Gold Price today, Gold Trend Price Prediction, ราคาทองคํา, วิเคราะห์ทิศทางทองคํา

ลงทุนในทองคําและแนวโน้ม / Gold Price Trend and Investment, Discussion => เก็บข่าวมาฝากค่ะ => ข้อความที่เริ่มโดย: mint ที่ กันยายน 12, 2009, 09:53:05 PM

Forex-Currency Trading-Swiss based forex related website. Home ----- กระดานสนทนาหน้าแรก ----- Gold Chart,Silver,Copper,Oil Chart ----- gold-trend-price-prediction ----- ติดต่อเรา

หัวข้อ: กฎ 10 ข้อในการอยู่รอดและการลงทุน ด้วยการวิเคราะห์ทางเทคนิค
เริ่มหัวข้อโดย: mint ที่ กันยายน 12, 2009, 09:53:05 PM
ขอขอบคุณคุณป๋าอาวเอี้ยงฮงจากhttp://www.ranthong.com/smf/index.php?topic=22218.0

พอดีค้นหาข้อมูล ศึกษาวิธีการวิเคาะห์เพิ่มเติมไปเรื่อย ๆ ก็มาสะดุดเอากับห้วข้อนี้ ในเวบ investorchart.com อ่านจนจบแล้วรู้สึกว่าที่ผ่านมา ตัวเราเองยังโงเขลาอยู่อีกเยอะ ยังมีอีกมากมายหลายเรื่อง ที่ค่อย ๆ ได้พบเห็น จึงหยิบเอามาฝากเพื่อนผองน้องพี่ทั้งหลาย ค่อย ๆ อ่านตามกันไปนะครับ สำหรับท่านที่ไม่เคยศึกษาเรื่องเทคนิคมาก่อน ก็อ่านได้ครับ อ่านแล้วกลับไปอ่านเทคนิคอีกที คงพอได้ไอเดีย อะไร ๆ บ้าง ซึ่งขออ้างถึงที่มาก่อนนะครับ คือ คัดลอกมาจาก [url]http://www.investorchart.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=345718&Ntype=4[/url] ครับ


หัวข้อ: Re: กฎ 10 ข้อในการอยู่รอดและการลงทุน ด้วยการวิเคราะห์ทางเทคนิค
เริ่มหัวข้อโดย: mint ที่ กันยายน 12, 2009, 09:54:04 PM
อาวเอี้ยงฮง
The fifth
Administrator
กรรมการผุ้จัดการ


คะแนนความนิยม 1270
 

กระทู้: 10822



 
   
Re: กฎ 10 ข้อในการอยู่รอดและการลงทุน ด้วยการวิเคาะห์ทางเทคนิค
? ตอบ #1 เมื่อ: 04 กรกฎาคม 2009, 08:45:13 ?
อ้างถึง
กฎ ทั้ง10 ข้อนี้ เป็นหลักการสำคัญสำหรับผู้ที่ใช้วิธีการวิเคราะห์ทางเทคนิคสำหรับการลงทุน เพราะหากไม่มีหลักการดังกล่าวแล้ว เราก็จะไม่สามารถกำหนดการซื้อขายที่เป็นรูปแบบได้ ซึ่งในกฎเหล่านี้จะพูดถึงการวิเคราะห์แนวโน้ม , หาจุดกลับตัว, ติดตามค่าเฉลี่ย, มองหาสัญญาณเตือน และอื่นๆ
หากท่านสามารถเข้าใจและ ปฎิบัติตามหลักการเหล่านี้ได้ผมเชื่อว่าท่าน ก็สามารถเอาตัวรอด ด้วยการลงทุนโดยใช้หลักการวิเคราะห์ทางเทคนิค ได้ครับ

1. ดูแนวโน้ม
 เรียน รู้ชาร์ตในระยะยาว โดยเริ่มการวิเคราะห์ชาร์ตในระดับเดือนและสัปดาห์ ของช่วงเวลาหลายๆปี การดูชาร์ตในระดับของช่วงเวลาที่กว้างขึ้นจะทำให้สามารถมองเป็นแนวโน้มของ ตลาดในระยะยาวได้ชัดเจนขึ้น  เมื่อทราบถึงแนวโน้มระยะยาวแล้ว จึงจะดูชาร์ตในระดับวันและนาที  การดูแนวโน้มในช่วงสั้นเพียงอย่างเดียวจะทำให้เกิดความผิดพลาดได้  ถึงแม้ว่าคุณจะลงทุนในระยะสั้น คุณจะได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าหากคุณลงทุนในทิศทางเดียวกับแนวโน้มในระยะกลางและ ยาว

2. วิเคราะห์และไปตามแนวโน้ม
 แนว โน้มของตลาดมีหลายช่วงเวลา ระยะยาว ระยะกลาง และระยะสั้น สิ่งแรกคือ คุณต้องรู้ว่าคุณจะลงทุนในระยะเวลาเท่าใด และวิเคราะห์ชาร์ตของช่วงเวลาที่เหมาะสม  โดยที่คุณต้องแน่ใจว่าคุณลงทุนไปในทิศทางเดียวกับแนวโน้มในระยะเวลานั้นๆ ซื้อเมื่อแนวโน้มอยู่ในขาขึ้น และขายเมื่อแนวโน้มอยู่ในขาลง หากคุณลงทุนในระยะกลาง ให้ใช้ชาร์ตในระดับวันและสัปดาห์ ถ้าคุณลงทุนระยะสั้น ให้ใช้ชาร์ตระดับวันและรายนาที  อย่างไรก็ตาม ในแต่ละกรณี ให้ดูแนวโน้มของช่วงเวลาที่ยาวขึ้น และใช้ชาร์ตของช่วงเวลาที่สั้นลงในการหาจุดที่จะเข้าซื้อ-ขาย


หัวข้อ: Re: กฎ 10 ข้อในการอยู่รอดและการลงทุน ด้วยการวิเคราะห์ทางเทคนิค
เริ่มหัวข้อโดย: mint ที่ กันยายน 12, 2009, 09:54:36 PM
อาวเอี้ยงฮง
The fifth
Administrator
กรรมการผุ้จัดการ


คะแนนความนิยม 1270
 

กระทู้: 10822



 
   
Re: กฎ 10 ข้อในการอยู่รอดและการลงทุน ด้วยการวิเคาะห์ทางเทคนิค
? ตอบ #2 เมื่อ: 04 กรกฎาคม 2009, 08:45:42 ?
อ้างถึง
3. หาจุดสูงสุดและต่ำสุด
 วิเคราะห์ แนวรับและแนวต้าน จุดที่ดีที่สุดในการเข้าซื้อก็คือจุดใกล้แนวรับซึ่งมักจะเป็นจุดต่ำสุดของ รอบการซื้อขายที่แล้ว  จุดที่ดีที่สุดสำหรับการขายก็คือจุดที่ใกล้แนวต้าน ซึ่งมักจะเป็นจุดสูงสุดของรอบการซื้อขายที่แล้ว หากมีการเคลื่อนผ่านแนวต้าน แนวต้านนั้นจะกลายเป็นแนวรับสำหรับการปรับตัวลดลง  อีกนัยหนึ่ง จุดสูงสุดเดิมกลายเป็นจุดสูงสุดใหม่  และเช่นเดียวกัน ในกรณีที่ราคาทะลุผ่านแนวรับ มักจะมีแรงขายออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้จุดต่ำสุดเดิมกลายเป็นจุดต่ำสุดใหม่

4. รู้ว่าจะไปไกลแค่ไหนจึงจะกลับตัว
 เทียบ อัตราส่วนการขึ้น-ลง เป็นเปอร์เซนต์   โดยทั่วไปตลาดจะมีการกลับตัวทั้งขึ้นและลงตามสัดส่วนเปอร์เซนต์ของแนวโน้ม ของช่วงก่อน  คุณสามารถวัดอัตราส่วนของการปรับตัวขึ้นหรือลงของแนวโน้มปัจจุบันได้โดยใช้ อัตราส่วนชุดหนึ่งที่มีการกำหนดค่าไว้แล้ว  เช่น การกลับตัวขึ้นหรือลง 50%ของแนวโน้มก่อน เป็นอัตราพื้นฐานที่ใช้กันบ่อย  อัตราส่วนต่ำสุดของการวัดการดีดกลับ คือ 1/3 ของแนวโน้มก่อน  และอัตราส่วนสูงสุดคือ 2/3  อัตราส่วนที่สำคัญและควรให้ความสนในก็คือ อัตราส่วน Fibonacci 36% และ 62% ดังนั้น เมื่อตลาดมีการพักในช่วงแนวโน้มขาขึ้น จะมีจุดซื้อคืนจุดแรกเมื่อตลาดปรับตัวลง 33-38% ของจุดสูงสุด


หัวข้อ: Re: กฎ 10 ข้อในการอยู่รอดและการลงทุน ด้วยการวิเคราะห์ทางเทคนิค
เริ่มหัวข้อโดย: mint ที่ กันยายน 12, 2009, 09:55:17 PM
อาวเอี้ยงฮง
The fifth
Administrator
กรรมการผุ้จัดการ


คะแนนความนิยม 1270
 

กระทู้: 10822



 
   
Re: กฎ 10 ข้อในการอยู่รอดและการลงทุน ด้วยการวิเคาะห์ทางเทคนิค
? ตอบ #3 เมื่อ: 04 กรกฎาคม 2009, 08:46:13 ?
อ้างถึง
5. ใช้เส้นแนวโน้ม
 เส้น แนวโน้มเป็นหนึ่งในเครื่องมือการวิเคราะห์ที่ง่ายและมีประสิทธิภาพที่สุด  สิ่งที่ต้องคำนึงถึงมีเพียงขอบเขตที่เส้นแนวโน้มแสดงและจุด 2 ตำแหน่งบนชาร์ต  เส้นแนวโน้มขาขึ้นวาดโดยใช้จุดต่ำสุด 2 จุด ที่อยู่ใกล้กัน และเส้นแนวโน้มขาขึ้นวาดโดยใช้จุดสูงสุด 2 จุดใกล้กัน ราคาของหุ้นมักจะเคลื่อนเข้าใกล้เส้นแนวโน้มก่อนที่จะเคลื่อนกลับเข้าสู่แนว โน้มของมัน  หากราคาทะลุผ่านเส้นแนวโน้ม จะแสดงถึงสัญญาณของการเปลี่ยนแนวโน้ม  เส้นแนวโน้มจะมีผลเมื่อราคาเคลื่อนแตะที่เส้น 3 ครั้งเป็นอย่างน้อย  เส้นแนวโน้มที่ลากได้ยิ่งยาว หมายถึง จำนวนครั้งมากขึ้นของการทดสอบเส้นแนวโน้ม และยิ่งทำให้เส้นแนวโน้มมีความสำคัญมากขึ้น

6. ติดตามค่าเฉลี่ย
 หมาย ถึงการเคลื่อนไหวของเส้นค่าเฉลี่ย ซึ่งจะบอกถึงราคาเป้าหมายที่จะซื้อและขาย  เส้นค่าเฉลี่ยเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าราคาอยู่ในแนวโน้มเช่นใดและช่วยยืนยัน สัญญาณการเปลี่ยนแนวโน้ม  อย่างไรก็ตาม เส้นค่าเฉลี่ยไม่ใช่เครื่องมือที่จะบอกล่วงหน้าว่าแนวโน้มกำลังจะเปลี่ยน  รูปแบบของการใช้เส้นค่าเฉลี่ยที่เป็นที่นิยมคือการใช้เส้นค่าเฉลี่ย 2 เส้นเพื่อหาจุดซื้อ-ขาย  ค่าที่นิยมใช้สำหรับค่าเฉลี่ยที่ใช้คู่กันคือ 5 วันและ10 วัน, 10 วันและ25วัน, 25 วันและ 50 วัน  สัญญาณซื้อ-ขายเกิดขึ้นเมื่อเส้นที่มีค่าเฉลี่ยสั้นกว่าตัดกับเส้นที่ ยาวกว่า  หรือ เมื่อราคาเคลื่อนผ่านเส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน  เนื่องจากเส้นค่าเฉลี่ยต่างๆเป็นดัชนีที่เคลื่อนไปตามแนวโน้ม การใช้เส้นค่าเฉลี่ยจึงเหมาะสำหรับตลาดที่ในช่วงที่มีแนวโน้มที่ชัดเจน

7. รู้ถึงจุดที่ตลาดกลับตัว
Oscillators  (เครื่องมือที่มีตัวเลข ตั้งแต่ 0 ถึง 100) เป็นดัชนีที่ช่วยชี้บอกจุดที่มีการซื้อหรือขายมากเกินไป ในขณะที่เส้นค่าเฉลี่ยจะช่วยยืนยันว่าตลาดการเปลี่ยนแนวโน้ม Oscillators จะช่วยเตือนล่วงหน้าว่าตลาดเคลื่อนไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งมากเกินไป และทำให้เกิดการกลับตัว  Oscillators ที่เป็นที่นิยม ได้แก่ Relative Strength Index (RSI) และ Stochastics  ทั้งสองตัวนี้จัดเป็นเครื่องมือที่เรียกว่า Oscillators เพราะให้ค่าที่อยู่ในช่วง 0 ถึง 100   เมื่อ RSI มีค่าเกิน 70 จะแสดงถึงการซื้อที่มีมากเกินไป (Overbought) และ ต่ำกว่า 30 แสดงถึงการขายมากเกินไป (Oversold)  ค่า Overbought และ Oversold สำหรับ Stochastics คือ 80 และ 20  นักลงทุนส่วนใหญ่ใช้ค่า 14 วันหรือสัปดาห์สำหรับการคำนวณ Stochastics  และ 9 หรือ 14 วันหรือสัปดาห์สำหรับ RSI   สัญญาณกลับตัวที่เกิดใน Oscillators  จะเป็นสัญญาณเตือนว่าตลาดกำลังจะกลับตัว  เครื่องมือเหล่านี้ใช้ได้ดีเมื่อตลาดอยู่ในช่วงที่เหมาะกับการเล่นเก็งกำไร และไม่แสดงแนวโน้มที่ชัดเจน  สัญญาณในระดับสัปดาห์สามารถนำมาใช้ช่วยในการขจัดสัญญาณหลอกและยืนยันสัญญาณ ในระดับวัน และใช้สัญญาณระดับวันสำหรับยืนยันสัญญาณในรายนาที


หัวข้อ: Re: กฎ 10 ข้อในการอยู่รอดและการลงทุน ด้วยการวิเคราะห์ทางเทคนิค
เริ่มหัวข้อโดย: mint ที่ กันยายน 12, 2009, 09:56:15 PM
อาวเอี้ยงฮง
The fifth
Administrator
กรรมการผุ้จัดการ


คะแนนความนิยม 1270
 

กระทู้: 10822



 
   
Re: กฎ 10 ข้อในการอยู่รอดและการลงทุน ด้วยการวิเคาะห์ทางเทคนิค
? ตอบ #4 เมื่อ: 04 กรกฎาคม 2009, 08:46:44 ?
อ้างถึง
8. มองเห็นสัญญาณเตือน
 Moving Average Convergence Divergence (MACD) เป็นดัชนีวัด (พัฒนาโดย Gerald Appel)   ที่รวมเอาระบบการตัดผ่านของเส้นค่าเฉลี่ยและการชี้จุด Overbought/Oversold ของ Oscillators ไว้ด้วยกัน  สัญญาณซื้อจะเกิดเมื่อเส้นที่เร็วกว่าตัดขึ้นเหนือเส้นที่ช้ากว่า โดยที่ทั้ง 2 เส้นอยู่ต่ำกว่าศูนย์  สัญญาณขายเกิดเมื่อเส้นที่เร็วกว่าตัดลงต่ำกว่าเส้นที่ช้ากว่าที่เหนือ ศูนย์  สัญญาณในระดับสัปดาห์จะมีน้ำหนักและความสำคัญมากกว่าสัญญาณในระดับวัน  MACD histogram ซึ่งมีลักษณะเป็นแท่ง แสดงถึงส่วนต่างระหว่าง MACD ทั้งสองเส้น สามารถส่งสัญญาณเตือนว่าจะมีการเปลี่ยนแนวโน้มได้เร็วกว่าอีกด้วย

9. เป็นแนวโน้มหรือไม่เป็นแนวโน้ม
 Average Directional Index (ADX) เป็นดัชนีที่จะบอกว่าตลาดอยู่ในช่วงที่มีแนวโน้มหรือไม่ และเป็นตัวช่วยวัดว่าแนวโน้มนั้นอยู่ในระดับใด  เส้น ADX ที่ชี้ขี้นแสดงถึงแนวโน้มที่มีความชัดเจนมาก ควรใช้เส้นค่าเฉลี่ยในการวิเคราะห์  หากเส้น ADX ปรับตัวต่ำลง แสดงถึงตลาดที่ไม่มีแนวโน้มและเหมาะสำหรับเก็งกำไรระยะสั้น ควรใช้ Oscillators ในการวิเคราะห์  การใช้ ADX ช่วยนักลงทุนในการวางแผนกลยุทธ์การลงทุนและในการเลือกเครื่องมือที่เหมาะสม กับสภาวะตลาด

10. รู้จักการดูสัญญาณเพื่อยืนยันแนวโน้ม
 สัญญาณ ที่ให้การยืนยันรวมถึงปริมาณการซื้อขายและจำนวนการซื้อขายที่มีการลงทุนจาก ผู้ที่เข้ามาซื้อขายใหม่ (open interest) ทั้ง 2 ตัวนี้เป็นเครื่องมือสำคัญในการยืนยันแนวโน้มสำหรับตลาดล่วงหน้า  ปริมาณการซื้อขายมักจะส่งสัญญาณกลับตัวก่อนที่ราคาจะกลับตัว  สิ่งสำคัญคือจะต้องมั่นใจว่ามีปริมาณการซื้อขายอย่างหนาแน่นในทิศทางเดียว กับแนวโน้มปัจจุบัน  ในแนวโน้มขาขึ้น ควรมีปริมาณการซื้อขายที่มากขึ้นเพื่อยืนยันว่าแนวโน้มนั้นยังแข็งแรงอยู่   ส่วน open interest ที่เพิ่มขึ้นนั้นจะช่วยยืนยันว่ามีเงินไหลเข้ามาต่อเนื่องและช่วยหนุนให้แนว โน้มปัจจุบันคงอยู่  หาก open interest ลดลง ย่อมเป็นสัญญาณเตือนว่าแนวโน้มนั้นใกล้สิ้นสุดลง  ดังนั้นราคาที่มีแนวโน้มสูงขึ้นควรจะมีปริมาณซื้อขายและ open interest หนุนอยู่ด้วย



หัวข้อ: Re: กฎ 10 ข้อในการอยู่รอดและการลงทุน ด้วยการวิเคราะห์ทางเทคนิค
เริ่มหัวข้อโดย: mint ที่ กันยายน 12, 2009, 09:56:49 PM
อาวเอี้ยงฮง
The fifth
Administrator
กรรมการผุ้จัดการ


คะแนนความนิยม 1270
 

กระทู้: 10822



 
   
Re: กฎ 10 ข้อในการอยู่รอดและการลงทุน ด้วยการวิเคาะห์ทางเทคนิค
? ตอบ #5 เมื่อ: 04 กรกฎาคม 2009, 08:55:04 ?
อ้างถึง
ทั้งสิบข้อนี้ ใครที่สนใจศึกษาเรื่องเทคนิค ลองนำไปปฎิบัติดูนะครับ นอกจากนี้ยังมีกฎ อื่น ๆ อีกมากมาย เอาไว้จะค่อย  ๆ รวบรวมมาฝากกันครับ ขอให้โชคดีมีชัย ร่ำรวยกันทุกคนครับ


หัวข้อ: Re: กฎ 10 ข้อในการอยู่รอดและการลงทุน ด้วยการวิเคราะห์ทางเทคนิค
เริ่มหัวข้อโดย: เฒ่าแก่ ที่ กันยายน 22, 2009, 03:00:10 PM
________________(?)(?)))_
______________(?)(?)(?)))
_______________(?)(?)))
__ __(?)(?)______________(?)(?)))
___(?)(?)(?)___________(?)(?)(?)))
____(?)(?)_____(?)(?)___(?)(?)))
_____________(?)(?)(?)))
______________(?)(?)))
_______? ?
______???? _
_____?????? _
____????????__________ ?
___???____???_________ ?
___??_______??__________?
__???________?__________?
__???________?_________?
__???_______ ?_________?
___??_______?________??
____________??_______??__?
____?______??______???_ ?
_____?_____??_____????_?
__________???___?????_?_?
________???__??????__?_?
______???__????____??_?
_____???_?????_????_?
____????_??????_???_?__?
___????_? ?__??? _?__??_?
__?????_????_?_?_???_?
_?????_??___??___??_?
_?????_???????_???__?__?? THANK YOU Mint
_???_????___??____??_???
_???_??????___???__?__?
_????_??___?__?_??????
__??????_????__?_????
___?????_____????????
._=--???????????????
_=--=_-????????????
=--_=-_=-?????????
________________(?)(?)))_
______________(?)(?)(?)))
_______________(?)(?)))
__ __(?)(?)______________(?)(?)))
___(?)(?)(?)___________(?)(?)(?)))
____(?)(?)_____(?)(?)___(?)(?)))
_____________(?)(?)(?)))
_______________(?)(?)))



หัวข้อ: Re: กฎ 10 ข้อในการอยู่รอดและการลงทุน ด้วยการวิเคราะห์ทางเทคนิค
เริ่มหัวข้อโดย: mint ที่ กันยายน 22, 2009, 03:07:39 PM
อิอิ  สวยจัง 


หัวข้อ: Re: กฎ 10 ข้อในการอยู่รอดและการลงทุน ด้วยการวิเคราะห์ทางเทคนิค
เริ่มหัวข้อโดย: ribbinn ที่ กันยายน 23, 2009, 01:17:12 PM
ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆที่เก็บมาฝากนะคะคุณมิ้นท์  ;D ;D


หัวข้อ: Re: กฎ 10 ข้อในการอยู่รอดและการลงทุน ด้วยการวิเคราะห์ทางเทคนิค
เริ่มหัวข้อโดย: brabus ที่ กันยายน 28, 2009, 05:51:17 PM
ขอบคุณค่ะ คุณmint O0


หัวข้อ: Re: กฎ 10 ข้อในการอยู่รอดและการลงทุน ด้วยการวิเคราะห์ทางเทคนิค
เริ่มหัวข้อโดย: MIJI ที่ กันยายน 29, 2009, 01:44:52 PM
ขอนู๋มิ้นท์เก็บ กฏ 10 ข้อเข้ากระทู้พี่ ไว้คอยเตือนใจนะจ้ะ :'(


หัวข้อ: Re: กฎ 10 ข้อในการอยู่รอดและการลงทุน ด้วยการวิเคราะห์ทางเทคนิค
เริ่มหัวข้อโดย: itums ที่ ตุลาคม 08, 2009, 08:40:05 PM
ขอบคุณครับ ผมจดใส่สมุดเลยครับ  :D


หัวข้อ: Re: กฎ 10 ข้อในการอยู่รอดและการลงทุน ด้วยการวิเคราะห์ทางเทคนิค
เริ่มหัวข้อโดย: _LAN_NA_ ที่ ตุลาคม 27, 2009, 06:44:08 PM
ขอบคุณ สำหรับบทความครับ


หัวข้อ: Re: กฎ 10 ข้อในการอยู่รอดและการลงทุน ด้วยการวิเคราะห์ทางเทคนิค
เริ่มหัวข้อโดย: mint ที่ พฤศจิกายน 18, 2009, 07:32:56 AM
ขออนุญาตคัดลอกเซนเซสาวสวยมาเตือนใจ  ตรงนี้บางนะคะ


Jeera
Hero Member

 Offline

Posts: 1778



Happy day!


 
   
Re: ต่างๆนานา by Jeera ^^
? Reply #174 on: November 17, 2009, 09:41:15 PM ?
Quote
พร 4 ข้อของท่าน ว.วชิรเมธี
 

1.อย่าเป็นนักจับผิด
       คนที่คอยจับผิดคนอื่น แสดงว่า หลงตัวเองว่าเป็นคนดีกว่าคนอื่น ไม่เห็นข้อบกพร่องของตนเอง
       " กิเลสฟูท่วมหัว ยังไม่รู้จักตัวอีก "
       คนที่ชอบจับผิด จิตใจจะหม่นหมอง ไม่มีโอกาส " จิตประภัสสร " ฉะนั้น จงมองคน มองโลกในแง่ดี
       " แม้ในสิ่งที่เป็นทุกข์ ถ้ามองเป็น ก็เป็นสุข "

2.อย่ามัวแต่คิดริษยา
       " แข่งกันดี ไม่ดีสักคน    ผลัดกันดี ได้ดีทุกคน "
       คนเราต้องมีพรหมวิหาร 4 คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
       คนที่เราริษยาเป็นการส่วนตัว มีชื่อว่า " เจ้ากรรมนายเวร "   ถ้าเขาสุข เราจะทุกข์   ฉะนั้น เราต้อง ถอดถอน
       ความริษยาออกจากใจเรา เพราะไฟริษยา เป็น " ไฟสุมขอน " ( ไฟเย็น) เราริษยา 1 คน เราก็มีทุกข์ 1 ก้อน
       เราสามารถถอดถอนความริษยาออกจากใจเราโดยใช้วิธี
       " แผ่เมตตา " หรือ ซื้อโคมมา แล้วเขียนชื่อคนที่เราริษยา แล้วปล่อยให้ลอยไป

3.อย่าเสียเวลากับความหลัง
       90% ของคนที่ทุกข์ เกิดจากการย้ำคิดย้ำทำ " ปล่อยไม่ลง ปลงไม่เป็น "
       มนุษย์ที่สลัดความหลังไม่ออก เหมือนมนุษย์ที่เดินขึ้นเขาพร้อมแบกเครื่องเคราต่างๆ ไว้ที่หลังขึ้นไปด้วย
       ความทุกข์ที่เกิดขึ้นแล้ว จงปล่อยมันซะ " อย่าปล่อยให้คมมีดแห่งอดีต มากรีดปัจจุบัน "
       " อยู่กับปัจจุบันให้เป็น "   ให้กายอยู่กับจิต จิตอยู่กับกาย คือมี " สติ " กำกับตลอดเวลา

4.อย่าพังเพราะไม่รู้จักพอ
       " ตัณหา " ที่มีปัญหา คือ ความโลภ ความอยากที่ เกินพอดี เหมือนทะเลไม่เคยอิ่มด้วย น้ำ ไฟไม่เคยอิ่มด้วย เชื้อ
       ธรรมชาติของตัณหา คือ " ยิ่งเติมยิ่งไม่เต็ม "
       ทุกอย่างต้องดูคุณค่าที่แท้ ไม่ใช่ คุณค่าเทียม   เช่น คุณค่า
       ที่แท้ของนาฬิกา คืออะไร คือ ไว้ดูเวลา ไม่ใช่มีไว้  ใส่เพื่อความโก้หรู 

        คุณค่าที่แท้ของโทรศัพท์มือถือ คืออะไร คือไว้สื่อสาร แต่องค์ประกอบอื่นๆ ที่เสริมมาไม่ใช่ คุณค่าที่แท้ของโทรศัพท์
เรา ต้องถามตัวเองว่า " เกิดมาทำไม " " คุณค่าที่แท้จริงของการเกิดมาเป็นมนุษย์อยู่ตรงไหน" ตามหา " แก่น " ของชีวิตให้เจอ คำว่า "พอดี" คือถ้า "พอ" แล้วจะ"ดี"   รู้จัก  "พอ" จะมีชีวิตอย่างมีความสุข


หัวข้อ: Re: กฎ 10 ข้อในการอยู่รอดและการลงทุน ด้วยการวิเคราะห์ทางเทคนิค
เริ่มหัวข้อโดย: mint ที่ พฤศจิกายน 23, 2009, 05:26:49 PM

Lin
Newbie

 Online

Posts: 134




   
   
Re: ผมลงทุนทองแบบนี้ ช่วยแสดงความเห็นด้วยครับ
? Reply #4646 on: Today at 04:34:33 PM ?
Quote
ลินได้มีโอกาสฟังท่านผู้หนึ่งพูดนะคะ คำพูดข้างล่างนี้ตัวเองคิดว่าน่าจะเป็นแนวคิดที่ดีนะคะ

1. อย่าปล่อยกำไรให้ขาดทุน พอกำไรเริ่มลงต้องหยุด (ค่อย ๆ โกยกำไร)
2. เมื่อลงทุนแล้วผิด ซื้อแล้วลง ถ้าจะช้อนซื้อใหม่ ต้องมีหลักการก่อนว่าเปลี่ยนราคาแนวโน้มหรือยัง
3. อย่าซื้อเพราะเห็นว่าแพง หรือขายเพราะราคาสูง
4. ถ้าสงสัยให้ออกจากตลาด และอย่าเข้าตลาด   "ถ้าสงสัย"   ไม่จำเป็นต้องซื้อขายทุกวัน
5. The trend is your friend : การลงทุนที่ดีต้องเริ่มซื้อไปตามแนวโน้ม ห้าม "ฝืน" แนวโน้ม
6. หยุดขาดทุน ท่านก็จะรวย

อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคลนะคะ แล้วแต่ทุกท่านจะนำมา apply ให้เข้ากับ strategy ในการเล่นของแต่ละท่านค่ะ


หัวข้อ: Re: กฎ 10 ข้อในการอยู่รอดและการลงทุน ด้วยการวิเคราะห์ทางเทคนิค
เริ่มหัวข้อโดย: mint ที่ พฤศจิกายน 25, 2009, 05:11:04 PM

Prin
เด็กอนุบาล

 ออนไลน์

กระทู้: 13


   
   
Re: วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค ( เป้าไกลปี 2010>> 1245$ )
? ตอบ #2646 เมื่อ: วันนี้ เวลา 03:15:10 pm ?

รบกวนคุณ Durahan นะครับ .......ไปอ่านมาเห็นว่าคงมีประโยชน์สำหรับทุกท่าน...โดยเฉพาะเวลานี้

สาเหตุอะไร?ถึงทำให้คนสองคนที่??ฉลาดพอๆ?กัน?แต่กลับมี??ชีวิตที่แตกต่างกัน?

อาเธอร์  เป็นคนฉลาด  สามารถแก้ปริศนาอักษรไขว้ในหนังสือพิมพ์ นิวยอร์ก  ไทมส์  ได้ในเวลาสามสิบนาที  สามารถวิเคราะห์เศรษฐกิจของลาติน อเมริกาได้ภายในเวลาครึ่งชั่วโมง   และคำนวณตัวเลขในหัวได้เร็วกว่าคนส่วนใหญ่ที่คำนวณโดยใช้เครื่องคิดเลข   แต่... เขาเป็นแค่คนขับรถ !

โจนาธาน   เพเชี่ยน   ฉลาดพอๆ   กับ  อาร์เธอร์   ทำงานหนักเท่าๆ   กัน   แต่ โจนาธาน เป็นเศรษฐีพันล้าน !

ทำไม โจนาธานจึงนั่งอยู่บนเบาะหลังของรถยนต์คันใหญ่ในขณะที่ อาเธอร์ นั่งอยู่ด้านหน้าเป็นคนขับ 

อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้พวกเขามีชีวิตที่แตกต่างกัน   และอะไรคือคำอธิบายความแตกต่างระหว่างความสำเร็จและความล้มเหลว

คำตอบอยู่ที่การวิจัยครั้งสำคัญของ  มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดที่มีชื่อเสียงในสหรัฐอเมริกา    นักวิจัยได้ทดลองปล่อยให้เด็กๆ   อยู่ในห้องตามลำพัง  และแจกขนม?มาร์ชมาลโลว์?* ให้เด็กคนละก้อน    จากนั้นเสนอให้เด็กเลือกว่าจะกินมันเข้าไปทันทีหรือจะคอยอีกสิบห้านาที   ถ้าเด็กคนไหนคอยได้   พวกเขาก็สัญญาว่าจะให้มาร์ชมาลโลว์แก่เด็กคนนั้นเพิ่มอีกก้อน   ซึ่งจากการทดลองพบว่า  เด็กบางคนกินขนมมาร์ชมาลโลว์เข้าไปทันที   ในขณะที่บางคนเลือกที่จะคอย !

จากนั้น   ความสำคัญที่แท้จริงของการศึกษานี้ได้แสดงผลในอีกหนึ่งทศวรรษต่อมา  เมื่อนักวิจัยค้นพบว่า  เด็กที่สามารถอดทนรอได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จ   มากกว่าเด็กที่กินขนมมาร์ชมาลโลว์ทันที จากการที่ห้ามใจตนเองไม่ได้

บทเรียนจากผลงานวิจัยชิ้นนี้มิได้สูญเปล่า ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ ดร.โจอาคิม   เดอ  โพซาด้า  ผู้มีชื่อเสียงทั่วโลกในฐานะนักพูดเพื่อโน้มน้าวใจให้กับนักบริหารธุรกิจและนักกีฬาอาชีพ    ได้ค้นพบว่า ทฤษฎี ?มาร์ชมาลโลว์?   สามารถตอบคำถามที่เขาพยายามแสวงหามาเป็นเวลานานถึงสามสิบปีได้ ทฤษฎีนี้สามารถอธิบายได้อย่างน่าสนใจว่า   ?ทำไมคนบางคนจึงประสบความสำเร็จ   ในขณะที่บางคนล้มเหลว ! ? 

โพซาด้า  เชื่อว่า   ความแตกต่างที่สำคัญของความสำเร็จและความล้มเหลว  มิได้อยู่ที่การทำงานหนักหรือมีสติปัญญาที่เหนือกว่า   แต่อยู่ที่ความสามารถในการ  ?ห้ามใจตัวเองให้ชะลอความพอใจลงก่อน หรือการรู้จักอดเปรี้ยวไว้กินหวาน?  นั่นคือ  คนที่  ?ห้ามใจไม่รีบกิน ?มาร์ชมาลโลว์? จะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จมากกว่า?

หนังสือเล่มนี้ใช้เรื่องเล่าง่ายๆ  ผ่านตัวละครสองคนคือ อาร์เธอร์ และโจนาธาน  เพเชี่ยน  และได้สอดแทรก ?วิธีคิดในการใช้ชีวิต?  ที่ดี   เป็นบทเรียนให้แก่ อาร์เธอร์  ซึ่งบทเรียนจากหนังสือเล่มนี้จะเปลี่ยนวิธีคิด และชีวิตของคุณได้  อีกทั้งยังแสดงให้เห็นว่า  การกระทำของคุณในวันนี้   สามารถส่งผลอันใหญ่หลวงต่ออนาคตของคุณ ถ้าเพียงแค่ไม่รีบกิน ?มาร์ชมาลโลว์? ของคุณในตอนนี้เท่านั้น
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล     บันทึกการเข้า
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ตั้งสติ ค่อยๆมอง ค่อยๆแก้ไข ยิ้มและอดทนเข้าไว้แล้วทุกอย่างจะดีเอง...หากทำไม่ได้ ก็พึงพยายามรักษาใจไว้ให้ดีที่สุด


หัวข้อ: Re: กฎ 10 ข้อในการอยู่รอดและการลงทุน ด้วยการวิเคราะห์ทางเทคนิค
เริ่มหัวข้อโดย: mint ที่ ธันวาคม 12, 2009, 09:08:17 AM

ข้อความ
sittinun


< น้องใหม่หัดโพสต์ >

ตอบ: 14
10 / 12 / 2009, 17:46
   
   
 เรื่อง:

เขาว่ากันว่า...

ในแต่ละวัน...เราควรแบ่งเวลาออกเป็นสามช่วงใหญ่...

กล่าวคือ...แปดชั่วโมงพักผ่อน...แปดชั่วโมงทำงาน...และแปดชั่วโมงส่วนตัว...

ในแปดชั่วโมงส่วนตัวนั้น...

เป็นแปดชั่วโมงสำคัญ....

ที่ใช้ขับเคลื่อนและสนับสนุนการดำเนินชีวิตต่อไปในอนาคต...

ที่กล่าวเช่นนั้นเพราะ...

แปดชั่วโมงดังกล่าว...

มักใช้ไปกับการวางแผนดำเนินชีวิต...

ใช้ไตร่ตรองไปกับสิ่งที่ผ่านมา...ทั้งที่ผิดพลาด(นำมาแก้ไข)

และที่ประสพผลสำเร็จ(นำมาเป็นกำลังใจ)

ใช้ไปกับครอบครัว...บุคคลรอบข้าง...และสรรพสิ่งทั้งหลายรอบตัว...

ทั้งที่มีชีวิตจิตวิญญาณ...และไม่มี...

ใช้ไปกับการ...คิดไปเอง...หรือจินตนาการ...

จินตนาการไปกับสิ่งที่เราเรียกกันว่า...อนาคต...

ในแปดชั่วโมงดังกล่าวนั้น...

ถ้าเราแบ่งสามส่วนในการคิด...วางแผน...และคาดหวัง

ทั้งที่ผ่านไปแล้ว...สิ่งที่กำลังผ่าน...

และสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น...

ด้วยสติ...และการไตร่ตรอง...ที่รอบคอบและรัดกุม...

ประกอบทั้งการมองโลกด้วย...ความเป็นจริง...แล้วนั้น...

แปดชั่วโมงส่วนตัว...จะเป็นพลังขับเคลื่อนและเป็นส่วนช่วย...

ทั้งในแปดชั่วโมงทำงาน...และแปดชั่วโมงพักผ่อน...

และพร้อมที่จะนำอนาคตที่สดใส...

มายังชีวิตของเรา...อย่างที่ตัวเราพึงปราถนา...

ปัจฉิมลิขิต...

สติ...และการไตร่ตรองนั้น...สำคัญยิ่ง...

ที่ต้องใช้ความเพียร...และความใฝ่รู้...

ในการนำมาเป็นเครื่องตัดสินหรือชี้นำ...

ในความเพียร...และความใฝ่รู้นั้น...

จักนำมา..วิพากษ์...กันให้ทราบในครั้งต่อไป...

ขอบคุณที่เสียเวลาอ่าน...จนปวดมันสมองและสองตา..


หัวข้อ: Re: กฎ 10 ข้อในการอยู่รอดและการลงทุน ด้วยการวิเคราะห์ทางเทคนิค
เริ่มหัวข้อโดย: 108crap ที่ ธันวาคม 14, 2009, 05:14:36 PM
รับทราบคับ...


หัวข้อ: Re: กฎ 10 ข้อในการอยู่รอดและการลงทุน ด้วยการวิเคราะห์ทางเทคนิค
เริ่มหัวข้อโดย: mint ที่ มิถุนายน 29, 2010, 09:34:23 PM
    * ขาใหญ่
    * ดูบล็อก
    * กลุ่ม: หัวหน้ายาม
    * โพสต์: 150
    * เข้าร่วม: 04-June 10
    * ที่อยู่ประเทศไทย
โพสต์ เมื่อวานนี้, 11:17 PM
หลักการใช้ fibonacci เพื่อหาเป้าหมายของ elliot wave
ที่มา http://www.stock2mor (http://www.stock2mor)...read.php?t=4129

เมื่อวานคุยกับน้องคนหนึ่งในเว๊บ s2m เรานี่แหละเรื่องการใช้ fibo เพื่อหาเป้าของ elliot wave ถัดไป ว่ามีหลักการอย่างไร เลยเอามาลงให้ดูกันนะครับ

ในภาพก็เป็น elliot wave ที่เราคุ้นเคยกันดีในรูปแบบ 5-3 คือขาขึ้น 5 คลื่น โดยมีคลื่น 1,3และ 5 เป็นคลื่นส่ง และ คลื่น 2,4 เป็นคลื่นปรับตัว
ส่วนคลื่นปรับตัวจะมี 3 คลื่นคือ abc โดยมี a,c เป็นคลื่นส่ง และ b เป็นคลื่นปรับตัว โดยในแต่ละคลื่นจะมีคลื่นย่อยภายในด้วย

โดยมีหลักการง่ายๆเบื้องต้นคือ คลื่นส่งจะอยู่ในแนวโน้มหลักว่าขึ้นหรือลง ส่วนคลื่นปรับตัวจะอยู่ตรงข้ามกับแนวโน้มหลัก ดังนั้นคลื่นส่งต้องยาวกว่าคลื่นปรับตัวจึงทำให้เกิดการเคลื่อนที่ไปตามแนว โน้มนั้นได้ ดังนั้นคลื่นส่งจึงมี 5 คลื่นย่อย ส่วนคลื่นปรับตัวจะมี 3 คลื่นย่อยดังรูป

นี่เป็นการใช้ fibo เพื่อหา target ของคลื่นถัดไป

http://www.elliott-w (http://www.elliott-w)....html#fibonacci


Targets for wave 1

The first wave, a new impulsive price movement, tends to stop at the base of the previous correction, which normally is the B wave. This often coincides with a 38.2% or a 61.8% retracement of the previous correction.

เป้าหมายสำหรับคลื่น 1

คลื่นแรกคือราคาขึ้นครั้งใหม่ มักจะหยุดที่ก้นของการปรับฐานลงรอบก่อนที่โดยปกติคือคลื่น B สอดคล้องกับเส้นฟีโบที่ 38.2 หรือ 61.8 ของการปรับฐานรอบก่อน


Targets for wave 2

Wave 2 retraces at least 38.2% but mostly 61.8% or more of wave 1. It often stops at sub wave 4 and more often at sub wave 2 of previous wave 1. A retracement of more than 76% is highly suspicious, although it doesn?t break any rules yet.

เป้าหมายสำหรับคลื่น 2

คลื่นสองจะลงมาปรับฐานที่อย่่างน้อย 38.2% แต่ปกติจะลงมาที่ 61.8% หรือมากกว่า ของคลื่น 1
และมักจะหยุดที่คลื่น 4 ย่อยหรือบ่อยครั้งที่คลื่น 2 ย่อยของคลื่น 1
กาีรลงมาปรับฐานที่ต่ำกว่า 76% เป็นเรื่องที่น่าสงสัยมากว่าจะยังเป็นคลื่น 2 หรือไม่ แต่ก็ไม่ผิดกฏอะไรถ้าจะลงมาต่ำขนาดนั้น

Targets for wave 3

Wave 3 is at least equal to wave 1, except for a Triangle. If wave 3 is the longest wave it will tend to be 161% of wave 1 or even 261%.

เป้าหมายสำหรับคลื่น 3

คลื่นสามมักจะมีความยาวอย่างน้อยเท่ากับคลื่น 1 ยกเว้นจะเกิดรูปแบบสามเหลี่ยม (Triangle)
ถ้าคลื่น 3 เป็นคลื่นที่ยาวที่สุดก็มักจะจบที่ 161% หรือบางครั้งที่ 261% ของคลื่น 1

Targets for wave 4

Wave 4 retraces at least 23% of wave 3 but more often reaches a 38.2% retracement. It normally reaches the territory of sub wave 4 of the previous 3rd wave.

In very strong markets wave 4 should only retrace 14% of wave 3.


เป้าหมายสำหรับคลื่น 4

คลื่น 4 มักจะลงมาปรับฐานที่อย่างน้อย 23% ของคลื่น 3 แต่โดยมากมักจะลงมาที่ 38.2% ปกติจะลงมาแตะที่บริเวณคลื่น 4 ย่อยของคลื่น 3 ที่ผ่านมา
และถ้าตลาดแรงมากๆ (ขึ้นไม่หยุด) คลื่น 4 ควรจะลงมาที่แค่ 14% ของคลื่น 3

Targets for wave 5

Wave 5 normally is equal to wave 1, or travels a distance of 61.8% of the length of wave 1. It could also have the same relationships to wave 3 or it could travel 61.8% of the net length of wave 1 and 3 together. If wave 5 is the extended wave it mostly will be 161.8% of wave 3 or 161.8% of the net length of wave 1 and 3 together.

เป้าหมายสำหรับคลื่น 5

คลื่น 5 ปกติจะเท่ากับคลื่น 1 หรือมีความยาวเท่ากับ 61.8% ของคลื่น 1
คลื่น 5 อาจสัมพันธ์กับคลื่น 3 หรือยาวเท่ากับ 61.8% ของความยาวของคลื่น 1 กับคลื่น 3 รวมกัน
ถ้าคลื่น 5 เป็นคลื่นขยายมักจะไปที่ 161.8% ของคลื่น 3 หรือ 161.8% ของความยาวของคลื่น 1 กับคลื่น 3 รวมกัน

Targets for wave A

After a Triangle in a fifth wave, wave A retraces to wave 2 of the Triangle of previous wave 5. When wave A is part of a Triangle, B or 4 it often retraces 38.2% of the complete previous 5 wave (so not only the fifth of the fifth) into the territory of the previous 4th wave. In a Zigzag it often retraces 61.8% of the fifth wave.

เป้าหมายสำหรับคลื่น A

หลังจากสามเหลี่ยมในคลื่น 5 คลื่น A จะลงมาปรับฐานที่คลื่น 2 ของสามเหลี่ยมในคลื่น 5
เมื่อคลื่น A เป็นส่วนหนึ่งของสามเหลี่ยม คลื่่น b หรือ 4 มักจะมาปรับฐานที่ 38.2% ของคลื่น 5 ที่จบแล้ว (ไม่ใช่แค่ได้คลื่น 5 ของ 5 (แต่ต้องจบ abc ของคลื่น 5 ด้วย:ผู้แปล))ในคลื่น 4 ก่อนหน้านี้
ถ้าเป็นรูปแบบซิกแซกมักจะมาที่ 61.8% ของคลื่น 5


Targets for wave B

In a Zigzag, wave B mostly retraces 38.2% or 61.8% of wave A. In a Flat, it is approximately equal to wave A. In an Expanded Flat, it usually will travel a distance of 138.2% of wave A.

เป้าหมายสำหรับคลื่น b

รูปแบบซิกแซก คลื่น b มักจะปรับฐานลงมาที่ 38.2% หรือ 61.8% ของคลื่น a
รูปแบบ flat มักจะไปประมาณคลื่น a
รูปแบบ expanded flat มันจะไปที่ 138.2% ของคลื่น a

Targets for wave C

Wave C has a length of at least 61.8% of wave A. It could be shorter in which case it normally is a failure, which foretells an acceleration in the opposite direction.

Generally wave C is equal to wave A or travels a distance of 161.8% of wave A.

Wave C often reaches 161.8% of the length of wave A in an Expanded Flat.

In a contracting Triangle wave C often is 61.8% of wave A.


เป้าหมายของคลื่น c

คลื่น c มีความยาวคลื่นอย่างน้อยเท่ากับ 61.8% ของคลื่น a
คลื่น c สามารถสั้นกว่าคลื่น a ได้ถ้าล้มเหลวโดยจะรู้จากการที่ราคากลับตัวไปทิศทางตรงกันข้ามด้วยความเร่ง
โดยปกติ คลื่น c จะเท่ากับคลื่น a หรือเท่ากับ 161.8% ของคลื่น a
ในรูปแบบ expanded flat คลื่น c จะไปที่ 161.8% ของคลื่น a
ในรูปแบบ contracting triangle คลื่น c มักจะไปที่ 61.8% ของคลื่น a


หัวข้อ: Re: กฎ 10 ข้อในการอยู่รอดและการลงทุน ด้วยการวิเคราะห์ทางเทคนิค
เริ่มหัวข้อโดย: mint ที่ กันยายน 26, 2010, 10:58:44 AM
สิ่งที่สำคัญที่สุดของระบบเทรด
โดย Kiat Udomjarumanee ณ วันที่ 26 กันยายน 2010 เวลา 0:09 น.

วันนี้เรามาว่ากันด้วยเรื่อง สิ่งที่สำคัญที่สุดของการเทรดด้วย "ระบบเทรด"

ท่านทั้งหลายคิดว่าคืออะไรกันครับ ลองคิดๆกันใว้ในใจนะครับ

แล้วเดี๋ยวเราจะทดลองเล่นอะไรกันนิดหน่อย

 

สมมุติว่าทุกท่านมีระบบเทรด ทุกท่านเทรดทางเทคนิคกันเป็นหมดแล้ว

และมีความรู้ความเข้าใจใน Technical analysis เป็นอย่างดี บทความวันนี้จะค่อนข้างลึก

และซับซ้อนนิดหน่อย ผมจะสมมุติว่าทุกท่านที่เป็นผู้อ่านที่เก่งกันหมดแล้วนะครับ

จึงไม่ขออธิบายในสิ่งที่เป็นพื้นฐานแต่อย่างใด

และวันนี้เราจะมาดูตัวอย่างที่น่าสนใจอันนึงนะครับ

 

สมมุติว่าเราได้ระบบเทรดมาอันนึงตามสถิติแล้วและสมมุติว่ามันมีค่า Win% = 60% เท่านั้น

มากกว่าโยนหัวก้อยนิดเดียว  และเพื่อความง่ายในการเทรดเราจะใช้

Money management, Risk/Reward Ratio = 1:1

ทีนี้ เรามาทดลองโดยการสุ่มตัวเลขจาก 1-10 มา 100 ตัว

น้อยกว่า 7  = Win  (1,2,3,4,5,6)  +100$

มากกว่าหรือเท่ากับ 7 = Loss (7,8,9,10)   -100$

และผลลัพท์ Random ที่ได้จากเวป http://www.psychicscience.org/random.aspx (http://www.psychicscience.org/random.aspx)

ดังรูปครับ
(http://[url=http://sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-snc4/hs658.snc4/61874_156725104357551_100000601862897_402931_5979022_n.jpg]http://sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-snc4/hs658.snc4/61874_156725104357551_100000601862897_402931_5979022_n.jpg[/url])

 

ทีนี้ก็เอาลง excel คำนวนผลลัพท์ แล้วเอาไป plot กราฟ เพื่อหากราฟการเติบโตของ port

มาดูกันครับ ผลที่ได้จากการ Random ค่าความน่าจะเป็นทางสถิติ

เมื่อนำออกมาพล้อตเป็นกราฟแสดงผลการเติบโตของพอร์ตเงินทุนของเรา

จากข้อมูล Random ของระบบเทรดข้างต้น

 
(http://sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-snc4/hs682.snc4/62285_156725591024169_100000601862897_402932_6301028_n.jpg)
 

หลังจากที่ได้เห็นกราฟผลการเติบโตของเงินทุนช่วงแรก จะมีคำพูดตามมาว่า

    ห่วยแตกครับ ระบบนี้ห่วยมาก เริ่มเทรดปุ้บเสียปั้บถึงจะได้คืนมาหน่อยก็เริ่มเสียอีก

    พอๆเปลี่ยนๆ ไปหา system เทพอันอื่นดีกว่าเทรดไปร่วม 20 ครั้ง port เท่าเดิม

    ไม่ไปไหนเลยแล้วจะเสียเวลาเสียอารมณ์เวลาเทรดเสียไปทำไม

คิดว่ามีคนซักกี่ % ครับ ที่คิดแบบนี้

 

แต่ก็มี "คนโง่" กลุ่มเล็กๆ ที่ยังยึดเอาsystemนี้เป็นหลัก ในการเทรด

และในเวลาต่อมา port ของคนกลุ่มนี้ก็เป็นแบบนี้ ด้วยสถิติ Random

แบบเดิมทุกอย่าง ทุกประการ

 
(http://sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-snc4/hs047.snc4/34697_156726401024088_100000601862897_402938_3699813_n.jpg)
 

และต่อมา กลุ่มเล็กๆกลุ่มนั้นเริ่มคิดว่าระบบที่ตัวเองใช้นั้นชักเข้าท่าแล้ว

เทรดไป 40 ครั้ง port เริ่มโตแล้ว แต่พวกเค้าดีใจได้ไม่นานหรอก

ตลาดไม่ได้ใจดีให้ใครได้กำไรติดกันนานๆ

และไม่นานพอร์ตที่เติบโตของพวกเขา ก็ดันกลายเป็นดังรูปต่อไปนี้

 
(http://sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-snc4/hs010.snc4/33887_156726927690702_100000601862897_402945_7593284_n.jpg)
 

ยิ่งเทรดยิ่งเสีย ทั้งยังเสียติดๆกัน ทุนหายกำไรหด กำลังใจลด หมดความมั่นใจในระบบ

แถมบางคนในกลุ่ม ที่ทิ้งระบบนี้ไปตอนแรกก็กลับมาซ้ำเติม "

ยังใช้ระบบห่วยๆ นั่นอยู่อีกเหรอ รีบทิ้งไป ก่อนที่กำไรทั้งหมดจะหายไปดีกว่า"

 

คิดว่ามีคนซักกี่ %ในกลุ่มเล็กๆกลุ่มนี้ครับ ที่ถอดใจ แล้วไปหาระบบเทพๆอันอื่น

 

แต่ก็นั่นแหละในกลุ่ม "คนโง่" กลุ่มเล็กๆ ก็ยังมี "คนโง่+ดื้อด้าน" ที่ยังทนใช้ระบบนี้อยู่

แม้ว่าจะเทรดไปแล้วถึง 60 ครั้ง แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าไหร่

แต่ทว่า สถิติก็คือสถิติครับ ในเวลาต่อมา port ของ "คนโง่+ดื้อด้าน" คนนี้กลายเป็นแบบนี้ครับ

 (http://sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-snc4/hs676.snc4/61672_156727584357303_100000601862897_402946_5238136_n.jpg)

 

สถิติ จะแสดงผลลัพท์ที่ถูกต้องของมันออกมาได้ก็ต่อเมื่อ เรามีsample

หรือกลุ่มตัวอย่างที่มากในระดับหนึ่งและเราต้องตัด "ตัวแปร" ตัวอื่นออกไปให้หมด

เหลือไว้แต่ตัวแปร "ความถูกต้องของระบบ" ที่มีสถิติรองรับ

โดยเฉพาะตัวแปรที่ชื่อว่า "ใจ" หากคุณตัดตัวแปรตัวนี้ออกไปจากการเทรดไม่ได้

สถิติก็ไม่สามารถแสดง "ผลลัพท์" ที่แท้จริงของมันออกมาได้

 

จากการทดลองเล่นๆ เราจะพบว่าคนส่วนใหญ่มักจะทิ้งระบบนั้นๆไป เมื่อระบบนั้น

ทำให้เขาเสียติดๆกันจนขาดความมั่นใจที่จะใช้ นั่นทำให้เขาต้องไป

เริ่มที่ จุด 0 ใหม่ ในกราฟต่อไปและจะวนอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จึงไม่มีทางเลย

ที่คนเหล่านี้จะทำกำไรได้อย่างมั่นคงจากการเทรดเพราะเขาไม่เคยได้สัมผัสถึง

"ผลลัพท์ทางสถิติ"เขาใช้เพียง "ผลลัพท์ทางความรู้สึก"

ในการตัดสินระบบแต่ละอันที่ได้ใช้

 

พอเถอะครับ เลิกตามหาระบบเทพๆ ที่ไม่มีวันเทรดเสีย ซะทีเถอะ เพราะมันไม่มีอยู่จริง

 

เปลี่ยนเป็นลองหาระบบที่ชอบ ที่เข้ากับ life style ของเรา เข้ากับ time frame ที่เราใช้

เข้ากับจำนวนครั้งในการเทรดที่รู้สึกพอดี ระบบที่เราเข้าใจมัน ไม่ซับซ้อนจนเกินเข้าใจ

ระบบที่ใช้ง่าย ใช้ได้อย่างคล่องแคล่ว และชำนาญหลังจากนั้นค่อยๆคิด

ค่อยๆดูพฤติกรรมของระบบนี้ ค่อยๆหาวิธีการที่จะทำกำไรจากสิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับระบบนี้

 

ผมจะยกตัวอย่างระบบเทรดอันนึงเพื่อให้เห็นภาพ

ระบบนี้ชื่อว่า Donchian Channel คิดค้นโดย Richard Donchian บิดาแห่ง Trend follower

โดยการหาจุดสูงสุด/ต่ำสุด ในรอบ 4 week เมื่อวันใดก็ตามที่มีราคาปิด ทะลุเส้น สูงสุด/ต่ำสุด

ในรอบ 4 weekไปได้ ก็ให้ตามน้ำทันทีไม่ต้องลังเล ไม่ต้องคิดมาก   ง่ายไม๊ครับ

 

แต่มีแค่ไม่กี่คนหรอกครับที่ใช้ระบบเทรดง่ายๆอย่างนี้ได้

เพราะว่า Win Rate ของระบบนี้นั้นต่ำมาก อาจจะต่ำกว่า 30% ก็ได้(โยนเหรียญยังแม่นกว่า)

แล้วใครกันล่ะ ที่ทนใช้ระบบห่วยๆ win rate แค่ 20-30%

มีครับ.....เค้าเรียกตัวเองว่า The Turtle Trader หรือ “เซียนเต่า”

โดยคนที่เป็นผู้นำกลุ่มนั้น(ผู้เฒ่าเต่า)เป็นคนที่ กำเงิน เข้าตลาดมาแค่ 400$

แต่เปลี่ยนมันให้เป็น 200ล้าน$ ได้ !!!

 

ด้วยความที่เป็นระบบง่ายๆไม่ซับซ้อน ทำให้การตัดตัวแปร "ใจ" ออกไปนั้นทำได้ง่าย

และหากระบบถูกต้องเมื่อไหร่มันจะกลายเป็น เทรนด์ที่ไปไกล

ทำให้เค้าใช้ประโยชน์จากอัตราทบ Money management

เข้าช่วยเพื่อช่วยขยายผลของ"ผลลัพท์ทางสถิติ"

ให้เกิดกำไรมากที่สุด

- เกิดสัญญาณ ==> เข้าเทรด ==> false

- เกิดสัญญาณ ==> เข้าเทรด ==> false

- เกิดสัญญาณ ==> เข้าเทรด ==> false

- เกิดสัญญาณ ==> เข้าเทรด ==> false

- เกิดสัญญาณ ==> เข้าเทรด ==> false

- เกิดสัญญาณ ==> เข้าเทรด ==> false

- เกิดสัญญาณ ==> เข้าเทรด ==> false

- เกิดสัญญาณ ==> เข้าเทรด ==> true  ==> เกิดเทรนด์ ==>วิ่งต่อ

==> เข้าเพิ่ม ==>วิ่งต่อ ==> เข้าเพิ่ม ==>วิ่งต่อ

==> เข้าเพิ่ม......จนกว่าจะจบเทรนด์

 

จริงๆมีรายละเอียดเยอะกว่านี้ แต่เป็นส่วนของ MM ล้วนๆ ส่วนของระบบเทรดพวกเค้า

มีเท่านี้จริงๆจะเห็นได้ว่า กลุ่มเซียนเต่านั้นเชื่อมั่นในระบบนี้มาก แม้จะมี win rate ต่ำ

แต่ทุกครั้งที่เค้าเทรดเสีย เค้าจะมองว่าเป็นเป็นการ ซื้อโอกาสทางสถิติ

เพื่อให้เข้าใกล้ จุดที่สถิติจะแสดงผลลัพท์ ของมันออกมา และเมื่อผลลัพท์ที่ถูกต้อง

แสดงออกมา เค้าก็ใส่เต็มที่ครับ ใน 1 ปี ขอแค่เทรนด์วิ่งแรงๆสุดๆ แค่ครั้งเดียวพอ

เค้าก็กำไรกันแล้วครับ  เห็นความอดทนในการรอคอยของเค้าไม๊ครับ

เค้าถึงได้ชื่อว่า The Turtle Trader

 

ถึงตอนนี้ผมไม่เฉลยคำตอบแล้วครับ แต่ละคนเมื่ออ่านแล้ว

ก็น่าจะมีข้อสรุปอยู่ในใจของแต่ละคนเอง

และขอให้อย่าได้ลืมข้อสรุปนี้เด็ดขาดนะครับ

สำหรับใครที่เริ่มผูกตัวเองเข้ากับระบบแล้ว

แต่ยังทำกำไรได้บ้างเสียบ้าง ผมมีคำพูดของคนคนนึงฝากให้คิดครับ

 

    “ อยู่ให้รอดก่อน แล้วค่อยทำกำไร ”, จอร์จ โซรอส

...................................................................


หัวข้อ: Re: กฎ 10 ข้อในการอยู่รอดและการลงทุน ด้วยการวิเคราะห์ทางเทคนิค
เริ่มหัวข้อโดย: jackkbu ที่ มิถุนายน 24, 2011, 03:43:14 PM
ให้ความรู้มากเลยครับ เรื่องเงินทองๆเนี้ยน่าปวดหัวนะครับ ได้มาก็ยาก เก็บรักษาก็ยาก ความจริงน่าจะใช้ใบไม้แทนเงินนะครับ


หัวข้อ: Re: กฎ 10 ข้อในการอยู่รอดและการลงทุน ด้วยการวิเคราะห์ทางเทคนิค
เริ่มหัวข้อโดย: riccoauto ที่ กรกฎาคม 20, 2011, 09:16:13 AM
ผมว่าเรื่องทองไปเกร็งมากปวดตับอะครับ ดูยาวๆดีกว่าครับ  :)


หัวข้อ: Re: กฎ 10 ข้อในการอยู่รอดและการลงทุน ด้วยการวิเคราะห์ทางเทคนิค
เริ่มหัวข้อโดย: mint ที่ พฤศจิกายน 22, 2011, 03:31:04 PM
ที่ปวดตับนี่  ลุ้นทองไป ดื่มไปด้วยรึป่าวคะ เลยตับไม่สบาย   อิอิ   ;)


หัวข้อ: Saint-Herblain
เริ่มหัวข้อโดย: 7tcn80ap ที่ ตุลาคม 14, 2012, 03:51:45 AM
ur chinois avec menu de frelons asiatiques grillés. Vous savez des pavés ( sans manif') qui mesurent la surface de nos imp,moncler doudoune (http://www.doudounemonclerpascherfrancee.com)?ais enlevés par Aqmi (Al-Qa? mais ils sont vivants". s’interroge aujourd’hui à l’occasion d’un colloque organisé à (),lancel (http://www.saclancelcpaschers.com).
   Saint-Herblain,doudoune moncler pas cher (http://www.pascherrdoudounemonclerfrance.com), a annoncé un prévisionnel de 19 600 jours de ch?més sur un prévisionnel de 15 000,moncler (http://www.monclerpascherfrfrance.com).COLLIGNON ?1000m ? Sa mort remonterait a priori à ce mardi en fin de journée,doudoune moncler femme (http://www.monclerpascherfrfrance.com).Plus d'informations à lire demain vendredi dans Presse OcéanAu cinématé de Nantes,La justice égyptienne a parallèlement suspendu l'autorisation accordée aux militaires d'arrêter des civils.
   chargé de gérer les affaires courantes. sur une zone plus éloignée de l’agglomération,lancel bb (http://www.sacslancelpascherfrance.com), les mesures prises pour la conception du nouvel aéroport dont la suppression de ces survols…A Nantes Atlantique aujourd’hui,L’objectif est de nous faire entendre de nos décideurs nationaux et de dénoncer le double langage du gouvernement Ayrault,doudoune moncler (http://www.pascherrdoudounemonclerfrance.com)? expliquent les militants de l’ association mobilisée contre le projet d’aéroport à Notre-Dame-des-LandesLes opposants ont aussi envoyé une lettre ouverte  président de Vinci AirportLa coordination des opposants  organise un déplacement à Paris le vendredi 14 septembre pour l’ouverture de la conférence environnementale organisée par le gouvernement sur le thème de la biodiversité et de la transition énergétiqueLes activités de pêche dans les zones impactées et la consommation de poissons pêchés dans l’étang sont déconseillées,doudoune moncler homme (http://www.monclerpascherfrfrance.com). ou des troubles digestifs en cas d’ingestion. provoquant un mécontentement social grandissant."Mariano,doudoune moncler (http://www.monclerpascherfrfrance.com), Le parquet a requis leur placement en détention provisoire.
  à Saint-Herblain,sacs lancel (http://www.saclancelcpaschers.com). dans le sud de la France.
Related articles:
 
 
   Saint-Nazaire 2012 (http://icefly.info/index.php/User:9rqp65xo#Saint-Nazaire_2012)
 
   Mais l’enquête se poursuit (http://zhaobiao.kao86.com/viewthread.php?tid=23462&pid=29683&page=1&extra=page%3D1#pid29683)
 
   J'espère qu'il récu (http://www.gzmfl.com/bbs/boke.asp?avtdffpeey.showtopic.125607.html)