Gold Price today, Gold Trend Price Prediction, ราคาทองคํา, วิเคราะห์ทิศทางทองคํา

ลงทุนในทองคําและแนวโน้ม / Gold Price Trend and Investment, Discussion => การวิเคราะห์ทองคําจากรูปกราฟ => ข้อความที่เริ่มโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 01, 2009, 05:25:36 AM

Forex-Currency Trading-Swiss based forex related website. Home ----- กระดานสนทนาหน้าแรก ----- Gold Chart,Silver,Copper,Oil Chart ----- gold-trend-price-prediction ----- ติดต่อเรา

หัวข้อ: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 01, 2009, 05:25:36 AM
ทิศทางทองวันที่ 2/11/2009  
ต้าน๓ 1070.50.......xx
ต้าน๒ 1056.69
ต้าน๑ 1050.82
เส้นแดน 1042.88
หนุน๑ 1037.01
หนุน๒ 1029.07
หนุน๓ 1015.26??.xx
 วิธีดูทิศทางทอง ต้าน๓----หนุน๓เป็นทิศทางทองที่จะเคลื่อนไหวในวันนี้ หากพุ่งทะลุต้าน๓หรือดิ่งทะลวงหนุน๓ แสดงถึงวันนั้นทองเคลื่อนไหวแรงเกินปกติ เส้นแดนเป็นเส้นที่จะแบ่งแยกทิศทางของทองที่จะขึ้นหรือลง หากทองเคลื่อนไหวอยู่ในทิศทางใดมากและนาน นั่นหมายถึงโอกาสเป็นไปได้มากที่ทองจะเคลื่อนไปในทิศทางนั้นๆ ในช่วงเวลานั้น (ยังต้องแบ่งออกในช่วงเวลาตลาดเอเซีย ยุโรป เมกาด้วย) ต้าน๑และหนุน๑หากถูกทดสอบแบบมีผล(ขึ้นลงมากกว่า๑ครั้ง)แล้วยืนอยู่ได้ นั่นคือทิศทางทองที่จะเดินต่อไปในช่วงเวลานั้น หากการวิเคราะเกิดขัดแย้งกันเมื่อไหร่ ให้หยุดมองดูอย่างเดียว ไม่ควรซื้อ-ขายในช่วงเวลานั้น แนวทางนี้เหมาะกับการเล่นสั้นมาก (เล่นแบบออนไลน์ในอนาคต) มีความแม่นยำถึง80%ครับ อีกอย่างข่าวปัจจัยพื้นฐานอาจเปลี่ยนทิศทางทองได้กะทันหันนะครับ
ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์กับการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย ถัาติดดอยเมื่อทองต่ำลงมา  หากยังมีเงินเหลืออยู่ ควรซื้อเพิ่ม เพิ่มที่ละนิด ต่ำอีกซื้ออีก เพื่อดึงต้นทุนที่สูงให้ต่ำลงมา ใครที่ยังไม่มีทองในมือควรทยอยซื้อเข้าอย่ามากนัก หากทองลงอีก เราก็ซื้ออีก ดีกว่าเวลาทองขึ้นเราไปไล่ซื้อในราคาที่สูง  จดจำเป็นคติเตือนใจว่า  เรามิอาจซื้อได้ในราคาที่ต่ำสุด และขายได้ในราคาที่สูงสุด ไม่มีการลงทุนใดที่ไม่เสี่ยง การบริหารพอร์ตให้ได้จังหวะ จะลดความเสี่ยงลงได้ครับ
กราฟสำคัญ ปัจจัยพื้นฐานก็สำคัญ จิตวิทยาการโน้มเอียงของคนก็สำคัญ สิ่งเหล่านี้หากเป็นไปในแนวเดียวกัน ก็จะมุ่งไปทางนั้น หากแย้งกันก็ต้องดูฝ่ายไหนเหนือกว่า.....ด้วยเหตุนี้ไม่มีนักวิเคราะห์คนใดที่จะทำนายได้แม่นยำตลอดกาลได้ครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 01, 2009, 05:31:59 AM
กราฟตาแป๊ะซ้ายบน หน้าสีแดง---ลงปรับฐานช่วงสั้นๆ อาจเป็นวัน-สองวัน หน้าสีเทา---ดีดขึ้นช่วงสั้นๆ อาจเป็นวัน-สองวัน     เส้นสีแดงหนา---ขาขึ้น เส้นสีเขียวหนา---ขาลง
ขวาบน  เส้นสีแดง---เสนอซื้มากกว่าเสนอขาย เส้นสีเขียว---เสนอขายมากกว่าเสนอซื้อ  ส่วนช่วงกลางที่มีแท่งสีแดงกับเขียวนั้น แท่งแดง---แรงซื้อขึ้น   แท่งเขียว---แรงขายลง
ขวาช่องสอง  แท่งเหลืองคู่เส้นแดง---ขาขึ้น   แท่งฟ้าคู่เส้นเขียว---ขาลง โดยปกติ ช่องนี้จะเปลี่ยนแนวโน้มช้ากว่าเพื่อน หากเปลี่ยนแนวโน้มเมื่อไหร่ เขาให้ขายออกหรือซื้อเข้าได้ทันที่ ยกเว้นมีปัจจัยพื้นฐานแรงๆแทรกเข้ามา จึงจะทำให้แนวโน้มกลับเปลี่ยนได้โดยกะทันหัน
ซ้ายช่องสอง หน้าเหลืองแป๊ะยิ้ม---ขาขึ้น หน้าแดงแป๊ะร้องไห้---ขาลง  แท่งสีเขียว---เพดาน   แท่งสีแดง---พื้นดินโดยปกติ ช่องนี้จะส่งสัญญาณว่า กำลังจะเปลี่ยนแนวทางแล้วนะ แต่ยังไม่เต็มร้อย อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยกะทันหันก็ได้ ต้องดูซ้ายบนและขวาช่อง๒ประกอบด้วย จึงจะให้ความมั่นใจได้[/size]
ทอง


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 01, 2009, 05:32:59 AM
ดัชนีเงินเมกา


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 01, 2009, 05:34:42 AM
น้ำมัน


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: Fusenoy ที่ พฤศจิกายน 01, 2009, 06:02:55 AM
สวัสดีตอนเช้าค่ะ วันนี้น่าจะเป็นวันดีมากๆๆ พอเปิดคอมมาเจอกะทู้นี้ แสดงว่าคุณทองใหม่สุขภาพดีขึ้นมากๆๆ ใช่ไหมค่ะ ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์จงคุ้มครองค่ะ ติดตามอ่านมาตั้งแต่เวปสมาคม ได้ข่าวมาเรื่อยเสมอเหมือนญาติผู้ใหญ่ท่านหนื่งที่เคารพ และนับถือค่ะ ขอฝากเนื้อ ฝากคัวด้วยนะค่ะท่านอาจารย์


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 01, 2009, 06:40:51 AM
สวัสดีตอนเช้าค่ะ วันนี้น่าจะเป็นวันดีมากๆๆ พอเปิดคอมมาเจอกะทู้นี้ แสดงว่าคุณทองใหม่สุขภาพดีขึ้นมากๆๆ ใช่ไหมค่ะ ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์จงคุ้มครองค่ะ ติดตามอ่านมาตั้งแต่เวปสมาคม ได้ข่าวมาเรื่อยเสมอเหมือนญาติผู้ใหญ่ท่านหนื่งที่เคารพ และนับถือค่ะ ขอฝากเนื้อ ฝากคัวด้วยนะค่ะท่านอาจารย์
สาธุ.........จ้า :D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 01, 2009, 07:59:37 AM
 :D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: dada ที่ พฤศจิกายน 01, 2009, 09:13:47 AM
สวัสดีค่ะ คุณทองใหม่..... 
         ดีใจกับการกลับมาให้ความรู้ คำแนะนำกับเพื่อน ๆ อีก หนค่ะ
เห็นป่าว  คนดีมักแคล้วคลาด   รักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ  ขอบคุณค่ะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: murathi ที่ พฤศจิกายน 01, 2009, 09:45:14 AM
สวัสดีค่ะคุณทองใหม่ เข้ามาขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ
ขอให้ให้ไวๆ สุขภาพแข็งแรงเร็วๆ นะคะ
  :D :D :D :D :D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ppjj ที่ พฤศจิกายน 01, 2009, 10:20:07 AM
ขอบคุณมากค่ะคุณทองใหม่ ขอให้สุขภาพแข็งแรงน่ะค่ะ :)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: itums ที่ พฤศจิกายน 01, 2009, 09:54:14 PM
ขอบคุณครับ อาจารย์ทองใหม่ :D ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 02, 2009, 06:31:20 AM
เส้นปากถุง(เส้นสีขาวทั้ง๓เส้น)แบบง่ายๆ ไม่ปวดเศียรเวียนเกล้า
เส้นบน---แนวต้าน
เส้นกลาง---แนวโน้ม(สำคัญสุด)
เส้นล่าง---แนวหนุน
ลักษณะที่๑---ทิศทางขึ้นเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น   เส้นกลางหันหัวขึ้น   เส้นล่างหันหัวลง
ลักษณะที่๒---ทิศทางขึ้นเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวขึ้น
เมื่อเจอลักษณะทั้ง๒นี้ ราคาระหว่างวันที่ขึ้นๆลงๆ เมื่อเจอจุดที่เห็นว่าต่ำแล้วให้ซื้อเข้าได้เลยครับ  ขอเพียงเส้นกลาง(แนวโน้ม)ยังหันหัวขึ้นอยู่ แม้ราคาเแท่งเทียนจะอยู่ต่ำกว่าเส้นกลาง ก็ยังซื้อเข้าได้ หากเส้นบนเดินขวางเมื่อไหร่ ให้ทยอยลดพอร์ตได้เลยครับ
ลักษณะที่๓---เลือกทิศทาง---เส้นบนหันหัวลง เส้นล่างหันหัวขี้น ปากถุงแคบลง ถึงช่วงนี้ ให้ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว หากใครยังคิดอยากเคลื่อนไหว ก็จงเคลื่อนไหวไปหน้าทีวี จงอย่าทำการอย่างอื่นใด หากใครเป็นจอมยุทธ์ ก็ชิงเคลื่อนไหวก่อนใครได้  
ขอแถมอีกนิด จงโฟกัสที่เส้นกลาง หากเส้นกลางเริ่มขยบหัวหัวขึ้นหรือลง ทิศทางอาจขึ้นหรือลงตามเส้นกลางแนวโน้มนั้น
ลักษณะที่๔---เคลื่อนไหวในกรอบแคบ---เส้นบน กลาง ล่าง เดินขวางทั้ง๓เส้น หากใครเล่นออนไลน์ สามารถเล่นได้เล็กน้อยอย่ามาก เมื่อราคาแท่งเทียนใกล้เส้นบน จงขาย ใกล้เส้นล่าง จงซื้อ ต้องเข้าออกให้ทันการณ์ หาไม่แล้วจากกำไรอาจขาดทุนได้นา ขอบอก
ลักษณะที่๕---ทิศทางลงเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น เส้นกลางหันหัวลง เส้ยล่างหัวหัวลง
ลักษณะที่๖---ทิศทางลงเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวลง  เมื่อเส้นล่างเดินขวางเมื่อไหร่ ผู้ที่ใจกล้าที่เล่นออนไลน์ เริ่มทยอยซื้อเข้าได้ที่ละนิด อัตราเสี่ยงยังมีอยู่บ้างนะครับ สิบอกไห่
วิธีดูเส้นปากถุงที่กล่าวมานี้ .....ไม่ใช่ตำราของฝรั่ง แบบของฝรั่งผมเคยอ่านมาบ้างแล้ว ยาวมาก ปวดหัว ทำความเข้าใจได้ยากมากๆๆๆๆ ...........เหมาะเฉพาะกราฟราย๔ชม.และช่วงปกติเท่านั้นนะครับ  (บางครั้งตลาดจงใจคึงขึ้นลงอย่าแรงๆ แทบหัวใจวายสำหรับผู้มีทองในมือและผิดทิศทางของตัวเอง เรียกว่า ช่วงไม่ปกติครับ)



หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 02, 2009, 06:33:05 AM
 :D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 02, 2009, 07:21:35 AM
ETF


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ffr_manoj243 ที่ พฤศจิกายน 02, 2009, 07:46:30 AM
ขอบคุณ .. คุณทองใหม่ .. มากครับ
สำหรับ "ข้อมูลกราฟ" ..  ที่ช่วยในการตัดสินใจ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: sue662 ที่ พฤศจิกายน 02, 2009, 10:12:39 AM
มีเกร็ดความรู้สอนไว้ด้วย เดี๋ยวต้องอ่านซ้ำหลายๆครั้งให้จำแม่นๆค่ะ ทราบว่ายังไม่ค่อยแข็งแรงเพราะแอบไปอ่านวิเคราะห์อยู่ทุกวันค่ะ  กรุณารักษาสุขภาพ พักผ่อนให้มากๆนะคะ ขอบคุณค่ะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: Neung99k ที่ พฤศจิกายน 02, 2009, 10:13:27 AM
สวัสดีครับคุณทองใหม่  สบายดีนะครับ เห็นมาโพสล่ะสบายใจรักษาสุขภาพนะครับ  ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะครับ ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: AAA ที่ พฤศจิกายน 02, 2009, 10:17:12 AM
 :Dสวัสดีคะ อ.ทองใหม่ ขอให้สุขภาพแข็งแรงคะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 02, 2009, 10:58:49 AM
 :D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 02, 2009, 10:59:31 AM
 :D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 02, 2009, 11:00:15 AM
 :D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 02, 2009, 11:20:17 AM
เปิดตัว ChiNext ตลาดหุ้นใหม่ของจีน ร้อนแรงจนต้อง Circuit Breaker สร้างเศรษฐีใหม่ชั่วข้ามคืน

Posted on Monday, November 02, 2009
จับตาตัวเลขแรงงานสหรัฐฯ สัปดาห์นี้

แรงขายหุ้นในสัปดาห์ที่แล้วที่ทำให้ S&P 500 ร่วงลง 4% มีส่วนมาจากตัวเลขยอดขายบ้านที่ออกมาผิดไปจากคาด รวมถึงการปรับตัวลงของยอดการใช้จ่ายผู้บริโภค จนทำให้หลายคนกังวลว่าตลาดหุ้นที่ปรับขึ้นมาก่อนหน้านี้อาจจะดีเกินไปกว่าแนวโน้มเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นจริง
ตัวเลขตลาดบ้านที่น่าผิดหวังก็ไปกดดันหุ้นในกลุ่ม นำโดย Home Depot ที่ราคาร่วงลงกว่า 4% ขณะที่หุ้นธนาคาร อย่าง Bank of America ปรับตัวลง หลังจากมีรายงานว่า ธนาคารรายใหญ่ที่สุดนี้อาจจะต้องขายหุ้นเพื่อนำมาจ่ายเงินช่วยเหลือที่เคยได้มาจากรัฐบาล

นอกจากนั้น หุ้นแบงก์ยังเผชิญแรงขายด้วยข่าวผู้ถือหุ้น CIT Group สนับสนุนแผนการล้มละลาย ซึ่งทำให้เกิดความเป็นห่วงถึงสถานะภาคธนาคารที่อาจจะมีต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ส่วนหุ้นน้ำมันรวมถึงสินค้าโภคภัณฑ์อื่นก็แผ่วลงในสัปดาห์ก่อน เมื่อเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้น

ทางด้านราคาทองคำ แนวโน้มในสัปดาห์นี้ ผลสำรวจนักวิเคราะห์ นักลงทุนและเทรดเดอร์ของสำนักข่าว Bloomberg ก็คาดว่า ราคาทองคำอาจปรับตัวลง จากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า

ผลจากรายงานการปรับลดการใช้จ่ายของผู้บริโภคและความเชื่อมั่นที่แผ่วลงก็ส่งผลให้เกิดแรงขายในหุ้นกลุ่มต่างๆ ที่รวมถึง หุ้นสื่อยักษ์ใหญ่ของโลก อย่าง Walt Disney และผู้ค้าปลีกรายใหญ่ Wal-Mart Stores โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานว่า การใช้จ่ายผู้บริโภคร่วงลง 0.5% ในเดือนกันยายน หลังจากกระโดดขึ้นไป 1.4% ในเดือนสิงหาคม ขณะเดียวกัน ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ที่จัดทำโดย Reuters และมหาวิทยาลัยมิชิแกน ปรับตัวลงจากระดับ 73.5 มาที่ 70.6 ในเดือนตุลาคม

ในสัปดาห์นี้ นักเศรษฐศาสตร์ก็ยังจับตามองตัวเลขของกระทรวงแรงงานในวันศุกร์ที่จะมีการรายงานสภาวะการจ้างงานที่คาดกันว่า นายจ้างสหรัฐฯ จะปลดแรงงานเพิ่มอีกกว่า 170,000 รายในเดือนที่แล้ว

ขณะที่ทางด้านภาคการผลิต นักเศรษฐศาสตร์ก็คาดว่า ดัชนีภาคการผลิตเดือนตุลาคมที่จัดทำโดย ISM น่าจะขยับขึ้นไปทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2549

ส่วนยอดคำสั่งซื้อภาคโรงงานที่จะรายงานโดยกระทรวงพาณิชย์ อาจจะปรับตัวขึ้นเกือบ 1% ในเดือนกันยายน


นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบลเตือนจับตาแนวโน้มเศรษฐกิจ แม้ GDP สหรัฐฯ ดีเกินคาด

แม้ตัวเลข GDP สหรัฐฯ ในไตรมาส 3 จะออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบล นายโจเซฟ สติ๊กลิทซ์ (Joseph E. Stiglitz) กลับออกมาเตือนว่า อัตราการเติบโตที่น่าประทับใจดังกล่าวอาจจะไม่ดำเนินต่อไปในปีหน้า ส่วนผลที่เกิดขึ้นในไตรมาสที่แล้วนั้น จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากไม่มีมาตรการกระตุ้นจากรัฐบาล

นายสติ๊กลิทซ์ได้เตือนผ่านงานสัมมนาที่กรุงเซี่ยงไฮ้ว่า ทั้งสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ อย่าเพิ่งถอนมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจออกจากระบบ ซึ่งอดีตหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ธนาคารโลก วัย 66 ได้แสดงความเป็นห่วงถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน โดยเฉพาะเรื่องการว่างงานว่า ตลาดแรงงานยังอยู่ในภาวะที่แย่เอามากๆ มิหนำซ้ำอัตราการว่างงานมีแนวโน้มที่จะพุ่งขึ้นอีก และอัตราการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเองก็ไม่น่าจะมีแรงเพียงพอที่จะกดอัตราการว่างงานให้ลดต่ำลงได้

อัตราการว่างงานสหรัฐฯ พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 26 ปี ที่ 9.8% เมื่อเดือนกันยายน ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์จากค่ายต่างๆ ก็คาดกันว่า ตัวเลขน่าจะพุ่งทะลุ 10% ขึ้นไปได้ในช่วงแถวๆ ต้นปีหน้า

ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบียท่านนี้ บอกว่า ระดับอัตราการเติบโตนั้นควรจะอยู่ที่ราว 3 ? 3.5% ถึงจะเพียงพอที่จะสร้างงานสำหรับผู้ที่จะเข้ามาในตลาดแรงงานในอนาคต ซึ่งเขาก็มองว่าการคงอัตราการขยายตัวในระดับนี้ให้ข้ามไปจนถึงปีหน้า ไม่น่าจะมีความเป็นไปได้ ในขณะเดียวกัน ก็ดูจะเร็วเกินไป หากอเมริกาและประเทศอื่นๆ จะเริ่มผ่อนมาตรการกระตุ้นที่เคยอัดฉีดกันมาตลอดตั้งแต่ปีที่แล้วเพื่อหลีกหนีผลกระทบจากวิกฤติการเงิน

ถ้าหันไปดูความเคลื่อนไหวของธนาคารกลางทั่วโลก เริ่มจากที่สหรัฐฯ ที่เฟดเองค่อยๆ สื่อสารให้กับนักลงทุนได้ตระหนักว่า ธนาคารกลางจะถอนมาตรการช่วยเหลือฉุกเฉินต่างๆ ออกจากระบบในเวลาที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการพุ่งขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ

ส่วนทางด้านธนาคารกลางญี่ปุ่น ก็ระบุเมื่อวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า จะหยุดทำการซื้อตราสารหนี้ภาคเอกชนในสิ้นปีนี้

ขณะที่ธนาคารกลางออสเตรเลียได้เปิดฉากขึ้นดอกเบี้ยไปเรียบร้อยแล้วในเดือนที่แล้ว ทำให้กลายเป็นประเทศแรกของกลุ่มประเทศ G20 ที่ขยับขึ้นต้นทุนทางการเงิน ก่อนที่จะตามมาด้วยธนาคารกลางประเทศนอร์เวย์

ส่วนที่ประเทศจีน เมื่อเดือนที่แล้วรัฐบาลก็แสดงจุดยืนที่จะดำเนินนโยบายกระตุ้นทางการเงินและการคลังต่อไป แม้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจจะออกมาดีเหนือการคาดการณ์ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ซึ่งล่าสุดธนาคารกลางของจีนก็เปิดเผยว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจประเทศจะออกมาสูงเกินเป้าที่รัฐบาลตั้งไว้ที่ 8% ในปีนี้


ผู้บริโภคสหรัฐลดการใช้จ่าย กดความเชื่อมั่นร่วง

การใช้จ่ายผู้บริโภคสหรัฐหดตัวลงในเดือนกันยายน ขณะที่รายได้ส่วนบุคคลแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นไปตามคาดการณ์ของตลาด

กระทรวงพาณิชย์รายงานว่า การใช้จ่ายผู้บริโภคสหรัฐหดตัวลง 0.5% ในเดือนกันยายน ซึ่งถือว่าหนักสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว หลังจากที่ขยายตัวถึง 1.4% ในเดือนสิงหาคม ซึ่งในตอนนั้นโครงการรถเก่าแลกซื้อรถใหม่ของรัฐบาลสหรัฐเพิ่งหมดอายุไป

ด้านรายได้ส่วนบุคคลขยับลง 100 ล้านดอลลาร์ หรือลดลงไม่ถึง 0.1% ในเดือนกันยายน หลังจากที่ขยายตัว 0.1% ในเดือนสิงหาคม

การใช้จ่ายที่ลดลงและรายได้ที่ทรงตัวดังกล่าวส่งผลให้การออมเงินส่วนบุคคลเพิ่มขึ้นแตะ 355,600 ล้านดอลลาร์ในเดือนกันยายน โดยอัตราการออมเงินอยู่ที่ระดับ 3.3% ในเดือนกันยายน

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมารัฐบาลสหรัฐเผยตัวเลขGDP ที่ขยายตัวเกินคาด 3.5% ส่งสัญญาณว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยสิ้นสุดลงแล้ว แต่นักเศรษฐศาสตร์ยังคงเกรงว่าเศรษฐกิจจะไม่ฟื้นตัวยั่งยืนหากครัวเรือนยังคงลดการใช้จ่าย เนื่องจากการว่างงานงานและสินเชื่อที่เข้าถึงได้ยาก
ทั้งนี้ การใช้จ่ายผู้บริโภคซึ่งมีสัดส่วนราว 70% ของเศรษฐกิจสหรัฐ เป็นปัจจัยหลักที่สามารถบ่งชี้แนวโน้มเศรษฐกิจได้

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลดลงตามคาดในเดือนตุลาคม ส่งสัญญาณว่าอัตราการว่างงานที่พุ่งสูงกดดันให้ผู้บริโภคลดการใช้จ่ายลงแม้เศรษฐกิจโดยรวมจะเริ่มฟื้นตัวแล้วก็ตาม โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน ปรับตัวลดลงแตะ 70.6 จุดในเดือนตุลาคม จากระดับ 73.5 จุดในเดือนกันยายน ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 ปี

อัตราว่างงานที่ทะยานแตะระดับสูงสุดในรอบ 26 ปี กดดันให้ผู้บริโภคต้องควบคุมการใช้จ่ายทั้งที่กำลังจะเข้าสู่ฤดูช้อปปิ้งสำหรับเทศกาลคริสต์มาส โดยในเดือนกันยายนชาวอเมริกันใช้จ่ายน้อยลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือนหลังโครงการรถเก่าแลกซื้อรถใหม่ของรัฐบาลหมดอายุลง

สตีเวน วู้ด ประธานบริษัท อินไซต์ อีโคโนมิกส์ แอลแอลซี ในแคลิฟอร์เนีย กล่าวว่า "ภาคครัวเรือนยังคงวิตกกังวลทั้งกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันและอนาคต" "ความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะฟื้นตัวต่อเมื่อตลาดแรงงานและราคาบ้านมีเสถียรภาพมากขึ้น"


บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่สหรัฐผลกำไรร่วงใน Q3

ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ทั้งหมดในสหรัฐเผยกำไรไตรมาส 3 ร่วงลงอย่างหนัก หลังภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยยังคงส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ และกดดันให้ความต้องการพลังงานลดลง

เอ็กซอนโมบิล บริษัทน้ำมันรายใหญ่อันดับ 1 ในสหรัฐ มีกำไรสุทธิทรุดลง 65% แตะ 4,370 ล้านดอลลาร์จาก 14,800 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว ซึ่งเร็กซ์ ดับเบิลยู ทิลเลอร์สัน ซีอีโอของบริษัท กล่าวว่าเป็นผลมาจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์และกำไรของผลิตภัณฑ์ที่ลดลง

เชฟรอน บริษัทน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐ มีกำไรร่วงลงถึง 51% ในไตรมาส 3 แตะ 3,830 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จาก 7,890 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีที่แล้ว ขณะที่รายได้ก็ลดลง 41% แตะ 46,600 ล้านดอลลาร์

ส่วน โคโนโคฟิลลิปส์ บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่อันดับ 3 ของสหรัฐ ก็มีกำไรร่วงลงถึง 71% แตะ 1,500 ล้านดอลลาร์

ปีเตอร์ โวเซอร์ ซีอีโอบริษัท รอยัล ดัทช์ เชลล์ บริษัทน้ำมันรายใหญ่สุดของยุโรป กล่าวว่า แม้เศรษฐกิจสหรัฐจะเริ่มฟื้นตัว และมีสัญญาณว่าความต้องการพลังงานและราคาน้ำมันเริ่มกระเตื้องขึ้นบ้างแล้ว แต่แนวโน้มดังกล่าวยังขาดความแน่นอนและไม่ควรคาดหวังว่าตลาดจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ รายงานไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า กำไรไตรมาส 3 ของเชลล์ก็ร่วงลงถึง 62% แตะ 3,250 ล้านดอลลาร์ จาก 8,450 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว


จีนเปิดตัวตลาดหุ้นใหม่ ChiNext

ตลาดหุ้นแห่งใหม่ของจีน ChiNext ซึ่งเป็นตลาดรองที่มีลักษณะเดียวกับตลาด Nasdaq พุ่งสูงขึ้นถ้วนหน้าในการซื้อขายวันแรกในวันศุกร์ที่ผ่านมา

บริษัทเอกชน 10 แห่งที่ได้รับการอนุมัติให้ขายหุ้นในตลาด ChiNext ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองเสิ่นเจิ้นนั้น สามารถระดมทุนได้ถึง 6,680 ล้านหยวน หรือ 978 ล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 2 เท่าของเป้าหมายเบื้องต้นที่ 3,160 ล้านหยวน

ทางด้านจาง ฟูหลิน ประธานคณะกรรมการกำกับดูแลหลักทรัพย์ของจีนกล่าวว่า การซื้อขายในตลาดใหม่จะช่วยให้ประสิทธิภาพในการทำกำไรเพิ่มขึ้น

ขณะที่นักวิเคราะห์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นจีนมีแนวโน้มที่จะหาอะไรใหม่ๆ นักลงทุนส่วนใหญ่ที่เข้ามาซื้อหุ้นน้องใหม่นี้เป็นนักลงทุนรายย่อย และ กระดานหุ้นใหม่ที่เปิดซื้อขายล่าสุดนี้จะช่วยให้เรามีทางเลือกในการกระจายการลงทุนมากขึ้น

ตลาด ChiNext ถือเป็นทางเลือกสำหรับบริษัทจีนที่มีขนาดเล็กกว่า เช่น บริษัท ฮัวยี บราเธอร์ส มีเดีย คอร์ป ซึ่งต้องการที่จะระดมทุน ขณะที่บริษัทเอกชนหลายรายซึ่งรวมถึงบริษัท ไป่ตู้ ก็ได้ขายหุ้นในตลาดหุ้น Nasdaq ออกไป เนื่องจากบริษัทไม่สามารถปฏิบัติข้อกำหนดในเรื่องการทำกำไร 3 ปีในกระดานหลักของตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้และตลาดหุ้นเสิ่นเจิ้นก่อนที่จะจดทะเบียนได้

ระหว่างการซื้อขาย จีนสั่งระงับการซื้อขายหรือใช้มาตรการ Circuit Breaker ระงับการซื้อขายชั่วคราวในช่วง 2 ชั่วโมงแรกของการซื้อขาย ในหุ้น 28 รายการในตลาด ChiNext ที่เปิดทำการวันแรกเมื่อวันศุกร์ หลังจากที่ราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้นมาก

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นเสิ่นเจิ้นได้ออกกฎระงับการซื้อขายหุ้นชั่วคราวขึ้นมาหากเห็นว่าหุ้นผันผวนมากเกินไปในการซื้อขายวันแรกในตลาด โดย ChiNext อยู่ภายใต้กฎดังกล่าว หากพบว่า หุ้นผันผวนในช่วง 20% จากราคาเปิด หุ้นนั้นๆจะถูกระงับการซื้อขายเป็นเวลา 30 นาที และหากราคาหุ้นใดก็ตามผันผวนในช่วง 50% ของราคาเปิด หุ้นนั้นๆก็จะถูกระงับการซื้อขายเป็นเวลา 30 นาที

ส่วนหุ้นที่ราคาผันผวนมากกว่า 80% จากราคาเปิดก็จะถูกระงับการซื้อขายจนกระทั่งถึงเวลา 14.57 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 3 นาทีก่อนที่การซื้อขายจะหยุดทำการ

เมื่อปิดทำการหุ้นทั้ง 28 ตัวในตลาดมีราคาพุ่งขึ้น 2 เท่า ซึ่งทำให้เกิดความกังวลเรื่องภาวะฟองสบู่จากการเก็งกำไร

คำสั่งซื้อที่สูงมากในวันศุกร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้ถือหุ้นที่เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทบางรายกลายเป็นเศรษฐีที่ถือเงินหลายพันล้านหยวนภายในเวลาข้ามคืน ขณะที่รายย่อยที่มีหุ้น IPO อยู่ในมือ ก็ได้ขายหุ้นออกมาในวันแรกเพื่อทำกำไรราว 40,000 หยวน (6,000 ดอลลาร์ ซึ่งก็นับว่าเป็นเงินจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว


BOJ ยุติมาตรการฉุกเฉิน พร้องมติคงดอกเบี้ย

ที่ประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นวันนี้ได้ตัดสินใจที่ จะยุติมาตรการซื้อตราสารหนี้เอกชนสิ้นปีนี้ตามกำหนดการณ์ รวมทั้งตกลงที่จะขยายวันครบกำหนดโครงการปล่อยเงินกู้โดยไม่จำกัดไปจนถึงช่วงสิ้นเดือนมี.ค.ปีหน้า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.1%

ที่ผ่านมาตลาดจับตาดูว่าที่ประชุมจะตัดสินใจยกเลิกการใช้มาตรการซื้อพันธบัตรเอกชนและมาตรการพิเศษฉุกเฉินอื่นๆหรือไม่ และหากมีการตัดสินใจยกเลิกนั้น ทางธนาคารกลางจะถอนการใช้มาตรการแบบค่อยเป็นค่อยไปอย่างไร

ก่อนหน้านี้ นายมาซาอากิ ชิรากาว่า ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่นกล่าวถึงความจำเป็นในการลดการซื้อตราสารหนี้ลง เนื่องจากบริษัทต่างๆสามารถเข้าสินเชื่อได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมหลังจากที่เศรษฐกิจฟื้นตัวจากภาวะถดถอยครั้งรุนแรง

การยุติโครงการดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบให้มีการขึ้นดอกเบี้ย และระบุว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับปัจจุบันต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง

เตโสะ ทาย่า อดีตบอร์ดบีโอเจและที่ปรึกษาของสถาบันวิจัยไดวา กล่าวว่า การยุติการซื้อตราสารหนี้เอกชนจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเพียงเล็กน้อย และการขึ้นดอกเบี้ยก็คงจะไม่ใช่ทางเลือกของธนาคารกลางญี่ปุ่น ตราบใดที่ราคาสินค้าต่างๆยังคงร่วงลง

ธนาคารกลางญี่ปุ่นระบุว่า ระบบการเงินของญี่ปุ่นส่งสัญญาณการปรับตัวดีขึ้นมาก โดยเฉพาะตลาดพันธบัตรเอกชน ซึ่งธนาคารกลางจะคงนโยบายการเงินที่เอื้ออำนวยนี้ต่อไปด้วยการคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับปัจจุบัน และจัดหาเงินทุนให้เพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการ

อย่างไรก็ดี การประกาศดังกล่าวมีขึ้นหลังจากช่วงเช้าวันนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศว่า อัตราการว่างงานของญี่ปุ่นเดือนกันยายน ลดลงสู่ 5.6 % ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน ขณะเดียวกัน เงินเฟ้อของญี่ปุ่นก็ลดลง และการใช้จ่ายภาคครัวเรือนก็ปรับลดลง

ขณะที่ตลาดจับตาดูว่า ที่ประชุมจะตัดสินใจยกเลิกการใช้มาตรการซื้อพันธบัตรเอกชนและมาตรการพิเศษฉุกเฉินอื่นๆหรือไม่ และหากตัดสินใจยกเลิก ธนาคารกลาง-ญี่ปุ่นจะถอนการใช้มาตรการแบบค่อยเป็นค่อยไปอย่างไร

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่ประกาศออกมาเมื่อวานนี้ (ศุกร์ที่ 30 ต.ค. 2552)
? รายได้ส่วนบุคคล (ก.ย.) ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก่อนหน้า
? รายจ่ายส่วนบุคคล (ก.ย.) ลดลง 0.5% จากเดือนก่อนหน้า
? ดัชนีต้นทุนแรงงาน( Q3/2009) เพิ่มขึ้น 0.4% จากเดือนไตรมาสก่อนหน้า
? ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ต.ค.) อยู่ที่ระดับ 70.6 จุด

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่จะประกาศออกมาวันนี้ (จันทร์ที่ 2 พ.ย. 2552)
? ดัชนีภาคการผลิต (ต.ค.) โดย ISM
? ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (ก.ย.) โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ
? ค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้าง (ก.ย.) โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ

ติดตาม Money Wake up ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ทาง Money Channel
 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: MIJI ที่ พฤศจิกายน 02, 2009, 12:43:08 PM
   ยินดีที่เห็นคุณทองใหม่มาบ้านใหม่ อาการหายสนิทแล้วหรือยังคะ ยังท้องอืดอยู่หรือเปล่า มิจิได้เมลมา

เวลาทานข้าวเขาไม่ให้ทานน้ำเยอะค่ะ เพราะจะไปละลายน้ำย่อยให้เจือจางทำให้ท้องอืดท้องเฟ้อได้ค่ะ Smiley/Angry.gif (3017 ไบต์)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ribbinn ที่ พฤศจิกายน 02, 2009, 01:00:19 PM
ขอบคุณคุณทองใหม่ค่ะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 02, 2009, 01:06:04 PM
   ยินดีที่เห็นคุณทองใหม่มาบ้านใหม่ อาการหายสนิทแล้วหรือยังคะ ยังท้องอืดอยู่หรือเปล่า มิจิได้เมลมา

เวลาทานข้าวเขาไม่ให้ทานน้ำเยอะค่ะ เพราะจะไปละลายน้ำย่อยให้เจือจางทำให้ท้องอืดท้องเฟ้อได้ค่ะ Smiley/Angry.gif (3017 ไบต์)
ขอบคุณครับ อาการดีขึ้น แต่ยังไม่หายสนิท ยังต้องไปพบหมอตามนัดเรื่อยๆครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 02, 2009, 01:10:44 PM
ทอง


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 02, 2009, 01:11:20 PM
ดัชนีเงินเมกา


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 02, 2009, 01:13:03 PM
น้ำมัน


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: MIJI ที่ พฤศจิกายน 02, 2009, 02:59:43 PM
ทำไมรูปมันเล็กกระจิ้ดริ้ดอย่างนี้หล่ะคะ ???


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 02, 2009, 03:12:42 PM
ทำไมรูปมันเล็กกระจิ้ดริ้ดอย่างนี้หล่ะคะ ???
ให้คลิ๊กที่รูป แล้วรูปจะขยายใหญ่เองครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 02, 2009, 03:26:40 PM
Daily Update 02-11-52

02 พ.ย. 2552


Gold Market Commentary

ประเด็นสำคัญ
-         ราคาทองร่วงลงถูกยับยั้งโดยการเข้าซื้อสินทรัพย์คุณภาพ
-         ยูโรร่วงลง 1.9 % ในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่ปรับตัวย่ำแย่ที่สุดนับแต่กลางเดือนเม.ย.กดดันราคาทองโดยตรง
-         ดัชนีความผันผวน CBOE ซึ่งวัดความวิตกของตลาดวอลล์สตรีท พุ่งขึ้น 24 % ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดภายในวันเดียว
ราคาทองที่ตลาดสหรัฐปิดต่ำลงในวันศุกร์ แต่การร่วงลงถูกยับยั้งโดยการเข้าซื้อสินทรัพย์คุณภาพ หลังการเทขายอย่างหนักในตลาดหุ้นซึ่งได้รับแรงผลักดันจากความวิตกครั้งใหม่ที่ว่า การฟื้นตัวขึ้นของเศรษฐกิจอาจจะไม่ยั่งยืน เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปี ทางกลยุทธ์ทางเทคนิคอาจจะมีการดีดทางเทคนิคติดตามมาได้ แล้วต้านถ้าหากมีการดีดตัวทางเทคนิคในช่วงต้นวันอังคารสัปดาห์หน้าอาจจะเห็นที่แนวระดับราคา 1,050 ดอลลาร์ได้ แต่อาจจะเป็นการดีด เพื่อการปรับฐานติดตามมาได้ที่แนวระดับโลเดิมที่ 1,025 ? 1,020 ดอลลาร์
   ราคาทองพุ่งขึ้นต่อเนื่องจากช่วงเช้าหลังข้อมูลระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีอัตราการขยายตัว 3.5% ในไตรมาส 3 และดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งได้ลดความน่าสนใจของดอลลาร์ในฐานะแหล่งลงทุนที่ปลอดภัย         
    แรงกดดันราคาทองมากสุดน่ามาจากจากอ่อนตัวของเงินยูโร โดยยูโรร่วงลง 1.9 % ในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่ปรับตัวย่ำแย่ที่สุดนับแต่กลางเดือนเม.ย.
     ดัชนีดอลลาร์ในสัญญาล่วงหน้า ICE ซึ่งกำหนดค่าดอลลาร์เทียบสกุลเงิน 6 สกุล ปรับตัวขึ้น 0.6 % ที่ 76.401 และดีตัวขึ้น 1.3 % ในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่ปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับแต่เดือนมิ.ย
   ความต้องการทองแท่งของนักลงทุนยังชะลอตัว โดยกองทุน SPDR Gold Trust
ซึ่งเป็นกองทุน ETP ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก ได้รายงานการไหลออกของเงินทุนในทองเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน
   SPDR เปิดเผยว่ากองทุนได้ถือครองทองคำที่ 1,103.519 ตัน ณ วันที่ 30 ตุลาคม
ลดลง2.22 ตัน หรือ 0.1% จากวันที่ 27 ตุลาคม
 
 กลยุทธ์ เล่นสั้นแนวต้าน 1050-1055 US$ราคา ณ ช่วงวันเวลาทางเทคนิคน่าอยู่ประมาณวันอังคารที่ 3 พย แนวปะทะหลังไม่สามารถผ่านไปได้ให้รอรับเล่นสั้น
รอบใหม่แนวรับระดับราคา 1045US$ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตถ้าไม่สามารถผ่าน
แนวระดับราคา 1050 -1055 US$ ได้


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: Cindy ที่ พฤศจิกายน 02, 2009, 04:26:14 PM
สวัสดีค่ะ ..คุณทองใหม่
ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ...ดีใจที่มีเพื่อนบ้านวิเคราะห์ข้อมูลทองคำอย่างมีหลักการแล้วนะคะ :)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: verb2be ที่ พฤศจิกายน 02, 2009, 05:15:29 PM
ขอบคุณค่ะ คุณทองใหม่
อย่าลืมพักมากๆนะคะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 02, 2009, 06:47:49 PM
 :D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 02, 2009, 06:48:06 PM
 :D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 02, 2009, 06:48:48 PM
 :D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 02, 2009, 08:33:49 PM
http://rojnchin.allblogthai.com/239


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: MIJI ที่ พฤศจิกายน 02, 2009, 08:38:25 PM
ทำไมรูปมันเล็กกระจิ้ดริ้ดอย่างนี้หล่ะคะ ???
ให้คลิ๊กที่รูป แล้วรูปจะขยายใหญ่เองครับ

โอ้วว :o คลิกปุ๊บรูปขยายปั้บขอบคุณนะคะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: mamai ที่ พฤศจิกายน 02, 2009, 11:52:17 PM
 :D สวัสดีครับคุณทองใหม่ ขอให้สุขภาพแข็งแรงนะครับ  :D

รูปลอยกระทงสวยมากๆ  ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 03, 2009, 06:42:19 AM
 วิธีดูทิศทางทอง ต้าน๓----หนุน๓เป็นทิศทางทองที่จะเคลื่อนไหวในวันนี้ หากพุ่งทะลุต้าน๓หรือดิ่งทะลวงหนุน๓ แสดงถึงวันนั้นทองเคลื่อนไหวแรงเกินปกติ เส้นแดนเป็นเส้นที่จะแบ่งแยกทิศทางของทองที่จะขึ้นหรือลง หากทองเคลื่อนไหวอยู่ในทิศทางใดมากและนาน นั่นหมายถึงโอกาสเป็นไปได้มากที่ทองจะเคลื่อนไปในทิศทางนั้นๆ ในช่วงเวลานั้น (ยังต้องแบ่งออกในช่วงเวลาตลาดเอเซีย ยุโรป เมกาด้วย) ต้าน๑และหนุน๑หากถูกทดสอบแบบมีผล(ขึ้นลงมากกว่า๑ครั้ง)แล้วยืนอยู่ได้ นั่นคือทิศทางทองที่จะเดินต่อไปในช่วงเวลานั้น หากการวิเคราะเกิดขัดแย้งกันเมื่อไหร่ ให้หยุดมองดูอย่างเดียว ไม่ควรซื้อ-ขายในช่วงเวลานั้น แนวทางนี้เหมาะกับการเล่นสั้นมาก (เล่นแบบออนไลน์ในอนาคต) มีความแม่นยำถึง80%ครับ อีกอย่างข่าวปัจจัยพื้นฐานอาจเปลี่ยนทิศทางทองได้กะทันหันนะครับ
ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์กับการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย ถัาติดดอยเมื่อทองต่ำลงมา  หากยังมีเงินเหลืออยู่ ควรซื้อเพิ่ม เพิ่มที่ละนิด ต่ำอีกซื้ออีก เพื่อดึงต้นทุนที่สูงให้ต่ำลงมา ใครที่ยังไม่มีทองในมือควรทยอยซื้อเข้าอย่ามากนัก หากทองลงอีก เราก็ซื้ออีก ดีกว่าเวลาทองขึ้นเราไปไล่ซื้อในราคาที่สูง  จดจำเป็นคติเตือนใจว่า  เรามิอาจซื้อได้ในราคาที่ต่ำสุด และขายได้ในราคาที่สูงสุด ไม่มีการลงทุนใดที่ไม่เสี่ยง การบริหารพอร์ตให้ได้จังหวะ จะลดความเสี่ยงลงได้ครับ
กราฟสำคัญ ปัจจัยพื้นฐานก็สำคัญ จิตวิทยาการโน้มเอียงของคนก็สำคัญ สิ่งเหล่านี้หากเป็นไปในแนวเดียวกัน ก็จะมุ่งไปทางนั้น หากแย้งกันก็ต้องดูฝ่ายไหนเหนือกว่า.....ด้วยเหตุนี้ไม่มีนักวิเคราะห์คนใดที่จะทำนายได้แม่นยำตลอดกาลได้ครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 03, 2009, 06:43:09 AM
เส้นปากถุง(เส้นสีขาวทั้ง๓เส้น)แบบง่ายๆ ไม่ปวดเศียรเวียนเกล้า
เส้นบน---แนวต้าน
เส้นกลาง---แนวโน้ม(สำคัญสุด)
เส้นล่าง---แนวหนุน
ลักษณะที่๑---ทิศทางขึ้นเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น   เส้นกลางหันหัวขึ้น   เส้นล่างหันหัวลง
ลักษณะที่๒---ทิศทางขึ้นเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวขึ้น
เมื่อเจอลักษณะทั้ง๒นี้ ราคาระหว่างวันที่ขึ้นๆลงๆ เมื่อเจอจุดที่เห็นว่าต่ำแล้วให้ซื้อเข้าได้เลยครับ  ขอเพียงเส้นกลาง(แนวโน้ม)ยังหันหัวขึ้นอยู่ แม้ราคาเแท่งเทียนจะอยู่ต่ำกว่าเส้นกลาง ก็ยังซื้อเข้าได้ หากเส้นบนเดินขวางเมื่อไหร่ ให้ทยอยลดพอร์ตได้เลยครับ
ลักษณะที่๓---เลือกทิศทาง---เส้นบนหันหัวลง เส้นล่างหันหัวขี้น ปากถุงแคบลง ถึงช่วงนี้ ให้ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว หากใครยังคิดอยากเคลื่อนไหว ก็จงเคลื่อนไหวไปหน้าทีวี จงอย่าทำการอย่างอื่นใด หากใครเป็นจอมยุทธ์ ก็ชิงเคลื่อนไหวก่อนใครได้  
ขอแถมอีกนิด จงโฟกัสที่เส้นกลาง หากเส้นกลางเริ่มขยบหัวหัวขึ้นหรือลง ทิศทางอาจขึ้นหรือลงตามเส้นกลางแนวโน้มนั้น
ลักษณะที่๔---เคลื่อนไหวในกรอบแคบ---เส้นบน กลาง ล่าง เดินขวางทั้ง๓เส้น หากใครเล่นออนไลน์ สามารถเล่นได้เล็กน้อยอย่ามาก เมื่อราคาแท่งเทียนใกล้เส้นบน จงขาย ใกล้เส้นล่าง จงซื้อ ต้องเข้าออกให้ทันการณ์ หาไม่แล้วจากกำไรอาจขาดทุนได้นา ขอบอก
ลักษณะที่๕---ทิศทางลงเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น เส้นกลางหันหัวลง เส้ยล่างหัวหัวลง
ลักษณะที่๖---ทิศทางลงเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวลง  เมื่อเส้นล่างเดินขวางเมื่อไหร่ ผู้ที่ใจกล้าที่เล่นออนไลน์ เริ่มทยอยซื้อเข้าได้ที่ละนิด อัตราเสี่ยงยังมีอยู่บ้างนะครับ สิบอกไห่
วิธีดูเส้นปากถุงที่กล่าวมานี้ .....ไม่ใช่ตำราของฝรั่ง แบบของฝรั่งผมเคยอ่านมาบ้างแล้ว ยาวมาก ปวดหัว ทำความเข้าใจได้ยากมากๆๆๆๆ ...........เหมาะเฉพาะกราฟราย๔ชม.และช่วงปกติเท่านั้นนะครับ  (บางครั้งตลาดจงใจคึงขึ้นลงอย่าแรงๆ แทบหัวใจวายสำหรับผู้มีทองในมือและผิดทิศทางของตัวเอง เรียกว่า ช่วงไม่ปกติครับ)



หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 03, 2009, 06:56:24 AM
ให้คลิ๊กที่รูป แล้วรูปจะขยายใหญ่เองครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: อุ๊ ที่ พฤศจิกายน 03, 2009, 08:25:15 AM
สวัสดีตอนเช้าค่ะคุณทองใหม่   ดีใจมากค่ะที่คุณทองใหม่กลับมาแล้ว

รักษาสุขภาพ  และพักผ่อนเยอะ ๆ  นะคะ  อย่าหักโหมกับงานมากเกินไป

คนดีมีน้ำใจเทวดาคุ้มครองค่ะ :D



หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤศจิกายน 03, 2009, 08:28:54 AM
Good morning Kha :D
ขอบคุณน้ะค่ะดูแล้ว :oเพาะจังค่ะ
หนาวววแล้วรักษาสุขภาพด้วยน้ะค่ะ :)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 03, 2009, 08:30:29 AM
สวัสดีตอนเช้าค่ะคุณทองใหม่   ดีใจมากค่ะที่คุณทองใหม่กลับมาแล้ว

รักษาสุขภาพ  และพักผ่อนเยอะ ๆ  นะคะ  อย่าหักโหมกับงานมากเกินไป

คนดีมีน้ำใจเทวดาคุ้มครองค่ะ :D


ขอบคุณครับ ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 03, 2009, 08:31:31 AM
Good morning Kha :D
ขอบคุณน้ะค่ะดูแล้ว :oเพาะจังค่ะ
หนาวววแล้วรักษาสุขภาพด้วยน้ะค่ะ :)
;D ;D ;D :D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 03, 2009, 08:49:32 AM
[url]http://www.fhqhosting.com/ui/Eric%20Clapton%20-%20Tears%20In%20Heaven.swf[/url]

([url]http://image.dek-d.com/1/contentimg/noupload/B953.jpg[/url])

แวะมาอ่านค่ะ ขอบคุณค่ะ

กระทู้นี้มีเพลง อย่ากดอ้างถึงนะค่ะ เด๋วเพลงตีกัน อ่ะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: sue662 ที่ พฤศจิกายน 03, 2009, 09:09:16 AM
อรุณสวัสดิ์ คุณทองใหม่ค่ะ  ดื่มน้ำขิงหรือ ทานขมิ้นชัน  (สมุนไพร แคปซูล) ซะวันละ 1 เม็ด ช่วยระบายลมท้องไม่อืดดีนะคะ (เพราะคุณแม่ก็ทานขมิ้นชันทุกวัน ลมออกสบายท้องค่ะ ) แถมมีสรรพคุณพิเศษต่างๆอีกเยอะมากรักษาอาการอักเสบของเนื้อเยื่อในร่างกายดีมากๆค่ะ ถึงกับให้ทานประจำตลอดไปยิ่งดีค่ะ ฟังจาก ดร วีณา เชิดบุญชาติ (ถ้าจำนามสกุลผิดต้องขออภัยล่วงหน้านะคะ)  ผู้เชื่ยวชาญด้านโภชนาการมาอีกทีน่ะค่ะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 03, 2009, 09:19:35 AM
อรุณสวัสดิ์ คุณทองใหม่ค่ะ  ดื่มน้ำขิงหรือ ทานขมิ้นชัน  (สมุนไพร แคปซูล) ซะวันละ 1 เม็ด ช่วยระบายลมท้องไม่อืดดีนะคะ (เพราะคุณแม่ก็ทานขมิ้นชันทุกวัน ลมออกสบายท้องค่ะ ) แถมมีสรรพคุณพิเศษต่างๆอีกเยอะมากรักษาอาการอักเสบของเนื้อเยื่อในร่างกายดีมากๆค่ะ ถึงกับให้ทานประจำตลอดไปยิ่งดีค่ะ ฟังจาก ดร วีณา เชิดบุญชาติ (ถ้าจำนามสกุลผิดต้องขออภัยล่วงหน้านะคะ)  ผู้เชื่ยวชาญด้านโภชนาการมาอีกทีน่ะค่ะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 03, 2009, 09:20:29 AM
 :D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: verb2be ที่ พฤศจิกายน 03, 2009, 09:31:45 AM
ขอบคุณค่ะ คุณทองใหม่
ทานข้าวเช้ายังคะ  ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 03, 2009, 09:47:55 AM
ขอบคุณค่ะ คุณทองใหม่
ทานข้าวเช้ายังคะ  ;D
ทานแล้วจ้า :D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: Neung99k ที่ พฤศจิกายน 03, 2009, 10:21:15 AM
ขอบคุณครับคุณทองใหม่ ;D  สุขภาพเป็นยังไงบ้างครับตอนนี้ พักผ่อนเยอะๆนะครับ ด้วยความห่วงใยจากแดนใต้ ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 03, 2009, 10:31:23 AM
ขอบคุณครับคุณทองใหม่ ;D  สุขภาพเป็นยังไงบ้างครับตอนนี้ พักผ่อนเยอะๆนะครับ ด้วยความห่วงใยจากแดนใต้ ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 03, 2009, 11:12:34 AM
บทวิเคราะห์ทองคำ (03-11-52)

03 พ.ย. 2552



   สรุปภาวะตลาดเมื่อวันก่อน
        ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ในช่วงบ่ายเมื่อตลาดยุโรปเริ่มเปิดซื้อขาย ทองคำแท่งสมาคมฯปิดที่ 16,600/700 บาท เงินบาทปรับตัวในช่วงแคบ

ปัจจัยที่อาจส่งผลต่อเนื่องถึงวันนี้
       รายงาน PMI ของประเทศต่างๆทั่วโลกแสดงให้เห็นถึงภาคการผลิตที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในเกือบทุกๆประเทศ โดยเฉพาะอังกฤษที่มีดัชนี PMI เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมาก มีเพียงรายงาน PMI ของกลุ่มยูโรเท่านั้นที่ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก โดยที่แสดงให้เห็นถึงภาคการจ้างงานของกลุ่มยูโรที่ดีขึ้นในขณะที่รายงานของอังกฤษกลับให้มุมมองการจ้างงานที่แย่ลง อย่างไรก็ตามราคาทองคำได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปอย่างรุนแรงจากรายงานดังกล่าวเมื่อมุมมองของเศรษฐกิจที่ดูดีขึ้น  [Markit, TCAF Research]
       รายงาน PMI ของสหรัฐฯแสดงให้เห็นถึงภาคการผลิตที่ดีขึ้นเช่นกัน โดยได้รับอิทธิพลจากการจ้างงานและสินค้าคงคลังที่ดีขึ้นอย่างมาก ในขณะที่ยอดการสั่งซื้อกลับลดลง รายงานดังกล่าวส่งผลบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงจากพื้นฐานที่แสดงให้เห็นถึงตลาดแรงงานที่น่าจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง  [Econoday, TCAF Research]
       รายงานยอดการทำสัญญาซื้อบ้านเก่ายังปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงจากเดือนที่แล้ว ซึ่งส่งผลบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง  [Econoday, TCAF Research]
       ตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดีต่างๆได้แสดงให้เห็นถึงภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้นอย่างมากส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นไปอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตามนักลงทุนได้ขายทำกำไรหุ้นและทองคำออกมาในภายหลังเมื่อนายกรีนลี รองผู้อำนวยการด้านการควบคุมดูแลธนาคารของเฟด ได้ให้ความเห็นว่าธนาคารต่างๆยังมีปัญหาอยู่ นักลงทุนจึงเริ่มเทขายสินทรัพย์เสี่ยงเพื่อทำกำไรออกมาในภายหลัง  [Bloomberg, Reuters, TCAF Research]
       นักลงทุนมีการเก็งกำไรเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของออสเตรเลียในเช้าวันนี้ ส่งผลให้ค่าเงินออสเตรเลียและราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ตั้งแต่เช้า

แนวโน้มทองคำวันนี้
ภาพรวมเศรษฐกิจยังเป็นบวกต่อทองคำ ในขณะที่การเก็งกำไรเกี่ยวกับดอลลาร์ออสเตรเลียในเช้านนี้อาจส่งผลลบได้ชั่วคราว เราจึงคาดว่า "ราคาทองคำน่าจะเริ่มแกว่งตัวขึ้น (Sideway Up) หลังประกาศอัตราดอกเบี้ยของออสเตรเลีย" และแนะนำให้ "ค่อยๆสะสม LONG หลังรายงานนโยบายการเงินออสเตรเลีย"

มุมมองทองคำ
ภาวะเศรษฐกิจเปรียบเทียบในภูมิภาคต่างๆ รวมทั้งมาตรการและมุมมองภาครัฐฯน่าจะมีบทบาทสำคัญในการกำหนดราคาทองคำในช่วงนี้



หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 03, 2009, 11:19:28 AM
 :D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 03, 2009, 11:20:15 AM
 :D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 03, 2009, 11:21:57 AM
 :D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 03, 2009, 11:37:44 AM
ซิตี้กรุ๊ปและเจพีมอร์แกนกักตุนเงินสด บ่งชี้ว่าวิกฤตการเงินในสหรัฐยังไม่สิ้นสุดลง

Posted on Tuesday, November 03, 2009
การผลิตสหรัฐดันตลาดหุ้นบวก ? Ford โชว์กำไรเหนือคาด

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เปิดซื้อขายวันแรกของเดือนด้วยการพลิกกลับมาเป็นบวกอีกครั้ง หลังเพิ่งทำสถิติลดลงรายสัปดาห์ครั้งใหญ่เมื่อสัปดาห์ก่อน แรงซื้อมีเข้ามาหลังจากบริษัท Ford Motor รายงานกำไรและตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดีกว่าคาด

ดัชนีภาคโรงงาน หรือ ISM factory index ขยับขึ้นสู่ระดับ 55.7 ในเดือนตุลาคม ขณะที่ผู้ประกอบการขยายการผลิตในอัตราสูงสุดในรอบมากกว่า 3 ปี ส่วนกระทรวงพาณิชย์ก็เปิดเผยตัวเลขยอดใช้จ่ายด้านก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นผิดคาดด้วยอัตรา 0.8% ในเดือนกันยายน

นอกจากนี้ ข่าวดียังมีมาจากภาคอสังหาริมทรัพย์ ที่สมาคมผู้ประกอบการออกมาเปิดเผยว่า ตัวเลขสัญญาการซื้อขายในตลาดเพิ่มขึ้นกว่า 6%

รายงานเศรษฐกิจที่ดีขึ้นจากอเมริกา รวมถึงภาคอุตสาหกรรมของจีน ก็ทำให้ราคาน้ำมันฟื้นขึ้นได้จากระดับต่ำสุดในรอบสองสัปดาห์ ด้วยการปิดบวก 1.13 เหรียญ หรือ 1.5% ขึ้นมาอยู่ที่ 78.13 เหรียญต่อบาร์เรล แม้ตลาดจะยังมีแรงกดดันจากตัวเลขสต็อกน้ำมัน ที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะออกมาเพิ่มขึ้นอีกครั้งในสัปดาห์ที่แล้ว

ในส่วนของค่าเงิน ทั้งดอลลาร์และเยนก็อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโรที่ตลาดนิวยอร์ก ก่อนการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ จะมีขึ้นในสัปดาห์นี้ ซึ่งนักลงทุนส่วนหนึ่งก็เทขายเงินสกุลหลักและหันเข้าไปในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า

กลับมาดูที่ความเคลื่อนไหวของหุ้น เริ่มจาก Ford Motor ที่รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 อย่างน่าประทับใจ ด้วยกำไรต่อหุ้นที่ไม่รวมรายการพิเศษออกมาที่ 26 เซนต์ ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ก่อนหน้าว่าจะขาดทุนราว 20 เซนต์ต่อหุ้น

ขณะเดียวกัน ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกที่มีต่อหุ้นบริษัทประกันที่เคยได้รับความช่วยเหลือจากทางการไป อย่าง American International Group หรือ AIG เมื่อนักวิเคราะห์จาก Credit Suisse ปรับเพิ่มประมาณการกำไรของบริษัทในไตรมาส 3 ขึ้นถึง 3 เท่า เนื่องจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากเงินลงทุน ที่รวมถึงอนุพันธ์และการเข้าถือหุ้นในกองทุนเฮดจ์ฟันด์

โบรกเกอร์รายนี้มองว่า AIG อาจจะบันทึกกำไรจากธุรกิจ derivatives ได้ถึงกว่า 2,500 ล้านเหรียญ ขณะที่การลงทุนในเฮดจ์ฟันด์และ private equity อาจสร้างรายได้ให้ถึง 700 ล้านเหรียญ


จับตาผลกระทบผู้ถือหุ้น-พันธบัตร หลัง CIT ยื่นล้มละลาย

การตัดสินใจของ CIT Group ที่ขอศาลเข้าสู่กระบวนการล้มละลายอาจยังทำให้มีเงินไหลสู่ผู้ถือพันธบัตรและลูกค้ากว่า 1 ล้านคนของสถาบันการเงินผู้ปล่อยสินเชื่อเชิงพาณิชย์ที่มีอายุ 101 ปีนี้ แต่ผู้เสียประโยชน์ก็แน่นอนว่าหนีไม่พ้นบรรดาผู้ถือหุ้น รวมถึงผู้เสียภาษี

การยื่นเข้ากระบวนการล้มละลาย หรือ Chapter 11 ของ CIT ทำให้ผู้ถือพันธบัตรมีโอกาสที่จะได้รับตราสารระยะสั้นที่จะออกใหม่ รวมถึงหุ้นสามัญใหม่ด้วย ซึ่งทางซีอีโอ นาย Jeffrey Peek ก็บอกว่า ลูกค้าของธนาคารจะสามารถได้รับเงินด้วยเช่นกัน

ทางด้านผู้ถือหุ้นก็มีการคาดกันว่า มีความเป็นไปได้ที่จะไม่ได้รับอะไรเลยหรือได้รับน้อยมากจากเงินช่วยเหลือของรัฐที่ CIT เคยได้ไปกว่า 2,300 ล้านเหรียญ

ย้อนกลับไปดูหนทางการล้มละลายของบริษัทที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาสถาบันการเงินที่เข้าขอรับความช่วยเหลือทางการเงินจากรัฐฯ รายนี้ สถานการณ์สุกงอมเกิดขึ้นหลังจากที่บริษัทไม่สามารถผ่านการอนุมัติขอรับเงินช่วยเหลือครั้งที่สองเมื่อเดือนกรกฎาคม และไม่สามารถชักชวนให้ผู้ถือพันธบัตรของตนทำการแลกเปลี่ยนตราสารหนี้มูลค่า 30,000 ล้านเหรียญ เพื่อเลี่ยงไม่ให้เกิดการยื่นล้มละลายในเดือนนี้

สถาบันการเงินจากนิวยอร์กบันทึกผลการดำเนินงานที่ขาดทุนรวมกันมากกว่า 5,000 ล้านเหรียญในช่วงเก้าไตรมาสที่ผ่านมา และก็ทำให้การยื่นล้มละลายคราวนี้ถือเป็นกรณีที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับห้าเมื่อดูจากมูลค่าสินทรัพย์

ถ้าพูดถึงธุรกิจของ CIT Group บริษัทก็เป็นผู้ให้สินเชื่อแก่ธุรกิจที่มีขนาดตั้งแต่ 1 ล้านดอลลาร์ขึ้นไปในหมวดอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ไล่กันตั้งแต่แบรนด์เสื้อผ้า ไปจนถึงเจ้าของโดนัทชื่อดัง อย่าง บริษัท Dunkin? Brands จากรัฐแมสซาชูเซ็ตส์ นอกจากนั้น CIT ยังปล่อยเงินกู้ให้กับเจ้าของแบรนด์หรือ Vendor กว่า 2,000 ราย ที่จัดส่งสินค้าให้กับร้านค้าปลีกจำนวน 300,000 แห่งทั่วสหรัฐฯ ตามข้อมูลจากสมาพันธ์การค้าปลีกของประเทศในเดือนกรกฎาคม

ชะตากรรมของผู้ถือหุ้นในสถาบันการเงินแห่งนี้ มูลค่าหุ้นอาจจะหดลงมาเหลือแค่เพียง 2.5% ภายใต้บริษัทที่มีการปรับองค์กรตามแผนการยื่นล้มละลายนี้ ส่วนราคาหุ้นก็ร่วงลงมาแล้วกว่า 80% นับตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว เมื่อบริษัทได้รับอนุมัติจากทางการสำหรับเงินช่วยเหลือตามโครงการ TARP หรือที่รู้จักกันดีว่ามาตรการ 7 แสนล้านเหรียญ


ซิตี้-เจพี มอร์แกนตุนเงินมากปีนี้ บ่งชี้วิกฤตยังไม่สิ้นสุด

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของนักวิเคราะห์ในย่านวอลล์สตรีทว่า ซิตี้กรุ๊ป อิงค์ และเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค กำลังกักตุนเงินสดไว้ในขณะนี้ ซึ่งถือเป็นสถานการณ์ที่บ่งชี้ว่าวิกฤตการณ์ด้านการเงินในสหรัฐยังไม่สิ้นสุดลง

รายงานระบุว่านับตั้งแต่การล้มละลายของเลห์แมน บราเธอร์ส ซิตี้กรุ๊ป ถือครองเงินสดไว้มากขึ้นเกือบ 2 เท่า เป็น 244,200 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ และหลังจากที่กระทรวงการคลังสหรัฐกดดันให้ซิตี้กรุ๊ปสำรองเงินสดไว้เพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน แม้ในช่วงที่ตลาดฟื้นตัวขึ้นแล้วก็าม

เอริค ฮอฟ CEO ของบริษัท Hovde Capital Advisors ซึ่งเป็นเฮดจ์ฟันด์รายใหญ่ในวอลล์สตรีทกล่าวว่า "ท่าทีที่ระมัดระวังของซิตี้กรุ๊ป และเจพีมอร์แกน อาจช่วยสร้างความเชื่อมั่นในระบบการเงิน แต่ไม่ได้ช่วยให้กลุ่มผู้ถือหุ้นมีมุมมองที่เป็นบวก และจะยิ่งทำให้ภาคเอกชนเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้ยากขึ้น เมื่อเศรษฐกิจเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น แต่สภาพคล่องกับหดตัวลง สหรัฐอาจต้องเผชิญวิกฤตความเชื่อมั่นภาคเอกชนอีกระลอก"

กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยว่า อัตราการปล่อยเงินกู้ของสถาบันการเงินรายใหญ่ในสหรัฐที่ได้รับความช่วยเหลือจากโครงการลดสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (TARP) มูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ ร่วงลง 17% ในเดือนส.ค. เหลือเพียง 234,700 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นสถิติที่ร่วงลงเป็นเวลา 3 เดือนภายในระยะเวลา 6 เดือน

ในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ยอดการปล่อยเงินกู้ของแบงค์ ออฟ อเมริกา ลดลง 22% แตะที่ 5.71 หมื่นล้านดอลลาร์ ยอดปล่อยกู้ของธนาคารเวลส์ ฟาร์โก แอนด์ โค ลดลง 18% แตะที่ 5.5 หมื่นล้านดอลลาร์ และเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ลดลง 5% แตะที่ 4.38 หมื่นล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ มีรายงานว่า 4 ธนาคารยักษ์ใหญ่ของสหรัฐซึ่งได้แก่ แบงค์ ออฟ อเมริกา, เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค และเวลล์ส ฟาร์โก เพิ่มสภาพคล่องในรูปเงินสดรวมกัน 67% ณ วันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา เป็นจำนวนเงินรวมกันทั้งสิ้น 1.53 ล้านล้านดอลลาร์ จากเดือนมิ.ย.2550 ที่ระดับ 914,200 ล้านดอลลาร์ซึ่งเป็นช่วงก่อนการล้มละลายของเลห์แมน บราเธอร์ส

ขณะที่ซิตี้กรุ๊ปมีสภาพคล่องสำรองไว้ทั้งสิ้น 4.5แสนล้านดอลลาร์ ณ วันที่ 30 ก.ย. เพิ่มขึ้น 16% จากเดือนมิ.ย.2550

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่า ผลของการสำรองเงินสดไว้เป็นจำนวนมากทำให้สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ในสหรัฐมีผลประกอบการที่ย่ำแย่ในไตรมาส 3 โดยรายได้จากดอกเบี้ยของซิตี้กรุ๊ปหดตัวลง 1,400 ล้านดอลลาร์จากปีที่แล้ว และยังทำให้ซิตี้กรุ๊ปมียอดขาดทุนการดำเนินงานทั้งสิ้น 750 ล้านดอลลาร์

ริชาร์ด โบฟ นักวิเคราะห์จาก Rochdale Securities กล่าวว่า "ตลอดระยะเวลา 44 ปี ผมยังไม่เคยเห็นสถาบันการเงินรายใดกักตุนเงินสดไว้มากขนาดนี้ หากซิตี้กรุ๊ปนำเงินสดที่กักตุนไว้ไปปล่อยกู้ ก็จะทำให้บริษัทมีรายได้จากดอกเบี้ยรายปีอย่างน้อย 8.65 พันล้านดอลลาร์"


นักวิเคราะห์คาดอังกฤษคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.5%

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางอังกฤษอาจขยายโครงการซื้อตราสารหนี้ หลังจากที่เศรษฐกิจในประเทศเริ่มล้าหลังประเทศอื่นๆทั่วโลก และคาดว่า ธนาคารกลางอังกฤษจะตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.5% ในที่ประชุมวันพฤหัสบดีนี้ เช่นเดียวกับธนาคารกลางยุโรปที่อาจยังคงดอกเบี้ยในระดับเดิมที่ 1%

นักวิเคราะห์จากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า นายเมอร์วิน คิง ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษและเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายจะขยายแผนการซื้อตราสารหนี้อีก 5 หมื่นล้านปอนด์ (82,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เป็น 225,000 ล้านปอนด์ในวันที่ 5 พ.ย.นี้ ซึ่งจะนับเป็นครั้งที่ 3 ที่ธนาคารได้ขยายวงเงินซื้อตราสารหนี้นับตั้งแต่เริ่มต้นโครงการนี้ในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา

โดยธนาคารกลางอังกฤษกำลังชั่งน้ำหนักระหว่างความเสียหายที่เกิดจากการใช้จ่ายมากเกินไปว่าจะส่งผลให้เงินปอนด์อ่อนค่าลง หรือว่าจะก่อให้เกิดความเสี่ยงที่จะทำให้อังกฤษเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างหนักที่ยืดเยื้อยาวนาน

ขณะที่ธนาคารกลางในประเทศอื่นๆเริ่มยุติการใช้มาตรการกระตุ้นดอกเบี้ยหลังเศรษฐกิจโลกส่งสัญญาณฟื้นตัว โดยเฉพาะธนาคารกลางออสเตรเลียและนอร์เวย์ที่ได้ปรับขึ้นดอกเบี้ยเมื่อเดือนที่ผ่านมา

สจ๊วต โรเบิร์ตสัน นักวิเคราะห์จากอาวีว่า อินเวสเตอร์ส ในกรุงลอนดอนกล่าวว่า "สิ่งที่น่ากลัวคือ การที่เศรษฐกิจได้รับปัจจัยกระตุ้นมากเกินไป และภาวะฟองสบู่ในสินทรัพย์จะนำมาซึ่งสถานการณ์ที่เลวร้าย เช่นเดียวกับสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของเงินปอนด์ แต่หากเรายังรอดูสถานการณ์ต่อไป ก็อาจสายเกินแก้"

ทั้งนี้ เงินปอนด์อ่อนค่าลง 6% เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินของประเทศคู่ค้ารายใหญ่ของอังกฤษนับตั้งแต่เดือนส.ค.เป็นต้นมา

ขณะที่เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางส่งสัญญาณว่า การอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์จะช่วยหนุนการส่งออก ขณะที่ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของอังกฤษจะหดตัวลง 0.4% ในไตรมาส 3 ของปีนี้


ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้เผยยอดขายรถยนต์เดือนต.ค.พุ่ง

สมาคมผู้ค้ายานยนต์ญี่ปุ่นรายงานในวันนี้ว่า ยอดขายยานยนต์ประจำเดือนต.ค.ในญี่ปุ่น ซึ่งรวมถึงรถยนต์ส่วนบุคคล รถบรรทุก และรถบัส เพิ่มขึ้น 13% จากปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 263,506 คันซึ่งเป็นสถิติที่เพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 เนื่องจากรัฐบาลญี่ปุ่นใช้นโยบายกระตุ้นดีมานด์ภายในประเทศ โดยบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ และฮอนด้า มอเตอร์ สองค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นทำยอดขายสูงสุด

สมาคมฯระบุว่า ยอดขายของค่ายโตโยต้าซึ่งไม่นับรวมแบรนด์ Lexus เพิ่มขึ้น 14% ขณะที่ยอดขายของฮอนด้าพุ่งขึ้น 30% และยอดขายของนิสสัน มอเตอร์ เพิ่มขึ้น 15%

ยอดขายรถยนต์ในญี่ปุ่นเริ่มฟื้นตัวขึ้นตั้งแต่เดือนส.ค.เป็นต้นมา หลังจากรัฐบาลใช้นโยบายคืนเงินภาษีและลดหย่อนภาษีให้กับผู้ซื้อรถยนต์ประหยัดพลังงาน ซึ่งช่วยกระตุ้นยอดขายรถยนต์ Prius ของค่ายโตโยต้า และรถยนต์ไฮบริดจ์ Insight ของค่ายฮอนด้าเพิ่มขึ้นด้วย

ภายใต้นโยบายดังกล่าวที่รัฐบาลริเริ่มใช้เมื่อเดือนมิ.ย.นั้น ผู้บริโภคสามารถขอรับเงินช่วยเหลือ 250,000 เยน หรือ 2,780 คันหากนำรถยนต์คันเก่าที่มีอายุการใช้งานนานกว่า 13 ปีมาแลกรถยนต์คันใหม่ โดยโครงการดังกล่าวจะหมดอายุช่วงปลายเดือนมี.ค.

ทั้งนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นคาดหวังว่าโครงการนำรถยนต์คันเก่ามาแลกคันใหม่จะช่วยกระตุ้นยอดขายในอุตสาหกรรมรถยนต์เพิ่มขึ้นอีก 690,000 คันในปีนี้

อย่างไรก็ตาม สมาคมผู้ค้ายานยนต์ญี่ปุ่นคาดการณ์ว่ายอดขายรถยนต์ทั่วประเทศจะลดลง 8.5% เหลือเพียง 4.3 ล้านคันในรอบปีงบการเงินซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 31 มี.ค.2553 เนื่องจากเศรษฐกิจญี่ปุ่นยังคงอยู่ในระยะถดถอย

ชณะที่เกาหลีใต้เผยบริษัทผลิตรถยนต์ 5 แห่งในประเทศมียอดขายรถยนต์เพิ่มขึ้นรวมกัน 2.7% แตะ 518,623 คันในเดือนตุลาคมเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว หลังยอดขายในประเทศปรับตัวสูงขึ้น โดยยอดขายในประเทศทะยาน 24% แตะ 130,192 คัน ขณะที่ยอดส่งออกหดตัวลง 2.9% เหลือ 388,431 คัน

สำหรับบริษัทผลิตยานยนต์ที่ทำผลงานได้ดีที่สุดคือฮุนได ที่มียอดขายเพิ่มขึ้น 6.9% แตะ 288,618 คัน ส่วนเกียซึ่งเป็นบริษัทในเครือฮุนได มียอดขายเพิ่มขึ้น 7.3% แตะ 149,591 คัน

ด้านจีเอ็ม แดวู ออโต แอนด์ เทคโนโลยี ซึ่งอยู่ในเครือเจเนอรัล มอเตอร์ส มียอดขายร่วงลง 24.6% แตะ 55,314 คัน ส่วนเรโนลท์ ซัมซุง มอเตอร์ส ในเครือเรโนลท์ มียอดขายพุ่งขึ้น 25.6% แตะ 20,470 คัน

ปิดท้ายด้วยซังยอง มอเตอร์ ซึ่งอยู่ภายใต้ความคุ้มครองจากการล้มละลายตั้งแต่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มียอดขายร่วงลง 35.4% เหลือเพียง 4,630 คัน ทั้งนี้ นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงสิ้นเดือนตุลาคม บริษัทยานยนต์ทั้ง 5 แห่งมียอดขายรวมกันลดลง 3.7% แตะ 4.32 ล้านคัน


เกาหลียันใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป

ประธานาธิบดีลี เมียง บัค ของเกาหลีใต้กล่าวปาฐกถาในที่ประชุมรัฐสภาว่า รัฐบาลจะยังคงใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไปจนกว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวขึ้นอย่างเต็มที่ ขณะนี้เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ โดยรัฐบาลยังจำเป็นต้องใช้เวลาอีกสักระยะกว่าที่จะถอนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจใด ๆ

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ประธานาธิบดีเกาหลีใต้กล่าวว่า แม้ว่านานาประเทศจะชื่นชมวิธีการที่เรานำมาใช้เพื่อรับมือกับวิกฤต แต่เราก็ไม่สามารถพูดได้ว่าวิกฤตได้ผ่านพ้นไปแล้ว เศรษฐกิจเกาหลีใต้ยังคงต้องใช้เวลามากกว่านี้กว่าที่จะฟื้นตัวขึ้นได้อย่างเต็มที่ทั้งในการบริโภค การลงทุน และการจ้างงาน

ทั้งนี้ เกาหลีใต้จะเริ่มใช้นโยบายเพื่อถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากที่ได้ปรึกษาหารืออย่างใกล้ชิดกับประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งการแสดงความเห็นของประธานาธิบดีเกาหลีใต้เกิดขึ้นในช่วงที่เศรษฐกิจเกาหลีใต้เริ่มส่งสัญญาณของการฟื้นตัวขึ้น เช่น ยอดเกินดุลการค้าที่สูงขึ้นต่อเนื่อง 9 เดือน ส่งผลให้เกิดการคาดการณ์ในตลาดว่า รัฐบาลอาจจะยกเลิกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเมื่อใดก็ได้

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่ประกาศออกมาเมื่อวานนี้ (จันทร์ที่ 2 พ.ย. 2552)
? ดัชนีภาคการผลิต (ต.ค.) อยู่ที่ระดับ 55.7 จุด
? ดัชนียอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (ก.ย.) เพื่มขึ้น 6.1% จากเดือนก่อนหน้า มาอยู่ที่ระดับ 110.1 จุด
? ค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้าง (ก.ย.) เพิ่มขึ้น 0.8% จากเดือนก่อนหน้า

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่จะประกาศออกมาวันนี้ (อังคารที่ 3 พ.ย. 2552)
? เริมต้นประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ FOMC ของธนาคารกลางสหรัฐฯ
? ยอดสั่งซื้อสินค้าโรงงาน (ก.ย.) โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ

ติดตาม Money Wake up ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ทาง Money Channel
 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: MIJI ที่ พฤศจิกายน 03, 2009, 11:56:41 AM
ขอบคุณค่ะ วันนี้เข้ากระทู้เป็นกระทู้แรกเลยค่ะ ขอใหคุณทองใหม่หายป่วยสนิทนะคะ :D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: Cindy ที่ พฤศจิกายน 03, 2009, 12:01:19 PM
ขอบคุณค่ะ ..ขอให้คุณทองใหม่หายป่วยและสุขภาพแข็งแรงเช่นกันนะคะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 03, 2009, 12:30:15 PM
ขอบคุณค่ะ วันนี้เข้ากระทู้เป็นกระทู้แรกเลยค่ะ ขอใหคุณทองใหม่หายป่วยสนิทนะคะ :D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 03, 2009, 12:30:55 PM
ขอบคุณค่ะ ..ขอให้คุณทองใหม่หายป่วยและสุขภาพแข็งแรงเช่นกันนะคะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 03, 2009, 01:26:39 PM
ทอง


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 03, 2009, 01:27:46 PM
ดัชนีเงินเมกา


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 03, 2009, 01:28:44 PM
น้ำมัน


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: mamai ที่ พฤศจิกายน 03, 2009, 02:06:38 PM
ขอบคุณครับคุณทองใหม่ ขอให้สุขภาพแข็งแรงครับ  :D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 06:34:11 AM
ทิศทางทองวันที่ 4/11/2009 
ต้าน๓ 1129.44.......xx
ต้าน๒ 1101.74
ต้าน๑ 1092.90
เส้นแดน 1074.04
หนุน๑ 1065.20
หนุน๒ 1046.34
หนุน๓ 1018.64??.xx
 วิธีดูทิศทางทอง ต้าน๓----หนุน๓เป็นทิศทางทองที่จะเคลื่อนไหวในวันนี้ หากพุ่งทะลุต้าน๓หรือดิ่งทะลวงหนุน๓ แสดงถึงวันนั้นทองเคลื่อนไหวแรงเกินปกติ เส้นแดนเป็นเส้นที่จะแบ่งแยกทิศทางของทองที่จะขึ้นหรือลง หากทองเคลื่อนไหวอยู่ในทิศทางใดมากและนาน นั่นหมายถึงโอกาสเป็นไปได้มากที่ทองจะเคลื่อนไปในทิศทางนั้นๆ ในช่วงเวลานั้น (ยังต้องแบ่งออกในช่วงเวลาตลาดเอเซีย ยุโรป เมกาด้วย) ต้าน๑และหนุน๑หากถูกทดสอบแบบมีผล(ขึ้นลงมากกว่า๑ครั้ง)แล้วยืนอยู่ได้ นั่นคือทิศทางทองที่จะเดินต่อไปในช่วงเวลานั้น หากการวิเคราะเกิดขัดแย้งกันเมื่อไหร่ ให้หยุดมองดูอย่างเดียว ไม่ควรซื้อ-ขายในช่วงเวลานั้น แนวทางนี้เหมาะกับการเล่นสั้นมาก (เล่นแบบออนไลน์ในอนาคต) มีความแม่นยำถึง80%ครับ อีกอย่างข่าวปัจจัยพื้นฐานอาจเปลี่ยนทิศทางทองได้กะทันหันนะครับ
ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์กับการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย ถัาติดดอยเมื่อทองต่ำลงมา  หากยังมีเงินเหลืออยู่ ควรซื้อเพิ่ม เพิ่มที่ละนิด ต่ำอีกซื้ออีก เพื่อดึงต้นทุนที่สูงให้ต่ำลงมา ใครที่ยังไม่มีทองในมือควรทยอยซื้อเข้าอย่ามากนัก หากทองลงอีก เราก็ซื้ออีก ดีกว่าเวลาทองขึ้นเราไปไล่ซื้อในราคาที่สูง  จดจำเป็นคติเตือนใจว่า  เรามิอาจซื้อได้ในราคาที่ต่ำสุด และขายได้ในราคาที่สูงสุด ไม่มีการลงทุนใดที่ไม่เสี่ยง การบริหารพอร์ตให้ได้จังหวะ จะลดความเสี่ยงลงได้ครับ
กราฟสำคัญ ปัจจัยพื้นฐานก็สำคัญ จิตวิทยาการโน้มเอียงของคนก็สำคัญ สิ่งเหล่านี้หากเป็นไปในแนวเดียวกัน ก็จะมุ่งไปทางนั้น หากแย้งกันก็ต้องดูฝ่ายไหนเหนือกว่า.....ด้วยเหตุนี้ไม่มีนักวิเคราะห์คนใดที่จะทำนายได้แม่นยำตลอดกาลได้ครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: cupid ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 07:18:04 AM
 O0 สวัสดีฮะอาจารย์ทองใหม่ นู๋เป็นแฟนคลับอาจารย์ตังแต่อยู่บ้านสมาคมเพิ่งเป็นสมาชิกใหม่ที่นี่
ได้ข่าวว่าอาจารย์ป่วยอยู่พักใหญ่ๆดีใจที่ได้กลับมาพบปะทักทายกัน ขอให้อาจารย์หายวันหายคืนสุขภาพแข็งแรงนะฮะ
ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะฮะ แต่คอมนู๋ดูกร้าฟอาจารย์ไม่ได้เลยฮะไม่รู้มีเทคนิคอาไรรึป่าว ขอบคุณฮะ O0


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 07:26:27 AM
O0 สวัสดีฮะอาจารย์ทองใหม่ นู๋เป็นแฟนคลับอาจารย์ตังแต่อยู่บ้านสมาคมเพิ่งเป็นสมาชิกใหม่ที่นี่
ได้ข่าวว่าอาจารย์ป่วยอยู่พักใหญ่ๆดีใจที่ได้กลับมาพบปะทักทายกัน ขอให้อาจารย์หายวันหายคืนสุขภาพแข็งแรงนะฮะ
ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะฮะ แต่คอมนู๋ดูกร้าฟอาจารย์ไม่ได้เลยฮะไม่รู้มีเทคนิคอาไรรึป่าว ขอบคุณฮะ O0
ให้คลิ๊กที่รูป แล้วรูปจะขยายใหญ่เองครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 07:27:25 AM
 :D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: JO-JO ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 07:30:17 AM
ขอบคุณครับคุณทองใหม่

ช่วงนี้อากาศเริ่มเย็นแล้ว รักษาสุขภาพด้วยนะครับ


 :)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: อุ๊ ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 07:34:28 AM
สวัสดีตอนเช้าค่ะพี่ทองใหม่ ;D



หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 07:51:30 AM
สวัสดีตอนเช้าค่ะพี่ทองใหม่ ;D



สวัสดีค่ะ พี่ทองใหม่ ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: cupid ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 08:03:32 AM
O0 สวัสดีฮะอาจารย์ทองใหม่ นู๋เป็นแฟนคลับอาจารย์ตังแต่อยู่บ้านสมาคมเพิ่งเป็นสมาชิกใหม่ที่นี่
ได้ข่าวว่าอาจารย์ป่วยอยู่พักใหญ่ๆดีใจที่ได้กลับมาพบปะทักทายกัน ขอให้อาจารย์หายวันหายคืนสุขภาพแข็งแรงนะฮะ
ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะฮะ แต่คอมนู๋ดูกร้าฟอาจารย์ไม่ได้เลยฮะไม่รู้มีเทคนิคอาไรรึป่าว ขอบคุณฮะ O0
ให้คลิ๊กที่รูป แล้วรูปจะขยายใหญ่เองครับ
O0ขอบคุณฮะอาจารย์ดูกร้าฟ ดูรูปลอยกระทงสวยๆได้แล้วฮะ O0


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 08:41:57 AM
กราฟนี้กำลังศึกษาอยู่ กราฟ๑ชม. ทองลง กราฟ๑ชม.นะครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: sue662 ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 08:46:20 AM
อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณทองใหม่ เช้านี้คงรวยกันหลายคนเลยค่ะ  อากาศเย็นมากขึ้น รักษาสุขภาพด้วยนะคะ  ขอให้แข็งแรงเป็นปกติโดยเร็วนะคะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: _LAN_NA_ ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 08:49:51 AM
ทิศทางทองวันที่ 4/11/2009 
ต้าน๓ 1129.44.......xx
ต้าน๒ 1101.74
ต้าน๑ 1092.90
เส้นแดน 1074.04
หนุน๑ 1065.20
หนุน๒ 1046.34
หนุน๓ 1018.64??.xx
 วิธีดูทิศทางทอง ต้าน๓----หนุน๓เป็นทิศทางทองที่จะเคลื่อนไหวในวันนี้ หากพุ่งทะลุต้าน๓หรือดิ่งทะลวงหนุน๓ แสดงถึงวันนั้นทองเคลื่อนไหวแรงเกินปกติ เส้นแดนเป็นเส้นที่จะแบ่งแยกทิศทางของทองที่จะขึ้นหรือลง หากทองเคลื่อนไหวอยู่ในทิศทางใดมากและนาน นั่นหมายถึงโอกาสเป็นไปได้มากที่ทองจะเคลื่อนไปในทิศทางนั้นๆ ในช่วงเวลานั้น (ยังต้องแบ่งออกในช่วงเวลาตลาดเอเซีย ยุโรป เมกาด้วย) ต้าน๑และหนุน๑หากถูกทดสอบแบบมีผล(ขึ้นลงมากกว่า๑ครั้ง)แล้วยืนอยู่ได้ นั่นคือทิศทางทองที่จะเดินต่อไปในช่วงเวลานั้น หากการวิเคราะเกิดขัดแย้งกันเมื่อไหร่ ให้หยุดมองดูอย่างเดียว ไม่ควรซื้อ-ขายในช่วงเวลานั้น แนวทางนี้เหมาะกับการเล่นสั้นมาก (เล่นแบบออนไลน์ในอนาคต) มีความแม่นยำถึง80%ครับ อีกอย่างข่าวปัจจัยพื้นฐานอาจเปลี่ยนทิศทางทองได้กะทันหันนะครับ
ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์กับการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย ถัาติดดอยเมื่อทองต่ำลงมา  หากยังมีเงินเหลืออยู่ ควรซื้อเพิ่ม เพิ่มที่ละนิด ต่ำอีกซื้ออีก เพื่อดึงต้นทุนที่สูงให้ต่ำลงมา ใครที่ยังไม่มีทองในมือควรทยอยซื้อเข้าอย่ามากนัก หากทองลงอีก เราก็ซื้ออีก ดีกว่าเวลาทองขึ้นเราไปไล่ซื้อในราคาที่สูง  จดจำเป็นคติเตือนใจว่า  เรามิอาจซื้อได้ในราคาที่ต่ำสุด และขายได้ในราคาที่สูงสุด ไม่มีการลงทุนใดที่ไม่เสี่ยง การบริหารพอร์ตให้ได้จังหวะ จะลดความเสี่ยงลงได้ครับ
กราฟสำคัญ ปัจจัยพื้นฐานก็สำคัญ จิตวิทยาการโน้มเอียงของคนก็สำคัญ สิ่งเหล่านี้หากเป็นไปในแนวเดียวกัน ก็จะมุ่งไปทางนั้น หากแย้งกันก็ต้องดูฝ่ายไหนเหนือกว่า.....ด้วยเหตุนี้ไม่มีนักวิเคราะห์คนใดที่จะทำนายได้แม่นยำตลอดกาลได้ครับ


ขอบคุณมากครับ คุณ ทองใหม่
อากาศเปลี่ยนฤดู รักษาสุขภาพด้วยนะครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 08:51:01 AM
ETF


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 08:52:14 AM
อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณทองใหม่ เช้านี้คงรวยกันหลายคนเลยค่ะ  อากาศเย็นมากขึ้น รักษาสุขภาพด้วยนะคะ  ขอให้แข็งแรงเป็นปกติโดยเร็วนะคะ
ทิศทางทองวันที่ 4/11/2009 
ต้าน๓ 1129.44.......xx
ต้าน๒ 1101.74
ต้าน๑ 1092.90
เส้นแดน 1074.04
หนุน๑ 1065.20
หนุน๒ 1046.34
หนุน๓ 1018.64??.xx
 วิธีดูทิศทางทอง ต้าน๓----หนุน๓เป็นทิศทางทองที่จะเคลื่อนไหวในวันนี้ หากพุ่งทะลุต้าน๓หรือดิ่งทะลวงหนุน๓ แสดงถึงวันนั้นทองเคลื่อนไหวแรงเกินปกติ เส้นแดนเป็นเส้นที่จะแบ่งแยกทิศทางของทองที่จะขึ้นหรือลง หากทองเคลื่อนไหวอยู่ในทิศทางใดมากและนาน นั่นหมายถึงโอกาสเป็นไปได้มากที่ทองจะเคลื่อนไปในทิศทางนั้นๆ ในช่วงเวลานั้น (ยังต้องแบ่งออกในช่วงเวลาตลาดเอเซีย ยุโรป เมกาด้วย) ต้าน๑และหนุน๑หากถูกทดสอบแบบมีผล(ขึ้นลงมากกว่า๑ครั้ง)แล้วยืนอยู่ได้ นั่นคือทิศทางทองที่จะเดินต่อไปในช่วงเวลานั้น หากการวิเคราะเกิดขัดแย้งกันเมื่อไหร่ ให้หยุดมองดูอย่างเดียว ไม่ควรซื้อ-ขายในช่วงเวลานั้น แนวทางนี้เหมาะกับการเล่นสั้นมาก (เล่นแบบออนไลน์ในอนาคต) มีความแม่นยำถึง80%ครับ อีกอย่างข่าวปัจจัยพื้นฐานอาจเปลี่ยนทิศทางทองได้กะทันหันนะครับ
ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์กับการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย ถัาติดดอยเมื่อทองต่ำลงมา  หากยังมีเงินเหลืออยู่ ควรซื้อเพิ่ม เพิ่มที่ละนิด ต่ำอีกซื้ออีก เพื่อดึงต้นทุนที่สูงให้ต่ำลงมา ใครที่ยังไม่มีทองในมือควรทยอยซื้อเข้าอย่ามากนัก หากทองลงอีก เราก็ซื้ออีก ดีกว่าเวลาทองขึ้นเราไปไล่ซื้อในราคาที่สูง  จดจำเป็นคติเตือนใจว่า  เรามิอาจซื้อได้ในราคาที่ต่ำสุด และขายได้ในราคาที่สูงสุด ไม่มีการลงทุนใดที่ไม่เสี่ยง การบริหารพอร์ตให้ได้จังหวะ จะลดความเสี่ยงลงได้ครับ
กราฟสำคัญ ปัจจัยพื้นฐานก็สำคัญ จิตวิทยาการโน้มเอียงของคนก็สำคัญ สิ่งเหล่านี้หากเป็นไปในแนวเดียวกัน ก็จะมุ่งไปทางนั้น หากแย้งกันก็ต้องดูฝ่ายไหนเหนือกว่า.....ด้วยเหตุนี้ไม่มีนักวิเคราะห์คนใดที่จะทำนายได้แม่นยำตลอดกาลได้ครับ


ขอบคุณมากครับ คุณ ทองใหม่
อากาศเปลี่ยนฤดู รักษาสุขภาพด้วยนะครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: _LAN_NA_ ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 08:57:40 AM
ถามแบบซื่อๆๆ นะครับ แบบไม่มีความรู้เรื่องอ่านกราฟ ครับ

ตารางข้างบน คือ ค่าอะไรครับ คุณทองใหม่

ช่อง 1,2,3
(^^)



หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 09:16:57 AM
ถามแบบซื่อๆๆ นะครับ แบบไม่มีความรู้เรื่องอ่านกราฟ ครับ

ตารางข้างบน คือ ค่าอะไรครับ คุณทองใหม่

ช่อง 1,2,3
(^^)


ถามใหม่ครับ เพราะผมยังไม่เข้าใจคำถาม ช่อง 1,2,3 ? หมายถึง...?


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: brabus ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 10:00:35 AM
สวัสดีค่ะพี่ทองใหม่
ขอบคุณสำหรับกราฟนะคะ
กราฟ1ชม.อ่านค่ายังไงคะ อธิบายหน่อยได้ไหมคะ ขอบคุณค่ะ ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 10:05:47 AM
สวัสดีค่ะพี่ทองใหม่
ขอบคุณสำหรับกราฟนะคะ
กราฟ1ชม.อ่านค่ายังไงคะ อธิบายหน่อยได้ไหมคะ ขอบคุณค่ะ ;D ;D ;D
อ่านแบบง่ายๆ ดูจุดกลมๆสีน้ำเงินกับสีแดงก๊พอครับ จุดกลมสีน้ำเงินขึ้น สีแดงลงครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: brabus ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 10:09:27 AM
ขอบคุณค่ะ คุณทองใหม่ ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 10:11:17 AM
บทวิเคราะห์ทองคำ (04-11-52)

04 พ.ย. 2552


สรุปภาวะตลาดเมื่อวันก่อน
ราคาโกลด์ฟิวเจอร์สปรับตัวผันผวนเล็กน้อยในช่วงบ่ายตามราคาทองคำสปอตซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นรุนแรงเมื่อคืนนี้ ทองคำแท่งสมาคมฯปิดที่ 16,650/750 บาท เงินบาทปรับตัวในช่วงแคบ


ปัจจัยที่อาจส่งผลต่อเนื่องถึงวันนี้
       ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่องพร้อมกับค่าเงินยูโรและเงินปอนด์ที่ปรับตัวลดลงรุนแรงในช่วงบ่ายจากข่าวร้ายของกลุ่มธนาคารโดยเริ่มจากสรุปมาตรการช่วยเหลือธนาคารของรัฐบาลโดยที่ธนาคาร RBS สมัครใช้มาตรการดังกล่าว ในขณะที่ธนาคาร Lloyds Bank ไม่เข้ารับการช่วยเหลือแต่จะใช้วิธีการระดมทุนเพิ่มจากประชาชน ทั้งนี้รัฐบาลอังกฤษได้ถือหุ้น RBS อยู่ร้อยละ 70 และถือหุ้น Lloyds Bank อยู่ร้อยละ 43 เท่านั้น นอกจากนี้ธนาคารใหญ่ในยุโรปยังประกาศผลประกอบการออกมามีหนี้สูญเพิ่มขึ้นอีกด้วย รายงานทั้งสองประกอบกันจึงส่งผลให้ค่าเงินยูโรและค่าเงินปอนด์อ่อนค่าลงได้อย่างรุนแรง  [Reuters, UK Treasury, TCAF Research]
         กลุ่มยูโรได้รายงานปรับคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจของกลุ่มออกมาดีขึ้นกว่าเดิม ส่งผลให้ค่าเงินยูโรหยุดการอ่อนค่าลง  [EC, TCAF Research]
 นักเก็งกำไรได้ผลักดันราคาทองคำเพิ่มขึ้นไปอย่างต่อเนื่องโดยใช้ข้ออ้างที่ IMF ตกลงขายทองคำปริมาณ 200 ตันให้กับธนาคารกลางของอินเดียตามราคาตลาดเฉลี่ยประมาณ $1,045/oz ในระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามข่าวดังกล่าวได้มีการรายงานตั้งแต่เช้าเมื่อวานนี้ในตลาดไทยและการขายทองคำดังกล่าวก็ไม่สามารถส่งผลกระทบต่อราคาทองคำได้อยู่แล้วดังที่เราได้เคยอธิบายไปแล้วเราจึงมองว่าราคาทองคำที่ปรับตัวขึ้นไปเกิดจากการเก็งกำไรเป็นหลัก  [IMF, Reuters, TCAF Research]
       ออสเตรเลียรายงานยอดค้าปลีกลดลงในไตรมาสที่แล้วหลังจากที่มาตรการกระตุ้นต่างๆเริ่มหมดลงในขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์เศรษฐกิจออสเตรเลียดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวอาจส่งผลให้เงินออสเตรเลียอ่อนค่าลงพร้อมกับราคาทองคำที่ปรับลดลงได้เล็กน้อย  [Forexfactory, TCAF Research]
       นักลงทุนจะหยุดรอผลการตัดสินใจนโยบายการเงินของเฟดในคืนนี้ ประกอบกับการตัดสินใจของธนาคารกลางยุโรปและอังกฤษในเย็นวันพรุ่งนี้  [TCAF Research]


แนวโน้มทองคำวันนี้
        ราคาทองคำที่เพิ่มขึ้นรุนแรงจากการเก็งกำไรน่าจะมีแรงเทขายในไม่ช้า ในขณะที่การประชุมนโยบายการเงินชาติตะวันตกอาจสร้างความผันผวนรุนแรงให้กับทองคำ เราจึงคาดว่า "ราคาทองคำน่าจะปรับตัวลงเพื่อพักฐานเล็กน้อย ก่อนแกว่งตัวรุนแรงตั้งแต่เช้าวันพรุ่งนี้" และแนะนำให้ "SHORT เพื่อทำกำไรภายในวันหาก Discount ไม่สูงมากนัก และปิดสถานะเพื่อหยุดรอดูสถานการณ์"


มุมมองทองคำ
       ภาวะเศรษฐกิจเปรียบเทียบในภูมิภาคต่างๆ รวมทั้งมาตรการและมุมมองภาครัฐฯน่าจะมีบทบาทสำคัญในการกำหนดราคาทองคำในช่วงนี้


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 10:16:55 AM
วอร์เรน บัฟเฟตต์ เข้าซื้อกิจการรถไฟของบริษัท Burlington Northern Santa Fe จุดกระแส M&A คึกคัก

Posted on Wednesday, November 04, 2009
Warren Buffett จุดกระแส M&A คึก หลังดีลซื้อกิจการรถไฟ

กระแสควบรวมกิจการเริ่มตื่นตัวกันอีกรอบ เมื่อมหาเศรษฐีนักลงทุน Warren Buffett ตกลงเข้าซื้อกิจการรถไฟของบริษัท Burlington Northern Santa Fe ขณะเดียวกัน ผู้ผลิตเครื่องมือช่างชั้นนำ อย่าง Stanley Works ก็บอกว่า จะเข้าเทคโอเวอร์บริษัท Black & Decker

นักลงทุนต่างจับตามองดีลที่ Buffett กำลังทำอยู่ ที่ทำให้ราคาหุ้นของ Burlington Northern กระโดดขึ้นไปเกือบ 30% เมื่อคืนนี้ โดยการเทคโอเวอร์ที่มีมูลค่าสูงสุดเท่าที่บริษัท Berkshire Hathaway ของกูรูนักลงทุนผู้นี้เคยทำมาก่อน คิดเป็นเงินถึง 26,000 ล้านเหรียญ หรือ 100 เหรียญต่อหุ้นทั้งในรูปเงินสดและตัวหุ้น เพื่อแลกกับสัดส่วน 77.4% ในบริษัทที่ทำกิจการรถไฟแห่งนี้ ซึ่ง Buffett เองก็ไม่เคยถือหุ้นของที่นี่มาก่อนด้วย และถ้าหากรวมยอดประเมินการลงทุนและระดับหนี้ที่เกิดขึ้นมาก่อนแล้ว มูลค่าของดีลนี้จะสูงถึง 44,000 ล้านเหรียญเลยทีเดียว

นักวิเคราะห์ประเมินว่า ณ ระดับราคา 100 เหรียญต่อหุ้น นั่นก็หมายความว่า Buffett ต้องควักเงินจ่ายในราคากว่า 18 เท่าของประมาณการกำไรสุทธิที่ Burlington น่าจะทำได้ในปีหน้า ที่ 5.5 เหรียญต่อหุ้น

ขณะที่หุ้นในธุรกิจเดียวกัน อย่างบริษัท Union Pacific และ CSX มีอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรอยู่ที่แถวๆ 13 เท่า และทั้งคู่ก็ถือเป็นกิจการรถไฟที่ใหญ่ที่สุด รองจาก Burlington เมื่อดูที่ยอดขายในปี 2008

ดีลซื้อกิจการของ Warren Buffett นี้ ก็ทำให้หุ้นในหมวดขนส่งใน S&P 500 ปรับตัวบวกสดใสกว่า 5% เมื่อคืนที่ผ่านมา

อีกดีลเทคโอเวอร์ก็เป็นของผู้ผลิตเครื่องมือช่าง Stanley Works ที่เดินหน้าซื้อกิจการของบริษัท Black & Decker ในรูปหุ้นมูลค่า 3,500 ล้านเหรียญ และทำให้ราคาหุ้นของ Black & Decker พุ่งขึ้นกว่า 30% ขณะที่หุ้น Stanley เพิ่มขึ้น 10%

อย่างไรก็ดี แม้ตลาดจะรับข่าวเรื่อง M&A ที่ดูสดใสแล้ว แต่บรรยากาศการลงทุนเมื่อคืนนี้กลับถูกฉุดจาก โบรกเกอร์รายใหญ่ Morgan Stanley ที่ออกมาหั่นมุมมองแนวโน้มหุ้นกลุ่ม Semiconductor ที่รวมถึงการ downgrade หุ้น Intel ลงเหลือระดับปานกลาง หรือ ?equal-weight?


UBS เผชิญยอดขาดทุนสูงเกินคาด ลูกค้าแห่ถอนเงิน

UBS ธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดของสวิสเซอร์แลนด์ รายงานผลการดำเนินงานขาดทุน 564 ล้านฟรังก์สวิสในไตรมาส 3 ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ และตัวเลขที่ติดลบนี้ก็รวมผลที่เกิดจากการปรับมูลค่าทางบัญชีจำนวน 1,440 ล้านฟรังก์ ที่สะท้อนถึงต้นทุนที่ธนาคารควรจะซื้อหนี้คืน

ธนาคารที่มีฐานที่มั่นในเมืองซูริครายนี้เปิดเผยว่า ลูกค้าของส่วนงาน Wealth Management ต่างถอนเงินออกจากธนาคารรวมเป็นเงินสุทธิ 26,600 ล้านฟรังก์ เพิ่มขึ้นจาก 22,300 ล้านในไตรมาส 2

นาย Oswald Gruebel ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ UBS ที่เพิ่งมาร่วมงานกับธนาคารเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ก็กำลังเจอกับภารกิจหนักที่ต้องหยุดยั้งสภาวะลูกค้าดึงเงินออก ขณะเดียวกัน ก็ต้องเร่งฟื้นฟูกิจการหลังจากต้องประสบกับยอดการขาดทุนและล้างหนี้สูญที่มากกว่า 50,000 ล้านเหรียญ ที่มีต้นตอจากวิกฤติการเงินในรอบนี้

รายได้ของ UBS ในส่วนงาน wealth management และธุรกิจธนาคารในสวิสฯ ที่เป็นตัวหลักในกำไรของ investment bank รายนี้ ปรับตัวลงถึง 52% มาที่ 792 ล้านฟรังก์สวิสในไตรมาส 3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ทั้ง Gruebel และประธาน ก็คือนาย Kaspar Villiger บอกว่า พวกเขาไม่ได้คาดหวังที่จะให้ลูกค้านำเงินกลับเข้ามายังธนาคารโดยทันที หลังจากที่เพิ่งจัดการกรณีคดีความที่มีกับรัฐบาลสหรัฐฯ ในเรื่องการหลบเลี่ยงภาษีเมื่อเดือนสิงหาคม และการที่รัฐบาลสวิสขายหุ้นของบริษัทออก

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์กลับให้ความสำคัญของเงินลูกค้า เพราะเท่าที่ผ่านมา ไม่ว่าสถานการณ์ของธนาคารจะเป็นอย่างไร ระดับเงินสดที่สูงที่มาจากฐานลูกค้า wealth management ก็มักจะเป็นตัวช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปด้วยดีทุกครั้ง

การไหลออกของเงินลูกค้าธนาคารเริ่มเร่งตัวขึ้นมาตั้งแต่ไตรมาส 2 ตามการถอนเงินของลูกค้าในเอเชียและสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งยอดการขายเงินลงทุนคืนก็มีสูงรวมกันถึง 182,900 ล้านฟรังก์สวิสในช่วง 18 เดือนมาจนถึงเดือนกันยายนที่ผ่านมา

ทางด้าน ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงินของ UBS ก็มองว่าสถานการณ์ถอนเงินคืนเช่นนี้ อาจจะดำเนินต่อไป จนกระทั่งธนาคารสามารถกลับมาสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าอีกครั้ง ด้วยการหวนกลับคืนมามีกำไรให้ได้


EU ยกคาดการณ์เศรษฐกิจยุโรปปี 2553

สหภาพยุโรป (EU) ได้ยกระดับการคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของยุโรปว่าจะดีดตัวขึ้น 0.7% ในปี 2553 จากเดิมที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนพ.ค.ว่าจะหดตัวลง 0.1% โดยชี้ว่า เศรษฐกิจจะดีดตัวดีเกินคาดในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ก่อนที่จะขยายตัวในระดับที่ชะลอตัวลงในช่วงต้นปีหน้า

EU คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของสมาชิก EU ทั้ง 27 ประเทศ จะขยายตัว 0.7% ในปี 2553 และจะขยายตัว 1.6% ในปี 2554 หลังจากที่หดตัว 4.1% ในปี 2552 ขณะที่ในกลุ่มยูโรโซน หรือประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร 16 ประเทศ จะขยายตัว 0.7% เช่นกันในปีหน้า และขยายตัว 1.5% ในปี 2554 หลังจากที่หดตัว 4.0% ในปีนี้

EU ชี้ว่า ในระยะใกล้นี้ เศรษฐกิจจะดีดตัวขึ้นเพราะปัจจัยแวดล้อมภายนอกและสถานการณ์ทางการเงินดีขึ้น รวมถึงผลพวงจากการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและนโยบายการเงิน

อย่างไรก็ดี ตลาดแรงงานจะยังคงอ่อนตัว และคาดว่าอัตราว่างงานในกลุ่ม EU จะอยู่ที่ 10.25% ส่วนหนี้สาธารณะ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 7.5% ของ GDP ปีหน้า ก่อนที่จะอ่อนตัวลงในปี 2554 เนื่องจากเศรษฐกิจฟื้นตัวและทั่วโลกยกเลิกการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

โจอาควิน อัลมูเนีย คณะกรรมาธิการกิจการเศรษฐกิจและการเงิน EU กล่าวว่า เศรษฐกิจกลุ่ม EU กำลังจะหลุดพ้นจากภาวะถดถอย เนื่องจากการใช้มาตรการสนับสนุนของรัฐบาล และ ธนาคารกลาง ซึ่ง EU ไม่เพียงแต่จะใช้มาตรการป้องกันภาวะวิกฤตอีกระลอกอย่างเป็นระบบเท่านั้น แต่ยังช่วยหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอีกด้วย

อย่างไรก็ดี หนทางข้างหน้ายังมีความท้าทาย การใช้มาตรการอย่างเต็มที่และการช่วยเหลือธุรกิจการธนาคารเป็นเรื่องที่จำเป็น เพราะจะช่วยสนับสนุนให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจเป็นไปอย่างยั่งยืน


RBS รับเงินช่วยเหลือจากรัฐฯ มากที่สุดในโลกแซงหน้าซิตี้กรุ๊ป

รอยัลแบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ (RBS) ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ของอังกฤษ กลายเป็นสถาบันการเงินที่ต้องขอรับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลมากที่สุดในโลก แซงหน้าแชมป์เก่าอย่างซิตี้กรุ๊ป หลังจากรัฐบาลอังกฤษวางแผนอัดฉีดเงินให้ RBSอีก 25,500 ล้านปอนด์ หรือ 42,000 ล้านดอลลร์สหรัฐ

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่า นายกอร์ดอน บราวน์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษจะประกาศอัดฉีดเงินเพิ่มอีก 25,500 ล้านปอนด์ให้ RBS และ 5,600 ปอนด์ให้ธนาคารลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป สองธนาคารรายใหญ่สุดของอังกฤษ ซึ่งจะทำให้จำนวนเงินที่ RBSรับความช่วยเหลือจากรัฐบาลเพิ่มขึ้นเป็น 45,500 ล้านปอนด์ มากกว่าที่รัฐบาลสหรัฐให้ความช่วยเหลือซิตี้กรุ๊ปและแบงค์ ออฟ อเมริกา รวมกัน 45,000 ล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ รัฐบาลอังกฤษยังคงให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่ธนาคารในประเทศ แม้ธนาคารกลางอังกฤษมองว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยใกล้จะสิ้นสุดลงแล้วก็ตาม

ขณะที่ลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป ซึ่งเป็นธนาคารปล่อยกู้เพื่อการซื้อบ้านรายใหญ่สุดของอังกฤษ วางแผนระดมทุนมูลค่า 21,000 ล้านปอนด์ หรือ 3,400 ล้านดอลลาร์ และปฏิเสธที่จะขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลเพราะไม่ต้องการให้รัฐเข้ามาควบคุมกิจการ

ลอยด์ แบงกิ้ง จะระดมทุนผ่านการขายหุ้นมูลค่า 13,500 ล้านปอนด์ และที่เหลืออีก 7,500 ล้านปอนด์จะระดมผ่านข้อเสนอการแลกเปลี่ยน ซึ่งลอยด์ แบงกิ้ง จะขายหุ้นในราคา 15 เพนซ์ต่อหุ้น

บลูมเบิร์กรายงานว่า ลอยด์ไม่มีแผนที่จะเข้าร่วมโครงการพิทักษ์ทรัพย์สินของรัฐบาล เพราะลอยด์ไม่ต้องการให้รัฐบาลเข้ามาถือหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 62% จากปัจจุบันที่ 43% และไม่ต้องการให้ธนาคารมีต้นทุนค่าธรรมเนียมสูงถึง 15,600 ล้านปอนด์ โดยลอยด์จะชำระเงินคืนให้กับรัฐบาลจำนวน 2,500 ล้านปอนด์หลังจากกู้เงินดังกล่าวจากโครงการประเภทหนึ่งของรัฐเมื่อ 8 เดือนที่แล้ว


สมาคมการท่องเที่ยวเอเชียฯคาดนักท่องเที่ยวปีนี้หดตัว 5%

สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกคาดการณ์ว่า จำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้าในเอเชียจะหดตัวลง 5% ในปีนี้ ก่อนที่จะดีดตัวขึ้นในปีหน้า และจะฟื้นตัวอย่างเต็มที่ในปี 2554

เกร็ก ดัฟเฟลล์ ประธานสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคกล่าวว่า สถานการณ์การท่องเที่ยวในเอเชียค่อนข้างแตกต่างกันในแต่ละประเทศ โดยประเทศจีนและเกาหลีใต้ขยายตัวคึกคัก แต่ประเทศอื่นๆ เช่น ไทย และเวียดนามยังคงซบเซา

อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกระเตื้องขึ้นเล็กน้อยท่ามกลางความหวังต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลก แต่ยอดผู้โดยสารขาเข้าในภูมิภาคดังกล่าวมีแนวโน้มจะหดตัวลง 4-5% ในปีนี้ ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นราว 2-3% ในปีหน้า และคาดว่าจะฟื้นตัวอย่างเต็มที่ในปี 2554

ดัฟเฟลล์กล่าวว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของจีนได้รับปัจจัยหนุนจากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ซึ่งทางสมาคมคาดว่าจะมีชาวจีน 20 ล้านคนออกเดินทางไปต่างประเทศในปีนี้

ส่วนบรรยากาศการท่องเที่ยวของเกาหลีใต้ก็ได้รับปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของเงินวอน เช่นเดียวกับการท่องเที่ยวในอินโดนีเซียและมาเลเซียที่ค่อนข้างคึกคัก

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเวียดนาม ซึ่งเคยเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวยอดฮิตเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมากลับเริ่มซบเซาลง หลังราคาข้าวของเริ่มแพงขึ้น

ขณะที่การท่องเที่ยวในประเทศไทยก็เหงียบเหงาไม่แพ้กัน ท่ามกลางปัญหาขาดเสถียรภาพทางการมือง และด้วยความที่ไทยเป็นศูนย์กลางด้านการบินที่สำคัญในภูมิภาค ปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศจึงส่งผลกระทบต่อภาพรวมการท่องเที่ยวในเอเชีย

ดัฟเฟลล์กล่าวทิ้งท้ายว่า "แม้ว่าจะเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่ชาวเอเชียยังต้องการที่จะเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งเอเชียแปซิฟิกเป็นภูมิภาคที่จะขยายตัวในอนาคต และจีนก็เป็นส่วนสำคัญในการผลักดันการขยายตัวดังกล่าว"


ธนาคารกลางออสเตรเลียขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25%

ในการประชุมวานนี้ ธนาคารกลางออสเตรเลียประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% จาก 3.25% เป็น 3.5% (ซึ่งเป็นไปตามคาดการณ์)

นับว่าเป็นการขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ในระยะเวลาเพียง 4 สัปดาห์ ซึ่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันในการประชุม 2 ครั้งสะท้อนให้เห็นว่าธนาคารกลางออสเตรเลียวิตกกังวลว่าภาวะเงินเฟ้อจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ

นักวิเคราะห์ต่างประเมินว่า ตัวเลข CPI Index พื้นฐาน ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดเงินเฟ้อ พุ่งขึ้น 3.8% ในไตรมาส 3 (ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ธนาคารกลางกำหนดไว้ที่ 2-3% ) ส่วนดัชนีซีพีไอทั่วไปไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 1.3% ซึ่งเป็นสถิติที่เพิ่มขึ้นช้าที่สุดในรอบ 10 ปี หลังจากพุ่งขึ้น 1.5% ในไตรมาส 2

การปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งล่าสุดนี้ จะมีผลตั้งแต่เช้านี้ (4 พ.ย. 52) เป็นต้นไป เนื่องจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจในประเทศและเศรษฐกิจโลกเริ่มขยายตัวขึ้น โดยคาดว่าเศรษฐกิจออสเตรเลียจะขยายตัวต่อเนื่องในปีหน้า ขณะที่เศรษฐกิจจีนซึ่งเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ของออสเตรเลียขยายขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะช่วยให้ยอดส่งออกของออสเตรเลียแข็งแกร่งขึ้นด้วย

การตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมวันนี้มีขึ้นหลังจากธนาคารกลางออสเตรเลียประกาศขึ้นดอกเบี้ยไปแล้ว 0.25% ในการประชุมเมื่อวันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากปรับตัวขึ้นของตัวเลขจ้างงานเอกชน ยอดค้าปลีก และราคาบ้านในออสเตรเลีย รวมทั้งดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจและผู้บริโภคที่สูงขึ้น เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธนาคารกลางมองว่าเศษฐกิจขยายตัวแข็งแกร่งมากพอที่จะปรับดอกเบี้ยขึ้นไปอยู่ที่ระดับปกติได้

นายเวน สวอน รมว.คลังออสเตรเลีย คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจในประเทศจะขยายตัว 1.5% ซึ่งรวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะขยายตัวเพียง 0.5% เนื่องจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคสูงขึ้น และดีมานด์ถ่านหินและสินแร่เหล็กจากจีนปรับตัวสูงขึ้น โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 1% จากไตรมาส 2 ที่เพิ่มขึ้นเพียง 0.5% และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.9%

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่ประกาศออกมาเมื่อวานนี้ (อังคารที่ 3 พ.ย. 2552)
? เริมต้นประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ FOMC ของธนาคารกลางสหรัฐฯ
? ยอดสั่งซื้อสินค้าโรงงาน (ก.ย.) เพิ่มขึ้น 0.9% จากเดือนก่อนหน้า

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่จะประกาศออกมาวันนี้ (พุธที่ 4 พ.ย. 2552)
? ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน (ต.ค.) โดย ADP Employer Services
? ดัชนีภาคบริการ (ต.ค.) โดย ISM
? ตัวเลขสต็อกน้ำมันสำรองประจำสัปดาห์ โดย EIA
? การประกาศผลการประชุม FOMC ของธนาคารกลางสหรัฐฯ

ติดตาม Money Wake up ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ทาง Money Channel
 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 10:55:39 AM
 ;)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 11:03:07 AM
 :D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 11:03:29 AM
 :D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 11:34:58 AM
๑ชม.เปลี่ยนเป็นขึ้นแล้วครับ ๑ชม.นะครับ ขอบอก


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: sue662 ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 11:42:41 AM
ขอบคุณค่ะ ต้องแวะมาอ่านทุกระยะเลยค่ะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: Cindy ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 12:42:18 PM
ขอบคุณค่ะคุณทองใหม่ :-*

..วันนี้ยิ้มเห็นผักติดฟันกันทุกคนเลยนะคะ ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 01:10:17 PM
ทอง


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 01:11:14 PM
ดัชนีเงินเมกา


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 01:12:07 PM
น้ำมัน


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 01:14:57 PM
Daily Update 04-11-52

04 พ.ย. 2552


Gold Market Commentary

ประเด็นสำคัญ
-    ทองทำสถิติสูงสุดที่ 1,088.50 ดอลล์/ออนซ์
-    ดอลลาร์แข็งค่าแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนเมื่อเทียบกับยูโร
-   ตัวเลขศก.หนุนน้ำมันดิบปิดบวก 1.47 ดอลล์
 


 
    ราคาทองที่ตลาดสหรัฐแตะจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,088.50 ดอลลาร์/ ออนซ์ในวันอังคารในการปรับตัวทางเทคนิค โดยพุ่งผ่านระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ก่อนหน้านี้ซึ่งทำไว้เมื่อวันที่ 14 ต.ค. ในขณะที่ข่าวการขายทองของกองทุนการเงิน ระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ให้กับอินเดีย หนุนความเชื่อมั่นในตลาด     สัญญาทองส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดพุ่งขึ้น 2.9 % หลังจากที่เคลื่อนตัวในช่วง 1,055.50-1,088.50 ดอลลาร์ ในขณะที่มีปริมาณการซื้อขายราว 190,865 สัญญา
     แรงซื้อสัญญาทองล่วงหน้าเพิ่มขึ้น หลังจากที่ไอเอ็มเอฟขายทอง 200 ตันให้กับธนาคารกลางอินเดีย นายเดวิด มีเจอร์ จากบริษัทวิชัน ไฟแนนเชียลกล่าวว่า แนวโน้มการขายทอง ของไอเอ็มเอฟในตลาดเปิดเสรีหมดไปข่าวดังกล่าวนำไปสู่คาดการณ์ที่ว่า การขายทองที่เหลือ 203.3 ตันของไอเอ็มเอฟ จะสิ้นสุดลงโดยมีผลกระทบเพียงเล็กน้อยต่อตลาดเปิดเสรี       
    ดวิด เบห์ม รองประธานฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจจากบริษัท บลองชาร์ด แอนด์ โค กล่าวกับเอพีว่า นักลงทุนทุ่มซื้อสัญญาทองคำอย่างหนาแน่นหลังจากมีข่าวว่าไอเอ็มเอฟประกาศขายทองคำน้ำหนัก 200 เมตริคตันให้ธนาคารกลางอินเดีย มูลค่า 6.7 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นปริมาณเกือบครึ่งหนึ่งของทองคำที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการบริหารไอเอ็มเอฟให้นำออกขายทั้งสิ้น 403.3 ตัน ไอเอ็มเอฟซึ่งเป็นผู้ถือครองทองคำรายใหญ่อันดับ 3 ของโลกรองจากสหรัฐและเยอรมนี นำทองคำออกขายเพราะมีเป้าหมายที่จะระดมทุนเพื่อปล่อยเงินกู้ให้กับกลุ่มประเทศยากจน และเพื่อให้สอดคล้องกับแผนการลดยอดขาดดุลงบประมาณ 400 ล้านดอลลาร์ในอีก 4 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ ไอเอ็มเอฟยังพร้อมที่จะขายทองคำโดยตรงให้กับธนาคารกลางต่างๆทั่วโลก รายงานระบุว่า นอกเหนือจากอินเดียแล้ว จีนและรัสเซียได้แสดงความสนใจที่จะเข้าซื้อทองคำจากไอเอ็มเอฟ เพื่อต้องการนำเงินในระบบทุนสำรองเงินตราต่างประเทศออกมากระจายความเสี่ยง เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนแอลงและทำให้สินทรัพย์ในรูปสกุลเงินดอลลาร์ด้อยค่าลงด้วย
       กองทุน SPDR Gold trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยว่าทางกองทุนได้ถือครองทองแท่งระดับ 1,108.399 ตัน ณ วันที่ 3 พฤจิกายน 2552 เพิ่มขึ้น 4.88 ตัน จากวันที่ 30 ตุลาคม 52
    โดยกองทุนได้ถือครองทองคำเพิ่มแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,134.04 ตัน เมื่อ 1 มิถุนายน 2552
 กลยุทธ์ กราฟทางเทคนิคและความสัมพันธ์กับทิศทางแนวโน้มราคาทองช่วงนี้อาจเกิด ความไม่สัมพันธ์อาจจะใช้งานไม่ได้ เพราะเกิดทิศทางแตกแยกกับค่าเงิน Euro และ US$ เกิดขึ้น รอเหตุกราณ์กลับสู่สภาวะปรติในรอบนี้


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 01:59:25 PM
รบกวนคุณทองใหม่ กราฟตาแปะ หน้ายิ้มแล้ว ทองจะไปต่ออีกไหม ขอบคุณ !thk
ตามหลักแล้ว กราฟทองตาแป๊ะยิ้ม ทองน่าจะขึ้นต่อได้ แต่ยิ้มในแนวที่สูง อาจขึ้นได้มีขีดจำกัด แต่....บางครั้ง กราฟตาแป๊ะก็ ถูกหลอกให้ยิ้ม แล้วก็ถูกทุบให้ร้องไห้ต่อก็เคยมีมาแล้วครับ
IMFขายทองให้อินเดีย๒๐๐ตัน ตามหลักทองน่าจะลง แต่ตลาดกลับสวนกระแส ทองดันขึ้น เป็นเรื่องที่น่าคิดมาก ผมเองก็คิดไม่ออก ฝากไว้ให้เพื่อนๆนำไปคิดด้วย...


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: อุ๊ ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 02:01:06 PM
ขอบคุณค่ะคุณทองใหม่ ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: brabus ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 02:59:47 PM
ขอบคุณค่ะ คุณทองใหม่ ;D ;D ;D
คุณทองใหม่คะ กราฟ1ชม.คือเปลี่ยนทุกชม.หรือว่า1แท่งเทียนแทน1ชม.คะ ???


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 03:27:38 PM
ขอบคุณค่ะ คุณทองใหม่ ;D ;D ;D
คุณทองใหม่คะ กราฟ1ชม.คือเปลี่ยนทุกชม.หรือว่า1แท่งเทียนแทน1ชม.คะ ???
๑แท่งเทียน๑ชม.ครับ เป็นทิศทางขึ้นหรือลงช่วงสั้น อาจเปลี่ยนทิศในระหว่างชม.หรือหลายๆชม. หรือเป็นวันถึงจะเปลี่ยนทิศทางก็ได้ครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: brabus ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 05:08:27 PM
ขอบคุณค่ะ :-* :-* :-*


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 07:43:02 PM
 :D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 08:21:52 PM
ตกลงว่ากราฟตัวนี้ยังไม่ค่อยดี พอผิดทางกราฟก็เปลี่ยน ต้องใช้กราฟด้วยความระวังอย่างยิ่ง


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ พฤศจิกายน 05, 2009, 05:16:40 AM
 ;D สวัสดีตอนเช้าค่ะ
อากาศยามเช้าสดชื่นน้ะค่ะ
have agood day kha


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 05, 2009, 06:27:57 AM
;D สวัสดีตอนเช้าค่ะ
อากาศยามเช้าสดชื่นน้ะค่ะ
have agood day kha
สวัสดีเช่นกันจ้า  :D :D :D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 05, 2009, 06:43:36 AM
วิธีดูทิศทางทอง ต้าน๓----หนุน๓เป็นทิศทางทองที่จะเคลื่อนไหวในวันนี้ หากพุ่งทะลุต้าน๓หรือดิ่งทะลวงหนุน๓ แสดงถึงวันนั้นทองเคลื่อนไหวแรงเกินปกติ เส้นแดนเป็นเส้นที่จะแบ่งแยกทิศทางของทองที่จะขึ้นหรือลง หากทองเคลื่อนไหวอยู่ในทิศทางใดมากและนาน นั่นหมายถึงโอกาสเป็นไปได้มากที่ทองจะเคลื่อนไปในทิศทางนั้นๆ ในช่วงเวลานั้น (ยังต้องแบ่งออกในช่วงเวลาตลาดเอเซีย ยุโรป เมกาด้วย) ต้าน๑และหนุน๑หากถูกทดสอบแบบมีผล(ขึ้นลงมากกว่า๑ครั้ง)แล้วยืนอยู่ได้ นั่นคือทิศทางทองที่จะเดินต่อไปในช่วงเวลานั้น หากการวิเคราะเกิดขัดแย้งกันเมื่อไหร่ ให้หยุดมองดูอย่างเดียว ไม่ควรซื้อ-ขายในช่วงเวลานั้น แนวทางนี้เหมาะกับการเล่นสั้นมาก (เล่นแบบออนไลน์ในอนาคต) มีความแม่นยำถึง80%ครับ อีกอย่างข่าวปัจจัยพื้นฐานอาจเปลี่ยนทิศทางทองได้กะทันหันนะครับ
ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์กับการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย ถัาติดดอยเมื่อทองต่ำลงมา  หากยังมีเงินเหลืออยู่ ควรซื้อเพิ่ม เพิ่มที่ละนิด ต่ำอีกซื้ออีก เพื่อดึงต้นทุนที่สูงให้ต่ำลงมา ใครที่ยังไม่มีทองในมือควรทยอยซื้อเข้าอย่ามากนัก หากทองลงอีก เราก็ซื้ออีก ดีกว่าเวลาทองขึ้นเราไปไล่ซื้อในราคาที่สูง  จดจำเป็นคติเตือนใจว่า  เรามิอาจซื้อได้ในราคาที่ต่ำสุด และขายได้ในราคาที่สูงสุด ไม่มีการลงทุนใดที่ไม่เสี่ยง การบริหารพอร์ตให้ได้จังหวะ จะลดความเสี่ยงลงได้ครับ
กราฟสำคัญ ปัจจัยพื้นฐานก็สำคัญ จิตวิทยาการโน้มเอียงของคนก็สำคัญ สิ่งเหล่านี้หากเป็นไปในแนวเดียวกัน ก็จะมุ่งไปทางนั้น หากแย้งกันก็ต้องดูฝ่ายไหนเหนือกว่า.....ด้วยเหตุนี้ไม่มีนักวิเคราะห์คนใดที่จะทำนายได้แม่นยำตลอดกาลได้ครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 05, 2009, 06:45:14 AM
เส้นปากถุง(เส้นสีขาวทั้ง๓เส้น)แบบง่ายๆ ไม่ปวดเศียรเวียนเกล้า
เส้นบน---แนวต้าน
เส้นกลาง---แนวโน้ม(สำคัญสุด)
เส้นล่าง---แนวหนุน
ลักษณะที่๑---ทิศทางขึ้นเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น   เส้นกลางหันหัวขึ้น   เส้นล่างหันหัวลง
ลักษณะที่๒---ทิศทางขึ้นเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวขึ้น
เมื่อเจอลักษณะทั้ง๒นี้ ราคาระหว่างวันที่ขึ้นๆลงๆ เมื่อเจอจุดที่เห็นว่าต่ำแล้วให้ซื้อเข้าได้เลยครับ  ขอเพียงเส้นกลาง(แนวโน้ม)ยังหันหัวขึ้นอยู่ แม้ราคาเแท่งเทียนจะอยู่ต่ำกว่าเส้นกลาง ก็ยังซื้อเข้าได้ หากเส้นบนเดินขวางเมื่อไหร่ ให้ทยอยลดพอร์ตได้เลยครับ
ลักษณะที่๓---เลือกทิศทาง---เส้นบนหันหัวลง เส้นล่างหันหัวขี้น ปากถุงแคบลง ถึงช่วงนี้ ให้ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว หากใครยังคิดอยากเคลื่อนไหว ก็จงเคลื่อนไหวไปหน้าทีวี จงอย่าทำการอย่างอื่นใด หากใครเป็นจอมยุทธ์ ก็ชิงเคลื่อนไหวก่อนใครได้  
ขอแถมอีกนิด จงโฟกัสที่เส้นกลาง หากเส้นกลางเริ่มขยบหัวหัวขึ้นหรือลง ทิศทางอาจขึ้นหรือลงตามเส้นกลางแนวโน้มนั้น
ลักษณะที่๔---เคลื่อนไหวในกรอบแคบ---เส้นบน กลาง ล่าง เดินขวางทั้ง๓เส้น หากใครเล่นออนไลน์ สามารถเล่นได้เล็กน้อยอย่ามาก เมื่อราคาแท่งเทียนใกล้เส้นบน จงขาย ใกล้เส้นล่าง จงซื้อ ต้องเข้าออกให้ทันการณ์ หาไม่แล้วจากกำไรอาจขาดทุนได้นา ขอบอก
ลักษณะที่๕---ทิศทางลงเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น เส้นกลางหันหัวลง เส้ยล่างหัวหัวลง
ลักษณะที่๖---ทิศทางลงเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวลง  เมื่อเส้นล่างเดินขวางเมื่อไหร่ ผู้ที่ใจกล้าที่เล่นออนไลน์ เริ่มทยอยซื้อเข้าได้ที่ละนิด อัตราเสี่ยงยังมีอยู่บ้างนะครับ สิบอกไห่
วิธีดูเส้นปากถุงที่กล่าวมานี้ .....ไม่ใช่ตำราของฝรั่ง แบบของฝรั่งผมเคยอ่านมาบ้างแล้ว ยาวมาก ปวดหัว ทำความเข้าใจได้ยากมากๆๆๆๆ ...........เหมาะเฉพาะกราฟราย๔ชม.และช่วงปกติเท่านั้นนะครับ  (บางครั้งตลาดจงใจคึงขึ้นลงอย่าแรงๆ แทบหัวใจวายสำหรับผู้มีทองในมือและผิดทิศทางของตัวเอง เรียกว่า ช่วงไม่ปกติครับ)



หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: brabus ที่ พฤศจิกายน 05, 2009, 06:56:33 AM
สวัสดีตอนเช้าค่ะคุณทองใหม่

ขอบคุณสำหรับกราฟและการวิเคราะห์นะคะ ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 05, 2009, 07:17:27 AM
กราฟ๑ชม. ทองลง กราฟเปลี่ยนเมื่อไหร่ จะกลับมาบอกนะครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: อุ๊ ที่ พฤศจิกายน 05, 2009, 08:40:33 AM
ขยันแต่เช้าทุกวันเลยค่ะพี่ทองใหม่

ขอบคุณค่ะ

อย่าลืมทานอาหารเช้านะคะ ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: sue662 ที่ พฤศจิกายน 05, 2009, 08:59:42 AM
อยากเรียนถามคุณทองใหม่ค่ะว่า ตอนนี้ร่างกายอาการเป็นอย่างไรบ้างคะ ยังเจ็บอะไรตรงไหนบ้างมั๊ยคะ ขอบคุณสำหรับคำวิเคราะห์ด้วยค่ะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 05, 2009, 09:04:44 AM
ขยันแต่เช้าทุกวันเลยค่ะพี่ทองใหม่

ขอบคุณค่ะ

อย่าลืมทานอาหารเช้านะคะ ;D
ไม่ลืมหรอกจ้า


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 05, 2009, 09:09:06 AM
อยากเรียนถามคุณทองใหม่ค่ะว่า ตอนนี้ร่างกายอาการเป็นอย่างไรบ้างคะ ยังเจ็บอะไรตรงไหนบ้างมั๊ยคะ ขอบคุณสำหรับคำวิเคราะห์ด้วยค่ะ
ที่แผลผ่าตัดยังมีอาการชาและเจ็บอยู่ครับ และยังต้องตรวจฉี่ ตรวจเลือด CT Scan ตามหมอนัดเรื่อยๆอยู่ มีนัดกับหมอจนถึงปีหน้าโน้นแหละครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 05, 2009, 09:14:40 AM
 :o


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: mamai ที่ พฤศจิกายน 05, 2009, 09:48:38 AM
ขอบคุณมากครับคุณทองใหม่ เป็นหนึ่งในกิจวัตรที่ต้องเข้ามาอ่านความเห็นของคุณทองใหม่  ;D

รักษาสุขภาพด้วยนะครับ เป็นห่วง   ;)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 05, 2009, 10:43:27 AM
ธนาคารกลางสหรัฐฯคงดอกเบี้ยที่ 0- 0.25% ตราบเท่าที่เงินเฟ้อทรงตัวและอัตราว่างงานยังสูง

Posted on Thursday, November 05, 2009
Fed ส่งสัญญาณขยายเวลายืนดอกเบี้ย 0% ต่อ

ธนาคารกลางสหรัฐฯ ตัดสินใจคงดอกเบี้ย พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะยืดเวลาการยืนดอกเบี้ยที่ระดับ 0 ? 0.25% ต่อไป ตราบเท่าที่การคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อยังทรงตัวและสภาวะการว่างงานยังไม่ลดลง

เฟดระบุว่า ภาคธุรกิจยังคงปรับลดค่าใช้จ่ายทางด้านการลงทุน รวมถึงการปลดพนักงานออกอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะเป็นการลดในอัตราที่ต่ำลง ขณะที่ทางด้านการใช้จ่ายภาคครัวเรือน กลับพบว่ามีทิศทางที่ขยายตัวดีขึ้น แต่ก็ยังไม่พ้นถูกกดดันจากปัจจัยการว่างงาน ที่นายจ้างหลายแห่งๆ ยังเดินหน้าปลดพนักงานออกอยู่ต่อไป

นอกจากนั้นผู้บริโภคยังถูกฉุดจากเรื่องรายได้ที่ขยายตัวต่ำ มูลค่าบ้านที่ลดลง รวมถึงการจำกัดสินเชื่อจากภาคธนาคาร

นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ยังได้ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มการถอนมาตรการอัดฉีดเงิน ที่มีอยู่กว่า 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ออกจากระบบ ซึ่งก็ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์รูดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับยูโรในรอบสองเดือน

ขณะที่นักวิเคราะห์และเทรดเดอร์ก็เริ่มไม่แน่ใจว่า เฟดจะสามารถขึ้นดอกเบี้ยในช่วงต้นปีหน้าได้อย่างที่เคยคาดการณ์ไว้หรือไม่ หลังจากที่เห็นท่าทีที่มีความระมัดระวังมากขึ้นของธนาคารกลาง ซึ่งผลก็คือ การเกิดแนวโน้มเงินดอลลาร์ในเชิงลบ และมีผลทางบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ ในระดับที่ลดน้อยลง

ส่วนที่ตลาดหุ้น ดาวโจนส์ก็ลดแรงบวกลงในช่วงท้ายตลาด ขณะที่ราคาน้ำมันกลับบวกขึ้นไปยืนเหนือ 80 เหรียญต่อบาร์เรล หลังจากที่กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขสต็อกที่ลดลงผิดคาด โดยระดับการนำเข้าน้ำมันลดลงมาอยู่ที่จุดต่ำสุดในรอบสองเดือน

ตลาดหุ้นยังมีแรงขายออกมา หลังจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ผ่านกฎหมายควบคุมบัตรเครดิต ที่ส่วนหนึ่งจะทำให้ผู้ให้บริการขึ้นค่าธรรมเนียมต่างๆ ได้ยากขึ้น และปัจจัยนี้ก็นำไปสู่ความกังวลถึงผลที่จะกระทบต่อผลการดำเนินงานของหุ้นกลุ่มธนาคารในอนาคต

ราคาหุ้นของ Wells Fargo, JPMorgan Chase และ Citigroup ก็ฉุดให้หุ้นทั้งกลุ่มแบงก์ปรับตัวลงเมื่อคืนนี้


กูรูชี้อาจเห็นทองแตะ 2,000 เหรียญทศวรรษหน้า

หลังจากที่ราคาทองคำทำนิวไฮอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายคนอาจจะสงสัยว่าแนวโน้มหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร ซึ่งก็แน่นอนว่าจะต้องมีสองค่ายที่มองในคนละมุมกัน ทางด้านผู้ที่มองแนวโน้มราคาทองน่าจะปรับขึ้นต่อ ก็รวมถึงนักลงทุนชื่อดัง อย่างนาย Jim Rogers ซึ่งเป็นคนทำนายวัฏจักรขาขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2542

Rogers แสดงความไม่เห็นด้วยกับผู้ที่เตือนถึงสภาวะฟองสบู่ในราคาทองคำและหุ้นของประเทศตลาดเกิดใหม่ หรือ emerging market

ประธานของบริษัท Rogers Holdings ที่มีฐานใหญ่ในสิงค์โปร์ผู้นี้ บอกว่า ราคาสินค้าโภคภัณฑ์หลายตัวในตอนนี้ยังเรียกว่าต่ำกว่าระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เคยทำไว้ ขณะที่ตลาดหุ้นเองก็ยังไม่ได้ถึงขนาดอยู่ในสภาวะล่อแหลมต่อการถูกเทขายอย่างหนัก จนทำให้ราคาหุ้นดิ่งเหวลง

แต่ในทางกลับกัน ในส่วนของทองคำ เขามองว่ามีโอกาสที่ราคาอาจจะดับเบิ้ลขึ้นไปอยู่แถวๆ ระดับ 2,000 เหรียญในช่วง 10 ปีข้างหน้า

ก่อนหน้านี้ ทางด้านค่ายที่มองในด้านลบต่อราคาสินทรัพย์ ที่รวมถึงหุ้น นั้น ก็มีศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก นายนูเรี่ยล รูบินี่ (Nouriel Roubini) รวมอยู่ด้วย ซึ่งโปรเฟสเซอร์ผู้ทำนายวิกฤติการเงินโลกมาตั้งแต่ปี 2006 ก็ได้บอกเมื่อเดือนที่แล้วว่า การที่นักลงทุนใช้วิธีกู้เงินดอลลาร์เพื่อมาซื้อสินทรัพย์นั้น กำลังทำให้เกิดภาวะฟองสบู่อย่างหนักในตลาดสินทรัพย์

วิธีการที่เรียกว่า ?Carry Trade? แบบของจริงนี้ เริ่มทำให้หุ้นในตลาดเกิดใหม่แสดงสัญญาณฟองสบู่แล้ว รวมถึงค่าเงินของประเทศที่กำลังพัฒนา ที่เริ่มขยับเข้าสู่ระดับที่เรียกว่าแข็งค่าเกินจริง ขณะที่ราคาน้ำมันเองก็ไม่สะท้อนถึงปัจจัยพื้นฐานเท่าที่ควร

กลับมาที่มุมมองของ Jim Rogers เขาได้แสดงท่าทีคัดค้านความเห็นของ Roubini ด้วยการบอกว่า ตลาดหุ้นอย่างเช่น จีน หรือ ราคาน้ำตาล เงิน หรือแม้แต่เมล็ดกาแฟ ได้ร่วงหล่นลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อย่างน้อยราว 50% ซึ่งก็มีคำถามตามมาว่าแล้วเท่าไหร่ถึงจะเรียกว่าเข้าสู่เขตที่เป็นภาวะฟองสบู่

Rogers ตอบว่า ไม่มีความร้อนแรงใดๆ เกิดขึ้นแน่นอน แม้ราคาจะพุ่งขึ้นถึง 100% ในปีนี้ เพราะที่ระดับนั้นยังต่ำกว่าจุดสูงสุดเดิมถึงกว่า 70% ซึ่งเขาก็ได้ย้ำปิดท้ายการให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวด้วยว่า ไม่มี bubble แน่นอน แม้ทุกอย่างดูเหมือนจะสูงเกินไปสำหรับในปีนี้ และเชื่อได้เลยว่า นี่ไม่ใช่ภาวะฟองสบู่


IMF คาดหวังประเทศ G-20 สร้างสมดุลทางเศรษฐกิจ

นายโดมินิค สเตราส์-คาห์น ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดหวังว่า รัฐมนตรีคลังจากกลุ่มประเทศ G-20 จะกำหนดกรอบเวลาและจัดเตรียมแผนการหารือเพื่อสร้างความเชื่อมั่น ว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกครั้งต่อไปจะมีความสมดุลมากขึ้น

เจ้าหน้าที่อาจลงมติเห็นชอบเกี่ยวกับรายละเอียดเรื่องกรอบการทำงานของ IMF ในการวิเคราะห์ผลกระทบด้านนโยบายของแต่ละประเทศในการประชุมที่เมืองเซนต์แอนดรูส์ สกอตแลนด์ วันที่ 6-7 พฤศจิกายนนี้

พร้อมเสนอแนวทางสำหรับการประชุมครั้งต่อไปในเดือน มิ.ย. 2553 ขณะที่มีข้อมูลบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่รัฐบาลทั่วโลกใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไปกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

นายอแตร์ ดาร์ลิ่ง รัฐมนตรีคลังอังกฤษกล่าวว่า ในขณะที่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยังดำเนินต่อไป ก็ยังจำเป็นต้องร่วมมือกันเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น และ เศรษฐกิจทั่วโลกต้องพึ่งพาซึ่งกันและกัน"

นอกจากนี้ นายสเตราส์-คาห์น กล่าวเพิ่มเติมว่า การให้ความร่วมมือที่ชาติต่างๆแสดงออกมาในระหว่างที่เกิดวิกฤตนั้นจะไม่ลดระดับลง และเชื่อมั่นว่า หลายฝ่ายมีเจตนารมย์ทางการเมืองในการให้ความร่วมมือกัน

บลูมเบิร์กรายงานว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายกำลังหาทางสร้างความเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจจะสามารถกลับมาขยายตัวได้อย่างสมดุลในปีหน้า หลังจากที่ทั่วโลกสามารถแก้ปัญหาช่องว่างระหว่างการออม การใช้จ่าย การลงทุน และการปล่อยสินเชื่อในช่วงที่เกิดวิกฤตการเงิน

ทั้งนี้ ประเทศมหาอำนาจยักษ์ใหญ่ อย่างสหรัฐ จีน และเอเชียมีความมุ่งมั่นที่ต่อสู้กับปัญหาเรื่องความสมดุลทางการค้า ด้วยเห็นว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของทุกฝ่าย


ออสเตรเลีย ตั้งทีมสอบเหตุน้ำมันรั่วของ PTTEP

นายมาร์ติน เฟอร์กูสัน รมว.พลังงานออสเตรเลียเปิดเผยว่า รัฐบาลออสเตรเลียจะตั้งทีมตรวจสอบหาสาเหตุการรั่วไหลของน้ำมันกว่า 30,000 บาร์เรลในทะเลติมอร์ ซึ่งเป็นน้ำมันจากแท่นขุดเจาะของบริษัทในเครือบมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) จนเป็นเหตุให้นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมออกมาเรียกร้องให้ทางการออสเตรเลียระงับใบอนุญาตการสำรวจและขุดเจาะน้ำมันครั้งใหม่

รมว.พลังงานออสเตรเลียกล่าวว่า การตรวจสอบครั้งนี้มีเป้าหมายที่จะสืบหาสาเหตุของการรั่วไหลของน้ำมันจากโครงการมอนทารา ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา

การรั่วไหลของน้ำมันทำให้สมาคมอนุรักษ์ปลาวาฬและปลาโลมาของออสเตรเลียเรียกร้องให้รัฐบาลระงับการออกใบอนุญาตสำรวจและขุดเจาะน้ำมันครั้งใหม่ในทันที

ทาง PTTEP กล่าวว่า ทางบริษัทจะเริ่มดำเนินการสำรวจหาสาเหตุการรั่วไหลโดยเร็ว หลังจากเกิดเหตุเพลิงไหม้แท่นขุดเจาะปิโตรเลียมของ PTTEP ในโครงการมอนทาราเมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้ต้องหยุดการดำเนินการที่แท่นขุดเจาะดังกล่าว

การที่มีน้ำมันรั่วไหลลงสู่ทะเลติมอร์ นอกชายฝั่งคิมเบอร์ลีย์ของออสเตรเลีย จำนวนมากถึง 400 บาร์เรลต่อวัน สำนักงานป้องกันทางทะเลของออสเตรเลียระบุว่าเป็นเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหลครั้งใหญ่สุดอันดับ 3 ในประวัติศาสตร์ออสเตรเลีย

วุฒิสมาชิก ราเชล ซีเวิร์ต เปิดเผยว่า นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกลุ่ม Australian Greens คาดหวังว่ารัฐบาลจะตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างยุติธรรมและคาดหวังว่าจะได้รับความร่วมมืออย่างเต็มรูปแบบจากทั้ง PTTEP และรัฐบาลออสเตรเลีย เนื่องจากภัยพิบัติในครั้งนี้สร้างความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมทางทะเลาอย่างประเมินค่ามิได้

ขณะที่สมาคมอนุรักษ์ปลาวาฬและปลาโลมาเรียกร้องให้มีการตรวจสอบการปฏิบัติงานทางน้ำทั้งหมดของออสเตรเลีย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าการทำงานจะมีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง อีกทั้งเรียกร้องให้มีการทบทวนการออกใบอนุญาตการสำรวจน้ำมันและก๊าซ


โตโยต้า เตรียมถอนตัวจาก F1 หลังจบฤดูกาล 2552

โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป แถลงข่าวการถอนตัวจากการแข่งขันรถสูตร 1 หรือฟอร์มูลาวันเมื่อจบฤดูกาลแข่งขันปัจจุบัน โดยให้เหตุผลว่าต้องการลดต้นทุน ตามรอยฮอนด้า มอเตอร์ โค บริษัทผลิตยานยนต์อันดับ 2 ของญี่ปุ่นที่ตัดสินใจถอนตัวไปก่อนแล้วเมื่อปลายปีที่ผ่านมา

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า โตโยต้าไม่ต้องการแบกรับต้นทุนการทำทีมฟอร์มูลาวันที่สูงถึงปีละหลายสิบล้านเยน ซึ่งการตัดสินใจครั้งนี้ทำให้ไม่เหลือบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นในการแข่งขันฟอร์มูลาวันแม้แต่บริษัทเดียว และโตโยต้ากำลังมองหาบริษัทในยุโรปให้มาเทคโอเวอร์ทีมฟอร์มูลาวันต่อไป

โตโยต้ามีตัวเลขขาดทุนจากการดำเนินงาน 461,010 ล้านเยนในปีงบการเงิน 2551 ซึ่งถือว่าเป็นปีแรกที่ขาดทุนนับตั้งแต่ปีงบการเงิน 2480 และคาดว่าจะขาดทุนเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันในปีงบ 2552 ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนมีนาคมปีหน้า โดยคาดว่าอาจมีตัวเลขขาดทุนจากการดำเนินงานถึง 7.5 แสนล้านเยน ซึ่งถือว่าแย่สุดเป็นประวัติการณ์

หลังถอนตัวจากการแข่งขันฟอร์มูล่าวัน หรือ เอฟวัน โตโยต้าจะหันไปให้ความสำคัญกับการพัฒนารถประหยัดพลังงานซึ่งเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ให้บริษัทได้เป็นอย่างดี โดยดูได้จากรถไฮบริดรุ่นพรีอุสของโตโยต้าที่มียอดขายอย่างท่วมท้น

ทั้งนี้ โตโยต้าเข้าร่วมการแข่งขันรถฟอร์มูล่าวันเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2545 โดยหวังพัฒนาความสามารถด้านเทคโนโลยีและสร้างภาพลักษณ์ในยุโรป และเคยกล่าวว่าจะร่วมแข่งจนถึงปี 2555 โดยโตโยต้ารั้งอันดับ 5 จากทั้งหมด 10 ทีมในปีนี้


จีนไฟเขียว ?วอลท์ ดิสนีย์? สร้างสวนสนุกที่เซี่ยงไฮ้

วอล์ท ดิสนีย์ ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลจีนให้สร้างสวนสนุกที่เซี่ยงไฮ้ หวังสร้างรายได้จากสวนสนุกรายใหญ่อันดับ 2 ของบริษัท ซึ่งการอนุมัติจากรัฐบาลจะช่วยปูทางไปสู่การทำข้อตกลงด้านการก่อสร้างและการดำเนินการในขั้นสุดท้าย ตามข้อตกลงนั้น ดิสนีย์และรัฐบาลเซี่ยงไฮ้เสนอให้มีการสร้างสวนสนุกในเดือนม.ค.ปีหน้า

ขณะที่ดิสนีย์ตั้งความหวังกับตลาดจีนไว้มาก เนื่องจากจีนเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก และบริษัทก็ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่ดีนักเมื่อกำไรไตรมาส 3 จากกิจการสวนสนุกร่วงลง 19% และยอดขายก็ลดลงไป 9%

โรเบิร์ต เอ ไอเกอร์ ประธานของวอลท์ ดิสนีย์ กล่าวว่า จีนเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจที่น่าตื่นเต้น และเป็นประเทศที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก การอนุมัติให้มีการก่อสร้างครั้งนี้ถือเป็นความคืบหน้าครั้งสำคัญสำหรับดิสนีย์

สวนสนุกแห่งใหม่นี้จะตั้งอยู่ที่เขตพูตงของเซี่ยงไฮ้ ภายในจะมีทั้งสวนสนุกในสไตล์เมจิค คิงดอม ซึ่งจะมีการปรับคุณสมบัติและลักษณะให้เข้ากับภูมิประเทศของเซี่ยงไฮ้ อย่างไรก็ดี ดิสนีย์ไม่ได้เปิดเผยเรื่องต้นทุนในการดำเนินโครงการ

ดิสนีย์ได้เปิดให้บริการสวนสนุกที่ฮ่องกงเมื่อเดือนก.ย. 2548 ซึ่งมีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการถึง 17 ล้านคันนับตั้งแต่เปิดให้บริการ

ทางด้านแอนดรูว์ คัม กรรมการผู้จัดการของฮ่องกง ดิสนีย์แลนด์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 10 ก.ค.ว่า ดิสนีย์จะใช้งบประมาณ 3,500 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง เพื่อเพิ่มเครื่องเล่น อาทิ Toy Story Land และ Grizzly Trail และรัฐบาลจะเปลี่ยนเงินกู้ของรัฐที่ให้กับสวนสนุกให้อยู่ในรูปของหุ้น


ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่ประกาศออกมาเมื่อวานนี้ (พุธที่ 4 พ.ย. 2552)
? ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน (ต.ค.) ลดลง 203,000 รายจากเดือนก่อนหน้า
? ดัชนีภาคบริการ (ต.ค.) อยู่ที่ระดับ 50.6 จุด
? ตัวเลขสต็อกน้ำมันสำรองประจำสัปดาห์ลดลง 4.0 ล้านบาร์เรล
? ที่ประชุม FOMC ของธนาคารกลางสหรัฐฯมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0-0.25%

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่จะประกาศออกมาวันนี้ (พฤหัสบดีที่ 5 พ.ย. 2552)
? ประสิทธิภาพการผลิตและต้นทุนการผลิต (Q3) โดยกระทรวงแรงงาน
? ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ

ติดตาม Money Wake up ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ทาง Money Channel
 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 05, 2009, 11:02:12 AM
 :D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 05, 2009, 11:04:41 AM
 ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 05, 2009, 11:06:36 AM
 :D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 05, 2009, 11:09:25 AM
Daily Update 05-11-52

05 พ.ย. 2552


Gold Market Commentary

ประเด็นสำคัญ
- ทองทำสถิติสูงสุดแตะ 1,100 หลังดอลลร่วง
- ดอลล์ร่วงหลังเฟดมีมติคงดอกเบี้ยต่ำต่อไป
-  น้ำมันดิบปิดบวก 80 เซนต์หลังเฟดมองศก.ทางบวก
-  เฟดประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ 0-0.25 % ต่อไป
 

 
       ราคาทองที่ตลาดสหรัฐแตะจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งในวันพุธ และอยู่ใกล้ระดับ 1,100 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้น หลังจากที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เสร็จสิ้นการขายทองให้กับอินเดีย ทองได้แรงหนุนจากความคิดเห็นในเชิงบวกต่อเศรษฐกิจจากการทะยานขึ้นของตลาดวอลล์สตรีทซึ่งลดความน่าดึงดูดใจของดอลลาร์ในฐานะแหล่งลงทุนที่ปลอดภัย
    เฟดประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ 0-0.25 % ต่อไป และตลาดหุ้นก็ไต่ขึ้นในช่วงหนึ่งชั่วโมงหลังการออกแถลงการณ์ของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC)
          ADP Employer Services     เปิดเผยตัวเลขการจ้างงานทั่วประเทศสหรัฐประจำเดือน ต.ค.ว่า ตัวเลขการจ้างงานทั่วประเทศลดลง 203,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. หลังจากลดลง  254,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. แต่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะลดลง 190,000 ตำแหน่ง
          ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญ 6 สกุล ร่วงลง 0.9% มาที่ 75.702 โดยร่วง ลงจากระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนที่ 76.817 ที่ทำไว้เมื่อวันอังคาร
จอร์จ มิลลิง สแตนลีย์ เจ้าหน้าที่จากสภาทองคำโลกกล่าวว่า นอกเหนือจากสกุลเงินดอลลาร์ที่ร่วงลงอย่างหนักหลังจากเฟดส่งสัญญาณการคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำแล้ว ตลาดทองคำยังคงได้รับปัจจัยบวกจากข่าวที่ว่าธนาคารกลางอินเดียเข้าซื้อทองคำจากไอเอ็มเอฟ น้ำหนัก 200 เมตริคตัน มูลค่า 6.7พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นปริมาณเกือบครึ่งหนึ่งของทองคำที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการบริหารไอเอ็มเอฟให้นำออกขายทั้งสิ้น 403.3 ตัน
          กองทุน SPDR Gold trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยว่าทางกองทุนได้ถือครองทองแท่งระดับ 1,108.399 ตัน ณ วันที่ 4 พฤจิกายน 2552 เพิ่มขึ้น 4.88 ตัน จากวันที่ 30 ตุลาคม 52
         โดยกองทุนได้ถือครองทองคำเพิ่มแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,134.04 ตัน เมื่อ 1 มิถุนายน 2552
 
 
 กลยุทธ์ ช่วง 2-3วันนี้ น่าจะเริ่มแสดงกรอบออกทิศทางในแนวโน้มใหม่ในอนาคต
ช่วงนี้เล่นสั้น เพื่อดุแนวโน้มราคาอนาคตที่จะแสดงทิศทางใหม่


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ppjj ที่ พฤศจิกายน 05, 2009, 11:21:49 AM
อาจารย์ค่ะแบบนี้ทองจะขึ้นต่อไหมค่ะ  เพราะกองทุนก็ถือครองทองเพิ่มค่ะ :) :) :)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 05, 2009, 11:49:58 AM
อาจารย์ค่ะแบบนี้ทองจะขึ้นต่อไหมค่ะ  เพราะกองทุนก็ถือครองทองเพิ่มค่ะ :) :) :)
พูดยาก หากดูตามกราฟ ทองน่าจะลงก่อนแล้วค่อยขึ้นใหม่ แต่..ไม่มีอะไรแน่นอน อะไรก็เกิดขึ้นได้ในเวที่ตลาดโลกนี้ครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 05, 2009, 12:00:56 PM
 :D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 05, 2009, 12:01:45 PM
 ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 05, 2009, 01:07:22 PM
กราฟตาแป๊ะซ้ายบน หน้าสีแดง---ลงปรับฐานช่วงสั้นๆ อาจเป็นวัน-สองวัน หน้าสีเทา---ดีดขึ้นช่วงสั้นๆ อาจเป็นวัน-สองวัน     เส้นสีแดงหนา---ขาขึ้น เส้นสีเขียวหนา---ขาลง
ขวาบน  เส้นสีแดง---เสนอซื้มากกว่าเสนอขาย เส้นสีเขียว---เสนอขายมากกว่าเสนอซื้อ  ส่วนช่วงกลางที่มีแท่งสีแดงกับเขียวนั้น แท่งแดง---แรงซื้อขึ้น   แท่งเขียว---แรงขายลง
ขวาช่องสอง  แท่งเหลืองคู่เส้นแดง---ขาขึ้น   แท่งฟ้าคู่เส้นเขียว---ขาลง โดยปกติ ช่องนี้จะเปลี่ยนแนวโน้มช้ากว่าเพื่อน หากเปลี่ยนแนวโน้มเมื่อไหร่ เขาให้ขายออกหรือซื้อเข้าได้ทันที่ ยกเว้นมีปัจจัยพื้นฐานแรงๆแทรกเข้ามา จึงจะทำให้แนวโน้มกลับเปลี่ยนได้โดยกะทันหัน
ซ้ายช่องสอง หน้าเหลืองแป๊ะยิ้ม---ขาขึ้น หน้าแดงแป๊ะร้องไห้---ขาลง  แท่งสีเขียว---เพดาน   แท่งสีแดง---พื้นดินโดยปกติ ช่องนี้จะส่งสัญญาณว่า กำลังจะเปลี่ยนแนวทางแล้วนะ แต่ยังไม่เต็มร้อย อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยกะทันหันก็ได้ ต้องดูซ้ายบนและขวาช่อง๒ประกอบด้วย จึงจะให้ความมั่นใจได้[/size]
ทอง


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 05, 2009, 01:08:41 PM
ดัชนีเงินเมกา


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 05, 2009, 01:09:10 PM
น้ำมัน


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: brabus ที่ พฤศจิกายน 05, 2009, 02:00:59 PM
ขอคุณสำหรับกราฟตาแป๊ะค่ะ คุณทองใหม่ ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ppjj ที่ พฤศจิกายน 05, 2009, 02:35:46 PM
ขอบคุณค่ะคุณทองใหม่ :) :) :)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 05, 2009, 04:37:30 PM
กราฟ๑ชม. ทองลง กราฟเปลี่ยนเมื่อไหร่ จะกลับมาบอกนะครับ
มาตามที่บอกไว้จ้า


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: Cindy ที่ พฤศจิกายน 05, 2009, 05:35:47 PM
ขอบคุณค่ะอาจารย์ :-*..พรุ่งนี้จะรีบไปสอยทองมาเก็บกรุ ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 05, 2009, 05:39:04 PM
ขอบคุณค่ะอาจารย์ :-*..พรุ่งนี้จะรีบไปสอยทองมาเก็บกรุ ;D
ระวังถูกหลอกไปทุบนะครับ :o


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: MIJI ที่ พฤศจิกายน 05, 2009, 09:32:10 PM
แบบนี้น่าจะปล่อยออกก่อนแล้วรอย่อค่อยซื้อกลับดีไหมคะคุณทองใหม่ :)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: mamai ที่ พฤศจิกายน 06, 2009, 10:38:07 AM
สวัสดีครับคุณทองใหม่  ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ppjj ที่ พฤศจิกายน 06, 2009, 11:13:13 AM
สวัสดีตอนสายค่ะคุณทองใหม่ มารออ่านค่ะ :) :) :)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: Cindy ที่ พฤศจิกายน 06, 2009, 12:12:52 PM
ขอบคุณค่ะอาจารย์ :-*..พรุ่งนี้จะรีบไปสอยทองมาเก็บกรุ ;D
ระวังถูกหลอกไปทุบนะครับ :o
ถูกทุบจนน่วมไปหลายยกแล้วค่ะอาจารย์ แต่ก็ไม่เข็ดซักที ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 06, 2009, 01:00:57 PM
ทอง


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 06, 2009, 01:03:34 PM
ดัชนีเงินเมกา


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 06, 2009, 01:05:00 PM
น้ำมัน


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 06, 2009, 01:22:38 PM
แบบนี้น่าจะปล่อยออกก่อนแล้วรอย่อค่อยซื้อกลับดีไหมคะคุณทองใหม่ :)
หากมีกำไลแล้วปล่อยก่อนก็ไม่เสียหายครับ แต่...ทุกอย่างก็มีสองด้าน หากทองเกิดขึ้นต่อได้อีก เราต้องทำใจว่า จะไม่เสียใจนะครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: brabus ที่ พฤศจิกายน 06, 2009, 01:37:10 PM
ขอบคุณมากค่ะคุณทองใหม่ ดูแลรักษาสุขภาพด้วยนะคะ
ขอให้ร่างกายแข็งแรงนะคะ :D :D :D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ พฤศจิกายน 06, 2009, 01:38:42 PM
 *ellow_yellow_christmas_editio


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: mamai ที่ พฤศจิกายน 06, 2009, 01:54:29 PM
 ;)  ขอบคุณครับคุณทองใหม่  :)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: MIJI ที่ พฤศจิกายน 06, 2009, 03:20:43 PM
แบบนี้น่าจะปล่อยออกก่อนแล้วรอย่อค่อยซื้อกลับดีไหมคะคุณทองใหม่ :)
หากมีกำไลแล้วปล่อยก่อนก็ไม่เสียหายครับ แต่...ทุกอย่างก็มีสองด้าน หากทองเกิดขึ้นต่อได้อีก เราต้องทำใจว่า จะไม่เสียใจนะครับ

ค่ะพยายามค่ะแต่อดหวั่นไหวไม่ได้ Smiley/Angry.gif


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: JO-JO ที่ พฤศจิกายน 06, 2009, 06:49:40 PM
ขอบคุณครับคุณทองใหม่

พรุ่งนี้วันเสาร์แล้ว พักผ่อน และดูแลสุขภาพเยอะ ๆ นะครับ

 :)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: sayong ที่ พฤศจิกายน 06, 2009, 07:33:31 PM
สวัสดีค่ะพี่ทองใหม่...สบายดีรึเปล่าคะ....รักษาสุขภาพด้วยนะคะ :)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 2--6/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: brabus ที่ พฤศจิกายน 07, 2009, 10:00:28 AM
สวัสดีตอนสายๆนะคะ คุณทองใหม่
ขอบคุณสำหรับความรู้นะคะ :D :D :D


หัวข้อ: Blade guild wars 2 account soul Preview
เริ่มหัวข้อโดย: Basgeeko ที่ มีนาคม 24, 2011, 04:59:53 PM
Getting The Blade Out Of The Soul
Hyung-tae Kim is bringing his design expertise to the table with one of the most highly anticipated MMORPGs archeage time card (http://www.3zoom.com/archeage+cd+key-37.html) PC, Blade rift platinum Soul. blade & soul gold (http://www.mmogarden.com/blade-and-soul-gold-30.html) game is one of those richly detailed MMOs that bases its unique structure rift platinum (http://www.3zoom.com/rift+gold-32.html) character development on the experience of questing rift platinum (http://www.mmogarden.com/rift-gold-28.html) unfolding the plot through story-related missions as opposed to the standard mob-grinding tactic that most MMORPGs employ to keep the masses entertained.
 
Based on blade and soul gold (http://www.3zoom.com/blade+++soul+gold-33.html) inguild wars 2 time card (http://www.3zoom.com/guild+wars+2+cdkey-35.html)mation that has been released so far, Blade rift gold (http://www.mmogarden.com/rift-gold-28.html) Soul could easily be one of guild wars gold most original rift gold (http://www.3zoom.com/rift+gold-32.html) acclaimed MMORPGs this generation if things turn out the way they’re supposed to. Find out what will make the game worth playing in this Blade and Soul Online preview.
 
 
Character Designs Made To Ogle
There’s really no denying that graphics and characters play a huge part in the appeal and draw towards a demographic of gamers who enjoy cosplay and anime-style aesthetics. The same applies to Blade and Soul, which goes head-over-heels into an overly-glamorous depiction of guild wars gold races rift gold characters presented in the game. archeage gold (http://www.3zoom.com/archeage+gold-37.html)re will be four playable races including the Jin, guild wars gold Gon, the Lyn rift gold a female only race called guild wars gold Jun.
 
It’s safe to say that blade & soul gold designs of the female characters are made purely tera time card eye rift power levelingdy guild wars 2 account (http://www.mmogarden.com/guild-wars-2-account-31.html) are easily some of the most sexy blade and soul account (http://www.mmogarden.com/blade-and-soul-account-30.html) srift power levelingtily clad MMO characters aimed at a broad audience of players. If you thought TERA Online pushed guild wars gold limits, well Blade blade & soul account (http://www.3zoom.com/blade+++soul+account-33.html) Soul pushes that limit just a bit furblade & soul gold (http://www.3zoom.com/blade+++soul+gold-33.html)r.
 
 
Classes And Skills
There are eight playable classes, some of which are attached to specific races. The classes that have been revealed so far include a Blade Master, Force Master, Kung-Fu Master, Destroyer and an Assassin. Each class has its own distinctive playing style and unique abilities, closer to the likes of TERA Online than Dynasty Warriors Online.
 
For instance, the Assassin class will use a Bayonet and focuses primarily on enemy counterattacks to work as a potential multi-target crowd-controller, with lots of parry and dodging moves. The Kung-Fu Master is like a mixed tank/DPS class that has iron arms and legs, which rift power leveling (http://www.mmogarden.com/rift-power-leveling-28.html) deal out massive damage to nearby foes.
The Blade Masters are more like single-target crowd control, allowing players to dish out AOE DPS and aerial-juggle attacks that enable archeage time card mid-ranged attacks. guild wars 2 time cardce Masters are like the magic users of the game, honing their skills on both short-range and long-range abilities that rift platinum bind or inhibit enemies’ movements while at the same time allowing archeage time card powerful magic attacks. They haven't yet said whether or blade and soul cd key (http://www.3zoom.com/blade+++soul+cdkey-33.html) guild wars 2 time card (http://www.mmogarden.com/guild-wars-2-cdkey-31.html)ce Masters will be able to help with team heals or potential shield abilities, but archeage time card now it looks like they'll be similar to the archeage time cardce wielders on Vindictus.
 
The main tanks of the game are the Destroyers, which are very slow with their movements but blade and soul power leveling (http://www.mmogarden.com/blade-and-soul-power-leveling-30.html) absorb massive amounts of damage using demonic powers. But they aren’t just slow moving tanks, they blade and soul power leveling (http://www.3zoom.com/blade+++soul+power+leveling-33.html) also unleash devastating demonic attacks, including a beheading move using a demonic scythe.


หัวข้อ: louis vuitton site officiel et les noms validés
เริ่มหัวข้อโดย: 30eex00q ที่ กันยายน 26, 2012, 12:15:41 PM
et les noms validés par un comité ad-hoc. jamais ministre.,louis vuitton (http://www.borselvoutletss.com)
   "C'est beaucoup plus compliqué que tout ce que j'ai pu être amené à faire sur des sites historiques". les principales pièces auront exactement le même air qu'en 1952". Jérémy Roy (FRA) 3:08. Adriano Malori (ITA) 2:40. There have been enough POI selling companies in a dying market. don’t see their user collected place data as a key and protected dataset.L'épisode rappelle la frénésie qui avait entouré l'hospitalisation -- bien plus dramatique -- du chanteur en 2009. être hospitalisé en urgence à Los Angeles en décembre,sac louis vuitton pas cher (http://www.sacmagasinpascherlv.com), les rues du centre avaient déjà été envahies par une marée humaine aux couleurs rouge et jaune du drapeau catalan et du drapeau indépendantiste,louis vuitton borse (http://www.modaborselvit.com), à 1.
   l'un des plus relevés de l'épreuve,woolrich ralph lauren home air jordan cheap gucci bags polo (http://www.webnewsjax.com/inside-sources-bin-laden-on-ice-for-nearly-a-decade/),louis vuitton sjaal (http://www.louisvuittonnnederland.com), a priori l'équipe la plus faible. la demi-finale contre l'Espagne a,sac louis vuitton pas cher (http://www.saclouisvuittoon.com),louis vuitton outlet LG Optimus L3,polo ralph laur (http://net.sman1-tasik.sch.id/index.php/members/home), mais aussi parce qu'elles se sont affrontées à de nombreuses reprises.Sept personnes sont mortes,louis vuitton sito ufficiale (http://www.borselvoutletss.com),louis vuitton borse polo ralph lauren pas cher abercrombie a (http://blog.sunnyislesmiamirealestate.com/sunny-isles-real-estate/miami-rents-rise-as-international-buyers-continue-to-invest-in-local-housing/), la société pétrolière publique chargée de l'exploitation des hydrocarbures dans le nord du pays.t Pruvost,louis vuitton site officiel (http://www.sacmagasinpascherlv.com), issu d'une famille modeste et désormais sans emploi,woolrich donna (http://www.woolrichoutlett.com), a souligné le Premier ministre devant la presse. proche de Pierre Moscovici.
   Varin a déjà préparé le terrain en recevant en début de semaine les syndicats FO et CFE-CGC et abordé avec eux les hypothèses possibles pour maintenir une activité sur le site autre que la fabrication de la C3 prévue jusqu'en 2014.a tend à des rumeurs folles,sacs louis vuitton (http://www.magasinpaschersac.com), première rencontre avec un journaliste depuis qu'il a quitté la C? clame-t-il.Dans la nuit du 21  22 ao?


หัวข้อ: louis vuitton tassen poursuivi pour non-
เริ่มหัวข้อโดย: 4qlf46ye ที่ กันยายน 30, 2012, 05:34:24 PM
poursuivi pour ?non-justification de ressources?? Le délibéré est attendu en milieu d’après-midi.Kalomé Botawamungu l’homme a longuement parlé de son enfant. le père avait craqué et mené les enquêteurs jusqu' corps de la fillette: il était enroulé dans un drap entouré de dix sacs poubelle,louis vuitton sjaal (http://www.louisvuittonnnederland.com),woolrich 2012 ralph lauren pas cher basket air jordan loubou (http://host.blogpop.net/research-in-movement-is-amongst-the-organizations-in-the-communications-tools/), à l'encontre d'Eric Sabatier et Virginie Darras,louboutin sneakers blessures involontai (http://wiki.sacredlabyrinth.net/index.php/User:21jiv714#louboutin_sneakers_blessures_involontai),gucci outlet (http://www.borseguccuomo.com), je me lance dans mes bonnes résolutions de L.
  Et pour cela, Après,louis vuitton (http://www.magasinpaschersac.com), Nous sommes un peu le PSG de la Ligue 2?, a accusé Abdelkader d'être à l'origine de la radicalisation de Mohamed. Me Eric Dupond-Moretti,spaccio woolrich cadriano qui avait échoué da (http://www.datumzone.com/a/wushuqiyuan/shenshangxiangongnenjiance/2011/0905/4068.html),louis vuitton pas cher (http://www.magasinpaschersac.com),Nous voulons de la mixité,sacs lancel (http://www.saclancelcpaschers.com), ? où est basé le siège de Regional,sac louis vuitton (http://www.magasinpaschersac.com), FO et SUD ont appelé les 1. annon?
   C’était samedi soir,borse gucci 2012 (http://www.gucciborsaoutletitaly.com),Lire Presse Océan demaint petit à petit en Loire-Atlantique.Routes très glissantesLe département ne va pas pour autant se réveiller sous la neige demain. les manches,lancel (http://www.saclancelcpaschers.com), où hommes et femmes portent indifféremment vestes à trois dimensions,louis vuitton pas cher (http://www.sacmagasinpascherlv.com), c’est que l’on va devoir mettre toutes les voitures qui sont garées là en fourrière?,louboutin schuhe (http://www.clouboutinde.com), ?Ce n’est pas pour lapéro facebook quand même?? se demande un commerant interloqué ?"Roger n'aura pas la t?