ยูคิโอะ ฮาโตยามะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวในระหว่างการแถลงข่าวครั้งแรกของปี 2553 เมื่อวานนี้ว่า เขาจะทำทุกวิถีทางที่จะป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นหดตัวรุนแรงมากไปกว่านี้ ด้วยการผ่านร่างงบประมาณการใช้จ่ายในปีงบประมาณปัจจุบันและปีหน้า
ฮาโตยามะกล่าวว่า "เตรียมผ่านร่างงบประมาณการใช้จ่ายประจำปีงบประมาณปีนี้และปีหน้า รวมถึงงบประมาณฉุกเฉินและงบประมาณเพิ่มเติม เพราะจะไม่ยอมปล่อยให้เศรษฐกิจหดตัวรุนแรงอย่างเด็ดขาด
รวมทั้งต้องการให้งบประมาณการใช้จ่ายฉุกเฉินฉบับที่สองมีผลบังคับใช้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และจะผลักดันร่างงบประมาณการใช้จ่ายในปีหน้าให้ได้ข้อสรุปภายในเดือนมี.ค.ปีนี้"
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นยังให้คำมั่นสัญญาว่าจะแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐในเรื่องการย้ายฐานทัพฟูเตมมะของยูเอส มารีน คอร์ป ในเขตโอกินาว่า ให้ได้ภายในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้
นายฮาโตยามะกล่าวว่า เขาไม่มีแผนที่จะปรับคณะรัฐมนตรีก่อนการเลือกตั้งสภาที่ปรึกษาในฤดูร้อนนี้ โดยเขายังคงให้ความสำคัญกับการผ่านร่างงบประมาณการใช้จ่าย เพื่อช่วยเหลือประชาชนและกระตุ้นเศรษฐกิจให้แข็งแกร่งขึ้น
นับตั้งแต่นายฮาโตยามะเข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในเดือนส.ค.2552 คะแนนนิยมของเขาก็หล่นวูบต่ำกว่าระดับ 50% เพราะประชาชนไม่มั่นใจว่าเขาจะสามารถนำพาเศรษฐกิจญี่ปุ่นได้รอดพ้นจากภาวะถดถอย นอกจากนี้ ประชาชนยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่สั่นคลอนระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐ รวมทั้งสถานะการเป็นพันธมิตรกับประเทศเพื่อนบ้านในเอเชีย
จีนเพิ่มเงินอุดหนุนผู้ซื้อรถ หวังกระตุ้นยอดขายรถใหม่
จีนเพิ่มงบประมาณการให้เงินอุดหนุนแก่ผู้นำรถเก่ามาแลกซื้อรถใหม่จากเดิมที่ 5,000 หยวนเป็น 18,000 หยวนต่อคัน เพื่อกระตุ้นยอดขายรถใหม่และส่งเสริมให้มีการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
รัฐบาลจีนได้เริ่มโครงการให้เงินอุดหนุนสำหรับการนำรถเก่ามาขายเพื่อซื้อรถใหม่เมื่อเดือนส.ค. 2552 ในวงเงิน 3,000 - 6,000 หยวนต่อคัน ขึ้นอยู่กับรถแต่ละรุ่น
กระทรวงคลังและกระทรวงพาณิชย์ของจีนได้ออกประกาศเรื่องโครงการเพิ่มเงินอุดหนุนดังกล่าวดังนี้
การให้เงินอุดหนุนสำหรับรถบรรทุกขนาดเล็กจะสูงขึ้นเป็น 6,000 หยวน ขนาดย่อมจะสูงขึ้นเป็น 9,000 หยวน ส่วนขนาดกลางจะสูงขึ้นเป็น 13,000 หยวน และขนาดใหญ่ 18,000 หยวนตามลำดับ
สำหรับรถโดยสารขนาดเล็กจะได้รับเงินอุดหนุนเพิ่มขึ้นเป็น 5,000 หยวน ขนาดย่อม 7,000 หยวน ขนาดกลาง 11,000 หยวน และขนาดใหญ่ 18,000 หยวน
ส่วนรถที่มีขนาดเครื่องยนต์ 1.35 ลิตรหรือมากกว่านั้น จะได้รับเงินอุดหนุนถึง 18,000 หยวน ส่วนรถที่ใช้เครื่องยนต์ 1-1.35 ลิตร จะได้ 10,000 หยวน และ รถที่มีเครื่องยนต์ขนาด 1 ลิตรหรือต่ำกว่านั้น จะได้เงินอุดหนุน 6,000 หยวน
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังจะคุมเข้มเรื่องการควบคุมองค์กรที่ทำหน้าที่รีไซเคิลรถยนต์ที่ไม่มีการใช้งานแล้วในประเทศอีกด้วย
เกาหลีใต้สามารถคุมเงินเฟ้อได้ตามเป้าปี 2549 - 2552
ธนาคารกลางเกาหลีใต้เปิดเผยว่า เกาหลีใต้สามารถคุมเงินเฟ้อได้ตามเป้าหมายระยะกลางระหว่างปี 2549 - 2552 แม้ว่าราคาน้ำมันและอัตราแลกเปลี่ยนจะมีความผันผวนก็ตาม
ดัชนีราคาผู้บริโภคของเกาหลีใต้ขยายตัวโดยเฉลี่ย 3.3% ในปี 2549-2552 ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายเงินเฟ้อที่กำหนดไว้ที่ 2.5-3.5%
เมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว ธนาคารกลางเกาหลีใต้ได้ขยายช่วงเป้าหมายเงินเฟ้อปี 2553-2555 ไว้ที่ 2-4% และชี้ว่า จะพยายามความควบคุมภาวะผันผวนทางเศรษฐกิจด้วยวิธีการที่มีความยืดหยุ่น
ด้านนักวิเคราะห์กล่าวว่า เป้าหมายเงินเฟ้อที่มีการขยายออกไปนั้น จะเปิดโอกาสให้ธนาคารกลางสามารถใช้นโยบายที่ยืดหยุ่นได้
อินโดฯ ตั้งเป้าผลิตข้าวปี 53 ที่ 66.8 ล้านตัน
รัฐบาลอินโดนีเซียประเมินว่า ปริมาณการผลิตข้าวในประเทศปีนี้จะอยู่ที่ 66.8 ล้านตัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่ายอดการผลิตปี 2552 อยู่ 4.45% โดยการผลิตข้าวปีที่แล้วของอินโดนีเซียอยู่ที่ 63.84 ล้านตัน
ฮัตตา ราดจาซา รัฐมนตรีฝ่ายประสานงานเศรษฐกิจอินโดนีเซีย กล่าวว่า รัฐบาลได้จัดส่งปุ๋ย 4.615 ตันแก่เกษตรกร ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 84% ของเป้าหมายเบื้องต้นที่ได้กำหนดไว้
ทางด้านมุสตาฟา อาบูบาคาร์ รัฐมนตรีวิสาหกิจรัฐบาลกล่าวว่า อินโดนีเซียจะสามารถส่งออกข้าวได้ในปีหน้าถึง 1-2 ล้านตัน หากอินโดนีเซียสามารถบรรลุเป้าหมายในการผลิตข้าว
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่ประกาศออกมาเมื่อวานนี้ (จันทร์ที่ 4 ม.ค. 2553) ? ดัชนีภาคการผลิต (ธ.ค.) อยู่ที่ระดับ 55.9 จุด ? ค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้าง (พ.ย.) ลดลง 0.6% จากเดือนก่อนหน้า
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่จะประกาศออกมาวันนี้ (อังคารที่ 5 ม.ค. 2553) ? ยอดสั่งซื้อสินค้าโรงงาน (พ.ย.) โดย กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ? ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (พ.ย.) โดย สมาคมนายหน้าอสังหาฯ แห่งสหรัฐฯ
ติดตาม Money Wake up ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ออกอากาศซ้ำเวลา 11.00 น. ทาง Money Channel
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
brabus
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #46 เมื่อ: มกราคม 05, 2010, 10:13:43 AM » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ทองใหม่
|
 |
« ตอบ #47 เมื่อ: มกราคม 05, 2010, 10:15:24 AM » |
|
สวัสดีปีใหม่ครับคุณทองใหม่  ทองจะขื้นทำ b ครั้งนี้มั้ยครับ ETFสวนกระแสขายทองช่วงทองขึ้น ยังเนปัญหาที่น่าคิดอยู่ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ทองใหม่
|
 |
« ตอบ #48 เมื่อ: มกราคม 05, 2010, 10:16:19 AM » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
dd999
Newbie
ออฟไลน์
กระทู้: 7
|
 |
« ตอบ #49 เมื่อ: มกราคม 05, 2010, 10:26:20 AM » |
|
 สวัสดีปีใหม่ครับ คุณทองใหม่ ขอบคุณสำหรับข้อมูลและกราฟนะครับ ขอให้คุณทองใหม่มีสุขภาพแข็งแรงมากๆนะครับ ร่ำรวยยิ่งๆขึ้นไปครับ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ทองใหม่
|
 |
« ตอบ #50 เมื่อ: มกราคม 05, 2010, 10:31:11 AM » |
|
ผมหาข่าวนี้ตั้งแต่เช้าแล้วเพิ่งเจอ นี่เป็นส่วนหนึ่งของปัจจัยภายนอก สหรัฐหาทางบีบรัฐบาลและกองกำลังพิทักษ์อิสลามอิหร่าน วันที่ 2010-01-05 09:30:55 โดย MCOT -
สหรัฐหาทางบีบรัฐบาลและกองกำลังพิทักษ์อิสลามอิหร่าน
วอชิงตัน 5 ม.ค.- นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐเผยว่า ได้เริ่มหารือกับประเทศหุ้นส่วนและประเทศที่มีแนวคิดเดียวกันเพื่อหามาตรการใหม่ในการคว่ำบาตรกดดันรัฐบาลอิหร่าน โดยเฉพาะกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามหวังสกัดโครงการนิวเคลียร์อิหร่านโดยไม่ทำร้ายประชาชนทั่วไป
นางคลินตัน แถลงข่าวร่วมกับเชค ฮาหมัด บิน จาสซิม อัลธานี นายกรัฐมนตรีกาตาร์ว่า สหรัฐพยายามเลี่ยงการกำหนดเส้นตายเพราะต้องการเปิดทางให้มีการเจรจา แต่ก็ได้ประกาศชัดเจนแล้วว่าจะไม่รอคอยอย่างเดียวในขณะที่อิหร่านพูดเรื่องเพิ่มศักยภาพการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียม รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐยังแสดงความไม่พอใจเรื่องทางการอิหร่านปราบปรามผู้ประท้วงที่ไม่พอใจผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีเดือน มิ.ย. และขอแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับผู้ประท้วงอย่างสันติ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
sa
Jr. Member

ออฟไลน์
กระทู้: 264
|
 |
« ตอบ #51 เมื่อ: มกราคม 05, 2010, 10:47:23 AM » |
|
ขอบคุณค่ะ คุณทองใหม่ สบายดีนะคะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
sa
Jr. Member

ออฟไลน์
กระทู้: 264
|
 |
« ตอบ #52 เมื่อ: มกราคม 05, 2010, 10:54:56 AM » |
|
วันนี้โชคดีเข้ามาเจอคุณทองใหม่เมื่อกี้พิมพ์ช้าม่ายยยยยยยยทัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
sa
Jr. Member

ออฟไลน์
กระทู้: 264
|
 |
« ตอบ #53 เมื่อ: มกราคม 05, 2010, 10:57:11 AM » |
|
สามี1117อยู่ค่ะจะปล่อยตอนไหนดีคะหรือซื้อเพิ่มดีคะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
sa
Jr. Member

ออฟไลน์
กระทู้: 264
|
 |
« ตอบ #54 เมื่อ: มกราคม 05, 2010, 11:07:46 AM » |
|
อุ๊ยงานเข้า ไปทำงานก่อนนะคะเดี๋ยวบ่ายๆมารอคำแนะนำนะคะ อ้อใกล้เที่ยงแล้วคุณทองใหม่ทานข้าวให้ตรงเวลานะคะจะได้ไม่ปวดท้องกระเพาะอีก โชคดีค่ะทานข้าวให้อร่อยนะคะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ทองใหม่
|
 |
« ตอบ #55 เมื่อ: มกราคม 05, 2010, 11:11:19 AM » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ทองใหม่
|
 |
« ตอบ #56 เมื่อ: มกราคม 05, 2010, 11:20:18 AM » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ทองใหม่
|
 |
« ตอบ #57 เมื่อ: มกราคม 05, 2010, 11:28:36 AM » |
|
สามี1117อยู่ค่ะจะปล่อยตอนไหนดีคะหรือซื้อเพิ่มดีคะ
หากดูตามกราฟตาแป๊ะ --แป๊ะยิ้มแล้ว ทองกำลังจะขึ้น -------ต้องดูแรงงานนอกภาคเกษตรของเมกาที่จะประกาศในวันศุกร์นี้อีกครั้ง จะชึ้บอกทองจะขึ้นได้อีกนานไหมครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Nata
Newbie
ออฟไลน์
กระทู้: 57
|
 |
« ตอบ #58 เมื่อ: มกราคม 05, 2010, 11:32:32 AM » |
|
ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะคุึณทองใหม่ ...
ตอนนี้ยังไม่ได้ซื้อเลย -*- ช้าไปไหมคะเนี่ย?
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ทองใหม่
|
 |
« ตอบ #59 เมื่อ: มกราคม 05, 2010, 11:35:59 AM » |
|
กราฟตาแป๊ะซ้ายบน มีการเปลี่ยนแปลงนิดหนี่ง มีคำว่า ตัวหนังสือสีเขียว ? ---ขาย และ ตัวหนังสือสีแดง?----ซื้อ เพิ่มเข้ามา เฉพราะที่เพิ่มเข้ามานิดหน่อยนี้ ผมใช้เวลาศุกร์-เสาร์-อาทิตย์(25--27ธค.52)ทั้ง3วันค้าหาในเวปจีนถึงได้เจอ และเอามาเพิ่มผสมเข้ากับกาฟตาแป๊ะช่องซ้ายบน ยังมิทราบจะแม่นยำแค่ไหน ต้องคอยกาลเวลาบ่งบอกครับกราฟตาแป๊ะซ้ายบน ตัวหนังสือสีเขียว ? ---ขาย ตัวหนังสือสีแดง?----ซื้อ เส้นสีแดงหนา---ขาขึ้น เส้นสีเขียวหนา---ขาลงขวาบน เส้นสีแดง---เสนอซื้มากกว่าเสนอขาย เส้นสีเขียว---เสนอขายมากกว่าเสนอซื้อ ส่วนช่วงกลางที่มีแท่งสีแดงกับเขียวนั้น แท่งแดง---แรงซื้อขึ้น แท่งเขียว---แรงขายลงขวาช่องสอง แท่งเหลืองคู่เส้นแดง---ขาขึ้น แท่งฟ้าคู่เส้นเขียว---ขาลง โดยปกติ ช่องนี้จะเปลี่ยนแนวโน้มช้ากว่าเพื่อน หากเปลี่ยนแนวโน้มเมื่อไหร่ เขาให้ขายออกหรือซื้อเข้าได้ทันที่ ยกเว้นมีปัจจัยพื้นฐานแรงๆแทรกเข้ามา จึงจะทำให้แนวโน้มกลับเปลี่ยนได้โดยกะทันหันซ้ายช่องสอง หน้าเหลืองแป๊ะยิ้ม---ขาขึ้น หน้าแดงแป๊ะร้องไห้---ขาลง แท่งสีเขียว---เพดาน แท่งสีแดง---พื้นดินโดยปกติ ช่องนี้จะส่งสัญญาณว่า กำลังจะเปลี่ยนแนวทางแล้วนะ แต่ยังไม่เต็มร้อย อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยกะทันหันก็ได้ ต้องดูซ้ายบนและขวาช่อง๒ประกอบด้วย จึงจะให้ความมั่นใจได้ทอง 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Gold Price today, Gold Trend Price Prediction, ราคาทองคํา, วิเคราะห์ทิศทางทองคํา
|
Thanks: ฝากรูป dictionary
---------------------Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. For more information on Moore Research products and services click here. --- http://www.mrci.com ----------
---------------------------------------------รูปกราฟแสดงราคาทองในอดีตปี 1974-1999 ของ Moore Research Center, Inc.
แสดงฤดูกาลที่ราคาทองขึ้นสูงสุดและตําสุด เอาแบบคร่าวๆ เส้นนําตาลหรือนําเงินก็ใกล้เคียงกัน เส้นนําตาลเฉลี่ย
15 ปี เส้นนําเงินเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุดของเส้นนําตาล หรือเฉลี่ย 15 ปี ในเดือน ปลายเดือน เมษ และปลายเดือน สค
ต่อต้นเดือน กย[/color] สูงสุดในเดือน กพ กับ พย / ส่วนเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุด ต้น กค กับ ปลาย สค และราคาสูงสุดในเดือน
กพ และ กลางเดือน ตค -----
แค่ดูคร่าวๆ เป็นแนวทาง อย่ายึดมั่นว่าจะต้องเป็นตามนี้
ข้างล่างเป็นกราฟราคานํามัน ตามฤดูกาล จาก Charts courtesy of Moore Research Center, Inc.
Thanks: ฝากรูป dictionary
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|