Forex-Currency Trading-Swiss based forex related website. Home ----- กระดานสนทนาหน้าแรก ----- Gold Chart,Silver,Copper,Oil Chart ----- gold-trend-price-prediction ----- ติดต่อเรา
หน้า: 1 ... 42 43 [44] 45 46 ... 51   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010  (อ่าน 57795 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
sa
Jr. Member
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 264


« ตอบ #645 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2010, 02:45:11 PM »

ขอบคุณสำหรับข้อมูลแล้วก็เพลงน่ารัก ๆ ค่ะ   เมื่อกี้สาแบ่งขายไปบ้างแล้วค่ะได้กำไร 200 / บาท เหลือไว้อีกส่วนรอขาย 1090 ค่ะ คุณทองใหม่ว่าจะไปถึงมั๊ยคะ
บันทึกการเข้า
ทองใหม่
Hero Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1062


« ตอบ #646 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2010, 03:19:17 PM »

ขอบคุณสำหรับข้อมูลแล้วก็เพลงน่ารัก ๆ ค่ะ   เมื่อกี้สาแบ่งขายไปบ้างแล้วค่ะได้กำไร 200 / บาท เหลือไว้อีกส่วนรอขาย 1090 ค่ะ คุณทองใหม่ว่าจะไปถึงมั๊ยคะ
มีโอกาสถึงมากเลยครับ Grin
บันทึกการเข้า
Neung99k
Full Member
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 565



« ตอบ #647 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2010, 07:05:51 PM »

สวัสดีครับพี่ทองใหม่ สุขภาพเป็นไงบ้างครับ  ข้อมูลแน่นปั๊งทุกวันน่ะครับ  Grin
บันทึกการเข้า

http://www.smart90days.com/neung999kk/  ธุรกิจท่องเที่ยวรับเงินแสน
http://www.azpaypoint.com/chitdech  รายจ่ายจะกลับมาเป็นรายได้
ทองใหม่
Hero Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1062


« ตอบ #648 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2010, 07:35:14 PM »

สวัสดีครับพี่ทองใหม่ สุขภาพเป็นไงบ้างครับ  ข้อมูลแน่นปั๊งทุกวันน่ะครับ  Grin
หวัดดีเช่นกันครับ ตอนนี้สุขภาพยังดีอยู่ครับ Grin
บันทึกการเข้า
ทองใหม่
Hero Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1062


« ตอบ #649 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2010, 06:50:08 AM »

เส้นปากถุง (BollingerBandsเส้นสีขาวทั้ง๓เส้น)แบบง่ายๆ ไม่ปวดเศียรเวียนเกล้า
เส้นบน---แนวต้าน
เส้นกลาง---แนวโน้ม(สำคัญสุด)
เส้นล่าง---แนวหนุน
ลักษณะที่๑---ทิศทางขึ้นเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น   เส้นกลางหันหัวขึ้น   เส้นล่างหันหัวลง
ลักษณะที่๒---ทิศทางขึ้นเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวขึ้น
เมื่อเจอลักษณะทั้ง๒นี้ ราคาระหว่างวันที่ขึ้นๆลงๆ เมื่อเจอจุดที่เห็นว่าต่ำแล้วให้ซื้อเข้าได้เลยครับ  ขอเพียงเส้นกลาง(แนวโน้ม)ยังหันหัวขึ้นอยู่ แม้ราคาเแท่งเทียนจะอยู่ต่ำกว่าเส้นกลาง ก็ยังซื้อเข้าได้ หากเส้นบนเดินขวางเมื่อไหร่ ให้ทยอยลดพอร์ตได้เลยครับ
ลักษณะที่๓---เลือกทิศทาง---เส้นบนหันหัวลง เส้นล่างหันหัวขี้น ปากถุงแคบลง ถึงช่วงนี้ ให้ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว หากใครยังคิดอยากเคลื่อนไหว ก็จงเคลื่อนไหวไปหน้าทีวี จงอย่าทำการอย่างอื่นใด หากใครเป็นจอมยุทธ์ ก็ชิงเคลื่อนไหวก่อนใครได้
ขอแถมอีกนิด จงโฟกัสที่เส้นกลาง หากเส้นกลางเริ่มขยบหัวหัวขึ้นหรือลง ทิศทางอาจขึ้นหรือลงตามเส้นกลางแนวโน้มนั้น
ลักษณะที่๔---เคลื่อนไหวในกรอบแคบ---เส้นบน กลาง ล่าง เดินขวางทั้ง๓เส้น หากใครเล่นออนไลน์ สามารถเล่นได้เล็กน้อยอย่ามาก เมื่อราคาแท่งเทียนใกล้เส้นบน จงขาย ใกล้เส้นล่าง จงซื้อ ต้องเข้าออกให้ทันการณ์ หาไม่แล้วจากกำไรอาจขาดทุนได้นา ขอบอก
ลักษณะที่๕---ทิศทางลงเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น เส้นกลางหันหัวลง เส้ยล่างหัวหัวลง
ลักษณะที่๖---ทิศทางลงเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวลง  เมื่อเส้นล่างเดินขวางเมื่อไหร่ ผู้ที่ใจกล้าที่เล่นออนไลน์ เริ่มทยอยซื้อเข้าได้ที่ละนิด อัตราเสี่ยงยังมีอยู่บ้างนะครับ สิบอกไห่
วิธีดูเส้นปากถุงที่กล่าวมานี้ .....ไม่ใช่ตำราของฝรั่ง แบบของฝรั่งผมเคยอ่านมาบ้างแล้ว ยาวมาก ปวดหัว ทำความเข้าใจได้ยากมากๆๆๆๆ ...........เหมาะเฉพาะกราฟราย๔ชม.และช่วงปกติเท่านั้นนะครับ  (บางครั้งตลาดจงใจคึงขึ้นลงอย่าแรงๆ แทบหัวใจวายสำหรับผู้มีทองในมือและผิดทิศทางของตัวเอง เรียกว่า ช่วงไม่ปกติครับ)

 
บันทึกการเข้า
ทองใหม่
Hero Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1062


« ตอบ #650 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2010, 06:51:12 AM »

กราฟGold 1
ช่อง1 เส้นแดงอยู่เหนือเส้นเขียว---ทิศทางขึ้น  ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น  สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นเขียวอยู่เหนือเส้นแดง---ทิศทางลง     ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นแดงและเขียวประสานเป็นกากะบาด ---กำลังจะเปลี่ยนทิศ ให้ดูเส้นแนวโน้มประกอบ  หากเส้นแดงและเขียวกำลังจะประสาน แต่ไม่ทันได้ประสานก็หันหันหัวกลับขึ้นหรือลง  แสดงว่ากำลังมีเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนี่งเกิดขึ้น หากขึ้นทะลุเส้นปะแนวต้าน ให้ดูเส้นปะแนวต้านเส้นต่อไป หากลงทะลุเส้นปะแนวหนุน ให้ดูเส้นแนวหนุนเส้นต่อไป   ส่วนจุดกลมเหลืองทอง---ทิศทางลง  จุดกลมฟ้า---ทิศทางขึ้น  หากกราฟวิ่งในยามปกติ พอเชื่อถือได้ หากกราฟวิ่งขึ้นลงแรงๆ คือยามไม่ปกติ ไม่อาจเชือถือได้
ช่อง2 ให้ดูเส้นสีม่วง ประกอบกับเส้นแนวโน้มในช่อง1 หากหันหัวไปในทิศทางเดียวกัน  โอกาสที่จะผิดพลาดก็มีน้อย  ส่วนเส้นปะสีเหลืองทองและฟ้า หากขึ้นเหนือเลข80 เข้าสู่เขตซื้อเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ทุกเมื่อ  หากลงต่ำกว่าเลข20 เข้าสู่เขตขายเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ตลอดเวลา
ช่อง3   ให้ดูทั้ง2เส้น คือเหลืองทองและฟ้า หันหัวไปทิศทางเดียวกันหรือไม่  เท่านั้นยังไม่พอ  ให้ดูประกอบทิศทางในช่อง1ว่าเป็นทิศทางเดียวกันหรือไม่  หากทิศทางหันหัวในแนวเดียวกัน  ทิศทางนั้นเชื่อถือได้

 
บันทึกการเข้า
ทองใหม่
Hero Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1062


« ตอบ #651 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2010, 06:54:02 AM »

 
บันทึกการเข้า
ทองใหม่
Hero Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1062


« ตอบ #652 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2010, 06:58:49 AM »

  วิธีดูทิศทางทอง ต้าน๓----หนุน๓เป็นทิศทางทองที่จะเคลื่อนไหวในวันนี้ หากพุ่งทะลุต้าน๓หรือดิ่งทะลวงหนุน๓ แสดงถึงวันนั้นทองเคลื่อนไหวแรงเกินปกติ เส้นแดนเป็นเส้นที่จะแบ่งแยกทิศทางของทองที่จะขึ้นหรือลง หากทองเคลื่อนไหวอยู่ในทิศทางใดมากและนาน นั่นหมายถึงโอกาสเป็นไปได้มากที่ทองจะเคลื่อนไปในทิศทางนั้นๆ ในช่วงเวลานั้น (ยังต้องแบ่งออกในช่วงเวลาตลาดเอเซีย ยุโรป เมกาด้วย) ต้าน๑และหนุน๑หากถูกทดสอบแบบมีผล(ขึ้นลงมากกว่า๑ครั้ง)แล้วยืนอยู่ได้ นั่นคือทิศทางทองที่จะเดินต่อไปในช่วงเวลานั้น หากการวิเคราะเกิดขัดแย้งกันเมื่อไหร่ ให้หยุดมองดูอย่างเดียว ไม่ควรซื้อ-ขายในช่วงเวลานั้น แนวทางนี้เหมาะกับการเล่นสั้นมาก (เล่นแบบออนไลน์ในอนาคต) มีความแม่นยำถึง80%ครับ อีกอย่างข่าวปัจจัยพื้นฐานอาจเปลี่ยนทิศทางทองได้กะทันหันนะครับ
ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์กับการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย ถัาติดดอยเมื่อทองต่ำลงมา  หากยังมีเงินเหลืออยู่ ควรซื้อเพิ่ม เพิ่มที่ละนิด ต่ำอีกซื้ออีก เพื่อดึงต้นทุนที่สูงให้ต่ำลงมา ใครที่ยังไม่มีทองในมือควรทยอยซื้อเข้าอย่ามากนัก หากทองลงอีก เราก็ซื้ออีก ดีกว่าเวลาทองขึ้นเราไปไล่ซื้อในราคาที่สูง  จดจำเป็นคติเตือนใจว่า  เรามิอาจซื้อได้ในราคาที่ต่ำสุด และขายได้ในราคาที่สูงสุด ไม่มีการลงทุนใดที่ไม่เสี่ยง การบริหารพอร์ตให้ได้จังหวะ จะลดความเสี่ยงลงได้ครับ
กราฟสำคัญ ปัจจัยพื้นฐานก็สำคัญ จิตวิทยาการโน้มเอียงของคนก็สำคัญ สิ่งเหล่านี้หากเป็นไปในแนวเดียวกัน ก็จะมุ่งไปทางนั้น หากแย้งกันก็ต้องดูฝ่ายไหนเหนือกว่า.....ด้วยเหตุนี้ไม่มีนักวิเคราะห์คนใดที่จะทำนายได้แม่นยำตลอดกาลได้ครับ

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 11, 2010, 07:18:57 AM โดย ทองใหม่ » บันทึกการเข้า
อุ๊
Hero Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1778



« ตอบ #653 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2010, 10:02:00 AM »

มารับอั้งเปาค่ะ Grin
บันทึกการเข้า
ทองใหม่
Hero Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1062


« ตอบ #654 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2010, 10:27:13 AM »

ดัชนีไทย60นาที
บันทึกการเข้า
ทองใหม่
Hero Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1062


« ตอบ #655 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2010, 10:30:03 AM »

ดัชนีไทยรายวัน
บันทึกการเข้า
ทองใหม่
Hero Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1062


« ตอบ #656 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2010, 10:37:02 AM »

ราคาทองคำปิดลบ หลังประธานเฟดเผยแผยถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

Posted on Thursday, February 11, 2010
สัญญาทองคำร่วงลงเพราะถูกดดันจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น โดยเมื่อวานนี้ ดัชนี ICE Futures US dollar ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลักของสหรัฐฯ พุ่งขึ้น 0.2% หลังจากนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) แถลงต่อสภาคองเกรสเมื่อคืนนี้ว่า FED วางแผนถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ครอบคลุมถึงการใช้นโยบายคุมเข้มด้านสินเชื่อ

- ทองคำ ส่งมอบเดือนเมษายน ปิดที่ 1,076.30 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ (-0.90 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์)
- เงิน ส่งมอบเดือนมีนาคม ปิดที่ 15.30 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ (-0.13 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์)
 
บันทึกการเข้า
ทองใหม่
Hero Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1062


« ตอบ #657 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2010, 10:43:39 AM »

11 ก.พ. 2553


สรุปภาวะตลาดเมื่อวาน


ราคาโกลด์ฟิวเจอร์สแกว่งตัวอยู่ในช่วงแคบ ในขณะที่ราคารทองคำสปอตแกว่งตัวอยู่ในช่วงกว้างกว่าและแกว่งตัวรุนแรงเมื่อคืน ทองคำแท่งสมาคมฯปิดที่ 16,900/17,000 บาท เงินบาททรงตัว
ปัจจัยที่อาจส่งผลต่อเนื่องถึงวันนี้


       ฝรั่งเศสรายงานผลการผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงกว่าคาดอย่างมากและยังปรับตัวเลขรายงานของเดือนก่อนหน้านี้ลดลงอีกสร้างความตื่นตระหนกให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์อย่างรุนแรง อย่างไรก็ตามตัวเลขที่แย่ดังกล่าวได้ถูกปรับลดลงไปด้วยการปรับวิธีการคิดคำนวณเท่านั้น ไม่ได้เกิดจากปัญหาเศรษฐกิจรุนแรงแต่อย่างใด รายงานดังกล่าวจึงสร้างความผันผวนให้กับราคาทองคำเป็นอย่างดี  [French Government, TCAF Research]
       ราคาหุ้นและทองคำปรับตัวลดลงรุนแรงเมื่อ นายเบอร์นานกี้ ประธานเฟดให้ความเห็นในสภาว่าเฟดเตรียมการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในไม่ช้าเพื่อลดเม็ดเงินในตลาดแทนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวจะเป็นการลดปริมาณเม็ดเงินในตลาดโดยไม่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อธุรกิจธนาคารและต่อเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามความเห็นดังกล่าวได้ส่งผลกระทบรุนแรงต่อสินทรัพย์เสี่ยงทั้งหุ้นและทองคำ เนื่องจากนักลงทุนเห็นว่าอาจกระทบต่อมุมมองแนวโน้มการเติบโตเศรษฐกิจในระยะสั้นได้  [US FRB, TCAF Research]
       ราคาหุ้นและทองคำค่อยๆปรับตัวกลับขึ้นมาเมื่อนักลงทุนเริ่มเห็นว่าประเทศในยุโรปเริ่มกลับมาใส่ใจพยายามช่วยเหลือกรีซอย่างจริงจังโดยเฉพาะจากฝรั่งเศสและเยอรมัน และล่าสุดที่สมาชิกกลุ่มอียู16มีการหารือพิเศษก่อนการประชุมสุดยอดกลุ่มในวันนี้และมีการมอบหมายงานให้เพื่อสรุปให้ได้ว่าทางกลุ่มจะช่วยเหลือกรีซได้อย่างไร โดยเฉพาะมีกฎอียูบัญญัติไว้ว่าห้ามประเทศสมาชิกใช้หนี้แทนกัน อย่างไรก็ตามความใส่ใจดังกล่าวได้เรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับคืนมาผลักดันให้ราคาทองคำและหุ้นปรับตัวกลับขึ้นไป  [Reuters, TCAF Research]
แนวโน้มทองคำวันนี้


ความเชื่อมั่นของนักลงทุนเริ่มกลับมาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะแนวโน้มที่กลุ่มอียูจะช่วยเหลือกรีซอย่างจริงจัง ในขณะที่เฟดยังไม่มีแนวโน้มเพิ่มอัตราเงินกู้ เราจึงมองว่า "ราคาทองคำน่าจะปรับตัวขึ้นต่อ" และแนะนำให้ "สะสม LONG GF ที่มีพรีเมียมต่อเดือนไม่สูงมากนัก โดยจะต้องจับตาการประชุมสุดยอดอียูอย่างใกล้ชิด"
มุมมองทองคำ


มาตรการต่างๆของมหาอำนาจและพฤติกรรมของผู้บริโภคน่าจะส่งผลต่อราคาทองคำได้ดีที่สุด โดยเรามองว่าเศรษฐกิจโลกน่าจะชัดเจนแล้วว่าสามารถฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง
บันทึกการเข้า
ทองใหม่
Hero Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1062


« ตอบ #658 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2010, 10:45:24 AM »

ประเด็นสำคัญ
-         ราคาทองจากปัจจัย ดอลล์แข็ง ฉุดทองคำปิดลบ 90 เซนต์
-         ยูโรร่วงจากวิตกปัญหากรีซ ขณะวาทะ"เบอร์นันเก้"หนุนดอลล์ 
-         น้ำมันดิบปิดพุ่ง 77 เซนต์ หลังสหรัฐเพิ่มคาดการณ์ดีมานด์พลังงาน
-         ดาวโจนส์ปิดลบ 20.26 จุด จากข่าวเฟดเล็งถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ


    สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (10 ก.พ.) เพราะได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น หลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยแนวทางการถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
     สัญญาทองคำส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 1,076.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 90.00 เซนต์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,063.10-1,083.00 ดอลลาร์ ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 15.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 13.50 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลงสู่ระดับ 2.989 ดอลลาร์/ปอนด์ ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 1,512.90 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 10.50 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 413.35 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 3.25 ดอลลาร์
       สัญญาทองคำร่วงลงเพราะถูกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น โดยเมื่อวานนี้ ดัชนี ICE Futures US dollar ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลักของสหรัฐ พุ่งขึ้น 0.2% หลังจากเบอร์นันเก้แถลงต่อสภาคองเกรสเมื่อคืนนี้ว่า เฟดวางแผนถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ครอบคลุมถึงการใช้นโยบายคุมเข้มด้านสินเชื่อ     
    นักลงทุนจับตาดูรายงานเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ยอดค้าปลีกเดือนม.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนก.พ.ของสหรัฐ
 กองทุน SPDR Gold trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยว่าทางกองทุนได้ถือครองทองแท่งระดับ 1,106.378 ตัน ณ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2553 เพิ่มขึ้น 1.828 ตัน จากวันที่ 5 กุมภาพันธ์
       กลยุทธ์ :  สัปดาห์นี้ราคาทองอาจจะแกว่งในกรอบ Correction แกว่งในกรอบ 1,085 ? 1,060US$ เท่านั้น ให้เล่นสั้นทำกำไร อาจจะหาจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาปรับฐานลงมาได้ในต้นสัปดาห์ แล้วหาโอกาสขายทิ้งช่วงวันศุกร์ทำกำไร เพราะจะมีโอกาสลงไปที่แนวแนวระดับราคา 1040 US$ อีกรอบในปลายเดือนเกิดขึ้นได้
บันทึกการเข้า
ทองใหม่
Hero Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1062


« ตอบ #659 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2010, 11:05:10 AM »

ประธานเฟดเล็งเพิ่มดอกเบี้ยปล่อยกู้ให้แก่สถาบันการเงิน หวังปรับระบบให้เข้าสู่ภาวะปกติ

Posted on Thursday, February 11, 2010
ประธานเฟดย้ำปรับดอกเบี้ย ฉุด Dow Jones ร่วง

แม้ว่าดัชนีหุ้นยุโรปจะปิดบวกได้เป็นวันที่ 3 ท่ามกลางการเก็งว่ารัฐบาลเยอรมันจะออกเสียงสนับสนุนการช่วยเหลือทางการเงินแก่ประเทศกรีซ จนคลายความกังวลเรื่องความสามารถในการจ่ายหนี้ที่จะกระทบการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แต่ที่ทางสหรัฐฯ กลับมีปัจจัยในเรื่องดอกเบี้ยกลับเข้ามา รวมถึงผลประกอบการไตรมาสแรกของบางบริษัทที่ออกมาผิดความคาดหมาย

ปัจจัยดอกเบี้ยครั้งนี้ออกมาจากปากของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ Ben Bernanke สำหรับการเตรียมแถลงต่อคณะกรรมการที่ดูแลทางด้านการเงินของสภาผู้แทนราษฎร

Bernanke บอกว่า เฟดอาจจะปรับเพิ่ม discount rate หรืออัตราดอกเบี้ยที่ปล่อยกู้ให้กับสถาบันการเงิน เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายที่ต้องการดึงกระบวนการปล่อยกู้ในระบบกลับเข้าสู่สภาวะปกติอีกครั้งก่อนที่จะนานเกินไป พร้อมกับย้ำว่านโยบายนี้ไม่ได้ถือเป็นสัญญาณการเปลี่ยนมุมมองทางด้านนโยบายการเงินแต่อย่างใด

ประธานเฟดยังให้ความมั่นใจว่านโยบายดอกเบี้ยต่ำยังจะดำเนินอยู่ต่อไป โดยเฟดอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงตัวดอกเบี้ยนโยบายที่ใช้ไว้ชั่วคราว คือการเปลี่ยนจากที่เคยใช้ Fed funds rate มาเป็นดอกเบี้ยที่จ่ายให้กับเงินฝากของสถาบันการเงิน หากพบว่า Fed funds rate ยังไม่เคลื่อนไหวสอดคล้องกับสภาวะตลาดที่เกิดขึ้นจริงและไม่สามารถใช้เป็นเครื่องชี้วัดได้เหมือนปกติ

ข้อมูลล่าสุดระบุว่า การกู้ยืมของสถาบันการเงินจากเฟด หรือที่เรียกว่าช่องทาง discount window มีอยู่รวมกัน 14,700 ล้านเหรียญ ณ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ลดลงจากระดับ 100,000 ล้านเหรียญที่เคยเกิดขึ้นหลังเกิดเหตุวิกฤติ Lehman Brothers ในเดือนตุลาคมปี 2551

กลับมาดูที่ตลาดหุ้น บริษัทรายล่าสุดที่สร้างความผิดหวังให้กับนักวิเคราะห์ก็คือ ผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สายรายใหญ่อันดับ 3 ของสหรัฐฯ อย่าง Sprint Nextel หลังจากลูกค้าเปลี่ยนใจหันไปซบค่ายคู่แข่งที่ชูตัวโทรศัพท์ยอดนิยม อย่าง iPhone ให้แก่ลูกค้า และฉุดให้ยอดขายของบริษัทในไตรมาส 4 ออกมาปรับตัวลงกว่า 6%

หุ้นของ Sprint ดิ่งลงแรงที่สุดในรอบ 6 เดือนเมื่อคืนนี้


ยักษ์ผลิตเหล็ก ArcelorMittal เผยมุมมองกำไร Q1 ต่ำกว่าคาด

มีคนบอกว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นหรือไม่ฟื้นอาจดูได้จากแนวโน้มราคาสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะสินค้าจำพวกวัตถุดิบอุตสาหกรรม อย่างเช่น เหล็ก ที่มีดีมานด์จากทั่วโลกเป็นตัวขับเคลื่อน แต่สถานการณ์ของราคาเหล็กท่ามกลางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในรอบนี้อาจจะไม่เหมือนครั้งก่อนๆ ที่จะสามารถช่วยให้บริษัทผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ที่สุดของโลก ArcelorMittal พ้นจากสภาวะการตกต่ำของผลกำไรได้

ราคาหุ้นของยักษ์ใหญ่เหมืองเหล็กที่มีฐานอยู่ใน Luxembourg ดิ่งลงแรงที่สุดในรอบ 6 เดือน หลังบริษัทออกมาเตือนถึงผลกำไรไตรมาสแรกที่ต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ นั่นก็เพราะสภาวะราคาที่ยังคงร่วงลงและต้นทุนที่สูงขึ้น

Arcelor ประเมินรายได้ก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา หรือที่เรียกว่า Ebitda (อีบิทดา) จะออกมาอยู่แถวๆ 1,800 ? 2,200 ล้านเหรียญ ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะอยู่ที่ประมาณ 2,700 ล้านเหรียญ

นักวิเคราะห์รายหนึ่งใน Amsterdam มองว่า เป็นเพราะวัตถุดิบที่เป็นสินแร่เหล็ก และถ่านหินโค้ก หรือ Coking Coal วิ่งขึ้นไปไกลเกินกว่าที่ราคาเหล็กจะไล่ตามทัน ทำให้บริษัทเกิดปัญหาในเรื่องมาร์จิ้น จนต้องยอมเปิดเผยมุมมองที่น่าผิดหวังออกมา

ออเดอร์ของบริษัทในไตรมาสแรกได้ถูกบันทึกไว้ในบัญชีงวดไตรมาส 4 ซึ่งเป็นช่วงที่มีข้อมูลระบุว่า ราคาเหล็กรีดร้อน (Hot-rolled coil) ที่เป็นวัตถุดิบสำหรับไว้ใช้ในอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์และภาคก่อสร้าง ร่วงลงถึง 15% ซึ่งไปส่งผลลบล้างการปรับตัวขึ้น 16% ในไตรมาส 3 ที่เป็นอัตราการเพิ่มที่สูงสุดในรอบ 15 เดือน

ทางด้านหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินก็กล่าวยอมรับว่า ในไตรมาส 4 บริษัทเผชิญกับสภาวะราคาที่ปรับตัวลง ซึ่งส่งผลต่ออุตสาหกรรมเหล็กทั่วทั้งโลก ขณะแนวโน้มโดยรวมก็ยังคงดูอ่อนแออยู่ เหมือนกับที่บางคนยังมีความเป็นห่วงว่าเศรษฐกิจโลกรอบนี้จะฟื้นเร็วหรือช้าอย่างไร และตรงนี้ก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ราคาร่วงลง

ArcelorMittal รายงานกำไรไตรมาส 4 ที่ 1,070 ล้านเหรียญ เมื่อเทียบกับตัวเลขขาดทุน 2,630 ล้านเหรียญในไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า ขณะที่ยอดขายกลับเพิ่มขึ้น 16% มาอยู่ที่ 18,600 ล้านเหรียญ

ต้นทุนมีทิศทางจะขยับขึ้นในไตรมาสแรกนี้ ซึ่งเป็นไปตามแนวโน้มราคาวัตถุดิบ ขณะที่บริษัทกำลังกลับมาเดินเครื่องเตาหลอมอีกครั้ง โดยนักวิเคราะห์จาก Credit Suisse Group ประมาณการว่าตัว Iron-ore หรือสินแร่เหล็ก จะเพิ่มขึ้น 50% ในปีนี้ ขณะที่ analyst จากอีกค่าย อย่าง Nomura Holdings ก็คาดการณ์ว่า ถ่านหินโค้กอาจจะพุ่งขึ้นทะลุระดับ 200 เหรียญต่อเมตริกตัน จากที่อยู่ระดับเฉียดๆ 130 เหรียญในขณะนี้


โซรอสมั่นใจกรีซสามารถรักษาสถานะชาติสมาชิกยุโรปได้

จอร์จ โซรอส มหาเศรษฐีนักลงทุนชื่อดังระดับโลก เปิดเผยว่า เขาเชื่อมั่นว่ารัฐบาลกรีซจะทำทุกอย่างเท่าที่จำเป็นเพื่อรักษาฐานะการเป็นสมาชิกของกลุ่มประเทศยุโรป

โซรอสกล่าวนอกรอบการประชุมที่กรุงจาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซียในวันนี้ว่า "มั่นใจอย่างมากว่ากรีซจะทำทุกอย่างเพื่อรักษาสถานะการเป็นชาติสมาชิกของยุโรป และเพื่อให้มีคุณสมบัติในการรับความช่วยเหลือจากสหภาพยุโรป (EU) และเชื่อมั่นว่าอียูและธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะต้องหาทางช่วยเหลือด้านการเงินแก่รัฐบาลกรีซในวิถีทางมีต้นทุนการดำเนินงานที่ไม่สูงและไม่ทำให้กรีซต้องแบกภาระหนัก

ทั้งนี้ ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือน และราคาพันธบัตรร่วงลงอย่างหนัก เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่ากรีซจะไม่สามารถรับมือกับยอดขาดดุลงบประมาณที่อยู่ในระดับสูงสุดในกลุ่มอียูได้

ขณะที่ผู้นำ EU เตรียมจัดประชุมสุดยอดเพื่อคลี่คลายปัญหายอดขาดดุลของกรีซที่เมืองบรัสเซลส์ในวันนี้

นอกจากนี้ มีรายงานว่านายโวล์ฟกัง ชอยเบิล รัฐมนตรีคลังเยอรมนี ได้จัดประชุมร่วมกับสมาชิกสภานิติบัญญัติของเยอรมนีเมื่อวานนี้ เพื่อกำหนดกรอบการให้ความช่วยเหลือรัฐบาลกรีซที่กำลังประสบปัญหายอดขาดดุลงบประมาณและเผชิญแรงกดดันจากการก่อต้านของสหภาพข้าราชการและสหภาพแรงงานที่ชุมนุมประท้วงต่อต้านการควบคุมงบประมาณ

โซรอสมีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดในปี 2535 เมื่อเขาคาดการณ์ว่าอังกฤษจะไม่สามารถนำสกุลเงินปอนด์รวมอยู่ในระบบอัตราแลกเปลี่ยนของยุโรปได้

นอกจากนี้ โซรอสยังคาดว่าสกุลเงินมาร์คของเยอรมนีจะแข็งแกร่งหลังจากการล่มสลายของกำแพงเบอร์ลินในปี 2532 และตลาดหุ้นญี่ปุ่นจะเริ่มตกต่ำในปีเดียวกัน

ส่วนทางด้านอดีตคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางอังกฤษ นาย ชาร์ลส์ กู๊ดฮาร์ท เสนอแนะว่า อียูควรจะให้ IMF ยื่นมือเข้ามาช่วยกรีซมากกว่าที่ให้ดียูให้ความช่วยเหลือประเทศกรีซโดยตรง แม้ว่าจำนวนเงินที่จะต้องให้ความช่วยเหลืออาจจะเป็นจำนวนไม่มากนัก


โอบามาย้ำเห็นด้วยกับการจ่ายเงินโบนัสบนพื้นฐานที่ถูกต้อง

ประธานาธิบดีโอบามาให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Bloomberg ว่า ไม่ได้รู้สึก ไม่เห็นด้วย หรือ ไม่ชอบ การจ่ายเงินโบนัสจำนวน 17 ล้านดอลลาร์ ให้กับ นาย เจมี่ ดิมอน ผู้บริหารของ JP Morgan Chase และ 9 ล้านดอลลาร์ ให้กับ ลอยด์ แบลงก์ไฟน์ ผู้บริหารของ โกลด์แมน แซค

โอบามากล่าวว่า ผู้บริหารทั้งสองคนนั้นเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ ซึ่งตัวเค้าเองก็เหมือนกับประชาชนชาวอเมริกันคนอื่นๆ นั่นก็คือ ไม่ได้รู้สึก ความสำเร็จ หรือความมั่งคั่งของบุคคลเหล่านี้ และก็มองว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องปกติธรรมดาของตลาดแบบทุนนิยมเสรี

นอกจากนี้โอบามายังวางแผนที่จะสื่อข้อความเหล่านี้สู่ภาคเอกชนอีกครั้งในการประชุมร่วมกันกับบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ในวันที่ 24 ก.พ. ที่วอชิงตัน

ทั้งนี้ผู้บริหารทั้ง 2 คนที่พูดถึงข้างต้นนั้น จะรับเงินโบนัสในรูปของหุ้น มากกว่าเงินสด ซึ่งโอบามาบอกว่า เค้าอยากจะให้องค์กรอื่นๆ ดูเป็นตัวอย่างในเรื่องของการจ่ายผลตอบแทน เพราะโอบามามองว่าการจ่ายผลตอบแทนในรูปของหุ้นจะเป็นการพิสูจน์ถึงฝีมือในการบริหารงานของผู้บริหารท่านนั้นๆ และจะทำให้ผลงานของบริษัทเอกชนสหรัฐฯ ดีขึ้นด้วย

การแสดงความคิดเห็นของโอบามานั้นมีขึ้นหลังจากที่ มีการประกาศแพ็กเกจการจ่ายเงินโนนัสสำหรับปี 2552 ให้กับ เจมี ดิมอน และ ลอยด์ แบงก์ไฟน์ โดย แบงก์ไฟน์ได้พาให้โกลด์แมน แซค ทำกำไรได้เพิ่มขึ้นเท่าตัวในปีที่แล้ว และ ธนาคารทั้งสองแห่งนั้นก็ได้ชำระคืนเงินช่วยเหลือที่ได้รับมาจากรัฐบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ถ้าจะแตกรายละเอียดของเงินโบนัสที่ทั้งสองคนได้รับ เป็นดังนี้
- ลอยด์ แบงก์ไฟน์ ผู้บริหารของโกลด์แมน แซค จะได้รับโบนัสในรูปของหุ้นมูลค่า 9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
- เจมี ดิมอนของ JP Morgan Chase นั้น ได้รับเงินโบนัสในปี 2550 สูงถึง 27.8 ล้านดอลลาร์ ส่วนปี 2551 ได้เงินเดือน 1 ล้านดอลลาร์ต่อปี ในขณะที่ปีที่แล้ว 2009 เค้าได้รับโบนัสในรูปหุ้น ออพชั่น แต่ไม่มีเงินสดในเงินโบนัส


อินเดียสร้างสถานีสำรองน้ำมันฉุกเฉินแห่งแรกเสร็จกลางปีหน้า

ทางการอินเดียคาดโครงการก่อสร้างสถานีสำรองน้ำมันฉุกเฉินจะแล้วเสร็จช่วงกลางปีหน้า หวังตั้งเป้าพัฒนาโครงการด้านพลังงานให้ทัดเทียมสหรัฐ จีน และญี่ปุ่น

อินเดีย ประเทศที่พึ่งพาการนำเข้าน้ำมัน 77% กำลังเร่งหามาตรการป้องกันผลกระทบจากความผันผวนของราคาน้ำมัน รวมถึงสร้างหลักประกันด้านผลผลิตเชื้อเพลิง ซึ่งรัฐบาลคาดว่าโครงการก่อสร้างสถานีสำรองน้ำมันบริเวณชายฝั่งตะวันออกของนิวเดลีจะมีกำลังการผลิตน้ำมันที่ 1.33 ล้านตัน และอัตราการสำรองน้ำมันจะพุ่งแตะระดับ 5 ล้านตันหากการก่อสร้างสถานีสำรองน้ำมันอีก 2 ในเมืองมังกะลอร์แล้วเสร็จในเวลาต่อมา

ในช่วงเดือนเม.ย. - ธ.ค.2552 อินเดียมียอดนำเข้าน้ำมัน 109.32 ล้านตัน ซึ่งเพิ่มขึ้น 12% จากปีก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ ความผันผวนของราคาน้ำมันทำให้อินเดียต้องหามาตรการสกัดกั้นผลกระทบที่อาจสร้างความเสียหายต่ออัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในประเทศที่มีอัตราการเติบโตเร็วที่สุดในโลก

หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบร่วงลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 147.27 ดอลลาร์/บาร์เรลในเดือนก.ค.2551 เนื่องจากอุปสงค์ปรับตัวลดลงตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา ขณะที่ปีที่แล้ว ราคาน้ำมันทะยานกว่า 86% หลังเศรษฐกิจฟื้นตัว

นอกจากนี้ โรงกลั่นน้ำมันในอินเดียก็เดินหน้าขยายเพดานการผลิตเพื่อรองรับอุปสงค์ในประเทศที่มีอัตราการขยายตัวเร็วที่สุดเป็นอันดับสองของโลก

บริษัทมังกะลอร์ รีไฟเนอรี แอนด์ ปิโตรเคมิคอล เตรียมเดินเครื่องผลิตน้ำมันดิบ 15 ล้านตันภายในปี 2555 จากปัจจุบันนี้ที่ 9.69 ล้านตัน


จีนเผยการส่งออก-นำเข้าพุ่ง 44.4% ในเดือน ม.ค.

สำนักงานศุลการกรจีนเปิดเผยว่า การค้าระหว่างประเทศของจีนในเดือนมกราคม 2553 ขยายตัว 44.4% จากปีก่อน โดยการส่งออกอยู่ที่ 109,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 21% ส่วนยอดนำเข้าทะยานขึ้น 85.5% แตะ 95,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

มูลค่าการค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลนี้มีสาเหตุมาจากฐานการเปรียบเทียบที่ต่ำกว่าของปีก่อน ซึ่งในเวลานั้น การส่งออกของจีนได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตการเงินโลก

สำหรับยอดเกินดุลการค้าของจีนลดลง 63.8% แตะ 14,160 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากวัตถุดิบที่ภาคอุตสาหกรรมจีนนำเข้าจากต่างประเทศ อาทิ สินค้าโภคภัณฑ์ และ น้ำมัน มีต้นทุนสูงขึ้นจากปีที่แล้ว ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้มูลค่าการนำเข้าของจีนพุ่งขึ้นอย่างมากในเดือนม.ค.ปีนี้

สหภาพยุโรป (EU) และสหรัฐอเมริกายังคงเป็นคู่ค้ารายใหญ่สุดของจีน ขณะที่สมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) แซงญี่ปุ่นขึ้นมาเป็นคู่ค้าอันดับ 3 ด้วยมูลค่าการค้าที่ทะยานขึ้นถึง 80% แตะ 21,480 ล้านดอลลาร์ หลังจากที่เขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2553

ขณะที่สมาคมผู้ผลิตยานยนต์จีนเผยยอดการนำเข้าและการส่งออกรถของจีนในปี 2552 ซบเซา ท่ามกลางวิกฤตการเงินโลก แต่สถิติที่ลดลงนั้นดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากดีมานด์ที่สูงขึ้นในประเทศ และเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น

เมื่อปีที่แล้ว จีนได้นำเข้ารถ 420,800 คัน เพิ่มขึ้น 2.62% จากระดับปี 2551 ส่วนมูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้น 1.41% แตะ 1.53 หมื่นล้านดอลลาร์


เกาหลีใต้เผชิญยอดว่างงานแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี

ยอดผู้ว่างงานในเดือน ม.ค. พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี ที่ 4.8% จากข้อมูลนี้ เป็นแรงหนุนให้เชื่อว่า ธ.กลางจะไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในเร็วๆนี้

เสียงของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ต่างลงความเห็นว่า ธ.กลางจะคงดอกเบี้ยที่ระดับ 2% เป็นเดือนที่ 12 ในการประชุมที่จะมีขึ้นเช้าวันนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ธนาคารมีแนวโน้มที่จะเตือนว่าอาจจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยเมื่อใดก็ได้ เพื่อสกัดสั้นแรงกดดันเงินเฟ้อ

สัญญาณนี้ ได้ส่งไปยังตลาดพันธบัตร ส่งผลให้สัญญาล่วงหน้า พันธบัตรที่จะส่งมอบในเดือน มี.ค. วานนี้ ปิดบวก 2 จุด อยู่ที่ 109.87 หลังจากร่วงอย่างหนักในภาคเช้า


ฮอนด้าเรียกคืนรถกว่า 4 แสนคันจากปัญหาถุงลมนิรภัย

ฮอนด้าเผยเตรียมเรียกคืนรถ 437,763 คันทั่วโลก จากปัญหาที่เกิดขึ้นกับถุงลมนิรภัยของผู้ขับขี่ หลังจากที่บริษัทได้เคยแก้ปัญหาเดียวกันนี้กับรถจำนวน 514,000 คันมาแล้วเมื่อปี 2551 และ 2552

การประกาศเรียกคืนครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ฮอนด้าได้เปิดเผยแผนการเรียกคืนรถประประมาณ 646,000 คัน เมื่อ 12 วันก่อนหน้านี้ จากปัญหาที่เกิดขึ้นกับสวิทช์กระจกหน้าต่าง โดยรถที่จะถูกเรียกคืนนี้ประกอบด้วยรถในสหรัฐ 378,758 คัน แคนาดา 41,685 คัน ญี่ปุ่น 4,042 คัน และประเทศอื่นๆอีก 13,278 คัน

สำหรับรุ่นของรถที่ถูกเรียกคืนในสหรัฐนั้นมี 7 รุ่น รวมถึง แอ็คคอร์ดและซีวิค ขณะที่รุ่นที่ถูกเรียกคืนในญี่ปุ่นมีทั้งรุ่น Inspire Saber และ Lagreat

ทั้งนี้ รถที่ถูกเรียกคืน 952,000 คันเพราะปัญหาที่ถุงลมนิรภัยนั้น เป็นรถที่ประกอบขึ้นในปี 2544 และ 2545

ฮอนด้าชี้ว่า ถุงลมนิรภัยของผู้ขับขี่อาจมีแรงอัดมากเกินไป ซึ่งอาจจะทำให้ถุงลมแตกหรือฉีกขาด ส่งผลให้ผู้ใช้งานได้รับบาดเจ็บได้


ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯที่ประกาศออกมาเมื่อวานนี้ (พุธที่ 10 ก.พ. 2553)
? ดุลการค้าระหว่างประเทศ (ธ.ค.) ขาดดุล 40,200 ล้านดอลลาร์ (มากกว่าคาดการณ์และเดือนก่อนหน้า)

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯที่จะประกาศออกมาวันนี้ (พฤหัสบดีที่ 4 ก.พ. 2553)
? ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ
? ต้นทุนการผลิตและประสิทธิภาพการผลิต (Q4/2009) โดย กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ
? ยอดสั่งซื้อสินค้าโรงงาน (ธ.ค.) โดย กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ

ติดตาม Money Wake up ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ออกอากาศซ้ำเวลา 11.00 น. ทาง Money Channel
 
บันทึกการเข้า
Gold Price today, Gold Trend Price Prediction, ราคาทองคํา, วิเคราะห์ทิศทางทองคํา
   

images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary ---------------------Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. For more information on Moore Research products and services click here. --- http://www.mrci.com ---------- ---------------------------------------------รูปกราฟแสดงราคาทองในอดีตปี 1974-1999 ของ Moore Research Center, Inc. แสดงฤดูกาลที่ราคาทองขึ้นสูงสุดและตําสุด เอาแบบคร่าวๆ เส้นนําตาลหรือนําเงินก็ใกล้เคียงกัน เส้นนําตาลเฉลี่ย 15 ปี เส้นนําเงินเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุดของเส้นนําตาล หรือเฉลี่ย 15 ปี ในเดือน ปลายเดือน เมษ และปลายเดือน สค ต่อต้นเดือน กย[/color] สูงสุดในเดือน กพ กับ พย / ส่วนเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุด ต้น กค กับ ปลาย สค และราคาสูงสุดในเดือน กพ และ กลางเดือน ตค ----- แค่ดูคร่าวๆ เป็นแนวทาง อย่ายึดมั่นว่าจะต้องเป็นตามนี้ ข้างล่างเป็นกราฟราคานํามัน ตามฤดูกาล จาก Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary
 บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 42 43 [44] 45 46 ... 51   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: