your
Newbie
ออฟไลน์
กระทู้: 49
|
 |
« ตอบ #300 เมื่อ: มกราคม 16, 2010, 09:54:46 AM » |
|
ดีด้วยคนจ้า 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
ทองใหม่
|
 |
« ตอบ #302 เมื่อ: มกราคม 16, 2010, 10:27:12 AM » |
|
น้ำมัน 
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 16, 2010, 10:31:38 AM โดย ทองใหม่ »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
ทองใหม่
|
 |
« ตอบ #304 เมื่อ: มกราคม 16, 2010, 02:31:47 PM » |
|
วันจันทร์ที่18 เป็นวัน Martin Luther King Day ตลาดเมกาหยุด ตลาดเอเชีย--ยุโรป เปิดจ้า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Neung99k
|
 |
« ตอบ #305 เมื่อ: มกราคม 16, 2010, 03:27:24 PM » |
|
ขอบคุณพี่ทองใหม่ครับ  ข้อสังเกตุระหว่างกราฟทั้งสองชุด..ต่อไปคงจะได้พิสูจน์ว่าควรจะดูอันไหนนะครับ ถ้าตัวใหม่ดีกว่าต่อไปก็ดูแต่กราฟใหม่ 2010 ก็ได้ครับ(เผื่อแป๊ะยิ้มหลอก ฮิๆ) 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
sa
Jr. Member

ออฟไลน์
กระทู้: 264
|
 |
« ตอบ #306 เมื่อ: มกราคม 17, 2010, 11:37:10 AM » |
|
ขอบคุณค่ะคุณทองใหม่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ทองใหม่
|
 |
« ตอบ #307 เมื่อ: มกราคม 17, 2010, 11:37:53 AM » |
|
วันนี้ไปร่วมบุญที่วัดพระธรรมกาย อุปสมบทหมู่๑แสนรูปทุกหมู่บ้านทั่วไทย(พิธีบรรพชา"บวชเณร"วันที่๖/๐๒/๕๓ พิธึอุปสมบท"บวชพระ"๘--๑๓/๐๒/๕๓) จึงแจ้งมาเพื่อให้เพื่อนๆได้ร่วมอนุโมทนาบุญอันยิ่งใหญ่นี้ด้วย สาธุ.........
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 17, 2010, 11:53:27 AM โดย ทองใหม่ »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
prim
Jr. Member

ออฟไลน์
กระทู้: 390
|
 |
« ตอบ #308 เมื่อ: มกราคม 17, 2010, 02:01:01 PM » |
|
สวัสดีค่ะคุณทองใหม่ ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
ทองใหม่
|
 |
« ตอบ #311 เมื่อ: มกราคม 18, 2010, 06:17:53 AM » |
|
กราฟGold 1 ช่อง1 เส้นแดงอยู่เหนือเส้นเขียว---ทิศทางขึ้น ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน เส้นเขียวอยู่เหนือเส้นแดง---ทิศทางลง ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน เส้นแดงและเขียวประสานเป็นกากะบาด ---กำลังจะเปลี่ยนทิศ ให้ดูเส้นแนวโน้มประกอบ หากเส้นแดงและเขียวกำลังจะประสาน แต่ไม่ทันได้ประสานก็หันหันหัวกลับขึ้นหรือลง แสดงว่ากำลังมีเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนี่งเกิดขึ้น หากขึ้นทะลุเส้นปะแนวต้าน ให้ดูเส้นปะแนวต้านเส้นต่อไป หากลงทะลุเส้นปะแนวหนุน ให้ดูเส้นแนวหนุนเส้นต่อไป ส่วนจุดกลมเหลืองทอง---ทิศทางลง จุดกลมฟ้า---ทิศทางขึ้น หากกราฟวิ่งในยามปกติ พอเชื่อถือได้ หากกราฟวิ่งขึ้นลงแรงๆ คือยามไม่ปกติ ไม่อาจเชือถือได้ ช่อง2 ให้ดูเส้นสีม่วง ประกอบกับเส้นแนวโน้มในช่อง1 หากหันหัวไปในทิศทางเดียวกัน โอกาสที่จะผิดพลาดก็มีน้อย ส่วนเส้นปะสีเหลืองทองและฟ้า หากขึ้นเหนือเลข80 เข้าสู่เขตซื้อเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ทุกเมื่อ หากลงต่ำกว่าเลข20 เข้าสู่เขตขายเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ตลอดเวลา ช่อง3 ให้ดูทั้ง2เส้น คือเหลืองทองและฟ้า หันหัวไปทิศทางเดียวกันหรือไม่ เท่านั้นยังไม่พอ ให้ดูประกอบทิศทางในช่อง1ว่าเป็นทิศทางเดียวกันหรือไม่ หากทิศทางหันหัวในแนวเดียวกัน ทิศทางนั้นเชื่อถือได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
IPSUM
|
 |
« ตอบ #312 เมื่อ: มกราคม 18, 2010, 08:51:50 AM » |
|
อนุโมทนาครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
รัก เธอ ประ เทศ ไทย รัก เธอ ตลอด ไป...
|
|
|
ทองใหม่
|
 |
« ตอบ #313 เมื่อ: มกราคม 18, 2010, 09:34:45 AM » |
|
เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า ฉุดราคาทองคำปิดร่วงกว่า 12 เหรียญ
Posted on Monday, January 18, 2010 ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น หลังจากสหรัฐฯเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนธ.ค. 2552 ขยับขึ้น 0.1% ขณะที่ CPI ซึ่งไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.1% เช่นกัน
นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังคงได้รับปัจจัยลบจากข่าวธนาคารกลางจีนประกาศเพิ่มสัดส่วนการกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ 0.5% เพื่อควบคุมการขยายตัวของเศรษฐกิจและสกัดกั้นเงินเฟ้อ
ตลาดทองคำ COMEX จะปิดทำการวันจันทร์ที่ 18 ม.ค.นี้ เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ - ทองคำ ส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ปิดที่ 1,130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ (-12.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์) - เงิน ส่งมอบเดือนมีนาคม ปิดที่ 18.427 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ (-0.22 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ทองใหม่
|
 |
« ตอบ #314 เมื่อ: มกราคม 18, 2010, 10:20:11 AM » |
|
6 มหาอำนาจไม่ได้ข้อสรุปเรื่องมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านพัฒนานิวเคลียร์
Posted on Monday, January 18, 2010 6 มหาอำนาจไม่ได้ข้อสรุปเรื่องมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน
6 ประเทศมหาอำนาจ ซึ่งประกอบด้วย 5 ชาติสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา จีน รัสเซีย อังกฤษ และฝรั่งเศส พร้อมด้วยเยอรมนี ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านได้ในการประชุมว่าด้วยเรื่องนิวเคลียร์อิหร่านที่กรุงนิวยอร์กวานนี้
รมช.ต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เก รยาบคอฟ เผยภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมนาน 2 ชั่วโมงครึ่งว่า ที่ประชุมไม่ได้ข้อสรุปที่แน่ชัดเกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านเพิ่มเติม จึงยังไม่มีการตัดสินใจใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ในทันที อย่างไรก็ดี ที่ประชุมได้เริ่มเข้าสู่การเจรจาในขั้นต่อไปแล้ว
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การประชุมเริ่มต้นขึ้นหลัง 12.00 น. วันเสาร์ (24.00 น. ตามเวลาประเทศไทย) ที่สำนักงานองค์การสหประชาชาติในนิวยอร์กซิตี้ ซึ่งมีขึ้นในขณะที่สหรัฐกำลังผลักดันมาตรการคว่ำบาตรใหม่ๆต่ออิหร่าน หลังจากที่อิหร่านยืนกรานปฏิเสธยกเลิกโครงการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมเพื่อการพัฒนานิวเคลียร์
วิลเลียม เบิร์นส ผู้แทนจากสหรัฐกล่าวว่า "เป็นการประชุมที่มีประโยชน์" ขณะที่โรเบิร์ต คูเปอร์ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหภาพยุโรปซึ่งเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในครั้งนี้ กล่าวว่า ที่ประชุมยังคงมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และยังคงยึดมั่นที่จะใช้วิธี ''dual track'' กับอิหร่านต่อไป ซึ่งหมายถึงการหาทางเจรจาต่อรองควบคู่ไปกับการกดดันด้วยมาตรการคว่ำบาตร ซึ่งนายคูเปอร์เผยว่า การประชุมครั้งนี้ได้เน้นไปที่การหารือเรื่องมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติม แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเลิกใช้วิธีเจรจาโดยสิ้นเชิง
ตลาดคาดดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐฯ บวกต่อ จับตาเงินยูโร
สัปดาห์ที่ผ่านมายังมีความเข้มข้นสำหรับข่าวการโจมตีระบบคอมพิวเตอร์ของบริษัท Google ในประเทศจีน ที่พร้อมกันนั้นยังมีการเปิดเผยว่ายังมีบริษัทอินเตอร์เน็ตอีกหลายรายที่กำลังตกเป็นเป้าเช่นเดียวกัน รวมถึง คู่แข่งอย่างบริษัท Yahoo จนทำให้เรื่องนี้ได้กลายเป็นประเด็นทางการเมืองระดับชาติไปแล้ว
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องการเสนอเก็บภาษีในภาคธนาคารของสหรัฐฯ ก็กำลังเป็นที่จับตาของนักลงทุน หลังประธานาธิบดี บารัค โอบามา เปิดเผยว่า ได้เสนอให้มีการจัดเก็บภาษีจากธนาคารขนาดใหญ่กว่า 50 แห่งสำหรับการช่วยเหลือธุรกิจของสถาบันการเงินเหล่านี้ โดยเงินภาษีดังกล่าวอาจสร้างภาระให้กับธนาคารชั้นนำ อย่าง JPMorgan Chase และ Bank of America เป็นจำนวนที่มากกว่ารายละ 1,500 ล้านเหรียญต่อปีเลยทีเดียว
สำหรับปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ต้องติดตามต่อในสัปดาห์นี้ ที่สำคัญก็มี ดัชนีชี้นำทางเศรษฐกิจจาก The Conference Board ที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะยังขยับขึ้นต่ออีกเป็นเดือนที่ 9 แล้ว ขณะที่อีกหนึ่งรายงานในตลาดบ้าน น่าจะแสดงถึงสภาวะการก่อสร้างที่ยังคงทรงตัว และนี่ก็หมายถึงกลไกที่จะมาช่วยผลักดันเศรษฐกิจยังคงถูกจำกัดอยู่ในตอนนี้
แนวโน้มความซบเซาสามารถสะท้อนได้จากจำนวนการขออนุญาตก่อสร้าง ที่หลายคนคาดการณ์ว่าตัวเลขจะออกมาร่วงลงกว่า 1% ในเดือนธันวาคม หลังจากกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยยอดขายบ้านใหม่ปรับตัวลง 11% ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงที่มาตรการจูงใจทางภาษีสำหรับผู้ซื้อบ้านหลังแรกกำลังจะหมดอายุลง
นอกจากนั้น ยังมีผลสำรวจของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในส่วนของสภาวะการผลิตในแถบ Philadelphia ที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะขยายตัวในอัตราที่ช้าลงในเดือนมกราคม หลังจากถีบตัวขึ้นอย่างมากในช่วง 4 เดือนก่อนหน้านี้
สำหรับปัจจัยเรื่องค่าเงินก็ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ต้องติดตาม เพราะจะมีผลต่อแนวโน้มการเคลื่อนย้ายเงินทุนในอนาคต หลังจากที่เงินยูโรอ่อนค่าลงไปอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อเทียบกับเงินเยน และยังร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ด้วยเช่นกัน ปัจจัยหลักๆ ก็มาจากประเทศกรีซ ที่กำลังดิ้นหาทางออกในเรื่องการขาดดุลงบประมาณอย่างหนัก ขณะเดียวกัน ก็มีความเห็นออกมาจากฝั่งของประธานธนาคารกลางยุโรป Jean-Claude Trichet ว่า แนวโน้มของประเทศในภูมิภาคยังมีความไม่แน่นอน
เศรษฐกิจออสซี่ไปโลด รัฐบาลจ่อทยอยดึงเงินอัดฉีดกลับ
มีการแสดงความคิดเห็นกันออกมาตลอดทุกสัปดาห์เกี่ยวกับการถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลประเทศต่างๆ ล่าสุดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของออสเตรเลีย Wayne Swan ก็บอกว่า รัฐบาลจะค่อยๆ ดึงโครงการอัดฉีดเงินออกจากระบบอย่างระมัดระวัง หลังจากที่เห็นสัญญาณการใช้จ่ายภาคเอกชนขยับตัวดีขึ้น ซึ่งเป็นการแตะเบรคการขยายตัวทางเศรษฐกิจตลอดทั้งปี 2553 นี้
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ออสเตรเลียเป็นเพียงไม่กี่ประเทศที่สามารถสลัดหลุดพ้นออกมาจากความถดถอยทางเศรษฐกิจอย่างไม่ยากนัก ที่ชัดๆ คือดูจากตัวเลขของสำนักงานสถิติที่ออกมารายงานสภาวะการจ้างงานเดือนธันวาคม ปรับเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน และแถมยังเป็นอัตราการเพิ่มที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ถึงสามเท่า
นี่ยังไม่รวมทางฟากของนโยบายการเงิน ภายใต้การนำของผู้ว่าการธนาคารกลาง Glenn Stevens ที่เป็นผู้เดินนำหน้าธนาคารกลางแห่งอื่นๆ ในโลกด้วยการปรับขึ้นดอกเบี้ยมาแล้วถึง 3 ครั้งติดต่อกันนับตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว
เจ้าของความเคลื่อนไหวในคราวนี้ ก็คือ รัฐมนตรีคลัง Swan ได้ให้เหตุผลว่า นโยบายกระตุ้นต่างๆ ที่นำออกมาใช้ในช่วงที่ผ่านมาได้มุ่งเน้นและเจาะจงไปให้มีผลกระทบสูงสุดในช่วงไตรมาสที่สองของปีที่แล้ว ก่อนที่จะค่อยๆ เบาแรงอัดฉีดทั้งหลายลง เขายังขยายความต่อว่า รัฐบาลของนาย Kevin Rudd ได้กระจายการลงทุนไปยังโครงการถนนหลวงสายต่างๆ ทางรถไฟ ท่าเรือ ไปจนถึงภาคการศึกษา ซึ่งก็คือ โรงเรียน ทั้งหมดก็ทำเพื่อให้มั่นใจว่าเศรษฐกิจจะเดินหน้าเติบโตไปอย่างมั่นคง ขณะที่แรงกดดันของเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ
และหากมองไปข้างหน้า เศรษฐกิจของประเทศยักษ์ใหญ่รายนี้ยังมีความท้าทายรออยู่อีกมาก โดยเฉพาะเรื่องตลาดแรงงานที่ค่อนข้างมีแนวโน้มตึงตัวในช่วง 3 ปีจากนี้ เมื่อธุรกิจขนาดใหญ่ต่างๆ จ่อเข้ามาดึงตัวคนทำงานกันอย่างมาก ตัวอย่างที่เห็นก็รวมถึง บริษัท Chevron ที่กำลังขยายโปรเจ็กต์ LNG หรือก๊าซปิโตรเลียมเหลว ที่ภาคตะวันตกของประเทศ ตามแผนการขยายกำลังการผลิตเพื่อให้สอดรับกับความต้องการพลังงานในตลาดโลก
ปัจจัยดังกล่าวก็เป็นเพียงหนึ่งตัวอย่างเล็กๆ ที่อาจจะทำให้ธนาคารกลางออสเตรเลียประกาศขึ้นดอกเบี้ย หรือที่เรียกว่า overnight cash rate ขึ้นอีก 25 basis points ไปอยู่ที่ระดับ 4% สำหรับการประชุมในเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้
ยอดขายรถยนต์ในยุโรปปี 52 ลดลง 1.6%
สมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่งยุโรป (ACEA) เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์โดยรวมตลอดปี 2552 ของ 28 ประเทศในยุโรป ลดลง 1.6% แตะที่ 14.5 ล้านคัน แม้ยอดขายเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 16% ก็ตาม ซึ่งบ่งชี้ว่า อุตสาหกรรมรถยนต์ยุโรปยังไม่ฟื้นตัว
รายงานระบุว่า หลายประเทศในยุโรปที่มีการใช้นโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรมรถยนต์ มียอดขายรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นในปี 2552 รวมถึงฝรั่งเศส และเยอรมนี ขณะที่ยอดขายรถยนต์ในอังกฤษหดตัวลง 6.4% ในปี 2552
ส่วนเยอรมนีเป็นประเทศที่ทำยอดขายรถยนต์มากที่สุดในปี 2552 โดยยอดขายปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 23%
ก่อนหน้านี้ ออโต้ดาต้า คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านอุตสาหกรรมรถยนต์ในสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ใหม่ประจำปี 2552 ของสหรัฐ ร่วงลงมากกว่า 20% แตะที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 10.43 ล้านคัน ซึ่งน้อยกว่ายอดขายรถยนต์ในจีนที่ระดับ 12.23 ล้านคันในช่วงเดือนม.ค. - พ.ย.2552 ซึ่งหนุนให้จีนก้าวขึ้นเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของโลกเป็นครั้งแรก
สหรัฐ-ยูเอ็นผนึกกำลังช่วยเฮติ คาดยอดตายพุ่งแตะ 1 แสน
เจ้าหน้าที่สหรัฐ และองค์การสหประชาชาติ (UN) ทำงานอย่างเคียงบ่าเคียงไหล่กับหน่วยงานบรรเทาทุกข์ในเฮติ ขณะที่เจ้าหน้าที่เฮติประมาณการว่ายอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหว 7.0 ริกเตอร์เมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมาอาจพุ่งขึ้นเป็น 100,000 คน
นอกจากนี้ การจราจรติดขัดที่สนามบินนานาชาติเฮติยังส่งผลให้หน่วยงานของนานาประเทศต้องลำเลียงปัจจัยผ่านทางภาคพื้นดินของสาธารณรัฐโดมินิแกน
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจะเปิดประชุม วันที่ 18 ม.ค. 53 เพื่อหารือแผนประสานการให้ความช่วยเหลือจากนานาประเทศแก่เฮติหลังภัยพิบัติแผ่นดินไหว โดยเป็นการริเริ่มของเม็กซิโกและจีน ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานคณะมนตรีความมั่นคง โดยเม็กซิโกนั้นเล็งเห็นถึงความจำเป็นอย่างยิ่งที่คณะมนตรีความมั่นคงจะต้องเข้ามาให้การสนับสนุนความช่วยเหลือแก่รัฐบาลเฮติ และคาดว่า นายบัน คี-มุน เลขาธิการสหประชาชาติ ซึ่งมีกำหนดเดินทางไปตรวจสภาพความเสียหายที่เฮติวันนี้ จะเข้าร่วมประชุมด้วย
สถานการณ์ในเฮติทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ความวุ่นวาย เหตุรุนแรงและปล้นสะดม หลังเผชิญแผ่นดินไหวที่กรุงปอร์โตแปรงซ์เมื่อวันอังคาร โดยฝูงชนราว 1,000 คน จับอาวุธแย่งชิงสินค้าตามร้านค้าบนท้องถนนทุกอย่างเข้าสู่จลาจลและตำรวจละทิ้งหน้าที่ไปแล้ว ชาวบ้านต่างต่อสู้ ทุบตีและขว้างปาก้อนหินใส่กันเอง
นางฮิลลารี คลินตัน รมว.ต่างประเทศของสหรัฐกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจและกองกำลังรักษาสันติภาพของยูเอ็นต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน และขณะนี้รัฐบาลเฮติได้มอบหมายให้สหรัฐส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลและควบคุมท่าอากาศยานนานาชาติเฮติแล้ว
นายบัน คี มูน เลขาธิการยูเอ็นออกมาเรียกร้องนานาประเทศให้ช่วยบริจาคเงิน 560 ล้านดอลลาร์เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดหาอาหาร น้ำ ที่อยู่อาศัยชั่วคราว และยารักษาโรคให้กับผู้ประสบภัยในเฮติ ซึ่งเงินจำนวนนี้เพียงพอสำหรับการจัดหาปัจจัยที่จำเป็นใน 6 เดือนข้างหน้า
นอกจากนี้มีรายงานว่า ซิตี้กรุ๊ป อิงค์ ซึ่งอาคารสำนักงานใหญ่ในเฮติได้พังทลายลงมาหลังจากเกิดแผ่นดินไหว ยังคงเดินหน้าค้นหาพนักงาน 8 คนที่คาดว่าจะติดอยู่ใต้ซากอาคาร โดยทีมค้นหาของซิตี้กรุ๊ปตั้งความหวังว่าจะพบพนักงานทั้ง 8 คนในสภาพที่ยังมีชีวิตอยู่
หลังจากเกิดแผ่นดินไหวได้เพียงวันเดียว นายวิกรม บัณฑิต ซีอีโอซิตี้กรุ๊ป ได้ส่งทีมงานชุดเฉพาะกิจมุ่งหน้าไปยังเมืองปอร์โตแปรงซ์ของเฮติ พร้อมด้วยอุปกรณ์ช่วยชีวิตและโทรศัพท์ระบบสัญญาณดาวเทียม โดยนายบัณฑิตกล่าวว่า ซิตี้กรุ๊ปให้ความสำคัญกับการช่วยชีวิตพนักงานเป็นลำดับแรก และจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินแก่เฮติ
จีนประกาศจับตาสถาณการณ์ปล่อยกู้ในประเทศ
คณะกรรมการกำกับดูแลด้านการธนาคารของจีนออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมในว่า คณะกรรมการฯกำลังจับตาดูสถานการณ์การปล่อยเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ภายในประเทศ หลังจากธนาคารกลางจีนเปิดเผยว่า ยอดการปล่อยเงินกู้ครั้งใหม่เดือนธ.ค. 2552 เพิ่มขึ้นแตะ 379,800 ล้านหยวน หรือ 55,600 ล้านดอลลาร์ จากเดือนพ.ย.ที่ 294,000 ล้านหยวน ส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อและฟองสบู่ในระบบเศรษฐกิจของจีน
หนึ่งในยุทธศาสตร์ที่ธนาคารกลางจีนนำมาใช้สกัดกั้นเงินเฟ้อคือการประกาศเพิ่มสัดส่วนการกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ 0.5% ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 18 มกราคม 2553 โดยธนาคารกลางจีนดำเนินการเพิ่มสัดส่วนการกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์รวดเร็วอย่างเหนือความคาดหมาย เพราะนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจีนจะดำเนินการดังกล่าวในเดือนเม.ย.
นายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่า ได้แสดงความวิตกกังวลต่อการที่ธนาคารพาณิชย์ของจีนปล่อยเงินกู้เป็นจำนวนเงินสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.35 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2552 ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดภาวะฟองสบู่ในตลาดหุ้นและตลาดอสังหาริมทรัพย์
ราคาอสังหาริมทรัพย์ของจีน รวมถึงอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยและเพื่อการค้า ใน 70 เขตเมือง พุ่งขึ้น 7.8% ในเดือนธ.ค.2552 ทำสถิติพุ่งขึ้นรวดเร็วที่สุดในรอบ 18 เดือน ทำให้คณะรัฐมนตรีของจีนเตรียมออกข้อกำหนดการควบคุมการซื้อบ้านเพื่อเก็งกำไรและการลงทุน รวมทั้งลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นจากการปล่อยเงินกู้เพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์
สหรัฐเรียกร้องอย่างเป็นทางการในประเด็นเว็บกูเกิล
โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ เปิดเผยว่าจะส่งหนังสืออย่างเป็นทางการไปยังรัฐบาลปักกิ่งใน 1-2 วันในช่วงต้นสัปดาห์หน้าเพื่อขอคำอธิบาย
นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ เรียกร้องอย่างไม่เป็นทางการไปยังจีนแล้ว ขณะเดียวกันทำเนียบขาวก็สนับสนุนการตัดสินใจของกูเกิลที่จะไม่ยอมรับการเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ตของจีน ความขัดแย้งดังกล่าวทำให้กูเกิลเตือนว่าอาจนำไปสู่การถอนตัวออกจากจีน
นับเป็นประเด็นความขัดแย้งอีกครั้งหนึ่งระหว่างจีนกับสหรัฐ หลังจากที่ทั้งสองประเทศมีความขัดแย้งในเรื่องของสภาพอากาศโลก ค่าเงินหยวนและความขัดแย้งทางการค้า
JAL ลั่นไม่รับเงินช่วนเหลือจากสายการบินต่างชาติ
เจแปนแอร์ไลน์ประกาศจะไม่รับเงินช่วยเหลือจากสายการบินของสหรัฐ แต่จะใช้วิธีขยายความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างกันแทน
สายการบินเจแปน แอร์ไลน์ ซึ่งกำลังมีปัญหาการเงินอย่างหนักและเตรียมยื่นเรื่องขอพิทักษ์ทรัพย์จะไม่ขอรับเงินช่วยเหลือจากสายการบินเดลตาแอร์ไลน์ และสายการบินอเมริกันแอร์ไลน์ แต่จะใช้วิธีขยายความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างกันแทน ส่วนจะเลือกจับมือกับสายการบินใดนั้น จะต้องรอหลังเดือนกุมภาพันธ์ไปก่อน
ส่วนแผนงานในการกอบกู้วิกฤตของ JAL นั้น คือ การตัดลด Operation cost กว่า 25% ภายใน 3 ปี ตั้งแต่นี้ไป จนถึง มี.ค. 2556 ในรูปแบบของการปรับลดขนาดเครื่องบิน เป็นต้น
สายการบินทั้งสองแห่งต่างแย่งชิงกันที่จะเป็นพันธมิตรกับเจแปน แอร์ไลน์ โดยเดลตาแอร์ไลน์ ซึ่งเป็นสายการบินใหญ่ที่สุดของโลกเสนอเงินช่วยเหลือ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แก่เจแปนแอร์ไลน์ ขณะที่อเมริกันแอร์ไลน์เสนอให้เงินถึง 1,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่ประกาศออกมาเมื่อวันศุกร์ที่ 15 ม.ค. 2553 ? ดัชนีราคาผู้บริโภค (ธ.ค.) เพิ่มขึ้น 0.1% จากเดือนก่อนหน้า ? ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (ธ.ค.) เพิ่มขึ้น 0.6% จากเดือนก่อนหน้า ? ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ม.ค.) อยู่ที่ระดับ 72.8 จุด
ติดตาม Money Wake up ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ออกอากาศซ้ำเวลา 11.00 น. ทาง Money Channel
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Gold Price today, Gold Trend Price Prediction, ราคาทองคํา, วิเคราะห์ทิศทางทองคํา
|
Thanks: ฝากรูป dictionary
---------------------Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. For more information on Moore Research products and services click here. --- http://www.mrci.com ----------
---------------------------------------------รูปกราฟแสดงราคาทองในอดีตปี 1974-1999 ของ Moore Research Center, Inc.
แสดงฤดูกาลที่ราคาทองขึ้นสูงสุดและตําสุด เอาแบบคร่าวๆ เส้นนําตาลหรือนําเงินก็ใกล้เคียงกัน เส้นนําตาลเฉลี่ย
15 ปี เส้นนําเงินเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุดของเส้นนําตาล หรือเฉลี่ย 15 ปี ในเดือน ปลายเดือน เมษ และปลายเดือน สค
ต่อต้นเดือน กย[/color] สูงสุดในเดือน กพ กับ พย / ส่วนเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุด ต้น กค กับ ปลาย สค และราคาสูงสุดในเดือน
กพ และ กลางเดือน ตค -----
แค่ดูคร่าวๆ เป็นแนวทาง อย่ายึดมั่นว่าจะต้องเป็นตามนี้
ข้างล่างเป็นกราฟราคานํามัน ตามฤดูกาล จาก Charts courtesy of Moore Research Center, Inc.
Thanks: ฝากรูป dictionary
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|