Forex-Currency Trading-Swiss based forex related website.
Home
-----
กระดานสนทนาหน้าแรก
-----
Gold Chart,Silver,Copper,Oil Chart
-----
gold-trend-price-prediction
-----
ติดต่อเรา
หัวข้อ: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 12, 2009, 06:41:14 AM ทิศทางทองวันที่ 14/12/2009
ต้าน๓ 1187.72.......xx ต้าน๒ 1154.95 ต้าน๑ 1135.00 เส้นแดน 1122.18 หนุน๑ 1102.23 หนุน๒ 1089.41 หนุน๓ 1056.64??.xx วิธีดูทิศทางทอง ต้าน๓----หนุน๓เป็นทิศทางทองที่จะเคลื่อนไหวในวันนี้ หากพุ่งทะลุต้าน๓หรือดิ่งทะลวงหนุน๓ แสดงถึงวันนั้นทองเคลื่อนไหวแรงเกินปกติ เส้นแดนเป็นเส้นที่จะแบ่งแยกทิศทางของทองที่จะขึ้นหรือลง หากทองเคลื่อนไหวอยู่ในทิศทางใดมากและนาน นั่นหมายถึงโอกาสเป็นไปได้มากที่ทองจะเคลื่อนไปในทิศทางนั้นๆ ในช่วงเวลานั้น (ยังต้องแบ่งออกในช่วงเวลาตลาดเอเซีย ยุโรป เมกาด้วย) ต้าน๑และหนุน๑หากถูกทดสอบแบบมีผล(ขึ้นลงมากกว่า๑ครั้ง)แล้วยืนอยู่ได้ นั่นคือทิศทางทองที่จะเดินต่อไปในช่วงเวลานั้น หากการวิเคราะเกิดขัดแย้งกันเมื่อไหร่ ให้หยุดมองดูอย่างเดียว ไม่ควรซื้อ-ขายในช่วงเวลานั้น แนวทางนี้เหมาะกับการเล่นสั้นมาก (เล่นแบบออนไลน์ในอนาคต) มีความแม่นยำถึง80%ครับ อีกอย่างข่าวปัจจัยพื้นฐานอาจเปลี่ยนทิศทางทองได้กะทันหันนะครับ ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์กับการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย ถัาติดดอยเมื่อทองต่ำลงมา หากยังมีเงินเหลืออยู่ ควรซื้อเพิ่ม เพิ่มที่ละนิด ต่ำอีกซื้ออีก เพื่อดึงต้นทุนที่สูงให้ต่ำลงมา ใครที่ยังไม่มีทองในมือควรทยอยซื้อเข้าอย่ามากนัก หากทองลงอีก เราก็ซื้ออีก ดีกว่าเวลาทองขึ้นเราไปไล่ซื้อในราคาที่สูง จดจำเป็นคติเตือนใจว่า เรามิอาจซื้อได้ในราคาที่ต่ำสุด และขายได้ในราคาที่สูงสุด ไม่มีการลงทุนใดที่ไม่เสี่ยง การบริหารพอร์ตให้ได้จังหวะ จะลดความเสี่ยงลงได้ครับ กราฟสำคัญ ปัจจัยพื้นฐานก็สำคัญ จิตวิทยาการโน้มเอียงของคนก็สำคัญ สิ่งเหล่านี้หากเป็นไปในแนวเดียวกัน ก็จะมุ่งไปทางนั้น หากแย้งกันก็ต้องดูฝ่ายไหนเหนือกว่า.....ด้วยเหตุนี้ไม่มีนักวิเคราะห์คนใดที่จะทำนายได้แม่นยำตลอดกาลได้ครับ หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 12, 2009, 06:50:06 AM โพลของเวปจีน เอามาให้ดูเพื่อศึกษา หากโพลมีการเปลี่ยนแปลง และผมอยู่หน้าจอคอมฯ จะโพสต์ให้ดูใหม่นะครับ
สีแดง-----มองขึ้น สีเขียว--------มองลง สีเหลือง--------วิ่งในวงแคบเพื่อปรับทิศทางใหม่ (http://img697.imageshack.us/img697/1018/27439670.gif) (http://img697.imageshack.us/i/27439670.gif/) อันนี้โพลช่วงดึกของคืนวันศุกร์นะครับ โพลถึงเคยแม่น แต่ไม่หมายถึงว่าจะไม่ผิดพลาด จะเชื่อสิ่งใดก็อย่าเชื่อหมดใจ หากผิดพลาดก็จะลำบากทุกข์ใจนา ด้วยความเป็นห่วงครับ หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 12, 2009, 08:32:45 AM สรุป.....
(http://img42.imageshack.us/img42/7416/62597023.gif) (http://img42.imageshack.us/i/62597023.gif/) นี่คือราคาสูงสุด ต่ำสุด และราคาปิดตลาดของวันศุกร์ (http://img42.imageshack.us/img42/473/10017349.gif) (http://img42.imageshack.us/i/10017349.gif/) นี่คือแนวหนุนต้านของวันศุกร์ ราคาต่ำสุดของวันศุกร์กับแนวหนุนล่างสุดของวันศุกร์ ใกล้เคียงกันมาก สัปดาห์หน้าทองดีดขึ้นให้ดู1188.5จะผ่านได้หรือไม่ หากผ่านได้เป้าหมายต่อไปคือ1191----1199.7 หากทองดีดขึ้นไม่สามารถผ่านจุดเหล่านี้ได้ ก็จะเป็นขาลง หากลงเป้าหมายที่1156 1125 หากถึงระหว่าง1114----1125ก็ทะยอยเข้าซื้อได้เลยครับ เป้าหมาย1200ขึ้น ดูตามกราฟระยะยาวแล้ว ทองน่าจะลงต่ำกว่า1000 แต่เนื่องด้วยใกล้ปีใหม่ และตรุษจีน ตลาดคงไม่ปล่อยให้ทองลงต่ำกว่า1100(หรื1000)ไปได้ ทั้งหมดนี้เดานะครับ หากใครยึดมั่นเล่นตามนี้ อาจสร้างความเสียหายได้นะครับ ขอแจงไว้ก่อน ขอบอก เมื่อวันที่5ธค.ผมพูดว่า หากทองผ่าน...ได้ ก็จะขึ้นต่อถีง....ได้ ตกลงว่าทองไม่ผ่าน... และผมพูดว่า... หากถึงระหว่าง1114----1125ก็ทะยอยเข้าซื้อได้เลยครับ เป้าหมาย1200ขึ้น บัดนี้ได้เวลาทะยอยเข้าซื้อได้แล้วครับ ถามว่า ทองยังจะลงต่อได้ไหม? ตามกราฟทองยังมีโอกาสลงต่อได้ ตามปัจจัยพื้นฐานของเมกาที่ประกาศเมื่อคืนนี้ ล้วนดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ นั่นหมายถึงช่วงสั้นนี้เงินดอลล์เมกายังมีแรงที่จะดีดขี้นต่อได้ ดอลล์หากขึ้นได้ย่อมกดดันให้ทองลง แต่..ใกล้วันหยุดยาวช่วงท้ายปี---ต้นปีใหม่ ฝรั่งจะยอมให้ทองลงได้อีกกี่มากน้อย? ตามประสบการณ์ที่ผ่านมา ฝรั่งมักจะดึงทองขึ้นในช่วงนี้ จบบทสรุปแถมเดาส่งท้ายนิดๆ...ครับบบบบบบบบบบบบบบ หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 12, 2009, 11:22:35 AM ทองคำปิดร่วง $6.30
วันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2552 07:59 สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 5หลังดอลล์แข็งค่า สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดที่ 1,119.90 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 6.30 ดอลลาร์ ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 17.09 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 9.8 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.บวก 3 เซนต์ ปิดที่ 3.133 ดอลลาร์/ปอนด์ ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ปิดที่ 1,422.70 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 1.80 ดอลลาร์ ราคาทองคำปรับตัวลดลงเพราะเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่ายอดค้าปลีกเดือนพฤศจิกายนขยายตัว 1.3% หรือมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ถึงสองเท่า ขณะเดียวกันดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นของรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน ก็ปรับตัวสูงขึ้นเกินคาดในเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าผู้บริโภคเริ่มใช้จ่ายมากขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในที่สุด หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 12, 2009, 02:40:06 PM โพลของเวปจีน เอามาให้ดูเพื่อศึกษา หากโพลมีการเปลี่ยนแปลง และผมอยู่หน้าจอคอมฯ จะโพสต์ให้ดูใหม่นะครับ
สีแดง-----มองขึ้น สีเขียว--------มองลง สีเหลือง--------วิ่งในวงแคบเพื่อปรับทิศทางใหม่ (http://img252.imageshack.us/img252/5875/75939363.gif) (http://img252.imageshack.us/i/75939363.gif/) โพลถึงเคยแม่น แต่ไม่หมายถึงว่าจะไม่ผิดพลาด จะเชื่อสิ่งใดก็อย่าเชื่อหมดใจ หากผิดพลาดก็จะลำบากทุกข์ใจนา ด้วยความเป็นห่วงครับ หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 12, 2009, 04:04:11 PM เส้นปากถุง(เส้นสีขาวทั้ง๓เส้น)แบบง่ายๆ ไม่ปวดเศียรเวียนเกล้า
เส้นบน---แนวต้าน เส้นกลาง---แนวโน้ม(สำคัญสุด) เส้นล่าง---แนวหนุน ลักษณะที่๑---ทิศทางขึ้นเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น เส้นกลางหันหัวขึ้น เส้นล่างหันหัวลง ลักษณะที่๒---ทิศทางขึ้นเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวขึ้น เมื่อเจอลักษณะทั้ง๒นี้ ราคาระหว่างวันที่ขึ้นๆลงๆ เมื่อเจอจุดที่เห็นว่าต่ำแล้วให้ซื้อเข้าได้เลยครับ ขอเพียงเส้นกลาง(แนวโน้ม)ยังหันหัวขึ้นอยู่ แม้ราคาเแท่งเทียนจะอยู่ต่ำกว่าเส้นกลาง ก็ยังซื้อเข้าได้ หากเส้นบนเดินขวางเมื่อไหร่ ให้ทยอยลดพอร์ตได้เลยครับ ลักษณะที่๓---เลือกทิศทาง---เส้นบนหันหัวลง เส้นล่างหันหัวขี้น ปากถุงแคบลง ถึงช่วงนี้ ให้ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว หากใครยังคิดอยากเคลื่อนไหว ก็จงเคลื่อนไหวไปหน้าทีวี จงอย่าทำการอย่างอื่นใด หากใครเป็นจอมยุทธ์ ก็ชิงเคลื่อนไหวก่อนใครได้ ขอแถมอีกนิด จงโฟกัสที่เส้นกลาง หากเส้นกลางเริ่มขยบหัวหัวขึ้นหรือลง ทิศทางอาจขึ้นหรือลงตามเส้นกลางแนวโน้มนั้น ลักษณะที่๔---เคลื่อนไหวในกรอบแคบ---เส้นบน กลาง ล่าง เดินขวางทั้ง๓เส้น หากใครเล่นออนไลน์ สามารถเล่นได้เล็กน้อยอย่ามาก เมื่อราคาแท่งเทียนใกล้เส้นบน จงขาย ใกล้เส้นล่าง จงซื้อ ต้องเข้าออกให้ทันการณ์ หาไม่แล้วจากกำไรอาจขาดทุนได้นา ขอบอก ลักษณะที่๕---ทิศทางลงเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น เส้นกลางหันหัวลง เส้ยล่างหัวหัวลง ลักษณะที่๖---ทิศทางลงเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวลง เมื่อเส้นล่างเดินขวางเมื่อไหร่ ผู้ที่ใจกล้าที่เล่นออนไลน์ เริ่มทยอยซื้อเข้าได้ที่ละนิด อัตราเสี่ยงยังมีอยู่บ้างนะครับ สิบอกไห่ วิธีดูเส้นปากถุงที่กล่าวมานี้ .....ไม่ใช่ตำราของฝรั่ง แบบของฝรั่งผมเคยอ่านมาบ้างแล้ว ยาวมาก ปวดหัว ทำความเข้าใจได้ยากมากๆๆๆๆ ...........เหมาะเฉพาะกราฟราย๔ชม.และช่วงปกติเท่านั้นนะครับ (บางครั้งตลาดจงใจคึงขึ้นลงอย่าแรงๆ แทบหัวใจวายสำหรับผู้มีทองในมือและผิดทิศทางของตัวเอง เรียกว่า ช่วงไม่ปกติครับ) (http://img109.imageshack.us/img109/9757/44618555.gif) (http://img109.imageshack.us/i/44618555.gif/) หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 12, 2009, 04:05:56 PM กราฟGold 1
ช่อง1 เส้นแดงอยู่เหนือเส้นเขียว---ทิศทางขึ้น ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน เส้นเขียวอยู่เหนือเส้นแดง---ทิศทางลง ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน เส้นแดงและเขียวประสานเป็นกากะบาด ---กำลังจะเปลี่ยนทิศ ให้ดูเส้นแนวโน้มประกอบ หากเส้นแดงและเขียวกำลังจะประสาน แต่ไม่ทันได้ประสานก็หันหันหัวกลับขึ้นหรือลง แสดงว่ากำลังมีเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนี่งเกิดขึ้น หากขึ้นทะลุเส้นปะแนวต้าน ให้ดูเส้นปะแนวต้านเส้นต่อไป หากลงทะลุเส้นปะแนวหนุน ให้ดูเส้นแนวหนุนเส้นต่อไป ส่วนจุดกลมเหลืองทอง---ทิศทางลง จุดกลมฟ้า---ทิศทางขึ้น หากกราฟวิ่งในยามปกติ พอเชื่อถือได้ หากกราฟวิ่งขึ้นลงแรงๆ คือยามไม่ปกติ ไม่อาจเชือถือได้ ช่อง2 ให้ดูเส้นสีม่วง ประกอบกับเส้นแนวโน้มในช่อง1 หากหันหัวไปในทิศทางเดียวกัน โอกาสที่จะผิดพลาดก็มีน้อย ส่วนเส้นปะสีเหลืองทองและฟ้า หากขึ้นเหนือเลข80 เข้าสู่เขตซื้อเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ทุกเมื่อ หากลงต่ำกว่าเลข20 เข้าสู่เขตขายเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ตลอดเวลา ช่อง3 ให้ดูทั้ง2เส้น คือเหลืองทองและฟ้า หันหัวไปทิศทางเดียวกันหรือไม่ เท่านั้นยังไม่พอ ให้ดูประกอบทิศทางในช่อง1ว่าเป็นทิศทางเดียวกันหรือไม่ หากทิศทางหันหัวในแนวเดียวกัน ทิศทางนั้นเชื่อถือได้ (http://img17.imageshack.us/img17/4185/28119684.gif) (http://img17.imageshack.us/i/28119684.gif/) หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: Cindy ที่ ธันวาคม 12, 2009, 04:21:03 PM ขอบคุณค่ะอาจารย์ อย่างนี้ก็ 50/50 เผื่อไว้ก็จะได้ไม่เจ็บตัวมากใช่ไม๊คะ ;)
วันจันทร์นี้กะเข้าซักหน่อย จะรอจน 980 อาจได้ทานแห้ว :P หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 12, 2009, 06:26:20 PM ขอบคุณค่ะอาจารย์ อย่างนี้ก็ 50/50 เผื่อไว้ก็จะได้ไม่เจ็บตัวมากใช่ไม๊คะ ;) ฮาฮา มีแห้วให้กินก็ยังดี ดีกว่านั่งมองคนอื่นกินโต๊ะจีน.......... ;Dวันจันทร์นี้กะเข้าซักหน่อย จะรอจน 980 อาจได้ทานแห้ว :P หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 13, 2009, 07:18:01 AM 2009-09-17 ???????MV (http://www.youtube.com/watch?v=L8JKGvVy6Hw&feature=player_embedded#)
??????????? rou ni kan chu wo na wu xing de shang hen ยั่ว(รั่ว) หนี่ คั่น ชู หว่อ น่า อู๋ สิง เตอ ซาง เหิน หากเธอมองเห็น รอยแผลเป็นอันไร้รูปรอยของฉัน ????????? ni gai dong wo bu guang shi hao sheng หนี่ กาย ต่ง หว่อ ปู้ กวง ซื่อ ฮ่าว เซิ่ง เธอควรเข้าใจ ว่าฉันไม่ได้เพียงชอบเอาชนะ ??????????? yi xie yi zheng wo hui shi shei de ti shen อี้ เสีย อี้ เจิ้ง หว่อ ฮุ่ย ซื่อ เสย เตอ ที่ เซิน เดี๋ยวร้ายเดี๋ยวดี คนอย่างฉันจะเป็นตัวแทนใครได้ ??????? zhen zuo jia shi jia dang zhen เจิน จั้ว เจี่ย สือ เจี่ย ตัง เจิน จริงหรือปลอม ปะปนจนยากที่จะแยกแยะ ??????????? shuo lai yi han jiu suan wo you duo jian ren ซัว หลาย อี ฮั่น จิ้ว ซ่วน หว่อ โหย่ว ตัว เจียน เหยิ่น(เหริ่น) พูดไปยิ่งเสียดาย แม้ว่าฉันจะมีความอดทนสักปานใด ????????? ruo you si wu you shen me ping zheng ยั่ว(รั่ว) โหย่ว ซื่อ อู๋ โหย่ว เสิน เมอ ผิง เจิ้ง หากมีก็เหมือนไม่มี แล้วจะใช้สิ่งใดเป็นเครื่องยืนยัน ??????????? ban xi ban bei ai ben lai shi shuang mian ren ปั้น สี่ ปั้น เปย อ้าย เปิ่น หลาย ซื่อ ซวง เมี่ยน เยิ่น(เริ่น) ครึ่งหนึ่งสุข ครึ่งหนึ่งเศร้า ความรักเป็นดั่งเช่นดาบ 2 คม ??????? shi fei ren ta men yi lun ซื่อ เฟย เริ่น ทา เหมิน อี้ ลุ่น ถูกผิดแล้วแต่คนตีความ *???????????? mei ban dian feng sheng ming yun que liu xia zhi wen เหมย ปั้น เตี่ยน เฟิง เซิง มิ่ง ยุ่น เชี่ย หลิว เซี่ย จื่อ เหวิน ไม่ทิ้งเบาะแสแม้เพียงน้อย แต่โชคชะตายังคงทิ้งรอยประทับเอาไว้ ??????? ai ni que bu neng guo wen อ้าย หนี่ เชี่ย ปู้ เหนิง กั้ว เวิ่น รักเธอแต่ไม่อาจข้องเกี่ยว ???????????? bie zou lou feng sheng ai wo bi di dui can ren เปี๋ย โจ่ว โล่ว เฟิง เซิง อ้าย หว่อ ปี่ ตี๋ ตุ้ย ฉาน เหยิ่น(เหริ่น) อย่าแพร่งพรายเบาะแส เพราะการรักฉันมันเลวร้ายยิ่งกว่าการเป็นศัตรูกัน ???????** can lan que shi jin huang hun ช่าน ล่าน เชี่ย ซื่อ จิ้น หวง ฮุน เจิดจ้าแจ่มใส แต่ก็ยิ่งเข้าใกล้ความมืดมน ??????????? nuo ni kan chu wo na wu xing de shang hen ยั่ว(รั่ว) หนี่ คั่น ชู หว่อ น่า อู๋ สิง เตอ ซาง เหิน หากเธอมองเห็น รอยแผลอันไร้รูปรอยของฉัน ????????? ni gai dong wo kan ni de yan shen หนี่ กาย ต่ง หว่อ คั่น หนี่ เตอ เอี่ยน เสิน เธอควรเข้าใจสายตาที่ฉันใช้มองเธอ ??????????? yi xie yi zheng wo hui shi shei de ti shen อี้ เสีย อี้ เจิ้ง หว่อ ฮุ่ย ซื่อ เสย เตอ ที่ เซิน เดี๋ยวร้ายเดี๋ยวดี คนอย่างฉันจะเป็นตัวแทนใครได้ ??????? zhen zuo jia shi jia dang zhen เจิน จั้ว เจี่ย สือ เจี่ย ตัง เจิน จริงหรือปลอม ปะปนจนยากที่จะแยกแยะ ซ้ำ *-** 2 รอบ ???????????? bie zou lou feng sheng ai ni que bi si geng leng เปี๋ย โจ่ว โล่ว เฟิง เซิง อ้าย หนี่ เชี่ย ปี่ สื่อ เกิ้ง เหลิง อย่าเผยข้อมูลออกไป เพราะการรักเธอนั้นเหน็บหนาวยิ่งกว่าความตาย ??????? can lan que shi jin huang hun ช่าน ล่าน เชี่ย ซื่อ จิ้น หวง ฮุน เจิดจ้าแจ่มใส แต่ก็ยิ่งเข้าใกล้ความมืดมน หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: nokeang ที่ ธันวาคม 13, 2009, 08:49:54 AM :) สวัสดีค่ะคุณทองใหม่ วันนี้นำเพลงเพราะๆมาฝากด้วยแนะ ขอบคุณนะค่ะ ;D
หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 14, 2009, 08:13:52 AM (http://img521.imageshack.us/img521/7917/45221645.gif) (http://img521.imageshack.us/i/45221645.gif/)
US Dollar Making Progress on a True, Bullish Reversal Fundamental Outlook for US Dollar: Bullish - Dollar capitalizes on mounting financial instability through its safe haven status - A late-week surge for the dollar helped along by a jump in consumer confidence, spending - Technicals and fundamentals clash for EURUSD outlook There is a trend developing. The US dollar has produced notable rallies at the end of each of the past four weeks. The past two advances are the most notable. Both have come on the back of exceedingly strong economic data ? the drive on the 5th was the product of strong NFPs and a drop in the unemployment rate; while the rally on the 12th would come through the merits of a strengthening consumer on sentiment and spending. This would seem a straightforward reaction to data, right? Actually, this would contradict the normal pace that the market has carved for the greenback for the past nine months where strong economic data has bolstered risk appetite and directly weighed on the dollar as a safe haven currency. So, what does this mean? Is the dollar?s role in the risk appetite backdrop changing? Is sentiment actually weaker than just the US data would suggest? Both are likely true. With the dollar looking for strength through various market conditions, the currency may be developing a meaningful bullish trend. However, playing on the well-established, fundamental roles that have been in control for over a year; a collapse in broad investor sentiment is still the most accessible catalyst for a true dollar bull trend. Read more: Forex Trading Forecast | Forex Market News http://www.dailyfx.com/forex_market_news/forecasts/#ixzz0Zce8qVK0 (http://www.dailyfx.com/forex_market_news/forecasts/#ixzz0Zce8qVK0) หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 14, 2009, 10:46:00 AM จีนหลุดพ้นจากภาวะเงินฝืดเป็นครั้งแรกในรอบปี หลังดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้นในเดือนพ.ย.
Posted on Monday, December 14, 2009 จีนหลุดพ้นจากภาวะเงินฝืดเป็นครั้งแรกในรอบปี เศรษฐกิจจีนหลุดพ้นจากภาวะเงินฝืดเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 1 ปี หลังดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้นในเดือนพฤศจิกายน สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน ระบุ ดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนพฤศจิกายนเมื่อเทียบจากเมื่อหนึ่งปีก่อน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมกราคม ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเกิดพายุหิมะในภาคเหนือและภาคกลางของประเทศ ทำลายพืชไร่และส่งผลกระทบต่อการขนส่ง จึงเป็นผลให้ราคาอาหารขยับสูงขึ้น รวมถึงการที่รัฐบาลจีนปรับเพิ่มราคาเชื้อเพลิง ไฟฟ้า และน้ำประปา ซึ่งเป็นสินค้าควบคุม ขณะที่ผลผลิตอุตสาหกรรมของจีนขยายตัว 19.2% และตัวเลขการค้าปลีกเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.8 ในเดือนพฤศจิกายน ยังเป็นแรงผลักดันให้ตัวเลข CPI ปรับเพิ่มขึ้นด้วย เป็นที่น่าสังเกตว่าตัวเลขต่างๆ ที่ประกาศออกมาของจีนนั้น ปรับตัวดีขึ้นทั้งนั้น ได้รับอานิสงส์จากการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลได้นำมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นการให้เงินอุดหนุนสำหรับผู้ที่ซื้ออุปกรณ์เครื่องใช้ไม้สอยในครัวเรือน ตลอดจนการปล่อยเงินกู้จำนวนมหาศาลของธนาคารในประเทศ ซึ่งกระตุ้นการส่งออกให้ฟื้นตัวขึ้น การขยายตัวของเศรษฐกิจในไตรมาส 3 อยู่ที่ 8.9% ซึ่งการขยายตัวดังกล่าวมีส่วนช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจในเอเชียฟื้นตัวขึ้นจากภาวะถดถอย ความกังวลต่อการลดอันดับเครดิตประเทศกรีซ-สเปน ฉุดตลาดหุ้นยุโรป ในขณะที่นักลงทุนทางฝั่งอเมริกาตอบรับข่าวดีทางเศรษฐกิจในส่วนของตัวเลขการขอรับสวัสดิการว่างงานและยอดค้าปลีก ที่ทั้งคู่ส่งสัญญาณการฟื้นตัวและสร้างความมั่นใจให้กับตลาดมากยิ่งขึ้น ตลาดหุ้นทางฝั่งยุโรปกลับถูกกดดันจากข่าว Fitch Ratings หั่นอันดับเครดิตประเทศกรีซ และ Standard & Poor?s ลดแนวโน้มเครดิตของสเปน ราคาหุ้นของ National Bank of Greece และ Piraeus Bank ซึ่งเป็นธนาคารของกรีซ ดิ่งลงมากกว่า 19% และนำการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคารในยุโรปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลัง Fitch กระหน่ำลดอันดับเครดิต 5 แบงก์ใหญ่ในประเทศ ตามมาติดๆ ภายหลังจากที่มีการปรับลดอันดับเครดิตของประเทศโดยรวม และนอกจากตลาดหุ้นกรีซจะปักหัวลงถึง 9% ในสัปดาห์ก่อน ดัชนี IBEX 35 ของสเปน ก็ร่วงลง 3.5% นำโดย Banco Santander ที่เป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศปรับตัวลงกว่า 6% นักวิเคราะห์มองว่า กรีซ และรวมถึงไอร์แลนด์ จัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ จนมีความเป็นไปได้ที่อาจจะทำให้กลุ่มประเทศยุโรปต้องเข้ามาให้ความช่วยเหลือ หรือแม้แต่อาจจะนำไปสู่การขับออกจากประเทศกลุ่มยูโรโซนไปได้ด้วยเช่นกัน ผลพวงของการ downgrade อันดับเครดิตของกรีซ ก็ทำให้อดีตผู้ให้บริการทางการเงินรายใหญ่ที่สุดของเบลเยี่ยม อย่าง Fortis ราคาหุ้นร่วงลง 8% ในฐานะที่บริษัทเป็นผู้ถือพันธบัตรรายใหญ่อีกรายหนึ่งของรัฐบาลกรีซ สำหรับตลาดหุ้นอเมริกาที่มีการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจและสามารถช่วยพยุงตลาดให้รอดพ้นจากการปรับตัวลงได้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นักวิเคราะห์ก็ได้เชียร์ให้ลงทุนในหุ้นกลุ่มการบิน นำโดย Delta Air lines สายการบินรายใหญ่ที่สุดของโลก เหตุผลเป็นเพราะมุมมองที่ดีขึ้นต่อความต้องการเดินทางของผู้คนจากที่ต่างๆ ขณะที่ราคาน้ำมันที่ลดลงในขณะนี้ก็เรียกว่าเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สะท้อนถึงต้นทุนการบินที่ถูกลง ราคาน้ำมันในตลาดนิวยอร์กเมื่อสิ้นสัปดาห์ที่ผ่านมาก็หล่นลงหลุดระดับ 70 เหรียญต่อบาร์เรลไปเรียบร้อยแล้ว กรีนสแปนเชื่อภาคธุรกิจจะเริ่มจ้างงานรอบใหม่ แต่ยังหวั่นภาค SME ไม่ค่อยจะเห็นกันบ่อยเท่าไหร่ที่คุณปู่ Alan Greenspan อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ จะออกมาให้สัมภาษณ์รายการโทรทัศน์ จนล่าสุดรายการ Meet the press ของสถานี NBC ก็สามารถจับผู้ยิ่งใหญ่ในแวดวงการเงินโลกผู้นี้มาพูดคุยกันได้ถึงแนวโน้มเศรษฐกิจ ไฮไลท์ของ Greenspan อยู่ที่มุมมองต่อสถานการณ์แรงงานในสหรัฐฯ ซึ่งเขาคิดว่า จะมีการฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นสัญญาณที่ระบุว่า บรรดาบริษัทต่างๆ กำลังจ่อเร่งขยายการผลิตในตอนนี้ หลังจากที่มีการปรับลดจำนวนแรงงานลงอย่างมากในช่วงที่เศรษฐกิจถดถอยดำเนินอยู่ ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจที่ทุกคนจะอยู่ในภาวะตระหนกเช่นนั้นภายใต้แรงบีบคั้นของวิกฤติการเงินโลกครั้งรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี Greenspan ประเมินว่า ระดับการจ้างงาน ณ ปัจจุบันยังไม่เพียงพอกับปริมาณความต้องการสินค้าที่ควรจะผลิตได้ ซึ่งถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดหรือมีปัจจัยอื่นเข้ามากระทบ การจ้างงานรอบใหม่ก็น่าจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากนี้ อย่างไรก็ดี อดีตประธานเฟดก็บอกว่า แม้มีแนวโน้มที่บริษัทจะจ้างงานเพิ่มขึ้นก็ตาม แต่อัตราการว่างงานของประเทศก็น่าจะยังเพิ่มขึ้นต่อ สาเหตุเป็นเพราะการประเมินที่ภาคเศรษฐกิจยังจำเป็นต้องจ้างงานใหม่เพิ่มราว 100,000 คนต่อเดือน ถึงจะเพียงพอที่จะรองรับกับการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรได้ นอกจากนี้ ก็ยังมีคนอีกส่วนหนึ่งที่เคยยอมพ่ายแพ้กับการมองหางานในช่วงที่เศรษฐกิจร่วงลงตกต่ำ และขณะนี้ก็เปลี่ยนใจหันกลับมามองหางานที่น่าจะมีความหวังเพิ่มมากขึ้นอีกครั้ง ทั้งหมดนี้จึงเป็นเหตุผลเพียงพอที่ทำให้เชื่อได้ว่าอัตราการว่างงานอาจยากที่จะลดลงอย่างรวดเร็ว ล่าสุดในเดือนพฤศจิกายน อัตราว่างงานของสหรัฐฯ ลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 10% จาก 10.2% ในเดือนตุลาคม ที่ถือเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 26 ปี ขณะที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรลดลง 11,000 ราย มีสิ่งหนึ่งที่ Greenspan เป็นห่วงก็คือ คนอเมริกันเกือบ 6 ล้านคนที่ตกงานมานาน อาจมีประสิทธิภาพหรือทักษะในการทำงานที่ลดลง ซึ่งประเด็นสำคัญอยู่ที่ ฝีมือแรงงานเหล่านี้อาจไม่ฟื้นตัวเร็วและสอดรับกับสภาวะเศรษฐกิจเท่าที่ควรจะทำได้ นอกจากนั้น ยังมีเรื่องของ SME หรือผู้ประกอบการรายเล็ก ที่ยังต้องเจอกับปัญหาการเข้าถึงสินเชื่อ และยากที่จะมีความสามารถในการจ้างงานเพิ่มขึ้น นานาประเทศเรียกร้องการใช้พิธีสารเกียวโตหลังปี 2555 ผู้แทนจากจีนแสดงจุดยืนว่าจีนต้องการให้ใช้พิธีสารเกียวโตต่อไปหลังปี 2555 โดยไม่ต้องนำข้อตกลงอื่นมาใช้แทน ในช่วงสิ้นสุดสัปดาห์แรกของสุดยอดการประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่กรุงโคเปนเฮเกน ผู้แทนจากนานาประเทศยังคงถกเถียงกันเกี่ยวกับการร่างข้อตกลงใหม่ซึ่งอาจนำมาใช้แทนพิธีสารเกียวโต. อย่างไรก็ตาม จีนแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่าไม่ต้องการข้อตกลงใหม่มาแทนที่พิธีสารเกียวโต ทั้งนี้ ประเทศกำลังพัฒนาต่างเรียกร้องให้มีการใช้พิธีสารเกียวโตต่อไป โดยพิธีสารนี้เป็นข้อผูกพันทางกฎหมายที่กำหนดให้ประเทศพัฒนาแล้วลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้เฉลี่ย 5.2% จากระดับปี 2533 ภายในปี 2555 แต่พิธีสารฉบับนี้ไม่ครอบคลุมถึงประเทศอุตสาหกรรม ซึ่งรวมถึงประเทศที่ปล่อยก๊าซมากที่สุดอย่างสหรัฐ จีน และ อินเดีย ส่วนทางด้านประเทศอุตสาหกรรมต้องการให้มีการกำหนดกรอบทางกฎหมายเพียงหนึ่งเดียวซึ่งครอบคลุมทุกกลุ่มประเทศ ขณะที่กระทรวงต่างประเทศจีนแถลงว่า นายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่าของจีน จะเข้าร่วมการประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่กรุงโคเปนเฮเกนของเดนมาร์กในระหว่างวันที่ 17-18 ธ.ค การเข้าร่วมของนายเวินจะเป็นช่วงท้าย ๆ ของการประชุม ซึ่งจะมีประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐ นายกรัฐมนตรีมานโมฮัน ซิงห์ ของอินเดีย และประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซี ของฝรั่งเศสเข้าร่วมด้วย เพื่อหาทางบรรลุข้อตกลงฉบับใหม่สำหรับการต่อสู้ปัญหาโลกร้อน ก่อนหน้านี้ผู้แทนจากจีนได้กล่าวโจมตีทูตระดับสูงของสหรัฐว่าขาดความรับผิดชอบและขาดสามัญสำนึกที่กล่าวในที่ประชุมกรุงโคเปนเฮเกนว่าจะไม่ให้ความช่วยเหลือจีน ด้านผู้แทนจากสหรัฐ ได้ออกมาตอบโต้ว่าจีนก็น่าจะยอมรับได้ว่าเงินสนับสนุนการแก้ปัญหาโลกร้อน ควรให้แก่ประเทศที่มีความจำเป็นมากที่สุดในกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนาซึ่งไม่ใช่จีน แม้จีนจะอยู่ในกลุ่มประเทศดังกล่าวด้วยก็ตาม กลุ่มนักเคลื่อนไหวหลายหมื่นคนได้ออกมาเดินขบวนเรียกร้องให้มีการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศกำลังพัฒนาในการรับมือกับปัญหาโลกร้อนในกรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ซึ่งเป็นสถานที่จัดการประชุมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งสหประชาชาติ (UN) โดยมีผู้ถูกจับกุมมากกว่า 960 คน และส่วนใหญ่ได้รับการปล่อยตัวแล้วในเวลาต่อมา มีเพียง 5 รายเท่านั้นที่ถูกตั้งข้อหา และจะถูกนำตัวขึ้นศาลด้วย การประชุมครั้งนี้มีความคืบหน้าหลายประการ โดยสหภาพยุโรปเองประกาศว่า จะจัดงบประมาณ 1.06 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนาแก้ปัญหาโลกร้อนในช่วง 3 ปีข้างหน้า ประธานาธิบดีจีนเยือนเอเชียกลางเชื่อมสัมพันธ์ ประธานาธิบดีหู จิ่นเทาของจีนได้เดินสายเยือนประเทศต่างๆในเอเชีย โดยได้เดินทางไปยังคาซัคสถานและร่วมกับประธานาธิบดีนูร์ซัลทาน นาซาร์บาเยฟ แห่งคาซัคสถาน เพื่อเปิดโครงการท่อแก็สความยาว 7,000 กิโลเมตรเชื่อมโยงเอเชียกลางมายังจีนเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีจีนเดินทางไปยังเติร์กมินิสถาน เพื่อพบกับผู้นำและกระชับความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ และผู้นำจีนได้เข้าร่วมพิธีเปิดตัวโครงการท่อแก็สที่วางพาดผ่านพื้นที่ในประเทศเติร์กมินิสถาน อุสเบกิสถาน และคาซัคสถานมายังซินเจียง ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน โครงการท่อแก๊สดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งของจีนในการเข้าถึงแหล่งทรัพยากรด้านพลังงานทั่วโลกมากขึ้น ขณะที่ความต้องการใช้งานด้านเหล็ก ก็คาดว่าจะสูงเป็นประวัติการณ์เช่นกัน กี เซียงตง รองเลขาธิการสมาคมเหล็กและเหล็กกล้าจีนคาดว่า การใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนจะทำให้ผลผลิตและการใช้งานเหล็กดิบในจีนสูงเป็น ประวัติการณ์ในปีนี้ โดยการใช้เหล็กดิบคาดว่าจะสูงเกิน 565 ล้านตันในปีนี้ ขณะที่การใช้งานเหล็กต่อปีอาจจะสูงถึง 500 ล้านตัน เมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมา ผลผลิตเหล็กดิบรายวันของจีนเพิ่มขึ้น 42.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี ปริมาณ 1.66 ล้านตัน ซึ่งหมายความว่า การผลิตเหล็กต่อปีอาจจะอยู่ที่ 600 ล้านตันต่อปี สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อปีที่แล้ว จีนผลิตเหล็กดิบ 500 ล้านตัน คิดเป็นสัดส่วน 38% ของผลผลิตเหล็กทั่วโลก ญี่ปุ่น-สหรัฐบรรลุข้อตกลงเปิดน่านฟ้า ญี่ปุ่น และสหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงการเปิดน่านฟ้าที่จะยกเลิกข้อจำกัดด้านจำนวนเที่ยวบินระหว่าง 2 ประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในโลกได้แล้ว เรย์ ลาฮูด รัฐมนตรีคมนาคมสหรัฐ แถลงว่า เมื่อข้อตกลงฉบับนี้มีผลบังคับใช้จะช่วยให้ผู้บริโภคชาวอเมริกัน และญี่ปุ่น รวมทั้งสายการบินต่างๆ และเศรษฐกิจได้ประโยชน์จากราคาที่มีการแข่งขันกัน และบริการที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น อย่างไรก็ดี นายลาฮูดไม่ได้เปิดเผยวันที่ข้อตกลงจะมีผลบังคับใช้ แต่ระบุว่า ข้อตกลงจะต้องผ่านระเบียบต่างๆ ของทั้งสองประเทศเสียก่อน ข้อตกลงฉบับนี้จะเปิดทางให้สายการบินต่างๆ สามารถปรับเปลี่ยนจำนวนเที่ยวบินได้จากความต้องการใช้บริการมากกว่าข้อจำกัดที่กำหนดไว้ โดยจำนวนเที่ยวบินที่ให้บริการระหว่างสหรัฐ และญี่ปุ่นในปัจจุบันถูกกำหนดโดยข้อตกลงทวิภาคที่ทำขึ้นเมื่อปี 2495 หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 รายละเอียดของข้อตกลงฉบับเก่า ทั้งสองฝ่ายระบุว่า เป็นข้อตกลงที่ล้าสมัย ภายใต้ข้อตกลงนี้ จำกัดให้สายการบินญี่ปุ่นเดินทางระหว่างสองประเทศได้สัปดาห์ละ 136 เที่ยว แบ่งเป็นเที่ยวบินของเจแปน แอร์ไลนส์ 94 เที่ยว และสายการบินออล นิปปอน แอร์เวย์ส 42 เที่ยว ขณะที่สายการบินสหรัฐเดินทางได้สัปดาห์ละ 296 เที่ยว สหรัฐและญี่ปุ่นได้ตกลงที่จะเปิดเสรีตลาดการบินพลเรือนอย่างเต็มที่ภายใต้การจัดการให้มีการเปิดน่านฟ้า นับเป็นการทำข้อตกลงเปิดเสรีการบินอย่างเต็มรูปแบบครั้งแรกที่ครอบคลุมสนามบินขนาดใหญ่ในญี่ปุ่นอย่างนาริตะและฮาเนดะ แอร์ไลน์ส ความเคลื่อนไหวดังกล่าวคาดว่า จะทำให้การแข่งขันดุเดือดมากยิ่งขึ้นระหว่างเดลต้า แอร์ ไลน์ส และอเมริกัน ซึ่งพยายามที่จะเข้ามาช่วยเหลือสายการบินเจแปน แอร์ไลน์ส ข้อตกลงดังกล่าวจะทำให้สายการบินมีอิสระในเส้นทางการบินระหว่างสหรัฐและญี่ปุ่นมากขึ้น รวมทั้งลดอุปสรรคในเรื่องการกำหนดราคาตั๋วและการจำหน่ายตั๋วร่วมกัน นายเซอิจิ แมฮารา รมว.กระทรวงคมนาคมญี่ปุ่น กล่าวว่า ข้อตกลงร่วมกันระหว่างสหรัฐและญี่ปุ่นครั้งนี้มีความหมายมากสำหรับตลาดการบินของทั้ง 2 ประเทศ ยิลเล็ต นำร่องลดบทบาทไทเกอร์ในกิจกรรมการตลาด ยิลเล็ตเป็นสปอนเซอร์โฆษณาเจ้าแรกที่ลดบทบาทของไทเกอร์ วู้ดส์ นักกอลฟ์มือหนึ่งของโลกในกิจกรรมด้านการตลาดของบริษัทลง หลังจากที่มีข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับการมีสัมพันธ์กับสาวมากหน้าหลายตา จนส่งผลกระทบอย่างหนักต่อชีวิตคู่และอาชีพการงาน หลังวู้ดส์ขับรถไปชนต้นไม้ บริเวณด้านหน้าบ้านพักในเมืองฟลอริดา ด้วยสาเหตุที่คาดกันว่าเกิดจากวู้ดส์ทะเลาะกับภรรยาเรื่องไปมีสัมพันธ์กับสาวอื่น ล่าสุด นักกอล์ฟมือหนึ่งของโลกแถลงผ่านเว็บไซต์ของตนเองโดยยอมรับว่านอกใจภรรยาจริง และขออภัยต่อการกระทำผิดดังกล่าวพร้อมตัดสินใจอำลาวงการกอล์ฟชั่วคราว ก่อนหน้านี้ วู้ดส์ได้เป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมส่งเสริมทางการตลาดของหลายแบรนด์ ตั้งแต่เอทีแอนด์ที ไปจนถึงไนกี้ ซึ่งสปอนเซอร์บางส่วนก็สนับสนุนการตัดสินใจของวู้ดส์ บางรายก็บอกว่าอยู่ในระหว่างการประเมินความสัมพันธ์กับวู้ดส์ ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่ประกาศออกมาเมื่อวันศุกร์ที่ 11 ธ.ค. 2552 ? ราคานำเข้า (พ.ย.) เพิ่มขึ้น 1.7% จากเดือนก่อนหน้า ? ราคาส่งออก (พ.ย.) เพิ่มขึ้น 0.8% จากเดือนก่อนหน้า ? ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ธ.ค.) อยู่ที่ระดับ 73.4 จุด ? สินค้าคงคลังภาคธุรกิจ (ต.ค.) เพิ่มขึ้น 0.2% จากเดือนก่อนหน้า ? ยอดค้าปลีก (พ.ย.) เพิ่มขึ้น 1.3% จากเดือนก่อนหน้า ติดตาม Money Wake up ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ทาง Money Channel หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: Cindy ที่ ธันวาคม 14, 2009, 12:01:50 PM กรี๊ดดด ขอบคุณค่ะ เพิ่งจะทราบว่าอาจารย์ก็ฟังเพลงจีนเหมือนกัน เพลงนี้หวงเสี่ยวหมิงร้องเพราะนะคะ :-*
วันนี้จะเข้าทั้งน้องกิมและน้องอิ๊วค่ะ เผื่อได้กินเป่าฮื้ออย่างคนอื่นเค้าบ้าง เบื่อแห้วแล้วค่ะ :P หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 14, 2009, 12:08:59 PM กรี๊ดดด ขอบคุณค่ะ เพิ่งจะทราบว่าอาจารย์ก็ฟังเพลงจีนเหมือนกัน เพลงนี้หวงเสี่ยวหมิงร้องเพราะนะคะ :-* รู้ว่าเพลงนี้ใครเป็นผู้ร้อง แสดงว่าเป็นคนที่ชอบฟังเพลงจริง ;D ;D ;Dวันนี้จะเข้าทั้งน้องกิมและน้องอิ๊วค่ะ เผื่อได้กินเป่าฮื้ออย่างคนอื่นเค้าบ้าง เบื่อแห้วแล้วค่ะ :P หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: Cindy ที่ ธันวาคม 14, 2009, 12:16:46 PM กรี๊ดดด ขอบคุณค่ะ เพิ่งจะทราบว่าอาจารย์ก็ฟังเพลงจีนเหมือนกัน เพลงนี้หวงเสี่ยวหมิงร้องเพราะนะคะ :-* รู้ว่าเพลงนี้ใครเป็นผู้ร้อง แสดงว่าเป็นคนที่ชอบฟังเพลงจริง ;D ;D ;Dวันนี้จะเข้าทั้งน้องกิมและน้องอิ๊วค่ะ เผื่อได้กินเป่าฮื้ออย่างคนอื่นเค้าบ้าง เบื่อแห้วแล้วค่ะ :P หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 14, 2009, 01:23:18 PM กราฟตาแป๊ะซ้ายบน หน้าสีแดง---ลงปรับฐานช่วงสั้นๆ อาจเป็นวัน-สองวัน หน้าสีเทา---ดีดขึ้นช่วงสั้นๆ อาจเป็นวัน-สองวัน เส้นสีแดงหนา---ขาขึ้น เส้นสีเขียวหนา---ขาลง
ขวาบน เส้นสีแดง---เสนอซื้มากกว่าเสนอขาย เส้นสีเขียว---เสนอขายมากกว่าเสนอซื้อ ส่วนช่วงกลางที่มีแท่งสีแดงกับเขียวนั้น แท่งแดง---แรงซื้อขึ้น แท่งเขียว---แรงขายลง ขวาช่องสอง แท่งเหลืองคู่เส้นแดง---ขาขึ้น แท่งฟ้าคู่เส้นเขียว---ขาลง โดยปกติ ช่องนี้จะเปลี่ยนแนวโน้มช้ากว่าเพื่อน หากเปลี่ยนแนวโน้มเมื่อไหร่ เขาให้ขายออกหรือซื้อเข้าได้ทันที่ ยกเว้นมีปัจจัยพื้นฐานแรงๆแทรกเข้ามา จึงจะทำให้แนวโน้มกลับเปลี่ยนได้โดยกะทันหัน ซ้ายช่องสอง หน้าเหลืองแป๊ะยิ้ม---ขาขึ้น หน้าแดงแป๊ะร้องไห้---ขาลง แท่งสีเขียว---เพดาน แท่งสีแดง---พื้นดินโดยปกติ ช่องนี้จะส่งสัญญาณว่า กำลังจะเปลี่ยนแนวทางแล้วนะ แต่ยังไม่เต็มร้อย อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยกะทันหันก็ได้ ต้องดูซ้ายบนและขวาช่อง๒ประกอบด้วย จึงจะให้ความมั่นใจได้ ทอง (http://img706.imageshack.us/img706/3918/94125161.gif) (http://img706.imageshack.us/i/94125161.gif/) หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 14, 2009, 01:24:19 PM ดัชนีเงินเมกา
(http://img687.imageshack.us/img687/5051/66632943.gif) (http://img687.imageshack.us/i/66632943.gif/) หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 14, 2009, 01:25:17 PM น้ำมัน
(http://img706.imageshack.us/img706/2491/68299278.gif) (http://img706.imageshack.us/i/68299278.gif/) หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: pridoy ที่ ธันวาคม 14, 2009, 01:34:01 PM หวัดดีครับ เห็น online อยู่
อิอิ evil.gif evil.gif หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: pridoy ที่ ธันวาคม 14, 2009, 02:18:50 PM วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2552 14:12
รัฐบาลอาบูดาบีให้เงินช่วยเหลือดูไบ 1 หมื่นล้านดอลล่าร์ จ่ายเงินคืนเจ้าหนี้ รัฐบาลอาบูดาบีได้ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ดูไบเป็นเงิน 1 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยเหลือดูไบชำระหนี้ รวมถึงการนำมาจ่ายให้กับพันธบัตรของบริษัท นาคีล พีเจเอสซี ที่ครบกำหนดไถ่ถอนวันนี้มูลค่า 4.1 พันล้านดอลลาร์ รัฐบาลดูไบเปิดเผยว่า ดูไบจะใช้เงินที่เหลือเพื่อมาชำระหนี้ให้กับเจ้าหน้าที่และคู่สัญญา เพื่อให้ตอบสนองเรื่องเงินทุนที่ใช้ในการดำเนินการไปจนถึงวันที่ 30 เม.ย. 2553 นาคีลมีหนี้สะสมเพิ่มขึ้นในช่วงที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในดูไบคึกคัก โดยบริษัทได้กู้เงินมา 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่บริษัทในเครือก็ได้ใช้งบประมาณ 7 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อกระจายการลงทุน ทั้งนี้ รัฐบาลดูไบยังจะประกาศกฎหมายในการปรับโครงสร้าง ซึ่งเป็นกรอบที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานที่ได้รับการยอมรับในเรื่องมาตรฐานของความโปร่งใสและการคุ้มครองผู้ปล่อยกู้ อิอิ หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 14, 2009, 03:08:06 PM บทวิเคราะห์ทองคำ (14-12-52)
14 ธ.ค. 2552 สรุปภาวะตลาดเมื่อวันก่อน ราคาโกลด์ฟิวเจอร์สปรับตัวอยู่ในช่วงแคบๆในขณะที่ราคาทองคำสปอตปรับตัวเพิ่มขึ้นช้าๆก่อนปรับตัวลดลงรุนแรงในตลาดสหรัฐฯ ทองคำแท่งสมาคมฯปิดที่ 17,800/17,900 บาท เงินบาทอ่อนค่าลงช้าๆ ปัจจัยที่อาจส่งผลต่อเนื่องถึงวันนี้ สหรัฐฯรายงานยอดค้าปลีกประจำเดือนพฤศจิกายนที่หมดระยะมาตรการกระตุ้นซื้อรถยนต์ไปแล้ว ปรากฏว่าผู้บริโภคมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคเริ่มมีความมั่นใจในเศรษฐกิจแล้วโดยที่กิจการต่างๆมียอดขายเพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคมเกือบทั้งหมดโดยเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิงและเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ในขณะที่มีเพียงกลุ่มเฟอร์นิเจอร์และเสื้อผ้าเท่านั้นที่มียอดขายลดลงเล็กน้อย [US Census Bureau, TCAF Research] รายงานผู้บริโภคของรอยเตอร์สร่วมกับ University of Michigan ก็ออกมาดีขึ้นเช่นเดียวกัน โดยนักลงทุนมีมุมมองต่อภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ดีขึ้นอย่างมากและมีมุมมองต่อภาวะเศรษฐกิจในอนาคตที่ดีขึ้นเล็กน้อย [Reuters, TCAF Research] รายงานทั้งสองประกอบกันเป็นการแสดงให้เห็นว่าสถานการณ์ของผู้บริโภคในสหรัฐฯเริ่มดีขึ้นแล้ว นักลงทุนจึงกลับมาลงทุนในตลาดหุ้นอย่างหนัก ในขณะที่สถานการณ์เศรษฐกิจกลุ่มยูโรยังไม่ดีขึ้น จึงทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอย่างรุนแรงพร้อมกับราคาทองคำที่ปรับตัวลดลง ญี่ปุ่นรายงาน Tankan Index ออกมาดีขึ้นและดีกว่าคาดอย่างชัดเจน นักลงทุนจึงเข้ามาลงทุนในญี่ปุ่นส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงได้เล็กน้อยในเช้านี้ [Econoday, Forexfactory, TCAF Research] แนวโน้มทองคำวันนี้ ในวันนี้ไม่น่าจะมีปัจจัยชัดเจนที่อาจผลักดันราคาทองคำได้ เราจึงคาดว่า "ราคาทองคำน่าจะแกว่งตัวอยู่ในช่วง (Range Bounded)" และแนะนำให้ "ทยอยปิดสถานะ SHORT เพื่อทำกำไร และซื้อขายในช่วง S1/R1 โดยมีจุดตัดขาดทุนหากราคาปรับตัวเกิน S2/R2" (http://img710.imageshack.us/img710/1812/67005831.gif) (http://img710.imageshack.us/i/67005831.gif/) มุมมองทองคำ ภาวะเศรษฐกิจเปรียบเทียบในภูมิภาคต่างๆ โดยเฉพาะแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในขณะที่ภาวะเศรษฐกิจจีนน่าจะส่งผลกระทบต่อราคาทองคำได้น้อยลง หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 14, 2009, 03:12:47 PM Daily Update 14-12-52
14 ธ.ค. 2552 Gold Market Commentary ประเด็นสำคัญ ? แตะระดับต่ำสุดในวันศุกร์ ในรอบสัปดาห์ทำการ ? ดอลล์พุ่งทำนิวไฮ 2 เดือนเทียบยูโรรับข้อมูลสดใส ? ดอลล์แข็งกดน้ำมันดิบปิดร่วง 67 เซนต์ ? ตลาดหุ้นนิวยอร์ค:ดาวโจนส์, S&P ดีดบวกกันรับข้อมูลศก.สดใส ราคาทองที่ตลาดสหรัฐแตะระดับต่ำสุดในวันศุกร์ หลังจากที่เดินหน้าขึ้นในช่วงแรก ในขณะที่ค่าดอลลาร์ที่พุ่งขึ้นหลังข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ ทำให้นักลงทุนทองที่มีความวิตกเร่งรีบลดโพสิชัน สัญญาทองส่งมอบเดือนก.พ.เคลื่อนตัวในช่วง 1,143.40-1,110.20 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นราคาต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 พ.ย. ในขณะที่มีปริมาณการซื้อขายราว 205,385 สัญญา กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้นมากเกินคาด 1.3% และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนต.ค.เพิ่มขึ้นผิดคาด 0.2% ขณะที่รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้นสู่ 73.4 ซึ่งข้อมูลเหล่านี้หนุนหุ้นกลุ่มค้าปลีกพุ่งขึ้น 1.3% ยูโรได้รับผลกระทบในสัปดาห์ที่ผ่านมาจากความวิตกต่อฐานะการคลังของกรีซ หลังจาก ฟิทช์ เรทติ้งส์ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซ และยูโรร่วงลง 1.6% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการร่วงลงมากที่สุดเมื่อเทียบเป็นรายสัปดาห์ในรอบกว่า 1 เดือน สมาชิกคณะกรรมการบริหารของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวว่า รัฐบาลในยูโรโซนเสี่ยงต่อการทำลายความเชื่อมั่นในการบริหารเศรษฐกิจของตน ด้วยการปล่อยให้เกิดการขาดลที่ไม่ยั่งยืน และหนี้สาธารณะ มูดี้ส์ยังระบุว่า อันดับความน่าเชื่อถือขั้นสูงของสหรัฐก็ไม่ได้เผชิญกับความเสี่ยงที่จะถูกปรับลดลงในขณะนี้ กองทุน SPDR Gold trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยว่าทางกองทุนได้ถือครองทองแท่งระดับ 1,116.247 ตัน ณ วันที่ 8 ธันวาคม 2552 ลดลง 13.716 ตัน จากวันที่ 4 ธันวาคม 2552 กลยุทธ์ : ช่วงนี้กราฟทางเทคนิค จะลงในรูปแบบ ABC ช่วงนี้อาจจะเป็นการเด่งช่วง B เพื่อลง ขา C อาจจะเกิดการดีดทางเทคนิคระยะสั้นมาก อีกทั้งได้ทำการดีดไปแล้ว 2 วันทำการ อาจจะมีการดีดลงได้ตลอดเวลาในขา C อีก 100 US$ ควรลดการถือทองไว้ในมือ เพื่อลดความเสี่ยงของราคาทองอาจจะปรับตัว หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: sayong ที่ ธันวาคม 14, 2009, 03:13:25 PM ขอบคุณค่ะพี่ทองใหม่ ;D
หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: Neung99k ที่ ธันวาคม 14, 2009, 03:28:52 PM ขอบคุณครับคุณทองใหม่ ^-^ ขอให้สุขภาพแข็งแรงเหมือนซุปเปอร์แมนนะครับ ^-^
หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 15, 2009, 06:11:11 AM วิธีดูทิศทางทอง ต้าน๓----หนุน๓เป็นทิศทางทองที่จะเคลื่อนไหวในวันนี้ หากพุ่งทะลุต้าน๓หรือดิ่งทะลวงหนุน๓ แสดงถึงวันนั้นทองเคลื่อนไหวแรงเกินปกติ เส้นแดนเป็นเส้นที่จะแบ่งแยกทิศทางของทองที่จะขึ้นหรือลง หากทองเคลื่อนไหวอยู่ในทิศทางใดมากและนาน นั่นหมายถึงโอกาสเป็นไปได้มากที่ทองจะเคลื่อนไปในทิศทางนั้นๆ ในช่วงเวลานั้น (ยังต้องแบ่งออกในช่วงเวลาตลาดเอเซีย ยุโรป เมกาด้วย) ต้าน๑และหนุน๑หากถูกทดสอบแบบมีผล(ขึ้นลงมากกว่า๑ครั้ง)แล้วยืนอยู่ได้ นั่นคือทิศทางทองที่จะเดินต่อไปในช่วงเวลานั้น หากการวิเคราะเกิดขัดแย้งกันเมื่อไหร่ ให้หยุดมองดูอย่างเดียว ไม่ควรซื้อ-ขายในช่วงเวลานั้น แนวทางนี้เหมาะกับการเล่นสั้นมาก (เล่นแบบออนไลน์ในอนาคต) มีความแม่นยำถึง80%ครับ อีกอย่างข่าวปัจจัยพื้นฐานอาจเปลี่ยนทิศทางทองได้กะทันหันนะครับ
ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์กับการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย ถัาติดดอยเมื่อทองต่ำลงมา หากยังมีเงินเหลืออยู่ ควรซื้อเพิ่ม เพิ่มที่ละนิด ต่ำอีกซื้ออีก เพื่อดึงต้นทุนที่สูงให้ต่ำลงมา ใครที่ยังไม่มีทองในมือควรทยอยซื้อเข้าอย่ามากนัก หากทองลงอีก เราก็ซื้ออีก ดีกว่าเวลาทองขึ้นเราไปไล่ซื้อในราคาที่สูง จดจำเป็นคติเตือนใจว่า เรามิอาจซื้อได้ในราคาที่ต่ำสุด และขายได้ในราคาที่สูงสุด ไม่มีการลงทุนใดที่ไม่เสี่ยง การบริหารพอร์ตให้ได้จังหวะ จะลดความเสี่ยงลงได้ครับ กราฟสำคัญ ปัจจัยพื้นฐานก็สำคัญ จิตวิทยาการโน้มเอียงของคนก็สำคัญ สิ่งเหล่านี้หากเป็นไปในแนวเดียวกัน ก็จะมุ่งไปทางนั้น หากแย้งกันก็ต้องดูฝ่ายไหนเหนือกว่า.....ด้วยเหตุนี้ไม่มีนักวิเคราะห์คนใดที่จะทำนายได้แม่นยำตลอดกาลได้ครับ (http://img191.imageshack.us/img191/859/69717414.gif) (http://img191.imageshack.us/i/69717414.gif/) หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 15, 2009, 06:13:10 AM เส้นปากถุง(เส้นสีขาวทั้ง๓เส้น)แบบง่ายๆ ไม่ปวดเศียรเวียนเกล้า
เส้นบน---แนวต้าน เส้นกลาง---แนวโน้ม(สำคัญสุด) เส้นล่าง---แนวหนุน ลักษณะที่๑---ทิศทางขึ้นเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น เส้นกลางหันหัวขึ้น เส้นล่างหันหัวลง ลักษณะที่๒---ทิศทางขึ้นเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวขึ้น เมื่อเจอลักษณะทั้ง๒นี้ ราคาระหว่างวันที่ขึ้นๆลงๆ เมื่อเจอจุดที่เห็นว่าต่ำแล้วให้ซื้อเข้าได้เลยครับ ขอเพียงเส้นกลาง(แนวโน้ม)ยังหันหัวขึ้นอยู่ แม้ราคาเแท่งเทียนจะอยู่ต่ำกว่าเส้นกลาง ก็ยังซื้อเข้าได้ หากเส้นบนเดินขวางเมื่อไหร่ ให้ทยอยลดพอร์ตได้เลยครับ ลักษณะที่๓---เลือกทิศทาง---เส้นบนหันหัวลง เส้นล่างหันหัวขี้น ปากถุงแคบลง ถึงช่วงนี้ ให้ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว หากใครยังคิดอยากเคลื่อนไหว ก็จงเคลื่อนไหวไปหน้าทีวี จงอย่าทำการอย่างอื่นใด หากใครเป็นจอมยุทธ์ ก็ชิงเคลื่อนไหวก่อนใครได้ ขอแถมอีกนิด จงโฟกัสที่เส้นกลาง หากเส้นกลางเริ่มขยบหัวหัวขึ้นหรือลง ทิศทางอาจขึ้นหรือลงตามเส้นกลางแนวโน้มนั้น ลักษณะที่๔---เคลื่อนไหวในกรอบแคบ---เส้นบน กลาง ล่าง เดินขวางทั้ง๓เส้น หากใครเล่นออนไลน์ สามารถเล่นได้เล็กน้อยอย่ามาก เมื่อราคาแท่งเทียนใกล้เส้นบน จงขาย ใกล้เส้นล่าง จงซื้อ ต้องเข้าออกให้ทันการณ์ หาไม่แล้วจากกำไรอาจขาดทุนได้นา ขอบอก ลักษณะที่๕---ทิศทางลงเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น เส้นกลางหันหัวลง เส้ยล่างหัวหัวลง ลักษณะที่๖---ทิศทางลงเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวลง เมื่อเส้นล่างเดินขวางเมื่อไหร่ ผู้ที่ใจกล้าที่เล่นออนไลน์ เริ่มทยอยซื้อเข้าได้ที่ละนิด อัตราเสี่ยงยังมีอยู่บ้างนะครับ สิบอกไห่ วิธีดูเส้นปากถุงที่กล่าวมานี้ .....ไม่ใช่ตำราของฝรั่ง แบบของฝรั่งผมเคยอ่านมาบ้างแล้ว ยาวมาก ปวดหัว ทำความเข้าใจได้ยากมากๆๆๆๆ ...........เหมาะเฉพาะกราฟราย๔ชม.และช่วงปกติเท่านั้นนะครับ (บางครั้งตลาดจงใจคึงขึ้นลงอย่าแรงๆ แทบหัวใจวายสำหรับผู้มีทองในมือและผิดทิศทางของตัวเอง เรียกว่า ช่วงไม่ปกติครับ) (http://img704.imageshack.us/img704/4774/27949072.gif) (http://img704.imageshack.us/i/27949072.gif/) หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 15, 2009, 06:15:16 AM กราฟGold 1
ช่อง1 เส้นแดงอยู่เหนือเส้นเขียว---ทิศทางขึ้น ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน เส้นเขียวอยู่เหนือเส้นแดง---ทิศทางลง ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน เส้นแดงและเขียวประสานเป็นกากะบาด ---กำลังจะเปลี่ยนทิศ ให้ดูเส้นแนวโน้มประกอบ หากเส้นแดงและเขียวกำลังจะประสาน แต่ไม่ทันได้ประสานก็หันหันหัวกลับขึ้นหรือลง แสดงว่ากำลังมีเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนี่งเกิดขึ้น หากขึ้นทะลุเส้นปะแนวต้าน ให้ดูเส้นปะแนวต้านเส้นต่อไป หากลงทะลุเส้นปะแนวหนุน ให้ดูเส้นแนวหนุนเส้นต่อไป ส่วนจุดกลมเหลืองทอง---ทิศทางลง จุดกลมฟ้า---ทิศทางขึ้น หากกราฟวิ่งในยามปกติ พอเชื่อถือได้ หากกราฟวิ่งขึ้นลงแรงๆ คือยามไม่ปกติ ไม่อาจเชือถือได้ ช่อง2 ให้ดูเส้นสีม่วง ประกอบกับเส้นแนวโน้มในช่อง1 หากหันหัวไปในทิศทางเดียวกัน โอกาสที่จะผิดพลาดก็มีน้อย ส่วนเส้นปะสีเหลืองทองและฟ้า หากขึ้นเหนือเลข80 เข้าสู่เขตซื้อเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ทุกเมื่อ หากลงต่ำกว่าเลข20 เข้าสู่เขตขายเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ตลอดเวลา ช่อง3 ให้ดูทั้ง2เส้น คือเหลืองทองและฟ้า หันหัวไปทิศทางเดียวกันหรือไม่ เท่านั้นยังไม่พอ ให้ดูประกอบทิศทางในช่อง1ว่าเป็นทิศทางเดียวกันหรือไม่ หากทิศทางหันหัวในแนวเดียวกัน ทิศทางนั้นเชื่อถือได้ (http://img121.imageshack.us/img121/328/20928422.gif) (http://img121.imageshack.us/i/20928422.gif/) หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 15, 2009, 06:32:34 AM ???2009-12-14 10:32 PM ?? ???? Published on 2009-12-13 10:32 PM information on personal space ???? Add as Friend
??????? Golden Wave Theory ????????? Gold continued to fall last week. ??????1168.8???????????1110.4? Dropped by Tuesday to Friday 1168.8 highest writing the minimum 1110.4. ?????????????? Gold is still taking waves at this stage to run. ??????????,???????1080-1100????? Is expected that gold will continue to decline, and the opportunity to fall to near the 1080-1100 level. ?????,???????,????????1226.59??? When taking over, gold will continue to rise, and the opportunity to re-up to wear the level of 1226.59. ????????: Week wave theory analysis: ????(?): ??????????( I II )????III???????(5)???????3???????( iii )??????iv????? Preferred assumptions (1): Gold is still running super large section (I II) wave III within the first extension of big waves in subsection (5) extension of the wave in the first three waves within a small extension of the first (iii) extension of the first wave in iv extension of micro-wave. ????:???29-09-2009???984.2?????????( I II )????III???????(5)???????3???????( iii )???,???????????? Details are as follows: 29-09-2009 gold in the super-low 984.2 starts running a large section (I II) wave III within the first extension of big waves in subsection (5) extension of the wave in the first three waves within the extension of a small section (iii ) extended waves, and an inferior race, an extension of the wave run. ??984.2?14-10-2009???1069.3??????( I II )????III???????(5)???????3???????( iii )??????i????,?1069.3?29-10-2009???1026.59??????( I II )????III???????(5)???????3???????( iii )??????ii????? 14-10-2009 from 984.2 to 1069.3 for the super-large-scale high resolution (I II) wave III within the first extension of big waves in subsection (5) extension of the wave in the first three waves within a small extension of the first (iii) extension of i waves within the first extension of micro-wave, while the 1069.3 to the low level of 1026.59 for the super-29-10-2009 Large Cap (I II) wave III within the first extension of big waves in subsection (5) extension of the wave 3 within the extension of a small wave to section (iii) extend the wave ii in the first extension of micro-wave. ?1026.59?03-12-2009???1226.59?????????( I II )????III???????(5)???????3???????( iii )??????iii????? The high of 1026.59 to 1226.59 have the opportunity to 03-12-2009 for the super-large-scale section (I II) wave III within the first extension of big waves in subsection (5) extension of the wave in the first three waves within a small extension of the first (iii) extension within wave iii of the first extension of micro-wave. ?1226.59??????????????( I II )????III???????(5)???????3???????( iii )??????iv????????? The 1226.59 up to now have the opportunity to super-large-scale section (I II) wave III within the first extension of big waves in subsection (5) extension of the wave in the first three waves within the extension of a small section (iii) extension of wave iv within the first extension of micro-wave or waves down. ????iv???????iii??????,??61.8 %?1102??? Iv is expected to extend this first section iii terms of extending micro-wave micro-wave calculation, taking 61.8% for 1102 in the vicinity. ?????iv??????????1080-1110????? Therefore, the first iv golden opportunity to extend the micro-wave near-taking to the 1080-1110 level. ???????iv?????,??????????( I II )????III???????(5)???????3???????( iii )??????v????????,????1226.59??? When the confirmation run to extend micro-wave iv finished the first, the gold will run a super large section (I II) wave III within the first extension of big waves in subsection (5) extension of the wave in the first three waves within a small extension of the first (iii) extended wave v within the first extension of micro-wave that is rising waves, and l the level of wear 1226.59. ????: Investment Strategy: ?????? Mainly to wait and see. ??(?)???: Suppose (a) of the diagram: (http://img39.imageshack.us/img39/2296/37556984.gif) (http://img39.imageshack.us/i/37556984.gif/) หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 15, 2009, 08:39:13 AM ทองคำปิดบวก $3.90
วันอังคารที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2552 07:38 สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น หลังได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดที่ 1,123.80 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 3.90 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,111.70-1,128.90 ดอลลาร์ ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 17.34 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 25.00 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 1.9 เซนต์ ปิดที่ 3.152 ดอลลาร์/ปอนด์ ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ปิดที่ 1,447.00 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 24.30 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 368.30 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 6.15 ดอลลาร์ นักลงทุนเข้าซื้อทองคำอย่างต่อเนื่องหลังจากดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง ซึ่งเป็นผลมาจากข่าวที่ว่าอาบูดาบี ซึ่งเป็นนครรัฐหนึ่งของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประกาศว่าจะอัดฉีดเงิน 1 หมื่นล้านดอลลาร์ให้กับดูไบ โดยเงินจำนวน 4.1 พันล้านดอลลาร์จะนำไปชำระหนี้พันธบัตรอิสลามที่ครบกำหนดไถ่ถอน นอกจากนี้มีรายงานว่า กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลกได้ถือครองทองคำที่ระดับ 1,116.247 ตัน ณ วันที่ 11 ธ.ค. ซึ่งทรงตัวจากระดับของวันที่ 8 ธ.ค. หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: cupid ที่ ธันวาคม 15, 2009, 09:36:06 AM Smiley/Angry.gif (3017 ไบต์) สวัสดีฮะอาจารย์ทองใหม่ ขอให้มีสุขภาพแข็งแรงนะฮะ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลและเนื้อเพลงดีดีฮะ นู๋ขอเพลงที่ร้องว่า "หนี่เวิน วัวอ่ายนีโย ปัวเชง วัวอ่ายนี่โย้ ฉีเฟ่ย ฯลฯ นู่ไม่รู้ภาษาจีนแต่ชอบฟังเพลงนี้ที่สุดฮะ อยากรู้ความหมายจังเลย ขอบคุณฮะ :-[ :-[ :-[ Smiley/Angry.gif (3017 ไบต์) หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 15, 2009, 09:57:04 AM นักลงทุนทั่วโลกเล็งกลับมาใช้เงินเยนทำ carry trade แทนดอลลาร์สหรัฐฯ
Posted on Tuesday, December 15, 2009 นักลงทุนทั่วโลกจ่อใช้เงินเยนทำ carry trade นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าเงินเยนจะมาแทนที่เงินดอลลาร์สหรัฐในฐานะสกุลเงินที่นักลงทุนทั่วโลกใช้ระดมทุนผ่านการทำธุรกรรม carry trade ซึ่งเป็นธุรกรรมที่เกิดขึ้นจาก การกู้ยืมเงินในสกุลที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำสุด ไปลงทุนในสินทรัพย์สกุลอื่นๆที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า การที่เยน Carry trade จะกลับมาเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในญี่ปุ่นอยู่ในระดับต่ำใกล้เคียงกับสหรัฐเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน นอกจากนี้ นักลงทุนเชื่อว่าอัตราดอกเบี้ย Libor ในสหรัฐจะเพิ่มขึ้นภายในเดือนมิ.ย.ปีหน้า เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นรวดเร็วกว่าญี่ปุ่น โดยคาดว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะขยายตัว 2.6% ในปีหน้า ซึ่งขยายตัวรวดเร็วกว่าญี่ปุ่นถึง 2 เท่าเนื่องจากญี่ปุ่นยังคงเผชิญกับภาวะเงินฝืด สถานการณ์ดังกล่าวจะทำให้เทรดเดอร์เมินสกุลเงินดอลลาร์และหันไปใช้สกุลเงินเยนเพื่อซื้อสินทรัพย์ในประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่า เช่น ออสเตรเลียและบราซิล การร่วงลงของต้นทุนการกู้ยืมในสหรัฐในปีนี้ส่งผลให้นักลงทุนเทขายดอลลาร์เพื่อทำ carry trade เพื่อทำกำไรจากการที่สหรัฐมีอัตราดอกเบี้ยต่ำไปซื้อสกุลเงินของประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่า ทั้งนี้ นักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.1% ไปจนถึงปีหน้า และคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นจากระดับ 0 - 0.25% ในอนาคต ตลาดหุ้นบวกรับข่าวดูไบได้เงินช่วยเหลือ พร้อมปัจจัยเทคโอเวอร์ของ Exxon ข่าว Abu Dhabi ยื่นเงินช่วยเหลือให้กับบริษัท Nakheel PJSC ของดูไบ และแผนการเทคโอเวอร์บริษัทพลังงานครั้งใหญ่ของ Exxon Mobil ก็ทำให้มีแรงซื้อเข้ามาที่ตลาดหุ้นอีกครั้ง ความคืบหน้าของสถานการณ์หนี้ดูไบส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นของประเทศไต่ขึ้นสู่ระดับสูงสุดของเดือน เช่นเดียวกับฝั่งตลาด Abu Dhabi ที่ ADX General Index พุ่งขึ้นเกือบ 8% หัวหน้านักวิเคราะห์ของ ING Group ในสิงค์โปร์มองว่า เงินที่นำมาช่วยดูไบนี้อาจเป็นไปได้ที่จะทำให้เกิดผลกระทบลูกโซ่ จากการที่สภาพคล่องตึงตัวในภาคธุรกิจและธนาคาร แต่ถ้าในมุมมองของเศรษฐกิจมหภาคแล้ว นี่คือสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ส่วนข่าวใหญ่เมื่อคืนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่องบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ Exxon Mobil ตกลงใจที่จะเข้าซื้อบริษัท XTO Energy ที่ทำธุรกิจก๊าซธรรมชาติด้วยเม็ดเงิน 31,000 ล้านเหรียญ ตามการคาดการณ์ของบริษัทว่า กฏเกณฑ์ที่จำกัดการปล่อยมลพิษของประเทศจะนำไปสู่ความต้องการเชื้อเพลิงที่เป็นก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้น ดีลการซื้อกิจการนี้เรียกได้ว่ามีมูลค่าสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2006 และเป็นการเทคโอเวอร์ครั้งใหญ่ที่สุดนับจากที่บริษัท Exxon เข้ามาครอบครองกิจการของ Mobil ในปี 1999 โดยดีลล่าสุดได้ตีมูลค่าหุ้นของ XTO Energy ไว้ที่ 51.69 เหรียญต่อหุ้น ซึ่งสูงกว่าราคาปิดครั้งสุดท้ายของ XTO ถึงกว่า 25% หลังจากการเทคโอเวอร์สิ้นสุดลง Exxon จะกลายเป็นผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดในอเมริกา ขณะที่ทางผู้บริหารของบริษัทก็บอกว่า ความต้องการเชื้อเพลิงประเภทนี้จะยิ่งสูงขึ้นภายหลังกฏเกณฑ์ในเรื่องการปล่อยก๊าซคาร์บอนในประเทศสร้างแรงกดดันให้ผู้ผลิตไฟฟ้าเปลี่ยนเชื้อเพลิงจากถ่านหินมาเป็นก๊าซแทน ราคาหุ้นของ XTO พุ่งขึ้นไปกว่า 15% ขณะที่ Exxon ร่วงลง 4% หลังข่าวบริษัทประกาศแผนซื้อกิจการ ผู้บริหารของ Exxon คาดว่าดีลนี้น่าจะจบลงได้ภายในไตรมาส 2 ผู้เชี่ยวชาญในวงการมองว่า การตัดสินใจของ Exxon นี้ จะทำให้เกิดดีลในลักษณะเดียวกันสำหรับบริษัทพลังงานรายใหญ่อื่นๆ อย่างเช่น Royal Dutch Shell และบริษัท Total เนื่องจากแรงกดดันในเรื่องการหาทางเพิ่มกำลังการผลิตในขณะนี้ โดยเป้าหมายกิจการหลักๆ ที่จะถูกเทคโอเวอร์ก็จะรวมไปถึงบริษัทขุดเจาะและสำรวจพลังงานอิสระรายอื่นๆ อาบูดาบีอัดฉีดเงินแก่ดูไบ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ รัฐบาลดูไบออกแถลงการณ์วานนี้ว่ารัฐอาบูดาบีจะทำการอัดฉีดเงินให้แก่ดูไบ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยเหลือดูไบในการชำระหนี้หุ้นกู้อิสลาม 4,100 ล้านดอลลาร์ที่ครบกำหนดไปในวันเดียวกัน รัฐบาลดูไบเปิดเผยว่า ดูไบจะใช้เงินที่เหลือเพื่อมาชำระหนี้ให้กับเจ้าหน้าที่และคู่สัญญา เพื่อให้ตอบสนองเรื่องเงินทุนที่ใช้ในการดำเนินการไปจนถึงวันที่ 30 เม.ย. 2553 ทั้งนี้ รัฐบาลดูไบยังจะประกาศกฎหมายในการปรับโครงสร้าง ซึ่งเป็นกรอบที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานที่ได้รับการยอมรับในเรื่องมาตรฐานของความโปร่งใสและการคุ้มครองผู้ปล่อยกู้ ส่วนอาบูดาบี นับเป็นรัฐที่ใหญ่ที่สุดในสหพันธรัฐ UAE และเป็นรัฐที่ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของประเทศ ขณะที่ นาคีล ซึ่งเป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเครือของดูไบ เวิลด์ เตรียมเจรจากับกลุ่มผู้ถือพันธบัตรอิสลามที่ออกโดยนาคีลอีกรอบ ซึ่งหุ้นกู้ดังกล่าวมีมูลค่า 52,500 ล้านดอลลาร์และจะครบกำหนดไถ่ถอนในอีก 2 ปีข้างหน้า ด้านนักวิเคราะห์มองว่าปัญหาหนี้สินคงค้างของนาคีลอาจทำให้ทางบริษัทผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ดังกล่าวด้วย ปัญหาหนี้สินของดูไบ เวิลด์ และบริษัทในเครือได้สร้างความวิตกกังวลให้กับนักลงทุนทั่วโลก แม้ดูไบ เวิลด์ เข้าเจรจากับธนาคารที่เป็นเจ้าหนี้ เพื่อปรับโครงสร้างหนี้มูลค่า 26,000 ล้านดอลลาร์ รวมถึงหนี้สินของบริษัท นาคีล เวิลด์ และลิมิทเลส เวิลด์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือดูไบ เวิลด์ แผนการปรับโครงสร้างหนี้ของบริษัทครอบคลุมถึงตราสารหนี้อิสลามมูลค่าราว 3,600 ล้านดอลลาร์ที่ออกโดยนาคีล เวิลด์ บริษัทในเครือซึ่งเป็นผู้พัฒนาคฤหาสถ์หรูหราบนหมู่เกาะเป็นรูปต้นปาล์มที่มีชื่อเสียงของดูไบ เวิลด์ โดยตราสารหนี้อิสลาม หรือที่เรียกว่า "ซูคุค" เป็นตราสารหนี้ที่ออกตามกฎหมายชาเรียของศาสนาอิสลาม นักวิเคราะห์จากหลายสถาบัน รวมถึงมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส กังวลว่าดูไบอาจสูญเสียสถานะการเป็นศูนย์กลางการเงินในภูมิภาคอ่าวเปอร์เซีย และอาจสูญเสียสถานะของศูนย์กลางการค้าและการบริการ อีกทั้งยังดับฝันของดูไบที่ต้องการก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางด้านการธนาคารในภูมิภาค Citigroup ได้ข้อสรุปกับกระทรวงคลังถึงแผนจ่ายคืนหนี้ TARP ผ่านไปด้วยดีสำหรับการจ่ายคืนหนี้เงินช่วยเหลือตามโครงการ TARP จาก Citigroup ที่ในที่สุดสามารถตกลงตัวเลขกับกระทรวงการคลังและหน่วยงานรัฐได้ และจบลงที่ธนาคารจะออกขายหุ้นและตราสารหนี้จำนวน 25,000 ล้านเหรียญ โดยในจำนวนนี้จะเป็นการออกขายหุ้นสามัญจำนวน 17,000 ล้านเหรียญ ในเวลาเดียวกัน ทางกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ก็จะขายหุ้น Citigroup ที่ตัวเองถือไว้จำนวน 5,000 ล้านเหรียญออกมาด้วย การบรรลุจุดมุ่งหมายจ่ายคืนหนี้รัฐไปให้หมดนี้ เป็นความพยายามของซีอีโอ นายวิกรม บัณฑิต ที่มุ่งมั่นอยากจะก้าวออกจากโครงการ TARP มาตลอดในช่วงก่อนหน้านี้ เพื่อต้องการไม่ให้กลายเป็นธนาคารขนาดใหญ่แห่งสุดท้ายที่ยังต้องตกอยู่ภายใต้โครงการช่วยเหลือภาคการเงินที่มีพันธะผูกพันมากมายดังกล่าว และไม่อยากเป็นเหมือนกับผู้ป่วยห้องพิเศษ อย่างเช่น บริษัท American International Group หรือ AIG รวมถึงผู้ผลิตรถยนต์ General Motors ที่กำลังดิ้นรนเพื่อให้หลุดพ้นจากบ่วงเงินช่วยเหลือที่มาจากภาษีประชาชนด้วยเช่นกัน ทางด้านเพื่อนร่วมอุตสาหกรรม อย่าง Bank of America ก็เพิ่งหลุดออกจากโครงการ TARP ด้วยการคืนเงิน 45,000 ล้านเหรียญไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีรายงานข่าวว่า สาเหตุหนึ่งที่ทำให้นายบัณฑิต ซีอีโอ วัย 52 ผู้นี้ กวาดสายตามองหาวิธีการจ่ายคืนหนี้เงินช่วยเหลือพิเศษมาโดยตลอด นั่นก็เป็นเพราะพันธนาการที่รัฐกำหนดให้แบงก์ต้องจำกัดการจ่ายค่าตอบแทนให้แก่ผู้บริหารของตน ซึ่งหมายถึงการบังคับให้ทรัพยากรบุคคลของบริษัทต้องถูกดูดออกไปยังบรรดาธนาคารคู่แข่งทั้งหลาย และหากย้อนอดีตกลับไปดูเมื่อปีที่แล้ว Citigroup ได้เงินจากกองทุน TARP นี้มาถึง 45,000 ล้านเหรียญ และมีการแปลงสภาพเงินจำนวน 25,000 ล้านเหรียญ ให้ไปอยู่ในรูปของหุ้นสามัญเมื่อเดือนกันยายน ซึ่งเทียบเท่ากับสัดส่วนหุ้น 34% ในธนาคารที่มีฐานที่มั่นในนิวยอร์กรายนี้ สำหรับธนาคารรายอื่น ก็คือ JPMorgan Chase, Goldman Sachs Group และ Morgan Stanley ต่างจ่ายคืนหนี้ที่ได้มาจากโครงการนี้ไปเมื่อเดือนมิถุนายน ขณะที่ธนาคาร Wells Fargo ที่ติดหนี้โครงการ TARP อยู่ 25,000 ล้านเหรียญ กลับไม่ต้องมีภาระผูกมัดในเรื่องข้อจำกัดการจ่ายเงินผู้บริหารแต่อย่างใด นั่นก็เพราะแบงก์จากซานฟรานซิสโกแห่งนี้ไม่ได้แบมือขอเงินช่วยเหลือจากรัฐเป็นรอบที่สองนั่นเอง ผู้เชี่ยวชาญคาดตลาดแรงงานสหรัฐเริ่มฟื้นตัวปีหน้า ทางการสหรัฐคาดตลาดแรงงานในประเทศจะฟื้นตัวดีขึ้นในปีหน้า โดยนายจ้างจะเริ่มจ่ายเงินเดือนมากขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ความคิดเห็นดังกล่าวสอดคล้องกับมุมมองของนายอลัน กรีนสแปน อดีตผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐที่คาดว่า การจ้างงานจะดีดตัวขึ้นเพราะบริษัทหลายแห่งเริ่มเพิ่มกำลังการผลิตหลังจากที่ปรับลดการจ้างงานลงในช่วงที่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย นายลอว์เรนซ์ ซัมเมอร์ส ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติของสหรัฐกล่าวว่า ในช่วงฤดูใบไม้ผลินี้ อัตราการจ้างงานจะปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากที่ขณะนี้มีชาวสหรัฐตกงานสูงถึง 7.2 ล้านตำแหน่งนับตั้งแต่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจถดถอยเมื่อช่วง 2 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ตลาดแรงงานในสหรัฐเริ่มส่งสัญญาณที่ดีขึ้น หลังจากที่ตัวเลขการจ้างงานเดือนพ.ย.ลดลงเพียง 11,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับที่ลดลงน้อยที่สุดในรอบ 23 เดือน อัตราว่างงานลดลงสู่ระดับ 10% จากระดับสูงสุดในรอบ 26 ปีที่ 10.2% ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ตลาดแรงงานสหรัฐเริ่มคลายความตึงเครียดลงแล้ว ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐจะหารืออย่างจริงจังกับผู้บริหารธนาคารรายใหญ่ 12 แห่งในวันนี้ เพื่อกดดันให้การมีขยายวงเงินกู้มากขึ้น เพื่อกระตุ้นการจ้างงาน หลังจากเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา โอบามาได้ประกาศโครงการกระตุ้นการจ้างงาน ซึ่งรวมถึงการเพิ่มงบการใช้จ่ายด้านถนน สะพาน และการให้เงินช่วยเหลือธุรกิจขนาดเล็ก ตลอดจนการลดหย่อนภาษีให้กับผู้ซื้อบ้าน และการใช้พลังงานที่คุ้มค่ามากขึ้น อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางรายคาดว่า อัตราว่างงานของสหรัฐจะยังคงไต่ระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องไปจนถึง 10.75% ภายในกลางปี 2554 ผู้ว่าแบงค์ชาติฮ่องกงชี้ภาวะฟองสบู่เป็นภัยคุกคามต่อเศรษฐกิจเอเชีย นายนอร์แมน ชาน ผู้ว่าการธนาคารกลางฮ่องกงกล่าวแสดงความคิดเห็นในเมือวานนี้ว่า ภาวะฟองสบู่ด้านสินทรัพย์ หรือ asset bubble เป็นภัยคุกคามหมายเลขหนึ่งที่จะสั่นคลอนเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในเอเชีย พร้อมกับแนะนำให้ธนาคารกลางในเอเชียหลีกเลี่ยงการมุ่งเน้นประเด็นเงินเฟ้อมากเกินไป เว็บไซต์ของธนาคารกลางฮ่องกงรายงานคำกล่าวของนายชานว่า "จากประสบการณ์ของภูมิภาคเอเชียในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ภาวะฟองสบู่ด้านสินทรัพย์เป็นภัยคุกคามเศรษฐกิจมากกว่าภาวะเงินเฟ้อ นายชานหมายความว่าเอเชียยังคงมีความจำเป็นต้องกังวลหรือป้องกันภาวะเงินเฟ้อ แต่สิ่งที่เราควรให้ความสนใจก็คือเรื่องภาวะฟองสบู่ด้านสินทรัพย์ที่กำลังก่อตัวขึ้นและความเสียหายอันใหญ่หลวงที่จะตามมา นายชานยังกล่าวด้วยว่า เม็ดเงินกว่า 640,000 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 82,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐที่ไหลเข้าสู่ฮ่องกงตั้งแต่เดือนต.ค.ปีที่แล้ว ส่งผลให้ราคาบ้านในฮ่องกงพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 10 ขณะที่นายโดนัลด์ ซัง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกงกล่าวว่า เขารู้สึกกังวลเรื่องเม็ดเงินจำนวนมากที่ไหลเข้าสู่เอเชียที่เป็นผลมาจากอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำในสหรัฐ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจทำให้เอเชียเผชิญวิกฤตการณ์การเงินระลอกใหม่ ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนต.ค.ของฮ่องกงขยายตัวรวดเร็วที่สุดในรอบ 3 เดือนเนื่องจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้นส่งผลให้ผู้บริโภคเพิ่มการใช้จ่าย 22% ในเดือนต.ค. ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิตของจีนในเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 0.6% ทำสถิติเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 10 เดือน ราคาบ้านในฮ่องกงพุ่งขึ้น 28% ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ขณะที่รัฐบาลฮ่องกงพยายามสกัดกั้นความร้อนแรงของราคาบ้านด้วยการออกกฎหมายการดาวน์บ้านหรูหราที่เข้มงวดมากขึ้น รวมทั้งประกาศยกเลิกการประกันเงินกู้จำนองสำหรับอสังหาริมทรัพย์เพื่อาการเช่าซื้อ นายโดนัลด์ ซัง ประธานเขตปกครองพิเศษฮ่องกงได้แสดงความวิตกกังวลเป็นอย่างยิ่งต่อภาวะฟองสบู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังก่อตัวขึ้นในฮ่องกง ที่ประชุมโลกร้อนยังไม่ได้ข้อสรุปเงินช่วยเหลือฯ ผู้แทนจาก 192 ประเทศที่เข้าร่วมการประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่กรุงโคเปนเฮเกน ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการให้ความช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนาในการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และการปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปได้ เซลวิน ฮาร์ท ผู้แทนจากบาร์บาดอส ยืนยันว่าถ้าไม่ได้รับเงินช่วยเหลือก็จะไม่มีการทำข้อตกลงใดๆทั้งสิ้น เพราะเงินเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ซึ่งสอดคล้องกับที่ อีโว เดอ โบเออร์ หัวหน้าด้านสภาพอากาศของสหประชาชาติกล่าวว่า ประเทศกำลังพัฒนาต้องการเงินช่วยเหลืออย่างน้อย 1 แสนล้านดอลลาร์ต่อปี การกระชุมที่มีอุปสรรคมากขึ้นเรื่อยๆในช่วงสัปดาห์แรกทำให้ ทอดด์ สเติร์น ผู้แทนจากสหรัฐ และ ซี เจินหัว ผู้แทนจากจีน ต้องเดินทางไปที่กรุงโคเปนเฮเกนเร็วกว่ากำหนด ขณะที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ และนายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่า ของจีน จะเดินทางไปถึงก่อนสิ้นสุดการประชุมในวันที่ 18 ธันวาคม มาร์กาเรตา วาห์ลสตรอม ผู้แทนพิเศษของเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ผู้รับผิดชอบด้านการลดความเสี่ยงภัยพิบัติ กล่าวในที่ประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่กรุงโคเปนเฮเกนว่า ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นทั่วโลกในปีนี้นั้น มากกว่า 90% มีสาเหตุมาจากสภาพอากาศที่รุนแรง วาห์ลสตรอมเปิดเผยข้อมูลที่ได้จากศูนย์การวิจัยระบาดวิทยาของภัยพิบัติ ซึ่งครอบคลุมช่วงเวลาตั้งแต่เดือนมกราคมถึงพฤศจิกายน 2552 ที่เผยให้เห็นว่า ในบรรดาภัยพิบัติทางธรรมชาติ 245 ครั้งที่เกิดขึ้นทั่วโลกในปีนี้ พบว่า 224 ครั้งเป็นภัยพิบัติที่มีความเกี่ยวข้องกับสภาพอากาศ หรือคิดเป็น 91.4% ภัยพิบัติทางธรรมชาติเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อประชากร 55 ล้านคน และทำให้มีผู้เสียชีวิต 7,000 คน อีกทั้งยังสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจ คิดเป็นมูลค่าถึง 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศมากที่สุดคือเอเชียและแอฟริกา โดยเอเชียได้รับผลกระทบจากพายุและน้ำท่วมมากเป็นพิเศษ ขณะที่แอฟริกาได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่จะประกาศออกมาวันนี้ (อังคารที่ 15 ธ.ค. 2552) ? เริ่มประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ FOMC ? ดัชนีราคาผู้ผลิต (พ.ย.) โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ? ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย (ธ.ค.) โดยสมาคมผู้รับสร้างบ้านแห่งชาติสหรัฐฯ ติดตาม Money Wake up ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ทาง Money Channel หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 15, 2009, 11:08:49 AM Smiley/Angry.gif (3017 ไบต์) สวัสดีฮะอาจารย์ทองใหม่ ขอให้มีสุขภาพแข็งแรงนะฮะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลและเนื้อเพลงดีดีฮะ นู๋ขอเพลงที่ร้องว่า "หนี่เวิน วัวอ่ายนีโย ปัวเชง วัวอ่ายนี่โย้ ฉีเฟ่ย ฯลฯ นู่ไม่รู้ภาษาจีนแต่ชอบฟังเพลงนี้ที่สุดฮะ อยากรู้ความหมายจังเลย ขอบคุณฮะ :-[ :-[ :-[ Smiley/Angry.gif (3017 ไบต์) เพลงที่ขอไม่มี มีเพลงที่ไม่ขอจ้า ??? ~~ ??????(1978) (http://www.youtube.com/watch?v=j-Mraii8OWE#) good-bye my love ?????? good-bye my love wo de ai ren zai jian good-bye my love หว่อ ติ อ้าย เหริน ไจ้ เจี้ยน good-bye my love คนรักของฉัน...ลาก่อน good-bye my love ??????? good-bye my love xiang jian bu zhi na yi tian good-bye my love เซียง เจี้ยน ปู้ จือ หน่า อี เทียน good-bye my love มิอาจรู้ว่าวันใดจึงได้พานพบ ??????? ?????? wo ba yi qie gei le ni xi wang ni yao zhen xi หว่อ ป่า อี เชี่ย เก่ย เลอ หนี่ ซี วั่ง หนี่ เย่า เจิน ซี ฉันมอบทุกสิ่งให้กับคุณ หวังให้คุณทนุถนอมดูแล ????????? bu yao gu fu wo de zhen qing yi ปู๋ เย่า กู ฟู่ หวอ ติ เจิน ฉิง อี้ โปรดอย่าตัดรอนไมตรีจิตของฉัน *good-bye my love ?????? good-bye my love wo de ai ren zai jian good-bye my love หว่อ ติ อ้าย เหริน ไจ้ เจี้ยน good-bye my love คนรักของฉัน...ลาก่อน good-bye my love ?????? good-bye my love cong ci he ni fen li good-bye my love ฉง สือ เหอ หนี่ เฟิน หลี good-bye my love ต้องลาจากเธอนับแต่นี้ ??????????? wo hui yong yuan yong yuan ai ni zai xin li หว่อ ฮุ่ย หยง หย่วน หยง หย่วน อ้าย หนี่ ไจ้ ซิน หลี่ ฉันจะรักคุณอยู่ในดวงใจ ตราบชั่วนิรันดร์ ????????? xi wang ni bu yao ba wo wang ji ซี วั่ง หนี่ ปู๋ เย่า ป่า หว่อ วั่ง จี้ และหวังว่าคุณจะไม่ลืมฉัน ?????????? wo yong yuan huai nian ni wen rou de qing หว่อ หยง หย่วน หวย เนี่ยน หนี่ เวิน โหรว ติ ฉิง ฉันจะคิดถึงความรักอันอ่อนโยนของคุณตลอดไป ??????? ??????? huai nian ni re hong de xin huai nian ni tian mi de wen หวย เนี่ยน หนี่ เร่อ หง ติ ซิน หวย เนี่ยน หนี่ เถียน มี่ ติ เหวิน คิดถึงหัวใจสีแดงอันเร่าร้อนของคุณ คิดถึงจุมพิตอันแสนหวานของคุณ ????????? ??????? huai nian ni na zhi ren de ge sheng zen neng wang ji zhe duang qing หวย เนี่ยน หนี่ น่า จุ้ย เหริน ติ เกอ เซิง เจิ่น เหนิง วั่ง จี้ เจ้อ ต้วน ฉิง คิดถึงเสียงเพลงที่กล่อมให้คนเคลิบเคล้มของคุณ...จะลืมความรู้สึกเหล่านี้ไปได้อย่างไร ????? ???????** wo de ai zai jian bu zhi na ri zai xiang jian หว่อ ติ อ้าย ไจ้ เจี้ยน ปู้ จือ หน่า รื่อ ไจ้ เซียง เจี้ยน ลาก่อนความรักของฉัน มิอาจรู้ว่าวันใดจึงได้พานพบ ??????? zai jian wo de ai ren ไจ้ เจี้ยน หว่อ เตอ อ้าย เหริน ลาก่อน...คนรักของฉัน ????????? wo jiang yong yuan bu hui wang ji ni หว่อ เจียง หยง หย่วน ปู๋ ฮุ่ย วั่ง จี้ หนี่ ฉันจะไม่ลืมคุณชั่วนิรันดร์ ?????????? ye xi wang nib u yao ba wo wang ji เหย่ ซี วั่ง หนี่ ปู๋ เย่า ป่า หว่อ วั่ง จี้ และหวังว่าคุณจะไม่ลืมฉัน ???????????????? ye xu wo men hai hui you jian mian de yi tian bu shi ma? เหย่ สี่ว์ หว่อ เหมิน หาย ฮุ่ย โหย่ว เจี้ยน เมี่ยน เตอ อี เทียน ปู๋ ซื่อ มะ อาจบางที คงมีสักวัน ที่เราจะได้พบกันอีกครั้ง...มิใช่หรือ? ซ้ำ *-** 1 รอบ ?????? wo de ai wo xiang xin หว่อ ติ อ้าย หว่อ เซียง ซิ่น ฉันเชื่อมั่นในความรักของฉัน ??????? zong you yi tian neng zai jian จ่ง โหย่ว อี เทียน เหนิง ไจ้ เจี้ยน ต้องมีสักวัน ที่ได้พานพบอีกครั้ง (คำว่า ? ออกเสียงได้ทั้ง ?เตอ? และ ?ติ?) หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: Jeera ที่ ธันวาคม 15, 2009, 11:21:32 AM สวัสดีค่ะ ;D
หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 15, 2009, 11:27:04 AM บทวิเคราะห์ทองคำ (15-12-52)
15 ธ.ค. 2552 สรุปภาวะตลาดเมื่อวันก่อน ราคาโกลด์ฟิวเจอร์สปรับตัวอยู่ในช่วงแคบๆเช่นเดียวกับราคาทองคำสปอตที่แกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบเช่นกัน ทองคำแท่งสมาคมฯปิดที่ 17,600/700 บาท เงินบาททรงตัวง ปัจจัยที่อาจส่งผลต่อเนื่องถึงวันนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่ารัฐบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ตัดสินใจเข้าช่วยเหลือปัญหาในรัฐดูไบที่เกิดมาจากปัญหาของดูไบเวิร์ลด์ โดยทั้งรัฐบาลดูไบและรัฐบาลอาบูดาบีต่างตกลงให้เงินช่วยเหลือ ซึ่งเป็นการจำกัดปัญหาเศรษฐกิจให้ส่งผลกระทบในวงแคบเท่านั้นโดยที่ไม่ส่งผลลบต่อเศรษฐกิจโลก นักลงทุนจึงกลับมาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้งส่งผลให้ดอลลาร์และเงินเยนอ่อนค่าลงอย่างรุนแรง ในขณะที่ราคาทองคำได้รับผลกระทบเพียงสั้นๆเท่านั้น [Reuters, TCAF Research] เรามองว่าข่าวของดูไบดังกล่าวถึงแม้ว่าจะส่งผลบวกต่อราคาทองคำได้เพียงสั้นๆ แต่ก็ได้ไปรบกวนภาพทางเทคนิคขาลงของราคาทองคำได้ เมื่อวานนี้ทั้งวันจึงเป็นการซื้อขายเก็งกำไรทางเทคนิคเนื่องจากไม่มีปัจจัยอื่นที่รุนแรงพอที่จะกระทบราคาได้ ในวันนี้นักลงทุนจะจับตามองรายงาน ZEW ของเยอรมันที่จะรายงานออกมาในตอนเย็นเพื่อให้เห็นภาพภาวะเศรษฐกิจยุโรป ประกอบกับรายงานการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐของประเทศต่างๆเพื่อให้เห็นความน่าเชื่อถือของดอลลาร์ อย่างไรก็ตามนักลงทุนจะยังรอมุมมองเศรษฐกิจของผู้ประกอบการต่างๆในยุโรปที่จะทยอยรายงานในบ่ายวันพรุ่งนี้ และมุมมองของเฟดที่รายงานในคืนวันพรุ่งนี้ แนวโน้มทองคำวันนี้ เรามองว่านักลงทุนน่าจะยังรอรายงานที่สำคัญกว่าในวันพรุ่งนี้ เราจึงคาดว่า "ราคาทองคำน่าจะแกว่งตัวอยู่ในกรอบ (Range Bounded)" และแนะนำให้ "ซื้อขายในช่วง S1/R1 โดยมีจุดตัดขาดทุนหากราคาปรับตัวเกิน S2/R2" เช่นเดิม (http://img694.imageshack.us/img694/563/75040156.gif) (http://img694.imageshack.us/i/75040156.gif/) หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 15, 2009, 11:29:04 AM 15 ธ.ค. 2552
Gold Market Commentary ประเด็นสำคัญ ? ราคาทองปิดบวกหลังดอลล์อ่อนค่าเทียบยูโร ? ดอลล์อ่อนเทียบยูโรหลังข่าวดูไบได้เงินอัดฉีด ? อุปสงค์กดน้ำมันดิบปิดลดลงเป็นวันที่ 9 ติดต่อกัน ? อาบูดาบีเปิดเผยในวันจันทร์ว่าจะอัดฉีดเงิน 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ราคาทองที่ตลาดสหรัฐทะยานขึ้นในวันจันทร์ เมื่อดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับยูโร ในขณะที่อาบู ดาบี ตกลงที่จะให้ความช่วยเหลือต่อหนี้สินบางส่วนของดูไบ แต่เทรดเดอร์กล่าวว่า ทองอาจจะยังคงปรับตัวในช่วงแคบเป็นส่วนใหญ่จนถึงสิ้นปี อาบูดาบีเปิดเผยในวันจันทร์ว่าจะอัดฉีดเงิน 1 หมื่นล้านดอลลาร์ให้กับดูไบ โดยเงินจำนวน 4.1 พันล้านดอลลาร์จะนำไปชำระหนี้พันธบัตรอิสลาม ข่าวที่ว่า ดูไบสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ ทำให้นักลงทุนมีความต้องการเสี่ยงเพิ่มขึ้น ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อดอลลาร์ และหนุนสกุลเงินที่ให้ผลตอบแทนสูงอาทิ ยูโร ตลาดน้ำมัน NYMEX ปิดลดลงเป็นวันที่ 9 ติดต่อกันในวันจันทร์หลังจากปรับตัวผันผวน ขณะที่ความวิตกเกี่ยวกับสต็อกน้ำมันจำนวนมากและอุปสงค์ที่ซบเซาได้ชดเชยดอลลาร์ที่อ่อนค่า และหุ้นที่พุ่งขึ้น สาเหตุหลักสินค้า Commodities หลายชนิด รวมทั้งน้ำมันที่ปรับราคาลงมาอย่างรุนแรงในช่วงนี้ มาจากสาเหตุหลักค่าสกุลเงิน US$ แข็งขึ้น ส่งผลกระทบถึงราคาทองด้วย ถ้าสาเหตุนี้เป็นสาเหตุหลักอีกปัจจัยหนึ่ง ถ้าUS$ ผ่านจุดที่อ่อนที่สุดไปแล้วก็จะส่งผลต่อราคาทองในระยะยาวนานอย่างน้อง 6 เดือนขึ้นไปเพราะจากรูปแบบทางกราฟเทคนิคที่ค่าเงินยูโรมีโอกาสอ่อนต่อเนื่องอีก 6 เดือนเป็นอย่างน้อย กองทุน SPDR Gold trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยว่าทางกองทุนได้ถือครองทองแท่งระดับ 1,116.551 ตัน ณ วันที่ 15 ธันวาคม 2552 ลดลง 13.415 ตัน จากวันที่ 4 ธันวาคม 2552 กลยุทธ์ : ช่วงกาลเวลาคืนนี้ หรืออาจจะยืดไปอีกยืนไปถึงพรุ่งนี้ได้ จะ เกิดการออกกรอบจากการปรับพักฐานช่วงก่อนหน้าไปเกิดขึ้นได้ แนวต้านถ้าออกทิศทางบนก็จะแนวระดับราคา 1166 US$ ถ้าหลุดกรอบล่างแนวเป้าหมายทางราคา 1150 US$ เช่นเดียวกัน อาจจะลดความเสี่ยงโดย ตั้งจุดแนว Cut Lose ที่แนวระดับราคา 1100 US$ หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 15, 2009, 12:31:27 PM กราฟตาแป๊ะซ้ายบน หน้าสีแดง---ลงปรับฐานช่วงสั้นๆ อาจเป็นวัน-สองวัน หน้าสีเทา---ดีดขึ้นช่วงสั้นๆ อาจเป็นวัน-สองวัน เส้นสีแดงหนา---ขาขึ้น เส้นสีเขียวหนา---ขาลง
ขวาบน เส้นสีแดง---เสนอซื้มากกว่าเสนอขาย เส้นสีเขียว---เสนอขายมากกว่าเสนอซื้อ ส่วนช่วงกลางที่มีแท่งสีแดงกับเขียวนั้น แท่งแดง---แรงซื้อขึ้น แท่งเขียว---แรงขายลง ขวาช่องสอง แท่งเหลืองคู่เส้นแดง---ขาขึ้น แท่งฟ้าคู่เส้นเขียว---ขาลง โดยปกติ ช่องนี้จะเปลี่ยนแนวโน้มช้ากว่าเพื่อน หากเปลี่ยนแนวโน้มเมื่อไหร่ เขาให้ขายออกหรือซื้อเข้าได้ทันที่ ยกเว้นมีปัจจัยพื้นฐานแรงๆแทรกเข้ามา จึงจะทำให้แนวโน้มกลับเปลี่ยนได้โดยกะทันหัน ซ้ายช่องสอง หน้าเหลืองแป๊ะยิ้ม---ขาขึ้น หน้าแดงแป๊ะร้องไห้---ขาลง แท่งสีเขียว---เพดาน แท่งสีแดง---พื้นดินโดยปกติ ช่องนี้จะส่งสัญญาณว่า กำลังจะเปลี่ยนแนวทางแล้วนะ แต่ยังไม่เต็มร้อย อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยกะทันหันก็ได้ ต้องดูซ้ายบนและขวาช่อง๒ประกอบด้วย จึงจะให้ความมั่นใจได้ ทอง (http://img16.imageshack.us/img16/8688/86737670.gif) (http://img16.imageshack.us/i/86737670.gif/) หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 15, 2009, 12:33:43 PM ดัชนีเงินเมกา
(http://img38.imageshack.us/img38/5448/56798660.gif) (http://img38.imageshack.us/i/56798660.gif/) หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 15, 2009, 12:35:00 PM น้ำมัน
(http://img526.imageshack.us/img526/9061/28129381.gif) (http://img526.imageshack.us/i/28129381.gif/) หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 15, 2009, 02:06:34 PM เอามาให้ดูเป็นข้อมูลตัวเลือก..
(http://img97.imageshack.us/img97/7038/77663931.gif) (http://img97.imageshack.us/i/77663931.gif/) ช่วงสั้นเปลี่ยนแปลงได้สองแบบ 1.บริเวณ1116หากหนุนอยู่ ก็จะดีดกลับได้ไม่แรงนัก ดูถึง1145 จากนั้นก็จะลงประมาณ50เหรียญ 2.สัปดาห์นี้อาจลงNewlowหรือ1096 หากแนวหนุนที่1088---1096รับอยู่ ก็จะมีการดีดกลับอย่างแรง (หากรับไม่อยู่ก็อาจเห็น1050แล้วค่อยดีดกลับ) หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 15, 2009, 03:08:04 PM (http://img36.imageshack.us/img36/5899/92786674.gif) (http://img36.imageshack.us/i/92786674.gif/)
หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: Cindy ที่ ธันวาคม 15, 2009, 05:08:20 PM ??!!!?? :-*
?????? ;) หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 15, 2009, 05:39:57 PM ??!!!?? :-* ???????????????????????? ;) หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: JO-JO ที่ ธันวาคม 15, 2009, 06:28:36 PM ขอบคุณครับ คุณทองใหม่
:) ตอนนี้ดูท่ารับ 1116 จะเอาไม่อยู่แล้วมั๊งครับ สงสัยจะได้เห็น 109x แ่น่ ๆ เลย หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: Jeera ที่ ธันวาคม 15, 2009, 06:42:02 PM อ่านไม่ออก :-\ หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 16, 2009, 06:24:20 AM วิธีดูทิศทางทอง ต้าน๓----หนุน๓เป็นทิศทางทองที่จะเคลื่อนไหวในวันนี้ หากพุ่งทะลุต้าน๓หรือดิ่งทะลวงหนุน๓ แสดงถึงวันนั้นทองเคลื่อนไหวแรงเกินปกติ เส้นแดนเป็นเส้นที่จะแบ่งแยกทิศทางของทองที่จะขึ้นหรือลง หากทองเคลื่อนไหวอยู่ในทิศทางใดมากและนาน นั่นหมายถึงโอกาสเป็นไปได้มากที่ทองจะเคลื่อนไปในทิศทางนั้นๆ ในช่วงเวลานั้น (ยังต้องแบ่งออกในช่วงเวลาตลาดเอเซีย ยุโรป เมกาด้วย) ต้าน๑และหนุน๑หากถูกทดสอบแบบมีผล(ขึ้นลงมากกว่า๑ครั้ง)แล้วยืนอยู่ได้ นั่นคือทิศทางทองที่จะเดินต่อไปในช่วงเวลานั้น หากการวิเคราะเกิดขัดแย้งกันเมื่อไหร่ ให้หยุดมองดูอย่างเดียว ไม่ควรซื้อ-ขายในช่วงเวลานั้น แนวทางนี้เหมาะกับการเล่นสั้นมาก (เล่นแบบออนไลน์ในอนาคต) มีความแม่นยำถึง80%ครับ อีกอย่างข่าวปัจจัยพื้นฐานอาจเปลี่ยนทิศทางทองได้กะทันหันนะครับ
ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์กับการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย ถัาติดดอยเมื่อทองต่ำลงมา หากยังมีเงินเหลืออยู่ ควรซื้อเพิ่ม เพิ่มที่ละนิด ต่ำอีกซื้ออีก เพื่อดึงต้นทุนที่สูงให้ต่ำลงมา ใครที่ยังไม่มีทองในมือควรทยอยซื้อเข้าอย่ามากนัก หากทองลงอีก เราก็ซื้ออีก ดีกว่าเวลาทองขึ้นเราไปไล่ซื้อในราคาที่สูง จดจำเป็นคติเตือนใจว่า เรามิอาจซื้อได้ในราคาที่ต่ำสุด และขายได้ในราคาที่สูงสุด ไม่มีการลงทุนใดที่ไม่เสี่ยง การบริหารพอร์ตให้ได้จังหวะ จะลดความเสี่ยงลงได้ครับ กราฟสำคัญ ปัจจัยพื้นฐานก็สำคัญ จิตวิทยาการโน้มเอียงของคนก็สำคัญ สิ่งเหล่านี้หากเป็นไปในแนวเดียวกัน ก็จะมุ่งไปทางนั้น หากแย้งกันก็ต้องดูฝ่ายไหนเหนือกว่า.....ด้วยเหตุนี้ไม่มีนักวิเคราะห์คนใดที่จะทำนายได้แม่นยำตลอดกาลได้ครับ (http://img24.imageshack.us/img24/3206/84274218.gif) (http://img24.imageshack.us/i/84274218.gif/) หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 16, 2009, 06:26:04 AM เส้นปากถุง(เส้นสีขาวทั้ง๓เส้น)แบบง่ายๆ ไม่ปวดเศียรเวียนเกล้า
เส้นบน---แนวต้าน เส้นกลาง---แนวโน้ม(สำคัญสุด) เส้นล่าง---แนวหนุน ลักษณะที่๑---ทิศทางขึ้นเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น เส้นกลางหันหัวขึ้น เส้นล่างหันหัวลง ลักษณะที่๒---ทิศทางขึ้นเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวขึ้น เมื่อเจอลักษณะทั้ง๒นี้ ราคาระหว่างวันที่ขึ้นๆลงๆ เมื่อเจอจุดที่เห็นว่าต่ำแล้วให้ซื้อเข้าได้เลยครับ ขอเพียงเส้นกลาง(แนวโน้ม)ยังหันหัวขึ้นอยู่ แม้ราคาเแท่งเทียนจะอยู่ต่ำกว่าเส้นกลาง ก็ยังซื้อเข้าได้ หากเส้นบนเดินขวางเมื่อไหร่ ให้ทยอยลดพอร์ตได้เลยครับ ลักษณะที่๓---เลือกทิศทาง---เส้นบนหันหัวลง เส้นล่างหันหัวขี้น ปากถุงแคบลง ถึงช่วงนี้ ให้ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว หากใครยังคิดอยากเคลื่อนไหว ก็จงเคลื่อนไหวไปหน้าทีวี จงอย่าทำการอย่างอื่นใด หากใครเป็นจอมยุทธ์ ก็ชิงเคลื่อนไหวก่อนใครได้ ขอแถมอีกนิด จงโฟกัสที่เส้นกลาง หากเส้นกลางเริ่มขยบหัวหัวขึ้นหรือลง ทิศทางอาจขึ้นหรือลงตามเส้นกลางแนวโน้มนั้น ลักษณะที่๔---เคลื่อนไหวในกรอบแคบ---เส้นบน กลาง ล่าง เดินขวางทั้ง๓เส้น หากใครเล่นออนไลน์ สามารถเล่นได้เล็กน้อยอย่ามาก เมื่อราคาแท่งเทียนใกล้เส้นบน จงขาย ใกล้เส้นล่าง จงซื้อ ต้องเข้าออกให้ทันการณ์ หาไม่แล้วจากกำไรอาจขาดทุนได้นา ขอบอก ลักษณะที่๕---ทิศทางลงเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น เส้นกลางหันหัวลง เส้ยล่างหัวหัวลง ลักษณะที่๖---ทิศทางลงเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวลง เมื่อเส้นล่างเดินขวางเมื่อไหร่ ผู้ที่ใจกล้าที่เล่นออนไลน์ เริ่มทยอยซื้อเข้าได้ที่ละนิด อัตราเสี่ยงยังมีอยู่บ้างนะครับ สิบอกไห่ วิธีดูเส้นปากถุงที่กล่าวมานี้ .....ไม่ใช่ตำราของฝรั่ง แบบของฝรั่งผมเคยอ่านมาบ้างแล้ว ยาวมาก ปวดหัว ทำความเข้าใจได้ยากมากๆๆๆๆ ...........เหมาะเฉพาะกราฟราย๔ชม.และช่วงปกติเท่านั้นนะครับ (บางครั้งตลาดจงใจคึงขึ้นลงอย่าแรงๆ แทบหัวใจวายสำหรับผู้มีทองในมือและผิดทิศทางของตัวเอง เรียกว่า ช่วงไม่ปกติครับ) (http://img707.imageshack.us/img707/3439/21002060.gif) (http://img707.imageshack.us/i/21002060.gif/) หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 16, 2009, 06:28:53 AM กราฟGold 1
ช่อง1 เส้นแดงอยู่เหนือเส้นเขียว---ทิศทางขึ้น ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน เส้นเขียวอยู่เหนือเส้นแดง---ทิศทางลง ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน เส้นแดงและเขียวประสานเป็นกากะบาด ---กำลังจะเปลี่ยนทิศ ให้ดูเส้นแนวโน้มประกอบ หากเส้นแดงและเขียวกำลังจะประสาน แต่ไม่ทันได้ประสานก็หันหันหัวกลับขึ้นหรือลง แสดงว่ากำลังมีเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนี่งเกิดขึ้น หากขึ้นทะลุเส้นปะแนวต้าน ให้ดูเส้นปะแนวต้านเส้นต่อไป หากลงทะลุเส้นปะแนวหนุน ให้ดูเส้นแนวหนุนเส้นต่อไป ส่วนจุดกลมเหลืองทอง---ทิศทางลง จุดกลมฟ้า---ทิศทางขึ้น หากกราฟวิ่งในยามปกติ พอเชื่อถือได้ หากกราฟวิ่งขึ้นลงแรงๆ คือยามไม่ปกติ ไม่อาจเชือถือได้ ช่อง2 ให้ดูเส้นสีม่วง ประกอบกับเส้นแนวโน้มในช่อง1 หากหันหัวไปในทิศทางเดียวกัน โอกาสที่จะผิดพลาดก็มีน้อย ส่วนเส้นปะสีเหลืองทองและฟ้า หากขึ้นเหนือเลข80 เข้าสู่เขตซื้อเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ทุกเมื่อ หากลงต่ำกว่าเลข20 เข้าสู่เขตขายเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ตลอดเวลา ช่อง3 ให้ดูทั้ง2เส้น คือเหลืองทองและฟ้า หันหัวไปทิศทางเดียวกันหรือไม่ เท่านั้นยังไม่พอ ให้ดูประกอบทิศทางในช่อง1ว่าเป็นทิศทางเดียวกันหรือไม่ หากทิศทางหันหัวในแนวเดียวกัน ทิศทางนั้นเชื่อถือได้ (http://img707.imageshack.us/img707/3499/94219074.gif) (http://img707.imageshack.us/i/94219074.gif/) หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 16, 2009, 08:52:58 AM ทองคำปิดลบ 80 เซนต์
วันพุธที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2552 08:22 สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กร่วงลง 80 เซนต์ หลังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 80 เซนต์ ปิดที่ 1,123 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในกรอบ 1127.6-1117.8 ดอลลาร์ ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 11.5 เซนต์ ปิดที่ 17.455 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 1.05 เซนต์ ปิดที่ 3.1415 ดอลลาร์/ปอนด์ ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 5.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,452.50 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมเดือนมี.ค.ปิดที่ 366.05 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 2.25 ดอลลาร์ นักวิเคราะห์กล่าวว่า แม้สัญญาทองคำปิดลบ แต่แรงซื้อยังคงส่งเข้ามาตลอดทั้งวันเนื่องจากนักลงทุนมองว่าทองคำเป็นการลงทุนที่ปลอดความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ โดยเฉพาะรายงานตัวเลขเงินเฟ้อล่าสุดในสหรัฐที่ทำให้นักลงทุนเชื่อว่าสหรัฐมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อรุนแรงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ดัชนีพีพีไอเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 1.8% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ถึง 2 เท่า ขณะที่ดัชนีพีพีไอซึ่งไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน ดีดขึ้น 0.5% ซึ่งเป็นสถิติที่เพิ่มขึ้นรุนแรงสุดในรอบกว่า 1 ปี หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 16, 2009, 10:35:58 AM ADB มองเอเชียตะวันออกช่วยดันเศรษฐกิจเอเชียพุ่งแกร่งเกินคาด
Posted on Wednesday, December 16, 2009 ADB คาดเศรษฐกิจเอเชียขยายตัวนำโดยเอเชียตะวันออก ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของ 45 ประเทศกลุ่มกำลังพัฒนาในเอเชียมีแนวโน้มขยายตัว 4.5% ในปีนี้ และคาดว่าจะขยายตัว 6.6% ในปีหน้า ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากการคาดการณ์เมื่อเดือนก.ย. หลังจากข้อมูลไตรมาส 3 บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจในหลายประเทศของเอเชียแข็งแกร่งเกินคาด ADB กล่าวว่า เศรษฐกิจของประเทศเอเชียตะวันออกซึ่งประกอบไปด้วยสาธารณรัฐประชาชนจีน เขตปกครองพิเศษฮ่องกง เกาหลีใต้ มองโกเลีย และไต้หวัน มีแนวโน้มขยายตัว 5.1% ในปีนี้ และ 7.3% ในปีหน้า ขณะที่เศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งประกอบไปด้วย ไทย เวียดนาม สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ พม่า มาเลเซีย ลาว อินโดนีเซีย กัมพูชา และ บรูไน จะขยายตัว 0.6% ในปีนี้ และ 4.5% ในปีหน้า ส่วนเศรษฐกิจจีนนั้น คาดว่าจะขยายตัวที่ระดับ 8.2% ในปีนี้ และจะขยายตัว 8.9% ในปีหน้า ขณะที่เศรษฐกิจอินเดียมีแนวโน้มขยายตัว 7.0% ในปีนี้และปีหน้า นายจง วา ลี หัวหน้าคณะนักเศรษฐศาสตร์ของเอดีบีกล่าวว่า "สถานการณ์เศรษฐกิจโลกเปลี่ยนไปเร็วมาก ทำให้ ADB ต้องประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจหลายครั้งใปนี้ ADB คาดว่าเศรษฐกิจเอเชียมีแนวโน้มแข็งแกร่งมากกว่าที่ประเมินไว้ในเดือนก.ย. โดยนโยบายการะตุ้นเศรษฐกิจและการคลังในกลุ่ม G3 ซึ่งได้แก่ยุโรป ญี่ปุ่น และสหรัฐ เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เศรษฐกิจเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออกฟื้นตัวขึ้น ส่วนทางด้านกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยรายงาน "World Economic Outlook" โดยคาดว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 3.1% ในปี 2553 ซึ่งการขยายตัวที่แข็งแกร่งของเอเชียจะเป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวขึ้นในปีหน้า ทั้งนี้ IMF คาดว่าเอเชียจะเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจโลกให้ฟื้นตัวขึ้น โดยคาดว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัว 9% และเศรษฐกิจอินเดียจะขยายตัว 6.4% ในปี 2553 ขณะที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นซึ่งกำลังเผชิญกับภาวะเงินฝืดอย่างรุนแรงนั้น คาดว่าจะหดตัวลง 5.4% ในปี 2552 และจากนั้นจะเริ่มขยายตัว 1.7% ในปี 2553 เนื่องจากยอดส่งออกญี่ปุ่นมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น ส่วนในฟากยุโรปนั้น ไอเอ็มเอฟคาดว่าเยอรมนีซึ่งมีระบบเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป จะขยายตัว 1.6% ในปี 2553 แต่คาดว่าจะหดตัวลง 4.9% ในปีนี้ ขณะที่เศรษฐกิจละตินอเมริกานั้น คาดว่า เศรษฐกิจบราซิลจะขยายตัว 5% เนื่องจากยอดส่งออกฟื้นตัวขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจเม็กซิโกจะขยายตัว 3% และชิลีจะขยายตัว 5% ในปี 2553 นอกจากนั้น IMF คาดว่าเศรษฐกิจในตะวันออกกลางซึ่งได้รับผลกระทบจากการร่วงลงของราคาน้ำมันดิบ จะขยายตัว 2% ในปี 2552 และขยายตัว 4.2% ในปี 2553 กังวลเฟดเร่งถอนมาตรการอัดฉีด หลังตัวชี้เงินเฟ้อออกมาสูงเกินคาด ขณะที่เงินดอลลาร์ทำสถิติแข็งค่ามากที่สุดในรอบกว่าสองเดือน ตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้ก็ปรับตัวลง เมื่อนักลงทุนเก็งกันว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอาจจะทำให้ธนาคารกลางลดมาตรการกระตุ้นต่างๆ ที่มีอยู่ในตอนนี้ แรงขายมีเข้ามาในตลาด สวนกับรายงานทางเศรษฐกิจที่แสดงถึงผลผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัวมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีดัชนีราคาผู้ผลิตที่เป็นตัวชี้วัดอัตราเงินเฟ้ออย่างหนึ่ง ออกมาสร้างความกังวลว่าเฟดอาจจะดึงมาตรการอัดฉีดเงินหรืออื่นๆ ที่ใช้อยู่ออกจากระบบ โดยเฉพาะหลังจากที่เห็นว่าราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และรวมถึงหุ้น ปรับตัวขึ้นมามากแล้วในปีนี้ เฟดรายงานว่าผลผลิตอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ ขยับขึ้นมาอีก 0.8% ในเดือนที่แล้ว หลังจากไม่เปลี่ยนแปลงในเดือนตุลาคม ขณะที่ทางด้านกระทรวงแรงงานก็เปิดเผยดัชนีราคาค้าส่งเพิ่มขึ้น 1.8% ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ถึงสองเท่า และแม้ว่าจะไม่มีนักวิเคราะห์สำนักไหนคาดว่า เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมคราวนี้ แต่นักลงทุนส่วนใหญ่ก็ปักใจเชื่อว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ เตรียมที่จะดึงเงินอัดฉีดบางส่วนจากวงเงิน 12 ล้านล้านเหรียญกลับในเร็วๆ นี้ ออเดอร์ขายหุ้นกลุ่มธนาคารก็เป็นส่วนหนึ่งที่ฉุดให้ตลาดโดยรวมปรับตัวลง หลังจากที่ Citigroup ประกาศแผนขายหุ้นเพื่อจ่ายคืนหนี้รัฐไปแล้ว ส่วนอีกหนึ่งราย ก็คือ Wells Fargo ก็มีแผนการออกขายหุ้นมูลค่า 10,650 ล้านเหรียญสำหรับการจ่ายคืนหนี้โครงการ TARP เช่นกัน ในขณะเดียวกัน ปัจจัยกดดันอีกส่วนก็มาจากรายงานของ JPMorgan Chase ที่ระบุว่า ยอดการผิดนัดชำระค่าบัตรเครดิตของธนาคารขยับตัวสูงขึ้น สำหรับสภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ ล่าสุดก็มีผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้ประกอบการรับสร้างบ้าน ที่จัดทำโดยสมาคมผู้ก่อสร้างและธนาคาร Wells Fargo โดยตัวเลขปรับตัวสู่จุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน ซึ่งผิดไปจากที่บรรดานักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น สาเหตุหลักๆ เป็นเพราะความวิตกเรื่องปัญหาการว่างงานในประเทศจะขวางทางการฟื้นตัวของตลาดบ้านในปีหน้า นอกจากนี้ ยังเป็นเพราะเรื่องของสินเชื่อที่มีอยู่อย่างจำกัดในตอนนี้ IATA คาดสายการบินทั่วโลกจะขาดทุนต่อเนื่องในปีหน้า สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) คาดการณ์ว่า สายการบินต่างๆจะขาดทุน 5,600 ล้านดอลลาร์ในปีหน้า ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 3,800 ล้านดอลลาร์ในการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ พร้อมกับคงคาดการณ์ตัวเลขขาดทุนของอุตสาหกรรมสายการบินในปีนี้ว่าจะสูงถึง 11,000 ล้านดอลลาร์ โจวานนี บิสิญานี ซีอีโอของ IATA กล่าวว่า ปี 2552 เป็นปีที่น่าหวาดผวาสำหรับอุตสาหกรรมการบิน แต่เชื่อว่า ช่วงเวลาเลวร้ายที่สุดน่าจะผ่านพ้นไปแล้ว โดยในปีหน้าสายการบินต่างๆจะมีผู้โดยสารเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ปริมาณการขนส่งสินค้าทางอากาศก็น่าจะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน IATA คาดการณ์ว่า ในปีหน้า สายการบินยุโรปน่าจะขาดทุนมากที่สุดที่ราว 2.5 พันล้านดอลลาร์ ส่วนสายการบินในอเมริกาเหนืออาจจะขาดทุนรวม 2 พันล้านดอลลาร์ สำหรับสายการบินในเอเชียแปซิฟิกนั้น มีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวขึ้นมากที่สุด ขณะที่สายการบินลาตินอเมริกาน่าจะเป็นภูมิภาคเดียวที่สามารถทำกำไรได้ IATA ยังกล่าวด้วยว่า แม้มีความเป็นไปได้ที่จำนวนผู้โดยสารสายการบินจะดีดตัวกลับขึ้นมาอยู่ที่ระดับเดียวกับในปี 2550 แต่รายได้จะน้อยกว่าในปีดังกล่าวถึง 3 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่ดีมานด์คาร์โกจะเพิ่มขึ้นในปีหน้า เนื่องจากธุรกิจต่างๆเริ่มกลับมาเติมสต็อกสินค้า โดย IATA คาดว่าการขนส่งสินค้าทางอากาศจะขยายตัว 7% แตะ 37.7 ล้านตันในปีหน้า เพิ่มขึ้นจากระดับ 5% ที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ บิสิญานียังกล่าวเพิ่มเติมว่า การควบรวมกิจการถือเป็นความหวังสำหรับอุตสาหกรรมการบิน ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนเยอรมันอ่อนตัวต่อเนื่อง ความเชื่อมั่นนักลงทุนเยอรมนีปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันในเดือนธันวาคม เนื่องจากความวิตกว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศเริ่มชะลอตัว รวมถึงการที่กรีซมีตัวเลขขาดดุลสูงขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นในยุโรป ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรป ZEW เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนที่มีเป้าหมายเพื่อชี้วัดแนวโน้มของนักลงทุนสำหรับช่วงเวลา 6 เดือนข้างหน้า ร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 50.4 ในเดือนธ.ค. จากระดับ 51.1 จุดในเดือนพ.ย. ซึ่งลดลงมากกว่าระดับคาดการณ์เฉลี่ยที่ 50 จุดของนักเศรษฐศาสตร์ที่บลูมเบิร์ก นิวส์ได้สำรวจความคิดเห็นไว้ ทั้งนี้ ตลาดหุ้นหลายแห่งในยุโรปปรับตัวลดลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้วหลังจากที่ฟิทช์ เรตติ้ง ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซ ขณะที่วานนี้ ธนาคารกลางเยอรมนีกล่าวว่า เศรษฐกิจของประเทศอาจไม่สามารถรักษาระดับการขยายตัวที่อัตรา 0.7% ในไตรมาส 3 เอาไว้ได้ หลังจากที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลซึ่งเคยเป็นปัจจัยหนุนการขยายตัวในไตรมาสที่ผ่านมาได้หมดอายุลง กรีซจะลดรายจ่าย เก็บภาษีโบนัสนายธนาคารแก้ปัญหาหนี้ นายกรัฐมนตรีจอร์จ ปาปันเดรอู ของกรีซ ประกาศจะลดรายจ่ายและเก็บภาษีโบนัสนายธนาคารสูงถึงร้อยละ 90 เพื่อแก้ปัญหาหนี้ของประเทศ นายกฯ กล่าวกับสหภาพแรงงานและนายจ้างก่อนที่พรรคฝ่ายค้านจะผละงานทั่วประเทศในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อประท้วงมาตรการรัดเข็มขัดว่า การปฏิรูปนโยบายภาษีจะทำให้ผู้มีฐานะต้องแบกรับภาระหนี้สินของประเทศมากขึ้น มาตรการหลายอย่างของรัฐบาลจะสร้างความลำบากแต่ขอให้ทุกคนร่วมกันเผชิญความลำบากนี้ โดยจะยกเลิกการจ่ายโบนัสของธนาคารรัฐ เรียกเก็บภาษีโบนัสจากนายธนาคารเอกชนสูงถึง 90% นอกจากนี้จะมีการลดการใช้จ่ายด้านสวัสดิการสังคมในปีหน้าลง 10% เรียกเก็บภาษีกำไร ขณะเดียวกันจะปราบปรามการทุจริตและการเลี่ยงภาษีซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดของประเทศ อย่างไรก็ดี จะขึ้นเงินเดือนให้ข้าราชการที่มีเงินเดือนต่ำกว่าเดือนละ 2,000 ยูโร (ราว 100,000 บาท) ให้ทันกับภาวะเงินเฟ้อ รัฐบาลกรีซถูกบริษัทจัดอันดับเครดิตและสมาชิกสหภาพยุโรปกดดันในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาให้ดำเนินมาตรการจริงจังเพื่อลดยอดขาดดุลงบประมาณที่สูงถึงร้อยละ 12.7 ของ GDP และหนี้สาธารณะที่คาดว่าจะสูงถึงร้อยละ 121 ของ GDP ในปีหน้า ซัมซุง ปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่-ตั้งซีอีโอใหม่ บริษัท ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ประกาศ แต่งตั้ง จีซุง ชอย (Geesung Choi) ดำรงตำแหน่งซีอีโอคนใหม่ โดยเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างองค์กรซึ่งมีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน และเพิ่มความเป็นอิสระของแผนกธุรกิจต่างๆของบริษัท พร้อมกันนี้ ซัมซุงยังได้ยกระดับทีมผู้บริหารระดับสูง (C-suite) ด้วยการแต่งตั้ง เจย์ วาย. ลี (Jay Y. Lee) เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ตั้งขึ้นใหม่ และจู-ฮวา ยูน (Ju-Hwa Yoon) เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน โดย ยูน-วู ลี ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการและซีอีโอ จะนั่งเก้าอี้ประธานคณะกรรมการของบริษัท นอกจากนี้ เพื่อให้เกิดความเป็นอิสระเพิ่มมากขึ้นในระดับการดำเนินงาน ซัมซุงยังได้ประกาศใช้ ?ระบบบริษัท" ซึ่งจะส่งผลให้หน่วยธุรกิจแต่ละแห่งมีรูปแบบการบริหารงานเช่นเดียวกับบริษัทที่มีความเป็นเอกเทศ แต่เดิม ซัมซุงมีแผนกการดำเนินงาน 10 แผนกซึ่งได้รับการรวบรวมและจัดตั้งเป็น 2 ธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจดิจิตอลมีเดียและการสื่อสารโทรคมนาคม (Digital Media & Communications) และ ธุรกิจโซลูชั่นอุปกรณ์ (Device Solutions) โดยการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่นี้จะเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจ 2 แห่งดังกล่าว ไปเป็นบริษัทอิสระ 7 แห่ง ภายใต้องค์กรบริษัทและคณะผู้บริหารระดับสูงชุดเดียวกัน นายชอย ว่าที่ซีอีโอคนใหม่ กล่าวว่า ?ซัมซุงฟื้นตัวขึ้นได้เป็นอย่างดีในช่วงปีที่ผ่านมา ด้วยความเป็นผู้นำและการรับมือต่อวิกฤตการเงินโลกอย่างระมัดระวังและละเอียดรอบคอบของยูน-วู ลี" ?และด้วยแรงขับเคลื่อนไปข้างหน้านี้ เชื่อว่าบัดนี้ถึงเวลาแล้วที่เราจะทำการเปลี่ยนแปลงองค์กรที่สำคัญนี้เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับความท้าทายและโอกาสต่างๆที่รออยู่เบื้องหน้า" ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทซัมซุงมีผลกำไรจากการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่ 7.22 ล้านล้านวอน (6.08 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ วันที่ 30 ก.ย.) // จากยอดขาย 97.05 ล้านล้านวอน (8.169 หมื่นล้านดอลลาร์ ณ วันที่ 30 ก.ย.) เปรียบเทียบกับผลกำไรจากการดำเนินงานตลอดปี 2551 ที่ 6.03 ล้านล้านวอน (4.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากยอดขาย 121.29 ล้านล้านวอน (9.65 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) จีนเตรียมเก็บภาษีนำเข้าโภคภัณฑ์กว่า 600 ประเภทในปีหน้า กระทรวงคลังจีนเผยเตรียมเก็บภาษีนำเข้าสินค้าโภคภัณฑ์กว่า 600 รายการที่ระดับต่ำเป็นการชั่วคราวในปีหน้า สินค้าโภคภัณฑ์ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายได้แก่ สินค้าโภคภัณฑ์ประเภททรัพยากร เช่น ถ่านหิน หินแกรนิต สินแร่ฟอสเฟต ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของระบบสื่อสารแบบอ็อปติค จอพลาสมา และวัคซีน รวมทั้งเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตบางประเภท นอกจากนี้ รัฐบาลจีนจะลดภาษีนำเข้าสินค้าโภคภัณฑ์ 6 ประเภท ซึ่งรวมถึงสตรอเบอรี่สด ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.เป็นต้นไป ซึ่งความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้เป็นการทำตามคำมั่นในเรื่องการลดภาษีที่จีนได้ให้ไว้เมื่อครั้งที่จะเข้าเป็นสมาชิกขององค์กรการค้าโลก ในปี 2544 ทางจีนไม่ได้ระบุชื่อสินค้าโภคภัณฑ์อีก 5 รายการที่เหลือ และไม่ได้ระบุอัตราภาษีที่จะเก็บด้วย สำหรับอัตราภาษีทั่วไปจะยังอยู่ในระดับเดิมที่ 9.8% ในปีหน้า ซึ่งเป็นระดับเดียวกับเมื่อ 3 ปีที่แล้ว เทียบกับระดับ 15.3% เมื่อปี 2545 ส่วนอัตราภาษีสินค้าที่เกี่ยวกับการเกษตรลดลงมาเหลือ 15.2% จากระดับ 18.8% เมื่อปี 2545 ส่วนอัตราภาษีของสินค้าภาคอุตสาหกรรมลดลงมาเหลือ 8.9% จากระดับ 14.7% ส่วนอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจจากทางการจีน มีการรายงานว่า จีนเริ่มการก่อสร้างสะพานที่ยาวที่สุดอีกแห่งหนึ่งของโลกที่เชื่อมมณฑลกวางตุ้งตอนใต้ของจีน ไปยังฮ่องกงและมาเก๊า ทั้งนี้เพื่อช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ สะพานรูปตัววาย ฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า ซึ่งเจ้าหน้าที่ของทางการระบุว่าเป็นสะพานข้ามทะเลที่ยาวที่สุดในโลก มีระยะทางเกือบ 50 กม. มีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2559 โดยจะมีความยาวมากกว่าสะพานเลค พอนต์ชาร์เทรน คอสเวย์ ทางตอนใต้ของสหรัฐ ที่ยาว 38.4 กม. และได้ชื่อว่าเป็นสะพานที่ยาวที่สุดในโลก สะพานแห่งนี้ยังจะช่วยย่นระยะเวลาในการเดินทางระหว่างเมืองจูไห่-ฮ่องกง เหลือ 30 นาที จาก 3.5 ชม. และระหว่างฮ่องกง-มาเก๊า เหลือไม่ถึงชั่วโมงจาก 3 ชม. สะพานแห่งนี้จะมีค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง 73,000 ล้านหยวน โดนัลด์ เจิง ผู้บริหารเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ซึ่งเข้าร่วมในพิธีวางศิลาฤกษ์กับรองนายกรัฐมนตรีหลี่ เคอเฉียงของจีน กล่าวว่า สะพานแห่งนี้จะนำไปสู่การรวมตัวทางด้านสังคมและเศรษฐกิจในภูมิภาค ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่ประกาศออกมาเมื่อวานนี้ (อังคารที่ 15 ธ.ค. 2552) ? ดัชนีราคาผู้ผลิต (พ.ย.) เพิ่มขึ้น 1.8% จากเดือนก่อนหน้า ? ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย (ธ.ค.) อยู่ที่ระดับ 16 จุด (ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 17 จุด) ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่จะประกาศออกมาวันนี้ (พุธที่ 16 ธ.ค. 2552 ) ? ตัวเลขสต็อกน้ำมันสำรองประจำสัปดาห์ โดย EIA ? ประกาศผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐฯ ? ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้าน (พ.ย.) โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ? ดัชนีราคาผู้บริโภค (พ.ย.) โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ? ดุลบัญชีเดินสะพัด (Q3/52) โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ติดตาม Money Wake up ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ทาง Money Channel หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 16, 2009, 11:07:14 AM โพลของเวปจีน เอามาให้ดูเพื่อศึกษา หากโพลมีการเปลี่ยนแปลง และผมอยู่หน้าจอคอมฯ จะโพสต์ให้ดูใหม่นะครับ
สีแดง-----มองขึ้น สีเขียว--------มองลง สีเหลือง--------วิ่งในวงแคบเพื่อปรับทิศทางใหม่ (http://img683.imageshack.us/img683/1997/16202741.gif) (http://img683.imageshack.us/i/16202741.gif/) โพลถึงเคยแม่น แต่ไม่หมายถึงว่าจะไม่ผิดพลาด จะเชื่อสิ่งใดก็อย่าเชื่อหมดใจ หากผิดพลาดก็จะลำบากทุกข์ใจนา ด้วยความเป็นห่วงครับ หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 16, 2009, 12:35:02 PM กราฟตาแป๊ะซ้ายบน หน้าสีแดง---ลงปรับฐานช่วงสั้นๆ อาจเป็นวัน-สองวัน หน้าสีเทา---ดีดขึ้นช่วงสั้นๆ อาจเป็นวัน-สองวัน เส้นสีแดงหนา---ขาขึ้น เส้นสีเขียวหนา---ขาลง
ขวาบน เส้นสีแดง---เสนอซื้มากกว่าเสนอขาย เส้นสีเขียว---เสนอขายมากกว่าเสนอซื้อ ส่วนช่วงกลางที่มีแท่งสีแดงกับเขียวนั้น แท่งแดง---แรงซื้อขึ้น แท่งเขียว---แรงขายลง ขวาช่องสอง แท่งเหลืองคู่เส้นแดง---ขาขึ้น แท่งฟ้าคู่เส้นเขียว---ขาลง โดยปกติ ช่องนี้จะเปลี่ยนแนวโน้มช้ากว่าเพื่อน หากเปลี่ยนแนวโน้มเมื่อไหร่ เขาให้ขายออกหรือซื้อเข้าได้ทันที่ ยกเว้นมีปัจจัยพื้นฐานแรงๆแทรกเข้ามา จึงจะทำให้แนวโน้มกลับเปลี่ยนได้โดยกะทันหัน ซ้ายช่องสอง หน้าเหลืองแป๊ะยิ้ม---ขาขึ้น หน้าแดงแป๊ะร้องไห้---ขาลง แท่งสีเขียว---เพดาน แท่งสีแดง---พื้นดินโดยปกติ ช่องนี้จะส่งสัญญาณว่า กำลังจะเปลี่ยนแนวทางแล้วนะ แต่ยังไม่เต็มร้อย อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยกะทันหันก็ได้ ต้องดูซ้ายบนและขวาช่อง๒ประกอบด้วย จึงจะให้ความมั่นใจได้ ทอง (http://img97.imageshack.us/img97/8951/30685146.gif) (http://img97.imageshack.us/i/30685146.gif/) หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 16, 2009, 12:39:28 PM ดัชนีเงินเมกา
(http://img121.imageshack.us/img121/1249/64409118.gif) (http://img121.imageshack.us/i/64409118.gif/) หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 16, 2009, 12:42:22 PM น้ำมัน
(http://img268.imageshack.us/img268/4015/70388337.gif) (http://img268.imageshack.us/i/70388337.gif/) หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 16, 2009, 12:59:28 PM บทวิเคราะห์ทองคำ (16-12-52)
16 ธ.ค. 2552 สรุปภาวะตลาดเมื่อวาน ราคาโกลด์ฟิวเจอร์สปรับตัวลดลง เช่นเดียวกับราคาทองคำสปอตที่แกว่งตัวกลับมาอยู่ที่เดิมช่วงข้ามคืน ทองคำแท่งสมาคมฯปิดที่ 17,550/650 บาท เงินบาทอ่อนค่าลงช้าๆ ปัจจัยที่อาจส่งผลต่อเนื่องถึงวันนี้ ผลสำรวจ ZEW ของเยอรมันที่รายงานออกมาในช่วงเย็นแสดงให้เห็นว่านักวิเคราะห์มีมุมมองต่อภาวะเศรษฐกิจเยอรมันทั้งในภาวะปัจจุบันและในอนาคตแย่กว่าเดิมตามคาด เป็นการจุดชนวนให้นักลงทุนเทขายเงินยูโรและทองคำต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงเล็กน้อย [ZEW, TCAF Research] รายงานเศรษฐกิจในสหรัฐฯออกมาค่อนข้างไม่ชัดเจนเช่นเดิมโดยถึงแม้ว่าสหรัฐฯจะมีการผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นในเดือนพฤศจิกายน แต่ผลสำรวจในรัฐนิวยอร์คกลับชี้ให้เห็นว่าผู้ผลิตอาจไม่เพิ่มกำลังการผลิตอีกในระยะใกล้นี้ ในขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิตกลับเพิ่มขึ้นไปสูงกว่าคาดค่อนข้างมาก จึงเป็นประเด็นให้นักลงทุนกลับมาเป็นห่วงเรื่องเงินเฟ้อและกลับมาถือครองทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยงอีกครั้ง [Econoday, TCAF Research] รายงาน Treasury International Capital แสดงให้เห็นว่านักลงทุนต่างประเทศมีการซื้อครองหลักทรัพย์ระยะยาวของสหรัฐฯน้อยลงกว่าเดิม ในขณะที่ธนาคารกลางต่างๆมีการเพิ่มและลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปะปนกันไปไม่ชัดเจนโดยจีนมีการถือครองพันธบัตรฯคงที่ในเดือนตุลาคม รายงานดังกล่าวจึงไม่ได้ส่งผลต่อราคาทองคำหรือค่าเงินยูโรอย่างชัดเจนนัก [US Treasury, TCAF Research] นักลงทุนจะจับตามุมมองเศรษฐกิจของผู้ประกอบการต่างๆในยุโรปที่จะทยอยรายงานในบ่ายวันนี้ และมุมมองของเฟดที่รายงานในช่วงข้ามคืน แนวโน้มทองคำวันนี้ เรามองว่าเศรษฐกิจยุโรปไม่น่าจะดีเท่าที่ควรและมองว่า "ราคาทองคำมีโอกาสแกว่งตัวลงได้ในระยะสั้น" จึงแนะนำให้ "ค่อยๆสะสม SHORT ในช่วงเช้าเพื่อทำกำไรระยะสั้น โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ราคาสปอตสูงกว่า $1,147" (http://img69.imageshack.us/img69/5967/50747267.gif) (http://img69.imageshack.us/i/50747267.gif/) มุมมองทองคำ ภาวะเศรษฐกิจเปรียบเทียบในภูมิภาคต่างๆ โดยเฉพาะแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯและกลุ่มยูโรน่าจะมีความสำคัญ หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 16, 2009, 01:02:56 PM Daily Update 16-12-52
16 ธ.ค. 2552 Gold Market Commentary ประเด็นสำคัญ ? ราคาทองที่ตลาดสหรัฐปิดลดลงเล็กน้อยในวันอังคาร ? ดอลล์ไต้ขึ้นก่อนรู้ผลประชุมเฟด, ยูโรร่วงจากวิตกภาคธนาคาร ? พุ่งขึ้น 1.7 % ในวันอังคารหลังจากปิดตลาดในแดนลบนาน ? รอนโยบายการดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คืนนี้ Gold 1,123.00 US$/ทองปิดลบเล็กน้อย -- ราคาทองที่ตลาดสหรัฐปิดลดลงเล็กน้อยในวันอังคาร หลังจากทรงตัวเกือบตลอดการซื้อขาย ขณะที่นักลงทุนพิจารณาการขายเนื่องจากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นและเข้าซื้อเนื่องจากโอกาสที่จะเกิดเงินเฟ้ออันเป็นผลจากดัชนีราคาผู้ผลิต(PPI) ที่เพิ่มขึ้นเกินคาด และราคาน้ำมันพุ่งขึ้น ทั้งนี้ ราคาทองส่งมอบเดือนก.พ.ที่ตลาด COMEX ปิดลดลง 0.80 ดอลลาร์ ที่ 1,123.00 ดอลลาร์/ออนซ์ และราคาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดบวก 11.50 เซนต์ ที่ 17.4550 ดอลล์ไต้ขึ้นก่อนรู้ผลประชุมเฟด, ยูโรร่วงจากวิตกภาคธนาคาร -- ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นใน วันอังคารโดยแตะระดับสูงสุดในรอบ 2เดือนครึ่งเมื่อเทียบกับยูโร ขณะที่ข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐที่ เพิ่มขึ้นบ่งชี้ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่นักลงทุนคาดไว้ ราคาพันธบัตรปิดร่วงหลังข้อมูลกระตุ้นวิตกเงินเฟ้อ ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐร่วงลงในวันอังคาร หลังรายงานที่ระบุว่าดัชนีราคาผู้ผลิตเพิ่มขึ้นนั้นทำให้เกิดความวิตกต่อภาวะเงินเฟ้อขณะ ที่กรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มการประชุมครั้งสุดท้ายในรอบปีนี้แล้ว ทั้งนี้ ราคาพันธบัตรอายุ 10 ปีปิดลดลง 09/32 ที่ 98-08/32 โดยมีผลตอบแทน 3.588% ส่วนราคา พันธบัตรอายุ 30 ปีปิดลดลง 20/32 ที่ 97-19/32 โดยมีผลตอบแทน 4.522% กองทุน SPDR Gold trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยว่าทางกองทุนได้ถือครองทองแท่งระดับ 1,116.551 ตัน ณ วันที่ 15 ธันวาคม 2552 ลดลง 13.415 ตัน จากวันที่ 4 ธันวาคม 2552 กลยุทธ์ : ราคาทองจะมีการเปลี่ยนทิศทางในช่วงคืนนี้ อาจมาจากข่าวรอนโยบายการดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คืนนี้ ถ้าขึ้นดอกเบี้ยจะมีผลกระทบต่อราคาโดยตรงให้ตั้งจุดแนวลดความเสี่ยงโดย ตั้งจุดแนว Cut Lose ที่แนวระดับราคา 1100 US$ หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: sue662 ที่ ธันวาคม 16, 2009, 01:59:18 PM มาสวัสดียามบ่ายค่ะ คุณทองใหม๋ พักผ่อนมากๆนะคะ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 16, 2009, 03:32:09 PM โพลของเวปจีน เอามาให้ดูเพื่อศึกษา หากโพลมีการเปลี่ยนแปลง และผมอยู่หน้าจอคอมฯ จะโพสต์ให้ดูใหม่นะครับ สีแดง-----มองขึ้น สีเขียว--------มองลง สีเหลือง--------วิ่งในวงแคบเพื่อปรับทิศทางใหม่ ([url]http://img683.imageshack.us/img683/1997/16202741.gif[/url]) ([url]http://img683.imageshack.us/i/16202741.gif/[/url]) โพลถึงเคยแม่น แต่ไม่หมายถึงว่าจะไม่ผิดพลาด จะเชื่อสิ่งใดก็อย่าเชื่อหมดใจ หากผิดพลาดก็จะลำบากทุกข์ใจนา ด้วยความเป็นห่วงครับ (http://img34.imageshack.us/img34/1760/53203671.gif) (http://img34.imageshack.us/i/53203671.gif/) หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: JO-JO ที่ ธันวาคม 16, 2009, 06:31:45 PM ขอบคุณครับ คุณทองใหม่
เห็นว่าพรุ่งนี้ต้องไปหาหมอ วันนี้พักผ่อนเยอะ ๆ นะครับ :) หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 16, 2009, 06:33:24 PM โพลของเวปจีน เอามาให้ดูเพื่อศึกษา หากโพลมีการเปลี่ยนแปลง และผมอยู่หน้าจอคอมฯ จะโพสต์ให้ดูใหม่นะครับ สีแดง-----มองขึ้น สีเขียว--------มองลง สีเหลือง--------วิ่งในวงแคบเพื่อปรับทิศทางใหม่ ([url]http://img683.imageshack.us/img683/1997/16202741.gif[/url]) ([url]http://img683.imageshack.us/i/16202741.gif/[/url]) โพลถึงเคยแม่น แต่ไม่หมายถึงว่าจะไม่ผิดพลาด จะเชื่อสิ่งใดก็อย่าเชื่อหมดใจ หากผิดพลาดก็จะลำบากทุกข์ใจนา ด้วยความเป็นห่วงครับ ([url]http://img34.imageshack.us/img34/1760/53203671.gif[/url]) ([url]http://img34.imageshack.us/i/53203671.gif/[/url]) หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 16, 2009, 06:35:06 PM ขอบคุณครับ คุณทองใหม่ พรุ่งนี้หมอนัด คงออกจากบ้านเช้ามืด กลับถึงบ้านคงช่วงเย็นแล้วครับเห็นว่าพรุ่งนี้ต้องไปหาหมอ วันนี้พักผ่อนเยอะ ๆ นะครับ :) หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: Cindy ที่ ธันวาคม 16, 2009, 06:36:02 PM ????... ??????????? ???????? ;D มั่วเก่งไม๊คะ?? laugh.gif
หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 16, 2009, 07:29:55 PM ????... ??????????? ???????? ;D มั่วเก่งไม๊คะ?? laugh.gif ไม่มั่วหรอกครับ เก่งจริงๆ ????หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: Neung99k ที่ ธันวาคม 17, 2009, 12:35:53 PM ????... ??????????? ???????? ;D มั่วเก่งไม๊คะ?? laugh.gif ไม่มั่วหรอกครับ เก่งจริงๆ ????หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 17, 2009, 04:26:38 PM เพิ่งถึงบ้านเดี๋ยวนี้เองครับ ผลตรวจเลือดของวันนี้ดีมาก แต่หมอสงสัยทำไมมีน้ำตาลในเลือดสูงมาก น้ำตาลที่ว่านี่ไม่เกี่ยวกับเบาหวาน หมอเลยถามว่าทานผลไม่มากเกินไปหรือเปล่า? ผมบอกว่าใช่ครับ หมอเลยสั่งให้ลดผลไม้ ทานได้แต่น้อย และยาลดความดันก็ให้หยุดทาน วันที่24ธค.นี้มาตรวจเลือดใหม่อีดครั้ง ส่วนผลของการตรวจปัสสาวะ ก็ให้มารับฟังผลในวันที่24พร้อมกันเลยครับ
วันที่21นี้ไปฟังผลCT Scan พร้อมตรวจอาการหลังการผ่าตัด หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 17, 2009, 04:32:41 PM ตามไปอ่านต่อได้ที่นี่นะครับ
http://www.thaigold.info/forum/index.php?topic=4785.225 (http://www.thaigold.info/forum/index.php?topic=4785.225) หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: pridoy ที่ ธันวาคม 17, 2009, 05:59:09 PM สุขภาพแข็งแรงนะครับ
หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: JO-JO ที่ ธันวาคม 17, 2009, 08:03:38 PM ดีจังเลยครับ ที่ผลตรวจออกมาค่อนข้างดี
อย่าลืมพักผ่อนเยอะ ๆ และดูแลสุขภาพด้วยนะครับ ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะครับ เพิ่งกลับบ้านยังหาข้อมูลมาให้อ่านกันอีก ขอบคุณมาก ๆ ครับ :) หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 18, 2009, 05:56:11 AM วิธีดูทิศทางทอง ต้าน๓----หนุน๓เป็นทิศทางทองที่จะเคลื่อนไหวในวันนี้ หากพุ่งทะลุต้าน๓หรือดิ่งทะลวงหนุน๓ แสดงถึงวันนั้นทองเคลื่อนไหวแรงเกินปกติ เส้นแดนเป็นเส้นที่จะแบ่งแยกทิศทางของทองที่จะขึ้นหรือลง หากทองเคลื่อนไหวอยู่ในทิศทางใดมากและนาน นั่นหมายถึงโอกาสเป็นไปได้มากที่ทองจะเคลื่อนไปในทิศทางนั้นๆ ในช่วงเวลานั้น (ยังต้องแบ่งออกในช่วงเวลาตลาดเอเซีย ยุโรป เมกาด้วย) ต้าน๑และหนุน๑หากถูกทดสอบแบบมีผล(ขึ้นลงมากกว่า๑ครั้ง)แล้วยืนอยู่ได้ นั่นคือทิศทางทองที่จะเดินต่อไปในช่วงเวลานั้น หากการวิเคราะเกิดขัดแย้งกันเมื่อไหร่ ให้หยุดมองดูอย่างเดียว ไม่ควรซื้อ-ขายในช่วงเวลานั้น แนวทางนี้เหมาะกับการเล่นสั้นมาก (เล่นแบบออนไลน์ในอนาคต) มีความแม่นยำถึง80%ครับ อีกอย่างข่าวปัจจัยพื้นฐานอาจเปลี่ยนทิศทางทองได้กะทันหันนะครับ
ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์กับการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย ถัาติดดอยเมื่อทองต่ำลงมา หากยังมีเงินเหลืออยู่ ควรซื้อเพิ่ม เพิ่มที่ละนิด ต่ำอีกซื้ออีก เพื่อดึงต้นทุนที่สูงให้ต่ำลงมา ใครที่ยังไม่มีทองในมือควรทยอยซื้อเข้าอย่ามากนัก หากทองลงอีก เราก็ซื้ออีก ดีกว่าเวลาทองขึ้นเราไปไล่ซื้อในราคาที่สูง จดจำเป็นคติเตือนใจว่า เรามิอาจซื้อได้ในราคาที่ต่ำสุด และขายได้ในราคาที่สูงสุด ไม่มีการลงทุนใดที่ไม่เสี่ยง การบริหารพอร์ตให้ได้จังหวะ จะลดความเสี่ยงลงได้ครับ กราฟสำคัญ ปัจจัยพื้นฐานก็สำคัญ จิตวิทยาการโน้มเอียงของคนก็สำคัญ สิ่งเหล่านี้หากเป็นไปในแนวเดียวกัน ก็จะมุ่งไปทางนั้น หากแย้งกันก็ต้องดูฝ่ายไหนเหนือกว่า.....ด้วยเหตุนี้ไม่มีนักวิเคราะห์คนใดที่จะทำนายได้แม่นยำตลอดกาลได้ครับ (http://img29.imageshack.us/img29/369/39344975.gif) (http://img29.imageshack.us/i/39344975.gif/) หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 18, 2009, 05:56:47 AM เส้นปากถุง(เส้นสีขาวทั้ง๓เส้น)แบบง่ายๆ ไม่ปวดเศียรเวียนเกล้า
เส้นบน---แนวต้าน เส้นกลาง---แนวโน้ม(สำคัญสุด) เส้นล่าง---แนวหนุน ลักษณะที่๑---ทิศทางขึ้นเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น เส้นกลางหันหัวขึ้น เส้นล่างหันหัวลง ลักษณะที่๒---ทิศทางขึ้นเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวขึ้น เมื่อเจอลักษณะทั้ง๒นี้ ราคาระหว่างวันที่ขึ้นๆลงๆ เมื่อเจอจุดที่เห็นว่าต่ำแล้วให้ซื้อเข้าได้เลยครับ ขอเพียงเส้นกลาง(แนวโน้ม)ยังหันหัวขึ้นอยู่ แม้ราคาเแท่งเทียนจะอยู่ต่ำกว่าเส้นกลาง ก็ยังซื้อเข้าได้ หากเส้นบนเดินขวางเมื่อไหร่ ให้ทยอยลดพอร์ตได้เลยครับ ลักษณะที่๓---เลือกทิศทาง---เส้นบนหันหัวลง เส้นล่างหันหัวขี้น ปากถุงแคบลง ถึงช่วงนี้ ให้ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว หากใครยังคิดอยากเคลื่อนไหว ก็จงเคลื่อนไหวไปหน้าทีวี จงอย่าทำการอย่างอื่นใด หากใครเป็นจอมยุทธ์ ก็ชิงเคลื่อนไหวก่อนใครได้ ขอแถมอีกนิด จงโฟกัสที่เส้นกลาง หากเส้นกลางเริ่มขยบหัวหัวขึ้นหรือลง ทิศทางอาจขึ้นหรือลงตามเส้นกลางแนวโน้มนั้น ลักษณะที่๔---เคลื่อนไหวในกรอบแคบ---เส้นบน กลาง ล่าง เดินขวางทั้ง๓เส้น หากใครเล่นออนไลน์ สามารถเล่นได้เล็กน้อยอย่ามาก เมื่อราคาแท่งเทียนใกล้เส้นบน จงขาย ใกล้เส้นล่าง จงซื้อ ต้องเข้าออกให้ทันการณ์ หาไม่แล้วจากกำไรอาจขาดทุนได้นา ขอบอก ลักษณะที่๕---ทิศทางลงเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น เส้นกลางหันหัวลง เส้ยล่างหัวหัวลง ลักษณะที่๖---ทิศทางลงเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวลง เมื่อเส้นล่างเดินขวางเมื่อไหร่ ผู้ที่ใจกล้าที่เล่นออนไลน์ เริ่มทยอยซื้อเข้าได้ที่ละนิด อัตราเสี่ยงยังมีอยู่บ้างนะครับ สิบอกไห่ วิธีดูเส้นปากถุงที่กล่าวมานี้ .....ไม่ใช่ตำราของฝรั่ง แบบของฝรั่งผมเคยอ่านมาบ้างแล้ว ยาวมาก ปวดหัว ทำความเข้าใจได้ยากมากๆๆๆๆ ...........เหมาะเฉพาะกราฟราย๔ชม.และช่วงปกติเท่านั้นนะครับ (บางครั้งตลาดจงใจคึงขึ้นลงอย่าแรงๆ แทบหัวใจวายสำหรับผู้มีทองในมือและผิดทิศทางของตัวเอง เรียกว่า ช่วงไม่ปกติครับ) (http://img193.imageshack.us/img193/2416/21937288.gif) (http://img193.imageshack.us/i/21937288.gif/) หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 18, 2009, 05:58:28 AM กราฟGold 1
ช่อง1 เส้นแดงอยู่เหนือเส้นเขียว---ทิศทางขึ้น ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน เส้นเขียวอยู่เหนือเส้นแดง---ทิศทางลง ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน เส้นแดงและเขียวประสานเป็นกากะบาด ---กำลังจะเปลี่ยนทิศ ให้ดูเส้นแนวโน้มประกอบ หากเส้นแดงและเขียวกำลังจะประสาน แต่ไม่ทันได้ประสานก็หันหันหัวกลับขึ้นหรือลง แสดงว่ากำลังมีเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนี่งเกิดขึ้น หากขึ้นทะลุเส้นปะแนวต้าน ให้ดูเส้นปะแนวต้านเส้นต่อไป หากลงทะลุเส้นปะแนวหนุน ให้ดูเส้นแนวหนุนเส้นต่อไป ส่วนจุดกลมเหลืองทอง---ทิศทางลง จุดกลมฟ้า---ทิศทางขึ้น หากกราฟวิ่งในยามปกติ พอเชื่อถือได้ หากกราฟวิ่งขึ้นลงแรงๆ คือยามไม่ปกติ ไม่อาจเชือถือได้ ช่อง2 ให้ดูเส้นสีม่วง ประกอบกับเส้นแนวโน้มในช่อง1 หากหันหัวไปในทิศทางเดียวกัน โอกาสที่จะผิดพลาดก็มีน้อย ส่วนเส้นปะสีเหลืองทองและฟ้า หากขึ้นเหนือเลข80 เข้าสู่เขตซื้อเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ทุกเมื่อ หากลงต่ำกว่าเลข20 เข้าสู่เขตขายเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ตลอดเวลา ช่อง3 ให้ดูทั้ง2เส้น คือเหลืองทองและฟ้า หันหัวไปทิศทางเดียวกันหรือไม่ เท่านั้นยังไม่พอ ให้ดูประกอบทิศทางในช่อง1ว่าเป็นทิศทางเดียวกันหรือไม่ หากทิศทางหันหัวในแนวเดียวกัน ทิศทางนั้นเชื่อถือได้ (http://img29.imageshack.us/img29/2640/16671062.gif) (http://img29.imageshack.us/i/16671062.gif/) หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 18, 2009, 06:24:56 AM โพลของเวปจีน เอามาให้ดูเพื่อศึกษา หากโพลมีการเปลี่ยนแปลง และผมอยู่หน้าจอคอมฯ จะโพสต์ให้ดูใหม่นะครับ สีแดง-----มองขึ้น สีเขียว--------มองลง สีเหลือง--------วิ่งในวงแคบเพื่อปรับทิศทางใหม่ ([url]http://img64.imageshack.us/img64/7424/11751633.gif[/url]) ([url]http://img64.imageshack.us/i/11751633.gif/[/url]) โพลถึงเคยแม่น แต่ไม่หมายถึงว่าจะไม่ผิดพลาด จะเชื่อสิ่งใดก็อย่าเชื่อหมดใจ หากผิดพลาดก็จะลำบากทุกข์ใจนา ด้วยความเป็นห่วงครับ (http://img42.imageshack.us/img42/3424/56413722.gif) (http://img42.imageshack.us/i/56413722.gif/) เมื่อวานช่วงเช้าถีงวานชืนช่วงดึก ทองต่อต้านการลง โดยที่ดัชนีเงินเมกาขึ้น ETFซื้อทองเพิ่ม ทำให้ผู้คนรายย่อยในตลาดเข้าใจว่าทองจะขึ้นต่อ แม้โพลจีนก็ถูกหลอกเช่นกัน นี่แหละครับ ที่เขาเรียกว่าหลอกหมาน้อยขึ้นดอย หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 18, 2009, 06:56:16 AM !thk ( !_10 เพิ่งเริ่มต้นเองหรอ ให้ลงทั้งคืนไม่สาแก่ใจอีกชะมะ)เพิ่งเริ่มต้นอาจเปลี่ยนแปลงได้ครับ ใครไม่มีของทอยซื้อได้แล้วครับ ทยอยซื้อนะครับ กันได้ทั้งตกรถ หากลงอีกก็ซื้อได้อีก ที่ละนิดทีละหน่อย จิตแจ่มใสไร้กังวล สุขขีอารมณ์ดีแท้เอย ฮาฮากราฟราย 4 ช.ม. ทิศทางลงเบื้องต้น ( !_10 เพิ่งเริ่มต้นเองหรอ ให้ลงทั้งคืนไม่สาแก่ใจอีกชะมะ) กราฟราย ช.ม. ทิศทางลง ติดใกล้ ๆ 0 พร้อมกลับทิศได้บ้าง หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 18, 2009, 07:14:22 AM !53 !53 !53 ผมลองอ่านกราฟหลายๆตัวดู มีโอกาสที่จะดีดขึ้นเพื่อปรับฐานที่ลงมากไป จะขึ้นหรือลงต่อเมื่อปรับฐานใหม่แล้วค่อยว่ากันใหม่ครับ เป็นความเห็นส่วนตัว สงวนสิทธฺห้ามนำไปซื้อขายนะครับ บอกไว้ก่อนเดี๋ยวเกิดเสียหายจะหาว่าไม่บอก ฮาเจ่า ซ่าง ฮ่าว ทองใหม่ เซียนเซิง วันนี้ทองจะมีโอกาสลงต่อได้อีกไหมครับ ขอบคุณครับ หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 18, 2009, 07:43:47 AM เอามาให้ดูเป็นข้อมูลตัวเลือก.. ([url]http://img97.imageshack.us/img97/7038/77663931.gif[/url]) ([url]http://img97.imageshack.us/i/77663931.gif/[/url]) ช่วงสั้นเปลี่ยนแปลงได้สองแบบ 1.บริเวณ1116หากหนุนอยู่ ก็จะดีดกลับได้ไม่แรงนัก ดูถึง1145 จากนั้นก็จะลงประมาณ50เหรียญ 2.สัปดาห์นี้อาจลงNewlowหรือ1096 หากแนวหนุนที่1088---1096รับอยู่ ก็จะมีการดีดกลับอย่างแรง (หากรับไม่อยู่ก็อาจเห็น1050แล้วค่อยดีดกลับ) เมื่อหลายวันก่อน ผมเอากราฟนี้มาให้ดู คิดว่าเพื่อนๆคงไม่ได้สนใจและลืมไปหมดแล้ว แต่ผมทราบว่า มีอยู่คนหนึ่งคือคุณMSยังจำได้อยู่ เมื่อวาน ทองขึ้นสูงสุดที่1141.68 จะถือว่าเข้าข้อ1ได้หรือไม่?(1.บริเวณ1116หากหนุนอยู่ ก็จะดีดกลับได้ไม่แรงนัก ดูถึง1145 จากนั้นก็จะลงประมาณ50เหรียญ) ฝากไว้เป็นข้อคิดครับ (ปัจจุบันต่ำสุดที่1096.96) หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: Jeera ที่ ธันวาคม 18, 2009, 08:33:21 AM โพลของเวปจีน เอามาให้ดูเพื่อศึกษา หากโพลมีการเปลี่ยนแปลง และผมอยู่หน้าจอคอมฯ จะโพสต์ให้ดูใหม่นะครับ สีแดง-----มองขึ้น สีเขียว--------มองลง สีเหลือง--------วิ่งในวงแคบเพื่อปรับทิศทางใหม่ ([url]http://img64.imageshack.us/img64/7424/11751633.gif[/url]) ([url]http://img64.imageshack.us/i/11751633.gif/[/url]) โพลถึงเคยแม่น แต่ไม่หมายถึงว่าจะไม่ผิดพลาด จะเชื่อสิ่งใดก็อย่าเชื่อหมดใจ หากผิดพลาดก็จะลำบากทุกข์ใจนา ด้วยความเป็นห่วงครับ ([url]http://img42.imageshack.us/img42/3424/56413722.gif[/url]) ([url]http://img42.imageshack.us/i/56413722.gif/[/url]) เมื่อวานช่วงเช้าถีงวานชืนช่วงดึก ทองต่อต้านการลง โดยที่ดัชนีเงินเมกาขึ้น ETFซื้อทองเพิ่ม ทำให้ผู้คนรายย่อยในตลาดเข้าใจว่าทองจะขึ้นต่อ แม้โพลจีนก็ถูกหลอกเช่นกัน นี่แหละครับ ที่เขาเรียกว่าหลอกหมาน้อยขึ้นดอย แล้วเมื่อไหร่หมาน้อยจะได้ลงดอยล่ะคะ :'( ปล. อย่าทานผลไม้เยอะนะคะ ถ้าจะทานก็ต้องเป็นประมาณแอปเปิ้ล ฝรั่ง มะละกอ หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 18, 2009, 08:38:50 AM ทองคำดิ่งเหว $28.80
วันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2552 08:33 สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนัก แรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดที่ 1,107.40 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 28.80 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,095.70-1,142.90 ดอลลาร์ ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 17.1950 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 49.80 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 7.75 เซนต์ ปิดที่ 3.128 ดอลลาร์/ปอนด์ ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ปิดที่ 1,425.90 ดอลลาร์/ออนซ์ ดิ่งลง 31.70 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 370.00 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 3.15 ดอลลาร์ ตลาดทองคำ COMEX ดิ่งลงอย่างหนักเพราะได้รับปัจจัยลบจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงด้วย เนื่องจากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นจะส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัทสหรัฐในต่างประเทศและทำให้สัญญาสินค้าโภคภัณฑ์มีราคาแพงขึ้นด้วย ดอลลาร์แข็งแกร่งขึ้นหลังจากมีกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้านี้ หลังจากที่เฟดส่งสัญญาณการถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในการประชุมครั้งล่าสุด รวมถึงชะลอโครงการเข้าซื้อตราสารหนี้และหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน รายงานระบุว่า กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก ได้ถือครองทองคำในปริมาณ 1,120.514 ตัน ณ วันที่ 16 ธ.ค. เพิ่มขึ้น 3.963 ตัน จากวันที่ 14 ธ.ค. น้ำมันดิบทรงตัวที่ $72.65 วันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2552 08:31 สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดทรงตัว นักลงทุนยังวิตกดีมานด์พลังงาน สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลงเพียง 1 เซนต์ ปิดที่ 72.65 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในกรอบ 71.87 - 71.37 ดอลลาร์ ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลงสู่ระดับ 1.9574 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินลดลง 2.19 เซนต์ ปิดที่ 1.852 ดอลลาร์/แกลลอน ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 92 เซนต์ ปิดที่ 73.37 ดอลลาร์/บาร์เรล นักลงทุนเทขายทำกำไรแม้กระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานเมื่อวันพุธว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 11 ธ.ค.ร่วงลง 3.7 ล้านบาร์เรล แตะที่ 332.4 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 2.9 ล้านบาร์เรล แตะที่ 164.4 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะขยับลงเพียง 600,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 900,000 บาร์เรล แตะที่ 217.2 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าที่คาดว่าจะพุ่งขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันดิ่งลง 1.1% แตะที่ 80.0% นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับดีมานด์พลังงาน แม้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) คาดการณ์ว่า ดีมานด์น้ำมันดิบในตลาดโลกจะพุ่งขึ้นแตะที่ 85.13 ล้านบาร์เรล/วันในปีหน้า ซึ่งเท่ากับว่าเพิ่มขึ้น 8 แสนบาร์เรล/วัน หรือ 0.98% เมื่อเทียบกับปีนี้ ขณะที่รายงานดีมานด์น้ำมันรายเดือนฉบับล่าสุดเพิ่มขึ้น 60,000 บาร์เรล/วันเมื่อเทียบกับในเดือนที่ผ่านมา นักลงทุนจับตาดูสถานการณ์ในอิหร่าน หลังจากสถานีโทรทัศน์เพรสทีวีของอิหร่านรายงานว่า อิหร่านประสบความสำเร็จในการทดลองยิงจรวด Sejil 2 พิสัยไกลประมาณ 2,000 กิโลเมตร โดยรายงานข่าวระบุว่าขีปนาวุธที่ผลิตขึ้นเองในประเทศนี้เป็นเวอร์ชั่นที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ และเป็นส่วนหนึ่งของแผนการระยะยาวในการปกป้องพรมแดนของประเทศ นายกรัฐมนตรีกอร์ดอน บราวน์ของอังกฤษกล่าวว่า การทดลองยิงจรวด Sejil 2 ของอิหร่านทำให้อังกฤษพิจารณาเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านที่รุนแรงขึ้น ขณะที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐกล่าวว่า การทดลองยิงจรวดของอิหร่านได้สร้างความวิตกกังวลให้กับประชาคมโลก นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาดูการประชุมโอเปคในวันที่ 22 ธ.ค.นี้ที่ประเทศแองโกลา หลังจากรัฐมนตรีกลุ่มโอเปคออกมาส่งสัญญาณว่าจะไม่มีการเพิ่มเพดานการผลิต โดย นายอาลี อัล ไนยมี รมว.พลังงานซาอุดิอาระเบียกล่าวแสดงความคิดเห็นว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปัจจุบันอยู่ในระดับที่น่าพอใจ พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นว่าตลาดน้ำมันโลกมีเสถียรภาพ ดาวโจนส์ปิดร่วง 132.86 จุด วันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2552 08:29 ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลง หลังเงินดอลล่าร์พุ่ง-กรีซถูกหั่นเครดิต ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วง 132.86 จุด หรือ 1.27% แตะที่ 10,308.26 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 13.10 จุด หรือ 1.18% แตะที่ 1,096.08 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดลดลง 26.86 จุด หรือ 1.22% แตะที่ 2,180.05 จุด ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.72 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 11 ต่อ 4 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 1.94 พันล้านหุ้น ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกำไรของบริษัทสหรัฐในตลาดต่างประเทศ นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลต่อข่าวที่ว่าบริษัท เฟดเอ็กซ์ คอร์ป รายงานผลประกอบการที่ต่ำเกินคาด และซิตี้กรุ๊ปพยายามขายหุ้นในราคาต่ำ ซิตี้กรุ๊ป อิงค์ ประกาศระดมทุน 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ผ่านการขายหุ้น 5.4 พันล้านหุ้นที่ราคา 3.15 ดอลลาร์/หุ้นเพื่อหาเงินชำระหนี้รัฐบาล ส่งผลให้กระทรวงการคลังสหรัฐประกาศเลื่อนแผนขายหุ้น 1 ใน 3 ที่ถืออยู่ในซิตี้กรุ๊ป เนื่องจากเห็นว่าราคาขายหุ้นต่ำเกินไปเมื่อเทียบกับมูลค่าหุ้นซิตี้กรุ๊ปที่รัฐบาลซื้อมาในราคา 3.25 ดอลลาร์/หุ้นเมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา โดยทางกระทรวงคลังสหรัฐถือหุ้นสามัญของซิตี้กรุ๊ปอยู่ 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ และถือหุ้นบุริมสิทธิ์รวมกับหุ้นที่ได้จากข้อตกลงค้ำประกันหลักทรัพย์มูลค่า 2.0 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนหุ้นสามัญค้างชำระของซิตี้กรุ๊ปเพิ่มขึ้นแตะที่ 2.83 หมื่นล้านหุ้น จากระดับ 2.29 หมื่นล้านหุ้นในสิ้นเดือนก.ย. และขยายตัวขึ้นจาก 5 พันล้านหุ้นเมื่อช่วงสิ้นปี 2550 ทั้งนี้ ซิตี้กรุ๊ป, แบงก์ ออฟ อเมริกา และเวลส์ ฟาร์โก เป็นสามธนาคารที่ระดมทุนเป็นเงินรวมกันกว่า 3.1 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีนี้ เพื่อชำระหนี้คืนรัฐบาลในโครงการบรรเทาสินทรัพย์ที่มีปัญหาของรัฐบาล (TARP) นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยลบจากรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐที่ระบุว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการในระหว่างว่างงานสัปดาห์ที่แล้วพุ่งขึ้นแตะระดับ 480,000 ราย เพิ่มขึ้น 7,000 รายจากสัปดาห์ก่อนหน้านั้น ตลาดได้รับแรงกดดันมากขึ้นหลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซลงหนึ่งขั้น สู่ระดับ BBB+ จากเดิมที่ระดับ A- และเตือนว่าจะลดอันดับเครดิตลงอีก นอกเสียจากว่ารัฐบาลกรีซจะดำเนินการปรับลดยอดขาดดุลงบประมาณ โดยการประกาศลดอันดับเครดิตของ S&P มีขึ้นหลังจากที่ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศลดอันดับเครดิตของกรีซลงสู่ระดับ BBB+ เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา หุ้นซิตี้กรุ๊ปร่วงลง 7.3% หลังจากกระทรวงการคลังสหรัฐประกาศเลื่อนแผนการขายหุ้นของซิตี้กรุ๊ป ขณะที่หุ้นเฟดเอ็กซ์ปิดร่วง 6.1% หลังจากบริษัทรายงานผลประกอบการรายไตรมาสร่วงลง 30% ส่วนหุ้นดิสคัฟเวอรี่ ไฟแนนเชียล เซอร์วิสเซส ซึ่งเป็นผู้ให้บริการบัตรเครดิต ดิ่งลง 9.1% หลังจากบริษัทรายงานผลประกอบการรายไตรมาสร่วงลง 19%f หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: MOOK ที่ ธันวาคม 18, 2009, 09:03:52 AM สวัสดีตอนเช้า สายๆ ;)
หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 18, 2009, 10:13:14 AM (http://img14.imageshack.us/img14/9392/92452152.gif) (http://img14.imageshack.us/i/92452152.gif/)
หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 18, 2009, 10:15:06 AM (http://img63.imageshack.us/img63/2115/52394245.gif) (http://img63.imageshack.us/i/52394245.gif/)
หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 18, 2009, 10:17:13 AM สื่อและสปอนเซอร์อาจสูญเงินถึง 200 ล้านเหรียญ หลัง Tiger Woods ประกาศแขวนไม้กอล์ฟไม่มีกำหนด
Posted on Friday, December 18, 2009 ธุรกิจสื่อ-สปอนเซอร์จ่อสูญเงินกว่า 200 ล้านเหรียญกรณี Tiger Woods ในกรณีพฤติกรรมนอกใจภรรยาของ Tiger Woods ที่ในตอนนี้ยังจะนำพาความเสียหายไปสู่ธุรกิจต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ผ่านทางสื่อกีฬาชั้นนำ อย่าง Golf Inc. และสร้างภาระให้กับ PGA Tour เครือข่ายโทรทัศน์ เช่น สถานี CBS ไปจนถึงเจ้าของแบรนด์ชื่อดัง อย่าง บริษัท Nike ที่คาดว่าจะเสียรายได้รวมกันไปอย่างน้อยๆ 200 ล้านเหรียญ Woods ประกาศหยุดเล่นอย่างไม่มีกำหนดไปเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว หลังจากที่เขาเปิดเผยถึงเรื่องการนอกใจภรรยา จนเขย่าวงการกีฬาที่มีผู้คนสนใจทั่วโลกนี้ ถึงขนาดที่ผู้จัดงานออกมาประเมินกันว่าจำนวนผู้ชมในนัดแข่งใหญ่ๆ อาจจะลดลงกว่า 20% เลยทีเดียว บริษัท Nielsen คาดว่าจำนวนผู้ชมโทรทัศน์อาจจะลดลงถึงกว่าครึ่ง เมื่อดูจากหลายๆ แมทช์ที่ผ่านมา ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญในวงการสื่อรายหนึ่งในนิวยอร์กก็ประเมินว่า ยอดโฆษณาทางทีวีอาจจะลดลงได้มากถึง 40% ขณะนักวิเคราะห์ทางด้านการลงทุนจาก Capstone Investments ใน San Diego ก็เคาะตัวเลขคร่าวๆ ว่า บริษัท Nike ที่ทุ่มสปอนเซอร์ไปกับ Tiger Woods นั้น อาจมีตัวเลขความเสียหายขั้นต่ำถึง 30 ล้านเหรียญ ผ่านทางยอดขายที่ลดลง และถ้าหันไปดูเม็ดเงินในวงการกีฬากอล์ฟเมื่อปี 2551 พบว่า งานที่เป็น PGA Tour เคยทำรายได้สูงถึง 773 ล้านเหรียญจากการจัดการแข่งขันแมทช์ต่างๆ และเงินที่มาจากโทรทัศน์ ซึ่งในทางกลับกัน ผู้ถ่ายทอดกีฬาทางทีวีก็สามารถทำเงินได้ที่ 642 ล้านเหรียญที่มาจากค่าโฆษณา มีผู้ประเมินว่า ในกรณีที่ Woods หายหน้าจากวงการนานตลอดปี ก็เป็นไปได้ที่จะทำให้ยอดเงินโฆษณาละลายหายไปได้ถึง 30-40% สำหรับ 10 เดือนแรกของปีนี้ บรรดาธุรกิจต่างๆ ได้ใช้เงินไปกับค่าโฆษณาในการถ่ายทอดกีฬากอล์ฟในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์จำนวน 576 ล้านเหรียญ โดยมีสถานีโทรทัศน์ NBC ที่ตอนนี้กลายเป็นธุรกิจหนึ่งของ General Electric ได้กำเงินส่วนใหญ่ของเม็ดเงินที่ว่านี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อยังคาดด้วยว่า สำหรับ PGA Tour ในฤดูกาลปี 2553 ที่จะเริ่มขึ้นที่ Hawaii ในวันที่ 7 มกราคมนี้ ยอดเงินโฆษณาอาจจะหายไปอย่างน้อยๆ 192 ล้านเหรียญหาก Woods ไม่โผล่เข้ามาในรายการนี้ตลอดปี ซึ่งถ้าหากไปรวมกับค่าความเสียหายของบริษัท Nike แล้ว จะคิดเป็นเม็ดเงินที่อาจจะสูงกว่า 220 ล้านเหรียญในที่สุด อันดับเครดิตกรีซเขย่าหุ้นอีกรอบ ขณะตัวเลขว่างงานสหรัฐฯ พุ่งต่อ มีหลายข่าวที่รุมเร้าตลาดหุ้น เริ่มกันตั้งแต่ตัวเลขการขอรับสวัสดิการว่างงานของคนอเมริกันในสัปดาห์ล่าสุดที่ออกมาเพิ่มขึ้นผิดไปจากที่ตลาดคาด ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ บอกภายหลังจากสิ้นสุดการประชุมนโยบายการเงินว่า มาตรการอัดฉีดสินเชื่อส่วนใหญ่จะหมดอายุลงภายในเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ แรงขายยังมาจากหุ้นที่เกี่ยวโยงกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เมื่อเงินดอลลาร์กลับแข็งค่าขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน เทียบกับยูโร เช่นเดียวกับหุ้นกลุ่มแบงก์ที่ถูกขายออกมาหลังจาก Citigroup ตัดสินใจทิ้งหุ้นในราคา discount ที่สำคัญ ตลาดยังมีความเป็นห่วงถึงกรณีสถาบันจัดอันดับ Standard & Poor?s ตัดสินใจปรับลดอันดับเครดิตประเทศกรีซลงอีกเป็นครั้งที่ 2 ว่า วิกฤติการเงินโลกที่เกิดขึ้นในรอบนี้อาจยังส่งผลกดดันต่อเศรษฐกิจของบางประเทศต่อไป อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังพอมองเห็นโอกาสทางด้านบวกได้บ้าง เมื่อดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่จัดทำโดย the Conference Board ออกมาเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 8 ในเดือนพฤศจิกายน ทำสถิติการปรับตัวขึ้นยาวนานกว่าที่เคยบันทึกไว้ระหว่างปี 2546 - 2546 นอกจากนี้ ผลสำรวจภาคอุตสาหกรรมในแถบ Philadelphia ที่จัดทำโดยธนาคารกลางสหรัฐฯ ก็บ่งชี้ว่ามีการผลิตเพิ่มขึ้น จนทำให้ดัชนีเศรษฐกิจโดยรวมในภูมิภาคนี้ปรับตัวขึ้นแรงที่สุดในรอบกว่า 4 ปี และทั้งหมดก็สอดคล้องกับมุมมองของซีอีโอ General Electric นาย Jeffrey Immelt ที่บอกว่า ยอดคำสั่งซื้อของผู้ผลิตเครื่องยนต์เจ็ทไปจนถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์รายใหญ่ที่สุดของโลกแห่งนี้ กำลังขยับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อน หลังจากที่บริษัทสามารถสะสมงานในมือ หรือ backlog ได้สูงถึง 174,000 ล้านเหรียญ ณ สิ้นสุดไตรมาส 3 ด้วยตัวเลขคำสั่งซื้อรวมกันกว่า 18,400 ล้านเหรียญ ขณะที่อีกด้านเป็นบริษัทซอฟท์แวร์รายใหญ่อันดับ 2 ของโลก อย่าง Oracle ก็เปิดเผยตัวเลขกำไรที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากลูกค้าหลายรายต่ออายุสัญญาบริการของบริษัทแห่งนี้ แม้ตัวเลขคำสั่งซื้อใหม่จะยังออกมาดูอ่อนแรงอยู่ก็ตาม กรีนสแปนแนะลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อลัน กรีนสแปน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แนะรัฐบาลลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังดัชนี S&P 500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้น 64% แตะระดับสูงสุดในรอบ 70 ปี พร้อมคาดว่า บริษัทที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นดังกล่าวจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 65% ในไตรมาส 4 กรีนสแปนกล่าวว่า นักลงทุนส่งแรงซื้อเข้าหนุนตลาดให้ทะยานสูงสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนมี.ค. ซึ่งกระแสเงินทุนที่หลั่งไหลเข้ามาในตลาดมากขึ้นพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 787,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐนั้นส่งผลดีต่อตลาดอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายเงินเพิ่มขึ้น 11.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐอาจไม่มีความจำเป็นต่อเศรษฐกิจอีกต่อไป เพราะดัชนีตลาดหุ้นที่สูงขึ้นจะช่วยกระตุ้นผลกำไรและทำให้ประชาชนเข้าถึงเงินกู้ได้มากขึ้น ซึ่งเมื่อราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้น มูลค่าหุ้นสามัญในตลาด หรือหุ้นกลุ่มธนาคารและสถาบันการเงินรายอื่นๆจะปรับตัวเพิ่มขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสทั้งจากตัวเลขความมั่งคั่งในภาคครัวเรือนของสหรัฐในไตรมาส 3 ที่เพิ่มขึ้นแตะ 53.4 ล้านล้านดอลลาร์ จากระดับ 2.7 ล้านล้านดอลลาร์ในไตรมาสก่อนหน้านี้ ยังส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม โดยยอดค้าปลีกในเดือน พ.ย. เพิ่มขึ้น 1.3% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า การใช้จ่ายในธุรกิจค้าปลีกเดือนพ.ย.พุ่งสูงขึ้นเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของเฟดกล่าววานนี้ว่า เฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะสั้นระหว่างธนาคารไว้ที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะ แม้ว่าปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อตลาดเงินจะเริ่มมีส่วนช่วยหนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจแล้วก็ตาม ยอดค้าปลีกอังกฤษอ่อนตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน ยอดค้าปลีกของอังกฤษในเดือนพ.ย.ร่วงลง 0.3% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนต.ค. นับเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 6 เดือน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยทำให้ผู้บริโภคลดการจับจ่ายสินค้าในช่วงเทศกาลคริสตมาสที่กำลังจะมาถึง สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษเผยยอดขายสินค้าที่ไม่ใช่อาหารร่วงลง 0.9% ในเดือนพ.ย. โดยเฉพาะยอดขายที่ร้านเสื้อผ้าและห้างสรรพสินค้าร่วงลงมากที่สุด ขณะที่ยอดขายสินค้าหมวดอาหารเพิ่มขึ้น 0.4% ทั้งนี้ เมื่อเทียบเป็นรายปี ยอดขายเพิ่มขึ้นเพียง 3.1% หลังจากที่ปรับตัวขึ้น 3.7% ในเดือนต.ค. นักวิเคราะห์มองว่า อัตราว่างงานที่สูงขึ้นและการฟื้นตัวที่ยังไม่มีความแน่นอนของเศรษฐกิจอังกฤษทำให้ผู้บริโภคใช้จ่ายน้อยลง. ขณะที่สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส เตือนว่า หากรัฐบาลอังกฤษประกาศขึ้นภาษีและลดการบริการ ก็จะให้เกิดความไม่สงบในสังคม อีกทั้งเตือนว่าหลายประเทศรวมทั้งอังกฤษและสหรัฐอาจจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาหนี้สินได้ทันเวลา ทั้งนี้ มูดีส์แนะนำว่ารัฐบาลควรกำหนดกรอบเวลาในการแก้ไขปัญหา อันดับแรกคือการแก้ไขวิกฤตการเงิน จากนั้นเป็นขั้นตอนการประกาศแผนการในอนาคต และท้ายที่สุดให้นำแผนการดังกล่าวมาปฏิบัติเป็นรูปธรรม ปัจจุบันอังกฤษได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ AAA ซึ่งเป็นระดับสูงสุด กระทรวงคลังสหรัฐเลื่อนขายหุ้นซิตี้กรุ๊ป เหตุราคาขายต่ำเกินไป หลังจากที่ซิตี้กรุ๊ป อิงค์ ประกาศระดมทุน 17,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ผ่านการขายหุ้น 5,400 ล้านหุ้นที่ราคา 3.15 ดอลลาร์/หุ้นเพื่อหาเงินชำระหนี้ให้กับรัฐบาล กระทรวงการคลังสหรัฐประกาศเลื่อนแผนขายหุ้น 1 ใน 3 ที่ถืออยู่ในซิตี้กรุ๊ป เนื่องจากเห็นว่าราคาขายหุ้นต่ำเกินไปเมื่อเทียบกับมูลค่าหุ้นซิตี้กรุ๊ปที่รัฐบาลซื้อมาในราคา 3.25 ดอลลาร์/หุ้นเมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา โดยทางกระทรวงคลังสหรัฐถือหุ้นสามัญของซิตี้กรุ๊ปอยู่ 25,000 ล้านดอลลาร์ และถือหุ้นบุริมสิทธิ์รวมกับหุ้นที่ได้จากข้อตกลงค้ำประกันหลักทรัพย์มูลค่า 2.0 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนหุ้นสามัญค้างชำระของซิตี้กรุ๊ปเพิ่มขึ้นแตะที่ 28,300 ล้านหุ้น จากระดับ 22,900ล้านหุ้นในสิ้นเดือนก.ย. และขยายตัวขึ้นจาก 5 พันล้านหุ้นเมื่อช่วงสิ้นปี 2550 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ซิตี้กรุ๊ป, แบงก์ ออฟ อเมริกา และเวลส์ ฟาร์โก เป็นสามธนาคารที่ระดมทุนเป็นเงินรวมกันกว่า 31,000 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ เพื่อชำระหนี้คืนรัฐบาลในโครงการบรรเทาสินทรัพย์ที่มีปัญหาของรัฐบาล (TARP) ขณะเดียวกัน เวลส์ ฟาร์โก เสร็จสิ้นการขายหุ้น 12,250 ล้านดอลลาร์เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา ส่วนเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โคได้จ่ายหนี้คืนรัฐบาลจำนวน 25,000 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ ซิตี้กรุ๊ปเปิดเผยเมื่อต้นสัปดาห์ว่า ธนาคารจะขายหุ้นและหนี้สินรวมอย่างน้อย 20,500 ล้านดอลลาร์ เพื่อชำระหนี้คืนรัฐบาล และหลังจากนั้นทางกระทรวงคลังสหรัฐได้ออกมาประกาศขายหุ้น 5 พันล้านดอลลาร์ ดูไบเดินสายฟื้นความเชื่อมั่น หลังเผชิญมรสุมหนี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของดูไบ เดินทางเยือนอังกฤษ และสหรัฐ เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักลงทุน โดยมีแผนที่จะพบปะกับผู้นำทางการเงิน และการเมือง การ Roadshow ครั้งนี้ นำโดยชีค อาเหม็ด บิน ซาอีด อัล-มัคทูม ประธานคณะกรรมการการคลังของดูไบ ซึ่งมีฐานะเป็นลุงของผู้ปกครองรัฐดูไบ และ CEO ของบรรษัทการลงทุนดูไบ ซึ่งดูแล port ลงทุนของรัฐบาล และในสัปดาห์นี้ ดูไบประกาศว่าจะนำเอากฎหมายล้มละลายที่อิงตามหลักปฏิบัติของสหรัฐ และอังกฤษมาประกาศใช้อย่างรวดเร็ว โดยเผื่อไว้ใช้ในกรณีที่ Dubai world อาจจำเป็นต้องขอรับความคุ้มครองจากเจ้าหนี้ ขณะนี้ Dubai world จำเป็นต้องทำข้อตกลงพักการชำระหนี้กับเจ้าหนี้ เพื่อให้ Dubai world มีเวลาปรับโครงสร้างหนี้ครั้งใหญ่ โดยทาง Dubai world มีกำหนดประชุมกับผู้แทนของธนาคาร ราว 90 แห่ง ในดูไบ ในวันจันทร์ หน้านี้ ในช่วงต้นสัปดาห์ รัฐอาบูดาบีได้ประกาศให้ความช่วยเหลือทางการเงิน 1 หมื่นล้านดอลลาร์แก่ดูไบ เพื่อให้ทาง Dubai world จ่ายหนี้ได้จนถึงสิ้นเดือน เมษายน ปี หน้า และเพื่อยับยั้ยการผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ ของ บริษัทนาคีล การประชุมโลกร้อนไม่คืบ-ประเทศร่ำรวยตั้งกองทุนช่วยโลกร้อน การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่กรุงโคเปนเฮเกนยังคงเดินหน้าไปอย่างเชื่องช้าและไม่ได้ข้อสรุป แม้ว่าจะเหลือเวลาประชุมอีกเพียง 2 วันก็ตาม โดยประเทศพัฒนาแล้วและประเทศกำลังพัฒนายังคงเกี่ยงกันว่าใครควรลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ควรลดมากน้อยแค่ไหน และประเทศยากไร้ควรได้รับความช่วยเหลือมากน้อยเพียงใด การประชุมในเมื่อวานนี้มีผู้นำกว่า 130 คนเข้าร่วม โดยผู้นำที่จะขึ้นปราศรัยเมื่อวานนี้ประกอบด้วย นายกรัฐมนตรีแองเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนี, นายกรัฐมนตรีกอร์ดอน บราวน์ ของอังกฤษ, ประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ของบราซิล และประธานาธิบดีมาห์มู้ด อาห์มาดิเนจ๊าด ของอิหร่าน ขณะที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐ จะเข้าร่วมประชุมในวันนี้ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่ผู้นำทั่วโลกต้องพยายามบรรลุข้อตกลงใหม่เพื่อนำมาใช้แทนพิธีสารเกียวโตที่จะหมดอายุลงในปี 2555 ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่า ของจีน แสดงความหวังว่าการประชุมครั้งนี้จะได้ข้อสรุปที่เป็นธรรมและสมเหตุสมผลสำหรับทุกฝ่าย ส่วนข่าวดีก็ยังพอมีอยู่บ้าง เมื่อประเทศที่ร่ำรวยปฏิญาณว่าจะให้เงินสนับสนุนเพิ่มเติมในการทำสงครามต่อต้านภาวะโลกร้อน ที่ประชุมสุดยอดว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศในกรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ได้เงินเกือบ 22,000 ล้านดอลล่าร์ จากประเทศร่ำรวยที่ยืนยันจะให้เงินดังกล่าวเพื่อเป็นทุนในการทำสงครามต่อสู้กับภาวะโลกร้อน นำโดยญี่ปุ่นซึ่งให้คำมั่นจะให้เงินจำนวน 19,500 ล้านดอลล่าร์สำหรับประเทศกำลังพัฒนา หากข้อตกลงแบบเบ็ดเสร็จเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศบรรลุผลในการประชุมครั้งนี้ นายซากิฮิโตะ โอซาวะ รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมญี่ปุ่นกล่าวขณะประกาศข้อเสนอทางการเงินครั้งใหญ่ในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ว่า ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่จริงจังอย่างมากในความรับผิดชอบต่อประชาคมโลก ทั้งนี้ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งใน 5 ประเทศร่ำรวยประกอบด้วยออสเตรเลีย อังกฤษ ฝรั่งเศส นอร์เวย์ และสหรัฐ ที่กล่าวว่าจะจัดตั้งกองทุนเพื่อประเทศกำลังพัฒนาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ การประชุมโลกร้อนที่กรุงโคเปนเฮเกน ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 10 แล้ว ยังหาข้อยุติกันไม่ได้ ขณะที่การประชุมเหลืออีกเพียงแค่ 2 วัน รวมทั้งการประชุมสุดยอดผู้นำโลกกว่า 190 ชาติ ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่ประกาศออกมาเมื่อวานนี้ (พฤหัสบดีที่ 17 ธ.ค. 2552 ) ? ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ 480,000 ราย ? ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ (พ.ย.) เพิ่มขึ้น 0.9% จากเดือนก่อนหน้า ติดตาม Money Wake up ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ออกอากาศซ้ำเวลา 11.00 น. ทาง Money Channel หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: apple_a ที่ ธันวาคม 18, 2009, 10:19:45 AM สวัสดีค่ะคุณทองใหม่..... ^-^....สบายดีนะค่ะ.... ^-^
หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 18, 2009, 10:57:53 AM บทวิเคราะห์ทองคำ (18-12-52)
18 ธ.ค. 2552 สรุปภาวะตลาดเมื่อวาน ราคาโกลด์ฟิวเจอร์สเมื่อวานค่อยๆปรับตัวลดลงอย่างช้าๆ ในขณะที่ราคาทองคำสปอตมีการแกว่งตัวลงอย่างรุนแรงจนโกลด์ฟิวเจอร์สมีพรีเมียมอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับวันหมดอายุ ทองคำแท่งสมาคมฯปิดที่ 17,700/800 บาท เงินบาทอ่อนค่าลงช้าๆ ปัจจัยที่อาจส่งผลต่อเนื่องถึงวันนี้ หลังจากที่ฟิตช์ได้ปรับระดับความน่าเชื่อถือของประเทศกรีซลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งคือสแตนดาร์ดแอนด์พัวร์ส ก็ได้ออกรายงานปรับอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซลง 1 ระดับเช่นกันจาก A- เป็น BBB+ โดยให้เหตุผลว่าความพยายามในการลดหนี้สินระหว่างประเทศของกรีซเมื่อเร็วๆนี้ยังไม่ดีพอ จึงเหลือเพียงสถาบันมูดีส์เท่านั้นที่ยังอยู่ในระหว่างการสืบสวนเพื่อทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซ [Bloomberg, Reuters] ทั้งนี้เนื่องจากว่ากรีซอยู่ในระบบยูโรนักลงทุนจึงเกรงว่าอาจส่งผลกระทบต่อประเทศอื่นๆในกลุ่มยูโรด้วย รายงานดังกล่าวจึงส่งผลให้ค่าเงินยูโรปรับตัวลดลงได้อย่างรุนแรง โดยเฉพาะหลังจากที่เฟดให้มุมมองที่ค่อนข้างเป็นบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ นักลงทุนจึงเทขายเงินยูโรเพื่อเข้าไปถือดอลลาร์สหรัฐฯอย่างหนักหน่วง ส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นอย่างรุนแรงพร้อมกับราคาทองคำที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง [TCAF Research] รายงานผลสำรวจผู้ประกอบการในภูมิภาคตะวันออกตอนกลางของสหรัฐฯปรากฏว่าออกมาดีกว่าเดิมผิดกับผลสำรวจในรัฐนิวยอร์คเมื่อต้นสัปดาห์ที่ออกมาไม่ดี รายงานดังกล่าวจึงเป็นการเรียกความมั่นใจของนักลงทุนสหรัฐฯกลับมาส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นพร้อมกับกดดันราคาทองคำลงไปอีก [Econoday, TCAF Research] นักลงทุนจะจับตามองรายงานผลสำรวจผู้ประกอบการเยอรมัน Ifo ที่จะมีการเปิดเผยในบ่ายวันนี้ โดยเรามองว่าน่าจะออกมาไม่มีทิศทางที่ชัดเจนและไม่น่าจะส่งผลรุนแรงต่อราคาทองคำได้ แนวโน้มทองคำวันนี้ เรามองว่านักลงทุนได้รับข่าวรุนแรงต่างๆไปหมดแล้ว และราคาในวันนี้น่าจะเกิดจากการเก็งกำไรทางเทคนิคเป็นหลัก เราจึงคาดว่าหลังจากที่ราคาปรับตัวลดลงรุนแรงเมื่อคืน "ราคาทองคำน่าจะแกว่งตัวขึ้นอยู่ในช่วงแคบ" เราจึงแนะนำให้ "สะสม LONG เพื่อทำกำไรระยะสั้น โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ราคาสปอต ต่ำกว่า $1,095" (http://img710.imageshack.us/img710/4311/54431374.gif) (http://img710.imageshack.us/i/54431374.gif/) มุมมองทองคำ ภาวะเศรษฐกิจเปรียบเทียบในภูมิภาคต่างๆ โดยเฉพาะแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯและกลุ่มยูโรน่าจะมีความสำคัญ ในขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวก็ ไม่ควรละเลย หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 18, 2009, 11:00:01 AM Daily Update 18-12-52
18 ธ.ค. 2552 Gold Market Commentary ประเด็นสำคัญ ? ราคาทองทองปิดร่วงแรงหลังดอลล์ดีดตัวเทียบยูโร ? ดอลล์พุ่งสูงสุดรอบ 3 เดือนครึ่งเทียบยูโร ? น้ำมันดิบปิดขยับลง 1 เซนต์หลังดอลล์แข็งค่า ? สวัสดิการว่างงานที่เพิ่มขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ล่าสุด ราคาทองที่ตลาดสหรัฐร่วงลงในช่วงปิดตลาด โดยอ่อนลงสู่จุดต่ำสุดรอบ 6 สัปดาห์ ในขณะที่ดอลลาร์เดินหน้าต่อเนื่องต่อยูโร โดยนักวิเคราะห์กล่าวว่า ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ดีขึ้นในวันพฤหัสบดี ยืนยันถึงสัญญาณการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ระบุไว้ในแถลงการณ์นโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมื่อวันพุธ เทรดเดอร์กล่าวว่า ทองร่วงลงต่อเนื่อง ในขณะที่ดอลลาร์พุ่งขึ้นครั้งใหม่ต่อยูโร สู่จุดสูงสุดรอบ 3 เดือนครึ่ง ทองร่วงลงต่อเนื่องจากในช่วงแรก เมื่อการแข็งค่าของดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากความวิตกครั้งใหม่เกี่ยวกับภาวะการคลังของกรีซ โดยสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส (S&P) เป็นสถาบันการจัดอันดับความน่าเชื่อถือแห่งที่ 2 ที่ปรับลดอันดับเครดิตของกรีซในรอบราว 1 สัปดาห์ ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดเมื่อเทียบกับยูโรในรอบกว่า 3 เดือนใน วันพฤหัสบดี หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสนใจกับการปรับตัวดีขึ้นในภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่เพิ่มขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ล่าสุดบ่งชี้ถึงภาวะที่ไม่ราบรื่นสำหรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ แต่รายงานจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บ่งชี้ว่าดัชนีกิจกรรมการผลิตขยายตัวอย่างรวดเร็วในเขตมิดแอตแลนติกในเดือนธ.ค. กิจกรรมการผลิตของโรงงานในเขตมิด-แอตแลนติกของสหรัฐพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 ปีครึ่งในเดือนธ.ค. และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นในเดือนพ.ย. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว อันเป็นผลจากการปรับเปลี่ยนตามฤดูกาล กองทุน SPDR Gold trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยว่าทางกองทุนได้ถือครองทองแท่งระดับ 1,120.514 ตัน ณ วันที่ 17 ธันวาคม 2552 ลดลง 9.452 ตัน จากวันที่ 4 ธันวาคม 2552 กลยุทธ์ : ราคาทองอาจจะเกิดการดีดทางเทคนิคเทคนิคเกิดขึ้นไปแล้วอาจจะต้องระวังจะมีการปรับฐานติดตามมาอีก สัก 4-5 วันทำการ จะทำให้ราคาอาจจะมีการปรับฐานรุนแรงติดตามมาในระยะสั้นเกิดขึ้นได้ แนวรับระยะสั้น 1066US$ หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 18, 2009, 11:43:11 AM กราฟตาแป๊ะซ้ายบน หน้าสีแดง---ลงปรับฐานช่วงสั้นๆ อาจเป็นวัน-สองวัน หน้าสีเทา---ดีดขึ้นช่วงสั้นๆ อาจเป็นวัน-สองวัน เส้นสีแดงหนา---ขาขึ้น เส้นสีเขียวหนา---ขาลง
ขวาบน เส้นสีแดง---เสนอซื้มากกว่าเสนอขาย เส้นสีเขียว---เสนอขายมากกว่าเสนอซื้อ ส่วนช่วงกลางที่มีแท่งสีแดงกับเขียวนั้น แท่งแดง---แรงซื้อขึ้น แท่งเขียว---แรงขายลง ขวาช่องสอง แท่งเหลืองคู่เส้นแดง---ขาขึ้น แท่งฟ้าคู่เส้นเขียว---ขาลง โดยปกติ ช่องนี้จะเปลี่ยนแนวโน้มช้ากว่าเพื่อน หากเปลี่ยนแนวโน้มเมื่อไหร่ เขาให้ขายออกหรือซื้อเข้าได้ทันที่ ยกเว้นมีปัจจัยพื้นฐานแรงๆแทรกเข้ามา จึงจะทำให้แนวโน้มกลับเปลี่ยนได้โดยกะทันหัน ซ้ายช่องสอง หน้าเหลืองแป๊ะยิ้ม---ขาขึ้น หน้าแดงแป๊ะร้องไห้---ขาลง แท่งสีเขียว---เพดาน แท่งสีแดง---พื้นดินโดยปกติ ช่องนี้จะส่งสัญญาณว่า กำลังจะเปลี่ยนแนวทางแล้วนะ แต่ยังไม่เต็มร้อย อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยกะทันหันก็ได้ ต้องดูซ้ายบนและขวาช่อง๒ประกอบด้วย จึงจะให้ความมั่นใจได้ ทอง (http://img152.imageshack.us/img152/9977/12021285.gif) (http://img152.imageshack.us/i/12021285.gif/) หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 18, 2009, 11:51:27 AM ดัชนีเงินเมกา
(http://img51.imageshack.us/img51/1487/46562998.gif) (http://img51.imageshack.us/i/46562998.gif/) หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 18, 2009, 11:54:44 AM น้ำมัน
(http://img109.imageshack.us/img109/554/71919543.gif) (http://img109.imageshack.us/i/71919543.gif/) หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: Cindy ที่ ธันวาคม 18, 2009, 12:06:39 PM ??? :)
???????? ;) ??...??!!!! :D หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 18, 2009, 12:19:21 PM ??? :) ???????????????? ;) ??...??!!!! :D ????????????????????????????????????????????? หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: brabus ที่ ธันวาคม 18, 2009, 01:09:45 PM ขอบคุณค่ะพี่ทองใหม่ ^-^
หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 18, 2009, 02:27:07 PM โพลของเวปจีน เอามาให้ดูเพื่อศึกษา หากโพลมีการเปลี่ยนแปลง และผมอยู่หน้าจอคอมฯ จะโพสต์ให้ดูใหม่นะครับ
สีแดง-----มองขึ้น สีเขียว--------มองลง สีเหลือง--------วิ่งในวงแคบเพื่อปรับทิศทางใหม่ (http://img63.imageshack.us/img63/6550/66499899.gif) (http://img63.imageshack.us/i/66499899.gif/) โพลถึงเคยแม่น แต่ไม่หมายถึงว่าจะไม่ผิดพลาด จะเชื่อสิ่งใดก็อย่าเชื่อหมดใจ หากผิดพลาดก็จะลำบากทุกข์ใจนา ด้วยความเป็นห่วงครับ หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 18, 2009, 02:30:37 PM โพลของเวปจีน เอามาให้ดูเพื่อศึกษา หากโพลมีการเปลี่ยนแปลง และผมอยู่หน้าจอคอมฯ จะโพสต์ให้ดูใหม่นะครับ (http://img31.imageshack.us/img31/6/88187546.gif) (http://img31.imageshack.us/i/88187546.gif/)สีแดง-----มองขึ้น สีเขียว--------มองลง สีเหลือง--------วิ่งในวงแคบเพื่อปรับทิศทางใหม่ ([url]http://img63.imageshack.us/img63/6550/66499899.gif[/url]) ([url]http://img63.imageshack.us/i/66499899.gif/[/url]) โพลถึงเคยแม่น แต่ไม่หมายถึงว่าจะไม่ผิดพลาด จะเชื่อสิ่งใดก็อย่าเชื่อหมดใจ หากผิดพลาดก็จะลำบากทุกข์ใจนา ด้วยความเป็นห่วงครับ หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ ธันวาคม 18, 2009, 02:37:04 PM ในหลวงประทับรพ.ทรงงานตลอด
วันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2552 12:51 สุรยุทธ์เผยในหลวงทรงงานตลอดแม้ประทับ รพ. มั่นใจหากคนไทยยึดพระราชดำรัสประเทศชาติสงบ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ได้เดินทางไปติดตามปัญหาที่ทำกินของอดีตผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย โดยประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง ที่หมู่บ้านน้ำจวง ต.บ่อภาค อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก รวมถึงการเยี่ยมชมชุมชนวิสาหกิจบ้านน้ำจวง ซึ่งพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยว และพักค้างคืน พร้อมเป็นประธานพิธีเปิดงานวันปีใหม่ม้ง และรับชมการแสดงที่ชาวไทยม้งจัดเตรียมไว้ต้อนรับ ทั้งนี้ พล.อ.สุรุยทธ์ ได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกับชาวม้งกลุ่มหนึ่ง โดยชาวม้งได้สอบถามว่าสถานการณ์การเมืองขณะนี้ชาวม้งควรจะวางตัวอย่างไร ซึ่ง พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า เราก็ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด โดยแนะให้ระลึกถึงพระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา และน้อมนำมาปฏิบัติตามหน้าที่ของแต่ละบุคคลและทำอย่างเต็มกำลัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องครอบครัวหรือเรื่องการทำมาหากิน นอกจากนี้ พล.อ.สุรยุทธ์ ยังได้เปิดใจถึงกระแสข่าวลือในทางที่ไม่ดีต่อต่อสถาบันเบื้องสูงในช่วงที่ผ่านมา ว่า เป็นเรื่องที่เรามีหน้าที่ที่จะต้องช่วยเสนอสิ่งที่มีเหตุผล และความจริงให้ปรากฏ โดยสื่อมวลชนจะต้องค้นหาความจริงและเสนอให้ประชาชนได้รับทราบ ส่วนพระอาการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้น ถึงแม้ว่าจะยังมีพระอาการไม่สมบูรณ์เต็มที่แต่ก็ทรงงานได้ ส่วนจะเสด็จพระราชดำเนินออกจากโรงพยาบาลศิริราชเมื่อใดนั้น ขึ้นอยู่กับแพทย์รักษาพระองค์ ซึ่งทางแพทย์จะดูแลพระองค์ท่านอย่างใกล้ชิดเต็มที่ หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: Cindy ที่ ธันวาคม 18, 2009, 05:17:36 PM ??? :) ???????????????? ;) ??...??!!!! :D ????????????????????????????????????????????? หัวข้อ: Re: ทิศทางทองวันที่ 14---18/12/2009 เริ่มหัวข้อโดย: cupid ที่ มีนาคม 01, 2010, 09:13:39 PM Smiley/Angry.gif (3017 ไบต์) สวัสดีฮะอาจารย์ทองใหม่ ขอให้มีสุขภาพแข็งแรงนะฮะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลและเนื้อเพลงดีดีฮะ นู๋ขอเพลงที่ร้องว่า "หนี่เวิน วัวอ่ายนีโย ปัวเชง วัวอ่ายนี่โย้ ฉีเฟ่ย ฯลฯ นู่ไม่รู้ภาษาจีนแต่ชอบฟังเพลงนี้ที่สุดฮะ อยากรู้ความหมายจังเลย ขอบคุณฮะ :-[ :-[ :-[ Smiley/Angry.gif (3017 ไบต์) เพลงที่ขอไม่มี มีเพลงที่ไม่ขอจ้า ??? ~~ ??????(1978) ([url]http://www.youtube.com/watch?v=j-Mraii8OWE#[/url]) good-bye my love ?????? good-bye my love wo de ai ren zai jian good-bye my love หว่อ ติ อ้าย เหริน ไจ้ เจี้ยน good-bye my love คนรักของฉัน...ลาก่อน good-bye my love ??????? good-bye my love xiang jian bu zhi na yi tian good-bye my love เซียง เจี้ยน ปู้ จือ หน่า อี เทียน good-bye my love มิอาจรู้ว่าวันใดจึงได้พานพบ ??????? ?????? wo ba yi qie gei le ni xi wang ni yao zhen xi หว่อ ป่า อี เชี่ย เก่ย เลอ หนี่ ซี วั่ง หนี่ เย่า เจิน ซี ฉันมอบทุกสิ่งให้กับคุณ หวังให้คุณทนุถนอมดูแล ????????? bu yao gu fu wo de zhen qing yi ปู๋ เย่า I ฟู่ หวอ ติ เจิน ฉิง อี้ โปรดอย่าตัดรอนไมตรีจิตของฉัน *good-bye my love ?????? good-bye my love wo de ai ren zai jian good-bye my love หว่อ ติ อ้าย เหริน ไจ้ เจี้ยน good-bye my love คนรักของฉัน...ลาก่อน good-bye my love ?????? good-bye my love cong ci he ni fen li good-bye my love ฉง สือ เหอ หนี่ เฟิน หลี good-bye my love ต้องลาจากเธอนับแต่นี้ ??????????? wo hui yong yuan yong yuan ai ni zai xin li หว่อ ฮุ่ย หยง หย่วน หยง หย่วน อ้าย หนี่ ไจ้ ซิน หลี่ ฉันจะรักคุณอยู่ในดวงใจ ตราบชั่วนิรันดร์ ????????? xi wang ni bu yao ba wo wang ji ซี วั่ง หนี่ ปู๋ เย่า ป่า หว่อ วั่ง จี้ และหวังว่าคุณจะไม่ลืมฉัน ?????????? wo yong yuan huai nian ni wen rou de qing หว่อ หยง หย่วน หวย เนี่ยน หนี่ เวิน โหรว ติ ฉิง ฉันจะคิดถึงความรักอันอ่อนโยนของคุณตลอดไป ??????? ??????? huai nian ni re hong de xin huai nian ni tian mi de wen หวย เนี่ยน หนี่ เร่อ หง ติ ซิน หวย เนี่ยน หนี่ เถียน มี่ ติ เหวิน คิดถึงหัวใจสีแดงอันเร่าร้อนของคุณ คิดถึงจุมพิตอันแสนหวานของคุณ ????????? ??????? huai nian ni na zhi ren de ge sheng zen neng wang ji zhe duang qing หวย เนี่ยน หนี่ น่า จุ้ย เหริน ติ เกอ เซิง เจิ่น เหนิง วั่ง จี้ เจ้อ ต้วน ฉิง คิดถึงเสียงเพลงที่กล่อมให้คนเคลิบเคล้มของคุณ...จะลืมความรู้สึกเหล่านี้ไปได้อย่างไร ????? ???????** wo de ai zai jian bu zhi na ri zai xiang jian หว่อ ติ อ้าย ไจ้ เจี้ยน ปู้ จือ หน่า รื่อ ไจ้ เซียง เจี้ยน ลาก่อนความรักของฉัน มิอาจรู้ว่าวันใดจึงได้พานพบ ??????? zai jian wo de ai ren ไจ้ เจี้ยน หว่อ เตอ อ้าย เหริน ลาก่อน...คนรักของฉัน ????????? wo jiang yong yuan bu hui wang ji ni หว่อ เจียง หยง หย่วน ปู๋ ฮุ่ย วั่ง จี้ หนี่ ฉันจะไม่ลืมคุณชั่วนิรันดร์ ?????????? ye xi wang nib u yao ba wo wang ji เหย่ ซี วั่ง หนี่ ปู๋ เย่า ป่า หว่อ วั่ง จี้ และหวังว่าคุณจะไม่ลืมฉัน ???????????????? ye xu wo men hai hui you jian mian de yi tian bu shi ma? เหย่ สี่ว์ หว่อ เหมิน หาย ฮุ่ย โหย่ว เจี้ยน เมี่ยน เตอ อี เทียน ปู๋ ซื่อ มะ อาจบางที คงมีสักวัน ที่เราจะได้พบกันอีกครั้ง...มิใช่หรือ? ซ้ำ *-** 1 รอบ ?????? wo de ai wo xiang xin หว่อ ติ อ้าย หว่อ เซียง ซิ่น ฉันเชื่อมั่นในความรักของฉัน ??????? zong you yi tian neng zai jian จ่ง โหย่ว อี เทียน เหนิง ไจ้ เจี้ยน ต้องมีสักวัน ที่ได้พานพบอีกครั้ง (คำว่า ? ออกเสียงได้ทั้ง ?เตอ? และ ?ติ?) *ellow_yellow_christmas_editio :'( :'( :'( :'( เสี่ย เซี้ย หนีฮะอาจารย์ทองใหม่ ซึ้งจัยจิงจิงฮะ นู๋ไม่นึกว่าอาจารย์จะจัดเพลงหั้ยนู๋ เลยไม่ได้เปิดดูตั้งแต่ปีที่แล้ว ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ หมื่นแสนพันครั้งฮะ ขอหั้ยอาจารย์มีสุขภาพแข็งแรง อายุยืนนาน รักษาสุขภาพนะฮะ *ellow_yellow_christmas_editio ;) ;) ;) |