Gold Price today, Gold Trend Price Prediction, ราคาทองคํา, วิเคราะห์ทิศทางทองคํา

(http://img197.imageshack.us/img197/3362/legendoftheseekers01e01.gif)
ต้องใช้เวทย์มนต์ แยกน้ำ -แบ่งภูผา อิอิอิ

แกป

แกปก่อเกิดมาจาก ราคาที่ไม่สมดุลย์ ระหว่างฝั่งซื้อ และ ฝั่งขาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจาก การผลักดัน อย่างกระทันหัน จาก สื่อ รายงานทาง ศก หรือ อื่นๆ

แม้ว่า การเทรดแกป จะให้กำไรอย่างงาม แต่ก้อเป็นเรื่องยากสำหรับนักเทรดหลายคน นักเทรดส่วนเป็นจำนวนมากจะหลีกเลี่ยง การเทรดแกป ซึ่งมักเกิดมาจาก การปั่นราคา โดย นักปั่นมืออาชีพ และ สถาบันขนาดยักษ์ แต่อย่างไรก้อดี นักเทรดที่มีประสบการณ์สามารถใช้กลยุทธํนี้ได้อย่างประสบความสำเร็จ โดยใช้ จับจุดหมุน (Pivot)  - แนวรับ - แนวต้าน ระหว่างแกปนั้นๆ

เพิ่มเติม, แกปที่เกิดขึ้นระหว่างวัน อาจมีศักยภาพ และ ผลกระทบต่อราคา และสร้างโอกาสทำกำไรได้อย่างดีเยี่ยม เมื่อ พิจารณาจาก คาบเวลา 30 นาทีและ 60 นาที

แกปสามารถแบ่งออกได้เป็น

• Common
• Breakaway
• Continuation and Exhaustion

แต่ละแบบ มีวิธีการเทรดเฉพาะแบบ แต่ ความสามารถทำกำไรได้ดีที่สุดและเสียงน้อยที่สุด คือ แกป แบบ Breakaway และ Exhaustion
โดยเฉพาะ Exhaustion น่าดึงดูดมาก ในการทำกำไร และ Breakaway นั้นให้ความเสี่ยงที่ต่ำกว่า ในระยะยาว


กฏพื้นฐานในการเทรดแกป

1. การเทรดแกป มีศิลปะในตัวของมันเอง

2. การเทรดแกป จะให้ ความประสบความสำเร็จอย่างสมเหตุสมผล แต่ยังนำพาความเสี่ยงเพิ่มขึ้นมากกว่าการเทรดด้วยวิธีอื่นๆ อย่างไรก้อดี แกปแบบ breakaway, exhaustion and  island reversals ให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ากว่าในแง่ความเสี่ยง

3. กราฟที่เกิดแกป ต้องอยู่ในช่วงการเทรด

4. breakaway gap  ที่กระโดดขึ้น การเทรดจะดูจาก ราคาปิดที่ต่ำลงเรื่อยๆ ประมาณ 2 - 3 วันติดกัน

5. แกปที่ระดับต่ำ ถือเป็น แนวรับ และ แกปที่ระดับสูงถือเป็นแนวต้านได้

6. โดยส่วนใหญ่ แกป มีแนวโน้มที่จะ ถูกปิด ภายในวันนั้นๆ

7. แกปแบบ Common นักเทรดควรหลีกเลี่ยง

8. ระหว่างการเทรดแกป จะต้องป้องกันตัวเองด้วย จุดตัดขาดทุนรั้งท้าย ที่ตัวสุดท้ายเสมอ

9. แกป breakaway ที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่จะไม่ถูกปิด ดังนั้น ไม่จำเป็นที่แกป จะต้องถูกปิดเสมอไป

10. ถ้าแกปมีขนาดกว้างถึง 2.5 เท่า ของช่วงการเทรดใน 10 วันที่ผ่าน ควรหยุดเทรดในวันนั้น แล้วเข้าเทรด ในวันถัดไป



การเทรด Common Gap
(http://www.forexjournal.com/images/stories/demo/nov2007chart/gap_1_opt.gif)
แกบทั่วไป - แกปสามัญ - แกปธรรมดา ไม่รู้จะเรียกอย่างไรดี นะคะ ก่อรูปบ่อยครั้ง และไม่ได้เป็นตัวกำหนดทิศทางตลาด ด้วยปริมาณการซื้อขายที่น้อยนิด แกปชนิดนี้จะถูกหลีกเลี่ยงโดนนักเทรดส่วนมากถ้าระยะแกปเล็กมากๆ
นักเทรดที่มีประสบการณ์สุงบางคน อาจเทรดแกปแบบนี้ด้วยการเข้าเร็วออกเร็ว



การเทรด Breakaway Gap
(http://www.forexjournal.com/images/stories/demo/nov2007chart/gap2_opt.gif)
แกปตีจาก - แกปกระชาก จะเรียกว่าอะไรดี ชื่อเพราะๆ ทั้งนั้น นะคะ แกปแบบนี้มีความน่าเชื่อถือมากกว่า และเห็นชัดเจนด้วยตาเปล่า
แกปกระชาก เกิดขึ้นเมื่อราคาหลุดคอนเวอร์เจ้น หรือ สามเหลียม หรือ การปรับฐานที่เกิดขึ้นมายาวนาน และเกิดขึ้นพร้อมกับ ปริมาณซื้อมหาศาลเพื่อที่จะทะลุลวงคอนเวอร์เจ้น
แกปกระชากนี้ จะไม่ปิดตัว อย่างรวดเร็วขณะที่มันกระชากขึ้นมาจากคอนเวอร์เจ้นท์ และจะคงอยู่ในเทรดที่มันกระชากขึ้นมาเป็นระยะเวลาอีกยาวนาน ก่อนที่จะกลับตัวในที่สุด
แกปตีจาก นี้ จะให้ โอการในการทำกำไรอย่างดีเยี่ยม โดยการเข้าในจุดที่มันแยกตัวออก เช่นกระชากขึ้น ให้เข้าที่ซื้อที่จุดกระชากซื้อนั้นเลย หากถ้ากระชากลง ให้เข้าชอตที่จุด กระชากนั้น และต้องตั้ง จุดตัดขาดทุน ที่ตำแหน่งที่มันแยกตัวออกมาเสมอ และประมาณ 3-4 วัน แกปแบบนี้อาจจะกลับมาปิดตัวลง



การเทรด Continous Gap
(http://www.forexjournal.com/images/stories/demo/nov2007chart/gap3_opt.gif)
แกปต่อเนื่อง - แกปกลางลำตัว - แกปแยกร่าง ชื่อไหนดี อิอิ แกปรายวันส่วนใหญ่มักจะถูกปิด ในช่วงอาทิตย์หรือสองอาทิตย์ถัดไป ในกรณีแกปต่อเนื่อง สปอต จะไปทำนิวโฮ หรือ นิวโล โดยไม่มีการปิดแกป (หรืออีกนัย แกปนี้ อยู่ระหว่างจุดสูง หรือ ต่ำสุด ของเทรน)
แกปต่อเนื่องเป็นการส่งสัญญานของเทรนที่จะยืดตัวออก ในขณะที่แกปตีจากเกิดที่จุดเริ่มต้นของเทรน
แกปต่อเนื่องมากับปริมาณการซื้อขายมโหฬารเช่นกัน




การเทรด Exhaustion Gap
(http://www.forexjournal.com/images/stories/demo/nov2007chart/gap4_opt.gif)
แกปสิ้นท่า - แกปหมดแรง - แกปทิ้งทวน - แกปลาจาก ใช้ชื่ออะไรดีน้าาาา แกปทิ้งทวนนี้เกิดขึ้นใกล้จุดกลับตัว และสังเกตุโดยหลังจากเกิดแกปแล้วแกปไม่ดีดกลับไปอีกเพื่อยอดสูงสุดหรือเหวต่ำสุดใหม่
แกปทิ้งทวนนี้ เป็นโอกาสที่เยื่ยมที่สุดในการทำกำไรสำหรับเทรดที่กำลังกลับตัวอย่างรุนแรง
แกปทิ้งทวนนี้ สามารถตรวจจับได้ง่ายดาย ในขณะที่ราคาเกิดการกลับตัวอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ราคาได้พยายามที่จะปิดแกปนั้น
แกปทิ้งทวนนี้ จะเข้าชอต ที่ต่ำแหน่งต่ำกว่าแท่งเปิดแกปตัวแรก และตัดขาดทุนที่จุดสูงสุดของแท่งแกปตัวแรก หรือ
เข้าลอง ที่ต่ำแหน่งสูงกว่าแท่งที่เปิดตัวแรก และตัดขาดทุนที่จุดต่ำสุดของแท่งแกปแรก

---

เสริมเรื่องการหาจุดหมุน

Pivot Point Analysis

Pivot Points offer the trader a method of determining support and resistance for a given time frame. Pivots can be used with any time frame, daily, weekly, monthly, even any intra-day chart. A common technique is to calculate Pivots for a variety of time frames using common levels as a way of developing confidence parameters. There are five basic parameters calculated in Pivot Point Analysis. They are the Pivot (P), 1st Resistance (R1), 2nd Resistance (R2), 1st Support (S1) and 2nd Support (S2).

These levels are used in much the same manner as you would trendline support and resistance levels. Many traders us the Pivot level as a trend indicator. Above P, they only go long. Below P, they only go short. Conversely, you can go long against S1 with your stop loss a few ticks below S2. You can go long above the Pivot or above R2 with an entrty stop. If your long against S! is successful, you can add to the position with a buy stop above the Pivot. Then, you can take partial profits with a limit at R2 and trail your protective stop on the remaining position for the ever elusive "Home Run" trade. The equations can be easily programmed into Excel and are often offered as canned indicators by most charting services. However, it's good to know what they represent. H, L and C represent the previous day's High, Low and Close, respectively. Here's the equations:

R2 = P + (R1 - S1)
R1 = (P x 2) - L
P = (H + L + C) / 3
S1 = (P x 2) - H
S2 = P - (R1 - S1)

Adjusted Pivots

Often a large gap open leaves Pivot numbers calculated on the previous day's actions fairly useless.
Many traders adjust their value for P as follows:

O = Today's Opening Price
P = O + (H + L + C) / 4

Gaps

Gaps are formed when a price imbalance occurs in its buy and sell orders. Most gaps are usually driven by news or economic reports, earnings reports or up/downgrades. The daily gaps are defined in stocks when the day's opening price (begins at 9:30 am EST) is either higher or lower than the prior day?s closing price at 4pm EST. Most stocks and index futures gap about 20% to 25% of the time during the year.

แกปก่อเกิดมาจาก ราคาที่ไม่สมดุลย์ ระหว่างฝั่งซื้อ และ ฝั่งขาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจาก การผลักดัน อย่างกระทันหัน จาก สื่อ รายงานทาง ศก หรือ อื่นๆ

Although ?Gap? trading is very profitable, trading gaps is relatively difficult for many traders. Many traders avoid gap trading as ?Gaps? are usually manipulated by professional portfolio traders and large institutional traders. However, experienced traders employ some successful strategies to trade gaps by a popular method of fading them. Traders watch pivots, support and resistance areas within the gaps and fade them.

แม้ว่า การเทรดแกป จะให้กำไรอย่างงาม แต่ก้อเป็นเรื่องยากสำหรับนักเทรดหลายคน นักเทรดส่วนเป็นจำนวนมากจะหลีกเลี่ยง การเทรดแกป ซึ่งมักเกิดมาจาก การปั่นราคา โดย นักปั่นมืออาชีพ และ สถาบันขนาดยักษ์ แต่อย่างไรก้อดี นักเทรดที่มีประสบการณ์สามารถใช้กลยุทธํนี้ได้อย่างประสบความสำเร็จ โดยใช้ จับจุดหมุน (Pivot)  - แนวรับ - แนวต้าน ระหว่างแกปนั้นๆ

Additionally, ?Gaps? form during intra-day trading (on time-based charts) and may offer some potential clues to price-action. During intra-day trading, gaps formed in higher time frame charts such as 30 minute or 60 minute offer excellent trading opportunities.

เพิ่มเติม, แกปที่เกิดขึ้นระหว่างวัน อาจมีศักยภาพ และ ผลกระทบต่อราคา และสร้างโอกาสทำกำไรได้อย่างดีเยี่ยม เมื่อ พิจารณาจาก คาบเวลา 30 นาทีและ 60 นาที


Gaps are primarily grouped as: Common, Breakaway, Continuation and Exhaustion. Each has its own way to trade, but the most profitable and relatively low-risk ?Gaps? are Breakaway and Exhaustion gaps. Exhaustion gaps present very attractive gains and Breakaway gaps offer low risk setups. Breakaway gaps are also excellent in finding the breakout candidates for long term.

แกปสามารถแบ่งออกได้เป็น

• Common
• Breakaway
• Continuation and Exhaustion

แต่ละแบบ มีวิธีการเทรดเฉพาะแบบ แต่ ความสามารถทำกำไรได้ดีที่สุดและเสียงน้อยที่สุด คือ แกป แบบ Breakaway และ Exhaustion
โดยเฉพาะ Exhaustion น่าดึงดูดมาก ในการทำกำไร และ Breakaway นั้นให้ความเสี่ยงที่ต่ำกว่า ในระยะยาว



Here are some basic rules to remember when trading Gaps.
กฏพื้นฐานในการเทรดแกป

1. Trading ?Gaps? is an art and is a specialty by itself.
1. การเทรดแกป มีศิลปะในตัวของมันเอง

2. Gap trading methods offer reasonable success, but it does present more risk than  other trading methods. However, gap setups such as breakaway, exhaustion and  island reversals offer excellent rewards for the risk involved.
2. การเทรดแกป จะให้ ความประสบความสำเร็จอย่างสมเหตุสมผล แต่ยังนำพาความเสี่ยงเพิ่มขึ้นมากกว่าการเทรดด้วยวิธีอื่นๆ อย่างไรก้อดี แกปแบบ breakaway, exhaustion and  island reversals ให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ากว่าในแง่ความเสี่ยง


3. Stocks which involve gap trading must have a consistent trading range. For  example, a stock priced at $20 must have at least a $0.50 average trading range (ATR), and a stock priced at $50 must have at least a $1 average trading range. Furthermore, a stock price of $100 must have at least $2 average trading range.
3. กราฟที่เกิดแกป ต้องอยู่ในช่วงการเทรด

4. To consider an upside breakaway gap, the stock must be closing lower at least two or three days prior to the gap formation.

4. breakaway gap  ที่กระโดดขึ้น การเทรดจะดูจาก ราคาปิดที่ต่ำลงเรื่อยๆ ประมาณ 2 - 3 วันติดกัน


5. Gaps below the markets act as support and above the markets act as resistance.
5. แกปที่ระดับต่ำ ถือเป็น แนวรับ และ แกปที่ระดับสูงถือเป็นแนวต้านได้

6. In most cases, index futures' opening gaps tend to fill during the same trading day.

6. โดยส่วนใหญ่ แกป มีแนวโน้มที่จะ ถูกปิด ภายในวันนั้นๆ

7. Common gap trading should be avoided by most traders.
7. แกปแบบ Common นักเทรดควรหลีกเลี่ยง

8. During Gap trading, protect your trades using trail stops.
8. ระหว่างการเทรดแกป จะต้องป้องกันตัวเองด้วย จุดตัดขาดทุนรั้งท้าย ที่ตัวสุดท้ายเสมอ

9. A valid breakaway gap almost never gets filled. Hence, all ?Gaps? get filled is only partially true.
9. แกป breakaway ที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่จะไม่ถูกปิด ดังนั้น ไม่จำเป็นที่แกป จะต้องถูกปิดเสมอไป

10. If a daily stock gap is 2.5 times the 10-day ATR, ignore the trade until at least the following day.
10. ถ้าแกปมีขนาดกว้างถึง 2.5 เท่า ของช่วงการเทรดใน 10 วันที่ผ่าน ควรหยุดเทรดในวันนั้น แล้วเข้าเทรด ในวันถัดไป

Gap Types :

Common Gap

(http://www.forexjournal.com/images/stories/demo/nov2007chart/gap_1_opt.gif)

Common gaps form more often in quiet and trend less markets with a small increase in volume. Common Gaps occur more often than other Gap forms. These Gaps should be avoided by most traders if the gap range is very small. Some experienced traders may trade common Gaps with quick entry and exit rules. Trading against (fading) the common gap is the only way to profit from common gap patterns. These trades should be quick as an entry of ?short? may be placed for an upside gap, as the prices reach new highs. Place a stop above the new high, and place targets at the lower-end of the gap
range. For a downside gap, wait for prices making new lows and enter a ?long? trade. Place a ?stop? below the recent low, and place a target near the high of the gap range.

แกบทั่วไป - แกปสามัญ - แกปธรรมดา ไม่รู้จะเรียกอย่างไรดี นะคะ ก่อรูปบ่อยครั้ง และไม่ได้เป็นตัวกำหนดทิศทางตลาด ด้วยปริมาณการซื้อขายที่น้อยนิด แกปชนิดนี้จะถูกหลีกเลี่ยงโดนนักเทรดส่วนมากถ้าระยะแกปเล็กมากๆ

นักเทรดที่มีประสบการณ์สุงบางคน อาจเทรดแกปแบบนี้ด้วยการเข้าเร็วออก

Breakaway Gap

(http://www.forexjournal.com/images/stories/demo/nov2007chart/gap2_opt.gif)

Breakaway gaps are most reliable and are easy to visually detect. Breakaway gaps occur when prices rise out of a congestion zones or long base trading areas. They usually have heavy volume on the breakout. These gaps do not close quickly as they initiate a trend from congestion zone and stay in the trend for a long time before a reversal occurs. From the congestion zone breakout, prices make higher highs for a few bars, usually with gaps in between them, and for breakdowns prices they make lower-lows for a few bars. Breakaway Gaps present an excellent trading opportunity. Enter at the beginning of the trend in a breakaway gap and place a ?stop? order below the low of the bar prior to the gap. Targets usually set a previous major swing high. Close the trade after 3 to 4 days of upside movement.


แกปตีจาก - แกปกระชาก จะเรียกว่าอะไรดี ชื่อเพราะๆ ทั้งนั้น นะคะ แกปแบบนี้มีความน่าเชื่อถือมากกว่า และเห็นชัดเจนด้วยตาเปล่า
แกปกระชาก เกิดขึ้นเมื่อราคาหลุดคอนเวอร์เจ้น หรือ สามเหลียม หรือ การปรับฐานที่เกิดขึ้นมายาวนาน และเกิดขึ้นพร้อมกับ ปริมาณซื้อมหาศาลเพื่อที่จะทะลุลวงคอนเวอร์เจ้น
แกปกระชากนี้ จะไม่ปิดตัว อย่างรวดเร็วขณะที่มันกระชากขึ้นมาจากคอนเวอร์เจ้นท์ และจะคงอยู่ในเทรดที่มันกระชากขึ้นมาเป็นระยะเวลาอีกยาวนาน ก่อนที่จะกลับตัวในที่สุด
แกปตีจาก นี้ จะให้ โอการในการทำกำไรอย่างดีเยี่ยม โดยการเข้าในจุดที่มันแยกตัวออก เช่นกระชากขึ้น ให้เข้าที่ซื้อที่จุดกระชากซื้อนั้นเลย หากถ้ากระชากลง ให้เข้าชอตที่จุด กระชากนั้น และต้องตั้ง จุดตัดขาดทุน ที่ต่ำที่มันแยกตัวออกมาเสมอ และประมาณ 3-4 วัน แกปแบบนี้อาจจะกลับมาปิดตัวลง

Continuation Gap

(http://www.forexjournal.com/images/stories/demo/nov2007chart/gap3_opt.gif)

Most daily gaps tend to fill during the following few weeks. In the case of Continuation gaps, prices make new highs, or new lows, without filling the gap for extended periods of time. Continuation Gaps are signaling a continuation of an existing trend. The Breakaway gap forms at the start of a trend, while a Continuation gap forms in the middle of trend. Moreover, the volume during the Continuous gaps is heavy. Prices should make new highs or new lows immediately after the gap to ?continue? the prior trend. Trading Continuous gaps could be relatively easy as the trend direction is clearly established prior to the gap

แกปต่อเนื่อง แกปรายวันส่วนใหญ่มักจะถูกปิด ในช่วงอาทิตย์หรือสองอาทิตย์ถัดไป ในกรณีแกปต่อเนื่อง สปอต จะไปทำนิวโฮ หรือ นิวโล โดยไม่มีการปิดแกป (หรืออีกนัย แกปนี้ อยู่ระหว่างจุดสูง หรือ ต่ำสุด ของเทรน)
แกปต่อเนื่องเป็นการส่งสัญญานของเทรนที่จะยืดตัวออก ในขณะที่แกปตีจากเกิดที่จุดเริ่มต้นของเทรน
แกปต่อเนื่องมากับปริมาณการซื้อขายมโหฬารเช่นกัน


Exhaustion Gap
(http://www.forexjournal.com/images/stories/demo/nov2007chart/gap4_opt.gif)


An Exhaustion gap occurs near the end of the trend and is not followed by new highs or new lows after the gap bar. Exhaustion gaps are great trading opportunities for reversal signals, as markets tend to fall or rise violently after the gap formation. These gaps can be easily detected as the prices reverse quickly after a gap and prices attempt to close below the gap. After an Exhaustion gap, enter a ?short? trade below the low of the gap bar, and place a ?stop? above the swing high of the pattern. Exhaustion gaps result in extensive sell- offs from the prior uptrend. Place targets near the swing lows prior to the Exhaustion gap trend rally.


แกปสิ้นท่า - แกปหมดแรง - แกปทิ้งทวน - แกปลาจาก ใช้ชื่ออะไรดีน้าาาา แกปทิ้งทวนนี้เกิดขึ้นใกล้จุดกลับตัว และสังเกตุโดยหลังจากเกิดแกปแล้วแกปไม่ดีดกลับไปอีกเพื่อยอดสูงสุดหรือเหวต่ำสุดใหม่
แกปทิ้งทวนนี้ เป็นโอกาสที่เยื่ยมที่สุดในการทำกำไรสำหรับเทรดที่กำลังกลับตัวอย่างรุนแรง
แกปทิ้งทวนนี้ สามารถตรวจจับได้ง่ายดาย ในขณะที่ราคาเกิดการกลับตัวอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ราคาได้พยายามที่จะปิดแกปนั้น
แกปทิ้งทวนนี้ จะเข้าชอต ที่ต่ำแหน่งต่ำกว่าแท่งเปิดแกปตัวแรก และตัดขาดทุนที่จุดสูงสุดของแท่งแกปตัวแรก หรือ
เข้าลอง ที่ต่ำแหน่งสูงกว่าแท่งที่เปิดตัวแรก และตัดขาดทุนที่จุดต่ำสุดของแท่งแกปแรก


Trading Exhaustion Gap
(http://www.forexjournal.com/images/stories/demo/nov2007chart/gap5_opt.gif)


The example above illustrates an ?Exhaustion gap? setup from the Google?s (GOOG) daily chart. A series of other Gaps are also shown in the example above. From April to May 2006, GOOG expanded making higher highs and traded from $340 to $450. In the middle of April 2006, GOOG released its earnings. Subsequently, GOOG gapped (exhaustion) open from $415 to $435 and traded as high as $450. After a few days from the earnings report release, GOOG failed to continue its higher closes and traded below the low of the gap bar at $435 to confirm an Exhaustion gap setup.

1. Enter a ?short? trade below the low of the gap bar at $435.
2. Place a ?stop? order above the high of the gap bar $451.
3. Enter a target near the previous ?swing low? prior to the exhaustion gap at $400.

Trading Breakaway Gap

 
(http://www.forexjournal.com/images/stories/demo/nov2007chart/gap6_opt.gif)

The example above illustrates a Breakaway gap setup from the Sepracor?s (SEPR) daily chart. Breakaway gaps develop from consolidation zones and are not filled for a long time. SEPR traded in a consolidation zone after an extended rally from December to January, 2006. In late January 2006, a Breakaway gap was created as SEPR expanded its trading range to downside from $60 to $57.75.

1. Enter a ?short? trade below the low of the gap bar at $56.
2. Place a ?stop? order above the high of the gap range at $60.
3. Place a target near the major swing low prior to the rally at $50.

ตัวอย่าง

(http://www.traderslog.com/piv2.jpg)

Breakaway Gap
จุดแยกตัวสวยงามมาก ที่ Pivot พอดี ดังนั้น
เข้าลองที่ แนวต้าน R₁ โดดหนีที่ แนวต้าน R₂  ---ตัดขาดทุนรั้งท้าย ที่ตำแหน่งแยกตัว Pivot

หรือ

มองเป็น Exhaust Gap
(ห้ามเข้าชอตทันทีที่เห็นแกปนี้) รอเข้าชอต ต่ำกว่า R₁ และรีบโดดออกที่ตำแหน่งแยกตัว Pivot ---- ตัดขาดทุนรั้งท้ายที่ตำแหน่ง แนวต้าน R₁

 :)  ความรู้ล้วนๆ มาอ่านด้วยคน ขอบคุณครับ

ขอบคุณค่ะ  อุตสาห์แปลให้ อีก  (บอกไม่รู้ต่อไปก็ ไม่ได้แล้วซิ) 
รู้ จาย  จิง ๆ   ;D ;D ;D 

ขอบคุณหลายๆอีกรอบ

มาศึกษาด้วยคนคะ  ;D ;D ;D ขอบคุณจ้า

ขอบคุณครับคุณIcy เอาข้อมูลมาแบ่งปันแล้วยังอุตส่าห์แปลให้ด้วย
สุดยอดเลยครับบ^^

มาหาดาว  ;D

MetaTrader 4 Mobile

This terminal allows to work at financial markets being mobile. For MetaTrader 4 Mobile to operate, a Pocket



http://www.metaquotes.net/download/

แปลจีนเป็นไทย

http://www.dict2u.com/index.php?option=com_glossary&Itemid=32&catid=16&func=display&search=%E9%98%BB&search_type=1

ความล้มเหลวในเชิงการตัดสินใจ

การรีบเข้า
การไม่รีบเข้า

การเข้าผิดจังหวะ


ความล้มเหลวเชิงรูปแบบ

ผีเสือ - ผีเสื้อซ้อนผีเสื้อ
มังกร - ทำDouble Top/Bottom - เปลี่ยนรูปแบบ
อื่นๆ - เข้าสู่จุดตัดขาดทุน

คุณ Icy .. รวบรวม "คลังสมอง" มาไว้ในบ้านคุณ paul711
ถือเป็น "แหล่งการเรียนรู้" .. ที่หาได้ยากมาก

ผมขออนุญาต . มาศึกษาด้วยคนนะครับ

ด้วย "ความขอบคุณ .. อย่างสูง"

Trading Renko Charts

Renko charts were invented by Japanese traders hundreds of years ago and named for renga, a Japanese word for "brick." How are they different from bar or candlestick charts? First of all they are visually attractive, making it easy to filter noise and isolate trends. They show symmetry and are effective in determining the major trend and support & resistance areas. Renko charts are also efficient in signaling trend-reversal patterns.

WHAT ARE THEY?

Renko charts are another way of representing price changes. They display trends in such a way that may not be obvious in a bar or candlestick chart. Renko charts are able to suppress the noise display and produce uniformity in the underlying trend. Although useful, renko charts also produce whipsaws and have serious trading caveats, but overall there are advantages to renko-based trading. One is that a trader tends to stay in a trade longer than other trend-following techniques.

THE ADVANTAGES

Compared to more conventional charts like bar charts and candlestick charts, renko charts make the decision-making process easier. A typical one-minute bar chart of the emini Russell 2000 (ER2) would have about 405 bars in a day, whereas a similar renko chart (of one-point box size) would produce 25 to 50 renko boxes. The fewer boxes reduce the number of variables you need to consider for your trading decisions during the trading day. If you look at a five-minute chart, a bar chart would display 81 bars, whereas renko charts would display 17 to 35 boxes on a typical day. So a longer time frame chart would produce fewer renko boxes.

In Figure 1 you see a comparison of a renko and bar chart display on five-minute charts of the ER2. Figure 1A displays a renko box formation and Figure 1B shows a conventional five-minute bar chart. On January 30, 2007, there were nine one-point renko boxes on the five-minute chart, whereas on the five-minute bar chart there were 81 bars. You can see a similar situation on January 31.


(http://www.traders.com/Documentation/FEEDbk_docs/2007/08/Abstracts_new/Duddella/dudfig1.gif)
FIGURE 1A: RENKO BOXES
In Figure 2 you see a spreadsheet comparing one-minute, five-minute, and 30-minute range renko and bar charts on various trading days.

 LCYC สั้นระบบซื้อขายระยะง่ายที่จะได้รับ 300 จุดหรือมากกว่าหนึ่งวัน

1 เงินตราใช้ได้ทุกคู่สกุลเงินที่แนะนำ: GBP / USD, GBP / JPY


2 ใช้รอบ: H4 เพื่อพิจารณาแนวโน้มยาวสั้นแข็งแกร่ง-M15 เข้ารูปแบบฟอร์มเข้าก้าวหน้า M5

3 แนวโน้มเพื่อตรวจสอบ: ในแผนภูมิ H4 กับ RSI, KDJ, MACD เพื่อพิจารณาแนวโน้มของ  H4 กราฟ RSI สูงถึง 50 บรรทัด KDJ โปรดแจ้ง Jin Cha, MACD เพิ่มคอลัมน์ยาว

 4 เงื่อนไขการเปิดตำแหน่ง


1 แบบฟอร์ม strong
M15 ทำแผนเพิ่มเติม: นายลูกศรสีเขียว Laguerre-แสดง ACS1 ขึ้นผ่าน 0.15 สีฟ้าเส้น, StochHistogram ขึ้นผ่าน 0-แกนสีเขียวหน้าแดง, RSI สูงถึง 50 บรรทัด KDJ ขึ้น MACD ขึ้นเงื่อนไขในการเปิดยุ้ง

2 รูปร่างดีขึ้น

ทำเพิ่มเติม: แผนแม่บท M5 ลูกศรสีเขียวแสดงสถานะ Laguerre ACS1-ขึ้นผ่าน 0.15 สีฟ้าเส้น, StochHistogram ขึ้นผ่าน 0-แกนสีเขียวหน้าแดง, RSI สูงถึง 50 บรรทัด KDJ ขึ้น MACD ขึ้นเงื่อนไขในการเปิดยุ้ง


 5 เงื่อนไขการคลี่คลาย

ทำตำแหน่งที่เปิดขึ้นเมื่อช่วงการซื้อขายใน Laguerre-แสดง ACS1 ลงไปยังสายสีแดงผ่าน 0.85 หรือเมื่อสาย RSI ลงมาถึง 50 ตำแหน่งที่เปิด ตำแหน่งที่เปิด Short: เมื่อช่วงการซื้อขายใน Laguerre-แสดง ACS1 ขึ้นผ่าน 0.15 สายสีแดงหรือเมื่อสาย RSI ขึ้นในตำแหน่ง 50 เปิด เมื่อป้อนราคาเป้าหมายสามารถดูที่แผนที่หลักของสายการต่อต้านการสนับสนุนญี่ปุ่นย้ายหยุด 30 จุดหรืออ้างอิงถึง M15 สีแดงจุดบนแผนที่


EX4 ไฟล์ในโฟลเดอร์ผู้เชี่ยวชาญ MT4 \ ดัชนีซึ่งจะ. ไฟล์ TPL ในโฟลเดอร์แม่แบบใน MT4 และเปิดขึ้นใหม่ซอฟต์แวร์ MT4 add-ระบบ lcyc Templates v1.0.tpl


ใครสนใจ ติดต่อขอ ไฟล์จาก พี่ดา นะคะ อิอิ

Parabolic SAR


(http://www.incrediblecharts.com/images/png_images/msft%20parabolic.png)

Ignore signals while price is ranging (identified by the fluctuations around the MA).  

Go long at [L] after price respects the MA. Price then breaks out of the range, confirming our signal.
Exit [X] when price activates the Parabolic SAR stop.
Do not go short as the MA slopes upwards.
Go long [L] when price crosses back above the stop. MA is still rising.
Exit [X] when price falls to the stop level.
Do not go short as the MA slopes upwards.
Go long [L] when price crosses back above the stop. MA is still rising.
Exit [X] when price falls to the stop level.
Do not go short as the MA still slopes upwards.



(http://i.investopedia.com/inv/articles/site/SAR1.gif)

One of the most important aspects to keep in mind is that the positioning of the "dots" is used by traders to generate transaction signals depending on where the dot is placed relative to the asset's price. A dot placed below the price is deemed to be a bullish signal, causing traders to expect the momentum to remain in the upward direction. Conversely, a dot placed above the prices is used to illustrate that the bears are in control and that the momentum is likely to remain downward. (For further reading,


The first entry point on the buy side occurs when the most recent high price of an issue has been broken; it is at this time that the SAR is placed at the most recent low price. As the price of the stock rises, the dots will rise as well, first slowly and then picking up speed and accelerating with the trend. This accelerating system allows the investor to watch the trend develop and establish itself. The SAR starts to move a little faster as the trend develops and the dots soon catch up to the price action of the issue. As you can see in Figure 1, the indicator works extremely well when a stock is trending,



(http://static.forexyard.com/en/images/technical-indicators/parabolic_sar.jpg)
Parabolic SAR is used for creation of closing orders and trailing stop orders. SAR means stop-and-reversal.

Methods of usage

Long positions should be closed when price falls below SAR line.
Short positions should be closed when price rises higher than SAR line.
Each point of SAR defines the level of stop-order on the current & not the following trading period (day, hour, etc.)




but it can lead to many false signals when the price moves sideways or is trading in a choppy market.  

ไอซี่เอง ก้อ อยากช่วยให้ ชาวไทยเรา มากินกำไร จากเมืองนอก แทนที่จะโดน คนไทยกันเล่น เล่นกันเอง

ไม่ถูกเรื่องเลย แบบนี้จะยกระดับ คนไทยได้อย่างไร


มาคุยเรื่อง Zero Zone กันดีกว่าคะ จะบอก เทคนิค โดยสังเขปให้ คะ

กราฟ เคลื่อนตัว ของกราฟ แบ่งเป็นสองแบบ คือ การสวิง และการเบรคแตก โดยมีเงือนไข จะต้องตัดขาดทุน หรือ กำไร เมื่อถึงจุดเบรคแตก ทุกครั้ง


การเล่นแบบสวิง

(http://img691.imageshack.us/img691/9864/icyd10.jpg)

พื้นที่สีเทา เราเรียกมันว่า Zero Zone เป็นพื้นที่ที่เจ้ามือดึงราคาหนีมา เพื่อให้ เงินในกระเป๋าเจ้ามือเป็น บวก หรือ อย่างน้อยเป็นศูนย์ โดยมีกลุ่มเหยื่อหรือ กลุ่มเป้าหมาย คือนักลงทุนรายย่อย และสายป่านสั้น

วิธีการเล่น คือ หาแนว ฝากล่อง กับก้นกล่อง  

• เข้าชอตที่ตำแหน่งฝากล่อง ตามลูกศรสีแดง ตัดขาดทุนเหนือตำแหน่งฝากล่องประมาณ 2 -3 เหรียญ
• เข้าลองที่ตำแหน่งก้นกล่อง ตามลูกศรสีเขียว ตัดขาดทุนตต่ำกว่าตำแหน่งก้นกล่องประมาณ 2 -3 เหรียญ

แต่ก่อน เล่น หาขนาด กล่องก่อน ว่า สูงพอคุ้มกับการลงทุนไม๊ ถ้าไม่คุ้ม รอ เล่นแบบ เบรคแตกดีกว่า หากกล่องใบเล็กไป

*** และที่สำคัญ ต้อง ตัดขาดทุน ตามนั้นทุกประการ




การเล่นแบบ เบรคแตก

(http://img691.imageshack.us/img691/4346/icyd11.jpg)

เมื่อรุ้ว่า กล่อง Zero Zone อยู่ตรงไหน การเบรคมักมีขนาดถึง 20 - 30 - 50 - 80 เหรียญ เลยทีเดียว

• เรากำหนดจุดเบรคแตกทีฝากล่อง ในการเข้าลองสูงกว่าจุดเบรคแตก สัก 1 - 3 เหรียญ ตัดขาดทุนที่ตำแหน่งฝากล่องต่ำลงมาสัก 1-3 เหรียญ
• เรากำหนดจุดเบรคแตกทีก้นกล่อง ในการเข้าชอตต่ำกว่าจุดเบรคแตก สัก 1 - 3 เหรียญ ตัดขาดทุนที่ตำแหน่งก้นกล่องสูงขึ้นมาสัก 1-3 เหรียญ

เช่นเดียวกัน ต้องมี วินัย ในการตัดขาดทุนอย่างยิ่งยวด อย่าไปเสียดายเงินตัดขาดทุนแค่ 3 - 5 เหรียญ ไม่งั้นโดนลาก 50 -100 เหรียญ จะ กระอัก




การหา ขนาดกล่อง ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน

เมื่อกราฟมีการเบรคแตก มาครั้งหนึ่งแล้ว จะ อาศัยเวลาสักพัก ในการสร้างกล่องใบใหม่ กล่องใบใหม่ที่กำลังสร้างขึ้น สำหรับนักเล่นสวิงจะชอบมาก แต่การลงทุนจะเพียว 1 ในสิบของการลงทุน แบบแบรคแคก

เพราะว่า การเล่นสวิงมีความเสี่ยงกว่า การเล่นแบบเบรคแตก ถึง 10 - 100 เท่า ต้องมองเทคนิค ได้ดี จริงๆ ถึงเอาตัวรอดจากการเล่นสวิงได้

ถ้าท่านไม่ได้มีเงินหลัก สิบล้าน ร้อยล้าน หรือ พันล้าน ท่านไม่ได้อยู่ในข่าย ของนักลงทุน ที่มีสายป่านยาววววว ไกลลลลลล ในการเก็บทรัพย์สิน หรือ รักษาทรัพสินย์นั้นๆ ท่านจะเป็นเพียงนักเทรด ขาจรเท่านั้น

และเมื่อท่าน รู้ ว่าท่านคือใคร มีสถานะภาพเช่นไร ควรจะเลือกลงทุนให้เหมาะสม กับ ทรัพย์สินของท่าน อย่าริอาจไปคิด แบบขาใหญ่เด็ดขาด สายป่านมันคนละชั้นกัน


เทคนิคที่ไอซี่เอามาเขียนข้างต้น ได้อ่านๆมา จากหนังสือ หลายเล่ม ประกอบกันคะ และ มาสรุป ว่า ฝรั่งเขาเล่นกันอย่างไร และทำไมเขามีวินัยอย่างมาก ในเรื่องการตัดขาดทุน หรือ ตัดกำไร

ตำแหน่งตัดขาดทุนหรือตัดกำไร มักเป็นไปตามตัวเลข ฟิโบ เช่นกันคะ

เช่น เทรนแข็งแกร่ง หน่วยของการตัดกำไรที่ 5 7 8 9

เทรนที่ไม่แข็งแกร่ง หน่วยการตัดกำไรที่ 1 2 4 (อย่ารอ 5 เด็ดขาด)


เพียงแค่นี้ แมงเม่า อย่างเราๆ น่าจะ หาเงินจากเมืองนอกได้ ปีละ ล้านสองล้านนะคะ มาเป็น ค่า ทำสวนครัวหลังบ้าน


อิอิอิ

รวยๆ คะ ทุกๆ ท่าน

โห เห็นตัวเลขค่าทำสวนหลังบ้านแล้วน้ำลายไหลเลยค่ะ งี้ขอตามคุณไอซ์คนเก่งได้มั๊ยคะ จะได้รวยตามคุณไอซ์ค่ะ ขอบตุณคุณไอซ์มากค่ะ ข้อมูลหลักวิฃาการเพียบเลย

Heuristic-Based Trading

Although I am engaged in developing two algorithmic trading systems, the Trend Machine (a cellular automata?based system) and JOSTAN FX (an artificial intelligence expert system), I don?t use automated algorithmic systems to trade currently.

I remain an old-fashioned discretionary, seat-of-my-pants chart trader.

I use nothing but charts to trade, no indicators. I do troll the Global-View forum two or three times a week to get a sense of what other traders are thinking on specific markets, to see if I am missing something big, to learn about the fundamental underpinnings, and to scout for the possible contrary opinion opportunity. My trading is not mechanical. I have traded for 35 years and studied tens of thousands of charts. I firmly believe in keeping
it simple (KIS). While I seldom go against my trade plan, I am not hesitant to trust my instincts from time to time. Nonmechanical methods are less prone to the occasional price bluff than are algorithmic systems. The idea of 25-year-old quants with functionally no market experience running tens of billions of dollars in FOREX quite simply makes me shudder. A debacle is coming?when, I do not know.

I don?t trade the news, but note all announcements pending for the currencies I trade. I watch to see how the market reacts to these as an indication of the major trend. For an excellent analysis of the quantitative aspects of news announcements, see Forex Shockwave Analysis, by James L. Bickford (McGraw-Hill, 2007).

THE SNOWFLAKE TRADING HEURISTIC

Critical to my trading is the heuristic I have developed over the years. I call it the Snowflake heuristic and consider any trading heuristic that is process based in this manner to be a Snowflake approach. The idea of a Snowflake heuristic is for the trader to gradually zero in on a trade, working from the most general considerations to the most specific. For more on my thinking in this regard, see Getting Started in Forex Trading Strategies (John Wiley & Sons, 2007), where much of this methodology is described as the Codex process.

?Boxing a trade? was Mr. Goodman?s phrase for the process of finding a trade?going from a general observation of a market to a more specific analysis and finally to actually entering an order. I think ?Snowflake? describes it and my additions to it more accurately.

1. Analyze the market.
2. Identify candidate trades.
3. Determine money management parameters.
4. Enter the trade.
5. Monitor the trade.
6. Exit the trade.
7. Postmortem the trade.
8. Analyze the market.

The postmortem is an important step. I have found that small, incremental changes to my trade process can mean a large difference on the bottom line. But once my postmortem is finished, I do move on and do not think about the trade itself again.

Much of my trading method is based on two methods I learned from my mentor, Charles B. Goodman, and further developed on my own over the years since his passing in 1984. (The first two chapters in Part Three??Currency Futures Trading Basics? and ?FOREX Lessons from Shanghai BC??explain this in greater detail.) I have refined Charlie?s approach and customized it to my own trading style and personality.

The Snowflake trading heuristic is quite simple. As an eclectic, I am not a slave to any methods or ideas. I want to spend the majority of my time watching, questioning, and analyzing markets. I do try to follow the Snowflake heuristic to some degree for every trade. I am not by nature an organized person, so it requires real effort for me. You begin
with a general shape for a trade and continuously overlay it with heuristic steps until the shape is clearly defined and you have a trade. This idea was first introduced to me by Randy Ingermanson as an approach to writing. His Snowflake Principle obviously has applications to many domains. Play this short Java applet to get a visual sense of Snowflake: http://math.rice.edu/?lanius/frac/koch/koch.html.

I am generally a day trader, although I have been known to be a scalper and to use scalping as a method of testing the waters and building a position in a pair. I monitor 10 to 15 markets at any given time. They are said to be ?in the hopper.? The pairs and crosses in the hopper are not fixed; I sometimes rotate currencies in or out as I see things on charts or as the spirit moves me. I review charts of 25 markets?5-minute, 15-minute, 30-minute, 1-hour, 3-hour, 1-day, 1-week?on a weekly basis. If a chart catches my eye or I read something interesting in the Global-View forum, I might make hopper changes.

Of those 10 to 15 markets, typically seven or eight will be on a watch list for which I keep basic notes. Three or four will be candidates that I observe and analyze more closely for Goodman Swing Count System (GSCS) trading formations, and one or two will actually be trades in progress. I rarely have more than three open positions at one time. Even with a relatively simple heuristic and trading method I have used for decades, it is still a lot to keep track of for me. Certainly one advantage of the algorithmic trading system method is that a computer can follow more markets than any one person can follow.

There are four steps to the primary trade (Snowflake) heuristic: Watch, Hopper, Candidate, and Trade. Prospective trades move from the former to the latter. Of course, many potential trades are eliminated during the process. The heuristic approach can also be useful for money management and attitude, although the trade heuristic is most critical. All of these are covered in the sections that follow.

Before examining the heuristic in more detail, here are a few tips to consider along the way.

? Unless you use an automated trading system, you are constantly juggling  and judging a variety of inputs from the market. Being on for trading  is essentially having all these elements working together smoothly. I take 10 minutes before each session to try to get those elements working smoothly in my mind and catch up on the market action that I have missed. I take 10 minutes after each session to take a mental snapshot of at least my current candidate trades and open trades. I never leave a session without stop-loss and a take-profit prices sitting in the market.

? Give a trade time to work. Most new traders are in a rush and spend too much of their time watching the shorter time frame charts. Remember, even in such active markets as FOREX it takes time for a trend to develop. If you don?t believe me, look at a few daily and weekly charts. You?ll see some enormous trends?but they took days, weeks, and months to develop.

? Do not let a profitable trade turn into a loser, ever! You can always reenter a market. ?If in doubt, stay out!? Assuming you are a day trader, once a trade has gone 20 to 25 pips in your favor, consider taking partial profits and moving your initial stop on the balance up to close to breakeven. For an idea of how much to move a stop, look at the average price rhythm for the secondary trend (the trend opposite your position).

Hopper Heuristic

At the hopper level?where prospective trades begin their journey?I am watching the major trend (directional movement):

? Price rhythm
? Time rhythm
? Volatility
? Thickness
? GSCS formations?Return, Double Intersection, Goodman Wave

These provide me a basic feel for the market in question. Should it become a candidate, I already have a good understanding of what is happening. At the hopper level, whatever your particular methods, you are only wanting to have a general understanding or feel for a particular market.

Candidate Heuristic

Once a prospective pair is cleared to be in the hopper, I watch for more specific signs to move it to candidate status.

A currency pair or cross cannot become a candidate on the basis of trend, price rhythm, time rhythm, volatility, and/or thickness. It is the appearance of a potential GSCS formation that moves it from hopper to candidate status.

At the candidate level I am mostly interested in ordinal GSCS formations.

If one of these occurs, or looks like it may occur, I am then watching for an entry point and calculating cardinal GSCS values. I am sometimes happy to trade without making extensive cardinal calculations. I have seen so many charts that I usually have a sense of what is fish and what is fowl.

?Ordinal? refers to direction only, with no specific values of price attached. ?Cardinal? refers to measurements with specific price values.

Trade Heuristic

I keep both a daily and a weekly trade plan. This is much like a doctor?s log for a patient. I can pick it up anytime I ?see the patient? and know the situation, ready to absorb new information. This was an idea I picked up from Frank Semone, and it is an excellent tool?clean, simple, and effective.

I get a buy or sell signal from a GSCS formation. Since I have been monitoring things from hopper to candidate, I am already prepared to move.

Money Management Heuristic

I set stop losses and price objectives based on the cardinal GSCS measurements and market environment (ME) elements of time rhythm and price rhythm. I may trade with no stop loss entered in the market?although I strongly recommend against the new trader doing this?but I never leave a session without both stop-loss and take-profit prices in the market.

I recommend the new trader use fixed dollar stops and objectives, placing them in as soon as a trade is executed?and leave them alone. If it is a long-term trade, you may wish to gradually move up your stops to protect
a portion of your profit.

Attitude Heuristic

I do not open a trading session if I am not 100 percent emotionally ready to trade or if I have less than three hours of time. I prefer in-depth trading sessions of 8 to 10 hours, and you will often find me trading from 2:00 P.M. EST to midnight. If I have other things of importance to do, I complete those tasks so my mind is clear to trade. I close the door to my home office. My wife and son know that means to stay away. Sometimes I play classical music in the background. I keep a notebook ready to jot down important notes, reminders, things of interest, and memory joggers. I punch in and out of a trading session on a sheet?using an old time clock from my Hawaii futures office. I know how much time a week I have devoted to trading and how long the trading sessions were. Each month I like to calculate my profit/loss in pips per hour of trading. I keep very brief notes at the beginning of the session and end of the session noting my overall attitude.

Postmortem Heuristic

I keep accurate records of each trade?date, pair, time in, price in, time out, price out, lot size. I also note the formation that triggered entry and the basic ending values?win/loss, amount. All trading platforms keep this information and many of them allow you to pull it off into a spreadsheet. I prefer doing it by hand.

At the end of every 10 trades I review all my notes, looking for sources of both strength and weakness. I am especially interested in finding ME Profiles (see Chapter 28) in which I have done exceptionally well (or poorly). I know from experience that small changes to my method can make big changes to the bottom line. Eliminating one bad trade can move a campaign from the minus column to the plus column. I try to make small, evolutionary changes rather than large, revolutionary changes. I treat trading as a process and think carefully before I tinker or otherwise interrupt the process. I then move the data to a set of spreadsheets where, if necessary, the numbers can be more intensively crunched.

Chart Scales

I use three scaled bar charts for each market I follow. This may vary from time to time?and I may use a fourth or fifth chart scale for a confirming look at some specific in the heuristic. If I see a chart with a potential GSCS formation I will use it.

Primary Scales
? 5-minute chart?timing
? 1-hour chart?watch
? 1-day chart?trend

Secondary Scales
? 15-minute chart?watch
? 30-minute chart?watch
? 3-hour chart?trend
? 1-week chart?trend

Which ones I use vary to some degree, but I am always thinking in terms of a watch chart (15-minute, 30-minute), a major trend chart (3-hour, 1-day), and a timing chart (5-minute). I avoid watching the 5-minute chart, because it moves too much and makes small price jiggles look overly important. Few traders use the 1-day or weekly chart, but they are worth a look?not just for the major trend but to see how truly long-term many FOREX prices moves are. We can get excited about a 100-pip move but fail to remember the major trends can be several hundred pips in length and months in duration.

A KIS (KEEP IT SIMPLE) SYSTEM

Before moving on to my trades, let me show you a very simple system for trading. It is, I think, ideal for the new trader. You can use it later as a candidate heuristic when you have developed a more sophisticated trade heuristic.

?The trend is your friend? is an old saying in the market. It is perhaps the best of many market proverbs. It is very difficult to get badly hurt if you simply trade with the major trend. The rub?how do you determine the major trend?

Trend is relative. A trend on a 1-day chart may be composed of numerous smaller trends and trading or congestion areas. But it can generally be accepted that the bigger the chart scale on which a trend shows, the more reliable it is. Currencies do tend to run in very long-term trends (a tidbit of information well worth considering). If you do not believe me, take 10 minutes to examine some daily and weekly currency charts. The major trend
is also a function of your trader profile. A 15-minute chart might be major to a Guerrilla, while it is probably a timing chart for a Position Trader.

A trend, of course, may at any time stop, go into a congestion or sideways mode, or reverse completely. Again, the longer-term the trend, the more reliable it is. Nonetheless, one wants to get on a trend earlier rather than later. Predicting prices requires some degree of anticipation.

The simple system uses only two chart scales from those listed earlier, but without reference to the GSCS formations. There are six steps:

1. Look for a long-term trend on either the 1-day or 1-hour chart. Ideally,  look for a long-term trend on the 1-day chart and a current subtrend in  the same direction on the 1-hour chart.

2. Look for the price rhythm on the long-term trend for both the primary trend direction and the secondary or correction trend direction. If these rhythms have a close average, you have a candidate.

3.  Wait for a price rhythm average move in the secondary trend opposite  the primary trend.

4.  Move to the 5-minute or 15-minute chart. Average the primary and secondary trends.

5. Enter the market on the first move in the direction of the primary trend after an average move of the secondary trend. I call this the Dagger entry principle.

6.  Place your stop at approximately 50 percent of the value of the secondary trend above or below your entry price. Place your take-profit price at approximately 75 percent of the value of the primary trend above or below your entry price.

If you wish to try for a larger piece of the price pie: For every 10 or 20 pips the market moves in your direction, move your stop half that distance closer. You may also use the Dagger to raise or lower stops: Wait for the market to pull back toward your stop and then move back up or down. When it does this, raise or lower your stop to just below or above the pullback price. Figures 8.1, 8.2, and 8.3 are examples of the Dagger formation.

While the structure remains the same, the specifics of each market may make them look somewhat different. Every market is unique!

ขอบคุณจ้า...

(http://image.coverdd.com/image-EC38_4AA3CF76.jpg)

ขอบคุณครับ เจได ใจดี    ;)

KDJ
Type
Momentum Indicator, using a divergence line

How does it work?
The KDJ indicator is actually a derived form of the Stochastic with the only difference being an extra line called the J line.

The J line represents the divergence of the %D value from the %K. The value of J can go beyond [0, 100] for %K and %D lines on the chart.

Trading Signals
A negative value of J combined with %K and %D at the bottom range indicates a strong over sold signal.

Likewise, when the J value goes above 100, combined with %K and %D at the top range, it will indicate a strong over bought signal. 

Settings
Sharechart Default:  14 period, 3 period, 1 period

Example
The AXA chart below traded between a support and resistance point and using the KDJ indicator we can identify these points as oversold and overbought.


(http://www.sharechart.com./Education/TechnicalIndicators/KDJ.ht1.gif)

คุณไอซ์ค่ะ
  ;D บทความนี้มีประโยชน์มากจริงๆ ขอบคุณมากมาย ;D

การชิงความได้เปรียบ ในเชิงต้นทุน

ใน บางประเทศ มีดัชนี วัดการเปลี่ยนแปลง ที่ลึกล้ำ บวกกับ ต้นทุนการเทรด ที่ต่ำ ซึ่งสามารถ นำมาสู่ความได้เปรียบได้ ดังนี้

1. ระบบ แจ้งสัญญา การชอตหรือลอง เร็วกว่า (แต่แน่นอนกว่า) กว่าระบบทั่วไปที่ใช้ใน เอมที 4

2. ต้นทุนต่ำ กว่า ต้นทุนการเทรดของ โบรคเกอร์ อื่นๆ

กลยุทธ

เข้าเทรด เมื่อเกิดสัญญาน (ในขณะที่ ระบบทั่วไปสัญญานยังไม่เกิด)

เนื่องจากต้นทุนที่ต่ำมาก รีบตัดทำกำไร ก่อนที่ระบบทั่วไปจะเกิดสัญญาน การเข้า หรือ ออก

ผลที่ตามมา คนที่เข้าตามสัญญาน ของระบบทั่วไป จะเข้าได้ช้ากว่า และเนื่องจากต้นทุนที่สูงกว่า จะ ต้องรอทำกำไร ในขณะที่ คนที่ต้นต่ำกว่า ได้ตัดกำไร ออกไปแล้ว
ส่งผลให้ ระบบของเจ้ามือเสียสมดุลย์ และคนที่เหลืออยู่ในระบบ คนที่เข้าช้ากว่า จะ ถูกลาก ไปชดเชย กำไรที่ถูกตัดไปก่อนหน้านี้  ยิ่งผลห่างมากเท่าไหร่ การโดนลาก อาจโดนในระดับ เท่าตัว หรือ สองเท่าตัว


ระบบการเทรดของท่าน เป็นอย่างไร และ สู้กับระบบการเทรด อัจฉริยะ พวกนี้ ได้ หรือไม่คะ?

ขอบคุณคะ อ มาโนชย์

โดยสังเกตุ

5.00 - 7.00 โกเบค  ราคาขึ้น ---- เข้าลอง
7.00 - 8.00 ออสซี่  ราคาตามน้ำ - อยู่เฉยๆ
8.00 - 9.00 ฮ่องกง ทรงตัว -- อยู่เฉยๆ

9.00 -10.00   ฟิวเจอร์ฮ่องกงเปิด ทรงตัว/ขึ้น -- อยู่เฉยๆ
10.00 -12.30  ฟิวเจอร์ไทยเปิด  ทรงตัว/ขึ้น --  อยู่เฉยๆ

12.30 - 14.30 เริ่มการเคลื่อนไหว สวนสัญญาฟิวเจอร์ - เข้าออกตามสัญญาน
14.30 - 15.30 เหมือนกัน

----- ก่อนตลาดลอนดอนเปิด ไม่ควรทิ้ง position ใดๆ ไว้ --------------

15.30 - 17.00 ตลาดลอนดอนเปิด ทรงตัว/สวนสัญญา - เข้าออกตามสัญญาน
17.00 - 20.30 เหมือนกัน

----- ก่อนตลาดนิวยอร์คเปิด ไม่ควรทิ้ง position ใดๆ ไว้ --------------

20.30 - 22.30 ตลาดนิวยอร์คเปิด ราคาเคลื่อนไหวรุนแรงค่อนไปทางลง - รอตำแหน่งเข้าลอง
22.30 - 23.00 ก่อนตลาดลอนดอนปิด ราคามักถูกดันขึ้น - เข้าลอง

23.00 - 01.30 ใกล้ตลาดนิวยอร์คปิด ราคาเคลื่อนไหวค่อนไปทางลง - รอตำแหน่งเข้าลอง

01.30 - 04.30 ตลาดโกเบคภาคค่ำ ราคาค่อนไปทางขึ้น - รอตัดกำไร

----------------------------------------------------------------

โดยรวม

ราคาขึ้น ตอนตีห้า

ราคานิ่ง ในตลาดฟิวเจอร์ฮ่องกงและไทย

ราคา ลง ในตลาดเมกา และ ขึ้นก่อน ตลาดลอนดอนปิด

[h1]Trading Rules[/h1]
      [p]We assume that you have already experience in day trading. A lot of
        good books have been written about day trading and trading principles,
        so we just want to mention some important rules which concern our indicators.

  In the markets you have trading ranges (flat, up and down), uptrends and downtrends.[/p]
      [ul]
       

• Don't trade in a trading range market, especially when you are highly
            leveraged and you work with close stops. It's just like a sparrow trying
            to dance with the cranes.
• Don't trade every day - wait for a trend. A trend is the only way
            for a small guy to stand a chance in the market. It is better to make
            two winning trades a week than churning your account every day and
            make your broker rich.
• We define a trend as a powerful move in one direction which is likely
            to continue.
• There are various ways to define a trend; a good way are the Global
            Futures Trend Indicators shown on the start page.
• Don't go long in a downtrend and don't go short in an uptrend, no
            matter how much it hurts to miss an opportunity.
• Since it is impossible to anticipate every market move, a good way
            for small traders is also to trade by market behaviors which frequently
            appear.
• Become the master of one or two market behaviors you feel comfortable
            with (market behaviors don't work when economic data are released).
• You have to fight two enemies, namely fear and greed and the latter
            is by far the biggest one, especially if you are very greed driven
            as most of us are and find it very difficult to sell. To overcome fear
            you need discipline to stick to your market behaviors, because the
            market has a lot of tricks to suck you in at the wrong time.
• The best way to fight greed is by putting a limit order together
            with your stop, especially if you trade the S & P futures. This
            will limit your profits too, but how many days are there when the market
            moves up in a big way - very few. And usually everybody who goes for
            the killing gets killed himself. Besides this you are out very quickly
            with your profit and a lot of things can happen during trading hours
            as you have probably experienced. Therefore wait for the herd, take
            only a third, as the pros say. It will of course hurt when you see
            the market go higher after your limit was hit, but in most cases you
            will be grateful for your limit order.
• The market is not a one-way street; it gets stronger with every
            low and weaker with every high which is taken out. Day trading and
            high leverage are therefore not a good strategy for folks who want
            to catch every high of the market. The only exceptions are The Global
            Futures Long and Short Entry Signals and The Global Futures Bullish
            Take Off Formation and The Global Futures Bearish Sell Off Formation.
            Once you are familiar with them you might use trailing stop loss orders.
• Don't ever chase the market - always buy weakness and sell into
            strength. That means if you want to go long in an uptrend on a 60-minute
            chart, wait for a break on the 5-minute chart to get a decent fill
            if you buy on market orders. Don't overtrade so you can use wider stops.
• Remember that even the most reliable indicator can fail, so don't
            bet the ranch on it
  
         

      [/ul]

(http://img15.imageshack.us/img15/5938/icyd47.jpg)

http://www.24hgold.com/english/news-gold-silver-excellent-opportunity-to-buy-gold.aspx?article=2532224116G10020&redirect=false&contributor=Eric+de+Carbonnel (http://www.24hgold.com/english/news-gold-silver-excellent-opportunity-to-buy-gold.aspx?article=2532224116G10020&redirect=false&contributor=Eric+de+Carbonnel)

ขอบคุณ อาจารย์ มาโนช คะ สำหรับ แหล่งที่มา

Are Day Trading Indicators Different?

Some people always want to know what is the newest technical indicator on the market? You don't need special indicators to day trade. Sure day trading is the hardest of all kinds of trading. Follow the test above. Does the indicator (or combination of them) work on the time frame you've chosen? Does it work on other time frames and in other markets? If so, then it is good.

Don't over-complicate things. Simpler is better because you are less likely to make a mistake, and in day trading the tolerance for mistakes is almost zero.

หลายคน เพียรมองหา อินดี้ใหม่ๆ มีออกมาบ้างไม๊

ซึ่งไม่จำเป็นที่ต้องใช้ อินดี้วิเศษวิโส อะไร สำหรับการเทรด รายวัน

ซึงแน่นอน การเทรด รายวัน เป็นเรื่องที่ยากที่สุด

ใช้ดัชนี ที่พื้นๆ แล้วดูว่า เหมาะสำหรับการเทรด รายนั้นหรือไม่ ถ้าเหมาะดัชนีนั้นแหละ ที่ดัชนีที่ดีแล้ว


จงอย่า ทำอะไร ให้มันซับซ้อนวุ่นวายไปเลย  - อะไรที่ดูง่ายๆ คือสิ่งที่ดีทีสุด - ซึ่งจำทำให้คุณเกิดความผิดพลาดน้อยลง

อีกเทคนิคพื้นๆ ในการใช้ CCI

the zero line reject

(http://www.moneymakingforex.com/images/bbsqueeze.JPG)

(http://www.moneymakingforex.com/images/zeroline.JPG)

There are many good indicators and different ways to use them. However, I'm going to give you my two favorites. You can use these to start making money immediately. There are; Bollinger Bands (the squeeze), and CCI (zero line reject).

The market moves in cycles--all kinds of cycles. One cycle that a lot of people miss is volatility. The market moves from more volatility to less. An easy way to see this is to put Bollinger bands on your chart. When they get tight together, there is less volatility. Soon the market will make a large move, moving back into the cycle of more volatility. Look for the price to break through one of the bands. See the picture for an example on a four hour chart of the EUR/USD cross.


Ken Wood didn't invent the CCI indicator, but he made it popular. He has a number of set ups on the CCI. I believe in simplicity, so here the simplest one. I like it best. It's called the zero line reject.
When the CCI goes to or near the zero line on the CCI and then begins to move away (bouncing off of it), you enter a trade. See the picture.

ขอบคุณครับ คุณ Icy

ผมขอขอบคุณ คุณ Icy มากน่ะครับที่สละเวลามาแสดงข้อคิดเห็นต่าง

ในโอกาสขึ้นปีใหม่นี้ ผมขอให้คุณ Icy สวยวันสวยคืน คิดอะไรก็ให้สมปราถนา มีสุขภาพกายและใจแข็งแรง เงินทองไหลมาเทมาน่ะครับ

เอก

 ;)  ;) :D


จาก พอล

 8) สวัสดีปีใหม่ครับอาจารย์ไอซ์ที่น่ารักของทุกคน ปู่จะไม่มีวันลืมคนเก่ง คยขยัน ใจดีคนนี้ตลอดไปครับ

ฝากบอกเพื่อนๆชาวออนเอ็มด้วยครับว่าถ้าโน้ตบุ๊คซ่อมเสร็จจะแว๊ปเข้าไปเม้าท์กันเหมือนเดิม

โดยเฉพาะนู๋ อีที นู๋วีทูบี ขาช้อตผมชี้ทั้งหลาย อิ อิ ;D ;D ;D 8)

 *ellow_yellow_christmas_editio ซินเจียยู่อี่  ซินนี้ฮวดใช็ฮะ พี่ไอซ์ซี่คนเก่ง ติดตามอ่านตาหลอดฮะ

แม่นจิงจิง นับถือ นับถือฮะ *ellow_yellow_christmas_editio

 :) ;) :D   โชคดีมีความสุข และรํารวยครับ  น้อง Icy    


(http://i.kapook.com/glitter/2010/th/01/T260110_10CM.gif) (http://glitter.kapook.com/category.php?category_id=120&sid=538fd2c140cb067324ce16638774ce97)

(http://smilies.exteen.com/images/xixi/07.gif) ขอบคุณค่ะ คุณIcy (http://smilies.exteen.com/images/xixi/07.gif)

(http://i664.photobucket.com/albums/vv4/missdolliecrave/dolliecrave/graphics/cny/7.gif)

(http://widget.sanook.com/static_content/full/diy_1/1608/289608/125e41abad126323146db6f6c979eeb2_1231657330.gif) (http://widget.sanook.com/view-widget/graphic/?widget=289608)     ของตกแต่งโดนๆคลิกเลย (http://widget.sanook.com/)

Happy Chinese New Year & Happy Valentine Day ครับ

ขอให้คุณ Icy มีความสุขมาก ๆ และร่ำรวยเงินทอง นะครับ

 :)

Do this for any kind of converter you download: Before installing, go to www.VirusTotal.com (http://www.VirusTotal.com). Upload your file and it will take like 2 minutes to scan it with 40 different Anti-Virus softwares. That should tell you if its safe.  unlock iphone 3g (http://unlockiphone22.com)

แวะมาแปะให้ พอดี ก๊อบไว้  8) 8) 8)

ตอบ #42 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 20, 2010, 10:49:37 PM ?   
________________________________________
บทความ ของ อ เสม คะ ที่ไทยโกลด์

Icy   :   เป็นเนื้อหา ที่เป็นประโยชน์มากคะ จีงขอ ก๊อปดื้อ มาสะสมไว้ในเลย นะคะ อิอิอิ


สวัสดีๆทุกท่านครับ เข้ามาในกระทู้ตัวเองตกใจมาก เห็นคน post มาเยอะจัง การลงทุนที่แท้จริงนั้นเราไม่ได้ที่จะต้องมีสูตรดีๆนะครับ ใครที่พยายามหาสูตรดีๆนั้นกำลัง จมอยู่ในอ่างหาทางออกไม่เจอ ผมก็เคยเป็นเช่นนั้นมาก่อนเมื่อหลายปีที่แล้ว สุดท้ายแล้ว เข้าใจว่า สูตร กราฟ TA ต่างๆมีความสำคัญน้อยมากแค่ 10% ครับ อย่าพยายามไปหา ระบบหรือ สูตรดีๆ มันไม่มีแน่นอนครับ  ในโลกนี้มีการเทรดอยู่ 2 แบบ คือ แบบ Trend following กับ แบบ Oscillator หลายคนคงจะงงว่าคืออะไร มันก็คือ

- Trend Following(การเล่นหุ้นตามแนวโน้ม) จะเทรดกันเป็นแบบ ระบบ channel ครับ  เช่นระบบ Boonc PnT 1.1 ของ CDC , parabolic SAR , Moving Average อีกหลายอย่างนำมาทำเป็นระบบได้ ง่ายๆให้เทรด ตามเทรนนั้นเอง ระบบแบบนี้มีกำไรมากมายในช่วงที่มีเทรนครับ  แต่ช่วงที่ sideway ระบบนี้จะโดนแน่นอนครับ Trend Following มีข้อดีและข้อเสียตรงนี้ครับ
- Oscillator คื่อการเล่นตามสัญญาณต่างๆที่เข้าเร็วออกเร็ว เช่น ใช้ Stoch , RSI ,DI+ DI- เป็นต้น เป็นการเทรดแบบรอดูว่า overbought หรือ oversold แล้วยัง หรือไม่ก็ดูการตัด map กัน ระบบพวกนี้จะใช้ได้ผลตอนตลาด เป็นช่วง sideway ช่วงที่มีเทรน ระบบนี้จะขายหมูเสมอ จะซื้อโอกาสมากมายเมื่อเทียบกับ Trend Following และจะเข้าออกเร็วคงจะถูกใจพวกชอบเล่นแบบเร็วๆ ระยะยาวแล้วยังไง การเทรดแบบ Trend Following ได้ดำไรมากกว่าครับ

ทั้งหมดที่กล่าวมานี้มีความสำคัญแค่ 10% ในการลงทุนนะครับผมเห็นหลายคนจะหาแต่กราฟจากที่อื่นๆมากมาย มันไม่ได้ผลหรอก อย่าเสียเวลากับในส่วนนี้เลยยิ่งเก่งกราฟเท่าไร (ยิ่งเจ๊งครับ ขาดทุนกระจาย)[/size]

ส่วนที่ 2 คือการจัดการ port ทางการเงินหรือ Money Management ความสำคัญ 30%
ส่วนนี้สำคัญกว่า กราฟ TA เยอะ เพราะอะไรถ้าเงิน 5 แสนไปลง TFEX 10 สัญญา แบบนี้ตายแน่นอนผมศึกษาจากคุณลุงโฉลก และชมรม CDC กล่าวไว้ว่า การเล่น future ควรที่จะมีเงินในการเล่น 5-6 เท่าของ (IM+MM) เช่น TFEX 1 สัญญา 50000*6 = 300,000 บาท เป็นต้น  เงินไม่ถึงถือว่าเล่นไม่ได้ครับ
เพราะอะไรที่ต้องเผื่อไว้ ก็เพราะ ว่าถ้าผิดทางโดน 2-3 ทีก็หมดเงินแล้วไม่มีโอกาสแก้ตัวอีก แล้วการเล่นทุกครั้งต้องลงจำนวน สัญญาที่เล่นเท่ากันตลอด เล่น 2 สัญญา ก็ต้องลง 2 สัญญาไปเรื่อยๆครับ อันนี้สำคัญกว่า กราฟเทคนิคเยอะ

ส่วนที่ 3 คือจิตวิทยา สำคัญ 60%
ส่วนนี้สำคัญที่สุดครับ เล่นแล้วกลัวก็จะ กระโดดไปกระโดดมา เป็นเรื่องปกติของบรรดาแมงเมาทั้งหลายยิ่งถ้าไม่มี MM ที่ดีสุดท้ายก็หมดตัว เลือกตลาดที่เหมาะกับตัวเองด้วย สุดท้ายก็อยู่ที่บุณของแต่ละคนแล้ว  ว่าคิดดีทำดีแค่ไหน กำไรก็จะมาหาท่านเอง
ทั้งหมดเป็นแนวทางการลงทุนสั้นๆของผม ที่ได้มาจากผู้รู้ของจริง และคุณลุงโฉลกและชมรม CDC ครับ

ขอบคุณทุกท่านที่เป็นห่วงผมครับ ผมไปๆมาๆเเถวนี้ครับ ว่างๆก็จะมาไม่ว่างก็ไม่มา ช่วงนี้เจ๊บตัว เล่นบอลเเล้วเเหกโค้งล้ม อิอิ
การที่ผมให้เล่น หรือซื้อทองคำแท่งไปเรื่อยๆคือการลงทุนระยะยาวนะครับ ไม่ใช่ซื้อวันนี้ขายพรุ่งนี้ต้องเข้าใจด้วย ผมไม่เคยผิดทางนะ พวก future ผิดทางก็ stop loss ไม่มีติดดอยแน่นอน ไม่มีโดนลากแน่นอน ถูกทางก็ let profit run สูตรมีหลายแบบ ทั้งระยะยาว ระยะกลาง ระยะสั้น ให้ทุกท่านไปเอาสูตรได้จากที่นี้นะครับ ขอขอบคุณคุณลุง และชมรม CDC ครับ
 http://www.chaloke.com/article/737-happy-new-chaloke-dot-com.html (http://www.chaloke.com/article/737-happy-new-chaloke-dot-com.html)

*** ทุกอย่างอยู่ในนี้ จำไว้ว่าไม่มีสูตรอะไรที่ดีที่สุด อย่าไปเสียเวลาหาเลย จิตวิทยาสำคัญที่สุดครับ
จุดสำคัญที่สุด อย่าหาซื้อที่จุดต่ำสุดเเละขายที่สุดสูงสุดเพราะมันยาก เเละเป็นไปได้ยาก

หวังดีเสมอเเละให้การช่วยเหลือตลอดครับ ขอให้ทุกท่านโชคดีในการลงทุนครับ

นี้อีก อัน

 ปล. ท่าไอซี่มีต้นฉบับ มาแปะนะ เด๋วจะมาลบ ให้นะค่ะ  ส่วนรูปไว้จะหาวิธีมาลง เพี้ยง มีต้นฉบับเหอะ


ตอบ #45 เมื่อ: วันนี้ เวลา 10:44:48 PM ?   
________________________________________

Trading Without Noise
by Justin Kuepper,


Noise removal is one of the most important aspects of active trading. By employing noise removal techniques, traders can avoid false signals and get a clearer picture of an overall trend. Here we take a look at different techniques for removing market noise and show you how they can be implemented to help you profit.

What Is Market Noise?
Market noise is simply all of the price data that distorts the picture of the underlying trend. This includes mostly small corrections and intraday volatility. To fully understand this concept, let's take a look at two charts - one with noise and one with noise removed

Before noise is removed:  
 (http://www.uppic.net/ia/at_removenoise_1r.jpg) (http://www.uppic.net/show/00ec8a6c9b91567ca704f5dc7bf5f5d0)
Figure 1  

After noise is removed:
 (http://www.uppic.net/ia/at_removenoise_2r.jpg) (http://www.uppic.net/show/efd4d89bcd273c8409579981262ca7a5)
Figure 2

Notice that in Figure 2, there are no longer any areas in which the trend is not easily seen, whereas in Figure 1, it is often difficult to identify whether the trend is changing on some days. The technique used in this chart is averaging - that is, where the current candle factors in the average of prior candles in order to create a smoother trend. This is the aim of noise reduction: to clarify trend direction and strength. (For more insight, check out Short-, Intermediate- And Long-Term Trends.)

Let's take a look at how we can determine these two factors and combine them to create reliable charts that are easier to read.
Isolating Trend Direction
Isolating trend direction is best done through the use of specialized charts designed to eliminate minor corrections and deviations and only show larger trends. Some of the charts (such as Figure 2 above) simply average prices to create a smoother chart, while others completely recreate the chart by taking only trend-affecting moves into consideration.

Renko Charts
One example of a chart type that only uses trend-affecting moves is the Renko chart, named after the Japanese term "renga", meaning "brick". Renko charts isolate trends by taking price into account but ignoring time.

They are created by using a simple three-step process:

Choose a brick size. This is simply the minimum price change required for a new brick to appear.
Compare the current day's close with the high and low of the previous brick.
If the closing price is higher or lower than the top of the previous brick by at least the size of one brick, one or more bricks are drawn in the next column in the respective direction.
Let's take a look at an example:


 (http://www.uppic.net/ia/at_removenoise_3r.gif) (http://www.uppic.net/show/4dd8f2465c07d95b761e3ca451d46c0c)


  
Figure 3  

As you can see, it is much easier to identify trends on these charts than on traditional candlestick charts. Further noise reduction can be obtained by increasing the size of the bricks; however, this will also increase the intra-trend volatility - make sure that you have enough capital to withstand this volatility.

Overall, Renko charts provide an excellent way to isolate trends, but they are limited by the fact that they don't provide a way to determine trend strength other than simply looking at the trend length, which can be misleading. We'll take a look at how to determine trend strength later in the article.

Heikin-Ashi Charts
A second type of chart that can be used for noise reduction is the Heikin-Ashi chart. These charts use a strategy similar to the charts seen in Figs. 1 and 2: they factor in the current bar with an average of past bars in order to create a smoother trend. This process creates much smoother price patterns that are much easier to read. (For more information and examples, see Heikin-Ashi: A Better Candlestick.)

These are the charts most commonly used when reducing market noise; they can easily be used with other indicators because they don't factor out time. Another added benefit is that they also smooth out the indicator because the price bars are used as indicator inputs. This can help make indicators far easier to read.

Kagi Charts
Kagi charts are designed to show supply and demand through the use of thin and thick lines. New lines are created whenever a new high or low is established. By isolating highs and lows, it becomes much easier to see the larger trends.

Let's look at an example:
 
(http://www.uppic.net/ia/at_removenoise_3r.gif) (http://www.uppic.net/show/4dd8f2465c07d95b761e3ca451d46c0c)
  
Figure 4  

Trending times are then defined as times when demand exceeds supply (uptrend) or supply exceeds demand (downtrend). Finding trends becomes as easy as looking for thick or thin lines.

These charts are also excellent for noise reduction, but they are limited because they can't determine trend strength other than by measuring the move lengths, which can be misleading.

Determining Trend Strength
Trend strength is best gauged through the use of indicators. For the purposes of this article, we will take the most popular indicator - directional movement index (DMI) - and its derivative, the average directional movement index (ADX).

The DMI indicator is the most widely used trend strength indicator. This indicator is divided into two parts: +DI and -DI. These two indicators are then plotted to determine overall trend strength.

The ADX indicator is simply the averaging of the two DMI (directional movement index) indicators (+/-) to create a single line that can be used to instantly determine whether a price is trending or dormant. (For more on this, read Directional Movement - DMI.)

Let's see an example of how this can be useful:
 
(http://www.uppic.net/ia/at_removenoise_5r.jpg) (http://www.uppic.net/show/9a3a53ff8848596b1c01d1ec7dfb657f)

  
Figure 5  

As you can see, the slope increases at a greater rate when the trend is stronger and at a lesser rate when the trend is weaker. Typically, the ADX is set at a 14-bar range, with 20 and 40 being the two key points. If the ADX is rising above 20, it signifies the beginning of a new trend. If it rises above 40, that means the trend is likely about to end. As you can see from Figure 5, it can give you a fairly accurate read.

Creating a Usable Strategy
Although the ADX appears to work well on its own, market volatility can cause second-guessing and false signals. However, when combined with chart types that more easily highlight trends, it becomes a lot easier to identify profitable opportunities.

Using a combined analysis is as simple as determining whether the chart pattern's sentiment is the same as the indicator's sentiment. Therefore, if you are using Heikin-Ashi and ADX, simply check to see what the trend direction is on the chart and then take a look at the trend strength shown on the ADX. If both are telling you that there is a strong trend, then it may be a good idea to enter.

Here's an example:

(http://www.uppic.net/ia/at_removenoise_6r.jpg) (http://www.uppic.net/show/bb485baae44688a595e54e5a3a04761b)
 

Figure 6  

Here we can see the trends are smoothed out by the use of averaging techniques (like Heikin-Ashi) and are being confirmed through the use of indicators (like ADX). This gives us a clear and reliable picture of the current market situation, without any unnecessary clutter (market noise).

Conclusion
As you can see, chart analysis is much easier when using noise-removal techniques. They can help you avoid costly false signals and other mistakes, while allowing you to quickly and accurately locate and capitalize on trends.

http://www.investopedia.com/articles/trading/06/marketnoise.asp (http://www.investopedia.com/articles/trading/06/marketnoise.asp)

Relative Momentum Index

(http://www.paritech.com./education/technical/indicators/momentum/images/relative1.gif)
 
 
Description

The Relative Momentum Index (RMI) was developed by Roger Altman. Impressed with the Relative Strength Index's sensitivity to the number of look-back periods, yet frustrated with it's inconsistent oscillation between defined overbought and oversold levels, Mr. Altman added a momentum component to the RSI. The RMI was first introduced in the February 1993 issue of Technical Analysis of Stocks & Commodities magazine.

As mentioned, the RMI is a variation of the RSI indicator. Instead of counting up and down days from close to close as the RSI does, the RMI counts up and down days from the close relative to the close x-days ago (where x is not necessarily 1 as required by the RSI). So as the name of the indicator reflects, "momentum" is substituted for "strength."

Interpretation

As an oscillator, the RMI exhibits the same strengths and weaknesses of other overbought / oversold indicators. During strong trending markets the RMI will remain at overbought or oversold levels for an extended period. However, during non-trending markets, the RMI tends to oscillate predictably between an overbought level of 70 to 90 and an oversold level of 10 to 30.

Since the RMI is based on the RSI, many of the same interpretation methods can be applied. In fact, many of these "situations" are more clearly manifest with the RMI than they are with the RSI.

Tops and Bottoms: The RMI usually tops above 70 and bottoms below 30. The RMI usually forms these tops and bottoms before the underlying price chart.
  
Chart Formations: The RMI often forms chart patterns (such as head and shoulders or rising wedges) that may or may not be visible on the price chart.
  
Failure Swings: (Also known as support or resistance penetrations or breakouts.) This is where the RMI surpasses a previous high (peak) or falls below a recent low (trough).
  
Support and Resistance: The RMI shows, sometimes more clearly than the price chart, levels of support and resistance.
  
Divergence: As discussed above, this occurs when the price makes a new high (or low) that is not confirmed by a new RMI high (or low).
Note that a 20,1 parameter RMI is equivalent to a 20-period RSI. This is because the 1-day momentum parameter is calculating day-to-day price changes, which the standard RSI does by default. As the momentum parameter is increased, the oscillation range of the RMI becomes wider and the fluctuations become smoother.



http://www.paritech.com./education/technical/indicators/momentum/relative1.asp#chart (http://www.paritech.com./education/technical/indicators/momentum/relative1.asp#chart)

เวบนี้ดี คะ

สร้างเสียงพูด ตามที่เราต้องการ ได้

http://www2.research.att.com/~ttsweb/tts/demo.php (http://www2.research.att.com/~ttsweb/tts/demo.php)

Market Traps, Novice Traders Beware

There is a hand signal we use on the trading floor. The signal is to put your hand to your throat like your choking yourself. The name for this signal is "hung." Not a pretty visual I know but its meaning is just as uncomfortable. A trader will do this when they are stuck in a very bad losing position. Most often, it was someone buying right into supply (resistance) right before price collapsed, or selling short right into demand (support), right before a strong rally. Whether the action was a mistake or simply foolish trading like they do in Foolsville, the result can be catastrophic which is where the floor trading hand signal, hung, derived its name.

A more common name for this in the world of technical analysis is the Bull Trap and Bear Trap, two of my favorite market opportunities. Before diving in and learning what this looks like on a chart and how we trade this, it is important that you understand how to properly think this setup.




The Logic
When there is a news or economic event that invites the masses into the market to buy and price happens to be into an objective supply level with a significant profit margin below, we have a Bull Trap scenario. What happens is that an above average number of buyers buy after a rally in price and right into supply with plenty of room for price to fall below. So, once the last buyer buys, the masses are stuck buying the high price, no more buyers, price collapses. Most of those buyers now have to sell for a loss which only helps price slide lower. It was, however, the combination of the positive event and price being at a level where supply exceeds demand that was key. An "event" can be in the form of news or a popular chart pattern such as a breakout, for example.



The Rules
When a significant event invites buyers into the market and price is at supply and you have an appropriate profit margin below, sell short.

When a significant event invites sellers into the market and price is at demand and you have an appropriate profit margin above, buy.




Mastering the Mental Side
If you own a car dealership and are in the business of selling cars for profit, who do you want walking through your doors? Choice A: people who work at other car dealerships and sell cars. Choice B: people who are buying a car for the first time. Of course, we are going to choose choice "B." People who work in the car industry know the real value of cars which means it will be harder to sell to them at desirable prices if you're the dealer. The new car owner knows much less about the true value and will also give in to emotions such as greed. This individual will bring your dealership a much higher profit. Make sure you are trading with market speculators that have no idea what they are doing. Sell to them when price is at a level that you know is too high. Buy from them when price is at a level that you know is too low.

volume weight average price


The vertical bell curve like thing on the left shows volume histogram meaning:

- starting from the StartDate(which you have to set at indicator properties)how much volume was on which price level.The price level with a longer aqua line had seen more volume than shorter ones.

-Peak Volume Price(PVP) shows starting from the StartDate at which price there was the most volume.How do I calculate it.Simple. Every bar has a volume and every bar has a price range. I distribute that bar volume to those price range in a simple distribution function.So we have that nice volume distribution. You will see that red PVP line always follows the longest aqua bar in the distribution.Thats its job it shows the longest bar in a continuos way.

For strategies definitely I would advise you to read the thread that I referred at earlier post. But for a quick explanation. VWAP shows the average of the volume distribution meaning there are equal volume on both sides of the VWAP line. If VWAP is above PVP that means there has been more volume above the PVP. So we except price to move up when it gets close to VWAP(usually reflecting from VWAP or SD1)

So in a very simple way
-if VWAP is above PVP think going long at VWAP to SD1Positive or SD1Positive to SD2Positive
-if VWAP is below PVP think going short at VWAP to SD1Negative or SD1Negative to SD2Negative

But this is like explaining how to fly a plane in 3 sentences so I definitely advise you again to read those threads.

Another point is, this was not designed for forex. This is usually used in a market which you have real volume and a real starting bell ringing at a fixed start time. So I am just experimenting to adapt it.
StartDate is important. Since we dont have a startDate in forex maybe adding a separate indicator for every session (Asian-London-NY) can be more meaningfull.

Trends

Sometimes we just need to keep things simple. I live by this motto in my personal trading career and always send the same message to each and every one of my classroom and Extended Learning Track (XLT) students. Trading should be clear and practical at all times. The minute we make things too complicated, the account usually suffers as a result. I have been there and bought the t-shirt! After experimenting with various technical indicators and chart patterns, I soon realized that the most important requirement for ongoing trading success was not so much in the intricate details of the strategy, but in the consistency of following a simple set of rules time and time again. As we all know, there are many ways to do the same thing in this world and in terms of technical analysis, things are no different. Each trader should make it their aim to decide which tools are right for them, and then use them practically as part of a solid trading plan.

In the process of planning my trades, I like to study three simple aspects before I will consider any market opportunity. These are as follows:

1. What is the Trend?


2. Where can I Buy or Sell for a High Probability Low Risk Trade?

3. Is my Risk worth the potential Reward?

By paying attention to these three vital areas of importance well before I even enter an order, I can always be sure that I am being as objective as possible when scanning for setups. This week I would like to explore our first topic on the list: Trend. If we don't even have a feel for market direction, there is little point in even considering a trade in the first place.

When it comes down to it, there are only two market conditions we should ever be faced with – a Trend and a Range. Range-bound markets are periods of consolidation and relative to time frame, can offer very little opportunity. Many novice traders suffer heavy losses during ranges, as they try to force trades and are led into buying or selling every time the market looks like it may be gathering steam, only to be stopped out on a false signal. Trending markets, on the other hand, can be much easier to deal with as there is a clear direction one way or the other and setups on these kinds of markets tend to offer the highest rewards for the lowest risk. I would always recommend that the new trader only look for opportunities to trend trade in the early stages of their career. One of the many beneficial aspects of trading the Global Forex Markets is that they tend to create much longer trends in price action than other asset classes and instruments, mainly due to the fact that the market is so large and is fundamentally driven by economic data unique to whole nations and continents. This dynamic allows the trend following traders plenty of high probability opportunities to take part in some of the biggest moves across all the instruments available to trade. It is always easier to go with the trend than to fight it. Therefore, it is vital that before each and every planned speculation, all traders should first gauge market direction and stack the odds on their side by going with the dominant force. Let's look at a few different ways to identify trend in any Forex pair. (Please note all examples are for downtrends so the reverse is applicable for uptrends).




Using Price Action
By far the most classic method to identify a trend is to just look at price action itself. As we can see from the below example, in a sustained downtrend, we will see a repetition of Lower Highs and Lower Lows. In this example, we can see that the market is continually failing to make new highs every time it puts in a rally. In this case, we would say that the Bears or the Highs are in control. Each rally gives the professional market players another opportunity to load up and sell high, driving prices further to the downside with new lows being made with ease. It is in this environment where we often see previous levels of support broken and becoming new areas of resistance in the future.



One particular technique used to rejoin the trend is to look for rallies in price to previous support areas which are likely to now be recharged areas of supply. Many breakout traders will often sell the market on the break of a previous low, hoping to see the market push further down with increased momentum.




Drawing Trendlines
Technical Analysis is by no means new to the world. Traders and investors have been charting price for years, well before the advent of the digital age and charting software. Many used to draw charts by hand, and one of the original ways in which they would confirm a trend was to physically draw a trendline on their charts. Today, we are lucky enough to have powerful PC applications to chart price and use built-in tools to do the very same job. Trendlines can be useful for clearly illustrating the dominant price direction as show below:



Typically, we need three points to confirm and draw any trendline on a chart, no matter the time frame used. In downtrends, we draw the line above price at the highs, and in uptrends, we would draw the line below price at the lows. After the trendline has been drawn and inserted, we now have two uses for it. The first is as an entry method to join the trend where we would sell the pair when the trend line is tested, looking for a further push to the downside. The second use is as a signal of a possible direction change. If the trendline is broken by price, we could then take this as a signal that the trend is over and now abandon and rethink the plan. As useful as trendlines can be, it is vital to remember that anytime you draw a line, it should be obvious. Each trader may draw their line a little differently from someone else and therefore there is a danger of subjective analysis. Always be as objective as you can.




Moving Averages
Moving Averages are another of the classic Technical Analysis tools. Depending on the setting the user defines, they will dynamically track the average price of an asset over a preset period of time. For example, a 20-period Moving Average will take the current price bar and the 19 bars preceding it and work out the average price over that set period of time. In this example, let's apply the 50 and 200 Moving Averages to our chart. Remember the longer the period of data analyzed, the more reliable the information becomes:



Confirmation of the downtrend is given by the fact that the Moving Averages are sloping down with price, suggesting that the current price itself is well below average, or falling. When current price is below both the 200 and 50 period Moving Averages, it would be ideal to look for only the highest probability shorting opportunities on offer. Some would even use the Moving Averages as an area of entry, which can be riskier at times. They act in a very similar fashion to the classic trendline when used in this manner, and can also be used for a signal of a break of trend if price manages to trade over them, or can also be used to trail stops to lock in profit from successful trades.




Using the ADX Indicator
I am a big fan of technical indicators which are used to analyze price action rather than give entry signals, and one such tool is the ADX or Average Directional Index. The ADX does not give the trader signals to buy or sell and it is non-directional in nature; however, its fundamental use comes instead from giving us a gauge of how strong the current trend is itself. Typically, it will display a numerical value and anything less than a reading of 15 suggests that there is no trend and when it is above 30, this is a signal that a strong trend is in place. This is how it looks when plotted on a chart:



As we can see, when the ADX is rising, this is a sign that the trend is getting stronger and that momentum is building within the price action.
If you were solely a trend trader, this could be a useful tool to help you ascertain the best trend following opportunities available to you in the market. However, I personally have adjusted the readings I use with the ADX. I like to look for trades when the ADX is actually getting to a reading of around 25, rather than the traditional 30. This is due to the fact that I am looking for the trend to strengthen after I have joined the move and I don't want to be late to the game. A more aggressive trader could adopt this approach if need be but it is important to define rules for yourself in your trading which suit and respect your personality.

So there we have four simple ways to identify a trend and help us to keep on the right side of the market. The tool which you choose to use is not the important part of the puzzle though; rather, it is how you use the tool itself and the rules you build around the trade which really matter in the long run. If you decide that you will only take short trades in a downtrend and long trade in an uptrend, then you have already taken an objective rule-based approach to your trading activities, thus allowing you to be objective and unemotional when it comes to pushing the button. As traders, we need to limit our opportunities to only the times when the odds are stacked in our favor, rather than jumping into the market without any proper planning and this my friends, is only achievable when we start right from the basics. I hope this helped.

Trading Mistakes

The following list contains the most common trading mistakes that we will cover in this article.

1. Not using a “trading plan”
2. Not having a money management game plan
3. Not using protective stop loss orders
4. Closing winning trades early and letting losing trades run
5. Overstaying your position
6. Averaging a losing trade
7. Increasing your risk with success
8. Overtrading your account
9. Failure to take profits from your account
10. Changing your trade plan in mid-trade
11. Not having patience
12. Not having discipline

 :D  ขอบคุณค่ะคุณ Icy

The 3 Duck's Trading System

A common sense approach to price observation
Buy when prices are going higher and sell when prices are going lower. In a nutshell this is my goal when I am trading the forex market. But the above statement of buying when prices are going higher or selling when prices are going lower may be too broad and therefore it may need some guidelines and rules, this is where The 3 Duck’s Trading System comes into play. The system will help you identify buying opportunities in the direction of the last uptrend and selling opportunities in the direction of the last downtrend. The “ducks” in the title comes from the saying “to have all your ducks lined up” an expression meaning to have everything in the correct order. There are three ducks, the first duck will help you to identify the last up or down trend, the second duck helps to confirm the direction of the trend and the third duck will help to identify buying or selling opportunity in the direction of the trend.

This system involves using three different timeframe, a 4 hour chart (first duck), a 1 hour chart (second duck) and a 5 min. chart (third duck). A 60 period simple moving average is applied to all three timeframes. That’s what I call keeping it simple!

How it works:




Step 1 - The first duck

(http://mediaserver.fxstreet.com/Reports/b8120567-d09e-49f5-95ec-d6e1db641115/uno_20080220160250.png)
The first thing we need to do is look at our largest time-frame (4hr chart) and see if current prices are above or below the 60 sma. From this chart we can see that current price is above the 60 sma. This tells us that we maybe looking to buy.





Step 2 - The second duck

(http://mediaserver.fxstreet.com/Reports/b8120567-d09e-49f5-95ec-d6e1db641115/dos_20080220160316.png)

The second thing we need to do is drop down to our 1hr chart. We need to see the current price above the 60 sma on this chart also, this gives us confirmation.

Important: If the current price was to be below the 60 sma on this chart we could not move on to step 3.





Step 3 - The third duck

(http://mediaserver.fxstreet.com/Reports/b8120567-d09e-49f5-95ec-d6e1db641115/tres_20080220160354.png)

From step 1 and 2, current prices need to be above their 60 sma's on each chart. We are now on the 5 min chart and we are looking to buy when price crosses above the 60 sma. For extra confirmation we should let prices break the last high on the 5 min chart. This would mean that prices will be above their 60 sma on all 3 time-frames, therefore all 3 Ducks are lined up in the same direction.





Stop-Losses: This is where you can make this system your own. If you are a short term trader you may want to put your stop-loss below the lows on the 5 min or the 1 hr chart. If you are more of a positional trader you may wish to put your stop-loss above a low on the 4 hr chart. You could also use a fixed stop-loss, maybe 25-30 pips or more from entry. It all depends what type of a trader you are, so you decide! If you are a longer term trader or investor, this system can help you get a good entry point into the market. Another "trick" that may help you preserve capital, if you do buy and prices get back below the 5 min 60 sma by 10 pips (not a good sign) you may want to cut your losses short before your stop-loss. But if you are a longer term trader this may not be a big deal for you.

Targets: Same again, depends what type of a trader you are but target can be support or resistance levels.

Summary: The above example was carried out when the eur/usd was trading higher so obviously we where buying - the system works just as well for selling opportunities, just look for prices to be below the 60 sma on all 3 time-frames, starting with step 1 again. I like this system a lot as it does not try to out-guess the markets movements and pick tops and bottoms. The system will quickly tell you to be a buyer or a seller. It’s a good honest system that tries to follow prices. This system works better on currency pairs such as the Eur/Usd and Gbp/Usd, but there is nothing stopping you from plotting this system on any pair, but as we know some pairs act differently to others. The best time I found for trading this system is the European and US sessions. I like to use this system as a guide in addition to my own market knowledge. Take care to watch what is going on around you - economic new releases, holidays etc.

Good Luck with the 3 Duck's Trading System.

http://www.fxstreet.com/education/trading-strategies/the-3-ducks-trading-system/ (http://www.fxstreet.com/education/trading-strategies/the-3-ducks-trading-system/)

Different uses of RSI

(http://mediaserver.fxstreet.com/Reports/d7aa3cc8-35f8-4e86-b39c-578c9fe8589d/Sunil_20080611104409.png)(http://mediaserver.fxstreet.com/Reports/d7aa3cc8-35f8-4e86-b39c-578c9fe8589d/Sunil_20080611104520.png)
(http://mediaserver.fxstreet.com/Reports/d7aa3cc8-35f8-4e86-b39c-578c9fe8589d/Sunil_20080611104637.png)

(http://mediaserver.fxstreet.com/Reports/d7aa3cc8-35f8-4e86-b39c-578c9fe8589d/Sunil_20080611104736.png)
(http://mediaserver.fxstreet.com/Reports/d7aa3cc8-35f8-4e86-b39c-578c9fe8589d/Sunil_20080611105232.png)


http://www.fxstreet.com/education/technical/different-uses-of-rsi-in-forex/2008-06-11.html (http://www.fxstreet.com/education/technical/different-uses-of-rsi-in-forex/2008-06-11.html)

Amazing GBP/JPY Indicator

Buy WHEN :
1.the price enter Upper Box Green Area After past the red Box…………….OK!
2.EMA 5 (red line) Upper EMA 13 (yellow line)………OK!
3.RSI >55……………………OK!



Sell WHEN :
1.the price enter Bottom Box Green Area After past the red box………..OK!
2.EMA 5 (red line) Below EMA 13 (yellow line)……OK!
3.RSI <45……….ok!……….SELL

TOPTREND.mq4
BreakOut_PANCA_EAGLE__indicator.mq4

(http://upload.bluegy.com/uploads/3124cd3c2cb7c02530b106a06e1f9580.gif)
http://www.fxstreet.com/forum/showthread.php?t=2078 (http://www.fxstreet.com/forum/showthread.php?t=2078)

The Rules of Day Trading

Note: These Rules Are Only For Day Trading, Not For Long Term or Position trading.
A trading plan is essential for success. It is utterly impossible to succeed at trading without a concrete plan. The following are suggestions, some general, some specific, that I think will help traders achieve their goals.
GENERAL POINTS
• Homework:
The study of specific scripts and their relationship to the overall market is essential. It is suggested that the trader work at least one hour outside of market hours on familiarization with scripts that could be traded the next day. As time goes on, the trader will have greater understanding of the widely traded scripts, and will be able to better judge information for potential opportunities. Weekends require at least 2-3 hours of study to setup for the following week. The trader should be prepared to spend a minimum of 10 hours a week outside market hours on this planning and study.
• Schedule:
A standard schedule is essential. The trader should arrive at the trading center 45 minutes before the market opens (or more) and plan on being there all day. Before the market opens: The trader should have a list of potential trading scripts from his homework from the prior evening.

He should look at these as to how they traded intraday the day before, and draw conclusions as to whether or not he will follow them when the market opens. The trader should have his attention on the market, and on nothing else, be rested, and be ready to attack the market. If there is some outside influence that could take attention off the market, the trader should cease trading until the situation is addressed and handled, and he can trade without external influences that could have a detrimental effect.
• Taking heat:
This is the term used for watching a trade go the wrong way. It is the number one reason why traders lose money. Losses are inevitable. Nobody makes money every day. The key to winning overall is to limit the losses and offset them by winning trades.

The trader should never take more than a set limit of heat. In our personal experience, it is extremely difficult to set a number limit on how much heat, such as one-half a point, etc.
• Maximum Shares per Trade
Traders with little experience get wiped out by trading large amounts of shares. Until the trader is making money consistently, i.e. 10 trading days in a row with no losing days, the number of shares should be limited
• Mistakes
Traders make mistakes. The most common mistake is to sell when one wants to buy, and vice versa. The computer can go down, the feed to the exchange can be interrupted. There are a lot of things that can go wrong. The trader must assume full responsibility for any mistake that occurs. Open positions should be exited immediately (almost always at a loss) when a mistake occurs.
• Number of Trades Per Day
Trading too much in one day is the third reason why traders lose money consistently. There is absolutely no reason to trade more than 5 trades per day. The maximum number of trades should be limited to 5 per day.
• Maximum Positions at One Time:
The trader should try and limit himself to one open position at a time. Two positions is acceptable, but three is not. This is more of a general rule

Holding overnight is usually done to try and avoid a loss. Holding overnight for an expected gain is too risky for the trader.

keep in mind this is for day traders All rules are made to be broken. All rules can be safely broken under certain circumstances. But in my experience, breaking more than one rule is a grave mistake, and reduces the possibility of success to less than 25%. It should not be done.
• Trading Regimen
Every trader has a regimen; a style or set of rules that he follows to choose trades. For example, most day traders use technical analysis as part of their personal regimen to form conclusions.

The personal regimen would include the specifics of what indicators are used and why. These regimens are constantly being refined and polished, due to the fact that the market changes all the time, and what worked 6 months ago may not work now. The trader must have a personal regimen, a specific set of rules or guidelines that he follows.

This must be in writing. These guidelines must be his own, in other words, he must not use another trader screaming or some computer program, or anything else, to make his FINAL decisions.

He must make his final decisions himself, and he can't do it without a personal regimen.

The personal trading regimen helps the trader refine his skills and learn what works and what does not. He can change his regimen at any time, of course, but he must have something to change.

Here are the Different Trading Styles of different Trader around the globe. Which one is your favorite?

1. Day Trading
2. Position Trading
3. Swing Trade.
4. Scalp.

Stopping Volume Pattern
http://emini-watch.com/tradestation-easylanguage-code/400/ (http://emini-watch.com/tradestation-easylanguage-code/400/)

BBand Stop Alert.ex4
(http://upload.bluegy.com/uploads/dfed54c0eda5c45aec722446fe065a28.gif)


Professional profit taking is occurring when the following conditions are met:

* Volume is greater than the previous bar's volume
* Range is less than the previous bar's range
* A new high is made (in an uptrend) or a new low (in a downtrend), and
* Closes off the highs (in an uptrend) or off the lows (in a downtrend)

The reduction in the bar's range is the real key. It shows that additional selling (in an uptrend) or additional buying (in a downtrend) is keeping the bar's range low. So Professional traders are taking profits and/or "fading" the current trend.

You will almost always see Stopping Volume patterns leading up to a market turning point. However, if the trend is strong it might take several Stopping Volume patterns in a row to slow the trend. Remember, most turning points are Stopping Volume patterns, but not all Stopping Volume patterns are turning points!

GANN HiLo Activator in Forex and the ways to use it:
http://forex-strategies-revealed.com/mt4/gann-hilo-activator (http://forex-strategies-revealed.com/mt4/gann-hilo-activator)

Time frame: any.
Currency: Major Currency

This trend following indicator helps finding both: entries and exits. It allows to enter a trade quite early and stay in the trade longer.
If you have a set of rules or a trading system that require some improvement on entries and exits, GANN HiLo Activator could be the right tool.

(http://forex-strategies-revealed.com/files/pictures_strategies/gann.png)

GANN HiLo also looks interesting for scalping, all you need is to identify the main trend take either only Buy or Sell signals given by the indicator. For example, we can use 50 EMA to identify the main trend.


(http://forex-strategies-revealed.com/files/pictures_strategies/gann_scalp.png)


Again, these are just great hints. In order to give you a set of rules, I need to make one first and test it properly. So, for now it will look like introduction, while hopefully later and also with a help of other traders I will update it to a good trading system with straight forward rules.

This trading system may look too simple. however, you dont need a complex system to be succesful in forex
pay attention to larger time frame to identify support and resistance level
limit your loses and let your profit run and use trailing stop.






Strategy requirements/setup:
Time frame: daily
Currency pair: any
Trading setup: SMA 150,
RSI (3) with horizontal lines at 80 and 20,
Full Stochastic (6, 3, 3) with horizontal lines at 70 and 30.
Trading rules:
Entry for uptrend: when the price is above 150 SMA look for RSI to plunge below 20. Then look at Stochastic - once the Stochastic lines crossover occur and it is (must be) below 30 - enter Long with a new price bar.
If at least one of the conditions is not met - stay out.
Opposite for downtrend: when the price is below 150 SMA wait for the RSI to go above 80. Then if shortly after you see a Stochastic lines crossover above 70 - enter Short.
Protective stop is placed at the moment of entry and is adjusted to the most recent swing high/low.
Profits are going to be taken next way:
Option 1 - using Stochastic - with the first Stochastic lines cross above 70 (for uptrend) / below 30 (for downtrend).
Option 2 - using a trailing stop - for an uptrend a trailing stop is  activated for the first time when Stochastic reaches 70. A trailing stop is placed below the previous bar's lowest price and is moved with each new price bar.

(http://forex-strategies-revealed.com/files/pictures_strategies/advanced_3.png)

Technical analysis tools were invented to help trader resolve problems and solve tasks , but not in any case to replace the human mind. Even a few mechanical trading systems require constant attention from the fully prepared specialist. My opinion - the main problem is - trader using MTS looses feeling of the market and degree of its deviation from the norms under which profitable results has been achieved. Because of this and other numerous reasons - still for a long time the most market operations will be made with direct participation of the people.

Steve Nissan’s ideas of candlestick analysis (CANDLECHARTS - STEVE NISON), which is often referred to as price action, as well as the use 1-2-3 formation, developed by Charles Dowg (Îñíîâíûå ïîëîæåíèÿ òåîðèè Äîó),
require understanding of the historical development of the trend.

For making a decision it is important to clearly see the local price extremes, the distance between them by time and price, as well as the slope of the trend.

Often, a trader who uses multiple tools in trade, committs technical errors for the sake of his own ideas in his mind; he draws zigzag of prices, which would be advantageous for his open warrant (order). Sometimes he refuse to adequately perceive the changed reality, which brings us losses, and this only exacerbates the situation. It is undeniable that when analyzing a large number of instruments, especially at several time periods, easy to come to erroneous conclusions about the situation.

The idea, as a result of which were developed technical means, described in this article appeared as a result of the going through countless options for indicators “a la Zigzag ", I have not been able to find something suitable for marking historic trend.


As a mathematical framework was decided to use two algorithms:
1) The idea is the basis of the first Doug Shaffa (Forex Trading : FX Strategy : Doug Schaff), who proposed in calculating the well-known indicator "Stohastik" instead of normalized average price values use MACD, as well as unique smoothing algorithm . As a result, we get a picture surpasses cycles present in the market, in the form of a smooth curve in the range from 0 to 100%.
2) However, there is a limitation of the above method. Each traded instrument has constantly changing cycles, and consequently we need to define such as the average number of time periods within the cycle.

For this purpose we have developed an algorithm for computing the average Wiggle (half of period) .
logic is: there are two simple MA with different periods of smoothing and calculated the distance in time between the points of intersection of these lines. The average value of distances among the last 50 intersections is the average Wiggle.
This module is contained in the indicator Cycle_KROUFR_version.mq4.
The comments also have shown the value and the average number of points which the price runs between these intersections and specified number of intersections by 2 MAs.
Further, the average Wiggle used in Dag Shaffa optimized algorithm as a unit of the size of the technical cycle at the current time frames.
Indicator MTF_Cycle_KROUFR_version - multitimeframe version Cycle_KROUFR_version.mq4, where data are derived from 3-x time periods - Current and two, in which a user external.

Indicator MTF_Cycle_Point_KROUFR_version.mq4 - is intended to partition the trend with 2-x timeframes you have chosen. Small dots correspond to a smaller time frames, a large senior respectively, thus clearly see the extremes prices, which have been achieved at tradable instrument for the time when the line Cycle_KROUFR_version.mq4 indicator was above 50 level marks (for the appearance of blue dots), or below 50 (for the emergence of the red dots).


Important: the point of partitioning trend appear when the indicator line crosses level mark 50, and it appears on prices extremes for the period of time when the line was in a indicator zone above / below 50. Ie there is no point in the current bar, or penultimate, but where found at the minimum / maximum price half cycle. (dot appears on max or min prices between indi line crosses level 50)

This system partitioning trend is for traders to trade using formations based on the price and created to facilitate the perception of historical trend

(http://www.forex-tsd.com/attachments/indicators-metatrader-4/64644d1215329552-cycle-indicators-cycle-point-krou1.gif)

Scalping system #11 (The Center of Gravity)
http://forex-strategies-revealed.com/scalping/center-of-gravity (http://forex-strategies-revealed.com/scalping/center-of-gravity)


Submitted by Ashur

Alright first of all, I just want to say the indicators that i'm going to post and show are not mine so i take no credit for them. The center of gravity indicator was created by Oan, if you guys want to check out his site www.oan4x.com (http://www.oan4x.com) feel free to do so. The idea is based on Mostafa Belkhayate's system. Also the sweet spots indicator was taken from "Patrick Bourgeois" with his submission of "Trading by Psychological Levels". So I'm going to upload all the indicators, and all you do is, put them in Metatrader/Experts/Indicators folder. Im also going to upload the template so all you have to do is load the template.

The rules are these:

- Only trade 5 min chart
- Only trade in the direction of the Center of Gravity lines, so if they are pointing downwards then you only enter short positions and if they are pointing upwards you only enter long positions
- take profit is always one level above the level you entered your trade at.
- to be honest with you i never used a stop loss i only closed the trade when the lines pointed against me, but i bet we can work something out for a stop loss in this site.
- I mainly trade eur/usd and sometime gbp/usd, but i'm starting to look into trading the gbp/jpy also
- trade this system on a demo account until you are ready, don't rush into the market.

กฏการเทรด ด้วย ศุนย์กลางโน้มถ่วง

เล่นเฉพาะคาบ 5 นาที เท่านั้น
เทรด ตามทิศทาง ของ ศูนย์กลางโน้มถ่วง ซึ่งถ้า มุ่งหน้าลง ก้อ ให้เข้าชอตเป็นหลัก หรือ ถ้ามุ่งหน้าขึ้น ก้อให้ เข้าลองเป็นหลัก
ตัดกำไร ที่ระดับ แรก หรือ ระดับถัดไป เสมอ
ผู้เขียน ส่วนใหญ่ ใช้เทรด ได้ผลดีกับ eur/usd บางครั้งก้อ gbp/usd (ไอซี่ สังเกตุ ว่า ใช้ได้ เกือบ ทุกสกุลเงิน รวมถึง น้ำมัน  ยกเว้น ทอง)
เรียนรู้ การเทรด แบบนี้ ด้วย ตัวเดโมก่อน อย่าผลีผลาม รีบร้อนไป ใช้ ในตลาดจริง


To enter a short position:

- center of gravity lines must be pointing downwards
- the price must be over the middle center of gravity line
- you sell at the first level on the sweet spots indicator that the price hits
- if price continues upwards you would sell at the 2nd level it hits once again.
- take profit point would be at the line below the 1st level you entered at. Some times the market will not hit the target exactly so just to be safe put your take profit a few pips above it.

การเข้าชอต

ทิศทางของ ศูนย์กลางโน้มถ่วง จะ ต้อง พุ่ง ในแนวลง
ราคา จะต้องอยู่เหนือ เส้นกึ่งกลาง ศูนย์กลางโน้มถ่วง
ทำชอต ที่ระดับแรก ของ ดัชนี sweet spots เมื่อราคาไปแตะ
ถ้า ราคายัง คง หนีขึ้นไป อย่างต่อเนื่อง ให้ รอชอต ซ้ำที่ระดับ สอง
ตัดกำไร ใต้ระดับ 1 ที่ ได้ทำชอต (ซึ่งบางครั้ง ตลาดจะไม่ แตะระดับเป้าหมายอย่างแท้จริง เพื่อความปลอดภัย รีบตัดกำไรทันที)

To enter Long positions:

vice versa short position rules

การเข้าลอง ตรงข้ามกับ วิธีการเข้าชอต

A few pointers:

- try to stay away from Friday's and try to hold your self from trading NFP week.
- I find the absolute best time to trade this system is 8AM-12PM Eastern Time.

พยายามหบีกเลี่ยง การเทรด แบบนี้ ในวันศุกร์
เวลาเทรดที่ดีที่สุด คือ ช่วงตลาดนิวยอร์คเท่านั้น

Note: This system does repaint, so backtesting is useless. But don't worry the system is very profitable, it just takes some practice. You will see its true value with a little bit of forward testing ;)

Once again I'd like to thank "Oan from www.oan4x.com (http://www.oan4x.com)" for helping me, "Patrick Bourgeois" for the indicator, and all the people form www.forexfactory.com (http://www.forexfactory.com) that helped edit and put together this system.

If I forgot to add something, I will edit and put it up for sure.

If anyone has any questions feel free to ask.

Sincerly,
Ashur

SweetSpots.mq4
Center of Gravity 1.mq4
ashurtemplatecenterofgravity.zip

How to trade with Kaufman3.mq4 indicator
http://forex-indicators.net/mt4-indicators/kaufman (http://forex-indicators.net/mt4-indicators/kaufman)

Kaufman3 indicator adds an extra exponential moving average to the KAMA value.
It may be interesting as a basis for a trend following indicator.
Try on 1H or 4H charts, with various parameters.
Parameters:
periodAMA = 6; - length of time to compute signal-to-noise ratio
nfast = 2;     - EMA length with high signal to noise
nslow = 60;    - EMA length with lowest signal to noise
G = 2.5;       - nonlinear squashing
(http://forex-indicators.net/files/indicators/mt4custom/kaufman3.png)

Kaufman indicator uses 2 moving averages, which are a bit more descriptive than regular MAs.
The basic application of the Kaufman indicator is to spot a short term trend and trade with it. When Kaufman indicator lines cross a trend changes. Once a price candle is trading clearly outside both Kaufman lines (below lines - for downtrend, above - for an uptrend), the sight is clear to take a trade.
Another advantage of Kaufman moving averages is that they quickly react to pausing trends by immediately going flat (check the behaviour of the green line on the screen shot above). When Kaufman moving average goes flat, traders should be looking to take partial profits from their trades because a trend could end there, the remaining position should be kept open in case the trend continues and be closed with either the cross of Kaufman lines, or, better off, with the first candlestick trading inside the lines (remember the first rule about entries : "candle outside Kaufman lines").

 :) ขอบคุณมากค่ะน้องไอซ์   :)

<a href="http://glitter.kapook.com/category.php?category_id=112&sid=46369509c26493c1fab6db6f3fb07734" target="_blank"><img src="http://s242.photobucket.com/albums/ff298/akapong999/glitter2/glitterThai/T250909_06C.gif" border="0" alt="คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ..." title="คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...">[/url]

มาขอบคุณค่ะ

         ;D อรุณสวัสดิ์ค่ะ  ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ    ;D

                (http://i.kapook.com/glitter/2010/th/01/T110110_01C.gif) (http://glitter.kapook.com/category.php?category_id=16&sid=227b6f06ab640bb7a62e1ce82450506b)

There's a kiss at  the end of rainbow

ลองเข้าไปโหลด อินดี้ และ คู่มือนะคะ ตามลิ้งคะ
http://forex-strategies-revealed.com/scalping/trend-trades (http://forex-strategies-revealed.com/scalping/trend-trades)


(http://forex-strategies-revealed.com/files/pictures_strategies/trendtrades.png)

2 SARs to go
http://forex-strategies-revealed.com/system-2sarstogo (http://forex-strategies-revealed.com/system-2sarstogo)

Trade the most active hours – London and New York.
EUR/USD 5 min
GBP/USD 5 min
(optionally may also trade AUD/USD)
SAR (0.01, 0.1) – on the chart
SMA 8 – on the chart
MACD (5, 8, 9) + SAR (0.01, 0.1) on this MACD

(http://forex-strategies-revealed.com/files/pictures_strategies/scalping_num3.png)


Trading Rules:
When we talk about “trend change” we mean small tiny trends that are actual for us scalpers on 5 minute chart. We do not want to know what is going on 15 min, hourly or even more so daily chart.

With the first SAR dot appearing on the opposite side (the trend has changed) – open one “trial” position Stop loss -12 (spread not included), Take profit +5. Once profit target has been hit – look for the best that current price can offer and open three equal orders. Stop loss for all orders is -12 pips (without spread), profits will be taken next way:

1st order – close in 5 pips and later constant re-entry-scalping with rules described below.
2nd order – close on 14th (or 18th) SAR dot (whichever SAR got first 14 dots – just count them) – this gives us some relief that we have scored something. Also you may not wait till certain number of dots and just close second order where you fill it is a good gain to secure.
Another option: if you are familiar with waves and know what price retracement means, look to close 2nd order after the first, at most second clearly noticeble retracement and once the price has recovered and gave a strong move forward.
3rd – this order remains open and it is our constant relief that we are always earning something as long as both SARs are in agreement that the trend is alive. We close 3rd order only with the first SAR dot (any of 2 SARs) appearing on the opposite side signaling of a reversal.

A GOOD SYSTEM NEVER FAILS IT FAILS ONLY BECAUSE IT IS USED AT A WRONG TIME.
http://forex-strategies-revealed.com/advanced/system-selection-technique (http://forex-strategies-revealed.com/advanced/system-selection-technique)

เป็นบทความที่ดี คะ กล่าวถึง เมื่อไหร่ ควร ใช้ดัชนี ตัวใดในการ วัดการแกว่ง ไอซี่ ทำสคริปไว้ สำหรับตัวนี้ ใครสนใจ บอก อีเมล์ มาที่ข้อความส่วนตัว นะคะ
(http://upload.bluegy.com/uploads/6e114e76877f59f2a0561c9bf28694fa.gif)
ตัวอย่างคะ

This is not a trading strategy but a technique to determine which system to use and when. There are many systems available to use some are trend following systems like moving average crossover and some are oscillator based system which utilize indicators such as Stochastic, Rsi and William %R but if all these systems are good then why they work sometimes and sometimes they fail?

The reason is selection of a good system at wrong time.

We can overcome this problem with the use of one simple indicator ADX(14)

The level of ADX can help us to decide which system to use at a given point of time.
Now let me explain you how to accomplish this goal.

PLOT ADX(14) ON CHART FOR YOUR CURRENCY PAIR.
IF...
1)ADX is below 20 - USE OSCILLATOR BASED SYSTEM (RSI,STOCHASTIC ETC.)
2)ADX is above 30 - USE TREND FOLLOWING SYSTEM (MOVING AVERAGE,MACD ETC.)

3)ADX is at 45  or above it - BOOK PROFITS.(Wait for new entry)

4)ADX IS RISING FROM LEVEL BELOW 18 AND THEN GOING ABOVE 23 - USE TREND FOLLOWING SYSTEM.
5)ADX DECLINING FROM LEVEL ABOVE 30 AND THEN GOING BELOW 27 - USE OSCILLATOR BASED SYSTEM.

(http://forex-strategies-revealed.com/files/pictures_strategies/system_selection.png)
http://forex-strategies-revealed.com/files/pictures_strategies/system_selection.png (http://forex-strategies-revealed.com/files/pictures_strategies/system_selection.png)

There are 3 blocks:
1. The market is moving sideways
2. The market is trending
3. The trend is weakening, re-evaluation of forces begins

Block #1:

The market is moving sideways.
We can simply see it, but also we can get clues from ADX indicator, which now stays below 20.
Signals of which indicators should use for trading in this conditions? We use everything but trend indicators:
- Bolliger bands - the price will bounce off BB levels.
- RSI - react to oversold/overbought zones
- Stochastic - Stoch crosses, especially those in oversold/overbought zones.
As you can see in Block #1, they all give true signals.
Unlike MACD, which is revolves around zero line, crossing back and forth. It is useless.
Also Moving averages (which I didn't put on the chart, it is too messy already :), they also will give false signals, and thus should be ignored.

Block #2:

The market is trending, which is confirmed by ADX, it moved past 20 and is rising.
What indicators and systems to use? Use trend following indicators obviously:
- MACD is good.
- Moving averages would be good.
Unlike now RSI and Stochastic - they will remain in oversold /bought zones (depending on a trend) for a long time.
Unlike also Bollinger bands - the price won't obey its boundaries anymore.

Now, ADX reaches 45 - it is time to think about collecting or protecting profits. The trend is mature. We look for the clues from our trending indicators. In this case the earliest signal is received from MACD histogram (circled in purple), which changes color from red to green. Later confirmation for those who missed, comes from MACD lines crossover; and even Stochastic and RSI finally come out from oversold zones (small letter "c" - confirmation - on the chart).
When traders are out the trend begins to weaken, ADX starts to fall, price retraces upwards.

Block #3:

- ADX is falling, which means the trend has gone, at least temporarily.
We don't know whether it is going to continue or not, so we seek advice from indicators, but not a single one - a group of them.

ADX in this case becomes useless until it begins to rise again.
Why? While ADX is falling two things may happen: first - the trend will take a break - ADX will continue to fall; second - the new trend (uptrend in our case) may begin sharply - ADX will also continue falling only confirming that a downtrend is weakening yet more. (During sharp turns in the trend ADX is late with a responce, a recognition of new trend. During slow turns it is accurate.)
So, whether a new uptrend begins sharply or an old downtrend weakens, ADX will show the same tendency - it will fall suggesting no clear trend... That's why we don't use ADX when it is falling.

So, later in block #3 we get a strong Sell signal from all 4 indicators:
- price meets BB and retreats,
- RSI overbought,
- Stochastic overbought,
- MACD histogram has changes from bullish to bearish.
That's a signal to Short.

 8) สวัสดีครับจานไอซ์ที่น่ารัก คิดถึงมากมายครับ รักษาสุขภาพนะครับ รอช้อต รอช้อต อิ อิ ;D

(http://Heikin-Ashi Technique)

A type of candlestick chart that shares many characteristics with standard candlestick charts, but differs because of the values used to create each bar. Instead of using the open-high-low-close (OHLC) bars like standard candlestick charts, the Heikin-Ashi technique uses a modified formula:

Close = (Open+High+Low+Close)/4
Open = [Open (previous bar) + Close (previous bar)]/2
High = Max (High,Open,Close)
Low = Min (Low,Open, Close)

Investopedia Says:
The Heikin-Ashi technique is used by technical traders to identify a given trend more easily. Hollow candles with no lower shadows are used to signal a strong uptrend, while filled candles with no higher shadow are used to identify a strong downtrend.



Positive candles (blue) containing no wicks: There is strong uptrend momentum in the session and it will likely continue. Here, the trader will have a hands-off approach to profits while strongly considering adding on to the position.
Positive candles (blue) containing shadows or wicks: Strength continues to support the price action higher. At this point, with upside potential still present, the investor will likely consider the notion of adding to the overall position.   
A smaller candle body with longer wicks: Similar to the doji candlestick formation, this candle suggests a near-term turnaround in the overall trend. Signaling indecision, market participants are likely to wait for further directional bias before pushing the market one way or the other. Traders following on the signal will likely prefer confirmation before initiating any positions.
Negative candles (red) containing shadows or wicks: Weakness or negative momentum is supporting the price action lower in the market. As a result, traders will want to begin exiting initial long positions or selling positions at this point.
Negative candles (red) containing no shadows or wicks: Selling momentum is strong and will likely support a move lower in the overall decline. As a result, the trader would do well to add to existing short holdings.


(http://i.investopedia.com/inv/articles/site/FX-HeikinAshi1v.gif)

(http://upload.bluegy.com/uploads/521c897d7b26ac7012ed4509224cc03b.jpg)

http://www.fxfriend.com//?cid=493387 (http://www.fxfriend.com//?cid=493387)

 
Re: ค้นฟ้า หาดาว - Gap Trading
« ตอบ #70 เมื่อ: วันนี้ เวลา 03:21:14 PM »   
________________________________________
วิธีเทรด แบบ 1-2-3
http://www.tradejuice.com/forex/forex-1-2-3-methode-mm.htm (http://www.tradejuice.com/forex/forex-1-2-3-methode-mm.htm)


เทคนิค เฉพาะตัวนี้ มีกันมานานแล้ว และผู้เขียนเห็นครั้งแรกในตลาดฟิวเจอร์ส ตั้งแต่ผู้เขียน ได้เห็นนักเทรด หลายคนใช้เทคนิคนี้ ในเกือบทุกๆ ตลาด และ ใช้เทรดได้เป็นอย่างดี และ ให้ประสิทธิผลอันน่าทึ่ง

เรามาเริ่มดู แนวคิดพื้นฐาน - ระหว่างช่วงแนวโน้ม ที่มี ทั้งขึ้นและ ลง ตลาดจะสร้าง จุดสูงสุดเล็กๆ และ เนินเขา - ดูรูปประกอบด้านล่าง
(http://www.uppic.net/il/123pvmm1.jpg) (http://www.uppic.net/show/636ae151f7b56f97dc71599b7f92f473)
 


ปัญหา คือ ท่านจะทราบได้อย่างไร ว่า เมื่อไหร่ จะเข้าตลาด และ เมื่อไหร่ จะเดินออกจากตลาด และ นี่คือ ที่มา ของ วิธีการเทรดแบบ 1-2-3  เราลองมาดู รูปแบบพื้นฐานกันก่อน
(http://www.uppic.net/iw/123mm_2.jpg) (http://www.uppic.net/show/2614e3bdede879b25c31297b9f1557e3)

 
 
(http://www.uppic.net/ii/123chart2mm_3.jpg) (http://www.uppic.net/show/8868cabe0823e82d30fa5edbbf1a4f52)
ดูดีและง่านย แต่ ก้อยังคง ไม่ได้บอก อะไรเรา ว่าควรจะเข้าเทรด หรือ ไม่  - ดังนั้น เรา จะต้อง หา อินดิเคเตอร์ มาช่วย ซึ่ง ท่านสามารถเลือกใช้ อินดิเคเตอร์ ตัวไหน ก้อได้ กับ วิธีการนี้ ซึ่งสำหรับ ผู้เขียนชอบที่จะใช้ MACD 12 26 9 มากกว่า - ดังนั้น เราจะได้ ตามรูป ด้านล่าง
(http://www.uppic.net/id/123chart3mm_4.jpg) (http://www.uppic.net/show/d3ce6aeb9e28ed86e7bcd156a59705f6)

 

คราวนี้ เราเจอจุด ที่น่าสนใจแล้ว  มาดู กฏการเทรด ดังต่อไปนี้

เทรนขาขึ้น
•   เทคนิคนี้ ใช้ได้ดี กับ จุดกลับตัว ดังนั้น หาขาลงก่อนหน้านี้ ให้เจอก่อน
•   รอ MACD ให้เกิดสัญญานซื้อก่อน และ ใช้หลัก 1-2-3 เข้าไป
•   ในขณะที่ ตลาด มีการ ย่อตัว ที่จุด 3 MACD ควรจะ ยังคงอยู่ใน ช่วงขาขึ้น หรือ อาจมีการหักลงเล็กน้อย ดูเหมือนสัญญานขาย
•   ให้เข้าซื้อ 1 ลอท ที่จุด ย่อตัว 2
•   และตั้งตัดขาดทุน ต่ำกว่าจุด 3
•   วัดระยะระหว่าง จุด 2 และ 3 และ วางแนวไปหาจุดที่จะตัด กำไร
•   จุด 2 ควรจะอยู่ไม่ต่ำกว่า จุด 1 

การ กลับตัวนี้ เป็นจริง สำหรับการเทรด ระยะสั้น ขณะที่ ตลาด กำลัง วิ่งขึ้นไป หรือ กำไรคุณกำลังเพิ่มขึ้น คุณสามารถตั้ง การตัด ขาดทุนกำไร (trailing stop) ให้มากกว่า ฐานเนิน ระหว่างการย่อตัว

ตัวอย่างเพิ่มเติม
(http://www.uppic.net/iz/123chart4mm_5.jpg) (http://www.uppic.net/show/b828beabb5af10d1c0a9e7d14cb0206b)
 

 
(http://www.uppic.net/ip/123chart5mm_6.jpg) (http://www.uppic.net/show/43c3149274ab968fc37c4de154be2a7a)
 
(http://www.uppic.net/ic/0chart6mm_7.jpg) (http://www.uppic.net/show/0dbae6610955227e7e4502d08a618dd4)
มี หลายรูปแบบที่อาจแตกต่างกันไป ในการตั้งหลัก 1-2-3 แต่ แนวคิดพื้นฐานจะยังเหมือนเดิมเสมอ



----------------------------------------------------------------------------------

จาก การเทรด ฟิวเจอร์ส มีหลายท่านประสบความสำเร็จ และ หลายท่านสูญเสียอย่างมากมาย จึงอยากมาคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น สำหรับการเทรด ฟิวเจอร์ส ที่ลดความเสี่ยงมากที่สุด
•   เวลา - กำหนดระยะเวลาเข้าออก ให้ เหมาะสมก่อน โดยเลือก อินดี้ที่คุณถนัด ในการกำหนด ระยะเวลา - ไม่ใช่ การกำหนดราคา
•   สัดส่วนลงทุน - อย่าลงทุน เกินกว่า 20% ของพอร์ทเด็ดขาด ถ้าคุณสายป่านไม่ยาวเพียงพอ คุณ อาจไม่มีกำลัง พอสู้ กับตลาดนี้ได้
•   การตัดขาดทุน หรือ การเข้าลอค - เมือพลาดท่า ผิดทาง หรือ คุณกำลังเดินสวนกับ อินดี้ ที่คุณ ใช้อยู่ ไม่ต้องคิดมาก ตัดขาดทุน(หากยังน้อยอยู่) หรือ เข้าลอค(หากมัน มาไกลไปแล้ว) แล้วรอ การปลดลอค เมื่อ อินดี้ของคุณ บอกสัญญาน
•   การตัดกำไร - อย่าโลภ และ อย่าเลือก จุดสูงสุด ต่ำสุดเด็ดขาด เพราะจุดต่ำสุดสูงสุด ไม่ได้ถูกกำหนด ด้วยดีมานด์ แต่ ถูกหนด ด้วย โปรแกรมกวาดพอร์ทของรายใหญ่ ทีใช้การแสกนหา จุดตั้งตัดขาดทุนของนักเทรดออนไลน์ - ให้เลือก ระยะเวลาเป็นหลัก ในการตัดกำไร


ถ้า คุณ รู้จัก ตัวเอง และ เงื่อนเวลา  คุณจะสามารถลดความเสี่ยง ได้มากขึ้น นะคะ

(หวังว่า คน ที่ พลาด โอกาส จะได้สามารถ เข้ามาอ่าน บทความนี้ กัน นะคะ เพื่อ อย่างน้อยลดความเสี่ยงลง และ ค่อยๆ ทำเงินกลับมา)

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันนี้ เวลา 03:24:47 PM โดย Icy »    

Icy
Hero Member
   
 ออฟไลน์

กระทู้: 1010
 
   
Re: ค้นฟ้า หาดาว - Gap Trading
« ตอบ #69 เมื่อ: วันนี้ เวลา 02:35:34 PM »   
________________________________________
Forex 1-2-3 Method by Mark Mc Rae
http://www.tradejuice.com/forex/forex-1-2-3-methode-mm.htm (http://www.tradejuice.com/forex/forex-1-2-3-methode-mm.htm)

This particular technique has been around for a long time and I first saw it used in the futures market.

Since then I have seen traders using it on just about every market and when applied well, can give amazingly accurate entry levels.

Lets first start with the basic concept. During the course of any trend, either up or down, the market will form little peaks and valleys. see the chart below:
(http://www.uppic.net/il/123pvmm1.jpg) (http://www.uppic.net/show/636ae151f7b56f97dc71599b7f92f473)
 


The problem is, how do you know when to enter the market and where do you get out. This is where the 1-2-3 method comes in. First let's look at a typical 1-2-3 set up:

(http://www.uppic.net/iw/123mm_2.jpg) (http://www.uppic.net/show/2614e3bdede879b25c31297b9f1557e3)
 
 
(http://www.uppic.net/ii/123chart2mm_3.jpg) (http://www.uppic.net/show/8868cabe0823e82d30fa5edbbf1a4f52)

Nice and simple, but it still doesn't tell us if we should take the trade. For this we add an indictor. You could use just about any indictor with this method but my preferred indictor is MACD with the standard settings of 12,26,9. With the indictor added, it now looks like this:

 

(http://www.uppic.net/id/123chart3mm_4.jpg) (http://www.uppic.net/show/d3ce6aeb9e28ed86e7bcd156a59705f6)

Now here is where it gets interesting. The rules for the trade are as follows:

Uptrend
•   This works best as a reversal pattern so identify a previous downtrend.
•   Wait for the MACD to signal a buy and for the 1-2-3 set up to
be in place.
•   As the market pulls back to point 3, the MACD should remain in
buy mode or just slightly dip into sell.
•   Place a buy entry order 1 pip above point 2
•   Place a stop loss order 1 pip below point 3
•   Measure the distance between point 2 and 3 and project that
forward for your exit.
•   Point 2, should not be lower than point 1 


The reverse is true for short trades. As the market progresses you can trail your stop to 1 pip below the most recent low (Valley in an uptrend). You can also use a break in a trend line as an exit.

Some examples:

(http://www.uppic.net/iz/123chart4mm_5.jpg) (http://www.uppic.net/show/b828beabb5af10d1c0a9e7d14cb0206b)
 
(http://www.uppic.net/ip/123chart5mm_6.jpg) (http://www.uppic.net/show/43c3149274ab968fc37c4de154be2a7a)
 

 
(http://www.uppic.net/ic/0chart6mm_7.jpg) (http://www.uppic.net/show/0dbae6610955227e7e4502d08a618dd4)
There are a lot of variations on the 1-2-3 setup but the basic concept is always the same. Try experimenting with it on your favorite time frame.

SFT Camarilla Equation Levels
http://tradinglib.com/indicators/camarilla-equation (http://tradinglib.com/indicators/camarilla-equation)

Camarilla Formula
The equation can be found on some forums, reproduced here:


HL5 = (hi/lo)*close

HL4 = ( ((hi/lo)+0.83)/1.83 ) *close

HL3 = ( ((hi/lo)+2.66)/3.66 ) *close

LL5 = close - (HL5-close)

LL4 = close - (HL4-close)

LL3 = close - (HL3-close)


Be careful this equation is not entirely perfect, the L3 is often too low, so keep it in consideration.



The SFT Camarilla Equation produces 8 levels from yesterday’s open, high, low and close.

These levels are split into two groups, numbered 1 to 4.

The pattern formed by the 8 levels is broadly symmetrical,
and the most important levels are the ‘L3′, ‘L4′ and ‘H3′, ‘H4′ levels.

While day trading, traders look for the market to reverse if it hits an ‘L3′ or ‘H3′ level.

They would then open a position AGAINST the trend, using a stop loss somewhere before the associated ‘L4′ or ‘H4′ level.

The SFT theory suggests setting stoplosses that appear to you the trader to be prudent,

and to not even open the trade until it has penetrated the level in the ‘right’ direction,

 i.e. demonstrated that it has found resistance (or support). In the case of the higher H3 level, this would mean that price had already reversed and pushed back down thru the level, heading south.

The second way

to try day trading with the Camarilla Equation is to regard the ‘H4′ and ‘L4′ levels as ‘breakout’ levels –
 
in other words to go WITH the trend if prices push thru either the H4 or L4 level. This essentially covers all the bases – Day Trading within the H3 and L3 levels enables you to capture all the wrinkles that intraday market movement throws up, and the H4 – L4 breakout plays allow the less experienced trader to capitalise on relatively low risk sharp powerful movements. Here’s what it looks like in action:


(http://tradinglib.com/wp-content/uploads/2007/07/july25-2003.gif)



Anyway, the lines are really accurate, but what isn't very easy is understand when the price is wanting to bounce and when it is wanting to pass through.  It's a bit of guessing. If you trade the range inside, if you wait too long to enter then the SL becomes too big compared to the TP, if you enter too fast you might be on the wrong side.  

 
Re: ค้นฟ้า หาดาว - Gap Trading
« ตอบ #71 เมื่อ: วันนี้ เวลา 06:03:13 PM »   
________________________________________
Chart Patterns to Avoid: Climax Top Off a Parabolic Move


This pattern occurs when a stock rises very quickly out of a base and gets overextended.

Stocks in a Parabolic Move can double or triple in value in a very short period of time (usually less than two weeks).

As an investor you certainly don't want to be one of the last passengers on the train and get quickly thrown off.

Some examples of this pattern are shown below.
(http://upic.me/i/v1/38untitled.jpg) (http://upic.me/show.php?id=7a0098ed4b0580722af171e61fa3d8c2)


 


Notice the quick move upward in MCOM back in July. In 5 trading days it went from $20 to $57 for a gain of 185%. Also notice that on the biggest volume day (point A) that it gapped up strongly to $53 and then closed poorly around $41. This was the Climax Top Off the Parabolic Move. As an investor you should have sold this day if you had bought the stock in the $20's. Meanwhile you certainly should have not bought this stock this day. Notice how the stock eventually pulled all the way back to $20 by early August (point B).



 

Another example of a Climax Top Off a Parabolic Move is demonstrated by LWIN. This stock skyrocketed from $30 to $95 in 10 trading days for a whopping gain of 217%.

The Climax Top occurred on the 10th and 11th days of trading as the volume peaked (point A). The stock then sold off and retreated back quickly to around $42 by late November.

As you can see stocks that go up very quickly, in a Parabolic Move, can also come down just as fast.
  
 

My advice is if you buy a stock and it doubles or triples in value in a very short period of time (1 to 2 weeks) take your profits and congratulate yourself for a job well done. If you become greedy then you could lose most of your gains as the above examples indicate. Furthermore if your buying a stock in this type of move be very careful and watch out for the Climax Top if the stock is trading on its biggest volume day.

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันนี้ เวลา 06:06:27 PM โดย Icy »    

The Parabolic Curve Pattern

The Parabolic Curve is probably one of the most highly prized and sought after pattern. This pattern can yield you the biggest and quickest return in the shortest possible time. Generally you will find a few of these patterns at or near the end of a major market advance. The pattern is the end result of multiple base formation breaks.


(http://tradinglib.com/wp-content/uploads/2007/07/pat6.PNG)

The Trading Rules

The trading rules by Aleksandr Yermachenko (aka ataman).

Forget the news, remember the chart. You’re not smart enough to know how news will affect price. The chart already knows the news is coming.

Buy the first pullback from a new high. Sell the first pullback from a new low. There’s always a crowd that missed the first boat.

Buy at support, sell at resistance. Everyone sees the same thing and they’re all just waiting to jump in the pool.

Short rallies not sell-offs. When markets drop, shorts finally turn a profit and get ready to cover.

Don’t buy up into a major moving average or sell down into one. See #3.


Don’t chase momentum if you can’t find the exit. Assume the market will reverse the minute you get in. If it’s a long way to the door, you’re in big trouble.

Exhaustion gaps get filled. Breakaway and continuation gaps don’t. The old traders’ wisdom is a lie. Trade in the direction of gap support whenever you can.

Trends test the point of least support/resistance. Enter here even if it hurts.

Trade with the TICK not against it. Don’t be a hero. Go with the money flow.

If you have to look, it isn’t there. Forget your college degree, trust the money flow.

Sell the second high, buy the second low. After sharp pullbacks, the first test of any high or low always runs into resistance. Look for the break on the third or fourth try.

The trend is your friend in the last hour. As volume cranks up at 3:00PM don’t expect anyone to change the channel.

Avoid buying at the open except when the Market falls before the open. They see YOU coming sucker.

1-2-3-Drop-Up. Look for downtrends to reverse after a top, two lower highs and a double bottom.

Bulls live above the 200 day, bears live below. Sellers eat up rallies below this key moving average line and buyers come to the rescue above it.

Price has memory. What did price do the last time it hit a certain level? Chances are it will do it again.

Big volumes kill moves. Climax blow-offs take both buyers and sellers out of the market and lead to sideways action.

Trends never turn on a dime. Reversals build slowly. The first sharp dip always finds buyers and the first sharp rise always finds sellers.

Bottoms take longer to form than tops. Greed acts more quickly than fear and causes stocks to drop from their own weight.

Beat the crowd in and out the door. You have to take their money before they take yours, period.

5. เปิดชารตใหม่ โดย การเลือก file > open offline รอสักแปป จะปรากฏ ขึ้นมาเยอะแยะ ให้เลือก period ที่ต้องการได้เลย ในที่นี้ เลือก 3 นาที

หลังจาก ทำตามขั้นตอน แล้ว ต้องแก้ไข ต้อง open offline   ไหมค่ะ 

ลองทำตามขั้นตอนแ้ล้ว  เข้าโปรแกรมใหม่  บนขอบบนกราฟ   Gold,M3(offline)  มีผลยังไงเหรอป่าวค่ะ (พอดีตลาดปิดกราฟไม่เดิน)
ไว้ดูใหม่ พรุ่งนี้ก็ได้ค่ะ

พักผ่อนได้ แล้ว  Icy.

แถม สุดท้าย

เทคนิค การเปลี่ยน คาบเวลา

นักเทรด scalping หลายคน ใช้คาบเวลา ที่คาบเกี่ยว ที่ไม่ได้มี ฟังชั่นก์ใน MT4 เช่น คาบเวลา 3นาที 7-8 นาที หรือ 2 ชัวโมง ในการเทรดเข้าและออก ก่อนที่ พวกเรา จะเห็น การแปรเปลี่ยนของ ดัชนี ที่แสดงการกลับตัว

วิธีการเปลี่ยนคาบ เวลา

1.  ดาวโหลด period converter จาก http://codebase.mql4.com/277 (http://codebase.mql4.com/277)

2. เปิด ชารต คาบ 1 นาที แล้วลาก อินดี้ข้างต้น เข้าไปใน ชารต

3. คลิก allow dll

4. เปลี่ยนค่า 2 เป็น 3 ใน ช่อง period multifier แล้วปิด ปอปอัพ

5. เปิดชารตใหม่ โดย การเลือก file > open offline รอสักแปป จะปรากฏ ขึ้นมาเยอะแยะ ให้เลือก period ที่ต้องการได้เลย ในที่นี้ เลือก 3 นาที


หมายเหตุ สามารถทำได้เช่นเดียว หากต้องการดูคาบเวลา 2H โดยข้อ 1. เปิดเป็นชารต 1H แทน


คราวนี้ ระยะเวลาเข้าออก ของเรา ก้อ จะ ไม่แพ้ ต่างชาติแล้ว ที่เขา มี ชารต คาบเกี่ยว ไว้ดักทาง พวกเรา ก่อน ที่พวกเราจะรู้ตัว


ขอให้สนุกกับการเทรด นะคะ โชคดีคะ ทุกๆ คน


ตัวอย่าง คาบเวลา 3 นาทีคะ

(http://img687.imageshack.us/img687/456/x26.gif)

โฆษณา มาเต็ม เลย อิอิ

คง ถึง เวลา ที่ ต้อง จบ เนื้อหา ค้นฟ้า หา ดาว ซะแล้ว นะคะ

เทคนิค ต่างๆ ที่ ลง ไว้ น่าจะ เพียงพอ ที่ จะ เอา ตัว รอด จาก ตลาด โฟเรกซ์ ได้นะคะ

แต่ละ เทคนิค ไม่สามารถ นำ มาใช้ เพียง อย่างหนึ่งอย่างเดียวได้

ต้อง อาศัย การ คล้องจอง กัน เป็น ระบบ แบบที่ ฝรั่ง ทำกัน


เนือหา ที่ ได้ ทำ ไป คง สามารถ ทำให้ เป็น ก้าวใหม่ ต่อ ผุ้พัฒนา เพื่อ สังคมนักเทรด รุ่น ต่อไป ที่ จะ นำระบบ ของ ตนเอง มาแลก เปลี่ยน ต่อ เพื่อนๆ ชาวไทย เพื่อ ทัดเทียม ชาวต่างชาติ ที่เขา เทรด กัน เป้น ระบบ และเขาแลกเปลี่ยน ช่วยเหลือกัน


อย่าง หนึ่ง คือ ไม่ว่าจะ ทำ สคริปแบบใดๆ ไม่เคย หนีจาก เรื่อง ค่า เฉลี่ย ราคา เลย หรือ Moving Average ไม่ว่า จะ เป็น Stochastic, MACD, HAMA, etc.

แต่ เป็นการนำค่า moving average มาจัดระบบ โดย อาศัยหลักการทางสถิติ, และงานวิจัยเชิงสถิติ เพื่อนำมา พัฒนา หาความสัมพัน ของ ค่า Fibonacci ต่างๆ อย่างเช่น กราฟผีเสือ, ระบบ 1-2-3, อื่นๆ

ในบางส่วน อาศัยหลัก ฟิสิกส์ และ วิศวกรรม เรื่อง คลื่นฮาร์โมนิก 1 - 3 - 5 - 7
โดยที่ คลื่น หลัก คือ ฮารืโมนิก ที่ 1 (สำหรับนักลงทุน ตัวจริง)
คลื่น ปั่น คือ ฮาร์โมนิก ที่ 3 (สำหรับ นักเทรดที่ชอบความท้าทาย และ ทำให้เกิด Elliot wave ขึ้น)

และ คลื่นรบกวน คือ ฮาร์โนนิกส์ ที่ 5 และ 7 (สำหรับ นักเทรด แบบ ฉกฉวย หรือ Scalpers)


ขอให้ โชคดี นะคะ ทุกๆท่าน

สุดท้าย อย่าลืมว่า  แค่ไปตามสัญญาน