Gold Price today, Gold Trend Price Prediction, ราคาทองคํา, วิเคราะห์ทิศทางทองคํา

(http://img514.imageshack.us/img514/7793/icyk1.jpg)

รูปแบบ ParaBolic SAR คล้ายคลึงกันมาก

เพียงแต่ ไม่รู้จุดยอด อยู่ที่ ฟิโบเท่าไหร่

เด๋วขอวัด ฟิโบ ก่อนนะคะ

สวัสดีค่ะ คุณIcy มารอฟังต่อคนแรกเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ  ;)

รอฟังด้วยคนครับ

(http://img509.imageshack.us/img509/1996/icyk3.jpg)
ดูตัวเลขฟิโบ อย่าอ้างอิงตัวเลขในวงเล็บเพราะไม่ได้จัดเสกลไว้

(http://img195.imageshack.us/img195/2789/icyk4.gif)


ลองดูฟิโบเปรียบเทียบดูนะคะ

อีกไม่นาน จะมีการเบรคดาวน์ ไม่ว่าลงหรือขึ้น

เราจะ เข้า ชอตหรือลอง ตามตำแหน่งเบรคดาวน์ ที่หลุดออกจาก Zero Zone ซึ่งอยู่ในระดับ 1100 - 1186 แต่ยังไม่ขอ เฟิร์ม นะคะ ขอดูอีกที ว่า Zero Zone คือตรงไหน แน่

1100 อาจเป็นเงา ของ Zero Zone

ตอนนี้มองรอบด้านไปเรื่อยๆ ก่อน คะ

---

เปรียบเทียบมังกรยักษ์ จะเห็น ขาหลัง 1.27 เท่ากัน

เปรียบเทียบ Cup & handle ย่อย จากตัวอย่างได้หลอดที่ 1.50  ซึ่งในกราฟทองปัจจุบันได้ 1.618

แนวโน้มการกลับตัว ในระดับ 1.618 มีสูง แต่หากไม่กลับตัวหละ ทะยานไปเลย จะทำอย่างไร

ฟิโบ ตัวถัดไป คือ 1.732  2.0  2.236  2.618 หรือ ดูง่ายๆ ว่า ยืนเหนือ 1100 ได้ หาจังหวะเข้าลอง (วันศุกร์ที่ผ่านมา เป็นแค่การทดสอบ และไม่สามารถเบรคดาวน์ออกไปได้  รอการทดสอบ ในตลาด ฮ่องกง และ ลอนดอน)

โดยส่วนตัว มีความคิดเห็นว่า ทองอาจมีพฤติกรรมเหมือน ตอนก่อน เท 1032
แต่ตอนนั้น ทองอยู่ระดับ 980 ลุ้น 1000

คราวนี้ทอง 1080 ลุ้น 1100 และในระยะเดือนเดียวกันของปี พย - มีค

ทองอาจจถูกเท ที่ระดับ 1132 (เพราะตอนนี้ เราลุ้น 1147 กันมาก เหมือนปีนั้น ที่เราลุ้น 1050) วัฏจักรมันกลับมาเร็วมาก

http://www.fxspeculations.com/?page_id=526

10/13/09:  After thrusting from a wave B of (B) triangle, gold has rallied in 5 waves.  The 5 wave rally suggests that the advance is over and that at least a correction, if not an outright reversal, is due.  Even in a correction, gold would probably come back to 986 (former 4th wave) or so.

(http://www.fxspeculations.com/wp-content/uploads/2009/09/gold.jpg)

บอกว่า หลังจากพุ่งออกมาจากสามเหลียม ตามรูป ไปทำคลื่นห้า  ทองจะกลับไป 986 หรือ ต่ากว่า



เอาบทความนี้มาเทียบ

เนื้อหา ยัง อัดแน่น เหมือนเดิม นะค่ะ
ขอบคุณค่ะ  ไอซี่  laugh.gif

ขอบคุณค่ะ คุณIcy  ;)

Well,

Nov 2007 POG 950 ==> 980 ==> 1000 ==> 1020 ==> 1032 Mar 2008 --> (1050 never happened)

Nov 2009 POG 1050 ==> 1080 ==> 1100 ==> 1120 ==> 1132 Feb-Mar 2010--> (1147 will happen?)


So, I belive you, POG wont touch 1150 :P

ตอนนี้ เรามีสอง แง่คิด คือ แง่คิดทางเทคนิค และ แง่คิดเชิงประวัตศาสตร์

แง่คิดทางเทคนิค ทองมีโอกาสกลับลง ดิ่งเหวสูง

แง่คิดทางประวัติศาสตร์ ทองจะแค่ย่อตัว เพื่อทะยานต่อไป 1147 เป้าหมายสุดท้าย หรือ อาจ 1340 ตามที่อินเดีย และ ศ ซูริ ขีดเส้นไว้ในเดือน กค 2010


โอเค ท่ามกลาง ความสับสนนี้  ใช้ Zero Zone หาจุดเบรคเอ้า ทะลวงออกมา (และสำหรับนักสวิง ใช้ Zero Zone Breakout เป็นจุดตัดขาดทุน หรือ จุดเข้าลอคพอร์ท แล้วแต่กลยุทธ)

ตอนนี้ ขอไปทานข้าวก่อน คะ  ว่างๆ เราค่อย มาดู Zero Zone กันอีกที คะ

I think Euro Bubble

Because of high value shows something crisis in that Currency

That shows Europe is in big trouble situation that we might look over it somewhere!


However, I dont think POG or Euro wont collapse for now! it will be manipulated higher before collapsed down in Feb or Mar 2010.

แนวคิดเชิงตอบโต้

ดอลล่าร์กำลัง ลงต่ำ จะทำให้ มูลค่าของในเมกา ถูกลง  - (ส่งผลให้ การสะสมอาวุธ ใช้ต้นทุนที่ต่ำ มาก และ เป็นโอกาสดี ก่อนดอลล่าจะดีดตัวกลับมา ทำให้ต้นทุนสงครามสูงขึ้น)

ในขณะที่ เมกาผลักดัน ยุโรป จีน และประเทศในภาคแถบเอเซีย เข้าสู่ภาวะเงินเฟ้อ และกำลังยิ่งยวดขึ้น (เหมือนดั่งปี 2007 ที่เมกาฟองสบู่จะแตก)

แต่ คราวนี้เลวร้ายกว่า เมกา มาก เพราะ ศก ใน ภาค ยุโรปและเอเซีย ยังไม่ขยับไปไหนมาก แต่กลับมาเกิด ภาวะฟองสบู่ ท่ามกลาง ความว่างเปล่า ที่เกิดจากค่าสกุลเงิน เท่านั้น

ฟองสบู่แตก ใน เอเซีย ปีหน้า จะทำให้ ภาคนี้ย่อยยับ และคนคงจะโกรธแค้น เมกามาก จน ลอบสังหาร คนสำคัญของเมกาและผู้นำสี่ประเทศ-ตามที่นอสตร้าดามัส ทำนายไว้ (ซึง ฮิลลารี่ เกือบโดนลอบสังหาร ที่อาฟริกา แต่ไม่สำเร็จ เมื่อเดือนตุลาที่ผ่านมา)

และจะนำ พา การเข้าสู่สงคราม เพื่อยุติปัญหา ทุกอย่าง ในเดือน พย 2010


การเข้าไป จัดสร้าง ดิสนี่ย์แลนด์ เป็นโอกาสดี ในการทำจารกรรมในประเทศจีน การเข้าซื้อกิจการรถไฟ สัมพันธ์กับตลาดเหล็ก ที่เกี่ยวเนื่องกับการสร้างดิสนี่แลนด์ในจีน บัฟเฟต รีบ เข้าหาธุรกิจ ใกล้เคียงทันที แทนที่จะไปสร้างถนนหนทาง ที่มีแต่ปูนซึ่งผลิตได้ในจีนเอง การโยกย้ายศาตราวุธข้ามทวีป จึงทำได้ง่าย ผ่านการส่งออก ที่ดูเหมือนว่า เป็นการลำเลียง ท่อเหล็กธรรมดาๆ เหมือนที่ทำใน อิรัค ตอนที่จะสร้างซุปเปอร์ปีนใหญ่ ยิงทีเดียวข้ามไปหา อิสราเอลเลย


ส่วนภาคนี้เอง กำลัง ระอุ และเหมือนรอการ ร้อนเป็นไฟ ไม่ว่าเรื่อง นิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ความขัดแย้งในเอเซียอาคเนย์ในระดับประเทศและระหว่างประเทศที่ได้เริ่มก่อตัวขึ้น จาก จุดเล็กๆ เท่านั้นเอง (ที่อาจโดนชักใยเบื้องหลัง จากเมกา ที่เราอาจมองข้ามกันไป) รวมถึงพม่า-อองซานซูจี

ดูเหมือนเมกา กำลัง เข้าศึกษาตัวหมากทึตัว และ หาจุดระเบิดว่า คือใคร กับใคร ที่ไหน และเวลาไหน ในแต่ละภาค ไม่ว่า อิหร่าน จีน ปากีสถาน อาฟริกา เวียดนาม พม่า อินเดีย รัสเซีย เขมร และ ไทย ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญ ทั้งนั้น ในการระเบิดสงตรามโลก และ ต้องทำให้ลากเข้าสู่สงครามให้ได้

แม้กระทั่งใน อาหรับเอง ก้อ มีการลอบสังหาร จำไม่ได้ว่าใครแล้ว อิอิอิ


ดังนั้น การจุดระเบิดสงครามโลก ง่าย นิดเดียว ทุกภาค เริ่มระอุ และพร้อมระเบิด ทุกเมื่อ  แค่รอ เวลา กด ชนวนเท่านั้นเอง


ดังนั้น เริ่มสะสมทอง เมื่อ ย่อ กันได้แล้ว คะ ทองทะยาน ไปไกล กว่าที่คิดมาก จนไร้ค่า 3400 - 5000 ตอนนั้น มีทอง แลกข้าวได้จานเดียว มีสวนครัว หลังบ้าน มีค่า มากกว่าทอง ซะอีก

อิอิอิ

คิดเล่นๆ สนุกๆ นะคะ

ขอบคุณครับ  คุณ Icy


มีลางสังหรณ์ว่า วันจันทร์ทองต้องลงครับ

(ตามประสาคนติด Short) 

 :D

คะ ทางเทคนิค ตัวเลขฟิโบได้ สัดส่วนมาก คะ แต่การลง จะ เป็น แบบย่อ หรือ เบรคแตก เด๋วเราค่อยมาช่วยสังเกตุการณ์กันอีกที นะคะ พร้อมทั้งหาจุดหลบภัย หาก ขีปนาวุธ เสยคางขึ้นฟ้า ขณะที่เราก้มดู  ว่า หลุมอะไรเอ่ย

อิอิอิ

สวัสดีค่ะน้องไอซ์ และเพื่อนๆที่รักทุกๆท่าน
เข้ามาขอบคุณสำหรับบทวิเคาะห์และข่าวสารอันเป็นประโยชน์มากมาย นะคะ  [/b] :) :) :)
 

พรุ่งนี้ ต้องเอา คอมไปซ่อมซะหน่อย เปิดมา สองปี ไม่เคยปิด อิอิอิ มีเสียงดังลั่น จนวันนี้เสียง เงียบหายไป และ คอม ชัตดาว ตัวเอง

เด๋ววันนี้ จะ รีบ ทำวิเคราะห์กราฟ ให้เสร็จ คะ

รอ แปป

(http://img4.imageshack.us/img4/4521/icyd4.jpg)


ขอ แปะ รูป ก่อน นะคะ แล้ว ค่อย ตีความ

(http://img20.imageshack.us/img20/1940/icyd5.jpg)

มาจองที่นั่งด้วยคนค่ะ :)

(http://img32.imageshack.us/img32/3526/icyd6.jpg)

(http://img32.imageshack.us/img32/5056/icyd7.jpg)

(http://img196.imageshack.us/img196/5402/icyd8.jpg)

ออกไป ทาน อาหารทะเล ก่อน นะคะ อิอิ

คืนนี้ ค่อย มาว่ากันใหม่

สั่งกุ้งเผาเผื่อด้วยนะคะ :D

quote author=ffr_manoj243 link=topic=110.msg24477#msg24477 date=1257582510]
ระหว่าง .. รอลูกชาย   สอบ .. สสวท. "คณิต & วิทย์" .. ทั้งวัน
ใช้ Notebook .. ที่ซื้อให้ลูกชาย  เป็น "ของขวัญวันเกิด .. พรุ่งนี้"


เห็นข่าว .. SBI : State bank of India .. จะลดดอกเบี้ย  มีผลบังคับใช้ .. วันจันทร์!

เลย! ถึง .. บางอ้อ!



ทำไม?  ต้องเป็น .. อินเดีย!  ที่ต้องการจะซื้อทองคำ

* อินเดีย .. เคยเป็น "อาณานิคม"  ของ อังกฤษ
* อินเดีย .. นับถือ ศาสนาอะไร?

* IMF .. เป็น "มือไม้"  ของ  อเมริกา

http://search.speedbit.com/searchresults.asp?site=web&prevsite=web&q=%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%94+%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%99&client=pub-1734327923886716&forid=1&channel=9518150362&ie=UTF-8&oe=UTF-8&cof=GALT%3A%23008000%3BGL%3A1%3BDIV%3A%23336699%3BVLC%3A663399%3BAH%3Acenter%3BBGC%3AFFFFFF%3BLBGC%3A336699%3BALC%3A0000FF%3BLC%3A0000FF%3BT%3A000000%3BGFNT%3A0000FF%3BGIMP%3A0000FF%3BFORID%3A11&hl=en&sa=Google+Search


* แถม!  อินเดีย ซื้อในราคาตลาด วันที่ 19-30 ตุลา ที่ผ่านมา     :o

" The transaction, which is in the process of being settled, involved daily sales that were phased over a two week period during October 19-30, 2009, with each daily sale conducted at a price set on the basis of market prices prevailing that day. The total sales proceeds are equivalent to US$ 6.7 billion or SDR 4.2 billion. Under the Fund?s Articles of Agreement, all gold sales must be conducted at prices based on market prices, including direct sales to official holders as in the case of this transaction."

http://www.imf.org/external/np/sec/pr/2009/pr09381.htm




วันที่ 4/11 .. ทองขยับขึ้น $109x  ในตลาดลอนดอนก่อนปิด .. (ซึ่งเป็น .. จอมปั่น)

(http://img682.imageshack.us/img682/9255/gold041109.gif)

จากการเล่นข่าว .. IMF ขายทอง 200 ตัน ให้อินเดีย  ที่ราคา .. $1045



วันที่ 6/11 .. ทองขยับขึ้นมา $110x   ในตลาดลอนดอนก่อนปิด .. (เช่นเคย)

(http://img254.imageshack.us/img254/7065/gold061109.gif)



โดย "Website ของ หุ้นเหมืองทอง"  ที่ Hedge Fund. ใหญ่ของ SPDR & หุ้นเหมืองทองต่างๆ .. เล่นข่าวว่า

เพราะ  ศรีลังกา .. จะซื้อทองคำ IMF (ตามแบบ อินเดีย)   Sri Lanka Boosting Gold Reserves  

http://www.gold-prices.biz/sri-lanka-boosting-gold-reserves/




* ทำไม?  ต้องเป็น .. ศรีลังกา?

แล้ว .. ศรีลังกา  จะเอาเงินที่ไหน? .. มาซื้อทอง?

IMF Loan Helps Sri Lankan Reconstruction Drive
http://www.imf.org/external/pubs/ft/survey/so/2009/CAR110609A.htm




อินเดีย มีปัญหา เรื่อง ขาดฝน และน้ำท่วม ทำให้ ภาคการเกษตร ซึ้งเป็น รายได้ หลัก ชงักงัน จำเป็น ที่ อาจ ต้องหาเงิน มาเพิ่มสภาพคล่อง จากแหล่งอื่น ตามข่าวที่อ่านจากเวบบอกว่า อินเดียจะขายทรัพย์สินด้อยค่าออก เช่นดอลล่า หรือพันธบัตรเมกา แล้วเข้าซื้อทองมาสำรอง เพื่อรองรับ การ ศก ที่กำลังจะตกต่ำอย่างรุนแรง จากเหตุดังกล่าว

ดังนั้น อินเดีย กำลังประสบภาวะขาดสภาพคล่องในปีหน้า ศกถดถอยอย่างรุนแรงจากการขาดรายได้หลักทางการเกษตร ทำให้ต้อง ลด ดอกเบี้ย เพื่อเรียกเงินกลับ เท่ากับชลอ หรือ งด การลงทุน ทางเศรษฐศาสตร์

แต่คำถาม ยังตามมาว่า อินเดียจะหารายได้จากที่ไหน ถ้าเพียงเพื่อคนชั้นสูงอยู่รอด ปล่อยคนชั้นอื่นตามยถากรรม จะไม่ต่างจาก เมกา ในขณะนี้ ดาวไซซิ่งทุกอย่าง รวมถึงสกุลเงินของตนเอง อินเดียกำลังเดินรอยตาม เมกา

เมกา เคยใช้การเททอง แก้ปัญหาชั่วคราวเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง และ กลับมากด เงินตนเอง ลง อย่างมหันต์ ในปีถัดไป เพื่อดาวไซซิ่งทุกอย่างลงแบบยิ่งยวด


ส่วนอินเดีย ขณะนี้ กำลังจะลดค่าเงินตนเองลง โดยเทขายทรัพสินด้อยค่าในมือ (US Tressurries) แลกกับทอง ของ IMF เท่ากับว่า เมกา ได้ทรัพสินย์ตนเองกลับไปส่วนหนึ่ง ขณะที่ ดอลมีค่าต่ำ (คือได้ของถูกกลับมา นั่นเอง และขายของแพงกลับไป) แต่อินเดียนี่สิ จะแก้ปัญหาสภาพคล่องตัวเองได้อย่างไร

จะเททอง ตอนนี้เลย คงจะ เร็วไป การลดค่าเงินตนเองซึ่งจะนำพาให้ปอนด์พุ่งขึ้น และตามด้วยยูโรพุ่ง สะท้อนให้ทองต้องถูกดันตามมา-ตามกลไก  


ส่วน ศรีลังกา ที่ใช้เงินสกุลรุปี เช่นเดียวกัน เมืออินเดียประกาศ ลดดอกเบี้ย จะทำให้ ค่าเงินศรีลังกา ลดลงตามมาเช่นกัน จำจะต้องถูกบังคับให้สำรองทองคำเพิ่ม (เช่นเดียวกับไทย ที่โดนบีบ ก่อนฟ่องสบู่แตก) จะโดยอยากสำรองเอง หรือ แห่ตามชาวบ้านก้อตาม (ตามที่ข่าวเขียน) ขณะที่ iMf รีบยื่นมือให้ I้เงิน มาซื้อทองคำโดย ที่ศรีลังกาอาจไม่มีความสามารถในการชำระหนี้เอาเลย จะนำพาการล้มละลายเอาได้ง่ายๆ  การสำรองทองของศรีลังกาจากการI้เงิน IMF ไม่ได้ส่งผลดีต่อภาพ ศก โดยรวมของ ศรีลังกา เพียงแต่ รักษาสถานะทางการคลังเท่านั้น

และเช่นเดียวกับที่เป็นมา เมื่อมีการเททองเกิดขึ้น ศรีลังกา ก้อจะแอบเททอง (ซึงเป็นเรืองไม่สมควร) แล้วไปรอช้อนกลับมาใหม่ ด้วยปริมาณทองเท่าเดิมที่จะได้กลับมาแต่ต้นทุนต่ำลง จะทำให้ศรีลังกา มีสภาพคล่องไปได้อีกระยะ เพื่อรอการฟื้นฟู ในสองปีถัดไป


ดังนั้น ทองควรจะย่อ หรือ กระชากขึ้นทันที ไปสู่ 11xx ก่อนถูกเท ยังคงมีอีกหลายประเทศที่จะใช้กลไกเดียวกันนี้ ทำซ้ำรอยกับเมื่อปี 2007 แต่คราวถัดไป ทุกฝ่ายจะพรอ้มใจกันเท และ ทุกฝ่ายจะวินวิน ยกเว้นแมงเม่าอย่างเราๆ อิอิอิ


เขียน นิยาย ไปตามเรื่องนะคะ อย่าถือสา นะคะ



เอามาแปะ ด้วยคะ จาก กระทู้ อ มาโนช

มามอง ภาพ คร่าวๆ คะ

จุดเบรคแตก   <===1069(เข้าชอตยาว) และ  (เข้าลองยาว)1097.5==>

วงสวิงรวม  1075 - 1090  

(จะเห้นว่า มีจุดโหว่อยู่ที่ราคา 1070 - 1075 และ 1090 - 1097.5 ซึ่งเป็นราคาที่รอการเบรคแตกหรือกลับเข้าสู่วงสวิง ช่วงราคานี้ ให้นั่งดู หรือ ถ้าเข้าผิดทาง รอการตัดขาดทุนเมื่อหลุดเบรค)

วงสวิงจะเปลี่ยนไปตามวัน และรายชม การเข้าเล่นวงสวิงที่ดี เมื่อเข้าชอตหรือลองแล้ว จะต้องไม่เกิน หนึ่ง ชม - ถ้าไม่ประสบความสำเร็จ ให้ออกมาก่อน เพราะอาจเข้าไปแช่ให้ รอการโดนลาก
และในแต่ละคาบเวลาจะมีจุดเบรคแตกของคาบนั้นๆ ซึ่งไม่สามารถจะบอกล่วงหน้าได้ในที่นี้ จนกว่าการเทรดสดๆ จะเกิดขึ้นนะคะ

ดังนั้น เลือกเวลา การเข้าออก ให้เหมาะสม ว่าควรเข้าออกเวลาเท่าไหร่ ในแต่ละตลาด

แปลว่าช่วงนี้อยู่นิ่งๆจะปลอดภัยที่สุดนะคะ ขอบคุณคุณไอซี่มากๆเลยค่ะ นี่แหละค่ะถึงต้องแวะมาฟังข่าวบ่อยๆ จะได้ระวังตัวถูกกลัวโดนลากติดแหงกค่ะ

(http://img33.imageshack.us/img33/2344/goldsilvernov0309.gif)

 :D สวัสดีครับคุณ Icy ....จึ๋ยๆ ผ่านไปวันเดียว โพสซะตามอ่านไม่ทันเยย..... angel.gif ....ขอบคุณหลายๆครับผม

ถ้าประวัติศาสตร์จะทำซ้ำกันอีกรอบเพราะคิดมุกอื่นไม่ออก ผมเดาว่าไม่น่าใช่เดือนมีนา น่าจะเร็วกว่านั้นอาจเป็น ภายในปีนี้เลย เพราะเค้ากลัวยิ่งนานยิ่งโดนจับทางได้ ต้องชิงลงมือก่อน ..อิอิอิ

ว่าแต่ถ้าเป็นแบบนี้ เข้า long GF แบบยาวๆ ไว้ก่อนน่าจะปลอดภัยไหมครับ เพราะย่อก็ไม่น่าจะมากนัก  ..กลัวไม่ได้ขึ้นรถไฟเหาะ..เหอเหอ ;D

ตอนเค้าเททองแบบปี 2008 ที่ผ่านมา เราจะมีโอกาสรู้ไหมครับ ว่าเค้าเริ่มเทแล้วนะ ดูกราฟมันลงลงลง สัปดาห์เดียว 130 เหรียญ แล้วก็ลงต่อ ...แบบว่าจะได้ออกทันน่ะครับ

ถามใจคุณ Icy ดีกว่า ถ้าไม่มองทางเทคนิค คุณ Icy คิดว่าเค้าจะย่อมารับคนตกรถหรือครับ นาทีนี้ ไปต่อดีกว่าไหม หรือเดี๋ยวมันจะผิดปกติ โดนจับทางได้....อะ

คะ น่าจะย่อนิดหน่อย 1089.xx นะคะ  สังเกตุ จุดต่ำสุดลอยสูงขึ้นเรื่อยๆ วันละ สามเหรียญ วันศุกร์ที่แล้วต่ำสุด 1086 กว่าๆ

ถ้ามองจากกราฟ กราฟทำ EvE  หรือ โค้งหลังคา (ก่อนหน้าล้มเหลว มาสามครั้ง จึงเป็นการฟอร์มตัวที่เรียกว่า AB=CD)  ตอนนี้ขึ้นมาในระดับ 1.618AB แล้วโดยอาจมียอดโค้งประมาณ 1115 (อ พอล เคยมีตัวเลข 1117)

ประเมินต่ำๆ 1115 - 1090 = 25 เหรียญ ไม่เบาเลยนะคะ ระดีบนี้


Zero Zone = 1090 - 1097
หลุด 1089 ชอตไปหา 1080
หลุด 1097 ลองไปหา 1110.5x

วันนั้นที่เค้าเททอง อ่องกง เดินกราฟ สะเปะสะปะ ไปหมด  การขึ้นของทองในวันนั้นไม่ได้ขึ้นเพราะแรงซื้อ แต่เป็นขีด กระโดดขึ้น กระโดดลง ตามอัตราแลกเปลี่ยน ทำให้เกิดแกปพรุ่นไปหมด ทั้งวัน นับแต่เริ่มเทรด แล้วการเททองก้ออุบัติขึ้น ในตลาดลอนดอนควบนิวยอร์ค

ถ้ามองจากกราฟ กราฟทำ EvE  หรือ โค้งหลังคา (ก่อนหน้าล้มเหลว มาสามครั้ง จึงเป็นการฟอร์มตัวที่เรียกว่า AB=CD)  ตอนนี้ขึ้นมาในระดับ 1.618AB แล้วโดยอาจมียอดโค้งประมาณ 1115 (อ พอล เคยมีตัวเลข 1117)

ประเมินต่ำๆ 1115 - 1090 = 25 เหรียญ ไม่เบาเลยนะคะ ระดีบนี้


Zero Zone = 1090 - 1097
หลุด 1089 ชอตไปหา 1080
หลุด 1097 ลองไปหา 1110.5x

(http://img21.imageshack.us/img21/9123/icyk5.jpg)

ขอบคุณ .. คุณ Icy มากครับ

ที่กรุณา "นำข่าว IMF ขายทองให้อินเดีย" มาช่วยวิเคราะห์ .. "ในมุมมองของคุณ Icy"

พอดี .. ยังขาด "ข่าวชิ้นสำคัญ" ซึ่งก็คือ  เบื้องหลัง "การเชื่อมโยง . อเมริกา กับอินเดีย"

ซึ่ง จากข่าว "IMF เลือกที่จะขายทองให้อินเดีย"

จึงกลายเป็น .. "ข้อพิสูจน์ ในสมมุติฐาน" ที่ผมนำ "Jigsaw" เหล่าๆนี้ .. มาให้เพื่อนๆ คิดวิเคราะห์ข่าวกัน


http://news.thaiza.com/%E0%B8%AE%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%A2%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A2%20%E0%B8%96%E0%B8%81%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%B3%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B6%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B5_1212_156971_1212_.html

http://search.speedbit.com/searchresults.asp?site=web&prevsite=web&q=%E0%B8%AE%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%88+%E0%B9%84%E0%B8%9B%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A2&client=pub-1734327923886716&forid=1&channel=9518150362&ie=UTF-8&oe=UTF-8&cof=GALT%3A%23008000%3BGL%3A1%3BDIV%3A%23336699%3BVLC%3A663399%3BAH%3Acenter%3BBGC%3AFFFFFF%3BLBGC%3A336699%3BALC%3A0000FF%3BLC%3A0000FF%3BT%3A000000%3BGFNT%3A0000FF%3BGIMP%3A0000FF%3BFORID%3A11&hl=en&sa=Google+Search


* IMF จะขายทองได้ .. ต้องได้รับการอนุมัติจากประเทศสมาชิก และสภาคองเกรสสหรัฐ และต้องใช้ "Schdule" ที่ระบุรายละเอียดหรือกำหนดการขายทองและระยะเวลา  ที่ออกโดย "สภาคองเกรสของสหรัฐ" .. ในฐานะที่เป็น "ผู้ถือเสียงข้างมาก 17%" ในกลุ่มประเทศสมาชิก IMF


ดังนั้น  "การที่ IMF .. เลือกที่จะขายทองให้อินเดีย"
จึงเชื่อมโยงไปถึง "นโยบายทางเศรษฐกิจของอเมริกา" อย่างหลีกเลี่ยงมิได้



P.12 : " ..This provision means that the United States, with a voting share of over 17 percent, retains the only single-country veto over major IMF decisions, including any decision that would reduce its voting power and increase or decrease that of other countries. .."

P.2 : " .. the fact that the position of IMF Executive Director has always been reserved for a European, U.S. possession of a formal veto over important categories of IMF decisions, problems with the way developing country are represented on the Fund?s Executive Board ? to foster perceptions of systematic unfairness..."

REFORMING THE IMF?S WEIGHTED VOTING SYSTEM
http://www.g24.org/Rapkin.pdf

ขอบคุณ อ มาโนชมากคะ สำหรับข้อมูล เพิ่มเติม

อ่านเจอ ตรงนี้ สดุดเลย เมกา กำลังสร้างภาวะตึงเครียด ในด้านการสงครามในภาค เอเซีย


ฮิลลารี คลินตัน กับรมว.ต่างประเทศอินเดีย เอส.เอ็ม. กฤษณะ



       รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ฮิลลารี คลินตัน ลงจากเครื่องบินในเมืองมุมไบเมื่อวันศุกร์(17) เพื่อเริ่มการปรึกษาหารือทางการเมืองในระดับสูงครั้งแรก ระหว่างคณะรัฐบาลบารัค โอบามากับอินเดีย นับแต่ที่โอบามาเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีในเดือนมกราคมที่ผ่านมา
      
       คลินตันไม่ได้มีกำหนดนัดหมายเร่งด่วนอะไรเลยในมุมไบ แต่เธอก็ยังใช้เวลาระยะหนึ่งก่อนจะมาถึงกรุงนิวเดลีในวันอาทิตย์(19) เธอกล่าวย้ำว่าคณะรัฐบาลโอบามามุ่งหวังที่จะมีความสัมพันธ์แบบพื้นฐานกว้างขวางกับอินเดีย โดยที่จะไปไกลกว่า "การเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์" ซึ่งโดดเด่นด้านการทหาร แบบที่คณะรัฐบาลจอร์จ ดับเบิลยู บุช มุ่งมาตรปรารถนา และนิวเดลีเองก็คุ้นเคยเป็นอันดี
      
       เห็นได้ชัดว่าโอบามาปรารถนา "ความสดใหม่" ในความเป็นหุ้นส่วนระหว่างสหรัฐฯ-อินเดีย ทว่าพวกนักยุทธศาสตร์ของอินเดียยังคงวนเวียนอยู่ในความเชื่ออันงดงามซึ่งทนุถนอมกันไว้ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา ที่ว่าอนาคตของความเป็นหุ้นส่วนระหว่างสหรัฐฯ-อินเดียนั้นวางอยู่บนพื้นฐานที่สองประเทศกำลังก้าวเดิน "เคียงบ่าเคียงไหล่กัน" ในแง่ของการมี "วิสัยทัศน์" ร่วมกัน
      
       มองจากฝ่ายอินเดียแล้ว "วิสัยทัศน์"ดังกล่าวนี้หมายความว่า สหรัฐฯยอมรับความสำคัญลำดับสูงสุดของอินเดีย ในฐานะที่เป็นมหาอำนาจทางทหารอันดับหนึ่งในภาคมหาสมุทรอินเดีย และมุ่งช่วยเสริมต่ออินเดียให้แข็งแกร่งขึ้นอีก เพื่อเป็นชาติเอเชียรายหนึ่งที่จะคอยถ่วงน้ำหนักจีนเอาไว้ "วิสัยทัศน์"เช่นนี้ทำท่าไปได้สวยงามทีเดียวในยุคของบุช อินเดียได้ดำเนินการสิ่งที่เหมือนกับการฝึกซ้อมทางทหารกับสหรัฐฯถึง 50 ครั้งในระหว่าง 5 ปีที่ผ่านมา
      
       ทว่าโอบามามีการจัดลำดับความสำคัญที่แตกต่างออกไป อเมริกาที่เขารับมรดกมามีเรื่องที่ถือว่าสำคัญแตกต่างไปจากเดิมแล้ว โลกก็เช่นกันได้เปลี่ยนแปลงไปภายหลังการทรุดตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก คลินตันจึงกำลังกระทำภารกิจทางการทูตในฐานะผู้นำข่าวสารอันน่าตื่นตระหนกมายังนิวเดลี
      
       ความสัมพันธ์สหรัฐฯ-อินเดียในเวลานี้มีลักษณะคล้ายๆ การแต่งงานอยู่เหมือนกัน นั่นคือคู่ครองฝ่ายหนึ่งเกิดต้องการที่จะมีที่ทางของตนเองขึ้นมาบ้าง สำหรับสหรัฐฯแล้ว ความเป็นจริงที่หนักแน่นแน่นอนก็คือ ปากีสถานต่างหากที่จะเป็นหมากตัวศูนย์กลางในการดำเนินนโยบายระดับภาคต่อเอเชียกลางและต่ออ่าวเปอร์เซียในช่วงเวลาต่อจากนี้ไป
      
       ฝ่ายอินเดียตั้งความหวังว่าจะเสนอหลักเหตุผลอันน่าเชื่อถือทั้งหลายต่อคลินตัน เพื่อให้เข้าอกเข้าใจว่าทำไมสหรัฐฯและอินเดียจึงควรร่วมมือกันในฐานะหุ้นส่วน เพื่อกดดันปากีสถานให้ปรับปรุงแก้ไขผลงานที่ยังย่ำแย่ทั้งในด้านการก่อการร้ายระหว่างประเทศ และการแพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์ แต่แล้วคลินตันกลับแสดงท่าทีกระจ่างชัดแจ๋วว่า วอชิงตันกำลังชื่นชมผลงานของปากีสถานใน "สงครามต่อต้านการก่อการร้าย" และคลังแสงนิวเคลียร์ของปากีสถานก็ได้รับการรักษาเอาไว้อย่างแน่นหนาปลอดภัย พฤติกรรมในอดีตของกรุงอิสลามาบัดนั้นไม่เป็นไรหรอก สิ่งที่มีความหมายคือปัจจุบันต่างหาก
      
       อินเดียจะผิดพลาดมากหากมองเรื่องนี้อย่างไม่ถูกต้อง หัวใจของเรื่องนี้ก็คือ สหรัฐฯไม่สามารถยินยอมให้ฝ่ายที่สามใดๆ มารบกวนกิจการอันสำคัญยิ่งยวดของตน ที่จะมีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับอิสลามาบัดในการทำให้อัฟกานิสถานกลับมีเสถียรภาพ โดยผ่านการสนทนาพูดจากับพวกตอลิบาน ดังที่โฆษกของฝ่ายทหารปากีสถานได้บอกกับซีเอ็นเอ็นระหว่างการให้สัมภาษณ์เมื่อเร็วๆ นี้ว่า ต้องเป็นฝ่ายข่าวกรองปากีสถานนั่นแหละจึงจะสามารถนำเอาพวกแกนนำหัวแข็งกร้าวของตอลิบานอย่างเช่น มุลลาห์ โอมาร์ และ จาลาลุดดิน ฮักกอนี เข้าสู่โต๊ะเจรจากับสหรัฐฯได้
      
       ยิ่งกว่านั้น ในขณะที่เกมแข่งขันช่วงชิงอำนาจในเอเชียกลางกำลังดุเดือดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งถ้าหากสถานการณ์เกี่ยวกับอิหร่านก็ยังคงมีความสำคัญยิ่งยวดแล้ว ปากีสถานย่อมกลายเป็นหุ้นส่วนสำคัญที่สุด การที่ปากีสถานถูกดึงเอาไปผนวกกับองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือแม้จะเป็นไปอย่างไม่เนียนและไม่ราบรื่น แต่ก็เป็นหลักฐานชี้ชัดถึงจุดนี้ โชคร้ายที่ฝ่ายอินเดียกลับไม่เข้าใจแผนการเช่นนี้
       
       ในปัจจุบัน นโยบายระดับภาคของอินเดียกำลังมาถึงจุดต่ำสุด และอิทธิพลของอินเดียที่มีต่อเอเชียกลางก็แทบจะเท่ากับศูนย์
       
       เป็นเรื่องน่าเย้ยหยันที่ในระยะไม่กี่ปีหลังมานี้ นิวเดลีได้พยายามทำทุกอย่างเพื่อทำให้นโยบายต่อภาคของตนสามารถประสานสอดคล้องเข้ากับนโยบายของสหรัฐฯ อินเดียตอบสนองต่อสงครามเย็นครั้งใหม่ที่ปะทุขึ้นมาด้วยการทำตัวเหินห่างจากรัสเซีย ผู้เป็นพันธมิตรเก่าแก่ของตน อินเดียตอบสนองต่อความขัดแย้งสหรัฐฯ-อิหร่านในกรณีโครงการนิวเคลียร์ของเตหะราน ด้วยการทำให้สายสัมพันธ์อันใกล้ชิดและเป็นมิตรที่มีอยู่กับอิหร่านต้องโรยราลง อินเดียตอบสนองยุทธศาสตร์ปิดล้อมจีนของสหรัฐฯ ด้วยการยอมรับเห็นพ้องกับแนวความคิดอันประหลาดในเรื่องพันธมิตร 4 ฝ่ายกับสหรัฐฯ,ญี่ปุ่น, และออสเตรเลีย
      
       แล้วความสัมพันธ์สหรัฐฯ-อินเดียจากนี้จะเดินต่อไปทางไหน? นิวเดลีนั้นแทบไม่มีทางเลือกตลอดจนมีความโน้มเอียงน้อยมากที่จะปรับเปลี่ยนถอยออกจากนโยบายการต่างประเทศที่ถือสหรัฐฯเป็นศูนย์กลางเช่นนี้ ชนชั้นทางการเมืองของอินเดียไม่ว่าจะในพรรคคองเกรสที่กำลังเป็นรัฐบาล หรือพรรคภรติยะ ชนะตะฝ่ายค้าน ตลอดจนสื่อมวลชนของบริษัทใหญ่ในอินเดียและชนชั้นกลางทั้งหลาย ก็ล้วนแต่ "นิยมสหรัฐฯ" ทั้งสิ้น
      
       (เก็บความตัดทอนจากเรื่อง Clinton delivers unwanted tidings to New Delhi
       เขียนโดย M K Bhadrakumar อดีตเอกอัครราชทูตอินเดียที่เคยประจำอยู่ในหลายประเทศ อาทิ สหภาพโซเวียต, เกาหลีใต้, ศรีลังกา, เยอรมนี, อัฟกานิสถาน, ปากีสถาน, อุซเบกิสถาน, คูเวต, และตุรกี)




ที่มา http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrview.aspx?NewsID=9520000082594

ข้อมูลจาก Manager Online

 :o :o :o  สองปรมาจาร์ย

อินเดีย นิยม เมกา มานาน และทำให้คนอินเดีย มีความรู้ความสามารถ เพิ่มพูน ในด้าน เทคโนโลยี (ที่เริ่ม มาพร้อมๆ กับจีน ในยุค บุกเบิกไอที) จนปัจจุบัน อินเดีย สามารถยิงจรวดส่งดาวเทียมได้ และ มีความสามารถเชิงนิวเคลียร์ ทังด้านพลังงาน และ อาวุธ


เมกา จึง เลือกอินเดีย เป็น จุดยุทธศาสตร์ และ เป็นปราการแนวต้าน ต่อ การสงคราม กับ จีน อิหร่าน โดย มี ปากีสถาน เป็นแนวหน้าของอีกฝ่าย

แต่ ปัจจุบัน เมกา ต้องการผนวก ปากีสถานเข้ามาเป้นพวก จึงอยากพยายามเกลี้ยกล่อม อินเดีย อาจโดยการเอาใจ โดยขายทองให้เพื่อมีศักยภาพ เอาไปปันได้ในตลาดโลก



และ ไทยเอง เป็นจุดยุทธศาตร์ ในด้าน กำลังหนุน แต่โดนย้ายฐานไปอยู่ ฟิลิปปินส์  

อาจไม่คาดฝัน IMF อาจมาเจรจา ติดต่อขายทองให้ไทยสัก 100 ตัน พร้อมแผน ให้เงินถู้ยืม ซึ่งไทย กำลังมีความต้องการเงินอย่างยิ่งยวด จึงรีบใช้งบให้เกลี้ยง ก่อน พฤศจิกา  เพื่อรองรับเงินระลอกใหม่จาก IMF อีกเป็น หลายล้านๆๆๆๆ 

มิน่า มิน่า ไทย กะ จุดจุดจุด  หนีสิ้นล้นฟ้า กำลังมาเยือนไทย นี่เอง

เข้ามาขอบคุณคุณไอซี่เช่นเดิมค่ะ  ขอแอบฟังแอกเก็บและจดๆๆๆๆๆ นะคะ  ;) ;)  ตอนนี้ก็เดิมที่มีตั้งใจไม่ขายแล้ว  อิอิ ตั้งตาตั้งตาเก็บลูกเดียว   ;D ;D

ทานข้าวเช้าก่อน คะ อิอิอิ

รบกวนคุณไอซี่นิดนึงนะคะ  ถ้าทองขึ้นได้ขนาด 3-4หมื่นต่อบาท แสดงว่าน้ำมันต้องถูกลากไปด้วยรึป่าวคะ  เพราะปกติทองกับน้ำมันจะไปด้วยกัน  เบนเข้าใจถูกรึป่าวคะ  :)

คุณไอซ์ค่ะ งั้นทยอยเก็บดีมั้ยค่ะ ทองแท่งค่ะ :) :) :)

น้ำมัน กำลัง ลด บทบาทตัวเองลง สำหรับยานยนต์ เดือนก่อน ดูข่าว ที่เมกาเปิดตัว เอารถพลังงานแสงอาทิตย์และไฟฟ้า ออกมาฉายให้ดู รถคันเล็กมากคะ เล็กกว่า แจส อีก นั่งได้ สองคนมั้งคะ (กำลังคิดว่า ถ้าเป็นครอบครัวจะทำอย่างไร และถ้าต้องใช้เพือการขนส่งจะทำอย่างไร)

สองอาทิตย์ก่อน เห็นสารคดี แนชชั่นแนล ออกมาอีก สอนวิธีเติมพลังงานไฟฟ้าให้กับรถ แค่เสียบปลั๊ก

ยังมีทีเด็ดสุดยอด เอาน้ำ มาใช้ ซึงคง เป็น สินค้ารุ่นต่อไปนะคะ (จริงๆ ซาอุซื้อลิขสิทธิ์นี้ ไปจาก มหาลัยควีนแลนด์ ที่ออสเตรเลีย เมื่อ สามสิบปีที่แล้ว)

รถที่ว่า วิ่งได้ _60 ไมล์ต่อ ชมคะ


ดังนั้น ประเทศในกลุ่ม กำลังพัฒนา อาจต้อง พึ่ง น้ำมัน เพื่อการบรรทุกขนส่งไปอีกระยะ โลก อาจมีการจำกัด การใช้พลังงานน้ำมัน เป็นบางพื้นที่  เราเองเลยเป็น เป้าหมาย ของกลุ่มอาหรับ


เมื่อเราต้อง พึ่งพาน้ำมัน ในขณะที่ ประเทศที่พัฒนาแล้วไม่ต้องพึ่ง น้ำมัน อาจมีราคาแพง โดยไม่สนใจได้อีก เพราะดีมานด์อยู่ที่ ประเทศโลกที่สาม ซึ่งอาจสามารถ มีให้ใช้ได้อีก เป็น ร้อยๆๆๆ ปี ในขณะที่ประเทศที่พัฒนาแล้ว เลิกใช้น้ำมันไปแล้ว อย่าง บัฟฟเฟต เข้าซื้อกิจการรถไฟ เป็นเรี้องไม่ธรรมดา การขนส่งของ เมกา อาจไม่ต้องพี่งพาน้ำมันอีกต่อไป อาจกลับมาใช้ พลังงานแสงอาทิตย์ + พลังงานลม + พลังงานนิวเคลียร์ + พลังงานความร้อนใต้ภิภพ ดังนั้น ธุรกิจโฉมใหม่และยิ่งใหญ่ของการรถไฟ เมกากำลังจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง


คะ น้ำมันจะแพงมากในอนาคต แต่มีแต่พวกเราคะ ที่เขา บังคับให้ซื้อ แหะๆๆๆๆ

ไงก็ต้องทนล่ะค่ะ เพราะเราไม่มีบ่อน่ำมันเองอ่ะ

ตอนนี้!  เรามักจะเห็นข่าว  การกีดกันทางการค้า / Protectionism

ที่อเมริกา .. กำลังขึ้นภาษี .. สินค้าที่ส่งมาจาก จีน

อินเดีย .. จึงกลายเป็น "ตาอยู่" ทางการค้า

ที่แลกกับ .. การเป็น .."ฐาน" ที่อเมริกา .. จะรุกคืบ เข้าไปใน ปากีสถาน ฯ


จึงเป็นเรื่อง .. "ผลประโยชน์ .. ต่างตอบแทน"


แต่ที่ .. แน่ๆ!

ปริมาณทองคำ ของ IMF จะลดลง 200 ตัน .. ในขณะที่ .. ราคาทองคำ กำลังพุ่งขึ้นสู่ระดับ 11xx

นี่คือ  .. บทสรุป!  ของการที่อินเดีย ซื้อทองจาก IMF

(แต่ จะมีการจ่ายเงินกันจริงหรือเปล่า? .. เท่านั้น
หรืออาจจะกลายเป็น .. อินเดีย แอบเทขายทอง 200 ตัน ที่ 11xx ?
ผลก้ไม่แตกต่างกัน .. )

GoldTeller 
Member   Join Date: Jul 2008
Posts: 970 
 
 

--------------------------------------------------------------------------------

Quote:
Originally Posted by winterymix 
All this talk of Elliott Waves is fine and good but perhaps we should discuss market temperament.

Specifically, when market psychology flips and everyone heads for the door, you already want to be out. If not, it is too late.

I'm shorting the market like a maniac and loosing on paper; hope it flips and works out!


Okidoki

China informed that the POG is too high, and turn to buy directly from mine sources!


Some say India bought gold with too high price (But India sold US tressuries in low price while buy back gold in hign price from US) - that mean US bought cheap thing back and sold expensive in return!


SriLanka need to reserve more gold because India cut rate and will bright Rupee down with IMF support by Loan (mean more debt visit Srilanka)



All are funny but I dont see why US are in crisis situation at all - more day past , richer US is!


Europe and Asia, instead, are being in creating big big big and big Bubble! how to say!!!

but this bubble wont stop yet while I expose this - US still keep pump this Bubble Hahaha

ขอบคุณมากๆเลยค่ะคุณไอซี่  ;)   แสดงว่าทั้งน้ำมันและทองยังเป็นสิ่งที่น่าจับตาและสะสม ;D ;D อิอิ  ตอนนี้น้ำมันน่าเก็บรึยังคะ   ::) เบนรอ 75ค่ะ เป้าหมายยังประมาณนี้รึป่าวคะ หุหุ รบกวนอีกแล้วววว :P  ขอบคุณล่วงหน้าเลยค่ะ

ห้าห้าห้า เห้ฯ เจ้ามือ กำลังทะยอยเก็บนะคะ โดย ซื้อมาจากแหล่ง ลุกค้า ของตัวเอง

ผู้ซัพพลาย กำลังไล่ซื้อ แต่ ผู้บริโภค กำลังเร่งขาย  .... ตลกดี นะคะ

สวัสดีค่ะน้องไอซ์ และเพื่อนๆที่รักทุกๆท่านค่ะ
 อื้ม... ฟังดูแล้วตลกดีเหมือนกันค่ะ

ไอซี่เอง ก้อ อยากช่วยให้ ชาวไทยเรา มากินกำไร จากเมืองนอก แทนที่จะโดน คนไทยกันเล่น เล่นกันเอง

ไม่ถูกเรื่องเลย แบบนี้จะยกระดับ คนไทยได้อย่างไร


มาคุยเรื่อง Zero Zone กันดีกว่าคะ จะบอก เทคนิค โดยสังเขปให้ คะ

กราฟ เคลื่อนตัว ของกราฟ แบ่งเป็นสองแบบ คือ การสวิง และการเบรคแตก โดยมีเงือนไข จะต้องตัดขาดทุน หรือ กำไร เมื่อถึงจุดเบรคแตก ทุกครั้ง


การเล่นแบบสวิง

(http://img691.imageshack.us/img691/9864/icyd10.jpg)

พื้นที่สีเทา เราเรียกมันว่า Zero Zone เป็นพื้นที่ที่เจ้ามือดึงราคาหนีมา เพื่อให้ เงินในกระเป๋าเจ้ามือเป็น บวก หรือ อย่างน้อยเป็นศูนย์ โดยมีกลุ่มเหยื่อหรือ กลุ่มเป้าหมาย คือนักลงทุนรายย่อย และสายป่านสั้น

วิธีการเล่น คือ หาแนว ฝากล่อง กับก้นกล่อง 

• เข้าชอตที่ตำแหน่งฝากล่อง ตามลูกศรสีแดง ตัดขาดทุนเหนือตำแหน่งฝากล่องประมาณ 2 -3 เหรียญ
• เข้าลองที่ตำแหน่งก้นกล่อง ตามลูกศรสีเขียว ตัดขาดทุนตต่ำกว่าตำแหน่งก้นกล่องประมาณ 2 -3 เหรียญ

แต่ก่อน เล่น หาขนาด กล่องก่อน ว่า สูงพอคุ้มกับการลงทุนไม๊ ถ้าไม่คุ้ม รอ เล่นแบบ เบรคแตกดีกว่า หากกล่องใบเล็กไป

*** และที่สำคัญ ต้อง ตัดขาดทุน ตามนั้นทุกประการ

การเล่นแบบ เบรคแตก

(http://img691.imageshack.us/img691/4346/icyd11.jpg)

เมื่อรุ้ว่า กล่อง Zero Zone อยู่ตรงไหน การเบรคมักมีขนาดถึง 20 - 30 - 50 - 80 เหรียญ เลยทีเดียว

• เรากำหนดจุดเบรคแตกทีฝากล่อง ในการเข้าลองสูงกว่าจุดเบรคแตก สัก 1 - 3 เหรียญ ตัดขาดทุนที่ตำแหน่งฝากล่องต่ำลงมาสัก 1-3 เหรียญ
• เรากำหนดจุดเบรคแตกทีก้นกล่อง ในการเข้าชอตต่ำกว่าจุดเบรคแตก สัก 1 - 3 เหรียญ ตัดขาดทุนที่ตำแหน่งก้นกล่องสูงขึ้นมาสัก 1-3 เหรียญ

เช่นเดียวกัน ต้องมี วินัย ในการตัดขาดทุนอย่างยิ่งยวด อย่าไปเสียดายเงินตัดขาดทุนแค่ 3 - 5 เหรียญ ไม่งั้นโดนลาก 50 -100 เหรียญ จะ กระอัก

ขอบคุณครับคุณไอซ์ ;D ;D ;D

การหา ขนาดกล่อง ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน

เมื่อกราฟมีการเบรคแตก มาครั้งหนึ่งแล้ว จะ อาศัยเวลาสักพัก ในการสร้างกล่องใบใหม่ กล่องใบใหม่ที่กำลังสร้างขึ้น สำหรับนักเล่นสวิงจะชอบมาก แต่การลงทุนจะเพียว 1 ในสิบของการลงทุน แบบแบรคแคก

เพราะว่า การเล่นสวิงมีความเสี่ยงกว่า การเล่นแบบเบรคแตก ถึง 10 - 100 เท่า ต้องมองเทคนิค ได้ดี จริงๆ ถึงเอาตัวรอดจากการเล่นสวิงได้


ถ้าท่านไม่ได้มีเงินหลัก สิบล้าน ร้อยล้าน หรือ พันล้าน ท่านไม่ได้อยู่ในข่าย ของนักลงทุน ที่มีสายป่านยาววววว ไกลลลลลล ในการเก็บทรัพย์สิน หรือ รักษาทรัพสินย์นั้นๆ ท่านจะเป็นเพียงนักเทรด ขาจรเท่านั้น

และเมื่อท่าน รู้ ว่าท่านคือใคร มีสถานะภาพเช่นไร ควรจะเลือกลงทุนให้เหมาะสม กับ ทรัพย์สินของท่าน อย่าริอาจไปคิด แบบขาใหญ่เด็ดขาด สายป่านมันคนละชั้นกัน


เทคนิคที่ไอซี่เอามาเขียนข้างต้น ได้อ่านๆมา จากหนังสือ หลายเล่ม ประกอบกันคะ และ มาสรุป ว่า ฝรั่งเขาเล่นกันอย่างไร และทำไมเขามีวินัยอย่างมาก ในเรื่องการตัดขาดทุน หรือ ตัดกำไร

ตำแหน่งตัดขาดทุนหรือตัดกำไร มักเป็นไปตามตัวเลข ฟิโบ เช่นกันคะ

เช่น เทรนแข็งแกร่ง หน่วยของการตัดกำไรที่ 5 7 8 9

เทรนที่ไม่แข็งแกร่ง หน่วยการตัดกำไรที่ 1 2 4 (อย่ารอ 5 เด็ดขาด)


เพียงแค่นี้ แมงเม่า อย่างเราๆ น่าจะ หาเงินจากเมืองนอกได้ ปีละ ล้านสองล้านนะคะ มาเป็น ค่า ทำสวนครัวหลังบ้าน


อิอิอิ

รวยๆ คะ ทุกๆ ท่าน

(http://img682.imageshack.us/img682/1458/icyd12.jpg)

เอามาจากกระทู้ อ มาโนช คะ


เขาวิเคราะห์กันว่า รายสี่ชม คือปลายคลื่น 5 ซึ่งน่าจะกลับทิศเป็นลง

และเนื่องจาก กล่อง Zero Zone ที่ผ่านๆ มา มีขนาดประมาณ 25 - 30 เหรียญ ถ้าเราคิดว่าก้นกล่องอยู่ที่ 1082

เราจะได้ฝากล่องที่ 1082 + 30 = 1112


ดังนั้น การขึ้นครั้งนี้ มีโอกาสที่ยังขึ้นไม่สุด  ถ้าเป็นคลื่น 5 ย่อยจริง  การกลับตัวจะเป็นเพียงการย่อ มาหาก้นกล่อง หรือ สูงกว่าก้นกล่อง ประมาณ 1087


ด้วยสมมิตฐานนี้ เราจะกำหนด การเล่นสวิงและ การเล่นเบรคแตกดังนี้

การเล่นสวิง

ชอตที่ 1094 - 1098 ตัดขาดทุนที่ 1102

เข้าลองต่ำแหน่งที่ 1 ที่ 1087 และตำแหน่งที่สองที่ 1082 ตัดขาดทุนที่ 1079

และถ้าลงมาอีกหลังจากตัดขาดทุน เข้าลองใหม่ที่ 1072 ตัดขาดทุนที 1069 (ณ จุด 1070 - 1079 เราจะยังไม่ชอต เนื่องจาก ยังคงอยู่ในแนวรับของเทรนไลน์หลัก)

ถ้าพลาดทั้งหมด รอการเล่น เบรคแตก ดังนี้

การเล่นเบรคแตก

เข้าชอต เมื่อหลุด 1068 ตัดขาดทุน 1073

หรือ เข้าลอง เมื่อหลุด 1102.5 ตัดขาดทุนที่ 1098.5


เนื่องจากเทรนขาขึ้นแข็งแกร่ง  ตัดกำไรในหน่วย 1 2 4 5 7 8 9 11 ตามสมควร

และสำหรับการชอตนั้น ตัดกำไร ที่ระดับ หน่วย 1 2 4 เท่านั้น





Anti-Trend หรือ สวนกระแส

การเล่นสวิง

• ลองที่ 1094 - 1098 ตัดขาดทุนที่ 1088
• เข้าชอตต่ำแหน่งที่ 1 ที่ 1087 และตำแหน่งที่สองที่ 1082 ตัดขาดทุนที่ 1092

[/list]

ขอบคุณค่ะคุณไอซ์

ขอบคุณครับ^^

(http://i7.photobucket.com/albums/y275/Lanahans/GoldEW7-27-09ExtB.jpg)
11-04-2009, 05:56 AM  
 Quad G  

(http://img42.imageshack.us/img42/155/031109.png)
พฤศจิกายน 04, 2009, 09:46:11 AM

จากราฟ ควอทจี เมื่อ เดิอนเมษา จุด เบรคแตกใหญ่ที่ 1127 .....จุดระวังภัย 1

(http://i7.photobucket.com/albums/y275/Lanahans/GoldEW7-27-09ExtB.jpg)

เราเอา กราฟตัวเก่า ของควอทจี มาทำแผน ดีกว่า คะ เขาวางไว้ตั้งแต่เดือน เมษา

มองสองทาง  ทดสอบแนวต้าน 1127   แล้วรอ การเบรค ไปหา 1200 หรือ 807

จาก ระยะ 1347 - 1127 = 220
และ ระนะ 1127 - 907  = 220
ขอแก้ตัวเลขตามสีแดงคะ

ระยะทางเท่ากัน


ดังนั้นอาจมีความเป็นไปได้ ที่จะ ทำ AB=CD โดยการลงไปที่ 900 ก่อน แล้วสะท้อนกลับมาที 1340 ภายในระยะเวลา 8 เดือนนับจากนี้

แต่เราจะไม่เสี่ยงใดๆ

เข้าลอง เมือทะลุ 1127
เข้าชอต เมือทดสอบ 1127 แล้วไม่ผ่าน

(http://img33.imageshack.us/img33/2344/goldsilvernov0309.gif)
กราฟของ ศ ซูริ เมือวันที่ 3 พฤศจิ

(http://img695.imageshack.us/img695/3473/gold60061109.png)

(http://img682.imageshack.us/img682/1458/icyd12.jpg)

(http://img21.imageshack.us/img21/9123/icyk5.jpg)

(http://img682.imageshack.us/img682/1458/icyd12.jpg)

ประกอบกับ กราฟตัวนี้เราเห็นแล้ว ว่า เป้าหมายการเบรค



เป้าหมายเบรคบน 1127

เป้าหมายเบรคล่าง 807

(http://i7.photobucket.com/albums/y275/Lanahans/GoldEW7-27-09ExtB.jpg)

 11-08-2009, 09:41 PM 
 Quad G 
Member   Join Date: Nov 2007
Posts: 3,925 

1127 is also a significant fibo level (127.2%), if 1112ish fails to turn gold around monday, then I'll refigure another position based on golds approach to 1127.


previous chart, showing 127.2% fibo level:


ควอทจี ได้นำกราฟนี้ กลับมาอีกครั้ง ตามที่ คาดเลย คะ

บทสรุป

ศ ซูริให้แนวต้านที่ 1111.5 ที่ 1.27AB
ควอทจีให้ 1127 ที่ฟิโบ 1.27

• จุดเบรคบน 1102.5 เป้าหมาย 1111.5 - 1127

.................................................

• ช่วงสวิง 1080 - 1090
  สำหรับ Zero Zone ย่อย
  
  • จุดเบรค 1095.5 เป้า 1111.5
  • ช่วงสวิง 1094.5 - 1087.5
  • จุดเบรค 1086 เป้าหมาย 1072

.................................................

• จุดเบรคล่าง 1069 เป้าหมาย 1049

โชคดี นะคะ ทุกๆคน เตรียมแผนรับมือ และแผนรุก กันให้แน่น นะคะ เพราะ 9 -11 พย จะดุเดือดมากๆ คิดถึงเรื่อง ตัดขาดทุนเป็นหลักนะคะ และ รีบทำกำไร เมื่อมีจังหวะคะ

รบกวนถามคุณicyว่าจะเทรดทองออนไลน์ได้จากไหนบ้างครับเพราะเบื่อที่เทรดกับแม่ทอง
เพราะส่วนต่างระหว่างซื้อ-ขายห่างกันตั้งแต่1.9-2.3เหรียญสูงสูดเคย3.5เหรียญแถมมีพรีเมี่ยม
ซื้อ0.2และขายอีก0.2เหรียญบวกค่าเงินบาทซื้อขายต่างกันอีกทำให้เวลาเราเข้าผิดทางแล้วจะออก
ขาดทุนเยอะครับ ขอบคุณครับ

แนะนำ เทรด กับ www.marketiva.com ก่อนคะ สามารถเริ่มจากทุน น้อยๆ ได้ ส่วนตาง 0.8 (แม้บางแห่ง จะมีส่วนต่าง 0.5 แต่ ของ Marketiva แพลทฟอร์ม เข้าใจง่าย และ บริหารพอร์ทได้ คล่องตัว คะ)

แกร่งกล้า แล้ว ค่อยไปเทรด กับ โบรค ระดับ กลาง ที่ต้องใช้ทุนสูงคะ

ขอบคุณครับถ้าภาษาไม่กระดิกสามรถเทรดได้มั้ยครับเค้ามีเจ้าหน้าที่แนะนำรึป่าวครับ

Asia To Emerge Sooner And Stronger From Downturn: IMF's Lipsky 

User Rating: / 0
PoorBest
Written by RTT News     
Wednesday, 21 October 2009 17:04 
(RTTNews) - Asian economies are set to emerge from the global downturn both sooner and stronger than any other region, the International Monetary Fund's First Deputy Managing Director John Lipsky said Tuesday.

Speaking at the Federal Reserve Bank of San Francisco Conference in Santa Barbara, California, Lipsky said Asia was doing well as reflected by its economic indicators. Inflation has virtually disappeared and employment losses were also more milder during the present downturn compared to previous ones, he said.

In its latest World Economic Outlook, the IMF projected the Asian economies to grow 2.75% this year and 5.75% next year. Moreover, the region's three fastest growing economies, China, India and Indonesia are expected to grow 8.5%, 5.5% and 4%, respectively this year. Although many economists and policy makers were of the view that Asia's remarkable recovery represents a decoupling from the rest of the world, Lipsky noted that the rebound so far largely reflected a return to normalcy of trade and finance flows.

The Asian economies took quick and forceful policy actions involving monetary easing, currency flexibility and in some countries, large fiscal stimulus, bigger than the G-20 average. Moreover, the region contributed to international capital flows and has in recent times also provided financial support to the IMF in turn to help other countries facing balance of payment problems.

However, Lipsky pointed out that with recovery still tentative and inflation levels remaining, a near term tightening of monetary policy would be premature for most countries. However, he made exceptions to Australia, India and China, where recovery was taking place rapidly. Moreover, he said the policy support measures should be continued until a durable recovery is seen.

With regard to the global economy, Lipsky said, "the worst has passed, and the healing process has begun." That said, he noted that "the global economy still faces considerable risks and challenges". The Washington-based IMF expects the global economy to expand 3.1% in 2010 after shrinking 1.1% this year.

In an interview to CNBC on Tuesday, Lipsky, the second top IMF official noted that the level of major currencies at present were not hampering a necessary recovery in global economy. However, in the long term they could play an important role, he said. Surplus countries may have to shift focus to internal demand and the deficit countries, the opposite, he said.

"There is a real danger that in the wake of the current crisis, there could be renewed wide-spread efforts to add to reserves." he warned in the speech at San Francisco Fed conference. "It is clear that if such efforts are pursued simultaneously, one result would be to dampen the global recovery." Further, Lipsky told CNBC that the IMF's biggest concern is a "successful handoff from public-sector demand to private- sector demand" in world economies.

In a conference at the Bank of Mexico on Monday, Lipsky said the challenge of restoring growth in the crisis would require revitalizing private demand and restoring fiscal sustainability. He noted that authorities in emerging market economies are likely to follow a cautious approach to further development of their financial systems, but there is little danger that they will turn back to earlier financial repression.
 

(http://u4.popcornfor2.com/show/1ZF4a605.jpg)

(http://www.kitconet.com/charts/metals/gold/2a-inr-us-30d-Large.gif)
(http://www.kitconet.com/charts/metals/gold/2a-gbp-us-30d-Large.gif)

(http://www.kitconet.com/charts/metals/gold/2a-euro-us-30d-Large.gif)

(http://www.kitconet.com/charts/metals/gold/2a-inr-us-60d-Large.gif)

(http://www.kitconet.com/charts/metals/gold/2a-euro-us-60d-Large.gif)

จากการเปรียบเทียบราคาทอง ในหลายๆ สกุลเงิน

พบว่า อินเดีย ไม่ได้ซื้อทองแพง เลย กลับกลาย เป็นว่าอินเดีย ได้ราคาทอง ที่จุดเข้าซื้อ เมื่อดีดออกจากสามเหลี้ยมในหน่วยสกุลเงินของรูปี

ทองในสกุลเงิน บราซิล กำลังเข้าจุด เข้าซื้อเช่นกัน ที่หน่วยดอลล่าร์ 1150

กลับกลายเป็นว่า ทองไทย ราคาแพงเกินจริงไปมาก อันเนื่องมาจาก การพยุงค่าเงินดอลล่าร์ในประเทศ ทั้งที่ ดอลล่าถูก ขนาดนี้


ลอยตัว ดอลล่าร์เมื่อไหร่ คงต้องมีการปรับ ราคาทอง กันขน่านใหญ่ (ถ้าไม่ละก้อ  ฟองสบู่ โตๆ เลย แหละ )

(http://www.forexjournal.com/images/stories/demo/JulJoe/dxy10_30_jpg_49632477_opt.jpg)

(http://www.dailyfx.com/export/story-images/2009/10/technical/article/morning_slices/dxyslices11.5.jpg_49632477.jpg)

Greenback Remains Under Pressure Ahead of Event Risk
Thursday, 05 November 2009 20:07 Joel S. Kruger  E-mail
It has mostly been a session of consolidation with market participants content on taking to the sidelines ahead of the much anticipated event risk this morning in the form of the BoE and ECB rate decisions. While the ECB should generate less attention and is expected to maintain its same line on the outlook for the Eurozone economy, the UK event risk should generate some more volatility, with traders anxiously waiting to see what the MPC does with its quantitative easing measures. MORNING SLICES

Fundys ? It has mostly been a session of consolidation with market participants content on taking to the sidelines ahead of the much anticipated event risk this morning in the form of the BoE and ECB rate decisions. While the ECB should generate less attention and is expected to maintain its same line on the outlook for the Eurozone economy, the UK event risk should generate some more volatility, with traders anxiously waiting to see what the MPC does with its quantitative easing measures. Data in the European session was quite mixed, with Swiss SECO impressing, while Swiss CPI was bang on consensus. In the UK, industrial production and manufacturing output were above forecast, while in the Eurozone, retail sales was much weaker. Some pre-release rumors of solid UK industrial production ended up mitigating any of the positive Sterling reaction to the local data. Also in the UK, ex-BOE ultra-dove Blanchflower did not holding back ahead of this morning?s BOE rate decision after saying that the MPC?s ?feeble six? needed to shape up and increase QE today by at least GBP50B. Blanchflower has been very critical of the MPC?s decision making and contends that the central bank has not been accommodating enough and has put the economy at risk as a result.    

Relative Performance Versus USD on Thursday (As of 10:15GMT) ?

1)    YEN               +0.63%
2)    STERLING    -0.07%
3)    CAD               -0.08%
4)    EURO            -0.11%        
5)    SWISSIE       -0.17%
6)    AUSSIE         -0.27%    
7)    KIWI              -0.64%

So far, Kiwi is the biggest loser on the day with some weaker than expected employment data (9 year high for unemployment rate at 6.5%) fueling additional liquidation of the higher yielding currency, while some very downbeat comments from RBNZ Bollard have not helped matters. The governor has said that the market is not recognizing New Zealand?s dull recovery and that the smaller economy can not be compared to its much more diverse Australian cousin. Meanwhile in Australia, while the headline trade balance numbers were slightly better, market participants were not happy with the downward revision to the previous print and deterioration in the data series. Also weighing on the Australian Dollar was the news that the country plans on imposing a 16% provisional dumping duty on Chinese aluminum extrusions.

Volatility and price action should only pick up from here with the rest of the week loaded with key event risk and economic releases, highlighted with today?s BOE and ECB rate decisions, and Friday?s US NFPs. Looking ahead to the North American session, the BOE and ECB rate decisions kick things off at 12:00GMT and 12:45GMT respectively. Canada building permits (1.6% expected) are due at 13:30GMT, along with US non-farm productivity (6.5% expected), unit labor costs (-4.2% expected), initial jobless claims (522k expected), and continuing claims (5750k expected). Canada is back on the calendar at 15:00GMT with the release of Ivey PMI (58.0 expected). Finally, US chain store sales caps things off at 16:00GMT. US equity futures are pointing to an flat open, while commodities are slightly offered.

Techs - EUR/USD The market has now entered a period of consolidation which we contend to be a bearish consolidation  in light of the previous weekly bearish reversal. While we did not expect to see gains extend beyond 1.4860, the recent break above this level has been met with some stiff resistance and the market has failed to close above. This keeps the bearish consolidation prospects intact, in favor of an eventual break back below the 50-Day SMA and key short-term lows at 1.4625. Ultimately, only back above 1.4970 which represents the 78.6% fib retracement off of the 1.5060-1.4625 move, would negate outlook and give reason for re-think. USD/JPY The pair has been unable to gain any upside momentum from the rally out from the 88.00 recent base with the market once again rolling over on Wednesday to put in a very prominent bearish outside day. This now suggests that a lower top is in place by 91.25 ahead of some renewed weakness back towards 88.00 over the coming sessions. A break below 88.00 should then accelerate declines to challenge critical support at 87.15. Only back above 92.30 would negate bearish outlook.  GBP/USD Is in the process of consolidating the heavy setbacks seen on 23Oct after failing by formidable internal range resistance in the 1.6700 area. Any recovery rallies are now expected to be well capped in the 1.6500-6600?s, with a lower top sought out ahead of a fresh downside extension through next key support at 1.6240.  Look for a break below initial support at 1.6400 to accelerate. USD/CHF The market is attempting to recover after posting fresh 2009 lows by 1.0030 and just shy of parity on 23Oct. While the overriding trend is still intensely bearish, we like the idea of looking to buy at current levels, with both shorter-term and medium-term studies showing the need for a healthy rebound. The recent break back above 1.0230 is really encouraging with the market putting in a strong bullish reversal signal on the weekly chart. Look for setbacks to now be well supported ahead of 1.0100 in favor of a fresh upside extension back towards 1.0500 over the coming sessions.    
 
Flows ? Asian central bank and macro account demand for Eur/Gbp. Heavy cross yen sales from leveraged names. US prime name on the offer in Aud/Usd; model accounts bidding.

Trade of the Day ? No trade for Thursday as of yet, with our book already exposed through Eur/Aud. We will wait for the dust to settle after the markets digest the morning event risk and then see if there are any new opportunities that present. Stay tuned?.

P&L Update and Overview: Many of you have been asking for a way to better track trading results and open positions. In response to these requests and in an effort to be fully transparent, a simulated portfolio was created in June to track and mirror all recommendations and trades. Below is a return on equity curve since inception on June 1, 2009, along with an open and closed position tracker. I am hopeful that this will make things easier for you all.



ข่าวสารเมื่อวัน พฤ ที่แล้ว คะ ซึ่งดูเหมือน ยูโร รีบาวด์กลับมาได้ และรอการทดสอบ 1.5060

http://www.financialsense.com/editorials/phillips/2009/0706.html

Who will buy the I.M.F. gold and when?
Excerpts from GLOBAL WATCH:
THE GOLD FORECASTER
by Julian D.W. Phillips


At last, the U.S. Congress has permitted the U.S. representative at the I.M.F. to vote to sell the 403 tonnes of gold the I.M.F. bought from Brazil and Mexico.   As it is not an individual member?s gold we fully expect the members of the fund to OK its sale.   The legislation will permit U.S. representatives to the I.M.F. to agree to its planned sale of 13 million ounces of gold, one-eighth of the organization's holdings.   As the financial state of the I.M.F. has improved [due to the credit crunch], the purpose of shoring up the I.M.F. balance sheet appears to not be the issue any more.   We believe that the continuing attempts to sell the gold has, as its purpose, a final attempt to confirm that paper money is more important than gold, irrespective of what the proceeds are used for.   If we are right, the sale will follow the pattern of the Central Bank Gold Agreement sales coming to an end on 26th September 2009.

As the U.S. controls 16.83% of the votes of the I.M.F. and a majority of 85% is needed for any resolution to be passed, the permission of Congress was important in allowing the sale to take place.   The next step is for a resolution at the I.M.F. to be passed.   We would think that it may take many months before the gold will be approved for sale by all member states.   

The Articles of Agreement limit the use of gold in the I.M.F.' operations and transactions as follows: -

Transactions in gold require an 85% majority of total voting power. The IMF may sell gold outright on the basis of prevailing market price, and may accept gold in the discharge of a member's obligations at an agreed price on the basis of prices in the market at the time of acceptance.

A much bigger pair of questions that give us clarity on these sales, are; over what period will the gold be sold and how?

How will the Gold be Sold and over what Period?

To date, all we have from the I.M.F. is that the I.M.F. has made it clear that any gold sales will be conducted within the Central Bank Gold Agreement and will not disrupt the smooth functioning of the gold market.   

To be frank this is a statement that can be interpreted any way you want except that they are pledging that whatever way and however long it takes it will not harm the gold price.   Read that as, ?The price of gold will not be made to fall through these sales?.   We suggest you add nothing more to this, as it does not tell us if they will sell on the ?open market?, or the way they have sold in the past through auctions.  It seems to imply that the sales will be handled in the same way as the sales from the current Central Bank Gold Agreement, but does not say so!   This does not tell us even the quantity to be sold at any one time.   At the moment the market is assuming that the sales will be on the ?open market? and likely stretched out over some years.   

Two points must be made here: -

By the time the I.M.F. members have approved of the sale, the Central Bank Gold Agreement that ends on 26th September 2009 will be almost over or will be over.   Usually by this point in time with such an Agreement, the signatories would have confirmed another Agreement will begin as the current one ends.   This has not happened!   Current sales appear to be coming from France alone, so we have to ask with whom will a new agreement be made?   If none is made the I.M.F. will be the only seller.   
The members of the I.M.F. will not be happy if the I.M.F. takes upon itself to drag out the sales over several years, taking the risk of lower prices but speculating that it may achieve higher prices in selling the gold over a long period.   We believe that the members will want to see the gold sold for the highest price they can get and would frown upon a sale over time and would favor a sale quickly, without risk taking.  Please look at the I.M.F. statement above and you will see that the concept of ?prevailing market prices? is of importance here?
Consequently, the pattern set by past sales will guide us to possible future events?

Past Sales of I.M.F. Gold.

Auctions and "restitution" sales (1976-80). The I.M.F. sold approximately one-third or 1,555 tonnes of gold (50 million ounces) of its then-existing gold holdings following an agreement by its members to reduce the role of gold in the international monetary system.  Half of this amount was sold in restitution to members at the then-official price of SDR 35 per ounce; the other half was auctioned to the market to finance the Trust Fund, which supported concessional lending by the I.M.F. to low-income countries.    [These auctions were oversubscribed to the extent that the I.M.F. realized their efforts to discredit gold were not meeting with the success they had hoped for.   Hence these sales were terminated.]

Off-market transactions in gold.   In December 1999, the Executive Board authorized off-market transactions in gold of up to 14 million ounces to help finance I.M.F. participation in the H.I.P.C. Initiative, the scheme whereby poor countries debt would be written off.   There is no evidence that these sales actually took place.

Brazil & Mexican sales.   Between December 1999 and April 2000, separate but closely linked transactions involving a total of 400 tonnes [12.9 million ounces] of gold were carried out between the I.M.F. and two members (Brazil and Mexico) that had financial obligations falling due to the I.M.F.  But this was not a sale into the open market, but an ?internal sale?.   In the first step, the I.M.F. sold gold to the member at the prevailing market price and the profits were placed in a special account and then invested for the benefit of the HIPC Initiative.   In the second step, the I.M.F. immediately accepted back, at the same market price, the same amount of gold from the member in settlement of that member's financial obligations falling due to the Fund.   The net effect of these transactions was to leave the balance of the I.M.F.' holdings of physical gold unchanged.   However, the 403 tonnes, that is now to be sold, went directly into the hands of the I.M.F. and out of the hands of the individual members.   

Types of Sales used before.

In the first sale 500 tonnes of gold was offered at an auction where bids were delivered to the I.M.F. who then decided who the final buyers would be.   The bids had quite a range, but the salient point was that the offer of gold was well oversubscribed.   The same happened in the next offering and did so a third time.   The I.M.F. realized then that this was not lessening the role of gold in the monetary system, but showing them up as following a foolish course in parting with the gold.  This time the sale is ostensibly to shore up the balance sheet of the I.M.F. or to ?help poorer nation??   We find the change of purpose suspect?
Another main feature of an auction sale is that huge buyers were able to purchase the entire amount they wanted, at one single price for the entire amount sold.   The same will be true of any such sale in the future. 
Auction Sale.

This type of sale allows a large quantity of gold to be sold at one go, unlike the ?open? gold market, where small amounts on one to 10 tonnes can be dealt in, but affect the daily price.   400 tonnes would crush the market!

Should the I.M.F. opt for selling through the ?open market? the sales would have to stretch over around 80 or more weeks, at say, 5 tonnes a week.   An auction would allow the entire amount to be sold at one price ?off? market, so leaving the market price unaffected.   It would appear that this should be the route the I.M.F. goes, if it wants to maximize the price achieved and avoid any speculative stretching out of the sales over years.   But is that their intent?

Big Buyers Attracted!

With such a tonnage of gold available at one price, major buyers, from central banks to major institutions would have perhaps the only opportunity they will ever see to buy gold without disturbing the gold price.   The value of 400 tonnes of gold at current market prices [$900 an ounce] is $11.574 billion.   Many a central bank can switch from the U.S.4 to gold in this amount.   Russia with around 4% of its reserves [536 tonnes] wants to take this figure to 10%.   Another 400 tonnes would take it to only 7.5% so it would welcome the opportunity.   China is an even more compelling case!   Would they buy?   They are at present buying in the region of 3 to 5 tonnes a month into their reserves at present.   They are unlikely to increase this volume dramatically as this would drive the gold price upwards a long way.

In the last few years central banks even in Europe [Germany in particular] have endorsed gold as a desirable reserve asset [the very statement detailing the gold sale agreements stated that gold would remain an important reserve asset] by their failure to sell off all their gold.   Now with China and Russia as buyers, such a view is being emphasized by the developing nations.   Clearly, gold is here to stay in the monetary system as the hold of the U.S. $ is weakening.

Of course don?t ignore some of the major private institutions or individuals that would like to buy a big volume of gold at one price!    At an auction they will jostle with central banks to get the gold!

The method of selling is vital to the impact on the market of the sales and makes it the key to the impact on the gold price itself!   

How will the I.M.F. Gold Sales affect the Gold Price?

Subscribers only


? 2009 Julian D. W. Phillips

มอร์นิ่งครับคุณไอซ์ ;D ;D ;D

ขอบคุณค่ะ คุณIcy  ;)

สวัสดีครับคุณ Icy  ;)

อรุณสวัสดิ์คุณไอซ์ค่ะ แวะมาดูข่าวความปลอดภัยเป็นระยะค่ะ

http://www.ft.com/cms/s/0/bf99d538-c...00e2511c8.html


Why gold is certain to move higher
By John Dizard

Published: November 8 2009 09:09 | Last updated: November 8 2009 09:09

The announcement last week of India?s official purchase of 200 tonnes of gold from the International Monetary Fund put an amphetamine-like push into the metal?s price. Before that news, the recent rally to new highs seemed to be tiring out, with the technicians citing this momentum line rolling over from that support level. The combined increases in open interest in the gold futures, and the gold held by the exchange traded funds, have not kept pace with the accelerated rise in the price of the metal; in other words, we have seen a rally on (apparently) weaker volume. That may not bode well for a strong gold market in the near future.

To my way of thinking, though, there has been other news of official doings, outside of India, that indicate a much higher gold price over the longer term, whatever happens over the next few months. It is not central bank gold purchases, though, that are the key support; it is the prospect of more extensive controls on the international flow of capital. Specifically, it was Brazil?s imposition of a 2 per cent tax on capital inflows in October, not India?s gold purchases that month, that was the most significant gold-positive signal. In the past, multilateral officials, such as the managing director of the IMF, would have murmured disapproval, with suggestions that anti-liberal moves such as this should be reversed as quickly as possible. Not now. Brazil?s apparent attempt to keep down the real?s appreciation, probably to ensure export competitiveness, is accepted and applauded by multilateral-dom as mainstream political economy.

As the IMF officials and their supporters in the academic community say, controls and taxes on capital flows do make it easier for policy managers to ?limit bubbles?, or slow currency appreciation. International capital flows do not necessarily support the short-term policies of a national political class or local elites. In Brazil, for example, manufacturers, miners, and sugar farmers would be forced by continuing currency appreciation to become ever more efficient and less monopolistic. The state would have to deliver more real and valuable services for its tax revenue. I would have thought those desirable outcomes.

The Brazilian tax, and similar taxes and quantitative controls that have been imposed, or considered, elsewhere are only going to slow a long-term trend: the rise in the investment returns in newer market economies relative to those in the developed world. If the US and Europe are poking along at 1 or 2 per cent growth, while Brazil, India, China, and the Gulf States grow at three or four times that rate, money will want to leave the first group and go to the second.

If it cannot do that, though, or if it is taxed highly for doing so, money will not just give up and buy Fannie Mae mortgages or Spanish bonds. If investors are restricted from bidding up emerging market assets, and, therefore, currencies, they will buy a substitute that is much harder to control: physical gold.

Andy Smith, a gold strategist with Bache Commodities in London, says it is not the buyers of the odd Krugerrand who are beginning to take over the buy side of the market. ?It?s the representatives of the Mas and Pas. The bullion bankers are being trained more on the retirement funds in the middle of nowhere, and less on the hedge funds.? This means more of the rising base of buyer interest is in the metal, rather than derivatives. Many of them apparently prefer to have their gold in vaults near where they are, Mr Smith?s ?middle of nowhere?, rather than in LME or COMEX warehouse receipts.

One indication of this, as he says, is the rising proportion of refiners and transport firms going to gold conferences. For example, the proportion of jewellers attending the London Bullion Market Association annual meeting has fallen from 16 per cent in 2000 to 6 per cent in 2008, while the proportion of transporters, refiners, security firms, and others involved in physical bullion movement has increased from 11 per cent to 18 per cent. ?(Their customers) are not leveraged buyers, or buyers on margin,? as Mr Smith says.

If one were only interested in getting exposure to gold at a low transaction cost, and had no concern about capital controls or taxation, then derivatives, or tradable warehouse receipts, are much more efficient. This gradual change in investor preference is about an inchoate fear of one government or another getting between the investor and his money.

Only a minority of investment managers and financial analysts have experienced exchange controls first hand. If they consider gold, it is as an inflation hedge, which is not all that compelling at the moment.

My family lived in Warsaw from 1968 through 1970, years of insignificant Polish price inflation. But the aluminium zloty coins we had as spending money were completely useless outside the country, and not much good inside it. Inflation is only one way that private assets are devalued, and at some level more investors understand this.


johndizard@hotmail.com

สวัสดีครับคุณIcy แวะมาอ่านเหมือนทุกวันครับ^^

สวัสดี คุณ Icy

ติดตามผลงานของคุณ Icy กับ Guru ท่านอื่นในเว็บนี้มาตั้งแต่โพสแรก รู้สึกขอบคุณทุกท่านที่นำเทคนิคใหม่ๆ มาให้เรียนรู้ ส่วนใหญ่จะแอบดูอย่างเดียว แต่รู้สึกขอบคุณเสมอทุกครั้งที่อ่าน  ;)

I restored my computer and now i am not able to use programs i did before saying that i no longer have the system requirements and i lost connection to the internet on the computer and i think its because of a virus because it worked before Im using a different computer and i was wondering what do i have to do in order to make my computer have the system stuff it did before System Microsoft Windows XP Home Edition Version 2002 Service Pack 1 Manufactured and supported by Hewlett-Packard Pavilion Intel(R) Pentium(R) 4 CPU 2.80GHz 2.80GHz 504 MB of RAM I can't even download Windows Live messenger  unlock iphone 3g (http://modaka8.com/board/index.php?action=profile;u=594)

อย่าลงแบบหรอกๆนะ ขอให้ลงจริงๆเถอะ  ;D

i had a virus on my pc so i removed the virus and restarted my pc but it would not restart, so i have to do a pc recovery but now the pc mouse is not working i tried the usb mouse and the plug in ball mouse but it still dont work.. i think im missing the mouse driver but i have know idea where to download it from i have a e system pc but dont know what model... is there anyway i can get the mouse to work thanks guys  unlock iphone 3g (http://unlockiphone22.com)

ไก่ชนเงินล้าน (http://ไก่ชนไทย.com/)
ไก่ชนล้านนา (http://ไก่ชนไทย.com/)
ไก่ชนภาคใต้ (http://ไก่ชนไทย.com/)
เล่นคาสิโนออนไลน์ (http://คาสิโนออนไลน์99.com/)
daraออนไลน์ (http://คาสิโนออนไลน์99.com/)
เล่นคาสิโนออนไลน์ (http://คาสิโนออนไลน์99.com/)
เล่นบอลออนไลน์ (http://ballmunz.com/)
เดิมพันบอลออนไลน์ (http://ballmunz.com/)
พนันบอลออนไลน์ (http://ballmunz.com/)
olivergameonline (http://olivergameonline.typepad.com/) และ
ambl-fanfic.tumblr (http://ambl-fanfic.tumblr.com)

ทักทายยามเช้านะครับ