Gold Price today, Gold Trend Price Prediction, ราคาทองคํา, วิเคราะห์ทิศทางทองคํา

ลงทุนในทองคําและแนวโน้ม / Gold Price Trend and Investment, Discussion => การวิเคราะห์ทิศทางของทองคําโดยคุณ ccczaa => ข้อความที่เริ่มโดย: Golden ที่ ธันวาคม 08, 2009, 10:18:11 AM

Forex-Currency Trading-Swiss based forex related website. Home ----- กระดานสนทนาหน้าแรก ----- Gold Chart,Silver,Copper,Oil Chart ----- gold-trend-price-prediction ----- ติดต่อเรา

หัวข้อ: News Update 08/12/09 - 11//12/09
เริ่มหัวข้อโดย: Golden ที่ ธันวาคม 08, 2009, 10:18:11 AM


    08/11/2009

    Open           High                    Low          Close
1159.20         1165.05          1134.97            1157.80

   
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคา  :
                   ทองคำยังอยู่ในช่วงเวลาของการปรับฐาน หลังจากวานนี้ทองคำมีระยะห่างในการเดินทางประมาณ 30 เหรียญ โดยวิ่งสู่ระดับต่ำสุดเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 1134 ดอลลาร์ / ออนซ์ และมีแรงบวกปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากตลาดยังคงมีความหวังที่สดใสในราคาทองคำต่อไป บวกกับการคาดการณ์เกี่ยวกับทิศทางของหุ้นวอลล์สตรีทที่ว่าจะยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในสัปดาห์นี้ จากสัญญาณบ่งชี้เกี่ยวกับความมีเสถียรภาพในตลาดแรงงานแต่ความวิตกเกี่ยวกับผู้บริโภคที่ระมัดระวังในการใช้จ่ายในฤดูกาลจับจ่ายสินค้าในช่วงวันหยุด และการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจสกัดการปรับตัวขึ้นของตลาด
                                 ดอลลาร์อ่อนค่าลงในการซื้อขายที่ตลาดเอเชียช่วงเช้านี้ ขณะที่ยูโรฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือน หลังจากเจ้าหน้าที่อาวุโสของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้สกัดการคาดการณ์ที่ว่าจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐอย่างรวดเร็ว หลังจากที่รายงานการจ้างงานในสัปดาห์ที่แล้วออกมาน่าพอใจ    นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดกล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงเผชิญกับอุปสรรคอยู่ และอัตราว่างงานก็อาจอยู่ที่ระดับสูงต่อไปอีกระยะหนึ่งซึ่งแทบไม่ให้ความสำคัญกับผลของรายงานการจ้างงานเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว   นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์คกล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงอ่อนแอ และย้ำว่า อัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง    ความเห็นล่าสุดของนายเบอร์นันเก้ส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นของรัฐบาลสหรัฐลดลงอย่างมาก ซึ่งลดช่วงบวกไปบ้างหลังการเปิดเผยรายงานจ้างงานเมื่อวันศุกร์ที่แล้วซึ่งทำให้ตลาดคาดว่าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐอาจปรับขึ้นภายในกลางปีหน้า  แรงหนุนดังกล่าวส่งผลต่อเนื่องมาจนถึงวานนี้แต่นายเบอร์นันเก้ก็มีความเห็นในแง่ลบมากกว่า โดยเขากล่าวว่า เฟดยังคงคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่งขณะที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวช้า และจะเผชิญกับอัตราว่างงานที่สูงต่อเนื่อง
        "นั่นหมายความว่า ผลตอบแทนของสหรัฐอาจจะไม่ดึงดูดใจต่อไปอีกระยะหนึ่ง และนั่นก็น่าจะหนุนสกุลเงินต่างๆ เช่นดอลลาร์ออสเตรเลีย"   ดัชนีดอลลาร์ลดลง 0.25% มาที่ 75.721 ส่วนยูโรขยับขึ้นมาที่ 1.4833 ดอลลาร์จาก 1.4811 ดอลลาร์ในช่วงท้ายตลาดนิวยอร์ควานนี้ โดยยูโรร่วงต่ำสุดที่ 1.4757 ดอลลาร์เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย. ก่อนที่จะดีดตัวขึ้น  ดอลลาร์อ่อนค่าเทียบเยนเช่นกัน หลังจากร่วงลง 1% เมื่อวานนี้ และดอลลาร์อ่อนค่าลงมาที่ 89.29 เยน จาก 89.53 เยนในช่วงท้ายตลาดนิวยอร์ควานนี้ แต่เทรดเดอร์กล่าวว่าการพุ่งขึ้นของเยนอาจชะลอตัวลง เนื่องจากอาจมีการซื้อคืนดอลลาร์   นอกจากนี้ มีการคาดการณ์ว่าทางการญี่ปุ่นอาจเข้าแทรกแซงตลาดเพื่อสกัดการแข็งค่าของเยนด้วย   ดอลลาร์ร่วงกว่า 14%เมื่อเทียบกับตะกร้าเงินนับตั้งแต่พุ่งแตะระดับสูงสุดในเดือนมี.ค.จากแนวโน้มที่ว่าอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐอาจจะอยู่ที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง  การคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยต่ำของสหรัฐทำให้มีความเห็นมากขึ้นที่ว่า ดอลลาร์สหรัฐกลายเป็นสกุลเงินที่ใช้ในการทำ carry trade แล้ว สกุลเงินที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า อาทิ ดอลลาร์ออสเตรเลียและดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้นโดยดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้นมาที่ 0.9150 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 0.9116 ดอลลาร์สหรัฐเมื่อวานนี้ก่อนการกล่าวสุนทรพจน์ของนายเกลนน์ สตีเวนส์ ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลียในเวลา16.25 น.ตามเวลาไทยวันนี้
                            สัญญาน้ำมันดิบสหรัฐขยับขึ้นมายืนเหนือระดับ 74 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงเช้านี้ โดยฟื้นตัวขึ้นหลังดิ่งลง 2% เมื่อวานนี้ แต่ก็ถูกสกัดแรงบวกขณะที่ตลาดยังคงวิตกต่อเศรษฐกิจ   ณ เวลา 08.41 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนม.ค.ที่ตลาด NYMEX บวก 43 เซนต์ มาที่ 74.35 ดอลลาร์/บาร์เรลในการซื้อขายผ่านระบบอิเล็คทรอนิค Globex หลังจากปิดวานนี้ร่วงลง 1.54 ดอลลาร์ อยู่ที่73.93 ดอลลาร์/บาร์เรล ราคาน้ำมันปรับตัวลงวานนี้ หลังจากนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวเตือนว่า อัตราการว่างงานของสหรัฐอาจจะ
ยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไปอีกระยะหนึ่ง และสิ่งนี้ได้บั่นทอนความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและอุปสงค์น้ำมัน    การปิโตรเลียมสหรัฐ (API) จะเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 4 ธ.ค.ในวันนี้ ส่วนสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันในวันพรุ่งนี้ โดยโพลล์รอยเตอร์คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบอาจเพิ่มขึ้น 500,000 บาร์เรล, สต็อกน้ำมันกลั่นอาจลดลง300,000 บาร์เรล,  สต็อกน้ำมันเบนซินอาจเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจเพิ่มขึ้น 0.2 %  ด้านสำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งชาติของสหรัฐระบุในรายงานรายสัปดาห์ว่า คาดว่าความต้องการใช้พลังงานเชื้อเพลิงให้ความร้อนในสหรัฐจะอยู่สูงกว่าระดับปรกติทั่วประเทศราว 5.8 %  ทั้งนี้ สำนักงานพลังงานของรัฐบาลสหรัฐอาจจะเป็นหน่วยงานแรกในการปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันสำหรับปี 2010 ในสัปดาห์นี้ และตลาดจะให้ความสนใจมากที่สุดต่อมุมมองทางด้านปัจจัยพื้นฐานของปี 2011

ปัจจัยที่น่าติดตามวันนี้  :

   สำนักงาน API  จะทำการเปิดเผยข้อมูลปริมาณน้ำมันสำรองของสหรัฐ  เวลา 04.30 น. ตามเวลาประเทศไทย
   ABC News เปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 6 ธ.ค. เวลา 05.00 น. (วันพุธ)

บทวิเคราะห์เพิ่มเติม  : 

   ขณะนี้ต่างก็มีมุมองเชิงบวกว่าเศรษฐกิจสหรัฐอยู่ระหว่างการฟื้นตัวแม้ว่าอยู่ในอัตราที่ชะลอตัว หลังข้อมูลเมื่อวันศุกร์แสดงให้เห็นว่าบรรดานายจ้างได้ลดการจ้างงานน้อยกว่าคาดในเดือนพ.ย.  ลดลง 11,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. ซึ่งน้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 130,000 ตำแหน่ง  แต่รายงานการจ้างงานรายเดือนก็ถือเป็นดาบสองคมสำหรับตลาด โดยเศรษฐกิจที่กำลังมีการฟื้นตัวที่รวดเร็วเกินคาดนั้น  อาจทำให้ เฟด ต้องปรับขึ้น
อัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ ซึ่งการคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐไว้ใกล้ 0 % นั้น เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ของเฟดในช่วงปีที่แล้วเพื่อกระตุ้นการปล่อยกู้และหนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ   และนั่นจะทำให้นักลงทุนมีความวิตกว่า เฟด จะดำเนินการถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และ ตลาดหุ้นรวดเร็วเกินไป   และความวิตกที่ว่ากลุ่มผู้บริโภคจะยังคงระมัดระวังการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลวันหยุดนั้น ยังคงส่งผลกระทบต่อความต้องการเข้าซื้อของนักลงทุน และการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดหลังข้อมูลเมื่อวันศุกร์ที่แสดงให้เห็นว่าแนวโน้มตลาดแรงงานได้ปรับตัวดีขึ้นในเดือนพ.ย.นั่นเอง  ขณะที่นักลงทุนจะจับตารายงานตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์นี้เพื่อประเมินความชัดเจนเกี่ยวกับความมีเสถียรภาพของตลาดแรงงาน    โดยนักวิเคราะห์ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกประจำสัปดาห์ในวันพฤหัสบดีนี้จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากสัปดาห์ก่อน ข่าวเกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยจะยังคงทำให้ดอลลาร์เป็นที่สนใจโดยดอลลาร์มีการปรับตัวที่สวนทางกับราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเหตุผลประการหนึ่งก็คือการทำ carry-trade ซึ่งนักลงทุนจะกู้ยืมสกุลเงินที่ให้ผลตอบแทนต่ำและใช้เม็ดเงินดังกล่าวเพื่อลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูง    หากมีการคาดการณ์มากขึ้นเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นักลงทุนก็จะปลีกตัวออกจากการทำ carry-trade ซึ่งนั่นจะช่วยหนุนดอลลาร์และส่งผลกระทบต่อราคาทองคำอีกด้วย
   สำหรับทิศทางราคาทองคำในวันนี้ จากช่วงเช้ามีแนวโน้มที่สดใสต่อเนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมา หลัง นาย เบอร์นันเก้ ระบุว่าสหรัฐฯยังคงเผชิญกับอุปสรรคด้านเศรษฐกิจ และอัตราการว่างงานอาจยังอยู่ในระดับสูงต่อไป รวมถึงการตอกย้ำว่า เฟดยังคงคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ระดับต่ำสุดนี้ต่อไปอีกระยะหนึ่ง  และนั่นจะบ่งถึง ผลตอบแทนของสหรัฐอาจไม่ดึงดูดใจนักลงทุนต่อไปอีกซึ่งจะช่วยหนุนความต้องการการถือครองทองคำและสกุลเงินต่างๆทดแทน  โดยระดับที่น่าสนใจสำหรับราคาวันนี้ ควรจับตาดูราคาที่ 1,173 ซึ่งหากฝ่าด่านนี้ไปได้ เราอาจได้เห็นราคาทองคำยืนอยู่เหนือ 1,200 อีกครั้งได้ในสัปดาห์นี้

          แนวรับ  -  แนวต้าน 

Resistant 3   1182.55
Resistant 2   1176.40
Resistant 1   1169.38
Support 1                   1154.31
Support 2                   1150.03 - 1148.60
Support 3                   1144.34 ? 1134.97



หัวข้อ: Re: News Update 08/12/09 - 11//12/09
เริ่มหัวข้อโดย: isariya ที่ ธันวาคม 08, 2009, 10:47:46 AM
 :)ขอบคุณมากคะคุณโกลด์เด้น :)


หัวข้อ: Re: News Update 08/12/09 - 11//12/09
เริ่มหัวข้อโดย: oyo ที่ ธันวาคม 08, 2009, 11:44:34 AM
ขอบคุณคร๋าบบบบ  ;D


หัวข้อ: Re: News Update 08/12/09 - 11//12/09
เริ่มหัวข้อโดย: Golden ที่ ธันวาคม 10, 2009, 10:21:59 AM
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคา  :
   สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงาน (EIA) ของสหรัฐเปิดเผยข้อมูลสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 4 ธ.ค.     สต็อกน้ำมันดิบลดลง
3.8 ล้านบาร์เรล , สต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล, สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือน  หลังดอลลาร์แข็งสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดที่ 1,120.90 ดอลลาร์/ออนซ์ ดิ่งลง 22. 50 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 17.180 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 62.70 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 4.15 เซนต์ ปิดที่ 3.1235 ดอลลาร์/ปอนด์ ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ปิดที่ 1,409.20 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 31.20 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 365.55 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 9.80 ดอลลาร์ ทั้งนี้ ปัจจัยที่กดดันให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงคือความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น ทำให้นักลงทุนเทขายทำกำไรในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งส่งผลให้ราคาทองคำ รวมถึงน้ำมันดิบร่วงลงอย่างหนัก และส่งผลกระทบต่อแนวโน้มราคาทองคำให้ต้องถอยรูดลงจากระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ในการซื้อขายเมื่อคืนนี้             
  ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 0.03% เมื่อเทียบกับเงินยูโร ขณะที่เงินยูโรอ่อนค่าลงแตะที่ 1.4693 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.4698 ยูโร/ดอลลาร์ ส่วนเงินปอนด์อ่อนค่าลง 0.52% ที่ระดับ 1.6201 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.6286 ดอลลาร์/ยูโร   นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.14% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 1.0286 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0272 ฟรังค์/ดอลลาร์ แต่ดิ่งลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 87.77 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 88.34
เยน/ดอลลาร์  ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.04% แตะที่ 0.9035 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.9039 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ขยายตัวขึ้นแตะระดับ 0.7088 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7067 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์  นายอแตร์ ดาร์ลิ่ง รัฐมนตรีคลังอังกฤษได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจอังกฤษในปีนี้  และคาดว่ารัฐบาลจะต้องเพิ่มอัตราการกู้ยืมเงินในปีหน้าเพิ่มมากขึ้นกว่าที่คาดการณ์ในก่อนหน้านี้ ขณะที่มูดี้ส์ สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือกล่าวว่า อังกฤษต้องแก้ปัญหาหนี้สาธารณะเพื่อหลีกเลี่ยง


ความเสี่ยงในการถูกลดอันดับเครดิตที่ AAA   ทั้งนี้ เงินดอลลาร์ซึ่งถูกมองว่าเป็นแหล่งลงทุนที่ปลอดความเสี่ยงนั้นกำลังเป็นที่ต้องการของนักลงทุน ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในยุโรป ขณะที่แนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดทำให้นักลงทุนโยกย้ายเม็ดเงินมายังสกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงกว่า 
                          สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 1.95 ดอลลาร์ หรือ 2. 7% ปิดที่ 70.67 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยในระหว่างการซื้อขายนั้น ราคาน้ำมันดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดของวันที่ 70.13 ดอลลาร์/บาร์เรล  ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 8.16 เซนต์ ปิดที่ 1.9093 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 5.91เซนต์ ปิดที่ 1.8655 ดอลลาร์/แกลลอน    ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 2.8 ดอลลาร์ ปิดที่ 72.39 ดอลลาร์/บาร์เรล   โดยนักลงทุนในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์เริ่มกลับมาวิตกกังวลต่อปัจจัยพื้นฐานในตลาดที่ส่งผลต่อราคาน้ำมัน หลังจากที่สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงาน (EIA) ของกระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันเบนซินในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาพุ่งขึ้น 2.25 ล้านบาร์เรล แตะที่ 216.3 ล้านบาร์เรล ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล    ทั้งนี้ สต็อกน้ำมันเบนซินที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมาทำให้ปริมาณผลผลิตน้ำมันเบนซินทั้งหมดขยายตัว 5.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา   ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงน้ำมันดีเซลและฮีทติ้งออยล์นั้นขยับขึ้น 1.6 ล้านบาร์เรลแตะที่ 167.3 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 400,000 บาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันดิบลดลง 3.8 ล้านบาร์เรล หรือ 1.1% แตะที่ 336.1 ล้านบาร์เรล แต่ยังคงอยู่สูงกว่าระดับในปีที่ผ่านมา 4.4%   รายงานดังกล่าวบ่งชี้ว่า โรงกลั่นน้ำมันของสหรัฐมีกำลังการผลิตน้ำมัน 81.1% ของปริมาณการผลิตน้ำมันโดยรวม ซึ่งเพิ่มขึ้น 1.4% จากรอบสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ซึ่งสต็อกน้ำมันเบนซินที่เพิ่มขึ้นได้สร้างความวิตกกังวลในกลุ่มนักลงทุนที่มองว่า อุปสงค์พลังงานยังซบเซา โดยอุปสงค์เชื้อเพลิงโดยรวมของสหรัฐมีอัตราเฉลี่ยที่ 18.5 ล้านบาร์เรลต่อวันในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ลดลง 3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้   นอกจากนี้ ตลาดยังมีความกังวลต่อแนวโน้มการใช้น้ำมันในระยะนี้ เนื่องจากอัตราว่างงานที่อยู่ในระดับสูงและเศรษฐกิจที่ยังเปราะบางกำลังสร้างแรงกดดันต่อผู้บริโภคและภาคธุรกิจให้ต้องปรับลดการใช้พลังงานลง
ปัจจัยที่น่าติดตามวันนี้  :
   กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนต.ค.   เวลา 20.30 น.   นักเศรษฐศาสตร์ได้คาดว่า สหรัฐจะขาดดุลการค้า อยู่ที่ 3.625 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค. ลดลงจาก 3.647 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.ย.
        กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์   เวลา 20.30 น.    นักเศรษฐศาสตร์ได้คาดว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 5 ธ.ค.จะอยู่ที่ 465,000 รายเพิ่มขึ้นจาก 457,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้า
กระทรวงการคลังสหรัฐจะเปิดเผยยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลสหรัฐประจำเดือนพ.ย.    เวลา 02.00 น. นักเศรษฐศาสตร์ได้คาดว่า ยอดขาดดุลงบประมาณจะอยู่ที่ 1.3475 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้นจาก 1.252 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค.
บทวิเคราะห์เพิ่มเติม  : 
   มุมมองของซีอีโอสหรัฐต่อภาวะเศรษฐกิจดีขึ้นในไตรมาส 4 แต่ส่วนใหญ่ก็ยังไม่พร้อมที่จะเพิ่มการจ้างงาน หรือเพิ่มการใช้จ่ายด้านทุน
โดยจากการสำรวจพบว่า ซีอีโอส่วนใหญ่ หรือราว 68% คาดว่ายอดขายของบริษัทจะเพิ่มขึ้นในช่วง 6 เดือนข้างหน้า ขณะที่ 40% ระบุว่า พวกเขาคาดว่าจะเพิ่มการใช้จ่ายด้านทุนในสหรัฐในช่วง 6 เดือนข้างหน้า และ 31% คาดว่าจะลดการจ้างงานในสหรัฐ  การใช้จ่ายด้านทุนที่เพิ่มขึ้นมักเป็นตัวบ่งชี้การจ้างงาน เนื่องจากบริษัทต้องลงทุนในอุปกรณ์ก่อนที่จะจ้างพนักงานอีกครั้ง แต่ซีอีโอก็ต้องการหลักฐานเพิ่มเติมที่แสดงว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวจากภาวะตกต่ำที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ยุคภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ก่อนที่พวกเขาจะพร้อมจ้างพนักงาน   
   ขณะที่ทั้งดอลลาร์และทองได้รับการพิจารณาว่าเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในช่วงเวลาที่เกิดปัญหานั้น ราคาทองในปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะมีความน่าดึงดูดใจมากกว่า อันเนื่องมาจากแนวโน้มที่อ่อนแรงของดอลลาร์ และการคาดการณ์เกี่ยวกับการซื้อทองของธนาคารกลางจำนวนมากขึ้น
นักลงทุนกำลังหาทางเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนแรงในวันนี้ แต่แนวโน้มจะขึ้นอยู่กับประเด็นที่ว่ามีการคาดการณ์ว่าดอลลาร์จะปรับตัวอย่างไรในระยะกลาง
"ทองกำลังมีความน่าดึงดูดใจมากขึ้น เนื่องจากนักลงทุนจำนวนมากกำลังไม่แน่ใจเกี่ยวกับดอลลาร์" เขากล่าว โดยคาดว่าดอลลาร์จะอ่อนค่าต่อไป                     
อันเนื่องมาจากการขาดดุลงบประมาณจำนวนมากของสหรัฐและอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำ   ตลาดยังคงจับตาดูความสนใจของธนาคารกลางต่างๆที่มีต่อทอง     "ธนาคารกลางจำนวนมากกำลังต้องการที่จะกระจายการลงทุนออกจากดอลลาร์"  ความเสี่ยงขาลงประการหนึ่งก็คือ ราคาในปัจจุบันอาจจะอยู่ใน
ระดับที่สูงเกินไปสำหรับการเข้าซื้อครั้งใหม่ของธนาคารกลางต่างๆ โดยจีนได้แสดงความวิตกดังกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ราคาทองอยู่ที่ระดับสูงในปัจจุบันตลาดควรจะระมัดระวังเกี่ยวกับการก่อตัวของภาวะฟองสบู่ภาคสินทรัพย์ที่อาจจะเกิดขึ้น หลังราคาทองแตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์


หัวข้อ: Re: News Update 08/12/09 - 11//12/09
เริ่มหัวข้อโดย: Golden ที่ ธันวาคม 11, 2009, 09:53:13 AM

    Open        High        Low        Close
1128.53    1136.43     1120.97      1131.13

    ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคา  :

   กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 17,000 ราย สู่ 474,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 5 ธ.ค. จาก457,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้า หลังลดลง 5 สัปดาห์ติดต่อกัน     
   กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยยอดขาดดุลการค้าลดลง 7.6% สู่ 3.29 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค. จาก 3.57 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.ย.
นักเศรษฐศาสตร์ได้คาดไว้ว่า สหรัฐจะขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้นสู่ระดับราว 3.680 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค.
           กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลสหรัฐน้อยกว่าคาดที่ 1.203 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย. 
นักเศรษฐศาสตร์ได้คาดไว้ว่า ยอดขาดดุลงบประมาณจะอยู่ที่ 1.35 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้นจาก 1.764 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค.
ดอลลาร์ทรงตัวเทียบยูโร ขณะดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งรับแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น -- ดอลลาร์สหรัฐไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับยูโรในวันพฤหัสบดี แม้มีความวิตกเกี่ยวกับยอดขาดดุลของยูโรโซน ขณะที่ดอลลาร์ออสเตรเลียและดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งบ่งชี้ถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป ทั้งนี้ ดอลลาร์อยู่ที่ 88.220 เยน เทียบกับระดับปิดวันพุธที่ 87.860 เยน ส่วนยูโรอยู่ที่ 1.4730  ดอลลาร์ และ 129.94 เยน เทียบกับระดับปิดวันพุธที่ 1.4724 ดอลลาร์และ 129.41 เยน
แรงซื้อช่วงขาลงหนุนทองปิดพุ่ง -- ราคาทองที่ตลาดสหรัฐยุติการร่วงลง 4 วันติดต่อกันและปิดพุ่งขึ้นในวันพฤหัสบดี ขณะที่กลุ่มนักลงทุนสถาบัน และกองทุน ETF เข้าซื้อสัญญาทองในช่วงขาลง หลังจากทองร่วงลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งนี้ ราคาทองส่งมอบเดือนก.พ.ที่ตลาด COMEX ปิดบวก 5.30 ดอลลาร์ ที่ 1,126.20 ดอลลาร์/ออนซ์ และราคาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดขยับขึ้น 0.80 เซนต์ที่ 17.188 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนที่ตลาด NYMEX ราคาพลาตินั่มส่งมอบเดือนม.ค.ปิด เพิ่มขึ้น 15.30 ดอลลาร์ ที่ 1,424.50 ดอลลาร์/ออนซ์ และราคาพัลลาเดียมส่งมอบ เดือนมี.ค.ปิดลดลง 0.45 ดอลลาร์ ที่ 365.10 ดอลลาร์/ออนซ์
                กังวลอุปสงค์กดน้ำมันดิบปิดลบ 13 เซนต์ -- ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปิดลดลงในวันพฤหัสบดีเป็นวันที่ 7 ติดต่อกัน โดยราคาน้ำมันร่วงผ่านระดับ 70 ดอลลาร์/บาร์เรลลงไป และแตะจุดต่ำสุดในรอบ 2 เดือน ก่อนจะปิดตลาดเหนือระดับดังกล่าวท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่ผันผวน ในขณะที่อุปทานเชื้อเพลิงในระดับสูง กระตุ้นความกังวลเรื่องอุปสงค์ ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 13 เซนต์ หรือ 0.18 % มาปิดตลาดที่ 70.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมัน heating oil  ส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 0.64 เซนต์ หรือ 0.34 % สู่ 1.9029 ดอลลาร์ต่อแกลลอน 
และราคาน้ำมันเบนซิน RBOB ส่งมอบเดือนม.ค.ดิ่งลง 2.22 เซนต์ หรือ 1.2 % สู่  1.8351 ดอลลาร์ต่อแกลลอน

       ปัจจัยที่น่าติดตามวันนี้  :

                 กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยราคานำเข้าและส่งออกเดือนพ.ย.   เวลา 20.30 น.    นักเศรษฐศาสตร์ได้คาดว่า ราคานำเข้าจะเพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนพ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนต.ค. ขณะที่ราคาส่งออกจะเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนพ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนต.ค.
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนพ.ย.    เวลา 20.30 น.  นักเศรษฐศาสตร์ได้คาดว่า ยอดค้าปลีกจะเพิ่มขึ้น0.5% ในเดือนพ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 1.4% ในเดือนต.ค. และยอดค้าปลีกที่ไม่รวมรถยนต์จะเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนพ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนต.ค.
          มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนธ.ค.   เวลา 21.55 น. นักเศรษฐศาสตร์ได้คาดว่า ดัชนีความเชื่อมั่น
ผู้บริโภคขั้นต้นจะอยู่ที่ 68.4 ในเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้นจาก 67.4 ในเดือนพ.ย., ดัชนีภาวะปัจจุบันจะอยู่ที่ 70.0 ในเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้นจาก 68.8 ในเดือนพ.ย. และ
ดัชนีคาดการณ์จะอยู่ที่ 68.0 ในเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้นจาก 66.5 ในเดือนพ.ย.
          กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนต.ค.    เวลา 22.00 น. นักเศรษฐศาสตร์ได้คาดไว้ว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจจะลดลง 0.2% ในเดือนต.ค. หลังจากลดลง 0.4% ในเดือนก.ย.


     บทวิเคราะห์เพิ่มเติม  : 

    ข้อมูลดุลการค้าสหรัฐที่ลดลง ส่งผลให้ดอลลาร์ทวีความแข็งค่าขึ้น เนื่องจากตลาดเริ่มมีการคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯอาจก้าวพ้นจากภาวะถดถอยที่ยาวนาน ทั้งนี้แม้ว่ารายงานด้านการขอรับสวัสดิการครั้งแรกจะยังคงเพิ่มขึ้น แต่สัญญาณที่ว่าการจ้างงานเพิ่มมากขึ้นนั้นบดบังรายงานดังกล่าวไปได้ นักลงทุนจึงหันไปถือครองสกุลดอลลาร์เพื่อโอกาสในผลตอบแทนที่จะเพิ่มขึ้น เนื่องจากดอลลาร์ที่เคยร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดนั่นเอง โดยให้เหตุผลที่ว่า ? เศรษฐกิจกำลังก้าวผ่านภาวะย่ำแย่ และเริ่มเข้าสู่การฟื้นตัวค่อนข้างชัดเจน จึงเข้าถือครองดอลลาร์เพื่อรอกำไรที่มีโอกาสเพิ่มขึ้นในระยะอันใกล้นี้?
   และข้อมูลเศรษฐกิจที่จะมีการเปิดเผยเพิ่มเติมวันนี้ จากการคาดการณ์ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่อาจเพิ่มขึ้น จะช่วยดันดอลลาร์ให้น่าสนใจต่อการถือครองของนักลงทุนได้ไม่ยาก และ วันสุดสัปดาห์ในช่วงขาลงของทองคำเช่นนี้ ทองคำอาจได้รับอิทธิพลให้ถูกเทขายเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงก่อนวันหยุดสุดสัปดาห์อีกด้วย ทั้งนี้ ทางเทคนิคนั้น ทองคำถือว่ากำลังอยู่ในช่วงของการปรับฐานใหญ่อีกครั้ง ดังนั้นมุมมองที่ว่าฐานของราคาครั้งนี้อาจอยู่ที่ระดับ 1100 -1160 ดอลลาร์/ออนซ์ อาจเป็นอีกปัจจัยที่นักลงทุนจะเทขายออกก่อนที่จะเข้าถือครองอีกครั้งในต้นสัปดาห์หน้าเพื่อให้ได้ต้นทุนที่ต่ำกว่านั่นเอง


                    Support                      -               Resistant


Support 1                   1128.32                   Resistant 1   1137.75
Support 2                   1122.25                   Resistant 2   1144.87
Support 3                   1115.90                   Resistant 3   1150.25 ? 1152.83





หัวข้อ: Re: News Update 08/12/09 - 11//12/09
เริ่มหัวข้อโดย: baboyes ที่ สิงหาคม 12, 2010, 03:13:17 PM
Though Liu Bei was outnumbered by Cao Cao's troops in the Xinye battle, Liu defeated Cao thanks to the smart tactic he had resorted to. Cao soon commanded an army of 500,000 to take his revenge. When Liu Bei and his force of 3,000 got to Dangyang County, they were stopped by Cao's troops. A bitter fight lasted until dawn and the Liu army narrowly managed to eLüde the chasing enemy.
wow power leveling (http://www.wotlk-power-leveling.com),
  As day broke,wow power leveling General Zhao Yun discovered that Liu Bei's wife and son were missing. Zhao gathered 30 troops and fought his way back onto the battlefield to look for Liu's wife, Madam Mi, and son, A Dou. With the help of a middle-aged woman, Zhao Yun found Madam Mi and A Dou by the side of a dry well behind a collapsed wall. Madam Mi said: “A Dou is safe now with you, General. I'd rather die than encumber you.” When Zhao Yun was not looking her way, Madam Mi threw herself into the well. Suddenly, Cao troops came charging toward Zhao Yun. With tears in his eyes, Zhao Yun pushed down what remained of the collapsed wall to cover the dry well.
cheap aion kinah (http://www.ugamewow.com/aion-gold.html),
 He then held A Dou against his chest and rode his horse onward as hefoughtoffattackers. cheap aion kinahIt took Zhao Yun three rounds of combat to fight off the chasing enemy. At one point Zhao was engaged by General Zhang He and a unit of Cao's troops. Zhao and Zhang fought a dozen rounds and Zhao tried to break the siege. But Zhao Yun and his horse unexpectedly fell into a trap. Just as Zhang He charged to pierce Zhao Yun with his spear, Zhao's horse leapt out of the trap.
flyff penya (http://www.flyff-penya-store.com),
 Zhang He was taken aback by the sudden move and his horse backed off several gaits. flyff penyaZhao Yun fought Cao's generals and troops single-handedly. No one could get close to him. Cao Cao, who was watching the battle from a nearby hilltop, ordered that Zhao Yun be captured alive. Zhao Yun made the most of Cao's no-kill order and broke through the siege in the end. When he returned to his camp, Zhao Yun handed the young master to Liu Bei.
maple story mesos (http://www.ugamewow.com/Maple-Story-USA-20.html),
    At Cao Cao's instruction,maple story mesos Liu Bei was about to set off for a punitive expedition against Yuan Shu. Before he left, Liu Bei worried about the defence of Xuzhou City. When Zhang Fei volünteered to take the task, Liu said, “How can I feel assured, when you're so fond of drinking and after drinking you always flog your soldiers for no reason? And you're such a hot-tempered person and frequently you refuse to take advice.”
flyff penya (http://www.cheap-penya.com),
 He entrusted the task upon Zhang only after the latter's repeated entreatments and resolütions to mend his ways.flyff penya For safety, he left consultant Chen Deng to assist Zhang . One day Zhang invited his subordinate officers over. “My elder brother instructed me before he left to stay away from wine for fear I may fail my duties to guard the city. Let's have an final drinking party today, and starting from tomorrow, we will quit drinking and concentrate on the job .” With these words said, he began toasting everyone. When neither of his toasts was accepted by Cao Bao, Zhang flared up , By then , Zhang was already drunk. He had Cao flogged fifty times.
flyff penya (http://www.flyff-penya.com),
After the party was over,flyff penya the resentful Cao sent one of his men to Lü Bu, the enemy general, asking him to attack the city that night while Zhang was drunk. Lü came with 500 horsemen. They successfully took the city. When Zhang woke up with a start, the city was gone. He fought his way out of the enemy troops and fled the city, leaving his elder brother's family behind. When he met Liu, he felt so shame-faced that he unsheathed his sword meaning to commit suicide, only to be stopped by his elder brother.