Forex-Currency Trading-Swiss based forex related website.
Home
-----
กระดานสนทนาหน้าแรก
-----
Gold Chart,Silver,Copper,Oil Chart
-----
gold-trend-price-prediction
-----
ติดต่อเรา
หัวข้อ: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 17, 2009, 08:35:59 AM ;DGood morning Kha
ขอบคุณพี่พอลมากๆๆน้ะค่ะที่เปิดบ้านใหม่ให้นู๋จัย จะหาสาระดีๆๆมาเขียน ให้ทุกคนอ่าน ช่วยกันมาเสริมได้น้ะค่ะ อาหารเช้า ให้สมองโดยตรงค่ะ น้ำข้าวRc ส่วนผสม ข้าวแดงจากข้าวซ้อมมือ 2 กำมือ ข้าวเหนียวซ้อมมือ 2 กำมือ ข้าวสาลีเม็ด 1 กำมือ ข้าวบาร์เล่ย์ 1 กำมือ ข้าวฟ่าง 1 กำมือ ลูกเดือย 1 กำมือ ลูกบัว 1 กำมือ ข้าวโอ๊ต 1 กำมือ น้ำเปล่า 2 ลิตร วิธีทำ - นำลูกบัว ลูกเดือย ข้าวสาลี ข้าวบาเลย์ ข้าวฟ่าง มาต้มจนเดือด - พอเดือดแล้วใส่ข้าวซ้อมมือ ข้าวเหนียวซ้อมมือ ข้าวแดงตามลงไป - ต้มต่อไปจนเดือดอีกครั้ง จากนั้นใส่ข้าวโอ๊ตเป็นส่วนสุดท้าย เดือดแล้วปิดไฟ - ปล่อยให้ข้าวต่างๆ นอนก้น แล้วตักแต่น้ำใสๆ ดื่มร้อนๆ หรืออุ่นๆ ก็ใด้ - กากข้าวเอาไปทำข้าวต้มต่อ อาจเติมฟักทอง มันเทศหรือเผือกลงไปก็ใด้ ต้มจนข้าวเป็นยางจึงยกลง ปล.เติมงาดำป่นลงไปนิดหน่อย ;) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: heng88 ที่ กันยายน 17, 2009, 08:59:35 AM ชอบหัวข้อนี้จังครับ ใครหิว ๆ ก็แวะมาได้นะครับ ขอบคุณและเป็นกำลังใจให้คุรหนูใจด้วยครับ
ไว้มีที่ทานอาหาร อร่อย ๆ ไม่แพง จะมาแนะนำครับ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 17, 2009, 09:10:09 AM ชอบหัวข้อนี้จังครับ ใครหิว ๆ ก็แวะมาได้นะครับ ขอบคุณและเป็นกำลังใจให้คุรหนูใจด้วยครับ สวัสดีค่ะคุณheng88 แขกคนแรก ขอบคุณค่ะ ;Dไว้มีที่ทานอาหาร อร่อย ๆ ไม่แพง จะมาแนะนำครับ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: ~ uma ~ ที่ กันยายน 17, 2009, 09:35:31 AM แวะเข้าครัว... ขอบคุณ nujai ค่ะ สำหรับสูตรน้ำข้าว Rc ว่างๆจะลองทำดูค่ะ :)
หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: Theephat ที่ กันยายน 17, 2009, 09:37:12 AM น้ำข้าว Rc มีประโยชน์อะไรบ้างครับคุณ Nujai :o :o :o
หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: Gap ที่ กันยายน 17, 2009, 03:14:30 PM น้ำข้าว Rc มีประโยชน์อะไรบ้างครับคุณ Nujai :o :o :o รอฟังด้วยคน สงสัยไป กาชาด ??? หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: Neung99k ที่ กันยายน 17, 2009, 06:06:56 PM เอาไว้จะทำกินบ้างน่ะ หรือทำให้กินหน่อยก็ดีนะ ;D เผื่อสมองจะได้แล่นบ้าง :P
หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 17, 2009, 07:13:53 PM ;D
เย็นนี้กินปลานิลสดๆๆทอดราดน้ำปลา แกงจืดเต้าหู้ไข่หมูสับ ปลาตัวไม่นิ่มตาใสๆๆตัวขนาดกลางๆๆ ให้แม่ค้าควักไส้ บั้ง เฉียงๆ มาถึงบ้านล้างด้วยเกลือล้างพุงให้สะอาดจะได้ไม่ขม สะเด็ดน้ำไว้ไปตั้งกะทะใส่น้ำมัน ที่บ้านจะใช้น้ำมันถั่วเหลืองกับเมล็ดทานตะวัน ;) พอน้ำมันได้ที่ใส่ปลาค่อยๆๆหย่อนน้ะค่ะเดี๋ยวน้ำมันจะกระเด็นโดนหน้าตาเอา หาฝาครอบมาบังหรือ ครอบลงในกะทะไปเลยก็ได้ ใช้ไฟอ่อนหน่อย รีบไม่ได้เดี๋ยวไหม้ นู๋ทอดมาส่วนใหญ่ไม่ได้กิน ;D ;D สักพักก็มาพลิกปลาเอาตะหลิวช้อนใต้ปลาดูว่ามันล่อนไม่ติดกะทะก็พลิกได้ค่ะ พอสุกทัััังสองข้างเทน้ำมันออก ราดน้ำปลาคลุุกให้ทั่วตักใส่จาน แบตเตอรีี่หมด :'(พรุ่งนี้มาต่อน้ะต่ะเอง) ;D ;D หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: ribbinn ที่ กันยายน 17, 2009, 08:11:52 PM ได้กลิ่นหอมฉุยลอยมาเชียวค่ะ ขอบคุณนะค
หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: Gap ที่ กันยายน 17, 2009, 09:22:26 PM จำกัน บ่ ด้ายเลยหน่า อย่าโกธรกันน่า nujai
เพื่อนเก่า ๆ :'( :'( :'( หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: Neung99k ที่ กันยายน 18, 2009, 06:18:29 AM อยากกินเจ้าบอยทอดราดน้ำปลาน่ะ evil.gif ;D
หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: อุ๊ ที่ กันยายน 18, 2009, 01:22:10 PM ขอเสริมนิดนะจ๊ะ การใช้น้ำมันสำหรับทอด ควรเป็นน้ำมันปาล์มจะดีจ้า
เพราะต้องใช้ความร้อนนาน ปลาจะได้กรอบนอก นุ่มใน แต่สำหรับการผัด หรือ ใช้ระยะเวลาที่สั้นในการปรุง ควรใช้น้ำมันถั่วเหลืองค่ะ ;D หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: nokeang ที่ กันยายน 18, 2009, 02:44:34 PM เย็นนี้ครัวจะเปิดรึป่าวเนี้ย ::) :D
หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 18, 2009, 04:05:36 PM ;D
สวัสดีค่ะ แบตคีบอร์ดมันหมด+นู๋หมดแรงด้วย ;D ;D วันนี้คิดถึงซุปข้นๆๆแบบเมืองผู้ดี Clam Chowder New Eng Style จัมชื่อมั้ยดั้ยโทรถามเปื้อนมา ขอบคุงน้ะเปื้อน ;D ส่วนผสม เนื้อหอยลาย เบคอนหั่นชิ้นเล็กๆๆ เซเลรี่หั่นท่อนสั้น หอมใหญ่สับ แป้งสาลีอเนกประสงค์ น้ำซุป มันฝรั่งหั่นลูกเต๋า ใบกระวานแห้ง พริกไทยบ่น ไทม์สด เมล็ดข้าวโพดหวาน นมสด เนยสดจืด เกลือป่น ตั้งหม้อซุป นำเบคอนผัดจน้ำมันออก กรอบ ตักพักไว้ก่ีอนน้ะอย่าหยิบกินเดี๋ยวหมด >:( นำน้ำมันเบคอนที่เหลือตั้งไฟต่อใส่เซเลรี หอมใหญ่ ผัดจนสุกนิ่ม ใส่แป้งสาลีลงผัด2 นาที ใส่น้ำซุป มันฝรั่ง ใบกระวาน พริกไทยป่น ปิดฝาให้เดือด ใส่ไทม์สด ลดไฟอ่อน ต้มจนมันฝรั่งสุกนิ่ม สัก 10นาที ก็น่าจะนิ่ม ใส่เนื้อหอยลาย เร่งไฟหน่อย ใส่เม็ดข้าวโพด นมสด เนย ปรุงรสด้วยเกลือ ต้มจนเนยละลายต่อ หน่อย ตักเสริร์ฟร้อนๆๆโรยหน้าด้วยเบคอนทอดกรอบ นู๋ทำที่บ้านเปื้อนเป็นแค่ผู้ช่วย หยิบ+ชิม ;D มีแบบกระป๋องด้วยน้ะ ;) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: Neung99k ที่ กันยายน 18, 2009, 04:09:48 PM มีอารัยง่าย ๆ กินแบบโจ๊ก+ใส่ไข่..กวน ๆ แล้วกินได้ ;D แบบว่าทำยาก ๆ ทำไม่เป็น..เดี๋ยวกินไม่ได้น่ะ ;D
หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 18, 2009, 04:31:15 PM มีอารัยง่าย ๆ กินแบบโจ๊ก+ใส่ไข่..กวน ๆ แล้วกินได้ ;D แบบว่าทำยาก ๆ ทำไม่เป็น..เดี๋ยวกินไม่ได้น่ะ ;D อย่ากินพี่.............มันเปลืองงงงงงงงงง ;Dเก็บตังค์ซื้อGold dee wa na(A) ;Dหัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: Neung99k ที่ กันยายน 18, 2009, 06:16:26 PM มีอารัยง่าย ๆ กินแบบโจ๊ก+ใส่ไข่..กวน ๆ แล้วกินได้ ;D แบบว่าทำยาก ๆ ทำไม่เป็น..เดี๋ยวกินไม่ได้น่ะ ;D อย่ากินพี่.............มันเปลืองงงงงงงงงง ;Dเก็บตังค์ซื้อGold dee wa na(A) ;Dหัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: soda ที่ กันยายน 18, 2009, 07:06:55 PM สวัสดีจ้า นู๋จัย
หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: paul711 ที่ กันยายน 18, 2009, 09:41:47 PM :) สวัสดีครับ ผมผ่านตาหัวข้อของหนูใจ ทีไร หิวข้าวทุกที อยากกินอาหารมากๆ เริ่มหิวเลย
หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: sayong ที่ กันยายน 18, 2009, 10:22:21 PM มีอารัยง่าย ๆ กินแบบโจ๊ก+ใส่ไข่..กวน ๆ แล้วกินได้ ;D แบบว่าทำยาก ๆ ทำไม่เป็น..เดี๋ยวกินไม่ได้น่ะ ;D อย่ากินพี่.............มันเปลืองงงงงงงงงง ;Dเก็บตังค์ซื้อGold dee wa na(A) ;Dหัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: nokeang ที่ กันยายน 19, 2009, 10:41:57 AM :) สวัสดีครับ ผมผ่านตาหัวข้อของหนูใจ ทีไร หิวข้าวทุกที อยากกินอาหารมากๆ เริ่มหิวเลย หิวซะดึกเลยนะค่ะคุณพอล ทานอาหารดึกๆ ไม่ค่อยดีนะค่ะ กระเพาะจะทำงานหนักไปหน่อย ;) ดูแลสุขภาพด้วยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ :)หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 19, 2009, 11:22:30 AM ;DGood morning Kha
:oพี่พอลเข้ามาอ่านด้วย ;D พี่โซดาสบายดีน้ะค่ะ ;Dซายองก่ะพี่หนึ่ง >:Dจะ งกกกกกกกกกกกป่ายยยยยยยถึงไหนนนนนนนนจ้ะ >:D ทำไก่ทอดนิวออร์ลีนเลี้ยงน้ะค่ะ น่องไก่ 4 น่อง เลี้ยงพี่พอลคนเดียว ;Dคนอื่น น่องละ25บาท อิ อิ ปูดเล่งๆๆ เกลือป่น พริกไทย พริกปาปริกาป่น นมข้นจืด ซอสปรุงรส ซอสเปรี้ยว แป้งชุป แป้งมัน เกลือป่น พริกไทยป่น พริกปาปริกา ผสมเข้าด้วยกัน เตรียมไก่นำน่องไกมาหมักกับนมข้นจืดเนื้อไกจะนุ่ม ซอสเปรี้ยว Worcester Sauceเกลือ พริกไทย พริกปาปริกา ซอสปรุงรส หมักให้เข้ากัน เอาส้อมจิ้มๆๆๆให้เครื่องปรุงรสซึมเข้าเนื้อเอาไปแช่ตู้เย็น1ช.มก่อนนำไปทอด เอาแป้งมาผสมกับเกลือพริกไทยและปาปริกาผงคลุกให้เข้ากันแล้วนำไก่มาคลุกแป้งให้ทั่ว ตั้งกะทะใส่น้ำมันท่วมให้พอร้อนใส่ไก่ลงไปทอด แล้วลดไฟให้เหลือ ไฟกลาง ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีจึงกลับไก่อีกด้าน ทอดให้เหลือง แล้วตักไก่ทอดมาพักให้สะเด็ดน้ำมัน ไม่ต้องน้ำจิ้ม กิงเลย ;) ทำให้สะเด็ดน้ำมันเยอะ ใช้เปเป้อทาวก็ดีค่ะ นู๋ชอบใช้ซับของมันๆๆ ;D หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 19, 2009, 11:29:13 AM ;D
นู๋ว่านู๋ เขียนประโยชน์น้ำอาร์ซีไปแย้ววววว ??? ทัมมัยมันไม่โชว์ก้อมั่ยรู้น้ะก๊ะ :-\ ประโยน์ช คือบำรุงสมอง ระบบประสาท การหมุนเวียนของเลือด วิตามิน แร่ธาตุ เป็นยา อีกมากมายอย่างไม่น่าเชื่ิอค่ะในราคาไม่แพงถูกแสนถูก มีแบบผง ชงเป็นซองๆๆสำเร็จรูป แต่ขอหาอะไรใส่เพิ่มหน่อยก้อดีค่ะ เช่น งาดำป่นอันนี้อยากให้แช่ตู้เย็นเพราะมันชื้นจะเก็บได้หลายวัน ปลอดภัยไว้ก่อนเชื้อรามา น้ำอาร์ซีดื่มตอนเช้าจะบำรุงโดยตรงอาหารสมองค่ะ ;) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: soda ที่ กันยายน 19, 2009, 01:44:22 PM ดีจ้า นู๋จัย สบายดีค๊า โห อิจฉาคุณพอลจังเลย นู๋จัยเลี้ยง คนอื่นเสียตังค์เอง อืมม เอางี้ดีกว่า นู๋จัยเลี้ยงคุณพอล ๆจ่ายให้พวกเรา 555
หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: อุ๊ ที่ กันยายน 21, 2009, 08:26:19 AM ดีจ้า นู๋จัย สบายดีค๊า โห อิจฉาคุณพอลจังเลย นู๋จัยเลี้ยง คนอื่นเสียตังค์เอง อืมม เอางี้ดีกว่า นู๋จัยเลี้ยงคุณพอล ๆจ่ายให้พวกเรา 555 ;D ;D ;D หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 21, 2009, 03:18:49 PM ;D
มาทำน้ำพริกกะปิ พริกขี้หนู กะปิหาแบบหอมๆๆชิมนิดๆๆว่าไม่เค็มเหมือนคนข้างๆๆ ;D กระเทียม มะนาว น้ำตาลปี๊บ ตำคลุกปรุงรสเผ็ดหวานเปรี้ยวตามใจคนกิน ;) ปลาทูน้ะเอาแบบซื้อที่แม่กลองน้ะจำหน้าแม่ค้าด้วยว่าเจ้าไหนถ้าเค็มคราวหน้าไปค้อนให้1ที evil.gif ทอดให้เหลืองๆกรอบๆๆ เอาห้วทอดให้กรอบแคลเซียมเยอะลูกกะตาก็อร่อยน้ะ มะเขือยาวหั่นเฉียงๆๆไม่บางหน่อย เอาชุบไข่ทอด พอเหลืองๆๆกรอบๆๆเอาขึ้นสเด็ดน้ำมันหน่อย น้ำมันกินมากไม่ดีค่ะ ชะอมเด็ดใบๆๆก้านเหนี่ยวๆๆเอาให้คนข้างบ้านกิน ;D ก้านอ่อนๆๆล้างก่อนน้ะชุบไข่ทอดให้เหลืองๆๆกรอบๆๆหน่อย ขึ้นสเด็ดน้ำมัน ผักต้ม มะเขือเปราะ ดอกแค กระหล่ำ มะระขี้นก ผักสด มะเขือเปราะ ขมิ้นขาว ถั่วฝักยาว ล้างให้นานๆๆน้ะค่ะ เพื่อสุขภาพ ทำแกงจืด ซดร้อนๆๆ ;) แกงจืดไรดีที่ชอบน้ะ ทอดปลาช่อนแดดเดียวด้วย โอ้โฮ้ แม่นู๋ทำเก่งจัง ;D ;D ขอบคุณแม่นู๋หน่อยน้ะ นู๋แค่ผู้ช่วย ผู้ช่วยกินค่ะ อิ อิ ;D หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 22, 2009, 04:21:56 PM ;D
สวัสดีค่ะ ขอบคุณน้ะค่ะที่เข้ามาบ้านนู๋ มาช่วยเขียน มากๆๆยิ่งดีค่ะ นู๋ไม่สบาย ขอตัวพักสักหน่อยน้ะค่ะ ต้องขออภัยด้วยน้ะค่ะถ้านู๋เขียนผิดไปบ้าง ก็ช่วย ช่วยหน่อยน้ะค่ะ หรือ ถามอะไรมา ถ้าพี่ๆๆเพื่อนๆๆ น้องๆๆ รู้ ก็ช่วยตอบหน่อยน้ะค่ะ นู๋จัยขอขอบคุณน้ะค่ะ ;D หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: sayong ที่ กันยายน 22, 2009, 06:10:26 PM ;DGood morning Kha ;D สรุปว่าพี่หนึ่งงกเหรอก๊ะนู๋จัย ;D ;D :oพี่พอลเข้ามาอ่านด้วย ;D พี่โซดาสบายดีน้ะค่ะ ;Dซายองก่ะพี่หนึ่ง >:Dจะ งกกกกกกกกกกกป่ายยยยยยยถึงไหนนนนนนนนจ้ะ >:D ทำไก่ทอดนิวออร์ลีนเลี้ยงน้ะค่ะ น่องไก่ 4 น่อง เลี้ยงพี่พอลคนเดียว ;Dคนอื่น น่องละ25บาท อิ อิ ปูดเล่งๆๆ เกลือป่น พริกไทย พริกปาปริกาป่น นมข้นจืด ซอสปรุงรส ซอสเปรี้ยว แป้งชุป แป้งมัน เกลือป่น พริกไทยป่น พริกปาปริกา ผสมเข้าด้วยกัน เตรียมไก่นำน่องไกมาหมักกับนมข้นจืดเนื้อไกจะนุ่ม ซอสเปรี้ยว Worcester Sauceเกลือ พริกไทย พริกปาปริกา ซอสปรุงรส หมักให้เข้ากัน เอาส้อมจิ้มๆๆๆให้เครื่องปรุงรสซึมเข้าเนื้อเอาไปแช่ตู้เย็น1ช.มก่อนนำไปทอด เอาแป้งมาผสมกับเกลือพริกไทยและปาปริกาผงคลุกให้เข้ากันแล้วนำไก่มาคลุกแป้งให้ทั่ว ตั้งกะทะใส่น้ำมันท่วมให้พอร้อนใส่ไก่ลงไปทอด แล้วลดไฟให้เหลือ ไฟกลาง ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีจึงกลับไก่อีกด้าน ทอดให้เหลือง แล้วตักไก่ทอดมาพักให้สะเด็ดน้ำมัน ไม่ต้องน้ำจิ้ม กิงเลย ;) ทำให้สะเด็ดน้ำมันเยอะ ใช้เปเป้อทาวก็ดีค่ะ นู๋ชอบใช้ซับของมันๆๆ ;D น่องละ 25 บาท งั้นของ น่องครึ่งละกันนะ.... O0 หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: Neung99k ที่ กันยายน 23, 2009, 12:51:17 PM ;DGood morning Kha ;D สรุปว่าพี่หนึ่งงกเหรอก๊ะนู๋จัย ;D ;D :oพี่พอลเข้ามาอ่านด้วย ;D พี่โซดาสบายดีน้ะค่ะ ;Dซายองก่ะพี่หนึ่ง >:Dจะ งกกกกกกกกกกกป่ายยยยยยยถึงไหนนนนนนนนจ้ะ >:D ทำไก่ทอดนิวออร์ลีนเลี้ยงน้ะค่ะ น่องไก่ 4 น่อง เลี้ยงพี่พอลคนเดียว ;Dคนอื่น น่องละ25บาท อิ อิ ปูดเล่งๆๆ เกลือป่น พริกไทย พริกปาปริกาป่น นมข้นจืด ซอสปรุงรส ซอสเปรี้ยว แป้งชุป แป้งมัน เกลือป่น พริกไทยป่น พริกปาปริกา ผสมเข้าด้วยกัน เตรียมไก่นำน่องไกมาหมักกับนมข้นจืดเนื้อไกจะนุ่ม ซอสเปรี้ยว Worcester Sauceเกลือ พริกไทย พริกปาปริกา ซอสปรุงรส หมักให้เข้ากัน เอาส้อมจิ้มๆๆๆให้เครื่องปรุงรสซึมเข้าเนื้อเอาไปแช่ตู้เย็น1ช.มก่อนนำไปทอด เอาแป้งมาผสมกับเกลือพริกไทยและปาปริกาผงคลุกให้เข้ากันแล้วนำไก่มาคลุกแป้งให้ทั่ว ตั้งกะทะใส่น้ำมันท่วมให้พอร้อนใส่ไก่ลงไปทอด แล้วลดไฟให้เหลือ ไฟกลาง ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีจึงกลับไก่อีกด้าน ทอดให้เหลือง แล้วตักไก่ทอดมาพักให้สะเด็ดน้ำมัน ไม่ต้องน้ำจิ้ม กิงเลย ;) ทำให้สะเด็ดน้ำมันเยอะ ใช้เปเป้อทาวก็ดีค่ะ นู๋ชอบใช้ซับของมันๆๆ ;D น่องละ 25 บาท งั้นของ น่องครึ่งละกันนะ.... O0 หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: sayong ที่ กันยายน 23, 2009, 02:25:27 PM ;DGood morning Kha ;D สรุปว่าพี่หนึ่งงกเหรอก๊ะนู๋จัย ;D ;D :oพี่พอลเข้ามาอ่านด้วย ;D พี่โซดาสบายดีน้ะค่ะ ;Dซายองก่ะพี่หนึ่ง >:Dจะ งกกกกกกกกกกกป่ายยยยยยยถึงไหนนนนนนนนจ้ะ >:D ทำไก่ทอดนิวออร์ลีนเลี้ยงน้ะค่ะ น่องไก่ 4 น่อง เลี้ยงพี่พอลคนเดียว ;Dคนอื่น น่องละ25บาท อิ อิ ปูดเล่งๆๆ เกลือป่น พริกไทย พริกปาปริกาป่น นมข้นจืด ซอสปรุงรส ซอสเปรี้ยว แป้งชุป แป้งมัน เกลือป่น พริกไทยป่น พริกปาปริกา ผสมเข้าด้วยกัน เตรียมไก่นำน่องไกมาหมักกับนมข้นจืดเนื้อไกจะนุ่ม ซอสเปรี้ยว Worcester Sauceเกลือ พริกไทย พริกปาปริกา ซอสปรุงรส หมักให้เข้ากัน เอาส้อมจิ้มๆๆๆให้เครื่องปรุงรสซึมเข้าเนื้อเอาไปแช่ตู้เย็น1ช.มก่อนนำไปทอด เอาแป้งมาผสมกับเกลือพริกไทยและปาปริกาผงคลุกให้เข้ากันแล้วนำไก่มาคลุกแป้งให้ทั่ว ตั้งกะทะใส่น้ำมันท่วมให้พอร้อนใส่ไก่ลงไปทอด แล้วลดไฟให้เหลือ ไฟกลาง ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีจึงกลับไก่อีกด้าน ทอดให้เหลือง แล้วตักไก่ทอดมาพักให้สะเด็ดน้ำมัน ไม่ต้องน้ำจิ้ม กิงเลย ;) ทำให้สะเด็ดน้ำมันเยอะ ใช้เปเป้อทาวก็ดีค่ะ นู๋ชอบใช้ซับของมันๆๆ ;D น่องละ 25 บาท งั้นของ น่องครึ่งละกันนะ.... O0 ใช้ได้รึยังคะ ;D ;D อีกครึ่งน่องเอาไปเลยค่ะพี่ ให้ๆ ใจดีป่ะ O0 หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: อุ๊ ที่ กันยายน 24, 2009, 07:30:27 AM ขอเมนูอาหารเช้าหน่อย หิว หิว หิว evil.gif
หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: nokeang ที่ กันยายน 24, 2009, 09:10:59 AM :) ไข่ดาวเปรี้ยวหวาน :)
ทอดไข่ดาว 3 ฟอง สะเด็ดน้ำมันเอาไว้ เจียวกระเทียมพอเหลือง ใส่หมูสับลงไป ผัดให้สุกใส่น้ำมันหอย ผัดให้หอม แล้วก็หั่นมะเขือเทศใส่ลงไปแล้วแต่ชอบ ชอบมากก็ใส่เยอะ ผัดให้เละ หั่นหอมใหญ่ชิ้นเล็กๆ ใส่ลงไปใส่น้ำลงไปนิดนึง แล้วก็ผัดให้เข้ากัน ใส่ซอสมะเขือเทศ ลงไปหน่อย ผัดเข้าด้วยกันให้หอม ให้ข้น ชอบหวานก็เติมน้ำตาลทรายแดงไปหน่อย โรยเกลือนิดนึง แล้วก็ผัดไปผัดมา แล้วเอาไข่ดาวใส่จาน แล้วเอาเครื่องที่เราผัดในกะทะโรยบนไข่ดาว เอาผักชีโรยหน้าหน่อย เหยาะพริกไทยอีกนิด เชิญนู๋อุ๊มาเจี้ยได้แล้วจ้า ฝีมือพี่เอี๊ยงเอง ทนๆ กินหน่อยนะ ;D ทำได้แต่เมนูไข่ อิอิ ;) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: อุ๊ ที่ กันยายน 24, 2009, 09:15:44 AM ขอขนมปังหน้าหมูอีก 2 ชิ้นนะคะ
หิวจัด ;D หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: tiaa ที่ กันยายน 25, 2009, 10:25:09 AM :Dดีใจจังค่ะ ย้ายมาบ้านนี้ พี่อ่านหนูจั๋ยแล้วไม่ปวดหัว แถมยังทำกับข้าวเป็นอีก หนุ่มๆใครจะขอก็รีบขอนะ ;D ( ว่าแต่.. คนเดียวกันรึปล่าว)
หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 29, 2009, 11:26:13 AM :Dดีใจจังค่ะ ย้ายมาบ้านนี้ พี่อ่านหนูจั๋ยแล้วไม่ปวดหัว แถมยังทำกับข้าวเป็นอีก หนุ่มๆใครจะขอก็รีบขอนะ ;D ( ว่าแต่.. คนเดียวกันรึปล่าว) สวัสดีค่ะ ;Dขอโท้ดดดดดดดที่ทัมหั้ยปวดหัวค่ะ evil.gif ;D ;D อิ อิ ขอดูสะเตรทเม้นก่อนน้ะค่ะ ;) คนเดียวกันค่ะ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 29, 2009, 11:33:04 AM ;D
วันนี้กิงไรดี หน้อ หน่อ..............เอาง่ายๆๆน้ะ ไข่เจียว วิธีทอดให้กรอบๆๆๆๆๆๆ จุดเตาถ่านเลยค่ะ อย่าไปเผาข้างบ้านน้ะก๊ะ โดนนนนน..จับแน่ๆๆๆ ;D ;D ไข่3 ฟอง ใส่ซอสหอยนางรมหน่อยน้ำปลาหน่อย ตีแรงๆๆๆใส่หอมซอยนิดๆๆๆ ตั้งกะทะ ใส่น้ำมัน ควันละเหยนิดๆๆๆๆๆ เทไข่ในชามลงไป :o :o.. พอเป็นแพใส่น้ำมันไปนิดๆๆ พลิกอีกด้านใส่น้ำมันอีกนิดๆๆๆ เอาให้กรอบแค่ไหนเลือกได้ค่ะ ด้ายยแย้ววววววววววว ไข่เจียว...หอม..อร่อย..ที่สุดใน...โลก... ;) แอบดูย่าทำหั้ยปู่กิง :D..20ปีมาแล้ววววววว :o หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 01, 2009, 09:50:31 AM ;D
Good morning How are you? wan nee yak gin ped ;D (http://www.innnews.co.th/nanajobs/183742[0].jpg) ส่วนผสมหลัก เป็ดย่าง 1 ตัว มะเขือเทศสีดา 200 กรัม มะอึกห่ามเอาขนออก 13 ลูก มะพร้าวขูด 500 กรัม พริกชี้ฟ้าหั่นเฉียง 1 เม็ด โหระพาเด็ดเป็นใบ 5 กรัม ใบมะกรูดฉีก 5 ใบ น้ำตาลทราย 6 กรัม น้ำปลา 10 กรัม ระกำ 30 กรัม วิธีทำ 1. คั้นมะพร้าวให้ได้หัวกะทิครึ่งถ้วย หางกะทิ 3 ถ้วย 2. เลาะกระดูกเป็ดย่างออก หั่นเป็นชิ้นพอคำ ขนาด 1x1 นิ้ว 3. เคี่ยวหางกะทิ กับกระดูกคอ ปีก ข้อต่อจนเปื่อย 4. ล้างมะเขือเทศให้สะอาด 5. ใส่หัวกะทิลงในกระทะ ตั้งไฟให้แตกมัน ใส่เครื่องแกงผัดให้หอม ใส่เนื้อเป็ดลงผัด แล้วตักใส่ในหม้อเป็ดที่เคี่ยวไว้ ตั้งไฟปานกลาง ใส่ใบมะกรูด 6. ใส่มะเขือเทศ มะอึก ใบโหระพา พริกชี้ฟ้า และระกำ 7. ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา ;) แกงนี้จะมีสามรส หวาน เค็ม เปรี้ยว ความเปรี้ยวของแกงจะได้จากผลไม้รสเปรี้ยว ถ้าจะไม่ใส่ผลไม้ก็ได้จ้ะ แต่ต้องเติมน้ำมะขามเปียกลงไปไม่ต้องมาก น้ะเพราะรสเปรี้ยวของแกงเผ็ดเป็ดย่างนี้จะออกไม่มาก เพียงแต่มีรสอมเปรี้ยวหน่อยๆ ค่ะ พริกแกงซื้อสำเร็จดีกว่าน้ะค่ะ :D หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 02, 2009, 03:25:25 PM ;D
(http://www.siamdara.com/_images/090304A4Q0178.jpg) ส่วนผสม - ปลาทูเอาไส้ออกแล้ว 4 ตัว - ต้นหอมหั่นเป็นท่อน 1/2 ถ้วย - ผักชีเด็ดเป็นใบ 1/4 ถ้วย - รากผักชี 1 ช้อนโต๊ะ - ขิงซอย 1 ช้อนโต๊ะ - พริกไทย 5 เม็ด - หอมแดง 4 หัว - น้ำตาลปี๊บ 3 ช้อนโต๊ะ - น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ - น้ำมะขามเปียก 1/2 ถ้วย - กะปิดี 1 ช้อนชา - น้ำเปล่า 2 ถ้วย วิธีทำ - โขลกรากผักชี พริกไทย หอมแดง กะปิ ให้ละเอียดและเข้ากันดี - ตักน้ำใส่หม้อตั้งไฟให้เดือด ใส่เครื่องที่โขลกไว้ลงไป ทิ้งไว้จนน้ำในหม้อเดือด - ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียกข้นๆ น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา พอน้ำแกงเดือดอีกครั้งจึงใส่ปลาทูลงไป ตามด้วยขิงซอย - เมื่อปลาทูสุกดีแล้ว ใส่ต้นหอม ยกลงจากเตา โรยด้วยผักชี ตักใส่ชามเสิร์ฟร้อนๆ ;Dชิมรสออกหวานเปรี้ยวเผ็ดขิงหน่อยๆๆกินร้อนๆๆได้เหงื่อนิดๆๆ ;) ::)ปลาทูให้แม่ค้าควักไส้ พุงปลาออกให้เลยที่ตลาดแล้วมาล้างเกลือที่บ้านให้สะอาดจะได้ไม่คาวปลา ใส่ปลาเวลาน้ำเดือดมากๆๆทำให้ปลาไม่คาวน้ะก๊ะ ;) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: Neung99k ที่ ตุลาคม 05, 2009, 06:23:56 PM หิว ๆ ๆ มีกินฟรีป่ะ ;D
หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 06, 2009, 11:40:46 AM หิว ๆ ๆ มีกินฟรีป่ะ ;D >:D gin A rai free P' >:D mee tee nai ja evil.gifkow souy 5 $ num kow 5 $ gub kow 20 $ num kaew 1 $ 31 $ ;D ::) pa sri 7% ja ook bill ru pa ;D หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 06, 2009, 11:55:42 AM ;D
หอยลายผัดน้ำพริกเผา แกงจืดฟักไก่มะนาวดอง ผัดกระเพาเห็ดกุ้ง :o :o :o หอยลายล้างให้สะอาด หลายๆๆน้ำ ตำพริกแช่ให้หอยคลายโคลน ถ้ามีโคลนเวลาผัดน้ำมันจะดำดูไม่น่ากิงแล้วท้องอาจจะเสียได้ ใส่โหระพา น้ำพริกเผา กระเทียมตำหน่อย ผัดออกหวานเค็ม ;) ล้างไก่ เอาปีก น่อง ล้างให้สะอาด ต้มน้ำเดือดใส่ไก่ ใส่คนอร์ก้อนถ้าไม่ต้มโครงไก่ เดือดใส่น้ำมะนาวดองเคี่ยวไก่ให้เปื่อยหน่อย ตักฟองที่ลอยทิ้งด้วยจ้ะเอาแบบน้ำใสๆๆเลยน้ะ ปรุงรสใส่เกลือหน่อย ใส่ลูกมะนาวดอง เดือดใส่ฟัก ชิม ;) ล้างเห็ด หั่นกลาง เเกะกุ้งผ่าหลังเอาขี้มันออกตัดหัวทิ้ง เด็ดใบกระเพา เอากระเพาก้านแดงน้ะหอมดี ตำกระเทียมพริกขี้หนู ตั้งกะทะเจียวพริกกระเทียมพอเหลืองเอากุ้งใส่ผัดโรยเกลือ ซอสหอยนางรม ซอสถั่วเหลือง น้ำตาลทรายแดงนิดๆๆ ผัดๆๆใส่เห็ดลงไป ถ้าจะใส่น้ำใส่นิดเดียวน้ะจ้ะ เห็ดยุบตัวใส่ใบกระเพา ผัดอีกนิด ชิม ชิม ;D มื้อเช้า ;)มั่ยดั้ยทำมานาน ติชมดั้ยค่ะ ;D ;D ขอตัวปายนอนก่อน อิ่มเลี้ยววว ;D หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 06, 2009, 08:06:49 PM :D
มื้อเย็น ผัดคะน้าปลาเค็ม หมูอิ๊วหวาน ผลไม้ ทับทิม สัปประรด แอ็ปเปิ้ล มะยมดอง องุ่ณ ;) ล้างคะน้าเลือกใบแก่ๆออก หั่นก้านเฉียงๆๆไม่เอาก้านแก่ แยกใบกับก้านด้วยจ้ะ ปลาเค็ม ชิ้น ตำกระเทียมตีพริกสักหน่อย ตั้งกะทะ ใส่น้ำมันเจียวกระเทียม พริก ใส่ปลาเค็มผัดให้หอมๆๆใส่ก้านคะน้าผัดก่อน ตามด้วยใบ พอสุกแล้วค่อยปรุงรสเลือกเอาว่าหวานเค็มหรือ เค็ม เค็ม ;D หมูสันใน หั่นบางนิดๆๆ อย่าลืมล้างก่อนน้ะค่ะ หมักซอสหอยนางรม ปรุงรสนิดหน่อยเอามือคลุกให้ส่วนผสมเข้าไปในเนื้อหมู แช่ช่องฟิต ปิดให้เรีบยร้อยก่อนเข้าจะได้ไม่มีกลิ่นติดตู้เย็นจ้ะสักชั่วโมงน้ะเอาออกมา ทอดพอสุกใส่กะปิลงไปนิดๆๆน้ำตาลทรายแดง ปี๊บก็ได้ ซีอิ๊วดำอย่ามากเพราะมันมีกลิ่น ผัดจนน้ำมันจะแห้ง ยกลง ;) ;Dอิ่มไหมจ้ะอย่าลืมจ่ายตังค์ด้วย :o อิ อิ ;D หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: Neung99k ที่ ตุลาคม 06, 2009, 11:12:53 PM หอยลายผัดน้ำพริกเผา(ผัดผัวเบื่อ) แกงจืดฟักไก่มะนาวดอง(นารีลงสรง) ไม่ได้กินนานมากล่ะ ชื่อที่กำกับท้ายเป็นเมนูที่ร้านแถวบ้านที่บ้านโป่งเค้าใช่นะมีอีกหลายชื่อแปลก ๆ ;D
หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 07, 2009, 10:38:21 AM หอยลายผัดน้ำพริกเผา(ผัดผัวเบื่อ) แกงจืดฟักไก่มะนาวดอง(นารีลงสรง) ไม่ได้กินนานมากล่ะ ชื่อที่กำกับท้ายเป็นเมนูที่ร้านแถวบ้านที่บ้านโป่งเค้าใช่นะมีอีกหลายชื่อแปลก ๆ ;D มีผัดเมียเบื่อป่ะ (http://www.thaigold.info/forum/Smileys/extra/074.gif) (http://www.thaigold.info/forum/Smileys/extra/100.gif) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 07, 2009, 11:00:16 AM ;D
Good morning ja How are you doing? I'm fineeeeeeee ;D ปูผัดผงกระหรี่ แกงจืดมะระ ไปตลาดซื้อปู สามตัว ต้นหอม คื่นช่าย หอมหย่าญญญ ไข่ไก่ นมสด ผงรี่ น้ำพริกเผา ทุบกระเทียม ตั้งกะทะ ใส่น้ำมัน เจียวกระเทียมพอเหลืองใส่ปู ผัด ผลัด ผัดมาใส่หอมใหญ่ ไม่หย่าญญยยมั่ยส่ายย ;D อยากหั้ยหอมมันนิ่มๆๆทัมหั้ยหวานด้วยผัด ผลัด ผัด จนนนนนปูมีฟามสุกรอแป็บเตรียมไข่สองฟองตีผสมน้ำพริกเผานมสดผงรี่ ตีแรงๆๆหน่อยปูสุกก็เทใส่ไปเลย ใส่หอยนางรมนิดๆๆปรุงรสตามใจชอบผัดอย่านานไข่จะด้านไม่อะหร่อยน้ะ ;D หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: Neung99k ที่ ตุลาคม 07, 2009, 01:35:24 PM หอยลายผัดน้ำพริกเผา(ผัดผัวเบื่อ) แกงจืดฟักไก่มะนาวดอง(นารีลงสรง) ไม่ได้กินนานมากล่ะ ชื่อที่กำกับท้ายเป็นเมนูที่ร้านแถวบ้านที่บ้านโป่งเค้าใช่นะมีอีกหลายชื่อแปลก ๆ ;D มีผัดเมียเบื่อป่ะ ([url]http://www.thaigold.info/forum/Smileys/extra/074.gif[/url]) ([url]http://www.thaigold.info/forum/Smileys/extra/100.gif[/url]) มีแต่ยำเมียเบื่อได้ป่ะ ;D (ยำมะเขือเผา) :o หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 08, 2009, 04:19:07 PM หอยลายผัดน้ำพริกเผา(ผัดผัวเบื่อ) แกงจืดฟักไก่มะนาวดอง(นารีลงสรง) ไม่ได้กินนานมากล่ะ ชื่อที่กำกับท้ายเป็นเมนูที่ร้านแถวบ้านที่บ้านโป่งเค้าใช่นะมีอีกหลายชื่อแปลก ๆ ;D มีผัดเมียเบื่อป่ะ ([url]http://www.thaigold.info/forum/Smileys/extra/074.gif[/url]) ([url]http://www.thaigold.info/forum/Smileys/extra/100.gif[/url]) มีแต่ยำเมียเบื่อได้ป่ะ ;D (ยำมะเขือเผา) :o (http://www.thaigold.info/forum/Smileys/extra/59.gif) (http://www.thaigold.info/forum/Smileys/extra/Ha.gif) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 08, 2009, 04:37:03 PM ;D
เมนูวันนี้ ปลานิลทอดราดพริกแกง แกงจืดกระดูกหมูผักกวางตุ้ง ไข่เจียว(ผง)แหนม เดี๋ยวมาตั้งกะทะน้ะ ไปเก็บผ้าก่อนโฝนตกจ้ะ ;) ไปตลาดดดดดเลือกปลาตาใสๆๆๆๆขนาดกลางๆๆๆบอกแม่ค้าขอดเกล็ด ควั่กพุงด้วยจะ บั้ง ด้วยจะเอาไปดอดเราต้องเอามาล้างๆๆให้สะอาดลงเกลือให้ทั่วๆๆๆสเด็ดน้ำ น้ำมันทีทอดจะมั่ยกระเด็นมาก ส่ายยยน้ำมันเยอะหน่อย รอให้ควันขึ้นก่อนค่อยๆๆบรรจงวางปลาน้อยๆๆๆลงในกะทะ เปิดไฟอ่อนๆๆสักครู่ค่อยๆๆๆพลิกปลาทัมเบาๆๆ ปลาจะดั้ยมั่ยสะดุ้ง น้ำมันจะไม่กระเด็นโดนเราน้ะจ้ะ ;D สักคร๋ดูว่าปลาเหลืองน่าเจี๋ยะ เอากรอบก็ตามจัยชอบเลยค่ะยืนดูเลยน้ะเดี๋ยวปลาไหม้ เอาปลาใส่จานไว้ ตักน้ำมันออกหน่อย ใส่พริกแกงแดงลงไปผัดให้แตกมันหรือพอหอมพริกแกงส่ายหอมหย่าญญญซอยลงไปปรุงรสออกหวานเค็มเผ็ดใส่ปลาลงไปคลุก ใส่ใบโหระพา ตักใส่จานก่อน ใส่ท้อง ;D ต้องไปวัดแล้วมีรับกฐินที่บ้านทัมน้ำกะทิลอดช่องข้าวเหนียวดำรับกฐิน ::)เดี๋ยวหมดอดกิน ไปน้ะเดี๋ยวมาต่อ ;D มีวันดีๆๆในวันหยุดน้ะจ๊ะ ;D มาต่อ ต้มจืดกระดูกหมูกวางตุ้ง จะผัดกระดูกหมู เจียวกระเทียมก้อได้มันจะหนึบๆๆหน่อยเวลากินหอมกระเทียมเจียวอร่อยไปอีกแบบ แบบขี้เกียจก้อต้มน้ำพอเดือดมากๆๆใส่กระดูกหมูน้ะมั่ยชั่ยกระดูตัวเอง อิ อิเคี่ยวๆๆๆหน่อยถ้าเขี้ยวอยู่แล้วไม่ต้องเคี่ยวมาก เดี๋ยวเค็มจ้ะ ;Dใส่ ซุปก้อนไปหน่อยสักสอง ก้อนรอเดือดใส่ผักกดให้จม โมโหคร้ายยยยยยยมากด กด ให้จม อิ อิ :o ใส่น้ำมันพืชไปนิด นิด เอาให้ผักมันสีสวย เอาทัพพีเคลี่ยๆให้ทั่ว ปรุงรส นิดหน่อย น้ำปลา หรือเกลือก้อได้จ้ะ เดือด ยกลงจ้า ;D หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: cupid ที่ ตุลาคม 08, 2009, 11:14:01 PM หอยลายผัดน้ำพริกเผา(ผัดผัวเบื่อ) แกงจืดฟักไก่มะนาวดอง(นารีลงสรง) ไม่ได้กินนานมากล่ะ ชื่อที่กำกับท้ายเป็นเมนูที่ร้านแถวบ้านที่บ้านโป่งเค้าใช่นะมีอีกหลายชื่อแปลก ๆ ;D มีผัดเมียเบื่อป่ะ ([url]http://www.thaigold.info/forum/Smileys/extra/074.gif[/url]) ([url]http://www.thaigold.info/forum/Smileys/extra/100.gif[/url]) มีแต่ยำเมียเบื่อได้ป่ะ ;D (ยำมะเขือเผา) :o ([url]http://www.thaigold.info/forum/Smileys/extra/59.gif[/url]) ([url]http://www.thaigold.info/forum/Smileys/extra/Ha.gif[/url]) O0 :o :o :o ชวนกันเข้าครัวนะฮะ ;D O0 หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: Koongnoi ที่ ตุลาคม 13, 2009, 09:36:47 PM อ่านแล้วน้ำลายไหล ท้องร้องตามเรยค่ะ ขอบคุณเจ้าของกระทู้มากๆนะคะ จะได้ทำกับข้าวเป็นบ้างซักทีแระ
หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 19, 2009, 01:53:00 PM (http://fwmail.teenee.com/etc/img9/m204191.jpg)
(http://fwmail.teenee.com/etc/img9/m204194.jpg) (http://fwmail.teenee.com/etc/img9/m204195.jpg) (http://fwmail.teenee.com/etc/img9/m204193.jpg) (http://fwmail.teenee.com/etc/img9/m204190.jpg) (http://fwmail.teenee.com/etc/img9/m204189.jpg) (http://fwmail.teenee.com/etc/img9/m204188.jpg) (http://fwmail.teenee.com/etc/img9/m204186.jpg) (http://fwmail.teenee.com/etc/img9/m204184.jpg) (http://fwmail.teenee.com/etc/img9/m204182.jpg) ;D :o :o :o ;D หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 19, 2009, 07:06:19 PM ???tum mai pen na ja na gin mai ja ;)
นู๋กินเจ อยู่จ้ะ อาหารเจไม่เคยทำส่วนมาก กินอย่างเดียว เดี๋ยวไปถามแม่ก่อนน้ะจ้ะ ;D หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 20, 2009, 05:10:20 PM กะหล่ำปลีตุ๋นเห็ดหอมเจ
(http://www.siamdara.com/Picture_Girl/200910202470240.jpg) ส่วนผสม - กะหลำปลี 1 หัว - เห็ดหอมปรุงรส 4 ดอก - น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา - ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ - ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนชา - น้ำ 2 ถ้วย - น้ำมันพืชสำหรับทอด 1 ถ้วย วิธีการทำ 1. ล้างกะหล่ำปลี ผ่าเป็นสี่ส่วน ใส่กระชอน พักไว้ 2. ใส่น้ำมันในกระทะ ตั้งไฟให้ร้อน ใส่กะหล่ำปลี ทอดสักครู่ 3. วางกะหล่ำปลีในถ้วยตุ๋น ใส่เห็ดหอม 4. ผสมซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำ น้ำตาล น้ำ คนให้ส่วนผสมละลาย เข้ากันดี ราดบนกะหล่ำปลี นำไปตุ๋นประมาณ 30 นาที ;) ;) ;) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 21, 2009, 05:57:30 PM ก๋วยเตี๋ยวหลอดเจ (http://www.siamdara.com/Picture_Girl/200910219500260.jpg) ส่วนผสม - ก๋วยเตี๋ยวแผ่น 1 กิโลกรัม - เห็ดฟาง 3 ถ้วย - ถั่วงอก 1/2 กิโลกรัม - เห็ดหูหนู 1 ถ้วย - เต้าหู้ขาว 4 แผ่น เครื่องปรุง - งาคั่วบด 4 ช้อนโต๊ะ - ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ - พริกไทย 1 ช้อนชา - น้ำมันพืช 4 ช้อนโต๊ะ - น้ำตาลปีบ 1 ช้อนโต๊ะ - รากผักชี 5 ราก - เกลือ 1 ช้อนชา - ผงพะโล้ 1 ช้อนโต๊ะ - ซีอิ้วดำ 1 ช้อนโต๊ะ - หัวไชโป้วสับ 1 ถ้วย วิธีทำ - โขลกรากผักชี งาขาวคั่ว พริกไทย ให้ละเอียด - เห็ดฟาง เห็ดหูหนู ตัดโคนล้างน้ำให้สะอาด หั่นชิ้นเล็ก หรือ ใช้สับหยาบๆ ก็ได้ เต้าหู้ขาวหั่นชิ้นยาว - รากผักชี งา พริกไทยที่โขลกไว้ นำลงไปผัดกับน้ำมันพืชในกระทะจนเหลือง ใส่ซีอิ้วดำ น้ำตาลปีบ ผงพะโล้ เกลือ ผัดจนหอมดีแล้ว จึงใส่เต้าหู้ขาว เห็ดฟาง เห็ดหูหนู ผัดให้เข้ากัน (อย่าให้มีน้ำมากจะทำให้ห่อยาก) ชิมรสตามต้องการ - ล้างถั่วงอกให้สะอาด ลวกน้ำร้อน จัดใส่จาน - ตักเครื่องที่ผัดวางลงบนแผ่นก๋วยเตี๋ยว พับหัวท้ายแล้วห่อม้วนให้มีลักษณะกลมยาว ขนาดเล็กใหญ่ตามตามใจชอบ แล้วนำไปนึ่งในรังถึงจนร้อน จัดใส่จาน ใช้ถั่วงอกรองก้นจาน (หรือจะใช้ผักสลัดก็ได้) ตัดเป็นชิ้นพอคำ ราดด้วยซีอิ้วดำ พริกส้ม โรยด้วยผักชี วิธีทำน้ำซอสราด ซีอิ้วดำที่ราด ผสมกับน้ำสุกเล็กน้อยเพื่อให้เจือจางใส่น้ำตาลปีบ 1 ช้อนโต๊ะ พริกชี้ฟ้าแดง เหลือง และงาคั่วนำขึ้นตั้งไฟสักครู่พอสุกเพื่อไม่ให้้เหม็น เขียว ใส่เกลือเล็ก น้อยผสมน้ำส้มสำหรับใช้เป็นเครื่องปรุงรส บทความจาก : เว็บไซท์ members.tripod.com หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: soda ที่ ตุลาคม 23, 2009, 09:14:55 AM (http://images.temppic.com/23-10-2009/images_vertis/1256263956_0.26498100.gif) (http://www.temppic.com/img.php?23-10-2009:1256263956_0.26498100.gif)
หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 30, 2009, 11:15:21 AM (http://fwmail.teenee.com/cute/img2/m219316.jpg);D
(http://fwmail.teenee.com/cute/img2/m219313.jpg) (http://fwmail.teenee.com/cute/img2/m219311.gif) (http://fwmail.teenee.com/cute/img2/m219304.jpg) (http://fwmail.teenee.com/cute/img2/m219310.jpg) (http://fwmail.teenee.com/cute/img2/m219312.jpg) (http://fwmail.teenee.com/cute/img2/m219314.jpg) (http://fwmail.teenee.com/cute/img2/m219315.jpg) ;D have agood time kha enjoy eatting kha :D หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 30, 2009, 11:58:50 AM ;D
ราดหน้าหมูสับ ล้างผักกาดหอม ฉีกเป็นใบๆๆ เส้นหญ่ายยยยยยเอามาผัดใส่ซีอิ้วดำพอหอมๆๆๆๆ หมูสับ หอมใหญ่ แอนด์ มะเขือเทศ หั่นครึ่งหั่นสอยยาวสอยขวาง หั่นมันฝรั่งทรงลูกเต๋า กระเทียมตำ แอบสอยกุ้งสด ;)ใส่เห็ดด้วย ชอบ ;D แป้งมันละลายน้ำ ตั้งกระทะ เจียวกระเทียม เหลืองๆๆใส่หมู สับลงไปผัดแป็บนึงโรยเกลือนิดๆๆใส่มันฝรั่ง ตามด้วยหอมหย่าญ มะเขือเดต กุ้งสอย แอบต่อยไข่ส่ายยยไปหน่อย อิ อิ ปรุงรส นิดๆๆ ใส่แป้งมัน ค่อยๆๆใส่ เอาพอเหนียวนิดหน่อย พอชอบน้ะค่ะ จัดผักกาดหอมใส่จาน ตามด้วยเส้นใหญ่ ลาดเครื่อง ลงไป โรยพริกไทย อิ อิ แถมอาวุธ เดินไปหาที่นั่ง โส้ยได้ อิอิ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: brabus ที่ ตุลาคม 30, 2009, 04:50:54 PM อ่านไปหิวไป ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: dada ที่ ตุลาคม 30, 2009, 09:29:33 PM อ่านไปหิวไป ;D ;D ;D หิว ๆ กิน เยอะแยะนะ (รับรองไม่อ้วนนนน) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 31, 2009, 09:41:25 AM ;D
กิงไรดีวันหยุด ::) ข้าวผัดไข่ easy! easyyyyyyyy!!!!! ;D สำหรับคนเดียว ไข่หนึ่งฟอง ข้าวสวยหนึ่งถ้วย กระเทียมตำ เจียวกระเทียม ต่อยไข่ใส่ลงไป ใส่ข้าวสวยๆๆตาม ผัดๆๆๆๆปรุงตามใจชอบ หวานอมขมกลืน ก้อกิงได้ ฝีมือเราเอง ;)อิ อิ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: dada ที่ พฤศจิกายน 01, 2009, 01:41:05 AM หิว หิว ;D ;D ;D เพิ่ง กลับบ้าน มีรัยเหลือ ให้กิน ป่าว นะ :'( :'( :'(
หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: gypsy ที่ พฤศจิกายน 01, 2009, 03:44:15 PM ในหนึ่งสัปดาห์ ร่างกายควรได้รับอาหารทะเล อย่างน้อยก้อสักมื้อนึงเนาะ
ขอนำเสนอ .. ผัดเรือโป๊ะ ใช้กะทะเคลือบนะ เนื้อปลาจะได้ไม่ติดกะทะให้เสียอารมณ์ .... เริ่มผัดเครื่องแกงเขียวหวานในน้ำมันมะกอก โขลกพริกไทยดำพอแตกลงผัดด้วย พอหอมเครื่องแกง ก้อใส่ปูม้า(ตัวนึงผ่าสี่) แล้วตามด้วยหอยแมลงภู่(แกะเปลือกทิ้งข้างนึงก่อน) กุ้ง ปลาหมึก เนื้อปลากระพง(อย่าแร่บางเกินนะ) ปรุงรสตามชอบ ถ้าไม่หวานได้ จะดีมากๆ (ข้าเจ้า บ่อจ้อบหวาน) ถ้าตามสูตร น่าจะใส่เกลือหรือน้ำปลาแล้วแต่ชอบ เพราะใส่เครื่องแกงเขียวหวานแล้ว ไม่ควรปรุงด้วยน้ำมันหอย หรือพวกซ้อสปรุงรสอื่นอีก ผัดให้มีน้ำขลุกขลิก ... พอสุก ปิดแก๊ส เอาผักชีที่หั่นยาวๆเตรียมไว้ลงคลุกเคล้า ตักใส่จานเสริฟ สำหรับคนเบื่อพวกผัดกระเพรา ผัดฉ่า ผัดเผ็ดที่จำเจทั้งหลายแหล่ ... ทั้งหมด ก้อมีด้วยประการฉะนี้ :D หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤศจิกายน 01, 2009, 04:51:27 PM (http://www.thaigold.info/forum/Smileys/extra/17.gif)
อ้วนแล้วววววเรา ทัมมมมมมมมมงัยยยยดี (http://www.thaigold.info/forum/Smileys/extra/17.gif) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: nokeang ที่ พฤศจิกายน 01, 2009, 07:22:26 PM ([url]http://www.thaigold.info/forum/Smileys/extra/17.gif[/url]) อ้วนแล้วววววเรา ทัมมมมมมมมมงัยยยยดี ([url]http://www.thaigold.info/forum/Smileys/extra/17.gif[/url]) ก็หยุดกินสิจ๊ะ ;D หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤศจิกายน 03, 2009, 10:32:02 PM sa wat dee kha
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img7/56611.jpg) เครื่องปรุง - ส่วนผสม 1. ปลาทูน่าในน้ำมันพืชชนิดไขมันต่ำ 2. ขนมปังเบอร์เกอร์ 3. ถั่วแระญี่ปุ่นแกะเป็นเม็ด 4. ข้าวโพดแกะเป็นเม็ด 5. เกลือ 6. พริกไทย 7. เนยชนิดเค็ม 8. ผักกาดแก้ว 9. หัวหอมใหญ่หั่นเป็นแว่น 10. มะเขือเทศหั่นเป็นแว่น 11.ซอสมะเขือเทศ และมายองเนส ลงมือเข้าครัว 1. นำปลาทูน่าในน้ำมันพืชมายีให้ละเอียด จากนั้นใส่ข้าวโพด และถั่วแระญี่ปุ่นที่เตรียมไว้ลงไป คลุกให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยพริกไทย และเกลือเล็กน้อย 2. จากนั้นนำปลาทูน่ามาอัดเป็นแผ่นกลมๆ นำไปแช่ตู้เย็นช่องแข็งประมาณ 10 นาที 3. ตั้งกระทะใส่เนยชนิดเค็มลงไป จากนั้นนำปลาทูน่าที่แช่แข็งไว้ลงไปทอดให้เหลืองพอสุ ก ตักขึ้นพักไว้ 4. เมื่อทอดปลาทูน่าจนหมดแล้ว ล้างกระทะใหม่อีกครั้ง เพื่อทำการอุ่นขนมปัง 5. ตั้งกระทะ ใส่เนยชนิดเค็มลงไปเล็กน้อย เมื่อเนยเริ่มละลาย นำขนมปังเบอร์เกอร์ที่เตรียมไว้ใส่ลงไป เมื่อขนมปังเริ่มร้อนก็นำรีบนำขึ้น 6. การจัดเสิร์ฟ นำผักที่เตรียมไว้อย่างผักกาดแก้ว หัวหอมใหญ่ และมะเขือเทศ วางลงไปบนขนมปังด้านหนึ่ง จากนั้นวางปลาทูน่าตามลงไป ก่อนราดด้วยซอสมะเขือเทศ และมายองเนส ปิดทับด้วยขนมปังอีกส่วน เป็นอันพร้อมเสริฟ หากดูดีๆแล้ว เบอร์เกอร์ชิ้นนี้ไม่ใช่เป็นอาหารขยะ หรือ อาหารฟาสฟู้ด อย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่พร้อมไปด้วยคุณค่าทางอาหารครบทั้ง 5 หมู่ ที่เหมาะสำหรับทุกวัย. ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: cupid ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 08:19:49 AM ([url]http://www.thaigold.info/forum/Smileys/extra/17.gif[/url]) อ้วนแล้วววววเรา ทัมมมมมมมมมงัยยยยดี ([url]http://www.thaigold.info/forum/Smileys/extra/17.gif[/url]) ก็หยุดกินสิจ๊ะ ;D O0 ;D ;D ;D ระวังจะอ้วนเท่าแม่อุ๊หาดหญ่ายนะฮะ ;D ;D ;D O0 หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 10:22:56 PM ([url]http://www.thaigold.info/forum/Smileys/extra/17.gif[/url]) อ้วนแล้วววววเรา ทัมมมมมมมมมงัยยยยดี ([url]http://www.thaigold.info/forum/Smileys/extra/17.gif[/url]) evil.gif evil.gif evil.gif evil.gif ก็หยุดกินสิจ๊ะ ;D O0 ;D ;D ;D ระวังจะอ้วนเท่าแม่อุ๊หาดหญ่ายนะฮะ ;D ;D ;D O0 evil.gif evil.gif evil.gif อ้ายยยยยยยยยยยยยคิว.....บิด evil.gif วิ่งคิวอยู่แถวนั้ยยยยยย ....ห่ะ evil.gif หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: cupid ที่ พฤศจิกายน 10, 2009, 06:47:25 AM ([url]http://www.thaigold.info/forum/Smileys/extra/17.gif[/url]) อ้วนแล้วววววเรา ทัมมมมมมมมมงัยยยยดี ([url]http://www.thaigold.info/forum/Smileys/extra/17.gif[/url]) evil.gif evil.gif evil.gif evil.gif ก็หยุดกินสิจ๊ะ ;D O0 ;D ;D ;D ระวังจะอ้วนเท่าแม่อุ๊หาดหญ่ายนะฮะ ;D ;D ;D O0 evil.gif evil.gif evil.gif อ้ายยยยยยยยยยยยยคิว.....บิด evil.gif วิ่งคิวอยู่แถวนั้ยยยยยย ....ห่ะ evil.gif [/quote ;) อ้ายยยยยยยยยยยยป้าจัย จะให้นู๋ปายรับแถวไหนเหรอฮะ :P ;) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤศจิกายน 10, 2009, 11:06:04 PM ([url]http://www.thaigold.info/forum/Smileys/extra/17.gif[/url]) อ้วนแล้วววววเรา ทัมมมมมมมมมงัยยยยดี ([url]http://www.thaigold.info/forum/Smileys/extra/17.gif[/url]) evil.gif evil.gif evil.gif evil.gif ก็หยุดกินสิจ๊ะ ;D O0 ;D ;D ;D ระวังจะอ้วนเท่าแม่อุ๊หาดหญ่ายนะฮะ ;D ;D ;D O0 evil.gif evil.gif evil.gif อ้ายยยยยยยยยยยยยคิว.....บิด evil.gif วิ่งคิวอยู่แถวนั้ยยยยยย ....ห่ะ evil.gif [/quote ;) อ้ายยยยยยยยยยยยป้าจัย จะให้นู๋ปายรับแถวไหนเหรอฮะ :P ;) doo mun pood si na ow pai tum ka-num tob-tub evil.gif angel.gif laugh.gif หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤศจิกายน 10, 2009, 11:17:51 PM :)kid tung P'dj P'popeyes jung kha ;)
หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤศจิกายน 13, 2009, 04:29:08 AM angel.gif
Good morning kha วันนี้กิงไรดีค่ะ laugh.gifง่ำ ง่ำ อิ อิ (http://variety.teenee.com/foodforbrain/img7/68841.jpg) ส่วนผสม ข้าวสวยหุงสุก 1 1/2 ถ้วย น้ำซุปปลาแห้ง 4 ถ้วย กุ้งหรือปลา 200 กรัม ลูกชิ้นญี่ปุ่นตามชอบ ผักกาดขาว ผักกวางตุ้งไต้หวัน เห็ดหอม แครอท ข้าวโพดสด ตามชอบ คิโคแมน 2 ช้อนโต๊ะ สาเก 2 ช้อนโต๊ะ เกลือเล็กน้อย วิธีทำ ล้างข้าวสุกในน้ำสะอาดอย่างเบามือ เพื่อให้เม็ดข้าวร่วน เวลาต้มน้ำจะได้ไม่ขุ่น ลวกไก่ กุ้ง ปลา ในน้ำเดือดพอสุก ต้ม น้ำซุปปลาแห้งกับข้าว ใช้ไฟอ่อนจนข้าวเริ่มบาน ใส่ผักที่เตรียมไว้ และปลา กุ้ง ต้มจนสุก ปรุงรสด้วยคิโคแมน เกลือ สาเก ชิมรสตามชอบ ตักรับประทานร้อนๆ H&C Tips ถ้า จะให้เด็กรับประทาน ทำเป็นข้าวต้มหน้าไข่ก็ได้ โดยตีไข่ให้ละเอียด แล้วเทผ่านตะแกรงถี่ๆ ให้เป็นเส้น ตอกไข่ลงไปอีก 1 ฟองก่อนยกลง อย่าให้สุกมาก กุ้ง ปลา ลวกแค่พอสุก เพราะต้องนำไปต้มในน้ำซุปปลาแห้งอีก น้ำซุปจะซึมเข้าเนื้อ ทำให้อร่อยยิ่งขึ้น ปลาที่ใช้ควรเป็นปลาเนื้ออ่อน เช่น ปลากะพงขาว ปลาจะละเม็ด ปลาแซลมอน ส่วนผสมน้ำซุปปลาแห้งญี่ปุ่นสาหร่ายคอมบุ ขนาด 4x5 นิ้ว 1 ชิ้น ปลาแห้งญี่ปุ่น 2 ถ้วย น้ำเปล่า 4-5 ถ้วย วิธีทำน้ำซุปปลาแห้งญี่ปุ่น ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำหมาดๆ เช็ดสาหร่ายให้สะอาด แล้วนำไปแช่น้ำที่จะต้มอย่างน้อย 45 นาที นำ สาหร่ายกับน้ำที่แช่ไปตั้งไฟปานกลางจนเดือด ลดไฟลง ใส่เกล็ดปลาแห้งลงไปแล้วดับไฟทันที อย่าให้เดือดเพราะน้ำจะขุ่น ตั้งพักไว้ราว 10 นาที กรองน้ำนี้มาใช้ทำอาหาร H&C Tips ถ้าไม่มีสาหร่ายไม่ต้องใส่ก็ได้ แต่ถ้าใช้น้ำแช่สาหร่ายต้มจะได้กลิ่นหอมชวนกินยิ่งขึ้นนะคะ ขอบคุณ healthandcuisine หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤศจิกายน 16, 2009, 08:25:36 PM :D
sa wet dee kha too lazy kha angel.gif หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤศจิกายน 19, 2009, 09:59:15 PM :)
วันโน้นนนนนน้องสาวไปฟู้ดแลนด์ ได้ซื้อกุ้งแม่น้ำมา ::)แอบดูเค้าทำหั้ยไม้แควนกิง :-\ เค้าจับกุ้งล้างเปิดน้ำไหลผ่านสักครู่ดึงกรามออก ตัดปลายหนวดที่คมออก หงายท้องกุ้งล้างๆๆๆถ้ามีโคลน เอากะทะตั้งไฟเอากุ้งใส่ลงไปแย้วววพลิกไปพลิกมา :oจนสีกุ้งเปลี่ยนเป็นส้มจัด ถ้าชอบประมาณมิเดี่ยมระดับนี้ก้อกิงดั้ยค่ะแต่ถ้าชอบสุกอีกนิดจับใสไมโครเวฟสัก สองถึงสี่นาที :-* กุ้งจะหอมหวาน มันเยิ้ม :o ตำน้ำจิ้มซีฟู้ดเลยค่ะ กระเทียมพริกใส่ตามอัธยาปราศัยมะนาวน้ำปลา :'(นัมยายยั้ย laugh.gif angel.gif อิ อิ ปล ค่ะ มั้ยชั่ยเปล่าลืมก่อนที่จะลืม ตอนล้างกรามกุ้งทุบนิดๆๆน้ะค่ะ จะดั้ยแกะง่ายๆๆค่ะ ราคากิโลกรัมละหกร้อยนิดๆๆกุ้ง 4-6 ตัว หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤศจิกายน 20, 2009, 04:29:51 PM :)
mee kow chob gin anh laaw hai fan tum hai gin na ja ข้าวเหนียวเปียกข้าวโพด (http://variety.teenee.com/foodforbrain/img5/70532.gif) ส่วนผสม ? ข้าวเหนียว ๑ ถ้วยตวง หรือ ๑๖๕ กรัม ? น้ำ ๔ ถ้วยตวง หรือ ๙๐๐ กรัม ? น้ำตาลทราย ๑ ถ้วยตวงกับ ๒ ช้อนโต๊ะ หรือ ๒๐๐ กรัม ? ข้าวโพดดิบฝาน ๑๔๐ กรัม หรือประมาณ ๒ ฝัก ส่วนผสมหัวกะทิ ? หัวกะทิ ๑ กล่อง ประมาณ ๒๐๐ กรัม ? เกลือป่น ๑ ๑/๒ ช้อนชา หรือ ๖ กรัม ? แป้งข้าวโพด ๙ กรัม หรือ ๑ ๑/๒ ช้อนโต๊ะ ? ใบเตย (ถ้ามี) วิธีทำ ? ตั้งน้ำให้เดือดแล้วใส่ข้าวเหนียว ข้าวโพดดิบลงไป พอข้าวเหนียวเริ่มสุกเม็ดเริ่มบานได้ที่จึงค่อยเติมน ้ำตาลทราย เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ อย่าใส่น้ำตาลก่อนข้าวเหนียวสุกนะคะ ไม่เช่นนั้นข้าวเหนียวจะไม่สุก เพราะน้ำตาลไปรัดตัวข้าวเหนียวนะคะ ? ส่วนตัวน้ำกะทิราดหน้ากุ้งใช้ไมโครเวฟช่วยนะคะ ให้นำส่วนผสมที่ทำกะทำราดหน้าทั้งหมดเข้าไมโครเวฟ ใช้ไฟ high ประมาณ ๓ นาที จากนั้นนำออกคน แล้วเข้าต่ออีกประมาณ ๑ นาทีก็นำเสนอเตรียมเสริฟได้เลยค่ะ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤศจิกายน 21, 2009, 06:16:07 PM :)
(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/7/79/Eruca_sativa_1_IP0206101.jpg/180px-Eruca_sativa_1_IP0206101.jpg) วันนี้ไปเดินชิม เค้ก คุ้กกี้มา ฟรีด้วย อร่อยด้วย S&P ครบ 36 ปีค่ะ ดารา นักร้องเพียบค่ะ ถ่ายขนมเค้กมาตั้งเยอะแต่เอาออกจากมือถือมั่ยดั้ย ขออภัยด้วยน้ะค่ะ มาแนะนำ ผักทำสลัดค่ะ Rocket สี่ปีย้อนหลังแพงค่ะจานนี้อยู่ที่สามร้อยอัพร้านอาหารItalian แถวสุขุวิทกินกับกุ้งลายหรือLobsterน้ำสลัดใส ผักจะรสขมหน่อยค่ะแช่เย็นจะอร่อยกว่า วันนี้Rocket ถูกมั่กๆๆๆๆโครงการหลวงกล่องละ15บาทค่ะ :o :o :o :o :o เคยซื้อถูกสุดร้อยกว่าบาทค่ะ >:( เก็บได้นานค่ะลองชิมดูน้ะค่ะเช็ลทรัล ปิ่นเกล้าค่ะ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤศจิกายน 21, 2009, 06:26:54 PM :Dกินบ่อยๆๆมากเลยหาสูตรมาลองทำ angel.gif
(http://www.ezythaicooking.com/images/rf2-crispy-shrimp-with-green-mango-salad.jpg) (http://www.ezythaicooking.com/images/rf2-crispy-shrimp-with-green-mango-salad-1.jpg) เครื่องปรุง + ส่วนผสม * กุ้งขนาดกลาง 5-8 ตัว * เกล็ดขนมปัง 1/2 ถ้วยตวง * หอมแดงซอย 2 ช้อนโต๊ะ * มะม่วงดิบสับเป็นเส้น 1 ถ้วยตวง * น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ * น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ * พริกขี้หนูซอย 1/2 ช้อนชา * ถั่วงคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ (หรือเม็ดมะม่วงหิมพานต์) * พริกชี้ฟ้าแดงหั่นฝอย 1 ช้อนโต๊ะ * ผักชีสำหรับโรยหน้า * น้ำมันสำหรับทอด วิธีทำทีละขั้นตอน 1. ทำน้ำปรุงรสโดยผสมน้ำตาล, น้ำปลา, พริกขี้หนู, มะม่วงดิบและหอมแดงซอย เคล้ากันจนส่วนผสมเข้ากันทั่ว ตักใส่ถ้วยน้ำจิ้มเตรียมรอเสริฟ 2. ล้างทำความสะอาดกุ้ง ปอกเปลือกออก สับหยาบๆ จากนั้นจึงใส่เกล็ดขนมปังลงไป สับต่อจนเนื้อกุ้งละเอียดให้ละเอียด 3. ตั้งน้ำมันบนไฟร้อนปานกลาง นำกุ้งสับที่ผสมเกล็ดขนมปัง (ที่เตรียมไว้ในขั้นตอนที่ 2) ลงไปทอดจนเหลืองกรอบ จึงปิดไฟ นำออกมาสะเด็ดน้ำมัน จัดใส่จานโรยหน้าด้วยถั่วงคั่ว, พริกชี้ฟ้าและผักชี 4. เวลาเสริฟ สามารถแยกเสริฟระหว่างกุ้งฟูทอดกับน้ำปรุงรส หรือเสริฟโดยราดน้ำปรุงรสบน กุ้งฟูแล้วเสริฟทันที พร้อมข้าวสวยร้อนๆ หรือเป็นกับแกล้มก็ดี (http://www.hilunch.com/wp-content/uploads/2008/11/c2-d3-c1-d0-c1-e8-c7-a7-a1-d1-ba-a1-d8-e9-a7-bf-d9-small.jpg) เราชอบกินกุ้งเป็นคู่ อิ อิ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤศจิกายน 23, 2009, 07:21:52 AM หลนเต้าเจี้ยวถั่วเหลืองใส่ไข่
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img4/71075.jpg) ส่วนผสม เต้าเจี้ยว 1/4 ถ้วย ถั่วเหลืองต้ม 1ถ้วย มะพร้าว 300 กรัม พริกสด 5 เม็ด หอมเล็กซอย 3 หัว น้ำ 1.5ถ้วย น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ น้ำส้มมะขามเปียก 3 ช้อนโต๊ะ ไข่ 1 ฟอง วิธีทำ 1. คั้นกระทิใช้น้ำ 1 ถ้วย คั้นให้ได้น้ำ 2ถ้วย ช้อนเอาหัวกระทิ 1/2 ถ้วย 2. ตำเต้าเจี้ยวกับถั่วเหลืองให้ละเอียด 3. เคี่ยวกระทิพอแตกมัน ใส่เต้าเจี้ยวกับถั่วเหลืองที่ตำแล้ว ใส่น้ำตาล น้ำส้มมะขามเปียก ใส่หอมเล็กซอย ใส่พริกสดที่หั่นเป็นท่อนๆ 4. ต่อยไข่ใส่ลงหม้อส่วนผสม คนให้เข้ากัน ชิมรส รับประทานผักสด แตงกวา ผักกาดขาว กระหล่ำปลี หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: cupid ที่ พฤศจิกายน 23, 2009, 10:46:29 PM อ้วนแล้วววววเรา ทัมมมมมมมมมงัยยยยดี
(http://www.thaigold.info/forum/Smileys/extra/17.gif) evil.gif evil.gif evil.gif evil.gif [/quote] ก็หยุดกินสิจ๊ะ ;D [/quote] O0 ;D ;D ;D ระวังจะอ้วนเท่าแม่อุ๊หาดหญ่ายนะฮะ ;D ;D ;D O0 [/quote] evil.gif evil.gif evil.gif อ้ายยยยยยยยยยยยยคิว.....บิด evil.gif วิ่งคิวอยู่แถวนั้ยยยยยย ....ห่ะ evil.gif [/quote ;) อ้ายยยยยยยยยยยยป้าจัย จะให้นู๋ปายรับแถวไหนเหรอฮะ :P ;) [/quote] doo mun pood si na ow pai tum ka-num tob-tub evil.gif angel.gif laugh.gif [/quote] Smiley/Angry.gif (3017 ไบต์)แหม แหม ป้านู๋จัยทักว่าอ้วนนี่โกรธนู๋เลย แต่ยังไงยังไงนู๋ก็ประทับใจป้าตรงที่ขนาดโกรธนู๋ยังจะเอานู๋ไปทำขนมตุ๊บตั๊บอีก สมชื่อคอลัมภ์ชวนกันเข้าครัวเยย เรื่องกินนี่กับพี่จีร่าสามสิบยังแจ๋ว ต้องให้สมาชิกลงคะแนนโหวตแชมป์กันดีกว่า ว่าใครรับประทานเก่งกว่าใคร ดีไหมฮะ ;) ;) ;) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤศจิกายน 26, 2009, 12:01:38 PM (http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/0/0b/The_First_Thanksgiving_Jean_Louis_Gerome_Ferris.png/180px-The_First_Thanksgiving_Jean_Louis_Gerome_Ferris.png)
(http://i.infopls.com/images/wildTurkey.jpg) วันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving Day) เป็นวันฉลองการเก็บเกี่ยวที่เดิมเป็นการแสดงความขอบคุณต่อพระเจ้าเมื่อสิ้นฤดูเก็บเกี่ยว ขณะที่ที่มาเดิมมาจากเทศกาลที่เกี่ยวกับคริสต์ศาสนาแต่ในปัจจุบันวันขอบคุณพระเจ้าเป็นเพียงวันหยุดที่ไม่เกี่ยวข้องกับศาสนาที่ฉลองกันในสหรัฐอเมริกาและประเทศแคนาดา ในสหรัฐอเมริกา วันขอบคุณพระเจ้าจะตรงกับวันพฤหัสบดีที่สี่ของเดือนพฤศจิกายนของทุกปี ในขณะที่ในประเทศแคนาดาจะตรงกับวันจันทร์ที่สองของเดือนตุลาคม ประเพณีนี้เกิดขึ้นภายหลังจากการอพยพของชาวยุโรปมาที่ทวีปอเมริกาเหนือ ถึงแม้ว่าประเพณีนี้เป็นประเพณีหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับศาสนาคริสต์ที่ฉลองกันโดยบุคคลในทวีปอเมริกาทั้งที่เป็นคริสต์ศาสนิกชนและอื่นๆ แต่เป็นการฉลองที่มีที่มาที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของการตั้งถิ่นฐานในทวีปอเมริกาเหนือ ฉะนั้นเทศกาลนี้จึงไม่มีการฉลองกันในทวีปยุโรปหรือประเทศที่นับถือศาสนาคริสต์อื่นๆ ในวันขอบคุณพระเจ้านี้ชาวอเมริกันจะใช้เวลาอยู่ร่วมกับครอบครัวและรับประทานอาหารมื้อใหญ่ด้วยกัน โดยอาหารที่นิยมรับประทานจนเป็นประเพณีคือไก่งวง และนอกจากนี้ในเมืองนิวยอร์กจะมีขบวนพาเหรดที่มีชื่อเสียงจัดโดยห้างสรรพสินค้า เมซีส์ ในชื่อ เมซีส์เดย์พาเหรด (Macy's Day Parade) (http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/a/a3/Thanksgiving_Turkey.jpg/120px-Thanksgiving_Turkey.jpg)(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/f/f0/Macys-parade-1979.jpg/120px-Macys-)(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/6/66/Thanksgiving_oven.jpg/120px-Thanksgiving_oven.jpg) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤศจิกายน 26, 2009, 12:32:57 PM (http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/3/39/Champagne.jpg/90px-Champagne.jpg)(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/0/0b/Cooked_Heritage_Turkey.jpg/120px-Cooked_Heritage_Turkey.jpg)(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/7/73/Green_bean_casserole.jpg/120px-Green_bean_casserole.jpg)(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/b/b4/Our_%28Almost_Traditional%29_Thanksgiving_Dinner.jpg/120px-Our_%28Almost_Traditional%29_Thanksgiving_Dinner.jpg)(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/d/d2/Oven_roasted_brine-soaked_turkey.jpg/120px-Oven_roasted_brine-soaked_turkey.jpg)(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/1/16/Pumpkin_Pie_Spice.jpg/120px-Pumpkin_Pie_Spice.jpg)(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/0/0d/Thanksgiving_Chicken.jpg/120px-Thanksgiving_Chicken.jpg)(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/8/81/Thanksgiving_dinner.jpg/120px-Thanksgiving_dinner.jpg)(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/a/a4/Thanksgiving.jpg/69px-Thanksgiving.jpg)
(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/8/82/Wishbonephoto.jpg/120px-Wishbonephoto.jpg)(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/e/e8/Turkey2-AM.jpg/120px-Turkey2-AM.jpg)(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/0/04/TraditionalThanksgiving.jpg/120px-TraditionalThanksgiving.jpg)(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/2/2f/Thanksgiving_1918.jpg/120px-Thanksgiving_1918.jpg) (http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/e/e3/Queer_turkey.png/110px-Queer_turkey.png)(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/8/8a/TurkeyTumble07TurkeyHatAndEgg.jpg/108px-TurkeyTumble07TurkeyHatAndEgg.jpg) (http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/a/a5/Ronald_Reagan%2C_turkey_pardon.jpg/120px-Ronald_Reagan%2C_turkey_pardon.jpg)(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/e/e0/Bill_Clinton%2C_turkey_pardon.jpg/120px-Bill_Clinton%2C_turkey_pardon.jpg)(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/b/b3/John_F._Kennedy%2C_turkey_pardon.jpg/119px-John_F._Kennedy%2C_turkey_pardon.jpg) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤศจิกายน 26, 2009, 12:44:45 PM :-[หาสูตรไก่มั่ยเจอค่ะ :'(
เคยกินที่สยามพารากอนให้นิดเดี๋ยวเองงง :-[ Good day kha หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: Gap ที่ พฤศจิกายน 26, 2009, 04:58:46 PM :-[หาสูตรไก่มั่ยเจอค่ะ :'( เคยกินที่สยามพารากอนให้นิดเดี๋ยวเองงง :-[ Good day kha angel.gif จากินให้ "หย่อย" ต้อง แบบ คำห้อยท้ายของ พี่หนูใจ รอ ตุ่นให้เข้าเนื้อ ก่อน อร่อยยยยยยย :o :o :o have a good times. หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤศจิกายน 26, 2009, 09:45:33 PM :-[หาสูตรไก่มั่ยเจอค่ะ :'( เคยกินที่สยามพารากอนให้นิดเดี๋ยวเองงง :-[ Good day kha angel.gif จากินให้ "หย่อย" ต้อง แบบ คำห้อยท้ายของ พี่หนูใจ รอ ตุ่นให้เข้าเนื้อ ก่อน อร่อยยยยยยย :o :o :o have a good times. หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: your ที่ พฤศจิกายน 26, 2009, 09:54:43 PM :-[หาสูตรไก่มั่ยเจอค่ะ :'( เคยกินที่สยามพารากอนให้นิดเดี๋ยวเองงง :-[ Good day kha angel.gif จากินให้ "หย่อย" ต้อง แบบ คำห้อยท้ายของ พี่หนูใจ รอ ตุ่นให้เข้าเนื้อ ก่อน อร่อยยยยยยย :o :o :o have a good times. หาสูตรไก่ไม่เจอก็ ไปกินข้าวมันไก่หน้าเอ็มโพเรียม เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป เป็นร้านธรรมดามากริมถนน แต่รสชาติระดับห้างเชียวนะ น้ำจิ้มไก่เข้มข้น ไก่เนื้อนุ่ม เอาไปเลย 4 ดาว อีก 1 ดาวเราแอบเอาเก็บไว้ ;D หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤศจิกายน 26, 2009, 09:57:19 PM :-[หาสูตรไก่มั่ยเจอค่ะ :'( เคยกินที่สยามพารากอนให้นิดเดี๋ยวเองงง :-[ Good day kha angel.gif จากินให้ "หย่อย" ต้อง แบบ คำห้อยท้ายของ พี่หนูใจ รอ ตุ่นให้เข้าเนื้อ ก่อน อร่อยยยยยยย :o :o :o have a good times. หาสูตรไก่ไม่เจอก็ ไปกินข้าวมันไก่หน้าเอ็มโพเรียม เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป เป็นร้านธรรมดามากริมถนน แต่รสชาติระดับห้างเชียวนะ น้ำจิ้มไก่เข้มข้น ไก่เนื้อนุ่ม เอาไปเลย 4 ดาว อีก 1 ดาวเราแอบเอาเก็บไว้ ;D :o :o :o :o :o :o :o :o :o :o :o :o :o :o :o :o :o :o :o :o :o :o :o :o แมวยัวร์ อย่าลืมเปิดบ้านน้ะจะไปวิ่งเล่นด้วย อิอิหัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ธันวาคม 04, 2009, 09:03:48 PM :)
หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ธันวาคม 08, 2009, 05:50:54 PM :) (http://i644.photobucket.com/albums/uu164/exploadm/113.gif)(http://i644.photobucket.com/albums/uu164/exploadm/113.gif) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ธันวาคม 10, 2009, 06:39:32 PM :)
Good evening everybody สูตรอาหารน้ะค่ะก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตก (http://www.hewhew.com/images/recipe/recipe270.jpg) ส่วนผสม เนื้อหมู 1/2 กก. ตับหมู 300 กรัม ลูกชิ้นหมูและลูกชิ้นเอ็นหมู 1/2 กก. เส้นก๋วยเตี๋ยว (ใหญ่ เล็ก หมี่) ตามชอบ ถั่วงอก 1/2 กก. ผักบุ้งหั่นเป็นท่อน 1/2 กก. ต้นหอมผักชีหั่นฝอย 100 กรัม กระดูกเอียวเล้ง (กระดูกสันหลังหมู) 1 กก. อบเชย 1 ช้อนโต๊ะ โป้ยกั๊ก 3 ดอก ข่าทุบ 1 เหง้า กระเทียมบุบพอแหลก 10 กลีบ ผงพะโล้ 1 ซอง น้ำตาลกรวดก้อน 100 กรัม ซีอิ๊วดำ 2 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น 1 ช้อนชา เลือดหมูสด 1 ถ้วย เครื่องปรุง น้ำตาลทราย น้ำปลา พริกป่น พริกกระเทียมน้ำส้มดอง วิธีทำ 1. ล้างกระดูกเอียวเล้งให้สะอาด นำลงแช่ในน้ำเย็นประมาณ 1 ชั่วโมง 2. เติมอบเชย โป๊ยกั๊ก ข่าทุบ กระเทียมบุบ ผงพะโล้ นำขึ้นตั้งไฟกลางพอเดือดลดไฟลงเคี่ยวต่อไปเรื่อยๆ ปรุงรสด้วยซีอิ๊วดำ น้ำตาลกรวด เกลือป่น ชิมรสตาชอบ 3. หั่นเนื้อหมู ตับหมูเป็นชิ้นพอคำ นำไปลวกในน้ำเดือดจัดพอสุก ใส่ชามพักไว้ ลูกชิ้นลวกน้ำร้อนให้สุก ชิ้นขึ้นพักไว้ 4. ต้มน้ำสะอาดด้วยไฟแรงจัด พอน้ำเดือดลวกเส้นก๋วยเตี๋ยว ถั่วงอก ผักบุ้ง ใส่ลงในชาม ใส่เนื้อหมู ตับหมู ลูกชิ้น ตักเลือดหมูสดเล็กน้อยด้วยทัพพีลงลวกในน้ำซุปเดือดจัดๆ พร้อมตักน้ำซุปราดลงในชามก๋วยเตี๋ยว โรยหน้าด้วยต้นหอมผักชีหั่นฝอย 5. เสิร์ฟพร้อมเครื่องปรุงรสที่เตรียมไว้ ก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตก ส่วนผสมน้ำซุป น้ำสะอาด 50 ลิตร กระดูกหมู 2 กิโลกรัม เอ็นหมู 1 กิโลกรัม น้ำตาลกรวด 2 ก้อน เกลือ 1 ห่อเล็ก พริกไทยป่น 1-2 ห่อ เครื่องเทศ 1 กำมือ ใบเตย 1 กำ ซอสปรุงรส 1/3 ขวดใหญ่ ซีอิ้วดำ 1/2 ถ้วยน้ำซุป วิธีทำ นำหม้อก๋วยเตี๋ยวตั้งน้ำให้เดือด นำกระดูกหมูและเอ็นหมูซึ่งล้างแล้ว ใส่ลงไปปิดฝาทิ้งไว้ใช้ไฟปานกลางประมาณ 1/2 ชั่วโมง แล้วใส่น้ำตาลกรวด เกลือ พริกไทยป่น เครื่องเทศ ซอสปรุงรส ใบเตย ซีอิ้วดำ จากนั้นต้มไปอีกประมาณ 1/2 ชั่วโมง พอสังเกตเห็นมีน้ำมันจากกระดูกลอยในหม้อ เท่านี้ก็ได้น้ำก๋วยเตี๋ยวแล้ว จากนั้นตักเอ็นหมูขึ้นมาผึ่งไว้ให้เย็น เครื่องปรุง 1. เส้นก๋วยเตี๋ยว (เส้นเล็ก เส้นใหญ่ เส้นหมี่ และวุ้นเส้น) จัดเตรียมไว้ในตู้กระจก (เส้นหมี่ ควรแช่น้ำอุ่นให้เส้นคลายตัวเสียก่อน จึงน้ำขึ้นเพื่อให้สะเด็ดน้ำ ส่วนวุ้นเส้น ควรแช่ไว้ในน้ำเสมอเพื่อให้เส้นนิ่ม) 2. เนื้อหมูสด และตับหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ พอคำ วางไว้บนน้ำแข็ง เพื่อทำให้เนื้อหมูสดเสมอ 3. เอ็นหมูต้มเปื่อยนำมาหั่นเป็นก้อน 4. ลูกชิ้นหมู 5. เลือดหมูสดใส่ภาชนะ 6. ผักต่าง ๆ ล้างให้สะอาด - ผักบุ้ง หั่นเป็นชิ้น ๆ แช่น้ำไว้ - ถั่วงอก แช่น้ำไว้ - ผักชีฝรั่งหั่นฝอย7. เครื่องปรุง น้ำปลา น้ำตาลทราย พริกป่น ถั่วงคั่ว พริกน้ำส้ม (ให้นำพริกสดไปบดผสมกับน้ำส้มสายชู 1/2 แกลลอน และน้ำเต้าหู้ยี้ 2 ช้อน) แล้วใส่อุปกรณ์ ใส่เครื่องปรุงวางไว้บนโต๊ะทุกตัวเพื่อบริการลูกค้า วิธีทำ ลวกเส้นก๋วยเตี๋ยว (ตามที่ลูกค้าสั่ง) พร้อมถั่วงอกและผักบุ้งด้วยตะกร้อ ลวก ใส่ชามไว้ นำเนื้อหมูสด ตับ ลูกชิ้น ใส่ตะกร้อลวกพอสุกใส่ชาม ใส่เอ็นหมูต้มเปื่อย โรยหน้าด้วยผักชีหั่นฝอย ตักเลือด 1 ช้อนชา ใส่ใสชามปรุงอีกใบหนึ่ง ใช้กระบวยตักน้ำซุปที่ร้อนจัด ในหม้อก๋วยเตี๋ยวใส่ชามปรุง คนให้เข้ากันเสร็จแล้วนำไปเทใส่ในชามก๋วยเตี๋ยวที่จะเสิร์ฟลูกค้า น้ำก๋วยเตี๋ยวที่ใส่ต้องให้ขลุกขลิก อย่าให้น้ำเยอะจะไม่เข้มข้น แล้วนำไปเสิร์ฟลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าปรุงรสได้ตามใจชอบ น้ำซุปต้องต้มให้เดือดตลอดเวลา เพราะเวลาใส่เลือดแล้วจะได้ไม่เหม็นคาว การเสิร์ฟก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตก ควรมีแคบหมู ถั่วงอกดิบ ใบโหระพา ไว้บริการลูกค้าด้วย (http://www.smethai.com/shop/bangluang/images/prod_2009081615264980_1.jpg) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ธันวาคม 12, 2009, 12:43:41 PM :)
สวัสดีวันหยุด เกือบๆๆกลางเดือนน้ะค่ะอย่ารีบทำกระเป๋าแบนก่อนน้ะค่ะ วันนี้ไปเดินเล่นที่สวนลุมเค้ามีงานstreet show :-\จะเขียนผิดไหมเนี่ยยย อิ อิ ถึงพรุ่งนี้ค่ะ งานเริ่มบ่าย3 หรือ 4 angel.gif เกือบลืม ต่ะวานไปเดินถนนราชดำเนินค่ะ ไม่รู้จะบอกไงดีว่าถนนเส้นนี้สวยจังค่ะมีคนเดินตลอดสาย เนี๋ยถ้าไม่มาก็เสียดายตายแน่ๆๆ รู้ไหมว่าถนนเส้นนี้หาโอกาสเดินยากส์มั่กๆๆๆๆ ???อีกวันเดียวเองน้ะค่ะลองมาเดินดูค่ะ นั่งรถเมล์คิดเพลินๆๆน้ะค่ะเกี่ยวกับอาหาร ที่เราๆๆท่านๆกินเข้าไป ถ้าคนทำอาหาร คนปลูกพืช ผัก คนจับสวัตว์ คนเลี้ยงสัตว์ ไม่สนใจคนกิน จะใส่อะไรก็ใส่เช่นยาฆ่าแมลง หรือฟอร์มาริน แล้วคนที่กินๆๆเข้าไปล้มตายแล้วเค้าจะไปขายให้คร้ายยยยกิง :-X ยังไงก็ดีต้องดูแลเอาใจใส่ตัวเราเองหน่อยน้ะค่ะเลือกได้ก็โปรดเลือกหน่อย ดีต่อสุขภาพ ด้วยความปราถนาดีค่ะ นู๋จัยก๊ะ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ธันวาคม 12, 2009, 01:07:28 PM :)
ผัดผักหน้าจืด ตั้งชื่อเอง ก้อหน้าตามันจืด จิง จิง เห็ดฟาง 20 บาท บวบหอม สัก 4 ลูก พริกหยวกอย่างยาว สัก 5 อัน กระเทียมตำ ล้างๆๆๆๆหั่นเห็ดเป็นสองชิ้น ปลอกเปลือกบวบหอมแล้วหั่นสามเหลี่ยม พริกหั่นยาวๆๆแบ่งสัก สาม ตั้งกะทะเคาะเบาๆๆให้คนข้างๆรู้ว่าตัวว่าต้องกิน อิ อิ ใส่น้ำมันเล็กน้อย ใส่กระเทียมตำเจียวให้เหลืองหอมๆๆใส่ผักตาม เติมน้ำลงไปหน่อยจ้ะนิดๆผัดให้ผักหดตัวใส่น้ำตาลทรายแดงไปหน่อยเหยาะซอสหอยนางรมไปด้วยโรยเกลือตามนิดๆๆผัดอีกสักหน่อยก็ตักใส่จาน ยกไปให้คนข้างบ้านกิน laugh.gif laugh.gif แม่บอกว่าถ้าพริกมันเผ็ดหั่นแช่น้ำเกลือมันจะด้ายไม่เผ็ด ^-^ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: Neung99k ที่ ธันวาคม 14, 2009, 04:17:39 PM :) ไม่อยากกินเผ็ด..ก็อย่ากินพริกสิ ::) จะได้ไม่ต้องเปลืองเกลือ ^-^ผัดผักหน้าจืด ตั้งชื่อเอง ก้อหน้าตามันจืด จิง จิง เห็ดฟาง 20 บาท บวบหอม สัก 4 ลูก พริกหยวกอย่างยาว สัก 5 อัน กระเทียมตำ ล้างๆๆๆๆหั่นเห็ดเป็นสองชิ้น ปลอกเปลือกบวบหอมแล้วหั่นสามเหลี่ยม พริกหั่นยาวๆๆแบ่งสัก สาม ตั้งกะทะเคาะเบาๆๆให้คนข้างๆรู้ว่าตัวว่าต้องกิน อิ อิ ใส่น้ำมันเล็กน้อย ใส่กระเทียมตำเจียวให้เหลืองหอมๆๆใส่ผักตาม เติมน้ำลงไปหน่อยจ้ะนิดๆผัดให้ผักหดตัวใส่น้ำตาลทรายแดงไปหน่อยเหยาะซอสหอยนางรมไปด้วยโรยเกลือตามนิดๆๆผัดอีกสักหน่อยก็ตักใส่จาน ยกไปให้คนข้างบ้านกิน laugh.gif laugh.gif แม่บอกว่าถ้าพริกมันเผ็ดหั่นแช่น้ำเกลือมันจะด้ายไม่เผ็ด ^-^ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: cupid ที่ ธันวาคม 15, 2009, 09:46:49 AM :) ไม่อยากกินเผ็ด..ก็อย่ากินพริกสิ ::) จะได้ไม่ต้องเปลืองเกลือ ^-^ผัดผักหน้าจืด ตั้งชื่อเอง ก้อหน้าตามันจืด จิง จิง เห็ดฟาง 20 บาท บวบหอม สัก 4 ลูก พริกหยวกอย่างยาว สัก 5 อัน กระเทียมตำ ล้างๆๆๆๆหั่นเห็ดเป็นสองชิ้น ปลอกเปลือกบวบหอมแล้วหั่นสามเหลี่ยม พริกหั่นยาวๆๆแบ่งสัก สาม ตั้งกะทะเคาะเบาๆๆให้คนข้างๆรู้ว่าตัวว่าต้องกิน อิ อิ ใส่น้ำมันเล็กน้อย ใส่กระเทียมตำเจียวให้เหลืองหอมๆๆใส่ผักตาม เติมน้ำลงไปหน่อยจ้ะนิดๆผัดให้ผักหดตัวใส่น้ำตาลทรายแดงไปหน่อยเหยาะซอสหอยนางรมไปด้วยโรยเกลือตามนิดๆๆผัดอีกสักหน่อยก็ตักใส่จาน ยกไปให้คนข้างบ้านกิน laugh.gif laugh.gif แม่บอกว่าถ้าพริกมันเผ็ดหั่นแช่น้ำเกลือมันจะด้ายไม่เผ็ด ^-^ สุดยอดฮะพี่หนึ่งสุดหล่อ ;) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ธันวาคม 19, 2009, 12:22:57 PM :) ไม่อยากกินเผ็ด..ก็อย่ากินพริกสิ ::) จะได้ไม่ต้องเปลืองเกลือ ^-^ผัดผักหน้าจืด ตั้งชื่อเอง ก้อหน้าตามันจืด จิง จิง เห็ดฟาง 20 บาท บวบหอม สัก 4 ลูก พริกหยวกอย่างยาว สัก 5 อัน กระเทียมตำ ล้างๆๆๆๆหั่นเห็ดเป็นสองชิ้น ปลอกเปลือกบวบหอมแล้วหั่นสามเหลี่ยม พริกหั่นยาวๆๆแบ่งสัก สาม ตั้งกะทะเคาะเบาๆๆให้คนข้างๆรู้ว่าตัวว่าต้องกิน อิ อิ ใส่น้ำมันเล็กน้อย ใส่กระเทียมตำเจียวให้เหลืองหอมๆๆใส่ผักตาม เติมน้ำลงไปหน่อยจ้ะนิดๆผัดให้ผักหดตัวใส่น้ำตาลทรายแดงไปหน่อยเหยาะซอสหอยนางรมไปด้วยโรยเกลือตามนิดๆๆผัดอีกสักหน่อยก็ตักใส่จาน ยกไปให้คนข้างบ้านกิน laugh.gif laugh.gif แม่บอกว่าถ้าพริกมันเผ็ดหั่นแช่น้ำเกลือมันจะด้ายไม่เผ็ด ^-^ สุดยอดฮะพี่หนึ่งสุดหล่อ ;) doiw gon na ya pai nai low gon na evil.gif evil.gif evil.gif หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: cupid ที่ ธันวาคม 23, 2009, 06:47:08 PM :) ไม่อยากกินเผ็ด..ก็อย่ากินพริกสิ ::) จะได้ไม่ต้องเปลืองเกลือ ^-^ผัดผักหน้าจืด ตั้งชื่อเอง ก้อหน้าตามันจืด จิง จิง เห็ดฟาง 20 บาท บวบหอม สัก 4 ลูก พริกหยวกอย่างยาว สัก 5 อัน กระเทียมตำ ล้างๆๆๆๆหั่นเห็ดเป็นสองชิ้น ปลอกเปลือกบวบหอมแล้วหั่นสามเหลี่ยม พริกหั่นยาวๆๆแบ่งสัก สาม ตั้งกะทะเคาะเบาๆๆให้คนข้างๆรู้ว่าตัวว่าต้องกิน อิ อิ ใส่น้ำมันเล็กน้อย ใส่กระเทียมตำเจียวให้เหลืองหอมๆๆใส่ผักตาม เติมน้ำลงไปหน่อยจ้ะนิดๆผัดให้ผักหดตัวใส่น้ำตาลทรายแดงไปหน่อยเหยาะซอสหอยนางรมไปด้วยโรยเกลือตามนิดๆๆผัดอีกสักหน่อยก็ตักใส่จาน ยกไปให้คนข้างบ้านกิน laugh.gif laugh.gif แม่บอกว่าถ้าพริกมันเผ็ดหั่นแช่น้ำเกลือมันจะด้ายไม่เผ็ด ^-^ สุดยอดฮะพี่หนึ่งสุดหล่อ ;) doiw gon na ya pai nai low gon na evil.gif evil.gif evil.gif :P :P :P low mar 19 tunwa ni 23 tunwa lawe hai nu pai dai ru yung ha pa nujai :sleepy: :sleepy: :sleepy: ^-^ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ธันวาคม 23, 2009, 09:49:38 PM (http://widget.sanook.com/static_content/widget/full/graphic_1/0720/270720/146480a5d7431f8dd6fff2a627e15200_1229960435.gif) (http://widget.sanook.com/static_content/full/diy_1/2071/623071/79c09f8b3a2c96791e02af967bbca7fa_1261580713.gif) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ธันวาคม 31, 2009, 10:52:26 PM :)
(http://widget.sanook.com/static_content/widget/full/graphic_1/2252/590252/8402fe31ddbaa0b9988a3e174db24b48_1259729454.gif) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มกราคม 12, 2010, 09:28:25 PM ;D
สวัสดีค้ะ ต้มน้ำซุปน่องไก่ทานน้ะจ้ะ หอมหย่าญญ 3-4 หัว มันฝรั่ง 2 หัว แครอท 2 หัว มะเขือเทศลูกหย่าญญญญญย3-4 ลูก น่องไก่เล็ก สัก 9 น่อง หอมใหย่หั่น 4 มันฝรั่งหั่น 3 แครอทหั่น 8 มะเขือเตทหั่นตามใจชอบ ;D ล้างน่องไก่ให้สะอาด Smiley/Angry.gif (3017 ไบต์) ใส่น้ำครึ่งหม้อ พอเดือดใส่น่องไก่ ตามด้วยแครอท มันฝรั่ง หอมหย่าญญ มะเขือเตท น้ำเดือดตักฟองออกหน่อยค่ะ น้ำจะได้ใสเหมือนตาตั๊กแตน ปรุงรสตามใจชอบ ไม่ปรุงก็ได้ กินแบบธรรมชาติ เด่วมาต่อซุปข้น หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มกราคม 12, 2010, 09:36:07 PM ;D ถ้ากินเหลือน้ะค่ะ ตักเนื้อๆๆๆใส่เครื่องปั่นแล้วเอามาอุ่นหน่อย ขอบอกอะหร่อยจังฮู้!!!!!!!!!อิ อิสวัสดีค้ะ ต้มน้ำซุปน่องไก่ทานน้ะจ้ะ หอมหย่าญญ 3-4 หัว มันฝรั่ง 2 หัว แครอท 2 หัว มะเขือเทศลูกหย่าญญญญญย3-4 ลูก น่องไก่เล็ก สัก 9 น่อง หอมใหย่หั่น 4 มันฝรั่งหั่น 3 แครอทหั่น 8 มะเขือเตทหั่นตามใจชอบ ;D ล้างน่องไก่ให้สะอาด Smiley/Angry.gif (3017 ไบต์) ใส่น้ำครึ่งหม้อ พอเดือดใส่น่องไก่ ตามด้วยแครอท มันฝรั่ง หอมหย่าญญ มะเขือเตท น้ำเดือดตักฟองออกหน่อยค่ะ น้ำจะได้ใสเหมือนตาตั๊กแตน ปรุงรสตามใจชอบ ไม่ปรุงก็ได้ กินแบบธรรมชาติ เด่วมาต่อซุปข้น Smiley/Angry.gif หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: Neung99k ที่ มกราคม 13, 2010, 12:00:28 PM :) ไม่อยากกินเผ็ด..ก็อย่ากินพริกสิ ::) จะได้ไม่ต้องเปลืองเกลือ ^-^ผัดผักหน้าจืด ตั้งชื่อเอง ก้อหน้าตามันจืด จิง จิง เห็ดฟาง 20 บาท บวบหอม สัก 4 ลูก พริกหยวกอย่างยาว สัก 5 อัน กระเทียมตำ ล้างๆๆๆๆหั่นเห็ดเป็นสองชิ้น ปลอกเปลือกบวบหอมแล้วหั่นสามเหลี่ยม พริกหั่นยาวๆๆแบ่งสัก สาม ตั้งกะทะเคาะเบาๆๆให้คนข้างๆรู้ว่าตัวว่าต้องกิน อิ อิ ใส่น้ำมันเล็กน้อย ใส่กระเทียมตำเจียวให้เหลืองหอมๆๆใส่ผักตาม เติมน้ำลงไปหน่อยจ้ะนิดๆผัดให้ผักหดตัวใส่น้ำตาลทรายแดงไปหน่อยเหยาะซอสหอยนางรมไปด้วยโรยเกลือตามนิดๆๆผัดอีกสักหน่อยก็ตักใส่จาน ยกไปให้คนข้างบ้านกิน laugh.gif laugh.gif แม่บอกว่าถ้าพริกมันเผ็ดหั่นแช่น้ำเกลือมันจะด้ายไม่เผ็ด ^-^ สุดยอดฮะพี่หนึ่งสุดหล่อ ;) doiw gon na ya pai nai low gon na evil.gif evil.gif evil.gif :P :P :P low mar 19 tunwa ni 23 tunwa lawe hai nu pai dai ru yung ha pa nujai :sleepy: :sleepy: :sleepy: ^-^ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มกราคม 13, 2010, 10:58:20 PM :) ไม่อยากกินเผ็ด..ก็อย่ากินพริกสิ ::) จะได้ไม่ต้องเปลืองเกลือ ^-^ผัดผักหน้าจืด ตั้งชื่อเอง ก้อหน้าตามันจืด จิง จิง เห็ดฟาง 20 บาท บวบหอม สัก 4 ลูก พริกหยวกอย่างยาว สัก 5 อัน กระเทียมตำ ล้างๆๆๆๆหั่นเห็ดเป็นสองชิ้น ปลอกเปลือกบวบหอมแล้วหั่นสามเหลี่ยม พริกหั่นยาวๆๆแบ่งสัก สาม ตั้งกะทะเคาะเบาๆๆให้คนข้างๆรู้ว่าตัวว่าต้องกิน อิ อิ ใส่น้ำมันเล็กน้อย ใส่กระเทียมตำเจียวให้เหลืองหอมๆๆใส่ผักตาม เติมน้ำลงไปหน่อยจ้ะนิดๆผัดให้ผักหดตัวใส่น้ำตาลทรายแดงไปหน่อยเหยาะซอสหอยนางรมไปด้วยโรยเกลือตามนิดๆๆผัดอีกสักหน่อยก็ตักใส่จาน ยกไปให้คนข้างบ้านกิน laugh.gif laugh.gif แม่บอกว่าถ้าพริกมันเผ็ดหั่นแช่น้ำเกลือมันจะด้ายไม่เผ็ด ^-^ สุดยอดฮะพี่หนึ่งสุดหล่อ ;) doiw gon na ya pai nai low gon na evil.gif evil.gif evil.gif :P :P :P low mar 19 tunwa ni 23 tunwa lawe hai nu pai dai ru yung ha pa nujai :sleepy: :sleepy: :sleepy: ^-^ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: cupid ที่ มกราคม 15, 2010, 10:24:56 PM :) ไม่อยากกินเผ็ด..ก็อย่ากินพริกสิ ::) จะได้ไม่ต้องเปลืองเกลือ ^-^ผัดผักหน้าจืด ตั้งชื่อเอง ก้อหน้าตามันจืด จิง จิง เห็ดฟาง 20 บาท บวบหอม สัก 4 ลูก พริกหยวกอย่างยาว สัก 5 อัน กระเทียมตำ ล้างๆๆๆๆหั่นเห็ดเป็นสองชิ้น ปลอกเปลือกบวบหอมแล้วหั่นสามเหลี่ยม พริกหั่นยาวๆๆแบ่งสัก สาม ตั้งกะทะเคาะเบาๆๆให้คนข้างๆรู้ว่าตัวว่าต้องกิน อิ อิ ใส่น้ำมันเล็กน้อย ใส่กระเทียมตำเจียวให้เหลืองหอมๆๆใส่ผักตาม เติมน้ำลงไปหน่อยจ้ะนิดๆผัดให้ผักหดตัวใส่น้ำตาลทรายแดงไปหน่อยเหยาะซอสหอยนางรมไปด้วยโรยเกลือตามนิดๆๆผัดอีกสักหน่อยก็ตักใส่จาน ยกไปให้คนข้างบ้านกิน laugh.gif laugh.gif แม่บอกว่าถ้าพริกมันเผ็ดหั่นแช่น้ำเกลือมันจะด้ายไม่เผ็ด ^-^ สุดยอดฮะพี่หนึ่งสุดหล่อ ;) doiw gon na ya pai nai low gon na evil.gif evil.gif evil.gif :P :P :P low mar 19 tunwa ni 23 tunwa lawe hai nu pai dai ru yung ha pa nujai :sleepy: :sleepy: :sleepy: ^-^ Smiley/Angry.gif สุดยอดพี่หนึ่งเก้าเก้าเคตะหากฮะ คำคมเปรี้ยวจี๊ดจั๊ดนัก ฮิ ฮิ ไม่อยากกินเผ็ด..ก็อย่ากินพริกสิ : จะได้ไม่ต้องเปลืองเกลือ laugh.gif laugh.gif laugh.gif ;) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: Neung99k ที่ มกราคม 16, 2010, 04:08:27 PM ดีน่ะที่ไม่บอกว่า...ก็กินเกลือสิ...อย่ากินพริก..จะได้ไม่เผ็ด ฮิๆ ;D
หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มกราคม 16, 2010, 09:37:56 PM ;)
วันนี้ทำสปาเก็ตตี้ แต่ดึกแล้วน้ะพรุ่งนี้มาเขียนเร็สสะพี น้ะก๊ะ :sleepy:zzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzz หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: cupid ที่ มกราคม 18, 2010, 10:04:17 PM ดีน่ะที่ไม่บอกว่า...ก็กินเกลือสิ...อย่ากินพริก..จะได้ไม่เผ็ด ฮิๆ ;D *ellow_yellow_christmas_editio laugh.gif laugh.gif laugh.gif laugh.gif ฮาาาาาาาาาาาจิงจิงฮะ ไม่ดั้ยล้อเล่น ขำจิงจิง laugh.gif laugh.gif laugh.gif laugh.gif หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มกราคม 19, 2010, 11:46:17 AM ดีน่ะที่ไม่บอกว่า...ก็กินเกลือสิ...อย่ากินพริก..จะได้ไม่เผ็ด ฮิๆ ;D *ellow_yellow_christmas_editio laugh.gif laugh.gif laugh.gif laugh.gif ฮาาาาาาาาาาาจิงจิงฮะ ไม่ดั้ยล้อเล่น ขำจิงจิง laugh.gif laugh.gif laugh.gif laugh.gif >:( rai ja a man not looking good + a lady not too old :-X ;D หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มกราคม 20, 2010, 05:44:57 PM สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า
(http://btgsf1.fsanook.com/weblog/entry_gallery/178/890526/cafe_casta01__medium.jpg) วันนี้จะมาบอกสูตรอาหารจานโปรดนะคะ นั่นก็คือ....แอ่น แอ๊น แอ๊นนนนนนนน "สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า" นั่นเองค่ะ ชื่อดูอินเตอร์ เหมือนจะทำยากนะคะ แต่ความจริงแล้วทำไม่ยากอย่างที่คิดค่ะ มาลองทำตามกันดูนะคะ ........ ก่อนอื่นก็ต้องเตรีมเครื่องปรุงให้พร้อมค่ะ สูตรนี้สำหรับ 2 ที่นะคะ เครื่องปรุง - เส้นสปาเกตตี้ (หรือถ้าชอบพาสต้าก็ใช้ได้ตามชอบเลยนะคะ) 150 กรัม - เบคอนหมู (สับเป็นชิ้นเล็กๆ) ตามชอบค่า 1 ถ้วย -ไข่ไก่ทั้งฟอง 2 ฟอง - ไข่แดงอย่างเดียว 1 ฟอง - ชีสพามาซานขูด 2 - 3 ช้อนโต๊ะ (หรือตามชอบใจค่า) - นำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ - เนย - พริกไทยดำป่น 1 ช้อนชา - เกลือ มาดูวิธีทำกันค่ะ 1. ตั้งน้ำพอเดือด ใส่น้ำมันมะกอกไป 2 - 3 หยด และเกลือซักเล็กน้อยค่ะ 2. ใส่เส้นสปาเก๊ตตี้ลงไป กระจายให้เต็มหม้อต้มเลยค่ะ 3. ต้มทิ้งไว้ตามเวลาที่ระบุข้างห่อสปาเก๊ตตี้เลยค่ะ ส่วนมากจะใช้เวลาประมาณ 7-10 นาที คือจับเวลา 13 นาทีหลังนำเดือด หย่อนเส้นลงไป 4. ขณะที่กำลังต้มสปาเก๊ตตี้ ก็เริ่มทำซอสคาโบนาร่าได้เลยค่ะ ให้เอาไข่ไก่ 2 ฟอง และ ไข่แดงอย่างเดียว 1 ฟอง ใส่ในชามตีๆๆๆๆให้ฟูค่ะ 5. เติมพริกไทยดำป่น 1 ช้อนชา ชีสพามาซาน 1 ช้อนโต๊ะ และเกลือเล็กน้อย ตีให้เข้ากัน แล้วพักไว้ค่ะ 6. เตรียมกระทะสำหรับทอดเบคอนค่ะ ใส่เนยไปนิดนึงพอให้กระทะลื่น ๆ แต่ไม่ต้องใส่มากนะคะ เพราะเดี๋ยวจะได้น้ำมันเพิ่มจากการทอดเบคอนอีก 7. ใส่เบคอนลงไปเลยค่ะ คนไปคนมาจนเห็นมาเหลืองกรอบแล้วก็ปิดไฟเลยค่ะ 8. เขี่ยเบคอนพักไว้ข้างกะทะ 9. จากนั้นรอเส้นสปาเก๊ตตี้สุกค่ะ เมื่อเส้นสปาเก๊ตตี้สุกได้ที่ตามเวลาข้างห่อแล้วให้ไ ปเทเอาน้ำออกค่ะ 10. พอเอาน้ำออกหมด ก็ให้นำเส้นมาใส่ในกะทะที่พักเบคอนไว้ ทันที 11. จากนั้นให้เทไข่ที่เราตีไว้ในข้อ 4 และ 5 ผสมลงไปในกระทะเบอคอนเลยค่ะ ถึงขั้นตอนนี้ต้องปิดไฟก่อนที่จะเทไข่ลงไปนะคะ 12. น้ำไข่จะท่วมเส้นเยอะไปนิด แต่ไม่ต้องตกใจไป ให้คนๆ เส้นสปาเก๊ตตี้ เบคอน ไข่ให้เข้ากันเลย 13. คนไป คนมาไวๆ และระวังอย่าให้ไข่เป็นก้อนนะคะ ยังปิดไฟอยู่นะคะ เพราะความร้อนของเส้นสปาเกตตี้และความร้อนของน้ำมันม ะกอกที่ทอดเบคอนจะ ทำให้ซอสไข่ซึมเข้าไปในเส้นเองค่ะ 14. คนจนน้ำซอสจนเริ่มแห้งแต่ ไม่ต้องถึงกับแห้งมาก แต่ถ้าคนนานแล้วซอสยังไม่แห้งสักทีก็ให้เปิดไฟโดยใช้ ไฟอ่อน ๆ นะคะ คนจนซอสขลุกขลิก ๆ ค่ะ แล้วยกลง เสริ์ฟได้เลยค่ะ เวลาเสริ์ฟให้โรยชีสพามาซานพริกไทยดำป่น และเกลือ เพิ่มตามความชอบ แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน เป็นอันจบพิธีค่าาาาา ^^ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มกราคม 20, 2010, 05:48:20 PM มะกะโรนีกุ้ง
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img2/76686.jpg) เมนู อาหารกลางวัน สำหรับช่วงอากาศเปลี่ยน ช่วยต้านหวัด สามารถเพิ่มผักลงไปได้ตามใจชอบ สำหรับที่ทำในรายการไทยมุง จะเติมผักโขมลงไป หรือจะเติมบร็อคโคลีลวกก็ได้ค่ะ ส่วนผสม มะกะโรนีลวก 1 ถ้วยตวง กุ้งสดลวก 5-6 ตัว ไข่ไก่ 1 ฟอง หอมหัวใหญ่ 1 1/2 ช้อนโต๊ะ แครอท หั่นเต๋า 2 ช้อนโต๊ะ มะเขือเทศหั่นเต๋า ไม่เอาเมล็ด 2 ช้อนโต๊ะ มะเขือเทศเชอร์รี่ 4-5 ลูก ผักกาดหอม สำหรับตกแต่ง กะหล่ำปลี 1 ถ้วยตวง ขึ้นฉ่าย 4 ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1 1/2 ช้อนโต๊ะ ซอสมะเขือเทศ 3 ช้อนโต๊ะ เนยจืด เล็กน้อย วิธีทำ 1. ตั้งกระทะใส่เนยจืด พอร้อนใส่แครอท มะเขือเทศ หอมหัวใหญ่ ผัดให้หอม แล้วใส่ไข่ ผัดไข่ให้สุก 2. ใส่มะกะโรนีทีลวกแล้ว ผัดให้เข้ากัน แล้วใส่กุ้งที่ลวกไว้ ผัดให้เข้ากันอีกที 3. ใส่กะหล่ำปลี แล้วผัดให้พอสุก เติมเครื่องปรุง ชิมรสตามชอบ 4. ก่อนปิดเตาให้ใส่ขึ้นฉ่ายและมะเขือเทศเชอร์รี่ ผัดเพียงเล็กน้อย ตักเสิร์ฟ สูตรจาก โหระพาดอทคอม หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: your ที่ มกราคม 20, 2010, 06:34:31 PM อะหย่อยหมดเย้ย :P
หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มกราคม 20, 2010, 07:46:50 PM ;) วันนี้ทำสปาเก็ตตี้ แต่ดึกแล้วน้ะพรุ่งนี้มาเขียนเร็สสะพี น้ะก๊ะ :sleepy:zzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzz (http://googigg.exteen.com/images/Menu/Menu118/FreshTomato09.jpg) หน้าตาคล้ายๆๆกันเลยก็อปมาหั้ยดูก๊ะ ;D เส้นเลือกขนาด หรือรูปร่างแบบไหนก้อตามจัยชอบน้ะค่ะ นู๋ชอบเส้นเล็กๆๆบางๆๆสีเหลืองนวลๆๆ อิ อิ ลวกเส้นเลยน้ะก๊ะ ต้มน้ำใส่น้ำครึ่งหม้อพอน๋ะส่ายมากมันเปลืองจ้ะรอหั้ยน้ำเดือดก่อนสาดเกลือลงไปหน่อยจ้าอธิฐานด้วย โอมเพี้ยงงงจงอะหร่อย ;D น้ำเดือดมั่กๆๆหน่อยค่อยๆๆบรรจงวางเส้นลงไปเท่าที่จะกินจ้ะจากนั้นทัมจัย.....หั้ยเย็งงงก่อง ไปเตรียมน้ำราดดีว่า ดังนี้ มะเขือเทศเอาลูกแดงที่สุดน้ะจ๊ะ กิงไปแก้มจะดั้ยแดงๆๆๆ อิ อิขอเยอะๆๆหั่นบางๆๆเล็กๆๆหั่ยเหมือนลูกเต๋าเลยจ้ะ มันฝรั่งหั่นพอๆๆก่ะมะเขือเตท หอมหย่าญญญญเล็กมั่ยเอาเพราะมั่ยหย่าญญญ ;D สอยๆๆฝอยๆๆอย่าร้องให้ น้ะต่ะเอง :sleepy: แครอท อยากหั้ยแก้มเธอแดง เหมือนสาวดอยจ้ะ หั่นเหมือนๆๆกัน เห็ดหอมสด ชอบโดยส่วนตัวรสชาติมันนุ่มๆหนึบๆๆ ;)หั่นเล็กๆๆให้ออกมาสามเหลี่ยมเล็กๆๆก่ะ หมูบด กุ้งหั่นเล็กๆๆ หั่นหย่าญญญญญญญญมันเปลือง ;D ตัดหัวทิ้งเอาขี้ออกด้วยจ้ะ Smiley/Angry.gif (3017 ไบต์) ตำกระเทียมหน่อย ทุกอย่างกรุณาล้างหั้ยสะอาดน่ะจ้ะ ตั้งกะทะรอให้ร้อนก่อนสังเกตุควันลอยขึ้นรอบๆๆกะทะ นิดหน่อยใส่น้ำมันเจียวกระเทียม พอเหลืองใส่หมูบดผัดพอสุกใส่กุ้งผัดตามแครอท ผัดๆๆใส่มันฝรั่งผัดๆๆๆใส่หอมหย่าญญญผัดๆๆใส่มะเขือเทศผัดๆๆๆๆ ตอกไข่ใส่แล้วผัดๆๆๆๆใส่ซอสมะเขือเทศตาม ซอสพริก ด้วยค่อยๆๆเติมน้ำดูว่ากินกี่คนเคี่ยวไปเรื่อยๆๆจนว่าคนกิงจะลดลง ประมาณรอมั่ยไหวไปหาอย่างอื่นกิง อิ อิ ;D ปรุงรสตามชอบไม่ปรุงก้อดั้ย ชิมดูน้ะก่อง กินไป:Pสามชาม :P :sleepy: ;Dโรยผักชีบ้านเรากินง่ายๆๆ ;D ลืมต่อ ต้มเส้นดูว่านิ่มแค่ไหนแล้วตักขึ้นมาชิมดูว่านุ่มไหมหรือเอาปาใส่ผนังถ้าติดผนังก้อ โอเช่ ค้ะ แต่ผนังบ้านเรามีหลายแบบ ชิมด้วยดีกว่า ดั้ยจัยแล้ว เอาน้ำร้อนออก ใส่น้ำเย็งเขย่าๆๆ เทออก โรยน้ำมันพืชเขย่าๆๆหน่อยจ้ะ Smiley/Angry.gif สูตรนู๋จัยเองค่ะ ;D ขอบอกทัมจัยกิงหน่อยน้ะ :P อิ อิ ทีวัดจำนวนคนกิน(http://www.bloggang.com/data/gooddog/picture/1210953643.jpg) กำลังหัดทำวุ้นกะทิอยู่ มีสูตรอร่อยๆๆบอกมั่งไหมค้ะ :) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มกราคม 21, 2010, 07:13:22 PM อะหย่อยหมดเย้ย :P ;Dอะหย่อย จริง จิงน้ะ งั้น จ่ายมาด้วย 2,500B พอดีน้ะ ;D กันเองน้ะ ;)หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มกราคม 21, 2010, 08:15:37 PM (http://sl.glitter-graphics.net/pub/103/103666yct142nkgd.gif)(http://sl.glitter-graphics.net/pub/131/131544reaheg4vv1.gif)(http://sl.glitter-graphics.net/pub/103/103666yct142nkgd.gif)
หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มกราคม 22, 2010, 09:22:26 PM พาสต้าผงกะหรี่ซีฟู้ด
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img0/78135.jpg) ส่วนผสม กุ้งสดแกะเปลือก??????....................???...150 กรัม ปลาหมึกสดบั้ง??????......................????200 กรัม หอยเชลล์???????.......................????5 - 10 ตัว หอมใหญ่หั่นเสี้ยว????......................??????1 หัว พริกหวานสีแดง สีเขียว สีเหลืองหั่นเฉียง...???..200 กรัม ขึ้นฉ่ายหั่นท่อน??????....................????...5 0 กรัม ไข่ไก่??????????............................???..2 ฟอง น้ำมันพริกเผา ??????......................?????2 ช้อนโต๊ะ นมสด??????????............................??...? ถ้วยตวง กระเทียมสับ??????.......................?????..1 ช้อนโต๊ะ ผงกะหรี่?????????..........................???...1 ช้อนโต๊ะ น้ำมันหอย???????........................????....3 ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วขาว????????..........................????..1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย??????.......................?????..1 ช้อนชา เส้นพาสต้าต้มสุก น้ำมันพืช วิธีทำ 1. ตั้งกระทะใส่น้ำมัน เจียวกระเทียมพอหอม นำปลาหมึก กุ้ง หอยลงผัดพอสุก ใส่หอมใหญ่ พริกหวาน 2. ใส่ผงกะหรี่ลงผัดพอหอม ใส่ไข่และน้ำมันพริกเผา ผัดให้ไข่สุก เติมนมสดปรุงรสด้วยน้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย ชิมรสให้กลมกล่อม จึงใส่ขึ้นฉ่ายลงผัดพอสุก ตักขึ้น 3. ตักซีฟู้ดผงกะหรี่จัดวางบนเส้นพาสต้าที่ต้มสุกให้น่า รับประทาน ดูหนังสือ " Pocket Book สอนทำอาหาร " หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: cupid ที่ มกราคม 23, 2010, 01:36:42 AM หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มกราคม 24, 2010, 07:10:29 PM วิธีทำแกงส้มให้อร่อยเริด :)
นอกจากตัวน้ำพริกแกง ที่มีความสำคัญแล้ว ขั้นตอนการปรุง และสัดส่วน ระหว่างน้ำแกงกับผัก ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ในอันที่จะทำให้แกงส้มได้อร่อย เริ่มตั้งแต่ตั้งน้ำในหม้อ ต้องให้น้ำเดือดก่อนถึงใส่พริกแกง (น้ำแกงจะได้หอม) หลังจากใส่น้ำพริกแกง ลงไปแล้วให้ใช้ไฟกลาง ให้น้ำพริกแกงเดือดสักครู่ใหญ่ ถ้ารีบใส่ผักกับเครื่องอื่น ๆ ลงไป จะได้แกงส้มที่มี รสเผ็ดแบบแผด ๆ ไม่กลมกล่อม หลังจากเคี่ยวน้ำพริกแกงสักครู่แล้ว จึงใส่ผักลงต้มจนผักสุกนุ่ม จึงใส่เนื้อปลาหรือกุ้ง ยกเว้น กรณีแกงส้มผักกระเฉด ให้ใส่ปลาปรุงรส รอจนน้ำเดือด จึงใส่ผักกระเฉดเป็นอันดับสุดท้าย แล้วปิดเตาทันที เพราะผักกระเฉด หากถูกความร้อนนานจะเหนียว ทานไม่อร่อย แกงส้มปลา ความใช้ปลาที่สดใหม่ ยังไม่แช่เย็น จะได้เนื้อปลาที่นุ่ม อร่อย ไม่ยุ่ย ถ้ากลัวว่าแกงแล้วจะคาว ให้นำปลาหั่นเป็นชิ้นตามต้องการ นำไปลวกครั้งหนึ่งก่อน แล้วค่อยนำไปแกง แต่ถ้าปลาไม่ค่อยสด หรือเป็นปลาแช่เย็น แนะนำให้นำไปทอดก่อน ให้พอเหลือง แล้วค่อยนำมาแกงจะดีกว่า เคล็ดลับสุดยอด ถ้าอยากได้แกงส้มที่มีน้ำเข้มข้น ให้ผสมเนื้อปลา ลงในน้ำพริกแกงก่อนนำไปแกง มีวิธีการตามนี้นะคะ นำเนื้อปลาที่จะใช้ แบ่งออกมาเล็กน้อย นำไปต้มจนสุก จากนั้นแยกก้างออก นำไปโขลกในครกให้เนื้อปลาแตก จากนั้น ใส่น้ำพริกแกงส้ม ที่เตรียมไว้ลงไปโขลกรวม แล้วจึงนำไปแกง ตามขั้นตอนปรกติ จะได้น้ำแกง ของแกงสัมที่เข้มข้นขึ้น เสริมค่ะ ผักมีหลายอย่างเลือกตามจัยชอบน้ะค่ะสักสามอย่างเลือกเอาหั้ยมีสีสรรบ้างก็จะน่ากิง ปลาก็เลือกเอาตามใจชอบ ปลาช่อน ปลา2 กลัวปลามีกลิ่นก็ยี ยี ใบมะกรูด หรือ ทุบกระชายลงไปหน่อย อย่าลืมโรยเกลือลงไปนิดหน่อยก่องน้ะจะ อธิฐานไปด้วย โอมมมมมมมมมม!เพี้ยงงงง จงอะหร่อย ;D เค้าว่าถ้าบ้านไหนจะหาลูสะภ้ายก็จะมาฟังการโขลกน้ำพริก มั่ยอยากจ่ะโม้เนี่ยยยยยยสุดยอด Smiley/Angry.gif ปล.แม่นั่งกำกับอยู่เลยรีบๆๆทัม อิ อิ ;D หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มกราคม 24, 2010, 07:21:13 PM แกงส้มผักรวม เมนูสุดอร่อยวันนี้ถ้าได้ลองทำแล้วจะรู้ว่ามันไม่ยากเลย มาดูวิธีทำ แกงส้มผักรวม กันเลย (http://www.panyathai.or.th/wiki/images/1198577760.jpg) :) เครื่องปรุง ดอกกระหล่ำ หัวไช้เท้า ปลาแดง ตะไคร้ กระชาย หอมแดง เกลือ กระปิ พริกแห้ง น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก :)วิธีการทำ (http://www.panyathai.or.th/wiki/images/1198566329.jpg) ดอกกระหล่ำ (http://www.panyathai.or.th/wiki/images/1198566455.jpg) หัวไช้เท้า (http://www.panyathai.or.th/wiki/images/1198567318.jpg) นำปลาแดง ถอดเกร็ด ไส้พุงออกให้หมด (http://www.panyathai.or.th/wiki/images/1198568618.jpg) ตั้งหม้อ ใส้น้ำ ต้มน้ำให้เดือด ใส่น้ำนิดเดียวพอ (http://www.panyathai.or.th/wiki/images/1198568881.jpg) นำปลาที่ต้มสุกแล้วมาแกะเอาแต่เนื้อปลา (http://www.panyathai.or.th/wiki/images/1198570769.jpg) ตะไคร้ กระชาย หั่นเฉียง ๆ มาตำรวมกัน พร้อมใส่เกลือ (http://www.panyathai.or.th/wiki/images/1198571442.jpg) ใส่กระปิ และหอมแดงลงไปตำรวมกัน แล้วตักพักใส่ถ้วยไว้ (http://www.panyathai.or.th/wiki/images/1198571700.jpg) นำพริกแห้ง แช่น้ำไว้ให้นิ่ม (http://www.panyathai.or.th/wiki/images/1198572227.jpg) นำมาหั่นแบบนี้ค่ะ เพื่อที่เวลาตำจะตำได้ง่ายขึ้น (http://www.panyathai.or.th/wiki/images/1198572288.jpg) แล้วตำให้ละเอียด (http://www.panyathai.or.th/wiki/images/1198572379.jpg) ตามด้วยเนื้อปลา และพริกแกงที่ตำตอนแรกลงไป (http://www.panyathai.or.th/wiki/images/1198572465.jpg) เสร็จเรียบร้อย เครื่องแกงส้ม หน้าตาแบบนี้ (http://www.panyathai.or.th/wiki/images/1198572995.jpg) ต้มน้ำให้เดือน แล้วใส่เครื่องแกงส้มลงไป (http://www.panyathai.or.th/wiki/images/1198573287.jpg) ค้นให้เข้ากัน (http://www.panyathai.or.th/wiki/images/1198573365.jpg) แล้วก็ใส่ผักลงไป (http://www.panyathai.or.th/wiki/images/1198573510.jpg) ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก (http://www.panyathai.or.th/wiki/images/1198577760.jpg) เรียบร้อยแล้ว แกงส้มผักรวม หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มกราคม 27, 2010, 09:55:44 PM ผัดผักบุ้งไฟแดง
ผักบุ้ง 1 กำ กระเทียบ 2 กลีบ พริก 2 เม็ด ซอสหอยนางรม 1 ชต. ซอสปรุงรส 1/2 ชต. เต้าเจี้ยว 1 ชต. น้ำตาลทราย 1 ชต. น้ำเปล่า 6-7 ชต. (http://i618.photobucket.com/albums/tt266/sodazaar/cooking/P1040211-vert.jpg) ตัดรากออกไม่ต้องขี้เหนียวน้ะจ้ะแล้วอย่าลืมล้างน้ำหั้ยสะอาด ;D (http://i618.photobucket.com/albums/tt266/sodazaar/cooking/P1040213-vert.jpg) เด็ดเอาก้อดั้ยต้นหนึ่งก้อสักสอง-สามท่อน พอค่ะ (http://i618.photobucket.com/albums/tt266/sodazaar/cooking/P1040215-vert.jpg) กระเทียมตำพร้อมพริกขี้หนูก้อดั้ยอันนี้เผ็ด มั่ยเผ็ด ทุบกระเทียม หยาบๆๆหั่นพริกชี้ฟ้าตามรูป มั่ยกิงเผ็ดจ้ะ มั่ยกิงเป็ด ;D (http://i618.photobucket.com/albums/tt266/sodazaar/cooking/P1040218-vert.jpg) น้ำมันหอย (http://i618.photobucket.com/albums/tt266/sodazaar/cooking/P1040220-vert.jpg) (http://i618.photobucket.com/albums/tt266/sodazaar/cooking/P1040221-vert.jpg) (http://i618.photobucket.com/albums/tt266/sodazaar/cooking/P1040223-vert.jpg) (http://i618.photobucket.com/albums/tt266/sodazaar/cooking/P1040225-vert.jpg) (http://i618.photobucket.com/albums/tt266/sodazaar/cooking/P1040230-vert.jpg) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มกราคม 29, 2010, 05:37:26 PM วันนี้ซื้อปลากระพงมา สด มั่กๆๆๆ ทำไรดีก๊ะ ;D
เครื่องปรุง เนื้อปลากะพง 350 กรัม กระเทียมกลีบใหญ่ 3 กลีบ พริกชี้ฟ้า 2 เม็ด ใบโหระพา 1/2 ถ้วย กระชาย 5 แง่ง พริกไทยอ่อน 5 ช่อ น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ ซีอิ้วขาว (หรือน้ำปลา) 2 ช้อนชา น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา เกลือป่น 1 ช้อนชา น้ำมัน 3 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ 1. นำเนื้อปลากะพงมาล้างน้ำให้สะอาด ซับน้ำให้แห้ง โรยเกลือป่นให้ทั่วชิ้นปลา แล้วสไลด์เป็นชิ้นขนาดประมาณ 2 นิ้ว 2. ปลอกเปลือกกระเทียม เด็ดขั้วพริก นำไปล้างน้ำให้สะอาด ซับน้ำให้แห้งแล้วนำมาหั่นเป็นท่อนๆ จากนั้น นำไปโขลกพอหยาบ 3. นำใบโหระพาและกระชายไปล้างน้ำให้สะอาด สะเด็ดน้ำให้แห้ง จากนั้น นำกระชายมาซอยเป็นเส้นฝอยๆ และเด็ดโหระพาเป็นใบๆ 4. เปิดเตาที่ไฟปานกลาง ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไป พอน้ำมันเริ่มร้อน ให้นำปลากะพงที่หั่นไว้ลงไปทอดจนสุก จากนั้น ตักขึ้นพักไว้ (อย่ากลับบ่อยนะคะเดี๋ยวปลาเละ) 5. นำพริกกระเทียมที่โขลกไว้ลงไปผัดต่อจนหอม ใส่เนื้อปลา กระชายหั่นฝอย และพริกไทยสดลงไป 6. ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย ซีอิ้วขาว (หรือน้ำปลา) และน้ำตาลทราย ผัดให้เข้ากัน ก่อนปิดเตาใส่ใบโหระพาลงไป ผัดจนทั่วจึงปิดเตา และยกลงได้ 7. ตักใส่จาน จากนั้นก็ยกเสิร์ฟได้เลยค่ะ หมายเหตุ ล้างปลาต้องให้สะเด็ดน้ำหน่อยน้ะค้ะ เวลาทอดหาฝามาครอบหน่อยน้ำมันอาจกระเด็น ร้อนจ้า (http://www.siamfishing.com/content/upload2009/200906/12451548761.jpg) นู๋จัยมั่ยกิงเป็ต ผัดใบคึ่นฉ่ายดีก่า อิ อิ (http://www.bloggang.com/data/tuk-tukatkorat/picture/1253852563.jpg) ทอดปลาชิ้นยากส์จัง(http://www.thaigold.info/forum/Smileys/extra/17.gif) แม่บอกว่านู๋จัยทอดปลา ปลามันทะเลาะกัน(http://www.thaigold.info/forum/Smileys/extra/102.gif)มันมั่ยเป็งชิ้นมันตะลุมบอนกัน :-X อิ อิ คราวหน้าแม่จะทอดหั้ยนู๋จัย ;D หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 09:05:50 PM มะระขี้นกยัดไส้
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img5/79111.jpg) ส่วนผสม กุ้งสับละเอียด 100 กรัม เนื้อหมูสับละเอียด 100 กรัม น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา เกลือป่น 3/4 ช้อนชา น้ำมันงา 1/2 ช้อนชา ซีอิ้วขาว 2 ช้อนชา พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา ไข่ขาว 1 ฟอง แป้งข้าวโพด 2 ช้อนชา มะระจีน 1 ผล วิธีทำ นำมะระจีนล้างทำความสะอาด หั่นเป็นท่อนหนาประมาณ 2 นิ้ว ควักไส้ออกให้สะอาด นำส่วนผสมของกุ้งและเนื้อหมู ผสมรวมกับเครื่องปรุงรสนวดให้เข้ากัน แล้วนำใส่ตรงกลางของมะระจีน นำมะระยัดไส้ใส่ในเข่ง นำไปนึ่งประมาณ 10?15 นาที [/color] หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 09:11:22 PM พริกหยวกยัดไส้หมู
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img1/80065.jpg) ส่วนผสม พริกหยวกหรือพริกหนุ่ม 4-6 ชิ้น เครื่องยัดไส้ หมู 3 ชั้นสับ 100 กรัม กุ้งแชบ๊วยหรือกุ้งกุลาดำ 100 กรัม กุ้งแห้งแช่น้ำจนนุ่ม ? ถ้วยตวง ไข่ไก่ 1 ฟอง ผักชีซอย 1 ช้อนโต๊ะ ปลาเค็มทอดเสร็จชิ้นเล็กประมาณ 20 กรัม ผงพะโล้ ? ช้อนชา พริกไทยป่น ? ช้อนชา น้ำสำหรับต้มปลาเค็ม ? ถ้วย ผักชีเด็ดใบสำหรับตกแต่ง วิธีทำ ปลาเค็มที่ทอดเสร็จแล้วแกะเอาแต่เนื้อ 10 กรัม ส่วนที่เหลือนำไปต้มพอน้ำเริ่มข้นปิดไฟตักใส่ถ้วยพัก ไว้ ล้างกุ้งให้สะอาดแกะเอาแต่เนื้อสับกับกุ้งแห้งที่เรา แช่น้ำเสร็จแล้วพอเข้ากันใส่หมูลงไปสับด้วยกันจากนั้ นใส่เนื้อปลาเค็มที่เราแกะเอาไว้ 10 กรัมลงไปสับจนทุกอย่างเต้ากันดีตักใส่ชามผสม ใส่ผงพะโล้ พริกไทยป่น ผักชีซอยลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน ตอกไข่ใส่ลงไปคนไปในทางเดียวกันจนเข้ากันดีใส่น้ำต้ม ปลาเค็มลงไป 1? ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากันอีกครั้ง ตั้งลังถึงบนหม้อน้ำด้วยไฟแรง ล้างพริกหยวกให้สะอาดผ่าครึ่งตามยาว 1 ด้าน เอาเมล็ดและไส้ออกให้หมด จากนั้นนำเครื่องที่เราผสมไว้ใส่ลงไปในพริกหยวกจนเต็ มทำอย่างนี้จนหมด แล้วเรียงใส่จาน แล้วนำไปนึ่งในลังถึงบนหม้อน้ำเดือดนานประมาณ 5-8 นาทีหรือจนเครื่องยัดไส้สุก ปิดไฟ ขอบคุณสยามหมู หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: Neung99k ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2010, 07:22:12 PM มีสูตร์ผัดต้นกระเทียมอร่อยๆป่ะ...ป้านู๋จัย ;D
หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: cupid ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2010, 09:34:11 PM มีสูตร์ผัดต้นกระเทียมอร่อยๆป่ะ...ป้านู๋จัย ;D Smiley/Angry.gif laugh.gif laugh.gif laugh.gif ;D หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: cupid ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2010, 03:04:21 PM มีสูตร์ผัดต้นกระเทียมอร่อยๆป่ะ...ป้านู๋จัย ;D Smiley/Angry.gif laugh.gif laugh.gif laugh.gif ;D *ellow_yellow_christmas_editio ผัดกะเทยม่ายอาวนะฮะเบื่อแย้ววววววว ;) ;) ;) Smiley/Angry.gif หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: nadia ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2010, 05:47:41 PM สวัสดีค่ะ นู๋จัย มีความสุขมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆนะค่ะ
(http://i223.photobucket.com/albums/dd277/akapong/ChineseNewYear/30-01-2008_07.gif) (http://glitter.kapook.com/category.php?category_id=3&sid=14e0664767b106a4d27c39744e17079b) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2010, 06:14:21 PM มีสูตร์ผัดต้นกระเทียมอร่อยๆป่ะ...ป้านู๋จัย ;D Smiley/Angry.gif laugh.gif laugh.gif laugh.gif ;D *ellow_yellow_christmas_editio ผัดกะเทยม่ายอาวนะฮะเบื่อแย้ววววววว ;) ;) ;) Smiley/Angry.gif มี แต่มั่ยบอก ป่ายยยยยหาสูตรกิงเอาเอง ทั้งคู่เลยน้ะ :-X หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2010, 06:19:34 PM สวัสดีค่ะ นู๋จัย มีความสุขมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆนะค่ะ ([url]http://i223.photobucket.com/albums/dd277/akapong/ChineseNewYear/30-01-2008_07.gif[/url]) ([url]http://glitter.kapook.com/category.php?category_id=3&sid=14e0664767b106a4d27c39744e17079b[/url]) สวัสดีค่ะ ขออถัยน้ะค่ะที่ตอบหลัง คุงน้องสุดน่าร้ากกกกคิวที่ปิดป่ายยแย้วววว กับคุงหัวเหน่ง... :-Xเอ๋ย.....บขส999 :-Xคุงปี้นึ่งน้ะค่ะ อิ อิ laugh.gif ขอหั้ยร่ำรวย ในทุกๆๆอย่างดั่งใจปราถนาค่ะ (http://i.kapook.com/glitter/2010/th/01/T260110_09C_r.gif) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2010, 06:26:34 PM (http://i.kapook.com/glitter/2010/th/01/T260110_14CM_r.gif)
หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มีนาคม 13, 2010, 11:15:12 AM ผู้ใช้งานขณะนี้
30 บุคคลทั่วไป, 2 สมาชิก ผู้ใช้เมื่อ 15 นาทีที่ผ่านมา: nujai, noi สวัสดีค่ะ มาอยู่เป็นเพื่อนค่ะ :D หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มีนาคม 13, 2010, 11:24:12 AM :D
หั้ยยยยยยป่ายยยนัน หน่อยน้ะเจ้าค่ะ ::)การบ้านเยอะ :-\ :o :P :-X:'( angel.gif http://upic.me/i/9i/biggrin1.g (http://upic.me/i/9i/biggrin1.g) ไปทานปลาเก๋าสามรสมาเลยเอา เร็ดสะพี มาฝากก๋ะ ทัมดั้ยมั่ยดั้ย รู้ว่ามีอาร่ายบ้างก้อยังดีน้ะค่ะ angel.gif (http://www.hilunch.com/wp-content/uploads/2008/11/bb-c5-d2-e0-a1-eb-d2-ca-d2-c1-c3-ca-small.jpg) :-\น่าทานมั้ยก๋ะ :P ส่วนผสม ปลาเก๋าขนาดใหญ่ 1 ตัว พริกชี้ฟ้าแดง-เหลือง กระเทียมซอย 1 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมันพืชสำหรับผัดและทอดปลา 1 ถ้วย คึ่นฉ่ายหั่นเป็นท่อนๆ 1/4 ถ้วย ใบมะกรูดหั่นฝอย 2 ใบ วิธีทำ ขอดเกล็ดปลา ควักเครื่องในออก ล้างให้สะอาด ใช้มีดบั้งแต่พองาม นำพริกชี้ฟ้า กระเทียม ใส่ครกโขลกพอแหลก ใส่น้ำมันลงในกระทะตั้งไฟให้ร้อน ทอดปลาให้เหลืองกรอบ ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน ใส่น้ำมันลงในกระทะตั้งไฟให้ร้อน ใส่เครื่องที่โขลกเอาไว้ ใส่ใบมะกรูดหั่นฝอยตามลงไป ผัดจนมีกลิ่นหอม ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล น้ำมะขามเปียกข้นๆ เสร็จแล้วนำไปราดบนตัวปลา โรยหน้าด้วยคึ่นฉ่าย พร้อมเสิร์ฟ หนังสือครัวสยาม หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: cupid ที่ มีนาคม 22, 2010, 09:41:03 PM มีสูตร์ผัดต้นกระเทียมอร่อยๆป่ะ...ป้านู๋จัย ;D Smiley/Angry.gif laugh.gif laugh.gif laugh.gif ;D *ellow_yellow_christmas_editio ผัดกะเทยม่ายอาวนะฮะเบื่อแย้ววววววว ;) ;) ;) Smiley/Angry.gif มี แต่มั่ยบอก ป่ายยยยยหาสูตรกิงเอาเอง ทั้งคู่เลยน้ะ :-X ;) ;) ;) ;) ;) ;) ;) ;) ;) ;D หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ เมษายน 09, 2010, 02:22:00 PM ข้าวคลุกกะปิ
(http://www.horapa.com/images/stories/food/cookkabi.jpg) เครื่องปรุง:- - ข้าวสวย 3 ถ้วยตวง - กุ้งแห้งตัวเล็กทอดกรอบ 1/2 ถ้วยตวง - หอมแดงซอย 6 หัว - น้ำมันหมู, กากหมู 3 ช้อนโต๊ะ - ไข่กรอกซอย 1/2 ช้อนโต๊ะ - กะปิดี 4 ช้อนโต๊ะ - หมูหวาน 3 ขีด - พริกขี้หนูซอยละเอียด 2 ช้อนชา - มะม่วงดิบ (เปรี้ยว) สับละเอียด 1/4 ถ้วยตวง - แตงล้าน 1/4 ถ้วยตวง วิธีทำข้าวคลุกกะปิ:- 1. ข้าวเย็นยีให้สวยเป็นตัว, กะปิห่อใบตองย่างไฟ, กุ้งแห้งทอดกรอบ, มะม่วงสับละเอียด,หอมแดงซอย, พริกขี้หนูซอยละเอียด พักไว้ 2. เทข้าวลงในชามอ่าง ใส่น้ำมันหมูเล็กน้อยพร้อมกะปิ ใช้มือคลุกให้เข้ากัน จากนั้นนำเครื่องปรุงในข้อ 1 ใส่ลงไปพร้อมทั้งหมูหวาน และกากหมูเคล้าให้ทั่ว (บางคนเมื่อเคล้าเสร็จแล้วจะนำไปผัดอีกที) 3. หากขาดเหลือรสอะไรก็เติมลงไป ตักใส่จาน (กิน 4 คน) โรยหน้าด้วยไข่กรอกซอยละเอียด แกล้มด้วยแตงล้านซอย วิธีทำหมูหวาน:- 1. หมูสามชั้นอย่างดี (หนังบาง, มันน้อย, เนื้อมาก) 1/2 กิโลกรัม ร้านเขาจะหั่นเป็นเส้นยาว ๆ เราก็มาหั่นเป็นชิ้นขนาด 1/2 นิ้ว นำไปลวกในน้ำเดือดพอให้หมูตึง ตักขึ้นพักไว้ (เก็บน้ำต้มหมูไว้) 2. ตั้งกระทะพอร้อน ใส่น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ คั่วให้เหลือง ใส่น้ำปลาดี เติมน้ำต้มหมูลงไป(กะให้ท่วมหมูเล็กน้อย) ใส่หมูในข้อ 1 ลงไป เคี่ยวจนงวดด้วยไปอ่อน ชิมดูถ้ายังไม่เปื่อย เติมน้ำต้มหมูลงไปอีกปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลาดี โดยให้มีรสหวานนำ จนเหลือน้ำขลุกขลิก(ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง) เป็นอันเสร็จ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ เมษายน 09, 2010, 02:31:48 PM (http://farm4.static.flickr.com/3104/2604863770_53d709c8c7.jpg) (http://www.ucancookthai.com/images/uploaded-img/information/photogallery-full-20090107031043.jpg) (http://public.bay.livefilestore.com/y1pjLWhrXS3jMF1oU1sTB5peU3WRtMoNjfSHDc18m6XJpwyXp4SOSNgjobUYCG9Ji-Z1p15PwXOV9xnfhCOmJUOtg/%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%B0%E0%B8%9B%E0%B8%B4%2001.jpg) (http://www.horapa.com/images/stories/kawkloogkapi.jpg) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มิถุนายน 10, 2010, 06:16:21 PM วิธีปลอก มั่ยรู่หมด หน้ามังคุรึยังเน้อะ ;D
(http://by120w.bay120.mail.live.com/att/GetAttachment.aspx?tnail=0&messageId=8dc45c73-738e-11df-a2d4-002264c1943e&Aux=4|0|8CCD5B282802B10||) (http://by120w.bay120.mail.live.com/att/GetAttachment.aspx?tnail=1&messageId=8dc45c73-738e-11df-a2d4-002264c1943e&Aux=4|0|8CCD5B282802B10||) (http://by120w.bay120.mail.live.com/att/GetAttachment.aspx?tnail=2&messageId=8dc45c73-738e-11df-a2d4-002264c1943e&Aux=4|0|8CCD5B282802B10) (http://by120w.bay120.mail.live.com/att/GetAttachment.aspx?tnail=3&messageId=8dc45c73-738e-11df-a2d4-002264c1943e&Aux=4|0|8CCD5B282802B10||) (http://by120w.bay120.mail.live.com/att/GetAttachment.aspx?tnail=4&messageId=8dc45c73-738e-11df-a2d4-002264c1943e&Aux=4|0|8CCD5B282802B10||) (http://by120w.bay120.mail.live.com/att/GetAttachment.aspx?tnail=5&messageId=8dc45c73-738e-11df-a2d4-002264c1943e&Aux=4|0|8CCD5B282802B10||) (http://www.thaigold.info/forum/Smileys/extra/17.gif)mangoteen dis sa pear :o หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มิถุนายน 12, 2010, 10:34:26 PM เผยสูตร"ซาลาเปารสขิง"
(http://www.khaosod.co.th/news-photo/khaosod/2010/05/col04070553p1.jpg) ขิงเป็นสมุนไพรมีรสหวานเผ็ดร้อน ขับลม แก้ท้องอืดจุกเสียด แน่นเฟ้อ คลื่นไส้อาเจียน แก้หอบไอ ขับเสมหะ แก้บิด ด้วยคุณสมบัตินี้ น.ส.สันศนีย์ จันทร์จันทร์ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาวิชาอาหารและโภชนา การ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ จึงคิดค้นทำซาลาเปารสขิง ส่งตรงมาจาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี โดยมีผศ.สุชาดา งามประภาวัฒน์ เป็นที่ปรึกษา ส่วนผสมในการทำซาลาเปาขิง ได้แก่ ส่วนผสมส่วนที่ 1 แป้งสาลี 120 กรัม ยีสต์ 1 ช้อนชาครึ่ง น้ำเปล่า 3 ช้อนโต๊ะครึ่ง ส่วนผสมที่ 2 แป้งสาลี 75 กรัม ผงฟู 1 ช้อนชา น้ำตาลทราย 35 กรัม เนยขาว 20 กรัม เกลือครึ่งช้อนชาน้ำขิง 2 ช้อนโต๊ะ (http://www.khaosod.co.th/news-photo/khaosod/2010/05/col04070553p2.jpg) (http://www.khaosod.co.th/news-photo/khaosod/2010/05/col04070553p2.jpg) ขั้นตอนในการทำซาลาเปาขิง 1.ผสมแป้งยีสต์ แล้วเติมน้ำ นวดพอเข้ากัน พักไว้ให้แป้งขึ้นเป็นเท่าตัว 2.ผสมแป้ง ผงฟู น้ำตาลทราย นวดเข้าด้วยกัน ใส่น้ำ ใส่แป้งส่วนที่ 1 นวดพอเข้ากัน ใส่เนยขาว นวดจนส่วนผสมเนียน พักแป้งไว้ 10 นาที 3.ตัดแป้งเป็นก้อน ก้อนละ 20 กรัม ได้ 18 ก้อน ห่อไส้ พักแป้งให้ขึ้นอีกเท่าตัว หรือทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที นึ่งในน้ำเดือดประมาณ 10 นาที ส่วนผสมในการทำไส้ไก่ผัดขิง 1.เนื้อไก่ 100 กรัม 2.ขิงอ่อน 25 กรัม 3.เห็ดหูหนู 50 กรัม 4.หอมหัวใหญ่ 50 กรัม 5.ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ 6.น้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ 7.น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ 8.น้ำมัน 2 ช้อนโต๊ะ ขั้นตอนทำไส้ไก่ผัดขิง 1.ล้างเนื้อไก่ ขิงอ่อน เห็ดหูหนู หอมหัวใหญ่ แล้วหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็กๆ 2.ใส่น้ำมันในกระทะใส่หอมใหญ่และขิงอ่อน ผัดให้หอม แล้วใส่เนื้อไก่ เห็ดหูหนู ปรุงรส พอสุกได้ที่ยกลง พักไว้ให้เย็นแล้วห่อด้วยแป้งซาลาเปาซาลาเปารสขิงเก็บไว้ได้ในช่องแช่แข็ง ถ้าจะนำมารับประทานให้เข้าเครื่องเวฟ นอกจากความนุ่มของตัวแป้งซาลาเปาที่ผสมด้วยน้ำขิง เมื่อได้สัมผัสจะได้กลิ่นของขิง เป็นรสชาติที่ลงตัว ไม่มีขั้นตอนที่ยุ่งยาก หรือว่าผู้ที่สนใจสูตร สอบถามได้ที่ผศ.สุชาดา โทร.08-9526-7598 หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กรกฎาคม 11, 2010, 07:36:19 PM สวัสดีค่ะ หั้ยหน่าป่ายนัน :-\งานยุ่งมั่กๆๆค่ะ ใกล้จบเลยยุ้ง ยุ่ง ค้ะ
ขออะภัยเป็งอย่างสูงน้ะค้ะ ;D อิ อิ angel.gif อากาศร้อน ร้อนทำหวานเย็นทานน้ะค่ะ ทับทิมกร็อบ กร็อบ (http://pics.manager.co.th/Images/553000007422901.JPEG) ส่วนผสม แห้วหั่นสี่เหลี่ยมเต๋า 1ถ้วย น้ำหวานสีแดง 3 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1ถ้วย น้ำ 1ถ้วย แป้งมัน 3/4 ถ้วย เกลือป่น ¼ ช้อนชา กะทิ 3 ถ้วย วิธีทำ ขั้นตอนแรกนำแห้วไปแช่ในน้ำหวานสีแดงประมาณ 15 นาที พอให้แห้วติดสี เทแป้งมันใส่จาน นำแห้วขึ้นจากน้ำหวานแล้วนำมาคลุกแป้งมันให้แป้งติดแ ห้วให้ทั่ว จากนั้นเปิดเตาที่ไฟแรง ใส่น้ำเปล่าลงไปในหม้อ ต้มให้เดือด พอน้ำเดือดแล้วให้ใส่แห้วที่คลุกแป้งไว้ลงไปต้มประมา ณ 3 นาที จนแป้งใสและแห้วลอยขึ้นมา ตักแห้วที่สุกแล้วขึ้นมาแช่น้ำเย็นให้แป้งอยู่ตัวซัก พักก็สะเด็ดน้ำ พักไว้ ทำน้ำเชื่อมโดยใส่น้ำตาลทรายและน้ำเปล่าลงในหม้อ คนจนน้ำตาลละลายเป็นน้ำเชื่อมก็เทใส่ถ้วย พักไว้ ทำน้ำกะทิโดยเทกะทิใส่หม้อ เติมเกลือป่นลงไป คนเรื่อยๆ อย่าให้กะทิเดือดจนแตกมัน พอกะทิเดือดซักพักก็ปิดเตาได้ จากนั้น ตักทับทิมกรอบ ใส่น้ำเชื่อมและน้ำกะทิลงไป ชิมรสหวานตามชอบ ใส่น้ำแข็งทุบโรยหน้าลงไปก็เป็นอีกเรียบร้อยได้ทับทิ มกรอบสีสวยๆมากินเป็น ของดับร้อนแล้ว น่าจะเคยทัมกัน น้ะค่ะ กิจกรรม ตอน ม.ต้น ต้น อิ อิ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กรกฎาคม 16, 2010, 10:21:39 AM ส่วนผสม
(http://www.siamdara.com/Picture_Girl/201007079170540.jpg) เส้นเซี่ยงไฮ้ 2 ขีด กุ้งสด 3-5 ตัว พริก ขี้หนู 5-10 เม็ด เผ็ดตามชอบ พริกชี้ฟ้าเขียวแดงหั่นเฉียง 2 เม็ด ใบ กะเพรา 20 ใบ กระเทียม 5-6 กลีบ น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาล 1/2 ช้อนชา วิธีทำ - เริ่มจากนำเส้นเซี่ยงไฮ้ไปแช่น้ำให้นิ่มประมาณ 5 นาที แล้วหันไปต้มน้ำจนเดือด นำเส้นเซี่ยงไฮ้ที่แช่น้ำจนนิ่มแล้วไปลวกพอสุก เพื่อที่ว่าจะได้ไม่เสียเวลารอให้เส้นสุกในตอนผัด เสร็จเรียบร้อยนำเส้นเซี่ยงไฮ้แช่น้ำเย็นพักไว้ก่อน คราวนี้มาจัดการเทน้ำมันลงกระทะ จนน้ำมันร้อนแล้วนำกระเทียมสับลงไปเจียวให้หอม ตามด้วยพริกขี้หนูสับลงไป - ทีนี้ก็ต่อด้วยการนำกุ้งลงไปผัดจนสุก ตามด้วยพริกชี้ฟ้าหั่น เติมน้ำเปล่าหรือน้ำซุปลงไปนิดหน่อยให้พอมีน้ำขลุกขล ิก แล้วปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมันหอย น้ำตาล ลงไป ชิมให้ได้รสชาติถูกใจแล้วจึงนำเส้นเซี่ยงไฮ้ลงไปผัดต าม คลุกเคล้าให้เข้ากัน โรยใบกะเพราะลงไปแล้วผัดให้เข้ากันอีกครั้งหนึ่ง จากนั้นก็ตักใส่จานพร้อมกินได้ทันที หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กรกฎาคม 20, 2010, 09:45:29 PM :-\
กระเทียมดองผัดไข่ นั่นมั่กๆๆจัมมั่ยลั้ย สับกระเทียมดองหรือซอย ทั้งทอด ทั้งผัด ขอป่ายนอนคิดที่ปายก่องน้ะ :P หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กรกฎาคม 21, 2010, 10:54:04 AM ไข่เจียวต้มยำ
(http://www.siamdara.com/Picture_Girl/201007173960750.jpg) ส่วนผสม * ไข่ไก่ 2 ฟอง * น้ำมะนาว 1/2 ช้อนโต๊ะ * ตะไคร้ซอยแว่นบาง 1 ต้น * พริกขี้หนูซอยหรือสับหยาบๆ 3 - 5 เม็ด * น้ำปลา 1/2 ช้อนโต๊ะ * น้ำพริกเผา (ไม่เอาน้ำมัน) 1 ช้อนชา * ใบมะกรูดหั่นฝอย 2 ใบ * กุ้งสดสับหยาบ 2 ช้อนโต๊ะ (ไม่ใส่ก็ได้) วิธีทำ 1. ตอกไข่ใส่ชามปรุงรสด้วยน้ำปลา มะนาว และเครื่องปรุงทั้งหมด ตีให้ขึ้นฟู 2. ทอดไข่ในกระทะน้ำมันร้อนจนสุกเหลือง 3. ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน จัดใส่จานเสิร์ฟกับข้าวสวยร้อนๆ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กรกฎาคม 27, 2010, 10:14:45 PM วิธีทำ
1. ตัดรากต้นหอมและตัดก้านผักชี นำไปล้างน้ำให้สะอาด จากนั้น นำต้นหอมมาซอยให้ละเอียดและเด็ดผักชีเป็นใบๆ 2. ตอกไข่ใส่ชาม ตีให้เข้ากัน เติมน้ำเปล่าและเครื่องปรุงต่างๆ คือ ซีอิ้วขาว ซอสปรุงรส น้ำมันหอย และน้ำตาลทรายลงไป 3. คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน เทใส่ถ้วยสำหรับนึ่งโดยกรองผ่านกระชอนเพื่อกรองเยื่อไข่และฟองออก 4. ใส่หมูสับลงไปคนให้ทั่ว โรยหน้าด้วยต้นหอมซอยและใบผักชี ปิดปากถ้วยด้วยพลาสติกกันความร้อน เพื่อไม่ให้ไอน้ำลงไปในไข่ เนื้อไข่ตุ๋นจะได้เนียนนุ่ม จากนั้น นำถ้วยไปนึ่งในหม้อนึ่งในขณะที่น้ำเดือด นึ่งไปประมาณ 20-25 นาทีหรือจนไข่สุก 5. ยกลงจากเตา จากนั้นก็ยกเสิร์ฟตอนร้อนๆ ได้เลยค่ะ (http://www.hilunch.com/wp-content/uploads/2009/02/streamed-20egg-small.j) (http://www.allthaifood.com/images/Kai_Toon20122551160204.jpg) (http://www.hilunch.com/wp-content/uploads/2009/06/kitun-small.jpg) (http://www.hilunch.com/wp-content/uploads/2010/03/E4_A2_E8_B5_D8_EB_B9_E0_CB_E7_B4_CB_CD_C1_small.jpg) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กรกฎาคม 28, 2010, 09:58:39 AM (http://1.3qdc.com/sakid/2007/02/s_cimg0308_1.jpg)
เค้กสตอเบอรี่ ส่วนผสม แป้งเค้ก 90กรัม ไข่ไก่3ฟอง น้ำตาล90กรัม เนยสดจืด 40กรัม วิปครีม 400 cc น้ำตาล5ช้อนโต๊ะค่ะ ส่วนผสม น้ำซอส น้ำ200ซีซี น้ำตาล90กรัม บรั่นดี 3ช้อนโต๊ะค่ะ ก็ผสม รวมกันค่ะ สตอเบอรี่, ผงฟู, เนย วิธีทำ ใส่น้ำร้อน เอาไข่ไก่+น้ำตาล ตีให้เป็นสีครีมๆ เสร็จแล้วก็ใส่เค้ก+ผงฟู ที่ร่อนแล้ว1ครั้ง แล้วตะล่อมให้เข้ากันเบาๆค่ะ แล้วใส่เนยละลายที่อุ่นๆค่ะ ค่อยๆเทลงไปแล้วคนให้เข้ากันเบาๆ มือค่ะจนส่วนผสมเข้ากันดี เทใส่พิมนำเข้าเตาอบ เปิดไฟ ประมาณ180องศาค่ะ พอสุกตัดครึ่ง พักไว้ ตีวิปครีม ใส่น้ำตาล กลิ่นวนิลา ตีค่ะ ใส่ เนยลงไปซัก40กรัม แล้วตีให้แข็งตัว แต่ไม่ต้องแข็งตัวมากนะคะ เดี๋ยวปาดหน้าเค้กไม่สวยค่ะ จากนั้นก็ใส่สตอเบอรี่ บนเค้กก่อนจะใส่วิปครีม เสร็จแล้วเราก็ใส่วิปครีมลงไป แล้วเอาสตอเบอรี่มาหั่น วางเรียงๆกันค่ะ จะแต่งหน้าเค้กกันแบบไหนก็ได้ค่ะ สตอเบอรี่ก็วางบนเค้กจักเรียงให้สวยงามก็ใช้ได้ได้แล้วค่ะ อย่าใส่วิปครีมจนหมดนะคะ เหลือเอาไว้มาปั่น ให้แข็งอีกรอบค่ะ เพราะเราจะเอามาใส่หลอด ที่ทำเค้กเป็นหัวแหลมๆไว้แต่งหน้าด้วยค่ะ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กรกฎาคม 30, 2010, 09:43:45 AM ขนมเบื้องญวน
(http://www.bloggang.com/data/lookked/picture/1184557812.jpg) เครื่องปรุงแป้ง แป้งข้าวเจ้า 2ถ้วย ถั่วเขียวคั่วป่น 1/4 ถ้วย เกลือป่น 1/2ช้อนชา กะทิ 1 ถ้วย ไข่ 1 ฟอง ขมิ้นผง 1 ช้อนชา น้ำปูนใส 2 1/2 ถ้วย วิธีทำแป้ง ผสมแป้งข้าวเจ้า ถั่วเขียวคั่วป่น เกลือป่น ไข่ให้เข้ากัน ค่อยๆใส่กะทิทีละน้อย นวดให้เข้ากันจนหมดกะทิจึงใส่น้ำปูนใสลงจนหมด เมื่อแป้งละลายดีแล้วใส่ขมิ้นผง คนให้เข้ากัน เครื่องปรุงใส้ กุ้งสดสับละเอี่ยด 1 ถ้วย มะพร้าวขูดขาว 1 ถ้วย หัวไชโป๊เค็มล้างสับละเอี่ยด 1/2 ถ้วย เต้าหู้แข็งหั่นสี่เหลี่ยมเล็กๆ 1 แผ่น ถั่วงคั่วป่นละเอี่ยด 1/2 ถ้วย ถั่วงอกลวกน้ำพอสุก 1 ถ้วย รากผักชี พริกไทย กระเทียมโขลกละเอี่ยด 2 ช้อนชา ผักชีหันฝอย 1 ต้น น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น 1ช้อนชา น้ำมัน 2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ 1 ผสมมะพร้าวขูดขาว กุ้งที่สับจนเข้ากันดี 2 ใส่น้ำมันในกระทะ ผัดเครื่องที่โขลกให้หอม ใส่กุ้ง(ข้อ1) ผัดต่อไปจนกุ้งสุก ปรุงรสด้วยน้ำตาล เกลือ ชิมรส เมือ่รสดีแล้วตักขึ้นใส่ชามพักไว้ วิธีละเลงแป้ง ตั้งกระทะแบนบนไฟอ่อน ทาน้ำมันให้ทั่ว พอกระทะร้อนตักแป้งใส่กระทะ เกลี่ยแป้งโดยเร็วให้ทั่วกระทะ อย่าให้แป้งหนา คอยตักน้ำมันหยอดข้างกระทะให้รอบจนแป้งกรอบดี ใส่ถั่วงอก หน้ากุ้ง เต้าหู้ หัวไชโป๊เค็ม ถั่วงป่น ผักชี พับครึ่ง ตักใส่จาน รับประทานกะบอาจาด หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ สิงหาคม 27, 2010, 09:49:31 AM "ปอเปี๊ยะกุ้งทอด"
ส่วนผสม กุ้งสด 2 ขีด รากผักชี พริกไทย เกลือ ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ ไขไก่ 1 ฟอง (สำหรับทาปอเปี๊ยะ) แผ่นแป้งปอเปี๊ยะ 5 แผ่น น้ำมันพืชสำหรับทอด เมื่อได้ส่วนผสมกันแล้วก็มาถึงขึ้นตอนการลงมือทำ เริ่มจากนำกุ้งมาล้างทำความสะอาด แล้วผ่าหลังกุ้งเอาขี้กุ้งออก และพักกุ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำ หันมานำเอารากผักชี พริกไทย และเกลือมาโขลกรวมกัน แล้วนำกุ้งที่พักไว้แล้วมาผัดกับเครื่องที่โขลกไว้ แล้วปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว และซอสหอยนางรม เป็นอันว่าได้ไส้กุ้งที่ต้องการแล้วก็พักทิ้งไว้ให้เ ย็นสักนิดก่อนที่จะนำมา ห่อ (เพราะถ้าห่อตอนร้อนๆ ปอเปี๊ยะจะแตกได้) สำหรับการห่อ ให้นำไข่ไก่มาตี เพื่อทาปิดแป้งปอเปี๊ยะ ส่วนการห่อก็ให้นำแผ่นแป้งปอเปี๊ยะมากางออก แล้วนำไส้กุ้งใส่ลงไปตรงกลาง จากนั้นก็พับแผ่นแป้งด้านข้างทั้งสองข้างเข้าหากัน แล้วม้วนให้เป็นแท่ง ทาปิดด้วยไข่ที่เตรียมไว้ เพียงเท่านี้ก็ได้ปอเปี๊ยะกุ้ง นำไปทอดในน้ำมันร้อนๆ ที่ตั้งไฟปานกลาง ทอดจนให้เหลืองกรอบก็เป็นอันว่าเสร็จได้ "ปอเปี๊ยะกุ้งทอด" จิ้มกินกับน้ำจิ้มบ๊วย หรือน้ำจิ้มไก่ก็ได้แล้วแต่ใจชอบ :sleepy: หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 04, 2010, 03:20:48 PM (http://i3.photobucket.com/albums/y64/Manee/series/200_0048R.jpg) ปลาหนึ่งตัว หนัก 400-500 กรัม (ปลากระพง, ปลาทับทิม, อื่นๆ หรือเนื้อปลาก็ได้) * น้ำมันหอย 2 ช้อนชา * น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ * น้ำตาล 1 ช้อนชา * น้ำมันพืช วิธีทำ 1. ทำความสะอาดและบั้งตัวปลาจนถึงกระดูก (บั้งทั้งสองข้าง) เพื่อช่วยให้เนื้อปลาสุกเร็วและสุกทั่วทั้งตัว 2. ใส่น้ำมันประมาณครึ่งถ้วยตวงหรืออย่างน้อยให้พอท่วมตัวปลา ตั้งกระทะบนไฟอ่อนๆ เมื่อน้ำมันร้อนจึงนำปลาลงไปทอด ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีสำหรับข้างแรก (เคล็ดลับ : อย่าพยายามกลับปลาไปมาจนกว่าเนื้อปลาจะสุกข้างใดข้างหนึ่งเสียก่อน จึงจะกลับตัวปลาได้ ไม่เช่นนั้นเนื้อปลาจะแตกหรือหลุด ไม่น่ารับประทาน) 3. เมื่อทอดเนื้อปลาข้างนึงสุกแล้วจึงกลับตัวปลาเพื่อทอดอีกข้าง ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 5 นาที เมื่อปลาสุกทั่วดีแล้ว นำออกมาสะเด็ดน้ำมันและจัดใส่จานเสริฟเตรียมไว้ 4. วิธีทำน้ำราด : นำน้ำมันที่เหลือจากการทอดปลาหนึ่งช้อนโต๊ะไปใส่ในกระทะ และนำไปตั้งบนไฟร้อนปานกลาง รอจนน้ำมันร้อนจึงใส่น้ำตาล, น้ำปลา และซ๊อสหอยนางรม คนจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดีจึงปิดไฟ 5. จัดผักสดกับปลาที่ทอดไว้แล้ว จากนั้นจึงนำน้ำราดที่ทำในขั้นตอนที่สี่มาราดลงบนตัวปลา แล้วจึงเสริฟทันทีพร้อมข้าวสวยร้อนๆ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 04, 2010, 03:32:35 PM (http://i3.photobucket.com/albums/y64/Manee/188_8827R.jpg) ผัดเผ็ดทะเล ผัดเผ็ดทะเลเครื่องแกง (กรณีอยากออกแรงโขลกเองหรือให้หวานใจช่วยโขลก อิอิ)ต้องหาคนรักจิง จิงน้ะต่ะเอง อิอิ angel.gifอย่าลืมเอาพริกเข้าตาด้วย ใจหวานจะได้เห็นจัยงั้ยต่ะเอง อิอิ :P -กระเทียม 4 กลีบใหญ่ -หอมแดง 1-2 หัว -ตะไคร้ 2 ต้น หั่นฝอย ถ้าหายาก ใส่ต้นเดียวก็พอ อิอิ -ขมิ้น (ถ้าสดใช้แง่งขนาด 1 ข้อนิ้ว ถ้าผง ½ ช้อนชา) -ข่า (หั่นแว่นหนาประมาณเหรียญบาท 4-5 แว่น) -พริกไทยดำเม็ดหนึ่งขยุ้มเล็กๆ -พริกแห้งเม็ดเล็ก 20 เม็ดใหญ่ 5 (ถ้ากลัวเผ็ดให้ลดจำนวนพริกเม็ดเล็กลง ) -เกลือครึ่งช้อนชา -กะปิ 1 ช้อนชา โขลกเครื่องแกงให้แหลก เมื่อเครื่องแกงเหนียวเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว ใส่กะปิลงไป ตำให้เข้ากันดีแล้วตักขึ้นใส่กล่องเล็กๆ ตักแบ่งออกมาประมาณ 1 ช้อนโต๊ะกว่าๆ เครื่องปรุง เนื้อปลากะพง และกุ้งสดแกะเปลือก ใบมะกรูดฉีกเอาเส้นกลางใบออก 5-6 ใบ ใบโหระพา ตามชอบ พริกแดงหั่นตามยาว (ไม่มีไม่ต้องใส่) นมสดประมาณ 2-3 ช้อนโต๊ะ เครื่องแกง ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไปประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ ใช้ไฟแรง พอน้ำมันเริ่มร้อน เอาเครื่องแกงลงไปผัดให้หอม ตอนนี้จะได้ยินเสียงจามจากคนในบ้าน รวมถึงเพื่อนบ้าน อิอิ แล้วใส่เนื้อปลากับกุ้งลงไป ตอนคนระวังเนื้อปลาอาจเละ ให้ใช้วิธีกระดกกระทะให้เนื้อปลาเข้ากับเครื่องแกง ขั้นตอนนี้ มือใหม่อาจเหลือของอยู่ในกระทะแค่ครึ่งเดียว อีกครึ่งนึงอาจอยู่บนพื้นครัว อิอิ แล้วใส่นมสดลงไป น้ำเล็กน้อย แล้วชิม หากไม่เค็ม เติมเกลือ เมื่อแน่ใจว่า ปลากับกุ้งสุกดีแล้ว ใส่ใบมะกรูดฉีก กับใบโหระพาลงไป ตักเสิร์ฟ เสร็จแล้วค่ะ ง่ายดีไหมคะ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 29, 2010, 08:41:14 PM (http://www.junjaowka.com/webboard/images/smilies/C-G.gif)ข้าวอบบีทรูทแกะย่าง (http://www.junjaowka.com/webboard/images/smilies/C-G.gif) (http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/2/2c/Flock_of_sheep.jpg/243px-Flock_of_sheep.jpg) เครื่องปรุงข้าวอบ -น้ำมันมะกอก 1/4 ถ้วยตวง -กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ -มะกอกเขียวไร้เม็ดหั่นแว่น 1/4 ถ้วยตวง -ข้าวสารหอมมะลิ 1 ถ้วยตวง -ถั่วไพน์ 1/2 ถ้วยตวง -บีทรูทสดซอยเป็นเส้น 1 ถ้วยตวง -เกลือป่น พอประมาณ -พริกไทย พอประมาณ -น้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง วิธีทำ 1.นำกระทะตั้งไฟใส่น้ำมันมะกอกลงไปพอร้อน ใส่กระเทียมสับ มะกอกเขียวหั่นแว่น และบีทรูทสดซอยเป็นเส้น ผัดพอหอม 2.ใส่ข้าวสารหอมมะลิ และถั่วไพน์ ผัดให้ข้าวสารเป็นตากบ 3.ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย น้ำเปล่า ผัดให้เข้ากัน 4.เทส่วนผสมใส่หม้อหุงข้าว กดหุงเร่งด่วนจนกระทั่งข้าวสุก 5.ข้าวอบบีทรูทใช้เสิร์ฟกับแกะย่าง เครื่องปรุงแกะย่าง -มัสตาร์ด 1 ช้อนโต๊ะ -กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ -ซอสตรากระต่าย 1 ช้อนโต๊ะ -เกลือป่น 1/2 ช้อนชา -พริกไทยดำบดสด 1/2 ช้อนชา -ไวน์แดง 1 ช้อนโต๊ะ -โรสแมรี่สดสับ 1 ช้อนโต๊ะ -น้ำมันมะกอก 1/4 ถ้วยตวง -ซี่โครงแกะหั่นเป็นชิ้น 200 กรัม -มะกอกเขียว 5 ลูก -ใบสะระแหน่ สำหรับแต่งหน้า วิธีทำ 1.ในชามผสม ใส่มัสตาร์ด กระเทียมสับ ซอสตรากระต่าย เกลือป่น พริกไทยดำบดสด ไวน์แดง โรสแมรี่สดสับ ผสมให้เข้ากัน 2.เทน้ำมันมะกอกลงไปในส่วนผสมน้ำหมักคนพอเข้ากัน 3. ใส่ซี่โครงแกะลงไปหมักประมาณ 30 นาที หรือค้างคืนก็ได้ 4.เปิดกระทะย่างให้ร้อน นำซี่โครงแกะที่หมักไว้ลงไปย่างให้ผิวนอกเหลืองแต่ข้ างในยังแดงอยู่ ตักออกพักไว้ 5.ในจานเสิร์ฟนำข้าวอบบีทรูทใส่ในจาน แล้วนำซี่โครงแกะเป็นชิ้นวางไปบนข้าวอบโรยหน้าด้วยมะ กอกเขียวหั่นแว่น และใบ สะระแหน่ เสิร์ฟทันที ความรู้คู่ครัว -เวลาหมักเนื้อสัตว์ทำไมต้องใส่ไวน์ด้วย ? เพื่อทำให้เนื้อนุ่ม ลดความคาวของเนื้อสัตว์ (http://www.dailynews.co.th/newstartpage/includes/images/logo.gif) หมึกแดง (http://www.junjaowka.com/webboard/images/smilies/C-Injury.gif) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤศจิกายน 11, 2010, 11:12:31 AM :)
ความรักของคุณ เหมือนอาหารจานไหน (http://variety.teenee.com/foodforbrain/img5/m98515.jpg) (http://variety.teenee.com/foodforbrain/img5/m98516.jpg) ความรักเหมือนส้มตำ : ของบ้าน ๆ ที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันและคิดว่ามันไม่น่ากิน แต่พอเอามารวมกันดันโดนซะได้ก็เหมือนคนบางคนที่ไม่น่ าจะเข้ากันได้ แต่ผ่านไปเป็นสิบ ๆ ปีก็ยังรักกันดีอยู่เลย ต่างกับบางคู่ที่ใคร ๆ คิดว่าก็น่าจะไปกันได้สวย แต่ไม่กี่เดือนก็ดันเตียงหักซะแล้ว (http://variety.teenee.com/foodforbrain/img5/m98517.jpg) ความรักเหมือนปลาย่าง : มีโอเมก้า 3 ที่จำเป็นต่อร่างกาย แต่ถ้ากินแบบไม่ระวังเราอาจถูกก้างปลาตำคอเอาได้ นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เวลามีความรักต้องใส่ใจทุกรายละเอียด ศึกษานิสัยใจคอของคนรักให้ดีเสียก่อน อย่าดูกันแต่ภายนอก เพราะก้างของปลานั้นซ่อนอยู่ภายใน เหมือนกับนิสัยห่วย ๆ ของคนรัก นั่นหล่ะที่มองแค่ภายนอกจะไม่มีทางรู้เลย (http://variety.teenee.com/foodforbrain/img5/m98518.jpg) ความรักเหมือนวาซาบิ : เวลาพิษรักวิ่งขึ้นจมูก เรานึกว่าจะไม่รอดซะแล้ว แต่ถ้าทนซักพักความทรมานก็จะหายไปเอง สาว ๆ รักร้าวทั้งหลายจำไว้นะจ๊ะ (http://variety.teenee.com/foodforbrain/img5/m98519.jpg) ความรักเหมือนต้มยำกุ้ง : ต่อ ให้อร่อยแค่ไหน แต่ถ้าทิ้งไว้จนจืดชืดก็ไม่มีใครอยากกิน ก็เหมือนคู่ที่รักกันนานจัด แต่ไม่ยอมแต่งงานเสียที รักมาราธอนแบบนี้ส่วนใหญ่มักจะไปไม่รอด เพราะอะ ๆ ที่เคยซี๊ดซ๊าดแซบอีหลี มันกร่อยไปหมดแล้ว (http://variety.teenee.com/foodforbrain/img5/m98520.jpg) ความรักเหมือนข้าวหลาม : ถ้าไม่ผ่ากระบอกออกก็จะไม่มีทางรู้ว่าข้างในเป็นอะไร เปรียบได้กับเจ้าสาวที่กลัวฝนทั้งหลายที่กลัวความรัก กลัวการแต่งงานจนปิดโอกาสตัวเอง ไม่ยอมทดลองดูว่ารสชาติของการมีคนรักมันหวานมันขนาดไ หน (http://variety.teenee.com/foodforbrain/img5/m98521.jpg) ความรักเหมือนไอศกรีม : ทั้งสวยทั้งหอมดูไม่มีพิษภัย แต่ถ้ากินมากเกินไปความสวีตเกินพิกัดอาจพาไปจบที่โรค เบาหวาน เป็นการเตือนนักรักทั้งหลายให้เสพรักอย่างพอเพียง รู้จักทิ้งระยะมีช่องว่างให้กันบ้าง ไม่อย่างนั้นจะเบื่อกันเร็วเกินไป (http://variety.teenee.com/foodforbrain/img5/m98522.jpg) ความรักเหมือนทุเรียน : ถ้าอยากชิมเนื้อในที่หอมหวานก็ต้องยอมถูกหนามตำ อุปสรรคของความรักก็เหมือนหนามทุเรียน ถ้าเราอดทนและฝ่าฟันไปได้ เราก็จะได้ลิ้มรสหวานหอมอร่อยเริดเป็นรางวัล (http://variety.teenee.com/foodforbrain/img5/m98523.jpg) ความรักเหมือนโอเลี้ยง : ถึงจะดำดีสีไม่ตกแต่ก็หวานอร่อยถูกปาก เป็นข้อพิสูจน์ว่าคนที่ไม่สวยหล่อก็อาจเป็นแฟนที่ดีไ ด้ ถ้าคุณให้โอกาสเขาพิสูจน์ตัวเอง (http://variety.teenee.com/foodforbrain/img5/m98524.jpg) ความรักเหมือนคากิ : หน้าตายั่วยวนแต่ไม่ควรกิน มิฉะนั้นอาจทำให้เส้นเลือดอุดตัน มีผลถึงสิ้นใจก่อนวัยอันควร เปรียบได้กับกิ๊ก ถึงแม้รูปร่างหน้าตาของเธอจะชวนน้ำลายไหล แต่ถ้าเผลอกินเข้าไปเราอาจอายุไม่ยืน เพราะถ้าแฟนจับได้เราคงได้ชิมลีลาแม่ไม้มวยไทย ก่อนจะถูกหามไปสิ้นใจที่โรงพยาบาล (ใครเห็นด้วยกับข้อนี้ขอเสียงหน่อย...ฮิ้ว) (http://variety.teenee.com/foodforbrain/img5/m98525.jpg) ความรักเหมือนน้ำเปล่า : เปรียบเหมือนความรักของเพื่อนที่สะอาดบริสุทธิ์ เพราะไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่มีรส ไม่ต้องมีรูปร่างหน้าตายั่วยวน แต่ดีต่อสุขภาพและควรจะดื่มเป็นประจำ เพราะถ้าขาดการติดต่อนานเกินเดี๋ยวจะต่อกันไม่ติด (http://variety.teenee.com/foodforbrain/img5/m98526.jpg) ความรักเหมือนมะม่วงน้ำปลาหวาน : ต้องอยู่คู่กันถึงจะอร่อย คนบางคนเกิดมาเพื่อจะอยู่ด้วยกัน และต้องจับคู่กันถึงจะลงตัวที่สุด ของแบบนี้เขาเรียกพรหมลิขิตค่ะพี่น้อง (http://variety.teenee.com/foodforbrain/img5/m98527.jpg) ความรักเหมือนน้ำพริกปลาทู : เป็นสมบัติประจำชาติและจะไม่มีวันหายไปจากโลกตลอดกาล หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ธันวาคม 19, 2010, 09:19:37 PM ข้าวผัดม้วนไข่
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img3/100874jpeg) ส่วนผสมอาหาร ข้าวสวย 1 ถ้วย ไข่ไก่ 2 ฟอง สาหร่ายทะเลชนิดทำข้าวห่อ สาหร่าย1 แผ่น เนื้อหมูหั่นชิ้นสี่เหลี่ยม เล็ก1/4 ถ้วย แครอทหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1/2 ช้อนโต๊ะ ข้าวโพดอ่อนหั่นบางๆ ตามขวาง 1/2 ช้อนโต๊ะ เห็ดหอมแห้งแช่น้ำหั่นเป็นสี่ เหลี่ยมเล็ก1/2 ช้อนโต๊ะ พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา เกลือป่น 1 ช้อนชา ซีอิ๊วขาว 1/2 ช้อนชา น้ำมัน 2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำอาหาร - Make it 1ตอก ไข่ใส่ชาม ตีให้แตก จากนั้นเทน้ำมัน 1 ช้อนโต๊ะ ลงในกระทะ ตั้งไฟให้ร้อน ใช้ไฟอ่อนๆ กรอกกระทะไปมาให้น้ำมันติดทั่วกระทะ เทไข่ใส่ กรอกให้เป็นแผ่นบางๆ พอสุกทั่วแล้วปิดไฟ แซะไข่ออก พักไว้ก่อน 2เทน้ำมัน ใส่ในกระทะ ตั้งไฟให้ร้อน ใส่เนื้อหมู แครอท ข้าวโพดอ่อน และเห็ดหอม ผัดพอสุก ใส่ข้าวสวย และเครื่องปรุงอื่น ซีอิ๊ว น้ำตาล เกลือ พริกไทย ผัดให้เข้ากัน แล้วปิดไฟ 3ขั้นตอนการห่อเริ่มด้วยนำไข่ที่พักไว้มาวาง แล้ววางทับด้วยสาหร่าย ตักข้าวผัดใส่ เกลี่ยให้ทั่ว อย่าให้หนาเกินไป ม้วนห่อให้แน่น หั่นเป็นชิ้นพอคำ จากนั้นก็เสิร์ฟเป็นเมนูข้าวผัดแปลงกายได้เลย ใช้ข้าวหอมมะลิน่ะจ้ะ ....หย่อยย...อิ อิ laugh.gif หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มกราคม 01, 2011, 02:45:13 PM (http://media2.th.88db.com/DB88UploadFiles/2009/12/09/429E090C-B579-43B5-A5A0-CFD5C121D13D.jpg) สวัสดีปีใหม่ค่ะ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กุมภาพันธ์ 15, 2011, 12:30:25 PM ปอเปี๊ยะสด เวียดนาม
(http://www.hilunch.com/wp-content/uploads/2009/10/por_2Dpia_2Dsod.jpg) เมนูสุดอร่อยวันนี้ขอเสนอ ปอเปี๊ยะสด เวียดนาม สำหรับผู้รักสุขภาพทุกท่านรับรองว่าอาหารสุดพิเศษนี้จะช่วยท่านได้อย่างแน่นอน เพราะปอเปี๊ยะสดเวียดนาม ทำง่ายและอร่อยมากๆ ส่วนผสมสำหรับหมูหมัก 1. เนื้อหมูสันนอก 3 ขีด หรืออาจจะใช้หมูยอแทนก็ได้ 2. ซีอิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ 3. ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ 4. ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ 5. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ ส่วนผสมสำหรับปอเปี๊ยะสด 1. ใบเมี่ยงเวียดนาม สำหรับห่อเป็นปอเปี๊ยะสด 2. ใบโหระพา 3. ใบสะระแหน 4. ผักกาดหอม 5. ผักชีฝรั่ง 6. แครอทซอยเป็นเส้น ส่วนผสมน้ำจิ้ม 1. น้ำส้มสายชู 1/2 ถ้วย 2. น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย 3. เกลือ 1 ช้อนชา 4. พริกชี้ฟ้าแดง 1 ช้อนโต๊ะ 5. กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ 6. หัวผักกาด ขูดฝอยเป็นเส้น 1/4 ถ้วย 7. แครอท ขูดฝอยเป็นเส้น 1/4 ถ้วย วิธีทำปอเปี๊ยะสด แล่เนื้อหมูเป็นชิ้นบางๆ ตามขวางของเนื้อหมู หมักเนื้อหมูด้วย ซีอิ้วขาว ซอสปรุงรส ซอสหอยนางรม น้ำตาลทราย คลุ๊กให้เขากัน แล้วทิ้งไว้ในตู้เย้น 1 ชั่วโมง เตรียมใบเมี่ยง โดยนำใบเมี่ยงมาพรมน้ำเล็กน้อย เพื่อให้ใบเมี่ยงนิ่ม นำเนื้อหมูที่หมักไว้มาย่างกับเตาย่าง หรือกระทะ พอสุก หั่นเป็นชิ้นยาวๆ นำใบเมี่ยงมาห่อ โดยนำผักกาดหอมวางก่อน ตามด้วยใบโหระพา ใบสาระแหน ผักชีฝรั่ง แครอทซอย และหมูย่าง ห่อให้เน่นๆ วิธีทำน้ำจิ้ม น้ำพริกชี้ฟ้าแดง กระเทียมโขลกให้ละเอียด ใส่หัวผักาดขูดฝอย แครอทขูดฝอยใส่ ตามด้วย น้ำส้มสายชู น้ำตาลทราย เกลือ และพริกกระเทียมที่โขลก ตั้งเตาเคี่ยวเป็นเวลา 10 นาที เทใส่ถ้วย เป็นอันเสร็จสิ้นแล้วสำหรับเมนูปอเปี๊ยะสดเวียดนาม สำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนักรับรองว่าเมนูนี้จะช่วยให้สุขภาพของท่านดีอย่างแน่นอน หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มีนาคม 09, 2011, 03:59:26 PM แครมบรูเล่ ( Cr è me Brulee)
(http://www.fwdder.com/data/mail/2009/08/29/1251517185329/image/__fwdDer.com__-103945446-image005.jpg) แม้ชื่อจะฟังดูแล้วฝรั่งเศสสุดๆ แต่อย่าเพิ่งด่วนตัดสินว่าเป็นเช่นนั้น เนื่องจากวิทยาลัยทรินิตี้ในเคมบริดจ์ได้อ้างว่าพวกเขาคือต้นตำรับผู้คิดค้นขนมสูตรเด็ดนี้ในช่วงต้นศตวรรษที่ 1600 อย่างไรก็ตาม ถึงจะมีจุดกำเนิดจากอังกฤษ แต่เชื่อแน่ว่าคงไม่มีสถานที่ใดเหมาะแก่การทานคัสตาร์ดเย็นๆ โรยด้วยน้ำตาลไหม้ ได้เท่ากับใต้หอไอเฟลที่ประดับด้วยไฟสว่างไสวในยามค่ำคืนในกรุงปารีส หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มีนาคม 09, 2011, 04:02:28 PM แบล็คฟอเรสท์เค้ก
(http://www.fwdder.com/data/mail/2009/08/29/1251517185329/image/__fwdDer.com__-103945431-image001.jpg) ด้วยความมีชื่อเสียงในเรื่องชนิทเซล เบียร์ และเค้กรสชาติอร่อยมากมาย จึงไม่น่าแปลกใจที่เยอรมนีจะกลายเป็นสถานที่ดื่ม-กินยอดนิยมของเรา โดยเจ้าช็อกโกแลตเค้กที่ทับซ้อนหลายชั้นด้วยครีม เชอร์รี่ และบรั่นดีผลไม้นี้ถือกำเนิดขึ้นในช่วงต้นยุค 1900 ทางตอนใต้ของ เยอรมนี (ภายหลังได้รับการปรุงแต่งให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นด้วยฝีมือของช่างทำเค้กในกรุงเบอร์ลิน) และทุกวันนี้เป็นทื่ชื่นชอบของคนทั่วโลก ซึ่งแน่นอนว่า นี่ก็เป็นหนึ่งในของโปรดของเราเช่นกัน หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มีนาคม 09, 2011, 04:04:34 PM ฮาโล ฮาโล ( Halo Halo)
(http://www.fwdder.com/data/mail/2009/08/29/1251517185329/image/__fwdDer.com__-103945433-image002.jpg) จานเด็ดของชาวฟิลิปปินส์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไม่แพ้ไข่บาลุท แต่รับประกันได้ว่าไม่น่าสะอิดสะเอียน ทั้งนี้ ฮาโล ฮาโล ไม่มีสูตรการทำที่แน่นอน แต่ดูๆ ไปก็ไม่ต่างอะไรกับน้ำแข็งใสของบ้านเรา โดยนำน้ำแข็งบดมาเติมด้วยเครื่องเคียง เช่น ถั่วเขียว ลูกตาล ขนุน มะพร้าวอ่อน ไอศกรีม วุ้นมะพร้าว สับปะรด และอื่นๆ ก่อนจะปิดท้ายด้วยการราดนมข้นหวานและน้ำเชื่อม โดยสามารถหารับประทานได้ทุกที่ในกรุงมะนิลา หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มีนาคม 09, 2011, 04:06:22 PM ทีรามิสุ
(http://www.fwdder.com/data/mail/2009/08/29/1251517185329/image/__fwdDer.com__-103945435-image003.jpg) เค้กชื่อดังของอิตาลีทำขึ้นจากเลดี้ฟิงเกอร์ราดเอสเปรสโซ่ สอดไส้ด้วยมาสคาร์โปนชีสและซาบากลิออเน ลือกันว่าทีรามิสุมีจุดกำเนิดมาจากการที่แม่บ้านของทหารในสงครามโลกครั้งที่สองทำเค้กให้สามีรับประทาน โดยเชื่อว่าส่วนผสมของคาเฟอีนกับน้ำตาลจะช่วยให้พวกเขามีพลังและแคล้วคลาดจากอันตราย ช่างโรแมนติคเสียนี่กะไร เหมาะจะเป็นของหวานรับวันวาเลนไทน์โดยแท้ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มีนาคม 09, 2011, 04:08:17 PM แอปเปิล พาย
(http://www.fwdder.com/data/mail/2009/08/29/1251517185329/image/__fwdDer.com__-103945448-image006.jpg) เช่นเคย แม้จะฟังดูเป็นอเมริกันจ๋า แต่จริงๆ แล้วมีต้นกำเนิดจากเมืองผู้ดี โดยได้รับการคิดค้นขึ้นเมื่อปี 1381 และปกติจะอบด้วยแป้งสองชั้น ในสมัยก่อน ตอนที่ชาวอังกฤษอพยพมาตั้งรกรากในอเมริกา พวกเขาได้นำเมล็ดแอปเปิลมาปลูกด้วย จึงทำให้มันมีความเกี่ยวพันกับวัฒนธรรมของชาวมะกัน แต่ไม่ว่าจะที่โรงแรมในลอนดอนหรือภัตตาคารในแอลเอ แอปเปิลพายก็เป็นที่ถูกอกถูกใจบรรดาลูกค้าเหมือนกัน หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มีนาคม 09, 2011, 04:10:27 PM ไดฟุกุ
(http://www.fwdder.com/data/mail/2009/08/29/1251517185329/image/__fwdDer.com__-103945450-image007.jpg) ขนมเจลลาตินทรงกลมจากแดนอาทิตย์อุทัยมักสอดไส้ไว้ด้วยถั่วแดงหวาน (และบางครั้งก็อาจเป็นแยมสตอเบอร์รี่) โรยด้วยแป้งบางๆ โดยสามารถหาซื้อมารับประทานได้ทั้งจากกรุงโตเกียว โอซาก้า เกียวโต นากาโนะ และทุกแห่งในญี่ปุ่น หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มีนาคม 09, 2011, 04:12:18 PM นาไนโม บาร์ ( Nanaimo Bars)
(http://www.fwdder.com/data/mail/2009/08/29/1251517185329/image/__fwdDer.com__-103945451-image008.jpg) แคนาดาขึ้นชื่อเรื่องขนมหวาน? ได้ยินแล้วไม่ต่างกับการพูดว่ากรุงเทพขึ้นชื่อเรื่องทะเลยังไงยังงั้น แต่กระนั้น ขนมรสเลิศดังกล่าวก็มีที่มาจากเกาะแวนคูเวอร์ในเมืองนาไนโม รัฐบริติชโคลัมเบีย โดยได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นจากฝีมือแม่บ้านท้องถิ่นซึ่งได้ส่งเจ้าขนมทรงจัตุรัสชิ้นนี้ไปประกวดในนิตยสารและคว้ารางวัลชนะเลิศมาได้ ปัจจุบัน เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนในแถบอเมริกาเหนือ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มีนาคม 09, 2011, 04:13:53 PM กุหลับ จามาน ( Gulab Jamen
(http://www.fwdder.com/data/mail/2009/08/29/1251517185329/image/__fwdDer.com__-103945453-image009.jpg) ก้อนขนมปังหวานที่คงไม่ถูกปากฝรั่งตาน้ำข้าว แต่คอนเฟิร์มว่าอยู่ในรายชื่อขนมอันดับต้นๆ ของชาวอินเดีย และเมื่อมีคนกว่าพันล้านคนชื่นชอบ ก็ยากจะปฏิเสธได้ว่ามันไม่อร่อย ปกติแล้วมักทำขึ้นโดยใช้ครีมสองชั้นและราด้วยน้ำเชื่อมเข้มข้น เป็นที่นิยมในอินเดีย ปากีสถาน เนปาล และประเทศในแถบเอเชียใต้ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มีนาคม 09, 2011, 04:15:32 PM บาคลาวา (Baklava)
(http://www.fwdder.com/data/mail/2009/08/29/1251517185329/image/__fwdDer.com__-103945457-image010.jpg) ประวัติที่แท้จริงของบาคลาวายากที่จะระบุให้แน่ชัดเพราะว่ากันว่ามันมีต้นกำเนิดจากจักรวรรดิอ็อตโตมัน ดินแดนเมโสโปเตเมีย และอาหรับ โดยขนมหวานชนิดนี้ทำขึ้นจากการนำแป้งฟิลโลมาสอดไส้ไว้ด้วยถั่ว น้ำผึ้ง หรือน้ำเชื่อม หากต้องการลิ้มลองรสชาติแบบต้นตำรับก็ต้องไปรับประทานถึงถิ่นที่อ้างว่าเป็นจุดกำเนิด ทั้งกรุงอิสตันบูล กรุงเอเธนส์ และกรุงเบรุต แม้แต่ละที่อาจจะมีรสแตกต่างกันไปบ้าง แต่ก็ยังการันตีได้ถึงความเอร็ดอร่อย หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มีนาคม 19, 2011, 10:33:43 AM ดับกลิ่นในครัว
(http://www.khaosod.co.th/view_resizing_images.php?filename=news-photo/khaosod/2011/03/col16180354p1.jpg&width=360&height=360) ห้องครัวถือเป็นหน้าตาของบ้านเหมือนกัน หากมีกลิ่นไม่พึงประสงค์คงไม่น่าอภิรมย์นัก นิตยสาร "ฟู้ดสไตต์" ฉบับล่าสุด มีวิธีดับกลิ่นมาฝาก กลิ่นปลาทอด เวลาทอดปลาจะมีกลิ่นคาวอบอวลไปทั่วบ้าน กว่าจะจางหายไปก็ต้องใช้เวลานาน วิธีขจัดกลิ่นทำได้โดยใช้น้ำส้มสายชูผสมน้ำอย่างละคร ึ่ง ต้มให้เดือดไปเรื่อยๆ กลิ่นน้ำส้มสายชูกับน้ำจะช่วยกลบกลิ่นปลาให้หมดไปได้ อย่างรวดเร็ว กลิ่นกระเทียมติดมือ กลิ่นกระเทียมฉุนและแรง แถมติดมือนาน แก้ได้ด้วยการล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำยาล้างมือแล้วเช ็ดให้แห้ง จากนั้นบีบยาสีฟันลงบนแปรงที่ใช้ทำความสะอาดเล็บ ถูแปรงตามมือและซอกเล็บ เสร็จแล้วล้างยาสีฟันออก กลิ่นก็จะหายไป กลิ่นกะปิ กลิ่นกะปิเหม็นติดมือนานพอๆ กับกระเทียม ล้างเท่าใดกลิ่นก็ไม่หายเหม็น วิธีแก้คือล้างมือให้สะอาด หลังจากนั้นเช็ดให้แห้ง แล้วขยำมือกับถังใส่ข้าวสารสัก 2-3 ครั้ง เพียงเท่านี้กลิ่นกะปิที่เหม็นติดมือก็จะหายไปเอง กลิ่นขยะ ห้องครัวมีแต่กลิ่นขยะไม่ดีแน่ จัดการได้โดยใช้กระดาษหนังสือพิมพ์เก่าๆ รองไว้ใต้ถังหรือถุงดำก่อนจะทิ้งขยะลงไป กระดาษหนังสือพิมพ์จะช่วยดูดซับกลิ่นขยะ หลังจากนั้นฝานมะนาวชิ้นใหญ่ๆ 3-4 ชิ้นใส่ในถังขยะ กลิ่นต่างๆ จะไม่มารบกวนให้รำคาญใจอีก กลิ่นในตู้เย็น ตู้เย็นใช้เป็นที่เก็บผักสดสารพัดชนิด ทั้งผักสด เนื้อสัตว์ ไข่ไก่ และผลไม้ ทำให้มีกลิ่นสารพัด วิธีแก้ไขไม่ยาก นำถ่านที่ใช้ก่อไฟใส่ถ้วยเล็กๆ วางไว้มุมใดมุมหนึ่งของตู้เย็น ถ่านจะช่วยดูดกลิ่นต่างๆ (http://www.khaosod.co.th/images/ks.gif) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มีนาคม 23, 2011, 12:01:31 PM ข้าวผัด ผัดไปผัดมา
(http://i124.photobucket.com/albums/p27/voopohjin/thaifriedrice4of5.jpg) ข้าวสวย ประมาณ 3 จาน 3 คนทานเรา สามคน angel.gif แหนมปลากราย 1 มัด ซื้อตามซุปเปอร์มาเก็ต ค่ะ กุนเชียง 1 เส้น กระเทียม 2 กลีบ แตงกวา 3 ลูก ไข่ 1 ฟอง วิธีทำ หั่นกุนเชียง แหนมปลากราย เป็นชิ้นเล็ก เล็ก หั่นแตงกวา เป็น แบบ ลูกเต๋า ค่ะ ปลอกเปลือกกระเทียม ทุบ และซอยยิ๋บๆๆหน่อยจ้ะ ตั้งกะทะ พอร้อนเทน้ำมัน เจียวกระเทียม พอเหลืองใส่แหนมปลากรายลงไปว่ายตามด้วยกุนเชียง ผัดให้สุก ตอกไข่ กวนไข่ ใส่ข้าวลงไปคลุก เติมน้ำตาลหน่อย น้ำปลานิด ผัดอีก 3-4 ที ปิดไฟ โรยแตงกวา ให้ทั่ว รับประทานดั่ยจ้ะ...อิ อิ.. หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ เมษายน 14, 2011, 11:50:26 AM :)
สวัสดีวันปีใหม่ไทยค่ะ วันหยุด ยาว ยาว สำหรับคนทำงาน ไปเที่ยวพักผ่อนให้สนุกน้ะค่ะ (http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/0/05/Misua_noodle_making_Taiwan.jpg) (http://www.ku.ac.th/e-magazine/august47/agri/noodle.jpg) อาหารวันหยุด วันนี้ทำยำบะหมี่แห้งล่ะกันเอาแบบง่ายๆๆ เครื่องปรุง บะหมี่ 4 ก้อน หมูชิ้น เมล็ดมะม่วงหิมะพาน 1 กำมือ ต้นหอมสอย 3 ต้น น้ำมัน 2-3 ช้อนโต๊ะ มะนาว 1 ลูก เกลือป่น นิดหน่อย น้ำตาลทรายแดง 1 1/2 ช้อน พริกป่น วิธีทำ ต้มน้ำให้เดือด ลวกหมูพอสุก เอาขึ้นสะเด็ดน้ำ แล้วจึงลวกบะหมี่ ก่อนใส่บะหมี่ลวก ให้แผ่บะหมี่แล้วล้างน้ำเปล่า ก่อน ลวก ล้างแป้งที่ติดมากับบะหมี่ก่อน ลวกพอเส้นนิ่ม ต้องใช้ประสบการณ์ ::)น้ำเดือดใส่บะหมี่น้ำเดือดอีกทีก็ตักออกไปล้างน้ำเย็นเพื่อเส้นจะได้เหนียวนุ่ม เค้าบอกว่ามันจะได้สะดุ้ง น้ำร้อนบาน น้ำเย็นหด 8) สะเด็ดน้ำคลุกน้ำมัน สอยต้นหอมถ้าเหม็นกลิ่นไม่ชอบใช้ผักชี ถ้าชอบและไม่อยากได้กลิ่นให้ใส่ขณะบะหมี่ยังร้อนจะได้ไม่เหม็นกลิ่น ผักชีถ้าหั่นไม่สวยใช้เด็ดเป็นใบๆ :sleepy:ตำเมล็ดมะม่วงหิมะพาน มะนาว พริกป่น ตามแต่ชอบ ค่อยใส่ทีล่ะอย่างคลุกโดยใช้ ช้อนส้อม หรือ มือที่สะอาด angel.gif laugh.gif :D บะหมี่เลือกมียี่ห้อหน่อยค่ะเค้าจะได้ใส่ไข่ไปบ้างมันหอมและเหนียวนุ่มไม่เหนียวหนึบ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ เมษายน 14, 2011, 09:09:56 PM angel.gif
นำบุญมาฝากพี่ๆๆเพื่อนๆๆด้วยค่ะ ไปทำบุญที่วัดฟังธรรม และถวายสังฆทาน ปล่อยปลา ปลาไหล กบ เต่า หอยขม มีความสุขทุกท่านน้ะค่ะ วันนี้มีต้มยำปลาช่อนเนื้อขาวมาจากแม่น้ำ ธรรมชาติมากๆๆ แม่น้ำน้ะค่ะ :Dยำยอดมะพร้าวอ่อน อ่อนมากๆๆด้วย สูตรเป็นความลับ ลวงได้เมื่อไหร่แล้วจะมาบอก :-\มะม่วงสุกงอม งอมจากสวนแท้ แท้ angel.gif laugh.gif งั่ม งั่ม พอดีญาติมาเยี่ยม น่ะค่ะเลยพาไปเดินเล่นน้ำเเถวสีลม เราไม่สามารถฟ่าวงล้อมไปจนสุดถนนอีกด้านได้ เกือบแบนเป็นกล้วยปิ้ง :'( คนมั่ก มั่ก มาก ม้าก มาก :o :o :o :o หายใจไม่ออกเลยต้องถอยกลับบ้านน่ะค่ะ หน้าขาววอกบอกได้ว่าทุกคน วอกหมด ::)น้ำก็หยดเป็นทาง ทุกคนค่ะ การันตรี ;) ระวังสุขภาพด้วยน่ะค่ะ อากาศเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา จากใจค่ะ นู๋ใจ อิ อิ ;D หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ เมษายน 14, 2011, 09:44:55 PM ทำข้าวผัดให้อร่อย
(http://guru.sanook.com/picfront/pedia/resize_182047__11092008041928.jpg) การทำข้าวผัดให้อร่อย เริ่มจากข้าวสวยที่ผัดต้องหุง ให้เป็นเม็ดสวย "วิธีการหุงข้าว" ก็มีเคล็ดลับการหุงข้าวสารใหม่ต้องใส่น้ำน้อย เพราะข้าวยังมีความชื้นอยู่มาก แต่ถ้าเป็นข้าวเก่า ต้องใส่น้ำให้ท่วมข้าวหนึ่งองคุลี หุงแบบไม่เช็ดน้ำ หรือนึ่ง ก็จะได้ข้าวสวยที่เป็นเม็ดสวยมีคุณค่าสูง เมื่อสุกใหม่ร้อนๆ ต้องเกลี่ยใส่ถาด ให้ข้าวเย็นก่อนจึงนำมาผัดข้าวจะไม่เกาะตัวเป็นก้อน แต่ถ้าข้าวผัดที่ ทำจากข้าวกล้องนั้น มีวิธีหุงคือ ต้องใส่น้ำมาก เพราะข้าวกล้องดูดน้ำได้ดี แต่เมื่อสุกทิ้งให้เย็นต้องผัดเลยไม่ควรใช้ข้าวกล้องที่ทิ้งไว้นานมาผัด เพราะข้าวสวยที่หุงจากข้าวกล้องจะบูดง่ายกว่าข้าวสวยที่หุงจากขัาวขาว เมื่อได้ข้าวสวยที่เหมาะในการทำข้าวผัดแล้ว ทำอย่างไรจึงจะผัดให้ข้าวเป็นเงาสวยน่ากินสิ่งสำคัญอยู่ที่ "ไฟ" ต้องใช้ไฟกลางในการเจียวกระเทียมจนเหลือง ใส่เครื่องปรุงที่เป็นเนื้อสัตว์ผัดจนสุกก่อน จึงใส่ข้าวผัดให้ทั่ว ถ้าข้าวผัดชนิดใดมีส่วนผสมของไข่ต้องใส่ไข่ทีหลังข้าวพอผัดข้าวจนทั่วเกลี่ยข้าวไว้อีกด้าน หนึ่งต่อยไข่ใส่กลบข้าวบนไข่พอสุกจึงค่อยผัดไข่ ในขั้นตอนนี้ต้องผัดเร็วๆ ไข่จะเกาะเม็ดข้าวดี และไม่แฉะ เช่น ข้าวผัดปู ข้าวผัดทะเล ข้าวผัดกุ้ง ข้าวผัดหมู ในกรณีที่เป็นข้าวผัดที่นำน้ำพริกมาประยุกต์ คลุกน้ำพริกกับข้าวให้ทั่วก่อน จึงค่อยผัดทีหลังจะทำให้ส่วนผสมเข้ากันได้ดี "กระทะ" เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญในการทำข้าวผัดเลยทีเดียว กระทะเหล็กรับความร้อนได้เร็วและดี แต่ข้าวจะติดกระทะ ต้องผัดเร็วๆเหมาะสำหรับแม่ครัวที่ชำนาญในการผัดขัาว เพราะข้าวผัดที่ได้จะมีกลิ่นหอม ถ้าเป็นแม่ครัวมือใหม่ต้องใช้กระทะเทฟล่อน แต่กลิ่นหอมจะสู้ข้าวที่ผัดจากกระทะอะลูมิเนียม กระทะเหล็ก หรือกระทะเหล็กเคลือบไม่ได้ "ตะหลิว" ก็เช่นกันต้องเลือกด้ามที่ติดแน่น ทนความร้อน ข้อมูลจาก : http://thefriedrice.exteen.com/20080907/entry-1 (http://thefriedrice.exteen.com/20080907/entry-1) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ เมษายน 19, 2011, 08:11:42 PM ลาบปลาช่อนทอด
(http://www.siamdara.com/Picture_Girl/201104199420290.jpg) ส่วนผสม (ขนาดรับประทาน 4 คน) - ปลาช่อนขนาดใหญ่ 1 ตัว - น้ำมันสำหรับทอด 2 ถ้วยตวง - น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ - น้ำมะนาว 1/4 ถ้วยตวง - น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา - เกลือป่น 1/4 ช้อนชา - ข้าวคั่วป่น 1/4 ถ้วยตวง - หัวหอมซอย 1/4 ถ้วยตวง - ผักชีใบยาวหั่นหยาบๆ 2 ช้อนโต๊ะ - ใบสะระแหน่ 2 ช้อนโต๊ะ - ต้นหอมหั่นหยาบๆ 2 ช้อนโต๊ะ - แครอทหั่นเป็นเส้นยาว 1/4 ถ้วยตวง - พริกขี้หนูป่น 1 ช้อนชาพูน - ผักต่างๆ ประกอบด้วย ต้นหอม สะระแหน่ ใบโหระพา ผักกาดขาว ถั่วฝักยาว กะหล่ำปลี ฯลฯ วิธีทำ - ปลาช่อนทำความสะอาดแล้ว แล่เอาแต่เนื้อทั้งสองด้าน หั่นเป็นชิ้นขนาดใหญ่ ทอดในน้ำมันร้อน จัดไฟปานกลางให้เหลืองสวย ตักขึ้นพักไว้บนกระดาษซับน้ำมัน - ผสมน้ำปลา น้ำมะนาว เกลือป่น ข้าวคั่ว เข้าด้วยกัน ก่อนจะรับประทาน นำปลาที่ทอดไว้มายี ด้วยส้อมพอกระจายตัว ใส่หอมซอย และเครื่องปรุงที่เตรียมไว้ลงเคล้าให้ทั่ว ใส่ผักชีใบยาวที่ หั่นไว้ลงพร้อมกับใบสะระแหน่ ต้นหอมหั่นหยาบๆ และ แครอท โรยพริกป่น แล้วชิมดูรสที่ต้อง การ เสิร์ฟพร้อมกับผักชนิดต่างๆ (http://www.siamdara.com/images_new/logo08.gif) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: อุ๊ ที่ เมษายน 22, 2011, 11:02:38 AM สูตรทำข้าวผัดให้อร่อย ลองแล้ว อร่อย และเม็ดข้าวสวยจริง ๆ จ้า ^-^
หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: อุ๊ ที่ เมษายน 22, 2011, 11:04:51 AM ช่วงนี้หน้าร้อน แถมร้อนจัดมาก ๆ
ขอสูตรอาหารคลายร้อนให้เจ้าตัวเล็กหน่อยได้ไหมจ๊ะ ขอเป็นอาหารแบบไทย ๆ นะคะ ฝรั่ง ๆ ทำไม่ค่อยเป็งงงง ;D หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ เมษายน 23, 2011, 08:58:46 PM เครื่องดื่มโดนใจคนยุคใหม่
(http://img.kapook.com/image/Food/03_2.jpg) เครื่องดื่มโดนใจ ... สำหรับคนยุคใหม่ (แม่บ้าน) เรื่อง : น้ำริน ถ้าคุณแม่บ้านสังเกตดี ๆ จะเห็นว่าน้ำรินชอบนำ "ลูกพีช" มาเป็นส่วนผสมในเครื่องดื่มเสมอ...ผลไม้สีเหลืองอมส้ มนี้ นอกจากรสชาติดีแล้วยังมีประโยชน์มากอีกด้วยค่ะ เริ่มจากมีวิตามินเอ ช่วยควบคุมการทำงานของ Rod cells และ Cone cells ใน Retina บำรุงรักษาเซลล์ชนิดบุผิวของอวัยวะต่าง ๆ มีบทบาทในการสร้างกระดูกและฟัน รวมทั้งระบบสืบพันธุ์ มีสารต้านอนุมูลอิสระชื่อว่า เบต้าคริบโตแซนทิน ช่วยป้องกันไม่ให้เซลล์ถูกทำลาย ช่วยบำรุงหัวใจ กระเพาะอาหาร เป็นยาระบายอ่อนๆ ในผลลูกพีชยังมีเกลือแร่โบรอน ซึ่งทำให้สมองกระฉับกระเฉงและกระปรี้กระเปร่า ถ้าได้รับเกลือแร่โบรอนในปริมาณต่ำ จะทำให้สมองทำงานช้าลงและสมาธิสั้น... และ ครั้งนี้น้ำรินก็นำลูกพีชมาเป็นส่วนผสมหลักอีกครั้ง. .. เนื่องจากเจ้าพี่ตัวแสบซื้อมาให้เพียบจากงานลดราคาขอ งห้างฯ ดังกลางเมือง "ฉันเห็นว่าชอบเลยซื้อมาให้" น้ำรินมองหน้าพี่สาวเล็กน้อยก่อนบอกไปว่า "เยอะเกินไปหรือเปล่าล่ะน้ำค้าง แล้วจะกินกันทันมั้ยเนี่ย" พี่สาวตัวดีจึงนำเสนอให้จัดการทำเป็นเมนูเครื่องดื่ม ซะ รวมถึงให้นำมาปรุงอาหารคาวและหวานอีกหลายชนิด ขอบอกค่ะว่ากว่าจะหมดลูกพีชล็อตนี้แทบแย่... (http://img.kapook.com/image/Food/01_4.jpg) Strawberry Peach Plus ส่วนผสม สตรอเบอร์รีสด 150 กรัม ลูกพีชในน้ำเชื่อม 150 กรัม น้ำเชื่อม ¼ ถ้วยตวง น้ำเปล่า ½ ถ้วยตวง น้ำหวานเข้มข้น กลิ่นสตรอเบอร์รี ตราเฮลซ์บลูบอย 1/3 ถ้วยตวง น้ำแข็งป่น 2 ถ้วยตวง วิธีทำ ล้างสตรอเบอร์รีให้สะอาด ซับให้แห้ง ตัดขั้วออกหั่นเป็น 4 ส่วน หั่นลูกพีชเป็นสี่ส่วน นำใส่โถปั่นพร้อมกับสตรอเบอร์รีปั่นประมาณ 5 วินาที จึงใส่ส่วนผสมอย่างอื่นลงไป ปั่นต่อจะละเอียดเนียน ชิมรสตามชอบ สามารถใส่เกลือป่นเพิ่มได้เล็กน้อยถ้าต้องการ (http://img.kapook.com/image/Food/03_2.jpg) ลูกพีชสมหวัง ส่วนผสม สมหวัง (แห้ว) กระป๋อง 150 กรัม ลูกพีชในน้ำเชื่อม 100 กรัม นมสด ½ ถ้วยตวง น้ำหวานเข้มข้น กลิ่นสับปะรด ตราเฮลซ์บลูบอย 1/3 ถ้วยตวง น้ำแข็งป่น 2 ถ้วยตวง ผงซินนามอน ½ ช้อนชา วิธีทำ หั่นสมหวัง (แห้ว) ให้เป็นชิ้น ๆ ใส่ในโถปั่นพร้อมกับลูกพีชที่หั่นแล้ว ใส่นมสด น้ำหวานเข้มข้น กลิ่นสับปะรด ตราเฮลซ์บลูบอยและน้ำแข็งป่นลงไป ปั่นให้เข้ากันจนละเอียดเนียน รินใส่แก้วตกแต่งด้วยผงชินนามอน (http://img.kapook.com/image/Food/04_2.jpg) Peach & Pear ส่วนผสม ลูกพีชในน้ำเชื่อม 150 กรัม ลูกแพร์สด 150 กรัม น้ำเปล่า 1/3 ถ้วยตวง น้ำหวานเข้มข้น กลิ่นครีมโซดา ตราเฮลซ์บลูบอย 1/3 ถ้วยตวง น้ำแข็งป่น 2 ถ้วยตวง วิธีทำ ล้างลูกแพร์ให้สะอาด นำเมล็ดและแกนกลางออก หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ หั่นลูกพีชเป็นชิ้นเล็ก ๆ นำใส่โถปั่นพร้อมกับลูกแพร์ น้ำเปล่า น้ำหวานเข้มข้น กลิ่นครีมโซดา ตราเฮลซ์บลูบอยและน้ำแข็งป่น ปั่นให้เข้ากันจนละเอียด ขอขอบคุณข้อมูลจาก (http://img.kapook.com/image/Logo/mhaban_logo.jpg) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ เมษายน 23, 2011, 09:00:22 PM อาหารเช้าสำคัญสำหรับเด็ก
เพราะความรีบเร่ง ชุลมุน วุ่นวาย ในตอนเช้า ทำให้เจ้าตัวเล็ก ๆ ทั้งหลายไม่ค่อยจะได้กินอะไรเป็นเรื่องเป็นราวนัก รู้ไหมครับว่าเด็กที่กินอาหารเช้าจะมีสมาธิดี ตั้งใจเรียน ตรงเวลา ส่วนเด็กที่ไม่ได้กินอาหารเช้า มักจะอารมณ์เสียง่าย ขี้กังวล อยู่ไม่สุข ชอบก่อกวนและง่วงเหงาหาวนอน อาหารเช้าของเด็กๆควรเป็นอาหารให้พลังงาน หรือแคลอรี่ไม่ต่ำกว่าร้อยละ25 ของพลังงานที่ได้รับในแต่ละวัน ควรเป็นอาหารไขมันต่ำ และเป็นอาหารคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน จำพวกข้าวซ้อมมือ ขนมปังโฮลวีต โปรตีนจากนม ไข่ ถั่ว ธัญพืชที่มีเส้นใยสูง ผักและผลไม้ ทั้งนี้เพื่อให้ร่างกายได้รับพลังงานจากกลูโคสอย่างช้า ๆ ส่งผลให้ร่างกายสร้างพลังงานได้อย่างสม่ำเสมอตลอดวัน รักลูก อยากให้ลูกเก่ง อารมณ์ดี ไม่ขี้หลงขี้ลืม และสดชื่นตลอดทั้งวัน ก็หาข้าวเช้าให้ลูก กินอย่าได้ขาดน้ะค่ะ ข้าวตุ๋นปลาบด 1. ปลานึ่งแกะเอาแต่เนี้อ (ยีให้ละเอียดเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีก้างเหลืออยู่) 2. หอมหัวใหญ่ 3. แครอท 4. ผักโขม หรือ ผักคะน้า 5. น้ำซุปปลา หรือ ไก่ (ใช้กระดูกปลา หรือไก่ เคี่ยวกรองน้ำซุปไว้) 6. น้ำมันพืช ใช้น้ำมันถั่วเหลือง หรือทานตะวัน 7. ปลายข้าวกล้อง (มีจำหน่ายเป็นถุงตามห้างทั่วไป) นำน้ำซุป ลงต้มกับปลายข้าว จนข้าวสุกเปื่อย ใส่หอมใหญ่ แครอท ผักโขม (หั่นชื้นเล็ก ๆ เพื่อจะได้เปื่อยง่ายคะ) ตุ๋นจนสุกได้ที ใส่น้ำมันพืช ส่วนความข้น คุณแม่กะประมาณที่เราทำข้าวต้มทานกันนั่นละคะ ไม่ใสมาก ไม่ข้นเกิน พอสุกดีแล้ว เรา รอจนส่วนผสมเย็น คุณแม่นำเข้าเครื่องปั่น ปั่นจนส่วนผสมเนียน เป็นอันเสร็จสรรพ อาหารเมนูโปรด ของหนู แบบครบคุณค่าเชียวคะ เมนูนี้ เป็นของทารก วัย 7 เดือน ถึง 1 ขวบคะ ส่วนความละเอียดของการปั่นส่วนผสม ดูความพร้อมลูกน้อยเป็นหลักนะคะ ถ้าไม่พร้อมทานอาหารที่มีกาก คุณแม่ปั่นละเอียดได้เลยคะ เคล็ดไม่ลับนำมาฝาก - คุณสามารถเคี่ยวน้ำซุป เก็บไว้ใช้ได้ เมื่อแบ่งเก็บในช่องแข็ง - คุณแม่ทำเพิ่มมากกว่า 1 มื้อ ด้วยการแบ่งเก็บช่องแข็งได้คะ เวลาจะใช้ นำเข้าไมโครเวฟ (พักเพื่อคนให้ความร้อนเสมอ) อย่าลืมระวังเรื่องความร้อนคะ ต้องแน่ใจนะคะว่าก่อนให้เด็กทานคุณเช็คความร้อนดีแล้ว - ไม่ใส่สารชูรสใด ๆ แม้กระทั่งเกลือนะคะ เด็กวัยนี้ เราระวังการทำงานของตับและไต รวมถึงระบบการย่อย ปลาและหอมหัวใหญ่ เพิ่มความหอมหวานถูกใจอยู่แล้วคะ - ส่วนข้าวที่ใช้ตุ๋น ต้องเป็นข้าวซ้อมมือเท่านั้นคะ มีคุณค่ามากกว่ากันเยอะ แม้จะสุกยากกว่ากันนิดหน่อยคะ ถ้าใช้แบบข้าว 7 นาที อบสุกแล้วก็ได้นะคะเขามีจำหน่าย - เมนูนี้คุณแม่สามารถปรับส่วนผสมได้ตามต้องการนะคะเช่น ต้องการเพิ่มน้ำหนักลูกน้อย ใส่ประมาณข้าวพอเหมาะ หากต้องการลดน้ำหนัก คุณแม่ปรับข้าวให้น้อยลง เป็นหลักโภชนาการที่เราทราบแต่ครบถ้วนด้วยคุณค่า มันฝรั่งตับบด 1. ตับไก่ หรือตับหมู 2. มันฝรั่ง 3. เนย หรือน้ำมันงา 4. ผักตำลึง พรอคโครี่ หรือผักคะน้า ( อย่างใดอย่างหนึ่งคะ) 5. ข้าวกล้อง ( แบบข้าวอบ 7 นาที เปื่อยเร็วดีคะ) 6. น้ำซุป ( หมู ไก่ หรือปลา ) นำน้ำซุปต้มพอเดือด นำตับไก่ลงต้มพอสุก ตักขึ้นพักไว้คะ นำข้าวกล้อง มันฝรั่งหั่นชิ้นเล็ก พร้อมผัก น้ำมันงา หรือ เนย ลงตุ๋นพร้อมกันในน้ำซุปที่ต้มตับ จนส่วนผสมนิ่มดีแล้ว คุณแม่จะตุ๋นจนนิ่มไว้ป้อนหนูน้อย โดยนำตับที่ต้มไว้มาบด หรือปั่นผสมกับข้าวและผัก ถ้าหนูน้อยยังไม่สามารถเคี้ยวได้ละก็ เมนูปั่นถูกใจสุดคะ นำตับลงปั่นพร้อมส่วนผสมทั้งหมดได้เลยคะ เมนูที่เตรียมให้นี้ คุณแม่สามารถทำเพิ่มมื้อได้ โดยการนำเข้าช่องแข็งทันทีที่ปั่นเสร็จ ระวังเรื่องความสะอาดของภาชนะและไม่ปั่นอาหารตั้งทิ้งไว้นะคะ อาหารเสริม ผลไม้รวม 1. กล้วยน้ำว้าสุก 2. มะละกอสุก 3. น้ำส้มคั้น 1 ลูก นำส่วนผสมทั้งหมดปั่นให้ละเอียดเนียน ใช้ป้อนหนูน้อยได้เลยคะ ส่วนจะปั่นให้เนียน หรือไม่ละเอียดนัก ให้คุณแม่ดูตามความเหมาะสมคะ เพราะเด็กแต่ละคนมีความพร้อมในการทานอาหาร เรื่องการเคี้ยวและกลืนต่างกันคะ รายละเอียดเรื่องอาหารข้น หรือใส ปั่นแบบละเอียดมากน้อย ให้ดูตามความพร้อมคะ เมนูนี้ลูกน้อยจะหนีความจำเจของรสชาดผลไม้บด เช่นมะละกอขูด หรือกล้วยขูด ได้ดีเชียวคะ ยิ่งตอนนี้มะละกอรสหวานแบบแขกดำที่เคยทานก็ถูกบริษัทยักใหญ่ตัดต่อพันธุกรรม ครองตลาดเรียบร้อยไปแล้ว เป็นมะละกอเนื้อแข็ง ทานไม่อร่อยเหมือนเดิม ส่วนใหญ่จืดชืดเชียวคะ ถ้าคุณแม่เจออย่างนี้ ก็อย่าเพิ่งทิ้งให้เสียของเปล่าเชียวคะ นำมาทำผลไม้รวม เมนูนี้ ดีสุดเชียวคะ ถูกใจไม่ไม่หนู ๆ คนใด ปฏิเสธ แม้กระทั่งหนูน้อยที่ปฏิเสธมะละกอสุกมาตลอดละคะ คุณแม่ลองดูนะคะ เมนูเพิ่มน้ำหนัก ขนมปังตุ๋นนม 1. ขนมปังโฮลวีต ฉีกเป็นชิ้นเล็ก ๆ 2 แผ่น 2. นมผงผสมตามสัดส่วนที่เด็กทานอยู่ 6 ออนซ์ 3. ฟักทอง หรือ แครอท หั่นสี่เหลื่ยมลูกเต๋าเล็ก ๆ 4. ไข่ต้มสุก แยกเอาแต่ไข่แดง 1 ฟอง นำขนมปังโฮลวีต ที่ฉีกไว้ แช่ลงในนมที่คุณแม่ผสมเตรียมไว้ ใส่ฟักทอง หรือแครอท ใส่หม้อ่ตุ๋นจนส่วนผสมสุกนิ่มดีแล้ว ทิ้งไว้จนเย็น นำเข้าเครื่องปั่น ปั่นจนเนียนละเอียด ส่วนผสมจะข้น เวลารับประทาน ให้นำไข่แดงที่ต้มสุกแล้วผสมลง บดด้วยช้อนให้เข้ากัน พร้อมรับประทานได้เลยคะ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ เมษายน 23, 2011, 09:03:39 PM เคล็ดลับอร่อย ทอดไก่ให้กรอบนอกนุ่มใน
(http://www.dailynews.co.th/content/images/1103/23/etc/ty.jpg) เริ่มต้นเราต้องนำเนื้อไก่ที่จะทำการทอดล้างแล้วนำมา ผึ่งแดดไว้ จากนั้นตำกระเทียมพริกไทยเม็ดให้เข้ากันแล้วใส่เกลือ ลงไปนิดหน่อย นำไปหมักกับไก่อย่างน้อยครึ่งชั่วโมง จากนั้นเรียงใส่จานนำไปนึ่ง แนะนำว่าเวลานำลงนึ่งต้องให้น้ำเดือดก่อน นึ่งจนไก่พอสุกแล้วนำออกจากลังปล่อยให้ไก่เย็นตัวลงพ ร้อมทั้งผึ่งให้แห้ง ขั้นตอนต่อไปนำไก่คลุกกับแป้งสาลี (หรือจะใช้แป้งชุบทอด ที่ขายกันทั่วไปก็ได้) คลุกกับแป้งแห้งๆ จากนั้นชุบด้วยไข่ไก่ที่ตีเข้ากัน แล้วนำไปคลุกเกล็ดขนมปัง ต่อไปก็จัดการลงทอดในน้ำมันร้อนจัด ด้วยไฟปานกลาง พอเกล็ดขนมปังสุกเหลือง ค่อยช้อนขึ้นพักสะเด็ดน้ำมัน เท่านี้ก็จะได้ไก่ทอดกรอบนอกนุ่มในแล้ว ถ้าไม่ชอบ แบบชุบเกล็ดขนมปังทอด หลังจากนึ่งเสร็จรอจนไก่เย็นตัวลงแล้ว นำไปชุบกับแป้งทอดกรอบ เคล็ดลับสำคัญ อยู่ที่เวลาผสมแป้งกับน้ำ ให้ใช้น้ำเย็น ผสมให้แป้งข้นพอชุบติด จุ่มไก่ลงทอดในน้ำมันร้อนจัดเช่นกัน ก็จะได้ไก่ทอดกรอบ นอกนุ่มในอีกแบบหนึ่ง ง่ายๆแค่นี้อย่าลืมนำไปลองทำทานที่บ้านเพิ่มความอร่อ ยให้เมนูโปรดกันดู. (http://www.dailynews.co.th/newstartpage/includes/images/logo.gif) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ เมษายน 23, 2011, 09:05:34 PM ช่วงนี้หน้าร้อน แถมร้อนจัดมาก ๆ ขอสูตรอาหารคลายร้อนให้เจ้าตัวเล็กหน่อยได้ไหมจ๊ะ ขอเป็นอาหารแบบไทย ๆ นะคะ ฝรั่ง ๆ ทำไม่ค่อยเป็งงงง ;D :D ;D อิ อิ เดี๋ยวมาเขียนใหม่น้ะค่ะ พอดีติดสอบค่ะ อิ อิ angel.gif หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: อุ๊ ที่ เมษายน 29, 2011, 01:11:05 PM ช่วงนี้หน้าร้อน แถมร้อนจัดมาก ๆ ขอสูตรอาหารคลายร้อนให้เจ้าตัวเล็กหน่อยได้ไหมจ๊ะ ขอเป็นอาหารแบบไทย ๆ นะคะ ฝรั่ง ๆ ทำไม่ค่อยเป็งงงง ;D :D ;D อิ อิ เดี๋ยวมาเขียนใหม่น้ะค่ะ พอดีติดสอบค่ะ อิ อิ angel.gif อ้าว! ยังเรียนไม่จบอีกเหรอ :D ไม่เป็นไรรอได้จ้า เดี๋ยวเอาเมนูอื่น ๆ ไปลองทำดูก่อนแล้วกันจ้า หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤษภาคม 01, 2011, 05:23:34 PM อาหารสำหรับเด็กค่ะ
มะกะโรนีกุ้ง (http://www.ezythaicooking.com/images/rf2-stir-fried-maccaroni-with-shrimp.jpg) ส่วนผสม มะกะโรนีลวก 1 ถ้วยตวง กุ้งสดลวก 5-6 ตัว ไข่ไก่ 1 ฟอง หอมหัวใหญ่ 1 1/2 ช้อนโต๊ะ แครอท หั่นเต๋า 2 ช้อนโต๊ะ มะเขือเทศหั่นเต๋า ไม่เอาเมล็ด 2 ช้อนโต๊ะ มะเขือเทศเชอร์รี่ 4-5 ลูก ผักกาดหอม สำหรับตกแต่ง กะหล่ำปลี 1 ถ้วยตวง ขึ้นฉ่าย 4 ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1 1/2 ช้อนโต๊ะ ซอสมะเขือเทศ 3 ช้อนโต๊ะ เนยจืด เล็กน้อย วิธีทำ 1. ตั้งกระทะใส่เนยจืด พอร้อนใส่แครอท มะเขือเทศ หอมหัวใหญ่ ผัดให้หอม แล้วใส่ไข่ ผัดไข่ให้สุก 2. ใส่มะกะโรนีทีลวกแล้ว ผัดให้เข้ากัน แล้วใส่กุ้งที่ลวกไว้ ผัดให้เข้ากันอีกที 3. ใส่กะหล่ำปลี แล้วผัดให้พอสุก เติมเครื่องปรุง ชิมรสตามชอบ 4. ก่อนปิดเตาให้ใส่ขึ้นฉ่ายและมะเขือเทศเชอร์รี่ ผัดเพียงเล็กน้อย ตักเสิร์ฟ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤษภาคม 01, 2011, 05:30:40 PM ปลาซาบะต้มซีอิ๊วญี่ปุ่น
(http://www.yamamoritrading.com/images/tsuyu3bai_p8_s.JPG) ส่วนผสม ปลาซาบะขนาดกลาง 1 ตัว ขิง 4-5 แว่น ซีอิ๊วคิคูแมน (ซีอิ๊วญี่ปุ่น) (ถ้าไม่มีใช้น้ำตาลปี๊บแทน) 1 ถ้วยตวง น้ำส้มสายชู 1 ช้อนชา วิธีทำ 1. หั่นปลาซาบะตามขวางเป็นแว่น อย่าหนามากนัก 2. เอาขิงวางเรียงลงในหม้อ เอาปลาวางทับ เทซอสคิคูแมน (หรือแทนด้วยน้ำตาลปี๊บ 1-2 ช้อนชาลงไปแทน แล้วแต่ชอบหวานแค่ไหน) และใส่น้ำส้มสายชูลงไป 3. เติมน้ำให้ท่วมเนื้อปลา แล้วนำไปต้มด้วยไฟกลาง เมื่อเดือดแล้วลาไฟ เคี่ยวต่อให้น้ำงวดลง เราคุ้นเคยกับการกินปลาซาบะย่างมากกว่าการปรุงด้วยวิธีอื่น แต่รู้หรือไม่ว่า น้ำมันจากปลาที่มีประโยชน์ เช่น สารโอเมก้า 3 ซึ่งช่วยบำรุงสมอง แก้ภูมิแพ้ และทำให้เด็กมีภูมิต้านทานต่อการติดเชื้อ จะสูญเสียไปกับการย่าง ดังนั้นคุณแม่ควรเปลี่ยนวิธีปรุงปลามาเป็นการต้มหรือนึ่งจะดีกว่า...ต้มยำปลาซาบะ (ไม่ใส่พริก) นั้นอร่อยนัก เครื่องต้มยำก็ช่วยดับคาวปลาได้ ส่วนปลาซะบะนึ่ง ใช้ขิงเป็นตัวช่วยดับคาวได้ค่ะ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤษภาคม 01, 2011, 05:38:29 PM ต้มจืดสีรุ้ง (http://thaibizcenter.com/admin_sys/images/article/AContents_Picture2212553130847.jpg) เครื่องปรุง เนื้อปลากะพงแร่ตามยาว 10 ชิ้น ปีกไก่ 5 ปีก แครอท หั่นเป็นท่อนพอดีคำ 1/2 ถ้วย ซูกินี่ ไม่ต้องปอกเปลือกหั่นพอดีคำ 1/2 ถ้วย ฟักทองหั่นพอดีคำ 1/2 ถ้วย ก้านขึ้นฉ่ายลวก 10 ก้าน กระเทียม พริกไทย รากผักชี โขลกละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ 1. นำปลากะพงมาล้างให้สะอาดแล้วซับให้แห้งก่อนวางแครอท ซูกินี่บนชิ้นปลาแล้วม้วนเข้าด้วยกัน ผูกด้วยก้านขึ้นฉ่ายลวกแล้วพักไว้ 2. ตั้งน้ำครึ่งหม้อใส่กระเทียมพริกไทยรากผักชีโขลกที่เตรียมไว้ ตามด้วยปีกไก่ ปลาม้วน เมื่อน้ำเดือดแล้วจึงใส่ฟักทองหรือผักอื่นๆ ที่เตรียมไว้ ปรุงรสได้ตามใจชอบ เสิร์ฟร้อนๆ ซดคล่องคอ เด็กๆ ก็ช่วยได้ เตรียมผักให้คุณแม่ กับหน้าที่เฉพาะกิจไม่มีบ่อยๆ อย่างม้วนปลาก็น่าสนุกดี แต่เบามือหน่อยแล้วกันนะ การนึ่ง ย่าง อบ และต้มจะช่วยรักษาน้ำมันที่มีประโยชน์ในปลา (อย่างกรดไขมันตระกูลโอเมก้า 3 ที่ช่วยบำรุงและป้องกันโรคหัวใจ วิตามินเอช่วยบำรุงสายตา ผิวพรรณ และวิตามินดีที่ช่วยในการเจริญเติบโต พร้อมเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงให้คงอยู่และเกิดประโยชน์แก่ร่างกายเรามากที่สุด หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤษภาคม 01, 2011, 05:45:16 PM แกงจืดไข่เจียวหมูสับ
(http://www.ezythaicooking.com/images/kai-num1.jpg) ประกอบด้วย ไข่ 2 ฟอง หมูสับ ๑/๒ ถ้วยตวง (จะเปลี่ยนเป็นเนื้อสัตว์อย่างอื่นสับแทนก็ได้) ซอสถั่วเหลือง 2 ช้อนโต๊ะ พริกไทยป่น ๑/๘ ช้อนชา (ถ้าเด็กไม่ชอบไม่ต้องใส่) น้ำสะอาด 2 ถ้วยตวง ต้นหอมซอย 1 ต้นเล็ก ผักชีซอย 3 - 4 ก้าน จะเพิ่มแครอท หรือฟักทองหั่นเป็นลูกเต๋าเล็กๆใส่ลงไปได้น้ะค่ะ ตอกไข่ใส่ชามตีพอแตก ใส่หมูสับ ซอสถั่วเหลือง 1 ช้อนโต๊ะ และพริกไทยลงไป ตีให้เข้ากัน ใส่ต้นหอม ผักชีลงไปสักครึ่งหนึ่ง ถ้าจะใส่ผักอื่นด้วยให้ใส่ตอนนี้ แล้วก็ตีให้ทุกอย่างเข้ากันดี ตวงน้ำใส่หม้อ ยกตั้งไฟกลาง พอเริ่มจะเดือด ใส่ซอสถั่วเหลืองที่เหลือ 1 ช้อนโต๊ะลงไป พอน้ำเดือดจัด เทส่วนผสมที่เตรียมไว้ลงไป ใครจะไม่เทแต่ใช้ช้อนตักลงไปเป็นคำๆก็ได้ สักพักหนึ่งให้คนเพื่อให้ส่วนที่ตกตะกอนนอนก้นลอยขึ้นมา น้ำเดือดและหมูสุกดีแล้วปิดไฟได้ โรยต้นหอมผักชีที่เหลือลงไป คนอีกที่จะได้อย่างนี้ พร้อมตักใส่ชามเสิร์ฟได้ ตักใส่ชามทานร้อนๆหรืออุ่นๆ ใครอยากใส่กระเทียมเจียวลงไปด้วยก็ได้ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤษภาคม 01, 2011, 05:52:10 PM อาหารประเภทแกง
แกงหมายถึง วิธีการผสมอาหารหลาย ๆ สิ่งรวมกับน้ำ แยกเป็นแกงเผ็ดกับแกงจืด แกงจืดโดยมากต้องรับ ประทานร้อน ๆ จึงจะอร่อย ใส่น้ำมากกว่าแกงเผ็ด น้ำประมาณ 3 ใน 4 ส่วนของเนื้อ เช่น เนื้อ 1 ส่วน น้ำ 3 ส่วน เนื้อในที่นี้หมายถึงเครื่องปรุงที่เป็นเนื้อสัตว์กับผัก ส่วนแกงเผ็ดยังแยกออกไปได้อีกหลายชนิด เช่น แกงคั่ว แกงส้ม แกงเผ็ด ฯลฯ 1. แกงส้ม แกงส้ม เป็นแกงที่นิยมรับประทานในครอบครัวของคนไทย มีรสเปรี้ยว เค็ม หวานนิดหน่อย ใช้ผักที่มีตาม ท้องถิ่นนั้น ๆ ผักที่นิยมใช้แกงส้ม เช่น ผักบุ้ง ผักกระเฉด ดอกแค กะหล่ำปลี หน่อไม้ดอง ฯลฯ ส่วนเนื้อสัตว์ที่นำ มาใช้กับแกงส้ม มีปลา กุ้งน้ำจืดและกุ้งน้ำเค็ม บางทีก็ใช้หอยแทนกุ้ง แกงส้มเป็นแกงที่ปรุงรสสามรส น้ำแกงที่ให้ รสชาติอร่อยพอดีทั้งสามรสจะทำได้ยากกว่าแกงชนิดอื่นไม่เปรี้ยวจนเกินไป หรือเค็มขึ้นหน้า หรือมีรสหวานนำ ควรปรุงให้กลมกล่อมทั้งสามรส เช่น แกงส้มผักกระเฉดกับปลาช่อน แกงส้มดอกแคกับกุ้ง แกงส้มแตงโมอ่อน แกงส้มผักรวม ฯลฯ 2. แกงคั่ว แกงคั่ว เป็นแกงที่ต้องใช้เนื้อสัตว์ประเภท ปลาย่าง ปลากรอบ หรือกุ้งแห้ง อย่างใดอย่างหนึ่งโขลกผสมกับ เครื่องแกง เพื่อทำให้น้ำแกงข้น มีกลิ่นหอมชวนรับประทาน แกงคั่วจะไม่ใส่เครื่องเทศ จะทำให้มีกลิ่นฉุน ผักที่ นิยมใส่แกงคั่ว เช่น ผักบุ้ง สับปะรด เห็ด ฟักเขียว แกงคั่วจะใช้ผักเป็นหลัก ส่วนเนื้อ ปลา กุ้ง หอยเป็นส่วนประกอบ รสชาติของแกงคั่วทั่ว ๆ ไปมีสามรส คือ เปรี้ยว หวาน เค็ม แต่แกงคั่วบางชนิดจะมีสองรส คือ เค็มกับหวาน เช่น แกงคั่วเห็ด หรือแกงที่มีลักษณะคล้ายแกงคั่วแต่มีรสชาติออกเค็มอย่างเดียว เช่น แกงขี้เหล็ก แกงป่าชนิดต่าง ๆ เช่น แกงป่าปลาดุก แกงป่าเนื้อ แกงป่าปลาสับ แกงป่าไก่ ฯลฯ 3. แกงเผ็ด แกงเผ็ด เป็นแกงที่ต้องใช้เนื้อสัตว์ในการปรุงเป็นหลัก มีผักเป็นส่วนประกอบ เนื้อสัตว์ที่นิยมนำมาประกอบ ได้แก่ เนื้อ หมู ไก่ กุ้ง ปลา ส่วนผักจะใช้ มะเขืออ่อน มะเขือพวง ถั่วฝักยาว หน่อไม้ ฯลฯ ตกแต่งด้วยพริกชี้ฟ้าสี ต่าง ๆ ใบมะกรูด ใบโหระพาปรุงรสด้วยน้ำปลา ให้ความเค็ม มีน้ำตาลเล็กน้อย เพราะแกงเผ็ดได้ความหวานจาก กะทิ แกงเผ็ดสำคัญอยู่ที่การปรุงน้ำพริก ต้องปรุงให้ถูกส่วน โขลกน้ำพริกให้ละเอียด เช่น แกงเผ็ดเนื้อ ไก่ หมู กุ้ง เนื้อ ปลากราย แกงเขียวหวาน ฯลฯ แกงเผ็ดแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ แกงเผ็ดที่ไม่ใส่กะทิเรียกว่า แกงป่า และแกงเผ็ดที่ใส่กะทิซึ่งใช้พริกแห้งมีสีแดง เรียกว่า แกงเผ็ด ถ้าใช้พริกสดสีเขียวเรียกว่า แกงเขียวหวาน 4. ผัดเผ็ด - พะแนง ผัดเผ็ด - พะแนง เป็นอาหารที่จัดอยู่ในพวกแกงเผ็ด เพียงแต่มีน้ำกะทิหรือน้ำน้อยกว่าแกงเผ็ด การประกอบ อาหารประเภทนี้ทำเช่นเดียวกับแกงเผ็ด ลักษณะจะมีน้ำแบบขลุกขลิก หรือแห้ง ๆ ปรุงรส เค็ม หวานนิดหน่อย เช่น ผัดเผ็ดกบ ผัดเผ็ดปลากราย ผัดเผ็ดหมูป่า ส่วนพะแนงก็มีลักษณะเหมือนแกงเผ็ด เนื้อสัตว์ที่ใช้ต้องเคี่ยวให้ นุ่ม การปรุงรส มีรสหวาน เค็ม พอดี ตกแต่งด้วยพริกชี้ฟ้าสด ใบมะกรูด ใบโหระพา 5. แกงเลียง แกงเลียง เป็นแกงที่ประกอบด้วยน้ำพริก ผัก เนื้อสัตว์ น้ำแกงและเครื่องปรุงรส น้ำพริกแกงเลียงจะแปลกกว่า แกงชนิดอื่น ๆ เพราะมีพริกไทย หัวหอม กะปิ กุ้งแห้ง ปลาย่างหรือปลากรอบ น้ำแกงมีลักษณะข้น ผักที่นิยมใส่ที่ สามารถบอกลักษณะว่าเป็นแกงเลียง คือ ใบแมงลักมีกลิ่นหอมน่ารับประทาน นอกจากนั้นยังมีผัก เช่น ตำลึง ฟักทองข้าวโพดอ่อน หัวปลี บวบ ผักหวาน ฯลฯ เนื้อสัตว์ได้แก่ กุ้งสด เนื้อไก่ ฯลฯ ปรุงรสด้วยน้ำปลาหรือเกลือ 6. ต้มยำ ต้มยำ เป็นอาหารที่ประกอบด้วยเนื้อสัตว์เป็นหลัก มีผัก น้ำเปล่าหรือน้ำซุป ปรุงรสเปรี้ยว เค็ม เผ็ดเล็กน้อย เนื้อสัตว์ได้แก่ กุ้งสด หมู ไก่ ปลา ฯลฯ ผักที่สามารถบอกลักษณะได้ว่าเป็นต้มยำ คือ ตะไคร้ ใบมะกรูด ผักประกอบ อื่น ๆ ได้แก่ เห็ดนางฟ้า กะหล่ำปลี เห็ดฟาง ฯลฯ ปรุงรสด้วย น้ำมะนาว น้ำมะขามเปียก น้ำปลา ต้มยำแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ ต้มยำที่ไม่ใส่กะทิ เช่น ต้มยำกุ้ง ต้มยำหัวปลา ต้มยำที่ใส่กะทิเช่น ต้มยำหัว 7. แกงจืด แกงจืด เป็นอาหารที่ต้องรับประทานร้อน ๆ จึงจะอร่อยและคล่องคอ มีส่วนประกอบของน้ำประมาณ 3 ใน 4 ส่วนของเนื้อ ก่อนปรุงแกงจืดต้องต้มกระดูกทำน้ำซุป กรองแล้วนำขึ้นตั้งไฟอีกครั้ง จึงนำมาแกง เวลาแกงต้องให้ น้ำเดือดพล่าน ใส่เนื้อสัตว์ลงไปก่อน จึงใส่ผัก ผักที่ใช้ต้องเลือกว่าชนิดไหนสุกเร็ว หรือบางชนิดต้องเคี่ยวนาน ถ้า เป็นผักที่ต้องเคี่ยวจนเปื่อยก็ใส่พร้อมเนื้อสัตว์ได้ เช่น การต้มจับฉ่าย การต้มน้ำแกงจืด ใช้กระดูกไก่ กระดูกหมูทุบตามข้อให้แตก แช่น้ำเย็นไว้ประมาณหนึ่งชั่วโมงใส่น้ำให้มาก เติมเกลือนิดหน่อยยกขึ้นตั้งไฟอ่อน เคี่ยวจนน้ำซุปงวดยกลงกรองพักไว้ นำกระดูกที่ต้มแล้วใส่น้ำยกขึ้นตั้งไฟใส่ หัวผักกาดขาว ขื่นฉ่าย ลงต้ม เพื่อทำให้น้ำซุปหวานยิ่งขึ้น แล้วนำมากรองด้วยผ้าขาวบางผสมกับน้ำซุปครั้งแรก นำไปทำน้ำแกงจืด หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤษภาคม 01, 2011, 05:56:22 PM รสชาติอาหารไทย
รสเค็ม อาหารไทยได้รสเค็มจากน้ำปลาเป็นส่วนใหญ่ การประกอบอาหารไทยเกือบทุกชนิด ถ้าต้องการรสเค็มแล้ว จะขาดน้ำปลาไม่ได้เลย สังเกตจากเวลารับประทานอาหาร จะต้องมีถ้วยน้ำปลาเล็ก ๆ รวมอยู่ในสำรับอาหาร แต่บางครั้งนอกจากน้ำปลาแล้วยังใช้เกลือหรือซีอิ๊วขาวเป็นตัวปรุงรสอาหารให้เกิดความเค็ม รสหวาน การประกอบอาหารไทยรสหวาน โดยทั่วไปในอาหารไทยใช้น้ำตาลทรายในการประกอบอาหารแล้ว ยังมี น้ำตาลอีกหลายชนิด เช่น น้ำตาลมะพร้าว น้ำตาลทรายแดง น้ำตาลโตนด น้ำตาลงบ ฯลฯ เปรี้ยว อาหารไทยนอกจากจะได้จากน้ำส้มสายชู แล้วยังมีมะนาว และที่นำมาใช้ประกอบอาหารกันมาก โดยที่ ประเทศอื่น ๆ ไม่มีใช้ก็คือ ความเปรี้ยวที่ได้จากน้ำส้มมะขามเปียก น้ำมะกรูด น้ำส้มซ่า นอกจากนั้นรสเปรี้ยวจาก ใบมะขามอ่อน ใบมะดัน ใบส้มป่อย มะดัน ซึ่งรสเปรี้ยวจากสิ่งเหล่านี้มีแต่ในอาหารไทย รสเผ็ด รสชาติอาหารของประเทศใดก็ไม่เผ็ดร้อนเหมือนอาหารไทย รสเผ็ดที่ได้จากอาหาร มาจากพริกขี้หนู พริกชี้ฟ้าสด เรายังนำมาตากแห้งเป็นพริกแห้ง คั่วแล้วป่นเป็นพริกป่น รสเผ็ดเป็นรสที่อาหารไทยจะขาดไม่ได้ ในการประกอบอาหารคาวชนิดที่ต้องมีรสเผ็ด การจะใส่พริกมากน้อยขึ้นอยู่กับความต้องการรส ของผู้บริโภค รสมัน อาหารไทย ได้รสมันจากกะทิและน้ำมันเป็นส่วนใหญ่ ในการประกอบอาหารไทยโดยเฉพาะอาหารประเภท แกงกับขนมไทย ความมันที่ได้จะมาจากแกงที่ใส่กะทิ เช่นแกงหมูเทโพ แกงเขียวหวาน ขนมชั้น ตะโก้ ฯลฯ ฉะนั้น รสชาติของอาหารไทย จึงมีความกลมกล่อมจากรสชาติต่าง ๆ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤษภาคม 01, 2011, 05:58:35 PM เทคนิคในการประกอบอาหารประเภทแกง
1. เนื้อสัตว์ เนื้อสัตว์ที่นำมาประกอบอาหารประเภทแกงมีหลายชนิด ขึ้นอยู่กับผู้ประกอบอาหารจะเลือกให้เข้ากับแกงชนิด นั้น ๆ ผู้ประกอบอาหารจำเป็นต้องรู้จักวิธีทำเนื้อสัตว์ คือ ไก่ เป็ด นก อาจเลือกทำได้หลายวิธี หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ทั้งหนัง หั่นเป็นชิ้นใหญ่ หรือตัดเป็นท่อน ๆ ทั้ง กระดูกหรือแกงทั้งตัวได้ การล้างควรล้างภายนอกของตัวสัตว์ก่อน ถ้าขนยังติดอยู่ถอนขนออกให้หมด ล้างโดยรอบให้สะอาด ถ้าใช้ทั้งตัวตัดเท้าและก้นออก นอกนั้นคงไว้ กรอกน้ำลงในตัวแล้วดึงสาปสอง ข้างออก ถ้าใช้เนื้อไก่ทำแกงจืด ควรใส่ขณะที่น้ำเดือด เพราะน้ำแกงจะไม่ขุ่น ถ้าใช้เป็นท่อน ควรตัดดังนี้ คือ ขาบน ขาล่าง ตัดปีกทั้งสองข้าง ตรงอกตัดออกทั้งชิ้น แบ่งเป็นสองหรือสี่ชิ้นตามต้องการ เหลือโครง ที่ไม่มีเนื้อกับคอนำไปต้มเป็นน้ำซุปใช้สำหรับทำน้ำแกงจืดต่อไป เนื้อวัว ไม่ควรล้างเนื้อแช่น้ำ นาน ๆ ควรใช้วิธีการผ่านน้ำแล้วนำขึ้นมาผึ่งเพราะการล้างเนื้อในน้ำจะทำ ให้เลือดอันเป็นของมีประโยชน์สูญเสียไปกับน้ำ การหั่นถ้าหั่นเป็นชิ้นใหญ่ เช่น แกงมัสมั่น ควรทุบให้นุ่ม ทั้งชิ้นใหญ่ก่อนจึงหั่น ถ้าใช้ชิ้นเล็กควรหั่นเป็นท่อนตามยาวกะให้กว้างพอแล่ได้ แล้วใช้มีดบาง คม ๆ แล่ เป็นชิ้นแฉลบ ทำให้สุกง่ายและไม่แข็งต่างกับการหั่นตามขวาง ปลา ถ้าเป็นปลามีเกล็ดให้ขอดเกล็ดก่อนล้าง มิฉะนั้นจะลื่นจับยาก เมื่อขอดเกล็ดแล้วจึงตัดหัวออกตัดตัว เป็นท่อน ๆ หรือแล่ก้างกลางออก หั่นเนื้อปลาเป็นชิ้น ๆ แล้วแต่ความประสงค์ที่นำไปประกอบอาหาร ถ้าปลา ตัวเล็กใช้ทั้งตัว เช่น ปลาทูสด ควักเอาพุงและไส้ออกทางปากแล้วล้างให้สะอาด การต้มปลาต้องใช้น้ำเดือด พล่าน ไม่คนในขณะที่น้ำยังไม่เดือด เพื่อไม่ให้เกิดกลิ่นคาว กุ้ง ล้างทั้งเปลือกแล้วปอก การล้างอย่าแช่ในน้ำ ควรจุ่มน้ำล้างจนทั่วแล้วรีบเอาขึ้นทันที มิฉะนั้นจะทำ ให้หายหวาน ผ่ากลางหลังดึงเส้นสีดำออก การต้มกุ้งต้องใส่เวลาน้ำเดือดเช่นเดียวกับปลา ถ้าต้มกุ้งใช้เวลา นานเนื้อกุ้งจะแข็ง 2. ผักที่จะใช้แกง สำหรับแกงเผ็ดมีผักหลายชนิด เช่น หน่อไม้ มะเขือ ถั่วฝักยาว ฯลฯ ต้องเลือกให้เข้ากัน ส่วนผักที่โรยให้มีกลิ่น หอม มีใบโหระพา ใบกระเพรา ใบแมงลัก และใบมะกรูด เป็นต้น การหั่นผักควรหั่นขนาดพอคำ หรือหั่นตาม ลักษณะของแกงชนิดนั้น ๆ ว่าจะใส่ผักอะไรชิ้นเล็กหรือชิ้นใหญ่ ส่วนผักใบก็เด็ดเป็นใบ ๆถ้าแกงที่ต้องใช้ผักหลาย อย่างปนกัน เช่น แกงส้มผักรวมควรเลือกผักสุกยากลงต้มกับน้ำแกงก่อนจึงใส่ผักที่สุกง่ายตามลำดับ ถ้าเป็นผักใบ เขียวที่จะโรยหน้า ควรใส่เมื่อยกลงจากเตาแล้ว เพื่อให้สดและเขียวดูน่ารับประทาน 3. เครื่องปรุงรส สำหรับแกงกะทิควรใส่น้ำตาลแต่น้อยเพื่อแทนผงชูรส เพราะมีรสหวานจากกะทิอยู่แล้วถ้าเป็นแกงคั่วส้มหรือ แกงส้มใช้น้ำส้มมะขามเปียก ถ้าเป็นแกงต้มส้ม นอกจากใส่น้ำส้มมะขามเปียกแล้วควรใช้น้ำส้มสายชูหรือน้ำมะนาว ปรุงรสด้วยเล็กน้อย จะทำให้แกงมีรสชาติและหอมน่ารับประทานขึ้น การประกอบอาหารทุกชนิด เครื่องปรุงรส มีความสำคัญเพราะทำให้รสชาติอาหารดีขึ้น เช่น น้ำปลา ซีอิ๊ว ควรใช้ของดี โดยที่ไม่ต้องใช้ผงชูรสช่วย 4. การคั้นมะพร้าว การคั้นมะพร้าวควรคั้นให้กะทิออกมันมาก ๆ ต้องคั้นด้วยน้ำอุ่นจัดและคั้นเพียงสองน้ำก็พอ ถ้าประกอบอาหาร ประเภทเนื้อวัวควรใช้น้ำกะทิมากกว่าอย่างอื่น เพราะเนื้อวัวเปื่อยยากต้องเคี่ยว สำหรับแกงคั่วต้องมีหัวกะทิข้น ๆ ไว้ใส่เมื่อแกงสุกแล้วใกล้จะยกลง หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: อุ๊ ที่ พฤษภาคม 06, 2011, 03:15:16 PM laugh.gif laugh.gif laugh.gif
หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤษภาคม 09, 2011, 08:54:37 PM :)
สวัสดีค่ะ angel.gif วันนี้มีเมนูมังสิวิรัต โนเอนีม่อน ชื่อไรดีหนอ :-\ เครื่องปรุง ยอดมะพร้าวอ่อน อ่อน เห็ดหูหนู เห็ดออริจินอล ใบโหระพา กระเทียม พริกขี้หนูแดง วิธีทำ ล้างทุกอย่างให้สะอาดอย่างเบามือน้ะค่ะ http://upic.me/i/9i/biggrin1.g (http://upic.me/i/9i/biggrin1.g) เด็ดใบโหระพาแช่น้ำเอาไว้ก่อน หั่นเห็ดออเป็นชิ้นเล็กๆๆบางๆๆและซอยเห็ดหูหนูอย่างเบามือ ปอกกระเทียมทุบซอยยิ๋บๆๆ พริกขี้หนูทุบไปสัก 4 ครั้งหั่นเป็นท่อนๆๆ เอาล่ะค่ะ ตั้ง Pan เปิดไฟอ่อนๆ :sleepy:รอควันลอยนิดๆๆใส่กระเทียมพริกคุณหนูอย่างนุมนวล :Pผัดเบาๆ มีคนจามสักคน ดูสีเหลืองอ่อนใส่ยอดมะพร้าวอ่อนลงไปค่ะผัดช้าๆ4-5 ครั้ง ใส่เห็ดออลงไป ผัดไป ผัดมา 8)เติมน้ำมันหอยเห็ดหอมลงไปอย่าใส่มากเกินไปน่ะค้ะ เค็มค่ะ หอมยังค่ะ ถ้าหอมแล้วใส่น้ำผึ้งค่ะหาไม่ทันใช่ไหมค่ะน้ำตาลทรายแดงก็ได้ค่ะแต่ถ้าหาซื้อมาได้จะรู้ค่ะหอมน้ำผึ้งจริงๆๆค่ะ laugh.gifถ้าแห้งไปเติมน้ำพอคลุกคลิกค่ะดับไฟโรยใบโหระพาคลุกอีกครั้งค่ะ ชิมค่ะชิม:'(อร่อยชั่มมิ๋ :o good cooker Smiley/Angry.gif (3017 ไบต์) เพื่อสุขภาพ รสเด็ดอีกด้วยค่ะ angel.gif หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤษภาคม 09, 2011, 09:23:26 PM ;D
แกงจืดสักถ้วยไหมค่ะ เครื่องปรุง ไข่ 2 ฟอง ผักกาดขาว วุ้นเส้น แครอท วิธีทำ ตอกไข่ใส่ชามปรุงรสตามใจชอบเอารสจัดหน่อยค่ะตั้งPanรอร้อนหน่อยใส่น้ำมันกะพอดีอย่ามากไปควันลอยนิดๆๆเทไข่ลงไปให้กระจายเต็มPanให้เหลืองเข้มหน่อยใช่ตะหลิวตัดเป็นชิ้นๆๆๆเอาลงพักไว้ แช่วุ้นเส้น ตั้งหม้อใส่น้ำให้เดือดใส่แครอทหั่นเป็นดอกไม้สวยๆๆพอเดือดใส่วุ้นเส้นอย่าลืมตัดให้สั้นๆๆน่ะจ้ะใส่ไข่ที่พักไว้ตามด้วยผักกาดขาว เติมสีอิ๊วขาว ชิม ชิม :-\ :-\จะกิงเองหรึเอาป่ายหั้ยคนข้างบ้นกิงดี :D อิ อิ ล้อเล่ง angel.gif หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤษภาคม 15, 2011, 12:01:40 PM :)
ร้านMongmin ไปร้านนี้ทีไรทำให้นึกถึงตอนเล็กๆๆมากจะมีรถถีบ ถีบผ่านบ้านอยู่ประจำเวลาเดิมๆๆถ้าใครพอจำได้เค้าจะมีทีเคาะจังหวะของเค้าคือเราจะรู้ว่าเค้าขายอะไร :-\กลิ่นหอม หอม พร้อมกับเสียงเคาะทีแว่วแว่วมาแต่ไกล ประมาณตี2 >:(แล้วคร้ายยยยมันจะลุกไปกิงดั้ยจิงมั่ยค่ะ ;Dอิ อิ กลับมาเข้าร้านต่อ ร้านนี้นู๋ไปหลายๆๆๆครั้งมาก เพราะชอบอาหารที่เป็นเส้นๆๆร้านนี้เส้นหมี่จะเล็กกว่าทั่วๆๆไปนิดหน่อยแต่รสชาติอร่อยเหนียวนุ่มหอมบะหมี่ ราคาไม่แพงมีเป็นเซ็ท ถ้าไปเป็นคู่ ;Dหรือมีกขค. ^-^ไปด้วย อยู่ชั้น5 Central ปิ่นเกล้า ปล.อาหารหรือของหวานบางอย่างเค้าโชว์ดูสวยงามน่าเจี๋ยะเหมือนจะอร่อยหรืออร่อยเราไม่ได้กินเราไม่รู้มองราคาสักนิดถ้ามันไม่ได้pineappleมันจะไม่คุ้มกับเงินที่เสียไปดังนั้นอยากเตือนผู้อ่านจงใช้สติในการเลือกกินเจ้าค่ะ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤษภาคม 15, 2011, 12:25:06 PM :)
อาหารวันนี้ ลาบน้องสาว ปลาย่าง เห็ดเข็มทอง เห็ดหูหนู ใบสะระแน ข้าวคั่ว เม็ดมะม่วงหิมะพาน มะนาว พริกป่น วิธีทำ เเกะเอาเนื้อปลาขาวๆๆออกระวังก้างไม่เอาค่ะแล้วอย่าหยิบกินเล่นล่ะเดี๋ยวหมด laugh.gifพักไว้ไปล้างผักต่างๆให้สะอาดใบสะระแนต้องล้างอย่าให้ช้ำรองน้ำใส่ชามเอาใบสะระแนจุ่มๆๆเปลี่ยนน้ำหน่อยจับตรงก้านมันเเล้วสะบัดน้ำออกเด็ดใส่ภาชนะเอาเข้าตู้เย็น หั่นหูหนูยาวๆเส้นเล็กๆๆอย่าลืมตัดตูดมันออกหน่อย เห็ดเข็มทองเนี่ยจับมากๆๆมันช้ำก่อนเอาออกจากที่ห่อหั่นตูดมันทิ้งอย่าขี้เหนียวล่ะ รองน้ำเอาเห็ดลงไปแผ่ในน้ำเทน้ำทิ้งล้างสัก2-3 ครั้ง หั่นตามใจชอบ angel.gif ซอยเม็ดมะม่วง ปรุง เอาเนื้อปลาใส่ในชามใหญ่หน่อยเพื่อใส่เครื่องปรุงและคลุ้กเคล้า มิกซ์ทุกอย่าง ตั้งน้ำใหเดือดรวกเห็ดหูหนู เข็มทองสะเด็ดน้ำ คลุกกับเนื้อน้องปลาใสข้าวคั่วนิดหน่อยใส่น้ำปลา บีบมะนาว คลุกๆชิม ใส่พริกบ่นตามใจชอบคลุกๆๆๆๆ ชิมๆถ้าชอบหวานเติมน้ำตาลทรายแดงนิดหน่อยถ้าชอบเปรี๊ยวไม่ต้องจ้ะ ตักใส่จานโรยข้าวคั่วตามด้วยเม็ดมะม่วงไปเอาไปสะระแนในตู้เย็นมาโรยหน้า กิงด้ายยยย laugh.gif ปล.อ่านอย่าระมัดระวังด้วยค่ะ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤษภาคม 26, 2011, 10:38:21 AM เทคนิค/หุงข้าวด้วยไม้ไผ่
การหุงข้าวมีอยู่หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการหุงข้าวด้วยหม้อหุง ข้าวไฟฟ้า หรือการหุงข้าวด้วยเตาถ่านโดยการหุงข้าวแบบเช็ดน้ำและไม่เช็ด น้ำ ซึ่งแต่ละวิธีจะมีกระบวนการที่แตกต่างกัน ผลลัพธ์ที่ได้คือเราจะได้ ข้าวสวยที่ สุกน่ารับประทาน และยังมีการหุงข้าวอีกหนึ่งวิธีที่หลาย ๆ คนอาจจะยัง ไม่เคยได้สัมผัสหรือทดลองหุงซึ่งเป็นการหุงข้าวที่น่าสนใจและได้ข้าวสวยสุก ที่มีกลิ่นหอมน่ารับประทาน ซึ่งวิธีการหุงวิธีจะทำการหุงข้าวด้วยกระบอกไม้ ไผ่ ซึ่งมีวิธีการดังนี้ วัสดุ-อุปกรณ์ 1. ข้าวสารเจ้า 2. กระบอกไม้ไผ่สด ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 3.5 นิ้ว ขึ้นไป ทำการตัดกระบอกไม้ไผ่ความยาวด้านหนึ่งจากข้อไม้ไผ่ยาว 15 นิ้ว (ด้านที่ใช้สำหรับหุงข้าว) อีกด้านยาวประมาณ 5 นิ้ว 3. ใบตอง ที่ใช้สำหรับห่อข้าวสาร 4. เชือกฟางหรือเชือกกล้วยที่ใช้สำหรับมัดใบตอง ขั้นตอนการหุงข้าว 1. ล้างทำความสะอาดกระบอกไม้ไผ่ให้สะอาด (ทั้งด้านในและด้านนอก) 2. นำข้าวสารมาซาว ล้างทำความสะอาดประมาณ 1-2 น้ำ 3. น้ำข้าวสารที่ซาวเรียบร้อยแล้ว มาห่อด้วยใบตองที่เราเตรียมไว้ ลักษณะ การห่อคล้ายกับการห่อข้าวต้มมัด ม้วนใบตองแล้วทำการปิดหัวปิดท้าย อย่าห่อให้แน่น ปริมาณข้าวสารที่ห่ออย่าให้มากจนเกินไปและ ขนาดของห่อข้าวควรจะเล็กกว่าขนาดของไม้ไผ่ เพราะจะง่ายต่อการใส่ห่อข้าวลงในกระบอกไม้ไผ่ ให้เหลือช่องว่างในกระบอกไม้ไผ่บ้างเผื่อพื้นที่เมื่อข้าวสุก 4. ใช้เชือกมัดเพื่อป้องกันการหลุดของใบตอง 5. นำใบตองที่ห่อข้าวสารลงไปในกระบอกไม้ไผ่ ประมาณ 3 ห่อ 6. ให้เหลือพื้นที่ว่างจากบริเวณปากกระบอกประมาณ 4 นิ้ว 7. นำน้ำสะอาดใส่ลงในกระบอกไม้ไผ่ อย่าให้เต็ม ให้เหลือพื้นที่จากปากกระบอกประมาณ 2 นิ้ว 8. นำกระบอกไม้ไผ่ไปเผาบนกองไฟ โดยลักษณะการวางกระบอก คือ ตั้งตรง ต้องคอยระวังอย่าให้กระบอกไม้ไผ่ล้ม 9. สังเกตเมื่อน้ำเดือด รอเวลาประมาณ 20 นาที จากนั้นให้รินน้ำออก (คล้ายกับการหุงข้าวเช็ดน้ำ) 10. จากนั้นนำกระบอกไม้ไผ่ไปอังไฟอ่อนๆ ประมาณ 10 นาที 11. ผ่ากระบอกไม้ไผ่เพื่อนำข้าวมารับประทาน ข้อดีของการหุงข้าวในกระบอกไม้ไผ่ 1. ข้าวที่ได้จะมีกลิ่นหอมน่ารับประทาน 2. เหมาะสำหรับคนที่รับประทานข้าวได้น้อย ข้าวที่หุงจะง่ายต่อการรับประทาน 3. สามารถนำไปปรับใช้ในการเดินป่าได้ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤษภาคม 27, 2011, 02:18:21 PM ขนมรังผึ้ง
(http://www.ezythaicooking.com/images/d-kanom-waffle.jpg) เครื่องปรุง+ส่วนผสม แป้งข้าวเจ้า 4 ถ้วยตวง แป้งสาลี 2 ช้อนโต๊ะ ถั่งเหลืองต้มบดละเอียด 4 ถ้วยตวง ไข่ไก่ ใช้เฉพาะ ไข่ขาว 4 ฟอง หัวกะทิ 6 ถ้วยตวง น้ำตาลปี๊บ 3/4 ถ้วยตวง น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง เกลือบ่น 1 ช้อนชา (http://www.ezythaicooking.com/images/d-kanom-waffle-1.jpg) วิธีทำขนมไทยที่ละขั้นตอน 1.นำแป้งไปผสมกับน้ำตาลทรายเกลือ และถั่วต้มบด คนจนส่วนผสมเข้ากันดี 2.นำไข่ขาวไปตีจนขึ้นฟู จากนั้นนำไปผสมกับแป้งที่เตรียมไว้ในขั้นตอนที่1 ผสมจนเข้ากันดี 3.ทาน้ำมันบางๆที่แบบพิมพ์ ตักส่วนผสมแป้งเทลงในแบบ พอท่วมให้รีบปิดฝาบนทันที กลับพิมพ์ไปมาทั้งสองด้านให้ถูกความร้อนจนสุกเหลืองทั่ว จึงเคาะออกจากแบบ 4.เสริฟทันทีขณะร้อนๆ หรือ เสริฟทานกับไอศครีม หรือแย้มผลไม้ก็ได้ค่ะ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤษภาคม 27, 2011, 02:25:14 PM เส้นก๋วยเตี๋ยว + อาหารไทย
(http://www.ezythaicooking.com/images/thaifood_noodle.jpg)(http://www.ezythaicooking.com/images/thaifood_noodle1.jpg) สำหรับอาหารไทย มีเส้นก๋วยเตี๋ยวหลายชนิดด้วยกัน ขนาดของเส้นก็ต่างกันด้วยไม่ว่าจะเป็นเส้นเล็ก, เส้นใหญ่, เส้นหมี่ ฯลฯ นอกจากนั้นเส้นก๋วยเตี๋ยวยังสามารถแยกเป็นประเภทเส้นที่ผลิตสดใหม่ๆ และชนิดแห้ง (ซึ่งต้องนำไปแช่น้ำก่อนประกอบอาหาร) ขณะเดียวกันเส้นก๋วยเตี๋ยวยังทำมาจากวัตถุดิบที่ต่างชนิดกันด้วย เช่น ทำมาจากแป้งข้าวเจ้า, แป้งข้าวสาลี หรือถั่วเขียว (mung bean) ในกรณีที่ใช้เส้นก๋วยเตี๋ยวชนิดแห้ง (Dried Noodles) ก่อนนำมาประกอบอาหาร จำเป็นต้องนำเส้นก๋วยเตี๋ยวไปแช่ในน้ำประมาณ 15-20 นาทีก่อนใช้งาน จากนั้นจึงสามารถนำไปผัดได้ กรณีที่จะนำไปใส่ในแกงจืด ก็นำเส้นก๋วยเตี๋ยวไปแช่ในน้ำประมาณสองนาทีก็พอ กรณีที่ต้องการใช้เส้นก๋วยเตี๋ยวชนิดแห้งด่วนสามารถนำเส้นไปแช่ในน้ำร้อนประมาณ 3-5 นาทีแล้วนำเส้นไปแช่ในน้ำเย็น เพื่อไม่ให้เส้นก๋วยเตี๋ยวเละ ขณะเดียวกันถ้าใช้เส้นก๋วยเตี๋ยวที่ผลิตสดใหม่ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องนำไปแช่น้ำก่อนนำมาประกอบอาหารแต่อย่างใด สำหรับเส้นหมี่ที่ต้องการนำไปทอดกรอบ ก็ไม่จำเป็นต้องแช่น้ำ สามารถนำไปทอดได้ทันที (http://www.ezythaicooking.com/images/thaifood_noodle2.jpg)(http://www.ezythaicooking.com/images/thaifood_noodle3.jpg) วุ้นเส้นที่ใช้ประกอบอาหารนั้น โดยปกติจะทำจากถั่วเขียว ก่อนนำไปประกอบอาหารต้องนำแช่ในน้ำประมาณ 5 นาที แต่ถ้าจะนำวุ้นเส้นไปทำยำ (ยำวุ้นเส้น) จำเป็นจะต้องนำวุ้นเส้นไปลวกในน้ำร้อนและนำไปแช่น้ำเย็น (เพื่อป้องกันไม่ให้เส้นเละ) จากนั้นจึงค่อยนำไปทำยำต่อไป (http://www.ezythaicooking.com/images/thaifood_noodle4.jpg)(http://www.ezythaicooking.com/images/thaifood_noodle5.jpg) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤษภาคม 30, 2011, 12:30:09 PM Good afternoon
How are you? I'm fine ^-^ It's too hot and cool and rain all the time ,should to take care of yourself , we will find some good food to eatting,what are you eating you should to thinking more more and more before you eat: beacuse now the time change, we might like some rat to try on with food so big deal to care of yourself I hope you have agood time thanks :-\ :D ::) ??? หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: อุ๊ ที่ มิถุนายน 03, 2011, 01:49:16 PM มีแต่เมนูเด็ด ๆ น่าหม่ำทั้งนั้นเลย
;D :D ;) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มิถุนายน 05, 2011, 08:57:34 PM เมนูดอกไม้
(http://www.108health.com/108health/maintopic/mtopic_282.jpg) ดอกไม้นอกจากจะทำให้โลกเบี้ยวๆใบนี้ งดงามด้วยสีสัน รูปแบบทั้งบางชนิดก็มีกลิ่นหอมด้วยแล้วดอกไม้ก็ยังนำมาปรุงอาหารได้ด้วยค่ะ ไม่ใช่แค่เรียงประดับจานให้สวยนะคะ แต่นำมาปรุงอาหารเป็นเมนูแสนอร่อยได้เลยค่ะ ลองมาดูกันค่ะว่า เมนูดอกไม้นั้น จะน่าทานและมีประโยชน์เพียงใด (http://www.108health.com/108health/cimages/b001.jpg) น้ำพริกจะเด็ดกับเจ็ดดอกฟ้า น้ำพริกเจ้าชู้ คู่กับดอกฟ้าแสนงามทั้งเจ็ด ในแต่ละวัน เราควรกินพืชผักผลไม้ ให้ได้ 5 สี เพื่อสุขภาพที่ดี เด็ดดอกไม้ดอกไร่ และไม้ผลที่มีรสเปรี้ยว เพื่อนำมาตำน้ำพริกแบบง่ายๆ แต่อร่อยเด็ด เครื่องปรุงน้ำพริก พริกหนุ่ม 2 ดอกใหญ่ พริกแดงใหญ่ 1 ดอก พริกขี้หนู 5-10 เม็ด ถ้าชอบเผ็ด หอมแดง และกระเทียมหั่นหยาบ อย่างละ 1 ช้อนโต๊ะ ปลาแห้งตัวเล็กๆ 3-5 ตัว กุ้งแห้งตัวเล็กๆ 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทรายนิดหน่อย ผลเชอรี่ห่าม ผลหม่อน มะนาว ตะลิงปริง มะขามอ่อน แล้วแต่จะเด็ดได้จากในสวนของเรา วิธีทำ - หั่นพริกตามขวาง เป็นท่อนสั้นๆ คั่วกับกระทะ ด้วยไฟกลางถึงอ่อน - พอพริกเริ่มสลด เติมหอมและกระเทียมหั่นหยาบลงคั่วไฟด้วยกัน - เมื่อเครื่องปรุงหอมไฟได้ที่ เติมน้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ - คั่วเครื่องปรุงทั้งหมดพร้อมกับกุ้งแห้งตัวเล็ก - ตำปลาแห้งตัวเล็กให้แหลก แล้วเติมเครื่องปรุงที่ผัดจนหอมและเย็นแล้ว ตำต่อจนเข้ากัน - เติมผลไม้เปรี้ยวที่เรามี ตำพอแหลก ใส่น้ำปลา เดาะน้ำตาลนิดหน่อย แล้วเคล้าให้เข้ากัน - นำไปตั้งโต๊ะ จัดด้วยดอกไม้สดที่กินได้ 7 ชนิด ดอกฟ้าแสนงาม จากสวรรค์ชั้นเจ็ด ที่จะเด็ดใฝ่หา สีสวยด้วยคุณค่าทางอาหารและยา ดอกฟ้าทั้งหมด จะงดงาม ถ้ารับประทานกันสดๆ บางชนิดอาจมรสขื่น หรือฝาดบ้าง บางชนิดมีรสเปรี้ยว และแกมด้วยน้ำหวานในดอกพอชื่นใจ รายชื่อดอกฟ้า - ดอกผักตบไทย เลือกช่ออ่อน ยังไม่ติดเมล็ด - ดอกอัญชัน กินสดทั้งดอก รวมกลีบเลี้ยง - ดอกกาหลง แม้ใบอ่อนๆ ก็กินได้ - ดอกแค ทุกสี กินได้ กินดี - ดอกดาหลา เฉพาะสีปูน จะไม่ค่อยฝาด - ดอกเข็ม - ดอกชบา - ดอกกวางตุ้ง ดอกต้อยติ่ง ดอกขจร ฯลฯ (http://www.108health.com/108health/cimages/b002.jpg) ข่ากุ้งซ่อนกลิ่น กลิ่นหอมหวานของแกงข่าสำรับนี้ ไม่มีทางที่จะเร้นกลิ่นไว้ได้เลย ยิ่งได้กลิ่นดอกซ่อนกลิ่น ที่ใส่ในแกงข่าด้วยแล้ว จะยิ่งเจริญอาหาร ยิ่งกว่าแกงข่าธรรมดา และน้อยคนนัก ที่จะรู้ว่า ซ่อนกลิ่นนี้ กินดี รสดี มีประโยชน์ เครื่องปรุง - ดอกซ่อนกลิ่น เลือกดอกบานเฉพาะติดก้านดอก และยอดช่ออ่อน รสจะหวาน - กุ้งสด สองขีด ปอกเปลือก ผ่าตลอดหลัง - กะทิ ถ้วยครึ่ง - หอมแดง 3-4 หัว ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ใบผักชีฝรั่ง ซอยบางๆ - เห็ดสด พริกหวาน พริกชี้ฟ้า พริกหยวก - น้ำปลาครึ่งถ้วย มะนาว 2 ผล น้ำตาลนิดหน่อย วิธีทำ - ต้มกะทิ 1 ถ้วย กับหอมแดง ข่า ตะไคร้ จนน้ำกะทิหอม - หั่นพริกทั้งหลายเป็นแว่นและชิ้นเล็กๆ เติมลงในน้ำแกง - เติมเห็ดสด กุ้งสด รอให้กุ้งเกือบสุก เติมน้ำกะทิที่เหลือ ปรุงรสด้วยน้ำปลา มะนาว และน้ำตาล - ใส่ดอกซ่อนกลิ่น รอให้ดอกสลด ตักใสชาม โรยใบมะกรูด ใบผักชีฝรั่งซอย (http://www.108health.com/108health/cimages/b003.jpg) ซูชิดอกไม้ เห็นวัฒนธรรมการกินข้าวห่อสาหร่ายแล้ว ขอดัดแปลงนำแผ่นก๋วยเตี๋ยวห่อไส้ แล้วตัดพอคำ น่ากิน ไม่แพ้ซูชิ แต่เก๋กว่ามากมาย เพราะเราจะห่อดอกไม้สดไว้ในไส้นั้นด้วย นอกจากดอกไม้ เราจะเพิ่มเติมไส้ด้วยเนื้อชนิดต่างๆ หรือผักอื่นๆ เท่าที่เราต้องการหรือตามฤดูกาล ห่อกันทีไร ก็กินกันได้อร่อยทีนั้น สวยทั้งก่อนห่อ และหลังห่อ สวยทั้งคนทำ และคนกิน เครื่องปรุง - แผ่นก๋วยเตี๋ยว ที่ยังไม่ตัดทำเส้นใหญ่ หาซื้อได้ในตลาดสดทุกแห่ง - หมูยอหรือไก่ยอ เต้าหู้แผ่น ตัดเป็นเส้นยาวๆ - แครอท แตงกวา ฝานเป็นเส้นยาวเช่นกัน - ดอกไม้สด เช่น ดอกอัญชัน ดอกขจร ดอกโสน ดอกเข็ม ดอกคูน เป็นต้น - ผักหอม เช่น ต้นหอม ผักชี คื่นฉ่าย ผักชีฝรั่ง - เห็ดเข็มทอง - น้ำจิ้ม เช่น ซอสมะเขือเทศ ซอสบ๊วย ซอสพริก ตามสะดวก วิธีทำ - เตรียมจานเปลแบน หรือเขียง สำหรับวางแผ่นก๋วยเตี๋ยว - จัดเรียงผักหอม หมูยอเส้น เต้าหู้เส้น เห็ดเข็มทอง แครอทและแตงกวาเส้น - โรยกลีบดอกไม้และดอกไม้ต่างๆ - จับปลายแผ่นก๋วยเตี๋ยวตลบห่อไส้ แล้วค่อยๆม้วน ม้วนให้แน่น - พอถึงระยะกลางแผ่น เติมกลีบดอกไม้ประปรายบนแผ่นก๋วยเตี๋ยว - ตัดก๋วยเตี๋ยวห่อไส้เป็นคำสั้นๆ พอดีเคี้ยว ยกตั้ง ใส่จาน จะดูสวยงาม (http://www.108health.com/108health/cimages/b004.jpg) ข้าวมันอัญชันกับส้มตำดอกไม้ ข้าวมันหอมกลิ่นกะทิ และสีสวยใสเพราะใส่น้ำคั้นดอกอัญชัน กินเพลินเกินห้ามใจ เมื่อเคียงด้วยส้มตำดอกไม้ ส้มตำเลิศค่า เพราะปรุงจากกลีบดอกไม้สด และลิ้มรสความสดสะอาดปราศจากสารพิษ วิธีหุงข้าวมัน ข้าวหอมมะลิกลางเก่ากลางใหม่ 2 ถ้วย น้ำสะอาด 2 ถ้วย กะทิสด 1 ถ้วย น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น ครึ่งช้อนชา น้ำคั้นอัญชัน 2 ช้อนโต๊ะ ใส่ทุกอย่างหุงพร้อมกัน วิธีคั้นน้ำอัญชัน เก็บดอกอัญชัน ยามสาย กลีบดอกขยายเต็มที่ เลือกเฉพาะกลีบดอก เก็บใส่ช่องแช่แข็ง เมื่อต้องการใช้ จึงนำออกมาใส่ในถุงพลาสติกเล็กๆ วางในอุณหภูมิห้อง ให้ละลาย เติมน้ำเปล่านิดหน่อย แล้วขยี้ถุงเบาๆ พอกลีบช้ำ จะได้น้ำอัญชันคั้นสดไว้ใช้ เครื่องปรุงส้มตำดอกไม้ - ดอกไม้สดตามฤดูกาล เช่น ดอกคูน ดอกอัญชัน ดอกเข็ม ดอกเฟื่องฟ้า ดอกกาหลง ดอกผักตบ ดอกขจร ดอกชบา ดอกพุดซ้อน ดอกกุหลาบ เป็นต้น เลือกใช้เฉพาะกลีบดอกที่มีสีสวยๆ - แครอท ฟักทอง ฟักแม้ว ซอยหรือขูดเป็นเส้น ใช้แทนมะละกอ แต่ให้คุณค่าทางอาหารสูงกว่า และย่อยง่ายกว่า - ถั่วฝักยาว มะเขือเทศ กุ้งแห้ง วิธีทำน้ำส้มตำ - น้ำปลา 1 ถ้วย - น้ำมะขามเปียก 1 ถ้วย มะนาว 1 ผล - น้ำตาลปี๊ป หรือ น้ำตาลทรายครึ่งถ้วย - กระเทียมบุบหยาบๆ ครึ่งถ้วย - พริกขี้หนูบุบหยาบๆ ครึ่งถ้วย น้อยหรือมากกว่าแล้วแต่ชอบ - คนทุกอย่างให้เข้ากัน เตรียมไว้สำหรับคลุกส้มตำดอกไม้ วิธีทำส้มตำดอกไม้ - ปรุงเส้นแครอท ฟักทอง และฟักแม้ว พร้อมถั่วฝักยาวบุบ มะเขือเทศ และกุ้งแห้ง ด้วยน้ำส้มตำ คลุกเคล้าจนเข้ากัน - จากนั้น เติมกลีบดอกไม้ที่เตรียมไว้เป็นสิ่งสุดท้าย เพราะความบอบบางของกลีบ ไม่จำเป็นต้องโขลก เพราะกลีบจะแหลกราญ แลดูไม่งาม ไม่น่ารับประทาน (http://www.108health.com/108health/cimages/b005.jpg) ซุปถุงทอง ดอกฟักทอง มีโคนกลีบเชื่อมติดกันเป็นถ้วยลึก กลีบบานออกเป็นปากแตร สีเหลืองทอง ชื่อแสนจะเป็นมงคล อาหารก็แสนจะมีคุณค่า ไม่ลิ้มไม่ลอง ไม่ได้แล้ว ถุงทองแสนสวย คือ ดอกฟักทอง ที่ต้องเก็บจากต้นใหม่ๆ ไม่เกินสาย เพราะถึงเที่ยงวัน กลีบดอกก็จะหุบห่อ แต่ถ้าเก็บใส่กล่องปิดสนิทไว้ในช่องผัก ก็จะเก็บได้สักสองวัน กรุณาเก็บกินเฉพาะดอกตัวผู้ เก็บดอกตัวเมียไว้สำหรับผลิตฟักทองน้อยต่อไป เครื่องปรุงและวิธีทำ - ดอกฟักทองสดใหม่จากต้น เด็ดเฉพาะดอก ก้านไม่ใช้ - ไส้ปรุงรสตามถนัด เสริมเนื้อสัตว์กับผัก เช่น แครอท ฟักทอง มะเขือเทศ ข้าวโพด - ใบต้นหอมแช่น้ำร้อนให้สลด ส่วนลำต้นก็ซอย สำหรับใส่ในน้ำแกง - น้ำซุปใส หรือ น้ำสต็อกกระดูก หรือแม้แต่ก้อนซุปปรุงรสก็ใช้ได้ - สอดไส้ปรุงรสแล้ว ลงในดอกฟักทอง พออวบอิ่ม - รวบปากดอกเข้าหากัน แล้วใช้ใบหอมผูกปากให้แน่น แลดูเป็นถุงตุงๆ สีทอง - ต้มน้ำซุปให้เดือด แล้วนำถุงทองน้อยๆ ลงต้มต่อ ประมาณ 10 นาที ไส้จะสุก (http://www.108health.com/108health/cimages/b006.jpg) ข้าวยำดอกไม้ ข้าวยำเป็นอาหารพื้นบ้านคู่กับคนใต้มานานแสนนาน บางทีกินกันเป็นข้าว เป็นอาหารเช้า อาหารเที่ยง อาหารเย็น กินกันได้ทั้งวัน บางทีก็กินกันเป็นอาหารว่าง ค่าที่ข้าวยำปรุงด้วยผักพื้นบ้านเป็นหลัก จึงกินกันได้ ไม่หนักท้อง กินสบายปาก เพราะเต็มไปด้วยผักสมุนไพรนานาชนิด เสริมด้วยโปรตีนจากปลาหรือกุ้ง คาร์โบไฮเดรทจากข้าว สารอาหารครบห้าหมู่ และเชิดชูรสชาตทางตา ทางลิ้น และทางจมูก ด้วยดอกไม้สดหลายอย่าง ตามฤดูกาล โดยเฉพาะดอกดาหลา ซึ่งเป็นไม้พื้นถิ่นของใต้แท้ๆ เครื่องปรุงข้าวยำ - ข้าวสุกสวย 3 สี จากอัญชัน ขมิ้น และใบยอ อย่างละ 1 ช้อนโต๊ะ - กุ้งแห้งป่น หรือ ปลาป่น มะพร้าวคั่ว อย่างละ 1 ช้อนโต๊ะ - ใบไม้หอม หั่นฝอยบางละเอียด เช่น ใบมะกรูด ชะพลู ผักแพว พาโหม ผักชีล้อม บัวบก - ผักอื่นๆ มีตะไคร้ซอยละเอียด ถั่วฝักยาวซอย มะม่วงสับ มะนาวฝานสักชิ้น - น้ำบูดูหวาน หรือน้ำข้าวยำสำเร็จรูป 2 ช้อนโต๊ะ พริกป่น 1 ช้อนชา - ดอกไม้สด เช่น อัญชัน คูน กลีบกุหลาบมอญ เล็บมือนางกับเข็มเด็ดแค่ก้านยาว 1 ซม. ดาหลากลีบใหญ่ซอยบางๆ ดาหลากลีบเล็กใส่ทั้งกลีบ วิธีปรุง ไม่แนะนำให้ทำน้ำข้าวยำหรือน้ำบูดูหวานเอง เพราะเกรงว่าจะไม่อร่อยเท่าของใต้แท้ หาซื้อได้ไม่ยากนัก ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป กินข้าวยำให้อร่อย ต้องคลุกเคล้าเครื่องเคราทั้งหมดให้เข้ากันสนิท เริ่มด้วยการราดน้ำข้าวยำลงในข้าวสีสวย คลุกสักครั้งก่อน แล้วค่อยเติมของแห้งป่นทั้งหมด คลุกอีกครั้งอย่างเบามือ แล้วเสริมด้วยใบไม้หอมหั่นฝอย ตะล่อมเบาๆ จะไม่ช้ำ จากนั้น โรยดอกไม้ดอกไม้ทั้งหมด ยิ่งมาก ยิ่งสวย ยิ่งอร่อย ตักใส่จาน เคียงด้วยมะนาวฝาน ดอกดาหลาจะมีรสเปรี้ยวอมฝาด ให้สรรพคุณในการช่วยย่อยอาหารและแก้ท้องอืด (http://www.108health.com/108health/cimages/b007.jpg) ขนมเบื้องดอกไม้ ขนมหรือของว่าง จะกินเล่น หรือกินจริงจัง ก็อิ่มหนำสำราญ ทั้งสวย ทั้งอร่อย และทรงคุณค่า เครื่องปรุง - แผ่นปอเปี๊ยะสด หรือแผ่นโรตีที่ห่อสายไหม ขนาดใหญ่สักหน่อย - ไข่ไก่ เบอร์ศูนย์ ใบเล็กที่สุด - หมูบดปรุงรสตามชอบ - ดอกไม้สด เช่น ดอกอัญชัน ดอกขจร ดอกโสน ดอกเข็ม ดอกคูน เป็นต้น - น้ำมันปาล์มสำหรับทอดขนมเบื้อง - น้ำจิ้ม เช่น ซอสมะเขือเทศ ซอสบ๊วย ซอสพริก ตามอัธยาศัย วิธีทำ - เตรียมถ้วยก้นลึก สำหรับวางแผ่นปอเปีี๊ยะสด - ปาดหมูปรุงรสจนทั่วก้นถ้วย ปาดบางๆ จะได้สุกได้ง่าย - ต่อยไข่ไก่ใส่ชามน้อยๆ แล้วค่อยๆรินลงบนหน้าหมูปรุงรส - เติมดอกไม้สดพอประมาณ พับแผ่นปอเปี๊ยะทั้งสี่ด้านเข้าหากัน - ตั้งกระทะบนไฟกลาง เติมน้ำมันปาล์ม รอจนร้อนทั่ว ทอดขนมเบื้อง ให้สุก โดยไม่พลิก (http://www.108health.com/108health/cimages/b008.jpg) เทคแคร์ สลัด เทคแคร์ตัวเราและครอบครัว เรื่องการกินอยู่ กินกันอย่างเอาใจใส่ และดูแลสุขภาพของทุกคน รวมทั้งสิ่งแวดล้อมของเราด้วย นั่นคือ การกินดอกไม้ที่เราปลูกเอง ปลูกต้นแคไว้ริมรั้วบ้านสักสองสามต้น ปลูกง่ายๆ ไม่ต้องใช้สารเคมีเร่งสีเร่งโต เราก็จะมีอาหารจากดอกแคให้กินกันหลายอย่าง เช่น ผัดดอกแคใส่ไข่ แกงส้มดอกแค ดอกแคสอดไส้ชุบแป้งทอด และ ยำดอกแค เป็นต้น เครื่องปรุงและวิธีทำเทคแคสลัด - ดอกแคสดที่แรกแย้ม หรือ บานแล้วก็ได้ เด็ดกลีบออกจากขั้วดอก ใช้ยำได้ทั้งดอก - น้ำจิ้มไก่ 2 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ ผสมรวมกัน - ต้นคึ่นฉ่าย ต้นหอม ผักชี หั่นเป็นท่อนยาวประมาณ 1 นิ้ว - มะเขือเทศ และ หอมใหญ่ ฝานบาง - ปลาหมึกปิ้งกรอบ - หอมเจียว กระเทียมเจียว 2 ช้อนโต๊ะ - พริกขี้หนูบุบพอแหลก - เม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอดกรอบ บุบพอแหลก 1 ช้อนโต๊ะ - เคล้าเครื่องปรุงทั้งหมดพร้อมๆกัน เก็บของเจียวไว้นิดหน่อย - แต่งหน้าด้วยหมึกแผ่นกรอบหักเป็นชิ้นพอคำ และโรยด้วยของเจียวกับเม็ดมะม่วง (http://www.108health.com/108health/cimages/b009.jpg) แคซ่า ดอกแคสีขาวสะอ้าน จะซ่าแสบได้อย่างไร เพียงแต่เมื่อเรานำไส้มาสอดไว้ในดอกแค แล้วชุบแป้งทอด หน้าตาอาหารว่างจานนี้ จึงแลดูเหมือนเกี๊ยวซ่าจากญี่ปุ่น แต่ภูมิใจไทยทำ ไทยกิน อร่อย และดีต่อสุขภาพ เพราะดอกแคมีคุณแก่ชาวไทยมานับหลายร้อยปี เครื่องปรุงและวิธีทำแคซ่า - ดอกแคสดจากต้น เก็บดอกช่วงเช้า ดอกจะยังไม่บาน ดอกแคบานตอนเย็น - เตรียมไส้หมูสับ ไก่สับ หรือกุ้งสับปรุงรสตามชอบ - เปิดดอกแคด้านโค้งข้างบน เด็ดเกสรตัวเมียซึ่งมีสีเขียวออกเพื่อลดความขื่น แต่ไม่ต้องเด็ดออกก็ได้ เพราะรสไม่จัดมาก - สอดไส้เพียงเล็กน้อย ตลอดความยาวดอก แล้วปิดดอกกลับเหมือนเดิม - ชุบแป้ง ทอดไฟกลาง พอเหลืองหอม ไส้จะสุกพอดี - ตักขึ้นพักบนกระดาษซับมัน - รับประทานเป็นของว่าง พร้อมน้ำจิ้มรสบ๊วย หรือ จิ๊กโฉ่ว หรือ น้าจิ้มเกี๊ยวซ่า (http://www.108health.com/108health/cimages/b010.jpg) ขนมดอกดิน ส่วนผสมของขนมดอกดิน แป้งข้าวเจ้า 1.5 ขีด แป้งท้าวยายม่อม 1.5 ขีด น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ กะทิ 200 ซีซี กล้วยน้ำว้าสุกงอม 2 ผล ขยำจนเนื้อเละ ดอกดินสด 1 กำมือ ใบตองสด ไม้กลัด สำหรับห่อ หรือ ถ้วยตะไลใบน้อยๆ สำหรับนึ่งขนม วิธีทำ - ล้างดอกดินให้สะอาด แล้วตัดเป็นท่อนสั้นๆ ใส่ในเครื่องปั่น เติมน้ำครึ่งถ้วย ปั่นให้ละเอียด แล้วกรองเอาแต่น้ำ จะได้น้ำสีม่วงตุ่น - เคล้าแป้งทั้งสองชนิดให้เข้ากัน ค่อยๆรินน้ำดอกดินลงผสม กวนไปเรื่อยๆ จนเข้ากันดี - เติมน้ำตาลทราย หรือ นำ้ตาลปีปก็ได้ ให้รสอ่อน ไม่หวานแหลม เติมกะทิ เหยาะเกลือป่นนิดหน่อย คนให้เป็นเนื้อเดียวกัน - เติมเนื้อกล้วยน้ำว้าที่ขยำจนเนียนดีแล้ว คนให้เข้ากัน - เตรียมซึ้งนึ่งขนมด้วยไฟกลาง - ตักขนมดิบที่เตรียมไว้ ใส่ในถ้วยหรือกระทงใบตอง ราดหน้ากะทิพองาม โดย : www.homedd.com (http://www.homedd.com) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มิถุนายน 05, 2011, 09:24:18 PM อาหารชีวจิต
(http://www.108health.com/108health/maintopic/mtopic_62.jpg) การกิน ไม่ใช่กินอย่างไรให้อร่อย แต่เน้นเรื่อง “ กินดี ” เพื่อต้านโรค เพราะเล็งเห็นว่าคนยุคนี้มีโรคภัยมากมายเกาะกุมรุมเร้าอันมีสาเหตุมาจากอาหารการกิน... อาหารชีวจิต ผู้ใหญ่และวัยรุ่นยุคนี้คุ้นเคยกับอาหารจานด่วนมากกว่าน้ำพริกผักจิ้ม ส่วนเด็กยุคใหม่เรียกได้ว่าโตมาจากนมผงและอาหารจานด่วน แถมดูอ้วนท้วนสมบูรณ์แก้มกลมแสนน่ารัก แต่อนาคตทำนายได้ยากว่าจะรอดพ้นจากภัย โรคอ้วน เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดตีบ โรคมะเร็งได้แค่ไหน สำหรับจุดประสงค์หลักของชีวจิตก็คือ ความสุขสมบูรณ์ทั้งกายและใจ โดยยึดเอาวิธีปฏิบัติและความคิดในแนวธรรมชาติเป็นหลัก ในด้านร่างกายและจิตใจนั้น ชีวจิตถือว่าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ร่างกายมีผลต่อจิตใจ และจิตใจก็มีผลต่อร่างกายด้วยความสุขสมบูรณ์ (Wholeness as Perfection) การปฏิบัติตามชีวจิตจะมุ่งไปในด้านการสร้างสุขภาพกายและใจก่อน โดยการใช้ อาหารสุขภาพ การใช้เครื่องมืออุปโภคที่มาจากธรรมชาติหรือใกล้กับธรรมชาติมากที่สุด ในขณะเดียวกันชีวิตความเป็นอยู่ก็ต้องไปตามธรรมชาติ คือใช้ชีวิตที่บริสุทธิ์และเรียบง่าย ชีวิตที่เป็นไปตามธรรมชาติจะเป็นชีวิตที่มีอายุยืน แข็งแรง มีความสุขสดชื่นตลอดเวลา เมื่อมีการปฏิบัติทางกายแล้วก็ต้องมีการปฏิบัติทางใจด้วย ในด้านจิตใจเป้าหมาย ที่สำคัญที่สุดคือความสงบทางกายซึ่งอาศัยธรรมชาติเป็นปัจจัยจะทำให้เกิดความสงบทางใจ เกิดปัญญา มองเห็นสัจธรรมของโลกและชีวิต จุดสูงสุดของสัจธรรมนี้คือ ความหลุดพ้น ซึ่งแต่ละคนย่อมมีหนทางและแนวทางเป็นของตนเอง ชีวจิต คืออะไร ชีวจิต คือ ร่างกายและจิตใจ เป็นวิถีการดำรงชีวิตและการบริโภคที่เน้นความเป็นธรรมชาติ มีพื้นฐานมาจากวิถีชีวิตแบบแมคโครไบโอติค ซึ่งมีการดัดแปลงให้สอดคล้องกับความเป็นอยู่แบบไทย ๆ อาหารชีวจิต เป็นการบริโภคพืชผัก ธัญพืชไม่ขัดสี ผักผลไม้สดตามฤดูกาลไม่ผ่านการปรุงแต่งพืชหัวไม่ปอกเปลือก ดื่มน้ำสะอาดและชาสมุนไพรหรือน้ำผลไม้ งดเนื้อสัตว์ทุกชนิด ยกเว้นปลาและอาหารทะเลบริโภคได้เป็นครั้งคราว งดน้ำตาลฟอกขาว กะทิ นม และไข่ การดำรงชีวิต อยู่ในที่อากาศบริสุทธิ์ไม่แออัด มีชีวิตเรียบง่าย ออกกำลังกายสม่ำเสมอ มีชีวิตที่ยัดธรรมชาติเป็นหลัก มีการฝึกสมาธิเป็นประจำ โดยภาพรวมแล้ว การปฏิบัติตามแนวชีวจิตจะมุ่งเน้นความมีสุขภาพดีทั้งกายและใจ และเข้าใกล้ธรรมชาติมากที่สุด ชีวจิต เป็นแนวความคิดต่อเรื่องสุขภาพแบบองค์วม(Holistic) คือผนวกรวมเอา "ชีว" ที่หมายถึง "กาย" รวมเข้ากับ "จิต" ที่หมายถึง "ใจ" ให้เป็นสองภาคของชีวิตที่มีผลต่อกันและกันโดยตรง ไม่อาจแยกกายออกจากจิต และจิตย่อมกระทบถึงกายเช่นเดียวกัน ความหมายและการปฏิบัติตัวตามแนวทางของชีวจิต จึงอาจอธิบายได้ว่า คนเราจะมีความสุขความแข็งแรงได้ก็ต่อเมื่อกายและใจทำงานเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน (Wholeness as Perfection) การใช้ชีวิตให้เป็นไปตามธรรมชาติ บริสุทธิ์ละเรียบง่าย เป็นแก่นความคิดสำคัญอีกประการหนึ่งของชีวจิต ใช้ชีวิตในที่นี้หมายรวมถึง การบริโภคอาหารสุขภาพที่มาจากธรรมชาติและมีการดัดแปลงน้อยที่สุด รวมถึงการบริโภคผลิตภัณฑ์ใดๆที่มาจากธรรมชาติหรือใกล้ เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด เพื่อให้ชีวิตหลุดพ้นจากความยุ่งเหยิงวุ่นวายของสังคมแบบวัตถุนิยมในปัจจุบัน ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคสมัย ใหม่นานัปการ แนบเนื่องกับแนวปฎิบัติทางร่างกาย ต้องมีการปฏิบัติทางใจควบคู่ไปด้วย เป้าหมายของการฝึกจิตใจ เป็นไปเพื่อความสงบ เกิด ปัญญา มองเห็นสัจธรรมของโลกและชีวิต ทั้งนี้การใช้ชีวิตและจิตใจให้เป็นไปตามแนวทางของชีวจิตไม่ใช่เรื่องยุ่งยากซับซ้อน ตรงข้าม กลับเป็นความพยายามทำชีวิตให้เรีบบง่ายที่สุด แจ่มใสและมีความกลมกลืนกับธรรมชาติมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้สุขภาพเกิดความสมดุลและกระตุ้นให้ ภูมิชีวิต (Immune System) ที่เป็นเกราะคุ้มกันสุขภาพตามธรรมชาติ ซึ่งมีอยู่ในมนุษย์ทุกคน ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ การจะตรวจสอบว่าตัวเองดำเนินชีวิตได้ใกล้เคียงกับแนวชีวจิตเพียงใด หรือบกพร่องไปเพียงใดนั้น อาจทดสอบได้จากหลักการของ FASJAMM ซึ่งว่าด้วยรูปแบบและอาการต่างๆทางกายและจิต ที่ทำให้บุคคลนั้นๆ มีสุขภาพกายและจิตแตกต่างกันไป จึงอาจพูดได้ว่า เมื่อระวังรักษาร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอตามแนวคิดของชีวจิต ภูมิชีวิตซึ่งเป็นหมอภายในร่างกายของมนุษย์ก็ ย่อมทำงานได้เต็มหน้าที่ เป็นเครื่องป้องกันด่านแรกที่คุ้มกันเราจากโรคทั้งปวง แต่เมื่อใดก็ตามหากเกิดเหตุสุดวิสัย มีโรคภัยไข้เจ็บเกิดกับร่างกาย การรักษาตามแนวทางของชีวจิต ยังคงยึดหลักของการเยียวยาแบบองค์รวม เช่นเดียวกับการป้องกันในเบื้องต้น วิธีบำบัดหลักๆของชีวจิต ได้ผสมผสานองค์ความรู้และวิธีการต่างๆ ดังต่อไปนี้ 1. ใช้ธรรมชาติเป็นยา 2. ใช้อาหารเป็นยา 3. ใช้แนวทางการแพทย์แบบผสมผสาน o แผนปัจจุบัน Conventional , Orthodox , Allopathic o Wholistic (Holistic) o Macrobiotics o แบบจีนและการฝังเข็ม o อายุรเวทและโยคะ o สมุนไพร o การนวดกดจุด การนวดฝ่าเท้า และบริหารโดอิน o แบบอื่นๆ 4. การบริหารและการออกกำลัง (ใช้แบบผสมผสาน) o โดอิน / โยคะ / นวดกดจุด o การยืด ส่ง และดัน o Chiropractic o การรำตะบอง โดย : เว็บไซต์อาหารชีวจิต หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มิถุนายน 05, 2011, 09:26:33 PM ปรุงปลาอย่างมืออาชีพ
(http://www.108health.com/108health/maintopic/mtopic_16.jpg) - ต้องทอดปลาด้วยไฟแรงและใช้เวลาน้อย เพราะถึงหนังปลาข้างนอกจะ - ถ้าคุณแม่กลัวว่าปลาตัวใหญ่จะสุกไม่ทั่วทั้งตัวให้บั้งหรือแบ่งครึ่ง และถ้าไม่ ห่วงเรื่องความสวยงามก็เอาไม้เล็กๆ จิ้มทั่วตัวเพื่อให้น้ำมันซึมเข้าไปขณะ ทอดปลาก็สุกทั่วตัวแล้วล่ะ - ใช้น้ำมะนาวทาตัวปลาจะทำให้ไม่ติดกระทะ และลดกลิ่นคาวของปลาลงได้ - เวลาต้มปลาควรต้มน้ำซุปให้เดือด ค่อยนำปลาลงไปต้ม ปิดฝา และห้ามคน เพราะกรดอะมิโนในเนื้อปลาจะแตกตัวทำให้ปลามีกลิ่นคาว ควรปล่อยให้ ปลาค่อยๆ สุกเองค่ะ - ใบตะไคร้ ใบเตย หรือเกลือเม็ดใหญ่ จะช่วยล้างเมือกของปลาให้สะอาดขึ้น - สำหรับเบบี๋คุณแม่ดับกลิ่นคาวปลาได้ด้วยผักและเครื่องเทศบางชนิด เช่น ขึ้นฉ่าย มะเขือเทศ ข่าอ่อนเพียงเล็กน้อย เป็นต้น หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: อุ๊ ที่ มิถุนายน 06, 2011, 11:31:26 AM ขอบคุณเคร็ดไม่ลับดี ๆ จ้า :D
หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มิถุนายน 14, 2011, 12:58:57 PM น้ำซุปหมู
1.กระดูกหมู สัก 3-4 ดุ้นเพื่อเอามาต้มน้ำซุบ สำหรับหม้อก๋วยเตี๋ยว 1 หม้อ นำมาล้างให้สะอาดแล้วเอาไปลวกในน้ำเดือด วางบนเขียงทุบกระดูกดุ้นใหญ่ๆนี้ให้แตก ก่อนนำไปต้มในหม้อ เพื่อเวลาเคี่ยวไขกระดูกที่อยู่ในกระดูกหมูข้างในจะละลายออกมารวมกับน้ำซุบได้รสชาติหวานหอมมากกว่าการไม่ทุบกระดูก 2.เคี่ยวกระดูกหมูพร้อมกับนำรากผักชีมัดด้วยตอกหริอเชือกที่สะอาดใส่ลงไปด้วยประมาณ 1 กำมือ 3.นำกะหล่ำปลีหัวเขื่องๆผ่าซีกใส่ลงไปด้วย1-2 หัวความหวานจากกะหล่ำปลีจะออกมาละลายกับน้ำซุป 4.มะระจีนผลใหญ่ๆผ่าครึ่งเอาไส้ออกแล้วหั่นเป็นชิ้นเคี่ยวลงไปด้วย 5.ทุบกระเทียมพอแตกใส่ลงไปอีก 5 หัว 6.เมล็ดพริกไทยดำหรือขาวก็ได้ทุบพอแตกอีก 2 ช้อนโต๊ะ 7.อย่าลืมเกลือนะคะชิมให้มีรสกลางๆอย่าเค็มนัก น้ำซุปไก่ วิธีทำ 1. ล้างโครงไก่ให้สะอาด ควักพวกปอด เครื่องในที่จะทำให้มีกลิ่นออกมาให้หมด แล้วเอาใบเตย 4-5 ใบมัดๆ ยัดเข้าในท้อง แล้วใส่ถุง แช่ตู้เย็น ทิ้งไว้ 1 คืน (หรือจะไม่แช่ทิ้งไว้ ทำเลยก็ได้) 2. พอวันรุ่งขึ้น ตั้งน้ำให้เดือด เอาใบเตยออกจากตัวไก่ พอน้ำเดือด นำไก่ลงลวกสักแป๊บ ก็เทน้ำทิ้ง 3. ตั้งน้ำที่จะใช้ต้มน้ำซุป พอน้ำเดือด ใส่โครงไก่ลงไป ตามด้วยรากผักชีทุบ ๆ ต้นผักชี เกลือ และใบเตย 4. พอน้ำเดือดอีกทีก็ใส่หัวไชเท้าหรือผักต่าง ๆ ที่ชอบลงไป ใช้ไฟอ่อน น้ำซุปจะได้ใส ระหว่างนี้มันคอยช้อนฟองที่ลอยอยู่ผิวน้ำทิ้งด้วย 5. ต้มเคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนน้ำซุปออกรสหวาน หอมจากไก่และผักตามต้องการ เค็มนิด ๆ ก็ใช้ได้ เคล็ดไม่ลับ แต่ไม่ควรมองข้าม 1 ใส่หมูหรือไก่พร้อมน้ำเย็น เกลือป่น ต้มไฟแรง พอเดือดให้หรี่ไฟทันที 2 ช้อนฟองทิ้ง พอเดือดอีก ช้อนฟองทิ้งอีก 3 เคี่ยวต่อไปเรื่อยๆ 4 น้ำซุปจะใสแจ๋ว การทำน้ำซุบ ซี่โครงไก่ หนึ่งโครง หัวใช้เท้า ปอกแล้วหั่นหยาบๆๆ เหมือนใส่ก๋วยเตี๋ยว รากผักชี ซักประมาณ ห้า ถึงเจ็ดราก กระเทียม สด หนึ่งร้อยห้าสิบกรัมหรือแล้วแต่ความชอบ พริกไทยเม็ดขาว ห้าสิบกรัม ตั้งน้ำเปล่าให้เดือด นำกระเทียม พริกไทยเม็ดขาด รากผักชี บดหรือตำเข้าด้วยกันให้ละเอียดใส่ ลงไปในน้ำซุบ ตรงนี้ใส่ตามใจถ้าใส่มากจะออกเผ็ดร้อนของพริกไทย ปรุงรสด้วย คนร์อไก่ ซีอิ๊วขาว ไม่ต้องใส่ซีอิ้วขาวมากน้ำจะดำให้ใส่เกลือช่วยถ้าไม่เค็ม น้ำตาลทรายนิดหน่อยถ้าเป็นไปได้หาซื้อน้ำตาดกรวดมาใส่จะดี ใส่โครงไก่ที่ล้างสะอาดแล้ว ให้ใส่ไก่ขณะน้ำเดือดเมื่อใส่ไปอย่าเพิ่งคน ให้รอดูไก่พอสุกจึงคนได้ไม่งั้นน้ำซุบจะคาว ปรุงรสตามใจชอบ จะมีกลิ่นหอมของรากผักชีกระเทียมพริงไทยด้วย ตอนคนถ้าน้ำเดือดมากและไก่สุกแล้วให้รี่ใฟลงเบาๆๆแล้วเคี่ยวไปเรื่อยๆๆให้น้ำกระดูกไก่ออก คล้ายๆๆก๋วยเตี๋ยว ที่ให้รี่ไฟลงเพราะซุบจะใสไม่ขุ่น เคียวซักพักชิมรสยกลง กรองเอาแต่ซุบ สามารถแบ่งเก็บในตู้เย็นแล้วเอามาใช้เฉพาะที่จะกิน หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มิถุนายน 14, 2011, 01:03:14 PM การทำข้าวต้ม
ตั้งน้ำให้เดือด ใส่ข้าวสารที่ซาวจนสะอาดลงไปแล้วคน ให้ใส่ข้าวสารตอนน้ำเดือดเท่านั้น ใส่ข้าวสารไม่ต้องมากไม่เหมือนหุงข้าวเพราะเราทำข้าวต้มต้องให้น้ำเยอะกว่า คนพอสุกชิมข้าวดูปิไฟปิดฝาหม้อ ข้าวจะขึ้นอืดเองซักพัก ถ้าใส่น้ำน้อยจะกลายเป็นข้าวแฉะคือไม่มีน้ำ ไม่เป็นไร ตอนทำข้าวต้มก็ใส่น้ำวุบเยอะหน่อยการเอาข้าวสวยมาต้มจะได้รสชาดไม่ดีนัก ไม่อร่อย นำน้ำซุบ หมูสับ ข้าวต้มขาว ตั้งไฟคนให้เข้ากัน ถ้าจะใส่ใข่ก็ใส่ตอนเดือด ตอนใส่ใข่ลงไปคนระวังไม่ให้ใข่แตก พอเดือดยกลง เวลาเสืร์ฟ ใส่ตั้งฉ่ายก้นถ้วยนิดหน่อย แล้วใส้ข้าวต้มหมู โรยด้วยกระเทียมเจียว พริกไทยขาวป่น ผักชี ต้นหอม ต้นคื่นฉ่าย หั่นรวมกันแบบหยาบโรยไปหน่อย การทำหมู นำหมูมาสับได้หมูติดมันจะดีเพราะหมูจะไม่แข็ง สับละเอียด ใส่รากผักชีกระเทียมพริกไทยที่บดหรือตำละเอียดไปนิดหน่อยเพื่อดับกลิ่นคาวหมู ใส่ไข่ใก่หนึ่งฟองถ้าหมูเยอะก็ใส่ไข่เพิ่ม ใส่ไข่เพื่อให้หมูนุ่ม ปรุงรสด้วย คนร์อไก่ ซีอิ้วขาว น้ำตาลนิหน่อย ระวังอย่าให้เค็มมาก การปั้นหมู ดั้งน้ำให้เดือด ปั้นหมูเป็นคำๆๆ เท่าหัวแม่มือหรือเล็กกว่า ใส่ลงไปในน้ำเดือด ทีละก้อน ต้องใส่ตอนที่น้ำเดือดหมูจะไม่คาว หมูที่สุกจะลอย ตัดขึ้นพักไว้ ที่จริงทำหมูก่อนก็ได้แล้วเอาน้ำที่ปั้นหมูไปทำน้ำซุบจะได้ไม่ต้องใช้โครงไก่ แต่มีข้อเสียคือน้ำซุบจะไม่ใส ข้าวต้มหมูสับ ส่วนผสม ข้าวสุก 1 1/2 ถ้วย หมูรวน 1/2ถ้วย น้ำซุป 3ถ้วย กระเทียมเจียว 1ช้อนโต๊ะ พริกไทยป่น 1/8ช้อนชา น้ำปลา 1ช้อนชา ต้นหอมผักชีหั่นให้หยาบ ๆ อย่างละ 1 ต้น คื่นฉ่ายหั่นให้หยาบ ๆ 1/4ถ้วย วิธีทำ 1. ตั้งน้ำซุปให้เดือด ใส่ข้าว ใส่หมูรวน 2 . ใส่น้ำปลา โรยพริกไทยป่นคนพอทั่ว 3. ตักใส่ถ้วยที่รองด้วยคื่นฉ่าย โรยด้วยต้นหอมและผักชี. หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มิถุนายน 14, 2011, 01:09:38 PM ข้าวผัดปู
เครื่องปรุงข้าวผัดปู ข้าวสวย เนื้อปูนึ่งสุก ไข่ไก่ ต้นหอมซอย กระเทียมสับ พริกไทยป่น น้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว น้ำมันพืช วิธีทำ 1. ใส่น้ำมันในกระทะ ตั้งไฟให้ร้อน ใส่กระเทียม เจียวพอหอม ใส่ไข่ ผัดยีให้กระจาย พอไข่สุก ใส่ข้าว ผัดพอทั่ว ใส่เนื้อปู (แบ่งไว้โรยหน้าเล็กน้อย) ผัดให้เข้ากันดี 2. ปรุงรสด้วยพริกไทย น้ำตาล ซีอิ๊วขาว ผัดให้เข้ากัน ปิดไฟ ยกลง 3. ตักข้าวผัดปูใส่จาน โรยเนื้อปู ต้นหอมซอย แต่งด้วยผักชี รับประทานข้าวผัดปูกับต้นหอม แตงกวา เสิร์ฟพร้อมมะนาว พริกน้ำปลา ข้าวผัดอร่อย ใช้ข้าวหอมมะลิ หุงให้สวยสักหน่อย เวลายีข้าวทำแบบเบามือ ข้าวจะเป็นเม็ดสวยงาม ถ้าจะให้ดี ควรใช้เกลือโรยให้กระจายทั่ว ๆ แทนการใช้น้ำปลา หรือซีอิ้วขาว เพราะข้าวจะไม่แฉะ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มิถุนายน 14, 2011, 01:13:08 PM มีแต่เมนูเด็ด ๆ น่าหม่ำทั้งนั้นเลย ;D :D ;) สวัสดีค่ะ :o หม่ำ หม่ำ laugh.gif angel.gif หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มิถุนายน 14, 2011, 10:15:10 PM กุ้งแม่น้ำอบอัลมอนด์
นำส่วนผสมอัลมอนด์มาทาบนเนื้อกุ้ง (เก็บส่วนผสมหน้ากุ้งที่เหลือไว้ทำซอส) จากนั้นนำกุ้งไปวางบนถาดแก้ว แล้วนำเข้าเตาไมโครเวฟ (http://sgstb.msn.com/i/59/12E01B59E6B8F883E9E72DCC75187.jpg) ส่วนผสม กุ้งแม่น้ำ 4 ตัว น้ำพริกแกงแดง 2 ช้อนชา ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมันมะกอก 3 ช้อนโต๊ะ อัลมอนด์ป่น 1 ถ้วย ผักคะน้าต้นเล็ก 4 ต้น น้ำมันงา 1/2 ช้อนชา น้ำ 1 ถ้วย เกลือ พริกไทย อย่างละหนึ่งหยิบปลายนิ้ว ส่วนผสมสำหรับซอสกุ้ง ส่วนผสมหน้ากุ้งที่เหลือ นม 1/2 ถ้วย (http://sgstb.msn.com/i/66/81B93C226C3C367D338BE61629166D.jpg) วิธีทำ อุ่นเตาไมโครเวฟ กดปุ่มเลือกระบบอบ ด้วยความร้อน 250 องศาเซลเซียส ตั้งเวลา 5 นาที ผ่าครึ่งกุ้ง แล้วปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย ผสมน้ำมันมะกอก น้ำส้มสายชู น้ำตาล ซีอิ๊วขาว และน้ำพริกแกงแดงลงใน ชามแก้ว คนให้เข้ากัน ตามด้วยอัลมอนด์ป่น คนให้เข้ากัน กดปุ่มเลือกระบบ อบ ด้วยความร้อน 250 องศาเซลเซียส ตั้งเวลาอบนาน 5-8 นาที (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของกุ้ง) แล้วอบต่อด้วยการกดปุ่มระบบอัตโนมัติ 30 วินาที หยิบชามแก้วอีกใบ ใส่ผักคะน้า น้ำ และน้ำมันงา แล้วปิดด้วยพลาสติก ถนอมอาหาร นำเข้าเตาไมโครเวฟ กดปุ่มระบบอบอัตโนมัติ ตั้งเวลานาน 1 นาที แล้วตักขึ้น พักไว้ นำส่วนผสมหน้ากุ้งมาผสมกับนมในชามแก้วใบเล็ก นำเข้าเตาไมโครเวฟ กดปุ่มระบบอบอัตโนมัติ ตั้งเวลานาน 2 นาที เป็นอันเสร็จ เสิร์ฟกุ้งย่างพร้อมกับผักคะน้า แล้วราดด้วยซอสกุ้ง ที่มาข้อมูล : Samsung หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: อุ๊ ที่ มิถุนายน 16, 2011, 11:25:07 AM หิวจัง ;)
หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มิถุนายน 16, 2011, 03:21:58 PM หิวจัง ;) ตั่งงงงงงงงงงโต๊ะ ลูกค้าเข้าแย้วววววววววว เช็คบิลก่องดั้ยป่ะ กำลังแกะตั่ง angel.gif อิ อิ ;) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มิถุนายน 16, 2011, 03:26:52 PM ปากหม้อญวณ
(http://www.thaigoodview.com/files/u1430/1_10.jpg) สิ่งที่ต้องเตรียม แป้งข้าวเจ้า 2 1/2 ถ้วย แป้งมัน 1/2 ถ้วย แป้งเท้ายายม่อม 1/3 ถ้วย น้ำ 1/2 ถ้วย เกลือ 1/4 ช้อนชา เอาแป้งทุกอย่างผสมให้เข้ากัน ค่อยๆๆใส่น้ำนวด แล้วใส่เกลือคนให้เข้ากันพักไว้ ส่วนผสมสำหรับไส้ กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ เนื้อหมูบด 1/2 ถ้วย เกลือ 1/4 ช้อนชา น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา ซีอิ๋วขาว 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ เห็ดหูหนูสับหยาบ 1 ถ้วย ต้นหอมซอย 1 ถ้วย พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา ผัดให้เข้ากันพักไว้ อย่าลืมชิม อิๆๆคราวนี้แหละ ปากเป็นมัน สิ่งที่ต้องเตรียมเพิ่มอีก น้ำจิ้มไก่ + น้ำต้มสุก (ผสมให้เข้ากันลดความเข้มข้นของน้ำจิ้ม) แครอทซอยเล็กๆๆ ใส่ในน้ำจิ้มพักไว้ หอมแดงหั่นบางๆๆเจียวจนเหลือง(มีขายแบบเจียวมาแล้ว)เอาไว้โรย.. ผัก..ตามฤดูกาล กินผักแยะๆๆ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มิถุนายน 18, 2011, 06:52:49 PM ก๋วยเตี๋ยวหมูสับ (http://www.pantown.com/data/2444/board8/5.jpg) เครื่องปรุง ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ (ประมาณ 900 กรัม) 1 แพค หมูสับ 500 กรัม มะเขือเทศลูกใหญ่ 1 ลูก ผักกาดหอม 1 ต้น หัวหอมใหญ่ ½ หัว กระเทียมกลีบใหญ่ 3 กลีบ ต้นหอม 2 ต้น ซีอิ้วขาว 3 ช้อนโต๊ะ ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ ซีอิ้วดำ 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 2 ½ ช้อนโต๊ะ ผงกะหรี่ 1 ช้อนชา น้ำเปล่า 1 ½ ถ้วย น้ำมันสำหรับผัด 4 ช้อนโต๊ะ แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ 1. เอาก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ใส่จาน นำเข้าไมโครเวฟประมาณ 3 นาที แล้วนำมายีให้เส้นแยกออกจากกัน จากนั้น เปิดเตาที่ไฟปานกลางค่อนข้างแรง ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไป 1 ช้อนโต๊ะ พอน้ำมันเริ่มร้อนให้นำเส้นใหญ่ที่ยีไว้แล้วลงไปผัด เติมซีอิ้วดำลงไป ผัดให้ซีอิ้วดำคลุกกับเส้นใหญ่ให้ทั่วก็ปิดเตา ตักใส่จาน พักไว้ 2. ปลอกเปลือกหัวหอมใหญ่และกระเทียม ตัดรากต้นหอม ตัดก้านผักกาดหอม เด็ดขั้วมะเขือเทศ และนำผักต่างๆ ไปล้างน้ำให้สะอาด สะเด็ดน้ำพักไว้ นำหัวหอมใหญ่และมะเขือเทศมาหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็กๆ สับกระเทียมและซอยต้นหอมให้ละเอียด 3. เปิดเตาที่ไฟปานกลาง ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไป 3 ช้อนโต๊ะ พอน้ำมันเริ่มร้อนให้นำกระเทียมสับหัวหอมใหญ่หั่นเต๋า และส่วนก้านของต้นหอมซอยที่เป็นสีขาวลงไปผัดให้หอม สังเกตว่าหัวหอมจะใสขึ้น แล้วจึงใส่หมูสับลงไป ผัดจนหมูเริ่มสุกจึงเติมเครื่องปรุงต่างๆ คือ ซีอิ้วขาว ซอสปรุงรส น้ำมันหอย และน้ำตาลทรายลงไป 4. ผัดให้หมูสับและเครื่องปรุงต่างๆ เข้ากันจึงนำมะเขือเทศที่หั่นไว้ใส่ลงไป ผัดซักพักจนมะเขือเทศเริ่มนิ่มก็ใส่น้ำเปล่าลงไป คนให้ทั่ว 5. รอจนน้ำซุปในกระทะเริ่มเดือด ก็ใส่ผงกะหรี่ลงไปและเคี่ยวต่อไปประมาณ 15 นาที จากนั้น ละลายแป้งข้าวโพดกับน้ำเปล่าประมาณ 3 ช้อนโต๊ะแล้วนำไปใส่ลงไปในน้ำซุป คนเร็วๆ อย่าให้แป้งจับตัวเป็นก้อน ก่อนปิดเตา ใส่ต้นหอมซอยลงไป 6. จัดผักกาดหอมรองไว้ในจาน ใส่เส้นใหญ่ที่ผัดเตรียมไว้ลงไป ราดเครื่องที่ผัดเตรียมไว้ลงไปบนเส้นก๋วยเตี๋ยว จากนั้นก็ยกเสิร์ฟได้เลยค่ะ เมนูนี้อาจเปลี่ยนมาใช้เนื้อสับแทนหมูสับก็ได้ค่ะ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มิถุนายน 18, 2011, 10:03:59 PM สวัสดีค่ะ
ฝนตกแทบทุกวันอากาศก็ปลี่ยนเด็กๆเป็นหวัดกันเยอะค่ะ ช่วงนี้แนะนำกินส้ม น้ำส้ม น้ำมะนาว หรือวิตามินซี1000กรัมต่อวัน ดื่มน้ำเย็น น้ำแข็งให้น้อยลง ล้างมือก่อนหยิบของเข้าปากด้วยค่ะ (http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/5/5a/Oranges_and_orange_juice.jpg/240px-Oranges_and_orange_juice.jpg) น้ำส้มคั้น การเตรียมน้ำส้มนั้น ปกติแล้วน้ำส้มคั้นจะใช้ส้มเขียวหวานผลใหญ่ เพราะส้มเขียวหวานผลใหญ่จะให้น้ำส้มที่มีรสชาติหวาน สามารถคั้นเอาน้ำรับประทานได้ทันที หรือจะเติมเกลือเล็กน้อยเพื่อเพิ่มรสชาติก็ได้ เมื่อเตรียมเสร็จแล้วเทใส่แก้วพร้อมเสิร์ฟ (ปกติแล้วแก้วที่ใส่จะเป็นแก้วเปล่าไม่ใส่น้ำแข็งเพราะน้ำส้มจะมีรสหวานอ่อนๆ ถ้าเติมน้ำแข็งลงไปอีกจะทำให้น้ำส้มจืดเสียรสชาติ) น้ำส้มปั่น ส้มที่ใช้ในการทำน้ำส้มปั่นจะใช้ส้มเขียวหวานผลเล็ก (หรือที่ภาษาตลาดเรียกว่าส้มคั้นน้ำ) ส้มดังกล่าวจะให้น้ำส้มที่มีรสออกเปรี้ยว สาเหตุที่ใช้ส้มเปรี้ยวในการปั่นเพราะถ้าใช้น้ำส้มที่มีรสหวานอ่อนๆ จากธรรมชาติมาปั่นรวมกับน้ำแข็งจะทำให้ได้น้ำส้มที่มีรสจืดตามที่ได้บอกไว้ในข้างต้น น้ำส้มปั่นสามารถทำได้โดยคั้นน้ำส้มจนได้ปริมาณตามต้องการ จากนั้นเทใส่เครื่องปั่นที่ใส่น้ำแข็งไว้ จากนั้นเติมน้ำเชื่อมกับเกลือ แล้วปั่นประมาณ 30 วินาทีจะได้น้ำส้มปั่นตามต้องการ ปกติในร้านอาหารหรือภัตตาคารมักจะเสิร์ฟน้ำส้มคั้นโดยเทใส่แก้วใสพร้อมกับมีชิ้นส้มหั่นแว่น 1 แว่นเหน็บอยู่ที่ปากแก้ว หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มิถุนายน 18, 2011, 10:25:09 PM ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน
(http://www.panyathai.or.th/wiki/images/Noodle_luysuan.jpg) ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน เป็นอาหารระหว่างมื้อหรืออาหารว่าง ที่คนไทยนิยมรับประทานกันมาก ซึ่งมีผัก หมูและเห็ดซ่อนอยู่ข้างใน เวลารับประทานจะทานกับน้ำจิ้มที่มีรสจัดคล้ายน้ำจิ้มทานกับอาหารทะเล แต่ใส่ใบโหระพาเพื่อเพิ่มความหอมและรสชาติที่ดี เป็นอาหารที่ทานง่าย สะดวก และรวดเร็ว แถมยังได้สารอาหารครับทั้ง 5 หมู่ เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบรับประทานผัก (สำหรับรับประทาน 4 คน) เครื่องปรุง เนื้อหมูสับ 1/2 กิโลกรัม แผ่นก๋วยเตี๋ยวแผ่นใหญ่ 1 กิโลกรัม ซีอิ๋วขาว 1 ช้อนโต๊ะ ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา พริกไทยป่น 1 ช้อนชา รสดี รสหมู 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ แครอทหั่น (สี่เหลี่ยมลูกเต๋า) 3 1/4 ถ้วยตวง โหระพา 7 กิ่ง เห็ดหอมส่วนดอกแช่น้ำ (หั่นเส้นกว้าง 1 ซ.ม.) 1/4 ถ้วยตวง เห็ดหูหนูสดหั่น (เท่าไม้ขีดไฟ) 1/2 ถ้วยตวง ไชโป๊วหวานสับหยาบ 1/4 ถ้วยตวง ผักชีไทย 5 ต้น ผักกาดหอม (http://www.panyathai.or.th/wiki/images/Kaddddd.jpg) วิธีทำไส้ 1. หมักหมูกับซีอิ๋วขาว รสดี พริกไทย และน้ำตาลทราย นวดให้เข้ากัน หมักไว้อย่างน้อย 15 นาที 2. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพอร้อน นำหมูที่หมักไว้ลงผัดพอสุก ใส่ซอสปรุงรส น้ำมันหอย และรสดี รสหมูที่เหลือผัดเคล้าให้ทั่ว ใส่เห็ดหูหนู เห็ดหอม ไชโป๊ว และแครอท ผัดต่อจนเข้ากัน ชิมรสออกเค็มหวานเล็กน้อย ผัดจนน้ำแห้ง ตักใส่จานพักไว้ให้เย็น วิธีเตรียมแป้งเเละผัก 1. แผ่นก๋วยเตี๋ยวแผ่นใหญ่ 1 กก. ขนาดกว้าง 12x16 นิ้ว 2. ตั้งลังถึงให้น้ำเดือดพล่าน นำแผ่นก๋วยเตี๋ยว ทั้งแผ่นใส่ถาดนึ่งประมาณ 10 นาที ยกลงปล่อยให้เย็น 3. ผักกาดหอมตัดเส้นกลางใบออก แล้วตัดเป็นสี่เหลี่ยมขนาด 1 1/2 x 1 1/2 นิ้ว ประมาณ 1 ต้นใหญ่ 4. โหระพา 7 กิ่ง เด็ดเป็นใบๆ 5. ผักชีต้นใหญ่ 5 ต้น เด็ดเป็นช่อสั้นๆ (http://www.panyathai.or.th/wiki/images/M22222.jpg) วิธีห่อ 1. เลือกถุงพลาสติกขนาดใหญ่กว่าแผ่นก๋วยเตี๋ยว นำมาตัดขอบออกเป็นแผ่นใหญ่ วางถุงพลาสติกคลี่ออกบนโต๊ะที่ทำสะอาดเรียบร้อย 2. นำแผ่นก๋วยเตี๋ยวที่นึ่งแล้วมาพับครึ่ง ขนาด 12 x 18 นิ้ว ตัดตรงปลายออก 4 นิ้ว จะได้ขนาด 8 x 8 นิ้ว ทำห่อแบบปอเปี๊ยะทอดจะได้ 10 ชิ้น การห่อเเบบปอเปี๊ยะ วางแป้งลงบนแผ่นพลาสติก วางผักกาดหอมลงตรงกลาง ให้เหลือริมแป้งไว้ด้านละ 2 นิ้ว วางเรียงไส้ตามลำดับ คือ ผักกาดหอม โหระพา ผักชี วางให้เสมอใบผักกาด ตักไส้ที่ผัดไว้ใส่พอประมาณเกลี่ยให้ทั่ว พับแป้งด้านข้างทั้ง 2 ด้านมาทับบนไส้ แล้วพับแป้งด้านล่างขึ้นทับพร้อมกับลอกแผ่นพลาสติก ค่อยๆ ม้วนให้แน่น (แบบข้าวห่อสาหร่าย) วางเรียงบนจานเสิร์ฟ 2-3 แท่ง แล้วแต่ความต้องการ ใช้มีดหั่นตามขวางพอคำ เพื่อสะดวกในการรับประทาน เครื่องปรุงน้ำจิ้ม พริกขี้หนูสวนสีเขียวซอย 20 เม็ด พริกขี้หนูแบบยาวสีเขียวซอย 10 เม็ด กระเทียมกลีบเล็กหั่นหยาบๆ 20 กลีบ ใบโหระพาซอยหยาบๆ 1/2 ถ้วยตวง น้ำส้มสายชู 1/2 ถ้วยตวง เกลือป่น 1/4 ช้อนชา น้ำเชื่อม (น้ำเปล่า 1/2 ถ้วยตวง น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วยตวง ต้มจนน้ำละลาย พักให้เย็น) วิธีทำน้ำจิ้ม ปั่นกระเทียม ใบโหระพา พริกขี้หนูทั้งหมดให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน เทใส่ในชาม เติมน้ำเชื่อม เกลือ คนให้เกลือละลาย ชิมรสเปรี้ยวเค็มหวาน น้ำจิ้มสามารถทำไว้ล่วงหน้าได้ โดยใส่ขวดแก้วแช่ในตู้เย็น รุ่งขึ้นน้ำจิ้มจะเข้มข้น ไม่มีกลิ่นใบโหระพา รวมทั้งใช้เป็นน้ำจิ้มอาหารทะเล นึ่ง ย่างได้ด้วย ขอขอบคุณข้อมูลจาก - โหระพา - ผู้หญิงนะคะ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มิถุนายน 19, 2011, 09:16:11 PM ไข่ตุ๋นปูอัด
(http://www.thaifooddb.com/Recipe_Special/images/kaitun_05.jpg) เครื่องปรุง 1. ไข่ไก่(เบอร์ 1) 3 ฟอง 2. น้ำเปล่า 3. ปูอัด 3-4 แท่ง(หั่นแทยง) 4. แครอทหั่นลูกเต๋าเล็ก 2 ช้อนโต๊ะ หั่นแท่งเล็กน้อย 5. ต้นหอมซอย เล็กน้อย 6. ซิอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ 7. ซอสปรุงรส 2 ช้อนชา 8. น้ำปลา 1/2 ช้อนโต๊ะ (http://www.thaifooddb.com/Recipe_Special/images/kaitun_01.gif) 1. ใส่น้ำในลังถึง จากนั้นนำลังถึงตั้งไฟ ระหว่างรอน้ำเดือด ตอกไข่ใส่ชาม ใช้ซ่อมตีไข่ให้ไข่แดงและไข่ขาวเข้ากัน ปรุงรสด้วย ซิอิ๊วขาว ซอสปรุงรส และน้ำปลา จากนั้นค่อยๆ เติมน้ำเปล่าลงไป คนให้เข้ากัน ใส่ปูอัดและแครอท ที่หั่นเตรียมไว้ส่วนหนึ่งลงในชาม แบ่งไว้ส่วนหนึ่ง เอาไว้แต่งหน้า จากภาพจะเห็นแครอทลอยอยู่บนไข่ ส่วนปูอัดจะจมอยู่ด้านล่าง (http://www.thaifooddb.com/Recipe_Special/images/kaitun_02.gif) 2. พอน้ำเดือด นำชามไข่ที่เตรียมไว้ ใส่ในลังถึงปิดฝา ใช้ไฟปานกลาง นึ่งประมาณ 20 นาที เมื่อไข่สุกจะได้ไข่ตุ๋นหน้าตาประมาณในภาพ ถึงขั้นตอนนี้อาจจะยังไม่ต้องให้ไข่สุก ทั้ง 100 % ก็ได้ค่ะ เพราะเดี๋ยวต้องแต่งหน้าแล้วนึ่งต่ออีก เอาเป็นว่าให้เกือบสุกก็แล้วกัน (http://www.thaifooddb.com/Recipe_Special/images/kaitun_03.gif) เวลาที่ใช้ในการนึ่งจะไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับไข่ว่าเป็นไข่ที่ออกจากตู้เย็นหรือเปล่า และไฟที่ใช้บางทีอาจจะไม่เท่ากัน แต่ที่สำคัญ เวลาใส่ชามไข่ในลังถึง ต้องรอให้น้ำเดือดก่อน 3. แต่งหน้าไข่ตุ๋นด้วย ปูอัด โรยแครอทแบบแท่ง ต้นหอมหั่นฝอย จากนั้นปิดฝาลังถึง นึ่งต่อประมาณ 2-3 นาที ให้ปูอัดและผักสุก ยกเสิร์พ ทานร้อนๆ อร่อยมากขอบอก (http://www.thaifooddb.com/Recipe_Special/images/kaitun_04.gif) วิธีทดสอบว่าไข่สุกแล้วหรือยัง ให้ใช้ช้อนหรือซ่อมแทงลงไปที่เนื้อไข่ จิ้มลงไปเบาๆ ก็พอนะคะ ไม่ใช่กวนไข่ ถ้าไข่สุกเนื้อไข่จะเกาะกันดี หากเป็นน้ำสีไข่ดิบไหลขึ้นมา ก็แสดงว่าอาจจะยังสุกไม่ทั่วดี ปิดฝานึ่งต่ออีกหน่อย หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มิถุนายน 19, 2011, 09:41:33 PM เรื่องของไข่
(http://3.bp.blogspot.com/_bl3rSksCJoc/SboQW31z25I/AAAAAAAAAQ8/93oMkYNfFp0/s320/%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B9%88.jpg) วิธีดูว่าไข่เน่าหรือไม่เก็บไข่สดไว้นานเกินไป วิธีดูว่าไข่สดเน่ารึยัง ให้เอาไข่ไปลอยน้ำค่ะ ไข่เสียหรือไข่เน่าจะลอยน้ำเสมอ ส่วนไข่ที่ยังดีอยู่จะจมน้ำค่ะ ต้มไข่ให้ปอกง่ายๆ เวลาต้มไข่ หรือทำไข่ต้ม ขณะต้มไข่ให้ใส่เกลือลงไป ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ / น้ำ 1 ลิตร ก็จะทำให้ปอกเปลือกไข่ได้ง่ายๆ ต้มไข่ ให้ทานอร่อยและได้คุณค่าเวลาต้ม ควรใส่ไข่พร้อมกับน้ำ แล้วนำขึ้นต้ม ไม่ควรต้มน้ำจนเดือด แล้วค่อยใส่ไข่ เวลาต้มควรใช้ไฟอ่อน เมื่อต้มสุกแล้วควรตักไปใช่ในน้ำเย็น ทันที จะทำให้ได้ไข่ต้มที่นิ่มรับประทานอร่อยอีกทั้งยังย่อยง่ายอีกด้วย ผ่าไข่ต้มอย่างไรให้สวย ไข่ต้มเป็นอาหารจานไข่ที่มีวิธีทำง่ายแสนง่าย แต่ปัญหาที่พบบ่อยคือ การผ่านั้นไข่มักแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยไม่ว่าจะเป็นไข่ไก่หรือไข่เป็ด เราก็มีวิธี ผ่าให้สวยงามได้โดยใช้เส้นด้ายยาวพอประมาณผูกข้างหนึ่งให้แน่น ใช้มือดึง ด้ายให้ตึงแล้วผ่าลงที่ผิวไข่ หรืออาจผ่าโดยใช้มีดที่จุ่มลงในน้ำร้อนก็ได้ เจียวไข่ให้หนานุ่ม เริ่มแรก ไข่ไก่ที่ใช้ต้องสด จะทำไข่เจียวแบบหนา ๆ อาจจะต้องใช้ไข่อย่างน้อย 4-5 ฟอง ตอกไข่ใส่ชาม ปรุงรสด้วยน้ำปลาตามชอบ และตีไข่ให้เข้ากัน ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน ต้องใช้นำมันเยอะหน่อยนะคะ กรอกน้ำมัน บนผิวกระทะเล็กน้อย รอจนน้ำมันร้อนจัด แล้วจึงเทไข่ทั้งหมดลงในกระทะ ด้วยปริมาณไข่ที่มาก จะสังเกตได้ว่า ไข่บริเวณขอบ และไข่ที่อยู่ด้านล่าง จะสุกก่อน ส่วนไข่ด้านบน จะยังเป็นน้ำไข่ดิบอยู่ รอสักครู่จนไข่ด้านล่าง เริ่มสุกพอประมาณ เองตะหลิวเจาะตรง กลางไข่ให้เป็นรอยบาก จากนั้นแซะไข่จากด้านล่างยกขึ้น ให้น้ำไข่ดิบ ไหลจากช่องตรงกลาง ลงมาสัมผัสผิวกระทะ อาจแยกแซะฝั่งซ้าย 1 ครั้ง ฝั่งขวา 1 ครั้ง รอครู่หนึ่งจนน้ำไข่ที่ไหลลงไปเริ่มสุก ถ้ายังมีน้ำไข่ค้างอยู่อีกให้ทำอีก แต่ถ้าไม่มีแล้วก็ให้กลับไข่ (อันนี้ต้องใช้ฝีมือนิดนึงนะคะ ) ถ้าเริ่มมีควันขึ้น กระทะอาจร้อนจัดเกินไป ให้ลดไฟลงเล็กน้อย จะสังเกตได้ว่าไข่จะดูฟูขึ้น ๆ ค่ะ พอสุกสีสวย ก็ตักขึ้นใส่จานเสริฟได้เลยค่ะ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มิถุนายน 19, 2011, 10:53:28 PM สวัสดีค่ะ
เป็นวันวันอาทิตย์ ^-^ ที่วุ่นวาย >:(แดดออก :-[รถติด :sleepy:ฝนตก ???น้ำมันลดเกรดลง :'(ไม่ดั่ยดื่มcoffee :sleepy: แต่ก็ยังเป็นวันดีๆๆค่ะ วันนี้เดินทางไปทำบุญที่บ้าน ตจว.ค่ะ ทำบุญพระ79 รูป เท่าอายุคุณย่าเรียกตามหลานๆๆ แซยิค ไม่รู้ว่าเขียนถูกไหมค่ะก็นำบุญมาฝากค่ะ ขออนุโมทนาบุญที่ทำให้ทุกท่านมีความสุข เฮง เฮง ค่ะ ขอนู๋จัยด้วยน้ะค่ะ สาธุค่ะ อาหารมากมายบวกผู้คนที่มาร่วมทำบุญครั้งนี้ จนลานหน้าบ้านไม่มีที่เดิน :o หนูจัยenjoy eating ม้าก มากค่ะ กิงจนพุงกาง ที่เอามาตั้งวง ผัดเปรี้ยวหวานกุ้งเค้าใส่ตับหมูด้วยค่ะ แกงจืดหน่อไม้กระป๋องเค้าใส่เห็ดหอม กระดูกหมูอ้อน อ่อนพอเคี้ยวเข้าไปจะได้รสชาตินุ่มนวลกรุ๊บกรอบกระดูกอ่อน laugh.gif เป็ดพะโล้อันนี้ญาติเค้าเปิดร้านขายอร่อยค่ะขายดีมากน้ำจิ้มยังคงรสชาติเดิมส่วนมากคนจะทำเติมเปรี้ยวน้ำส้มอย่างเดียว น้ำพริกเค้าตำได้รสชาติน้ำพริกจิง จิง ผักจิ้ม3-4อย่างราดกระทิข้น ข้น ปลาทูที่นี่ไม่ต้องพูดถึงมันมาก หอมaroyสุด สุด แกงเผ็ดเป็ดย่างก็หอมหวลชวนน้ำลายสอ ต้มส้มปลาแรด ปลาที่นี่สด แม่ครัว+พ่อครัวเค้าทำไม่มีกลิ่นคาวแม้แต่น้อยรสชาติเปรี้ยวหวานเผ็ดรสขิง :Pปลาเค้าเเกะก้างออกหั่นเป็นชิ้นก้อนๆ laugh.gifต้มยำขาหมูมั่ยดั่ยกินมานานกินไป2ชาม :Dขอบอกว่าสุดยอด จิงจิง น้ำต้มยำทั้งหวานมันเผ็ดได้ใจมั่ยกิงเผ็ดก้อต้องทนกิงจนหมด อีก2-3 อย่างขออภัยจำมั่ยได้ค่ะเพราะจานมันอยู่ไกลไม่ได้ชิมเลย :( อิ่มค่ะพักท้องเลยไม่ได้มองอีก angel.gif ของหวาน ของชอบทั้งนั่น บัวลอยใส่ไข่เค้าทำหวานมันรสพอดีไข่แดงยางมะตูม วุ้นมะพร้าวมีเป็นลูกๆ กับเป็นถ้วยสั่งเจ้าอร่อยมาค่ะ ทำไม่ทันค่ะ ขนมชั้น ฝอยทอง ทองหยิบ ทองหยอด เม็ดขนุน สังขยาเค้าก็ไม่ขี้เหนียวไข่ใส่มาเป็นฟาร์ม อิ อิ angel.gif ข้าวเหนียวทุเรียนอันนี้กลิ่นตลบไปทั้งงาน ผลไม้กระป๋อง ผลไม้สดเพียบ :o :o :o ก่อนกลับของฝากก็เต็มรถค่ะ 8)กลับมาถึงบ้านก็ตั้งสำรับอีกรอบ กรรมมีจริงค่ะ หายใจไม่ออกอึดอัด อย่าเอาไปเป็นตัวอย่างน้ะค่ะ อิ อิ laugh.gif laugh.gif โม้.... โม้... :) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มิถุนายน 26, 2011, 08:36:44 AM ข้าวผัดสัปประรด
(http://www.foodindustrythailand.com/v17/images/stories/Image%20Test%205/OCT/foodtodaymagazine_thailand_industry__ricemenu_.jpg) เครื่องปรุง หมูแฮม 400 กรัม กุนเชียง 2 แท่ง สัปปะรดสด 2 ชิ้น ลูกเกด ½ ถ้วย หอมหัวใหญ่ ¼ หัว แครอทหั่นเต๋า ¼ ถ้วย กระเทียม 3 กลีบ ต้นหอม 3 ต้น น้ำมันหอย 3 ช้อนโต๊ะ ซีอิ้วขาว 2 ช้อนชา ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ ผงกะหรี่ ½ ช้อนชา เนยเค็ม 2 ช้อนโต๊ะ ข้าวสวย 5 ถ้วย เม็ดมะม่วงหิมพานต์ วิธีทำ - นำลูกเกดมาล้างแล้วแช่น้ำไว้ประมาณ 2 ชั่วโมงให้ลูกเกดพองตัวก็เทน้ำทิ้ง พักไว้ - นำสัปปะรดมาหั่นเป็นชิ้นพอคำ จากนั้นก็ซอยต้นหอม สับกระเทียมและหั่นหอมหัวใหญ่เป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า - นำแฮมมาหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆ - ตั้งกระทะที่ไฟปานกลาง ใส่น้ำมันลงไปประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ นำกุนเชียงไปทอดให้สุก แล้วหั่นเป็นชิ้นเฉียงๆ - ใส่เนยลงไปในกระทะที่ทอดกุนเชียง พอเนยเริ่มละลายก็ใส่กระเทียมสับและหอมหัวใหญ่ที่หั่นไว้ลงไป ผัดไปเรื่อยๆ จนหอมหัวใหญ่เริ่มใส - ใส่แฮมที่หั่นไว้ลงไป ผัดซักพักพอแฮมเริ่มสุกก็ทำหลุมตรงกลางและตอกไข่ลงไป - ยีไข่ให้กระจาย จากนั้นปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว พอไข่เริ่มเซทตัวก็เอาแฮมข้างๆ มากลบ - กลับด้านไข่ขึ้นมา ใส่แครอทลงไปและผัดให้เข้ากัน - ใส่สัปปะรดและลูกเกดลงไป ปรุงรสด้วยเครื่องปรุงต่างๆ และผัดให้เข้ากัน - นำข้าวสวยมายีให้กระจาย และใส่ลงไปในเครื่องที่ผัดไว้ - ผัดให้เครื่องทั้งหมดเข้ากัน จากนั้นจึงนำกุนเชียงที่หั่นไว้ใส่ลงไป - ผัดให้เข้ากัน โรยด้วยต้นหอมซอย ผัดเร็วๆ ก็ปิดเตาและยกลงได้ - ตักข้าวผัดสัปปะรดใส่จาน โรยด้วยหมูหยอง จากนั้นก็ยกเสิร์ฟ ล้างสับปะรดที่เราคว้านเอาเนื้อออกไปผัดทำเป็นโถ ซับภายในให้แห้ง (การผ่าสับปะรดจะเลือกผ่าตามขวาง หรือตามยาวของสับปะรดก็ได้) laugh.gif หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มิถุนายน 29, 2011, 09:59:25 AM Good morning Kha
Tran3MX3D นู๋จัยไปดูเมื่อคืนค่ะรอบแรกนึกว่าคนจะน้อยซะอีก :oคนเยอะค่ะ เลิกตี2นิดหน่อย หนังก็เดินเรื่องไปเรื่อยๆๆ ::)ตัวที่หิ้วพระเอกห้อยต่องแต่งเนี่ยยยย ded Q ไปหน่อย คนช่วยเยอะมาก ก็ดีค่ะช่วยๆกันจะได้จบไวๆๆ :sleepy: เค้าโชวร์รถสวยมากค่ะ อยากได้นาฬิกา angel.gifแบบนั่นจัง ;D มิติ เค้าน้อยไปหน่อยสำหรับ ไอเม็ก, ซาวด์แท็ก ถ้าหนังเร็วๆ อ่านไม่ทันหูต้องฟัง แย้วไปเดาๆๆ :-[ ดูพาร์ทไทยไปเลย http://upic.me/i/9i/biggrin1.g (http://upic.me/i/9i/biggrin1.g) โดยรวมๆก็ดีอยู่ค่ะ ชอบมั่กๆๆตัวน้อย2ตัว ช่างป่วนดี ลุย!!!!!!!!!!ไปดูเลยค่ะ http://upic.me/i/9i/biggrin1.g (http://upic.me/i/9i/biggrin1.g) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มิถุนายน 29, 2011, 10:13:04 AM ข้าวแกงจืดเต้าหู้หลอด
(http://mookfood.com/breakfast/pic/a009.jpg) ส่วนประกอบ เต้าหู้หลอด 1 อัน หมูสับ 1 ถ้วยตวง กระเทียมพริกไทยตำ 1 ช้อนชา น้ำปลา 1 ช้อนชา ต้นหอม ผักชี หั่น วิธีทำ 1.ผสมหมูสับกับกระเทียมพริกไทย และน้ำปลา แล้วปั้นเป็นก้อนเล็กๆ 2.เต้าหู้หลอดหั่นเป็นแว่นให้หนาพอสมควร 3.ตั้งน้ำให้เดือดนำหมูก้อนลงใส่ พอเดือดอีกครั้งใส่เต้าหู้หลอดปรุงรสด้วยน้ำปลาก่อนยกลง ใส่ต้นหอมผักชี 4.เตรียมผสมหมูสับกับกระเทียมพริกไทย และน้ำปลา แล้วปั้นเป็นก้อนไว้ล่วงหน้าตั้งแตกลางคืน ต้นหอมผักชีก็หั่นล่วงหน้าไว้ตอนเช้า เพียงแต่หั่นเต้าหู้หลอดและหุงต้มจะใช้เวลาสั้นมาก หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มิถุนายน 29, 2011, 09:33:47 PM สวัสดีค่ะ
นู๋จัยคงจะโพสน้อยลง งานเข้าอีกแล้วค่ะที่นี้เข้าเยอะเลยค่ะ :'( ขออภัยไว้ด้วยน้ะค่ะ have agood time kha nujai kha หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: อุ๊ ที่ มิถุนายน 30, 2011, 12:24:39 PM น่ากินทุกเมนูเลยนะ..พูดแล้วน้ำลายจะไหล
ถ้าไม่มีเวลา ก็ไม่เป็นไรจ้า ว่าง ๆ ก็เข้ามาโพสก็ได้ ยังไงก็ขอให้รักษาสุขภาพด้วยจ้า.... :) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กรกฎาคม 09, 2011, 04:59:07 PM น่ากินทุกเมนูเลยนะ..พูดแล้วน้ำลายจะไหล :)สวัสดีจ้ะถ้าไม่มีเวลา ก็ไม่เป็นไรจ้า ว่าง ๆ ก็เข้ามาโพสก็ได้ ยังไงก็ขอให้รักษาสุขภาพด้วยจ้า.... :) ขอบคุณน้ะคะ :) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กรกฎาคม 14, 2011, 08:27:28 PM ต้มจืดมะระ
มีหลายสูตร ถ้าเจอสูตร เด็ด เด็ด จะมาโพสต์เพิ่มเติมในภายหลังน่ะจ้ะ ส่วนผสม มะระ หมูสับหรือกุ้งสับ เห็ดหอม วุ้นเส้น กระดูกหมู หรือโครงไก่ คนอร์ไก่ก้อน รากผักชี พริกไทยเม็ด กระเทียม วิธีทำ มะระเลือกเอาตาห่างๆๆ ที่มันนูนๆๆน่ะคะไม่ต้องอ่อนมากดูสี ไม่เขียวมากไม่ออกแดงน่ะคะมันสุกมันจะเละอ่ะ ตัดหัวตัดท้าย หั่นเป็นท่อนอย่าเล็กจนเกินไป ขูดตรงกลางออก นำเกลือมาคลุกทิ้งไว้ก่อน วุ้นเส้นแช่น้ำ พอนิ่ม แล้วหั่นสั้นๆ ไม่ใส่ก็ได้ ล้างรากผักชีให้สะอาด จนรากขาว ตำกับพริกไทยเม็ด ปอกเปลือกกระเทียม ตำผสมกันให้ละเอียด จะใช้กุ้งสับหรือหมูสับอีกอย่างเนื้อไก่สับ อย่างใดก็ได้ สับให้ละเอียดผสมกับรากผักชีกระเทียมพริกไทยที่ตำแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากันนำไปแช่ช่องฟิตก่อน เห็ดหอมหั่นก้านแล้วหั่น สี่ คะ ถ้าใส่เป็นดอกใส่ได้แต่เวลาทานมันร้อนคะแล้วเย็นตัวช้า นำมะระมาล้างน้ำให้สะอาด สะเด็ดน้ำ ต้มน้ำ พอเดือดใส่กระดูกหมูหรือโครงไก่ เคี่ยวสักหน่อย โรยเกลือลงไปด้วยอย่าเยอะเดี๋ยวเค็มคะ นำมะระมาใส่ไส้ไม่ต้องใส่จนล้นเหลือพื้นที่ให้หมูหรือไก่หรือกุ้งและวุ้นเส้นพองหน่อยคะ น้ำเดือด หรี่ไฟ ค่อยๆๆใส่มะระลงไป ไม่ใช้ไฟแรง ให้ใช้ความร้อนอ่อนจนสุกใส่คนอร์ตาม ปรุงรสถ้าจืดเติมน้ำปลาซอสเห็ดหอม หรือซอสถั่วเหลืองสุตรหนึ่งค่ะ ชิม ชิม ปล.ถ้ากลัวไส้มันลอยออกจากตัวมะระใช้ไข่ขาวทาด้านในมะระพอยัดไส้ทาหัวและทาท้ายอีกครั้ง บางสูตรเอามะระไปต้มกับน้ำเดือดๆแล้วนำมาใส่น้ำซุปที่ทำแยกอีกที หรือเอามะระไปนึ่งก่อน ขึ้นชื่อว่ามะระไม่ขมก็คงไม่ใช่มะระ หวานเป็นลมขมเป็นมะระ กิง กิง มันเข้าไปเถอะคะ อิ อิ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ สิงหาคม 04, 2011, 01:57:14 PM ซุปผักโขมกับขนมปังกระเทียม
ใส่กระเทียมสับละเอียดและน้ำมันมะกอกลงในชามแก้ว ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย ปิดด้วยพลาสติกถนอมอาหารจากนั้นนำเข้าเตาไมโครเวฟ กดปุ่มระบบอัตโนมัติ ตั้งเวลา 30 วินาที (http://sgstb.msn.com/i/5A/7B68AE42ED17124988C7C19A6C0.jpg) ส่วนผสม ผักโขมสับ 150 กรัม กระเทียมสับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันมะกอก 3 ช้อนโต๊ะ น้ำสต๊อกไก่ 1 ถ้วย นมสดพร่องมันเนย 1 ถ้วย เกลือ พริกไทย สำหรับปรุงรส ขนมปังธัญพืช หรือขนมปังบาแกตต์ (http://sgstb.msn.com/i/F4/69574CB932A43B71EBFEFA788F730.jpg) วิธีทำ ใส่กระเทียมสับละเอียดและน้ำมันมะกอกลงในชามแก้ว ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย ปิดด้วยพลาสติกถนอมอาหาร จากนั้นนำเข้าเตาไมโครเวฟ กดปุ่มระบบอัตโนมัติ ตั้งเวลา 30 วินาที นำผักโขม น้ำสต๊อกไก่ และนมใส่ชามแก้ว เข้าเตาไมโครเวฟกดปุ่ม ระบบอัตโนมัติ ตั้งเวลาประมาณ 5 นาที เสร็จแล้วปรุงรสด้วย เกลือและพริกไทย เททั้งหมดลงในเครื่องปั่น ปั่นให้พอแหลก เทใส่ถ้วย จัดขนมปังธัญพืชหรือขนมปังบาแกตต์ลงในจานกระเบื้อง นำเข้าเตาไมโครเวฟ กดปุ่มระบบอัตโนมัติ ตั้งเวลาประมาณ 30 วินาที หลังจากนั้นนำออกมาตั้งทิ้งไว้ให้เย็นประมาณ 2-3 นาที นำกระเทียมสับละเอียดและน้ำมันมะกอกที่เตรียมไว้มาทาบนขนมปังเสิร์ฟพร้อมซุปผักโขมร้อนๆ มาข้อมูล : Samsung หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ สิงหาคม 04, 2011, 02:03:55 PM ตำรับอาหารไทยเพื่อสุขภาพ
ตำรับอาหารไทยเพื่อสุขภาพที่จะนำเสนอมี 3 ตำรับคือ ข้าวยำ ห่อหมกปลา และแกงป่า โดยความเป็นจริงแล้วยังมีตำรับอาหารไทยเพื่อสุขภาพอื่นๆ อีกมากที่มีคุณค่าอันยังประโยชน์ใหญ่หลวงต่อสุขภาพ (http://www.horapa.com/images/stories/kawyum.jpg) ข้าวยำ เป็นอาหารที่ให้พลังงานค่อนข้างมาก ให้โปรตีนสูงแต่ไขมันน้อย เป็นอาหารที่ให้ธาตุเหล็กสูงมาก และยังให้วิตามินเอและวิตามินบี 1 สูงเป็นพิเศษ อีกทั้งยังเป็นอาหารบำรุงธาตุ บำรุงกำลัง และบำรุงโลหิต ข้าวยำเป็นอาหารที่มีลักษณะเฉพาะที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมการกินของชาวใต้ ซึ่งจะต้องมีองค์ประกอบที่ขาดไม่ได้คือ "น้ำบูดู" ซึ่งเป็นภูมิปัญญาในการปรุงแต่งรสอาหารของชาวใต้ โดยเป็นการนำเอาพืชผักสมุนไพรพื้นบ้านมาเป็นเครื่องปรุงที่มีคุณค่าอาหารสูง และเป็นความชาญฉลาดที่นำเอาสมุนไพรพื้นบ้านมาปรุงเป็นยาแต่อยู่ในรูปของอาหาร (http://www.horapa.com/images/stories/hormok.jpg) ห่อหมกปลา เป็นอาหารที่ให้พลังงานสูงแต่ให้โปรตีนและไขมันน้อย เป็นอาหารที่ให้ธาตุแคลเซียมสูงเป็นพิเศษ ประกอบด้วย เครื่องปรุงสมุนไพรหลายชนิดที่ช่วยให้มีคุณค่าอาหารสูง สรรพคุณทางยาของห่อหมกปลาส่วนใหญ่มาจากเครื่องปรุงสมุนไพร เช่น กระชาย กระเทียม ใบยอ ข่า ตระไคร้ โหระพา พริก รากผักชี ทำให้เป็นอาหารที่บำรุงธาตุ บำรุงกระดูก เจริญอาหาร ขับลม ขับเหงื่อแก้จุกเสียด ช่วยลดความดันโลหิตสูง ทางด้านภูมิปัญญานั้น คือ เป็นการนำเอาเครื่องปรุงสมุนไพรหลากรสมารวมกับกะทิและเนื้อปลา กลายเป็นยาในรูปแบบของอาหารที่มีคุณค่าสูง และยังมีศิลปะในการนำใบตองมาห่อแทนการใช้ภาชนะ เพิ่มกลิ่นรส ร่วมกับใบยออ่อนที่ใช้รอง เป็นการผสมผสานการใช้ประโยชน์จากธรรมชาติโดยแท้ (http://www.horapa.com/images/stories/kangpa.gif) แกงป่า เป็นอาหารที่ให้พลังงานและไขมันต่ำ แต่ให้กากและใยอาหารสูงมาก ให้แร่ธาตุและวิตามินสูงเกือบทุกชนิด ช่วยปรับสมดุลร่างกาย ขับลม แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ช่วยลดความดันโลหิต ฆ่าพยาธิและเชื้อแบคทีเรีย แกงป่าเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านในการจัดการสภาพแวดล้อมเพื่อความอยู่รอด โดยการนำผักพื้นบ้านและสมุนไพรหลากหลายชนิดมาปรุงอย่างง่าย ๆ แต่ได้รสกลมกล่อม เป็นการปรุงยาให้อยู่ในรูปอาหารที่อร่อยมาก จะเห็นได้ว่าอาหารไทยมีคุณลักษณะพิเศษ อย่างน้อยสามารถจำแนกตามการใช้ประโยชน์ หรือตามคุณค่าได้ถึง 3 ด้าน คือ ด้านคุณค่าทางอาหารและโภชนาการ ด้านคุณค่าทางยาและสมุนไพร และด้านคุณค่าทางภูมิปัญญาและศิลปวัฒนธรรม ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกอาหารเลี้ยงประชากรโลกรายใหญ่ เป็นอันดับที่ 5 ของโลก รองจาก อเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย และฝรั่งเศส อาหารไทยจึงควรมีบทบาทอย่างสูงในสังคมโลก ไม่เพียง แค่ขายอาหารในด้านคุณค่าทางโภชนาการ แต่ควรนำจุดเด่นคุณค่าอีก 2 ด้าน คือ ค้านคุณค่าทางยาและภูมิปัญญามาเป็นจุดขายเพื่อเพิ่มมูลค่าและความนิยมให้กับอาหารไทยมากขึ้น อันจะนำไปสู่ความสามารถในการแข่งขันบนเวทีการค้าโลกได้อย่างสง่างาม ขอขอบคุณ (http://www.horapa.com/images/healthyfood.gif) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ สิงหาคม 22, 2011, 10:16:15 PM (http://www.tlcthai.com/backoffice/upload_images/Emoticon/dookdik/dookdik_009_Food.gif)(http://www.tlcthai.com/backoffice/upload_images/Emoticon/dookdik/dookdik_012_Food.gif)(http://www.tlcthai.com/backoffice/upload_images/Emoticon/dookdik/dookdik_059_Food.gif)(http://www.tlcthai.com/backoffice/upload_images/Emoticon/dookdik/dookdik_045_Food.gif)(http://www.tlcthai.com/backoffice/upload_images/Emoticon/dookdik/dookdik_019_Food.gif)(http://www.tlcthai.com/backoffice/upload_images/Emoticon/dookdik/dookdik_007_Food.gif)(http://www.tlcthai.com/backoffice/upload_images/Emoticon/dookdik/dookdik_003_Food.gif)(http://www.tlcthai.com/backoffice/upload_images/Emoticon/dookdik/dookdik_032_Food.gif)(http://www.tlcthai.com/backoffice/upload_images/Emoticon/dookdik/dookdik_055_Food.gif)(http://www.tlcthai.com/backoffice/upload_images/Emoticon/dookdik/dookdik_011_Food.gif)(http://www.tlcthai.com/backoffice/upload_images/Emoticon/dookdik/dookdik_008_Food.gif)(http://www.tlcthai.com/backoffice/upload_images/Emoticon/dookdik/dookdik_026_Food.gif)(http://www.tlcthai.com/backoffice/upload_images/Emoticon/dookdik/dookdik_005_Food.gif)(http://www.tlcthai.com/backoffice/upload_images/Emoticon/dookdik/dookdik_013_Food.gif)(http://www.tlcthai.com/backoffice/upload_images/Emoticon/dookdik/dookdik_027_Food.gif)(http://www.tlcthai.com/backoffice/upload_images/Emoticon/dookdik/dookdik_020_Food.gif)(http://www.tlcthai.com/backoffice/upload_images/Emoticon/dookdik/dookdik_021_Food.gif)(http://www.tlcthai.com/backoffice/upload_images/Emoticon/dookdik/dookdik_006_Food.gif)(http://www.tlcthai.com/backoffice/upload_images/Emoticon/dookdik/dookdik_029_Food.gif)(http://www.tlcthai.com/backoffice/upload_images/Emoticon/dookdik/dookdik_031_Food.gif)(http://www.tlcthai.com/backoffice/upload_images/Emoticon/dookdik/dookdik_062_Food.gif)(http://www.tlcthai.com/backoffice/upload_images/Emoticon/dookdik/dookdik_057_Food.gif)(http://www.tlcthai.com/backoffice/upload_images/Emoticon/dookdik/dookdik_046_Food.gif)(http://www.tlcthai.com/backoffice/upload_images/Emoticon/dookdik/dookdik_047_Food.gif)(http://www.tlcthai.com/backoffice/upload_images/Emoticon/dookdik/dookdik_051_Food.gif)(http://www.tlcthai.com/backoffice/upload_images/Emoticon/dookdik/dookdik_039_Food.gif)(http://www.tlcthai.com/backoffice/upload_images/Emoticon/dookdik/dookdik_024_Food.gif)(http://www.tlcthai.com/backoffice/upload_images/Emoticon/dookdik/dookdik_039_Food.gif)(http://www.tlcthai.com/backoffice/upload_images/Emoticon/dookdik/dookdik_040_Food.gif)(http://www.tlcthai.com/backoffice/upload_images/Emoticon/dookdik/dookdik_060_Food.gif)(http://www.tlcthai.com/backoffice/upload_images/Emoticon/dookdik/dookdik_053_Food.gif)(http://www.tlcthai.com/backoffice/upload_images/Emoticon/dookdik/dookdik_058_Food.gif)(http://www.tlcthai.com/backoffice/upload_images/Emoticon/dookdik/dookdik_039_Food.gif)(http://www.tlcthai.com/backoffice/upload_images/Emoticon/dookdik/dookdik_038_Food.gif)(http://www.tlcthai.com/backoffice/upload_images/Emoticon/dookdik/dookdik_025_Food.gif)
หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ สิงหาคม 27, 2011, 06:35:33 PM ดอกขี้เหล็ก
(http://guru.sanook.com/picfront/pedia/resize_160528__11072008030630.jpg) ชื่อวิทยาศาสตร์ Cassia Siamea Britt ชื่อวงศ์ Leguminosae ชื่อท้องถิ่น ลำปางเรียก ขี้เหล็กบ้าน แม่ฮ่องสอนเรียก ผักจี้ลี้ ภาคเหนือเรียก ขี้เหล็กหลวง ภาคกลางเรียก ขี้เหล็กใหญ่ ภาคใต้เรียก ขี้เหล็กจิหรี่ ลักษณะทั่วไป เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง มีใบประกอบด้วยใบย่อยประมาณ 6–10 คู่ ใบเลี้ยงปลายใบมนหยักเว้าหาเส้นกลางใบเล็กน้อย โคนใบกลม สีเขียวใต้ใบซีดกว่าด้านบน ใบมีขนเล็กน้อย ดอกเป็นดอกช่อใหญ่ยาวประมาณ 60 เซนติเมตร กลีบดอกสีเหลืองสด ผักแบนหนามีสีน้ำตาลเข้ม สรรพคุณทางยาดอกตูมและใบอ่อน รสขม ช่วยระบายท้อง ดอกตูมทำให้นอนหลับ เจริญอาหาร (http://guru.sanook.com/picfront/pedia/resize_11072008030859.gif) วิธีนำมาใช้ อาการท้องผูก ใช้ใบอ่อนและใบแก่ 4–5 กำมือ ต้มเอาน้ำดื่มก่อนอาหาร หรือเวลามีอาการนอนไม่หลับ กังวลเบื่ออาหาร ใช้ใบแห้งหนัก 30 กรัม หรือใช้ใบสด หนัก 50 กรัม ต้มเอาน้ำรับประทานก่อนนอน หรือใช้ใบอ่อนทำเป็นยาดอกเหล้า โดยใส่เหล้าขาวพอท่วมยา แช่ไว้ 7 วัน เปิดคนทุกวัน แล้วกรองกากยาออกจะได้น้ำยาดองเหล้าขี้เหล็ก ดื่มครั้งละ 1–2 ช้อนชาก่อนนอน ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ใบอ่อนและดอก พบว่า มีสารจำพวก Chromone มีชื่อว่า Barakol ส่วนในใบพบสาร Anthraquinones ออกฤทธิ์เป็นยาระบาย และ พ.ศ.2492 คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้ศึกษาโดยใช้กับผู้ป่วยที่มีอาการกระวนกระวาย นอนไม่หลับ พบว่าสารสกัดจากใบขี้เหล็กด้วยแอลกอฮอล์มีฤทธิ์ระงับประสาทได้ดี ช่วยให้นอนหลับสบาย และระงับอาการตื่นเต้นทางประสาทได้แต่ไม่ใช่ยานอนหลับโดยตรง และไม่พบอาการเป็นพิษ มีความปลอดภัยสูง แกงดอกไม้เหล็ก (http://www.thaigoodview.com/library/studentshow/2549/m6-3/no01-05/food/picture/food/1.jpg) เครื่องปรุง - ดอกขี้เหล็กต้ม 2 ถ้วยตวง - เนื้อวัวสันใน 2 ถ้วยตวง - ปลาย่างแกะเอาแต่เนื้อ 1 ถ้วยตวง - น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ - หัวกะทิ ½ ถ้วยตวง - กะทิข้น 2½ ถ้วยตวง เครื่องปรุงน้ำพริก - พริกแห้ง 5 เม็ด - หอมหัวแดงหั่น 3 ช้อนโต๊ะ - กระเทียมหั่น 2 ช้อนโต๊ะ - ข่าหั่น 1 ช้อนชา - ตะไคร้หั่น 1 ช้อนโต๊ะ - กระชายหั่น 3 ช้อนโต๊ะ - พริกไทย 15 เม็ด - เกลือป่น 1 ช้อนชา - กะปิ 1 ช้อนชา วิธีทำ ดอกขี้เหล็กตูม รูดออกจากก้าน ต้องเปลี่ยนน้ำ 2 ครั้งจนหายขม เนื้อวัวทุบแล้วย่างให้สุก หั่นเป็นชิ้นยาวๆ ปลาย่างแกะเอาแต่เนื้อ โขลกรวมกับเครื่องน้ำพริกให้ละเอียด ใส่กระชายโขลกทีหลัง เพื่อไม่ให้น้ำกระเด็น เคี่ยวกะทิข้นให้แตกมัน ใส่น้ำพริกลงละลายพอน้ำแกงเดือดใส่ดอกขี้เหล็กที่ต้ม ใส่เนื้อย่าง เคี่ยวให้เข้าเนื้อ ใส่น้ำปลา พอเดือดใส่หัวกะทิ ทำให้น้ำแกงข้น แล้วยกลงเสิร์ฟ (http://www.papamenu.com/wp-content/uploads/2010/03/แกงขี้เหล็ก.jpg) เพิ่มเติมคะ จะใช้ปลาเค็ม,หมูชิ้น,ปลาแห้ง,ปลาสด สูตรดั่งเดิมเป็นปลาแห้ง ใช้ใบหรือดอก ก็ได้ ถ้าเป็นดอกมันจะออกมันๆ บางคนว่าเปรี๊ยว ต้มหลายๆๆน้ำทุกครั้งทีเปลี่ยนน้ำก็บีบน้ำออกให้หมาดๆด้วยค่ะ การันตีว่า ขม อยู่ดีค่ะ หวานเป็นลมขมเป็นยาค่ะ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ สิงหาคม 27, 2011, 06:42:57 PM การเลือกผักเพื่อปรุงอาหารให้อร่อย
เวลาเลือกซื้อผักต่างๆ นอกจากจะต้องดูถึงความสดใหม่ของผักแล้ว การเลือกผักอย่างถูกวิธีก็สามารถเพิ่มรสชาติและความอร่อยให้อาหารที่ปรุงจากผักได้เช่นกัน เคล็ดลับการเลือกผักต่างๆ มีดังนี้ ถั่วฝักยาว ถั่วลันเตา ถั่วแขก ควรเลือกที่อ่อนๆ สีเขียว เนื้อแน่น ฝักยาวตรง ไม่คด ไม่พอง ไม่ฝ่อ เม็ดข้างในฝักอวบอิ่ม ไม่แห้ง ผักบุ้งจีน ควรเลือกต้นอวบ หากเป็นต้นที่เล็กลีบไปจะเหนียวเคี้ยวยาก กะหล่ำปลี ทั้งกะหล่ำปลีเขียวและกะหล่ำปลีม่วง ควรเลือกที่หัวแน่นๆ หนักๆ สำหรับกะหล่ำปลีเขียวหากชอบกรอบควรเลือกหัวใหญ่ๆ ที่สีออกสีขาว ส่วนหัวเล็กๆ หรือที่ออกสีเขียวๆ ใบจะนิ่มกว่า ดอกกะหล่ำ ควรเลือกดอกแน่นๆ ก้านมีสีเขียว ไม่ดำ ไม่เหี่ยว แตงกวา เลือกผลสีเขียว ขั้วต้องสด ไม่เหี่ยวหรือมีสีน้ำตาล ผลอ่อนขนาดเล็กจะมีรสชาติดีกว่าผลแก่ขนาดใหญ่ มะเขือเปราะ เลือกผลอ่อน ผิวเกลี้ยง ขั้วเขียวสด ไม่ดำ ไม่ช้ำ ไม่เหลือง บร็อกโคลี เลือกดอกที่แน่นๆ สีเขียวเข้มทั่วทั้งดอก ไม่เหลือง ไม่แห้ง แครอท หัวผักกาด มันเทศ มันฝรั่ง เลือกรูปร่างดี ไม่หงิกงอมาก เนื้อแน่นหนัก ผิวค่อนข้างเรียบ ตาไม่ลึก ไม่มีแผล ตำหนิ หรือรอยเน่า หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ สิงหาคม 27, 2011, 06:48:03 PM การเลือกเนื้อวัวเพื่อประกอบอาหาร
การเลือกเนื้อวัวมาประกอบอาหารนั้น ต้องเลือกเนื้อวัวที่สด สะอาด ไม่มีกลิ่นเหม็นเน่า สีออกสีแดงๆ ไม่มีสีคล้ำอมเขียว กดลงไปแล้วเนื้อไม่บุ๋ม ไม่มีน้ำเลือดไหลซึมออกมา การเลือกส่วนต่างๆ ของเนื้อวัวไม่ว่าจะเป็น เนื้อสัน ซี่โครง สะโพก ซึ่งเนื้อแต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติแตกต่างกัน และเหมาะกับการนำมาประกอบอาหารแตกต่างเมนูกัน ดังนี้ เนื้อส่วนคอ เหมาะสำหรับทำอาหารประเภทอบ เนื้อบด ทำซุป หรือสตูว์ เนื้อกระพุ้งแก้ม เป็นส่วนที่มีน้อยและหายาก นำมาตุ๋นจนเปื่อยจะได้เนื้อนุ่มอร่อย ลิ้นวัว เหมาะที่จะนำมาเคี่ยวทำสตูว์ เนื้อไหล่ เหมาะสำหรับทำสุกี้ยากี้ ชาบูชาบู หรืออาหารที่ใช้เนื้อเป็นก้อน เนื้อสันใน เนื้อส่วนนี้นุ่มและมีไขมันน้อย เหมาะสำหรับนำมาผัด หรือย่างทั้งก้อน เนื้อสันนอก เนื้อนุ่มเหมาะสำหรับทำสเต็กที่สุด เนื้อติดซี่โครง เนื้อนุ่ม ลายไขมันเป็นลายหินอ่อน เหมาะกับการอบ ทอด และย่าง เนื้อสะโพก เหมาะกับการอบ ย่าง ทำเนื้อบด หรือสเต็ก เนื้อส่วนท้อง มีไขมันเยอะ รสชาติเข้มข้น จึงเหมาะกับการทำสตูว์ น้ำสต๊อก ทำเนื้อเปื่อย หรือ เนื้อตุ๋น เนื้อท่อนขา เป็นส่วนที่เหนียว เหมาะที่จะสตูว์ น้ำซุป ย่าง หรือตุ๋น หางวัว เป็นเนื้อส่วนที่มีคอลลาเจนมาก เหมาะสำหรับนำไปตุ๋น นิยมทำเป็นซุปหางวัว กระดูกวัว เหมาะที่จะนำมาต้มทำน้ำซุป หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ สิงหาคม 28, 2011, 07:53:03 PM อาหารมังสวิรัติ
(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/c/c5/Foods.jpg/250px-Foods.jpg) ผัดพริกขิง เครื่องปรุง 1. โปรตีนเกษตรอย่างหยาบ 2 ถ้วยตวง 2. โปรตีนเกษตรอย่างละเอียด(เบอร์ 7 ฮานามิ) 1 1/2 ถ้วยตวง 3. ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ 4. น้ำมัน 1/4 ถ้วย 5. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ 6. ใบมะกรูดหั่นฝอย 2 ช้อนโต๊ะ เครื่องแกงเผ็ด 1. พริกแห้ง 3 เม็ด 2. กระเทียม 3 กลีบ 3. ข่าซอย 1 ช้อนชา 4. ลูกผักชี 1/2 ช้อนชา 5. รากผักชี 1/2 ช้อนชา 6. หอมแดงซอย 1 ช้อนโต๊ะ 7. ตะไคร้ซอย 2 ช้อนโต๊ะ 8. ผิวมะกรูด 1/2 ช้อนชา 9. เกลือ 1 ช้อนชา วิธีทำ 1. โขลกพริกแห้ง ข่า ผิวมะกรูด และเกลือเข้าด้วยกันจนละเอียดแล้วจึงใส่เครื่องแกงที่เหลือโขลกรวมเข้าด้วยกัน 2. ทอดโปรตีนเกษตรทั้งหยาบและละเอียดให้กรอบ 3. ตั้งกะทะใส่น้ำมัน ผัดเครื่องแกงให้แห้งและหอม ใส่น้ำตาลและซีอิ้วขาว ชิมรส เค็ม หวาน เผ็ด เมื่อได้ที่แล้วนำโปรตีนที่ทอดเตรียมไว้ ลงคลุกเคล้า ให้เข้ากันดี ยกลง ทิ้งไว้สักพัก จึงนำใบมะกรูดหั่นฝอยเคล้ารวมกัน แกงเขียวหวาน เจ วัตถุดิบ 1 ข่า 1 ท่อน 2 ตะไคร้ 5 ต้น 3 กระชาย 8 ต้น 4 รากผักชี 8 ราก 5 พริกขี้หนูเขียว 3 ช้อนโต๊ะ 6 กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ 7 มะกรูด 1 ลูก 8 กะทิชาวเกาะ 1ส่วน 2 กิโลกรัม 9 ปลากราย 10 เห็ดนางฟ้า 1 ขีด 11 เห็ดฟาง 1 ขีด 12 โปรตีน 1 ขีด 13 พริกชี้ฟ้าแดง, เหลือง อย่าง 2 เม็ด 14 โหระพา 14 น้ำตาลปี๊บ 14 เกลือ - ซีอิ้ว -ซอส 14 มะเขือเปราะ หรือฟัก วิธีทำ - นำส่วนผสมข้อ 1 - 6ปั่นให้เป็นพริกแกง - นำกะทิหรือน้ำเต้าหู้ ตั้งให้แตกมัน ใส่เครื่องแกงลงไปเคี่ยว - พอหอมใส่ปลากรายแจกับโปรตีนเกษตร - ปรุงรสดว้ยน้ำตาลปี้บ เกลือ ซอส ชิมรสหวานมันเค็ม ใส่มะเขือเปราะลงไป - ใส่เห็ดทั้งสองลงไป - พอเดือดยกลง ใส่โหระพาและพริกซี้ฟ้าซอย ทอดมันสามสหาย เครื่องปรุง 1.ถัวฝักยาว 10 ฝัก 2.แครอท 2 หัว 3.ข้าวโพดใหญ่ 5 ฝัก 4.แป้งทอดกรอบสำเร็จรูป 500 กรัม 5.น้ำมันพืช 1000 กรัม 6.น้ำพริกเครื่องแกงเผ็ด 50 กรัม น้ำจิ้ม 1.น้ำตาลทราย 300 กรัม 2.น้ำส้มสายชู 100 กรัม 3.เกลือป่น 50 กรัม 4.พริกชี้ฟ้าแดง 5 เม็ด วิธีทำ นำถั่วฝักยาวมาหั่นหนาประมาณ1 ซม. แครอทหั่นเป็นลูกเตำ ข้าวโพดฝานเป็นเม็ดใหญ่ นำมารวมกัน ผสมแป้ง,เกลือป่นเล็กน้อย แล้วจึงนำไปทอดไฟกลางจนกรอบได้ที่ สีออกสีทองๆ ใกระชอนตักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน วิธีทำน้ำจิ้ม น้ำส้มสายชู พริกชี้ฟ้าแดง เกลือป่นเล็กน้อย รวมกันใส่ในเครื่องป่นให้พริกละเอียดแล้วจึงนำไปเทรวมกับน้ำตาลทราย ใส่หม้อเคี่ยวไฟอ่อนๆ ให้มีลักษณะ ข้นๆ รสหวาน เปรี้ยวเค็มตาม น้ำพริกอ่อง เครื่องปรุง 1.มะเขือเทศ 1/2 กิโลกรัม 2.เต้าหู้แผ่น 1/2 กิโลกรัม 3.เห็ดฟางบาน 1/2 กิโลกรัม 4.พริกแห้ง 7 เม็ด 5.หอมแดง 7 หัว 6.กระเทียม 5 หัว 7.รากผักชี 7 ราก 8.ซีอิ๊ว 1-2 ช้อนโต๊ะ 9.เกลือ 1 ช้อน 10.น้ำมันพืชพอประมาณเพื่อผัดน้ำพริก วิธีทำ มะเขือเทศ (สีดา) หั่นผ่า 4หรือ 6 เห็ดฟางต้มปั่นละเอียด เต้าหู้ขยี้ให้ละเอียด พริกแห้งแช่น้ำ บีบเอาน้ำออก โขรกหอม กระเทียม รากผักชี ให้ละเอียด เอามะเขือเทศ โขลกทีหลังบุบๆ กะทะตั้งไฟใส่น้ำมัน นำเครื่องปรุง ที่เตรียมไว้ ลงผัดให้หอม ใส่น้ำปีบ ซีอิ๊ว เกลือ ชิมรสตามต้องการ ไก่ผัดขิงน้ำแดง (เจ) เครื่องปรุง 1.ไก่เจ 1/2 กิโลกรัม 2.ขิงหั่นฝอย 2 ขีด 3.เห็ดหูหนู 1 ขีด 4.พริกชี้ฟ้าแดง 5 เม็ด 5.หอมใหญ่ 3 ขีด 7.เห็ดฟางบาน 3 ขีด 8.น้ำตาล 2 ช้อนชา 9.ซีอิ้ว 1-2 ช้อนชา 10.กระเทียม 7 กลีบ 11.น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ 1.โปรตีนเกษตรแช่น้ำสักคู่ 2.ขิงหั่นฝอย 3.เห็ดหูหนูหั่น2-3ชิ้น 4.พริก ชี้ฟ้าหั่นฝอยตามยาว 5.หอมใหญ่หั่นชิ้นบางหนาประมาณ1มิลลิเมตร 6.เห็ดฟาง เอาน้ำมันตั้งไฟแรงปานกลาง ทุบกระเทียมเจียวให้เหลือง ใส่ขิง โปรตีน เห็ดหูหนู เห็นฟาง น้ำตาล ซีอิ้ว ชิมรสตามชอบ ใส่หอมใหญ่ พริกแดง พอสุกยกลง หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ สิงหาคม 28, 2011, 08:23:28 PM สูตรลับ..น้ำสลัด
(http://www.horapa.com/images/stories/saladoil.jpg) สลัด..อาหารจานเบาๆที่คลุกเคล้ากับน้ำสลัดรสชาติกลมกล่อม เป็นเมนูโปรดสำหรับคนรักสุขภาพ ซึ่งเคล็ดลับในการรับประทานสลัดให้อร่อย อยู่ที่รสชาติของส่วนผสมที่นำมาปรุง - น้ำมันมะกอก ( Olive Oil) ให้รสชาติที่นุ่มนวลกลมกล่อม มีกลิ่นหอม - น้ำส้มสายชู ( Vinegars ) ให้รสเปรี้ยว ที่เหมาะกับการทำน้ำสลัดก็คือ White Wine Vinegars - แคปเปอร์ ( Capers ) เป็นดอกตูมของไม้พื้นเมืองทางแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มีรสชาติเข้ม - มัสตาร์ด ( Mustard) ทำให้น้ำ น้ำมัน และน้ำส้ม ผสมเข้ากันเร็ว แต่ไม่เป็นที่นิยาใช้เท่าไรนัก - ผลมะกอก ( Olives ) เป็นสิ่งสำคัญขาดไม่ได้เลยทีเดียว นิยมใช้ทั้งมะกอกดำและเขียว ทราบกันไปแล้วกับสูตรลับ..น้ำสลัดรสเยี่ยม ถ้าหากคุณจะลงมือปรุงน้ำสลัดรสชาติกลมกล่อมรับประทานเอง ก็คงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปแล้ว น้ำสลัดผลไม้ (http://www.horapa.com/images/stories/fruitsalad_1.jpg) เครื่องปรุง น้ำส้มคั้น 2 ถ้วย เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา น้ำมันพืช 2 ถ้วย วิธีทำ ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในขวด เขย่าให้เข้ากัน น้ำสลัดเธาซั่นไอส์แลนด์ (http://www.horapa.com/images/stories/thousanisland.jpg) เครื่องปรุง น้ำสลัดน้ำข้น 1 1/2 ถ้วย ไข่ต้มสับ 1 ลูก แตงกวาดองสับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ หอมหัวใหญ่สับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ ซอสพริก 1 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น 1 ช้อนชา พริกไทยป่น 1/2 ช้อนช วิธีทำ ผสมเครื่องปรุงทั้งหมดเข้าด้วยกัน ตักใส่ถ้วยน้ำจิ้ม น้ำสลัดใสญี่ปุ่น (http://www.horapa.com/images/stories/japanesesalda.jpg) เครื่องปรุง แครอทซอย 250 กรัม หอมใหญ่ซอย 500 กรัม กระเทียมกลีบใหญ่ซอย 50 กรัม น้ำส้มสายชู 1 1/4 ถ้วย น้ำตาลทราย 4 ถ้วย ซอสมะเขือเทศ 1/2 ถ้วย พริกไทยป่น 1 ช้อนโต๊ะ มัสตาร์ดผง 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมันสลัด 5 ถ้วย วิธีทำ ใส่เครื่องทุกอย่างลงในโถปั่น ปิดฝา ปั่นเข้าด้วยกันจนละเอียด หรือปั่นแครอทเป็นชิ้นเล็กๆก็ใช้ได้ เทใส่ขวด ปิดฝา เก็บเข้าตู้เย็น เม็กซิกันมายองเนส (http://www.horapa.com/images/stories/mexicanmayongnes.jpg) เครื่องปรุง น้ำสลัดน้ำข้น 1 ถ้วย ซอสพริกชนิดเผ็ดกลาง 3 ช้อนโต๊ะ ซอสมะเขือเทศ 2 ช้อนโต๊ะ ซอสเปรี้ยว 1 ช้อนชา ใบยี่หร่าสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ หอมแดงสับละเอียด 1 ช้อนชา เกลือป่น 1 ช้อนชา พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา วิธีทำ ผสมเครื่องปรุงทั้งหมดเข้าด้วยกัน คนเบาๆ ใส่ลงหม้อ ปิดฝาแช่ให้เย็นในตู้เย็น หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ สิงหาคม 31, 2011, 10:37:44 PM คัสตาร์ด
(http://www.hilunch.com/wp-content/uploads/2010/10/A4_D1_CA_B5_D2_C3_EC_B4_small.jpg) ส่วนผสม 1.น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย 2.น้ำเย็น 1/2 ถ้วย 3.ไข่ไก่ 2 ฟอง 4.ไข่ไก่ (เฉพาะไข่แดง) 2 ฟอง 5.นมสด 2 1/2 ถ้วย 6.น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ 7.วานิลลา 2–3 หยด วิธีทำ 1.ใช้ภาชนะทนไฟ เคี่ยวน้ำตาลจนน้ำตาลไหม้ ยกลง 2.นำน้ำตาลไหม้เทลงในภาชนะที่จะใช้ทำคัสตาร์ด ภาชนะอันหนึ่งใช้ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ แล้วกรอกไปทาให้ทั่ว ทิ้งไว้ให้เย็นจนจับตัวแข็ง 3.ตอกไข่ไก่ 2 ฟอง พร้อมไข่แดง คนให้เข้ากัน แล้วใส่นมที่อุ่นกับน้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ ใส่วานิลลา ทิ้งไว้ให้เย็น แล้วกรอง เทใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ ปิดหน้าด้วยกระดาษฟอยด์ 4.เตรียมภาชนะใส่น้ำอุ่นวางไว้ใต้เตาอบ แล้วนำพิมพ์คัสตาร์ดเข้าอบ ใช้ไฟประมาณ 375 องศาฟาเรนไฮต์ ประมาณ 40 นาที หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ สิงหาคม 31, 2011, 10:40:20 PM เกี๊ยวกรอบเจ
(http://www.hilunch.com/wp-content/uploads/2009/10/E0_A1_D5_EA_C2_C7_A1_C3_CD_BA_E0_A8_small.jpg) ส่วนผสม 1.แป้งเกี้ยว 20 แผ่น 2.เห็ดหอมปรุงรส 3 ดอก 3.เห็ดฟาง 5 ดอก 4.โปรตีนเกษตร 5 ชิ้น 5.พริกใทยป่น 1/4 ช้อนชา 6.น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา 7.ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ 8.น้ำมันพืชสำหรับทอด 2 ถ้วย วิธีทำ 1.ล้างเห็ดฟาง เฉือนโคนที่สกปรกออก ใส่กระชอนพักไว้ 2.โปรตีนเกษตร แช่น้ำไว้ให้นิ่ม 3.สับเห็ดหอม เห็ดฟาง โปรตีนเกษตร รวมกันให้ละเอียด ใส่พริกไทย น้ำตาล ซีอิ๊วขาว เคล้าให้เข้ากัน (ใช้ทำเป็นไส้) 4.วางแผ่นเกี้ยว ตักส่วนผสมข้อ 3 เป็นไส้ โดยวางไว้ตรงมุมม้วนเข้าไปถึงกึ่งกลางของแผ่นแป้งเกี้ยว พับมุมด้านข้างสองมุมเข้าหากัน ใช้น้ำแตะให้แป้งติดกัน ทำจนหมด 5.ใส่น้ำมันในกระทะ ตั้งไฟให้ร้อน ใช้ไฟกลาง ใส่เกี้ยวลงทอดให้เหลืองกรอบ รับประทานกับน้ำจิ้ม เครื่องปรุงน้ำจิ้ม 1.พริกชี้ฟ้าแดงโขลก 2 เม็ด 2.น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ 3.เกลือป่น 1/2 ช้อนชา 4.น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ ผสมน้ำส้มสายชู น้ำตาล เกลือ พริกชี้ฟ้าโขลก เข้าด้วยกันตั้งไฟ เคี่ยวให้ข้น ยกลง บทความจาก : mindcyber.com หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ สิงหาคม 31, 2011, 10:42:21 PM แพนเค้กกล้วยหอม
(http://www.hilunch.com/wp-content/uploads/2010/08/pancake_banana_small.jpg) ส่วนผสม แพนเค้กกล้วยหอม 1.แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 3/4 ถ้วยตวง 2.ผงฟู 3 ช้อนชา 3.เกลือป่น 1/2 ช้อนชา 4.น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ 5.ไข่แดง ตีพอแตก 2 ฟอง 6.นม 1 1/4 ถ้วยตวง 7.น้ำมันพืช 1/2 ถ้วยตวง 8.ไข่ขาวตีจนขึ้นแข็ง 2 ฟอง 9.วานิลา หรือผิวมะนาวขูด 1/2 ช้อนชา 10.กล้วยหอมหั่นตามขวาง 1–2 ผล วิธีการทำ แพนเค้กกล้วยหอม 1.นำแป้ง ผงฟู เกลือ น้ำตาล มาร่อน 2 รอบ 2.ผสมนม น้ำมัน ไข่แดง วานิลาให้เข้ากันเทลงในแป้ง 3.คนส่วนผสมพอเข้ากัน ใส่ไข่ขาวที่ตีแข็ง เคล้าเบาๆ คนจนเนื้อแป้งเนียน 4.ตั้งกระทะแบน ไฟปานกลาง พอร้อนทาผิวกระทะด้วยเนยนิดหน่อย ตั้งแป้งหยอดครั้งละ 2 ช้อนโต๊ะ 5.เอากล้วยหอมวางเรียงบนแผ่นแป้ง พอเริ่มด้านแล้วกลับอีกข้างพอเหลืองเอาขึ้นใส่จาน 6.ม้วนแพนเค้กเป็นเส้น ราดด้วยซอสช็อคโกแลต เป็นอันเสร็จพิธี หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ สิงหาคม 31, 2011, 10:44:08 PM บานาน่าสมูทตี้
(http://www.hilunch.com/wp-content/uploads/2010/05/banana_smoothie_2D_small.jpg) ส่วนผสม 1.นมสด 1/2 ถ้วย 2.กล้วยหอม 1 ผล 3.โยเกิร์ตรสผลไม้ หรือ รสธรรมชาติก็ได้ 1/4 ถ้วย 4.น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา 5.ไอศกรีมวานิลา 1–2 สคูป วิธีทำ 1.นำส่วนผสมทั้งหมดใส่ในเครื่องปั่นผลไม้ 2.ปั่นจนเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน 3.เทใส่แก้วใบสวย หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ สิงหาคม 31, 2011, 10:46:53 PM พายบลูเบอร์รี่
(http://www.hilunch.com/wp-content/uploads/2007/05/blueberry-pie-small.jpg) ส่วนผสม 1. บลูเบอร์รี่ 1 กระป๋อง 2. เนยสด 250 กรัม 3. แคร็คเกอร์(บด) หรือจะใช้เป็นโอรีโอ้ ก็ได้ 4 ถ้วย 4. ครีมชีส (สีขาว) 2 ก้อน 5. น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ 6. ครีมข้นชนิดธรรมดา 2 กระป๋อง วิธีทำ 1. นำ Cracker บทดแล้วนำมาผสมกับเนยเคล้าให้เข้ากัน แบ่งเป็นสองส่วนเพราะ Blueberry 1 กระป๋องทำได้ 2 ถาด แผ่แป้งให้เต็มถาดกดให้เรียบ แล้วนำเข้าอบพอสุก นำออกมาทิ้งให้เย็น 2. Cream Cheese กับครีมข้นชนิดธรรมดา ตีให้เข้ากันช้าๆ ใส่น้ำมะนาว แล้วตีเข้ากันพอประมาณจนเข้ากันได้ดี 3. ใส่ Cream Cheese ที่ผสมดีแล้วใส่ลงในแป้งที่เย็นดีแล้ว ใช้ไม้พายเกลี่ยให้ทั่วแป้ง 4. ใส่ Blueberrry แล้วนำเข้าตู้เย็น เวลาจะรับประทานให้ตัดนำมาตัดแบ่งไป หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ สิงหาคม 31, 2011, 10:50:16 PM กล้วยไข่เชื่อม
(http://www.kow-krua.com/dessert/gluay-kai-cheuam/gluay-kai-cheuami_m385.5.jpg) ส่วนผสม 1. กล้วยไข่ 1 หวี 2. น้ำตาลทราย 2 ถ้วยตวง 3. เกลือ 1/4 ช้อนชา 4. น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ 5. น้ำเปล่า 3 ถ้วยตวง วิธีทำ 1. เลือกกล้วยสุก สีเปลือกเขียวปนเหลือง (สีดอกกระดังงา) ตัดหัวท้ายพักไว้ให้ยางหมด 2. เตรียมน้ำเชื่อมใส่น้ำตาล เกลือและน้ำเปล่า ตั้งไฟปานกลางพอเดือด กรองให้สะอาด 3. ตั้งไฟให้เดือดอีกครั้ง หรี่ไฟให้อ่อนถึงปานกลาง ปอกกล้วยใส่ พอกล้วยสุกใส่น้ำมะนาว(ไม่ให้น้ำเชื่อมตกผลึกเป็นเกล็ด) พอกล้วยใสทั่วตักขึ้น ที่มาของบทความ : kow-krua.com หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ สิงหาคม 31, 2011, 10:53:30 PM ยำวุ้นเส้นเจ
(http://www.hilunch.com/wp-content/uploads/2009/10/C2_D3_C7_D8_E9_B9_E0_CA_E9_B9_E0_A8_small.jpg) ส่วนผสม 1.เห็ดเป๋าฮื้อ 1 ถ้วย 2.เห็ดฟาง 1/2 ถ้วย 3.เห็ดหูหนู 1/2 ถ้วย 4.วุ้นเส้นแช่น้ำตัดแล้ว 1 ถ้วย 5.พริกขี้หนูสด 5 เม็ด 6.พริกขี้หนูแห้ง 5 เม็ด 7.คื่นช่าย 2 ต้น 8.เต้าหู้ขาว 2 ก้อน 9.ซีอิ้วขาว 3 ช้อนโต๊ะ 10.มะนาว 6–7 ผล 11.น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ 12.มะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ 13.ผักกาดหอม 14.ใบสาระแหน่ 15.พริกแห้งเม็ดใหญ่ วิธีทำ 1.ลวกวุ้นเส้นพอนิ่มแล้วตัดเป็นท่อน 2.ฉีกเห็ดเป๋าฮื้อเป็นฝอย ลวกน้ำร้อนให้สุกแล้วหั่นเห็ดหูหนูหนาๆ ลวกน้ำร้อนให้สุก ฝานเห็ดฟางเป็นชิ้นๆ ตั้งรวนไฟเหยาะเกลือนิดหน่อย 3.ตัดคึ่นช่ายเป็นท่อนๆ 4.เอาน้ำมะขามเปียกน้ำตาลปี๊บ และซีอิ้วผสมรวมกันตั้งไฟให้เดือดชิมดูให้ได้ 3 รส 5.ยีเต้าหู้ขาวให้ละเอียด ตั้งรวนบนไฟจนเหลืองนวล 6.โขลกพริกขี้หนู เอาพริกแห้งที่แกะเม็ดและไส้ทิ้งทอดรวมกับพริกขี้หนูจนกรอบ โขลกให้ละเอียด 7.เมื่อเตรียมได้ทั้งหมดแล้ว ก็นำเอาเห็ดทั้งหมดคลุกในวุ้นเส้นพร้อมด้วยพริกขี้หนู พริกแห้ง และใส่น้ำสามรส มะนาว ชิมรสตามชอบใจ แล้วใส่ใบคึ่นช่าย จากนั้นใส่ภาชนะที่รองด้วยผักกาดหอม โรยหน้าด้วยใบสาระแหน่ บทความจาก : geocities.com/eakapolo หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ สิงหาคม 31, 2011, 10:56:45 PM เต้าหู้ทรงเครื่อง
(http://www.hilunch.com/wp-content/uploads/2009/10/fried_2Dtofu_small.jpg) ส่วนผสม เต้าหู้ทรงเครื่อง เต้าหู้หลอดตัดเป็นชิ้นๆ ตามขวางหนาประมาณ 1 ซ.ม. จำนวน 1 หลอด ข้าวโพดอ่อน 2 ฟัก แครอทหั่นแบบลูกเต๋า 1/4 ถ.ต. พริกหวานหั่นแบบลูกเต๋า 1/4 ถ.ต. มะเขือเทศหั่นแบบลูกเต๋า 1/4 ถ.ต. หอมใหญ่หั่นแบบลูกเต๋า 1/4 ถ.ต. ซีอิ๊วขาว 1 ช.ต. น้ำตาลทราย 1 ช.ต. ซอสมะเขือเทศ 4 ช.ต. แป้งสาลี 2 ช.ต. แป้งท้าวยายม่อม 1 ช.ต. น้ำเปล่า 1 1/2 ถ.ต. อโรมาต 1 ช.ช. พริกไทยขาวป่น 1/4 ช.ช. เกลือป่น 1/4 ช.ช. น้ำมันพืช 2 ช.ต. วิธีทำ เต้าหู้ทรงเครื่อง 1. หั่นเต้าหู้ตามขวางหนาประมาณ 1 ซ.ม. แล้วคลุกด้วยแป้งสาลีก่อนนำลงทอดจนเหลืองแล้วพักไว้ 2. ตั้งกะทะใส่น้ำมันพืชให้ร้อนใส่ผักที่เตรียมไว้ผัดให้สุกแล้วเติมน้ำเปล่า 1 ถ.ต. พอให้ท่วมผักในกะทะ จากนั้นปรุงรสด้วย ซีอิ้วขาว น้ำตาลทราย ซอสมะเขือเทศ เกลือ แล้วจึงเติมแป้งท้าวยายม่อมที่ผสมกับน้ำส่วนที่เหลือ ? ถ.ต. เพื่อให้น้ำซอสข้นและเหนียว 3. ตักราดบนเต้าหู้เวลาจะรับประทานเสิร์ฟร้อนๆ โรยพริกไทยและแต่งหน้าด้วย พริกชี้ฟ้าหั่นฝอย *หมายเหตุเต้าหู้ทรงเครื่องสามารถทำได้ 2 วิธี คือ นำเต้าหู้ไปทอดก่อน หรืออีกวิธี หั่นเต้าหู้เป็นแบบลูกเต๋า แล้วใส่ลงไปคลุกเคล้ากับน้ำซอสที่ผัดเสร็จแล้ว สนับสนุนสูตรอาหารโดย : ศูนย์ศิลปอาหารไทยหม่อมหลวงพวง ทินกร หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ สิงหาคม 31, 2011, 10:59:19 PM น้ำอาร์ซี
(http://www.hilunch.com/wp-content/uploads/2009/10/B9_E9_D3_CD_D2_C3_EC_AB_D5_small.jpg) ส่วนผสม 1.ข้าวแดงจากข้าวซ้อมมือ 2 กำมือ 2.ข้าวเหนียวซ้อมมือ 2 กำมือ 3.ข้าวสาลีเม็ด 1 กำมือ 4.ข้าวบาร์เลย์ 1 กำมือ 5.ข้าวฟ่าง 1 กำมือ 6.ลูกเดือย 1 กำมือ 7.ลูกบัว 1 กำมือ 8.ข้าวโอ๊ต 1 กำมือ 9.น้ำเปล่า 2 ลิตร วิธีทำ 1.นำลูกบัว ลูกเดือย ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ ข้าวฟ่างมาต้มจนเดือด พอเดือดแล้วใส่ข้าวซ้อมมือ ข้าวเหนียวซ้อมมือ ข้าวแดง ตามลงไป 2.ต้มต่อไปจนเดือดอีกครั้ง จากนั้นใส่ข้าวโอ๊ตเป็นส่วนสุดท้าย เดือด แล้วปิดไฟ ปล่อยให้ข้าวต่าง ๆ นอนก้น แล้วตักแต่น้ำใส ๆ ดื่ม ร้อน ๆ หรืออุ่น ๆ ก็ได้ 3.กากข้าวเอาไปทำข้าวต้มต่อ อาจเติมฟักทอง มันเทศ หรือเผือกลง ไปก็ได้ ต้มจนข้าวเป็นยาง จึงยกลง บทความจาก : หนังสือ กูแน่ ของ ดร.สาทิส อินทรกำแหง หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ สิงหาคม 31, 2011, 11:03:31 PM ผัดหมี่รสเด็ด
(http://www.sakulthai.com/images/sakulthai/2627/104.jpg) ส่วนผสม 1.เส้นเล็ก 200 กรัม 2.กุ้งสด 50 กรัม 3.ปลาหมึกหั่น 50 กรัม 4.น้ำพริกแกงเผ็ด 1 ช้อนโต๊ะ 5.ขมิ้นผง 1/2 ช้อนชา 6.น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ 7.น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ 8.หัวกะทิ 1 ถ้วย 9.ถั่วงอก 100 กรัม 10.ต้นหอมหั่นเป็นท่อน 100 กรัม ผักแกล้ม ถั่วงอกดิบ,มะนาว,แตงกวา,ถั่วฝักยาว,สตอฝัก วิธีทำ 1.นำกะทิคั่วไฟให้เดือด ใส่เครื่องแกง ขมิ้นผง น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา ลงไปผัดจนหอม 2.ใส่อาหารทะเลลงไปผัดจนสุก 3.ค่อยๆ ใส่เส้นลงไปคนให้เขากันตามด้วย ถั่วงอก ต้นหอม ผัดจนเข้ากัน ตักใส่จาน เสิร์ฟพร้อมผักสด หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ สิงหาคม 31, 2011, 11:12:13 PM ฉู่ฉี่ปลาทู
(http://www.hilunch.com/wp-content/uploads/2009/07/chuchepatu9-small.jpg) ส่วนผสม ปลาทูสด 400 กรัม มะพร้าวขูด 400 กรัม พริกชี้ฟ้าหั่นเฉียงยาว 3 เม็ด ใบมะกรูดหั่นฝอย 2 ใบ โหระพาเด็ดเป็นใบ 1/2 ถ้วย น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ เครื่องแกง พริกแห้งแช่น้ำ 7 เม็ด ข่า 4 แว่น ตะไคร้ซอย 1 ต้น หอมแดง 5 หัว กระเทียม 2 หัว ผิวมะกรูดซอย 1 ช้อนชา รากผักชีซอย 1 ช้อนชา เกลือป่น 1/2 ช้อนชา กะปิ 1/2 ช้อนชา โขลกเครื่องแกงทั้งหมดรวมกันให้ละเอียด วิธีทำ 1.ล้างปลาให้สะอาด ตัดหัวออก ควักไส้ออก บั้งทั้งสองด้าน 2.คั้นมะพร้าว ให้ได้กะทิ 3 ถ้วย 3.ใส่กะทิ 1 ถ้วยในกะทะ เคี่ยวให้แตกมัน ใส่เครื่องแกง ผัดให้หอมเติมกะทิที่เหลือ พอเดือด ใส่ปลา เคี่ยวประมาณ 15 นาที จนปลาสุก 4.ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา พอเดือด ยกลง ตักใส่จาน โรยใบมะกรูด ใบโหระพา พริกชี้ฟ้า เขียนโดย : milk หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 05, 2011, 08:49:38 PM ก๋วยเตี๋ยวผัดซีอิ้ว
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img5/117649.jpg) ส่วนผสม เส้นก๋วยเตี๋ยวพอประมาณ เนื้อหมู 1/2 กิโลกรัม ตับหมู 1/2 กิโลกรัม ผักคะน้า 1/2 กิโลกรัม ซีอิ้วดำ กระเทียม น้ำมันพืช น้ำตาลทราย ซีอิ้วขาว พริกไทยป่น พริกดองน้ำส้ม วิธีทำ ล้างเนื้อหมูและตับหมูแล้วหั่นบางๆ คลุกเคล้ากับซีอิ้วขาว หมักไว้ ปอกเปลือกผักคะน้าด้านโคนแล้วหั่นแฉลบบางๆ นำน้ำมันพืชใส่กระทะตั้งไฟให้ร้อน ใส่กระเทียมเจียวให้เหลือง ใส่เนื้อหมูและตับลงผัดให้สุก จากนั้นใส่ผักคะน้า ผัดให้เข้ากัน ใส่เส้นก๋วยเตี๋ยว ซีอิ้วดำเล็กน้อย ตามด้วยน้ำตาลทราย ผัดให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ ตักใส่จาน แล้วเหยาะด้วยพริกไทยป่น และพริกดองน้ำส้ม (http://variety.teenee.com/foodforbrain/img5/117650.gif) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 05, 2011, 08:52:14 PM ทานสเต๊กอย่างถูกวิธี
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img3/117622.jpg) สำหรับผู้ที่คุ้นชินกับการเข้าสังคมบ่อย ๆ การสั่งหรือรับประทานเมนูสเต๊กก็คงจะเป็นเรื่องง่าย ๆ แต่คนที่ไม่ชำนาญ วันนี้มีวิธีกินสเต๊กให้ถูกวิธีมาฝาก ก่อนอื่นเมื่อจะสั่งสเต๊ก ที่มีให้เลือกทานหลากหลายแบบ ต้องรู้เรื่องเกี่ยวกับสเต๊กก่อน โดยสเต๊กมีด้วยกันหลายประเภทและมีชื่อเรียกเฉพาะแตกต่างกัน เช่น เนื้อสันใน เรียกว่า ฟิเลท์ (filet), ซี่โครง เรียกว่า ริบสเต๊ก (rib steak), เนื้อสันในติดเนื้อสันนอก เรียกว่า ทีโบนสเต๊ก (T-bone steak) เป็นต้น ขั้นต่อมา คนรับออเดอร์จะถามระดับความสุกของเนื้อที่จะรับประทานว่าต้องการสุกแค่ไหน โดยมีระดับความสุกให้เลือกดังนี้ rare คือ ค่อนข้างดิบ, medium rare คือ กึ่งสุกกึ่งดิบ, medium คือ ตรงกลางยังไม่ค่อยสุก และ welldone คือ สุก เมื่อสเต๊กพร้อมเสริ์ฟแล้วก็ถึงขั้นตอนการรับประทาน ง่าย ๆ คือ ใช้มือซ้ายถือส้อม มือขวาถือมีด ให้หั่นชิ้นเล็ก ๆ แล้วเอาส้อมจิ้มเข้าปาก ควรหั่นและรับประทานทีละคำ ไม่ควรหั่นไว้ทีเดียวทั้งหมด แล้วค่อยจิ้มทาน เพราะถือเป็นการผิดมารยาท โดยในร้านที่เป็นทางการนั้น จะไม่นิยมปรุงสเต๊กเพิ่มเติมจากที่เสิร์ฟมาเลย ถือว่าเป็นการให้เกียรติเชฟที่ทำมาอร่อยแล้ว โดยทั่วไปจะไม่จิ้มสเต๊กกับสิ่งที่มีรสจัดมาก เพราะจะทำให้รสชาติของเนื้อสเต๊กที่หอมหวานในตัวเองสูญเสียไป เนื่องจากสเต๊กที่สั่งก็จะมีน้ำเกรวี่เฉพาะราดมาให้อยู่แล้ว. ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 10, 2011, 01:52:47 PM ไข่คนและไข่ดาวน้ำสูตรไดเอ็ต
(http://lh6.ggpht.com/_PfKJQ8NNqeM/R-Xjus6uTNI/AAAAAAAAADo/MGE2Ro8alxo/scramble+eggs.JPG) ไข่คน (Scramble Egg) เครื่องปรุง ไข่ไก่ใหม่ๆ 1 ฟอง นมสด 3 ช้อนโต๊ะ พริกไทยป่น 1/8 ช้อนชา เกลือป่น 1/8 ช้อนชา ไข่ดาวน้ำ เครื่องปรุง ไข่ไก่ใหม่ๆ 1 ฟอง น้ำส้มสายชู 1/2 ช้อนชา น้ำ 1/2 ถ้วย อุปกรณ์กระทะก้นแบนใบเล็กๆ เส้นผ่าศูนย์กลาง 5 นิ้ว หรือหม้อใบเล็กๆ วิธีทำ ไข่คน 1. ต่อยไข่ใส่ถ้วย ใส่นม เกลือ คนพอไข่แตก โรย พริกไทยป่น คนพอทั่ว 2. ตั้งกระทะก้นแบนบนเตา ใส่น้ำ 2 ช้อนโต๊ะ พอ น้ำร้อน เทไข่ใส่ คนด้วยพาย เพื่อให้ไข่ไหลลง ด้านล่าง คนเบาๆ 2-3 ครั้ง พอไข่สุกตักใส่จาน เสิร์ฟกับขนมปัง วิธีทำ ไข่ดาวน้ำ 1. ใส่น้ำในกระทะ ใส่น้ำส้มสายชู ตั้งไฟให้เดือด ลดไฟใช้ไฟกลาง 2. ต่อยไข่ใส่ถ้วย เทลงในกระทะ ปิดฝากระทะ พอไข่สุกใช้ทัพพีโปร่งตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 10, 2011, 01:57:07 PM ซุปเยื่อไผ่ตุ๋นเห็ดหูหนูขาว
(http://www.gourmetthai.com/newsite/cms/upload/content/photo/pic/CONT1149Img2.jpg) ส่วนประกอบ ไก่สับครึ่งตัว 1 กิโลกรัม เยื่อไผ่ 50 กรัม เห็ดหูหนูขาว 50 กรัม ห่วยซัว 3 แผ่น เก๋าคี้จี้ 30 กรัม เมล็ดพุทราแดง 10 กรัม เกลือป่น 1 ช้อนชา น้ำเปล่า 5-6 ถ้วยตวง วิธีทำ 1. แช่เยื่อไผ่ให้นิ่ม นำมาตัดเป็นท่อน ๆ ขนาดพอดีคำ 2. ล้างเห็ดหูหนูขาว แช่น้ำพอนิ่ม เด็ดเป็นช่อ ๆ เอาก้านขั้วทิ้ง 3. ล้างเนื้อไก่ให้สะอาด สับแบ่งครึ่งตัว จากนั้นนำไปลวกน้ำร้อนประมาณ 3-5 นาที นำไปใส่หม้ออัดแรงดันฟากอร์ พร้อมส่วนผสม ห่วยซัว เกาคี้จี้ เมล็ดพุทราแดง 4. เติมน้ำลงไปให้พอดีจากนั้นปรุงรสด้วยเกลือหรือซีอิ้วขาว น้ำมันงาตามชอบ ปิดฝาหม้อ ปรับแรงดันไว้ที่ High Pressure(เบอร์ 2) เริ่มจับเวลาหลังจากที่มีไอน้ำออก ประมาณ 20 นาที หลังจากนั้นจึงเติมเห็ดหูหนูขาวลงไป นำไปต้มต่อโดยเปิดฝาหม้อประมาณ 3-5 นาที พร้อมรับประทาน (เห็ดหูหนูขาว ถ้าต้องการให้เปื่อยมากควรใส่พร้อมส่วนผสมอื่น ๆ) ท่านทราบหรือไม่ว่า…? เห็ดหูหนูขาว มีสรรพคุณบำรุงปอดและกระเพาะอาหาร ห่วยซัว มีสรรพคุณช่วยย่อยอาหาร แก้ท้องร่วง ลดเหงื่อ บำรุงไต เก๋าคี้จี้ จะช่วยลดน้ำตาลในเลือด บำรุงสายตา เสริมสมรรถภาพทางเพศ เมล็ดพุทราแดง บำรุงหัวใจ ระบบประสาทและตับ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 10, 2011, 02:01:02 PM ข้าวคลุกไข่ต้ม
(http://image.zazana.com/images/6926353947.jpg) ส่วนประกอบ ข้าวหุงสุก 2 ถ้วย ไข่ต้มสุก 2-3 ฟอง กุ้งแห้งตัวเล็ก 1/2 ถ้วย หอมเล็กซอย 1/2 ถ้วย พริกขี้หนู 3-5 เม็ด มะนาว 2 เสี้ยว ขิงอ่อนซอยละเอียด 1 แง่งเล็ก วิธีทำ 1. ต้มไข่จนไข่แดงสุกแข็ง 2. ล้างกุ้งแห้งให้สะอาดพักไว้ให้แห้ง คลุกข้าวกับไข่แดง กุ้งแห้ง หอมแดง ให้เข้ากัน 3. โรยขิงอ่อนซอย พริกขี้หนู มะนาวจะบีบน้ำหรือหั่นเป็นแว่นเล็กๆ คลุกรวมกันก็ได้ รับประทานได้ทันที หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 10, 2011, 02:05:39 PM ซุปล่อกระทิง :D
(http://www.bloggang.com/data/soswindy/picture/1189954925.jpg) ส่วนประกอบ มะเขือเทศลูกใหญ่ 20 ลูก รากผักชี กระเทียม และพริกไทยที่โขลกรวมกันจนละเอียด(สามสหาย) หอมหัวใหญ่หั่นเป็นชิ้นฝอยๆ 3 ลูก เกลือป่น ซีอิ้วขาวเห็ดหอม และเนยชนิดเค็ม วิธีทำ วิธีปรุง : เพื่อให้มะเขือเทศปอกเปลือกง่ายยิ่งขึ้น ก่อนปรุงจึงควรนำไปแช่ในน้ำเดือดสักประมาณ 1 นาที จากนั้นตักขึ้นมาแช่ในน้ำเย็น ทิ้งไว้สักครู่คุณจะสามารถปอกเปลือกมะเขือเทศได้สบายๆ เลยทีเดียว นำมะเขือเทศที่ปอกเปลือกแล้ว หอมหัวใหญ่และสามสหายลงไปปั่นพร้อมกันให้ละเอียด เสร็จแล้วเทลงในหม้อซุป ปรุงรสด้วยเกลือป่นและซีอิ๊วขาวเห็ดหอม เคี่ยวด้วยไฟแรงปานกลางสัก 10 นาที ปล่อยให้เย็น จากนั้นนำใส่กล่องพลาสติก และนำไปแช่เย็น วิธีเสิร์ฟ : ก่อนเสิร์ฟนำซุปมาปรุงให้ครบเครื่อง ด้วยการใส่เนยชนิดเค็มลงไปเล็กน้อย เคี่ยวจนเครื่องปรุงทุกอย่างผสมเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วตักเสิร์ฟทันทีขณะร้อนๆ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 10, 2011, 02:08:41 PM ซุปหูฉลามเทียมเจ
(http://www.chezplayers.com/article_imgs/mushroomsoup_red.jpg) ส่วนประกอบ น้ำซุป (ต้มจากผักหรือซุปก้อนผัก) แป้งมัน แป้งข้าวโพด เหล้าจีน ซอสเห็ดหอม เกลือ วุ้นเส้น เห็ดหอม เห็ดหูหนูสับ วิธีทำ เตรียมน้ำซุปที่ได้จากการต้มผักที่มีรสหวานผสมแป้งมัน แป้งข้าวโพด ปรุงแต่งกลิ่นรสด้วยซอสเห็ดหอม เกลือ ตั้งไฟให้เดือดใส่เห็ดหอมสด เห็ดหูหนูสับ ใส่วุ้นเส้น เป็นอันดับสุดท้าย อาจเติมสาหร่าย และฟองเต้าหู้ ชนิดเส้น ด้วยก็ได้ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 10, 2011, 02:59:59 PM แกงร้อน ร้อน จ้่า
(http://flash-mini.com/thaifood/back/picture/1305678486.jpg) ส่วนประกอบ วุ้นเส้นแช่น้ำให้นิ่ม 3/4 ถ้วย เห็ดหูหนูสดหั่นชิ้นพอคำ 1 ถ้วย กุ้งแห้ง 1 ช้อนโต๊ะ ขึ้นฉ่ายหั่นท่อนยาว 1/4 ถ้วย น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา เกลือป่น 1 ช้อนชา น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ เครื่องปรุงหมูสับ หมูสับ 1/2 ถ้วย กระเทียมสับ 1 หัว พริกไทยป่น 1 ช้อนชา น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ วุ้นเส้นแช่น้ำให้นิ่ม 3/4 ถ้วย เห็ดหูหนูสดหั่นชิ้นพอคำ 1 ถ้วย กุ้งแห้ง 1 ช้อนโต๊ะ ขึ้นฉ่ายหั่นท่อนยาว 1/4 ถ้วย น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา เกลือป่น 1 ช้อนชา น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ เครื่องปรุงหมูสับ หมูสับ 1/2 ถ้วย กระเทียมสับ 1 หัว พริกไทยป่น 1 ช้อนชา น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 10, 2011, 03:18:28 PM ผัดเผ็ดลูกชิ้นปลา
(http://flash-mini.com/thaifood/back/picture/1305697632.jpg) ส่วนประกอบ ลูกชิ้นปลาหั่นชิ้นพอคำ 2 ถ้วย กระชายหั่นฝอย 1 ช้อนโต๊ะ พริกชี้ฟ้าแดงซอยตามยาว 2 เม็ด โหระพาเด็ดเป็นใบ 1/2 ถ้วย น้ำตาลปีบ 1 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ น้ำมัน 4 ช้อนโต๊ะ เครื่องแกง สมัยนี้ยากส์ในการทำเพราะใช้เวลานานมาก มั่ก สมัยรุ่นคุณยายกับคุณแม่ :-\ตำไม่รัวก็ว่า ไม่ดังก็ว่า :'(ตำจนครกระเบิดก็ว่าาาาาาา :-[ บ่น บ่น คริคริ :D พริกแห้งแกะเมล็ดแช่น้ำ 5 เม็ด หอมแดงซอย 2 ช้อนโต๊ะ กระเทียมซอย 2 ช้อนโต๊ะ ข่าซอย 1 ช้อนชา ตะไคร้ซอย 1 ช้อนโต๊ะ ผิวมะกรูดซอย 1 ช้อนชา รากผักชีหั่นฝอย 1 ช้อนชา เกลือป่น กะปิ อย่างละ 1 ช้อนชา โขลกเครื่องแกงทั้งหมดรวมกันให้ละเอียด วิธีทำ ใส่น้ำมันลงกระทะ ใส่เครื่องแกงลงผัดให้หอม ใส่ลูกชิ้น ผัดพอทั่ว ปรุงรสด้วยน้ำตาลปีบ น้ำปลา ชิมรส ใส่กระชายลงผัดให้สุก ใส่พริกชี้ฟ้า ผัดพอทั่ว ตักขึ้นใส่จาน โรยหน้าด้วยโหระพา เสิร์ฟ หมายเหตุ ใช้ลูกชิ้นชนิดต่าง ๆ รวมกัน หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 10, 2011, 03:26:24 PM วุ้นเส้นกรอบ
(http://board.goosiam.com/imgupload/ans512572.jpg) ส่วนประกอบ วุ้นเส้น 1 ห่อเล็ก น้ำตาลปี๊บ 1 ถ้วย น้ำส้มมะขาม 1/2 ถ้วย กุ้งแห้ง 1 ช้อนโต๊ะ ถั่วงคั่วบุบ 1 ช้อนโต๊ะ หัวหอม น้ำมัน เกลือ วิธีทำ เริ่มจากทอดวุ้นเส้นในน้ำมันที่ร้อนได้ที่ ไฟปานกลาง เมื่อกรอบตักขึ้น พักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน v ทอดกุ้งแห้งพอเหลือง หัวหอมบุบพอแตก นำลงไปเจียว ไม่ต้องเหลืองมาก vเตรียมน้ำหวาน สำหรับราดหน้าด้วยการเคี่ยวน้ำตาลปี๊บ น้ำส้มมะขาม และเกลือ เข้าด้วยกัน เติมน้ำนิดหน่อยจนข้นได้ที่ ใส่ถั่วงคั่วบุบกับกุ้งแห้ง และหัวหอมลงไป ยกลง v จัดวุ้นเส้นกรอบใส่จานพร้อมเสิร์ฟ รับประทานกับผักกุยช่าย ถั่วงอก แครอท มะนาว หรือผักอื่นๆ ตามชอบ ราดน้ำหวานลงบนวุ้นเส้นกรอบ ลงมือรับประทานได้ทันที ก่อนที่วุ้นเส้นจะหายกรอบ เมนูนี้รับประทานเป็นอาหารว่างค่ะ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 13, 2011, 09:49:59 PM ลวกผักให้สีเขียวสดใส
(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/th/thumb/e/eb/Veget1.jpg/220px-Veget1.jpg) จะรับประทานน้ำพริกให้อร่อยก็ต้องมีผักแกล้ม ทั้งผักสดผักต้ม ผักสดล้างให้สะอาดก็น่ารับประทานดีไม่มีปัญหา แต่ผักต้มนี่สิ บางคนต้มแล้วสีคล้ำๆ ไม่เขียวสดน่ารับประทาน เทคนิคง่ายๆ ก็คือ เวลาต้มให้ใส่เกลือลงในน้ำที่จะใช้ ตอนนำผักลงน้ำต้องเดือดจัด สังเกตดูพอผักสุก เขียว ระวังอย่าให้นานเกินไป ให้รีบช้อนผักขึ้นใส่ในน้ำเย็น เพื่อให้ผักคลายความร้อนอย่างรวดเร็ว พอผักเย็นแล้วค่อยนำขึ้นจัดใส่จาน รับรอง ได้ผักเขียวสวยสดประทับใจ ลวกผักให้เขียวสวยน่ารับประทาน ผักลวก รับประทานคู่กับน้ำพริกนานาชนิด อาหารอร่อยคู่สำรับคนไทยอย่างเราๆ แต่หลายๆ ครั้ง เมื่อลวกผักแล้วผักกลับดำคล้ำไม่น่ารับประทาน เอาเสียเลย เทคนิกง่ายๆที่ทำให้ลวกผักประเภทผักใบให้เขียวสวยน่ารับประทานก็คือ ขั้นแรก ล้างผักให้สะอาด เลือกเอาส่วนที่เน่าเสียออก แยกผัก ออกเป็นส่วนก้านและส่วนใบ ขั้นที่สอง ใช้น้ำให้น้อยดูว่าพอดีท่วมผักเมื่อใส่ลงไปในหม้อแล้ว (เพื่อสงวนคุณค่าทางโภชนาการ) ต้มน้ำให้เดือด ใส่เกลือและน้ำมันอย่างละประมาณ 1 ช้อนชา (เกลือทำให้ผักมีรสชาติ น้ำมันทำให้ผักมีสีเขียว) ขั้นที่สาม เร่งไฟแรง ใส่ผักลงไปต้ม โดยใส่ส่วนก้านก่อน แล้วค่อยตามด้วยใบ ถ้าต้องการต้มทั้งต้น ให้จุ่มก้านลงไปก่อนแล้วค่อยๆ วางส่วนใบลงต้มทั้งต้น ขั้นสุดท้าย เมื่อผักสุกใบเปลี่ยนเป็นสีเขียวสม่ำเสมอ ให้ตักผักขึ้นแช่ในน้ำเย็นทันที เพื่อให้ผักคายความร้อน ไม่สุกต่อ ซึ่งจะทำให้ผักเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล หรือเขียวคล้ำ เพียงเท่านี้คุณก็สามารถลวกผักให้สุกเขียวน่ารับประทานได้ไม่ยากเลย ส่วนผักสีขาว เช่นกะหล่ำปลี และหัวไชเท้า ให้ใส่น้ำส้มสายชูลงในน้ำที่ต้ม ผักจะมีสีขาวสวย หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 27, 2011, 06:25:53 PM อาหารเจ
เห็ดหอมตุ๋น (http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/6/65/Lentinula_edodes.jpg/243px-Lentinula_edodes.jpg) ส่วนผสม เห็ดหอมแช่น้ำค้างคืน 5 ดอก ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ น้ำแช่เห็ดหอม 1 ถ้วย วิธีทำ 1. ใส่เครื่องปรุงทั้งหมดในหม้อตุ๋น 2. ตุ๋นประมาณ 1 ชั่วโมง ปิดไฟ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 27, 2011, 06:28:37 PM ต้มยำเห็ดมะพร้าวอ่อนน้ำข้น
(http://www.hilunch.com/wp-content/uploads/2009/06/b5-e9-c1-c2-d3-e2-bb-ea-d0-e1-b5-a1-small.jpg) ส่วนประกอบ 1. เห็ดฟาง 500 กรัม 2. มะพร้าวอ่อน 1 ลูก 3. ตะไคร้ 5 ต้น 4. ข่า 1 แง่ง 5. ใบมะกรูด 1 ก้าน 6. มะนาว 3 ลูก 7.พริกขี้หนู 25 เม็ด 8.ผักชีฝรั่ง 1 มัด 9.นมสด 1 กระป๋อง 10.น้ำพริกเผา 1 ขีด 11.แครอท 1 หัว 12.มะเขือเทศ 2 ลูก วิธีปรุง - ปอกมะพร้าวแยกน้ำไปต้ม ใชช้อนตักเอาชิ้นขนาดพอประมาณ - จากนั้นใส่เห็ดลงต้ม ใส่ข่า ตะไคร้ แครอทตามลงไป - พอเดือดจึงใส่นมสด น้ำพริกเผา เกลือป่นเล้กน้อย ซีอิ้วขาว น้ำมะนาว พริกขี้หนู ให้ได้รสเปรียวเค็มเผ็ดก่อนปิดไฟ แล้วจึงใส่ผักชีฝรั่ง ตามลงไป เสร็จขั้นตอนการปรุง หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 27, 2011, 06:31:29 PM เกี๊ยวกรอบราดหน้า
(http://1.bp.blogspot.com/_aCSjL51F34s/S65HdNc0nXI/AAAAAAAAEIA/NwE-2IVJiBA/s400/P1200505.JPG) แป้งเกี๊ยว 10 แผ่น เต้าหู้เหลืองหั่นบางทอด 1/4 ถ้วย เห็ดหอมปรุงรส 3 ดอก เห็ดฟาง 10 ดอก ผักกาดหอม 1 ต้น แป้งสาลี 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 3/4 ช้อนชา ซีอิ๊วขาว 2 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำ 1/2 ถ้วย น้ำมันพืช 1 ถ้วย วิธีทำ 1. ล้างเห็ดฟาง เฉือนโคนที่สกปรกออก สับเห็ดฟาง 5 ดอกให้ละเอียด ที่เหลือผ่าครึ่ง ล้างผักกาดหอม หั่นเป็นท่อน 2. พับเห็ดหอม 1 ดอกให้ละเอียด หั่นเห็ดหอมที่เหลือเป็นเสี้ยว 3. ใส่น้ำมัน 2 ช้อนโต๊ะในกระทะ ตั้งไฟให้ร้อน ใส่เห็ดหอมและเห็ดฟางที่สับละเอียด ผัดให้สุก ใส่ซีอิ๊วขาว 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาล 1/4 ช้อนชา ตักใส่ถ้วย เป็นไส้เกี๊ยว 4. ตักไส้ประมาณ 1/2 ช้อนชา ใส่กลางแผ่นเกี๊ยว พับมุมเพื่อห่อไส้เกี้ยว แตะน้ำเล็กน้อยเพื่อให้แผ่นเกี๊ยวติดกัน 5. ใส่น้ำมันที่เหลือลงในกระทะ (แบ่งไว้ 1 ช้อนโต๊ะ) นำเกี้ยวที่ห่อแล้วลงทอดพอเหลือง ตักขึ้น ใส่จานที่รองด้วยผักกาดหอม 6. ใส่น้ำมัน 1 ช้อนโต๊ะในกระทะ ใส่เต้าหู้เหลืองทอด เห็ดหอมและเห็ดฟางที่หั่นไว้ ผัดให้ทั่ว ใส่ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาล 1/2 ช้อนชา เติมน้ำ 7. ละลายแป้งสาลีกับน้ำใส่ คนให้ทั่ว พอเดือดยกลง ราดหน้าเกี๊ยวกรอบ เสิร์ฟ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 27, 2011, 06:37:04 PM แกงเขียวหวานฟัก
(http://www.thainame.net/project/food_j/15.jpg) ฟัก น้ำหนัก 500 กรัม 1 ลูก แป้งหมึ่กึง 1 ถ้วย มะพร้าวขูด 500 กรัม พริกชึ้ฟ้าแดงหั่นตามยาว 2 เม็ด ใบมะกรูด 2 ใบ โหระพาเด็ดเป็นใบ 1/2 ถ้วย ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำ 1/2 ถ้วย เครื่องแกง พริกขี้หนูสีเขียว 10 เม็ด ตะใคร้หั่นฝอย 2 ต้น ข่า 3 แว่น ผิวมะกรูดหั่นฝอย 1 ช้อน เกลือป่น 1/2 ช้อนชา โขลกเครื่องแกงทั้งหมดรวมกันให้ละเอียด วิธีทำ 1. นวดแป้งหมี่กึงกับน้ำ พักไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง 2. ปอกเปลือกฟัก ล้างให้สะอาด ผ่าครึ่งเอาไว้ออก หั่นชิ้นพอคำ 3. คั้นมะพร้าว ให้ได้หัวกะทิ 1 ถ้วย กะทิ 2 ถ้วย 4. ใส่กะทิลงในหม้อ ตั้งไฟ ใส่เครื่องแกง 5. ปั้นหมี่กึงเป็นชิ้นพอคำ ใส่ในหม้อแกง ใส่ซีอิ๊วขาว น้ำตาล ใส่ฟัก เคี่ยวให้เข้าเนื้อ 6. ใส่หัวกะทิ พริกชี้ฟ้า ใบมะกรูด ใบโหระพา ปิดไฟ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 02, 2011, 08:10:59 PM ต้มกะหล่ำเจ
(http://www.thaifooddb.com/Recipe_Special/images/kalam5.gif) เครื่องปรุง 1. กะหล่ำปลี 4 หัว 2. เห็ดหอม 10 ดอก 3. ฟองเต้าหู้ทอด 1 ถ้วยตวง 4. ซิอิ๊วขาว 1/2 ถ้วยตวง 5. ซอสปรุงรส 2 ช้อนตวง 6. พริกไทยเม็ด 20 เม็ด 7. น้ำมันพืช 8. น้ำเปล่า (http://www.thaifooddb.com/Recipe_Special/images/kalam1.gif) 1. ผ่ากะหล่ำปลี ออกเป็นสี่ถึงหกซีก (ขึ้นอยู่ว่าหัวเล็กหรือใหญ่) นำไปล้างน้ำให้สะอาด และผึ่งให้แห้ง จากนั้นเทน้ำมันพืชใส่กะทะ รอจนน้ำมันร้อน ใส่กะหล่ำปลีลงทอดให้เหลือง และดูว่าผักนุ่มลง (เวลาทอดให้ใช้ไฟปานกลาง คอยกลับข้างกะหล่ำด้วย น้ำมันที่ใช้ต้องมากพอท่วมผัก ไม่เช่นนั้นผักจะไหม้) จากนั้นตักขึ้นพักสะเด็ดน้ำมัน (ต้องสะเด็ดน้ำมันนานๆ ไม่อย่างนั้นเวลาต้มออกมา จะมันมาก) ถึงตอนนี้กลิ่นกะหล่ำทอดก็หอมไปทั่วบ้านแล้วล่ะ (http://www.thaifooddb.com/Recipe_Special/images/kalam2.gif) 2. เรียงกะหล่ำใส่หม้อ โรยด้วยพริกไทยเม็ด บุบพอแตก ใส่น้ำเปล่าพอท่วมผัก ใส่ฟองเต้าหู้ทอด นำขึ้นตั้งไฟ ส่วนเห็ดหอมแห้ง ให้นำไปแช่น้ำจนนุ่ม (ถ้าดอกแข็งมากให้ใช้น้ำอุ่น) จากนั้นนำมาหั่น เป็นชิ้นพอคำ (อย่าลืมตัดแกนออก เพราะส่วนมากจะแข็ง เดี๋ยวจะทานไม่อร่อย) นำกะทะตั้งไฟ ใส่น้ำมันพืชเล็กน้อย ใส่เห็ดหอมที่เตรียมไว้ลงผัด ใช้ไฟอ่อน ผัดจนเห็ดหอม มีกลิ่นหอม ปรุงรสด้วยซิอิ๊วขาวเล็กน้อย ตักขึ้นพักสะเด็ดน้ำมัน (http://www.thaifooddb.com/Recipe_Special/images/kalam3.gif) 3. ปรุงรสด้วย ซิอิ๊วขาว และซอสปรุงรส ตั้งไฟจน เดือนเข้ากันดี ชิมรสและปรุงรสเพิ่มตามความชอบ (ถ้าจะประหยัด ชิมแล้วรู้สึกว่าไม่เค็ม ปรุงรสเพิ่มด้วย เกลือ แต่ถ้าจะให้อร่อยเลิศแบบทุ่มทุนสร้างแนะนำว่าให้ปรุงรสด้วย ซิอิ๊วขาว ไม่ใช้เกลือค่ะ แบบว่าอร่อยมากๆ ขอบอก ) (http://www.thaifooddb.com/Recipe_Special/images/kalam4.gif) ThaifoodDB. หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: paul711 ที่ ตุลาคม 02, 2011, 11:00:00 PM :D ขอบคุณมากครับคุณหนูใจ สําหรับสูตรอาหารเด็ด
ถ้าผมมีเวลาก็อยากเป็นพ่อครัวบ้าง คงสนุกสนานดีเหมือนกัน ได้ทานอาหารอร่อยๆด้วย หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 03, 2011, 08:00:06 PM :D ขอบคุณมากครับคุณหนูใจ สําหรับสูตรอาหารเด็ด ถ้าผมมีเวลาก็อยากเป็นพ่อครัวบ้าง คงสนุกสนานดีเหมือนกัน ได้ทานอาหารอร่อยๆด้วย สวัสดีค่ะคุณพี่พอล ว่างๆก็ลองทำดูน้ะค่ะ หาเมนู ง่ายๆๆ เครื่องปรุงน้อยๆ ถ้าเครื่องปรุงเยอะมันจะยุ่งยากส์ทำให้เราไม่อยากทำค่ะ ก็เพลินดีค่ะ ยังงี้ต้องหาคนชิมให้ได้ก่อนน้ะค่ะ ;Dขอแซวหน่อยน้ะค่ะ angel.gif :D หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 24, 2011, 10:01:52 PM :D
สวัสดีค่ะ หัยหน้าหัยตาไปนานนนนนนนนนนนนนนนต้องขออภัยด้วยค่ะ ขนของหนีน้ำอยู่ค่ะ :'( ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆท่านน้ะค่ะ ;D หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 24, 2011, 10:17:48 PM การถนอมอาหารโดยตากแห้ง
เป็นวิธีที่ง่ายและประหยัดมากที่สุด ใช้ได้กับอาหารประเภทเนื้อสัตว์ ผักและผลไม้ โดยนำน้ำหรือความชื้นออกจากอาหารให้มากที่สุดเพื่อให้เอนไซม์ในอาหารไม่สามารถทำงานและบัตเตรีไม่สามารถที่เจริญเติบโตได้ในของแห้ง สำหรับวิธีการตากแห้งอาจใช้ความร้อนหรือความร้อนจากแหล่งอื่น เช่น ตู้อบ เป็นต้นถ้าใช้แสงแดดควรมีฝาชีหรือตู้ที่เป็นมุ้งลวดป้องกันแมลงและฝุ่นละออง อาหารที่ผ่านวิธีการตากเเห้งแล้ว เช่น เนื้อเค็ม ปลาเค็ม กล้วยตาก เป็นต้น วิธีการถนอมอาหารโดยตากแห้ง การดอง เป็นการถนอมอาหารโดยใช้สารปรุงแต่งให้มีรสเปรี้ยว เค็ม หวาน หรือมีรสผสมทั้งเปรี้ยว เค็ม หวาน อุปกรณ์ที่ใช้ดองควรเป็นพวกเครื่องแก้ว ไม่ควรใช้ภาชนะที่เป็นโลหะ เช่น หม้อ อะลูมีเนียม เป็นต้น เพราะในขณะดองอาจมีกรดเกิดขึ้นซึ่งกรดพวกนี้จะทำปฏิกิริยากับโลหะทำให้เกิดสารพิษในอาหรสำหรับปรุงรสที่ใช้ ได้แก่ เกลือ น้ำตาล น้ำส้มบริสุทธิ์ ส่วนอาหารที่ใช้วิธีดอง เช่น มะม่วงดอง ผักกาดดอง หน่อไม้ดอง เป็นต้น การถนอมอาหารโดยใช้น้ำตาล การถนอมอาหารโดยใช้น้ำตาลนิยมใช้กับพวกผลไม้ โดยทั่วไปแล้วผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว จะนิยมใส่น้ำตาลมาก การใช้น้ำตาลเพื่อการถนอมอาหารมีหลายวิธี ดังนี้ 1. การเชื่อม ใช้ความเข้มข้นของน้ำตาลแตกต่างกันตามอัตราส่วน ดังนี้ 1.น้ำเชื่อมใส ใช้น้ำตาล 1 ถ้วย น้ำ 3 ถ้วย 2.น้ำเชื่อมปานกลาง ใช่น้ำตาล 1 ถ้วย น้ำ 2 ถ้วย 3.น้ำเชื่อมเข้มข้น ใช้น้ำตาล 1 ถ้วย น้ำ 1ถ้วยการเชื่อมนิยมใช้กับผลไม้บรรรจุกระป๋อง หรือขวด ที่เรียกว่า ลอยแก้ว เช่น เงาะกระป๋อง ลิ้นจี่กระป๋อง เป็นต้น 2. การทำแยม เป็นการใส่น้ำตาลในเนื้อผลไม้ที่มีน้ำปนอยู่ส่วนมาก แล้วกวนให้เข้ากัน เช่น แยมส้ม แยมสับปะรด เป็นต้น 3.การแช่อิ่ม เป็นการใส่น้ำตาลในปริมาณมาก โดยการแช่ในน้ำเชื่อม และเพิ่มความเข้มข้น ของน้ำเขื่อมจนถึงจุดอิ่มตัว แล้วนำมาทำแห้ง สมัยก่อนนิยมใช้วิธีการถนอมอาหารนี้กับผลไม้ ปัจจุบันนำผักหลายชนิดมาแช่อิ่ม แล้วจัดจำหน่ายจนเป็นที่นิยมในท้องตลาดเช่น ลูกตำลึง ก้านบอระเพ็ด ลูกมะกรูด เป็นต้น การถนอมอาหารโดยการแช่แข็ง การแช่เเข็งเป็นการถนอมอาหาร โดยการใช้อุณหภูมิต่ำ โดยการควบคุมจุลินทรีย์ และบัตเตรีไม่ให้สามารเจริญเติบโตได้ นิยมใช้กับอาหารสด อาหารที่ปรุงเสร็จแล้ว และบรรจุภัณฑ์พร้อมจำหน่าย ซึ่งผู้บริโภคซื้อแล้วสามารถนำไปอุ่นก่อนรับประทาน ในปัจจุบันนิยมแพร่หลายถึงแม้ว่าจะมีราคาสูง เพราะช่วยประหยัดเวลาเเละเเรงงาน ในการประกอบอาหาร นอกจากนี้ อาหารแช่เเข็งจะสดและมีรสชาติดีกว่าอาหารกระป๋อง การถนอมอาหารโดยใช้สารปรุงแต่งอาหาร การใช้สารปรุงแต่งอาหารเป็นการถนอมอาหาร เพื่อหยุดยั้งการเปลี่ยนแปลงการทำงาน ของเอนไซม์หรือปฏิกิริยาทางเคมี ทำให้เก็บรักษาอาหารได้นานขึ้งหรือตกแต่งอาหาร สารปรุงแต่งที่นิยมใส่ในอาหาร มีดังนี้ ๑) สารกันบูด ถ้าใช้เพียงเล็กน้อยจะไม่เป็นอันตราย แต่ถ้าใช้มากแม้แต่เกลือ ก็เป็นพิษต่อร่างกายไม่ควรใช้มากหรือบ่อยจนเกินไป ส่วนปริมาณที่ใช้อย่างปลอดภัย ควรใช้สารกันบูด ๑ กรัมต่อน้ำหนักอาหาร ๑ กิโลกรัม ๒) สีผสมอาหาร ควรใช้สีจากธรรมชาติ หรือสารเคมีที่ได้รับอนุญาตให้ใส่ในอาหาร ขององค์การเภสัชกรรม ๓) สารเคมี ช่วยในการควบคุมความเป็นกรด ด่าง เกลือในอาหารควบคุมคุณสมบัติทางกายภาพของอาหาร ทำให้อาหารสด เช่น ทำให้ผลไม้สุกช้าหรือทำให้สุกเร็ว เช่น พวกแก๊สบ่มผลไม้ เป็นต้น ก่อนใช้ควรศึกษาและดูคำแนะนำในซอง หรือฉลากที่ปิดไว้ข้างภาชนะบรรจุ การรมควัน การรมควันเป็นการถนอมอาหารที่ต่างไปจากการ ตากแห้งธรรมดา นอกจากจะทำให้อาหารแห้งแล้ว ยังช่วยรักษาให้อาหารเก็บได้นาน มีกลิ่นหอมและรสชาติแปลกซึ่งเป็นที่นิยมกันมาก การรมควันที่สามารถทำได้ในครอบครัวจะเป็นแบบธรรมชาติิโดยการสุมไฟด้วยไม้กาบมะพร้าว ขี้เลื่อย ซางข้าวโพด ให้แขวนอาหารไว้เหนือกองไฟใช้ไฟอ่อนๆเพื่อให้รมควันอาหาร ไปพร้อมกับไอร้อนจะช่วยทำให้อาหารแห้งเร็ว เช่น รมควันปลา เป็นต้น หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 24, 2011, 10:20:16 PM หมูแผ่น
เนื้อหมูติดมันเล็กน้อย 1 กก. น้ำตาลทราย 150 กรัม พริกไทยป่น 1 กรัม ซีอิ้วขาวหรือน้ำปลาอย่างดี 130 กรัม ผงพะโล้ 1 กรัม วิธีทำ: 1.เนื้อหมูหั่นบาง ๆ ชิ้นขนาด 4 นิ้วฟุต (แช่เนื้อหมูในช่องแช่แข็ง พอแข็งตัวจะหั่นได้ง่ายขึ้น) 2.คลุกหมูด้วยพริกไทย ผงพะโล้ น้ำตาลทรายและน้ำปลาหรือซีอิ้ว หมักไว้ 30 นาที 3.นำหมูไปตากบนตะแกรง หรืออบในตู้อบอุณหภูมิ 50-60 องศาเซลเซียส จนแห้งพอควร หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 24, 2011, 10:22:07 PM แฮมสุก (cooked ham) ส่วนผสม: เนื้อสะโพกหมู 3 กก. น้ำเกลือร้อยละ 8 ประกอบด้วย -น้ำ 1 ลิตร -เกลือไนไตรท์ 80 กรัม (99.4 % NaCl +0.6 % NaNO2) -น้ำตาลทราย 4 กรัม -ผงรีกัลเบส 4 กรัม ***ทั้งนี้ให้เตรียมประมาณ 3 ลิตร*** วิธีทำ: 1.เลาะเอาไขมันและพังผืดออกจากเนื้อหมูให้หมด ไม่เช่นนั้น น้ำเกลือจะซึมเข้าไปในเนื้อได้ยาก 2. ฉีดน้ำเกลือเข้าเนื้อสะโพก โดยใช้เครื่องฉีด จนให้เนื้อสะโพกมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นร้อยละ 10-20 ของน้ำหนักเดิม ก่อนจะฉีดน้ำเกลือเข้าไป 3. นำเนื้อใส่ถุงพลาสติก เทน้ำเกลือที่เหลือใส่ลงไป แล้วมัดปากถุงให้สนิท 4. เก็บไว้ในตู้เย็น อุณหภูมิประมาณ 10 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 3-5 วัน 5. เมื่อครบเวลาก็นำเนื้อออกมาจากตู้เย็น ล้างคราบน้ำเกลือที่บริเวณผิว แล้วนำไปอัดในบล็อกแฮมแล้วต้มในน้ำเดือด 1 ชั่วโมง/เนื้อหมู 1 ก.ก. 6. ทิ้งไว้ให้เย็น 7. แกะใส่ถุง ปิดปากถุงให้สนิท เก็บไว้ในตู้เย็น 2 วัน 8. นำเนื้อมาสไลด์เป็นแผ่นบาง ๆ ตามต้องการ โดยใช้เครื่องหั่นเนื้อ (meat slicer) 9. บรรจุในถุงพลาสติกโดยใช้เครื่องบรรจุสุญญากาศ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 24, 2011, 10:23:03 PM หมักปลา
(เก็บไว้ได้ประมาณ 2 ปี) ส่วนผสม: (สำหรับปลา 1 ก.ก) - ปลา (เฉพาะเนื้อหรือทั้งตัว) จะใช้นาดต่าง ๆ กันก็ได้ (ขนาดเดียวกัน - ชนิดเดียวกัน - ไว้ในขวดเดียวกัน) 1 ก.ก / 1 ขวด - เกลือป่น 2 ถ้วย - เกลือหยาบ (เม็ดไม่ใหญ่มาก) 1 - 1 1/2 ก.ก - ใบ bay leaf 3-4 ใบ (ซื้อหาได้ตามร้านขายเครื่องเทศ หาไม่ยากค่ะ) - พริกไืทยดำ (เม็ด) 1 ช้อนชา วิธีทำ: - ล้างปลาให้สะอาด ควักไส้ออกให้หมด - นำเกลือป่น มาโรยให้ทั่วตัวปลา และใส่เกลือเข้าไปข้างในท้องปลาด้วย นวดให้ทั่ว - นำปลาที่นวดเกลือแล้ว มาจัดเรียงไว้บนถาด ที่มีเกลือหยาบโรยอยู่ก่อนแล้ว (ให้เรียง โดยวางเป็นแถว ทีละตัว) - เรียงปลาทับกันเป็นชั้น ๆ แต่ละชั้นให้โรยเกลือป่นด้วยก่อนเสมอ - ปิดหุ้มถาดด้วยพลาสติก หรือถ้าใช้กล่ิองใส่อาหารก็ให้ปิดฝากล่อง - นำไปเก็บไว้ในตู้เย็น ประมาณ 2-3 ชั่วโมง - นำปลาออกมาจากตู้เย็น โดยวางเรียง ๆ ซับไว้บนกระดาษทิชชู (paper towel) ให้แห้ง (กระดาษทิชชู แผ่นใหญ่ หยาบ มีขายตาม Supermaket) - โรยเกลือลงไปในภาชนะที่จะใช้บรรจุพอประมาณ หลังจากนั้นให้นำปลาลงไปเรียงใส่ในภาชนะ ตามด้วย เกลือหยาบพอประมาณ และ ใบ bay leaf ระหว่างนี้ก็ให้โรยพริกไทยดำลงไปด้วย พอประมาณ เช่นกัน - ทำสลับกันแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเต็มขวด (อย่าลืมว่าชั้นบนและชั้นล่างสุด ต้องเป็นเกลือหยาบโรยเคลือบไว้อยู่เสมอ) - เก็บไว้ในที่มืด และ เย็นมาก ๆ (ุ6-8 องศา) ได้ประมาณ 2 ปี ****ก่อนนำมารับประทานให้นำมาแช่ในน้ำก่อน ประมาณ 1-2 ชั่วโมง หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 24, 2011, 10:24:37 PM การทำกิมจิ
ส่วนผสม: ---ผักกาดขาว หรือ กระหล่ำปลี 1 หัว ---แครอท 1-2 หัว ---เกลือป่น (ไม่มีไอโอไดน์) 1 ช้อนโต๊ะ และ 1 1/2 ช้อนชา ---พริกแห้งป่น (อย่างหยาบ) 1-2 ช้อนชา ---ต้นหอม (หั่นยาว 1" ) 3-4 ต้น ---กระืเทียม(กลีบใหญ่) ซอยละเอียด 8 กลีบ ---น้ำตาล 1-2 ช้อนชา ---ขิงซอย 1 ช้อนชา วิธีทำ: 1. หั่นผักขนาดตามต้องการ หรือขนาด 1-2" 2. ใส่ผักที่หั่นเตรียมไว้ลงหม้อ หรืออ่าง และนวดผักด้วยเกลือ 1 ช้อนโต๊ะ (แบบขยำๆ) 3. ปล่อยทิ้งไว้ ประมาณ 3 ชั่วโมง มั่นคนกลับไปมา 4. เสร็จแล้วรินน้ำ แล้วล้างออก ซัก 2 น้ำ 5. เมื่อล้างเสร็จแล้วให้ใส่เกลือลงไป 1 1/2 ช้อนชาที่เหลือ และส่วนผสมอื่น ๆ ที่เตรียมไว้ คนให้เข้ากันจนทั่ว 6. หลังจากนั้น นำไปใส่ใน ไห ตุ่ม หรือขวด ที่มีฝาปิด เทน้ำลงไปให้ท่วมผัก ขึ้นมาประมาณ 1" 7. ปิดฝาหลวม ๆ และหาที่เก็บไว้ในห้องอุณหภูมิปกติ ประมาณ 6-8 วัน 8. เมื่อผักเปรี้ยวและเค็มได้รสชาดตามที่ต้องการแล้ว ให้ปิดฝาให้สนิท และเก็บไว้ในที่เย็น หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 24, 2011, 10:25:11 PM ข้าวหลาม
ส่วนผสม ข้าวเหนียว 5 ถ้วย กะทิ 2 ถ้วย เกลือป่น 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย ถั่วดำ 1/2 ถ้วย ไม่ไผ่ชนิดไม่อ่อนไม่แก่เกินไปตัดเอาข้อไว้ด้านหนึ่ง อีกด้านไม่มีข้อ ใบตองแห้ง กาบมะพร้าวอ่อน ฉีกเป็นชิ้นเล็ก แล้วเอาใบตองแห้งห่อให้เป็นก้อนเล็ก ให้พอดีกับรูกระบอกไม้ไผ่สำหรับอุดกระบอกเวลาเผา วิธีทำ 1.แช่ข้าวเหนียวไว้ 1 คืนแล้วสงน้ำมาเคล้ากับถั่วดำ 2.ผสมกะทิ เกลือ และน้ำตาลคนให้เข้ากันจนน้ำตาลละลายหมด 3.กรอกข้าวเหนียวผสมถั่วดำลงในกระบอกไม้ไผ่ประมาณ 3/4 ของกระบอก ตักน้ำกะทิใส่ลงไปเกือบเต็ม แล้วใช้จุกอุดปากกระบอกให้แน่น 4.ทำที่เผาข้าวหลามโดยให้ปักห่างกันประมาณ 1 เมตรตามยาว เว้นที่ตรงกลางเพื่อก่อไฟสุม วางกระบอกข้าวหลามในแนวตั้งเพื่อไม่ให้หก หมั่นหมุนกระบอกเพื่อให้ได้ความร้อนทั่วทุกด้านจนข้าวเหนียวสุกดี นำออกมาผึ่งไว้ให้เย็น นำมาปอกเปลือกออกรับประทาน หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 24, 2011, 10:26:52 PM ปลาร้า
ปลาร้า เป็นผลิตภัณฑ์พื้นบ้านที่เป็นเอกลักษณ์ของไทยมาแต่ช้านาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือนิยมบริโภคและจัดเป็นอาหารประจำวันก็ว่าได้ คนในภาคเหนือและภาคกลางก็นิยมบริโภคเช่นกัน แต่จะต่างกันบ้างในลักษณะการนำมาประกอบอาหารเท่านั้น การผลิตปลาร้าส่วนใหญ่ทำกันระดับชาวบ้าน การผลิตแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ ปลาร้าข้าวคั่วและปลาร้ารำ ปลาร้าข้าวคั่วมักจะทำในภาคกลาง ส่วนปลาร้ารำมักจะทำจากปลาทั้งตัวในภาคอีสาน สีจะคล้ำกว่าปลาร้าข้าวคั่ว วัตถุดิบ: ปลาช่อน ปลากระดี่ ส่วนผสม: เกลือ 20-25% (ของน้ำหนักปลา) ข้าวคั่วหรือรำ 10-12% (ของน้ำหนักปลา) วิธีทำ: 1. นำปลามาตัดหัว ขอดเกล็ด ควักไส้ ล้างให้สะอาด ทิ้งให้สะเด็ดน้ำ 2. นำปลามาผสมกับเกลือให้เข้ากันดี จากนั้นจึงเติมข้าวคั่วหรือรำผสมให้เข้ากัน แล้วนำมาอัดใส่ไห ขัดด้วยไม้ไผ่ให้แน่นทิ้งไว้ 8 เดือน ถึง 1 ปี ***วิธีรับประทาน*** ---ควรปรุงให้สุกก่อนรับประทานนะคะ... หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 24, 2011, 10:28:32 PM การทำ applesauce
ส่วนผสม 1. แอปเปิ้ล 5 กิโลกรัม (ล้าง แล้วคว้านตรงกลางทิ้ง และตัดเป็นชิ้น ๆ ) 2. น้ำ 5 ถ้วย หรือ น้ำแอปเปิ้ล (apple cider) วิธีทำ 1. เตรียมหม้อไว้ ปอกเปลือกแอปเปิ้ลหรือไม่ปลอกเปลือกก็ได้ ใส่ลงไปในหม้อตามด้วย น้ำหรือ น้ำแอปเปิ้ล ตามขนาดที่ระบุไว้ ต้มให้เดือด หลังจากเดือดแล้วให้หรี่ไฟ อ่อน ตั้งไฟอีกประมาณ 20 นาที หรือจนกระทั่ง แอปเปิ้ลนิ่ม 2. ปล่อยทิ้งไว้ให้เย็น หลังจากนั้นก็นำมาปั่นแบบ puree จนกระทั่ง smooth 3. เก็บไว้ในตู้เย็น (ระหว่างรอทำอาหารอบแห้ง) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 24, 2011, 10:30:10 PM มะม่วงแผ่น
ส่วนผสม 1. มะม่วงสุก 2 กิโลกรัม 2. น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ 3. น้ำผึ้ง 2-3 ช้อนโต๊ะ หรือ มากกว่านั้น ถ้าต้องการเพิ่มรสชาด วิธีทำ 1. ปอกเปลือกมะม่วง ปั่นให้ละเอียด ใส่น้ำมะนาวและน้ำผึ้งลงไป คนให้เข้ากัน ชิมรสเปรี้ยวหรือหวานตามชอบ 2. เตรียมถาด เคลือบด้วยน้ำมันพืช (เคลือบบาง ๆ ให้ทั่ว..) หลังจากนั้น เทลงในถาดที่จะอบแห้ง 3. อบแห้งประมาณ 8-10 ชั่วโมง 4. ม้วนหรือ พับเก็บด้วยกระดาษ waxed เก็บไว้ในภาชนะ ปิดฝาให้สนิท ****เก็บไว้ได้ ประมาณ 2 ปี ในภาชนะที่ปิดมิดชิด**** หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 25, 2011, 09:57:35 PM หมูกรอบ
ส่วนผสม 1. เนื้อหมูสามชั้น 1 กิโลกรัม 2. เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ 3. น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ 1. หมูสามชั้น ล้างให้สะอาด ขูดขนออก 2. ต้มในน้ำพอเดือด หรี่ไฟให้อ่อนต้มนาน ประมาณ 45 นาที ปิดฝา 3. นำขึ้นผึ่งไว้พอหมาด ๆ บั้งตรงที่มีเนื้อตามยาว กรีดมีดลึกพอสมควร ห่างกันประมาร 1 นิ้ว ตามยาวตลอดชิ้น 4. ส่วนหนังหมูใช้มีดบั้ง เป็นตารางสี่เหลี่ยม ขนมเปียกปูน หรือสี่เหลี่ยมตามถนัด อย่าให้ลึกลงไปถึงมันหมู 5. ใช้ส้มจิ้ม ๆ หนังให้ทั่วอีกที ใช้เกลือทาตามเนื้อหมูให้ทั่ว ส่วนหนังใช้น้ำส้มสายชู ทาให้ทั่ว 6. นำหมูไปตากแดดให้แห้ง แล้วนำมาทอด หรืออบให้หนังพองสักครู่แล้วนำไปทอด รับประทานกับน้ำจิ้ม หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 27, 2011, 04:19:45 PM กล้วยอบม้วน
เครื่องปรุง / ส่วนผสม ๑. กล้วยน้ำว้า ๒. เกลือไอโอดีน ขั้นตอน / วิธีทำ ๑. กล้วยน้ำว้าสุกงอม ๒. ปอกเปลือก ๓. ล้าง/แช่น้ำเกลือ ๔. เรียงบนถาด ๕. เข้าเตาอบลมร้อน ๗๐ องศา นาน ๔ ชั่วโมง ๖. ออกจากเตาทิ้งไว้ให้เย็น ๗. ม้วนกล้วยบรรจุกล่อง หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 27, 2011, 04:23:00 PM มะดันดอง
ส่วนผสม ๑. มะดัน ๒๐ - ๓๐ ผล ๒. เกลือป่น ๑/๒ ถ้วย ๓. น้ำเปล่า ๒ ๑/๒ ถ้วย วิธีทำ ๑. มะดันล้างน้ำให้สะอาด ๒. เอาใส่ตะแกรงไว้ให้สะเด็ดน้ำ ๓. ผสมเกลือ น้ำตาล กับน้ำเปล่า ๔. คนให้เข้ากัน ๕. จากนั้นเอามะดันใส่โหล ๖. เทน้ำมะดันดองลงไปให้ท่วมพอดี ๗. ถ้ามะดันลอยหาไม้ขัดให้จม ๘. ตั้งทิ้งไว้ ๒ - ๓ วัน ก็ใช้ได้ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 27, 2011, 04:24:26 PM หน่อไม้อัดปี๊บ/ถุง
ส่วนผสม หน่อไม้ลวก หน่อไม้เลี้ยง หรือหน่อไม้สีสุก วิธีทำ ๑. นำหน่อไม้มาเผาไฟทั้งเปลือกให้สุก ๒. ปลอกเปลือกล้างน้ำให้สะอาด ๓. ล้างปี๊บให้สะอาด ๔. นำหน่อไม้ใส่ลงไปให้แน่น ๕. นำไปต้มทั้งปี๊บ เติมน้ำ ๒ ครั้ง ๖. ปิดผ้าปี๊บแล้วเชื่อมที่ฝาให้แน่น(ถ้าอัดถุงให้นำหน่อให้ที่ล้างน้ำแล้วใส่ถุงพลาสติก ๒ ชั้น รัดยางให้แน่น แล้วนำไปต้มในน้ำเดือดประมาณ ๒๐ นาที) เทคนิคในการทำ (เคล็ดลับ) ๑. การทำหน่อไม้อัด ต้องปิดฝาปี๊บ หรือยัดยางให้แน่นอย่างให้มีอากาศเข้าไปได้ จะทำให้หน่อไม้เสียแต่หากพบรอยรั่วให้นำมาต้มใหม่ แล้วอัดตามขั้นตอนเดิมอีกครั้ง จะทำให้เก็บไว้ได้นานเหมือนเดิม ๒.ไม่ใช้หน่อไม้สีสุก เพราะจะทำให้เละ นำมาปรุงอาหารไม่อร่อย หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 27, 2011, 04:27:23 PM ปลาตะเพียนต้มเค็ม
ส่วนผสม ๑. ปลาตะเพียน ๑๐ ตัว น้ำหนัก ๕ ก.ก ๒. อ้อยสด ๕๐๐ กรัม ๓. กระเทียม ๑๐๐ กรัม ๔. รากผักชี ๑๐๐ กรัม ๕. มะขามเปียก ๒๐๐ กรัม ๖. ขิงแก่ ๓๐๐ กรัม ๗. น้ำตาลทราย ๑.๕ ก.ก ๘. เกลือป่น ๒๐๐ กรัม ขั้นตอน / วิธีทำ ๑. ปลาตะเพียนมาฝ่าท้อง ล้างน้ำให้สะอาด นำผึ่งบนตะแกรง ๒. นำเครื่องปรุงทั้งหมดใส่ลงในหม้อ อ้อยตัดเป็นท่อนวางเรียงที่ก้นหม้อ ๓. ใส่น้ำลงในหม้อพอประมาณ นำไปตั้งไฟให้เดือด ๔. นำปลาตะเพียนเรียงลงในหม้อ ปิดฝาหม้อ ต้มโดยใช้ไฟกลาง ๕. ต้มเคี่ยวไปเรื่อยๆ ใช้เวลาประมาณ ๘-๑๐ ชั่วโมง เนื้อปลาจะสุกแต่ไม่เละ ก้างปลานิ่ม เทคนิคในการทำ (เคล็ดลับ) ๑. ปลาตะเพียนต้องเป็นปลาสด ต้มแล้วจึงจะมีรสชาติอร่อย ๒. ปลาตะเพียนต้องไม่ขอดเกล็ด เพราะต้มแล้วเกล็ดจะฟูน่ารับประทาน ๓. ใส่อ้อยไว้ก้นหม้อ เวลาเคี่ยวไฟเนื้อปลาจะไม่ติดกับก้นหม้อ และน้ำหวานจากอ้อยจะค่อยๆออกมามีกลิ่นหอมชวนรับประทาน ๔. ขณะต้มเคี่ยวปลา ต้องใช้ไฟกลาง จะทำให้เกล็ดปลาฟูสวย หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 27, 2011, 04:29:16 PM แกงไตปลาแห้ง
ส่วนผสม ๑. พริกแกง ๒. ไตปลา ๓. ปลาแห้ง ๔. น้ำปลา น้ำตาล ขั้นตอน / วิธีทำ ๑. นำส่วนผสมทั้งหมดเข้าเครื่องบด ๒. ใช้กรรมวิธีผ่านความร้อนให้วัตถุดิบทั้งหมดสุก ๓. บรรจุขวดจำหน่าย เทคนิคในการทำ (เคล็ดลับ) เก็บได้นาน ๑ ปี โดยไม่ต้องแช่เย็น (ไม่ใช้สารกันเชื้อรา หรือสารกันบูด) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 27, 2011, 04:31:35 PM ไข่เค็ม
ส่วนผสม ๑.ไข่เป็ด ๒.เกลือเม็ด ๓.แกลบ ๔.ดินจอมปลวก วิธีทำ ๑.นำดินจอมปลวกไปแช่ให้ละลายประมาณ ๑ ชั่วโมง ๒.ใส่เกลือเม็ดคลุกเคล้ากับดินให้เข้ากัน ๓.คัดไข่เป็ดที่ไม่มีรอยร้าว คลุกกับดินที่ผสมเกลือแล้ว หมักไว้ในถัง เขียนวันที่ผลิตไว้ด้วยโดยกำหนดวันดังนี้ ไข่เค็มสำหรับทอดไข่ดาว หมักไว้ประมาณ ๗ วัน และไข่ต้มหมักไว้ประมาณ ๑๕ วัน ๔.เมื่อจะนำไปจำหน่ายให้นำไข่เค็มมาคลุกกับแกลบที่เผาแล้ว เพราะป้องกันไข่กระทบกันทำให้แตกได้ง่ายและเน่าได้ บรรจุใส่กล่องและนำไปจำหน่ายที่ตลาด ๕.ไข่เค็มสำหรับทอดไข่ดาว และไข่ต้ม สามารถนำไปประกอบอาหารได้หลายอย่าง เช่น เทคนิคในการทำ (เคล็ดลับ) ๑.ในทุกขั้นตอนการทำไข่เค็มห้ามไม่ให้ล้างไข่หรือถูกน้ำเปล่า หรือไข่มีรอยร้าวจะทำให้ไข่เน่า ไข่ใบอื่นติดเชื้อเน่าไปด้วยและมีกลิ่นเหม็น ๒.ส่วนผสมดิน ๓ ส่วน เกลือ ๑ ส่วน หากใส่เกลือน้อยเกินไปเมื่อหมักเสร็จแล้วอาจทำให้ไข่เน่าได้ เพราะเกลือเป็นส่วนที่ทำหน้าที่ถนอมอาหาร ๓.ควรเลือกซื้อไข่เป็ดจากฟาร์มที่เลี้ยงเป็ดในท้องถิ่น เพราะจะได้ไข่ที่มีคุณภาพ ไข่แดงมีสีเข้มและรสชาติอร่อยน่ารับประทาน หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 27, 2011, 04:32:52 PM ไข่เค็มดินสอพอง
ส่วนผสม ๑. ไข่เป็ด ๑๐๐ ฟอง ๒. เกลือไอโอดีน ๑ ถ้วยตวง ๓. ดินสอพอง ๓ ถ้วยตวง ๔. แกลบดำ ๑ กะละมัง ขั้นตอน / วิธีทำ การทำไข่เค็มดินสอพอง"กรรมวิธีการทำเริ่มจากคัดไข่เป็ดดิบที่มีขนาดเท่ากัน ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไปล้างน้ำให้สะอาดและแช่ในน้ำเกลือไอโอดีนทิ้งไว้ 1-2 นาที ให้สารไอโอดีนจากเกลือเกาะติดเปลือกไข่จากนั้นนำเกลือไอโอดีนมาผสมกับดินสอพอง ใส่น้ำพอเหลว แล้วนำมาหุ้มปิดเปลือกไข่ทั้งใบไม่ให้หนาหรือบางเกินไป ขั้นต่อไปนำไข่ไปกลิ้งในแกลบดำหรือแกลบที่ผ่านการเผาแล้ว นำไปหมักในโอ่งดินเผาหรือบรรจุกล่องเพื่อรอส่งขายทีเดียวเลยก็ได้ สำหรับระยะเวลาหมัก เมื่อผ่านไป 10 วัน จะนำมาทอดเป็นไข่ดาวเค็มกินได้ แต่ถ้าหมัก 15 วันจะเป็นไข่เค็ม โดยต้องนำไปต้มจะเก็บไว้ได้กว่า 6 เดือน การใช้ดินสอพองหุ้มนั้น ดินสอพองจะกรองความเค็มของเกลือไม่ให้ซึมเข้าเนื้อไข่มากนักทำให้ไข่เค็มมีรสกลมกล่อม ไม่เค็มจัด!! หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤศจิกายน 09, 2011, 08:22:49 PM วิธีหุงข้าวสวยให้เก็บไว้ได้หลายวันโดยไม่บูด เพื่อแจกจ่ายสำหรับผู้ประสบปัญหาภัยน้ำท่วม สามารถนำไปใช้ได้
ตอนนี้พื้นที่น้ำท่วมเยอะมากบางที่ท่วมจนไม่สามารถจะทำอาหารได้ หรือไม่มีอุปกรณ์เพราะน้ำพาไปหมด ของที่บริจาคช่วยน้ำท่วมที่เราเห็นเยอะคือ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหรือข้าวสาร ซึ่งต้องทำให้สุกก่อนทาน หรือจะเป็นอาหารสำเร็จรูปบรรจุกระป๋องอย่าง ปลากระป๋องซึ่งทานอย่างเดียวก็ไม่อิ่มท้อง ข้าวสวยบรรจุกระป๋อง ก็มีราคาแพงและน้อยที่บ้านเรา เวลาหุงข้าวสวย จะใส่น้ำส้มสายชูลงไปด้วย ข้าวสาร 3 กระป๋อง ใช้น้ำส้มสายชูประมาณ 1 ช้อนชา ซึ่งจริงๆก็กะเอาค่ะไม่ได้ตวงข้าวสวยที่หุงโดยการเติมน้ำส้มสายชูลงไป สามารถอยู่ได้โดยไม่บูดหลายวัน เราเคยหุงแล้วตักมาทาน แล้วปิดฝาทิ้งไว้ ลืมไป 4 วัน มาเปิดหม้อดูอีกที ก็ไม่บูดค่ะ ไม่แฉะด้วยเรา ทดลองหุงแล้วตักมาทาน แล้วปล่อยทิ้งไว้คาหม้อ 4-5 วัน มาไม่ต่ำกว่า 5 ครั้งแล้วค่ะ เพื่อพิสูจน์ว่ามันจะไม่บูดจริงๆ โดยเปิดฝาดูทุกวัน ข้าวที่หุงทิ้งไว้ 4-5วัน เราก็เอามาทานจริงๆ ไม่มีกลิ่นบูด ไม่แฉะ เรา เลยคิดว่า อยากให้หุงข้าวด้วยการเติมน้ำส้มสายชูดังกล่าวแล้วบรรจุถุงแกง อาจจะรัดด้วยหนังยางหรือซีลด้วยเครื่องซีลถุงเอาไปบริจาคให้ผู้ที่อยู่ใน พื้นที่น้ำท่วมซึ่งไม่สามารถประกอบอาหารได้ทานข้าวสวยกับปลากระป๋อง อร่อยและอิ่มท้องกว่าทานปลากระป๋องอย่างเดียวค่ะ ส่วน ตัวเราเอง ตอนนี้ทยอยหุงข้าวแล้ว pack ใส่ถุงพลาสติกเก็บไว้เป็นเสบียงแล้วค่ะเพราะอยู่ในพื้นที่เสี่ยงน้ำจะเข้า ท่วมในอีก2-3วัน เก็บของเตรียมพร้อมเรียบร้อยเอกสารสำคัญ ยา อาหาร ของจำเป็นในการดำรงชีวิต พร้อมลุย ไม่ต้องรอถุงยังชีพ ขอบคุณ mcot หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤศจิกายน 09, 2011, 08:38:32 PM ข้าวต้มกุ้ง
(http://widget.sanook.com/static_content/full/diy_1/2372/191372/b84d21fd78a5a564c7eefd1495bdc6e0_1222485680.gif) สูตรการทำข้าวต้มกุ้ง * กุ้ง 350 กรัม (ล้างและ แกะเปลือก) * น้ำ 2 ถ้วยตวง * ข้าวสุก 1 ถ้วยตวง * หัวไชโป๊ 0.5 ช้อนชา * น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ * ซิอิ๊ว 1 ช้อนโต๊ะ * กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ * เห็ดหอมหั่นเป็นชิ้น * คึ้นฉ่าย 1 ถ้วยตวง (หั่นเป็นชิ้นเล็ก ทั้งลำต้นและใบ) * พริกไทย 0.5 ช้อนชา * กระเทียมเจียว (จะมีหรือไม่มีก็ได้) วิธีทำทีละขั้นตอน 1.ใส่น้ำมันลงในหม้อ นำไปตั้งไฟ ใส่กระเทียมลงไปเจียวพอให้เหลือง 2. เติมน้ำลงไปในหม้อ และรอจนน้ำเดือด จากนั้นเติมคึ้นฉ่าย, ซิอิ๊ว, น้ำปลา และพริกไทย คนให้เข้ากัน รอจนน้ำเดือดอีกครั้ง 3. เมื่อน้ำเดือดแล้ว ให้ใส่ข้าวสุก, หัวไชโป๊วและ เห็ดหอม คนให้เข้ากัน รอจนน้ำเริ่มเดือดจึงใส่กุ้งลงไปในหม้อ ต้มจนกุ้งสุกจึงปิดไฟ 4.ตักใส่ถ้วย โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียว, พริกไทย และแต่งหน้าด้วยผักชี เสริฟทันทีขณะยังร้อน หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤศจิกายน 09, 2011, 08:58:57 PM :)สวัสดีค่ะ
8) ขอแนะนำ ตึกเปิดใหม่ ที่แยกอโศก bts---> walk อาหารหลากหลาย ไม่แพงอย่างที่คิด อร่อย จิง จิง รวมร้านดังมากมาย หลากหลายเมนู ว่างๆๆผ่านมาลองแวะชิมดู :o อีกอย่างอย่าลืมพกกล้องมาถ่ายรูปด้วยน่ะจ้ะ อิ อิ :D have a good day kha Smiley/Angry.gif (3017 ไบต์) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤศจิกายน 23, 2011, 06:08:45 PM สลัดอู้ด อู้ด ยอ
(http://www.postemart.com/shop/backoffice/picture/product/SH0008-FR001-2.jpg) เครื่องปรุง 1. หมูยอ 1 ท่อน (ประมาณ 12-15 ซม.) 2. มะม่วงซอย (เอาออกเปรี้ยวหน่อยนะ) 3.หอมแดงซอย 4. กุ้งแห้ง 5. หมูหยอง 6.. แครอทซอย 7. น้ำปลา 2 ช้อนตวง 8. น้ำมะนาว 2 ช้อนตวง 9. น้ำตาลเชื่อม 2 ช้อ วิธีทำ 1. นำหมูยอที่ได้เตรียมเอาไว้ ผ่าเป็นสองซีก ทอดให้เหลือง (อันนี้พ่อครัวบอกว่าชอบนิ่มๆ ก็ให้ทอดแป๊บเดียวพอ หากชอบออกกรอบๆ หน่อย ก็ให้ทอดด้วยไฟแรง 5-7 นาที จากนั้นนำไปใส่จานรอไว้ 2.เอาเครื่องปรุงที่ได้เตรียมไว้คลุกเคล้าให้เข้ากันทั่ว (ลองหยิบมาชิมกันก่อนนิดนึง ชอบหวานเปรี้ยวอย่างไร ก็ปรุงเพิ่มกันตามสะดวก) 3.นำเอาเครื่องปรุงราดหมูยอที่เตรียมไว้ในจาน จากนั้นนำเอาหมูหยอง และแครอทโรยหน้า เป็นอันเสร็จพิธี หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤศจิกายน 23, 2011, 06:10:00 PM ข้าวกล้องหุงอย่างไรให้นุ่ม
(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/0/09/Brownrice.jpg/800px-Brownrice.jpg) ข้าวกล้องเป็นข้าวที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากที่สุด เนื่องจากเป็นข้าวที่ผ่านการกระเทาะเปลือกออกเพียงครั้งเดียว ทำให้จมูกข้าวและรำข้าวซึ่งเป็นส่วนที่อุดมไปด้วยวิตามินยังติดอยู่ ข้าวกล้องนั้นจะมีสีน้ำตาลส่วนความเข้มอ่อนนั้นจะแตกต่างกันไปตามพันธุ์ข้าว พื้นที่ที่ใช้ในการปลูก และกระบวนการผลิตสาเหตุที่ข้าวกล้องยังได้รับควาามนิยมไม่มากเท่าที่ควรนั้นเนื่องมาจาก เวลาที่ข้าวกล้องสุกแล้วจะมีความแข็งมากกว่าข้าวขาว เพื่อให้ข้าวกล้องมีความนิ่มมากขึ้นจะต้องตวงข้าวกล้องใส่หม้อ แช่น้ำไว้ประมาณ 30 นาที และอัตราส่วนในการหุงนั้นต้องใช้ข้าว 1 ส่วน ต่อน้ำ 3 ส่วน แช่น้ำทิ้งไว้อีกประมาณ 30 นาทีจึงจะนำไปหุงได้ หรืออาจใช้วิธีใส่ข้าวขาวขัดผสมลงไปในอัตราส่วน 1 ต่อ 4 ทั้ง 2 วิธีนี้จะทำให้ข้าวกล้องนุ่มน่ากินมากขึ้น หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤศจิกายน 23, 2011, 06:11:29 PM ทอดอาหารไม่ให้อมน้ำมัน
(http://1.bp.blogspot.com/_LKCadnJ67WU/TH6813EB-5I/AAAAAAAADn4/ocgXm7V5adc/s400/fishsamunprai.jpg) คนไทยนิยมกินอาหารทอดอย่างแพร่หลายเนื่องจากรสชาติที่กรอบอร่อยและมีสีสันสวยงาม สิ่งสำคัญในการทอด คือ น้ำมัน นอกจากจะทำให้ อาหารสุกแล้วยังเป็นตัวดูดซับวิตามิน A D E K อันจำเป็นต่อร่างกาย แต่น้ำมันนั้นเป็นอันตรายต่อผู้สูงอายุ และคนอ้วน ดังนั้นการกินอาหารทอดมากๆจะก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้ วิธีที่ทำให้อาหารทอดไม่อมน้ำมัน คือ การทอดให้ใช้ไฟปานกลางค่อนข้างร้อน เมื่อของที่ทอดสุก ใกล้จะนำขึ้นจากกระทะ ให้เร่งไฟแรงขึ้นให้น้ำมันเดือดสักครู่หนึ่ง จึงตักอาหารขึ้นจากกระทะ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤศจิกายน 23, 2011, 06:13:36 PM เคล็ดลับวิธีเผามะเขือยาว
(http://www.tnau.ac.in/ppi/ppi1brinjal.jpg) มะเขือยาวเวลาจะเอาไปทำอาหารบางประเภท ต้องเอาไปเผาก่อน แต่ถ้าเผาไม่เป็นก็จะได้ มะเขือเผาเนื้อแข็ง ทานไม่อร่อย ที่เป็นอย่างนั้นเพราะเรากลัวมะเขือจะไหม้ เลยใช้ไฟอ่อน กลับกลายเป็นว่าต้องใช้าเวลาเผานาน เนื้อมะเขือที่ปอกแล้วเลยมีสีน้ำตาล แข็ง ไม่น่าทาน วิธีเผามะเขือยาวที่ถูกต้องให้ใช้ไฟแรงค่ะ กลับไปมาจนสุกทั่ว จากนั้นเอาไปจุ่มน้ำเย็นสักครู่หนึ่ง เมื่อลอกเปลือกออก เนื้อมะเขือข้างในจะยังนุ่มและมีสีเขียวสวย น่าทานค่ะ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤศจิกายน 23, 2011, 06:22:02 PM ลาบปลานิล
(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/b/bd/Oreochromis_niloticus.jpg) เครื่องปรุง ปลานิล 300 กรัม ข้าวคั่ว 1/2 ถ้วย พริกลาบ 3 ช้อนโต๊ะ กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ ตะไคร้ 2 ต้น ขมิ้น 1 หัว ผักชี 1 ช้อนโต๊ะ ต้นหอม 1 ช้อนโต๊ะ ผักไผ่ 2 ช้อนโต๊ะ กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ ล้างปลานิลให้สะอาด ใส่หม้อต้มทั้งตัว ใส่กะปิ ตะไคร้ทุบ ขมิ้นทุบ พอปลาสุก ตักขึ้นพักไว้ แกะปลาเอาแต่เนื้อ นำมาสับให้ละเอียด ผสมน้ำต้มปลา พริกลาบ และเนื้อปลาสับ คลุกเคล้าให้เข้ากัน ใส่ข้าวคั่ว คนให้เข้ากัน ใส่ผักไผ่ ตามด้วยผักชีต้นหอม แล้วคลุกเคล้าให้ทั่ว เจียวกระเทียมกับน้ำมันพืช พอเหลืองใส่ลาบปลาลงผัดให้หอม เติมน้ำเล็กน้อย ผัดให้เข้ากัน หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤศจิกายน 23, 2011, 07:01:31 PM สูตรทำขาหมูเยอรมันสูตร 1
(http://4.bp.blogspot.com/_bl3rSksCJoc/SrztrkhXS3I/AAAAAAAABNU/ZjWbuLQ4WBw/s320/Kamoo.jpg) ส่วนผสม ขาหมูเยอรมัน ½ ก.ก. 1 ชิ้น พริกหยวกหั่นหยาบๆ ½ ลูก หอมใหญ่ฝานบางๆ ½ ลูก ผักดองกะหล่ำเปรี้ยว 2 ช้อนโต๊ะ มันฝรั่ง 2 ลูก สับปะรด 1 ชิ้น เนย 2 ช้อนโต๊ะ เบคอนหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ 3 ช้อนโต๊ะ ผงอโรมาท 1 ช้อนชา พริกไทยป่น เกลือ เริ่มจากนำขาหมูเยอรมัน(ต้มแล้ว)มาทอดกับไฟปานกลางให้สุกเหลืองทั่วทั้งชิ้นจนกรอบได้ที่ จากนั้นนำมันฝรั่ง 1 ลูกมาฝานเป็นชิ้นพอดีคำ แล้วเสียบไม้ย่างไฟอ่อนๆ นำเนย หอมใหญ่หั่น เบคอนหั่น ลงผัดและโรยด้วยเกลือ พริกไทย และผงอโรมาท แล้วนำมาราดบนชิ้นมันที่ย่างแล้ว นำสับปะรด พริกหยวกมาย่างไฟให้สุกเกรียมเล็กน้อย จากนั้นนำมันฝรั่งอีกลูกที่เหลือมาทำมันบด โดยต้มกับเกลือและผงปรุงรสจนสุก ปอกเปลือกและนำมาบด นำขาหมูจัดวางบนจาน พร้อมสับปะรด มันฝรั่งย่าง มันบด ผักดองกะหล่ำเปรี้ยว พริกหยวก จัดตกแต่งให้สวยงามน่าทาน เสิร์ฟพร้อม Pineapple Sauce หรือ Mustard สูตรทำขาหมูเยอรมันสูตร 2 (http://www.bloggang.com/data/b/babali-bigsize/picture/1290709553.jpg) เครื่องปรุง ขาหมู 1 ขา (800 กรัม) ใบกระวาน 10 ใบ โรสแมรี่ 1/4 ถ้วย แครอทหั่น 2 หัว คื่นฉ่ายหั่น 2 ต้น หอมหัวใหญ่หั่น 4 หัวเล็ก เกลือป่น 1/2 ถ้วย พริกไทยเม็ด 1/4 ถ้วย (บุบ) น้ำเปล่า ปริมาณท่วมขาหมู วิธีทำ 1. นำขาหมูมาล้างให้สะอาดแล้วซับให้แห้ง พักไว้ก่อน 2. นำเครื่องปรุงทุกอย่างผสมรวมกันในหม้อต้ม ใส่ขาหมูลงไป แล้วใส่น้ำเปล่าพอท่วมขาหมู 3. ยกหม้อขึ้นตั้งไฟอ่อนๆ เคี่ยวไปนานประมาณ 4 ชั่วโมง หลังจากนั้นทิ้งไว้ให้เย็นสนิท 4. พอขาหมูเย็นลงแล้ว ก็ให้ตักขึ้นมาผึ่งลมให้พอแห้งซักหน่อย (ไม่ยังงั้นเดี๋ยวน้ำมันกระเด็นเวลาทอดค่ะ) 5. ตั้งกระทะใส่น้ำมันกะๆ ดูให้พอท่วมขาหมู แล้วจึงนำขาหมูลงทอดจนกระทั่งหนังหมูเหลืองกรอบ 6. เวลารับประทาน ให้เสิร์ฟพร้อมกับมันบดราดน้ำเกรวี่ ผักดอง และน้ำจิ้มสามรสแบบไทยค่ะ เคล็ดลับการทอดขาหมูเยอรมัน ให้กรอบนอกนุ่มใน เริ่มต้นกันที่เลือกขาหมูขนาดพอเหมาะ สัก 1 ขา ถ้าเป็นขาหลังจะมีเนื้อแน่น มีปริมาณเนื้อเยอะกว่าไขมัน ส่วนขาหน้าเนื้อจะนุ่ม มีปริมาณเนื้อไม่มาก หลังจากเลือกขนาดได้แล้วก็ต้องทำความสะอาด ถอนหรือเผาขน แล้วขูดผิวให้สะอาด ต่อจากนั้นนำไปนึ่งในรังถึง หรืออบในเตาอบให้สุกทั้งชิ้นถึงเนื้อใน ผึ่งให้เย็น ขั้นตอนการทอด ต้องทอดแบบน้ำมันท่วมถึงทั้งชิ้น โดยใช้น้ำมันปาล์ม เพราะจุดเป็นควันสูงเหมาะแก่การทอดอาหาร ให้น้ำมันร้อนจัดแล้วจึงนำขาหมูลงไปทอดพอสุกผิวนอกเป็นสีเหลืองทอง ถ้าชอบกรอบมากๆ ให้ทอดนานอีกหน่อยพอเป็นสีน้ำตาลทอง แล้วตักขึ้นพอสะเด็ดน้ำมัน ก็จัดรับประทานทันทีพร้อมผักกระหล่ำปลีดอง :o หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: paul711 ที่ พฤศจิกายน 23, 2011, 11:55:32 PM :D น่ากินมากเลยครับ เห็นแล้วหิวเลย ขอบคุณครับคุณหนูใจ
หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤศจิกายน 25, 2011, 09:58:55 PM :D น่ากินมากเลยครับ เห็นแล้วหิวเลย ขอบคุณครับคุณหนูใจ :D น่ากินใช่ใหมค่ะ :o กรอบนอกนุ่มในมาแบบร้อนๆหอมหวลชวนน้ำลายไหล angel.gif หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ธันวาคม 06, 2011, 07:27:13 PM ยำใบบัวบก
(http://www.junjaow.com/wp-content/uploads/2011/10/201110067610750.jpg) ส่วนผสม - ใบบัวบก 20 ใบ - กุ้งเสียบ 15 ตัว - น้ำพริกเผา 1 ช้อนโต๊ะ - มะพร้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ - น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ - น้ำมะนาว 3/4 ช้อนโต๊ะ - น้ำตาลเล็กน้อย วิธีทำ - ล้างใบบัวบกให้สะอาด หั่นเป็นท่อนพอดีคำ พักไว้ - ผสมน้ำพริกเผา มะพร้าวคั่ว น้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาลทรายเข้าด้วยกันเป็นน้ำยำ - นำใบบัวบกมาคลุกเคล้ากับน้ำยำให้เข้ากัน จากนั้นตักใส่จานและโรยหน้าด้วยกุ้งเสียบ จัดแต่งให้สวยงาม พร้อมเสิร์ฟ - นำปลากะพงที่ปั้นได้รูปแล้วเขาอบในเตา ก่อนที่จะนำไปทอดบนกระทะเทฟลอน ใส่น้ำสต๊อกผักลงไปเล็กน้อย - แต่งหน้าด้วยมะเขือเทศหั่นขวาง ผักชี และใบสะระแหน่ พร้อมเสิร์ฟกับน้ำจิ้มรสเด็ด หมายเหตุ : ใบบัวบก ช่วยควบคุมความดันโลหิตให้เป็นปกติ ชะลอความแก่ กระตุ้นการสมานแผลให้เร็วขึ้น เป็นต้น หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ธันวาคม 06, 2011, 07:31:23 PM หัวไช้เท้าม้วน
(http://img.kapook.com/image/Food/p57-1.jpg) แครอทหั่นแท่ง 1 ถ้วยตวง กุ้งสดปอกเปลือกผ่าครึ่งตัว 5 ตัว เนื้อหมูหั่นเส้น 50 กรัม เห็ดหอมแห้งแช่น้ำพอนุ่มหั่นเป็นเส้น 2 ดอก วุ้นเส้น ตราหงษ์ แช่น้ำพอนุ่ม ½ ถ้วยตวง หัวไช้เท้าปอกเปลือกสไลซ์เป็นแผ่นยาว 1 หัว น้ำเปล่า ผักชี วิธีทำ 1. ต้มน้ำเปล่าพอเดือด ใส่หัวไช้เท้าลงลวก พอสลดเล็กน้อยนำขึ้น แช่น้ำเย็น 2. วางหัวไช้เท้าบนภาชนะเรียบ เรียงแคร์รอต เห็ดหอม กุ้ง เนื้อหมู และวุ้นเส้น ตราหงษ์ ค่อยๆ ม้วนให้แน่นเรียงใส่จาน ราดด้วย น้ำราด 3. นำขึ้นนึ่งในลังถึงน้ำเดือดประมาณ 20 นาที หรือจนหัวไช้เท้าสุกตกแต่งด้วยผักชี จัดเสิร์ฟ ส่วนผสมน้ำราด กระเทียมสับ 2 ช้อนชา ผงปรุงรส 1 ช้อนชา ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา ซอสเห็ดหอม 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย ½ ช้อนชา น้ำซุป 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ ใส่น้ำมันพืชในกระทะตั้งไฟพอร้อน ใส่กระเทียมลงเจียวพอหอมเติมน้ำซุปพอเดือด ปรุงรสด้วยผงปรุงรส ซีอิ๊วขาว ซอสเห็ดหอม น้ำตาลทราย พอเดือดอีกครั้งยกลง หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ธันวาคม 06, 2011, 07:35:01 PM หัวไช้เท้านึ่ง
(http://img.kapook.com/image/flood/p53.jpg) ส่วนผสม หัวไช้เท้าปอกเปลือกหั่นชิ้นหรือกดด้วยพิมพ์ 1 หัว กุ้งสดปอกเปลือกผ่าหลังไว้หาง 4-5 ตัว เห็ดหอมแห้งแช่น้ำพอนุ่มต้มสุกหั่นเป็นเส้นๆ 4 ดอก เห็ดเข็มทองแบ่งเป็นช่อๆ 4-5 ช่อ ซอสปรุงรสอาหาร ตราเด็กสมบูรณ์ 1 ช้อนโต๊ะ ซอสเห็ดหอม 2 ช้อนโต๊ะ พริกไทยป่น ¼ ช้อนชา ขิงซอย 1 ช้อนโต๊ะ กระเทียมซอย 3-4 กลีบ ขึ้นฉ่ายหั่นท่อน พริกชี้ฟ้าสีแดงซอยเป็นเส้นๆ วิธีทำ 1. เรียงเห็ดหอมและเห็ดเข็มทองลงในภาชนะสำหรับนึ่ง วางชิ้นหัวไช้เท้าบนเห็ด 2. ผสมซอสปรุงรสอาหาร ตราเด็กสมบูรณ์ ซอสเห็ดหอม พริกไทยป่น ผสมให้เข้ากันดีราดลงบนหัวไช้เท้า โรยด้วย ขิงซอย ยกขึ้นนึ่งบนน้ำเดือดประมาณ 20-25 นาที หรือจนสุก 3. เรียงกุ้งสดบนหัวไช้เท้านึ่งต่อ 5 นาที เปิดฝา โรยกระเทียมซอย ขึ้นฉ่าย พริกชี้ฟ้า ยกลงเสิร์ฟ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: prim ที่ ธันวาคม 06, 2011, 08:09:26 PM สวัสดีจ้าหนูใจ วันนี้เข้ามาเจอเเลย สบายดีนะจ๊ะ ขนของเรียบร้อยยัง มีคนช่วยป่าว ตัวก็เล็ก ต้องการพลังถึกไหมจ๊ะ มาแอบมองกับข้าวบ้านนี้จ้ะ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ธันวาคม 06, 2011, 08:30:33 PM สวัสดีจ้าหนูใจ วันนี้เข้ามาเจอเเลย สบายดีนะจ๊ะ ขนของเรียบร้อยยัง มีคนช่วยป่าว ตัวก็เล็ก ต้องการพลังถึกไหมจ๊ะ มาแอบมองกับข้าวบ้านนี้จ้ะ สวัสดีค่ะ พี่พริม พอดีเปิด คลิปให้แม่ และหลานๆดูอยู่่ค่ะ :-\ พี่พริมคนสวยรวยทรัพย์สบายดีน้ะค่ะ มาช็อบพารากอนบ่อยไหมค่ะ อิ อิ คุณแม่วัยสะรุ่นมาก ขอบอก ;) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ธันวาคม 08, 2011, 06:02:04 PM ยำปลากระป๋อง
(http://www.hilunch.com/wp-content/uploads/2011/10/yum_2Dpla_2Dka_2Dpong_small2.jpg) ส่วนผสม 1.ปลากระป๋อง 1 กระป๋อง 2.หอมแดงซอย 1 หัว 3.มะนาว 1 ลูก 4.พริกขี้หนู 1–2 เม็ด วิธีทำ เปิดปลากระป๋องเทใส่จาน ใช้ช้อนบี้พอแหลก ใส่หอมแดงซอย น้ำมะนาว และพริกขี้หนู ลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบใจ เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ ;) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ธันวาคม 23, 2011, 09:36:20 AM :)good morning kha
po dee mai wang ma post dew ma post mai ral ral nee lo noy na kha angel.gif อ่านออก ป่่ะ อิอ อิ ;) มีความสุขทุกเวลาน้ะค่ะ ;) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มกราคม 06, 2012, 06:45:05 PM แกงจืดสามกษัตริย์
(http://img.kapook.com/image/baby1/01_228.jpg) แกงจืดสามกษัตริย์ ส่วนผสม เนื้อหมูหั่นชิ้นเล็กยาว 1 นิ้ว ¼ ถ้วย อกไก่หั่นชิ้นเล็กยาว 1 นิ้ว ¼ ถ้วย กุ้งขนาดกลางปอกเปลือกผ่าหลัง ¼ ถ้วย ฟองเต้าหู้แบบแห้งตัดยาว 2 นิ้วกว้าง 1 นิ้ว 15 ชิ้น หัวไชโป๊วเค็มหั่นเป็นเส้นเล็ก ๆ ยาวตามหัว 15 เส้น หัวไชเท้าหั่นเป็นแว่นหนา ½ ซม 1 ถ้วย รากผักชีซอย 1 ช้อนโต๊ะ กระเทียมซอย 2 ช้อนชา พริกไทยป่น ¼ ช้อนชา ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนชา เกลือป่น ½ ช้อนชา น้ำซุปไก่ 2 ถ้วย ต้นหอมหั่นยาว 1 นิ้ว 2 ต้น ผักชีเด็ดเป็นใบ ๆ 1 ต้นเล็ก วิธีทำ 1.โขลกรากผักชี กระเทียม พริกไทย ให้ละเอียด 2. นำหมู ไก่ กุ้ง วางบนฟองเต้าหู้ที่แช่น้ำแล้ว ม้วนให้แน่น มัดด้วยหัวไชโป๊ว 3.น้ำซุปตั้งไฟให้เดือด ใส่เครื่องที่โขลกไว้ รอให้เดือดแล้วใส่หัวไชเท้า พอสุกใส่หมูไก่กุ้งที่หมักไว้ 4.ปรุงรส ใส่ต้นหอม แล้วยกลง โรย ผักชี เป็นอันเสร็จ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มกราคม 06, 2012, 06:47:40 PM ไก่ผัดตะไคร้” หอมกรุ่นสมุนไพร
(http://pics.manager.co.th/Images/554000017462101.JPEG) ส่วนผสม เนื้ออกไก่ (หั่นเป็นชิ้นพอคำ) 160 กรัม ตะไคร้ 2 ต้น ข่า (หั่นเป็นแว่น) 3 ชิ้น ใบมะกรูด 5 ใบ เห็ดฟาง 1 ถ้วย กระเทียม 4 กลีบเล็ก (บุบพอแตก) รากผักชี 2 ต้น (บุบพอแตก) หอมใหญ่ ½ หัว หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม พริกชี้ฟ้า 1 เม็ด น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ ซอสถั่วเหลือง 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาล 1 ช้อนชา น้ำมะนาว 1 ช้อนชา น้ำสต็อกไก่ 20 มิลลิลิตร แป้งทอดกรอบ 20 กรัม พริกไทยป่น ¼ ช้อนชา น้ำมันสำหรับทอด วิธีทำ เริ่มจากตั้งกระทะ ใส่น้ำมันสำหรับทอด พอน้ำมันร้อน นำเนื้อไก่ลงคลุกกับแป้งทอดกรอบ นำลงทอดจนเนื้อไก่พอสุก ด้านนอกมีสีเหลือง ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน จากนั้นตั้งกระทะอีกใบ ใส่น้ำมันเล็กน้อย เมื่อน้ำมันร้อนใส่กระเทียม รากผักชี ตะไคร้หั่นท่อน ข่า และหอมใหญ่ ผัดจนหอม จากนั้นใส่เนื้อไก่ที่ทอดแล้วลงไป ใส่น้ำมันหอย ซอสถั่วเหลือง น้ำตาล พริกไทยป่น ใส่ใบมะกรูด และน้ำสต็อกไก่เล็กน้อย ผัดให้เข้ากัน แล้วใส่น้ำมะนาว ผัดให้เข้ากันแล้วปิดไฟ ตักขึ้นเสิร์ฟได้เลย ขอขอบคุณ สูตรอร่อยจาก โรงเรียนสอนทำอาหาร จินจา คุก โรงแรมเจดับบลิว แมริออท ภูเก็ต รีสอร์ท แอนด์ สปา หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มกราคม 06, 2012, 06:49:33 PM กุ้งราดซอสพริกไทยดำ
(http://www.janjawka.com/wp-content/uploads/2011/12/00063.jpg) ส่วนผสมอาหาร กุ้งแม่น้ำ300 กรัม น้ำมันพืช2 ช้อนโต๊ะ กระเทียมสับละเอียด2 ช้อนชา พริกไทยดำบุบ2 ช้อนชา พริกไทยสด2 ช้อนชา น้ำปลา2 ช้อนโต๊ะ ซอสหอยนางรม2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย1/2 ช้อนชา น้ำซุป1/4 ถ้วย วิธีทำอาหาร 1 กุ้งแม่น้ำนำมาย่างไฟอ่อนพอแห้งกุ้งสุกดี นำขึ้น แกะเปลือกจัดใสจาน 2 ใส่น้ำมันพืชละเลงในกระทะ ตั้งไฟพอร้อน ใส่กระเทียมลงเจียวจนเหลืองหอม ใส่พริกไทยดำ ปรุงรสด้วยน้ำปลา ซอสหอยนางรม น้ำตาลทราย ใส่พริกไทยสด เติมน้ำซุป เคี่ยวให้เข้ากันดี ชิมรสตามชอบ ยกขึ้นราดลงบนกุ้งที่จัดใส่จานไว้ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มกราคม 09, 2012, 08:19:07 PM เมี่ยงปลาช่อนย่างเกลือและตะไคร้
(http://www.healthandcuisine.com/images/magazine/124/124-cuisine-menu5.jpg) อร่อย แบบจัดเต็มกับมื้อเย็นสุดอิ่มแต่ดีต่อสุขภาพ อย่าง เมี่ยงปลาช่อนย่างเกลือกับตะไคร้ ซึ่งนำปลาช่อนตัวโตมาพอกเกลือผสมกับตะไคร้ตำกลิ่นหอม ช่วยลดคาวปลา รับประทานพร้อมผักสดและเครื่องเมี่ยงสมุนไพรนานาชนิด ทั้ง หอม ตะไคร้ พริกขี้หนู ช่วยขับลมและช่วยย่อย พร้อมน้ำจิ้มรสเปรี้ยวเผ็ดหวานจากถั่วกระจกเข้ากันได้ดี เพิ่มความกรุบกรอบด้วยเต้าหู้ตากแห้งทอดกรอบแทนกากหมู และถั่วงคั่ว จึงเพลิดเพลินกันได้ทุกคำเมี่ยง ส่วนผสม (สำหรับรับประทาน 4 คน) เตรียม 30 นาที ปรุง 45 นาที (รวมเวลาย่างปลา) ปลาช่อนขนาด 700 กรัม ดึงเหงือกและไส้ทิ้ง ล้างให้สะอาด ไม่ ต้องขอดเกล็ด 1 ตัว ตะไคร้ตำ ละเอียด 3 ถ้วย เกลือสินเธาว์ 3 ถ้วย ตะไคร้ทั้งต้นบุบพอแตก 4 ต้น และใบมะกรูด 10 ใบ สำหรับใส่ในท้องปลา กระดาษชำระแผ่นใหญ่สำหรับซับน้ำส่วนเกินจากปลา ส่วนผสมเครื่องเมี่ยง แผ่นแป้งกะยอสำหรับรับประทานกับแหนมเนือง 40 แผ่น แช่น้ำเย็นแล้วนำขึ้นพักใส่จานรอให้นิ่ม ผักกาดขาวเด็ดเป็นใบ หั่นชิ้นพอคำ 1 ต้นใหญ่ (แช่เย็นไว้ก่อนเสิร์ฟ) เส้นขนมจีน 4 จับ ถั่วงคั่ว 1 ถ้วย พริกขี้หนูเม็ดใหญ่สีเขียวและแดงซอย ¼ ถ้วย หอมเล็กปอกเปลือกหั่นเต๋า 10 หัว เต้าหู้เหลืองแข็ง ½ ก้อน (หั่นเต๋าเล็กจิ๋ว ตากแดดจนแห้ง แล้วนำไปทอดกรอบ) ตะไคร้ซอยบาง ½ ถ้วย กระเทียมโทนดองซอยบาง ¼ ถ้วย ใบสะระแหน่ตามชอบ ส่วนผสมน้ำจิ้ม กระเทียมกลีบเล็กปอกเปลือก 20 กลีบ พริกขี้หนู 30 เม็ด รากผักชีสับ 4 ช้อนโต๊ะ ถั่วกระจก 1 ถ้วย น้ำปลา 6 ช้อนโต๊ะ น้ำกระเทียมดอง 1 ถ้วย น้ำมะนาว 6 ช้อนโต๊ะ ผักชีสับ 2 ต้น วิธีทำ ซับ ปลาด้วยกระดาษชำระแผ่นใหญ่ให้แห้ง ใส่ตะไคร้ ใบมะกรูดในท้องปลา จากนั้นผสมเกลือกับตะไคร้ตำ ใช้มือขยำให้เข้ากัน นำไปพอกบนตัวปลา แล้วนำไปย่างจนสุก พักไว้ ทำน้ำจิ้ม โดยตำกระเทียม พริกขี้หนู และรากผักชีให้ละเอียดเข้ากัน ใส่ถั่วกระจก ตำจนละเอียดดี ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำกระเทียมดอง น้ำมะนาว ใส่ผักชีสับลงไปเคล้า ตักใส่ถ้วยน้ำจิ้มพักไว้ จัด ผักและเครื่องเมี่ยงใส่จาน เสิร์ฟพร้อมกับปลาย่าง และน้ำจิ้ม โดยวิธีรับประทานคือ วางแผ่นกะยอที่นิ่มแล้วบนผักกาดขาว ตักเนื้อปลาวางลงไป ใส่เครื่องเมี่ยงต่าง ๆ แล้วราดด้วยน้ำจิ้ม รับประทานเป็นคำ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มกราคม 18, 2012, 09:54:05 PM อาหารไหว้วันตรุษจีน
(http://hilight.kapook.com/img_cms2/ChineseNewyearOffer.jpg) คนจีนจะแบ่งวันไหว้ออกเป็น 2 วัน นับเป็น 2 เทศกาลคือ วันที่ 29 หรือ 30 เดือน 12 ของจีน และ วันชิวอก ซึ่งเป็นเทศกาลปีใหม่ ซึ่งเริ่มมาจากฤดูใบไม้ผลิของคนจีน แต่คนไทยมักจะรวม 2 วันนี้เป็นวันเดียวกัน และไหว้พร้อมกันทีเดียว ของไหว้ในวันที่ 29 หรือ 30 ของเดือน 12 (http://hilight.kapook.com/img_cms2/ChineseNewyear4.jpg) อาหารไหว้ช่วงเช้า ช่วงเช้า เวลาประมาณ 07.00 – 08.00 น. ตอนเช้าชาวจีนจะนิยมไหว้สิงศักดิ์สิทธิ์ในบ้าน และไหว้ปุ้งเท้า ซึ่งเป็นเทพท้องถิ่นที่คนทำมาค้าขายนิยมบูชา โดยจะไหว้ด้วยเนื้อสัตว์ 3 อย่าง หรือ ซาแซ เช่น หมู มีความหมายถึง ความอุดมสมบูรณ์ เป็ด มีความหมายถึง ความสามารถอันหลากหลาย ความมั่งคั่ง ความมีมาก ไก่ มีความหมายถึง ความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน โดยหงอนไก่ที่มีลักษณะเหมือนหมวกขุนนาง มีความหมายถึงความซื่อตรง ความหมายถึงความซื่อตรง ขนมเข่ง มีความหมายถึง การมีเพื่อนมาก (http://hilight.kapook.com/img_cms2/ChineseNewyear5.jpg) อาหารไหว้ช่วงสาย ช่วงสาย เวลาประมาณ 09.00 น. ถึงก่อนเที่ยง จะเป็นการไหว้บรรพบุรุษและบรรพชน อาหารที่ไหว้มีดังนี้ อาหารคาว อาหารคาวต่าง ๆ มีความหมาย ดังต่อไปนี้ ลูกชิ้นปลา หมายถึง ความเหลือกินเหลือใช้ ชีวิตราบรื่น ผัดต้นกระเทียม หมายถึง ความมั่งคั่ง มีเงินมีทองให้นับอยู่เสมอ ผัดตับกับกุยช่าย หมายถึง การมียศฐาบรรดาศักดิ์ ฐานะร่ำรวย แกงจืด หมายถึง การให้ลูกหลานมีชีวิตราบรื่น เป๋าฮื้อ หมายถึง ความเหลือกินเหลือใช้ มีไว้ให้ลูกหลาน ผัดถั่วงอก หมายถึง ความงอกงาม เจริญรุ่งเรือง เต้าหู้ หมายถึง การเจริญเติบโต บุญ ความสุข สาหร่ายทะเล หมายถึง ความโชคดี ร่ำรวย อาหารหวาน มีความหมายต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ ซาลาเปา หมายถึง การห่อโชคลาภมาให้ลูกหลาน ขนมถ้วยฟู หมายถึง ความเจริญงอกงาม ขนมคัดท้อก้วย คือ ขนมไล้ถั่วต่าง ๆ ที่ทำเป็นลูกท้อ หมายถึง การอวยพรให้มีอายุยืนยาว ขนมไข่ หมายถึง การเจริญเติบโต ขนมอี๊ ทำจากแป้งกลม ๆ นวดแล้วเจือสีชมพู แล้วปั้นเป็นก้อนกลม ๆ ต้มกับน้ำตาล จะทำให้ เคี้ยวง่าย ขนมอิ๊จึงหมายถึงความราบรื่น ขนมเทียน หมายถึง ความสว่างรุ่งเรือง ขนมเข่ง ชุดซาแซ คือ หมู เป็ด ไก่ ข้าวสวย พูนใส่ให้ครบตามจำนวนของบรรพบุรุษ น้ำชา ผลไม้ ผลไม้ต่าง ๆ ที่ไหว้ในวันตรุษจีนมีความหมายดังต่อไปนี้ ส้ม หมายถึง โชคลาภ วาสนา มีความหมายถึงโชคดี กล้วย หมายถึง การมีลูกหลานมาก และเรียกโชคลาภเข้าบ้าน แอปเปิ้ล หมายถึง การมีสุขภาพแข็งแรง และความสุขสงบ สับปะรด หมายถึง การมองเห็นได้กว้างไกล องุ่น หมายถึง ความมั่งคั่งและความแข็งแรง สาลี่ หมายถึง เงินทองไหลมาเทมา เครื่องกระดาษ มีความหมายต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ กระดาษเงินกระดาษทอง คนจีนเชื่อว่า เมื่อคนตายตายไปแล้ว ลูกหลานจะต้องส่งเงินทองไปให้เพื่อแสดงความกตัญญู และการเผากระดาษเงินกระดาษทอง ก็ยังหมายถึงสิริมงคลที่จะเกิดกับลูกหลานอีกด้วย กอจี๊ หรือ จี๊จุ๊ย หมายถึง กระดาษทองชิ้นใหญ่มีกระดาษแดงตัดเป็นตัวอักษรว่า เผ่งอัน หมายถึง ความโชคดี กิมจั๊ว หมายถึง กระดาษเงินกระดาษทองที่ลูกหลานนำมาทำเป็นชุด พับเป็นรูปดอกไม้ก่อนไหว้ กิมเต้า หมายถึง ถังเงินถังทอง ใช้ไหว้เทพยดาฟ้าดิน กิมเตี๊ยว หรือ แท่งทอง ใช้สำหรับไหว้คนตาย อิมกังจัวยี่ หรือ แบงค์กงเต็ก ใช้สำหรับเบิกทางไปสู่สวรรค์ขอคนตาย (http://hilight.kapook.com/img_cms2/ChineseNewyear2.jpg) อาหารไหว้ช่วงบ่าย ช่วงบ่าย เวลาประมาณ 13.00 – 15.00 น. จะเป็นการไหว้วิญญาณที่ไม่มีญาติ โดยประกอบไปด้วยเครื่องไหว้ดังนี้ อาหารคาว อาหารหวาน เครื่องกระดาษ (http://hilight.kapook.com/img_cms2/ChineseNewyear1.jpg) อาหารไหว้วันตรุษจีน วันตรุษจีน เป็นการไหว้ในช่วงเช้าของวันที่ 1 ด้วยของเซ่นต่าง ๆ หลังจากนั้นจะให้ออกไปไหว้เจ้านอกบ้าน และไหว้บรรพบุรุษ เสร็จแล้วจะเดินทางไปเยี่ยมพี่น้อง โดยเครื่องไหว้ต่าง ๆ มีดังต่อไปนี้ ส้ม หมายถึง โชคดี ของหวาน 5 อย่าง ขนมจันอับ หมายถึง ความเจริญงอกงามดุจดังเมล็ดพืช วันตรุษจีนนี้ คงเป็นอีกวันที่เทพยดาฟ้าดินที่เราไหว้ จะนำพาความสุขสงบร่มเย็น พร้อมด้วยโชคลาภเงินทอง มาสู่เราตลอดปีนะคะ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มกราคม 19, 2012, 09:45:48 PM ซีซาร์สลัดผักไฮโดรโปนิกส์
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img5/124883.jpg) ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่) ผักสลัดไฮโดรโปนิกส์ 1 ชามใหญ่ เชสด้าชีสขูด 1/2 ถ้วย แฮมหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ 1/2 ถ้วย ขนมปังอบกรอบ 1/2 ถ้วย ส่วนผสมน้ำสลัด ไข่ไก่ (เฉพาะไข่แดง) 2 ฟอง นมสด 50 กรัม เนยจีด 50 กรัม พาร์สเลย์สับหยาบ 1 ช้อนชา น้ำมะนาวเหลือง 3 ช้อนชา พริกไทยดำบดหยาบ 1 ช้อนชา พริกไทยป่น (สำหรับปรุงรสตามชอบ) เกลือ (สำหรับปรุงรสตามชอบ) น้ำตาล (สำหรับปรุงรสตามชอบ) วิธีการทำ 1. นำไข่แดงตีกับนมสดและเนยจืดให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว จากนั้นเติมน้ำมะนาว พาร์สเลย์ และพริกไทยดำ ตีให้เข้ากัน 2. ปรุงรสด้วยพริกไทยป่น เกลือ และน้ำตาล จนได้รสชาติที่ชอบ จากนั้นนำส่วนผสมทั้งหมดไป ตุ๋น โดยหมั่นคนจนส่วนผสมงวดและข้นขึ้น พักไว้แล้วตักใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ปิดฝา 3. เตรียมผักสลัดโดยนำมาล้างให้สะอาด เด็ดเป็นใบจัดวางใส่จาน โรยหน้าด้วยแฮม ราดด้วยน้ำสลัด จากนั้นจึงโรยหน้าด้วยเชสด้าชีสขูดและขนมปังอบกรอบ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มกราคม 19, 2012, 09:49:22 PM ห่อหมกปลา
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img5/124619.jpg) ส่วนผสม -ปลาช่อน 1 กิโลกรัม -หัวกะทิ 1 ถ้วย -หางกะทิ 2 ถ้วย -ไข่เป็ด 2 ฟอง -น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ -ผักชีเด็ดเป็นใบๆ 3 ต้น -พริกแดงหั่นฝอย 6 เม็ด -ใบมะกรูดหั่นฝอย 8-10 ใบ -กะหล่ำปลีหรือโหระพาหรือใบยอ ส่วนผสมพริกแกง -พริกแห้ง 7 เม็ด -หัวหอม ¼ ถ้วย -กระเทียม ¼ ถ้วย -พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา -ผิวมะกรูด 1 ช้อนชา -ข่าสับละเอียด 1 ช้อนชา -ตะไคร้สับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ -รากผักชีสับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ -กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ -กระทง วิธีทำ 1.ปลาช่อนขอดเกล็ดทำความสะอาด แล่เอาแต่เนื้อหั่นแฉลบเป็นชิ้นบางๆ ซับ พักไว้ 2.ใบยอผ่าก้านกลางออก หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม หรือ โหระพาเด็ดเป็นใบๆ หรือ กะหล่ำปลีหั่นฝอยหยาบๆ ลวกน้ำพอสุก 3.โขลกส่วนผสมพริกแกงทั้งหมดเข้าด้วยกันให้ละเอียด 4.นำปลามาคนกับหางกะทิ พอกะทิเข้าเนื้อปลาดี ใส่พริกแกงคนต่อจนข้นและเข้ากันดี ใส่ไข่ น้ำปลา คนต่อให้ส่วนผสมเข้ากันดี 5.หัวกะทิตั้งไฟพอเดือดยกลง 6.นำผักที่เตรียมไว้รองก้นกระทง ตักส่วนผสมห่อหมกใส่ให้จนเกือบเต็ม หยอดหัวกะทิ โรยหน้าด้วยใบมะกรูด พริกแดงและผักชี แล้วนึ่งให้สุก หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มกราคม 24, 2012, 09:11:16 PM ยำมะเขือยาวกับปลาคอดรมควันและฟิกสด
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img5/125138.jpg) ส่วนผสม มะเขือยาว 2-3 ลูก พริกหวาน สีแดง 1 ลูก พริกหวานสีเหลือง 1 ลูก ปลาคอดรมควันแร่เป็นชิ้นบางๆ 200-300 กรัม รอคเก็ต 1/2 ถ้วย ฟิกสด 4 ลูก พริกขี้หนูตามชอบ กระเทียม 4 กลีบ น้ำมะนาว 4 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทรายไม่ฟอก 2 ช้อนชาพูน น้ำปลา 1 ช้อนชา เกลือ 3 ช้อนชา วิธีทำ 1. เผา มะเขือด้วยเตาถ่าน ใช้ถ่านก้อนเล็ก เผาถ่านให้ระอุ รอจนหมดเปลว แล้ววางมะเขือลงบนถ่านให้มะเขือร้อนจัดกลับให้มะเขือโดน ถ่าน ทั่วทั้งลูก ถ้ามะเขือไม่ร้อนทั่วกันก่อน ส่วนที่โดนไอร้อนแต่ไม่ถูกไฟจะดำ ขณะเผาให้กดดูว่ามะเขือนิ่มดีหรือยัง ไม่ต้องรอให้เกรียมหรือเละ เมื่อนิ่มดีแล้วกลับด้าน เผาให้นิ่มทั่วกัน แต่ยังเขียวสวยดี 2. เมื่อมะเขือสุกดีแล้วยกออกจากเตาแช่ในน้ำเย็นผสมเกลือเล็กน้อย แล้วลอกเปลือกออก 3. เผาพริกหวาน ให้สุก แต่ไม่ไหม้ เมื่อสุกดี แช่น้ำแล้วลอกเปลือกออก 4. หั่น มะเขือเป็นท่อนยาวสามนิ้ว กรีดกลางตามยาว แล้วคลี่ออกให้เป็นแผ่นเรียบ ใช้มีดแล่เอาส่วนเม็ดออกเก็บไว้ เหลือแต่เนื้อมะเขือเป็นแผ่นสีเขียวบางๆ 5. หั่นพริกเป็นชิ้น ขนาดให้เท่ากับชิ้นมะเขือที่เตรียมไว้ เอาเม็ดและไส้ออก 6. โขลกพริกขี้หนูและกระเทียม ใส่น้ำตาล น้ำมะนาว น้ำปลาและเกลือ ผสมให้เขากัน กรองกากออก ใช้แต่น้ำ พักไว้ 7. เรียงมะเขือ พริกและปลาคอด สลับกันซ้อนเป็นชั้นๆ 8. เวลาเสิร์ฟ ราดน้ำยำ วางใบรอคเก็ตสองสามใบข้างบน ตามด้วยลูกฟิกสดผ่าครึ่งตามยาว H&C Tips - ใช้มังคุดแทนลูกฟิกก็ได้ แต่ต้องปอกแล้วเสิร์ฟทันที ก่อนที่มังคุดจะสีคล้ำหมดสวย นิตยสาร Health & Cuisine หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มกราคม 24, 2012, 09:17:30 PM สังขยาคาราเมลคัสตาร์ดฟักทอง
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img5/124998.jpg) เครื่องปรุงคัสตาร์ด -นํ้าตาลทราย 1/2 ถ้วยตวง -หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง -นมจืด 1 ถ้วยตวง -กลิ่นมะพร้าว 1 ช้อนชา -ไข่ไก่ 2 ฟอง -ไข่แดงของไข่ไก่ 2 ฟอง -น้ำตาลปี๊บ 150 กรัม -เกลือป่น 1/2 ช้อนชา -เนื้อฟักทองหั่นเต๋า 100 กรัม (ลวกพอสุก) วิธีทำ -เปิดเตาอบไว้ที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส -นำ หม้อใส่น้ำตาลทรายตั้งเตาให้ร้อนกระทั่งน้ำตาลทรายละลาย จนน้ำตาลไหม้เป็นสีน้ำตาลอ่อน (แล้วแต่ความต้องการว่าอยากได้คัสตาร์ดรสชาติขมแค่ไหน) -เทนํ้าตาลไหม้ลงไปเคลือบก้นถ้วยอบ ที่ทำด้วยเซรามิก พักไว้ -นำหัวกะทิ นมจืด และกลิ่นมะพร้าว มาต้มให้เดือด และพักไว้ -ผสมไข่ไก่ ไข่แดงของไข่ไก่ และนํ้าตาลปี๊บในชามผสมให้เข้ากัน จนนํ้าตาลละลายหมด -ค่อย ๆ เทกะทิที่ต้มไว้ลงไปผสมกับไข่ และน้ำตาลปี๊บ เททีละนิดก่อน มิฉะนั้นไข่จะสุกและกลายเป็นไข่กวน -เติมเกลือป่น 1 หยิบมือ ลงไปในส่วนผสมนม และไข่ กรองส่วนผสมด้วยผ้าขาวบาง -เทส่วนผสมนี้ลงไปในถ้วยที่ได้เตรียมไว้ (ถ้วยที่มีน้ำตาลไหม้เคลือบอยู่) แล้ว โรยเนื้อฟักทองปอกเปลือกหั่นเต๋าบนคัสตาร์ด -นำถ้วยคัสตาร์ดมาวางในถาดที่มีขอบสูง เทนํ้าร้อนลงไปในถาด ให้ระดับนํ้าสูงเท่ากับระดับส่วนผสมในถ้วย -นำ ถาดตั้งไฟให้ร้อนและน้ำเริ่มเดือด จึงนำถาดไปใส่ในเตาอบ เปิดไฟที่ 180 องศาเซลเซียส ใช้เวลาอบประมาณ 40 นาที หรือจนกระทั่งคัสตาร์ดสุก -นำถาดออกมาจากเตาอบ ยกถ้วยขนมในถาดออก พักให้เย็นสนิท และแช่ในตู้เย็น -เวลา เสิร์ฟ นำถ้วยขนมออกจากตู้เย็น กรีดขอบข้างในถ้วยด้วยมีด และนำจานมาคว่ำและเคาะขนมออกจากพิมพ์ โดยหงายจานกลับขึ้น ชิ้นคัสตาร์ดก็จะหลุดจากพิมพ์ ลงบนจาน หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มกราคม 27, 2012, 08:13:06 AM ยำปลาทูทอด
(http://www.ezythaicooking.com/images/rf2-chu-chee-pla-too-2.jpg) (http://www.ezythaicooking.com/images/rf2-yum-mackerel.jpg) :: ส่วนผสมและเครื่องปรุง :: - ปลาทูนึ่ง..ทอดพอเหลือง 2 ตัว ใหญ่ 4 ตัวตุ๊กแก 6 ตัวจิ้งจก ชิมว่าเค็มป่ะจะได้ใส่น้ำปลาน้อยๆ :D - ตะไคร้ 5 ต้นใหญ่ - หอมแดง 7 หัวกลางๆ - พริกขี้หนูสวน ตามความชอบ - ถั่วทอด เอาเปลือกออก - น้ำตาลปี๊บ - น้ำปลา - มะนาว - สะระแหน่ 5 กิ่ง - ผักแกล้ม เช่น ถั่วฝักยาว ผักกาดขาว กะหล่ำปลี แตงล้าน แตงกวา ใบสะระแหน่ วิธีทำ ไปเดินซื้อปลาทู ??? ต่ะจัยนึกว่าตุ๊กแก :o ก้อตัวเท่ากันแด่เลย ฮิ ฮิ นำปลาทูล้างเบาๆ เดี๋ยวตุ๊กแก ต่ะจัยหนังลอกทีนี้จะเหลือแต่จิ่งจอก :-\ อิ อิ angel.gif สะเด็ดน้ำ ทอดด้วยไฟอ่อนๆ ล้างผัก หลายๆ น้ำ หนูใจชอบใช้น้ำกรองล้าง หั่นตะไคร้บางๆแกะหรือลอกเปลือกออกหน่อยน้ะจะเดี๋ยวเค้ารู้ว่าเกิดมานานแย้วว ::)หั่นหอมแดงบางๆๆ ทุกครั้งปอกเปลือกออกแล้ว ขี้คร้านล้างโดน ดา ดา ดา ประจำ เดี๋ยวนี้ล้างแย้ววว เบื่อฟัง ;D ซอยพริกบางๆหรือหั่นท่อนเล็กๆๆ หาชามใหญ่ๆๆ หน่อย ใส่น้ำปลาลงไป ตามด้วยน้ำตาล ทรายแดง ปี๊บ น้ำตาลอ้อยก็ได้จ้ะ หอมสอย ตะไคร้ พริก ปลาสุกยัง เอามาแกะก้างตัดหัว เลาะเอาตะเค็บข้างออก ใส่ลงไปคลุก คลุก บีบมะนาว ชิม ^-^ ไปเอาถั่วมาโรย ใบสะระแหน่ เด็ดเป็นใบ ถ้ายังไม่ทานเลยก็เอาไปแช่เย็นก่อนนำมาทานก็ไปเอามาโรย Smiley/Angry.gif ผักแกล้มก็ล้างหลายๆๆน้ำเน้นสะอาดค่ะ เอาเข้าตู้เย็นก่อน แล้วผักมันจะสะดุ้งกรอบจ้ะ angel.gif :Dทำไม่อร่อยก็เอาไปให้ข้างบ้านกินก่อน angel.gif หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มกราคม 27, 2012, 08:14:31 PM วุ้นนมสดสตรอว์เบอร์รี่
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img5/125369.jpg) ส่วนผสม ผงวุ้น ½ ช้อนโต๊ะ นมสดรสสตรอว์เบอร์รี่ 200 มิลลิลิตร โยเกิร์ตรสสตรอว์เบอร์รี่ 1 ถ้วย น้ำเปล่า ¼ ถ้วยตวง สตรอว์เบอร์รีสด 5-10 ผล พิมพ์ขนมขนาด ½ ถ้วยตวง 5-6 ถ้วย วิธีทำ ผสมผงวุ้นกับน้ำเปล่าตั้งไฟอ่อน คนให้ละลายพอเดือดค่อยๆ ใส่นมสดคนให้เข้ากัน ยกลง ใส่โยเกิร์ตคนให้เข้ากัน ตักใส่พิมพ์แล้วนำไปแช่ตู้เย็นเพื่อให้อยู่ตัว เวลาเสิร์ฟแคะออกจากพิมพ์ แต่งหน้าด้วยสตรอว์เบอร์รี่สด หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มกราคม 27, 2012, 08:16:29 PM เคล็ดลับการล้างอาหารที่ถูกวิธี
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img2/125247.jpg) 1.การล้างด้วยน้ำเย็นจะช่วยรักษาความสดของอาหารได้ดี แต่ถ้าล้างด้วยน้ำอุ่นจะช่วยล้างยาฆ่าแมลงที่ติดอยู่บนผิวอาหารได้ดีกว่า 2. เวลาใช้น้ำประปาจากก๊อกน้ำล้างอาหาร ควรให้อาหารอยู่ห่างจากก๊อกประมาณ 15 ซม. 3. ถ้าใช้น้ำเกลือแช่ก่อนล้างจะได้ผลดียิ่งขึ้น 4. อาหารบางอย่างอาจใช้แปรงหรือฟองน้ำขัดได้ เช่น มะเขือ 5. อาหารบางชนิดไม่ควรล้างมากเพราะจะทำให้สูญเสียคุณค่าทางอาหารหรือรสชาติอาจเปลี่ยนแปลงเช่น เนื้อต่างๆ เป็นต้น หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มกราคม 29, 2012, 04:09:12 PM ครองแครงกร็อบ กรอบ
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img6/125371.jpg) ส่วนผสม - แป้งสาลี 500 กรัม -ผงฟู 2 ช้อนชา -หัวกะทิ 1½ ถ้วย -ไข่ไก่ 2 ฟอง -น้ำปูนใส 1 ช้อนโต๊ะ -เกลือป่น 1 ช้อนชา -น้ำตาลปี๊บ 200 กรัม -รากผักชีสับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ -พริกไทยเม็ด ½ ช้อนโต๊ะ -น้ำมันสำหรับทอด -พิมพ์สำหรับทำครองแครง วิธีทำ -ร่อนแป้งสาลีและผงฟูเข้าด้วยกัน ใส่กะทิลงในแป้ง ตีไข่ให้เข้ากัน เทผสมกับแป้ง นวดแป้งไปเรื่อยๆ ใส่น้ำปูนใส นวดแป้งต่อไปประมาณ 30 นาที -แบ่งแป้งเป็นก้อนเล็กๆ กดบนพิมพ์ครองแครง ใช้หัวแม่มือกดให้เป็นลายและให้เป็นแผ่นบางๆ วางเรียงในถาด โรยแป้งเล็กน้อย เพื่อไม่ให้แป้งติดกัน ทำเช่นนี้จนหมด -นำแป้งที่ได้ลงทอดในน้ำมันร้อนๆ ให้เหลืองหรอบ พักไว้ -โขลกรากผักชี เม็ดพริกไทย และเกลือเข้าด้วยกันให้ละเอียด นำลงผัดกับน้ำตาลปี๊บ เคี่ยวให้เหนียวเป็นยางมะตูม เทครองแครงที่ทอดแล้วลงไปคนคลุกเคล้าให้ทั่ว ยกลงพักไว้ให้เย็น เก็บใส่ภาชนะที่มีฝาปิดสนิท เก็บไว้รับประทานได้นาน หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 05:43:56 PM ข้าวเม่าใบเตยบด (http://variety.teenee.com/foodforbrain/img4/125743.jpg) ส่วนผสม ข้าวเม่าใบเตยจากข้าวเหนียว 3 ถ้วย น้ำตาลทราย 1 ถ้วย มะพร้าวขูดละเอียด ½ ถ้วย หัวกะทิ ½ ถ้วย น้ำใบเตย 2 ช้อนโต๊ะ ข้าวเม่าบดละเอียดจนเป็นแป้ง ½ ถ้วย วิธีทำ คั่วข้าวเม่าในกระทะจนกรอบแล้วนำมาบดละเอียดและร่อนพักไว้ ผสมกะทิ น้ำตาลทราย มะพร้าวขูด ในกระทะทองเหลือง ตั้งไฟแล้วกวนให้เข้ากันจนเป็นยางมะตูม ใส่ข้าวเม่าบด เกลือ และน้ำใบเตยลงกวนจนเหนียวเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน ทิ้งไว้ให้เย็น ปั้นข้าวเม่าเป็นก้อนกลมเล็กพอดีคำ นำลงคลุกกับแป้งข้าวเม่าที่เตรียมไว้ นำไปอบควันเทียนหากต้องการให้หอมขึ้น เก็บใส่โหลไว้รับประทานได้นานหลายวัน PaPaMenu หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 05:47:27 PM น้ำมันกุหลาบ
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img7/125748.jpg) กุหลาบเป็นของคู่กับวาเลนไทน์ และน้ำมันกุหลาบก็เป็นน้ำมันที่ดีต่อผิวพรรณ รวมทั้งมีกลิ่นหอมที่ช่วยบรรเทาความเครียดและความหงุดหงิดได้เป็นอย่างดี มาลองทำน้ำมันกุหลาบใช้เองที่บ้าน แม้จะไม่มีคุณสมบัติเท่ากับน้ำมันกุหลาบจากร้าน แต่ก็สามารถใช้ได้ดีสำหรับการนวดตัวหรือทาผิว -เลือกกลีบกุหลาบสดสักสองสามกำมือ เลือกที่ไม่ช้ำและไม่มีรอยแมลง ถ้าเป็นกุหลาบปลูกเองที่บ้านก็เลือกเก็บในตอนเช้าที่กลีบกุหลาบยังสดชื่น ด้วยหยาดน้ำค้าง -บี้กลีบกุหลาบเบาๆ เพื่อช่วยให้กลิ่นและน้ำมันหลั่งออกมา -เอากลีบกุหลาบใส่ในโหลแก้วใบใหญ่แบบมีฝาปิด และเทน้ำมัน (เช่น น้ำมันโจโจบา น้ำมันมะพร้าว หรือน้ำมันมะกอกคุณภาพดี) ลงไปให้ท่วมกลีบดอกไม้ -ปิดฝาขวดให้สนิทและปล่อยทิ้งไว้ 24 ชม. -เอากลีบกุหลาบออกจากน้ำมันหลังจากครบ 24 ชม. แล้วกรองน้ำมันอีกครั้งเพื่อขจัดเศษผงที่ตกค้างอยู่ -เติมกลีบกุหลาบสดเข้าไปอีกครั้งและปล่อยทิ้งไว้อีก 24 ชม . -เอากลีบกุหลาบออกและกรองน้ำมันอีกครั้ง แล้วใส่กลีบกุหลาบลงไปอีก ทำซ้ำตามขั้นตอนนี้อีกราว 6-7 ครั้ง จนกระทั่งได้น้ำมันกลิ่นกุหลาบ และเทใส่ขวดเอาไว้ใช้ตามต้องการ ขอบคุณ LISAGURU หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2012, 05:49:18 PM เกร็ดน่ารู้ : เทคนิคเลือกแตงโมหวานฉ่ำ (http://variety.teenee.com/foodforbrain/img2/125716.jpg) ผิวแตงโม ควรไม่มีลักษณะเหี่ยว รอยจ้ำช้ำ หรือมีรู ใช้นิ้วดีดผลแตงโม ถ้าเสียงแน่น หมายความว่า แตงโมลูกนั้นเนื้อแน่นกรอบ ไม่ดิบ หรือสุกเกินไป แต่หากเสียงกลวง แสดงว่า เนื้อไม่แน่น ยังดิบ หรือสุกเกินไป สังเกตที่ขั้วแตงโม หากมีสีอ่อนเกินไป แสดงว่า แตงโมยังดิบ มีน้ำไม่เยอะ และไม่หวาน แต่หากขั้วมีสีค่อนไปทางเข้มจนดำ นั่นแสดงว่า แตงโมสุกเกินไปจนใกล้เสีย จึงควรเลือกแตงโมที่มีขั้วสีเหลืองนวลพอค่ะ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2012, 09:07:32 PM หม้อร้อนต้มโคล้ง
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img8/125787.jpg) ส่วนผสมน้ำซุป -ข่าหั่นเป็นแว่น 4-5 แว่น -ตะไคร้หั่นเป็นท่อน 2 ต้น -กระเทียม 1-2 หัว -หอมเล็ก 3-4 หัวเล็ก -ใบมะกรูด 3-4 ใบ -พริกขี้หนูแห้งทอด (ตามชอบ) -ใบกะเพรา 1/2 ถ้วย -ผักชีใบเลื่อยซอย 1/4 ถ้วย -น้ำส้มมะขาม 2-3 ช้อนโต๊ะ -น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ คั่วหรือเผาข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด หอม เล็ก กระเทียม ในกระทะจนหอม ตั้งน้ำพอเดือดใส่สมุนไพรที่คั่วไว้ลงไป ปรุงรสด้วยน้ำส้มมะขาม น้ำปลา ใส่ใบกะเพรา ผักชีใบเลื่อย พริกทอด ทีหลังสุด หม้อร้อน ส่วนผสม เนื้อปลา ซีฟู้ดต่างๆ จำนวนพอเหมาะ เห็ดสดชนิดต่างๆ วิธีทำ ตั้งน้ำซุปต้มโคล้งจนร้อน ลวกเนื้อปลา ซีฟู้ด เห็ด รับประทานกับน้ำจิ้มข่า น้ำจิ้มข่า ส่วนผสม -ข่าหั่น 2 แว่น -กระเทียม 7 กลีบ -น้ำปลา 2 1/2 ช้อนโต๊ะ -น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ -น้ำตาล 1/2 ช้อนชา -พริกขี้หนูบุบสับหยาบ 5-10 เม็ด วิธีทำ ตำข่ากับกระเทียมจนละเอียด ใส่ส่วนผสมอื่นๆ ชิมรส นิตยสาร Health & Cuisine หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2012, 09:23:52 PM มิลค์พั้นซ์
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img2/125615.jpg) ส่วนผสม -นมข้นจืด 1 ถ้วยตวง -นมข้นหวาน 3 ช้อนโต๊ะ -โยเกิร์ตรสสตรอว์เบอร์รี่ 4 ช้อนโต๊ะ -ไอศกรีมรสสตรอเบอร์รี่ -เชอรี่แดง วิธีทำ แช่ นมข้นจืด นมข้นหวานและโยเกิร์ตในตู้เย็นให้เย็นจัด แล้วนำส่วนผสมทั้งสามชนิดมาปั่นด้วยเครื่องปั่นผลไม้พร้อมกับไอศกรีม ปั่นให้เข้ากันดี เทใส่แก้ว ใส่ไอศกรีม 1-2 ลูกตามต้องการ ตกแต่งด้วยเชอรี่แดง นำเสิร์ฟทันที หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2012, 09:26:03 PM สลัดผลไม้บำรุงผิว
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img9/72325.jpg) สลัดแคลอรี่ต่ำ ไฟเบอร์สูงและวิตามินหลายชนิดน้ำสลัดผสมมาจากน้ำผลไม้ต่างๆ มีรสอมเปรี้ยวหวาน (6 ที่ 80 แคลอรี่) ส่วนผสม แครอทหั่นเส้น 1/2 ถ้วย กะหล่ำปลีหั่นฝอย 1/2 ถ้วย สับปะรดหั่นสี่เหลี่ยม 1 ถ้วย ฝรั่งหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม 1 ถ้วย มะเขือเทศหั่นชิ้น 2 ลูก แห้วต้ม 1/2 ถ้วย ข้าวโพดต้มแกะเป็นเม็ดๆ 1/2 ถ้วย ส่วนผสมน้ำสลัด น้ำส้มเขียวหวาน 1/2 ถ้วย น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนโต๊ะ มัสตาร์ดผง 1/2 ช้อนชา เกลือ 1/2 ช้อนชา วิธีทำ ผสม น้ำส้มเขียวหวาน น้ำมะนาว น้ำตาลทรายแดง มัสตาร์ดผงเกลือ คนให้เข้ากันจนน้ำตาลทรายละลาย จัดผักและผลไม้ใส่จานราดด้วยน้ำสลัดที่ทำไว้ hilunch หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2012, 09:28:32 PM เบอร์เกอร์ปลา
(http://img.kapook.com/image/baby1/05_11.jpg) เบอร์เกอร์ปลา ส่วนผสมไส้เบอร์เกอร์ เนื้อปลาทูน่าใสน้ำเกลือ 100 กรัม มันฝรั่งต้มสุกบดละเอียด 100 กรัม แครอตสับ ¼ ถ้วย คื่นฉ่ายสับ 2 ช้อนชา เกลือ ½ ช้อนชา พริกไทยป่น ¼ ช้อนชา แป้งข้าวโพด 2 ช้อนชา ไข่ไก่ 1 ฟอง เกล็ดขนมปังป่น 1 ถ้วย น้ำมันพืชสำหรับทอด Tip ใช้ผลไม้สดหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าแทนฟรุตสลัดกระป๋องได้ วิธีทำ 1.ผสมปลาทูน่า มันฝรั่ง แครอท คื่นฉ่าย เกลือ พริกไทย และแป้งข้าวโพด เข้าด้วยกันในภาชนะ แล้วพักไว้ประมาณ 10 นาที 2.ปั้นส่วนผสมที่เตรียมไว้เป็นก้อนกลม กดให้แบนแล้วชุบ ไข่ไก่ คลุกเกล็ดขนมปังป่นให้ทั่ว 3.นำไปทอดในน้ำมัน ปรับไฟปานกลาง รอจนสุกเหลือง แล้วตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน ส่วนผสมเบอร์เกอร์ปลา ขนมปังเบอร์เกอร์ผ่าครึ่ง 2 ก้อน ไส้เบอร์เกอร์ปลา 2 ชิ้น น้ำสลัด ¼ ถ้วย เนยสดชนิดจืด 2 ช้อนชา ผักสลัดต่าง ๆ / ซอสพริกหรือซอสมะเขือเทศตามชอบ วิธีทำ ทา เนยสดและน้ำสลัดลงบนขนมปังด้านที่ผ่าให้ทั่ว จากนั้นวางผักสลัด และไส้เบอร์เกอร์ลงไป สลับชั้นกัน ตามชอบ รับประทานกับน้ำสลัด ซอสพริกหรือซอสมะเขือเทศ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2012, 09:30:06 PM ปลาทอดราดซอสมะขาม
(http://img.kapook.com/image/baby1/04_11.jpg) ปลาทอดราดซอสมะขาม ส่วนผสมแป้ง ปลาทับทิมหั่นชิ้นขนาดกลาง 100 กรัม เกลือป่น ¼ ช้อนชา พริกไทยป่น ¼ ช้อนชา แป้งสาลี 3 ช้อนโต๊ะ หมอแดงซอยเจียว 2 ช้อนโต๊ะ ต้มหอมซอยตามยาว 1 ต้น พริกชี้ฟ้าซอย 1 ช้อนโต๊ะ มะเขือเทศผลเล็ก 5 ผล น้ำมะขาม 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ น้ำเปล่า 3 ช้อนโต๊ะ น้ำมันสำหรับทอด วิธีทำ 1. ทำแป้งเป็นบ่อตรงกลาง ใส่ไข่แดง ใส่น้ำและนม ใช้ตะกร้อมือ คนให้เข้ากัน ใส่เนยละลาย คนให้เข้ากันจนเนียน พักแป้งไว้ 30 นาที 2.นำกระทะเทฟร่อน ตั้งไฟตักแป้งประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ เอียงกระทะให้แป้งเกาะทั่วก้นกระทะจนสุก กลับแป้งอีกด้านรอให้สุกตักขึ้นพักไว้ 3.ตักส่วนผสมไส้วางตรงกลางม้วนให้แน่น โรยด้วยเนยแข็งขูดฝอย วิธีทำ 1.นำเนื้อปลามาซับน้ำให้แห้ง โรยเกลือและพริกไทย นำไปคลุกกับแป้งสาลีให้ทั่ว 2.ตั้งกระทะ เทน้ำมัน ปรับไฟแรง รอจนเดือด นำปลาลงทอดจนสุก และเหลืองกรอบ แล้วตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน 3.ตัก น้ำมันออกเกือบหมด ตักน้ำมะขาม น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา น้ำเปล่า ผสมลงในกระทะ ตั้งไฟกลางเคี่ยวพอข้น ชิมรสจนถูกปาก แล้วใส่มะเขือเทศ จากนั้นยกลง 4.ตักซอสมะขามที่ได้ราดบนปลา โรยหน้าด้วยหอมเจียว ต้มหอมซอย พริกขี้ฟ้าแดงซอย เป็นอันเสร็จ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2012, 09:32:52 PM เห็ดรวมมิตรผัดฉ่า
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img1/72360.jpg) เครื่องปรุง ◊ เห็ดแชมปิญอง เห็ดหูหนูแช่น้ำ เห็ดหอมแช่น้ำรวมกัน ๑ ถ้วย ◊ พริกขี้หนูแห้ง ๕-๑๐ เม็ด ◊ กระเทียมสับ ๑ ช้อนโต๊ะ ◊ พริกขี้หนูแดงทุบพอแตก ๑๐ เม็ด ◊ ตะไคร้หั่นแฉลบบางๆ ๑๐ ชิ้น ◊ ใบมะกรูดฉีก๒-๓ ใบ ◊ พริกไทยอ่อนตัดสั้น ๑ นิ้ว ๑/๔ ถ้วย ◊ ใบโหระพา ๑/๒ ถ้วย ◊ ซีอิ๊วขาว ๒ ช้อนโต๊ะ ◊ พริกไทยป่น ๑/๒ ช้อนโต๊ะ วิธีทำ หั่นเห็ดทั้งหมดเป็นชิ้นเล็กๆ เตรียมเครื่องปรุงทั้งหมด จากนั้นตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน พอร้อนใส่กระเทียมลงไปผัดให้หอมพอ ได้กลิ่นกระทุ้งคลุ้งก็ใส่เครื่องทั้งหมดตามลงไปยกเว้นใบกะเพราถึงตอนนี้ เร่งไฟให้แรงขึ้น ใส่เห็ดที่สุกยากคือเห็ดหอมและเห็ดหูหนูลงไปก่อนค่ะพอสองเห็ดใกล้สุก ใส่เห็ดแชมปิญองลงไปค่ะผัดเห็ดแชมปิญองพอสลดก็ใส่ซีอิ๊วขาวและพริกไทย ไม่ใส่น้ำตาลค่ะ เพราะจะทำให้เสียรสผัดเร็วๆถ้าแห้งไปเติมน้ำลงไปนิดหน่อย จากนั้นใส่ใบกะเพรา คนให้เข้ากัน ปิดไฟตักใส่จาน หุงข้าวร้อนๆตักราดลงไปทานได้เลยค่ะ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2012, 08:57:50 AM ปลานึ่งห่อผัก
(http://img.kapook.com/image/baby1/02_14.jpg) ปลานึ่งห่อผัก ส่วนผสม ปลากะพงแล่เนื้อบาง ๆ 100 กรัม ข่าอ่อนปอกเปลือกเหลือก้านไว้เล็กน้อย 40 กรัม น้ำมะนาว 40 กรัม พริกขี้หนูสวนสับละเอียด 5 กรัม รากผักชีสับละเอียด 10 กรัม กระเทียมสับละเอียด 10 กรัม พริกชี้ฟ้าแดงแกะเมล็ดออกโขลกละเอียด 10 กรัม น้ำปลา 10 กรัม เกลือป่น 2 ช้อนชา น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนชา ใบผักกาดขาว 50 กรัม ขึ้นฉ่าย 10 กรัม วิธีทำ 1.ผสมน้ำมะนาว พริกขี้หนูสวน รากผักชี กระเทียม พริกชี้ฟ้าแดง น้ำปลา เกลือ น้ำตาลปี๊บ ให้เข้ากัน 2.นำปลากะพงพันรอบข่าให้สวยงาม วางบนใบผักกาดขาวและขึ้นฉ่าย 3.นึ่งบนน้ำเดือด 4 นาที ราดส่วนผสมในข้อ 1 เล็กน้อย นึ่งต่ออีก 1 นาที ยกลงราดด้วยส่วนผสมข้อ 1 ตกแต่งให้สวยงาม Tip : การล้างปลาให้ไม่มีกลิ่นคาว ทาเกลือหรือทาน้ำมะนาวให้ทั่ว แล้วล้างให้สะอาด หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2012, 08:59:18 AM เมี่ยงปลากระทงทอง
(http://img.kapook.com/image/baby1/01_281.jpg) เมี่ยงปลากระทงทอง ส่วนผสม แป้งสาลีอเนกประสงค์ 3/4 ถ้วย แป้งข้าวเจ้า 1/4 ถ้วย น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา เกลือ 1 ช้อนชา น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ ไข่แดง 2 ฟอง น้ำปูนใส 2 ถ้วย น้ำมันสำหรับทอด 5 ถ้วย ปลาทับทิมหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า ทอดกรอบ 50 กรัม มะพร้าวขูดคั่ว 30 กรัม ขิงอ่อนหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 10 กรัม หอมแดงหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 20 กรัม มะนาวหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 20 กรัม ถั่วงคั่ว 30 กรัม น้ำตาลปี๊บ 150 กรัม น้ำมะขามเปียกข้น ๆ 80 กรัม น้ำปลา 30 กรัม วิธีทำ 1.นำหม้อตั้งไฟ ใช้ไฟแรง ตักน้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก น้ำปลา ใส่หม้อ เคี่ยวให้ข้นจนเข้ากันดี 2.ตักส่วนผสมขึ้นพักให้เย็น แล้วคนเคล้ากับส่วนผสมทั้งหมด แล้วพักไว้ 3.ทำกระทงทอง โดยผสมแป้งทั้งสองชนิด น้ำตาลทราย เกลือ คนให้เข้ากัน 4.ผสมน้ำมันพืช ไข่แดง น้ำปูนใส คนให้กัน เทส่วนผสมแป้งคนให้เข้ากัน กรองด้วยที่ร่อนแป้ง 5.นำพิมพ์ที่ร้อนจุ่มลงแป้ง แล้วนำไปทอดให้แป้ง มีสีเหลืองทอง ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน พักไว้ให้เย็น 6.ตักส่วนผสมที่พักไว้ ใส่กระทงทอง แล้วจัดเสิร์ฟ Tip : วิธีป้องกันไม่ให้ปลาเหม็นคาว นำเกลือป่นทาปลาให้ทั่วหรือน้ำส้มสายชู แล้วนำไปล้างให้สะอาดอาจใช้ปลาชนิดอื่นแทนได้ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2012, 09:01:03 AM ทะเลผัดน้ำพริกเผา
(http://siamdara.com/Picture_Girl/201201284005990.jpg) ส่วนผสม - ปลาหมึก200 กรัม - กุ้งชีแฮ้100 กรัม - น้ำพริกเผา1 ช้อนโต๊ะ - พริกชี้ฟ้าแดง3 เม็ด - กระเทียม4 กลีบ - ถั่วฝักยาวหั่นท่อน2 ฝัก - โหระพาเด็ดใบ1/4 ถ้วย - พริกไทยอ่อน3 ช่อ - น้ำตาลทราย1 ช้อนชา - ซีอิ้วขาว1 ช้อนโต๊ะ - ซอสหอยนางรม1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ 1 เริ่มจากล้างปลาหมึกให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นๆ ส่วนกุ้งล้างแกะเปลือก ตัดหัวไว้หาง ผ่าหลังดึงเส้นดำออกเตรียมไว้ 2 ต่อจากนั้นนำพริกชี้ฟ้า 2 เม็ด มาโขลกรวมกับกระเทียมให้ละเอียด ส่วนพริกชี้ฟ้าอีกเม็ดมาหั่นแฉลบใส่ถ้วยเตรียมไว้ 3 ตั้งกระทะเทน้ำมัน พอร้อนใส่กระเทียมกับพริกที่โขลกไว้ไปผัดให้หอม ใส่กุ้งกับปลาหมึกลงไปผัด 4 ตามด้วยถั่วฝักยาวและพริกไทยอ่อน ใส่น้ำพริกเผา ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว น้ำตาลทรายและซอสหอยนางรม 5 พอสุก ใส่ใบโหระพาและพริกชี้ฟ้าแดงที่หั่นแฉลบไว้ คนให้เข้ากัน ปิดไฟ ตักใส่จานเสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2012, 08:12:14 PM ราเมนไข่เจียวปูอัด
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img8/125959.jpg) เส้นราเมนนิ่มๆ ในซุปหอมซอสอร่อย โปะหน้าด้วยไข่เจียว ส่วนผสม 2-3 ที่ •เส้นราเมนสดลวกสุก 150 กรัม •ไข่ไก่ 2 ฟอง •ปูอัดหั่น 3 แท่ง •น้ำซุปปลา 2 ถ้วย •ต้นหอมซอย 2 ต้น •เกลือ •พริกไทยเล็กน้อย •เครื่องปรุงซอส •น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ •น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ •ซีอิ้วญี่ปุ่น 2 ช้อนโต๊ะ •แป้งข้าวโพดละลายน้ำ 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ 1.เคี่ยวซีอิ๊ว น้ำส้มสายชู น้ำตาลทรายให้เข้ากัน ชิมรสพอได้ที่ใส่น้ำแป้งข้าวโพด เพื่อเพิ่มความเหนียวให้น้ำซอสเตรียมไว้ 2.ตีไข่ผสมกับปูอัดที่ฉีกเป็นเส้นๆ ปรุงรสด้วยเกลือพริกไทยเล็กน้อยนำไปเจียวจนขึ้นฟู นำเส้นราเมนและไข่เจียวจัดใส่ชามเติมน้ำซุปร้อนๆ และราดด้วยซอสที่ทำเตรียมไว้โรยด้วยต้นหอมซอย ขอบคุณ LISAGURU หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2012, 08:16:57 PM 2 เมนูยอดฮิต ถูกใจเบบี้
(http://img.kapook.com/image/baby1/03_32.jpg) 2 เมนูยอดฮิต ถูกใจเบบี้ (รักลูก) เรื่อง : MelonMint / ภาพ : ภิญโญ ถวิลวัฒน์ วันนี้เรามีวิธีทำเมนูที่ง่ายแสนง่าย แต่เบบี้ติดใจ อร่อยอิ่มกินหมดทุกมื้อมาฝากกันค่ะ (http://img.kapook.com/image/baby1/01_194.jpg) โจ๊กปลาดอลลี่ (เมนูวัย 7 เดือนขึ้นไป) ส่วนผสม ข้าวสวย 1 ถ้วย ฟักทองหั่นเต๋าลวกสุก ½ ถ้วย ปลาดอลลลี่ลวกสุก 2-3 ชิ้น วิธีทำ 1.ต้มข้าวสวย คนไปมาจนข้าวเริ่มแตกเม็ด ใส่ฟักทอง คนไปมาให้เละเป็นเนื้อเดียวกัน 2.หั่นปลาดอลลี่เป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วใส่ลงไป คนเบา ๆ 2-3 รอบ ตักใส่ถ้วยพร้อมกินแล้วค่ะ Tip ขณะต้มข้าวสวย ให้ใช้ไฟอ่อน และคอยรินน้ำซุปเติมไปเรื่อย ๆ คนไปมาจนกว่าข้าวจะแตกเม็ด เพื่อป้องกันข้าวไหม้ติดก้นหม้อได้[/size] (http://img.kapook.com/image/baby1/03_32.jpg) ข้าวบล็อกโคลี (เมนูวัย 8 เดือนขึ้นไป) ส่วนผสม ข้าวสวย 1 ถ้วย บล็อกโคลีลวกสุกหั่นละเอียด ½ ถ้วย เนื้อไก่ลวกฉีกฝอย วิธีทำ ต้มข้าวสวยให้แตกเม็ดเล็กน้อย ใส่บล็อกโคลี และเนื้อไก่ลงไป คนให้เข้ากัน พอสุกก็ยกลงใส่ถ้วยค่ะ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กุมภาพันธ์ 15, 2012, 08:15:59 PM ขนมสอดไส้
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img0/126383.jpg) ส่วนผสมไส้ -มะพร้าวทึนทึกขูดฝอย ½ กิโลกรัม -น้ำตาลปี๊บ 100 กรัม -น้ำเปล่า ส่วนผสมแป้งหุ้มไส้ -แป้งข้าวเหนียวดำสด 300 กรัม -น้ำเปล่า 1/3 ถ้วย ส่วนผสมตัวแป้ง -แป้งข้าวเจ้า 100 กรัม -กะทิ 2 ถ้วย -เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ -น้ำตาลทราย 100 กรัม วิธีทำ 1.นำกระทะตั้งไฟใส่น้ำเปล่า น้ำตาลปี๊บ เคี่ยวพองวด ใส่มะพร้าวลงกวนจนเหนียวดี ยกลง เมื่อเย็นดีแล้ว แบ่งปั้นเป็นก้อน กลมเล็กๆ ขนาดประมาณ 1 เซนติเมตร ใส่ในภาชนะที่มีฝาปิดสนิท อบด้วยควันเทียน .นวดแป้งข้าวเหนียวกับน้ำเปล่า โดยค่อยๆ ใส่น้ำที่ละน้อยนวดจนแป้งนิ่ม แล้วปั้นเป็นก้อนเล็กๆ ขนาดประมาณ 1 ซ.ม. แผ่แป้งออกเป็นแผ่นบางๆ หุ้มไส้ให้มิดแล้วพักไว้ 3.ผสมแป้งข้าวเจ้า กะทิ เกลือป่น และน้ำตาลทราย เข้าด้วยกัน ใส่ในกระทะ ยกขึ้นตั้งไฟกลาง กวนจนข้น ยกลง 4.เตรียมใบตองเป็นรูปรียาว วางไส้ที่หุ้มแป้งแล้วลงตรงกลาง ตักส่วนผสมตัวแป้งราดลงให้มิดไส้ ห่อให้มีลักษณะทรงสูง คาดทับด้วยทางมะพร้าวหรือใบตอง กลัดด้วยไม้กลัด นำมาเรียงใส่ลังถึง นึ่งด้วยน้ำเดือดจัดไฟแรง ประมาณ 10-15 นาที PaPaMenu หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กุมภาพันธ์ 15, 2012, 08:19:45 PM แกงเหลืองปลากะพงใส่คูน
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img9/126382.jpg) ส่วนผสม -เนื้อปลากะพงหั่นชิ้นพอคำ 200 กรัม -พริกแกงเหลือง 100 กรัม -ต้นคูนหรือทางคูนหั่นเป็นชิ้นพอคำ 1 ทาง -น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ -น้ำตาลปี๊บ ½ ช้อนโต๊ะ -น้ำมะขามเปียก 3 ช้อนโต๊ะ -น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ -น้ำสะอาด 2 ถ้วย วิธีทำ 1.ตั้งหม้อไฟปานกลาง ใส่น้ำสะอาดและพริกแกงลงไป คนให้พริกแกงละลายจนทั่วดี พอน้ำแกงเดือด 2.ใส่ปลาลงไปต้ม ห้ามคนเพราะจะทำให้ปลาคาว พอปลาเริ่มสุกใส่ต้นคูน ใช้ตะหลิวหรือทัพพีกดให้ต้นคูนจมน้ำแกง 3.ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล น้ำมะขามเปียก และน้ำมะนาว คนเบาให้เข้ากัน ปิดไฟ ตักใส่ชาม ยกเสิร์ฟ PaPaMenu หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กุมภาพันธ์ 15, 2012, 08:22:46 PM แซลมอลยำสมุนไพร
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img9/126453.jpg) ประโยชน์จากสมุนไพรที่เข้ากันอย่างลงตัวกับเนื้อแซลมอนย่าง ผ่านเครื่องน้ำยำแสนอร่อย ส่วนผสม 1-2 ที่ * แซลมอลเลาะหนังออก 150 กรัม * ข่าซอย 30 กรัม * ขิงซอย 30 กรัม * ใบมะกรูดซอย 6 ใบ * กระเทียมสดสับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ * ผักชีฝรั่งซอย 5 ใบ * ตะไคร้อ่อนซอย 2 ต้น * พริกขี้หนูซอย 6 เม็ด * น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ * น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ * น้ำเชื่อม 2-3 ช้อนโต๊ะ * น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ * น้ำเชื่อม 2-3 ช้อนโต๊ะ * พริกขี้หนูซอย 6 เม็ด * น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ 1. หั่นปลาแซลมอนเป็นชิ้นเต๋าขนาดพอคำ จากนั้น นำไปย่างด้วยไฟจนสุกดีแล้วพักไว้ 2. ใส่เครื่องปรุงที่เหลือลงเคล้าเข้าด้วยกันในถ้วยผสม ปรุงรสให้ค่อนข้างเข้มข้น จากนั้น นำเนื้อปลาที่ย่างเตรียมไว้ลงเคล้าให้เข้ากันชิมรส จัดลงจานพร้อมเสิร์ฟ ขอบคุณ LISAGURU หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กุมภาพันธ์ 15, 2012, 08:27:17 PM ข้าวผัดมังกี้
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img8/126451.jpg) ส่วนผสมเห็ดหอมผัดแห้ง * เห็ดหอมแห้งแช่น้ำจนนิ่มบีบน้ำออกจนหมาด ซอยเป็นเส้น 1 ถ้วย * ลูกผักชีคั่วบดหยาบ 2 ช้อนโต๊ะ * ยี่หร่าคั่วบดละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ * ซีอี๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ * น้ำตาลปึกหรือน้ำตาลมะพร้าว 2 ช้อนโต๊ะ * เกลือ 1 ½ ช้อนโต๊ะ * รากผักชี กระเทียม พริกไทย โขลกรวมกัน 2 ช้อนโต๊ะ * น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ * น้ำมันพืชสำหรับผัด 1 ช้อนโต๊ะ ส่วนผสมเครื่องข้าวผัด * ข้าวกล้องงอกหุงสุก 4 ถ้วย * ผักคะน้าทั้งใบและก้านหั่นแยกกันไว้ 1 ถ้วย * เห็ดหอมผัดแห้ง 1 ถ้วย * ไข่ไก่ 2 ฟอง * เกลือ 2 ช้อนชา * ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ * พริกไทยป่น 1 ช้อนชา * น้ำมันพืชสำหรับผัด 1 ช้อนโต๊ะ ส่วนผสมอื่น ๆ * มะนาวผ่าซีกตามชอบ * เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบกรอบและพริกขี้หนูสวนซอยสำหรับโรยหน้าข้าวผัดตามชอบ วิธีทำ 1. ทำ เห็ดหอมผัดแห้ง โดย ผัดรากผักชี กระทียม พริกไทย ในน้ำมันจนหอม ใส่เห็ดหอมที่ซอยไว้ทั้งหมด ผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วย เกลือ ซีอิ๊วขาว น้ำตาลปึก ผัดต่อไปสักพัก จึงใส่ลูกผัดชีและยี่หร่าตามลงไปใส่น้ำมันงา ผัดไปเรื่อยๆ ประมาณ 20 นาที จนเห็ดเริ่มแห้ง ปิดไฟ พักให้เย็น 2. ผัด ข้าว โดยตั้งกระทะเติมน้ำมันเล็กน้อย พอน้ำมันเริ่มร้อน ใส่เห็ดผัดแห้ง ลงไป ตามด้วยข้าวสวย ผัดพอเข้ากัน ใช้ตะหลิวแหวกข้าวตรงกลางกระทะออก ตอกไข่ใส่ลงไปทั้งสองฟอง ยีไข่ด้วยตะหลิวจนไข่แดงและไข่ขาวเข้ากัน พอสุก ตักข้าวกลบแล้วผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยเกลือ ซีอีซขาว และพริกไทย ใส่ก้านคะน้าลงผัดกับข้าวสักพัก จึงใส่ส่วนใบ ผัดให้ผักสลด จึงตักใส่จาน โรยด้วยเม็ดมะม่วงหิมพานต์อบกรอบ พริกขี้หนูซอย บีบน้ำมะนาวเล็กน้อยก่อนรับประทาน ขอบคุณเมนูจาก healthandcuisine หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กุมภาพันธ์ 17, 2012, 09:25:47 PM ปลาตาเดียวทอดซอสโชยุ
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img5/126566.jpg) ส่วนผสม (สำหรับ 4 ที่) ปลาตาเดียว 1 ตัว เกลือ พริกไทยเล็กน้อย แป้งสาลีเอนกประสงค์เล็กน้อย เลมอน 1 ซีก น้ำมันสำหรับทอด ส่วนผสมซอสโชยุ โชยุ 1/4 ถ้วย มิริน 1/4 ถ้วย สาเก 2 ช้อนโต๊ะ คอมบุ 2*2 นิ้ว ปลาแห้งญี่ปุ่น 2 ช้อนโต๊ะ น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย วิธีทำ ทำซอสโชยุโดยใส่คอมบุในกระทะตั้งไฟสักครู่เมื่อคอมบุหอมใส่สาเกและมิรินเร่งไฟแรงให้แอลกอฮอล์ระเหย ใส่ส่วนผสมที่เหลือเคี่ยวจนซอสข้น กรองเก็บไว้ใช้ แล่เนื้อปลาออกเก็บกระดูกไว้ หั่นเนื้อปลาเป็นชิ้นเต๋าโรยเกลือ พริกไทยให้ทั่วทั้งเนื้อปลาและกระดูก ตบแป้งบางๆ ทอดในน้ำมันร้อนจนสุกเหลือง กินคู่กับซอสโชยุและเลมอน ขอบคุณบทความ healthandcuisine หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มีนาคม 02, 2012, 09:55:52 PM กุ้งนึ่ง
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img2/127149.jpg) เครื่องปรุง -น้ำมันถั่วเหลือง 1 ช้อนโต๊ะ -กระเทียมสับ 1 ช้อนชา -เส้นหมี่แช่น้ำพอนุ่ม 100 กรัม -ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา -น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ -ต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ -กุ้งผ่าหลัง 300 กรัม -กระเทียมปรุงรส สำหรับโรยหน้าเส้นหมี่ -ต้นหอมหั่นท่อน สำหรับโรยหน้า -พริกชี้ฟ้าแดงหั่นแฉลบ เอาเม็ดออก สำหรับโรยหน้า วิธีทำ -นำกระทะตั้งไฟใส่น้ำมันพอร้อน ใส่กระเทียมสับลงไปผัดให้หอม แล้วใส่เส้นหมี่ลงไปผัดให้เข้ากัน -ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย ผัดให้เข้ากัน ก่อนปิดไฟใส่ต้นหอมซอยลงไปผัดให้เข้ากัน -ในภาชนะสำหรับเข้าไมโครเวฟ นำกุ้งผ่าหลังแล้ววางลงไป แล้วนำเส้นหมี่ที่ผัดไว้วางทับบนตัวกุ้ง -นำกระเทียมปรุงรสที่เตรียมไว้ มาราดทับบนเส้นหมี่ ปิดหน้าด้วยพลาสติกห่ออาหาร นำเข้าไมโครเวฟ ประมาณ 5 นาทีหรือจนกระทั่งกุ้งสุก นำออกจากไมโครเวฟ -โรยหน้าด้วย ต้นหอมหั่นท่อน และพริกชี้ฟ้าแดง จัดเสิร์ฟ เครื่องปรุงกระเทียมปรุงรส น้ำมันถั่วเหลือง พอประมาณ กระเทียมสับละเอียด 1/2 ถ้วยตวง เกลือ 1/2 ช้อนชา วิธีทำ นำกระทะตั้งไฟ ใส่น้ำมันถั่วเหลืองลงไป พอร้อนใส่กระเทียมลงไปผัดพอหอม ปรุงรสด้วยเกลือ คนให้พอกระเทียมสุก แล้วนำไปราดหน้าบนเส้นหมี่ผัด ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มีนาคม 04, 2012, 05:29:09 PM ราดหน้าเกี๊ยวหมูทะเลผักรวม
(http://www.siamdara.com/Picture_Girl/201202299450750.jpg) ส่วนผสม - กุ้ง แกะเปลือก10-12 ตัว - ปลาหมึก 1 ตัว - เกี๊ยวหมู10-15 ตัว - บล็อกโคลี่หั่นชิ้นพอคำ - แครอท ปอกเปลือกหั่นแว่น - ข้าวโพดอ่อน ผ่าครึ่ง - เห็ดแชมปิยองหรือเห็ดฟาง ผ่าซีก - กระเทียมสับ - น้ำมันมะกอก - น้ำเปล่าหรือน้ำซุป - คนอร์หมูหรือไก่ - เต้าเจี้ยว - ซอสหอยนางรม - ซีอิ้วขาว - น้ำตาลทราย - แป้งข้าวโพด - เกลือ (ไว้ใส่ตอนลวกบล็อคโคลี่ แครอทและข้าวโพดอ่อน) - พริกไทยป่น ไว้โรยหน้าตอนราดน้ำราดหน้าแล้ว - พริกน้ำส้ม - พริกป่น - น้ำปลา - น้ำตาลทราย วิธีทำ 1. ลวกบล็อคโคลี่ แครอทและข้าวโพดอ่อนให้สุก แล้วแช่ในน้ำเย็น เพื่อให้สีของผักคงสีเดิมไว้ ต่อจากนั้นก็ลวกเกี๊ยวหมูให้สุก พักไว้ 2. ริ่มทำน้ำราดหน้า โดยตั้งกระทะเทน้ำมันมะกอกลงไป พอน้ำมันเริ่มร้อน ก็ใส่กระเทียม เจียวให้เป็นสีเหลืองทอง ต่อจากนั้นก็ใส่กุ้ง ปลาหมึกและเห็ดแซมปิยองตาม ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาวและซอสหอยนางรม คลุกเคล้าให้เข้ากัน เติมน้ำเปล่าหรือน้ำซุปลงไป พอน้ำซุปเริ่มเดือด ก็ใส่คนอร์ เต้าเจี้ยว และน้ำตาลทรายตาม ชิมให้ได้รสชาติที่ต้องการ 3. ต่อจากนั้นก็ค่อย ๆ ใส่แป้งข้าวโพดที่ละลายน้ำเปล่าลงไป คนให้เข้ากัน จนได้ความข้นตามที่ต้องการ 4. จัดเกี๊ยวและผักที่ลวกไว้ลงในจาน ราดน้ำราดหน้าลงไป โรยหน้าพริกไทยป่นตบท้าย แค่นี้ก็ได้ราดหน้าเกี๊ยวหมูทะเลผักรวมแสนอร่อยแล้ว หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มีนาคม 14, 2012, 07:51:14 PM เต้าเจี้ยวหลน
(http://www.jaowka.com/wp-content/uploads/2012/03/250.jpg) เครื่องปรุง + ส่วนผสม - หมูสับ 70 กรัม - กะทิ 2 ถ้วยตวง - เต้าเจี้ยว 5 ช้อนโต๊ะ - ตะไคร้ซอย 2 ต้น - หอมแดงซอย 3 ลูก - พริกชี้ฟ้าแดง 2 เม็ด - น้ำตาล 3 ช้อนโต๊ะ - ผักสดต่างๆ สำหรับทานกับเต้าเจี้ยวหลน (กะหล่ำปลี, ข้าวโพดอ่อน, ถั่วฝักยาว, แตงกวา, อื่นๆ) วิธีทำทีละขั้นตอน 1. นำกะทิไปต้มในหม้อด้วยไฟปานกลาง จากนั้นใส่เต้าเจี้ยวลงไป คนให้เข้ากัน 2. รอจนส่วนผสมเดือดอีกครั้งจึงใส่หมูสับ, ตะไคร้, หอมแดงและพริกลงไป ต้มต่อไปอีก 3 นาที 3. ปรุงรสด้วยน้ำตาล คนจนน้ำตาลละลายและส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดี จึงปิดไฟ 4. ตักเต้าเจี้ยวหลนใส่ถ้วย เสริฟพร้อมผักสด (หรือผักต้มแล้วแต่ชอบ) และข้าวสวยร้อนๆ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มีนาคม 14, 2012, 07:53:48 PM กุ้งกระเทียมผัดพริกขี้หนู
(http://www.jaowka.com/wp-content/uploads/2012/03/1137.jpg) ส่วนผสม 1. กุ้งชีแฮ้ย่างไฟพอสุก 2 ขีด 2. เห็ดหอมสด 1 ขีด 3. กระเทียมบุบพอแตก 10 กลีบ 4. พริกขี้หนูบุบพอแตก 10 เม็ด 5. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ 6. น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนชา 7. น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ 8. น้ำมันสำหรับผัด 2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ 1. แกะเปลือกกุ้งที่ย่างแล้ว ฉีกเป็นชิ้นพอคำ แล้วพักไว้ เห็ดหอมสดผ่าครึ่ง ล้างให้สะอาด 2. เจียวกระเทียมและพริกขี้หนูในน้ำมันพอหอม ใส่กุ้งและเห็ดหอมลงผัด 3.เติมน้ำปลาและน้ำตาลทรายแดง เติมน้ำเปล่า ลงผัดให้เข้ากัน คนอีกครั้ง ตักขึ้นใส่จาน 4.กินกับข้าวกล้องร้อนๆ เคล็ดลับ กุ้งผัดกระเทียมจะมีกลิ่นหอมมากกว่าธรรมดา ต้องใช้กุ้งย่างแทนกุ้งสด ประโยชน์ของเมนูอาหารจานนี้ 1.กระเทียม – ช่วยลดคอเลสเตอรอล ฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย 2.พริกขี้หนู – มีสารเบต้าแคโรทีน ช่วยขับเหงื่อ ปัสสาวะ เจริญอาหาร ทำให้หลอดเลือดอ่อนตัว 3.ช่วยป้องกันโรคหัวใจ เลือดไหลหมุนเวียนดี ลดความดันเลือด 4.เห็ดหอม – สามารถยับยั้งโรคมะเร็ง 5.กุ้ง – เพิ่มน้ำนม 6.ข้าวกล้อง – มีวิตามินบี 1 บี 2 ป้องกันเหน็บชา หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มีนาคม 14, 2012, 07:58:34 PM เปาะเปี๊ยะทอดผัก 4 ธาตุ
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img6/127690.jpg) ส่วนผสม (สำหรับปอเปี๊ยะ 12 ท่อน) เตรียม 45 นาที ปรุง 45 นาที แผ่นปอเปี๊ยะ 12 แผ่น ไข่แดงตีพอแตกสำหรับติดแผ่นปอเปี๊ยะ น้ำมันสำหรับทอดปอเปี๊ยะ ผักแนมตามชอบ อาทิ ผักชี ผักชีใบเลื่อย ผักกาดหอม ฯลฯ ส่วนผสมไส้ปอเปี๊ยะผัก 4 ธาตุ -ไก่สับ 1 ถ้วย -ยำผัก 4 ธาตุ 2 ถุงบรรจุ -ผงงาดำที่แถมมาในถุงบรรจุยำผัก 4 ธาตุ 2 ถุง -เส้นบุก 80 กรัม -กระเทียมกลีบเล็กปอกเปลือกออกบางส่วนสับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ -ซอสปรุงรส 4 ช้อนโต๊ะ -น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ -พริกไทยป่น 1 ช้อนชา -น้ำมันพืชสำหรับผัด 3 ช้อนโต๊ะ ส่วนผสมน้ำจิ้ม -น้ำตาลทราย ¾ ถ้วย -น้ำปรุงรสยำผัก 4 ธาตุที่แถมมาในถุงบรรจุ 1 ซอง -พริกไทยป่น ½ ช้อนชา -เกลือ ½ ช้อนชา -พริกขี้หนูสับ 7 เม็ด -ซอสพริกศรีราชา 2-3 ช้อนโต๊ะ -มะละกอดิบขูดเป็นเส้นตามชอบ วิธีทำ 1.ทำน้ำจิ้มโดย ผสมทุกอย่างรวมกันยกเว้นมะละกอ ยกขึ้นตั้งไฟให้เดือด ปิดไฟพักให้เย็น ใส่เส้นมะละกอลงเคล้าให้เข้ากัน 2.ผัดไส้ปอเปี๊ยะ โดยผัดกระเทียมกับน้ำมันในกระทะด้วยไฟอ่อนจนเหลือง ใส่เนื้อไก่แล้วเร่งไฟขึ้นผัดให้เข้ากัน ใส่เส้นบุก แล้วปรุงรสด้วย ซอสปรุงรส น้ำตาล พริกไทย ผงงาดำ ผัดให้เข้ากัน จึงใส่ผัก 4 ธาตุ แล้วปิดไฟทันที ผัดต่อในกระทะพอผักสลด ตักขึ้นพักไว้ 3.ตักไส้ปอเปี๊ยะที่ผัดไว้ใส่ลงบนแผ่นแป้งปอเปี๊ยะเป็นแนวยาว แล้วพับมุมแป้งด้านซ้ายและขวาพอปิดไส้ก่อนตลบแป้งม้วนแผ่นแป้งให้เป็นท่อนกลม ทาชายแป้งด้วยไข่แดง แล้วม้วนปิดให้สนิท ทำจนส่วนผสมและแผ่นแป้งหมด แล้วนำไปทอดในน้ำมันด้วยไฟกลางจนสุก ตักขึ้นซับน้ำมัน แล้วจัดเสิร์ฟพร้อมผักและน้ำจิ้ม ขอบคุณข้อมูลจาก healthandcuisine หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มีนาคม 21, 2012, 08:33:57 PM อ่อมปลาแซลมอน
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img1/127979.jpg) ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่) เตรียม 30 นาที ปรุง 45 นาที ปลาแซลมอนขนาด 70 กรัม หั่นตามชอบ 2 ชิ้น -แครอทปอกเปลือกหั่นแว่น 8 แว่น -ซูกินีหั่นแว่น 8 แว่น -หอมใหญ่หั่นเป็นวง 6 วง -ใบมะกรูดฉีก 4 ใบ -น้ำเปล่า 1/3 ถ้วย -น้ำปลาร้าปรุง 1 ถ้วย -น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ -ข้าวคั่ว 2 ช้อนชา -เกลือเล็กน้อย ส่วนผสมพริกแกงอ่อม -พริกขี้หนูสด 7 เม็ด -กระเทียมกลีบเล็ก 7 กลีบ -ตะไคร้ซอย ¼ ถ้วย -หอมแขกซอย ½ ถ้วย วิธีทำ 1.ตำเครื่องพริกแกงอ่อมรวมกันให้ละเอียด พักไว้ 2.ใส่น้ำเปล่าลงในหม้อ นำพริกแกงลงไปละลาย แล้วยกหม้อขึ้นตั้งไฟ รอจนเครื่องแกงหอม ใส่แครอท ซูกินี หอมใหญ่ ลงไป เติมน้ำปลาร้าปรุง น้ำปลา เกลือ ข้าวคั่ว ปิดฝาเคี่ยวด้วยไฟอ่อนไปสักพัก พอให้ผักใกล้สุก เปิดฝา วางปลาแซลมอนทับลงบนผัก โรยใบมะกรูดฉีก แล้วปิดฝาหม้อ รอจนชิ้นปลาสุก (ประมาณ 5-7 นาที) ปิดไฟ 3.จัดอ่อมปลาใส่จาน โดยเรียงผักทั้งสามชนิดให้สวยงาม วางชิ้นปลาทับด้านบนผัก ตักน้ำแกงอ่อม ราดพอขลุกขลิก เสิร์ฟพร้อมข้าวเหนียวนึ่งร้อน ๆ ขอบคุณข้อมูลจาก healthandcuisine หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มีนาคม 21, 2012, 08:36:40 PM ยำปลาไส้ตันทอดกรอบกับขิงอ่อน
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img0/127978.jpg) ส่วนผสม ( สำหรับ 2 ที่ ) เตรียม 20 นาที ปรุง 5 นาที -ปลาไส้ตันทอดกรอบ 1 ถ้วย -กุ้งแห้งตัวโตล้างให้สะอาดนำไปนึ่งหรือต้มจนสุก ¼ ถ้วย -หอมเล็กซอย 7 หัว -ขิงอ่อนซอย ¼ ถ้วย -พริกขี้หนูตำละเอียด 3 เม็ด -น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ -น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ -น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ -โคนต้นหอมซอยเป็นเส้นตามชอบ วิธีทำ ผสมน้ำมะนาว น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา คนให้เข้ากัน ใส่กุ้งแห้ง หอมซอยและขิงอ่อนซอยลงไปคลุกพอเข้ากัน จัดปลาไส้ตันทอดกรอบใส่จาน ตักส่วนผสมข้อหนึ่งราดด้านบน โรยด้วยโคนต้นหอมซอย เสิร์ฟพร้อมกับข้าวมันไก่ ขอบคุณข้อมูลจาก healthandcuisine หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มีนาคม 24, 2012, 09:17:20 PM เห็ดเข็มทองน้ำแดง
(http://www.siamdara.com/Picture_Girl/201203081176510.jpg) ส่วนผสม - เต้าหู้ญี่ปุ่นโมเมน1 ก้อน - เห็ดเข็มทอง200 กรัม - แป้งข้าวโพด1 ถ้วย - แป้งมันฮ่องกง1 ช้อนโต๊ะ - น้ำซุปปลาแห้ง1 ถ้วย - มิริน3 ช้อนโต๊ะ - โชยุ3 ช้อนโต๊ะ - น้ำตาล1 ช้อนชา วิธีทำ 1. ล้างเต้าหู้ญี่ปุ่นในน้ำแบบเบามือก่อน 1 น้ำ แล้วห่อเต้าหู้ด้วยกระดาษทิชชู่เอนกประสงค์2 ชั้น 2. วางห่อเต้าหู้ลงบนถาดหรืออะไรก็ได้ที่พี้นราบ แล้วทับห่อเต้าหู้ด้วยเขียงทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที 3. เห็ดเข็มทองตัดโคลนทิ้ง ล้างน้ำให้สะอาดใส่ตะแกรงพักไว้ก่อน 4. ต่อจากนั้นหั่นเต้าหู้ตามขวางให้ได้ 6 ชิ้น นำเต้าหู้ไปคลุกลงบนแป้งข้าวโพดให้ทั่ว 5. ตั้งกระทะเทน้ำมัน ใช้ไฟอ่อน พอร้อนใส่เต้าหู้ลงไปทอดให้เหลืองสวย ตักขึ้นพักไว้บนกระดาษซับน้ำมัน 6. น้ำซุปปลาแห้งใส่หม้อยกขึ้นตั้งไฟ พอเดือดใส่มิริน โชยุและน้ำตาล คนให้เข้ากัน 7. พอเดือดจัด ใส่เห็ดเข็มทองลงไป พอเห็ดสุก ใส่แป้งมันฮ่องกงลงไป คนให้น้ำข้น ปิดไฟ 8. จัดเต้าหู้ญี่ปุ่นทอดใส่จาน ตักเห็ดเข็มทองน้ำแดงราด โรยหน้าด้วยพริกไทยป่นเสิร์ฟร้อนๆ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มีนาคม 24, 2012, 09:19:30 PM หมึกดำพาสต้า
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img4/128049.jpg) ส่วนผสม •เส้นหมึกดำลวกสุก 150 กรัม •น้ำดีหมึกจากปลาหมึก 2 ออนซ์ •น้ำมันมะกอก 1 ถ้วย •เกลือเล็กน้อย •กุ้งแกะเปลือก 30 กรัม •หอยลายพร้อมเปลือก 50 กรัม •วิปปิ้งครีม 1 ช้อนโต๊ะ •ไวน์ขาว 1 ออนซ์ •กระเทียมสับ 1 ช้อนชา •ใบโหระพาเด็ดและพริกขี้หนูตามชอบ วิธีทำ 1.ตั้ง กระทะใส่น้ำมันมะกอกเล็กน้อยร้อนดีแล้วใส่กระเทียมสับผัดพอหอม ใส่เนื้อกุ้งและหอย ตามด้วยน้ำดีหมึกและพริกขี้หนูซอยแล้วผัดให้เข้ากันจนสุก 2.ใส่เส้นหมึก เติมวิปปิ้งครีมและไวน์ขาวผัดให้เข้ากันป รุงรสด้วยเกลือและพริกไทยตามชอบ จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟ ขอบคุณ LISAGURU หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มีนาคม 27, 2012, 06:37:01 PM (http://variety.teenee.com/foodforbrain/img3/128274.jpg) เปาะเปี๊ยะสดไส้ปลาข้าวสาร ส่วนผสมสำหรับ 4 ที่ เตรียม 15 นาที ปรุง 15 นาที แผ่นแป้งกะญอ 4 แผ่น ไข่เจียวหั่นเป็นเส้นยาว 2 ฟอง ปลาข้าวสารทอดกรอบ ½ ถ้วย ผักกาดหอมตามชอบ ใบโหระพาตามชอบ ต้นหอมหั่นท่อนตามชอบ แตงร้านเอาไส้ออกหั่นเป็นท่อนยาวตามชอบ แครอทหั่นเป็นท่อนยาวตามชอบ วิธีทำ แผ่นแป้งกะญอจุ่มน้ำเล็กน้อยพอชุ่ม วางลงบนเขียงแล้ววางทับด้วยผักกาดหอม โหระพา ต้นหอม แตงร้าน แครอท ไข่เจียว และโรยปลาข้าวสารเป็นลำดับสุดท้าย ม้วนเป็นแท่งเก็บปลายให้สวยงาม หั่นเป็นชิ้นพอคำ จัดใส่จานเสิร์ฟ พร้อมน้ำจิ้ม ส่วนผสมน้ำจิ้ม น้ำจิ้มไก่ ½ ถ้วย น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ หัวไชเท้าขูดเป็นเส้นยาวตามชอบ แครอทขูดเป็นเส้นยาวตามชอบ วิธีทำ ผสมน้ำจิ้มไก่และน้ำส้มสายชูแล้วคนให้เข้ากัน ใส่หัวไชเท้า และแครอท ตักใส่ถ้วย เสิร์ฟพร้อมเปาะเปี๊ยะ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มีนาคม 27, 2012, 06:44:19 PM (http://variety.teenee.com/foodforbrain/img2/128273.jpg) 'ผักม้วน 5 สีน้ำแดง' สูตรนี้ไม่เน้นการเติมเครื่องปรุงมาก โดยเฉพาะพวกซอสปรุงรสใส่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ขั้นตอนในการทำ เริ่มจากผัดไส้ทั้งหมดกับน้ำมันและกระเทียมเล็กน้อย พร้อมทั้งปรุงรส เมื่อผัดไส้สุกแล้วให้นำไปม้วนกับใบกะหล่ำปลีต้มสุก โดยม้วนเป็นหลอดและมัดด้วยต้นหอม นำไปนึ่งจนสุก ส่วนน้ำซุปผัก ใช้แครอท หัวไชเท้า ปอกเปลือกหั่นเป็นท่อน ฟักทองหั่นเป็นชิ้นโต หอมหัวใหญ่ผ่าครึ่งผล ข้าวโพดหวานใช้ทั้งฝัก และผักชีทั้งต้น นำต้มลงในหม้อพร้อมกัน ใช้ไฟแรงจนเดือด ลดไฟลง และเคี่ยวต่อด้วยไฟอ่อนๆ เป็นเวลา 1 ชั่วโมง กรองแต่น้ำ เมื่อได้น้ำซุปผักจึงนำมาทำน้ำแดง โดยใส่น้ำซุปลงไปในกระทะ ตามด้วยเห็ดหอมหั่นบางๆ เมื่อเดือดแล้ว เติมแป้งมันละลายน้ำคนจนส่วนผสมเข้ากัน ปรุงรสด้วยซอสถั่วเหลือง ตามด้วยพริกไทยป่น และน้ำมันงาเล็กน้อย สำหรับผู้ที่ชอบกลิ่นของเหล้าจีนก็สามารถใส่ได้เล็กน้อยเช่นกัน จากนั้นคนทั้งหมดให้เข้ากันแล้วนำน้ำแดงราดบนผักม้วนที่เตรียมไว้ โรยหน้าด้วยผักชีและผักชี้ฟ้าแดงให้ดูสวยงามน่ารับประทาน หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มีนาคม 27, 2012, 06:49:24 PM เห็ดหอมนึ่ง
(http://www.siamdara.com/Picture_Girl/201203220702530.jpg) ส่วนผสม - เห็ดหอมแห้ง7 ดอก - หมูบด50 กรัม - กุ้งชีแฮ้150 กรัม - เมล็ดถั่วลันเตาอบกรอบ1 ช้อนโต๊ะ - ข้าวโพดหวานกระป๋อง1 ช้อนโต๊ะ - แป้งข้าวโพด1 ช้อนโต๊ะ - พริกไทยป่น1/2 ช้อนชา - น้ำตาลทราย1/2 ช้อนชา - ซีอิ้วขาว1 1/2 ช้อนโต๊ะ - ซอสปรุงรส1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ 1. ล้างกุ้งให้สะอาด ปอกเปลือกผ่าหลังดึงเส้นดำออก สับกุ้งให้แค่หยาบๆ ก็พอไม่ต้องละเอียดมาก เวลาทานจะได้รู้สึกถึงเนื้อกุ้ง 2. สมกุ้งสับกับหมูบดเข้าด้วยกัน ปรุงรสด้วย พริกไทย น้ำตาล ซีอิ้วขาว ซอสปรุงรส ใส่แป้งข้าวโพด นวดให้เข้ากันแล้วปั้นเป็นลูกๆ ขนาดเท่ากันให้ได้ 7 ลูก 3. เห็ดหอมไปแช่น้ำจนนิ่ม ตัดก้านแข็งของเห็ดหอมออก วางเห็ดเรียงหงายบนจาน นำเนื้อหมูที่ปั้นวางบนเห็ดหอม แล้วตกแต่งหน้าด้วยเมล็ดถั่วลันเตาและข้าวโพดลงบนหมู ให้แลดูเหมือนดอกไม้ 4. ไปนึ่งในหม้อนึ่ง ตั้งเวลาประมาณ 20 นาที ยกลงเสิร์ฟ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มีนาคม 27, 2012, 06:51:07 PM ฉู่ฉี่เต้าหู้ไข่
(http://www.siamdara.com/Picture_Girl/201203238837170.jpg) ส่วนผสม - เต้าหู้ไข่1 หลอด หั่นเป็นท่อนแล้วทอด - พริกแกง1 ช้อนโต๊ะ - หมูสับ2 ช้อนโต๊ะ - หัวกระทิ1 ถ้วยตวง - พริกเหลือง1 เม็ด หั่นเป็นเส้น - ใบมะกรูด4 ใบซอยเป็นฝอย - น้ำปลา1 ช้อนโต๊ะ - น้ำตาล1 ช้อนชา วิธีทำ 1. ตั้งกระทะให้พอร้อน 2. เทน้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ 3. ใส่พริกแกงผัดให้เข้ากัน 4. ใส่เนื้อหมูสับ 5. ใส่น้ำปลา 6. ใส่น้ำตาล 7. ผัดพริกเหลืองใส่กะทิ 8. โรยด้วยใบมะกรูดฝอยแล้วตักขึ้น หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มีนาคม 28, 2012, 08:33:51 PM ไข่เจียวมันฝรั่ง
ส่วนผสม • มันฝรั่ง 500 กรัม • ไข่ไก่ 2 ฟอง • กระเทียมสับละเอียด 6 กลีบ • ผักชีสับละเอียด(ไม่ใช้ราก) 1 ช้อนโต๊ะ • เนยสด 1 ช้อนโต๊ะ • เกลือป่น 1 ช้อนชา • พริกไทยป่น 1 ช้อนชา • น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ 1. นำมันฝรั่ง มาปอกเปลือก ล้างน้ำ แล้วหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็กๆ 2. นำกระทะตั้งไฟ ใส่น้ำมันลงไป เมื่อร้อน นำมันฝรั่งลงไปทอดให้เหลืองแล้วตักขึ้น พักไว้บนกระดาษซับน้ำมัน 3. ในกระทะเดียวกัน เทน้ำมันออก เหลือติดไว้เล็กน้อย แล้วนำผักชี กระเทียม พริกไทย เกลือ ใส่ลงไป คนให้สุกทั่วกัน 4. นำมันฝรั่งทอด ที่พักไว้ใส่ลงไปในกระทะ ตามด้วยใส่เนยสด ลงไปข้างๆมันฝรั่งวนไปรอบๆ เพื่อให้เนยละลายเข้าไปในมันฝรั่งเสียก่อน จึงเทไข่ที่ตีจนขึ้นฟูไว้แล้ว ลงไปให้กลบมันฝรั่ง กะว่าพอเหลืองค่อยกลับพลิกอีกด้านให้เหลือง 5. ตักขึ้นใส่จาน เสิร์ฟกับซอสมะเขือเทศ รับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มีนาคม 28, 2012, 08:35:25 PM ยำหมูยอ
(http://www.121easy.com/uploadcontent/editor/newIMG/images/where2eat/cook/11713317105564.jpg) เครื่องปรุง หมูยอ ½ แท่ง ผักกาดหอม 2 ใบ หัวหอมใหญ่ ¼ หัว ผักชีฝรั่ง 3 ต้น ต้นหอม 1 ต้น มะเขือเทศ 1 ลูก น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ ซีอิ้วขาว (หรือน้ำปลา) 1 ½ ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1 ½ ช้อนชา พริกป่น ½ ช้อนชา น้ำเปล่า 3 ถ้วย วิธีทำ 1. หั่นหมูยอเป็นชิ้นขนาดพอคำ 2. เปิดเตาที่ไฟแรง นำน้ำเปล่าใส่หม้อ รอจนน้ำเดือด เมื่อน้ำเดือดแล้วให้นำหมูยอที่หั่นไว้ลงไปลวก ประมาณ 2 นาที จากนั้นก็เทน้ำที่ลวกทิ้งไปให้หมด 3. นำเครื่องปรุงต่างๆ คือ น้ำมะนาว ซีอิ้วขาว (หรือน้ำปลา) น้ำตาลทราย และพริกป่น มาผสมรวมกันในถ้วยผสม ชิมรสตามชอบ 4. ปลอกเปลือกหัวหอมใหญ่ ตัดรากผักชีฝรั่งและต้นหอม เด็ดก้านมะเขือเทศและผักกาดหอมแล้วนำผักต่างๆ ไปล้างน้ำให้สะอาด จากนั้น นำหัวหอมใหญ่มาซอยบางๆ นำผักชีฝรั่งและต้นหอมมาซอยหยาบๆ ส่วนมะเขือเทศนำมาแบ่งเป็น 4 ส่วน ควักไส้ออกแล้วหั่นเป็นชิ้นขนาดพอดีคำ 5. นำผักต่างๆ ไปใส่ลงในชามผสมรวมกับหมูยอที่ลวกไว้แล้ว เทน้ำยำที่ปรุงรสไว้ลงไป คลุกเคล้าเครื่องทั้งหมดให้เข้ากัน 6. จัดใส่จานที่รองด้วยผักกาดหอมเอาไว้ จากนั้นก็ยกเสิร์ฟได้เลยค่ะ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มีนาคม 28, 2012, 08:39:46 PM กุ้งอบเนยกระเทียม
(http://www.121easy.com/uploadcontent/editor/newIMG/images/where2eat/2(6).jpg) ส่วนผสม -กุ้งลายเสือ1 ตัวหนักประมาณ 250 กรัม -กระเทียมจีนแกะเปลือกสับ 1½ ช้อนโต๊ะ -เนยสดเค็ม ½ ช้อนโต๊ะ -ต้นหอมซอย ½ ช้อนโต๊ะ -พริกไทยดำบด ¼ ช้อนชา -เกลือ ¼ ช้อนชา วิธีทำ 1.ล้างกุ้งให้สะอาดตัดเอาขาออกให้หมด จากนั้นใช้มีดหรือกรรไกรผ่ากลางหลังกุ้งจนถึงหัวส่วนหลังให้ผ่าให้เข้าถึงเนื้อประมาณครึ่งหนึ่งของเนื้อกุ้ง แล้วใช้มือแผ่เปลือกกุ้งออกให้คงลักษณะดังรูป พักไว้ 2.นำเครื่องปรุงทั้งหมดผสมคลุกเคล้าใก้เข้ากัน จากนั้นนำมาทาบนเนื้อกุ้งจนทั่วดี 3.นำกุ้งที่ได้วางบนแผ่นฟลอยแล้วนำใส่ในเตาอบ อบด้วยไฟแรงปานกลางจนกุ้งสุกดี 4.นำกุ้งออกมาจัดใส่จาน เสิร์ฟร้อนๆ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มีนาคม 28, 2012, 08:42:46 PM มูสส้ม (Orange Mousse)
(http://img.natui.com./upload/20120229/20120229211219.jpg) 1.ส้ม 2-3 ผล(ส้มอะไรก็ได้มั้ง เอาที่รสจัดๆ เปรี้ยวอมหวานก็ดี) 2.น้ำตาลทราย 6 ชต 3.ไข่แดง 2 ฟอง 4.มาชเมลโลว์แบบครีม 1 ถ้วย 5.เฮฟวี่ครีม 1 ถ้วย 6.น้ำผึ้ง 1 ชต (เราไม่มี ใช้น้ำเชื่อมเมเปิล หรือน้ำตาลทรายก็ได้) วิธีทำแบ่งเป็นดังนี้ 1.ฝานเปลือกส้มเป็นชิ้นบางๆ อย่าให้ติดส่วนขาวๆมานะคะเอามาซัก 5-6 ชิ้น แบ่งไว้2-3 ชิ้น ที่เหลือซอยเป็นเส้นๆไว้แต่งหน้า 2.ทำน้ำเชื่อมส้ม โดยคั้นน้ำส้ม แล้วเอาใส่หม้อ ใส่น้ำตาลทราย ใส่ผิวส้ม ตั้งไฟ จนเดือด แล้วเคี่ยวจนเหลือครึ่งนึง หยิบชิ้นผิวส้มออก 3.นำ ไข่แดง 2 ฟอง มาตีให้ขึ้นขาว เทน้ำเชื่อมส้มลงไปเป็นสาย ตีตลอด อย่าให้ไข่สุกแล้วนำขึ้นตั้งไฟ คนเร็วๆ 2-3 นาที (ทำdouble boiler) กรองแล้วเอาเข้าตู้เย็นไว้ หรือเอาอ่างน้ำแข็งมารองไว้ มันจะได้เย็นเร็วๆ จากนั้น ใส่มาชเมลโลว์ครีม คนให้เข้ากัน เสร็จแล้วพักไว้ 4.นำเฮฟวี่ครีม มาตีให้ฟูตั้งยอดอ่อน ใส่น้ำผึ้ง เราไม่ตีมากนะคะ เดี๋ยวเนื้อไม่เนียน แล้วนำ ส่วนผสมข้อ 3 มาคนรวมให้เข้าใจ 5.จากนั้นเทใส่ถ้วยสวยๆ หรือแก้วอะไรก็ได้ แช่ตู้เย็น 2-3 ชม แต่งหน้าด้วยเปลือกส้ม ถ้ามีคุกกี้ เอามาบี้ๆใส่ลงไปด้วย อร่อยค่ะ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มีนาคม 28, 2012, 09:25:57 PM ไข่ต้มรูปหัวใจ
อุปกรณ์ - กล่องนมหรือกล่องน้ำผลไม้ UHT ตัดให้เปิดออก ล้างสะอาด แล้วผึ่งแห้ง - ตะเกียบแบบกลม (แบบเหลี่ยมก็ได้ แต่แบบกลมจะดีกว่า) - หนังยางสะอาด ๆ วิธีการทำ ขั้นตอนแรก : ตัดกล่องนมและพับครึ่งตามยาว ขั้นตอน 2: ไข่ต้มสุก (ถ้ายังอุ่นๆอยู่ก็ยิ่งดี ไม่ควรใช้ไข่ต้มแช่เย็น) วางลงไปตามยาว ตรงกลางกระดาษกล่องนมที่ตัดแล้ว ขั้นตอน 3: วางตะเกียบลงไปตามยาว ให้แนวพาดผ่านกลางไข่ ขั้นตอน 4: รัดหนังยางที่ปลายทั้ง 2 ด้าน ปล่อยไว้ 10 นาที ถ้าอากาศร้อนก็เก็บไว้ในตู้เย็น ขั้นตอน 6: แกะออก แล้วผ่าครึ่งตามขวาง หรือจะฝานเป็นแว่นๆตามขวางก็ได้ จะเห็นเป็นรูปหัวใจตามในภาพ (http://www.jaowka.com/wp-content/uploads/2012/03/115.jpg) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ เมษายน 13, 2012, 08:39:29 AM ‘แตงไทยน้ำกะทิ’ คลายร้อน
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img7/128817.jpg) เดี๋ยวนี้ พออากาศร้อน ใครๆ ก็มักจะนึกถึงไอศกรีม ที่กินแล้วเย็นปาก บางครั้งจี๊ดขึ้นสมอง แต่คลายความรู้สึกร้อนได้ทันที ด้วยความสามารถแบบปัจจุบันทันด่วนนี้ ทำให้หลายคนลืมไปว่า ไอศกรีม คือแหล่งรวมของไขมันที่ไม่มีประโยชน์ ถ้าร้อนแล้วกินแต่ไอศกรีม ก็คงต้องระวังปัญหาสุขภาพตามมา ทว่า ภูมิปัญญาของคนรุ่นก่อนๆ คิดเมนูดับร้อนด้วยการดึงสรรพคุณจากผลไม้ท้องถิ่น อย่าง แตงไทย ผลไม้เนื้อทรายฉ่ำน้ำ กลิ่นหอม ออกรสหวาน อุดมด้วยวิตามินเอ วิตามินซี ฟอสฟอรัส แคลเซียม และคาร์โบไฮเดรต กินแล้วจะช่วยดับกระหาย คลายความร้อน รู้สึกเย็นตัว แถมยังสามารถแก้ปัญหาเลือดกำเดาไหล เนื่องจากสาเหตุขาดวิตามินซี สำหรับเมนูของหวานถ้วยเด่นจากแตงไทย แนะนำ ‘แตงไทยน้ำกะทิ’ ทำง่ายๆ แค่มีแตงไทยผลสุกขนาดพอเหมาะสัก 1 ลูก น้ำกะทิ น้ำตาลปี๊บ และเกลือ เริ่ม ลงมือทำ ด้วยการนำแตงไทยล้างน้ำให้สะอาดแล้วปอกเปลือก คว้านเมล็ดออก เพราะจะใช้แต่เนื้อ หั่นให้เป็นชิ้นพอดีคำ หันไปทำน้ำกะทิ โดยละลายน้ำตาลปี๊บกับน้ำกะทิ แล้วนำไปตั้งไฟปานกลาง คนไปเรื่อยๆ จนกระทั้งน้ำกะทิเดือด จึงปิดไปและยกลง เมื่อ ได้น้ำกะทิแล้ว จะใส่แตงไทยผสมลงไปในน้ำกะทิ หรือตักแตงไทยแยกใส่ถ้วยแล้วค่อยเติมน้ำกะทิก็ได้ ทั้งนี้ ยังสามารถเติมน้ำแข็งป่นเพิ่มความเย็นสดชื่นเข้าไปได้อีก. หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ เมษายน 15, 2012, 10:46:51 AM ไอศกรีมสตรอเบอรี่โยเกิร์ต
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img0/129000.jpg) ส่วนผสม (สำหรับ 5 ที่) นมข้มจืดกระป๋อง ขนาด 405 กรัม 1/2 กระป๋อง โยเกิร์ต รสธรรมดา Fat-free 0% 500 กรัม สตรอเบอร์รี่สด 140 กรัม วิธีการทำ 1. หั่นสตรอเบอร์รี่เป็นชิ้นหยาบๆ ใส่ลงเครื่องปั่น แล้วปั่นพอให้เนื้อสตรอเบอร์รี่กระจายแตกเป็นชิ้นเล็กๆ 2. จากนั้นเทนมข้นจืดและสตรอเบอร์รี่ที่ปั่น เทลงไปในโถผสมอาหาร แล้วคนให้ส่วนผสมต่างๆ เข้ากัน 3. จากนั้นค่อยๆ เทโยเกิร์ตลงไปช้าๆ และขนผสมให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดี แล้วเทลงภาชนะที่เตรียมไว้ นำฟิลม์พลาสติกมาปิดด้านบน 4. แล้วนำไปแช่แข็ง 1 คืน เมื่อถึงเวลาเสิร์ฟ ให้นำออกจากช่องแข็งล่วงหน้าซัก 10-15 นาที แล้วค่อยเสิร์ฟนะคะ Tips : ลิ้มรสได้ถึงเนื้อสตรอเบอร์รี่อร่อยๆ ในขั้นตอนการปั่นเนื้อสตรอเบอร์รี่ อย่าปั่นนานจนเกินไป เพราะจะทำให้เนื้อสตรอเบอร์รี่แหลกจนเหลวจนเป็นน้ำ ขอบคุณข้อมูลจาก goodfoodgoodlife หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ เมษายน 15, 2012, 10:48:46 AM เสี่ยวหลงเปาไส้ต้มข่าปลาเก๋า
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img2/128959.jpg) ส่วนผสมแป้ง แป้งสาลีตราบัวแดง 200 กรัม แป้งสาลีตราหงส์ขาว 30 กรัม น้ำเปล่า (อุณหภูมิปกติ) 1/2 ถ้วย ฟิล์มพลาสติกถนอมอาหาร เข่งสำหรับนึ่งติ่มซำ กระดาษไขเจาะรูให้ทั่วสำหรับรองเข่งติ่มซำ แป้งสาลีสำหรับทำแป้งนวลขณะรีดแป้งเล็กน้อย ส่วนผสมไส้ (ส่วน 1) กะทิธัญพืช 1 1/4 ถ้วย เจลาตินชนิดแผ่นแช่น้ำจนนิ่ม 8 แผ่น ข่าแก่ตำหยาบ 1/2 ถ้วย ตะไคร้ตำ หยาบ 3 ช้อนโต๊ะ หอมแดงบุบ 10 หัว ใบมะกรูดฉีก 4 ใบ น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย ส่วนผสมไส้ (ส่วน 2) เนื้อปลาเก๋าบด 200 กรัม เนื้อกุ้งทะเลบด 1/2 ถ้วย เห็ดเข็มทองสับหยาบ 1/2 ถ้วย ข่าอ่อนสับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ รากผักชี กระเทียม พริกไทย ตำรวมกัน 1 ช้อนโต๊ะ ใบมะกรูดสับ 1/2 ช้อนชา น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปี๊บ 1/2 ช้อนชา เกลือเล็กน้อย ส่วนผสมน้ำจิ้ม จิ๊กโฉว่ 1/2 ถ้วย ขิงอ่อนซอย 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ ทำแป้งเสี่ยวหลงเปา โดยรอนแป้งทั้งสองชนิดรวมกัน เทแป้งลงบนโต๊ะ ทำหลุมตรงกลางแป้ง ค่อย ๆ รินน้ำเปล่าลงไป ใช้นิ้วสี่นิ้วค่อย ๆ กวนแป้งจากบริเวณตรงกลางให้แป้งเข้าไปผสมกับน้ำ ค่อย ๆ รินน้ำเพิ่ม แล้วทำเช่นเดิมจนส่วนผสมเริ่มจับตัวเป็นก้อนทั้งหมด (ระวังอย่าให้เหลว) แล้วจึงนวดแป้งไปเรื่อยๆ จนไม่ติดมือ แล้วห่อด้วยฟิล์มถนอมอาหาร พักไว้ 1 ชั่วโมง ระหว่างพักแป้ง เตรียมส่วนผสมของไส้ (ส่วน 1) โดยเริ่มจาก ผสมน้ำเปล่า กับกะทิธัญพืช ใส่ลงหม้อ ยกขึ้นตั้งไฟ ใสข่า ตะไคร้ หอมแดง และใบมะกรูด ลงไปเคี่ยวให้หอม ปิดไฟ ปรุงรสด้วย น้ำตาล น้ำปลา น้ำมะขามเปียก คนให้เข้ากัน ใส่เจลาตินแผ่นลงไปคนให้ละลาย เทส่วนผสมใส่ภาชนะแล้วนำเข้าตู้เย็นจนเซทตัวเป็นก้อน พักไว้ ทำส่วนผสมไส้ (ส่วน 2) โดยนวดเนื้อปลาบด เนื้อกุ้งบด เข้ากับรากผักชี กระเทียม พริกไทยตำ เห็ดเข็มทอง ข่าอ่อน ใบมะกรูดสับ ปรุงรสด้วย น้ำมันหอย น้ำตาลปี๊บ เกลือ พักไว้ นำส่วนผสมไส้ (ส่วน 1) ที่เซทตัวแล้ว ออกจากตู้เย็น หั่นเป็นเต๋าเล็ก ๆ แล้วใส่ลงนวดกับส่วนผสมไส้ (ส่วน 2) พอเข้ากัน แล้วนำไปพักไว้ในตู้เย็น 15 นาที นำแป้งที่หมักไว้ ออกมาคลึงเป็นเส้นยาว แล้วหั่นเป็นก้อนเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 นิ้ว จากนั้นโรยแป้งสาลีลงบนเขียงไม้ นำแป้งเสียวหลงเปาคลุกแป้งนวลเล็กน้อย แล้วใช้ไม้รีดแป้งรีดจนเป็นแผ่นกลมบาง นำไส้ที่แช่ไว้ออกจากตู้เย็น ใช้ไม้พายตักไส้ใส่ลงบนแป้งที่คลึงไว้ แล้วจับจีบแผ่นแป้งให้สวยงาม โดยเว้นช่องของแป้งให้เป็นรูด้านบนตรงกลางชิ้นเสี่ยวหลงเปาเล็กน้อย ทำเช่นนี้จนหมดส่วนผสม ตั้งลังถึงให้ร้อนเตรียมไว้ วางกระดาไขบนเข่ง เรียงเสียวหลงเปาลงไป นำไปนึ่งนานประมาณ 7-10 นาที พร้อมเสิร์ฟขณะร้อน กับน้ำจิ้ม ซึ่งทำจาก จิ๊กโฉว่และขิงอ่อนซอยคนผสมกัน ขอบคุณบทความจาก healthandcuisine หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ เมษายน 16, 2012, 09:22:26 PM พุดดิ้งหวานๆ (http://www.121easy.com/uploadcontent/editor/newIMG/images/how2cook/m201203/121-13305952106920718.jpg) ส่วนผสม • นมวัว [รสจืด] 830 ml. • น้ำตาล • ไข่ไก่ 3 ฟอง • กลิ่นวานิลา • ช็อกโกแลต [แบบบีบ ๆ] วิธีทำ 1. อุ่นนมวัวด้วยไฟอ่อน เติมน้ำตาลให้พอหอมหวาน [เราใส่ไป 4-5 ช้อนค่ะ ของแบบนี้ต้องลองกะกันดู] แล้วคนให้เข้ากันพอน้ำตาลละลายและปิดไฟค่ะ **ระวังอย่าให้นมเดือดนะคะ** 2. ตอกไข่ใส่ชามแล้วคนให้เข้ากัน **ไม่แยกไข่แดงไข่ขาวนะ** 3. เอานมในข้อ 1. มาเทใส่ไข่ใน ข้อ 2. คนให้เข้ากันและเติมกลิ่นวานิลาให้หอมค่ะ [ใส่ตามสะดวกเราค่ะ] 4. หลังจากนั้น ก็นำมาเทใส่ในตระแกรง ทำแบบนี้แล้วเนื้อจะนุ่มค่ะ เสร็จแล้วก็เทใส่แก้วได้เลย [แนะนำเป็นแก้วธรรมดา หรือแก้วกระเบื้องนะคะ ไม่แนะนำพวกแก้วที่ทำจากโลหะ เพราะจะทำให้พุดดิ้งร้อนเกินไป ส่วนพลาสติกกับแก้วกระดาษชานอ้อย สามารถใช้ได้ค่ะ ลองแล้ว แต่แก้วพลาสติกหนา ๆ หน่อย น่าจะดีกว่า ส่วนกระดาษชานอ้อยทำออกมาแล้วจะยวบ ๆ นิดนึงค่ะ 5. ช่วงข้อนี้ลงไปจะเป็นการนึ่งนะคะค่อนข้างสำคัญ--ใส่น้ำที่หมอนึ่งชั้นล่าง ไม่ต้องเยอะมากประมาณ 1/3 หรือเกือบครึ่งของหม้อก็พอค่ะ พออุ่นจนมีไอน้ำให้ปิดไฟ 6. แล้วก็วางแก้วพุดดิ้งลงไป ปิดฝา นึ่งด้วยไฟแรง 2-3นาที และต่อด้วยไฟอ่อน 14-17 นาที ตอนที่ลดเป็นไฟอ่อนแล้วค่อย ๆ แง้มฝาออกนิดนึงนะคะ [ยังนึ่งอยู่] ไอน้ำจะได้ลอยออกไปแล้วไม่หยดลงใส่พุดดิ้งเป็นรูค่ะ เป็นการค่อย ๆ ลดอุณภูมิด้วย 7. เอาไม้จิ้มฟันมาจิ้มลงในพุดดิ้ง ถ้าไม่มีอะไรติดไม้ขึ้นมาแปลว่าโอเคแล้ว แต่ถ้ายังมีติดยังดูเหลวเกินก็นึ่งต่อราว ๆ 5 นาทีค่ะ 8. พอได้ที่แล้วก็นำออกมาพักไว้ข้างนอก ทิ้งให้เย็นด้วยอุณภูมิห้อง พอหายร้อนแล้วก็นำเข้าตู้เย็นค่ะ [ตอนนึ่งเสร็จแล้วตัวพุดดิ้งอาจจะเหลว ๆ อยู่นะคะ ต้องทิ้งไว้ให้เย็นแล้วพอตอนแช่ตู้เย็นแล้วมันจะแข็งตัวเองค่ะ วิธีนี้ก็เหมือน ๆ กับไข่ตุ๋นค่ะ] 9. แช่อย่างต่ำราว ๆ 3 ชั่วโมง พอนำออกมาก็บีบช็อกโกแลตเป็นทอปปิ้งค่ะ [สูตรเราใช้ช็อกโกแลตแทนคาราเมล] ส่วนใครที่สนใจจะทำเป็นคาราเมล วิธีทำก็หาหม้อใบเล็ก ๆ ใส่น้ำเล็กน้อยกับน้ำตาลลงไปแล้วก็คนเร็ว ๆ จนน้ำตาลกลายเป็นสีน้ำตาลก็ให้รีบปิดไฟค่ะ 10. เสร็จแล้วค่ะ ทำสูตรเราเนื้อจะนุ่มค่ะ แบบละลายในปาก เราใช้วิธีนึ่งพุดดิ้งจะเป็นวุ้นๆเอง โดยที่ไม่ต้องใช้เจลาตินเลย หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ เมษายน 16, 2012, 09:25:51 PM ไอศกรีมกะทิ (http://www.121easy.com/uploadcontent/editor/newIMG/images/where2eat/cook/105015a23uop%3B.JPG) เครื่องปรุง กะทิกระป๋อง (ขนาด 400 มล) 1 กระป๋อง น้ำตาลทราย ½ ถ้วย น้ำเปล่า ¼ ถ้วย เกลือป่น ¼ ช้อนชา เนื้อมะพร้าวอ่อน 80 กรัม วิธีทำ 1. เปิดเตาที่ไฟปานกลาง ใส่น้ำตาลทรายและน้ำเปล่าลงในหม้อ คนจนน้ำตาลละลายเป็นน้ำเชื่อมจึง ใส่กะทิกระป๋องลงในน้ำเชื่อม เติมเกลือป่นลงไป คนให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน 2. นำเนื้อมะพร้าวอ่อนมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วใส่ลงในส่วนผสมกะทิ จากนั้น นำส่วนผสมที่ได้ เข้าไปแช่ในช่องแข็งประมาณ 30 – 45 นาที หรือจนเย็นจัด 3. เทส่วนที่เย็นจัดลงในถังปั่นไอศกรีม ปั่นจนส่วนผสมแข็งตัว ก็จะได้ไอศกรีมกะทิหวานมัน 4. ตักใส่ถ้วย ตกแต่งตามชอบ จากนั้นก็ยกเสิร์ฟได้เลยค่ะ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ เมษายน 16, 2012, 09:28:29 PM แซลมอนอบ (http://www.121easy.com/uploadcontent/editor/newIMG/images/where2eat/005523323.jpg) ส่วนผสม แซลมอนขนาด 1 ปอนด์กว่า เนยละลายสัก 2-3 ช้อนโต๊ะ เลมอน 1 ลูก เกลือ พริกไทย วิธีทำ -ล้างแซลมอนให้สะอาดซับน้ำออกให้แห้ง หั้นเป็นชิ้นขนาดตามต้องการ -ใช้เนยละลายสัก 2-3 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำเลมอนสด (1 ลูก) ราดไปบนตัวปลาที่วางอยู่บนถาด -ถาดอบจะรองด้วยกระดาษฟรอยด์หน่อยก็ดี เพราอบแล้วหนังแซลมอนจะได้ไม่ติดถาด -ต่อไปจะโรยพริกไทยป่นหยาบๆลงไปหรือขูดผิวเลมอนออกมา แล้วโรยลงบนแซลมอน ก็จะได้กลิ่นหอมๆอร่อยไปอีกแบบ -เมื่อพร้อมก็นำเข้าเตาอบอุณหภูมิ 400 องศาฟาเรนไฮต์อบนาน 17-18 นาที ก็จะได้แซลมอนเนื้อนุ่มฉ่ำรับประทานค่ะ ระวังอย่างอบนานเกินไป ไม่งั้นแซลมอนจะแห้งทานไม่อร่อย หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ เมษายน 18, 2012, 07:52:58 PM ผัดไทยมะละกอ…อิ่มอร่อยแบบไม่ต้องกลัวอ้วน
(http://img.kapook.com/image/Food/patthai01.jpg) ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณบ่งบ๊ง pantip.com ได้ รับการันตีจากชาวต่างชาติแล้วว่า อาหารไทยอย่าง “ผัดไทย” อร่อยไม่แพ้อาหารจานไหน เลยไม่แปลกที่ผัดไทยจะขึ้นแท่นเป็นเมนูตามสั่งยอดฮิตของใครหลาย ๆ คน และสำหรับใครที่ชอบทานผัดไทย แต่อาจรู้สึกเบื่อความจำเจ อยากลองประยุกต์ผัดไทยจานโปรดให้แตกต่างไปจากจานเก่า แต่ยังคงความอร่อยไว้เหมือนเดิม กระปุกดอทคอม ก็มีเมนูผัดไทยสไตล์ใหม่มาฝากกัน นั่นก็คือ “ผัดไทยมะละกอ” เมนูผัดไทยไร้เส้นของ คุณบ่งบ๊ง จากห้องก้นครัว เว็บไซต์พันทิป นั่นเอง งานนี้ คุณบ่งบ๊ง กระซิบบอกด้วยว่า ผัดไทยมะละกอจานนี้ ประชันความอร่อยได้สูสีกับผัดไทยทั่วไป แต่ชนะเลิศตรงที่คอเลสเตอรอลน้อยกว่า แถมมะละกอยังให้วิตามินความสวยอย่างวิตามินเอ และวิตามินซีสูงด้วย (อิอิ) เพราะฉะนั้น ผัดไทยมะละกอมื้อนี้คงถูกใจสาว ๆ เป็นแน่ ส่วนเครื่องปรุงและวิธีทำจะมีอะไรบ้างนั้น ตามคุณบ่งบ๊ง มาเลยจ้า ส่วนผสมผัดไทยมะละกอ (สำหรับ 1 ที่) (http://img.kapook.com/image/Food/patthai04.jpg) - มะละกอสับ 200 กรัม - ถั่วงอก 200 กรัม - ไข่ไก่ 1 ฟอง - ใบกุยช่าย หั่นท่อน 2 ต้น - หัวหอมแดง 1 ช้อนโต๊ะ - กุ้งสด มากน้อยตามชอบ - เต้าหู้แข็งหั่นลูกเต๋า 2 ช้อนโต๊ะ - น้ำตาลปีบเคี่ยว 2 ช้อนโต๊ะ - น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ - น้ำมะขาม 2 ช้อนโต๊ะ - พริกป่น 1 ช้อนชา - น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ - หัวไชโป้วหวานสับ หรือหัวไชโป้วเส้น 2 ช้อนโต๊ะ - ถั่วงคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ - น้ำมะนาว - ผักเคียงตามชอบ อาทิ ถั่วงอก หัวปลี ใบบัวบก ใบกุยช่าย แตงล้าน วิธีทำ (http://img.kapook.com/image/Food/patthai05.jpg) 1.ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่น้ำมัน นำเต้าหู้ที่หั่นไว้ลงทอดพอเหลือง ใส่หัวหอมแดงลงผัดให้เนื้อสุกใส (http://img.kapook.com/image/Food/patthai06.jpg) 2.ใส่มะละกอ ใส่หัวไชโป้ว ชอบกุ้งสุก ๆ ก็ใส่ไปก่อนได้ แต่พวกที่ปลื้มของดิบ ๆ ก็ต้องจัดไปทีหลังสุดนะเจ้าคะ ขอเหยาะพริกป่นปาปริก้าไปนิดหน่อยเป็นการเพิ่มสีสัน (http://img.kapook.com/image/Food/patthai07.jpg) 3.ใส่มะละกอ ใส่หัวไชโป้ว ฯลฯ แล้วเราขอเพิ่มกุ้งแห้งฝอยที่ให้แคลเซียมไปหน่อยนะคะ ปรุงรสอร่อยด้วยน้ำมะขาม น้ำปลา น้ำตาลปี๊บเคี่ยว ใส่พริกป่น ผัดจนมะละกอนิ่ม ชิมรส (http://img.kapook.com/image/Food/patthai08.jpg) 4.ปรุงรสและ ชิมเรียบร้อย ใส่ถั่วงอกและใบกุยช่ายลงไปตอนนี้ เพราะเราจะทำแบบห่อไข่ ฉะนั้นต้องใส่ผักไปก่อน แต่ไม่ต้องผัดนานนะคะ แค่พอคลุก ๆ เคล้า ๆ ให้ผักสลดก็พอแล้วค่ะ (http://img.kapook.com/image/Food/patthai09.jpg) 5.ตีไข่ในชามแบบทำไข่เจียว แล้วเกลี่ยเส้นไปไว้ข้าง ๆ กระทะ แล้วเทไข่ลงไป (http://img.kapook.com/image/Food/patthai10.jpg) 6.พอไข่สุก เล็กน้อยก็ค่อย ๆ เกลี่ยเส้นมะละกอมาในแผ่นไข่ ไม่ต้องให้ไข่สุกมาก เพราะตัวเส้นมะละกออมความร้อนอยู่แล้ว เกลี่ยลงมาไข่ก็จะสุกขึ้นอีกนะคะ (http://img.kapook.com/image/Food/patthai11.jpg) 7.เรียบร้อย แล้วก็ตลบไข่ให้ปิดเส้น เราชอบแบบเปิดให้เห็นเนื้อใน โผล่ให้เห็นหน้าตาแบบนี้ถูกใจกว่าปิดมิดชิดมองไม่เห็นหน้าตาว่าเป็นอย่างไร (http://img.kapook.com/image/Food/patthai12.jpg) 8.จัดใส่จาน เคียงข้างด้วยผักต่าง ๆ ปลื้มถั่วงอกและใบกุยช่ายก็จัดไปคะ ปลื้มนางตานี เย้อออ ปลีกล้วยตานีใบหวีเหี่ยวก็จัดไปคะ บางคนก็ชอบทานกับใบบัวบก แก้ชำใน แก้ชำใจและอกหัก ก็จัดไป บ้างก็ทานกับแตงกวาและแตงล้าน ก็จัดหนักได้เลยนะคะ (http://img.kapook.com/image/Food/patthai15.jpg) อ่อ .. อย่าลืมบุบ ๆๆๆๆ ถั่วงคั่วใหม่ ๆ โรยหน้าไปด้วยนะคะ ขาดไม่ได้เชียว เค้าของคู่กัน เหมือนสมบัติ คู่กับ อรัญญา นะคะ และอย่าลืมเพิ่มความเปรี้ยวจัดจ้านด้วยน้ำมะนาวนะเจ้าคะ เห็นไหมว่า ผัดไทยมะละกอ จานนี้น่ารับประทานจริง ๆ อย่าลืมจดสูตรไปลองทำทานกันดูนะจ๊ะ laugh.gif หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ เมษายน 19, 2012, 08:02:48 PM ยำผักบุ้งทอดกรอบ
(http://www.121easy.com/uploadcontent/editor/newIMG/images/where2eat/1(30).jpg) ยำผักบุ้งทอดกรอบ ส่วนผสม ผักบุ้งเด็ดใบ 50 กรัม แป้งทอดกรอบตราคนอร์ขนาด120กรัม ½ ซอง แป้งสาลี ½ ถ้วยตวง น้ำมันพืช 4 ถ้วยตวง ปลาหมึกล้างหั่นท่อนพอดีคำ 100 กรัม หมูสับ 50 กรัม กุ้งแกะเปลือกเด็ดหัวไว้หางบั้งเส้นดำทิ้ง 100 กรัม ไข่ต้มฝานเป็นแว่นหนาพอประมาณ 1 ฟอง คื่นช่ายซอยหยาบ 2 ช้อนโต๊ะ น้ำเปล่าสำหรับต้มหมู ½ ถ้วยตวง น้ำเปล่าสำหรับลวกกุ้งและปลาหมึก 2½ ถ้วยตวง พริกขี้หนูสวน 7-10 เม็ด กระเทียมไทยแกะเปลือก 3 กลีบ หอมแดงซอย 2 หัว ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปี๊บ 1½ ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 1½ ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 1½ ช้อนโต๊ะ วิธีทำ ตั้งหม้อน้ำด้วยไฟกลางจนเดือดใส่กุ้งและปลาหมึกลงไปลวกพอสุกอย่านาน จากนั้นตักขึ้นพักบนตะแกรงให้สะเด็ดน้ำ ตั้งกระทะใส่น้ำสำหรับลวกหมูลงไปตั้งด้วยไฟกลางจนร้อน นำหมูสับลงไปลวกใส่ซีอิ้วขาวลงไป 1ช้อนโต๊ะ ต้มจนเหลือน้ำขลุกขลิกตักออกใส่ถ้วยพักไว้ล้างกระทะให้สะอาด ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟกลางจนร้อน ระหว่างที่รอน้ำมันร้อนนำผักบุ้งไปคลุกเคล้ากับแป้งสาลีพอทั่ว จากนั้นนำแป้งทอดกรอบผสมกับน้ำเย็นจัดตามอัตตราส่วนที่กำหนดไว้ที่ซอง จนเข้ากันดี นำผักบุ้งลงชุบแป้งทอดกรอบแล้วนำไปทอดจนเหลืองกรอบ ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน ทำอย่างนี้ทีละน้อยจนผักบุ้งหมด ทำน้ำยำ โดยโขลกพริกขี้หนูสวนพอละเอียดใส่กระเทียมลงไปโขลกด้วยกันพอละเอียดดีตักใส่ชามผสม จากนั้นผสมน้ำปลาและน้ำตาลปี๊บให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกันเติมน้ำมะนาว และหมูกับน้ำขลุกขลิกที่ลวกไว้ลงไปคลุกเค้าให้เข้ากันใส่ หอมแดงซอย คื่นช่ายซอย กุ้ง กับปลาหมึกลงไปคนอีกครั้ง ชิมรสปรุงตามชอบ จัดจานให้สวยงามราดน้ำยำลงไปเรียงผักบุ้งวางไว้ด้านบนให้สวยงาม วางไข่ต้มฝานลงไป เสิร์ฟ เวลารับประทานให้รับประทานผักบุ้งทอดกรอบพร้อมกับน้ำยำและไข่ต้ม หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ เมษายน 19, 2012, 08:04:36 PM ผัดผักปวยเล้ง
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img7/129257.jpg) ส่วนผสม ผักปวยเล้งประมาณ 300 กรัม กระเทียมบุบสับ 2-3 กลีบ ซีอิ้วขาวหรือเกลือ น้ำมันสำหรับผัด วิธีทำ ล้างผักให้สะอาด พักให้สะเด็ดน้ำ ผัดกับน้ำมันที่เจียวกระเทียมพอเหลือง ผัดไฟแรง เร็วๆ พอผักใกล้จะสุก จึงใส่ซีอิ้วขาวหรือเกลือ รับประทานขณะที่ยังร้อนอยู่ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤษภาคม 03, 2012, 07:58:18 PM พั้นซ์มรกต (พั้นซ์สีเขียว)
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img6/129952.jpg) ส่วนผสม 1. น้ำส้ม 2. น้ำสับปะรด 3. น้ำแอปเปิล 4. น้ำเสาวรส 5. น้ำมะนาว 6. น้ำเชื่อมกลิ่น บลู เลมอน 7. น้ำเชื่อม 8. โซดา วิธีทำ 1. ผสม น้ำส้ม น้ำสับปะรด น้ำแอปเปิล น้ำเสาวรส น้ำมะนาว น้ำเชื่อมกลิ่นบลูเลมอน น้ำเชื่อม และโซดาให้เข้ากัน พร้อมเสิร์ฟ ขอบคุณข้อมูลจาก (http://variety.teenee.com/foodforbrain/img6/129953.gif) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤษภาคม 03, 2012, 08:00:48 PM ผัดผักน้ำปลา
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img1/129770.jpg) เปิดตู้เย็นมีแต่ผัก ไม่มีปลา ไม่เป็นไร ขอแค่น้ำปลาก็เพียงพอจะอร่อยได้กับอาหารจานนี้ ส่วนผสม • กะหล่ำปลีหั่นหยาบ 1/2 ลูก • ผักฉ่อยหั่น 2-3 ต้น • เห็ดหอมแห้งแช่หั่น 4-5 ดอก • ผักกาดขาวหั่น 1/2 หัว • กระเทียมบุบ 7-8 กลีบ • น้ำปลาดี 2-3 ช้อนชา • เนย เค็ม 1 ช้อนโต๊ะ • น้ำตาล 1-2 ช้อนชาน้ำมันสำหรับผัด วิธีทำ 1. ผัดกระเทียมกับน้ำมันพอหอม ใส่ผักลงไปผัดโดยใสผักที่สุกยากลงไปผัดก่อน รอให้ผักเริ่มสุกแล้วใส่เนยผัดให้เข้ากัน 2. ปรุงรสด้วยน้ำปลาดีและน้ำตาลเล็กน้อย ชิมรสตามที่ชอบ จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤษภาคม 03, 2012, 09:29:18 PM ขนมเบื้อง
(http://www.jaowka.com/wp-content/uploads/2012/05/321.jpg) สูตรขนมหวานไทย : ขนมเบื้อง เครื่องปรุง + ส่วนผสม + ส่วนผสมตัวแป้ง +* แป้งข้าวเจ้า 350 กรัม * แป้งถั่วเขียว 200 กรัม * แป้งสาลี 100 กรัม * น้ำตาลปี๊บ 1/2 ถ้วยตวง * น้ำปูนใส 2 ถ้วยตวง * ไข่เป็ด (เฉพาะไข่แดง) 2 ฟอง + ส่วนผสมน้ำตาลทาขนม +* น้ำตาลปี๊บ 500 กรัม * ไข่เป็ด (เฉพาะไข่ขาว) 20 ฟอง + ส่วนผสมหน้าครีม + * ไข่เป็ด (เฉพาะไข่ขาว) 3 ฟอง * น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วยตวง * ครีมออฟทาร์ทาร์ 1/2 ช้อนชา + ส่วนผสมไส้ +* ไส้หวาน : มะพร้าวขูด, ฝอยทอง และงาขาว * ไส้เค็ม : นำกุ้งสดไปผัดกับน้ำมัน จากนั้นปรุงรสด้วยพริกไทย, เกลือ, ต้นหอมซอย และผักชี (http://www.ezythaicooking.com/images/thai_crispy_pancakes.jpg) (http://www.ezythaicooking.com/images/thai_crispy_pancakes-1.jpg) วิธีทำขนมไทย ทีละขั้นตอน 1. เตรีมทำตัวแป้งโดยนำแป้งข้าวเจ้า, แป้งถั่วเขียวและแป้งสาลีไปร่อนรวมกัน แล้วจึงนำไปผสมกับน้ำปูนใส, น้ำตาลปี๊บและไข่แดง นวด(ขยำ) จนส่วนผสมเข้ากันดี แล้วจึงพักไว้ 2. เตรียมทำน้ำตาลทาขนมเบื้อง โดยนำไข่ขาวและน้ำตาลปี๊บมาผสมกัน คนจนน้ำตาลละลายทั่วดี แล้วจึงพักไว้ 3. เตรียมทำส่วนผสมหน้าครีม โดยผสมไข่ขาว, น้ำตาลทรายและครีมออฟทาร์ทาร์เข้าด้วยกัน ตีจนส่วนผสมเข้ากันดี, ผิวเนียนและขึ้นฟู จึงพักไว้ 4. ตั้งไฟบนกระทะก้นแบน ใช้กระจ่าแตะที่ส่วนผสมตัวแป้ง (ที่เตรียมไว้ในขั้นตอนที่ 1) แล้วละเลงบนกระทะ จากนั้น จึงเลือกเอาว่าจะทาน้ำตาล (ส่วนผสมที่เตรียมไว้ในขั้นตอนที่ 2) หรือจะทาครีม (ส่วนผสมที่เตรียมไว้ในขั้นตอนที่ 3) เลือกเอา อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น แล้วละเลงบนตัวแป้ง 5. จากนั้นจึงเลือกว่าจะใส่ไส้เค็มหรือไส้หวาน เมื่อใส่ไส้เสร็จแล้ว รอสักพักจนขนมสุกจึงพับครึ่งแล้วแซะใส่ถาด หรือจัดใส่จานเสริฟ :P หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 07:11:56 PM 4 เมนูอร่อย มัดใจหนูน้อยกินยาก
(http://img.kapook.com/u/pimor/Food/01_5.jpg) 4 เมนู อร่อยมัดใจ หนูน้อยกินยาก (Mother & Care) เรื่อง : นมิแอม เมนูอร่อยมัดใจหนูน้อยกินยากช่างเลือก ที่นำมาเสนอเป็นเมนูที่กินง่ายคล่องคอ มีประโยชน์ และอุดมไปด้วยไฟเบอร์ และวิตามิน แก้ปัญหาเด็กอมข้าว ถ้าพร้อมแล้วเราไปดูสูตรอาหารทั้ง 4 เมนู กันเลย (http://img.kapook.com/u/pimor/Food/01_4.jpg) อุดังน่ารัก ส่วนผสม เส้นอุด้ง ½ ก้อน น้ำซุปกระดูกหมู 2-3 ถ้วยตวง แครอทหั่นลูกเต๋าเล็ก ๆ ½ ช้อนโต๊ะ บร็อคโคลี่ หั่นเล็ก ๆ ½ ช้อนโต๊ะ หมูสับ 3 ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วขาว 1-2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ 1.ต้มน้ำซุปกระดูกหมูจนเดือด หรือเคี่ยวน้ำซุปตามความสะดวก เพื่อรสชาติที่กลมกล่อมยิ่งขึ้น 2.นำหมูสับที่หมัก และปรุงรสด้วย ซีอิ๊วขาว ใส่ลงในน้ำซุปที่เดือดอยู่ รอจนเริ่มสุก 3.ใส่แครอท และบร็อคโคลี่ลงไปต้มจนกว่าแครอทจะนิ่ม 4.ใส่เส้นอุด้ง ต้มจนสุก Tips 1.ลองหาแม่พิมพ์มากดรูปแครอท เป็นสัตว์ต่าง ๆ เพื่อให้ลูกสนใจอาหารมากขึ้น 2.น้ำซุปยิ่งเคี่ยวนานจะได้ความหวานหอมช่วยให้ลูกเจริญอาหารยิ่งขึ้น (http://img.kapook.com/u/pimor/Food/02.jpg) แอปเปิลกรอบน้ำแข็งใส ส่วนผสม แอปเปิล ½ -1 ลูก น้ำหวานน้ำแดง ½ ถ้วย แป้งมัน, น้ำแข็งเกล็ด วิธีทำ 1.นำแอปเปิลมาปลอกเปลือก จากนั้นก็ใช้พิมพ์กดเป็นรูปดอกไม้ หรือแล้วแต่ชอบ 2.นำแอปเปิลแช่ในน้ำแดง ประมาณ 5 นาที เพื่อให้น้ำแดงซึมเข้าเนื้อ 3.นำแอปเปิลที่แช่เสร็จแล้ว มาสะเด็ดน้ำหวาน 4.เคล้าแอปเปิลที่สะเด็ดน้ำหวานเสร็จแล้วกับแป้งมันให้ทั่ว นำไปลวกในน้ำเดือดจนกว่าจะสุก 5.ตักขึ้นมาแช่ในน้ำเย็น เพื่อป้องกันแอปเปิลติดกัน 6.ตักใส่ถ้วย ใส่น้ำแข็ง 7.ราดน้ำหวานตาม หรือนมข้นหวานก็ได้ Tips 1.แอปเปิลควรหั่นหนาประมาณ 1 เซนติเมตร เพื่อคงความกรุบกรอบ และไม่ชิ้นใหญ่เกินไป 2.วิธีสังเกตแอปเปิลว่าสุกหรือไม่ สามารถดูได้ เมื่อแอปเปิลลอยขึ้นมา แสดงว่าสุกแล้ว 3.อย่าราดน้ำหวาน หรือนมข้นหวานเยอะเกินไป เพราะอาจทำให้เด็กติดหวาน (http://img.kapook.com/u/pimor/Food/03_3.jpg) ซุปมันเทศ ส่วนผสม มันเทศหั่นเต๋า 1 ถ้วยตวง น้ำซุป 2 ถ้วยตวง ไข่แดงต้มสุก ½ ฟอง นมที่ลูกดื่ม วิธีทำ 1.ปอกเปลือกและล้างมันเทศให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ 2.ตั้งน้ำซุปพร้อมใส่มันเทศลงไปต้มจนนิ่มเละ (หากระหว่างต้มน้ำงวดลงไปมาก ให้ค่อย ๆ เติมน้ำซุปลงไปทีละน้อย) 3.ใส่ไข่แดงต้มลงไป พร้อมใช้ทัพพีกดมันเทศและไข่แดงจนเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน 4.เติมนมลงไป พร้อมคนให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน จึงปิดเตาไฟ (http://img.kapook.com/u/pimor/Food/04_2.jpg) ต้มเกี้ยมอี๋เด็กน้อย ส่วนผสม เกี้ยมอี๋หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ลวกสุก 1 ถ้วยตวง หมูสับละเอียด ½ ถ้วยตวง แครอทหั่นเต๋า ½ ถ้วยตวง หัวหอมใหญ่หั่นเต๋า ¼ ถ้วยตวง น้ำซุป 2-3 ถ้วย ต้นหอม,ผักชี หั่นละเอียด วิธีทำ ตั้งน้ำซุปให้เดือด ใส่หมูสับลงไปยีจนสุก จากนั้นใส่แครอทและหัวหอมใหญ่ลงไปต้มจนนิ่ม สุดท้ายใส่เกี้ยมอี๊ลงไปต้ม พอเดือดจึงใส่ต้นหอมผักชีลงไปเล็กน้อย หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 07:24:17 PM เมี่ยงเห็ด
(http://www.goodfoodgoodlife.in.th/FileUpload/Download/MediaFile_367Meang_460x300.jpg) ส่วนผสม (สำหรับ 4 ที่) รากผักชี กระเทียม และพริกไทยเม็ด โขลกทั้งหมดรวมกันให้ละเอียด อย่างละ 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันพืช 1 ข้อนโต๊ะ เนื้ออกไก่สับละเอียด 1/2 ถ้วย เห็ดหอมสับละเอียด 1/4 ถ้วย เห็ดฟางสับละเอียด 1/4 ถ้วย น้ำตาลปี๊ป 2 ซีอิ้วขาวหรือซอสปรุงอาหารตราแม็กกี้ 2 ช้อนโต๊ะ ใบชะพลู (อาจใช้ใบทองหลาง ใบผักกาดหอม ส้มเขียวหวาน) 8-12 ชิ้น วิธีการทำ 1. ผัดรากผักชี กระเทียม พริกไทย ที่โขลกไว้กับน้ำมันให้หอม ใส่ไก่สับ เห็ดสับ ลงผัดให้สุก 2. ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊ป ซีอิ๊วขาวหรือซอสปรุงอาหารตราแม็กกี้ จัดรับประทานกับใบชะพลู หรือผักกาดหอม ผักกาดแก้ว ต่างๆที่เตรียมไว้ได้ตามใจขอบ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 07:30:45 PM ยำก้านคะน้ากุ้งสด
(http://www.goodfoodgoodlife.in.th/FileUpload/Download/MediaFile_398Maggi-yum-kana_460x300.jpg) ส่วนผสม (สำหรับ 4 ที่) กุ้งสดขนาดกลางแกะเปลือกผึ่งให้แห้งลวกพอสุก 8 ตัว หมูสับรวนพอสุก 150 กรัม ก้านคะน้า (ลอกเปลือกหั่นความยาว 1 ซ.ม.) 2 ถ้วยตวง กระเทียมซอยบาง 2 ช้อนโต๊ะ หัวหอมแดงซอยบาง 1/2 ถ้วย ใบขึ้นฉ่าย 30 กรัม ซอสหอยนางรมแม็กกี้ 2 ช้อนชา ซอสปรุงอาหารแม็กกี้ 2 ช้อนชา น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา พริกขี้หนูสวน (ตำหยาบ) 7 เม็ด ยำก้านคะน้ากุ้งสด อาหารจานแซ่บรสชาติจี๊ดจ๊าด เป็นของโปรดของสาวๆหลายคนเสมอ ยิ่งถ้ามีสีสันสวยงามน่ากินด้วยแล้ว ก็จะยิ่งเพิ่มความอยากอาหารขึ้นเป็นสองเท่าเลยเชียวล่ะ วิธีการทำ 1. นำหมูสับรวนพอสุกผสมน้ำมะนาว น้ำตาลทราย ซอสหอยนางรมแม็กกี้ ซอสปรุงอาหารแม็กกี้เข้าด้วยกัน แล้วตามด้วยพริกขี้หนู 2. นำก้านคะน้าใส่ลงในชามผสม แล้วตามด้วยกระเทียม หัวหอมแดง ใบขึ้นฉ่าย ปรุงรสด้วยส่วนผสมในข้อ 1 3. จากนั้นนำกุ้งลวกและหมูสับใส่ลงไป คลุกเคล้าให้ทั่ว ตักนำใส่จานเสิร์ฟ Tips : เพื่อ ให้ได้รสชาติอร่อยยิ่งขึ้น ควรหมักกุ้งในซอสปรุงรสและซอสหอยนางรมตราแม็กกี้ในสัดส่วน 1:1 ช้อนโต๊ะ ทิ้งไว้ 5 นาที ก่อนนำมาประกอบอาหาร หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 07:33:04 PM มูสมะม่วง
ส่วนผสม (สำหรับ 10 ที่) เนื้อมะม่วงสุกบดละเอียด 4 ลูก น้ำมะนาว 1/2 ถ้วย เกลือเล็กน้อย เจลาติน 1 ช้อนโต๊ะ วิปปิ้งครีม 1/2 ถ้วย ไข่ขาว 2 ฟอง น้ำอุ่น 1/4 ถ้วย วิธีการทำ 1. นำมะม่วงสุกมาปั่นจนละเอียด เติมน้ำมะนาวลงไปเล็กน้อย คนให้เข้ากัน 2. ตีไข่ขาว 2 ฟอง เติมเกลือและน้ำมะนาว ให้เข้ากันจนขึ้นฟู และตีวิปครีมให้ขึ้นฟู 3. ละลายเจลาตินในน้ำอุ่น แล้วนำมาผสมกับมะม่วงที่บดละเอียด คนให้เข้ากัน จากนั้นนำวิปครีม และไข่ขาวที่ตีจนขึ้นฟูมาใส่รวมกับมะม่วง ตะล่อมให้เข้ากันอย่างเบามือ ตักใส่แก้วแล้วนำไปแช่ตู้เย็น ประมาณ 1 ชั่วโมงก็เสิร์ฟได้เลย Tips เพิ่ม เติมความหวานเย็นด้วยการเสิร์ฟพร้อมไอศกรีมเนสเล่ท์รสวนิลา หรือเครื่องดื่มไมโล เนสกาแฟได้ตามชอบ รับรองว่าจะช่วยคลายร้อนได้เป็นอย่างดี หรือจัดให้เด็กก็ได้โดยการตกแต่งด้วย ซีเรียลไมโล, โกโก้ ครั๊นซ์, หรือคุกกี้ ได้ตามใจชอบ ก็จะได้เมนูใหม่ๆ ให้เด็กๆ ให้ได้ลองกัน หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 07:58:45 PM เส้นแองเจิลแฮร์กับเนื้อปลาเก๋าราดซอสเนื้อปู
(http://www.siamdara.com/Picture_Girl/201205086786310.jpg) ส่วนผสมสำหรับ 1-2 ที่ - เส้นแองเจิลแฮร์ลวกสุก 150 กรัม - หัวกะทิ 1/2 ถ้วย - น้ำพริกแกงเผ็ด 2 ช้อนโต๊ะ - เนื้อปลาเก๋าแล่หนา 2-3 ชิ้น - แป้งสาลี 1/2 ถ้วย - เนื้อปู 50 กรัม - น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ - น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ - ผักร็อกเก็ต 50 กรัม - น้ำมันสำหรับทอด - ผัด วิธีทำ - คลุกเนื้อปลากับแป้งสาลีเล็กน้อยก่อนนำไปทอดสุกเหลืองจัดใส่ลงในจานที่มีผัสลัดร็อกเก็ตและเส้นพาสต้าแองเจิลแฮร์จัดไว้ - ผัดพริกแกงกับเนื้อปูพอหอมใส่น้ำกะทิ ปรุงและชิมรสตามชอบก่อนนำไปราดลงบนชิ้นปลาทอดและเส้นพาสต้าพร้อมเสิร์ฟ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤษภาคม 20, 2012, 08:02:40 PM เชอร์เบตแคนตาลูปโฮมเมด
(http://www.jaowka.com/wp-content/uploads/2012/05/3123.jpg) ส่วนผสม (สำหรับ 8 ที่) น้ำตาลทราย 120 กรัม น้ำสะอาด 100 มล. เนื้อแคนตาลูปที่สุกจัดๆ โดยทำการหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ 400 กรัม ไข่ขาว 50 กรัม วิธีการทำ 1. นำน้ำตาลทรายและน้ำสะอาดใส่หม้อ ตั้งไฟปานกลาง ต้มจนเดือด เมื่อเดือดแล้วให้หรี่ไฟให้อ่อนลง ปล่อยให้เดือดต่อไปอีกประมาณ 7-10 นาที จนได้น้ำเชื่อมที่ข้นเหนียว จากนั้นพักไว้ให้เย็น 2. นำแคนตาลูปใส่เครื่องปั่นผลไม้ เทน้ำเชื่อมลงไป ปั่นรวมกันให้ละเอียด พักไว้ที่ช่องแช่แข็งประมาณ 1 ชม. 3. ให้ตีไข่ขาวจนตั้งยอดอ่อน (เนื้อไข่ขาวจะขึ้นฟู เนียน เมื่อดึงตะกร้อตีขึ้นเนื้อไข่ขาวจะสามารถตั้งเป็นรูปได้) แล้วนำแคนตาลูปที่แช่แข็งไว้นั้น ผสมกับไข่ขาวตีให้เข้ากัน 4. นำส่วนผสมทั้งหมดเทใส่เครื่องปั่นไอศกรีมจนขึ้นฟู แล้วตักไอศกรีมเก็บใส่กล่อง ปิดฝาให้มิดชิด แช่ในช่องแช่แข็งไว้ประมาณ 4-5 ชม. ก่อนเสิร์ฟ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มิถุนายน 23, 2012, 04:39:06 PM ข้าวหมกไก่
ส่วนประกอบและเครื่องปรุงข้าวหมกไก่ 1. น่องและสะโพกไก่ 4 ชิ้น 2. ข้าวหอมมะลิเก่า 400 กรัม 3. หอมแดงซอย 80 กรัม 4. เนยเค็ม 130 กรัม 5. นมข้นจืด 50 มล. 6. โยเกิร์ต 70 กรัม 7. ผงกะหรี่ 1 ช้อนโต๊ะ 8. ผงขมิ้น 2 ช้อนโต๊ะ 9. ลูกผักชีป่น 1 ช้อนชา 10. ยี่หร่าป่น 1 ช้อนชา 11. เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ 12. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ 13. อบเชยป่น 1 ช้อนชา 14. ใบกระวานป่น 1 ช้อนชา 15. น้ำเปล่า 800 มล. 16. แตงกวา 1 ลูก 17. หอมแดงเจียว 1 ถ้วย หมายเหตุ : ถ้าไม่สะดวกสามารถใช้ผงข้าวหมกไก่สำเร็จรูป และ ผงหมักเนื้อนุ่มสำเร็จรูป แทนเครื่องเทศต่างๆค่ะ ขั้นตอนและวิธีทําข้าวหมกไก่ 1. นำส่วนผสมมาผสมรวมกันเพื่อทำเครื่องหมักเนื้อไก่ ได้แก่ นมข้นจืด โยเกิร์ต และเครื่องปรุงอย่างละครึ่งนึง ผงกะหรี่ ผงขมิ้น ลูกผักชี ยี่หร่า อบเชย ใบกระวาน เกลือป่น น้ำตาล วางพักไว้ 2. ใช้ส้อมจิ้มไก่ให้ทั่ว นำลงหมักกับส่วนผสมที่เตรียมไว้ คลุกให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้อย่างน้อย 2 ชั่วโมง (ในขั้นตอนหมักไก่นี้ถ้าเราไม่ได้เตรีวมเครื่องเทศเองสามารถใช้ผงข้าวหมกไก่สำเร็จรูป และ ผงหมักเนื้อนุ่มสำเร็จรูปแทนดังนี้ค่ะ ในขั้นตอนการทำให้เรานำผงข้าวหมกไก่ รวมทั้งผงหมักเนื้อนุ่ม น้ำตาลทราย และพริกไทยดำ นำมาผสมเข้าด้วยกัน แล้วจากนั้นให้นำเนื้อไก่ลงไปคลุกเคล้าหมักทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมงเช่นกันค่ะ) 3. นำหอมแดงและเนยลงผัดจนเนยละลายจนหมด นำไก่ลงทอดพอให้ผิวเกรียมเล็กน้อยทั้ง 2 ด้าน ตักไก่ขึ้นพักไว้ (ไก่ไม่ต้องสุก) 4. จากนั้นจึงซาวข้าวด้วยน้ำให้สะอาดเสร็จแล้ว เติมข้าวและเครื่องปรุงที่เหลือไว้อย่างละครึ่ง (เครื่องปรุงที่ใส่ในขั้นตอนที่ 1 ผงกะหรี่ ผงขมิ้น ลูกผักชี ยี่หร่า อบเชย ใบกระวาน เกลือป่น น้ำตาล) ลงผัดประมาณ 5 นาที จนเม็ดข้าวเริ่มสุก 5. ตักข้าวลงในหม้อข้าว เติมน้ำเปล่าลงไปคนให้เข้ากัน จากนั้นวางไก่ไว้บนข้าว นำไปหุงตามปกติในหม้อหุงข้าวไฟฟ้าจนข้าวสุก จะได้ข้าวหมกไก่สุกหอม เม็ดข้าวนุ่มน่ากิน ส่วนประกอบและเครื่องปรุงน้ำจิ้มข้าวหมกไก่ 1.สะระแหน่เด็ดเป็นใบ 1/2 ถ้วย 2.พริกชี้ฟ้าสีเขียวแกะเมล็ดออก 2 เม็ด (หรือตามความชอบรสเผ็ดของแต่ละคนค่ะ) 3.น้ำส้มสายชู 1/2 ถ้วย 4.น้ำตาลทราย 13 ช้อนโต๊ะ 5.ขิงแก่บด 1/2 ถ้วย 6.เกลือป่น 1 1/2 ช้อนโต๊ะ 7.ต้นหอมซอย 1/2 ถ้วย 8.น้ำ 1/4 ถ้วย 9.ผักชีซอย 1/2 ถ้วย ขั้นตอนและวิธีทําน้ำจิ้มข้าวหมกไก่ 1. นำ พริกชี้ฟ้า ใบสะระแหน่ ขิง ผักชี ต้นหอม ปั่นเข้าด้วยกันจนละเอียด 2. ขั้นตอนต่อไปตั้งน้ำเปล่า ใส่เกลือ และน้ำตาลทรายคนไปเรื่อยๆจนน้ำตาลละลายหมด ยกขึ้นพักไว้แล้วจึงนำส่วนผสมในขั้นตอนแรกใส่ลงไป สุดท้ายเสริฟข้าวหมกไก่พร้อมแตงกวา ผักกาดหอม และหอมแดงเจียวลงไปด้วย เพื่อเพิ่มรสชาติ เป็นอันเสร็จพร้อมรับประทาน (http://3.bp.blogspot.com/-nQQM5-IPbt4/Tbjly0kpqEI/AAAAAAAADoU/v5ebIfvAUFA/s320/290320111613.jpg) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มิถุนายน 23, 2012, 04:43:33 PM [size=1/pt]ข้าวมันไก่[/size]
ข้าวมันไก่อาหารจานเดียวยอดนิยม ที่ความอร่อยไม่ธรรมดาข้าวมันต้องนุ่มนวล ข้าวเป็นเมล็ดไม่บานเหมือนข้าวสวยปกติ ความมันของข้าวพอดี ไม่ถึงขนาดเลี่ยน ที่สำคัญต้องมีกลิ่นหอมของ มันไก่ กระเทียม ขิง ผสมกัน ไก่ต้องต้มในเวลาที่พอเหมาะ หนังไก่ตึง เนื้อไก่มีสีขาวและไม่ยุ่ย ที่สำคัญที่สุดก็คือน้ำจิ้ม รสต้องเด็ดขาด เค็ม เปรี้ยว หวานพอเหมาะ ขิงต้องใช้ขิงแก่จึงจะหอมและเผ็ด อร่อยไม่รู้ลืม !! ส่วนประกอบและเครื่องปรุง 1. ไก่สด 1 ตัว 2. ตับไก่ 3. เลือดไก่ 1 ก้อน 4. มันไก่ 5. น้ำเปล่า 6. ข้าวหอมมะลิเก่า 7. เต้าเจี๊ยว 8. กระเทียม 9. เกลือ 10. น้ำตาล 11. น้ำส้มสายชู 12. ขิงหั่นแว่น 13. ซีอิ๋วดำ 15. พริก 15. รากผักชี 16. แตงกวา ขั้นตอนวิธีทำข้าวมันไก่ 1. นำไก่มาล้างให้สะอาด ทิ้งไว้สักพักพอน้ำที่หนังไก่เริ่มแห้งหรือจะใช้ผ้าช่วยซับให้แห้งก็ได้ ทาเกลือบางๆที่ตัวไก่และด้านในไก่ ส่วนตับไก่ ล้างสะอาดแล้วเคล้าเกลือพักไว้ 2. ตั้งน้ำกะปริมาณให้ท่วมตัวไก่ต้มด้วยไฟปานกลางค่อนข้างแรงจนเดือด นำไก่ที่เตรียมไว้ลงไปต้ม จากนั้นลดไฟลงเป็นไฟอ่อนแล้วต้มไก่ไปเรื่อยๆประมาณ 45 นาทีหรือจนไก่สุก คอยช้อนฟองทิ้งด้วยเพื่อให้น้ำซุปใส ส่วนตับไก่ก็ใส่ลงไปต้มพร้อมกับไก่ได้เลย เลือดไก่ที่ทำเป็นก้อนและสุกมาแล้วนั้นใส่ตอนหลังสุด 3. พอไก่สุกตักออกมาจากหม้อใส่ภาชนะ ทาหนังไก่ด้วยน้ำมันไก่ หรือน้ำมันพืช เพื่อไม่ให้หนังไก่แห้ง หมายเหตุ : น้ำต้มไก่ อย่าเอาทิ้งเด็ดขาดให้ตั้งไฟเอาไว้ สามารถนำมาหุงข้าวทำเป็นข้าวมันไก่ และสามารถนำมาทำเป็นน้ำซุป สำหรับเสริฟพร้อมกับข้าวมันไก่ได้อีกด้วย ขั้นตอนการหุงข้าวมันไก่ 1. ซาวข้าวหอมมะลิเก่า 2-3 ครั้ง เทใส่กระชอนทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำ 2. นำกระเทียมส่วนที่หนึ่งมาปั่นหรือสับหยาบๆ เตรียมเพื่อที่จะนำไปเจียวกับน้ำมันไก่ 3. เทมันไก่ลงในกระทะ เจียวให้มันไก่คายน้ำมันออกมาก ใช้เวลานาน 15 นาที ตักกากมันไก่ทิ้งไป ปิดแก็ส และเติมกระเทียมลงไปเจียวให้หอม เปิดแก็สอ่อนๆเจียวให้กระเทียมหอมและมีสีเหลืองอ่อน 4. นำข้าวหอมมะลิเก่าที่พักไว้เทลงในหม้อข้าว เติมเกลือ กระเทียมเจียว ขิงหันแว่น และน้ำซุปไก่คนให้เข้ากัน เปิดสวิทช์หุงข้าวตามปกติ (ปริมาณข้าว 1 ส่วน ต่อน้ำซุป 1 1/2 ส่วน) 5. พอข้าวสุก ให้ใช้ทัพพีคุ้ยข้าวให้ร่วนซุย กลับข้าวจากด้านล่างขึ้นด้านบน ปล่อยทิ้งไว้ในหม้อให้อุ่นๆ พร้อมเสริฟ ขั้นตอนการทำน้ำจิ้มข้าวมันไก่ -เต้าเจี้ยว ½ ถ้วย -ซีอิ้วขาว ¾ ถ้วย -น้ำส้มสายชู ½ ถ้วย -พริกขี้หนู 10 เม็ด -น้ำตาลทราย ¾ ถ้วย -ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนโต๊ะ -กระเทียมปอกเปลือก ½ ถ้วย -ขิงแก่หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ 5 ชิ้น -รากผักชี 2-3 ราก น้ำจิ้ม ใส่ขิง ,พริก, กระเทียม, รากผักชี ,เต้าเจี๊ยว ,ซีอิ๊วดำ, น้ำตาลทราย ,เกลือ 1/2 ชช.,น้ำส้มสายชูและซีอิ้วขาว ปั่นทุกอย่างให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบให้ออกเค็ม เปรี้ยว หวาน ทำเสร็จแล้วเก็บเข้าตู้เย็นทานได้เป็นเดือน สำหรับคนที่ชอบรสจัด เวลาเสริฟสามารถเติม กระเทียม ขิง สับละเอียด พริกขี้หนูซอยละเอียดเพิ่มเข้าไปได้ค่ะ **น้ำซุปส่วนที่เหลือสามารถเติมรากผักชี ทุบพอแตก 2-3 ราก กระเทียมที่แกะเปลือกนอกออกล้างสะอาด 3-4 กลีบใหญ่ พริกไทยเม็ด 10 เม็ด ต้มจนเดือดก็ใส่ฟักที่ปอกเปลือกต้มจนฟักสุกปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว ตอนเสริฟก็โรยหน้าด้วยผักชีหั่นหยาบๆ ซดร้อนๆให้คล่องคอ สุดท้ายตักข้าวที่หุงเสร็จแล้วใส่จาน ซอยแตงกวา หั่นเลือดไก่ ตับ และสับไก่ใส่บนข้าว เเค่นี้ก็พร้อมรับประทานแล้วค่ะ (http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/7/71/Hainanese_Chicken_Rice.jpg/300px-Hainanese_Chicken_Rice.jpg) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มิถุนายน 23, 2012, 04:53:20 PM บ๊ะจ่าง...
ส่วนผสมและวิธีทำ -ใบไผ่แห้งแช่น้ำให้นิ่ม -ข้าวเหนียวแช่น้ำ -หมูเนื้อสัน -ไข่แดงเค็มดิบ -แปะก๊วย -เม็ดบัว -เห็ดหอม -ถั่วงต้ม -กุ้งแห้ง -หัวไชโป๊หวาน -กุนเชียงทอด -เผือกกวน -พริกไทย -น้ำตาล -ซีอิ๊วดำ -ซีอิ๊วขาว -ซอสปรุงรส -กระเทียมสับ -น้ำมันพืช วิธีทำ 1. สิ่งแรกที่ต้องทำคือรีบนำใบไผ่ไปแช่น้ำไว้ข้ามคืน 2. แช่ข้าวเหนียวไว้สักประมาณ 3 ชั่วโมง 3. เผือกปอกเปลือกล้างทำความสะอาด นึ่งให้สุกและนำไปกวน ใส่น้ำตาลไม่ต้องหวานมากแล้วปั้นเป็นก้อน 4. หมูหั่นเป็นชิ้น หมักด้วยพริกไทย น้ำตาล น้ำมันหอยและซีอิ๊วขาว 5. เห็ดหอมแช่น้ำให้นิ่ม หั่นเตรียมไว้ กุ้งแห้งล้างน้ำผึ่งให้สะเด็ดน้ำ กุนเชียงทอดไฟอ่อน ๆ หัวไชโป๊วหวานล้างหั่นเตรียมไว้ 6. ถั่วงต้มให้สุกและล้างน้ำอีกรอบ ตักขึ้นพักไว้ 7. แปะก๊วยซื้อแบบสำเร็จมา ลวกในน้ำเดือดแล้วตักขึ้นพักไว้ 8. ไข่แดงเค็มดิบ ผัดข้าว ตั้งกระทะน้ำมัน ใส่กระเทียมสับลงเจียวให้หอม ตามด้วยเห็ดหอม กุ้งแห้ง ไขโป๊หวาน ถั่วง และข้าวเหนียว ผัดให้เข้ากันค่ะ ปรุงรสด้วยน้ำตาล พริกไทย ซอสปรุงรส และซีอิ๊วดำเล็กน้อย ขั้นตอนห่อ ใส่ข้าวเหนียวที่ผัดไว้ลงไป ใส่เครื่องต่าง ๆ ที่เตรียมไว้ได้แก่ ไข่แดง เผือกกวน หมูหมัก แปะก๊วย และกุนเชียง ใส่ข้าวเหนียวด้านบน และห่อปิดโดยใช้เชือกมัดให้แน่น นึ่ง ห่อเสร็จเรียบร้อยแล้วก็นึ่งเลยค่ะ ตั้งน้ำให้เดือดจัดไฟแรง ๆ นึ่งให้สุกใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ เสร็จล่ะนั่งดูว่ากินได้หรือป่าว angel.gif หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มิถุนายน 23, 2012, 05:27:44 PM ขาหมู
ส่วนประกอบและเครื่องปรุงสูตรข้าวขาหมู 1.ขาหมูเผา 1 ขา (ประมาณ 800 กรัม) 2.น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ 3.น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ 4.ซีอิ๊วดำ 2 ช้อนโต๊ะ 5.ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ 6.น้ำตาล 4 ช้อนโต๊ะ 7.กระเทียมทุบ 4 กลีบ (กลีบใหญ่) 8.โอวัลตินหรือไมโล 3 ช้อนโต๊ะ 9.พริกไทยดำบดหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ 10.รากผักชีทุบ 3 ราก 11.ชุดเครื่องต้มพะโล้ (โป๊ยกั้ก 10 กรัมหรือประมาณ 5 ดอก , ไม้หอม(อบเชย) 5 ชิ้น) 12.ผงพะโล้ 2 ช้อนโต๊ะ 13.คะน้าลวก 14.ไข่เป็ดต้ม 2 ฟอง 15.ข้าวสวย 1 ถ้วย 16.น้ำเปล่า 2 ลิตร ขั้นตอนและวิธีทำสูตรข้าวขาหมู 1. นำขาหมูมาเผาไฟให้จนไหม้เกรียม จากนั้นก็นำไปแช่น้ำซักประมาณครึ่งชั่วโมงแล้วค่อยถอนขนหมูออกให้หมด ต่อไปให้ใช้แปรงขัดหนังหมูให้ขัดเฉพาะส่วนที่ไหม้ออกให้หมด พักไว้จนแห้ง แล้วค่อยนำมาสับโดยจากนั้นให้ใช้มีดกรีดขาล่างผ่าตลอดทั้งขา 2. เตรียมเครื่องพะโล้ใส่ถุงผ้าขาวบาง ,กระเทียมทุบ, พริกไทยดำบดหยาบ ,รากผักชีทุบมัดถุงให้แน่น 3. ต้มน้ำ 1 ลิตรให้เดือด นำเครื่องพะโล้ต่างๆที่มัดถุงผ้าขาวบางลงต้มพร้อมกับขาหมู ใส่ผงพะโล้ เติมโอวัลตินเพื่อเพิ่มรสชาติด้วย ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย ,น้ำปลา ,ซีอิ้วขาว,ซีอิ๊วดำ และน้ำมันหอยคนให้เข้ากัน ต้มด้วยไฟแรง ต้มจนเดือดแล้วถ้ามีฟองให้ช้อนฟองออกให้หมด แล้วค่อยหรี่ไฟอ่อนๆ จากนั้นจึงเคี่ยวทิ้งไว้ราว 2 ชั่วโมงครึ่ง ** หมายเหตุ : พอต้มครบ 1 ชม. ให้เติมน้ำเปล่าลงไปอีก 1 ลิตร ส่วนประกอบและเครื่องปรุงน้ำจิ้มข้าวขาหมู (สูตร 1) 1.กระเทียมสดปอก 1/2 กำมือ 2.น้ำกระเทียมดอง 15 กรัม 3.น้ำส้มสายชูอย่างดี 1/2 ขวด 4.เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ 5.พริกเหลือง 100 กรัม ขั้นตอนและวิธีทำ นำส่วนผสมทั้งหมดมาบดผสมให้เข้ากันโดยละเอียด ส่วนประกอบและเครื่องปรุงน้ำจิ้มข้าวขาหมู (สูตร 2) วิธีทำเหมือนกับสูตร 1 ต่างกันที่ส่วนประกอบของน้ำจิ้มข้าวขาหมู 1.กระเทียมตำละเอียด 10 กลีบ 2.พริกเหลืองตำละเอียด 10 เม็ด 3.น้ำตาลทราย 1 – 2 ช้อนโต๊ะ 4.น้ำส้มสายชูกลั่น 5 % 1 ถ้วย 5.เกลือ 2 ช้อนชา ขั้นตอนและวิธีทำนำส่วนผสมทั้งหมดมาคลุกคล้าให้เข้ากัน สุดท้ายหั่นคะน้าวางด้านข้างข้าวสวย ผ่าครึ่งไข่ไก่จัดเรียงให้สวยงาม สับเนื้อขาหมูวางบนขาว ตามด้วยราดหน้าด้วยน้ำต้มขาหมูพร้อมรับประทาน ทิปเทคนิคเล็กน้อย สำหรับสูตรข้าวขาหมู เวลารับประทานก็ให้นำผักเคียงโดยใช้ลวกผักคะน้าในน้ำเดือดๆ พอสุกดีให้รีบนำออกมาแช่ลงในน้ำเย็นทันที (เพื่อผักจะได้มีสีเขียวน่ารับประทาน) หรือใช้ผักกาดดองชนิดเปรี้ยวนำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆแล้วเคี่ยวกับน้ำขาหมูจนนิ่ม งานเข้าเดี๋ยวมาจัดใหม่ค่ะ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มิถุนายน 27, 2012, 08:20:58 PM สวัสดีค่ะ ไม่อยากโพส์เลย กลัวรู้ว่าชอบ ปลา ขี้เกียจ อิ อิ
ทำไม่เป็นต้องไปก็อปส์ เอามา อิ อิ ขอบคุณเจ้าของกระทู้ ไว้ ณ. ที่นี้ด้วยเจ้าค่ะ แกงเห็ดเผาะ ฝีมือทำกินกันเองอย่างง่ายๆ ตามใจปาก (http://www.bloggang.com/data/aumteerama/picture/1340593208.jpg) เมื่อเข้าสู่หน้าฝนเดือนพฤษภาและมิถุนายนของทุกปี จะเป็นห้วงเวลาที่คุณนายอุ้มรอคอยเป็นอย่างยิ่งค่ะ เพราะจะได้แซ่บอร่อยกับการรับประทานอาหาร ที่ทำมาจากเห็ดเผาะหรือเห็ดหนังหรือเห็ดดอกดิน ซึ่งชาวภาคอีสานมักเรียกชื่อกันหลายชื่อ แต่ชาวภาคเหนือเรียกกันว่าเห็ดถอบเจ้าค่ะ (http://www.bloggang.com/data/aumteerama/picture/1340593483.jpg) ซึ่งเห็ดเผาะนี้จะงอกออกมาให้ได้กินกันในเวลาสั้นๆ ดังนั้นราคาจะแพงมากเจ้าค่ะ แต่ถึงจะแพงอย่างไรก็สู้กัดฟันซื้อมาทำทานจ๊ะ เพราะนานๆ จะได้รับประทานที แล้วก็ไม่ได้ทานทุกวันเน๊าะ อิอิอิ คนลาวมานจะหาเรื่องซื้อมาทำทาน คุณนายอุ้มชีก็มีข้อแก้ตัวอย่างนี้เสมอ อุ้มซื้อมา 2 ขีดๆ 50 บาท รวมเป็น 100 บาท ส่วนน้ำใบยานางซื้อแบบคั้นมาแล้วถุงละ 5 บาทค่ะ (http://www.bloggang.com/data/aumteerama/picture/1340594564.jpg) จากเห็ดเผาะที่เปื้อนดินโคลน ก็ได้ฝีมือการล้างเห็ดของเจ้าน้องอุ้ม เจ้าการะเกด ออกมาแบบนี้ล่ะค่ะ ซึ่งเห็ดเผาะมักขึ้นในป่าเต็งรัง ป่าแดง ป่ายางนา เมื่อเห็ดโผล่ขึ้นมาเหนือดิน ชาวงบ้านเขาก็จะใช้ไม้หรือมีดจิ้มเขี่ย สังเกตว่าเห็ดเผาะมีรูปร่างค่อนข้างกลม เนื้อข้างในสีขาวผุดผ่อง เมื่อกัดกินเนื้อนุ่มกรอบเวลาแตกในปาก สุดยอดของความอร่อยเอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม (http://www.bloggang.com/data/a/aumteerama/picture/1340593975.jpg) ซื้อแพ็กเห็ดนี้มาจากตลาดห้วยขวาง ราคาแพ็กละ 20 บาทเจ้าค่ะ (http://www.bloggang.com/data/aumteerama/picture/1340594088.jpg) รวมราคาค่าซื้อเห็ด 6 ชนิดนี้ 120 บาทเจ้าค่ะ (http://www.bloggang.com/data/aumteerama/picture/1340594265.jpg) ไข่มดแดงซื้อมา 1 ขีดๆ ละ 30 บาทเจ้าค่ะ (http://www.bloggang.com/data/aumteerama/picture/1340594343.jpg) น้ำปลาร้าซื้อมา 5 บาทต้มอย่างดีแล้วค่ะ (http://www.bloggang.com/data/aumteerama/picture/1340594712.jpg) ซึ่งนอกเหนือจากการตำหัวหอมแดง เนื่องจากงานนี้มีคนทานไม่เผ็ด คือเจ้าน้องอุ้มและคุณพ่อเรา งานนี้เลยไม่มีการตำพริกใส่เจ้าค่ะ ก็เลยแค่เติมความอร่อยและหอมกรุ่น ด้วยใบแมงลักและใบชะอมเจ้าค่ะ (http://www.bloggang.com/data/aumteerama/picture/1340595131.jpg) อุปกรณ์ครบครันเช่นนี้ เมื่อตั้งไฟแล้วน้ำใบยานางเดือดก็ใส่เห็ดเผาะลงไป จากนั้นใส่อีก 5 เห็ดตาม ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว เกลือนิดหน่อย น้ำปลาร้า แล้วปิดฉากแกงรสอร่อยของเรา ด้วยการโป๊ะผักชะอมและใบแมงลัก แล้วตักลงใส่ถ้วยทานได้เลยค่ะ เย็นวานเจ้าน้องอุ้มบอกว่า พี่อุ้มขาเวลากัดเห็ดเผาะแล้วแตกในปาก สุดยอด...แหล่มเลยค่ะ ก็เลยยกเมนูนี้มาฝากให้คุณๆ น้ำลายแตกฟองเล่นค่ะ ขอตัวไปทานก่อนเน้อพี่น้อง http://youtu.be/ya3as22XpO0 (http://youtu.be/ya3as22XpO0) ขอบคุณหลายๆๆเด้อ :D หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กรกฎาคม 09, 2012, 09:02:49 PM Matcha Green Tea Pudding
(http://p.s1sf.com/wo/0/ud/188/942376/w_3.jpg) เมนูวันนี้เอาใจคนรักชาเขียวเป็นพิเศษ กับเมนูของหวานเบาๆ ที่ชื่อว่า Matcha Green Tea Pudding ส่วนผสม - นมข้นจืด 100 กรัม - นมข้นหวาน 90 กรัม - น้ำตาลทราย 25 กรัม - ผงวุ้น ½ ช้อนชา - เจลาตินชนิดแผ่น 2 แผ่น - น้ำเปล่า 1½ ถ้วยตวง - ผงชาเขียว 1 ช้อนโต๊ะ - ผลไม้สดสำหรับตกแต่งตามชอบ วิธีทำ 1. แช่เจลาตินในน้ำเย็นจัดจนแผ่นมีลักษณะนุ่มเตรียมไว้ 2. ผสมนมข้นจืด นมข้นหวาน น้ำเปล่า ผงชาเขียว และผงวุ้นเข้าด้วยกัน ตั้งไฟจนส่วนผสมเดือดเคี่ยวต่อสักครู่เติมน้ำตาลทราย ยกลง 3. เติมเจลาติน คนพอเข้ากันพักไว้จนอุ่น ตักหยอดลงถ้วย นำเข้าแช่ตู้เย็นจนขนมแข็งตัวประมาณ 3-5 ชั่วโมง ตกแต่งหน้าขนมด้วยผลไม้สดต่าง ๆ และถั่วแดงกวนก่อนจัดเสิร์ฟ ส่วนผสมถั่วแดงกวน - ถั่วแดงญี่ปุ่น 250 กรัม - น้ำตาลทราย 150 กรัม - เกลือป่น ½ ช้อนชา - น้ำเปล่าสำหรับต้มถั่วแดง วิธีทำ 1. นำถั่วแดงแช่น้ำไว้ประมาณ 8-12 ชั่วโมง 2. ล้างถั่วแดงให้สะอาด เติมน้ำเปล่า ต้มถั่วด้วยไฟกลางจนถั่วสุกนิ่ม นำไปปั่นผสมกับน้ำตาลทราย และเกลือป่นพอละเอียดเล็กน้อย 3. กวนถั่วด้วยไฟกลางจนข้น ยกลงพักไว้จนเย็น หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กรกฎาคม 10, 2012, 10:20:01 AM "กระเพาะปลา"
(http://www.bloggang.com/data/teeno/picture/1341666673.jpg) วัตถุดิบ กระเพาะปลา หน่อไม้ต้มหั่นเส้น น่องไก่ เนื้ออกไก่ ไข่นกกะทาต้มสุก เห็ดหอมแช่น้ำนิ่ม น้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว เกลือ น้ำตาล แป้งมัน แป้งข้าวโพด รากผักชี กระเทียม พริกไทย เส้นหมี่ลวกสุก ต้นหอม ผักชี วิธีทำ (http://www.bloggang.com/data/teeno/picture/1341708783.jpg) (http://www.bloggang.com/data/teeno/picture/1341708833.jpg) ตั้งน้ำให้เดือด ใส่ขิงแก่ทุบและนำกระเพาะปลาลงต้มค่ะ เสร็จแล้วตักขึ้นบีบน้ำออกให้แห้งและหั่นเป็นชิ้นพักไว้ ตั้งหม้อน้ำซุป ใส่รากผักชี กระเทียม พริกไทยโขลกละเอียดลงไป จากนั้นใส่น่องไก่ ฝนใส่เนื้ออกไก่ลงไปต้มด้วยค่ะ พอสุกก็ตักออกมา พักให้เย็นแล้วฉีกเป็นเส้นๆค่ะ จากนั้นก็ใส่กระเพาะปลา เห็ดหอม หน่อไม้ และไข่นกกะทาลงไปค่ะ ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว เกลือ น้ำตาล ชิมรสให้ออกรสเค็มหวานเล็กน้อย พอได้ที่แล้วก็ละลายแป้งมันแป้งข้าวโพดเข้าด้วยกันค่ะ ใส่ลงในหม้อ คนเร็วๆไม่ให้แป้งจับกันเป็นก้อน แล้วเปิดไฟอ่อนๆเคี่ยวต่อซักพัก ตักหมี่ลวกใส่ชาม ตามด้วยกระเพาะปลา โรยหน้าด้วยต้นหอมผักชี พร้อมทานค่ะ พี่โอ"เนินน้ำ" ขอบคุณสำหรับสูตรอร่อยๆด้วยค่ะ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 08:27:28 PM แซบลุยดอย (ยำมะระหวาน) (http://p1.s1sf.com/wo/0/ud/168/840460/yote.jpg) แซบลุยดอย (ยำมะระหวาน) ส่วนผสม มะระหวานซอยเป็นเส้นเล็ก 90 กรัม เนื้อหมูบดรวน 50 กรัม กุ้งปอกเปลือกลวก 7 ตัว ปลาหมึกหั่นชิ้นลวก 50 กรัม แคร์รอตซอยเส้นเล็ก 20 กรัม พริกขี้หนูบุบพอแตก 13 เม็ด หอมแดงซอย 2 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 1 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 1 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ ผักชีเด็ดเป็นใบ วิธีทำ 1.ผสมน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลปี๊บ พริกขี้หนูบุบและหอมแดงซอยให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ 2. ใส่เนื้อหมู กุ้งและปลาหมึกที่เตรียมไว้ลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากันกับมะระหวานและแคร์รอต ตักใส่จานที่เตรียมไว้ โรยด้วยผักชี หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 08:29:26 PM สลัดตะกร้ากล้วยกรอบ
(http://p2.s1sf.com/wo/0/ud/182/912462/banana.jpg) กล้วยนั้นเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์และมีคุณค่าทางอาหารสูงจริงๆ โดยเฉพาะกล้วยน้ำว้าแถมยังราคาก็ไม่แพงด้วย…มาทำอาหารจากกล้วยน้ำว้ากันดีกว่าค่ะ สลัดตะกร้ากล้วยกรอบ ส่วนผสม กล้วยน้ำว้าดิบหั่นเป็นเส้น 2 ถ้วยตวง กุ้งสดปอกเปลือก 10 ตัว แป้งชุบทอดสำเร็จรูป 1 ซอง ครีมสลัด ผักสลัดและผลไม้สดตามชอบ น้ำมันพืช น้ำเย็นจัด เกล็ดขนมปัง วิธีทำ 1. ปอกเปลือกกล้วยหั่นเป็นเส้น แช่น้ำไว้เพื่อกันดำ 2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชพอร้อน นำกล้วยดิบที่หั่นไว้ใส่ตะแกรง แล้วนำตะแกรงอีกอันกดทับ นำลงทอดจนกรอบเหลือง ตักขึ้น พักไว้ให้คลายความร้อน 3. ผสมแป้งชุบทอดกับน้ำเย็นให้เข้ากัน นำกุ้งลงชุบแล้วคลุกเกล็ดขนมปังทอดจนสุกเหลือง 4. จัดผลไม้และผักสลัดใส่ลงในตะกร้ากล้วยกรอบ วางกุ้งทอดราดด้วยครีมสลัด จัดเสิร์ฟ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กรกฎาคม 29, 2012, 08:16:20 PM พล่าสมุนไพรปลาสลิดกรอบ
(http://p1.s1sf.com/wo/0/ud/184/924913/w-3.jpg) ส่วนผสม 1-2 ที่ - ปลาสลิดทอดกรอบ 1 ตัว - ยอดตะไคร้ซอย 2 ต้น - ขิงอ่อน 1 แง่ง - มะนาว 1 ผล - ใบมะกรูดซอย 4-5 ใบ - หัวหอมแดง 3-4 หัว - น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ - ผงปรุงรส 1 ช้อนชา - พริกขี้หนูซอย 4-5 เม็ด - น้ำปลาดี 1 ช้อนโต๊ะ - น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ - ผักชีฝรั่งซอย 3-4 ใบ วิธีทำ 1. หั่นปลาทอด ขิง มะนาว และหัวหอมแดงเป็นเต๋าเล็กๆ แล้วคลุกเคล้ากับเครื่องปรุงที่เหลือทั้งหมดในถ้วยผสม 2. แต่งรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล และน้ำมะนาวตามชอบ เสิร์ฟพร้อมผักสด หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กรกฎาคม 29, 2012, 08:33:01 PM สูตรปลาหมึกย่าง + น้ำจิ้ม
(http://www.aroiho.com/wp-content/uploads/2012/03/%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87.jpg) ปลาหมึกย่างกับน้ำจิ้มรสเด็ด อาหารที่หลายๆคนชอบทานกัน ขั้นตอนการทำที่ไม่ยุ่งยาก อีกทั้งยังสามารถทำเป็นอาชีพเสริมได้อีกด้วย ปลาหมึกที่ใช้ในการย่าง ปลาหมึกกล้วยหรือปลาหมึกกระดอง ส่วนผสม ปลาหมึกกล้วย หรือ ปลาหมึกกระดอง 500 กรัม ซีอิ้วดำ 1 1/2 ถ้วย ผักสด (แตงกวา ผักกาด มะเขือเทศ อื่นๆ) ผักชี (สำหรับแต่งหน้าอาหารหรือโรยหน้าน้ำจิ้ม) สามารถใส่รากผักชีโขลกเวลาหมักก็จะเพิ่มกลิ่นหอมของปลาหมึก ส่วนผสมน้ำจิ้ม กระเทียมสับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ พริกขี้หนูหั่นละเอียดใส่มากน้อยแล้วแต่ความชอบ น้ำตาลทรายหรือน้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ (ถ้าชอบเปรี้ยวสามารถเพิ่มได้) เกลือ 1/2 ช้อนชา น้ำกระเทียมดอง 1/2 ถ้วย (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้) น้ำจิ้มสูตรนี้ ให้ออกเปรี้ยวนำ ตามด้วยหวานเค็มเล็กน้อย จะได้รสชาติดี วิธีทำ 1. นำปลาหมึก มาลอกส่วนที่เป็นลายปลาหมึก ล้างให้สะอาด ระวังอย่าให้ถุงหมึกแตก 2. น้ำปลาหมึกหมักกับซีอิ้วดำ โดยใส่น้ำต้มสุกเย็นสัก 2-3 ถ้วย อย่าให้ใสจนเกินไป เพื่อให้เวลาย่างปลาหมึกมีสีสวย อาจจะเหยาะแม๊กกี้สักเล็กน้อยเพื่อรสชาติที่กลมกล่อม (ถ้านำไปขายควรนำปลาหมึกที่หมักไว้แช่ในตู้เย็น หรือถังน้ำแข็ง) 3. การทำน้ำจิ้มนำ พริก กระเทียม น้ำตาล เกลือ ผสมให้เข้ากัน ชิมรสชาติตามชอบ แต่ให้ออกรสเผ็ดสักหน่อยจะรสชาติดี หั่นผักชีแล้วโรยหน้า เสร็จแล้วสำหรับน้ำจิ้มปลาหมึกย่าง 4. ย่างปลาหมึกให้สุกทั้งสองด้าน หมายเหตุ ควรย่างให้สุกพอดีเพราะถ้าย่างไม่สุกมันเหนียว แล้วเสียรมณ์กินมากกแล้วสุกมากๆไปมันเหนียวววเหมือนคนย่างป่ะ อิ อิ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ สิงหาคม 04, 2012, 08:18:54 PM ยำกระท้อน
(http://www.foodcookrecipe.com/wp-content/uploads/2012/03/food2.jpg) ยำกระท้อน เครื่องปรุง กระท้อนผลใหญ่ 2 ผล เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ กุ้งชีแฮ้ 3 ตัวใหญ่ เนื้อหมู 1 ขีด มะพร้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ ถั่วงคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ หัวหอมแดงซอยเจียว 2 ช้อนชา กระเทียมซอย ๆ หั่นตามขวาง 2 ช้อนชา พริกขี้หนู 1 ช้อนช้า น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย ½ ช้อนชา น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะกับ 2 ช้อนชา น้ำพริกเผา 2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ 1. ปอกเปลือกกระท้อนทิ้ง แล้วนำลงแช่น้ำเกลือ 2 ถ้วย แช่ไว้ประมาณ 15 นาที แล้วนำมาซอยหยาบ ๆ รอบ ๆ ผล นำลงแช่อีก 10 นาที เสร็จแล้วบีบน้ำออก แล้วเฉือนเนื้อกระท้อนออกใส่ชามพักไว้ ไม่ใช้เม็ด 2. ล้างกุ้งให้สะอาด แล้วนำมาเสียบไม้ย่างไฟอ่อน พอสุกทิ้งไว้ให้เย็น แกะเปลือกออก แล้วฉีกเป็นชิ้น ๆ 3. เนื้อหมูก็นำย่างไฟเช่นกัน พอสุกทิ้งไว้ให้เย็น หั่นเป็นชิ้นบาง ๆ 4. เอาเนื้อกระท้อนที่หั่นใส่ชามไว้ เนื้อกุ้ง เนื้อหมูย่างใส่ชาม มะพร้าวคั่ว ถั่วงคั่ว หัวหอมเจียว กระเทียมเจียวใส่แล้วผสมน้ำพริกเผาผสมกับน้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาลทรายให้เข้ากันดี แล้วใส่พริกขี้หนูบุบ ๆ ลงเคล้าให้ทั่ว นำเทลงในชามเนื้อกระท้อน เคล้าให้เข้ากัน ชิมดูรสให้จัด โรยพริกขี้หนูดูให้สวยงามรับประทาน ทันที หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ สิงหาคม 04, 2012, 08:20:41 PM สี่สหายในน้ำนมถั่วเหลืองน้ำผึ้งชาเขียว
(http://www.siamdara.com/Picture_Girl/201208037475490.jpg) ส่วนผสม - เฉาก๊วยหั่นเต๋าเล็ก ½ ถ้วย - ลูกชิด ½ ถ้วย - เมล็ดข้าวโพดต้มสุก ½ ถ้วย - ถั่วแดงหลวงเชื่อม ½ ถ้วย - นมถั่วเหลืองรสจืด 2 ถ้วย - น้ำผึ้งออแกนิกส์ ½ ถ้วย - ผงชาเขียวอย่างดี 4 ช้อนโต๊ะ - ผงชาเขียวอย่างดีสำหรับโรยหน้าขนมตามชอบ วิธีทำ - ต้มนมถั่วเหลืองจนเดือด เติมผงชาเขียวและน้ำผึ้ง คนให้ละลาย มีกลิ่นหอม ปิดไฟ พักให้เย็น แล้วแบ่งส่วนผสมออกเป็นส่วองส่วน ส่วนหนึ่งนำไปแช่ช่องแข็ง ส่วนหนึ่งนำไปแช่ตู้เย็นช่องธรรมดาเตรียมไว้ - ตักเฉาก๊วย เมล็ดข้าวโพด ลูกชิด และถั่วแดงเชื่อม ใส่ถ้วยเตรียมไว้ - นำนมถั่วเหลืองน้ำผึ้งชาเขียวที่แช่แข็งออกมา ขูดด้วยส้อมจนเป็นฝอย หรือใช้ช้อนตักเป็นก้อน ๆ ใส่ลงไปในถ้วยเครื่องขนมที่เตรียมไว้ รินนมถั่วเหลืองแช่เย็นอีกส่วนลงไป โรยด้วยผงชาเขียวหอม ๆ พร้อมรับประทาน หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ สิงหาคม 04, 2012, 08:22:21 PM ทอดมันกุ้ง
(http://www.aroiho.com/wp-content/uploads/2012/07/%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2_%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%87_%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%B0.jpg) ส่วนผสม กุ้งขาวแวนนาไมน์แกะหัวและหาง 1/2 กิโลกรัม รากผักชี พริกไทยแบบเม็ด 1 ช้อนกลางๆ ไม่ถึงช้อนโต๊ะ และไม่ใช่ช้อนชา มันหมู 70 กรัม เกลือ 1/2 ช้อนชา น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา ผงรสดี รสหมู 2 ช้อนชา ไข่ขาว เกล็ดขนมปัง น้ำจิ้มบ้วย วิธีทำ 1. นำพริกไทย กระเทียม ลงครก ตำให้ละเอียด 2. นำกุ้งที่แกะหัวและหางแล้ว แบ่งเป็นสามส่วน ส่วนหนึ่งเก็บไว้ก่อน สองส่วนที่เหลือนำมาผ่าหลัง ดึงลำไส้ออก 3. นำกุ้งที่ผ่าหลังแล้ว ค่อยๆใส่ลงครก ตำให้เนียน (อย่านำกุ้งใส่ครกทีเดียวนะครับ ค่อยๆตำให้เนียนก่อนแล้วค่อยใส่กุ้งลงไป) ตำจนเนื้อกุ้งเนียวดี ใช้ทัพพีตักใส่จานพักไว้ 4. นำมันหมูต้มให้พอสุก แล้วหั่นเป็นเต๋าเล็กๆ หยาบๆ แช่ตู้เย็นทิ้งไว้ 5. นำกุ้งที่แบ่งไว้มาหั่นเป็นท่อน หนึ่งตัวจะหั่นได้ 3-4 ท่อน แช่ตู้เย็นทิ้งไว้ 6. นำส่วนผสมทั้งหมด คือ กุ้งหั่นเป็นท่อน มันหมู กุ้งที่ตำแล้ว นำมาผสมกับ รสดี น้ำตาลทราย เกลือ คลุกเคล้าให้เข้ากัน 7. นำส่วนผสมที่ปรุงรสแล้ว มาปั้นขึ้นรูป ใช้ไข่ขาวทาแล้ว คลุกเคล้ากับเกล็ดขนมปัง 8. ตั้งไฟทอดในน้ำมันร้อนๆ จนสุก ตั้งขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน พร้อมเสริฟ ทานคู่กับน้ำจิ้มบ๊วย แตงกวา หรือเครื่องเคียงตามชอบ ที่มา : อร่อยเหาะดอทคอม หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ สิงหาคม 04, 2012, 08:24:09 PM บะหมี่ผัดกุ้งเสวย
(http://www.siamdara.com/Picture_Girl/201207304886540.jpg) เครื่องปรุง - น้ำมันถั่วเหลือง 1 ช้อนโต๊ะ - กุ้งแกะเปลือกผาหลัง 100 กรัม - กระเทียมบุบ 5 เม็ด - น้ำพริกมันกุ้งเสวย 2 ช้อนโต๊ะ - เส้นบะหมี่ไวไวลวกแล้ว 1 ซอง - น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ - มะเขือเทศเชอรี่ 30 กรัม - พริกขี้หนูแห้งทอด 5 เม็ด - ผักโตวเหมี่ยว 30 กรัม - ใบโหระพา 1/2 ถ้วยตวง - มะนาวหั่นเสี้ยว 4 ชิ้น วิธีทำ 1.นำกระทะตั้งเตา IHC ใส่น้ำมันถั่วเหลืองลงไป พอร้อนใส่กุ้งลงไป ผัดให้พอกุ้งสุก ตักกุ้งออกจากกระทะพักไว้ 2.ในกระทะใบเดิม บุบกระเทียมลงไปในกระทะ ผัดให้กระเทียมหอม ใส่น้ำพริกมันกุ้งเสวยลงไปผัดให้เข้ากัน 3.ใส่เส้นบะหมี่ไวไวที่ลวกแล้วลงไป ผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วย น้ำปลา ชิมรสให้ออก เค็ม หวาน จากน้ำพริกมันกุ้งเสวย 4.ใส่กุ้งที่ผัดไว้ มะเขือเทศ พริกขี้หนูแห้ง ผักโตวเหมี่ยว ใบโหระพาลงไป ผัดให้เข้ากัน ยกลงจากเตา หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ สิงหาคม 13, 2012, 04:03:22 PM กุ้งกระเทียมผัดพริกขี้หนู
(http://www.jaowka.com/wp-content/uploads/2012/08/342.jpg) ส่วนผสม 1. กุ้งชีแฮ้ย่างไฟพอสุก 2 ขีด 2. เห็ดหอมสด 1 ขีด 3. กระเทียมบุบพอแตก 10 กลีบ 4. พริกขี้หนูบุบพอแตก 10 เม็ด 5. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ 6. น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนชา 7. น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ 8. น้ำมันสำหรับผัด 2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ 1. แกะเปลือกกุ้งที่ย่างแล้ว ฉีกเป็นชิ้นพอคำ แล้วพักไว้ เห็ดหอมสดผ่าครึ่ง ล้างให้สะอาด 2. เจียวกระเทียมและพริกขี้หนูในน้ำมันพอหอม ใส่กุ้งและเห็ดหอมลงผัด 3.เติมน้ำปลาและน้ำตาลทรายแดง เติมน้ำเปล่า ลงผัดให้เข้ากัน คนอีกครั้ง ตักขึ้นใส่จาน 4.กินกับข้าวกล้องร้อนๆ เคล็ดลับ กุ้งผัดกระเทียมจะมีกลิ่นหอมมากกว่าธรรมดา ต้องใช้กุ้งย่างแทนกุ้งสด ประโยชน์ของเมนูอาหารจานนี้ 1.กระเทียม – ช่วยลดคอเลสเตอรอล ฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย 2.พริกขี้หนู – มีสารเบต้าแคโรทีน ช่วยขับเหงื่อ ปัสสาวะ เจริญอาหาร ทำให้หลอดเลือดอ่อนตัว 3.ช่วยป้องกันโรคหัวใจ เลือดไหลหมุนเวียนดี ลดความดันเลือด 4.เห็ดหอม – สามารถยับยั้งโรคมะเร็ง 5.กุ้ง – เพิ่มน้ำนม 6.ข้าวกล้อง – มีวิตามินบี 1 บี 2 ป้องกันเหน็บชา หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ สิงหาคม 13, 2012, 04:23:10 PM แจ่วบอง
(http://www.siamdara.com/Picture_Girl/201208064666180.jpg) ส่วนผสม 1. ปลาร้าสับละเอียด 1 ถ้วย 2. ตะไคร้ปั่นฝอย 1/2 ถ้วย 3. มะเขือเทศสุก เผาลอกเปลือกออก 1/2 ถ้วย 4. หอมแดงเผา 1/2 ถ้วย 5. ข่า 6. พริกขี้หนูแห้ง 7. มะขามเปียก 8. กระเทียม 9. ใบมะกรูด วิธีทำ 1. นำข่ามาหั่นเป็นแว่นๆ พอหยิบมือ โขลกให้ละเอียด กับ ตะไคร้หั่นฝอย แล้วจึงใส่หอมแดงเผา มะเขือเทศ ปลาร้า มะขามเปียกสับละเอียดพอสมควร ตามลำดับ โขลกอีกครั้งให้เข้ากัน 2. เคล้าด้วยกระเทียมที่หั่นขวางและพริกขี้หนูแห้งคั่วป่นพอควร โรยใบมะกรูดหั่นฝอยพอสมควร โดยรับประทานคู่กับข้าวเหนียวหรือข้าวเจ้า และผักสดทุดชนิด หรือ ผักนึ่ง หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ สิงหาคม 13, 2012, 04:26:08 PM ตับกระเทียมพริกไทย
(http://www.jaowka.com/wp-content/uploads/2012/08/375.jpg) อาหารสำคัญสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ อุดมด้วยธาตุเหล็กและวิตามินบีรวมต่างๆ ส่วนผสม ตับหมู 500 กรัม พริกไทยเม็ด 1 ช้อนโต๊ะ กระเทียมไทยกลีบเล็ก 100 กรัม ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 2 ช้อนชา น้ำมันพืช 1½ ถ้วย พริกชี้ฟ้าสีแดงหั่นและผักชีสำหรับตกแต่ง ผักดอง น้ำส้มสายชู ½ ถ้วย น้ำตาลทราย ½ ถ้วย เกลือสมุทร 1½ ช้อนชา ผักสดมีแครอทเกลาเป็นแท่ง กะหล่ำดอกหั่นดอกเล็กและหัวไช้เท้าหั่นเป็นแท่ง กระเทียมเจียวปรุงรส ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา น้ำมันหอย 1 ช้อนชา น้ำตาลทราย ½ ช้อนชา วิธีการทำ + ทำผักดองโดยเคี่ยวน้ำส้มสายชู น้ำตาลและเกลือในหม้อด้วยไฟอ่อนจนเหนียวเล็กน้อย + ปิดไฟ พักไว้ให้เย็นใส่แครอท กะหล่ำดอก หัวไช้เท้า แช่จนน้ำปรุงรสซึมเข้าเนื้อ + ล้างตับหมู หั่นเป็นชิ้นหนาประมาณ ½ นิ้ว ใส่ลงในอ่างผสม พักไว้ + โขลกพริกไทยจนละเอียด ใส่กระเทียม โขลกต่อจนเข้ากันดี ตักใส่ถ้วย พักไว้ + แบ่งกระเทียมที่โขลกครึ่งหนึ่งใส่ลงในตับหมู เคล้าจนเข้ากันทั่ว + เติมซีอิ๊วขาว น้ำมันหอยและน้ำปลา เคล้าอีกครั้งจนเข้ากันทั่ว + นำไปแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดานานประมาณ 15 นาที + ใส่ตับหมูที่หมักลงทอดจนสุกนุ่ม ตักพักในตะแกรงให้สะเด็ดน้ำมัน + ทำกระเทียมเจียวปรุงรส โดยเจียวกระเทียมโขลกที่เหลือกับน้ำมันด้วยไปอ่อนจนเหลืองกรอบ + ตักใส่จานที่รองด้วยกระดาษซับน้ำมัน แล้วตักน้ำมันที่เจียวออก + ใส่ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย และน้ำตาล เคี่ยวเข้าด้วยกันจนเหนียวเล็กน้อย + ใส่กระเทียมเจียว ผัดคลุกเคล้าโดยใช้ไฟอ่อนพอทั่ว ตักใส่ถ้วย + ตักตับหมูทอดใส่จาน โรยกระเทียมเจียวปรุงรส + ตกแต่งด้วยพริกชี้ฟ้าสีแดงหั่นแฉลบและผักชีวางผักดองข้าง ๆ เสิร์ฟ คุณค่าทางโภชนาการ เหล็กคือสารอาหารที่จำเป็นสำหรับการสร้างเม็ดเลือด ถ้ากินร่วมกับผักผลไม้ที่มีวิตามินซี จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมไปใช้งานได้ดียิ่งขึ้น หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ สิงหาคม 13, 2012, 04:28:29 PM สปาร์เก็ตตี้ซอสครีมต้มยำ
(http://www.jaowka.com/wp-content/uploads/2012/08/344.jpg) เครื่องปรุง 1.ซอสครีมต้มยำ 2 ถ้วย 2.เส้นสปาร์เก็ตตี้ต้มสุกแล้ว 500 กรัม 3.กุ้งแกะเปลือกลวก 200 กรัม 4.หอยแมลงภู่ 300 กรัม 5.ปลาหมึกหั่นแว่นลวก 200 กรัม 6.ข่าสับละเอียด 1 ช้อนชา 7.ตะไคร้ซอย 1 ช้อนชา 8.ใบมะกรูดสับละเอียด 1 ช้อนชา 9.พริกขี้หนูซอยหรือพริกขี้หนูป่น 1 ช้อนชา 10.น้ำมะนาว 4 ช้อนโต๊ะ 11.น้ำปลา 6 ช้อนโต๊ะ 12.พาเมซานชีส 2 ช้อนโต๊ะ 13.ทาบัสโก้ พอประมาณ วิธีทำ 1. นำกระทะตั้งไฟใส่ซอสครีมต้มยำลงไป ต้มให้ร้อน 2. ใส่เส้นสปาเก็ตตี้ลงไป ผัดให้เข้ากัน 3. ใส่ อาหารทะเลลงไป ผัดให้สุก ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำมะนาว ข่าสับละเอียด ใบมะกูดสับละเอียด ตะไคร้ซอย เพื่อเพิ่มกลิ่นของซอสต้มยำ ผัดให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ 4. ก่อนยกลง โรยหน้าด้วยพาเมซานซีส ทาบัสโก้ พริกขี้หนูซอย ผัดให้เข้ากัน ตักเสิร์ฟร้อนๆ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ สิงหาคม 13, 2012, 05:27:47 PM ขนมปังหน้ากุ้ง
(http://www.jaowka.com/wp-content/uploads/2012/08/238.jpg) ส่วนผสม • ขนมปังฝรั่งเศสหั่นเป็นแว่นๆ 4 ชิ้น • กุ้งสด 8 ตัว • ไข่ไก่ 1 ฟอง • ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ • รากผักชี 2 – 3 ราก • กระเทียม 2 – 3 กลีบ • น้ำมันงา 1/2 ช้อนชา • พริกไทย พอประมาณ • น้ำมันพืชสำหรับทอดขนมปัง ส่วนผสมน้ำจิ้ม • น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ • เกลือ 1/4 ช้อนชา • พริกชี้ฟ้าแดง 2 – 3 เม็ด • หอมแดง 1 หัว • กระเทียม 3 – 4 กลีบ วิธีทำ 1. นำขนมปังฝรั่งเศสมาหั่นเป็นแว่นๆ ความหนาประมาณ 2 – 3 ซ.ม. 2. เสร็จแล้วหันไปแกะเนื้อกุ้งมาสับให้ละเอียด โขลกรากผักชี กระเทียม พริกไทยให้ละเอียด แล้วนำมาผสมกับเนื้อกุ้งสับ 3. จากนั้นตอกไข่ไก่เลือกเอาแต่ไข่แดง ผสมซีอิ๊วขาวและน้ำมันงา นวดเข้ากับกุ้งสับจนเข้าเนื้อ แล้วจึงนำเนื้อกุ้งที่นวดจนเหนียวแล้วนั้นมาทาบนหน้าขนมปัง 4. เตรียมทอดตั้งกระทะให้ร้อนด้วยไฟปานกลาง ใส่น้ำมันพืชให้พอท่วมขนมปัง รอจนน้ำมันร้อนจัดดีแล้วแล้วจึงนำขนมปังลงไปทอด หากน้ำมันยังไม่ร้อนจัดจะทำให้ขนมปังอมน้ำมัน เมื่อทอดจนขนมปังเป็นสีเหลืองดีแล้วจึงตักขึ้น พักไว้จนสะเด็ดน้ำมัน หรือจะใช้กระดาษซับน้ำมันออกก็ได้ เพิ่มรสชาติความอร่อยให้ขนมปังหน้า กุ้งด้วยน้ำจิ้มรสเด็ด เริ่มจากโขลกพริกชี้ฟ้า กระเทียม หอมแดงให้ละเอียด นำน้ำส้มสายชูขึ้นตั้งไฟ ใส่น้ำตาลทราย เกลือ และส่วนผสมที่โขลกแล้วลงไปเคี่ยวรวมกัน หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ สิงหาคม 13, 2012, 05:30:13 PM พุดดิ้งชาเย็น
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img9/134274.jpg) ส่วนผสม (สำหรับ 4 ที่) น้ำเปล่า 2 ถ้วย ผงชาแดง 1/2 ถ้วย เจลาติน 4 แผ่น นมข้นจืด 1 1/4 ถ้วย น้ำตาลทราย 3/4 ถ้วย เค้กเนยหรือขนมไข่ ใบสะระแหน่ วิปปิ้งครีมสำหรับตกแต่ง วิธีทำ ตั้งหม้อไฟกลาง ใส่น้ำและผงชา ต้มให้เดือดนาน 10 นาที ปิดไฟ กรองน้ำชาออกพักไว้ แช่ แผ่นเจลาตินในน้ำเย็นจนนิ่ม ตั้งหม้อไฟกลาง ใส่นมข้นจืดและน้ำตาลคนจนน้ำตาลละลาย ใส่น้ำชาและแผ่นเจลาตินคนให้เจลาตินละลาย ปิดไฟพักไว้ 3. เทส่วนผสมชาลงในแก้วใสประมาณ 2/3 ของแก้ว นำไปแช่เย็นนาน 30 นาที หั่นเค้กเป็นชิ้น วางจนเต็มแก้ว ตกแต่งด้วยวิปปิ้งครีมและใบสะระแหน่ H&C Tip ถ้าไม่มีผงชาแดงใช้ชาเย็นซองสำเร็จรูป(3 in 1) แทนได้ โดยใช้ชา 4 ซอง ต่อเจลาติน 3 แผ่น ขอบคุณเมนูจาก healthandcuisine หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ สิงหาคม 13, 2012, 05:34:13 PM ทีรามิสึส้ม
(http://www.jaowka.com/wp-content/uploads/2012/08/239.jpg) ส่วนผสม : 1.ครีมเหลว 200 กรัม (ไขมัน 32-34 เปอร์เซ็นต์) 2.ไข่แดง 2 ฟอง 3.น้ำตาลทรายปั่น 50 กรัม 4.เจลาติน 11/2 แผ่น 5.วาซาบิสดขูด 30 กรัม 6.มาสคาโพนครีมชีส 200 กรัม 7.เกรปฟรุต 2 ลูก 8.ส้มเชื่อม 150 กรัม 9.น้ำแร่ 250 มิลลิลิตร 10.น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ 11.โป้ยกั๊ก 2 กรัม 12.วานิลลา 1 ฝัก 13.พริกไทยดำป่น (Sarawak pepper) 6 เม็ด 14.ผงชาเขียว สำหรับครีมวาซาบิ : แช่ แผ่นเจลาตินในน้ำเย็นประมาณ 20 นาทีจนนิ่ม นำครีมขึ้นตั้งไฟ เติมวาซาบิและวานิลลา ตีไข่แดงกับน้ำตาลทราย ค่อยๆ เติมครีมใส่ในไข่แดง ทำให้สุกด้วยอุณหภูมิ 85องศาC เติมแผ่นเจลาติน คนให้เข้ากัน เติมโป้ยกั๊กและพริกไทยดำ ทิ้งให้หายร้อน นำเข้าตู้เย็น สำหรับเกรปฟรุต : ปอก เปลือกโดยให้ใช้มีดกรีดและลอกเปลือกออก จากนั้นลอกเยื่อออกให้หมด หั่นเป็น 2 หรือ 3 ชิ้นขึ้นอยู่กับขนาด นำเข้าตู้เย็น หั่นส้มเชื่อมเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็กๆ ขนาดประมาณ 0.5 เซ็นติเมตรผสมส้มเชื่อมกับส้มเกรปฟรุตสด เมื่อจะยกเสิร์ฟ : แบ่งครีมวาซาบิเป็น 3 ส่วน ค่อยๆ เติมใส่มาสคาโพนครีมชีสทีละส่วน จากนั้นตีให้เข้ากัน ในการเสิร์ฟ : เท ส้มโอผสมแยมส้มโอใส่ในแก้ว จากนั้นตักครีมมาสคาร์โพนผสมวาซาบิใส่กรวยบีบ โดยใช้หัวบีบขนาด 12 มิลลิเมตร บีบครีมใส่แก้วส้มให้สวยงาม โรยหน้าด้วยผงชาเขียว นำเข้าตู้เย็นจนกว่าจะยกเสิร์ฟ เสิร์ฟพร้อมชาเขียวร้อน หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ สิงหาคม 13, 2012, 05:36:03 PM น้ำมะนาวชุ่มคอ ชื่นใจ
(http://img.kapook.com/image/Food/Beverage-Drink/lemonade.jpg) ชุ่มคอ ชื่นใจ (สวยด้วยแพทย์) ใครที่เคยดื่มแต่ “น้ำมะนาว” เย็น ๆ แก้กระหายยามอากาศร้อน ลองเปลี่ยนมาดื่มน้ำมะนาวสู้อาการไอจากไข้หวัดกันบ้างค่ะ ที่ชวนดื่มน้ำมะนาวก็เพราะมะนาวนั้นอุดมด้วยวิตามินซี และบี 1 ตลอดจนสารเคมีที่มีประโยชน์อีกหลายตัว ซึ่งจัดเป็นยาแก้ไอชั้นเยี่ยม นอกจากนี้ยังมีสารตัวหนึ่งชื่อว่า “Synephrin” ซึ่งมีสรรพคุณลดอาการคัดจมูกได้ด้วยค่ะ แต่จะดื่มน้ำมะนาวแก้ไอยามเป็นไข้หวัดทั้งที ต้องให้แตกต่างจากยามปกตินะคะ เพราะน้ำมะนาวแช่เย็น ชื่นใจก็จริง แต่คงไม่เป็นผลดีต่ออาการไอแน่ ๆ ควรเปลี่ยนมาเป็นน้ำมะนาวอุ่น ๆ แทนดีกว่าค่ะ ถ้ายังไงยาน้ำแก้ไอสารพัดยี่ห้อ ช่วยหลบไปก่อน ขอให้น้ำมะนาวได้เป็นพระเอกบ้าง แต่ถ้าดื่มไปแล้วยังไม่ได้ผล ก็ไปพบแพทย์เสียนะคะ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ สิงหาคม 18, 2012, 09:28:58 AM “เมี่ยงคะน้าก๋วยเตี๋ยว” เคี้ยวกร้วมคำโต
(http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=1265981) ส่วนผสม ผักคะน้า(เลือกเอาแต่ใบคะน้าไม่แก่เกินไปแล้วตัดก้านออก) ผักกาดหอม ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ลวกสุก(หั่นเป็นชิ้นๆ พอดีคำ) กุ้งลวกสุก(หั่นเป็นชิ้นๆ พอดีคำ) ไข่ เจียว(หั่นเป็นชิ้นๆ พอดีคำ) หมูสับ กุ้งแห้ง เครื่องปรุงน้ำเมี่ยง ถั่วงคั่วโขลก 3 ช้อนโต๊ะ พริกตำ (จำนวนตามแต่ต้องการว่าชอบเผ็ดมากเผ็ดน้อย) น้ำตาลปี๊บ 1/2 ถ้วย น้ำปลา 1/4 ถ้วย น้ำ 1/2 ถ้วย น้ำมะขามเปียก 1/4 ถ้วย วิธีทำน้ำเมี่ยง เริ่มจากผสมน้ำตาลปี๊บ น้ำ น้ำมะขามเปียก และน้ำปลาให้เข้าด้วยกัน จากนั้นยกขึ้นตั้งไฟ เคี่ยวพอเหนียวแล้วจึงใส่ พริกและถั่วงลงไป เท่านี้ก็ได้น้ำเมี่ยง นำมากินกับ “เมี่ยงคะน้าก๋วยเตี๋ยว” ที่จัดเป็นคำๆ เมี่ยง 1 คำ ต่อคะน้า 1 ใบ ส่วนส่วนผสมอื่นๆเลือกหยิบผสมตามความชอบ โดยขั้นตอนนั้นให้นำผักคะน้ามาวางแล้วตามด้วยผักกาดหอมหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่เส้นก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ลงไป ใส่กุ้ง หมูสับ ไข่เจียว และกุ้งแห้ง เวลากินก็นำน้ำเมี่ยงมาราดแล้วห่อเป็นคำเคี้ยวกร้วมเข้าปากกรุบกรอบรสชาติ น้ำราดออกหวานๆ เอร็ดอร่อยกันไป หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ สิงหาคม 18, 2012, 09:31:19 AM ขนมจีนผัดขี้เมากุ้ง
(http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=1223994) ส่วนผสม (สำหรับ 1 ที่) กุ้งขาวสด 4 ตัว ขนมจีน 2 ขีด ไข่ไก่ 1 ฟอง พริกขี้หนู 8 เม็ด พริกชี้ฟ้าเหลือง 2 เม็ด น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา ซอสปรุงรส 1 ช้อนชา ใบกะเพราทอดกรอบ กระเทียมสับ น้ำมันพืช เมื่อเตรียมส่วนผสมกันพร้อมสรรพแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการลงมือปรุงที่ไม่ยุ่งยากอะไรเลย โดยเริ่มจากนำน้ำมันพืชใส่กระทะแล้วตั้งไฟ จากนั้นใส่พริกขี้หนูและกระเทียมสับลงไปผัดจนหอมได้ที่ หลังจากนั้นใส่กุ้ง แล้วก็ตอกไข่ไก่ลงไปผัดในกระทะ จากนั้นก็ให้ใส่เส้นขนมจีนลงไปผัด พร้อมกับปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย น้ำมันหอย ซอสปรุงรส ผัดคลุกเคล้าให้เครื่องทุกอย่างเข้ากัน เป็นอันว่าเสร็จสิ้น โรยหน้าด้วยพริกชี้ฟ้าเหลือง และใบกะเพราทอดกรอบ ก็พร้อมอิ่มอร่อยท้องกับ “ขนมจีนผัดขี้เมากุ้ง” กันได้เลย หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 01, 2012, 08:12:25 PM ต้มโคล้งรวมมิตร
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img0/135779.jpg) เครื่องปรุงและส่วนผสม กุ้งนาง 2 ตัว ปลาหมึก 2 ตัว หอยแมลงภู่ 10 ตัว ปลาช่อนแห้ง 1 ตัวเล็ก น้ำ 5 ถ้วยตวง ส้มมะขามเปียก 2 ฝัก หอมแดงเผา 5 หัว เกลือ 2 ช้อนชา พริกแห้งเผาหั่นเป็นท่อนๆ 3 เม็ด ตะไคร้ทุบพอแตกหั่นเป็นท่อนๆ 3 ต้น ใบมะกรูดฉีกเป็นชิ้นๆ 4 ใบ น้ำเปล่า 1/2 ถ้วยตวง น้ำมะนาว 1/4 ถ้วยตวง วิธีการทำ ต้มโคล้งรวมมิตร 1. เผากุ้ง ปลาหมึก หอยแมลงภู่ ปลาช่อนแห้ง ให้หอม ฉีกปลาช่อนแห้งเป็นชิ้น ๆ เอาก้างออก 2. โขลกหอมเผาหยาบ ๆ 3. นำน้ำตั้งไฟใส่หอมแดง ส้มมะขามเปียก ตะไคร้ ใบมะกรูด เกลือ พอเดือดใส่น้ำปลา น้ำมะนาว พริกแห้ง ชิมรส เมื่อรสดีแล้วจึงใส่กุ้งเผา ปลาหมึกเผา หั่นเป็นแว่น ๆ หอยแมลงภู่เผา และปลาช่อนแห้งพอน้ำเดือดยกลง เสิร์ฟร้อน ๆ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 14, 2012, 07:14:15 PM สูตรคั่วกลิ้งไก่
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img9/136367.jpg) ส่วนผสมและเครื่องปรุง 1. หอมแดง 5 หัว 2. พริกไทย 10 เม็ด 3. ตะไคร้ 2 ต้น 4. พริกแห้ง 1 ช้อนโต๊ะ 5. ขมิ้น 6. ข่าหั่น 7 แว่น 7. กระเทียม 3 กลีบใหญ่ 8. ผิวมะกรูดซอย 1/2 ลูก 9. เกลือป่น 2 ช้อนชา 10. ไก่สับ 300 กรัม 11. น้ำปลา นิดหน่อย 12. น้ำตาล นิดหน่อย 13. น้ำมันพืช นิดหน่อย 14. ตะไคร้ซอย 2 ต้น 15. ใบมะกรูดหั่นฝอย พอประมาณ 16. พริกไทยป่น วิธีทำและขั้นตอนในการทำ 1. ก่อนอื่นให้นำ กระเทียม พริกไทย หอมแดง เกลือ ขมิ้น ตะไคร้ พริกแห้ง ข่า ผิวมะกรูด โขลกทุกอย่างรวมกันให้ละเอียดจะได้ พริกแกงประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ 2. จากนั้นให้เตรียมใส่น้ำมันลงในไปกระทะซักเล็กน้อย ใส่พริกแกงในขั้นตอนแรกลงไปผัดจนมีกลิ่นหอม ระวังพยายามอย่าใส่น้ำมันเยอะเกินไปเพราะเดี๋ยวคั่วจะไม่กลิ้งจะกลายเป็นผัดพริกแกงไป 3. เมื่อพริกแกงมีกลิ่นหอมดีแล้ว ให้ใส่เนื้อไก่ลงไป ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน ปรุงรสด้วย น้ำตาล น้ำปลา และพริกไทยป่น ชิมรสอาจปรับได้ตามใจชอบ ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากันคั่วไปเรื่อยๆ จนเนื้อไก่กลิ้งได้ ตามด้วยใส่ตะไคร้ซอยกับใบมะกรูดหั่นฝอย ผัดคั่วต่ออีกสักครู่ คั่วกลิ้งนั้นเป็นอาหารยอดนิยมที่ขึ้นชื่อมากของภาคใต้สำหรับ สูตรอาหารไทย สูตรคั่วกลิ้งไก่ สามารเลือกปรับหรือเลือกใช้หมูบด เนื้อบด หรือปลาบด ก็ได้ตามใจชอบ เวลารับประทานให้ทานกับข้าวสวยร้อนๆและผักสด รับรองสุดยอดมากๆ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 14, 2012, 07:16:40 PM สูตรต้มจับฉ่าย
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img5/136422.JPE) วัตถุดิบ ส่วนผสมและเครื่องปรุง 1.คื่นช่าย 2 ถ้วย 2.หมูสามชั้น 1 ถ้วย 3.เต้าเจี้ยวดำ 2 ช้อนโต๊ะ 4.น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ 5.น้ำ 5 ถ้วย 6.น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ 7.ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนชา 8.ผักกวางตุ้ง 4 ต้น 9.หัวผักกาดขาว 1 หัว 10.ดอกกะหล่ำ 1 หัว 11.กะหล่ำปลี 1 หัว 12.กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ 13.ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ 14เต้าหู้สี่เหลี่ยมหั่นใหญ่ๆทอดให้เหลือง ขั้นตอนและวิธีการทำ 1.ลำดับแรกเลยให้ต้มน้ำไฟกำลังดีจากนั้นให้ใส่โครงไก่ 1 ตัว พอน้ำเดือดให้ใส่ซีอิ๊วดำแล้วตามด้วยซีอิ๊วขาวเปิดฝาช้อนตักฟองทิ้งให้ออกน้ำใสจากนั้นต้มต่อไปเรื่อยๆซักประมาณครึ่งชั่วโมงแล้วค่อยเอาโครงไก่ออก 2.จากขั้นตอนแรกให้เรานำหมู 3 ชั้นแล้วก็ใส่ผักทุกอย่างรวมเข้าด้วยกันกับเต้าหู้ จากนั้นตั้งกระทะใส่น้ำมันแล้วจึงเจียวกระเทียมให้มีกลิ่นหอมแล้วตามด้วยเต้าเจี้ยวลงผัด พอเต้าเจี้ยวและกระเทียมมีกลิ่นหอมดีแล้วจึงใส่ลงในหม้อแกง 3.พอได้ที่ลองชิมรสปรับตามใจชอบ ใส่น้ำตาลปี๊ป ถ้าไม่เค็มก็สามารถที่จะเติมน้ำปลาได้จากนั้นเคี่ยวจนผักเปื่อยนุ่มซักประมาณ 1 ชั่วโมง หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 14, 2012, 07:18:29 PM กระเพาะปลาเนื้อปู
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img5/136361.jpg) กระเพาะปลาเนื้อปู : คอลัมน์ครัวลอยฟ้า เครื่องปรุง 1.กระเพาะปลาหลอดอย่างดี 4 หลอด 2.ขิงแก่หั่นแผ่นบางๆ 5 แผ่น 3.พริกไทยเม็ดตรามือโขลกหยาบ 1 ช้อนชา 4.พริกไทยป่นตรามือ 1 ช้อนชา 5.น้ำซุปหูฉลาม 1 หม้อ 6.แป้งมันฮ่องกง 2 ช้อนโต๊ะ 7.เนื้อปูสด 1 ถ้วย 8.เห็ดหอมจีนแห้งแช่น้ำให้นุ่ม 5 ดอก วิธีทำ 1.แช่กระเพาะปลากับน้ำจนนุ่มจึงต้มกับขิงแก่และพริกไทยโขลกจนหอมไขมันออกมาหมด 2.นำกระเพาะปลามาหั่นเป็นชิ้นพอคำแล้วสะเด็ดน้ำให้แห้ง 3.ต้มน้ำซุปหูฉลาม (หรือใช้ผงต้มน้ำซุปตรามือ) กับเห็ดหอมเคี่ยวจนเห็ดนุ่มน้ำซุปหอม 4.ใส่กระเพาะปลาต้มกับน้ำซุปแล้วละลายแป้งมันฮ่องกงลงรวนจนน้ำเหนียวข้น 5.ใส่เนื้อปูนึ่งสดลงในกระเพาะปลาเสิร์ฟร้อนๆ กินทันทีอร่อยและบำรุงร่างกาย หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 14, 2012, 07:20:40 PM สูตรข้าวผัดแหนม
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img7/136364.JPG) เครื่องปรุงรสและวัตถุดิบสำหรับ 1. ข้าวสวย 1 ถ้วย 2. ซีอิ้วขาว 2 ช้อนชา 3. น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา 4. กระเทียมกลีบใหญ่ 1 ช้อนโต๊ะ 5. แหนม 1/4 ถ้วย 6. น้ำมันหอย 1 1/2 ช้อนชา 7. ไข่ไก่ 1 ฟอง 8. ซอสปรุงรส 1 ช้อนชา 9. ต้นหอม 3 ต้น 10. หัวหอมใหญ่ 1/4 หัว 11. ผักชี 1 ต้น 12. น้ำมันพืช วิธีทำและขั้นตอนในการทำ 1. ในขั้นตอนแรกให้เราปลอกเปลือก หัวหอมใหญ่ และกระเทียม ต่อไปตัดก้านต้นหอม และผักชี นำผักทั้งหมดไปล้างน้ำเปล่าให้สะอาด รวมทั้งสะเด็ดน้ำออก ต่อมาให้หั่นหัวหอมใหญ่เป็นลูกเต๋าเล็กๆ สับกระเทียมให้ละเอียด หั่นต้นหอมเป็นท่อน หั่นมะเขือเทศเป็นแว่น และเด็ดผักชีเป็นใบๆ 2. ในขั้นตอนที่สองให้หั่นแหนมเฉียงๆ โดยหั่นให้เป็นชิ้นขนาดพอดีคำ จากนั้นเตรียมเปิดเตาตั้งกระทะไฟปานกลาง และค่อยใส่น้ำมันพืชลงไป พอน้ำมันเริ่มร้อน ก่อนอื่นให้นำหัวหอมใหญ่หั่นเต๋าและกระเทียมสับที่เราได้เตรียมไว้ในขั้นตอนแรกลงไปผัดให้มีกลิ่นหอม 3. จากนั้นให้ใส่แหนมที่หั่นไว้ลงไปผัดไปซักพักนึง พอแหนมเริ่มสุกให้เกลี่ยไปไว้ทางด้านข้าง ต่อไปตอกไข่ใส่ลงไป ตีไข่ให้กระจาย จากนั้นก็เป็นขั้นตอนในการเติมเครื่องปรุงรสต่างๆโดยใส่ ซอสปรุงรส และซีอิ้วขาว รวมทั้งน้ำตาลทรายลงไป 4. รอซักพักจนไข่เริ่มสุกก็ให้กลับด้านไข่ พอไข่สุกให้ใส่ข้าวสวยลงไป เติมน้ำมันหอย ผัดเครื่องทั้งหมดกับข้าวคลุกเคล้าให้เข้ากันโรยต้นหอมตามลงไปแล้วผัดต่อซักพักให้ทั่ว หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 14, 2012, 07:22:38 PM สูตรก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img6/136362.JPG) เครื่องปรุงส่วนผสมและวัตถุดิบ 1. ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ 300 กรัม 2. พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา 3. น้ำมันหมูหรือน้ำมันพืช 4 ช้อนโต๊ะ 4. ไข่ไก่ 2 ฟอง 5. ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ 6. ต้นหอมซอย 1 ต้น 7. เนื้ออกไก่หั่นชิ้นขนาดพอคำ 1/2 ถ้วย 8. ตังฉ่าย 1 ช้อนชา 9. น้ำตาลทราย 2 1/2 ช้อนชา 10. ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ 11. ผักชีซอย 1 ต้น 12. กระเทียมสับ 2 ช้อนโต๊ะ 13. ผักกาดหอม 1 ต้น วิธีทำและขั้นตอนต่างๆ สูตรอาหาร สูตรก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ 1. เริ่มแรกให้หมักไก่โดยเคล้าเนื้อไก่กับซอสปรุงรส น้ำตาลประมาณ 1/2 ช้อนชา ให้หมักในตู้เย็นช่องธรรมดาซักประมาณ 15 นาที 2. ขั้นตอนต่อไปให้คลี่เส้นก่วยเตี๋ยวออก ในอ่างเพื่อไม่ให้เส้นเหนียวติดกัน เสร็จแล้วพักใส่อ่างรอไว้3. ในขั้นตอนนี้ให้ตั้งกระทะใส่น้ำมัน 3 ช้อนโต๊ะ โดยเลือกใช้ไฟปานกลางจนเริ่มร้อน จึงใส่กระเทียมลงเจียวจนเหลืองมีกลิ่นหอม จากนั้นให้ใส่เนื้อไก่ที่หมัก และตังฉ่ายลงไป ปรับเร่งไฟให้แรงขึ้น ผัดพอสุก 4. จากนั้นใส่เส้นก๋วยเตี๋ยวลงไป ผัดให้ทั่วจนเริ่มมีกลิ่นหอม แล้วปรุงรสด้วยน้ำตาล และซีอิ๊วขาว ผัดให้ทั่ว เสร็จแล้วให้พักเส้นไว้ด้านหนึ่งของกระทะใส่น้ำมันที่เหลือ พอน้ำมันเริ่มร้อนให้ต่อยไข่ไก่ใส่ลงไป ผัดพอไข่ใกล้สุก แล้วจึงตลบเส้นที่พักไว้มาทับไข่ ผัดจนแห้ง 5. ขั้นตอนสุดท้ายให้ตักใส่จานที่รองด้วยผักกาดหอม โรยด้วย ผักชี ต้นหอม และพริกไทย เสิร์ฟร้อน ๆโดยรับประทานกับปาท่องโก๋ตัวเล็ก หรือเครื่องปรุงรส น้ำส้มพริกดอง พริกป่น น้ำตาลทราย หรือซอสพริก หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 14, 2012, 07:26:16 PM สูตรปลาหมึกผัดไข่เค็ม (http://variety.teenee.com/foodforbrain/img7/136485.JPG) เครื่องปรุงส่วนผสม และวัตถุดิบ -ไข่แดงเค็ม 1 1/2 ใบ -น้ำพริกเผา 1 ช้อนโต๊ะ -ปลาหมึก 3 ตัว (ใหญ่) -กระเทียมไทยสับยาบ 1 ช้อนโต๊ะ -พริกชี้ฟ้าหั่นแฉลบ 2 เม็ด -ซีอิ๊วขาว 1-2 ช้อนโต๊ะ -น้ำมันน้ำพริกเผา 3 ช้อนโต๊ะ -น้ำมันสำหรับเจียวกระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ -พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา -คื่นช่าย 2 ต้น -ต้นหอม 2 ต้น -น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา ขั้นตอนและวิธีทำ 1.ก่อนอื่นให้ล้างแล้วซอย พริก คื่นช่าย ต้นหอม เตรียมไว้ก่อน 2.ในขั้นตอนต่อไปให้ ผสม น้ำมันน้ำพริกเผา น้ำพริกเผา ไข่แดงเค็ม เข้าด้วยกัน 3.ล้างปลาหมึกด้วยน้ำให้สะอาด ลอกหนังปลาหมึก แล้วหั่นปลาหมึกตามขวางเป็นปล้องพอดีคำ แล้วนำไปรวนในน้ำร้อนแล้วพักในตะแกรงให้สะเด็ดน้ำออกพักแล้วเตรียมไว้ 4.จากนั้นให้ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืช พอน้ำมันเริ่มร้อนให้ใส่กระเทียมลงไปเจียว พอกระเทียมเริ่มเหลือง ให้ใส่น้ำพริกเผาที่ผสมเตรียมไว้ลงไป ผัดสักครู่พอเิริ่มมีกลิ่นหอม 5.ให้ใส่ปลาหมึกที่ลวกสุกไว้แล้วนำลงไป ผัดต่อคลุกเคล้าพอให้ไข่แดงกับน้ำพริกเผาเคลือบปลาหมึกทุกชิ้น แล้วปรุงรสด้วย ซีอิ๊วขาว และน้ำตาลทราย จากนั้นใส่คื่นช่าย พริกไทยป่น พริกซอย ต้นหอม ผัดต่ออีกซักพัก ตักใส่จานเตรียมรับประทานได้ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 14, 2012, 08:09:46 PM สูตรกุ้งแช่น้ำปลา
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img9/136574.JPG) วัตถุดิบ ส่วนผสมและเครื่องปรุง สูตรอาหาร สูตรกุ้งแช่น้ำปลา -กุ้งสด 300 กรัม -น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ -น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ -พริกชี้ฟ้าแดง หั่นเป็นเส้น -ใบสะระแหน่เด็ดเป็นใบๆ -กระเทียมโทน -มะระต้มสุกหั่นบางๆ -กะหล่ำปลีซอย ส่วนผสมน้ำจิ้ม สูตรอาหาร สูตรกุ้งแช่น้ำปลา -น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ -กระเทียมหั่นละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ -พริกขี้หนูหั่นละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ -รากผักชีหั่นละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ ขั้นตอนและวิธีทำ สูตรอาหาร สูตรกุ้งแช่น้ำปลา -ลำดับแรกให้ล้างทำความสะอาดกุ้ง แล้วแกะเปลือกไว้หาง ผ่าหลังเอาไส้ออกให้หมด แล้วจึงนำจัดเรียงใส่จาน ราดด้วยน้ำปลาผสมน้ำมะนาว นำเข้าตู้เย็นพักไว้จนถึงเวลารับประทาน -นำส่วนผสมของน้ำจิ้มทั้งหมดผสมเข้าด้วยกัน -นำน้ำจิ้มที่ผสมไว้ในขั้นตอนที่สองนำมาราดลงจานกุ้งสดแช่น้ำปลาที่แช่เย็นไว้ แล้วจึงแต่งหน้าด้วย กะหล่ำปลี พริกชี้ฟ้าแดง ใบสะระแหน่ และกระเทียมโทน เพื่อเพิ่มความสวยงามให้น่ารับประทานยิ่งขึ้น หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 14, 2012, 08:14:21 PM อาหารไทย ต้านไข้หวัด
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img4/136497.jpg) คุณคนึงนิตย์ บัวซ้อน นักโภชนาการ โรงพยาบาลมนารมย์ กล่าวว่า เมื่อร่างกายไม่มีภูมิคุ้มกันเมื่อไหร่ อาจส่งผลให้เป็นไข้หวัดได้ง่ายขึ้น ในเรื่องของการรับประทานอาหารควรจะดูแลอย่างดี รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และสามารถช่วยป้องกันให้คุณห่างไกลจากไข้หวัดได้“ควรดูแลและเอาใจใส่เรื่องนี้อย่างพิถีพิถัน รับประทานอาหารที่ปรุงสุกด้วยตัวเอง จะทำให้สามารถควบคุมเรื่องความสะอาดของอาหาร และควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ปรุงสำเร็จรูป ซึ่งเวลาผ่านไปอาจทำให้มีเชื้อโรคเข้าไปอยู่ในอาหาร” วันนี้จะมาแนะนำเมนูง่ายๆ ที่สามารถหาส่วนประกอบ เครื่องปรุงและเครื่องเทศ ได้ง่ายตามท้องตลาด และยังเป็นสมุนไพรในการช่วยต้านทานไข้หวัด ที่รับประทานได้ง่ายๆ กันทั้งครอบครัว แกงจืดตำลึง/ตับบด การรับประทานของร้อนจะช่วยให้คุณรู้สึกโล่งได้ และเมนูนี้ยังเหมาะกับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นเมนูที่รับประทานได้ง่ายกันทั้งครอบครัว หากจะปรุงให้ลูกก็ทำผักให้นิ่มๆ ลูกจะได้เคี้ยวได้ง่าย และสามารถย่อยได้ง่ายอีกด้วย และผักที่นำมาทำแกงจืดก็อาจจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เพื่อให้ลูกได้ฝึกการรับประทานผักและยังได้สารอาหารจากผักที่ครบถ้วนอีกด้วย นอกจากนี้อาจเสริมวิตามินให้แก่ลูกด้วยการนำตับ เช่น ตับหมู ไก่ เป็ด มาบดให้เป็นอาหารให้แก่เด็กที่อยู่ในช่วงก่อนวัยเรียน ที่มีอายุระหว่าง 0-5 ปี ซึ่งเป็นวัยที่คุณแม่จะต้องดูแลเขาเป็นพิเศษ เพราะในตับนั้นมีวิตามินที่สามารถช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อป้องกันไข้หวัดให้แก่ได้เช่นกัน (http://variety.teenee.com/foodforbrain/img4/136499.jpg) สะเดาน้ำปลาหวาน ในช่วงของฤดูหนาวใกล้มาเยือน พืชที่คนไทยส่วนใหญ่จะหารับประทานกันอย่างง่ายดาย ก็คือ สะเดา เป็นพืชที่นำมารับประทานได้ทั้งดอกและใบ นำมาลวกและรับประทานควบคู่ไปกับ แกงส้มปลาดุกย่าง หรือจะเป็น เมนูเด็ด อย่าง สะเดาน้ำปลาหวาน ให้ได้ลิ้มลองกัน อีกทั้งยังงมีประโยชน์ต่อร่างกาย ทั้ง แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินบี 1 บี 2 วิตามินซีสูง เบต้าแคโรทีน ที่สามารถต้านทานโรคได้เป็นอย่างดี (http://variety.teenee.com/foodforbrain/img4/136501.jpg) แกงส้มผักรวม ในเมนูนี้สามารถเป็นเมนูที่ต้านไข้หวัดได้ เพราะมีส่วนผสมของสมุนไพรไทยเอาไว้อย่างมากมาย โดยเฉพาะในนำพริกแกง รวมถึงส่วนผสมต่างๆ ที่มีทั้ง กระเทียม พริก และสมุนไพรมากมาย น้ำพริกจะมีรสชาติเผ็ดร้อนช่วยขับลม ดอกแคที่นำมาทำแกงส้มนั้น ส่วนของเกสรจะมีรสหวานออกขมเล็กน้อย มีสารอาหารหลายชนิดทั้งแคลเซียม เหล็ก ฟอสฟอรัส วิตามินต่างๆ ทั้งวิตามินเอ บี1 บี2 และวิตามินซี ที่ช่วยสร้างภูมิคุ้นกันโรคหวัด และดอกแคยังช่วยแก้ไข้หวัด น้ำมะขามเปียกที่นำมาปรุงรสก็มีวิตามินซีสูง ช่วยขับเสมหะ แก้ไอ และเป็นเหมือนยาระบาย ลดอุณหภูมิความร้อนในร่างกาย นอกจากดอกแคแล้ว อาจนำผักชนิดอื่นมาเป็นส่วนผสมได้อีกมากมาย เช่น ผักที่มีสีเข้ม ฟักทอง แครอท ผักใบเขียว หรือผักต่างๆ ที่สามารถหาได้รอบๆ บ้าน ซึ่งเป็นแหล่งของสารอาหารจำพวกเบตาแคโรทีน มีสารต้านอนุมูลอิสระ ส่วนใหญ่จะป้องกันและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้ และยังช่วยป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย "ไม่ใช่ว่าจะมีเพียงแกงส้มเท่านั้นที่ช่วยต้านหวัดได้ อาหารไทย เช่น แกงเลียง แกงเผ็ด หรือน้ำพริก ผักลวก ที่มีการนำผักต่างๆ และเครื่องเทศ ที่มีรสเผ็ด มีพริก กระเทียม เข้ามาเป็นส่วนผสม สามารถลดอาการคัดจมูก แก้หวัดได้” นักโภชนาการกล่าว หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 18, 2012, 06:07:20 PM สาคูบัวลอยมะพร้าวอ่อน
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img0/136620.jpg) มาเริ่มต้นด้วยการทำตัวสาคูกันก่อนนะคะ จะใช้เป็นสาคูเม็ดเล็กสีขาว หรือสีเขียวได้หมดค่ะ ต้มน้ำร้อนกับน้ำใบเตยให้เดือด แล้วตั้งทิ้งไว้พออุ่นๆ จากนั้นนำมาคลุกเคล้ากับสาคู ค่อยๆ นวด ค่อยๆ เติมน้ำทีละนิด นวดให้เม็ดสาคูเนียนเข้ากัน แล้วปั้นเป็นลูกกลมๆ ให้เม็ดใหญ่กว่าขนมบัวลอยปกติสักประมาณ 1 เท่า จากนั้นตั้งหม้อใส่น้ำ ใส่ใบเตยลงไปเพื่อให้มีกลิ่นหอมๆ พอน้ำเดือดนำเม็ดสาคูที่ปั้นเรียบร้อยแล้วเทลงไป รอให้ลอยขึ้นมา แสดงว่าเม็ดสาคูนั้นสุกแล้ว ตักขึ้นแล้วผ่านน้ำเย็นทันที เพื่อเป็นการหยุดการสุกของแป้งค่ะ ต่อไปตั้งหม้อใส่หัวกะทิ 100% ลงไป ตามด้วยเกลือนิดนึง - จากนั้นใส่น้ำตาลปี๊บลงไป คนให้ละลาย - เติมด้วยน้ำมะพร้าวอ่อนนิดหน่อย เพื่อให้ความข้นของกะทิลดลง - และเพิ่มความหอมยิ่งขึ้น ตั้งไว้ให้เดือด เวลาจะรับประทาน ให้ตักเม็ดสาคูใส่ชาม - ตามด้วยเนื้อมะพร้าวอ่อน แล้วราดด้วยน้ำกะทิ โรยงาขาว เท่านี้ก็จะได้ขนมหวานอร่อยๆ แล้วล่ะค่ะ แฟนๆ ลองทำรับประทานดูนะคะ เด็กๆ ก็ช่วยทำได้ค่ะ ...................................... (เมนู สาคูบัวลอยมะพร้าวอ่อน : คอลัมน์ Happy Life กับคุณหรีด) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 18, 2012, 06:09:02 PM ปลาช่อนลุยสวน
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img1/136804.jpg) ส่วนผสม ปลาช่อนลุยสวน 1.ปลาช่อน 1 ตัว 2.พริกขี้หนูบด 1 ช้อนโต๊ะ 3.น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ 4.น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ 5.น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ 6.ผักชีฝรั่งหั่นฝอย 2 ช้อนโต้ะ 7.ผักชีหั่นฝอย 2 ช้อนโต้ะ 8.ใบสาระแหน่ 2 ช้อนโต้ะ 9.ตะไคร้หั่น 2 ช้อนโต๊ะ 10.หอมแดงซอย 4 ช้อนโต๊ะ 11.มะนาวหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าพร้อมเปลือก 3 ช้อนโต๊ะ 12.น้ำมันพืช 4 ถ้วยตวง วิธีทำ ปลาช่อนลุยสวน 1. ตั้งน้ำมันให้ร้อน นำปลาช่อนลงไปทอดปลาให้เหลือง นำปลามาสะเด็ดน้ำมัน จัดใส่จาน 2. ทำน้ำยำ โดย ดยผสมน้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาล หอมแดงหั่น ตะไคร้หั่น ผักชีหั่น ผักชีฝรั่งหั่น เปลือกมะนาวหั่นเป็นลูกเต๋าและพริกขี้หนู ผสมให้เข้ากัน 3. ราดน้ำยำลงบนจานปลาช่อนลุยสวนที่จัดไว้แล้ว หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 18, 2012, 06:10:32 PM สูตรอาหาร สูตรน้ำพริกหนุ่ม
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img8/136664.JPG) ส่วนประกอบและวัตถุดิบเครื่องปรุง 1. พริกหนุ่ม 12 - 15 เม็ด 2. ปลาร้าขนาดเล็ก 1 ตัว 3. มะนาว 1 - 2 ลูก 4. น้ำปลา 1 - 2 ช้อนโต๊ะ 5. หอมแดง 5 - 6 หัว 6. น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา 7. กระเทียม 5 - 6 หัว ขั้นตอนและวิธีทำ สูตรอาหาร สูตรน้ำพริกหนุ่ม 1. ในขั้นตอนแรกให้ย่างกระเทียม หอมแดงและพริก 2. จากนั้นปอกเปลือกและโขลกพริก หอม กระเทียมที่ย่างแล้วให้ละเอียด 3. ต่อไปให้เอาปลาร้าไปปิ้งแล้วแกะเอาแต่เนื้อใส่ลงไป 4. ต่อจากนั้นให้โขลกปลาร้ารวมกันกับเครื่องน้ำพริก และปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา และมะนาว ชิมรสตามใจชอบก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยง่ายๆกับ สูตรอาหาร สูตรน้ำพริกหนุ่ม หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 18, 2012, 06:12:00 PM ฉู่ฉี่ปลาทู
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img7/136798.jpg) ส่วนผสม 1.ปลาทูสด 1/2 กิโลกรัม 2.มะพร้าวขูด 400 กรัม 3.ใบมะกรูดหั่นฝอย 2 ใบ 4.ผักชีเด็ดเป็นใบ 1-2 ต้น 5.น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ 6.น้ำตาลปีบ 2 ช้อนโต๊ะ 7.พริกแห้งแกะเมล็ดออกแช่น้ำ 5 เม็ด 8.ข่าหั่นละเอียด 1 ช้อนชา 9.ตะไคร้ซอย 1 ช้อนโต๊ะ 10.หอมแดงซอย 7 หัว 11.กระเทียม 10 กลีบ 12.ผิวมะกรูดหั่นละเอียด 1/2 ช้อนชา 13.รากผักชีหั่น 1 ช้อนชา 14.เกลือป่น 1 ช้อนชา 15.กะปิ 1 ช้อนชา วิธีทำอาหาร 1. ล้างปลา ตัดหัว ควักไส้ออก บั้งเฉียงๆทั้งสองด้าน 2. คั้นมะพร้าวใส่น้ำ 2 ถ้วย คั้นให้ไดกะทิ 3 ถ้วย ตั้งไฟให้เดือด หมั่นคน อย่าให้กะทิเป็นก้อน 3. ช้อนหัวกะทิใส่กระทะประมาณ 1 ถ้วย เคี่ยวให้แตกมัน ใส่น้ำพริกแกงที่โขลก ผัดจนหอม เติมกะทิที่เหลือ ตักใส่หม้อ ตั้งไฟ พอเดือดใส่ปลาทู 4. ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล ชิมรสเค็ม หวาน 5. ตักใส่จาน โรยใบมะกรูด ผักชี เสิร์ฟ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 18, 2012, 06:13:25 PM สูตรหมูผัดพริกแกง
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img9/136666.JPG) วัตถุดิบและเครื่องปรุงต่างๆ 1. พริกชี้ฟ้าซอยยาวๆ 1 เม็ด 2. เนื้อหมูหั่นเป็นชิ้น 450 กรัม 3. ถั่วฝักยาวหรือถั่วแขกหั่นท่อนสั้น 1 กำมือใหญ่ๆ 4. น้ำตาล 1 ช้อนชา 5. พริกแกงแดง 1 ช้อนโต๊ะ 6. ใบมะกรูดซอย 4 - 5 ใบ 7. น้ำมันพืช 8. ซอสถั่วเหลือง ๒ ช้อนชา ขั้นตอนและวิธีในการทำ 1. ลำดับแรกให้ใส่น้ำมันในลงในกระทะ ตั้งไฟประมาณปานกลาง พอเริ่มร้อนให้ใส่พริกแกงลงไป 2. ให้ผัดพริกแกงจนเริ่มมีกลิ่นหอม ใส่หมู และตามด้วยถั่วลงไป ผัดกลับไปกลับมาสักครู่ ให้ใส่ซอสถั่วเหลือง น้ำตาล และน้ำสะอาดรวมทั้งนมสดลงไปนิดหน่อย พอให้มีน้ำขลุกขลิกไม่แห้งจนเกินไป 3. ขั้นตอนสุดท้ายผัดไปมาซักครู่พอให้เครื่องเข้ากันดี ให้ใส่พริกชี้ฟ้าและใบมะกรูดลงไปผัดไปมา หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 18, 2012, 06:14:45 PM สปาเก็ตตี้ผัดผงกะหรี่ไก่
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img9/136801.jpg) ส่วนผสมสำหรับ สปาเก็ตตี้ผัดผงกะหรี่ไก่1.เส้นสปาเก็ตตี้ 1 ถ้วย 2.เนื้อไก่ หั่นเป็นชิ้นพอคำ 1 ถ้วย 3.แครอทหั่น 2 ช้อนโต๊ะ 4.หอมหัวใหญ่หั่น 1 ช้อนโต๊ะ 5.ต้นหอม หั่นเป็นท่อน 2 ช้อนโต้ะ 6.เครื่องแกงกระหรี่ 1 ช้อนโต๊ะ 7.เกลือ 1 ช้อนชา 8.ซอสถั่วเหลือง 1 ช้อนโต้ะ 9.น้ำตาล 1 ช้อนชา 10.น้ำมันพืช 1 ช้อนโต้ะ 11.ไข่ไก่ 1 ฟอง ขั้นตอนการทำ สปาเก็ตตี้ผัดผงกะหรี่ไก่ 1. ลวกเส้นสปาเก็ตตี้ กับน้ำ ใส่เกลือด้วย เมื่อเส้นสุก นำมาพักใส่ชาม 2. ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน นำไก่และไข่ลงไปผัด จากนั้นใส่แครอทและหอมใหญ่ลงไปผัด 3. ปรุงรสด้วย ผงกะหรี่ ซอสถั่วเหลือง น้ำตาล ผัดให้เข้ากัน จากนั้นนำต้นหอมและเส้น สปาเก็ตตี้ลงไปผัด 4. เสริฟใส่จาน หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 18, 2012, 06:16:14 PM เนื้อม้วนราดซอส
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img4/136808.jpg) เนื้อ ผสม กุ้ง หมู สูตรพิเศษตำรับไทย เครื่องปรุงและส่วนผสม เนื้อสันแล่ชิ้นบาง 10 ชิ้น กุ้งสับ 1/2 ถ้วยตวง หมูสับ 1 ถ้วยตวง พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ ไข่แดง 1 ฟอง ไข่ไก่ตีพอแตก 1 ฟอง นมสด 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ ซอสมะเขือเทศ 3 ช้อนโต๊ะ น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ พริกหวานหั่นชิ้นตามขวาง 1 ผล พริกชี้ฟ้าเหลืองหั่นแฉลบ 3 เม็ด วิธีการทำ เนื้อม้วนราดซอส 1. ผสมกุ้ง หมู พริกไทย ซีอิ๊วขาวและไข่แดงเข้าด้วยกัน แบ่งส่วนผสมเป็น 10 ส่วน ใส่แต่ละส่วนลงบนชิ้นเนื้อ ม้วนเนื้อเป็นท่อนกลม ใช้ไม้เล็ก ๆ เสียบตรึงหัวท้ายไม่ให้เนื้อคลายออก 2. ผสมไข่ไก่ กับนมสดเข้าด้วยกัน นำเนื้อม้วนลงชุบทอดในน้ำมันร้อนจนสุกเหลือง ตักขึ้นพักไว้ ดึงไม้ที่เสียบออก 3. ตักน้ำมันในกระทะออกให้เหลือ 2 ช้อนโต๊ะ เติมน้ำมันหอย ซอสมะเขือเทศ น้ำส้มสายชูและน้ำตาลทราบ ตั้งไฟ พอเดือด ชิมให้ออกรสเปรี้ยวหวานนำ ตามด้วยเค็มเล็กน้อย ใส่พริกหวานและพริกชี้ฟ้าผัดพอเข้ากัน 4. จัดเนื้อม้วนใส่จาน ราดด้วยส่วนผสม ข้อ 3 แต่งด้วยผักชี เสิร์ฟร้อน ๆ ขอบคุณข้อมูลจาก Thaifood หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 18, 2012, 06:17:44 PM สูตรหมูผัดน้ำพริกเผา
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img1/136669.JPG) ส่วนประกอบและเครื่องปรุงรส 1. กระเทียมกลีบใหญ่ 2 กลีบ 2. น้ำมันสำหรับผัด 1 ช้อนโต๊ะ 3. น้ำตาลทราย 1 ช้อนครึ่ง 4. เนื้อหมูสไลด์ 250 กรัม 5. ต้นหอม 3 ต้น 6. น้ำพริกเผา 3 ช้อนโต๊ะ 7. พริกสด 2 เม็ด 8. ซีอิ้วขาว 1 ช้อนครึ่ง 9. หัวหอมใหญ่ครึ่งหัว วิธีและขั้นตอนในการทำ 1. อันดับแรกให้เราปลอกเปลือกหัวหอมใหญ่และกระเทียม ตามด้วยเด็ดขั้วพริก และตัดรากต้นหอม แล้วนำไปล้างน้ำให้สะอาด สะเด็ดน้ำแล้วนำต้นหอมมาหั่นเป็นท่อน จากนั้นทำการสับกระเทียมให้ละเอียด และหั่นหัวหอมใหญ่ให้เป็นชิ้นตามยาว ต่อด้วยหั่นพริกเป็นชิ้นแนวเฉียงๆ เตรียมพักเอาไว้ก่อน ต่อจากนั้น ให้นำหมูสไลด์มาหั่นเป็นชิ้นขนาดพอดีรับประทาน 2. ขั้นตอนต่อไปให้เปิดเตาใช้ไฟปานกลางค่อนข้างแรง ตั้งกระทะและใส่น้ำมันลงไป จากนั้นให้รอจนน้ำมันเริ่มร้อน ให้ใส่หัวหอมใหญ่และกระเทียมสับที่หั่นไว้ลงไปผัดจนเริ่มมีกลิ่นหอม จากนั้นให้ใส่น้ำพริกเผาลงไปผัด 3. ให้ผัดน้ำพริกเผาจนหัวหอมใหญ่เริ่มสุก แล้วค่อยใส่เนื้อหมูสไลด์ที่หั่นไว้ในขั้นตอนแรกลงไป ให้ผัดจนเนื้อหมูเริ่มสุก แล้วจึงใส่น้ำตาลทรายและซีอิ้วขาวลงไป คนให้เครื่องปรุงทั้งหมดเข้ากัน4. ในขั้นตอนสุดท้ายให้นำพริกและต้นหอมที่หั่นไว้ใส่ลงไป ผัดต่อไปอีกประมาณ 1 - 2 นาที เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 21, 2012, 07:43:00 PM ปลาหมึกยัดไส้ นึ่งมะนาว
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img7/136961.jpg) ส่วนประกอบ 1. ปลาหมึก 2 ตัว 2. เนื้อปลาสับ 1 ถ้วย 3. พริกขี้หนูสับ 1 ช้อนโต๊ะ 4. ผักชีซอย 1 ช้อนโต๊ะ 5. กระเทียมสับหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ 6. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ 7. น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ 8. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ 9. น้ำซุป 1/4 ถ้วย 10. เกลือ 1/4 ช้อนชา 11. กระเทียมซอยเป็นแว่น สำหรับโรยหน้า 12 ผักชีซอย สำหรับโรยหน้า วิธีการทำ 1. ผสมเนื้อปลาสับเกลือ นวดให้เข้ากัน พักไว้สักครู่ 2. นำปลาหมึกมาล้างทำความสะอาดให้ดี แล้วนำส่วนผสมเนื้อปลาสับมายัดไส้ 3. นำปลาหมึกยัดไส้เรียงบนจานสำหรับนึ่ง พักไว้ 4. ในชามผสมใส่พริกขี้หนู ผักชี กระเทียม น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลทราย น้ำซุป ผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ 5. ตักน้ำราดลงบนปลาหมึกไข่ที่เตรียมไว้ประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ แล้วนำไปนึ่งจนสุก 6. นำปลาหมึกออกมา ราดหน้าด้วยน้ำราดที่เหลือ โรยหน้าด้วยกระเทียมซอย มะนาวฝานและผักชี หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 21, 2012, 07:45:04 PM “ปลาทับทิมราดสมุนไพร”
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img2/137045.jpg) ส่วนผสม ปลาทับทิม(ใหญ่) 1 ตัว พริกไทยป่น 1 ช้อนชา ซอสปรุงรส 1 ช้อนชา น้ำมันพืช 1 ลิตร น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ กุ้งแห้ง 1 ช้อนโต๊ะ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอดกรอบ 1 ช้อนโต๊ะ พริกแห้งทอดกรอบ 3 เม็ด ตะไคร้ซอย 2 ช้อนโต๊ะ ใบมะกรูด 3 ใบ ใบกะเพรา 7 ใบ เม็ดพริกไทยอ่อน 1 ช้อนโต๊ะ เกลือเล็กน้อย วิธีทำ นำปลาทับทิมที่ได้มาขอดเกล็ดให้เรียบร้อย แล้วบั้งตัวปลา จากนั้นหมักด้วยซอสปรุงรสและพริกไทยป่น น้ำปลา แล้วนำไปทอดในน้ำมันพืชทอดจนท่วมตัวปลา ใช้ไฟแรงปานกลางให้เหลืองกรอบ ตักปลาขึ้นมาพักให้สะเด็ดน้ำมัน จากนั้นหันกลับมาทำเครื่องสมุนไพรกันบ้าง นำเครื่องสุมนไพรอย่าง ตะไคร้ เม็ดพริกไทย ใบมะกรูด กุ้งแห้ง ใบกะเพรา เม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอดกรอบลงทอดในกระทะพอสุก นำพริกแห้งทอดกรอบมาคลุกเคล้าให้เข้ากัน โรยเกลือเล็กน้อย นำเครื่องสมุนไพรที่ได้ราดบนตัวปลา ก็จะได้เมนู “ปลาทับทิมราดสมุนไพร” ที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางสมุนไพรธรรมชาติแล้ว หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 21, 2012, 07:47:37 PM ยำเมียหนี
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img6/136885.jpg) เครื่องปรุง 1. มะเขือยาว 2 ลูก 2. หมูบด 1/4 ถ้วย 3. กุ้งลวก 8 ตัว 4. สะระแหน่เด็ดเป็นใบ 2 ช้อนโต๊ะ เครื่องปรุงน้ำยำ 1. พริกขี้หนูซอย 2 ช้อนชา 2. หอมแดงซอย 3 ช้อนโต๊ะ 3. น้ำปลา 2-3 ช้อนโต๊ะ 4. น้ำมะนาว 1/4 ถ้วย 5. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ วิธีการปรุง 1) ผสมเครื่องปรุงน้ำยาเข้าด้วยกัน 2) ย่างมะเขือให้สุกนุ่ม นำไปปอกเปลือกออก หั่นเป็นท่อนสั้นใสชาม 3) ใส่กุ้ง เนื้อหมู ราดด้วยน้ำยำ เคล้าให้ทั่ว 4) ตักใส่จาน โรยสะระแหน่ เสิร์ฟ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 21, 2012, 07:49:43 PM ยอดมะพร้าวผัดกุ้ง
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img4/136881.jpg) ส่วนผสม 1.กุ้งสด 5 ตัว 2.ยอดมะพร้าวสด 200 กรัม 3.พริกขี้หนูสด 4–5 เม็ด 4.กระเทียม 3 กลีบ 5.ซีอิ้วขาว 1 ช้อนชา 6.น้ำมันหอย 1 ช้อนชา 7.น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา 8.ซีอิ้วดำ 1 ช้อนชา 9.ใบกะเพรา 10.พริกแดงสด วิธีทำ 1.กระเทียมสับและพริกขี้หนูสด ลงเจียวในกระทะที่น้ำมันร้อน จนกระเทียมและพริกขี้หนูเหลืองหอม 2.ใส่ยอดมะพร้าว ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว น้ำมันหอย น้ำตาลทราย ซีอิ้วดำ คลุกเคล้ากันจนทั่ว 3.ใส่กุ้งสดที่เตรียมไว้ ผัดคลุกเคล้าให้สุก 4.ใส่ใบกะเพราและพริกแดง ตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 21, 2012, 07:51:59 PM โป๊ะแตกผัดแห้ง
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img8/136963.jpg) ส่วนประกอบ 1. ปลาหมึก 1 ขีด 2. ปลากะพง 1 ขีด 3. กุ้ง 1 ขีด 4. ข่า 1 แง่งหั่นเป็นแว่นๆ 5. ตะไคร้ 1 ต้นซอยเป็นแว่นๆ 6. ใบมะกรูด 5 ใบ 7. เห็ดฟาง 5 ดอก 8. ใบโหระพา 5-6 ใบสำหรับตกแต่ง 9. พริกขี้หนูสับ 8 เม็ด 10. กระเทียมสับ 5 หัว 11. น้ำปลา 1/3 ช้อนโต๊ะ 12. น้ำตาลทราย 1/3 ช้อนโต๊ะ 13. น้ำมันหอย 1/3 ช้อนโต๊ะ 14. น้ำพริกเผา 1/4 ช้อนโต๊ะ 15. น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ 16. น้ำมันพืช 1/3 ช้อนโต๊ะ วิธีการทำ 1. ปลาหมึก กุ้ง และปลากะพง ลวกพอสุก 2. จากนั้นนำข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด พริกขี้หนูสับ กระเทียมสับลงไปผัดในน้ำมัน 3. ใส่ปลาหมึก กุ้ง และปลากะพง พร้อมกับเห็ดลงไปผัดให้เคล้ากับเครื่อง 4. ปรุงรสชาติด้วยน้ำปลา น้ำตาลทราย น้ำมันหอย น้ำพริกเผา และน้ำมะนาว ผัดคลุก เคล้าให้ทุกอย่างเข้ากันอีกที ชิมให้มีรสชาติออกเผ็ด เปรี้ยวอมหวาน ตักใส่จานตกแต่งด้วยใบโหระพา หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 21, 2012, 07:55:05 PM ปลากะพงนึ่งมะนาวกระเทียมดอง
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img2/136893.jpg) ปลากะพงนึ่งมะนาวเมนูอาหารไทย รสจัด โปรตีนสูง ไขมันต่ำ เครื่องปรุงและส่วนผสม ปลากะพงขนาดกลาง 1 ตัว กระเทียมสับ 4 ช้อนโต๊ะ กระเทียมดอง 1/4 ถ้วยตวง พริกขี้หนูซอย 2 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 2-3 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปีบ 1 ช้อนชา วิธีการทำ ปลากะพงนึ่งมะนาวกระเทียมดอง 1. ล้างปลากะพงให้สะอาด พักให้สะเด็ดน้ำ 2. วางปลาลงในจานนำไปนึ่งให้สุก 3. ผสมกระเทียม พริกขี้หนู น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลปีบเล็กน้อยให้เข้ากัน ชิมรสให้ได้รสจัด เปรี้ยว เค็ม หวาน เทราดบนตัวปลา ตกแต่งด้วยกระเทียมดองและต้นหอมเล็กน้อย หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 21, 2012, 07:57:00 PM ลาบวุ้นเส้น
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img3/136879.jpg) เมนูแนะนำวันนี้คือ ลาบวุ้นเส้น ฟังชื่อแล้วคิดว่าจะต้องไปนั่งกินที่ร้านส้มตำ แถวข้างออกฟฟิศหรือหน้าคอนโดง่ายสะดวกกว่าซื้ออุปกรณ์มาทำเองเป็นไหนๆ แต่จะบอกว่า การทำอาหารทานเองเนี่ย มันได้อารมณ์สนุกสนานเพลิดเพลิน ได้ชิมได้ลองรสชาดเอง สนุกกว่าเป็นไหนๆ อยากทานอะไรมากน้อยก็เลือกที่จะเพิ่มหรือลดได้เองเลย ส่วนประกอบ เนื้อหมูบด 150 กรัม น้ำซุปไก่ 2 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา พริกป่น 1 ช้อนชา วุ้นเส้น 70 กรัม + แต่งจาน น้ำมันรำข้าว สำหรับทอด หอมแดง (ซอย) 30 กรัม +แต่งหน้า ผักชีฝรั่ง 20 กรัม +แต่งหน้า ใบสะระแหน่ 10 กรัม +แต่งหน้า ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ พริกแห้ง ตกแต่ง ผักสลัด ตกแต่ง ถั่วฝักยาว ตกแต่ง แตงล้าน ตกแต่ง วิธีทำ 1.แช่วุ้นเส้นในน้ำให้พอนุ่มขึ้น (แบ่งส่วนหนึ่งไว้ ไม่ต้องแช่น้ำ) แล้วจึงนำไปลวกในน้ำเดือด พอสุกดี ก็ตักออก ล้างด้วยน้ำเย็น แล้วสะเด็ดน้ำพักไว้ 2.นำวุ้นเส้นส่วนที่แบ่งไว้ไปทอดในน้ำมันให้กรอบดี พักไว้ 3.รวนหมูบดกับน้ำซุปในหม้อ พอสุกดี ก็ยกออกจากความร้อน ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลทราย พริกป่น และน้ำมะนาว ใส่วุ้นเส้นที่พักไว้ หอมแดงซอย ผักชีฝรั่ง ใบสาระแหน่ และข้าวคั่ว เคล้าให้เข้ากัน ตักใส่จาน แต่งด้วยวุ้นเส้นทอดกรอบ ผักสลัด แตงล้าน ผักชีฝรั่ง หอมแดง ใบสาระแหน่ พริกแห้ง และ ถั่วฝักยาว หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 21, 2012, 08:01:49 PM สูตรอาหารคอหมูย่างแสงโสม
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img7/137037.jpg) วัตถุดิบคอหมูย่างแสงโสม 1. คอหมู 1 ชิ้น (1/2 กิโลกรัม) 2. รากผักชี 3 ราก 3. กระเทียมเม็ดเล็ก 5-15 กลีบ (หอมมาก หอมน้อย) 4. น้ำปลา 3-5 ช้อนโต๊ะ (ถ้ารีบใช้ ใส่เยอะ) 5. น้ำตาลปี๊ป 1 ช้อนโต๊ะ 6. เหล้าไทย 3 ช้อนโต๊ะ 7. น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำคอหมูย่างแสงโสม 1. ตำรากผักชีกระเทียม นำมารวมกับ เหล้าไทย น้ำปลา น้ำตาลปี๊ป (ละลายน้ำตาลกับน้ำปลาก่อน) คลุกเคล้าให้เข้ากัน พักไว้ในตู้เย็นอย่างน้อย 30 นาที 2. นำมาย่างไฟ หรือ กระทะ ไฟกลางค่อนข้างแรง ไม่ควรกลับบ่อย ข้อแนะนำ 1. หากหมูชิ้นหนามาก ๆ ควรทำให้บางก่อนจะหมักไม่งั้นย่างแล้วข้างในจะไม่สุกหรือข้างนอกไหม้ข้างในถึงจะสุก 2. ความเค็มจะมากกว่าเดิมไปเรื่อยตามเวลาที่หมักทิ้งเอาไว้ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 21, 2012, 08:24:39 PM "เซี่ยงไฮ้ผัดขี้เมากุ้ง"
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img9/137040.jpg) ส่วนผสม เส้นเซี่ยงไฮ้ 2 ขีด กุ้งสด 3-5 ตัว พริกขี้หนู 5-10 เม็ด เผ็ดตามชอบ พริกชี้ฟ้าเขียวแดงหั่นเฉียง 2 เม็ด ใบกะเพรา 20 ใบ กระเทียม 5-6 กลีบ น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาล 1/2 ช้อนชา วิธีทำ เริ่มจากนำเส้นเซี่ยงไฮ้ไปแช่น้ำให้นิ่มประมาณ 5 นาที แล้วหันไปต้มน้ำจนเดือด นำเส้นเซี่ยงไฮ้ที่แช่น้ำจนนิ่มแล้วไปลวกพอสุก เพื่อที่ว่าจะได้ไม่เสียเวลารอให้เส้นสุกในตอนผัด เสร็จเรียบร้อยนำเส้นเซี่ยงไฮ้แช่น้ำเย็นพักไว้ก่อน คราวนี้มาจัดการเทน้ำมันลงกระทะ จนน้ำมันร้อนแล้วนำกระเทียมสับลงไปเจียวให้หอม ตามด้วยพริกขี้หนูสับลงไป ทีนี้ก็ต่อด้วยการนำกุ้งลงไปผัดจนสุก ตามด้วยพริกชี้ฟ้าหั่น เติมน้ำเปล่าหรือน้ำซุปลงไปนิดหน่อยให้พอมีน้ำขลุกขลิก แล้วปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมันหอย น้ำตาล ลงไป ชิมให้ได้รสชาติถูกใจแล้วจึงนำเส้นเซี่ยงไฮ้ลงไปผัดตาม คลุกเคล้าให้เข้ากัน โรยใบกะเพราะลงไปแล้วผัดให้เข้ากันอีกครั้งหนึ่ง จากนั้นก็ตักใส่จานพร้อมกินได้ทันที หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 21, 2012, 08:26:36 PM ยำสไบนาง (http://variety.teenee.com/foodforbrain/img6/136959.jpg) เครื่องปรุง 1. ผ้าขี้ริ้ววัว 2. หอมแดงซอย 3. ต้นหอมผักชีก็ได้ หั่นหยาบ 4. พริกขึ้หนูสด 5. ใบสะระแน่ 6. พริกป่น 7. ข้าวคั่ว 8. น้ำปลา 9. น้ำมะนาว วิธีการทำ 1. นำผ้าขี้ริ้วไปต้มหรือลวกจนสุก แล้วหั่นเป็นชิ้นๆ 2. นำพริก น้ำมะนาว น้ำปลา ข้าวคั่ว ผสมรวมกันชิมรสตามชอบ แล้วใส่ผักทั้งหมดลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน 3. เสร็จแล้วเติมผ้าขี้ริ้วที่หั่นไว้ลงไปผสม แล้วก็จัดใส่จาน ทานกับแตงกวา หรือผักสดอื่นตามชอบ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 21, 2012, 08:29:01 PM นกกระจอกเทศผัดพริกไทยดำ
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img5/136883.jpg) เครื่องปรุง 1. เนื้อนกกระจอกเทศ 200 กรัม 2. พริกฝรั่งเขียว 30 กรัม 3. พริกชี้ฟ้าแดง 30 กรัม 4. พริกไทยขาว-ดำ 20 กรัม 5. ต้นหอม 5 กรัม 6. น้ำมันหอม 2 ช้อนโต๊ะ 7. ซีอิ้วขาว 2 ช้อนชา 8. กระเทียม 9. รากผักชี 10. น้ำมันพืช 1/4 ถ้วยตวง วิธีการทำ นำเนื้อนกกระจอกเทศ ไปล้างทำความสะอาด หั่นชิ้นตามขวางพอคำ หั่นพริกฝรั่ง ชี้ฟ้าแดงเป็นสี่เหลี่ยมพองาม พักไว้ สับกระเทียมรากผักชี ลงไปผัดพอเหลือง ทุบพริกไทยขาว-ดำให้แตกใส่ลงไป พริกชี้ฟ้าแดง เนื้อนกผัดพอสุกแล้วปรุงรสชาติตามต้องการ หั่นต้นหอมเป็นท่อนใส่ลงไป มีน้ำพอขลุกขลิก พร้อมเสริฟครับ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 21, 2012, 08:30:52 PM “ผัดผักงาขาวกุ้งสด”
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img1/137043.jpg) สำหรับเครื่องปรุง ประกอบด้วย กุ้งแชบ๊วยสด 1 ขีด เห็ดฟาง 4-5 ดอก กะหล่ำปลี ¼ หัว ผักไผ่(ผักแพว)หั่นหยาบ ½ ถ้วย งาขาวคั่ว 3 ช้อนโต๊ะ พริกแห้งแกะเม็ด แช่น้ำ 3-5 เม็ด พริกแดงใหญ่ 3-4 เม็ด กระเทียมซอย 1 ช้อนโต๊ะ หอมแดงซอย 3 หัว เกลือป่น ½ ช้อนชา น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนชา น้ำมะนาว 2 ช้อนชา น้ำมันมะกอก 1-2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ เมื่อได้เครื่องปรุงพร้อมแล้วก็เริ่มกันเลย นำกุ้งมาล้างให้สะอาด ตัดหัว แกะเปลือก ผ่าหลัง นำเส้นสีดำออก นำน้ำมันมะกอกเทลงบนกระทะ ใช้ไฟพอประมาณ ส่งกระเทียมลงไป ตามด้วยหอมแดง พริกแห้ง จากนั้นนำกุ้งสดลงผัด ตามด้วยเห็ด ใส่เกลือหนึ่งหยิบมือ น้ำตาลทราย พอกุ้งออกสีแดง ใส่กะหล่ำปลี พริกแดง ผักไผ่(ใช้ผักชีลาว สะระแหน่ หรือโหระพาแทนได้) แล้วใส่งาขาว น้ำมะนาว คลุกเคล้าให้เข้ากัน พร้อมปรุงรสตามใจชอบ ถือเป็นอันเสร็จยกเสิร์ฟได้ทันที หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 21, 2012, 08:33:08 PM ปลาทอดราดซอสมะขาม
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img7/136887.jpg) ส่วนประกอบ 1. ปลาช่อนแล่เป็นชิ้นบาง ๆ 100 กรัม 2. เกลือป่น 1 ช้อนชา 3. พริกไทยป่น 1 ช้อนชา 4. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ถ้วย 5. ไข่ไก่ 1 ฟอง 6. กระเทียมเจียว 2 ช้อนโต๊ะ 7. น้ำมันสำหรับทอดปลา 1 ถ้วย ส่วนประกอบซอสมะขาม 1. น้ำมะขามเปียก 200 กรัม 2. น้ำตาลปีบ 120 กรัม 3. น้ำตาลทราย 40 กรัม 4. ซีอิ๊วขาว 30 กรัม 5. เกลือป่น 2 กรัม วิธีการทำ 1. ทำซอสมะขามโดย ผสมน้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว เคี่ยวให้เหนียว 2. โรยเกลือ พริกไทยให้ทั่วปลา พักไว้ 10 นาที นำปลามาชุบไข่และคลุกแป้งสาลีให้ทั่ว ทอดพอเหลือง 3. ตักปลาใส่จาน โรยด้วยกระเทียมเจียว ราดด้วยซอสมะขาม พร้อมเสิร์ฟ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 23, 2012, 09:31:18 PM แกงเผ็ดหอยแครงใบชะพลู
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img5/137107.jpg) วัตถุดิบ 1. หอยแครง 1 กิโลกรัม 2. หัวกะทิ 3 ขีด 3. หางกะทิ 1/2 กิโลกรัม 4. ใบชะพลูหั่น 1 ถ้วย 5. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ เครื่องแกง 1. พริกขี้หนูสด 20 เม็ด 2. พริกไทย 1 ช้อน 3. หอมแดง 3-4 หัว 4. ข่าหั่น 2-3 แว่น 5. กระเทียม 2 หัว 6. ตะไคร้หั่นฝอย 2-3 ต้น 7. ขมิ้นหั่น 1 หัว 8. กะปิ 3 ช้อนโต๊ะ 9. เกลือ 2/4 ช้อนชา วิธีทำ 1. นำหอยแครงไปล้างให้สะอาดแช่น้ำทิ้งไว้ นำเครื่องแกงทั้งหมดมาโขลกรวมกันให้ละเอียดแล้วพักไว้ แล้วนำหอยแครงไปลวกพอสุก แกะเอาแต่เนื้อ 2. ต่อจากนั้นนำหางกะทิใส่หม้อขึ้นตั้งไฟจนเดือด แล้วจึงใส่เครื่องแกงที่โขลกเอาไว้ลงไปคนในหม้อให้เข้ากัน ใส่หอยแครงลงไปจนน้ำเดือด 3. ใส่ใบชะพลูที่เตรียมเอาไว้ ลงไปต้ม จน ใบชะพลูสุก ปิดท้ายด้วยการนำหัวกะทิลงไป ใส่น้ำปลา ชิมรส เป็นอันแล้วเสร็จพร้อมเสิร์ฟได้ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 23, 2012, 09:33:12 PM เส้นอูด้งผัดซีอิ๊วไก่
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img8/137113.jpg) ส่วนผสม 1. เส้นอูด้ง แช่น้ำร้อน แค่พอให้เส้นมันคลายตัว ระวังอย่าให้เปื่อยนะคะ 2. เนื้อไก่ หั่นชิ้นพอคำ แล้วหมัก 3. คะน้า ล้างแล้วหั่นเป็นท่อนๆ 4. ไข่ไก่ สูตรวิธีการทำอาหารไทย-เส้นอูด้งผัดซีอิ๊วไก่ 1. หมักไก่ให้นุ่มๆ โดยใช้แป้งอเนกประสงค์ ซอสหอยนางรม ซอสปรุงรส และน้ำมันงา ผสมทั้งหมดให้เข้ากันแล้วหมักไก่ทิ้งไว้ประมาณ 1/2 ชม. หรือจะค้างคืนเลยก็ดีค่ะ . ผัดไก่หมักในน้ำมันร้อนๆ ก่อนเป็นอันดับแรก 3. ตามด้วยไข่ไก่ คนให้กระจาย 4. ใส่ก้านคะน้า และเส้นอูด้ง 5. ผัดไปสักพักจึงใส่ใบคะน้า แล้วปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย ซอสปรุงรส ซอสหอยนางรม และสร้างสีด้วยซีอิ๊วดำ (ซอสปรุงรส และซอสหอยนางรม ใส่นิดเดียวพอ เพราะว่าเราใส่ตอนหมักไก่ไปแล้ว) 6. ผัดให้เข้ากันดี เสร็จเรียบร้อยค่ะ ผัดเบาๆ นะคะ เส้นมันเหนียวก็จริง แต่เละง่ายค่ะ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 23, 2012, 09:37:18 PM น้ำตกปลาแซลมอน
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img6/137109.jpg) ส่วนผสมในการทำอาหาร 1. ปลาแซลมอนชิ้นขนาด 150 กรัม 2. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ 3. น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ 4. พริกป่น 2 ช้อนชา 5. ข้าวคั่ว 2 ช้อนชา 6. น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา 7. หอมเล็กซอย 2 หัว 8. สะระแหน่ 1 ต้น 9. พริกทอด 10. เกลือและแป้งสาลีเล็กน้อยสำหรับคลุก 11. น้ำมันสำหรับทอดปลาพอประมาณ สูตรวิธีการทำอาหารไทย-น้ำตกปลาแซลมอน 1. ล้างปลาให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือคลุกเกลือเล็กน้อย แล้วคลุกด้วยแป้งสาลี นำไปทอดพอสุกพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน 2. ผสมเครื่องน้ำตก ประกอบด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว พริกป่น ข้าวคั่ว น้ำตาลทราย และหอมเล็กซอย ต่อจากนั้นใส่ปลาเซลมอน เคล้าเบาๆ ตักใส่จาน ตกแต่งด้วยใบสะระแหน่และพริกทอด หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 25, 2012, 11:56:03 AM ซุปรากบัวซี่โครงหมู
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img9/137190.jpg) ส่วนผสมสำหรับซุปรากบัวซี่โครงหมู ซี่โครงหมู สับเป็นชิ้น 1 ถ้วย ถั่วง 2 ช้อนโต้ะ รากบัวหั่น 1 ถ้วย น้ำ 9 ถ้วยตวง เกลือ 1 ช้อนชา ซอสถั่วเหลือง 1 ช้อนโต๊ะ เครื่องตุ๋นยาจีน 1 ชุด วิธีทำซุปรากบัวซี่โครงหมู 1.ต้มน้ำในหม้อต้ม ใส่เครื่องยาจีนลงไปต้ม ประมาณ 5 นาที 2.จากนั้นใส่ซี่โครงหมูและเกลือลงไปต้ม 3.เดิมถั่วลิลงและ รากบัวลงไปต้ม ปรุงรสด้วย ซอสถั่วเหลือง ต้มประมาณ 3 ชั่วโมง 4.เสริฟใส่ชาม หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 25, 2012, 08:16:21 PM สูตรวิธีการทำกระดูกหมูอบน้ำผึ้ง
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img2/137121.jpg) ส่วนผสม 1. กระดูกหมูประมาณ 1 กิโลกรัม 2. เกลือ 1 ช้อนชา 3. ซีอิ๊วดำหวาน 2 ช้อนโต๊ะ 4. น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ 5. ซีอิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ 6. น้ำผึ้ง 3 ช้อนโต๊ะ 7. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ ไม่ไส่ก็ได้ ถ้าไม่ชอบหวานมาก 8. กระเทียมปอกเปลือก 2 หัว 9. พริกไทย 1 ช้อนโต๊ะ 10. น้ำส้มสายชูกลั่น 1 ช้อนชา 11. รากผักชี ไม่มีไม่ต้องใส่ สูตรวิธีการทำอาหารจีน-นึ่ง-อบ-ตุ๋น-กระดูกหมูอบน้ำผึ้ง 1. ล้างกระดูกหมูให้สะอาด นำเครื่องปรุงทั้งหมด ปั่นเข้าด้วยกัน 2. นำน้ำปรุงที่ได้มาหมัก กระดูกหมู ประมาณ 1 ชั่วโมง 3. เปิดเตาอบที่ประมาณ 200 องศาเซลเซียส อบนานประมาณ หนึ่งชั่วโมง น้ำซอสเอามาทานกับบะหมี่ก็ได้นะคะ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 25, 2012, 08:17:53 PM ยำไข่เจียวน้ำพริกเผา
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img1/137194.jpg) ส่วนผสมสำหรับทำ ยำไข่เจียวน้ำพริกเผา ไข่ไก่ 2 ฟอง หมูสับ 2 ช้อนโต้ะ ซอสถั่วเหลือง 1 ช้อนโต้ะ น้ำปลา(สำหรับไข่เจียว) 1 ช้อนโต้ะ กระเทียมดองฝ่าซีกตามยาว 1 หัว กุ้งแห้ง 2 ช้อนโต๊ะ น้ำพริกเผา 1 ช้อนโต๊ะ มะนาวหั่นติดผิว 1 ช้อนชา น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ พริกสดหั่น 1 ช้อนโต้ะ ผักชีหั่นฝอย 1 ช้อนชา น้ำมันพืชสำหรับทอดไข่ วิธีทำ ยำไข่เจียวน้ำพริกเผา 1. เตรียมน้ำยำโดย ผสมกระเทียมดอง น้ำพริกเผา น้ำตาลทราย น้ำปลา น้ำมะนาว พริกสด มะนาวหั่นติดผิว และกุ้งแห้ง ผสมให้เข้ากัน 2. ทำไข่เจียว ตอกไข่ไก่ชามใส่หมูสับ ผสมด้วย ซอสถั่วเหลืองและน้ำปลา ตีไข่ไก่ผสมให้เข้ากัน 3. ตั้งกระทะน้ำมัน เจียวไข่ไก่ให้ สุกกรอบ 4. นำไข่เจียวสะเด็ดน้ำมัน ใส่จาน ราดด้วย น้ำยำและโรยด้วยผักชี หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 25, 2012, 08:19:03 PM ซี่โครงหมูทอดสามรส
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img0/137192.jpg) สูตรอาหาร ส่วนผสมสำหรับทำ ซี่โครงหมู ขนาด 2 นิ้ว ครึ่ง กิโล เกลือ 1 ช้อนชา พริกไทย 1 ช้อนชา แป้งสาลี 2 ช้อนโต้ะ ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต้ะ น้ำสับปะรด 3 ช้อนโต้ะ น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต้ะ น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต้ะ ซอสถั่วเหลือง 2 ช้อนโต้ะ สับปะรดหั่นชิ้น 5 ช้อนโต้ะ พริกหั่นเป็นฝอย 2 ช้อนโต้ะ น้ำมันพืช 2 ถ้วย ขั้นตอนการทำ ซี่โครงหมูทอดสามรส 1. หมัดซี่โครงหมูด้วย เกลือ พริกไทย ซอสปรุงรส และแป้งสาลี ประมาณ 30 นาที 2. ตั้งกระทะน้ำมัน นำซี่โครงหมูที่หมักลงทอด ให้สุก พักให้สะเด็ดน้ำมัน และ เตรียมใส่จาน 3. เตรียม ซอสสามรส โดย ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่น้ำสับปะรด น้ำตาล น้ำส้มสายชูและซีอิ๊วขาว ลงไปผสมให้เข้ากัน 4. ราดซอสสามรสใส่จานซี่โครงหมูทอด และแต่งหน้าจานด้วย สับปะรดและพริกหั่นฝอย 5. เสริฟ ซี่โครงหมู สามรส หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 25, 2012, 08:20:34 PM ผัดเปรี้ยวหวาน
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img4/137200.JPG) ส่วนผสมสำหรับทำผัดเปรี้ยวหวานหมู หมูหั่นชิ้น 1 ถ้วย แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต้ะ น้ำตาล 1 ช้อนโต้ะ ซอสถั่วเหลือง 1 ช้อนโต้ะ น้ำมันหอย 1 ช้อนโต้ะ น้ำสมสายชู 1 ช้อนโต้ะ น้ำมันพืช 1 ช้อนโต้ะ แตงกวา หั่นชิ้น 1 ถ้วย สับปรด หั่นชิ้น 1 ถ้วย มะเขือ 1 ถ้วย หอมใหญ่หั่นชิ้น 1 หัว วิธีทำผัดเปรี้ยวหวานหมู 1. ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่น้ำมัน และนำเนื้อหมูลงไปผัดให้สุก 2. ใส่ น้ำตาล ซอสถั่วเหลือง น้ำมันหอย น้ำสมสายชู ลงไปผัดให้เข้ากัน 3. ใส่ผักลงไปผัด และใส่แป้งข้าวโพดให้น้ำซุปเหนียว 4. นำใส่จาน ทานกับข้าวหอมมะลิไทย หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 25, 2012, 08:22:08 PM แกงเลียงกุ้งสด
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img2/137196.jpg) สูตรอาหารไทย : ส่วนผสมแกงเลียงกุ้งสด สูตรโบราณ กุ้งแม่น้ำปลอกเปลือกกุ้ง 1 ถ้วย ข้าวโพดอ่อนหั่น ครึ่งถ้วย บวบหั่น ครึ่งถ้วย เห็ดฟางผ่าครึ่ง ครึ่งถ้วย ฟักทองหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ครึ่งถ้วย ใบแมงลัก 2 ช้อนโต้ะ น้ำเปล่า 1 หม้อ ประมาณ 2-3 ชาม น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ พริกไทยเม็ดแห้ง 1 ช้อนชา หอมแดง 4 หัว กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ กุ้งแห้ง 2 ช้อนโต้ะ สูตรอาหารไทย : วิธีทำแกงเลียงกุ้งสด สูตรโบราณ 1. เตรียมครก และ นำ กะปิ เม็ดพริกไทยแห้ง หอมแดง และกุ้งแห้ง โครกให้ละเอียด 2. ต้มน้ำในหม้อต้ม ใส่เครื่องแกงเลียงที่เตรียมลงไปในหม้อต้ม 3. เติม ข้าวโพดอ่อน บวบ เห็ด ฟักทอง ลงไปต้ม จนผักเริ่มสุก 4. ปรุงรสด้วยน้ำปลา ใส่กุ้งลงไปจนกุ้งเริ่มสุก ใส่ใบแมงลักลงไป แลัว เสริฟใส่ชาม ทานกับข้าวสวย หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 20, 2012, 09:32:46 PM ผัดหมี่ซั่วปลาเค็มเจ
(http://www.jaowka.com/wp-content/uploads/2012/10/329.jpg) เมนูเจ อาหารเจเพื่อสุขภาพ ต้อนรับเทศกาลทานเจ คงหนีไม่พ้นผัดหมี่อย่างแน่นอน แต่ถ้าผัดหมี่ปกติอาจจะให้คุณเบื่อได้ง่าย งั้นลองเปลี่ยนเมนูผัดหมี่ธรรมดาให้เป็นเมนูพิเศษกันค่ะ อาหารเพื่อสุขภาพ ต้อนรับเทศกาลกินเจ ใครก็นึกถึงผัดหมี่ เป็นอันดับต้น แต่วันนี้เราลองมา เปลี่ยนเมนูผัดหมี่ธรรมดาให้เป็นเมนูพิเศษกัน b]ส่วนผสมผัดหมี่ซั่วปลาเค็มเจ[/b] -เส้นหมี่ซั่วลวกพอสุก ผึ่งให้สะเด็ดน้ำ 2 ถ้วยตวงครึ่ง -อินทรีย์เจหั่นชิ้นพอดีคำทอดกรอบ 1/2 ถ้วยตวง -แครอทหั่นเส้นบางๆ 1/4 ถ้วยตวง -ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ -ตะไคร้บดละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ -พริกชี้ฟ้าแดงแกะเม็ดบดละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ -ใบกระเพรา 1 ถ้วยตวง -น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา -พริกขี้หนูสวนบุบพอแตก 1 ช้อนโต๊ะ -ใบมะกรูดฉีก 2 ใบ -น้ำเปล่า 3 ช้อนโต๊ะ -น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ -พริกชี้ฟ้าแห้งหั่นเป็นแว่นทอดกรอบตามชอบ ขั้นตอนการทำผัดหมี่ซั่วปลาเค็มเจ -ใส่น้ำมันลงในกระทะ ตั้งไฟพอร้อน -ใส่ตะไคร้บด และพริกชี้ฟ้าแดงผัดพอหอม -นำปลาอินทรีย์เจที่เตรียมไว้ลงกระทะและผัดให้เข้ากัน -ใส่เส้นหมี่ซั่วผัดให้เข้ากัน ตามด้วยแครอท ใบมะกรูด น้ำเปล่า -ปรุงรสด้วยซอสปรุงอาหาร และน้ำตาลทราย ชิมรสตามชอบ -ใส่ใบกระเพรา ผัดไฟแรงๆ อีกครั้ง -ยกลงจัดใส่จาน ตกแต่งด้วยพริกชี้ฟ้าแห้งหั่นเป็นแว่นทอดกรอบ พร้อมรับประทานขณะร้อน คุณค่าทางโภชนาการ พลังงาน 104 กิโลแคลอรี น้ำตาล 2 กรัม ไขมัน 5 กรัม โซเดียม 859 มิลลิกรัม หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 20, 2012, 09:34:20 PM แม็กกี้เซี่ยงไฮ้ต้มยำมะพร้าวอ่อน
(http://www.jaowka.com/wp-content/uploads/2012/10/193.jpg) แม็กกี้เซี่ยงไฮ้ต้มยำมะพร้าวอ่อน ส่วนผสมดังนี้ - เส้นเซี่ยงไฮ้ลวกสุก 5 ถ้วยตวง - เห็ดนางฟ้าและเห็ดเข็มทองอย่างละ 1 ถ้วยตวง - เห็ดหูหนูดำหั่นเป็นชิ้นเล็ก ½ ถ้วยตวง - ซอสปรุงอาหารตราแม็กกี้ 10 ช้อนโต๊ะ - น้ำมะนาว 4 ช้อนโต๊ะ - พริกขี้หนูแดงโขลกหยาบ 2 ช้อนโต๊ะ - น้ำเปล่า 4 ถ้วยตวง - มะพร้าวอ่อน (พร้อมเนื้อและน้ำ) 1 ลูก - หอมแดงบุบพอแตก 5 หัว - ตะไคร้บุบพอแตก 3 ต้น - ข่าหั่นแว่น 5 แว่น - ใบมะกรูด 3 ใบ - ผักชีฝรั่งซอยหยาบๆ 3 ช้อนโต๊ะ ขั้นตอนการทำ 1. ต้มน้ำด้วยไฟแรง พอเดือดแล้วจึงใส่ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด หอมแดงพอได้กลิ่นหอมเครื่องสมุนไพรแล้ว ปรุงรสด้วยซอสปรุงอาหารตราแม็กกี้ 2. ใส่เห็ดนางฟ้า เห็ดหูหนูดำ เห็ดเข็มทอง พริกขี้หนูแดง แล้วต้มให้เดือดอีกครั้ง แล้วใส่น้ำมะพร้าวอ่อน 1 ถ้วยตวง ตามด้วยเนื้อมะพร้าว ผักชีฝรั่ง รอให้เดือดอีกครั้งแล้วยกลง 3. เติมน้ำมะนาว ชิมรสตามชอบ ตักราดลงบนเส้นเซี่ยงไฮ้ที่ตักใส่ถ้วยเตรียมไว้พร้อมรับประทานขณะร้อน หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤศจิกายน 11, 2012, 06:25:03 PM สูตรหมูปิ้ง
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img9/139693.JPG) เครื่องปรุงวัตถุดิบและส่วนผสม -หมูเนื้อสะโพกมีมันบ้าง นำมาหั่นชิ้นเล็กพอเหมาะไว้สำหรับเสียบไม้ปิ้ง 2 กิโลกรัม -รากผักชี กระเทียม พริกไทย โขลกละเอียด 5 ช้อนโต๊ะ -น้ำตาลปี๊บ ประมาณครึ่งถ้วยขีดกว่าๆ -น้ำกะทิสด 3 ถ้วย -ซอสภูเขาทอง 5 – 6 ช้อนโต๊ะ -น้ำปลา ครึ่งถ้วย -เกลือป่น 3 ช้อนโต๊ะ -เหล้าจีน 2 – 3 ฝา (ใส่ก็ได้ไม่ใส่ก็ได้) ขั้นตอนและวิธีการทำ 1.นำเอาส่วนผสมที่จัดเตรียมไว้ทั้งหมด ลงมาคลุกเคล้าผสมให้เข้ากันในภาชนะที่เตรียมไว้แล้วจึงทำการนวดหมูโดยใช้มือนวดเบาๆ นวดอย่างน้อย 15 - 20 นาทีโดยประมาณแล้วหมักทิ้งไว้ประมาณ 2 - 3 ชั่วโมง เพื่อให้เครื่องปรุงซึมเข้าไปในเนื้อ หรืออาจจะกลับมานวดซ้ำอีกครั้ง 2.มาถึงขั้นตอนเสียบครับนำไม้เสียบที่เตรียมพร้อมไว้ (แนะนำให้แช่น้ำซักหน่อย) จากนั้นจัดการเสียบหมูให้เรียบร้อยแล้วจึงค่อยนำมามาปิ้งบนเตาถ่าน ใช้ไฟประมาณอ่อนๆ อาจจะเอาขี้เถ้ามากลบเปลวเพลิงเพื่อลดแรงไฟบ้างก็ได้เพราะอาจจะทำให้ไหม้ได้ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤศจิกายน 11, 2012, 06:27:49 PM สเต็กหอยเชลล์
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img4/139677.jpg) ส่วนผสม -หอยเชลล์ญี่ปุ่น 200 กรัม -ข้าวโพดอ่อน 5 ฝัก -หน่อไม้ฝรั่งหั่นท่อน 4 ต้น -เห็ดฟางผ่าครึ่ง 5 ดอก -แครอตหั่นท่อนยาว 5 ชิ้น -แป้งสาลี 3-4 ช้อนโต๊ะ -ซีอิ๊ว 2 ช้อนโต๊ะ -เนย 1 ช้อนโต๊ะ -ซีอิ๊ว 2 ช้อนโต๊ะ -เนย 1 ช้อนโต๊ะ -เกลือป่นและพริกไทยตามชอบ น้ำมันเล็กน้อย วิธีทำ 1. ใส่เนยลงในกระทะก้นแบนร้อนดีแล้วใส่ผักต่างๆ ลงผัดให้สุกตามชอบ ตักใส่จานเตรียมไว้ 2. เคล้าหอยเชลล์กับซีอิ๊ว เกลือ พริกไทย และแป้งสาลีให้ทั่วแล้วนำไปทอดในกระทะเดิมพร้อมเนยอีกเล็กน้อย สุกดีแล้วจัดใส่จานผักพร้อมเสิร์ฟ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤศจิกายน 11, 2012, 06:29:56 PM ขนมจีนน้ำยาป่า
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img0/139830.jpg) ขนมจีนน้ำยาป่า ส่วนผสม -น้ำปลาร้าต้มสุก 4 ถ้วยตวง -พริกขี้หนูแห้ง 20 เม็ด (ปรับเพิ่ม/ลด ตามความชอบ) -ตะไคร้ซอย 1/4 ถ้วยตวง -ข่า 4 แว่น -หอมแดง 7 หัว -กระเทียม 2 หัว -ปลาช่อน 1 ตัว (ล้างทำความสะอาด, ขอดเกล็ดและควักไส้ออก ต้มจนเดือดและแกะเอาแต่เนื้อปลา) -ขนมจีน 800 กรัม -ไข่ต้มและผักสดต่างๆ (ถั่วฝักยาว, ถั่วงอก, ใบแมงลัก, แตงกวา, ผักกาดดอง, อื่นๆ) วิธีทำ 1. ต้มน้ำปลาร้ากับพริกขี้หนูแห้ง, ตะไคร้ซอย, ข่า, หอมแดงและกระเทียม จนน้ำเดือด จึงนำไปกรองแยกน้ำและเครื่องออกจากกัน 2. พริก, ตะไคร้, ข่า, หอมแดงและกระเทียมที่แยกออกมาไปโขลกกับเนื้อปลาจนละเอียดและเข้ากัน 3. นำน้ำปลาร้าที่กรองไว้ไปต้มในหม้ออีกครั้ง จากนั้นจึงใส่น้ำพริกที่โขลกในขั้นตอนที่ 2 ลงไปละลายในน้ำปลาร้า ต้มจนเดือด ถ้ารสอ่อนเค็มก็เติมเกลือลงไปนิดหน่อย เสร็จแล้วปิดไฟ ตักน้ำยาป่าใส่ถ้วย 4. จัดเส้นขนมจีนใส่จาน เสริฟทันทีขณะน้ำยายังร้อนๆพร้อมผักสดและไข่ต้ม ขอบคุณสูตรจาก .hilunch หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤศจิกายน 11, 2012, 06:31:52 PM สูตรกระเพราไก่
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img0/139694.JPE) วัตถุดิบ ส่วนผสมและเครื่องปรุงรส -ซอสถั่วเหลือง 1 ช้อนโต๊ะ -ใบกระเพรา 1/2 ถ้วยตวง -พริกขี้หนูสับหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ -เนื้อไก่สับหยาบๆ 250 กรัม -ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ -ถั่วฝักยาว 1/4 ถ้วยตวง -น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ -กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ -น้ำเปล่า 4 ช้อนโต๊ะ ขั้นตอนและวิธีในการทำ ตั้งกระทะเตรียมตั้งไฟให้พร้อม นำกระเทียมและพริกขี้หนูมาผัดให้เข้ากันให้พอมีกลิ่นหอม จากนั้นให้นำเนื้อไก่สับใส่ลงไปผัดให้พอสุก ขั้นตอนต่อไปให้ปรุงรสด้วย ซอสถั่วเหลือง แล้วก็ซอสหอยนางรม เติมน้ำเปล่าซักนิด ตอนผัดให้ใช้ไฟแรงแล้วจึงใส่ถั่วฝักยาว จากนั้นผัดถั่วฝักยาวให้พอสุก แล้วโรยด้วยใบกระเพราผัดพอเข้ากัน หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤศจิกายน 11, 2012, 06:33:50 PM ข้าวผัดใบโหระพากับปลาอินทรีทอดน้ำปลา
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img1/139831.jpg) ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่) เตรียม 30 นาที ปรุง 20 นาที * ข้าวสวยร้อน ๆ 2 ถ้วย * ซอสโหระพาสำหรับผัดข้าว ¼ ถ้วย (สูตรด้านล่าง) * กระเทียม สับ 1 ช้อนโต๊ะ * พริกขี้หนูสับ 5 เม็ด * หอมเล็กซอย 5 หัว * ซอส ปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ * น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา * ใบโหระพาสำหรับโรย หน้า * เม็ดมะม่วงหิมพานต์บดสำหรับโรยหน้า ส่วนผสม ซอสโหระพาสำหรับผัดข้าว (ใช้ผัดได้ 4 ครั้ง) * ใบโหระพา ไทย 2 ถ้วย * กะปินาบไฟพอสุก 2 ช้อนโต๊ะ * กระเทียมกลีบเล็กปอก เปลือก 10 หัว * หอมแขกปอกเปลือกสับหยาบ 1/4 ถ้วย * น้ำมัน มะกอก 3 ช้อนโต๊ะ * น้ำเปล่า ¼ ถ้วย * เกลือ ¼ ช้อนชา * พริก ไทยดำบดหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ * เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบสุกบดหยาบ ¼ ถ้วย ส่วนผสมปลาอินทรีทอดน้ำปลา * เนื้อปลาอินทรีสดหั่นชิ้นสเต็ก 1 ชิ้น * น้ำปลาดี 4 ช้อนโต๊ะ * น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ * พริก ไทยป่นเล็กน้อย * น้ำมันสำหรับทอดปลา ½ ถ้วย วิธีทำ 1. หมัก ปลากับน้ำปลา น้ำตาลทราย และพริกไทย ไว้ 2. ทำซอสสำหรับผัดข้าว โดยปั่นทุกอย่างรวมกันให้ละเอียด พักไว้ 3. ตักซอสที่ได้ 1/4 ถ้วย คลุกกับข้าวสวยร้อน ๆ ให้เข้ากัน พักไว้ ตั้งกระทะใช้ไฟกลางใส่น้ำมัน แล้วใส่หอมลงผัดจนสุก จึงใส่กระเทียมลงไปผัดให้เหลือง เร่งไฟแรงใส่ข้าวที่คลุกซอสไว้ลงผัดจนร่วน ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส น้ำตาลทราย ปิดไฟ ใส่หอมซอยและพริกขึ้นหนูลงไปเคล้า ตักใส่จาน โรยหน้าด้วยใบโหระพา และเม็ดมะม่วงหิมพานต์บดหยาบ พักไว้ 4. เติมน้ำมันสำหรับทอดปลาลงใน กระทะตั้งไฟกลางให้ร้อน ใส่ปลาลงไปทอดจนสุก ตักขึ้นเคียงจานข้าว รับประทานคู่กัน Tip * กะปิที่ใช้ ควรเป็นกะปิชนิดดี ทำจากเคย สังเกตได้จากเนื้อกะปิจะไม่เนียนมากนัก มีกลิ่นหอม เมื่อชิมจะมีรสเค็มอ่อนๆ ติดหวานเล็กน้อย ข้อมูลจาก Health & Cuisine หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มกราคม 13, 2013, 08:12:35 PM หอยนางรมชุบแป้งทอดกับซอสไข่เค็ม (http://variety.teenee.com/foodforbrain/img6/143021.jpg) หอยนางรมชุบแป้งทอดกับซอสไข่เค็ม เครื่องปรุงหอยนางรมชุบแป้งทอด แป้งชุบทอด 1 ซอง น้ำโซดา (เย็น) ครึ่งถ้วยตวง น้ำมันปาล์ม สำหรับทอด หอยนางรมตัวใหญ่ผ่าครึ่ง 10 ตัว แป้งสาลี ครึ่งถ้วยตวง วิธีทำ 1.ในชามผสม ใส่แป้งชุบทอด ใส่น้ำโซดา(เย็น) ลงไปผสมให้เข้ากัน 2.นำกระทะตั้งไฟ ใส่น้ำมันปาล์มลงไปพอร้อน 3.นำเนื้อหอยนางรมตัวใหญ่ลงไปนาบกับแป้งสาลี แล้วชุบกับแป้งน้ำ แล้วนำลงไปทอดให้เหลืองกรอบ ตักออกพักไว้ เครื่องปรุงหอยนางรมชุบแป้งทอดกับซอสไข่เค็ม น้ำมันพืช ไข่แดงของไข่เค็ม ซีอิ๊วขาว พริกไทยขาวป่น หอยนางรมที่ทอดแล้ว ขึ้นฉ่ายหั่นท่อน ต้นหอมหั่นท่อน น้ำมันหอย พริกไทยขาวป่น ผักชีเด็ดเป็นใบ ขึ้นฉ่ายหั่นท่อน ต้นหอมหั่นท่อน วิธีทำ 1.นำน้ำมันพืชและไข่แดงของไข่เค็มมาผสมให้เป็นเนื้อเดียวกัน หรือใช้เครื่อง Food Processor ปั่นก็ได้ 2.นำกระทะตั้งไฟใส่ส่วนผสมน้ำมันพืช และไข่แดงของไข่เค็มลงไป ผัดด้วยไฟปานกลางให้หอมเหลืองและฟูเป็นฟอง ปรุงรสด้วย ซีอิ๊วขาว ½ ชต. และพริกไทยป่น แล้วใส่หอยนางรมที่ทอดแล้ว ลงไปผัดให้เข้ากัน 3.ไข่เค็มจะเคลือบหอยนางรม เทขึ้นฉ่ายและต้นหอมลงผัดให้สลด แต่ยังกรอบอยู่บ้าง 4.ปรุงรสอีกทีด้วย ซีอิ๊วขาวที่เหลือ น้ำมันหอย พริกไทยป่น ผัดให้เข้ากัน 5.ตักใส่จาน โรยหน้าด้วยผักชี ขึ้นฉ่าย และต้นหอม ยกเสิร์ฟ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มกราคม 13, 2013, 08:16:33 PM ซีฟู้ดผัดซอสแบบจีน (http://variety.teenee.com/foodforbrain/img0/142947.jpg) ซีฟู้ดผัดซอสแบบจีน เครื่องปรุง น้ำมันปาล์มสำหรับทอด กุ้งแกะเปลือก ผ่าหลังเด็ดหาง หอยเชลล์ ปลาหมึกหั่นเป็นชิ้น บั้งเป็นตาราง พริกชี้ฟ้าแห้งหั่นท่อน ถั่วงทอดกับน้ำมันแล้ว กระเทียม (กลีบใหญ่) บุบ ซอสหอยซินเจีย น้ำมันหอย น้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว น้ำเปล่า หอมหัวใหญ่หั่นเสี้ยว เหล้าจีน พริกชี้ฟ้าที่ทอดแล้ว วิธีทำ 1.นำกระทะตั้งเตา IHC ใส่น้ำมันลงไปให้ร้อน นำ กุ้ง หอยเชลล์ และปลาหมึกลงไปลวกในน้ำมัน แค่ให้พอสะดุ้งน้ำมัน อย่าให้สุกจนเกินไป ให้สุกแค่ข้างนอก ข้างในยังเป็นสีชมพูอยู่ 2.ในกระทะใบเดิม เทน้ำมันออกให้เหลือแค่ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ นำพริกชี้ฟ้าแห้ง ถั่วง ลงไปทอดให้กรอบ ตักออกพักไว้ จะได้น้ำมันที่มีกลิ่นหอมของพริกแห้ง 3.ในกระทะใบเดิม เร่งไฟ ใส่กระเทียมลงไป ผัดให้หอม แล้วปรุงรสด้วย ซอสหอยซินเจีย น้ำมันหอย น้ำตาลทราย และซีอิ๊วขาว เหล้าจีน น้ำเปล่า เคี่ยวให้เหนียว ใส่หอมใหญ่ซอย แล้วนำซีฟู้ดที่ทอดแล้ว ลงไปผัดให้ซอสเคลือบซีฟู้ด ใส่เหล้าจีน ผัดต่อให้เข้ากัน 4.ใส่พริกชี้ฟ้า และถั่วงที่ทอดแล้วลงไป ผัดให้เข้ากัน ปิดไฟ ชิมรสชาติให้ออก เค็ม หวาน 5.ตักซีฟู้ดผัดซอสแบบจีน ลงในจานเสิร์ฟ ยกเสิร์ฟขณะร้อน ๆ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: paul711 ที่ มกราคม 16, 2013, 11:04:09 PM ;D ขอบคุณ คุณหนูใจมากๆครับ
(http://image.ohozaa.com/i/g33/lKkhel.JPG) (http://image.ohozaa.com/view2/wy295t4Ief65RfP8) " ในปีใหม่ ๒๕๕๖ ผมขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านนับถือ ช่วยบันดาลให้ คุณหนูใจและครอบครัว มีความสุขกาย สุขใจ สุขภาพแข็งแรง รํารวยเงินทอง ลงทุนอะไรก็มีกําไรมากๆ เจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ และปฏิภาน ตลอดปีใหม่ ๒๕๕๖ นี้ " หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มกราคม 30, 2013, 06:57:21 PM ;D ขอบคุณ คุณหนูใจมากๆครับ ([url]http://image.ohozaa.com/i/g33/lKkhel.JPG[/url]) ([url]http://image.ohozaa.com/view2/wy295t4Ief65RfP8[/url]) " ในปีใหม่ ๒๕๕๖ ผมขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านนับถือ ช่วยบันดาลให้ คุณหนูใจและครอบครัว มีความสุขกาย สุขใจ สุขภาพแข็งแรง รํารวยเงินทอง ลงทุนอะไรก็มีกําไรมากๆ เจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ และปฏิภาน ตลอดปีใหม่ ๒๕๕๖ นี้ " สาธุค่ะ คุณพอล ขอบพระคุณค่ะ ;Dอยากมีเหมือนในรูปค่ะ ได้สักเหมือง angel.gifคงดีค่ะ อิ อิ ฝันไว้ก่อน laugh.gif หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มกราคม 30, 2013, 07:12:53 PM เส้นหมี่หน้าไก่
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img1/144227.jpg) เครื่องปรุง -เนื้ออกไก่หั่นเป็นชิ้นพอคำ 300 กรัม -ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ -ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนโต๊ะ -น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ -น้ำอ้อย1 ช้อนโต๊ะ -แป้งมัน 1 ช้อนโต๊ะ -น้ำมันงา1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ 1.ในชามผสม นำไก่ที่หั่นไว้ หมักกับซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำ น้ำมันหอย น้ำอ้อย แป้งมัน และน้ำมันงา คลุกเคล้าให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ค้างคืน เครื่องปรุงหน้าไก่ -น้ำมันปาล์ม -เนื้อไก่หมักแล้ว -น้ำซุปไก่ -น้ำมันหอย -ซีอิ๊วขาว -น้ำตาลทราย -น้ำมันงา -พริกไทยขาวป่น -เส้นหมี่ไวไวลวกแล้วนำไปทอด -ยอดคะน้าฮ่องกง ลวก -พริกชี้ฟ้าเขียว,แดงหั่นแว่น -เส้นหมี่ไวไวทอดแล้ว -ต้นหอมหั่นท่อน -ผักชีเด็ดใบ -น้ำมันปาล์ม -เนื้อไก่หมักแล้ว -น้ำซุปไก่ -น้ำมันหอย -ซีอิ๊วขาว -น้ำตาลทราย -น้ำมันงา -พริกไทยขาวป่น -เส้นหมี่ไวไวลวกแล้วนำไปทอด -ยอดคะน้าฮ่องกง ลวก -พริกชี้ฟ้าเขียว,แดงหั่นแว่น -เส้นหมี่ไวไวทอดแล้ว -ต้นหอมหั่นท่อน -ผักชีเด็ดใบ วิธีทำ 1.นำกระทะตั้งเตา ใส่น้ำมันพอร้อน นำไก่ที่หมักไว้ลงทอดน้ำมัน อย่างพึ่งคนทิ้งไว้สักพัก แล้วจึงเริ่มผัด เมื่อไก่เริ่มสุกและน้ำซอสเริ่มเหนียว เติมน้ำซุปไก่ลงไป ผัดให้เข้ากัน ซอสจะข้นขึ้น ปรุงรสด้วย น้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย ชิมรสให้ออก เค็ม หวาน 2.ผัดต่อไปให้น้ำซอสงวดลง ขลุกขลิกแล้วใส่น้ำมันงา และพริกไทยขาว ผัดให้เข้ากัน ปิดไฟ 3.ในชามเสิร์ฟ ใส่เส้นหมี่ทอดลงไป วางยอดคะน้า และพริกชี้ฟ้าเขียว แดง ข้าง ๆ 4.ตักไก่ราดลงบนเส้นหมี่ แต่งหน้าด้วยเส้นหมี่ไวไวทอด ต้นหอม และผักชี เสิร์ฟทันที ขอบคุณบทความจาก mcdangguide หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มกราคม 30, 2013, 07:15:36 PM มูสกะทิลอดช่อง
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img3/144230.jpg) ส่วนผสม 1.กะทิ 2.นมจืด 3.ไข่แดง 4.น้ำตาลทราย 5.น้ำตาลปี๊บ 6.เกลือ 7.แผ่นเจลาตินแช่น้ำให้นุ่ม 8.วิปปิ้งครีม 9.ไข่ขาวของไข่ไก 10.ลอดช่องใบเตย 11.ขนุนซอยเป็นเส้น 12.น้ำกะทิลอดช่อง 160 มิลลิลิตร 100 มิลลิลิตร 6 ฟอง 1 ช้อนโต๊ะ 1 ช้อนโต๊ะ 1 หยิบมือ 4 แผ่น 240 มิลลิลิตร 2 ฟอง 100 กรัม 50 กรัม ตามต้องการ วิธีทำ 1. นำหม้อใส่ กะทิ นมจืด ตั้งไฟพอร้อน 2. ในชามผสม ตีไข่แดง กับน้ำตาลทรายและน้ำตาลปี๊บให้เป็นสีเหลืองนวล แล้วนำกะทิกับนมจืดที่ต้มไว้ ค่อยๆ เทลงไปผสมกับไข่และน้ำตาลทรายเททีละนิดก่อน มิฉะนั้นไข่จะสุกและกลายเป็นไข่กวน 3. นำส่วนผสมที่ได้ขึ้นตั้งไฟ คนให้ซอสข้นขึ้น ตลอดเวลาให้ซอสข้นและไม่เดือด 4. ใส่แผ่นเจลาตินแช่น้ำให้นุ่มลงไปในส่วนผสม คนให้เจลาตินละลาย ยกออกจากเตา พักไว้ให้เย็น 5. นำวิปปิ้งครีมตีให้ขึ้นฟู แล้วนำไปผสมกับส่วนผสมในข้อ 4 โดยการ Fold จนส่วนผสมเข้ากันเป็นเนื้อเดียว(ในระหว่างทำการผสมมูสต้องใช้ icewater bath รองอยู่เสมอ) 6. ตีไข่ขาวให้เป็น soft peak แล้ว Fold เข้าไปในส่วนผสม 7. เทเข้าแม่พิมพ์วงกลมทรงสูงที่เป็นกระดาษพลาสติกให้เต็ม นำเข้าตู้เย็นทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง หรือจนกระทั่งเซทตัว เมื่อเซทตัวแล้ว ลอกกระดาษพลาสติกออก จัดใส่จานเสิร์ฟ 8. เสิร์ฟพร้อม ลอดช่องใบเตย ขนุน และน้ำกะทิลอดช่อง จัดเสิร์ฟทันที ขอบคุณบทความจาก mcdangguide หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มกราคม 30, 2013, 07:19:02 PM คั่วกลิ้งหมูกะทิ
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img8/144352.jpg) ส่วนผสมอาหาร คั่วกลิ้งหมูกะทิ สันคอหมูหั่นเป็นชิ้นพอคำ 400 กรัม เครื่องแกงคั่วกลิ้ง 2 ช้อนโต๊ะ หัวกะทิอร่อยดี 1/2 ถ้วย ซีอิ๊วขาวฝาเขียว 2 ช้อนโต๊ะ เกลือ 1/2 ช้อนชา น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา ใบมะกรูดซอย พอประมาณ พริกไทยอ่อน พอประมาณ พริกขี้หนูแห้ง 10 เม็ด พริกขี้หนูแดงสด 10 เม็ด ข่าสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ ตะไคร้ซอย 1 ช้อนโต๊ะ ใบมะกรูดซอย 1 ช้อนโต๊ะ กระเทียมสับ 5 กลีบ ขมิ้นซอย 1 ช้อนโต๊ะ พริกไทยดำ 20 เม็ด พริกไทยอ่อน 2 ช้อนโต๊ะ กะปิ 1 ช้อนชา กลือ พอประมาณ วิธีทำอาหาร คั่วกลิ้งหมูกะทิ *** โขลกส่วนผสมของเครื่องแกงทั้งหมดรวมกันให้ละเอียด 1 นำกระทะตั้งไฟใส่หัวกะทิอร่อยดีลงผัดกับเครื่องแกงให้หอม และแตกมัน 2 ใส่สันคอหมูที่หั่นแล้วลงไปผัดพอสุก ปรุงรสด้วย ซีอิ๊วขาว เกลือ น้ำตาลทราย ผัดให้เข้ากัน 3 ใส่พริกไทยอ่อน และใบมะกรูดซอยลงไป ผัดให้เข้ากัน ยกลงจากเตา เสิร์ฟร้อน ๆ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มกราคม 30, 2013, 07:22:27 PM ปลาทูเปรี้ยวหวาน (http://variety.teenee.com/foodforbrain/img0/144356.jpg) ส่วนผสม ปลาทูสด 2 ตัว พริกชี้ฟ้าแดง 4 เม็ด กระเทียม 4 กลีบ น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ น้ำ 1/2 ถ้วย ผักชี 1 ต้น น้ำมัน 5 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ 1. ล้างปลาทูให้สะอาด ควักไส้ออก 2. ใส่น้ำมัน 3 ช้อนโต๊ะในกระทะ ตั้งไฟให้ร้อน นำปลาทูลงทอดให้เหลือง ใส่จานไว้ 3. โขลกพริก กระเทียม ให้เข้ากัน 4. ใส่น้ำมัน 2 ช้อนโต๊ะในกระทะ พอร้อน ใส่เครื่องที่โขลก ผัดให้หอม ใส่น้ำมะขามเปียก น้ำปลา น้ำตาลทราย ผัดให้เข้ากัน 5. ใส่ปลาทูที่เตรียมไว้ ใส่น้ำ ต้มไปจนเครื่องเข้าเนื้อปลาทู (เติมน้ำร้อนๆ) ชิมรสตามชอบ ปิดไฟ 6. เวลาเสิร์ฟแต่งหน้าด้วยผัด หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2013, 09:44:41 AM ข้าวหน้าทะเลจานร้อน
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img2/144814.jpg) ข้าวหน้าทะเลจานร้อน ส่วนผสม -ข้าวสวย -ปลาหมึกหั่นเป็นชิ้นแล้วบั้ง -กุ้ง -เนื้อปลากระพงหั่นชิ้นพอดีคำ -หอยลาย -หน่อไม้ฝรั่งหั่นเป็นท่อน -เห็ดฟางผ่าครึ่ง -ซอสพริก -ซอสมะเขือเทศ -น้ำปลา -น้ำมันพืช วิธีทำ -ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่น้ำมัน ผัดปลาหมึก กุ้ง หอยลาย และ ปลากระพงเข้าด้วยกัน ตามด้วยหน่อไม้ฝรั่งและเห็ดฟาง -ปรุงรสด้วยซอสพริก ซอสมะเขือเทศ และน้ำปลา ผัดให้เข้ากัน ตักราดบนข้าวสวยร้อนๆ พร้อมเสิร์ฟ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2013, 07:55:58 PM ข้าวยำกุ้งแซ่บ
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img3/144816.jpg) ส่วนผสม -กุ้งสด -น้ำมันสำหรับทอด -ต้นหอมซอย -พริกป่น -น้ำปลา -แป้งทอดกรอบ -หอมแดงซอย -ข้าวคั่ว -มะนาว วิธีทำ -ล้างกุ้งให้สะอาด แกะกุ้ง ผ่าหลังเอาเส้นดำๆ ออก เอาหัวกุ้งออกด้วย -นำกุ้งไปชุบแป้งทอด ให้เหลืองกรอบ ตักขึ้นพักไว้ -ซอยหอมแดง กระเทียม บีบน้ำมะนาวใส่ถ้วยไว้แล้วผสมกับน้ำปลา ปรุงรสตามใจชอบ -นำกุ้งจากข้อ 2 มาหั่นเป็นชิ้นๆ พอดีคำ ใส่ในอ่างผสมไว้ -ใส่ข้าวคั่ว พริกป่น น้ำปลาที่ผสมกับมะนาวแล้วชิมรสดูว่าแซ่บพอรึยัง จากนั้นใส่หอมแดงกับ หอมซอย คนให้เข้ากัน ตักใส่จานเสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ ขอบคุณสูตรอาหารดีๆ จาก แม่จ๋า maejaa.com หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2013, 07:58:33 PM ปลากะพงขนมปังทอด กับมันเทศบด
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img9/144698.jpg) ส่วนประกอบ -ปลากะพง (180 กรัม) 2 ชิ้น -แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ช้อนโต๊ะ -ขนมปังโฮลวีท 3 แผ่น -เนย 100 กรัม + 2 ช้อนโต๊ะ -ครีม 100 มิลลิลิตร -เกลือ ปรุงรส -พริกไทย ปรุงรส -ลูกจันทน์ป่น ปรุงรส -มันเทศญี่ปุ่น 400 กรัม -ไข่ไก่ วิธีทำ 1. นำมันเทศญี่ปุ่นไปนึ่งจนสุกดี ลอกผิวออก แล้วบดให้เนียนดี 2. นำครีมไปตั้งไฟ พอเริ่มเดือด ใส่เนยลงไป 2 ช้อนโต๊ะ นำไปผสมกับมันเทศบด ปรุงรสด้วยลูกจันทน์ เกลือ และพริกไทย ใส่พลาสติกถนอมอาหารปิดที่ผิวหน้าพักไว้ 3. ตัดขอบขนมปัง แล้วหั่นเป็นสี่เหลี่ยมเต๋าเล็กๆ พักไว้ 4. ทำ Clarified Butter โดยนำเนย 100 กรัมใส่ชามที่สามารถทนความร้อนได้ วางบนหม้อต้มน้ำ เมื่อเนยร้อนจะแยกตัวเป็นชั้น ส่วนที่เป็นของแข็งจะตกลงด้านล่าง ให้เทส่วนที่ใสๆ ด้านบนออกมาแยกไว้ ส่วนใสๆ ส่วนนี้เรียกว่า Clarified Butter สามารถทนความร้อนได้ดีกว่าเนยปกติ 5. แล่หนังปลาออกใช้กระดาษซับให้แห้งดี โรยเกลือ พริกไทยเล็กน้อยทั้งสองด้าน โรยแป้งบางๆ บริเวณด้านที่เคยมีหนัง สะบัดแป้งส่วนเกินออก นำชิ้นปลาส่วนที่มีแป้งชุบลงในไข่ไก่ แล้วนำไปวางบนขนมปังที่ตัดทั้งไว้ กดเบาให้ขนมปังติดดี 6. ใส่ Clarified Butter ลงในกระทะ พอร้อนดี ก็ใส่ชิ้นปลาลงไป โดยให้ด้านที่มีขนมปังอยู่ด้านล่าง พอขนมปังเริ่มกรอบสีสวย และขอบๆ ของชิ้นปลาเริ่มสุกจนเกือบถึงกลางชิ้น ประมาณ 4-5 นาที ก็กลับด้านปลา ทอดต่ออีกประมาณ ½ นาที (หลังจากพลิกปลาแล้ว จะใช้เวลาเพียงไม่นาน เพราะปลาเกือบสุกดีแล้ว) ตักปลาใส่จาน เสิร์ฟกับมันเทศบด ที่มา : พลพรรคนักปรุง 10 มกราคม 2556 สูตรโดย : พล ตัณฑเสถียร หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2013, 08:01:16 PM ต้มยำปลาแขยง
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img8/144697.jpg) วิธีทำ 1. ย่างพริกแห้ง กระเทียม และหอมแดง พักไว้ 2. ต้มน้ำ 3 ถ้วย พอเดือด ใส่พริกแห้ง กระเทียม หอมแดง พร้อมกับมะขามเปียกพอน้ำแกงเดือดอีกครั้ง ใส่ข่า ตะไคร้ และปลาแขยงลงไป 3. พอเนื้อปลาสุกดี ปรุงรสด้วยน้ำปลา ยกออกจากความร้อน ใส่ใบกะเพราและใบมะกรูดลงไป ส่วนประกอบ -ปลาแขยง 1 กิโลกรัม -พริกแห้งเม็ด เล็ก 25 กรัม -กระเทียมไทย 60 กรัม -หอมแดง 60 กรัม -มะขามเปียก 60 กรัม -ข่า 60 กรัม -ตะไคร้ 60 กรัม -น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ -ใบมะกรูด 10 ใบ -ใบกะเพรา 60 กรัม สูตรโดย พลพรรคนักปรุง หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มีนาคม 07, 2013, 07:05:42 PM ปลาทอดซอสมะนาว
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img0/146666.jpg) ส่วนผสมสำหรับ 1-2 ที่ เนื้อปลากะพงแล่ชิ้นหนา 300 กรัม พริกไทยดำบดหยาบ 1 ช้อนชา น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ ผิวมะนาวขูด 1/2 ช้อนชา เกล็ดขนมปัง 1 ถ้วย ไข่ไก่ตีให้เข้ากัน 1 ฟอง น้ำสุกเล็กน้อย น้ำมันสำหรับผัด วิธีทำ 1. ชุบเนื้อปลากับน้ำมันหอยและไข่ไก่ แล้วเคล้ากับเกล็ดขนมปัง นำไปทอดจนกรอบเป็นสีทองพักให้สะเด็ดน้ำมัน จัดใส่จานและโรยพริกไทยเล็กน้อยเตรียมไว้ 2. เคี่ยวน้ำตาล น้ำมะนาว ผิวมะนาว และเกลือกับน้ำสุกเล็กน้อยจนข้น ชิมรสเปรี้ยวหวานตามชอบ เสิร์ฟพร้อมปลาทอดกรอบ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มีนาคม 07, 2013, 07:07:15 PM ก๋วยเตี๋ยวหลอดเป็ดย่าง
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img2/146671.jpg) ส่วนผสมสำหรับ 4-5 ที่ เป็ดย่างหนังกรอบ 150 กรัม แตงกวาหั่นยาว 1 ลูก งาขาวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ แผ่นก๋วยเตี๋ยวใหญ่ขนาดตามชอบ 300 กรัม น้ำมันกระเทียมเจียวเล็กน้อย เครื่องปรุงน้ำซอส ขิงสับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วดำหวาน 2 ช้อนโต๊ะ น้ำซุป 1/2 ถ้วย กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ เหล้าจีน 1 ช้อนชา น้ำมันงา 1 ช้อนชา ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาล 6-8 ช้อนชา ต้นหอมและผักชีซอยตามชอบ วิธีทำ 1. หั่นเนื้อเป็ดและแตงกวาเป็นชิ้นยาวเท่าๆ กัน แล้วห่อด้วยแผ่นก๋วยเตี๋ยวให้สวยงาม จัดใส่จานแล้วทาด้วยน้ำมันกระเทียมเจียวเล็กน้อยให้ทั่วเตรียมไว้ 2. เคี่ยวเครื่องปรุงน้ำซอสให้เข้ากันจนข้น ชิมรสตามชอบ นำไปราดบนก๋วยเตี๋ยวหลอดที่พักไว้ แต่งหน้าด้วยต้นหอมและผักชีซอย โรยงาคั่ว พร้อมเสิร์ฟ (http://variety.teenee.com/foodforbrain/img2/146672.png) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มีนาคม 26, 2013, 08:11:18 AM หมูพะโล้
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img5/147799.jpg) * เนื้อหมูติดมัน 400 กรัม (หั่นขนาดยาว 2" และหนา 1 ") * ไข่ไก่ 3 ฟอง * ผักชี 3 ต้น * ซิอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ * ซิอิ๊วดำ 1 ช้อนโต๊ะ * น้ำตาล 4 ช้อนโต๊ะ * ผงพะโล้ 1/2 ช้อนโต๊ะ * กระเทียมทุบ 3 กลีบ * พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา * น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ * น้ำเปล่า 3 ถ้วยตวง * ผักชีสำหรับแต่งอาหาร วิธีทำทีละขั้นตอน 1. ต้มน้ำในหม้อ รอจนน้ำเดือดจึงใส่ไข่ลงไปต้มจนสุก นำไข่ออกมาปอกเปลือกเตรียมไว้ 2. ใส่น้ำมันในกระทะและนำไปตั้งไฟ ใส่กระเทียมและพริกไทยลงไปผัดจนหอม จากนั้นเติมหมูลงไปผัดจนเกือบสุก 3. ใส่ผงพะโล้, ซิอิ๊วดำ, ซิอิ๊วขาว, ไข่ต้ม, น้ำตาลและน้ำลงไป ต้มด้วยไฟอ่อนๆประมาณ 30 นาที จึงปิดไฟ 4. ตักใส่ถ้วย แต่งหน้าด้วยผักชี เสริฟทันทีพร้อมข้าวสวยร้อนๆ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มีนาคม 26, 2013, 08:13:08 AM ผัดเต้าซี่เต้าหู้หมูสับ
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img7/147805.jpg) เต้าหู้ 250 กรัม (หั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า) * หมูสับ 300 กรัม * กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ * ขิงสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ * หอมใหญ่สับละเอียด 1/2 ลูก * เต้าซี่แบบเผ็ด 2 ช้อนโต๊ะ * ซิอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ * น้ำมันงา 1 ช้อนชา * ต้นหอมซอยละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ * เหล้าจีนสำหรับทำอาหาร 1/2 ช้อนโต๊ะ * น้ำตาล 1 ช้อนชา * แป้งมัน 1/3 ถ้วยตวง (ผสมน้ำและคนให้ละลาย) * พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา * น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง วิธีทำทีละขั้นตอน 1. ตั้งน้ำมันในกระทะบนไฟร้อนปานกลาง จากนั้นใส่กระเทียม, หอมใหญ่และขิงลงไป ผัดจนหอมและเหลือง 2. ใส่หมูสับลงไปผัดจนเกือบสุก จึงปรุงรสด้วยเต้าซี่, ซิอิ๊วขาว, น้ำตาล, พริกไทยและน้ำเปล่า 3. ผัดจนหมูสุกทั่ว จึงใส่เต้าหู้ลงไปผัด ระวังอย่าทำให้เต้าหู้เละเพราะจะทำให้ไม่น่าทาน ผัดจนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดี 4. เทน้ำแป้งที่เตรีียมไว้ลงไปผัดในกระทะ คนต่อเนื่องเพื่อไม่ให้แป้งเกาะตัวเป็นก้อน จากนั้นจึงใส่ต้นหอม, น้ำมันงา และเหล้าจีนลงไป คนจนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดี 5. ตักใส่จานและเสริฟทันทีพร้อมข้าวสวยร้อนๆ (http://variety.teenee.com/foodforbrain/img7/147806.jpg) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มีนาคม 26, 2013, 08:17:43 AM ข้าวต้มเป็ด
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img7/147667.jpg) ส่วนผสม (สำหรับ 4 ที่) เตรียม 30 นาที ปรุง 45 นาที (ไม่รวมเวลาเคี่ยวน้ำซุปเป็ด) ข้าวสารข้าวกล้องหอมมะลิ 1 ถ้วย น้ำเปล่าสำหรับต้มข้าว 2 ถ้วย น้ำซุป 2 ถ้วย ส่วนผสมน้ำซุป โครงเป็ดลวกน้ำเดือด 1 โครง (หากไม่มีใช้ปากเป็ด หรือ เนื้อเป็ด 1/2 กิโลกรัม ลวกน้ำเดือด ) โครงไก่ลวกน้ำเดือด 2 โครง กระเทียมกลีบใหญ่บุบ 10 กลีบ รากผักชีบุบ 7 ราก พริกไทยดำบุบพอแตก 1/2 ช้อนโต๊ะ หัวผักกาดหั่นแว่น 2 หัว หอมหัวใหญ่ปอกเปลือกซอยบาง 1 หัว ต้นขึ้นช่าย 2 ต้น ซีอิ๊วขาวอย่างดี 1 ช้อนโต๊ะ น้ำเปล่า 22 ถ้วย อบเชยย่างไฟให้หอม 1 ท่อนยาว โป๊ยกั๊กย่าง 2 ดอก เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ ส่วนผสมเป็ด อกเป็ดลอกหนังออกล้างสะอาดหั่นเต๋าพอคำ 2 ถ้วย (400 กรัม) เลือดเป็ดหั่นเต๋า 1 ถ้วย น้ำซุปเป็ด 8 ถ้วย หนังเป็ดซอยบาง ¼ ถ้วย ซีอิ๊วขาวอย่างดี 7 ช้อนโต๊ะ เกลือ 2 ช้อนชา น้ำตาลทราย 1 ½ ช้อนโต๊ะ ผงพะโล้ 1 ช้อนชา พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา รากผักชีตำ 1 ช้อนโต๊ะ กระเทียมปอกเปลือกตำ 2 ช้อนโต๊ะ พริกไทยป่น ½ ช้อนชา ขิงสดหั่นแว่น 6 ชิ้น ส่วนผสมอื่น ๆ ขึ้นช่ายหั่นเป็นท่อน ตามชอบ เต้าหู้เหลืองแข็งซอยบางตากแห้งสนิทแล้วทอดกรอบตามชอบ กระเทียมเจียว พริกไทยป่น และตั้งฉ่ายสับตามชอบ ส่วนผสมพริกน้ำส้ม พริกชี้ฟ้าเหลืองกรีดเอาเมล็ดออก 5 เม็ด น้ำส้มสายชู 3/4 ถ้วย น้ำตาลทรายเล็กน้อย 1 ช้อนโต๊ะ เกลือเล็กน้อย 1/4 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ 1.ต้มน้ำซุป โดยนำโครงเป็ดและโครงไก่ ไปจี่บนกระทะโดยไม่ต้องใส่น้ำมันพอเหลือง แล้วใส่ลงหม้อซุป เติมเครื่องซุปต่าง ๆ น้ำและเกลือลงไป ยกขึ้นตั้งไฟกลาง รอให้เดือด 5 นาที แล้วหรี่ไฟเคี่ยวอีก 1 ชั่วโมง ระหว่างเคี่ยวหมั่นตักฟองอากาศบนผิวหน้าซุปทิ้ง เมื่อได้ที่แล้ว ปิดไฟ กรองเอาแต่น้ำซุปเตรียมไว้ 2.หุงข้าวแบบเช็ดน้ำ โดยซาวข้าวสารข้าวกล้องหอมมะลิล้างให้สะอาด ใส่ลงในหม้อดิน หรือหม้อสเตนเลส เติมน้ำซุป ที่เคี่ยวไว้และน้ำเปล่า ยกขึ้นตั้งไฟกลาง ต้มจนเม็ดข้าวเริ่มบานเหลือตากบเล็กน้อย รินน้ำต้มข้าวออกเก็บไว้ จากนั้น ปิดฝาหม้อข้าว ใช้ไม้คัดฝาหม้อข้าวกับหูหม้อให้แน่น แล้วยกขึ้นดงด้วยไฟอ่อนจนข้าวสุกระอุดี ปิดไฟ 3.ต้มเลือดเป็ดในน้ำเดือดใส่เกลือและขิงซอย 3 แว่น เมื่อสุกแล้ว รินน้ำร้อนออก ใส่น้ำเย็นลงไป พักไว้ 4. เจียวน้ำมันจากหนังเป็ดรินเก็บไว้ ตักน้ำมันเป็ด 3 ช้อนโต๊ะใส่ลงหม้อ แล้วใส่รากผักชี กระเทียม พริกไทยตำละเอียด ขิงฝาน 3 แว่น ลงไปผัดจนหอม พร้อมเครื่องเทศอื่นๆ แล้วใส่เนื้อเป็ดลงไปผัดสักครู่ ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวผัดจนเข้าเนื้อ เติมน้ำซุป ต้มให้เดือด ใส่เลือดเป็ด (ข้อ3) ช้อนฟองหน้าซุปทิ้งแล้วลดไฟเคี่ยวจนเนื้อเป็ดนิ่มดี ปิดไฟ 5.ตักข้าวสุกใส่ถ้วย ตักน้ำข้าว และน้ำต้มเป็ดพร้อมเครื่องลงในถ้วยข้าว ตักเนื้อเป็ดและเลือดเป็ดใส่ลงไป โรยด้วยกระเทียมเจียว พริกไทย ตั้งฉ่ายและต้นขึ้นช่ายซอย เคียงด้วยแผ่นเต้าหูกรอบ เสิร์ฟพร้อมพริกน้ำส้ม (http://variety.teenee.com/foodforbrain/img7/147668.jpg) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ เมษายน 11, 2013, 10:12:42 AM เมนูซูเฟล่ไข่ตุ๋นเขียวหวาน
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img6/148829.jpg) เมนูอร่อยวันนี้เป็น “ซูเฟล่ไข่ตุ๋นเขียวหวาน” เพราะว่าปัจจุบันอาหารไทย โดยเฉพาะแกงไทยๆ จะเป็นแกงเขียวหวาน แกงกะหรี่ มัสมั่น ฉู่ฉี่ พะแนง ซึ่งตอนนี้ถือว่าเป็นอาหารที่ติดอยู่ในอันดับ 3 ของโลกไปแล้วค่ะ ซูเฟล่เป็นอาหารสไตล์ฝรั่งเศส ที่มีลักษณะฟู เบา และนุ่ม และถ้าเรานำมาประยุกต์ให้หน้าตาคุ้นเคยกับชาวต่างชาติ ก็จะสามารถทำการตลาดได้ง่ายมากขึ้น และสูตรนี้หรีดต้องขอกราบขอบพระคุณท่านเจ้าคุณ พระราชวิจิตรปฏิภาณ (เจ้าคุณพิพิธ) จากวัดสุทัศนเทพวราราม ซึ่งท่านได้แนะนำเมนูอร่อยๆ มาให้แฟนๆ ของหรีดในวันนี้ค่ะ - ก่อนอื่นเราต้องต้มน้ำให้เดือดซะก่อน น้ำก็เป็นส่วนประกอบสำคัญในการปรุงอาหาร ถ้าหากมีกลิ่นของคลอรีนมากเกินไป ก็จะทำให้กลิ่นของอาหารผิดเพี้ยนไปด้วย - และถ้าเป็นอาหารที่ผ่านการนึ่งด้วยไอน้ำแล้วล่ะก็ ควรที่จะต้องใช้น้ำสะอาด ปราศจากกลิ่นทุกประเภท - ถ้าหากเป็นน้ำประปา หรีดแนะนำให้กรองน้ำใส่ขวดเอาไว้ใช้ เพื่อให้กลิ่นนั้นเจือจางไป - ระหว่างที่รอน้ำเดือด เราก็มาเตรียมทำซูเฟล่ไข่ตุ๋นเขียวหวานกันนะคะ นำเห็ดที่เราชอบสัก 3 ชนิดมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เตรียมไว้ก่อน - จากนั้นนำพริกแกงเขียวหวานประมาณครึ่งช้อนโต๊ะ และหัวกะทิ 100% และไข่ไก่ ลงไปในอ่างผสม ใช้เครื่องตีที่ความเร็วต่ำ ตีเบาๆ จนเข้ากันแล้วค่อยๆ เติมน้ำกะทิลงไปอีกหนึ่งส่วน และหรีดก็จะใส่น้ำใบโหระพาปั่นเพื่อให้เกิดสีเขียวสวยงามยิ่งขึ้น จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บนิดนึง เติมซีอิ๊วขาวหน่อยนึงจะทำให้ได้ความหอมตอนนึ่ง แต่ถ้าใครไม่ชอบกลิ่นซีอิ๊วก็เติมเกลือนิดหน่อย - จากนั้นปั่นให้เข้ากัน และค่อยๆ เติมแป้งข้าวโพดนิดนึง เพื่อให้เซตตัวได้ - สุดท้ายตามด้วยเห็ดที่เราหั่นเตรียมไว้ ใบมะกรูดหั่นฝอย มะเขือพวง มะเขือเปราะหั่นชิ้นเล็กๆ หน่อย และคนไปในทางเดียวกัน ตักใส่ถ้วยตกแต่งด้วยพริกชี้ฟ้าหั่นเป็นเส้นๆ แล้วนำไปนึ่งในน้ำเดือดประมาณ 10 นาที เห็นมั้ยคะว่าซูเฟล่ฟูน่าทานเชียวค่ะ ขอเชิญชวนทุกท่านเลยนะคะ วันหยุดของครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตา มาร่วมทำกิจกรรมเข้าครัวด้วยกัน จะได้ปรุงรสและปรุงรักไปด้วยค่ะ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ เมษายน 11, 2013, 10:14:27 AM ยำมะม่วงหนังปลาแซลมอนกรอบ
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img5/148828.jpg) หรีดขอฝากเมนูแซบๆ ให้กับแฟนรายการ Happy life กับคุณหรีด ทั่วประเทศสำหรับวันอาทิตย์นี้ค่ะ ปัจจุบันนี้นะคะ มะม่วงบ้านเรารับประทานได้ทุกฤดู ทั้งสุกและดิบ และในวันนี้หรีดจะเลือกใช้มะม่วงทั้ง 2 แบบแต่แบบสุกใช้แบบเหลืองกรอบ ปอกเปลือกล้างทำความสะอาดไว้แล้ว วิธีเก็บผักหรือผลไม้ เพื่อเตรียมปรุงรับประทานให้สดอยู่นั้น หรีดขอแนะนำให้เก็บในภาชนะที่เหมาะสม เช่นลักษณะพื้นกล่องเป็นลอนๆ จะมีคุณสมบัติช่วยกรองหยดน้ำที่ยังค้างอยู่กับผักผลไม้ หรือไอน้ำที่เกิดจากความเย็นเมื่อนำเข้าตู้เย็น ภาชนะแบบนี้จะทำให้ผักผลไม้ไม่ช้ำเร็ว ไม่เน่าเร็วค่ะ เอาล่ะค่ะมาทำไปพร้อมๆ กันเลยนะคะ - มะม่วงเราก็นำมาสับเป็นเส้นๆ พักไว้ก่อน จากนั้นเตรียมชามผสม เพื่อทำน้ำยำ ประกอบไปด้วยน้ำมะนาว น้ำเชื่อม และน้ำปลา คนให้เข้ากันชิมรสชาติสักนิดนึงก่อน - จากนั้นเติมกุ้งแห้ง พริกขี้หนูซอย หอมแดงซอยและถั่วแมคคาดิเมียบุบหยาบ - จากนั้นนำมะม่วงที่ซอยไว้ใส่ลงไป ตามด้วยหนังปลาแซลมอนทอดกรอบบีบให้เป็นชิ้นเล็กสักนิดนึง และคลุกเคล้าให้เข้ากัน ตักใส่จานเตรียมเสิร์ฟ ตกแต่งด้วยใบสาระแหน่ และหนังปลาสัก 2-3 ชิ้น “ยำมะม่วงหนังปลาแซลมอนกรอบ” สุดแซบก็เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ หรีดมีวิธีที่ง่ายกว่านั้นอีกค่ะ ซึ่งจะเหมาะมากสำหรับท่านที่ยังไม่ถนัดในการทำอาหาร แต่มีใจรักในการทำอาหาร และทำให้ชีวิตง่ายขึ้นมากๆ เลยค่ะ แค่เพียงมีซอสปรุงรสเทสตี้ขวดเดียว ก็สามารถปรุงเมนูอร่อยๆ ได้เป็นสิบๆ เมนูเลยล่ะค่ะ วันนี้หรีดแนะนำเป็นซอสส้มตำ ที่จะนำมาปรุงเป็น ยำมะม่วงหนังปลาแซลมอน คลุกเคล้าให้เข้ากัน เติมด้วยแมคคาดิเมีย และหนังปลาแซลมอนกรอบ ก็จะได้ยำมะม่วงหนังปลาแซลมอนกรอบซอสส้มตำ รับประกันค่ะว่าได้รสชาติไทยแท้แน่นอนค่ะ และอาหารไทยไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปแล้วนะคะ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤษภาคม 01, 2013, 10:04:58 AM ปลากะพงผัดขิงสด
(http://variety.teenee.com/foodforbrain/img7/149824.jpg) ส่วนผสมปลากะพงผัดขิงสด ปลากะพง 1 ตัว พริกชี้ฟ้าแดง-เขียว 4 เม็ด กระเทียม 12 กลีบ ขิงสด 1 แง่ง ต้นหอม 8 ต้น น้ำปลาดี พริกไทยป่น น้ำมันพืช วิธีทำปลากะพงผัดขิงสด 1. ปลากะพงล้างสะอาดแล้วแล่เอาแต่เนื้อ หั่นแฉลบเป็นชิ้นโตๆ 2. ต้นหอมล้างแล้วหั่นเป็นท่อนๆ ขิงปอกเปลือกหั่นเป็นเส้นฝอยๆ ละเอียด แช่น้ำไว้ 3. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืช พอน้ำมันร้อนจัดได้ที่นำชิ้นปลาลงทอดให้สุก ใช้ตะหลิวตักชิ้นปลาไว้ข้างๆ กระทะ ใส่กระเทียมลงเจียวให้เหลืองหอมแล้วใส่ขิงซอยลงผัดกับกระเทียมให้สุกหอม จึงค่อยเขี่ยชิ้นปลาลงผัดเคล้าเข้าด้วยกัน เติมน้ำสะอาดสัก ½ แก้ว 4. เหยาะน้ำปลาดีเล็กน้อย พอน้ำเดือดก็ใส่ต้นหอมและพริกแดงหั่นเป็นเส้นๆ ตามยาวลงผัดคลุกเคล้าเข้าด้วยกัน จากนั้นก็ตักใส่จานโรยหน้าด้วยพริกไทยป่นก่อนเสิร์ฟ ขอบคุณบทความจาก lonleam หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มิถุนายน 10, 2013, 10:11:06 AM ***วิธีทำมิโซะซุป***
ส่วนผสม -สาหร่ายแห้ง(คอมบุ) ½ ช้อนโต๊ะ -เต้าหู้อ่อนญี่ปุ่น 100 กรัม -น้ำซุปปลาแห้ง 400 กรัม -มิโซะ( ซุปเต้าเจี้ยวเข้มข้น ) ½ ช้อนโต๊ะ -ต้นหอมญี่ปุ่นซอยตามขวาง 2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ 1.นำสาหร่ายแห้งแช่น้ำจนพองตัว แล้วบีบเอาดน้ำออก หากชิ้นใหญ่เกินไปอาจตัดให้เล็กลงได้ ใส่ถ้วยพักไว้ 2.หั่นเต้าหู้อ่อนเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าขนาดประมาณ 1x1 ซม. ใส่ถ้วยพักไว้ 3.ใส่น้ำซุปปลาแห้งลงในหม้อนำขึ้นตั้งไฟกลางจนเดือด นำมิโซซุปใส่ถ้วยแล้วตักน้ำซุปปลาแห้งนิดหน่อยลงไปคนให้มิโซละลายดีจากนั้นเทใส่หม้อซุปคนให้เข้ากันดี 4.พอน้ำเดือดใส่สาหร่ายลงไป พอน้ำเดือดอีกครั้งใส่เต้าหู้อ่อนลงไป พอน้ำเดือดอีกครั้งลดไปลงเหลืออ่อน ต้มต่ออีกประมาณ 5 นาที ชิมรสหากไม่เค็มเพิ่มมิโซะ อีกก็ได้ 5.ตักใส่ถ้วยโรยต้นหอมซอยเสิร์ฟร้อนๆ หมายเหตุ : น้ำซุปปลาแห้ง ใช้ปลาโอแห้งของญี่ปุ่น(มีขายตามซุปเปอร์มาเก็ต)กะปริมาณที่พอเหมาะต้มในน้ำเดือดสักพักก่อนก็ได้ ไม่ต้องทิ้งเนื้อปลาสามารถใส่ส่วนผสมอื่น ๆ ตามลงไปได้เลย การเพิ่มคุณค่าให้มิโซะซุป อาจใส่ส่วนผสมอื่น ๆ ลงไปด้วยก็ได้ เช่น เห็ดเข็มทอง ปูอัด มันเทศ หน่อไม้ฝรั่งและผักอื่น ๆ ตามชอบ ที่มา : food.thaibizcenter.com/by สาระแห่งสุขภาพ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มิถุนายน 10, 2013, 10:19:44 AM น้ำเงี้ยว
น้ำเงี้ยว หรือ น้ำงิ้ว เนื่องจากมีส่วนประกอบคือดอกเงี้ยวหรือดอกงิ้ว เป็นอาหารภาคเหนือของประเทศไทย ที่จะมีพริกแกงที่เป็นเอกลักษณ์ของทางภาคเหนือ มักจะมีรสเค็ม เผ็ด มักจะใช้รับประทานกับ ขนมจีน (ขนมเส้น) หรือเส้นก๋วยเตี๋ยว (http://www.nextsteptv.com/khongdee/wp-content/uploads/2013/05/KDT_น้ำเงี้ยว_lg1.jpg) น้ำเงี้ยวคือน้ำแกงรสชาติเค็มเผ็ด มีรสเปรี้ยวจากมะเขือเทศ สำหรับใส่ขนมจีน หรือ เส้นก๋วยเตี๋ยว เช่นเดียวกับน้ำก๋วยเตี๋ยว หรือขนมจีนน้ำยา ซึ้งชาวไทใหญ่มักจะเรียกน้ำเงี้ยวนี้ว่า น้ำหมากเขือส้ม ซึ่งถ้าใส่ขนมจีน ก็เรียกว่า เข้าเส้นน้ำหมากเขือส้ม คำว่า น้ำเงี้ยว นี้มีผู้เรียกว่า น้ำงิ้ว เนื่องจากในการปรุงนั้นใช้เกสรดอกงิ้วชนิดดอกแดงตากแห้ง ใส่ลงไป ซึ้งหมายถึงดอกเงี้ยวเป็นส่วนประกอบสำคัญในการปรุง (http://www.nextsteptv.com/khongdee/wp-content/uploads/2013/05/KDT_น้ำเงี้ยว_a.jpg) น้ำเงี้ยวเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมในหมู่ชาวล้านนามาแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบัน น้ำเงี้ยวมักจะมีการปรุงจัดเลี้ยงในงานต่าง ๆ ถือว่าเป็นอาหารมงคลอย่างหนึ่งของชาวล้านนา (http://www.nextsteptv.com/khongdee/wp-content/uploads/2013/05/KDT_น้ำเงี้ยว_b.jpg) เรียกขนมจีนว่า ขนมเส้นหรือข้าวเส้น นิยมขนมจีนน้ำเงี้ยวที่มีดอกงิ้วเป็นองค์ประกอบสำคัญ กินกับแคบหมูเป็นเครื่องเคียง เดิมที ขนมจีนไม่ได้รับประทานพร้อมกับน้ำเงี้ยว แต่เพิ่งนำประยุกต์มารับประทานพร้อมกันไม่นานมานี้ น้ำเงี้ยวเป็นอาหารของชาวเงี้ยวซึ่งเป็นกลุ่มไทใหญ่ที่อาศัยอยู่ในรัฐฉาน ประเทศพม่า (http://www.nextsteptv.com/khongdee/wp-content/uploads/2013/05/KDT_น้ำเงี้ยว_c.jpg) ต่อมาอพยพหนีการสู้รบกับรัฐบาลพม่า จึงเข้ามาอาศัยกระจายทั่วไปทุกจังหวัดภาคเหนือ แต่ที่เป็นชุมแหล่งใหญ่คือจังหวัดแพร่ เนื่องจากในยุคนั้นมีการสัมปทานพื้นที่การทำป่าไม้ให้กับบริษัทจากอังกฤษ มีความต้องการแรงงานมาก ชาวเงี้ยวจึงปักหลักอาศัยเป็นชุมชนใหญ่ที่นี่ ปัจจุบันขนมจีนน้ำเงี้ยวนิยมรับประทานควบคู่ ผักนานาชนิด, แคบหมู, ส้มตำ,เนื้อทอด หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มิถุนายน 18, 2013, 10:15:33 AM ซูชิสัญชาติไทย
(https://fbcdn-sphotos-g-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash4/p480x480/253122_508466672500474_2052873589_n.jpg) ส่วนผสมน้ำพริกกะปิ - กะปิ - กระเทียม ปอกเปลือกให้เรียบร้อย - พริกขี้หนู - มะเขือพวง เด็ดขั้ว นำไปล้างน้ำให้สะอาด - น้ำปลา - น้ำตาลปี๊บ - มะนาว เครื่องปรุง และ ส่วนผสมในการทำ ‘ซูชิสัญชาติไทย’ - ข้าวมันปู - ปลาทู - ผักต่างๆ ตามชอบ เช่น ถั่วฝักยาว แครอท มะเขือยาว เป็นต้น - ผักชะอม - ผักบุ้งจีน - ไข่ไก่ ขั้นตอนการทำน้ำพริกกะปิ - ตำกระเทียม พริกขี้หนู(ใส่ตามความชอบ) ใส่มะเขือพวง จากนั้น ใช้สากบุบพอแตก ก่อนจะใส่กะปิลงไป - ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ และมะนาว คนให้ส่วนผสมทั้งหมด เข้ากันดี ชิมรสตามต้องการ ก่อนตักใส่ถ้วย ขั้นตอนการทำซูชิสัญชาติไทย - นำผักต่างๆ ที่เตรียมไว้ หั่นเป็นท่อนแนวยาว ล้างให้สะอาด ชุบไข่ เพื่อนำไปทอด เมื่อสุกจึงตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน แต่ถ้าเป็นมะเขือยาว ก็ให้หั่นเป็นแว่น - นำผักชะอมที่เด็ดเรียบร้อยแล้ว ผสมกับไข่ไก่ที่เตรียมไว้ทอด เป็นไข่ชะอม เมื่อสุกได้ที่แล้ว ก็นำมาตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม - นำปลาทูที่เตรียมไว้ ล้างให้สะอาด นำไปชุบไข่ จากนั้นนำไป ทอดให้สุก แกะเอาแต่เนื้อปลาทู พักไว้ - เลือกผักบุ้งจีน เฉพาะส่วนใบ ไปลวกในน้ำเดือด พักไว้ - นำข้าวมันปูที่เตรียมไว้มาปั้นให้เป็นก้อนสี่เหลี่ยม จากนั้น นำ ส่วนผสมที่เตรียมไว้ไม่ว่าจะเป็นผักทอด ปลาทูทอด ไข่ชะอม หรือมะเขือชุบไข่ วางไว้ด้านบน ผูกด้วยใบผักบุ้ง - จัดใส่จาน เสิร์ฟคู่น้ำพริกกะปิ เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กรกฎาคม 25, 2013, 07:41:57 AM ***ยำเห็ดรวม***
ส่วนผสม(สำหรับ 2-3 ท่าน) 1. เห็ดฟาง 1 ถ้วย 2. เห็ดชิเมจิ 1 ถ้วย 3. เห็ดนางรม 1 ถ้วย (ดอกอ่อน) 4. ต้นหอม 1 ต้น 5. คื่นช่าย 1 ต้น 6. มะเขือเทศ 1/2 ลูก 7. หอมใหญ่ 1/2 ลูก 8. พริกขี้หนูแดง 10 เม็ด 9. น้ำมะนาว 1 1/2 ชต. 10. น้ำปลา 1 ชต. 11. น้ำเชื่อม 1 ชต. (หรือน้ำตาลทราย 1 ชช.) วิธีทำ 1. ลวกเห็ดทุกชนิดไม่ต้องสุกมาก 2. สับพริกให้ละเอียด จากนั้นหั่นต้นหอม คื่นช่าย เป็นท่อนๆ 3. ซอยหอมใหญ่ตามยาว และมะเขือเทศหั่นตามยาวเช่นเดียวกัน 4. เตรียมชามผสมใส่ พริก น้ำปลา น้ำตาล น้ำมะนาว ผสมให้เข้ากัน 5. เติมเห็ด และผักต่างๆลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากันดี เป็นอันเสร็จ พร้อมเสิร์ฟ ปล. อาจเพิ่มเติมวัตถุดิบที่ท่านชอบ เช่น ถั่วง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ กุ้ง แครอท ฯลฯ และรสชาติก็ปรับแต่งให้เป็นไปตามที่ท่านชอบ ที่มา : foodtravel.tv/by สาระแห่งสุขภาพ (https://fbcdn-sphotos-d-a.akamaihd.net/hphotos-ak-frc1/p480x480/1000869_519133258165432_1619559970_n.jpg) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ สิงหาคม 01, 2013, 01:07:04 PM ฉู่ฉี่กุ้ง
(http://i181.photobucket.com/albums/x288/kanlaya26/chii11.jpg) เครื่องปรุง ส่วนผสมฉู่ฉี่กุ้ง -กุ้งแกะเปลือกออกแล้ว 10 ตัว -น้ำพริกแกงเผ็ด 3 ช้อนโต๊ะ -น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ -น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ -ใบมะกรูดซอยละเอียด 2 ใบ -กะทิ 400 กรัม -พริกชี้ฟ้าแดงหั่นตามยาว 1 เม็ด -ผักชีหรือใบโหระพา (ไว้ตกแต่ง) -น้ำมันพืช วิธีทำฉู่ฉี่กุ้ง -เทน้ำมันใส่กระทะและนำไปตั้งไฟ พอน้ำมันร้อนนำน้ำพริกแกงเผ็ดลงไปผัด เติมกะทิ ผัดจนเครื่องแกงกับกะทิเข้ากัน จนกะทิแตกมัน -ใส่กุ้งลงไปผัด จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาล -ผัดจนเนื้อกุ้งสุก (อย่าให้สุกเกิน เดี๋ยวเนื้อจะแข็งค่ะ) แล้วจึงเติมใบมะกรูดลงไปผัดต่อ -ตักใส่จาน แต่งหน้าด้วยใบมะกรูดซอย พริกชี้ฟ้าหั่นเฉลียง ผักชีหรือใบโหระพา ตกแต่งพองาม เสริฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ สิงหาคม 04, 2013, 11:13:54 AM (https://fbcdn-sphotos-g-a.akamaihd.net/hphotos-ak-frc3/s403x403/999993_527036604041764_557523796_n.jpg) สาระแห่งสุขภาพ ***เต้าหู้ตุ๋นน้ำแดง เพื่อระบบขับถ่าย*** ส่วนผสม 1. เต้าหู้แบบนิ่ม (หรือแบบอื่นตามชอบ) 2. ผักต่างๆ ที่ใช้ แครอท พริกหวานเขียว/แดง บร็อคโคลี่ เห็ดหอม ข้าวโพดอ่อน เห็ดหูหนูขาว ขึ้นฉ่าย ฯลฯ หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ หรือลูกเต๋าก็ได้ 3. แป้งมัน หรือแป้งอเนกประสงค์ 4. ซีอิ๊วขาว 5. ซีอิ๊วดำ 6. ซอสปรุงรส 7. น้ำตาลทราย 8. น้ำมันงา วิธีการทำ 1. ทอดเต้าหู้ให้กรอบนอกนุ่มใน สะเด็ด/ซับน้ำมันให้แห้ง 2. เริ่มทำน้ำราดโดยตั้งน้ำให้เดือด ใส่ผักต่างๆ ลงไป 3. ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำ ซอสปรุงรส น้ำตาลทราย และน้ำมันงา ชิมให้ได้รสกลมกล่อมตามต้องการ 4. รอให้เดือดอีกครั้ง ใส่แป้งมันที่ผสมน้ำแล้ว คนให้เข้ากันเร็วๆ พอให้น้ำข้นขึ้นเล็กน้อย 5. นำน้ำแดงมาราดเต้าหู้ทอด กินได้เลย 6. ตกแต่งหน้าด้วยขึ้นฉ่าย ที่มา : okthaifood.com/by สาระแห่งสุขภาพ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 10, 2013, 05:23:18 PM วิธีทำสละลอยแก้ว
วิธีทำสละลอยแก้ว วันนี้มาเสนอของหวานด้วยผลไม้ไทย ๆ ที่รสชาติเปรี้ยว ๆ หวาน ที่เห็นก็คือ สละ คุณประโยชน์ของสละมีมากมายเลยคะ ทั้งวิตามินซี แคลเซี่ยม และฟอสฟอรัสเพื่อน ๆ คงจะเห็นนะคะ ว่าลงสูตรการทำลอยแก้วไว้แล้วยังจะเอามาลงอีก เลยขออธิบายเพิ่มหน่อยนะคะ ว่า การทำลอยแก้วของผลไม้แต่ละชนิดไม่เหมือนกัน ต้องดูลักษณะของผลไม้นั้นด้วยคะ เท่าที่ทำมาทั้งลูกตาล กระท้อน ก็มีวิธีที่ไม่เหมือนกัน สละนี่ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีคะ อย่างพวกเงาะ ส้ม มะปราง ลำไย นั้นเวลาทำลอยแก้วไม่ต้องใช้เทคนิคมากมายแค่ปอกเปลือกเอาน้ำเชื่อมใส่ ก็เป็นลอยแก้ว หรือหวานเย็นได้แล้ว ยัยคนนี้เอาอะไรมาเนี่ย ยั่วกันจริง ๆ ....แหมก็ทำแล้วมันอร่อยนี่คะ ก็เลยอดใจไม่ไหวเอาสูตรมาฝากซะหน่อย เพราะไม่ยากจริง ๆ มีทั้งวิธีปอกเปลือกที่แสนง่าย วิธีกว้านเม็ด ที่แสนสนุก ตามมาดูกัน กลเม็ดเคล็ดไม่ลับบอกกันแบบหมดไส้ หมดพุง ไม่มีกั๊ก อิอิ ถ้าพร้อมกันแล้ว ก็เตรียมตัวได้เลยนะคะ มือขวาถือมีด มือซ้ายส้อมไว้จิ้มชิมรสกันก่อนนะคะ (http://www.bloggang.com/data/baanbaitong/picture/1242401144.jpg) ส่วนผสม 1. สละ 1 กิโล ครึ่ง 2. น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง 3. น้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง 4. เกลือ 1-2 ช้อนชา ขั้นเตรียมการ ก่อนอื่นเราคงรู้กันนะคะ ว่าลูกสละนั้น มีหนามแหลมมาก เวลาจะปอกเปลือกก็ต้องฝ่าขวากหนามถึงจะได้อร่อยสมใจ (http://www.bloggang.com/data/baanbaitong/picture/1242401202.jpg) เรามาดูวิธีกำจัดเสี้ยนหนาม กันก่อนนะคะ เริ่มจากแกะลูกสละออกจะพวงก่อน เอาใส่ตะกร้าพลาสติก ไว้แบบนี้คะ ทีนี้ก็จัดการเช็ค ๆๆๆๆๆๆ เอ๊ย......เขย่า ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ให้เสี้ยนหนามที่มันคอยทิ่มแทงหัวใจ ทิ่มแทง เอ๊ย ..สีกันเอง แล้วหลุดลอดช่องว่างของตะกร้าออกไปให้หมดก่อน (http://www.bloggang.com/data/baanbaitong/picture/1242401231.jpg) ทีนี้เราก็จะได้ลูกสละไร้เสี้ยนหนามแล้ว เห็นไหมง๊าย ง่าย (http://www.bloggang.com/data/baanbaitong/picture/1242401262.jpg) จัดการปอกเปลือกแบบสบายมือกันได้เลยคะ (http://www.bloggang.com/data/baanbaitong/picture/1242401294.jpg) เริ่มขั้นตอนคว้าน ใช้ปลายมีดเสียบเข้าด้านขั้วของลูกสละก่อน เริ่มจากด้านแบนที่เนื้อบางติดเมล็ด ให้ปลายมีดลึกประมาณครึ่งนึง เลยกึ่งกลางเมล็ดไปเล็กน้อย ค่อย ๆ หมุนมีดแล้วเลาะเนื้อออกจากเมล็ด จนครบรอบ (http://www.bloggang.com/data/baanbaitong/picture/1242401328.jpg) ทีนี้ก็กลับด้านเอามีดเสียบ แล้วก็หมุนๆๆ จนครบรอบ (http://www.bloggang.com/data/baanbaitong/picture/1242401371.jpg) แล้วก็เอาปลายมีด หรือไม้แหลม ๆ ดันเข้าทางขั้วของลูก เพื่อเอาเมล็ดออกแค่นี้ก็เรียบร้อย (http://www.bloggang.com/data/baanbaitong/picture/1242401448.jpg) ปอกสละแกะเม็ดออกให้เรียบร้อย ล้างด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด เอาขึ้นไว้ให้สะเด็ดน้ำ (http://www.bloggang.com/data/baanbaitong/picture/1242401508.jpg) ส่วนถ้วยนี้ ใครจะเอาไปดูดเล่นก็ได้นะคะ คริ คริ (http://www.bloggang.com/data/baanbaitong/picture/1242401563.jpg) - ผสมน้ำตาลทรายกับน้ำสะอาด ตั้งไฟ พอเดือดยกลง ขั้นตอนนี้ไม่ได้ถ่ายภาพคะ วิธีทำที่ 1 เก็บไว้กินได้นาน ๆ - พอน้ำเชื่อมเดือดใส่สละที่เตรียมไว้ ใส่เกลือเล็กน้อย ชิมรสให้ได้ตามต้องการ (http://www.bloggang.com/data/baanbaitong/picture/1242401679.jpg) - ต้มพอเดือดอีกครั้ง (http://www.bloggang.com/data/baanbaitong/picture/1242401756.jpg) ยกลงทิ้งไว้ให้เย็น เสริฟใส่น้ำแข็ง หรือนำเข้าตู้เย็น เสร็จแล้วคะ ถ้วยนี้เป็นวิธีที่ 1 ถ้าใครชอบแบบเนื้อสละนิ่ม ๆ หน่อย (http://www.bloggang.com/data/baanbaitong/picture/1242401855.jpg) วิธีทำที่ 2 แบบลวก เรียกให้หรูๆก็ต้องบอกว่าพาสเจอร์ไรส์ - เอาลูกสละลงเรียงใส่กล่องรอไว (http://www.bloggang.com/data/baanbaitong/picture/1242401904.jpg) เอาน้ำเชื่อมที่เดือดแล้ว ใส่เกลือนิดหน่อย กำลังร้อน ๆ นะคะ เทใส่ในกล่อง ให้น้ำพอท่วมเล็กน้อย (http://www.bloggang.com/data/baanbaitong/picture/1242401942.jpg) รีบปิดฝา ลงแช่น้ำเย็นทันที พอน้ำในกะละมังร้อน เราก็เปลี่ยนน้ำ ประมาณ 2 หนคะ (http://www.bloggang.com/data/baanbaitong/picture/1242401977.jpg) ถ้วยนี้วิธีที่ 2 เนื้อจะกรอบ สีสวยกว่า วิธีแรกคะ โดยส่วนตัวชอบวิธีนี้มากกว่า เพราะได้เนื้อสละที่กรอบ ยิ่งเอาแช่ช่องฟิต ให้แข็ง ก่อนทานเอาออกมาวางข้างนอกแป๊ปนึง อร่อยมาก ๆ ทำไว้เป็นอาทิตย์รสชาติยังไม่เปลี่ยนเลยคะ (http://www.bloggang.com/data/baanbaitong/picture/1242402060.jpg) เคยทานที่ร้านอาหาร เค้าใส่ถ้วยนิดเดียวในนั้นมี 4 ลูก ถ้วยละ 25 บาท ทำทานเองสะใจจริง ๆ ซื้อสละมาโลละ 30 บาท ได้เยอะแยะเลยคะ แถมรสชาติ เปรี้ยวหวานถูกใจจริง ๆ ทำเสร็จพอน้ำเชื่อมเย็นแล้ว เอาเข้าช่องฟิตให้เป็นน้ำแข็งเลยนะคะ มันจะไม่แข็งมาก เพราะในน้ำเชื่อมมีน้ำตาลเป็นส่วนผสม เวลาทานเอาออกมาวางในอุณหภูมิห้องสักพัก ก็ทานได้อร่อยแล้วคะ (http://www.bloggang.com/data/baanbaitong/picture/1242402160.jpg) ขอขอบคุณข้อมูล จาก www.bloggang.com (http://www.bloggang.com) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤศจิกายน 12, 2013, 11:32:32 AM เต้าคั่ว
มารู้จัก เต้าคั่ว หรือสุราษฎร์ เรียก ผักบุ้งไต่ราว ส่วนผสม ประกอบด้วยผักบุ้ง ถั่วงอก เต้าหู้ กุ้ง แป้งโกกิ หมูแดงติดมัน หูหมู เส้นหมี่ พริกสด น้ำส้มสายชู น้ำตาลทราย น้ำตาลปี๊บ ถั่วง วิธีทำ 1. ลวกผักบุ้งกับถั่วงอก หั่นแตงกวาเป็นแว่น หั่นครึ่งไข่ต้มยิ่งเป็นไข่ยางมะตูมอร่อยมาก 2. นำเต้าหู้มาทอดพอเหลืองยกลง แล้วนำกุ้งสดมาชุบแป้งโกกิ ทอดในน้ำมันให้เหลืองกรอบ เนื้อหมูกะหูหมูลวกให้สุก 3. เส้นหมี่นำมาลวกพอนิ่ม เอาขึ้นพักไว้ 4. เคี่ยวน้ำตาลทรายผสมน้ำตาลปี๊บจะได้เป็นน้ำเชื่อมเต้าคั่ว 5. น้ำจิ้ม นำพริกสดตำใส่น้ำส้มสายชู เป็นพริกน้ำส้ม ส่วนผสมทั้งหมดเวลาจะรับประทานให้นำเส้นหมี่มาใส่จาน ใส่แตงกวา ถั่วงอก ผักบุ้งที่เตรียมไว้วางบนเส้นหมี่ ใส่กุ้งทอด เต้าหู้ทอดและไข่วางลงไป(โดยผ่าซีกจะดูสวยดี) แล้วราดด้วยน้ำเชื่อม โรยถั่วง คลุกให้เข้ากัน เวลารับประทานใส่พริกน้ำส้ม รสชาดเปรี้ยว หวานพอดี (http://0.static-atcloud.com/files/comments/100/1003844/images/1_display.jpg) (http://0.static-atcloud.com/files/comments/100/1003850/images/1_display.jpg) (http://travel.sanook.com/story_picture/b/01032_009.jpg) (http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2008/01/D6235132/D6235132-0.jpg) เต้าคั่ว ส่วนผสม เส้นหมี่ขาวลวก 140 กรัม หมูต้มสุกหั่นบางๆ 20 กรัม ไข่ต้ม 49 กรัม ถั่วงอกลวก 41 กรัม ผักบุ้งหั่นเป็นท่อนเล็กๆลวก 32 กรัม แตงกวาหั่นบางๆ 49 กรัม เต้าหู้ขาวชนิดแข็งทอด 27 กรัม ส่วนผสมกุ้งทอด กุ้งขนาดเล็ก 20 กรัม แป้งข้าวเจ้า 6 กรัม น้ำปูนใส 29 กรัม เกลือ 1 กรัม วิธีทำกุ้งทอด 1. นำแป้งข้าวเจ้า น้ำปูนใส เกลือ ผสมให้เข้ากัน 2. นำกุ้งชุบแป้งที่เตรียมไว้ ส่วนผสมน้ำจิ้ม น้ำตาลปีบ 100 กรัม น้ำ 100 กรัม น้ำส้มสายชู 19 กรัม เกลือ 4 กรัม พริกแห้งเม็ดใหญ่ 1 กรัม กระเทียมซอย 8 กรัม น้ำปลา 11 กรัม ถั่วงคั่วบุบ 77 กรัม วิธีทำ 1. ผสมพริกชี้ฟ้าโขลกกับน้ำตาลปีบ น้ำ น้ำส้มสายชู เกลือ เคี่ยวด้วยไฟอ่อนให้ข้นเป็นยางมะตูม 2. ยกลงพักให้เย็น ใส่ถั่วง น้ำหนัก:รวม 388 กรัม รับประทานได้ 4 คน (http://3.bp.blogspot.com/_qkzI8uCil88/RrvmOkHT0mI/AAAAAAAAAF0/R5wd1ar-yJA/s1600/027.jpg) เวลากิน คลุกให้ทั่ว แล้วเอาเข้าปาก เคี้ยวแล้วกลืน 555 หรอย.... หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ธันวาคม 20, 2013, 10:20:52 PM พล่าปลาหมึก
ส่วนผสม -ปลาหมึก 3 ตัว ตัวขนาดฝ่ามือวัดพร้อมหนวดก่ะเอาสักครึ่งโลได้ เลือกที่ตาใสๆๆ ไม่เหม็น ตัวไม่ผอมหรือแห้ง อย่าเลือกตาแตก ตาโบ๋ -หอมทอดกรอบ 2 ช้อนโต๊ะ มีขายสำเร็จแล้ว เก็บไว้ได้นานน้ะ -หอมแดงสอย 3-4 หัว สอยบางๆ สั้นๆ -ใบสาระแหน่ ล้างให้สะอาด พึ่ง สะเด็ดน้ำ ใส่ให้หอม สวยงาม เหมือนคนทำ อิ อิ -ตะไคร้ สัก 5-8 ต้น ลอกออกจนอ่อน ซอยๆบางๆ -ถั่วง หรือ อัลมอนล์ หรือ เม็ดมะม่วงหิมพาน ถ้าเขียนผิด เดี๋ยวมาแก้น้ะ เลือกตามฐานะ -น้ำปลา หรือจะใส่เป็น ซอลซีอิ๋วขาว สูตร1 -มะนาว สัก 2-3 ลูก เอาไว้ดับคาวปลาหมึกด้วย -เกลือ เล็กน้อย -พริกแห้งเม็ดเล็ก แล้วแต่ชอบเผ็ดไม่เผ็ด 5-8 เม็ด ล้างให้สะอา -น้ำพริกเผา เลือก หวานหอม เผ็ดกลางๆๆ ดมก็รู้น้ะ วิธีล้างปลาหมึก ล้างน้ำก่อนสัก 2 ครั้ง ลอกเปลือกมัน พร้อมเอาตามันออก อย่าให้หมึกมันแตก ทำบ่อยๆจะรู้เอง ตัดให้กว้างๆหน่อย อย่าลืมเอาปากมันออกด้วย อยู่ตรงกลางหนวด ใช่ไหมเน้อ ล้างน้ำเกลือ สเด็ดน้ำ บีบมะนาวลงไปคลุกให้เท่าเบาๆ ทิ้งไว้ไปทำอย่างอื่นต่อ / ดับกลิ่นคาว แต่ เปลืองมะนาวเน้อะ หน้ามะนาวแพงก็อย่าไปกินมันเลย วิธีทำ -หาชามใหญ่ มาใส่ ตะไคร้สอยและหอมแดงซอย ใส่พริกแห้ง ฉีกมันครึ่งๆ รอก่อน -เอาน้ำใส่หม้อต้ม หันมาหั่นปลาหมึกที่ตาโบ๋แล้วไร้ปาก อิ อิ น้ำต้องเดือดน้ะต่ะเอง โรยเกลือลงไปหน่อย ใส่ปลาหมึกลงไป ตอนน้ำ เดือด นับ1-15 พอ อย่าเร็วและอย่าช้า ดับไฟ ตักขึ้นมาสเด็ดน้ำ ทำแบบนี้ปลาหมึกไม่เหนียว -นำปลาหมึกร้อนๆใส่ในชามตะไคร้ และหอมแดง พริกแห้ง ที่รออยู่ ความร้อนทำให้ทุกอย่างมันสุก นิดๆ -ใส่น้ำพริกเผา สัก2-3 ช้อนโต๊ะ คลุก โดยใช้กำลังภายในหน่อย มันจะเสร็จไหมเนี่ย -บีบมะนาว คลุกก่อน แล้วชิม ชอบแบบไหน เอา สองรส หวานน้ำพริเผากับเปรี๊ยวมะนาว พอได้แล้ว จะ ใส่ซอลสูตร 1 ตามชอบ -ได้ คลุกเคล้า แล้ว ชิม สามรสไหม? โรยถั่วตามฐานะลงไป ต่อด้วยหอมแดงกรอบ โรยตัวด้วยสาระแหน่ โรยให้สวยน้ะ -ชิม ครบหวาน มัน เค็ม เผ็ด ไหม ที่ไม่ให้ใส่น้ำปลา บางทีมันคาวน้ำปลา สู้ใส่เป็นเกลือดีสุด หรือซอล สูตร1 ลองดู -ไม่จำเป็นต้องใส่น้ำตาลเลย เห็นไหม ประหยัด ตายช้าลงด้วย ปล.ไม่มีรูปเพราะเอาไปกินหมดแล้ว หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มีนาคม 05, 2014, 09:45:27 PM (https://fbcdn-sphotos-h-a.akamaihd.net/hphotos-ak-frc3/t1/1977385_601763386565653_270727009_n.jpg)
เวลาเจ้าตัวน้อยกลับจากโรงเรียน คุณแม่ลองทำของหวาน อย่าง "ไอศครีม"อทานเล่นง่ายๆ ที่ได้รสชาติ วิตามินจากผลไม้สดๆ ดูซิคะ รับรองเจ้าตัวเล็กต้องเรียกร้องให้ทำบ่อยๆ แน่นอนเลยคะ เพราะเป็นไอศครีมที่ไม่เหมือนใครละคะ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มีนาคม 05, 2014, 10:32:47 PM ;Dsalmon ::)
ส่วนผสม • เนื้อปลาแซลมอนสด 2 ขีด ส่วนผสมน้ำจิ้มซีฟู้ด • พริกขี้หนู 20 เม็ด • กระเทียมสด 10 กลีบ • รากผักชี 2 ราก • น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ • น้ำปลา 5 ช้อนโต๊ะ • น้ำมะนาว 8 ช้อนโต๊ะ • น้ำซุปไก่ 2 ช้อนโต๊ะ • หัวไชเท้าและแครอทขูดฝอย 1 ช้อนโต๊ะ • ใบสะระแหน่ 5 - 6 ใบ • พริกชี้ฟ้าแดง 1 เม็ด สำหรับตกแต่งจาน วิธีทำ1. นำเนื้อปลาแซลมอนที่แช่แข็งไว้ออกมาหั่นเป็นชิ้นขนาดความหนาประมาณครึ่งเซนติเมตร มาหั่นเรียงไว้ในจาน 2. จัดการกับน้ำจิ้มซีฟู้ดที่จะช่วยให้แซลมอนเกิดอาการจี๊ดจ๊าด โดยการเอาพริกขี้หนู กระเทียม และรากผักชีไปปั่นหรือตำให้ละเอียด แล้วนำมาปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาล และเพิ่มรสชาติกลมกล่อมให้กับน้ำจิ้มซีฟู้ดด้วยน้ำซุปไก่ 3. นำน้ำจิ้มซีฟู้ดที่ได้นี้มาราดลงบนแซลมอนที่จัดวางไว้ในจาน จัดแต่งจานให้สวยงามด้วยเครื่องเคียงอย่างหัวไชเท้าและแครอทขูดฝอย กระเทียมสด และพริกชี้ฟ้าแดง โรยหน้าด้วยใบสะระแหน่ก็เป็นอันเสร็จ กลายเป็นแซลมอนจี๊ดจ๊าดที่เป็นกับแกล้มได้อย่างดีทีเดียวเลยละ ที่มา - happyfoodathome.blogspot.com หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มีนาคม 09, 2014, 08:08:55 PM น้ำพริกเผากากหมู
(http://www.siamdara.com/Picture_Girl/100625hs670220.jpg) ส่วนผสม กากหมูเจียวใหม่ๆ 1 ถ้วยตวง พริกขี้หนูแห้งคั่ว 100 กรัม หอมแดงเผา 10 หัว กระเทียมเผา 10 หัว น้ำส้มสายชูหรือน้ำมะนาว 5 ช้อนโต๊ะ (เพิ่มหรือลดตามชอบ) น้ำมันหมูหรือน้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ 1. โขลกพริกขี้หนูแดงแห้งคั่วให้ละเอียด ถ้าต้องการให้ละเอียดเร็วขึ้นให้ใส่เกลือโขลกพร้อมกัน 2. ใส่หอมเผา กระเทียมเผา โขลกให้เข้ากัน 3. ใส่กากหมูเจียวใหม่ๆ ลงโขลกรวมกันจนเข้ากันดี 4. ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย น้ำปลา น้ำส้มสายชู หรือจะใส่น้ำมะนาวแทนก็ได้ 5. นำกระทะตั้งไฟใส่น้ำมันหมู ถ้ากลัวอ้วนใส่น้ำมันพืชแทน หรือไม่ใส่ก็ได้ เพราะในกากหมูก็มีน้ำมันอยู่แล้ว นำส่วนผสมทั้งหมดลงผัดให้หอม ชิมดู ให้เปรี้ยวนำเล็กน้อย ใช้คลุกข้าวร้อนๆ รับประทานกับผักต่างๆ จะเป็นผักสดหรือผักต้มก็ได้ นอกจากรับประทานกับข้าวแล้วยังใช้ผัดกับผักต่างๆ หรือเก็บใส่ขวดโหลปิดให้สนิดไว้รับประทานได้นานหรือเก็บในตู้เย็น หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มีนาคม 09, 2014, 08:25:07 PM เห็ดหอมทอดซีอิ้ว
(http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2009/09/D8331553/D8331553-0.jpg) วิธีทำ นำเห็ดหอมสดมาหั่นครึ่ง หมักด้วยซีอิ้วขาวและพริกไทย ทอดในน้ำมันร้อนกลางๆ จนสุก ทานกับข้าวสวยร้อนๆอร่อยค่ะ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มีนาคม 09, 2014, 08:28:41 PM ผัดหมี่ซั่ว
(http://orsimages.unileversolutions.com/ORS_Images/Knorr_th-TH/227_6_1.1.262_327X580.Jpeg) ส่วนประกอบ -หมี่ซั่ว 1 ห่อ 400 กรัม -ถั่วงอก 1 ถ้วยตวง -ต้นหอม ¼ ถ้วยตวง -แครอทหั่นเป็นเส้น ¼ ถ้วยตวง -เห็ดหอมแช่น้ำหั่นเป็นเส้น ¼ ถ้วยตวง -น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ -ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ -คนอร์อร่อยชัวร์ 1 ช้อนชา -น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา -เนื้อหมูหั่นชิ้นบางพอคำ 100 กรัม -กระเทียมสับ 2 ช้อนโต๊ะ -น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ -พริกไทยป่นตามชอบ วิธีทำ นำหมูมาหมักกับน้ำมันหอย กระเทียม และพริกไทย และคนอร์อร่อยชัวร์เล็กน้อย พักไว้ ลวกเส้นหมี่ซั่วจนสุกแต่อย่าให้เละ เทใส่กระชอน แล้วล้างด้วยน้ำเย็น (เพราะเส้นหมี่เค็ม) ทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำ ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟกลางจนร้อน ใส่หมูที่หมักลงผัดจนสุก ใส่เห็ดหอม แครอท และเส้นหมี่ ปรุงรสด้วย ซีอิ๊วขาว คนอร์อร่อยชัวร์ และน้ำตาลทรายผัดให้เข้ากัน ใส่ถั่วงอก และต้นหอมลงไป ผัดให้เข้ากันอีกครั้ง จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟ หมายเหตุ ถ้าไม่ใช้หมูหมักสามารถใส่แฮมหั่นชิ้นพอคำแทนได้ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ เมษายน 05, 2014, 09:33:31 PM นานาสาระเพื่อสุขภาพที่ดี Yesterday · Edited เมนูขนมหวานเพื่อสุขภาพ "ถั่วเขียวต้มน้ำตาล" เมนูคู่ครัว ถั่วเขียมต้มน้ำตาลเป็นขนมหวาน ที่แสนจะทำง่าย ถึงง่ายที่สุด ส่วนผสมก็น้อยที่สุด แค่มีถั่วเขียวกับน้ำตาลทรายติดบ้านไว้ อยากกินขนมหวานเมื่อไร ก็ลุกขึ้นมาต้มกินได้ทันที แก้ขัดไปได้คะ ถ้าจะทำให้ครบขั้นตอน ก็ต้องเอาถั่วเขียวไปคั่วในกระทะให้มีกลิ่นหอมก่อน แล้วก็แช่น้ำไว้ข้ามคืน แต่.... เราไม่เคยมีแผนการไว้ล่วงหน้าเลย ไม่เคยทำเลยคะ เพราะอยากกินเมื่อไหร่ก็ลุกขึ้นมาต้มเลย อาจต้มนานหน่อย หม้อนี้เป็นการต้มในที่ทำงาน ใช้หม้อหุงข้าวต้ม แช่ถั่วเขียวไว้ตอนเที่ยง แล้วไปต้มเอาเกือบเที่ยงของอีกวัน ใม่มีใบเตย ให้ใส่ ทำกันแบบง่าย ๆ ประหยัดค่าขนมตอนกลางวันคะ แต่สูตร ที่ชอบกินมากกว่า จะเป็น สูตรถั่วเขียวต้มแบบใส่กะทิด้วย ใช้น้ำตาลปิ๊บแทนน้ำตาลทราย ตามนี้ http://http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=baanbaitong&month=04-2009&date=23&group=4&gblog=5 (http://http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=baanbaitong&month=04-2009&date=23&group=4&gblog=5) หรือจะทำเป็นถั่วเขียวต้มน้ำลำใย แบบนี้ก็หอม อร่อยคะ แค่ต้มถั่วเขียวให้นุ่ม แล้วแยกถั่วไว้ ต้มน้ำลำใยใส่น้ำตาลทรายให้หวาน หอม แล้วนำถั่วเขียวใส่ลงไปให้เดือดอีกครั้ง ก็ได้ถั่วเขียวต้มน้ำลำใยหวาน หอม ทานร้อน ทานเย็นก็ได้ทั้งสองแบบคะ ส่วนผสม 1. ถั่วเขียว 1 ถ้วย 2. น้ำตาลทราย ประมาณ 1 ถ้วย 3. น้ำสะอาด 5 ถ้วย 4. ใบเตย 2-3 ใบ (ถ้ามี) วิธีทำ 1. นำถั่วล้างและแช่น้ำข้ามคืน 2. จากนั้นเทน้ำที่แช่ถั่วออก ล้างน้ำให้สะอาดอีกครั้ง นำถั่วใส่หม้อ ใส่น้ำสะอาด 5 ถ้วย ใส่ใบเตย (แต่เราไม่มีใบเตย) แล้วนำขึ้นตั้งไฟ พอน้ำเดือดก็ลดไฟลง ชอนฟองออกให้หมด ต้มจนถั่วนุ่มตามที่ต้องการ บางคนอาจชอบแบบเป็นเม็ด ๆ แต่นิ่ม หรือจะชอบแบบถั่วบาน ๆ ก็แล้วแต่ 3. ใส่น้ำตาล เราใช้น้ำตาลทรายแดง จะหอมกว่าน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ **การใส่น้ำตาล ต้องรอให้ถั่วเขียวนิ่ม เท่าที่ต้องการก่อนนะคะ ไม่งั้นเมื่อใส่น้ำตาลแล้ว น้ำตาลจะรัด ทำให้เมล็ดถั่วเขียวจะไม่นิ่มแล้ว 4. พอได้ที่แล้วลองชิมดู ถ้าชอบหวานก็เพิ่มน้ำตาลไปอีก กินตอนร้อน ๆ หรืออุ่น ๆ สรรพคุณ / ประโยชน์ของถั่วเขียว - เมล็ด นำมาต้มแล้วกินเป็นยาขับปัสสาวะ สำหรับคนที่เป็นโรคเหน็บชา ส่วนถั่วเขียวที่ดิบหรือที่ต้มสุกแล้วใช้ตำพอกเป็นยารักษาภายนอกช่วยบ่มหนองให้ฝีสุก - เปลือก (สีเขียว) แก้ร้อนใน กระหายน้ำ ทำให้ตาสว่าง รักษาตาอักเสบ - ถั่วเขียวเป็นพรรณไม้ที่ให้ประโยชน์มากทั้งทางด้านอาหารและในด้านที่ใช้เป็นยา เมื่อนำมาเพาะเป็นถั่วงอกจะให้วิตามินเอ บี และซีสูงมาก ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=baanbaitong&month=26-01-2011&group=4&gblog=17 (http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=baanbaitong&month=26-01-2011&group=4&gblog=17) See Translation (https://scontent-a-sin.xx.fbcdn.net/hphotos-prn2/t1.0-9/1896943_848116385215236_795731979_n.jpg) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ เมษายน 10, 2014, 01:33:43 PM ชอบกินแบบไหนกันบ้าง
(https://scontent-a-sin.xx.fbcdn.net/hphotos-prn1/t1.0-9/1010334_232771630248160_4037335523635945881_n.jpg) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มิถุนายน 11, 2014, 06:24:24 PM PoONiM
ฮ่า ฮ่า ฮ่า ผมเป็นอีกคนหนึ่งครับที่โปรดปราน กาน่าช่ายเอามากมาก วันนี้ได้วิธีการทำก่าน่าช่ายมาก็เลยกะเอามาฝาก พี่น้อง เวเจทเรียน ทั้งหลายที่นี้ขอร๊าบ (http://i297.photobucket.com/albums/mm233/MADOOPOONIM/01%20UM%20MMM/EAT/1192070954.jpg)กานาฉ่าย กาหนาฉ่าย กาน่าไฉ่ (สาระพัดสำเนียง) กินกับข้าวต้มก็อร่อย แต่เท่าที่พิสูจน์แล้ว กินกะข้าวสวยร้อนร้อน จาอร่อยกว่ามากเลยคร๊าบ (เลือกทานได้ตามอัทธยาศัยละกาน) ส่วนผสมที่สาธิตวันนี้ มีดังนี้ -ผักกาดดองขยำ ล้างน้ำบีบน้ำเค็มออก 1 รอบ (ล้างมากไปจะจืด ล้างน้อยจะเค็ม )สับ ๆๆๆ 2โล -กานาซั่ม (ลูกสมอดอง)ทุบๆสับๆ 1 ขีด (2ขีดก็ได้ถ้าชอบ หรือมีเยอะ) -เห็ดหอมแช่น้ำ หั่นหยาบ ๆ ใส่ตามฐานะทางบ้าน -น้ำมันพืช จะปาล์มหรือถั่วเหลืองก็ได้ ครึ่งขวด ผักกาดดองสับ (http://i297.photobucket.com/albums/mm233/MADOOPOONIM/01%20UM%20MMM/EAT/1192070497.jpg) กานาซั่ม(ลูกสมอดอง) มีขายที่ตลาดเก่า อันนี้แบบไม่มีเม็ด จะใช้แบบมีเม็ดก็ได้เหมือนกัน สับ ๆ ทุบ ๆ ก่อนทำนะจ้ะ ในรูปนี้ยังไม่ได้ทุบ (http://i297.photobucket.com/albums/mm233/MADOOPOONIM/01%20UM%20MMM/EAT/1192070576.jpg) เห็ดหอมสับหยาบ ๆ ในรูปนี้สังเกตว่าใส่เยอะมาก (เพราะฐานะดี ) (http://i297.photobucket.com/albums/mm233/MADOOPOONIM/01%20UM%20MMM/EAT/1192070708.jpg) กระหน่าเทน้ำมันลงไปครึ่งขวด พอร้อน ๆ ใส่เห็ดหอมกับกาน่าลงไปเจียวๆ (http://i297.photobucket.com/albums/mm233/MADOOPOONIM/01%20UM%20MMM/EAT/1192070809.jpg) พอเห็ดกับกาน่าหอม ๆ ไม่ถึงกับแห้ง ก็ใส่พระเอกผักกาดดองลงไป (http://i297.photobucket.com/albums/mm233/MADOOPOONIM/01%20UM%20MMM/EAT/1192070835.jpg) เติมน้ำเปล่า1ถ้วย คลุกเคล้าให้เข้ากัน ไฟอ่อน ปิดฝา ตุ๋นไปเรื่อยๆ หมั่นมาดู และคอยคน ทุก ๆ ครึ่งชั่วโมง เป็นเวลา 5 ชั่วโมง จะได้แบบนี้ ถ้าแห้งไปเติมน้ำได้ ต้มตุ๋น ชิม ปรุงไปเรื่อย ๆ 8 ชี่วโมง เริ่มดำละนะ ก็เป็นเวลาเย็นค่ำพอดี ตักใส่กระปุก ปิดฝา ไม่ต้องเข้าตู้เย็น ทิ้งไว้ 1 คืน (เห็นตรงนี้แล้ว เปลี่ยนใจหาซื้อกินเอาก็ได้หน่ะครับ . . . แบบแว่ ผมพึ่งเห็นนี่แหล่ะ) เช้ามา ต๊ายตาย ดำกว่าเดิมอีก เอามาลงกะทะ คั่ว ๆ ให้ร้อน จะหอมกว่าเดิม แถมดำได้ใจ อร่อยได้เลย กานาฉฉ่าย เป็นเมนูไม่ยาก แต่ต้องใช้ความอดทนสูง เพราะต้องคอยเฝ้าทั้งวัน ไฟแรงก็จะติดกะทะ บางทีทำแค่ 1 โล ตุ๋นในหมอตุ๋นก็ได้ จะได้ไม่ต้องเฝ้ามาก ใครเอาไปทำขาย ถ้ารวยแล้วมาแบ่งด้วย ขอบคุณ ข้อมูลสำหรับคนเวลาว่างเยอะ : จางซานฟง thank you หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มีนาคม 07, 2015, 10:40:53 AM ปลากะพงนึ่่งมะนาวกระเทียมดอง
(http://www.waizon.com/attachment/photo/Mon_1209/644_f5ee1348139151b409d7eba8c4a6e.jpg) เครื่องปรุงและส่วนผสม ปลากะพงขนาดกลาง 1 ตัว กระเทียมสับ 4 ช้อนโต๊ะ กระเทียมดอง 1/4 ถ้วยตวง พริกขี้หนูซอย 2 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 2-3 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปีบ 1 ช้อนชา วิธีการทำ ปลากะพงนึ่งมะนาวกระเทียมดอง 1. ล้างปลากะพงให้สะอาด พักให้สะเด็ดน้ำ 2. วางปลาลงในจานนำไปนึ่งให้สุก 3. ผสมกระเทียม พริกขี้หนู น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลปีบเล็กน้อยให้เข้ากัน ชิมรสให้ได้รสจัด เปรี้ยว เค็ม หวาน เทราดบนตัวปลา ตกแต่งด้วยกระเทียมดองและต้นหอมเล็กน้อย หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มีนาคม 29, 2015, 12:25:23 PM ยำปลาทู
ยำ ถือเป็นอาหารที่มีรสเฉพาะตัว คือ เปรี้ยว เค็ม เผ็ด มีส่วนประกอบหลักคือ เนื้อสัตว์ หรือพืชผักบางชนิดนำมาคลุกปรุงกับน้ำยำ ยำปลาทูเข้ากันได้ดีกับใบชะพลู ปลาทูที่นำมายำจะเป็นปลาทูสดหรือปลาทูนึ่งก็ได้ แต่ควรนำมาย่างไฟ เพราะจะได้กลิ่นหอมและรสชาติที่ไม่เพี้ยน หากนำไปทอดในน้ำมันเมื่อนำมายำจะได้รสและกลิ่นของน้ำมันทำให้ไม่หอมเท่าการย่าง ที่สำคัญเราจะได้ไม่ต้องกินน้ำมันมากเกินไปเป็นสาเหตุของโรคต่างๆ นับว่าเมนูนี้เหมาะแก่การควบคุมน้ำหนัก (เครดิตภาพ : ดงละดอน, เขียนบน iPad (nr..con), rutesala) วิธีทำ :>> http://bit.ly/1nnJoNW (http://bit.ly/1nnJoNW) (https://fbcdn-sphotos-h-a.akamaihd.net/hphotos-ak-xap1/v/t1.0-9/s720x720/10988510_10153213853682028_4960593440944197844_n.png?oh=dbbbe3ad072402c42524685bece23b6a&oe=55A9B6EA&__gda__=1438025553_71e53d14581b55d9c941441775555ac6) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 25, 2015, 11:53:22 AM .....จีบไม่เป็น....แต่อยากจีบ....คิกๆๆๆๆๆ
จากคุณ : ตะโกครับ (http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2012/01/D11585257/D11585257-0.jpg) (http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2012/01/D11585257/D11585257-2.jpg) แบบนี้รึป่าว ที่เรียกว่า "เต็มไม้ เต็มมือ" คิกๆๆๆ (http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2012/01/D11585257/D11585257-10.jpg) (http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2012/01/D11585257/D11585257-14.jpg) จับมาแกะเปลือก เอาหัวเออก เลือกมา5ตัว (http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2012/01/D11585257/D11585257-16.jpg) ผ่าหลังเอาลำไส้ออกครับ (http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2012/01/D11585257/D11585257-20.jpg) ใครจะว่า"เสียของ" ก็ไม่เป็นไรนะครับ เอากุ้งตัวโตๆแบบนี้มาทำขนมจีบ ก็กุ้งตัวเล็กๆ มันไม่มีอ่ะครับ แล้วตะโกก็ไม่ได้ทำแยะครับ ถ้าทำมากๆ ทำขาย คงใช้กุ้งแบบนี้ไม่ได้แน่ๆครับ แบบที่ภาษาใต้ว่า "เอาหรอย" ไว้ก่อน คิกๆๆๆ เอาส่วนผสม ทิ่มให้เนียนก่อนครับ (http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2012/01/D11585257/D11585257-25.jpg) เอาเนื้อกุ้งลงไปทิ่มต่อหลังจากเครื่องเนียนแล้ว ทองแดงเลยตะโก กลับเข้าสู่โหมด บางกอก นะครับ ทิ่ม หมยความว่า ตำ เนียน หมายความว่า ละเอียด (http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2012/01/D11585257/D11585257-26.jpg) ตำกุ้งให้ละเอียดจนเหนียวแบบนี้ครับ เห็นไหมครับว่า ตะโก คว่ำช้อนไว้ (http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2012/01/D11585257/D11585257-28.jpg) มองอีกด้านนึง เนื้อกุ้งเหนียวจนติดหนึบ แบบนี้น่าจะโอเคแล้วครับ (http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2012/01/D11585257/D11585257-29.jpg) ใข้กุ้งมาตำทั้งหมด3ขีดรวม5ตัว ได้เท่านี้เอง (http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2012/01/D11585257/D11585257-32.jpg) กลัวว่าจะไม่พอ เลยเอากุ้งที่ตำไว้เข้าแช่เย็น ใช้หมูบดปรุงรส ที่ขายในห้าง มาผสมนะครับ จะได้ขนมจีบแบบเด้งดึ๋งๆ อร่อยๆเลยครับ (http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2012/01/D11585257/D11585257-34.jpg) เอามาตำผสมให้เข้ากันอีกที (http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2012/01/D11585257/D11585257-35.jpg) ตะโกใช้หมูแค่2ขีดนะครับ กุ้ง3ขีด ตำรวมกัน แล้วปรุงรสด้วย น้ำตาล กับ รสดี อย่างละ.75ช้อน ในหมูปรุงรส จะมีรสชาติอ่อนๆอยู่แล้ว (http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2012/01/D11585257/D11585257-36.jpg) ถ้าใครชอบ กลิ่นน้ำมันงา ก็ใส่ลงไปได้เลยครับ หลังวจากตำเนื้อเข้ากันแล้ว ต้นหอม ถ้าชอบก็ใสนิดหน่อย (http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2012/01/D11585257/D11585257-37.jpg) ส่วนกุ้งที่เหลือ สี่ตัว เอามาหั่นท่อนๆแบบนี้ครับ แล้วเก็บไว้ครึ่งนึง ส่วนที่เหลือใส่ครกผสม ให้เข้ากัน (http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2012/01/D11585257/D11585257-38.jpg) นำไปให้คิวซีเทสต์ รสชาติก่อน ตักใส่ถ้วยเพื่อเข้าเวฟชิมรส (http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2012/01/D11585257/D11585257-40.jpg) แล้วเข้าเวฟ 25วินาที ออกมา แจ่มแล้วครับ ไม่ต้องปรุงเพิ่ม ขั้นตอนนี้ ถ้าเราชอบแบบไหนก็ใส่ลงไปครับ (http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2012/01/D11585257/D11585257-41.jpg) ตะโกใช้แผ่นเกี๊ยวที่ขายในตลาด นำมาตัดเหลี่ยมออกแบบนี้ครับ (http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2012/01/D11585257/D11585257-42.jpg) ตัดก็ไม่สวย จีบก็ม่ายเป็น (http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2012/01/D11585257/D11585257-44.jpg) ขั้นตอนนี้แหละครับ ที่ตะโกบอก จีบไม่เป็นจริงๆ ตักเนื้อมาใส่แผ่นแล้วก็มั่วๆเอาตามนี้ (http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2012/01/D11585257/D11585257-46.jpg) แล้วก็บีบๆปลายให้เข้ารูป พร้อมลองใส่กุ้งหั่นที่แบ่งไว้ (http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2012/01/D11585257/D11585257-48.jpg) เพื่อให้ขั้นตอนนี้ผ่านไป เร็วๆ ตะโก ข้ามมาตรงนี้เลยเลยครับ เอาเนื้อกุ้งใส่ด้านบน (http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2012/01/D11585257/D11585257-50.jpg) ที่จริงแล้วแผ่นเกี๋ยวต้องไม่แห้งนะครับ ควรพรมน้ำหรือใช้สเปย์ละอองน้ำที่แผ่น เพื่อป้องกันแผ่นแข็ง ถ้าแผ่นแห้ง เวลานึ่งจะแข็ง ไม่อร่อย ตะโกใช้ใบผักมาชุบน้ำ พรมที่แผ่นบางๆก่อนนำไปนึ่ง (http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2012/01/D11585257/D11585257-51.jpg) เอาน้ำมันพืช ทาที่ซึ่้งก่อนนะครับ ป้องกัน แผ่นติดซึ้ง แล้วจับเรียงอย่าให้ติดมากเกินไป (http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2012/01/D11585257/D11585257-52.jpg) ใช้เวลานึ่ง 8นาที หลังจากน้ำเดือดนะครับ (http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2012/01/D11585257/D11585257-57.jpg) (http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2012/01/D11585257/D11585257-59.jpg) ใครชอบกระเทียมเจียวก็ใส่บนเลยครับ (http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2012/01/D11585257/D11585257-63.jpg) พร้อมแล้วไปทานกันครับ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ธันวาคม 19, 2015, 08:28:53 AM น้าคม อร่อยปักหมุด / Cooking is Fun nationtv.tv
(http://www.oknation.net/blog/home/user_data/file_data/201512/13/71660418a.jpg) สวัสดีครับ Cooking is Fun โดย น้าคม ช่วงนี้ใกล้ปีใหม่ มีเมนูที่จะทำเป็นของฝากหรือใครคิดจะเริ่มอาชีพเสริมก็เอาไปทำได้ ทำง่าย เก็บได้นาน แถมอร่อยกับเมนู เห็ดสวรรค์ ลองมาดูกันครับ วัตถุดิบ 1. เห็ดภูฏาน หรือเห็ดนางฟ้าก็ได้ ผมใช้ครึ่งโล 2. ผงปรุงรส จะคนอ รึ รสดี รสหมู รสไก่ ใช้ได้หมด เห็ดครึ่งโลผมใช้ 3 ชช 3. น้ำตาลทราย เห็ดครึ่งโลผมใช้ 3 ชช เท่าๆกัน 4. น้ำมันสำหรับทอด 5. งาขาวคั่ว แค่นี้เองครับ ไม่ยากเลยเนอะ มาดูวิธีทำกันเลย เตรียมเห็ดครับ นำเห็ดไปล้าง สะเด็ดน้ำให้แห้ง นำมาฉีกฝอยๆ แล้วนำไปผึ่งลมซัก 1-2 ชม (http://www.oknation.net/blog/home/user_data/file_data/201512/13/71660251a.jpg) แค่นี้เอง จากนั้นเตรียมชามผสม เห็ดครึ่งโลผมแบ่งเป็น 3 ส่วน ใส่รสดี 1 ชช น้ำตาลทราย 1 ชช (http://www.oknation.net/blog/home/user_data/file_data/201512/13/716608c23.jpg) (http://www.oknation.net/blog/home/user_data/file_data/201512/13/71660f792.jpg) คลุกเคล้าให้เข้ากับเห็ด (http://www.oknation.net/blog/home/user_data/file_data/201512/13/71660ae83.jpg) ตั้งกระทะไฟกลาง (http://www.oknation.net/blog/home/user_data/file_data/201512/13/71660ceb0.jpg) น้ำมันร้อนใส่เห็ดลงทอด ใช้เวลาประมาณ 7-8 นาที คอยดูให้เห็ดเหลืองทอง ระวังอย่าให้ไหม้ เอาขึ้นก่อน เพราะเมื่อนำขึ้นมา เห็ดจะสุกต่ออีก (http://www.oknation.net/blog/home/user_data/file_data/201512/13/716602f82.jpg) ใส่ถาดรองด้วยกระดาษซับน้ำมัน พัดลมเป่าเบาๆ โรยด้วยงาขาวคั่ว (http://www.oknation.net/blog/home/user_data/file_data/201512/13/716604247.jpg) (http://www.oknation.net/blog/home/user_data/file_data/201512/13/716608947.jpg) (http://www.oknation.net/blog/home/user_data/file_data/201512/13/716604143.jpg) (http://www.oknation.net/blog/home/user_data/file_data/201512/13/716602c7c.jpg) (http://www.oknation.net/blog/home/user_data/file_data/201512/13/7166090e3.jpg) คลุกเคล้าเบาๆ พอหายร้อน นำใส่ภาชนะปิดฝา เพื่อไม่ให้เห็ดนิ่ม เก็บไว้กินกับข้าวเหนียวร้อนๆ หรือจะข้าวต้ม ข้าวสวยก็อร่อยไม่แพ้กัน เก็บได้ประมาณ 2 สัปดาห์สบายๆ จะทำขายก็น่าจะดี ลองดูครับ ^^ ขอให้สนุกกับการทำอาหาร #41kitchen #น้าคม #CookingIsFun หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มกราคม 03, 2016, 01:38:05 PM https://www.youtube.com/watch?v=iFNuzwTyo9Q (https://www.youtube.com/watch?v=iFNuzwTyo9Q)
wongnai สูตรเด็ดเมนูต้มยำเครื่องทะลัก หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ เมษายน 25, 2016, 01:26:30 PM 10 สูตรทำไอศกรีมไม่ใช้เครื่อง เย็นฉ่ำรับซัมเมอร์แบบฟิน ๆ
http://cooking.kapoo (http://cooking.kapoo)...view117368.html หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ เมษายน 28, 2016, 05:51:02 PM แจกสูตร ยำตะไคร้กุ้งสด
(https://2.bp.blogspot.com/-D-bn7Ya1QW8/Vwu00XAkYAI/AAAAAAACa5c/hZPQ5iq2npsdBA7liYEzkUF97oUimutAA/s640/58%2B-%2B1%2B%25286%2529.jpg) ส่วนผสมและสัดส่วน 1. ตะไคร้ซอยบางๆ 5 ต้น 2. พริกขี้หนูซอย 3. หอมแดงซอย 2 – 3 หัว 4. กุ้งสด 4 – 5 ตัว 5. กุ้งแห้งทอดกรอบ ตามชอบ 6. มะม่วงหิมพานต์อบสุกครึ่งซีก ตามชอบ 7. น้ำตาลปี๊บ ตามชอบ 8. น้ำมะนาวตามชอบ 9. เกลือหรือน้ำปลา ตามชอบ 10. น้ำเปล่า วิธีปรุง 1. เตรียมเครื่องยำต่างๆ ซอยผักต่างๆ กุ้งแกะเปลือกผ่าหลัง ลวกสุกไว้ เตรียมไว้ 2. เตรียมทำน้ำยำโดย ตั้งน้ำเปล้าเล็กน้อยให้เดือดใส่น้ำตาลปี๊บลงไปคนให้ละลาย จนส่วนผสมเริ่มข้นเหนียว 3. เติมเกลือ น้ำมะนาว คนให้เข้ากันชิมรสตามชอบ ใส่เครื่องยำต่างๆ ลงไปคลุกให้เข้ากัน ตักใส่จานโรยด้วยกุ้งแห้งทอดกรอบ Cr. สูตรอาหาร http://th.openrice.com/th/recipe/ (http://th.openrice.com/th/recipe/)ยำตะไคร้กุ้งสด/937 หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ เมษายน 28, 2016, 05:54:59 PM วิธีทำ น้ำสลัด หลากหลายสไตล์
(https://4.bp.blogspot.com/-OLBlUL2_qWM/Vwu1zOy7SmI/AAAAAAACa50/SPoX3wRgAVY7QJyjlGhdKNrQt-2mROVug/s640/58%2B-%2B1%2B%252810%2529.jpg) ถ้าพูดถึงเมนูสำหรับคนลดความอ้วนแล้ว ก็คงหนีไม่พ้นสลัด แต่จะกินสลัดแบบเดิมๆ ทุกวันก็คงจะเบื่อ วันนี้เลยเอาวิธีทำน้ำสลัด ที่ทำได้ง่ายๆ ที่บ้านเราเอง ใครชอบสูตรไหน ก็จดกันไปทำได้เลยมาเริ่มกันที่ น้ำสลัดน้ำใสสไตล์ญี่ปุ่น ส่วนผสม 1. ซีอิ๊วถั่วเหลืองญี่ปุ่น 1/4 ถ้วยตวง 2. น้ำส้มสายชู 1/4 ถ้วยตวง 3. น้ำตาล 1/4 ถ้วยตวง 4. มายองเนส 1/4 ถ้วยตวง 5. งาคั่ว และน้ำมันงา 1/4 ถ้วยตวง วิธีทำน้ำสลัด 1. นำ 3 ข้อแรก มาผสมกัน ถ้ารสยังไม่ถูกใจให้ปรุงรสตามชอบ ถ้ารู้สึกหวานไป ให้เติมน้ำส้มสายชูเพิ่ม เอาใส่หม้อ ตั้งเตาให้น้ำตาลละลาย ยกลงจากเตา 2. แล้วใส่มายองเนส คนให้เข้ากันตามด้วยงา และน้ำมันงานิดหน่อยพอแต่งกลิ่น 3. นำไปราดบนผักที่เตรียมไว้ ก็พร้อมรับประทานแล้ว ****น้ำสลัดแบบนี้เหมาะกับผักเรดโอ๊ค กรีนโอ๊ค และมะเขือเทศ เหมาะกับคนที่ไม่ชอบของเลี่ยนๆ น้ำสลัดลูกพลับ ส่วนผสม 1. ลูกพลับ 2 ผล 2. มะนาว 1 ผล(ประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ) 3. เกลือ 1 ช้อนชา 4. น้ำมันโอลิฟ 1 ช้อนโต๊ะ 5. พริกไทยดำเล็กน้อย วิธีทำน้ำสลัด 1. ปอกเปลือกลูกพลับ แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆนำลูกพลับ และส่วนผสมใส่ลงเครื่องปั่น ปั่นให้ละเอียด เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จ ****เหมาะมากที่จะรับประทานกับสลัดผลไม้ ยิ่งใครที่ชอบรสเปรี้ยวอมหวานแล้ว ห้ามพลาด น้ำสลัดครีมแคลอรี่ต่ำ ส่วนผสม 1. โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย 2. กระเทียมสับ 1 ช้อนชา 3. น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ 4. น้ำมันสลัด 2 ช้อนโต๊ะ 5. น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ 6. พริกไทยดำ 1/2 ช้อนชา วิธีทำน้ำสลัด 1. วิธีทำนั้นง่ายมาก เพียงแค่นำส่วนผสมทั้งหมด ใส่ลงในเครื่องปั่น ปั่นให้ละเอียด ลองชิมดู แล้วปรุงรสตามที่ชอบ ****ถึงน้ำสลัดอันนี้จะเป็นน้ำสลัดครีม แต่ก็มีแคลอรี่ต่ำ คนที่กำลังลดน้ำหนักอยู่ แล้วเบื่อสลัดน้ำใส ลองมาทำน้ำสลัดสูตรนี้ดู น้ำสลัดทาวน์แซน ไอซ์แลนด์ ส่วนผสม 1. มายองเนส 5 ช้อนโต๊ะ 2. ซอสมะเขือเทศ 1 ช้อนโต๊ะ 3. พาสเลย์สับ 1 ช้อนโต๊ะ 4. พริกไทยดำ 1 ช้อนชา วิธีทำน้ำสลัด 1. สูตรน้ำสลัดสูตรนี้ บอกได้เลยว่า ง่ายยิ่งกว่าง่าย เพียงเอาส่วนผสมทั้งหมดเทใส่ถ้วย แล้วคนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน แค่นี้ก็เรียบร้อยแล้ว ****น้ำสลัดสูตรนี้ ใช้เวลาในการทำน้อยมากๆ เพื่อรสชาติที่ดีกว่า จึงควรทำใหม่ทุกครั้ง น้ำสลัดพริกไทยดำ ส่วนผสม 1. มายองเนส 1 ถ้วย 2. น้ำตาลทราย 1.5 ถ้วย 3. น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ 4. เกลือ 1/4 ช้อนชา 5. พริกไทยดำ 2 ช้อนชา วิธีทำน้ำสลัด 1. ใส่มายองเนสลงในชาม ปรุงรสด้วยน้ำส้มสายชู น้ำตาล เกลือ และพริกไทยดำ คนด้วยตะกร้อให้เข้ากันดี ชิมให้มีรสชาติออกเปรี้ยว หวานเล็กน้อย และเผ็ดพริกไทย ****พริกไทยดำมีสรรพคุณต่อต้านความอ้วน เนื่องจากมีสารไปเปอรีน ที่มีกลิ่นฉุนและมีรสชาติเผ็ดร้อน ที่สามารถขัดขวางไม่ให้เซลล์ไขมันใหม่ก่อตัวขึ้นได้ น้ำสลัดโคลสลอว์ ส่วนผสม 1. มายองเนส 1/2 ถ้วย 2. มัสตาร์ด 1/2 ช้อนชา 3. วิปปิงครีมชนิดกล่อง 1/4 ถ้วย +2 ช้อนโต๊ะ 4. ปาปริก้า 1/2 ช้อนชา 5. น้ำมะนาว 1 ช้อนชา 6. เกลือ 1/4 ช้อนชา 7. พริกไทยดำ 1/2 ช้อนชา วิธีทำน้ำสลัด 1. นำวิปปิงครีมผสมกับมายองเนสในชาม เติมมัสตาร์ด และปาปริก้า คนให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว เกลือ และพริกไทยดำ ชิมรสให้ออกเปรี้ยว เค็ม ให้มันและเผ็ดเล็กน้อย น้ำสลัดจะมีสีครีม ข้นไม่มาก มีสีแดงของปาปริก้า ****น้ำสลัดชนิดนี้มักรับประทานกับกะหล่ำปลีหั่น แอปเปิ้ลแดงหั่น เซเลอรีหั่นบาง แครอทหั่นเส้น Cr. สูตรอาหาร http://www.thaihow.com/1249 (http://www.thaihow.com/1249) Cr. ภาพอาหาร Internet หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ เมษายน 28, 2016, 06:04:08 PM ปั้นน้ำเป็นเงิน น้ำผลไม้และน้ำสมุนไพร บรรจุขวดขาย 8 สูตร ทำง่าย ขายคล่อง!!
(https://2.bp.blogspot.com/-PtdsbOnFJTA/Vwuy0HOlffI/AAAAAAACa48/01yhaVUMsnMqvuPOM-MNuJ02JsZJ_Glzw/s640/facebook_1447073865055.jpg) น้ำผลไม้และน้ำสมุนไพรพร้อมดื่ม (1. น้ำเก๊กฮวย) ส่วนผสม 1. น้ำ 20 ลิตร 2. เก๊กฮวย ตรานก 150 กรัม 3. น้ำตาลทราย 2.75 กิโลกรัม 4. เมล็ดดอกพุด 5 ดอก 5. ใบเตย 4 ใบ วิธีทำ 1. ต้มน้ำพร้อมใส่ใบเตย จนน้ำเดือด 2. ทุบเมล็ดดอกพุดห่อผ้าขาวบาง ชงให้ได้สีตามต้องการ 3. เมื่อได้สีตามต้องการแล้ว เอาห่อเมล็ดพุดออก 4. เติมน้ำตาล เคี่ยวไปจนเดือด ปิดไฟ 5. ใส่เก๊กฮวย เกลี่ยเบาๆ ให้ทั่ว ปิดฝา เป็นอันเสร็จ (2. น้ำเฉาก๊วย) ส่วนผสม 1. น้ำสะอาด 20 ลิตร 2. ใบเตย 5-6 ใบ 3. น้ำตาลทราย 3.5 กิโลกรัม เฉาก๊วยแข็ง 2 กิโลกรัม วิธีทำ 1. ขูดเฉาก๊วยเป็นเส้น ใส่ลงในขวดที่นึ่งไว้แล้ว ประมาณ 1 ช้อนส้อม แยกไว้ 2. ตั้งน้ำพร้อมใบเตยให้เดือด 3. ใส่น้ำตาลทรายลงไป เคี่ยวให้เดือด 4. กรองและบรรจุลงในขวดที่ใส่เฉาก๊วยไว้แล้ว หมายเหตุ ต้องใช้เฉาก๊วยแข็ง ซึ่งหาซื้อได้ตามตลาดสด ไม่ใช้เฉาก๊วยนิ่ม เพราะจะเละและไม่ให้สี เมื่อบรรจุน้ำเชื่อมลงไป สีของเฉาก๊วยจะยังไม่ออก รอไว้สักครู่สีจะออกมาเอง (3. น้ำมะพร้าว) ส่วนผสม 1. น้ำ 12 ลิตร 2. มะพร้าวอ่อนน้ำหอม 6 ลูก 3. น้ำตาลทราย 2 กิโลกรัม 4. ใบเตย 5 ใบ 5. น้ำหัวเชื้อ (น้ำและเนื้อมะพร้าวอ่อน) 6. สับมะพร้าว แยกน้ำแยกเนื้อไว้ น้ำเชื่อม 1. ตั้งน้ำและใบเตย จนเดือด 2. ใส่น้ำตาลทรายลงไป จนเดือด 3. ใส่น้ำหัวเชื้อ (อุณหภูมิจะลดลง) จับอุณหภูมิให้ได้ 85 องศาเซลเซียส (ใช้เทอร์โมมิเตอร์) เป็นเวลา 3 นาที หรือ 90 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 12 วินาที ดับไฟ ต้องปฏิบัติโดยเคร่งครัด เพื่อรักษาคุณภาพของน้ำผลไม้ สี และกลิ่น 4. ยกลง กรอง กรอกใส่ขวด ลดอุณหภูมิโดยการน็อคน้ำเย็น (4. น้ำลำไย) ส่วนผสม 1. น้ำสะอาด 20 ลิตร 2. ลำไย 150 กรัม 3. โอทึ้ง 2 ทัพพี (120 กรัม) 4. กรดมะนาว ปลายช้อน 5. ใบเตย 4 ใบ 6. น้ำตาลทราย 2. 75 กิโลกรัม วิธีทำ 1. ตั้งน้ำ ใส่ใบเตย ลำไย และกรดมะนาว 2. เคี่ยวจนเดือด ลำไยบานเป็นลูก มีกลิ่นหอม 3. ใส่โอทึ้ง น้ำตาลทราย รอให้เดือด ปิดไฟ หมายเหตุ ก่อนที่ลำไยจะบาน จะเหมือนกับยุ่ยก่อน อย่าตกใจคิดว่าลำไยเละ รอสักครู่ จะบานเอง (5. น้ำมะตูม) ส่วนผสม 1. น้ำ 20 ลิตร 2. มะตูม 300 กรัม 3. น้ำตาลทราย 2.75 กิโลกรัม วิธีทำ 1. เตรียมน้ำสะอาด 20 ลิตร 2. ย่างมะตูมให้เหลืองหอม ไม่ควรให้เกรียม เพราะจะทำให้มีกลิ่นควันและเหม็นไหม้ 3. นำน้ำพร้อมมะตูมขึ้นตั้งไฟ เคี่ยวให้มะตูมเปื่อย สังเกตโดยใช้ทัพพีจิกเนื้อมะตูมจะฉีกขาดง่าย 4. ใส่น้ำตาลทราย รอเดือด เป็นอันเสร็จ (6. น้ำกระเจี๊ยบ) ส่วนผสม 1. น้ำ 20 ลิตร 2. ดอกกระเจี๊ยบแห้ง 250 กรัม 3. น้ำตาลทราย 2.3 กิโลกรัม 4. เกลือ 60 กรัม 5. กรดมะนาว 15 กรัม วิธีทำ 1. ตั้งน้ำพร้อมดอกกระเจี๊ยบแห้ง 2. ใส่กรดมะนาวและเกลือ 3. เคี่ยวจนดอกกระเจี๊ยบเปื่อยยุ่ย สีซีดลง 4. ใส่น้ำตาลทราย รอเดือด เป็นอันเสร็จ (7. น้ำฝรั่งพร้อมดื่ม 25% - น้ำฝรั่งพร้อมดื่มเนคต้า) ส่วนผสม 1. น้ำฝรั่ง 4,000 กรัม (4 กิโลกรัม) 2. น้ำตาลทราย 2,000 กรัม (2 กิโลกรัม) 3. กรดมะนาว 30 กรัม 4. เกลือป่น 60 กรัม 5. เพคติน 20 กรัม 10. น้ำสะอาด 10 ลิตร วิธีทำ 1. ฆ่าเชื้อขวดและฝา 2. ผสมน้ำตาลกับเพคตินให้เข้ากัน 3. เตรียมน้ำเชื่อม โดยผสมส่วนผสมในข้อ 2 กับกรดมะนาว และน้ำต้มให้เดือด กรองด้วยผ้าขาวบาง 4. ผสมน้ำฝรั่งกับน้ำเชื่อม คนให้เข้ากัน แล้วนำขึ้นตั้งไฟให้ได้อุณหภูมิ 85 องศาเซลเซียส โดยใช้เทอร์โมมิเตอร์ เป็นเวลา 3 นาที ยกลง บรรจุขวดที่ลวกฆ่าเชื้อแล้วทำให้เย็นโดยแช่ในน้ำ 5. หากกรองด้วยผ้าขาวบาง เป็นน้ำฝรั่ง 25% 6. หากไม่กรองด้วยผ้าขาวบาง เป็นน้ำฝรั่งเนคต้า (มีอณูเนื้อ) 7. เก็บไว้ในตู้เย็นอุณหภูมิ 5 องศาเซลเซียส (8. น้ำเสาวรส-บีทรูท-แครอท) ส่วนผสม 1. เสาวรส (เฉพาะเนื้อและเมล็ด) 2,000 กรัม (2 กิโลกรัม) 2. บีทรูท (ปอกเปลือกออก) 1,200 กรัม 3. แครอท (ปอกเปลือกออก) 800 กรัม 4.น้ำตาลทราย 2,000 กรัม (2 กิโลกรัม) 5. กรดมะนาว 30 กรัม 6. เกลือป่น 60 กรัม 7. เพคติน 20 กรัม 8. น้ำสะอาด 10 ลิตร วิธีทำ 1. นำเสาวรส บีทรูท และแคร์รอต ปั่นในเครื่องปั่นไฟฟ้า หากเครื่องหนืด ให้ใช้น้ำในสูตรช่วยเล็กน้อย กรองโดยใช้ถุงกรองแยกกาก แล้วแยกไว้ 2. ผสมน้ำตาลกับเพคตินให้เข้ากัน 3. เตรียมน้ำเชื่อม โดยผสมน้ำตาลทราย กรดมะนาว เกลือป่น และน้ำต้มให้เดือด กรองด้วยผ้าขาวบาง 4. ผสมน้ำเสาวรส บีทรูท และแคร์รอต กับน้ำเชื่อม คนให้เข้ากัน แล้วนำขึ้นตั้งไฟให้ได้อุณหภูมิ 85 องศาเซลเซียส โดยใช้เทอร์โมมิเตอร์ เป็นเวลา 3 นาที ยกลง บรรจุขวดที่ลวกฆ่าเชื้อแล้วทำให้เย็นโดยแช่ในน้ำ 5. เก็บไว้ในตู้เย็นอุณหภูมิ 5 องศาเซลเซียส Cr. สูตรอาหาร http://info.matichon.co.th/rich/rich.php?srctag=07066151252&srcday=2009-12-15&search=no (http://info.matichon.co.th/rich/rich.php?srctag=07066151252&srcday=2009-12-15&search=no) Cr. ภาพอาหาร http://pantip.com/topic/30643813 (http://pantip.com/topic/30643813) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ เมษายน 28, 2016, 06:26:11 PM แจกฟรี สูตรเครื่องดื่มวุ้น เย็นจับใจปานอยู่ขั้วโลกเหนือ แบบไม่ง้อตู้เย็น
(https://1.bp.blogspot.com/-B7DfRd61oEc/Vx48_TNRzMI/AAAAAAACa9U/JByb7g3mV0wvPDWfBdmeJjH-hkoZ39gdQCLcB/s640/b7f47542d3a549408cd44ea96716ee7e.jpg) ไว้ อาลัยแด่อุณหภูมิ 40 องศาด้วยสูตรทำโค้กวุ้น, น้ำผลไม้วุ้น หรือแม้แต่เบียร์วุ้น ให้กลายเป็นสเลอร์ปี้แบบบ้านๆ ดับร้อนกันง่ายๆ แบบไม่ง้อตู้เย็น ร้อนจุงเบย >< เลิกบ่นแล้วมาทำเครื่องดื่มคลายร้อนแบบง่ายๆ ในราคาประหยัดกันดีกว่าค่ะ ถ้าเพื่อนๆ พร้อมแล้วล่ะก็ เริ่มกันเลยค่า (https://4.bp.blogspot.com/-R09YrjdWL98/Vx49ZwJmHDI/AAAAAAACa9c/8wad9o7cTjsPPOlOA1iqLff2nk2RJ25EQCLcB/s640/1.jpg) วัตถุดิบ 1.น้ำอัดลม, น้ำผลไม้, เบียร์ เลือกได้ตามชอบ 2.น้ำแข็ง 4 ถุง 3.เกลือเม็ดใหญ่ 1 ถุง อุปกรณ์ 1. กล่องโฟมหรือกระติกน้ำแข็ง ลงมือโลดดดด!! 1. ไล่อากาศ เริ่มด้วยการนำน้ำอัดลมมาเปิดฝาเพื่อไล่อากาศออก แล้วปิดฝาน้ำอัดลมให้สนิทและใส่ลงในกล่องโฟม (https://4.bp.blogspot.com/-7UEEhv4b58s/Vx49aU82_QI/AAAAAAACa9g/wZaG5uCMZaIBa6mpDF6Auxe_IAEU3jCFgCLcB/s640/2.jpg) 2. แช่ + เขย่า ใส่น้ำแข็งลงไปทั้งหมดและโรยเกลือเม็ดใหญ่ให้ทั่วๆ ปิดกล่องและคอยเขย่ากล่องโฟมบ่อยๆ จนครบ 15 นาที Tip..ลองสังเกตุดูว่าน้ำอัดลมจับตัวเป็นน้ำแข็งหรือยัง ถ้ายังแช่ต่ออีก 5 นาทีจ้า (https://4.bp.blogspot.com/-DdnNfBqc2JU/Vx49Zkkv8YI/AAAAAAACa9Y/B7OXFa2zOTYFwpmzCpeu1tySxlF8wcmFgCLcB/s640/3.jpg) (https://1.bp.blogspot.com/-4fz1G8NIvBE/Vx49a2ZJtUI/AAAAAAACa9k/OdNLhXQIjYoZs3fITGVcVC6a58wLykg7ACLcB/s640/4.jpg) 3. เท เย้! ในที่สุดก็ได้สเลอร์ปี้แล้ว อย่าช้าเทใส่แก้วแล้วมาดูดดื่มกับเครื่องดื่มเย็นจับใจ แบบที่ไม่ต้องง้อตู้เย็น Tip..เมื่อน้ำอัดลมจับตัวเป็นน้ำแข็งแล้ว ห้ามเขย่าเด้อ ให้เทใส่แก้วเลยไม่งั้นจะเป็นน้ำเสียก่อน ส่วนเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ครบ 15 นาทีแล้วพลิกขวด เอาเหรียญบาทเคาะ 1-2 ที เป็นวุ้นแน่นอนจ้า (https://1.bp.blogspot.com/-p0DZy8MAtSo/Vx49cJ1mJQI/AAAAAAACa9o/SvHLGjM2ONMCT1Nvu2O0zrY_jadKAaupACLcB/s640/5.jpg) (https://1.bp.blogspot.com/-oEbBEYRR1lw/Vx49cC0wq4I/AAAAAAACa9s/mg12rWFZ5FQbcQloM_wVDlJiN7NE-fp6QCLcB/s640/6.jpg) (https://3.bp.blogspot.com/-0izzwB2FGMw/Vx49cb3EYTI/AAAAAAACa9w/cYgXsbyj2IQCu9FFR535RM4Oyxig5F2ygCLcB/s640/7.jpg) ที่มา https://www.wongnai.com (https://www.wongnai.com) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ เมษายน 28, 2016, 07:59:22 PM "ขนมจีนน้ำยาปู" กินกับเพื่อนๆที่บ้าน แซ่บเวอร์ ส่วนผสม : น้ำยาปู ******** 1.พริกแกงใต้ 500 กรัม 2.หัว+หางกะทิ 2กิโล 3.กรรเชียงปู 8ขีด-1กิโล 4.น้ำตาลปี๊บ/เกลือ/ส้มแขก กะตามชอบ วิธีทำ ***** 1.เคี่ยวหัวกะทิให้แตกมัน ใส่พริกแกงลงไปผัดให้หอม 2.ใส่หางกะทิลงไป คนให้เข้ากัน ปรุงรสเค็มหวานตามชอบ ใส่ส้มแขกลงไปจะทำให้มีรสเปรี้ยวเล็กน้อย ปล่อยให้เดือด 3.ใส่เนื้อปูลงไปคนให้เข้ากันแบบเบามือเพื่อไม่ให้เนื้อปูแตกปล่ยให้เดือดอีกครั้ง ปิดไฟ 4.ตักราดขนมจีน กินพร้อมผักซอย ไข่ต้ม มันดีงามมากๆๆ #maekwansri (http://f.ptcdn.info/095/042/000/o661q4ivi0RIzDMuCAb-o.jpg) (http://f.ptcdn.info/095/042/000/o661pe6k44FtO6c6iNW-o.jpg) วิธีทำ ***** 1.เคี่ยวหัวกะทิให้แตกมัน ใส่พริกแกงลงไปผัดให้หอม (http://f.ptcdn.info/095/042/000/o661t5eeq1THRGo8u6o-o.jpg) 2.ใส่หางกะทิลงไป คนให้เข้ากัน ปรุงรสเค็มหวานตามชอบ ใส่ส้มแขกลงไปจะทำให้มีรสเปรี้ยวเล็กน้อย ปล่อยให้เดือด (http://f.ptcdn.info/095/042/000/o661xcu2sHlf16vSPqg-o.jpg) 3.ใส่เนื้อปูลงไปคนให้เข้ากันแบบเบามือเพื่อไม่ให้เนื้อปูแตกปล่ยให้เดือดอีกครั้ง ปิดไฟ (http://f.ptcdn.info/095/042/000/o661vwu2sxMZSh3rcmC-o.jpg) 4.ตักราดขนมจีน กินพร้อมผักซอย ไข่ต้ม มันดีงามมากๆๆ (http://f.ptcdn.info/095/042/000/o661z8u1g1W3jIdSAk3-o.jpg) (http://f.ptcdn.info/095/042/000/o6621vefayk7DDE10Vq-o.jpg) https://www.facebook.com/Maekwansri-646819155398235/ (https://www.facebook.com/Maekwansri-646819155398235/) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ สิงหาคม 28, 2016, 11:37:17 AM https://www.youtube.com/watch?v=yKHDKh8jm9w (https://www.youtube.com/watch?v=yKHDKh8jm9w)
กิน อยู่ คือ - วุ้น เจลาตินต่างกันอย่างไร หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กันยายน 02, 2016, 11:33:54 AM https://www.youtube.com/watch?v=Ok_BdU3gNro (https://www.youtube.com/watch?v=Ok_BdU3gNro)
สูตรเด็ด ! วิธีทำ หมูกรอบ แบบไม่ต้องต้ม ไม่ต้องตากแดด กรอบนอก นุ่มใน หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ธันวาคม 03, 2016, 04:00:23 PM ยำรวมเห็ดกุ้งสด
เห็ดนำมาปรุงเป็นอาหารได้หลากหลาย อาหารที่ปรุงจากเห็ดจะมีรสชาติดี เห็ดบางชนิดมีสรรพคุณทางยา บางชนิดเป็นพิษต่อร่างกาย คุณค่าทางอาหารแตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่จะใกล้เคียงกับผัก คือ มีวิตามิน เกลือแร่ โดยเฉพาะโปรตีนในเห็ดจะมีคุณภาพดีกว่าในผัก ส่วนผสม (สำหรับ 1 ที่) : เห็ดนางฟ้าฉีก 25 กรัม เห็ดฟางหั่นตามยาว 40 กรัม เห็ดหูหนูสดหั่นเป็นริ้ว 30 กรัม เห็ดหอมสดหั่นตามขวาง 16 กรัม หอมหัวใหญ่ซอยบางๆ 20 กรัม ขึ้นฉ่ายหั่นเป็นท่อน 8 กรัม แครอตซอย 20 กรัม น้ำปลา 12 กรัม น้ำมะนาว 10 กรัม กระเทียมสับ 3 กรัม น้ำตาลมะพร้าว 10 กรัม พริกขี้หนูสับ 3 กรัม กุ้งสดแกะเปลือกผ่าหลังลวก 30 กรัม วิธีทำ : นำกุ้งและเห็ดแต่ละชนิดลวกพักไว้ นำกระเทียมสับ พริกขึ้หนูสับผสมรวมกันปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล และน้ำมะนาว คนให้ส่วนผสมเข้ากันดี แล้วใส่กุ้งและเห็ดลวกลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน ใส่แครอตซอย หอมหัวใหญ่ซอย คลุกเบามือให้ส่วนผสมเข้ากันอีกครั้ง แล้วโรยหน้าด้วยขึ้นฉ่าย (เครดิตภาพ : udon-news, mrs.kimwon) (https://scontent.fbkk6-2.fna.fbcdn.net/v/t1.0-0/p417x417/15032327_10154755159922028_8607108199972878264_n.png?oh=b8ad1069e4956e5cdd88e8614763320d&oe=58BC7D9C) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ธันวาคม 04, 2016, 03:19:34 PM ยำผักกูด
ผักกูด คือ ยอดอ่อนของไม้จำพวกเฟิร์น ยอดอ่อนและปลายยอดม้วนงอแบบก้นหอยและมีขนอ่อนๆ เป็นผักป่าที่มีรสจืดอมหวาน กรอบ ชาวบ้านนิยมเก็บกินช่วงหน้าแล้งเพราะรสชาติจะอร่อยกว่าฤดูอื่นๆ ผักกูดอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก และบีตาแคโรทีน ซึ่งหากกินร่วมกับเนื้อสัตว์ก็จะทำให้เกิดการดูดซึมแร่ธาตุเหล่านี้ได้ดีขึ้น ช่วยบำรุงร่างกาย บำรุงสายตา อาหารจานนี้เหมาะที่ควบคุมน้ำหนักตัวอย่างยิ่ง (เครดิตภาพ : nagoyalover, ปลายแป้นพิมพ์, แจ้ว, benz47, แพรริโกะ, ฟ้าลั้นลา) วิธีทำ :>> http://bit.ly/1iHfNze (http://bit.ly/1iHfNze) (https://scontent.fbkk7-2.fna.fbcdn.net/v/t1.0-0/s480x480/15171071_10154774380882028_3273713428911629875_n.jpg?oh=2a5f9dcde7154229e7c3481987a36ee6&oe=58BC01C0) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤษภาคม 08, 2017, 04:29:24 PM (https://scontent.fbkk7-3.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/s720x720/18222191_10155346633477028_7735958531146628928_n.png?oh=a8bc8ac0efef6c15882d04f100952859&oe=5979D30E)
ขนมฟักทอง ขนมฟักทองเป็นขนมไทยโบราณทำกินเองที่บ้านได้ง่ายๆ วิธีการไม่ยุ่งยาก วัตถุดิบหาได้ง่าย กินได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ในปัจจุบันจะทำใส่ถ้วยตะไล แต่ถ้าจะให้หอมควรทำใส่ห่อหรือกระทงที่ทำจากใบตอง เพราะจะได้กลิ่นหอมใบตองด้วย ฟักทองช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด ความดันโลหิต บำรุงตับ ไต ปรับสมดุลในร่างกาย หากกินทั้งเปลือกก็จะได้คุณค่าเพิ่มขึ้นอีก (เครดิตภาพ : บูด้อน, library.cmu.ac.th, painaima) วิธีทำ :>> http://bit.ly/1kiTIci (http://bit.ly/1kiTIci) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤษภาคม 08, 2017, 04:35:26 PM ส้นใหญ่ราดหน้าปลาเต้าซี่
โพสโดย somsak เมื่อ 1 มกราคม 2553 00:00 ประวัติของก๋วยเตี๋ยวน่าจะมีมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์ฯ แห่งกรุงศรีอยุธยา โดยชาวจีนล่องเรือมาขายสินค้ากับคนไทย นอกจากขายสินค้าแล้ว ยังนำเส้นก๋วยเตี๋ยวมาด้วยโดยปรุงกินกันในเรือ ต้มน้ำซุป ใส่หมู ใส่ผัก คนไทยเห็นเป็นของแปลกตาในยุคนั้นอย่างที่สุด แต่เมื่อเห็นบ่อยเข้าก็มีการนำเส้นก๋วยเตี๋ยวมาประกอบเป็นอาหารอื่นๆ สร้างความคุ้นเคยระหว่างคนไทยกับก๋วยเตี๋ยวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ คนจีนเริ่มมีการทำเส้นก๋วยเตี๋ยวเองในเมืองไทย โดยนำแป้งข้าวเจ้ามาทำเส้นก๋วยเตี๋ยวมากขึ้น คนไทยจึงรู้จักเส้นก๋วยเตี๋ยวกันเป็นอย่างดีในเวลาต่อมา หลังจากสิ้นยุคกรุงศรีอยุธยา มาถึงสมัยกรุงธนบุรี ยิ่งมีคนจีนเดินทางมาค้าขายและมาสร้างเนื้อสร้างตัวในเมืองไทยมากขึ้น และมีการทำเส้นก๋วยเตี๋ยวกันมากขึ้น จึงหาซื้อได้ง่ายและแถมด้วยการทำก๋วยเตี๋ยวขายแบบหาบเร่ไปถึงผู้ซื้อทีเดียว รวมถึงการเร่ขายทางเรือด้วย โดยมีทั้ง น้ำ แห้ง แต่เป็นหมูทั้งหมด ยังไม่มีก๋วยเตี๋ยวเนื้อเกิดขึ้น คนจีนมักทำเส้นก๋วยเตี๋ยวกันในครัวเรือน วิธีการคือนำเอาเมล็ดข้าวสารแช่น้ำไว้ตั้งแต่หัวค่ำ จนเช้าแล้วนำข้าวสารไปโม่ให้ละเอียดเป็นแป้ง ต่อมาก็ทำเป็นแผ่น โดยนำหม้อใบโตใส่น้ำต้มให้เดือด นำผ้ามัดปิดไว้ที่ปากหม้อ เว้นช่องให้ความร้อนที่เป็นไอผ่านได้สะดวก จากนั้นนำแป้งที่โม่ไว้และเหลวพอเหมาะพอดี ตักพอประมาณ เทละเลงลงบนผ้าที่มัดไว้ปากหม้อ ให้กระจายมีความบางกำลังดี แล้วเอาฝาหม้อปิดไว้ รอเพียงครู่เดียวแป้งก็สุก นำไม้พายแซะแผ่นแป้งที่สุกแล้วพาดไว้บนราวไม้ไผ่ ผึ่งให้แห้ง พอแห้งหมาดๆ ก็นำลงมาทาน้ำมันถั่วเคลือบไว้แล้วซ้อนแผ่นอื่นทับไปอีก จะได้ไม่ติดกัน หลังจากนั้นก็ใช้มีดหั่นเป็นเส้นๆ เส้นเล็กหรือใหญ่ก็แล้วแต่ว่าลงมีดหั่นอย่างไร ถ้าลงมีดห่างก็ได้เส้นใหญ่ ลงมีดชิดกันก็จะได้เส้นเล็ก แต่ปัจจุบันหั่นด้วยเครื่องกันหมดแล้ว จึงได้ขนาดของเส้นเท่ากันสม่ำเสมอ นี่คือที่มาของเส้นก๋วยเตี๋ยว ส่วนเต้าซี่ เป็นถั่วเหลืองพันธุ์ดำ ซึ่งมีวิธีการหมักเฉพาะตัว มีกลิ่นและรสแตกต่างไปจากเต้าเจี้ยว บางตำรับบอกว่าก่อนนำมาปรุงทำอาหารให้ล้างก่อน บางตำรับบอกไม่ต้องล้าง สำหรับวิธีการทำอาหารจานนี้ต้องล้างเต้าซี่ก่อน เพื่อล้างความเค็มออกไปบ้าง (https://www.doctor.or.th/sites/default/files/users/user15/IMG_6461.jpg) าดหน้า เป็นอาหารจานเดียวอีกอย่างหนึ่งที่ทำได้ง่าย กินได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ วัตถุดิบหาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไป ถ้าหาซื้อเต้าซี่ไม่ได้ให้ใช้เต้าเจี้ยวดำเม็ดใหญ่ก็ได้ แต่รสและกลิ่นจะไม่หอมเท่าเต้าซี่ (https://www.doctor.or.th/sites/default/files/users/user15/Untitled-9.9.jpg) ค่าโภชนาการของเส้นใหญ่ราดหน้าปลาเต้าซี่ 1 จาน ให้พลังงาน 841 กิโลแคลอรี ซึ่งเป็นพลังงานประมาณ 1 ใน 3 สำหรับผู้ที่ต้องการพลังงานวันละ 2,400 กิโลแคลอรี ได้แก่ หญิง-ชายที่ใช้พลังงานมากๆ (เกษตรกร ผู้ใช้แรงงาน และนักกีฬา) อาหารจานนี้ให้โปรตีนสูงมากถึงเกือบร้อยละ 71 ของปริมาณที่แนะนำให้กินใน 1 วัน (แนะนำเฉลี่ยวันละ 50 กรัม) และให้ไขมันที่สูงมากเช่นกัน คิดเป็นประมาณร้อยละ 85 ของปริมาณที่แนะนำให้กิน (แนะนำเฉลี่ยวันละ 60 กรัม) หรือพลังงานที่มาจากไขมันคิดเป็นร้อยละ 55 ของพลังงานทั้งหมดของอาหารจานนี้ โดยเป็นไขมันที่มาจากน้ำมันที่ใช้สำหรับผัด ทอด และน้ำมันงานั่นเอง อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ต้องการพลังงานวันละ 1,600 กิโลแคลอรี ได้แก่ เด็ก หญิงวัยทำงาน ผู้สูงอายุ และผู้ที่ต้องการพลังงานวันละ 2,000 กิโลแคลอรี ได้แก่ วัยรุ่นชาย-หญิง ชายวัยทำงาน สามารถกินอาหารจานนี้ได้เช่นเดียวกัน โดยผู้ที่ต้องการพลังงานวันละ 1,600 กิโลแคลอรี อาจแบ่งตักอาหาร 3 ใน 5 ส่วน และผู้ที่ต้องการพลังงานวัน 2,000 กิโลแคลอรี อาจแบ่งตักอาหาร 3 ใน 4 ส่วนของหนึ่งหน่วยบริโภค หรืออาจเลือกกินหมดทั้งจาน แต่ควรลดปริมาณอาหารในมื้อถัดไปแทน ซึ่งรวมถึงการลดอาหารที่มีไขมันสูงในมื้อถัดไปด้วย โดยหลีกเลี่ยงอาหารประเภทผัดและทอด อาหารที่มีกะทิเป็นส่วนประกอบ เนื้อสัตว์ติดหนังหรือติดมัน เป็นต้น (https://www.doctor.or.th/sites/default/files/users/user15/Untitled-10.1.jpg) มื่อดูคุณค่าโภชนาการอื่นๆ พบว่าอาหารจานเดียวจานนี้ ให้เส้นใยอาหารที่ค่อนข้างดี คิดเป็นประมาณร้อยละ 14 ของปริมาณที่แนะนำให้กินใน 1 วัน (แนะนำวันละ 25 กรัม) นอกจากนี้ ผักคะน้าที่ใช้เป็นส่วนประกอบหนึ่งของอาหารจานนี้ ยังเป็นแหล่งที่ดีของวิตามินซีและบีตาแคโรทีน ซึ่งทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยกำจัดอนุมูลอิสระต่างๆ ออกจากร่างกาย โดยให้วิตามินซีถึงร้อยละ 91 ของปริมาณที่แนะนำให้กินใน 1 วัน (แนะนำวันละ 60 มิลลิกรัม) และให้บีตาแคโรทีน 775 ไมโครกรัมต่ออาหาร 1 หน่วยบริโภค อย่างไรก็ตาม ทั้งวิตามินซีและบีตาแคโรทีนอาจถูกทำลายไปบ้างจากความร้อนในการลวก สำหรับปริมาณคอเลสเตอรอลของอาหารจานนี้ยังอยู่ในเกณฑ์ที่แนะนำ คือไม่เกิน 300 มิลลิกรัมต่อวัน ส่วนโซเดียมอาจมีปริมาณมากไปสักนิด คิดเป็นร้อยละ 58 ของปริมาณที่แนะนำให้กิน แต่ยังอยู่ในช่วงที่แนะนำเช่นกัน คือไม่ควรเกินวันละ 2,400 มิลลิกรัม ข้อมูลสื่อ ชื่อไฟล์: 369-015 นิตยสารหมอชาวบ้าน เล่มที่: 369 เดือน/ปี: มกราคม 2553 คอลัมน์: เข้าครัว นักเขียนหมอชาวบ้าน: ริญ เจริญศิริ, ศศพินทุ์ ดิษนิล https://www.doctor.or.th/article/detail/10282 (https://www.doctor.or.th/article/detail/10282) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ สิงหาคม 09, 2017, 10:06:03 PM หมีมีหม้อ added 3 photos and a video.
22 July at 16:00 · รูปที่โพสต์คลิป -ข้าวคลุกน้ำพริกกะปิ -ผักลวกและผักสด เช่น แครอทลวก แตงกวา -เนื้อปลาทู (อย่าลืมแกะก้างปลาออกนะ) -ชะอมสับ -ไข่ไก่ 2ฟอง -น้ำปลา -สเปรย์น้ำมัน -พลาสติกแรป •วิธีการทำ• -ตอกไข่ไก่ลงชาม ใส่ชะอมสับลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลา ตีให้เข้ากัน -ตั้งกระทะให้ร้อน ฉีดสเปรย์น้ำมันและเทไข่ลงไป ร่อนให้ทั่วกระทะ นำฝาหม้อมาปิด ใช้ไฟอ่อนนะคะจะได้ไม่ไหม้ -เมื่อไข่สุก ค่อยๆแซะออกจากกระทะ นำมาวางบนเขี่ยงหรือจาน ตักข้าวคลุกน้ำพริกกะปิใส่ให้เกือบทั่วแผ่นไข่ วางผักและเนื้อปลาทูที่เตรียมไว้ -ค่อยๆม้วนให้เป็นซูชิ (วิธีการม้วนดูได้ตามขั้นตอนในวิดีโอนะคะ) นำพลาสติกแรปมาแรปให้เข้ารูป ทิ้งไว้ประมาณ 2-3นาที นำแรปออกและหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ -จัดเสริฟ์ลงจานพร้อมน้ำพริกกะปิรสแซ่บและผักเคียง เสร็จเรียบร้อยพร้อมทานกับซูชิแบบง่ายๆสไตล์และรสชาติแบบไทยรูปที่โพสต์������������ อร่อยแบบอีซี่ๆจานนี้ไม่ทำทานไม่ได้ #หมีมีหม้อ (https://scontent.fbkk6-1.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/20264587_1057055817758895_2937977693039637222_n.jpg?oh=23c320d3fc19866164cb36568a6b9a26&oe=59ED5702) https://www.facebook.com/hashtag/ (https://www.facebook.com/hashtag/)หมีมีหม้อ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ตุลาคม 09, 2018, 10:45:10 PM ต้มกะหล่ำเจ ครื่องปรุงและส่วนผสม ต้มกะหล่ำเจ 1.กะหล่ำปลี 4 หัว 2.เห็ดหอม 10 ดอก 3.ฟองเต้าหู้ทอด 1 ถ้วยตวง 4.ซิอิ๊วขาว 1/2 ถ้วยตวง 5.ซอสปรุงรส 2 ถ้วยโต๊ะ 6.พริกไทยเม็ด 20 เม็ด 7.น้ำมันพืช 8.น้ำเปล่า วิธีการทำ ต้มกะหล่ำเจ ผ่ากะหล่ำปลี ออกเป็นสี่ถึงหกซีก (ขึ้นอยู่ว่าหัวเล็กหรือใหญ่) นำไปล้างน้ำให้สะอาด และผึ่งให้แห้ง จากนั้นเทน้ำมันพืชใส่กะทะ รอจนน้ำมันร้อน ใส่กะหล่ำปลีลงทอดให้เหลือง และดูว่าผักนุ่มลง (เวลาทอดให้ใช้ไฟปานกลาง คอยกลับข้างกะหล่ำด้วย น้ำมันที่ใช้ต้องมากพอท่วมผัก ไม่เช่นนั้นผักจะไหม้) จากนั้นตักขึ้นพักสะเด็ดน้ำมัน (ต้องสะเด็ดน้ำมันนานๆ ไม่อย่างนั้นเวลาต้มออกมา จะมันมาก) ถึงตอนนี้กลิ่นกะหล่ำทอดก็หอมไปทั่วบ้านแล้วล่ะ เรียงกะหล่ำใส่หม้อ โรยด้วยพริกไทยเม็ด บุบพอแตก ใส่น้ำเปล่าพอท่วมผัก ใส่ฟองเต้าหู้ทอด นำขึ้นตั้งไฟ ส่วนเห็ดหอมแห้ง ให้นำไปแช่น้ำจนนุ่ม (ถ้าดอกแข็งมากให้ใช้น้ำอุ่น) จากนั้นนำมาหั่นเป็นชิ้นพอคำ (อย่าลืมตัดแกนออก เพราะส่วนมากจะแข็ง เดี๋ยวจะทานไม่อร่อย) นำกะทะตั้งไฟ ใส่น้ำมันพืชเล็กน้อย ใส่เห็ดหอมที่เตรียมไว้ลงผัด ใช้ไฟอ่อน ผัดจนเห็ดหอม มีกลิ่นหอม ปรุงรสด้วยซิอิ๊วขาวเล็กน้อย ตักขึ้นพักสะเด็ดน้ำมัน ปรุงรสด้วย ซิอิ๊วขาว และซอสปรุงรส ตั้งไฟจน เดือนเข้ากันดี ชิมรสและปรุงรสเพิ่มตามความชอบ (ถ้าจะประหยัด ชิมแล้วรู้สึกว่าไม่เค็ม ปรุงรสเพิ่มด้วย เกลือ แต่ถ้าจะให้อร่อยเลิศแบบทุ่มทุนสร้างแนะนำว่าให้ปรุงรสด้วย ซิอิ๊วขาว ไม่ใช้เกลือค่ะ แบบว่าอร่อยมากๆ ขอบอก ) thank you kha http://www.thaifooddb.com/Recipe_Special/special_002.html (http://www.thaifooddb.com/Recipe_Special/special_002.html) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ เมษายน 06, 2020, 10:41:05 PM **สูตรน้ำพริก**
ทำกินเอง ในช่วงสถานการณ์ โควิด-19 เช่นนี้ ชอบน้ำพริกอะไร ให้แตะไปตรงนั้น เดี๋ยวสูตรน้ำพริก ก็จะขึ้นมา http://www.the-than.com/fooddd-1.html (http://www.the-than.com/fooddd-1.html) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ธันวาคม 05, 2020, 07:36:49 PM สูตรน้ำพริกมะขามถั่วลูกไก่
วัตถุดิบที่ต้องใช้ 1 ถั่วลูกไก่ต้มสุก 2 มะขามอ่อนดิบ 3.**เครื่องแกงเอาตามที่มี** รากผักชี พริก กระเทียม หอมแดง กระชาย ตะไคร้ ค่า ขิง 4.ใบเมทิ ใบมะกรูด ใบหมุย 5. น้ำมะขามเปียก 6. น้ำตาลมะพร้าวเล็กน้อย นำมะขามอ่อนดิบมาขูดเปลือกออก ถ้ามะขามดิบที่เป็นลูกใหญ่ให้เลาะเมล็ดออกเพราะจะทำให้น้ำพริกฝาด นำเครื่องแกงทั้งหมดมาหันแล้วก็โขกรวมกัน นำมะขามโขกรวมกันตามด้วยถั่วลูกไก่ต้มสุข บุบๆให้เข้ากันกับเครื่องแกง กระทะตั้งไฟ ใส่น้ำมันมัสตาร์ด ใส่ใบกระวาน เม็ดยี่หร่าเล็กน้อย เจียวให้หอม นำทั้งหมดที่โขกรวมกันลงไปผัด ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก เติมน้ำตาลมะพร้าวเล็กน้อย หั่นใบมะกรูด ใบหมุย ใบเมทิ ลง ผัด ปรุงรสตามชอบพร้อมเสิร์ฟ CR. พี่รุต หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ ธันวาคม 05, 2020, 07:37:38 PM ///คุกกี้รวมธัญพืช/// ติดตัวเวลาเดินทาง หรือ ทานคู่กับนมแพะตอนเช้า หรือทานคู่กับชาสมุนไพร ร้อนๆ หรือทานเป็น snack เล่นๆแต่คุณค่าสารอาหารเ โปรตีนเน้นๆ ไม่มีน้ำตาลอุตสาหกรรมไปขัดขวางการดูดซึมสารอาหารเข้าสู่เซลล์ร่างกาย ให้เด็กๆทานแทนขนมกรุบกรอบที่เป็นอันตรายตามท้องตลาดได้ //คุกกี้รวมธัญพืชที่ //ทำทานง่ายมาก /มีส่วนประกอบ/ กล้วยน้ำว้าสุก ข้าวโอ๊ต จมูกข้าวสาลี เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน เนื้ออินทผาลัม ลูกฟิกส์แห้ง ลูกเกดสีทอง อัลมอนด์ เม็ดมะม่วงหิมะพานต์ งาขี้ม่อน งาดำ งาขาว มะพร้าวขูด ผง chat masala /ตอนในการทำ/ 1เมล็ดมะม่วงหิมพานต์เมล็ดอัลมอนด์อบ ให้สุกก่อน 2 ใส่เนยใส และน้ำมันมะพร้าว อย่างละเล็กน้อย นำเครื่องทั้งหมดลงผัดยกเว้นกล้วย พอกลิ่นหอมใส่ผงชัดมาซาลานิดนึง 3.นำกล้วยสุก บดให้ละเอียด ปริมาณตามชอบ 4.นำวัตถุทั้งหมดมาคลุกรวมกันให้เข้ากันแล้วเอาใส่ถาดพิมพ์เข้าตู้อบ ถ้าไม่มีตู้อบก็ใช้ อบบน กระทะธรรมดาก็ได้ไปอ่อน แค่นี้ก็จะได้คุกกี้อบธัญพืชกลิ่นหอมกลุ่มหวานกรอบอร่อย นำพกติดตัว เวลาเดินทาง เอาให้เด็กๆทานแทนขนมกรุบกรอบที่เป็นอันตรายได้ cr พี่รุต หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มกราคม 26, 2021, 10:45:33 PM วิธีทำปาท่องโก๋ ง่ายๆ 2 สูตรเด็ดเคล็ดลับความอร่อย ให้คุณทำขาย
สูตร 1 (แบบกรอบนอก นุ่มใน และกลวงเล็กน้อย) ส่วนผสม แป้งสาลีตราฮกแดง 1 กิโลกรัม ไข่ไก่ 2 ฟอง เกลือ 4 ช้อนชา น้ำ 3¾ – 4 ถ้วย ยีสต์ 1 ช้อนชา น้ำมันพืช 2 ช้อนชา น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ แอมโมเนีย (เช้าก่า) 1 ช้อนโต๊ะ ผงฟู 2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ ผสมยีสต์ ผงฟูและแป้ง รวมกันแล้วพักไว้ ละลายน้ำตาล เกลือ แอมโมเนีย ในน้ำ เติมน้ำมันพืช ไข่ไก่ คนให้เข้ากันดี ใส่ส่วนผสมของเหลวลงในส่วนผสมแป้ง นวดให้เข้ากัน พักแป้งไว้ประมาณ 3-4 ชั่วโมง ตัดแป้งเป็นแท่งยาวๆ โรยแป้งนวลเพื่อไม่ให้ติดมือ ยืดแป้งออกให้เป็นแผ่นบางๆ หนาประมาณ ½ เซนติเมตร ตัดเป็นชิ้นยาวๆ ใช้ไม้จุ่มน้ำแตะตรงกลาง ประกบแป้งเข้าหากัน นำไปทอดในน้ำมันที่ร้อนจัด สูตร 2 (แบบนุ่ม มีเนื้อ เมื่อเย็นแล้วเนื้อนิ่มไม่เหนียว) ส่วนผสม แป้งสาลีตราฮกแดง 1 กิโลกรัม ไข่ไก่ 1 ฟอง เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ น้ำ 3½ ถ้วย น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ ผงโซดาไบคาร์บอเนต 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาล 3 ช้อนโต๊ะ แอมโมเนีย (เช้าก่า) ½ ช้อนชา ผงฟู 2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ ผสมโซดา ผงฟูและแป้ง รวมกันแล้วพักไว้ ละลายน้ำตาล เกลือ แอมโมเนีย ในน้ำ เติมน้ำมันพืช ไข่ไก่ คนให้เข้ากันดี ใส่ส่วนผสมของเหลวลงในส่วนผสมแป้ง นวดให้เข้ากัน พักแป้งไว้ประมาณ 4-6 ชั่วโมง นำไปทอด 1. การนวดแป้ง จะไม่นวดนานเกินไป เพียงแค่นวดให้ส่วนผสมเข้ากันดีก็พอ 2. ควรละลายน้ำตาล แอมโมเนีย และเกลือในส่วนผสมที่เป็นน้ำก่อน แล้วคนให้ละลายจนหมด จึงนำไปผสมในส่วนผสมที่เป็นของแห้ง จะทำให้ส่วนผสมเข้ากันได้เร็ว 3. อัตราส่วนระหว่างแป้งกับน้ำในแต่ละสูตรอาจจะมีการคลาดเคลื่อนบ้างเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับความเก่าใหม่ของแป้ง ถ้าเป็นแป้งเก่าอาจจะต้องเพิ่มน้ำบ้างเล็กน้อย 4. ควรมีการพักแป้งอย่างน้อย 3 – 4 ชั่วโมง ก่อนทอดถ้าทอดเร็วเกินไป ปาท่องโก๋จะเนื้อแน่น วิธีสังเกตง่ายๆ คือ สังเกตจากแป้งจะมีฟองอากาศมาก ก็สามารถนำมาทดลองทอดได้ 5. ควรใช้น้ำมันปาล์มในการทอดและน้ำมันที่เหลือแต่ละครั้งควรนำมากรอง ด้วยผ้าขาวบางทุกครั้งก่อนที่จะนำมาทอดใหม่และควรเปลี่ยนน้ำมันที่ใช้ทอดบ่อยๆถ้าน้ำมันเก่ามากจะเกิดสารพิษในน้ำมัน ทำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพ 6. ความร้อนที่ใช้ทอดควรใช้ความร้อนปานกลาง ถ้าใช้ไฟแรงเกินไปจะทำให้ผิวของปาท่องโก๋ไม่สวย มีสีไม่สม่ำเสมอ และผิวนอกนิ่มไม่กรอบ 7. การตัดแป้ง ควรแผ่นแป้งให้หนาประมาณ ½ เซนติเมตรหากแป้งหนามากเกินไปจะทำให้แป้งเนื้อแน่นเวลาแตะน้ำติดตรงกลาง ประกบติดกัน ไม่ต้องบีบแป้งแน่นเพราะถ้าบีบแป้งแน่นเกินไป จะทำให้ตัวขนมไม่กางออกมาเวลาทอด 8. เวลาทอด เมื่อหย่อนแป้งลงในน้ำมัน พอแป้งลอยขึ้นมา ควรใช้ตะเกียบพลิกกลับไปกลับมาจะทำให้แป้งแห้งฟูและพองตัวดี ที่สำคัญอย่าใส่ปาท่องโก๋มากเกินไปในการทอดแต่ละครั้ง 9. เราสามารถตัดยีสต์ที่อยู่ในสูตรออกได้ ถ้าต้องการให้ขนมขึ้นช้าหรือกลัวทอดไม่ทันขายแต่ต้องใช้เวลาในการหมักให้นานขึ้นและถ้าอยากให้ปาท่องโก๋มีรสชาติดีขึ้น ให้ให้เติมผงชูรสลงไปในสูตร 2-3 ช้อนชา ขอบคุณสูตรอาจารย์นวรัตน์ เอี่ยมพิทักษ์กิจ เอื้อเฟื้อสูตรและเทคนิคการทำปาท่องโก๋ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2021, 08:33:59 PM https://www.youtube.com/watch?v=LViBDjw4WhU&feature=youtu.be (https://www.youtube.com/watch?v=LViBDjw4WhU&feature=youtu.be)
สอนทำข้าวหมากสูตรโบราณ โดยครูสมพร พร้อมแบ่งปันความรู้ และประสบการณ์ที่สอนวิชาการงานพื้นฐานอาชีพเป็นเวลานานมากกว่า 30 ปี โดยจะนำเนื้อหาเกี่ยวกับงานศิลปประดิษฐ์ งานบ้าน งานเกษตร และแนะนำวิชาชีพต่างๆ ที่น่าสนใจ เพื่อให้ผู้เรียนได้นำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ ถ้าชอบคลิปไหนให้กดถูกใจ กดแชร์ หรือคอมเม้นด้านล่างวิดีโอ ครูจะตอบความคิดเห็นของท่าน และอย่าลืมกดติดตาม หรือ Subscribe คลิปใหม่ๆ ด้วยนะคะ กดติดตาม Subscribe https://goo.gl/qUYa4G (https://goo.gl/qUYa4G) https://www.youtube.com/watch?v=OcaMYYwVPq4&feature=youtu.be (https://www.youtube.com/watch?v=OcaMYYwVPq4&feature=youtu.be) แจกสูตรและวิธีทำข้าวหมาก หรือ ข้าวหมัก ทำทานดีมีประโยชน์ l กินได้อร่อยด้วย ส่วนผสม - ข้าวเหนียว 1,000 กรัม - แป้งข้าวหมาก 1/2 ก้อน - น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤศจิกายน 12, 2022, 10:07:51 AM เปิดสูตร! หมูสะเต๊ะ by หลวงพี่ไอซ์ ทำกินเองไม่ง้อร้าน ทำขายสร้างอาชีพก็ได้ (https://www.sentangsedtee.com/wp-content/uploads/2022/11/MG_9342-992x561-1.jpg) หากพูดถึงเมนูกินง่ายขายคล่องแล้วล่ะก็ เมนูที่เกี่ยวกับเนื้อหมู แทบจะติดโพลหลายๆ สำนัก ไม่ว่าจะ หมูย่าง ข้าวเหนียวหมูปิ้ง กะเพราหมูสับ หมูสะเต๊ะ ฯลฯ หลวงพี่ไอซ์ไขอาชีพ หรือ พระใบฎีกานพรัตน์ ขนฺติจารี สกุล ภาคพิธเจริญ จึงได้แจกสูตรการทำ หมูสะเต๊ะ ให้กับผู้ที่สนใจอยากนำไปทำทานเอง หรือนำไปทำขายสร้างอาชีพ หลวงพี่ไอซ์ก็ยินดี โดยวัตถุดิบและวิธีการทำ ดังนี้การหมักหมู ใช้วัตถุดิบ ดังนี้ การหมักหมู ใช้วัตถุดิบ ดังนี้ 1. สันนอกติดมัน 2. เม็ดยี่หร่า 3. เม็ดผักชี 4. ตะไคร้ 5. ผงขมิ้น 6. ผงกะหรี่ 7. หัวกะทิ (คั้นแห้ง) 8. เกลือ/น้ำตาล/ผงปรุงรส วิธีทำ หมักหมู อัตราส่วน หมู 1 กิโลกรัม/มันหมู 3 ขีด 1. ให้หั่นหมูบางๆ (ผสมมันแข็งได้บ้าง) 2. คั่วเม็ดยี่หร่า 2 ช้อนโต๊ะ และเม็ดผักชี 2 ช้อนโต๊ะ จากนั้น นำมาป่นให้ละเอียด ตามด้วยโขลกตะไคร้ 4 ต้น 3. นำหัวกะทิ ผสมกับ ผงขมิ้น ผงกะหรี่ ตะไคร้โขลก และเม็ดยี่หร่า & เม็ดผักชีที่ป่นแล้ว คนให้เข้ากันแล้วจึงนำหมูที่หั่นไว้มาขยำให้เข้าเนื้อ 4. ปรุงรสให้ออกหวาน-มัน-เค็ม 5. นำหมูมาเสียบไม้ แล้วหมักแช่ตู้เย็น อย่างน้อย 1 วัน (24 ชั่วโมง) จึงนำมาย่างได้ *เมื่อนำมาย่าง ควรใช้ไฟอ่อน และหมั่นทาหัวกะทิบนเนื้อหมูจนกว่าจะสุก น้ำจิ้ม ใช้วัตถุดิบ ดังนี้ 1. พริกแกงมัสมั่น 2. พริกแกงเผ็ด 3. กะทิ 4. ถั่วงป่น 5. เครื่องปรุงรส ได้แก่ น้ำมะขาม/น้ำตาลมะพร้าว/เกลือ วิธีทำ 1. ผสมพริกมัสมั่น 2 ส่วน และ พริกแกงเผ็ด 1 ส่วน 2. ผัดพริกแกงกับหัวกะทิจนแตกเป็นมันจัดๆ จากนั้น ปรุงรสด้วย เกลือ น้ำตาลมะพร้าว และ น้ำมะขาม ให้รสชาติออกไปทาง 3 รส คือหวาน เปรี้ยว เค็ม ตามลำดับ 3. เมื่อน้ำจิ้มได้ที่แล้ว จึงดับไฟ แล้วรอให้เย็น จากนั้นใส่ถั่วป่น ตามความชอบ อาจาด ใช้วัตถุดิบ ดังนี้ 1. น้ำตาลทราย 2. น้ำส้มสายชู 3. เกลือ 4. แตงกวา 5. หอมแดง 6. พริกชี้ฟ้า วิธีทำ 1. ผสมน้ำส้มสายชู น้ำตาล เกลือ โดยให้ปรุงออกไปทาง 3 รส ให้รสหวานนำ 2. ตั้งน้ำให้เดือด จากนั้นนำส่วนผสมข้างต้นลงไปเคี่ยว 3. รอให้น้ำอาจาดเย็น จึงค่อยใส่แตงกวาซอย-หอมซอย และพริกซอยลงไป *ทำน้ำอาจาดแยกไว้ แล้วค่อยใส่ผักลงไปทีหลัง จะทานอร่อยกว่า ที่มา https://www.sentangsedtee.com/?s=%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%84%E0%B8%AD%E0%B8%8B%E0%B9%8C (https://www.sentangsedtee.com/?s=%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%84%E0%B8%AD%E0%B8%8B%E0%B9%8C) หัวข้อ: Re: ชวนกันเข้าครัว เริ่มหัวข้อโดย: paul711 ที่ พฤศจิกายน 12, 2022, 06:36:23 PM ขอบคูณครับคุณหนูใจ ผมนําเงินที่เพืื่อนสมาชิกส่งมา ไปทําบุญที่ร.พ.ศิริราช 4,000บาท และร.พ.รามาธิบดี 4,000บาท ถ้ามีเวลาจะนําใบเสร็จมาให้ดูครับ
คุณหนูใจ มี id line ไหมครับ ถ้ามีขอด้วย หรือติดต่อผมได้ที่ id line paul7111 ครับ สะดวกกว่าคุยในเวบครับ |