Gold Price today, Gold Trend Price Prediction, ราคาทองคํา, วิเคราะห์ทิศทางทองคํา

เรื่องอาหารการกิน วิธีทํา แนะนําร้านอร่อย => ใครหิวเชิญทางนี้โดยหนูใจ => ข้อความที่เริ่มโดย: jainu ที่ ตุลาคม 23, 2013, 08:36:02 AM

Forex-Currency Trading-Swiss based forex related website. Home ----- กระดานสนทนาหน้าแรก ----- Gold Chart,Silver,Copper,Oil Chart ----- gold-trend-price-prediction ----- ติดต่อเรา

หัวข้อ: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 23, 2013, 08:36:02 AM
23 ตุลาคม 2556


(http://statics.atcloud.com/files/entries/6/68573/images/1_display.jpg)


นับเป็นวาระสำคัญอีกวันหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของเรา

 ที่องค์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5

 ที่คนไทยในสมัยก่อนรักและบูชาท่านต่างพากันเศร้าโศกเสียใจ

ต่อการเสด็จสวรรคตของ “สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง”

หรือ “พระปิยมหาราช” ของเหล่าพสกนิกรชาวไทย

ในวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2453

 ทำให้ในวันนี้ของทุกๆปีพวกเราชาวไทยต่างน้อมใจน้อมรำลึก

 และพากันไปกราบถวายบังคมท่าน ณ ลานรูปทรงม้า

 ที่เหล่าประชาน้อมใจสร้างถวาย


(http://statics.atcloud.com/files/entries/9/99847/images/1_display.jpg)


(http://statics.atcloud.com/files/entries/2/29072/images/1_display.jpg)


(http://statics.atcloud.com/files/entries/5/51632/images/1_display.jpg)


(http://statics.atcloud.com/files/entries/2/27642/images/1_display.jpg)[/center


รัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสยุโรป 1/2 (http://www.youtube.com/watch?v=Aw3Ypqxk1aM#ws)



(http://3.bp.blogspot.com/-F_fzi_paMrY/T_2HEkY8SgI/AAAAAAAAAAc/PnZEFkRAARU/s200/rose5.jpg)(http://statics.atcloud.com/files/comments/139/1395341/images/1_original.bmp)(http://cdn1.bigcommerce.com/server2600/3e151/products/75/images/163/AF3000__91836.1300261159.167.167.jpg)


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤศจิกายน 20, 2013, 05:16:38 PM
(https://fbcdn-sphotos-f-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn2/1468782_617242744984149_2041601560_n.jpg)


20 พฤศจิกายน วันกองทัพเรือ....

พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ทรงเป็นต้นราชสกุล "อาภากร" เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงได้รับสมัญญานามว่า "องค์บิดาของทหารเรือไทย"....

บันทึกของเสด็จในกรมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์....
" เจอบันทึกนี้ ให้เอาคำต่อไปนี้ของกูไปประกาศให้คนรับรู้ว่า

กู กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ผู้เป็นโอรสของพระปิยะมหาราช

ขอประกาศให้พวกรับรู้ไว้ว่าแผ่นดินสยามนี้

บรรพบุรุษได้เอาเนื้อเอาชีวิตเข้าแลกไว้

อีผู้ใดมัน คิดบังอาจทำลายแผ่นดินทำลายชาติ ทำลายศาสนา พระมหากษัตริย์

ฤากระทำการทุจริต ก่อให้เกิดความเดือนร้อนต่อส่วนรวม

จงหยุดคิดการกระทำนั้นเสียโดยเร็ว

ก่อนที่กูจะสั่งทหารผลาญสิ้นทั้งโคตรให้หมดเสนียดของแผ่นดินสยาม อันเป็นที่รักของกู

ตราบใดที่คำว่าอาภากร ยังยืนหยัดอยู่ในโลก

กูจะรักษาแผ่นดินสยามของกู ลูกหลานทั้งหลายแผ่นดินใดให้กำเนิดเรามา

แผ่นดินใดให้ที่ซุกหัวนอน ให้ความร่มเย็นเป็นสุข

มิให้อนาทรร้อนใจ จงซื่อสัตย์ต่อแผ่นดินนั้น "....

โอม ชุมพร จุติ อิทธิ กรณัง สุโข นะโมพุทธายะ นะมะพะธะ จะพะกะสะ มะอะอุ.

ขอพระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้าน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ

อันหาที่สุดมิได้ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม....



HM the King of Thailand



หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤศจิกายน 25, 2013, 07:03:56 PM
(https://fbcdn-sphotos-g-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn1/1002004_627724433956295_1953029937_n.jpg)


25 พฤศจิกายน วันมหาธีรราชเจ้า

วันที่ 25 พฤศจิกายน 2468 เป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
เสด็จสวรรคตด้วยโรคพระโลหิตเป็นพิษ ขณะมีพระชนมายุเพียง 45 พรรษา
เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน
ที่ทรงประกอบพระราชกรณียกิจนานัปการ อันเป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติ
และพสกนิกรชาวไทยอย่างล้นพ้น
ดังนั้นทางราชการจึงได้กำหนดให้วันที่ 25 พฤศจิกายนของทุกปี
เป็นวันที่ระลึก “วันสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า”


พระราชประวัติพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ทรงเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
และสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ
ทรงพระราชสมภพเมื่อ วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ.๒๔๒๓
ได้รับพระราชทานพระนาม สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ
เมื่อพระองค์ทรงมีพระชนมายุได้ ๘ พรรษา ทรงได้รับสถาปนาเป็นกรมขุนเทพ ทวาราวดี

ต่อมาเมื่อสมเด็จโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร
ได้ประชวรและเสด็จทิวงคตลงอย่างกระทันหัน
เมื่อวันที่ ๔ มกราคม พ.ศ. ๒๔๓๗ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
จึงทรงพระกรุณาโปรดสถาปนา สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ กรมขุนเทพทวาราวดี
ซึ่งในขณะนั้นอยู่ในระหว่างประทับทรงศึกษาวิชาการชั้นต้น ณ ประเทศอังกฤษ
ให้ทรงดำรงตำแหน่ง สมเด็จโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมารแทน
เมื่อวันที่ ๑๗ มกราคม พ.ศ. ๒๔๓๗

ขณะทรงพระเยาว์ได้ทรงศึกษาในมหาราชวัง จนถึง พ.ศ.๒๔๓๖
เมื่อพระชนมายุได้ ๑๒ พรรษา สมเด็จชนกนาถทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้เสด็จไปศึกษาต่อ ณ ประเทศอังกฤษ
โดยมีพระมนตรีพจนกิจเป็นพระอภิบาลตามเสด็จไปด้วย
พระองค์ได้ทรงศึกษาวิชาต่าง ๆหลายสาขา ทั้งด้านการทหาร
และเมื่อทรงสำเร็จการศึกษาในด้านการทหารแล้ว
เพราะทรงดำรงตำแหน่งสยามมกุฎราชกุมาร และจะต้องเสด็จขึ้นครองราชย์ต่อไป
จึงได้ทรงศึกษาวิชาวิชาพลเรือนเกี่ยวกับกฎหมายและการปกครองต่อไป
ในมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด กระทั่งพระชนมายุได้ ๒๒ พรรษา
จึงพระราชดำเนินเสด็จกลับประเทศไทยใน พ.ศ. ๒๔๔๕

นับเป็นพระมหากษัตริย์ไทยพระองค์แรกที่ทรงสำเร็จการศึกษาจากต่างประเทศ


เมื่อเสด็จกลับประเทศไทย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
โปรดให้รับราชการในกองทัพบก พระองค์จึงได้ทรงรับราชการในกองทัพบก
ในตำแหน่งหน้าที่สำคัญ เช่น ผู้ตำแหน่งทรงบัญชาการทหารมหาดเล็ก
และได้รับพระราชทานยศเป็นนายพลเอกราชองครักษ์ จเรทหารบก
และทรงเป็นผู้สำเร็จราชการรักษาพระนคร
ในระหว่างที่พระบาทสมเด็จชนกนาถ
เสด็จพระราชดำเนินประพาสยุโรปครั้งที่ ๒ ใน พ.ศ. ๒๔๕๐

ทรงผนวชที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยมีองค์อุปัชฌาย์คือ
พระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ณ วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นเวลา ๑ พรรษา

ครั้นสมเด็จพระปิยมหาราชเสด็จสรรคต ณ วันที่ ๒๓ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๕๓
สมเด็จโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร
เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติสืบราชสันตติวงศ์ ทรงมีพระปรมาภิไธยย่อว่า
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ขณะทรงมีพระชนมายุไค้ ๓๐ พรรษา นับเป็นพระมหากษัตริย์องค์ที่ ๖ แห่งราชจักรีวงศ์

พระองค์ทรงครองราชย์สมบัติได้ถึงปีที่ ๑๕ ก็ทรงพระประชวรโรคพระโลหิตเป็นพิษ
ในพระอุทร โดยเป็นมาตั้งแต่วันที่ ๑๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๖๘ ภายหลังจาก
พระราชพิธีฉัตรมงคล เป็นต้นมา และสวรรคต ณ พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน
ในมหาราชวัง เมื่อวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๖๘
โดยได้อัญเชิญศพไปประดิษฐาน ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
รวมพระชนมพรรษาได้ ๔๖ พรรษา และเสด็จดำรงสิริราชสมบัติได้ ๑๕ พรรษา
แต่เนื่องจากเวลาที่พระองค์เสด็จสวรรคต เป็นเวลา ๑ นาฬิกา ๔๕ นาทีนั้น
เพิ่งจะล่วงมาในวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงมีพระราชประสงค์ให้ถือ
เอาวันที่ ๒๕ พฤศจิกายนเป็นวันสวรรคต และวันที่ ๒๖ พฤศจิกายนเป็นวันเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ

ดังนั้นแล้ว ทางราชการได้กำหนดให้วันที่
๒๕พฤศจิกายนของทุกปีเป็นวันที่ระลึกวันมหาธีรราชเจ้า

ตลอดราชการ พระองค์ทรงมีเพียงพระราชธิดาองค์เดียวเท่านั้น
ซึ่งประสูติแต่สมเด็จพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี คือ
สมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพรรณวดี
ซึ่งประสูติวันอังคารที่ ๒๔ พฤศจิกายน เวลา ๑๒.๕๕ น
.ณ พระที่นั่งเทพสถานพิลาส ในหมู่พระมหามณเฑียร มหาราชวัง
ก่อนที่พระบิดาจะสวรรคตเพียง ๑ วัน


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤศจิกายน 25, 2013, 07:12:59 PM
(https://fbcdn-sphotos-d-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash4/1469797_450963851676379_1430622905_n.jpg)
ART EYE VIEW


ART EYE VIEW ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ “วันขจัดความรุนแรงต่อสตรีสากล”
ซึ่งตรงกับวันที่ 25 พฤศจิกายน ของทุกปี ในฐานะที่ สตรี คือ เพศแม่ ด้วยผลงานศิลปะชุด
“มะโนใจ”
โดย กำพล มะโนใจ ศิลปินชาวเชียงรายผู้เคยได้รับรางวัลจากการประกวดศิลปกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ของธนาคารกสิกรไทย ปี พ.ศ.2542

"แม่" เป็นคำเรียกผู้ให้กำเนิด เป็นคำแรกที่ลูกสามารถเปล่งเสียงเรียก
คือผู้ให้ชีวิต ผู้เสียสละ ความสุขส่วนตนเพื่อลูกๆ
ให้ความรักที่บริสุทธิ์ รักลูกยิ่งชีวิต ยอมลำบากเพื่อลูก
ใจของแม่ที่ต้องทนเห็นลูกร้อง ลูกหิว และลูกเจ็บ ใจแม่เจ็บปวดยิ่งกว่า
ทุกข์สุขของลูกอยู่ ในใจของแม่ ไม่ว่าเวลาทุกข์หรือสุขเมื่อลูกมองหน้าแม่
แม่จะมีรอยยิ้มให้ลูกเสมอ ขอแค่ให้ลูกกินอิ่มนอนหลับ ในใจแม่ก็เป็นสุขพอแล้ว


นิทรรศการศิลปะชุด "มะโนใจ" โดย กำพล มะโนใจ
จัดแสดงระหว่างวันที่ 7 – 31 ธันวาคม พ.ศ.2556
ณ Art Gallery / Architect Studio อ.เมือง จ.เชียงราย โทร. 053-719-110


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ธันวาคม 04, 2013, 07:39:38 PM
Tomorrow


(https://fbcdn-sphotos-g-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn2/s403x403/1471907_191674681023844_940801346_n.jpg)


(https://fbcdn-sphotos-c-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn2/s403x403/1471285_187072984818025_1624402823_n.jpg)


(https://fbcdn-sphotos-a-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash3/p320x320/1461889_191674771023835_567162674_n.jpg)


(https://fbcdn-sphotos-a-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash3/p320x320/1469839_187072454818078_1777343195_n.jpg)


(https://fbcdn-sphotos-h-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash4/1474397_564611646947492_1252771517_n.jpg)


(https://fbcdn-sphotos-a-a.akamaihd.net/hphotos-ak-frc3/p480x480/1461145_493240250793227_217992645_n.jpg)


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ธันวาคม 06, 2013, 10:21:55 PM
(https://fbcdn-sphotos-e-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn2/1471835_625229320874356_943647623_n.jpg)

(http://www.thaigold.info/Board/uploads/monthly_12_2013/post-2847-0-40547900-1386143717_thumb.jpg)


(https://fbcdn-sphotos-a-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash3/946083_239183846241044_1637918730_n.jpg)

พระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๖ พรรษา
วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๖ ณ ท้องพระโรง
ศาลาราชประชาสมาคม วังไกลกังวล จ.ประจวบคีรีขันธ์

"ขอขอบใจท่านทั้งหลายเป็นอย่างยิ่ง
ที่มีไมตรีจิตพรั่งพร้อมกันมาให้พรวันเกิด รวมทั้งให้คำมั่นสัญญา
ข้าพเจ้าขอแสดงสนองพร และไมตรีจิตนั้นด้วยใจจริงเช่นกัน

บ้านเมืองของเราเป็นสุขสืบมาช้านาน
เพราะเรามีความปึกแผ่นในชาติ
และต่างบำเพ็ญกรณียกิจตามหน้าที่ให้สอดคล้องเกื้อกูลกัน
เพื่อประโยชน์ของชาติ คนไทยทุกคนจึงควรจะตระหนักในข้อนี้ให้มาก
และตั้งใจประพฤติตัวปฏิบัติงานให้สมฐานะ
และหน้าที่เพื่อให้สำเร็จประโยชน์ส่วนรวม
คือความมั่นคงปลอดภัยของชาติบ้านเมืองไทย

ขออำนาจแห่งคุณพระรัตนตรัย
และสิ่งศักดิ์สิทธิ์จงคุ้มครองรักษาท่านทุกคนให้มีแต่ความสุขความเจริญตลอดไป"



(https://fbcdn-sphotos-c-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn2/1461137_468798286564781_960057820_n.jpg)

(https://fbcdn-sphotos-c-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn2/1452141_468791789898764_1774952255_n.jpg)

(https://fbcdn-sphotos-f-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash4/1479311_468790586565551_872383124_n.jpg)


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ธันวาคม 06, 2013, 10:35:25 PM
(https://fbcdn-sphotos-e-a.akamaihd.net/hphotos-ak-frc3/1475770_633703503358388_1205027177_n.jpg)

(https://fbcdn-sphotos-h-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn2/1450263_676782282353000_2049658462_n.jpg)



หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ธันวาคม 06, 2013, 10:37:51 PM
(https://fbcdn-sphotos-d-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash3/1457559_708118335867625_1097046170_n.jpg)

(https://fbcdn-sphotos-b-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn2/1476578_708118389200953_1802100437_n.jpg)


(https://fbcdn-sphotos-g-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash3/1391747_708116335867825_1787830291_n.jpg)(https://fbcdn-sphotos-b-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn2/1480673_708116345867824_1950484380_n.jpg)


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ธันวาคม 10, 2013, 08:42:24 PM
พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว



(https://fbcdn-sphotos-c-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash3/1240024_635640006498071_485720397_n.jpg)


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ธันวาคม 10, 2013, 08:45:15 PM
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว กับ รัฐธรรมนูญ พ.ศ.๒๔๗๕



(http://www.chaoprayanews.com/wp-content/uploads/2013/12/250px-King_Prajadhipok_portrait_photograph.jpg)


ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยามที่คณะอนุกรรมการของสภาผู้แทนราษฎรอันมีพระยามโนปกรณ์นิติธาดา (ก้อน หุตะสิงห์) เป็นประธาน ร่างเสร็จตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2475 แล้ว เมื่อคำนึงถึงว่าใช้เวลาร่างเพียง 4 เดือนเศษหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง
และเป็นรัฐธรรมนูญฉบับแรกของสยาม ไม่มีแบบอย่างมาก่อนให้ลอกเลียน แม้จะมีพระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราวที่หลวงประดิษฐ์มนูธรรมซุ่มร่างไว้ก่อนการยึดอำนาจและนำมาถวายรัชกาลที่ 7 ให้ลงพระปรมาภิไธยในวันที่ 27 มิถุนายน 2475
แต่ก็ไม่อาจใช้เป็นแบบอย่างได้ เพราะร่างไว้ลวก ๆ เกินไป ข้อนี้จึงต้องชมเชยคณะอนุกรรมการที่ยกร่างว่าทำงานได้ดีและเร็วเกินคาดทั้งที่หลายคนในคณะนั้นมีภาระต้องทำงานการเมืองอื่น เช่น เป็นกรรมการราษฎร หรือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในเวลาเดียวกัน
ข้อนี้แสดงว่ารัฐธรรมนูญนั้นถ้าตั้งใจร่าง และไม่มัวแต่ถกเถียงกันให้มากหมอมากความ มันก็ไม่ลากยาวเป็นปี ๆ หรอกครับ!
ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ร่างเสร็จแล้วยังต้องนำเข้าสภาผู้แทนราษฎรให้พิจารณาอีกครั้งว่าจะเห็นชอบหรือไม่ ซึ่งสมาชิก 70 คนก็ได้ต่อเติมเสริมแต่งกันอีกทีจนออกมาสำเร็จบริบูรณ์ตอนปลายเดือนพฤศจิกายน บัดนี้ก็ได้เวลาหาฤกษ์ประกอบพิธีพระราชทานให้เป็นทางการและเป็นสิริมงคล
ร่างรัฐธรรมนูญก็เหมือนกฎหมายอีกหลายฉบับที่ “ยากจะหาความเกษมเปรมใจ” ร้อยเปอร์เซ็นต์ พระยามโนฯ เองก็ได้บ้างเสียบ้างไม่เป็นไปอย่างที่ต้องการทั้งหมด หลวงประดิษฐ์มนูธรรม ผู้ร่างอีกผู้หนึ่งก็ต้องยอมถอยในบางเรื่อง คณะราษฎรเองที่อุตส่าห์ยึดอำนาจมาก็ไม่ได้ดังใจนึกไปทุกเรื่อง



(http://www.chaoprayanews.com/wp-content/uploads/2013/12/429px-Prajadhipoks_coronation_records_-_001.jpg)

ที่สำคัญคือพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ซึ่งทรงคาดหมายไว้หลายอย่างและได้พระราชทานแนวทางบางเรื่องแก่คณะอนุกรรมการยกร่างผ่านทางพระยามโนฯ ก็ไม่ได้พอพระราชหฤทัยไปทั้งหมด ดังที่มีพระราชหัตถเลขาว่า
“ข้าพเจ้าได้เคยตักเตือนพระยามโนฯ ไว้อย่างชัดเจน…ความตักเตือนของข้าพเจ้าเหล่านี้ไร้ผลเพราะคณะผู้ก่อการฯ ยืนยันในความประสงค์ที่จะยึดอำนาจไว้ในมือของคณะตนให้จงได้ อย่างน้อยเป็นเวลา 10 ปี ข้าพเจ้ารู้สึกในขณะนั้นว่าถ้าจะโต้เถียงกันต่อไป การร่างรัฐธรรมนูญก็จะชักช้าไม่รู้จักแล้วและอาจเป็นการแตกหักร้ายแรงเรียกว่าที่จะยอมรับให้การเป็นไปตามความประสงค์ของคณะผู้ก่อการฯ จึงได้ยอมให้เป็นไปตามนั้น”
นี่ก็เป็นอีกบทเรียนหนึ่งของการร่างรัฐธรรมนูญว่าไม่มีใครได้อะไร “สุดซอย” ไปเสียหมดหรอก!
รัฐบาลได้ขอให้พระธรรมเจดีย์ (อยู่ ญาโณทโย) เจ้าอาวาสวัดสระเกศ โหรใหญ่ในขณะนั้นเป็นผู้คำนวณฤกษ์พระราชทานรัฐธรรมนูญ ซึ่งท่านก็ได้ให้ไว้หลายฤกษ์ บางฤกษ์เร็วไปเตรียมการไม่ทัน บางฤกษ์ช้าไปไม่ทันใจ
รัชกาลที่ 7 ทรงเห็นด้วยกับรัฐบาลว่าฤกษ์วันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ.2475 เวลา 10.00 น. น่าจะเหมาะที่สุด จึงโปรดเกล้าฯ ให้จัดเป็นงานใหญ่ ณ ท้องพระโรงพระที่นั่งอนันตสมาคม
รัชกาลที่ 7 ทรงตื่นเต้นกับงานสำคัญนี้มาก โปรดเกล้าฯ ให้บริษัทภาพยนตร์ศรีกรุง จำกัด เข้าไปถ่ายภาพยนตร์ พระองค์เองทรงพระกรุณาเสด็จพระราชดำเนินไปก่อนวันงานเพื่อทรงซักซ้อมพิธีการและขั้นตอนต่าง ๆ
วันที่ 10 ธันวาคม 2475 เวลาเช้า พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งไปยังพระที่นั่งอนันตสมาคม ทรงเครื่องบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ เสด็จขึ้นประทับเหนือพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ท่ามกลางมหาสมาคม มีคณะกรรมการราษฎร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร วงศานุวงศ์ ข้าราชการผู้ใหญ่ อาลักษณ์อ่านพระราชปรารภในรัฐธรรมนูญ พระยามโนฯ เข้าไปถวายร่างรัฐธรรมนูญทีละฉบับ ทรงรับมาลงพระปรมาภิไธยแล้วพระราชทานคืนไปยังเจ้าพระยาพิชัยญาติ ประธานสภาผู้แทนราษฎร
แล้วเสด็จออกสู่มุขเด็จหน้าพระที่นั่งอนันตสมาคม เจ้าหน้าที่ชูพานรัฐธรรมนูญ ข้าราชการและประชาชนที่ชุมนุมอยู่ ณ สนามหญ้าและลานรูปทรงม้าต่างร้องไชโยกึกก้อง
รัฐธรรมนูญฉบับแรกของไทยซึ่งถือว่าเป็นรัฐธรรมนูญสมบูรณ์แบบตามความหมายทั่วไปเริ่มใช้ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา และฤกษ์คงจะดีเอาการเพราะใช้มาถึง 14 ปีจึงถูกยกเลิกไปด้วยการประกาศใช้ฉบับใหม่ใน พ.ศ.2489
คณะรัฐมนตรีมีมติให้วันที่ 10 ธันวาคมของทุกปีเป็นวันรัฐธรรมนูญ
แม้รัฐธรรมนูญฉบับนั้นจะเลิกใช้ไปนานแล้ว แต่ความสำคัญอยู่ที่ว่าเป็นรัฐธรรมนูญถาวรฉบับแรกและแม้จะมีการร่างต่อมาอีกหลายฉบับก็ยังยึดถือหลักการบางหลัก และถ้อยคำภาษาศัพท์แสงที่ใช้ในฉบับนี้เป็นต้นแบบ
ทั้งวันที่ 10 ธันวาคมควรเป็นวันรำลึกถึงทั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 และคณะราษฎร โดยเฉพาะรัชกาลที่ 7 นั้นควรต้องนึกถึงให้มาก ว่าทรงอดทน อดกลั้น ไม่ใช่เล่น
นาทีที่ประทับอยู่เหนือพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์นั้น จะทรงคิดอย่างไรสุดที่ใครจะเดาพระราชหฤทัยได้ แต่ความหมายที่ซ่อนเร้นอยู่คือ ในปี 2468 ได้ประทับอย่างนี้เพื่อรับเอาพระราชอำนาจในฐานะรัฏฐาธิปัตย์จากสมเด็จเชษฐามาสู่พระองค์
ในวันที่ 10 ธันวาคม 2475 เวลา 10.00 น. ประทับเหนือพระที่นั่งเดียวกันและ
ทรงเต็มพระทัยถ่ายโอนพระราชอำนาจในฐานะรัฏฐาธิปัตย์กลับคืนลงไปสู่ประชาชนให้ไปปกครองกันเอง
บทเรียนตรงนี้ไม่มี แต่มีคำถามว่าแล้วถึงมือประชาชนไหม.


………………………………………….

http://welovethaikin (http://welovethaikin)...4.0#postid-1314


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ธันวาคม 19, 2013, 08:05:16 PM
ร่วมเทิดพระเกียรติ "กรมหลวงชุมพร"  "องค์บิดาของทหารเรือไทย"
๑๙ ธันวาคม  วันคล้ายวันประสูติ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ
พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
พระเจ้าลูกยาเธอใน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕


(http://www.trueplookpanya.com/data/product/media/KNOWLEDGE/picknowledge/2222.jpg)


เมื่อครั้งยังพระชนม์ชีพ
          พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์ เมื่อทรงสำเร็จการศึกษา ได้เข้ารับราชการในกองทัพเรือ พระองค์ทรงปรับปรุงพัฒนา กิจการทหารเรือให้เจริญก้าวหน้ามากมาย อาทิ ทรงแก้ไขระเบียบการในโรงเรียนนายเรือทั้ง ฝ่ายปกครองและฝ่ายวิชาการ ขอ พระราชทานจัดตั้งโรงเรียนนายเรือที่บริเวณ พระราชวังเดิม ฝั่งธนบุรี เมื่อพ.ศ. 2448  และ สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จ เปิดโรงเรียนนายเรือในวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2449 ทรงเป็นผู้วางโครงการจัดตั้งฐาน ทัพเรือที่สัตหีบ ทรงทำแผนการทัพเรือ ทรงจัดการศึกษาทางยุทธวิธี กระบวนรบในกองทัพเรือ ให้เรียบร้อยยิ่งขึ้น ปี พ.ศ. 2453 เป็น แผ่นดินของรัชกาลที่ 6 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎ เกล้าเจ้าอยู่หัวได้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ทรงดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเสนาบดี และทรงให้ยกกรมทหารเรือขึ้นเป็น กระทรวงทหาร อีกด้วย ปี พ.ศ. 2460 ได้รับพระกรุณา โปรดเกล้าฯ เลื่อนยศเป็นนายพลเรือไทย และได้ทรงเลื่อนยศขึ้นเป็นนายพลเรือเอกในปีเดียวกัน ทรงเป็นผู้แทนคณะกรรมการราชนาวีสมาคมแห่งกรุงสยามในราชูปถัมภ์ออกไปจัดซื้อเรือรบหลวงพระร่วง ณ ประเทศ อังกฤษ และทรงเป็นผู้บังคับการเรือนำเรือรบหลวงพระร่วงเข้ามาสู่กรุงเทพพระมหานครโดยสวัสดิภาพ
          พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า เจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาพระอิสริยยศเป็น กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2463 และทรงได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ขึ้นดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงทหารเรือ เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2466 เนื่องจากพระองค์ท่านได้ทรงนำความเจริญก้าวหน้ามาสู่กองทัพไทยอย่างอเนกอนันต์ เหล่าทหารเรือไทยจึงเคารพรักและพร้อม ใจกันถวายพระเกียรติของพระองค์ว่า พระบิดาแห่ง ราชนาวีไทย


(http://www.pranburitravel.com/wp-content/pic/439857hze1vgnqaz.gif)


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ธันวาคม 25, 2013, 07:53:09 AM


(https://fbcdn-sphotos-h-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn1/558245_556857964399936_946614630_n.jpg)



หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ธันวาคม 25, 2013, 11:42:41 PM
(https://fbcdn-sphotos-g-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash3/p280x280/1504993_505755719541680_1349727947_n.png)

(https://fbcdn-sphotos-c-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn2/p280x280/1480741_505754616208457_583081297_n.jpg)(https://fbcdn-sphotos-f-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash4/s350x350/1486695_505754799541772_1685353037_n.jpg)

(https://fbcdn-sphotos-b-a.akamaihd.net/hphotos-ak-frc3/p280x280/1395169_505612206222698_1605217774_n.jpg)(https://fbcdn-sphotos-h-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn1/p280x280/1521625_505281829589069_595308595_n.jpg)


(https://fbcdn-sphotos-f-a.akamaihd.net/hphotos-ak-frc3/p370x247/1491670_505605272890058_424997523_n.jpg)(https://fbcdn-sphotos-b-a.akamaihd.net/hphotos-ak-frc3/p280x280/988381_505283146255604_258451374_n.jpg)

(https://fbcdn-sphotos-h-a.akamaihd.net/hphotos-ak-frc1/p280x280/995013_505343682916217_1927693540_n.jpg)(https://fbcdn-sphotos-f-a.akamaihd.net/hphotos-ak-frc3/p280x280/1507890_505283042922281_788989544_n.jpg)

(https://fbcdn-sphotos-b-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash4/p280x280/1482755_505280642922521_1690521855_n.jpg)(https://fbcdn-sphotos-e-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash3/p280x280/1510543_505114542939131_1323236072_n.jpg)

(https://fbcdn-sphotos-d-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn2/p280x280/1480696_505105849606667_317991291_n.jpg)(https://fbcdn-sphotos-g-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn1/p280x280/1503928_505105712940014_610623058_n.jpg)

(https://fbcdn-sphotos-f-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn1/p280x280/1522107_505103539606898_356839797_n.jpg)(https://fbcdn-sphotos-a-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash3/p280x280/1484128_505111052939480_1600209155_n.jpg)


(https://fbcdn-sphotos-g-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn1/p280x280/1486743_505150666268852_1400698889_n.jpg)(https://fbcdn-sphotos-e-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn1/p280x280/1521822_505285949588657_1553044597_n.jpg)

ตำนานวันคริสต์มาส

          คำว่า "คริสต์มาส" เป็นคำทับศัพท์ภาษาอังกฤษว่า Christmas มาจากคำภาษาอังกฤษโบราณว่า Christes Maesse ที่แปลว่า "บูชามิสซาของพระคริสตเจ้า" ซึ่งพบครั้งแรกในเอกสารโบราณที่เป็นภาษาอังกฤษในปี ค.ศ. 1038 และในปัจจุบันคำนี้ก็ได้เปลี่ยนมาเป็นคำว่า Christmas

          เทศกาล Christmas หรือ X’Mas ตรงกับวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี ซึ่งวันที่ 25 ธันวาคมนั้นเป็นวันประสูติของพระเยซู ศาสดาแห่งศาสนาคริสต์ โดย พระองค์ประสูติที่เมืองเบ็ธเลเฮ็มและเติบโตที่เมืองนาซาเรท ซึ่งปัจจุบันคือประเทศอิสราเอล ตามหลักฐานในพระคัมภีร์ได้บันทึกไว้ว่า พระเยซูเจ้าประสูติในสมัยที่จักรพรรดิซีซาร์ ออกุสตุส แห่งจักรวรรดิโรมัน ซึ่งทรงสั่งให้จดทะเบียนสำมะโนครัวทั่วทั้งแผ่นดิน โดยฝ่ายคีรีนิอัส เจ้าเมืองซีเรียก็รับนโยบายไปปฏิบัติให้มีการจดทะเบียนสำมะโนครัวทั่วทั้ง อาณาเขต แต่ในพระคัมภีร์ ไม่ได้ระบุว่า พระเยซูประสูติวันหรือเดือนอะไร

           ด้านนักประวัติศาสตร์ก็มีความเห็นที่ต่างออกไปโดยได้วิเคราะห์ว่า เดิมทีวันที่ 25 ธันวาคม เป็นวันที่จักรพรรดิเอาเรเลียนแห่งโรมัน กำหนดให้เป็นวันฉลองวันเกิดของสุริยะเทพ ตั้งแต่ปี ค.ศ.274 ชาวโรมันซึ่งส่วนใหญ่นับถือเทพเจ้าฉลองวันนี้เสมือนว่า เป็นวันฉลองของพระจักรพรรดิไปในตัวด้วย เพราะจักรพรรดิก็เปรียบเสมือนดวงอาทิตย์ ที่ให้ความสว่างแก่ชีวิตมนุษย์ แต่ชาวคริสต์ที่อยู่ในจักรวรรดิโรมัน รวมถึงชาวโรมันที่เปลี่ยนไปนับถือคริสต์อึดอัดใจที่จะฉลองวันเกิดของสุริย เทพ จึงหันมาฉลองการบังเกิดของพระเยซูซึ่งเปรียบเสมือนความสว่างของโลก และเหมือนดวงจันทร์เป็นความสว่างในตอนกลางคืนแทน หลังจากที่ชาวคริสต์ถูกควบคุมเสรีภาพทางศาสนาตั้งแต่ปี ค.ศ. 64-313 จนถึงวันที่ 25 ธันวาคม ปี ค.ศ.330 ชาวคริสต์จึงเริ่มฉลองคริสต์มาสอย่างเป็นทางการและเปิดเผย

          เทศกาลคริสต์มาสจึงเป็นวันแห่งการเฉลิมฉลองวันประสูติของพระเยซู และเป็นการฉลองความรักที่พระเจ้ามีต่อมนุษย์โลก โดยส่งบุตรชาย คือ "พระเยซู" ลงมาเกิดเป็นมนุษย์เพื่อช่วยไถ่บาป และช่วยให้มนุษย์รอดพ้นจากการทำชั่วนั่นเอง ดังนั้นในวันนี้ถือเป็นวันที่มีความหมายสำคัญชาวคริสต์ทั่วโลก และมีการส่งบัตรอวยพร ให้ของขวัญ แก่กันและกัน รวมทั้งประดับประดาตกแต่งบ้านเรือนด้วยแสงไฟ และต้นคริสต์มาสอย่างสวยงาม
องค์ประกอบในงานคริสต์มาส

 ซานตาครอส

เป็นสิ่งแรกๆ ที่คนจะนึกถึงในฐานะสัญลักษณ์ของวันคริสต์มาส ซึ่งว่ากันว่าซานตาคลอสคนแรก คือ นักบุญ (เซนต์) นิโคลัส ผู้เป็นสังฆราชแห่งเมืองไมรา มีชีวิตอยู่ในศตวรรษที่ 4 และเหตุที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นซานตาครอสคนแรก มาจากวันหนึ่งที่ท่านปีนขึ้นไปบนหลังคาบ้านของเด็กหญิงยากจนคนหนึ่ง แล้วทิ้งถุงเงินลงไปทางปล่องไฟ บังเอิญถุงเงินหล่นไปทางถุงเท้าที่เด็กหญิงแขวนตากไว้ข้างเตาผิงพอดี

          นักบุญนิโคลัส นั้นเป็นนักบุญที่ชาวฮอลแลนด์นับถือว่าเป็นนักบุญผู้อุปถัมภ์ของเด็กๆ เมื่อชาวฮอลแลนด์กลุ่มหนึ่งอพยพไปอยู่ในสหรัฐฯ ก็ยังรักษาประเพณีการฉลองนักบุญ นิโคลาส ในวันที่ 5 ธันวาคม เอาไว้ ซึ่งหมายถึงนักบุญนี้จะมาเยี่ยมเด็กๆ และเอาของขวัญมาให้เด็กอื่นๆ ที่ไม่ใช่ลูกหลานของชาวฮอลแลนด์ที่อพยพมา ประเพณีนี้จึงเริ่มเป็นที่รู้จักและแพร่หลายในอเมริกา โดยมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง คือ ชื่อนักบุญนิโคลัสก็เปลี่ยนเป็น ซานตาคลอส และแทนที่จะเป็นสังฆราชก็กลายเป็นชายแก่ที่อ้วนและใส่ชุดสีแดง อาศัยอยู่ที่ขั้วโลกเหนือ มีเลื่อนเป็นยานพาหนะที่มีกวางเรนเดียร์ลาก และจะมาเยี่ยมเด็กทุกคนในโลกนี้ในโอกาสคริสต์มาส โดยลงมาทางปล่องไฟของบ้านเพื่อเอาของขวัญมาให้เด็กเหล่านั้นตามความประพฤติ ของเขา

          ถึงแม้ซานตาคลอสจะเป็นเพียงตำนานที่เกิดขึ้นมาเพื่อเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสก็ ตาม แต่ก็เป็นสัญลักษณ์ที่รวมเอาวิญญาณและความหมายของคริสต์มาสไว้อย่างมากมาย อาทิ ความปิติยินดีชื่นชม ความโอบอ้อมอารี ความรัก และความเป็นกันเอง

 ถุงเท้า

           จากที่นักบุญนิโคลัสได้ปีนขึ้นไปบนปล่องไฟของบ้านเด็กหญิงยากจน เพื่อที่จะมอบเหรียญเงินให้เป็นของขวัญ แต่เหรียญนั้นกลับตกไปอยู่ในถุงเท้าที่เด็กหญิงแขวนตากไว้หน้าเตาผิง พอรุ่งเช้าเด็กหญิงตื่นมาเจอเหรียญเงินในถุงเท้าจึงดีใจมาก และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการที่ผู้คนมากมายต่างพากันแขวนถุงเท้าคริสต์มาส ไว้ เพื่อหวังจะได้รับของขวัญเช่นเดียวกันบ้าง


 ต้นคริสต์มาส

          นอกจากนี้อีกอย่างที่ขาดไม่ได้ก็คือ ต้นคริสต์มาส ซึ่งต้นคริสต์มาสก็คือต้นสนที่นำมาประดับประดาด้วยลูกแอปเปิ้ลและขนมปัง เพื่อระลึกถึงศีลมหาสนิท และก็ได้มีวิวัฒนาการที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยจนมาถึงการประดับด้วยดวงไฟหลาก สีสัน ขนม และของขวัญ อย่างในทุกวันนี้ การตกแต่งแบบนี้ต้องย้อนไปในศตวรรษที่ 8 เมื่อเซนต์บอนิเฟส มิชชันนารีชาวอังกฤษที่เดินทางไปประกาศเรื่องพระเจ้าในเยอรมนี ได้ช่วยเด็กที่กำลังจะถูกฆ่าเป็นเครื่องสังเวยบูชาที่ใต้ต้นโอ๊ก

          โดยเมื่อโค่นต้นโอ๊กทิ้งก็ได้พบต้นสนเล็กๆ ต้นหนึ่งขึ้นอยู่ที่โคนต้นโอ๊ก ท่านจึงขุดให้คนที่ร่วมพิธีกรรมเหล่านั้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของชีวิต และตั้งชื่อว่า ต้นกุมารพระคริสต์ ต่อมา มาร์ติน ลูเธอร์ ผู้นำคริสตจักรชาวเยอรมัน ตัดต้นสนไปตั้งในบ้านในเดือนธันวาคม ปี ค.ศ.1540 หลังจากนั้นในศตวรรษที่ 19 ต้นคริสต์มาสจึงเริ่มแพร่ไปสู่ประเทศอังกฤษและทั่วโลก และอีกเหตุผลที่ใช้ต้นสนก็เพราะว่ามันหาง่าย

          ในสมัยโบราณนั้นต้นคริสต์มาส หมายถึง ต้นไม้ในสวนสวรรค์ ซึ่งอาดัมและเอวาไปหยิบผลไม้มากิน และทำบาป ไม่เชื่อฟังพระเจ้า โดยตามพระคัมภีร์นั้นได้เปรียบพระเยซูเจ้าเสมือนเป็นต้นไม้แห่งชีวิต ซึ่งเป็นต้นไม้ที่เขียวเสมอในทุกฤดูกาล สื่อถึงนิรันดรภาพของพระเยซูเจ้า อีกทั้งความสว่างของพระองค์ยังเหมือนแสงเทียนที่ส่องสว่างในความมืด และรวมถึงความชื่นชมยินดี และความสามัคคี ที่พระเยซูประทานให้ เพราะต้นไม้นั้นเป็นจุดศูนย์รวมของครอบครัวในเทศกาลคริสต์มาส


 ต้นฮอลลี่

          ต้นฮอลลี่ เป็นต้นไม้พุ่มเตี้ย และเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของวันคริสต์มาส เชื่อกันว่า สีเขียวของต้นฮอลลี่มีความหมายถึง การมีชีวิตอยู่ชั่วนิรันดร์ และมีความสัมพันธ์กับพระเยซู โดยผลสีแดงของต้นฮอลลี่นั้นหมายถึงหยดเลือดของพระเยซูที่ไหลลงบนไม้กางเขน ซึ่งเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของความรักที่มีต่อพระเจ้า ใบไม้ที่มีหนามของต้นฮอลลี่เป็นสิ่งที่เตือนพวกเราถึงมงกุฏหนามที่พวกชาว ทหารโรมันได้นำมาวางไว้บนศีรษะของพระเยซูคริสต์

 ดอกไม้คริสต์มาส หรือ Poinsettia

          ตำนาน ของดอก Poinsettia ที่กลายมาเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของวันคริสต์มาส มาจากเรื่องราวของเด็กหญิงจนๆ คนหนึ่ง ที่ต้องการหาของขวัญไปมอบให้พระแม่มารีในวันคริสต์มาสอีฟ แต่เนื่องจากเธอไม่มีสิ่งของใดๆ ติดตัว จึงเดินทางไปตัวเปล่า และระหว่างทางเธอได้พบกับนางฟ้าที่บอกให้เธอเก็บเมล็ดพืชไว้ ต่อมาเมล็ดพืชนั้นกลับเจริญเติบโตเปลี่ยนเป็นดอกไม้สีเลือดหมูสดใส ซึ่งก็คือดอก Poinsettia ตั้งแต่นั้นดอก Poinsettia ก็ได้รับความนิยมใช้ประดับประดาบ้านในงานคริสต์มาส

 ดอกคริสต์มาส Christmas Rose

          มี ต้นกำเนิดที่ประเทศอังกฤษ ลักษณะเป็นดอกสีขาว และมักออกดอกในช่วงฤดูหนาว ตำนานของดอกคริสต์มาสนี้มีอยู่ว่า ในช่วงที่พระเยซูประสูติ มีผู้รอบรู้ 3 คน กับคนเลี้ยงแกะเดินทางมาพบพระเยซู ระหว่างทางพวกเขาพบกับ มาเดลอน เด็กหญิงที่เลี้ยงแกะคนหนึ่ง เมื่อเธอทราบว่าทั้งหมดเดินทางมาเพื่อมอบของขวัญให้พระเยซู มาเดลอนก็เสียใจที่ไม่มีของขวัญใดไปมอบให้พระเยซูบ้าง ก่อนที่นางฟ้าที่เฝ้ามองเธออยู่จะเกิดความเห็นใจจึงร่ายมนตร์เสกดอกไม้สีขาว น่ารักและมีสีชมพูอยู่ตรงปลายกลีบให้เธอ และดอกไม้นั้นคือ ดอกคริสต์มาสนั่นเอง


 เพลงวันคริสต์มาส

          เพลงคริสต์มาสเริ่มมีขึ้นในศตวรรษที่ 5 แต่งโดยพระสงฆ์และฆราวาส มีเนื้อร้องเป็นภาษาลาติน ลักษณะของเพลงเป็นแบบสง่า เน้นถึงความหมายของการเสด็จมาของพระเยซูเจ้า แต่ในศตวรรษที่ 12 ได้มีการแต่งในท่วงทำนองที่ร่าเริงสนุกสนานมากขึ้น เริ่มจากประเทศอิตาลี โดยนักบุญฟรังซิส อัสซีซี และนักบวชคณะฟรังซิสกัน เป็นผู้สนับสนุน ให้มีเพลงคริสต์มาสแบบใหม่

          เพลงคริสตมาสแบบใหม่นี้ เป็นที่ชื่นชอบของชาวบ้าน เพราะมีท่วงทำนองที่ร่าเริงกว่า และเน้นถึงความชื่นชมยินดีในโอกาสคริสต์มาส เพลงเหล่านี้มีทั้งที่เป็นภาษาลาติน และภาษาพื้นเมือง เพลงหนึ่งที่แต่งในสมัยนั้น (แต่งคำร้องในปี ค.ศ.1274) และยังใช้อยู่จนถึงปัจจุบัน คือ เพลง Oh Come, All Ye Faithful หรือ Adeste Fideles ในภาษาลาติน เพลงคริสต์มาสที่นิยมร้องมากที่สุดในปัจจุบันได้แต่งขึ้นในศตวรรษที่ 19 จากประเทศเยอรมัน และประเทศอังกฤษเป็นส่วนใหญ่ เพลงที่มีชื่อเสียงมากได้แก่ เพลง Silent Night, Holy Night

          ความเป็นมาของเพลงนี้มาจากวันก่อนวันฉลองคริสต์มาส ของปี ค.ศ.1818 คุณพ่อโจเซฟ โมห์ (Joseph Mohr) เจ้าอาวาสวัดที่โอเบิร์นดอฟ (Oberndorf) ประเทศออสเตรีย ได้ข่าวว่าออร์แกนในวัดเสีย ทำให้วงขับร้องไม่สามารถร้องเพลงตามที่ซ้อมไว้ได้ จึงมีการแต่งเพลงคริสต์มาสใหม่ นำไปให้เพื่อนชื่อ ฟรานซ์ กรูเบอร์ (Franz Gruber) ใส่ทำนองในคืนวันที่ 24 นั่นเอง และเล่นเพลง Silent Night เป็นครั้งแรก โดยมีการเล่นกีตาร์ประกอบการขับร้อง ซึ่งกลายเป็นเพลงที่นิยมมากที่สุดทั่วโลก

 คำอวยพรวันคริสต์มาส

          ในวันคริสต์มาสเรามักจะใช้คำอวยพรให้แก่กันและกันว่า Merry X'mas คำว่า Merry ในภาษาอังกฤษโบราณ แปลว่า "สันติสุขและความสงบทางใจ" คำนี้จึงเป็นคำที่ใช้อวยพรขอให้เขาได้รับสันติสุขและความสงบทางใจ และได้จัดให้มีการฉลองเพื่อระลึกถึงการบังเกิดของพระเยซู ที่เขายกย่องเหมือนกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งสากลโลก ผู้ทรงเกียรติเลอเลิศ ประเพณีนี้ได้เริ่มมาจากรุงโรมในศตวรรษที่ 4 และค่อยๆ เผยแพร่ไปทุกทวีป


 สีประจำวันคริสต์มาส

สีที่เกี่ยวข้องในวันคริสต์มาสประกอบด้วย

          สีแดง : เป็นสีของผลฮอลลี่ หรือซานตาครอส เป็นสีของเดือนธันวาคม ที่แสดงถึงความตื่นเต้น และหากเป็นสัญลักษณ์ตามศาสนา สีแดงจะหมายถึง ไฟ, เลือด และความโอบอ้อมอารี

          สีเขียว : เป็นสีของต้นไม้ สัญลักษณ์ของธรรมชาตื หมายถึงความอ่อนเยาว์และความหวังที่จะมีชีวิตเป็นนิรันดร์ เปรียบได้กับว่าเทศกาลคริสต์มาสคือเทศกาลแห่งความหวัง

          สีขาว : เป็นสีของหิมะ และเป็นสัญลักษณ์ทางศาสนา คือแสงสว่าง ความบริสุทธิ์ ความสุข และความรุ่งเรือง สีขาวนี้จะปรากฎบนเสื้อคลุมนางฟ้า, เคราและชายเสื้อของซานตาครอส

          สีทอง : เป็นสีของเทียนและดวงดาว เป็นสัญลักษณ์ของแสงอาทิตย์และความสว่างไสว

 การทำมิสซาเที่ยงคืน

          การถวายมิสซานี้เกิดขึ้นหลังจากพระสันตะปาปาจูลีอัสที่ 1 ได้ประกาศให้วันที่ 25 ธันวาคมเป็นวันฉลองพระคริสตสมภพ (วันคริสต์มาส) ในปีนั้นเองพระองค์และสัตบุรุษ ได้พากันเดินสวดภาวนา และขับร้องไปยังตำบลเบธเลเฮม และไปยังถ้ำที่พระเยซูเจ้าประสูติ เมื่อไปถึงตรงกับเวลาเที่ยงคืนพอดี พระสันตะปาปาทรงถวายบูชามิซซา ณ ที่นั้น เมื่อเดินทางกลับมาที่พักได้เวลาตี 3 พระองค์ก็ถวายมิสซาอีกครั้ง และ สัตบุรุษเหล่านั้นก็พากันกลับ แต่ยังมีสัตบุรุษหลายคนไม่ได้ร่วมขบวนไปด้วยในตอนแรก พระสันตะปาปาก็ทรงถวายบูชามิสซาอีกครั้งหนึ่งเป็นครั้งที่ 3 เพื่อสัตบุรุษเหล่านั้น ด้วยเหตุนี้เองพระสันตะปาปาจึงทรงอนุญาตในพระสงฆ์ถวายบูชามิสซาได้ 3 ครั้ง ในวันคริสต์มาส เหมือนกับการปฏิบัติของพระองค์ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจึงมีธรรมเนียมถวายมิสซาเที่ยงคืน ในวันคริสต์มาส และพระสงฆ์ก็สามารถถวายมิสซาได้ 3 มิสซา ในโอกาสวันคริสต์มาส

 เทียนและพวงมาลัย

         พวง มาลัยนั้นเป็นสัญลักษณ์ที่คนสมัยก่อนใช้หมายถึงชัยชนะ แต่สำหรับการแขวนพวงมาลัยในวันคริสต์มาสนั้น หมายถึงการที่พระองค์มาบังเกิดในโลก และทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างครบบริบูรณ์ตามแผนการณ์ของพระเป็นเจ้า ซึ่งธรรมเนียมนี้ เกิดจากกลุ่มคริสตชนกลุ่มหนึ่งในประเทศเยอรมันได้เอากิ่งไม้มาประกอบเป็นวง กลมคล้ายพวงมาลัย แล้วเอาเทียน 4 เล่ม วางไว้บนพวงมาลัยนั้น ในตอนกลางคืนของวันอาทิตย์แรกของเทศกาลเพื่อเตรียมรับเสด็จ ทุกคนในครอบครัวจะจุดเทียนหนึ่งเล่ม สวดภาวนา และร้องเพลงคริสต์มาสร่วมกันเป็นเวลา 4 อาทิตย์ก่อนถึงวันคริสต์มาส ประเพณีเป็นที่นิยมอยางมากในประเทศอเมริกา ต่อมาได้มีการเปลี่ยนแปลงโดยนำเทียน 1 เล่มนั้นมาจุดไว้ตรงกลางพวงมาลัยสีเขียว และนำไปแขวนไว้ที่หน้าต่าง เพื่อเป็นการเตือนให้คนที่เดินผ่านไปมาได้รู้ว่าใกล้ถึงวันคริสต์มาสแล้ว ส่วนเหตุผลที่พวงมาลัยมีสีเขียวนั้น เป็นเพราะมีการเชื่อกันว่าสีเขียวจะช่วยป้องกันบ้านเรือนจากพวกพลังอันชั่ว ร้ายได้


 ระฆังวันคริสต์มาส
          เสียงระฆังในวันคริสต์มาสคือการเฉลิมฉลองให้กับการประสูติของพระพุทธเจ้า โดยมีตำนานเล่าว่า มีการตีระฆังช่วงก่อนเวลาเที่ยงคืนของวันคริสต์มาสเพื่อลดพลังความมืด และบ่งบอกถึงความตายของปีศาจ ก่อนที่พระเยซูผู้ที่จะมาช่วยไถ่บาปให้กับมวลมนุษย์จะถือกำเนิดขึ้น และระฆังนี้มีเสียงดังกังวาลนานนับชั่วโมง ก่อนที่ในเวลาเที่ยงคืนเสียงระฆังนี้จะกลับกลายมาเป็นเสียงแห่งความสุข

 ดาว
         ดาว ในความหมายของชาวคริสต์เตียน หมายถึงการแสดงออกที่ดีของพระเยซูคริสต์ ที่บัญญัติไว้ในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลว่า "The bright and morning star" มีความหมายพิเศษเหมือนกับว่า ดวงดาวเหล่านั้นได้แบ่งที่อยู่กับสรวงสวรรค์ ไม่ว่าจะมีกำแพงอะไรขวางกั้นระหว่างพื้นผิวโลกด้วยก็ตาม

 เครื่องประดับและแอปเปิ้ล                           

          ในบางแห่งเชื่อว่า ลำต้นของแอปเปิ้ล มองดูคล้ายกับต้นไม้ในสรวงสวรรค์ จึงมีการนำเอาแอปเปิ้ลมาประดับตามต้นไม้ในวันคริสต์มาส ส่วนเครื่องประดับชิ้นเล็กๆ ที่ตกแต่งต้นคริสต์มาสนั้นเป็นงานศิลปะที่จำลองจากผลไม้ และที่มีสีสันสดใสนั้นเพื่อให้เกิดความรื่นเริงในบ้าน อีกทั้งแสงระยิบระยับที่สะท้อนไปมา ยังดูสวยงามคล้ายแสงเทียนและแสงไฟ

 ของขวัญวันคริสต์มาส
 

          การแลกเปลี่ยนของขวัญในวันคริสต์มาสนั้น เริ่มต้นจากเมือง Saturnalia ในช่วงยุคโรมัน ต่อมาชาวคริสต์รับประเพณีนี้เข้ามา ด้วยความเชื่อว่า การให้ของขวัญนี้มีความเกี่ยวเนื่องกับของขวัญประเภททอง, ยางสนที่มีกลิ่นหอม และ ยางไม้หอม ซึ่งพวกนักเวทย์จากตะวันออกที่เดินทางมาคารวะพระเยซูคริสต์ นำมาให้ตอนที่ท่านประสูติ

          ทั้งหมดนั้นก็คือการเฉลิมฉลองให้กับพระเยซู ที่เกิดมาเพื่อชำระบาปให้แก่ชาวคริสต์ทั้งหลาย และเป็นเทศกาลที่นำความสุข สนุกสนาน มาสู่หมู่มวลมนุษย์


  ขอขอบคุณข้อมูลจาก
  http://hilight.kapook.com/view/18771 (http://hilight.kapook.com/view/18771)


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ธันวาคม 28, 2013, 08:45:25 PM
วันเสาร์ ที่ 28 ธันวาคม 2556

"วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช"

(https://fbcdn-sphotos-f-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash3/1486829_680183008680434_1113464768_n.jpg)

(https://fbcdn-sphotos-d-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn1/s403x403/1512630_507395472711038_79221766_n.jpg)


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มกราคม 01, 2014, 11:31:35 AM
(https://fbcdn-sphotos-g-a.akamaihd.net/hphotos-ak-frc3/1533796_1435968396634714_451358297_n.jpg)


(https://fbcdn-sphotos-h-a.akamaihd.net/hphotos-ak-frc1/995024_10151796854060841_739772993_n.jpg)


(https://fbcdn-sphotos-f-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn1/p280x280/1525029_509650395818879_2125198309_n.jpg)


(https://fbcdn-sphotos-b-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn2/p280x280/1491689_509650199152232_1184004405_n.jpg)


(https://scontent-a.xx.fbcdn.net/hphotos-prn2/p280x280/1505296_509646199152632_1480303650_n.jpg)


(https://fbcdn-sphotos-d-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash3/p280x280/1555434_509634255820493_694339451_n.jpg)


(https://fbcdn-sphotos-c-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn1/p280x280/1497664_509610802489505_1192662915_n.jpg)


(https://fbcdn-sphotos-e-a.akamaihd.net/hphotos-ak-frc3/p280x280/1503399_509610912489494_1801931783_n.jpg)


(https://fbcdn-sphotos-e-a.akamaihd.net/hphotos-ak-frc3/p280x280/1509132_509540839163168_991136945_n.jpg)


(https://fbcdn-sphotos-h-a.akamaihd.net/hphotos-ak-frc3/p280x280/1483294_509611049156147_1265109090_n.jpg)


(https://fbcdn-sphotos-f-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn1/p280x280/1551778_509474992503086_1553529287_n.jpg)


(https://fbcdn-sphotos-b-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn1/p280x280/1512496_509431135840805_1324080793_n.jpg)


(https://fbcdn-sphotos-a-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash3/s403x403/1530337_509437525840166_787533397_n.jpg)


(https://fbcdn-sphotos-c-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn2/p280x280/1551729_509419979175254_434149826_n.jpg)


(https://fbcdn-sphotos-d-a.akamaihd.net/hphotos-ak-frc3/p280x280/1533742_509141919203060_1324048801_n.jpg)


(https://fbcdn-sphotos-d-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn2/p280x280/1549490_509650305818888_584117629_n.png)


(https://fbcdn-sphotos-c-a.akamaihd.net/hphotos-ak-frc1/p280x280/1005849_509139639203288_1457236185_n.jpg)

(http://game.mthai.com/wp-content/uploads/2014/01/online-game-new-year-screen-17.jpg)


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มกราคม 11, 2014, 10:03:00 PM
ความเป็นมาของวันเด็กแห่งชาติ และ คำขวัญวันเด็กตั้งแต่อดีต ถึง ปัจจุบัน

วันเด็กแห่งชาติในประเทศไทย ตรงกับวันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคมของทุกปี


เป็นวันหยุดราชการที่มิได้ชดเชยในวันทำงานถัดไป มีการให้คำขวัญวันเด็กทุกปีโดยนายกรัฐมนตรีไทย เริ่มต้นจัดงานวันเด็กครั้งแรกเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2498 โดยได้กำหนดให้วันจันทร์แรกของเดือนตุลาคม เป็นวันเด็กแห่งชาติ จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2506 ได้มีมติเปลี่ยนแปลงวันเด็กแห่งชาติมาเป็นวันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคม โดยเริ่มจัดงานวันเด็กในปี พ.ศ. 2508 เป็นต้นมา


Children's Day ปีพุทธศักราช 2498 อันเป็นปีที่ทั่วโลกเริ่มจัดงานเฉลิมฉลองวันเด็กแห่งชาติกันขึ้น ตามความเห็นคล้อยตามกับองค์การสหประชาชาติที่นำปัญหาเรื่องเด็กมาร่างเป็นปฏิญญาว่าด้วยสิทธิของเด็กขึ้นมา


ประเทศไทยได้รับข้อเสนอของ วี เอ็ม กุลกานี ผู้แทนองค์กรสมาพันธ์เพื่อสวัสดิภาพเด็กระหว่างประเทศ ผ่านมาทางกรมประชาสงเคราะห์ กระทรวงมหาดไทยว่า ประเทศไทยควรจัดงานเฉลิมฉลองวันเด็กแห่งชาติขึ้น เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเห็นความสำคัญของเด็กให้มากขึ้น ดังที่นานาประเทศกำลังทำอยู่


ขณะนั้น สภาวัฒนธรรมแห่งชาติยังมิได้ถูกยุบเลิกไป คณะกรรมการสภาวัฒนธรรมแห่งชาติ จึงนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมเพื่อพิจารณา ในที่สุดที่ประชุมได้เห็นชอบนำเรื่องเสนอต่อคณะรัฐมนตรีในขณะนั้น ต่อมาเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2498 ได้มีมติคณะรัฐมนตรีรับหลักการ ให้จัดงานวันเด็กแห่งชาติขึ้น โดยมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงศึกษาธิการรับไปดำเนินการ ส่วนของค่าใช้จ่ายในการจัดงานนั้น ได้อนุมัติเงินจากกองสลากกินแบ่งรัฐบาลมาดำเนินการ


ดังนั้น ในวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2498 ประเทศไทยจึงมีงานเฉลิมฉลองวันเด็กแห่งชาติเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก จากนั้นเป็นต้นมา ทางราชการได้กำหนดวันจันทร์แรกของเดือนตุลาคมของทุกปีเป็นวันเด็กแห่งชาติ และจัดติดต่อกันมาจนถึงปี พ.ศ. 2506 ที่ประชุมคณะกรรมการจัดงานวันเด็กแห่งชาติในปีนั้น มีความเห็นพ้องต้องกันว่า สมควรที่จะเสนอเปลี่ยนวันจัดงานวันเด็กแห่งชาติเสียใหม่เพื่อความเหมาะสม ด้วยเหตุผลว่า ในเดือนตุลาคม ประเทศไทยยังอยู่ในฤดูฝน มีฝนตกมาก เด็กไม่สะดวกในการมาร่วมงาน ประการต่อมาก็คือ วันจันทร์เป็นวันปฏิบัติงานของผู้ปกครอง จึงไม่สามารถพาเด็กของตนไปร่วมงานได้ ตลอดจนการจราจรก็ติดขัด[ต้องการอ้างอิง]
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่คณะกรรมการจัดงานวันเด็กแห่งชาติเสนอ ลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2507 ประกาศเปลี่ยนงานฉลองวันเด็กแห่งชาติจากวันจันทร์แรกของเดือนตุลาคม มาเป็นวันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคมตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ด้วยเหตุนี้จึงส่งผลให้ปี พ.ศ. 2507 ไม่มีงานวันเด็กแห่งชาติด้วยการประกาศเปลี่ยนได้เลยวันมาแล้ว


งานวันเด็กแห่งชาติได้เริ่มจัดขึ้นมาใหม่อีกครั้งใน พ.ศ. 2508 และจัดเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน


คำขวัญวันเด็ก


คำขวัญวันเด็ก เป็นคำขวัญที่นายกรัฐมนตรีมอบให้เด็กไทย เนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติของทุกปี โดยคำขวัญวันเด็กมีขึ้นครั้งแรก เมื่อ พ.ศ. 2499 ในสมัยที่จอมพล ป. พิบูลสงครามดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และตั้งแต่ พ.ศ. 2502 จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้มอบคำขวัญวันเด็กให้ จึงได้ถือเป็นธรรมเนียมสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
 
 
คำขวัญวันเด็กตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

พ.ศ. 2499 - จอมพล ป.พิบูลสงคราม
จงบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นและส่วนรวม

พ.ศ. 2502 - จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์
ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่รักความก้าวหน้า

พ.ศ. 2503 - จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์
ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่รักความสะอาด

พ.ศ. 2504 - จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์
ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่อยู่ในระเบียบวินัย

พ.ศ. 2505 - จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์
ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่ประหยัด

พ.ศ. 2506 - จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์
ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่มีความขยันหมั่นเพียรมากที่สุด

พ.ศ. 2507
ไม่มีคำขวัญ เนื่องจากงดการจัดงานวันเด็กแห่งชาติ

พ.ศ. 2508 - จอมพล ถนอม กิตติขจร
เด็กจะเจริญต้องรักเรียนเพียรทำดี

พ.ศ. 2509 - จอมพล ถนอม กิตติขจร
เด็กที่ดีต้องมีสัมมาคารวะ มานะ บากบั่น และสมานสามัคคี

พ.ศ. 2510 - จอมพล ถนอม กิตติขจร
อนาคตของชาติจะสุกใส หากเด็กไทยแข็งแรงดีมีความประพฤติเรียบร้อย

พ.ศ. 2511 - จอมพล ถนอม กิตติขจร
ความเจริญและความมั่นคงของชาติไทยในอนาคต ขึ้นอยู่กับเด็กที่มีวินัย เฉลียวฉลาดและรักชาติยิ่ง

พ.ศ. 2512 - จอมพล ถนอม กิตติขจร
รู้เรียน รู้เล่น รู้สามัคคี เป็นความดีที่เด็กพึงจำ

พ.ศ. 2513 - จอมพล ถนอม กิตติขจร
เด็กประพฤติดีและศึกษาดี ทำให้มีอนาคตแจ่มใส

พ.ศ. 2514 - จอมพล ถนอม กิตติขจร
ยามเด็กจงหมั่นเรียน เพียรกระทำดี เติบใหญ่จะได้มีความสุขความเจริญ

พ.ศ. 2515 - จอมพล ถนอม กิตติขจร
เยาวชนฝึกตนดี มีความสามารถ

พ.ศ. 2516 - จอมพล ถนอม กิตติขจร
เด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ เด็กฉลาดชาติเจริญ

พ.ศ. 2517 - นายสัญญา ธรรมศักดิ์
สามัคคีคือพลัง

พ.ศ. 2518 - นายสัญญา ธรรมศักดิ์
เด็กดีคือทายาทของชาติไทย ต้องร่วมใจร่วมพลังสร้างความสามัคคี

พ.ศ. 2519 - หม่อม คึกฤทธิ์ ปราโมช
เด็กที่ต้องการเห็นอนาคตของชาติรุ่งเรือง จะต้องทำตัวให้ดี มีวินัย เสียแต่บัดนี้

พ.ศ. 2520 - นายธานินทร์ กรัยวิเชียร
รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นคุณสมบัติของเยาวชนไทย

พ.ศ. 2521 - พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์
เด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ เด็กฉลาดชาติเจริญ

พ.ศ. 2522 - พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์
เด็กไทยคือหัวใจของชาติ

พ.ศ. 2523 - พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์
อดทน ขยัน ประหยัด เป็นคุณสมบัติของเด็กไทย

พ.ศ. 2524 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์
เด็กไทยมีวินัย ใจสัตย์ซื่อ รู้ประหยัด เคร่งครัดคุณธรรม

พ.ศ. 2525 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์
ขยันศึกษา ใฝ่หาความรู้ เชิดชูชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นคุณสมบัติของเด็กไทย

พ.ศ. 2526 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์
รู้หน้าที่ ขยัน ซื่อสัตย์ ประหยัด มีวินัยและคุณธรรม

พ.ศ. 2527 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์
รักวัฒนธรรมไทย ใฝ่ดีมีความคิด สุจริตใจมั่น หมั่นศึกษา
 พ.ศ. 2528 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์
สามัคคี นิยมไทย มีวินัย ใฝ่คุณธรรม

พ.ศ. 2529 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์
นิยมไทย มีวินัย ใช้ประหยัด ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม

พ.ศ. 2530 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์
นิยมไทย มีวินัย ใช้ประหยัด ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม

พ.ศ. 2531 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์
นิยมไทย มีวินัย ใช้ประหยัด ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม

พ.ศ. 2532 - พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ
รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม

พ.ศ. 2533 - พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ
รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม

พ.ศ. 2534 - พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ
รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่คุณธรรม นำชาติพัฒนา

พ.ศ. 2535 - นายอานันท์ ปันยารชุน
สามัคคี มีวินัย ใฝ่ศึกษา จรรยางาม

พ.ศ. 2536 - นายชวน หลีกภัย
ยึดมั่นประชาธิปไตย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม

พ.ศ. 2537 - นายชวน หลีกภัย
ยึดมั่นประชาธิปไตย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม

พ.ศ. 2538 -- นายชวน หลีกภัย
สืบสานวัฒนธรรมไทย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม

พ.ศ. 2539 - นายบรรหาร ศิลปอาชา
มุ่งหาความรู้ เชิดชูความเป็นไทย หลีกไกลยาเสพติด

พ.ศ. 2540 - พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ
รู้คุณค่าวัฒนธรรมไทย ตั้งใจใฝ่ศึกษา ไม่พึ่งพายาเสพติด

พ.ศ. 2541 - นายชวน หลีกภัย
ขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์ มีวินัย

พ.ศ. 2542 - นายชวน หลีกภัย
ขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์ มีวินัย

พ.ศ. 2543 - นายชวน หลีกภัย
มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ คู่คุณธรรม นำประชาธิปไตย

พ.ศ. 2544 - นายชวน หลีกภัย
มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ คู่คุณธรรม นำประชาธิปไตย

พ.ศ. 2545 - พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร
เรียนให้สนุก เล่นให้มีความรู้ สู่อนาคตที่สดใส

พ.ศ. 2546 - พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร
เรียนรู้ตลอดชีวิต คิดอย่างสร้างสรรค์ ก้าวทันเทคโนโลยี

พ.ศ. 2547 - พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร
รักชาติ รักพ่อแม่ รักเรียน รักสิ่งดีๆ อนาคตดีแน่นอน

พ.ศ. 2548 - พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร
เด็กรุ่นใหม่ ต้องขยันอ่าน ขยันเรียน กล้าคิด กล้าพูด

พ.ศ. 2549 - พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร
อยากฉลาด ต้องขยันอ่าน ขยันคิด

พ.ศ. 2550 - พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์
มีคุณธรรมนำใจ ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง หลีกเลี่ยงอบายมุข

พ.ศ. 2551 - พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์
สามัคคี มีวินัย ใฝ่ความรู้ เชิดชูคุณธรรม

พ.ศ. 2552 - อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ฉลาดคิด จิตบริสุทธิ์ จุดประกายฝัน ผูกพันรักสามัคคี

พ.ศ. 2553 - นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
คิดสร้างสรรค์ ขยันใฝ่รู้ เชิดชูคุณธรรม

พ.ศ. 2554 - นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
รอบคอบ รู้คิด มีจิตสาธารณะ

พ.ศ. 2555 - น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
สามัคคี มีความรู้คู่ปัญญา คงรักษาความเป็นไทย ใส่ใจเทคโนโลยี

พ.ศ. 2556 - น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
รักษาวินัย ใฝ่เรียนรู้ เพิ่มพูนปัญญา นำพาไทยสู่อาเซียน

พ.ศ. 2557 - น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
กตัญญู รู้หน้าที่ เป็นเด็กดี มีวินัย สร้างไทยให้มั่นคง

 
 
 


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มกราคม 15, 2014, 10:30:37 PM
Tomorrow

(https://fbcdn-sphotos-h-a.akamaihd.net/hphotos-ak-frc3/t1/996167_466993350051625_1845819079_n.jpg)

(https://fbcdn-sphotos-c-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn1/1016277_470528356364791_1628625158_n.jpg)

(https://fbcdn-sphotos-e-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash2/t1/264876_470719226345704_1202952647_n.jpg)

(https://fbcdn-sphotos-g-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn2/970931_480293198721640_427190514_n.jpg)


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มกราคม 16, 2014, 11:25:17 AM


(https://fbcdn-sphotos-c-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash3/t1/1514160_247459348748109_295306627_n.jpg)

วันนี้วันครู
ลืมตามาดูโลก ครูคนแรกคือพ่อแม่
ครูที่สอนโดยไม่หวังค่าตอบแทนคือพ่อแม่
ครูที่รักเราหมดใจคือพ่อแม่
อย่ามอบรักแท้ เกินหน้า "พ่อครูแม่ครู ของเราให้ใครๆนะ


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มกราคม 16, 2014, 11:26:06 AM
(https://fbcdn-sphotos-e-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash3/1538678_618526854849896_2050159651_n.jpg)


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มกราคม 30, 2014, 08:41:32 PM
เพลงตรุษจีน....พรชัยตรุษจีน (http://www.youtube.com/watch?v=_t1xB4vJuBM#ws)


ความหมายของขนมที่ใช้ไหว้ในวันตรุษจีนจ้า
ขนมเข่ง หมายถึง ความหวานชื่น ชีวิตมีความราบรื่น รูปลักษณ์มีความหมายของชะลอมที่เก็บของ เมื่อรวมกันกับความหวานชื่น จึงหมายถึง ความหวานชื่นอันสมบูรณ์
ขนมถ้วยฟู หมายถึง ความเพิ่มพูน เฟื่องฟู
สาลี่(ขนม) หมายถึง ความเพิ่มพูน เฟื่องฟู (เหมือนขนมถ้วยฟู)
ขนมไข่ หมายถึง เพื่อให้เจริญเติบโต
ขนมเทียน หมายถึง เพื่อให้สว่างรุ่งเรือง ขนมเทียน ปกติ ขนมเทียนไม่ใช่ขนมของชาวจีนดั้งเดิม แต่เป็นขนมที่ถูกปรับปรุงขึ้นจากชาวจีนโพ้นแผ่นดินโดยดัดแปลงจากขนมท้องถิ่น(ของไทย) จากขนมใส่ไส้ เปลี่ยนจากแป้งข้าวเจ้าผสมกะทิมาเป็นแป้งข้าวเหนียวแทน ความหมายของขนมเทียนจึงใช้ความหมายเดียวกับขนมเข่ง คือความหวานชื่น ราบรื่น ส่วนรูปลักษณ์ที่เป็นสามเหลี่ยมกรวยแหลม มีลักษณะมงคลในทางศาสนา คือ เจดีย์ จันอับ (จั๋งอั๊บ)หมาย ถึง " ปิ่นโต" ( "จั๊ง" หมายถึงชั้น, "อั๊บ" หมายถึงกล่อง) ความหมายรวมของ "จั๋งอั๊บ" คือ จึงหมายถึง ความหวานที่เพิ่มพูน มีความสุขตลอดไป


คำอวยพรวันตรุษจีน(หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆครับ)
祝你… [zhùnǐ...] ขออวยพรให้…
新正如意,新年发财。 [xīnzhèngrǔyì xīnniánfācái] ปีใหม่ขอขอให้ร่ำรวยและสมความปรารถนาทุกประการ (ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้)
万事如意 [wànshìrúyì] ขอให้ทุกอย่างสมความปรารถนา
十全十美 [shíquánshíměi] ดีพร้อมสมบูรณ์
生意兴隆 [shēngyì xīnglóng] ขอให้ค้าขายร่ำรวย
恭喜发财 [gōngxǐfācái] ขอให้ร่ำรวย
财源广进 [cáiyuánguǎngjìn] เงินทองไหลมาเทมา
招财进宝 [zhāocái jìnbǎo] ทรัพย์สมบัติเพิ่มพูน
年年有余 [niánniányǒuyú] เหลือกินเหลือใช้ตลอดไป
事事顺利 [shìshì shùnlì] ทุกเรื่องราบรื่น
金玉满堂 [ jīnyùmǎntáng] เงินทองเต็มบ้าน
一本万利 [yīběnwànlì] ลงทุนน้อยกำไรมาก
大吉大利 [dàjídàlì] โชคดีเฮงๆๆ/โชคดีสมความปราถนาในทุกเรื่อง
年年发财 [niánniánfācái] ร่ำรวยตลอดไป
龙马精神 [lóngmǎ jīngshén] สุขภาพร่างกายแข็งแรง
祝你身体健康。 [zhùnǐ shēntǐ jiànkāng] ข้อให้สุขภาพแข็งแรง
吉祥如意 [jíxiángrúyì] โชคดีสมปรารถนา
好运年年 [hǎoyùnniánnián] โชคดีตลอดไป
四季平安 [sìjìpíngān] ปลอดภัยตลอดปี
一帆风顺 [yīfānfēngshùn] ทุกอย่างราบรื่น
学业进步 [xuéyè jìnbù] มีความก้าวหน้าในการศึกษาเล่าเรียน
天天向上 [tiāntiān xiàngshàng] ก้าวหน้ายิ่งขึ้นทุกๆวัน
步步高升 [bùbùgāoshēng] ก้าวหน้าในด้านการงาน
红包多多来 [hóngbāo duōduōlái] รับซองอั่งเปาเยอะๆ 


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2014, 10:02:31 PM
(https://fbcdn-sphotos-h-a.akamaihd.net/hphotos-ak-frc3/t1/1781955_635761166460651_1769986231_n.jpg)


(https://fbcdn-sphotos-a-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn2/t1/1618679_705628559469212_131919952_n.jpg)


๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗
วันมาฆบูชา หรือ "วันจาตุรงคสันนิบาต" วันที่พระพุทธองค์ทรงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์ อันเป็นหัวใจของพระธรรม แก่พระอรหันตสาวกผู้เป็นเอหิภิกขุทั้ง ๑,๒๕๐ องค์ ที่มาประชุมพร้อมกันเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าโดยมิได้นัดหมายในวันมาฆปุรณมี.!


(https://fbcdn-sphotos-e-a.akamaihd.net/hphotos-ak-frc3/t1/1891164_624665584247786_2001107552_n.jpg)


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กุมภาพันธ์ 14, 2014, 07:45:10 AM
(https://fbcdn-sphotos-b-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn1/t1/1622123_422035384594041_1125650518_n.jpg)


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กุมภาพันธ์ 14, 2014, 07:48:27 AM
(https://fbcdn-sphotos-e-a.akamaihd.net/hphotos-ak-frc1/t1/1511529_1423253344583281_574229674_n.jpg)(https://fbcdn-sphotos-h-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn2/t1/1780903_1423253404583275_501265915_n.jpg)(https://fbcdn-sphotos-b-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn1/t1/1011255_1423253437916605_263717135_n.jpg)(https://fbcdn-sphotos-d-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash3/t1/1016550_1423253494583266_114690651_n.jpg)(https://fbcdn-sphotos-f-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash3/t1/1619625_1423253551249927_1137173793_n.jpg)(https://fbcdn-sphotos-e-a.akamaihd.net/hphotos-ak-frc3/t1/1656043_1423253591249923_2030549102_n.jpg)


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กุมภาพันธ์ 14, 2014, 07:50:01 AM
(http://www.thaigold.info/Board/uploads/monthly_02_2014/post-237-0-12569500-1392336428_thumb.jpg)



(https://fbcdn-sphotos-f-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash3/t1/1688142_479553722150961_1275616424_n.jpg)


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มีนาคม 13, 2014, 08:51:12 AM
(https://fbcdn-sphotos-e-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash3/t1/1897974_10152255624167439_1347253657_n.jpg)

เมื่อคณะกรรมการคัดเลือกสัตว์ประจำชาติมีมติให้ #ช้างเผือก เป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทย คณะรัฐมนตรีจึงมีมติเห็นชอบให้วันที่ 13 มีนาคมของทุกปีเป็น #วันช้างไทย และได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2541 เพื่อเป็นการยกย่องให้เกียรติว่า #ช้าง เป็นสัตว์ที่มีความสำคัญและเป็นสัญลักษณ์ของประเทศ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนคนไทยรักช้าง หวงแหนช้าง ตลอดจนให้ความสำคัญต่อการ #อนุรักษ์ช้าง มากขึ้น


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ เมษายน 02, 2014, 08:43:48 PM
เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระเทพของปวงชนชาวไทยขอถวายพระพร ขอพระองค์ทรงพระเจริญ


(https://fbcdn-sphotos-h-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn1/v/t34.0-12/1490983_1490241271201559_1021482350_n.jpg?oh=be3cb0fb7a5e76a55ba86ef1f4186c98&oe=533E9A62&__gda__=1396596925_346a50b5b1419a8880b495ebc6091754)


(https://scontent-a-sin.xx.fbcdn.net/hphotos-prn2/t1.0-9/10153816_1563701917188827_2141590145_n.jpg)



(https://fbcdn-sphotos-b-a.akamaihd.net/hphotos-ak-frc3/t1.0-9/10173617_1563702003855485_1706378291_n.jpg)


(https://fbcdn-sphotos-h-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn2/t1.0-9/1459078_1563702017188817_1191074461_n.jpg)


(https://fbcdn-sphotos-f-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn2/t1.0-9/10154431_1563702173855468_62242696_n.jpg)


(https://fbcdn-sphotos-c-a.akamaihd.net/hphotos-ak-frc1/t1.0-9/998444_560922420691676_352452667_n.jpg)


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ เมษายน 28, 2014, 05:50:19 PM
64 ปี วันราชาภิเษก 28 เมษายน 2557
ขอสองพระองค์จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูอดุลยเดช ทรงหมั้นกับหม่อมสิริกิติ์ กิติยากร เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2492 วันนี้เป็นวันพระ และในอดีตเมื่อ 64 ปีที่แล้วเป็นวันดี เมื่อวันที่ 28 เมษายน พุทธศักราช 2493
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระองค์โปรดเกล้าฯ กำหนดให้เป็นวันประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกสมรส กับหม่อมสิริกิติ์ กิติยากร ณ พระตำหนักสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ภายในวังสระปทุม อันเป็นที่ประทับของสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า

เมื่อใกล้ถึงเวลาพระฤกษ์ เวลา 09.30 น. หม่อมเจ้านักขัตรมงคล กิติยากร ทรงนำหม่อมสิริกิติ์ กิติยากร ไปยังวังสระปทุม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงลงพระปรมาภิไธย และหม่อมสิริกิติ์ ลงนามในสมุดทะเบียนสมรส ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ราชสักขี 2 คน คือ จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี, พลเอกมังกร พรหมโยธี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ร่วมลงนามด้วย เช่นเดียวกับสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร วงศ์ที่ทรงนับถือ ซึ่งในการพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสนี้ มีราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาหม่อมสิริกิติ์ กิติยากร ขึ้นเป็น สมเด็จพระราชินีสิริกิติ์


(https://scontent-b-sin.xx.fbcdn.net/hphotos-prn1/t1.0-9/10308163_507872599338453_1959420428930259928_n.jpg)


(https://fbcdn-sphotos-d-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash4/t1.0-9/10325582_524329371022223_7312749298342425001_n.jpg)


(https://fbcdn-sphotos-c-a.akamaihd.net/hphotos-ak-frc3/t1.0-9/10273841_523898244398669_154962312782374580_n.jpg)


(https://fbcdn-sphotos-d-a.akamaihd.net/hphotos-ak-frc1/t1.0-9/998624_403870499734778_679855349_n.jpg)

(https://fbcdn-sphotos-f-a.akamaihd.net/hphotos-ak-frc3/t1.0-9/p417x417/10151993_232722963584405_5340770660013083814_n.jpg)

(https://fbcdn-sphotos-d-a.akamaihd.net/hphotos-ak-frc3/t1.0-9/p417x417/10252030_232722936917741_1420131826257382090_n.jpg)

(https://fbcdn-sphotos-c-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn2/t1.0-9/p417x417/10320455_232722120251156_3445458754163049845_n.jpg)


(https://fbcdn-sphotos-g-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn2/t1.0-9/p417x417/10250191_232722063584495_2440344128528077472_n.jpg)

ตามรอยพ่อ
คู่พระบุญญาบารมี จักรีบรมมหา
.
รำลึก ๖๔ ปี บรมราชาภิเษก ๒๘ เมษายน ๒๕๕๗
พ่อและแม่แห่งแผ่นดินผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐของคนไทย
จงพระเสวยสวัสดิ์ พูนพิพัฒน์ผองศุภผล
พระหฤทัยไกลกังวล ทุกทิพาราตรีกาล...
.
ด้วยพระเมตตาคุณและพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ขอทรงพระสิริสวัสดิ์ มีพระพลานามัยที่ดีและแข็งแรง
ทรงพระชนมพรรษาที่ยืนยาว ทรงพระเกษมสำราญพระวรกายและพระทัย
ทรงพระเจริญยิ่งยืนนานเทอญพระพุทธเจ้าข้า
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ กราบแทบพระบาท


(https://scontent-a-sin.xx.fbcdn.net/hphotos-ash3/t1.0-9/p417x417/10268683_232722883584413_5107478728428385401_n.jpg)

(https://fbcdn-sphotos-e-a.akamaihd.net/hphotos-ak-frc3/t1.0-9/10270605_232722550251113_9197980628492963785_n.jpg)

(https://fbcdn-sphotos-f-a.akamaihd.net/hphotos-ak-frc3/t1.0-9/10307405_232722233584478_6267362370473069781_n.jpg)


(https://fbcdn-sphotos-f-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash4/t1.0-9/p417x417/10277005_232722800251088_7680651182222915506_n.jpg)



(https://fbcdn-sphotos-h-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash4/t1.0-9/10310607_232724563584245_4092903560486749431_n.jpg)


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ เมษายน 29, 2014, 12:58:08 PM
พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ทรงเจริญพระชันษาครบ ๙ ปี
ในวันที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๕๗ ขอพระองค์ทรงพระเจริญ



(https://fbcdn-sphotos-d-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn2/t1.0-9/10259937_837997419548311_2713600239989668055_n.jpg)


(https://fbcdn-sphotos-d-a.akamaihd.net/hphotos-ak-frc1/t1.0-9/p600x600/10259727_769533426412942_7309043552914289965_n.jpg)




หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤษภาคม 05, 2014, 01:16:47 PM
(https://fbcdn-sphotos-g-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn2/t1.0-9/10171690_761275557236586_4660234227673800108_n.jpg)


(https://fbcdn-sphotos-g-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn2/t1.0-9/10171715_537988256314080_3041155035033029105_n.jpg)


(https://fbcdn-sphotos-e-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn1/t1.0-9/10320531_10152378965537450_1393237773967939122_n.jpg)
ในหลวงทรงโบกพระหัตถ์ให้กับประชาชนที่มาเฝ้ารอรับเสด็จฯ ด้านหน้าวังไกลกังวล ภาพ : นันทสิทธิ์ นิตย์เมธา#NationPhoto #ฉัตรมงคล


(https://scontent-a-sin.xx.fbcdn.net/hphotos-prn2/t1.0-9/1461653_10152378944072450_1770532036038191052_n.jpg)
ประชาชนเฝ้ารอรับเสด็จฯด้านหน้าพระราชวังไกลกังวล ภาพ : นันทสิทธิ์ นิตย์เมธา #nationphoto


(https://fbcdn-sphotos-h-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn2/t1.0-9/1544507_10152378890772450_7270581827547557912_n.jpg)


(https://fbcdn-sphotos-e-a.akamaihd.net/hphotos-ak-frc3/v/t1.0-9/1896882_10152399607807855_1152519051542622072_n.jpg?oh=785e275763c6573cdbaa19e919f994d3&oe=53BF91F4&__gda__=1405963169_3e42b7aeb221c1270e80a6e03b25f176)

ตลอดเส้นทาง ตั้งแต่ชะอำ จนถึงหน้าวังไกกังวล มีการประดับประดา ธงสัญลักษณ์ ทิวธง และดอกไม้เพื่อความสวยงาม มีการเตียมความพร้อม จากหน่วยงานต่างๆ เจ้าหน้าที่สวน ดูแลดอกไม้ให้พร้อมที่จะเบ่งบานในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจะเป็นวันฉัตรมงคล มีพระราชพิธีฉัตรมงคล ในการนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จะเสด็จฯยัง ศาลาอเนกประสงค์ ซึ่งได้มีการเปลี่ยนเป็นท้องพระโรงเพื่อประกอบพระราชพิธี โดยตั้งแต่เช้า มีประชาชนเดินทางมาจองที่สองข้างทางเสด็จฯ เพื่อเฝ้าชมพระบารมีในวันพรุ่งนี้ คาดว่า ในช่วงเย็น และค่ำนี้ จะมีประชาชนเข้าพื้นที่เสด็จฯ อีกเป็นจำนวนมาก / Photographer ชาญณรงค์ พรดิลกรัตน์ (Charnnarong Porndilokrad) #nationphoto


(https://fbcdn-sphotos-d-a.akamaihd.net/hphotos-ak-frc1/t1.0-9/p480x480/10176203_10152401178782855_7642046082969950158_n.jpg)


(https://fbcdn-sphotos-c-a.akamaihd.net/hphotos-ak-frc1/t1.0-9/10288738_10152401067762855_1009527679733523733_n.jpg)



หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤษภาคม 06, 2014, 04:19:09 PM
(https://fbcdn-sphotos-d-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn1/t1.0-9/10294359_600167590090413_2903265024185598099_n.jpg)(https://fbcdn-sphotos-f-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash3/t1.0-9/10250160_600163096757529_3914794718210283950_n.jpg)

รำลึกวันคล้ายวันประสูติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
ประสูติเมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2466 ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร
Cr ชมรมคนรักในหลวง


(https://fbcdn-sphotos-h-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn1/t1.0-9/10245344_600164453424060_7445688647585965055_n.jpg)


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤษภาคม 06, 2014, 04:20:01 PM
(https://fbcdn-sphotos-d-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn2/t1.0-9/10296605_527974097324417_3640388594662313399_n.jpg)


เนื่องในศุภมงคล ทรงเจริญพระชันษา ๓๐ ปี พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ (พระองค์ติ๊ด)
ในวันที่ ๖ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗

ขอพระองค์ทรงเกษมสำราญ มีพระพลานามัยแข็งแรง ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน..



หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 01:13:06 PM
(https://fbcdn-sphotos-g-a.akamaihd.net/hphotos-ak-frc3/t1.0-9/q83/s480x480/10308311_665801720159347_8922622812513687896_n.jpg)

130557


วิสาขบูชา
วันอุบัติตรัสรู้และนิพพาน
ปาฏิหาริย์ในเดือนหกสิบห้าค่ำ
จันทร์เพ็ญคู่วิสาขะดาวฤกษ์ล้ำ
แต่สามคำเกิดอัศจรรย์เป็นวันเดียว
บรรลุธรรมคือตรัสรู้คู่นิพพาน
เพราะดวงมานเปลื้องปลดสิ่งแน่นเหนียว
คือถอนรากตัณหาจนสิ้นเกลียว
ไม่ยึดเหนี่ยวจิตวิมุติหยุดและเย็น
อุบัติเป็นพุทธะเมื่อตรัสรู้
แจ่มแจ้งอยู่ซึ่งสัจจาตาในเห็น
อริสัจทั้งสี่ประเสริฐเป็น
สงบเย็นคงมั่นนิรันดร์กาล
เมื่อถึงวันวิสาขะพึงบูชา
พระธรรมาสูงค่ามหาศาล
ชนทั้งโลกแซ่ซ้องสาธุการ
ปาฏิหาริย์แห่งธรรมะพระพุทธองค์
ขอน้อมนำธรรมะชำระใจ
ให้ผ่องใสสมในพุทธประสงค์
อริยมรรคมีองค์แปดเป็นทางตรง
ให้หยุดหลงหลุดกรงอวิชชา ฯ


(https://scontent-a-sin.xx.fbcdn.net/hphotos-frc3/t1.0-9/10325748_565294493591300_1297086466653802091_n.jpg)

วันวิสาขบูชา 2557 ตรงกับวันอังคารที่ 13 พฤษภาคม
ในปีนี้นับเป็นอภิลักขิตกาลพิเศษ คือเป็นปีที่ครบ 2,600
พุทธศตวรรษ หรือ 2,600 ปี แห่งการอุบัติขึ้นของพระพุทธศาสนา
วันวิสาขบูชา ถือเป็นวันสำคัญที่สุดทางพระพุทธศาสนา
เนื่องจากล้วนมีเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการถือกำเนิดของ
พระพุทธศาสนา คือ เป็นวันที่พระศาสดา คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ดังนั้นพุทธศาสนิกชนทั่วโลกจึง
ให้ความสำคัญกับวันวิสาขบูชานี้ และในวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2542 องค์การสหประชาชาติได้ยอมรับญัตติที่ประชุม กำหนดให้
วันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญของโลก โดยเรียกว่า Vesak Day
ตามคำเรียกของชาวศรีลังกา



(https://fbcdn-sphotos-d-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash3/t1.0-9/10269429_638308959595731_4792889637324082281_n.jpg)


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤษภาคม 21, 2014, 09:48:20 PM
(http://image.ohozaa.com/i/434/5FpJSE.jpg)


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 08, 2014, 12:01:11 PM
วันนี้ วันไหว้พระจันทร์


(http://www.thaigold.info/Board/uploads/monthly_09_2014/post-775-0-90264000-1410145766_thumb.jpg)


(http://www.thaigold.info/Board/uploads/monthly_09_2014/post-775-0-05001600-1410145751.jpg)


(http://www.thaigold.info/Board/uploads/monthly_09_2014/post-237-0-52337300-1410133836_thumb.jpg)


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 24, 2014, 02:31:18 PM
(http://www.tlcthai.com/education/wp-content/uploads/2014/09/headline33421.jpg)





วันมหิดล 24 กันยายนของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม ราชชนก      

         วันที่ 24 กันยายน เป็นวันคล้ายวันทิวงคต (เสียชีวิต) ของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม ราชชนก (กรมหลวงสงขลานครินทร์) พระผู้ได้รับการถวายพระสมัญญาภิไธยจากแพทย์และประชาชนทั่วไปว่า "พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย"

          ด้วยพระราชกรณียกิจที่ได้ทรงบำเพ็ญแก่วงการแพทย์ และการสาธารณสุขของประเทศไทยมาตลอดระยะเวลา 12 ปีนั้น ได้เสริมสร้างความเป็นปึกแผ่นให้แก่โรงเรียนแพทย์ อีกทั้งได้ทรงพัฒนาการเรียนการสอน ตลอดจนการผลิตแพทย์ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อันเป็นการวางรากฐานแก่การแพทย์ และการสาธารณสุขให้เจริญพัฒนาก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศในกาลต่อมา

          คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลจึงได้ขนานนามวันสำคัญนี้ว่า "วันมหิดล" เพื่อเป็นการถวายสักการะ และน้อมรำลึกต่อพระองค์ท่าน

          และในปี พ.ศ. 2493 หรือ 21 ปี หลังจากที่สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม ราชชนก ได้ทิวงคต คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล บรรดาศิษย์เก่าศิริราช ตลอดจนประชาชนทั่วไป ได้ร่วมใจกันสร้างพระราชาอนุสาวรีย์ขึ้น ณ ใจกลางโรงพยาบาลศิริราช เพื่อน้อมเกล้าถวายความกตัญญูกตเวที และเฉลิมฉลองพระเกียรติคุณให้ไพศาล เป็นแบบฉบับให้อนุชนรุ่นหลังได้เจริญตามรอยพระยุคลบาทสืบไป โดยมอบให้กรมศิลปากรเป็นผู้ดำเนินการสร้าง มีศาสตราจารย์ศิลป พีระศรี เป็นผู้ควบคุมงาน

          ในการนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาเสด็จพระราชดำเนินในพิธีเปิดพระราชอนุสาวรีย์เมื่อวันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2493 และนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2494 เป็นต้นมา ทุกวันที่ 24 กันยายน คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้จัดงาน "วันมหิดล" โดยมีพิธีวางพวงมาลาถวายบังคมพระรูป พร้อมทั้งอ่านคำสดุดีพระเกียรติ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ เป็นประจำทุกปี





(http://)



          วันมหิดล 24 กันยายนของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม ราชชนก      

          วันที่ 24 กันยายน เป็นวันคล้ายวันทิวงคต (เสียชีวิต) ของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม ราชชนก (กรมหลวงสงขลานครินทร์) พระผู้ได้รับการถวายพระสมัญญาภิไธยจากแพทย์และประชาชนทั่วไปว่า "พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย"

          ด้วยพระราชกรณียกิจที่ได้ทรงบำเพ็ญแก่วงการแพทย์ และการสาธารณสุขของประเทศไทยมาตลอดระยะเวลา 12 ปีนั้น ได้เสริมสร้างความเป็นปึกแผ่นให้แก่โรงเรียนแพทย์ อีกทั้งได้ทรงพัฒนาการเรียนการสอน ตลอดจนการผลิตแพทย์ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อันเป็นการวางรากฐานแก่การแพทย์ และการสาธารณสุขให้เจริญพัฒนาก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศในกาลต่อมา

          คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลจึงได้ขนานนามวันสำคัญนี้ว่า "วันมหิดล" เพื่อเป็นการถวายสักการะ และน้อมรำลึกต่อพระองค์ท่าน

          และในปี พ.ศ. 2493 หรือ 21 ปี หลังจากที่สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม ราชชนก ได้ทิวงคต คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล บรรดาศิษย์เก่าศิริราช ตลอดจนประชาชนทั่วไป ได้ร่วมใจกันสร้างพระราชาอนุสาวรีย์ขึ้น ณ ใจกลางโรงพยาบาลศิริราช เพื่อน้อมเกล้าถวายความกตัญญูกตเวที และเฉลิมฉลองพระเกียรติคุณให้ไพศาล เป็นแบบฉบับให้อนุชนรุ่นหลังได้เจริญตามรอยพระยุคลบาทสืบไป โดยมอบให้กรมศิลปากรเป็นผู้ดำเนินการสร้าง มีศาสตราจารย์ศิลป พีระศรี เป็นผู้ควบคุมงาน

          ในการนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาเสด็จพระราชดำเนินในพิธีเปิดพระราชอนุสาวรีย์เมื่อวันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2493 และนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2494 เป็นต้นมา ทุกวันที่ 24 กันยายน คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้จัดงาน "วันมหิดล" โดยมีพิธีวางพวงมาลาถวายบังคมพระรูป พร้อมทั้งอ่านคำสดุดีพระเกียรติ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ เป็นประจำทุกปี

สำหรับวัตถุประสงค์ของการจัดงานวันมหิดล


          1. เพื่อเผยแพร่เกียรติคุณและผลงานของผู้มีผลงานดีเด่นทางด้านวัฒนธรรมระดับโลก ให้ปรากฏแก่ มวลสมาชิกทั่วโลก

          2. เพื่อเชิญชวนให้ประเทศสมาชิกมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลอง ร่วมกับประเทศที่มีผู้ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ

          ในการนี้รัฐบาลไทย โดยคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม แห่งสหประชาชาติ กระทรวงศึกษาธิการ จะเป็นผู้สืบค้นบรรพบุรุษไทยผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรมเพื่อให้ยูเนสโกประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติและได้ประกาศยกย่องสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม ราชชนก ทรงเป็นบุคคลผู้มีผลงานดีเด่นทางด้านวัฒนธรรมระดับโลก ในวาระครบรอบ 100 ปี วันพระราชสมภพ เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2535

ประวัติสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม ราชชนก

          สมเด็จพระมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวิกรม ราชชนก มีพระนามเดิมว่า สมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า พระราชสมภพเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2434 และสวรรคตเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2472 รวมพระชนมายุ 37 พรรษา 8 เดือน 23 วัน

          ในเบื้องต้นได้ทรงศึกษาวิชาทหารเรือ ณ ประเทศเยอรมัน จากนั้นเสด็จกลับเข้ามารับราชการในกองทัพเรือ ต่อมา ทรงมีอาการประชวรเรื้อรังไม่ทรงสามารถรับราชการหนักเช่นการทหารเรือได้ ประกอบกับทรงสนพระทัยในกิจการทางด้านการแพทย์ จึงทรงพระอุตสาหะ เสด็จไปศึกษาวิชาการสาธารณสุขและวิชาแพทย์ ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา ทรงสอบได้ประกาศนียบัตรการสาธารณสุข และปริญญาแพทยศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตเกียรตินิยม จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด

          ภายหลังทรงสำเร็จการศึกษา พระองค์ได้ทรงประกอบพระกรณียกิจทางด้านการแพทย์และการสาธารณสุขไว้อย่างมากมาย อาทิ

          1. ทรงเป็นอาจารย์สอนนักศึกษาแพทย์

          2. ทรงช่วยเหลือในการขยายกิจการของโรงพยาบาลศิริราช

          3. ประทานทรัพย์สินส่วนพระองค์ และจัดสร้างตึกคนไข้ และจัดหาที่พักสำหรับพยาบาลให้ได้อยู่อาศัย

          4. ทรงบริจาคทรัพย์เป็นทุนสำหรับส่งนักศึกษาแพทย์ และนักเรียนพยาบาลไปศึกษาต่อต่างประเทศ

          5. ประทานเงินเพื่อใช้ในการจัดหาเครื่องมือ สำหรับปฏิบัติการให้แก่โรงพยาบาล

          6. ทรงเป็นผู้แทนรัฐบาลติดต่อกับมูลนิธิรอคกีเฟลเลอร์ สาขาเอเซียบูรพา ในการปรับปรุง และวางมาตรฐานการศึกษา

          7. ทรงอุทิศเวลาส่วนใหญ่ในการรักษาพยาบาลผู้ป่วยด้วยพระองค์เอง

ธงวันมหิดล




(http://)

การจัดกิจกรรมในวันมหิดล

  
          หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องได้มีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ขึ้น  อาทิ

          1. กิจกรรมรับบริจาคสมทบทุนศิริราชมูลนิธิ ตั้งแต่ ปี พ.ศ.2503 เป็นต้นมา คณะนักศึกษาแพทย์และพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้จัดกิจกรรมออกรับบริจาคสมทบทุนศิริราชมูลนิธิเนื่องในวันมหิดล ในช่วงเดือนสิงหาคม - กันยายน ของทุกปี

          โดยกิจกรรมหนึ่งในการขอรับบริจาค คือ การจำหน่าย "ธงวันมหิดล" กิจกรรมดังกล่าว เริ่มมีตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 ศ.นพ.กษาณ จาติกวนิช ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช ได้เสนอให้ศิริราชมีการจำหน่าย "ธงวันมหิดล" เพื่อให้ประชาชนทุกฐานะมีส่วนเกื้อกูลผู้ป่วยยากไร้ของโรงพยาบาลศิริราช

          ในปีแรกมีการจำหน่ายธงขนาดกลางราคา 10 บาท และธงเล็กทำด้วยริบบิ้น ราคา 1 บาท นักศึกษาทุกหมู่เหล่าในวิทยาเขตศิริราช ได้ช่วยกันออกไปจำหน่าย ซึ่งรายได้ทั้งหมดนำไปจัดซื้ออุปกรณ์ การรักษาพยาบาล และเครื่องอำนวยความสุขแก่ผู้ป่วยยากไร้

          โดยในครั้งแรกแบบธงวันมหิดลเป็นรูปสามเหลี่ยม มีรูปพระราชานุสาวรีย์ สมเด็จราชชนก พิมพ์อยู่ตรงกลางผืนเช่นเดียวกับในปัจจุบัน แต่พิมพ์เป็นรูปสีเขียวบนผ้าขาว ภายหลังได้มีการเปลี่ยนแปลงให้ใช้ผ้าสีที่ตรงกับวันมหิดลในปีนั้น และทำสติ๊กเกอร์ขึ้นแทนธงริบบิ้น ต่อมา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้ก่อตั้งศิริราชมูลนิธิขึ้นเพื่อบริหารจัดการด้านการเงินให้มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น คณะฯ จึงมอบให้ศิริราชมูลนิธิ รับผิดชอบการจำหน่ายธงวันมหิดล

          ใน พ.ศ.2502 การจำหน่ายธงได้ผลดีเกินคาด ธงไม่พอสำหรับวันขายใหญ่ "กลุ่มอาสามหาวิทยาลัยมหิดล" ซึ่งประกอบด้วยนักศึกษาจากทุกคณะ และทุกวิทยาเขตจึงอาสาทำธงให้ โดยระดมทำอยู่ 2 วัน 2 คืน จนมีธงพอจำหน่ายในวันที่ 23 กันยายน ในปีนั้น





 ปีต่อมาคณะกรรมการจำหน่ายธงวันมหิดล จึงมีมติให้จ้างกลุ่มอาสาฯ ทำธงแทนจ้างบริษัทเอกชน เพราะเล็งเห็นว่านักศึกษาทำได้ดีเทียบเท่ามืออาชีพ และยังเป็นการสนับสนุนการทำกิจกรรมของนักศึกษา นอกจากนี้ผลกำไรทางกลุ่มอาสาฯ ยังนำไปสร้าง โรงเรียนในชนบททุกปี เรียกว่าได้บุญ 1 ต่อ

          สำหรับสีของธงในแต่ละปีจะตรงกับวันมหิดลในปีนั้นๆ เช่น ปีนี้วันมหิดลตรงกับวันพุธ ธงจึงเป็นสีเขียว และเมื่อบริจาคเงินสมทบทุนศิริราชมูลนิธิ จะมีสติกเกอร์วันมหิดล มอบเป็นของที่ระลึก


          2. การจัดนิทรรศการ เช่น พระราชประวัติ และผลงานของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม ราชชนก

          3. การจัดสัมมนาทางวิชาการ เช่น การแพทย์ใหม่ในประเทศไทย

          4. การอภิปรายตามแนวพระราชดำริ เกี่ยวกับการแพทย์ไทย

          5. การประกวด หรือการแข่งขันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น การประกวดโรงพยาบาลดีเด่น

          6. อื่น ๆ เช่น การมอบรางวัลให้กับแพทย์ พยาบาล ดีเด่น และผู้เสียสละเพื่อชาวชนบท เพื่อสังคม


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 31, 2014, 06:03:03 PM


(https://fbcdn-sphotos-c-a.akamaihd.net/hphotos-ak-xpa1/v/t1.0-9/12760_814288175334801_424112180726015248_n.jpg?oh=462f2d23ee24c704e577436251cd9d9a&oe=54F38569&__gda__=1425562544_3d0d187f0071f784b2158baf36f35e41)

(https://fbcdn-sphotos-a-a.akamaihd.net/hphotos-ak-xfp1/v/t1.0-9/16120_814287888668163_7515200331427562589_n.jpg?oh=79a26de6f47a81b3089552d9e657629b&oe=54E53E55&__gda__=1424184150_827e1b319911e713054df6c69918c65a)

(https://scontent-b-sin.xx.fbcdn.net/hphotos-xap1/v/t1.0-9/10409522_814287585334860_5237368547459317094_n.jpg?oh=5aa4cb417a279b0de9e82d17debe8962&oe=54EEB6A8)

(https://fbcdn-sphotos-f-a.akamaihd.net/hphotos-ak-xap1/v/t1.0-9/1461467_814287622001523_6507568600163436467_n.jpg?oh=a2ad06e7f5db2accf0d3e04530542df1&oe=54E79088&__gda__=1425299393_9362ef9377b1047f693186f89a0e47be)

(https://fbcdn-sphotos-e-a.akamaihd.net/hphotos-ak-xap1/v/t1.0-9/1457477_814287738668178_535457362721827074_n.jpg?oh=fd2ddfee7f7c413229b43e7762db1932&oe=54E8C73A&__gda__=1423736007_c4532ea11140d40b54e53b3608bb7d38)


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ธันวาคม 05, 2014, 01:57:51 PM
(https://scontent-a-sin.xx.fbcdn.net/hphotos-xaf1/v/t1.0-9/1780908_625035370955819_704554558093771455_n.jpg?oh=152948b59dabc88fad1b8227a08a43d2&oe=5518CAAB)

(https://fbcdn-sphotos-b-a.akamaihd.net/hphotos-ak-xfp1/v/t1.0-9/10407448_625035390955817_3030760473984611362_n.jpg?oh=f126723b0f77123b670eccabd7c93491&oe=5514B3B4&__gda__=1426017341_873395971f9446a2c345c4eda14b5c2d)

(https://fbcdn-sphotos-h-a.akamaihd.net/hphotos-ak-xpa1/v/t1.0-9/9773_625035407622482_4577492461269971178_n.jpg?oh=940f17215247dc3e33b065a881e20f8e&oe=551D9B07&__gda__=1427157214_3a4915f01c77301fad411e366f804a23)

(https://fbcdn-sphotos-e-a.akamaihd.net/hphotos-ak-xpa1/v/t1.0-9/10806386_625035547622468_66337897864370754_n.jpg?oh=cb1ee4fc4eebc1ca52d08040cb94d6f8&oe=551D425E&__gda__=1426153180_a99a005261fb8158af55eb2b4ecbd7dc)
ดอกพุทธรักษา สีเหลืองงาม

ซึ่งตรงกับสีของวันพระราชสมภพของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

รวมทั้งเป็นไม้มงคลที่คนไทยเชื่อกันว่า เป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า

ที่คอยคุ้มครองปกปักษ์รักษา ให้มี ความสงบสุข ไม่เดือดเนื้อร้อนใจ

และรอดพ้นจากภัยอันตรายทั้งปวง

ดังนั้น ดอกไม้วันพ่อที่มีคุณสมบัติ

ครบถ้วนเป็นอย่างดี จึงใช้เป็นตัวแทนในการมอบความเคารพบูชา

ให้พ่อ และอวยพรให้พ่อได้มีการคุ้มครอง

ปกป้องอย่างสงบสุขร่มเย็น โดยไม่ โดยไม่มีอันตรายใดๆนั่นเอง.


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ธันวาคม 05, 2014, 02:12:07 PM
"...พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท่านเสด็จไปหาสมเด็จย่าทุกเย็น อาทิตย์ละ 5 วันเพื่อไปทานข้าวกับแม่ ไปทำให้แม่ชุ่มชื่นหัวใจ ในขณะที่เรามักกันพูดเสมอว่าไม่มีเวลา แต่พระองค์ท่านที่ทรงงานหนักกว่าเราไม่รู้กี่ร้อยกี่พันเท่า ทำไมท่านกลับแบ่งเวลาได้ เรื่องเราของพระองค์ท่านสอนให้รู้ว่า ความกตัญญูคือรักแรกและรักแท้ที่ทำให้เรารับรู้ถึงทุกข์สุขของบุพการี เสียสละเวลาเพื่อความสุขของท่าน เหมือนพระผู้เป็นต้นแบบความกตัญญูที่ยิ่งใหญ่ของชาวไทย..."

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ


เครดิตภาพและข้อมูลจาก คลิป Why do Thai people love their King? เหตุผล...ที่คนไทยรักในหลวง

(https://scontent-b-sin.xx.fbcdn.net/hphotos-xpa1/v/t1.0-9/10351662_709087179160311_9051744840124245708_n.jpg?oh=475bb1c23fab16fae91417c081da2ae7&oe=5509F2DA)

(https://fbcdn-sphotos-a-a.akamaihd.net/hphotos-ak-xfp1/v/t1.0-9/10150801_709087169160312_6381073469440874380_n.jpg?oh=f9e9f7f776be82b666e14e2c1d4af6dd&oe=5502137F&__gda__=1428093430_beb0c8605c8d940e80b264d14288d245)

(https://fbcdn-sphotos-e-a.akamaihd.net/hphotos-ak-xaf1/v/t1.0-9/10173735_709087145826981_5455636841117899955_n.jpg?oh=cefa530da5c1fba67dd2ed8fdcb4eacf&oe=550C14E7&__gda__=1427477078_7e1cd172cce064aceb431b80a8819b34)

(https://fbcdn-sphotos-c-a.akamaihd.net/hphotos-ak-xfa1/v/t1.0-9/10373950_709087165826979_2027755306658231057_n.jpg?oh=ff214d4b4afb965eafb9e2cd986a8c75&oe=54FD952D&__gda__=1427010075_6f561427023308ea1514fbdea37be063)

(https://fbcdn-sphotos-h-a.akamaihd.net/hphotos-ak-xpf1/v/t1.0-9/10639646_709087142493648_8713170641792881412_n.jpg?oh=697b80a9c3e426dc3c144315527a55dd&oe=54FF126B&__gda__=1425911553_36380b1261303032d170474a764375d9)


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ธันวาคม 05, 2014, 02:21:12 PM

(https://scontent-b-sin.xx.fbcdn.net/hphotos-xpf1/v/t1.0-9/10428675_964962106851841_2288275225978911706_n.jpg?oh=c0e7c365a2b0daf4d274f66dcc133c04&oe=5511C15F)

5 ธันวาคม วันดินโลก (ปี 2558 ปีดินสากล)

ประเทศไทยเตรียมจัดงานวันดินโลกอย่างยิ่งใหญ่พร้อมเปิดตัวปีดินสากล

วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี นอกจากจะเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือวันพ่อแห่งชาติ ที่พสกนิกรชาวไทยมีความปิติยินดีร่วมกันจัดงานและกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเทิดพระเกียรติพระองค์ท่าน แต่วันที่ 5 ธันวาคมยังเป็นวันสำคัญของคนทั้งโลกอีกด้วย เนื่องจากองค์การสหประชาชาติ ได้ประกาศรับรองอย่างเป็นทางการ ให้วันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปีเป็นวันดินโลก (World Soil Day) นอกจากนี้ยังประกาศให้ปี 2558 เป็นปีดินสากล (International Year of Soil 2015) โดยจะมีการจัดงานเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่พร้อมกับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก

นายอภิชาต จงสกุล อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 16 เมษายน 2555 สมาคมดินและปุ๋ยแห่งประเทศไทย ได้ขอพระราชทานพระราชวโรกาสนำคณะกรรมการบริหารของสหภาพวิทยาศาสตร์ทางดินนานาชาติ เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อทูลเกล้า ทูลกระหม่อมถวายรางวัลนักวิทยาศาสตร์ทางดินเพื่อมนุษยธรรม (The Humanitarian Soil Scientist) เป็นพระองค์แรกของโลก เพื่อสดุดดีพระเกียรติคุณให้เป็นที่ประจักษ์ถึงพระวิสัยทัศน์และพระราชกรณีย กิจเกี่ยวกับการพัฒนาและอนุรักษ์ทรัพยากรดินอย่างยั่งยืน และในโอกาสเดียวกัน ได้ขอพระราชทานให้วันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปีเป็นวันดินโลก

กระทรวงการเกษตรและสหกรณ์ ได้ผลักดันเรื่องวันดินโลกเข้าสู่ที่ประชุมองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ หรือ เอฟ เอ โอ รวมทั้งเสนอให้ปี 2558 เป็นปีดินสากล โดยที่ประชุมสมัชชาสหประชาติ เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2556 ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ค ได้มีมติให้การรับรองวันดินโลก (WorldSoil Day) ตรงกับวันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี และในปี 2558 เป็นปีดินสากล (International Year of Soils in 2015) ซึ่งจะมีผลให้วันดินโลกได้รับการบรรจุในปฏิทินปฏิบัติงานขององค์การสหประชาชาติอย่างเป็นทางการนับตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นไป วันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี ประเทศสมาชิกองค์การสหประชาชาติกว่า 200 ประเทศจะจัดงานเฉลิมฉลองวันดินโลกพร้อมกัน

แม้ว่าประเทศไทยจะมีการจัดงานเฉลิมฉลองวันดินโลกมาก่อนหน้านี้แล้ว 2 ปี แต่ในปี 2557 นี้ กรมพัฒนาที่ดิน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะจัดงานเฉลิมฉลองวันดินโลกอย่างยิ่งใหญ่ เพราะเป็นการเฉลิมฉลองอย่างเป็นทางการ หลังจากที่องค์การสหประชาชาติมีมติให้การรับรอง ที่สำคัญจะมีการเปิดตัว ปีดินสากล ที่จะมีการขับเคลื่อนกิจกรรมทั้งในประเทศไทยและประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกตลอดปี 2558 เพื่อให้เป็นปีแห่งการรณรงค์ในการสร้างความตื่นรู้ถึงความสำคัญของทรัพยากรดิน ตลอดจนการใช้ การปรับปรุง และการอนุรักษ์ทรัพยากรดินอย่างถูกต้อง เพื่อให้สามารถใช้ทรัพยากรดินอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน เนื่องจากดินเป็นแหล่งสร้างอาหารปลอดภัย ลดปริมาณผู้หิวโหยและขาดอาหารสร้างความมั่นคงทางอาหาร และลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นำไปสู่การลดปัญหาความยากจน และการพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนาคต

นายอภิชาต กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดงานวันดินโลก ประจำปี 2557 กรมพัฒนาที่ดินได้กำหนดจัดงานภายใต้ชื่อ "ตามรอยปฐพีใต้ธุลีพระบาท นักวิทยาศาสตร์ดิน เพื่อมนุษยธรรม" ระหว่างวันที่ 3-5 ธันวาคม 2557 ตั้งแต่เวลา 08.30 น.-18.00 น. ณ กรมพัฒนาที่ดิน ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ซึ่งกรมพัฒนาที่ดิน ได้เชิญ เอฟ เอ โอ ประจำภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิค และกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ร่วมจัดงานในครั้งนี้ด้วย เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงทุ่มเทพระวรกาย พระสติปัญญา จนมีพระราชดำริเกี่ยวกับการแก้ปัญหาฟื้นฟู อนุรักษ์ทรัพยากรดินมากมาย เพื่อนำไปสู่ความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืน ขจัดซึ่งความยากจนและหิวโหยบนพื้นฐานเศรษฐกิจพอเพียง คือให้ประชาชนอยู่ในสังคมได้อย่างเข้มแข็งและสามารถพึ่งพาตนเองได้ในที่สุด โดยพิธีเปิดงานในวันพุธที่ 3 ธันวาคม 2557 เวลา 10.00 น. ได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ อำพล เสนาณรงค์ องคมนตรี เป็นประธานในพิธี

สำหรับกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย นิทรรศการเกี่ยวกับความสำคัญของดิน นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนิทรรศการวิทยาศาสตร์ ทางดิน การประกวดร้องเพลงเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเฉพาะจะมีการแข่งขันเกม Online "LDD's IM-Farm" ที่ต้องการให้เด็กนักเรียน เยาวชนได้เรียนรู้การประกอบอาชีพเกษตร ต้องมีการจัดการดินอย่างไร ควรจะปลูกพืชชนิดไหนช่วงใด จึงจะขายผลผลิตได้รายได้ที่ดี ซึ่งนอกจากจะได้รับความบันเทิงแล้วยังได้รับความรู้กลับไปถ่ายทอดให้ผู้ปกครองที่ประกอบอาชีพทางการเกษตรได้อีกด้วย

พร้อมกันนี้ ยังมีการบรรยายพิเศษ การเสวนากิจกรรมเล่าเรื่อง "วันดินโลกและปีดินสากล" กิจกรรมตอบปัญหาเกี่ยวกับวันดินโลกและปีดินสากล โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุมิที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญ ของกรมพัฒนาที่ดินและหน่วยงานภายนอก มาร่วมเสวนาและบรรยายพิเศษทั้งภาคเช้าและภาคบ่าย รวมทั้งกิจกรรมการเรียนรู้โดยให้ผู้เข้าชมงานได้ทดลองปฏิบัติจริงทั้งนี้ ขอเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมงานได้ทดลองปฏิบัติจริงทั้งนี้ ขอเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมงานในวันและเวลาที่กำหนด

โดยเฉพาะที่สำคัญในวันที่ 5 ธันวาคม ขอเชิญทุกท่านร่วมกันแสดงพลังสามัคคีโดยพร้อมเพรียงกัน ในพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพร ณ ลานสนามหญ้ากรมพัฒนาที่ดิน เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมกับรับสัญญาณถ่ายทอดสด ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ในเวลา 19.09 น. เป็นต้นไป

"ทรัพยากรดินมีจำกัด และนับวันจะเสื่อมโทรมลงไปทุกขณะ เกษตกรผู้ใช้ดินอาจจะไม่ได้สังเกตถึงความเปลี่ยนแปลง เพราะเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างช้าไม่เด่นชัดเหมือนทรัพยากรน้ำที่เห็นทันทีว่า น้ำท่วมน้ำแล้ง แต่ความจริงแล้วดินเปลี่ยนแปลงไปทุกเวลาจากการใช้ประโยชน์ที่ดินต่อเนื่อง และขาดการบำรุงรักษาอย่างถูกต้อง ซึ่งในเรื่องดังกล่าวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเข้าพระทัยในการเปลี่ยนแปลงของดินเป็นอย่างดี เนื่องจากแม้มีทรัพยากรน้ำ แต่ถ้าดินไม่ดีก็ปลูกอะไรไม่ได้ ดังนั้น จึงอยากให้ทุกคนหันมาให้ความใส่ใจดูแลทรัพยากรดิน ที่ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการดำรงชีพของสิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลกเป็นแหล่ง ผลิตอาหาร ยารักษาโรค เครื่องนุ่มห่ม เชื้อเพลิง ตลอดจนเป็นที่อยู่อาศัย ทรัพยากรดินจึงควรค่าที่ทุกคนจะต้องช่วยกันรักษาให้มีสภาพที่สมบูรณ์สามารถ ใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนสืบไป" อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กล่าวย้ำ

ข่าวจากหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ เมษายน 01, 2015, 10:33:57 AM
(http://www.prdnorth.in.th/Images/NewsImg/D15/150328113210.jpg)


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ เมษายน 06, 2015, 10:09:43 AM
วันจักรี จักรี ประวัติวันจักรี ตราจักรี ความเป็นมาวันจักรี 6 เมษายน ของทุกปี


(http://www.zabzaa.com/event/images/chakri01.jpg)


วันจักรี หมายถึง วันที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกฯ ปฐมบรมจักรี เสด็จกรีฑาทัพถึงพระมหานครทรงรับอัญเชิญขึ้นเถลิงถวัลย์ราชสมบัติ ดำรงราชอาณาจักรสยามประเทศ   
ประวัติ ความเป็นมา   

วันที่ระลึกมหาจักรี หรือที่เรียกกันโดยย่อว่าวันจักรี นั้น สืบเนื่องจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ ทรงพระราชดำริว่ารูปพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รูปพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รูปพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และรูปพระบาทสมเด็จ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ประกอบพระราชพิธี ทรงหล่อรูปลักษณะเหมือนพระองค์จริงฉลองพระองค์แบบไทย ณ โรงหล่อหลังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (บริเวณศาลาสหทัยสมาคมในปัจจุบัน) เพื่อสนองพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระปฐมบรมราชบุพการี แล้วโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระที่นั่งศิวาลัยมหาปราสาทขึ้นในมหาราชวัง เชิญรูปทั้ง ๔ รัชกาลนั้น ประดิษฐานเพื่อเป็นราชานุสรณ์ สำหรับถวายบังคมสักการะ ในงานพระราชพิธีฉัตรมงคลและพระราชพิธีพระชนมพรรษา   
   ครั้นในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสืบราชสันติวงศ์ ได้โปรดเกล้าฯ ให้จัดสร้างรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวชนกนาถ จากต่างประเทศ แล้วอัญเชิญขึ้นประดิษฐานร่วมกับรูปทั้ง ๔ รัชกาลนั้น   
   ต่อมาทรงพระราชดำริว่า พระที่นั่งศิวาลัยมหาปราสาทยังไม่เหมาะสมที่จะมีงานถวายบังคม สักการะรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ซ่อมแปลงพระพุทธปรางค์ปราสาท ในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เพื่อประดิษฐานรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชทั้ง ๕ รัชกาล พระราชทานนามใหม่ว่า ปราสาท พระเทพบิดร โดยทรงพระอนุสรณ์คำนึงถึงพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ซึ่งได้ประดิษฐานจักรี ทรงมีพระเดชพระคุณต่อประเทศ เมื่อมีโอกาสก็ควรแสดงความเชิดชูและระลึกถึง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งการพระราชพิธีเชิญ รูปจากพระที่นั่งศิวาลัยมหาปราสาท มาประดิษฐานที่ปราสาทพระเทพบิดร เมื่อวันที่ ๖ เมษายน ๒๔๖๑ อันเป็นดิถีคล้ายวันที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกเสด็จกรีธาทัพถึงพระนคร ได้รับอันเชิญขึ้นเถลิงถวัลย์ราชสมบัติพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงบรรจุพระกรัณฑ์ทองคำลงยาราชาวดีซึ่งบรรจุทนต์(ฟัน) พระสุพรรณบัฏจารึกพระปรมาภิไธย พระดวงราชสมภพ พระดวงบรมราชาภิเษก พระดวงสวรรคต ลง ณ เบื้องสูงของพระเศียรรูปทั้ง ๕ รัชกาลครั้นถึงวันที่ ๒๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๖๑ (สมัยนั้นขึ้นปีใหม่วันที่ ๑ เมษายน)   
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยาธรรมาธิกรณาธิบดี(ม.ร.ว. ปุ้ม มาลากุล) เสนาบดีกระทรวงวัง ประกาศราชโองการให้มีการกราบ ถวายบังคมรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเป็นการ ประจำปีกำหนดใน วันที่ ๖ เมษายน เป็นประเพณีสืบไป   
   ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้มีพระราชพิธีทรงหล่อรูป พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวณ โรงหล่อกรมศิลปากร ครั้นตกแต่งรูปเรียบร้อยแล้ว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ กำหนดการพระราชพิธีประดิษฐาน รูปที่ปราสาทพระเทพบิดร โดยเสด็จพระราชดำเนิน มาทรงบรรจุทนต์พระสุพรรณบัฎจารึก พระปรมาภิไธยและดวงราชสมภพ พระดวงบรมราชาภิเษก พระดวงสวรรคต ในพระกรัณฑ์ทองคำลงยา แล้วทรงบรรจุที่เบื้องสูงของพระเศียรรูป เมื่อวันที่ ๔ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๐   
   ต่อมาพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชปรารภว่า ในปี ๒๔๗๕ อายุพระนครจะบรรจบครบ ๑๕๐ ปี สมควรมีการสมโภชและสร้างสิ่งสำคัญ เป็นอนุสรณ์ขึ้นไว้ให้ปรากฎแก่อารยชนในนานาประเทศ ว่าชาวไทยมีความกตัญญูรู้คุณบรรพบุรุษ ที่ได้สร้างกรุงเทพฯเป็นราชธานีแล้วบำรุงรักษาประเทศ ให้เป็นอิสระสืบมาทรงปรึกษาพระราชปรารภ แก่อภิรัฐมนตรีและเสนาบดี ซึ่งเห็นชอบด้วยพระราชดำริว่า ควรสร้างปฐมบรมราชานุสรณ์มี ๒ สิ่งประกอบกัน คือ รูปพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก องค์ปฐมกษัตริย์ และสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเชื่อมพระนครธนบุรี รูปพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกนั้น ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ทรงออกแบบ ให้ศาสตรจารย์ศิลปพีระศรี ปั้นหุ่นหล่อ ส่วนสะพานทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยากำแพงเพชรอัครโยธิน อำนวยการสร้าง และพระราชทานนามว่า สะพานพระพุทธยอดฟ้า เงินที่ใช้ในการก่อสร้างปฐมบรมราชานุสรณ์นี้ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวบริจาคพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ส่วน ๑ รัฐบาลจ่ายเงินแผ่นดินส่วน ๑ อีกส่วน ๑ ทรงพระราชดำริให้บอกบุญเรี่ยไรชาวไทยทุกคน พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดปฐมบรมราชานุสรณ์ โดยกระบวนพยุหยาตรา เมื่อ วันที่ ๖ เมษายน ๒๔๗๕ ซึ่งเป็นวันครบ ๑๕๐ ปี และมีการพระราชพิธี เฉลิมฉลองกรุงเทพมหานคร   
   ครั้นถึง รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล รัชกาลที่ ๘ ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงหล่อรูปพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ โรงหล่อกรมศิลปากร และได้อัญเชิญมาประดิษฐานที่ที่ปราสาทพระเทพบิดร เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๒   
   เมื่อพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดลสวรรคต และได้ถวายพระเพลิงศพตามขัตติยราชประเพณีแล้ว พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูอดุลยเดช รัชกาลปัจจุบัน ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีพระราชพิธีหล่อรูป พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล ที่โรงหล่อกรมศิลปากร ครั้นตกแต่งรูปเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กำหนดการพระราชพิธีเชิญรูปไปประดิษฐาน ณ ปราสาทพระเทพบิดร เมื่อวันที่ ๓ เมษายนพ.ศ. ๒๕๐๒ โดยเสด็จพระราชดำเนินไปทรงบรรจุเส้นพระเจ้า(เส้นผม) พระสุพรรณบัฎจารึกพระปรมาภิไธย พระดวงราชสมภพ พระดวงเสวยราชย์ พระดวงสวรรคต ลงในพระกรัณฑ์ทองคำลงยา แล้วทรงบรรจุพระกรัณฑ์ลง ณ เบื้องสูงของพระเศียรแห่งรูป และในพระราชพิธีนี้ได้ทรงบรรจุเส้นพระเจ้า พระสุพรรณบัฎจารึกพระปรมาภิไธย พระดวงราชสมภพ พระดวงเสวยราชย์ พระดวงสวรรคต ลงในพระกรัณฑ์ทองคำลงยาแล้วทรงบรรจุ ณ เบื้องสูงของพระเศียรแห่งรูปพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวด้วย   
   การถวายบังคมรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช ที่ปราสาทพระเทพบิดรเป็นราชประเพณีประจำปี ตั้งแต่วันที่ ๖ เมษายน ๒๔๖๑ เป็นต้นมา ครั้นได้สร้างรูปพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ประดิษฐาน ณ ปฐมบรมราชานุสรณ์ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๕ เนื่องในการเฉลิมพระนครบรรจบครบ ๑๕๐ ปีแล้ว ในปีต่อมาทางราชการได้ประกาศให้ถือวันที่ ๖ เมษายน เป็นวันที่ระลึกมหาจักรีและเป็นวันสำคัญของชาติวันหนึ่ง กำหนดให้หยุดราชการและให้ ชักธงชาติ และได้กำหนดให้มี การถวายบังคมรูป พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกที่ปฐมราชานุสรณ์ สำนักพระราชวัง ได้ออกหมายกำหนดการเสด็จพระราชดำเนิน ไปถวายสักการะรูปที่ปฐมบรมราชานุสรณ์ และถวายบังคมสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช ที่ปราสาทพระเทพบิดร   
   การถวายราชสักการะรูปพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ที่ปฐมบรมราชานุสรณ์นั้น ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๗๕ เป็นต้นมา เป็นการเสด็จของผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต่อมาในระหว่าง พ.ศ. ๒๔๙๕ ถึง พ.ศ. ๒๔๙๖ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูอดุลยเดช รัชกาลปัจจุบัน ได้เสด็จพระราชดำเนินถวาย พวงมาลาเป็นราชสักการะ ภายหลังจากนั้นทรงมีพระราชปรารถพระราชทาน พลตรีหม่อมทวีวงศ์ถวัลศักดิ์ (ม.ร.ว.เฉลิมลาภ ทวีวงศ์)เลขาธิการพระราชวัง ว่าการวางพวงมาลาตามคตินิยมของชาวไทย ใช้สำหรับการไว้อาลัยแก่ชีวิตของผู้ที่จากไป แต่วันที่ระลึกมหาจักรี ๖ เมษายนนั้น เป็นมงคลดิถีคล้ายวันที่ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก เสด็จขึ้นเถลิงถวัลย์ราชสมบัติ สถาปนาจักรี การถวายพวงมาลาจึงไม่เป็นการงดงามเหมาะสม ในปี พ.ศ. ๒๔๙๗ สำนักพระราชวังได้เปลี่ยนเป็น จัดพานพุ่มดอกไม้สดทูลเกล้าฯ ถวายเป็นเครื่องราชสักการะอนึ่ง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานราชานุญาต ให้สาธุชนเข้าถวายบังคมสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช ที่ปราสาทพระเทพบิดร ตั้งแต่เวลา ๘ นาฬิกา จนถึงเวลา ๑๘ นาฬิกา   
http://www.zabzaa.com/event/chakri.htm (http://www.zabzaa.com/event/chakri.htm)


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ เมษายน 15, 2015, 12:55:24 PM

(http://image.ohozaa.com/i/b8c/FBStu.gif)

(http://image.ohozaa.com/i/c1f/ce85Ji.jpg)


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ เมษายน 28, 2015, 09:18:25 PM
๖๕ ปี วันราชาภิเษกสมรส (๒๘ เมษายน ๒๕๕๘ )



(https://scontent-kul.xx.fbcdn.net/hphotos-xpt1/v/t1.0-9/11174906_772769646151921_716569554591060703_n.jpg?oh=736d4ef0d7d07b56b07ba74a2eab93ca&oe=55D425FC)

(https://scontent-kul.xx.fbcdn.net/hphotos-xtf1/v/t1.0-9/11150892_772764316152454_6524241155658955865_n.jpg?oh=f3afacc7cc0c621277cc248cb1ead82b&oe=55DB87C7)

(https://scontent-kul.xx.fbcdn.net/hphotos-xfa1/v/t1.0-9/11182071_772766152818937_2730832400620921766_n.jpg?oh=5b6d64b20c8c4e90893671cba42e715f&oe=55C905E7)

นับตั้งแต่ทรงเข้าพระราชพิธีราชาภิเษกสมรส และ พระราชพิธีบรมราชาภิเษก
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ ราชินีนาถ
ก็ทรงทุ่มเทพระวรกายเพื่อพสกนิกรชาวไทยกว่า 65 ปี อย่างไม่ทรงรู้สึกเหน็ดเหนื่อย

ทรงรับทุกข์สุขของประชาชน เฉกเช่นทุกข์และสุขของพระองค์เอง

…ขอทั้งสองพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน…

วันบรมราชาภิเษกสมรสครบ 65 ปี ซึ่งตรงกับวันที่ 28 เมษายน 2558 นี้เอง
ย้อนกลับไปเมื่อกว่า 66 ปีที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประกอบพิธีหมั้นกับ
หม่อมสิริกิติ์ กิติยากร เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พุทธศักราช 2492
ณ เมืองโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

 หลังจากนั้นรัฐบาลได้แจ้งให้ประชาชนชาวไทยทราบว่า
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จนิวัตประเทศไทยพร้อมด้วยพระคู่หมั้น
ในวันที่ 24 มีนาคม พุทธศักราช 2493


(https://scontent-kul.xx.fbcdn.net/hphotos-xtp1/v/t1.0-9/11069595_772765959485623_3851728488297663522_n.jpg?oh=63ebdd149514c59cae35b8c296ee926a&oe=55DE2297)

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงกำหนดให้วันที่ 28 เมษายน พุทธศักราช 2493
เป็นวันประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกสมรส ณ วังสระปทุม
อันเป็นที่ประทับของสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า


(https://fbcdn-sphotos-a-a.akamaihd.net/hphotos-ak-xap1/v/t1.0-9/11188150_772765969485622_5797970297986951121_n.jpg?oh=9956e3606cd6540e5a34a27ec9f836c9&oe=55C9DE57&__gda__=1439990411_ba22c363473ae24fd8992b65ea565cc5)

เมื่อใกล้ถึงเวลาพระฤกษ์ เวลา 09.30 น. หม่อมเจ้านักขัตรมงคล กิติยากร ทรงนำหม่อมสิริกิติ์ กิติยากร ไปยังวังสระปทุม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงลงพระปรมาภิไธย และ ม.ร.ว.สิริกิติ์ ลงนามในสมุดทะเบียนสมรส

 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ราชสักขี 2 คน คือ จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี
และพล.อ.มังกร พรหมโยธี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ร่วมลงนามด้วย
นับเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกแห่งราชจักรีวงศ์ที่ทรงจดทะเบียนสมรสตามกฎหมาย

 เมื่อสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า เสด็จออก ณ ชั้น 2
ของพระตำหนักแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและม.ร.ว.สิริกิติ์ ทูลเกล้าฯ
ถวายดอกไม้ธูปเทียนเครื่องราชสักการะ

(https://scontent-kul.xx.fbcdn.net/hphotos-xpf1/v/t1.0-9/11174784_772766049485614_6914131680212489132_n.jpg?oh=f72a019c8150bd86d45d51b2ddf2450b&oe=559A19B9)
สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ประทานน้ำพระพุทธมนต์ เทพมนต์แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระราชทานน้ำพระพุทธมนต์ เทพมนต์แก่ ม.ร.ว.สิริกิติ์ ตามโบราณราชประเพณี

 วงศานุวงศ์ ข้าราชการ และบุคคลที่ได้รับเชิญมาร่วมในพระราชพิธี ทูลเกล้าฯ
ถวายของขวัญ ในโอกาสนี้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
พระราชทานของที่ระลึกเป็นหีบบุหรี่เงินขนาดเล็ก
ประดับอักษรพระนามาภิไธยย่อ ภ.อ. และ ส.ก

(https://scontent-kul.xx.fbcdn.net/hphotos-xpa1/v/t1.0-9/11203153_772766116152274_1183406378005588185_n.jpg?oh=929b9094bd79a7c4f14e2e0d98e9ec05&oe=55E25579)

(https://scontent-kul.xx.fbcdn.net/hphotos-xfp1/v/t1.0-9/10928985_772765979485621_9031722477629681322_n.jpg?oh=cd02f3706c1f55da63bc0d068e02a7f6&oe=55977A5D)

(https://scontent-kul.xx.fbcdn.net/hphotos-xap1/v/t1.0-9/11205027_772766019485617_5388920490061567852_n.jpg?oh=0006a64d00fd90ba585a9666f40d076a&oe=55CF5FC6)

(https://fbcdn-sphotos-b-a.akamaihd.net/hphotos-ak-xpt1/v/t1.0-9/11069400_772766086152277_5764831783725935763_n.jpg?oh=e6936a0088fda32117958051cab085b3&oe=55E601A3&__gda__=1439344551_0b760e8b47b34763611683d903cc327e)

ต่อมาทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อาลักษณ์อ่านประกาศสถาปนา ม.ร.ว.สิริกิติ์ พระอัครมเหสี
เป็นสมเด็จพระราชินีสิริกิติ์ และพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์มหาจักรีบรม
แก่สมเด็จพระราชินีในศุภมงคลโอกาสนี้ด้วย


(https://scontent-kul.xx.fbcdn.net/hphotos-xat1/v/t1.0-9/10942606_772766129485606_4590162307057723526_n.jpg?oh=4b0ab54f60c0f95fad173966e9063c93&oe=5599B802)

เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันเดียวกันนี้ ทั้งสองพระองค์ได้เสด็จออกมหาสมาคม
ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณ ในมหาราชวัง
พระราชทานพระราชวโรกาสให้วงศานุวงศ์เข้าเฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล
แล้วเสด็จฯ ออก ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ให้คณะองคมนตรี คณะรัฐมนตรี สมาชิกรัฐสภา ข้าราชการและคณะทูตานุทูต เฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล

 ในวันรุ่งขึ้น คือวันที่ 29 เมษายน พุทธศักราช 2493
ทั้งสองพระองค์เสด็จแปรพระราชฐานโดยรถไฟพระที่นั่งไปประทับ
ณ วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นเวลา 5 วัน

 ขอทั้งสองพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

 ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
Cr Sompong Jitpaipoon


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤษภาคม 05, 2015, 09:38:32 AM
5 พฤษภาคม วันฉัตรมงคล
(https://fbcdn-sphotos-g-a.akamaihd.net/hphotos-ak-xfp1/v/t1.0-9/936953_553820224660926_294012867_n.jpg?oh=e239abd117eb46620631b2efbacf5711&oe=55DF6597&__gda__=1440076677_cb7792e0918f4361ff77f12b79759091)
(https://fbcdn-sphotos-f-a.akamaihd.net/hphotos-ak-xap1/v/t1.0-9/11174788_1104899299523438_8822143372878641855_n.jpg?oh=c95283c7f6931c1d55c772721f2f3157&oe=55CF4EAB&__gda__=1438825362_1dad7f15a067dd946ec219b14c6c60c9)
ความสำคัญ
วันฉัตรมงคล เป็นวันที่ระลึกในการครบรอบปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูอดุลยเดช ทรงรับราชาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์แห่งประเทศไทยโดยสมบูรณ์ คือพระองค์ได้ขึ้นครองราชสมบัติสืบต่อจากสมเด็จเชษฐาธิราช พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ.2489 แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปทรงศึกษาอยู่ ณ ทวีปยุโรป จนกระทั่งทรงบรรลุนิติภาวะแล้วจึงได้เสร็จนิวัติประเทศไทย และรัฐบาลไทยได้น้อมเกล้าฯ จักพระราชพิธีบรมราชาภิเษกถวาย เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ.2493 เหล่าพสกนิกรชาวไทย ได้ถือเอาวันที่ 5 พฤษภาคมของทุกปี เป็นวันฉัตรมงคลรำลึก

พระราชพิธีราชาภิเษก

(https://fbcdn-sphotos-a-a.akamaihd.net/hphotos-ak-xap1/v/t1.0-9/1236119_576950742366998_1185995000_n.jpg?oh=306d630fc9d85664ef83526ea24e55bf&oe=55C38704&__gda__=1440731181_d2c9283a3be3b6d6dc33af91b5a66716)
(https://fbcdn-sphotos-g-a.akamaihd.net/hphotos-ak-xfp1/v/t1.0-9/10170868_234574700065898_6525251870424502058_n.jpg?oh=17330f461142c74df3e84c2b5417a704&oe=55E43237&__gda__=1441041598_6d2c46b54c36c423533f2ba43a4d28b6)
ขั้นเตรียมงานพระราชพิธี เริ่มตั้งแต่พิธีตักน้ำ และทำพิธีเสกน้ำ ณ เจดีย์สถานสำคัญจากสถานที่ตักน้ำ ก่อนที่จะส่งเข้ามาทำพิธีต่อไปในพระนคร น้ำที่เสกนี้ใช้สำหรับถวายสำหรับถวายเป็น น้ำอภิเษก และสรงมุรธาภิเษก โดยมีระเบียบกำหนดให้ใช้น้ำจากแม่น้ำ 5 สาย ได้แก่ แม่น้ำคงคา ยมนา อิรวดี มหิ และสรภู ในชมพูทวีป หรือที่เรียกว่า "ปัญจมหานที" แต่เนื่องจากประเทศไทยอยู่ห่างจากชมพูทวีปมาก ไม่สะดวกในการเดินทาง จึงเปลี่ยนมาใช้น้ำจากแม่น้ำ18 แห่ง จากภายในพระราชอาณาจักรแทน นอกจากนี้ยังมีพิธีจารึกดวงพระราชสมภพในพระสุพรรณบัฏ และแกะพระราชสัญจกร

พิธีเบื้องต้น เริ่มตั้งแต่ตั้งนำวงด้าย จุดเทียนชัย และเจริญพระพุทธมนต์

(https://scontent-sin.xx.fbcdn.net/hphotos-xfa1/v/t1.0-9/27142_553546208021661_538498127_n.jpg?oh=8a00026bd54b5f985396b73973e26c1b&oe=55DD8100)
พระราชพิธีราชาภิเษก เริ่มจากสรงมุรธาภิเษก ต่อจากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จพระราชดำเนินไปประทับเหนือพระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และพราหมณ์นั่งประจำทิศทั้ง 8 กล่าวคำถวายพระพรชัยมงคล และถวายดินแดนให้อยู่ในความคุ้มครองของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต่อจากนั้นทรงรับน้ำอภิเษก ขึ้นสู่พระที่นั่งภัทรบิฐพระราชอาสน์องค์ใหม่ พระมหาราชครูเริ่มร่ายเวทย์พิธีพราหมณ์เมื่อร่ายเวทย์เสร็จแล้วจึงกราบทูลเชิญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวลงพระปรมาภิไธย ถวายเครื่องราชกกุธภัณฑ์ คือ เครื่องหมายแสดงความเป็นพระมหากษัตริย์ ได้แก่พระมหาพิชัยมงกุฎ พระแสงขรรค์ชัยศรี ธารพระกร วาลวิชนี ฉลองพระบาทเมื่อทรงรับพระมหาพิชัยมงกุฎมาสวมพระเศียร เจ้าพนักงานจะประโคมดนตรี ทหารยิงปืนใหญ่ พระสงฆ์เคาะระฆัง และสวดชัยมงคลคาถาทั่วพระราชอาณาจัก หลังจากนั้นพราหมณ์ถวายพระแสงศาสตราวุธเป็นอันเสร็จพระราชพิธีราชาภิเษก
พิธีเบื้องปลาย เมือเสร็จพระราชพิธีราชาภิเษกแล้ว จะเสด็จออก ณ มหาสมาคม เพื่อให้เหล่าข้าราชการ และประชาชนได้ถวายพระพรชัยมงคลเนื่องในวโรกาสทรงเข้าพระราชพิธีราชาภิเษก และตั้งแต่รัชกาลที่ 7 เป็นต้นมา ได้มีพระราชพิธีประกาศสถาปนาสมเด็จราชินี นอกจากนั้นเสร็จพระราชดำเนินเพื่อประกาศพระองค์เป็นศาสนูปถัมภกษัตริยาธิราชเจ้า ในมหาราชวัง

เสด็จเยี่ยมราษฎร เมื่อทรงเสร็จพระราชพิธีต่างๆ ที่เกี่ยงข้องแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จพระราชดำเนิน
ให้ราษฎรได้มีโอกาสชมพระบารมี

การจัดพระราชพิธีเฉลิมฉลองวันฉัตรมงคลในอดีต
แต่เดิมเป็นงานพิธีเฉลิมฉลองของเจ้าพนักงานในพระราชฐานที่มีหน้าที่รักษาเครื่องราชชูปโภคและพระทวารประตูวัง
ได้จัดการสมโภชสังเวยเครื่องราชูปโภคที่ตนรักษาทุกปีในหกเดือน ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเจ้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำริว่า
ในอารยประเทศย่อมนับถือว่า วันคล้ายวันบรมราชาบรมราชาภิเษกเป็นวันมงคลสมัยควรเฉลิมฉลอง
จึงทรงริเริ่มวันฉัตรมงคลขึ้นแต่เนื่องจากเป็นธรรมเนียมใหม่อธิบายให้ฟังก็ไม่เข้าใจ
เผอิญวันบรมราชาภิเษกไปตรงกับวันสมโภชเครื่องราชูปโภคที่มีแต่เดิม
จึงทรงอธิบายว่า ฉัตรมงคลเป็นวันสมโภชเครื่องราชูปโภคทำให้ไม่มีใครติดใจสงสัย

พระบาทสมเด็จพระจอมเจ้าอยู่หัวได้มีการเฉลิมฉลองโดยนิมนต์พระสงฆ์มาสวดเจริญพุทธมนต์ในวันขึ้น 13 ค่ำเดือน 6
รุ่งขึ้นมีการถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทด้วยเหตุนี้จึงถือว่า
การเฉลิมฉลองพระราชพิธีฉัตรมงคลเริ่มมีในรัชกาลของพระบาลสมเด็จพระจอมเจ้าเจ้าอยู่หัวเป็นครั้งแรก

ในสมัยรัชกาลที่ 5 วันบรมราชาภิเษกตรงกับเดือน 12 จะโปรดเกล้าฯ ให้จัดงานฉัตรมงคลในเดือน 12
ก็ไม่มีผู้ใหญ่ท่านใดยินยอม จึงทรงแก้ไขด้วยการออกพระราชบัญญัติว่าด้วยตราจุลจอมเกล้าสำหรับตระกูลขึ้น
ให้มีพระราชทานตรานี้ตรงตรงกับวันคล้ายบรมราชาภิเษก
ท่านผู้หลักผู้ใหญ่จึงยินยอมให้เลื่อนงานฉัตรมงคลมาตรงกับวันบรมราชาภิเษก
แต่ยังให้รักษาประเพณีสมโภชเครื่องราชูโภคอยู่ตามเดิม รูปงานวันฉัตรมงคลจึงเป็นดังนี้จนถึงปัจจุบัน

การจัดงานวันฉัตรมงคลในปัจจุบัน

ในขั้นตอนการจัดงานวันฉัตรมงคลในปัจจุบัน มักกำหนดให้เป็น 3 วัน คือ วันที่ 3 พฤษภาคม
มีงานบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุประทาน คือ พิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ราชบุพการี
ซึ่งเป็นพิธีสงฆ์ ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ซึ่งในวันนี้ได้เพิ่มพระราชพิธีตรึงหมุดธงชัยเฉลิมพล
ที่จะพระราชทานแก่หน่วยทหารบางหน่วยเข้าไว้ด้วย

ในวันที่ 4 พฤษภาคม เป็นวันเริ่มพระราชพิธีฉัตรมงคล
เจ้าพนักงานจะได้อัญเชิญเครื่องราชกกุธภัณฑ์ขึ้นประดิษฐานบนพระแท่นใต้พระมหาปฎลเศวตฉัตร
พระครูหัวหน้าพราหมณ์อ่านประกาศพระราชพิธีฉัตรมงคล แล้วทรงสดับพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์
ในวันที่ 5 ซึ่งเป็นวันฉัตรมงคล พระบาทสมเด็จเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์
ทรงบูชาเครื่องกกุธภัณฑ์ พราหมณ์เบิกแว่นเวียนเทียนสมโภช พระมหาเศวตฉัตรและราชกกุธภัณฑ์
ตอนเย็นพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้าแก่ผู้มีความดีความชอบ
ล้วเสด็จนมัสการพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร
และถวายบังคมรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าที่ปราสาทพระเทพบิดร เป็นเสร็จพระราชพิธี
ในวันฉัตรมงคลสำนักพระราชวังได้เปิดปราสาทหลายแห่งให้ประชาชนได้เข้าชมและถวายบังคม


(https://scontent-sin.xx.fbcdn.net/hphotos-xap1/v/l/t1.0-9/10177321_234575113399190_7275748746789935136_n.jpg?oh=26882d3cea1d22622df1cb0dcc843f19&oe=55C90009)
งานพระราชพิธีฉัตรมงคล เป็นเครื่องหมายยืนยันว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ได้เสด็จเถลิงถวัลย์ราชสมบัติมาครบรอบปีด้วยดีอีกวาระหนึ่ง และตลอดเวลาที่ผ่านมา
พระองค์ได้ประกอบพระราชกรณียกิจอันเป็นคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติ และปวงชนชาวไทยนับอเนกอนันต์
ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ประชาชนชาวไทยจึงได้จัดให้มีการเฉลิมฉลอง
เนื่องในวันฉัตรมงคลเป็นประจำทุกปี
และเนื่องในมหามงคลสมัย ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จเถลิงถวัลย์ราชสมบัติครบรอบปี 50 ปีในวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ.2539 ทางราชการจัดงานพระราชพิธีกาญจนาภิเษก เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวาระอันเป็นมงคลยิ่ง

(https://s-media-cache-ak0.pinimg.com/736x/41/f1/b1/41f1b1c2edb1fd6e05fcd5cc4fa13caa.jpg)

(https://s-media-cache-ak0.pinimg.com/736x/6f/95/ca/6f95cadbdc005be98611f07548272b19.jpg)

กิจกรรมที่ควรปฏิบัติเนื่องในวันฉัตรมงคล
1. ประดับธงชาติตามอาคารบ้านเรือนและสถานที่ราชการ
2. ร่วมทำบุญตักบาตร ประกอบพิธีทางศาสนาถวายเป็นพระราชกุศล
3. น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยพร้อมเพรียงกัน กล่าวคำถวายอาศิรวาทราชสดุดี ถวายชัยมงคลให้ทรงพระเกษมสำราญ ทรงเจริญพระชนมายุยิ่งยืนนาน เป็นมหามิ่งขวัญแก่พสกนิกรชาวไทยไปชั่วกาลยิ่งยืนนาน
แหล่งอ้างอิง
1. ธนากิต วันสำคัญของไทย. กรุงเทพฯ : ชมรมเด็ก,2541.
2. ธนากิต ประเพณี พิธีมงคล และ วันสำคัญของไทย. กรุงเทพฯ : ชมรมเด็ก,2539.
3. วรนุช อุษณกร. ประวัติวันสำคัญที่ควรรู้จัก. กรุงเทพฯ : โอ.เอส.พริ้นติ้ง เฮ้าส์,2528.


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มิถุนายน 26, 2015, 11:22:39 AM
(http://learnthaiwithmod.com/wp-content/uploads/2013/06/Sunthorn-Phu.jpg)
26 มิถุนายน วันสุนทรภู่

ประวัติสุนทรภู่

https://www.youtube (https://www.youtube)....h?v=vO2y06fxKuA


(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/239/239/images/kms2.jpg)
คำมั่นสัญญา

https://www.youtube (https://www.youtube)....h?v=uDYgvn1qYnA

(http://ecards.dmc.tv/images/ecards/cards/e1569.jpg)

(http://www.bloggang.com/data/y/yuuto/picture/1370951258.gif)


(http://www.belgradefire.com/wp-content/uploads/2014/12/poem-03.jpg)


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ สิงหาคม 07, 2015, 12:02:46 PM
(https://scontent-sin1-1.xx.fbcdn.net/hphotos-xpa1/v/t1.0-9/11224306_515457791945176_6150749533946987525_n.jpg?oh=7e6138e9dea33180e023e9e6efc0d6d5&oe=5683F481)


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ สิงหาคม 12, 2015, 10:34:22 AM
(https://scontent-sin1-1.xx.fbcdn.net/hphotos-xft1/v/t1.0-9/11811558_10153582192942450_5669461256510227201_n.jpg?oh=2cc916636c58036cc7aa04fa8a645abb&oe=56429509)


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 23, 2015, 09:41:03 PM
วันปิยะมหาราช

(https://s-media-cache-ak0.pinimg.com/originals/32/ad/a7/32ada7b366f3e76c1136fd40c368ecdc.jpg)

พระปิยะมหาราช
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤศจิกายน 25, 2015, 09:50:40 AM
http://loykratong.kapook.com/ (http://loykratong.kapook.com/)

วันลอยกระทง


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ธันวาคม 05, 2015, 10:47:24 AM
(https://scontent-kul1-1.xx.fbcdn.net/hphotos-xap1/v/t1.0-9/12342642_493524374142499_3959731496748539551_n.jpg?oh=0d98aa4dc66820f42a0be8cdb975e65d&oe=56E1A8CC)
ิัby Aj Adisorn Pornsirikarn

ทรงพระเจริญ
Long live the king


(https://scontent-kul1-1.xx.fbcdn.net/hphotos-xtp1/v/t1.0-9/12316576_1038966022822728_7652022771228142484_n.jpg?oh=7bdd77fe335a48f5f2d8966712e26b29&oe=56DC1D00)


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ เมษายน 25, 2016, 01:25:03 PM
(https://scontent.fbkk7-1.fna.fbcdn.net/hphotos-xla1/v/t1.0-9/13100677_1023386861081885_5787034428171264824_n.jpg?oh=a8e4fce7611746cc42ab6d303452f7b4&oe=57B4EE1D)


วันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช 25 เมษายน
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีคณะ ที่ 7 (ฝ่ายกฎหมาย) ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เป็นประธานที่เห็นชอบกำหนดให้ วันที่ 25 เมษายนของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เป็น วันรัฐพิธีแทนวันจันทร์ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 6 โดยให้มีการวางพวงมาลาสักการะและไม่ถือเป็นวันหยุดราชการ และกำหนดให้วันที่ ๑๘ มกราคมของทุกปี เป็นวันยุทธหัตถี เป็นวันรัฐพิธี แทนวันที่ 25 มกราคมของทุกปี

โดยให้มีการวางพานพุ่มสักการะและไม่ถือเป็นวันหยุดราชการตามที่คณะกรรมการเอกลักษณ์แห่งชาติ เสนอเรื่องนี้ คณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ ได้พิจารณาการกำหนดวันสมเด็จพระนเรศวรมหาราชตามจันทรคติ (ถือตามขึ้นแรม) เป็นวันรัฐพิธีนั้น เห็นว่าคนไทยปัจจุบันเคยชินกับวันทางสุริยคติซึ่งได้กำหนดวันที่ตายตัว และจะไม่ค่อยรู้จักหรือพูดถึงวันขึ้นแรมทางจันทรคติ การคำนวณวันทางสุริยคติในแต่ละปีโหรหลวงจะเป็นผู้คำนวณและประกาศให้ทราบโดย ทั่วไปว่าวันทางจันทรคติในปีนั้นๆ จะตรงกับวันทางสุริยคติวันใด ดังนั้นวันสำคัญของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชสมควรใช้เป็นวันทางสุริยคติจะเหมาะ สมกว่า จึงมอบหมายนายประเสริฐ ณ นคร ราชบัณฑิต คำนวณแล้วปรากฎผล ดังนี้

1. วันเสร็จสวรรคตทางจันทรคติตามที่ระบุในพระราชพงศาวดาร คือ วันจันทร์ เดือน 6 ขึ้น 8 ค่ำ จ.ศ. 967 ซึ่งในปี พ.ศ. 2148 ตรงกับวันจันทร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2148
2. วันที่ทรงกระทำยุทธหัตถีชนะราชศัตรูหรือวันยุทธหัตถีทางจันทรคติตาม ที่ระบุในพระราชพงศาวดารคือ วันจันทร์ เดือน 2 แรม 2 ค่ำ จ.ศ. 95 ตรงกับวันจันทร์ที่ 18 มกราคม 2135
3. การประกาศให้วันที่ 18 มกราคม เป็นวันยุทธหัตถี จะตรงต่อความเป็นจริงและเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาประวัติศาสตร์ไทยที่ถูกต้อง โดยจะไม่ส่งผลกระทบต่อวันที่ 25 มกราคม ซึ่งเป็นวันกองทัพไทย เพราะว่ากองทัพสามารถจะแสดงความรำลึกถึงสมเด็จพระนเรศวรมหาราชที่ทรงกระทำ ยุทธหัตถีชนะในวันใดก็ได้อยู่แล้ว

ทั้งนี้ในประวัติศาสตร์ได้จารึกไว้ถึงการสวรรคตของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชไว้ว่า ใน พ.ศ. 2147 ในสงครามอังวะ เมืองอังวะได้บุกรุกเข้ามายังเมืองนายและ เมืองแสนหวี พระองค์ทรงได้กรีธาทัพพร้อมสมเด็จพระเอกาทศรถไปยังเมืองเชียงใหม่ โดยแยกออกเป็นสองทาง สมเด็จพระเอกาทศรถยกทัพไปทางเมืองฝาก ส่วนพระองค์ยกทัพไปทางเมืองหาง
แต่ในขณะที่พระองค์ทรงประทับแรมที่ทุ่งแก้ว ได้เกิดประชวรเป็นหัวละลอก (ฝี) ขึ้นที่พระพักตร์จนเป็นพิษ ถึงกับเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2148 พระชนมพรรษา 50 พรรษา เสด็จอายุในราชสมบัติ 15 ปี
ที่มา : สำนักงานเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ เมษายน 28, 2016, 05:38:16 PM
คู่ฟ้า คู่แผ่นดิน
28 เมษายน 2559
66 ปี ราชาภิเษกสมรส


(https://scontent.fbkk7-1.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/13124698_868535833258473_7533116731625494767_n.jpg?oh=802aec02faa42355ef5998b260934aea&oe=57BBAC1A)

(https://scontent.fbkk7-1.fna.fbcdn.net/hphotos-xpt1/v/t1.0-9/10441051_837262606316685_3631472844772905550_n.jpg?oh=b919909d73d19a34cbf70791f49b4708&oe=57A58C57)

(https://scontent.fbkk7-1.fna.fbcdn.net/hphotos-xal1/v/t1.0-9/13043599_1104881546221455_3514335842723117550_n.jpg?oh=a1ac76653d2b06f9ece1fb03fa4ffed3&oe=57C0027C)


(http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2006/06/A4452971/A4452971-25.jpg)

ในหลวง กับ พระราชินี ทรงจับพระหัตถ์กัน

https://www.youtube (https://www.youtube)....h?v=7G2-ev9dFik

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
ขอบคุณเจ้าของภาพ 







http://fatherofthela (http://fatherofthela)...2013/05/50.html


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มิถุนายน 01, 2016, 10:10:53 AM
(http://www.thaigold.info/Board/uploads/monthly_06_2016/post-2060-0-67246300-1464740368.jpg)


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มิถุนายน 04, 2016, 07:38:21 AM
4 มิถุนายน วันกอดแมวสากล

วันที่ 4 มิถุนายน เป็นวันที่เหล่าคนรักแมวทั้งหลายต้องเพิ่มเข้าไว้ในบันทึกวันสำคัญประจำปีของตัวเองแล้วล่ะ เพราะวันนี้คือ "วันกอดแมวสากล" หรือ "National Hug Your Cat Day" นั่นเอง วันแมว ๆ แบบนี้ทาสแมวผู้ภักดีพลาดไม่ได้แล้วจ้า

          ที่มาของวันกอดแมวสากลนี้ เริ่มต้นจาก มาริสา ดีวาริ นักเขียน และผู้เชี่ยวชาญเรื่องไวน์ชาวอเมริกัน ผู้เริ่มต้นให้มีวันกอดแมวขึ้นมาเพื่อแสดงความรักแก่เจ้า มีมี่ แมวเปอร์เซียสีขาวของเธอ และชักชวนให้คนอื่น ๆ ที่เลี้ยงแมวหันมาแสดงความรักกับแมวของตนเองด้วย เกิดเป็นความนิยมในหมู่คนเลี้ยงแมวจนกลายเป็นวันกอดแมวสากลไปในที่สุด โดยในปีนี้เวียนมาตรงกับวันที่ 4 มิถุนายนนั่นเอง และก็ไม่ใช่จะคนรักแมวในอเมริกาที่ยึดวันนี้เป็นวันสำคัญ เหล่าทาสแมวทั่วโลกก็พากันน้อมรับวันนี้เป็นวันกอดแมวนานาชาติไปด้วย ส่วนในบ้านเราก็ฮิตวันกอดแมวสากลไม่แพ้กันเหมือนกันนะ


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มิถุนายน 05, 2016, 04:19:16 PM
วันสิ่งแวดล้อมโลก 5 มิถุนายน

ในวันที่ 5 มิถุนายน ของทุกปีนั้น เป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก ซึ่งเป็นวันที่เราควรจะทำอะไรสักอย่างเพื่อสภาพแวดล้อมของเราที่ย่ำแย่ลงทุกวัน สังเกตได้จากปรากฏการณ์ต่าง ๆ ทั้งหิมะขั้วโลกเหนือละลาย น้ำท่วม แผ่นดินไหว หรืออากาศร้อนขึ้น ซึ่งผลเหล่านี้ล้วนมาจากการที่มนุษย์เป็นคนทำลายธรรมชาติ ทำลายสิ่งแวดล้อมดี ๆ นั่นเอง ทำให้หน่วยงานของโลกจัดตั้งวันสิ่งแวดล้อมโลกขึ้น

  สำหรับจุดเริ่มต้นของวันสิ่งแวดล้อมโลก หรือ World Environment Day นั้น จัดทำขึ้นเพื่อให้เกิดความตื่นตัวในด้านวิกฤตการณ์สิ่งแวดล้อมขึ้นทั่วโลก จึงมีมติให้จัดประชุมใหญ่ที่กรุงสตอกโฮล์ม ระหว่างวันที่ 5-16 มิถุนายน พ.ศ. 2515 ที่มีรัฐบาลของสวีเดนเป็นเจ้าภาพ โดยเรียกการประชุมนี้ว่า "การประชุมสหประชาชาติเรื่องสิ่งแวดล้อมของมนุษย์" หรือ "UN Conference on the Human Environment" ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 1,200 คน จาก 113 ประเทศ รวมถึงมีผู้สังเกตการณ์อีกกว่า 1,500 คนจากหน่วยงานของรัฐ องค์การสหประชาชาติ และสื่อมวลชนแขนงต่าง ๆ

          ทั้งนี้เพื่อร่วมกันหาหนทางแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ประเทศต่าง ๆ กำลังเผชิญอยู่ ซึ่งผลจากการประชุมครั้งนั้นได้มีข้อตกลงร่วมกันหลายอย่าง เช่น การจัดตั้งโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP : United Nations Environment Programme) ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงไนโรบี ประเทศเคนยา และรัฐบาลประเทศต่าง ๆ ก็ได้รับข้อตกลงจากการประชุมคราวนั้นไปจัดตั้งหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมขึ้นในประเทศของตน ดังนั้นเพื่อเป็นการระลึกถึงจุดเริ่มต้นของการร่วมมือจากหลากหลายชาติในด้านสิ่งแวดล้อม องค์การสหประชาชาติจึงได้ประกาศให้วันที่ 5 มิถุนายนของทุกปีเป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก

ซึ่งโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติมีหน้าที่ติดตาม และประเมินผลการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญทางด้านสิ่งแวดล้อม รวมทั้งกระตุ้นให้มีการเปลี่ยนแปลงไปสู่ทางที่ดี และเพื่อให้เป้าหมายบรรลุผลจึงได้กำหนดวิธีการไว้ดังนี้

          - สร้างความตื่นตัวในการเรียนรู้เรื่องสิ่งแวดล้อม และให้การศึกษากับประชาชนและนักศึกษาทั่วไป

          - ให้การสนับสนุนทางวิชาการ และเผยแพร่เรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม เพื่อกระตุ้นให้มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี

         - เสริมสร้างให้สถาบันและคนในสถาบันตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม

นอกจากนั้น ยังมีข้อตกลงจากการประชุมให้มาดำเนินการจัดตั้งหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมขึ้นในประเทศของตน ซึ่งประเทศไทยก็ได้ตราพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาสภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2518 และได้ก่อตั้งสำนักงานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติขึ้น เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2518 อันเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของการดำเนินงาน ด้านสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย โดยต่อมาในปี พ.ศ. 2535 ก็ได้มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างของสำนักงานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เป็น 3 หน่วยงาน คือ

          1.กรมควบคุมมลพิษ

          2 กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม

          3.สำนักนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม กระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม

และในส่วนของสถาบันการศึกษาก็ได้มีการจัดสอนหลักสูตรด้านสิ่งแวดล้อมขึ้นในหลาย ๆ มหาวิทยาลัย ซึ่งนับได้ว่าเป็นก้าวสำคัญของการตื่นตัวด้านสิ่งแวดล้อม อีกทั้งสื่อมวลชนก็ได้ส่งเสริมให้เกิดการตื่นตัวในปัญหาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งวันสิ่งแวดล้อมโลกในแต่ละปีก็จะมีหัวข้อที่ต่างกันออกไป


         - พ.ศ. 2528 เยาวชน ประชากร และสิ่งแวดล้อม (Youth, Population and Environment)

         - พ.ศ. 2529 ต้นไม้เพื่อสันติภาพ (A Tree for Peace)

          - พ.ศ. 2530 Public Participation, Environment Protection and Sustainable Development

          - พ.ศ. 2531 การมีส่วนร่วมของประชาชน การปกป้องคุ้มครองสิ่งแวดล้อม และการพัฒนาอย่างยั่งยืน (When people put the environment first, development will last)

          - พ.ศ. 2532 ภาวะโลกร้อน (Global Warming, Global Warming)

          - พ.ศ. 2533 เด็กและสิ่งแวดล้อม (Children and the Environment (Our Children, Their Earth))

          - พ.ศ. 2534 การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change : Need for Global Partnership)

          - พ.ศ. 2535 Only One Earth : Care and Share

          - พ.ศ. 2536 Poverty and the Environment : Breaking the Vicious Circle

          - พ.ศ. 2537 โลกใบเดียว ครอบครัวเดียวกัน (One Earth, One Family)

          - พ.ศ. 2538 ประชาชน เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งแวดล้อมโลก (We The Peoples, United for the Global Environment)
     
          - พ.ศ. 2539 รักโลก : ดูแลถิ่นฐานบ้านเรา (Our Earth, Our Habitat,Our Home)
 
          - พ.ศ. 2540 เพื่อชีวิตที่ยั่งยืนบนผืนโลก (For Life one Earth)

          - พ.ศ. 2541 เศรษฐกิจพอเพียง เลี้ยงชีวิตยั่งยืน (For Life on Earth "Save our Seas")

          - พ.ศ. 2542 รักโลก รักอนาคต รักษ์สิ่งแวดล้อม ("Our Earth, Our Future...Just Save It")

          - พ.ศ. 2543 ปี 2000 สหัสวรรษแห่งชีวิตสิ่งแวดล้อม : ร่วมคิด ร่วมทำ เพื่อโลก เพื่อเรา (2000 The Environment Millennium : Time to Act)

         - พ.ศ. 2544 เชื่อมโยงโลกกว้าง ร่วมสร้างสานสายใยชีวิต (CONNECT with the World Wide Web of Life)

          - พ.ศ. 2545 ให้โอกาสโลกฟื้น คืนความสดใสให้ชีวิต (Give Earth a Chance)

          - พ.ศ. 2546 รักษ์น้ำเพื่อสรรพชีวิต ก่อนวิกฤตจะมาเยือน (Water - Two Billion People are Dying for it !)

          - พ.ศ. 2547 ร่วมพิทักษ์ ร่วมรักษ์ทะเลไทย (Wanted! Sea and Oceans - Dead or Live?)

          - พ.ศ. 2548 เมืองเขียวสดใส ร่วมใจวางแผนเพื่อโลก (GREEN CITIES PLAN FOR THE PLANET !)

          - พ.ศ. 2549 เพิ่มความชุ่มชื้น คืนสู่ธรรมชาติ (DON'T DESERT DRYLANDS!)

          - พ.ศ. 2550 ลดโลกร้อน ด้วยชีวิตพอเพียง (MELTING ICE-A HOT TOPIC)

          - พ.ศ. 2551 ลดวิกฤตโลกร้อน : เปลี่ยนพฤติกรรม ปรับแนวคิด สู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ (Co2 Kick the Habit ! Towards a Low Carbon Economy)

          - พ.ศ. 2552 คุณคือพลัง ช่วยหยุดยั้งภาวะโลกร้อน (Your Planet Needs You - Unite to Combat Climate Change) 

          - พ.ศ. 2553 ความหลากหลายทางชีวภาพ กู้วิกฤตชีวิตโลก (Many Species One Planet One Future)

          - พ.ศ. 2554 ป่าไม้มีคุณ เกื้อหนุนสรรพชีวิต คิดถนอมรักษา (Forests : Nature at your Service)

          - พ.ศ. 2555 คุณคือพลัง สร้างสรรค์เศรษฐกิจ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Economy : Does it include you?)

          - พ.ศ. 2556 คิด กิน อยู่ (Think. Eat. Save.)

          - พ.ศ. 2557 ยกระดับความคิด แก้วิกฤตน้ำท่วมโลก (Raise your voice not the sea level)

          - พ.ศ. 2558 ฝัน 7 พันล้านใจ คิดห่วงใยผืนโลก (Seven billion Dreams, One Planet Consumer With Care)

          - พ.ศ. 2559 หยุดซื้อ หยุดขาย หยุดฆ่า แก้ปัญหาสัตว์ป่าสูญพันธุ์ (Zero Tolerance For The Illegal Wildlife Trade)

          โลกร้อน เกิดภัยพิบัติมากมาย ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่พวกเราจะร่วมช่วยกันรักษาสภาพแวดล้อมกันแบบจริง ๆ จัง ๆ เพื่อเก็บมันเอาไว้ให้ลูกหลานของเราได้เห็น



(http://hilight.kapook.com/admin_hilight/spaw2/imghilight4/logo/panyathai.jpg)


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มิถุนายน 09, 2016, 02:29:05 PM
(https://scontent.fbkk6-1.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/1470174_557357237675554_1889206124_n.jpg?oh=80d25066aa16f66aa508a7294bc619e2&oe=57C2F5D8)


ปีมหามงคล ฉลองสิริราชสมบัติครบ 70 ปี
ทรงพระเจริญ


"พระราชาผู้ทรงธรรม" - เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์
https://www.youtube (https://www.youtube)....h?v=_XTWTi__uDo



หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ สิงหาคม 12, 2020, 07:00:53 PM
ขอมอบเพลงต้อนรับ เดือนแม่

     หนึ่งเดียวคือแม่
http://youtu.be/RSLVpaLd704 (http://youtu.be/RSLVpaLd704)
     ค่าน้ำนม (เด็ก)
http://youtu.be/_ve1j7j0PpE (http://youtu.be/_ve1j7j0PpE)
     อิ่มอุ่น
http://youtu.be/D-zZrklJtzY (http://youtu.be/D-zZrklJtzY)
   ใครหนอ (เด็ก)
http://youtu.be/wGrs5D56JCc (http://youtu.be/wGrs5D56JCc)
    คำว่าแม่ (เด็ก)
http://youtu.be/qfx1ifn6Dug (http://youtu.be/qfx1ifn6Dug)
     พระคุณแม่ (เด็ก)
http://youtu.be/ErTKVzuq1sE (http://youtu.be/ErTKVzuq1sE)
    รักแม่เท่าฟ้า(เด็ก)
http://youtu.be/MSOPKG0MmYA (http://youtu.be/MSOPKG0MmYA)
     เรารักแม่
http://youtu.be/HAxw9WmnXy0 (http://youtu.be/HAxw9WmnXy0)
      คิดถึงแม่ (animation)
http://youtu.be/4bRqu6vOgF8 (http://youtu.be/4bRqu6vOgF8)
    รักแม่ คือหัตถาครองพิภพ
http://youtu.be/6T53lAK9T4M (http://youtu.be/6T53lAK9T4M)
     แม่ (เสก โลโซ)
http://youtu.be/1 (http://youtu.be/1)

ก็อปมาจากคุณป๋าภักดีค่ะ ขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 13, 2020, 10:05:26 AM
13 ตุลาคม 2563

https://www.msn.com/th-th/news/national/ (https://www.msn.com/th-th/news/national/)สวมใส่เสื้อเหลืองทำบุญใส่บาตร-ถวาย-ร-9/ar-BB19Xk1L?ocid=spartan-dhp-feeds

https://www.msn.com/th-th/news/national/ (https://www.msn.com/th-th/news/national/)จัดพิธีบำเพ็ญกุศลและพิธีน้อมรำลึกเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต/ar-BB19XcDT?ocid=spartan-dhp-feeds

https://www.msn.com/th-th/news/national/ (https://www.msn.com/th-th/news/national/)ปชช-ทำบุญตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศลฯ/ar-BB19XsQe?ocid=spartan-dhp-feeds

https://www.msn.com/th-th/news/national/ (https://www.msn.com/th-th/news/national/)ชาวโคราชกว่า-1-000-คน-ตักบาตรอุทิศถวาย-ร-9/ar-BB19XmDB?ocid=spartan-dhp-feeds

https://www.msn.com/th-th/news/national/ (https://www.msn.com/th-th/news/national/)แจกฟรี-ถวายเป็นพระราชกุศลในหลวง-ร-9/ar-BB19Xt8H?ocid=spartan-dhp-feeds

https://www.msn.com/th-th/news/national/ (https://www.msn.com/th-th/news/national/)ปชช-สวมเสื้อสีเหลืองสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ-ถวายบังคมรูป-ร-9/ar-BB19XhyF?ocid=spartan-dhp-feeds

https://www.msn.com/th-th/news/national/ (https://www.msn.com/th-th/news/national/)ชาวขอนแก่นตักบาตร-ถวายเป็นพระราชกุศล/ar-BB19XhzL?ocid=spartan-dhp-feeds


http://www (http://www).เรารักพระเจ้าอยู่หัว.com/th/blog/category/5



หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 13, 2020, 10:14:21 AM
https://www.youtube.com/watch?v=lRZtCp8DeMo (https://www.youtube.com/watch?v=lRZtCp8DeMo)

รวม ๑๖ บทเพลง 'พ่อ' ที่คนไทยควรฟัง


https://www.youtube.com/watch?v=p8eiCJVK0M4 (https://www.youtube.com/watch?v=p8eiCJVK0M4)

ผู้ปิดทองหลังพระ ภาพประวัติศาสตร์ ยิ่งใหญ่ ที่ต้องจารึกไปตลอดกาล - CARABAO.NET

https://www.youtube.com/watch?v=gW0juHjok6c (https://www.youtube.com/watch?v=gW0juHjok6c)

เพลง"เดินตามรอยเท้าพ่อ" - ขับร้อง "รวมศิลปิน"


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 13, 2020, 10:23:19 AM
https://www.youtube.com/watch?v=2duDEFayku4 (https://www.youtube.com/watch?v=2duDEFayku4)

คลิปในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่จะทำให้คุณยิ้มได้ทั้งน้ำตา


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 13, 2020, 11:48:07 AM
https://www.youtube.com/watch?v=3Vw4R2C8Muo (https://www.youtube.com/watch?v=3Vw4R2C8Muo)

พระราชกรณียกิจ ๑๐ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๑๔


Film Archive Thailand (หอภาพยนตร์)

61.3K subscribers



Subscribe
วันที่ ๑๐ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๑๔ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จ
พระราชดำเนินไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
เนื่องในมหามงคลสมัยเถลิงถวัลย์ราชสมบัติครบ ๒๕ ปี

วันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๑๔ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและ
สมเด็จพระนางเจ้าราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินไป
งานสโมสรสันนิบาต ซึ่งรัฐบาลจัดถวายเพื่อเฉลิมพระเกียรติ
แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในมหามงคลสมัยเถลิงถวัลย์
ราชสมบัติครบ ๒๕ ปี ณ ทำเนียบรัฐบาล

วันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๑๙ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้า
ราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ
เจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนสุดา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์
ไปพระราชทานเพลิงศพ พระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียร ณ พระเมรุหน้าพลับพลา
อิศริยาภรณ์ วัดเทพศรินทราวาส

วันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๒๐ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้า
ราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ
เจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนสุดา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ
วลัยลักษณ์ไปทรงเยี่ยมนิคมสร้างตนเอง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

วิดีโอนี้เป็นส่วนหนึ่งใน โครงการ ๓๖๕ วันนี้ในอดีต พระราชกรณียกิจในรัชกาลที่ ๙
โดยหอภาพยนตร์(องค์การมหาชน)

เพลงพระราชนิพนธ์ โดย Hucky Eichelmann (by Asia Music International Ltd.)


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 23, 2020, 07:47:39 AM
ร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕

https://www.msn.com/th-th/news/national/ (https://www.msn.com/th-th/news/national/)ร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว-รัชกาลที่-๕/ar-BB1ajmjM?ocid=spartan-ntp-feeds


Nation TV



หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 31, 2020, 07:01:21 PM
https://www.youtube.com/watch?v=D4K_Rdhxdk8 (https://www.youtube.com/watch?v=D4K_Rdhxdk8)

#รวมเพลงลอยกระทง #รำวงวันลอยกระทง #Loy_Krathong_Thailand
เพลงลอยกระทง / รวมเพลงรำวงวันลอยกระทง
312,048 views•Oct 29, 2020




หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มกราคม 16, 2021, 11:10:14 AM
https://www.sanook.com/campus/1398719/ (https://www.sanook.com/campus/1398719/)

"รวมคำขวัญวันครู" รวมคำขวัญดีๆ เนื่องในโอกาสวันครูแห่งชาติ"

https://www.sanook.com/campus/951896/ (https://www.sanook.com/campus/951896/)

ความหมายของดอกไม้วันไหว้ครู สิ่งมงคลที่ใช้ในวันไหว้ครู


http://info.muslimthaipost.com/main/index.php?page=sub&category=33&id=20927 (http://info.muslimthaipost.com/main/index.php?page=sub&category=33&id=20927)

บทไหว้ครู

ปาเจราจริยา โหนติ คุณุตตรานุสาสกา
ข้าฯขอประณตน้อมสักการ บูรพคณาจารย์ ผู้กอร์ปเกิดประโยชน์ศึกษา
อีกทั้งท่านผู้ประสาทวิชา อบรมจริยา แก่ข้าในกาลปัจจุบัน
ข้าฯ ขอเคารพอภิวันท์ ระลึกคุณอนันต์ ด้วยใจนิยมบูชา
ขอเดชกตเวทิตา อีกวิริยะพา ปัญญาให้เกิดแตกฉาน
ศึกษาสำเร็จทุกประการ อายุยืนนาน อยู่ในศีลธรรมอันดี
ให้ได้เป็นเกียรติเป็นศรี ประโยชน์ทวี แก่ข้าฯ และประเทศไทยเทอญ

คำปฏิญาณตน

เราคนไทย ใจกตัญญู รู้คุณชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
เรานักเรียน จักต้องประพฤติตน ให้อยู่ในระเบียบวินัย ของโรงเรียน
เรานักเรียน จักต้องไม่ทำตน ให้เป็นที่เดือดร้อน แก่ตนเอง และผู้อื่น

เนื้อเพลงพระคุณที่สาม

ครูบาอาจารย์ ที่ท่านประทานความรู้มาให้
อบรมจิตใจ ให้รู้ผิดชอบชั่วดี
ก่อนจะนอนสวดมนต์อ้อนวอนทุกที
ขอกุศลบุญบารมีส่งเสริมครูนี้ให้ร่มเย็น
ครูมีบุญคุณจะต้องเทิดทูลเอาไว้เหนือเกล้า
ท่านสั่งสอนเรา อบรมให้เราไม่เว้น
ท่านอุทิศ ไม่คิดถึงความยากเย็น
สอนให้รู้จัดเจน เฝ้าแนะ เฝ้าเน้น มิได้อำพราง

 พระคุณที่สาม งดงามแจ่มใส
แต่ว่าใครหนอใคร เปรียบเปรยครูไว้ว่าเป็นเรือจ้าง
ถ้าหากจะคิด ยิ่งคิดยิ่งเห็นว่าผิดทาง
มีใครไหนบ้างแนะนำแนวทางอย่างครู
บุญเคยทำมาตั้งแต่ปางใด เรายกให้ท่าน
ตั้งใจกราบกราน เคารพคุณท่าน กตัญญู
โรคและภัย อย่ามาแผ้วพานคุณครู
ขอกุศลผลบุญค้ำชู ให้ครูมีสุขชั่วนิรันดร
ร้องซ้ำ
ให้ครูมีสุขชั่วนิรันดร

แหล่งที่มา : kmbuarmy.blogspot.com


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มกราคม 19, 2021, 12:08:42 PM
กรมสมเด็จพระเทพฯ พระราชทานพรในวันตรุษจีนปีฉลู 2564
https://www.thansettakij.com/content/royal/464864?as= (https://www.thansettakij.com/content/royal/464864?as=)
 

หนิว ฉี ชง เทียน ว่า ฉลูผยองทะยานสู่ฟ้า หมายถึง กิจการเจริญรุ่งเรืองเฟื่องฟูรับปีฉลู 2564


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2021, 05:48:31 PM
https://www.lib.ru.ac.th/ (https://www.lib.ru.ac.th/)

ความเป็นมา เทศกาลจีนมีอยู่มากมาย ตรุษจีนเป็นเทศกาลที่สำคัญที่สุดของจีน เป็นวันขึ้นปีใหม่ตามปฎิทินจีน เช่นเดียวกับสงกรานต์วันปีใหม่ไทย ทุกคนต่างให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่างหยุดงาน โรงเรียนสถาบันการศึกษาต่างปิดเทอมในช่วงนี้ เป็นปิดเรียนฤดูหนาว ยกเว้นคนที่ต้องทำหน้าที่ไม่สามารถหยุดงานได้ หน่วยงานห้างร้านต่างก็หยุดงาน 3-4 วัน เมื่อใกล้วันปีใหม่จีน ผู้คนต่างก็มีการตระเตรียมงานปีใหม่ ภายในครอบครัว ทุกบ้านก็จะทำความสะอาดบ้านเรือน ผ่านปีใหม่อย่างสะอาดสะอ้านสดใส ร้านค้าห้างสรรพสินค้าต่างก็เติมไปด้วยผู้คนมาจับจ่ายใช้สอย ซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้แก่เด็กๆ ซื้อของขวัญให้แก่ญาติสนิทมิตรสหาย ซื้อบัตรอวยพร ในตลาดก็คราคร่ำไปด้วยผู้คน ต่างเดินไปเดินมากันขวักไขว่ ซื้อปลาบ้าง ซื้อเนื้อสัตว์บ้าง ซื้อเป็ดไก่บ้าง ทุกคนต่างดูแจ่มใสมีความสุขช่วงเทศกาลปีใหม่ เด็กๆ ต่างมีความสุขมาก ต่างสวมเสื้อใหม่ ทานลูกกวาดขนมหวาน เล่นพลุประทัดอย่างรื่นเริง

          คืนก่อนวันปีใหม่ คือ วันสุดท้ายของปีนั่นเองเป็นคืนที่ครึกครื้นที่สุด ใครที่ไปทำงานห่างจากบ้านเกิด ต่างก็พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะกลับมาฉลองวันปีใหม่ที่บ้าน ตอนกินอาหารมื้อค่ำคืนก่อนขึ้นปีใหม่จีน ทุกคนในครอบครัวต่างนั่งกันพร้อมหน้าล้อมโต๊ะอาหาร ต่างชนแก้วอวยพรปีใหม่กันทานมื้อค่ำเรียบร้อยแล้ว บางคนก็ดูทีวี บางคนก็ฟังเพลง บางคนก็นั่งคุยกัน บางคนก็เล่นหยอกล้อกับเด็กๆ บ้านเต็มไปด้วยรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ พอถึงเที่ยงคืน คนจีนทางเหนือก็จะเริ่มทำเกี๊ยว (เจี้ยวจึ) คนจีนทางใต้ ก็จะปั้นลูกอี๋ทำน้ำเชื่อม ทำไป ชิมไปทานไป ครึกครื้นอย่างยิ่ง เช้าวันรุ่งขึ้นแต่เช้า ทุกคนจะตื่นแต่เช้า เยี่ยมเพื่อนบ้าน เพื่อนฝูงอวยพรปีใหม่

ประวัติวันตรุษจีน หรือปีใหม่จีน
          ประวัติของวันขึ้นปีใหม่ของจีนมีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ในวัฒนธรรมอื่นๆ ความปรารถนาสิ่งที่เราหวังว่าจะได้ปรับปรุง หรือที่เราคิดทำเมื่อเริ่มต้นในปีใหม่ มาถึงตอนนี้ ถ้าไม่ถูกลืมก็ถูกยัดลงกล่องใส่ตู้ปิดตายและแปะหน้าตู้ว่าไม่แน่ เอาไว้ทำปีหน้าแล้วกันอย่างไรก็ดี ความหวังก็คงยังไม่สูญไปทั้งหมดเพราะโอกาสที่สองกำลังมาถึงแล้ว กับการฉลองวันปีใหม่จีนหรือที่เรารู้จักกันว่า ตรุษจีนในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ นั้นเอง

          ตรุษจีนนั้นคล้ายคลึงกับวันปีใหม่ในประเทศทางตะวันตก ร่องรอยของประเพณี และพิธีกรรมความเป็นมาของการฉลองตรุษจีน นั้นมีมานานกว่าศตวรรษ จริงๆ แล้วนานมาก จนไม่สามารถย้อนกลับไปดูว่าเริ่มต้นฉลองมาตั้งแต่เมื่อไร เป็นที่รู้จักและจำได้ทั่วไปว่าเป็น การฉลองเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ และการฉลองเป็นเวลานานถึง 15 วัน การเตรียมงานฉลองส่วนใหญ่ จะเริ่มหนึ่งเดือนก่อนวันตรุษจีน (คล้ายกับวัน คริสต์มาสของประเทศตะวันตก) เมื่อผู้คนเริ่มซื้อของขวัญ, สิ่งต่างๆ เพื่อประดับบ้านเรือน, อาหารและเสื้อผ้า การทำความสะอาดครั้งใหญ่ก็เริ่มขึ้นในวันก่อนตรุษจีน บ้านเรือนจะถูก ทำความสะอาดตั้งแต่บนลงล่างหน้าบ้านยันท้ายบ้าน ซึ่งหมายถึงการกวาดเอาโชคร้าย ออกไป ประตูหน้าต่างมีการขัดสีฉวีวรรณทาสีใหม่ซึ่งสีแดงเป็นสีนิยม ประตูหน้าต่างจะถูก ประดับประดาด้วยกระดาษที่มีคำอวยพรอย่างเช่น อยู่ดีมีสุข ร่ำรวย และอายุยืนเป็นต้น

          วันก่อนวันตรุษจีนนั้นเป็นวันแห่งการการรอคอยจะว่าไปถือวันที่น่าตื่นเต้นมากที่สุด ในบรรดาการฉลองทั้งหมดเห็นจะได้ ประเพณีและพิธีกรรมต่างๆ นั้นผูกไว้กับทุกสิ่งทุกอย่าง ตั้งแต่ อาหาร ไปจนถึงเสื้อผ้า อาหารค่ำนั้นประกอบด้วยอาหารทะเล และอาหารนึ่งเช่นขนมจีบ ซึ่งแต่ละอย่างจะมีความหมายต่างๆ กัน อาหารอันโอชะอย่างเช่นกุ้งจะหมายถึงชีวิตที่รุ่งเรือง และความสุข เป๋าฮื้อแห้งหมายถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่ดี สลัดปลาสดจะนำมาซึ่งโชคดี จี้ไช่ (ผมเทวดา) สาร่ายดูคล้ายผมแต่กินได้จะนำความความร่ำรวยมาให้ และขนมต้ม (Jiaozi) หมายถึงบรรพชนอวยพร และเป็นธรรมดาเสื้อผ้าที่ใส่สีแดงถือเป็นสีที่เป็นมงคลเป็นการไล่ปีศาจร้ายให้ออกไป และการใส่สีดำหรือขาวเป็นสิ่งต้องห้าม ซึ่งสีเหล่านี้ถือว่าเป็นสีแห่งการไว้ทุกข์ หลังจากอาหารค่ำทุกคนในครอบครัวนั่งกันจนเช้าเพื่อรอวันใหม่โดยการเล่นเกม เล่นไพ่ หรือดูรายการทีวีที่เกี่ยวกับวันตรุษจีน และในวันนี้จะต้องไม่โกรธ ริษยา หรือ ไม่พอใจ เพื่อเป็นสิริมงคลที่ดีสำหรับปีที่กำลังจะมาถึง

          เมื่อถึงวันตรุษจีน ประเพณีตั้งแต่โบราณมาเรียกว่า อังเปา ซึ่งหมายถึง กระเป๋าแดง เป็นการที่คู่แต่งงานให้เงินเด็กๆ และผู้ใหญ่ที่ยังไม่ได้แต่งงานในซองสีแดง หลังจากนั้นทุกคน ในครอบครัวต่าง ออกมาเพื่อกล่าวสวัสดีปีใหม่ เริ่มจากญาติๆ แล้วต่อด้วยเพื่อนบ้าน ซึ่งคงคล้ายกับการที่ชาวตะวันตกพูดว่า "Let bygones be bygones" (อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป) ในวันตรุษนี้ อารมณ์โมโหโกรธาจะถูกลืม และไม่สนใจ การฉลองวันตรุษจีนสิ้นสุดลงในงานโคมไฟ ซึ่งฉลองโดยการร้องเพลง เต้นรำ และงานแสดงโคมไฟ ถึงแม้ว่าการฉลองวันตรุษจีน จะมีแตกต่างกันออกไปแต่สิ่งที่เหมือนกัน คือ การอวยพร ความสงบ และความสุขให้กับคนในครอบครัวและเพื่อนทุกคน

อาหารไหว้เจ้า

          ในวันฉลองตรุษจีนอาหารจะถูกรับประทานมากกว่าวันไหนๆ ในปี อาหารชนิดต่างๆ ที่ปฏิบัติกันจนเป็นประเพณี จะถูกจัดเตรียมเพื่อญาติพี่น้องและเพื่อนฝูง รวมไปถึงคนรู้จักที่ได้เสียไปแล้ว ในวันตรุษครอบครัวชาวจีนจะทานผักที่เรียกว่า ไช่ ถึงแม้ผักชนิดต่างๆที่นำมาปรุง จะเป็นเพียงรากหรือผักที่มีลักษณะเป็นเส้นใยหลายคนก็เชื่อว่าผักต่างๆ มีความหมายที่เป็น มงคลในตัวของมัน

เม็ดบัว - มีความหมายถึง การมีลูกหลานที่เป็นชาย

เกาลัด - มีความหมายถึง เงิน

สาหร่ายดำ - คำของมันออกเสียงคล้าย ความร่ำรวย

เต้าหู้หมักที่ทำจากถั่วแห้ง - คำของมันออกเสียงคล้าย เต็มไปด้วยความร่ำรวย และ ความสุข

หน่อไม้ - คำของมันออกเสียงคล้าย คำอวยพรให้ทุกอย่างเต็มไปด้วยความสุข เต้าหู้ที่ทำจากถั่วสดนั้นจะไม่นำมารวมกับอาหารในวันนี้เนื่องจากสีขาวซึ่งเป็นสีแห่งโชคร้าย สำหรับปีใหม่และหมายถึงการไว้ทุกข์

          อาหารอื่นๆ รวมไปถึงปลาทั้งตัวเพื่อเป็นตัวแทนแห่งการอยู่ร่วมกัน และความอุดม- สมบรูณ์ และไก่สำหรับความเจริญก้าวหน้า ซึ่งไก่นั้นจะต้องยังมีหัว หางและเท้าอยู่เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสมบูรณ์ เส้นหมี่ก็ไม่ควรตัดเนื่องจากหมายถึงชีวิตที่ยืนยาว
ทางตอนใต้ของจีน จานที่นิยมที่สุดและทานมากที่สุดได้แก่ ข้าวเหนียวหวานนึ่ง บ๊ะจ่างหวาน ซึ่งถือเป็นอาหารอันโอชะ ทางเหนือ หมั่นโถ และติ่มซำ เป็นอาหารที่นิยม อาหารจำนวน มากที่ถูกตระเตรียมในเทศกาลนี้มีความหมายถึง ความอุดมสมบูรณ์และความร่ำรวยของบ้าน
 

ความเชื่อโชคลางในวันตรุษจีน

ทุกคนจะไม่พูดคำหยาบหรือพูดคำที่ไม่เป็นมงคล ความหมายเป็นนัย และคำว่า สี่ ซึ่งออกเสียงคล้ายความตายก็จะต้องไม่พูดออกมา ต้องไม่มีการพูดถึงความตายหรือการใกล้ตาย และเรื่องผีสางเป็นเรื่องที่ต้องห้าม เรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในปีเก่าๆ ก็จะไม่เอามาพูดถึง ซึ่งการพูดควรมีแต่เรื่องอนาคต และทุกอย่างที่ดีกับปีใหม่และการเริ่มต้นใหม่

หากคุณร้องไห้ในวันปีใหม่ คุณจะมีเรื่องเสียใจไปตลอดปี ดังนั้นแม้แต่เด็กดื้อที่ปฎิบัติตัวไม่ดีผู้ใหญ่ก็จะทน และไม่ตีสั่งสอน

การแต่งกายและความสะอาด ในวันตรุษจีนเราไม่ควรสระผมเพราะนั้นจะหมายถึงเราชะล้างความโชคดีของเราออกไป เสื้อผ้าสีแดงเป็นสีที่นิยมสวมใส่ในช่วงเทศกาลนี้ สีแดงถือเป็นสีสว่าง สีแห่งความสุข ซึ่งจะนำความสว่างและเจิดจ้ามาให้แก่ผู้สวมใส่ เชื่อกันว่าอารมณ์และการปฏิบัติตนในวันปีใหม่ จะส่งให้มีผลดีหรือผลร้ายได้ตลอดทั้งปี เด็ก ๆ และคนโสด เพื่อรวมไปถึงญาติใกล้ชิดจะได้ อังเปา ซึ่งเป็นซองสีแดงใส่ด้วย ธนบัตรใหม่เพื่อโชคดี

วันตรุษจีนกับความเชื่ออื่น ๆ สำหรับคนที่เชื่อโชคลางมากๆ ก่อนออกจากบ้านเพื่อไปเยี่ยมเยียนเพื่อนหรือญาติ อาจมีการเชิญซินแส เพื่อหาฤกษ์ที่เหมาะสมในการออกจากบ้านและทางที่จะไปเพื่อ เป็นความเป็นสิริมงคล

บุคคลแรกที่พบและคำพูดที่ได้ยินคำแรกของปีมีความหมายสำคัญมาก ถือว่าจะส่งให้มีผลได้ตลอดทั้งปี การได้ยินนกร้องเพลงหรือเห็นนกสีแดงหรือนกนางแอ่น ถือเป็นโชคดี

การเข้าไปหาใครในห้องนอนในวันตรุษ ถือเป็นโชคร้ายดังนั้นไม่ว่าจะเป็นคนป่วยก็ต้องแต่งตัวออกมานั่งในห้องรับแขก

ไม่ควรใช้มีดหรือกรรไกรในวันตรุษเพราะเชื่อว่าจะเป็นการตัดโชคดี ทุกวันนี้ไม่ใช่ว่าชาวจีนทุกคนจะคงยังเชื่อตามความเชื่อที่มีมาแต่ทุกคนก็ยังคงยึดถือ และปฎิบัติตาม เพราะสิ่งเหล่านี้เปรียบเสมือนธรรมเนียม และวัฒนธรรม โดยที่ชาวจีน ตระหนักดีว่าการปฏิบัติตามขนบธรรมเนียมมาแต่เก่าก่อนเป็นการแสดงถึงความเป็น ครอบครัวและเอกลักษณ์ ของตน

15 วันแห่งการฉลองตรุษจีน

วันแรกของปีใหม่ เป็นการต้อนรับเทวดาแห่งสวรรค์และโลก หลายคนงดทานเนื้อ ในวันนี้ด้วยความเชื่อที่ว่าจะเป็นการต่ออายุและนำมาซึ่งความสุขในชีวิตให้กับตน

วันที่สอง ชาวจีนจะไหว้บรรพชนและเทวดาทั้งหลาย และจะดีเป็นพิเศษกับสุนัข เลี้ยงดูให้ข้าวอาบ น้ำให้แก่มัน ด้วยเชื่อว่า วันที่สองนี้เป็นวันที่สุนัขเกิด

วันที่สามและสี่ เป็นวันของบุตรเขยที่จะต้องทำความเคารพแก่พ่อตาแม่ยายของตน

วันที่ห้า เรียกว่า พูวู ซึ่งวันนี้ทุกคนจะอยู่กับบ้านเพื่อต้อนรับการมาเยือน ของเทพเจ้าแห่งความร่ำรวย ในวันนี้จะไม่มีใครไปเยี่ยมใครเพราะจะถือว่าเป็นการนำโชคร้าย มาแก่ทั้งสองฝ่าย

วันที่หก ถึงสิบชาวจีนจะเดินทางไปเยี่ยมเยียนญาติพี่น้องเพื่อนฝูงของ ครอบครัว และไปวัดไปวาสวดมนต์เพื่อความร่ำรวยและความสุข

วันที่เจ็ด ของตุรุษจีนเป็นวันที่ชาวนานำเอาผลผลิตของตนออกมาชาวนาเหล่านี้จะทำน้ำที่ทำมาจากผักเจ็ดชนิดเพื่อฉลองวันนี้ วันที่เจ็ดถือเป็นวันเกิด ของมนุษย์ในวันนี้อาหารจะเป็น หมี่ซั่วกินเพื่อชีวิตที่ยาวนานและปลาดิบเพื่อความสำเร็จ

วันที่แปด ชาวฟูเจียน จะมีการทานอาหารร่วมกันกับครอบครอบอีกครั้ง และเมื่อถึงเวลาเที่ยงคืนทุกคนจะสวดมนต์ของพรจาก เทียนกง เทพแห่งสวรรค์

วันที่เก้า จะสวดมนต์ไหว้และถวายอาหารแก่ เง็กเซียนฮ่องเต้

วันที่สิบถึงวันที่สิบสอง เป็นวันของเพื่อนและญาติๆ  ซึ่งควรเชื้อเชิญมาทานอาหารเย็น และหลังจากที่ทานอาหารที่อุดมไปด้วยความมัน

วันที่สิบสาม ถือเป็นวันที่เราควรทานข้าวธรรมดากับผักดองกิมกิ ถือเป็นการชำระล้างร่างกาย

วันที่สิบสี่ ความเป็นวันที่เตรียมงานฉลองโคมไฟซึ่งจะมีขึ้น ในคืนของวันที่สิบห้าแห่งการฉลองตรุษจีน



บรรณานุกรม.

แหล่งความรู้คุณหนู [Online]. ที่มา
:[/b] http://www.beeskids.com (http://www.beeskids.com)

รวบรวมข้อมูลโดย : ฝ่ายวารสารและเอกสาร


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2021, 05:51:23 PM

ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้


ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2021, 06:38:36 PM
วันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์


เมื่อถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกๆ ปี จะมีหนุ่มสาวหรือคนบางกลุ่มนิยมส่งดอกกุหลาบสีแดง หรือบัตรรูปหัวใจให้แก่กันและกันซึ่งเป็นเครื่องหมายแสดงเจตนารมณ์ของความรักความเข้าใจต่อกัน วันวาเลนไทน์ ธรรมเนียมฝรั่งเขาส่งบัตรหรือของขวัญเล็กๆน้อยๆ ไปให้แก่คนที่เขารักโดยไม่บอกชื่อผู้ส่ง ซึ่งจะมาจากใครก็ได้

ตามประวัติกล่าวว่า วันนี้เป็นวันมรณภาพของนักบุญในศาสนาคริสต์ท่านหนึ่งชื่อว่า เซนต์วาเลนไทน์ ท่านผู้นี้ถูกพวกโรมันจับลงโทษถึงแก่ความตายในสมัยพระเจ้าจักรพรรดิคลอดิอุสที่ 2 ก่อนคริสต์ศักราช 269 ปี เนื่องจากท่านเป็นชาวโรมัน แต่ไปนับถือศาสนาคริสต์ และได้เข้าบวชอยู่ในศาสนานั้น ชื่อว่า วาเลนตินุส (VALENTINUS)

ในสมัยนั้น ประชาชนชาวโรมันนับถือศาสนาของชาวโรมันอีกศาสนาหนึ่ง ซึ่งมีพระผู้เป็นเจ้าและเทวดาหลายองค์ มีโบสถ์วิหารสำหรับพิธีบูชามีสมณะและนางชีเช่นเดียวกับศาสนาคริสต์ในสมัยนี้ ในระยะเริ่มแรกที่ศาสนาคริสต์เข้ามาเผยแพร่ในกรุงโรม ทางรัฐบาลกรุงโรมเห็นว่าเป็นลัทธิที่อันตรายต่อสังคมชาวโรมันเป็นอย่างยิ่ง ผู้ใดนับถือศาสนาคริสต์ก็จะถูกจับตัวไปลงโทษอย่างรุนแรงต่อสาธารณชน เช่น ให้สัตว์ป่ากัดตาย ตรึงไม้กางเขนให้ตายบ้าง หรือเผาทั้งเป็น เป็นต้น

พวกที่นับถือศาสนาคริสต์ต้องคอยหลบซ่อนตัวไม่บอกให้ใครรู้ว่าตนเป็นคริสต์ศาสนิกชน และเมื่อถึงเวลาทำพิธีกรรมทางศาสนาของตน จะต้องแอบหนีลงไปทำพิธีในอุโมงค์ที่ใช้บรรจุศพ นอกกรุงโรม นักบุญวาเลนไทน์เป็นผู้กล้าหาญและคอยช่วยเหลือคนที่นับถือศาสนาคริสต์อยู่เสมอมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ถูกทางราชการของกรุงโรมจับไปขังคุกหรือเอาไปทรมาน ในที่สุดท่านเองก็ถูกทางราชการของกรุงโรมจับตัวได้และเอาไปขังคุกไว้

เมื่อนักบุญวาเลนไทน์อยู่ในคุก มีผู้คุมชื่อ อัสเตริอุส (ASTERIUS) เป็นผู้มีจิตใจเมตตาและคอยให้ความช่วยเหลือมิให้เดือดร้อน ผู้คุมมีลูกสาวอยู่คนหนึ่งตาบอดทั้ง 2 ข้าง ระหว่างที่นักบุญวาเลนไทน์ติดคุกอยู่นั้น ลูกสาวผู้คุมก็นำอาหารให้และช่วยติดต่อกับคนนอกคุก ที่นับถือศาสนาศริสต์ให้แก่นักบุญวาเลนไทน์ ขณะที่อยู่ในคุก นักบุญวาเลนไทน์ได้แสดงอภินิหาร ด้วยการทำให้ตาทั้งสองข้างของลูกสาวผู้คุมหายบอด กลับมาเป็นคนตาดี และได้อบรมเกลี้ยกล่อมผู้คุมทั้งลูกสาวให้นับถือศาสนาคริสต์ด้วย

หลังจากนักบุญวาเลนไทน์ติดคุกมาเป็นเวลา 1 ปี พระเจ้าจักรพรรดิคลอดิอุสที่ 2 ก็มีคำสั่งให้นักบุญเข้าเฝ้า เมื่อพระเจ้าจักรพรรดิทอดพระเนตรเห็นนักบุญก็รู้สึกต้องพระทัยในกริยามารยาท ความสำรวมและความมีสง่าราศีของนักบุญ จึงตรัสเกลี้ยกล่อมให้นักบุญเลิกนับถือศาสนาคริตส์เสีย แล้วกลับมานับถือศาสนาของชาวโรมันต่อไปตามเดิม พระองค์จะพระราชทานอภัยโทษให้ แต่นักบุญวาเลนไทน์ก็ปฏิเสธ ไม่ยอมเลิกนับถือศาสนาคริสต์ มิหนำซ้ำกับเริ่มสั่งสอนอบรมพระเจ้าจักรพรรดิให้ทรงเห็นดีเห็นชอบ และทรงนับถือศาสนาคริสต์ พระเจ้าจักรพรรดิกริ้วมาก จึงมีรับสั่งให้นำตัวนักบุญวาเลนไทน์ไปตีด้วยไม้กระบอง แล้วเอาก้อนหินทุ่มจนถึงแก่ความตาย

ผู้ที่ตายเพื่อศาสนาและได้เกลี้ยกล่อมให้คนอื่นหันมายอมรับนับถือศาสนา เป็นผ้ที่ควรได้รับการยกย่อง และยังสามารถทำปาฏิหารย์รักษาให้คนตาบอดเป็นคนตาดีได้รับการยกย่องให้เป็นนักบุญหรือเซนต์ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันที่ศริสต์ศาสนิกชนถือว่า เป็นวันของเซนต์วาเลนไทน์ เพราะว่าเป็นวันที่ท่านถึงแก่มรณภาพ ในสมัยโรมันเมื่อสองพันกว่าปีมาแล้ว วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันตรุษที่เรียกว่า ลูเปอร์คาเลีย (lupercalia) มีความสำคัญมากในทางเพศ ผู้ชายจะวิ่งแก้ผ้าหาคู่เพื่อฉลองตรุษโดยจับฉลากชื่อหญิงสาวแล้วเกี้ยวพาราสีจนได้เป็นภรรยา

ส่วนประเทศอังกฤษไม่ได้มาจากนักบุญ แต่บังเอิญมาตรงกันพอดี คือ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันเริ่มต้นปักษ์ที่ 2 แห่งเดือนที่สองของปี คนยุโรปจึงจับคู่กัน เอาเป็นวันส่งบัตรหรือของขวัญให้คนรักให้คนรัก นิยมในกลุ่มหนุ่มสาว (จาก ข้าวไกลนา ของม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช)

ตัวอย่างของขวัญแทนใจวันแห่งความรัก

ดอกไม้

ให้ความหมายของการบอกรักได้ดีที่สุด

 อันดับแรกคือ กุหลาบแดง หมายถึง การบอกว่าฉันรักเธอ ซึ่งหนุ่มสาวมักจะให้กัน

 กุหลาบขาว หมายถึง ความรักที่บริสุทธิ์งดงามและไร้เดียงสา

กุหลาบชมพู หมายถึง ความรักที่อ่อนโยน นุ่มนวล และงดงาม

กุหลาบส้ม หมายถึง ความรัก ความปรารถนา และความคลั่งไคลหลงใหล

กุหลาบสีลาเวนเดอร์ หมายถึง รักแรกพบที่ตรึงตาตรึงใจถึงขนาด เพ้อฝัน

 ส่วนกุหลาบสีเหลือง หมายถึง ความห่วงใยให้กัน และ แทนมิตรภาพระหว่างเพื่อนอีกด้วย

สำหรับดอกไม้อื่นๆ ที่นิยม ให้กัน ได้แก่ ดอกลิลลี่สีขาว หมายถึงคุณเป็นคนที่โรแมนติค และอ่อนหวาน ดอกคาร์เนชั่นสีแดง หมายถึง ความรักอย่าง สุดซึ้ง



ความหมายของจำนวนดอกกุหลาบ
จำนวนของดอกกุหลาบสามารถสื่อความหมายได้เช่นกัน ถ้าเป็น

ดอกเดียว แสดงว่า เธอเป็นรักแรกพบของฉัน

3 ดอก หมายความว่า ต้องการบอกว่าฉันรักเธอ

7 ดอก แสดงว่าเสน่ห์ของเธอทำให้ฉันหลงใหลจนถอนตัวไม่ขึ้น

9 ดอก หมายความว่า เราสองคนจะรักกันตลอดไป

12 ดอก หมายถึง ขอให้เธอเป็นคู่ของฉันเพียงคนเดียว

20 ดอก บอกให้เห็นถึงความจริงใจที่มีต่อเธอ

40 ดอก ต้องการให้เธอรู้ว่าเธอเป็นรักแท้ของฉัน

99 ดอก แทนความหมายว่า ฉันจะรักเธอจนวันตาย

100 ดอก หมายความว่า ชีวิตนี้ฉันอุทิศเพื่อเธอ

101 ดอก เป็นการบอกว่า ฉันจะมีเธอเพียงคนเดียว

108 ดอก บ่งบอกถึงการขอแต่งงานใช้ชีวิตร่วมกัน

จะให้กุหลาบแทนใจในวันวาเลนไทน์นี้ ดูให้พอเหมาะพอควรก็แล้วกัน เพราะช่วงนี้..กุหลาบมันแพง

ช็อกโกแลต

สื่อความหมายของความรักที่แพร่หลายมาจากต่างประเทศ โดยช็อกโกแลตเป็นตัวช่วยเสริมอารมณ์รัก เนื่องจากรสชาติความหวานเป็นสิ่งที่แทนความรู้สึกแห่งความรักได้เป็นอย่างดี

การ์ด

แทนความห่วงใยและรัก นิยมให้คู่กับของขวัญอื่นๆ คือ ดอกไม้ หรือช็อกโกแลต โดยผู้ให้สามารถเขียนความในใจบรรยายให้คนที่ได้รับอ่านแล้วเข้าใจได้ในทันที

เทียนหอม

มักนิยมในหมู่หนุ่มสาวชาวไทย ที่สื่อได้ทั้งความหมายจากรูปทรงหัวใจ และให้กลิ่นหอมชวนหลงใหลตามแต่ใครจะเลือกได้ถูกใจคนรักแค่ไหน
อาหารมื้อค่ำ
ขาดไม่ได้เลยสำหรับอาหารมื้อพิเศษในวันแห่งความรัก ไม่ว่าจะเป็นสถานที่แบบไหน ร้านอาหาร ริมทะเล หรือในบ้าน แต่ขอให้มีแต่คุณและคนรักไปกันสองคนก็แล้วกัน

คาถารัก

“4 อ. คาถารักษารักให้ยั่งยืน”
คาถานี้ มิใช่มนต์ที่จะเสกเป่าให้คนมารัก มาชอบ แต่เป็นแนวทางให้คู่รักได้นำไปประพฤติปฏิบัติเพื่อให้ชีวิตคู่มีความมั่นคง ความสดชื่น และความสุขยืนยาวยิ่งขึ้น

อ. แรก คือ เอาใจใส่

ตามธรรมชาติหญิงหรือชายย่อมพอใจให้มีคนมาเอาใจใส่ต่อตัวเรา ยิ่งเป็นแฟนหรือคนใกล้ชิดทำให้ก็ยิ่งทวีความสุขใจ ไม่ว่าจะเป็นการไต่ถามสารทุกข์สุกดิบของกันและกัน ความห่วงหาอาทรอย่างสม่ำเสมอ การเป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน ไม่เอาแต่ใจตัวเองหรือเอาแต่ได้แต่ฝ่ายเดียว

อ. ที่สอง คือ เอื้อนเอ่ยวาจาดี

โดยปกติคนเรามักจะพูดจากับผู้ที่เราไม่รู้จักด้วยถ้อยคำที่ไพเราะสุภาพ แต่เมื่อสนิทกันแล้วมักจะขาดความเกรงใจต่อกัน และบ่อยครั้งพูดจากันด้วยคำพูดไม่เหมาะสมก้าวร้าว ฉะนั้นไม่ว่าจะสนิทกันเพียงไหน ถ้อยคำที่ไพเราะอ่อนหวานสุภาพก็ยังเป็นสิ่งที่ฟังแล้วรื่นหูให้ความสบายใจ ยิ่งเป็นคำชื่นชมคู่รักหรือคู่ครองได้ยินแล้วเกิดความชื่นใจ และมีกำลังใจ

อ. ที่สาม คือ อดทน

การที่คนสองคนจะมาเป็นแฟนหรือกลายมาเป็นสามีภริยากันในอนาคตนั้น สิ่งหนึ่งที่ต้องมีคือ ความอดทนซึ่งกันและกัน เพราะแต่ละคนมาจากครอบครัวอันมีความแตกต่างกันไม่มากก็น้อย ย่อมต้องใช้เวลาศึกษาและปรับตัวเข้าหากัน หากไม่มีความอดทนเพียงพอก็อาจจะต้องเลิกรากันไป และเมื่อใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันแล้วต้องมีความอดทนมากขึ้น เพราะการดำรงชีวิตคู่ต้องช่วยกันทำมาหากิน และช่วยกันฟันฝ่าอุปสรรคข้างหน้าอีกมากมาย

อ. ที่สี่ คือ อภัยแก่กันและกัน

ชีวิตของคนเรานั้นย่อมมีความผิดพลาดเป็นธรรมดา ดังนั้น การรู้จักให้อภัยแก่ตัวเอง และคนที่เรารักจึงเป็นสิ่งจำเป็น มิฉะนั้นเราจะอยู่กันด้วยความกินแหนงแคลงใจต่อกัน ทำให้ไม่มีความสุขทั้งคู่ เพราะจิตใจเต็มไปด้วยความเคร่งเครียดไม่สบายใจ การให้อภัยจึงเป็นการสร้างความสงบสุข ร่มเย็นให้แก่จิตใจและชีวิตคู่ของเรา
เมื่ออยู่ในห้วงอารมณ์แห่งความรัก มีความคิด ความรู้สึก อารมณ์ และอะไรต่างๆ อีกมากมายที่เกิดขึ้น ดังนั้นเมื่ออยู่ในความรักจงรักให้เป็น อย่าให้ความรักและอารมณ์มีอำนาจเหนือตัวเรา ไม่เช่นนั้นจะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี

บรรณานุกรม

รื่นฤดี เทพขุน “วันวาเลนไทน์“ ชิโนรสสาร 9,29 (2535) 6-7.

“จำนวนของดอกกุหลาบก็สื่อความหมายได้อย่างน่าสนใจ“ ค้นเมื่อ 18 มกราคม 2553, จาก http://horoscope.sanook.com/inlove/inlove_01945.php (http://horoscope.sanook.com/inlove/inlove_01945.php)

“ของขวัญวันวาเลนไทน์ ของขวัญที่นิยม ของขวัญแทนใจวันแห่งความรัก“ ค้นเมื่อ 22 มกราคม 2553, จาก http://km.ra.mahidol.ac.th/mod/forum/discuss.php?d=294 (http://km.ra.mahidol.ac.th/mod/forum/discuss.php?d=294)

“ประวัติวันวาเลนไทน์“ ค้นเมื่อ 22 มกราคม 2553, จาก http://km.ra.mahidol.ac.th/mod/forum/discuss.php?d=294 (http://km.ra.mahidol.ac.th/mod/forum/discuss.php?d=294)

“รักคือความอดทนและเข้าใจ“ ค้นเมื่อ 23 มกราคม 2553, จาก http://www.catholic.or.th/spiritual/article/valentine/va011.html (http://www.catholic.or.th/spiritual/article/valentine/va011.html)

“สีของดอกกุหลาบบอกความนัยแทนใจคุณ“ ค้นเมื่อ 27 มกราคม 2553, จาก
http://www.zheza.com/index.php (http://www.zheza.com/index.php)

MAKY_OREL. (2561, 19 มกราคม). วันวาเลนไทน์. ค้นเมื่อ 13 กุมภาพันธ์ 2562, จาก https://pixabay.com/th/ (https://pixabay.com/th/)วันวาเลนไทน์-วันวาเลนไทน์อธิษฐาน-3089687/

คู่รัก : วันแห่งความสุข ถ่ายภาพโดย :  รจนา ดีภา เมื่อ : 17 พฤศจิกายน 2551

รวบรวมข้อมูลโดย : ฝ่ายวารสารและเอกสาร และวิมล ชีวะธรรม


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: paul711 ที่ กุมภาพันธ์ 17, 2021, 11:16:03 PM
 :) ขอบคุณครับคุณหนูใจ ได้ความรู้มากมายครับ

ช่วงนี้ผมยังไม่ได้นําเงินที่เพื่อนสมาชิกส่งมาช่วยทําเวบ ไปทําบุญ เหลืออยู่ประมาณ 28,000 บาท สองหมื่นแปดพันบาท
ยังไม่มีเวลาไป อยู่ตจว ตั้งใจอยากทําบุญตามโรงพยาบาล หลายๆแห่ง ให้หมดเร็วๆครับ


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 23, 2021, 10:03:30 AM
เมื่อรัชกาลที่ 5 สวรรคต พระสงฆ์องค์เจ้าก็กลั้นน้ำตาไม่อยู่ ย้อนดูพระราชนิพนธ์ในร.6

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2453 ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ยังความเศร้าโศกอาลัยแก่ชาวไทยทุกหมู่เหล่า ไม่เว้นแม้แต่พระสงฆ์องค์เจ้า

ดังปรากฏว่าเมื่อมีการอัญเชิญศพขึ้นประดิษฐานบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ภายในมหาราชวัง และนิมนต์พระสงฆ์ขึ้นสดับปกรณ์ตามประเพณี พระราชาคณะชั้นผู้ใหญ่ก็ไม่สามารถกลั้นความเศร้าโศกอาลัยไว้ได้ ตามที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชนิพนธ์ไว้ในหนังสือ “ประวัติต้นรัชกาลที่ 6” ความว่า

“สมเด็จพระมหาสมณะเจ้า (ซึ่งเวลานั้นดำรงพระยศเปนกรมหลวงวชิรญาณวโรรส) ตรัสกับฉันพระสุรเสียงเครือและสอื้น, เสด็จกรมหมื่นชินวรสิริวัฒน์ (ซึ่งเวลานั้นดำรงพระยศเปนพระองค์เจ้าพระสถาพรพิริยพรต) ทรงสวดไม่ใคร่จะออก, สมเด็จพระวันรัตน (ฑิต) วัดมหาธาตุ, เสียงเครือจวนๆ จะเอาไม่อยู่, สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ฤทธิ์) วัดอรุณสวดพลางน้ำตาไหลพลาง, และสอื้นด้วย, และสมเด็จพระวันรัตน (จ่าย, เวลานั้นเปนพระธรรมวโรดม) วัดเบญจมบพิตร์, ร้องไห้อย่างคนๆ ทีเดียว”


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรก เมื่อ 23 ตุลาคม พ.ศ.2561

https://www.msn.com/th-th/news/history (https://www.msn.com/th-th/news/history)
thank you very much


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: paul711 ที่ ธันวาคม 19, 2021, 01:42:57 AM
 ;D  ขอบคุณครับคุณหนูใจ ช่วงนี้ผมไม่สามารถไป กทม ได้ อยากจะนูาเงินที่เหลืออยู่ไปบริจาคตามโรงพยาบาลหลายๆแห่ง และต้องการใบเสร็จมาแสดลให้ดู ทําให้บริจาคออนไลน์ไม่สะสะดวก
คลอีกสักระยะหนึ่ง ถ้าผมบริจาคหมดแล้วจะมาแจ้งให้ทราบ
]กันครั[/size]บ


หัวข้อ: Re: The important day
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กุมภาพันธ์ 16, 2022, 02:09:47 PM
สมเด็จพระสังฆราช ประทานคติธรรมเนื่องในวันมาฆบูชา 2565

“ดีถีมาฆบูชา อันเป็นวันจาตุรงคสันนิบาต ได้เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่งแล้ว ดิถีเช่นนี้เมื่อกว่า 2,500 ปีก่อน สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ประทานหลักการอันเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนาไว้ 3 ประการ ได้แก่ การไม่กระทำบาปทั้งปวง การทำกุศลให้ถึงพร้อม และการทำจิตให้บริสุทธิ์ผ่องแผ้ว

          ‘จิต’ เป็นสภาพรู้ที่ปรากฏมีอยู่ในทุกชีวิตซึ่งมีสภาพธรรมอีกประเภทหนึ่งเรียกว่า ‘เจตสิก’ เกิดร่วมด้วย เจตสิกกลุ่มที่เรียกว่า ‘สังขาร’ อาจปรุงแต่งให้จิตเป็นไปในทาง 3 ฝ่าย กล่าวคือ ฝ่ายดี ฝ่ายเลว และฝ่ายที่เป็นกลาง

           การจะทำจิตให้ผ่องแผ้วได้ตามหลักการอันเป็นหัวใจของพระศาสนา จำเป็นต้องเริ่มขัดเกลาตนเองให้มีปรกติอดทนอดกลั้นที่จะไม่ทำบาป พอใจขวนขวายที่จะทำบุญ คือการบำเพ็ญทาน รักษาศีล และเจริญภาวนาอยู่เสมอ เพื่อฝึกจิตให้โน้มน้าวไปสู่วิถีสะอาด คอยชำระซักฟอกไปจนกว่าธุลีแห่งความมัวหมองจะลบเลือนหายไป ทำให้เข้าถึงสภาวะอันผ่องแผ้วด้วยจิตฝ่ายดี มีกุศลจิตเป็นเนืองนิตย์

           การฝึกจิตอยู่เสมอ จะเป็นเหตุปัจจัยนำมาซึ่งความหลุดพ้นจากห้วงทุกข์ ถึงแม้ยังดำเนินไปไม่ถึงที่สุดในฝ่ายคดีธรรม แต่ก็ย่อมยังอำนวยประโยชน์สุขในฝ่ายคดีโลก คือทำให้ผู้ฝึกจิตเป็นสุจริตชน มีการงานสะอาดปราศจากโทษ มีใจสงบระงับ ไม่ต้องกลัวโทษทัณฑ์จากกฎหมายบ้านเมือง ทั้งยังเป็นเครื่องประคับประคองจิตให้ไม่เดือดร้อนต่อโลกธรรม ไม่แสดงอาการขึ้นลง เมื่อประสบกับการมีลาภ เสื่อมลาภ มียศ เสื่อมยศ สรรเสริญ นินทา สุข และทุกข์

          รวมความได้ว่าจิตที่ผ่องแผ้ว ต้องเกิดจากการฝึก เมื่อฝึกแล้วจิตก็จะมั่นคงไม่หวั่นไหว สมตามพระพุทธานุศาสนีที่ว่า ‘จิตฺตํ ทนฺตํ สุขาวหา’ ความว่า “จิตที่ฝึกดีแล้ว นำสุขมาให้” ด้วยประการฉะนี้


ขอบคุณที่มา
https://www.msn.com/th-th/news/national (https://www.msn.com/th-th/news/national)

มาฆบูชา 2565 : ถอดรหัส โอวาทปาฏิโมกข์ ตามทัศนะ 5 พระเถระ
https://www.prachachat.net/general/news-865170 (https://www.prachachat.net/general/news-865170)

มาฆบูชา 2565: เวียนเทียนออนไลน์ สวดมนต์ ฟังเทศน์ ทำอย่างไร
https://www.prachachat.net/general/news-865490 (https://www.prachachat.net/general/news-865490)