Gold Price today, Gold Trend Price Prediction, ราคาทองคํา, วิเคราะห์ทิศทางทองคํา

ลงทุนในทองคําและแนวโน้ม / Gold Price Trend and Investment, Discussion => การวิเคราะห์ทองคําจากรูปกราฟ => ข้อความที่เริ่มโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 02, 2010, 06:29:33 AM

Forex-Currency Trading-Swiss based forex related website. Home ----- กระดานสนทนาหน้าแรก ----- Gold Chart,Silver,Copper,Oil Chart ----- gold-trend-price-prediction ----- ติดต่อเรา

หัวข้อ: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 02, 2010, 06:29:33 AM
เนื่องในศุภวาระดิถีขึ้นปีใหม่   
ขออำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย
อำนวยพรให้ท่านและครอบครัว
จงประสบแต่ความสุข ความเจริญในชีวิต
กิจการงานเจริญรุ่งเรืองสมปรารถนาท่านทุกประการเทอญ


วังทองคำที่ฮ่องกง ใช้ทองคำ2.5ตัน---3ตัน เอามาฝากเพื่อนๆ ขอให้เพื่อนๆทุกท่านจงรวยแบบมีบ้านทองคำอยู่นะจ๊ะ
(http://img64.imageshack.us/img64/7231/50306702.jpg) (http://img64.imageshack.us/i/50306702.jpg/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 02, 2010, 06:30:07 AM
(http://img231.imageshack.us/img231/8910/45317425.jpg) (http://img231.imageshack.us/i/45317425.jpg/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 02, 2010, 06:30:58 AM
(http://img710.imageshack.us/img710/2595/56650479.jpg) (http://img710.imageshack.us/i/56650479.jpg/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 02, 2010, 06:31:09 AM
(http://img709.imageshack.us/img709/7114/95065740.jpg) (http://img709.imageshack.us/i/95065740.jpg/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 02, 2010, 06:32:30 AM
(http://img710.imageshack.us/img710/7872/96177400.jpg) (http://img710.imageshack.us/i/96177400.jpg/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 02, 2010, 06:33:46 AM
(http://img268.imageshack.us/img268/7801/69908561.jpg) (http://img268.imageshack.us/i/69908561.jpg/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: JO-JO ที่ มกราคม 02, 2010, 10:25:55 AM
ขอบคุณครับ คุณทองใหม่

 :)

อลังการจริง ๆ ครับ งานนี้

ขอให้คุณทองใหม่ร่ำรวย เหมือนในรูปเช่นกันครับ
ส่วนผมขอแค่เก้าอี้ตัวสองตัว ก็พอใจแล้วครับ

 8)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 02, 2010, 04:46:52 PM
หุ้นสหรัฐหักมุมบวก ดีดครั้งแรกรอบ2ปี
วันที่ 2010-01-02 00:00:00 โดย post today -

ตลาดหุ้นสหรัฐพลิกสถานการณ์กลับมาปิดตลาดตลอดทั้งปีนี้ในแดนบวกสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2546 นับเป็นภาวะบวกครั้งแรกในรอบ 2 ปี แม้ว่าภาวะซื้อขายวันสุดท้ายของปีจะปรับลงมาเฉลี่ย 1% ก็ตาม

ดัชนีดาวโจนส์ตลอดทั้งปี 2552 ปรับขึ้นมา 18.8% ดัชนีสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ บวกขึ้นมา 23.5% และดัชนีแนสแด็กพุ่งขึ้นมาถึง 43.9% หลังจากที่ปี 2551 ดัชนีส่วนใหญ่ติดลบรุนแรง เฉพาะดัชนีสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ ดิ่งลงถึง 38.5%



หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 02, 2010, 04:48:40 PM
ขอบคุณครับ คุณทองใหม่

 :)

อลังการจริง ๆ ครับ งานนี้

ขอให้คุณทองใหม่ร่ำรวย เหมือนในรูปเช่นกันครับ
ส่วนผมขอแค่เก้าอี้ตัวสองตัว ก็พอใจแล้วครับ

 8)
พรใดดีเลิศ พรนั้นผมรับแล้วครับ ฮา ขอพรนั้นคืนสนองผู้ให้พรด้วยครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 02, 2010, 04:54:12 PM
เชียงใหม่ร้านทองคึกคัก ยอดขายกระเตื้อง
 2 มค. 2553 16:20 น.


นายประสาน กุลศรีสุวรรณ อดีตประธานชมรมร้านทองจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า การซื้อขายทองคำในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่มีความคึกคักมากขึ้น มีประชาชนมาเลือกซื้อทองคำและทองรูปพรรรณอย่างต่อเนื่องหลังจากที่บรรยากาศการซื้อขายทองคำเงียบเหงาเป็นอย่างมากตลอดทั้งปี 2552 เนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวมากนัก ทำให้ประชาชนไม่มีกำลังในการซื้อทองคำ โดยช่วงเทศกาลปีใหม่นี้บรรยากาศค้าขายทองคำดีขึ้นประมาณ 10-20% จากช่วงปกติ แต่ก็ถือว่ามีความคึกคักสู้กับปีที่แล้วไม่ได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะวิกฤตเศรษฐกิจ และตลาดซื้อขายทองคำที่ซบเซา เงียบเหงาตลอดทั้งปี

ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าพฤติกรรมในการซื้อทองของประชาชนเปลี่ยนไป โดยหันมาซื้อเป็นทองคำแห่งมากขึ้น โดยสัดส่วนการซื้อทองคำเป็นทองก้อนหรือทองแท่ง 80% ทองรูปพรรณ 20% จากเดิมเป็นการซื้อทองก้อนหรือทองคำแท่งเพียง 20% อีก 80% เป็นทองคำรูปพรรณ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะซื้อทองคำน้ำหนักเพียง 1-2 บาทก็นิยมซื้อเป็นทองก้อนมากกว่า ซึ่งเพื่อเป็นการเก็งกำไรมากกว่าการซื้อเพื่อสวมใส่ 

 
 
 
 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 02, 2010, 05:34:19 PM
'โกลด์ฟิวเจอร์ส'ร้อน
วันที่ 2010-01-02 00:00:00 โดย post today -

น.ส.ฐิภา นววัฒนทรัพย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล และประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส (ylg) เปิดเผยว่า มูลค่าการ ซื้อขายโกลด์ ฟิวเจอร์ส (สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า) ในปี 2553 น่าจะถึงวันละหลักหมื่นสัญญา หรือสูงกว่าการซื้อขายทองคำแท่งถึง 2.5 เท่า หลังจากมินิโกลด์ ฟิวเจอร์ส (อ้างอิงทองคำน้ำหนัก 10 บาท) จะเริ่มซื้อขายในต้นปี ทำให้การซื้อขายเติบโตมากกว่าเดิมถึง 5 เท่า ทั้งนี้นับตั้งแต่ปลายเดือนพ.ย. เป็นต้นมา ซื้อขายเฉลี่ย ถึง 4,000 สัญญาต่อวัน

สำหรับการซื้อขายโกลด์ ฟิวเจอร์ส สะสม 8 เดือน (ก.พ.-ก.ย.) หรือตั้งแต่เปิดซื้อขายโกลด์ ฟิวเจอร์ส คิดเป็นครึ่งหนึ่งของมูลค่าการซื้อขายทองคำแท่ง



หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Theephat ที่ มกราคม 02, 2010, 05:42:14 PM
ขอบคุณครับคุณทองใหม่ วันหยุดยังขยันอยู่เลยนะครับ :) :)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 02, 2010, 05:44:33 PM
เวียดนามสั่งปิดตลาดค้าทองล่วงหน้าของเอกชน ใน31มีค.
 2 มค. 2553 15:16 น.


สื่อเวียดนามและสื่อต่างชาติรายงานเมื่อวานว่า นายกรัฐมนตรี เหงียน ตัน ดุง ของเวียดนามมีคำสั่งเมื่อวันพุธให้ตลาดค้าทองล่วงหน้าของเอกชนทั้งหมดต้องปิดตัวภายในวันที่ 31 มีนาคมนี้ เนื่องจากธุรกิจนี้เติบโตอยู่บนความเสี่ยง มีรายได้เฟื่องฟูจากการเก็งกำไร

คำสั่งนี้จะส่งผลกระทบต่อตลาดค้าทองล่วงหน้าที่ดำเนินการโดยธนาคารและบริษัทเอกชนอื่นๆรวมเกือบ 20 แห่งที่ดำเนินกิจการกันมานานกว่าสองปี รวมทั้งยังห้ามการค้าทองผ่านบัญชีเงินฝากในต่างประเทศด้วย ส่วนร้านขายอัญมณี ยังได้รับอนุญาตให้ขายเครื่องประดับทองคำได้ แต่ทางการจะออกกฎหมายใหม่เพื่อจำกัดการค้าทองในประเภทนี้

จากตัวเลขของทางการระบุว่า การซื้อขายทองคำล่วงหน้าในตลาดเหล่านี้มีมูลค่าสูงถึงหลายร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่รัฐบาลยังไม่มีกฎหมายควบคุมตลาดค้าทองเหล่านี้ รวมทั้งไม่มีหน่วยราชการที่จะกำกับดูแลการประกอบกิจการของตลาดดังกล่าว นักลงทุนสามารถซื้อทองโดยมีเงินฝากค้ำประกันเพียง 7% ของราคาทองคำที่ซื้อ ส่วน 93% ที่เหลือทางธนาคารที่เป็นเจ้าของตลาดค้าทองจะรับผิดชอบเอง ทำให้คนสนใจแห่ลงทุนเพื่อหวังกำไร ซึ่งเป็นเรื่องเสี่ยงมากแก่ทั้งสองฝ่าย 
 
 
 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 02, 2010, 05:53:26 PM
สมาคมค้าทองคำเตือนระวังราคาทองคำปีนี้ผันผวน
 นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ คาดทิศทางของราคาทองคำในปี 2553 ยังมีแนวโน้มขาขึ้น แม้ว่าในช่วงปลายปี 2552 ที่ผ่านมาจะมีการปรับฐานราคาลดลงมาบ้าง แต่ราคาทองคำในปีนี้จะกลับมาคึกคักอีกครั้ง และมีแนวโน้มที่จะมีความผันผวน แตกต่างจากปีที่ผ่านมาที่ราคาปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนราคาทองคำทำสถิติเป็นประวัติศาสตร์ ผู้สนใจลงทุนในทองคำสามารถที่จะทยอยซื้อสะสมได้ เพราะหากราคาทองมีการปรับขึ้นลง ก็สามารถทำกำไรได้
อัพเดตเมื่อ 2010-01-02 17


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: champ ที่ มกราคม 03, 2010, 08:55:10 AM
member ทองใหม่ เค้ากลับมาแล้ว ...

ปีใหม่ราคาทองคำนิ่งเงียบไม่กระดิก ไปๆมาๆกลัวว่าเปิดตลาดวันจันทร์นี้ทองจะล่วงอีก

แล้ว member ทองใหม่ คิดว่าตรุษจีนนี้จะมีเฮไม๊เอ่ย

แล้วถ้ามีเฮจริง ควรเทขายประมาณวันไหนดี   ตรุษจีนวันที่ 12-15   13เป็นวันเสาร์ 15 วันจันทร์

หรือขายหลัง 15 นิดหน่อยดี

(เข้าใจว่าฟันธงไม่ได้ของแบบนี้แล้วก็ผิตพลาดกันได้ แต่อยากรู้ความคิดเห็น member ทองใหม่... ช่วยเดาหน่อยนะ ขอบคุณมากๆ)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 03, 2010, 09:58:28 AM
member ทองใหม่ เค้ากลับมาแล้ว ...

ปีใหม่ราคาทองคำนิ่งเงียบไม่กระดิก ไปๆมาๆกลัวว่าเปิดตลาดวันจันทร์นี้ทองจะล่วงอีก

แล้ว member ทองใหม่ คิดว่าตรุษจีนนี้จะมีเฮไม๊เอ่ย

แล้วถ้ามีเฮจริง ควรเทขายประมาณวันไหนดี   ตรุษจีนวันที่ 12-15   13เป็นวันเสาร์ 15 วันจันทร์

หรือขายหลัง 15 นิดหน่อยดี

(เข้าใจว่าฟันธงไม่ได้ของแบบนี้แล้วก็ผิตพลาดกันได้ แต่อยากรู้ความคิดเห็น member ทองใหม่... ช่วยเดาหน่อยนะ ขอบคุณมากๆ)
เหอะๆ มีคนยกตำแหน่งหมอดูคู่หมอเดาให้ น่าจะขายหลัง 15 หากเดาถูกก็เหมือนถูกล็อคเตอรี่ ฮาฮา


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 03, 2010, 12:06:45 PM
ดูอดีต มองอนาคต พอจะเป็นกระจกเงาให้เราได้หรือไม่หนอ?
4/1/2009    ราคาทอง883ดอลล์เมกา------15/1/2009 ราคาทอง805ดอลล์เมกา =-78ดอลล์เมกา
15/1/2009  ราคาทอง805ดอลล์เมกา-------18/2/2009  ราคตทอง1000ดอลล์เมกา =+195ดอลล์เมกา (26/1/2009วันตรุษจีน)
ตรุษจีนปีนี้14/2/2010


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: JO-JO ที่ มกราคม 03, 2010, 07:42:06 PM
member ทองใหม่ เค้ากลับมาแล้ว ...

ปีใหม่ราคาทองคำนิ่งเงียบไม่กระดิก ไปๆมาๆกลัวว่าเปิดตลาดวันจันทร์นี้ทองจะล่วงอีก

แล้ว member ทองใหม่ คิดว่าตรุษจีนนี้จะมีเฮไม๊เอ่ย

แล้วถ้ามีเฮจริง ควรเทขายประมาณวันไหนดี   ตรุษจีนวันที่ 12-15   13เป็นวันเสาร์ 15 วันจันทร์

หรือขายหลัง 15 นิดหน่อยดี

(เข้าใจว่าฟันธงไม่ได้ของแบบนี้แล้วก็ผิตพลาดกันได้ แต่อยากรู้ความคิดเห็น member ทองใหม่... ช่วยเดาหน่อยนะ ขอบคุณมากๆ)
เหอะๆ มีคนยกตำแหน่งหมอดูคู่หมอเดาให้ น่าจะขายหลัง 15 หากเดาถูกก็เหมือนถูกล็อคเตอรี่ ฮาฮา

ถ้าเดาถูกจริง ๆ หวดหน้าสิ้นเดือนก.พ. ขอสามหลักเน้น ๆ เลยนะครับ

 ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 04, 2010, 05:44:44 AM
วันนี้เป็นวันทำการวันแรกของตลาดในปี2010 ขอให้เพื่อนๆทุกคนจงสมปราถนาในตลาดหุ้นตลาดทองทุกๆคนเลยนะครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 04, 2010, 05:52:12 AM
 วิธีดูทิศทางทอง ต้าน๓----หนุน๓เป็นทิศทางทองที่จะเคลื่อนไหวในวันนี้ หากพุ่งทะลุต้าน๓หรือดิ่งทะลวงหนุน๓ แสดงถึงวันนั้นทองเคลื่อนไหวแรงเกินปกติ เส้นแดนเป็นเส้นที่จะแบ่งแยกทิศทางของทองที่จะขึ้นหรือลง หากทองเคลื่อนไหวอยู่ในทิศทางใดมากและนาน นั่นหมายถึงโอกาสเป็นไปได้มากที่ทองจะเคลื่อนไปในทิศทางนั้นๆ ในช่วงเวลานั้น (ยังต้องแบ่งออกในช่วงเวลาตลาดเอเซีย ยุโรป เมกาด้วย) ต้าน๑และหนุน๑หากถูกทดสอบแบบมีผล(ขึ้นลงมากกว่า๑ครั้ง)แล้วยืนอยู่ได้ นั่นคือทิศทางทองที่จะเดินต่อไปในช่วงเวลานั้น หากการวิเคราะเกิดขัดแย้งกันเมื่อไหร่ ให้หยุดมองดูอย่างเดียว ไม่ควรซื้อ-ขายในช่วงเวลานั้น แนวทางนี้เหมาะกับการเล่นสั้นมาก (เล่นแบบออนไลน์ในอนาคต) มีความแม่นยำถึง80%ครับ อีกอย่างข่าวปัจจัยพื้นฐานอาจเปลี่ยนทิศทางทองได้กะทันหันนะครับ
ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์กับการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย ถัาติดดอยเมื่อทองต่ำลงมา  หากยังมีเงินเหลืออยู่ ควรซื้อเพิ่ม เพิ่มที่ละนิด ต่ำอีกซื้ออีก เพื่อดึงต้นทุนที่สูงให้ต่ำลงมา ใครที่ยังไม่มีทองในมือควรทยอยซื้อเข้าอย่ามากนัก หากทองลงอีก เราก็ซื้ออีก ดีกว่าเวลาทองขึ้นเราไปไล่ซื้อในราคาที่สูง  จดจำเป็นคติเตือนใจว่า  เรามิอาจซื้อได้ในราคาที่ต่ำสุด และขายได้ในราคาที่สูงสุด ไม่มีการลงทุนใดที่ไม่เสี่ยง การบริหารพอร์ตให้ได้จังหวะ จะลดความเสี่ยงลงได้ครับ
กราฟสำคัญ ปัจจัยพื้นฐานก็สำคัญ จิตวิทยาการโน้มเอียงของคนก็สำคัญ สิ่งเหล่านี้หากเป็นไปในแนวเดียวกัน ก็จะมุ่งไปทางนั้น หากแย้งกันก็ต้องดูฝ่ายไหนเหนือกว่า.....ด้วยเหตุนี้ไม่มีนักวิเคราะห์คนใดที่จะทำนายได้แม่นยำตลอดกาลได้ครับ
(http://img300.imageshack.us/img300/4696/78550817.gif) (http://img300.imageshack.us/i/78550817.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 04, 2010, 05:58:01 AM
เส้นปากถุง(เส้นสีขาวทั้ง๓เส้น)แบบง่ายๆ ไม่ปวดเศียรเวียนเกล้า
เส้นบน---แนวต้าน
เส้นกลาง---แนวโน้ม(สำคัญสุด)
เส้นล่าง---แนวหนุน
ลักษณะที่๑---ทิศทางขึ้นเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น   เส้นกลางหันหัวขึ้น   เส้นล่างหันหัวลง
ลักษณะที่๒---ทิศทางขึ้นเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวขึ้น
เมื่อเจอลักษณะทั้ง๒นี้ ราคาระหว่างวันที่ขึ้นๆลงๆ เมื่อเจอจุดที่เห็นว่าต่ำแล้วให้ซื้อเข้าได้เลยครับ  ขอเพียงเส้นกลาง(แนวโน้ม)ยังหันหัวขึ้นอยู่ แม้ราคาเแท่งเทียนจะอยู่ต่ำกว่าเส้นกลาง ก็ยังซื้อเข้าได้ หากเส้นบนเดินขวางเมื่อไหร่ ให้ทยอยลดพอร์ตได้เลยครับ
ลักษณะที่๓---เลือกทิศทาง---เส้นบนหันหัวลง เส้นล่างหันหัวขี้น ปากถุงแคบลง ถึงช่วงนี้ ให้ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว หากใครยังคิดอยากเคลื่อนไหว ก็จงเคลื่อนไหวไปหน้าทีวี จงอย่าทำการอย่างอื่นใด หากใครเป็นจอมยุทธ์ ก็ชิงเคลื่อนไหวก่อนใครได้  
ขอแถมอีกนิด จงโฟกัสที่เส้นกลาง หากเส้นกลางเริ่มขยบหัวหัวขึ้นหรือลง ทิศทางอาจขึ้นหรือลงตามเส้นกลางแนวโน้มนั้น
ลักษณะที่๔---เคลื่อนไหวในกรอบแคบ---เส้นบน กลาง ล่าง เดินขวางทั้ง๓เส้น หากใครเล่นออนไลน์ สามารถเล่นได้เล็กน้อยอย่ามาก เมื่อราคาแท่งเทียนใกล้เส้นบน จงขาย ใกล้เส้นล่าง จงซื้อ ต้องเข้าออกให้ทันการณ์ หาไม่แล้วจากกำไรอาจขาดทุนได้นา ขอบอก
ลักษณะที่๕---ทิศทางลงเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น เส้นกลางหันหัวลง เส้ยล่างหัวหัวลง
ลักษณะที่๖---ทิศทางลงเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวลง  เมื่อเส้นล่างเดินขวางเมื่อไหร่ ผู้ที่ใจกล้าที่เล่นออนไลน์ เริ่มทยอยซื้อเข้าได้ที่ละนิด อัตราเสี่ยงยังมีอยู่บ้างนะครับ สิบอกไห่
วิธีดูเส้นปากถุงที่กล่าวมานี้ .....ไม่ใช่ตำราของฝรั่ง แบบของฝรั่งผมเคยอ่านมาบ้างแล้ว ยาวมาก ปวดหัว ทำความเข้าใจได้ยากมากๆๆๆๆ ...........เหมาะเฉพาะกราฟราย๔ชม.และช่วงปกติเท่านั้นนะครับ  (บางครั้งตลาดจงใจคึงขึ้นลงอย่าแรงๆ แทบหัวใจวายสำหรับผู้มีทองในมือและผิดทิศทางของตัวเอง เรียกว่า ช่วงไม่ปกติครับ)

(http://img691.imageshack.us/img691/6236/12276604.gif) (http://img691.imageshack.us/i/12276604.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 04, 2010, 05:59:52 AM
กราฟGold 1
ช่อง1 เส้นแดงอยู่เหนือเส้นเขียว---ทิศทางขึ้น  ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น  สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นเขียวอยู่เหนือเส้นแดง---ทิศทางลง     ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นแดงและเขียวประสานเป็นกากะบาด ---กำลังจะเปลี่ยนทิศ ให้ดูเส้นแนวโน้มประกอบ  หากเส้นแดงและเขียวกำลังจะประสาน แต่ไม่ทันได้ประสานก็หันหันหัวกลับขึ้นหรือลง  แสดงว่ากำลังมีเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนี่งเกิดขึ้น หากขึ้นทะลุเส้นปะแนวต้าน ให้ดูเส้นปะแนวต้านเส้นต่อไป หากลงทะลุเส้นปะแนวหนุน ให้ดูเส้นแนวหนุนเส้นต่อไป   ส่วนจุดกลมเหลืองทอง---ทิศทางลง  จุดกลมฟ้า---ทิศทางขึ้น  หากกราฟวิ่งในยามปกติ พอเชื่อถือได้ หากกราฟวิ่งขึ้นลงแรงๆ คือยามไม่ปกติ ไม่อาจเชือถือได้
ช่อง2  ให้ดูเส้นสีม่วง ประกอบกับเส้นแนวโน้มในช่อง1 หากหันหัวไปในทิศทางเดียวกัน  โอกาสที่จะผิดพลาดก็มีน้อย  ส่วนเส้นปะสีเหลืองทองและฟ้า  หากขึ้นเหนือเลข80 เข้าสู่เขตซื้อเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ทุกเมื่อ  หากลงต่ำกว่าเลข20 เข้าสู่เขตขายเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ตลอดเวลา
ช่อง3   ให้ดูทั้ง2เส้น คือเหลืองทองและฟ้า หันหัวไปทิศทางเดียวกันหรือไม่  เท่านั้นยังไม่พอ  ให้ดูประกอบทิศทางในช่อง1ว่าเป็นทิศทางเดียวกันหรือไม่  หากทิศทางหันหัวในแนวเดียวกัน  ทิศทางนั้นเชื่อถือได้

(http://img109.imageshack.us/img109/7672/19078930.gif) (http://img109.imageshack.us/i/19078930.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 04, 2010, 06:26:54 AM
???2010-1-4 12:24 AM ?? ???? 2010-1-4 12:24 AM on the information personal space ???? Add as Friend 
??????? Golden Wave Theory


????????? Gold continued to fall last week. ??????1113.8?????????1086.3? 1113.8 by the highest weekly Wednesday fell to the lowest post-1086.3. ????????1080??,?????????????????? Gold has been stabilized above 1080 at this stage, so golden opportunity to start a new rise in waves or rebound waves. ??????????????1120?????? Have the opportunity to further this week, is expected to rebound to 1120 levels or above.
????????: Week wave theory analysis:
???????????????( I II )????III???????(5)???????3???????( iii )??????v??????iv??????(b)?? Golden opportunity to start to run a super large section (I II) wave III within the first extension of big waves in subsection (5) extension of the wave in the first three waves within the extension of a small section (iii) extend the wave in the first extension of micro-v iv waves or section within the extension of micro-wave (b) waves.
??(?): Assumptions (1):
????:???24-10-2008???681.09?????????( I II )????III???????(5)????,???????? Details are as follows: gold in the low 681.09 into operation 24-10-2008 mega section (I II) wave III within the first extension of big waves in subsection (5) extension of the waves, and to extend the Long Run. ??681.09?20-02-2009???1006.2??????( I II )????III???????(5)???????1????,?1006.2?17-08-2009???929.9??????( I II )????III???????(5)???????2????? 20-02-2009 from 681.09 to a high of 1006.2 for the super-large-scale section (I II) wave III within the first extension of big waves in subsection (5) extend in the first wave in an extension of the small waves, while the 1006.2-17 -- 08-2009 low of 929.9 for the super-large-scale section (I II) wave III within the first extension of big waves in subsection (5) extension of the wave in the first two extension of the small waves. ?929.9?17-09-2009???1023.2??(5)???????3???????( i )???? And a high of 929.9 to 1023.2 for the 17-09-2009 section (5) extension of the wave in the first three waves within a small extension of the first (i) extension of waves. ?1023.2?29-09-2009???984.2??(5)???????3???????( ii )???,?984.2?14-10-2009???1069.3??(5)???????3???????( iii )??????i????,?1069.3?29-10-2009???1026.59??(5)???????3???????( iii )??????ii????? 29-09-2009 and the low level of 984.2 to 1023.2 for the first (5) extension of the wave in the first three waves within a small extension of the first (ii) extension of waves, while a high of 984.2 to 1069.3 for the 14-10-2009 section (5) extension of the wave in the first three waves within the extension of a small section (iii) extension of wave i in the first extension of micro-wave, while the 1069.3 low level of 1026.59 to 29-10-2009 for the first (5) extension of the wave 3 within the extension of small waves to section (iii) extend the wave ii in the first extension of micro-wave. ?1026.59?03-12-2009???1226.59??(5)???????3???????( iii )??????iii????? And a high of 1026.59 to 1226.59 for the 03-12-2009 section (5) extension of the wave in the first three waves within a small extension of the first (iii) extend the wave in the first extension of micro-wave iii. ?1226.59?22-12-2009???1074.69??(5)???????3???????( iii )??????iv????? 22-12-2009 and the low level of 1226.59 to 1074.69 for the first (5) extension of the wave in the first three waves within a small extension of the first (iii) extension of wave iv within the first extension of micro-waves. ?1074.69??????????(5)???????3???????( iii )??????v????????? The 1074.69 up to now have the opportunity to subsection (5) extension of the wave in the first three waves within a small extension of the first (iii) extension of wave v within the first extension of micro-wave that is rising waves. ????v?????????????????03-12-2009???1226.59??? V is expected to extend this first opportunity to extend the micro-wave and wave run up wearing 03-12-2009 high level of 1226.59.
??,??????22-12-2009???1074.69??????( I II )????III???????(5)???????3???????( iii )??????iv??????(a)?,?1074.69???????iv??????(b)?????? In addition, gold does not exclude a low level in the 22-12-2009 section 1074.69 for the super-large-scale (I II) wave III within the first extension of big waves in subsection (5) extension of the wave in the first three waves within the extension of a small section (iii ) extended wave iv within the first extension of micro-waves within the (a) wave, while the 1074.69 up to now for the first iv within the extension of micro-wave (b) waves that bounce waves. ????iv??????(b)????????1150????? Is expected to extend this first iv within the micro-wave (b) wave will have a chance to rebound to near 1150 levels.

??(?): ??????????( I II )????III???????(5)???????4????? Assumption (2): Gold is still running super large section (I II) wave III within the first extension of big waves in subsection (5) extension of the wave 4 within the extension of a small wave.
??????03-12-2009???1226.59???????( I II )????III???????(5)???????3????? 03-12-2009 golden opportunity to a high of 1226.59 to complete a super large section (I II) wave III within the first extension of big waves in subsection (5) extension of the wave extension in the first three small waves. ?1226.59????????????( I II )????III???????(5)???????4????????? The 1226.59 up to now is still a super large section (I II) wave III within the first extension of big waves in subsection (5) extension of the wave extension in the first four waves of small wave that is down. ????4????????????????? Section 4 is expected that this will have the opportunity to extend a small rebound after the wave continued to fall.


????: Investment Strategy:
?????? Mainly to wait and see.
??(?)???: Suppose (a) of the diagram:
 
(http://img215.imageshack.us/img215/2940/97108029.gif) (http://img215.imageshack.us/i/97108029.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 04, 2010, 06:29:47 AM
(http://img23.imageshack.us/img23/865/23119939.gif) (http://img23.imageshack.us/i/23119939.gif/)
(http://img46.imageshack.us/img46/6703/75894357.gif) (http://img46.imageshack.us/i/75894357.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 04, 2010, 09:45:50 AM
??????? (http://www.youtube.com/watch?v=51xS4yXbryc#)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: numcha ที่ มกราคม 04, 2010, 09:57:33 AM
ขอบคุณมากสำหรับการวิเคราะห์  และ  เพลงเพราะๆ  คะ
ขอให้คุณทองใหม่สุขภาพแข็งแรง  และ  ร่ำรวยนะคะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 04, 2010, 10:33:26 AM
(http://img35.imageshack.us/img35/3314/37177506.gif) (http://img35.imageshack.us/i/37177506.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 04, 2010, 11:01:39 AM
จับตาสถานการณ์ราคาน้ำมันแรงข้ามปี โอเปคเร่งตุนน้ำมันเกินโควต้า

Posted on Monday, January 04, 2010
ราคาน้ำมันแรงข้ามปี โอเปคเร่งตุนเกินโควต้า

ข้ามสู่ศักราชใหม่ นักลงทุนยังต้องจับตาสถานการณ์ราคาน้ำมันกันอย่างใกล้ชิด หลังจากปิดบวกทำสถิติสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ที่ตลาดนิวยอร์ก และส่งผลให้ทั้งปี 2552 ที่เพิ่งสิ้นสุดลง กลายเป็นปีที่ราคาน้ำมันสามารถบวกขึ้นได้แรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2542 โดยมีปัจจัยเรื่องภูมิอากาศที่หนาวเย็นในช่วงส่งท้ายปีเป็นตัวเร่งดันให้ต้นทุนน้ำมันขยับขึ้น

สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงาน (EIA) ประกาศในวันทำการสุดท้ายของปี 2552 ว่า ตัวเลขสำรองน้ำมันดิบร่วงลง 1.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 25 ธันวาคม 2552 ขณะที่ American Petroleum Institute (API) รายงานว่า ระดับสำรองน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรล

ราคาน้ำมันเคลื่อนไหวในทิศทางบวก นับตั้งแต่กลุ่มโอเปคมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่เปลี่ยนแปลงเพดานการผลิตน้ำมัน เนื่องจากพอใจที่ระดับราคาในตอนนี้ ขณะกำหนดการประชุมโอเปคในครั้งต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 17 มี.ค.

ประธานโอเปคมีความเห็นว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกกำลังอยู่ในอัตราที่เร่งตัวขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการขยายตัวของตลาดเอเชีย แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีคำเตือนออกมาด้วยว่า ภาคการเงินทั่วโลกยังอยู่ในสภาวะที่มีความไม่แน่นอน เช่นเดียวกับตลาดแรงงานที่มีอัตราการว่างงานยืนอยู่ในระดับสูง นอกจากนั้น ความกังวลยังมุ่งไปที่เรื่องรัฐบาลในหลายประเทศอาจถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วกว่าที่ควร

นาย Joseph Stiglitz นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบลและเป็นศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย มองว่า สหรัฐจำเป็นที่จะต้องเตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบที่ 2 เมื่อดูจากการที่เศรษฐกิจสหรัฐยังคงเปราะบางและมีความจำเป็นที่จะต้องได้รับมาตรการสนับสนุนจากรัฐบาลต่อไป

ผลสำรวจของสำนักข่าว Bloomberg ล่าสุดชี้ว่า กลุ่มประเทศโอเปคปรับเพิ่มการผลิตในเดือนธันวาคม ไปสู่ระดับสูงที่สุดของปี เมื่อบรรดาประเทศสมาชิกต่างหาประโยชน์จากสภาวะราคาที่ปรับตัวสูงขึ้น บริษัทน้ำมัน นักวิเคราะห์ รวมถึงผู้ผลิตในการสำรวจครั้งนี้ เชื่อว่าปริมาณการผลิตจะเฉลี่ยอยู่ที่ 28.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดยเพิ่มขึ้น 65,000 บาร์เรลนับจากเดือนพฤศจิกายน ขณะ 11 ประเทศที่อยู่ภายใต้ระบบโควต้า ยกเว้นอิรัก ใช้กำลังการผลิต 26.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งมากกว่าโควต้าที่ตัวเองได้รับถึง 1.77 ล้านบาร์เรล


ลุ้นตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ จ่อขยับขึ้น ต้อนรับปีเสือ

ประเดิมสัปดาห์แรกของปี็จะมีรายงานทางเศรษฐกิจหลายตัวที่จะออกมาสร้างความคึกคักหรือแม้แต่อาจจะสร้างความผิดหวังให้กับตลาด โดยเฉพาะเรื่องสภาวะการจ้างงานที่เป็นปัจจัยกดดันมาตลอดปี 2552

ล่าสุดนักเศรษฐศาสตร์เชื่อว่าตัวเลขของเดือนธันวาคมที่กำลังจะประกาศกันออกมาอาจบ่งชี้ถึงจุดสิ้นสุดของความถดถอยในตลาดแรงงานแล้ว เมื่อดูจากตัวเลขการจ้างงานที่น่าจะลดลงเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่สภาวะเศรษฐกิจถดถอยเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อน ขณะอัตราการว่างงานอาจยังยืนอยู่แถวระดับ 10% ต่อไปหรือแม้แต่ขยับขึ้นได้เล็กน้อย

ความหวังของนักลงทุนสำหรับปีใหม่ ปี 2553 นี้ สิ่งหนึ่งอยู่ที่เรื่องการฟื้นตัวของความต้องการในตลาดโลกที่เป็นผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ จะทำให้บรรดาบริษัทอเมริกันต่างๆ หันกลับมาจ้างงานเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่ต้องปลดพนักงานออกไปมากถึงกว่า 7 ล้านคนนับตั้งแต่เศรษฐกิจตกสู่ภาวะถดถอยในปี 2550

สัญญาณที่ดีน่าจะเริ่มต้นมาจากการผลิตภาคอุตสาหกรรม เมื่อนักวิเคราะห์เห็นการฟื้นตัวของคำสั่งซื้อและยอดขายในตลาดส่งออก รวมถึงระดับสินค้าคงค้างในสต็อกที่ลดลงมาก จนทำให้โบรกเกอร์ อย่าง JPMorgan Chase และ Credit Suisse ล่าสุดปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ของสหรัฐฯ ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีที่ผ่านมา ขึ้นเป็นอัตราการขยายตัวที่สูงกว่า 4% หลังจากไตรมาส 3 เศรษฐกิจกลับมาขยายตัวได้ 2.2% ด้วยตัวเลขที่เป็นบวกครั้งแรกในรอบมากกว่า 1 ปี

อย่างไรก็ดี ปี 2553 นี้ยังได้รับคำเตือนจากผู้บริหารธนาคารกลางถึงความเสี่ยงที่คงอยู่ โดยนาย Donald Kohn รองประธานเฟด บอกว่า ภาวะตึงตัวของสินเชื่อภาคธนาคาร บวกกับความระมัดระวังของภาคครัวเรือนและธุรกิจ อาจเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการใช้จ่าย แม้ว่าตลาดการเงินจะมีอาการดีขึ้นแล้ว ซึ่งทำให้เขาเชื่อว่ากิจกรรมในภาคเศรษฐกิจน่าจะค่อยๆ ฟื้นตัว เช่นเดียวกับอัตราการว่างงานที่น่าจะลดลงไม่เร็วนัก

ผู้บริหารเฟดรายนี้ยังให้ความมั่นใจด้วยว่า ธนาคารกลางไม่มีนโยบายที่จะตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำมากเช่นนี้ต่อไปเพียงเพื่อต้องการช่วยให้รัฐใช้จ่ายได้มากขึ้น แต่เฟดจะมุ่งดูที่การรักษาเสถียรภาพทางราคาและเศรษฐกิจเป็นหลัก ด้วยจุดมุ่งหมายต้องการให้มีการจ้างงานในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง


ชาวอเมริกันใช้จ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้าน้อยลง

ผลสำรวจจากนิวยอร์กไทม์ส/สำนักข่าวซีบีเอสระบุว่า ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ใช้จ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้าตามร้านค้าและสั่งซื้อสินค้าผ่านรูปแบบออนไลน์น้อยลง

นิวยอร์กไทม์สได้เปิดเผยผลการสำรวจในเว็บไซต์ซึ่งระบุว่า เกือบครึ่งหนึ่งของชาวอเมริกันใช้เวลาในการซื้อสิ่งของที่ไม่จำเป็นน้อยลง

ขณะที่บางรายมีชั่วโมงการทำงานเพิ่มมากขึ้น และมีชาวอเมริกันจำนวนมากใช้เวลาอยู่กับครอบครัว เพื่อนฝูงมากขึ้น รวมถึงการใช้เวลาในการทำสวน ทำอาหาร อ่านหนังสือ ดูโทรทัศน์ และทำงานอดิเรกอื่นๆมากขึ้นด้วย

นอกจากนี้ รายงานดังกล่าวยังเปิดเผยผลสำรวจการใช้เวลาจากทางกระทรวงแรงงานสหรัฐที่เปรียบเทียบกับข้อมูลในปี 2548 ว่า ในปี 2551 มีชาวอเมริกาใช้เวลาในการซื้อสินค้าน้อยลง และหันไปใช้เวลาในการทำอาหาร หรือมีส่วนร่วมในกิจกรรมขององค์กรต่างๆ รวมถึงกิจกรรมทางศาสนามากขึ้น ขณะที่ในปีที่ผ่านมามีผู้ออกมาชมภาพยนตร์เพิ่มขึ้น 5%

ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 26 ธ.ค.ร่วงลง 22,000 คน เหลือเพียง 432,000 คน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี บ่งชี้ว่าการฟื้นตัวของตลาดแรงงานจะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่พยุงเศรษฐกิจสหรัฐให้ขยายตัวได้ดีในปี 2553

นอกจากนี้ ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคซึ่งคิดเป็น 70% ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐ มีแนวโน้มสูงขึ้นเนื่องจากอัตราว่างงานปรับตัวลดลง

นักวิเคราะห์คาดว่า การพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์กและรายได้ส่วนบุคคล จะช่วยกระตุ้นชาวอเมริกันให้จับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น และจะช่วยให้ภาคเอกชนเพิ่มปริมาณการซื้อสินค้าเข้าสู่สต็อกเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการในปีหน้า


รัสเซียเชื่อตลาดหุ้นพุ่งต่อในปี 2553

รัฐบาลรัสเซียคาดการณ์ว่า ทิศทางของตลาดหุ้นรัสเซียในปีนี้จะขยายตัวอย่างสดใสต่อเนื่องจากปีที่แล้ว

ขณะที่บรรดานักลงทุนก็เห็นพ้องไปในทิศทางเดียวกันว่า บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นปีนี้จะเป็นไปอย่างคึกคัก

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนี RTS และ MICEX ตลาดหุ้นรัสเซียในปี 2552 ขยายตัวได้กว่า 120% โดยมีหุ้นกลุ่มธนาคารและการสื่อสารโทรคมนาคมเป็นแกนนำ หลังจากตลาดหุ้นทั้งสองแห่งเคยดิ่งลงไปกว่า 70% ในปี 2551 จากพิษวิกฤตการเงินโลก

ทั้งนี้ ปัจจัยที่ช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นรัสเซียขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่งในปีที่ผ่านมาคือ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ได้อัดฉีดเม็ดเงินจำนวนมหาศาลเข้าสู่ภาคธนาคาร

ขณะเดียวกันทางการยังจัดสรรวงเงินค้ำประกันให้กับธนาคารรายใหญ่เพื่อใช้เป็นหลักประกันด้านเสถียรภาพของตลาดและการสร้างความมั่นใจด้านเงินฝากของประชาชน

นอกจากนี้ ธนาคารกลางรัสเซียได้เข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราเพื่อสร้างเสถียรภาพต่อค่าในประเทศ ซึ่งช่วยหนุนให้ตลาดเงินดีดตัวขึ้น


GMAC รับเงินช่วยเหลือจากรัฐฯ 3.79 พันล้านดอลลาร์

จีแมค ไฟแนนเชียล เซอร์วิสเซส (GMAC) ซึ่งเป็นบริษัทปล่อยสินเชื่อรถยนต์และอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของสหรัฐได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลสหรัฐ จำนวน 3,790ล้านดอลลาร์

การให้ความช่วยเหลือครั้งนี้ จะทำให้รัฐบาลสหรัฐถือครองหุ้นในบริษัทมากขึ้น จาก 35.4% เป็น 56.3% ซึ่งจะทำให้รัฐบาลกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ GMAC

นาย ไมเคิล คาร์เพนเตอร์ CEO ของ GMAC ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า การได้รับเงินช่วยเหลือรัฐบาลรอบนี้ ซึ่งเป็นรอบที่ 3 ทำให้บริษัท มีเวลามากขึ้นในการตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรกับหน่วยงานที่ให้บริการด้านสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อว่า Residential Capital (ResCap)

ทั้งนี้ ผลการขาดทุนของ ResCap เป็นตัวกระตุ้นให้ GMAC นั้นต้องพิจารณาถึงกลยุทธ์ทางเลือก เช่น การขายส่วนงานดังกล่าว การปิดส่วนงานดังกล่าว หรือ แม้แต่กระทั่งการล้มละลาย

นักวิเคราะห์ได้ให้ความเห็นว่าทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับ GMAC ก็คือ การขายส่วนงานดังกล่าวให้กับนักลงทุนขนาดใหญ่ ซึ่งบริษัทลงทุน เบิร์กไชร์ แฮทธาเวย์ ของมหาเศรษฐีวอร์เรน บัฟเฟตต์ ก็แสดงความสนใจที่จะเข้าซื้อเมื่อเดือนที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี ResCap เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้บริษัทแม่อย่าง GMAC ก้าวขึ้นไปเป็นผู้ปล่อยสินเชื่อบ้านอันดับ 5 ของสหรัฐฯ (จากข้อมูลโดย Inside Mortgage Finance ล่าสุดเมื่อวันที่ 30 กันยายน)

GMAC ได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลไปแล้ว 13,500 ล้านดอลลาร์ หลังจากที่ธุรกิจบริการสินเชื่อบ้านในเครือขาดทุนอย่างหนัก ซึ่งรวมถึง ResCap และการรับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลนั้นทำให้ GMAC สามารถปล่อยสินเชื่อบ้านไปได้ถึง 27,000 ล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ CEO ของ GMAC กล่าวว่า บริษัทยังเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของ General Motors และ Chrysler ที่ล้มละลายไป ดังนั้นการที่รัฐบาลให้ความช่วยเหลือ GMAC ก็ถือว่าเป็นการช่วยเหลืออุตสาหกรรมยานยนต์ด้วย


เกาหลีเหนือเรียกร้องยุติความเป็นศัตรูกับสหรัฐ

เกาหลีเหนือแสดงความหวังในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ว่าจะยุติความเป็นปรปักษ์กับสหรัฐอเมริกา และย้ำถึงความพร้อมที่จะกลับคืนสู่การเจรจาเพื่อทำให้คาบสมุทรเกาหลีปราศจากอาวุธนิวเคลียร์

สื่อเกาหลีเหนือรายงานแถลงการณ์ของรัฐบาลเนื่องในวันปีใหม่ว่า "พรรคแรงงานแห่งเกาหลีและรัฐบาลจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์อันดีกับประเทศเพื่อนบ้านและปรับปรุงมิตรภาพกับประเทศอื่นๆ"

สำนักข่าวยอนฮัปและซีเอ็นเอ็นรายงานว่า แถลงการณ์ของเกาหลีเหนืออาจเป็นสัญญาณที่ดี ขณะที่ประชาคมโลกพยายามโน้มน้าวให้เกาหลีเหนือกลับสู่การเจรจา 6 ฝ่ายซึ่งมีเป้าหมายเพื่อยุติโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เกาหลีเหนือปฏิเสธที่จะกลับสู่การเจรจาซึ่งจัดขึ้นร่วมกันโดยสหรัฐ รัสเซีย จีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น โดยยืนยันว่าต้องการเจรจาโดยตรงกับรัฐบาลสหรัฐ

นักวิเคราะห์บางรายกล่าวว่า เกาหลีเหนืออาจไม่ต้องการเสี่ยงที่จะถูกโดดเดี่ยวในยามที่ประเทศเผชิญความยากลำบากทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะหลังจากที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีมติคว่ำบาตรเกาหลีเหนือรุนแรงขึ้นเพื่อลงโทษเกาหลีเหนือที่ทดสอบนิวเคลียร์และขีปนาวุธหลายครั้งในปีที่แล้ว


เกาหลีใต้ตั้งเป้าดึงดูดนักท่องเที่ยว 8.5 ล้านคนในปีนี้

เกาหลีใต้ตั้งเป้าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ 8.5 ล้านคนในปีนี้ โดยเฉพาะจากจีนและญี่ปุ่น ซึ่งสูงกว่าเป้าหมาย 7.8 ล้านคนที่ตั้งไว้ในปีที่แล้ว

กระทรวงวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว ร่วมกับการท่องเที่ยวเกาหลี เปิดเผยว่า ในปี 2552 มีชาวต่างชาติประมาณ 7 ล้านคนเดินทางเยือนเกาหลีใต้ และในปีนี้ รัฐบาลตั้งเป้าหมายว่าจะต้อนรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากรัฐบาลได้กำหนดให้ช่วงเวลา 3 ปีนี้เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวเกาหลี หรือ "Visit Korea" โดยเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการส่งเสริมอุตสาหกรรมการบริการของประเทศ

นอกจากนี้ กระทรวงฯและการท่องเที่ยวเกาหลียังเผยว่าอีกด้วยว่า จะดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ได้มากกว่า 10 ล้านคนในปี 2555


ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งญี่ปุ่นปล่อยกู้ JAL 1 แสนล้านเยน

รัฐบาลญี่ปุ่นเผยธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งญี่ปุ่น (Development Bank of Japan: DBJ) จะเพิ่มวงเงินสินเชื่อให้กับสายการบินเจแปน แอร์ไลน์ส (JAL) สูงถึง 2 แสนล้านเยน

ธนาคารได้ข้อสรุปในการขยายวงเงินกู้จำนวนดังกล่าวก่อนที่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นจะเปิดทำการซื้อขายในวันจันทร์นี้ หลังจากที่ปิดทำการเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ โดยการขยายวงเงินกู้ครั้งนี้มีเป้าหมายที่จะยืดเวลาการให้ความช่วยเหลือสายการบิน JAL ที่กำลังประสบปัญหา ขณะที่มูลค่าหุ้นของบริษัทดิ่งลงอย่างหนัก

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ธนาคาร DBJ เห็นชอบกับข้อเรียกร้องของรัฐบาลที่ต้องการขยายวงเงินสินเชื่อตามที่ได้ลงนามไปเมื่อปลายเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่า สายการบิน JAL กำลังยื่นขอพิทักษ์ล้มละลาย

ช่วงที่ผ่านมามีข่าวว่า บริษัท Enterprise Turnaround Initiative Corp. of Japan ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้ดูแล JAL ได้เสนอให้มีการยื่นล้มละลาย แต่ทางรมว.คมนาคมญี่ปุ่นก็ได้ออกมาระบุว่า ทางเลือกดังกล่าวเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง


ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่จะประกาศออกมาวันนี้ (จันทร์ที่ 4 ม.ค. 2553)
? ดัชนีภาคการผลิต (ธ.ค.) โดย ISM
? ค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้าง (พ.ย.) โดย กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ

ติดตาม Money Wake up ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ออกอากาศซ้ำเวลา 11.00 น. ทาง Money Channel
 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 04, 2010, 11:26:20 AM
คาดราคาทองQ1ไม่เกิน1,200$ 
 วันจันทร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2553 11:34

เลขาธิการสมาคมค้าทองคำประเมินราคาทองคำไตรมาส 1 ไม่เกิน 1,200 ดอลลาร์สหรัฐ

นายพิชญา พิสุทธิกุล เลขาธิการสมาคมค้าทองคำ  กล่าวว่า ราคาทองคำในไตรมาส 1 ปีนี้ คาดว่าจะมีความผันผวน แต่ไม่รุนแรงเท่ากับปี 2552 ที่ผ่านมา เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจโลกดูดีขึ้น  แต่ก็ยังไม่มั่นใจว่าเป็นภาพลวงตาหรือไม่  เพราะรัฐบาลแต่ละประเทศยังมีการสำรองเม็ดเงินเพื่ออุ้มภาวะเศรษฐกิจต่อไป โดยประเมินว่าราคาทองคำในไตรมาส 1 จะทรงตัว โดยราคาสูงสุดไม่เกิน 1,200 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์  และราคาต่ำสุดประมาณ 950 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

อย่างไรก็ตาม ทิศทางราคาทองคำประเมินได้เพียงระยะสั้นยังไม่สามารถกำหนดได้ เพราะเปลี่ยนแปลงตามกระแสการลงทุนของกองทุนเก็งกำไร  หากราคาน้ำมันในตลาดโลก ปรับขึ้นเกิน 80 ดอลลาร์สหรัฐต่ออนซ์ กองทุนเก็งกำไรอาจจะย้ายไปลงทุนในน้ำมันแทน เช่นเดียวกัน หากทิศทางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น หรือธนาคารกลางสหรัฐปรับขึ้นดอกเบี้ยก็จะมีการเปลี่ยนการลงทุนไปในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราและตราสารทางการเงิน  ซึ่งก็จะทำให้ตลาดทองคำลดความร้อนแรงลงได้ราคาทองคำในปี 2553 คงไม่ผันผวนหนักเท่ากับปีที่ผ่านมา ที่ราคาขึ้นถึง 200 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ก่อนจะปรับลงมา 66  ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ในเดือน พ.ย.-ธ.ค.2552 เพราะทิศทางเศรษฐกิจโลกดูดีขึ้น แตกต่างจากปี 2552 ที่เกิดปัญหาวิกฤติสถาบันการเงินสหรัฐ? นายพิชญา กล่าว

นายพิชญา กล่าวว่า สำหรับผู้สนใจลงทุนในทองคำสามารถที่จะทยอยซื้อทองคำสะสม เมื่อราคาอ่อนตัวลงมาประมาณ 16,000-17,000 บาท  โดยควรใช้เงินเยน  และไม่ควรตกใจเมื่อราคาทองคำปรับลดลงมาก  แต่ควรใช้เป็นจังหวะซื้อสะสมมากกว่า



หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: prim ที่ มกราคม 04, 2010, 04:10:07 PM
วันนี้เป็นวันทำการวันแรกของตลาดในปี2010 ขอให้เพื่อนๆทุกคนจงสมปราถนาในตลาดหุ้นตลาดทองทุกๆคนเลยนะครับ

สวัสดีปีใหม่ค่ะคุณทองใหม่  มารับพรค่ะ  สาธุ   ;) ;)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 04, 2010, 04:16:32 PM
ตามกราฟตัวนี้ที่กำลังศึกษาอยู่ เข้าใจว่าใกล้ถึงเพดานช่วงสั้นแล้ว จะถูกผิดก็ต้องคอยเวลาบอกคำตอบ ขณะนี้1113.5(http://img710.imageshack.us/img710/7528/46717837.gif) (http://img710.imageshack.us/i/46717837.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: brabus ที่ มกราคม 04, 2010, 08:19:04 PM
ขอบคุณค่ะพี่ทองใหม่ ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 04, 2010, 08:57:53 PM
ตามกราฟตัวนี้ที่กำลังศึกษาอยู่ เข้าใจว่าใกล้ถึงเพดานช่วงสั้นแล้ว จะถูกผิดก็ต้องคอยเวลาบอกคำตอบ ขณะนี้1113.5([url]http://img710.imageshack.us/img710/7528/46717837.gif[/url]) ([url]http://img710.imageshack.us/i/46717837.gif/[/url])


ตกลงกราฟนี้ยังใช้ไม่ได้ ต้องศึกษาต่อ การที่ได้กราฟใดๆมา ต้องใช้เวลาคอยเรียนรู้ หากเข้าเล่นตามกราฟทันทีโดยไม่ศึกษา หมดตัวเอาง่ายๆเลยครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 05, 2010, 06:32:43 AM
05/01/2010
วิธีดูทิศทางทอง ต้าน๓----หนุน๓เป็นทิศทางทองที่จะเคลื่อนไหวในวันนี้ หากพุ่งทะลุต้าน๓หรือดิ่งทะลวงหนุน๓ แสดงถึงวันนั้นทองเคลื่อนไหวแรงเกินปกติ เส้นแดนเป็นเส้นที่จะแบ่งแยกทิศทางของทองที่จะขึ้นหรือลง หากทองเคลื่อนไหวอยู่ในทิศทางใดมากและนาน นั่นหมายถึงโอกาสเป็นไปได้มากที่ทองจะเคลื่อนไปในทิศทางนั้นๆ ในช่วงเวลานั้น (ยังต้องแบ่งออกในช่วงเวลาตลาดเอเซีย ยุโรป เมกาด้วย) ต้าน๑และหนุน๑หากถูกทดสอบแบบมีผล(ขึ้นลงมากกว่า๑ครั้ง)แล้วยืนอยู่ได้ นั่นคือทิศทางทองที่จะเดินต่อไปในช่วงเวลานั้น หากการวิเคราะเกิดขัดแย้งกันเมื่อไหร่ ให้หยุดมองดูอย่างเดียว ไม่ควรซื้อ-ขายในช่วงเวลานั้น แนวทางนี้เหมาะกับการเล่นสั้นมาก (เล่นแบบออนไลน์ในอนาคต) มีความแม่นยำถึง80%ครับ อีกอย่างข่าวปัจจัยพื้นฐานอาจเปลี่ยนทิศทางทองได้กะทันหันนะครับ
ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์กับการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย ถัาติดดอยเมื่อทองต่ำลงมา  หากยังมีเงินเหลืออยู่ ควรซื้อเพิ่ม เพิ่มที่ละนิด ต่ำอีกซื้ออีก เพื่อดึงต้นทุนที่สูงให้ต่ำลงมา ใครที่ยังไม่มีทองในมือควรทยอยซื้อเข้าอย่ามากนัก หากทองลงอีก เราก็ซื้ออีก ดีกว่าเวลาทองขึ้นเราไปไล่ซื้อในราคาที่สูง  จดจำเป็นคติเตือนใจว่า  เรามิอาจซื้อได้ในราคาที่ต่ำสุด และขายได้ในราคาที่สูงสุด ไม่มีการลงทุนใดที่ไม่เสี่ยง การบริหารพอร์ตให้ได้จังหวะ จะลดความเสี่ยงลงได้ครับ
กราฟสำคัญ ปัจจัยพื้นฐานก็สำคัญ จิตวิทยาการโน้มเอียงของคนก็สำคัญ สิ่งเหล่านี้หากเป็นไปในแนวเดียวกัน ก็จะมุ่งไปทางนั้น หากแย้งกันก็ต้องดูฝ่ายไหนเหนือกว่า.....ด้วยเหตุนี้ไม่มีนักวิเคราะห์คนใดที่จะทำนายได้แม่นยำตลอดกาลได้ครับ
(http://img33.imageshack.us/img33/7253/28557813.gif) (http://img33.imageshack.us/i/28557813.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 05, 2010, 06:35:10 AM
เส้นปากถุง(เส้นสีขาวทั้ง๓เส้น)แบบง่ายๆ ไม่ปวดเศียรเวียนเกล้า
เส้นบน---แนวต้าน
เส้นกลาง---แนวโน้ม(สำคัญสุด)
เส้นล่าง---แนวหนุน
ลักษณะที่๑---ทิศทางขึ้นเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น   เส้นกลางหันหัวขึ้น   เส้นล่างหันหัวลง
ลักษณะที่๒---ทิศทางขึ้นเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวขึ้น
เมื่อเจอลักษณะทั้ง๒นี้ ราคาระหว่างวันที่ขึ้นๆลงๆ เมื่อเจอจุดที่เห็นว่าต่ำแล้วให้ซื้อเข้าได้เลยครับ  ขอเพียงเส้นกลาง(แนวโน้ม)ยังหันหัวขึ้นอยู่ แม้ราคาเแท่งเทียนจะอยู่ต่ำกว่าเส้นกลาง ก็ยังซื้อเข้าได้ หากเส้นบนเดินขวางเมื่อไหร่ ให้ทยอยลดพอร์ตได้เลยครับ
ลักษณะที่๓---เลือกทิศทาง---เส้นบนหันหัวลง เส้นล่างหันหัวขี้น ปากถุงแคบลง ถึงช่วงนี้ ให้ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว หากใครยังคิดอยากเคลื่อนไหว ก็จงเคลื่อนไหวไปหน้าทีวี จงอย่าทำการอย่างอื่นใด หากใครเป็นจอมยุทธ์ ก็ชิงเคลื่อนไหวก่อนใครได้  
ขอแถมอีกนิด จงโฟกัสที่เส้นกลาง หากเส้นกลางเริ่มขยบหัวหัวขึ้นหรือลง ทิศทางอาจขึ้นหรือลงตามเส้นกลางแนวโน้มนั้น
ลักษณะที่๔---เคลื่อนไหวในกรอบแคบ---เส้นบน กลาง ล่าง เดินขวางทั้ง๓เส้น หากใครเล่นออนไลน์ สามารถเล่นได้เล็กน้อยอย่ามาก เมื่อราคาแท่งเทียนใกล้เส้นบน จงขาย ใกล้เส้นล่าง จงซื้อ ต้องเข้าออกให้ทันการณ์ หาไม่แล้วจากกำไรอาจขาดทุนได้นา ขอบอก
ลักษณะที่๕---ทิศทางลงเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น เส้นกลางหันหัวลง เส้ยล่างหัวหัวลง
ลักษณะที่๖---ทิศทางลงเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวลง  เมื่อเส้นล่างเดินขวางเมื่อไหร่ ผู้ที่ใจกล้าที่เล่นออนไลน์ เริ่มทยอยซื้อเข้าได้ที่ละนิด อัตราเสี่ยงยังมีอยู่บ้างนะครับ สิบอกไห่
วิธีดูเส้นปากถุงที่กล่าวมานี้ .....ไม่ใช่ตำราของฝรั่ง แบบของฝรั่งผมเคยอ่านมาบ้างแล้ว ยาวมาก ปวดหัว ทำความเข้าใจได้ยากมากๆๆๆๆ ...........เหมาะเฉพาะกราฟราย๔ชม.และช่วงปกติเท่านั้นนะครับ  (บางครั้งตลาดจงใจคึงขึ้นลงอย่าแรงๆ แทบหัวใจวายสำหรับผู้มีทองในมือและผิดทิศทางของตัวเอง เรียกว่า ช่วงไม่ปกติครับ)

(http://img51.imageshack.us/img51/6458/78905209.gif) (http://img51.imageshack.us/i/78905209.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 05, 2010, 06:37:27 AM
กราฟGold 1
ช่อง1 เส้นแดงอยู่เหนือเส้นเขียว---ทิศทางขึ้น  ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น  สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นเขียวอยู่เหนือเส้นแดง---ทิศทางลง     ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นแดงและเขียวประสานเป็นกากะบาด ---กำลังจะเปลี่ยนทิศ ให้ดูเส้นแนวโน้มประกอบ  หากเส้นแดงและเขียวกำลังจะประสาน แต่ไม่ทันได้ประสานก็หันหันหัวกลับขึ้นหรือลง  แสดงว่ากำลังมีเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนี่งเกิดขึ้น หากขึ้นทะลุเส้นปะแนวต้าน ให้ดูเส้นปะแนวต้านเส้นต่อไป หากลงทะลุเส้นปะแนวหนุน ให้ดูเส้นแนวหนุนเส้นต่อไป   ส่วนจุดกลมเหลืองทอง---ทิศทางลง  จุดกลมฟ้า---ทิศทางขึ้น  หากกราฟวิ่งในยามปกติ พอเชื่อถือได้ หากกราฟวิ่งขึ้นลงแรงๆ คือยามไม่ปกติ ไม่อาจเชือถือได้
ช่อง2  ให้ดูเส้นสีม่วง ประกอบกับเส้นแนวโน้มในช่อง1 หากหันหัวไปในทิศทางเดียวกัน  โอกาสที่จะผิดพลาดก็มีน้อย  ส่วนเส้นปะสีเหลืองทองและฟ้า  หากขึ้นเหนือเลข80 เข้าสู่เขตซื้อเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ทุกเมื่อ  หากลงต่ำกว่าเลข20 เข้าสู่เขตขายเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ตลอดเวลา
ช่อง3   ให้ดูทั้ง2เส้น คือเหลืองทองและฟ้า หันหัวไปทิศทางเดียวกันหรือไม่  เท่านั้นยังไม่พอ  ให้ดูประกอบทิศทางในช่อง1ว่าเป็นทิศทางเดียวกันหรือไม่  หากทิศทางหันหัวในแนวเดียวกัน  ทิศทางนั้นเชื่อถือได้

(http://img33.imageshack.us/img33/659/73571474.gif) (http://img33.imageshack.us/i/73571474.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 05, 2010, 06:43:04 AM
ETF ขายทองตอนที่ทองขึ้น น่าคิด ฝากเป็นการบ้านกับท่านผู้ชมด้วยจ้า
(http://img20.imageshack.us/img20/907/32848112.gif) (http://img20.imageshack.us/i/32848112.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 05, 2010, 06:44:08 AM
ETF ขายทองตอนที่ทองขึ้น น่าคิด ฝากเป็นการบ้านกับท่านผู้ชมด้วยจ้า
(http://img20.imageshack.us/img20/907/32848112.gif) (http://img20.imageshack.us/i/32848112.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 05, 2010, 06:44:43 AM
ETF ขายทองตอนที่ทองขึ้น น่าคิด ฝากเป็นการบ้านกับท่านผู้ชมด้วยจ้า
(http://img20.imageshack.us/img20/907/32848112.gif) (http://img20.imageshack.us/i/32848112.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 05, 2010, 07:00:13 AM
ขอบคุณค่ะ คุณทองใหม่ ทิศทางขึ้นหมดเลยทั้ง ราย ชม และ สี่ ชม  แต่ etf คิดไรอยู่นา ติ๊ก ต๊อก ติ๊ก ต๊อก
ระวังพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ อะไรๆก็เกิดขึ้นได้นา..สิบอกไห่


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 05, 2010, 07:05:14 AM
เวปมีปัญหาแน่เลยครับ โพสกระทู้บอกว่าไม่ผ่าน เลยต้องโพสซ้ำจนกว่าจะผ่าน กลับกลายเป็น3กระทู้เหมือนกันซ้อนติดกัน ฮา  นี่แหละหนา เพิ่งพูดไปหยกๆว่า อะไรๆก็เกิดขึ้นได้ ฮา


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 05, 2010, 07:25:54 AM
ขอบคุณค่ะ คุณทองใหม่ ทิศทางขึ้นหมดเลยทั้ง ราย ชม และ สี่ ชม  แต่ etf คิดไรอยู่นา ติ๊ก ต๊อก ติ๊ก ต๊อก
ระวังพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ อะไรๆก็เกิดขึ้นได้นา..สิบอกไห่
อรุณสวัสดิ์ค่ะจารย์ทองใหม่ กำลังตาโตกับราคาที่ขึ้นมาจะได้ลงดอยซะที มาเจอจารย์กะศิษย์พี่คุยกัน ใจเหี่ยวเลย !_308 !_308
อย่าเพิ่งเหี่ยวครับ เพียงบอกให้ระวังเท่านั้นเองครับ ตอนนี้กราฟ-หน้าตาแป๊ะยิ้มแล้ว แต่ก็มีบางครั้ง ตาแป๊ะก็ถูกหลอกให้ยิ้มหรือร้องไห้ได้เหมือนกัน แต่โอกาสที่ตาแป๊ะถูกหลอกไม่บ่อยนัก


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: champ ที่ มกราคม 05, 2010, 09:15:21 AM
member ทองใหม่ ตอนนี้ทำอาชีพอะไรบ้าง หรือ มีรายได้จากอะไรบ้างเอ่ย

และราคาทองแบบนี้มีทองคำในมือบ้างรึยัง หรือว่าเซียนทองไม่เล่นทอง


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 05, 2010, 09:53:41 AM
member ทองใหม่ ตอนนี้ทำอาชีพอะไรบ้าง หรือ มีรายได้จากอะไรบ้างเอ่ย

และราคาทองแบบนี้มีทองคำในมือบ้างรึยัง หรือว่าเซียนทองไม่เล่นทอง
คำถามบนไม่ควรถาม และผมก็ไม่ควรตอบ ฮาฮา
ตอบคำถามล่าง ไม่ได้เป็นเซียนทอง ใจจริงอยากจะเป็นเหมือนกัน จะได้รู้ราคาขึ้นหรือลงล่วงหน้าทุกช่วงไป ฮา ราคาทองแบบนี้ ไม่มีทองแท่งสักแท่งในมือ เพราะเล่นทองมาร์จิ้นที่สิงคโปร์จ้า


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: oyo ที่ มกราคม 05, 2010, 10:00:58 AM
สวัสดีปีใหม่ครับคุณทองใหม่ :D  ทองจะขื้นทำ b ครั้งนี้มั้ยครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 05, 2010, 10:10:26 AM
รายได้ปี 2552 ของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ และเบิร์คเชียร์ แฮทธาเวย์ ต่ำสุดในรอบ 10 ปี

Posted on Tuesday, January 05, 2010
บัฟเฟตต์ทำรายได้จากหุ้นในปี 2552 น้อยสุดในรอบ 10 ปี

วอร์เรน บัฟเฟตต์ ประธานบริษัท เบิร์คเชียร์ แฮทธาเวย์ มีรายได้จากการซื้อขายหุ้นในปี 2552 น้อยที่สุดในรอบ 10 ปี หลังจากทุ่มเงิน 26,000 ล้านดอลลาร์ ซื้อกิจการบริษัท เบอร์ลิงตัน นอร์ทเธิร์น ซานตาเฟ คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทสร้างทางรถไฟขนาดใหญ่ที่บัฟเฟตต์ พร้อมกับปรับลดคาดการณ์ผลตอบแทนที่จะได้จากการซื้อธุรกิจเบอร์ลิงตัน

หุ้นบริษัท เบิร์คเชียร์ แฮทธาเวย์ ของบัฟเฟตต์ ปรับตัวขึ้น 2.7% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กตลอดปี 2552 ขณะที่ราคาหุ้นเบิร์คเชียร์ที่เข้าเทรดในดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 23% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าบัฟเฟตต์มีรายได้จากการซื้อขายหุ้นน้อยที่สุดในรอบ 10 ปี

ทั้งนี้ บัฟเฟตต์ยอมรับว่า การที่เบิร์คเชียร์ แฮทธาเวย์จะกลับมาทำกำไรได้มากเป็นสองเท่าเหมือนเมื่อก่อนนั้น อาจเป็นไปได้ยาก หลังจากที่เขาตัดสินใจเข้าซื้อกิจการเบอร์ลิงตัน นอร์ทเธิร์น ซานตาเฟ คอร์ป เมื่อวันที่ 3 พ.ย.2552 ซึ่งถือเป็นการเข้าซื้อกิจการในวงเงินสูงสุดในประวัติศาสตร์การก่อตั้งอาณาจักรเบิร์คเชียร์ แฮทธาเวย์

นอกจากนี้ บัฟเฟตต์ยอมรับว่าการทุ่มเงินมหาศาลซื้อกิจการเบอร์ลิงตันนั้น อาจส่งผลกระทบถึงกิจการอื่นๆที่เบิร์คเชียร์ซื้อเข้ามาไว้ในเครือข่ายเมื่อเศรษฐกิจซบเซาลง

บัฟเฟตต์ ซึ่งมีฉายาว่า "Oracle of Omaha" หรือปราชญ์ผู้ทรงปัญญาแห่งเมืองโอมาฮา มลรัฐเนบราสก้า เป็นกูรูด้านการลงทุนที่นักลงทุนทั่วโลกจับตาดูมากที่สุด ตัดสินใจเข้าซื้อกิจการเบอร์ลิงตัน นอร์ทเธิร์น ซานตาเฟ คอร์ป แบบหมดหน้าตักเพราะมั่นใจในอนาคตของเศรษฐกิจสหรัฐ และเชื่อมั่นว่าเบอร์ลิงตันจะให้บริการรถไฟขนส่งสินค้าจากประเทศคู่ค้าของสหรัฐในเอเชียมากขึ้น รวมถึงจีน

อย่างไรก็ตาม การเข้าซื้อกิจการเบอร์ลิงตัน นอร์ทเธิร์น ทำให้สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ขู่ลดอันดับเครดิตบริษัท เบิร์คเชียร์ แฮทธาเวย์ เพราะเกรงว่าอาจทำให้สภาพคล่องและเงินทุนในธุรกิจประกันของเบิร์คเชียร์หดตัวลง

นอกจากนี้ S&P ยังให้เครดิตพินิจ ซึ่งมีนัยว่า เบิร์คเชียร์อาจถูกลดอันดับเครดิตลงจากระดับปัจจุบันที่ระดับ AAA


หุ้น-โภคภัณฑ์ร้อน ประเดิมปีเสือดุ

เพียงแค่วันทำการแรกของปี ตลาดหุ้นโลกก็บวกสดใส รวมถึงราคาน้ำมันที่ขึ้นไปยืนอยู่เหนือ 80 เหรียญต่อบาร์เรลเรียบร้อยแล้ว ขณะเดียวกัน เงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักได้ส่งผลให้ราคาทองคำบวกขึ้นแรงที่สุดในรอบกว่า 2 เดือน ส่วนราคาทองแดงก็แรลลี่ขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 16 เดือนเช่นกัน จากปัจจัยการหยุดงานประท้วงของแรงงานในเหมืองที่ประเทศชิลี

จริงๆ แล้วความร้อนแรงของตลาดหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์ปะทุขึ้นต่อเนื่องมาตั้งแต่เมื่อวานนี้ เมื่อดัชนี MSCI Asia Pacific บวกขึ้นได้กว่า 1% หลังจากเห็นตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ดัชนีชี้สภาวะการผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้นด้วยสถิติสูงสุดหากนับย้อนไปจนถึงเดือนเมษายน ปี 2004 ก่อนที่จะตามมาด้วยตัวเลขทางฝั่งสหรัฐฯ ที่ดัชนีภาคโรงงาน (ISM factory index) ปรับขึ้นมาอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบมากกว่า 3 ปี

แรงซื้อที่ตลาดสหรัฐฯ เมื่อคืนนี้มีเข้ายังหุ้นกลุ่มพลังงาน นำโดย Exxon Mobil และ Chevron ขณะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีก็มาแรงไม่แพ้กัน เมื่อมีนักวิเคราะห์ปรับเพิ่มคำแนะนำในหุ้นผู้ผลิตชิพคอมพิวเตอร์รายใหญ่ที่สุดของโลก อย่าง Intel ด้วยการเก็งว่า ความต้องการเครื่อง PC จะเดินหน้าขยายตัวต่อ

ส่วนที่ยุโรป ดัชนี Dow Jones Stoxx 600 ก็บวกได้ 1.5% ในวันทำการแรกของปี 2553 ด้วยคำสั่งซื้อของนักลงทุนที่กระจายเข้ามายังหุ้นทุกกลุ่ม หลังจากปีที่แล้วดัชนีทำสถิติบวกขึ้นมา 28% ซึ่งถือว่าดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2542 โดยหุ้นยักษ์ใหญ่ในวงการเหมือง อย่าง BHP Billiton ปรับตัวขึ้น 3.4% ที่ตลาดหุ้นลอนดอน

หลายคนยังติดตามความเคลื่อนไหวของบริษัททางด้านอุปโภคบริโภครายใหญ่ อย่าง Nestle ที่ราคาหุ้นขยับขึ้นกว่า 1% เมื่อคืนนี้ที่ตลาดหุ้นสวิส เมื่อบริษัท Novartis ตัดสินใจใช้สิทธิ option เพื่อซื้อหุ้นของบริษัท Alcon ที่เป็นผู้ทำผลิตภัณฑ์ดูแลดวงตารายใหญ่ที่สุดของโลก ในส่วนที่ Nestle ถืออยู่ ด้วยมูลค่ารวมเฉียด 40,000 ล้านเหรียญ ในขณะเดียวกัน ผู้ผลิต Nescafe รายนี้ ยังประกาศแผนการซื้อหุ้นคืนในวงเงินรวม 10,000 ล้านฟรังก์สวิส หรือราว 9,650 ล้านเหรียญอีกด้วย


GM ตีปีกหลังยอดขายตลาดจีนพุ่ง 67% ในปี 2552

หลังจากรอดพ้นสภาวะล้มละลายมาได้ไม่นาน General Motors ก็ประเดิมบอกข่าวดีด้วยยอดขายรถยนต์ในตลาดจีนของทั้งปี 2009 ว่าทำได้กว่า 1.83 ล้านคัน หรือถีบตัวขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 67% ซึ่งปรากฏการณ์นี้ได้ตอกย้ำถึงความสำคัญของตลาดเอเชียที่มีต่อบริษัท

ผู้ผลิตรถจาก Detroit รายนี้ รายงานด้วยว่า ส่วนแบ่งตลาดของตนในจีนขยับขึ้นมาอีก 1.3% ไปอยู่ที่ 13.4% และรั้งตำแหน่งค่ายรถจากต่างประเทศรายใหญ่ที่สุดในประเทศที่มีจำนวนประชากรมหาศาลนี้

ภายหลังจากที่ยักษ์ใหญ่แห่งวงการรถสามารถสลัดหลุดออกมาได้จากแผนล้มละลายเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา GM ก็ได้เร่งการลงทุนขนานใหญ่ที่ประเทศจีน ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจของที่นี่กำลังขยายตัวและได้รับผลดีจากมาตรการกระตุ้นภาครัฐ จนได้ชื่อว่าเป็นตลาดรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก แซงหน้าสหรัฐฯ ไปได้เรียบร้อยแล้ว และในเวลาเดียวกัน ที่ประเทศบ้านเกิด บริษัทที่มีรัฐบาลอเมริกันเข้าไปเป็นผู้ดูแลบริหารงานแทนนั้น ก็ได้ทำการปิดโรงงานไปหลายแห่งเพื่อรับมือกับความต้องการที่หดหายลง ถึงขนาดที่นักวิเคราะห์บางรายพูดออกมาว่า ตลาดรถจีนได้ช่วยชีวิต GM ไว้ แม้อัตราการเติบโตในปีนี้ อาจไม่แรงเทียบเท่ากับปี 2552 แต่ที่แน่ๆ ก็คือดีมานด์ที่แข็งแกร่งในตลาดนี้จะยังคงอยู่

สำหรับบริษัท Shanghai General Motors ที่ GM เป็นหุ้นส่วนอยู่กับบริษัท SAIC Motor เปิดเผยยอดขายรถที่สูงถึง 727,620 คันในปีที่แล้ว หรือเพิ่มขึ้น 63% จากปี 2551 ขณะยอดขายของบริษัท SAIC-GM-Wuling Automobile ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถมินิแวนรายใหญ่ที่สุดของประเทศ ก็รายงานยอดขายที่สูงถึง 1.1 ล้านคัน หรือเพิ่มขึ้นถึง 64% โดยตัวเลขยอดขายในส่วนนี้คิดเป็นสัดส่วนถึงราว 60% สำหรับยอดขายรวมทั้งหมดของ GM ในจีนเลยทีเดียว จากการที่ราคาขายเฉลี่ยต่อคันของรถประเภทนี้เริ่มต้นแค่เพียง 4,000 เหรียญเท่านั้น

ตอนนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่าตลาดรถจีนเป็นที่ดึงดูดใจต่อผู้ผลิตจากตะวันตกและเพื่อนบ้านในเอเชียด้วยกันให้เข้ามาขยายการลงทุน นำทีมโดย Ford Motor, Volkswagen และ Hyundai Motor ซึ่งทางด้าน Ford ก็กำลังอัดฉัดเงินทุนกว่า 490 ล้านเหรียญสำหรับโรงงานแห่งที่ 3 ในจีน

ขณะที่ Volkswagen มีแผนที่จะลงทุน 4,000 ล้านยูโร หรือราว 5,700 ล้านเหรียญในประเทศนี้ภายในปี 2554 ส่วนผู้ผลิตจากกรุงโซล อย่าง Hyundai ก็มีแผนที่จะเปิดตัวโรงงานแห่งที่ 3 ที่บริษัทหวังว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตในประเทศได้ถึง 50% ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 900,000 คันต่อปี ภายในปี 2554


PIMCO ลดการถือครองพันธบัตรสหรัฐและอังกฤษ

แปซิฟิก อินเวสเมนท์ แมเนจเมนท์ (PIMCO) ซึ่งเป็นบริษัทจัดการกองทุนพันธบัตรรายใหญ่สุดของโลก ลดการถือครองพันธบัตรสหรัฐและอังกฤษ หลังจากทั้งสองประเทศมีอัตราการกู้ยืมสูงสุดเป็นประวัติการณ์

พอล แมคคัลลีย์ คณะกรรมการบอร์ดและผู้จัดการพอร์ทของพิมโค กล่าวว่า PIMCO เพิ่มความระมัดระวังในการถือครองพันธบัตร โดยได้ตัดสินใจลดการถือพันธบัตรและตราสารที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยรองรับ (MBS) นอกจากนี้ PIMCO ยังลดการถือครองหลักทรัพย์ที่เป็นเครื่องมือการลงทุนหลีกเลี่ยงความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ

เมอร์ริล ลินช์ คาดการณ์ว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรในสหรัฐและอังกฤษจะสูงขึ้นในปีนี้ หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐร่วงลง 3.7% ในปี 2552 ซึ่งเป็นสถิติที่ร่วงลงหนักสุดในรอบกว่า 30 ปี ขณะที่ยอดขายพันบัตรของสรหัฐร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1930

กองทุนพิมโค โททัล รีเทิร์น ฟันด์ ของบิล กรอส ได้ลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และสามารถกระตุ้นเงินสดหมุนเวียนได้มากที่สุดนับตั้งแต่การล้มละลายของเลห์แมน บราเธอร์สในปี 2551 โดยกองทุน PIMCO มีผลตอบแทนสูงถึง 13.8% ในปีที่แล้ว ซึ่งสูงมากกว่าคู่แข่งรายอื่นๆถึงครึ่งหนึ่ง ส่งผลให้พิมโค โททัล รีเทิร์น ก้าวขึ้นเป็นกองทุนรายใหญ่สุดในประวัติศาสตร์กองทุนโลก ด้วยทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูงถึง 2.025 แสนล้านดอลลาร์ ณ วันที่ 17 ธ.ค.2552


นายกฯญี่ปุ่นเร่งผ่านร่างงบฯ สกัดเศรษฐกิจถดถอย

ยูคิโอะ ฮาโตยามะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวในระหว่างการแถลงข่าวครั้งแรกของปี 2553 เมื่อวานนี้ว่า เขาจะทำทุกวิถีทางที่จะป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นหดตัวรุนแรงมากไปกว่านี้ ด้วยการผ่านร่างงบประมาณการใช้จ่ายในปีงบประมาณปัจจุบันและปีหน้า

ฮาโตยามะกล่าวว่า "เตรียมผ่านร่างงบประมาณการใช้จ่ายประจำปีงบประมาณปีนี้และปีหน้า รวมถึงงบประมาณฉุกเฉินและงบประมาณเพิ่มเติม เพราะจะไม่ยอมปล่อยให้เศรษฐกิจหดตัวรุนแรงอย่างเด็ดขาด

รวมทั้งต้องการให้งบประมาณการใช้จ่ายฉุกเฉินฉบับที่สองมีผลบังคับใช้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และจะผลักดันร่างงบประมาณการใช้จ่ายในปีหน้าให้ได้ข้อสรุปภายในเดือนมี.ค.ปีนี้"

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นยังให้คำมั่นสัญญาว่าจะแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐในเรื่องการย้ายฐานทัพฟูเตมมะของยูเอส มารีน คอร์ป ในเขตโอกินาว่า ให้ได้ภายในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้

นายฮาโตยามะกล่าวว่า เขาไม่มีแผนที่จะปรับคณะรัฐมนตรีก่อนการเลือกตั้งสภาที่ปรึกษาในฤดูร้อนนี้ โดยเขายังคงให้ความสำคัญกับการผ่านร่างงบประมาณการใช้จ่าย เพื่อช่วยเหลือประชาชนและกระตุ้นเศรษฐกิจให้แข็งแกร่งขึ้น

นับตั้งแต่นายฮาโตยามะเข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในเดือนส.ค.2552 คะแนนนิยมของเขาก็หล่นวูบต่ำกว่าระดับ 50% เพราะประชาชนไม่มั่นใจว่าเขาจะสามารถนำพาเศรษฐกิจญี่ปุ่นได้รอดพ้นจากภาวะถดถอย นอกจากนี้ ประชาชนยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่สั่นคลอนระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐ รวมทั้งสถานะการเป็นพันธมิตรกับประเทศเพื่อนบ้านในเอเชีย


จีนเพิ่มเงินอุดหนุนผู้ซื้อรถ หวังกระตุ้นยอดขายรถใหม่

จีนเพิ่มงบประมาณการให้เงินอุดหนุนแก่ผู้นำรถเก่ามาแลกซื้อรถใหม่จากเดิมที่ 5,000 หยวนเป็น 18,000 หยวนต่อคัน เพื่อกระตุ้นยอดขายรถใหม่และส่งเสริมให้มีการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

รัฐบาลจีนได้เริ่มโครงการให้เงินอุดหนุนสำหรับการนำรถเก่ามาขายเพื่อซื้อรถใหม่เมื่อเดือนส.ค. 2552 ในวงเงิน 3,000 - 6,000 หยวนต่อคัน ขึ้นอยู่กับรถแต่ละรุ่น

กระทรวงคลังและกระทรวงพาณิชย์ของจีนได้ออกประกาศเรื่องโครงการเพิ่มเงินอุดหนุนดังกล่าวดังนี้

การให้เงินอุดหนุนสำหรับรถบรรทุกขนาดเล็กจะสูงขึ้นเป็น 6,000 หยวน ขนาดย่อมจะสูงขึ้นเป็น 9,000 หยวน ส่วนขนาดกลางจะสูงขึ้นเป็น 13,000 หยวน และขนาดใหญ่ 18,000 หยวนตามลำดับ

สำหรับรถโดยสารขนาดเล็กจะได้รับเงินอุดหนุนเพิ่มขึ้นเป็น 5,000 หยวน ขนาดย่อม 7,000 หยวน ขนาดกลาง 11,000 หยวน และขนาดใหญ่ 18,000 หยวน

ส่วนรถที่มีขนาดเครื่องยนต์ 1.35 ลิตรหรือมากกว่านั้น จะได้รับเงินอุดหนุนถึง 18,000 หยวน ส่วนรถที่ใช้เครื่องยนต์ 1-1.35 ลิตร จะได้ 10,000 หยวน และ รถที่มีเครื่องยนต์ขนาด 1 ลิตรหรือต่ำกว่านั้น จะได้เงินอุดหนุน 6,000 หยวน

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังจะคุมเข้มเรื่องการควบคุมองค์กรที่ทำหน้าที่รีไซเคิลรถยนต์ที่ไม่มีการใช้งานแล้วในประเทศอีกด้วย


เกาหลีใต้สามารถคุมเงินเฟ้อได้ตามเป้าปี 2549 - 2552

ธนาคารกลางเกาหลีใต้เปิดเผยว่า เกาหลีใต้สามารถคุมเงินเฟ้อได้ตามเป้าหมายระยะกลางระหว่างปี 2549 - 2552 แม้ว่าราคาน้ำมันและอัตราแลกเปลี่ยนจะมีความผันผวนก็ตาม

ดัชนีราคาผู้บริโภคของเกาหลีใต้ขยายตัวโดยเฉลี่ย 3.3% ในปี 2549-2552 ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายเงินเฟ้อที่กำหนดไว้ที่ 2.5-3.5%

เมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว ธนาคารกลางเกาหลีใต้ได้ขยายช่วงเป้าหมายเงินเฟ้อปี 2553-2555 ไว้ที่ 2-4% และชี้ว่า จะพยายามความควบคุมภาวะผันผวนทางเศรษฐกิจด้วยวิธีการที่มีความยืดหยุ่น

ด้านนักวิเคราะห์กล่าวว่า เป้าหมายเงินเฟ้อที่มีการขยายออกไปนั้น จะเปิดโอกาสให้ธนาคารกลางสามารถใช้นโยบายที่ยืดหยุ่นได้


อินโดฯ ตั้งเป้าผลิตข้าวปี 53 ที่ 66.8 ล้านตัน

รัฐบาลอินโดนีเซียประเมินว่า ปริมาณการผลิตข้าวในประเทศปีนี้จะอยู่ที่ 66.8 ล้านตัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่ายอดการผลิตปี 2552 อยู่ 4.45% โดยการผลิตข้าวปีที่แล้วของอินโดนีเซียอยู่ที่ 63.84 ล้านตัน

ฮัตตา ราดจาซา รัฐมนตรีฝ่ายประสานงานเศรษฐกิจอินโดนีเซีย กล่าวว่า รัฐบาลได้จัดส่งปุ๋ย 4.615 ตันแก่เกษตรกร ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 84% ของเป้าหมายเบื้องต้นที่ได้กำหนดไว้

ทางด้านมุสตาฟา อาบูบาคาร์ รัฐมนตรีวิสาหกิจรัฐบาลกล่าวว่า อินโดนีเซียจะสามารถส่งออกข้าวได้ในปีหน้าถึง 1-2 ล้านตัน หากอินโดนีเซียสามารถบรรลุเป้าหมายในการผลิตข้าว

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่ประกาศออกมาเมื่อวานนี้ (จันทร์ที่ 4 ม.ค. 2553)
? ดัชนีภาคการผลิต (ธ.ค.) อยู่ที่ระดับ 55.9 จุด
? ค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้าง (พ.ย.) ลดลง 0.6% จากเดือนก่อนหน้า

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่จะประกาศออกมาวันนี้ (อังคารที่ 5 ม.ค. 2553)
? ยอดสั่งซื้อสินค้าโรงงาน (พ.ย.) โดย กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ
? ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (พ.ย.) โดย สมาคมนายหน้าอสังหาฯ แห่งสหรัฐฯ

ติดตาม Money Wake up ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ออกอากาศซ้ำเวลา 11.00 น. ทาง Money Channel


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: brabus ที่ มกราคม 05, 2010, 10:13:43 AM
สวัสดีค่ะพี่ทองใหม่ ตื่นเช้าทุกวันเลยนะคะ ;D

ขอบคุณสำหรับข้อมูลและกราฟนะคะ angel.gif

ขอโทษที่หนูคุยไม่เก่งนะคะ ได้แต่เข้ามาทักทายและขอบคุณ ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 05, 2010, 10:15:24 AM
สวัสดีปีใหม่ครับคุณทองใหม่ :D  ทองจะขื้นทำ b ครั้งนี้มั้ยครับ
ETFสวนกระแสขายทองช่วงทองขึ้น ยังเนปัญหาที่น่าคิดอยู่ครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 05, 2010, 10:16:19 AM
สวัสดีค่ะพี่ทองใหม่ ตื่นเช้าทุกวันเลยนะคะ ;D

ขอบคุณสำหรับข้อมูลและกราฟนะคะ angel.gif

ขอโทษที่หนูคุยไม่เก่งนะคะ ได้แต่เข้ามาทักทายและขอบคุณ ;D ;D ;D
(http://img268.imageshack.us/img268/7244/id088769.gif) (http://img268.imageshack.us/i/id088769.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: dd999 ที่ มกราคม 05, 2010, 10:26:20 AM
 :)สวัสดีปีใหม่ครับ คุณทองใหม่ ขอบคุณสำหรับข้อมูลและกราฟนะครับ ขอให้คุณทองใหม่มีสุขภาพแข็งแรงมากๆนะครับ ร่ำรวยยิ่งๆขึ้นไปครับ http://upic.me/i/9i/biggrin1.g (http://upic.me/i/9i/biggrin1.g)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 05, 2010, 10:31:11 AM
ผมหาข่าวนี้ตั้งแต่เช้าแล้วเพิ่งเจอ นี่เป็นส่วนหนึ่งของปัจจัยภายนอก
สหรัฐหาทางบีบรัฐบาลและกองกำลังพิทักษ์อิสลามอิหร่าน
วันที่ 2010-01-05 09:30:55 โดย MCOT -

สหรัฐหาทางบีบรัฐบาลและกองกำลังพิทักษ์อิสลามอิหร่าน


วอชิงตัน 5 ม.ค.- นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐเผยว่า ได้เริ่มหารือกับประเทศหุ้นส่วนและประเทศที่มีแนวคิดเดียวกันเพื่อหามาตรการใหม่ในการคว่ำบาตรกดดันรัฐบาลอิหร่าน โดยเฉพาะกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามหวังสกัดโครงการนิวเคลียร์อิหร่านโดยไม่ทำร้ายประชาชนทั่วไป

นางคลินตัน แถลงข่าวร่วมกับเชค ฮาหมัด บิน จาสซิม อัลธานี นายกรัฐมนตรีกาตาร์ว่า สหรัฐพยายามเลี่ยงการกำหนดเส้นตายเพราะต้องการเปิดทางให้มีการเจรจา แต่ก็ได้ประกาศชัดเจนแล้วว่าจะไม่รอคอยอย่างเดียวในขณะที่อิหร่านพูดเรื่องเพิ่มศักยภาพการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียม รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐยังแสดงความไม่พอใจเรื่องทางการอิหร่านปราบปรามผู้ประท้วงที่ไม่พอใจผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีเดือน มิ.ย. และขอแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับผู้ประท้วงอย่างสันติ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ มกราคม 05, 2010, 10:47:23 AM
ขอบคุณค่ะ  คุณทองใหม่ สบายดีนะคะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ มกราคม 05, 2010, 10:54:56 AM
วันนี้โชคดีเข้ามาเจอคุณทองใหม่เมื่อกี้พิมพ์ช้าม่ายยยยยยยยทัน


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ มกราคม 05, 2010, 10:57:11 AM
สามี1117อยู่ค่ะจะปล่อยตอนไหนดีคะหรือซื้อเพิ่มดีคะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ มกราคม 05, 2010, 11:07:46 AM
อุ๊ยงานเข้า  ไปทำงานก่อนนะคะเดี๋ยวบ่ายๆมารอคำแนะนำนะคะ  อ้อใกล้เที่ยงแล้วคุณทองใหม่ทานข้าวให้ตรงเวลานะคะจะได้ไม่ปวดท้องกระเพาะอีก  โชคดีค่ะทานข้าวให้อร่อยนะคะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 05, 2010, 11:11:19 AM
(http://img12.imageshack.us/img12/3237/15052123.gif) (http://img12.imageshack.us/i/15052123.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 05, 2010, 11:20:18 AM
(http://img709.imageshack.us/img709/1141/75737034.gif) (http://img709.imageshack.us/i/75737034.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 05, 2010, 11:28:36 AM
สามี1117อยู่ค่ะจะปล่อยตอนไหนดีคะหรือซื้อเพิ่มดีคะ
หากดูตามกราฟตาแป๊ะ --แป๊ะยิ้มแล้ว ทองกำลังจะขึ้น -------ต้องดูแรงงานนอกภาคเกษตรของเมกาที่จะประกาศในวันศุกร์นี้อีกครั้ง จะชึ้บอกทองจะขึ้นได้อีกนานไหมครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Nata ที่ มกราคม 05, 2010, 11:32:32 AM
ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะคุึณทองใหม่ ...

ตอนนี้ยังไม่ได้ซื้อเลย -*- ช้าไปไหมคะเนี่ย?


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 05, 2010, 11:35:59 AM
กราฟตาแป๊ะซ้ายบน มีการเปลี่ยนแปลงนิดหนี่ง มีคำว่า  ตัวหนังสือสีเขียว ? ---ขาย และ  ตัวหนังสือสีแดง?----ซื้อ  เพิ่มเข้ามา เฉพราะที่เพิ่มเข้ามานิดหน่อยนี้ ผมใช้เวลาศุกร์-เสาร์-อาทิตย์(25--27ธค.52)ทั้ง3วันค้าหาในเวปจีนถึงได้เจอ และเอามาเพิ่มผสมเข้ากับกาฟตาแป๊ะช่องซ้ายบน ยังมิทราบจะแม่นยำแค่ไหน ต้องคอยกาลเวลาบ่งบอกครับ
กราฟตาแป๊ะซ้ายบน ตัวหนังสือสีเขียว ? ---ขาย   ตัวหนังสือสีแดง?----ซื้อ  เส้นสีแดงหนา---ขาขึ้น เส้นสีเขียวหนา---ขาลงขวาบน  เส้นสีแดง---เสนอซื้มากกว่าเสนอขาย เส้นสีเขียว---เสนอขายมากกว่าเสนอซื้อ  ส่วนช่วงกลางที่มีแท่งสีแดงกับเขียวนั้น แท่งแดง---แรงซื้อขึ้น   แท่งเขียว---แรงขายลง
ขวาช่องสอง  แท่งเหลืองคู่เส้นแดง---ขาขึ้น   แท่งฟ้าคู่เส้นเขียว---ขาลง โดยปกติ ช่องนี้จะเปลี่ยนแนวโน้มช้ากว่าเพื่อน หากเปลี่ยนแนวโน้มเมื่อไหร่ เขาให้ขายออกหรือซื้อเข้าได้ทันที่ ยกเว้นมีปัจจัยพื้นฐานแรงๆแทรกเข้ามา จึงจะทำให้แนวโน้มกลับเปลี่ยนได้โดยกะทันหัน
ซ้ายช่องสอง หน้าเหลืองแป๊ะยิ้ม---ขาขึ้น หน้าแดงแป๊ะร้องไห้---ขาลง  แท่งสีเขียว---เพดาน   แท่งสีแดง---พื้นดินโดยปกติ ช่องนี้จะส่งสัญญาณว่า กำลังจะเปลี่ยนแนวทางแล้วนะ แต่ยังไม่เต็มร้อย อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยกะทันหันก็ได้ ต้องดูซ้ายบนและขวาช่อง๒ประกอบด้วย จึงจะให้ความมั่นใจได้
ทอง
(http://img64.imageshack.us/img64/126/53750131.gif) (http://img64.imageshack.us/i/53750131.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 05, 2010, 11:37:10 AM
ดัชนีเงินเมกา
(http://img682.imageshack.us/img682/8347/74160578.gif) (http://img682.imageshack.us/i/74160578.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 05, 2010, 11:48:56 AM
กราฟใหม่ที่กำลังศึกษาอยู่ กราฟรายวันทั้ง6ตัวนี้ ล้วนบอกว่า ทองกำลังจะขึ้น (กราฟใหม่ที่กำลังศึกษาอยู่ นะครับ)
(http://img32.imageshack.us/img32/7191/22748816.gif) (http://img32.imageshack.us/i/22748816.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Jeera ที่ มกราคม 05, 2010, 11:51:20 AM
สวัสดีปีใหม่ค่ะพี่ทองใหม่   :D

สุขภาพร่างกายเป็นยังไงบ้างคะ

ขอให้แข็งแรงมากขึ้นๆสวนทางกับอายุนะคะ   ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 05, 2010, 12:00:04 PM
สวัสดีปีใหม่ค่ะพี่ทองใหม่   :D

สุขภาพร่างกายเป็นยังไงบ้างคะ

ขอให้แข็งแรงมากขึ้นๆสวนทางกับอายุนะคะ   ;D
สาธุ......................สุขภาพช่วงนี้ยังดีอยู่ครับ (http://img268.imageshack.us/img268/7244/id088769.gif) (http://img268.imageshack.us/i/id088769.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Cindy ที่ มกราคม 05, 2010, 02:52:38 PM
สวัสดีปีใหม่ค่ะอาจารย์ ดีใจจังเลยค่ะที่เห็นอาจารย์กลับมาเปิดบ้านอีกครั้ง :)

?????, ??, ??, ?? ???.???.???? :)



หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Yai Carmungwed ที่ มกราคม 05, 2010, 04:36:27 PM
ขอบคุณครับอาจารย์ทองใหม่


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 05, 2010, 04:39:45 PM
กราฟใหม่2010(เรามาช่วยกันใช้กาลเวลาพิสูจน์ว่า กราฟตัวนี้จะมีความขลังเท่ากราฟตาแป๊ะไหม)
1.   ซ้ายบนหน้าเทาขาวและหนังสือสีขาว??ถอนตัว(ขาย)   หน้าแดงและหนังสือสีเหลือง??บุก(ซื้อ)
2.   กลางบน หนังสือสีเขียว??ขาย หนังสือสีแดง??ซื้อ  ส่วนตัวหนังสือสีเหลือง????เส้นหยุดขาดทุน(สำหรับผู้ที่เล่นออนไลน์สั่งป้องกันล่วงหน้าได้เท่านั้น)
3.   ขวาบน  หน้าเทาขาว+ตัวหนังสือ??ถอนตัว(ขาย)     หน้าแดง+ตัวหนังสือสีเหลือง??เข้า
4.   ซ้ายล่าง สีแดง???เพดาน(จะอยู่ช่วงบน)   สีแดง???ซื้อ(จะอยู่ช่วงล่าง)          สีเขียว ????หนีเร็ว หากเครื่องหมาย ?ปรากฏแค่/ยังไม่สมบูรณ์เต็มตัว?เตรียมตัวหนี(จะปรากฏพร้อม   ???เพดาน(จะอยู่ช่วงบน)   )และตัวหนังสือสีเขียว????เจอต่ำซื้อ
5.   กลางล่าง   หน้าเทาขาว?ขาย        หน้าแดง?ซื้อ
6.   ขวาล่าง    เครื่องหมายสีขาว??ขาย           เครื่องหมายสีชมภู??ซื้อ

(http://img121.imageshack.us/img121/9130/50613072.gif) (http://img121.imageshack.us/i/50613072.gif/)
!01 !01
คุณทองใหม่คับ อยากดูกราฟตาแป๊ะ น้ำมันคับ
รบกวนหน่อยคับ !10

กราฟน้ำมันใหม่2510 ใช้แทนกราฟตาแป๊ะครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 05, 2010, 04:45:11 PM
สวัสดีปีใหม่ค่ะอาจารย์ ดีใจจังเลยค่ะที่เห็นอาจารย์กลับมาเปิดบ้านอีกครั้ง :)

?????, ??, ??, ?? ???.???.???? :)


????????????
????????????
????????????
????????????????????????


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Cindy ที่ มกราคม 05, 2010, 06:23:46 PM
สวัสดีปีใหม่ค่ะอาจารย์ ดีใจจังเลยค่ะที่เห็นอาจารย์กลับมาเปิดบ้านอีกครั้ง :)

?????, ??, ??, ?? ???.???.???? :)


????????????
????????????
????????????
????????????????????????
??...?????????????????????! ??? :)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 05, 2010, 06:49:02 PM
Daily Update 5 -01-2010
05 ม.ค. 2553
Gold Market Commentary

ประเด็นสำคัญ
   - ทองปิดพุ่ง 2% หลังดอลล์ร่วง,น้ำมันพุ่ง
   - ดอลล์ร่วงหลังความต้องการเสี่ยงเพิ่ม
   - อากาศหนาวหนุนน้ำมันปิดพุ่ง 2.15 ดอลล์
   - ISM เปิดเผยดัชนีกิจกรรมโรงงานทั่วประเทศเพิ่มขึ้นสู่ 55.9

     ราคาทองที่ตลาดสหรัฐปิดที่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์ในวันจันทร์ โดยพุ่งขึ้น 2% อันเป็นผลจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน และการอ่อนค่าของดอลลาร์ท่ามกลางแรงซื้อหนาแน่นของกองทุนในวันซื้อขายวันแรกของปี 2010  ราคาทองลงมาจากสาเหตุ ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงในวันจันทร์ ขณะที่ความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าลงทุนที่มีความเสี่ยง อาทิ หุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์

    นักวิเคราะห์กล่าวว่า สัญญาทองคำได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง โดยเมื่อวานนี้ ดัชนี ICE Futures US dollar index ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลหลักๆ ร่วงลง 0.4%

     ขณะที่สัญญาโลหะทองแดงพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากมีรายงานว่าเกิดเหตุการณ์ประท้วงหยุดงานที่เหมืองทองแดงของบริษัท โคเดลโค ในประเทศชิลี ซึ่งบริษัทดังกล่าวเป็นผู้ผลิตทองแดงรายใหญ่ของโลกที่สามารถผลิตทองแดงได้ร้อยละ 4 ของปริมาณการผลิตทองแดงทั่วโลก

     ดัชนีการผลิตของสถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2006 ในเดือนธ.ค. ISM เปิดเผยดัชนีกิจกรรมโรงงานทั่วประเทศเพิ่มขึ้นสู่ 55.9 ในเดือนธ.ค.สูงกว่าที่คาดไว้ที่ 54.3 โดยดัชนีที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้การขยายตัว

     กองทุน SPDR Gold trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยว่าทางกองทุนได้ถือครองทองแท่งระดับ 1,128.745 ตัน ณ วันที่ 4 มกราคม 2553 ลดลง 3.963 ตัน จากวันที่ 22 ธันวาคม 2552


      กลยุทธ์ : ราคาทองคำอาจจะอยู่ในช่วงทำกรอบเพื่อแสดงทิศทางแนวโน้มที่ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง ราคาอาจจะขึ้นไปได้อีก 2 วันทำการหรือแนวต้านบริเวณราคา 1040US$ อีกครั้งและแนวรับและแนวจุด Stop Loss 1,090 US$ให้เป็นแนวสำคัญสุดในรอบนี้ถ้าไม่สามารถยืนเหนือ 1090 US$ ได้



หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: JO-JO ที่ มกราคม 05, 2010, 07:42:58 PM
ขอบคุณมาก ๆ ครับ คุณทองใหม่
จะรอดูว่ากราฟตัวใหม่นี้จะแม่นหรือเปล่าครับ


 :)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: prim ที่ มกราคม 05, 2010, 09:55:22 PM

สวัสดีค่ะคุณทองใหม่  ขอบคุณมาก ๆนะคะ  สุขภาพแข็งแรง   ;)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 06, 2010, 06:40:19 AM
 วิธีดูทิศทางทอง ต้าน๓----หนุน๓เป็นทิศทางทองที่จะเคลื่อนไหวในวันนี้ หากพุ่งทะลุต้าน๓หรือดิ่งทะลวงหนุน๓ แสดงถึงวันนั้นทองเคลื่อนไหวแรงเกินปกติ เส้นแดนเป็นเส้นที่จะแบ่งแยกทิศทางของทองที่จะขึ้นหรือลง หากทองเคลื่อนไหวอยู่ในทิศทางใดมากและนาน นั่นหมายถึงโอกาสเป็นไปได้มากที่ทองจะเคลื่อนไปในทิศทางนั้นๆ ในช่วงเวลานั้น (ยังต้องแบ่งออกในช่วงเวลาตลาดเอเซีย ยุโรป เมกาด้วย) ต้าน๑และหนุน๑หากถูกทดสอบแบบมีผล(ขึ้นลงมากกว่า๑ครั้ง)แล้วยืนอยู่ได้ นั่นคือทิศทางทองที่จะเดินต่อไปในช่วงเวลานั้น หากการวิเคราะเกิดขัดแย้งกันเมื่อไหร่ ให้หยุดมองดูอย่างเดียว ไม่ควรซื้อ-ขายในช่วงเวลานั้น แนวทางนี้เหมาะกับการเล่นสั้นมาก (เล่นแบบออนไลน์ในอนาคต) มีความแม่นยำถึง80%ครับ อีกอย่างข่าวปัจจัยพื้นฐานอาจเปลี่ยนทิศทางทองได้กะทันหันนะครับ
ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์กับการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย ถัาติดดอยเมื่อทองต่ำลงมา  หากยังมีเงินเหลืออยู่ ควรซื้อเพิ่ม เพิ่มที่ละนิด ต่ำอีกซื้ออีก เพื่อดึงต้นทุนที่สูงให้ต่ำลงมา ใครที่ยังไม่มีทองในมือควรทยอยซื้อเข้าอย่ามากนัก หากทองลงอีก เราก็ซื้ออีก ดีกว่าเวลาทองขึ้นเราไปไล่ซื้อในราคาที่สูง  จดจำเป็นคติเตือนใจว่า  เรามิอาจซื้อได้ในราคาที่ต่ำสุด และขายได้ในราคาที่สูงสุด ไม่มีการลงทุนใดที่ไม่เสี่ยง การบริหารพอร์ตให้ได้จังหวะ จะลดความเสี่ยงลงได้ครับ
กราฟสำคัญ ปัจจัยพื้นฐานก็สำคัญ จิตวิทยาการโน้มเอียงของคนก็สำคัญ สิ่งเหล่านี้หากเป็นไปในแนวเดียวกัน ก็จะมุ่งไปทางนั้น หากแย้งกันก็ต้องดูฝ่ายไหนเหนือกว่า.....ด้วยเหตุนี้ไม่มีนักวิเคราะห์คนใดที่จะทำนายได้แม่นยำตลอดกาลได้ครับ
(http://img709.imageshack.us/img709/8526/83770284.gif) (http://img709.imageshack.us/i/83770284.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 06, 2010, 06:41:43 AM
เส้นปากถุง(เส้นสีขาวทั้ง๓เส้น)แบบง่ายๆ ไม่ปวดเศียรเวียนเกล้า
เส้นบน---แนวต้าน
เส้นกลาง---แนวโน้ม(สำคัญสุด)
เส้นล่าง---แนวหนุน
ลักษณะที่๑---ทิศทางขึ้นเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น   เส้นกลางหันหัวขึ้น   เส้นล่างหันหัวลง
ลักษณะที่๒---ทิศทางขึ้นเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวขึ้น
เมื่อเจอลักษณะทั้ง๒นี้ ราคาระหว่างวันที่ขึ้นๆลงๆ เมื่อเจอจุดที่เห็นว่าต่ำแล้วให้ซื้อเข้าได้เลยครับ  ขอเพียงเส้นกลาง(แนวโน้ม)ยังหันหัวขึ้นอยู่ แม้ราคาเแท่งเทียนจะอยู่ต่ำกว่าเส้นกลาง ก็ยังซื้อเข้าได้ หากเส้นบนเดินขวางเมื่อไหร่ ให้ทยอยลดพอร์ตได้เลยครับ
ลักษณะที่๓---เลือกทิศทาง---เส้นบนหันหัวลง เส้นล่างหันหัวขี้น ปากถุงแคบลง ถึงช่วงนี้ ให้ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว หากใครยังคิดอยากเคลื่อนไหว ก็จงเคลื่อนไหวไปหน้าทีวี จงอย่าทำการอย่างอื่นใด หากใครเป็นจอมยุทธ์ ก็ชิงเคลื่อนไหวก่อนใครได้  
ขอแถมอีกนิด จงโฟกัสที่เส้นกลาง หากเส้นกลางเริ่มขยบหัวหัวขึ้นหรือลง ทิศทางอาจขึ้นหรือลงตามเส้นกลางแนวโน้มนั้น
ลักษณะที่๔---เคลื่อนไหวในกรอบแคบ---เส้นบน กลาง ล่าง เดินขวางทั้ง๓เส้น หากใครเล่นออนไลน์ สามารถเล่นได้เล็กน้อยอย่ามาก เมื่อราคาแท่งเทียนใกล้เส้นบน จงขาย ใกล้เส้นล่าง จงซื้อ ต้องเข้าออกให้ทันการณ์ หาไม่แล้วจากกำไรอาจขาดทุนได้นา ขอบอก
ลักษณะที่๕---ทิศทางลงเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น เส้นกลางหันหัวลง เส้ยล่างหัวหัวลง
ลักษณะที่๖---ทิศทางลงเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวลง  เมื่อเส้นล่างเดินขวางเมื่อไหร่ ผู้ที่ใจกล้าที่เล่นออนไลน์ เริ่มทยอยซื้อเข้าได้ที่ละนิด อัตราเสี่ยงยังมีอยู่บ้างนะครับ สิบอกไห่
วิธีดูเส้นปากถุงที่กล่าวมานี้ .....ไม่ใช่ตำราของฝรั่ง แบบของฝรั่งผมเคยอ่านมาบ้างแล้ว ยาวมาก ปวดหัว ทำความเข้าใจได้ยากมากๆๆๆๆ ...........เหมาะเฉพาะกราฟราย๔ชม.และช่วงปกติเท่านั้นนะครับ  (บางครั้งตลาดจงใจคึงขึ้นลงอย่าแรงๆ แทบหัวใจวายสำหรับผู้มีทองในมือและผิดทิศทางของตัวเอง เรียกว่า ช่วงไม่ปกติครับ)

(http://img709.imageshack.us/img709/2226/32255111.gif) (http://img709.imageshack.us/i/32255111.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 06, 2010, 06:44:57 AM
กราฟGold 1
ช่อง1 เส้นแดงอยู่เหนือเส้นเขียว---ทิศทางขึ้น  ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น  สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นเขียวอยู่เหนือเส้นแดง---ทิศทางลง     ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นแดงและเขียวประสานเป็นกากะบาด ---กำลังจะเปลี่ยนทิศ ให้ดูเส้นแนวโน้มประกอบ  หากเส้นแดงและเขียวกำลังจะประสาน แต่ไม่ทันได้ประสานก็หันหันหัวกลับขึ้นหรือลง  แสดงว่ากำลังมีเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนี่งเกิดขึ้น หากขึ้นทะลุเส้นปะแนวต้าน ให้ดูเส้นปะแนวต้านเส้นต่อไป หากลงทะลุเส้นปะแนวหนุน ให้ดูเส้นแนวหนุนเส้นต่อไป   ส่วนจุดกลมเหลืองทอง---ทิศทางลง  จุดกลมฟ้า---ทิศทางขึ้น  หากกราฟวิ่งในยามปกติ พอเชื่อถือได้ หากกราฟวิ่งขึ้นลงแรงๆ คือยามไม่ปกติ ไม่อาจเชือถือได้
ช่อง2  ให้ดูเส้นสีม่วง ประกอบกับเส้นแนวโน้มในช่อง1 หากหันหัวไปในทิศทางเดียวกัน  โอกาสที่จะผิดพลาดก็มีน้อย  ส่วนเส้นปะสีเหลืองทองและฟ้า  หากขึ้นเหนือเลข80 เข้าสู่เขตซื้อเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ทุกเมื่อ  หากลงต่ำกว่าเลข20 เข้าสู่เขตขายเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ตลอดเวลา
ช่อง3   ให้ดูทั้ง2เส้น คือเหลืองทองและฟ้า หันหัวไปทิศทางเดียวกันหรือไม่  เท่านั้นยังไม่พอ  ให้ดูประกอบทิศทางในช่อง1ว่าเป็นทิศทางเดียวกันหรือไม่  หากทิศทางหันหัวในแนวเดียวกัน  ทิศทางนั้นเชื่อถือได้

(http://img17.imageshack.us/img17/7422/86741274.gif) (http://img17.imageshack.us/i/86741274.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 06, 2010, 06:45:21 AM
กราฟGold 1
ช่อง1 เส้นแดงอยู่เหนือเส้นเขียว---ทิศทางขึ้น  ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น  สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นเขียวอยู่เหนือเส้นแดง---ทิศทางลง     ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นแดงและเขียวประสานเป็นกากะบาด ---กำลังจะเปลี่ยนทิศ ให้ดูเส้นแนวโน้มประกอบ  หากเส้นแดงและเขียวกำลังจะประสาน แต่ไม่ทันได้ประสานก็หันหันหัวกลับขึ้นหรือลง  แสดงว่ากำลังมีเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนี่งเกิดขึ้น หากขึ้นทะลุเส้นปะแนวต้าน ให้ดูเส้นปะแนวต้านเส้นต่อไป หากลงทะลุเส้นปะแนวหนุน ให้ดูเส้นแนวหนุนเส้นต่อไป   ส่วนจุดกลมเหลืองทอง---ทิศทางลง  จุดกลมฟ้า---ทิศทางขึ้น  หากกราฟวิ่งในยามปกติ พอเชื่อถือได้ หากกราฟวิ่งขึ้นลงแรงๆ คือยามไม่ปกติ ไม่อาจเชือถือได้
ช่อง2  ให้ดูเส้นสีม่วง ประกอบกับเส้นแนวโน้มในช่อง1 หากหันหัวไปในทิศทางเดียวกัน  โอกาสที่จะผิดพลาดก็มีน้อย  ส่วนเส้นปะสีเหลืองทองและฟ้า  หากขึ้นเหนือเลข80 เข้าสู่เขตซื้อเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ทุกเมื่อ  หากลงต่ำกว่าเลข20 เข้าสู่เขตขายเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ตลอดเวลา
ช่อง3   ให้ดูทั้ง2เส้น คือเหลืองทองและฟ้า หันหัวไปทิศทางเดียวกันหรือไม่  เท่านั้นยังไม่พอ  ให้ดูประกอบทิศทางในช่อง1ว่าเป็นทิศทางเดียวกันหรือไม่  หากทิศทางหันหัวในแนวเดียวกัน  ทิศทางนั้นเชื่อถือได้

(http://img17.imageshack.us/img17/7422/86741274.gif) (http://img17.imageshack.us/i/86741274.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ มกราคม 06, 2010, 07:25:15 AM
สวัสดีตอนเช้าค่ะคุณทองใหม่  ขยันจังเลยนะคะ ว้นนี้แปะยังยิ้มอยู่รึเปล่าคะเมื่อวานเห็นตาแปะยังยิ้มได้เลยกัดฟันโดดเข้าตอน1125จะมีโอกาสได้ออกในอาทิตย์นี้มั๊นคะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 06, 2010, 07:39:19 AM
สวัสดีตอนเช้าค่ะคุณทองใหม่  ขยันจังเลยนะคะ ว้นนี้แปะยังยิ้มอยู่รึเปล่าคะเมื่อวานเห็นตาแปะยังยิ้มได้เลยกัดฟันโดดเข้าตอน1125จะมีโอกาสได้ออกในอาทิตย์นี้มั๊นคะ
ตาแป๊ะยังยิ้มอยู่จ้า แล้วจะรีบออกไปไหนจ๊ะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 06, 2010, 07:44:08 AM
ทองคำปิด+40เซนต์   
 วันพุธที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2553 07:28

แรงซื้อเก็งกำไรหนุนราคาทองคำนิวยอร์กปิดบวก40เซนต์

สัญญาทองคำตลาดโคแม็กซ์ ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดที่ 1,118.70 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 40.00 เซนต์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,115.50-1,129.60 ดอลลาร์ ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 17.80 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 33.70 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 0.75 เซนต์ ปิดที่ 3.4135 ดอลลาร์/ปอนด์ ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 1,537.80 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 13.90 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 421.95 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 55.00 เซนต์

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 ม.ค.) เนื่องจากแรงซื้อเก็งกำไร หลังจากมีกระแสคาดการณ์ว่าสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐจะอ่อนตัวลงอีก นับตั้งแต่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ มกราคม 06, 2010, 09:15:29 AM
ขอบคุณค่ะคุณทองใหม่...แป๊ะยิ้มอยู่หนูก็ยิ้มได้ค่ะถ้าแป๊ะจะร้องไห้เมื่อไหร่ก็บอกล่วงหน้าด้วยนะคะ คุณทองใหม่รักษาสุขภาพด้วยนะคะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 06, 2010, 10:21:49 AM
จีนหวั่นต่างชาติแห่เก็งกำไรค่าเงินหยวน หลังคาดการณ์ว่าเงินหยวนจะแข็งค่าขึ้น

Posted on Wednesday, January 06, 2010
ต่างชาติแห่เก็งกำไรหยวนจากคาดการณ์หยวนแข็งค่า

นายจาง เสี่ยวเจียง รองผู้อำนวยการคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) คาดการณ์ว่า จะมีเม็ดเงินจากนักลงทุนต่างชาติไหลเข้ามาเก็งกำไรสกุลเงินหยวนในประเทศจีนจำนวนมาก

เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าสกุลเงินหยวนจะแข็งค่าขึ้น ซึ่งจะทำให้ทางการจีนประสบความยากลำบากในการจัดการกับสภาพคล่องที่มีอยู่มากเกินไป

นายจางกล่าวผ่านเว็บไซต์ของ NDRC เมื่อวานนี้ว่า นโยบายการเงินแบบผ่อนปรนของกลุ่มชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ รวมทั้งความอ่อนแอของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และเศรษฐกิจจีนที่ฟื้นตัวขึ้น จะส่งผลให้เงินหยวนของจีนแข็งค่าขึ้น

พร้อมกับกล่าวว่า อัตราการลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นในปี 2552 อาจทำให้จีนกลายเป็นประเทศที่ต้องพึ่งพาเศรษฐกิจต่างประเทศมากขึ้น

ขณะที่ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนพุ่งขึ้น 17% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2552 แตะที่ระดับ 2.27 ล้านล้านดอลลาร์ ทำให้จีนเป็นประเทศที่มีทุนสำรองเงินตราต่างประเทศสูงสุดของโลก ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ธนาคารกลางจีนแทรกแซงตลาดด้วยการเข้าซื้อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเพื่อสกัดการแข็งค่าของเงินหยวน

ทั้งนี้ การที่ค่าเงินในเอเชียแข็งค่าขึ้นมากในปีที่แล้วทำให้ประเทศในเอเชียเสียเปรียบในตลาดการค้าโลก เพราะสกุลเงินที่แข็งค่าทำให้ราคาสินค้าเพื่อการส่งออกมีราคาแพงขึ้น

จีนตรึงค่าเงินหยวนไว้ที่ระดับ 6.83 หยวนต่อดอลลาร์นับตั้งแต่เดือนก.ค.ปี 2551 เพื่อช่วยให้กลุ่มผู้ส่งออกของจีนสามารถรับมือกับวิกฤตการณ์การเงินโลกได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่าของจีน ยืนกรานว่าจีนจะไม่ยอมทำตามข้อเรียกร้องของนานาชาติที่ต้องการให้จีนปรับขึ้นคาเงินหยวน

นักวิเคราะห์จากเอสเจเอส มาร์เก็ตส์ คาดการณ์ว่า สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐจะร่วงลง 6% ในไตรมาสแรกปีนี้ เนื่องจากนักลงทุนแห่ซื้อสินทรัพย์ในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ โดยดัชนี Dollar Index ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของ 6 สกุลเงินที่เป็นคู่ค้าของสหรัฐ ร่วงลง 4% ในเดือนธ.ค. ขณะที่สกุลเงินรูเปียห์ของอินโดนีเซียและเงินวอนเกาหลีใต้ ทะยานขึ้นกว่า 15% ในปีที่แล้ว


Dow Jones ติดลบ หลังตลาดบ้านมือสองร่วง ขณะคำสั่งซื้อภาคโรงงานบวก

นักลงทุนตลาดวอลล์สตรีทถือโอกาสขายหุ้นทำกำไร หลังรายงานสภาวะตลาดบ้านสร้างความน่าผิดหวัง โดยในครั้งนี้เป็นการเปิดเผยจำนวนสัญญาจะซื้อจะขายบ้านมือสอง ที่ออกมาร่วงลงมากกว่าตลาดคาดในเดือนพฤศจิกายน ด้วยเหตุผลที่ผู้ซื้ออาจตัดสินใจรอการต่ออายุมาตรการจูงใจทางภาษีจากรัฐสำหรับผู้ซื้อบ้านหลังแรกในขณะนั้น จนทำให้จำนวนสัญญาดังกล่าวออกมาร่วงลงถึง 16% หลังจากที่เคยเพิ่มขึ้นเกือบ 4% ในเดือนตุลาคม และถือเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 10 เดือนอีกด้วย

และที่น่าเป็นห่วงยิ่งกว่านั้นก็คือ แนวโน้มจากนี้ที่ตลาดบ้านอาจยังแวดล้อมด้วยความเสี่ยงต่อไป เมื่อมาตรการจูงใจทางภาษีที่ถูกต่ออายุมาแล้วครั้งหนึ่งจะสิ้นสุดลงในปีนี้ ขณะเดียวกับที่อัตราการว่างงานยังอยู่ใกล้เคียงกับระดับสูงสุดในรอบ 26 ปี และยังไม่รวมถึงสถานการณ์ด้านการเงินของผู้บริโภคที่ยังเป็นตัวขัดขวางยอดขายบ้าน หลังจากที่ครั้งหนึ่งเคยมีผู้หวังว่าตลาดบ้านจะเป็นปัจจัยเกื้อหนุนต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในรอบนี้

อย่างไรก็ดี เมื่อคืนที่ผ่านมากลับมีอีกหนึ่งรายงานที่โผล่มาช่วยให้นักลงทุนใจชื้นขึ้นได้บ้าง เมื่อกระทรวงพาณิชย์รายงานยอดคำสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรม ขยับขึ้นมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ ซึ่งเหตุผลหลักๆ ก็มาจากการเพิ่มของออเดอร์สินค้าที่เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในภาคธุรกิจ จนทำให้ยอดบุ๊คกิ้งโดยรวมเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 7 ในรอบ 8 เดือนล่าสุด

นอกจากนี้ ภาพรวมของตลาดรถยนต์ในเดือนธันวาคมส่งสัญญาณว่าธุรกิจเริ่มที่จะทรงตัวได้ หลัง Ford Motor, Toyota Motor และ Honda Motor ต่างรายงานยอดขายที่เพิ่มขึ้น และดีกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ สำหรับมุมมองแนวโน้มอุตสาหกรรมรถสหรัฐฯ ในปีนี้ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก Center for Automotive Research มองว่า ยอดขายทั้งปี 2010 อาจจะเพิ่มขึ้นถึง 19% มาอยู่ที่ 12.4 ล้านคัน จากความต้องการรถใหม่และสภาวะสินเชื่อผู้บริโภคที่กำลังมีทิศทางดีขึ้น เช่นเดียวกับ มุมมองของผู้ผลิตรถเองที่คิดว่าในปีนี้ยอดขายน่าจะกลับมาสดใส เมื่อดูจากความเห็นของบริษัท Chrysler ที่คาดว่ายอดขายของทั้งอุตสาหกรรมจะอยู่ที่ 10.8 ล้านคัน ขณะ Ford คาดว่าตัวเลขจะอยู่ที่ 12.3 ล้านคัน

กลับมาดูที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่แม้ว่าจะมีแรงขายหุ้นทำกำไร แต่หุ้นส่วนใหญ่กลับยังบวกขึ้นได้ในช่วงปิดตลาด ส่งผลให้ S&P 500 สามารถยืนหยัดอยู่ได้แถวระดับสูงสุดในรอบ 15 เดือน นำโดย หุ้นกลุ่มแบงก์ ที่บวกขึ้นมาเป็นวันที่ 9 ไปจนถึงหุ้นกลุ่มพลังงานที่ได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมัน


จับตาหุ้น IPO อาจถ่วงดัชนีหุ้นตลาดเกิดใหม่ร่วงปีนี้

ในขณะที่ทุกอย่างกำลังดูดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจหรือแนวโน้มราคาหุ้น ทางด้านกูรูนักลงทุนชื่อดัง อย่าง Mark Mobius ก็ออกโรงเตือนนักลงทุนในประเทศตลาดเกิดใหม่ว่า หุ้นเข้าเทรดใหม่หรือหุ้น IPO ในกลุ่มประเทศเหล่านี้กำลังจะกลายเป็นตัวดึงดูดเม็ดเงินอย่างมาก แทนที่จะเป็นบริษัทในประเทศอุตสาหกรรมเหมือนอย่างที่เคยเป็น

สถานการณ์นี้ Mobius มองว่า อาจจะทำให้ดัชนีหุ้นของ Emerging markets ร่วงลงได้ถึง 20% เลยทีเดียว

ในอีกด้านหนึ่ง ข้อมูลจากฝ่ายงานที่ดูแลเรื่องหลักทรัพย์ของ Barclays ในนิวยอร์ก ชี้ให้เห็นว่า สภาวะเศรษฐกิจที่เร่งตัวของประเทศจีน อินเดีย และบราซิล ช่วยทำให้ดีล IPO เพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุด ด้วยจำนวนการออกขายหุ้นใหม่ถีบตัวขึ้นถึงเกือบ 2 เท่า มาอยู่ที่ 200,000 ล้านเหรียญ ขณะที่ทางด้านประเทศโปแลนด์เพียงที่เดียวก็มีผู้คาดการณ์ว่า บริษัทที่เป็นรัฐวิสาหกิจอาจจะออกหุ้นขายที่มีมูลค่าสูงกว่า 10,000 ล้านเหรียญ

และนอกจากเรื่องการออกหุ้นใหม่ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นแล้ว ปัจจัยกดดันยังอยู่ที่เรื่องมูลค่าหุ้นในตลาดที่ทำการซื้อขายอยู่ ณ ระดับราคาสูงสุด เมื่อเทียบกับผลกำไรของตัวเองหากย้อนหลังไปจนถึงปี 2543 หลังจากที่ดัชนี Emerging market กระโดดขึ้นมาราว 75% นอกจากเรื่องที่บริษัทต่างๆ ในประเทศเหล่านี้ระดมทุนผ่านการออกหุ้นใหม่ที่สูงถึง 77,000 ล้านเหรียญ

ตามข้อมูลของ Bloomberg ที่รวบรวมไว้ แสดงให้เห็นว่า การออกหุ้นใหม่ในประเทศกำลังพัฒนามีมูลค่าที่แซงหน้าประเทศที่พัฒนาแล้วไปถึงกว่า 160% และเป็นครั้งแรกที่ประเทศอุตสาหกรรมดึงดูดเม็ดเงินจากการทำ IPO น้อยกว่า

Mark Mobius ในฐานะผู้บริหารกองทุนยักษ์ใหญ่ Templeton Asset Management บอกว่า ถ้ายิ่งดูขนาดของจำนวนการออกหุ้นใหม่เหล่านี้ ก็ยิ่งน่าเป็นห่วงถึงเรื่องซัพพลายที่กำลังจ่อเข้าตลาดอยู่อย่างมหาศาล แม้ว่าราคาหุ้น IPO บางตัวจะดูสมเหตุสมผลก็ตาม ซึ่งเขาเองก็คาดว่าน่าจะมีปัจจัยที่เป็นอุปสรรคจนฉุดตลาดร่วงลงได้บ้าง

ถ้าดูเฉพาะในส่วนของตลาดจีน ก็มีการประเมินโดยบริษัท Ernst & Young และ Bloomberg ว่า ในปีนี้มูลค่าหุ้น IPO ที่ตลาดเซี่ยงไฮ้อาจจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่า มาอยู่ที่ 380,000 ล้านหยวน หรือราว 56,000 ล้านเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นฮ่องกง ตัวเลขอาจจะอยู่ที่ 370,000 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณ 48,000 ล้านเหรียญ ซึ่งถ้าหากรวมกันทั้งสองตลาด ตัวเลขก็จะพุ่งสูงกว่ามูลค่าหุ้น IPO ในสหรัฐฯ ที่มีนักวิเคราะห์ประเมินไว้ว่า น่าจะอยู่แถวๆ 40,000-50,000 ล้านดอลลาร์ในปีนี้


นักลงทุนหวั่น ?สัมพันธ์สหรัฐ-จีน? ฉุดการลงทุนปี 53

ยูเรเซีย กรุ๊ป เผยรายงานปัจจัยเสี่ยงสำหรับนักลงทุนทั่วโลกประจำปี 2553 จำนวน 10 อันดับ ในชื่อ ''Top Risks for 2010'' โดยปัจจัยเสี่ยงอันดับที่ 1 ได้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐ อันดับที่ 2 คือ อิหร่าน อันดับ 3 ได้แก่ ความหลากหลายทางการเงินของยุโรป ขณะที่ญี่ปุ่นติดอันดับที่ 5

รายงานชี้ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐติดอันดับ 1 เพราะอัตราว่างงานสหรัฐยังอยู่ในระดับสูงและการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีนจะยิ่งทวีความตึงเครียดในปีนี้ และสำหรับจีนเองนั้น การเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจกับสหรัฐดูเหมือนว่า ความสัมพันธ์ดังกล่าวจะมีความดึงดูดใจน้อยกว่าช่วง 2-3 ปีที่แล้ว

ในขณะที่การเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐจะมีขึ้นในเดือนพ.ย. คาดว่า จะมีการใช้การเมืองกดดันนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนมากขึ้น

รวมถึงเรื่องความตึงเครียดด้านนโยบายการลงทุนทั้งในสหรัฐและจีน การวิจารณ์อย่างรุนแรงของจีนเมื่อประธานาธิบดีโอบามาผลักดันเรื่องเพดานการค้าเข้าสู่ที่ประชุมวุฒิสภา ความตึงเครียดทางการค้าที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะเรื่องเหล็ก และประเด็นต่างๆที่เกี่ยวกับความปลอดภัยบนระบบอินเทอร์เน็ต

สำหรับประเด็นเรื่องอิหร่านกลายเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ 2 นั้น เพราะในรายงานระบุว่า อิหร่านดูเหมือนสัตว์ที่ถูกต้อนจนมุมและบาดเจ็บมากขึ้น ปีนี้จึงดูเหมือนว่า จะมีการลงมือทำอะไรสักอย่างออกมา

ขณะที่ยุโรปซึ่งรั้งปัจจัยเสี่ยงอันดับที่ 3 นั้น เนื่องจากยังไม่เห็นว่ามีความชัดเจนในเรื่องความแตกต่างระหว่างตลาดเกิดใหม่และตลาดที่อิ่มตัวแล้วในเขตเศรษฐกิจที่ใช้สกุลเงินยูโรในปีนี้

สำหรับอันดับที่ 5 นั้น รายงานระบุว่า การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่ในญี่ปุ่นถือเป็นการปรับโฉมหน้าญี่ปุ่น โดยมีการคาดการณ์ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นภายใต้การนำของนายยูคิโอะ ฮาโตยามะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นจะอยู่ไม่ครบปีในปีนี้

เนื่องจากนโยบายของรัฐที่ไม่ได้เป็นไปในแนวทางเดียวกันกับความต้องการของธุรกิจขนาดใหญ่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นทางการเงิน และทำให้เกิดความกังวลว่า ญี่ปุ่นอาจจะต้องเผชิญกับภาวะถดถอยอีกครั้งในปีนี้

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ปัจจัยเสี่ยงที่ติดอันดับอีก 6 อันดับ ได้แก่ กฎระเบียบด้านการเงินของสหรัฐ การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ บราซิล อินเดียและปากีสถาน ยุโรปตะวันออก และตุรกี


เยอรมนีเผยว่างงานลดลง หลังส่งออกฟื้น

สถานการณ์ในตลาดแรงงานของเยอรมนีปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น หลังรัฐบาลใช้มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจซึ่งช่วยหนุนเศรษฐกิจของประเทศให้ฟื้นตัวจากภาวะถดถอย

ขณะที่ยอดส่งออกมีแนวโน้มขยายตัวสดใส ทำให้ล่าสุดตัวเลขว่างงานของเยอรมนีปรับตัวลดลงเหนือความคาดหมายในเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา

กระทรวงแรงงานของเยอรมนีรายงานว่า จำนวนคนตกงานในเดือนธ.ค.ปรับตัวลดลง 3,000 ราย เหลือ 3.42 ล้านราย ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าอาจจะเพิ่มขึ้นราว 5,000 ราย นอกจากนี้ ตัวเลขผู้ว่างงานยังทำสถิติลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 ขณะที่อัตราว่างงานยังทรงตัวที่ระดับ 8.1%

ด้านนักวิเคราะห์ชื่อดังมองว่า ตลาดแรงงานเยอรมนี ซึ่งเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในยุโรปนั้นเริ่มฟื้นตัวขึ้นแล้ว จากอานิสงส์ของยอดสั่งซื้อสินค้าที่กระเตื้องขึ้นในภาคอุตสาหกรรมการผลิตบางประเภท

ขณะเดียวกัน เม็ดเงินหมุนเวียนในระบบที่เพิ่มขึ้นอันเป็นผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลยังมีส่วนช่วยกระตุ้นตลาดแรงงานด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ เศรษฐกิจเยอรมนีขยายตัว 0.7% ในไตรมาส 3 หลังจากที่สามารถหลุดพ้นจากภาวะถดถอยได้ในไตรมาส 2

ขณะที่ยอดส่งออกของเยอรมนีเริ่มขยายตัวในเดือนต.ค. ท่ามกลางภาวะที่เศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว โดยรัฐบาลทั่วโลกต่างอัดฉีดเงินหลายพันล้านดอลลาร์ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจยุโรปเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปีนี้


รมว.คลังญี่ปุ่นเสนอตัวลาออก ด้วยปัญหาสุขภาพ

นายฮิโรฮิสะ ฟูจิอิ รัฐมนตรีกระทรวงคลังญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้มีอาวุโสสูงสุดในคณะรัฐบาลญี่ปุ่นชุดนี้ ด้วยวัย 77 ปี ขอลาออกจากตำแหน่ง โดยให้เหตุผลเรื่องสุขภาพ หลังจากที่เขาต้องเข้ารับการตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2552

สาเหตุเพราะโหมงานร่างงบประมาณปี 2553 อย่างหนักจนทำให้เขามีอาการความดันโลหิตสูงและอ่อนเพลียอย่างมาก

ก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับสุขภาพของตนเองว่า อาจจะทำให้เขาไม่สามารถเข้าร่วมการประชุมรัฐสภาสมัยหน้าได้ พร้อมกับยืนยันว่า เขาจะปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพหลังจากนี้

รัฐสภาญี่ปุ่นมีกำหนดการประชุมในเดือนนี้ ซึ่งปกติแล้วรมว.คลังจะต้องตอบคำถามจากฝ่ายวุฒิสมาชิกเกี่ยวกับงบประมาณที่ได้มีการนำเสนอ นักวิเคราะห์มองว่า หากนายฟูจิอิไม่สามารถทำหน้าที่ได้เพราะเหตุผลเรื่องสุขภาพ ก็ควรจะมีการเปลี่ยนตัวรมว.คลัง

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า หากนายฟูจิอิลาออกจากตำแหน่ง การจัดทำนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลญี่ปุ่นภายใต้การนำของนายยูคิโอะ ฮาโตยามะ นายกรัฐมนตรีก็จะได้รับผลกระทบอย่างหนัก เนื่องจากเขาเป็นผู้มีประสบการณ์ในด้านนี้มานาน และครม.ชุดใหม่นี้ก็มีสมาชิกเพียงไม่กี่คนที่มีประสบการณ์ยาวนานทั้งการเมืองและเศรษฐกิจ ด้านนายกรัฐมนตรี ฮาโตยามะให้ความเห็นต่อประเด็นดังกล่าวว่า ยังไม่ได้ตัดสินใจในเรื่องนี้


ยอดขายรถใหม่ในญี่ปุ่นพุ่ง รับแผนกระตุ้นซื้อรถ

สมาคมผู้ค้ายานยนต์ของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดขายรถยนต์ใหม่ในญี่ปุ่นประจำเดือนธ.ค. รวมถึงรถยนต์ส่วนบุคคล รถบรรทุก และรถบัส พุ่งขึ้น 36.5% จากปีที่แล้ว แตะที่ 250,474 คัน ทำสถิติเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 หลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นใช้มาตรการสร้างแรงจูงใจให้ผู้บริโภคซื้อรถยนต์ประหยัดพลังงาน

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป สามารถทำยอดขายได้สูงสุด รวมถึงยอดขายรถยนต์เล็กซัส โดยยอดขายค่ายโตโยต้าพุ่งขึ้น 52.4% แตะที่ 115,467 คัน

ส่วนยอดขายจากค่ายซูซูกิ มอเตอร์ คอร์ป เป็นเพียงบริษัทเดียวที่มียอดขายร่วงลง 18.7% แตะที่ 3,781 คัน

อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาตลอดทั้งปี 2552 ยอดขายรถยนต์ในญี่ปุ่นลดลงไป 9.1% แตะที่ 2.92 ล้านคัน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 6 ปี


เกาหลีใต้ ตั้งเป้าดึงเงิน FDI สูงสุดในรอบ 10 ปี

รัฐบาลเกาหลีใต้ ตั้งเป้าที่จะดึงดูดเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ (FDI) ให้ได้ 13,000 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ ซึ่งนับเป็นยอดที่เพิ่มสูงขึ้นถึง 13% จากปีที่แล้ว ซึ่งมูลค่า FDI นี้ถือว่าเป็นระดับที่สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2543 (เกาหลีใต้ได้รับ FDI วงเงิน 15,300 ล้านดอลลาร์) โดยทางรัฐบาลประกาศว่าจะมุ่งความสนใจไปยังการสร้างงานมากยิ่งขึ้น

ขณะที่ยอดการส่งออกนั้น ทาง ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า (EXIM Bank) ของเกาหลีใต้ คาดการณ์ว่า ยอดส่งออกของเกาหลีใต้จะขยายตัวขึ้นกว่า 30% ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัวขึ้น และราคาสินค้าปรับตัวเพิ่มขึ้น

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่ประกาศออกมาเมื่อวานนี้ (อังคารที่ 5 ม.ค. 2553)
? ยอดสั่งซื้อสินค้าโรงงาน (พ.ย.) เพิ่มขึ้น 1.1% จากเดือนก่อนหน้า
? ดัชนียอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (พ.ย.) อยู่ที่ระดับ 96 จุด ลดลง 16% จากเดือนก่อนหน้า

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่จะประกาศออกมาวันนี้ (พุธที่ 6 ม.ค. 2553)
? ตัวเลขสต็อกน้ำมันสำรองประจำสัปดาห์ โดย EIA

ติดตาม Money Wake up ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ออกอากาศซ้ำเวลา 11.00 น. ทาง Money Channel
 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 06, 2010, 10:50:20 AM
ประเด็นสำคัญ
  - ราคาทองลดแรงบวกของช่วงแรกมาปิดขยับขึ้นเล็กน้อย
  - ดอลล์ร่วงเทียบเยนหลังข้อมูลยอดขายบ้านร่วงเกินคาด
  - อากาศหนาวหนุนน้ำมันดิบปิดบวก 26 เซนต์
  - ยอดขายบ้านที่รอปิดการขายลดลง 16% ในเดือนพ.ย.


   ราคาทองที่ตลาดสหรัฐลดแรงบวกของในช่วงแรก มาปิดขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยในวันอังคาร ในขณะที่ดอลลาร์แข็งค่าในการซื้อขายที่ผันผวน หลังการเปิดเผยข้อมูลยอดขายบ้านที่น่าผิดหวังของสหรัฐ ซึ่งบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาดทอง ทองได้รับแรงกดดัน หลังจากที่ดอลลาร์แข็งแกร่งขึ้นในช่วงท้ายหลังรายงานในช่วงเช้าที่แสดงว่า ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ลดลง 16 % ในเดือนพ.ย.

   การลดลงอย่างมากของยอดขายบ้านที่รอปิดการขาย ซึ่งลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 9 เดือน ได้เพิ่มความวิตกเกี่ยวกับตลาดที่อยู่อาศัย และสกัดกั้นการปรับตัวขึ้นของตลาดโดยรวม

   รัฐบาลสหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อของโรงงานเพิ่มขึ้นมากเกินคาดในเดือนพ.ย.ซึ่งบ่งชี้ว่า ภาคการผลิตจะยังคงสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

   สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเปิดเผยยอดขายบ้านที่รอปิดการขายลดลง 16% ในเดือนพ.ย.เมื่อเทียบกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ว่าจะลดลงเพียง 2% แต่หุ้นกลุ่มก่อสร้างบ้านส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นและหนุนดัชนีดาวโจนส์กลุ่มก่อสร้างบ้านบวก 1.8%

   เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสิ้นไตรมาสแรกของปี 2011 ขณะที่ดีลเลอร์บางรายคาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดดอกเบี้ยในไตรมาส 2 ของปีนี้

   กองทุน SPDR Gold trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยว่าทางกองทุนได้ถือครองทองแท่งระดับ 1,128.745 ตัน ณ วันที่ 5 มกราคม 2553 ลดลง 3.963 ตัน จากวันที่ 4 มกราคม 2553

  กลยุทธ์ : ราคาทองคำอาจจะใกล้เป้าหมายระยะสั้นที่แนวประมาณ 1133 US$ อาจจะลดความเสี่ยงลดการถือคลองออกมาก่อน เพราะถ้าราคาทองปรับตัวลงแล้วไม่สามารถยืนเนื่องระดับราคาแนว 1100 US$ จะมีการปรับตัวลงอย่างรุนแรงอีกรอบ ถึง 50 US$ ติดตามมาได้
แนวจุด Stop Lose ที่แนวระดับราคา 1100 US$




หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 06, 2010, 10:55:13 AM
USA:น้ำมัน NYMEX อ่อนตัวลงเช้านี้ หลังสต็อกน้ำมันสหรัฐสูงเกินคาด (6 ม.ค.--รอยเตอร์)

06 ม.ค. 2553


USA:น้ำมัน NYMEX อ่อนตัวลงเช้านี้ หลังสต็อกน้ำมันสหรัฐสูงเกินคาด
   

        สัญญาน้ำมันดิบสหรัฐปรับตัวลงในช่วงเช้านี้ หลังจากปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ
เกือบ 15 เดือนเมื่อวานนี้ ภายหลังข้อมูลระบุว่า สต็อกน้ำมันกลั่นของสหรัฐเพิ่มขึ้น
มากเกินคาด แม้สต็อกน้ำมัน heating oil ลดลงก็ตาม
        ณ เวลา 08.57 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนก.พ.ที่ตลาด
NYMEX ลดลง 14 เซนต์ อยู่ที่ 81.63 ดอลลาร์/บาร์เรลในการซื้อขายช่วงเช้านี้
ผ่านระบบอิเล็คทรอนิค Globex หลังจากปิดวานนี้เพิ่มขึ้น 26 เซนต์ ที่ 81.77
ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดตั้งแต่ต้นเดือนต.ค.2008
        สัญญาน้ำมันเดือนก.พ.พุ่งขึ้นแตะระดับ 82.00 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อวานนี้
ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของปี 2009 ที่เคยทำไว้ในเดือนต.ค.ปีที่แล้ว
        การปิโตรเลียมสหรัฐ (API) รายงานหลังปิดตลาดวานนี้ว่า สต็อกน้ำมันกลั่น
ของสหรัฐเพิ่มขึ้น 962,000 บาร์เรลในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 1 ม.ค. เมื่อเทียบกับ
การคาดการณ์ในผลสำรวจของรอยเตอร์ที่ว่าจะลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล, สต็อกน้ำมัน
heating oil ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล, สต็อก
น้ำมันดิบลดลงเกินคาด 2.3 ล้านบาร์เรล แต่สต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 5.6 ล้านบาร์เรล
        ราคาน้ำมันปิดบวกขึ้นเมื่อวานนี้ ในขณะที่ภาวะอากาศหนาวเย็นในสหรัฐ
และยุโรปกระตุ้นความต้องการใช้เชื้อเพลิงทำความร้อน
        คาดกันว่าอุณหภูมิที่หนาวเย็นจะส่งผลให้อุปสงค์ในการทำความร้อนในสหรัฐ
อยู่ในระดับสูงกว่าปกติราว 21 % และอุปสงค์ในน้ำมัน heating oil อาจอยู่สูงกว่า
ปกติราว 11 % ในขณะที่อุณหภูมิในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐอาจอยู่ในระดับ
ใกล้ปกติหรือต่ำกว่าปกติ โดยภาคตะวันเฉียงเหนือของสหรัฐ ถือเป็นตลาดน้ำมัน
heating oil ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 06, 2010, 10:56:57 AM
บาท/ดอลลาร์เช้านี้ทรงตัว แต่ยังมีโอกาสแข็งค่าตามสกุลเงินภูมิภาค (6 ม.ค.--รอยเตอร์ )

06 ม.ค. 2553


บาท/ดอลลาร์เช้านี้ทรงตัว แต่ยังมีโอกาสแข็งค่าตามสกุลเงินภูมิภาค
       
 
        *บาท/ดอลลาร์ภาคเช้าทรงตัวจากวานนี้ ขณะที่ดีลเลอร์ มองว่า บาทยังมี
         โอกาสแข็งค่าได้ ตามทิศทางของสกุลเงินภูมิภาค
        *ดอลลาร์ในตลาดนิวยอร์ควานนี้ ปรับตัวลงมากที่สุดเมื่อเทียบกับเยนในรอบ
         เกือบ 1 เดือน ขณะที่ ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายของสหรัฐ ที่
         อ่อนแอเกินคาด ได้ลดการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาจ
         ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย   
        *สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติ เปิดเผยยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอ
         ปิดการขาย ร่วงลงเกินคาดในเดือนพ.ย. โดยดัชนียอดทำสัญญาขายบ้านที่
         รอปิดการขายร่วง 16% สู่ 96.0 หลังเพิ่มขึ้น 9 เดือนติดต่อกัน   
        *แต่ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อภาคโรงงานพุ่งขึ้น 1.1%
         ในเดือนพ.ย. โดยเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน ซึ่งบ่งชี้ถึงการฟื้นตัว
         อย่างต่อเนื่องในภาคการผลิต 
        *ยูโรร่วงลงจากระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ในการ
         ซื้อขายที่ผันผวน โดยเทรดเดอร์ ระบุว่า การที่ยูโรไม่สามารถฝ่าระดับ
         1.4450 ดอลลาร์ได้ กระตุ้นให้นักลงทุนกลับมาซื้อคืนดอลลาร์         
        *09.11 น. บาท/ดอลลาร์อยู่ที่ 33.12/16 ไม่ต่างจากเมื่อวาน
         ขณะที่ใน offshore อยู่ที่ 33.13/14 จาก 33.14/17 เมื่อวาน
        *เยน/ดอลลาร์ อยู่ที่ 91.81/82 จาก 91.70 ในตลาดนิวยอร์คเมื่อวาน
        *ยูโร/ดอลลาร์ อยู่ที่ 1.4360/64 จาก 1.4364 ในตลาดนิวยอร์คเมื่อวาน
 
        "ตอนเปิดตลาดวันนี้ ก็เท่ากับปิดตลาดเมื่อวาน แต่ก็เริ่มลงมา (บาทแข็งค่า)
อีกแล้ว ก็คงไปตามภูมิภาค" ดีลเลอร์ กล่าว
        เขา กล่าวว่า เงินบาทในช่วงเปิดตลาดค่อนข้างทรงตัวจากวานนี้ แต่ยังมี
โอกาสที่จะแข็งค่าขึ้นได้ ตามทิศทางของสกุลเงินภูมิภาค ที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นเมื่อ
เทียบกับดอลลาร์ โดยมองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 33.10/25


 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 06, 2010, 11:03:58 AM
(http://img9.imageshack.us/img9/327/62515179.gif) (http://img9.imageshack.us/i/62515179.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 06, 2010, 11:05:02 AM
(http://img684.imageshack.us/img684/1214/59826811.gif) (http://img684.imageshack.us/i/59826811.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 06, 2010, 11:05:50 AM
(http://img10.imageshack.us/img10/8242/99854859.gif) (http://img10.imageshack.us/i/99854859.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 06, 2010, 11:39:04 AM
กราฟตาแป๊ะซ้ายบน มีการเปลี่ยนแปลงนิดหนี่ง มีคำว่า  ตัวหนังสือสีเขียว ? ---ขาย และ  ตัวหนังสือสีแดง?----ซื้อ  เพิ่มเข้ามา เฉพราะที่เพิ่มเข้ามานิดหน่อยนี้ ผมใช้เวลาศุกร์-เสาร์-อาทิตย์(25--27ธค.52)ทั้ง3วันค้าหาในเวปจีนถึงได้เจอ และเอามาเพิ่มผสมเข้ากับกาฟตาแป๊ะช่องซ้ายบน ยังมิทราบจะแม่นยำแค่ไหน ต้องคอยกาลเวลาบ่งบอกครับ
กราฟตาแป๊ะซ้ายบน ตัวหนังสือสีเขียว ? ---ขาย   ตัวหนังสือสีแดง?----ซื้อ  เส้นสีแดงหนา---ขาขึ้น เส้นสีเขียวหนา---ขาลงขวาบน  เส้นสีแดง---เสนอซื้มากกว่าเสนอขาย เส้นสีเขียว---เสนอขายมากกว่าเสนอซื้อ  ส่วนช่วงกลางที่มีแท่งสีแดงกับเขียวนั้น แท่งแดง---แรงซื้อขึ้น   แท่งเขียว---แรงขายลง
ขวาช่องสอง  แท่งเหลืองคู่เส้นแดง---ขาขึ้น   แท่งฟ้าคู่เส้นเขียว---ขาลง โดยปกติ ช่องนี้จะเปลี่ยนแนวโน้มช้ากว่าเพื่อน หากเปลี่ยนแนวโน้มเมื่อไหร่ เขาให้ขายออกหรือซื้อเข้าได้ทันที่ ยกเว้นมีปัจจัยพื้นฐานแรงๆแทรกเข้ามา จึงจะทำให้แนวโน้มกลับเปลี่ยนได้โดยกะทันหัน
ซ้ายช่องสอง หน้าเหลืองแป๊ะยิ้ม---ขาขึ้น หน้าแดงแป๊ะร้องไห้---ขาลง  แท่งสีเขียว---เพดาน   แท่งสีแดง---พื้นดินโดยปกติ ช่องนี้จะส่งสัญญาณว่า กำลังจะเปลี่ยนแนวทางแล้วนะ แต่ยังไม่เต็มร้อย อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยกะทันหันก็ได้ ต้องดูซ้ายบนและขวาช่อง๒ประกอบด้วย จึงจะให้ความมั่นใจได้
ทอง
(http://img40.imageshack.us/img40/2803/25998315.gif) (http://img40.imageshack.us/i/25998315.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 06, 2010, 11:40:55 AM
ดอลล์
(http://img94.imageshack.us/img94/9940/23211561.gif) (http://img94.imageshack.us/i/23211561.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Nata ที่ มกราคม 06, 2010, 11:54:03 AM
ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะคุณทองใหม่

รักษาสุขภาพด้วยนะคะ  8)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 06, 2010, 01:31:13 PM
กราฟใหม่2010(เรามาช่วยกันใช้กาลเวลาพิสูจน์ว่า กราฟตัวนี้จะมีความขลังเท่ากราฟตาแป๊ะไหม)
1.   ซ้ายบนหน้าเทาขาวและหนังสือสีขาว??ถอนตัว(ขาย)   หน้าแดงและหนังสือสีเหลือง??บุก(ซื้อ)
2.   กลางบน หนังสือสีเขียว??ขาย หนังสือสีแดง??ซื้อ  ส่วนตัวหนังสือสีเหลือง????เส้นหยุดขาดทุน(สำหรับผู้ที่เล่นออนไลน์สั่งป้องกันล่วงหน้าได้เท่านั้น)
3.   ขวาบน  หน้าเทาขาว+ตัวหนังสือ??ถอนตัว(ขาย)     หน้าแดง+ตัวหนังสือสีเหลือง??เข้า
4.   ซ้ายล่าง สีแดง???เพดาน(จะอยู่ช่วงบน)   สีแดง???ซื้อ(จะอยู่ช่วงล่าง)          สีเขียว ????หนีเร็ว หากเครื่องหมาย ?ปรากฏแค่/ยังไม่สมบูรณ์เต็มตัว?เตรียมตัวหนี(จะปรากฏพร้อม   ???เพดาน(จะอยู่ช่วงบน)   )และตัวหนังสือสีเขียว????เจอต่ำซื้อ
5.   กลางล่าง   หน้าเทาขาว?ขาย        หน้าแดง?ซื้อ
6.   ขวาล่าง    เครื่องหมายสีขาว??ขาย           เครื่องหมายสีชมภู??ซื้อ

(http://img710.imageshack.us/img710/2041/thong3.jpg) (http://img710.imageshack.us/i/thong3.jpg/)
(http://img694.imageshack.us/img694/8832/97614403.gif) (http://img694.imageshack.us/i/97614403.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 06, 2010, 01:35:22 PM
(http://img109.imageshack.us/img109/9512/16633950.gif) (http://img109.imageshack.us/i/16633950.gif/)
(http://img710.imageshack.us/img710/277/35514433.gif) (http://img710.imageshack.us/i/35514433.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: brabus ที่ มกราคม 06, 2010, 01:36:32 PM
ขอบคุณค่ะพี่ทองใหม่


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 06, 2010, 01:37:49 PM
(http://img710.imageshack.us/img710/3483/88049085.gif) (http://img710.imageshack.us/i/88049085.gif/)
(http://img109.imageshack.us/img109/2301/85670303.gif) (http://img109.imageshack.us/i/85670303.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ มกราคม 06, 2010, 01:40:42 PM
ขอบคุณค่ะคุณทองใหม่  จะหัดดูกราฟตามที่บอกนะคะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 06, 2010, 01:57:24 PM
ขอบคุณค่ะคุณทองใหม่  จะหัดดูกราฟตามที่บอกนะคะ
ดีครับ กราฟที่ผมเอามาลง เป็นกราฟที่ดูง่าย ถึงผมไม่บอกวิธีดู คิดว่าใครๆเมื่อเห็นกราฟแล้วก็คงเข้าใจได้เอง..ครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ มกราคม 06, 2010, 02:04:52 PM
ค่ะแล้วกราฟนี้จะเปลี่ยนเป็นรายวันใช่มั๊ยคะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ มกราคม 06, 2010, 02:09:36 PM
ดีจังเคยแต่ติดตามผลงานของคุณทองใหม่มาหลายปีตั้งแต่ที่ไทยโกลกับสมาคมแต่ไม่ได้สมัครเลยม่ได้โพสคุยค่ะแล้วก็พิมพ์ช้าด้วยค่ะ  ตอนนี้ขอสมัครเป็นศิษย์ด้วยจ้า....


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 06, 2010, 02:50:14 PM
ค่ะแล้วกราฟนี้จะเปลี่ยนเป็นรายวันใช่มั๊ยคะ
กราฟนี้เป็นกราฟรายวันครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: paul711 ที่ มกราคม 06, 2010, 02:54:36 PM
([url]http://img231.imageshack.us/img231/8910/45317425.jpg[/url]) ([url]http://img231.imageshack.us/i/45317425.jpg/[/url])


 :)  ขอบคุณครับ คุณทองใหม่
ชอบรูปข้างบน สีทองอร่าม งดงามมาก


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Nata ที่ มกราคม 06, 2010, 03:58:47 PM
ช่วงนี้ อยากให้แป๊ะ อารมณ์ดี ยิ้มนานๆ ค่ะ  laugh.gif


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Yai Carmungwed ที่ มกราคม 06, 2010, 04:06:31 PM
ขอบคุณมากครับอาจารย์ทองใหม่


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 06, 2010, 04:22:30 PM
ได้มาจากเวปจีน ดูเล่นๆอย่าจริงจัง ทิศทางทองสำหรับคืนนี้(http://img39.imageshack.us/img39/7398/73062762.gif) (http://img39.imageshack.us/i/73062762.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Nata ที่ มกราคม 06, 2010, 04:35:20 PM
โอมเพี้ยง.... ขอให้กราฟข้างบนเป็นจริงทีเถ๊อะ

ขอบคุณ คุณทองใหม่มากๆๆๆ

วันนี้เกาะติดขอบจอจริงๆ  laugh.gif


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Cindy ที่ มกราคม 06, 2010, 05:40:40 PM
??, ????? ! :-* :)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: champ ที่ มกราคม 06, 2010, 06:48:33 PM
โพสกันเรื่อยๆนะพี่น้องทุกๆคน  ถ้าเงียบกันหมดเดี๋ยว member ทองใหม่หนีเที่ยวอีกจะกร่อยกันยาวอีกนะพี่น้อง

member ทองใหม่ พักสายตาบ้างนะ เป็นห่วงนะ ปลื้มนะ จุ๊บๆนะครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 06, 2010, 06:55:05 PM
จับตา!ทองแท่งวิ่งแตะ 18,000 บาทใน 2 สัปดาห์นี้       
Wednesday, 06 January 2010 16:15 
นายชุมพล พิทยานนท์ ประธานชมรมผู้ค้าปลีกทองคำแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ราคาทองคำแท่งภายใน 2 สัปดาห์นี้มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นถึงระดับ 18,000 บาท เนื่องจากนักลงทุนจะเข้ามาซื้อเพื่อเก็งกำไรก่อนเทศกาลวันตรุษจีนในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ และหลังจากนั้นราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวลดลงเพราะนักลงทุนเข้ามาขายทำกำไรต่อ

ด้านราคาทองคำในตลาดโลกภายในไตรมาสที่ 1 นี้มองว่ายังมีแนวต้านอยู่ที่บริเวณ 1,200-1,227 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งความผันผวนของราคาทองคำยังมีมาจากเม็ดเงินของกองทุนที่เข้ามาเก็งกำไรโดยใช้ปัจจัยรายวันทั้งราคาน้ำมัน หรือค่าเงินดอลลาร์

 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: prim ที่ มกราคม 06, 2010, 07:00:53 PM


ขอบคุณนะคะคุณทองใหม่  ติดตามอยู่เสมอค่ะ   :) :)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Jeera ที่ มกราคม 06, 2010, 07:29:26 PM
สวัสดีวันฝนฟ้าคะนองค่ะ   :)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: JO-JO ที่ มกราคม 06, 2010, 08:57:35 PM
ขอบคุณครับ คุณทองใหม่

คุณทองใหม่ว่าคราวนี้จะขึ้นได้ประมาณเท่าไหร่หรอครับ

 :D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 07, 2010, 06:05:03 AM
 วิธีดูทิศทางทอง ต้าน๓----หนุน๓เป็นทิศทางทองที่จะเคลื่อนไหวในวันนี้ หากพุ่งทะลุต้าน๓หรือดิ่งทะลวงหนุน๓ แสดงถึงวันนั้นทองเคลื่อนไหวแรงเกินปกติ เส้นแดนเป็นเส้นที่จะแบ่งแยกทิศทางของทองที่จะขึ้นหรือลง หากทองเคลื่อนไหวอยู่ในทิศทางใดมากและนาน นั่นหมายถึงโอกาสเป็นไปได้มากที่ทองจะเคลื่อนไปในทิศทางนั้นๆ ในช่วงเวลานั้น (ยังต้องแบ่งออกในช่วงเวลาตลาดเอเซีย ยุโรป เมกาด้วย) ต้าน๑และหนุน๑หากถูกทดสอบแบบมีผล(ขึ้นลงมากกว่า๑ครั้ง)แล้วยืนอยู่ได้ นั่นคือทิศทางทองที่จะเดินต่อไปในช่วงเวลานั้น หากการวิเคราะเกิดขัดแย้งกันเมื่อไหร่ ให้หยุดมองดูอย่างเดียว ไม่ควรซื้อ-ขายในช่วงเวลานั้น แนวทางนี้เหมาะกับการเล่นสั้นมาก (เล่นแบบออนไลน์ในอนาคต) มีความแม่นยำถึง80%ครับ อีกอย่างข่าวปัจจัยพื้นฐานอาจเปลี่ยนทิศทางทองได้กะทันหันนะครับ
ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์กับการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย ถัาติดดอยเมื่อทองต่ำลงมา  หากยังมีเงินเหลืออยู่ ควรซื้อเพิ่ม เพิ่มที่ละนิด ต่ำอีกซื้ออีก เพื่อดึงต้นทุนที่สูงให้ต่ำลงมา ใครที่ยังไม่มีทองในมือควรทยอยซื้อเข้าอย่ามากนัก หากทองลงอีก เราก็ซื้ออีก ดีกว่าเวลาทองขึ้นเราไปไล่ซื้อในราคาที่สูง  จดจำเป็นคติเตือนใจว่า  เรามิอาจซื้อได้ในราคาที่ต่ำสุด และขายได้ในราคาที่สูงสุด ไม่มีการลงทุนใดที่ไม่เสี่ยง การบริหารพอร์ตให้ได้จังหวะ จะลดความเสี่ยงลงได้ครับ
กราฟสำคัญ ปัจจัยพื้นฐานก็สำคัญ จิตวิทยาการโน้มเอียงของคนก็สำคัญ สิ่งเหล่านี้หากเป็นไปในแนวเดียวกัน ก็จะมุ่งไปทางนั้น หากแย้งกันก็ต้องดูฝ่ายไหนเหนือกว่า.....ด้วยเหตุนี้ไม่มีนักวิเคราะห์คนใดที่จะทำนายได้แม่นยำตลอดกาลได้ครับ
(http://img10.imageshack.us/img10/3359/39566800.gif) (http://img10.imageshack.us/i/39566800.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 07, 2010, 06:06:31 AM
เส้นปากถุง(เส้นสีขาวทั้ง๓เส้น)แบบง่ายๆ ไม่ปวดเศียรเวียนเกล้า
เส้นบน---แนวต้าน
เส้นกลาง---แนวโน้ม(สำคัญสุด)
เส้นล่าง---แนวหนุน
ลักษณะที่๑---ทิศทางขึ้นเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น   เส้นกลางหันหัวขึ้น   เส้นล่างหันหัวลง
ลักษณะที่๒---ทิศทางขึ้นเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวขึ้น
เมื่อเจอลักษณะทั้ง๒นี้ ราคาระหว่างวันที่ขึ้นๆลงๆ เมื่อเจอจุดที่เห็นว่าต่ำแล้วให้ซื้อเข้าได้เลยครับ  ขอเพียงเส้นกลาง(แนวโน้ม)ยังหันหัวขึ้นอยู่ แม้ราคาเแท่งเทียนจะอยู่ต่ำกว่าเส้นกลาง ก็ยังซื้อเข้าได้ หากเส้นบนเดินขวางเมื่อไหร่ ให้ทยอยลดพอร์ตได้เลยครับ
ลักษณะที่๓---เลือกทิศทาง---เส้นบนหันหัวลง เส้นล่างหันหัวขี้น ปากถุงแคบลง ถึงช่วงนี้ ให้ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว หากใครยังคิดอยากเคลื่อนไหว ก็จงเคลื่อนไหวไปหน้าทีวี จงอย่าทำการอย่างอื่นใด หากใครเป็นจอมยุทธ์ ก็ชิงเคลื่อนไหวก่อนใครได้  
ขอแถมอีกนิด จงโฟกัสที่เส้นกลาง หากเส้นกลางเริ่มขยบหัวหัวขึ้นหรือลง ทิศทางอาจขึ้นหรือลงตามเส้นกลางแนวโน้มนั้น
ลักษณะที่๔---เคลื่อนไหวในกรอบแคบ---เส้นบน กลาง ล่าง เดินขวางทั้ง๓เส้น หากใครเล่นออนไลน์ สามารถเล่นได้เล็กน้อยอย่ามาก เมื่อราคาแท่งเทียนใกล้เส้นบน จงขาย ใกล้เส้นล่าง จงซื้อ ต้องเข้าออกให้ทันการณ์ หาไม่แล้วจากกำไรอาจขาดทุนได้นา ขอบอก
ลักษณะที่๕---ทิศทางลงเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น เส้นกลางหันหัวลง เส้ยล่างหัวหัวลง
ลักษณะที่๖---ทิศทางลงเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวลง  เมื่อเส้นล่างเดินขวางเมื่อไหร่ ผู้ที่ใจกล้าที่เล่นออนไลน์ เริ่มทยอยซื้อเข้าได้ที่ละนิด อัตราเสี่ยงยังมีอยู่บ้างนะครับ สิบอกไห่
วิธีดูเส้นปากถุงที่กล่าวมานี้ .....ไม่ใช่ตำราของฝรั่ง แบบของฝรั่งผมเคยอ่านมาบ้างแล้ว ยาวมาก ปวดหัว ทำความเข้าใจได้ยากมากๆๆๆๆ ...........เหมาะเฉพาะกราฟราย๔ชม.และช่วงปกติเท่านั้นนะครับ  (บางครั้งตลาดจงใจคึงขึ้นลงอย่าแรงๆ แทบหัวใจวายสำหรับผู้มีทองในมือและผิดทิศทางของตัวเอง เรียกว่า ช่วงไม่ปกติครับ)

(http://img190.imageshack.us/img190/3673/25987418.gif) (http://img190.imageshack.us/i/25987418.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 07, 2010, 06:08:58 AM
กราฟGold 1
ช่อง1 เส้นแดงอยู่เหนือเส้นเขียว---ทิศทางขึ้น  ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น  สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นเขียวอยู่เหนือเส้นแดง---ทิศทางลง     ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นแดงและเขียวประสานเป็นกากะบาด ---กำลังจะเปลี่ยนทิศ ให้ดูเส้นแนวโน้มประกอบ  หากเส้นแดงและเขียวกำลังจะประสาน แต่ไม่ทันได้ประสานก็หันหันหัวกลับขึ้นหรือลง  แสดงว่ากำลังมีเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนี่งเกิดขึ้น หากขึ้นทะลุเส้นปะแนวต้าน ให้ดูเส้นปะแนวต้านเส้นต่อไป หากลงทะลุเส้นปะแนวหนุน ให้ดูเส้นแนวหนุนเส้นต่อไป   ส่วนจุดกลมเหลืองทอง---ทิศทางลง  จุดกลมฟ้า---ทิศทางขึ้น  หากกราฟวิ่งในยามปกติ พอเชื่อถือได้ หากกราฟวิ่งขึ้นลงแรงๆ คือยามไม่ปกติ ไม่อาจเชือถือได้
ช่อง2  ให้ดูเส้นสีม่วง ประกอบกับเส้นแนวโน้มในช่อง1 หากหันหัวไปในทิศทางเดียวกัน  โอกาสที่จะผิดพลาดก็มีน้อย  ส่วนเส้นปะสีเหลืองทองและฟ้า  หากขึ้นเหนือเลข80 เข้าสู่เขตซื้อเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ทุกเมื่อ  หากลงต่ำกว่าเลข20 เข้าสู่เขตขายเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ตลอดเวลา
ช่อง3   ให้ดูทั้ง2เส้น คือเหลืองทองและฟ้า หันหัวไปทิศทางเดียวกันหรือไม่  เท่านั้นยังไม่พอ  ให้ดูประกอบทิศทางในช่อง1ว่าเป็นทิศทางเดียวกันหรือไม่  หากทิศทางหันหัวในแนวเดียวกัน  ทิศทางนั้นเชื่อถือได้

(http://img268.imageshack.us/img268/7471/49773450.gif) (http://img268.imageshack.us/i/49773450.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 07, 2010, 06:31:43 AM
ใครที่มีทองแท่งและไม่แท่งในมือ โปรดพิจารณาที่ETFที่ขายทองออกช่วงที่ทองขึ้นด้วยนะครับ อะไรๆก็เกิดขึ้นได้นาในโลกใบนี้ที่มีทั้งพระอาทิตย์และพระจันทร์ ยังแถมมีดาวแต่งเติมสีสวรรค์ให้ดูเล่นอีกด้วย ฮาฮา
(http://img692.imageshack.us/img692/852/31363470.gif) (http://img692.imageshack.us/i/31363470.gif/)
(http://img130.imageshack.us/img130/7379/68292993.gif) (http://img130.imageshack.us/i/68292993.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: numcha ที่ มกราคม 07, 2010, 06:36:41 AM
อรุณสวัสดิ์คะคุณทองใหม่
ขอบคุณสำหรับบทวิเคราะห์ตอนเช้าๆ  เพื่อเป็นแนวทางคะ
ขอให้ร่ำรวย และ สุขภาพแข็งแรงคะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 07, 2010, 07:26:29 AM
ขอบคุณครับ คุณทองใหม่

คุณทองใหม่ว่าคราวนี้จะขึ้นได้ประมาณเท่าไหร่หรอครับ

 :D
คราวนี้อาจเป็นคลื่นขาบี ด่านต่อไปให้ดูที่1050ก่อนว่าจะถึงไหม หากถึงแล้วจะยืนอยู่ได้ไหม


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Nata ที่ มกราคม 07, 2010, 07:59:45 AM
ขอบคุณสำหรับบทวิเคราะห์มากๆๆ ค่ะ  laugh.gif


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: champ ที่ มกราคม 07, 2010, 08:04:40 AM
ตรุษจีนนี้ เซียนทองใหม่ คิดว่าถึง 18500 ไหมครับ และถ้าถึง คิดว่าถึง 19000 เท่าก่อนปีใหม่ไหมครับ

(กำลังบวกลบกำไรคร่าวๆ ^^ )


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: IPSUM ที่ มกราคม 07, 2010, 08:51:07 AM
ขอบคุณคุณทองใหม่ครับ  :)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ มกราคม 07, 2010, 09:18:26 AM
ขอบคุณค่ะ...คุณทองใหม่  ETF ขายแบบนี้สงสัยต้องเตรียมขายตัวที่ได้กำไรบ้างแล้วค่ะ  แล้ววันนี้ตาแป๊ะเป็นยังไงคะยังยิ้มมีความสุขดีอยู่หรือเตรียมจะร้องไห้คะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 07, 2010, 11:30:56 AM
สรุปภาวะตลาดเมื่อวาน
    ราคาโกลด์ฟิวเจอร์สปรับตัวอยู่ในช่วงแคบ ในขณะที่ราคาทองคำสปอตมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงบ่าย ทองคำแท่งสมาคมฯปิดที่ 17,600/700 บาท เงินบาทแข็งค่าตามดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนลง


ปัจจัยที่อาจส่งผลต่อเนื่องถึงวันนี้
    นายเจอร์เกน สตาร์ก หนึ่งในคณะกรรมการบริหารธนาคารกลางยุโรปได้ให้สัมภาษณ์ลงหนังสือพิมพ์ของอิตาลีฉบับหนึ่งว่าอีซีบีไม่น่าจะช่วยเหลือประเทศกรีซอย่างเป็นทางการ ส่งผลให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงในช่วงแรกเนื่องจากนักลงทุนบางส่วนกลับมากลัวเรื่องปัญหาของประเทศกรีซ อย่างไรก็ตามในการวิเคราะห์โดยละเอียดจะเห็นว่าเป็นผลดีต่อกลุ่มยูโรและค่าเงินยูโรโดยรวม ค่าเงินยูโรจึงกลับมาแข็งค่าได้ในภายหลังพร้อมกับราคาทองคำที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง [Reuters, TCAF Research]
    รายงาน PMI ภาคการบริการในภูมิภาคต่างๆที่รายงานออกมาเมื่อวานนี้ทั้งรายงานในญี่ปุ่น จีน ยุโรป และสหรัฐฯ ล้วนแสดงให้เห็นถึงเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวทั้งสิ้นจึงส่งผลให้นักลงทุนต้องการความเสี่ยงมากขึ้นผลักดันราคาทองคำให้บวกขึ้น [US ISM, Markit, TCAF Research]
    รายงานผลสำรวจตลาดแรงงานสหรัฐฯประจำเดือนธันวาคมแสดงให้เห็นตลาดแรงงานที่มีการพัฒนาอย่างมาก ซึ่งผลโดยสรุปแสดงให้เห็นว่าตลาดแรงงานน่าจะถึงจุดต่ำสุดแล้วจริงๆ รายงานดังกล่าวจึงผลักดันให้นักลงทุนเห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯน่าจะฟื้นได้ไม่ช้าโดยเฉพาะเมื่อตลาดแรงงานเริ่มฟื้น ส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่าอย่างต่อเนื่องอีกพร้อมกับราคาทองคำที่บวกเพิ่มขึ้นไป [ADP, TCAF Research]
    รายงานการประชุมของเฟดแสดงให้เห็นว่าเฟดเริ่มมีความเห็นแตกแยกในแง่ของคาดการภาวะเงินเฟ้อและในแง่ของนโยบายกระตุ้นในอนาคตอันใกล้ ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่าเฟดอาจไม่คิดว่าเศรษฐกิจจะเติบโตได้อย่างแข็งแรง ส่งผลให้นักลงทุนบางส่วนเริ่มกลัวความเสี่ยง [US FRB, TCAF Research]
    รายงานยอดค้าปลีกในออสเตรเลียออกมาเพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่งผลให้ดอลลาร์ออสเตรเลียปรับเพิ่มขึ้นทันทีที่รายงาน พร้อมกับเงินบาทที่เริ่มแข็งค่าขึ้นไปอีก [Econoday, TCAF Research]


แนวโน้มทองคำวันนี้
    เรามองว่าทองคำในสถานะสินทรัพย์เสี่ยงน่าจะได้รับผลบวกอย่างต่อเนื่อง เราจึงคาดว่า "ราคาทองคำน่าจะแกว่งตัวขึ้น" และแนะนำให้ "ค่อยๆสะสม LONG GF ที่มีพรีเมียมต่อเดือนไม่สูงมากนัก"



หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 07, 2010, 11:31:50 AM
ประเด็นสำคัญ
   - ราคาทองทองปิดบวกหลังดอลล์ร่วง
   - ดอลล์ร่วงเทียบยูโรหลังเฟดเผยรายงานประชุม
   - ดอลล์อ่อนหนุนน้ำมันดิบปิดบวก 1.41 ดอลล์
   - ข้อมูลเศรษฐกิจได้ช่วยหนุนตลาดขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์นี้


    ราคาทองที่ตลาดสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่จุดสูงสุดรอบ 3 สัปดาห์ในวันพุธ โดยปิดตลาดบวกขึ้น 1.6 % ในขณะที่การอ่อนค่าของดอลลาร์และแรงซื้อที่เพิ่มขึ้นในตลาดส่งมอบปัจจุบัน เป็นแรงหนุนความเชื่อมั่นของนักลงทุน

    สัญญาทองส่งมอบเดือนก.พ.เคลื่อนตัวในช่วง 1,116.80-1,141 ดอลลาร์ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 17 ธ.ค. ในขณะที่มีปริมาณการซื้อขายราว 171,142 สัญญา

    หลังปิดตลาด COMEX ทองปรับตัวขึ้นต่อไป ในขณะที่ดอลลาร์ร่วงลง หลังจากที่รายงานจากการประชุมครั้งล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงถึงความวิตกเกี่ยวกับการลดแผนกระตุ้นเศรษฐกิจบางอย่าง

    นักวิเคราะห์จากบริษัท ลาซาล ฟิวเจอร์ส กรุ๊ป ในเมืองชิคาโก กล่าวว่า สัญญาทองคำทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ซึ่งเป็นผลมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ต่อไปอีกระยะหนึ่ง หลังจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าอัตราการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยังคงชะลอตัว

    ADP Employer Services เปิดเผยว่า ภาคเอกชนของสหรัฐลดการจ้างงานลง 84,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. มากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ที่ 73,000 ตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวน้อยกว่าในเดือนพ.ย.ที่บ่งชี้ว่าภาคเอกชนลดการจ้างงานลงจำนวนมากถึง 145,000 ตำแหน่ง

    กองทุน SPDR Gold trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยว่าทางกองทุนได้ถือครองทองแท่งระดับ 1,123.869 ตัน ณ วันที่ 6 มกราคม 2553 ลดลง 4.876 ตัน จากวันที่ 5 มกราคม 2553

    กลยุทธ์ : ราคาทองคำอาจจะเป้าหมายระยะสั้นที่แนวประมาณ 1140 US$ ไปแล้วได้อาจจะลดความเสี่ยงในการเข้าซื้อ แต่อาจจะถือเพื่อรอขาย หากราคาเกิดการเปลี่ยนทิศทางแนวโน้มจะเกิดขึ้นในอนาคต และหากไม่สามารถยืนเนื่องระดับราคาแนว 1103 US$ อาจจะมีการปรับตัวลงอย่างรุนแรงอีกรอบ ถึง 50 US$ ติดตามมาได้  แนวจุด Stop Loss ที่แนวระดับราคา 1100 US$




หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 07, 2010, 12:01:52 PM
กราฟตาแป๊ะซ้ายบน มีการเปลี่ยนแปลงนิดหนี่ง มีคำว่า  ตัวหนังสือสีเขียว ? ---ขาย และ  ตัวหนังสือสีแดง?----ซื้อ  เพิ่มเข้ามา เฉพราะที่เพิ่มเข้ามานิดหน่อยนี้ ผมใช้เวลาศุกร์-เสาร์-อาทิตย์(25--27ธค.52)ทั้ง3วันค้าหาในเวปจีนถึงได้เจอ และเอามาเพิ่มผสมเข้ากับกาฟตาแป๊ะช่องซ้ายบน ยังมิทราบจะแม่นยำแค่ไหน ต้องคอยกาลเวลาบ่งบอกครับ
กราฟตาแป๊ะซ้ายบน ตัวหนังสือสีเขียว ? ---ขาย   ตัวหนังสือสีแดง?----ซื้อ  เส้นสีแดงหนา---ขาขึ้น เส้นสีเขียวหนา---ขาลงขวาบน  เส้นสีแดง---เสนอซื้มากกว่าเสนอขาย เส้นสีเขียว---เสนอขายมากกว่าเสนอซื้อ  ส่วนช่วงกลางที่มีแท่งสีแดงกับเขียวนั้น แท่งแดง---แรงซื้อขึ้น   แท่งเขียว---แรงขายลง
ขวาช่องสอง  แท่งเหลืองคู่เส้นแดง---ขาขึ้น   แท่งฟ้าคู่เส้นเขียว---ขาลง โดยปกติ ช่องนี้จะเปลี่ยนแนวโน้มช้ากว่าเพื่อน หากเปลี่ยนแนวโน้มเมื่อไหร่ เขาให้ขายออกหรือซื้อเข้าได้ทันที่ ยกเว้นมีปัจจัยพื้นฐานแรงๆแทรกเข้ามา จึงจะทำให้แนวโน้มกลับเปลี่ยนได้โดยกะทันหัน
ซ้ายช่องสอง หน้าเหลืองแป๊ะยิ้ม---ขาขึ้น หน้าแดงแป๊ะร้องไห้---ขาลง  แท่งสีเขียว---เพดาน   แท่งสีแดง---พื้นดินโดยปกติ ช่องนี้จะส่งสัญญาณว่า กำลังจะเปลี่ยนแนวทางแล้วนะ แต่ยังไม่เต็มร้อย อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยกะทันหันก็ได้ ต้องดูซ้ายบนและขวาช่อง๒ประกอบด้วย จึงจะให้ความมั่นใจได้
ทอง
(http://img22.imageshack.us/img22/6913/60233618.gif) (http://img22.imageshack.us/i/60233618.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: MIJI ที่ มกราคม 07, 2010, 12:02:22 PM
ขอบคุณคุณทองใหม่นะคะ ข่าวสารเพียบ laugh.gif


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 07, 2010, 12:08:35 PM
ดอลล์เมกา
(http://img8.imageshack.us/img8/7338/83817460.gif) (http://img8.imageshack.us/i/83817460.gif/) (http://g.imageshack.us/img8/83817460.gif/1/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Cindy ที่ มกราคม 07, 2010, 12:10:08 PM
???????????? ;) :)

?????????! :-*

มีความรู้ภาษาจีนเท่าหางอึ่ง มั่วมาก ๆ ไม่ทราบเขียนถูกหรือผิด :P ดีใจที่ได้มีโอกาสคุยกับผู้ที่มีความรู้
ความสามารถเก่งมาก ๆ อย่างอาจารย์ค่ะ เป็นปลื้มมาก ๆ เลยค่ะ :)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 07, 2010, 12:29:25 PM
กองทุน SPDR ลดถือครองทองคำลงเกือบ 5 ตัน สู่ 1,123.869 ตัน (7 ม.ค.--รอยเตอร์)

07 ม.ค. 2553


กองทุน SPDR ลดถือครองทองคำลงเกือบ 5 ตัน สู่ 1,123.869 ตัน

        กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก
เปิดเผยว่า ทางกองทุนได้ลดการถือครองทองคำลง 4.876 ตัน หรือ 0.4% อยู่ที่
1,123.869 ณ วันที่ 6 ม.ค.
        ทางกองทุนได้ถือครองทองแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,134.03 ตัน
เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.
        ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเกี่ยวกับการถือครองทองคำของกองทุน ETF
ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์คและที่จดทะเบียนร่วมในตลาดอื่นๆ ได้ที่
        http://www.exchangetradedgold.com/iframes/usa.php (http://www.exchangetradedgold.com/iframes/usa.php)
        นักลงทุนเพิ่มการถือครองในกองทุน SPDR ในเดือนธ.ค. ขณะที่ความวิตก
เกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกได้กระตุ้นความต้องการทองแท่งในฐานะสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัย
โดยกองทุนดังกล่าวทำการออกหลักทรัพย์ที่มีการค้ำประกันโดยสต็อกทองซึ่งถือครองอยู่
        การเปลี่ยนแปลงการถือครองทองคำของกองทุน SPDR มีดังนี้:-
        วันที่:        จำนวน
        4  ม.ค.     1,128.745
        29 ธ.ค.     1,133.622
        21 ธ.ค.     1,132.708
        18 ธ.ค.     1,126.611
        16 ธ.ค.     1,120.514
        14 ธ.ค.     1,116.551
        8 ธ.ค.      1,116.247
        4 ธ.ค.      1,129.966
        3 ธ.ค.      1,131.490
        2 ธ.ค.      1,131.214
        1 ธ.ค.      1,130.604
        30 พ.ย.     1,129.994
        25 พ.ย.     1,127.860
        24 พ.ย.     1,122.371
        23 พ.ย.     1,121.457
        18 พ.ย.     1,117.493
        13 พ.ย.     1,113.833
        9 พ.ย.      1,114.443
        5 พ.ย.      1,108.344
        3 พ.ย.      1,108.399




หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 07, 2010, 12:30:40 PM
น้ำมัน NYMEX ยืนเหนือ 83 ดอลล์เช้านี้ ปัจจัยอากาศหนาวเย็นหนุนตลาด (7 ม.ค.--รอยเตอร์)

07 ม.ค. 2553


น้ำมัน NYMEX ยืนเหนือ 83 ดอลล์เช้านี้ ปัจจัยอากาศหนาวเย็นหนุนตลาด
 

        สัญญาน้ำมันดิบสหรัฐทรงตัวในช่วงเช้านี้ หลังจากปิดปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 10
ติดต่อกันใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 15 เดือนเมื่อวานนี้ ขณะที่การคาดการณ์ว่าจะมีความ
ต้องการใช้ heating oil อย่างมากท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเย็น ได้ช่วยชดเชย
ผลกระทบจากข้อมูลของรัฐบาลที่ระบุว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นเกินคาด
        ณ เวลา 07.07 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนก.พ.ที่ตลาด
NYMEX ขยับขึ้น 1 เซนต์ มาที่ 83.19 ดอลลาร์/บาร์เรลในการซื้อขายผ่านระบบ
อิเล็คทรอนิค Globex หลังจากปิดวานนี้พุ่งขึ้น 1.41 ดอลลาร์ ที่ 83.18 ดอลลาร์/
บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดตั้งแต่วันที่ 9 ต.ค.2008
        สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) รายงานว่า
สต็อกน้ำมันดิบในคลังสหรัฐเพิ่มขึ้นสูงเกินคาดถึง 1.3 ล้านบาร์เรลในช่วงสัปดาห์
ที่สิ้นสุดวันที่ 1 ม.ค. ในขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงน้ำมัน heating oil
ลดลงเพียง 300,000 บาร์เรล ซึ่งเป็นการลดลงที่ไม่รุนแรงเท่าที่คาด
        อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันดิบทะยานขึ้นเมื่อวานนี้ ในขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่าลง
และราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันอาจลดลงอย่างรุนแรง
ในสัปดาห์หน้าโดยเป็นผลจากภาวะอากาศที่หนาวเย็นยิ่งขึ้นในพื้นที่ส่วนใหญ่ของสหรัฐ
        กระแสลมจากอาร์คติกเคลื่อนตัวมายังซีกโลกเหนือ ส่งผลให้ยุโรปและพื้นที่
หลายส่วนในเอเชียมีอากาศหนาวเย็น และทำให้ความต้องการใช้เชื้อเพลิงเพื่อให้
ความอบอุ่นในสหรัฐเพิ่มสูงกว่าระดับปกติราว 21%
        ความต้องการพลังงานยังเพิ่มขึ้นในยุโรปโดยเฉพาะในอังกฤษและฝรั่งเศส




หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 07, 2010, 12:31:56 PM
ขอบคุณครับ คุณทองใหม่

คุณทองใหม่ว่าคราวนี้จะขึ้นได้ประมาณเท่าไหร่หรอครับ

 :D
ยังเดายากอยู่ครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 07, 2010, 12:33:26 PM
ตรุษจีนนี้ เซียนทองใหม่ คิดว่าถึง 18500 ไหมครับ และถ้าถึง คิดว่าถึง 19000 เท่าก่อนปีใหม่ไหมครับ

(กำลังบวกลบกำไรคร่าวๆ ^^ )
เหอะๆ  ไม่ใช่เซียนครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Jeera ที่ มกราคม 07, 2010, 01:00:46 PM
สวัสดีค่ะพี่ทองใหม่   :)

ขอถามประสาคนไม่รู้นะคะ

พี่ว่าดอลจะมีทิศทางยังไงคะ  เยนด้วย

ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ   ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ มกราคม 07, 2010, 01:30:37 PM
ขอบคุณค่ะคุณทองใหม่...ข้อมูลแน่นเลย  ยังไงก็พักผ่อนบ้างนะคะ รักษาสุขภาพด้วย


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 07, 2010, 01:47:48 PM
สวัสดีค่ะพี่ทองใหม่   :)

ขอถามประสาคนไม่รู้นะคะ

พี่ว่าดอลจะมีทิศทางยังไงคะ  เยนด้วย

ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ   ;D
เยนผมไม่ทราบ เพราะไม่เคยได้ดูเลยครับ ส่วนดอลล์เมกา หากดูตามกราฟตาแป๊ะ น่าจะลงปรับฐานซักหน่อย หากดอลล์ลงจริง ทองก็น่าจะขึ้นได้ต่อ แต้ก็มีส่วนขัดแย้งกันอีกนิดหนึ่ง เพราะดูตามกราฟ ทองน่าจะขึ้นใกล้สิ้นสุดของคลื่นขาBแล้ว ต่อไปก็จะเป็นคลื่นC--คลื่นขาลง      มันเป็นเหตุและผลที่ออกจะขัดแย้งกัน ผมก็ปวดหัวเหมือนกัน ไม่รู้จะไปทิศไหนดี ฮาฮา


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Jeera ที่ มกราคม 07, 2010, 01:50:30 PM
อย่าเครียดมากนะคะ เดี๋ยวจะไม่ดีต่อสุขภาพ   :)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 07, 2010, 02:14:28 PM
กราฟใหม่2010(เรามาช่วยกันใช้กาลเวลาพิสูจน์ว่า กราฟตัวนี้จะมีความขลังเท่ากราฟตาแป๊ะไหม)
1.   ซ้ายบนหน้าเทาขาวและหนังสือสีขาว??ถอนตัว(ขาย)   หน้าแดงและหนังสือสีเหลือง??บุก(ซื้อ)
2.   กลางบน หนังสือสีเขียว??ขาย หนังสือสีแดง??ซื้อ  ส่วนตัวหนังสือสีเหลือง????เส้นหยุดขาดทุน(สำหรับผู้ที่เล่นออนไลน์สั่งป้องกันล่วงหน้าได้เท่านั้น)
3.   ขวาบน  ตัวหนังสือสีเขียว (?)?ขาย  ตัวหนังสือสีเหลือง(?)?ซื้อ  
 4.   ซ้ายล่าง สีแดง???เพดาน(จะอยู่ช่วงบน)   สีแดง???ซื้อ(จะอยู่ช่วงล่าง)          สีเขียว ????หนีเร็ว หากเครื่องหมาย ?ปรากฏแค่/ยังไม่สมบูรณ์เต็มตัว?เตรียมตัวหนี(จะปรากฏพร้อม   ???เพดาน(จะอยู่ช่วงบน)   )และตัวหนังสือสีเขียว????เจอต่ำซื้อ
5.   กลางล่าง   หน้าเทาขาว?ขาย        หน้าแดง?ซื้อ
6.   ขวาล่าง    เครื่องหมายสีขาว??ขาย           เครื่องหมายสีชมภู??ซื้อ

ทอง
(http://img130.imageshack.us/img130/3867/89986552.gif) (http://img130.imageshack.us/i/89986552.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 07, 2010, 02:17:23 PM
ดอลล์เมกา
(http://img130.imageshack.us/img130/4518/59606392.gif) (http://img130.imageshack.us/i/59606392.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 07, 2010, 02:23:17 PM
น้ำมัน
(http://img263.imageshack.us/img263/8559/32716111.gif) (http://img263.imageshack.us/i/32716111.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 07, 2010, 02:34:34 PM
Gold Futuresบ่ายสดใส กูรูเชียร์ซื้อ       
Thursday, 07 January 2010 13:39 
เจ้าหน้าที่ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กรุงศรีอยุธยา(AYS) เปิดเผยถึงการซื้อขายสินค้า Gold Futures ตลาดอนุพันธ์แห่งประเทศไทย(TFEX) ในวันนี้ว่า ราคาทองล่วงหน้าของไทยปรับตัวขึ้นมาเล็กน้อยตามสัญญาณทางเทคนิค ที่ราคากำลังจะขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ระดับ 18,300 บาท ประกอบกับราคาทองคำในตลาดโลกยังคงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยราคาทองคำในตลาด COMEX ปรับตัวขึ้นมา 17.80 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ระดับ 1,136.50 ดอลลาร์/ออนซ์   

สำหรับในช่วงบ่ายคาดว่าราคา Gold Futures มีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวในแดนบวก  ตามปัจจัยทางเทคนิค และราคทองคำในตลาดโลกเช่นเดียวกับในช่วงเช้า ดังนั้นแนะนำให้เปิดสถานะซื้อ โดยประเมินแนวรับในสัญญา GFG09 เดือนกุมภาพันธ์ 2553 ไว้ที่ 17,900 บาท แนวต้าน 18,300 บาท

 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ มกราคม 07, 2010, 02:46:30 PM
ขอบคุณค่ะ...ถ้าใกล้สุดคลื่นbก็ใกล้ปรับลงน่ะสิคะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Nata ที่ มกราคม 07, 2010, 02:51:01 PM
ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะคุณทองใหม่ แน่นปึ๊กกกจริงๆ  angel.gif


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Theephat ที่ มกราคม 07, 2010, 03:00:29 PM
ขอบคุณครับคุณทองใหม่ :) :)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ มกราคม 07, 2010, 06:47:43 PM
สวัสดีรอบดึกค่ะคุณทองใหม่....พักผ่อนมากๆนะคะรักษาสุขภาพด้วยค่ะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 07, 2010, 07:09:15 PM
สวัสดีรอบดึกค่ะคุณทองใหม่....พักผ่อนมากๆนะคะรักษาสุขภาพด้วยค่ะ
ฮาฮา สวัสดีรอบค่ำที่ยังไม่ดึกครับ ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: JO-JO ที่ มกราคม 07, 2010, 08:57:06 PM
ขอบคุณมากครับ คุณทองใหม่
วันนี้มาแบบเนื้อหาแน่น เพียบเลยครับ

คุณทองใหม่ครับ ผมยังสงสัยว่า คลื่น C จำเป็นต้องต่ำกว่าคลื่น A หรือเปล่าครับ

 :)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 07, 2010, 09:16:45 PM
ขอบคุณมากครับ คุณทองใหม่
วันนี้มาแบบเนื้อหาแน่น เพียบเลยครับ

คุณทองใหม่ครับ ผมยังสงสัยว่า คลื่น C จำเป็นต้องต่ำกว่าคลื่น A หรือเปล่าครับ

 :)
ผมกำลังจะปิดเครื่องไปพักอยู่พอดีมาเห็นเข้า อยากรู้เรื่องคลื่น ต้องไปถามเฮียกำพลที่เวปthaigold เฮียเขามีความรู้เรื่องคลื่นดีมากเลยครับ
ราตรีสวัสดิ์ เจอกันพรุ่งนี้เช้าครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 08, 2010, 06:46:00 AM
 วิธีดูทิศทางทอง ต้าน๓----หนุน๓เป็นทิศทางทองที่จะเคลื่อนไหวในวันนี้ หากพุ่งทะลุต้าน๓หรือดิ่งทะลวงหนุน๓ แสดงถึงวันนั้นทองเคลื่อนไหวแรงเกินปกติ เส้นแดนเป็นเส้นที่จะแบ่งแยกทิศทางของทองที่จะขึ้นหรือลง หากทองเคลื่อนไหวอยู่ในทิศทางใดมากและนาน นั่นหมายถึงโอกาสเป็นไปได้มากที่ทองจะเคลื่อนไปในทิศทางนั้นๆ ในช่วงเวลานั้น (ยังต้องแบ่งออกในช่วงเวลาตลาดเอเซีย ยุโรป เมกาด้วย) ต้าน๑และหนุน๑หากถูกทดสอบแบบมีผล(ขึ้นลงมากกว่า๑ครั้ง)แล้วยืนอยู่ได้ นั่นคือทิศทางทองที่จะเดินต่อไปในช่วงเวลานั้น หากการวิเคราะเกิดขัดแย้งกันเมื่อไหร่ ให้หยุดมองดูอย่างเดียว ไม่ควรซื้อ-ขายในช่วงเวลานั้น แนวทางนี้เหมาะกับการเล่นสั้นมาก (เล่นแบบออนไลน์ในอนาคต) มีความแม่นยำถึง80%ครับ อีกอย่างข่าวปัจจัยพื้นฐานอาจเปลี่ยนทิศทางทองได้กะทันหันนะครับ
ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์กับการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย ถัาติดดอยเมื่อทองต่ำลงมา  หากยังมีเงินเหลืออยู่ ควรซื้อเพิ่ม เพิ่มที่ละนิด ต่ำอีกซื้ออีก เพื่อดึงต้นทุนที่สูงให้ต่ำลงมา ใครที่ยังไม่มีทองในมือควรทยอยซื้อเข้าอย่ามากนัก หากทองลงอีก เราก็ซื้ออีก ดีกว่าเวลาทองขึ้นเราไปไล่ซื้อในราคาที่สูง  จดจำเป็นคติเตือนใจว่า  เรามิอาจซื้อได้ในราคาที่ต่ำสุด และขายได้ในราคาที่สูงสุด ไม่มีการลงทุนใดที่ไม่เสี่ยง การบริหารพอร์ตให้ได้จังหวะ จะลดความเสี่ยงลงได้ครับ
กราฟสำคัญ ปัจจัยพื้นฐานก็สำคัญ จิตวิทยาการโน้มเอียงของคนก็สำคัญ สิ่งเหล่านี้หากเป็นไปในแนวเดียวกัน ก็จะมุ่งไปทางนั้น หากแย้งกันก็ต้องดูฝ่ายไหนเหนือกว่า.....ด้วยเหตุนี้ไม่มีนักวิเคราะห์คนใดที่จะทำนายได้แม่นยำตลอดกาลได้ครับ

(http://img266.imageshack.us/img266/9522/51385343.gif) (http://img266.imageshack.us/i/51385343.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 08, 2010, 06:49:33 AM
เส้นปากถุง(เส้นสีขาวทั้ง๓เส้น)แบบง่ายๆ ไม่ปวดเศียรเวียนเกล้า
เส้นบน---แนวต้าน
เส้นกลาง---แนวโน้ม(สำคัญสุด)
เส้นล่าง---แนวหนุน
ลักษณะที่๑---ทิศทางขึ้นเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น   เส้นกลางหันหัวขึ้น   เส้นล่างหันหัวลง
ลักษณะที่๒---ทิศทางขึ้นเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวขึ้น
เมื่อเจอลักษณะทั้ง๒นี้ ราคาระหว่างวันที่ขึ้นๆลงๆ เมื่อเจอจุดที่เห็นว่าต่ำแล้วให้ซื้อเข้าได้เลยครับ  ขอเพียงเส้นกลาง(แนวโน้ม)ยังหันหัวขึ้นอยู่ แม้ราคาเแท่งเทียนจะอยู่ต่ำกว่าเส้นกลาง ก็ยังซื้อเข้าได้ หากเส้นบนเดินขวางเมื่อไหร่ ให้ทยอยลดพอร์ตได้เลยครับ
ลักษณะที่๓---เลือกทิศทาง---เส้นบนหันหัวลง เส้นล่างหันหัวขี้น ปากถุงแคบลง ถึงช่วงนี้ ให้ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว หากใครยังคิดอยากเคลื่อนไหว ก็จงเคลื่อนไหวไปหน้าทีวี จงอย่าทำการอย่างอื่นใด หากใครเป็นจอมยุทธ์ ก็ชิงเคลื่อนไหวก่อนใครได้  
ขอแถมอีกนิด จงโฟกัสที่เส้นกลาง หากเส้นกลางเริ่มขยบหัวหัวขึ้นหรือลง ทิศทางอาจขึ้นหรือลงตามเส้นกลางแนวโน้มนั้น
ลักษณะที่๔---เคลื่อนไหวในกรอบแคบ---เส้นบน กลาง ล่าง เดินขวางทั้ง๓เส้น หากใครเล่นออนไลน์ สามารถเล่นได้เล็กน้อยอย่ามาก เมื่อราคาแท่งเทียนใกล้เส้นบน จงขาย ใกล้เส้นล่าง จงซื้อ ต้องเข้าออกให้ทันการณ์ หาไม่แล้วจากกำไรอาจขาดทุนได้นา ขอบอก
ลักษณะที่๕---ทิศทางลงเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น เส้นกลางหันหัวลง เส้ยล่างหัวหัวลง
ลักษณะที่๖---ทิศทางลงเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวลง  เมื่อเส้นล่างเดินขวางเมื่อไหร่ ผู้ที่ใจกล้าที่เล่นออนไลน์ เริ่มทยอยซื้อเข้าได้ที่ละนิด อัตราเสี่ยงยังมีอยู่บ้างนะครับ สิบอกไห่
วิธีดูเส้นปากถุงที่กล่าวมานี้ .....ไม่ใช่ตำราของฝรั่ง แบบของฝรั่งผมเคยอ่านมาบ้างแล้ว ยาวมาก ปวดหัว ทำความเข้าใจได้ยากมากๆๆๆๆ ...........เหมาะเฉพาะกราฟราย๔ชม.และช่วงปกติเท่านั้นนะครับ  (บางครั้งตลาดจงใจคึงขึ้นลงอย่าแรงๆ แทบหัวใจวายสำหรับผู้มีทองในมือและผิดทิศทางของตัวเอง เรียกว่า ช่วงไม่ปกติครับ)

(http://img64.imageshack.us/img64/1919/10902184.gif) (http://img64.imageshack.us/i/10902184.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 08, 2010, 06:53:22 AM
กราฟGold 1
ช่อง1 เส้นแดงอยู่เหนือเส้นเขียว---ทิศทางขึ้น  ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น  สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นเขียวอยู่เหนือเส้นแดง---ทิศทางลง     ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นแดงและเขียวประสานเป็นกากะบาด ---กำลังจะเปลี่ยนทิศ ให้ดูเส้นแนวโน้มประกอบ  หากเส้นแดงและเขียวกำลังจะประสาน แต่ไม่ทันได้ประสานก็หันหันหัวกลับขึ้นหรือลง  แสดงว่ากำลังมีเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนี่งเกิดขึ้น หากขึ้นทะลุเส้นปะแนวต้าน ให้ดูเส้นปะแนวต้านเส้นต่อไป หากลงทะลุเส้นปะแนวหนุน ให้ดูเส้นแนวหนุนเส้นต่อไป   ส่วนจุดกลมเหลืองทอง---ทิศทางลง  จุดกลมฟ้า---ทิศทางขึ้น  หากกราฟวิ่งในยามปกติ พอเชื่อถือได้ หากกราฟวิ่งขึ้นลงแรงๆ คือยามไม่ปกติ ไม่อาจเชือถือได้
ช่อง2  ให้ดูเส้นสีม่วง ประกอบกับเส้นแนวโน้มในช่อง1 หากหันหัวไปในทิศทางเดียวกัน  โอกาสที่จะผิดพลาดก็มีน้อย  ส่วนเส้นปะสีเหลืองทองและฟ้า  หากขึ้นเหนือเลข80 เข้าสู่เขตซื้อเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ทุกเมื่อ  หากลงต่ำกว่าเลข20 เข้าสู่เขตขายเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ตลอดเวลา
ช่อง3   ให้ดูทั้ง2เส้น คือเหลืองทองและฟ้า หันหัวไปทิศทางเดียวกันหรือไม่  เท่านั้นยังไม่พอ  ให้ดูประกอบทิศทางในช่อง1ว่าเป็นทิศทางเดียวกันหรือไม่  หากทิศทางหันหัวในแนวเดียวกัน  ทิศทางนั้นเชื่อถือได้

(http://img689.imageshack.us/img689/9140/57075123.gif) (http://img689.imageshack.us/i/57075123.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Yai Carmungwed ที่ มกราคม 08, 2010, 07:30:35 AM
ขอบคุณอาจารย์ทองใหม่มากครับ  


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 08, 2010, 07:45:58 AM
อีทีเอฟกำลังคิดไรอยู่เอ่ย?
(http://img94.imageshack.us/img94/4871/27856675.gif) (http://img94.imageshack.us/i/27856675.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 08, 2010, 07:57:51 AM
ชมรมผู้ค้าปลีกทองค้านมินิโกลด์ฯ   
   วันพฤหัสบดีที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2553

ชมรมผู้ค้าปลีกทองคำแห่งประเทศไทยค้านอนุพันธ์เทรดมินิโกลด์ฟิวเจอร์สก.พ.นี้ นัด จัดม็อบยกป้ายประท้วง

นายชุมพล พิทยานนท์ ประธานชมรมผู้ค้าปลีกทองคำแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ชมรมไม่เห็นด้วยที่ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) หรือ TFEX จะนำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าอ้างอิงทองคำขนาด 10 บาทต่อสัญญา หรือมินิโกลด์ฟิวเจอร์ส มาซื้อขายในวันที่ 8 ก.พ.นี้

?สมาชิกร้านค้าปลีกทองคำทั่วประเทศไทยกว่า 20 จังหวัด เตรียมจะขึ้นป้ายประท้วงไม่ให้มินิโกลด์ฟิวเจอร์สเข้าซื้อขายในตลาด TFEX ภายใน 2 สัปดาห์นี้?

สำหรับเหตุผลที่ไม่เห็นด้วย เพราะมองว่าการลงทุนในมินิโกลด์ฟิวเจอร์สใช้เงินลงทุนน้อย เสี่ยงสูงต่อนักลงทุนที่ไม่มีความรู้ดีพอจะเข้ามาเก็งกำไร

นอกจากนี้ มินิโกลด์ฟิวเจอร์สยังทำให้มุมมองการลงทุนในสินทรัพย์ทองคำเปลี่ยนแปลงไป จากเดิมที่ลงทุนเพื่อป้องกันความเสี่ยง หรือลงทุนเพื่อเก็บออม จะเป็นการเข้าเก็งกำไรเหมือนการพนันมากกว่า

?การลงทุนโกลด์ฟิวเจอร์สมีพื้นฐานอยู่ 3 อย่างคือ ต้องมีความรู้ เงินถึง และใจกล้า ถ้าหากมินิโกลด์ฟิวเจอร์สเข้าตลาด กลัวว่าจะมีนักลงทุนประเภทใจกล้าเพียงอย่างเดียว ซึ่งเสี่ยงต่อการลงทุนมาก ที่ผ่านมาทางชมรมยื่นเรื่องคัดค้านต่อ TFEX มาแล้ว แต่ยังไม่มีผลตอบรับ? นายชุมพล กล่าว

ก่อนหน้านี้นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ ให้สัมภาษณ์ว่า ได้ทำหนังสือถึงตลาดอนุพันธ์เพื่อคัดค้านการนำมินิโกลด์ฟิวเจอร์สมาซื้อขายในเดือนก.พ.นี้ เพราะสินค้าตัวใหม่นี้เป็นการซ้ำเติมร้านค้าทอง ซึ่งที่ผ่านมาร้านค้าทองประสบปัญหาขาดทุนและล้มหายตายจากไปหลายแห่ง หลังจากตลาดอนุพันธ์เปิดซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์สน้ำหนัก 50 บาททองคำ

ขณะที่น.ส.ฐิภา นววัฒนทรัพย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยนอินเตอร์เนชั่นแนล และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ฟิวเจอร์ส (YLG) มีความเห็นว่า มินิโกลด์ฟิวเจอร์สจะช่วยเพิ่มมูลค่าการซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์สในปี 2553 ถึงวันละหลักหมื่นสัญญา หรือสูงกว่าการซื้อขายทองคำแท่งถึง 2.5 เท่า หรือทำให้การซื้อขายเติบโตมากกว่าเดิมถึง 5 เท่า

สำหรับการซื้อขายโกลด์ฟิว เจอร์ส สะสม 8 เดือน (เดือน ก.พ.-ก.ย.) หรือตั้งแต่เปิดซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์ส คิดเป็นครึ่งหนึ่งของมูลค่าการซื้อขายทองคำแท่ง

?มินิโกลด์ฟิวเจอร์สจะขยายฐานผู้ลงทุนมากขึ้น เพราะใช้เงินเพียง 2 หมื่นบาทก็สามารถซื้อขายได้ 1 สัญญา จากปัจจุบันโกลด์ฟิวเจอร์ส 1 สัญญา เทียบเท่าน้ำหนักทองคำ 50 บาท ใช้เงินซื้อขายต่อ 1 สัญญา 1.8 แสนบาท? น.ส.ฐิภา กล่าว


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: IPSUM ที่ มกราคม 08, 2010, 08:13:06 AM
อรุณสวัสดิ์ครับ คุณทองใหม่  :)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: newa ที่ มกราคม 08, 2010, 08:22:10 AM
 ;D ;D  อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณทองใหม่   laugh.gif laugh.gif


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 08, 2010, 09:04:55 AM
กราฟใหม่2010(เรามาช่วยกันใช้กาลเวลาพิสูจน์ว่า กราฟตัวนี้จะมีความขลังเท่ากราฟตาแป๊ะไหม)
1.   ซ้ายบนหน้าเทาขาวและหนังสือสีขาว??ถอนตัว(ขาย)   หน้าแดงและหนังสือสีเหลือง??บุก(ซื้อ)
2.   กลางบน หนังสือสีเขียว??ขาย หนังสือสีแดง??ซื้อ  ส่วนตัวหนังสือสีเหลือง????เส้นหยุดขาดทุน(สำหรับผู้ที่เล่นออนไลน์สั่งป้องกันล่วงหน้าได้เท่านั้น)
3.   ขวาบน  ตัวหนังสือสีเขียว (?)?ขาย  ตัวหนังสือสีเหลือง(?)?ซื้อ  
 4.   ซ้ายล่าง สีแดง???เพดาน(จะอยู่ช่วงบน)   สีแดง???ซื้อ(จะอยู่ช่วงล่าง)          สีเขียว ????หนีเร็ว หากเครื่องหมาย ?ปรากฏแค่/ยังไม่สมบูรณ์เต็มตัว?เตรียมตัวหนี(จะปรากฏพร้อม   ???เพดาน(จะอยู่ช่วงบน)   )และตัวหนังสือสีเขียว????เจอต่ำซื้อ
5.   กลางล่าง   หน้าเทาขาว?ขาย        หน้าแดง?ซื้อ
6.   ขวาล่าง    เครื่องหมายสีขาว??ขาย           เครื่องหมายสีชมภู??ซื้อ


(http://img686.imageshack.us/img686/3861/66703185.gif) (http://img686.imageshack.us/i/66703185.gif/)
ช่องขวาบน---ได้ปรากฏคำว่าขายเกิดขึ้นแล้วตั้งแต่เมื่อคืนนี้ แต่เนื่องด้วย 1.กราฟนี้ยังใหม่อยู่ ยังมืทราบจะมีความน่าเชื่อถือแค่ไหน
2.คืนนี้จะมีแรงงานนอกภาคเกษตรของเมกาจะประกาศ ซึ่งจะเป็นตัวเลขที่สำคัญที่จะชี้นำตลาด
ด้วยเหตุ2ประการนี้ จึงเอากราฟใหม่2010 ทองนี้มาโพสก่อนกราฟตัวอื่นๆ เผื่อเพื่อนๆจะได้นำไปพิจารณาประกอบการตัดสินใจ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 08, 2010, 09:38:19 AM
ทองคำปิดร่วง 2.80$ 
 วันศุกร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2553 08:23

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง หลังเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดที่ 1,133.70 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 2.80 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,128.70-1,139.50 ดอลลาร์

ขณะที่สัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 18.345 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 17.00 เซนต์

ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 1,559.40 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 1.00 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 424.55 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 2.65 ดอลลาร์

แฟรงค์ เลช นักวิเคราะห์จากบริษัท ฟิวเจอร์แพธ เทรดดิ้ง ในเมืองชิคาโก กล่าวว่า ตลาดทองคำนิวยอร์กได้รับแรงกดดันอย่างหนักหลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้น 0.7% เมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินหลักๆในตะกร้าเงิน ซึ่งเป็นผลมาจากการคาดการณ์ที่ว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนธ.ค.ของสหรัฐอาจลดลงเพียง 1,000 ราย ซึ่งจะเป็นสถิติที่ลดลงน้อยที่สุดนับตั้งแต่สหรัฐเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยเมื่อ 2 ปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าอัตราว่างงานเดือนธ.ค.ปี 2552 ของสหรัฐจะดีดตัวขึ้นแตะระดับ 10.1% จากเดือนพ.ย.ที่ 10%

กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก ได้ลดการถือครองทองคำลง 4.876 ตัน หรือ 0.4% อยู่ที่ 1,123.869 ณ วันที่ 6 ม.ค.



หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 08, 2010, 09:44:52 AM
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสร่วงครั้งแรกในรอบ 10 วัน หลังค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็ง และจีนเพิ่มดอกเบี้ย

Posted on Friday, January 08, 2010
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์ก ส่งมอบเดือน ก.พ. ปรับลดลง 0.52 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่ 82.66 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

ปัจจัยลบที่มีผลต่อราคาน้ำมัน

- ตลาดมีความกังวลหลังจากธนาคารกลางจีนปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกตั้งเต่เดือน ส.ค. 2552 ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าจะเป็นการถอนเงินส่วนเกินออกจากระบบ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนเกรงว่าอาจส่งผลให้เกิดการชะลอตัวทางเศรษฐกิจได้

- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโร และค่าเงินเยน  หลังจากประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจของยุโรป อันได้แก่ ยอดคำสั่งซื้อสินค้าโรงงานของประเทศเยอรมันนีและ ยอดค้าปลีกใน 16 ประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร ปรับตัวลดลงในเดือนพ.ย. 2552 ถึง1.2% จากเดือน ต.ค. นอกจากนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของญี่ปุ่นแถลงว่าต้องการให้ค่าเงินเยนอ่อนค่าลง

ปัจจัยบวกที่มีผลต่อราคาน้ำมัน

- มีการพยากรณ์ว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ของสหรัฐฯจะถูกปกคลุมด้วยสภาพอากาศที่หนาวเย็นซึ่งมีอุณหภูมิต่ำกว่าปกติไปจนถึงปลายสัปดาห์นี้

- จำนวนผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพียง 1,000 ตำแหน่งในสัปดาห์ก่อน ส่งผลให้ค่าเฉลี่ยผู้ขอรับสิทธิประโยชน์ของเดือนธ.ค. 2009 ปรับตัวลดลงมาอยู่ในระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือน ก.ย. ปี 2008  นอกจากนี้ยอดขายร้านสาขาของสหรัฐฯเดือน ธ.ค. ก็ปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน

- ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับขึ้นเล็กน้อยวานนี้ ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบาง หลังนักลงทุนเฝ้ารอตัวเลขคนว่างงานเดือนธ.ค. ที่จะประกาศคืนนี้ (ซึ่งคาดว่าจะปรับตัวไปในทางที่ดีขึ้น) เพื่อประมาณการถึงแนวโน้มการฟื้นตัวจากภาวะถดถอยของเศรษฐกิจ

- ธนาคารกลางอังกฤษประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุด 0.5% เป็นเดือนที่ 10 ติดต่อกัน ในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายวานนี้ ซึ่งเป็นไปตามความคาดหมายของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ตลาดลอนดอน ส่งมอบเดือน ก.พ. ปรับลดลง  0.38 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่ 81.51 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบดูไบ ตลาดสิงคโปร์ ปรับเพิ่มขึ้น 0.85 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่ 80.52 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: mhee26 ที่ มกราคม 08, 2010, 09:51:02 AM
ขอบคุณค่ะคุณทองใหม่   ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 08, 2010, 10:09:27 AM
คาดราคายางในตลาดโลกจะพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 30 ปีภายในเดือนมี.ค.นี้

Posted on Friday, January 08, 2010
นิวเอดจ์ คาดราคายางโลกพุ่งสูงสุดในรอบ 30 ปี

บริษัท นิวเอดจ์ เจแปน อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทสินค้าโภคภัณฑ์รายใหญ่ของญี่ปุ่น คาดการณ์ว่า ราคายางในตลาดโลกจะพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 30 ปีภายในเดือนมี.ค.นี้ เนื่องจากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวขึ้นซึ่งทำให้ความต้องการ หรือ ดีมานด์ในสินค้าโภคภัณฑ์จำพวกยางเพิ่มขึ้นตามไปด้วย และคาดว่าดีมานด์ที่เพิ่มจะส่งผลให้ซัพพลายหดตัวลง ซึ่งจะยิ่งหนุนราคายางทะยานขึ้น

นักวิเคราะห์ของนิวเอดจ์ เจแปนคาดว่า สัญญายางล่วงหน้าที่ตลาด TOCOM มีแนวโน้มพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดที่เคยทำไว้เมื่อปี 2552 ที่ระดับ 356.9 เยน/ก.ก. (3,868 ดอลลาร์/เมตริกตัน) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 30 ปี

ส่วนในปี 2552 สัญญายางในตลาดโลกทะยานขึ้นกว่า 2 เท่า ซึ่งต่างจากปี 2551 ที่ราคายางดิ่งลงไปรุนแรงถึง 56% โดยดัชนี Reuters/Jefferies CRB Index ทะยานขึ้น 23% ในปี 2552 ทำสถิติพุ่งขึ้นแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ปี 2522

เนื่องจากดีมานด์วัตถุดิบในประเทศจีนเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ คาดว่าการพุ่งขึ้นของราคายางในตลาดโลกจะเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มผู้ผลิตยางในประเทศไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย แต่จะทำให้ต้นทุนบริษัทผลิตยางรถยนต์พุ่งสูงขึ้น รวมถึงบริษัท บริดจ์สโตน คอร์ป

นักวิเคราะห์คาดว่า ยอดขายรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นในประเทศจีนจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่หนุนราคายางพุ่งสูงขึ้น โดยสมาคมผู้ผลิตยานยนต์ของจีนรายงานว่า ยอดขายรถยนต์โดยสารเดือนพ.ย.ของจีนทะยานขึ้น 98% แตะที่ 1.04 ล้านคัน ซึ่งเป็นสถิติที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งที่สุดในรอบ 5 ปี นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คาดว่ายอดขายรถยนต์ปี 2552 ของจีนจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 13 ล้านดอลลาร์


ค้าปลีกหนุนหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก หลังยอดขายปลายปีดีเกินคาด

ดัชนี S&P 500 ของสหรัฐฯ ปิดบวกและสามารถยืนอยู่แถวระดับสูงสุดในรอบ 15 เดือนต่อไปได้ แม้ในช่วงต้นของการซื้อขายจะปรับตัวลงตามตลาดอื่นๆ จากการที่ธนาคารกลางจีนออกขายพันธบัตรระยะสั้นด้วยอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 20 สัปดาห์ และบอกเหตุผลว่าต้องการควบคุมไม่ให้สินเชื่อในประเทศขยายตัวในอัตราที่สูงจนเกินไป และอยากจะรักษาระดับราคาสินค้าไม่ให้เร่งตัวขึ้นมากในปีนี้

ขณะเดียวกัน นักลงทุนก็กำลังจับตาความเคลื่อนไหวของธนาคารกลางต่างๆ อย่างใกล้ชิด หลังจากในช่วงไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมา แบงก์ชาติ อย่างเช่น ของออสเตรเลีย เวียดนาม นอร์เวย์ และอิสราเอล ปรับขึ้นดอกเบี้ยไปเรียบร้อยแล้ว และมีความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะทำตามในปีนี้

และถ้าดูจากสัญญาในตลาดฟิวเจอร์ส จะพบว่า นักลงทุนคาดการณ์แนวโน้มดอกเบี้ยเฟดจะปรับเพิ่มขึ้นในการประชุมเดือนกันยายน

ล่าสุด หน่วยงานกำกับดูแล ที่รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐฯ ก็ออกมาเตือนธนาคารต่างๆ ในประเทศว่า ให้เตรียมรับมือกับสภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น รวมทั้งให้ดำเนินการเพิ่มทุนหากจำเป็น

อย่างไรก็ดี เมื่อคืนนี้บรรยากาศการลงทุนกลับได้แรงหนุนจากข่าวดีสำหรับยอดขายของธุรกิจค้าปลีกในช่วงปลายปี นำโดย Sears Holding ที่รายงานยอดขาย รวมทั้งออกคาดการณ์กำไรที่เหนือความคาดหมายของนักวิเคราะห์ จนราคาหุ้นของเชนดีพารท์เมนท์สโตร์เจ้าใหญ่ที่สุดของอเมริกาแห่งนี้ พุ่งแตะจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2551

ส่วนหนึ่งของยอดขายของ Sears ที่พุ่งขึ้นในเดือนธันวาคมมาจาก Kmart ในส่วนแผนกของเล่น เสื้อผ้า และของใช้เกี่ยวกับบ้าน ส่วนผู้ประกอบการรายใหญ่เบอร์สอง อย่างห้าง Macy?s ก็รายงานยอดขายที่เพิ่มขึ้น 1% ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้เล็กน้อย ขณะที่บริษัทบอกว่า กำไรในไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว อาจจะทำได้สูงถึง 1.18 เหรียญต่อหุ้น หากไม่รวมต้นทุนการปรับโครงสร้างธุรกิจ เมื่อเทียบกับตัวเลขที่เคยคาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ราว 1 เหรียญ


ความเชื่อมั่นเศรษฐกิจยุโรปพุ่งแตะจุดสูงสุดในยุคหลัง Lehman

ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของสหภาพยุโรปพุ่งสูงขึ้นในเดือนธันวาคม จนแตะระดับสูงสุดที่ไม่เคยเห็นมาก่อนนับตั้งแต่เกิดเหตุสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ อย่าง Lehman Brothers Holdings ต้องเหลือเพียงแค่ชื่อทิ้งไว้เป็นตำนาน

ตัวเลขล่าสุดถือเป็นสัญญาณที่สร้างความมั่นใจให้เพิ่มมากขึ้นมาอีกขั้นหนึ่งว่า เศรษฐกิจจะค่อยๆ สะสมความแข็งแกร่งในปีนี้

คณะกรรมาธิการยุโรป หรือ European Commission เปิดเผย sentiment index ที่สำรวจจากบรรดาผู้บริหารและผู้บริโภคใน 16 ประเทศสมาชิก โดยตัวเลขขยับขึ้นมาที่ระดับ 91.3 จาก 88.8 ในเดือนพฤศจิกายน และยังมากกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ นอกจากจะทำลายสถิติสูงสุดที่เคยทำไว้เมื่อครั้ง Lehman Brothers ประกาศล้มละลาย

ตัวเลขความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นยังตอกย้ำถึงมุมมองในเรื่องเศรษฐกิจ ที่หลายคนยังต้องลุ้นให้มีการเร่งสะสมแรงเอาไว้ก่อนที่จะมีอะไรทำให้เกิดความพลิกผัน จนเศรษฐกิจอาจกลับมาร่วงลงสู่จุดตกต่ำอีกครั้งในอนาคต

นักลงทุนได้รับข่าวดีในแบบเดียวกัน เมื่อมีรายงานที่เกี่ยวข้องกับ real sector ในส่วนของดัชนีชี้วัดอุตสาหกรรมการผลิตและบริการในเดือนธันวาคม ที่ขยายตัวได้เป็นเดือนที่ 5 ซึ่งก็สอดคล้องกับอีกหนึ่งเครื่องชี้ที่แสดงถึงการปรับเพิ่มขึ้นของความเชื่อมั่นนักลงทุน และถ้าเจาะลงไปดูเฉพาะที่ประเทศเยอรมนีแล้ว จะพบว่าความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนธันวาคม ก็ปรับตัวขึ้นไปยืนอยู่ ณ ระดับสูงสุดในรอบ 17 เดือนเลยทีเดียว

สำหรับสถานการณ์ตลาดบ้านที่ประเทศอังกฤษ ผู้ประกอบการของที่นี่ก็คงจะโล่งใจขึ้นได้บ้าง เมื่อบริษัทที่เป็นธุรกิจลูกของ Lloyds Banking Group อย่าง Halifax เปิดเผยดัชนีราคาบ้านที่เพิ่มขึ้นในเดือนธันวาคม และถือเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 6 แล้ว ด้วยสาเหตุที่มีผู้มองว่าเป็นเพราะอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำช่วยกระตุ้นความต้องการในตลาดให้เพิ่มขึ้น ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์ของ Halifax เองก็มีมุมมองราคาบ้านในปีนี้ ว่าจะไม่เปลี่ยนแปลงจากปีที่แล้วมากนัก ซึ่งแนวโน้มตลาดก็จะขึ้นอยู่กับว่าสภาวะเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร และจำนวนซัพพลายที่ปล่อยออกมาขายมีมากน้อยแค่ไหน


ผู้ว่าแบงก์ชาติทั่วโลกเตรียมประชุมที่สวิตเซอร์แลนด์

ผู้ว่าการธนาคารกลางทั่วโลกเตรียมเข้าร่วมประชุมกับตัวแทนสถาบันการเงินที่กรุงบาเซิล สวิตเซอร์แลนด์ ในสัปดาห์นี้ เพื่อหารือถึงการกำหนดมาตรการกำกับดูแล ในที่ประชุมคณะกรรมาธิการกำกับดูแลด้านการธนาคารของธนาคารเพื่อการชำระบัญชีระหว่างประเทศ (Bank for International Settlements หรือ BIS)

รัฐมนตรีคลังและธนาคารกลางทั่วโลกได้ส่งสัญญาณถึงความต้องการลดการทำธุรกรรมที่มีความเสี่ยงของกลุ่มสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ในปีที่ผ่านมา ซึ่งผู้นำจากกลุ่มประเทศ G-20 และกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วได้ให้คำมั่นในระหว่างการประชุมเมื่อเดือนก.ย.ว่าจะปรับปรุงกฎระเบียบต่างๆให้ดีขึ้นภายในปีนี้ เพื่อให้ธนาคารได้บริหารจัดการเม็ดเงินทุนที่มีคุณภาพมากขึ้น

ทั้งนี้ ผู้ว่าการธนาคารกลางได้ประชุม BIS กันปีละ 6 ครั้ง ซึ่งต่างฝ่ายต่างเรียกร้องให้ธนาคารกลางถือครองทุนสำรองในฐานะที่เป็นสมาชิกและเป็นผู้ดำเนินการวิจัย

หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์สรายงานว่า BIS ได้เชิญให้ธนาคารต่างๆเข้าร่วมประชุมโดยอ้างถึงความวิตกกังวลว่า สถาบันการเงินเริ่มกลับมาดำเนินธุรกิจที่มีความเสี่ยง เหมือนอย่างที่เคยเกิดขึ้นก่อนช่วงวิกฤตการเงินทั่วโลกในปี 2550

ทั้งนี้ ผู้ว่าการธนาคารกลางอิตาลี ซึ่งเป็นผู้นำคณะกรรมาธิการกำหนดเสถียรภาพด้านการเงินเตรียมที่จะรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการเพิ่มความเข้มงวดด้านการกำกับดูแลก่อนที่การประชุมจี-20 ครั้งต่อไปจะเปิดฉากขึ้นในเดือนมิ.ย.


จีนคาดการลงทุนในอาเซียนขยายตัวหลังเปิดเขตการค้าเสรี

หยี เสี่ยวจุน รัฐมนตรีช่วยกระทรวงพาณิชย์จีน กล่าวว่า การลงทุนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของจีนจะขยายตัวอย่างรวดเร็ว เนื่องจากหลายบริษัทต้องการขยายธุรกิจไปยังประเทศที่เศรษฐกิจฟื้นตัวแล้ว

นายหยีกล่าวระหว่างพิธีเปิดเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน (CAFTA) ว่า จีนและประเทศอาเซียนควรใช้ประโยชน์จากเงินลงทุนและทรัพยากรอื่นๆอย่างเต็มที่ ตลอดจนเดินหน้าก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เพื่อรองรับความร่วมมือทางการค้าระหว่างกัน

นายหยีกล่าวว่า "ข้อตกลงการค้าเสรีช่วยทำลายอุปสรรคในการค้าและการลงทุน ซึ่งป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย" ข้อตกลงการค้าเสรีระบุว่า จีนจะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศอาเซียนลดลงจาก 9.8% เหลือ 0.1%

ขณะที่ประเทศสมาชิกดั้งเดิมของอาเซียน ได้แก่ บรูไน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และไทย จะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนลดลงจาก 12.8% เหลือ 0.6%

ภายในปี 2558 นโยบายเก็บภาษีสินค้า 90% จากจีนที่อัตรา 0% จะมีผลบังคับใช้กับประเทศสมาชิกใหม่ของอาเซียน ได้แก่ กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม

ทั้งนี้ เขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน เป็นเขตการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดในโลกสำหรับกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา และเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา โดยครอบคลุมประชากร 1,900 ล้านคนและมีมูลค่าการซื้อขายราว 4.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ


รมว.คลังญี่ปุ่นคนใหม่ตั้งเป้าฉุดเงินเยนอ่อนตัว

นายนาโอโตะ คัง รมว.คลังคนใหม่ของญี่ปุ่น ออกแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเป็นครั้งแรกเมื่อวานนี้ว่า เขาต้องการให้สกุลเงินเยนอ่อนตัวลงต่ำกว่าในระดับปัจจุบันเพื่อช่วยพยุงเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้น พร้อมกับยืนยันว่าจะร่วมงานอย่างใกล้ชิดกับธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เพื่อผลักดันสกุลเงินเยนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ทั้งนี้ นับว่าไม่บ่อยนักที่รมว.คลังญี่ปุ่นจะออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับระดับอัตราแลกเปลี่ยน

นายคังกล่าวว่า "จะพยายามทุกวิถีทางที่ทำให้เงินเยนอยู่ในระดับที่เหมาะสม เพราะสกุลเงินเยนที่แข็งค่ากำลังส่งผลกระทบอย่างหนักต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวม

ทั้งนี้ แม้เงินเยนได้ปรับฐานลงจากระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือนเมื่อเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา แต่ก็ต้องการให้เงินเยนอ่อนตัวลงอีก"

นายคังแสดงความเชื่อมั่นว่า ญี่ปุ่นจะสามารถหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงได้ ด้วยการผ่านร่างงบประมาณ 2 ฉบับ และกล่าวว่าเขากำลังตัดสินใจว่าจะเดินทางไปร่วมประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่ม G7 ในเดือนหน้าหรือไม่

นายคัง ซึ่งดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นด้วยนั้น ก้าวเข้ามาทำหน้าที่รมว.คลังญี่ปุ่นแทนนายฮิโรชิสะ ฟูจิอิ ที่ประกาศลาออกเนื่องจากปัญหาสุขภาพ ซึ่งการลาออกของเขาได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลเมื่อวานนี้นี้

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การแสดงความคิดเห็นของนายคังส่งผลให้สกุลเงินเยนอ่อนตัวลง 0.5% แตะระดับ 92.76 เยน/ดอลลาร์ โดยนายคังกล่าวว่าสกุลเงินเยนควรเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 90 เยน/ดอลลาร์จึงจะเหมาะสมและเอื้อประโยชน์ต่อภาคการผลิต


ธนาคารกลางจีนส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย

ธนาคารกลางจีนได้สร้างความประหลาดใจให้กับตลาด ด้วยการปรับขึ้นดอกเบี้ยอัตราผลตอบแทนของตั๋วเงินคลังระยะ 3 เดือน เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่กลางเดือน ส.ค. 2552 ซึ่งเป็นการคุมเข้มสภาพคล่อง อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 3 เดือน มีผลตอบแทนอยู่ที่ 1.3684% เพิ่มขึ้น 0.0404% จาก 1.3280% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นผลตอบสนองที่ต่อเนื่องมาจาก ทางการจีนระบุว่าจะควบคุมการขยายตัวของสินเชื่อ ทำให้นักลงทุนเชื่อว่า จะมีโอกาสที่ธนาคารกลางจีนจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ เพื่อลดความร้อนแรงของการขยายตัวทางเศรษฐกิจรวมถึงจัดการกับเงินเฟ้อ

จากผลดังกล่าว ทำให้หลายฝ่ายวิตกว่า อาจจะกระทบต่อความต้องการเหล็ก /ทองแดง และทรัพยากร อื่นๆ ที่จำเป็นต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ


จีนจำกัดการใช้ไฟฟ้า หลังเผชิญภัยหนาว

จีนได้สั่งจำกัดการใช้ไฟฟ้า หลังจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นจนทำให้เกิดหิมะตกนั้นได้ส่งผลกระทบต่อการจัดส่งถ่านหิน ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่จำเป็นสำหรับผลิตกระแสไฟฟ้า

อัตราการใช้พลังงานในมณฑลเสฉวน เจียงซี และหูหนาน พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยมณฑลเจียงซู หูเป่ย หูหนาน เจียงซี และนครเซี่ยงไฮ้ และฉงชิ่งได้จำกัดการใช้ไฟฟ้าท่ามกลางภาวะขาดแคลนถ่านหิน

กรมอุตุนิยมวิทยาของจีนรายงานว่าสภาพอากาศที่หนาวเย็นได้แผ่ปกคลุมพื้นที่ทางตอนเหนือของจีน จนส่งผลให้กรุงปักกิ่งเกิดหิมะตกอย่างรุนแรงในรอบเกือบ 60 ปี และมีอุณหภูมิต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2514 อีกทั้งยังแผ่ขยายมายังพื้นที่ตอนใต้ของจีนในหลายจังหวัดเมื่อสัปดาห์นี้

การใช้ไฟฟ้าทางตอนกลางของจีนพุ่งสูงขึ้น 33% จากปีก่อนหน้านี้แตะที่ 5.8 หมื่นล้านกิโลวัตต์/ชั่วโมงในเดือนธ.ค. ซึ่งอัตราการใช้ไฟฟ้าอยู่สูงกว่าความต้องการใช้พลังงานในช่วงฤดูร้อน ขณะที่สต็อกถ่านหินตามโรงไฟฟ้าทางตอนกลางของประเทศเมื่อช่วงสิ้นเดือนธ.ค.ปรับตัวลดลง 24% แตะที่ 8.68 ล้านตันจากเดือนก่อนหน้านี้ และพื้นที่ดังกล่าวได้ปิดโรงงานไฟฟ้า 3.35 ล้านกิโลวัตต์เนื่องจากปัญหาถ่านหินขาดแคลน


ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่ประกาศออกมาเมื่อวานนี้ (พฤหัสบดีที่ 7 ม.ค. 2553)
? ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ อยู่ที่ระดับ 434,000 ราย

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่จะประกาศออกมาวันนี้ (ศุกร์ที่ 8 ม.ค. 2553 )
? ตัวเลขสถานการณ์ภาคแรงงาน (ธ.ค.) โดย กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ
? ยอดค้าส่ง (พ.ย.) โดย กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ
? สินเชื่อผู้บริโภค (พ.ย.) โดย ธนาคารกลางสหรัฐฯ

ติดตาม Money Wake up ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ออกอากาศซ้ำเวลา 11.00 น. ทาง Money Channel
 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 08, 2010, 10:20:11 AM
ถามนะค่ะ

หนูมี17850อยู่30 เเละ17400อยู่15บาท  หนูว่าวันนี้จะขาย17850เเบบยอมขาดทุน(กะว่าขายเเถวๆ17600หรือ17700) เพื่อเอาเงินไปรอซื้อก้นคลื่นCเเล้วรอขายตรุษจีน

เเล้วก็จะขาย17400ด้วยเลยกำไรนิดหน่อยก็ยังดี  เเล้วเอาไปทุ่มซื้อก้นC

เเผนนี้เข้าท่าไหมค่ะ    มือใหม่คิดเอาเองน่ะค่ะ

ขอบคุณค่ะ
แผนเข้าท่าหากทิศทางทองเป็นดังที่คิด  คืนนี้มีแรงงานนอกภาคเกษตรของเมกาที่จะประกาศ เวลาบ้านเรา20.30น. ทองอาจถูกชี้นำให้ขึ้นหรือลงหรือวิ่งแบบไม่เป็นกระบวนท่า ผมเองก็เดาไม่ถูกเหมือนกันว่าทองจะไปทิศทางใด เลยมิกล้าที่จะออกความเห็นใดๆทั้งสิ้น ได้แต่เอากราฟที่มีคำอธิบายของกราฟมาให้ดู ให้เพื่อนๆดูแล้วตัดสินใจเองจะเป็นการดีที่สุดครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ มกราคม 08, 2010, 10:33:12 AM
ขอบคุณค่ะคุณทองใหม่....


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 08, 2010, 10:45:41 AM
ปัจจัยพื้นฐานของเมกาที่จะประกาศในคืนนี้ เวลาในภาพนั้นเป็นเวลาของจีน บ้านเราลดไปอีก1ชม.(http://img694.imageshack.us/img694/8054/85732991.gif) (http://img694.imageshack.us/i/85732991.gif/)
(http://img215.imageshack.us/img215/5400/47339404.gif) (http://img215.imageshack.us/i/47339404.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 08, 2010, 11:05:31 AM
ประเด็นสำคัญ
   - ราคาทองทองปิดลบ ก่อนเปิดตัวกองทุน ETF พลาตินั่ม
   - ดอลล์ปรับตัวขึ้นก่อนเผยตัวเลขจ้างงาน
   - กังวลเศรษฐกิจจีนกดน้ำมันดิบปิดลบ 52 เซนต์
   - เศรษฐกิจสหรัฐยุติการปรับลดตำแหน่งงานในเดือนธ.ค


    ราคาทองที่ตลาดสหรัฐปิดต่ำลงในวันพฤหัสบดี ในขณะที่การดีดตัวขึ้นสูงของดอลลาร์ กระตุ้นการทำกำไร ขณะที่นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นในโลหะกลุ่มพลาตินั่มก่อนการเปิดตัวกองทุน ETF พลาตินั่มและพัลลาเดียมแห่งแรกของสหรัฐ ยูโรปรับตัวลงหลังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจยูโรโซนที่อ่อนแอเกินคาด ขณะที่เยนแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์หลังรมว.คลังคนใหม่ของญี่ปุ่นกล่าวว่า เขาต้องการให้เยนอ่อนค่าลงอีก กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนธ.ค.ในวันศุกร์นี้ ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดว่า รายงานดังกล่าวจะแสดงว่าไม่มีการปรับลดตำแหน่งงาน ซึ่งเป็นรายงานที่ดีที่สุดนับตั้งแต่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

    แฟรงค์ เลช นักวิเคราะห์จากบริษัท ฟิวเจอร์แพธ เทรดดิ้ง ในเมืองชิคาโก กล่าวว่า ตลาดทองคำนิวยอร์กได้รับแรงกดดันอย่างหนักหลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้น 0.7% เมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินหลักๆในตะกร้าเงิน ซึ่งเป็นผลมาจากการคาดการณ์ที่ว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนธ.ค.ของสหรัฐอาจลดลงเพียง 1,000 ราย ซึ่งจะเป็นสถิติที่ลดลงน้อยที่สุดนับตั้งแต่สหรัฐเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยเมื่อ 2 ปีที่แล้ว

 

    อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าอัตราว่างงานเดือนธ.ค.ปี 2552 ของสหรัฐจะดีดตัวขึ้นแตะระดับ 10.1% จากเดือนพ.ย.ที่ 10%

   กองทุน SPDR Gold trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยว่าทางกองทุนได้ถือครองทองแท่งระดับ 1,123.503 ตัน ณ วันที่ 7 มกราคม 2553 ลดลง 0.366 ตัน จากวันที่ 6 มกราคม 53

   กลยุทธ์ : ราคาทองคำได้ถึงเป้าหมายระยะสั้นแนว 1140 US$ แล้ว  เริ่มแสดงการปรับฐาน และได้เกิดสัญญาณขายระยะสั้นเกิดขึ้น อาจเริ่มมีการเปลี่ยนทิศทางแนวโน้มปรับตัวลงเกิดขึ้นในอนาคต  และหากไม่สามารถยืนเนื่องระดับราคาแนว 1104 US$ อาจจะมีการปรับตัวลงอย่างรุนแรงอีกรอบ ถึง 50 US$ ติดตามมาได้  แนวจุด Stop Loss ที่แนวระดับราคา 1104 US$



หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 08, 2010, 11:26:33 AM
(http://img691.imageshack.us/img691/6387/95370440.gif) (http://img691.imageshack.us/i/95370440.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 08, 2010, 11:28:12 AM
(http://img13.imageshack.us/img13/808/44926419.gif) (http://img13.imageshack.us/i/44926419.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 08, 2010, 11:30:39 AM
(http://img521.imageshack.us/img521/1425/26848157.gif) (http://img521.imageshack.us/i/26848157.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 08, 2010, 11:47:19 AM
กราฟตาแป๊ะซ้ายบน มีการเปลี่ยนแปลงนิดหนี่ง มีคำว่า  ตัวหนังสือสีเขียว ? ---ขาย และ  ตัวหนังสือสีแดง?----ซื้อ  เพิ่มเข้ามา เฉพราะที่เพิ่มเข้ามานิดหน่อยนี้ ผมใช้เวลาศุกร์-เสาร์-อาทิตย์(25--27ธค.52)ทั้ง3วันค้าหาในเวปจีนถึงได้เจอ และเอามาเพิ่มผสมเข้ากับกาฟตาแป๊ะช่องซ้ายบน ยังมิทราบจะแม่นยำแค่ไหน ต้องคอยกาลเวลาบ่งบอกครับ
กราฟตาแป๊ะซ้ายบน ตัวหนังสือสีเขียว ? ---ขาย   ตัวหนังสือสีแดง?----ซื้อ  เส้นสีแดงหนา---ขาขึ้น เส้นสีเขียวหนา---ขาลงขวาบน  เส้นสีแดง---เสนอซื้มากกว่าเสนอขาย เส้นสีเขียว---เสนอขายมากกว่าเสนอซื้อ  ส่วนช่วงกลางที่มีแท่งสีแดงกับเขียวนั้น แท่งแดง---แรงซื้อขึ้น   แท่งเขียว---แรงขายลง
ขวาช่องสอง  แท่งเหลืองคู่เส้นแดง---ขาขึ้น   แท่งฟ้าคู่เส้นเขียว---ขาลง โดยปกติ ช่องนี้จะเปลี่ยนแนวโน้มช้ากว่าเพื่อน หากเปลี่ยนแนวโน้มเมื่อไหร่ เขาให้ขายออกหรือซื้อเข้าได้ทันที่ ยกเว้นมีปัจจัยพื้นฐานแรงๆแทรกเข้ามา จึงจะทำให้แนวโน้มกลับเปลี่ยนได้โดยกะทันหัน
ซ้ายช่องสอง หน้าเหลืองแป๊ะยิ้ม---ขาขึ้น หน้าแดงแป๊ะร้องไห้---ขาลง  แท่งสีเขียว---เพดาน   แท่งสีแดง---พื้นดินโดยปกติ ช่องนี้จะส่งสัญญาณว่า กำลังจะเปลี่ยนแนวทางแล้วนะ แต่ยังไม่เต็มร้อย อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยกะทันหันก็ได้ ต้องดูซ้ายบนและขวาช่อง๒ประกอบด้วย จึงจะให้ความมั่นใจได้
ทอง
(http://img706.imageshack.us/img706/9314/31695374.gif) (http://img706.imageshack.us/i/31695374.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 08, 2010, 11:53:35 AM
ดัชนีดอลล์เมกา
(http://img13.imageshack.us/img13/4333/85779493.gif) (http://img13.imageshack.us/i/85779493.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Yai Carmungwed ที่ มกราคม 08, 2010, 12:48:10 PM
ขอบคุณมากครับอาจารย์ทองใหม่


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: oyo ที่ มกราคม 08, 2010, 02:09:20 PM
สวัสดีครับคุณทองใหม่ ;)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 08, 2010, 03:14:09 PM
ขอบคุณครับ  แต่ยังไม่เข้าใจเท่าไหร่...
ค่อยๆดู และ+แล้ว ก็จะเข้าใจได้เองครับ

น้อมรับครับ...แต่ที่ผมบอกยังไม่เข้าใจเท่าไหร่หมายถึง

ผมอ่านแนววิเคราะห์ของ อ. แล้ว มีบางครั้งเข้า แล้วไม่เข้าใจ " เจตนา " ของ อ. ครับว่า

1.รอดู
2.เข้าซื้อ
3.ขายออก

แต่ละครั้งหมายถึงข้อไหน  และมี ข้ออื่นมากกว่านี้ไหม ? !38
กระทู้ของผมส่วนใหญ่แล้ว ผมจะไม่บอกให้ซื้อ ให้ขาย หรือรอก่อน แต่ผมจะหากราฟที่ผมคิดว่าดีที่สุดเท่าที่ผมมีอยู่มาให้เพื่อนๆได้ดู เป็นกราฟที่ดูง่ายสุดๆ ผมยังคิดถึงบางท่านอาจจะบอกว่าดูไม่เป็น ผมเลยลงคำอธิบายแบบง่ายๆของกราฟให้ได้ดูและศึกษาอีก และเพื่อนๆก็ตัดสินใจเอาเองว่า ควรจะทำอย่างไร เช่นเช้าวันนี้ ผมเอากราฟใหม่2510(ทอง)มาลงให้ดู และชี้ให้เห็นว่า ช่องขวาบน--มีสัญญาณขายปรากฏขึ้นแล้วตั้งแต่เมื่อคืนนี้ แต่อีก5ช่องยังไม่ปรากฏสัญญาณขาย ......ให้ไปอ่านกราฟด้านบนของวันนี้ครับ
วิธีนี้อาจเรียกได้ว่า ผมเพียงแค่บอกวิธีหาปลาให้เพื่อนๆได้เรียนรู้และหาปลาด้วยตัวเอง แต่ไม่ได้หาปลาแล้วยื่นให้เพื่อนๆ โดยเพื่อนๆไม่รู้วิธีที่จะหาปลาด้วยตัวเอง กราฟทุกตัวเราต้องใช้กาลเวลาเป็นต้นทุนของการศึกษาเรียนรู้ เช่นกราฟที่ให้ดูเมื่อเช้านี้เป็นต้น..สัญญาณที่ปรากฏจะเชื่อถือได้ไหม เมื่อผ่านวันนี้--คืนนี้ไป เราก็จะรู้ได้เองว่า กราฟตัวนี้เชื่อถือได้หรือไม่ ครั้งเดียวที่ถูกหรือผิดยังไม่เพียงพอ เราต้องอาศัยกาลเวลาดูครั้งต่อๆไปด้วย เพราะมีปัจจัยพื้นฐานภายนอกมารบกวนกราฟ เราจึงต้องพิสูจน์หลายๆครั้งเพื่อเรียนรู้ ยืนยันการถูกหรือผิดของกราฟ โอ๊ย...พูดเสียยาว หวังว่าคงเป็นประโยชน์ได้บ้างนะครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ มกราคม 08, 2010, 03:23:34 PM
ฮุ ฮุ รอลุ้นคืนนี้ ค่ะ 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 08, 2010, 04:50:16 PM
เป้าหมายทองคืนนี้
เป้าที่1  นับจากช่วงบ่าย1119.8---1126.5/1127.5-----1120/1119-------1121.5/1122.5------1107.5/1106.5  หรือ
เป้าที่2    นับจากช่วงบ่าย1119.8---1128/1129-----1124.5/1123.5----1138/1139  ระหว่างนั้นจะมีแรงกดดันที่1132.5/1133.5
เอามาจากเวปจีน ดูเล่นๆอย่าจริงจังครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Cindy ที่ มกราคม 08, 2010, 05:34:45 PM
ขอบคุณค่ะอาจารย์ ช่วงนี้เล่นระยะสั้นดีกว่า เข้า ๆ  ออก ๆ กำไรนิด ๆ หน่อย ๆ ดีกว่าอยู่เฉย ๆ
ราคาที่ได้มาต่ำ ๆ หน่อย ก็เก็บเอาไว้ก่อนค่ะ รอว่าอยู่ ๆ จะมีปฎิหาริย์อีกครั้งหรือปล่าว :P ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 08, 2010, 06:04:49 PM
ขอบคุณค่ะอาจารย์ ช่วงนี้เล่นระยะสั้นดีกว่า เข้า ๆ  ออก ๆ กำไรนิด ๆ หน่อย ๆ ดีกว่าอยู่เฉย ๆ
ราคาที่ได้มาต่ำ ๆ หน่อย ก็เก็บเอาไว้ก่อนค่ะ รอว่าอยู่ ๆ จะมีปฎิหาริย์อีกครั้งหรือปล่าว :P ;D
คืนนี้มีปฏิหาริย์ แต่ไม่รู้จะปฏิหาริย์ขึ้นหรือปฏิหาริย์ลง :D :D :D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Theephat ที่ มกราคม 08, 2010, 06:54:34 PM
ขอบคุณครับคุณทองใหม่วันจันทร์ขอให้ได้เฮกันนะครับ ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 09, 2010, 07:51:58 AM
หากยังเป็นคลื่นBอยู่ ทองขึ้นได้อีกก็คงไม่มากนัก เป้าหมายแรกให้ดู1050 หรืออาจเลยกว่านั้นอีกได้บ้าง หากทองไม่เชื่อฟัง ดันขึ้นต่อไปเรือยๆ นักนับคลื่นคงต้องมานั่งนับคลื่นใหม่แล้วครับงานนี้ ฮาฮา
ETFขายทองอีกแล้วครับท่าน ขายทองช่วงที่ทองขึ้น เป็นไปได้ไหม? เขาเห็นว่าคลื่นขาBกำลังจะสิ้นสุด แล้วจะต่อด้วยคลื่นขาCคลื่นลงขาใหญ่ ผมเองก็ไม่ทราบเหมือนกัน ฝากเป็นการบ้านไปคิดเล่นๆนะครับ
(http://img35.imageshack.us/img35/5030/40354825.gif) (http://img35.imageshack.us/i/40354825.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 09, 2010, 08:11:04 AM
กราฟตาแป๊ะซ้ายบน มีการเปลี่ยนแปลงนิดหนี่ง มีคำว่า  ตัวหนังสือสีเขียว ? ---ขาย และ  ตัวหนังสือสีแดง?----ซื้อ  เพิ่มเข้ามา เฉพราะที่เพิ่มเข้ามานิดหน่อยนี้ ผมใช้เวลาศุกร์-เสาร์-อาทิตย์(25--27ธค.52)ทั้ง3วันค้าหาในเวปจีนถึงได้เจอ และเอามาเพิ่มผสมเข้ากับกาฟตาแป๊ะช่องซ้ายบน ยังมิทราบจะแม่นยำแค่ไหน ต้องคอยกาลเวลาบ่งบอกครับ
กราฟตาแป๊ะซ้ายบน ตัวหนังสือสีเขียว ? ---ขาย   ตัวหนังสือสีแดง?----ซื้อ  เส้นสีแดงหนา---ขาขึ้น เส้นสีเขียวหนา---ขาลงขวาบน  เส้นสีแดง---เสนอซื้มากกว่าเสนอขาย เส้นสีเขียว---เสนอขายมากกว่าเสนอซื้อ  ส่วนช่วงกลางที่มีแท่งสีแดงกับเขียวนั้น แท่งแดง---แรงซื้อขึ้น   แท่งเขียว---แรงขายลง
ขวาช่องสอง  แท่งเหลืองคู่เส้นแดง---ขาขึ้น   แท่งฟ้าคู่เส้นเขียว---ขาลง โดยปกติ ช่องนี้จะเปลี่ยนแนวโน้มช้ากว่าเพื่อน หากเปลี่ยนแนวโน้มเมื่อไหร่ เขาให้ขายออกหรือซื้อเข้าได้ทันที่ ยกเว้นมีปัจจัยพื้นฐานแรงๆแทรกเข้ามา จึงจะทำให้แนวโน้มกลับเปลี่ยนได้โดยกะทันหัน
ซ้ายช่องสอง หน้าเหลืองแป๊ะยิ้ม---ขาขึ้น หน้าแดงแป๊ะร้องไห้---ขาลง  แท่งสีเขียว---เพดาน   แท่งสีแดง---พื้นดินโดยปกติ ช่องนี้จะส่งสัญญาณว่า กำลังจะเปลี่ยนแนวทางแล้วนะ แต่ยังไม่เต็มร้อย อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยกะทันหันก็ได้ ต้องดูซ้ายบนและขวาช่อง๒ประกอบด้วย จึงจะให้ความมั่นใจได้
ทอง
(http://img42.imageshack.us/img42/6641/22344156.gif) (http://img42.imageshack.us/i/22344156.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 09, 2010, 08:12:59 AM
ดัชนีดอลล์เมกา
(http://img121.imageshack.us/img121/1104/72930251.gif) (http://img121.imageshack.us/i/72930251.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Jeera ที่ มกราคม 09, 2010, 08:26:27 AM
ขอบคุณค่ะอาจารย์ ช่วงนี้เล่นระยะสั้นดีกว่า เข้า ๆ  ออก ๆ กำไรนิด ๆ หน่อย ๆ ดีกว่าอยู่เฉย ๆ
ราคาที่ได้มาต่ำ ๆ หน่อย ก็เก็บเอาไว้ก่อนค่ะ รอว่าอยู่ ๆ จะมีปฎิหาริย์อีกครั้งหรือปล่าว :P ;D
คืนนี้มีปฏิหาริย์ แต่ไม่รู้จะปฏิหาริย์ขึ้นหรือปฏิหาริย์ลง :D :D :D

สวัสดีวันเด็กค่ะพี่ทองใหม่   :)

แล้วปฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น เป็นปฏิหาริย์ขึ้นค่ะ   Smiley/Angry.gif


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 09, 2010, 08:39:21 AM
ทองคำปิดบวก 5.20$   
 วันเสาร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2553 08:06

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวสูงขึ้น ทำสถิติพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนหลังดอลล์อ่อนค่าอย่างหนัก

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดที่ 1,138.90 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 5.20 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,119.50-1,140 ดอลลาร์

ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 18.47 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 12.5 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 2.65 เซนต์ ปิดที่ 3.4005 ดอลลาร์/ปอนด์

ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 1,570.60 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 11.20 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 425.15 ดอลลาร์/ออนซ์ บวก 60 เซนต์

ทั้งนี้ เมื่อวานนี้กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรร่วงลงถึง 85,000 อัตราในเดือนธันวาคม จากที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะทรงตัวหรือลดลงเพียงเล็กน้อย


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ มกราคม 09, 2010, 10:15:36 AM
ว๊าว...ขึ้นแล้วค่ะราคานี้จะอยู่ได้ถึงวันจันทร์มั๊ยคะ 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ มกราคม 09, 2010, 10:18:41 AM
วัยนี้ตาแป๊ะคงยิ้มแป้นแน่ๆเลย เดี๋ยวนี้คุณทองใหม่ไม่ลงกราฟจีนที่เป็นรูปบอกว่าชี้ขึ้นกี่%ลงกี่%แล้วเหรอคะกราฟนั้นก็แม่นดีนะคะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 09, 2010, 10:34:32 AM
วัยนี้ตาแป๊ะคงยิ้มแป้นแน่ๆเลย เดี๋ยวนี้คุณทองใหม่ไม่ลงกราฟจีนที่เป็นรูปบอกว่าชี้ขึ้นกี่%ลงกี่%แล้วเหรอคะกราฟนั้นก็แม่นดีนะคะ
โพลนั้นเขาเปลี่ยนแปลงไวมาก บางครั้งก็ไม่แม่นเหมือนกัน ไปดูเอาเองได้ตามนี้ครับ
http://gold.hexun.com/ (http://gold.hexun.com/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: nadia ที่ มกราคม 09, 2010, 10:38:34 AM
ขอบคุณค่ะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 09, 2010, 10:41:21 AM
ขออนุญาต .. อาจารย์ทองใหม่ .. เพื่อร่วมแจมด้วยครับ

" เห็นด้วย! กับ ความเห็นของอาจารย์ทองใหม่" .. ครับ

([url]http://upic.me/i/4i/q3etf.gif[/url])

แต่ยังมี "นัยสำคัญ"  ของการขายทองครั้งนี้ และช่วงเวลานี้!

เพราะเป็นช่วง "เปลี่ยนถ่ายเลือด" ไปยัง "เครื่งสูบตัวใหม่"


John Paulson Making Big New Bet on Gold

One of the biggest investors is placing a huge new bet on gold.

John Paulson, who scored about $20 billion of profits between 2007 and early 2009 wagering against the housing market and financial companies, is launching a hedge fund dedicated to buying up shares of gold miners and other bullion-related investments, according to investors.


John Paulson, president of Paulson & Co.

Mr. Paulson told his investors he personally would invest between $200 million and $250 million in the new fund, which he said will begin on Jan. 1[/color], according to an investor at the meeting.


[url]http://online.wsj.com/article/SB10001424052748704533904574543713428787876.html[/url] ([url]http://online.wsj.com/article/SB10001424052748704533904574543713428787876.html[/url])
[url]http://search.conduit.com/Results.aspx?q=john+paulson+and+new+gold+fund&meta=all&hl=th&gl=th&SelfSearch=1&SearchSourceOrigin=10&ctid=CT2077543[/url] ([url]http://search.conduit.com/Results.aspx?q=john+paulson+and+new+gold+fund&meta=all&hl=th&gl=th&SelfSearch=1&SearchSourceOrigin=10&ctid=CT2077543[/url])
(http://img194.imageshack.us/img194/7244/id088769.gif) (http://img194.imageshack.us/i/id088769.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Yai Carmungwed ที่ มกราคม 09, 2010, 03:51:19 PM
ขอบคุณครับอาจารย์ทองใหม่


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 11, 2010, 06:43:48 AM
เช้านี้ตลาดเปิด ทองกระโดดเปิดสูงเลย กราฟของผมสงสัยยังงงๆอยู่  เขียนว่า โปรดรอเปลี่ยนข้อมูลใหม่ เลยต้องนั่งรอไปก่อน ยังทำไรไม่ได้เลยครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Jeera ที่ มกราคม 11, 2010, 07:50:16 AM
เช้านี้ตลาดเปิด ทองกระโดดเปิดสูงเลย กราฟของผมสงสัยยังงงๆอยู่  เขียนว่า โปรดรอเปลี่ยนข้อมูลใหม่ เลยต้องนั่งรอไปก่อน ยังทำไรไม่ได้เลยครับ

อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่ทองใหม่   :)

กราฟคงตกใจอยู่มั้งคะ   ???  ทองแพงจัง เฮ้ออออออ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: IPSUM ที่ มกราคม 11, 2010, 07:58:22 AM
เช้านี้ตลาดเปิด ทองกระโดดเปิดสูงเลย กราฟของผมสงสัยยังงงๆอยู่  เขียนว่า โปรดรอเปลี่ยนข้อมูลใหม่ เลยต้องนั่งรอไปก่อน ยังทำไรไม่ได้เลยครับ

อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่ทองใหม่   :)

กราฟคงตกใจอยู่มั้งคะ   ???  ทองแพงจัง เฮ้ออออออ

ยังไม่มีของเลย ตกรถซะแล้ว  :'(


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: gift ที่ มกราคม 11, 2010, 08:13:58 AM
สวัสดีตอนเช้าค่ะคุณทองใหม่  สดชื่น แจ่มใสนะค่ะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 11, 2010, 08:33:41 AM
ทองกระโดดเปิดสูง ทำเอากราฟทองMT4ที่จีนหยุดทำงานไปเลยครับ หรืออาจเกิดสาเหตุอื่นใดก็ไม่ทราบ ก็ได้แต่นั่งคอยอย่างเดียว
ผมเคยบอกไว้แล้วว่า ใต้พระอาทิตย์และพระจันทร์ดวงนี้ แถมด้วยดวงดาวที่ประดับท้องฟ้าระยิบระยับ อะไรๆก็อาจเกิดขึ้นได้ ปัจจัยพื้นฐานแรงงานนอกภาคเกษตรของเมกาทำพิษ แม้กราฟใหม่2010ทองช่องบนขวา ที่มีคำว่าขายปรากฏขึ้นแล้ว ก็โดนพิษทำร้ายหายไปเลยครับ จะตัดสินว่ากราฟนี้ไม่ขลังยังไม่ได้ เพราะเหตุการณ์มันไม่ปกติครับ

(http://img19.imageshack.us/img19/9871/61450760.gif) (http://img19.imageshack.us/i/61450760.gif/)
กราฟใหม่2010(เรามาช่วยกันใช้กาลเวลาพิสูจน์ว่า กราฟตัวนี้จะมีความขลังเท่ากราฟตาแป๊ะไหม)
1.   ซ้ายบนหน้าเทาขาวและหนังสือสีขาว??ถอนตัว(ขาย)   หน้าแดงและหนังสือสีเหลือง??บุก(ซื้อ)
2.   กลางบน หนังสือสีเขียว??ขาย หนังสือสีแดง??ซื้อ  ส่วนตัวหนังสือสีเหลือง????เส้นหยุดขาดทุน(สำหรับผู้ที่เล่นออนไลน์สั่งป้องกันล่วงหน้าได้เท่านั้น)
3.   ขวาบน  ตัวหนังสือสีเขียว (?)?ขาย  ตัวหนังสือสีเหลือง(?)?ซื้อ  
 4.   ซ้ายล่าง สีแดง???เพดาน(จะอยู่ช่วงบน)   สีแดง???ซื้อ(จะอยู่ช่วงล่าง)          สีเขียว ????หนีเร็ว หากเครื่องหมาย ?ปรากฏแค่/ยังไม่สมบูรณ์เต็มตัว?เตรียมตัวหนี(จะปรากฏพร้อม   ???เพดาน(จะอยู่ช่วงบน)   )และตัวหนังสือสีเขียว????เจอต่ำซื้อ
5.   กลางล่าง   หน้าเทาขาว?ขาย        หน้าแดง?ซื้อ
6.   ขวาล่าง    เครื่องหมายสีขาว??ขาย           เครื่องหมายสีชมภู??ซื้อ



หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 11, 2010, 08:36:53 AM
ดัชนีดอลล์เมกา
(http://img683.imageshack.us/img683/3849/64987740.gif) (http://img683.imageshack.us/i/64987740.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 11, 2010, 08:38:34 AM
น้ำมัน
(http://img191.imageshack.us/img191/7646/15802297.gif) (http://img191.imageshack.us/i/15802297.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Jeera ที่ มกราคม 11, 2010, 09:00:04 AM
เช้านี้ตลาดเปิด ทองกระโดดเปิดสูงเลย กราฟของผมสงสัยยังงงๆอยู่  เขียนว่า โปรดรอเปลี่ยนข้อมูลใหม่ เลยต้องนั่งรอไปก่อน ยังทำไรไม่ได้เลยครับ

อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่ทองใหม่   :)

กราฟคงตกใจอยู่มั้งคะ   ???  ทองแพงจัง เฮ้ออออออ

ยังไม่มีของเลย ตกรถซะแล้ว  :'(

ชวนขึ้นรถแล้วนะ ไม่ตามมาเอง   :P


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Belmont ที่ มกราคม 11, 2010, 10:06:51 AM
ขอบคุณครับ คุณทองใหม่

กราฟตาแป๊ะใหม่ น่าสนใจมากครับ
อ่านยังงงๆ อยู่ เดี๋ยวดูๆ ไปคงชิน
เสียดายอยากอ่านออกเขียนได้บ้างครับ
เกินเป็นลูกคนจีนเสียป่าว อิ อิ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 11, 2010, 10:07:37 AM
พบหลักฐานชี้ชัดเฟดนิวยอร์กสั่ง AIG ระงับการเผยข้อมูลสำคัญ ส่อเจตนาจงใจปกปิดข้อมูล

Posted on Monday, January 11, 2010
กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เต้น หลังหลักฐานชี้เฟดสั่ง AIG ระงับเผยข้อมูลสำคัญ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง Timothy Geithner ที่ต้องตกเป็นเป้า เมื่อสำนักข่าว Bloomberg เปิดเผยข้อมูลว่า ธนาคารกลางสาขานิวยอร์กสั่งให้บริษัทประกันยักษ์ใหญ่ American International Group (AIG) งดเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวกับเงินช่วยเหลือของรัฐ ที่บริษัทนำไปจ่ายคืนให้กับบรรดาธนาคารเจ้าหนี้ต่างๆ ในช่วงที่วิกฤติการเงินกำลังสุกงอมเต็มที่

ในร่างแบบรายงานที่ AIG ยื่นให้กับหน่วยงานรัฐ ระบุว่า บริษัทจ่ายเงินให้กับธนาคารต่างๆ ซึ่งรวมถึง Goldman Sachs Group และ Societe Generale (SocGen) จำนวน 100 เซนต์สำหรับทุกๆ 1 ดอลลาร์ ในสัญญา Credit-default swaps ที่ธนาคารเหล่านี้ซื้อจากบริษัท ขณะเดียวกัน ในเอกสารก็อ้างด้วยว่า เฟดนิวยอร์กทำการดึงรายละเอียดต่างๆ ออก และก็ไม่ได้มีข้อความใดๆ ที่แสดงอยู่ในรายงานที่เปิดเผยสู่สาธารณะเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม ปี 2551

ถ้ายังจำกันได้ เฟดสาขานิวยอร์กเข้าแทรกแซงในการเจรจาระหว่าง AIG และธนาคารหลายแห่งในเดือนพฤศจิกายน ปี 2551 ซึ่งเป็นช่วงที่สัญญา swaps หรือสัญญาที่มูลค่าผูกติดอยู่กับสินเชื่อบ้านประเภท subprime กำลังถูกถล่มด้วยยอดขาดทุนนานหลายสัปดาห์ หลังจากที่บริษัทได้รับเงินช่วยเหลือจากภาครัฐมาแล้ว และก็ทำให้หน่วยงานที่กำกับดูแลตัดสินใจให้ Goldman Sachs และธนาคารอีกมากกว่า 10 แห่ง ได้รับการจ่ายเงินคืนเต็มจำนวน ในมูลค่า 62,100 ล้านเหรียญสำหรับสัญญา swaps

เหตุนี้จึงทำให้สมาชิกสภาคองเกรสหลายคนได้เรียกการให้ความช่วยเหลือบริษัทประกันยักษ์ใหญ่ ว่าเป็นการช่วยทางอ้อมแก่สถาบันการเงิน หรือที่ใช้ศัพท์ว่า ?backdoor bailout?

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากแคลิฟอร์เนีย ที่นำข้อมูลนี้มาเปิดเผย ก็คือ Darrell Issa ซึ่งเขาบอกว่า เฟดนิวยอร์กมีความจงใจที่จะจำกัดและยืดเวลาในการเปิดเผยข้อมูลสำคัญ แม้ว่าประชาชนผู้เสียภาษีควรต้องมีสิทธิได้รับข้อมูลอย่างเต็มที่และสมบูรณ์ ภายใต้กฏหมายหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา ไม่ใช่ว่าถูกปิดบังจากเจตนาทางการเมืองที่ไม่ต้องการให้ใครเห็นข้อมูลที่น่าเป็นห่วงเหล่านี้


หุ้นสหรัฐฯ ? ยุโรปประเดิมบวกสัปดาห์แรกของปี ลุ้นตัวเลขเงินเฟ้อศุกร์นี้

นักลงทุนยังเทเงินเข้ามายังตลาดหุ้นมากขึ้นในสัปดาห์แรกของปี เมื่อตลาดหุ้นยุโรปขยับขึ้นมาได้เป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน ขณะที่ดัชนี S&P 500 ของสหรัฐฯ ก็ทำสถิติบวกขึ้นแรงที่สุดในรอบกว่า 2 เดือน หลังเห็นตัวเลขเศรษฐกิจที่ดีขึ้น

ดัชนี Dow Jones Stoxx 600 ของยุโรป บวกขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 15 เดือน หลังนักลงทุนเห็นสัญญาณที่เศรษฐกิจกำลังประคองตัวขึ้นมาได้จากความตกต่ำในรอบหลายสิบปี นำโดยแรงซื้อในหุ้น commodity อย่างเช่น Rio Tinto Group ที่พาหุ้นทั้งกลุ่มวัตถุดิบอุตสาหกรรมบวกขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 4

นักวิเคราะห์จากบริษัท Barclays Wealth ในลอนดอนมองว่า ตลาดหุ้นยังดูมีความน่าสนใจที่สุด แม้แนวโน้มเศรษฐกิจอาจจะมีโอกาสสะดุดลงได้ แต่ด้วยระดับอัตราการเติบโตของกำไรจะสามารถช่วยผลักดันให้ราคาหุ้นขยับสูงขึ้นอีก

ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาล่าสุด ก็คือ ดัชนีชี้วัดสภาวะการผลิตของกลุ่มประเทศ euro zone ที่ขยายตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ในเดือนที่แล้ว ขณะที่ตัวเลขเดียวกันของอังกฤษก็บวกขึ้นมาอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 25 เดือน

กลับมาที่สหรัฐฯ ดัชนีภาคโรงงาน (ISM factory index) เมื่อสัปดาห์ก่อนก็ทำจุดสูงสุดในรอบกว่า 3 ปี และในเวลาเดียวกัน ราคาในตลาด Futures ก็สะท้อนว่า นักลงทุนเริ่มคลายความกังวลในเรื่องแนวโน้มเฟดขึ้นดอกเบี้ย

ข่าวดีอีกเรื่องยังมาจากภาคธนาคาร เมื่อนักวิเคราะห์จาก Morgan Stanley ให้ความเห็นว่า ยอดขาดทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์จะไม่ใช่ปัจจัยถ่วงที่สำคัญต่อเศรษฐกิจ

ในสัปดาห์นี้ นักลงทุนยังต้องลุ้นต่อสำหรับการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในสหรัฐฯ อย่างเช่น ยอดค้าปลีก ผลผลิตอุตสาหกรรม ความเชื่อมั่นผู้บริโภค และรวมไปถึงตัวเลข CPI ที่แสดงถึงภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งถ้าไม่มีอะไรเซอร์ไพร์ส ดัชนีราคาผู้บริโภคนี้ก็น่าจะออกมาปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนที่แล้วตามการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ และจะเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดในรอบ 3 เดือน ทำให้หลายคนเบาใจว่า เศรษฐกิจยังไม่มีแรงกดดันเรื่องเงินเฟ้อในตอนนี้


การว่างงานสหรัฐฯ ? ยุโรปยังวิกฤติ

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่าอัตราว่างงานเดือนธันวาคมยังอยู่ที่ระดับ 10% ซึ่งยังคงใกล้เคียงกับระดับของเดือนตุลาคมที่ 10.1% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2526

ขณะที่ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรร่วงหนักเกินคาดถึง 85,000 อัตรา จากที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะทรงตัวหรือลดลงเพียงเล็กน้อย โดยภาคส่วนที่มีการปลดพนักงานมากที่สุดคือภาคการก่อสร้าง การผลิต และการค้าส่ง

สำหรับทั้งปี 2552 อัตราจ้างงานในสหรัฐร่วงลงถึง 4.16 ล้านอัตรา ซึ่งถือว่ามากที่สุดในรอบ 65 ปี ขณะที่อัตราว่างงานรายเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 9.3% ซึ่งถือว่าสูงสุดในรอบ 27 ปี

อัตราว่างงานใน 16 ประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโร ปรับตัวสูงขึ้นแตะ 10% ในเดือนพ.ย.2552 ถือเป็นสถิติที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2541 หรือก่อนที่จะมีการใช้เงินยูโรเป็นครั้งแรกในปี 2542

สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) รายงานว่า อัตราว่างงานเดือนพ.ย.ไต่ขึ้นมา 0.1% จากเดือนต.ค. โดยในบรรดาประเทศสมาชิกยูโรโซนนั้น สเปนมีอัตราว่างงานสูงที่สุดที่ระดับ 19.4% ส่วนอัตราว่างงานต่ำสุดในยูโรโซนอยู่ที่เนเธอร์แลนด์ที่ระดับ 3.9%

ขณะที่อัตราว่างงานในกลุ่มประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปทั้ง 27 ประเทศ หรือนับรวมถึงประเทศที่ไม่ใช้เงินยูโร อาทิ อังกฤษ และ สวีเดน ขยับขึ้น 0.1% เช่นกัน มาอยู่ที่ 9.5% ในเดือนพ.ย.


เชฟรอนหยุดผลิตน้ำมัน 2 หมื่นบาร์เรลจากความวุ่นวายที่ไนจีเรีย

บริษัท เชฟรอน คอร์ป เผยผ่านแถลงการณ์ว่า เหตุมือปืนโจมตีท่อส่งน้ำมันของบริษัทในบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนเจอร์ เมื่อวานนี้ ทำให้บริษัทต้องปิดการผลิตน้ำมันดิบจำนวน 20,000 บาร์เรลต่อวัน

สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวด้านความมั่นคงว่า การโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากมือปืนไม่พอใจที่เกิดเหตุสังหารลูกจ้างที่โรงงาน Escravos- Gas-To-Liquid (EGTL) โดยกลุ่มทหาร

ท่อส่งน้ำมันที่ได้รับความเสียหายอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองวาร์รี โดยขนส่งน้ำมันดิบจากบ่อน้ำมันของบริษัทเชฟรอนในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งผลิตน้ำมันได้วันละ 77,000 บาร์เรลเมื่อปี 2551 ทางทหารได้ออกสำรวจความเสียหายต่อระบบท่อส่งน้ำมันแล้ว ทำให้นักวิเคราะห์มองว่าจะยังส่งผลต่อเนื่องทำให้ราคาน้ำมันยังปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง

หลังจากที่หลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่ากิจกรรมด้านการผลิตกำลังฟื้นตัวทั้งในสหรัฐและจีน และปัจจัยสำคัญที่สุดที่ทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นคือ เงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงอย่างหนัก

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากตั้งคำถามว่าราคาน้ำมันจะทรงตัวอยู่ในระดับดังกล่าวได้อีกนานแค่ไหน เนื่องจากสภาพตลาดแรงงานที่ย่ำแย่จะทำให้ดีมานด์น้ำมันลดลง ดูได้จากตัวเลขสต็อกน้ำมันฮีทติ้งออยล์ของสัปดาห์นี้ที่แทบไม่มีการเคลื่อนไหวทั้งที่หลายพื้นที่ในประเทศกำลังเผชิญกับสภาพอากาศที่หนาวจัด

ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำมันกล่าวว่าตลอดปี 2552 ที่ผ่านมาราคาน้ำมันเคลื่อนไหวตามเงินดอลลาร์มากกว่าดีมานด์ที่แท้จริง และการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันเมื่อคืนนี้ก็เป็นไปในทิศทางดังกล่าวเช่นกัน


มาร์ค โมเบียสเชื่อฟองสบู่ในอสังหาฯจีนไม่รุนแรง

มาร์ค โมเบียส ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนชื่อดังระดับโลกและเจ้าของบริษัท เทมเพิลตัน แอสเซท เมเนจเมนท์ คาดการณ์ว่าภาวะฟองสบู่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนจะไม่เข้าขั้นรุนแรง เพราะเชื่อว่าจีนจะใช้มาตรการสกัดภาวะฟองสบู่ได้ทันเวลาและจะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาด นอกจากนี้ โมเบียสกล่าวว่าอัตราการออมในประเทศจีนยังอยู่ในระดับสูง ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคปรับตัวสูงขึ้น แต่เขาเชื่อว่าตัวเลขดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจ

โมเบียสกล่าวว่า เขาวางแผนที่จะเข้าซื้อหุ้นในตลาดหุ้นจีนมากขึ้น โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากดีมานด์ผู้บริโภคที่สูงขึ้น รวมถึงหุ้นกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มผู้จัดจำหน่ายวัตถุดิบ ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ในตลาดหุ้นจีนร่วงลง 28% ในรอบปีงบการเงินที่สิ้นสุด ณ วันที่ 7 ม.ค.2553 หลังจากทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีเมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ โมเบียสกล่าวว่า แม้จีนจะพยายามควบคุมอัตราการปล่อยเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ แต่ก็จะไม่ส่งผลกระทบในด้านลบต่อตลาด เพราะเชื่อว่าประสิทธิภาพด้านการผลิตที่เคลื่อนไหวอย่างสอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจจะเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยควบคุมเงินเฟ้อในจีนได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ โมเบียสได้กล่าวชื่นชมการทำงานของรัฐบาลจีนว่า จีนเป็นประเทศที่เฝ้าระวังความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจอยู่ตลอดเวลาและจะไม่ปล่อยให้เศรษฐกิจเคลื่อนไหวอย่างเหนือการควบคุม ทั้งนี้ ก็เพราะจีนต้องการให้เศรษฐกิจขยายตัวอย่างยั่งยืน

ธนาคารกลางจีนซึ่งตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ประเภท 1 ปีไว้ที่ระดับต่ำสุดที่ 5.31% มาเป็นเวลากว่า 1 ปี ได้เปิดทางให้ธนาคารพาณิชย์ในประเทศปล่อยเงินกู้ให้กับผู้บริโภคและภาคเอกชนเป็นวงเงินสูงถึง 9.21 ล้านล้านหยวน หรือ 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2552


ประธานาธิบดีอาร์เจนตินาสั่งปลดประธานธนาคารกลาง

ประธานาธิบดีคริสตินา เฟอร์นานเดซ ของอาร์เจนตินามีคำสั่งปลดนายมาร์ติน เรดราโด ประธานธนาคารกลางอาร์เจนตินาออกจากตำแหน่ง โดยอ้างเหตุผลด้านการประพฤติผิดระเบียบและละเว้นการปฎิบัติหน้าที่

หลังจากที่นายเรดราโดประธานธนาคารกลาง ปฏิเสธที่จะโอนเงินในทุนสำรองระหว่างประเทศ 6,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐเข้าสู่กองทุนชำระหนี้ต่างประเทศของรัฐบาล

ด้านโฆษกของนายเรดราโด กล่าวว่า ประธานธนาคารกลางยอมที่จะทำตามคำสั่งของประธานาธิบดีก็ได้ แต่จะไม่ลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งความเคลื่อนไหวครั้งนี้ได้จุดชนวนให้เกิดการต่อสู้ทางกฎหมายขึ้น

ขณะเดียวกัน ทนายความหลายรายกล่าวว่า คำสั่งดังกล่าวของประธานาธิบดีอาร์เจนตินาอาจเป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนือกฎหมาย

เนื่องจากจริงๆ แล้ว สภาคองเกรสเป็นผู้เดียวที่มีอำนาจตามกฎหมายในการสั่งปลดประธานธนาคารกลางออกจากตำแหน่ง

ทั้งนี้ อาร์เจนตินามีหนี้ต่างประเทศที่ครบกำหนดชำระคืนจำนวน 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีนี้ ขณะที่ดุลบัญชีงบประมาณยังขาดดุลอยู่ 2-7 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งนักวิเคราะห์เชื่อว่า การสั่งปลดนายเรดราโด แสดงให้เห็นถึงความขัดแย้งเรื่องการจัดสรรเงินทุนชำระหนี้ระหว่างธนาคารกลางกับรัฐบาลอาร์เจนตินา ซึ่งนับเป็นสัญญาณบ่งชี้ที่เลวร้ายในการกระตุ้นให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศมากขึ้น


เวเนซุเอลาลดค่าเงินในรอบ 5 ปี

ประธานาธิบดีฮิวโก ชาเวซ ของเวเนซุเอลา สั่งลดค่าเงินโบลิวาร์เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เมื่อปี 2548 เป็นต้นมา โดยใช้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา 2 ระบบ

ระบบดังกล่าว จะดีต่อต่อภาคธุรกิจที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นลำดับต้น ๆ โดยภาคสาธารณสุขนำเข้าอาหาร เครื่องจักรกล หนังสือ เทคโนโลยี รวมทั้งการนำเข้าภาครัฐและการส่งเงินกลับประเทศจะได้ประโยชน์จากอัตราแลกเปลี่ยนใหม่ ส่วนอัตราแลกเปลี่ยนที่สูงขึ้นจะใช้กับสินค้าประเภทอุตสาหกรรมรถยนต์ โทรคมนาคม ยาสูบ เครื่องดื่ม เคมีภัณฑ์ ปิโตรเคมี และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

ภายใต้อัตราแลกเปลี่ยนใหม่ 1 ดอลลาร์สหรัฐ จะเท่ากับ 2.6 โบลิวาร์ ลดลงจากเดิมซึ่ง 1 ดอลลาร์สหรัฐเท่ากับ 2.1 โบลิวาร์ ส่วนสินค้านำเข้าที่ไม่จำเป็นจะใช้อัตราแลกเปลี่ยนที่ 1 ดอลลาร์สหรัฐต่อ 4.3 โบลิวาร์

เวเนซุเอลาดำดิ่งสู่ภาวะถดถอยเมื่อปีที่แล้วนับเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี เนื่องจากราคาน้ำมันและการผลิตร่วงลง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงถึงร้อยละ 25


JAL เตรียมยื่นล้มละลาย 19 ม.ค.

สายการบินเจแปน แอร์ไลนส์ เตรียมยื่นเรื่องขอล้มละลายในวันที่ 19 ม.ค.นี้ ภายใต้แผนปรับโครงสร้างที่รัฐบาลสนับสนุน เช่น การลดตำแหน่งงาน 13,000 ตำแหน่ง

รัฐบาลญี่ปุ่นเห็นชอบทางเลือกให้ เจแปน แอร์ไลนส์ ยื่นขอล้มละลายต่อศาล ซึ่งเป็นข้อเสนอของหน่วยงานกำกับดูแลการฟื้นฟูกิจการของ JAL ที่รัฐให้การสนับสนุน ภายใต้แผนปรับโครงสร้าง JAL จะลดตำแหน่งงาน 13,000 ตำแหน่ง ในช่วง 3 ปีข้างหน้า และจะยกเลิกเส้นทางการบินเกือบ 50 เส้นทางทั้งใน และต่างประเทศ

นอกจากนี้ หน่วยงานกำกับดูแลการฟื้นฟูกิจการของ JAL จะขอให้ธนาคารยกหนี้ 350,000 ล้านเยน (ราว 126,000 ล้านบาท) เพื่อช่วยบรรเทาภาระหนี้สินของเจเอแอล

JAL มีภาระหนี้สินสูงถึง 4,290 ล้านเยน หรือ (4,600 ล้านดอลลาร์) ที่ผูกพันอยู่กันเจ้าหนี้รายใหญ่ในกลุ่มแบงก์ญี่ปุ่น 4 ราย ซึ่งของยอดการขาดทุนมหาศาลเกิดมาจากสภาพธุรกิจการบินที่ย่ำแย่ทั่วโลก และต้นทุนเงินสนับสนุนให้กับผู้เกษียณอายุจำนานมาก ก่อนหน้านี้ทาง JAL ได้ยื่นข้อเสนอให้ ผู้เกษียณอายุกว่า 9,000 คนยอมรับการปรับลดเงินช่วยเหลือลง 30% ซึ่งในวันอังคารที่จะถึงนี้ จะเป็นวันสุดท้ายของการให้คำตอบ


ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่ประกาศออกมาเมื่อวานนี้ (ศุกร์ที่ 8 ม.ค. 2553)
? การจ้างงานนอกภาคเกษตร (ธ.ค.) ลดลง 85,000 ราย
? อัตราการว่างงาน (ธ.ค.) อยู่ที่ระดับ 10%
? ยอดค้าส่ง (พ.ย.) เพิ่มขึ้น 1.5% จากเดือนก่อนหน้า
? สินเชื่อผู้บริโภค (พ.ย.) ลดลง 17,500 ล้านดอลลาร์
 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 11, 2010, 10:12:36 AM
ประเด็นสำคัญ
   - ราคาทองปิดบวกหลังร่วงลง 5 สัปดาห์
   - ตัวเลขจ้างงานสหรัฐซบเซาฉุดดอลล์ร่วงแตะนิวโลว์ 6 สัปดาห์
   - ข่าวไฟไหม้โรงกลั่นหนุนน้ำมันดิบปิดบวก 9 เซนต์
   - ดาวโจนส์นิวไฮ 15 เดือน หลังจ้างงานซบเซาหนุนเฟดคงดอกเบี้ย


    ราคาทองที่ตลาดสหรัฐปิดสูงขึ้น หลังการซื้อขายที่ผันผวนในวันศุกร์ หลังการอ่อนตัวลงเป็นเวลา 5 สัปดาห์ ในขณะที่ดอลลาร์ร่วงลงอย่างหนัก หลังจากที่รายงานแสดงว่า นายจ้างสหรัฐลดการจ้างงานอย่างไม่คาดคิดในเดือนธ.ค.

    สัญญาทองส่งมอบเดือนก.พ.เคลื่อนตัวในช่วง 1,119.50-1,140 ดอลลาร์ ในขณะที่มีปริมาณการซื้อขายราว 221,127 สัญญา สัญญาทองส่งมอบเดือนก.พ.ได้แรงหนุน ในขณะที่ดอลลาร์ดิ่งลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับยูโรและเงินสกุลสำคัญหลังการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐที่น่าผิดหวัง

    ดอลลาร์ร่วงลงในวันศุกร์ (8 ม.ค.) โดยดิ่งลงอย่างหนักเทียบตะกร้าเงิน 6 สกุล ทำสถิติอ่อนค่าลงมากที่สุดภายในวันเดียวในรอบ 1 เดือนครึ่ง หลังจากรายงานการจ้างงานที่ซบเซาตอกย้ำความเชื่อที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำต่อไป

    กระทรวงแรงงานสหรัฐประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนธ.ค.พบว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีการลดการจ้างงานลง 85,000 ราย ซึ่งย่ำแย่กว่าผลการสำรวจที่คาดว่าการจ้างงานจะทรงตัวในเดือนดังกล่าว ขณะที่ตัวเลขว่างงานยังคงอยู่ที่ 10 % จากที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ 10.1 % ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานได้ปรับทบทวนตัวเลขการจ้างงานประจำเดือนพ.ย.เป็นเพิ่มขึ้น 4,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าลดลง 11,000 ตำแหน่ง เมื่อพิจารณาทั้งปี 2009 เศรษฐกิจสหรัฐได้ลดการจ้างงานลง 4.2 ล้านตำแหน่ง นักวิเคราะห์บางคนระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานที่ประกาศออกมาไม่ได้บั่นทอนความจริงที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐได้ปรับตัวดีขึ้น และการอ่อนค่าของดอลลาร์อาจดำเนินไปในช่วงสั้นๆ

    กองทุน SPDR Gold trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยว่าทางกองทุนได้ถือครองทองแท่งระดับ 1,119.541 ตัน ณ วันที่ 8 มกราคม 2553 ลดลง 3.962 ตัน จากวันที่ 7 มกราคม 53

    กลยุทธ์ : ราคาทองคำได้เกิดการดีดทางเทคนิคเปลี่ยนแนวโน้มทางราคา การดีดที่ระดับปรกติ 61.8% จากจุดต่ำสุด เป้าหมายทางราคา คือ 1,161 USS


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 11, 2010, 10:58:38 AM
(http://img9.imageshack.us/img9/5468/58827455.gif) (http://img9.imageshack.us/i/58827455.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 11, 2010, 11:00:58 AM
(http://img695.imageshack.us/img695/4695/38720700.gif) (http://img695.imageshack.us/i/38720700.gif/)
(http://img51.imageshack.us/img51/3404/14937809.gif) (http://img51.imageshack.us/i/14937809.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ มกราคม 11, 2010, 11:07:30 AM
ขอบคุณค่ะคุณทองใหม่    วันนี้น้องทองอารมณ์ดีพุ่งมาแยอะเลยค่ะ   ราคาประมาณนี้น่าทะยอยปล่อยออกบ้างดีไหมคะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: brabus ที่ มกราคม 11, 2010, 11:12:45 AM
ขอบคุณค่ะ พี่ทองใหม่ อยากเข้าแท่งแต่หาโอกาสไม่ได้เลยค่ะ ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 11, 2010, 11:38:01 AM
ขอบคุณค่ะคุณทองใหม่    วันนี้น้องทองอารมณ์ดีพุ่งมาแยอะเลยค่ะ   ราคาประมาณนี้น่าทะยอยปล่อยออกบ้างดีไหมคะ
หากมีกำไรแล้ว ทำไรก็น่ารัก ตามแต่ใจปราถนาครับ ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Cindy ที่ มกราคม 11, 2010, 12:28:13 PM
ขอบคุณค่ะอาจารย์ โชคดีทีมีเฮียกิมกะเค้าไว้นิดหน่อยตอนลง จะขายหรือจะถือไว้ดีน๊า ::)
เอาเป็นว่าไม่โลภ ขอกำไรนิดหน่อยพอค่าอาหารแมวก็พอค่ะ ;D แต่แมวมันอ้วนกินก็จุ อาหารแมวก็แพง ;D laugh.gif


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 11, 2010, 12:40:42 PM
ขอบคุณค่ะอาจารย์ โชคดีทีมีเฮียกิมกะเค้าไว้นิดหน่อยตอนลง จะขายหรือจะถือไว้ดีน๊า ::)
เอาเป็นว่าไม่โลภ ขอกำไรนิดหน่อยพอค่าอาหารแมวก็พอค่ะ ;D แต่แมวมันอ้วนกินก็จุ อาหารแมวก็แพง ;D laugh.gif

แมวที่กินหูฉลาม เปาฮื้อ ฮาฮา


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 11, 2010, 12:43:19 PM
กราฟตาแป๊ะซ้ายบน มีการเปลี่ยนแปลงนิดหนี่ง มีคำว่า  ตัวหนังสือสีเขียว ? ---ขาย และ  ตัวหนังสือสีแดง?----ซื้อ  เพิ่มเข้ามา เฉพราะที่เพิ่มเข้ามานิดหน่อยนี้ ผมใช้เวลาศุกร์-เสาร์-อาทิตย์(25--27ธค.52)ทั้ง3วันค้าหาในเวปจีนถึงได้เจอ และเอามาเพิ่มผสมเข้ากับกาฟตาแป๊ะช่องซ้ายบน ยังมิทราบจะแม่นยำแค่ไหน ต้องคอยกาลเวลาบ่งบอกครับ
กราฟตาแป๊ะซ้ายบน ตัวหนังสือสีเขียว ? ---ขาย   ตัวหนังสือสีแดง?----ซื้อ  เส้นสีแดงหนา---ขาขึ้น เส้นสีเขียวหนา---ขาลงขวาบน  เส้นสีแดง---เสนอซื้มากกว่าเสนอขาย เส้นสีเขียว---เสนอขายมากกว่าเสนอซื้อ  ส่วนช่วงกลางที่มีแท่งสีแดงกับเขียวนั้น แท่งแดง---แรงซื้อขึ้น   แท่งเขียว---แรงขายลง
ขวาช่องสอง  แท่งเหลืองคู่เส้นแดง---ขาขึ้น   แท่งฟ้าคู่เส้นเขียว---ขาลง โดยปกติ ช่องนี้จะเปลี่ยนแนวโน้มช้ากว่าเพื่อน หากเปลี่ยนแนวโน้มเมื่อไหร่ เขาให้ขายออกหรือซื้อเข้าได้ทันที่ ยกเว้นมีปัจจัยพื้นฐานแรงๆแทรกเข้ามา จึงจะทำให้แนวโน้มกลับเปลี่ยนได้โดยกะทันหัน
ซ้ายช่องสอง หน้าเหลืองแป๊ะยิ้ม---ขาขึ้น หน้าแดงแป๊ะร้องไห้---ขาลง  แท่งสีเขียว---เพดาน   แท่งสีแดง---พื้นดินโดยปกติ ช่องนี้จะส่งสัญญาณว่า กำลังจะเปลี่ยนแนวทางแล้วนะ แต่ยังไม่เต็มร้อย อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยกะทันหันก็ได้ ต้องดูซ้ายบนและขวาช่อง๒ประกอบด้วย จึงจะให้ความมั่นใจได้
ทอง
(http://img695.imageshack.us/img695/2474/83985591.gif) (http://img695.imageshack.us/i/83985591.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 11, 2010, 12:44:57 PM
ดัชนีดอลล์เมกา
(http://img269.imageshack.us/img269/815/32464004.gif) (http://img269.imageshack.us/i/32464004.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 11, 2010, 01:06:11 PM
สรุป แล้ว เฮีย ให้ ขาย หรือให้ ซื้อ เนี่ย

 !_cd !_cd !_cd
สรุปแล้วกราฟรายวันทองตาแป๊ะมีแท่งสีเขียวเกิดขี้นในช่องซ้ายด้านล่าง นั่นคือจุดเพดาน แต่ตาแป๊ะยังคงยิ้มอยู่ สัญญาณขายยังไม่ปรากฏ แต่ก็อาจปรากฏขึ้นได้ทุกเมื่อ การอ่านกราฟตอนนี้ก็อ่านได้แค่นี้แหละครับ ส่วนจะถือหรือขายก็สุดแต่ผู้มีทองในมือจะตัดสินใจเอาเองครับ ข้าพเจ้ามิกล้าหรอกที่จะบอกให้ถือต่อหรือขาย ข้าพเจ้าก็อ่านจากกราฟ กราฟว่าไรก็ว่าตาม แต่กราฟก็ใช่ว่าจะถูกต้องเสมอไป ฮาฮา หากมีกำไรแล้วทำไรก็น่ารักครับ เกิดขายแล้วทองขึ้นต่อ อย่างดีก็อดทานหูฉลามน้อยลงซัก๑มื้อ ฮาฮา ผมมิได้บอกว่ากระไรนา ตัดสินใจเอาเองนะครับ  (ตอนนี้ทิศทางยังไม่ชัดเจนนักครับ)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: newa ที่ มกราคม 11, 2010, 01:12:03 PM
 :)  ขอบคุณค่ะ  รอดีทิศทางที่ชัดเจนต่อไปค่ะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: oyo ที่ มกราคม 11, 2010, 01:38:43 PM
:)  ขอบคุณค่ะ  รอดีทิศทางที่ชัดเจนต่อไปค่ะ
ขอบคุณครับคุณทองใหม่  รอด้วยคนนะครับ    ;)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ มกราคม 11, 2010, 02:15:12 PM
ขอบคุณค่ะคุณทองใหม่....รักษาสุขภาพด้วยนะคะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 11, 2010, 03:03:20 PM
กราฟ4ชม.นี้ ดูแบบง่ายๆ ดูลูกศรชี้ขึ้นหรือลงก็พอจ้า(http://img191.imageshack.us/img191/125/64562329.gif) (http://img191.imageshack.us/i/64562329.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Yai Carmungwed ที่ มกราคม 11, 2010, 04:38:58 PM
ขอบคุณครับอาจารย์ทองใหม่


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Cindy ที่ มกราคม 11, 2010, 05:41:36 PM
ขอบคุณค่ะอาจารย์ โชคดีทีมีเฮียกิมกะเค้าไว้นิดหน่อยตอนลง จะขายหรือจะถือไว้ดีน๊า ::)
เอาเป็นว่าไม่โลภ ขอกำไรนิดหน่อยพอค่าอาหารแมวก็พอค่ะ ;D แต่แมวมันอ้วนกินก็จุ อาหารแมวก็แพง ;D laugh.gif

แมวที่กินหูฉลาม เปาฮื้อ ฮาฮา
ค่ะอาจารย์ ช่วงนี้ได้กินของดี แต่พอของหมด ก็ต้องกลับไปกินปลาทูคลุกข้าวอย่างเดิม
ทั้งคนเลี้ยงและแมว laugh.gif ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: JO-JO ที่ มกราคม 11, 2010, 10:15:26 PM
ขอบคุณครับ คุณทองใหม่

ช่วงนี้ดูเหมือนปัจจัยภายนอกจะมีบทบาทมากกว่ากราฟเทคนิคอีกแล้วนะครับเีนี่ย

 :)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 12, 2010, 06:26:03 AM
วิธีดูทิศทางทอง ต้าน๓----หนุน๓เป็นทิศทางทองที่จะเคลื่อนไหวในวันนี้ หากพุ่งทะลุต้าน๓หรือดิ่งทะลวงหนุน๓ แสดงถึงวันนั้นทองเคลื่อนไหวแรงเกินปกติ เส้นแดนเป็นเส้นที่จะแบ่งแยกทิศทางของทองที่จะขึ้นหรือลง หากทองเคลื่อนไหวอยู่ในทิศทางใดมากและนาน นั่นหมายถึงโอกาสเป็นไปได้มากที่ทองจะเคลื่อนไปในทิศทางนั้นๆ ในช่วงเวลานั้น (ยังต้องแบ่งออกในช่วงเวลาตลาดเอเซีย ยุโรป เมกาด้วย) ต้าน๑และหนุน๑หากถูกทดสอบแบบมีผล(ขึ้นลงมากกว่า๑ครั้ง)แล้วยืนอยู่ได้ นั่นคือทิศทางทองที่จะเดินต่อไปในช่วงเวลานั้น หากการวิเคราะเกิดขัดแย้งกันเมื่อไหร่ ให้หยุดมองดูอย่างเดียว ไม่ควรซื้อ-ขายในช่วงเวลานั้น แนวทางนี้เหมาะกับการเล่นสั้นมาก (เล่นแบบออนไลน์ในอนาคต) มีความแม่นยำถึง80%ครับ อีกอย่างข่าวปัจจัยพื้นฐานอาจเปลี่ยนทิศทางทองได้กะทันหันนะครับ
ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์กับการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย ถัาติดดอยเมื่อทองต่ำลงมา  หากยังมีเงินเหลืออยู่ ควรซื้อเพิ่ม เพิ่มที่ละนิด ต่ำอีกซื้ออีก เพื่อดึงต้นทุนที่สูงให้ต่ำลงมา ใครที่ยังไม่มีทองในมือควรทยอยซื้อเข้าอย่ามากนัก หากทองลงอีก เราก็ซื้ออีก ดีกว่าเวลาทองขึ้นเราไปไล่ซื้อในราคาที่สูง  จดจำเป็นคติเตือนใจว่า  เรามิอาจซื้อได้ในราคาที่ต่ำสุด และขายได้ในราคาที่สูงสุด ไม่มีการลงทุนใดที่ไม่เสี่ยง การบริหารพอร์ตให้ได้จังหวะ จะลดความเสี่ยงลงได้ครับ
กราฟสำคัญ ปัจจัยพื้นฐานก็สำคัญ จิตวิทยาการโน้มเอียงของคนก็สำคัญ สิ่งเหล่านี้หากเป็นไปในแนวเดียวกัน ก็จะมุ่งไปทางนั้น หากแย้งกันก็ต้องดูฝ่ายไหนเหนือกว่า.....ด้วยเหตุนี้ไม่มีนักวิเคราะห์คนใดที่จะทำนายได้แม่นยำตลอดกาลได้ครับ

(http://img32.imageshack.us/img32/7473/84136090.gif) (http://img32.imageshack.us/i/84136090.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 12, 2010, 06:30:32 AM
เส้นปากถุง(เส้นสีขาวทั้ง๓เส้น)แบบง่ายๆ ไม่ปวดเศียรเวียนเกล้า
เส้นบน---แนวต้าน
เส้นกลาง---แนวโน้ม(สำคัญสุด)
เส้นล่าง---แนวหนุน
ลักษณะที่๑---ทิศทางขึ้นเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น   เส้นกลางหันหัวขึ้น   เส้นล่างหันหัวลง
ลักษณะที่๒---ทิศทางขึ้นเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวขึ้น
เมื่อเจอลักษณะทั้ง๒นี้ ราคาระหว่างวันที่ขึ้นๆลงๆ เมื่อเจอจุดที่เห็นว่าต่ำแล้วให้ซื้อเข้าได้เลยครับ  ขอเพียงเส้นกลาง(แนวโน้ม)ยังหันหัวขึ้นอยู่ แม้ราคาเแท่งเทียนจะอยู่ต่ำกว่าเส้นกลาง ก็ยังซื้อเข้าได้ หากเส้นบนเดินขวางเมื่อไหร่ ให้ทยอยลดพอร์ตได้เลยครับ
ลักษณะที่๓---เลือกทิศทาง---เส้นบนหันหัวลง เส้นล่างหันหัวขี้น ปากถุงแคบลง ถึงช่วงนี้ ให้ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว หากใครยังคิดอยากเคลื่อนไหว ก็จงเคลื่อนไหวไปหน้าทีวี จงอย่าทำการอย่างอื่นใด หากใครเป็นจอมยุทธ์ ก็ชิงเคลื่อนไหวก่อนใครได้  
ขอแถมอีกนิด จงโฟกัสที่เส้นกลาง หากเส้นกลางเริ่มขยบหัวหัวขึ้นหรือลง ทิศทางอาจขึ้นหรือลงตามเส้นกลางแนวโน้มนั้น
ลักษณะที่๔---เคลื่อนไหวในกรอบแคบ---เส้นบน กลาง ล่าง เดินขวางทั้ง๓เส้น หากใครเล่นออนไลน์ สามารถเล่นได้เล็กน้อยอย่ามาก เมื่อราคาแท่งเทียนใกล้เส้นบน จงขาย ใกล้เส้นล่าง จงซื้อ ต้องเข้าออกให้ทันการณ์ หาไม่แล้วจากกำไรอาจขาดทุนได้นา ขอบอก
ลักษณะที่๕---ทิศทางลงเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น เส้นกลางหันหัวลง เส้ยล่างหัวหัวลง
ลักษณะที่๖---ทิศทางลงเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวลง  เมื่อเส้นล่างเดินขวางเมื่อไหร่ ผู้ที่ใจกล้าที่เล่นออนไลน์ เริ่มทยอยซื้อเข้าได้ที่ละนิด อัตราเสี่ยงยังมีอยู่บ้างนะครับ สิบอกไห่
วิธีดูเส้นปากถุงที่กล่าวมานี้ .....ไม่ใช่ตำราของฝรั่ง แบบของฝรั่งผมเคยอ่านมาบ้างแล้ว ยาวมาก ปวดหัว ทำความเข้าใจได้ยากมากๆๆๆๆ ...........เหมาะเฉพาะกราฟราย๔ชม.และช่วงปกติเท่านั้นนะครับ  (บางครั้งตลาดจงใจคึงขึ้นลงอย่าแรงๆ แทบหัวใจวายสำหรับผู้มีทองในมือและผิดทิศทางของตัวเอง เรียกว่า ช่วงไม่ปกติครับ)

(http://img64.imageshack.us/img64/81/84965608.gif) (http://img64.imageshack.us/i/84965608.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 12, 2010, 06:33:24 AM
กราฟGold 1
ช่อง1 เส้นแดงอยู่เหนือเส้นเขียว---ทิศทางขึ้น  ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น  สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นเขียวอยู่เหนือเส้นแดง---ทิศทางลง     ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นแดงและเขียวประสานเป็นกากะบาด ---กำลังจะเปลี่ยนทิศ ให้ดูเส้นแนวโน้มประกอบ  หากเส้นแดงและเขียวกำลังจะประสาน แต่ไม่ทันได้ประสานก็หันหันหัวกลับขึ้นหรือลง  แสดงว่ากำลังมีเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนี่งเกิดขึ้น หากขึ้นทะลุเส้นปะแนวต้าน ให้ดูเส้นปะแนวต้านเส้นต่อไป หากลงทะลุเส้นปะแนวหนุน ให้ดูเส้นแนวหนุนเส้นต่อไป   ส่วนจุดกลมเหลืองทอง---ทิศทางลง  จุดกลมฟ้า---ทิศทางขึ้น  หากกราฟวิ่งในยามปกติ พอเชื่อถือได้ หากกราฟวิ่งขึ้นลงแรงๆ คือยามไม่ปกติ ไม่อาจเชือถือได้
ช่อง2  ให้ดูเส้นสีม่วง ประกอบกับเส้นแนวโน้มในช่อง1 หากหันหัวไปในทิศทางเดียวกัน  โอกาสที่จะผิดพลาดก็มีน้อย  ส่วนเส้นปะสีเหลืองทองและฟ้า  หากขึ้นเหนือเลข80 เข้าสู่เขตซื้อเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ทุกเมื่อ  หากลงต่ำกว่าเลข20 เข้าสู่เขตขายเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ตลอดเวลา
ช่อง3   ให้ดูทั้ง2เส้น คือเหลืองทองและฟ้า หันหัวไปทิศทางเดียวกันหรือไม่  เท่านั้นยังไม่พอ  ให้ดูประกอบทิศทางในช่อง1ว่าเป็นทิศทางเดียวกันหรือไม่  หากทิศทางหันหัวในแนวเดียวกัน  ทิศทางนั้นเชื่อถือได้

(http://img691.imageshack.us/img691/3210/58507952.gif) (http://img691.imageshack.us/i/58507952.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ มกราคม 12, 2010, 09:18:42 AM
ขอบคุณค่ะคุณทองใหม่...ลูกศรยังชี้ขึ้นอยู่ใช่มั๊ยคะ แลวปรกติลูกศรจะเกิดก่อนหรือหลังการขึ้นลงในช่วงนั้นคะ    แล้ววันนี้ตาแป๊ะยังยิ้มอยู่รึเปล่าคะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 12, 2010, 10:13:46 AM
ขอบคุณค่ะคุณทองใหม่...ลูกศรยังชี้ขึ้นอยู่ใช่มั๊ยคะ แลวปรกติลูกศรจะเกิดก่อนหรือหลังการขึ้นลงในช่วงนั้นคะ    แล้ววันนี้ตาแป๊ะยังยิ้มอยู่รึเปล่าคะ
ลูกศรยังชี้ขึ้นอยู่ใช่มั๊ยคะ แลวปรกติลูกศรจะเกิดก่อนหรือหลังการขึ้นลงในช่วงนั้นคะ-------ยังกำลังศึกษาอยู่จ้า
(http://img51.imageshack.us/img51/978/55131845.gif) (http://img51.imageshack.us/i/55131845.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 12, 2010, 10:45:45 AM
ประเด็นสำคัญ
  - ราคาทองทองปิดปรับขึ้นหลังดอลล์อ่อน
  - ความเห็นเฟดกดดอลล์ร่วง
  - หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมหนุนดาวโจนส์ปิดบวก 0.43%
  - จีนยอดนำเข้าสินค้าโภคภัณฑ์อยู่ในระดับสูงเป็นประวัติการณ์
 

    ราคาทองที่ตลาดสหรัฐแตะระดับสูงสุดรอบ 5 สัปดาห์ในวันจันทร์ โดยปิดตลาดปรับขึ้น 1.1% จากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ในขณะที่เทรดเดอร์คาดว่า อัตราดอกเบี้ยสหรัฐจะยังคงอยู่ในระดับต่ำในอนาคตอันใกล้

    ความเชื่อมั่นในตลาดทองดีขึ้น ในขณะที่ดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับยูโร อิงตามคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยสหรัฐที่ระดับต่ำ

    ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 18.695 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 22.50 เซนต์ ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 1,592.50 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 21.90 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 431.95 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 6.80 ดอลลาร์

    การพุ่งขึ้นของยอดส่งออกของจีนเพิ่มความหวังที่ว่า เศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัว และเพิ่มความต้องการสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งทำให้นักลงทุนพากันขายดอลลาร์เพื่อลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า และข่าวดังกล่าวช่วยหนุนสกุลเงินที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์ อาทิ ดอลลาร์ ออสเตรเลีย และยูโร

    ดอลลาร์ร่วงลงต่อเนื่องหลังจากนายเจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยอาจจะอยู่ที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง

    นักวิเคราะห์จากสแตนดาร์ด แบงค์ ในกรุงลอนดอนกล่าวว่า สัญญาทองคำทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน หลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีก ซึ่งอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำจะทำให้มูลค่าสินทรัพย์ในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐด้อยค่าลงด้วย

 
    ทั้งนี้ สัญญาทองคำพุ่งขึ้น 24% ในปีที่แล้วเนื่องจากเฟดคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0-0.25% และส่งผลให้ดอลลาร์ดิ่งลง 4.2% เมื่อเทียบ 6 สกุลเงินหลักๆในตะกร้าสกุลเงิน

   กลยุทธ์ : ราคาทองคำได้เกิดการดีดถึงแนวเป้าหมายระยะสั้นที่ระดับ 61.8% จากจุดต่ำสุด ที่ระดับราคา 1,161 USS ช่วงนี้อาจจะมีการปรับฐานระยะสั้นถึงแนวระดับราคา 1,140 US$ อาจจะรอรับเล่นสั้นในช่วงวันพรุ่งนี้ก่อน



หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 12, 2010, 10:49:08 AM
นักลงทุนทำสว็อปเงินหยวนมากสุดในรอบ 8 สัปดาห์ หวั่นธนาคารกลางอาจปรับขึ้นค่าเงินหยวน

Posted on Tuesday, January 12, 2010
นักลงทุนทำสว็อปเงินหยวนมากสุดในรอบ 8 สัปดาห์

นักลงทุนเข้าทำธุรกรรมสว็อปค่าเงินหยวนมากที่สุดในรอบ 8 สัปดาห์ หลังจากมีรายงานว่ายอดส่งออกของจีนเดือนธ.ค.ขยายตัวแข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางจีนอาจปรับขึ้นค่าเงินหยวนในวันข้างหน้า

สำนักงานศุลกากรของจีนรายงานเมื่อวานนี้ว่า ยอดส่งออกเดือนธ.ค.ทะยานขึ้น 17.7% ทำสถิติเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 14 เดือน และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 5% ขณะที่ยอดนำเข้าพุ่งขึ้น 55%

นักวิเคราะห์มองว่ายอดนำเข้าและส่งออกที่เพิ่มขึ้นของจีนบ่งชี้ถึงดีมานด์ที่แข็งแกร่งทั่วโลก และอาจทำให้จีนต้องตัดสินใจปรับขึ้นค่าเงินหยวนในที่สุด

ทั้งนี้ เมื่อวานอัตราผลตอบแทนในการทำสว็อปค่าเงินหยวนพุ่งขึ้น 0.5% แตะที่ 6.5920 หยวนต่อดอลลาร์ ซึ่งบ่งชี้ว่าสกุลเงินหยวนมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น 3.6%

จีนได้ตรึงค่าเงินหยวนไว้ที่ระดับ 6.83 หยวนต่อดอลลาร์นับตั้งแต่เดือนก.ค.2551 เพื่อช่วยกลุ่มบริษัทส่งออกให้สามารถรับมือกับดีมานด์ที่หดตัวลงอันเนื่องมาจากวิฤตการณ์การเงินทั่วโลกได้

ขณะที่นายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่าของจีน ยืนยืนเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. ที่ผ่านมาว่า จีนจะไม่ยอมทำตามข้อเรียกร้องของนานาชาติที่ต้องการให้จีนปรับขึ้นค่าเงินหยวน

นักวิเคราะห์จากไชน่า เมอร์ชานท์ส แบงค์ กล่าวว่า ตลาดจำเป็นต้องจับตาดูสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศจีนอย่างใกล้ชิดก่อนที่จะมั่นใจว่าอุตสาหกรรมส่งออกขยายตัวอย่างยั่งยืน

พร้อมกับคาดการณ์ว่าจีนจะตรึงค่าเงินหยวนไว้ที่ระดับ 6.83 หยวนต่อดอลลาร์จนถึงช่วงครึ่งหลังของปีนี้ และคาดว่าเงินหยวนจะไม่แข็งค่าเกิน 2%


ตัวเลขการค้าจีนหนุนตลาดหุ้น ขณะ Alcoa ประเดิมประกาศกำไร Q4

ปัจจัยเรื่องมูลค่าหุ้นที่เพิ่มขึ้นมาสูงเร็วจนเกินไปส่งผลกดดันตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนนี้ ขณะที่ทางฟากของสหรัฐฯ นักลงทุนยังเชื่อมั่นในแรงส่งที่มาจากตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ น่าจะช่วยให้ผลประกอบการในไตรมาส 4 ที่กำลังจะทยอยประกาศออกมาปรับตัวดีขึ้น

ดัชนี Dow Jones Stoxx 600 ของยุโรป ย่อลงมาจากระดับสูงสุดในรอบ 15 เดือนเมื่อคืนนี้ จากความกังวลว่าตลาดปรับตัวขึ้นมาสูงจนเกินปัจจัยพื้นฐาน ขณะที่กำลังเข้าใกล้ฤดูการประกาศผลประกอบการรอบใหม่

ผลพวงจากการลดค่าเงินของประเทศเวเนซูเอล่า ส่งผลให้หุ้น Telefonica ที่เป็นบริษัทโทรศัพท์ยักษ์ใหญ่อันดับสองของยุโรป ร่วงลงกว่า 3% ซึ่งแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคมปีที่แล้ว จากการที่บริษัทมีสัดส่วนรายได้ที่มาจากประเทศนี้ราว 6% ตามข้อมูลในช่วง 9 เดือนแรกของปีที่แล้ว แม้ในปีที่ผ่านมา บริษัทจะมีความพยายามในการดึงเงินประมาณ 2,000 ล้านเหรียญออกจากเวเนซูเอล่า

อย่างไรก็ดี ตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของจีนได้ช่วยหนุนบรรยากาศการลงทุนทั้งที่ตลาดยุโรปและสหรัฐฯ จนทำให้มีแรงซื้อกระจายเข้ามาในหุ้นหลายกลุ่ม รวมถึงผู้ผลิตอลูมินั่มรายใหญ่ อย่าง Alcoa ที่บวกได้กว่า 2% ก่อนหน้าที่บริษัทจะรายงานผลประกอบการหลังจากตลาดปิดการซื้อขาย ด้วยผลกำไรที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ตัวเลขส่งออกของจีนที่ดีกว่าคาดในเดือนที่แล้วยังช่วยผลักดันให้ราคาหุ้นผู้ผลิตเครื่องจักรก่อสร้างรายใหญ่ อย่าง Caterpillar พุ่งขึ้นแรงถึง 6% ทำสถิติบวกแรงที่สุดนับตั้งเดือนกรกฎาคม

ส่วนความเคลื่อนไหวทางด้านกลุ่มสถาบันการเงิน หุ้น Citibank ก็บวกขึ้นจากข่าวมหาเศรษฐีประเทศซาอุดิอาระเบีย เจ้าชาย Alwaleed bin Talal ในฐานะผู้ถือหุ้นรายบุคคลที่ใหญ่ที่สุด บอกว่า จุดต่ำสุดของธนาคารที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของอเมริการายนี้ได้สิ้นสุดลงแล้ว พร้อมกับมั่นใจในอนาคตที่กำลังมีแนวโน้มดีขึ้นมาก

ในสัปดาห์นี้จะมีหุ้นที่น่าสนใจอีก 2 ตัวคือ Intel และ JPMorgan กำลังจะรายงานผลตามมา

ผู้ประกอบการธุรกิจการเงินของอังกฤษหวั่นรายได้ Q1 ร่วง

เพียงแค่สัปดาห์ที่สองของปีก็มีรายงานทางเศรษฐกิจที่เป็นสัญญาณบวกทยอยออกมาเรื่อยๆ แม้ในบางครั้งอาจต้องเจอกับแรงสะดุดได้บ้าง ล่าสุดต้องจับตาดูที่ยุโรป เมื่อมีรายงานผลสำรวจที่บ่งชี้ถึงความมั่นใจของผู้ประกอบการในธุรกิจการเงินออกมาแย่ลงกว่าเดิม อย่างน้อยเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งเหตุผลหลักคงหนีไม่พ้นการเปลี่ยนแปลงมุมมองในเรื่องการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

สหพันธ์อุตสาหกรรมแห่งสหราชอาณาจักร (Confederation of British Industry) ในฐานะกลุ่ม lobbyist รายใหญ่ที่สุดของประเทศ เผยผลสำรวจออกมาว่า ผู้ให้บริการทางการเงินที่คาดว่าธุรกิจจะหดตัวลงในไตรมาสแรก มีจำนวนที่มากกว่าผู้ที่บอกว่าจะดีขึ้นอยู่ถึง 13% ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์ของ CBI ยังได้ตอกย้ำถึงมุมมองในแง่ลบนี้อีกว่า ไม่มีสัญญาณใดๆ ที่บ่งบอกถึงการขยับขึ้นของความสามารถในการทำกำไรในช่วง 3 เดือนข้างหน้านี้

ทั้งหมดก็สอดคล้องกับ ความเห็นของผู้บริหารธนาคารกลางอังกฤษ ที่ก่อนหน้านี้ระบุว่า ประเทศอังกฤษกำลังเผชิญกับเส้นทางที่มุ่งหน้าออกจากความถดถอย ในแบบที่เต็มไปด้วยอุปสรรคและความไม่คงเส้นคงวาอยู่มาก

สำหรับปัจจัยที่ขัดแข้งขัดขาการก้าวออกจากสภาวะธุรกิจตกต่ำ ก็รวมไปถึงความไม่แน่ใจถึงแนวโน้มความต้องการสินค้า ภาวะการแข่งขันที่ดุเดือดขึ้นทุกขณะ และรวมถึงการคุมเข้มผ่านกฏหมายที่เพิ่มระดับการกำกับดูแลขึ้น

อย่างไรก็ดี มีข้อดีอย่างน้อยหนึ่งข้อ ที่ผลสำรวจนี้ระบุไว้ ก็คือ บริษัทส่วนใหญ่เชื่อมั่นว่าตลาดการเงินจะไม่ย่ำแย่ลงไปมากกว่านี้อีกแล้ว

ผลสำรวจของ CBI พบว่า เทรดเดอร์ของบริษัทหลักทรัพย์คาดแนวโน้มการหดตัวลงมากในส่วนของกำไรในไตรมาสแรกของปี 2553 นี้ เนื่องจากการซื้อขายหุ้นในพอร์ทของตนเริ่มทำรายได้ให้น้อยลง ซึ่งตรงนี้ก็สอดคล้องกับคนอีกกลุ่มหนึ่งที่มองว่า ไตรมาสที่กำลังจะถึงน่าจะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากในการทำเงิน แม้ในระยะกลางทุกอย่างน่าจะมีแนวโน้มดีขึ้น ก่อนที่สถานการณ์เลวร้ายต่างๆ จะหมดไปในที่สุด

ความหนักใจของบรรดาเทรดเดอร์หลักทรัพย์สะท้อนได้จากผลสำรวจที่แสดงให้เห็นว่า จำนวนเทรดเดอร์ที่คาดว่ารายได้จากการลงทุนและซื้อขายหลักทรัพย์จะลดลงในไตรมาสนี้ ปรับขึ้นไปอยู่ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งเป็นเหมือนกับความกังวลที่ตลาดหุ้นอาจจะไม่ได้ดีดังหวัง ยังมีความเป็นไปได้สูง


ไฮเนเกนซื้อกิจการเบียร์จาก Femsa

ไฮเนเกนบริษัทผู้ผลิตเบียร์สัญชาติเนเธอร์แลนด์ ตัดสินใจซื้อกิจการเบียร์ของโฟเมนโต เอโคโนมีโค เม็กซิกาโน เอสเอบี หรือเฟมซา (Femsa) เพื่อช่วยในการขยายตลาดเข้าไปในตลาดลาตินอเมริกาได้มากขึ้น

ไฮเนเกนจะซื้อกิจการของเฟมซาผ่านทางการซื้อขายหุ้นมูลค่า 5,300 ล้านยูโร หรือ 7,700 ล้านดอลลาร์ โดยเฟมซาผู้ผลิตเบียร์รายใหญ่อันดับ 2 ของเม็กซิโกจะได้ถือหุ้นในไฮเนเกน 20% จากการซื้อหุ้นครั้งนี้

ทั้งนี้ เฟมซามียอดขายในปี 2008 ที่ 2,880 ล้านดอลลาร์ โดยยอดขายประมาณ 2,160 ล้านดอลลาร์มาจากตลาดเม็กซิโก ส่วนที่เหลือเป็นยอดขายในตลาดบราซิล

ส่วนยอดขายทั่วโลกของเฟมซาในปี 2552 คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ประมาณ 15,000 ล้านดอลลาร์ และ ประมาณ 3,600 ล้านดอลลาร์มาจากผลิตภัณฑ์เบียร์

ข่าวดังกล่าวก็ส่งผลให้ราคาหุ้นของไฮเนเกนปรับขึ้นทันที 6.2% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา

การซื้อกิจการในครั้งนี้จะทำให้ไฮเนเกนสามารถเจาะเข้าไปในตลาดเบียร์เม็กซิโกซึ่งมีขนาดใหญ่และเป็นตลาดที่สามารถสร้างกำไรได้เป็นอันดับสี่ของโลกและทำให้ไฮเนเกนลดการพึ่งพิงตลาดยุโรปลงได้

ไฮเนเกนคาดว่าการซื้อกิจการครั้งนี้ จะทำให้บริษัทประสบความสำเร็จด้านกลยุทธ์ภายในปี 2556 และยังจะช่วยเพิ่มกำไรต่อหุ้นให้กับบริษัทหลังจากระยะเวลา 2 ปีผ่านไป


สหรัฐลดการสั่งซื้อวัคซีนต้านหวัด 2009

สหรัฐปรับลดยอดสั่งซื้อวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เช่นเดียวกับบางประเทศในยุโรปที่ยกเลิกคำสั่งซื้อวัคซีนแล้ว หลังจากที่ประชาชนเริ่มคลายความวิตกกังวลต่อสถานการณ์การระบาดของโรคดังกล่าว

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขของสหรัฐได้ลดยอดสั่งซื้อวัคซีนต้านไวรัส H1N1จากบริษัท CSL จำนวน 22 ล้านโดสเหลือเพียง 14 ล้านโดส

หลังจากที่ได้สั่งเพิ่มการซื้อวัคซีน 29% ไปเมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งอาจส่งผลให้รายได้สุทธิตลอดทั้งปีของ CSL ลดลง 30 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย

ขณะเดียวกันบริษัทแกล็กโซสมิทไคล์นของอังกฤษกำลังอยู่ในระหว่างเจรจาเรื่องสัญญารอบใหม่กับฝรั่งเศสเกี่ยวกับการจัดหาวัคซีนต้านไวรัส H1N1 จำนวน 50 ล้านโดส

รวมถึงหารือกับรัฐบาลเบลเยียมเกี่ยวกับการลดยอดสั่งซื้อวัคซีนด้วยเช่นกัน หลังจากที่อังกฤษและเยอรมนีได้ยกเลิกคำสั่งซื้อวัคซีนดังกล่าว

ทั้งนี้ ความต้องการใช้วัคซีนต้านไวรัส H1N1 เริ่มลดน้อยลงหลังจากที่บริษัทยาสามารถผลิตวัคซีนได้มากขึ้น ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อ H1N1 รายใหม่ปรับตัวลดลง

อย่างไรก็ตาม สหรัฐได้รับอนุญาตให้สามารถเปลี่ยนแปลงปริมาณการสั่งซื้อวัคซีนภายใต้สัญญาที่ตกลงไว้กับ CSL

ขณะที่สัญญาของบริษัทที่ทำกับรัฐบาลประเทศอื่นๆอย่างออสเตรเลียและสิงคโปร์ไม่ได้ระบุถึงข้อตกลงด้านการยุติคำสั่งซื้อแต่อย่างใด


เกาหลีใต้ยกเลิกแผนย้ายหน่วยงานราชการไป ?เซจอง?

รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศยกเลิกแผนย้ายกระทรวงและหน่วยงานราชการบางส่วนไปยังเมืองเซจอง ในจังหวัดชงชองใต้ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงโซลราว 150 กิโลเมตร และตัดสินใจว่าจะพัฒนาเมืองดังกล่าวให้เป็นศูนย์กลางทางธุรกิจและวิทยาศาสตร์แทน

แผนย้ายหน่วยงานราชการไปยังเมืองเซจองเป็นความคิดของอดีตประธานาธิบดีโรห์ มู ฮยอน เนื่องจากเขาต้องการให้การพัฒนาภูมิภาคต่างๆ เป็นไปอย่างสมดุล หลังจากที่มีการวิพากย์วิจารณ์ว่าการพัฒนาเศรษฐกิจไปรวมอยู่ที่กรุงโซลเพียงแห่งเดียว

อย่างไรก็ตาม นายลี เมียง บัค ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน แสดงความไม่เห็นด้วยกับแผนดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่าการย้ายหน่วยงานราชการจะทำให้การบริหารไร้ประสิทธิภาพ พร้อมสั่งให้มีการร่างแผนขึ้นมาใหม่

แผนการใหม่ตั้งเป้าว่าจะพัฒนาเมืองเซจองให้เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การศึกษา และวิทยาศาสตร์ ด้วยจำนวนประชากร 500,000 คน และการลงทุนจากทั้งภาครัฐและเอกชนมูลค่ารวม 16.5 ล้านล้านวอน (1.46 หมื่นล้านดอลลาร์)

อย่างไรก็ตาม ยังไม่แน่ว่ารัฐสภาจะอนุมัติแผนที่ร่างขึ้นใหม่หรือไม่ เนื่องจากมีสมาชิกสภานิติบัญญัติประมาณ 60 คนที่ไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกแผนเดิม

ทั้งนี้ หลังการประกาศยกเลิกแผนเดิม พรรคฝ่ายค้านเกาหลีใต้ออกมาขู่ว่าจะทำการประท้วงอย่างรุนแรงต่อการตัดสินใจของรัฐบาล


จีนแซงหน้าสหรัฐเป็นตลาดรถรายใหญ่สุดของโลก

สมาคมผู้ผลิตยานยนต์จีนเผย จีนแซงหน้าสหรัฐขึ้นเป็นตลาดรถรายใหญ่สุดของโลกเป็นครั้งแรก ด้วยยอดขายสูงกว่า 13.64 ล้านคันในปีที่แล้ว หลังจากที่จีนได้แซงหน้าเยอรมนีเป็นประเทศผู้ส่งออกรายใหญ่สุดเมื่อปีที่แล้วเช่นกัน

สำนักงานศุลกากรจีนเผยยอดการส่งออกเดือนธ.ค.ขยายตัวขึ้น 17.7% นับเป็นสถิติยอดการค้าที่ดีดตัวขึ้นนี้อาจจะทำให้ทางการจีนตัดสินใจปล่อยให้เงินหยวนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ในปีนี้ การที่จีนไม่ได้ปล่อยให้เงินหยวนแข็งค่าขึ้นทำให้จีนแซงหน้าเยอรมนีขึ้นแท่นเป็นประเทศผู้ส่งออกอันดับ 1 ของโลกในปีที่แล้วการขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 14 เดือน ขณะที่การนำเข้าพุ่งสูงขึ้น 55.9%

ยอดการค้าที่ดีดตัวขึ้นนี้อาจจะทำให้ทางการจีนตัดสินใจปล่อยให้เงินหยวนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ในปีนี้ การที่จีนไม่ได้ปล่อยให้เงินหยวนแข็งค่าขึ้นทำให้จีนแซงหน้าเยอรมนีขึ้นแท่นเป็นประเทศผู้ส่งออกอันดับ 1 ของโลกในปีที่แล้ว


เกาหลีเหนือสร้างเงื่อนไขก่อนยุติโครงการนิวเคลียร์

เกาหลีเหนือเรียกร้องให้การลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพกับสหรัฐเป็นเงื่อนไขเบื้องต้นของการยุติการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของตน พร้อมทั้งเรียกร้องให้ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร ก่อนเกาหลีเหนือจะกลับเข้าสู่การเจรจาเพื่อปลดอาวุธนิวเคลียร์

นับเป็นครั้งแรกที่เกาหลีเหนือออกมาแสดงจุดยืนต่อสาธารณะในประเด็นการเจรจาเพื่อปลดอาวุธนิวเคลียร์ นับตั้งแต่นายสตีเฟน บอสเวิร์ธ ผู้แทนพิเศษของสหรัฐในกิจการเกาหลีเหนือ เดินทางเยือนกรุงเปียงยางเมื่อเดือนที่แล้ว

นายบอสเวิร์ธพยายามโน้มน้าวให้เกาหลีเหนือกลับเข้าสู่การเจรจา 6 ฝ่าย ซึ่งเกาหลีเหนือขอถอนตัวเมื่อเดือน เม.ย.ปีที่ผ่านมา โดยแถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า สนธิสัญญาสันติภาพจะช่วยยุติความสัมพันธ์อันเป็นปรปักษ์ระหว่างเกาหลีเหนือและสหรัฐ รวมทั้งส่งเสริมกระบวนการปลดอาวุธนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลี

เกาหลีเหนือเปิดเผยว่า การเจรจาว่าด้วยข้อตกลงสันติภาพอาจจะถูกจัดขึ้นในการประชุมซึ่งแยกต่างหากหรือในกรอบของการเจรจา 6 ฝ่าย ซึ่งประกอบไปด้วยเกาหลีเหนือ เกาหลีใต้ สหรัฐ จีน รัสเซีย และญี่ปุ่น


ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่จะประกาศออกมาวันนี้ (อังคารที่ 12 ม.ค. 2553)
? ดุลการค้าระหว่างประเทศ (พ.ย.) โดย กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ

ติดตาม Money Wake up ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ออกอากาศซ้ำเวลา 11.00 น. ทาง Money Channel

 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 12, 2010, 10:59:22 AM
กราฟตาแป๊ะซ้ายบน มีการเปลี่ยนแปลงนิดหนี่ง มีคำว่า  ตัวหนังสือสีเขียว ? ---ขาย และ  ตัวหนังสือสีแดง?----ซื้อ  เพิ่มเข้ามา เฉพราะที่เพิ่มเข้ามานิดหน่อยนี้ ผมใช้เวลาศุกร์-เสาร์-อาทิตย์(25--27ธค.52)ทั้ง3วันค้าหาในเวปจีนถึงได้เจอ และเอามาเพิ่มผสมเข้ากับกาฟตาแป๊ะช่องซ้ายบน ยังมิทราบจะแม่นยำแค่ไหน ต้องคอยกาลเวลาบ่งบอกครับ
กราฟตาแป๊ะซ้ายบน ตัวหนังสือสีเขียว ? ---ขาย   ตัวหนังสือสีแดง?----ซื้อ  เส้นสีแดงหนา---ขาขึ้น เส้นสีเขียวหนา---ขาลงขวาบน  เส้นสีแดง---เสนอซื้มากกว่าเสนอขาย เส้นสีเขียว---เสนอขายมากกว่าเสนอซื้อ  ส่วนช่วงกลางที่มีแท่งสีแดงกับเขียวนั้น แท่งแดง---แรงซื้อขึ้น   แท่งเขียว---แรงขายลง
ขวาช่องสอง  แท่งเหลืองคู่เส้นแดง---ขาขึ้น   แท่งฟ้าคู่เส้นเขียว---ขาลง โดยปกติ ช่องนี้จะเปลี่ยนแนวโน้มช้ากว่าเพื่อน หากเปลี่ยนแนวโน้มเมื่อไหร่ เขาให้ขายออกหรือซื้อเข้าได้ทันที่ ยกเว้นมีปัจจัยพื้นฐานแรงๆแทรกเข้ามา จึงจะทำให้แนวโน้มกลับเปลี่ยนได้โดยกะทันหัน
ซ้ายช่องสอง หน้าเหลืองแป๊ะยิ้ม---ขาขึ้น หน้าแดงแป๊ะร้องไห้---ขาลง  แท่งสีเขียว---เพดาน   แท่งสีแดง---พื้นดินโดยปกติ ช่องนี้จะส่งสัญญาณว่า กำลังจะเปลี่ยนแนวทางแล้วนะ แต่ยังไม่เต็มร้อย อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยกะทันหันก็ได้ ต้องดูซ้ายบนและขวาช่อง๒ประกอบด้วย จึงจะให้ความมั่นใจได้
ทอง
(http://img189.imageshack.us/img189/674/68178596.gif) (http://img189.imageshack.us/i/68178596.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 12, 2010, 11:01:15 AM
ดัชนีดอลล์เมกา
(http://img709.imageshack.us/img709/4446/66661519.gif) (http://img709.imageshack.us/i/66661519.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 12, 2010, 11:04:21 AM
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมีโอกาสแข็งค่า หลังอ่อนตัวมาตลอด 1 สัปดาห์

Posted on Tuesday, January 12, 2010
อุสรา วิไลพิชญ์ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส  ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) กล่าวว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาอ่อนตัวลงมากเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ รวมถึงค่าเงินเอเชีย เนื่องจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯที่ย่ำแย่เกินคาด ขณะที่ตัวเลขการส่งออกของจีนในเดือนธันวาคมดีเกินคาด ส่งผลให้ค่าเงินเอเชียแข็งค่าขึ้น

ทั้งนี้ ภาวะตลาดเงินในทั่วโลกมีความเปราะบางสูง จากความกังวลว่า สหรัฐฯ และจีน จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐฯ จะทำให้ต้นทุนทางการเงินของกองทุนเก็งกำไรต่าง ๆ สูงขึ้น และจะนำไปสู่การถอนสภาพคล่องออกจากระบบได้ และถ้าหากจีนขึ้นดอกเบี้ยแล้ว ก็จะทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรของจีนที่นำออกมาประมูลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการย้ายการลงทุนจากตลาดหุ้นในภูมิภาคไปยังตลาดพันธบัตรได้

ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเงินต่างประเทศเข้ามายังไทยค่อนข้างมาก ซึ่งดันให้ค่าเงินบาทแข็งค่าทะลุ 33.10 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แต่เนื่องจากเป็นการเข้ามาซื้อพันธบัตรรัฐบาลไม่ได้เป็นการลงทุนในตลาดหุ้น ส่งผลให้ราคาพันธบัตรเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่อัตราผลตอบแทนที่คาดหวังปรับลดลงมาประมาณ 0.20% แล้ว ทำให้ราคาหุ้นในขณะนี้อาจไม่ปรับเพิ่มขึ้นมากและน่าจับตาอย่างใกล้ชิด โดยค่าเงินบาทในวันนี้ยังมีโอกาสอ่อนตัวลงไปแตะที่ 33.10 ? 33.20 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่ยังมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นได้

นอกจากนี้ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) น่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.25% เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังไม่ได้มีอัตราที่แข็งแกร่ง มีปัญหาการเมืองกดดัน และอัตราเงินเฟ้อยังไม่ได้เป็นประเด็นที่น่ากังวลในขณะนี้

 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 12, 2010, 11:26:03 AM
(http://img30.imageshack.us/img30/2825/90077256.gif) (http://img30.imageshack.us/i/90077256.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 12, 2010, 11:27:52 AM
(http://img30.imageshack.us/img30/9738/50604152.gif) (http://img30.imageshack.us/i/50604152.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: brabus ที่ มกราคม 12, 2010, 01:46:45 PM
พี่ทองใหม่คะ ตาแป๊ะน้ำมันไม่มีให้ดูเหรอคะ ???


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 12, 2010, 04:04:40 PM
พี่ทองใหม่คะ ตาแป๊ะน้ำมันไม่มีให้ดูเหรอคะ ???
ตาแป๊ะน้ำมันเขาไม่เปิดให้ดูครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Yai Carmungwed ที่ มกราคม 12, 2010, 05:59:57 PM
 Smiley/Angry.gifขอบคุณครับอาจารย์ทองใหม่   Smiley/Angry.gif


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Cindy ที่ มกราคม 12, 2010, 06:43:41 PM
พี่ทองใหม่คะ ตาแป๊ะน้ำมันไม่มีให้ดูเหรอคะ ???
ตาแป๊ะน้ำมันเขาไม่เปิดให้ดูครับ
วันนี้ตาแป๊ะคงไม่ยิ้มแล้วมังคะ แต่อะไร ๆ ก็ไม่แน่อย่างที่อาจารย์บอก angel.gif
สุดแล้วแต่โชคและดวงแล้วหล่ะค่ะ ;) :P


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: brabus ที่ มกราคม 12, 2010, 06:48:50 PM
พี่ทองใหม่คะ ตาแป๊ะน้ำมันไม่มีให้ดูเหรอคะ ???
ตาแป๊ะน้ำมันเขาไม่เปิดให้ดูครับ
วันนี้ตาแป๊ะคงไม่ยิ้มแล้วมังคะ แต่อะไร ๆ ก็ไม่แน่อย่างที่อาจารย์บอก angel.gif
สุดแล้วแต่โชคและดวงแล้วหล่ะค่ะ ;) :P

ขอบคุณค่ะ พี่ทองใหม่และพี่ซิน เลยไม่รู้เลยว่าที่อยู่ในมืออีก80%จะเอาไงดี ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 12, 2010, 06:59:53 PM
พี่ทองใหม่คะ ตาแป๊ะน้ำมันไม่มีให้ดูเหรอคะ ???
ตาแป๊ะน้ำมันเขาไม่เปิดให้ดูครับ
วันนี้ตาแป๊ะคงไม่ยิ้มแล้วมังคะ แต่อะไร ๆ ก็ไม่แน่อย่างที่อาจารย์บอก angel.gif
สุดแล้วแต่โชคและดวงแล้วหล่ะค่ะ ;) :P


ขอบคุณค่ะ พี่ทองใหม่และพี่ซิน เลยไม่รู้เลยว่าที่อยู่ในมืออีก80%จะเอาไงดี ;D ;D ;D

เห็นกระทู้แล้วผมเปิดกราฟตาแป๊ะเข้าไปดูอีกครั้ง โชคดีจังที่ตาแป๊ะน้ำมันเขาเปิดให้ดูอีกแล้วครับ มาตามคำเรียกร้องจ้า
ให้ระวังช่องบนซ้าย ปรากฏคำว่าขายแล้วนะครับ แต่หน้าตาแป๊ะยังคงยิ้มสู้อยู่
(http://img200.imageshack.us/img200/8161/13609175.gif) (http://img200.imageshack.us/i/13609175.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Jeera ที่ มกราคม 12, 2010, 07:22:22 PM
สวัสดีค่ะพี่ทองใหม่

ตอนนี้พี่ถืออะไรบ้างป่าวคะ   ???


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 12, 2010, 07:40:59 PM
สวัสดีค่ะพี่ทองใหม่

ตอนนี้พี่ถืออะไรบ้างป่าวคะ   ???
ถือตังค์อย่างเดียวครับ ฮา ทองมาร์จิ้นกำลังเตรียมตัวที่จะเข้าเล่นได้ทุกเมื่อครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Jeera ที่ มกราคม 12, 2010, 07:47:19 PM
สวัสดีค่ะพี่ทองใหม่

ตอนนี้พี่ถืออะไรบ้างป่าวคะ   ???
ถือตังค์อย่างเดียวครับ ฮา ทองมาร์จิ้นกำลังเตรียมตัวที่จะเข้าเล่นได้ทุกเมื่อครับ

เล่นอะไรก็อย่าลืมทำใจสบายๆนะคะ ห้ามเครียด     ;)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: JO-JO ที่ มกราคม 12, 2010, 08:19:14 PM
ขอบคุณครับ คุณทองใหม่

น้ำมันและทองติดเพดานแล้ว  แต่ดอลลาร์ยังร้องไห้อยู่
น่าติดตามต่อไปจริง ๆ ครับ

 :)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 12, 2010, 08:19:47 PM
สวัสดีค่ะพี่ทองใหม่

ตอนนี้พี่ถืออะไรบ้างป่าวคะ   ???
ถือตังค์อย่างเดียวครับ ฮา ทองมาร์จิ้นกำลังเตรียมตัวที่จะเข้าเล่นได้ทุกเมื่อครับ

เล่นอะไรก็อย่าลืมทำใจสบายๆนะคะ ห้ามเครียด     ;)
รับทราบจ้า


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 13, 2010, 06:32:01 AM
 วิธีดูทิศทางทอง ต้าน๓----หนุน๓เป็นทิศทางทองที่จะเคลื่อนไหวในวันนี้ หากพุ่งทะลุต้าน๓หรือดิ่งทะลวงหนุน๓ แสดงถึงวันนั้นทองเคลื่อนไหวแรงเกินปกติ เส้นแดนเป็นเส้นที่จะแบ่งแยกทิศทางของทองที่จะขึ้นหรือลง หากทองเคลื่อนไหวอยู่ในทิศทางใดมากและนาน นั่นหมายถึงโอกาสเป็นไปได้มากที่ทองจะเคลื่อนไปในทิศทางนั้นๆ ในช่วงเวลานั้น (ยังต้องแบ่งออกในช่วงเวลาตลาดเอเซีย ยุโรป เมกาด้วย) ต้าน๑และหนุน๑หากถูกทดสอบแบบมีผล(ขึ้นลงมากกว่า๑ครั้ง)แล้วยืนอยู่ได้ นั่นคือทิศทางทองที่จะเดินต่อไปในช่วงเวลานั้น หากการวิเคราะเกิดขัดแย้งกันเมื่อไหร่ ให้หยุดมองดูอย่างเดียว ไม่ควรซื้อ-ขายในช่วงเวลานั้น แนวทางนี้เหมาะกับการเล่นสั้นมาก (เล่นแบบออนไลน์ในอนาคต) มีความแม่นยำถึง80%ครับ อีกอย่างข่าวปัจจัยพื้นฐานอาจเปลี่ยนทิศทางทองได้กะทันหันนะครับ
ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์กับการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย ถัาติดดอยเมื่อทองต่ำลงมา  หากยังมีเงินเหลืออยู่ ควรซื้อเพิ่ม เพิ่มที่ละนิด ต่ำอีกซื้ออีก เพื่อดึงต้นทุนที่สูงให้ต่ำลงมา ใครที่ยังไม่มีทองในมือควรทยอยซื้อเข้าอย่ามากนัก หากทองลงอีก เราก็ซื้ออีก ดีกว่าเวลาทองขึ้นเราไปไล่ซื้อในราคาที่สูง  จดจำเป็นคติเตือนใจว่า  เรามิอาจซื้อได้ในราคาที่ต่ำสุด และขายได้ในราคาที่สูงสุด ไม่มีการลงทุนใดที่ไม่เสี่ยง การบริหารพอร์ตให้ได้จังหวะ จะลดความเสี่ยงลงได้ครับ
กราฟสำคัญ ปัจจัยพื้นฐานก็สำคัญ จิตวิทยาการโน้มเอียงของคนก็สำคัญ สิ่งเหล่านี้หากเป็นไปในแนวเดียวกัน ก็จะมุ่งไปทางนั้น หากแย้งกันก็ต้องดูฝ่ายไหนเหนือกว่า.....ด้วยเหตุนี้ไม่มีนักวิเคราะห์คนใดที่จะทำนายได้แม่นยำตลอดกาลได้ครับ
(http://img41.imageshack.us/img41/4222/78499944.gif) (http://img41.imageshack.us/i/78499944.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 13, 2010, 06:34:48 AM
เส้นปากถุง(เส้นสีขาวทั้ง๓เส้น)แบบง่ายๆ ไม่ปวดเศียรเวียนเกล้า
เส้นบน---แนวต้าน
เส้นกลาง---แนวโน้ม(สำคัญสุด)
เส้นล่าง---แนวหนุน
ลักษณะที่๑---ทิศทางขึ้นเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น   เส้นกลางหันหัวขึ้น   เส้นล่างหันหัวลง
ลักษณะที่๒---ทิศทางขึ้นเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวขึ้น
เมื่อเจอลักษณะทั้ง๒นี้ ราคาระหว่างวันที่ขึ้นๆลงๆ เมื่อเจอจุดที่เห็นว่าต่ำแล้วให้ซื้อเข้าได้เลยครับ  ขอเพียงเส้นกลาง(แนวโน้ม)ยังหันหัวขึ้นอยู่ แม้ราคาเแท่งเทียนจะอยู่ต่ำกว่าเส้นกลาง ก็ยังซื้อเข้าได้ หากเส้นบนเดินขวางเมื่อไหร่ ให้ทยอยลดพอร์ตได้เลยครับ
ลักษณะที่๓---เลือกทิศทาง---เส้นบนหันหัวลง เส้นล่างหันหัวขี้น ปากถุงแคบลง ถึงช่วงนี้ ให้ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว หากใครยังคิดอยากเคลื่อนไหว ก็จงเคลื่อนไหวไปหน้าทีวี จงอย่าทำการอย่างอื่นใด หากใครเป็นจอมยุทธ์ ก็ชิงเคลื่อนไหวก่อนใครได้  
ขอแถมอีกนิด จงโฟกัสที่เส้นกลาง หากเส้นกลางเริ่มขยบหัวหัวขึ้นหรือลง ทิศทางอาจขึ้นหรือลงตามเส้นกลางแนวโน้มนั้น
ลักษณะที่๔---เคลื่อนไหวในกรอบแคบ---เส้นบน กลาง ล่าง เดินขวางทั้ง๓เส้น หากใครเล่นออนไลน์ สามารถเล่นได้เล็กน้อยอย่ามาก เมื่อราคาแท่งเทียนใกล้เส้นบน จงขาย ใกล้เส้นล่าง จงซื้อ ต้องเข้าออกให้ทันการณ์ หาไม่แล้วจากกำไรอาจขาดทุนได้นา ขอบอก
ลักษณะที่๕---ทิศทางลงเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น เส้นกลางหันหัวลง เส้ยล่างหัวหัวลง
ลักษณะที่๖---ทิศทางลงเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวลง  เมื่อเส้นล่างเดินขวางเมื่อไหร่ ผู้ที่ใจกล้าที่เล่นออนไลน์ เริ่มทยอยซื้อเข้าได้ที่ละนิด อัตราเสี่ยงยังมีอยู่บ้างนะครับ สิบอกไห่
วิธีดูเส้นปากถุงที่กล่าวมานี้ .....ไม่ใช่ตำราของฝรั่ง แบบของฝรั่งผมเคยอ่านมาบ้างแล้ว ยาวมาก ปวดหัว ทำความเข้าใจได้ยากมากๆๆๆๆ ...........เหมาะเฉพาะกราฟราย๔ชม.และช่วงปกติเท่านั้นนะครับ  (บางครั้งตลาดจงใจคึงขึ้นลงอย่าแรงๆ แทบหัวใจวายสำหรับผู้มีทองในมือและผิดทิศทางของตัวเอง เรียกว่า ช่วงไม่ปกติครับ)

(http://img138.imageshack.us/img138/5339/31180680.gif) (http://img138.imageshack.us/i/31180680.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 13, 2010, 06:38:40 AM
กราฟGold 1
ช่อง1 เส้นแดงอยู่เหนือเส้นเขียว---ทิศทางขึ้น  ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น  สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นเขียวอยู่เหนือเส้นแดง---ทิศทางลง     ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นแดงและเขียวประสานเป็นกากะบาด ---กำลังจะเปลี่ยนทิศ ให้ดูเส้นแนวโน้มประกอบ  หากเส้นแดงและเขียวกำลังจะประสาน แต่ไม่ทันได้ประสานก็หันหันหัวกลับขึ้นหรือลง  แสดงว่ากำลังมีเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนี่งเกิดขึ้น หากขึ้นทะลุเส้นปะแนวต้าน ให้ดูเส้นปะแนวต้านเส้นต่อไป หากลงทะลุเส้นปะแนวหนุน ให้ดูเส้นแนวหนุนเส้นต่อไป   ส่วนจุดกลมเหลืองทอง---ทิศทางลง  จุดกลมฟ้า---ทิศทางขึ้น  หากกราฟวิ่งในยามปกติ พอเชื่อถือได้ หากกราฟวิ่งขึ้นลงแรงๆ คือยามไม่ปกติ ไม่อาจเชือถือได้
ช่อง2  ให้ดูเส้นสีม่วง ประกอบกับเส้นแนวโน้มในช่อง1 หากหันหัวไปในทิศทางเดียวกัน  โอกาสที่จะผิดพลาดก็มีน้อย  ส่วนเส้นปะสีเหลืองทองและฟ้า  หากขึ้นเหนือเลข80 เข้าสู่เขตซื้อเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ทุกเมื่อ  หากลงต่ำกว่าเลข20 เข้าสู่เขตขายเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ตลอดเวลา
ช่อง3   ให้ดูทั้ง2เส้น คือเหลืองทองและฟ้า หันหัวไปทิศทางเดียวกันหรือไม่  เท่านั้นยังไม่พอ  ให้ดูประกอบทิศทางในช่อง1ว่าเป็นทิศทางเดียวกันหรือไม่  หากทิศทางหันหัวในแนวเดียวกัน  ทิศทางนั้นเชื่อถือได้

(http://img41.imageshack.us/img41/8215/98735368.gif) (http://img41.imageshack.us/i/98735368.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 13, 2010, 06:53:30 AM
ETFขายทองจ้า
(http://img41.imageshack.us/img41/807/16037927.gif) (http://img41.imageshack.us/i/16037927.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 13, 2010, 09:08:21 AM
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสร่วง หลังนักลงทุนคาดความต้องการน้ำมันของจีนลดลง

Posted on Wednesday, January 13, 2010
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์ก ส่งมอบเดือน ก.พ. ปรับลดลง 1.73 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่ 80.79 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

ปัจจัยลบที่มีผลต่อราคาน้ำมัน

-  จีนประกาศมาตรการเพิ่มอัตราส่วนเงินสำรองของธนาคาร เพื่อไม่ให้เศรษฐกิจเติบโตเร็วเกินไปและป้องกันภาวะเงินเฟ้อ ส่งผลให้ตลาดมีความกังวลถึงปริมาณการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงจากจีน ซึ่งเป็นประเทศที่ใช้น้ำมันเป็นอันดับ 2 ของโลก ว่าอาจปรับลดลงจากผลของการใช้นโยบายทางการเงินแบบตึงตัว

- สภาพอากาศที่หนาวเย็นจัดในสหรัฐฯเริ่มคลี่คลายภายใน 2-3 วันข้างหน้านี้ตามรายงานพยากรณ์อากาศ ซึ่งหมายถึงแนวโน้มการใช้น้ำมันเพื่อทำความร้อนที่จะปรับลดลง ส่งผลกดดันทิศทางราคาน้ำมันในตลาด

 -  รายงานน้ำมันประจำเดือน ม.ค. ของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) ออกมาปรับลดประมาณการความต้องการใช้น้ำมันของโลกในปี 2553 ลง 20,000 บาร์เรลต่อวัน แต่ EIA ยังคงมองว่าความต้องการใช้น้ำมันของโลกในปีนี้จะขยายตัวจากปีที่ผ่านมาโดยอยู่ที่ระดับ 1.08 ล้านบาร์เรลต่อวัน

- รายงานปริมาณน้ำมันคงคลังโดยสถาบันปิโตรเลียมของสหรัฐฯ (API) สิ้นสุดวันที่ 8 ม.ค. ระบุว่าปริมาณน้ำมันทำความร้อนและดีเซลสำรองปรับเพิ่มขึ้น 3.6 ล้านบาร์เรล และปริมาณน้ำมันเบนซินสำรองปรับเพิ่มขึ้น 6.8 ล้านบาร์เรล ขณะที่ผลการสำรวจของรอยเตอร์กลับชี้ว่าปริมาณน้ำมันทำความร้อนและดีเซลสำรองปรับลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล และ ปริมาณน้ำมันเบนซินสำรองปรับเพิ่มขึ้นเพียง 1.2 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตามต้องติดตามผลการประกาศอย่างเป็นทางการของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯในคืนนี้

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ตลาดลอนดอน ส่งมอบเดือน ก.พ. ปรับลดลง  1.67 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่ 79.30 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบดูไบ  ตลาดสิงคโปร์ ปรับลดลง 1.25 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่ 79.91 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

- สนับสนุนข้อมูลโดย บมจ. ไทยออยล์ -
 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 13, 2010, 10:05:08 AM
กราฟตาแป๊ะซ้ายบน มีการเปลี่ยนแปลงนิดหนี่ง มีคำว่า  ตัวหนังสือสีเขียว ? ---ขาย และ  ตัวหนังสือสีแดง?----ซื้อ  เพิ่มเข้ามา เฉพราะที่เพิ่มเข้ามานิดหน่อยนี้ ผมใช้เวลาศุกร์-เสาร์-อาทิตย์(25--27ธค.52)ทั้ง3วันค้าหาในเวปจีนถึงได้เจอ และเอามาเพิ่มผสมเข้ากับกาฟตาแป๊ะช่องซ้ายบน ยังมิทราบจะแม่นยำแค่ไหน ต้องคอยกาลเวลาบ่งบอกครับ
กราฟตาแป๊ะซ้ายบน ตัวหนังสือสีเขียว ? ---ขาย   ตัวหนังสือสีแดง?----ซื้อ  เส้นสีแดงหนา---ขาขึ้น เส้นสีเขียวหนา---ขาลงขวาบน  เส้นสีแดง---เสนอซื้มากกว่าเสนอขาย เส้นสีเขียว---เสนอขายมากกว่าเสนอซื้อ  ส่วนช่วงกลางที่มีแท่งสีแดงกับเขียวนั้น แท่งแดง---แรงซื้อขึ้น   แท่งเขียว---แรงขายลง
ขวาช่องสอง  แท่งเหลืองคู่เส้นแดง---ขาขึ้น   แท่งฟ้าคู่เส้นเขียว---ขาลง โดยปกติ ช่องนี้จะเปลี่ยนแนวโน้มช้ากว่าเพื่อน หากเปลี่ยนแนวโน้มเมื่อไหร่ เขาให้ขายออกหรือซื้อเข้าได้ทันที่ ยกเว้นมีปัจจัยพื้นฐานแรงๆแทรกเข้ามา จึงจะทำให้แนวโน้มกลับเปลี่ยนได้โดยกะทันหัน
ซ้ายช่องสอง หน้าเหลืองแป๊ะยิ้ม---ขาขึ้น หน้าแดงแป๊ะร้องไห้---ขาลง  แท่งสีเขียว---เพดาน   แท่งสีแดง---พื้นดินโดยปกติ ช่องนี้จะส่งสัญญาณว่า กำลังจะเปลี่ยนแนวทางแล้วนะ แต่ยังไม่เต็มร้อย อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยกะทันหันก็ได้ ต้องดูซ้ายบนและขวาช่อง๒ประกอบด้วย จึงจะให้ความมั่นใจได้
ทอง
(http://img97.imageshack.us/img97/6245/22712170.gif) (http://img97.imageshack.us/i/22712170.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 13, 2010, 10:05:33 AM
ดัชนีเงินเมกา
(http://img684.imageshack.us/img684/7905/91152972.gif) (http://img684.imageshack.us/i/91152972.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 13, 2010, 10:14:06 AM
น้ำมัน
(http://img97.imageshack.us/img97/8807/21673001.gif) (http://img97.imageshack.us/i/21673001.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ มกราคม 13, 2010, 10:17:51 AM
สวัสดีค่ะคุณทองใหม่   เมื่อวานแบ่งขายไปบางส่วนวันนี้ลงซะแล้ว  วันนี้จะซื้อกลับดีหรือรอดีคะเผื่อลงอีกค่ะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 13, 2010, 10:47:36 AM
สวัสดีค่ะคุณทองใหม่   เมื่อวานแบ่งขายไปบางส่วนวันนี้ลงซะแล้ว  วันนี้จะซื้อกลับดีหรือรอดีคะเผื่อลงอีกค่ะ
ตอบให้ไม่ได้หรอกครับ เพราะตลาดอาจเปลี่ยนแปลงในพริบตาก็ได้ หากดูตามกราฟตาแป๊ะ ด้านขวาทั้งช่องบนและล่าง มีสัญญาณปรากฏว่าทองจะลงบ้างแล้วครับ แต่หน้าตาแป๊ะยังไม่เปลี่ยน สัญญาณลงที่ปรากฏนั้นจึงยังไม่แรงพอว่าทองจะต้องลงร้อยเปอร์เซ็น  พยายามอ่านคำอธิบายที่ผมให้มาพร้อมกราฟตาแป๊ะ ค่อยๆทำความเข้าใจให้ได้ หากเข้าใจแล้วพอเห็นกราฟตาแป๊ะ เราก็จะมีทิศทางของเราเองได้ครับ
อีกกราฟตัวหนึ่งที่ควรทำความเข้าใจ คือกราฟใหม่2010 ผมว่ากราฟตัวนี้ต่อไปอาจใช้แทนกราฟตาแป๊ะได้ และอาจดีกว่ากราฟตาแป๊ะก็เป็นได้ เมื่อวานไม่ได้โพสกราฟตัวนี้ให้ดู เพราะเห็นเพื่อนๆเฉยๆกับกราฟตัวนี้ ผมเองก็เลยถือโอกาสไม่โพสครับ ฮาฮา


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Neung99k ที่ มกราคม 13, 2010, 10:54:28 AM
สวัสดีครับพี่ทองใหม่ สุขภาพเป็นไงบ้างครับ ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะครับ :D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 13, 2010, 10:57:01 AM
13 ม.ค. 2553


ตลาดทองเอเชีย:ราคาทองฟื้นตัวใกล้ 1,130 ดอลล์เช้านี้หลังร่วงหนักวานนี้
     

        ราคาทองปรับตัวขึ้นในเช้าวันนี้ หลังดิ่งลงกว่า 2 % วานนี้ในการเทขาย
สินค้าโภคภัณฑ์ทั่วกระดาน ขณะที่การคุมเข้มทางการเงินของจีนที่สร้างความประหลาดใจ
ได้กระทบต่อความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงของนักลงทุน
        ณ เวลา 09.43 น.ตามเวลาไทย ราคาทองสปอตมีการซื้อขายที่ระดับ
1,128.70 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อเทียบกับระดับปิดในตลาดสปอตนิวยอร์คเมื่อวานนี้
ที่ระดับ 1,127.95 ดอลลาร์
        สัญญาทองล่วงหน้าส่งมอบเดือนก.พ.ที่ตลาด COMEX อยู่ที่ 1,129.80
ดอลลาร์/ออนซ์ โดยสัญญาปิดวานนี้ลดลง 1.9 % ที่ 1,129.40 ดอลลาร์
        ราคาทองร่วงลงกว่า 2 % เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการดิ่งลงหนักสุดภายใน
วันเดียวนับตั้งแต่วันที่ 17 ธ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์กล่าวว่าแรงเทขายทางเทคนิค
ได้ถ่วงราคาลงหลังราคาทองแท่งในตลาดสปอตดิ่งลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยในรอบ
50 วันที่ 1,130 ดอลลาร์
        เมื่อวันจันทร์ ราคาทองพุ่งสูงถึง 1,161.50 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุด
ในรอบ 5 สัปดาห์
        กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก
เปิดเผยว่าทางกองทุนได้ถือครองทองคำลดลง 3.657 ตัน หรือ 0.3 % สู่ระดับ
1,115.884 ตัน ณ วันที่ 12 ม.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่กลางเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว


แหล่งที่มา : รอยเตอร์


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 13, 2010, 10:59:57 AM
ประเด็นสำคัญ
   - ราคาทองปิดลบ 2% หลังจีนเพิ่มเพดานกันสำรองธนาคาร
   - สกุลเงินสินค้าโภคภัณฑ์ร่วงหลังข่าวจีนช็อกตลาด
   - ความเห็นเจ้าหน้าที่จีนหนุนดอลล์ ขณะกดดันเงินเอเชีย
   - กังวลค่าธรรมเนียมธนาคารกดดาวโจนส์ร่วง 0.34%

    ราคาทองที่ตลาดสหรัฐปิดต่ำกว่า 1,130 ดอลลาร์/ออนซ์ในวันอังคาร โดยร่วงลง 2% ในขณะที่ข่าวการคุมเข้มนโยบายการเงินของจีน ยับยั้งทัศนะแง่บวกเกี่ยวกับเศรษฐกิจ ซึ่งกระตุ้นการเทขายทางเทคนิคอย่างหนัก สัญญาทองส่งมอบเดือนก.พ.เคลื่อนตัวในช่วง 1,124.30-1,158.30 ดอลลาร์ ในขณะที่มีปริมาณการซื้อขายราว 231,945 สัญญา นักวิเคราะห์กล่าวว่า สัญญาทองส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงทะลุระดับเคลื่อนตัวเฉลี่ยรอบ 50 วันใกล้ 1,128 ดอลลาร์ แต่ระดับเคลื่อนตัวเฉลี่ยรอบ 100 วัน ที่ 1,070 ดอลลาร์ อาจจะเป็นแรงหนุนตลาด

    เจ้าหน้าที่ระดับสูงคนหนึ่งของสหรัฐกล่าวว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐกำลังพิจารณาเรื่องการเก็บค่าธรรมเนียมจากบริษัทผู้ให้บริการทางการเงิน เพื่อชดเชยยอดสูญเสียจากโครงการลดสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (TARP) และเป็นส่วนหนึ่งของงบประมาณปี 2011 ค่าธรรมเนียมนี้อาจส่งผลให้รัฐบาลเรียกเก็บเงินได้ถึง 1.20 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อชดเชยยอดสูญเสียของผู้เสียภาษีที่เป็นผลมาจากมาตรการกอบกู้สถาบันการเงิน

   สกุลเงินที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์ร่วงลงในวันอังคาร หลังจากจีนประกาศเพิ่มเพดานการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งทำให้เกิดความวิตกว่า อุปสงค์ของจีนอาจลดลง และจะชะลอการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

   ธนาคารกลางจีนสร้างความประหลาดใจให้แก่ตลาดทั่วโลกด้วยแถลงการณ์ว่า จะเพิ่มสัดส่วนการกันสำรองของภาคธนาคารพาณิชย์ขึ้น 0.50% โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป ซึ่งเป็นส่งสัญญาณชัดเจนที่สุดที่แสดงถึงการคุมเข้มนโยบายทางการเงิน สกุลเงินที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์ อาทิ ดอลลาร์ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ และแคนาดา ร่วงแตะระดับต่ำสุดของวันเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังการร่วงลงของราคาทอง

   กลยุทธ์ : หลังจากที่ราคาได้ทำจุดสูงสุดใหม่ที่บริเวณ 1,126 US$ ปรับฐานลงไปที่ 1,072 USS และได้ดีดทางเทคนิคขึ้นมาบริเวณ 61.8% จากจุดต่ำสุด ที่ระดับราคา 1,161 USS ช่วงนี้อาจจะติดตามด้วยการปรับฐานต่อเนื่องอีกครั้งได้
ในช่วงวัน ต่อคืนนี้อาจจะเกิดการดีดระยะสั้นมา 1,138 ปะทะแนวต้านและอาจจะปรับฐานลงต่อเนื่องได้อีก ที่แนวระดับราคา 1,112US$อีกครั้ง



หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 13, 2010, 11:03:44 AM
บทวิเคราะห์ทองคำ (13-01- 53)

13 ม.ค. 2553


สรุปภาวะตลาดเมื่อวาน
    ราคาโกลด์ฟิวเจอร์สมีการแกว่งตัวในช่วงแคบตามราคาสปอตซึ่งผันผวนตลอวันก่อนปรับตัวลดลงรุนแรงในช่วงเย็น ทองคำแท่งสมาคมฯปิดที่ 18,000/100 บาท เงินบาททรงตัว


ปัจจัยที่อาจส่งผลต่อเนื่องถึงวันนี้
    เมื่อมีข่าวแต่เช้าเกี่ยวกับมุมมองของผู้ที่มีความรับผิดชอบเกี่ยวกับการบริหารกองทุนให้กับรัฐบาลเป็นมูลค่ากว่า 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐได้ให้ความเห็นว่าดอลลาร์ไม่น่าจะอ่อนค่าได้กว่านี้มากแล้วและทั้งจีนและสหรัฐฯน่าจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้ภายในครึ่งหลังปีนี้ ซึ่งเขาก็ได้ออกมายืนยันในภายหลังว่ามุมมองดังกล่าวเป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของเขาเท่านั้น ข่าวดังกล่าวจึงสร้างความผันผวนให้กับราคาทองคำได้เป็นอย่างดี [Reuters, TCAF Research]
    ธนาคารกลางจีนประกาศปรับมาตรการให้ธนาคารพาณิชย์ต้องคงเงินทุนสำรองไว้เพิ่มขึ้นกว่าเดิมอีก 0.5% ซึ่งทำให้นักลงทุนทั่วโลกเห็นว่าเป็นการส่งสัญญาณว่าจีนอาจใช้นโยบายการเงินรัดกุมมากขึ้นกว่าเดิมในไม่ช้า ซึ่งกระตุ้นให้นักลงทุนมองว่าอาจส่งผลลบต่อราคาสินค้าและการเติบโตเศรษฐกิจ โดยเฉพาะปัจจุบันที่เศรษฐกิจโลกดูเหมือนจะต้องพึ่งจีนในการฟื้นตัว ซึ่งเมื่อประกอบกับรายงานรายบริษัทในสหรัฐฯที่เริ่มเปิดเผยผลกำไรออกมาไม่ค่อยดีนักในต้นฤดูประกาศผลประกอบการ นักลงทุนจึงเริ่มกลัวความเสี่ยงและเทขายสินทรัพย์เสี่ยงทุกชนิดเพื่อทำกำไรอย่างรุนแรงส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ หุ้น และทองคำปรับตัวลดลงไปอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตามเรามองว่าการกระทำดังกล่าวของจีนน่าจะทำเพื่อป้องกันฟองสบู่ที่อาจเกิดขึ้นเท่านั้นหลังจากที่คำเตือนด้วยการขอความร่วมมือก่อนหน้านี้ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร เราจึงคาดว่ามาตรการดังกล่าวน่าจะส่งผลกระทบต่อนักลงทุนได้ชั่วคราวเท่านั้น [Bloomberg, Reuters, TCAF Research]
    ในคืนนี้นักลงทุนจะจับตามุมมองของเฟดในเบจบุ๊คที่จะเปิดเผยออกมาก่อนปิดตลาดสหรัฐฯเพื่อคาดการณ์แนวโน้มนโยบายของเฟดในอนาคต

 

แนวโน้มทองคำวันนี้
    ถึงแม้เรามองว่าในขณะที่ทองคำน่าจะได้รับผลบวกจากภาพเศรษฐกิจโลกฟื้น แต่มาตรการต่างๆของจีนกลับออกมากดดันทั้งทองคำและค่าเงินยูโรต่อเนื่อง ทำให้อาจสร้างความสับสนให้กับนักลงทุนโดยทั่วไป เราจึงมองว่า "ราคาทองคำน่าจะแกว่งตัวโดยมีทิศทางไม่ชัดเจน" และแนะนำให้ "หยุดรอดูสถานการณ์"


มุมมองทองคำ
    แนวโน้มเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวน่าจะมีความสำคัญที่สุดในช่วงนี้ ในขณะที่มาตรการต่างๆของจีน(แทนที่จะเป็นสหรัฐฯ)ก็น่าจับตามองไม่แพ้กันเนื่องจากอาจส่งผลต่อการรับความเสี่ยงของนักลงทุนได้



หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: brabus ที่ มกราคม 13, 2010, 11:09:45 AM
ขอบคุณมากค่ะพี่ทองใหม่ สงสัยวันนี้ต้องล้างพอร์ตออยแล้ว ;)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 13, 2010, 11:13:41 AM
ราคาบ้านอังกฤษร่วงผิดคาดในเดือนธ.ค. ฉุดความหวังเศรษฐกิจฟื้นตัววูบ

Posted on Wednesday, January 13, 2010
ผลสำรวจ RICS ชี้ราคาบ้านอังกฤษร่วงผิดคาดในเดือนธ.ค.

ขณะที่นักลงทุนกำลังรอดูตัวเลขเศรษฐกิจและผลประกอบการเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนในช่วงต่อไป แต่หลายคนก็ยังไม่ลืมที่จะหันกลับมามองที่ตลาดบ้าน ในฐานะตัวแปรสำคัญอย่างหนึ่งที่จะกำหนดแนวโน้มเศรษฐกิจในอนาคต

ล่าสุด ผลสำรวจราคาบ้านที่อังกฤษสะท้อนถึงการแผ่วลงของดีมานด์ในเดือนธันวาคม เมื่อข้อมูลในส่วนที่แสดงถึงความต้องการหาซื้อบ้านใหม่ออกมาลดลง

ผลสำรวจของ Royal Institution of Chartered Surveyors (RICS) ชี้ว่า สัดส่วนของจำนวนเอเยนต์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่บอกว่าราคาเพิ่มขึ้น มีมากกว่าจำนวนคนที่บอกว่าราคาลดลงอยู่ 30% ซึ่งน้อยลงจาก 35% ในเดือนพฤศจิกายน ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ก่อนหน้านี้ว่า สัดส่วนดังกล่าวจะอยู่ที่ 37%

รายงานนี้อาจถูกมองว่า ตลาดบ้านในอังกฤษที่เคยเป็นนความหวังสำหรับการฟื้นตัว กำลังกลับมาอ่อนแรงลงอีกครั้ง หลังจากที่ในช่วงวิกฤติมูลค่าบ้านได้ร่วงลงไปถึง 20% นอกจากนี้ รายงานล่าสุดก็ยังสอดคล้องกับมุมมองของบริษัท Halifax ที่เป็นสาขาธุรกิจของ Lloyds Banking Group ที่คาดว่า แนวโน้มราคาบ้านของอังกฤษในปีนี้น่าจะยังยืนอยู่ที่ระดับเดิมต่อไป

และที่สำคัญสำหรับการจับตาดูราคาบ้านจากนี้ ก็คือ การเร่งทำคะแนนของนายกรัฐมนตรี Gordon Brown ก่อนหน้าที่จะมีการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนมิถุนายนที่จะถึง ซึ่งทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับนโยบายทั้งหลายว่าจะช่วยฟื้นเศรษฐกิจให้กลับมาได้มากขนาดไหน

นักเศรษฐศาสตร์ของ BNP Paribas พูดถึงรายงานตลาดบ้านล่าสุดด้วยว่า ผลของความต้องการที่อั้นมาในช่วงวิกฤติและมาช่วยผลักดันให้ราคาขยับเพิ่มขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้ กำลังเริ่มหมดแรงลงแล้ว และนี่คือสัญญาณเตือนภัยอันแรกๆ ที่กำลังจะบอกว่า ตลาดบ้านมีโอกาสที่จะร่วงลงอีกครั้ง

ความกังวลดังกล่าวยังไปเหมือนกับมุมมองของผู้บริหารธนาคารกลาง ที่ก่อนหน้านี้มีคนของ BOE เคยแสดงความรู้สึกแปลกใจในตัวเลขราคาบ้านที่ฟื้นขึ้น ขณะที่บริษัทวิจัย Hometrack ในลอนดอนคาดการณ์ว่า ราคาบ้านในอังกฤษมีแนวโน้มที่จะลดลงในปีนี้ ซึ่งเป็นไปตามสภาวะการว่างงานที่เพิ่มขึ้นและความกังวลที่รัฐบาลจะจำกัดการใช้จ่าย และยิ่งไปกดดันความต้องการในตลาดลงอีก


ข่าวจีนชะลอเศรษฐกิจ ฉุดหุ้นสหรัฐฯ ? ยุโรปร่วง

ข่าวที่ทางการจีนสั่งให้ธนาคารในประเทศตั้งสำรองเงินทุนในอัตราที่สูงขึ้นเพื่อหวังชะลอการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มเร่งตัวเร็วจนเกินไป กลายเป็นปัจจัยลบกดดันตลาดหุ้นทั่วโลก รวมทั้งเรื่องของผลกำไร Alcoa ที่ประเดิมรายงานผลประกอบการต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดไว้ และยังไม่รวมถึงการที่มีบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ อย่าง Chevron ออกมาบอกว่า กำไรในไตรมาสที่แล้วจะต่ำลงกว่าไตรมาสก่อนหน้า จนทำให้นักลงทุนหันมาเก็งว่าผลการดำเนินงานของบริษัทล่าสุดจะสร้างความน่าผิดหวัง

ดัชนี S&P 500 ร่วงลงเป็นครั้งแรกของปีนี้ ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงแรงที่สุดในรอบ 3 สัปดาห์ และในเวลาเดียวกัน เทรดเดอร์ก็ขายทำกำไรในตลาดน้ำมัน ทำให้ราคาร่วงลงมากที่สุดในรอบ 5 สัปดาห์

นักวิเคราะห์มองว่า สัญญาณจากประเทศจีนเป็นเหมือนการตอกย้ำความเชื่อที่ว่า รัฐบาลประเทศต่างๆ อาจจะทยอยถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเมื่อเห็นตัวเลขที่สำคัญออกมาดีขึ้น

หุ้น Air France ? KLM Group นำหุ้นทั้งกลุ่มสายการบินของยุโรปปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ หลังจากที่ Japan Airlines ดิ่งลงกว่า 40% ในการซื้อขายเมื่อวาน รับข่าวความเป็นไปได้ที่บริษัทจะยื่นขออนุมัติเข้าสู่กระบวนการล้มละลาย แม้ว่าตลาดเอเชียจะมีแรงหนุนจากตัวเลขยอดขายรถในประเทศจีน ที่พุ่งขึ้นแรงที่สุดในรอบ 10 ปีเป็นอย่างน้อย

ส่วนที่ตลาดน้ำมัน ถึงแม้ราคาจะแผ่วลงมายืนใกล้ระดับ 80 เหรียญต่อบาร์เรล จากข่าวที่ทางการจีนใช้มาตรการสกัดกั้นฟองสบู่ในเศรษฐกิจ ล่าสุดทางด้านกระทรวงพลังงานของสหรัฐฯ ก็ออกมาปรับเพิ่มคาดการณ์ค่าเฉลี่ยราคาน้ำมันในปีนี้ ขึ้นมาอยู่ที่ 79.8 เหรียญ จากคาดการณ์เดิมที่ 78.6 เหรียญ และสูงกว่าค่าเฉลี่ยของปีที่แล้ว ที่ราคาน้ำมัน West Texas Intermediate เฉลี่ยอยู่ที่เพียง 61 เหรียญเท่านั้น


สหรัฐเล็งเก็บค่าธรรมเนียมสถาบันการเงินเพื่อลดการขาดดุลงบฯ

บารัค โอบามา อยู่ในระหว่างการพิจารณาเพื่อเสนอให้มีการจัดเก็บภาษีกับบริษัทและสถาบันการเงิน เพื่อลดยอดขาดดุลงบประมาณของประเทศ หลังจากที่ยอดขาดดุลงบประมาณของสหรัฐพุ่งขึ้นมาอยู่ที่ 1.4 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว

การขาดดุลงบประมาณส่วนหนึ่งเนื่องมาจากการให้เงินช่วยเหลือภาคธนาคารที่นำเงินภาษีประชาชนมาใช้ ขณะที่ตลาดคาดการณ์ว่ากำไรของบริษัทการเงินซ์ดีดตัวขึ้นและอาจจะดีดตัวขึ้นถึง 3 เท่าในปีหน้า และบริษัทไฟแนนซ์เหล่านี้ก็จะเริ่มรายงานตัวเลขกำไรกันในสัปดาห์นี้

ทั้งนี้ กฎหมายที่รับรองโครงการบรรเทาสินทรัพย์ที่มีปัญหาของรัฐบาล (TARP) มูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์นั้น ได้ให้อำนาจกับประธานาธิบดีในการร้องขอให้สภาคองเกรส เพื่อดึงเงินชดเชยให้กับประชาชนผู้เสียภาษีหากว่าสถาบันการเงินที่ได้รับความช่วยเหลือไม่สามารถจ่ายหนี้คืนได้เต็มจำนวน

แบงค์ ออฟ อเมริกา เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า แบงค์อาจจะจ่ายโบนัสจำนวนมากให้กับนายแบงค์บางส่วน

นายโรเบิร์ต กิ๊บส์ เลขาธิการด้านสื่อมวลชนของทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวว่า เป้าหมายของโอบามา คือ ต้องการสร้างความมั่นใจว่าเงินภาษีประชาชนที่ถูกนำไปใช้นั้น จะได้กลับคืนมาเต็มเม็ดเต็มหน่วย

ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าแนวคิดดังกล่าวอาจจะทำให้เกิดประสิทธิภาพได้ยาก และอาจจะก่อให้เกิดผลกระทบที่ไม่ต้องการหลายอย่าง


หุ้น JAL วูบหนัก ขณะใกล้ล้มละลาย

หุ้นของ JAL ท่วมท้นไปด้วยคำเสนอขาย โดยเหลือเพียง 37 เยนต่อหุ้น ลดลง 44.8% จากราคาปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ 67 เยน และมีการคาดการณ์ว่าตลาดหุ้นโตเกียว จะปลดหุ้น JAL ออกจากตลาด

ขณะที่ทางด้านนายเซอิจิ มาเอฮารา รัฐมนตรีคมนาคมของญี่ปุ่นกล่าวว่า รัฐบาลจะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือเจแปน แอร์ไลน์ส พร้อมย้ำว่าจะไม่ทำให้การดำเนินงานของบริษัทต้องหยุดชะงักในระหว่างที่บริษัทต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ

นายมาเอฮารากล่าวว่า ตนได้รับอนุมัติจากแบงก์เจ้าหนี้รายใหญ่ของ JAL ให้ดำเนินการช่วยเหลือในการฟื้นฟูสายการบินดังในระหว่างที่เข้าร่วมเจรจากัน

นอกจากนี้ เจแปน แอร์ไลน์ส สามารถขอเสียงสนับสนุนเรื่องการลดบำนาญจากพนักงานที่เกษียณแล้วของบริษัทได้กว่า 2 ใน 3 ส่วน ซึ่งจะเป็นการปูทางให้บริษัทสามารถใช้ประโยชน์จากกองทุนสาธารณะได้

JAL เผยพนักงานที่เกษียณแล้ว 67% ได้ให้การอนุมัติแผนการดังกล่าวเมื่อวานนี้ โดยเมื่อวานซึ่งเป็นเส้นตายสำหรับสายการบินในการหาคะแนนเสียงจากพนักงานที่เกษียณแล้วประมาณ 9,000 คน เรื่องการลดบำนาญมากกว่า 30% ขณะที่บริษัทเตรียมที่จะยื่นล้มละลายภายใต้แผนฟื้นฟูกิจการตามคำแนะนำของศาล

ก่อนหน้านี้นายยูคิโอะ ฮาโตยามะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้เรียกร้องให้พนักงานที่เกษียณแล้วของเจแปน แอร์ไลน์ส คอร์ป มีส่วนร่วมในการแสดงความรับผิดชอบและทำความเข้าใจเกี่ยวกับแผนการลดสิทธิประโยชน์บำนาญลง ในขณะที่รัฐบาลอยู่ระหว่างการหารือและขออนุมัติแผนการฟื้นฟูกิจการบริษัทด้วยอำนาจศาล

นายกฯญี่ปุ่นกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า พนักงานที่เกษียณแล้ววิตกกังวลเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ของตนเองหากผลประโยชน์ด้านบำนาญนั้นถูกตัดลงเป็นจำนวนมาก แต่ถ้าเราพูดถึงเรื่องผู้ที่รับผิดชอบกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันของสายการบินแล้ว เชื่อว่าพนักงานทั้งหมดควรจะมีส่วนรับผิดชอบ

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า Enterprise Turnaround Initiative Corp. of Japan (ETIC) วางแผนที่จะยุบกองทุนบำนาญของสายการบินลง หากสายการบินไม่สามารถเจรจาเพื่อลดผลประโยชน์บำนาญลงได้


ฮ่องกงเตรียมเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมเอเชีย

เฮนรี่ ถัง ผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษฮ่องกง กล่าวในระหว่างการเดินทางเยือนนิวยอร์กซิตี้ว่า ฮ่องกงกำลังแปลงโฉมตนเองให้กลายเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมแห่งเอเชีย

ขณะนี้รัฐบาลฮ่องกงได้เริ่มเดินหน้าโครงการเขตวัฒนธรรมเกาลูนตะวันตก (West Kowloon Cultural District - WKCD) เพื่อเปลี่ยนวิคตอเรีย ฮาเบอร์ ให้กลายเป็น เวสต์เอนด์ แห่งเอเชีย

นายถังกล่าวว่า WKCD ซึ่งมีพื้นที่ 40 เฮคเตอร์เลียบอ่าววิคตอเรีย จะเป็นที่ตั้งของสถานที่แสดงผลงานทางศิลปะไม่ต่ำกว่า 15 แห่ง อาทิ คอนเสิร์ตฮอลล์ โรงละคร และพิพิทธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัย เป็นต้น โดยในเบื้องต้นรัฐบาลฮ่องกงได้ทุ่มเม็ดเงินในโครงการดังกล่าวไปแล้ว 2,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีกำหนดการเปิดเฟสแรกในปี 2557 หรือ 2558 ซึ่งโครงการ WKCD จะช่วยยกระดับฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางวัฒนธรรมแห่งภูมิภาค

นอกจากนี้ นายถังยังเผยด้วยว่า รัฐบาลฮ่องกงจะสร้างทางรถไฟด่วนที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายรถไฟความเร็วสูงในประเทศจีน โดยจะมีสถานีตั้งอยู่ที่เวสต์เกาลูน เพื่อร่นระยะเวลาการเดินทางไปยังเมืองกวางโจว เมืองหลวงของมณฑลกวางตุ้ง โดยคาดว่าจะใช้เวลาเพียง 48 นาที


จีนประกาศเพิ่มสำรองเงินฝากธนาคารพาณิชย์

ธนาคารกลางจีนประกาศเพิ่มสัดส่วนการกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ 0.5% ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 18 มกราคมปีนี้ ซึ่งนับเป็นการปรับเพิ่มครั้งแรกตั้งแต่เดือนมิ.ย.2551

การกำหนดให้ธนาคารพาณิชย์เพิ่มการกันสำรองเงินฝากในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อคลายความร้อนแรงของเศรษฐกิจจีนที่มีอัตราขยายตัวเร็วที่สุดในโลก เนื่องจากหวั่นเกรงว่าการขยายตัวของสินเชื่อที่สูงเกินไปจะส่งผลให้เกิดเงินเฟ้อและภาวะฟองสบู่ในสินทรัพย์

ธนาคารพาณิชย์จีนทำสถิติปล่อยกู้สูงเป็นประวัติการณ์ถึง 9.21 ล้านล้านหยวน (1.3 ล้านล้านดอลลาร์) ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2552 ซึ่งผลักดันให้เศรษฐกิจของประเทศดีดตัวขึ้นหลังจากที่วิกฤตการเงินโลกได้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของจีน

อย่างไรก็ดี ธนาคารกลางระบุว่า การปรับเพิ่มสำรองเงินฝากในครั้งนี้ไม่รวมถึงสถาบันการเงินขนาดเล็ก อาทิ สหกรณ์ในเขตชนบท และไม่ได้ระบุชัดเจนถึงสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารขนาดเล็ก

ทั้งนี้ ปัจจุบันสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารขนาดใหญ่อยู่ที่ 15.5% และ 13.5% สำหรับธนาคารขนาดเล็ก


จีนปรับขึ้นดอกเบี๋ยตั๋วเงินคลัง ส่งสัญญาณคุมเศรษฐกิจร้อน

ธนาคารกลางจีน ปรับขึ้นดอกเบี้ยตั๋วเงินคลัง อายุ 1 ปี จาก 0.08% สู่ระดับ 1.843% (มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์เอาไว้) ซึ่งมาตรการดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากก่อนหน้านี้ ปริมาณการปล่อยสินเชื่อของภาคธนาคารพุ่งขึ้นสู่ 600,000 ล้านหยวนเพียงแค่สัปดาห์แรกของปีนี้ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสร้างความวิตกว่า เศรษฐกิจจีนอาจจะอยู่ในภาวะที่ร้อนแรงเกินไป ประกอบกับตัวเลขการค้า เดือน ธ.ค. ที่ระดับสูงก็เป็นอีกปัจจัหนึ่งที่สนับสนุนแนวคิดนี้

ความเห็นของนักวิเคราะห์ มองว่า ?การซื้อคืนพันธบัตรวานนี้ เป็นสัญญาณหนึ่งที่บ่งชี้ว่า ธ.กลางจีนกำลังดูดซับเม็ดเงินออกจากตลาดตราสารหนี้ระยะสั้น เพราะ ธ.กลางจีนมองว่าสภาพคล่องอยู่ในระดับที่สูงเกินไป?

อย่างไรก็ดี อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรระยะยาวทรงตัวเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจาก Trader ไม่มั่นใตว่า ธ.กลางจีนจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ และเงินฝาก มากกว่า 0.54% ในปีนี้


จีนเตรียมก่อสร้างท่าอากาศยานสูงที่สุดในโลก

จีนวางแผนจะก่อสร้างท่าอากาศยานสูงที่สุดในโลกที่ทิเบต ที่ระดับความสูงเกือบ 4,500 เมตร โดยโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานบนหลังคาโลกจะดำเนินการที่เขตหนาฉู่ ที่ระดับความสูงถึง 4,436 เมตร โดยจะเริ่มก่อสร้างในปีหน้า ด้วยงบประมาณมูลค่า 1,800 ล้านหยวน (ประมาณ 8,715 ล้านบาท)

เขตหนาฉู่จะกลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจในดินแดนดังกล่าว นอกจากนี้ ท่าอากาศยานแห่งใหม่ดังกล่าวจะเป็นท่าอากาศยานแห่งที่ 6 ที่ก่อสร้างขึ้นในดินแดนซึ่งปกครองโดยจีนมานานเกือบ 60 ปี

นักวิจารณ์ระบอบการปกครองของจีนเปิดเผยว่า ระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานใหม่ เช่น ทางรถไฟซึ่งก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อไม่นานมานี้ และท่าอากาศยานแห่งใหม่ดังกล่าว จะทำให้ชาวฮั่นหลั่งไหลเข้ามาในทิเบต เพื่อหาประโยชน์จากทรัพยากรและควบคุมระบบการปกครองของทิเบต แต่ทางการจีนยืนกรานว่า โครงการดังกล่าวจะช่วยยกมาตรฐานความเป็นอยู่ให้กับประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว


ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่ประกาศออกมาเมื่อวานนี้ (อังคารที่ 12 ม.ค. 2553)
? ดุลการค้าระหว่างประเทศ (พ.ย.) ขาดดุล 36,400 ล้านดอลลาร์ (ขาดดุลมากกว่าคาดการณ์)

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่จะประกาศออกมาวันนี้ (พุธที่ 13 ม.ค. 2553)
? ตัวเลขสต็อกน้ำมันสำรองประจำสัปดาห์ โดย EIA
? รายงาน Beige Book โดยธนาคารกลางสหรัฐฯ

ติดตาม Money Wake up ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ออกอากาศซ้ำเวลา 11.00 น. ทาง Money Channel


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 13, 2010, 11:20:45 AM
(http://img199.imageshack.us/img199/8708/88037544.gif) (http://img199.imageshack.us/i/88037544.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 13, 2010, 11:23:48 AM
(http://img706.imageshack.us/img706/7932/10746377.gif) (http://img706.imageshack.us/i/10746377.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 13, 2010, 11:26:12 AM
(http://img706.imageshack.us/img706/7932/10746377.gif) (http://img706.imageshack.us/i/10746377.gif/)
(http://img46.imageshack.us/img46/9514/30846952.gif) (http://img46.imageshack.us/i/30846952.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 13, 2010, 11:47:37 AM
คาดเงินบาทไทยมีโอกาสแข็งค่าจนหลุดระดับ 33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐตามเงินหยวน

Posted on Wednesday, January 13, 2010
นายกอบสิทธิ์  ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจ และตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า นักลงทุนเริ่มมีความกังวลต่อการตัดสินใจที่ถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และ จีน ทั้งการขึ้นอัตราดอกเบี้ย และถอนการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าระบบ ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้เงินหายไปจากระบบค่อนข้างมาก

โดยเฉพาะจีน ที่เร่งดึงสภาพคล่องออกจากระบบอย่างต่อเนื่อง เพื่อเลี่ยงปัญหาฟองสบู่ที่อาจเกิดขึ้น ด้วยการประมูลพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือนที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าในตลาด การเพิ่มสัดส่วนการกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งจะช่วยลดความร้อนแรงของการขยายตัวทางเศรษฐกิจได้ นอกจากนี้ จีนยังมีแนวโน้มขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกด้วย ซึ่งจะทำให้ปริมาณเงินหยวนในระบบลดลง และจะส่งผลให้เงินหยวนแข็งค่าขึ้นด้วย
 
สำหรับประเด็นที่จะมีผลต่อประเทศไทย คือ การที่จีนเป็นผู้ผลิตของภูมิภาค และไทยมียอดค้าขายกับจีนเป็นสัดส่วนประมาณ 13% ของมูลค่าการค้ารวม ทำให้ค่าเงินบาทยังมีแนวโน้มการขยับตัวไปในทิศทางเดียวกับเงินหยวนด้วย ซึ่งจะกดดันกำไรของผู้ส่งออกไทยได้ โดยเชื่อว่าค่าเงินบาทยังมีแนวโน้มหลุดระดับ 33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ หรือแกว่งตัวที่ระดับ 32.90 ? 33.10 บาท ต่อดอลลาร์สหรัฐได้

 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 13, 2010, 01:11:43 PM
กราฟใหม่2010(เรามาช่วยกันใช้กาลเวลาพิสูจน์ว่า กราฟตัวนี้จะมีความขลังเท่ากราฟตาแป๊ะไหม)
1.   ซ้ายบนหน้าเทาขาวและหนังสือสีขาว??ถอนตัว(ขาย)   หน้าแดงและหนังสือสีเหลือง??บุก(ซื้อ)
2.   กลางบน หนังสือสีเขียว??ขาย หนังสือสีแดง??ซื้อ  ส่วนตัวหนังสือสีเหลือง????เส้นหยุดขาดทุน(สำหรับผู้ที่เล่นออนไลน์สั่งป้องกันล่วงหน้าได้เท่านั้น)
3.   ขวาบน  ตัวหนังสือสีเขียว (?)?ขาย  ตัวหนังสือสีเหลือง(?)?ซื้อ  
 4.   ซ้ายล่าง สีแดง???เพดาน(จะอยู่ช่วงบน)   สีแดง???ซื้อ(จะอยู่ช่วงล่าง)          สีเขียว ????หนีเร็ว หากเครื่องหมาย ?ปรากฏแค่/ยังไม่สมบูรณ์เต็มตัว?เตรียมตัวหนี(จะปรากฏพร้อม   ???เพดาน(จะอยู่ช่วงบน)   )และตัวหนังสือสีเขียว????เจอต่ำซื้อ
5.   กลางล่าง   หน้าเทาขาว?ขาย        หน้าแดง?ซื้อ
6.   ขวาล่าง    เครื่องหมายสีขาว??ขาย           เครื่องหมายสีชมภู??ซื้อ

(http://img69.imageshack.us/img69/4979/75072323.gif) (http://img69.imageshack.us/i/75072323.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ มกราคม 13, 2010, 02:29:33 PM
ขอบคุณค่ะคุณทองใหม่


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Yai Carmungwed ที่ มกราคม 13, 2010, 04:37:54 PM
 Smiley/Angry.gifขอบคุณมากครับอาจารย์ทองใหม่ Smiley/Angry.gif


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Cindy ที่ มกราคม 13, 2010, 06:14:18 PM
มานั่งรอปาฎิหาริย์ครั้งใหม่ว่าจะเกิดอีกเมื่อไหร่? พวกเล่นระยะสั้นก็ต้องลุ้นอย่างนี้ค่ะ
แมวมันถามหาเป่าฮื้ออีกแล้วค่ะอาจารย์ เอาปลาทูให้กินไม่ยอมกิน เจ้านี่เสียนิสัย ;D laugh.gif


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: JO-JO ที่ มกราคม 13, 2010, 06:54:53 PM
ขอบคุณครับ คุณทองใหม่

กราฟตาแป๊ะยังแม่นเหมือนเดิมเลยนะครับ น้ำมันขึ้นสัญญาณขายราคาล่วงกระจายเลย
นี่ถ้าตาแป๊ะร้องไห้ด้วยสงสัย จะหนักกว่านี้อีก ราคาทองจะยิ่งร่วงลงตามน้ำมันไปอีกหรือเปล่าหนอ

ว่าแต่กราฟตัวใหม่ 2010 ทำยังไงให้มันใหญ่ขึ้นอะครับ

 :)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 14, 2010, 06:22:23 AM
 วิธีดูทิศทางทอง ต้าน๓----หนุน๓เป็นทิศทางทองที่จะเคลื่อนไหวในวันนี้ หากพุ่งทะลุต้าน๓หรือดิ่งทะลวงหนุน๓ แสดงถึงวันนั้นทองเคลื่อนไหวแรงเกินปกติ เส้นแดนเป็นเส้นที่จะแบ่งแยกทิศทางของทองที่จะขึ้นหรือลง หากทองเคลื่อนไหวอยู่ในทิศทางใดมากและนาน นั่นหมายถึงโอกาสเป็นไปได้มากที่ทองจะเคลื่อนไปในทิศทางนั้นๆ ในช่วงเวลานั้น (ยังต้องแบ่งออกในช่วงเวลาตลาดเอเซีย ยุโรป เมกาด้วย) ต้าน๑และหนุน๑หากถูกทดสอบแบบมีผล(ขึ้นลงมากกว่า๑ครั้ง)แล้วยืนอยู่ได้ นั่นคือทิศทางทองที่จะเดินต่อไปในช่วงเวลานั้น หากการวิเคราะเกิดขัดแย้งกันเมื่อไหร่ ให้หยุดมองดูอย่างเดียว ไม่ควรซื้อ-ขายในช่วงเวลานั้น แนวทางนี้เหมาะกับการเล่นสั้นมาก (เล่นแบบออนไลน์ในอนาคต) มีความแม่นยำถึง80%ครับ อีกอย่างข่าวปัจจัยพื้นฐานอาจเปลี่ยนทิศทางทองได้กะทันหันนะครับ
ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์กับการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย ถัาติดดอยเมื่อทองต่ำลงมา  หากยังมีเงินเหลืออยู่ ควรซื้อเพิ่ม เพิ่มที่ละนิด ต่ำอีกซื้ออีก เพื่อดึงต้นทุนที่สูงให้ต่ำลงมา ใครที่ยังไม่มีทองในมือควรทยอยซื้อเข้าอย่ามากนัก หากทองลงอีก เราก็ซื้ออีก ดีกว่าเวลาทองขึ้นเราไปไล่ซื้อในราคาที่สูง  จดจำเป็นคติเตือนใจว่า  เรามิอาจซื้อได้ในราคาที่ต่ำสุด และขายได้ในราคาที่สูงสุด ไม่มีการลงทุนใดที่ไม่เสี่ยง การบริหารพอร์ตให้ได้จังหวะ จะลดความเสี่ยงลงได้ครับ
กราฟสำคัญ ปัจจัยพื้นฐานก็สำคัญ จิตวิทยาการโน้มเอียงของคนก็สำคัญ สิ่งเหล่านี้หากเป็นไปในแนวเดียวกัน ก็จะมุ่งไปทางนั้น หากแย้งกันก็ต้องดูฝ่ายไหนเหนือกว่า.....ด้วยเหตุนี้ไม่มีนักวิเคราะห์คนใดที่จะทำนายได้แม่นยำตลอดกาลได้ครับ
(http://img44.imageshack.us/img44/7607/60846985.gif) (http://img44.imageshack.us/i/60846985.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 14, 2010, 06:24:26 AM
ขอบคุณครับ คุณทองใหม่

กราฟตาแป๊ะยังแม่นเหมือนเดิมเลยนะครับ น้ำมันขึ้นสัญญาณขายราคาล่วงกระจายเลย
นี่ถ้าตาแป๊ะร้องไห้ด้วยสงสัย จะหนักกว่านี้อีก ราคาทองจะยิ่งร่วงลงตามน้ำมันไปอีกหรือเปล่าหนอ

ว่าแต่กราฟตัวใหม่ 2010 ทำยังไงให้มันใหญ่ขึ้นอะครับ

 :)
หากภาพเล็กให้คิ๊กที่ภาพ จะมีหน้าต่างเกิดใหม่ ภาพยังเท่าเดิม ให้คิ๊กที่ภาพอีกครั้ง ภาพจะใหญ่ขึ้นครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 14, 2010, 06:26:29 AM
เส้นปากถุง(เส้นสีขาวทั้ง๓เส้น)แบบง่ายๆ ไม่ปวดเศียรเวียนเกล้า
เส้นบน---แนวต้าน
เส้นกลาง---แนวโน้ม(สำคัญสุด)
เส้นล่าง---แนวหนุน
ลักษณะที่๑---ทิศทางขึ้นเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น   เส้นกลางหันหัวขึ้น   เส้นล่างหันหัวลง
ลักษณะที่๒---ทิศทางขึ้นเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวขึ้น
เมื่อเจอลักษณะทั้ง๒นี้ ราคาระหว่างวันที่ขึ้นๆลงๆ เมื่อเจอจุดที่เห็นว่าต่ำแล้วให้ซื้อเข้าได้เลยครับ  ขอเพียงเส้นกลาง(แนวโน้ม)ยังหันหัวขึ้นอยู่ แม้ราคาเแท่งเทียนจะอยู่ต่ำกว่าเส้นกลาง ก็ยังซื้อเข้าได้ หากเส้นบนเดินขวางเมื่อไหร่ ให้ทยอยลดพอร์ตได้เลยครับ
ลักษณะที่๓---เลือกทิศทาง---เส้นบนหันหัวลง เส้นล่างหันหัวขี้น ปากถุงแคบลง ถึงช่วงนี้ ให้ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว หากใครยังคิดอยากเคลื่อนไหว ก็จงเคลื่อนไหวไปหน้าทีวี จงอย่าทำการอย่างอื่นใด หากใครเป็นจอมยุทธ์ ก็ชิงเคลื่อนไหวก่อนใครได้  
ขอแถมอีกนิด จงโฟกัสที่เส้นกลาง หากเส้นกลางเริ่มขยบหัวหัวขึ้นหรือลง ทิศทางอาจขึ้นหรือลงตามเส้นกลางแนวโน้มนั้น
ลักษณะที่๔---เคลื่อนไหวในกรอบแคบ---เส้นบน กลาง ล่าง เดินขวางทั้ง๓เส้น หากใครเล่นออนไลน์ สามารถเล่นได้เล็กน้อยอย่ามาก เมื่อราคาแท่งเทียนใกล้เส้นบน จงขาย ใกล้เส้นล่าง จงซื้อ ต้องเข้าออกให้ทันการณ์ หาไม่แล้วจากกำไรอาจขาดทุนได้นา ขอบอก
ลักษณะที่๕---ทิศทางลงเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น เส้นกลางหันหัวลง เส้ยล่างหัวหัวลง
ลักษณะที่๖---ทิศทางลงเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวลง  เมื่อเส้นล่างเดินขวางเมื่อไหร่ ผู้ที่ใจกล้าที่เล่นออนไลน์ เริ่มทยอยซื้อเข้าได้ที่ละนิด อัตราเสี่ยงยังมีอยู่บ้างนะครับ สิบอกไห่
วิธีดูเส้นปากถุงที่กล่าวมานี้ .....ไม่ใช่ตำราของฝรั่ง แบบของฝรั่งผมเคยอ่านมาบ้างแล้ว ยาวมาก ปวดหัว ทำความเข้าใจได้ยากมากๆๆๆๆ ...........เหมาะเฉพาะกราฟราย๔ชม.และช่วงปกติเท่านั้นนะครับ  (บางครั้งตลาดจงใจคึงขึ้นลงอย่าแรงๆ แทบหัวใจวายสำหรับผู้มีทองในมือและผิดทิศทางของตัวเอง เรียกว่า ช่วงไม่ปกติครับ)

(http://img29.imageshack.us/img29/4627/42495894.gif) (http://img29.imageshack.us/i/42495894.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 14, 2010, 06:29:19 AM
กราฟGold 1
ช่อง1 เส้นแดงอยู่เหนือเส้นเขียว---ทิศทางขึ้น  ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น  สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นเขียวอยู่เหนือเส้นแดง---ทิศทางลง     ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นแดงและเขียวประสานเป็นกากะบาด ---กำลังจะเปลี่ยนทิศ ให้ดูเส้นแนวโน้มประกอบ  หากเส้นแดงและเขียวกำลังจะประสาน แต่ไม่ทันได้ประสานก็หันหันหัวกลับขึ้นหรือลง  แสดงว่ากำลังมีเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนี่งเกิดขึ้น หากขึ้นทะลุเส้นปะแนวต้าน ให้ดูเส้นปะแนวต้านเส้นต่อไป หากลงทะลุเส้นปะแนวหนุน ให้ดูเส้นแนวหนุนเส้นต่อไป   ส่วนจุดกลมเหลืองทอง---ทิศทางลง  จุดกลมฟ้า---ทิศทางขึ้น  หากกราฟวิ่งในยามปกติ พอเชื่อถือได้ หากกราฟวิ่งขึ้นลงแรงๆ คือยามไม่ปกติ ไม่อาจเชือถือได้
ช่อง2  ให้ดูเส้นสีม่วง ประกอบกับเส้นแนวโน้มในช่อง1 หากหันหัวไปในทิศทางเดียวกัน  โอกาสที่จะผิดพลาดก็มีน้อย  ส่วนเส้นปะสีเหลืองทองและฟ้า  หากขึ้นเหนือเลข80 เข้าสู่เขตซื้อเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ทุกเมื่อ  หากลงต่ำกว่าเลข20 เข้าสู่เขตขายเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ตลอดเวลา
ช่อง3   ให้ดูทั้ง2เส้น คือเหลืองทองและฟ้า หันหัวไปทิศทางเดียวกันหรือไม่  เท่านั้นยังไม่พอ  ให้ดูประกอบทิศทางในช่อง1ว่าเป็นทิศทางเดียวกันหรือไม่  หากทิศทางหันหัวในแนวเดียวกัน  ทิศทางนั้นเชื่อถือได้

(http://img163.imageshack.us/img163/9307/84788377.gif) (http://img163.imageshack.us/i/84788377.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 14, 2010, 08:36:00 AM
ทองคำปิดบวก7.40$ 
 วันพฤหัสบดีที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2553 08:26

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวก นักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรหลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดที่ 1,136.80 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 7.40 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,118.50 - 1,138.60 ดอลลาร์

ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 18.550 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 29.50 เซนต์

ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 1,574.40 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 4.20 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 424.95 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 85.00 เซนต์

นักวิเคราะห์จากบริษัท ลาซาล ฟิวเจอร์ส กรุ๊ป กล่าวว่า นักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรในสัญญาทองคำหลังจากดัชนี ICE Futures US dollar index ร่วงลง 0.2% เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในตะกร้าสกุลเงิน ซึ่งเป็นผลมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีก

กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก ถือครองทองคำลดลง 3.657 ตัน หรือ 0.3% แตะที่ระดับ 1,115.884 ตัน ณ วันที่ 12 ม.ค.



หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 14, 2010, 09:33:17 AM
14 ม.ค. 2553


ตลาดทองเอเชีย:ราคาทองดีดตัวเช้านี้เหนือ 1,140 ดอลล์ขณะรอดูประชุม ECB
     

        ราคาทองดีดตัวขึ้นต่อในเช้าวันนี้ หลังปรับตัวขึ้นวานนี้จากแรงซื้อชดเชย
และคำสั่งซื้อในตลาดส่งมอบปัจจุบัน ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่าลง โดยนักลงทุนซื้อขาย
อย่างระมัดระวังก่อนการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB)
และก่อนการเปิดเผยข้อมูลสหรัฐ
        ณ เวลา 08.49 น.ตามเวลาไทย ราคาทองสปอตมีการซื้อขายที่ระดับ
1,142.40 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อเทียบกับระดับปิดในตลาดสปอตนิวยอร์คเมื่อวานนี้
ที่ระดับ 1,137.60 ดอลลาร์
        สัญญาทองล่วงหน้าส่งมอบเดือนก.พ.ที่ตลาด COMEX อยู่ที่ 1,138.30
ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อเทียบกับระดับปิดวานนี้ที่ 1,136.80 ดอลลาร์/ออนซ์
        ราคาทองปรับตัวขึ้นวานนี้ ขณะที่ดอลลาร์ที่อ่อนค่าได้กระตุ้นคำสั่งซื้อ
ในตลาดส่งมอบปัจจุบันและแรงซื้อชดเชย โดยราคาทองได้ดิ่งลงอย่างหนักก่อนหน้านี้
เมื่อการตัดสินใจของทางการจีนในการปรับเพิ่มเพดานการกันสำรองของธนาคาร
พาณิชย์ได้กระตุ้นความกังวลว่าจะกระทบต่อการใช้จ่ายและจะลดความน่าดึงดูดใจ
ของทองแท่งในฐานะแหล่งประกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ
        กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก
เปิดเผยว่าทางกองทุนได้ถือครองทองคำที่ระดับ 1,115.884 ตัน ณ วันที่ 13 ม.ค.
ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากวันที่ 12 ม.ค. โดยกองทุนได้ถือครองทองคำสูงสุดเป็นประวัติ
การณ์ที่ 1,134.03 ตันเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ปีที่แล้ว



หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 14, 2010, 10:01:05 AM
ประเด็นสำคัญ
   - ราคาทองปิดบวกหลังได้รับแรงซื้อ,ดอลล์อ่อน
   - สกุลเงินสินค้าโภคภัณฑ์ฟื้นตัวขึ้น
   - น้ำมันดิบปิดร่วง 1.14 ดอลล์หลัง EIA เผยตัวเลข
   - สกุลเงินที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์ ฟื้นตัวขึ้นบ้าง

    ราคาทองที่ตลาดสหรัฐปิดสูงขึ้นในการซื้อขายที่ผันผวนในวันพุธ ในขณะที่การอ่อนค่าของดอลลาร์ กระตุ้นการเข้าซื้อในตลาดส่งมอบปัจจุบันและแรงซื้อคืน หลังการร่วงลงอย่างหนักในวันอังคาร

    สัญญาทองส่งมอบเดือนก.พ.เคลื่อนตัวในช่วง 1,118.50-1,138.60 ดอลลาร์ ในขณะที่มีปริมาณการซื้อขายราว 223,457 สัญญา

    ทองมีแนวรับอยู่ที่ราวระดับเคลื่อนตัวเฉลี่ยรอบ 50 วัน ที่ 1,130 ดอลลาร์ หลังจากที่ในช่วงแรกร่วงลงต่ำกว่า 1,120 ดอลลาร์

    ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุในรายงาน Beige Book ว่า ในขณะที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจอยู่ในระดับต่ำ "สถานการณ์ก็ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยต่อไป และการปรับตัวในทางบวกนี้เกิดขึ้นในพื้นที่ที่กว้างกว่าเดิมในทางภูมิศาสตร์เมื่อเทียบกับในรายงานครั้งก่อน

     สกุลเงินที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์ อาทิ ดอลลาร์ออสเตรเลียฟื้นตัวขึ้นบ้าง แต่ตลาดยังวิตกว่า การถอนสภาพคล่องอาจจะทำให้มีการปิดสถานะการลงทุนในสินทรัพย์ที่เสี่ยงกว่า ขณะที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว และธนาคารกลางต่างๆให้ความสำคัญกับความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ

 

    เขากล่าวอีกว่า ปฏิกริยาต่อมาตรการของจีนเมื่อวันอังคารมีมากเกินไปและเร็วเกินไป และเมื่อพิจารณามากขึ้น นักลงทุนจึงตระหนักว่า ผลกระทบจากมาตรการของจีนจะไม่เป็นอันตรายต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก

     ดัชนีดอลลาร์ทรงตัว หลังจากร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดตั้งแต่กลางเดือนธ.ค. นักวิเคราะห์กล่าวว่า ตลาดอาจหันมาสนใจรายงานผลประกอบการของบริษัทสหรัฐในสัปดาห์นี้ และข้อมูลยอดค้าปลีกและจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐในวันพฤหัสบดี

     กลยุทธ์ : ช่วงเมื่อคืนทำจุดต่ำสุดที่ 1,118 และดีดขึ้นมาอย่างรุนแรงถึงช่วงเช้านี้ที่ 1,143 กลยุทธ์ช่วงนี้อาจจะเล่นสั้น เพื่อป้องกันการที่ราคามีการเหวี่ยงขึ้นลงรุนแรงอาจจะผิดทิศทางกับการเข้าลงทุน วันนี้อาจจะต้องระวังความผันผวนในวัน



หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 14, 2010, 10:24:51 AM
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ 6 เดือนล่าสุดหนุนความเชื่อมั่นนักลงทุนทั่วโลกพุ่งต่อ

Posted on Thursday, January 14, 2010
ตัวเลขเศรษฐกิจหนุนความเชื่อมั่นนักลงทุนทั่วโลกพุ่งต่อ

ผลสำรวจความเชื่อมั่นนักลงทุนทั่วโลกที่จัดทำโดยสำนักข่าว Bloomberg ปรับตัวดีขึ้นในเดือนนี้ หลังจากที่เห็นสถานการณ์ที่ดีขึ้นทั้งในภาคการผลิตและบริการ ทำให้หลายคนมั่นใจมากขึ้นสำหรับทิศทางเศรษฐกิจต่อจากนี้

The Bloomberg Professional Global Confidence Index ขยับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 66.6 ในเดือนมกราคม เพิ่มจาก 58.9 ในเดือนธันวาคม และทำสถิติเป็นตัวเลขที่สูงสุดนับตั้งแต่มีการจัดทำดัชนีนี้ขึ้นมาเมื่อสองปีก่อน

ตัวเลขตลอด 6 เดือนล่าสุดโชว์มุมมองว่าเศรษฐกิจกำลังขยายตัว ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่มีรายงานทางเศรษฐกิจสำคัญๆ ทยอยประกาศออกมา และถ้าไล่เลียงกันไปตามภูมิภาคแล้ว เริ่มจากที่สหรัฐฯ สภาวะการจ้างงานเดือนพฤศจิกายนก็เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบเกือบสองปี ขณะภาคการผลิตก็แสดงทิศทางการขยายตัวในเดือนธันวาคม ด้วยอัตราการเพิ่มที่สูงสุดในรอบกว่าสามปี แม้ว่าอัตราการว่างงานจะยังยืนอยู่ที่แถวๆ 10% แต่ก็ยังไม่ปิดโอกาสที่ตัวเลขจะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น

ส่วนที่ยุโรป ผู้ตอบแบบสำรวจรู้สึกมั่นใจมากขึ้นเป็นเดือนที่สองแล้วว่า เศรษฐกิจจะฟื้นตัวต่อ ซึ่งสามารถสะท้อนได้จากดัชนีภาคการผลิตและบริการที่ยังขยับดีขึ้นต่อเนื่อง แถมทางธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยังได้แสดงท่าทีที่จะถอนมาตรการอัดฉีดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ เมื่อเห็นว่าทุกอย่างกำลังไปในทิศทางบวก

ปิดท้ายที่เอเชีย ที่ดัชนีความเชื่อมั่นปรับเพิ่มขึ้นจากระดับ 76.2 มาเป็น 79.8 ซึ่งก็ไม่เป็นที่น่าแปลกใจแต่อย่างใด ถ้าดูจากอัตราการเติบโตของผลผลิตภาคอุตสาหกรรม และความแข็งแกร่งของการใช้จ่ายบริโภคในประเทศในช่วงที่ผ่านมา

และกับคำถามที่ว่าเศรษฐกิจเอเชียดีหรือไม่ดีจริงนั้น ก็น่าจะชัดเจนมากขึ้น เมื่อล่าสุดธนาคารกลางจีนได้สั่งให้ธนาคารในประเทศปรับเพิ่มระดับเงินสำรองไปเมื่อวันก่อน เพื่อหวังชะลอความร้อนแรงของเศรษฐกิจ หลังจากปรากฏการณ์สินเชื่อที่บูมสุดขีดได้สร้างความกังวลในเรื่องแนวโน้มเงินเฟ้อ และฟองสบู่ในตลาดสินทรัพย์ ขณะที่ดัชนีชี้สภาวะการผลิตล่าสุด ที่รวบรวมโดย HSBC Holdings และ Markit Economics ขยายตัวแรงที่สุดในรอบ 5 ปี


หุ้นบวก - น้ำมันหลุด 80 เหรียญ ขณะผลสำรวจเฟดชี้เศรษฐกิจกำลังฟื้น

หลังจากที่ร่วงลงไปได้เพียงวันเดียว ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็กลับมาปิดบวกได้อีกครั้งเมื่อคืนนี้ รวมถึงที่ยุโรป ที่นักลงทุนมีท่าทางเชื่อมั่นในการนำเงินกลับเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเพื่อหาผลตอบแทนที่ดีกว่า แม้จะมีเรื่องประเทศจีนเดินหน้าใช้มาตรการชะลอเศรษฐกิจ จนหลายคนกังวลถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตามมา

ส่วนราคาน้ำมัน รวมถึงหุ้นสินค้าโภคภัณฑ์ ก็ได้รับผลกระทบจากปัจจัยประเทศจีนกันไปบ้างแล้ว อีกทั้งล่าสุดตัวเลขสต็อกยังออกมาเพิ่มขึ้นถึง 3.7 ล้านบาร์เรลเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งเป็นระดับที่มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้สองเท่า ทำให้กลายเป็นตัวฉุดราคาน้ำมันปรับตัวลงเป็นวันที่ 3 และหลุดระดับ 80 เหรียญต่อบาร์เรลไปเรียบร้อยแล้วที่ตลาดนิวยอร์ก

มีอัพเดตเรื่องเศรษฐกิจ เมื่อผลสำรวจเศรษฐกิจของธนาคารกลางสหรัฐฯ รอบล่าสุด ชี้ว่า เศรษฐกิจในภูมิภาคต่างๆ ของประเทศฟื้นตัวดีขึ้นในเดือนที่แล้ว แม้ว่าในหลายๆ ที่จะยังมีอัตราการเติบโตที่ต่ำกว่าระดับปกติอยู่ แต่ก็นับว่าสถานการณ์กำลังคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น

ทางด้านประธานเฟดสาขาชิคาโก้ นาย Charles Evans ก็เผยว่าอุปสรรคทางเศรษฐกิจ อย่างเช่น สินเชื่อภาคธนาคารที่ตึงตัวมีแนวโน้มเบาบางลงในปีนี้ ซึ่งเขาคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะขยายตัวได้ราว 3 - 3.5% ด้วยแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อที่ค่อนข้างทรงตัว ขณะที่แบงก์ยอมปล่อยกู้เพิ่มและผู้บริโภคหันมาใช้จ่ายมากขึ้น

ผู้บริหารเฟดรายนี้ระบุว่า ยังไม่น่าถึงเวลาที่ธนาคารกลางจะต้องปรับเปลี่ยนนโยบายการเงิน ซึ่งคงจะต้องรอจนกว่าจะเห็นสภาวะเศรษฐกิจกลับขึ้นมายืนอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งกว่านี้ก่อน ส่วนเรื่องเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำก็จะยังสนับสนุนนโยบายในแบบผ่อนคลายนี้ต่อไป

ในผลสำรวจหรือที่เรียกว่า Beige Book ของเฟดยังระบุด้วยว่า ผู้บริโภคกำลังใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง และมีการคำนึงถึงเรื่องราคาและความจำเป็นที่จะใช้เป็นหลัก แต่ก็เริ่มพร้อมที่จะซื้อหาสินค้าที่มีมูลค่าสูงกันบ้างแล้ว ดูจากยอดขายรถยนต์ที่ขยับขึ้นมาได้สำหรับบางดีลเลอร์

ส่วนในตลาดแรงงานยังคงซบเซาในหลายพื้นที่ และทำให้สภาะค่าจ้างและแรงกดดันทางด้านราคายังคงไม่มีในตอนนี้ ขณะที่การจ้างงานที่เป็นแบบชั่วคราวเริ่มมีมากขึ้นในแถบ New York, Cleveland, Chicago และ Dallas


สหรัฐฯเชื่อแผนกระตุ้นเศรษฐกิจรักษางาน 2 ล้านตำแหน่ง

ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดี บารัค โอบามา เชื่อว่าแผนการใช้จ่ายเงินฉุกเฉินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้ออกใช้เมื่อปีที่แล้วนั้นช่วยรักษาตำแหน่งงานในสหรัฐฯ ประมาณ 2 ล้านตำแหน่ง อย่างไรก็ดี แนวโน้มเศรษฐกิจในอนาคตยังคงมีความไม่แน่นอนอยู่สูง

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโอบามามีความกังวลต่ออัตราการว่างงานที่อยู่ในตัวเลขสองหลัก ซึ่งสาเหตุสำคัญที่ไปลดความนิยมในตัวโอบามาอย่างมาก

นอกจากนี้ โอบามาได้มีการเรียกร้องมาตรการเพิ่มเติมจากรัฐบาลที่จะช่วยกระตุ้นการจ้างงาน เพิ่มเติมจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 7 แสนล้านที่ประกาศใช้ในเดือน ก.พ. ปีที่แล้วหรือ ปี 2552

คริสทีน่า โรเมอร์ หัวหน้าคณะที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของโอบาม่า คาดว่า การจ้างงานน่าจะฟื้นตัวในช่วงฤดูใบไม้ผลิ (ครึ่งแรกของปี) แต่จำเป็นต้องมีมาตรการเพิ่มเติมเข้ามาช่วยตลาดแรงงาน

นอกจากนี้ โรเมอร์ยังกล่าวว่าในปีนี้จะได้เห็นความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกลับคืนมา และ จะเห็นภาคเอกชนกลับมาลงทุนกันอีกครั้ง

และเพื่อเป็นการตอบสนองต่อแนวคิดของโอบามาในการร้องขอมาตรการเพิ่มเติมในการเยียวยาเศรษฐกิจ ด้านสภาผู้แทนราษฎรนั้นได้เห็นชอบ มาตรการกระตุ้นการจ้างงานมูลค่า 155,000 ล้าน เมื่อเดือนที่แล้ว โดยโรเมอร์คาดว่ามาตรการใหม่นี้จะสามารถช่วยรักษาตำแหน่งงานได้ 3.5 ล้านตำแหน่งในปี 2553 นี้


เฟดทำกำไรพุ่งทำสถิติในปี 2552

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานผลกำไร 5.21 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2552 ซึ่งพุ่งขึ้น 47% จากปีก่อน ซึ่งกำไรจำนวนมากดังกล่าวเปิดทางให้เฟดสามารถจ่ายเงินให้กับ

กระทรวงการคลังได้ 4.61 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นจำนวนเงินมากที่สุดที่เฟดจ่ายให้กับกระทรวงการคลังนับตั้งแต่ก่อตั้งธนาคารในปีพ.ศ.2457 โดยตัวเลขที่ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์นี้มีสาเหตุหลักมาจากความพยายามของเฟดที่จะให้การสนับสนุนระบบการเงินตลอดช่วงวิกฤตการเงิน

ทั้งนี้ เฟดหารายได้ด้วยตัวเองจากการดำเนินงานต่างๆ และคืนกำไรกลับไปให้แก่กระทรวงการคลัง

นอกจากนี้ กำไรบางส่วนของเฟดยังมาจากดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลและหลักทรัพย์ที่อิงกับสินเชื่อภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งรวมถึงหลักทรัพย์ของแฟนนีเม และ เฟรดดีแมค

รายงานระบุด้วยว่า โครงการเงินกู้ฉุกเฉินต่างๆซึ่งริเริ่มจัดตั้งโดยธนาคารกลางในช่วงวิกฤตการเงินเมื่อปีที่แล้ว มีส่วนช่วยเพิ่มงบดุลบัญชีให้เฟดได้มากกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์


สหรัฐฯจี้จีนชี้แจงกรณีมีผู้โจมตีเว็บไซต์กูเกิลในจีน

กูเกิล สุดทนขู่ปิดสำนักงานและระงับการให้บริการเว็บไซต์ในจีน หลังถูกมือดีเจาะข้อมูลระบบคอมพิวเตอร์เมื่อเดือนที่ผ่านมา

กูเกิล อิงค์ ผู้ให้บริการสืบค้นข้อมูลอินเทอร์เน็ตชื่อดังเปิดเผยว่า เมื่อช่วงกลางเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา มีการพบหลักฐานว่ากลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างน้อย 20 แห่งในภาคอุตสาหกรรมการเงิน เทคโนโลยี สื่อ และเคมีภัณฑ์ตกเป็นเป้าหมายการถูกเจาะระบบ และมือแฮกเกอร์ได้มุ่งเป้าโจมตีบัญชีอีเมล์ของกลุ่มนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนในจีน สหรัฐ และยุโรป

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งทำให้กูเกิลต้องหาทางหนีทีไล่โดยอาจพิจารณาแผนการยุติการคัดกรองผลการสืบค้นข้อมูลบนเว็บไซต์ Google.cn ที่ให้บริการในจีน ก่อนที่จะเข้าหารือกับรัฐบาลจีนต่อไป

ขณะเดียวกัน มีนักวิเคราะห์บางส่วนมองว่า กูเกิลยังไม่น่าจะถอนตัวออกจากตลาดจีน ขณะที่กูเกิลโต้ว่า บริษัทสามารถปิดธุรกิจในจีนได้อย่างไร้กังวล เพราะบริษัททำยอดขายในจีนได้เพียงหยิบมือเดียว

ขณะที่ ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐเรียกร้องให้จีนชี้แจงกรณีมีผู้โจมตีเว็บไซต์กูเกิลในจีน รวมถึงเว็บไซต์ของบริษัทอื่นๆอีกอย่างน้อย 20 แห่ง

กูเกิลรายงานสถานการณ์ดังกล่าวให้ทางกระทรวงต่างประเทศสหรัฐรับทราบไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทางสหรัฐยังกำลังรอฟังคำอธิบายจากรัฐบาลจีนต่อกรณีดังกล่าว เพราะเหตุการณ์ครั้งนี้ได้สร้างความวิตกกังวลและก่อให้เกิดคำถามตามมาอีกมาก จึงได้ขอให้จีนชี้แจงต่อกรณีที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ นางคลินตันซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการเดินทางเยือนฮาวายมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์เรื่องความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ต และจะแถลงถึงมาตรการและนโยบายของสหรัฐบางส่วน ภายใต้เป้าหมายด้านความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐได้ให้ความสำคัญเป็นลำดับต้นๆ

ดังจะเห็นได้จากเมื่อครั้งที่ผู้นำสหรัฐเดินทางเยือนจีนในเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา โดยเขาได้กล่าวแสดงความเห็นคัดค้านเรื่องการคัดกรองข้อมูลบนระบบอินเทอร์เน็ต โดยให้เหตุผลว่า การแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างเสรีจะทำให้ประเทศมีความแข็งแกร่งมากกว่าที่จะย่ำแย่ลง


นักวิเคราะห์ ING คาดจีนขยายช่วงการซื้อขายเงินหยวนปีนี้

นักวิเคราะห์จากอินดัสเทรียล แบงค์ และไอเอ็นจี กรุ๊ป คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางจีนจะขยายช่วงการซื้อขายเงินหยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในปีนี้ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับสกุลเงินหยวน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์การสกัดเม็ดเงินเก็งกำไรที่ไหลเข้าจากต่างประเทศ โดยคาดว่าธนาคารกลางจะขยายช่วงการซื้อขายเงินหยวนเป็น 1% ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 3% ในปีหน้า จากปัจจุบันที่ระดับ 0.5%

จีนเผชิญกับเม็ดเงินไหลเข้าจากต่างประเทศจำนวนมาก อันเนื่องมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัวแข็งแกร่งและเงินหยวนของจีนจะแข็งค่าขึ้น ซึ่งเม็ดเงินไหลเข้าจำนวนมากนี้ส่งผลให้เกิดภาวะเงินเฟ้อและทำให้จีนมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะฟองสบู่ด้านสินทรัพย์ ขณะที่ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีน ณ สิ้นสุดเดือนธ.ค.ปี 2552 พุ่งขึ้น 24% แตะที่ 2.42 ล้านล้านดอลลาร์

ช่วงที่ผ่านมานักลงทุนเข้าทำธุรกรรมสว็อปค่าเงินหยวนมากที่สุดในรอบ 8 สัปดาห์ หลังจากมีรายงานว่ายอดส่งออกของจีนเดือนธ.ค.ขยายตัวแข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางจีนอาจปรับขึ้นค่าเงินหยวนในวันข้างหน้า โดยจีนได้ตรึงค่าเงินหยวนไว้ที่ระดับ 6.83 หยวนต่อดอลลาร์นับตั้งแต่เดือนก.ค.2551 เพื่อช่วยกลุ่มบริษัทส่งออกให้สามารถรับมือกับดีมานด์ที่หดตัวลงอันเนื่องมาจากวิกฤตการณ์การเงินทั่วโลกได้

ขณะที่นายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่าของจีน ยืนยันเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า จีนจะไม่ยอมทำตามข้อเรียกร้องของนานาชาติที่ต้องการให้จีนปรับขึ้นค่าเงินหยวน

นักวิเคราะห์จากไชน่า เมอร์ชานท์ส แบงค์ กล่าวว่า ตลาดจำเป็นต้องจับตาดูสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศจีนอย่างใกล้ชิดก่อนที่จะมั่นใจว่าอุตสาหกรรมส่งออกขยายตัวอย่างยั่งยืน พร้อมกับคาดการณ์ว่าจีนจะตรึงค่าเงินหยวนไว้ที่ระดับ 6.83 หยวนต่อดอลลาร์จนถึงช่วงครึ่งหลังของปีนี้ และคาดว่าเงินหยวนจะไม่แข็งค่าเกิน 2%


มูดีส์ เตือนญี่ปุ่น หลังตั้ง รองนายกฯควบตำแหน่งรมว.คลัง

มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส เตือนว่า การที่รัฐบาลญี่ปุ่นตัดสินใจแต่งตั้งนายนาโอโตะ คัง เป็นรัฐมนตรีคลังคนใหม่แทนนายฮิโรฮิสะ ฟูจิอิ อาจทำให้เกิดกระแสความวิตกกังวลเพิ่มขึ้นเรื่องความน่าเชื่อถือในเรื่องวินัยด้านการคลัง รวมถึงการควบคุมตัวเลขหนี้สาธารณะ โดยขณะนี้หนี้สินสาธารณะของญี่ปุ่นติดอันดับสูงสุดของโลก

ความคิดเห็นของมูดีส์ สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ และมอร์แกน สแตนลีย์ ที่กล่าวว่า นายคังไม่มีเป้าหมายชัดเจนที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาในภาคการเงินของญี่ปุ่น ไม่มีจุดยืนที่ชัดเจนในการพยุงเศรษฐกิจและควบคุมหนี้สาธารณะ

อย่างไรก็ดีแนวโน้มความน่าเชื่อถือระยะกลางของญี่ปุ่นขึ้นอยู่กับว่าอัตราการขยายตัว และขึ้นอยู่กับว่าจะสามารถลดยอดขาดดุลและลดหนี้สาธารณะได้มากน้อยแค่ไหน

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่า ตัวเลขหนี้สาธารณะของญี่ปุ่นจะพุ่งขึ้นเป็น 246% ของตัวเลข GDP ในปี 2557 เมื่อเทียบกับสหรัฐที่ระดับ 108% และเยอรมนีที่ระดับ 89%


ธนาคารโลกประเมินความเสียหาย และแผนฟื้นฟูเฮติ

ธนาคารโลก เผยว่า พร้อมจะส่งเจ้าหน้าที่ไปยังเฮติเพื่อประเมินความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ และจะเริ่มทำแผนฟื้นฟูประเทศแต่ไม่ได้ระบุชัดเจนว่า จะให้ความช่วยเหลือเท่าใด

จากเหตุแผ่นดินไหว 7 ริกเตอร์ ที่สาธารณรัฐเฮติ เมื่อช่วงเย็นของวันอังคาร ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับ 04.53 น. ในไทย เช้าวานนี้ นับเป็นว่าแผ่นดินไหว สร้างความเสียหายรุนแรงที่สุดในรอบ 200 ปีทำลายสำนักงานใหญ่ของสหประชาชาติ ทำเนียบประธานาธิบดี และอาคารของทางการหลายหลัง ไปจนถึงโรงภาพยนตร์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ไซเบอร์คาเฟ่ และอาคารที่พัก

ขณะเดียวกัน ธนาคารโลก ได้เปิดเผยว่า สำนักงานสาขาที่ตั้งอยู่ชานกรุงปอร์โตแปรงซ์ พังเสียหายจากแผ่นดินไหว และลูกจ้างส่วนใหญ่ก็ติดอยู่ในนั้น

ประธานาธิบดีเฮติ รอดตายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งรุนแรง จนทำให้ทำเนียบประธานาธิบดีพังเสียหายอย่างหนัก ด้านสภากาชาดจีนบริจาคเงิน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อให้ความช่วยเหลือประเทศเฮติ


ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่ประกาศออกมาเมื่อวานนี้ (พุธที่ 13 ม.ค. 2553)
? ตัวเลขสต็อกน้ำมันสำรองประจำสัปดาห์ เพิ่มขึ้น 3.7 ล้านบาร์เรล
? รายงาน Beige Book โดยธนาคารกลางสหรัฐฯ

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่จะประกาศออกมาวันนี้ (พฤหัสบดีที่ 14 ม.ค. 2553)
? ยอดค้าปลีก (ธ.ค.) โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ
? ราคานำเข้า-ส่งออก (ธ.ค.) โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ
? ตัวเลขสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ (พ.ย.) โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ
? ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ

ติดตาม Money Wake up ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ออกอากาศซ้ำเวลา 11.00 น. ทาง Money Channel
 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 14, 2010, 10:52:14 AM
(http://img59.imageshack.us/img59/9081/90874783.gif) (http://img59.imageshack.us/i/90874783.gif/)
(http://img121.imageshack.us/img121/7199/31232858.gif) (http://img121.imageshack.us/i/31232858.gif/)
(http://img189.imageshack.us/img189/1655/33164782.gif) (http://img189.imageshack.us/i/33164782.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 14, 2010, 10:53:32 AM
หากภาพเล็กให้คิ๊กที่ภาพ จะมีหน้าต่างเกิดใหม่ ภาพยังเท่าเดิม ให้คิ๊กที่ภาพอีกครั้ง ภาพจะใหญ่ขึ้นครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 14, 2010, 11:40:48 AM
กราฟตาแป๊ะซ้ายบน มีการเปลี่ยนแปลงนิดหนี่ง มีคำว่า  ตัวหนังสือสีเขียว ? ---ขาย และ  ตัวหนังสือสีแดง?----ซื้อ  เพิ่มเข้ามา เฉพราะที่เพิ่มเข้ามานิดหน่อยนี้ ผมใช้เวลาศุกร์-เสาร์-อาทิตย์(25--27ธค.52)ทั้ง3วันค้าหาในเวปจีนถึงได้เจอ และเอามาเพิ่มผสมเข้ากับกาฟตาแป๊ะช่องซ้ายบน ยังมิทราบจะแม่นยำแค่ไหน ต้องคอยกาลเวลาบ่งบอกครับ
กราฟตาแป๊ะซ้ายบน ตัวหนังสือสีเขียว ? ---ขาย   ตัวหนังสือสีแดง?----ซื้อ  เส้นสีแดงหนา---ขาขึ้น เส้นสีเขียวหนา---ขาลงขวาบน  เส้นสีแดง---เสนอซื้มากกว่าเสนอขาย เส้นสีเขียว---เสนอขายมากกว่าเสนอซื้อ  ส่วนช่วงกลางที่มีแท่งสีแดงกับเขียวนั้น แท่งแดง---แรงซื้อขึ้น   แท่งเขียว---แรงขายลง
ขวาช่องสอง  แท่งเหลืองคู่เส้นแดง---ขาขึ้น   แท่งฟ้าคู่เส้นเขียว---ขาลง โดยปกติ ช่องนี้จะเปลี่ยนแนวโน้มช้ากว่าเพื่อน หากเปลี่ยนแนวโน้มเมื่อไหร่ เขาให้ขายออกหรือซื้อเข้าได้ทันที่ ยกเว้นมีปัจจัยพื้นฐานแรงๆแทรกเข้ามา จึงจะทำให้แนวโน้มกลับเปลี่ยนได้โดยกะทันหัน
ซ้ายช่องสอง หน้าเหลืองแป๊ะยิ้ม---ขาขึ้น หน้าแดงแป๊ะร้องไห้---ขาลง  แท่งสีเขียว---เพดาน   แท่งสีแดง---พื้นดินโดยปกติ ช่องนี้จะส่งสัญญาณว่า กำลังจะเปลี่ยนแนวทางแล้วนะ แต่ยังไม่เต็มร้อย อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยกะทันหันก็ได้ ต้องดูซ้ายบนและขวาช่อง๒ประกอบด้วย จึงจะให้ความมั่นใจได้
ทอง
(http://img199.imageshack.us/img199/4808/23997420.gif) (http://img199.imageshack.us/i/23997420.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 14, 2010, 11:42:13 AM
ดัชนีเงินเมกา
(http://img199.imageshack.us/img199/3494/15006949.gif) (http://img199.imageshack.us/i/15006949.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 14, 2010, 11:43:58 AM
น้ำมัน
(http://img193.imageshack.us/img193/3912/49050825.gif) (http://img193.imageshack.us/i/49050825.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 14, 2010, 11:47:38 AM
เวปgold2goldไม่รู้ว่าเป็นไร เวลาโพสภาพ เดี๋ยวภาพใหญ่เดี๋ยวภาพเล็ก ปวดหัวเลยเรา ฮา
หากภาพเล็กให้คิ๊กที่ภาพ จะมีหน้าต่างเกิดใหม่ ภาพยังเท่าเดิม ให้คิ๊กที่ภาพอีกครั้ง ภาพจะใหญ่ขึ้นครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: brabus ที่ มกราคม 14, 2010, 02:26:06 PM
ขอบคุณมากค่ะพี่ทองใหม่

ขอให้สุขภาพแข็งแรงนะคะ ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Cindy ที่ มกราคม 14, 2010, 02:37:46 PM
ขอบคุณมากค่ะพี่ทองใหม่

ขอให้สุขภาพแข็งแรงนะคะ ;D
+1 ค่ะ same :P


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: pridoy ที่ มกราคม 14, 2010, 03:39:30 PM
สวสดีครับ  สุขภาพแข็งแรงนะครับ

อิอิ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 14, 2010, 05:23:46 PM
!thk !thk !thk ไม่มีโพล แล้วเหรอคะ คุณทองใหม่
โพลเขาเปลี่ยนแปลงไวมาก เหมาะกับการซื้อขายออนไลน์ช่วงสั้น ไม่เหมาะข้ามวันข้ามคืนนัก โอกาสที่เล่นข้ามวันคืนผิดพลาดอาจมากจ้า  เข้าไปดูตามนี้ได้เลยครับ
http://gold.hexun.com/ (http://gold.hexun.com/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 14, 2010, 06:26:35 PM
ทิศทางคำคืนนี้
เป้าหมาย(1)      1157  ขณะนี้ทองอยู่ที่1137-----1156.5/1157.5
เป้าหมาย(2)  หากทองจาก1137ไม่อาจยีนเหนือ1140ได้ ก็จะกลับทิศเป็นลงดังนี้     1137---1139.5/1140.5---1123.5/1122.5
เอามาจากเวปจีน ดูเล่นๆอย่าจริงจังครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Jeera ที่ มกราคม 14, 2010, 07:45:11 PM
สวัสดีค่ะพี่ทองใหม่

พักผ่อนมากๆนะคะ   :)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: JO-JO ที่ มกราคม 14, 2010, 08:23:17 PM
ขอบคุณครับ คุณทองใหม่

กราฟตาแป๊ะยังแม่นเหมือนเดิมเลยนะครับ น้ำมันขึ้นสัญญาณขายราคาล่วงกระจายเลย
นี่ถ้าตาแป๊ะร้องไห้ด้วยสงสัย จะหนักกว่านี้อีก ราคาทองจะยิ่งร่วงลงตามน้ำมันไปอีกหรือเปล่าหนอ

ว่าแต่กราฟตัวใหม่ 2010 ทำยังไงให้มันใหญ่ขึ้นอะครับ

 :)
หากภาพเล็กให้คิ๊กที่ภาพ จะมีหน้าต่างเกิดใหม่ ภาพยังเท่าเดิม ให้คิ๊กที่ภาพอีกครั้ง ภาพจะใหญ่ขึ้นครับ

ขอบคุณครับ คุณทองใหม่

ผมก็ว่า ทำไมบางทีภาพมันใหญ่ บางทีภาพมันก็เล็กครับ

ช่วงนี้ราคาทองผันผวนจริง ๆ เลยครับ

 :)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Yai Carmungwed ที่ มกราคม 14, 2010, 08:52:44 PM
ขอบคุณมากครับอาจารย์ทองใหม่


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 15, 2010, 06:31:46 AM
วิธีดูทิศทางทอง ต้าน๓----หนุน๓เป็นทิศทางทองที่จะเคลื่อนไหวในวันนี้ หากพุ่งทะลุต้าน๓หรือดิ่งทะลวงหนุน๓ แสดงถึงวันนั้นทองเคลื่อนไหวแรงเกินปกติ เส้นแดนเป็นเส้นที่จะแบ่งแยกทิศทางของทองที่จะขึ้นหรือลง หากทองเคลื่อนไหวอยู่ในทิศทางใดมากและนาน นั่นหมายถึงโอกาสเป็นไปได้มากที่ทองจะเคลื่อนไปในทิศทางนั้นๆ ในช่วงเวลานั้น (ยังต้องแบ่งออกในช่วงเวลาตลาดเอเซีย ยุโรป เมกาด้วย) ต้าน๑และหนุน๑หากถูกทดสอบแบบมีผล(ขึ้นลงมากกว่า๑ครั้ง)แล้วยืนอยู่ได้ นั่นคือทิศทางทองที่จะเดินต่อไปในช่วงเวลานั้น หากการวิเคราะเกิดขัดแย้งกันเมื่อไหร่ ให้หยุดมองดูอย่างเดียว ไม่ควรซื้อ-ขายในช่วงเวลานั้น แนวทางนี้เหมาะกับการเล่นสั้นมาก (เล่นแบบออนไลน์ในอนาคต) มีความแม่นยำถึง80%ครับ อีกอย่างข่าวปัจจัยพื้นฐานอาจเปลี่ยนทิศทางทองได้กะทันหันนะครับ
ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์กับการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย ถัาติดดอยเมื่อทองต่ำลงมา  หากยังมีเงินเหลืออยู่ ควรซื้อเพิ่ม เพิ่มที่ละนิด ต่ำอีกซื้ออีก เพื่อดึงต้นทุนที่สูงให้ต่ำลงมา ใครที่ยังไม่มีทองในมือควรทยอยซื้อเข้าอย่ามากนัก หากทองลงอีก เราก็ซื้ออีก ดีกว่าเวลาทองขึ้นเราไปไล่ซื้อในราคาที่สูง  จดจำเป็นคติเตือนใจว่า  เรามิอาจซื้อได้ในราคาที่ต่ำสุด และขายได้ในราคาที่สูงสุด ไม่มีการลงทุนใดที่ไม่เสี่ยง การบริหารพอร์ตให้ได้จังหวะ จะลดความเสี่ยงลงได้ครับ
กราฟสำคัญ ปัจจัยพื้นฐานก็สำคัญ จิตวิทยาการโน้มเอียงของคนก็สำคัญ สิ่งเหล่านี้หากเป็นไปในแนวเดียวกัน ก็จะมุ่งไปทางนั้น หากแย้งกันก็ต้องดูฝ่ายไหนเหนือกว่า.....ด้วยเหตุนี้ไม่มีนักวิเคราะห์คนใดที่จะทำนายได้แม่นยำตลอดกาลได้ครับ
(http://img193.imageshack.us/img193/7553/15167488.gif) (http://img193.imageshack.us/i/15167488.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 15, 2010, 06:33:05 AM
เส้นปากถุง(เส้นสีขาวทั้ง๓เส้น)แบบง่ายๆ ไม่ปวดเศียรเวียนเกล้า
เส้นบน---แนวต้าน
เส้นกลาง---แนวโน้ม(สำคัญสุด)
เส้นล่าง---แนวหนุน
ลักษณะที่๑---ทิศทางขึ้นเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น   เส้นกลางหันหัวขึ้น   เส้นล่างหันหัวลง
ลักษณะที่๒---ทิศทางขึ้นเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวขึ้น
เมื่อเจอลักษณะทั้ง๒นี้ ราคาระหว่างวันที่ขึ้นๆลงๆ เมื่อเจอจุดที่เห็นว่าต่ำแล้วให้ซื้อเข้าได้เลยครับ  ขอเพียงเส้นกลาง(แนวโน้ม)ยังหันหัวขึ้นอยู่ แม้ราคาเแท่งเทียนจะอยู่ต่ำกว่าเส้นกลาง ก็ยังซื้อเข้าได้ หากเส้นบนเดินขวางเมื่อไหร่ ให้ทยอยลดพอร์ตได้เลยครับ
ลักษณะที่๓---เลือกทิศทาง---เส้นบนหันหัวลง เส้นล่างหันหัวขี้น ปากถุงแคบลง ถึงช่วงนี้ ให้ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว หากใครยังคิดอยากเคลื่อนไหว ก็จงเคลื่อนไหวไปหน้าทีวี จงอย่าทำการอย่างอื่นใด หากใครเป็นจอมยุทธ์ ก็ชิงเคลื่อนไหวก่อนใครได้  
ขอแถมอีกนิด จงโฟกัสที่เส้นกลาง หากเส้นกลางเริ่มขยบหัวหัวขึ้นหรือลง ทิศทางอาจขึ้นหรือลงตามเส้นกลางแนวโน้มนั้น
ลักษณะที่๔---เคลื่อนไหวในกรอบแคบ---เส้นบน กลาง ล่าง เดินขวางทั้ง๓เส้น หากใครเล่นออนไลน์ สามารถเล่นได้เล็กน้อยอย่ามาก เมื่อราคาแท่งเทียนใกล้เส้นบน จงขาย ใกล้เส้นล่าง จงซื้อ ต้องเข้าออกให้ทันการณ์ หาไม่แล้วจากกำไรอาจขาดทุนได้นา ขอบอก
ลักษณะที่๕---ทิศทางลงเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น เส้นกลางหันหัวลง เส้ยล่างหัวหัวลง
ลักษณะที่๖---ทิศทางลงเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวลง  เมื่อเส้นล่างเดินขวางเมื่อไหร่ ผู้ที่ใจกล้าที่เล่นออนไลน์ เริ่มทยอยซื้อเข้าได้ที่ละนิด อัตราเสี่ยงยังมีอยู่บ้างนะครับ สิบอกไห่
วิธีดูเส้นปากถุงที่กล่าวมานี้ .....ไม่ใช่ตำราของฝรั่ง แบบของฝรั่งผมเคยอ่านมาบ้างแล้ว ยาวมาก ปวดหัว ทำความเข้าใจได้ยากมากๆๆๆๆ ...........เหมาะเฉพาะกราฟราย๔ชม.และช่วงปกติเท่านั้นนะครับ  (บางครั้งตลาดจงใจคึงขึ้นลงอย่าแรงๆ แทบหัวใจวายสำหรับผู้มีทองในมือและผิดทิศทางของตัวเอง เรียกว่า ช่วงไม่ปกติครับ)

(http://img17.imageshack.us/img17/428/46260694.gif) (http://img17.imageshack.us/i/46260694.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 15, 2010, 06:34:57 AM
กราฟGold 1
ช่อง1 เส้นแดงอยู่เหนือเส้นเขียว---ทิศทางขึ้น  ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น  สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นเขียวอยู่เหนือเส้นแดง---ทิศทางลง     ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นแดงและเขียวประสานเป็นกากะบาด ---กำลังจะเปลี่ยนทิศ ให้ดูเส้นแนวโน้มประกอบ  หากเส้นแดงและเขียวกำลังจะประสาน แต่ไม่ทันได้ประสานก็หันหันหัวกลับขึ้นหรือลง  แสดงว่ากำลังมีเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนี่งเกิดขึ้น หากขึ้นทะลุเส้นปะแนวต้าน ให้ดูเส้นปะแนวต้านเส้นต่อไป หากลงทะลุเส้นปะแนวหนุน ให้ดูเส้นแนวหนุนเส้นต่อไป   ส่วนจุดกลมเหลืองทอง---ทิศทางลง  จุดกลมฟ้า---ทิศทางขึ้น  หากกราฟวิ่งในยามปกติ พอเชื่อถือได้ หากกราฟวิ่งขึ้นลงแรงๆ คือยามไม่ปกติ ไม่อาจเชือถือได้
ช่อง2  ให้ดูเส้นสีม่วง ประกอบกับเส้นแนวโน้มในช่อง1 หากหันหัวไปในทิศทางเดียวกัน  โอกาสที่จะผิดพลาดก็มีน้อย  ส่วนเส้นปะสีเหลืองทองและฟ้า  หากขึ้นเหนือเลข80 เข้าสู่เขตซื้อเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ทุกเมื่อ  หากลงต่ำกว่าเลข20 เข้าสู่เขตขายเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ตลอดเวลา
ช่อง3   ให้ดูทั้ง2เส้น คือเหลืองทองและฟ้า หันหัวไปทิศทางเดียวกันหรือไม่  เท่านั้นยังไม่พอ  ให้ดูประกอบทิศทางในช่อง1ว่าเป็นทิศทางเดียวกันหรือไม่  หากทิศทางหันหัวในแนวเดียวกัน  ทิศทางนั้นเชื่อถือได้

(http://img36.imageshack.us/img36/9364/14620661.gif) (http://img36.imageshack.us/i/14620661.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 15, 2010, 08:38:36 AM
ETF ขายออกอีก 2 ตัน แล้วคับ คุณทองใหม่  !_cd !_cd
ใช่แล้ว ฮาฮา ควรจะคิดให้ดีๆก่อนที่จะซื้อ....น่าคิด
(http://img17.imageshack.us/img17/5892/75036552.gif) (http://img17.imageshack.us/i/75036552.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ มกราคม 15, 2010, 09:47:56 AM
ขอบคุณค่ะคุณทองใหม่   ตอนนี้รอขายอยู่ค่ะแค่ค่าเงินสิคะไม่เป็นใจเลยถ้าเป็นช่วง33บาทกว่าคงได้กำไรแล้วขายไปแล้วค่ะแต่ตอนนี้ต้องรอค่ะยังพอมีโอกาสขึ้นอีกมั๊ยคะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 15, 2010, 10:35:52 AM
ผู้ว่าเฟดสาขานิวยอร์กคาด FED ตรึงดอกเบี้ยระดับต่ำไปอีก 6 เดือน - 2 ปี

Posted on Friday, January 15, 2010
คาดธนาคารกลางสหรัฐ ตรึงดอกเบี้ยระดับต่ำไปอีก 6 เดือน - 2 ปี

วิลเลียม ดั๊ดลีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก คาดการณ์ว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดอาจตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed fund rate) ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0 - 0.25%

ดั๊ดลีย์กล่าวว่า "คณะกรรมการเฟดอาจจะตรึงดอกเบี้ยที่ระดับต่ำไปอีกอย่างน้อย 6 เดือน หรืออาจจะถึง 2 ปี ซึ่งจะขึ้นอยู่กับแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจ และเชื่อมีสองปัจจัยหลักๆที่จะทำให้เฟดตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ปัจจัยแรกคือต้องมีสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจขยายตัวมากพอที่จะฉุดอัตราว่างงานให้ต่ำลง

ปัจจัยที่สองคือเศรษฐกิจขยายตัวร้อนแรงจนก่อให้เกิดเงินเฟ้อ ซึ่งเฟดจะให้น้ำหนักกับเรื่องเงินเฟ้อมากกว่าประเด็นอัตราว่างงาน"

ทั้งนี้ สหรัฐเปิดเผยว่าอัตราว่างงานเดือนธ.ค.ยังอยู่ที่ระดับ 10% หลังจากพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 27 ปีที่ 10.1% ในเดือนต.ค

ขณะที่ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรร่วงหนักเกินคาดถึง 85,000 อัตรา จากที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะทรงตัวหรือลดลงเพียงเล็กน้อย

เฟดยังคงนโยบายการเข้าซื้อหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกันของหน่วยงานที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล รวมถึงแฟนนี เม และเฟรดดี แมค วงเงินรวม 1.25 ล้านล้านดอลลาร์ และจะเข้าซื้อตราสารหนี้ของหน่วยงานที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเป็นวงเงิน 1.75 แสนล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม เฟดจะชะลอการเข้าซื้อหลักทรัพย์และตราสารหนี้ และจะปล่อยให้โครงการดังกล่าวหมดอายุลงภายในไตรมาสแรกของปี 2553


หุ้นไอทีคึกรับข่าวดีมานด์ฟื้น ขณะรอลุ้นกำไร JPMorgan คืนนี้

แรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีช่วยดันให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกได้เมื่อคืนนี้ ก่อนหน้าที่ทาง Intel จะประกาศผลประกอบการที่สูงกว่าตลาดคาด ขณะนักลงทุนต้องเผชิญกับตัวเลขยอดค้าปลีกที่ออกมาลดลงอย่างน่าผิดหวัง

บรรยากาศการลงทุนถูกจุดประกายโดยผู้ผลิตซอฟท์แวร์สำหรับภาคธุรกิจรายใหญ่ที่สุดในโลก SAP จากเยอรมัน ที่เปิดเผยถึงรายได้ทั้งปีและอัตรากำไรจากการดำเนินงานที่สูงเกินความคาดหมายของบริษัท ซึ่งเป็นการตอกย้ำตัวเลขของ Oracle ที่ก่อนหน้านี้ได้ออกมาส่งสัญญาณการฟื้นตัวของดีมานด์ไว้เช่นกัน

บริษัทที่มีฐานที่มั่นในเยอรมันแห่งนี้ ได้รายงานยอดขายที่ร่วงลงน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้เช่นกัน ขณะที่นักวิเคราะห์จาก JPMorgan ในลอนดอน มองว่าผลประกอบการล่าสุดอาจนำไปสู่การปรับเพิ่มประมาณการรายได้สำหรับไตรมาสแรก รวมถึงตัวเลขทั้งปี 2553

ยักษ์ใหญ่ในวงการผลิตชิพคอมพิวเตอร์ Intel ซึ่งได้รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 4 ที่ผ่านมา ด้วยผลกำไรที่บวกขึ้นมาอยู่ที่ 2,280 ล้านเหรียญ ขณะรายได้เพิ่มขึ้นมาที่ 10,600 ล้านเหรียญ ถือเป็นการขยายตัวครั้งแรกในรอบปี ซึ่งที่น่าสนใจก็คือ บริษัทจากแคลิฟอร์เนียแห่งนี้ยังได้คาดการณ์รายได้ในไตรมาสแรกนี้จะขยับเพิ่มขึ้นมากกว่าที่บรรดานักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ หลังจากที่เห็นความต้องการเครื่องคอมพิวเตอร์แบบ notebook ฟื้นกลับมาอีกครั้ง

สภาวะดังกล่าวสอดคล้องกับรายงานของบริษัทวิจัยข้อมูลทางด้าน IT ชั้นนำอย่าง IDC ที่ได้เปิดเผยถึงตัวเลขยอดการส่งมอบเครื่องคอมพิวเตอร์ เพิ่มขึ้น 15% ซึ่งมากกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่มองว่าจะเพิ่มขึ้น 11%

สำหรับความเคลื่อนไหวของหุ้นในธุรกิจ IT ที่น่าสนใจ ก็รวมไปถึง Oracle ที่นักวิเคราะห์จาก Morgan Stanley มองว่า ราคาหุ้นจะพุ่งขึ้นต่อไปอีกในช่วง 60 วันจากนี้ เนื่องจากมูลค่าหุ้นที่ดูเหมือนว่าจะยังถูกจนเกินไป

นักลงทุนกำลังรอลุ้นผลประกอบการหุ้นตัวอื่นๆ นำโดย JPMorgan ที่จะประกาศผลประกอบการในวันนี้และอีกกว่า 60 บริษัท ที่อยู่ใน S&P 500 ที่จะรายงานผลออกมาในสัปดาห์หน้า


จับตาผลตอบรับแผนลดการขาดดุลงบประมาณกรีซ

เป็นเพราะความเสี่ยงที่ยังแวดล้อมเศรษฐกิจอยู่อีกมาก ก็เลยทำให้นายกรัฐมนตรีเยอรมัน Angela Merkel ถึงกับเอ่ยปากว่า ระดับการขาดดุลงบประมาณของประเทศกรีซกำลังเป็นตัวบั่นทอนค่าเงินยูโรในตอนนี้ ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่กำลังมีสถานการณ์ต่างๆ กดดันอยู่รอบด้าน

Merkel ยังได้แสดงความสงสัยด้วยว่า ประเทศต่างๆ ที่ใช้ค่าเงินยูโรเหมือนกันมีการดูแลในเรื่องวินัยทางการคลังมากน้อยแค่ไหน ซึ่งเขาก็ได้ยกตัวอย่างถึงประเทศกรีซ ที่มีส่วนกดดันค่าเงินของภูมิภาคอย่างมาก

ที่กรุงเอเธนส์ นายกรัฐมนตรีของกรีซ นาย George Papandroeu (จอร์จ ปาปันเดรอู) เมื่อวานนี้ก็ได้เปิดเผยถึงแผนลดการใช้จ่าย และเพิ่มรายได้อีกราว 10,000 ล้านยูโร หรือประมาณ 14,500 ล้านเหรียญในปีนี้ ภายใต้แผน 3 ปีที่ต้องการจะลดยอดการขาดดุลงบประมาณที่สูงที่สุดในภูมิภาค ให้ลงมาอยู่ในระดับที่ทางสหภาพยุโรปกำหนดไว้ภายในปี 2012

แผนการดังกล่าวจะถูกขึ้นมานำเสนอต่อคณะกรรมาธิการยุโรป หรือ European Commission ในวันนี้ ด้วยจุดประสงค์ลดการขาดดุลลงจาก 12.7% ของรายได้ประเทศ ซึ่งมากกว่า 4 เท่าจากระดับที่ EU กำหนดเอาไว้ ให้ลงมาเหลือ 8.7% ในปีนี้ แม้จะมีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะหดตัว 0.3%

สำหรับในปีหน้า รัฐบาลกรีซได้ตั้งเป้าหมายว่าจะกดให้ตัวเลขดังกล่าวลดลงมาเหลือ 5.6% ก่อนที่จะเป็น 2.8% ในปี 2555

วิกฤติการเงินของกรีซที่กระหน่ำความน่าเชื่อถือทางเครดิต จนทำให้นักลงทุนวิตกอย่างมาก ว่าอาจจะเกิดการผิดนัดชำระหนี้ของประเทศตามมา โดยเฉพาะเมื่อบริษัทจัดอันดับเครดิต อย่าง Fitch, Moody?s Investors Service รวมถึง Standard & Poor?s ดาหน้าออกมาปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ ซึ่งผลที่ได้รับก็คือ ค่าพรีเมี่ยมที่นักลงทุนต้องการจากตราสารหนี้ของกรีซ พุ่งขึ้นไปอยู่ที่ระดับสูงกว่า 200 basis points ซึ่งเป็นอัตราที่สูงถึง 6 เท่า หากเทียบกับเมื่อประมาณสองปีที่แล้ว

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ก็ยินดีกับแผนการลดงบประมาณขาดดุลดังกล่าว แต่ก็ได้เตือนว่า ควรต้องจับตาดูผลตอบรับจากภาคประชาชนให้ดี รวมถึงการประกาศนัดหยุดงานประท้วงของพนักงานภาครัฐ ที่กำลังกลายเป็นสิ่งที่นักลงทุนรอดูอย่างใกล้ชิดในตอนนี้


ทั่วโลกเทความช่วยเหลือสู่เฮติหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว

ทำเนียบขาวแถลงว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ ยังคงไม่สามารถติดต่อกับประธานาธิบดีเรเน เปรวาลของเฮติได้ หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว 7.0 ริกเตอร์เมื่อวันอังคาร จนทำให้ทำเนียบประธานาธิบดีเฮติได้รับความเสียหายอย่างหนัก

ในวันเกิดเหตุ โอบามาได้โทรศัพท์พูดคุยนายบัน คี-มุน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ และบรรดาผู้นำในภูมิภาคอเมริกา เกี่ยวกับความพยายามในการช่วยเหลือเฮติ

นางฮิลลารี คลินตัน รมว.ต่างประเทศสหรัฐ เผยกับผู้สื่อข่าวที่ฮาวายว่า ทำเนียบประธานาธิบดีเฮติได้รับความเสียหายรุนแรงในเหตุการณ์แผ่นดินไหว พร้อมกล่าวว่าประธานาธิบดีเปรวาลรอดชีวิต แต่ไม่มีที่อยู่

รายงานระบุว่า นอกจากเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (UN) ยังได้มีการหารือทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีบราซิล นายกรัฐมนตรีแคนาดา ประธานาธิบดีเม็กซิโก และประธานาธิบดีชิลีด้วย เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับประเด็นการให้ความช่วยเหลือ รวมถึงหารือกันถึงความช่วยเหลือระยะยาวที่นานาชาติจะมอบให้แก่เฮติด้วย

ขณะที่รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศว่า จะให้ความช่วยเหลือแก่เฮติ 5 ล้านดอลลาร์ หลังจากที่เฮติต้องเผชิญกับเหตุแผ่นดินไหว 7 ริคเตอร์เมื่อวานนี้ ซึ่งทำให้ประชาชนจำนวนมากติดอยู่ในซากปรักหักพัง เจ้าหน้าที่ต้องหาทางช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ขณะที่นานาประเทศได้ส่งทีมงานและประกาศให้ความช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่

นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังจะเพิ่มจำนวนปัจจัยบรรเทาทุกข์มูลค่า 30 ล้านเยน และส่งเจ้าหน้าที่ไปยังเฮติด้วยเช่นกัน


อังกฤษขึ้นภาษีคนรวยดันค่าครองชีพแพงขึ้น

ผู้เชี่ยวชาญชี้การที่รัฐบาลอังกฤษตัดสินใจประกาศขึ้นภาษีเงินได้สำหรับผู้มีรายได้สูงสุดนั้นจะส่งผลให้ชาวเมืองผู้ดีต้องหักรายได้ส่วนหนึ่งให้กับรัฐบาลปีละกว่า 1 ล้านปอนด์ หรือ 1.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะสูงกว่าเมืองอื่นๆที่เป็นศูนย์กลางด้านการเงินสำคัญของโลกอย่างนิวยอร์ก หรือ ฮ่องกง และจะส่งผลให้ค่าครองชีพในอังกฤษแพงขึ้น

กลุ่มผู้มีรายได้สูงที่เสียภาษีให้รัฐบาลเป็นจำนวนมากอย่างกลุ่มธุรกิจธนาคารในกรุงลอนดอนจะต้องจ่ายภาษีเงินได้และเงินประกันสังคมเกือบ 500,000 ปอนด์นับตั้งแต่การประกาศขึ้นภาษีมีผลบังคับใช้ในเดือนเม.ย.นี้เป็นต้นไป ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าในฮ่องกงถึง 3 เท่าและแพงกว่าในนิวยอร์กถึงกว่า 50,000 ปอนด์

การแสดงความเห็นของผู้เชี่ยวชาญในครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่รัฐบาลอังกฤษประกาศแผนการปรับขึ้นภาษีสำหรับผู้มีเงินเดือนสูงกว่า 150,000 ปอนด์ขึ้นเป็น 50% จากเดิมที่ 40%

ทั้งนี้ เมื่อปีทีผ่านมา นายกรัฐมนตรีกอร์ดอน บราวน์ของอังกฤษกล่าวว่า รัฐบาลจะให้ความช่วยเหลือประชาชนทั่วไปหลังจากที่ได้ให้ความช่วยเหลือภาคธนาคารด้วยเม็ดเงินภาษีของประชาชนกว่า 1 ล้านล้านเยน

ผลสำรวจโดยบริษัท Mercer LLC ที่ตีพิมพ์เมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมาบ่งชี้ว่า ในปีที่แล้วกรุงลอนดอนตกจาก 10 อันดับแรกของเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2544 เนื่องจากค่าเงินปอนด์ตกต่ำลง และราคาค่าเช่าที่พักปรับตัวลดลง

ขณะที่สถาบันวิจัยเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติของอังกฤษ (NIESR) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจอังกฤษได้กลับมาขยายตัวในไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว ที่ 0.3% ส่งผลให้อังกฤษหลุดพ้นจากภาวะถดถอย หลังจากที่เศรษฐกิจของประเทศหดตัวมานานถึง 18 เดือน หรือ 6 ไตรมาสติดต่อกัน

นอกจากนี้ NIESR ระบุในแถลงการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มสวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัวติดลบ 4.8% ในปี 2552 ซึ่งเป็นการหดตัวมากกว่ายุค Great Depression และเป็นการหดตัวมากที่สุดของอังกฤษนับตั้งแต่ปีพ.ศ.2464

การคาดการณ์ของ NIESR มีขึ้นก่อนที่รัฐบาลอังกฤษจะเปิดเผยจีดีพีไตรมาส 4 อย่างเป็นทางการในวันที่ 26 มกราคมนี้


บริษัทชั้นนำแดนโสมจ่อลดการจ้างพนักงานปีนี้

บริษัทชั้นนำ 500 แห่งของเกาหลีใต้วางแผนปรับลดอัตราการจ้างพนักงานใหม่ในปีนี้ แม้ว่ารัฐบาลจะเดินหน้ามาตรการกระตุ้นการจ้างงานอย่างต่อเนื่อง

ผลสำรวจแนวโน้มการจ้างงานประจำปี 2553 ของบริษัทชั้นนำ 500 แห่งที่เผยแพร่โดยสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมเกาหลีบ่งชี้ว่า บริษัท 256 แห่งได้สรุปแผนการจ้างงานแล้ว ซึ่งพบว่ายอดรวมการจ้างพนักงานใหม่ของบริษัทเหล่านี้อยู่ที่ 16,843 ตำแหน่ง ซึ่งตัวเลขดังกล่าวลดลง 5.6% จากระดับของปีก่อนหน้านี้ที่ 17,851 ตำแหน่ง ขณะที่บริษัท 98 แห่งกล่าวว่า อาจไม่จ้างพนักงานใหม่ในปีนี้

นอกจากนี้ มีเพียง 30 แห่งที่กล่าวว่าบริษัทอาจเพิ่มการคัดเลือกบุคลากรใหม่ๆมาร่วมงานด้วย ส่วนบริษัท 14 แห่งกล่าวว่า การจ้างงานใหม่อาจเพิ่มขึ้นสูงสุด 6,810 ตำแหน่ง ซึ่งตัวเลขดังกล่าวจะขยายตัว 0.9% จากปีที่ผ่านมา

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า แม้ภาคธุรกิจส่วนใหญ่จะปรับลดการจ้างพนักงานใหม่ แต่ภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างคาดว่าจะมีการจ้างงานใหม่ถึง 26.9% เพื่อรองรับโครงการ Four- River Restoration Project ของรัฐบาล แต่หากแยกการสำรวจเป็นภาคอุตสหากรรมต่างๆพบว่า บริษัทในกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและธุรกิจการเงินอาจเพิ่มจำนวนพนักงานใหม่ขึ้น 4.8% และ 0.5% ตามลำดับ ตรงข้ามกับแนวโน้มการจ้างงานในกลุ่มอุตสาหกรรมด้านการผลิตกระดาษ และธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มที่จะยังคงซบเซา โดยกลุ่มธุรกิจทั้งสองประเภทนี้มีแผนลดการจ้างพนักงานใหม่ลงราว 33.2% และ 14.0% ตามลำดับ

ทั้งนี้ ผลสำรวจแนวโน้มการจ้างงานของบริษัทชั้นนำในประเทศมีขึ้น หลังจากที่รัฐมนตรีคลังเกาหลีใต้ได้เน้นย้ำว่ารัฐบาลจะผลักดันการขยายตัวในตลาดแรงงานที่ยังมีแรงตึงเครียดอยู่ แม้ว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งกล่าวว่า การสร้างงานจะเป็นประเด็นหลักสำหรับการหารือในที่ประชุมสภาการบริหารจัดการวิกฤตในปีนี้


รมว. คลังญี่ปุ่นพร้อมพูดเรื่องเงินหยวนในที่ประชุม G-7

นาโอโตะ คัง รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นเผยพร้อมที่จะพูดถึงเรื่องเงินหยวนของจีนในการประชุม G-7 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 5-6 ก.พ.นี้ ที่แคนาดา หากมีความจำเป็นที่จะต้องแสดงความเห็นในเรื่องดังกล่าว

พร้อมยอมรับว่าการแสดงความเห็นเรื่องนี้อาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ พร้อมกับส่งสัญญาณว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่นมีขอบเขตในการดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อพยุงเศรษฐกิจ

ก่อนหน้านี้ จิม ฟลาเฮอร์ตี รัฐมนตรีคลังแคนาดา กล่าวว่า ที่ประชุมมีแนวโน้มที่จะหารือกันในเรื่องสถานการณ์สกุลเงินในภูมิภาคเอเชียที่ไม่มีการเคลื่อนไหวแต่อย่างใด

จีนได้ผูกค่าเงินหยวนกับดอลลาร์ไว้ตั้งแต่เดือนก.ค. 2552 เพื่อช่วยเหลือกลุ่มผู้ส่งออก ขณะที่นายเหวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีนกล่าวว่า จะไม่ยอมอ่อนข้อให้ต่อแรงกดดันของนานาประเทศที่ต้องการให้เงินหยวนแข็งค่าขึ้น


จีนเมินคำขู่กูเกิล พร้อมเปิดรับเอกชนรายอื่น

จีนไม่สนใจคำขู่ของกูเกิลที่ระบุว่าจะปิดสำนักงานและระงับการให้บริการเว็บไซต์ในจีน เนื่องจากไม่พอใจที่กฎหมายเซนเซอร์ของจีนเข้มงวดเกินไป นอกจากนั้นยังถูกมือดีพยายามเจาะเข้าระบบคอมพิวเตอร์ด้วย

ล่าสุด นาย เจียง หยู โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนยังประกาศว่า ทางการจีนยินดีต้อนรับบริษัทอื่นที่พร้อมทำตามกฎหมายของจีนให้เข้ามาทำธุรกิจบริการอินเทอร์เน็ตในประเทศได้

เมื่อวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา กูเกิลโพสต์ข้อความในบล็อกว่า ทางบริษัทต้องการให้ทางการจีนอนุญาตให้มีการสืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตได้โดยไม่ต้องผ่านการคัดกรอง อย่างไรก็ตาม นายหวัง ชุน ผู้อำนวยการสำนักงานสารสนเทศของสภาที่ปรึกษาแห่งรัฐ กล่าวในวันนี้ว่ารัฐบาลมีสิทธิชอบธรรมในการเซนเซอร์ข้อมูลในอินเทอร์เน็ต

ถ้อยแถลงของทางการจีน แสดงให้เห็นว่าทางการจีนคงไม่อนุญาตให้ให้มีการสืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตได้โดยไม่ต้องผ่านการคัดกรองตามที่กูเกิลร้องขอ


ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่ประกาศออกมาเมื่อวานนี้ (พฤหัสบดีที่ 14 ม.ค. 2553 )
? ยอดค้าปลีก (ธ.ค.) ลดลง 0.3% จากเดือนก่อนหน้า
? ราคานำเข้า (ธ.ค.) ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก่อนหน้า
? ราคาส่งออก (ธ.ค.) เพิ่มขึ้น 0.6% จากเดือนก่อนหน้า
? ตัวเลขสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ (พ.ย.) เพิ่มขึ้น 0.4% จากเดือนก่อนหน้า
? ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ อยู่ที่ระดับ 444,000 ราย

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่จะประกาศออกมาวันนี้ (ศุกร์ที่ 15 ม.ค. 2553)
? ดัชนีราคาผู้บริโภค (ธ.ค.) โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ
? ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (ธ.ค.) โดยธนาคารกลางสหรัฐฯ
? ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ม.ค.) โดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน

ติดตาม Money Wake up ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ออกอากาศซ้ำเวลา 11.00 น. ทาง Money Channel


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 15, 2010, 10:38:19 AM
ขอบคุณค่ะคุณทองใหม่   ตอนนี้รอขายอยู่ค่ะแค่ค่าเงินสิคะไม่เป็นใจเลยถ้าเป็นช่วง33บาทกว่าคงได้กำไรแล้วขายไปแล้วค่ะแต่ตอนนี้ต้องรอค่ะยังพอมีโอกาสขึ้นอีกมั๊ยคะ
ประเด็นสำคัญ
   - ราคาทองคำปิดบวก $6.20 หลังสหรัฐเผยสต็อกเพิ่มเกินคาด
   - ข้อมูลศก.อ่อนแอฉุดดอลล์ร่วง ขณะยูโรดิ่งหลังธ.กลางยุโรปคงดอกเบี้ย
   - น้ำมันดิบปิดลบ 26 เซนต์ หลังเทขายน้ำมัน-แห่เทรดตลาดหุ้น


    สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (14 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นในทิศทางเศรษฐกิจ หลังจากสหรัฐเปิดเผยสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับเงินเยน สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดที่ 1,143.00 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 6.20 ดอลลาร์ เคลื่อนตัวในช่วง 1,130.70-1,146.70 ดอลลาร์ ขณะที่สัญญาโลหะเงินเดือนมี.ค.ปิดที่ 18.655 ดอลลาร์/ออนซ์ ดีดขึ้น 10.50 เซนต์ ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 1,604.80 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 30.40 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 443.05 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 18.10 ดอลลาร์ 

    นักวิเคราะห์จากบริษัท ลาซาล ฟิวเจอร์ส กรุ๊ป กล่าวว่า นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่าสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนพ.ย. มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.2% ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าบริษัทเอกชนของสหรัฐกำลังเพิ่มคำสั่งซื้อสินค้าสำรองเอาไว้ในสต็อก เพราะเชื่อมั่นว่ายอดขายจะปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต

   นักลงทุนจับตาดูรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันศุกร์ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนธ.ค. และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยตัวเลขการผลิตทางอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังผลิตเดือนธ.ค

   กองทุน SPDR Gold trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยว่าทางกองทุนได้ถือครองทองแท่งระดับ 1,113.750 ตัน ณ วันที่ 14 มกราคม 2553 ลดลง 2.134 ตัน จากวันที่ 13 มกราคม 2553

   กลยุทธ์ : ช่วงคืนนี้อาจจะแสดงทิศทางการเปลี่ยนแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นใหม่ อาจจะเดินหน้าหรือปรับฐานลงต่อ แต่ให้จุด Stop loss ถ้าราทองไม่ยืนเหนือระดับราคา 1120 US$ เพราะราคาทองจะเปลี่ยนทิศทางเป็นแนวโน้มลงอีกครั้ง


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 15, 2010, 10:41:37 AM
15 ม.ค. 2553


สรุปภาวะตลาดเมื่อวาน
    ราคาโกลด์ฟิวเจอร์สปรับตัวลดลงต่อเนื่องอย่างรุนแรง ในขณะที่ราคาทองคำสปอตปรับตัวแกว่งตัวลงเล็กน้อยและปรับตัวเพิ่มกลับขึ้นมาเมื่อคืน ทองคำแท่งสมาคมฯปิดที่ 17,700/800 บาท เงินบาทแข็งค่ารุนแรงตามเงินทุนไหลเข้าเอเชีย


ปัจจัยที่อาจส่งผลต่อเนื่องถึงวันนี้
    กลุ่มยูโรรายงานผลผลิตภาคอุตสาหกรรมออกมาดีกว่าคาดอย่างมากแสดงให้เห็นถึงเศรษฐกิจฟื้นตัวในขณะที่รายละเอียดกลับแสดงให้เห็นว่าการฟื้นดังกล่าวไม่เท่าเทียมกันในแต่ละประเทศคือเยอรมันและฝรั่งเศสเริ่มฟื้นตัวช้าๆในขณะที่สเปนกลับยังอยู่ในภาวะถดถอย รายงานดังกล่าวจึงไม่ได้ส่งผลรุนแรงต่อราคาทองคำในขณะที่นักลงทุนยังรอมุมมองของอีซีบีโดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับประเทศกรีซ [Econoday, TCAF Research]
    ธนาคารกลางยุโรปอีซีบีตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ตามคาด ในขณะที่มีความเห็นเรื่องกรีซไม่ชัดเจนมากนักโดยนายทริเชต์ให้ความเห็นว่าคงจะไม่ผลักดันกรีซออกจากลุ่มยูโรแต่ก็คงจะไม่มีการช่วยเหลือเป็นพิเศษเช่นกัน ในขณะที่ดอลลาร์ที่แข็งค่ามีความจำเป็นต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แสดงให้เห็นถึงความไม่ชัดเจนว่าเศรษฐกิจยุโรปจะฟื้นตัวได้เร็วจริงหรือไม่ นักลงทุนจึงเริ่มเทขายเงินยูโรเข้าไปถือดอลลาร์ โดยเฉพาะหลังจากที่บริษัทอินเทลได้รายงานผลประกอบการออกมาดีขึ้นผิดจากที่คาดหลังปิดตลาดสหรัฐฯ [Econoday, Bloomberg, Reuters, TCAF Research]
    คณะกรรมการกำกับตลาดฟิวเจอร์สสหรัฐฯ CFTC เตรียมแผนเพิ่มเติมในการป้องกันการทำราคาในตลาดเงินและทองคำ จึงทำให้ราคาทองคำไม่ได้ผันผวนไปตามค่าเงินยูโรมากนัก [Reuters, TCAF Research]


แนวโน้มทองคำวันนี้
   นักลงทุนไม่น่าจะเข้าไปลงทุนทองคำรุนแรงจนกว่าจะมีความชัดเจนเรื่องมาตรการควบคุมตลาดของCFTC เราจึงมองว่า "ราคาทองคำน่าจะแกว่งตัวในช่วงแคบ" และแนะนำให้ "หยุดรอดูสถานการณ์ และเล่นตามเมื่อราคาทองคำสปอตปรับตัวพ้น S1/R1"


มุมมองทองคำ
    แนวโน้มเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวน่าจะมีความสำคัญที่สุดในช่วงนี้ ในขณะที่มาตรการต่างๆของมหาอำนาจก็น่าจับตามองไม่แพ้กันเนื่องจากอาจส่งผลต่อการรับความเสี่ยงของนักลงทุนและส่งผลต่อสถานะของทองคำได้



หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 15, 2010, 12:40:39 PM
กราฟตาแป๊ะ
http://www.thaigold.info/forum/index.php?topic=4852.420 (http://www.thaigold.info/forum/index.php?topic=4852.420)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Yai Carmungwed ที่ มกราคม 15, 2010, 03:28:47 PM
ขอบคุณมากครับอาจารย์ทองใหม่


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: soda ที่ มกราคม 16, 2010, 06:45:57 AM
morning คะ คุณทองใหม่ เข้าบ้านโน้นไม่ได้คะ ตามมาบ้านนี้คะ  มาดูกราฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: soda ที่ มกราคม 16, 2010, 06:54:45 AM
(http://images.temppic.com/16-01-2010/images_vertis/1263600618_0.24912600.bmp) (http://www.temppic.com/img.php?16-01-2010:1263600618_0.24912600.bmp)... กราบขอบคุณอีกหนึ่งท่านอาจารย์


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: brabus ที่ มกราคม 16, 2010, 07:44:43 AM
สวัสดีเช้าวันครูค่ะพี่ทองใหม่ ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 16, 2010, 08:04:13 AM
สวัสดีเพื่อนๆทุกคนครับ เอาข่าวอีทีเอฟขายทองพร้อมคำสวัสดีมาฝากจ้า
(http://img695.imageshack.us/img695/9738/92236985.gif) (http://img695.imageshack.us/i/92236985.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 16, 2010, 09:50:49 AM
รบกวนคุณทองใหม่ ชี้แนะด้วยค่ะ
ว่าควรรอสัปดาห์หน้า หรือว่าให้เก็บไปบ้างบางส่วนค่ะ
 !031  !031  !031
ให้อ่านข้อ3
กราฟใหม่2010(เรามาช่วยกันใช้กาลเวลาพิสูจน์ว่า กราฟตัวนี้จะมีความขลังเท่ากราฟตาแป๊ะไหม)
1.   ซ้ายบนหน้าเทาขาวและหนังสือสีขาว??ถอนตัว(ขาย)   หน้าแดงและหนังสือสีเหลือง??บุก(ซื้อ)
2.   กลางบน หนังสือสีเขียว??ขาย หนังสือสีแดง??ซื้อ  ส่วนตัวหนังสือสีเหลือง????เส้นหยุดขาดทุน(สำหรับผู้ที่เล่นออนไลน์สั่งป้องกันล่วงหน้าได้เท่านั้น)
3.   ขวาบน  ตัวหนังสือสีเขียว (?)?ขาย  ตัวหนังสือสีเหลือง(?)?ซื้อ   (กราฟช่องนี้ ให้สัญญาณทั้งซื้อและขายออกจะไวกว่ากราฟช่องอื่นๆ มีทั้งข้อดีและเสีย บางครั้งก็ตรงตามสัญญาณที่ให้ในทันทีเลย บางคั้งก็อาจเลื่อนออกไปอีกตั้งหลายวันจึงจะตรงตามสัญญาณที่ปรากฏ สัญญาณของกราฟช่องนี้ ให้เพื่อนๆตัดสินใจเอาเองด้วยความระมัดระวังตามใจชอบนะครับ ขอเตือนเป็นพิเศษ)
4.   ซ้ายล่าง สีแดง???เพดาน(จะอยู่ช่วงบน)   สีแดง???ซื้อ(จะอยู่ช่วงล่าง)          สีเขียว ????หนีเร็ว หากเครื่องหมาย ?ปรากฏแค่/ยังไม่สมบูรณ์เต็มตัว?เตรียมตัวหนี(จะปรากฏพร้อม   ???เพดาน(จะอยู่ช่วงบน)   )และตัวหนังสือสีเขียว????เจอต่ำซื้อ
5.   กลางล่าง   หน้าเทาขาว?ขาย        หน้าแดง?ซื้อ
6.   ขวาล่าง    เครื่องหมายสีขาว??ขาย           เครื่องหมายสีชมภู ? ?ซื้อ

ทอง
(http://img37.imageshack.us/img37/8320/50115745.gif) (http://img37.imageshack.us/i/50115745.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Jeera ที่ มกราคม 16, 2010, 09:52:16 AM
สวัสดีค่ะคุณครูทองใหม่   :)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: your ที่ มกราคม 16, 2010, 09:54:46 AM
ดีด้วยคนจ้า  laugh.gif


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 16, 2010, 10:26:15 AM
ดัชนีเงินเมกา  อยากให้ย้อนกลับไปดูดัชนีเงินเมกาตาแป๊ะเมื่อวานนี้ครับ---กราฟตาแป๊ะนะครับ ไม่ใช่กราฟใหม่2010  ตาแป๊ะร้องไห้แต่ดอลล์ไม่ยักลง แสดงว่าปัจจัยภายนอกนี่สำคัญมากแค่ไหน แม้ตาแป๊ะจะร้องไห้ แต่ปัจจัยนอกมีผลดีต่อดอลล์ ตาแป๊ะก็เลยต้องร้องค้างอยู่อย่างนั้นแหละครับ อีกอย่างที่กราฟตาแป๊ะดอลล์ซ้ายบน ก็คือกราฟใหม่2010กลางบน สังเกตุได้ว่าคำว่าขายยังไม่ปรากฏขึ้น แต่ในขณะเดียวกันตาแป๊ะร้องจะลง ดอลล์ไม่ลง กราฟตัวนี้ในช่วงนี้แสดงว่าดีกว่ากราฟตาแป๊ะ ชนะตาแป๊ะไปยกหนึ่ง คอยดูยกต่อไปครับ
(http://img251.imageshack.us/img251/6332/59122519.gif) (http://img251.imageshack.us/i/59122519.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 16, 2010, 10:27:12 AM
น้ำมัน
(http://img37.imageshack.us/img37/7550/55839861.gif) (http://img37.imageshack.us/i/55839861.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Cindy ที่ มกราคม 16, 2010, 11:27:11 AM
ขอบคุณค่ะ :-* สุขสันต์วันครูค่ะอาจารย์ :)

(http://i512.photobucket.com/albums/t325/pattyzaizai/1213951115.jpg)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 16, 2010, 02:31:47 PM
วันจันทร์ที่18 เป็นวัน Martin Luther King Day ตลาดเมกาหยุด ตลาดเอเชีย--ยุโรป เปิดจ้า


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Neung99k ที่ มกราคม 16, 2010, 03:27:24 PM
ขอบคุณพี่ทองใหม่ครับ ;D  ข้อสังเกตุระหว่างกราฟทั้งสองชุด..ต่อไปคงจะได้พิสูจน์ว่าควรจะดูอันไหนนะครับ ถ้าตัวใหม่ดีกว่าต่อไปก็ดูแต่กราฟใหม่ 2010 ก็ได้ครับ(เผื่อแป๊ะยิ้มหลอก ฮิๆ) ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ มกราคม 17, 2010, 11:37:10 AM
ขอบคุณค่ะคุณทองใหม่


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 17, 2010, 11:37:53 AM
วันนี้ไปร่วมบุญที่วัดพระธรรมกาย อุปสมบทหมู่๑แสนรูปทุกหมู่บ้านทั่วไทย(พิธีบรรพชา"บวชเณร"วันที่๖/๐๒/๕๓  พิธึอุปสมบท"บวชพระ"๘--๑๓/๐๒/๕๓) จึงแจ้งมาเพื่อให้เพื่อนๆได้ร่วมอนุโมทนาบุญอันยิ่งใหญ่นี้ด้วย สาธุ.........


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: prim ที่ มกราคม 17, 2010, 02:01:01 PM

สวัสดีค่ะคุณทองใหม่  ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ  :)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 18, 2010, 06:13:32 AM
 วิธีดูทิศทางทอง ต้าน๓----หนุน๓เป็นทิศทางทองที่จะเคลื่อนไหวในวันนี้ หากพุ่งทะลุต้าน๓หรือดิ่งทะลวงหนุน๓ แสดงถึงวันนั้นทองเคลื่อนไหวแรงเกินปกติ เส้นแดนเป็นเส้นที่จะแบ่งแยกทิศทางของทองที่จะขึ้นหรือลง หากทองเคลื่อนไหวอยู่ในทิศทางใดมากและนาน นั่นหมายถึงโอกาสเป็นไปได้มากที่ทองจะเคลื่อนไปในทิศทางนั้นๆ ในช่วงเวลานั้น (ยังต้องแบ่งออกในช่วงเวลาตลาดเอเซีย ยุโรป เมกาด้วย) ต้าน๑และหนุน๑หากถูกทดสอบแบบมีผล(ขึ้นลงมากกว่า๑ครั้ง)แล้วยืนอยู่ได้ นั่นคือทิศทางทองที่จะเดินต่อไปในช่วงเวลานั้น หากการวิเคราะเกิดขัดแย้งกันเมื่อไหร่ ให้หยุดมองดูอย่างเดียว ไม่ควรซื้อ-ขายในช่วงเวลานั้น แนวทางนี้เหมาะกับการเล่นสั้นมาก (เล่นแบบออนไลน์ในอนาคต) มีความแม่นยำถึง80%ครับ อีกอย่างข่าวปัจจัยพื้นฐานอาจเปลี่ยนทิศทางทองได้กะทันหันนะครับ
ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์กับการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย ถัาติดดอยเมื่อทองต่ำลงมา  หากยังมีเงินเหลืออยู่ ควรซื้อเพิ่ม เพิ่มที่ละนิด ต่ำอีกซื้ออีก เพื่อดึงต้นทุนที่สูงให้ต่ำลงมา ใครที่ยังไม่มีทองในมือควรทยอยซื้อเข้าอย่ามากนัก หากทองลงอีก เราก็ซื้ออีก ดีกว่าเวลาทองขึ้นเราไปไล่ซื้อในราคาที่สูง  จดจำเป็นคติเตือนใจว่า  เรามิอาจซื้อได้ในราคาที่ต่ำสุด และขายได้ในราคาที่สูงสุด ไม่มีการลงทุนใดที่ไม่เสี่ยง การบริหารพอร์ตให้ได้จังหวะ จะลดความเสี่ยงลงได้ครับ
กราฟสำคัญ ปัจจัยพื้นฐานก็สำคัญ จิตวิทยาการโน้มเอียงของคนก็สำคัญ สิ่งเหล่านี้หากเป็นไปในแนวเดียวกัน ก็จะมุ่งไปทางนั้น หากแย้งกันก็ต้องดูฝ่ายไหนเหนือกว่า.....ด้วยเหตุนี้ไม่มีนักวิเคราะห์คนใดที่จะทำนายได้แม่นยำตลอดกาลได้ครับ
(http://img689.imageshack.us/img689/8669/75718227.gif) (http://img689.imageshack.us/i/75718227.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 18, 2010, 06:15:39 AM
เส้นปากถุง(เส้นสีขาวทั้ง๓เส้น)แบบง่ายๆ ไม่ปวดเศียรเวียนเกล้า
เส้นบน---แนวต้าน
เส้นกลาง---แนวโน้ม(สำคัญสุด)
เส้นล่าง---แนวหนุน
ลักษณะที่๑---ทิศทางขึ้นเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น   เส้นกลางหันหัวขึ้น   เส้นล่างหันหัวลง
ลักษณะที่๒---ทิศทางขึ้นเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวขึ้น
เมื่อเจอลักษณะทั้ง๒นี้ ราคาระหว่างวันที่ขึ้นๆลงๆ เมื่อเจอจุดที่เห็นว่าต่ำแล้วให้ซื้อเข้าได้เลยครับ  ขอเพียงเส้นกลาง(แนวโน้ม)ยังหันหัวขึ้นอยู่ แม้ราคาเแท่งเทียนจะอยู่ต่ำกว่าเส้นกลาง ก็ยังซื้อเข้าได้ หากเส้นบนเดินขวางเมื่อไหร่ ให้ทยอยลดพอร์ตได้เลยครับ
ลักษณะที่๓---เลือกทิศทาง---เส้นบนหันหัวลง เส้นล่างหันหัวขี้น ปากถุงแคบลง ถึงช่วงนี้ ให้ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว หากใครยังคิดอยากเคลื่อนไหว ก็จงเคลื่อนไหวไปหน้าทีวี จงอย่าทำการอย่างอื่นใด หากใครเป็นจอมยุทธ์ ก็ชิงเคลื่อนไหวก่อนใครได้  
ขอแถมอีกนิด จงโฟกัสที่เส้นกลาง หากเส้นกลางเริ่มขยบหัวหัวขึ้นหรือลง ทิศทางอาจขึ้นหรือลงตามเส้นกลางแนวโน้มนั้น
ลักษณะที่๔---เคลื่อนไหวในกรอบแคบ---เส้นบน กลาง ล่าง เดินขวางทั้ง๓เส้น หากใครเล่นออนไลน์ สามารถเล่นได้เล็กน้อยอย่ามาก เมื่อราคาแท่งเทียนใกล้เส้นบน จงขาย ใกล้เส้นล่าง จงซื้อ ต้องเข้าออกให้ทันการณ์ หาไม่แล้วจากกำไรอาจขาดทุนได้นา ขอบอก
ลักษณะที่๕---ทิศทางลงเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น เส้นกลางหันหัวลง เส้ยล่างหัวหัวลง
ลักษณะที่๖---ทิศทางลงเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวลง  เมื่อเส้นล่างเดินขวางเมื่อไหร่ ผู้ที่ใจกล้าที่เล่นออนไลน์ เริ่มทยอยซื้อเข้าได้ที่ละนิด อัตราเสี่ยงยังมีอยู่บ้างนะครับ สิบอกไห่
วิธีดูเส้นปากถุงที่กล่าวมานี้ .....ไม่ใช่ตำราของฝรั่ง แบบของฝรั่งผมเคยอ่านมาบ้างแล้ว ยาวมาก ปวดหัว ทำความเข้าใจได้ยากมากๆๆๆๆ ...........เหมาะเฉพาะกราฟราย๔ชม.และช่วงปกติเท่านั้นนะครับ  (บางครั้งตลาดจงใจคึงขึ้นลงอย่าแรงๆ แทบหัวใจวายสำหรับผู้มีทองในมือและผิดทิศทางของตัวเอง เรียกว่า ช่วงไม่ปกติครับ)

(http://img195.imageshack.us/img195/7443/56390101.gif) (http://img195.imageshack.us/i/56390101.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 18, 2010, 06:17:53 AM
กราฟGold 1
ช่อง1 เส้นแดงอยู่เหนือเส้นเขียว---ทิศทางขึ้น  ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น  สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นเขียวอยู่เหนือเส้นแดง---ทิศทางลง     ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นแดงและเขียวประสานเป็นกากะบาด ---กำลังจะเปลี่ยนทิศ ให้ดูเส้นแนวโน้มประกอบ  หากเส้นแดงและเขียวกำลังจะประสาน แต่ไม่ทันได้ประสานก็หันหันหัวกลับขึ้นหรือลง  แสดงว่ากำลังมีเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนี่งเกิดขึ้น หากขึ้นทะลุเส้นปะแนวต้าน ให้ดูเส้นปะแนวต้านเส้นต่อไป หากลงทะลุเส้นปะแนวหนุน ให้ดูเส้นแนวหนุนเส้นต่อไป   ส่วนจุดกลมเหลืองทอง---ทิศทางลง  จุดกลมฟ้า---ทิศทางขึ้น  หากกราฟวิ่งในยามปกติ พอเชื่อถือได้ หากกราฟวิ่งขึ้นลงแรงๆ คือยามไม่ปกติ ไม่อาจเชือถือได้
ช่อง2  ให้ดูเส้นสีม่วง ประกอบกับเส้นแนวโน้มในช่อง1 หากหันหัวไปในทิศทางเดียวกัน  โอกาสที่จะผิดพลาดก็มีน้อย  ส่วนเส้นปะสีเหลืองทองและฟ้า  หากขึ้นเหนือเลข80 เข้าสู่เขตซื้อเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ทุกเมื่อ  หากลงต่ำกว่าเลข20 เข้าสู่เขตขายเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ตลอดเวลา
ช่อง3   ให้ดูทั้ง2เส้น คือเหลืองทองและฟ้า หันหัวไปทิศทางเดียวกันหรือไม่  เท่านั้นยังไม่พอ  ให้ดูประกอบทิศทางในช่อง1ว่าเป็นทิศทางเดียวกันหรือไม่  หากทิศทางหันหัวในแนวเดียวกัน  ทิศทางนั้นเชื่อถือได้

(http://img96.imageshack.us/img96/262/62426591.gif) (http://img96.imageshack.us/i/62426591.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: IPSUM ที่ มกราคม 18, 2010, 08:51:50 AM
อนุโมทนาครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 18, 2010, 09:34:45 AM
เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า ฉุดราคาทองคำปิดร่วงกว่า 12 เหรียญ

Posted on Monday, January 18, 2010
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น หลังจากสหรัฐฯเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนธ.ค. 2552 ขยับขึ้น 0.1% ขณะที่ CPI ซึ่งไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.1% เช่นกัน

นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังคงได้รับปัจจัยลบจากข่าวธนาคารกลางจีนประกาศเพิ่มสัดส่วนการกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ 0.5% เพื่อควบคุมการขยายตัวของเศรษฐกิจและสกัดกั้นเงินเฟ้อ

ตลาดทองคำ COMEX จะปิดทำการวันจันทร์ที่ 18 ม.ค.นี้ เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์
- ทองคำ ส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ปิดที่ 1,130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ (-12.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์)
- เงิน ส่งมอบเดือนมีนาคม ปิดที่ 18.427 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ (-0.22 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 18, 2010, 10:20:11 AM
6 มหาอำนาจไม่ได้ข้อสรุปเรื่องมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านพัฒนานิวเคลียร์

Posted on Monday, January 18, 2010
6 มหาอำนาจไม่ได้ข้อสรุปเรื่องมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน

6 ประเทศมหาอำนาจ ซึ่งประกอบด้วย 5 ชาติสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา จีน รัสเซีย อังกฤษ และฝรั่งเศส พร้อมด้วยเยอรมนี ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านได้ในการประชุมว่าด้วยเรื่องนิวเคลียร์อิหร่านที่กรุงนิวยอร์กวานนี้

รมช.ต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เก รยาบคอฟ เผยภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมนาน 2 ชั่วโมงครึ่งว่า ที่ประชุมไม่ได้ข้อสรุปที่แน่ชัดเกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านเพิ่มเติม จึงยังไม่มีการตัดสินใจใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ในทันที อย่างไรก็ดี ที่ประชุมได้เริ่มเข้าสู่การเจรจาในขั้นต่อไปแล้ว

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การประชุมเริ่มต้นขึ้นหลัง 12.00 น. วันเสาร์ (24.00 น. ตามเวลาประเทศไทย) ที่สำนักงานองค์การสหประชาชาติในนิวยอร์กซิตี้ ซึ่งมีขึ้นในขณะที่สหรัฐกำลังผลักดันมาตรการคว่ำบาตรใหม่ๆต่ออิหร่าน หลังจากที่อิหร่านยืนกรานปฏิเสธยกเลิกโครงการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมเพื่อการพัฒนานิวเคลียร์

วิลเลียม เบิร์นส ผู้แทนจากสหรัฐกล่าวว่า "เป็นการประชุมที่มีประโยชน์" ขณะที่โรเบิร์ต คูเปอร์ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหภาพยุโรปซึ่งเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในครั้งนี้ กล่าวว่า ที่ประชุมยังคงมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และยังคงยึดมั่นที่จะใช้วิธี ''dual track'' กับอิหร่านต่อไป ซึ่งหมายถึงการหาทางเจรจาต่อรองควบคู่ไปกับการกดดันด้วยมาตรการคว่ำบาตร ซึ่งนายคูเปอร์เผยว่า การประชุมครั้งนี้ได้เน้นไปที่การหารือเรื่องมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติม แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเลิกใช้วิธีเจรจาโดยสิ้นเชิง


ตลาดคาดดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐฯ บวกต่อ จับตาเงินยูโร

สัปดาห์ที่ผ่านมายังมีความเข้มข้นสำหรับข่าวการโจมตีระบบคอมพิวเตอร์ของบริษัท Google ในประเทศจีน ที่พร้อมกันนั้นยังมีการเปิดเผยว่ายังมีบริษัทอินเตอร์เน็ตอีกหลายรายที่กำลังตกเป็นเป้าเช่นเดียวกัน รวมถึง คู่แข่งอย่างบริษัท Yahoo จนทำให้เรื่องนี้ได้กลายเป็นประเด็นทางการเมืองระดับชาติไปแล้ว

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องการเสนอเก็บภาษีในภาคธนาคารของสหรัฐฯ ก็กำลังเป็นที่จับตาของนักลงทุน หลังประธานาธิบดี บารัค โอบามา เปิดเผยว่า ได้เสนอให้มีการจัดเก็บภาษีจากธนาคารขนาดใหญ่กว่า 50 แห่งสำหรับการช่วยเหลือธุรกิจของสถาบันการเงินเหล่านี้ โดยเงินภาษีดังกล่าวอาจสร้างภาระให้กับธนาคารชั้นนำ อย่าง JPMorgan Chase และ Bank of America เป็นจำนวนที่มากกว่ารายละ 1,500 ล้านเหรียญต่อปีเลยทีเดียว

สำหรับปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ต้องติดตามต่อในสัปดาห์นี้ ที่สำคัญก็มี ดัชนีชี้นำทางเศรษฐกิจจาก The Conference Board ที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะยังขยับขึ้นต่ออีกเป็นเดือนที่ 9 แล้ว ขณะที่อีกหนึ่งรายงานในตลาดบ้าน น่าจะแสดงถึงสภาวะการก่อสร้างที่ยังคงทรงตัว และนี่ก็หมายถึงกลไกที่จะมาช่วยผลักดันเศรษฐกิจยังคงถูกจำกัดอยู่ในตอนนี้

แนวโน้มความซบเซาสามารถสะท้อนได้จากจำนวนการขออนุญาตก่อสร้าง ที่หลายคนคาดการณ์ว่าตัวเลขจะออกมาร่วงลงกว่า 1% ในเดือนธันวาคม หลังจากกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยยอดขายบ้านใหม่ปรับตัวลง 11% ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงที่มาตรการจูงใจทางภาษีสำหรับผู้ซื้อบ้านหลังแรกกำลังจะหมดอายุลง

นอกจากนั้น ยังมีผลสำรวจของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในส่วนของสภาวะการผลิตในแถบ Philadelphia ที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะขยายตัวในอัตราที่ช้าลงในเดือนมกราคม หลังจากถีบตัวขึ้นอย่างมากในช่วง 4 เดือนก่อนหน้านี้

สำหรับปัจจัยเรื่องค่าเงินก็ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ต้องติดตาม เพราะจะมีผลต่อแนวโน้มการเคลื่อนย้ายเงินทุนในอนาคต หลังจากที่เงินยูโรอ่อนค่าลงไปอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อเทียบกับเงินเยน และยังร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ด้วยเช่นกัน ปัจจัยหลักๆ ก็มาจากประเทศกรีซ ที่กำลังดิ้นหาทางออกในเรื่องการขาดดุลงบประมาณอย่างหนัก ขณะเดียวกัน ก็มีความเห็นออกมาจากฝั่งของประธานธนาคารกลางยุโรป Jean-Claude Trichet ว่า แนวโน้มของประเทศในภูมิภาคยังมีความไม่แน่นอน


เศรษฐกิจออสซี่ไปโลด รัฐบาลจ่อทยอยดึงเงินอัดฉีดกลับ

มีการแสดงความคิดเห็นกันออกมาตลอดทุกสัปดาห์เกี่ยวกับการถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลประเทศต่างๆ ล่าสุดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของออสเตรเลีย Wayne Swan ก็บอกว่า รัฐบาลจะค่อยๆ ดึงโครงการอัดฉีดเงินออกจากระบบอย่างระมัดระวัง หลังจากที่เห็นสัญญาณการใช้จ่ายภาคเอกชนขยับตัวดีขึ้น ซึ่งเป็นการแตะเบรคการขยายตัวทางเศรษฐกิจตลอดทั้งปี 2553 นี้

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ออสเตรเลียเป็นเพียงไม่กี่ประเทศที่สามารถสลัดหลุดพ้นออกมาจากความถดถอยทางเศรษฐกิจอย่างไม่ยากนัก ที่ชัดๆ คือดูจากตัวเลขของสำนักงานสถิติที่ออกมารายงานสภาวะการจ้างงานเดือนธันวาคม ปรับเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน และแถมยังเป็นอัตราการเพิ่มที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ถึงสามเท่า

นี่ยังไม่รวมทางฟากของนโยบายการเงิน ภายใต้การนำของผู้ว่าการธนาคารกลาง Glenn Stevens ที่เป็นผู้เดินนำหน้าธนาคารกลางแห่งอื่นๆ ในโลกด้วยการปรับขึ้นดอกเบี้ยมาแล้วถึง 3 ครั้งติดต่อกันนับตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว

เจ้าของความเคลื่อนไหวในคราวนี้ ก็คือ รัฐมนตรีคลัง Swan ได้ให้เหตุผลว่า นโยบายกระตุ้นต่างๆ ที่นำออกมาใช้ในช่วงที่ผ่านมาได้มุ่งเน้นและเจาะจงไปให้มีผลกระทบสูงสุดในช่วงไตรมาสที่สองของปีที่แล้ว ก่อนที่จะค่อยๆ เบาแรงอัดฉีดทั้งหลายลง เขายังขยายความต่อว่า รัฐบาลของนาย Kevin Rudd ได้กระจายการลงทุนไปยังโครงการถนนหลวงสายต่างๆ ทางรถไฟ ท่าเรือ ไปจนถึงภาคการศึกษา ซึ่งก็คือ โรงเรียน ทั้งหมดก็ทำเพื่อให้มั่นใจว่าเศรษฐกิจจะเดินหน้าเติบโตไปอย่างมั่นคง ขณะที่แรงกดดันของเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ

และหากมองไปข้างหน้า เศรษฐกิจของประเทศยักษ์ใหญ่รายนี้ยังมีความท้าทายรออยู่อีกมาก โดยเฉพาะเรื่องตลาดแรงงานที่ค่อนข้างมีแนวโน้มตึงตัวในช่วง 3 ปีจากนี้ เมื่อธุรกิจขนาดใหญ่ต่างๆ จ่อเข้ามาดึงตัวคนทำงานกันอย่างมาก ตัวอย่างที่เห็นก็รวมถึง บริษัท Chevron ที่กำลังขยายโปรเจ็กต์ LNG หรือก๊าซปิโตรเลียมเหลว ที่ภาคตะวันตกของประเทศ ตามแผนการขยายกำลังการผลิตเพื่อให้สอดรับกับความต้องการพลังงานในตลาดโลก

ปัจจัยดังกล่าวก็เป็นเพียงหนึ่งตัวอย่างเล็กๆ ที่อาจจะทำให้ธนาคารกลางออสเตรเลียประกาศขึ้นดอกเบี้ย หรือที่เรียกว่า overnight cash rate ขึ้นอีก 25 basis points ไปอยู่ที่ระดับ 4% สำหรับการประชุมในเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้


ยอดขายรถยนต์ในยุโรปปี 52 ลดลง 1.6%

สมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่งยุโรป (ACEA) เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์โดยรวมตลอดปี 2552 ของ 28 ประเทศในยุโรป ลดลง 1.6% แตะที่ 14.5 ล้านคัน แม้ยอดขายเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 16% ก็ตาม ซึ่งบ่งชี้ว่า อุตสาหกรรมรถยนต์ยุโรปยังไม่ฟื้นตัว

รายงานระบุว่า หลายประเทศในยุโรปที่มีการใช้นโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรมรถยนต์ มียอดขายรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นในปี 2552 รวมถึงฝรั่งเศส และเยอรมนี ขณะที่ยอดขายรถยนต์ในอังกฤษหดตัวลง 6.4% ในปี 2552

ส่วนเยอรมนีเป็นประเทศที่ทำยอดขายรถยนต์มากที่สุดในปี 2552 โดยยอดขายปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 23%

ก่อนหน้านี้ ออโต้ดาต้า คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านอุตสาหกรรมรถยนต์ในสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ใหม่ประจำปี 2552 ของสหรัฐ ร่วงลงมากกว่า 20% แตะที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 10.43 ล้านคัน ซึ่งน้อยกว่ายอดขายรถยนต์ในจีนที่ระดับ 12.23 ล้านคันในช่วงเดือนม.ค. - พ.ย.2552 ซึ่งหนุนให้จีนก้าวขึ้นเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของโลกเป็นครั้งแรก


สหรัฐ-ยูเอ็นผนึกกำลังช่วยเฮติ คาดยอดตายพุ่งแตะ 1 แสน

เจ้าหน้าที่สหรัฐ และองค์การสหประชาชาติ (UN) ทำงานอย่างเคียงบ่าเคียงไหล่กับหน่วยงานบรรเทาทุกข์ในเฮติ ขณะที่เจ้าหน้าที่เฮติประมาณการว่ายอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหว 7.0 ริกเตอร์เมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมาอาจพุ่งขึ้นเป็น 100,000 คน

นอกจากนี้ การจราจรติดขัดที่สนามบินนานาชาติเฮติยังส่งผลให้หน่วยงานของนานาประเทศต้องลำเลียงปัจจัยผ่านทางภาคพื้นดินของสาธารณรัฐโดมินิแกน

คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจะเปิดประชุม วันที่ 18 ม.ค. 53 เพื่อหารือแผนประสานการให้ความช่วยเหลือจากนานาประเทศแก่เฮติหลังภัยพิบัติแผ่นดินไหว โดยเป็นการริเริ่มของเม็กซิโกและจีน ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานคณะมนตรีความมั่นคง โดยเม็กซิโกนั้นเล็งเห็นถึงความจำเป็นอย่างยิ่งที่คณะมนตรีความมั่นคงจะต้องเข้ามาให้การสนับสนุนความช่วยเหลือแก่รัฐบาลเฮติ และคาดว่า นายบัน คี-มุน เลขาธิการสหประชาชาติ ซึ่งมีกำหนดเดินทางไปตรวจสภาพความเสียหายที่เฮติวันนี้ จะเข้าร่วมประชุมด้วย

สถานการณ์ในเฮติทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ความวุ่นวาย เหตุรุนแรงและปล้นสะดม หลังเผชิญแผ่นดินไหวที่กรุงปอร์โตแปรงซ์เมื่อวันอังคาร โดยฝูงชนราว 1,000 คน จับอาวุธแย่งชิงสินค้าตามร้านค้าบนท้องถนนทุกอย่างเข้าสู่จลาจลและตำรวจละทิ้งหน้าที่ไปแล้ว ชาวบ้านต่างต่อสู้ ทุบตีและขว้างปาก้อนหินใส่กันเอง

นางฮิลลารี คลินตัน รมว.ต่างประเทศของสหรัฐกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจและกองกำลังรักษาสันติภาพของยูเอ็นต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน และขณะนี้รัฐบาลเฮติได้มอบหมายให้สหรัฐส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลและควบคุมท่าอากาศยานนานาชาติเฮติแล้ว

นายบัน คี มูน เลขาธิการยูเอ็นออกมาเรียกร้องนานาประเทศให้ช่วยบริจาคเงิน 560 ล้านดอลลาร์เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดหาอาหาร น้ำ ที่อยู่อาศัยชั่วคราว และยารักษาโรคให้กับผู้ประสบภัยในเฮติ ซึ่งเงินจำนวนนี้เพียงพอสำหรับการจัดหาปัจจัยที่จำเป็นใน 6 เดือนข้างหน้า

นอกจากนี้มีรายงานว่า ซิตี้กรุ๊ป อิงค์ ซึ่งอาคารสำนักงานใหญ่ในเฮติได้พังทลายลงมาหลังจากเกิดแผ่นดินไหว ยังคงเดินหน้าค้นหาพนักงาน 8 คนที่คาดว่าจะติดอยู่ใต้ซากอาคาร โดยทีมค้นหาของซิตี้กรุ๊ปตั้งความหวังว่าจะพบพนักงานทั้ง 8 คนในสภาพที่ยังมีชีวิตอยู่

หลังจากเกิดแผ่นดินไหวได้เพียงวันเดียว นายวิกรม บัณฑิต ซีอีโอซิตี้กรุ๊ป ได้ส่งทีมงานชุดเฉพาะกิจมุ่งหน้าไปยังเมืองปอร์โตแปรงซ์ของเฮติ พร้อมด้วยอุปกรณ์ช่วยชีวิตและโทรศัพท์ระบบสัญญาณดาวเทียม โดยนายบัณฑิตกล่าวว่า ซิตี้กรุ๊ปให้ความสำคัญกับการช่วยชีวิตพนักงานเป็นลำดับแรก และจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินแก่เฮติ


จีนประกาศจับตาสถาณการณ์ปล่อยกู้ในประเทศ

คณะกรรมการกำกับดูแลด้านการธนาคารของจีนออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมในว่า คณะกรรมการฯกำลังจับตาดูสถานการณ์การปล่อยเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ภายในประเทศ หลังจากธนาคารกลางจีนเปิดเผยว่า ยอดการปล่อยเงินกู้ครั้งใหม่เดือนธ.ค. 2552 เพิ่มขึ้นแตะ 379,800 ล้านหยวน หรือ 55,600 ล้านดอลลาร์ จากเดือนพ.ย.ที่ 294,000 ล้านหยวน ส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อและฟองสบู่ในระบบเศรษฐกิจของจีน

หนึ่งในยุทธศาสตร์ที่ธนาคารกลางจีนนำมาใช้สกัดกั้นเงินเฟ้อคือการประกาศเพิ่มสัดส่วนการกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ 0.5% ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 18 มกราคม 2553 โดยธนาคารกลางจีนดำเนินการเพิ่มสัดส่วนการกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์รวดเร็วอย่างเหนือความคาดหมาย เพราะนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจีนจะดำเนินการดังกล่าวในเดือนเม.ย.

นายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่า ได้แสดงความวิตกกังวลต่อการที่ธนาคารพาณิชย์ของจีนปล่อยเงินกู้เป็นจำนวนเงินสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.35 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2552 ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดภาวะฟองสบู่ในตลาดหุ้นและตลาดอสังหาริมทรัพย์

ราคาอสังหาริมทรัพย์ของจีน รวมถึงอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยและเพื่อการค้า ใน 70 เขตเมือง พุ่งขึ้น 7.8% ในเดือนธ.ค.2552 ทำสถิติพุ่งขึ้นรวดเร็วที่สุดในรอบ 18 เดือน ทำให้คณะรัฐมนตรีของจีนเตรียมออกข้อกำหนดการควบคุมการซื้อบ้านเพื่อเก็งกำไรและการลงทุน รวมทั้งลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นจากการปล่อยเงินกู้เพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์


สหรัฐเรียกร้องอย่างเป็นทางการในประเด็นเว็บกูเกิล

โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ เปิดเผยว่าจะส่งหนังสืออย่างเป็นทางการไปยังรัฐบาลปักกิ่งใน 1-2 วันในช่วงต้นสัปดาห์หน้าเพื่อขอคำอธิบาย

นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ เรียกร้องอย่างไม่เป็นทางการไปยังจีนแล้ว ขณะเดียวกันทำเนียบขาวก็สนับสนุนการตัดสินใจของกูเกิลที่จะไม่ยอมรับการเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ตของจีน ความขัดแย้งดังกล่าวทำให้กูเกิลเตือนว่าอาจนำไปสู่การถอนตัวออกจากจีน

นับเป็นประเด็นความขัดแย้งอีกครั้งหนึ่งระหว่างจีนกับสหรัฐ หลังจากที่ทั้งสองประเทศมีความขัดแย้งในเรื่องของสภาพอากาศโลก ค่าเงินหยวนและความขัดแย้งทางการค้า


JAL ลั่นไม่รับเงินช่วนเหลือจากสายการบินต่างชาติ

เจแปนแอร์ไลน์ประกาศจะไม่รับเงินช่วยเหลือจากสายการบินของสหรัฐ แต่จะใช้วิธีขยายความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างกันแทน

สายการบินเจแปน แอร์ไลน์ ซึ่งกำลังมีปัญหาการเงินอย่างหนักและเตรียมยื่นเรื่องขอพิทักษ์ทรัพย์จะไม่ขอรับเงินช่วยเหลือจากสายการบินเดลตาแอร์ไลน์ และสายการบินอเมริกันแอร์ไลน์ แต่จะใช้วิธีขยายความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างกันแทน ส่วนจะเลือกจับมือกับสายการบินใดนั้น จะต้องรอหลังเดือนกุมภาพันธ์ไปก่อน

ส่วนแผนงานในการกอบกู้วิกฤตของ JAL นั้น คือ การตัดลด Operation cost กว่า 25% ภายใน 3 ปี ตั้งแต่นี้ไป จนถึง มี.ค. 2556 ในรูปแบบของการปรับลดขนาดเครื่องบิน เป็นต้น

สายการบินทั้งสองแห่งต่างแย่งชิงกันที่จะเป็นพันธมิตรกับเจแปน แอร์ไลน์ โดยเดลตาแอร์ไลน์ ซึ่งเป็นสายการบินใหญ่ที่สุดของโลกเสนอเงินช่วยเหลือ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แก่เจแปนแอร์ไลน์ ขณะที่อเมริกันแอร์ไลน์เสนอให้เงินถึง 1,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ


ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่ประกาศออกมาเมื่อวันศุกร์ที่ 15 ม.ค. 2553
? ดัชนีราคาผู้บริโภค (ธ.ค.) เพิ่มขึ้น 0.1% จากเดือนก่อนหน้า
? ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (ธ.ค.) เพิ่มขึ้น 0.6% จากเดือนก่อนหน้า
? ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ม.ค.) อยู่ที่ระดับ 72.8 จุด

ติดตาม Money Wake up ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ออกอากาศซ้ำเวลา 11.00 น. ทาง Money Channel
 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 18, 2010, 10:22:40 AM
ประเด็นสำคัญ
    - ราคาทองปิดปรับลง 1% หลังดอลล์แข็ง
    - ดอลล์พุ่งขึ้น ขณะปัญหาหนี้กรีซกดยูโรร่วง
    - น้ำมันดิบร่วงลงขณะอากาศอบอุ่นขึ้น
    - ดัชนีราคาผู้บริโภคปรับตัวขึ้นเล็กน้อย

       ราคาทองที่ตลาดสหรัฐร่วงลง 1% ในวันศุกร์ โดยปิดตลาดสัปดาห์นี้ด้วยการปรับตัวลง ในขณะที่การแข็งค่าของดอลลาร์ บั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุน แต่พัลลาเดียมพุ่งขึ้นสูงจากอุปสงค์การลงทุนที่แข็งแกร่งที่เกี่ยวกับกองทุน ETF ของสหรัฐ ทองได้รับแรงกดดัน ในขณะที่ดอลลาร์แข็งแกร่ง ในขณะที่ข้อมูลที่แสดงถึงการปรับตัวขึ้นของการผลิตและเงินเฟ้อจากดัชนีราคาผู้บริโภคที่ทรงตัวบ่งชี้ว่า การปรับตัวขึ้นของราคาไม่เพียงพอที่จะกระตุ้นการขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ ทองปิดตลาดสัปดาห์นี้ต่ำลง ในขณะที่ข่าวการมาตรการคุมเข้มการให้เงินกู้ของธนาคารจีนเมื่อวันอังคาร ยับยั้งทัศนะในแง่บวกเกี่ยวกับเศรษฐกิจ ซึ่งลดความน่าดึงดูดใจของทองในฐานะการประกันความเสี่ยงเงินเฟ้อ

       ดัชนีราคาผู้บริโภคปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นซึ่งบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจกำลังขยายตัว แต่ก็จะไม่ทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อพอที่จะสร้างปัญหาให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

       ดัชนีความผันผวนหรือ VIX พุ่งขึ้นเกือบ 7% ในช่วงสั้นๆ ขณะที่ใกล้ครบกำหนดส่งมอบออปชันเดือนม.ค. และนักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าวว่า การครบกำหนดส่งมอบมีอิทธิพลในช่วงขาลงต่อราคา

       ความเชื่อมั่นต่อกรีซลดลง ขณะที่ยอดขาดดุลของกรีซเพิ่มขึ้น และอันดับความน่าเชื่อถือถูกปรับลดลง นักวิเคราะห์กล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในวันศุกร์เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งแสดงว่าดัชนีภาคการผลิตเพิ่มขึ้น และดัชนีราคาผู้บริโภคอยู่ในระดับต่ำ แต่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคแทบไม่เปลี่ยนแปลง แต่ข้อมูลดังกล่าวอาจช่วยหนุนให้ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นอีก

       กองทุน SPDR Gold trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยว่าทางกองทุนได้ถือครองทองแท่งระดับ 1,112.836 ตัน ณ วันที่ 15 มกราคม 2553 ลดลง 0.914 ตัน จากวันที่ 14 มกราคม 2553

กลยุทธ์ : ช่วงสัปดาห์นี้ทางเทคนิคในช่วงต้นสัปดาห์อาจเด้ง หรือทรงตัวก่อนแต่ไม่มากนัก ผลมาจากการปรับฐานลงแรงในคืนวันศุกร์ แต่ช่วงกลางสัปดาห์อาจจะเกิดตามด้วยการปรับฐานลงที่ระดับราคา 1120 US$



หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: brabus ที่ มกราคม 18, 2010, 10:35:26 AM
ขอบคุณค่ะพี่ทองใหม่ ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ มกราคม 18, 2010, 11:07:46 AM
ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ     ขอให้ผลบุญนี้ส่งผลให้คุณทองใหม่มีสุขภาพแข็งแรงปราศจากโรคภัยทั้งปวงนะคะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 18, 2010, 11:14:03 AM
บทวิเคราะห์ทองคำ (18-01- 53)

18 ม.ค. 2553


สรุปภาวะตลาดเมื่อวาน
    ราคาโกลด์ฟิวเจอร์สแกว่งตัวลดลงเล็กน้อย ในขณะที่ราคาทองคำสปอตปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ทองคำแท่งสมาคมฯปิดที่ 17,650/750 บาท เงินบาทเริ่มทรงตัว


ปัจจัยที่อาจส่งผลต่อเนื่องถึงวันนี้
    แผนการณ์ฟื้นฟูเศรษฐกิจ 3 ปีของกรีซได้รับคำวิพากษวิจารณ์อย่างหนักว่าอาจไม่เพียงพอที่จะช่วยให้กรีซรอดพ้นจากวิกฤติได้ ส่งผลให้นักลงทุนกลับมากังวลเรื่องประเทศกรีซอีกครั้ง เป็นการกดดันให้ราคาทองคำและค่าเงินยูโรให้ด้อยค่าลงไปอย่างรุนแรง ในขณะที่พัลลาเดียมปรับตัวเพิ่มขึ้นไปจากความต้องการลงทุนของนักลงทุนในสหรัฐฯ [Reuters, TCAF Research]
    บริษัท เจ พี มอร์แกน สถาบันการเงินระดับโลกรายงานผลประกอบการออกมาลดลงกว่าปีที่แล้วเล็กน้อย โดยถึงแม้ว่าบริษัทฯจะมีผลกำไรจากการลงทุนอย่างมาก แต่กลับมีผลขาดทุนจากเงินกู้ทั้งในส่วนของบัตรเครดิตและในส่วนของเงินกู้อสังหาริมทรัพย์ เป็นการกระตุ้นนักลงทุนกลับมากังวลเรื่อสินเชื่ออีกครั้ง ส่งผลให้นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มธนาคารออกและนักลงทุนรับความเสี่ยงได้น้อยลง [Econoday, Bloomberg, TCAF Research]
    รายงานเศรษฐกิจต่างๆของสหรัฐฯและยุโรปไม่ได้ต่างจากที่คาดการณ์มากนัก คือยังแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวอย่างช้าๆโดยที่มีอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ มีเพียงรายงานผลสำรวจผู้ผลิตในเขตการผลิตที่อยู่ในความดูแลของเฟดนิวยอร์คที่ออกมาดีขึ้นกว่าเดิมคือกลับไปอยู่ระดับใกล้เคียงกับตัวเลขเมื่อเดือนพฤศจิกายนเท่านั้น ในขณะที่รายงานผลสำรวจผู้บริโภคกลับดีขึ้นอย่างช้าๆเท่านั้น รายงานเศรษฐกิจโดยรวมจึงไม่ได้ส่งผลสุทธิต่อราคาทองคำอย่างชัดเจนมากนัก [Econoday, Forexfactory, TCAF Research]
    วันนี้เป็นวันหยุดในตลาดสหรัฐฯอาจทำให้ขาดปัจจัยผลักดันราคาในช่วงข้ามคืน


แนวโน้มทองคำวันนี้
   เรามองว่าในขณะที่ทองคำยังไม่มีข่าวดี ความกังวลเรื่องกรีซต่อเนื่องของนักลงทุนน่าจะกดดันราคาทองคำได้ในระยะสั้น เราจึงมองว่า "ราคาทองคำน่าจะเริ่ม
แกว่งตัวลง" ในขณะที่ GFG10 มีพรีเมียมอยู่ค่อนข้างสูง เราจึงแนะนำให้ "SHORT GFG10 เพื่อทำกำไรระยะสั้น ในขณะที่พรีเมียมยังอยู่ในระดับสูง"


มุมมองทองคำ
    แนวโน้มเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวน่าจะมีความสำคัญที่สุดในช่วงนี้ ในขณะที่มาตรการต่างๆของมหาอำนาจก็น่าจับตามองไม่แพ้กันเนื่องจากอาจส่งผลต่อการรับความเสี่ยงของนักลงทุนและส่งผลต่อสถานะของทองคำได้

 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 18, 2010, 11:47:37 AM
กราฟตาแป๊ะซ้ายบน มีการเปลี่ยนแปลงนิดหนี่ง มีคำว่า  ตัวหนังสือสีเขียว ? ---ขาย และ  ตัวหนังสือสีแดง?----ซื้อ  เพิ่มเข้ามา เฉพราะที่เพิ่มเข้ามานิดหน่อยนี้ ผมใช้เวลาศุกร์-เสาร์-อาทิตย์(25--27ธค.52)ทั้ง3วันค้าหาในเวปจีนถึงได้เจอ และเอามาเพิ่มผสมเข้ากับกาฟตาแป๊ะช่องซ้ายบน ยังมิทราบจะแม่นยำแค่ไหน ต้องคอยกาลเวลาบ่งบอกครับ
กราฟตาแป๊ะซ้ายบน ตัวหนังสือสีเขียว ? ---ขาย   ตัวหนังสือสีแดง?----ซื้อ  เส้นสีแดงหนา---ขาขึ้น เส้นสีเขียวหนา---ขาลงขวาบน  เส้นสีแดง---เสนอซื้มากกว่าเสนอขาย เส้นสีเขียว---เสนอขายมากกว่าเสนอซื้อ  ส่วนช่วงกลางที่มีแท่งสีแดงกับเขียวนั้น แท่งแดง---แรงซื้อขึ้น   แท่งเขียว---แรงขายลง
ขวาช่องสอง  แท่งเหลืองคู่เส้นแดง---ขาขึ้น   แท่งฟ้าคู่เส้นเขียว---ขาลง โดยปกติ ช่องนี้จะเปลี่ยนแนวโน้มช้ากว่าเพื่อน หากเปลี่ยนแนวโน้มเมื่อไหร่ เขาให้ขายออกหรือซื้อเข้าได้ทันที่ ยกเว้นมีปัจจัยพื้นฐานแรงๆแทรกเข้ามา จึงจะทำให้แนวโน้มกลับเปลี่ยนได้โดยกะทันหัน
ซ้ายช่องสอง หน้าเหลืองแป๊ะยิ้ม---ขาขึ้น หน้าแดงแป๊ะร้องไห้---ขาลง  แท่งสีเขียว---เพดาน   แท่งสีแดง---พื้นดินโดยปกติ ช่องนี้จะส่งสัญญาณว่า กำลังจะเปลี่ยนแนวทางแล้วนะ แต่ยังไม่เต็มร้อย อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยกะทันหันก็ได้ ต้องดูซ้ายบนและขวาช่อง๒ประกอบด้วย จึงจะให้ความมั่นใจได้
ทอง
(http://img40.imageshack.us/img40/8658/78928828.gif) (http://img40.imageshack.us/i/78928828.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 18, 2010, 11:48:50 AM
ดัชนีเงินเมกา
(http://img687.imageshack.us/img687/4568/84111779.gif) (http://img687.imageshack.us/i/84111779.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 18, 2010, 11:52:05 AM
น้ำมัน
(http://img34.imageshack.us/img34/9205/85115363.gif) (http://img34.imageshack.us/i/85115363.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 19, 2010, 05:47:32 AM
 วิธีดูทิศทางทอง ต้าน๓----หนุน๓เป็นทิศทางทองที่จะเคลื่อนไหวในวันนี้ หากพุ่งทะลุต้าน๓หรือดิ่งทะลวงหนุน๓ แสดงถึงวันนั้นทองเคลื่อนไหวแรงเกินปกติ เส้นแดนเป็นเส้นที่จะแบ่งแยกทิศทางของทองที่จะขึ้นหรือลง หากทองเคลื่อนไหวอยู่ในทิศทางใดมากและนาน นั่นหมายถึงโอกาสเป็นไปได้มากที่ทองจะเคลื่อนไปในทิศทางนั้นๆ ในช่วงเวลานั้น (ยังต้องแบ่งออกในช่วงเวลาตลาดเอเซีย ยุโรป เมกาด้วย) ต้าน๑และหนุน๑หากถูกทดสอบแบบมีผล(ขึ้นลงมากกว่า๑ครั้ง)แล้วยืนอยู่ได้ นั่นคือทิศทางทองที่จะเดินต่อไปในช่วงเวลานั้น หากการวิเคราะเกิดขัดแย้งกันเมื่อไหร่ ให้หยุดมองดูอย่างเดียว ไม่ควรซื้อ-ขายในช่วงเวลานั้น แนวทางนี้เหมาะกับการเล่นสั้นมาก (เล่นแบบออนไลน์ในอนาคต) มีความแม่นยำถึง80%ครับ อีกอย่างข่าวปัจจัยพื้นฐานอาจเปลี่ยนทิศทางทองได้กะทันหันนะครับ
ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์กับการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย ถัาติดดอยเมื่อทองต่ำลงมา  หากยังมีเงินเหลืออยู่ ควรซื้อเพิ่ม เพิ่มที่ละนิด ต่ำอีกซื้ออีก เพื่อดึงต้นทุนที่สูงให้ต่ำลงมา ใครที่ยังไม่มีทองในมือควรทยอยซื้อเข้าอย่ามากนัก หากทองลงอีก เราก็ซื้ออีก ดีกว่าเวลาทองขึ้นเราไปไล่ซื้อในราคาที่สูง  จดจำเป็นคติเตือนใจว่า  เรามิอาจซื้อได้ในราคาที่ต่ำสุด และขายได้ในราคาที่สูงสุด ไม่มีการลงทุนใดที่ไม่เสี่ยง การบริหารพอร์ตให้ได้จังหวะ จะลดความเสี่ยงลงได้ครับ
กราฟสำคัญ ปัจจัยพื้นฐานก็สำคัญ จิตวิทยาการโน้มเอียงของคนก็สำคัญ สิ่งเหล่านี้หากเป็นไปในแนวเดียวกัน ก็จะมุ่งไปทางนั้น หากแย้งกันก็ต้องดูฝ่ายไหนเหนือกว่า.....ด้วยเหตุนี้ไม่มีนักวิเคราะห์คนใดที่จะทำนายได้แม่นยำตลอดกาลได้ครับ
(http://img42.imageshack.us/img42/999/87201281.gif) (http://img42.imageshack.us/i/87201281.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 19, 2010, 05:50:28 AM
เส้นปากถุง(เส้นสีขาวทั้ง๓เส้น)แบบง่ายๆ ไม่ปวดเศียรเวียนเกล้า
เส้นบน---แนวต้าน
เส้นกลาง---แนวโน้ม(สำคัญสุด)
เส้นล่าง---แนวหนุน
ลักษณะที่๑---ทิศทางขึ้นเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น   เส้นกลางหันหัวขึ้น   เส้นล่างหันหัวลง
ลักษณะที่๒---ทิศทางขึ้นเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวขึ้น
เมื่อเจอลักษณะทั้ง๒นี้ ราคาระหว่างวันที่ขึ้นๆลงๆ เมื่อเจอจุดที่เห็นว่าต่ำแล้วให้ซื้อเข้าได้เลยครับ  ขอเพียงเส้นกลาง(แนวโน้ม)ยังหันหัวขึ้นอยู่ แม้ราคาเแท่งเทียนจะอยู่ต่ำกว่าเส้นกลาง ก็ยังซื้อเข้าได้ หากเส้นบนเดินขวางเมื่อไหร่ ให้ทยอยลดพอร์ตได้เลยครับ
ลักษณะที่๓---เลือกทิศทาง---เส้นบนหันหัวลง เส้นล่างหันหัวขี้น ปากถุงแคบลง ถึงช่วงนี้ ให้ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว หากใครยังคิดอยากเคลื่อนไหว ก็จงเคลื่อนไหวไปหน้าทีวี จงอย่าทำการอย่างอื่นใด หากใครเป็นจอมยุทธ์ ก็ชิงเคลื่อนไหวก่อนใครได้  
ขอแถมอีกนิด จงโฟกัสที่เส้นกลาง หากเส้นกลางเริ่มขยบหัวหัวขึ้นหรือลง ทิศทางอาจขึ้นหรือลงตามเส้นกลางแนวโน้มนั้น
ลักษณะที่๔---เคลื่อนไหวในกรอบแคบ---เส้นบน กลาง ล่าง เดินขวางทั้ง๓เส้น หากใครเล่นออนไลน์ สามารถเล่นได้เล็กน้อยอย่ามาก เมื่อราคาแท่งเทียนใกล้เส้นบน จงขาย ใกล้เส้นล่าง จงซื้อ ต้องเข้าออกให้ทันการณ์ หาไม่แล้วจากกำไรอาจขาดทุนได้นา ขอบอก
ลักษณะที่๕---ทิศทางลงเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น เส้นกลางหันหัวลง เส้ยล่างหัวหัวลง
ลักษณะที่๖---ทิศทางลงเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวลง  เมื่อเส้นล่างเดินขวางเมื่อไหร่ ผู้ที่ใจกล้าที่เล่นออนไลน์ เริ่มทยอยซื้อเข้าได้ที่ละนิด อัตราเสี่ยงยังมีอยู่บ้างนะครับ สิบอกไห่
วิธีดูเส้นปากถุงที่กล่าวมานี้ .....ไม่ใช่ตำราของฝรั่ง แบบของฝรั่งผมเคยอ่านมาบ้างแล้ว ยาวมาก ปวดหัว ทำความเข้าใจได้ยากมากๆๆๆๆ ...........เหมาะเฉพาะกราฟราย๔ชม.และช่วงปกติเท่านั้นนะครับ  (บางครั้งตลาดจงใจคึงขึ้นลงอย่าแรงๆ แทบหัวใจวายสำหรับผู้มีทองในมือและผิดทิศทางของตัวเอง เรียกว่า ช่วงไม่ปกติครับ)

(http://img251.imageshack.us/img251/1418/15616793.gif) (http://img251.imageshack.us/i/15616793.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 19, 2010, 05:52:20 AM
กราฟGold 1
ช่อง1 เส้นแดงอยู่เหนือเส้นเขียว---ทิศทางขึ้น  ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น  สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นเขียวอยู่เหนือเส้นแดง---ทิศทางลง     ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นแดงและเขียวประสานเป็นกากะบาด ---กำลังจะเปลี่ยนทิศ ให้ดูเส้นแนวโน้มประกอบ  หากเส้นแดงและเขียวกำลังจะประสาน แต่ไม่ทันได้ประสานก็หันหันหัวกลับขึ้นหรือลง  แสดงว่ากำลังมีเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนี่งเกิดขึ้น หากขึ้นทะลุเส้นปะแนวต้าน ให้ดูเส้นปะแนวต้านเส้นต่อไป หากลงทะลุเส้นปะแนวหนุน ให้ดูเส้นแนวหนุนเส้นต่อไป   ส่วนจุดกลมเหลืองทอง---ทิศทางลง  จุดกลมฟ้า---ทิศทางขึ้น  หากกราฟวิ่งในยามปกติ พอเชื่อถือได้ หากกราฟวิ่งขึ้นลงแรงๆ คือยามไม่ปกติ ไม่อาจเชือถือได้
ช่อง2  ให้ดูเส้นสีม่วง ประกอบกับเส้นแนวโน้มในช่อง1 หากหันหัวไปในทิศทางเดียวกัน  โอกาสที่จะผิดพลาดก็มีน้อย  ส่วนเส้นปะสีเหลืองทองและฟ้า  หากขึ้นเหนือเลข80 เข้าสู่เขตซื้อเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ทุกเมื่อ  หากลงต่ำกว่าเลข20 เข้าสู่เขตขายเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ตลอดเวลา
ช่อง3   ให้ดูทั้ง2เส้น คือเหลืองทองและฟ้า หันหัวไปทิศทางเดียวกันหรือไม่  เท่านั้นยังไม่พอ  ให้ดูประกอบทิศทางในช่อง1ว่าเป็นทิศทางเดียวกันหรือไม่  หากทิศทางหันหัวในแนวเดียวกัน  ทิศทางนั้นเชื่อถือได้

(http://img696.imageshack.us/img696/2176/77419919.gif) (http://img696.imageshack.us/i/77419919.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 19, 2010, 05:52:30 AM
กราฟGold 1
ช่อง1 เส้นแดงอยู่เหนือเส้นเขียว---ทิศทางขึ้น  ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น  สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นเขียวอยู่เหนือเส้นแดง---ทิศทางลง     ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นแดงและเขียวประสานเป็นกากะบาด ---กำลังจะเปลี่ยนทิศ ให้ดูเส้นแนวโน้มประกอบ  หากเส้นแดงและเขียวกำลังจะประสาน แต่ไม่ทันได้ประสานก็หันหันหัวกลับขึ้นหรือลง  แสดงว่ากำลังมีเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนี่งเกิดขึ้น หากขึ้นทะลุเส้นปะแนวต้าน ให้ดูเส้นปะแนวต้านเส้นต่อไป หากลงทะลุเส้นปะแนวหนุน ให้ดูเส้นแนวหนุนเส้นต่อไป   ส่วนจุดกลมเหลืองทอง---ทิศทางลง  จุดกลมฟ้า---ทิศทางขึ้น  หากกราฟวิ่งในยามปกติ พอเชื่อถือได้ หากกราฟวิ่งขึ้นลงแรงๆ คือยามไม่ปกติ ไม่อาจเชือถือได้
ช่อง2  ให้ดูเส้นสีม่วง ประกอบกับเส้นแนวโน้มในช่อง1 หากหันหัวไปในทิศทางเดียวกัน  โอกาสที่จะผิดพลาดก็มีน้อย  ส่วนเส้นปะสีเหลืองทองและฟ้า  หากขึ้นเหนือเลข80 เข้าสู่เขตซื้อเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ทุกเมื่อ  หากลงต่ำกว่าเลข20 เข้าสู่เขตขายเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ตลอดเวลา
ช่อง3   ให้ดูทั้ง2เส้น คือเหลืองทองและฟ้า หันหัวไปทิศทางเดียวกันหรือไม่  เท่านั้นยังไม่พอ  ให้ดูประกอบทิศทางในช่อง1ว่าเป็นทิศทางเดียวกันหรือไม่  หากทิศทางหันหัวในแนวเดียวกัน  ทิศทางนั้นเชื่อถือได้

(http://img696.imageshack.us/img696/2176/77419919.gif) (http://img696.imageshack.us/i/77419919.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: numcha ที่ มกราคม 19, 2010, 08:42:22 AM
ขอบคุณคะ
ขอให้อ.ทองใหม่ร่ำรวย  สุขภาพแข็งแรงคะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ มกราคม 19, 2010, 09:45:08 AM
ขอบคุณค่ะคุณทองใหม่.....ช่วงนี้อากาศเย็นรักษาสุขภาพด้วยระวังเป็นหวัดนะคะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 19, 2010, 10:06:41 AM
แนวโน้ม Yen Carry Trade จ่อกลับมาเฟื่องอีกครั้ง

Posted on Tuesday, January 19, 2010
แนวโน้ม Yen Carry Trade จ่อกลับมาเฟื่องอีกครั้ง

ความเคลื่อนไหวของเงินทุนเคลื่อนย้ายกำลังเป็นที่จับตา ยิ่งเมื่อผลสำรวจความเห็นของนักกลยุทธ์ค่าเงินที่จัดทำโดยสำนักข่าว Bloomberg พบว่า ความผันผวนของเงินสกุลหลักๆ ปรับตัวลงในไตรมาสล่าสุด และเป็นอัตราการลดลงที่มากที่สุดในรอบกว่า 2 ปี หลังจากที่เคยกระโดดขึ้นไปถึงเกือบ 50% ในช่วงที่เกิดการล้มละลายของสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ อย่าง Lehman Brothers

และจากสภาวการณ์ที่หลายคนกำลังคิดว่า ค่าความผันผวน ที่วัดจากตัวเลขสถิติที่เรียกว่า ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) นี้ เริ่มที่จะลดลง ก็มีแนวโน้มว่าจะยั่วยวนให้บรรดานักลงทุนทำการขายสกุลเงินของประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อนำเงินไปซื้อสกุลเงินที่จ่ายอัตราผลตอบแทนที่สูงกว่าแทน

รูปแบบนี้ ก็อาจจะทำให้ค่าเงินเยน รวมไปถึงฟรังก์สวิส ปรับตัวอ่อนค่าลง ขณะที่ไปเพิ่มแรงกระตุ้นให้เงินดอลลาร์เร่งแข็งค่าขึ้น

และถ้าดูที่เฉพาะค่าเงินของญี่ปุ่นในตอนนี้จะพบว่า มีแรงกดดันภายในประเทศเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ซึ่งอาจจะแย่ลงไปอีกเมื่อนายกรัฐมนตรี Yukio Hatoyama กำลังต่อสู้กับปัญหาเงินฝืดที่กำลังรุมเร้าเศรษฐกิจ รวมถึงแนวโน้มการกลับสู่สภาวะถดถอยแบบจริงจังอีกรอบ

นักกลยุทธ์ของ Westpac Banking Corp. ในนิวยอร์ก มองว่า การที่ความผันผวนในตลาดเงินกำลังลดลง และเกิดขึ้นในเวลาเดียวกับที่เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น นั่นก็หมายความว่า นักลงทุนกำลังคิดถึงทางเลือกอื่นๆ นอกเหนือจากเงินดอลลาร์ เพื่อใช้เป็นช่องทางการระดมทุน ซึ่งแน่นอนว่าเงินเยนก็เป็นหนึ่งในทางเลือกนั้น

เหตุผลอีกข้อที่ยิ่งทำให้เชื่อว่า Yen carry trade จะกลับมาได้รับความนิยมอีกรอบ ก็เป็นเพราะภาครัฐของญี่ปุ่นที่กำลังพูดถึงนโยบายอัดฉีดทางการเงินครั้งใหม่ พร้อมกับการแย้มถึงนโยบายการคลังแบบขยายตัวอย่างมาก และยังไม่รวมถึงการปรับตัวสูงขึ้นมามากแล้วสำหรับค่าเงินเยนเมื่อปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี มีข้อมูลที่อาจโชว์ถึงการออกสตาร์ทในแบบที่ไม่ดีนัก เมื่อธุรกรรม carry trade ที่ใช้เงินดอลลาร์เป็นเป้าหมาย ได้ประสบกับการขาดทุนไปเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา หลังจากค่าเงินของสหรัฐฯ ดีดตัวกลับขึ้นมากว่า 4% เมื่อเทียบกับเงินยูโร ตามตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่นี้ ไม่ว่าจะเป็นตัวชี้วัดถึงความเชื่อมั่นในประเทศ และการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับดอกเบี้ยขึ้นในเดือนมิถุนายน


ราคาน้ำมันบวกครั้งแรกในรอบกว่าสัปดาห์ หลังแนวโน้มดีมานด์ฟื้น

ขณะที่ตลาดหุ้นอเมริกาได้หยุดพัก 1 วัน เนื่องในวัน Martin Luther King ราคาน้ำมันก็บวกได้เป็นครั้งแรกในรอบกว่าสัปดาห์ ท่ามกลางการคาดการณ์จากหลายฝ่ายว่าเศรษฐกิจโลก รวมถึงความต้องการนำเข้าน้ำมันจากจีนกำลังอยู่ในทิศทางขาขึ้น ซึ่งมีส่วนช่วยให้ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวบวกได้ นอกเหนือจากแรงซื้อของหุ้นในกลุ่มวัตถุดิบอุตสาหกรรมอื่นๆ

ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กถีบตัวขึ้นเกือบถึง 1% เมื่อคืนที่ผ่านมา หลัง China Oil, Gas & Petrochemicals ประเมินว่า การนำเข้าน้ำมันจากจีนอาจเพิ่ม 15% ในปีนี้ ด้วยเหตุผลการเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการสร้างระดับน้ำมันสำรองรอบใหม่ของประเทศเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่จากเอเชียแห่งนี้

ขณะเดียวกัน นักลงทุนก็เก็งกันว่าเงินกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลต่างๆ อาจจะไม่ได้เหือดหายไปเร็วนัก โดยเฉพาะเมื่อผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ออกมาตอกย้ำความเห็นของหลายๆ คนว่า การถอนมาตรการอัดฉีดเงินทั้งหลายออกจากระบบเร็วจนเกินไป อาจกระเทือนต่อภาวะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

อย่างไรก็ดี ประเด็นในเรื่องความเสี่ยงที่ยังแวดล้อมตลาดการเงินก็ทำให้หลายฝ่ายมีความระมัดระวังมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของประเทศกรีซ ที่ล่าสุดรัฐมนตรีกระทรวงการคลังจากหลายประเทศในยุโรปก็ได้ออกมาแสดงความเห็นในจุดยืนเดิม ที่ต้องการให้กรีซเร่งจัดการกับปัญหาการขาดดุลงบประมาณโดยเร็ว ก่อนที่จะมีผลแพร่กระจายไปทั่วทั้งภูมิภาค แม้ว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กรีซเองจะประกาศแผนลดการขาดดุลงบประมาณลง ซึ่งรวมถึงความพยายามในการลดตัวเลขที่ติดลบนี้ให้ได้ราว 10,000 ล้านยูโรในปีนี้ด้วย

ผลจากความเห็นของรัฐมนตรีคลังในยุโรป รวมถึงแนวโน้มการหั่นอันดับเครดิตประเทศจากบรรดา Credit rating agencies ทั้งหลายก็ทำให้ตลาดหุ้นของกรีซปรับตัวลงกว่า 2 % นำโดย แรงขายในหุ้นกลุ่มธนาคารและเทเลคอม


UN วอนเฮติอดทนรอความช่วยเหลือจากนานาชาติ

บัน กี-มุน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (UN) ออกมาวิงวอนให้ชาวเฮติที่ประสบภัยแผ่นดินไหวรอความช่วยเหลือจากนานาชาติอย่างอดทน

นายบันได้เดินทางไปยังพื้นที่ตั้งอาคารสำนักงานของ UN ซึ่งพังถล่มลงมาจนทำให้เจ้าหน้าที่หลายคนเสียชีวิต พร้อมกล่าวว่า "เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นวิกฤตด้านมนุษยธรรมครั้งย่ำแย่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ"

นอกจากนั้นเขายังเดินทางไปยังที่พักชั่วคราวของผู้รอดชีวิตซึ่งอยู่ตรงข้ามกับทำเนียบรัฐบาลซึ่งถูกทำลายเช่นกัน โดยผู้รอดชีวิตต่างส่งเสียงตะโกนขออาหารและความช่วยเหลือ ซึ่งนายบันเข้าใจดีถึงความสิ้นหวังและความไม่พอใจของผู้รอดชีวิต และได้ขอร้องให้ทั้งหมดอดทนรอความช่วยเหลือที่กำลังจะมาถึง พร้อมกล่าวว่าไม่ต้องการเห็นความรุนแรงเกิดขึ้น

นับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวเมื่อวันอังคารที่แล้ว ในที่สุดน้ำและอาหารก็เริ่มเข้าไปถึงพื้นที่บางส่วนของกรุงปอร์โตแปรงซ์ เมืองหลวงของเฮติ อย่างไรก็ตาม ผู้รอดชีวิตจำนวนมากยังคงต้องดิ้นรนช่วยเหลือตัวเอง โดยหลายคนพยายามออกจากเมือง และที่น่าเป็นห่วงคือมีรายงานเรื่องการปล้นและการใช้ความรุนแรงด้วย

รัฐบาลเฮติประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเวลา 30 วัน เนื่องจากสถานการณ์ความมั่นคงภายในประเทศตกอยู่ในภาวะเปราะบาง

นายบันกล่าวว่า การจัดหาอาหารต่อวันให้ผู้รอดชีวิตจำนวน 2 ล้านคนตามที่ยูเอ็นให้คำมั่นไว้เป็นเรื่องที่ท้าทายมาก อย่างไรก็ตาม นายบันยืนยันว่าจะให้ความช่วยเหลือทุกคนโดยเร็วที่สุดทั้งนี้ UN กำลังพยายามระดมทุน 562 ล้านดอลลาร์เพื่อให้ความช่วยเหลือเหยื่อ 3 ล้านคนในช่วงระยะเวลา 6 เดือนต่อจากนี้ไป

ในส่วนของรัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศจะเพิ่มเงินช่วยเหลือฉุกเฉินแก่เฮติที่ประสบภัยแผ่นดินไหวเป็น 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากเดิมที่สัญญาไว้ว่าจะให้ 1 ล้านดอลลาร์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เนื่องจากพิจารณาเห็นว่าขอบเขตความเสียหาย ตลอดจนความต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบูรณะฟื้นฟูประเทศนั้น มากกว่าที่ประเมินไว้ในตอนแรก

ขณะที่รัฐบาลอังกฤษตัดสินใจเพิ่มเงินช่วยเหลือเหยื่อแผ่นดินไหวในเฮติเป็น 20 ล้านปอนด์ (32 ล้านดอลลาร์) จากเดิมที่ตั้งใจว่าจะให้ 6.2 ล้านปอนด์ (10 ล้านดอลลาร์)

ส่วนรัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมส่งเจ้าหน้าที่การแพทย์ของกองกำลังป้องกันตนเองอีกประมาณ 70-80 คนไปยังเฮติ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงจนทำให้เกิดความเสียหายในวงกว้าง ก่อนหน้านี้ ญี่ปุ่นได้ส่งเจ้าหน้าที่การแพทย์ไปยังเฮติแล้ว 25 คน


ไต้หวันตั้งเป้าลงนามข้อตกลงด้านเศรษฐกิจกับจีนในปีนี้

หม่า อิง-จิว ประธานาธิบดีไต้หวันกล่าวแสดงความหวังว่าจะสามารถลงนามข้อตกลงกรอบความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ (ECFA) กับจีนแผ่นดินใหญ่ เพื่อช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจภายในไต้หวันในปีนี้

สำนักข่าวซินหัวรายงานอ้างคำกล่าวของผู้นำไต้หวันที่มีขึ้นในการประชุม Commonwealth Economic Forum ซึ่งจัดโดยนิตยสารด้านเศรษฐกิจในกรุงไทเปว่า ปริมาณการค้าระหว่างจีนและไต้หวันอยู่ที่ระดับ 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี แต่ปัจจุบันกลับยังไม่มีการกำหนดกลไกที่จะใช้เพื่อจัดระเบียบการค้าการลงทุนขนาดใหญ่ ดังนั้นเขาจึงหวังว่าไต้หวันและจีนน่าจะสามารถลงนามข้อตกลง ECFA ได้ภายในปีนี้

ทั้งนี้ ข้อตกลง ECFA มีเป้าหมายเพื่อจัดระเบียบความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างจีนและไต้หวันอย่างเป็นระบบ และเป็นการกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของทั้งสองดินแดนให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ หม่ากล่าวว่า ไต้หวันจะเริ่มดำเนินการฟื้นฟูเศรษฐกิจในปีนี้หลังจากที่เผชิญกับภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจโลก โดยจะมุ่งเน้นกระตุ้นการจ้างงาน การพัฒนานวัตกรรม การผลักดันเศรษฐกิจสีเขียวที่เปิดกว้างให้ประชาชนมีส่วนร่วม และการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบบูรณาการภายในภูมิภาค

ทั้งนี้ การประชุม Commonwealth Economic Forum จัดขึ้นเป็นเวลา 2 วันที่กรุงไทเป ซึ่งมีตัวแทนจากจีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และอังกฤษ เข้าร่วมประชุมกว่า 500 คน


JAL ยื่นพิทักษ์ทรัพย์จากการล้มละลายวันนี้

สายการบินเจแปน แอร์ไลน์ส (JAL) เตรียมยื่นเอกสารพิทักษ์ทรัพย์ล้มละลายในวันพรุ่งนี้ หลังจากที่ได้เปิดเผยแผนฟื้นฟูกิจการเพื่อแก้ปัญหาหนี้สินที่มีอยู่กว่าล้านล้านเยน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การยื่นล้มละลายของ JAL ในครั้งนี้จะมีผลทันทีตามแผนการปรับโครงสร้างองค์กรตามที่ทาง Enterprise Turnaround Initiative Corp. of Japan (ETIC) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รัฐบาลมอบหมายให้ดูแลแผนฟื้นฟูกิจการของ JAL ได้กำหนดไว้ ไม่ว่าจะเป็นการเรียกร้องให้มีการปรับลดพนักงาน 15,600 ตำแหน่ง หรือการลดจำนวนเที่ยวบินทั้งในและต่างประเทศ

ด้านรัฐบาลญี่ปุ่นเองก็ออกมารับประกันว่าจะให้ความช่วยเหลือด้านการฟื้นฟูกิจการและประคับประคองให้สายการบินสามารถให้บริการผู้โดยสารได้ต่อไป โดยเฉพาะรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมที่ยืนยันว่าตนยังต้องการให้ JAL ให้บริการผู้โดยสารได้ตามปกติในระหว่างที่ดำเนินการปรับโครงสร้างองค์กร

ขณะเดียวกัน มีรายงานข่าวว่า เจแปน แอร์ไลน์ส จะตัดสินใจภายในเดือนนี้ว่าจะหันไปผูกสัมพันธ์กับเดลต้า แอร์ ไลน์ อิงค์ บริษัทสายการบินรายใหญ่สุดของสหรัฐ และจะถอนตัวจากกลุ่มพันธมิตรสายการบินระดับโลก วันเวิลด์ เพื่อเปลี่ยนไปเข้าร่วมกับ สกายทีม ซึ่งมีเดลต้าเป็นแกนนำในเดือนเม.ย.2554

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ JAL จะยื่นพิทักษ์ทรัพย์ล้มละลายนั้น ทางสายการบินได้เผชิญกับภาวะวิกฤตในช่วงที่จำนวนผู้โดยสารที่ชะลอตัวท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกตกต่ำ ความหวั่นวิตกต่อการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 รวมถึงการแข่งขันจากสายการบินร่วมชาติอย่าง ออล นิปปอน แอร์เวย์ส (ANA) จนกระทั่งประสบภาวะขาดทุน 1.31 แสนล้านเยนในช่วง 6 เดือนที่สิ้นสุด ณ เดือนก.ย.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ JAL คือตัวอย่างของสายการบินที่เผชิญกับภาวะสูงสุดคืนสู่สามัญ หลังจากที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นสายการบินแห่งความภาคภูมิใจของญี่ปุ่นซึ่งดำเนินการภายใต้การดูแลของรัฐบาลในช่วงขวบปีแรกๆที่มีการก่อตั้งบริษัทขึ้นในปี 2494 ก่อนที่จะขยายตัวได้อย่างรวดเร็วหลังในช่วง 10 ปีหลังผ่านพ้นสงครามโลกครั้งที่ 2 จนกลายเป็นสายการบินเอกชนในปี 2530


เกาหลีเหนือปฏิเสธกลับเข้าร่วมประชุม 6 ฝ่าย

สำนักข่าวกลางเกาหลี (KCNA) ของทางการเกาหลีเหนือ รายงานแถลงการณ์ของโฆษกกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือที่ระบุว่า เกาหลีเหนือจะไม่กลับเข้าร่วมการประชุม 6 ฝ่ายว่าด้วยโครงการนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี ร่วมกับเกาหลีใต้ จีน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และรัสเซีย หากนานาประเทศไม่ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อเกาหลีเหนือ

นอกจากนี้ เกาหลีเหนือยังได้ตั้งเงื่อนไขในการกลับคืนสู่โต๊ะเจรจาด้วยว่า การเจรจาจะไม่สามารถสำเร็จได้ ถ้าไม่มีการหารือเรื่องสนธิสัญญาสันติภาพ เพื่อเป็นการยุติสงครามเกาหลีอย่างเป็นทางการ

"ถ้าการเจรจา 6 ฝ่ายเกิดขึ้นอีกครั้ง เป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องหาวิธีใดก็ตามในการขจัดปัจจัยที่จะทำลายการประชุมลงอีก" โฆษกฯกล่าว พร้อมกับเสริมว่า เป็นเรื่องไร้เหตุผลและหมิ่นเกียรติของเกาหลีเหนือที่ต้องนั่งโต๊ะเจรจากับประเทศซึ่งละเมิดอธิปไตยของเกาหลีเหนือด้วยการใช้มาตรการคว่ำบาตร

อย่างไรก็ตาม เกาหลีใต้ชี้การเจรจากับเกาหลีเหนือเรื่องนิคมอุตสาหกรรมแคซองยังเดินหน้าต่อไป ซึ่งการเปิดโต๊ะ เจรจาจะเริ่มในวันนี้ และสิ้นสุดในวันพรุ่งนี้ หลังจากที่เกาหลีเหนือได้อนุมัติให้ผู้แทนของเกาหลีใต้เดินทางเยือนเมืองแคซอง ซึ่งจะใช้เป็นพื้นที่ในการจัดการเจรจาระหว่าง 2 ประเทศด้วย

ก่อนหน้านี้ เกาหลีเหนือได้ออกมาเตือนเกาหลีใต้ว่าจะถูกกันออกมาจากการหารือเพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์และเสถียรภาพในคาบสมุทร เพื่อตอบโต้กับรายงานข่าวที่ว่าเกาหลีใต้วางแผนที่จะเข้าดำเนินการในพื้นที่บริเวณชายแดนหากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้จะหารือเรื่องผลของการสำรวจร่วมกัน หลังจากที่ผู้แทนของ 2 ประเทศได้เดินทางเยือนนิคมอุตสาหกรรมของจีนและเวียดนามเมื่อวันที่ 12-22 ธ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อหาลู่ทางในการปรับปรุงการบริหารงานที่นิคมอุตสาหกรรมแคซอง

นิคมอุตสาหกรรมแคซองมีบริษัทสัญชาติเกาหลีใต้ดำเนินงานอยู่ประมาณ 110 แห่ง พร้อมด้วยพนักงานชาวเกาหลีเหนือประมาณ 42,000 คน ส่วนใหญ่สินค้าที่ผลิตในนิคมจะเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิก เสื้อผ้า และเครื่องครัว


เม็ดเงินเก็งกำไรในจีน พุ่งสูงสุดในรอบ 8 เดือน

เม็ดเงินเก็งกำไรในจีนประจำเดือนธ.ค.พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือนที่ระดับ 4.87 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

ขณะที่ทุนสำรองเงินต่างประเทศของจีนในเดือนที่แล้วขยายตัวขึ้น 1.0 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นตัวเลขการเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2551 หลังจากที่ทุนสำรองเงินต่างประเทศของจีนในช่วงสิ้นปีที่ผ่านมาขยายตัวที่ระดับ 2.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

เจ้าหน้าที่จากสำนักงานด้านการปริวรรตเงินตราของจีนกล่าวว่า ราคาสินทรัพย์ที่ปรับตัวสูงขึ้นประกอบกับกระแสดาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางจีนจะยุติการใช้นโยบายผูกติดเงินหยวนกับเงินดอลลาร์นั้นได้กระตุ้นให้เทรดเดอร์หลั่งไหลเข้าลงทุนในประเทศจีนมากขึ้น ซึ่งรัฐบาลจะดำเนินการควบคุมกระแสเงินทุนไหลเข้าอย่างเหมาะสมและจะเดินหน้ากวาดล้างการถ่ายโอนเงินทุนที่ผิดกฎหมายจากต่างประเทศ

คณะกรรมาธิการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีนเผยว่า ราคาที่อยู่อาศัยและอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ใน 70 เมืองทั่วประเทศจีนไต่ระดับขึ้น 7.8% ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 18 เดือน


คะแนนนิยมนายกฯญี่ปุ่นร่วงหนัก

คะแนนนิยมนายกรัฐมนตรียูกิโอะ ฮาโตยามะ ผู้นำหัวกลางซ้ายของญี่ปุ่นลดลงเหลือแค่ระดับร้อยละ 40 ท่ามกลางข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับผู้นำเบอร์สองของพรรครัฐบาล ที่กำลังถูกกล่าวหาว่ารับสินบนจากบริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่ง

สื่อญี่ปุ่นรายงานว่า ขณะนี้อัยการกำลังตรวจสอบว่า มีการติดสินบนจากบริษัทก่อสร้างเขื่อนในเขตฐานเสียงของอิชิโร โอซาวะ เลขาธิการพรรคเดโมเครติก ปาร์ตี้ ออฟเจแปน(DPJ) หรือไม่ รวมถึงมีการฟอกเงินผ่านองค์กรระดมมทุนทางการเมืองของเขาเพื่อช่วยให้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ในเขตตลาดบนหรือไม่ ขณะที่ผลสำรวจยังพบว่า คะแนนิยมของฮาโตยามะ ลดลง 11 จุด เหลือเพียง 45%

โพลสำรวจความเห็นชาวญี่ปุ่นออกมาในขณะที่ญี่ป่นกำลังเริ่มการประชุมสภาระยะเวลา 150 วัน ซึ่งคาดว่าพรรคฝ่ายค้านหัวอนุรักษ์นิยมจะโจมตีรัฐบาลอายุ 4 เดือนนี้ ด้วยการพุ่งเป้าโจมตีรัฐบาลด้วยข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับโอซาวะ รวมถึงการโจมตีตัวนายกรัฐมนตรีฮาโตยามะเอง ที่กำลังถูกกล่าวหาว่า รับเงินลับๆ จากมารดามาใช้เคลื่อนไหวในกิจกรรมด้านการเมืองเช่นกัน


ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่ประกาศออกมาเมื่อวานนี้ (จันทร์ที่ 18 ม.ค. 2553)
? ไม่มีการประกาศตัวเลขที่สำคัญทางเศรษฐกิจและตลาดหยุดทำการเนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่จะประกาศออกมาวันนี้ (อังคารที่ 19 ม.ค. 2553)
? ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย (ม.ค.) โดย สมาคมผู้รับสร้างบ้านแห่งชาติสหรัฐฯ

ติดตาม Money Wake up ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ออกอากาศซ้ำเวลา 11.00 น. ทาง Money Channel
 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 19, 2010, 10:09:21 AM
ราคาน้ำมันดิบกระดานอิเล็กทรอนิกส์ปิดบวกเล็กน้อย หลังตลาดคาดจีนนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่ม

Posted on Tuesday, January 19, 2010
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) กระดานอิเลคโทรนิกส์ ส่งมอบเดือน ก.พ. ปรับเพิ่มขึ้น 0.25 ดอลลาร์สหรัฐปิดที่ 78.25 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบาง เนื่องจากตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการในวันหยุด มาติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์

ปัจจัยบวกที่มีผลต่อราคาน้ำมัน


- ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดเพิ่มขึ้น หลังจากลดลงติดต่อกัน 5 วัน จากการคาดการณ์ที่ว่าจีนจะยังคงนำเข้าน้ำมันดิบในปีนี้เพิ่มขึ้นถึง 15% จากปีก่อน หลังทำสถิตินำเข้าสูงสุดในเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อเพิ่มสำรอง และรองรับการขยายโรงกลั่นและโรงปิโตรเคมีในประเทศ  โดยสัปดาห์นี้จีนจะประกาศตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/52 และตัวเลขยอดค้าปลีกและการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนธ.ค. ซึ่งตลาดคาดว่าจะออกมาดีมาก โดยจีดีพีไตรมาส 4/52 น่าจะเติบโตเกิน 10% จากปีก่อน

- รัฐมนตรีน้ำมันของการ์ต้ากล่าวว่าโอเปกน่าจะยังคงโควต้ากำลังการผลิตไว้ที่เดิมในการประชุมครั้งหน้าเดือนมี.ค. เนื่องจากปริมาณน้ำมันมีเพียงพอกับความต้องการ

ปัจจัยลบที่มีผลต่อราคาน้ำมัน

- ตลาดยังคงกังวลกับความต้องการน้ำมันของโลกที่อาจเพิ่มขึ้นไม่มากนัก เนื่องจากความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ  โดยผู้บริหารของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) แสดงความกังวลว่าหากรัฐบาลลดการกระตุ้นเศรษฐกิจลง จะส่งผลต่อความต้องการน้ำมัน  นอกจากนี้สภาพอากาศที่เริ่มอุ่นขึ้น จะทำให้ความต้องการน้ำมันทำความร้อนลดลง

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ตลาดลอนดอน ส่งมอบเดือน มี.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 0.16 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่  77.27 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบดูไบ  ตลาดสิงคโปร์ ปรับลดลง 1.12 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่ 76.34 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

-สนับสนุนข้อมูลโดย บมจ. ไทยออยล์-
 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: oyo ที่ มกราคม 19, 2010, 10:41:30 AM
คุณทองใหม่ครับ งั้นเยนจะแข็งค่าขื้นเมื่อเทียบกับเงินบาท ผมเข้าใจถูกมั้ยครับ :)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 19, 2010, 11:19:53 AM
คุณทองใหม่ครับ งั้นเยนจะแข็งค่าขื้นเมื่อเทียบกับเงินบาท ผมเข้าใจถูกมั้ยครับ :)
ผมไม่ทราบครับ เพราะไม่เคยศึกษาเงินเยนเลยครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 19, 2010, 11:21:55 AM
(http://img39.imageshack.us/img39/1092/09111011553eb09d7164524.gif) (http://img39.imageshack.us/i/09111011553eb09d7164524.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 19, 2010, 11:24:41 AM
19 ม.ค. 2553


 ตลาดทองเอเชีย:ราคาทองดีดตัวใกล้ 1,140 ดอลล์เช้านี้
     

        ราคาทองปรับตัวขึ้นในเช้าวันนี้ แต่ช่วงขาขึ้นถูกจำกัดเนื่องจากขาดปัจจัย
ชี้นำจากตลาดปริวรรตเงินตรา
        ณ เวลา 09.05 น.ตามเวลาไทย ราคาทองสปอตมีการซื้อขายที่ระดับ
1,138.35 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อเทียบกับระดับปิดในตลาดสปอตลอนดอนเมื่อวานนี้
ที่ระดับ 1,132.50 ดอลลาร์
        สัญญาทองล่วงหน้าส่งมอบเดือนก.พ.ที่ตลาด COMEX อยู่ที่ 1,137.00
ดอลลาร์/ออนซ์ บวกขึ้น 0.6 % จากระดับปิดเมื่อวันศุกร์ที่ 1,130.50 ดอลลาร์
        ตลาดพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์นิวยอร์คปิดทำการเมื่อวานนี้ เนื่องใน
วันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์
        กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก
เปิดเผยว่าทางกองทุนได้ถือครองทองคำที่ระดับ 1,112.836 ตัน ณ วันที่ 18 ม.ค.
ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากวันที่ 15 ม.ค.

แหล่งที่มา : รอยเตอร์


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มกราคม 19, 2010, 11:41:42 AM
 :)
Good morning + Good afternoon Kha :D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 19, 2010, 11:44:28 AM
กราฟตาแป๊ะ
http://www.thaigold.info/forum/index.php?topic=4852.510 (http://www.thaigold.info/forum/index.php?topic=4852.510)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: brabus ที่ มกราคม 19, 2010, 02:06:51 PM
 :) ;) :D ;D ขอบคุณค่ะพี่ทองใหม่ Smiley/Angry.gif (3017 ไบต์)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Yai Carmungwed ที่ มกราคม 19, 2010, 04:21:14 PM
 :)ขอบคุณครับอาจารย์ทองใหม่  :)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 20, 2010, 06:23:57 AM
วิธีดูทิศทางทอง ต้าน๓----หนุน๓เป็นทิศทางทองที่จะเคลื่อนไหวในวันนี้ หากพุ่งทะลุต้าน๓หรือดิ่งทะลวงหนุน๓ แสดงถึงวันนั้นทองเคลื่อนไหวแรงเกินปกติ เส้นแดนเป็นเส้นที่จะแบ่งแยกทิศทางของทองที่จะขึ้นหรือลง หากทองเคลื่อนไหวอยู่ในทิศทางใดมากและนาน นั่นหมายถึงโอกาสเป็นไปได้มากที่ทองจะเคลื่อนไปในทิศทางนั้นๆ ในช่วงเวลานั้น (ยังต้องแบ่งออกในช่วงเวลาตลาดเอเซีย ยุโรป เมกาด้วย) ต้าน๑และหนุน๑หากถูกทดสอบแบบมีผล(ขึ้นลงมากกว่า๑ครั้ง)แล้วยืนอยู่ได้ นั่นคือทิศทางทองที่จะเดินต่อไปในช่วงเวลานั้น หากการวิเคราะเกิดขัดแย้งกันเมื่อไหร่ ให้หยุดมองดูอย่างเดียว ไม่ควรซื้อ-ขายในช่วงเวลานั้น แนวทางนี้เหมาะกับการเล่นสั้นมาก (เล่นแบบออนไลน์ในอนาคต) มีความแม่นยำถึง80%ครับ อีกอย่างข่าวปัจจัยพื้นฐานอาจเปลี่ยนทิศทางทองได้กะทันหันนะครับ
ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์กับการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย ถัาติดดอยเมื่อทองต่ำลงมา  หากยังมีเงินเหลืออยู่ ควรซื้อเพิ่ม เพิ่มที่ละนิด ต่ำอีกซื้ออีก เพื่อดึงต้นทุนที่สูงให้ต่ำลงมา ใครที่ยังไม่มีทองในมือควรทยอยซื้อเข้าอย่ามากนัก หากทองลงอีก เราก็ซื้ออีก ดีกว่าเวลาทองขึ้นเราไปไล่ซื้อในราคาที่สูง  จดจำเป็นคติเตือนใจว่า  เรามิอาจซื้อได้ในราคาที่ต่ำสุด และขายได้ในราคาที่สูงสุด ไม่มีการลงทุนใดที่ไม่เสี่ยง การบริหารพอร์ตให้ได้จังหวะ จะลดความเสี่ยงลงได้ครับ
กราฟสำคัญ ปัจจัยพื้นฐานก็สำคัญ จิตวิทยาการโน้มเอียงของคนก็สำคัญ สิ่งเหล่านี้หากเป็นไปในแนวเดียวกัน ก็จะมุ่งไปทางนั้น หากแย้งกันก็ต้องดูฝ่ายไหนเหนือกว่า.....ด้วยเหตุนี้ไม่มีนักวิเคราะห์คนใดที่จะทำนายได้แม่นยำตลอดกาลได้ครับ
(http://img149.imageshack.us/img149/6436/47072529.gif) (http://img149.imageshack.us/i/47072529.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 20, 2010, 06:25:29 AM
เส้นปากถุง(เส้นสีขาวทั้ง๓เส้น)แบบง่ายๆ ไม่ปวดเศียรเวียนเกล้า
เส้นบน---แนวต้าน
เส้นกลาง---แนวโน้ม(สำคัญสุด)
เส้นล่าง---แนวหนุน
ลักษณะที่๑---ทิศทางขึ้นเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น   เส้นกลางหันหัวขึ้น   เส้นล่างหันหัวลง
ลักษณะที่๒---ทิศทางขึ้นเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวขึ้น
เมื่อเจอลักษณะทั้ง๒นี้ ราคาระหว่างวันที่ขึ้นๆลงๆ เมื่อเจอจุดที่เห็นว่าต่ำแล้วให้ซื้อเข้าได้เลยครับ  ขอเพียงเส้นกลาง(แนวโน้ม)ยังหันหัวขึ้นอยู่ แม้ราคาเแท่งเทียนจะอยู่ต่ำกว่าเส้นกลาง ก็ยังซื้อเข้าได้ หากเส้นบนเดินขวางเมื่อไหร่ ให้ทยอยลดพอร์ตได้เลยครับ
ลักษณะที่๓---เลือกทิศทาง---เส้นบนหันหัวลง เส้นล่างหันหัวขี้น ปากถุงแคบลง ถึงช่วงนี้ ให้ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว หากใครยังคิดอยากเคลื่อนไหว ก็จงเคลื่อนไหวไปหน้าทีวี จงอย่าทำการอย่างอื่นใด หากใครเป็นจอมยุทธ์ ก็ชิงเคลื่อนไหวก่อนใครได้  
ขอแถมอีกนิด จงโฟกัสที่เส้นกลาง หากเส้นกลางเริ่มขยบหัวหัวขึ้นหรือลง ทิศทางอาจขึ้นหรือลงตามเส้นกลางแนวโน้มนั้น
ลักษณะที่๔---เคลื่อนไหวในกรอบแคบ---เส้นบน กลาง ล่าง เดินขวางทั้ง๓เส้น หากใครเล่นออนไลน์ สามารถเล่นได้เล็กน้อยอย่ามาก เมื่อราคาแท่งเทียนใกล้เส้นบน จงขาย ใกล้เส้นล่าง จงซื้อ ต้องเข้าออกให้ทันการณ์ หาไม่แล้วจากกำไรอาจขาดทุนได้นา ขอบอก
ลักษณะที่๕---ทิศทางลงเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น เส้นกลางหันหัวลง เส้ยล่างหัวหัวลง
ลักษณะที่๖---ทิศทางลงเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวลง  เมื่อเส้นล่างเดินขวางเมื่อไหร่ ผู้ที่ใจกล้าที่เล่นออนไลน์ เริ่มทยอยซื้อเข้าได้ที่ละนิด อัตราเสี่ยงยังมีอยู่บ้างนะครับ สิบอกไห่
วิธีดูเส้นปากถุงที่กล่าวมานี้ .....ไม่ใช่ตำราของฝรั่ง แบบของฝรั่งผมเคยอ่านมาบ้างแล้ว ยาวมาก ปวดหัว ทำความเข้าใจได้ยากมากๆๆๆๆ ...........เหมาะเฉพาะกราฟราย๔ชม.และช่วงปกติเท่านั้นนะครับ  (บางครั้งตลาดจงใจคึงขึ้นลงอย่าแรงๆ แทบหัวใจวายสำหรับผู้มีทองในมือและผิดทิศทางของตัวเอง เรียกว่า ช่วงไม่ปกติครับ)

(http://img207.imageshack.us/img207/9325/76468138.gif) (http://img207.imageshack.us/i/76468138.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 20, 2010, 06:26:45 AM
กราฟGold 1
ช่อง1 เส้นแดงอยู่เหนือเส้นเขียว---ทิศทางขึ้น  ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น  สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นเขียวอยู่เหนือเส้นแดง---ทิศทางลง     ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นแดงและเขียวประสานเป็นกากะบาด ---กำลังจะเปลี่ยนทิศ ให้ดูเส้นแนวโน้มประกอบ  หากเส้นแดงและเขียวกำลังจะประสาน แต่ไม่ทันได้ประสานก็หันหันหัวกลับขึ้นหรือลง  แสดงว่ากำลังมีเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนี่งเกิดขึ้น หากขึ้นทะลุเส้นปะแนวต้าน ให้ดูเส้นปะแนวต้านเส้นต่อไป หากลงทะลุเส้นปะแนวหนุน ให้ดูเส้นแนวหนุนเส้นต่อไป   ส่วนจุดกลมเหลืองทอง---ทิศทางลง  จุดกลมฟ้า---ทิศทางขึ้น  หากกราฟวิ่งในยามปกติ พอเชื่อถือได้ หากกราฟวิ่งขึ้นลงแรงๆ คือยามไม่ปกติ ไม่อาจเชือถือได้
ช่อง2  ให้ดูเส้นสีม่วง ประกอบกับเส้นแนวโน้มในช่อง1 หากหันหัวไปในทิศทางเดียวกัน  โอกาสที่จะผิดพลาดก็มีน้อย  ส่วนเส้นปะสีเหลืองทองและฟ้า  หากขึ้นเหนือเลข80 เข้าสู่เขตซื้อเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ทุกเมื่อ  หากลงต่ำกว่าเลข20 เข้าสู่เขตขายเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ตลอดเวลา
ช่อง3   ให้ดูทั้ง2เส้น คือเหลืองทองและฟ้า หันหัวไปทิศทางเดียวกันหรือไม่  เท่านั้นยังไม่พอ  ให้ดูประกอบทิศทางในช่อง1ว่าเป็นทิศทางเดียวกันหรือไม่  หากทิศทางหันหัวในแนวเดียวกัน  ทิศทางนั้นเชื่อถือได้

(http://img251.imageshack.us/img251/4686/65842004.gif) (http://img251.imageshack.us/i/65842004.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Jeera ที่ มกราคม 20, 2010, 06:33:47 AM
อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่ทองใหม่   laugh.gif

ขยันทุกวันเลยนะคะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 20, 2010, 07:09:26 AM
etfขายทองจ้า
(http://img41.imageshack.us/img41/657/29674751.gif) (http://img41.imageshack.us/i/29674751.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 20, 2010, 07:21:08 AM
อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณทองใหม่ วันนี้กราฟราย 4 ชั่วโมง ระยะยาว ทิศทางขึ้นหมดเลยนะคะ
ให้จับตาดู1145 หากยืนเหนือ1145ได้อย่างแข็งแรง อาจเห็นถึง1168ก็ได้นะครับ  หากขึ้นไม่รอดก็ต้องลง


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 20, 2010, 08:44:38 AM
ทองคำปิดพุ่ง 9.50$ 
 วันพุธที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2553 08:39

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น ได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของสัญญาพลาตินัมและพัลลาเดียม

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดที่ 1,140.00 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 9.50 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,127.50-1,140.70 ดอลลาร์

ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 18.800 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 37.30 เซนต์

ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 1,639.40 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 43.30 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 461.95 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 14.20 ดอลลาร์

นักวิเคราะห์จากโรสแลนด์ แคปิตอล กล่าวว่า การพุ่งขึ้นของสัญญาพัลลาเดียมและพลาตินัมเป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนสัญญาทองคำทะยานขึ้นด้วย เนื่องจากนักลงทุนมองว่าเศรษฐกิจที่ขยายตัวแข็งแกร่งของจีนและอินเดีย จะช่วยกระตุ้นดีมานด์โลหะทั้งสองประเภทที่ใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตที่หลากหลาย รวมถึงการผลิต catalytic converter ในรถยนต์

กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก  ถือครองทองคำที่ระดับ 1,112.836 ตัน ณ วันที่ 18 ม.ค.  ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากวันที่ 15 ม.ค.



หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 20, 2010, 09:01:58 AM
ความเสี่ยงด้านอัตรา แลกเปลี่ยนและการจัดการ
วันที่ 2010-01-20 00:00:00 โดย post today -


เป็นความเสี่ยงที่เราต้องเผชิญและต้องให้ความสำคัญ เพราะเราอาจได้กำไรจากการทำธุรกิจหรือการลงทุน แต่สุดท้ายกับขาดทุน เพราะอัตราแลกเปลี่ยน เช่นเดียวกันกับการลงทุนในกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ (foreign investment fund) หรือเรียกกันสั้นๆ ว่า กองทุนรวม fif เราอาจได้ผลตอบแทนจากการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ แต่พอนำเงินผลตอบแทนแลกกลับเป็นเงินบาท เราก็อาจขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนได้เช่นกัน ดังนั้นหากเรามีการจัดการความเสี่ยงที่ดี ก็สามารถลดโอกาสขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนได้

โดยลักษณะของกองทุนรวม fif เมื่อเรานำเงินไปลงทุน ทางกองทุนก็จะต้องมีการแลกเปลี่ยนเงินบาทให้เป็นเงินสกุลต่างประเทศของประเทศที่จะไปลงทุน (หรือสกุลเงินสากล) ก่อน เพื่อนำเงินออกไปลงทุน และเมื่อครบกำหนดการลงทุนกองทุน ก็จะได้รับผลตอบแทนและเงินต้นคืนกลับมาในรูปเงินสกุลต่างประเทศนั้น และเมื่อผู้ลงทุนมาไถ่ถอนหน่วยลงทุน หรือเมื่อกองทุนรวม fif ครบกำหนดไถ่ถอน กองทุนก็จะจ่ายคืนผลตอบแทนให้ผู้ลงทุน โดยแลกเปลี่ยนเงินสกุล ต่างประเทศที่ไปลงทุนคืนกลับเป็นเงินบาท แต่ด้วยความผันผวนในเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนที่ขึ้นๆ ลงๆ อาจทำให้เกิดผลขาดทุนจากอัตรา แลกเปลี่ยน แล้วมากินส่วนที่เป็นเงินต้นและผลตอบแทนได้



หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ มกราคม 20, 2010, 09:46:19 AM
ขอบคุณค่ะคุณทองใหม่  รอลุ้นให้ผ่าน1145ด้วยคนค่ะ  ฮิ ฮิ 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 20, 2010, 11:13:00 AM
20 ม.ค. 2553


สรุปภาวะตลาดเมื่อวาน
    ราคาโกลด์ฟิวเจอร์สปรับตัวผันผวน ในขณะที่ราคาทองคำสปอตแกว่งตัวรุนแรงตามคาดตามความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์และค่าเงินยูโร ซึ่งก็ได้ทำให้เงินบาทปรับตัวผันผวนเช่นกัน ทองคำแท่งสมาคมฯปิดที่ 17,650/750 บาท


 

ปัจจัยที่อาจส่งผลต่อเนื่องถึงวันนี้
    รายงานผลสำรวจ ZEW ของเยอรมันแสดงให้เห็นว่านักวิเคราะห์มีมุมมองต่อแนวโน้มเศรษฐกิจเยอรมันและกลุ่มยูโรแย่ลงกว่าเดิมในขณะที่ประเมินสถานการณ์ปัจจุบันดีขึ้นตามคาดเท่านั้น รายงานดังกล่าวจึงกดดันให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงไปอีก [ZEW, TCAF Research]
    ผลประกอบการรายบริษัทออกมาดีกว่าคาดทั้งบริษัทในยุโรปและสหรัฐฯโดยเฉพาะซิตี้กรุ๊ปที่รายงานหนี้สูญเพิ่มเติมน้อยกว่าเดิม เป็นการลดความกังวลของนักลงทุนเรื่องปัญหาหนี้สูญในสหรัฐฯ(หลังจากที่ผลประกอบการของเจพีมอร์แกนเมื่อวันก่อนออกมาไม่ดี) นอกจากนี้ผลประกอบการของบริษัทอื่นยังดีกว่าที่คาดอีกด้วย นักลงทุนจึงกลัวความเสี่ยงน้อยลงและกลับเข้าไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นตามตลาดหุ้นได้ในภายหลัง โดยเฉพาะหุ้นสหรัฐฯที่ได้รับผลบวกจากการเมืองในประเทศ [Econoday, Bloomberg, TCAF Research]
   เริ่มมีรายงานเกี่ยวกับการบังคับใช้มาตรการการเงินต่างๆของธนาคารกลางจีนที่แสดงให้เห็นชัดเจนมากขึ้นว่าจีนเตรียมตัวถอนมาตรการกระตุ้น ลดปริมาณเงินกู้และอาจปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นในไม่ช้า ซึ่งนโยบายการเงินที่รัดกุมมากขึ้นเป็นการจำกัดฟองสบู่และเงินเฟ้อที่อาจเกิดขึ้น ในขณะเดียวกันก็เป็นการลดความร้อนแรงของเศรษฐกิจด้วย รายงานดังกล่าวจึงส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าอย่างรุนแรงต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อเช้านี้ที่หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งของจีนได้รายงานว่ามีการเรียกเก็บเงินทุนสำรองในอัตราที่สูงกว่าที่กำหนดไว้จากธนาคารพาณิชย์บางแห่งที่มีการปล่อยกู้เป็นปริมาณมากในช่วงที่ผ่านมา [Reuters, 21cbh, TCAF Research]


แนวโน้มทองคำวันนี้
   ข่าวร้ายต่อเศรษฐกิจที่ออกมาอย่างต่อเนื่องน่าจะกดดันราคาทองคำและสินทรัพย์เสี่ยงได้อีกสักพักหนึ่งถึงแม้ว่าจะมีข่าวดีประปรายก็ตาม เราจึงมองว่า "ราคาทองคำน่าจะเริ่มแกว่งตัวลง" เราจึงแนะนำให้ "สะสม SHORT GFG10 ในขณะที่พรีเมียมยังอยู่ในระดับสูง เพื่อทำกำไรระยะสั้น"


มุมมองทองคำ
    แนวโน้มเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวน่าจะมีความสำคัญที่สุดในช่วงนี้ ในขณะที่มาตรการต่างๆของมหาอำนาจก็น่าจับตามองไม่แพ้กันเนื่องจากอาจส่งผลต่อการรับความเสี่ยงของนักลงทุนและส่งผลต่อสถานะของทองคำได้



หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 20, 2010, 11:20:07 AM
ประเด็นสำคัญ
   - ทองปิดบวก,โลหะกลุ่มพลาตินั่มทะยานจากอุปสงค์ ETF
   - ยูโรร่วงหลังความเชื่อมั่นนักลงทุนเยอรมนีลด,วิตกหนี้สินกรีซ
   - ราคาน้ำมันดิบปิดพุ่งขึ้นตามตลาดหุ้น
   - หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีทะยานหนุนดาวโจนส์ปิดพุ่ง 1.09%

     ราคาทองที่ตลาดสหรัฐปิดปรับขึ้นในการซื้อขายที่หนาแน่นในวันอังคาร ในขณะที่ตลาดทองได้แรงหนุนจากแรงทะยานของโลหะกลุ่มพลาตินั่มซึ่งได้รับแรงผลักดันจากความเชื่อมั่นที่แข็งแกร่งของนักลงทุนที่เกี่ยวข้องกับกองทุน ETF ของสหรัฐ

    สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดที่ 1,140.00 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 9.50 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,127.50-1,140.70 ดอลลาร์ ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 18.800 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 37.30 เซนต์ ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 1,639.40 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 43.30 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 461.95 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 14.20 ดอลลาร์

    นักวิเคราะห์จากโรสแลนด์ แคปิตอล กล่าวว่า การพุ่งขึ้นของสัญญาพัลลาเดียมและพลาตินัมเป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนสัญญาทองคำทะยานขึ้นด้วย เนื่องจากนักลงทุนมองว่าเศรษฐกิจที่ขยายตัวแข็งแกร่งของจีนและอินเดีย จะช่วยกระตุ้นดีมานด์โลหะทั้งสองประเภทที่ใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตที่หลากหลาย รวมถึงการผลิต catalytic converter ในรถยนต์

    ในวันนี้ สหรัฐฯจะมีการรายงานตัวเลขสำคัญ 2 ตัว คือ ดัชนีราคาผู้ผลิตและตัวเลขสร้างบ้านใหม่ รวมถึงงบของสถาบันการเงินขนาดใหญ่หลายแห่ง ด้านยูโรโซน ยังมีความกังวลในเรื่องประเทศกรีซอยู่ ซึ่งจะทำให้ตลาดหุ้นต่างประเทศวันนี้ น่าจะแกว่งตัวแคบๆเพื่อรอผลที่จะออกมา

    กองทุน SPDR Gold trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยว่าทางกองทุนได้ถือครองทองแท่งระดับ 1,111.922 ตัน ณ วันที่ 19 มกราคม 2553 ลดลง 0.914 ตัน จากวันที่ 15 มกราคม 2553

    กลยุทธ์ : หลังค่าเงินสกุลยูโรเกิดทำจุดต่ำสุดอีกรอบหลังเกิดการพักฐานได้ 18 วันทำการ ได้เริ่มแสดงทำจุดต่ำใหม่อีกครั้ง อาจจะกดดันราคาทองในทิศทางลงในช่วงระยะสั้นนี้ได้ ในช่วงปลายกลางสัปดาห์อาจจะเกิดตามด้วยการปรับฐานลงที่ระดับราคา 1123 US$ ซึ่งเป็นแนว Stop Loss ที่สำคัญมาก



หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: oyo ที่ มกราคม 20, 2010, 11:34:32 AM
ขอบคุณครับคุณทองใหม่ :)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 20, 2010, 11:38:21 AM
นักลงทุนรอลุ้นผลการดำเนินงานของ Morgan Stanley ? Goldman Sachs ที่จะประกาศออกมาสัปดาห์นี้

Posted on Wednesday, January 20, 2010
ลุ้นกำไร Morgan Stanley ? Goldman Sachs สัปดาห์นี้

หลังจากที่เป็นคู่ขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือดมาโดยตลอด รวมถึงตกเป็นผู้ร่วมชะตากรรมเดียวกันในวิกฤติการเงินครั้งล่าสุด นักลงทุนตลาดวอลล์สตรีทก็กำลังติดตามรอดูผลประกอบการของสองสถาบันการเงินคู่สำคัญ อย่าง Goldman Sachs Group และ Morgan Stanley ในสัปดาห์นี้ หลังจากที่ผลงานในช่วง 9 เดือนแรกปี 2552 ของฝ่ายแรกออกมาทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ก่อนมีแนวโน้มทรงตัวในปีนี้ ขณะที่ฝ่ายหลังเพิ่งจะไต่ขึ้นมาจากก้นเหว และน่าจะสลัดทิ้งความตกต่ำที่สุดไว้ข้างหลังได้ในที่สุด

ผลงานในปีที่แล้วของ Goldman ก็สามารถดันราคาหุ้นของตนให้ outperform คู่แข่งไปได้อย่างไม่ยาก แม้สถานการณ์ในปีนี้อาจจะไม่เป็นเช่นนั้นอีกก็ตาม

แนวโน้มที่ต่างจากหน้ามือเป็นหลังมือในปีนี้เริ่มสะท้อนให้เห็นจากราคาหุ้นของทั้งคู่ ที่ Morgan Stanley สามารถขยับขึ้นไปได้แล้วกว่า 2% ในปีนี้ ขณะที่ของ Goldman Sachs กลับร่วงติดลบไปแล้วกว่า 2% เช่นกัน

สถานการณ์ที่พลิกผันมีส่วนถูกตอกย้ำด้วยมุมมองของนักวิเคราะห์ นำโดย โบรกเกอร์จาก Credit Suisse Group, UBS และ Macquarie Group ที่เริ่มให้คำแนะนำลงทุนในหุ้นของ Morgan Stanley ในเดือนนี้

มีคนที่เห็นด้วยกับความคิดของนักวิเคราะห์ค่ายที่พูดถึง เมื่อหันไปดูราคาหุ้นของ Morgan ที่มาจากฐานที่ต่ำในปีที่แล้ว ขณะที่ของ Goldman กลับต้องพยายามลากต่อจากฐานที่สูงมากเป็นทุนเดิม ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากถ้าหุ้นจะเดินหน้าอีก แม้ผลงานในไตรมาส 4 ที่จะประกาศออกมาในสัปดาห์นี้ Goldman Sachs ยังน่าจะรายงานผลประกอบการที่โดดเด่นเหนือกว่าของ Morgan Stanley อยู่ก็ตาม

ถ้ายังจำกันได้ อดีตโบรกเกอร์รายใหญ่ที่สุดทั้งสองรายของสหรัฐฯ นี้ ต้องถูกผลพวงของวิกฤติการเงินให้แปลงสภาพไปเป็น bank holding company เมื่อปี 2008 ก่อนจะฝ่าฟันอุปสรรคหลายๆ อย่างมาจนกระทั่งในวันนี้

ผลสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์ที่จัดทำโดยสำนักข่าว Bloomberg คาดว่า Goldman น่าจะรายงานตัวเลขกำไร 3,200 ล้านเหรียญสำหรับไตรมาส 4 ปีที่แล้ว ขณะที่ Morgan Stanley น่าจะทำได้ที่ 647 ล้านเหรียญ

ส่วนในปีนี้ทั้งปี เรื่องอาจกำลังจะเปลี่ยนไปเป็นเหมือนหนังคนละม้วน เมื่อ Goldman Sachs อาจจะทำกำไรได้แค่ทรงตัวแถวๆ 11,000 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นระดับเดียวกันกับเมื่อปีที่แล้ว ขณะที่กำไรของ Morgan Stanley น่าจะพลิกขึ้นจากที่เคยขาดทุน 521 ล้านเหรียญในปีก่อน กลับมาเป็นกำไร 5,210 ล้านเหรียญในปีนี้


หุ้นเทคโนโลยี-ประกันดัน Dow ปิดบวก ขณะกำไร IBM ต่ำคาด

ดัชนี MSCI World Index กลับมาบวกได้ 0.5% เมื่อคืนนี้ หลังจากที่ร่วงลงไป 0.8% ในวันก่อน ปัจจัยหนุนมาจากแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทส่วนใหญ่ยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น แม้ว่าประเด็นในเรื่องมูลค่าหุ้นที่ขึ้นมาสูงพอสมควรแล้วจะสร้างแรงขายให้เกิดขึ้นเป็นระยะ

แรงซื้อหุ้นกลุ่มประกัน เป็นตัวดันให้ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวขึ้น หลังเริ่มมีความเป็นไปได้ที่กฏหมายปฏิรูประบบดูแลสุขภาพของประเทศอาจถูกสกัดในวินาทีสุดท้าย หากพรรคเดโมแครตต้องสูญเสียที่นั่งในวุฒิสภากว่า 60 เสียงสำหรับการเลือกตั้งนัดพิเศษที่เริ่มขึ้นแล้วใน Massachusetts ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นไปเพื่อเติมโควต้าที่นั่งว่างของ Edward Kennedy สมาชิกพรรคเดโมแครตที่ล่วงลับไปแล้ว

นอกจากนั้น ตลาดยังถูกหนุนจากหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี นำโดย Ciena Corp. ที่ราคาหุ้นพุ่งขึ้นเกือบ 10% หลังจากโบรกเกอร์ Credit Suisse Group ออกคำแนะนำลงทุนในหุ้น ด้วยเหตุผลแนวโน้มการเติบโตของรายได้

และในช่วงหลังจากปิดตลาด ก็ถึงคิวของยักษ์ใหญ่คอมพิวเตอร์ IBM ที่ออกมารายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากรายได้ทางด้านที่ปรึกษาปรับตัวลง แม้บริษัทจะบอกว่ากำไรของทั้งปีจะเกินเป้าที่ตั้งไว้ก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ดี ทางฝั่งของตลาดหุ้นยุโรปที่วัดโดยดัชนี Dow Jones Stoxx 600 กลับปรับตัวลง ภายหลังตัวเลขความเชื่อมั่นนักลงทุนในประเทศเยอรมันร่วงลงแรงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ แต่ขณะเดียวกันก็ยังมีข่าวความคืบหน้าของดีลควบรวมกิจการในธุรกิจอาหาร เมื่อบริษัท Cadbury ในที่สุดก็ยอมรับข้อเสนอซื้อของทาง Kraft Foods ด้วยตัวเลขที่จบลงที่ 11,900 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 19,700 ล้านเหรียญ หลังจากที่การเจรจาดำเนินมายาวนานกว่า 4 เดือน ก่อนที่จะสามารถสร้างอาณาจักรทางธุรกิจขนมหวานที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้สำเร็จ

หุ้น Cadbury บวกขึ้นได้กว่า 3.6% ขณะที่ของทาง Kraft Foods ปรับตัวลง 0.6%


ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนเยอรมันอ่อนตัวต่อเนื่อง

ความเชื่อมั่นนักลงทุนเยอรมันปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันในเดือนม.ค.2553 เนื่องจากความวิตกว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศเริ่มชะลอตัว

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรป ZEW เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนที่มีเป้าหมายเพื่อชี้วัดแนวโน้มของนักลงทุนสำหรับช่วงเวลา 6 เดือนข้างหน้า ร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 47.2 ในเดือนม.ค. จากระดับ 50.4 จุดในเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากที่ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในเดือนก.ย. 2552 โดยตัวเลขที่ลดลงนี้มากกว่าที่สื่อในประเทศคาดการณ์เอาไว้มาก

สื่อเยอรมันคาดการณ์ว่าดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนเดือนม.ค.จะลดลงแค่ 0.4 จุดจากเดือนก่อน

ทั้งนี้ ZEW ระบุว่า ทิศทางขาลงของดัชนีแสดงให้เห็นว่า ผู้เชี่ยวชาญในตลาดการเงินคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจเยอรมนีจะฟื้นตัวในอัตราที่ชะลอตัว โดยเฉพาะภาคยานยนต์และการบริโภคมีแนวโน้มอ่อนตัวลงในช่วงครึ่งปีหน้า

วานนี้ ธนาคารกลางเยอรมนีได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเศรษฐกิจของประเทศว่าจะฟื้นตัวต่อเนื่อง แม้มาตการกระตุ้นต่างๆที่รัฐบาลนำมาใช้เริ่มหมดอายุลงไปบ้างแล้ว แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ประมาทเรื่องการบริโภคภาคเอกชน


สหรัฐฯเรียกคืนเนื้อวัวปนเปื้อนเกือบ 400 ตันในประเทศ

กระทรวงเกษตรของสหรัฐสั่งเรียกคืนเนื้อวัวจำนวน 390 ตันที่คาดว่ามีการปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย E. coli

สำนักงานตรวจสอบความปลอดภัยด้านอาหาร (FSIS) ในสังกัดกระทรวงเกษตรของสหรัฐกล่าวในแถลงการณ์ว่า เนื้อวัวที่ถูกเรียกคืนดังกล่าวผลิตจากบริษัท Huntington Meat Packing Inc ในลอสแองเจ รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งส่วนใหญ่ผลิตขึ้นเพื่อส่งไปยังศูนย์จำหน่าย ร้านอาหาร และตามโรงแรมทั่วแคลิฟอร์เนีย

ในระหว่างที่มีการติดตามผลการตรวจสอบประวัติของบริษัทนั้น เจ้าหน้าที่พบว่า มีผลิตภัณฑ์บางประเภทที่ผลิตและส่งออกในปี 2551 อาจมีสารปนเปื้อนประเภทแบคทีเรีย E. coli ด้วยเช่นกัน

หลังจากที่การตรวจสอบความปลอดภัยทำให้มีการพบปัญหาเบื้องต้นในเนื้อวัวที่ส่งมาจากโรงงานตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค.-15 ม.ค. ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้ที่ป่วยจากการบริโภคเนื้อวัวที่ทางการสหรัฐเรียกคืนมาแต่อย่างใด

ทั้งนี้ เชื้อ E.coli เป็นเชื้อโรคในอาหารที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย E. coli โดยผู้ที่ได้รับเชื้อดังกล่าวจะมีอาการท้องเสีย ถ่ายเป็นเลือด และอาจรุนแรงถึงขั้นไตวายในรายที่มีอาการสาหัส


โตเกียวประกาศถอดหุ้นสายการบิน JAL ออกจากตลาดวันนี้

ตลาดหุ้นโตเกียวประกาศถอดหุ้นของบริษัท เจแปน แอร์ไลน์ส คอร์ป เจ้าของสายการบินเจแปน แอร์ไลน์ส (JAL) ออกจากตลาดในวันนี้ หลังจากที่บริษัทได้ยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์จากการล้มละลายต่อศาลในวานนี้ตามคาด

สายการบินเจแปน แอร์ไลน์ส (JAL) ได้ยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์สินจากการล้มละลายต่อศาลแขวงโตเกียวแล้ว เพื่อที่จะฟื้นฟูกิจการภายใต้การดูแลของ Enterprise Turnaround Initiative Corp. of Japan (ETIC) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รัฐบาลมอบหมายให้ดูแลแผนฟื้นฟูกิจการของ JAL ภายใต้มาตรการปรับโครงสร้างนี้ JAL จะได้รับการยกเว้นหนี้สินกว่า 350,000 ล้านเยนจากธนาคารเจ้าหนี้

ขณะที่ ETIC ระบุว่า จะรับประกันเรื่องการทำธุรกรรมที่เกี่ยวกับค่าเชื้อเพลิงและด้านการทำธุรกรรมเชิงพาณิชย์อื่นๆ เพื่อที่บริษัทคู่ค้าของสายการบินจะยังสามารถทำธุรกิจกับ JAL ต่อไปได้

ทางสายการบินยังได้ประกาศการลาออกของนายฮารุกะ นิชิมัตสึ ประธานบริษัท และเตรียมลดพนักงานกว่า 15,000 รายภายในปีงบการเงิน 2555

ก่อนหน้านี้ มาซายูกิ นาโอชิมะ รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมญี่ปุ่นเผยรัฐบาลพร้อมที่จะขจัดปัญหาทั้งปวงที่ทำให้การดำเนินงานของ เจแปน แอร์ไลน์ส คอร์ป เจ้าของสายการบินเจแปน แอร์ไลน์ส (JAL) สะดุด

ขณะที่สายการบินยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์จากการล้มละลาย พร้อมกับชี้ว่า ธุรกิจสายการบินนั้นมีความสำคัญต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนและกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ดังนั้น รัฐบาลจะแก้ปัญหาทั้งหมดทั้งปวงที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของ JAL


ฟิลิปปินส์เล็งขายพันธบัตรดอลลาร์-ยูโรในปีนี้

ฟิลิปปินส์กำลังพิจารณานำพันธบัตรสหรัฐและยูโรออกขายในปีนี้ หวังระดมทุนโปะยอดขาดดุลบัญชีงบประมาณที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์

รัฐมนตรีคลังฟิลิปปินส์เปิดเผยว่า รัฐบาลอาจขายพันธบัตรระยะ 3 ปีและ 5 ปีในวงเงิน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรกภายใต้การสนับสนุนของธนาคารกลาง และจะเปิดโอกาสให้ชาวฟิลิปปินส์ในต่างประเทศเข้าซื้อพันธบัตรล็อตนี้ด้วย

ในเดือนมกราคมฟิลิปปินส์ขายพันธบัตรสหรัฐ 1,500 ล้านดอลลาร์ให้กับนักลงทุนต่างชาติ และอาจเพิ่มการขายพันธบัตรในรูปสกุลเงินเยนของญี่ปุ่นอีก 1 พันล้านดอลลาร์ในเดือนหน้า ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแผนระดมทุน 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ โดยรัฐบาลคาดว่า ตัวเลขขาดดุลบัญชีปีนี้จะเพิ่มขึ้นแตะ 293,000 ล้านเปโซ (6,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)

กระทรวงคลังกล่าวว่า เรากำลังพิจารณาข้อเสนอเรื่องการลดอัตราการออมของชาวฟิลิปปินส์ที่ทำงานในต่างประเทศและหวังว่าเราจะสามารถดำเนินการเรื่องดังกล่าวให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้

ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์ได้เริ่มขายพันธบัตรในรูปสกุลเงินเปโซให้แก่นักลงทุนรายย่อยในประเทศตั้งแต่ปี 2544 และสามารถระดมทุนจากการขายพันธบัตรดังกล่าวได้ 114,400ล้านเปโซในเดือนก.ย.ปีที่แล้ว

นอกจากนี้ รัฐบาลยังเตรียมที่จะนำพันธบัตรในรูปสกุลเงินเยนออกขายให้นักลงทุนชาวญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2544 โดยจะพิจารณาวงเงินสำหรับขายพันธบัตรดังกล่าวไว้ที่ 500 ล้านดอลลาร์


เวเนซูเอล่าสั่งยึดกิจการธนาคารเอกชน 3 แห่ง

สำนักงานกำกับดูแลธนาคารของเวเนซุเอลา แถลงว่า รัฐบาลได้ยึดธนาคารขนาดเล็ก 3 แห่ง และสั่งปิดสถาบันการเงิน 2 แห่ง เพื่อให้ระบบการเงินการธนาคารของประเทศมั่นคง

ธนาคารทั้ง 3 แห่งได้แก่ ธนาคารอินเวอร์ยูเนียนบองโกคอมเมอร์เชียล/ ธนาคารบองโกเดลซอล และธนาคารมีกาซา เป็นการตัดสินใจแบบประชุมลับ ลูกค้าธนาคารยังไม่สามารถถอนเงินในบัญชีได้ นอกจากนี้ สำนักงานยังได้สั่งปิดวาณิชธนกิจ 2 แห่ง คือ บองอินเวสต์ และบองโกเรียลบองโก เด เดซาร์โรลโล เนื่องจากบริหารงานไร้ประสิทธิภาพ

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลเวเนซุเอลา เคยสั่งแปรสภาพธนาคารขนาดกลางและเล็ก 8 แห่ง มาแล้วเมื่อเดือนพฤศจิกายน และธันวาคม โดยยึด 4 แห่ง เป็นของรัฐ แล้วรวมขึ้นธนาคารใหม่

มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า การปฏิรูปธนาคารเกิดขึ้นในช่วงเดียวกับที่ประธานาธิบดีฮิวโก ชาเวซ ต้องการยกเครื่องระบบการคลังของประเทศครั้งใหญ่ และเล็งจัดการเลือกตั้งสมชิกสภานิติบัญญัติในปีหน้า


เกาหลีและญี่ปุ่นขยายข้อตกลงสว็อปเยน-วอน

ธนาคารกลางเกาหลีใต้ได้ขยายระยะเวลาสำหรับข้อตกลงสว็อปสกุลเงินทวิภาคีมูลค่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์กับธนาคารกลางญี่ปุ่นออกไปจนถึงวันที่ 30 เม.ย. 2553 เพื่อสร้างเสถียรภาพในตลาดเงินในประเทศและภูมิภาค

ความเคลื่อนไหวในครั้งนี้มีขึ้น หลังจากที่ธนาคารกลางทั้ง 2 ประเทศได้ตกลงขยายข้อตกลงสว็อปเงินเยน-วอนเป็น 2 หมื่นล้านดอลลาร์ จากเดิมที่ 3 พันล้านดอลลาร์ในช่วงกลางเดือนธ.ค. 2551 และหลังจากนั้นก็ได้มีการขยายข้อตกลงไปจนกระทั่งถึงวันที่ 1 ก.พ. 2553

ธนาคารกลางเกาหลีใต้ยังได้คงเครดิตไลน์ 1 หมื่นล้านดอลลาร์กับธนาคารกลางญี่ปุ่นตามแผนการดำเนินการฉุกฉินภายในกรอบของโครงการความคิดริเริ่มเชียงใหม่ (CMI)

ทั้งนี้ สำรองเงินตราต่างประเทศของเกาหลีใต้ช่วงสิ้นเดือนธ.ค. 2552 อยู่ที่ 2.69 แสนล้านดอลลาร์ นับเป็นประเทศที่มีสำรองเงินตราต่างประเทศมากที่สุดอันดับ 6 ของโลก รองจากจีน ญี่ปุ่น รัสเซีย ไต้หวัน และอินเดีย


ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่ประกาศออกมาเมื่อวานนี้ (อังคารที่ 19 ม.ค. 2553)
? ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย (ม.ค.) อยู่ที่ระดับ 15 จุด (ลดลงจากเดือนก่อนหน้า)

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่จะประกาศออกมาวันนี้ (พุธที่ 20 ม.ค. 2553)
? ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้าน (ธ.ค.) โดย กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ
? ตัวเลขการขออนุญาตก่อสร้าง (ธ.ค.) โดย กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ
? ดัชนีราคาผู้ผลิต หรือ PPI () โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ

ติดตาม Money Wake up ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ออกอากาศซ้ำเวลา 11.00 น. ทาง Money Channel
 

 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 20, 2010, 12:36:33 PM
กราฟตาแป๊ะซ้ายบน มีการเปลี่ยนแปลงนิดหนี่ง มีคำว่า  ตัวหนังสือสีเขียว ? ---ขาย และ  ตัวหนังสือสีแดง?----ซื้อ  เพิ่มเข้ามา เฉพราะที่เพิ่มเข้ามานิดหน่อยนี้ ผมใช้เวลาศุกร์-เสาร์-อาทิตย์(25--27ธค.52)ทั้ง3วันค้าหาในเวปจีนถึงได้เจอ และเอามาเพิ่มผสมเข้ากับกาฟตาแป๊ะช่องซ้ายบน ยังมิทราบจะแม่นยำแค่ไหน ต้องคอยกาลเวลาบ่งบอกครับ
กราฟตาแป๊ะซ้ายบน ตัวหนังสือสีเขียว ? ---ขาย   ตัวหนังสือสีแดง?----ซื้อ  เส้นสีแดงหนา---ขาขึ้น เส้นสีเขียวหนา---ขาลงขวาบน  เส้นสีแดง---เสนอซื้มากกว่าเสนอขาย เส้นสีเขียว---เสนอขายมากกว่าเสนอซื้อ  ส่วนช่วงกลางที่มีแท่งสีแดงกับเขียวนั้น แท่งแดง---แรงซื้อขึ้น   แท่งเขียว---แรงขายลง
ขวาช่องสอง  แท่งเหลืองคู่เส้นแดง---ขาขึ้น   แท่งฟ้าคู่เส้นเขียว---ขาลง โดยปกติ ช่องนี้จะเปลี่ยนแนวโน้มช้ากว่าเพื่อน หากเปลี่ยนแนวโน้มเมื่อไหร่ เขาให้ขายออกหรือซื้อเข้าได้ทันที่ ยกเว้นมีปัจจัยพื้นฐานแรงๆแทรกเข้ามา จึงจะทำให้แนวโน้มกลับเปลี่ยนได้โดยกะทันหัน
ซ้ายช่องสอง หน้าเหลืองแป๊ะยิ้ม---ขาขึ้น หน้าแดงแป๊ะร้องไห้---ขาลง  แท่งสีเขียว---เพดาน   แท่งสีแดง---พื้นดินโดยปกติ ช่องนี้จะส่งสัญญาณว่า กำลังจะเปลี่ยนแนวทางแล้วนะ แต่ยังไม่เต็มร้อย อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยกะทันหันก็ได้ ต้องดูซ้ายบนและขวาช่อง๒ประกอบด้วย จึงจะให้ความมั่นใจได้
ทอง
(http://img192.imageshack.us/img192/8305/75401713.gif) (http://img192.imageshack.us/i/75401713.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 20, 2010, 12:37:59 PM
ดัชนีเงินเมกา
(http://img62.imageshack.us/img62/2996/10061150.gif) (http://img62.imageshack.us/i/10061150.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: numcha ที่ มกราคม 20, 2010, 02:06:48 PM
ขอบคุณมากคะ ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 20, 2010, 02:23:14 PM
Gold Futures บ่ายนี้ โบรกฯ คาดยังเป็นขาขึ้น       
Wednesday, 20 January 2010 14:06 
นายกิดาการ สุวรรณธรรมา  ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจอนุพันธ์บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ PST เปิดเผยถึงการซื้อขายสินค้า Gold Futures ในตลาดอนุพันธ์แห่งประเทศไทย (TFEX) ในวันนี้ว่า ราคาทองล่วงหน้าของไทยยังคงทรงตัว เพราะภาพรวมตลาดทองในประเทศยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามากระตุ้น

ประกอบกับในวันนี้ตลาดทองคำต่างประเทศ มีทั้งปัจจัยบวกและลบเข้ามากระทบ  โดยปัจจัยบวกมาจากราคาทองคำในตลาด COMEX วานนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 9.50 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ระดับ 1,140 ดอลลาร์/ออนซ์ แต่มีปัจจัยลบหลังจากกองทุน SPDR ซึ่งเป็นกองทุนทีถือครองทองคำสูงที่สุดในโลก เทขายทองคำออกมา 0.914 ตัน อยู่ที่ระดับ 1,111.922 ตัน   

สำหรับในช่วงบ่ายคาดว่าราคา Gold Futures จะยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบ อย่างไรก็ตามหากพิจารณาจากปัจจัยเรื่องฤดูกาล ประเมินว่าราคาทองมีโอกาสปรับตัวขึ้นมา ในช่วงครึ่งหลังของเดือนมกราคม - ครึ่งแรกของเดือนกุมภาพันธ์ ของทุกปี  โดยกลยุทธ์แนะนำให้เปิดสถานะซื้อ  โดยประเมินแนวรับในสัญญา GFG10 เดือนกุมภาพันธ์ 2553 ไว้ที่ 17,750  บาท แนวต้าน 18,060 บาท   
 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Yai Carmungwed ที่ มกราคม 20, 2010, 03:56:48 PM
  *ellow_yellow_christmas_editio *ellow_yellow_christmas_editio Smiley/Angry.gif Smiley/Angry.gif Smiley/Angry.gif


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: JO-JO ที่ มกราคม 20, 2010, 09:28:53 PM
ขอบคุณครับ คุณทองใหม่

รอดูการเปลี่ยนแปลงของตาแป๊ะวันพรุ่งนี้ครับ

 8)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 21, 2010, 06:25:48 AM
 วิธีดูทิศทางทอง ต้าน๓----หนุน๓เป็นทิศทางทองที่จะเคลื่อนไหวในวันนี้ หากพุ่งทะลุต้าน๓หรือดิ่งทะลวงหนุน๓ แสดงถึงวันนั้นทองเคลื่อนไหวแรงเกินปกติ เส้นแดนเป็นเส้นที่จะแบ่งแยกทิศทางของทองที่จะขึ้นหรือลง หากทองเคลื่อนไหวอยู่ในทิศทางใดมากและนาน นั่นหมายถึงโอกาสเป็นไปได้มากที่ทองจะเคลื่อนไปในทิศทางนั้นๆ ในช่วงเวลานั้น (ยังต้องแบ่งออกในช่วงเวลาตลาดเอเซีย ยุโรป เมกาด้วย) ต้าน๑และหนุน๑หากถูกทดสอบแบบมีผล(ขึ้นลงมากกว่า๑ครั้ง)แล้วยืนอยู่ได้ นั่นคือทิศทางทองที่จะเดินต่อไปในช่วงเวลานั้น หากการวิเคราะเกิดขัดแย้งกันเมื่อไหร่ ให้หยุดมองดูอย่างเดียว ไม่ควรซื้อ-ขายในช่วงเวลานั้น แนวทางนี้เหมาะกับการเล่นสั้นมาก (เล่นแบบออนไลน์ในอนาคต) มีความแม่นยำถึง80%ครับ อีกอย่างข่าวปัจจัยพื้นฐานอาจเปลี่ยนทิศทางทองได้กะทันหันนะครับ
ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์กับการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย ถัาติดดอยเมื่อทองต่ำลงมา  หากยังมีเงินเหลืออยู่ ควรซื้อเพิ่ม เพิ่มที่ละนิด ต่ำอีกซื้ออีก เพื่อดึงต้นทุนที่สูงให้ต่ำลงมา ใครที่ยังไม่มีทองในมือควรทยอยซื้อเข้าอย่ามากนัก หากทองลงอีก เราก็ซื้ออีก ดีกว่าเวลาทองขึ้นเราไปไล่ซื้อในราคาที่สูง  จดจำเป็นคติเตือนใจว่า  เรามิอาจซื้อได้ในราคาที่ต่ำสุด และขายได้ในราคาที่สูงสุด ไม่มีการลงทุนใดที่ไม่เสี่ยง การบริหารพอร์ตให้ได้จังหวะ จะลดความเสี่ยงลงได้ครับ
กราฟสำคัญ ปัจจัยพื้นฐานก็สำคัญ จิตวิทยาการโน้มเอียงของคนก็สำคัญ สิ่งเหล่านี้หากเป็นไปในแนวเดียวกัน ก็จะมุ่งไปทางนั้น หากแย้งกันก็ต้องดูฝ่ายไหนเหนือกว่า.....ด้วยเหตุนี้ไม่มีนักวิเคราะห์คนใดที่จะทำนายได้แม่นยำตลอดกาลได้ครับ
(http://img194.imageshack.us/img194/8876/36987872.gif) (http://img194.imageshack.us/i/36987872.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 21, 2010, 06:26:59 AM
เส้นปากถุง(เส้นสีขาวทั้ง๓เส้น)แบบง่ายๆ ไม่ปวดเศียรเวียนเกล้า
เส้นบน---แนวต้าน
เส้นกลาง---แนวโน้ม(สำคัญสุด)
เส้นล่าง---แนวหนุน
ลักษณะที่๑---ทิศทางขึ้นเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น   เส้นกลางหันหัวขึ้น   เส้นล่างหันหัวลง
ลักษณะที่๒---ทิศทางขึ้นเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวขึ้น
เมื่อเจอลักษณะทั้ง๒นี้ ราคาระหว่างวันที่ขึ้นๆลงๆ เมื่อเจอจุดที่เห็นว่าต่ำแล้วให้ซื้อเข้าได้เลยครับ  ขอเพียงเส้นกลาง(แนวโน้ม)ยังหันหัวขึ้นอยู่ แม้ราคาเแท่งเทียนจะอยู่ต่ำกว่าเส้นกลาง ก็ยังซื้อเข้าได้ หากเส้นบนเดินขวางเมื่อไหร่ ให้ทยอยลดพอร์ตได้เลยครับ
ลักษณะที่๓---เลือกทิศทาง---เส้นบนหันหัวลง เส้นล่างหันหัวขี้น ปากถุงแคบลง ถึงช่วงนี้ ให้ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว หากใครยังคิดอยากเคลื่อนไหว ก็จงเคลื่อนไหวไปหน้าทีวี จงอย่าทำการอย่างอื่นใด หากใครเป็นจอมยุทธ์ ก็ชิงเคลื่อนไหวก่อนใครได้  
ขอแถมอีกนิด จงโฟกัสที่เส้นกลาง หากเส้นกลางเริ่มขยบหัวหัวขึ้นหรือลง ทิศทางอาจขึ้นหรือลงตามเส้นกลางแนวโน้มนั้น
ลักษณะที่๔---เคลื่อนไหวในกรอบแคบ---เส้นบน กลาง ล่าง เดินขวางทั้ง๓เส้น หากใครเล่นออนไลน์ สามารถเล่นได้เล็กน้อยอย่ามาก เมื่อราคาแท่งเทียนใกล้เส้นบน จงขาย ใกล้เส้นล่าง จงซื้อ ต้องเข้าออกให้ทันการณ์ หาไม่แล้วจากกำไรอาจขาดทุนได้นา ขอบอก
ลักษณะที่๕---ทิศทางลงเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น เส้นกลางหันหัวลง เส้ยล่างหัวหัวลง
ลักษณะที่๖---ทิศทางลงเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวลง  เมื่อเส้นล่างเดินขวางเมื่อไหร่ ผู้ที่ใจกล้าที่เล่นออนไลน์ เริ่มทยอยซื้อเข้าได้ที่ละนิด อัตราเสี่ยงยังมีอยู่บ้างนะครับ สิบอกไห่
วิธีดูเส้นปากถุงที่กล่าวมานี้ .....ไม่ใช่ตำราของฝรั่ง แบบของฝรั่งผมเคยอ่านมาบ้างแล้ว ยาวมาก ปวดหัว ทำความเข้าใจได้ยากมากๆๆๆๆ ...........เหมาะเฉพาะกราฟราย๔ชม.และช่วงปกติเท่านั้นนะครับ  (บางครั้งตลาดจงใจคึงขึ้นลงอย่าแรงๆ แทบหัวใจวายสำหรับผู้มีทองในมือและผิดทิศทางของตัวเอง เรียกว่า ช่วงไม่ปกติครับ)

(http://img709.imageshack.us/img709/3152/86660430.gif) (http://img709.imageshack.us/i/86660430.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 21, 2010, 06:28:58 AM
กราฟGold 1
ช่อง1 เส้นแดงอยู่เหนือเส้นเขียว---ทิศทางขึ้น  ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น  สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นเขียวอยู่เหนือเส้นแดง---ทิศทางลง     ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นแดงและเขียวประสานเป็นกากะบาด ---กำลังจะเปลี่ยนทิศ ให้ดูเส้นแนวโน้มประกอบ  หากเส้นแดงและเขียวกำลังจะประสาน แต่ไม่ทันได้ประสานก็หันหันหัวกลับขึ้นหรือลง  แสดงว่ากำลังมีเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนี่งเกิดขึ้น หากขึ้นทะลุเส้นปะแนวต้าน ให้ดูเส้นปะแนวต้านเส้นต่อไป หากลงทะลุเส้นปะแนวหนุน ให้ดูเส้นแนวหนุนเส้นต่อไป   ส่วนจุดกลมเหลืองทอง---ทิศทางลง  จุดกลมฟ้า---ทิศทางขึ้น  หากกราฟวิ่งในยามปกติ พอเชื่อถือได้ หากกราฟวิ่งขึ้นลงแรงๆ คือยามไม่ปกติ ไม่อาจเชือถือได้
ช่อง2  ให้ดูเส้นสีม่วง ประกอบกับเส้นแนวโน้มในช่อง1 หากหันหัวไปในทิศทางเดียวกัน  โอกาสที่จะผิดพลาดก็มีน้อย  ส่วนเส้นปะสีเหลืองทองและฟ้า  หากขึ้นเหนือเลข80 เข้าสู่เขตซื้อเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ทุกเมื่อ  หากลงต่ำกว่าเลข20 เข้าสู่เขตขายเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ตลอดเวลา
ช่อง3   ให้ดูทั้ง2เส้น คือเหลืองทองและฟ้า หันหัวไปทิศทางเดียวกันหรือไม่  เท่านั้นยังไม่พอ  ให้ดูประกอบทิศทางในช่อง1ว่าเป็นทิศทางเดียวกันหรือไม่  หากทิศทางหันหัวในแนวเดียวกัน  ทิศทางนั้นเชื่อถือได้

(http://img85.imageshack.us/img85/3230/95881252.gif) (http://img85.imageshack.us/i/95881252.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 21, 2010, 07:17:11 AM
กราฟใหม่2010(เรามาช่วยกันใช้กาลเวลาพิสูจน์ว่า กราฟตัวนี้จะมีความขลังเท่ากราฟตาแป๊ะไหม)
1.   ซ้ายบนหน้าเทาขาวและหนังสือสีขาว??ถอนตัว(ขาย)   หน้าแดงและหนังสือสีเหลือง??บุก(ซื้อ)
2.   กลางบน หนังสือสีเขียว??ขาย หนังสือสีแดง??ซื้อ  ส่วนตัวหนังสือสีเหลือง????เส้นหยุดขาดทุน(สำหรับผู้ที่เล่นออนไลน์สั่งป้องกันล่วงหน้าได้เท่านั้น)
3.   ขวาบน  ตัวหนังสือสีเขียว (?)?ขาย  ตัวหนังสือสีเหลือง(?)?ซื้อ   (กราฟช่องนี้ ให้สัญญาณทั้งซื้อและขายออกจะไวกว่ากราฟช่องอื่นๆ มีทั้งข้อดีและเสีย บางครั้งก็ตรงตามสัญญาณที่ให้ในทันทีเลย บางคั้งก็อาจเลื่อนออกไปอีกตั้งหลายวันจึงจะตรงตามสัญญาณที่ปรากฏ สัญญาณของกราฟช่องนี้ ให้เพื่อนๆตัดสินใจเอาเองด้วยความระมัดระวังตามใจชอบนะครับ ขอเตือนเป็นพิเศษ)
4.   ซ้ายล่าง สีแดง???เพดาน(จะอยู่ช่วงบน)   สีแดง???ซื้อ(จะอยู่ช่วงล่าง)          สีเขียว ????หนีเร็ว หากเครื่องหมาย ?ปรากฏแค่/ยังไม่สมบูรณ์เต็มตัว?เตรียมตัวหนี(จะปรากฏพร้อม   ???เพดาน(จะอยู่ช่วงบน)   )และตัวหนังสือสีเขียว????เจอต่ำซื้อ
5.   กลางล่าง   หน้าเทาขาว?ขาย        หน้าแดง?ซื้อ
6.   ขวาล่าง    เครื่องหมายสีขาว??ขาย           เครื่องหมายสีชมภู ? ?ซื้อ

(http://img228.imageshack.us/img228/1796/38909551.gif) (http://img228.imageshack.us/i/38909551.gif/)
อย่าว่าแต่คนเลยครับ ขนาดกราฟก็ยังขัดแย้งกันได้ เพื่อนๆคงเห็นนะครับ การขัดแย้งกันจากกราฟตัวนี้ อย่าบอกนา ว่าไม่เห็น ไม่เห็นหรืออ่านไม่ออก พราะไม่ตั้งใจอ่านคำกำกับกราฟมากกว่า รู้นะ ตาวิเศษเห็นมด ฮาฮา


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: nadia ที่ มกราคม 21, 2010, 07:21:16 AM
ขอบคุณค่ะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ มกราคม 21, 2010, 09:53:14 AM
ขอบคุณค่ะคุณทองใหม่   ซ้ายบนบอกขาย  ขวาบนบอกซื้อ  แต่กราฟดูเหมือนจะลงได้อีก  แล้วกราฟตาแป๊ะล่ะคะร้องไห้รึยัง....จะเริ่มทะยอยซื้อเลยดีไหมคะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 21, 2010, 10:30:10 AM
ขอบคุณค่ะคุณทองใหม่   ซ้ายบนบอกขาย  ขวาบนบอกซื้อ กลางล่างบอกขาย ขวาล่างบอกขาย แต่กราฟดูเหมือนจะลงได้อีก  แล้วกราฟตาแป๊ะล่ะคะร้องไห้รึยัง....จะเริ่มทะยอยซื้อเลยดีไหมคะ
!047อาจารย์  ผมจะเข้าซื้อเพื่อดึงดอยให้ต่ำอีกนิดขอความเห็นอาจารย์หน่อยครับ  ผมรอน๊าาาา !_09 !_09 !21 !21
ทองเพิ่งลง หน้าตาแป๊ะเพิ่งเปลี่ยนหน้าเป็นร้องไห้(เดี๋ยวเที่ยงโพสกราฟตาแป๊ะให้ดู) ว่ากันตามกราฟ โอกาสที่ทองจะลงอีกมีมากกว่าที่จะขึ้นในช่วงนี้ หากเชื่อกราฟก็คอยให้ทองลงมากกว่านี้ก่อนแล้วค่อยทยอยซื้อเพิ่ม หากคิดที่จะเล่นแบบวัดดวงก็ซื้อได้เลยครับ ฮาฮา


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 21, 2010, 10:41:24 AM
IMF คาดปีนี้ศรษฐกิจโลกขยายตัว 3% เตือนระวังการเคลื่อนไหวของเงิน

Posted on Thursday, January 21, 2010
IMF คาดปีนี้ศรษฐกิจโลกขยายตัว 3% เตือนระวังการเคลื่อนไหวของเงิน

นายโดมินิค สเตราส์ คาห์น ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 3% และเศรษฐกิจเอเชียจะขยายตัว 7% ในปีนี้

พร้อมกันนี้ ยังได้เตือนเรื่องกระแสเงินทุนที่ทะลักเข้ามายังเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียบางประเทศ แม้ว่า IMF จะมองว่า ยังไม่มีความเสี่ยงเรื่องภาวะฟองสบู่สินทรัพย์ก็ตาม

โดยผู้อำนวยการ IMF กล่าวว่า "ธนาคารกลางควรให้ความสนใจกับการจัดการเม็ดเงินที่ไหลเข้าสู่ประเทศในขณะนี้ เม็ดเงินเหล่านี้กำลังส่งผลกระทบต่อระบบอัตราแลกเปลี่ยน ดีมานด์ภายในประเทศ และเสถียรภาพทางการเงิน นอกจากนี้ ยังเสี่ยงที่จะทำให้เกิดภาวะฟองสบู่ ผมจึงแนะนำให้หลายประเทศปรับขึ้นค่าเงินของตนเอง โดยเฉพาะประเทศที่มีค่าเงินต่ำเกินจริง"

พร้อมให้ความเห็นสำหรับสกุลเงินหยวนของจีนว่า ยังต่ำเกินจริง พร้อมกับแนะนำให้จีนผ่อนปรนนโยบายเพื่อให้การซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนเป็นอิสระมากขึ้น เนื่องจากเงินหยวนเป็นหนึ่งในสกุลเงินสากล และจะมีบทบาทที่สำคัญมากขึ้นต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก

นอกจากนี้ ผู้อำนวยการ IMF กล่าวว่า ในประเทศที่พัฒนาแล้ว การขยายตัวส่วนใหญ่จะมาจากการใหการสนับสนุนภาคสาธารณะ และดีมานด์ภาคเอกชนเองยังอ่อนตัว สำหรับนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงวิกฤตนั้น ยอมรับว่า การหาช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับยกเลิกนโยบายเหล่านี้ถือเป็นเรื่องที่ลำบากมาก เพราะการยกเลิกนโยบายช้าเกินไปก็จะทำให้สูญเสียทรัพยากร แต่ถ้ายกเลิกนโยบายเร็วเกินไปเศรษฐกิจก็อาจจะเสี่ยงที่จะถดถอยมากกว่าเดิม

ขณะที่ IMF ชี้ปัญหาขาดดุลงบประมาณของกรีซเป็นปัญหาใหญ่ แต่เชื่อไม่กระทบระบบเศรษฐกิจยุโรป โดยผู้อำนวยการ IMF กล่าวแสดงความเชื่อมั่นว่า ยุโรปจะสามารถต้านทานภาวะผันผวนจากการที่กรีซถูกลดอันดับเครดิตได้ ซึ่งการเปิดเผยของผู้อำนวยการ IMF มีขึ้นเพียงวันเดียวหลังจากรัฐมนตรีคลังยุโรปได้ออกมาแสดงความกังวลว่าปัญหายอดขาดดุลงบประมาณของกรีซอาจลุกลามเข้าไปส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของยุโรป

ทั้งนี้ รัฐมนตรีคลังของหลายประเทศในยุโรปเรียกร้องให้รัฐบาลกรีซเร่งลดยอดขาดดุลงบประมาณ เนื่องจากสถานการณ์ทางการเงินของกรีซกำลังเข้าขั้นวิกฤตและอาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อประเทศอื่นๆในยุโรป

นายวอเตอร์ บอส รัฐมนตรีคลังของเนเธอร์แลนด์กล่าวว่า กรีซจำเป็นต้องตระหนักถึงสถานการณ์ที่รุนแรงอันเป็นผลมาจากยอดขาดดุลงบประมาณที่สูงขึ้น และกรีซต้องเร่งแก้ปัญหาเรื่องนี้ก่อนที่จะลุกลามเข้าไปสร้างความเสียต่อระบบเศรษฐกิจของยุโรปทั้งระบบ ขณะที่นายฌอง-คล้อด จังเกอร์ รัฐมนตรีคลังของลักเซมเบิร์กกล่าวว่า รัฐบาลกรีซต้องเร่งสร้างเสถียรภาพและการขยายตัวอย่างยั่งยืนของระบบเศรษฐกิจ ซึ่งหนึ่งในแนวทางที่สำคัญคือการปรับลดยอดขาดดุลงบประมาณ


กังวลคุมเข้มสินเชื่อจีน ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนน่าผิดหวัง ทำนักลงทุนถอดใจ

ผลพวงจากการประกาศตัวเลขผลประกอบการของ IBM เมื่อวานนี้ ไปจนถึงรายได้ที่น่าผิดหวังของบริษัทที่ทำธุรกิจรถไฟรายใหญ่ในอเมริกา อย่าง CSX Corp เป็นแรงกดดันให้ตลาดหุ้นปิดร่วงลงเมื่อคืนที่ผ่านมา เช่นเดียวกับ Morgan Stanley ที่เปิดเผยผลการดำเนินงานออกมาแล้วเช่นกัน ด้วยรายได้การซื้อขายหลักทรัพย์ที่ปรับตัวลง นอกจากนั้น หุ้นน้ำมันรวมถึงทองคำ ก็ปิดติดลบตามราคาในตลาดล่วงหน้า

นักลงทุนถือโอกาสขายหุ้นทำกำไร ขณะที่บรรยากาศซื้อขายหุ้นส่วนหนึ่งถูกกดดันมาตั้งแต่ตลาดเอเชียเมื่อวานนี้ เมื่อมีข่าวว่าทางการจีนบอกให้ธนาคารในประเทศจำกัดการปล่อยกู้ โดยตัวเลขที่หน่วยงานกำกับดูแลธุรกิจแบงก์ตั้งเป้าให้การขยายตัวของสินเชื่อถูกจำกัดไว้ อยู่ที่ 7.5 ล้านล้านหยวน หรือประมาณ 1.1 ล้านล้านเหรียญในปีนี้ ซึ่งการที่บางธนาคารถูกสั่งให้กดตัวเลขสินเชื่อลงก็เป็นเพราะ ความที่ไม่สามารถทำตามเงื่อนไขที่รัฐได้กำหนดไว้ได้ ซึ่งรวมถึงเรื่องของการคงระดับเงินทุนให้สูงเพียงพอ

การออกมาตอกย้ำในเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อผู้บริหารหน่วยงานกำกับธุรกิจธนาคารเห็นรายงานการปล่อยสินเชื่อในประเทศ ที่ยังออกมาอยู่ในระดับสูงเพียงแค่ในช่วง 10 วันทำการแรกของปีเท่านั้น

ย้อนกลับมาที่ปัจจัยผลการดำเนินงาน ที่นักลงทุนคาดว่าจะเป็นเครื่องชี้ชะตาตลาดหุ้นในระยะสั้นนี้ โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ที่เคยได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤติการเงินโลก ล่าสุดเป็นคราวของแบงก์ที่ทำธุรกิจโบรกเกอร์หลักทรัพย์รายใหญ่ที่สุดในโลก อย่าง Morgan Stanley ที่เปิดเผยรายได้จากการดำเนินงานออกมาที่ 413 ล้านเหรียญ หรือ 14 เซนต์ต่อหุ้น ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ที่คาดไว้ที่ 42 เซนต์ต่อหุ้น
ในเวลาเดียวกัน ก็ยังมีรายงานด้วยว่า Morgan Stanley ได้ทำการจัดสรรเงินในสัดส่วน 62% ของรายได้เพื่อจ่ายให้กับพนักงานในปีแล้ว ซึ่งถือเป็นอัตราส่วนที่สูงที่สุดในรอบกว่าทศวรรษ และอาจกำลังนำไปสู่ประเด็นถกเถียงเมื่อธนาคารเปิดเผยถึงการเพิ่มจำนวนพนักงานที่รวดเร็วกว่าความสามารถในการหารายได้


ตลาดแรงงานอังกฤษส่งสัญญาณฟื้น แม้ยังเสี่ยงภาคธุรกิจขยายตัวช้า

สำนักงานสถิติของอังกฤษเปิดเผยถึงตัวเลขการขอใช้สิทธิสวัสดิการว่างงานที่ลดลงอย่างรวดเร็วในเดือนที่แล้ว ซึ่งก็ทำให้หลายคนมั่นใจมากขึ้นว่าแนวโน้มเศรษฐกิจเริ่มที่จะประคองตัวขึ้นมายืนได้จริงๆ แล้ว

ตัวเลขการขอใช้สวัสดิการของแรงงานชาวอังกฤษเดือนธันวาคมลดลง 15,200 ราย มาอยู่ที่ 1.61 ล้านราย เมื่อเทียบกับที่นักเศรษฐศาสตร์เคยคาดไว้ว่าตัวเลขน่าจะลดลงเพียงแค่ราวๆ 4,000 รายเท่านั้น

หัวหน้าทีมวิเคราะห์เศรษฐกิจจาก Deutsche Bank ในลอนดอนมองว่า การฟื้นตัวของประเทศยังคงเดินหน้าต่อ และก็น่ายินดีที่สภาวะการว่างงานไม่ได้แย่ลงเหมือนอย่างที่เคยคิดไว้ แม้คำถามที่คาใจอยู่ก็คือ ข่าวดีแบบนี้จะมีต่อเนื่องไปได้อีกนานแค่ไหน

ถ้าหันไปดูข้อมูลที่คำนวณภายใต้มาตรฐานของ International Labour Organization จะพบว่า จำนวนผู้ว่างงานของอังกฤษลดลง 7,000 ราย ในช่วงเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน มาอยู่ที่ 2.46 ล้านคน ซึ่งเรียกว่าเป็นการลดลงรายไตรมาสครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงกลางปี 2008

รัฐบาลของนายกรัฐมนตรี Gordon Brown อาจเบาใจลงได้บ้าง ภายหลังจากที่อัตราการว่างงานขยับขึ้นช้ากว่าที่เคยคาดการณ์ไว้เดิม เมื่อมีหลายบริษัทตัดสินใจคงการจ้างงานไว้ แม้จะระงับแผนการเพิ่มค่าจ้าง รวมถึงตัดสินใจปรับลดจำนวนชั่วโมงแรงงานลง ทั้งหมดก็ด้วยความหวังที่จะคงระดับการจ้างงานที่จำเป็นไว้ เพื่อเตรียมพร้อมในเวลาที่เศรษฐกิจสามารถกลับมาขยายตัวได้อีกครั้ง

และที่ระดับอัตราการว่างงานแถวๆ 8% นั้น ตัวเลขของอังกฤษก็ยังเรียกว่าต่ำกว่าของสหรัฐฯ และเพื่อนร่วมภูมิภาคยุโรปอีกหลายประเทศ แม้จะมีนักเศรษฐศาสตร์บางคนที่เคยเก็งว่าอัตราการว่างงานของประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำแห่งนี้มีโอกาสที่จะพุ่งขึ้นได้อีก แต่ก็คงไม่ถึงระดับ 10%

สถิติสูงสุดในช่วงหลังสงครามโลก อัตราการว่างงานของอังกฤษเคยขึ้นไปแตะระดับ 11.9% ในปี 1984 ซึ่งจากวิกฤติเศรษฐกิจคราวนี้ก็คงไม่ทำให้สถานการณ์เลวร้ายไปมากถึงขนาดนั้น

มีความเห็นของผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจที่มองว่า การฟื้นตัวในประเทศอาจดำเนินไปอย่างช้าๆ ในขณะที่บรรดาบริษัทต่างๆ อาจจะใช้วิธีการเพิ่มจำนวนชั่วโมงการทำงานของแรงงานก่อนเป็นอันดับแรก ก่อนที่จะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นตามมาในระยะต่อไป


นักวิเคราะห์คาดราคาสินแร่เหล็กพุ่งขึ้น 35-50% ปีนี้

เมอร์ริล ลินช์ และโกลด์แมน แซคส์ เจบีเวอร์ พร้อมใจปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาสินแร่เหล็กในปีนี้ โดยคาดว่าราคาสินแร่เหล็กจะปรับตัวขึ้น 35-50% จากเดิมที่ได้มีการคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 10-20%

โกลด์แมน แซคส์ เจบีเวอร์ คาดการณ์ว่า ราคาสินแร่เหล็กในปีนี้ จะสูงขึ้นอีก 35% ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า จะเพิ่มขึ้น 20% ขณะที่เมอร์ริลลินช์ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคามากที่สุดถึง 15-50%

นักวิเคราะห์ระบุว่า ปัจจัยเรื่องอุปทานและอุปสงค์พื้นฐานจัดเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด ขณะที่ราคาสปอต ณ ปัจจุบัน ยังมีความสำคัญน้อยกว่า โดยราคาสปอตของสินแร่เหล็กที่จีนนำเข้าจากอินเดียนั้น ปรับตัวสูงขึ้นมากนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2552

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ราคาอ้างอิง CIF ที่ท่าเรือเทียนจินปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 135 ดอลลาร์ต่อตันในปัจจุบัน ซึ่งสูงขึ้น 2 เท่าจากระดับ 59.1 ดอลลาร์ต่อตันในช่วงเดือนมี.ค. 2552 โดยสินแร่เหล็กที่จีนผลิตเอง ตลอดจนการคาดการณ์ผลผลิตเหล็กในอนาคตของจีน สหรัฐ และยุโรป ถือเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการวิเคราะห์ของวาณิชธนกิจหลายแห่ง

หม่า จงผู นักวิเคราะห์อาวุโสของ Umetal.com กล่าวว่า สินแร่เหล็กได้กลายมาเป็นเป้าหมายในการเก็งกำไรในตลาดทุนต่างประเทศ รายงานของวาณิชธนกิจรายใหญ่ๆมีผลต่อการเจรจาต่อรองเรื่องสินแร่เหล็กทุกๆปี

เมื่อเดือนพ.ค. 2552 นั้น มอร์แกน สแตนลีย์ โกลด์แมนแซคส์ และบาร์เคลย์ส ต่างเปิดบริการระบบการซื้อขายเก็งกำไรสินแร่เหล็กด้วยการทำธุรกรรมเงินสด


จีนกำหนดเป้าหมายการปล่อยกู้ปี 53 ที่ 1.1 ล้านล้านดอลลาร์

นายหลิง หมิงกัง ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการธนาคารจีน เปิดเผยว่า ทางการจีนได้ตั้งเป้าหมายในการปล่อยกู้ในประเทศไว้ที่ประมาณ 7.5 ล้านล้านหยวน หรือ 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ โดยทางการจะยังคงควบคุมระดับการขยายตัวและปริมาณสินเชื่อในปีนี้

นายหมิงกังกล่าวว่า ในช่วงต้นเดือนม.ค.นั้น จะเห็นได้ว่ายอดการปล่อยเงินกู้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะไม่มีผลกระทบมาจากปีที่แล้ว ซึ่งแนวโน้มการปล่อยกู้เช่นนี้จะคลี่คลายลง เนื่องจากได้มีการตอบสนองดีมานด์ไปแล้ว โดยอุปทานสินเชื่อในจีนเมื่อปี 2552 มีมูลประมาณ 9.5 ล้านล้านหยวน หรือ 1.4 ล้านล้านดอลลาร์

ขณะที่ยอดการปล่อยกู้โดยเฉลี่ยรายเดือนอยู่ที่ 1.52 ล้านล้านหยวน หรือ 222,000 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรก แต่ร่วงลงทีละน้อยจนมาอยู่ระดับปกติในไตรมาสต่อๆมา

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ประธานคณะกรรมการกล่าวต่อไปว่า สินเชื่อมีบทบาทอย่างมากในการสนับสนุนการลงทุนเชิงโครงสร้าง การปล่อยสินเชื่ออย่างรวดเร็วช่วยสร้างความมั่นใจในตลาด และผ่อนปรนภาวะตึงตัวของสภาพคล่อง และยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ

สำหรับการถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น นายหลิวกล่าวว่า การถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ถือเป็นปัจจัยท้าทายที่สำคัญสำหรับจีน เพราะรัฐบาลไม่ได้ใช้เงินเพื่อช่วยเหลือธุรกิจไฟแนนซ์ แต่สถานการณ์ท้าทายที่แท้จริงสำหรับจีนและประเทศต่างๆในเอเชียคือ วิธีการปรับโครงสร้างในแต่ละประเท


จีนจะนำเข้าน้ำมันต่อเนื่องในปีนี้

ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานชี้ว่า จีนจะยังคงนำเข้าพลังงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีนี้ เนื่องจากได้รับปัจจัยผลักดันจากดีมานด์ที่พุ่งสูงขึ้นหลังจากที่เศรษฐกิจขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยคาดว่าการนำเข้าพลังงานของจีนจะขยายตัว 5% ในปีนี้ และสัดส่วนการนำเข้าต่อการใช้งานอาจจะเพิ่มขึ้นเป็น 54% จากระดับ 52% เมื่อปี 2552

หลิน โปเฉียง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจพลังงานจีนประจำมหาวิทยาลัยเซียะเหมิน กล่าวว่า การผลิตภายในประเทศนั้นอยู่ที่ระดับสูงสุดแล้ว

แม้ว่าบริษัทภายในประเทศจะเร่งการขยายธุรกิจในต่างประเทศ แต่แหล่งทรัพยากรที่มีอยู่นั้นยังคงอยู่ในระดับที่จำกัด

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ข้อมูลศุลกากรชี้ว่า ในปี 2552 จีนได้นำเข้าน้ำมัน 204 ล้านตัน ขณะที่ผลผลิตของจีนมีจำนวนทั้งสิ้น 190 ล้านตัน

ขณะที่รายงานจากสถาบันสังคมศาสตร์จีนระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่จีนจะต้องนำเข้าน้ำมันเพื่อตอบสนองการบริโภคในประเทศที่ระดับ 64.5% ภายในปี 2563 โดยมีสาเหตุหลักมาจากช่องว่างระหว่างการบริโภคในประเทศและผลผลิต

ด้านนักวิเคราะห์ชี้ว่า จีนควรจะกระจายการลงทุนในแหล่งนำเข้าน้ำมัน เพื่อรับประกันว่า อุปทานจะมีอยู่อย่างยั่งยืนมากขึ้น โดยตะวันออกกลาง แอฟริกา และเอเชียแปซิฟิคนั้นถือเป็นประเทศส่งออกน้ำมันรายหลักให้กับจีน


ธนาคารกลางจีนสั่งเพิ่มเพดานกันสำรอง 0.5%

ธนาคารกลางจีนสั่งให้ธนาคารอย่างน้อย 2 แห่งเพิ่มเพดานกันสำรอง 0.5% เป็นความพยายามอย่างเห็นได้ชัดในการควบคุมการปล่อยกู้ในเดือนนี้

ล่าสุด ธนาคารกลางสั่งให้ธนาคารซิติก (ซึ่งเป็น ธนาคารใหญ่เป็นอันดับ 7 ) และ ธ.ไชน่า เอเวอร์ไบรท์ แบงก์ ต้องกันสำรองเพิ่ม 0.5%

การที่ธนาคารเหล่านี้จำเป็นต้องกันสำรองเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ทางธนาคารจะมีเงินสดน้อยลงในการปล่อยสินเชื่อในตลาด

ในสัปดาห์แรกของปีนี้ ยอดการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพุ่งขึ้น 6 แสนล้านหยวน (หรือ 87,888 ล้านดอลลาร์) เป็นแรงกระตุ้นที่ทำให้ ธ.กลางจีนต้อง take action เพื่อลดความร้อนแรง

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า ยังจะมีธนาคาร 1 ใน 4 ของกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดของจีน ก็อาจจะต้องเพิ่มเพดานการกันสำรองในเร็วๆ นี้

ข่าวดังกล่าวกระทบต่อตลาดหุ้นค่อนข้างแรง เพราะทำให้ ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเซียงไฮ้ ร่วงลงถึง 3% ต่ดความวิตกต่อการระงับการปล่อยสินเชื่อ


รัฐบาลญี่ปุ่นคงระดับการประเมินเศรษฐกิจ

รัฐบาลญี่ปุ่นได้คงระดับการประเมินเศรษฐกิจโดยรวมไว้ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 ชี้เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะโครงการก่อสร้างที่อยู่อาศัยที่ดีขึ้น พร้อมกับเตือนว่า ภาวะเงินฝืดและสถานการณ์การจ้างงานที่ยังไม่ดีขึ้นอาจจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่พึ่งจะเริ่มต้นขึ้น

รายงานเศรษฐกิจรายเดือนของรัฐบาลฉบับล่าสุดชี้ว่า แม้ว่าเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวขึ้น แต่สถานการณ์ก็ยังไม่เอื้ออำนวย อีกทั้งยังมีปัจจัยที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ ทั้งเรื่องอัตราว่างงานที่ยังอยู่ในระดับสูง

นอกจากนี้ รัฐบาลได้ทบทวนปรับเพิ่มการประเมินโครงการก่อสร้างที่อยู่อาศัย ซึ่งมีสัญญาณของการฟื้นตัวขึ้น

สำหรับองค์ประกอบด้านเศรษฐกิจอื่น ๆ นั้น รัฐบาลยังได้คงระดับการประเมินไว้ และชี้ว่าการผลิตภาคอุตสาหกรรมกำลังฟื้นตัว และกำไรภาคเอกชนที่ตกลงนั้นก็คลี่คลายลง ส่วนการลงทุนในภาคธุรกิจเริ่มฟื้นตัว


ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่ประกาศออกมาเมื่อวานนี้ (พุธที่ 20 ม.ค. 2553)
? ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้าน (ธ.ค.) 557,000 ยูนิต
? อัตราการขออนุญาตก่อสร้าง (ธ.ค.) 653,000 ยูนิต
? ดัชนีราคาผู้ผลิต หรือ PPI (ธ.ค.) เพิ่มขึ้น 0.2% จากเดือนก่อนหน้า

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่จะประกาศออกมาวันนี้ (พฤหัสบดีที่ 21 ม.ค. 2553)
? ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ
? ตัวเลขสต็อกน้ำมันสำรองประจำสัปดาห์ โดย EIA
? ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ (ธ.ค.) โดย Conference Board

ติดตาม Money Wake up ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ออกอากาศซ้ำเวลา 11.00 น. ทาง Money Channel
 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 21, 2010, 10:44:13 AM
ราคาทองคำวูบ 27 เหรียญ เงินดอลลาร์แข็ง-วิตกจีนคุมปล่อยเงินกู้  

Posted on Thursday, January 21, 2010
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนัก เพราะถูกกดดันจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น และจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวจีนคุมเข้มการปล่อยกู้ของธนาคารพาณิชย์ โดยนักลงทุนมองว่าการที่จีนใช้มาตรการดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก และอาจทำให้ความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงทองคำ ลดน้อยลงด้วย

ทั้งนี้ คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการธนาคารจีนได้สั่งการให้ธนาคารพาณิชย์บางส่วนจำกัดการปล่อยเงินกู้ พร้อมกับประกาศเป้าหมายการปล่อยกู้ภายในประเทศเอาไว้ที่ 7.5 ล้านล้านหยวน หรือ 1.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และจะยังคงควบคุมระดับการขยายตัวและปริมาณสินเชื่อในปีนี้

กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก ถือครองทองคำที่ระดับ 1,111.922 ตัน ณ วันที่ 19 ม.ค. ลดลง 0.08% จากวันที่ 18 ม.ค

- ทองคำ ส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ปิดที่ 1,112.60 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ (-27.40 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์)
- เงิน ส่งมอบเดือนมีนาคม ปิดที่ 17.88 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ (-0.92 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์)
 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 21, 2010, 10:48:19 AM
21 ม.ค. 2553

บาท/ดอลลาร์เช้านี้อ่อนค่า ขณะวิตกจีนคุมเข้มสินเเชื่อ

  *บาท/ดอลลาร์ภาคเช้าอ่อนค่าจากท้ายตลาดเมื่อวาน หลังดอลลาร์
         แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินหลายสกุล ขณะที่จุดสนใจของตลาดในวันนี้
         อยู่ที่ตัวเลขเศรษฐกิจจีน และการคุมเข้มด้านสินเชื่อของจีน
        *ดอลลาร์ปรับตัวแข็งแกร่งใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนครึ่ง 
         เมื่อเทียบกับตะกร้าเงินในตลาดเอเชียช่วงเช้านี้ หลังยูโรร่วงลง 
         แต่สกุลเงินที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์ อาจได้แรงหนุนจากการเปิดเผย
         ข้อมูลเศรษฐกิจของจีนในวันนี้ 
        *จีนเป็นที่จับตามองในสัปดาห์นี้ ขณะที่ความวิตกว่าจีนจะคุมเข้มนโยบาย
         สินเชื่อและการเงิน ทำให้นักลงทุนขายสกุลเงินที่อิงตามการขยายตัวทาง
         เศรษฐกิจ อาทิ ดอลลาร์ออสเตรเลีย และดอลลาร์นิวซีแลนด์
        *จีนเปิดเผยจีดีพีไตรมาส 4 ในวันนี้ โดยเพิ่มขึ้น 10.7% เมื่อเทียบปีต่อปี
         ขณะที่นักวิเคราะห์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดว่า จะขยายตัว 
         10.9% ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 8.9% ในไตรมาส 3   
        *จีนยังรายงานดัชนีราคาผู้บริโภคในธ.ค.เพิ่มขึ้น 1.9%, การผลิตภาค
         อุตสาหกรรม เพิ่มขึ้น 18.5% และยอดค้าปลีกโต 17.5%
        *ข้อมูลที่สดใส อาจช่วยหนุนสกุลเงินที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์ แต่
         ความวิตกที่ว่า จีนจะคุมเข้มสินเชื่อเพื่อป้องกันภาวะฟองสบู่นั้น
         อาจจำกัดแรงบวก
        *ส่วนยูโรร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์
         ในวันพุธ ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับความสามารถของกรีซในการลด
         ยอดขาดดุล และวิตกว่าจีนกำลังพยายามชะลอการปล่อยกู้ของภาคธนาคาร
        *09.15 น.บาท/ดอลลาร์ อยู่ที่ 32.93/96 จาก 32.88/93 เมื่อวันพุธ
         ขณะที่ในตลาด offshore อยู่ที่ 32.94/96 จาก 32.91/96 เมื่อวันพุธ
        *เยน/ดอลลาร์ อยู่ที่ 91.41/45 จาก 91.21 ในตลาดนิวยอร์คเมื่อคืน
        *ยูโร/ดอลลาร์ อยู่ที่ 1.4095/98 จาก 1.4102 ในตลาดนิวยอร์คเมื่อคืน
 
        "ดอลลาร์ในช่วงนี้ยังอยู่ในทิศทางแข็งค่าขึ้น แต่จากการที่เศรษฐกิจของไทย
        พึ่งการส่งออกมาก ทำให้เมื่อดอลลาร์แข็งขึ้นมา จะมีแรงขายรออยู่จำนวนมาก" 
        ดีลเลอร์กล่าว  ดีลเลอร์คาดว่า ในวันนี้บาท/ดอลลาร์น่าจะอยู่ในกรอบ 32.90-33.00
 
        แหล่งที่มา : รอยเตอร์


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 21, 2010, 10:50:59 AM
21 ม.ค. 2553


สรุปภาวะตลาดเมื่อวาน
    ราคาโกลด์ฟิวเจอร์สปรับตัวผันผวน ในขณะที่ราคาทองคำสปอตปรับตัวลดลงรุนแรงตามดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นจากความกังวลต่อเนื่องเกี่ยวกับนโยบายของจีนเป็นไปตามมุมมองของเรา ทองคำแท่งสมาคมฯปิดที่ 17,600/700 บาท เงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อย


ปัจจัยที่อาจส่งผลต่อเนื่องถึงวันนี้
    แนวโน้มที่จีนจะดำเนินนโยบายการเงินแบบรัดกุมมากขึ้นได้สร้างความกังวลไปทั่วโลก ส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องในขณะที่นักลงทุนกลัวความเสี่ยงมากขึ้นเป็นการกดดันราคาทองคำต่อเนื่องได้เช่นกัน [Reuters, Econoday, Bloomberg, TCAF Research]
    ผลประกอบการรายบริษัทในสหรัฐฯออกมาไม่ค่อยดีโดยทั้งไอบีเอ็ม และมอร์แกนสแตนลีย์ต่างรายงานยอดขายลดลงกว่าเดิม เป็นการสร้างความกังวลเรื่องเศรษฐกิจให้กับนักลงทุนต่อเนื่องอีก ผลักดันให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นได้อีกต่อหนึ่ง [Bloomberg, TCAF Research]
   จีนรายงานการเติบโตของเศรษฐกิจสูงขึ้นกว่าเดิมอย่างมากเมื่อเช้านี้ แสดงถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตามอัตราเงินเฟ้อที่รายงานก็อยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงและปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วไม่แพ้กัน เป็นการซ้ำเติมความกังวลเรื่องฟองสบู่ในจีนอีกนักลงทุนจึงยังไม่กล้าลงทุนเพิ่มเติม ส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอีกเล็กน้อยพร้อมกับราคาทองคำที่ยังได้รับแรงกดดันต่อเนื่องอีก [TCAF Research]


แนวโน้มทองคำวันนี้
   ข่าวร้ายต่อเศรษฐกิจยังมีอยู่ต่อเนื่องน่าจะกดดันราคาทองคำและสินทรัพย์เสี่ยงได้อีกในขณะที่นักลงทุนยังจับตามองผลสำรวจผู้ประกอบการในยุโรป และรอความหวังจากข่าวดีในตลาดสหรัฐฯจากรายงานเศรษฐกิจและผลประกอบการรายบริษัท เราจึงมองว่า "ราคาทองคำน่าจะค่อยๆแกว่งตัวลงช้าๆ และปรับตัวผันผวนข้ามคืน" เราจึงแนะนำให้ "ค่อยสะสม SHORT ช่วงเช้า และปิดในช่วงเย็น"


มุมมองทองคำ
    แนวโน้มเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวน่าจะมีความสำคัญที่สุดในช่วงนี้ ในขณะที่มาตรการต่างๆของมหาอำนาจก็น่าจับตามองไม่แพ้กันเนื่องจากอาจส่งผลต่อการรับความเสี่ยงของนักลงทุนและส่งผลต่อสถานะของทองคำได้



หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: oyo ที่ มกราคม 21, 2010, 10:54:15 AM
ขอบคุณครับคุณทองใหม่ :)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 21, 2010, 10:54:31 AM
ประเด็นสำคัญ
   - ราคาทองปิดใกล้จุดต่ำสุดรอบ 2 สัปดาห์หลังดอลล์พุ่ง
   - ยูโรร่วงต่ำสุดในรอบ 5 เดือนเทียบดอลล์
   - ราคาน้ำมันดิบร่วงลงขณะดอลล์พุ่งขึ้น
   - การเลือกตั้งวุฒิสมาชิกในรัฐแมสซสชูเซสที่มีความสำคัญมาก

     ราคาทองที่ตลาดสหรัฐแตะระดับต่ำสุดรอบ 2 สัปดาห์ในวันพุธ โดยปิดต่ำลงกว่า 2% ในขณะที่การพุ่งขึ้นของดอลลาร์และการคุมเข้มการให้เงินกู้ของธนาคารจีนลดความน่าดึงดูดใจของทองในฐานะเครื่องมือประกันความเสี่ยงต่อทั้งเงินเฟ้อและการอ่อนค่าของสกุลเงิน สัญญาทองส่งมอบเดือนก.พ.เคลื่อนตัวในช่วง 1,141.70-1,106.80 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค. ในขณะที่มีปริมาณการซื้อขายราว 244,582 สัญญา

      เทรดเดอร์กล่าวว่า ข่าวที่ว่าจีนเพิ่มเพดานการกันสำรองของธนาคาร ยับยั้งทัศนะในแง่บวกเกี่ยวกับเศรษฐกิจ ซึ่งลดความน่าดึงดูดใจของทองในฐานะเครื่องมือประกันความเสี่ยงเงินเฟ้อ

      นักวิเคราะห์กล่าวว่า ชัยชนะของพรรครีพับลิกันสำหรับที่นั่งวุฒิสมาชิกที่ว่างลงได้ช่วยหนุนดอลลาร์ขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนครึ่งเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญๆ จากมุมมองที่ว่า อาจจะมีการกดดันให้สภาคองเกรสควบคุมการขาดดุล เนื่องจากมีแนวโน้มว่าพรรครีพลับบลิกันจะได้รับเลือกมาคานอำนาจประธานาธิบดีโอบามา ซึ่งจะส่งผลให้มีการตัดลดงบประมาณการใช้จ่ายลง และจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น

      รายงานข่าวที่ว่าธนาคารของจีนได้ถูกสั่งให้ควบคุมการปล่อยกู้นั้นได้ถ่วงสกุลเงินที่เกี่ยวข้องกับสินค้าโภคภัณฑ์ อาทิ ดอลลาร์ออสเตรเลียซึ่งร่วงลง 1.8% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ นักวิเคราะห์กล่าวว่า นโยบายที่คุมเข้มมากขึ้นอาจจะชะลอการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน และส่งผลกระทบต่อความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์และสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ

      กองทุน SPDR Gold trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยว่าทางกองทุนได้ถือครองทองแท่งระดับ 1,111.922 ตัน ณ วันที่ 20 มกราคม 2553 ลดลง 0.914 ตัน จากวันที่ 15 มกราคม 2553

      กลยุทธ์ : หลังการหลุดแนวรับ Stop Loss สำคัญที่ระดับราคา 1123 US$ ซึ่งเป็นแนวที่สำคัญมาก ให้รออีก 2-3 วันทำการเพราะยังมีแรงลงต่อเนื่องเกิดขึ้นได้อีก  


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 21, 2010, 10:59:24 AM
ฮาฮา อ่านให้เต็มอิ่มไปเลยครับ ล้วนมีประโยชน์ต่อการลงทุนของเพื่อนๆ อิ่มแล้วยัง? ไม่อิ่มเดี๋ยวหามาเติมให้อีก ฮาฮา


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 21, 2010, 12:02:50 PM
กราฟตาแป๊ะซ้ายบน มีการเปลี่ยนแปลงนิดหนี่ง มีคำว่า  ตัวหนังสือสีเขียว ? ---ขาย และ  ตัวหนังสือสีแดง?----ซื้อ  เพิ่มเข้ามา เฉพราะที่เพิ่มเข้ามานิดหน่อยนี้ ผมใช้เวลาศุกร์-เสาร์-อาทิตย์(25--27ธค.52)ทั้ง3วันค้าหาในเวปจีนถึงได้เจอ และเอามาเพิ่มผสมเข้ากับกาฟตาแป๊ะช่องซ้ายบน ยังมิทราบจะแม่นยำแค่ไหน ต้องคอยกาลเวลาบ่งบอกครับ
กราฟตาแป๊ะซ้ายบน ตัวหนังสือสีเขียว ? ---ขาย   ตัวหนังสือสีแดง?----ซื้อ  เส้นสีแดงหนา---ขาขึ้น เส้นสีเขียวหนา---ขาลงขวาบน  เส้นสีแดง---เสนอซื้มากกว่าเสนอขาย เส้นสีเขียว---เสนอขายมากกว่าเสนอซื้อ  ส่วนช่วงกลางที่มีแท่งสีแดงกับเขียวนั้น แท่งแดง---แรงซื้อขึ้น   แท่งเขียว---แรงขายลง
ขวาช่องสอง  แท่งเหลืองคู่เส้นแดง---ขาขึ้น   แท่งฟ้าคู่เส้นเขียว---ขาลง โดยปกติ ช่องนี้จะเปลี่ยนแนวโน้มช้ากว่าเพื่อน หากเปลี่ยนแนวโน้มเมื่อไหร่ เขาให้ขายออกหรือซื้อเข้าได้ทันที่ ยกเว้นมีปัจจัยพื้นฐานแรงๆแทรกเข้ามา จึงจะทำให้แนวโน้มกลับเปลี่ยนได้โดยกะทันหัน
ซ้ายช่องสอง หน้าเหลืองแป๊ะยิ้ม---ขาขึ้น หน้าแดงแป๊ะร้องไห้---ขาลง  แท่งสีเขียว---เพดาน   แท่งสีแดง---พื้นดินโดยปกติ ช่องนี้จะส่งสัญญาณว่า กำลังจะเปลี่ยนแนวทางแล้วนะ แต่ยังไม่เต็มร้อย อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยกะทันหันก็ได้ ต้องดูซ้ายบนและขวาช่อง๒ประกอบด้วย จึงจะให้ความมั่นใจได้
ทอง
(http://img340.imageshack.us/img340/6357/61579802.gif) (http://img340.imageshack.us/i/61579802.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 21, 2010, 12:04:32 PM
ดัชนีเงินเมกา
(http://img694.imageshack.us/img694/9855/68540433.gif) (http://img694.imageshack.us/i/68540433.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 21, 2010, 12:06:26 PM
น้ำมัน
(http://img264.imageshack.us/img264/2477/92217800.gif) (http://img264.imageshack.us/i/92217800.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Cindy ที่ มกราคม 21, 2010, 02:02:54 PM
ขอบคุณค่ะอาจารย์ รอดูราคาพรุ่งนี้อีกวัน ค่อยเข้าโกลด์ค่ะ วันนี้ดูมันไม่นิ่ง พุ่งขึ้นไปให้ตาแป๊ะยิ้มอีกแล้ว ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: brabus ที่ มกราคม 21, 2010, 02:38:33 PM
 ;D ขอบคุณค่ะพี่ทองใหม่


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ มกราคม 21, 2010, 03:04:57 PM
ขอบคุณค่ะ  ข้อมูลแน่นปึกเลยจะหัดดูกราฟนะคะผิดถูกยังไงแนะนำด้วยนะคะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Yai Carmungwed ที่ มกราคม 21, 2010, 07:52:20 PM
 :D ขอบคุณมากครับอาจารย์ทองใหม่ :D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 22, 2010, 06:19:56 AM
 วิธีดูทิศทางทอง ต้าน๓----หนุน๓เป็นทิศทางทองที่จะเคลื่อนไหวในวันนี้ หากพุ่งทะลุต้าน๓หรือดิ่งทะลวงหนุน๓ แสดงถึงวันนั้นทองเคลื่อนไหวแรงเกินปกติ เส้นแดนเป็นเส้นที่จะแบ่งแยกทิศทางของทองที่จะขึ้นหรือลง หากทองเคลื่อนไหวอยู่ในทิศทางใดมากและนาน นั่นหมายถึงโอกาสเป็นไปได้มากที่ทองจะเคลื่อนไปในทิศทางนั้นๆ ในช่วงเวลานั้น (ยังต้องแบ่งออกในช่วงเวลาตลาดเอเซีย ยุโรป เมกาด้วย) ต้าน๑และหนุน๑หากถูกทดสอบแบบมีผล(ขึ้นลงมากกว่า๑ครั้ง)แล้วยืนอยู่ได้ นั่นคือทิศทางทองที่จะเดินต่อไปในช่วงเวลานั้น หากการวิเคราะเกิดขัดแย้งกันเมื่อไหร่ ให้หยุดมองดูอย่างเดียว ไม่ควรซื้อ-ขายในช่วงเวลานั้น แนวทางนี้เหมาะกับการเล่นสั้นมาก (เล่นแบบออนไลน์ในอนาคต) มีความแม่นยำถึง80%ครับ อีกอย่างข่าวปัจจัยพื้นฐานอาจเปลี่ยนทิศทางทองได้กะทันหันนะครับ
ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์กับการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย ถัาติดดอยเมื่อทองต่ำลงมา  หากยังมีเงินเหลืออยู่ ควรซื้อเพิ่ม เพิ่มที่ละนิด ต่ำอีกซื้ออีก เพื่อดึงต้นทุนที่สูงให้ต่ำลงมา ใครที่ยังไม่มีทองในมือควรทยอยซื้อเข้าอย่ามากนัก หากทองลงอีก เราก็ซื้ออีก ดีกว่าเวลาทองขึ้นเราไปไล่ซื้อในราคาที่สูง  จดจำเป็นคติเตือนใจว่า  เรามิอาจซื้อได้ในราคาที่ต่ำสุด และขายได้ในราคาที่สูงสุด ไม่มีการลงทุนใดที่ไม่เสี่ยง การบริหารพอร์ตให้ได้จังหวะ จะลดความเสี่ยงลงได้ครับ
กราฟสำคัญ ปัจจัยพื้นฐานก็สำคัญ จิตวิทยาการโน้มเอียงของคนก็สำคัญ สิ่งเหล่านี้หากเป็นไปในแนวเดียวกัน ก็จะมุ่งไปทางนั้น หากแย้งกันก็ต้องดูฝ่ายไหนเหนือกว่า.....ด้วยเหตุนี้ไม่มีนักวิเคราะห์คนใดที่จะทำนายได้แม่นยำตลอดกาลได้ครับ
(http://img94.imageshack.us/img94/1504/87953089.gif) (http://img94.imageshack.us/i/87953089.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 22, 2010, 06:21:25 AM
เส้นปากถุง(เส้นสีขาวทั้ง๓เส้น)แบบง่ายๆ ไม่ปวดเศียรเวียนเกล้า
เส้นบน---แนวต้าน
เส้นกลาง---แนวโน้ม(สำคัญสุด)
เส้นล่าง---แนวหนุน
ลักษณะที่๑---ทิศทางขึ้นเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น   เส้นกลางหันหัวขึ้น   เส้นล่างหันหัวลง
ลักษณะที่๒---ทิศทางขึ้นเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวขึ้น
เมื่อเจอลักษณะทั้ง๒นี้ ราคาระหว่างวันที่ขึ้นๆลงๆ เมื่อเจอจุดที่เห็นว่าต่ำแล้วให้ซื้อเข้าได้เลยครับ  ขอเพียงเส้นกลาง(แนวโน้ม)ยังหันหัวขึ้นอยู่ แม้ราคาเแท่งเทียนจะอยู่ต่ำกว่าเส้นกลาง ก็ยังซื้อเข้าได้ หากเส้นบนเดินขวางเมื่อไหร่ ให้ทยอยลดพอร์ตได้เลยครับ
ลักษณะที่๓---เลือกทิศทาง---เส้นบนหันหัวลง เส้นล่างหันหัวขี้น ปากถุงแคบลง ถึงช่วงนี้ ให้ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว หากใครยังคิดอยากเคลื่อนไหว ก็จงเคลื่อนไหวไปหน้าทีวี จงอย่าทำการอย่างอื่นใด หากใครเป็นจอมยุทธ์ ก็ชิงเคลื่อนไหวก่อนใครได้  
ขอแถมอีกนิด จงโฟกัสที่เส้นกลาง หากเส้นกลางเริ่มขยบหัวหัวขึ้นหรือลง ทิศทางอาจขึ้นหรือลงตามเส้นกลางแนวโน้มนั้น
ลักษณะที่๔---เคลื่อนไหวในกรอบแคบ---เส้นบน กลาง ล่าง เดินขวางทั้ง๓เส้น หากใครเล่นออนไลน์ สามารถเล่นได้เล็กน้อยอย่ามาก เมื่อราคาแท่งเทียนใกล้เส้นบน จงขาย ใกล้เส้นล่าง จงซื้อ ต้องเข้าออกให้ทันการณ์ หาไม่แล้วจากกำไรอาจขาดทุนได้นา ขอบอก
ลักษณะที่๕---ทิศทางลงเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น เส้นกลางหันหัวลง เส้ยล่างหัวหัวลง
ลักษณะที่๖---ทิศทางลงเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวลง  เมื่อเส้นล่างเดินขวางเมื่อไหร่ ผู้ที่ใจกล้าที่เล่นออนไลน์ เริ่มทยอยซื้อเข้าได้ที่ละนิด อัตราเสี่ยงยังมีอยู่บ้างนะครับ สิบอกไห่
วิธีดูเส้นปากถุงที่กล่าวมานี้ .....ไม่ใช่ตำราของฝรั่ง แบบของฝรั่งผมเคยอ่านมาบ้างแล้ว ยาวมาก ปวดหัว ทำความเข้าใจได้ยากมากๆๆๆๆ ...........เหมาะเฉพาะกราฟราย๔ชม.และช่วงปกติเท่านั้นนะครับ  (บางครั้งตลาดจงใจคึงขึ้นลงอย่าแรงๆ แทบหัวใจวายสำหรับผู้มีทองในมือและผิดทิศทางของตัวเอง เรียกว่า ช่วงไม่ปกติครับ)

(http://img64.imageshack.us/img64/9103/37805676.gif) (http://img64.imageshack.us/i/37805676.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 22, 2010, 06:22:58 AM
กราฟGold 1
ช่อง1 เส้นแดงอยู่เหนือเส้นเขียว---ทิศทางขึ้น  ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น  สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นเขียวอยู่เหนือเส้นแดง---ทิศทางลง     ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นแดงและเขียวประสานเป็นกากะบาด ---กำลังจะเปลี่ยนทิศ ให้ดูเส้นแนวโน้มประกอบ  หากเส้นแดงและเขียวกำลังจะประสาน แต่ไม่ทันได้ประสานก็หันหันหัวกลับขึ้นหรือลง  แสดงว่ากำลังมีเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนี่งเกิดขึ้น หากขึ้นทะลุเส้นปะแนวต้าน ให้ดูเส้นปะแนวต้านเส้นต่อไป หากลงทะลุเส้นปะแนวหนุน ให้ดูเส้นแนวหนุนเส้นต่อไป   ส่วนจุดกลมเหลืองทอง---ทิศทางลง  จุดกลมฟ้า---ทิศทางขึ้น  หากกราฟวิ่งในยามปกติ พอเชื่อถือได้ หากกราฟวิ่งขึ้นลงแรงๆ คือยามไม่ปกติ ไม่อาจเชือถือได้
ช่อง2  ให้ดูเส้นสีม่วง ประกอบกับเส้นแนวโน้มในช่อง1 หากหันหัวไปในทิศทางเดียวกัน  โอกาสที่จะผิดพลาดก็มีน้อย  ส่วนเส้นปะสีเหลืองทองและฟ้า  หากขึ้นเหนือเลข80 เข้าสู่เขตซื้อเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ทุกเมื่อ  หากลงต่ำกว่าเลข20 เข้าสู่เขตขายเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ตลอดเวลา
ช่อง3   ให้ดูทั้ง2เส้น คือเหลืองทองและฟ้า หันหัวไปทิศทางเดียวกันหรือไม่  เท่านั้นยังไม่พอ  ให้ดูประกอบทิศทางในช่อง1ว่าเป็นทิศทางเดียวกันหรือไม่  หากทิศทางหันหัวในแนวเดียวกัน  ทิศทางนั้นเชื่อถือได้

(http://img710.imageshack.us/img710/1631/53391157.gif) (http://img710.imageshack.us/i/53391157.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 22, 2010, 07:44:14 AM
!thk หือ...ทิศทางลง ชัดเจนเลย ยังไม่ถึงเวลาเก็บอีกหรอคะ  
หากว่ากันตามกราฟตาแป๊ะ น่าจะรออีกหน่อย เพราะตาแป๊ะร้องไห้ยังไม่เต็มที่ ฮาฮา ใครกลัวขึ้นรถไม่ทัน ก็ทยอยซื้อที่ละนิดไม่เป็นไรจ้า ถึงดอยก็ดอยนิดหน่อย แต่อาจเป็นคนแรกที่ขึ้นรถก่อนใครก็ได้นา ฮาฮา


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 22, 2010, 08:11:57 AM
กราฟใหม่2010(เรามาช่วยกันใช้กาลเวลาพิสูจน์ว่า กราฟตัวนี้จะมีความขลังเท่ากราฟตาแป๊ะไหม)
1.   ซ้ายบนหน้าเทาขาวและหนังสือสีขาว??ถอนตัว(ขาย)   หน้าแดงและหนังสือสีเหลือง??บุก(ซื้อ)
2.   กลางบน หนังสือสีเขียว??ขาย หนังสือสีแดง??ซื้อ  ส่วนตัวหนังสือสีเหลือง????เส้นหยุดขาดทุน(สำหรับผู้ที่เล่นออนไลน์สั่งป้องกันล่วงหน้าได้เท่านั้น)
3.   ขวาบน    เครื่องหมายสีขาว??ขาย      เครื่องหมายสีชมภู      ? ?ซื้อ

4.   ซ้ายล่าง สีแดง???เพดาน(จะอยู่ช่วงบน)   สีแดง???ซื้อ(จะอยู่ช่วงล่าง)          สีเขียว ????หนีเร็ว หากเครื่องหมาย ?ปรากฏแค่/ยังไม่สมบูรณ์เต็มตัว?เตรียมตัวหนี(จะปรากฏพร้อม   ???เพดาน(จะอยู่ช่วงบน)   )และตัวหนังสือสีเขียว????เจอต่ำซื้อ
5.   กลางล่าง   หน้าเทาขาว?ขาย        หน้าแดง?ซื้อ
6.   ขวาล่าง  ตัวหนังสือสีเขียว (?)?ขาย  ตัวหนังสือสีเหลือง(?)?ซื้อ   (กราฟช่องนี้ ให้สัญญาณทั้งซื้อและขายออกจะไวกว่ากราฟช่องอื่นๆ มีทั้งข้อดีและเสีย บางครั้งก็ตรงตามสัญญาณที่ให้ในทันทีเลย บางคั้งก็อาจเลื่อนออกไปอีกตั้งหลายวันจึงจะตรงตามสัญญาณที่ปรากฏ สัญญาณของกราฟช่องนี้ ให้เพื่อนๆตัดสินใจเอาเองด้วยความระมัดระวังตามใจชอบนะครับ ขอเตือนเป็นพิเศษ)
(http://img197.imageshack.us/img197/2814/63959461.gif) (http://img197.imageshack.us/i/63959461.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: brabus ที่ มกราคม 22, 2010, 09:20:03 AM
 ;D สวัสดีตอนเช้าค่ะพี่ทองใหม่ ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ มกราคม 22, 2010, 10:15:42 AM
ขอบคุณค่ะคุณทองใหม่  วันนี้น่าสนขอเก็บสักนิดแล้วกันค่ะรอตาแป๊ะร้องไห้เต็มที่แล้วค่อยเข้าหมด ฮิ ฮิ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 22, 2010, 10:27:04 AM
สหรัฐฯเตรียมเสนอกฎคุมเข้มธนาคาร - จีนจ่อขึ้นแท่นเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก

Posted on Friday, January 22, 2010
แผนกำกับภาคธนาคารสหรัฐฯ กดดันนักลงทุนทิ้งหุ้น

นักลงทุนแห่เทขายหุ้นออกหลังประธานาธิบดี บารัค โอบามา เสนอมาตรการจำกัดการรับความเสี่ยงของภาคธนาคาร ซึ่งสร้างความกังวลนอกไปเหนือจากเรื่องจีน ที่อาจจะออกนโยบายลดความร้อนแรงทางเศรษฐกิจอีกรอบ หลังรายงานตัวเลข GDP พุ่งเป็นตัวเลขสองหลักในไตรมาส 4

ทั้ง Dow Jones และ S&P 500 ปรับตัวลงแรง ลบล้างผลตอบแทนที่เป็นบวกที่ทำมาได้ตั้งแต่ตอนต้นปี ด้วยแรงขายที่เข้ามาหนักในหุ้นกลุ่มแบงก์ ไปจนถึง commodities

ประธานาธิบดี โอบามา ได้เสนอให้มีการยกเครื่องกฏหมายทางด้านการกำกับดูแลภาคธนาคาร และขณะนี้ก็กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาโดยสภาคองเกรส ซึ่งกฏหมายฉบับนี้ได้มุ่งให้มีการจำกัดขนาดและธุรกรรมการซื้อขายของสถาบันการเงินต่างๆ เพื่อหวังที่จะลดระดับความเสี่ยงและป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤติการเงินอีกรอบ

ข้อเสนอในร่างกฏหมายดังกล่าวรวมไปถึงการห้ามไม่ให้ธนาคารดำเนินการซื้อขายที่เป็นพอร์ทการลงทุนของตัวเองเพียงเพื่อมุ่งหวังกำไร และสนับสนุนกองทุนเก็งกำไร และ private equity funds ทั้งหลายด้วย

โอบามายังได้เสนอให้มีการขยายขอบเขตของข้อจำกัดทางด้านเงินฝากให้ครอบคลุมไปถึงหนี้สินประเภทอื่นๆ อย่างเช่น การระดมทุนที่ไม่ใช่การฝากเงิน เพื่อต้องการจำกัดการขยายตัวและการควบรวมในตัวเลขทางการเงินต่างๆ

นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า นโยบายจัดการกับภาคธนาคารครั้งนี้ อาจจะไปกระทบแบงก์ขนาดใหญ่ ที่ปกติจะมีการซื้อขายหลักทรัพย์หรือสินทรัพย์ต่างๆ อยู่แล้ว ซึ่งก็รวมถึง Goldman Sachs Group, Morgan Stanley และ JPMorgan Chase

นักลงทุนเทกระจาดหุ้นทั้ง 3 ธนาคารที่ว่า จนราคาดิ่งลงมากกว่า 5% ในการซื้อขายเมื่อคืนนี้ และนำดัชนีกลุ่มการเงินใน S&P 500 ร่วงลงกว่า 3% ซึ่งแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว

และนอกจากเรื่องมาตรการกำกับดูแลภาคธนาคารแล้ว ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ นำโดย น้ำมัน ก็ลดความร้อนแรงลง จากความกังวลเรื่องจีนอาจใช้มาตรการแตะเบรคทางเศรษฐกิจ หลัง GDP ไตรมาส 4 ออกมา 10.7% ขณะที่ราคาน้ำมันถูกกดดันจากตัวเลขสต็อกน้ำมันสำเร็จรูปของสหรัฐฯ ในสัปดาห์ล่าสุดที่ออกมาเพิ่มขึ้นมากกว่าตลาดคาดการณ์


ประธานาธิบดีสหรัฐฯเตรียมเสนอกฎคุมขนาดแบงก์และห้ามเก็งกำไรในพอร์ต

ประธานาธิบดีบารัค โอบามา เตรียมเสนอให้มีการจำกัดขนาดของสถาบันการเงินและกิจกรรมการซื้อขาย เพื่อหาทางบรรเทาความเสี่ยง

ข้อเสนอในร่างกฏหมายดังกล่าวรวมไปถึงการห้ามไม่ให้ธนาคารดำเนินการซื้อขายที่เป็นพอร์ตการลงทุนของตัวเองเพียงเพื่อมุ่งหวังกำไร และสนับสนุนกองทุนเก็งกำไร และ private equity funds ทั้งหลายด้วย

โอบามายังได้เสนอให้มีการขยายขอบเขตของข้อจำกัดทางด้านเงินฝากให้ครอบคลุมไปถึงหนี้สินประเภทอื่นๆ อย่างเช่น การระดมทุนที่ไม่ใช่การฝากเงิน เพื่อต้องการจำกัดการขยายตัวและการควบรวมในตัวเลขทางการเงินต่างๆ

ข้อเสนอดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างกฎระเบียบ และจะช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทการเงินเหล่านี้ โดยผู้นำสหรัฐจะประกาศกฎเกณฑ์ดังกล่าวในวันนี้ตามเวลาท้องถิ่นในสหรัฐ หลังจากที่ได้ประชุมร่วมกับนายพอล วอล์คเกอร์ อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐที่ทำเนียบขาว

โอบามากำลังปรับเปลี่ยนนโยบายเศรษฐกิจ หลังจากที่ประชาชนยังไม่พอใจเศรษฐกิจที่ยังคงย่ำแย่

นอกจากนี้ การนำเงินภาษีประชาชนไปช่วยเหลือบริษัทหรือสถาบันการเงินที่มีปัญหา สามารถช่วยให้กำไรของธนาคารเพิ่มขึ้น แต่กลับไม่สามารถช่วยให้อัตราว่างงานปรับตัวลดลงได้ โดยอัตราว่างงานยังอยู่ในระดับสูงถึง 10% และยอดขาดดุลเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว

นักวิเคราะห์มองว่า ข้อเสนอดังกล่าวอาจจะส่งผลกระทบต่อการซื้อขายของธนาคารรายใหญ่ๆ เช่น โกลด์แมน แซคส์, มอร์แกน สแตนลีย์ และเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค

เมื่อเดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว โอบามาได้เสนอให้มีการยกเครื่องกฎระเบียบด้านการเงิน เพื่อแก้ปัญหาช่องว่างในการกำกับดูแลและการจัดการกับภารกิจในการแบกรับความเสี่ยง


จีนจ่อขึ้นแท่นเป็นประเทศเขตเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของโลก

โฆษกสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน สรุปตัวเลขเศรษฐกิจของจีนเมื่อปีที่แล้ว ขยายตัว 8.7 % ขณะที่ เศรษฐกิจจีนในไตรมาสสุดท้ายเติบโต 10.7% ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่เศรษฐกิจของจีนจะแซงหน้าเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ขึ้นเป็นเขตเศรษฐกิจอันดับ 2 ของโลก รองจากสหรัฐ

จีนก็เช่นเดียวกับประเทศอื่นที่ประสบปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจในช่วงปลายปี 2551 ถึงต้นปี 2552 ทำให้โรงงานหลายแห่งต้องปิดกิจการและคนงานถูกลอยแพ แต่แผนกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของรัฐบาลช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นและส่งสัญญาณในขณะนี้ว่ากำลังขยายตัวรวดเร็วมาก

ขณะที่ตัวเลขเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 1.9% ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ก็ยังอยู่ในการควบคุม อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจและหาทางควบคุมการปล่อยสินเชื่อของธนาคาร

แม้ว่าเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่รัฐบาลกังวลว่า การกระตุ้นการใช้จ่ายและการปล่อยกู้ของธนาคารอาจทำให้ภาวะเงินเฟ้อสูงขึ้น ดังนั้นรัฐบาลจึงมีคำสั่งให้ธนาคารควบคุมการปล่อยกู้ และคาดว่าจะมีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

เจียง เฉา นักวิเคราะห์จากกั๋วไท่ จวินอัน ซีเคียวริตี้ คาดการณ์ว่า แบงก์ชาติจีนอาจขึ้นดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในช่วงปลายเดือนนี้หรืออย่างช้าที่สุดในช่วงปลายเดือนเม.ย. เนื่องจากการขยายตัวของ GDP ที่สูงกว่า 10% นั้นกำลังบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจร้อนแรงเกินไป

หลี่ เตากุย ศาสตราจารย์ด้านการเงินจากมหาวิทยาลัยชิงหัว คาดการณ์ว่า GDP ของจีนจะขยายตัวมากกว่า 9% ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ และจะชะลอตัวลงในช่วงครึ่งปีหลัง รวมทั้งประเมินว่า GDP จะโต 8.7% ตลอดปี 2553 และดัชนีราคาผู้บริโภคจะปรับตัวสูงขึ้นในปีนี้ ในอัตราเฉลี่ย 2.6% ต่อไตรมาส

ส่วนความเห็นของตัวทางจากทางการจีน ปฏิเสธว่าจะคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจีนไล่ทันญี่ปุ่น เพราะในความเป็นจริงตามมาตรฐานสหประชาชาติ จีนยังมีประชากรอีกถึง 150 ล้านคนที่มีฐานะยากจน มีรายได้ยังชีพเพียงวันละ 1 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 33.50 บาท ซึ่งแม้ว่าตัวเลข GDP ของจีนเพิ่มขึ้นและเศรษฐกิจแข็งแรง แต่ก็ยังต้องยอมรับว่าจีนเป็นประเทศกำลังพัฒนา


คำสั่งซื้อภาคผลิต-บริการของยุโรปแผ่วลงในเดือนม.ค.

ขณะที่เศรษฐกิจจีนสามารถโตได้เป็นตัวเลขสองหลักในไตรมาสที่ผ่านมา แต่เครื่องชี้สภาวะเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศยุโรปกลับยังดูมีอุปสรรคอยู่ในตอนนี้

ความกังวลสะท้อนผ่านดัชนีคำสั่งซื้อในภาคการผลิตและบริการของ 16 ประเทศในเขตยูโรโซน ที่ทำการสำรวจโดย Markit Economics ออกมาปรับตัวลงจากระดับ 54.2 ในเดือนธันวาคม มาอยู่ที่ 53.6 ในเดือนนี้ แถมยังต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่คาดว่าตัวเลขจะยังยืนอยู่แถวระดับ 54

ผลสำรวจนี้เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับตัวชี้วัดอื่นๆ ในภูมิภาคที่ออกมาก่อนหน้านี้ ซึ่งรวมถึงความเชื่อมั่นนักลงทุนของเยอรมันที่ร่วงลงในเดือนล่าสุด และยังถูกตอกย้ำด้วยมุมมองของสมาชิกคณะกรรมการธนาคารกลางยุโรปรายหนึ่งที่คาดว่า แนวโน้มเศรษฐกิจภูมิภาคในช่วงครึ่งปีแรกอาจตกอยู่ในสภาพที่นิ่งสนิท ซึ่งดูแย่กว่าเมื่อเทียบกับครึ่งหลังของปีที่แล้ว

อย่างไรก็ดี ก็มีความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์จาก Citigroup ที่ดูแลภูมิภาคยุโรป มองว่า การปรับตัวลงอาจจะแย่กว่าที่เคยคาดการณ์เพียงเล็กน้อย ซึ่งน่าจะเป็นเพียงการแกว่งลงในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ แต่คงจะไม่ถึงขนาดที่ทำให้ทุกอย่างต้องเดินกลับสู่ภาวะถดถอยอีกครั้ง

ปัจจัยสกัดดาวรุ่งของเศรษฐกิจภูมิภาคยุโรปอย่างหนึ่งก็คือ การแข็งค่าของเงินยูโร ที่ขยับขึ้นมาแล้วราว 8% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ซึ่งไปสร้างแรงกดดันต่อภาคส่งออกและทำให้เกิดความลังเลอย่างมาก ว่าจะจ้างแรงงานเพิ่มขึ้นดีหรือไม่ ในยามที่ความได้เปรียบทางการแข่งขันเริ่มถดถอยลง และนี่ยังไม่รวมถึงเรื่องต้นทุนราคาน้ำมันที่กระโดดขึ้นกว่าสองเท่านับจากปีที่แล้ว มายืนอยู่แถว 70-80 เหรียญต่อบาร์เรลในตอนนี้

ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเริ่มยอมรับว่า เป็นภาพที่มองยากสำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจยุโรปนับจากนี้ ซึ่งนอกจากจะต้องคาดเดาพฤติกรรมผู้บริโภคที่อาจปรับเปลี่ยนหน้ามือเป็นหลังมือได้ภายในช่วงเวลาเพียงข้ามเดือนแล้ว ก็ยังต้องจับทางเศรษฐกิจให้ออกว่าอุปสรรคที่เรื้อรังมาตั้งแต่ช่วงตกต่ำสุดขีดของวิกฤติการเงินนั้นจะจบสิ้นลงเมื่อไหร่


อเมริกันแอร์ไลน์สเล็งค้านหาก JAL เป็นพันธมิตรกับเดลต้า

อเมริกัน แอร์ไลน์ส อิงค์ เผยจะยื่นเรื่องคัดค้านอย่างเต็มที่หาก เจแปน แอร์ไลน์ส จับมือเป็นพันธมิตรกับเดลต้า แอร์ไลน์ส อิงค์ เพื่อเข้ากลุ่มสกายทีม ซึ่งมีเดลต้าเป็นแกนนำ โดยบริษัทอาจจะหาพาร์ทเนอร์ในภูมิภาคเพิ่มเติมอีกเช่นกัน

นายเจอราลด์ อาร์พีย์ ซีอีโอของอเมริกัน แอร์ไลน์ส กล่าวว่า จะเข้าไปขัดขวางไม่ให้มีการร่วมมือกันระหว่างสายการบินยักษ์ใหญ่ในภูมิภาค

ทางด้านแหล่งข่าวเปิดเผยกับสำนักข่าวเกียวโดว่า Enterprise Turnaround Initiative Corp. of Japan (ETIC) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รัฐบาลมอบหมายให้ดูแลแผนฟื้นฟูกิจการของ JAL กำลังพิจารณาเรื่องการเป็นพันธมิตรระหว่าง JAL และเดลต้า และยังวางแผนที่จะให้ JAL ถอนตัวจากการเป็นพันธมิตรกับกลุ่มวันเวิลด์ที่มีอเมริกัน แอร์ไลน์ส เป็นแกนนำ เพื่อที่จะมาเข้ากลุ่มสกายทีมในเดือนเม.ย. 2554

ทางด้านทอม ฮอร์ตัน ซีเอฟโอของอเมริกัน แอร์ไลน์ส กล่าวว่า บริษัทจะประเมินดูสายการบินอื่นๆในภูมิภาคด้วยเช่นกัน ทั้งที่เป็นสมาชิกของกลุ่มสายการบินและที่ไม่ได้เป็น ที่ผ่านมามีสายการบินหลายรายที่แสดงความสนใจเข้าร่วมกลุ่มวันเวิลด์ ซึ่งมีสมาชิก อาทิ บริติช แอร์เวย์ส, แควนตัส แอร์เวย์ส และคาเธย์ แปซิฟิค ซึ่งทางกลุ่มยังเปิดทางสำหรับการรับสายการบินจากละตินอเมริกา อินเดีย และเอเชียใต้เข้าเป็นสมาชิกด้วยเช่นกัน

เชื่อกันว่า อเมริกัน แอร์ไลน์ส และเดลต้า ต่างแย่งกันดึง JAL เข้ากลุ่ม เพื่อเป้าหมายในการให้บริการในเส้นทางที่ทำกำไร โดยอเมริกัน แอร์ไลน์ส และสมาชิกในกลุ่มวันเวิลด์ ได้เสนอเงินลงทุนให้ JAL จำนวน 1,400 ล้านดอลลาร์ ขณะที่กลุ่มสกายทีมภายใต้การนำของเดลต้า ได้เสนอเงินให้ JAL วงเงิน 1,020 ล้านดอลลาร์ และงบลงทุนโดยตรงอีก 500 ล้านดอลลาร์

ด้าน JAL ได้ยื่นขอคุ้มครองทรัพย์สินจากการล้มละลายต่อศาลแขวงโตเกียวเมื่อวันที่ 19 ม.ค. 53 ที่ผ่านมา เพื่อที่จะฟื้นฟูกิจการภายใต้การดูแลของ ETIC ขณะที่รัฐบาลญี่ปุ่นยืนยันว่า จะช่วยสนับสนุนให้สายการบินให้บริการต่อไปได้ในช่วงของการฟื้นฟู


นักวิเคราะห์ชี้จีนจำเป็นต้องคุมปริมาณเงินหมุนเวียน

การที่ธนาคารกลางจีนกำหนดให้ธนาคารพาณิชย์เพิ่มการกันสำรองเงินฝากอย่างเหนือความคาดหมายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้จุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้างเกี่ยวกับนโยบายการเงินของจีนในอนาคต

สำนักข่าวซินหัวจึงได้สอบถามนักวิเคราะห์บางส่วนเกี่ยวกับมุมมองที่มีต่อเรื่องนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์หลายรายก็เชื่อว่า มาตรการดังกล่าวซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อควบคุมปริมาณเงินหมุนเวียนในประเทศนั้น เป็นสิ่งที่จีนไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เนื่องจากธนาคารกลางจีนได้ติดตามสถานการณ์เรื่องราคาเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด และก็เล็งเห็นว่าราคามีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีนี้

ปัจจุบัน ธนาคารกลางจีนต้องตกอยู่ในสภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก กล่าวคือในด้านหนึ่ง เศรษฐกิจจีนอาจสูญเสียปัจจัยกระตุ้นถ้าการปล่อยสินเชื่อถูกบีบ แต่ในอีกด้านหนึ่ง ถ้ามีสภาพคล่องมากเกินไป จีนก็อาจจะต้องเผชิญกับราคาเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งถ้าราคาปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ก็มีแนวโน้มที่ธนาคารกลางจีนจะจัดการกับปริมาณเงินหมุนเวียนอย่างเข้มงวดมากขึ้น

ข้อมูลจากแบงก์ชาติจีนชี้ว่า ยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ในปี 2552 อยู่ที่ 9.59 ล้านล้านหยวน และในเดือนธ.ค.2552 ยอดปล่อยสินเชื่อใหม่พุ่งแตะ 379,800 ล้านหยวน ซึ่งสูงเกินคาดการณ์ของตลาด

เมื่อวานนี้ ธนาคารกลางจีนประกาศขึ้นดอกเบี้ยตั๋วเงินคลังอายุ 3 เดือนเป็น 1.4088% จากระดับ 1.3684% ในสัปดาห์ก่อน หลังจากที่ใน 2 สัปดาห์ก่อน แบงก์ชาติจีนได้ขึ้นดอกเบี้ยตั๋วเงินคลังอายุ 1 ปี 0.166% ซึ่งเป็นการเน้นย้ำให้เห็นถึงความพยายามของจีนในการดูดซับสภาพคล่องส่วนเกิน และคุมเข้มปริมาณเงินหมุนเวียน

ในช่วง 14 สัปดาห์ติดต่อกันจนถึงปัจจุบัน ธนาคารกลางได้ถอนเงินออกจากระบบไปแล้ว 9.53 แสนล้านหยวน ซึ่งเป็นการดำเนินการผ่านตลาดเงิน

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นมาตรการคุมเข้มตลาดการเงินล่าสุดในบรรดามาตรการต่างๆที่แบงก์ชาติจีนได้ประกาศใช้ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา อาทิ การควบคุมการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ในประเทศซึ่งขยายตัวอย่างรวดเร็ว และการเพิ่มสัดส่วนการกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ 0.5% ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันจันทร์ที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากหวั่นเกรงว่าการขยายตัวของสินเชื่อที่สูงเกินไปจะส่งผลให้เกิดเงินเฟ้อและภาวะฟองสบู่ในสินทรัพย์

จาง เจียนหัว ผู้อำนวยการสำนักวิจัยในสังกัดธนาคารกลางจีน กล่าวว่า จีนตัดสินใจใช้วิธีเพิ่มสัดส่วนสำรองเงินฝากธนาคารพาณิชย์เพื่อควบคุมปริมาณเงินหมุนเวียนที่มีอยู่มากเกินไปในระบบ แทนที่จะใช้วิธีควบคุมเข้มสภาพคล่องในเศรษฐกิจที่แท้จริง พร้อมกล่าวด้วยว่า เป็นเรื่องอันตรายสำหรับจีนที่จะรักษาปริมาณเงินทุนมหาศาลเอาไว้ในระยะยาว

นอกจากนี้ นักวิเคราะห์บางรายยังคาดการณ์ด้วยว่า แบงก์ชาติจีนอาจขึ้นดอกเบี้ย ถ้าเศรษฐกิจของประเทศร้อนแรงเกินไป


เกาหลีใต้ตั้งเป้าสร้างงานใหม่ 250,000 ตำแหน่งในปีนี้

เกาหลีใต้ตั้งเป้าจะสร้างตำแหน่งงานใหม่กว่า 250,000 ตำแหน่งในปีนี้ เนื่องจากตลาดงานยังคงซบเซา แม้ว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว

ตัวเลขใหม่นี้ มากกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ที่ 200,000 ตำแหน่ง และแม้เศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว แต่ภาวะการจ้างงานยังคงซบเซา เพราะการจ้างงานมักตามหลังจังหวะการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

รัฐมนตรีคลังเกาหลีใต้ กล่าวว่า รัฐบาลจะให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี รวมทั้งสิทธิประโยชน์อื่น ๆ แก่บริษัทขนาดเล็ก และขนาดกลางเพื่อสนับสนุนการจ้างงาน และในการกำหนดให้การสร้างงานเป็นภารกิจสำคัญ

ปีที่ผ่านมามีชาวเกาหลีใต้ขึ้นทะเบียนเป็นคนตกงานราว 890,000 คน แต่รัฐบาลคาดว่าตัวเลขจริงจะอยู่ที่ 1.82 ล้านคน รวมทั้งผู้ที่ทำงานชั่วคราว และผู้ที่ไม่กระตือรือร้นหางานทำ
หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ระบุในบทบรรณาธิการว่า ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึง ?ยุคน้ำแข็งของการจ้างงาน? หรือ ?ยุคที่เศรษฐกิจขยายตัวโดยไม่มีการจ้างงาน? ที่เกาหลีใต้กำลังเผชิญในปัจจุบัน


การขยายตัวการปล่อยสินเชื่อของญี่ปุ่นเดือนม.ค.ร่วงหนักสุดในรอบ 5 ปี

ผลการสำรวจที่จัดทำโดยธนาคารกลางญี่ปุ่น ?BOJ รายงานว่า อัตราความต้องการเงินกู้เพื่อใช้เป็นทุนดำเนินธุรกิจในเดือนม.ค.ร่วงลงสู่ระดับติดลบ 17 จุดจากเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2547

การขยายตัวของยอดส่งออกที่ช่วยหนุนให้เศรษฐกิจหลุดพ้นจากภาวะถดถอยครั้งใหญ่เมื่อปีที่ผ่านมานั้นยังไม่เพียงพอที่จะกระตุ้นให้ภาคเอกชนกู้ยืมเงินมากขึ้น

ขณะเดียวกัน ตัวเลขสินเชื่อภาคธนาคารในเดือนธ.ค.ปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี เนื่องจากบริษัทหลายแห่งหันไประดมทุนผ่านการขายหุ้นกู้ ซึ่งเป็นวิธีหาเงินทุนที่ง่ายกว่าการกู้ยืมเงินจากธนาคารในช่วงที่เกิดวิกฤตการเงินโลก

ด้านนักวิเคราะห์กล่าวว่า แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวขึ้น แต่เมื่อพิจารณาในแง่ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจพบว่ายังอยู่ในระดับต่ำมาก ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ความต้องการสินเชื่อยังอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ปัจจุบันธนาคารพาณิชย์เองไม่ได้มีช่องทางในการหารายได้มากนัก เพราะอุปสงค์ด้านเงินกู้ยังคงซบเซา


ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่ประกาศออกมาเมื่อวานนี้ (พฤหัสบดีที่ 21 ม.ค. 2553 )
? ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ 482,000 ราย
? ตัวเลขสต็อกน้ำมันสำรองประจำสัปดาห์ ลดลง 0.4 ล้านบาร์เรล
? ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ (ธ.ค.) เพิ่มขึ้น 1.1% จากเดือนก่อนหน้า

ติดตาม Money Wake up ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ออกอากาศซ้ำเวลา 11.00 น. ทาง Money Channel


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 22, 2010, 10:39:09 AM
22 ม.ค. 2553


บาท/ดอลลาร์เช้านี้ทรงตัว แต่มีโอกาสอ่อนค่าหลังสหรัฐ-จีนคุมเข้มแบงก์

 
        *บาท/ดอลลาร์ภาคเช้าทรงตัวแถวๆ ระดับ 33.00 หลังอ่อนค่าเมื่อวานนี้ ขณะที่
         ดีลเลอร์คาดว่า เงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าอีกเล็กน้อย ตามสกุลเงินอื่นๆ ที่ถูกกระทบ
         จากการที่สหรัฐจะคุมเข้มภาคธนาคารมากขึ้น และยังวิตกว่าจีนจะคุมเข้มสินเชื่อ
        *เยนพุ่งขึ้นเทียบดอลลาร์และยูโรในตลาดเอเชียช่วงเช้านี้ ขณะที่ความต้องการ
         สินทรัพย์เสี่ยงโดยทั่วไป ได้รับผลกระทบจากข้อเสนอของสหรัฐที่จะออกกฎระเบียบ
         ควบคุมภาคธนาคารของสหรัฐ 
        *สกุลเงินที่ให้ผลตอบแทนสูง และเกี่ยวข้องกับสินค้าโภคภัณฑ์ อาทิ ดอลลาร์ออสเตรเลีย
         และดอลลาร์นิวซีแลนด์ ร่วงลงเช่นกัน ซึ่งเป็นผลส่วนหนึ่งจากแผนใหม่ของสหรัฐ และ
         จากความวิตกที่ยังมีอยู่ว่า จีนอาจคุมเข้มนโยบายการเงินอีกในไม่กี่สัปดาห์หน้า
        *ข้อเสนอของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ที่ควบคุมภาคธนาคารมากขึ้นนั้น 
         รวมถึงการสกัดกั้นธนาคารต่างๆ จากการเป็นเจ้าของ, สนับสนุน หรือลงทุนใน
         กองทุนเฮดจ์เพื่อหากำไร ซึ่งข้อเสนอนี้ได้ทำให้หุ้นกลุ่มธนาคารของสหรัฐร่วงลง
        *ขณะที่ความวิตกว่า จีนจะคุมเข้มการปล่อยสินเชื่อและนโยบายการเงินนั้น ยังฉุด
         สกุลเงินที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์ร่วงลงในสัปดาห์นี้ หลังเศรษฐกิจจีนขยายตัว
         แข็งแกร่ง และวิตกกันว่า อัตราเงินเฟ้อเริ่มจะเพิ่มขึ้น
        *จีนเปิดเผยวานนี้ว่า จีดีพีขยายตัว 10.7% ในไตรมาส 4 ปีที่แล้ว เมื่อเทียบ
         รายปี เพิ่มขึ้นจาก 8.9% ในไตรมาส 3 ขณะที่จีดีพีทั้งปี 52 ขยายตัว 8.7%
        *ส่วนยูโรร่วงลงมากที่สุดในสัปดาห์นี้ ขณะที่นักลงทุนวิตกต่อฐานะการคลังภาคสาธารณะ
         ของกรีซ ซึ่งกรีซเผชิญกับการขาดดุลงบประมาณจำนวนมาก และต้นทุนการกู้ก็เพิ่มสูงขึ้น 
        *รัฐบาลกรีซเปิดเผยวานนี้ว่า จะดำเนินมาตรการที่จำเป็นทั้งหมด เพื่อควบคุมการ
         ขาดดุล และทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัว
        *09.09 น.บาท/ดอลลาร์ อยู่ที่ 32.99/33.03 จาก 33.01/04 เมื่อวันพฤหัสบดี
         ขณะที่ในตลาด offshore อยู่ที่ 32.99/33.01 จาก 33.00/05 เมื่อวันพฤหัสบดี
        *เยน/ดอลลาร์ อยู่ที่ 89.94/95 จาก 90.39 ในตลาดนิวยอร์คเมื่อคืน
        *ยูโร/ดอลลาร์ อยู่ที่ 1.4129/33 จาก 1.4093 ในตลาดนิวยอร์คเมื่อคืน
 
        "เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ ใกล้เคียงกับปืดเมื่อวาน ระหว่างวัน คาดว่าน่าจะ
        เคลื่อนไหวแคบๆ เช่นเดียวกับเมื่อวานนี้ โดยมีโอกาสอ่อนค่าได้อีกเล็กน้อยตามสกุลอื่น
        รวมถึงปัจจัยภายในของเราเองด้วย" ดีลเลอร์กล่าว
        ดีลเลอร์ มองว่า ในวันนี้บาท/ดอลลาร์น่าจะปรับตัวในช่วง 32.95-33.10



หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 22, 2010, 10:51:05 AM
  ประเด็นสำคัญ
   - ราคาทองปิดลบใกล้ 1,100 ดอลล์
   - ดอลล์ร่วงหลังโอบามาออกแผนจำกัดความเสี่ยงภาคธนาคาร
   - ราคาน้ำมันดิบร่วงขณะสต็อกเบนซินเพิ่มขึ้น
   - ดาวโจนส์ปิดร่วง 2.01% หลังโอบามาเสนอกฏคุมแบงค์


    ราคาทองที่ตลาดสหรัฐปิดต่ำลงที่ราว 1,100 ดอลลาร์/ออนซ์ในวันพฤหัสบดี โดยแตะระดับต่ำสุดของปีนี้ ในขณะที่ข้อเสนอของประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐในการจำกัดความเสี่ยงของธนาคาร บั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วกระดาน

    สัญญาทองส่งมอบเดือนก.พ.เคลื่อนตัวในช่วง 1,117.40-1,088 ดอลลาร์ซึ่งเป็นราคาต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค. ในขณะที่มีปริมาณการซื้อขายราว 277,582 สัญญา ทองได้รับแรงกดดัน หลังจากที่คณะบริหารของปธน.โอบามา เสนอข้อจำกัดที่เข้มงวดขึ้นต่อการเสี่ยงลงทุนด้านการเงินในวันพฤหัสบดี ซึ่งส่งผลให้หุ้นกลุ่มธนาคารและตลาดวอลล์สตรีทดิ่งลง

     ประธานาธิบดีบารัค โอบามากล่าวว่า ภาคธนาคารไม่ควรได้รับอนุญาตอีกต่อไปให้เป็นเจ้าของ, สนับสนุน หรือลงทุนในกองทุนเฮดจ์ ฟันด์เพื่อแสวงหาผลกำไร

     ดัชนีความผันผวน (VIX) ซึ่งบ่งชี้ถึงความวิตกของนักลงทุนพุ่งขึ้นประมาณ 14% สู่ 21.36 และปรับตัวขึ้น 2 วันคิดเป็นเปอร์เซนต์สูงสุดในรอบ 13 เดือน

     นักวิเคระห์จากบริษัท ซัมมิท เอนเนอร์จี อิงค์ กล่าวว่าภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์เป็นไปอย่างผันผวน หลังจากหลังจากประธานาธิบดีบารัค โอบามา เสนอให้ใช้นโยบายจำกัดขนาดและการลงทุนของสถาบันการเงินเพื่อลดความเสี่ยงที่จะทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยครั้งใหม่

     กองทุน SPDR Gold trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยว่าทางกองทุนได้ถือครองทองแท่งระดับ 1,111.922 ตัน ณ วันที่ 21 มกราคม 2553 ลดลง 0.914 ตัน จากวันที่ 15 มกราคม 53

     กลยุทธ์ : หลังการหลุดแนวรับ Stop Loss สำคัญที่ระดับราคา 1123 US$ ซึ่งเป็นแนวที่สำคัญมาก ให้รออีก 2 วันทำการเพราะยังมีแรงลงต่อเนื่องเกิดขึ้นได้อีก สำหรับคนที่ลงทุนทองคำแท่งอาจจะแบ่งเข้าซื้อได้ในช่วงนี้ แต่เป้าหมายการลงลึกสุดในรอบนี้ราคาทองอาจจะมีการลงต่อได้อีกที่ 1,078US$ และ 1,050 US$


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 22, 2010, 10:54:11 AM
22 ม.ค. 2553


สรุปภาวะตลาดเมื่อวาน
    ราคาโกลด์ฟิวเจอร์สปรับตัวช่วงแคบในตอนเช้า และปรับตัวลดลงรุนแรงช่วงเย็น ตามที่เราคาดการณ์ไว้เมื่อวานนี้ ทองคำแท่งสมาคมฯปิดที่ 17,300/400 บาท  เงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อย


ปัจจัยที่อาจส่งผลต่อเนื่องถึงวันนี้
    ในประกาศประกอบรายงานการเติบโตเศรษฐกิจของจีนเมื่อวานนี้ รัฐบาลจีนได้ให้มุมมองบางส่วนแตกต่างออกไป โดยฉบับภาษาอังกฤษได้มีการตัดข้อความบางส่วนออกไปจากเดือนที่แล้วคือไม่ได้ให้มุมมองว่าจีนจะดำเนิน"นโยบายการเงินผ่อนคลาย (Moderately Loose Monetary Policy)"และ"นโยบายการคลังเพื่อการเติบโต (Proactive Fiscal Policy)"อีกต่อไป เป็นการแสดงเจตนาที่ค่อนข้างชัดเจนว่าจีนอาจปรับมาตรการต่างๆให้ดำเนินนโยบายแบบรัดกุมมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงพร้อมกับดอลลาร์ที่แข็งค่าต่อเนื่องเมื่อวานนี้ [Bloomberg, TCAF Research]
    เย็นเมื่อวานยังมีรายงานผลสำรวจผู้ประกอบการในยุโรปที่เริ่มแสดงให้เห็นว่ากลุ่มยูโรอาจดำเนินรอยตามสหรัฐฯไปคือผู้ผลิตยังมีมุมมองต่อเศรษฐกิจที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในขณะที่ผู้ให้บริการเริ่มประสบปัญหาแสดงให้เห็นถึงผู้บริโภคที่ยังไม่กลับมาใช้จ่าย เป็นการกดดันราคาทองคำได้ต่อไปอีก [Markit Economics, TCAF Research]
     บริษัทโกลด์แมนแซ็คส์ รายงานผลประกอบการออกมาดีกว่าคาดอย่างมากส่งผลให้นักลงทุนเริ่มมีความหวังและผลักดันตลาดหุ้นเพิ่มขึ้นไปได้ในช่วงแรกเล็กน้อย [Reuters, TCAF Research]
     นายโอบามา ปธน.สหรัฐฯได้เสนอกฎวอล์คเกอร์ (Volcker Rule) เพี่อควบคุมการดำเนินงานของธนาคารโดยมีใจความสำคัญสองประการคือจำกัดให้ธนาคารสามารถดำเนินงานที่บริการลูกค้าเท่านั้นไม่ให้ธนาคารลงทุนในสินทรัพย์ที่เสี่ยงมากเกินไปด้วยวัตถุประสงค์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับลูกค้า และให้จำกัดการเติบโตของการปล่อยเงินกู้ของธนาคารอีกด้วย ความเห็นดังกล่าวส่งผลกดดันค่าเงินดอลลาร์ในขณะที่กดดันราคาทองคำด้วย โดยเราเห็นว่าน่าจะส่งผลให้นักลงทุนทั่วโลกกลับมากลัวความเสี่ยงอีกครั้ง [US Government, TCAF Research]


แนวโน้มทองคำวันนี้
   เรามองว่าไม่น่าจะมีข่าวร้ายส่งผลต่อราคาทองคำได้มากกว่านี้แล้ว โดยเฉพาะความเห็นของเราว่าเศรษฐกิจโลกน่าจะอยู่ในช่วงขาขึ้น เราจึงมองว่า "ราคาทองคำน่าจะค่อยๆเตรียมตัวปรับขึ้น" เราจึงแนะนำให้ "ค่อยๆสะสม LONG เมื่ออ่อนตัวโดยมีจุดตัดขาดทุนที่ราคาสปอตลดลงต่ำกว่า $1,083"


มุมมองทองคำ
    แนวโน้มเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวน่าจะมีความสำคัญที่สุดในช่วงนี้ ในขณะที่มาตรการต่างๆของมหาอำนาจก็น่าจับตามองไม่แพ้กันเนื่องจากอาจส่งผลต่อการรับความเสี่ยงของนักลงทุนและส่งผลต่อสถานะของทองคำได้



หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ มกราคม 22, 2010, 01:32:19 PM
ขอบคุณค่ะคุณทองใหม่ 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Cindy ที่ มกราคม 22, 2010, 02:05:56 PM
ขอบคุณค่ะอาจารย์ เมื่อวานใจแข็งไม่เข้าโกลด์ วันนี้ไม่รู้จะใจอ่อนหรือปล่าว ???
เห็นราคาแล้วก็เก็บซะนิดหน่อยก็ไม่เลว เพราะกว่าจะวันจันทร์อะไรจะเกิดก็ไม่รู้ วัดดวงเอาแล้วกันค่ะ :P


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 22, 2010, 02:26:16 PM
กราฟตาแป๊ะ
http://www.thaigold.info/forum/index.php?topic=4852.630 (http://www.thaigold.info/forum/index.php?topic=4852.630)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 22, 2010, 02:27:27 PM
ขอบคุณค่ะอาจารย์ เมื่อวานใจแข็งไม่เข้าโกลด์ วันนี้ไม่รู้จะใจอ่อนหรือปล่าว ???
เห็นราคาแล้วก็เก็บซะนิดหน่อยก็ไม่เลว เพราะกว่าจะวันจันทร์อะไรจะเกิดก็ไม่รู้ วัดดวงเอาแล้วกันค่ะ :P
ทยอยซื้อก็ดีครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 22, 2010, 02:49:14 PM
?????????????? 1109??? 1116 ?????? 1089.77 - 1097.5/1098.8 - 1094/1093 - 1108.5/1109.5 - 1105/1104 - 1116/1117.
เขาบอกว่า กระดานคืนนี้ โอกาสได้เห็น1109มีมาก สูงสุด1116โอกาสน้อยหน่อย
1089.77 - 1097.5/1098.8 - 1094/1093 - 1108.5/1109.5 - 1105/1104 - 1116/1117.

เอามาจากเวปจีน ดูเล่นๆนะคร๊าบ อย่าจริงจังนา ขอบอก


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: paul711 ที่ มกราคม 22, 2010, 03:38:25 PM
 :) ขอบคุณมากครับ คุณทองใหม่


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: brabus ที่ มกราคม 22, 2010, 03:57:20 PM
กราฟตาแป๊ะ
[url]http://www.thaigold.info/forum/index.php?topic=4852.630[/url] ([url]http://www.thaigold.info/forum/index.php?topic=4852.630[/url])


ขอบคุณค่ะพี่ทองใหม่ ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 22, 2010, 07:22:29 PM
1090?????????1087???1095--1104--1110
????????????1088???1090??????1094?????1082--1075????

อีกหนี่งกูรู 1090ซื้อขึ้น ป้องกันขาดทุนที่1087 เป้าหมายที่1095--1104--1110
หากทองลงด่าน1088แตก เมื่อดีดขึ้นเหนือ1090ให้ซื้อขาลง ป้องกันขาดทุนที่1094 เป้าหมายทิศทางที่1082-----1075

ดูเล่นๆเช่นเคยครับ ไม่ต้องจริงจังนะจ๊ะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Neung99k ที่ มกราคม 22, 2010, 10:21:22 PM
ขอบคุณพี่ทองใหม่มากๆครับ ข้อมูลทยอยมาอย่างต่อเนื่อง  ขอให้สุขภาพแข็ง.....แรงดีนะครับ ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 23, 2010, 07:23:34 AM
1090?????????1087???1095--1104--1110
????????????1088???1090??????1094?????1082--1075????

อีกหนี่งกูรู 1090ซื้อขึ้น ป้องกันขาดทุนที่1087 เป้าหมายที่1095--1104--1110
หากทองลงด่าน1088แตก เมื่อดีดขึ้นเหนือ1090ให้ซื้อขาลง ป้องกันขาดทุนที่1094 เป้าหมายทิศทางที่1082-----1075

ดูเล่นๆเช่นเคยครับ ไม่ต้องจริงจังนะจ๊ะ

01?23???(00:00)1082???????1081???1100------1118
กูรูคนเดียวกัน เขาออกมาโพสตอน23:00น.บ้านเรา  เค้าบอกว่า บริเวณ1082ให้ซื้อขึ้น ป้องกันขาดทุนที่1081 เป้าหมายที่1100----1118

1082--1085?????????????1090???????????1082????????????????????????1118?
1082----1085ซื้อขึ้นถือระยะกลาง  หากคืนวันศุกร์ปิดตลาดอยู่เหนือ1090 สัปดาห์หน้าวันจันทร์ทองจะเปิดสูง  1082เป็นแนวหนุนที่แข็งแกร่ง หลังจากทองลงหนัก ต้องมีการคีคกลับแรงเช่นกัน ระยะกลางดู1118
เอามาให้ดูเล่นๆนะครับ โปรดอย่าจริงจังนะคร๊าบบบ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มกราคม 23, 2010, 09:55:24 AM
 :)Good morning Kha
ขอบคุณค่ะ
สบายดีไหมค่ะ  ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ มกราคม 23, 2010, 10:16:30 AM
ขอบคุณค่ะคุณทองใหม่  ดูเล่นๆทีไรออกมาตรงแทบทุกที   ราคาวันนี้ 1091 ฮิฮิ  ถ้าวันจันทร์เปิดมาสูงกว่า1110 คงต้องหาค่าขนมหน่อยค่ะ กำไรนิดหน่อยก็ยังดีแล้วค่อยรอซื้อใหม่  คุณทองใหม่ว่า ok มั๊ยคะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Cindy ที่ มกราคม 23, 2010, 11:04:48 AM
ขอบคุณข้อมูลข่าวสารเช่นเคยค่ะอาจารย์ ช่วงนี้สุขภาพเป็นไงบ้างคะ? ขอให้แข็งแรง โรคภัยไม่เบียดเบียนนะคะ :)

ว่าจะซื้อทองแท่งพรุ่งนี้ ราคาก็ขึ้นไปอีกร่วมสองร้อยแล้ว ไม่มีจังหวะซื้อเอาซะเลยค่ะ :(
รอดูราคาอีกทีวันจันทร์ จะไปซื้อแถวเยาวราชก็ติดงานอีก หาซื้อเอาตลาดแถวบ้านก็ทองไม่ค่อยดี
เอ่อ อ่ะนะ...ปัญหาแยะซะเหลือเกินค่ะ :P


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 23, 2010, 12:56:24 PM
ขอบคุณค่ะคุณทองใหม่  ดูเล่นๆทีไรออกมาตรงแทบทุกที   ราคาวันนี้ 1091 ฮิฮิ  ถ้าวันจันทร์เปิดมาสูงกว่า1110 คงต้องหาค่าขนมหน่อยค่ะ กำไรนิดหน่อยก็ยังดีแล้วค่อยรอซื้อใหม่  คุณทองใหม่ว่า ok มั๊ยคะ
ถ้าเหตุการณ์เป็นดังที่คิด ก็โอเคดีนะคร๊าบบ :D ;D :o


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 23, 2010, 12:57:21 PM
:)Good morning Kha
ขอบคุณค่ะ
สบายดีไหมค่ะ  ;D

ช่วงนี้ยังสบายดีอยู่ครับ ;D ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 23, 2010, 12:59:31 PM
ขอบคุณข้อมูลข่าวสารเช่นเคยค่ะอาจารย์ ช่วงนี้สุขภาพเป็นไงบ้างคะ? ขอให้แข็งแรง โรคภัยไม่เบียดเบียนนะคะ :)

ว่าจะซื้อทองแท่งพรุ่งนี้ ราคาก็ขึ้นไปอีกร่วมสองร้อยแล้ว ไม่มีจังหวะซื้อเอาซะเลยค่ะ :(
รอดูราคาอีกทีวันจันทร์ จะไปซื้อแถวเยาวราชก็ติดงานอีก หาซื้อเอาตลาดแถวบ้านก็ทองไม่ค่อยดี
เอ่อ อ่ะนะ...ปัญหาแยะซะเหลือเกินค่ะ :P
สุขภาพช่วงนี้ยังดีอยู่จ๊ะ ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Yai Carmungwed ที่ มกราคม 23, 2010, 03:41:31 PM
 :D :D :D :D :D :D :D :D
  ขอบคุณอาจารย์ ทองใหม่มากครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 23, 2010, 04:33:23 PM
วันเสาร์ไม่มีงานทำ คลิ๊กกราฟดูเล่นๆ ไปเจอดัชนีไทย ผมไม่ทราบดัชนีไทยนี่เขาเล่นกันอย่างไร แล้วเพื่อนๆในเวปเรามีใครเล่นกันไหมนี่? อยากทราบ....อยากทราบจ้า
ดัชนีไทยปิดตลาดเมื่อวันพฤหัสฯ718.99เมื่อวันศุกร์เปิดต่ำ710.75  สูงสุดระหว่างวัน715.42 ต่ำสุดระหว่างวัน705.69 ปิดตลาด714.10 ปิดลบ-4.89จุด  เท่ากับ-0.68%
ดัชนีไทย

กราฟใหม่2010(เรามาช่วยกันใช้กาลเวลาพิสูจน์ว่า กราฟตัวนี้จะมีความขลังเท่ากราฟตาแป๊ะไหม)
1.   ซ้ายบนหน้าเทาขาวและหนังสือสีขาว??ถอนตัว(ขาย)   หน้าแดงและหนังสือสีเหลือง??บุก(ซื้อ)
2.   กลางบน หนังสือสีเขียว??ขาย หนังสือสีแดง??ซื้อ  ส่วนตัวหนังสือสีเหลือง????เส้นหยุดขาดทุน(สำหรับผู้ที่เล่นออนไลน์สั่งป้องกันล่วงหน้าได้เท่านั้น)
3.   ขวาบน    เครื่องหมายสีขาว??ขาย      เครื่องหมายสีชมภู      ? ?ซื้อ

4.   ซ้ายล่าง สีแดง???เพดาน(จะอยู่ช่วงบน)   สีแดง???ซื้อ(จะอยู่ช่วงล่าง)          สีเขียว ????หนีเร็ว หากเครื่องหมาย ?ปรากฏแค่/ยังไม่สมบูรณ์เต็มตัว?เตรียมตัวหนี(จะปรากฏพร้อม   ???เพดาน(จะอยู่ช่วงบน)   )และตัวหนังสือสีเขียว????เจอต่ำซื้อ
5.   กลางล่าง   หน้าเทาขาว?ขาย        หน้าแดง?ซื้อ
6.   ขวาล่าง  ตัวหนังสือสีเขียว (?)?ขาย  ตัวหนังสือสีเหลือง(?)?ซื้อ   (กราฟช่องนี้ ให้สัญญาณทั้งซื้อและขายออกจะไวกว่ากราฟช่องอื่นๆ มีทั้งข้อดีและเสีย บางครั้งก็ตรงตามสัญญาณที่ให้ในทันทีเลย บางคั้งก็อาจเลื่อนออกไปอีกตั้งหลายวันจึงจะตรงตามสัญญาณที่ปรากฏ สัญญาณของกราฟช่องนี้ ให้เพื่อนๆตัดสินใจเอาเองด้วยความระมัดระวังตามใจชอบนะครับ ขอเตือนเป็นพิเศษ)
(http://img51.imageshack.us/img51/4254/49918367.gif) (http://img51.imageshack.us/i/49918367.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Jeera ที่ มกราคม 23, 2010, 10:15:02 PM
สวัสดียามวิกาลวันเสาร์ค่ะพี่ทองใหม่   :sleepy:


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 24, 2010, 10:40:27 AM
วันเสาร์ไม่มีงานทำ คลิ๊กกราฟดูเล่นๆ ไปเจอดัชนีไทย ผมไม่ทราบดัชนีไทยนี่เขาเล่นกันอย่างไร แล้วเพื่อนๆในเวปเรามีใครเล่นกันไหมนี่? อยากทราบ....อยากทราบจ้า
ดัชนีไทยปิดตลาดเมื่อวันพฤหัสฯ718.99เมื่อวันศุกร์เปิดต่ำ710.75  สูงสุดระหว่างวัน715.42 ต่ำสุดระหว่างวัน705.69 ปิดตลาด714.10 ปิดลบ-4.89จุด  เท่ากับ-0.68%
ดัชนีไทย

กราฟใหม่2010(เรามาช่วยกันใช้กาลเวลาพิสูจน์ว่า กราฟตัวนี้จะมีความขลังเท่ากราฟตาแป๊ะไหม)
1.   ซ้ายบนหน้าเทาขาวและหนังสือสีขาว??ถอนตัว(ขาย)   หน้าแดงและหนังสือสีเหลือง??บุก(ซื้อ)
2.   กลางบน หนังสือสีเขียว??ขาย หนังสือสีแดง??ซื้อ  ส่วนตัวหนังสือสีเหลือง????เส้นหยุดขาดทุน(สำหรับผู้ที่เล่นออนไลน์สั่งป้องกันล่วงหน้าได้เท่านั้น)
3.   ขวาบน    เครื่องหมายสีขาว??ขาย      เครื่องหมายสีชมภู      ? ?ซื้อ

4.   ซ้ายล่าง สีแดง???เพดาน(จะอยู่ช่วงบน)   สีแดง???ซื้อ(จะอยู่ช่วงล่าง)          สีเขียว ????หนีเร็ว หากเครื่องหมาย ?ปรากฏแค่/ยังไม่สมบูรณ์เต็มตัว?เตรียมตัวหนี(จะปรากฏพร้อม   ???เพดาน(จะอยู่ช่วงบน)   )และตัวหนังสือสีเขียว????เจอต่ำซื้อ
5.   กลางล่าง   หน้าเทาขาว?ขาย        หน้าแดง?ซื้อ
6.   ขวาล่าง  ตัวหนังสือสีเขียว (?)?ขาย  ตัวหนังสือสีเหลือง(?)?ซื้อ   (กราฟช่องนี้ ให้สัญญาณทั้งซื้อและขายออกจะไวกว่ากราฟช่องอื่นๆ มีทั้งข้อดีและเสีย บางครั้งก็ตรงตามสัญญาณที่ให้ในทันทีเลย บางคั้งก็อาจเลื่อนออกไปอีกตั้งหลายวันจึงจะตรงตามสัญญาณที่ปรากฏ สัญญาณของกราฟช่องนี้ ให้เพื่อนๆตัดสินใจเอาเองด้วยความระมัดระวังตามใจชอบนะครับ ขอเตือนเป็นพิเศษ)
([url]http://img51.imageshack.us/img51/4254/49918367.gif[/url]) ([url]http://img51.imageshack.us/i/49918367.gif/[/url])
เพิ่งเจอดัชนีไทย ไม่ใช่ทั้งSET50และSET100 แต่เป็นตัวSET จะตรงกับกราฟจีนที่ผมมีอยู่ ตอนนี้เจอที่เวปไทยมีอยู่แค่นี้ ไม่รู้เขามีให้ลงทุนหรือเปล่า หรือว่ามีแต่ตัวเลขประกาศให้ดูเฉยๆ ฮา เดี๋ยวค้นหาต่อ
(http://img109.imageshack.us/img109/6391/69123673.gif) (http://img109.imageshack.us/i/69123673.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: JO-JO ที่ มกราคม 24, 2010, 08:47:00 PM
ขอบคุณครับ คุณทองใหม่
มีภาคพิเศษแถมให้ดูในวันหยุดด้วย


อย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยนะครับ

 :)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 25, 2010, 06:24:46 AM
 วิธีดูทิศทางทอง ต้าน๓----หนุน๓เป็นทิศทางทองที่จะเคลื่อนไหวในวันนี้ หากพุ่งทะลุต้าน๓หรือดิ่งทะลวงหนุน๓ แสดงถึงวันนั้นทองเคลื่อนไหวแรงเกินปกติ เส้นแดนเป็นเส้นที่จะแบ่งแยกทิศทางของทองที่จะขึ้นหรือลง หากทองเคลื่อนไหวอยู่ในทิศทางใดมากและนาน นั่นหมายถึงโอกาสเป็นไปได้มากที่ทองจะเคลื่อนไปในทิศทางนั้นๆ ในช่วงเวลานั้น (ยังต้องแบ่งออกในช่วงเวลาตลาดเอเซีย ยุโรป เมกาด้วย) ต้าน๑และหนุน๑หากถูกทดสอบแบบมีผล(ขึ้นลงมากกว่า๑ครั้ง)แล้วยืนอยู่ได้ นั่นคือทิศทางทองที่จะเดินต่อไปในช่วงเวลานั้น หากการวิเคราะเกิดขัดแย้งกันเมื่อไหร่ ให้หยุดมองดูอย่างเดียว ไม่ควรซื้อ-ขายในช่วงเวลานั้น แนวทางนี้เหมาะกับการเล่นสั้นมาก (เล่นแบบออนไลน์ในอนาคต) มีความแม่นยำถึง80%ครับ อีกอย่างข่าวปัจจัยพื้นฐานอาจเปลี่ยนทิศทางทองได้กะทันหันนะครับ
ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์กับการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย ถัาติดดอยเมื่อทองต่ำลงมา  หากยังมีเงินเหลืออยู่ ควรซื้อเพิ่ม เพิ่มที่ละนิด ต่ำอีกซื้ออีก เพื่อดึงต้นทุนที่สูงให้ต่ำลงมา ใครที่ยังไม่มีทองในมือควรทยอยซื้อเข้าอย่ามากนัก หากทองลงอีก เราก็ซื้ออีก ดีกว่าเวลาทองขึ้นเราไปไล่ซื้อในราคาที่สูง  จดจำเป็นคติเตือนใจว่า  เรามิอาจซื้อได้ในราคาที่ต่ำสุด และขายได้ในราคาที่สูงสุด ไม่มีการลงทุนใดที่ไม่เสี่ยง การบริหารพอร์ตให้ได้จังหวะ จะลดความเสี่ยงลงได้ครับ
กราฟสำคัญ ปัจจัยพื้นฐานก็สำคัญ จิตวิทยาการโน้มเอียงของคนก็สำคัญ สิ่งเหล่านี้หากเป็นไปในแนวเดียวกัน ก็จะมุ่งไปทางนั้น หากแย้งกันก็ต้องดูฝ่ายไหนเหนือกว่า.....ด้วยเหตุนี้ไม่มีนักวิเคราะห์คนใดที่จะทำนายได้แม่นยำตลอดกาลได้ครับ
(http://img51.imageshack.us/img51/1110/67811235.gif) (http://img51.imageshack.us/i/67811235.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 25, 2010, 06:27:49 AM
เส้นปากถุง(เส้นสีขาวทั้ง๓เส้น)แบบง่ายๆ ไม่ปวดเศียรเวียนเกล้า
เส้นบน---แนวต้าน
เส้นกลาง---แนวโน้ม(สำคัญสุด)
เส้นล่าง---แนวหนุน
ลักษณะที่๑---ทิศทางขึ้นเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น   เส้นกลางหันหัวขึ้น   เส้นล่างหันหัวลง
ลักษณะที่๒---ทิศทางขึ้นเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวขึ้น
เมื่อเจอลักษณะทั้ง๒นี้ ราคาระหว่างวันที่ขึ้นๆลงๆ เมื่อเจอจุดที่เห็นว่าต่ำแล้วให้ซื้อเข้าได้เลยครับ  ขอเพียงเส้นกลาง(แนวโน้ม)ยังหันหัวขึ้นอยู่ แม้ราคาเแท่งเทียนจะอยู่ต่ำกว่าเส้นกลาง ก็ยังซื้อเข้าได้ หากเส้นบนเดินขวางเมื่อไหร่ ให้ทยอยลดพอร์ตได้เลยครับ
ลักษณะที่๓---เลือกทิศทาง---เส้นบนหันหัวลง เส้นล่างหันหัวขี้น ปากถุงแคบลง ถึงช่วงนี้ ให้ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว หากใครยังคิดอยากเคลื่อนไหว ก็จงเคลื่อนไหวไปหน้าทีวี จงอย่าทำการอย่างอื่นใด หากใครเป็นจอมยุทธ์ ก็ชิงเคลื่อนไหวก่อนใครได้  
ขอแถมอีกนิด จงโฟกัสที่เส้นกลาง หากเส้นกลางเริ่มขยบหัวหัวขึ้นหรือลง ทิศทางอาจขึ้นหรือลงตามเส้นกลางแนวโน้มนั้น
ลักษณะที่๔---เคลื่อนไหวในกรอบแคบ---เส้นบน กลาง ล่าง เดินขวางทั้ง๓เส้น หากใครเล่นออนไลน์ สามารถเล่นได้เล็กน้อยอย่ามาก เมื่อราคาแท่งเทียนใกล้เส้นบน จงขาย ใกล้เส้นล่าง จงซื้อ ต้องเข้าออกให้ทันการณ์ หาไม่แล้วจากกำไรอาจขาดทุนได้นา ขอบอก
ลักษณะที่๕---ทิศทางลงเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น เส้นกลางหันหัวลง เส้ยล่างหัวหัวลง
ลักษณะที่๖---ทิศทางลงเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวลง  เมื่อเส้นล่างเดินขวางเมื่อไหร่ ผู้ที่ใจกล้าที่เล่นออนไลน์ เริ่มทยอยซื้อเข้าได้ที่ละนิด อัตราเสี่ยงยังมีอยู่บ้างนะครับ สิบอกไห่
วิธีดูเส้นปากถุงที่กล่าวมานี้ .....ไม่ใช่ตำราของฝรั่ง แบบของฝรั่งผมเคยอ่านมาบ้างแล้ว ยาวมาก ปวดหัว ทำความเข้าใจได้ยากมากๆๆๆๆ ...........เหมาะเฉพาะกราฟราย๔ชม.และช่วงปกติเท่านั้นนะครับ  (บางครั้งตลาดจงใจคึงขึ้นลงอย่าแรงๆ แทบหัวใจวายสำหรับผู้มีทองในมือและผิดทิศทางของตัวเอง เรียกว่า ช่วงไม่ปกติครับ)

(http://img517.imageshack.us/img517/5428/41773091.gif) (http://img517.imageshack.us/i/41773091.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 25, 2010, 06:27:56 AM
กราฟGold 1
ช่อง1 เส้นแดงอยู่เหนือเส้นเขียว---ทิศทางขึ้น  ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น  สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นเขียวอยู่เหนือเส้นแดง---ทิศทางลง     ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นแดงและเขียวประสานเป็นกากะบาด ---กำลังจะเปลี่ยนทิศ ให้ดูเส้นแนวโน้มประกอบ  หากเส้นแดงและเขียวกำลังจะประสาน แต่ไม่ทันได้ประสานก็หันหันหัวกลับขึ้นหรือลง  แสดงว่ากำลังมีเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนี่งเกิดขึ้น หากขึ้นทะลุเส้นปะแนวต้าน ให้ดูเส้นปะแนวต้านเส้นต่อไป หากลงทะลุเส้นปะแนวหนุน ให้ดูเส้นแนวหนุนเส้นต่อไป   ส่วนจุดกลมเหลืองทอง---ทิศทางลง  จุดกลมฟ้า---ทิศทางขึ้น  หากกราฟวิ่งในยามปกติ พอเชื่อถือได้ หากกราฟวิ่งขึ้นลงแรงๆ คือยามไม่ปกติ ไม่อาจเชือถือได้
ช่อง2  ให้ดูเส้นสีม่วง ประกอบกับเส้นแนวโน้มในช่อง1 หากหันหัวไปในทิศทางเดียวกัน  โอกาสที่จะผิดพลาดก็มีน้อย  ส่วนเส้นปะสีเหลืองทองและฟ้า  หากขึ้นเหนือเลข80 เข้าสู่เขตซื้อเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ทุกเมื่อ  หากลงต่ำกว่าเลข20 เข้าสู่เขตขายเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ตลอดเวลา
ช่อง3   ให้ดูทั้ง2เส้น คือเหลืองทองและฟ้า หันหัวไปทิศทางเดียวกันหรือไม่  เท่านั้นยังไม่พอ  ให้ดูประกอบทิศทางในช่อง1ว่าเป็นทิศทางเดียวกันหรือไม่  หากทิศทางหันหัวในแนวเดียวกัน  ทิศทางนั้นเชื่อถือได้

(http://img41.imageshack.us/img41/6197/54904084.gif) (http://img41.imageshack.us/i/54904084.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 25, 2010, 06:48:24 AM
??????? Golden Wave Theory


??????????? Last week, gold fell after the first bounce. ??????????1141.4?????????1088.8? By the weekly maximum 1141.4, after rising Wednesday fell to the lowest 1088.8 Thursday. ????????????11-01-2010???1161.59????? Waves at this stage a rebound in gold should have been 11-01-2010 completion of a high level of 1161.59. ?1161.59????????????? The 1161.59 up to now for another wave down. ???????????1070-1080??????????? This wave is expected to have the opportunity to fall down near the level of 1070-1080 appears to support the rear. ?????????????1010-1030????? Otherwise, golden opportunity to further dropped to levels between 1010-1030.
????????: Week wave theory analysis:
????????????( I II )????III???????(5)???????3???????( iii )??????iv??????(c)?? Golden opportunity to run a super large section (I II) wave III within the first extension of big waves in subsection (5) extension of the wave in the first three waves within the extension of a small section (iii) extension of wave iv within the first extension of micro-waves within the The (c) wave.
??(?): Assumptions (1):
????:???2004?5????371?????????( III )????III???????(3)????,???????????? Details are as follows: gold in the May 2004 low of 371 starts running a super large section (III) wave III within the first extension of big waves within subsection (3) extension of the wave, and an inferior race, an extension of the wave run. ??371?2004?12????456.77??????( III )????III???????(3)???????1?????,?456.77?2005?6????414.17??????( III )????III???????(3)???????2?????,?414.17?14-05-2006???730??????( III )????III???????(3)???????3?????,?730?27-06-2008???639.09??????( I II )????III???????(3)???????4?????,?639.09?17-03-2008???1032??????( I II )????III???????(3)???????5?????,????????( I II )????III???????(3)????? That is, from 371 Zhi December 2004 high of 456.77 for the super large section (III) wave III within the first extension of big waves within subsection (3) extension of the wave in the first extension of a small wave, while the 456.77 Zhi June 2005 low 414.17 for the super-large-scale section (III) wave III within the first extension of big waves within subsection (3) extension of the wave in the first two extension of primary and secondary waves, and 414.17 to a high of 730 for 14-05-2006 Super Large Cap (III) wave III within the first extension of big waves within subsection (3) extension of the wave extension in the first three small waves, while the 730 to the low level of 639.09 for the super 27-06-2008 Large Cap (I II) wave within the Article III within the extension of big waves (3) extension of the wave 4 within the extension of primary and secondary waves, while the 1032 high of 639.09 to 17-03-2008 for the super-large section (I II) wave III within the first extension of big waves within the paragraph (3) extension of the 5th wave extension in primary and secondary waves, and complete the super-large section (I II) wave III within the first extension of big waves within the paragraph (3) extension of the wave. ?1032?24-10-2008???681.09??????( I II )????III???????(4)????? The 1032 low of 681.09 to 24-10-2008 for the super-large-scale section (I II) wave III within the first extension of big waves within the paragraph (4) extension of the wave. ?681.09???????????????( I II )????III???????(5)????,???????? The 681.09 up to now have the opportunity to remain a super large section (I II) wave III within the first extension of big waves in subsection (5) extension of the waves, and to extend the Long Run. ??681.09?20-02-2009???1006.2??????( I II )????III???????(5)???????1????,?1006.2?17-08-2009???929.9??????( I II )????III???????(5)???????2????,?929.9????????( I II )????III???????(5)???????3????,????????????? 20-02-2009 from 681.09 to a high of 1006.2 for the super-large-scale section (I II) wave III within the first extension of big waves in subsection (5) extend in the first wave in an extension of the small waves, while the 1006.2-17 -- 08-2009 low of 929.9 for the super-large section (I II) wave III within the first extension of big waves in subsection (5) extension of the wave in the first two extension of the small waves, while the super-large section 929.9 started (I II) wave III within the first extension of big waves in subsection (5) extension of the wave in a small extension of the first three waves, and then an extension of an inferior race, running waves.


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 25, 2010, 06:49:37 AM
Golden Wave Theory


??929.9?17-09-2009???1023.2??(5)???????3???????( i )???? 17-09-2009 from a high of 929.9 to 1023.2 for the first (5) extension of the wave in the first three waves within a small extension of the first (i) extension of waves. ?1023.2?29-09-2009???984.2??(5)???????3???????( ii )???,?984.2?14-10-2009???1069.3??(5)???????3???????( iii )??????i????,?1069.3?29-10-2009???1026.59??(5)???????3???????( iii )??????ii????? 29-09-2009 and the low level of 984.2 to 1023.2 for the first (5) extension of the wave in the first three waves within a small extension of the first (ii) extension of wave, and 984.2 to a high of 1069.3 for the 14-10-2009 section (5) extension of the wave in the first three waves within the extension of a small section (iii) extension of wave i in the first extension of micro-wave, while the 1069.3 low level of 1026.59 to 29-10-2009 for the first (5) extension of the wave 3 within the extension of small waves to section (iii) extend the wave ii in the first extension of micro-wave. ?1026.59?03-12-2009???1226.59??(5)???????3???????( iii )??????iii????? And a high of 1026.59 to 1226.59 for the 03-12-2009 section (5) extension of the wave in the first three waves within a small extension of the first (iii) extend the wave in the first extension of micro-wave iii. ?1226.59?22-12-2009???1074.69??(5)???????3???????( iii )??????iv??????(a)?? 22-12-2009 and the low level of 1226.59 to 1074.69 for the first (5) extension of the wave in the first three waves within a small extension of the first (iii) extension of wave iv within the first extension of micro-waves within the (a) wave. ?1074.69?11-01-2010???1161.59??(5)???????3???????( iii )??????iv??????(b)?,?1161.59??????????(5)???????3???????( iii )??????iv??????(c)?? And a high of 1074.69 to 1161.59 for the 11-01-2010 section (5) extension of the wave in the first three waves within a small extension of the first (iii) extension of wave iv within the first within the extension of micro-wave (b) waves, while the beginning 1161.59 to now have the opportunity to subsection (5) extension of the wave in the first three waves within a small extension of the first (iii) extension of wave iv within the first within the extension of micro-wave (c) wave. ????iv??????(c)????????1070-1080????? Iv is expected to extend this first within the micro-wave (c) wave will have the opportunity to fall to levels between 1070-1080. ?????14-10-2009???1069.3? But should not be broken, 14-10-2009 high 1069.3. ??????????? Otherwise, this assumption will be destroyed.

??(?): ????????????( I II )????III???????(5)???????4??????(c)?? Assumption (2): Gold have the opportunity to run a super large section (I II) wave III within the first extension of big waves in subsection (5) extension of the wave in the 4th wave within a small extension (c) wave.
???17-08-2009???929.9?????????( I II )????III???????(5)???????3????,???????? 17-08-2009 gold in the super-low 929.9 starts running a large section (I II) wave III within the first extension of big waves in subsection (5) extension of the wave in a small extension of the first three waves, and to extend the Long Run. ??929.9?17-09-2009???1023.2??(5)???????3???????( i )???? 17-09-2009 from a high of 929.9 to 1023.2 for the first (5) extension of the wave in the first three waves within a small extension of the first (i) extension of waves. ?1023.2?29-09-2009???984.2??(5)???????3???????( ii )???,?984.2?14-10-2009???1069.3??(5)???????3???????( iii )???,?1069.3?29-10-2009???1026.59??(5)???????3???????( iv )???,?1069.3?03-12-2009???1226.59??(5)???????3???????( v )???,????(5)???????3????? 29-09-2009 and the low level of 984.2 to 1023.2 for the first (5) extension of the wave in the first three waves within a small extension of the first (ii) extension of waves, while a high of 984.2 to 1069.3 for the 14-10-2009 section (5) extension of the wave in the first three waves within a small extension of the first (iii) extension of waves, while the 1069.3 low level of 1026.59 to 29-10-2009 for the first (5) extension of the wave in the first three waves within the extension of a small section (iv) extension of waves, while the 1069.3 to a high of 1226.59 for the 03-12-2009 section (5) extension of the wave in the first three waves within a small extension of the first (v) extension of waves, and the completion of the first (5) extension of the wave in the first three extension Small waves. ?1226.59????????????( I II )????III???????(5)???????4????,???????? The 1226.59 up to now is still a super large section (I II) wave III within the first extension of big waves in subsection (5) extension of the wave 4 within the extension of small waves, and to extend the Long Run. ??1226.59?22-12-2009???1074.69??4??????(a)?,?1074.69?11-01-2010???1161.59??4??????(b)?,?1161.59??????????4??????(c)?????? 22-12-2009 from 1226.59 to 1074.69 for the first four of the low extension of the small wave within the (a) waves, while a high of 1074.69 to 1161.59 for the first 11-01-2010 extend the small wave 4 within the (b) waves, while the beginning 1161.59 to now have the opportunity to extend a small wave 4 within the (c) wave that is down waves. ?????4??????(c)????????1010-1030????? No. 4 is expected to extend this first wave within a small (c) wave will have the opportunity to fall to levels between 1010-1030.

????: Investment Strategy:
?????? Mainly to wait and see.
??(?)???: Suppose (a) of the diagram:


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 25, 2010, 06:57:45 AM
(http://img714.imageshack.us/img714/6286/10495360.gif) (http://img714.imageshack.us/i/10495360.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 25, 2010, 06:58:35 AM
(http://img268.imageshack.us/img268/2055/36796290.gif) (http://img268.imageshack.us/i/36796290.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 25, 2010, 06:59:32 AM
(http://img687.imageshack.us/img687/3856/39858137.gif) (http://img687.imageshack.us/i/39858137.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 25, 2010, 07:00:08 AM
(http://img62.imageshack.us/img62/694/21351732.gif) (http://img62.imageshack.us/i/21351732.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: nokeang ที่ มกราคม 25, 2010, 08:43:45 AM
 :)   ขอบคุณนะค่ะ คุณทองใหม่ ขยันทุกวันเลย


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ มกราคม 25, 2010, 10:00:07 AM
ขอบคุณค่ะคุณทองใหม่


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ มกราคม 25, 2010, 10:04:18 AM
ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวฝกตก รักษาสุขภาพด้วยนะคะ จะได้ไม่เป็นหวัดค่ะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 25, 2010, 10:17:03 AM
ห่วงมาตรการคุมเข้มธุรกิจการเงินสหรัฐฯ กระทบธนาคารพาณิชย์ยุโรป

Posted on Monday, January 25, 2010
ห่วงมาตรการคุมเข้มธุรกิจการเงินสหรัฐฯ กระทบแบงก์ยุโรป

หางเลขจากมาตรการควบคุมธุรกิจแบงก์ของประธานาธิบดี โอบามา ยังโยงมาถึงยุโรป เมื่อนักวิเคราะห์แสดงความเป็นห่วงว่าธนาคารอย่างเช่น UBS และ BNP Paribas อาจถูกกระทบจากแผนการนี้ เนื่องจากมีฐานเงินฝากที่ถูกค้ำโดยบริษัทประกันเงินฝาก (FDIC) และมีรายได้จากส่วนงานวาณิชธนกิจ

ความพยายามล่าสุดของประธานาธิบดีสหรัฐฯ มุ่งหวังที่จะไม่ให้ธนาคารไหนสามารถหาประโยชน์จากเงินฝากของประชาชนผู้เสียภาษี ที่ถูกค้ำประกันไว้โดย FDIC ทั้งๆ ที่ความล้มเหลวในการจ่ายหนี้อาจเกิดจากการลงทุนเก็งกำไรในพอร์ทของตัวเอง

แม้ว่าผลที่เกิดขึ้นจะมากหรือน้อยยังไม่มีใครสามารถประเมินได้ในตอนนี้ และมาตรการของประธานาธิบดี โอบามา จะครอบคลุมถึงธนาคารต่างประเทศที่มีสาขาธุรกิจในสหรัฐฯ ด้วยหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ ราคาหุ้นของ UBS ธนาคารรายใหญ่ที่สุดของสวิสเซอร์แลนด์ ก็ร่วงลงไปแล้วเกือบ 4% ในการซื้อขายเมื่อวันศุกร์ ขณะที่หุ้น RBS ธนาคารสัญชาติอังกฤษรายใหญ่ที่สุดที่ถูกเข้าควบคุมกิจการโดยรัฐ ปรับตัวลง 1.8% ที่ตลาดหุ้นลอนดอน และ BNP ผู้ปล่อยกู้ยักษ์ใหญ่จากฝรั่งเศส ราคาหุ้นก็ร่วงลงเกือบ 2%

ธนาคาร UBS เปิดเผยข้อมูลไว้ในรายงานประจำปี 2551 ว่า เงินฝากของลูกค้าธนาคารในส่วนที่ FDIC ค้ำประกันไว้ ถูกดำเนินการโดยผ่าน UBS Bank USA ในรัฐยูท่าห์ แต่ก็ไม่ได้เปิดเผยถึงรายได้ที่มาจากการซื้อขายสำหรับพอร์ทของตัวเอง ว่าคิดเป็นเงินจำนวนเท่าไหร่ ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ธนาคารได้ตั้งเป้าหมายว่าจะเพิ่มรายได้จากส่วนงานวาณิชธนกิจ หรือ Investment Banking ให้ขึ้นไปถึง 75% ของรายได้จากการออกและซื้อขายหลักทรัพย์ในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า

สำหรับอีกสองธนาคาร คือ RBS และ BNP นั้น โฆษกของรายแรกก็ออกมายอมรับว่าแบงก์มีเงินฝากที่ถูกค้ำประกันโดย FDIC ขณะรายหลังก็มีข้อมูลจากเว็บไซท์ของ FDIC ว่า ธนาคารมีสัดส่วนเงินฝากในสหรัฐฯ ที่ระดับ 1%

บริษัทประกันเงินฝากสหรัฐฯ ดูแลครอบคลุมเงินในสถาบันการเงินกว่า 8,000 แห่งทั่วประเทศ ด้วยมูลค่าสินทรัพย์ 13.2 ล้านล้านเหรียญ และสามารถที่จะดึงเงินจากผู้ฝากเงินไว้ได้ 250,000 เหรียญในยามที่ธนาคารล้ม


กังวลนโยบายโอบามา ? เก็งจีนชะลอเศรษฐกิจ ทุบหุ้นร่วง

ตลาดหุ้นทั่วโลกปั่นป่วนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผลักดันกฏหมายควบคุมการทำธุรกรรมที่มีความเสี่ยงของธุรกิจธนาคาร รวมถึงการเก็งกันว่ารัฐบาลจีนอาจจะเดินหน้าใช้มาตรการชะลอเศรษฐกิจ เมื่อเห็นตัวเลขจีดีพีที่ออกมาเร่งตัวขึ้นในไตรมาสล่าสุด

ดัชนี Dow Jones Stoxx 600 ที่ใช้วัดราคาหุ้นในยุโรปร่วงลงแรงที่สุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์ ลบล้างสถิติบวกที่เคยทำไว้มาตั้งแต่ต้นปีเรียบร้อยแล้ว ขณะที่ S&P 500 ของสหรัฐฯ ปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ด้วยตัวเลขติดลบที่สูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม

ผลจากนโยบายเขย่าธุรกิจธนาคารจากทางทำเนียบขาวก็ทำให้นักลงทุนต่างพากันเทขายหุ้นสถาบันการเงิน นำโดย JPMorgan Chase และ Morgan Stanley จนราคาดิ่งลงมากกว่า 8% ในสัปดาห์ก่อน ส่วนปัจจัยความกังวลในนโยบายเศรษฐกิจจีน ก็ทำให้หุ้นน้ำมัน อย่าง Exxon Mobil ร่วงลง 4.4% รวมถึงหุ้นโภคภัณฑ์ Alcoa ที่ราคาหุ้นดิ่งลงถึง 14%

นอกจากนั้น นักลงทุนยังมีความกังวลหลังจากเห็นความไม่แน่นอนว่าตำแหน่งของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ Ben Bernanke จะถูกสมาชิกวุฒิสภาไฟเขียวให้ยืดอายุต่อไปเป็นเทอมที่สองอีกหรือไม่ภายหลังวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ เมื่อมีวุฒิสมาชิกเผยตัวว่าจะโหวตคัดค้าน Bernanke ในการนั่งตำแหน่งดังกล่าวเป็นสมัยที่สอง

กลับเข้ามาในสัปดาห์นี้ หลายคนก็หวังว่าตัวเลขจีดีพีสหรัฐฯ ไตรมาส 4 ที่กำลังจะออกมาในวันศุกร์ น่าจะช่วยลดความกังวลต่างๆ ที่มีอยู่ในขณะนี้ได้ โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดว่าเศรษฐกิจอเมริกาน่าจะขยายตัวได้แรงที่สุดในรอบเกือบ 4 ปี ขณะที่ตัวเลขอื่นๆ น่าจะโชว์ว่า ผู้ประกอบการยังมีแนวโน้มเร่งการผลิตและการลงทุนในเครื่องจักรและอุปกรณ์มากยิ่งขึ้น

ทางด้านผู้บริโภคก็น่าจะใช้จ่ายเพิ่มขึ้นต่อในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา ถึงแม้จะชะลอลงบ้างเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนที่ได้รับอานิสงส์จากมาตรการจูงใจของรัฐในเรื่องของการซื้อรถยนต์ใหม่ก็ตาม

สำหรับสถานการณ์ในตลาดบ้าน ก็น่าจะมีข่าวดีด้วยเช่นกัน หากรายงานสภาวะราคาบ้านในเขตเมืองใหญ่ของสหรัฐฯ ออกมาลดลงไม่มากเหมือนอย่างเคย


วุฒิสมาชิกสหรัฐสนับสนุนเบอร์นันเก้นั่งประธานเฟดต่อ

นายแฮร์รี รี้ด ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาของพรรคเดโมแครตได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า ตนเองจะสนับสนุนนายเบน เบอร์นันเก้ ทำหน้าที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐต่อเป็นสมัยที่ 2

การออกแถลงการณ์ดังกล่าวช่วยสนับสนุนพรรคได้ในช่วงที่เดโมแครตดูเหมือนว่าจะไม่ได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนเหมือนที่เคยเป็น

นอกจากนี้ประธานาธิบดี โอมาม่ายังได้รับการยืนยันจากผู้นำในวุฒิสภาท่านอื่นๆ ในการสนับสนุนให้เบน เบอร์นันกี้ นั่งเก้าอี้เป็นประธานเฟดสมัยที่ 2

การสนับสนุนเบน เบอร์นันกี้ในครั้งนี้ มาจากทาง นายริชาร์ด เดอร์บิน วุฒิสมาชิกเดโมแครต ผู้ซึ่งยังไม่ได้ตัดสินใจในช่วงก่อนหน้านี้ รวมทั้งนายคริสโตเฟอร์ ดอดด์วุฒิสมาชิกจากเดโมแครต ผู้ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมาธิการสายการเงิน และนายจัดด์ เกรก วุฒิสมาชิกรีพับรีกัน ผู้ซึ่งนั่งเป็นคณะกรรมาธิการสายงบประมาณ โดยวุฒิสมาชิกทั้งหลายมั่นใจว่าเบนจะได้นั่งเป็นประธานเฟดต่อไป แม้จะมีสมาชิกบางส่วนที่คัดค้าน

การที่พรรคเดโมแครตพ่ายศึกเลือกตั้งซ่อมวุฒิสมาชิกรัฐแมสซาชูเซตส์ให้กับนายสกอตต์ บราวน์ วุฒิสมาชิกตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งเหนือนางมาร์ธา โค้กลีย์ ตัวแทนจากพรรคเดโมแครตนั้น ยิ่งสร้างแรงกดดันให้กับกลุ่มวุฒิสมาชิกที่จะต้องลงศึกเลือกตั้งอีกครั้ง ขณะที่ชาวอเมริกันเองไม่พอใจกับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล

ข่าวดังกล่าวส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงหนักเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะที่โอบาม่าได้เรียกวุฒิสมาชิกบางคนมาหารือในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อให้แน่ใจในการตัดสินใจให้เบอร์นันกี้นั่งตำแหน่งดังกล่าวต่อไป

ผลสำรวจล่าสุดของบลูมเบิร์ก ปรากฎว่า วุฒิสมาชิก จำนวน 30 คน ยืนยันที่จะสนับสนุนเบอร์นันกี้ต่อไป ขณะที่ 16 คนคัดค้านต่อความคิดดังกล่าว และ อีก 31 คนยังไม่ได้ตัดสินใจ

เสียงคัดค้านให้เหตุผลว่า การทำงานของเบอร์นันกี้นั้น ล้มเหลวในการควบคุมสถาบันการเงินในช่วงก่อนเกิดวิกฤติ และ มีข้อสงสัยต่อแผนการช่วยเหลือจำนวน 182,000 ล้านที่ให้กับ AIG


รัฐบาลเฮติคาดแผ่นดินไหวอาจฉุด GDP หดตัว 25%

รัฐบาลเฮติคาดการณ์ว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรง 7.0 ริกเตอร์ที่กระหน่ำเฮติเมื่อวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา จะฉุดผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) หดตัวลง 25% และอาจทำให้ประชาชนกว่า 2 ล้านคนกลายเป็นผู้ไร้ที่อยู่อาศัย

นายเลโอ เมโรเรส เอกอัคราชทูตเฮติประจำสหประชาชาติคาดการณ์ว่า การฟื้นฟูเฮติให้กลับคืนสู่สภาพเดิมอาจต้องใช้เวลานานถึง 25 ปี อีกทั้งยังส่งผลให้มูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจพุ่งขึ้นกว่า 7 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าเมื่อครั้งที่เฮติถูกพายุเฮอริเคนถล่ม 4 ครั้งในปี 2551 โดยในครั้งนั้นตัวเลขจีดีพีของเฮติหดตัวลง 15%

นายเมโรเรสกล่าวว่า กว่า 1 ใน 3 ของสิ่งปลูกสร้างในเมืองปอร์โตแปรงซ์ เมืองหลวงของเฮติ และเมืองรอบๆ ถล่มลงมาเสียหายยับเยิน ทำให้มีการคาดการณ์ว่ายอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวในครั้งนี้อาจสูงกว่า 200,000 คน ขณะที่ประชาชนกว่า 250,000 คนได้รับบาดเจ็บสาหัสและต้องการการรักษาอย่างเร่งด่วน

นายเมโรเรสกล่าวว่า "ประสิทธิภาพในการทำงานของรัฐบาลมีจำกัดมาก เนื่องจากกระทรวงส่วนใหญ่ของเฮติ ตกอยู่ในภาวะล่มสลาย"

รายงานระบุว่า จนถึงขณะนี้ยูเอ็นได้รับเงินบริจาคช่วยเฮติ 195 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากทั้งหมดที่เรียกร้องจากทั่วโลก 560 ล้านดอลลาร์ และยังมีอีกหลายประเทศที่ให้คำมั่นสัญญาว่าจะบริจาคอีก 112 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ สภาคองเกรสสหรัฐยังได้อนุมัติแผนการให้ผู้เสียภาษีชาวอเมริกันบริจาคเงินช่วยเฮติผ่านทางการหักเงินคืนภาษีประจำปี 2552

ขณะที่รายการพิเศษทางโทรทัศน์ของฮอลลีวู้ดโดยการนำของ จอร์จ คลูนี่ย์ สามารถระดมทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในเฮติได้มากถึง 57 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และดึงดูดผู้ชมได้ถึง 16.1 ล้านคนจาก 18 ประเทศทั่วโลก

รายการพิเศษดังกล่าวใช้ชื่อว่า "Hope for Haiti Now: A Global Benefit for Earthquake Relief" มีความยาว 2 ชั่วโมงและมีคนดังมาร่วมระดมทุนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน, อดีตนักมวยชื่อดังอย่าง มูฮัมหมัด อาลี รวมถึงนักดนตรี นักแสดง และซูเปอร์สตาร์นักกีฬาอีกหลายคน


JAL ส่อเค้าวุ่นหากถอนตัวจากกลุ่มวันเวิลด์

แควนตัส แอร์เวย์ สายการบินชื่อดังจากออสเตรเลียชี้กรณีสายการบินเจแปน แอร์ไลน์ส (JAL) เตรียมถอนตัวจากการเป็นพันธมิตรกับกลุ่มวันเวิลด์และหันไปสร้างสัมพันธ์กับกลุ่มสกายทีมอาจก่อให้เกิดปัญหาขึ้นได้โดยไม่จำเป็น

แควนตัส สมาชิกผู้ก่อตั้งกลุ่มวันเวิลด์ กรุ๊ปมองว่า การที่ JAL หันมาจับมือกับสกายทีมนั้นถือเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดในแง่ของเสถียรภาพทางธุรกิจ

สำนักข่าวเกียวโดรายงานอ้างคำกล่าวของโฆษกของแควนตัสที่เผยว่า "ขณะนี้ JAL ต้องมุ่งให้ความสำคัญที่การปรับโครงสร้างธุรกิจ ดังนั้น ผมคิดว่าการเปลี่ยนขั้วพันธมิตรของกลุ่มสายการบินของ JAL จะก่อให้เกิดปัญหาวุ่นวายโดยไม่จำเป็น"

ทั้งนี้ พันธมิตรสายการบินกลุ่มวันเวิลด์ที่อยู่ภายใต้แกนนำของอเมริกัน แอร์ไลน์สนั้นมีความแข็งแกร่งกว่าสกายทีมที่มีเดลต้า แอร์ไลน์ส อิงค์เป็นแกนนำ ทั้งในแง่ของเม็ดเงินลงทุนที่แท้จริงซึ่งระบุในข้อเสนอ และปัจจัยหนุนด้านการทำรายได้

ก่อนหน้านี้แหล่งข่าววงในเปิดเผยว่า JAL อาจเบนเข็มไปรวมกลุ่มกับสกายทีมภายในสิ้นเดือนมกราคมนี้ โดย JAL อาจได้รับเงิน 17,200 ล้านเยนจากกลุ่มพันธมิตรสกายทีม ซึ่งสูงกว่าข้อเสนอที่ได้รับจากวันเวิลด์ที่ระดับ 5,400 ล้านเยนถึง 3 เท่า

ขณะเดียวกัน JAL เตรียมปลดพนักงาน 15,000 คนภายในเดือนมี.ค.2554 และจะปรับลดเที่ยวบินไปยังออสเตรเลีย ซึ่งจะทำให้สายการบินแควนตัสสบโอกาสในการปรับโครงสร้างธุรกิจโดยการเพิ่มเที่ยวบินพิเศษในเส้นทางบินดังกล่าว

ปัจจุบัน แควนตัสให้บริการเที่ยวบินไปญี่ปุ่น 10 เที่ยวต่อสัปดาห์ ขณะที่สายการบินต้นทุนต่ำในเครืออย่างเจ็ทสตาร์ แอร์เวย์เตรียมเปิดให้บริการเที่ยวบิน 25 เที่ยวต่อสัปดาห์ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.นี้เป็นต้นไป

ส่วนความเคลื่อนไหวอื่นๆ ที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมสายการบิน ก็คือ สายการบินใหญ่ 2 แห่งในสหรัฐสามารถกลับมาทำกำไรได้อีกครั้งในไตรมาส 4 ส่งผลให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมการบินกำลังฟื้นตัว

สายการบินคอนทิเนนทัล แอร์ไลน์ส รายงานผลกำไรที่ 85 ล้านดอลลาร์ ในไตรมาส 4 ของปี 2552 ซึ่งเหนือความคาดหมาย อันเป็นผลมาจากจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นและค่าเชื้อเพลิงที่ลดลง ขณะที่ตลอดปี 2552 สายการบินขาดทุนสุทธิ 282 ล้านดอลลาร์ แต่ก็ยังน้อยกว่าปี 2551 ที่ขาดทุนถึง 585 ล้านดอลลาร์

สายการบินเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ส ทำกำไร 116 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4 ส่งผลให้ทั้งปี 2552 ทางสายการบินกลับมามีกำไร 99 ล้านดอลลาร์

นักวิเคราะห์กล่าวว่าการที่สายการบินใหญ่มีผลประกอบการที่ดีขึ้นในไตรมาส 4 เป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมการบินกำลังฟื้นตัว หลังจากที่หลายสายการบินต้องปลดพนักงานและลดเที่ยวบินตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเพื่อรับมือกับต้นทุนเชื้อเพลิงที่พุ่งสูงและภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย

อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารของทั้งสองสายการบินเตือนว่ายังอาจมีปัจจัยเสี่ยงและความไม่แน่นอนต่างๆรออยู่ในอนาคต เช่น ต้นทุนเชื้อเพลิง เนื่องจากราคาสปอตสำหรับน้ำมันเครื่องบินปรับตัวขึ้นถึง 2 เท่านับตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้ว ขณะเดียวกันเศรษฐกิจปีนี้ที่มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างเชื่องช้าก็น่าจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการบินเช่นกัน สำนักข่าวซินหัวรายงาน


ฐานผลิตน้ำมันดิบในจีนเสี่ยงเสียหายหลังทะเลกลายเป็นน้ำแข็ง

ทางการจีนรายงานว่า ปัญหาทะเลกลายเป็นน้ำแข็งที่สร้างงความเดือดร้อนแก่การคมนาคม และธุรกิจต่าง ๆ ตามแนวชายฝั่งตอนเหนือของจีน และอาจจะทวีความรุนแรงขึ้นในอีก 2-3 วันข้างหน้า ซึ่งจะยิ่งส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันดิบใต้ทะเลของจีน

จากสภาพอากาศที่เย็นจัดทำให้น้ำในทะเลโบไห่จับตัวเป็นน้ำแข็งหนา 30 ซ.ม.และส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการผลิตน้ำมันบริเวณแหล่งเซิงลี่

ขณะนี้ต้องปิดแท่นขุดเจาะน้ำมันไปแล้ว 6 แห่งจากทั้งหมด 8 แห่ง เนื่องจากทะเลที่จับตัวเป็นน้ำแข็ง แต่ทางการจีนไม่ยอมให้รายละเอียดของความเสียหายอย่างชัดเจน แต่เมื่อปี 2551 แหล่งผลิตน้ำมันแห่งนี้มีปริมาณการผลิตวันละ 554,800 บาร์เรล

พื้นที่บริเวณชายฝั่งตอนเหนือของจีนเผชิญปัญหาทะเลกลายเป็นน้ำแข็งครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 40 ปี โดยน้ำแข็งเริ่มจับตัวในทะเลโบไห่ และทะเลเหลืองมาตั้งแต่ต้นเดือนนี้จากอุณหภูมิที่ดิ่งลงอย่างฮวบฮาบ และคาดว่าจะยิ่งขยายเป็นวงกว้าง หลังสร้างความเสียหายไปแล้ว 2,200 ล้านหยวน (ราว 10,626 ล้านบาท


เวเนซุเอลาอาจมีน้ำมันดิบสำรองมากกว่าซาอุดีอาระเบีย 2 เท่า

นักวิทยาศาสตร์ซึ่งทำงานให้กับสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ พบว่าในบริเวณแนวโอริโนโคของเวเนซุเอลามีปริมาณปิโตรเลียมมากกว่าที่เคยคิดไว้ 2 เท่า ทำให้คาดว่าน่าจะมีน้ำมันดิบเป็นจำนวนกว่า 500,000 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่ประธานาธิบดีฮิวโก ชาเวซ ของเวเนซุเอลาประเมินไว้

ทางด้าน PDVSA บริษัทน้ำมันของรัฐบาลเวเนซุเอลา ยังไม่ได้แสดงความเห็นใดๆ ต่อรายงานข่าวดังกล่าว

เวเนซุเอลาเป็นประเทศนอกตะวันออกกลางที่มีปริมาณน้ำมันสำรองมากที่สุดในโลก โดยมีประมาณ 172,000 ล้านบาร์เรล ขณะที่ซาอุดีอาระเบียมีปริมาณน้ำมันสำรองมากที่สุด 260,000 ล้านบาร์เรล


มาเล-สิงคโปร์ เตรียมลงทุนผลิตน้ำมันและก๊าซในพม่า

บริษัท Petronas Carigali Overseas ของมาเลเซีย และบริษัท UNOG Pte Ltd ของสิงคโปร์ บรรลุข้อตกลงกับทางการพม่าในการผลิตน้ำมันปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติในแหล่งน้ำมันนอกชายฝั่งพม่า

ทั้งสองบริษัทจะผลิตน้ำมันในแหล่ง MD-4, MD-5 และ MD-6 นอกชายฝั่งอ่าวเมาะตะมะ ร่วมกับบริษัท Myanmar Oil and Gas Enterprise ของทางการพม่า ด้วยสัญญาการแบ่งปันผลผลิตร่วมกัน

ข้อมูลสถิติบ่งชี้ว่าต่างชาติเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซของพม่าคิดเป็นมูลค่าถึง 3.398 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นสุดเดือนพฤษภาคมปี 2552

ทั้งนี้ ทางการพม่าเปิดเผยว่ายังมีอีกหลายประเทศที่ต้องการเข้ามาสำรวจน้ำมันและก๊าซในพม่า ทั้งไทย ออสเตรเลีย อังกฤษ แคนาดา จีน อินโดนีเซีย อินเดีย รัสเซีย เกาหลีใต้ และเวียดนาม


ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่จะประกาศออกมาวันนี้ (จันทร์ที่ 25 ม.ค. 2553)
? ยอดขายบ้านมือสอง (ธ.ค.) โดยสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติสหรัฐฯ


ติดตาม Money Wake up ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ออกอากาศซ้ำเวลา 11.00 น. ทาง Money Channel

 

 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 25, 2010, 10:21:05 AM
บทวิเคราะห์ทองคำ (25-01- 53)

25 ม.ค. 2553


สรุปภาวะตลาดเมื่อวาน
    ราคาโกลด์ฟิวเจอร์สปรับตัวผันผวนตลอดวัน เช่นเดียวกับราคาทองคำสปอตที่ปรับตัวอยู่ในช่วงแคบ ทองคำแท่งสมาคมฯปิดที่ 17,150/250 บาท เงินบาทแกว่งตัวในช่วงแคบเช่นเดียวกันอ่อนค่าลงเล็กน้อย



ปัจจัยที่อาจส่งผลต่อเนื่องถึงวันนี้
    นักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของกฎว็อล์คเกอร์ที่นายโอบามา ปธน.สหรัฐฯ เสนอขึ้นมาเมื่อวันก่อนโดยเฉพาะเรื่องห้ามธนาคารลงทุนในเฮดจ์ฟันด์ หุ้นนอกตลาด หรือแม้แต่ลงทุนเพื่อแสวงผลกำไรที่ไม่เกี่ยวข้องกับการให้บริการลูกค้า ซึ่งเห็นได้ชัดว่าจะเป็นการก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาที่เศรษฐกิจตกต่ำการลงทุนเพื่อแสวงผลกำไรนับเป็นหนึ่งในกิจการที่ช่วยให้ธนาคารหลายแห่งสามารถรอดพ้นวิกฤติมาได้ การประกาศมาตรการดังกล่าวจึงเป็นการสร้างความผันผวนต่อตลาดหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์เป็นอย่างดีและส่งผลให้นักลงทุนกลัวความเสี่ยงมากขึ้น [US Government, TCAF Research]
    มีสมาชิกสภาสูงหลายท่านแสดงตนว่าไม่เห็นด้วยกับการที่จะให้นายเบอร์นานกี้ ได้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดต่อหลังจากที่จะหมดวาระในสิ้นเดือนนี้ แสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงเกี่ยวกับความต่อเนื่องของนโยบายการเงิน [Bloomberg, Reuters, TCAF Research]
    ปัญหาในกรีซและจีนก็ยังไม่จบสิ้นสร้างความกังวลให้กับนักลงทุนต่อเนื่อง
    ปัจจัยเสี่ยงต่างๆที่กล่าวมาข้างต้นเป็นการสร้างความตื่นตระหนกให้กับนักลงทุนได้เป็นอย่างดีส่งผลลบต่อตลาดหุ้น ในขณะที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ยังต้องจับตามองมาตรการกฎว็อล์คเกอร์ของนายโอบามาและการตอบสนองของธนาคารต่างๆเป็นสำคัญ ราคาทองคำจึงปรับตัวอยู่ในช่วงแคบเท่านั้น


แนวโน้มทองคำวันนี้
    ปัญหาต่างๆยังค้างคาน่าจะกดดันราคาสินทรัพย์ต่างๆให้ปรับตัวขึ้นได้ยาก ในขณะที่เรามองว่าปัญหาต่างๆเกิดขึ้นตามธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงนโยบายในช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัวเท่านั้น แต่ก็ต้องจับตามองการตอบสนองและมุมมองของนักลงทุนอื่นๆเป็นภาพรวมด้วย เราจึงมองว่า "ราคาทองคำน่าจะค่อยๆปรับตัวขึ้น" เราจึงแนะนำให้ "ค่อยๆสะสม LONG โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ราคาสปอตลดลงต่ำกว่า $1,083"


มุมมองทองคำ
    แนวโน้มเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวน่าจะมีความสำคัญที่สุดในช่วงนี้ ในขณะที่มาตรการต่างๆของมหาอำนาจก็น่าจับตามองไม่แพ้กันเนื่องจากอาจส่งผลต่อการรับความเสี่ยงของนักลงทุนและส่งผลต่อสถานะของทองคำได้

 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 25, 2010, 10:22:30 AM
ประเด็นสำคัญ
  - ราคาทองจากข้อเสนอ"โอบามา"กดราคาทองปิดร่วง
  - ข้อเสนอ"โอบามา"ฉุดดอลล์ร่วงเทียบเยน,ยูโร
  - ดาวโจนส์ทรุดกว่า 200 จุด ร่วง 3 วันหนักสุด 10 เดือน
  - น้ำมันดิบดิ่งลงตามตลาดหุ้นสหรัฐ

    ราคาทองที่ตลาดสหรัฐปิดร่วงลงในวันศุกร์ แต่ก็ดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือนที่ทำไว้ในช่วงเช้า ขณะที่ข้อเสนอของประธานาธิบดีบารัค โอบามาเพื่อจำกัดการถือความเสี่ยงของภาคธนาคารนั้น ได้กดดันตลาดสินค้าโภคภัณฑ์

     ข้อเสนอของประธานาธิบดีโอบามานับเป็นปัจจัยล่าสุดที่กระทบต่อตลาดซึ่งมีความเปราะบางอยู่แล้วจากความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจของบางประเทศในเขตยูโรโซน และจากการคาดการณ์ที่ว่าจีนจะเพิ่มมาตรการในการดูดสภาพคล่องออกจากระบบเพื่อสกัดภาวะเงินเฟ้อ

     สัญญาทองส่งมอบเดือนก.พ.มีการเคลื่อนตัวในช่วง 1,081.90-1,098.90 ดอลลาร์ ซึ่งจุดต่ำสุดของวันเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่วันที่ 23 ธ.ค.

     ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ร่วงลงอีกในวันศุกร์ ขณะที่ข้อเสนอของประธานาธิบดีโอบามาเพื่อจำกัดการถือครองความเสี่ยงทางการเงิน ซึ่งอาจกระทบกระแสลงทุนในสินทรัพย์ประเภทนี้ ยังคงกดดันตลาด ดัชนีความผันผวน (VIX) ในตลาด Chicago Board Options Exchange ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดวอลล์สตรีท ก็ได้ทำสถิติทะยานขึ้นมากที่สุดในช่วง 3 วันในรอบกว่า 3 ปี โดยพุ่งขึ้นถึง 55.4 %

     ขณะเดียวกัน การที่ทางการจีนใช้มาตรการชะลอความร้อนแรงทางเศรษฐกิจด้วยการสั่งระงับการปล่อยสินเชื่อธนาคารในเดือนนี้ ก็ได้ทำให้นักลงทุนวิตกว่าจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของอุปสงค์ในสหรัฐและประเทศอื่นๆ นอกจากนี้ ตลาดได้ทรุดตัวลงแตะระดับต่ำสุดของวัน ภายในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายจากข่าวที่ว่าอังกฤษได้เพิ่มระดับภัยคุกคามจากการก่อการร้ายสู่ระดับสูงสุดอันดับ 2


     กลยุทธ์ : หลังการหลุดแนว Stop Loss สำคัญที่ระดับราคา 1,123 US$ ซึ่งเป็นแนวที่สำคัญมาก อาจจะทำให้ทองลงไปถึงแนว 1,070 US$ แนวถัดไป
ช่วงสัปดาห์นี้อาจจะเล่นในกรอบ 1,110 ? 1,078 US$ เพื่อเปลี่ยนแนวโน้มในปลายสัปดาห์ เลยเป็นการเล่นสั้นเท่านั้นในต้นสัปดาห์เพราะแนวโน้มยังไร้ทิศทาง



หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 25, 2010, 11:10:45 AM
(http://img714.imageshack.us/img714/1521/50245382.gif) (http://img714.imageshack.us/i/50245382.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 25, 2010, 11:11:28 AM
(http://img121.imageshack.us/img121/2995/62072586.gif) (http://img121.imageshack.us/i/62072586.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 25, 2010, 11:42:05 AM
กราฟตาแป๊ะ
http://www.thaigold.info/forum/index.php?topic=4852.710 (http://www.thaigold.info/forum/index.php?topic=4852.710)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Jeera ที่ มกราคม 25, 2010, 01:27:48 PM
สวัสดีค่ะพี่ทองใหม่   8)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 25, 2010, 03:03:59 PM
กระดานคืนนี้ ดูเล่นๆ ไม่ต้องจริงจังครับ เป้าหมาย1109 ทิศทางดังภาพ---จากเวปจีนจ้า(http://img641.imageshack.us/img641/1138/91181072.gif) (http://img641.imageshack.us/i/91181072.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Yai Carmungwed ที่ มกราคม 25, 2010, 03:06:09 PM
 ;Dชัดเจนอาจารย์ทองใหม่ ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Theephat ที่ มกราคม 25, 2010, 03:08:09 PM
ขอบคุณครับคุณทองใหม่ :)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มกราคม 25, 2010, 08:05:23 PM
 ;Dสวัสดีค่ะพี่ทองใหม่
ขยันทุกวันเลยน้ะค่ะ ;D
ขอบคุณค่ะ  :)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: JO-JO ที่ มกราคม 25, 2010, 09:32:37 PM
ขอบคุณครับ คุณทองใหม่
มีข้อมูลแน่นทุกวันเลยครับ

 :)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 26, 2010, 06:11:25 AM
 วิธีดูทิศทางทอง ต้าน๓----หนุน๓เป็นทิศทางทองที่จะเคลื่อนไหวในวันนี้ หากพุ่งทะลุต้าน๓หรือดิ่งทะลวงหนุน๓ แสดงถึงวันนั้นทองเคลื่อนไหวแรงเกินปกติ เส้นแดนเป็นเส้นที่จะแบ่งแยกทิศทางของทองที่จะขึ้นหรือลง หากทองเคลื่อนไหวอยู่ในทิศทางใดมากและนาน นั่นหมายถึงโอกาสเป็นไปได้มากที่ทองจะเคลื่อนไปในทิศทางนั้นๆ ในช่วงเวลานั้น (ยังต้องแบ่งออกในช่วงเวลาตลาดเอเซีย ยุโรป เมกาด้วย) ต้าน๑และหนุน๑หากถูกทดสอบแบบมีผล(ขึ้นลงมากกว่า๑ครั้ง)แล้วยืนอยู่ได้ นั่นคือทิศทางทองที่จะเดินต่อไปในช่วงเวลานั้น หากการวิเคราะเกิดขัดแย้งกันเมื่อไหร่ ให้หยุดมองดูอย่างเดียว ไม่ควรซื้อ-ขายในช่วงเวลานั้น แนวทางนี้เหมาะกับการเล่นสั้นมาก (เล่นแบบออนไลน์ในอนาคต) มีความแม่นยำถึง80%ครับ อีกอย่างข่าวปัจจัยพื้นฐานอาจเปลี่ยนทิศทางทองได้กะทันหันนะครับ
ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์กับการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย ถัาติดดอยเมื่อทองต่ำลงมา  หากยังมีเงินเหลืออยู่ ควรซื้อเพิ่ม เพิ่มที่ละนิด ต่ำอีกซื้ออีก เพื่อดึงต้นทุนที่สูงให้ต่ำลงมา ใครที่ยังไม่มีทองในมือควรทยอยซื้อเข้าอย่ามากนัก หากทองลงอีก เราก็ซื้ออีก ดีกว่าเวลาทองขึ้นเราไปไล่ซื้อในราคาที่สูง  จดจำเป็นคติเตือนใจว่า  เรามิอาจซื้อได้ในราคาที่ต่ำสุด และขายได้ในราคาที่สูงสุด ไม่มีการลงทุนใดที่ไม่เสี่ยง การบริหารพอร์ตให้ได้จังหวะ จะลดความเสี่ยงลงได้ครับ
กราฟสำคัญ ปัจจัยพื้นฐานก็สำคัญ จิตวิทยาการโน้มเอียงของคนก็สำคัญ สิ่งเหล่านี้หากเป็นไปในแนวเดียวกัน ก็จะมุ่งไปทางนั้น หากแย้งกันก็ต้องดูฝ่ายไหนเหนือกว่า.....ด้วยเหตุนี้ไม่มีนักวิเคราะห์คนใดที่จะทำนายได้แม่นยำตลอดกาลได้ครับ
(http://img694.imageshack.us/img694/4619/22243815.gif) (http://img694.imageshack.us/i/22243815.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 26, 2010, 06:13:36 AM
เส้นปากถุง(เส้นสีขาวทั้ง๓เส้น)แบบง่ายๆ ไม่ปวดเศียรเวียนเกล้า
เส้นบน---แนวต้าน
เส้นกลาง---แนวโน้ม(สำคัญสุด)
เส้นล่าง---แนวหนุน
ลักษณะที่๑---ทิศทางขึ้นเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น   เส้นกลางหันหัวขึ้น   เส้นล่างหันหัวลง
ลักษณะที่๒---ทิศทางขึ้นเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวขึ้น
เมื่อเจอลักษณะทั้ง๒นี้ ราคาระหว่างวันที่ขึ้นๆลงๆ เมื่อเจอจุดที่เห็นว่าต่ำแล้วให้ซื้อเข้าได้เลยครับ  ขอเพียงเส้นกลาง(แนวโน้ม)ยังหันหัวขึ้นอยู่ แม้ราคาเแท่งเทียนจะอยู่ต่ำกว่าเส้นกลาง ก็ยังซื้อเข้าได้ หากเส้นบนเดินขวางเมื่อไหร่ ให้ทยอยลดพอร์ตได้เลยครับ
ลักษณะที่๓---เลือกทิศทาง---เส้นบนหันหัวลง เส้นล่างหันหัวขี้น ปากถุงแคบลง ถึงช่วงนี้ ให้ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว หากใครยังคิดอยากเคลื่อนไหว ก็จงเคลื่อนไหวไปหน้าทีวี จงอย่าทำการอย่างอื่นใด หากใครเป็นจอมยุทธ์ ก็ชิงเคลื่อนไหวก่อนใครได้  
ขอแถมอีกนิด จงโฟกัสที่เส้นกลาง หากเส้นกลางเริ่มขยบหัวหัวขึ้นหรือลง ทิศทางอาจขึ้นหรือลงตามเส้นกลางแนวโน้มนั้น
ลักษณะที่๔---เคลื่อนไหวในกรอบแคบ---เส้นบน กลาง ล่าง เดินขวางทั้ง๓เส้น หากใครเล่นออนไลน์ สามารถเล่นได้เล็กน้อยอย่ามาก เมื่อราคาแท่งเทียนใกล้เส้นบน จงขาย ใกล้เส้นล่าง จงซื้อ ต้องเข้าออกให้ทันการณ์ หาไม่แล้วจากกำไรอาจขาดทุนได้นา ขอบอก
ลักษณะที่๕---ทิศทางลงเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น เส้นกลางหันหัวลง เส้ยล่างหัวหัวลง
ลักษณะที่๖---ทิศทางลงเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวลง  เมื่อเส้นล่างเดินขวางเมื่อไหร่ ผู้ที่ใจกล้าที่เล่นออนไลน์ เริ่มทยอยซื้อเข้าได้ที่ละนิด อัตราเสี่ยงยังมีอยู่บ้างนะครับ สิบอกไห่
วิธีดูเส้นปากถุงที่กล่าวมานี้ .....ไม่ใช่ตำราของฝรั่ง แบบของฝรั่งผมเคยอ่านมาบ้างแล้ว ยาวมาก ปวดหัว ทำความเข้าใจได้ยากมากๆๆๆๆ ...........เหมาะเฉพาะกราฟราย๔ชม.และช่วงปกติเท่านั้นนะครับ  (บางครั้งตลาดจงใจคึงขึ้นลงอย่าแรงๆ แทบหัวใจวายสำหรับผู้มีทองในมือและผิดทิศทางของตัวเอง เรียกว่า ช่วงไม่ปกติครับ)

(http://img694.imageshack.us/img694/2337/90195761.gif) (http://img694.imageshack.us/i/90195761.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 26, 2010, 06:16:02 AM
กราฟGold 1
ช่อง1 เส้นแดงอยู่เหนือเส้นเขียว---ทิศทางขึ้น  ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น  สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นเขียวอยู่เหนือเส้นแดง---ทิศทางลง     ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นแดงและเขียวประสานเป็นกากะบาด ---กำลังจะเปลี่ยนทิศ ให้ดูเส้นแนวโน้มประกอบ  หากเส้นแดงและเขียวกำลังจะประสาน แต่ไม่ทันได้ประสานก็หันหันหัวกลับขึ้นหรือลง  แสดงว่ากำลังมีเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนี่งเกิดขึ้น หากขึ้นทะลุเส้นปะแนวต้าน ให้ดูเส้นปะแนวต้านเส้นต่อไป หากลงทะลุเส้นปะแนวหนุน ให้ดูเส้นแนวหนุนเส้นต่อไป   ส่วนจุดกลมเหลืองทอง---ทิศทางลง  จุดกลมฟ้า---ทิศทางขึ้น  หากกราฟวิ่งในยามปกติ พอเชื่อถือได้ หากกราฟวิ่งขึ้นลงแรงๆ คือยามไม่ปกติ ไม่อาจเชือถือได้
ช่อง2  ให้ดูเส้นสีม่วง ประกอบกับเส้นแนวโน้มในช่อง1 หากหันหัวไปในทิศทางเดียวกัน  โอกาสที่จะผิดพลาดก็มีน้อย  ส่วนเส้นปะสีเหลืองทองและฟ้า  หากขึ้นเหนือเลข80 เข้าสู่เขตซื้อเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ทุกเมื่อ  หากลงต่ำกว่าเลข20 เข้าสู่เขตขายเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ตลอดเวลา
ช่อง3   ให้ดูทั้ง2เส้น คือเหลืองทองและฟ้า หันหัวไปทิศทางเดียวกันหรือไม่  เท่านั้นยังไม่พอ  ให้ดูประกอบทิศทางในช่อง1ว่าเป็นทิศทางเดียวกันหรือไม่  หากทิศทางหันหัวในแนวเดียวกัน  ทิศทางนั้นเชื่อถือได้

(http://img25.imageshack.us/img25/6098/27534523.gif) (http://img25.imageshack.us/i/27534523.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 26, 2010, 07:36:56 AM
กราฟบน ระยะยาว กำลังเลือกทิศทาง ให้อยู่เฉยๆ

กราฟล่าง แดงเขียวกำลังตัดกัน กำลังจะขึ้น จุดฟ้ามาแล้ว

อุ๊ย...มีคำว่า buy ด้วย ให้เข้าซื้อได้ ...ถูกรึป่าวคะอาจารย์

เส้นแดงตรง ๆ 1-5 นี่มันเส้นอะไรเอ่ย

ฟ้าเหลืองก็ชนเส้น 80 แล้วซะด้วยใกล้กลับหักหัวลงได้บ้าง

คำว่าbuy ใช้กับ1ชม.เพราะเป็นกราฟ1ชม.ครับ ช่วงสั้นครับ และตอนนี้ก็ขึ้นตามคำว่าbuyแล้วครับ อย่าใช้กับเล่นทองแท่งหรือGFนา ขอบอก   เส้นแดงตัวเลข1-5 เป็นกราฟที่เขาใช้นับคลื่น ใช้ไม่ค่อยตรงตามคลื่นที่เขานับกันสักเท่าไหร่หรอกครับ ผมแทรกกราฟเข้าไปแล้วลืมเอาออก ฮาฮา เดี๋ยวผมเอาออกจากกราฟในเครื่องเลยครับ เดี๋ยวทำให้เพื่อนๆงงอีก

 
!thk 55555 นึกว่าสัญญาณตัวใหม่มาซะอีก  
ผมผิดอีกแล้ว นั่นเป็นกราฟ4ชม. !17 !17เหงื่อแตกเลยเรา ขอแก้ไขใหม่ อันใหม่นี้กราฟ1ชม.จ้า
(http://img199.imageshack.us/img199/6057/30658403.gif) (http://img199.imageshack.us/i/30658403.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ มกราคม 26, 2010, 10:00:47 AM
ขอบคุณค่ะคุณทองใหม่


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 26, 2010, 10:07:44 AM
เศรษฐกิจสหรัฐฯยังฟื้นตัวอย่างช้า ๆ แนะจับตามาตรการเศรษฐกิจ-ค่าเงินอย่างใกล้ชิด

Posted on Tuesday, January 26, 2010
อุสรา วิไลพิชญ์ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส  ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด(ไทย) กล่าวว่า ผลการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่นที่ออกมาว่า จะพิจารณาขยายโครงการเงินกู้ฉุกเฉินสำหรับธนาคารพาณิชย์ภายในประเทศ และจะเพิ่มวงเงินซื้อพันธบัตรรัฐบาลหากเศรษฐกิจยังไม่ส่งสัญญาณการฟื้นตัว  ถือเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจของญี่ปุ่นยังอ่อนแอ และค่าเงินเยนยังมีแนวโน้มแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจต่อไปได้ อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวจะทำให้ค่าเงินเยนมีโอกาสน้อยลงที่จะแข็งค่าจนหลุดระดับ 90 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ และน่าจะเคลื่อนไหวในระดับ 90-95 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ

สำปรับปัจจัยที่ควรจับตาในขณะนี้ คือ ผลการประชุมด้านอัตราดอกเบี้ยของคณะกรรมการนโยบายการเงินของสหรัฐฯ ที่น่าจะมีความเห็นตรงกันว่าไม่ควรขึ้นอัตราดอกเบี้ย และยังต้องจับตาแถลงการณ์ผลการประเมินสถานะของเศรษฐกิจของธนาคารกลางสหรัฐฯ และการลดการผ่อนคลายมาตรการการเงิน ด้วย

นอกจากนี้ อัตราการว่างงานในสหรัฐฯยังอยู่ในระดับสูง ทำให้เชื่อได้ว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป และการที่อัตราดอกเบี้ยปล่อยกู้ระยะสั้นระหว่างธนาคาร (Libor) ที่มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น แม้ว่าดอกเบี้ยในตลาดยังไม่ปรับเพิ่มขึ้น ก็น่าจะทำให้มีการขายทำกำไรในสินทรัพย์ของตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย เพื่อดึงเงินกลับได้ในอนาคต

ส่วนการที่นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้เสนอนโยบายให้ธนาคารพาณิชย์ และวาณิชธนกิจ ลดการลงทุนโดยตรงในตลาดอัตราแลกเปลี่ยน และสินค้าโภคภัณฑ์  เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาภาวะฟองสบู่ ก็อาจจะทำให้มีการขายสินทรัพย์ออกมาครั้งใหญ่เพื่อดึงเงินกลับประเทศได้เช่นกัน แต่ก็ยังต้องติดตามความเห็นของวุฒิสภาของสหรัฐฯด้วย

สำหรับค่าเงินบาทยังมีแนวโน้มแกว่งตัวแคบ ๆ เพราะแม้ว่าเงินจะไหลออกจากตลาดหุ้น แต่ก็ยังเงินต่างประเทศไหลเข้าในตลาดพันธบัตร ทำให้ค่าเงินบาทน่าจะแข็งค่าขึ้นต่อไป

ติดตาม Get SET ทุกวันจันทร์ ? ศุกร์ เวลา 8.00 น. ทาง Money Channel
 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 26, 2010, 10:10:37 AM
ประเด็นสำคัญ
  - ราคาทองทองปิดบวก ขณะนักลงทุนระมัดระวัง
  - ดอลล์แข็งรับคาด"เบอร์นันเก้"เป็นปธ.เฟดสมัยสอง
  - ดาวโจนส์ปิดบวกรับคาดวุฒิสภาสหรัฐหนุน"เบอร์นันเก้"
  - คาน้ำมันดิบไต่ขึ้นตามตลาดหุ้น

   ราคาทองที่ตลาดสหรัฐปิดปรับขึ้นในวันจันทร์จากการร่วงลงของดอลลาร์, การเดินหน้าขึ้นของน้ำมันดิบ และแรงซื้อครั้งใหม่ในตลาดส่งมอบปัจจุบัน หลังการร่วงลงอย่างหนักเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สัญญาทองส่งมอบเดือนก.พ.เคลื่อนตัวในช่วง 1,104.00-1,092.20 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 23 ธ.ค. ในขณะที่มีปริมาณการซื้อขายราว 183,199 สัญญา

    เทรดเดอร์กล่าวว่า บรรยากาศในตลาดอยู่ในเชิงระมัดระวังก่อนการครบกำหนดส่ง มอบออปชันที่ตลาด COMEX และการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธ

    ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัวลงเป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนสัญญาทองคำดีดตัวขึ้น โดยเมื่อวานนี้ ดัชนี ICE Futures US dollar index ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินหลักๆ ร่วงลง 0.1%
อุปสงค์ที่แข็งแกร่งในการขายตราสารหนี้อายุ 5 ปีของกรีซได้ลดความวิตกเกี่ยวกับปัญหาด้านการคลังในยูโรโซน ซึ่งเป็นแรงหนุนเล็กน้อยต่อยูโรเมื่อเทียบกับดอลลาร์ เฟดจะเริ่มการประชุมกำหนดนโยบายการเงินเป็นเวลา 2 วันในวันอังคาร และนักวิเคราะห์คาดว่า นักลงทุนจะจับตาอย่างใกล้ชิดต่อสัญญาณแนวโน้มเศรษฐกิจ ขณะที่แทบไม่มีใครคาดว่าเฟดจะเปลี่ยนแปลงนโยบาย

   นักวิเคราะห์จากเอ็มเอฟ โกลบอล คาดการณ์ว่า สัญญาสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงทองคำและน้ำมันดิบ อาจได้รับผลกระทบจากมาตรการคุมเข้มด้านการปล่อยเงินกู้ของจีนและสหรัฐ

   กลยุทธ์ : หลังการหลุดแนว Stop Loss สำคัญที่ระดับราคา 1,123 US$ ซึ่งเป็นแนวที่สำคัญมาก อาจจะทำให้ทองลงไปถึงแนว 1,070 US$ แนวถัดไป ช่วงสัปดาห์นี้อาจจะเล่นในกรอบ 1,110 ? 1,078 US$ เพื่อเปลี่ยนแนวโน้มในปลายสัปดาห์ เลยแนะนำเป็นการเล่นเด้งระยะสั้นเท่านั้นในช่วงต้นสัปดาห์เพราะแนวโน้มยังไร้ทิศทาง



หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 26, 2010, 10:19:50 AM
(http://img706.imageshack.us/img706/4665/26549974.gif) (http://img706.imageshack.us/i/26549974.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 26, 2010, 10:21:19 AM
(http://img204.imageshack.us/img204/3543/83153322.gif) (http://img204.imageshack.us/i/83153322.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 26, 2010, 10:29:05 AM
26 ม.ค. 2553


 บาท/ดอลลาร์เช้านี้แข็งค่า หลังดอลล์อ่อนเทียบสกุลเงินหลัก, รอผลประชุมเฟด
       
        *บาท/ดอลลาร์ภาคเช้าแข็งค่าขึ้นตามสกุลเงินต่างประเทศ ขณะที่ตลาด
         กำลังรอดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ในช่วงกลาง
         สัปดาห์นี้ เพื่อพิจารณาถึงแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐในช่วงต่อไป
        *ดอลลาร์ในตลาดนิวยอร์ควานนี้ ปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ขณะที่นายเบน
         เบอร์นันเก้ ประธานเฟด ใกล้จะได้รับการสนับสนุนให้ดำรงตำแหน่งต่อไป
         เป็นสมัยที่ 2 ซึ่งช่วยคลายความวิตกของนักลงทุน 
        *เยนยังได้รับแรงกดดัน จากคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ) อาจ
         จะประกาศมาตรการเพื่อผ่อนคลายนโยบายการเงิน รวมถึงการซื้อพันธบัตร
         รัฐบาลสหรัฐ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ 
        *แต่ดอลลาร์ปรับตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญเป็นส่วนใหญ่ หลังทะยานขึ้น
         ในสัปดาห์ที่ผ่านมา จากการที่นักลงทุนลดการถือครองสกุลเงิน และสินทรัพย์
         ที่ให้ผลตอบแทนสูง     
        *ยูโรปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังแตะระดับสูงถึง 1.4197 ดอลลาร์
         ขณะที่แหล่งข่าวธนาคารระบุว่า อุปสงค์สำหรับตราสารหนี้ของกรีซสูงประมาณ
         2.5 หมื่นล้านยูโร
        *อุปสงค์ที่แข็งแกร่งในการขายตราสารหนี้อายุ 5 ปีของกรีซ ได้ลดความวิตก
         เกี่ยวกับปัญหาด้านการคลังในยูโรโซน ซึ่งเป็นแรงหนุนเล็กน้อยต่อยูโร เมื่อ
         เทียบกับดอลลาร์ 
        *ปอนด์ปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ก่อนที่อังกฤษเปิดเผยข้อมูลจีดีพีซึ่งคาดว่า
         เศรษฐกิจอังกฤษ จะกลับมามีการขยายตัวในไตรมาส 4 
        *เฟดจะเริ่มการประชุมกำหนดนโยบายการเงิน เป็นเวลา 2 วัน ในวันอังคาร
         และนักวิเคราะห์คาดว่า นักลงทุนจะจับตาใกล้ชิด ต่อสัญญาณแนวโน้มเศรษฐกิจ
         ขณะที่แทบไม่มีใครคาดว่า เฟดจะเปลี่ยนแปลงนโยบาย       
        *08.41 น. บาท/ดอลลาร์อยู่ที่ 32.90/95 จาก 32.94/99 เมื่อวาน
         ขณะที่ใน offshore อยู่ที่ 32.92/94 จาก 32.96/99 เมื่อวาน
        *เยน/ดอลลาร์ อยู่ที่ 90.47/48 จาก 90.22 ในตลาดลอนดอนเมื่อคืน
        *ยูโร/ดอลลาร์ อยู่ที่ 1.4171/74 จาก 1.4150 ในตลาดลอนดอนเมื่อคืน
 
        "เช้านี้บาทแข็งค่าขึ้น ก็ตามสกุลเงินอื่นๆ แต่ตลาดก็คงรอดูเฟดด้วย วันนี้น่าจะ
แกว่งอยู่ใน range 32.90 ถึง 33.00" ดีลเลอร์ กล่าว
        เขา กล่าวว่า เงินบาทเช้านี้แข็งค่าขึ้นตามสกุลเงินต่างประเทศ หลังดอลลาร์
อ่อนตัวลงมาในระยะสั้น แต่คาดว่าบาทในวันนี้จะเคลื่อนไหวไม่มากนัก เพราะนักลงทุน
บางส่วนจะรอดูผลการประชุม และการส่งสัญญาณของเฟด ต่อทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐ
        ดีลเลอร์คาดว่า เงินบาทในวันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.90-33.00

 
        แหล่งที่มา : รอยเตอร์



หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 26, 2010, 10:47:36 AM
เชื่อ ?เบน เบอร์นันเก้? ได้เสียงสนับสนุนนั่งประธานเฟดต่ออีกสมัย

Posted on Tuesday, January 26, 2010
ทำเนียบขาวเชื่อเบอร์นันเก้ได้เสียงสนับสนุนนั่งประธานเฟดต่ออีกสมัย

เดวิด เอ็กเซลร็อด ที่ปรึกษาอาวุโสของทำเนียบขาว และมิทช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสังกัดพรรครีพับลีกัน คาดการณ์ว่า เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะได้รับเสียงสนับสนุนให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดต่อเป็นสมัยที่ 2

การคาดการณ์ดังกล่าวมีขึ้นเพียง 2 วันหลังจากเบอร์นันเก้ได้รับเสียงสนับสนุนอย่างประปรายจากสมาชิกพรรคเดโมแครต ซึ่งข่าวดังกล่าวส่งผลให้ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลง

เอ็กเซลร็อด กล่าวให้สัมภาษณ์ทางรายการ ?State of the Union" ของสถานีโทรทัศน์ CNN ว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา มีความเชื่อมั่นมากว่าเบอร์นันเก้จะได้รับเสียงสนับสนุนให้เป็นประธานเฟดสมัยที่ 2

ขณะที่แมคคอนเนลกล่าวทางรายการ ?Meet the Press" ของสถานีโทรทัศน์ NBC ว่า เบอร์นันเก้จะได้รับเสียงสนับสนุนส่วนใหญ่จากทั้ง 2 พรรคในวุฒิสภา แม้มีสมาชิกบางคนของพรรครีพับลิกันจะไม่เห็นด้วยก็ตาม

การแสดงความคิดเห็นดังกล่าวมีขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูง 2 คนจากพรรคเดโมแครตในวุฒิสภา คือ วุฒิสมาชิกแฮร์รี่ รี้ด จากรัฐเนวาดา และวุฒิสมาชิกริชาร์ด เดอร์บิน จากรัฐอิลลินอยส์ ได้ออกเสียงสนับสนุนเบอร์นันเก้ แต่วุฒิสมาชิกจอห์น แมคเคน และวุฒิสมาชิกจอห์น คอร์นิน ออกเสียงคัดค้าน

เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.2552 คณะกรรมาธิการด้านการธนาคารแห่งวุฒิสภาสหรัฐ มีมติด้วยคะแนนเสียง 16 ต่อ 7 อนุมัติการเสนอชื่อเบอร์นันเก้ วัย 56 ปี ให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟด) ต่ออีกสมัย

ขณะที่การดำรงตำแหน่งสมัยแรกจะครบวาระในเดือนม.ค.ปี 2553 โดยการลงมติครั้งนี้มีขึ้นหลังจากสมาชิกวุฒิสภาใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมงในการอภิปรายแสดงความเห็น เพราะมีทั้งผู้ที่กล่าวยกย่องและผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์ประธานเฟดผู้นี้

ผลสำรวจล่าสุดของบลูมเบิร์ก ปรากฎว่า วุฒิสมาชิก จำนวน 30 คน ยืนยันที่จะสนับสนุนเบอร์นันกี้ต่อไป ขณะที่ 16 คนคัดค้านต่อความคิดดังกล่าว และ อีก 31 คนยังไม่ได้ตัดสินใจ โดยเสียงที่ไม่สนับสนุนกล่าวว่า การทำงานของเบอร์นันกี้นั้น ล้มเหลวในการควบคุมสถาบันการเงินในช่วงก่อนเกิดวิกฤติ และ มีข้อสงสัยต่อแผนการช่วยเหลือจำนวน 182,000 ล้านที่ให้กับ AIG


หุ้นสหรัฐฯ ฟื้นหลังดิ่งหนัก โอบามาเสนอผ่อนภาษีผู้มีรายได้ปานกลาง

ดัชนี S&P 500 ของสหรัฐฯ ฟื้นขึ้นได้เมื่อคืนนี้ หลังจากที่ร่วงลงไปอย่างหนักเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักลงทุนมีความมั่นใจมากขึ้นว่า ในที่สุด Ben Bernanke จะยังคงสามารถรั้งตำแหน่งประธานธนาคารกลางได้เป็นสมัยที่สอง

อย่างไรก็ดี ที่ตลาดหุ้นยุโรปยังปรับตัวลงต่อ โดยมีปัจจัยผลประกอบการเป็นตัวฉุดตลาด หนึ่งในนั้นก็มีหุ้น Ericsson ที่เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่ายไร้สายรายใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยตัวเลขกำไรที่ดิ่งลงถึง 92%

ในส่วนอัพเดตเศรษฐกิจสหรัฐฯ สมาคมผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ได้รายงานยอดขายบ้านที่สร้างเสร็จ ลดลงมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ในเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นการชี้ให้เห็นว่าผู้ซื้อพึ่งพามาตรการจูงใจทางภาษีของรัฐเป็นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา

ยอดขายบ้านร่วงลงถึง 17% เพียง 1 เดือนหลังจากที่นโยบายบรรเทาภาระภาษีจากรัฐที่เดิมทีจะหมดอายุลง ก่อนที่ทางการจะเปลี่ยนใจและยืดเวลาการใช้มาตรการนี้ออกไปในที่สุด นักเศรษฐศาสตร์หวังว่ายอดขายบ้านจะฟื้นกลับขึ้นมาในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า จากการขยายเวลานโยบายช่วยเหลือทางภาษี แม้บางคนยังคงเป็นห่วงถึงตลาดแรงงานที่เป็นอุปสรรคใหญ่ต่อการตัดสินใจซื้อบ้าน

สำหรับความคืบหน้าของมาตรการช่วยเหลืออื่นๆ ล่าสุดประธานาธิบดี บารัค โอบามา ได้มีการเสนอมาตรการบรรเทาภาระภาษีของชาวอเมริกันที่มีรายได้ปานกลาง ซึ่งรวมถึงการให้สิทธิทางภาษีแก่ผู้ที่มีบุตรมากขึ้น และการขยายขอบเขตสิทธิทางภาษีเพื่อให้สอดคล้องกับการออมเพื่อการเกษียนอายุด้วย

ข้อเสนอทั้งหมดของผู้นำสหรัฐฯ นี้ เป็นไปเพื่อต้องการตอบโจทย์ใน 3 เรื่องใหญ่ๆ ซึ่งก็คือ สภาวะเศรษฐกิจ ตลาดแรงงาน และการจัดการกับปัญหาการขาดดุลงบประมาณ แม้จะมีผู้ที่ให้ความเห็นถึงมาตรการใหม่นี้ว่า เป็นเพราะประธานาธิบดี โอบามา ต้องการเรียกคะแนนนิยมทางการเมืองกลับคืนมา หลังจากที่พรรคเดโมแครตต้องเสียสูญไปในการเลือกตั้งนัดพิเศษสำหรับโควต้าวุฒิสมาชิกในรัฐ Massachusetts


ธนาคารในวอลล์สตรีทยอมหั่นค่าตอบแทนผู้บริหาร หลังตกเป็นเป้าการเมือง

แรงกดดันทางการเมืองบีบให้ยักษ์ใหญ่วาณิชธนกิจในวอลล์สตรีทต้องยอมหั่นการจ่ายค่าตอบแทนให้แก่ผู้บริหาร รวมถึงพนักงานของตนในไตรมาส 4 ที่ผ่านมา

การตัดสินใจของ Goldman Sachs Group, Morgan Stanley และ JPMorgan Chase เกิดขึ้นก่อนหน้าที่จะมีการเปิดเผยรายละเอียดของการจ่ายเงินแก่ผู้บริหารที่จะออกมาในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า โดยทั้ง 3 รายต่างเปิดเผยว่า ได้กันเงินไว้สำหรับการจ่ายค่าเหนื่อยให้กับพนักงานเกือบ 40,000 ล้านเหรียญในปี 2552 ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าปี 2007 ที่จ่ายไปสูงถึง 44,700 ล้านเหรียญ นอกจากนี้ ยังน้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์หลายรายที่เคยประเมินว่าทั้งสามแบงก์จากวอลล์สตรีทจะจ่ายเงินให้แก่พนักงานรวมกันราว 46,000 ล้านเหรียญ

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ได้กล่าวประนามการจ่ายเงินโบนัสในภาคธนาคารเป็นครั้งที่สองแล้ว ก่อนที่จะตามมาด้วยการโจมตีโดยสมาชิกผู้แทนราษฎรจากพรรคเดโมแครต Andre Carson ที่เรียกการกระทำของบรรดาแบงก์ต่างๆ ว่าเป็นสิ่งที่ปราศจากการไตร่ตรองอย่างรอบคอบ

ขณะที่บรรดาธนาคารทั้งหลายกำลังเตรียมตัวที่จะเปิดเผยรายละเอียดค่าตอบแทนที่เป็นจำนวนหุ้นในอีกไม่ช้านี้ ข้อมูลของ Morgan Stanley ที่ยื่นให้กับทางการเกี่ยวกับผู้บริหารระดับสูงจำนวน 10 ราย ได้ระบุว่า ซีอีโอ คือ นาย James Gorman ได้รับหุ้นเป็นมูลค่า 8.6 ล้านเหรียญในปีที่แล้ว ขณะที่ co-president นาย Walid Chammah รับไป 6.6 ล้านเหรียญ ส่วนอดีตซีอีโอ นาย John Mack ที่ยังนั่งเป็นประธานอยู่ในตอนนี้ กลับไม่ได้รับโบนัสแต่อย่างใด

ทางด้านซีอีโอแบงก์คู่แข่ง อย่าง Lloyd Blankfein จาก Goldman Sachs และ Jamie Dimon จาก JPMorgan ก็ออกตัวต่อหน้าคณะกรรมาธิการที่ตรวจสอบภาคการเงินว่า การจ่ายผลตอบแทนในรูปหุ้นแก่ผู้บริหารระดับสูงนั้น สอดคล้องกับสิ่งที่ควรจะได้รับเมื่อเทียบกับผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้น

ข้อมูลจากบริษัทที่ปรึกษา Options Group ประเมินว่า ธนาคารจากวอลล์สตรีททั้ง 3 รายนี้ ได้ควักเงินจ่ายโบนัสรวมกันถึง 24,000 ล้านเหรียญในปีที่แล้ว โดยคิดจากสมมติฐานเงินโบนัสคิดเป็นสัดส่วน 60% ของต้นทุนการจ่ายค่าตอบแทนพนักงานโดยรวม และยังมีการประเมินด้วยว่าอาจจะเป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นราว 29% จากปีที่แล้ว แม้จะยังต่ำกว่าตัวเลขของปี 2550


เยอรมนีเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.ร่วง

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเยอรมนีประจำเดือนก.พ.ร่วงลงเป็นเดือนที่สี่ติดต่อกัน หลังผู้บริโภควิตกกังวลว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในเยอรมนีกำลังชะลอตัวลง ขณะที่อัตราว่างงานจะพุ่งสูงขึ้น

กลุ่มวิจัยตลาด Gfk เปิดเผยผลสำรวจที่ได้จากการสอบถามผู้บริโภค 2,000 คน ซึ่งบ่งชี้ว่า ดัชนีคาดการณ์ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.อยู่ที่ระดับ 3.2 จุด ซึ่งลดลงจากระดับ 3.4 จุดในเดือนม.ค.

หลังจากเมื่อปีที่แล้ว เศรษฐกิจเยอรมนีซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปหดตัวลง 5% ซึ่งนับเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจเยอรมนีเริ่มกลับมาขยายตัวได้เล็กน้อย และคาดว่าจะสามารถเติบโตได้ราว 1.5% ในปีนี้ โดยทาง Gfk ระบุว่า อัตราว่างงานที่สูงขึ้นและอัตราการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในเยอรมนีที่เริ่มแผ่วลงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภค และเมื่อพิจารณาในแง่ของอัตราการบริโภคจะพบว่า ในปีนี้จะเผชิญกับความยากลำบากมากกว่าในปี 2552

อย่างไรก็ดี ผลสำรวจเผยด้วยว่า แนวโน้มการซื้อสินค้าของผู้บริโภคกับดัชนีย่อยปรับตัวสูงขึ้น 4.2 จุดในเดือนนี้แตะที่ 25.4 จุด

ทั้งนี้ การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆบ่งชี้ว่า ภาพรวมเศรษฐกิจเยอรมนียังเผชิญกับความผันผวนในช่วงที่ผ่านมา โดยความเชื่อมั่นภาคธุรกิจสามารถขยายตัวได้ต่อเนื่องนานหลายเดือน แต่ความผันผวนในส่วนของดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนเริ่มชะลอตัวลง ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจในประเทศจะฟื้นตัวได้อย่างเชื่องช้า


ธนาคารโลกหวั่นความเสี่ยงภาวะฟองสบู่ในจีน

ธนาคารโลกหวั่นรายงานข้อมูลด้านตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงระดับการเก็งกำไรที่ส่งผลกระทบให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ในเมืองใหญ่บางแห่งพุ่งสูงขึ้น

ผู้เชี่ยวชาญจากธนาคารโลกตั้งข้อสังเกตุว่า การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจอย่างเป็นทางการจีนอาจสะท้อนให้เห็นถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ซึ่งบ่งชี้ผู้บริโภคเริ่มซื้อสินทรัพย์ในรูปของอสังหาริมทรัพย์เพราะคิดว่าอีกไม่นานมูลค่าสินทรัพย์ประเภทนี้จะปรับตัวสูงขึ้น

ราคาอสังหาริมทรัพย์ของจีนในเดือนธ.ค.ไต่ระดับขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 18 เดือน ซึ่งบ่งชี้ให้เห็นถึงอุปสรรคในการควบคุมกระแสเก็งกำไรในขณะที่เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้น ขณะที่รัฐบาลจีนอาจต้องเพิ่มมาตรการควบคุมเม็ดเงินดังกล่าว หลังจากที่ธนาคารกลางจีนได้แนะให้สถาบันการเงินเพิ่มการถือครองสินทรัพย์ในรูปของทุนสำรองมากขึ้น

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ในเดือนธ.ค.ราคาที่อยู่อาศัยและอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ใน 70 เมืองของจีนปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.8% จากปีที่ผ่านมา ซึ่งสูงกว่าระดับที่ขยายตัว 5.7% ในเดือนพ.ย. ขณะที่มูลค่าบ้านหรูในเซี่ยงไฮ้ขยายตัวเพิ่มขึ้น 2 เท่าในปีที่แล้ว

ขณะเดียวกัน ยอดขายอสังหาริมทรัพย์ในจีนทะยานขึ้น 75.5% แตะที่ 4.4 ล้านล้านหยวนในปีที่แล้ว ซึ่งได้รับปัจจัยหนุนจากยอดขายบ้านทางพื้นที่ภาคตะวันออกของมณฑลเจ้อเจียงและเซี่ยงไฮ้ นอกจากนี้ ยอดขายที่เฟื่องฟูในตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังได้รับอานิสงส์จากอัตราการปล่อยกู้ที่พุ่งสูงเกินคาดถึง 9.59 ล้านล้านหยวนในปีที่ผ่านมา ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวได้หนุนให้ระบบเศรษฐกิจมีสภาพคล่องอยู่เป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ ผู้สันทัดกรณีมองว่า สภาพคล่องส่วนเกินในระบบเศรษฐกิจของจีนคือต้นเหตุของภาวะเงินเฟ้อและภาวะฟองสบู่ในสินทรัพย์ ที่สำคัญจีนต้องหันมาตระหนักถึงการใช้จ่ายภาคสาธารณะด้วย มิเช่นนั้นจีนจะเผชิญกับปัญหาเงินเฟ้อในภายหลัง

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่าของจีนกล่าวให้คำมั่นว่าจะรักษาเสถียรภาพด้านราคาอสังหาริมทรัพย์ ควบคุมการลงทุนเก็งกำไร และรักษาระดับการซื้อขายที่อยู่อาศัย พร้อมทั้งเสริมว่าจะปรับนโยบายการจัดเก็บภาษีในอัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกัน รวมถึงการกำหนดข้อบังคับด้านการทำธุรกรรมในที่ดินทำกิน


มาสเตอร์การ์ด คาดโอกาสในเอเชียมีแนวโน้มสูงกว่าสหรัฐ

มาสเตอร์การ์ด เวิลด์ไวด์ คาดเอเชียมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในเวทีเศรษฐกิจโลก โดยโอกาสในการทำธุรกิจในเอเชียนั้นจะสูงกว่าในสหรัฐถึง 7.5 เท่าในอนาคต
ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมานั้น สหรัฐถือเป็นตลาดที่มีความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์จากทั่วโลกสูงสุด แต่ปัจจุบัน ทั่วโลกเริ่มลดการพึ่งพาดีมานด์ในตลาดสหรัฐ เนื่องจากการบริโภคที่เพิ่มขึ้นในเอเชีย

หยูหวา เฮดริค หว่อง ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของมาสเตอร์การ์ด เวิลด์ไวด์ เอเชียแปซิฟิค กล่าวว่า การใช้จ่ายภาคครัวเรือนสหรัฐมีอัตราการขยายตัวโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 6% ก่อนที่จะถึงปี 2552 แต่คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะร่วงลงมาเหลือ 0.5% ในอีก 5 ปีข้างหน้า เนื่องจากผลกระทบของวิกฤตการเงินโลก

ขณะที่การบริโภคในเอเชีย ซึ่งไม่นับรวมญี่ปุ่นนั้น คาดว่าจะขยายตัว 8% โดยเฉลี่ย ซึ่งหมายความว่า โอกาสในการทำธุรกิจในเอเชียนั้นจะสูงถึง 7.5 เท่าเมื่อเทียบกับโอกาสในสหรัฐ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจกล่าวต่อไปว่า ตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ว่า ศูนย์กลางของแรงโน้มถ่วงของเศรษฐกิจโลกจะเปลี่ยนแปลงจากซีกโลกตะวันตกมายังเอเชีย

มาสเตอร์ดาร์ด เวิลด์ไวด์ระบุว่า จีนมีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวเมื่อปีที่แล้ว และเศรษฐกิจของจีนก็อาจจะขยายตัวได้ถึง 10.2% ในปีนี้


BOJ  เล็งขยายโครงการเงินกู้ฉุกเฉิน หวังหนุนเศรษฐกิจขยายตัว

คณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) พิจารณาขยายโครงการเงินกู้ฉุกเฉินสำหรับธนาคารพาณิชย์ภายในประเทศ และจะเพิ่มวงเงินซื้อพันธบัตรรัฐบาลหากเศรษฐกิจยังไม่ส่งสัญญาณการฟื้นตัว

ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า BOJ จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.1% ในการประชุมนโยบาย 2 วันซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันนี้ และคาดว่าบีโอเจจะจับตาสถานการณ์เงินเยนที่แข็งค่าอย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คาดว่า BOJ อาจพิจารณาใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในที่ประชุม G20 ปีนี้ เพื่อสกัดกั้นการแข็งค่าของเงินเยน และคาดว่าจะขยายวงเงินซื้อพันธบัตรเป็น 1.8 ล้านล้านเยน/เดือน หรือ 2 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน อย่างไรก็ตาม การใช้เม็ดเงินจำนวนมากเช่นนี้อาจทำให้ญี่ปุ่นขาดดุลงบประมาณ

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค.ของญี่ปุ่นร่วงลง 1.9 จุด จากเดือนพ.ย. แตะที่ 37.6 จุด ทำสถิติลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่สอง เนื่องจากผู้บริโภควิตกกังวลเกี่ยวกับการจ้างงานและอัตราค่าแรงที่หดตัวลง


Bank of China เตรียมระดมทุนเกือบ 6 พันล้านดอลลาร์

Bank of China ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์รายใหญ่อันดับ 3 ของจีนเมื่อพิจารณาจากมูลค่าตลาด เปิดเผยว่า ธนาคารเตรียมระดมทุนเพิ่มด้วยการขายหุ้นใหม่ในตลาดหุ้นฮ่องกง พร้อมกับวางแผนที่จะออกหุ้นกู้แปลงสภาพมูลค่า 4 หมื่นล้านหยวน หรือ 5.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะขายหุ้นถึง 20% จากหุ้นทั้งหมดที่มีอยู่ขณะนี้ ส่งผลให้ราคาหุ้นในตลาด ฮ่องกงร่วงลงเกือบ 2%

Bank of China ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันให้ต้องระดมเงินทุน หลังจากธนาคารปล่อยเงินกู้ใหม่มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ที่ 9.59 ล้านล้านหยวน ซึ่งส่งผลให้ฐานเงินทุนของธนาคารอ่อนแอลง

นักวิเคราะห์ต่างออกมาคาดว่า Bank of Communication ซึ่งเป็นธ.ที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 จะเป็นรายต่อไปในการเพิ่มทุน


ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่ประกาศออกมาเมื่อวานนี้ (จันทร์ที่ 25 ม.ค. 2553)
? ยอดขายบ้านมือสอง (ธ.ค.) อยู่ที่ระดับ 5.45 ล้านยูนิต ลดลง 16.7% จากเดือนก่อนหน้า

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่จะประกาศออกมาวันนี้ (อังคารที่ 26 ม.ค. 2553)
? เริ่มการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินสหรัฐฯ หรือ FOMC
? ดัชนีราคาบ้าน (พ.ย.) โดย S&P Case-Shiller
? ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ม.ค.) โดย Conference Board

ติดตาม Money Wake up ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ออกอากาศซ้ำเวลา 11.00 น. ทาง Money Channel


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Neung99k ที่ มกราคม 26, 2010, 10:54:54 AM
สวัสดีครับพี่ทองใหม่  ข้อมูลเพียบเหมือนเดิมขอบคุณมากๆครับ ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 26, 2010, 11:29:28 AM
26 ม.ค. 2553


สรุปภาวะตลาดเมื่อวาน
    ราคาโกลด์ฟิวเจอร์สปรับตัวอยู่ในช่วงแคบๆด้วยปริมาณการซื้อขายที่ค่อนข้างเบาบาง ในขณะที่ราคาทองคำสปอตมีการแกว่งตัวอยู่ในช่วงกว้างกว่า ทองคำแท่งสมาคมฯปิดที่ 17,200/300 บาท เงินบาทแกว่งตัวแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย


ปัจจัยที่อาจส่งผลต่อเนื่องถึงวันนี้
    กรีซตัดสินใจออกประมูลพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี โดยจะจ่ายดอกเบี้ยที่อัตรา 6.2% ซึ่งสูงกว่าราคาตลาด 0.3% ปรากฏว่ามีนักลงทุนให้ความสนใจเป็นจำนวนมากถึง 25,000 ล้านยูโร จึงสามารถขายพันธบัตรระดมเงินทุนได้ถึง 8 พันล้านยูโร จากในตอนแรกคาดว่าน่าจะขายได้ราว 5 พันล้านยูโรเท่านั้น เป็นการแสดงให้เห็นว่าปัญหาในกรีซไม่น่ากังวลอีกต่อไปเนื่องจากกรีซยังสามารถระดมเงินทุนได้อย่างต่อเนื่องและไม่น่าจะมีปัญหาสภาพคล่องในระยะเวลาอันสั้น ส่งผลให้ค่าเงินยูโรและราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นไปเมื่อวานนี้ [Bloomberg, TCAF Research]
   เริ่มมีสมาชิกวุฒิสภาแสดงตัวสนับสนุนให้นายเบอร์นานกี้ เป็นประธานเฟดต่อจากวาระปัจจุบันที่จะหมดลง ถือเป็นข่าวดีต่อนักลงทุนโดยทั่วไป อย่างไรก็ตามนักลงทุนจะจับตามองผลการลงคะแนนซึ่งยังไม่มีกำหนดการที่ชัดเจน แต่คาดว่าน่าจะแล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้ [Reuters, TCAF Research]
   รายงานการขายบ้านเก่าออกมาค่อนข้างไม่มีทิศทางชัดเจน โดยยอดขายบ้านลดลงกว่าที่คาดในขณะที่ราคาบ้านกลับเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้น รายงานดังกล่าวจึงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำหรือตลาดหุ้นแต่อย่างใด [Econoday, TCAF Research]


แนวโน้มทองคำวันนี้
    ปัญหาต่างๆที่เริ่มคลี่คลายน่าจะเริ่มผลักดันให้ราคาสินทรัพย์ต่างๆบวกเพิ่มขึ้นได้ อย่างไรก็ตามราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวผันผวนจนกว่าจะมีการลงคะแนนต่อวาระของนายเบอร์นานกี้แล้วเสร็จ เราจึงมองว่า "ราคาทองคำน่าจะแกว่งตัวขึ้น" เราจึงแนะนำให้ "ค่อยๆสะสม LONG เพิ่มเติม เพื่อทำกำไรระยะสั้นก่อนการลงคะแนนต่อวาระประธานเฟด"


มุมมองทองคำ
    แนวโน้มเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวน่าจะมีความสำคัญที่สุดในช่วงนี้ ในขณะที่มาตรการต่างๆของมหาอำนาจก็น่าจับตามองไม่แพ้กันเนื่องจากอาจส่งผลต่อการรับความเสี่ยงของนักลงทุนและส่งผลต่อสถานะของทองคำได้



หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 26, 2010, 11:43:43 AM
กราฟตาแป๊ะ
http://www.thaigold.info/forum/index.php?topic=4852.780 (http://www.thaigold.info/forum/index.php?topic=4852.780)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: oyo ที่ มกราคม 26, 2010, 12:31:11 PM
ขอบคุณคร๊าบ คุณทองใหม่ ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 26, 2010, 12:38:39 PM
พบกับสิ่งใหม่ๆของตลาดหุ้นไทยในปีเสือ (2) 
รายงานโดย :จารุพรรณ อินทรรุ่ง: วันอังคารที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2553

เมื่อครั้งที่แล้ว ดิฉันได้เล่าถึงแผนกลยุทธ์ ของก.ล.ต. ในปี 2553 ที่ครอบคลุมงาน 5 ด้านสำคัญ โดยได้พูดถึง 2 ด้านแรก ได้แก่ การเชื่อมโยงกับต่างประเทศ และการเปิด เสรีการแข่งขัน กันไปแล้ว

สำหรับแผนงานที่เหลืออีก 3 ด้าน จะเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวและเป็นประโยชน์ต่อผู้ลงทุน จะเป็นอย่างไร มาติดตามต่อกันได้เลยค่ะ

การผลักดันและสนับสนุนนวัตกรรม

ในปี 2553 นี้ ก.ล.ต.จะผลักดันให้เกิดสินค้าใหม่ๆ ในตลาดทุน เพื่อรองรับความ ต้องการลงทุนของผู้ลงทุนหลากหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้ฝากเงินกับธนาคารพาณิชย์ กลุ่มผู้ลงทุนที่เป็น High Net Worth กลุ่ม ผู้ลงทุนในตราสารอิสลาม เป็นต้น และยังครอบคลุมหลากหลายประเภทสินค้าอีกด้วย โดยจะมีทั้งตราสารหนี้ กองทุนรวม และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า กันเลยทีเดียวค่ะ

ตัวอย่างของสินค้าใหม่เหล่านั้น ได้แก่ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastruc ture Fund) ซึ่งเป็นกองทุนรวมที่เข้าไปลงทุนในโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคต่างๆ ของประเทศทั้งของรัฐและเอกชน เช่น ไฟฟ้า ประปา หรือทางพิเศษ เป็นต้น กองทุนรวม อีทีเอฟทองคำ (Gold Exchange Traded Fund หรือ Gold ETF) ซึ่งเป็นกองทุนรวมที่ไปลงทุนในทองคำทั้งทางตรงและทางอ้อม ถือเป็นทางเลือกในการลงทุนในทองคำที่ ผู้ลงทุนไม่ต้องไปซื้อทองคำ (รูปพรรณหรือทองคำแท่ง) เอง และไม่ต้องมีต้นทุนในการเก็บรักษาทองคำด้วย  
ตราสาร Sukuk ซึ่งเป็นตราสารที่ถูกพัฒนาขึ้นตามหลักศาสนาอิสลาม เทียบเคียงได้กับตราสารหนี้ แต่ผลตอบแทนจากการลงทุนจะไม่ขัดต่อหลักชาริอะฮ์ (หลักกฎหมายและจริยธรรมของศาสนาอิสลาม) จึงเป็นช่องทางลงทุนที่น่าสนใจสำหรับผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม สัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับอัตราดอกเบี้ย (Interest Rate Futures) ที่จะช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยที่อาจส่งผลกระทบไปยังอัตราผลตอบแทนและราคาของตราสารหนี้ที่ถือครองอยู่

ทั้งนี้ ในการพิจารณาออกสินค้าเหล่านี้ ก.ล.ต.จะให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความรู้ผู้ลงทุนควบคู่กันไปด้วย ดังนั้นในส่วนของผู้ลงทุนแม้จะได้รับประโยชน์ในการมีทางเลือกสำหรับการลงทุนที่หลากหลายเพิ่มขึ้น แต่ก็ต้องไม่ลืมทำความเข้าใจกับลักษณะของสินค้า ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง และเลือกลงทุนให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์การใช้เงินและความเสี่ยงที่ตนเองรับได้ด้วยนะคะ

ปรับปรุงการกำกับดูแลและบังคับใช้กฎหมาย

ในส่วนของการกำกับดูแลผู้ประกอบธุรกิจ ก.ล.ต.จะปฏิรูปการกำกับดูแลทั้งกระบวนการทำงานและการออกกฎเกณฑ์ไม่ให้เป็นอุปสรรคหรือต้นทุนที่ไม่จำเป็นต่อผู้ประกอบการ โดยเน้นเรื่องหลักการและวัตถุประสงค์ในการกำกับดูแล (Principle Based) มากกว่า รายละเอียดหยุมหยิม ในขณะเดียวกันก็จะเน้นความสำคัญของระบบติดตามตรวจสอบการประกอบธุรกิจ (Monitoring) ที่ทันการณ์ รวมทั้งปรับกฎเกณฑ์ต่างๆ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของบริษัทหลักทรัพย์ให้ สอดคล้องกับมาตรฐานสากลและเพียงพอ ที่จะรองรับสถานการณ์ต่างๆ โดยเฉพาะ อย่างยิ่งในภาวะวิกฤต เช่น เกณฑ์ในเรื่องการดำรงเงินกองทุน การบริหารความเสี่ยง และการควบคุมภายใน เป็นต้น ซึ่งจะเป็นการช่วยคุ้มครองผู้ลงทุนได้ในระดับหนึ่ง

นอกจากนี้ ก็จะลดการเข้าไปใช้ดุลพินิจตัดสินใจแทนผู้ลงทุน (Merit Based) โดยจะให้ความสำคัญกับการเปิดเผยข้อมูลมากยิ่งขึ้น (Much More Disclosure Based) เช่น ในการออกเสนอขายหลักทรัพย์ ก.ล.ต.จะกำหนดให้บริษัทมีการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจและความเสี่ยงที่ครบถ้วน หรือการให้กองทุนรวมเปิดเผยข้อมูลให้เพียงพอและง่ายต่อการทำความเข้าใจ รวมถึงแบ่งระดับความเสี่ยงของลูกค้าและประเภทสินค้าตามระดับความซับซ้อนและความเสี่ยง และกำหนดให้ในส่วนของผู้ขายก็ต้องมีการทำความรู้จักกับลูกค้า (Know Your Customer) เพื่อให้ทราบระดับความเสี่ยงที่ลูกค้ายอมรับได้และผลตอบแทนที่คาดหวัง เพื่อจะได้ให้คำแนะนำในการลงทุนได้อย่างเหมาะสม

สำหรับในส่วนของการบังคับใช้กฎหมายเพื่อให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ก.ล.ต.จะผลักดันมาตรการทางแพ่งให้เป็นอีกเครื่องมือที่จะช่วยให้การดำเนินการเกี่ยวกับการกระทำความผิดต่างๆ มีประสิทธิผลยิ่งขึ้น (เพิ่มเติมจากมาตรการทางอาญาที่ใช้ลงโทษผู้กระทำผิดตามกฎหมายที่ก.ล.ต. ดูแลอยู่ ซึ่งต้องพิสูจน์การกระทำผิดของผู้กระทำผิดจนสิ้นสงสัย จึงมีขั้นตอนมาก ต้องใช้เวลาและมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายฝ่าย)

มาตรการสำคัญอีกประการหนึ่งที่จะนำมาใช้คือ การเพิ่มช่องทางในการต่อสู้คดีเพื่อปกป้องประโยชน์ของผู้ลงทุน โดยผลักดันกฎหมายการดำเนินคดีแบบกลุ่ม (Class Action) เพื่อเป็นช่องทางฟ้องร้องคดีกรณี ผู้ลงทุนได้รับความเสียหายจากการกระทำผิดของบริษัทหลักทรัพย์หรือผู้ให้บริการ โดย ผู้ลงทุนคนใดคนหนึ่งหรือกลุ่มหนึ่งสามารถเป็นตัวแทนฟ้องร้องคดีในนามของผู้เสียหายทั้งหมดได้ ซึ่งเป็นการลดภาระและค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี

ส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับการลงทุนและตลาดทุน

ปิดท้ายด้วยการวางรากฐานการพัฒนาตลาดทุนให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน ด้วยการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนและตลาดทุน ซึ่งก.ล.ต. ยังคงมุ่งมั่นที่จะดำเนินการให้ความรู้ผู้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นให้ผู้ลงทุนเข้าใจสินค้าและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง รู้จักวิธีการศึกษาข้อมูลต่างๆ ประกอบการตัดสินใจลงทุน เพื่อให้พร้อมรับกับหลักการกำกับดูแลที่เน้น Much More Disclosure Based ซึ่งจะนำมาใช้ภายในปีนี้ รวมทั้งให้รู้จักและใช้สิทธิในการปกป้องประโยชน์ของตนเองและการป้องกันภัยจากกลโกงต่างๆ เช่น การหลอกลวงให้ลงทุนกับบริษัทที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าอย่างถูกต้อง เป็นต้น

ท้ายนี้ แม้ว่าการลงทุนในตลาดทุนจะมีความซับซ้อนยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ตามพัฒนาการใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น

แต่ถ้าผู้ลงทุนสร้างภูมิคุ้มกันให้ตนเอง โดยหมั่นศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อจะได้ลงทุนอย่างรอบคอบ พร้อมทั้งติดตามการลงทุนอย่างสม่ำเสมอเพื่อจะได้ปรับแผนการลงทุนให้เหมาะสม ก็จะสามารถบริหารความเสี่ยงจากการลงทุนได้ไม่ยากค่ะ แล้วพบกันใหม่คราวหน้า สวัสดีค่ะ



หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Cindy ที่ มกราคม 26, 2010, 01:45:14 PM
???? :)

สองอาทิตย์นี้ไม่เห็นเดือนเห็นตะวันเลยนะคะ ตกทุกตัว เงินคงจมกันไปอีกนาน
จะถือโอกาสนี้ซื้อเก็บ ก็ยังเป็นโรควิตกจริตอีก นี่หนอชีวิตคนเล่นหุ้น :(



หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: numcha ที่ มกราคม 26, 2010, 01:50:29 PM
ขอบคุณคะ   ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 26, 2010, 03:11:24 PM
?????????????? 1085 ?? 1092.55 - 1096/1097 - 1090.5/1089.5 - 1092/1093 - 1085.5/1084.

กระดานค่ำคืนนี้ เป้าหมาย1085 เหมือนเดิมครับ เอามาจากเว็บจีน ดูเล่นๆเท่านั้นเองนะครับ
1092.55 - 1096/1097 - 1090.5/1089.5 - 1092/1093 - 1085.5/1084.  



หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 26, 2010, 04:33:28 PM
???? :)

สองอาทิตย์นี้ไม่เห็นเดือนเห็นตะวันเลยนะคะ ตกทุกตัว เงินคงจมกันไปอีกนาน
จะถือโอกาสนี้ซื้อเก็บ ก็ยังเป็นโรควิตกจริตอีก นี่หนอชีวิตคนเล่นหุ้น :(


???????


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 26, 2010, 08:13:01 PM
?????????????? 1085 ?? 1092.55 - 1096/1097 - 1090.5/1089.5 - 1092/1093 - 1085.5/1084.

กระดานค่ำคืนนี้ เป้าหมาย1085 เหมือนเดิมครับ เอามาจากเว็บจีน ดูเล่นๆเท่านั้นเองนะครับ
1092.55 - 1096/1097 - 1090.5/1089.5 - 1092/1093 - 1085.5/1084.  


คืนนี้ถือว่าตรงตามนักวิเคราะห์ที่เว็บจีนวิเคราะห์ไว้
(http://img37.imageshack.us/img37/4354/22957944.gif) (http://img37.imageshack.us/i/22957944.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Yai Carmungwed ที่ มกราคม 26, 2010, 08:15:31 PM
 Smiley/Angry.gif Smiley/Angry.gif Smiley/Angry.gif


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 27, 2010, 06:36:02 AM
 วิธีดูทิศทางทอง ต้าน๓----หนุน๓เป็นทิศทางทองที่จะเคลื่อนไหวในวันนี้ หากพุ่งทะลุต้าน๓หรือดิ่งทะลวงหนุน๓ แสดงถึงวันนั้นทองเคลื่อนไหวแรงเกินปกติ เส้นแดนเป็นเส้นที่จะแบ่งแยกทิศทางของทองที่จะขึ้นหรือลง หากทองเคลื่อนไหวอยู่ในทิศทางใดมากและนาน นั่นหมายถึงโอกาสเป็นไปได้มากที่ทองจะเคลื่อนไปในทิศทางนั้นๆ ในช่วงเวลานั้น (ยังต้องแบ่งออกในช่วงเวลาตลาดเอเซีย ยุโรป เมกาด้วย) ต้าน๑และหนุน๑หากถูกทดสอบแบบมีผล(ขึ้นลงมากกว่า๑ครั้ง)แล้วยืนอยู่ได้ นั่นคือทิศทางทองที่จะเดินต่อไปในช่วงเวลานั้น หากการวิเคราะเกิดขัดแย้งกันเมื่อไหร่ ให้หยุดมองดูอย่างเดียว ไม่ควรซื้อ-ขายในช่วงเวลานั้น แนวทางนี้เหมาะกับการเล่นสั้นมาก (เล่นแบบออนไลน์ในอนาคต) มีความแม่นยำถึง80%ครับ อีกอย่างข่าวปัจจัยพื้นฐานอาจเปลี่ยนทิศทางทองได้กะทันหันนะครับ
ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์กับการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย ถัาติดดอยเมื่อทองต่ำลงมา  หากยังมีเงินเหลืออยู่ ควรซื้อเพิ่ม เพิ่มที่ละนิด ต่ำอีกซื้ออีก เพื่อดึงต้นทุนที่สูงให้ต่ำลงมา ใครที่ยังไม่มีทองในมือควรทยอยซื้อเข้าอย่ามากนัก หากทองลงอีก เราก็ซื้ออีก ดีกว่าเวลาทองขึ้นเราไปไล่ซื้อในราคาที่สูง  จดจำเป็นคติเตือนใจว่า  เรามิอาจซื้อได้ในราคาที่ต่ำสุด และขายได้ในราคาที่สูงสุด ไม่มีการลงทุนใดที่ไม่เสี่ยง การบริหารพอร์ตให้ได้จังหวะ จะลดความเสี่ยงลงได้ครับ
กราฟสำคัญ ปัจจัยพื้นฐานก็สำคัญ จิตวิทยาการโน้มเอียงของคนก็สำคัญ สิ่งเหล่านี้หากเป็นไปในแนวเดียวกัน ก็จะมุ่งไปทางนั้น หากแย้งกันก็ต้องดูฝ่ายไหนเหนือกว่า.....ด้วยเหตุนี้ไม่มีนักวิเคราะห์คนใดที่จะทำนายได้แม่นยำตลอดกาลได้ครับ
(http://img193.imageshack.us/img193/2293/99192111.gif) (http://img193.imageshack.us/i/99192111.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 27, 2010, 06:37:48 AM
เส้นปากถุง(เส้นสีขาวทั้ง๓เส้น)แบบง่ายๆ ไม่ปวดเศียรเวียนเกล้า
เส้นบน---แนวต้าน
เส้นกลาง---แนวโน้ม(สำคัญสุด)
เส้นล่าง---แนวหนุน
ลักษณะที่๑---ทิศทางขึ้นเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น   เส้นกลางหันหัวขึ้น   เส้นล่างหันหัวลง
ลักษณะที่๒---ทิศทางขึ้นเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวขึ้น
เมื่อเจอลักษณะทั้ง๒นี้ ราคาระหว่างวันที่ขึ้นๆลงๆ เมื่อเจอจุดที่เห็นว่าต่ำแล้วให้ซื้อเข้าได้เลยครับ  ขอเพียงเส้นกลาง(แนวโน้ม)ยังหันหัวขึ้นอยู่ แม้ราคาเแท่งเทียนจะอยู่ต่ำกว่าเส้นกลาง ก็ยังซื้อเข้าได้ หากเส้นบนเดินขวางเมื่อไหร่ ให้ทยอยลดพอร์ตได้เลยครับ
ลักษณะที่๓---เลือกทิศทาง---เส้นบนหันหัวลง เส้นล่างหันหัวขี้น ปากถุงแคบลง ถึงช่วงนี้ ให้ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว หากใครยังคิดอยากเคลื่อนไหว ก็จงเคลื่อนไหวไปหน้าทีวี จงอย่าทำการอย่างอื่นใด หากใครเป็นจอมยุทธ์ ก็ชิงเคลื่อนไหวก่อนใครได้  
ขอแถมอีกนิด จงโฟกัสที่เส้นกลาง หากเส้นกลางเริ่มขยบหัวหัวขึ้นหรือลง ทิศทางอาจขึ้นหรือลงตามเส้นกลางแนวโน้มนั้น
ลักษณะที่๔---เคลื่อนไหวในกรอบแคบ---เส้นบน กลาง ล่าง เดินขวางทั้ง๓เส้น หากใครเล่นออนไลน์ สามารถเล่นได้เล็กน้อยอย่ามาก เมื่อราคาแท่งเทียนใกล้เส้นบน จงขาย ใกล้เส้นล่าง จงซื้อ ต้องเข้าออกให้ทันการณ์ หาไม่แล้วจากกำไรอาจขาดทุนได้นา ขอบอก
ลักษณะที่๕---ทิศทางลงเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น เส้นกลางหันหัวลง เส้ยล่างหัวหัวลง
ลักษณะที่๖---ทิศทางลงเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวลง  เมื่อเส้นล่างเดินขวางเมื่อไหร่ ผู้ที่ใจกล้าที่เล่นออนไลน์ เริ่มทยอยซื้อเข้าได้ที่ละนิด อัตราเสี่ยงยังมีอยู่บ้างนะครับ สิบอกไห่
วิธีดูเส้นปากถุงที่กล่าวมานี้ .....ไม่ใช่ตำราของฝรั่ง แบบของฝรั่งผมเคยอ่านมาบ้างแล้ว ยาวมาก ปวดหัว ทำความเข้าใจได้ยากมากๆๆๆๆ ...........เหมาะเฉพาะกราฟราย๔ชม.และช่วงปกติเท่านั้นนะครับ  (บางครั้งตลาดจงใจคึงขึ้นลงอย่าแรงๆ แทบหัวใจวายสำหรับผู้มีทองในมือและผิดทิศทางของตัวเอง เรียกว่า ช่วงไม่ปกติครับ)

(http://img693.imageshack.us/img693/9263/17996713.gif) (http://img693.imageshack.us/i/17996713.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 27, 2010, 06:39:41 AM
กราฟGold 1
ช่อง1 เส้นแดงอยู่เหนือเส้นเขียว---ทิศทางขึ้น  ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น  สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นเขียวอยู่เหนือเส้นแดง---ทิศทางลง     ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นแดงและเขียวประสานเป็นกากะบาด ---กำลังจะเปลี่ยนทิศ ให้ดูเส้นแนวโน้มประกอบ  หากเส้นแดงและเขียวกำลังจะประสาน แต่ไม่ทันได้ประสานก็หันหันหัวกลับขึ้นหรือลง  แสดงว่ากำลังมีเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนี่งเกิดขึ้น หากขึ้นทะลุเส้นปะแนวต้าน ให้ดูเส้นปะแนวต้านเส้นต่อไป หากลงทะลุเส้นปะแนวหนุน ให้ดูเส้นแนวหนุนเส้นต่อไป   ส่วนจุดกลมเหลืองทอง---ทิศทางลง  จุดกลมฟ้า---ทิศทางขึ้น  หากกราฟวิ่งในยามปกติ พอเชื่อถือได้ หากกราฟวิ่งขึ้นลงแรงๆ คือยามไม่ปกติ ไม่อาจเชือถือได้
ช่อง2  ให้ดูเส้นสีม่วง ประกอบกับเส้นแนวโน้มในช่อง1 หากหันหัวไปในทิศทางเดียวกัน  โอกาสที่จะผิดพลาดก็มีน้อย  ส่วนเส้นปะสีเหลืองทองและฟ้า  หากขึ้นเหนือเลข80 เข้าสู่เขตซื้อเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ทุกเมื่อ  หากลงต่ำกว่าเลข20 เข้าสู่เขตขายเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ตลอดเวลา
ช่อง3   ให้ดูทั้ง2เส้น คือเหลืองทองและฟ้า หันหัวไปทิศทางเดียวกันหรือไม่  เท่านั้นยังไม่พอ  ให้ดูประกอบทิศทางในช่อง1ว่าเป็นทิศทางเดียวกันหรือไม่  หากทิศทางหันหัวในแนวเดียวกัน  ทิศทางนั้นเชื่อถือได้

(http://img121.imageshack.us/img121/3257/53220712.gif) (http://img121.imageshack.us/i/53220712.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 27, 2010, 08:51:28 AM
เงินไหลออกหุ้นไทยสูงขึ้น 
รายงานโดย :เจียรนัย อุตะมะ: วันพุธที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2553

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โนมูระ โบรกเกอร์ญี่ปุ่น รายงานกระแสเงินทุนรายสัปดาห์ระหว่างวันที่ 14-20 ม.ค.ที่ผ่านมา

พบว่าตลาดหุ้นไทยมีแรงขายสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 74 ล้านเหรียญสหรัฐ จากสัปดาห์ก่อนหน้าขายสุทธิ 8 ล้านเหรียญสหรัฐ แย่สุดใน 3 ประเทศกลุ่ม TIPS (ไทย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์)

หลังจากดัชนีตลาดหุ้นเอเชียแปซิฟิก ยกเว้นออสเตรเลีย เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา (18-22 ม.ค.) ปรับลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า โดยตลาดหุ้นที่ปรับลดลงสูงสุด ได้แก่

1.ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 5.14% จากข่าวทางการเตรียมขายหุ้นที่พยุงช่วงวิกฤตออก เพื่อทำกำไร

2.ตลาดหุ้นไทย ลดลง 4.34% จากปัจจัยการเมืองและผลกระทบจากจีนรวมถึงสหรัฐส่งสัญญาณควบคุมการทำธุรกิจที่มีความเสี่ยงของสถาบันการเงิน

เพราะมีแรงขายหุ้นพื้นฐานดีขนาดใหญ่ กลุ่มปิโตรเคมี พลังงาน ธนาคาร

สำหรับตลาดหุ้นที่ปรับตัวดีสุดคือตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 1.03%

ประเภทของนักลงทุนที่ช่วยสนับสนุนการปรับสูงขึ้นของดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์ก่อน เหลือเพียงนักลงทุนรายย่อยในประเทศ ขณะที่นักลงทุนอื่นๆ เป็นผู้ขายสุทธิ โดยนักลงทุนต่างชาติ กลับมาขายสุทธิสูงถึง 5,596.09 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันในประเทศ ขายต่อเป็นสัปดาห์ที่ 3 อีก 5,096.31 ล้านบาท และพอร์ตโบรกเกอร์ ขายต่อเป็นสัปดาห์ที่ 4 จำนวน 479.46 ล้านบาท

เงินทุนไหลเข้า (14-20 ม.ค.) พบว่าแรงซื้อสุทธิยังคงไหลเข้ามาในตลาดหุ้นเกิดใหม่ และตลาดหุ้นเอเชียโดยเฉพาะตลาดขนาดใหญ่ เช่น ญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลีใต้ มากกว่าตลาดหุ้นที่พัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐที่ถูกขายสุทธิ

ส่วนตลาดหุ้นไทย พบว่ามีแรงขายสุทธิและถือว่าแย่สุดในกลุ่ม TIPs

รายงานกระแสเงินทุนรายสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 14-20 ม.ค. พบว่าตลาดหุ้นทั่วโลก (MSCI All World Index) ลดลง 1.4% จากสัปดาห์ก่อน

ดัชนี MSCI เอเชียแปซิฟิก ยกเว้นญี่ปุ่น (AP xJ) ลบ 0.8% โดยนักลงทุนสถาบันที่ลงทุนในทุกภูมิภาค (Overall Regional Funds) กลับมาเป็นผู้ขายสุทธิ จำนวน 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (สัปดาห์ก่อน ซื้อสุทธิ 1,870 ล้านเหรียญสหรัฐ) โดยแรงซื้อสุทธิยังคงมีต่อเนื่องในตลาดหุ้นเกิดใหม่ โดยเฉพาะตลาดเกิดใหม่ทั่วโลก (GEM) มีแรงซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 11 มูลค่าสะสมรวม 1.24 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ และตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังมีแรงซื้อสุทธิเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ตลาดพัฒนาอย่างยุโรป และสหรัฐยังไม่ใช่เป้าหมายลงทุน

สำหรับตลาดหุ้นที่มีแรงซื้อสุทธิสูงสุด ได้แก่

1.ไต้หวัน 633 ล้านเหรียญสหรัฐ

2.เกาหลีใต้ 533 ล้านเหรียญสหรัฐ

3.ออสเตรเลีย 68 ล้านเหรียญสหรัฐ

4.มาเลเซีย 54 ล้านเหรียญสหรัฐ

5.อินโดนีเซีย 34 ล้านเหรียญสหรัฐ

6.สิงคโปร์ 16 ล้านเหรียญสหรัฐ

7.ฟิลิปปินส์ ซื้อสุทธิ 14 ล้านเหรียญสหรัฐ

ขณะที่ตลาดหุ้นที่มีแรงขายสุทธิ ได้แก่ จีน 286 ล้านเหรียญสหรัฐ อินเดีย 111 ล้านเหรียญสหรัฐ ไทย 74 ล้านเหรียญสหรัฐ และฮ่องกง 4 ล้านเหรียญสหรัฐ

เรียกได้ว่าหุ้นไทยทำสถิติขายสุทธิสูงสุดไต่อันดับขึ้นมาเรื่อยๆ จากสัปดาห์ก่อนหน้าขายสุทธิอยู่ที่อันดับ 5 สัปดาห์ล่าสุดขึ้นมาอยู่อันดับ 3 แล้ว

โปรดติดตามต่อไปเรื่อยๆ.....



หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ มกราคม 27, 2010, 09:11:43 AM
ขอบคุณค่ะคุณทองใหม่   กราฟดูหักหัวขึ้นแล้วคงวันนี้ราคาคงขึ้นได้บ้างนะคะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 27, 2010, 09:34:00 AM
ขอบคุณค่ะคุณทองใหม่   กราฟดูหักหัวขึ้นแล้วคงวันนี้ราคาคงขึ้นได้บ้างนะคะ
ยังไม่ชัดเจนครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 27, 2010, 09:54:02 AM
แรงซื้อเก็งกำไร หนุนราคาทองคำกลับมาปิดบวกได้

Posted on Wednesday, January 27, 2010
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้น เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรเพราะเชื่อว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะอ่อนตัวลงอีก ขณะที่สัญญาโลหะมีค่าประเภทอื่นๆ รวมถึงโลหะเงินและพลาตินัมปิดร่วงลงเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวธนาคารกลางจีนควบคุมการปล่อยกู้ของธนาคารในประเทศ

นักวิเคราะห์จากบริษัท Integrated Brokerage Services ในเมืองชิคาโกกล่าวว่า นักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรสัญญาทองคำเนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะอ่อนค่าลงอีก แม้เมื่อวานนี้ดัชนีดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้น 0.6% เมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินหลักๆในตะกร้าสกุลเงิน

อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดค่อนข้างซบเซา และสัญญาโลหะมีค่าประเภทอื่นๆ รวมถึงพลาตินัม ร่วงลงเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวธนาคารกลางจีนควบคุมการปล่อยกู้ของธนาคารในประเทศ

 กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก ถือครองทองคำที่ระดับ 1,111.922 ตัน ณ วันที่ 25 ม.ค.  ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากวันที่ 19 ม.ค.

- ทองคำ ส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ปิดที่ 1,098.30 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ (+2.60 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์)
- เงิน ส่งมอบเดือนมีนาคม ปิดที่ 16.86 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ (-0.28 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์)
 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 27, 2010, 09:57:46 AM
ประเด็นสำคัญ
  - ราคาทองปิดบวก แต่โลหะมีค่าอื่นๆร่วงลง
  - ดอลล์,เยนแข็งค่าหลังจีนคุมเข้มการปล่อยกู้
  - วิตกเศรษฐกิจกดราคาน้ำมันดิบปิดร่วง
  - ดาวโจนส์ปิดลบก่อนเฟดเผยนโยบาย,โอบามาแถลงสุนทร

   ราคาทองที่ตลาดสหรัฐปิดสูงขึ้นในวันอังคาร ในขณะที่ดอลลาร์ลงจากจุดสูงสุดของวัน แต่โลหะเงินและโลหะกลุ่มพลาตินั่มร่วงลง หลังจากที่จีนบังคับใช้แผนการเพิ่มเพดานการกันสำรองสำหรับธนาคารบางแห่ง ซึ่งบั่นทอนอุปสงค์สำหรับโลหะอุตสาหกรรม สัญญาทองส่งมอบเดือนก.พ.เคลื่อนตัวในช่วง 1,103.20-1,085.20 ดอลลาร์ ในขณะที่มีปริมาณการซื้อขายราว 306,883 สัญญา

    เทรดเดอร์กล่าวว่า บรรยากาศในตลาดเป็นไปอย่างระมัดระวัง อันเป็นผลจากการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธ และการครบกำหนดส่งมอบวันแรกในวันศุกร์ คาดว่าแนวรับจะอยู่ที่ระดับเคลื่อนตัวเฉลี่ยรอบ 100 วัน ที่ 1,083 ดอลลาร์

    คณะกรรมการกำหนดนโยบาย (FOMC) ของเฟดได้เริ่มการประชุม 2 วันในวันอังคาร ซึ่งคาดว่าแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบาย และคาดว่า เฟดจะออกแถลงการณ์เกี่ยวกับเศรษฐกิจและอัตราดอกเบี้ยในวันพุธ

    วุฒิสภาสหรัฐจะลงมติในสัปดาห์นี้เพื่อยืนยันการแต่งตั้งนายเบอร์นันเก้เป็นประธานเฟดสมัยที่ 2 ขณะที่วุฒิสมาชิกบางคนระบุว่าจะลงมติคัดค้านายเบอร์นันเก้อันเนื่องมาจากการจัดการของเฟดต่อวิกฤติการเงิน

    ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นในระยะสั้นๆจากข้อมูลที่บ่งชี้ว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันในเดือนม.ค. สู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2008 ซึ่งคลายความวิตกเกี่ยวกับการใช้จ่ายส่วนบุคคล

    กองทุน SPDR Gold trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยว่าทางกองทุนได้ถือครองทองแท่งระดับ 1,111.922 ตัน ณ วันที่ 26 มกราคม 2553 ลดลง 0.914 ตัน จากวันที่ 15 มกราคม 2553

กลยุทธ์ : ช่วงสัปดาห์นี้อาจจะเล่นในกรอบ 1,105 ? 1,078 US$ เพื่อเปลี่ยนแนวโน้มในปลายสัปดาห์ เลยแนะนำเป็นการเล่นเด้งระยะสั้นเท่านั้นในช่วงต้นสัปดาห์ปลายสัปดาห์น่าจะปรับฐานลงต่อเนื่องจากแรงกดดันทั้งค่าเงิน US$ แข็ง ERU$ อ่อนต่อเนื่อง




หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 27, 2010, 10:30:42 AM
แบงก์จีนเริ่มคุมเข้มสินเชื่อ หลังตัวเลขครึ่งเดือนม.ค.ทะลุเป้า

Posted on Wednesday, January 27, 2010
แบงก์จีนเริ่มคุมเข้มสินเชื่อ หลังตัวเลขครึ่งเดือนม.ค.ทะลุเป้า

สำนักข่าว Bloomberg รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ธนาคารในประเทศบางแห่งกำลังใช้นโยบายคุมเข้มการปล่อยสินเชื่อ ซึ่งเป็นการตอบสนองความต้องการของรัฐในการจำกัดสภาพคล่อง หลังยอดการปล่อยกู้พุ่งขึ้นอย่างมากเพียงแค่ในช่วงเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือนของปีนี้เท่านั้น

รายงานข่าวระบุว่า Bank of China ได้หยุดขยายเงินกู้สำหรับลูกค้าธุรกิจรายใหม่ในแถบเมืองเซี่ยงไฮ้ ยกเว้นลูกค้าที่จ่ายสินเชื่อคืนก่อนกำหนด ในขณะเดียวกัน ก็มีรายงานว่า สาขาของ China Construction Bank ได้ถูกทางการบอกให้คัดเลือกลูกค้าที่มาสมัครผลิตภัณฑ์สินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์อย่างละเอียดถี่ถ้วนมากขึ้น รวมถึงให้หยุดการปล่อยกู้ใหม่ในทันทีเมื่อครบโควต้ารายเดือนที่ได้มีการกำหนดไว้

นักเศรษฐศาสตร์ของ Credit Suisse พูดถึงเรื่องนี้ว่า การที่จีนระงับการปล่อยกู้ทั่วประเทศ ที่เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 19 มกราคมนั้น อาจจะส่งผลกระทบอย่างเห็นได้ชัดต่อภาคการผลิต และการคุมเข้มภาคการเงินเชิงปริมาณดังกล่าวก็น่าจะมีผลรุนแรงกว่าที่เคยคิดไว้ นอกจากนั้น ยังไม่ได้รู้สึกประหลาดใจที่มีการกำหนดโควต้าการปล่อยสินเชื่อเป็นรายเดือน แทนที่จะเป็นรายไตรมาส เหมือนอย่างในปี 2008

ย้อนกลับไปดูเมื่อวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา ธนาคารกลางจีนก็ได้เริ่มเดินหน้ามาตรการควบคุมสินเชื่อ ด้วยการสั่งให้แบงก์เพิ่มอัตราสำรองสำหรับฐานเงินฝากที่ตัวเองถืออยู่ ส่งผลให้ระดับเงินสดในมือเพื่อการปล่อยกู้ปรับลดลง

นอกจากนี้ แบงก์ชาติจีนยังได้แนะให้ธนาคารบางแห่ง ที่รวมถึง China Citic Bank เพิ่มอัตราเงินสำรองอีก 0.5% ด้วย

และไม่น่าแปลกใจที่ราคาหุ้นกลุ่มแบงก์ของจีนร่วงระเนระนาดไปเมื่อวานนี้ นำโดย Bank of China ที่ราคาหุ้นในตลาดฮ่องกงรูดลงไปแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ขณะหุ้นของ Construction Bank ร่วงลงถึงจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน

ก่อนหน้านี้ มีสื่อรายงานว่า ธุรกิจธนาคารในประเทศจีนได้ทำการปล่อยกู้ไปแล้วกว่า 1.45 ล้านล้านหยวน หรือประมาณ 210,000 ล้านเหรียญเพียงแค่ในช่วง 19 วันแรกของปีนี้เท่านั้น ซึ่งตัวเลขดังกล่าวก็เทียบเท่ากับเกือบ 20% ของเป้าหมายทั้งปีที่หน่วยงานกำกับดูแลภาคธนาคารของจีนได้ตั้งเอาไว้


Dow Jones ติดลบ แม้ราคาบ้าน-เชื่อมั่นผู้โภคขยับขึ้น

Dow Jones กลับมาปิดติดลบตามแรงขายในชั่วโมงท้ายๆ ของการเทรด หลังมีบริษัทขนาดใหญ่เปิดเผยแผนการปลดพนักงานเพิ่ม แม้จะมีสัญญาณที่ชี้ถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งก็คือ ผลสำรวจราคาบ้านและความเชื่อมั่นผู้บริโภค นอกจากนั้น ก็มีรายงานข่าวว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่เริ่มประชุมนโยบายการเงินไปแล้วเมื่อคืนนี้ กำลังพิจารณาการให้ดอกเบี้ยสำหรับเงินสำรองของธนาคารต่างๆ เพื่อเป็นตัวเสริมหรือแม้แต่จะมาใช้แทนเครื่องมือดอกเบี้ย Fed fund rate ที่เฟดไม่สามารถควบคุมได้นับตั้งแต่การเกิดวิกฤติ Lehman Brothers

ดัชนีราคาบ้าน S&P/Case-Shiller ที่สำรวจเมืองใหญ่ 20 แห่งทั่วอเมริกา ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนพฤศจิกายน เมื่อเทียบกับเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นการเพิ่มอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 แล้ว นักวิเคราะห์จาก RBS Securities มองว่า ตลาดบ้านเริ่มที่จะกลับมา แม้จะมีแนวโน้มเป็นไปอย่างช้าๆ เนื่องจากสถานการณ์ในตลาดแรงงานยังคงเป็นอุปสรรคใหญ่ ขณะที่ทางด้านนักเศรษฐศาสตร์ของ Barclays Capital ก็มองว่า ราคาบ้านกำลังอยู่ในช่วงที่เป็นจุดต่ำสุดแล้ว แต่ยังมีความเสี่ยงที่จะหดตัวลงอีก เมื่อยอดการยึดจำนองบ้านมีแนวโน้มหวนกลับมาใหม่ ประกอบกับความไม่แน่นอนจากผลของมาตรการจูงใจทางภาษีแก่ผู้ซื้อบ้านที่มีต่อสภาวะราคา

อีกหนึ่งปัจจัยบวกทางเศรษฐกิจก็มาจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ที่จัดทำโดย the Conference Board ออกมาขยับขึ้นเป็นระดับ 55.9 ในเดือนธันวาคม ซึ่งสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ประเมินไว้ว่าจะบวกขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 53.5

ตัวเลขทั้งคู่ก็ถูกรายงานออกมาในขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ กำลังประชุมนโยบายการเงิน และจะมีการประกาศมติเรื่องดอกเบี้ยในวันพรุ่งนี้ ซึ่งตลาดเชื่อว่าเฟดจะตัดสินใจคงดอกเบี้ยไว้ในช่วง 0 ? 0.25% ต่อไปตามเดิม เพื่อให้มั่นใจว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจมีความแข็งแกร่งมากขึ้น

สำหรับเรื่องที่หลายคนมีความกังวลอยู่ก็คือ สถานการณ์ในตลาดแรงงาน ที่เมื่อคืนนี้ยักษ์ใหญ่ในสองวงการ อย่าง Verizon Communications และ Home Depot ออกมาเปิดเผยถึงแผนการปรับลดพนักงาน โดยรายแรกมีแผนที่จะลดพนักงานในธุรกิจโทรศัพท์ประเภท fixed-line ลงกว่า 13,000 ตำแหน่งในปีนี้ หลังจากบันทึกรายได้ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ขณะที่รายหลังก็ถูกสถานการณ์ตลาดบ้านบีบคั้นจนต้องออกแผนลดจำนวนพนักงานในสหรัฐฯ ลงกว่า 1,000 ตำแหน่ง


เศรษฐกิจอังกฤษหลุดพ้นภาวะถดถอย

สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษเปิดเผยในเมื่อวานนี้ว่า เศรษฐกิจอังกฤษขยายตัว 0.1% ในไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจของประเทศหลุดพ้นจากภาวะถดถอยแล้วอย่างเป็นทางการ นับตั้งแต่เศรษฐกิจมีการเริ่มหดตัวเมื่อไตรมาสที่ 2 ของปี 2551 ขณะที่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ตลอดปี 2552 ขยายตัวติดลบ 4.8%

ก่อนหน้านี้หลายฝ่ายได้คาดการณ์ไว้อยู่แล้วว่า เศรษฐกิจของอังกฤษมีแนวโน้มที่จะหลุดพ้นจากภาวะถดถอยในไตรมาส 4 ปี 2552

การที่ตลาดได้มีการคาดการณ์เอาไว้อย่างนั้นเป็นเพราะอังกฤษได้มีการทยอยเปิดเผยข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจของอังกฤษฟื้นตัวแล้ว อาทิ ตัวเลขว่างงานซึ่งลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 18 เดือน

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่าการขยายตัวที่ระดับ 0.1% นั้นต่ำเกินคาด โดยอังกฤษเป็นหนึ่งในประเทศเศรษฐกิจรายสำคัญๆของโลกที่หลุดพ้นจากภาวะถดถอยเป็นลำดับท้ายๆ หลังจากที่ฝรั่งเศส เยอรมนี สหรัฐ และ ญี่ปุ่น ต่างแซงหน้ากันไปก่อนแล้ว


โตโยต้าคาดยอดขายทั่วโลกเพิ่มขึ้น 6% ในปีนี้

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คาดการณ์ว่ายอดขายรถทั่วโลกของกลุ่มบริษัท ซึ่งรวมถึงบริษัทในเครือ ได้แก่ ไดฮัทสุ มอเตอร์ และ ฮิโนะ มอเตอร์ส จะเพิ่มขึ้น 6% จากปี 2552 มาอยู่ที่ 8.27 ล้านคันในปี 2553 ซึ่งจะถือเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีที่กลุ่มบริษัทโตโยต้ามียอดขายรถเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะได้รับปัจจัยหนุนจากยอดขายในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่อย่าง จีน และ อินเดีย

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า โตโยต้าประเมินว่า ยอดขายในต่างประเทศจะโต 6% ในปีนี้ เป็น 6.14 ล้านคัน

ส่วนยอดขายในประเทศญี่ปุ่นจะเพิ่มขึ้น 7% เป็น 2.13 ล้านคัน ซึ่งเป็นผลมาจากความนิยมในรถไฮบริดและรถประเภทอื่นๆที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ในปี 2552 ยอดขายทั่วโลกของกลุ่มบริษัทโตโยต้าร่วงลง 13% มาอยู่ที่ 7.81 ล้านคัน เนื่องจากเศรษฐกิจโลกถดถอย ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงเป็นปีที่สองติดต่อกัน


BOJ ชี้โครงการปล่อยกู้ช่วยบรรเทาภาวะตึงตัวภาคเอกชน

นายมาซาอากิ ชิรากาว่า ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ชี้โครงการปล่อยกู้ของ BOJ ช่วยบรรเทาภาวะตึงตัวของบริษัทเอกชน ขณะที่นโยบายการเงินของ BOJ นั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด

ในการประชุมบอร์ด BOJ เมื่อวานนี้นั้น บอร์ดได้ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมที่ 0.1% อย่างเป็นเอกฉันท์ และคงระดับการประเมินเศรษฐกิจของประเทศไว้เช่นกัน

นอกจากนี้ BOJ ยังคาดการณ์ด้วยว่า ภาวะเงินฝืดในประเทศจะเกิดขึ้นเป็นเวลา 3 ปี

BOJ ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ปีงบประมาณ 2553 เป็น 1.3% จากระดับคาดการณ์เดิมที่ 1.2% และยังได้ปรับเพิ่มการประเมิน GDP ของปีงบประมาณ 2552 จากเดิมที่ติดลบ 3.2% เป็นติดลบ 2.5%

นอกจากนี้ BOJ ยังได้ปรับเพิ่มการคาดการณ์ดัชนีราคาผู้บริโภคในปีงบประมาณ 2553 จากเดิมที่คาดการณ์ว่าจะอ่อนตัวลง 0.8% เป็นอ่อนตัวลงเพียง 0.5%

ผู้ว่าแบงก์ชาติญี่ปุ่นกล่าวในการแถลงข่าวภายหลังการประชุมว่า มุมมองพื้นฐานของธนาคารที่มีต่อการดำเนินการด้านนโยบายการเงินไม่มีการเปลี่ยนแปลงมาตั้งแต่เดือนต.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่แบงก์ชาติได้ออกรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจระยะยาว

BOJ ยืนยันว่า จะยังคงใช้นโยบายผ่อนปรนทางการเงินเพื่อรับมือกับภาวะเงินฝืด และรักษาระดับการขยายตัวทางเศรษฐกิจให้เป็นไปอย่างยั่งยืน

ขณะที่ทางด้านสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ประกาศปรับแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศญี่ปุ่นเป็น "ลบ" จากเดิม มีเสถียรภาพ เนื่องจากนโยบายการคลังมีความยืดหยุ่นลดลง ซึ่งส่งผลต่อความสามารถในการจัดการกับปัญหาหนี้สาธารณะและการขาดดุลงบประมาณ

S&P ได้คงอันดับเครดิตตราสารหนี้ระยะยาวสกุลเงินเยนที่ AA และคงอันดับเครดิตตราสารหนี้ระยะสั้นสกุลเงินเยนและสกุลเงินต่างประเทศที่ A-1 แต่ระบุว่า ความยืดหยุ่นของนโยบายเศรษฐกิจที่ลดลงอาจนำไปสู่การลดอันดับเครดิตได้ ถ้าหากรัฐบาลญี่ปุ่นยังไม่มีมาตรการออกมาใช้ควบคุมแรงกดดันที่มีต่อภาวะเงินฝืดและสถานะการคลังของประเทศ

นอกจากนี้ S&P ยังเตือนด้วยว่า อันดับความน่าเชื่อถือของญี่ปุ่นอาจถูกปรับลดลงถ้าข้อมูลเศรษฐกิจยังคงอ่อนแอ และยังไม่มีมาตรการส่งเสริมการขยายตัวในระยะกลางออกมาใช้ในเร็วๆนี้


เกาหลีใต้เผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคทรงตัว- GDP โตเพียง 0.2%

ธนาคารกลางเกาหลีใต้เผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค. 2553 อยู่ในระดับ 113 ซึ่งเป็นระดับเดียวกับเดือนธ.ค. 2552 เนื่องจากสภาพการจ้างงานในประเทศที่ยังชะลอตัวทำให้ผู้บริโภคยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ดี ตัวเลขที่อยู่สูงกว่าระดับ 100 บ่งชี้ว่า ผู้บริโภคที่มองมุมบวกนั้นมีจำนวนมากกว่าผู้ที่มองมุมลบ

ดัชนี CSI ของธนาคารกลางเกาหลีใต้ เป็นมาตรวัดแนวโน้มเศรษฐกิจโดยรวม สภาพความเป็นอยู่ และการใช้จ่ายเงินในอนาคต

ทั้งนี้ แม้ตัวเลขโดยรวมอยู่สูงกว่าระดับ 100 แต่ผลสำรวจความรู้สึกของผู้บริโภคที่มีต่อมาตรฐานชีวิตความเป็นอยู่ยังคงทรงตัวที่ระดับ 95

ขณะที่ความรู้สึกของผู้บริโภคที่มีต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ลดลง 1 จุด แตะ 105 จุด

ส่วนความคาดหวังเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจภายในประเทศเพิ่มขึ้น 1 จุด แตะ 119 จุด จากระดับเดือนธ.ค.ที่ 118 จุด

เจียง คุย-ยุน เจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางเกาหลีใต้กล่าวว่า ข้อมูลดังกล่าวชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภคยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แต่การจ้างงานและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ชะลอตัวก็ยังคงเป็นปัจจัยที่สร้างความกังวลให้กับผู้บริโภคเช่นกัน

ก่อนหน้านี้ ธนาคารกลางเกาหลีใต้ได้ปรับเพิ่มแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจในปีนี้ว่า จะขยายตัว 4.6% จากปัจจัยการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่สดใส

อย่างไรก็ดี ในส่วนของรัฐบาลเกาหลีใต้อาจจะกดดันให้ธนาคารกลางเกาหลีใต้ยุติแผนการขึ้นดอกเบี้ย หลังมีรายงานว่าเศรษฐกิจเกาหลีใต้ในไตรมาส 4 ปี 2552 ขยายตัวได้เพียง 0.2% (ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5% หลังจากที่เคยพุ่งสูงสุดในรอบ 7 ปีที่ระดับ 3.2% ในไตรมาสก่อนหน้านี้) อันเป็นผลมาจากภาคการส่งออก อุปสงค์ผู้บริโภค และการใช้จ่ายภาครัฐปรับตัวลดลง

ขณะที่รัฐบาลอาจใช้ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4 มาเป็นเครื่องมือกดดันให้ธนาคารตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 2% ต่อไป

นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้ส่งรมช.คลังเข้าร่วมประชุมเพื่อทบทวนนโยบายดอกเบี้ยในเดือนนี้ด้วย ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของการดำเนินการที่สวนทางธรรมเนียมปฏิบัติที่ยึดถือมากว่า 10 ปี สำหรับการห้ามมิให้ตัวแทนทางการเมืองเข้าร่วมประชุมกำหนดนโนบายการเงิน


บรูไนเตรียมสร้างโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ใหญ่ที่สุดในอาเซียน

บรูไน หนึ่งในประเทศผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซรายใหญ่ของโลก เตรียมสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน โดยโรงไฟฟ้าแห่งนี้จะตั้งอยู่ที่เมืองเซเรียทางตะวันตกของบรูไน และมีบริษัทของญี่ปุ่นเป็นผู้ลงทุน

นายโมฮัมเหม็ด รัฐมนตรีพลังงานบรูไน กล่าวว่า พลังงานแสงอาทิตย์จะก่อให้เกิดการสร้างงานใหม่

นอกจากนี้ รัฐบาลบรูไนจะกระตุ้นให้ผู้คนหันไปใช้พลังงานทางเลือกเพื่อลดการพึ่งพาพลังงานฟอสซิลให้มากขึ้นในอนาคต


มูดีส์เพิ่มแนวโน้มเครดิตแบงก์พาณิชย์จีน-อินเดีย-ออสเตรเลีย

มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ ประกาศเพิ่มแนวโน้มความน่าเชื่อถือธนาคารพาณิชย์ใน 12 ประเทศของเอเชีย รวมถึงจีน อินเดีย และออสเตรเลีย จาก "เชิงลบ" เป็น "มีเสถียรภาพ" เนื่องจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น

มูดีส์ระบุว่า แนวโน้มความน่าเชื่อถือของธนาคารในญี่ปุ่น กัมพูชา มองโกเลีย และเวียดนามยังคงเป็นลบ และได้ปรับเพิ่มแนวโน้มความน่าเชื่อถือของธนาคารในฮ่องกง อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ มาเลเซีย นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไต้หวัน และไทย เป็น "มีเสถียรภาพ" จาก "เชิงลบ"

เดบอราห์ ชูเลอร์ รองประธานอาวุโสของมูดีส์ ระบุในรายงานว่า การปรับเพิ่มแนวโน้มเครดิตครั้งนี้สะท้อนให้เห็นแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้นในเอเชียและทั่วโลก รวมถึงการเข้าถึงตลาดเงินและพันธบัตรระหว่างประเทศที่ง่ายขึ้น ตลอดจนความยืดหยุ่นในการรับมือกับปัจจัยเสี่ยงทางเศรษฐกิจ

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่ประกาศออกมาเมื่อวานนี้ (อังคารที่ 26 ม.ค. 2553)
? เริ่มการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินสหรัฐฯ หรือ FOMC
? ดัชนีราคาบ้าน (พ.ย.) อยู่ที่ระดับ 146.28 จุด
? ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ม.ค.) อยู่ที่ระดับ 55.9 จุด

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่จะประกาศออกมาวันนี้ (พุธที่ 27 ม.ค. 2553)
? ตัวเลขสต็อกน้ำมันสำรองประจำสัปดาห์ โดย EIA
? ยอดขายบ้านใหม่ (ธ.ค.) โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ
? การรายงานผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินสหรัฐฯ หรือ FOMC

ติดตาม Money Wake up ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ออกอากาศซ้ำเวลา 11.00 น. ทาง Money Channel


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 27, 2010, 10:42:02 AM
27 ม.ค. 2553


สรุปภาวะตลาดเมื่อวาน
    ราคาโกลด์ฟิวเจอร์สปรับตัวลดลงต่อเนื่องเช่นเดียวกับราคาทองคำสปอตที่ปรับตัวเพิ่มกลับขึ้นมาเมื่อคืนนี้ ทองคำแท่งสมาคมฯปิดที่ 17,050/150 บาท เงินบาทอ่อนค่าตามดอลลาร์ที่แข็งขึ้นเล็กน้อย


ปัจจัยที่อาจส่งผลต่อเนื่องถึงวันนี้
    นักลงทุนนำข่าวเก่าเรื่องจีนที่มีมาตรการให้ธนาคารใหญ่บางแห่งที่ปล่อยกู้มากเกินไปในช่วงที่ผ่านมาต้องดำรงเงินทุนสำรองสูงเป็นพิเศษ ซึ่งถึงแม้ว่าชื่อธนาคารที่จะต้องถูกบังคับใช้มาตรการดังกล่าวไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ที่แล้ว แต่การบังคับใช้เมื่อวานนี้มีเรื่องราวที่แสดงให้เห็นว่าจีนเอาจริงกับการดำเนินนโยบายการเงินแบบรัดกุม ส่งผลให้ตลาดหุ้นในภูมิภาคปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องพร้อมกับตลาดหุ้นยุโรปและค่าเงินยูโรด้วยจีน เป็นการกดดันราคาทองคำได้ทางหนึ่ง [Bloomberg, Reuters, TCAF Research]
    สถาบัน S&P ได้ปรับลดมุมมองความน่าเชื่อถือของญี่ปุ่นลดลงเป็นลบเนื่องจากญี่ปุ่นมีหนี้สาธารณะสูงมากในปัจจุบัน แต่ญี่ปุ่นยังมีข้อได้เปรียบเนื่องจากเงินเยนยังมีสภาพคล่องสูงในตลาดโลก [S&P, TCAF Research]
    เยอรมนีรายงานผลสำรวจผู้ประกอบการในประเทศ IFO ออกมาดีกว่าเดิมอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามรายงานดังกล่าวให้มุมมองาใกล้เคียงกับรายงาน PMI ที่ออกมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วคือผู้ผลิตเริ่มมีสถานการณ์ที่ดีขึ้นในขณะที่ผู้ให้บริการยังเห็นว่าเศรษฐกิจปัจจุบันยังมีปัญหาอยู่ โดยทั้งคู่ได้มีมุมมองต่อการพัฒนาเศรษฐกิจที่ดีขึ้นกว่าเดิมอีก รายงานดังกล่าวจึงถือว่าไม่ได้เป็นข้อมูลใหม่ให้กับนักลงทุนแต่อย่างใด [CES Ifo, TCAF Research]
   สหรัฐฯเปิดเผยผลสำรวจผู้บริโภคออกมาแสดงให้เห็นว่าประชาชนประเมินภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันด้วยมุมมองที่ดีขึ้นกว่าเดิมอย่างมาก เป็นตัวชี้นำว่าผู้บริโภคน่าจะเริ่มใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในอนาคต ส่งผลบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงทั้งหุ้นและทองคำเป็นอย่างดี [Conference Board, TCAF Research]
   มีกำหนดการแน่นอนแล้วว่าจะมีการลงคะแนนรับรองนายเบอร์นานกี้เป็นประธานเฟดอย่างเป็นทางการในวันพฤหัสบดีนี้ โดยผลสำรวจรอยเตอร์สล่าสุดชี้ให้เห็นว่ามีแนวโน้มสูงที่นายเบอร์นานกี้จะได้รับการรับรองเป็นประธานเฟดต่อไป [Reuters, TCAF Research]


แนวโน้มทองคำวันนี้
    ปัญหาต่างๆเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องมีเพียงปัจจัยระยะสั้นเท่านั้นโดยเฉพาะจากความเห็นของผู้นำระดับโลกต่างๆที่อาจให้สัมภาษณ์ในงานประชุมประจำปีของ World Economic Forum ที่จะเริ่มมีขึ้นในคืนวันนี้ เราจึงมองว่า "ราคาทองคำน่าจะแกว่งตัวขึ้น" เราจึงแนะนำให้ "ค่อยๆสะสม LONG เพิ่มเติม โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ราคาสปอตต่ำกว่า $1,085"



มุมมองทองคำ
    แนวโน้มเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวน่าจะมีความสำคัญที่สุดในช่วงนี้ ในขณะที่มาตรการต่างๆของมหาอำนาจก็น่าจับตามองไม่แพ้กันเนื่องจากอาจส่งผลต่อการรับความเสี่ยงของนักลงทุนและส่งผลต่อสถานะของทองคำได้



หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 27, 2010, 11:51:21 AM
กราฟตาแป๊ะ
http://www.thaigold.info/forum/index.php?topic=4852.830 (http://www.thaigold.info/forum/index.php?topic=4852.830)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Cindy ที่ มกราคม 27, 2010, 11:52:02 AM
???? :)

สองอาทิตย์นี้ไม่เห็นเดือนเห็นตะวันเลยนะคะ ตกทุกตัว เงินคงจมกันไปอีกนาน
จะถือโอกาสนี้ซื้อเก็บ ก็ยังเป็นโรควิตกจริตอีก นี่หนอชีวิตคนเล่นหุ้น :(


???????
นิดหน่อยค่ะ ส่วนใหญ่จะเล่น set 50 และ k oil กับ k gold แต่ซื้ออย่างละนิด รวม ๆ ไป
ก็เลยเยอะเหมือนกัน ช่วงนี้มาเล่นหนักหน่อยเพราะดอกเบี่ยพวกกองทุนเกาหลีมันต่ำมากค่ะ  :-X


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 27, 2010, 12:07:35 PM
ข่าวเก็บตก
Home  ข่าวหน้า1  Big Stories  ค้าทองฮั้วแตกขู่แยกวงสมาคมฯถกด่วน26ม.ค.
ค้าทองฮั้วแตกขู่แยกวงสมาคมฯถกด่วน26ม.ค.
วันจันทร์ที่ 25 มกราคม 2010 เวลา 09:05 น. กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ ข่าวหน้า1 - Big Stories    
User Rating: / 1
แย่ดีที่สุด
ธุรกิจค้าทองคำเลือดเข้าตา ดาหน้าสาดสงครามราคา หวังรักษาฐานลูกค้าหลังกำลังซื้อวูบหนัก ทั้งงดคิดค่ากำเหน็จจากปกติอยู่ที่บาทละ 300-500 บาท   ลดอัตราช่วงการปรับขึ้นลงราคาทองคำแท่ง 20% ผู้ค้าทองครวญ ถึงขั้นขูดกระดูกยอมขาดทุนกันแล้ว  ชี้สถานการณ์ช่วงทองขาลงปีนี้ยิ่งแข่งดุเดือด  วงการยอมรับบางรายสายป่านสั้นทยอยปิดตัวแล้ว สมาคมค้าทองนัดถกหาทางออก26 มกราคมนี้  "ฮั่วเซ่งเฮง"ขู่หากไม่มีข้อยุติจะตั้งราคาซื้อ-ขายเอง  วายแอลจีดิ้นเจาะตลาดกลุ่มผู้มีเงินออม เน้นบริการเสริมทั้งเปิดซื้อขายออนไลน์ จัดส่งทองถึงบ้าน พร้อมเปิดซื้อขายทองแท่งบริสุทธิ์ 96.5% จากเพิร์ธมินต์(Perthmint)ออสเตรเลีย

           แหล่งข่าวจากวงการผู้ค้าทองคำ เปิดเผย  "ฐานเศรษฐกิจ"ว่า ปัจจุบันการแข่งขันในตลาดค้าทองคำมีความรุนแรงมากถึงขั้นเป็นสงครามราคา คือ ผู้ค้าแข่งขันกันยอมตัดราคาขายกันอย่างรุนแรง ทั้งทองรูปพรรณและทองคำแท่ง เพื่อดึงดูดลูกค้า  ขณะที่การตัดราคาเพิ่งจะเริ่มในช่วง 1 ปีมานี้  
  ***ฟรีค่ากำเหน็จทองรูปพรรณ              
         แหล่งข่าวกล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้มีการแข่งขันด้านราคา ก็เนื่องมาจากกำลังซื้อของนักลงทุนที่ลดลง จึงทำให้ผู้ค้าทองคำต้องกระตุ้นกำลังซื้อด้วยการตัดราคากันเอง โดยบางร้านยอมขายแบบไม่มีค่ากำเหน็จแล้ว  ซึ่งร้านทองที่ใช้กลยุทธ์ดังกล่าว ส่วนใหญ่จะซื้อทองไว้ตอนราคาถูก  ซึ่งแนวคิดแบบนี้เป็นแนวคิดที่ผิด  เพราะเท่ากับเป็นการขายที่ขาดทุน  ขณะที่ไม่ได้ทำให้จำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้น          
            สำหรับการแข่งขันตัดราคาขายทองรูปพรรณนั้น  แหล่งข่าวกล่าวว่า มีตั้งแต่การลดค่ากำเหน็จ และถึงขั้นไม่คิดค่ากำเหน็จกับลูกค้า  ซึ่งปกติจะอยู่ที่ 300-500 บาทต่อน้ำหนักทองคำ 1 บาท  
***ดิสเคาต์ทองแท่งสูงสุด 20%  
             ส่วนการแข่งขันด้านราคาทองคำแท่ง ผู้ค้าทองจะลดราคาให้ลูกค้าจากราคาประกาศของสมาคมค้าทองคำ โดยมีการตัดราคากันตั้งแต่ 10 บาท ,20 บาท ,40 บาท และสูงสุด 50 บาท ต่อน้ำหนักทองแท่ง 1 บาท  หรือคิดเป็นราคาส่วนลดสูงสุดถึง 20% จากราคาประกาศของสมาคมค้าทองคำ  
         "การตัดราคาทองคำแท่งถือเป็นการแข่งขันที่รุนแรง ถึงขั้นที่เรียกได้ว่า ร้านทองขูดกระดูกกันเลยทีเดียว"
     นายชุมพล  พิทยานนท์ ประธานชมรมผู้ค้าปลีกทองคำแห่งประเทศไทย กล่าวยอมรับว่าสงครามราคาทองคำจะยิ่งแรงมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงที่ราคาปรับลงหลังจากขึ้นไปแรงเช่นในปีนี้ราคาทองยังมีโอกาสปรับลงไปได้ที่ระดับทองคำแท่งบาทละ 16,000 บาท ทำให้เกิดกระบวนการดัมพ์ราคาทอง หรือการยอมขายขาดทุนก่อน เพื่อรอลุ้นราคาทองในช่วงกลางคืนหรือวันถัดไปที่ราคาทองมีโอกาสปรับตัวลง  เนื่องจากราคาทองคำมีการเคลื่อนไหวตลอด 24 ชั่วโมง  ซึ่งเป็นกระบวนการแย่งลูกค้าและเพื่อรักษาฐานลูกค้าของกลุ่มผู้ค้าทองกันเอง
            ส่วนทองคำแท่งนั้นผู้ค้ารายใหญ่เปิดสงครามราคาแล้วเช่นกัน โดยประกาศลดราคาทองลง 20%   จากราคาทองคำที่ประกาศโดยสมาคมค้าทองคำ  หรือจากเดิมที่การเคลื่อนไหวของราคาซื้อขายทองคำแท่งชนิดน้ำหนัก 1 บาท จะปรับขึ้นหรือลงช่วงละ 100 บาท ก็คิดในอัตราลดลงเหลือเพียง  60 บาท ซึ่งในวงการนี้หากลดลงต่ำกว่า 50 บาท คือเป็นระดับที่ไม่มีกำไรนั่นเอง
***  "แม่ทองสุก"โดดร่วมวง
 ด้านนายแพทย์กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ  ประธานกลุ่มบริษัทแม่ทองสุก เอ็มทีเอส โกลด์ฯ กล่าวยอมรับว่า มีการแข่งขันด้านราคาในธุรกิจค้าทองคำจริง สำหรับบริษัทยอมรับว่าได้ลงไปแข่งขันด้านราคาบ้างเช่นกัน เพื่อรักษาฐานลูกค้า
           " ถ้าเราไม่ทำ ลูกค้าก็จะหายเช่นกัน แต่จะเน้นเรื่องพัฒนาเรื่องนวัตกรรมมากกว่า  อีกทั้งแม้ยอดขายของบริษัทลดลงก็จริง แต่กำไรไม่ได้ลดลง"  
          นายแพทย์กฤชรัตน์ กล่าวด้วยว่า ผลจากการแข่งขันด้านราคาที่ผ่านมา ทำให้ปี 2552  ส่วนแบ่งตลาดหรือมาร์เก็ตแชร์ การนำเข้า-ส่งออกทองคำของบริษัท ลดลงมาอยู่อันดับสอง จากปีก่อนหน้า (พ.ศ.2551) ซึ่งอยู่อันดับหนึ่ง   โดยปีที่ผ่านมาบริษัทมียอดนำเข้าทองคำประมาณ 40 ตัน  มียอดการส่งออกประมาณ 75  ตัน  หรือคิดเป็นยอดขายรวม(นำเข้าและส่งออก ) ประมาณ 1 แสนกว่าล้านบาท  เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 100%  ขณะที่มีกำไรขั้นต้น  80  ล้านบาท  
            สำหรับปี 2553  คาดว่าทั้งยอดนำเข้าและส่งออกของบริษัทจะเพิ่มขึ้นประมาณ 10% ส่วนกำไรขั้นต้นคาดว่าจะทรงตัว ขณะที่คาดว่าทั้งระบบยอดขายจะลดลงประมาณ 50%  โดยมี 2 สาเหตุสำคัญ  คือ  ตลาดเริ่มมีการแข่งขันที่สูงมาก และด้วยราคาทองคำที่อยู่ในระดับสูง ทำให้ลูกค้าหันไปลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าอิงราคาทองคำ(โกลด์ฟิวเจอร์ส) แทน
***26 ม.ค.ถกยุติสงครามราคา
  นายธนรัชต์  พสวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด ซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่ 3 ของห้างขายทองฮั่วเซ่งเฮง ผู้ค้าทองรายใหญ่ย่านเยาวราช และมีลูกค้าร้านทองทั่วประเทศกว่า 5,000 ราย กล่าวว่า  ในวันที่ 26 มกราคมนี้  สมาคมค้าทองคำจะมีการประชุมเพื่อหาทางออกเรื่องการแข่งขันด้านราคา
             ขณะที่ยอมรับว่าสงครามราคาทองคำแท่งและทองรูปพรรณ ได้เกิดขึ้นมาประมาณ 1 ปีแล้ว  โดยเฉพาะกลุ่มผู้ค้าทองรายใหม่ ๆ และผู้ค้าทองที่เข้ามาเพื่อหวังขยายฐานลูกค้ารายย่อย ซึ่งสงครามด้านราคาที่มีการแข่งขันกันนั้น ร้านทองบางแห่งยอมขายขาดทุน และไปรอลุ้นทำกำไรในตลาดทองคำโลกช่วงเวลากลางคืนก็มี
***"ฮั่วเซ่งเฮง"ขู่ปลดแอก
              นายธนรัชต์  กล่าวว่า สำหรับบริษัทเองได้มีแผนรองรับไว้แล้ว หากทางสมาคมไม่มีทางออก โดยจะประกาศร่วมเล่นสงครามราคาด้วย โดยการให้บริษัทย่อยที่เปิดตัวไปเมื่อปลายปี 2552 คือ บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง คอมโมดิทัช จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทนำเข้า-ส่งออกทองคำแท่ง เป็นผู้กำหนดราคาซื้อขายเอง โดยไม่อิงราคาจากสมาคมค้าทองคำ
          "การเล่นสงครามราคา ทำให้ราคาทองที่สมาคมค้าทองคำประกาศ ไม่มีผลต่อการซื้อขายทองคำในประเทศ   โดยจะมีการขายในราคาที่ถูกและรับซื้อในราคาที่สูง จนทำให้ร้านทองเข้าเนื้อ"นายธนรัชต์ กล่าว

***มีร้านทองปิดตัวแล้ว
         ด้านนางพวรรณ์  นววัฒนทรัพย์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท วายแอลจี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้นำเข้า-ส่งออกทองคำแท่งรายใหญ่ กล่าวว่า สำหรับสงครามราคาทองแท่งและทองรูปพรรณนั้น มีการแข่งขันรุนแรงมากขึ้นแน่นอน แม้ว่าในอดีตจะมีการแข่งขันกันอยู่แล้ว แต่ไม่ถือว่ารุนแรงเท่าครั้งนี้
            เธอกล่าวว่า ผลจากการแข่งขันที่รุนแรงนั้น ทำให้มีร้านทองรูปพรรณทยอยปิดตัวแล้ว  สำหรับกลุ่มผู้ค้าทองคำแท่งก็มีการลดราคา จนทำให้มีกำไรลดลง ซึ่งบางรายที่ยอมขายต่ำเช่นนั้นหากขาดทุนก็อาจจะขึ้นอยู่กับการบริหารพอร์ตของแต่ละร้านเอง เช่น การเก็งกำไรทองในช่วงกลางคืน ซึ่งอาจจะเสี่ยงจนส่งผลให้ร้านทองขาดทุนได้
***"วายแอลจี"ไม่สน
            อย่างไรก็ตามสำหรับวายแอลจี นั้นไม่ได้มีนโยบายแข่งขันเรื่องราคา แม้ว่าบริษัทสนใจที่จะขยายฐานลูกค้าสู่รายย่อยมากขึ้นก็ตาม รวมทั้งการขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของผู้นำเข้า-ส่งออกทองคำแท่งเมื่อปี 2552  และในปีนี้บริษัทยังตั้งเป้าขยายฐานลูกค้ารายย่อยเพิ่มประมาณ 2,000-3,000 ราย จากปัจจุบันที่บริษัทมีฐานลูกค้ารายใหญ่ ที่เป็นกลุ่มนักลงทุนประมาณ 500 ราย ซึ่งเป็นกลุ่มที่ลงทุนทองคำแท่ง ตั้งแต่ 1 กิโลกรัมขึ้นไป
 โดยที่กลุ่มรายย่อยที่บริษัทเจาะนั้น ยังเป็นกลุ่มที่มีฐานเงินออมสูงอยู่ คือ อย่างน้อยจะต้องมีฐานเงินลงทุนไม่น้อยกว่า 1 แสนบาท หรือสามารถลงทุนในทองคำแท่งไม่น้อยกว่า 30  บาท (บาททองคำ)นั่นเอง
     รวมถึงการเน้นการบริการเสริม ที่บริษัทคาดว่าจะเพิ่มการบริการให้กับลูกค้ารายย่อยกลุ่มดังกล่าว ซึ่งบางช่วงการบริการของเจ้าหน้าที่การตลาดอาจจะไม่เพียงพอ โดยการเปิดให้บริการซื้อขายออนไลน์ผ่านอินเตอร์เน็ตด้วย คาดว่าจะเปิดให้บริการช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการส่งมอบทองคำแท่ง ในรูปแบบวันสต็อปเซอร์วิส หรือการให้บริการครบวงจร  คือ บริการส่งมอบทองให้ลูกค้าถึงที่ โดยที่ลูกค้าไม่ต้องมารับเอง นอกจากนี้บริษัทยังเพิ่มเติมสินค้าใหม่คือ การให้บริการซื้อขายทองคำแท่งที่ความบริสุทธิ์ 96.5%จากเพิร์ธมินต์(Perthmint)โดยนำเข้าจากประเทศออสเตรเลียด้วย
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,499  24 -27  มกราคม พ.ศ. 2553


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 27, 2010, 12:36:23 PM
???? :)

สองอาทิตย์นี้ไม่เห็นเดือนเห็นตะวันเลยนะคะ ตกทุกตัว เงินคงจมกันไปอีกนาน
จะถือโอกาสนี้ซื้อเก็บ ก็ยังเป็นโรควิตกจริตอีก นี่หนอชีวิตคนเล่นหุ้น :(


???????
นิดหน่อยค่ะ ส่วนใหญ่จะเล่น set 50 และ k oil กับ k gold แต่ซื้ออย่างละนิด รวม ๆ ไป
ก็เลยเยอะเหมือนกัน ช่วงนี้มาเล่นหนักหน่อยเพราะดอกเบี่ยพวกกองทุนเกาหลีมันต่ำมากค่ะ  :-X
Home  Breaking News  ข่าวในประเทศ  มุมมองกิมเอ็ง SET50 Index
มุมมองกิมเอ็ง SET50 Index
วันพุธที่ 27 มกราคม 2010 เวลา 12:29 น. ทีมออนไลน์ ข่าวรายวัน - ข่าวในประเทศ   
User Rating: / 0
แย่ดีที่สุด
SET50 Index วานนี้ยังคงอ่อนตัวลงต่อเนื่องอีก 7.17 จุด มาปิดที่ 492.39 จุด โดยไม่สามารถกลับมายืนเหนือ 500 จุดได้ จากแรงกดดันจากจีน หลังประกาศให้ธนาคารจีนหลายแห่งต้องเพิ่มเพดานสำรอง สำหรับการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น กดดันการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกวานนี้ รวมถึง DJIA Futures 

อีกทั้งนักลงทุนต่างชาติยังคงทยอยลดการลงทุนในประเทศไทย โดยขายสุทธิในตลาด Spot ทั้งสิ้น 1,721 ล้านบาท สถานะ Short สุทธิใน Futures จำนวน 1,054 สัญญา คิดเป็นมูลค่าเฉลี่ยต่อสัญญา 492,034 บาท น่าจะเป็นการปิดสถานะ Long ใน SET50 Index Futures พร้อมกับการขายตราสารหนี้สุทธิอีกครั้ง สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติต่อการลงทุนในประเทศไทยมีความเสี่ยงที่มากขึ้น

สำหรับมุมมองต่อ SET50 Index วันนี้ เชื่อว่าจะยังอ่อนตัวลงต่อเนื่อง เพราะขาดปัจจัยบวกใหม่เข้ามาหนุนภาวะการลงทุน ปัจจัยต่างประเทศ จากความกังวลต่อนโยบายการเงินของธนาคารกลางหลัก ทั่วโลกอาจกลับมาเป็นทิศทางที่เข้มงวดมากขึ้น กดดันภาวะการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง บวกกับการแข็งค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ด้วยการประมูลขายพันธบัตรอีก US$4.2 หมื่นล้านในคืนนี้ ย่อมกดดันการฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม DJIA คืนนี้มีโอกาสฟื้นตัวได้สูง หากเฟดมีการพิจารณายืดอายุโครงการรับซื้อพันธบัตร และ MBS ที่จะหมดอายุลงสิ้นเดือนมี.ค.ออกไป เป็นการส่งสัญญาณการใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายต่อเนื่อง

กลยุทธ์การลงทุน:  ?ซื้อเก็งกำไรบริเวณ 4.85 บาทหรือต่ำกว่า?

DJIA หดตัวลงเพียง 0.03% หรือ 2.57 จุดเท่านั้น ปิดที่ 10,194.29 จุด พร้อมกับ VIX Index ที่ลดลง 3.58% ปิดที่ 24.50 จุด จากความกังวลต่อเฟดอาจเริ่มใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวด แม้ว่าผลการดำเนินงานและดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะออกมาดีกว่าคาดก็ตาม
และราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า NYMEX หดตัวอีก US$0.57 ปิดที่ US$74.69/barrel จากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าเทียบกับยูโร กดดันราคาสินค้าโภคภัณฑ์

KimEng : คาด SET50 วันนี้ เคลื่อนไหวในกรอบ 485-500 จุด



หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ มกราคม 27, 2010, 02:55:42 PM
ขอบคุณค่ะคุณทองใหม่ ข้อมูลแน่นจริงๆ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 27, 2010, 05:35:15 PM
Gold Futures พรุ่งนี้มีทิศทางยังขยับในกรอบแคบ       
Wednesday, 27 January 2010 17:40 
เจ้าหน้าที่ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) KGI เปิดเผยถึงการซื้อขายสินค้า Gold Futures ในตลาดอนุพันธ์แห่งประเทศไทย (TFEX) วันนี้ว่าราคาทองล่วงหน้าปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งถือว่าราคายังเคลื่อนไหวทรงตัว เพราะยังไม่มีปัจจัยใหม่สนับสนุน ประกอบกับมีปัจจัยกดดันเรื่องค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นกดดัน

แนวโน้มในวันพรุ่งนี้คาดว่าราคาทองล่วงหน้ายังวิ่งในกรอบแคบ เพราะยังไม่มีปัจจัยใหม่ แต่อย่างไรก็ดีประเด็นที่ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่ายังเป็นปัจจัยกดดันอยู่หลังจากค่าเงินสกุลอื่นอ่อนค่า นอกจากนี้ให้ติดตามถ้อยแถลงของการประชุมกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในคืนนี้ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกอบกันด้วย

กลยุทธ์การลงทุนแนะนำให้เปิดสถานะขายระดับแนวต้าน 17,450 บาท แนวรับ 17,220 บาท ในสัญญา GFGZ09 สิ้นสุดเดือนกุมภาพันธ์ 2553               


 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 27, 2010, 05:37:50 PM
SET50 Futures พรุ่งนี้ข่าวลบจ่อรุมทำร้าย       
Wednesday, 27 January 2010 17:39 
นายพงศ์ภัทร สิริพิพัฒน์ ผู้ช่วยผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) KGI เปิดเผยถึงการซื้อขายสินค้า SET50 Futures ในตลาดอนุพันธ์แห่งประเทศไทย (TFEX) วันนี้ว่า ดัชนี SET50 Futures ปรับตัวลดลงเนื่องจากได้รับปัจจัยกดดันจากมาตรการชะลอความร้อนแรงเศรษฐกิจของจีนที่มีออกมาต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดจีนเรียกเงินกู้บางส่วนที่ปล่อยออกไปคืน

ด้านสหรัฐฯ เองเศรษฐกิจยังชะลอตัวเห็นได้จากตัวเลขเศรษฐกิจที่ยังออกมาไม่ดี รวมถึงมีแนวโน้มที่รัฐบาลจะออกนโยบายควบคุมการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคารพาณิชย์เป็นปัจจัยกดดันอีกทาง     

ทั้งนี้ดัชนี ฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดตลาดที่ระดับ 20,033.07 จุด ลดลง 76.26 จุด หรือ -0.38 % ดัชนี สเตรทไทม์  ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ปิดตลาดที่ระดับ 2,706.26 จุด ลดลง 34.07 จุด หรือ -1.24 % ตลาดหุ้นไทย ปิดที่  690.46จุด ลดลง 11.20  จุดหรือ -1.60%

แนวโน้มในวันพรุ่งนี้คาดว่าดัชนี SET50 Futures มีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเพราะปัจจัยกดดันเช่นกันกับวันนี้

นอกจากนี้ให้ติดตามประเด็นการประชุมกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในค่ำคืนนี้ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รวมทั้งถ้อยแถลงนโยบายของนาย บารัค โอบามาจะแถลงนโยบายประจำปี (state of the union) เพราะมีผลกระทบต่อจิตวิทยาการลงทุน

ส่วนการเมืองภายในประเทศกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมถึงประเด็นความเคลื่อนไหวการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ก่อนศาลฯ อ่านคำพิพากษาคดียึดทรัพย์อดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นปัจจัยที่ต้องติดตามเพราะกระทบดัชนีฯ เช่นกัน     

'ภาพรวมของดัชนียังไม่ดีเพราะมีปัจจัยลบรอบด้าน ทั้งการเมืองในไทยและปัจจัยต่างประเทศ และก็ต้องรอดูถ้อยแถลงของเฟด และโอบามาคืนนี้อีก ' นายพงศ์ภัทรกล่าว

โดยกลยุทธ์การลงทุนแนะนำเก็งกำไรฝั่งซื้อ หลังจากราคาปรับตัวลดลงมากแล้ว สัญญาณเทคนิคมีโอกาสรีบาวน์ในระยะสั้น  ให้แนวรับ 474-472 จุด แนวต้าน 485-490 จุด ในสัญญา S50H10 เดือนมีนาคม 2553 ด้าน SET50 ประเมินแนวรับไว้ที่ 485 จุด แนวต้าน 490 จุด

 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Yai Carmungwed ที่ มกราคม 27, 2010, 08:03:21 PM
ขอบคุณอาจารย์ทองใหม่มากครับ
กราฟและข่าวสาร ข้อมูลดีๆ
Smiley/Angry.gif


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 28, 2010, 06:12:10 AM
 วิธีดูทิศทางทอง ต้าน๓----หนุน๓เป็นทิศทางทองที่จะเคลื่อนไหวในวันนี้ หากพุ่งทะลุต้าน๓หรือดิ่งทะลวงหนุน๓ แสดงถึงวันนั้นทองเคลื่อนไหวแรงเกินปกติ เส้นแดนเป็นเส้นที่จะแบ่งแยกทิศทางของทองที่จะขึ้นหรือลง หากทองเคลื่อนไหวอยู่ในทิศทางใดมากและนาน นั่นหมายถึงโอกาสเป็นไปได้มากที่ทองจะเคลื่อนไปในทิศทางนั้นๆ ในช่วงเวลานั้น (ยังต้องแบ่งออกในช่วงเวลาตลาดเอเซีย ยุโรป เมกาด้วย) ต้าน๑และหนุน๑หากถูกทดสอบแบบมีผล(ขึ้นลงมากกว่า๑ครั้ง)แล้วยืนอยู่ได้ นั่นคือทิศทางทองที่จะเดินต่อไปในช่วงเวลานั้น หากการวิเคราะเกิดขัดแย้งกันเมื่อไหร่ ให้หยุดมองดูอย่างเดียว ไม่ควรซื้อ-ขายในช่วงเวลานั้น แนวทางนี้เหมาะกับการเล่นสั้นมาก (เล่นแบบออนไลน์ในอนาคต) มีความแม่นยำถึง80%ครับ อีกอย่างข่าวปัจจัยพื้นฐานอาจเปลี่ยนทิศทางทองได้กะทันหันนะครับ
ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์กับการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย ถัาติดดอยเมื่อทองต่ำลงมา  หากยังมีเงินเหลืออยู่ ควรซื้อเพิ่ม เพิ่มที่ละนิด ต่ำอีกซื้ออีก เพื่อดึงต้นทุนที่สูงให้ต่ำลงมา ใครที่ยังไม่มีทองในมือควรทยอยซื้อเข้าอย่ามากนัก หากทองลงอีก เราก็ซื้ออีก ดีกว่าเวลาทองขึ้นเราไปไล่ซื้อในราคาที่สูง  จดจำเป็นคติเตือนใจว่า  เรามิอาจซื้อได้ในราคาที่ต่ำสุด และขายได้ในราคาที่สูงสุด ไม่มีการลงทุนใดที่ไม่เสี่ยง การบริหารพอร์ตให้ได้จังหวะ จะลดความเสี่ยงลงได้ครับ
กราฟสำคัญ ปัจจัยพื้นฐานก็สำคัญ จิตวิทยาการโน้มเอียงของคนก็สำคัญ สิ่งเหล่านี้หากเป็นไปในแนวเดียวกัน ก็จะมุ่งไปทางนั้น หากแย้งกันก็ต้องดูฝ่ายไหนเหนือกว่า.....ด้วยเหตุนี้ไม่มีนักวิเคราะห์คนใดที่จะทำนายได้แม่นยำตลอดกาลได้ครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 28, 2010, 06:13:23 AM
เส้นปากถุง(เส้นสีขาวทั้ง๓เส้น)แบบง่ายๆ ไม่ปวดเศียรเวียนเกล้า
เส้นบน---แนวต้าน
เส้นกลาง---แนวโน้ม(สำคัญสุด)
เส้นล่าง---แนวหนุน
ลักษณะที่๑---ทิศทางขึ้นเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น   เส้นกลางหันหัวขึ้น   เส้นล่างหันหัวลง
ลักษณะที่๒---ทิศทางขึ้นเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวขึ้น
เมื่อเจอลักษณะทั้ง๒นี้ ราคาระหว่างวันที่ขึ้นๆลงๆ เมื่อเจอจุดที่เห็นว่าต่ำแล้วให้ซื้อเข้าได้เลยครับ  ขอเพียงเส้นกลาง(แนวโน้ม)ยังหันหัวขึ้นอยู่ แม้ราคาเแท่งเทียนจะอยู่ต่ำกว่าเส้นกลาง ก็ยังซื้อเข้าได้ หากเส้นบนเดินขวางเมื่อไหร่ ให้ทยอยลดพอร์ตได้เลยครับ
ลักษณะที่๓---เลือกทิศทาง---เส้นบนหันหัวลง เส้นล่างหันหัวขี้น ปากถุงแคบลง ถึงช่วงนี้ ให้ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว หากใครยังคิดอยากเคลื่อนไหว ก็จงเคลื่อนไหวไปหน้าทีวี จงอย่าทำการอย่างอื่นใด หากใครเป็นจอมยุทธ์ ก็ชิงเคลื่อนไหวก่อนใครได้  
ขอแถมอีกนิด จงโฟกัสที่เส้นกลาง หากเส้นกลางเริ่มขยบหัวหัวขึ้นหรือลง ทิศทางอาจขึ้นหรือลงตามเส้นกลางแนวโน้มนั้น
ลักษณะที่๔---เคลื่อนไหวในกรอบแคบ---เส้นบน กลาง ล่าง เดินขวางทั้ง๓เส้น หากใครเล่นออนไลน์ สามารถเล่นได้เล็กน้อยอย่ามาก เมื่อราคาแท่งเทียนใกล้เส้นบน จงขาย ใกล้เส้นล่าง จงซื้อ ต้องเข้าออกให้ทันการณ์ หาไม่แล้วจากกำไรอาจขาดทุนได้นา ขอบอก
ลักษณะที่๕---ทิศทางลงเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น เส้นกลางหันหัวลง เส้ยล่างหัวหัวลง
ลักษณะที่๖---ทิศทางลงเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวลง  เมื่อเส้นล่างเดินขวางเมื่อไหร่ ผู้ที่ใจกล้าที่เล่นออนไลน์ เริ่มทยอยซื้อเข้าได้ที่ละนิด อัตราเสี่ยงยังมีอยู่บ้างนะครับ สิบอกไห่
วิธีดูเส้นปากถุงที่กล่าวมานี้ .....ไม่ใช่ตำราของฝรั่ง แบบของฝรั่งผมเคยอ่านมาบ้างแล้ว ยาวมาก ปวดหัว ทำความเข้าใจได้ยากมากๆๆๆๆ ...........เหมาะเฉพาะกราฟราย๔ชม.และช่วงปกติเท่านั้นนะครับ  (บางครั้งตลาดจงใจคึงขึ้นลงอย่าแรงๆ แทบหัวใจวายสำหรับผู้มีทองในมือและผิดทิศทางของตัวเอง เรียกว่า ช่วงไม่ปกติครับ)

(http://img51.imageshack.us/img51/5826/14609713.gif) (http://img51.imageshack.us/i/14609713.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 28, 2010, 06:15:57 AM
กราฟGold 1
ช่อง1 เส้นแดงอยู่เหนือเส้นเขียว---ทิศทางขึ้น  ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น  สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นเขียวอยู่เหนือเส้นแดง---ทิศทางลง     ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นแดงและเขียวประสานเป็นกากะบาด ---กำลังจะเปลี่ยนทิศ ให้ดูเส้นแนวโน้มประกอบ  หากเส้นแดงและเขียวกำลังจะประสาน แต่ไม่ทันได้ประสานก็หันหันหัวกลับขึ้นหรือลง  แสดงว่ากำลังมีเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนี่งเกิดขึ้น หากขึ้นทะลุเส้นปะแนวต้าน ให้ดูเส้นปะแนวต้านเส้นต่อไป หากลงทะลุเส้นปะแนวหนุน ให้ดูเส้นแนวหนุนเส้นต่อไป   ส่วนจุดกลมเหลืองทอง---ทิศทางลง  จุดกลมฟ้า---ทิศทางขึ้น  หากกราฟวิ่งในยามปกติ พอเชื่อถือได้ หากกราฟวิ่งขึ้นลงแรงๆ คือยามไม่ปกติ ไม่อาจเชือถือได้
ช่อง2  ให้ดูเส้นสีม่วง ประกอบกับเส้นแนวโน้มในช่อง1 หากหันหัวไปในทิศทางเดียวกัน  โอกาสที่จะผิดพลาดก็มีน้อย  ส่วนเส้นปะสีเหลืองทองและฟ้า  หากขึ้นเหนือเลข80 เข้าสู่เขตซื้อเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ทุกเมื่อ  หากลงต่ำกว่าเลข20 เข้าสู่เขตขายเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ตลอดเวลา
ช่อง3   ให้ดูทั้ง2เส้น คือเหลืองทองและฟ้า หันหัวไปทิศทางเดียวกันหรือไม่  เท่านั้นยังไม่พอ  ให้ดูประกอบทิศทางในช่อง1ว่าเป็นทิศทางเดียวกันหรือไม่  หากทิศทางหันหัวในแนวเดียวกัน  ทิศทางนั้นเชื่อถือได้

(http://img194.imageshack.us/img194/6305/47119418.gif) (http://img194.imageshack.us/i/47119418.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 28, 2010, 07:46:57 AM
กราฟใหม่2010(เรามาช่วยกันใช้กาลเวลาพิสูจน์ว่า กราฟตัวนี้จะมีความขลังเท่ากราฟตาแป๊ะไหม)
1.   ซ้ายบน หน้าเทาขาวและหนังสือสีขาว??ถอนตัว(ขาย)   หน้าแดงและหนังสือสีเหลือง??บุก(ซื้อ)
2.   กลางบน หนังสือสีเขียว??ขาย หนังสือสีแดง??ซื้อ  ส่วนตัวหนังสือสีเหลือง????เส้นหยุดขาดทุน(สำหรับผู้ที่เล่นออนไลน์สั่งป้องกันล่วงหน้าได้เท่านั้น)
3.   ขวาบน    เครื่องหมายสีขาว??ขาย      เครื่องหมายสีชมภู      ? ?ซื้อ

4.   ซ้ายล่าง สีแดง???เพดาน(จะอยู่ช่วงบน)   สีแดง???ซื้อ(จะอยู่ช่วงล่าง)          สีเขียว ????หนีเร็ว หากเครื่องหมาย ? ปรากฏแค่ / (ครึ่งเครื่องหมาย)ยังไม่สมบูรณ์เต็มตัว?เตรียมตัวหนี(จะปรากฏพร้อม   ???เพดาน(จะอยู่ช่วงบน)   )และตัวหนังสือสีเขียว????เจอต่ำซื้อ
5.   กลางล่าง   หน้าเทาขาว?ขาย        หน้าแดง?ซื้อ
6.    ขวาล่าง บริเวณใกล้100เป็นเพดาน  ใกล้0เป็นพื้น  เส้นสีเหลืองทะลุเสันสีชมภูขึ้น---ทิศทางขึ้น  (ทะลุขึ้นช่วงพื้นจะปลอดภัยสูง) ทะลุลง----ทิศทางลง(ทะลุลงช่วงเพดาน ความปลอดภัยสูง)
ดัชนีไทย
(http://img259.imageshack.us/img259/8481/26742625.gif) (http://img259.imageshack.us/i/26742625.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 28, 2010, 09:21:23 AM
Home  Breaking News  ข่าวต่างประเทศ  ทองคำปิดร่วง13.80ดอลลาร์จากดอลลาร์แข็งขึ้น
ทองคำปิดร่วง13.80ดอลลาร์จากดอลลาร์แข็งขึ้น
วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม 2010 เวลา 08:24 น. ณัฐญา เนตรหิน ข่าวรายวัน - ข่าวต่างประเทศ   
User Rating: / 0
แย่ดีที่สุด
เมื่อคืนนี้ (27 ม.ค.) สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 13.80 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 1,084.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,102.10-1,090.10 ดอลลาร์ หลังจากที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น และนักลงทุนยังเทขายสัญญาทองคำอย่างต่อเนื่อง 

นักวิเคราะห์ต่างประเทศ มองว่าตลาดทองคำถูกกดดันอย่างหนักหลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 0.3% เมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินหลักๆในตะกร้าเงิน ประกอบกับภาวะซบเซาในตลาดหุ้นยังส่งผลให้นักลงทุนบางกลุ่มเทขายสัญญาทองคำเพื่อชดเชยการขาดทุนในตลาดหุ้น



หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 28, 2010, 09:43:42 AM
ดัชนีไทย60นาที
(http://img17.imageshack.us/img17/8949/98380878.gif) (http://img17.imageshack.us/i/98380878.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ มกราคม 28, 2010, 09:58:25 AM
สวัสดีค่ะคุณทองใหม่    อ่านเจอที่ไทยโกลมีคนถามว่าทองแท่งหลอมแล้วเหลือเปอร์เซนต์92.5กับ93.5 เหรอคะไม่เคยทราบเลย  รู้แต่ว่าถ้าเอาทอง96.5หรือทองรูปพรรณไปสกัดเป็นทองแท่งหลังหลอมแล้วเอาซิลเวอร์และน้ำประสานออกไปเหลือแต่เนื้อทองจะตีเป็น%โดยมากก็อยู่ที่ประมาณ91-95%ขึ้นอยู่กับว่าทองที่เอาไปหลอม%สูงหรือต่ำค่ะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 28, 2010, 10:05:17 AM
ประเด็นสำคัญ
  - ราคาทองปิดร่วงหลังดอลล์พุ่ง ขณะจับตาผลประชุมเฟด
  - ดอลล์พุ่งสูงสุดรอบ 6 เดือนเทียบยูโร
  - ปัจจัยทางเทคนิคกดน้ำมันดิบร่วงลง
  - ดาวโจนส์ปิดบวกรับเฟดตรึงดอกเบี้ยใกล้ 0%

   ปิดต่ำลง 1.3% ในวันพุธ ในขณะที่ดอลลาร์แตะจุดสูงสุดรอบ 6 เดือนเมื่อเทียบกับยูโร และตลาดทองมีแนวโน้มที่จะมีการซื้อขายออปชันที่ผันผวนและมีการย้ายฐานสัญญาก่อนการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สัญญาทองส่งมอบเดือนก.พ.เคลื่อนตัวในช่วง 1,102.10-1,090.10 ดอลลาร์ เทรดเดอร์กล่าวว่า ตลาดมีความระมัดระวังก่อนการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของเฟดในวันพุธและวันครบกำหนดส่งมอบวันแรกในวันศุกร์ ดีลเลอร์กล่าวว่า เป็นไปได้ที่จะมีการระบายสัญญา ถ้าราคาร่วงลงต่ำกว่า 1,080-1,085 ดอลลาร์

   นักวิเคราะห์จากบริษัท R.F.Lafferty Inc. ในนิวยอร์กกล่าวว่า ตลาดทองคำถูกกดดันอย่างหนักหลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 0.3% เมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินหลักๆในตะกร้าเงิน นอกจากนี้ ภาวะซบเซาในตลาดหุ้นยังส่งผลให้นักลงทุนบางกลุ่มเทขายสัญญาทองคำเพื่อชดเชยการขาดทุนในตลาดหุ้น อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์จาก Investec Global Gold Fund คาดว่า ราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นแตะระดับ 1,300 ดอลลาร์/ออนซ์ในอีก 6 เดือนข้างหน้านี้ เนื่องจากดีมานด์ยังคงแข็งแกร่ง

   ตลาดมุ่งความสนใจไปที่การแถลงนโยบายประจำปีของปธน.โอบามาในเช้าวันพฤหัสบดีนี้ตามเวลาประเทศไทย รวมถึงการลงมติของวุฒิสภาสหรัฐเพื่อยืนยันการแต่งตั้งนายเบน เบอร์นันเก้ เป็นประธานเฟดสมัยที่ 2 ขณะที่วาระการดำรงตำแหน่งในปัจจุบันจะสิ้นสุดลงวันอาทิตย์นี้

    กองทุน SPDR Gold trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยว่าทางกองทุนได้ถือครองทองแท่งระดับ 1,111.922 ตัน ณ วันที่ 27 มกราคม 2553 ลดลง 0.914 ตัน จากวันที่ 15 มกราคม 2553

 กลยุทธ์ : ช่วงสัปดาห์นี้อาจจะเล่นในกรอบ 1,105 ? 1,078 US$ เพื่อเปลี่ยนแนวโน้มในปลายสัปดาห์ เลยแนะนำเป็นการเล่นเด้งระยะสั้นเท่านั้นในช่วงต้นสัปดาห์ปลายสัปดาห์น่าจะปรับฐานลงต่อเนื่องจากแรงกดดันทั้งค่าเงิน US$ แข็ง ERU$ อ่อนต่อเนื่อง
 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ มกราคม 28, 2010, 10:19:08 AM
ขอบคุณค่ะคุณทองใหม่   ตอนแรกว่าจะซื้อเพิ่มแต่พออ่านข่าวแล้วรออาทิตย์หน้าดีกว่าค่ะ  ชัวร์กว่า


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 28, 2010, 10:20:56 AM
สวัสดีค่ะคุณทองใหม่    อ่านเจอที่ไทยโกลมีคนถามว่าทองแท่งหลอมแล้วเหลือเปอร์เซนต์92.5กับ93.5 เหรอคะไม่เคยทราบเลย  รู้แต่ว่าถ้าเอาทอง96.5หรือทองรูปพรรณไปสกัดเป็นทองแท่งหลังหลอมแล้วเอาซิลเวอร์และน้ำประสานออกไปเหลือแต่เนื้อทองจะตีเป็น%โดยมากก็อยู่ที่ประมาณ91-95%ขึ้นอยู่กับว่าทองที่เอาไปหลอม%สูงหรือต่ำค่ะ
ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 28, 2010, 10:36:41 AM
โตโยต้าสหรัฐฯระงับการขายรถรุ่นที่ถูกเรียกคืน 8 รุ่น - ECB ส่งสัญญานดึงสภาพคล่องออกจากระบบ

Posted on Thursday, January 28, 2010
ECB ส่งสัญญานดึงสภาพคล่องออกจากระบบ

เอเซล เวเบอร์ หนึ่งในคณะกรรมาธิการธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวระหว่างการเข้าร่วมการประชุม World Economic Forum ที่เมืองดาวอส ว่า ก้าวต่อไปของธนาคารกลางยุโรปในช่วงครึ่งแรกของปีนี้การพิจารณาถึง Exit Policy ซึ่งก็หมายรวมถึง การถอนสภาพคล่องออกจากระบบการเงิน หลังจากเห็นว่าเศรษฐกิจเริ่มที่จะมีความแข็งแกร่งขึ้นแล้ว

ถ้าย้อนกลับไปดูการให้ความช่วยเหลือของธนาคารที่ให้กับสถาบันการเงินต่างๆ เพื่อต่อสู้กับวิกฤติก็คือ การปล่อยเงินกู้ให้ธนาคารพาณิชย์มากเท่าที่ธนาคารเหล่านั้นต้องการ ด้วยอัตราดอกเบี้ย benchmark interest rate ที่ระดับ 1% :ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ แต่หลังจากที่เศรษฐกิจของยุโรปเริ่มหลุดออกจากภาวะถดถอยและเริ่มฟื้นตัวอย่างมีเสถียรภาพมากขึ้นแล้ว ธนาคารกลางยุโรปก็เริ่มที่จะมีการดึงเงินกูฉุกเฉินเหล่านั้นออกจากระบบ

หลังจากการแสดงความคิดเห็นของเวเบอร์นั้นก็ส่งผลให้ ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ

นักเศรษฐศาสตร์จาก RBS กล่าวว่า สิ่งที่เวเบอร์ได้กล่าวไปนั้นเป็นการยืนยันว่า มาตรการเยียวยาวิกฤติที่เหลือนั้นจะถอดถอนออกเรื่อยๆ จากนี้ไป และการที่เวเบอร์ออกมากล่าวแบบนั้นเพื่อให้ตลาดได้รับรู้ถึงแนวทางในอนาคตและไม่ตื่นตกใจกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น โดยเมื่อเดือนที่ผ่านมา ECB กล่าวว่า การเสนอเงินกู้ 12 เดือนให้กับบรรดาแบงก์พาณิชย์เป็นครั้งที่ 3 ถือว่าเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว และก็ประกาศด้วยว่าจะหยุดการให้เงินกู้ 6 เดือนในเดือนมีนาคมนี้

ส่วนการให้ความช่วยเหลือผ่านเงินสดแบบไม่จำกัด และการช่วยเหลือทางการเงินอื่นๆ นั้นจะให้ได้ไปจนกระทั่งอย่างน้อย 13 เม.ย.

ต่อกรณีที่มีผู้สือข่าวได้ถาม เอเซล เวเบอร์ เกี่ยวกับการที่เขาจะขึ้นเป็นประธาน ECB แทนนาย ชอง-คล็อด ทริเชตต์ ที่จะหมดวาระลงในปี 2554 นั้น เขาได้ปฏิเสธที่จะให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เพียงแต่บอกว่า ณ ปัจจุบัน ธนาคารกลางยุโรป มีประธานที่ดีมากอยู่แล้ว


โตโยต้าระงับการขายรถรุ่นที่ถูกเรียกคืน 8 รุ่นในสหรัฐฯ

โตโยต้า มอเตอร์ เซลส์ ยูเอสเอ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ดูแลด้านการขายของโตโยต้า มอเตอร์ ในสหรัฐ ได้แจ้งกับดีลเลอร์ประมาณ 1,250 รายในสหรัฐให้ระงับการขายรถ 8 รุ่นที่ถูกเรียกคืนไปก่อนหน้านี้

การระงับการขายดังกล่าว อาจจะทำให้โตโยต้าต้องระงับการผลิตรุ่นเหล่านี้ที่โรงงานในอเมริกาเหนือ 54 แห่ง ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.เป็นต้นไป

โตโยต้า มอเตอร์ ได้เรียกคืนรถยนต์จำนวน 2.3 ล้านคันในสหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อนำกลับมาแก้ปัญหาเกี่ยวกับคันเร่งค้าง

รถรุ่นที่เรียกคืนได้แก่โตโยต้า ราฟโฟร์ ปี 2009-2010 // โตโยต้า โคโรลล่า ปี 2009-2010 // โตโยต้า แมทริกซ์ ปี 2009-2010 // โตโยต้า อวาลอน ปี 2005-2010 // โตโยต้า คัมรี ปี 2007-2010 // โตโยต้า ไฮแลนเดอร์ ปี 2010 // โตโยต้า ทุนดร้า ปี 2007-2010 และ โตโยต้า ซีคัวย่า ปี 2008-2010

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกที่บริษัทรถยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นจะระงับทั้งการขายและการผลิตในสหรัฐ ทั้งที่บริษัทได้พยายามที่จะฟื้นยอดขายที่ร่วงลงในสหรัฐ

บ็อบ คาร์เตอร์ ผู้จัดการทั่วไปและรองประธานกลุ่มของโตโยต้า กล่าวว่า การดำเนินการครั้งนี้เป็นเรื่องที่จำเป็นจนกว่าจะมีการแก้ปัญหาได้ เราพยายามทุกวิถีทางที่จะแก้ปัญหาให้กับลูกค้าโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ก่อนหน้านี้ เอิร์ฟ มิลเลอร์ รองประธานโตโยต้า มอเตอร์ เซลส์ กรุ๊ป กล่าวว่า จากการสำรวจของเราบ่งชี้ว่า มีความเป็นไปได้ที่ระบบคันเร่งอาจจะค้างในสถานการณ์ใดสถานการณ์หนึ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยครั้งนัก

โตโยต้าระบุว่า การเรียกคืนครั้งล่าสุดนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการเรียกคืนรถโตโยต้าและเล็กซัสประมาณ 4.2 ล้านคัน เพื่อลดความเสี่ยงเรื่องคันเร่งค้างอันเนื่องมาจากพรมปูพื้นที่อาจจะขัดคันเร่ง


เฟดยืนดอกเบี้ยตามคาด ขณะที่ Dow Jones ไต่ขึ้นมาปิดบวก

ตลาดหุ้นประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำทั่วโลกปรับตัวลงเป็นวันที่ 6 จากความกังวลว่าเศรษฐกิจอาจแผ่วลงตามการถอนมาตรการอัดฉีดของธนาคารกลางหลักๆ อย่างเฟดและอีซีบี รวมถึงการคาดการณ์ว่าแบงก์ชาติในที่อื่นๆ เช่น จีน อินเดีย บราซิล และออสเตรเลีย จะดันดอกเบี้ยในประเทศขึ้นอีก

อย่างไรก็ดี ที่ตลาดสหรัฐฯ แรงซื้อในกลุ่มธนาคารก็ช่วยให้ดัชนีหุ้นปรับตัวขึ้น ขณะที่เฟดตัดสินใจคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ตามที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ นอกจากนั้น ยังยืนยันแผนที่จะยุติโครงการซื้อหลักทรัพย์ที่มีอสังหาริมทรัพย์เป็นหลักประกัน ภายใต้วงเงิน 1.25 ล้านล้านเหรียญ ภายในเดือนมีนาคม

ในแถลงการณ์ของเฟดระบุว่า การใช้จ่ายภาคครัวเรือนขยายตัวในระดับปานกลาง แต่ยังคงถูกฉุดไว้ด้วยตลาดแรงงานที่อ่อนแอ มูลค่าบ้านที่ยังต่ำลง ไปจนถึงสภาวะสินเชื่อตึงตัว ส่วนการใช้จ่ายในภาคธุรกิจ เฟดมองว่าการลงทุนในซอฟท์แวร์และอุปกรณ์อื่นๆ กำลังฟื้นตัวขึ้น แต่การลงทุนที่เป็นเรื่องโครงสร้างต่างๆ กลับหดตัวลง และที่แน่ๆ ก็คือ การจ้างงานยังไม่ดีขึ้นสักเท่าไหร่

บรรยากาศการลงทุนที่อเมริกาในช่วงแรกๆ ของเมื่อคืนนี้ถูกกดดันด้วยตัวเลขยอดขายบ้านเดือนธันวาคมที่ออกมาลดลง ซึ่งผิดไปจากที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น และเป็นเหมือนการตอกย้ำว่าความย่ำแย่ในตลาดบ้านจะยังไม่ผ่านพ้นไปง่ายๆ ขณะที่มาตรการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเองก็ยังไม่สามารถช่วยกระตุ้นให้ดีมานด์กลับมาได้มากพอ

สำหรับปัจจัยลบที่มาจากฝั่ง corporate ก็มีให้เห็นจากรายของ Caterpillar ที่เป็นผู้ผลิตเครื่องจักรก่อสร้างยักษ์ใหญ่ของโลก ที่ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 4 ร่วงลงถึง 65% พร้อมกับคาดการณ์แนวโน้มตัวเลขในปีนี้ต่ำกว่าระดับที่นักวิเคราะห์คาดไว้ และแม้บริษัทภายใต้การนำของ Jim Owens ที่ใช้ความพยายามอย่างหนักเพื่อพลิกฟื้นธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการปรับลดกำลังการผลิต หรือการปลดพนักงานออกกว่า 30,000 คน แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะรับมือกับความตกต่ำของดีมานด์ที่ทำให้ยอดขายดิ่งลงถึง 37% ซึ่งเป็นอัตราการลดลงที่สูงสุดนับตั้งแต่ทศวรรษ 1940 เลยทีเดียว


IATA เตือนปริมาณจราจรของสายการบินจ่อฟื้นตัวช้า

ข่าวร้ายในอุตสาหกรรมการบินยังดูเหมือนจะไม่จบลงง่ายๆ เมื่อสมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ หรือ IATA เปิดเผยถึงข้อมูลปริมาณจราจรของผู้โดยสารสายการบินปรับตัวลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในปีที่แล้ว ซ้ำยังเตือนด้วยว่าตัวเลขดีมานด์ที่ดีขึ้นในเดือนหลังๆ ไม่ได้หมายความว่ารายรับจากค่าโดยสารกำลังสูงขึ้น

ตัวชี้วัด traffic หมายถึง จำนวนผู้โดยสารคูณด้วยระยะทางในการบิน ซึ่งตัวเลขออกมาร่วงลง 3.5% ในปีที่แล้ว โดย traffic ในตลาดยุโรป อเมริกาเหนือ รวมทั้งในภูมิภาคเอเชีย ปรับตัวลงเกินกว่าระดับ 5%

ผู้บริหารของสมาคมที่ดูแลข้อมูลครอบคลุมกว่า 230 สายการบินนี้กล่าวว่า อุตสาหกรรมเริ่มต้นปี 2553 ด้วยความท้าทายที่ยังมีอยู่มาก ขณะที่การปรับตัวดีขึ้นของรายได้จะยังคงช้ากว่าการขยายตัวของดีมานด์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนกำลังจะเห็นในเร็วๆ นี้ และนั่นก็หมายความว่าความสามารถในการทำกำไรจะฟื้นตัวช้าลง

ในส่วนของ yield หรือรายได้ต่อผู้โดยสาร นั้น IATA ระบุว่า ตัวเลขจะเริ่มดีขึ้นภายหลังจากที่สายการบินปรับลดกำลังการบิน ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ต่ำกว่าระดับปี 2008 เพียง 5-10% เท่านั้น และก็เป็นเหตุผลว่าทำไมเหล่าสายการบินจึงพยายามดิ้นรนที่จะปรับขึ้นค่าโดยสาร แม้ว่าความต้องการเดินทางเพิ่งเริ่มที่จะเงยหน้าขึ้นได้เท่านั้น

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ IATA เตือนถึงแนวโน้มธุรกิจการบินในปีนี้ว่า สภาวะเศรษฐกิจถดถอยและวิกฤติสินเชื่อ ได้กดดันให้อุตสาหกรรมต้องเผชิญกับการหดตัวของจำนวนผู้โดยสารมาแล้วกว่า 2 ปีครึ่ง ขณะที่จำนวนการขนส่งสินค้าทางอากาศก็หดหายไปตลอดช่วงกว่า 3 ปีเช่นเดียวกัน

สถานการณ์เช่นนี้ก็ไม่น่าแปลกใจถ้าแนวโน้มในปี 2010 จะเป็นอีกปีที่มีการกระหน่ำลดต้นทุนและจำกัดกำลังการบินอย่างหนัก ส่งผลให้ยอดการขาดทุนของสายการบินทั่วโลกในปีนี้ถูกประเมินว่าจะอยู่ที่ 5,600 ล้านเหรียญ เมื่อเทียบกับตัวเลขติดลบราว 11,000 ล้านเหรียญในปีที่แล้ว

และยิ่งน่าตกใจถ้าไปดูการดิ่งลงของรายได้ราว 80,000 ล้านเหรียญในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นตัวเลขที่ย่ำแย่ที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา แม้แต่เมื่อเทียบกับปี 2001 ที่มีเหตุผู้ก่อการร้ายถล่มตึก World Trade และทำให้รายได้ของสายการบินร่วงลงไป 13,000 ล้านเหรียญ


โพลล์ชี้ CEO ทั่วโลกเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก

ไพรซ์วอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส (PwC) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ทั่วโลก ว่า ซีอีโอทั่วโลกเริ่มมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มการเติบโตในอนาคตของเศรษฐกิจ หลังจากความเชื่อมั่นถดถอยลงในปีที่แล้วเนื่องจากเศรษฐกิจทั่วโลกหดตัว

PwC เปิดเผยในรายงานก่อนการประชุม "World Economic Forum" ที่เมืองดาวอส ว่า 81% ของซีอีโอทั่วโลกที่ตอบแบบสำรวจในครั้งนี้ มีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลกในอีก 12 เดือนข้างหน้า และมีซีอีโอเพียง 18% เท่านั้นที่ยังคงมีมุมมองที่เป็นลบต่อเศรษฐกิจโลก

รายงานระบุว่า 67% ของซีอีโอทั่วโลกเชื่อว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว ขณะที่ 35% คาดว่าเศรษฐกิจยังไม่มีแนวโน้มขยายตัว

นอกจากนี้ รายงานยังบ่งชี้ว่า 31% ของซีอีโอแสดงความ "เชื่อมั่นมาก" ต่อแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะสั้น เพิ่มขึ้น 10% จากปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม ซีอีโอมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันไปเกี่ยวกับแนวโน้มการขยายตัวของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่และกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว

80% ของซีอีโอคาดว่าเศรษฐกิจในอเมริกาเหนือและยุโรปตะวันออกจะขยายตัวในปีนี้ เมื่อเทียบกับซีอีโอ 91% ที่เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจกลุ่มละตินอเมริกาและจีนจะขยายตัว และ 97% ที่เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจอินเดียจะขยายตัว ส่วนในระยะยาวนั้น ซีอีโอกว่า 90% แสดงความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวในอีก 3 ปีข้างหน้า

ความเชื่อมั่นที่สูงขึ้นทำให้ซีอีโอของบริษัททั่วโลกวางแผนเพิ่มการจ้างงาน โดยผลสำรวจระบุว่า 40% ของซีอีโอวางโครงการว่าจะเพิ่มการจ้างงานในตำแหน่งที่สำคัญในปีนี้ ขณะที่ซีอีโอ 25% วางแผนลดการจ้างงาน

ทั้งนี้ PwC จัดทำผลสำรวจความคิดเห็นครั้งล่าสุดด้วยการสัมภาษณ์ซีอีโอ 1,1198 คน ใน 52 ประเทศ ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2552


ICBC ยืนยันไม่ระงับการปล่อยสินเชื่อ

อินดัสเทรียล แอนด์ คอมเมอร์เชียล แบงก์ ออฟ ไชน่า ( ICBC ) ซึ่งเป็นธนาคารผู้ปล่อยสินเชื่อรายใหญ่สุดในโลกเมื่อพิจารณาตามมูลค่าตลาด กล่าวว่า ธนาคารจะยังคงการปล่อยกู้ในระดับที่สมเหตุผลและสมดุลต่อไป

การออกมาแถลงของ ICBC ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อคลายความกังวลเกี่ยวกับกระแสข่าวที่ว่าธนาคารต่างๆของจีนจะควบคุมสินเชื่อ

ธนาคารระบุในแถลงการณ์ว่า " ICBC จะไม่รีบปล่อยสินเชื่อ แต่ก็จะไม่ระงับการปล่อยสินเชื่อเช่นกัน" พร้อมระบุด้วยว่า ICBC จะยึดมั่นในนโยบายการปล่อยสินเชื่อด้วยความระมัดระวัง และจะยังคงอัตราการปล่อยสินเชื่ออย่างสมเหตุสมผลและสมดุลต่อไป โดยพิจารณาจากอุปสงค์ที่แท้จริงและความสามารถของธนาคารในการรับมือกับความเสี่ยงด้านการเงิน

แถลงการณ์ยังเผยด้วยว่า การปล่อยสินเชื่อในช่วงต้น-กลางเดือนมกราคมมีอัตราการขยายตัวค่อนข้างเร็ว เนื่องจากโครงการหลายโครงการที่กำลังดำเนินอยู่ต้องการเงินทุน แต่หลังจากนั้น อัตราการปล่อยกู้ก็เริ่มมีเสถียรภาพ

นอกจากนี้ ICBC ยังระบุในแถลงการณ์ด้วยว่า ธนาคารจะมุ่งเน้นไปที่การจัดหาเงินทุนให้กับโครงการต่างๆของรัฐบาลที่อยู่ในระหว่างดำเนินการ และจะขยายการปล่อยสินเชื่อให้แก่ธุรกิจขนาดเล็กมากขึ้น

ขณะเดียวกันก็จะควบคุมการปล่อยเงินกู้ในโครงการใหม่ๆ และการปล่อยกู้แก่อุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานและปล่อยมลพิษสูงอย่างเข้มงวดมากขึ้น

ทั้งนี้ รัฐบาลจีนได้ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า จะควบคุมการขยายตัวของสินเชื่อโดยรวมให้อยู่ที่ระดับ 7.5 ล้านล้านหยวน (1.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในปีนี้ เทียบกับระดับ 9.59 ล้านล้านหยวนในปีที่แล้ว โดยมีเป้าหมายเพื่อป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจร้อนแรงเกินไป

ขณะที่สื่อจีนรายงานเมื่อวานนี้ว่า ธนาคารของจีนได้ปล่อยเงินกู้ใหม่แล้ว 1.45 ล้านล้านหยวน ในช่วง 19 วันแรกของปีนี้ ซึ่งส่งผลให้หน่วยงานกำกับดูแลจับตาความเคลื่อนไหวของธนาคารต่างๆอย่างใกล้ชิดมากขึ้น ด้วยการขอให้ธนาคารเหล่านี้นำส่งข้อมูลการปล่อยสินเชื่อรายวัน

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการควบคุมการปล่อยสินเชื่อไม่ให้มากจนเกินไป ธนาคารกลางจีนจึงได้ตัดสินใจเพิ่มสัดส่วนการกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ 0.5% เป็นครั้งแรกในรอบ 18 เดือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า จะช่วยลดสภาพคล่องได้ 2.5 แสนล้านหยวน

ความเคลื่อนไหวต่างๆจากทางการจีนทำให้นักลงทุนในตลาดหุ้นกังวลว่าสภาพคล่องในตลาดจะได้รับผลกระทบ และส่งผลให้ตลาดหุ้นจีนร่วงลงเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันและปิดที่ระดับ 2,986.6 จุดในวันนี้ ซึ่งเป็นการปิดที่ระดับต่ำกว่า 3,000 จุดเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน


รัฐบาลญี่ปุ่นให้คำมั่นจะลดหนี้สาธารณะจำนวนมหาศาล

นายนาโอโตะ คัน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของญี่ปุ่น ให้คำมั่นว่ารัฐบาลจะตัดลดหนี้สาธารณะที่พุ่งทะยาน หลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงินรายงานว่า ความพยายามของรัฐบาลญี่ปุ่นในการจัดระเบียบหนี้สาธารณะเป็นไปอย่างเชื่องช้า เตือนว่าอาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือการชำระหนี้

นายนาโอโตะ ให้คำมั่นว่า จะสามารถลดหนี้สาธารณะที่มีอยู่มหาศาล ด้วยวิธีทบทวนนโยบายการคลังและเปลี่ยนแปลงนโยบายเศรษฐกิจเพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโต

ทั้งนี้ การฟื้นตัวของญี่ปุ่นยังคงเป็นไปอย่างกระจัดกระจาย ท่ามกลางภาวะเงินฝืดและความอ่อนแอของการบริโภคภายในประเทศ รมต.คลังญี่ปุ่น กล่าวว่า การใช้จ่ายของภาครัฐยังเป็นสิ่งจำเป็น แต่จะใช้จ่ายเฉพาะโครงการที่มีความจำเป็นอย่างแท้จริงเท่านั้น


เกาหลีใต้ออกแถลงการณ์เตือนเกาหลีเหนือหลังเกิดการยั่วยุทางทหาร

เกาหลีใต้ได้ออกแถลงการณ์เตือนเกาหลีเหนือไม่ให้ดำเนินการที่มีลักษณะเป็นการยั่วยุทางการทหาร โดยเกาหลีใต้พร้อมตอบโต้หากเกาหลีเหนือยังคงดำเนินการใดๆต่อจากนี้

เกาหลีใต้ออกแถลงการณ์เตือนดังกล่าวหลังจากที่เกาหลีเหนือได้ยิงปืนใหญ่ประมาณ 30 ครั้งมายังน่านน้ำใกล้กับพรมแดนทางทะเลที่เป็นข้อพิพาทระหว่างสองฝ่ายอยู่ในขณะนี้

เกาหลีใต้ยังได้เรียกร้องให้เกาหลีเหนือยกเลิกประกาศเขตห้ามเดินเรือบริเวณพรมแดนตะวันตกที่เป็นข้อพิพาทของทั้ง 2 ฝ่ายด้วย

อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวระบุว่า หลังจากที่เกาหลีใต้ได้ส่งแถลงการณ์เตือนออกไป เกาหลีเหนือก็ยังยิงปืนใหญ่ตามมาอีกหลายนัดที่บริเวณเดียวกันเมื่อเวลา 15.25 น.ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่เกาหลีเหนือได้ออกแถลงการณ์เช่นกัน โดยระบุว่า การยิงปืนใหญ่ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการซ้อมยิงประจำปี


ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่ประกาศออกมาเมื่อวานนี้ (พุธที่ 27 ม.ค. 2553)
? ตัวเลขสต็อกน้ำมันสำรองประจำสัปดาห์ ลดลง 3.9 ล้านบาร์เรล
? ยอดขายบ้านใหม่ (ธ.ค.) อยู่ที่ 342,000 ยูนิต
? คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินสหรัฐฯ (FOMC) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0-0.25%

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่จะประกาศออกมาวันนี้ (พฤหัสบดีที่ 28 ม.ค. 2553)
? ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ
? ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน (ธ.ค.) โดยกระทรวงพาณิชย์

ติดตาม Money Wake up ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ออกอากาศซ้ำเวลา 11.00 น. ทาง Money Channel
 

 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Jeera ที่ มกราคม 28, 2010, 10:51:52 AM
สวัสดีค่ะพี่ทองใหม่  :)

ตอนนี้สุขภาพกายและใจเป็นยังไงบ้างคะ

ส่วนหนู...ไม่ค่อยดีเลยอ่ะ   :-\  ไม่รู้เพราะเครียดรึป่าว


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 28, 2010, 11:16:51 AM
28 ม.ค. 2553


สรุปภาวะตลาดเมื่อวาน
    ราคาโกลด์ฟิวเจอร์สปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ในขณะที่ราคาทองคำสปอตปรับตัวผันผวนเล็กน้อย ทองคำแท่งสมาคมฯปิดที่ 17,100/200 บาท เงินบาทอ่อนค่าตามดอลลาร์ที่แข็งขึ้น


ปัจจัยที่อาจส่งผลต่อเนื่องถึงวันนี้
    ปัญหาเรื่องกรีซยังเป็นจุดสนใจของนักลงทุนอย่างต่อเนื่องโดยสหภาพยุโรปได้ออกมาให้ความเห็นว่ามาตรการต่างๆของกรีซที่ออกมายังไม่ดีพอที่จะช่วยลดหนี้สาธารณะของรัฐบาลได้ นักลงทุนจึงกลับมากังวลปัญหาของกลุ่มยูโรทั้งระบบ ส่งผลให้ค่เกเงินยูโรอ่อนค่าลงต่อเนื่อง [Reuters, Bloomberg]
    ในการที่นายไกธ์เนอร์ รมต.คลังสหรัฐฯได้อธิบายเกี่ยวกับเรื่องการตัดสินใจให้เงินช่วยเหลือให้บริษัท AIG เมื่อคืนนี้ คณะกรรมการสอบสวนได้มีการพูดคุยกล่าวโทษค่อนข้างรุนแรงจนเป็นปัญหายืดเยื้อถึงปัจจุบัน ทำให้นักลงทุนเริ่มกังวลเรื่องปัญหาการเมืองที่อาจเกิดขึ้น กดดันให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยงเนื่องจากกลัวความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น [Reuters, Whitehouse, TCAF Research]
    ผลการประชุมเฟดปรากฏว่าไม่ได้มีการถอนมาตรการกระตุ้นก่อนกำหนดแต่อย่างใด และยังให้ความเห็นว่าจะดำเนินนโยบายผ่อนคลายไปอีกนาน โดยมีคณะกรรมการท่านหนึ่งแสดงความไม่เห็นด้วยโดยเขาคิดว่าเฟดน่าจะเตรียมตัวขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้แล้ว อย่างไรก็ตามรายงานดังกล่าวได้แสดงให้เห็นถึงมุมมองของเฟดต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯที่เป็นบวกอย่างต่อเนื่อง จึงดึงดูดเงินลงทุนเข้าสินทรัพย์เสี่ยงได้ในระยะสั้น [US FRB, TCAF Research]
   ในการลงคะแนนรับรองนายเบอร์นานกี้เป็นประธานเฟดอย่างเป็นทางการในคืนวันนี้ เรามองว่าน่าจะส่งผลบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงโดยรวม ซึ่งรวมไปถึงราคาทองคำด้วยเนื่องจากนักลงทุนน่าจะได้รับข่าวดีเกี่ยวกับนโยบายการเงินที่สามารถดำเนินได้อย่างต่อเนื่อง [TCAF Research]


แนวโน้มทองคำวันนี้
    เรามองว่านักลงทุนน่าจะยังกังวลปัญหาการเมืองในสหรัฐฯต่อไปอีกระยะหนึ่งในขณะที่การรับรองนายเบอร์นันกี้น่าจะส่งผลบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงรวมถึงทองคำ เราจึงมองว่า "ราคาทองคำน่าจะแกว่งตัวอยู่ในช่วงแคบ ก่อนปรับตัวแกว่งตัวขึ้นข้ามคืน" เราจึงแนะนำให้ "หยุดรอดูสถานการณ์ และปิดสถานะ SHORT ก่อนหมดวัน"


มุมมองทองคำ
    แนวโน้มเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวน่าจะมีความสำคัญที่สุดในช่วงนี้ ในขณะที่มาตรการต่างๆของมหาอำนาจก็น่าจับตามองไม่แพ้กันเนื่องจากอาจส่งผลต่อการรับความเสี่ยงของนักลงทุนและส่งผลต่อสถานะของทองคำได้



หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 28, 2010, 11:21:12 AM
สวัสดีค่ะพี่ทองใหม่  :)

ตอนนี้สุขภาพกายและใจเป็นยังไงบ้างคะ

ส่วนหนู...ไม่ค่อยดีเลยอ่ะ   :-\  ไม่รู้เพราะเครียดรึป่าว
ผมตอนนี้ยังดีอยู่ครับ แต่ยังเล่นทองไม่ค่อยได้ เพราะพอเครียดความดันก็จะขึ้นจ้า
ส่วนของคุณJeeraอาจเกิดจากความเครียดก็ได้นะครับ ลองดูแลความเครียดหน่อย อาจดีขึ้นก็ได้นะครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 28, 2010, 11:32:20 AM
กิมเอ็งโกลด์ฟิวเจอร์วันนี้
วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม 2010 เวลา 10:33 น. ทีมออนไลน์ ข่าวรายวัน - ข่าวในประเทศ   
User Rating: / 0
แย่ดีที่สุด
ราคาทองคำส่งมอบทันที ตลาดลอนดอน วานนี้อ่อนตัวลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 อีก US$10.20 หรือ 0.9% ปิดที่ US$1,087.50 /ounce หลังเฟดประกาศคงนโยบายการเงินต่างๆ ไว้

โดยเฉพาะการรับซื้อพันธบัตรรัฐบาลที่จะหมดอายุลงสิ้นเดือนมี.ค.นี้ เป็นการส่งสัญญาณการใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดตามมา สะท้อนเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ฟื้นตัวอย่างมีเสถียรภาพ ทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าเทียบกับยูโร และกดดันราคาทองคำทั้งทางตรงและทางอ้อม

การเคลื่อนไหวค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ วานนี้ทรงตัวที่ 33.02 บาท/US$ จากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าเทียบกับยูโร และเงินทุนไหลออกจากตลาดเงินและตลาดทุนไทยอย่างต่อเนื่อง ทำให้ค่าเงินบาทอยู่ในทิศทางที่อ่อนค่าลง

ปริมาณการซื้อขายทองคำล่วงหน้า ส่งมอบเดือนก.พ. หดตัวลงอีกครั้ง 29.2% หรือ 835 สัญญา และ OI ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลงเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 205 สัญญา หรือ 3.2% สะท้อนนักลงทุนส่วนใหญ่ไม่มั่นใจ ต่อทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงสั้นนี้ จึงทยอยลดสถานะการถือครองลง

หลังราคาทองคำในตลาดโลกปรับฐานลงต่ำกว่า US$1,090/ounce แล้ว เชื่อว่า ราคาทองคำจะยังอยู่ในทิศทางอ่อนตัวลงต่อเนื่อง จากภาวะการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงที่เป็น Bearish ต่อเนื่อง จากการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินเป็นเข้มงวดมากขึ้น ทำให้เกิดเงินทุนไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยง  เงินสกุลดอลลาร์กลายเป็นสกุลเงินที่ดีต่อการพักเงินชั่วคราว กดดันราคาทองคำทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยแนวรับถัดไปอยู่บริเวณ US$1,080 และ US$1,050 ตามลำดับ

กลยุทธ์การลงทุน : 1.ผู้ถือสถานะ Long ใน GFG10 ยืนยันทยอยปิดสถานะ เพราะคาดว่าราคาทองคำยังคงมี Downside Risk ที่เปิดกว้างอยู่ 2. ผู้ถือสถานะ Short ใน GFG10 แนะนำให้ถือสถานะข้ามวัน หรือหาจังหวะในการปิดบริเวณ 17,100 บาท หรือต่ำกว่า เพื่อทำกำไรช่วงสั้น 3. นักลงทุนใหม่ แนะนำ ?เปิดสถานะ Short  ใน GFG10 หาก GFG10 มีการขยับขึ้นสู่บริเวณ 17,300 บาท? และถือสถานะข้ามสัปดาห์

Turning Point:   GFG10 > 17, 350 บาท ปิด Short และ เปิด Long



หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Jeera ที่ มกราคม 28, 2010, 11:33:05 AM
สวัสดีค่ะพี่ทองใหม่  :)

ตอนนี้สุขภาพกายและใจเป็นยังไงบ้างคะ

ส่วนหนู...ไม่ค่อยดีเลยอ่ะ   :-\  ไม่รู้เพราะเครียดรึป่าว
ผมตอนนี้ยังดีอยู่ครับ แต่ยังเล่นทองไม่ค่อยได้ เพราะพอเครียดความดันก็จะขึ้นจ้า
ส่วนของคุณJeeraอาจเกิดจากความเครียดก็ได้นะครับ ลองดูแลความเครียดหน่อย อาจดีขึ้นก็ได้นะครับ

พยายามอยู่ค่ะ   :-[


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Cindy ที่ มกราคม 28, 2010, 12:19:48 PM
ทองตกแต่เงินดอลล์อ่อน ราคา nav ของ k gold เพิ่ม เอ่ออ่ะนะ คิดว่าจะได้ซื้อถูกกว่าซะอีก กลับซื้อแพง :(

ช่วงนี้มีแต่ความเครียดกันถ้วนหน้าเลยนะคะอาจารย์-นู๋เซนเซ :-\


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 28, 2010, 12:34:41 PM
http://www.thaigold.info/forum/index.php?topic=4852.880 (http://www.thaigold.info/forum/index.php?topic=4852.880)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: brabus ที่ มกราคม 28, 2010, 01:20:01 PM
ขอบคุณค่ะพี่ทองใหม่ ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Jeera ที่ มกราคม 28, 2010, 01:23:49 PM
ทองตกแต่เงินดอลล์อ่อน ราคา nav ของ k gold เพิ่ม เอ่ออ่ะนะ คิดว่าจะได้ซื้อถูกกว่าซะอีก กลับซื้อแพง :(

ช่วงนี้มีแต่ความเครียดกันถ้วนหน้าเลยนะคะอาจารย์-นู๋เซนเซ :-\

ดอยทุกอย่างเลยค่ะพี่ซินดี้   :'(  ทำตัวไม่ถูกเลย


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: paul711 ที่ มกราคม 28, 2010, 02:34:17 PM
ประเด็นสำคัญ
  - ราคาทองปิดร่วงหลังดอลล์พุ่ง ขณะจับตาผลประชุมเฟด
  - ดอลล์พุ่งสูงสุดรอบ 6 เดือนเทียบยูโร
  - ปัจจัยทางเทคนิคกดน้ำมันดิบร่วงลง
  - ดาวโจนส์ปิดบวกรับเฟดตรึงดอกเบี้ยใกล้ 0%

   ปิดต่ำลง 1.3% ในวันพุธ ในขณะที่ดอลลาร์แตะจุดสูงสุดรอบ 6 เดือนเมื่อเทียบกับยูโร และตลาดทองมีแนวโน้มที่จะมีการซื้อขายออปชันที่ผันผวนและมีการย้ายฐานสัญญาก่อนการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สัญญาทองส่งมอบเดือนก.พ.เคลื่อนตัวในช่วง 1,102.10-1,090.10 ดอลลาร์ เทรดเดอร์กล่าวว่า ตลาดมีความระมัดระวังก่อนการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของเฟดในวันพุธและวันครบกำหนดส่งมอบวันแรกในวันศุกร์ ดีลเลอร์กล่าวว่า เป็นไปได้ที่จะมีการระบายสัญญา ถ้าราคาร่วงลงต่ำกว่า 1,080-1,085 ดอลลาร์

   นักวิเคราะห์จากบริษัท R.F.Lafferty Inc. ในนิวยอร์กกล่าวว่า ตลาดทองคำถูกกดดันอย่างหนักหลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 0.3% เมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินหลักๆในตะกร้าเงิน นอกจากนี้ ภาวะซบเซาในตลาดหุ้นยังส่งผลให้นักลงทุนบางกลุ่มเทขายสัญญาทองคำเพื่อชดเชยการขาดทุนในตลาดหุ้น อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์จาก Investec Global Gold Fund คาดว่า ราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นแตะระดับ 1,300 ดอลลาร์/ออนซ์ในอีก 6 เดือนข้างหน้านี้ เนื่องจากดีมานด์ยังคงแข็งแกร่ง

   ตลาดมุ่งความสนใจไปที่การแถลงนโยบายประจำปีของปธน.โอบามาในเช้าวันพฤหัสบดีนี้ตามเวลาประเทศไทย รวมถึงการลงมติของวุฒิสภาสหรัฐเพื่อยืนยันการแต่งตั้งนายเบน เบอร์นันเก้ เป็นประธานเฟดสมัยที่ 2 ขณะที่วาระการดำรงตำแหน่งในปัจจุบันจะสิ้นสุดลงวันอาทิตย์นี้

    กองทุน SPDR Gold trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยว่าทางกองทุนได้ถือครองทองแท่งระดับ 1,111.922 ตัน ณ วันที่ 27 มกราคม 2553 ลดลง 0.914 ตัน จากวันที่ 15 มกราคม 2553

 กลยุทธ์ : ช่วงสัปดาห์นี้อาจจะเล่นในกรอบ 1,105 ? 1,078 US$ เพื่อเปลี่ยนแนวโน้มในปลายสัปดาห์ เลยแนะนำเป็นการเล่นเด้งระยะสั้นเท่านั้นในช่วงต้นสัปดาห์ปลายสัปดาห์น่าจะปรับฐานลงต่อเนื่องจากแรงกดดันทั้งค่าเงิน US$ แข็ง ERU$ อ่อนต่อเนื่อง
 


 :)  ขอบคุณครับคุณทองใหม่


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: brabus ที่ มกราคม 28, 2010, 03:10:44 PM
พี่ทองใหม่คะ อยากดูกราฟตาแป๊ะแต่เข้าไทยโกล์ดไม่ได้เลยค่ะ :-X


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: newa ที่ มกราคม 28, 2010, 03:49:28 PM
 ;D  ขอบคุณคุณทองใหม่ค่ะ  ขอให้สุขภาพแข็งแรงนะคะ    ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 28, 2010, 06:45:50 PM
?????????????? 1076 ?? 1093.22 - 1090.5/1089.5 - 1091.5/1092 - 1082.5/1081.5 - 1084.5/1085.5 - 1076.5/1075.5. ??? 1093.22 ??????????? 1090.5 ??????? 1098 ?? 1087.55 - 1093.22 - 1090.5/1089.5 - 1098/1099 ?? 1100/1101

กระดานคืนนี้ เป้าหมาย 1076 ร่องรอยดังนี้1093.22 - 1090.5/1089.5 - 1091.5/1092 - 1082.5/1081.5 - 1084.5/1085.5 - 1076.5/1075.5.  แต่ตอนนี้1093.22(ช่วงเวลาที่โพสที่เวปจีน) หากลงไม่ต่ำกว่า1090.5 ก็จะเป็นช่วงขึ้น เป้าหมายที่1098 ร่องรอยดังนี้
1087.55 - 1093.22 - 1090.5/1089.5 - 1098/1099 สุดขีดไม่เกิน 1100/1101

ดูเล่นๆ ข้อมูลจากเวปจีน ไม่รู้มีประโยชน์กับเพื่อนๆไหมนี่? เพราะจะมีประโยชน์บ้างกับคนที่เล่นออนไลน์เท่านั้น สงสัยจัง


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 28, 2010, 06:47:20 PM
พี่ทองใหม่คะ อยากดูกราฟตาแป๊ะแต่เข้าไทยโกล์ดไม่ได้เลยค่ะ :-X
ไปข้างนอกเพิ่งกลับมา ช่วงบ่ายจนเย็นผมก็เข้าไม่ได้เหมือนกันครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 28, 2010, 07:18:17 PM
SETพรุ่งนี้(29ม.ค.)ร่วงรับเสื้อแดง-อินเดียขึ้นดอก       
Thursday, 28 January 2010 17:25 
หุ้นไทยพรุ่งนี้ (29 ม.ค.2553) แดงเถือกรับข่าวลบเพียบ หลังนักลงทุนกังวลเสื้อแดงบุกกองทัพบก- กังวลธนาคารกลางอินเดียขึ้นดอกเบี้ย สั่งเกาะติดตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/52 มะกัน ดังนั้นกูรูแนะกลยุทธ์ รอดูสถานการณ์ ให้แนวรับ 680 จุด แนวต้าน 690 จุด

นางสาวมยุรี โชวิกรานต์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) กล่าวว่า ภาพรวมดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยในวันนี้ ดัชนีฯสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ในช่วงตลาดเปิดการซื้อขายช่วงเช้า แต่ไม่สามารถผ่านแนวต้านสำคัญที่ 700 จุดได้ และในการซื้อขายช่วงบ่าย ดัชนีฯปรับฐานค่อนข้างแรง เนื่องจากได้รับแรงกดดันส่วนหนึ่งจากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ที่เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้า จะมีการผ่อนคลายเกณฑ์ในการดูแลเงินทุนไหลออกมากขึ้น ซึ่งประเด็นดังกล่าวส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุน

นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีความวิตกกังวลต่อประเด็นการเมืองภายในประเทศ โดยวันพรุ่งนี้จะมีการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ที่หน้ากองบัญชาการกองทัพบก  อีกทั้งในวันพรุ่งนี้จะมีการประชุมของธนาคารกลางอินเดีย ซึ่งน่าจะเป็นประเทศแรกที่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จากภาวะเงินเฟ้อสูง ซึ่งนโยบายทางการเงินที่เข็มงวดมากขึ้น ก็เป็นอีกแรงกดดันหนึ่ง รวมทั้งจะมีการประกาศตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/2552 ของสหรัฐฯ ซึ่งยังเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุน ทำให้นักลงทุนลดพอร์ตลงทุนและหันมาถือเงินสดเพิ่มขึ้น สะท้อนจากปริมาณการซื้อขายที่ลดลง

ส่วนความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนี สเตรทไทม์:  ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ปิดตลาดที่ระดับ 2,757.68 จุด เพิ่มขึ้น 51.42 จุด หรือ 1.90 % ดัชนี ฮั่งเส็ง: ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดตลาดที่ระดับ 20,356.37 จุด เพิ่มขึ้น 323.30 จุด หรือ 1.61 % ดัชนี SHI:  ตลาดหุ้นจีน ปิดตลาดที่ระดับ 2,994.14 จุด เพิ่มขึ้น 7.54 จุด หรือ 0.25 % ดัชนี นิกเกอิ:  ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปิดตลาดที่ระดับ 10,414.29 จุด เพิ่มขึ้น 162.21 จุด หรือ 1.58 %

สำหรับแนวโน้มดัชนีฯในวันพรุ่งนี้(29 ม.ค.53) ประเมินว่า ดัชนีฯน่าจะอ่อนตัวลงต่อ จากปัจจัยลบที่สืบเนื่องจากวันนี้ ทั้งเรื่องการเมืองภายในประเทศ การเคลื่อนไหวชุมนุมของกลุ่ม นปช. ทั้งนี้ ต้องติดตามตัวเลขที่สำคัญทางเศรษฐกิจ โดยสหรัฐฯจะประกาศตัวเลขจีดีพี ซึ่งประเด็นดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อจิตวิทยาการลงทุน กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ wait & see หรือเปิดสถานะขายในสินค้า SET50 Futures โดยประเมินแนวรับอยู่ที่ 680 จุดและแนวต้านอยู่ที่ 690 จุด

 ด้านนางสาวอาภาภรณ์ แสวงพรรค รองผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส กล่าวว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยวันนี้ปรับตัวลดลง โดยเปิดตลาดซื้อขายช่วงเช้า ดัชนีฯรีบาวน์ขึ้น ก่อนมีแรงขาย เนื่องจากนักลงทุนเกิดความกังวลกับการชุมนุมของกลุ่ม นปช. ในวันพรุ่งนี้ และปัญหาความไม่แน่นอนทางการเมือง รวมถึง กรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ออกมาระบุว่าจะเริ่มผ่อนคลายเกณฑ์ในการดูแลเงินทุนไหลออกมากขึ้น

 นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลกับปัจจัยต่างประเทศ โดยเฉพาะกรณีที่ประเทศต่างๆเริ่มเข้มข้นมากขึ้น อาทิ ประเทศจีนที่ควบคุมการปล่อยสินเชื่อ ส่วนประเทศสหรัฐที่ออกมาตรการให้สถาบันการเงินงดลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง และในวันพรุ่งนี้จะมีการประชุมของธนาคารกลางอินเดีย ซึ่งจะมีการประชุมอัตราดอกเบี้ย ดังนั้น ควรติดตามปัจจัยข้างต้นอย่างใกลชิด เพราะจะส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

 สำหรับแนวโน้มของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยวันพรุ่งนี้มีแนวโน้มอ่อนตัวลง เนื่องจากช่วงนี้ปัจจัยลบยังกดดันตลาดฯอยู่ โดยเฉพาะ ปัญหาด้านการเมือง หลังจากกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จะนัดชุมนุมวันพรุ่งนี้ที่กองบัญชากองทัพบก อีกทั้งเสถียรภาพรัฐบาลเริ่มไม่แน่นอน จากกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีแนวโน้มนำไปสู่การยุบสภาฯ กลยุทธ์การลงทุน แนะนักลงทุนซื้อเมื่อดัชนีแตะระดับแนวรับที่ 680-670 จุด และประเมินแนวต้านไว้ที่ 683-695 จุด

 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 28, 2010, 07:21:41 PM
Gold Futuresพรุ่งนี้ทองรูดต่ำกว่า1,080เหรียญขาย       
Thursday, 28 January 2010 17:33 
นายคมสันต์ ปรมาภูติ รองผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง หรือ BLS เปิดเผยถึงการซื้อขายสินค้า Gold Futures ตลาดอนุพันธ์แห่งประเทศไทย (TFEX) ในวันนี้ว่า ราคาทองล่วงหน้าของไทยเคลื่อนไหวทรงตัว เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่สนับสนุน

แนวโน้มในวันพรุ่งนี้คาดว่าราคาทองล่วงหน้ายังมีโอกาสเคลื่อนไหวในระดับทรงตัวต่อ แต่อย่างไรก็ดีให้ติดตามค่าเงินดอลลาร์ประกอบกันอีกครั้ง เนื่องจากมีแนวโน้มแข็งค่าหลังจากภาพรวมของตลาดหุ้นปรับตัวลดลงอาจเป็นปัจจัยกดดันราคาทองล่วงหน้าให้ปรับตัวลดลงได้

ทั้งนี้ให้รอดูราคาทองโลกประกอบกัน หากปรับตัวลดลงต่ำกว่า 1,080 ดอลลาร์/ออนซ์ จะเป็นปัจจัยกดดันจิตวิทยาการลงทุนชัดเจน

กลยุทธ์การลงทุนแนะนำให้ชะลอการลงทุนก่อน แต่ถ้าราคาปรับตัวต่ำกว่า 1,080 ดอลลาร์/ออนซ์ ให้เปิดสถานะขาย ประเมินแนวรับที่ 17,180 บาท ส่วนแนวต้านประเมินไว้ที่ 17,400 บาท ในสัญญา GFG10 เดือนกุมภาพันธ์ 2553
 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Dakdae ที่ มกราคม 28, 2010, 08:52:44 PM
 ;) ;)ขอบคุณค่ะคุณครู


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 29, 2010, 06:40:53 AM
วิธีดูทิศทางทอง ต้าน๓----หนุน๓เป็นทิศทางทองที่จะเคลื่อนไหวในวันนี้ หากพุ่งทะลุต้าน๓หรือดิ่งทะลวงหนุน๓ แสดงถึงวันนั้นทองเคลื่อนไหวแรงเกินปกติ เส้นแดนเป็นเส้นที่จะแบ่งแยกทิศทางของทองที่จะขึ้นหรือลง หากทองเคลื่อนไหวอยู่ในทิศทางใดมากและนาน นั่นหมายถึงโอกาสเป็นไปได้มากที่ทองจะเคลื่อนไปในทิศทางนั้นๆ ในช่วงเวลานั้น (ยังต้องแบ่งออกในช่วงเวลาตลาดเอเซีย ยุโรป เมกาด้วย) ต้าน๑และหนุน๑หากถูกทดสอบแบบมีผล(ขึ้นลงมากกว่า๑ครั้ง)แล้วยืนอยู่ได้ นั่นคือทิศทางทองที่จะเดินต่อไปในช่วงเวลานั้น หากการวิเคราะเกิดขัดแย้งกันเมื่อไหร่ ให้หยุดมองดูอย่างเดียว ไม่ควรซื้อ-ขายในช่วงเวลานั้น แนวทางนี้เหมาะกับการเล่นสั้นมาก (เล่นแบบออนไลน์ในอนาคต) มีความแม่นยำถึง80%ครับ อีกอย่างข่าวปัจจัยพื้นฐานอาจเปลี่ยนทิศทางทองได้กะทันหันนะครับ
ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์กับการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย ถัาติดดอยเมื่อทองต่ำลงมา  หากยังมีเงินเหลืออยู่ ควรซื้อเพิ่ม เพิ่มที่ละนิด ต่ำอีกซื้ออีก เพื่อดึงต้นทุนที่สูงให้ต่ำลงมา ใครที่ยังไม่มีทองในมือควรทยอยซื้อเข้าอย่ามากนัก หากทองลงอีก เราก็ซื้ออีก ดีกว่าเวลาทองขึ้นเราไปไล่ซื้อในราคาที่สูง  จดจำเป็นคติเตือนใจว่า  เรามิอาจซื้อได้ในราคาที่ต่ำสุด และขายได้ในราคาที่สูงสุด ไม่มีการลงทุนใดที่ไม่เสี่ยง การบริหารพอร์ตให้ได้จังหวะ จะลดความเสี่ยงลงได้ครับ
กราฟสำคัญ ปัจจัยพื้นฐานก็สำคัญ จิตวิทยาการโน้มเอียงของคนก็สำคัญ สิ่งเหล่านี้หากเป็นไปในแนวเดียวกัน ก็จะมุ่งไปทางนั้น หากแย้งกันก็ต้องดูฝ่ายไหนเหนือกว่า.....ด้วยเหตุนี้ไม่มีนักวิเคราะห์คนใดที่จะทำนายได้แม่นยำตลอดกาลได้ครับ

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เส้นปากถุง(เส้นสีขาวทั้ง๓เส้น)แบบง่ายๆ ไม่ปวดเศียรเวียนเกล้า
เส้นบน---แนวต้าน
เส้นกลาง---แนวโน้ม(สำคัญสุด)
เส้นล่าง---แนวหนุน
ลักษณะที่๑---ทิศทางขึ้นเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น   เส้นกลางหันหัวขึ้น   เส้นล่างหันหัวลง
ลักษณะที่๒---ทิศทางขึ้นเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวขึ้น
เมื่อเจอลักษณะทั้ง๒นี้ ราคาระหว่างวันที่ขึ้นๆลงๆ เมื่อเจอจุดที่เห็นว่าต่ำแล้วให้ซื้อเข้าได้เลยครับ  ขอเพียงเส้นกลาง(แนวโน้ม)ยังหันหัวขึ้นอยู่ แม้ราคาเแท่งเทียนจะอยู่ต่ำกว่าเส้นกลาง ก็ยังซื้อเข้าได้ หากเส้นบนเดินขวางเมื่อไหร่ ให้ทยอยลดพอร์ตได้เลยครับ
ลักษณะที่๓---เลือกทิศทาง---เส้นบนหันหัวลง เส้นล่างหันหัวขี้น ปากถุงแคบลง ถึงช่วงนี้ ให้ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว หากใครยังคิดอยากเคลื่อนไหว ก็จงเคลื่อนไหวไปหน้าทีวี จงอย่าทำการอย่างอื่นใด หากใครเป็นจอมยุทธ์ ก็ชิงเคลื่อนไหวก่อนใครได้  
ขอแถมอีกนิด จงโฟกัสที่เส้นกลาง หากเส้นกลางเริ่มขยบหัวหัวขึ้นหรือลง ทิศทางอาจขึ้นหรือลงตามเส้นกลางแนวโน้มนั้น
ลักษณะที่๔---เคลื่อนไหวในกรอบแคบ---เส้นบน กลาง ล่าง เดินขวางทั้ง๓เส้น หากใครเล่นออนไลน์ สามารถเล่นได้เล็กน้อยอย่ามาก เมื่อราคาแท่งเทียนใกล้เส้นบน จงขาย ใกล้เส้นล่าง จงซื้อ ต้องเข้าออกให้ทันการณ์ หาไม่แล้วจากกำไรอาจขาดทุนได้นา ขอบอก
ลักษณะที่๕---ทิศทางลงเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น เส้นกลางหันหัวลง เส้ยล่างหัวหัวลง
ลักษณะที่๖---ทิศทางลงเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวลง  เมื่อเส้นล่างเดินขวางเมื่อไหร่ ผู้ที่ใจกล้าที่เล่นออนไลน์ เริ่มทยอยซื้อเข้าได้ที่ละนิด อัตราเสี่ยงยังมีอยู่บ้างนะครับ สิบอกไห่
วิธีดูเส้นปากถุงที่กล่าวมานี้ .....ไม่ใช่ตำราของฝรั่ง แบบของฝรั่งผมเคยอ่านมาบ้างแล้ว ยาวมาก ปวดหัว ทำความเข้าใจได้ยากมากๆๆๆๆ ...........เหมาะเฉพาะกราฟราย๔ชม.และช่วงปกติเท่านั้นนะครับ  (บางครั้งตลาดจงใจคึงขึ้นลงอย่าแรงๆ แทบหัวใจวายสำหรับผู้มีทองในมือและผิดทิศทางของตัวเอง เรียกว่า ช่วงไม่ปกติครับ)

(http://img121.imageshack.us/img121/8053/23260960.gif) (http://img121.imageshack.us/i/23260960.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 29, 2010, 06:42:27 AM
(http://img193.imageshack.us/img193/5255/10602613.gif) (http://img193.imageshack.us/i/10602613.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 29, 2010, 06:45:34 AM
กราฟGold 1
ช่อง1 เส้นแดงอยู่เหนือเส้นเขียว---ทิศทางขึ้น  ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น  สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นเขียวอยู่เหนือเส้นแดง---ทิศทางลง     ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นแดงและเขียวประสานเป็นกากะบาด ---กำลังจะเปลี่ยนทิศ ให้ดูเส้นแนวโน้มประกอบ  หากเส้นแดงและเขียวกำลังจะประสาน แต่ไม่ทันได้ประสานก็หันหันหัวกลับขึ้นหรือลง  แสดงว่ากำลังมีเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนี่งเกิดขึ้น หากขึ้นทะลุเส้นปะแนวต้าน ให้ดูเส้นปะแนวต้านเส้นต่อไป หากลงทะลุเส้นปะแนวหนุน ให้ดูเส้นแนวหนุนเส้นต่อไป   ส่วนจุดกลมเหลืองทอง---ทิศทางลง  จุดกลมฟ้า---ทิศทางขึ้น  หากกราฟวิ่งในยามปกติ พอเชื่อถือได้ หากกราฟวิ่งขึ้นลงแรงๆ คือยามไม่ปกติ ไม่อาจเชือถือได้
ช่อง2  ให้ดูเส้นสีม่วง ประกอบกับเส้นแนวโน้มในช่อง1 หากหันหัวไปในทิศทางเดียวกัน  โอกาสที่จะผิดพลาดก็มีน้อย  ส่วนเส้นปะสีเหลืองทองและฟ้า  หากขึ้นเหนือเลข80 เข้าสู่เขตซื้อเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ทุกเมื่อ  หากลงต่ำกว่าเลข20 เข้าสู่เขตขายเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ตลอดเวลา
ช่อง3   ให้ดูทั้ง2เส้น คือเหลืองทองและฟ้า หันหัวไปทิศทางเดียวกันหรือไม่  เท่านั้นยังไม่พอ  ให้ดูประกอบทิศทางในช่อง1ว่าเป็นทิศทางเดียวกันหรือไม่  หากทิศทางหันหัวในแนวเดียวกัน  ทิศทางนั้นเชื่อถือได้

(http://img695.imageshack.us/img695/7978/51802418.gif) (http://img695.imageshack.us/i/51802418.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 29, 2010, 06:56:49 AM
(http://img262.imageshack.us/img262/2874/54873122.gif) (http://img262.imageshack.us/i/54873122.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 29, 2010, 07:50:31 AM
การดูกราฟSETดัชนีไทย  และมาลงทุนในSET50 บางครั้งก็ใช่ว่าจะถูกต้องเสมอ ดังตัวอย่างนี้เป็นต้น
(http://img686.imageshack.us/img686/4656/set.gif) (http://img686.imageshack.us/i/set.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 29, 2010, 08:54:37 AM
ดอลลลาร์แข็งค่าฉุดทองคำปิดลบ 90 เซนต์
วันศุกร์ที่ 29 มกราคม 2010 เวลา 08:17 น. ณัฐญา เนตรหิน ข่าวรายวัน - ข่าวต่างประเทศ   
User Rating: / 0
แย่ดีที่สุด
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (28 ม.ค.) โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดลบ 90 เซนต์ แตะที่ระดับ 1,084.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,096.90-1,074.40 ดอลลาร์ ซึ่งราคาทองคำที่ลดลง เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ทำให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำ  ประกอบกับความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มภาคการธนาคารของสหรัฐ หลังจากประธานาธิบดีบารัค โอบามา ไม่ได้แสดงจุดยืนที่ชัดเจนในระหว่างแถลงนโยบายประจำปีเมื่อวานนี้

ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 16.212 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 22.80 เซนต์ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 1,493.90 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 1.80 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 413.35 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 3.40 ดอลลาร์


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 29, 2010, 08:55:23 AM
บาทเปิดตลาดที่33.15-33.17บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
วันศุกร์ที่ 29 มกราคม 2010 เวลา 08:39 น. ณัฐญา เนตรหิน ข่าวรายวัน - ข่าวในประเทศ   
User Rating: / 0
แย่ดีที่สุด
ธนาคารซีไอเอ็มบีไทยรายงานเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐเปิดตลาดวันนี้ (29 ม.ค.) ที่ระดับ 33.15-33.17 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลงจากเมื่อวานนี้ เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น โดยเมื่อ
วานนี้ (28 ม.ค.) เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 33.06-33.08 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 29, 2010, 10:14:26 AM
ประธานาธิบดีสหรัฐฯแถลงนโยบายเดินหน้าประกันสุขภาพ-จ้างงาน-ลดขาดดุล

Posted on Friday, January 29, 2010
ประธานาธิบดีสหรัฐฯแถลงนโยบายเดินหน้าประกันสุขภาพ-จ้างงาน-ลดขาดดุล

ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ แถลงนโยบายประจำปี (State of the Union) ต่อสภาคองเกรสและมีการถ่ายทอดสดทั่วประเทศสหรัฐในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาประเทศไทย โดยโอบามาให้คำมั่นสัญญาว่า จะเดินหน้าแผนการยกเครื่องระบบประกันสุขภาพ พร้อมกับเรียกร้องให้สภาคองเกรสผ่านร่างกฎหมายลดหย่อนภาษี และงบประมาณการใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการจ้างงาน

โอบามากล่าวว่า รัฐบาลต้องเร่งจัดการกับยอดขาดดุลงบประมาณที่เพิ่มขึ้นอย่างรุนแรง โดยคาดว่ายอดขาดดุลงบประมาณในปีนี้จะพุ่งขึ้นเป็น 1.35 ล้านล้านดอลลาร์ ด้วยเหตุนี้โอบามาจึงเตรียมจัดตั้งคณะกรรมการชุดเฉพาะกิจเพื่อดำเนินการในเรื่องนี้ ขณะเดียวกันโอบามายืนยันว่า เขาจะหาลู่ทางในการต่ออายุมาตรการลดหย่อนภาษีให้แก่ชนชั้นกลางที่จะสิ้นสุดลงในปลายปีนี้

โอบามายังกล่าวด้วยว่า รัฐบาลต้องมีความพร้อมที่จะรับมือกับความเสี่ยงและวิกฤตการณ์ต่างๆที่อาจส่งผลให้สหรัฐล้าหลังในตลาดโลก ขณะเดียวกันโอบามาได้กำหนดเป้าหมายระดับชาติของสหรัฐ โดยจะผลักดันให้การส่งออกของสหรัฐเพิ่มขึ้น 2 เท่าในช่วง 5 ปีข้างหน้า เพื่อช่วยสร้างงานในสหรัฐ และสัญญาว่าจะผลักดันการสรุปการเจรจาการค้าโลกให้ประสบผลสำเร็จ

โอบามากล่าวในแถลงนโยบายประจำปีว่า "ไม่อาจยอมรับได้หากสหรัฐจะน้อยหน้าประเทศอื่นในตลาดโลก ไม่ว่าจะยากเย็นเพียงใดและไม่ว่าจะต้องเผชิญกับอุปสรรคที่หนักหนามากเท่าใด แต่เราตระหนักว่านี่เป็นช่วงเวลาของการลงมือแก้ปัญหาทุกด้านที่จะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ"

โอบามากล่าวว่า นอกเหนือจากแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจแล้ว สิ่งที่เขาวิตกกังวลมากที่สุดในเวลานี้คือจำนวนชาวอเมริกันที่ตกงานอยู่มากกว่า 7 ล้านคนนับตั้งแต่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจเมื่อเดือนธ.ค.ปี 2550 โดยเขาย้ำว่านโยบายการสร้างงานจะเป็นเป้าหมายหลักสำหรับปี 2553 พร้อมกับเรียกร้องให้สภาพคล่องเกรสผ่านร่างกฎหมายกระตุ้นการจ้างงานฉบับใหม่

ทั้งนี้ โอบามากล่าวว่า สหรัฐมีแนวโน้มที่จะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านตำแหน่งในปีนี้ อันเนื่องมาจากกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมกันนี้โอบามายังได้เสนอการลดหย่อนภาษีสำหรับธุรกิจขนาดย่อมที่จ้างพนักงานใหม่หรือมีการปรับขึ้นค่าจ้าง และได้เสนอให้นำเงิน 3.0 หมื่น ล้านดอลลาร์จากมาตรการฟื้นฟูภาคการเงินมาช่วยเหลือบรรดาธนาคารชุมชน ในการปล่อยสินเชื่อให้แก่ธุรกิจขนาดย่อม

ส่วนในภาคการธนาคารนั้น โอบามากล่าวว่า เขาไม่มีความตั้งใจที่จะใช้บทลงโทษภาคธนาคารของสหรัฐ แต่เขายืนยันจะคัดค้านร่างกฎหมายปฏิรูปทางการเงินที่อ่อนแอเกินไป พร้อมกล่าวว่า การปฏิรูปทางการเงินที่ปราศจากการปฏิรูปที่แท้จริง จะถูกตีกลับไปยังสภาคองเกรสเพื่อปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น และยังกล่าวด้วยว่าสภาคองเกรสได้ดำเนินการเรื่องยกเครื่องภาคธนาคารมานานหลายเดือนแล้ว

ในด้านการควบคุมยอดขาดดุลงบประมาณนั้น โอบามาเสนอว่า ไม่ควรมีการปรับเพิ่มงบประมาณของโครงการบางโครงการของรัฐบาลเป็นเวลา 3 ปี ซึ่งจะทำให้มีการประหยัดงบประมาณได้ 2.0 หมื่นล้านดอลลาร์สำหรับปีหน้า นอกจากนี้ โอบามากล่าวว่าเขาจะไม่ต่ออายุมาตรการลดหย่อนภาษีสำหรับบริษัทน้ำมัน ผู้จัดการกองทุน และผู้ที่ทำรายได้เกิน 250,000 ดอลลาร์ต่อปีด้วย

นอกจากนี้ โอบามาให้คำมั่นสัญญาว่า จะถอนทหารรบทั้งหมดของสหรัฐออกจากอิรักภายในช่วงสิ้นเดือนส.ค.นี้ ส่วนการถอนกองทัพสหรัฐในอัฟกานิสถานนั้น จะเริ่มดำเนินการตามกำหนดในเดือนก.ค.


ตลาดหุ้นร่วงจากความกังวลกรีซ ? สัญญาณกำไรกลุ่มเทคโนโลยีน่าผิดหวัง

ปัญหาเรื่องหนี้ของกรีซสร้างความหนักใจให้กับนักลงทุนมากขึ้น เมื่อราคาพันธบัตรของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปแห่งนี้ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่รัฐบาลกำลังดิ้นรนในการแก้ปัญหาการขาดดุลงบประมาณที่อยู่ในระดับสูงกว่า 13% ของ GDP ซึ่งเป็นระดับที่สูงสุดในบรรดาชาติ EU

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของกรีซทะยานขึ้นไปกว่า 40 basis points เมื่อคืนนี้ ไปอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี ที่กว่า 7% และเมื่อไปดูที่อัตราค่าความเสี่ยง หรือ risk premium ซึ่งคำนวณจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรในประเทศเมื่อเทียบกับพันธบัตรของรัฐบาลเยอรมัน ตัวเลขก็พุ่งขึ้นไปถึงเกือบ 4% แล้ว ใกล้เคียงกับสถิติสูงสุดเมื่อเดือนตุลาคมปี 1998 ในช่วงที่เกิดการล้มของเฮดจ์ฟันด์รายใหญ่ อย่าง Long-Term Capital Management ที่เสี่ยงไปฝากความหวังไว้กับส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอย่างมาก

ทางด้านรัฐบาลเยอรมันและฝรั่งเศสก็ออกมาปฏิเสธรายงานของสื่อที่บอกว่า สมาชิกสหภาพยุโรปกำลังพิจารณาหาทางช่วยเหลือทางการเงินให้กับกรีซ ขณะที่จอร์จ ปาปันเดรอู นายกรัฐมนตรีของกรีซ (George Papandreou) ก็ออกมายืนยันหนักแน่นว่า กรีซไม่มีความต้องการที่จะกู้เงิน และไม่เคยมีการร้องขอใดๆ

และนอกจากเรื่องกรีซที่นักลงทุนกังวลว่าจะลุกลามกลายไปเป็นเรื่องใหญ่ในช่วงที่เศรษฐกิจยุโรปยังไม่แข็งแรงดีนี้ แรงขายในตลาดหุ้นทั้งที่สหรัฐและยุโรปเมื่อคืนนี้ก็มาจากความผิดหวังของการประกาศผลประกอบการจากยักษ์ใหญ่ในแวดวงไอทีโลก นั่นก็คือ บริษัท Qualcomm ที่เป็นผู้ผลิตชิพประมวลผลในเครื่องโทรศัพท์มือถือ

เช่นเดียวกับหุ้น Apple ที่ราคาร่วงลงกว่า 4% แม้บริษัทเพิ่งจะเปิดตัว Tablet PC ภายใต้ชื่อ iPad ไปเมื่อวันก่อน ขณะที่เริ่มมีผู้วิจารณ์ผ่านทางเว็บไซท์ถึงความสามารถในการใช้งานแบบ multitask และเรื่องของการเชื่อมต่อต่างๆ ที่ยังจำเป็นต้องมีการออกซอฟท์แวร์เพื่อมาแก้ไขในอนาคต

สำหรับอัพเดตตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ได้รายงานยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน ที่ไม่รวมหมวดขนส่ง ปรับตัวสูงขึ้นกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ขณะที่ตัวเลขในตลาดแรงงานกลับยังคงแผ่ว เมื่อดูจากจำนวนชาวอเมริกันที่มาขอใช้สิทธิสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ล่าสุด เพิ่มขึ้นสูงกว่าตลาดคาด


สภาพอากาศหนาวดันว่างงานเยอรมันขยับขึ้นเดือนม.ค.

ในช่วงที่ความหวังของเศรษฐกิจอเมริกากำลังมีแรงฮึดขึ้นมาหลังจากได้ยินคำแถลงนโยบายประจำปี หรือ State of the Union ของประธานาธิบดี บารัค โอบามา ที่พุ่งเป้าไปในเรื่องจุดหมายการสร้างงานในประเทศถึง 1.5 ล้านตำแหน่ง แต่ทางฝั่งเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ในยุโรป อย่าง เยอรมัน ก็กลับต้องเจอกับสถานการณ์ในตลาดแรงงานที่ดูแย่ลง

อัตราการว่างงานของเยอรมันปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบเจ็ดเดือน ตามการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่กำลังอ่อนแรงลง ขณะที่สภาพอากาศก็ยังไม่เป็นใจ ด้วยอุณหภูมิที่หนาวเย็นที่สุดในรอบ 23 ปี จนมีผลให้บรรดาร้านรวง ไปจนถึงบริษัทต่างๆ จำเป็นที่จะต้องลดจำนวนคนงานลง

หน่วยงานทางด้านแรงงาน (Federal Labor Agency) ระบุว่า คนเยอรมันที่ต้องออกจากงานในเดือนนี้เพิ่มขึ้นอีก 6,000 คน มาอยู่ที่ 3.43 ล้านคน และแม้ว่าตัวเลขจะต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่มองว่าคนตกงานจะเพิ่มขึ้นถึง 15,000 คน แต่อัตราการว่างงานในเดือนล่าสุดก็ยังเลี่ยงไม่ได้ที่จะขยับขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 8.2% แล้ว

เรนเนอร์ บรุเดอร์เล รัฐมนตรีเศรษฐกิจ (Rainer Bruederle) บอกว่า สถานการณ์ว่างงานที่กลับมาเพิ่มขึ้นกำลังเป็นตัวขัดขวางเศรษฐกิจของประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปแห่งนี้ แม้ว่าเพิ่งจะสะบัดหลุดออกมาจากความถดถอยเมื่อไตรมาสสองปีที่แล้ว

และแม้ว่าแนวโน้มภาคส่งออกของประเทศกำลังดูดีขึ้น แต่ความเชื่อมั่นของทั้งผู้บริโภคและนักลงทุนกลับหดตัวลงในเดือนนี้ ขณะที่การฟื้นตัวในภาพรวมก็ยังคงดูเปราะบาง

ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจัยภูมิอากาศที่หนาวจัดเป็นอุปสรรคขัดขวางเศรษฐกิจเยอรมันอย่างชัดเจนในไตรมาสนี้ ซึ่งจะเห็นได้จากการที่นักเศรษฐศาสตร์ของหอการค้า หรือ DIHK Chamber of trade and commerce ที่บอกว่า GDP ของประเทศอาจหดหายไปได้มากถึง 0.4% หลังจากได้มีการเปรียบเทียบถึงผลกระทบของสภาพภูมิอากาศในฤดูหนาวปี 2539 ที่พัดเงินในภาคก่อสร้างหายไปถึง 2,000 ล้านยูโร หรือราว 2,800 ล้านเหรียญ

อย่างไรก็ดี ทางด้านนักเศรษฐศาสตร์จากค่าย ING Group กลับมองในแง่ดีว่า จริงๆ แล้วต้องถือว่าเป็นข่าวดีที่ตัวเลขการว่างงานเพิ่มขึ้นไม่มาก แม้อาจจะเร็วเกินไปที่จะมองทุกอย่างให้ดูดีไปหมด ซึ่งตอนนี้ก็หวังได้แต่เพียงว่าตลาดแรงงานจะกลับมาทรงตัวได้ดีกว่าเดิมในช่วงกลางปีนี้ โดยเฉพาะจากมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐ


เปิดฉาก ?World Economic Forum? วันแรก

การประชุมเศรษฐกิจโลก หรือ ?World Economic Forum? ครั้งที่ 40 ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เปิดฉากขึ้นแล้วในวานนี้

บรรดา CEO ของสถาบันการเงินหลายแห่ง ซึ่งเข้าร่วมการประชุม ระบุว่า มาตรการจำกัดการทำธุรกรรมการเงินของสถาบันการเงินและธนาคารที่เกิดขึ้นจำนวนมาก อาจกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

ด้านผู้นำจีนยืนยันรัฐบาลจีนกำลังดำเนินนโยบายเพื่อผลประโยชน์ของเศรษฐกิจโลก โดยการรักษาค่าเงินหยวนต่อดอลาร์สหรัฐ ให้อ่อนค่า อีกทั้งยังประคองยอดเกินดุลการค้ามหาศาล 196,100 ดอลลาร์สหรัฐในปี 2552

จอร์จ โซรอส นักธนาคาร อภิมหาเศรษฐี ยังได้กล่าวสนับสนุนเสียงเรียกร้องของยุโรป และอเมริกาเหนือ ที่พยายามกระตุ้นให้ผู้นำจีนปรับค่าเงินหยวนให้แข็งขึ้นโดยนาย โซรอสบอกว่า ค่าเงินหยวนที่แข็งค่า จะส่งผลดีต่อจีน และโลก นอกจากนี้ ยังได้แสดงความสงสัยว่า รัฐบาลจีนจะสามารถสยบปัญหาฟองสบู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์ ที่กำลังฟูฟ่องในระบบเศรษฐกิจมังกรหรือไม่ และในการประชุมครั้งนี้ จีนได้ส่งรองนายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียง เข้าร่วมการประชุม

พร้อมกันนี้ ทางจีนก็ออกมาตอบโต้ในประเด็นค่าเงินว่า ขณะนี้ กลุ่มนักลงทุนแห่กู้ดอลลาร์ และนำทุนที่กู้มานั้นเข้าลงทุนในตลาดเกิดใหม่ ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยสูง เพื่อทำกำไร จากนั้นก็นำมาเก็บออมในรูปเงินดอลลาร์ และเรียกร้องให้วอชิงตันดูแลควบคุมนโยบายการเงินที่ย่อหย่อนของตน โดยเพิ่มค่าใช้จ่ายในการกู้ยืม และทุนต่างๆก็จะไหลออกจากตลาดเกิดใหม่อย่างรวดเร็ว กลับสู่ตลาดสหรัฐฯ


มูดีส์ชี้แนวโน้มบริษัทเอกชนในเอเชียแปซิฟิคปีนี้มีเสถียรภาพ

มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส เผยแนวโน้มของบริษัทเอกชนนอกภาคการเงินในเอเชียแปซิฟิค ซึ่งไม่นับรวมญี่ปุ่นและออสเตรเลีย จะยังคงมีเสถียรภาพในปีนี้ ขณะที่ปัจจัยแวดล้อมด้านการดำเนินงานและเศรษฐกิจมหภาคจะดีขึ้น

อลิซาเบธ อัลเลน รองประธานมูดีส์ กล่าวว่า มูดีส์คาดว่าบริษัทในเอเชียจะนำหน้าคู่แข่งฝั่งตะวันตกในเรื่องของการฟื้นตัวของธุรกิจ เนื่องจากเศรษฐกิจของหลายประเทศในเอเชียนั้นมีความยืดหยุ่นกว่าทวีปอื่นๆ ดังนั้นบริษัทในเอเชียจึงได้ย่างเข้าสู่ปี 2553 อย่างแข็งแกร่ง ซึ่งแนวโน้มที่เป็นบวกนี้สามารถเห็นได้ตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้ว

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า มูดีส์ได้จัดทำรายงานชื่อ Asia Pacific Corporate Outlook for 2010 -- The Worst is Over for Most โดยพิจารณาปัจจัยแวดล้อมและปัจจัยผลักดันบริษัทเอกชนในภูมิภาคซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือโดยมูดีส์

อย่างไรก็ตาม แกรี หลอ กรรมการผู้จัดการฝ่ายคอร์ปอเรท ไฟแนนซ์ของมูดีส์ในเอเชียกล่าวว่า แม้ว่าในช่วงเดือนธ.ค.2552 บริษัทส่วนใหญ่ในภูมิภาคนี้ได้รับการจัดอันดับแนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ แต่มูดีส์ก็จะยังไม่ปรับเพิ่มแนวโน้มเครดิตของบริษัทเหล่านี้เป็นเชิงบวก จนกว่าจะได้เห็นความแข็งแกร่งอย่างยั่งยืนของอันดับเครดิต

สำหรับปัจจัยท้าทายที่สำคัญของเศรษฐกิจเอเชียก็คือ กรอบเวลาในการถอนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล และหากเศรษฐกิจของจีน


จีนเรียกร้องทุกฝ่ายรักษาสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลี

โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนได้เรียกร้องให้ทุกฝ่ายช่วยกันรักษาสันติภาพและเสถียรภาพบนคาบสมุทรเกาหลี หลังจากที่เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ได้ยิงปืนตอบโต้กันบริเวณพรมแดนทางทะเลเมื่อวันพุธที่ผ่านมา

เกาหลีเหนือได้ยิงปืนใหญ่ในบริเวณทะเลใกล้กับเขตแดนของเกาหลีใต้ถึง 3 ครั้งตั้งแต่ โดยเกาหลีใต้ได้ตอบโต้การยิงปืนรอบแรกของอีกฝ่ายเมื่อวันพุธด้วยการยิงปืนใหญ่เพื่อเตือน และได้ส่งแถลงการณ์เตือนไป 2 ครั้งหลังจากที่เกาหลีเหนือได้ยิงปืนอีกครั้ง

ทั้งนี้ การยิงปืนของทั้ง 2 ฝ่ายไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต เนื่องจากทั้ง 2 ฝ่ายไม่ได้ยิงปะทะกัน

เกาหลีเหนือยิงปืนใหญ่บริเวณพรมแดนทางทะเลที่ติดกับเกาหลีใต้อีกครั้ง ในช่วงเช้าวานนี้ โดยรายงานระบุว่า เกาหลีเหนือได้เริ่มยิงปืนไปทางเกาะยอนเปียงของเกาหลีใต้ ส่วนปลอกกระสุนได้ตกลงในน่านน้ำของเกาหลีเหนือเอง


โตโยต้าเตรียมเรียกคืนรถ ในจีน-ยุโรป

โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป เผยจะเรียกคืนรถอเนกประสงค์รุ่น RAV4 ประมาณ 75,000 คันในจีน เนื่องจากรถรุ่นดังกล่าวอาจมีปัญหาที่คันเร่ง

ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจากที่โตโยต้าเพิ่งเรียกคืนรถในสหรัฐและแคนาดาจากปัญหาในลักษณะเดียวกันนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โตโยต้าได้เรียกคืนรถที่จำหน่ายในสหรัฐอเมริกาไป 2.3 ล้านคันเพื่อตรวจสอบปัญหาคันเร่งค้าง ก่อนที่จะเรียกคืนรถในสหรัฐเพิ่มอีก 1.09 ล้านคันในวันนี้ โดยประกอบด้วยรถถึง 8 รุ่น ไม่เว้นแม้แต่รุ่นคัมรี่ที่ติดอันดับทำยอดขายสูงสุดในสหรัฐ

นอกจากนี้บริษัทเตรียมเรียกคืนรถที่จำหน่ายในยุโรป หลังพบปัญหาที่คันเร่งและพรมปูพื้น โดยผู้จัดการของโตโยต้าประจำภูมิภาคยุโรปกล่าวว่า บริษัทยังคงอยู่ในระหว่างการตรวจสอบว่ามีรถของโตโยต้าในยุโรปรุ่นใดบ้างที่ใช้ชิ้นส่วนเดียวกับรถที่ถูกเรียกคืนจากสหรัฐ และขณะนี้บริษัทยังไม่ได้ระบุถึงจำนวนรถที่จะเรียกคืนจากยุโรปแต่อย่างใด

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่ประกาศออกมาเมื่อวานนี้ (พฤหัสบดีที่ 28 ม.ค. 2553 )
? ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ 470,000 ราย
? ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน (ธ.ค.) เพิ่มขึ้น 0.3% จากเดือนก่อนหน้า

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่จะประกาศออกมาวันนี้ (ศุกร์ที่ 29 ม.ค. 2553)
? ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศสหรัฐฯ (Q4/2009) โดยกระทรวงพาณิชย์
? ต้นทุนแรงงาน ( Q4/2009) โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ
? ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ม.ค.) โดย มหาวิทยาลัยมิชิแกน

ติดตาม Money Wake up ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ออกอากาศซ้ำเวลา 11.00 น. ทาง Money Channel
 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 29, 2010, 10:19:01 AM
29 ม.ค. 2553


สรุปภาวะตลาดเมื่อวาน
    ราคาโกลด์ฟิวเจอร์สปรับตัวขึ้นช้าๆในระดับต่ำกว่าเมื่อวันก่อน เช่นเดียวกับราคาทองคำสปอตที่แกว่งตัวรุนแรงเมื่อข้ามคืน ทองคำแท่งสมาคมฯปิดที่ 17,100/200 บาท เงินบาทอ่อนค่าตามดอลลาร์ที่แข็งขึ้น



ปัจจัยที่อาจส่งผลต่อเนื่องถึงวันนี้
    นักลงทุนยังกังวลเรื่องปัญหาของกรีซอย่างต่อเนื่องโดยเรามองว่านักลงทุนส่วนใหญ่ยังมองไม่ออกและไม่แน่ใจว่าปัญหาของประเทศกรีซจะส่งผลกระทบต่อกลุ่มยูโรได้หรือไม่ อย่างไร และจะมีทางออกเช่นใด พร้อมกับเริ่มมีความกังวลในปัญหารูปแบบใกล้เคียงกันจะเกิดขึ้นในประเทศเล็กๆอื่นอีกในยุโรป นักลงทุนจึงขายสินทรัพย์เสี่ยงออกมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่องเช่นกัน [Econoday, Bloomberg, TCAF Research]
    นายเบอร์นานกี้ ได้รับการรับรองเป็นประธานเฟดต่อไปอีกในสมัยหน้าเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วยคะแนนเสียง 70 ต่อ 30 ผลการลงคะแนนเสียงดังกล่าวถือเป็นการจำกัดความเสี่ยงจากปัญหาการเมืองในสหรัฐฯที่อาจเกิดขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนกลับเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงได้บ้าง [Reuters, TCAF Research]
    การเมืองในสหรัฐฯยังเป็นที่น่ากังวลอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะปีนี้เป็นปีเลือกตั้งและเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งหากนักการเมืองสนใจการเลือกตั้งมากกว่าปัญหาเศรษฐกิจก็อาจกดดันให้เศรษฐกิจสหรัฐฯฟื้นช้ากว่าที่คาดก็เป็นได้ [TCAF Research]
    นักลงทุนยังจับตามองกฎหมายปฏิรูประบบธนาคารของนายโอบามาอย่างจดจ่อ เนื่องจากหากกฎหมายดังกล่าวมีการบังคับใช้จริง อาจส่งผลกระทบต่อตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ได้อย่างรุนแรงโดยเฉพาะสถานการณ์ปัจจุบันที่มีวาณิชธนกิจเป็นผู้ค้าสัญญารายใหญ่จำนวนมาก [Reuters, TCAF Research]


แนวโน้มทองคำวันนี้
    ความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐฯน่าจะกดดันให้ราคาสินทรัพย์ต่างๆไม่สามารถปรับตัวรุนแรงได้เช่นกันจนกว่าจะมีทางออกที่ชัดเจน เราจึงมองว่า "ราคาทองคำน่าจะแกว่งตัวอยู่ในช่วงแคบ" เราจึงแนะนำให้ "หยุดรอดูสถานการณ์ และเล่นตามเมื่อราคาทองคำสปอตปรับตัวหลุดจากกรอบ $1,075~$1,101"


มุมมองทองคำ
    แนวโน้มเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวน่าจะมีความสำคัญที่สุดในช่วงนี้ ในขณะที่มาตรการต่างๆของมหาอำนาจก็น่าจับตามองไม่แพ้กันเนื่องจากอาจส่งผลต่อการรับความเสี่ยงของนักลงทุนและส่งผลต่อสถานะของทองคำได้


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 29, 2010, 10:20:48 AM
ประเด็นสำคัญ
   - ราคาทองปิดขยับลงหลังดอลล์บวก
   - ดอลล์/ยูโรพุ่งสูงสุด 6 เดือนครึ่งจากวิตกหนี้สินกรีซ
   - ดาวโจนส์ปิดร่วงกว่า 1% หลังผิดหวังผลประกอบการ
   - น้ำมันดิบปิดลบหลังหุ้นร่วง,อุปสงค์ชะลอตัว

     ราคาทองที่ตลาดสหรัฐปิดต่ำลงในวันพฤหัสบดี โดยแตะจุดต่ำสุดรอบเกือบ 3 เดือน ในขณะที่การแข็งค่าของดอลลาร์และความไม่แน่ใจเกี่ยวกับแนวทางของข้อเสนอของประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐในการจำกัดความเสี่ยงของธนาคาร ส่งผลกระทบต่อการซื้อขายทอง

     สัญญาทองส่งมอบเดือนเม.ย.เคลื่อนตัวในช่วง 1,096.90-1,074.40 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. ในขณะที่มีปริมาณการซื้อขายราว 272,616 สัญญา

     เทรดเดอร์กล่าวว่า ทองได้รับแรงกดดันจากการที่ดอลลาร์แตะจุดสูงสุดรอบ 6 เดือนเมื่อเทียบกับยูโรจากความวิตกด้านการคลังในเขตยูโรโซน

     ความวิตกที่ว่าธนาคารจะระบายสัญญาสินค้าโภคภัณฑ์ อันเป็นผลจากข้อเสนอของปธน.โอบามา กระตุ้นให้นักลงทุนทองลดความเสี่ยงในการลงทุน

     การที่วุฒิสภาสหรัฐลงมติยืนยันการแต่งตั้งนายเบน เบอร์นันเก้ เป็นประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สมัยที่ 2 นั้น แทบไม่มีผลต่อตลาดอัตราแลกเปลี่ยน ขณะที่นักวิเคราะห์กล่าวว่า การยืนยันดังกล่าวเป็นไปตามที่คาดกันไว้

     ข่าวที่ว่ากรีซจะไม่สามารถชำระหนี้จำนวนมหาศาลนั้นได้สร้างความวิตกให้กับนักลงทุนและกระตุ้นให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยงรวมถึงหุ้นออกมา แม้นายกรัฐมนตรีของกรีซเปิดเผยว่า กรีซยังไม่ได้ขอความช่วยเหลือก็ตาม

     กองทุน SPDR Gold trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยว่าทางกองทุนได้ถือครองทองแท่งระดับ 1,111.922 ตัน ณ วันที่ 28 มกราคม 2553 ลดลง 0.914 ตัน จากวันที่ 15 มกราคม 53

     กลยุทธ์ : ช่วงสัปดาห์นี้ได้เล่นในกรอบ 1,105 ? 1,078 US$ เพื่อเปลี่ยนแนวโน้มในปลายสัปดาห์ เลยแนะนำเป็นการเล่นเด้งระยะสั้นเท่านั้นในช่วงต้นสัปดาห์ และช่วงปลายสัปดาห์น่าจะปรับฐานลงต่อเนื่องจากแรงกดดันทั้งค่าเงิน US$ แข็ง ERU$ อ่อนต่อเนื่อง แนวรับถัดไป 1,078 และ 1,050 US$



หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: oyo ที่ มกราคม 29, 2010, 11:08:45 AM
ขอบคุณคุณทองใหม่คร๊าบบบบบ ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 29, 2010, 12:42:47 PM
http://www.thaigold.info/forum/index.php?topic=4852.930 (http://www.thaigold.info/forum/index.php?topic=4852.930)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ มกราคม 29, 2010, 02:39:20 PM
ขอบคุณค่ะคุณทองใหม่


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มกราคม 29, 2010, 03:32:23 PM
 :)ขอบคุณค่ะพี่ทองใหม่ ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 29, 2010, 07:58:10 PM
SETสัปดาห์หน้าลุ้น 700-แนะเก็งกำไร       
Friday, 29 January 2010 17:36 
หุ้นไทยสัปดาห์หน้า(1-5 ก.พ.2553) ยังไม่ถอดใจลุ้นรีบาวน์ แตะ 700 จุด แม้ปัจจัยลบรุมเร้า กูรูแนะเก็งกำไรระยะสั้น เชียร์เก็บหุ้นปันผลแจ่ม และหุ้นในกลุ่มพลังงาน-แบงก์-อสังหาฯ ที่ราคาก่อนหน้าร่วงเยอะ ให้แนวรับ 667-662 จุด แนวต้าน 710-720 จุด

         นางสาว ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ภาพรวมการลงทุนตลาดหุ้นไทยในวันนี้แกว่งตัวผันผวนค่อนข้างแรง  โดยตลาดฯฟื้นตัวได้ในการซื้อขายช่วงบ่าย ตามทิศทางการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในเชิงเทคนิค ดัชนีฯปัจจัยที่กดดันต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่เกิดขึ้นพื้นฐานของไทย ได้แก่ ประเด็นทางการเมืองภายในของไทย จากการที่พรรคประชาธิปัตย์ หรือปชป. เปิดเผยมติคณะกรรมการบริหารพรรค ว่ามีมติไม่ร่วมเข้าชื่อเพื่อยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ  ฉบับปี 50 โดยระบุว่าการยื่นญัตติดังกล่าวเป็นเรื่องของแต่ละพรรคการเมือง ซึ่งอาจส่งผลต่อแนวโน้มการยุบ
สภาฯได้ 


         ขณะเดียวกันยังรวมทั้งการเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. เพื่อทวงถามความชัดเจนเรื่องการปฏิวัติ ที่ชุมนุมหน้ากองบัญชาการกองทัพบกวันนี้ พร้อมทั้งระบุว่า ในวันที่ 2 ก.พ. นี้ จะไปชุมนุมที่กองทัพอากาศ จากนั้นในวันที่ 3 ก.พ.จะไปชุมนุมที่กระทรวงกลาโหม เพื่อทวงถามถึงกรณีการหนีเกณฑ์ทหารของนายกรัฐมนตรี และไปที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อสอบถามถึงความคืบหน้าในการพิจารณาคดีเงินบริจาค 258 ล้านบาทของพรรคประชาธิปัตย์
         ส่วนกรณีที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ผ่อนคลายกฎเกณฑ์ด้านปริวรรตเงินตรา รวมทั้งจะเปิดเสรีเงินทุนเคลื่อนย้ายเพิ่มเติมเพื่อช่วยให้การไหลเวียนของเงินทุนเคลื่อนย้ายมีความสมดุลมากยิ่งขึ้น นักวิเคราะห์มองว่า หากเป็นนโยบายที่สนับสนุนการไหลออกของเงินไม่น่าจะกระทบต่อบรยากาศการลงทุนมากนัก เนื่องจาก คาดว่าโดยหลักแล้วธปท. ต้องการที่จะดูแลในด้านการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทไม่ให้แข็งค่ามากเกินไปนัก แต่อย่างไรก็ดี หากค่าเงินบาทอ่อนค่ามากเกินไป อาจส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นออกไปก่อน เนื่องจากไม่ต้องการขาดทุนจากค่าเงิน   


        นอกจากนี้พบว่าปัจจัยภายนอกที่สะเทือนความรู้สึกของนักลงทุนเช่นเดียวกัน ได้แก่ กรณีที่นักลงทุนขายหุ้นกลุ่มธนาคารใตลาดหุ้นจีน เนื่องจากนักลงทุนหวั่นเกรงว่า จะมีธนาคารบางแห่งขายหุ้นเพิ่มทุนเพื่อคงอัตราส่วนกันสำรองตามกฎหมายให้ได้ตามเกณฑ์ของธนาคารกลางจีน  จากที่ล่าสุด ธนาคารไชน่าเมอร์แชนท์ส สถาบันการเงินขนาดกลางของจีนได้ประกาศแผนเพิ่มทุน 22 พันล้านหยวน หรือคิดเป็น 3.2 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นการสร้างความวิตกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกอีกครั้งหนึ่ง


      ส่วนความเคลื่อนไหว ตลาดหุ้นต่างประเทศ  ดัชนี สเตรทไทม์:  ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ปิดตลาดที่ระดับ 2,745.35 จุด ลดลง 12.33 จุด หรือ -0.45 % ดัชนี ฮั่งเส็ง:  ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดตลาดที่ระดับ 20,121.99 จุด ลดลง 234.38 จุด หรือ -1.15 % ดัชนี นิกเกอิ:  ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปิดตลาดที่ระดับ 10,198.04 จุด ลดลง 216.25 จุด หรือ -2.08 %


        สำหรับแนวโน้มดัชนีฯในสัปดาห์หน้า คาดว่าจะยังเคลื่อนไหวแกว่งตัว และมีโอกาสฟื้นตัวขึ้นในเชิงเทคนิคได้ โดยดัชนีฯมีแนวโน้มรีบาวน์แตะระดับ 700 จุด เนื่องจาก ดัชนีฯปรับตัวลดลงติดต่อกันมาเป็นระยะหนึ่ง แต่การปรับตัวขึ้นนั้นน่าจะไม่มากนัก เนื่องจาก ยังคงมีแรงกดดันหลักจากประเด็นทางการเมืองภายในประเทศ และความกังวลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกเป็นสำคัญ


        กลยุทธ์การลงทุน แนะนำให้เก็งกำไรระยะสั้นในหุ้นที่มีความเสี่ยงน้อย ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับหุ้นที่มีเงินปันผลดี ขณะที่หากดัชนีฯรีบาวน์แรงในบางวัน นักลงทุนสามารถเก็งกำไรในหุ้นที่ราคาปรับตัวลดลง อาทิ กลุ่มพลังงาน ธนาคาร และอสังหาริมทรัพย์


       ทั้งนี้ ประเมินแนวรับอยู่ที่  667-662 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 710-720 จุด ซึ่งแม้ดัชนีฯมีโอกาสที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุ 700 จุดนั้นได้ แต่ไม่ต้องติดตามว่าสามารถยืนเหนือ 700 จุดอยู่ได้หรือไม่

 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ มกราคม 29, 2010, 08:43:39 PM
GDPเมกาประกาศแล้ว ดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ดอลล์แข็งค่าขึ้นอีกครับ  


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: newa ที่ มกราคม 29, 2010, 08:56:54 PM
 :)  ขอบคุณค่ะคุณทองใหม่
      ทองคงร่วงต่อใช่ป่าวคะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2010, 08:30:51 AM
กระทู้โพสเมื่อเช้านี้หายไป2กระทู้ เกิดไรขึ้นมิทราบ แล้วจะโพสต่อได้ไหมเอย่?


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2010, 08:32:02 AM

กราฟตาแป๊ะซ้ายบน มีการเปลี่ยนแปลงนิดหนี่ง มีคำว่า  ตัวหนังสือสีเขียว ? ---ขาย และ  ตัวหนังสือสีแดง?----ซื้อ  เพิ่มเข้ามา ผสมเข้ากับกาฟตาแป๊ะช่องซ้ายบน
กราฟตาแป๊ะซ้ายบน ตัวหนังสือสีเขียว ? ---ขาย   ตัวหนังสือสีแดง?----ซื้อ  เส้นสีแดงหนา---ขาขึ้น เส้นสีเขียวหนา---ขาลงขวาบน  เส้นสีแดง---เสนอซื้มากกว่าเสนอขาย เส้นสีเขียว---เสนอขายมากกว่าเสนอซื้อ  ส่วนช่วงกลางที่มีแท่งสีแดงกับเขียวนั้น แท่งแดง---แรงซื้อขึ้น   แท่งเขียว---แรงขายลง
ขวาช่องสอง  แท่งเหลืองคู่เส้นแดง---ขาขึ้น   แท่งฟ้าคู่เส้นเขียว---ขาลง โดยปกติ ช่องนี้จะเปลี่ยนแนวโน้มช้ากว่าเพื่อน หากเปลี่ยนแนวโน้มเมื่อไหร่ เขาให้ขายออกหรือซื้อเข้าได้ทันที่ ยกเว้นมีปัจจัยพื้นฐานแรงๆแทรกเข้ามา จึงจะทำให้แนวโน้มกลับเปลี่ยนได้โดยกะทันหัน
ซ้ายช่องสอง หน้าเหลืองแป๊ะยิ้ม---ขาขึ้น หน้าแดงแป๊ะร้องไห้---ขาลง  แท่งสีเขียว---เพดาน   แท่งสีแดง---พื้นดินโดยปกติ ช่องนี้จะส่งสัญญาณว่า กำลังจะเปลี่ยนแนวทางแล้วนะ แต่ยังไม่เต็มร้อย อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยกะทันหันก็ได้ ต้องดูซ้ายบนและขวาช่อง๒ประกอบด้วย จึงจะให้ความมั่นใจได้
4กราฟล่างเป็นกราฟในชุดกราฟใหม่2010 เป็นกราฟที่เข้าใจง่ายเช่นเคย ไม่อธิบายก็คงเข้าใจไดนะครับ
ทอง
(http://img222.imageshack.us/img222/9137/67947012.gif) (http://img222.imageshack.us/i/67947012.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2010, 08:34:18 AM
ดัชนีเงินเมกา
(http://img43.imageshack.us/img43/5284/58260393.gif) (http://img43.imageshack.us/i/58260393.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2010, 08:36:56 AM
น้ำมัน
(http://img525.imageshack.us/img525/8703/53162579.gif) (http://img525.imageshack.us/i/53162579.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2010, 08:38:50 AM
ดัชนีไทยรายวัน
(http://img27.imageshack.us/img27/8711/89851584.gif) (http://img27.imageshack.us/i/89851584.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2010, 08:42:01 AM
ดัชนีไทยราย60นาที
(http://img14.imageshack.us/img14/8656/4a1j.gif) (http://img14.imageshack.us/i/4a1j.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2010, 08:42:15 AM
ดัชนีไทยราย60นาที
(http://img14.imageshack.us/img14/8656/4a1j.gif) (http://img14.imageshack.us/i/4a1j.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2010, 09:08:29 AM
ETFซื้อทองจ้า
(http://img9.imageshack.us/img9/7605/95647135.gif) (http://img9.imageshack.us/i/95647135.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Jeera ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2010, 09:23:02 AM
สวัสดีวันเสาร์ค่ะพี่ทองใหม่  :)

เมื่อคืนลุ้นกราฟตื่นเต้นมากเลยค่ะ

แต่ตอนเช้าเปิดมา...กลับไปยืนที่เดิม   :P


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: IPSUM ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2010, 09:26:05 AM
นึกว่าลุ้นอย่างอื่น  ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: newa ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2010, 09:34:57 AM
 ;D  ขอบคุณค่ะคุณทองใหม่

อยากให้กราฟรูปอื่น ๆ ขนาดใหญ่เท่ากราฟน้ำมันค่ะ  เห็นชัดดีค่ะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2010, 09:43:14 AM
;D  ขอบคุณค่ะคุณทองใหม่

อยากให้กราฟรูปอื่น ๆ ขนาดใหญ่เท่ากราฟน้ำมันค่ะ  เห็นชัดดีค่ะ
เวปgold2goldไม่รู้ว่าเป็นไร เวลาโพสภาพ เดี๋ยวภาพใหญ่เดี๋ยวภาพเล็ก ปวดหัวเลยเรา ฮา
หากภาพเล็กให้คิ๊กที่ภาพ จะมีหน้าต่างเกิดใหม่ ภาพยังเท่าเดิม ให้คิ๊กที่ภาพอีกครั้ง ภาพจะใหญ่ขึ้นครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2010, 09:44:35 AM
ทิศทางทองวันที่ 08/02/2010 
ต้าน๓ 1108.72.......xx
ต้าน๒ 1084.27
ต้าน๑ 1075.43
เส้นแดน 1059.82
หนุน๑ 1050.98
หนุน๒ 1035.37
หนุน๓ 1010.92??.xx
 วิธีดูทิศทางทอง ต้าน๓----หนุน๓เป็นทิศทางทองที่จะเคลื่อนไหวในวันนี้ หากพุ่งทะลุต้าน๓หรือดิ่งทะลวงหนุน๓ แสดงถึงวันนั้นทองเคลื่อนไหวแรงเกินปกติ เส้นแดนเป็นเส้นที่จะแบ่งแยกทิศทางของทองที่จะขึ้นหรือลง หากทองเคลื่อนไหวอยู่ในทิศทางใดมากและนาน นั่นหมายถึงโอกาสเป็นไปได้มากที่ทองจะเคลื่อนไปในทิศทางนั้นๆ ในช่วงเวลานั้น (ยังต้องแบ่งออกในช่วงเวลาตลาดเอเซีย ยุโรป เมกาด้วย) ต้าน๑และหนุน๑หากถูกทดสอบแบบมีผล(ขึ้นลงมากกว่า๑ครั้ง)แล้วยืนอยู่ได้ นั่นคือทิศทางทองที่จะเดินต่อไปในช่วงเวลานั้น หากการวิเคราะเกิดขัดแย้งกันเมื่อไหร่ ให้หยุดมองดูอย่างเดียว ไม่ควรซื้อ-ขายในช่วงเวลานั้น แนวทางนี้เหมาะกับการเล่นสั้นมาก (เล่นแบบออนไลน์ในอนาคต) มีความแม่นยำถึง80%ครับ อีกอย่างข่าวปัจจัยพื้นฐานอาจเปลี่ยนทิศทางทองได้กะทันหันนะครับ
ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์กับการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย ถัาติดดอยเมื่อทองต่ำลงมา  หากยังมีเงินเหลืออยู่ ควรซื้อเพิ่ม เพิ่มที่ละนิด ต่ำอีกซื้ออีก เพื่อดึงต้นทุนที่สูงให้ต่ำลงมา ใครที่ยังไม่มีทองในมือควรทยอยซื้อเข้าอย่ามากนัก หากทองลงอีก เราก็ซื้ออีก ดีกว่าเวลาทองขึ้นเราไปไล่ซื้อในราคาที่สูง  จดจำเป็นคติเตือนใจว่า  เรามิอาจซื้อได้ในราคาที่ต่ำสุด และขายได้ในราคาที่สูงสุด ไม่มีการลงทุนใดที่ไม่เสี่ยง การบริหารพอร์ตให้ได้จังหวะ จะลดความเสี่ยงลงได้ครับ
กราฟสำคัญ ปัจจัยพื้นฐานก็สำคัญ จิตวิทยาการโน้มเอียงของคนก็สำคัญ สิ่งเหล่านี้หากเป็นไปในแนวเดียวกัน ก็จะมุ่งไปทางนั้น หากแย้งกันก็ต้องดูฝ่ายไหนเหนือกว่า.....ด้วยเหตุนี้ไม่มีนักวิเคราะห์คนใดที่จะทำนายได้แม่นยำตลอดกาลได้ครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Cindy ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2010, 02:19:37 PM
สวัสดีค่ะอาจารย์ นู๋เซนเซ และคุณอิ๊ป หายไปหลายวัน หาทางเข้าบ้านไม่ได้เพราะติดอยู่บนดอย :P

ตอนนี้มีดอยให้อยู่หลายลูก คงต้องนอนบนดอยกันอีกนานเลยเป็นแน่แท้ ;D

มีใครอยู่บนดอยเดียวกันบ้างจ๊ะ ??? เหรอมีเราอยู่คนเดียวหว่า ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2010, 02:23:43 PM
สวัสดีค่ะอาจารย์ นู๋เซนเซ และคุณอิ๊ป หายไปหลายวัน หาทางเข้าบ้านไม่ได้เพราะติดอยู่บนดอย :P

ตอนนี้มีดอยให้อยู่หลายลูก คงต้องนอนบนดอยกันอีกนานเลยเป็นแน่แท้ ;D

มีใครอยู่บนดอยเดียวกันบ้างจ๊ะ ??? เหรอมีเราอยู่คนเดียวหว่า ;D
เข้าใจว่ามีเพื่อนไม่น้อยที่อยู่บนดอย อีกหน่อยคงได้ลงดอยหน่า.....ใจเย็นๆนะคร๊าบ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2010, 02:25:03 PM
วิธีหาแนวหนุนแนวต้าน ผมเคยโพสไว้ทั้งบ้านนี้และบ้านสมาคม เมื่อนานมากแล้วครับ ไม่ทราบว่ายังมีใครได้ใช้วิธีนี้บ้างหรือเปล่าเอ่ย.....

วันนี้มาแปลก เปิดกระทู้ขึ้นมาไม่เห็นเลข๓ตัว ฮาฮา วันนี้จะบอกวิธีหาแนวหนุนต้านให้เพื่อนๆ ให้อ่านพร้อมทำความเข้าใจอย่างช้าๆ อย่ารีบเร่ง
แล้วทำตามวิธีที่บอก ดังต่อไปนี้จ้า

วิธีคำนาณแนวหนุน-ต้าน
วิธีคำนวณ Pivot Pointsมีหลายวิธี, วิธีนิยมใช้มากสุดคือ วิธีคำนวณ๗จุดนี้.
อาศัยจุดสูงสุด ต่ำสุด และจุดปิดตลาด มาหาจุด pivot point(เส้นแดน) ให้หาจุดนี้ก่อน  จากนั้นค่อยไปหาจุดแนวหนุนต้านต่อไป  เสร็จแล้วโปรดรายงานด้วยนะกรัฟ

R -ต้าน, S - หนุน, H - จุดสูงสุดของวันก่อน, L - จุดต่ำสุดของวันก่อน, C - จุดปิดตลาดของวันก่อน,
P - เส้นแบ่งแดนหรือศูนย์กลาง

R3 = H + 2*(P - L)
R2 = P + (R1 - S1)
R1 = (P x 2) - L
P = (H + L + C) / 3
S1 = (P x 2) ? H
S2 = P - (R1 - S1)
S3 = L - 2*(H - P)

หากจะให้ละเอียดกว่านั้นอีกนิดหนึ่ง  เพราะบางครั้งตลาดอาจเปิดราคาของวันใหม่ที่สูงกว่าหรือต่ำกว่าที่ปิดตลาด ให้แก้ไขเพิ่มเติมดังนี้ครับ
P = (H + L + C+ ราคาเปิดตลาดของวันใหม่) / 4
ขั้นตอนต่อไปทำเหมือนเดิมกรัฟฟฟ


!10 !10 !10


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: prim ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2010, 08:29:30 PM


สวัสดีค่ะคุณทองใหม่   เข้ามาดูกราฟค่ะ   ขอขอบคุณสำหรับทุกกราฟเลยค่ะ   ขอให้พี่ร่ำรวยเงินทอง  สุขภาพแข็งแรงนะคะ   :)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Theephat ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2010, 09:24:59 PM
ขอบคุณคุณทองใหม่ครับ :)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2010, 07:59:38 AM
หนูมีคำถามเพื่อจะเอาไปประกอบการตัดสินใจค่ะ
1.เมื่อคืนก่อน  SPDR เริ่มช้อนไป 1.82 ตัน   ถือว่าซื้อไปเยอะหรือป่าวคะ อาจารย์ !54
2.หลายท่านมองลงเหมือนกันหมดในระยะนี้ บางท่านให้ความเห็นว่า อาจลงถึง 1020 9xx หรือใจร้ายกว่านั้น ที่ 8xx อาจารย์คิดว่าถ้าลงถึงขนาดนั้น อาจารย์คิดว่า ภายในปีนี้ พวกเราจะมีโอกาสได้เห็น ราคา 1160+- อีกมั้ยคะหรือ 17600 บาทขึ้นไปค่ะ เพราะอ่านบทวิเคราะห์หลายบทมาประกอบกัน(ดูกราฟไม่เป็นกำลังหัดดูอยู่ค่ะแต่งงไก่ตาแตก)หวาดเสียวค่ะ จะคัทดอยทิ้งแล้วช้อนใหม่กลัวไม่คุ้มเสียค่ะ
3.ตรุษจีนอาจารย์คิดว่าเราจะได้เห็น 17400-+ หรือ 16500-+ ค่ะ
4.หนูเข้ามาอ่านทุกวันเป็น 2 เดือนกว่าๆ แล้วแต่ก็ยังดูกราฟไม่เป็นสักอัน กะว่าจะหาความรู้สะสมไปเรื่อยๆก่อนที่จะเข้า สนาม gf ค่ะตอนนี้เล่นทองแท่งก็ติดดอยระเบิดเถิดเทิงแล้วค่ะ เคยคัทดอยทื้งแล้วซื้อหมูราคาที่ถูกกว่าเข้า แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ขาย หมูกลายเป็นดอยเพิ่มซะงั้น
5.ถ้าตรุษจีนราคาขึ้นพอได้ขายไม่ขาดทุนหนูจะรอค่ะ แต่ถ้าจากนี้ไปยังราคาไม่ดีดขึ้นหนูจะทำใจขายขาดทุนค่ะ(ราคาเฉลี่ยในพอร์ตอยู่ที่ 17200 บาทค่ะ 17400*40,17250*20,17100*20,16850*20)
6.ขอบคุณในความเสียสละของ คุณทองใหม่มากนะคะสำหรับทุกๆ อย่าง ที่เสียสละเพื่อพี่น้องชาวไทยโกลด์มาอย่างต่อเนื่อง ของให้คุณทองใหม่มีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้นเรื่อย ๆ ขอให้มีความสุขตลอดไปนะค่ะ ขอบคุณมากค่ะ แล้วหนูจะรอมาอ่านคำตอบค่ะ
ป.ล.หนูฝากเนื้อฝากตัวเป็นลูกศิษย์ อ.จิ๋ว และได้รู้ว่า อ.จิ๋ว ได้แนวคิดมาจาก คุณทองใหม่ และนับถือ คุณทองใหม่มาก งั้นหนูขอฝากเนื้อฝากตัวเป็นหลานศิษย์ด้วยคนนะค่ะ  !_323
นี่เล่นถามตอนตี4 ไม่หลับไม่นอนเลยนะ ระวังอาจไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพนะครับ
1.ซื้อแค่นี่ถือว่าน้อยมาก เขาเคยซื้อครั้งละ30-40ตันก็เคยมีมาแล้ว
2.นั่นเป็นคำทำนาย อาจจริงหรือไม่จริงก็ได้ "พวกเราจะมีโอกาสได้เห็น ราคา 1160+- อีกมั้ยคะหรือ 17600 บาทขึ้นไปค่ะ " ผมว่ามีโอกาสเห็นครับ
3."ตรุษจีนอาจารย์คิดว่าเราจะได้เห็น 17400-+ หรือ 16500-+ ค่ะ" ฮาฮา ใกล้แค่เอื่อม เห็น17400+ โอกาสมีมากครับ
4.เป็นคำเล่าสู่กันฟัง เลยไม่มีคำตอบ ฮา
5.เป็นคำเล่าสู่กันฟัง เลยไม่มีคำตอบ ฮา
6.ขอบคุณมากครับในคำอวยพร
แถมข้อ7. ฮาฮา คำตอบด้านบนเรื่องราคาทอง ก็เดาทั้งสิ้น ไม่มีใครรู้จริงได้ครับ ผมขอเดาต่ออีกว่า ในใจส่วนลึกๆของผม ออกจะสวนกระแสของท่านอื่นๆที่เห็นว่า ทองจะลงต่อในสัปดาห์หน้า ผมเห็นว่า ทองน่าจะขึ้นในสัปดาห์สุดท้ายก่อนตรุษจีนนี้ ด้วยเหตุผลง่ายๆตื้นๆ2ข้อ
1.กราฟที่ผมใช้อยู่ อยู่ในบริเวณของพื้นแล้ว แต่ไม่ใช่พื้นที่ต่ำสุด อาจยังมีโอกาสลงต่อได้อีกบ้าง หากลงอีกเมื่อถึงพื้นดินจริงๆ ผมไม่รู้มันจะลงได้อีกอย่างไร ยกเว้นเจาะรูลีกลงใต้ดิน ฮาฮา จากนั้นโอกาสที่จะขี้นมีมากกว่า       2.ใกล้ตรุษจีนเข้าทุกวันแล้ว ทุกปีฝรั่งมักจะขออั่งเปาจากชาวจีน โดยการยกราคาทองขึ้น เพื่อให้ชาวจีนได้ซื้อทองแพง ผมไม่ยักจะเชื่อ ยิ่งปีนี้ฝรั่งยิ่งจนๆกระเป้าฉีกอยู่ จะยอมละเว้นไม่ขออั่งเปาจากพี่น้องชาวจีน ฮาฮา เดาเช่นเคย เหตุผลตื้นๆนี้ของผมอาจเพี้ยนก็ได้ อ่านเล่นๆไม่ต้องจริงจังนะครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2010, 08:00:43 AM
ตามไปดู....ที่นี่มีคำตอบ ฮาฮา ...บางครั้งซื้อตามขาใหญ่อาจปลอดภัย แบบ..เดิมตามผู้ใหญ่หมาไม่กัด ฮาฮา แต่...บางครั้ง ขาใหญ่ก็หลอกหมาน้อยขึ้นดอยได้เหมือนกันนา ขอบอก[url]http://www.thairath.co.th/content/eco/62324[/url] ([url]http://www.thairath.co.th/content/eco/62324[/url])


นั่นสิครับอาจารย์ปู่ ผมว่าจะลองหาระบบเทรดตามกองทุนดูว่าจะเป็นยังไง อาจจะแบ่งเงินเป็น 10 กอง หรือ 100 เปอร์เซ็นต์ พอกองทุนซื้อ ก็ซื้อ 10 เปอร์เซ็นต์ กองทุนซื้ออีกก็ซื้ออีก 10 เปอร์เซ็นต์ พอกองทุนขาย ก็ขาย 10 เปอร์เซ็นต์ โดยไม่คำนึงถึงราคาทองคำในขณะนั้น ๆ เลย คล้าย ๆ ให้พอร์ตเราเหมือนเป็นกองทุนอันหนึ่ง ที่ซื้อของเข้า ๆ ออก ๆ ทีละ 10 เปอร์เซ็นต์ ตามการเข้าซื้อขายของกองทุน แล้วค่อยไปดูตอนปลายปีอีกทีว่าผลได้กำไรหรือขาดทุนอย่างไร ทั้งนี้ถ้าเราตั้งสมมติฐานว่ากองทุนจะไม่มีทางซื้อของแพงมาขายถูกแน่นอน และเมื่อการซื้อขายของกองทุนเป็นเครื่องนำตลาด พอร์ตของเราก็ต้องกำไรแน่นอนเหมือนกัน

อืม น่าลองเหมือนกันนิ
 !57

ใครเคยคิดบ้างไหมครับ ว่าอีทีเอฟเขาเอาเงินจากไหนมาซื้อทองมากมายมหาศาล จากก่อนหน้านี้ไม่กี่ปี อีทีเอฟมีทองอยู่ไม่กี่ร้อยตัน มาบัดนี้มีทองตั้งพันกว่าตัน หากถามคนเก่าก่อนที่เล่นทองมา เขาจะรู้กันว่า บางครั้งอีทีเอฟซื้อทองเข้า แต่ทองกลับลงเอ๊าลงเอา จนใครๆก็บอกว่าอีทีเอฟติดดอย อีทีเอฟอาจขำกลิ้งอยู่ก็ได้ ใครจะรู้ อีทีเอฟอาจแอบเอาเงินส่วนหนี่งไปเล่นทองมาร์จิ้น โดยซื้อทำกำไรขาลง ......พอจะถึงบางอ้อบ้างไหมนี่ ฝากเป็นการบ้านไปคิดเล่นๆครับ
ราตรีสวัสดิ์ บาย...



หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2010, 08:44:01 AM
สวัสดีครับอาจารย์ทองใหม่ ไม่ทราบว่าอาจารย์ทองใหม่เล่น gold spot หรือป่าวครับ คือผมสนใจอยากเล่น gold spot อะครับ พอมีที่ไหนแนะนำได้บ้างครับ ที่พี่ๆน้องๆในเวปเขาเล่นกันนะครับ ขอบพระคุณอย่างสูงครับ
ผมเล่นทองมาร์จิ้นที่สิงคโปร์ครับ ส่วนภายในประเทศยังไม่เป็นที่น่าเล่นนัก เพราะมักโกงราคาเหมือนสมาคมไม่ผิดเพี้ยนเลยครับ ได้ข่าวว่าสิ้นเดือนนี้จะมีบริษัทซื้อขายทองออนไลน์เกิดขึ้นใหม่ อดใจรออีกสักนิดจะดีกว่าครับ ส่วนทองGF หากไม่เข้าใจทองGFอย่างถ่องแท้ และเก่งพอที่จะเดาทิศทางทองข้ามคืนข้ามตลาดเมกาได้ +ไม่มีเงินหนาพอที่จะหนุนไม่ให้พร์อตแตกโดยการถูกปิดบัญชี โปรดอย่าได้ลงสนามเล่นกับเขาเลยครับ ได้ข่าวว่าในคืนวันพฤหัสฯที่ผ่านมา มีหลายท่านที่เล่นผิดทาง บาดเจ็บสาหัสเลยครับ ผมก็ได้แต่สงสารอย่างเงียบๆ ไม่รู้จะไปปลอบใจได้อย่างไรครับ เศร้า....


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: numcha ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 05:23:50 AM
 ;) ขอบคุณมากๆคะ  สำหรับบทวิเคราะห์และมุมมองต่างๆ คะ
ขอให้อาจารย์สุขภาพแข็งแรง  เฮง เฮง ตลอดปีนะคะ  laugh.gif


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 06:48:49 AM
เส้นปากถุง (BollingerBandsเส้นสีขาวทั้ง๓เส้น)แบบง่ายๆ ไม่ปวดเศียรเวียนเกล้า
เส้นบน---แนวต้าน
เส้นกลาง---แนวโน้ม(สำคัญสุด)
เส้นล่าง---แนวหนุน
ลักษณะที่๑---ทิศทางขึ้นเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น   เส้นกลางหันหัวขึ้น   เส้นล่างหันหัวลง
ลักษณะที่๒---ทิศทางขึ้นเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวขึ้น
เมื่อเจอลักษณะทั้ง๒นี้ ราคาระหว่างวันที่ขึ้นๆลงๆ เมื่อเจอจุดที่เห็นว่าต่ำแล้วให้ซื้อเข้าได้เลยครับ  ขอเพียงเส้นกลาง(แนวโน้ม)ยังหันหัวขึ้นอยู่ แม้ราคาเแท่งเทียนจะอยู่ต่ำกว่าเส้นกลาง ก็ยังซื้อเข้าได้ หากเส้นบนเดินขวางเมื่อไหร่ ให้ทยอยลดพอร์ตได้เลยครับ
ลักษณะที่๓---เลือกทิศทาง---เส้นบนหันหัวลง เส้นล่างหันหัวขี้น ปากถุงแคบลง ถึงช่วงนี้ ให้ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว หากใครยังคิดอยากเคลื่อนไหว ก็จงเคลื่อนไหวไปหน้าทีวี จงอย่าทำการอย่างอื่นใด หากใครเป็นจอมยุทธ์ ก็ชิงเคลื่อนไหวก่อนใครได้  
ขอแถมอีกนิด จงโฟกัสที่เส้นกลาง หากเส้นกลางเริ่มขยบหัวหัวขึ้นหรือลง ทิศทางอาจขึ้นหรือลงตามเส้นกลางแนวโน้มนั้น
ลักษณะที่๔---เคลื่อนไหวในกรอบแคบ---เส้นบน กลาง ล่าง เดินขวางทั้ง๓เส้น หากใครเล่นออนไลน์ สามารถเล่นได้เล็กน้อยอย่ามาก เมื่อราคาแท่งเทียนใกล้เส้นบน จงขาย ใกล้เส้นล่าง จงซื้อ ต้องเข้าออกให้ทันการณ์ หาไม่แล้วจากกำไรอาจขาดทุนได้นา ขอบอก
ลักษณะที่๕---ทิศทางลงเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น เส้นกลางหันหัวลง เส้ยล่างหัวหัวลง
ลักษณะที่๖---ทิศทางลงเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวลง  เมื่อเส้นล่างเดินขวางเมื่อไหร่ ผู้ที่ใจกล้าที่เล่นออนไลน์ เริ่มทยอยซื้อเข้าได้ที่ละนิด อัตราเสี่ยงยังมีอยู่บ้างนะครับ สิบอกไห่
วิธีดูเส้นปากถุงที่กล่าวมานี้ .....ไม่ใช่ตำราของฝรั่ง แบบของฝรั่งผมเคยอ่านมาบ้างแล้ว ยาวมาก ปวดหัว ทำความเข้าใจได้ยากมากๆๆๆๆ ...........เหมาะเฉพาะกราฟราย๔ชม.และช่วงปกติเท่านั้นนะครับ  (บางครั้งตลาดจงใจคึงขึ้นลงอย่าแรงๆ แทบหัวใจวายสำหรับผู้มีทองในมือและผิดทิศทางของตัวเอง เรียกว่า ช่วงไม่ปกติครับ)

(http://img525.imageshack.us/img525/7140/14480208.gif) (http://img525.imageshack.us/i/14480208.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 06:51:40 AM
กราฟGold 1
ช่อง1 เส้นแดงอยู่เหนือเส้นเขียว---ทิศทางขึ้น  ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น  สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นเขียวอยู่เหนือเส้นแดง---ทิศทางลง     ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นแดงและเขียวประสานเป็นกากะบาด ---กำลังจะเปลี่ยนทิศ ให้ดูเส้นแนวโน้มประกอบ  หากเส้นแดงและเขียวกำลังจะประสาน แต่ไม่ทันได้ประสานก็หันหันหัวกลับขึ้นหรือลง  แสดงว่ากำลังมีเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนี่งเกิดขึ้น หากขึ้นทะลุเส้นปะแนวต้าน ให้ดูเส้นปะแนวต้านเส้นต่อไป หากลงทะลุเส้นปะแนวหนุน ให้ดูเส้นแนวหนุนเส้นต่อไป   ส่วนจุดกลมเหลืองทอง---ทิศทางลง  จุดกลมฟ้า---ทิศทางขึ้น  หากกราฟวิ่งในยามปกติ พอเชื่อถือได้ หากกราฟวิ่งขึ้นลงแรงๆ คือยามไม่ปกติ ไม่อาจเชือถือได้
ช่อง2  ให้ดูเส้นสีม่วง ประกอบกับเส้นแนวโน้มในช่อง1 หากหันหัวไปในทิศทางเดียวกัน  โอกาสที่จะผิดพลาดก็มีน้อย  ส่วนเส้นปะสีเหลืองทองและฟ้า  หากขึ้นเหนือเลข80 เข้าสู่เขตซื้อเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ทุกเมื่อ  หากลงต่ำกว่าเลข20 เข้าสู่เขตขายเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ตลอดเวลา
ช่อง3   ให้ดูทั้ง2เส้น คือเหลืองทองและฟ้า หันหัวไปทิศทางเดียวกันหรือไม่  เท่านั้นยังไม่พอ  ให้ดูประกอบทิศทางในช่อง1ว่าเป็นทิศทางเดียวกันหรือไม่  หากทิศทางหันหัวในแนวเดียวกัน  ทิศทางนั้นเชื่อถือได้

(http://img706.imageshack.us/img706/4597/24323943.gif) (http://img706.imageshack.us/i/24323943.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 06:52:06 AM
Published in 2010-2-7 11:01 PM information personal space ???? Add as Friend 
??????? Golden Wave Theory


??????????? Last week, gold fell after the first bounce. ????????????1125.69???????????1049.19? Starting from the weekly maximum 1125.69 rose Wednesday after the fell to the lowest 1049.19 penned Friday. ????????1069??,????????????????? Gold has dropped past the 1069 level at this stage, it can confirm that taking gold in the medium-sized run waves. ????????????,???????1010-1040????? Gold is expected to decline again some small space and have the opportunity to fall to near the 1010-1040 level.
????????: Week wave theory analysis:
?????????????( I II )????III???????(5)???????4??????(c)?? Golden opportunity to continue to run the super-large section (I II) wave III within the first extension of big waves in subsection (5) extension of the wave in the 4th wave within a small extension (c) wave.
????:???24-10-2008???681.09?????????( I II )????III???????(5)????? Details are as follows: gold in the low 681.09 into operation 24-10-2008 mega section (I II) wave III within the first extension of big waves in subsection (5) extension of the wave. ??681.09?20-02-2009???1006.2??????( I II )????III???????(5)???????1????,?1006.2?17-08-2009???929.9??????( I II )????III???????(5)???????2????,?929.9?17-09-2009???1023.2??(5)???????3???????( i )???? 20-02-2009 from 681.09 to a high of 1006.2 for the super-large-scale section (I II) wave III within the first extension of big waves in subsection (5) extend in the first wave in an extension of the small waves, while the 1006.2-17 -- 08-2009 low of 929.9 for the super-large-scale section (I II) wave III within the first extension of big waves in subsection (5) extension of the wave in the first two extension of the small waves, and 929.9 to 1023.2 high 17-09-2009 purposes of subsection (5) extension of the wave in the first three waves within a small extension of the first (i) extension of waves. ?1023.2?29-09-2009???984.2??(5)???????3???????( ii )???,?984.2?14-10-2009???1069.3??(5)???????3???????( iii )???,?1069.3?29-10-2009???1026.59??(5)???????3???????( iv )???,?1026.59?03-12-2009???1226.59??(5)???????3???????( v )???,????????( I II )????III???????(5)???????3????? 29-09-2009 and the low level of 984.2 to 1023.2 for the first (5) extension of the wave in the first three waves within a small extension of the first (ii) extension of waves, while a high of 984.2 to 1069.3 for the 14-10-2009 section (5) extension of the wave in the first three waves within a small extension of the first (iii) extension of waves, while the 1069.3 low level of 1026.59 to 29-10-2009 for the first (5) extension of the wave in the first three waves within the extension of a small section (iv) extension of waves, while a high of 1026.59 to 1226.59 for the 03-12-2009 section (5) extension of the wave in the first three waves within a small extension of the first (v) extension of waves, and complete the super-large section (I II) waves to section III extended big waves in subsection (5) extension of the wave extension in the first three small waves. ?1226.59??????????????( I II )????III???????(5)???????4????????,???????? The 1226.59 up to now have the opportunity to super-large-scale section (I II) wave III within the first extension of big waves in subsection (5) extension of the wave extension in the first four waves of small wave that is down, and to extend the Long Run. ??1226.59?22-12-2009???1074.69??(5)???????4??????(a)?,?1074.69?11-01-2010???1161.59??(5)???????4??????(b)?,?1161.59??????????(5)???????4??????(c)?????? 22-12-2009 from 1226.59 to 1074.69 for the low (5) extension of the wave in the 4th wave within a small extension (a) waves, while a high of 1074.69 to 1161.59 for the 11-01-2010 section (5) extension of the wave in the 4th wave within a small extension (b) waves, while the 1161.59 up to now have the opportunity to subsection (5) extension of the wave in the 4th wave within a small extension (c) wave that is down waves. ????(5)???????4???????3??????,??61.8?1043? Is expected that this subsection (5) extension of the wave in the first four terms of section 3 to extend a small wave to extend a small wave calculation, taking 61.8 for 1043. ?????????1010-1040????? Therefore have the opportunity to gold dropped to near the 1010-1040 level. ???????(5)???????4?????,??????????( I II )????III???????(5)???????5????????? When the confirmation run to completion (5) extension of the wave 4 within the extension of small waves, the gold will run a super large section (I II) wave III within the first extension of big waves in subsection (5) extension of the wave in the first 5 to extend the small waves that rise in waves.

????: Investment Strategy:
?????? Mainly to wait and see.
??(?)???: Suppose (a) of the diagram:

โดยคำท้ายๆ---มีโอกาสลงถึงบริเวณ1010--1040   (หากเป็นอย่างที่เขาพูด คืนวันศุกร์ทองลงถึง1044แล้ว ถือว่าเป็นช่วงบริเวณที่เขาทำนายไว้โดยหลักการได้เหมือนกัน เพราะฉนั้น หากทองจะขึ้นเลยในตอนนี้ หรือจะลงต่อต่ำสุดในบริเวณ1010 ก็ยังถือว่าถูกต้องตามหลักเทคนิคของเขาครับ) ...จากนั้นก็จะเป็นคลื่นขยายย่อย--คลื่นขาขึ้น
(http://img171.imageshack.us/img171/6176/37528677.gif) (http://img171.imageshack.us/i/37528677.gif/)
(http://img685.imageshack.us/img685/3678/33774389.gif) (http://img685.imageshack.us/i/33774389.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 09:41:37 AM
ขอบคุณค่ะคุณทองใหม่   ปีนี้จะมีโอกาสเห็นทองที่1200อีกมั๊ยคะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 09:42:59 AM
รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ มั่นใจ สหรัฐฯไม่ถูกลดเครดิต

Posted on Monday, February 08, 2010
นายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ ABC ว่า สหรัฐไม่ได้อยู่ในความเสี่ยงจนถึงขั้นที่จะสูญเสียอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ AAA แม้คณะทำงานของประธานาธิบดีบารัค โอบามา คาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของสหรัฐจะสูงถึง 1.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2553 ก็ตาม

รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ย้ำว่า การลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯจะไม่มีทางเกิดขึ้น เพราะนักลงทุนยังเชื่อมั่นในพื้นฐานเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และยังมั่นใจว่า สหรัฐฯยังคงเป็นกลไกสำคัญในการพยุงเศรษฐกิจโลกให้ฟื้นตัวขึ้น ขณะที่ความเสี่ยงในการเผชิญกับภาวะถดถอยรอบสองนั้นก็ลดลงแล้ว เห็นได้จากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศในไตรมาส 4/52 ที่ขยายตัว 5.7% ทำสถิติพุ่งสูงสุดในรอบกว่า 6 ปี

นายไกธ์เนอร์ บอกด้วยว่า สหรัฐฯ วางแผนควบคุมยอดขาดดุลงบประมาณทันทีที่ตลาดแรงงานเริ่มฟื้นตัวขึ้น แต่ขณะนี้รัฐบาลจำเป็นต้องจัดสรรงบประมาณที่มุ่งเน้นเรื่องการสร้างงาน เนื่องจากตัวเลขจ้างงานในสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยร่างงบประมาณประจำปี 2553 มูลค่ารวม 3.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในจำนวนนี้ 25% จะมุ่งเน้นการสร้างงานเป็นหลัก
 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 09:46:37 AM
ขอบคุณค่ะคุณทองใหม่   ปีนี้จะมีโอกาสเห็นทองที่1200อีกมั๊ยคะ
ต้องดูว่าเศรษฐกิจเมกาจะพื้นตัวจริงไหม? แต่แค่1200คิดว่าโอกาสที่จะเห็นในปีนี้น่าจะยังมีอยู่ เดานะครับ ขอบอก


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Jeera ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 10:01:50 AM
สว้สดีค่ะพี่ทองใหม่   :)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 10:05:04 AM
 :)Good morning Kha


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 10:54:00 AM
(http://img20.imageshack.us/img20/1044/16616272.gif) (http://img20.imageshack.us/i/16616272.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 10:59:44 AM
(http://img519.imageshack.us/img519/9512/68790467.gif) (http://img519.imageshack.us/i/68790467.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 11:01:48 AM
อัตราว่างงานในสหรัฐฯลดลงต่ำสุดในรอบ 6 เดือน

Posted on Monday, February 08, 2010
สหรัฐเผยอัตราว่างงานลดลงแตะ 9.7%

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า อัตราว่างงานลดลงมาอยู่ที่ระดับ 9.7% ในเดือนมกราคม ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว

ขณะที่ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร หรือ Non-farm Payroll ลดลง 20,000 ตำแหน่งเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ซึ่งเมื่อย้อนดูกลับไปในเดือนธันวาคมตัวเลขดังกล่าวลดลงถึง 85,000 ตำแหน่ง ซึ่งตัวเลขทั้งสองเป็นสัญญานที่แสดงให้เห็นว่าตลาดแรงงานกำลังเริ่มพ้นจากจุดต่ำสุด ท่ามกลางสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ

ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหรัฐได้เข้าสู่ระยะฟื้นตัวทีละน้อยนับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2552 โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพี ในช่วงไตรมาส 4 ที่ผ่านมา ขยายตัวที่ระดับ 5.7% ต่อปี

อัตราว่างงานเดือนม.ค.ถือว่าเป็นบวกเมื่อเทียบกับระดับ 10.0% ในเดือนธ.ค.และพ.ย. และระดับ 10.2% ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2526 ที่อัตราว่างงานพุ่งแตะ 10.2% เช่นกัน

สำหรับตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนม.ค.นั้น แม้ว่าจะยังคงอยู่ในช่วงขาลง (อยู่ที่ 20,000 ตำแหน่ง) แต่ก็เป็นการลดลงในอัตราที่น้อยมากเมื่อเทียบกับที่ร่วงลงถึง 150,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค.

กระทรวงแรงงานระบุว่า ผู้ผลิตจ้างพนักงานเพิ่มเป็นครั้งแรกในรอบสามปี ตลอดจนเพิ่มชั่วโมงทำงาน และเพิ่มค่าจ้าง ซึ่งอาจส่งผลสืบเนื่องให้ผู้บริโภคใช้จ่ายมากขึ้น และจะนำไปสู่การขยายตัวอย่างยั่งยืนต่อไป โดยภาคการผลิตจ้างงานเพิ่ม 11,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. แต่ภาคการก่อสร้างลดการจ้างงานลง 75,000 ตำแหน่ง

ขณะที่ภาคบริการ ซึ่งปกติแล้วจะเป็นภาคที่ขับเคลื่อนการจ้างงานในสหรัฐ มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 40,000 ตำแหน่ง แต่ภาครัฐบาลเลิกจ้าง 8,000 ตำแหน่ง

สำหรับค่าจ้างเฉลี่ยต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นตัวชี้วัดเงินเฟ้อที่สำคัญ เพิ่มขึ้น 5 เซนต์ แตะ 18.89 ดอลลาร์ในเดือนม.ค.

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าอัตราว่างงานเดือนม.ค.จะทรงตัวที่ 10% และคาดว่าตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 15,000 ตำแหน่ง


ปัญหาหนี้กรีซกดดันหุ้น จับตา Toyota และยอดค้าปลีกสัปดาห์นี้

ตลาดหุ้นทั้งยุโรปและสหรัฐฯ ปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกันแล้ว จากปัจจัยการขาดดุลงบประมาณของกรีซ สเปน และโปรตุเกส ที่อาจทำให้มีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องฐานะความน่าเชื่อถือทางเครดิตต่อไป รวมถึงการลุกลามไปยังกลุ่มประเทศในภูมิภาค

ส่วนเรื่องใหญ่อีกเรื่องในสัปดาห์ที่แล้ว ที่อาจมีผลต่อเนื่องในสัปดาห์นี้ ก็คือ การที่ผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของโลก Toyota Motor กำลังเรียกรถคืนเพื่อมาปรับปรุงระบบคันเร่ง ด้วยตัวเลขรถคืนทั่วโลกที่ใกล้ถึง 8 ล้านคันแล้ว และทำให้มูลค่าตลาดของหุ้นหายไปกว่า 34,000 ล้านเหรียญ

โดยในสัปดาห์นี้ทางบริษัทบอกให้ดีลเลอร์ของตนจับตาความคืบหน้าในเรื่องระบบเบรกของรถรุ่น Prius โฉมปี 2010 ที่มีลูกค้าร้องเรียนว่ามีปัญหา แต่ Toyota กลับยังไม่ได้ตัดสินใจเรียกรถรุ่นดังกล่าวกลับเข้าไปแก้ไขแต่อย่างใด และยังไม่ได้ยอมรับรายงานที่มาจากสำนักข่าว Nikkei ของญี่ปุ่น ที่ระบุว่า ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตรถรายนี้จะดำเนินการเรียกรถ Prius จำนวน 270,000 คันทั้งที่ตลาดสหรัฐฯ และยุโรป กลับไปแก้ไขระบบซอฟท์แวร์

และก็ไม่ใช่แค่หุ้นที่ร่วงลงในสัปดาห์ที่แล้วเพียงแค่นั้น แต่สินค้าโภคภัณฑ์ ที่นำโดย น้ำมัน ก็ยังเจอกับแรงขายที่หนักพอๆ กัน จนทำให้ราคาน้ำมันดิ่งลงไปแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์แล้ว ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องความวิตกหนี้ของประเทศในแถบยุโรป ที่ทำให้ค่าเงินยูโรร่วงตกต่ำสุดในรอบ 8 เดือน แต่ยังถูกกดดันในแง่ของปัจจัยทางเทคนิค ที่บรรดาเทรดเดอร์มองว่าราคาได้หลุดลงจากระดับที่เป็นแนวรับสำคัญแล้ว คือ แถวๆ 72 และ 70.5 เหรียญ และกำลังเป็นสัญญาณขาย

สำหรับในสัปดาห์นี้ มีรายงานทางเศรษฐกิจสำคัญที่นักลงทุนควรติดตาม คือ ยอดค้าปลีกสหรัฐฯ ในเดือนมกราคม ที่เป็นอีกหนึ่งเครื่องชี้ที่จะบอกว่าเศรษฐกิจของประเทศมหาอำนาจแห่งนี้จะฟื้นตัวได้แบบไหน ซึ่งผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์จัดทำโดยสำนักข่าว Bloomberg คาดการณ์ว่า ยอดค้าปลีกที่กระทรวงพาณิชย์จะประกาศในวันพฤหัสฯ นี้ จะขยับขึ้น 0.3%

สัญญาณเรื่องยอดขายที่ดียังมาจากรายงานของทางห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ อย่าง Macy?s ที่สัปดาห์ที่แล้วออกมาบอกว่า ยอกขายของสาขาห้างตนเพิ่มขึ้น 3.4% ในเดือนมกราคม ด้วยแรงหนุนจากการซื้อสินค้าแบบออนไลน์ ขณะเดียวกัน ก็ยังบอกว่ากำไรในไตรมาส 4 ออกมาดีเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้


ที่ประชุม G7 เดินหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแม้ปัญหากรีซยังไม่จบ

การประชุมของรัฐมนตรีคลังของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ หรือ G-7 ที่จัดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่เมืองอิคาลูอิท (Iqaluit) ทางตอนเหนือของแคนาดา ประกาศตัดสินใจร่วมกันเดินหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ แม้ว่าในขณะนี้นักลงทุนจะดูเหมือนเข็ดขยาดกับการขาดดุลงบประมาณอันมหาศาลของหลายๆ ชาติที่ยุโรป

นายจิม ฟลาเฮอร์ตี (Jim Flaherty) รัฐมนตรีคลังแคนาดา เผยว่า ทางกลุ่ม G-7 ยังมีความจำเป็นที่จะต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตามที่ได้ตกลงกันไว้ พร้อมทั้งหามาตรการทางออก หรือ exit strategies เพื่อนำไปสู่สถานะการคลังที่มีความยั่งยืนมากขึ้น

รัฐบาลหลายแห่งขณะนี้กำลังเผชิญกับทางสองแพร่ง นั่นคือ การใช้นโยบายที่ต้องการความมั่นใจว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจกำลังดำเนินไปอย่างแข็งแกร่ง แต่ในเวลาเดียวกัน ก็กำลังเจอกับความเสี่ยงในเรื่องหนี้ของประเทศที่กำลังไต่สูงขึ้น และเป็นสิ่งที่นักลงทุนรู้สึกกังวลเป็นอย่างมากในเวลานี้

สถานการณ์ดังกล่าวเห็นได้จากต้นทุนการกู้ยืมของ 3 ประเทศในยุโรป อย่าง กรีซ โปรตุเกส และสเปน ที่สะท้อนผ่านสัญญาที่เรียกกันว่า Credit-default swaps กระโดดขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว แม้ว่ากรีซกำลังดิ้นรนอย่างหนักที่จะทำให้ตลาดการเงินเชื่อว่า ประเทศตนจะสามารถแก้ปัญหางบประมาณที่ติดลบในระดับที่สูงมากด้วยตัวของตัวเอง และไม่ต้องพึ่งความช่วยเหลือจากภายนอก

แต่กระนั้น เหล่ารัฐมนตรีคลังของประเทศในยุโรปกลับแสดงท่าทีที่ชัดเจนว่า ไม่ต้องการเห็นการลุกลามของวิกฤติการคลังในภูมิภาค และที่สำคัญยังต้องการความมั่นใจว่า กรีซจะสามารถรับมือกับสภาวะการขาดดุลได้

ล่าสุดประธานธนาคารยุโรป นาย Jean-Claude Trichet ได้ตอกย้ำด้วยความรู้สึกมั่นใจว่า กรีซจะสามารถหั่นงบประมาณขาดดุลให้ลงมาอยู่ในระดับที่ทาง EU กำหนดไว้ หรือที่ระดับ 3% ของ GDP ภายในปี 2555 จากที่อยู่สูงถึงกว่า 12% ในขณะนี้ ส่วนทาง Timothy Geithner จากสหรัฐฯ ก็เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ภาครัฐของยุโรปได้ตกลงกันจะดูแลกรณีของประเทศกรีซอย่างใกล้ชิด

นักวิเคราะห์จาก Deutsche Bank ออกมาเตือนว่า การเพิ่มขึ้นของต้นทุนรับประกันเงินกู้ของประเทศในยุโรป อาจเป็นสัญญาณอันตรายสำหรับประเทศที่มีปัญหาการขาดดุลงบประมาณในอัตราสูง อย่าง สหรัฐอเมริกาและอังกฤษด้วย โดยเฉพาะแนวโน้มที่แย่ลงภายหลังจากการเกิดวิกฤติการเงินโลกหนนี้


โพลล์เผยคนสนใจ ไอแพด แต่ไม่ซื้อ

ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดย Retrevo เว็บไซต์จำหน่ายสินค้าอิเล็คโทรนิคส์และเทคโนโลยี แสดงให้เห็นว่า การประกาศเปิดตัวแท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ที่หลายคนตั้งตารอ ในนาม "ไอแพด" ของแอปเปิล อิงค์ และการประโคมข่าวตามสื่อต่างๆ สามารถทำให้อุปกรณ์ใหม่นี้เป็นที่รู้จัก แต่กลับไม่สามารถมีแรงดึงดูดพอที่จะทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อหามาไว้ในครอบครอง

Retrevo ระบุว่า ผลสำรวจดังกล่าวมาจากการศึกษาผู้ใช้มากกว่า 1,000 รายด้วยการสุ่มเลือก โดยผลสำรวจชี้ว่า ประมาณ 48% ของผู้บริโภค กล่าวว่า ได้ยินได้ฟังเกี่ยวกับแท็บเล็ตของแอปเปิล ก่อนที่แอปเปิลจะเผยโฉมไอแพดอย่างเป็นทางการ และจำนวนของกลุ่มคนที่รู้จักไอแพดเพิ่มเป็น 82% หลังจากที่แอปเปิลประกาศเปิดตัวไอแพดในวันที่ 27 ม.ค. และจะเริ่มจัดจำหน่ายในเดือนมี.ค.นี้

ผลสำรวจยังพบว่า ก่อนการประกาศเปิดตัว ผู้ตอบแบบสอบถามที่ได้รับทราบเกี่ยวกับแท็บเล็ตของแอปเปิลจำนวน 26% ไม่ได้สนใจที่จะซื้อ แต่หลังเปิดตัวคนไม่สนใจจะซื้อมีจำนวนเพิ่มสองเท่าจาก 26% ไปเป็นประมาณ 52%

ยิ่งไปกว่านั้น ในบรรดาผู้ร่วมตอบแบบสอบถามภายหลังการเผยโฉมไอแพด ปรากฏว่า 61% กล่าวว่าพวกเขาไม่ต้องการไอแพด ซึ่งมากกว่าจำนวน 49% ก่อนการประกาศเปิดตัว

Retrevo กล่าวในบล็อกว่า ไม่เพียงแต่แอปเปิลจะไม่สามารถดึงดูดผู้ซื้อรายใหม่ได้แล้ว แอปเปิลยังอาจสูญเสียผู้ที่ตั้งตารอการเปิดตัวอุปกรณ์ดังกล่าว เนื่องจากพวกเขาเริ่มรู้สึกว่าไม่ต้องการแท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ของแอปเปิลแล้ว หลังจากที่ได้เห็นรูปลักษณ์ของไอแพด

ทั้งนี้ แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ไม่ใช่แนวคิดใหม่ที่แอปเปิลคิดได้เป็นเจ้าแรก โดยก่อนหน้านี้ หลายบริษัท อาทิ ไมโครซอฟท์ และฮิวเลตต์-แพคการ์ด ต่างพยายามที่จะเป็นผู้บุกเบิกตลาดนี้ แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากป้ญหาเรื่องขนาดที่เทอะทะ ปัญหาด้านเทคนิค และราคาที่สูง

การเปิดตัวแท็บเล็ต คอมพิวเตอร์โดยแอปเปิลจึงเป็นที่จับตามองอย่างมากและถูกตั้งความหวังเอาไว้สูง เนื่องจากแอปเปิลได้ชื่อว่าเป็นผู้บุกเบิกอุปกรณ์ไฮเทคดีไซน์เก๋มานักต่อนัก ไม่ว่าจะเป็น เครื่องแม็ค ไอพอด หรือไอโฟน

อย่างไรก็ตาม จากผลสำรวจดังกล่าวดูเหมือนว่า คราวนี้แอปเปิลอาจต้องเจองานหนักในการทำให้อุปกรณ์ใหม่ครองความนิยมได้เหมือนกับผลิตภัณฑ์ตัวก่อนๆ สมดังคำกล่าวอ้างของสตีฟ จ๊อบส์

ซีอีโอคนเก่งของแอปเปิลกล่าวว่า "ไอแพดคือการนำเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยที่สุดของเรามาใส่ในอุปกรณ์ที่แสนวิเศษและเป็นการปฏิวัติวงการ แถมยังมีราคาที่น่าเหลือเชื่อ" จ๊อบส์ กล่าว " ไอแพดจะสร้างสรรค์นิยามใหม่สำหรับอุปกรณ์ซึ่งจะเชื่อมโยงผู้ใช้กับแอพพลิเคชั่นและคอนเทนท์ในรูปแบบที่ใกล้ชิดและสนุกอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน"


จีนเก็บภาษีตอบโต้สหรัฐทุ่มตลาด

กระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยผ่านเว็บไซต์ว่า จะเรียกเก็บภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด (เอดี) ผลิตภัณฑ์ไก่ปรุงสุกนำเข้าจากสหรัฐ โดยระบุให้ผู้นำเข้าดำเนินการตามกฎข้อบังคับเบื้องต้น หลังจากขั้นตอนการตรวจสอบสินค้าเสร็จสิ้นลง มาตรการนี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 13 ก.พ. เป็นต้นไป

ทั้งนี้ กฎข้อบังคับเบื้องต้นของจีนกำหนดให้บริษัทนำเข้าผลิตภัณฑ์ไก่จากสหรัฐ ต้องจ่ายภาษีตอบโต้การทุ่มตลาดที่สำนักงานศุลกากร หลังจากกระทรวงพาณิชย์ตรวจพบว่า กลุ่มผู้ผลิตของสหรัฐมีพฤติกรรมทุ่มตลาดผลิตภัณฑ์ไก่ในตลาดจีน สร้างความเสียหายอย่างมากต่ออุตสาหกรรมของจีน

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์จีนประกาศขึ้นค่าธรรมเนียมแก่กลุ่มผู้ผลิตที่ยินยอมให้ความร่วมมือในการตรวจสอบการทุ่มตลาดเป็น 80.5% จากเดิม 43.1% และขึ้นค่าธรรมเนียมกับผู้ผลิตที่ไม่ยอมให้ความร่วมมือในการตรวจสอบเป็น 105.4% โดยการตรวจสอบมีขึ้นเมื่อวันที่ 27 ก.ย.ปีที่แล้ว

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้มีขึ้นหลังจากสหรัฐประกาศจัดเก็บภาษียางรถยนต์นำเข้าจากจีน เป็นการเพิ่มแรงกดดันต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่ค่อนข้างตึงเครียดในหลายประเด็น รวมถึงการที่สหรัฐกล่าวหาว่าจีนปล่อยเงินหยวนอ่อนค่าเกินไป ขณะที่จีนไม่พอใจที่สหรัฐขายอาวุธให้ไต้หวัน และนายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐ มีแผนพบกับ ทะไล ลามะ ผู้นำทิเบตพลัดถิ่น

นายแกรี ล็อก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ กล่าวเมื่ออาทิตย์ที่แล้วว่า สหรัฐหวังจะกระตุ้นการส่งออกด้วยการขยายเงินกู้แก่บริษัทต่างๆ จำกัดหลักการค้าที่ไม่เป็นธรรมในต่างประเทศ และเสาะหาโอกาสใหม่ๆ ให้กับบริษัทสหรัฐ

กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าขยายการส่งออกเพิ่มเป็น 2 เท่า ภายในเวลา 5 ปี เพื่อแก้ไขจุดบอดทางเศรษฐกิจ ที่บั่นทอนความสามารถในการแข่งขันของสหรัฐในต่างประเทศมานานหลายปี

นายล็อก กล่าวว่า รัฐบาลจะดำเนินการจับคู่บริษัทสหรัฐกับโอกาสลงทุนในต่างประเทศ และหวังว่าจะจัดสรรเงินทุนเพิ่มเติมประมาณ 6,000 ล้านดอลลาร์ สำหรับบริษัทสหรัฐที่ต้องการขยายตัวเข้าไปยังตลาดต่างประเทศในปีหน้า

พร้อมกับระบุว่า สหรัฐจะเข้มงวดมากขึ้นในการบังคับใช้กฎหมายการค้า หลังจากนายโอบามากล่าวเมื่อวันก่อนหน้านั้น ว่า สหรัฐจะเพิ่มแรงกดดันต่อจีนและประเทศอื่นๆ ให้เปิดตลาดในประเทศมากขึ้น

ขณะเดียวกัน ไต้หวันเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า กองทัพอากาศไต้หวันจะได้รับเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ 3 ลำ จากยูโรคอปเตอร์ บริษัทในเครือ แอร์บัส ผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่แห่งยุโรป อันเป็นความเคลื่อนไหวที่นักวิเคราะห์เกรงว่าจะสร้างความไม่พอใจแก่จีน ซึ่งอยู่ระหว่างต่อต้านการตัดสินใจของสหรัฐ ที่จะขายยุทโธปกรณ์ทางทหารให้แก่ไต้หวัน มูลค่าประมาณ 6,400 ล้านดอลลาร์


คาดเศรษฐกิจจีนปีนี้ขยายตัวที่ 10% จากการลงทุน

สถาบันวิจัยชั้นนำของจีนคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะสามารถฟื้นตัวได้อย่างสดใสในปีนี้ จีดีพีที่ระดับ 10% ต่อปี

รายงานจากสำนักงานพยากรณ์เศรษฐกิจของสถาบันด้านวิทยาศาสตร์จีนระบุว่า เศรษฐกิจจีนจะได้รับปัจจัยขับเคลื่อนการขยายตัวจากสามภาคส่วนหลักๆด้วยกัน ได้แก่ ภาคการลงทุน ซึ่งคาดว่าจะสามารถกระตุ้นการเติบโตของจีดีพีได้ 6.3% ขณะที่ภาคการบริโภค จะช่วยหนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจได้ที่ระดับ 4.2% และภาคการส่งออกจะช่วยหนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจได้ที่ระดับ 0.5%

บรรยากาศด้านการลงทุนจะยังคงฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องจากอานิสงส์ของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลจีนที่มุ่งเน้นภาคอุตสาหกรรมการเกษตร การคมนาคมขนส่ง และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ของประชาชน

นอกจากนี้ การค้าขายกับต่างประเทศจะขยายตัวได้ดีไม่แพ้กัน หลังจากที่เศรษฐกิจในหลายประเทศเริ่มหลุดพ้นจากภาวะถดถอย ขณะที่อุปสงค์ต่างประเทศเริ่มกลับมาคึกคักขึ้น

ขณะเดียวกัน รายงานระบุว่าจีนมีมูลค่าการค้าโดยรวมกับต่างประเทศเพิ่มขึ้น 17.6% ต่อปี โดยมียอดส่งออกที่พุ่งขึ้น 16.6% และยอดนำเข้าที่ขยายตัว 18.9%

สำนักข่าวซินหัวรายงานอ้างข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีนที่ระบุว่า เศรษฐกิจจีนในปีที่ผ่านมาขยายตัวได้ 8.7% จากปัจจัยหนุนของอัตราการขยายตัวด้านการลงทุนที่มีส่วนช่วยหนุนตัวเลขจีดีพีอยู่ 8%

ขณะที่การบริโภคช่วยกระตุ้นจีดีพีได้ 4.6% แต่การส่งออกฉุดรั้งการขยายตัวของจีดีพีลง 3.9% เพราะได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ต่างประเทศที่ซบเซา


อิหร่านเดินหน้าเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียม

ประธานาธิบดีมาห์มุด อามาดิเนจ๊าดของอิหร่านได้สั่งการให้องค์การพลังงานปรมาณูของอิหร่าน (AEOI) เริ่มดำเนินการผลิตเชื้อเพลิง 20% เพื่อใช้ในการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียม

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้มีขึ้นหลังจากที่นายมานูเชอร์ มอตตากี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน กล่าวว่า อิหร่านใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลงกับประเทศมหาอำนาจของโลกเกี่ยวกับการส่งแร่ยูเรเนียมที่ได้รับการเสริมสมรรถนะของอิหร่านไปยังต่างประเทศเพื่อแลกเปลี่ยนกับพลังงานนิวเคลียร์

อย่างไรก็ตาม สหรัฐและชาติพันธมิตรหวั่นเกรงว่า อิหร่านกำลังพยายามพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ แม้ว่าอิหร่านจะยืนกรานว่าโครงการนิวเคลียร์ของประเทศมีวัตถุประสงค์เพื่อสันติ


โตโยต้าเตรียมเรียกคืนพรีอุสในญี่ปุ่น 170,000 คัน

โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป ตัดสินใจเรียกคืนรถพรีอุส ไฮบริดที่จำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นอย่างน้อย 170,000 คัน หลังได้รับร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาที่ระบบเบรคของรถรุ่นดังกล่าวจากผู้ใช้ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งทางบริษัทจะดำเนินการซ่อมแซมระบบเบรคให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

โตโยต้าจะรายงานแผนการดังกล่าวให้ทางกระทรวงที่ดิน สาธารณูปโภค การขนส่งและการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นรับทราบก่อนที่จะประกาศต่อสาธารณะต่อไป

ในประเทศญี่ปุ่นนั้น ผู้ผลิตรถยนต์จำเป็นต้องรายงานแผนการเรียกคืนรถต่อทางกระทรวงฯ หากพบว่ารถยนต์ที่ผลิตออกมาไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัยอันเกิดจากปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบและระบบการผลิต

ทั้งนี้ นอกเหนือจากแผนการเรียกคืนรถที่จำหน่ายในญี่ปุ่นแล้ว โตโยต้ายังได้แจ้งให้ดีลเลอร์ในสหรัฐรับทราบถึงแผนการแก้ไขระบบเบรคของรถรุ่นพรีอุส ไฮบริด ในสัปดาห์หน้า


ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่ประกาศออกมาเมื่อวานนี้ (ศุกร์ที่ 5 ก.พ. 2553)
? การจ้างงานนอกภาคเกษตร (ม.ค.) ลดลง 20,000 ตำแหน่ง จากเดือนก่อนหน้า
? อัตราการว่างงาน (ม.ค.) อยู่ที่ระดับ 9.7%

ติดตาม Money Wake up ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ออกอากาศซ้ำเวลา 11.00 น. ทาง Money Channel
 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Belmont ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 11:09:37 AM
ขอบคุณ พี่ทองใหม่ ครับ
 angel.gif


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: oyo ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 11:29:46 AM
ขอบคุณคุณทองใหม่ครับ ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 12:10:23 PM
เว็บฝากรูปวันนี้ไม่ค่อยดี ตามไปดูกราฟที่นี่ดีกว่าครับ
http://www.thaigold.info/forum/index.php?topic=4852.1300 (http://www.thaigold.info/forum/index.php?topic=4852.1300)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sara80 ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 12:22:36 PM
สวัสดีค่ะ พี่ทองใหม่ angel.gif

ซาร่าไม่ได้เข้าเว็บนาน แวะมาสวัสดีค่ะ  :D

สบายดีนะคะช่วงนีี้ รักษาสุขภาพด้วยค่ะ

ปล ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีดีที่มีให้ตลอดมาค่ะ  :)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 12:44:25 PM
08 ก.พ. 2553



สรุปภาวะตลาดเมื่อวาน
ราคาโกลด์ฟิวเจอร์สแกว่งตัวลงระหว่างวัน ตามราคาทองคำสปอตที่ปรับตัวลดลงรุนแรงเมื่อคืน ทองคำแท่งสมาคมฯปิดที่ 16,750/850 บาท เงินบาทเริ่มทรงตัว


ปัจจัยที่อาจส่งผลต่อเนื่องถึงวันนี้
       ปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรปทั้งของกรีซ โปรตุเกส และ สเปน ยังคงกดดันราคาทองคำและสินทรัพย์เสี่ยงต่างๆอย่างต่อเนื่อง
       รายงานตลาดแรงงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนมกราคมออกมาไม่ชัดเจนเท่าใดนัก โดยที่มีผู้ว่างงานสุทธิเพิ่มเติมอีก 20,000 ตำแหน่ง ในขณะที่อัตราการว่างงานกลับออกมาดีขึ้นผิดคาด ทำให้ตีความได้สองแง่คือผู้ที่ว่างงานต่อเนื่องอาจหันไปทำกิจการของตนได้บ้าง หรือผู้ที่ว่างงานต่อเนื่องอาจเบื่อหน่ายกับการหางานต่อก็ได้ รายงานดังกล่าวจึงสร้างความผันผวนให้สินทรัพย์เสี่ยงได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามอัตราการว่างงานที่ลดลงเป็นการแสดงให้เห็นถึงเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ไม่ได้แย่ดังที่นักลงทุนได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านัก  [Econoday, TCAF Research]
       นายไกธ์เนอร์ออกมาให้คำรับรองต่อนักลงทุนว่าสหรัฐฯไม่น่าจะถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือลงได้ ทั้งจากความเชื่อมั่นที่นักลงทุนยังมีให้กับดอลลาร์สหรัฐในระยะสั้น และจากนโยบายระยะสั้นที่รัฐบาลเตรียมตัวลดการใช้จ่ายทันที่ที่ตลาดแรงงานสามารถฟื้นคืนได้  [Bloomberg, TCAF Research]
       จากเหตุการณ์ต่างๆดังกล่าวถึงแม้ว่าจะคลายความกังวลได้บ้าง แต่นักลงทุนยังกลัวความเสี่ยงในระยะสั้น จึงไม่สามารถผลักดันให้ราคาทองคำกลับบวกขึ้นมาได้มากนัก

แนวโน้มทองคำวันนี้
เรามองว่าความเชื่อมั่นของนักลงทุนปัจจุบันน่าจะอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ ในขณะที่ภาครัฐจะพยายามทำทุกทางเพื่อดึงความเชื่อมั่นกลับคืนมา เราจึงคาดว่า "ราคาทองคำน่าจะค่อยๆปรับตัวขึ้น แต่อาจตอบสนองต่อข่าวร้ายได้อย่างรุนแรง" เราจึงแนะนำให้ "ค่อยๆสะสม LONG และตัดขาดทุนทันทีหากราคาสปอตปรับตัวลดลงกว่า S1"

มุมมองทองคำ
แนวโน้มเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวน่าจะมีความสำคัญที่สุดในช่วงนี้ ในขณะที่มาตรการต่างๆของมหาอำนาจก็น่าจับตามองไม่แพ้กันเนื่องจากอาจส่งผลต่อการรับความเสี่ยงของนักลงทุน



หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 12:47:13 PM
สวัสดีค่ะ พี่ทองใหม่ angel.gif

ซาร่าไม่ได้เข้าเว็บนาน แวะมาสวัสดีค่ะ  :D

สบายดีนะคะช่วงนีี้ รักษาสุขภาพด้วยค่ะ

ปล ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีดีที่มีให้ตลอดมาค่ะ  :)
สบายดีครับ ขอให้รักษาสุขภาพเช่นกันจ้า ;D ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 12:49:36 PM
08 ก.พ. 2553


Gold Market Commentary


ประเด็นสำคัญ

-         แรงขายหลีกเลี่ยงความเสี่ยงถ่วงทองแตะจุดต่ำสุด 3 เดือน
-         ดอลล์,เยนแข็งค่า ขณะยูโรอ่อนยวบหลังวิตกหนี้ยุโรปลาม
-         ดาวโจนส์พลิกปิดบวก 10.05 จุด หลังตื่นขายหุ้นจากตัวเลขจ้างงาน


 
 
ราคาทองที่ตลาดสหรัฐร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 เดือนในวันศุกร์ โดยปิดตลาดสัปดาห์นี้ต่ำกว่า 2% ในขณะที่ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ทำให้มีแรง เทขายอย่างหนักในทองและเครื่องมือการลงทุนอื่นๆที่ได้รับการพิจารณาว่ามีความเสี่ยง   สัญญาทองส่งมอบเดือนเม.ย.เคลื่อนตัวในช่วง 1,069.40-1,044.50 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนวันที่ 30 ต.ค. ในขณะที่มีปริมาณการซื้อขายราว 224,472 สัญญา  ทองได้รับแรงกดดัน ขณะที่ยูโรร่วงลงต่ำกว่าระดับสำคัญที่ 1.37 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.
        สัญญาทองส่งมอบเดือนเม.ย.ปรับตัวขึ้นในช่วงสั้นๆ หลังการเปิดเผยรายงานการจ้างงานเดือนม.ค.ของสหรัฐ    การจ้างงานลดลงเกินคาดในเดือนม.ค. แต่อัตราการว่างงานลดลงเกินคาดเช่นกันสู่ระดับต่ำสุดรอบ 5 เดือน
    ตลาดหุ้นทั่วโลกยังอาจมีความกังวลหลงเหลืออยู่ต่อระดับหนี้สินของ 3 ประเทศในกลุ่มยูโรโซน (กรีซ,โปรตุเกส, สเปน) ทำให้ช่วงต้นๆของสัปดาห์เราน่าจะยังเห็นการขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยง ขณะเดียวกันค่าเงินเยนที่ยังแข็งค่าจะกระทบต่อตลาดหุ้นญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการที่นักลงทุนเข้าถือเงินเยนมากขึ้นหลังเงินยูโรมีแนวโน้มอ่อนค่าลง (YEN/EUR=122.03/-2.5% WoW) ดังนั้นตราบที่เงินยูโรยังอ่อนค่าโอกาสที่เงินจะไหลกลับเข้าตลาดหุ้นจะมีน้อยลง นอกจากนี้ มาตรการชะลอเศรษฐกิจของจีนและอินเดีย อาจทำให้นักลงทุนที่ลงทุนในตลาดเอเซียชะลอการลงทุนในระยะนี้ บรรยากาศการลงทุนในช่วงต้นสัปดาห์ยังมีความเสี่ยง แต่น่าจะดีขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางสัปดาห์เป็นต้นไป
      กองทุน SPDR Gold trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยว่าทางกองทุนได้ถือครองทองแท่งระดับ 1,106.378 ตัน ณ วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2553 เพิ่มขึ้น 1.828 ตัน จากวันที่ 5 กุมภาพันธ์
       กลยุทธ์ :  สัปดาห์นี้ราคาทองอาจจะแกว่งในกรอบราคา 20-30US$
ให้เล่นสั้นทำกำไร อาจจะหาจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาปรับฐานลงมาได้ในต้นสัปดาห์ แล้วหาโอกาสขายทิ้งก่อนวันศุกร์ทำกำไร เพราะจะมีโอกาสลงไปที่แนวแนวระดับราคา 1040 US$ ได้ในคืนวันศุกร์ ต่อสัปดาห์หน้าเกิดขึ้นได้


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: prim ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 01:27:02 PM

สวัสดีค่ะคุณทองใหม่  ตามไปดูกราฟมาแล้วค่ะ  เข้ามาดูทุกวันค่ะ   ;D ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 01:50:23 PM
สวัสดีค่ะ  ขยันจังทานข้าวเที่ยงรึยังคะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 01:54:57 PM
ขอบคุณค่ะคุณทองใหม่   ปีนี้จะมีโอกาสเห็นทองที่1200อีกมั๊ยคะ
ต้องดูว่าเศรษฐกิจเมกาจะพื้นตัวจริงไหม? แต่แค่1200คิดว่าโอกาสที่จะเห็นในปีนี้น่าจะยังมีอยู่ เดานะครับ ขอบอก
[ /  ]    แค่เดาก็ยังดีค่ะ   จะได้มีกำลังใจรอวันที่จะลงจากดอยค่ะ     


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 02:28:14 PM
ผมไม่ได้ซื้อขายทองแท่งตั้งนานมากแล้วครับ ใครเคยซื้อทองแท่งที่นี่ไหมครับ หากได้ราคาตามนี้จริงก็ยุติธรรมกว่าราคาสมาคมเยอะเลยครับ
 (http://upic.me/i/v6/mqh31.gif) (http://upic.me/show.php?id=4efc83f931e702962a4b3bd6690adcc9)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 02:29:07 PM
อุ๊ย ที่ไหนคะ คุณทองใหม่ โซดาซื้อกับออส อ่ะคะ ราคาสมาคม ไม่เป็นทำ แต่อยากเล่น จำใจต้องซื้อคะ... อยากได้รายละเอียดคะ !thk !thk !thk
ที่นี่ครับ ศูนย์ซื้อขายทองคำกรุงเทพฯ
  (http://upic.me/i/nv/j2o91.gif) (http://upic.me/show.php?id=2654c0fb38f773fe6051f58087a647b3)
ขั้นตอนการซื้อขายทองคำแท่ง
 
ก่อนที่ตกลงราคาซื้อขายทางโทรศัพท์ ลูกค้าต้องมีเงินสำรองกับทาง บริษัทสำหรับทั้งการซื้อหรือการขายอย่างน้อย 10% ของมูลค่า โดย ลูกค้าสามารถนำเงินสดมาสำรองไว้กับทางบริษัท ด้วยตัวเองหรือผ่านการโอนเงินไว้ล่วงหน้า ให้เพียงพอสำหรับการซื้อขายที่จะเกิดขึ้น โดยบริษัทจะออกหลักฐานการสำรองเงิน ดังกล่าวให้
หลังจากตกลงราคาซื้อขายเรียบร้อยแล้วลูกค้าจะต้องชำระเงิน ส่วนที่เหลือ (กรณีซื้อ) หรือส่งมอบทองคำ (กรณีขาย) กับทางบริษัทตามวันเวลาที่ได้ตกลงกันไว้โดยไม่เกิน 2 วันทำการถัดไป (T+2)
 (http://upic.me/i/33/p6ip2.gif) (http://upic.me/show.php?id=3a07e259247f968333f15f79a5c7da0f)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 02:54:00 PM
สาซื้อขายกับที่นี่ค่ะราคาตามประกาศค่ะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 02:55:37 PM
คุณทองใหม่สนใจจะลงทุนกับที่นี่เหรอค่ะ  มีบางตรั้งราคาสปอตเปลี่ยนแต่เวปเปลี่ยนไม่ทันพนักงานจะโทรบอกค่ะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Belmont ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 03:07:57 PM
ขอบคุณ พี่ทองใหม่ครับ
กำลังอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมอยู่พอดี เคยอ่านที่บ้านเก่า
นานแล้ว จนลืมไปเลย
มีเพื่อนท่านใดเคยซื้อ-ขายที่นี่บ้างครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 03:09:11 PM
คุณทองใหม่สนใจจะลงทุนกับที่นี่เหรอค่ะ  มีบางตรั้งราคาสปอตเปลี่ยนแต่เวปเปลี่ยนไม่ทันพนักงานจะโทรบอกค่ะ
ที่นี่ผมรู้จักนานแล้วครับ เคยไปซื้อด้วยตัวเองครั้งหนี่งมาแล้วครับ และก็เคยบอกให้เพื่อนๆรู้จักที่นี่ แต่สถานที่ไกลจากบ้านผมมาก ระยะหลังผมเล่นมาร์จิ้น เลยห่างไกลจากทองแท่ง ขอบคุณครับที่บอก จะได้นำไปบอกเพื่อนๆต่อ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 03:11:09 PM
ทางศูนย์เปิดทำการ9.30-16.30จะเป็นของช่วงกลางวัน  เวลา17.00-24.00จะเป็นช่วงกลางคืนเงินมัดจำแยกกันนะคะ  สมมุติสมัครช่วงเช้า100บาททองมัดจำ10% สมัครช่วงกลางคืน100บาทก็มัดจำอีก10%ค่ะ สาเปิดไว้2ช่วงค่ะเเต่กลางคืนไม่ค่อยได้ใช้เลยหลับก่อนทุกที 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 03:16:30 PM
ใครสนใจลองติดต่อดูนะคะ  ส่วนต่าง10เหรียญก็ทำกำไรได้แล้วถ้าค่าเงินไม่เปลี่ยนมากนะคะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 03:19:09 PM
ทางศูนย์เปิดทำการ9.30-16.30จะเป็นของช่วงกลางวัน  เวลา17.00-24.00จะเป็นช่วงกลางคืนเงินมัดจำแยกกันนะคะ  สมมุติสมัครช่วงเช้า100บาททองมัดจำ10% สมัครช่วงกลางคืน100บาทก็มัดจำอีก10%ค่ะ สาเปิดไว้2ช่วงค่ะเเต่กลางคืนไม่ค่อยได้ใช้เลยหลับก่อนทุกที 

(http://img687.imageshack.us/img687/7244/id088769.gif) (http://img687.imageshack.us/i/id088769.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 03:21:17 PM
อ้อ ! มีบริการส่งทองด้วยนะคะแต่ไม่เคยลอง  เคยแต่ฝากทองค่ะถ้าคิดว่าจะขายภายใน1-2อาทิตย์ก็ฝากไว้ก่อนเค้าจะแฟกซ์ใบฝากมาให้แล้วโทรตัดขายได้เลย ถ้าไม่ขายก็ค่อยไปเอากลับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 03:33:29 PM
อ้อ ! มีบริการส่งทองด้วยนะคะแต่ไม่เคยลอง  เคยแต่ฝากทองค่ะถ้าคิดว่าจะขายภายใน1-2อาทิตย์ก็ฝากไว้ก่อนเค้าจะแฟกซ์ใบฝากมาให้แล้วโทรตัดขายได้เลย ถ้าไม่ขายก็ค่อยไปเอากลับ
ขอบคุณมากเลยครับ เริ่มมีเพื่อนๆสนใจแล้ว เป็นทางเลือกอีกหนึ่งทางเลือกที่ไม่ต้องจำยอมกับสมาคม ขอบคุณแทนเพื่อนๆด้วยครับที่ให้รายละเอียดเพิ่มเติม


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 03:49:07 PM
มีอีกบริษัทค่ะเครือเดียวกับศูนย์ซื้อขาย  บ . globlex  ค่ะ มีบริการฝากทองกับบริษัทแล้วได้เงินค่าให้ยืมทองด้วย  ให้บริษัทยืมทอง 50 บาท 15 วัน  ได้เงิน  500 บาท  ให้บริษัทยืมทอง 1 โล 15 วัน  ได้เงิน  650 บาท ค่ะ ช่วงเวลาที่ให้บริษัทยืมทองสามารถโทรตัอขายได้ค่ะ  รายละเอียด www.globlex (http://www.globlex) holding.co.th  ค่ะ  แต่สายังไม่เคยลองซื้อนะคะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Belmont ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 03:52:26 PM
อ้อ ! มีบริการส่งทองด้วยนะคะแต่ไม่เคยลอง  เคยแต่ฝากทองค่ะถ้าคิดว่าจะขายภายใน1-2อาทิตย์ก็ฝากไว้ก่อนเค้าจะแฟกซ์ใบฝากมาให้แล้วโทรตัดขายได้เลย ถ้าไม่ขายก็ค่อยไปเอากลับ
ขอบคุณมากเลยครับ เริ่มมีเพื่อนๆสนใจแล้ว เป็นทางเลือกอีกหนึ่งทางเลือกที่ไม่ต้องจำยอมกับสมาคม ขอบคุณแทนเพื่อนๆด้วยครับที่ให้รายละเอียดเพิ่มเติม

อย่างนี้เราซื้อทองแท่ง ที่นี่แล้วไปขายหน้าร้านทั่วไปได้หรือป่าวครับ
เผื่อจะขาดทุนส่วนต่างน้อยลงอะครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 03:54:43 PM
มีอีกบริษัทค่ะเครือเดียวกับศูนย์ซื้อขาย  บ . globlex  ค่ะ มีบริการฝากทองกับบริษัทแล้วได้เงินค่าให้ยืมทองด้วย  ให้บริษัทยืมทอง 50 บาท 15 วัน  ได้เงิน  500 บาท  ให้บริษัทยืมทอง 1 โล 15 วัน  ได้เงิน  650 บาท ค่ะ ช่วงเวลาที่ให้บริษัทยืมทองสามารถโทรตัอขายได้ค่ะ  รายละเอียด [url=http://www.globlex]www.globlex[/url] ([url]http://www.globlex[/url]) holding.co.th  ค่ะ  แต่สายังไม่เคยลองซื้อนะคะ
ขอบคุณอีกครั้งครับ ลองเข้าไปดูในเว็บแล้วแต่ยังเข้าไม่ได้ รายนี้ใหม่สำหรับผมจริงๆด้วย


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Belmont ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 04:08:42 PM
พี่ทองใหม่ครับ ตามนี้ครับ www.globlex.co.th (http://www.globlex.co.th)
อาคาร ซีอาร์ซี ออลซีซั่นเพลส ชั้น 8,12
ถนน วิทยุ ครับ
โทร. 0-2672-5999


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 04:25:50 PM
พี่ทองใหม่ครับ ตามนี้ครับ [url=http://www.globlex.co.th]www.globlex.co.th[/url] ([url]http://www.globlex.co.th[/url])
อาคาร ซีอาร์ซี ออลซีซั่นเพลส ชั้น 8,12
ถนน วิทยุ ครับ
โทร. 0-2672-5999
(http://img687.imageshack.us/img687/7244/id088769.gif) (http://img687.imageshack.us/i/id088769.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 04:33:40 PM
ไปเจอเข้า เลยยิบมาฝาก ฮาฮา

เจ๊ชวนคุยเรื่องทองคำ โดย...เจ๊ฝอยทอง


8 ก.พ. 53

โอ้โห.....แม่จ้าว

รู้กันทุกคนอยู่แล้วว่าราคาทองคำมันกำลังจะเลือกทาง ไม่ขึ้นแรงก็ลงแรง แต่พอผ่านวันพุธที่ผ่านมาก็พอจะเดาออกเล็กน้อยแล้วว่าจะลง เพราะหลังวิ่งผ่านแนวต้านหลักตรง 1120 เหรียญแล้วยืนเหนือไม่ได้ มันก็เลยไม่สวยเอาซะเลย เจ๊ก็เลยทำสเปรดไว้ เจ๊ก็กะว่าจะปิด Long ถือช๊อตหากหลุด 1100 เหรียญ แต่วันพฤหัสมันดันไปหลุดหลังตลาดบ้านเราปิด เจ๊ก็เลยถือสเปรดข้ามมา เช้าวันศุกร์เปิดมาราคาโกลด์ฟิวเจอร์สเปิดกระโดดลง 600 กว่าบาท ใครถือ Long ไว้ถึงกับอ๊วก ส่วนใครช๊อตไว้ก็กลายเป็นเศรษฐีไปเลยทีเดียว ส่วนเจ๊ทำสเปรดไว้ ก็ไม่ได้ไม่เสียอะไร

ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าหลุด 1100 เหรียญแล้วต้องเปิดช๊อต แต่ทำไม่ได้ เพราะตลาดปิดซะก่อน แต่ต่อไปในอนาคตก็น่าจะดีกว่านี้ เพราะเจ๊ได้ยินมาว่า ตลาดอนุพันธ์กำลังหาทางขยายเวลาการเทรดโกลด์ฟิวเจอร์สอยู่ ได้ข่าวว่าจะถึง 4 ทุ่มครึ่ง โอ้โห....ได้ใจไปเลยจ้าคุณท่านเกศรา และทีมงาน ผลักดันให้สำเร็จนะค่ะ เพราะนักลงทุนหลายท่านคงลดความเสี่ยงของราคาทองได้เยอะทีเดียว แถมเป็นการรองรับสินค้าอื่นๆในอนาคตด้วยเนอะ ทั้งน้ำมัน โลหะเงิน ทองแดง หรือค่าเงิน ใครไม่อยากให้เกิด สงสัยจะไม่เห็นประโยชน์ของนักลงทุนโดยรวมเป็นหลักเนอะ

ราคาทองคำสัปดาห์นี้ถ้าจะกลับไปเป็นขาขึ้นต้องไปยืนเหนือ 1100 เหรียญก่อนถึงจะคอนเฟิร์มว่าขึ้น ไม่งั้นคงมีแต่สาละวันเตี้ยลงๆเรื่อยๆแน่ๆ เพราะเล่นหลุดเทรนด์ขาขึ้นที่อุตส่าห์สร้างมาปีกว่าๆ พอหลุดทีเลยหลุดแรงเป็นพิเศษ

ส่วนตรุษจีน Effect ตอนนี้ ต้องยอมถอยหนีเพราะเจอ Effect ที่ใหญ่กว่าอย่างค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งปรู๊ดปร๊าด ทำนิวไฮใหม่เรื่อยๆเมื่อเทียบยูโร เล่นเอาตลาดหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์ดิ่งหัวกันเป็นแถว เอ้า จะเป็นยังไงก็แล้วแต่ จะขึ้นหรือจะลง หากลงทุนแบบมีวินัยและการวางแผนที่ดีก็จะสำเร็จได้ในทุกตลาด ใครอยากรู้ว่าทำไงก็มาสัมมนาพฤหัสนี้เจอกันที่ตลาดหลักทรัพย์นะ

แนวรับแนวต้านสัปดาห์นี้ 1027-1100 เหรียญ

ฟรีสัมมนา ?Mini-Gold Futures? ที่ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ห้อง 1101 พฤหัสที่ 11 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา 18.00-20.00น สำรองที่นั่งได้ที่ 02-672-5999 ต่อ 5883


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 05:09:24 PM
 (http://upic.me/i/v4/aaik1.gif) (http://upic.me/show.php?id=180217eeb0678e519c43f779296b1f05)
ดัชนีไทย 60นาทีช่วงปิดตลาด
  (http://upic.me/i/gu/e2ki2.gif) (http://upic.me/show.php?id=f6b0b141edd111da8e55acc32a27982d)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 07:10:37 PM
ข่าวGold Futures พรุ่งนี้ร่วงรับค่าเงินดอลล์แข็งค่า แนะเปิดสถานะขาย       
Monday, 08 February 2010 17:37 
นายคมสันต์ ปรมาภูติ รองผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง หรือ BLS เปิดเผยถึงการซื้อขายสินค้า Gold Futures ในตลาดอนุพันธ์แห่งประเทศไทย (TFEX) ในวันนี้ว่า ราคาทองล่วงหน้าของไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นซึ่งมองว่าเป็นเพียงสัญญาณเทคนิครีบาว์นเท่านั้น

แนวโน้มในวันพรุ่งนี้คาดว่าราคาทองล่วงหน้ามีโอกาสปรับตัวลดลง เพราะมีปัจจัยกดดันเรื่องค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า หลังจากภาพรวมของตลาดหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์ยังไม่ดี ประกอบกับราคาทองโลกมีแนวต้านสำคัญที่ 1,080 ดอลลาร์/ออนซ์

กลยุทธ์การลงทุนแนะนำให้เปิดสถานะขาย  ประเมินแนวรับที่ 16,900บาท ส่วนแนวต้านประเมินไว้ที่ 17,100 บาท ในสัญญา GFG10 เดือนกุมภาพันธ์ 2553
 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 08:27:36 PM
ลูกค้าAISโทรต่างประเทศ 00500 ฉลองตรุษจีนและวาเลนไทน์ได้ประหยัดเพิ่ม  
วันจันทร์ที่ 08 กุมภาพันธ์ 2010 เวลา 19:22 น. ณัฐญา เนตรหิน ข่าวรายวัน - ข่าวในประเทศ   

เอไอเอ็น ในเครือเอไอเอส ผู้ให้บริการโทรทางไกลต่างประเทศรหัสประหยัดสุดคุ้ม 00500 ด้วยคุณภาพมาตรฐานสากล จัดแคมเปญพิเศษ ?00500 อั่งเปาอินเตอร์? ขึ้นเพื่อฉลองเทศกาลตรุษจีนและวาเลนไทน์ที่กำลังจะมาถึง โดยมอบอั่งเปาค่าโทรในราคาประหยัดเพิ่มอีกทุกประเทศปลายทางสูงสุดถึง 20% จากราคาปกติให้แก่ลูกค้าเอไอเอส ทั้งระบบจีเอสเอ็ม แอดวานซ์, วัน-ทู-คอล! และสวัสดี ด้วยราคาเริ่มต้นเพียงนาทีละ 3.50 บาท ในประเทศยอดฮิต เช่น จีน, อเมริกา, ฮ่องกง, สิงคโปร์  และแคนาดา เป็นต้น เพียงกด 00500 ตามด้วยเบอร์โทรต่างประเทศ โทรตรงจากมือถือไปยังเบอร์ปลายทางทั่วโลกครอบคลุม 205 ประเทศทั่วโลกอย่างสะดวกสบาย ตั้งแต่วันที่ 14 ? 20 ก.พ.นี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เอไอเอ็น คอลล์ เซ็นเตอร์ 02-2719005 หรือ เอไอเอส คอลล์ เซ็นเตอร์ 1175


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 08:42:02 PM
 ;D
ทานข้าวหรือยังค่ะ เข้ามาเจอเจ้าของบ้านพอดี
อิ อิ  ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2010, 08:50:33 PM
;D
ทานข้าวหรือยังค่ะ เข้ามาเจอเจ้าของบ้านพอดี
อิ อิ  ;D
ทานแล้วจ้า ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2010, 06:29:41 AM
 วิธีดูทิศทางทอง ต้าน๓----หนุน๓เป็นทิศทางทองที่จะเคลื่อนไหวในวันนี้ หากพุ่งทะลุต้าน๓หรือดิ่งทะลวงหนุน๓ แสดงถึงวันนั้นทองเคลื่อนไหวแรงเกินปกติ เส้นแดนเป็นเส้นที่จะแบ่งแยกทิศทางของทองที่จะขึ้นหรือลง หากทองเคลื่อนไหวอยู่ในทิศทางใดมากและนาน นั่นหมายถึงโอกาสเป็นไปได้มากที่ทองจะเคลื่อนไปในทิศทางนั้นๆ ในช่วงเวลานั้น (ยังต้องแบ่งออกในช่วงเวลาตลาดเอเซีย ยุโรป เมกาด้วย) ต้าน๑และหนุน๑หากถูกทดสอบแบบมีผล(ขึ้นลงมากกว่า๑ครั้ง)แล้วยืนอยู่ได้ นั่นคือทิศทางทองที่จะเดินต่อไปในช่วงเวลานั้น หากการวิเคราะเกิดขัดแย้งกันเมื่อไหร่ ให้หยุดมองดูอย่างเดียว ไม่ควรซื้อ-ขายในช่วงเวลานั้น แนวทางนี้เหมาะกับการเล่นสั้นมาก (เล่นแบบออนไลน์ในอนาคต) มีความแม่นยำถึง80%ครับ อีกอย่างข่าวปัจจัยพื้นฐานอาจเปลี่ยนทิศทางทองได้กะทันหันนะครับ
ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์กับการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย ถัาติดดอยเมื่อทองต่ำลงมา  หากยังมีเงินเหลืออยู่ ควรซื้อเพิ่ม เพิ่มที่ละนิด ต่ำอีกซื้ออีก เพื่อดึงต้นทุนที่สูงให้ต่ำลงมา ใครที่ยังไม่มีทองในมือควรทยอยซื้อเข้าอย่ามากนัก หากทองลงอีก เราก็ซื้ออีก ดีกว่าเวลาทองขึ้นเราไปไล่ซื้อในราคาที่สูง  จดจำเป็นคติเตือนใจว่า  เรามิอาจซื้อได้ในราคาที่ต่ำสุด และขายได้ในราคาที่สูงสุด ไม่มีการลงทุนใดที่ไม่เสี่ยง การบริหารพอร์ตให้ได้จังหวะ จะลดความเสี่ยงลงได้ครับ
กราฟสำคัญ ปัจจัยพื้นฐานก็สำคัญ จิตวิทยาการโน้มเอียงของคนก็สำคัญ สิ่งเหล่านี้หากเป็นไปในแนวเดียวกัน ก็จะมุ่งไปทางนั้น หากแย้งกันก็ต้องดูฝ่ายไหนเหนือกว่า.....ด้วยเหตุนี้ไม่มีนักวิเคราะห์คนใดที่จะทำนายได้แม่นยำตลอดกาลได้ครับ
 (http://upic.me/i/aa/pgv31.gif) (http://upic.me/show.php?id=a22bd42e331ed3116b2335dff72e91a3)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2010, 06:31:18 AM
เส้นปากถุง (BollingerBandsเส้นสีขาวทั้ง๓เส้น)แบบง่ายๆ ไม่ปวดเศียรเวียนเกล้า
เส้นบน---แนวต้าน
เส้นกลาง---แนวโน้ม(สำคัญสุด)
เส้นล่าง---แนวหนุน
ลักษณะที่๑---ทิศทางขึ้นเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น   เส้นกลางหันหัวขึ้น   เส้นล่างหันหัวลง
ลักษณะที่๒---ทิศทางขึ้นเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวขึ้น
เมื่อเจอลักษณะทั้ง๒นี้ ราคาระหว่างวันที่ขึ้นๆลงๆ เมื่อเจอจุดที่เห็นว่าต่ำแล้วให้ซื้อเข้าได้เลยครับ  ขอเพียงเส้นกลาง(แนวโน้ม)ยังหันหัวขึ้นอยู่ แม้ราคาเแท่งเทียนจะอยู่ต่ำกว่าเส้นกลาง ก็ยังซื้อเข้าได้ หากเส้นบนเดินขวางเมื่อไหร่ ให้ทยอยลดพอร์ตได้เลยครับ
ลักษณะที่๓---เลือกทิศทาง---เส้นบนหันหัวลง เส้นล่างหันหัวขี้น ปากถุงแคบลง ถึงช่วงนี้ ให้ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว หากใครยังคิดอยากเคลื่อนไหว ก็จงเคลื่อนไหวไปหน้าทีวี จงอย่าทำการอย่างอื่นใด หากใครเป็นจอมยุทธ์ ก็ชิงเคลื่อนไหวก่อนใครได้  
ขอแถมอีกนิด จงโฟกัสที่เส้นกลาง หากเส้นกลางเริ่มขยบหัวหัวขึ้นหรือลง ทิศทางอาจขึ้นหรือลงตามเส้นกลางแนวโน้มนั้น
ลักษณะที่๔---เคลื่อนไหวในกรอบแคบ---เส้นบน กลาง ล่าง เดินขวางทั้ง๓เส้น หากใครเล่นออนไลน์ สามารถเล่นได้เล็กน้อยอย่ามาก เมื่อราคาแท่งเทียนใกล้เส้นบน จงขาย ใกล้เส้นล่าง จงซื้อ ต้องเข้าออกให้ทันการณ์ หาไม่แล้วจากกำไรอาจขาดทุนได้นา ขอบอก
ลักษณะที่๕---ทิศทางลงเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น เส้นกลางหันหัวลง เส้ยล่างหัวหัวลง
ลักษณะที่๖---ทิศทางลงเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวลง  เมื่อเส้นล่างเดินขวางเมื่อไหร่ ผู้ที่ใจกล้าที่เล่นออนไลน์ เริ่มทยอยซื้อเข้าได้ที่ละนิด อัตราเสี่ยงยังมีอยู่บ้างนะครับ สิบอกไห่
วิธีดูเส้นปากถุงที่กล่าวมานี้ .....ไม่ใช่ตำราของฝรั่ง แบบของฝรั่งผมเคยอ่านมาบ้างแล้ว ยาวมาก ปวดหัว ทำความเข้าใจได้ยากมากๆๆๆๆ ...........เหมาะเฉพาะกราฟราย๔ชม.และช่วงปกติเท่านั้นนะครับ  (บางครั้งตลาดจงใจคึงขึ้นลงอย่าแรงๆ แทบหัวใจวายสำหรับผู้มีทองในมือและผิดทิศทางของตัวเอง เรียกว่า ช่วงไม่ปกติครับ)

  (http://upic.me/i/9m/sc452.gif) (http://upic.me/show.php?id=6ab6051e6c98d7c4e56efa9dc1d3711c)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2010, 06:36:41 AM
กราฟGold 1
ช่อง1 เส้นแดงอยู่เหนือเส้นเขียว---ทิศทางขึ้น  ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น  สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นเขียวอยู่เหนือเส้นแดง---ทิศทางลง     ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นแดงและเขียวประสานเป็นกากะบาด ---กำลังจะเปลี่ยนทิศ ให้ดูเส้นแนวโน้มประกอบ  หากเส้นแดงและเขียวกำลังจะประสาน แต่ไม่ทันได้ประสานก็หันหันหัวกลับขึ้นหรือลง  แสดงว่ากำลังมีเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนี่งเกิดขึ้น หากขึ้นทะลุเส้นปะแนวต้าน ให้ดูเส้นปะแนวต้านเส้นต่อไป หากลงทะลุเส้นปะแนวหนุน ให้ดูเส้นแนวหนุนเส้นต่อไป   ส่วนจุดกลมเหลืองทอง---ทิศทางลง  จุดกลมฟ้า---ทิศทางขึ้น  หากกราฟวิ่งในยามปกติ พอเชื่อถือได้ หากกราฟวิ่งขึ้นลงแรงๆ คือยามไม่ปกติ ไม่อาจเชือถือได้
ช่อง2  ให้ดูเส้นสีม่วง ประกอบกับเส้นแนวโน้มในช่อง1 หากหันหัวไปในทิศทางเดียวกัน  โอกาสที่จะผิดพลาดก็มีน้อย  ส่วนเส้นปะสีเหลืองทองและฟ้า  หากขึ้นเหนือเลข80 เข้าสู่เขตซื้อเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ทุกเมื่อ  หากลงต่ำกว่าเลข20 เข้าสู่เขตขายเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ตลอดเวลา
ช่อง3   ให้ดูทั้ง2เส้น คือเหลืองทองและฟ้า หันหัวไปทิศทางเดียวกันหรือไม่  เท่านั้นยังไม่พอ  ให้ดูประกอบทิศทางในช่อง1ว่าเป็นทิศทางเดียวกันหรือไม่  หากทิศทางหันหัวในแนวเดียวกัน  ทิศทางนั้นเชื่อถือได้

กราฟGold 1
ช่อง1 เส้นแดงอยู่เหนือเส้นเขียว---ทิศทางขึ้น  ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น  สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นเขียวอยู่เหนือเส้นแดง---ทิศทางลง     ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นแดงและเขียวประสานเป็นกากะบาด ---กำลังจะเปลี่ยนทิศ ให้ดูเส้นแนวโน้มประกอบ  หากเส้นแดงและเขียวกำลังจะประสาน แต่ไม่ทันได้ประสานก็หันหันหัวกลับขึ้นหรือลง  แสดงว่ากำลังมีเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนี่งเกิดขึ้น หากขึ้นทะลุเส้นปะแนวต้าน ให้ดูเส้นปะแนวต้านเส้นต่อไป หากลงทะลุเส้นปะแนวหนุน ให้ดูเส้นแนวหนุนเส้นต่อไป   ส่วนจุดกลมเหลืองทอง---ทิศทางลง  จุดกลมฟ้า---ทิศทางขึ้น  หากกราฟวิ่งในยามปกติ พอเชื่อถือได้ หากกราฟวิ่งขึ้นลงแรงๆ คือยามไม่ปกติ ไม่อาจเชือถือได้
ช่อง2  ให้ดูเส้นสีม่วง ประกอบกับเส้นแนวโน้มในช่อง1 หากหันหัวไปในทิศทางเดียวกัน  โอกาสที่จะผิดพลาดก็มีน้อย  ส่วนเส้นปะสีเหลืองทองและฟ้า  หากขึ้นเหนือเลข80 เข้าสู่เขตซื้อเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ทุกเมื่อ  หากลงต่ำกว่าเลข20 เข้าสู่เขตขายเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ตลอดเวลา
ช่อง3   ให้ดูทั้ง2เส้น คือเหลืองทองและฟ้า หันหัวไปทิศทางเดียวกันหรือไม่  เท่านั้นยังไม่พอ  ให้ดูประกอบทิศทางในช่อง1ว่าเป็นทิศทางเดียวกันหรือไม่  หากทิศทางหันหัวในแนวเดียวกัน  ทิศทางนั้นเชื่อถือได้

 (http://upic.me/i/yu/8u6h3.gif) (http://upic.me/show.php?id=33c2ef1cae8c8b6e0041abd74d371517)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2010, 06:44:55 AM
เกาหลีเหนือขู่คุกคามเกาหลีใต้
วันอังคารที่ 09 กุมภาพันธ์ 2010 เวลา 06:00 น. สมพร ฟ้อยกท์ ข่าวรายวัน - ข่าวต่างประเทศ   
User Rating: / 0
แย่ดีที่สุด
เกาหลีเหนือเตือนเกาหลีใต้ ว่า จะใช้มาตรการเข้มงวดขัดขวางความพยายามใดๆ ก็ตามที่จะล้มล้างเกาหลีเหนือ

โดยแถลงการณ์ของทางการเกาหลีเหนือระบุว่า เกาหลีเหนืออยู่ระหวางเตรียมกองกำลังทหารเพื่อปกป้องประเทศ และจะไม่ยอมให้ใครล้มล้างประเทศ

ทั้งนี้ คำเตือนของเกาหลีเหนือมีขึ้นขณะที่ทูตอาวุโสของจีนเยือนเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามโน้มน้าวให้เกาหลีเหนือกลับสู่โต๊ะเจรจา 6 ฝ่ายเรื่องยุติโครงการนิวเคลียร์


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2010, 07:21:19 AM
อิหร่านววางแผนเสริมสมรรถนะยูเรเนียมปีหน้า  
วันอังคารที่ 09 กุมภาพันธ์ 2010 เวลา 07:15 น. สมพร ฟ้อยกท์ ข่าวรายวัน - ข่าวต่างประเทศ   
User Rating: / 0
แย่ดีที่สุด
องค์การพลังงานปรมาณูของอิหร่าน ออกแถลงการว่า จะยกระดับการเสริมสมรรถนะยูเรเนียม และเริ่มสร้างโรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนียมแห่งใหม่เพิ่มอีก 10 แห่งในปีหน้า ซึ่งสร้างความตึงเครียดต่อชาติตะวันตกยิ่งขึ้น

นายอาลี อัคบาร์ ซาเลฮี ผู้นำองค์การพลังงานปรมาณูอิหร่าน ดำเนินการตามคำสั่งของประธานาธิบดีมาห์มูด อาห์มาดิเนจาด ผู้นำอิหร่าน ซึ่งมอบหมายให้องค์การพลังงานปรมาณูอิหร่านเริ่มการผลิตพลังงานนิวเคลียร์ที่มีระดับสูงสำหรับเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของประเทศ

คำประกาศของอิหร่านสร้างความวิตกต่อชาติตะวันตก แต่ประธานาธาธิบดีอาห์มาดินจาด กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่จะมีการเจรจากับชาติตะวันตกเกี่ยวกับข้อเสนอแลกเปลี่ยน

อิหร่านแจ้งกับสำนักงานนิวเคลียร์องค์การสหประชาชาติในจดหมายวานนี้ว่าการตัดสินใจยกระดับการเสริมสมรรถยูเรเนียมอีก 20% เพื่อใช้ผลิตเชื้อเพลิงสำหรับการวิจัยแยกกัมมันตรังสีทางการแพทย์

ในจดหมายดังกล่าวระบุว่า อิหร่านจะเริ่มผลิตยูเรเนียมเสริมสมรรถนะระดับ 20% ในวันอังคารนี้ เป้าหมายภายหลังจะปรับเปลี่ยนเป็นเชื้อเพลิงและเชิญผู้ตรวจขององค์การสหประชาชาติเข้าติดตามดูขบวนการทำงานนี้ด้วย


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2010, 07:26:35 AM
ดัชนีไทย รายวัน
 (http://upic.me/i/da/enn4a.gif) (http://upic.me/show.php?id=51bc13770a494c460de41bc5b9ebf01c)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2010, 07:28:11 AM
ดัชนีไทย ราย60นาที
  (http://upic.me/i/ky/yf4a1.gif) (http://upic.me/show.php?id=7ced8cb59bb613db9d0d5b0ade723438)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2010, 08:49:08 AM
ดอลลาร์อ่อน-นักลงทุนหันกลับซื้อทองคำหนุนปิดพุ่ง 13.40ดอลลาร์(13.40ดอลล์ งง ข่าวผิดไหมนี่?)  
วันอังคารที่ 09 กุมภาพันธ์ 2010 เวลา 08:16 น. ณัฐญา เนตรหิน ข่าวรายวัน - ข่าวต่างประเทศ   
User Rating: / 0
แย่ดีที่สุด
เมื่อคืนนี้ (8ก.พ.)สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น  สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 1,066.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พุ่งขึ้น 13.40 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,061.80-1,074.30 ดอลลาร์ เป็นผลจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง  ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงและเพื่อเก็งกำไร นักวิเคราะห์ระบุว่า เงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนแอลงทำให้นักลงทุนหันมาซื้อสัญญาทองคำ ส่งผลให้ราคาสัญญาปรับพุ่งขึ้นแข็งโดยเมื่อวานนี้ ดัชนี U.S. Dollar Index ร่วงลง 0.4% นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้รับแรงหนุนจากคำสั่งซื้อของนักลงทุนจีน ก่อนที่เทศกาลตรุษจีนจะเริ่มขึ้นในวันที่ 14 ก.พ.นี้


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2010, 09:51:15 AM
ราคาทองคำปิดพุ่ง หลังค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนหนุนนักลงทุนเข้าซื้อทอง

Posted on Tuesday, February 09, 2010
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง ซึ่งช่วยกระตุ้นนักลงทุนให้เข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงและเพื่อเก็งกำไร

นักวิเคราะห์จากบริษัท Quantitative Commodity Research กล่าวว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนแอลงทำให้นักลงทุนแห่ซื้อสัญญาทองคำ ส่งผลให้ราคาสัญญาทะยานขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบ 1 สัปดาห์ โดยเมื่อวานนี้ ดัชนี U.S. Dollar Index ร่วงลง 0.4% นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้รับแรงหนุนจากคำสั่งซื้อของนักลงทุนจีน ก่อนที่เทศกาลตรุษจีนจะเริ่มขึ้นในวันที่ 14 ก.พ.นี้

กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก ได้ถือครองทองคำเพิ่มขึ้น 1.83 ตัน เป็น 1,106.38 ตัน ณ วันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา

- ทองคำ ส่งมอบเดือนเมษายน ปิดที่ 1,066.20 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ (+13.40 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์)
- เงิน ส่งมอบเดือนมีนาคม ปิดที่ 15.085 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ (+0.25 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์)
 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2010, 09:52:24 AM
ภาวะ วิตกปัญหาหนี้ยุโรป ฉุดดาวโจนส์ปิดร่วงหลุดระดับ 10,000 จุดแล้ว

Posted on Tuesday, February 09, 2010
ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงหลุดจากระดับ 10,000 จุดเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน จากความวิตกกังวลว่าปัญหาหนี้สาธารณะและยอดขาดดุลงบประมาณของหลายประเทศในยุโรป รวมถึงกรีซ สเปน และโปรตุเกส อาจส่งผลให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงด้วย นอกจากนี้ การร่วงลงอย่างหนักของหุ้นกลุ่มธนาคารยังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งลง

กระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะและยอดขาดดุลงบประมาณของหลายประเทศในยุโรป รวมถึงกรีซ สเปน และโปรตุเกส ส่งผลให้นักลงทุนกระหน่ำขายหุ้น โดยเมื่อวานนี้ รมว.คลังของกรีซออกแถลงการณ์ว่า รัฐบาลเตรียมใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีบางประเภทเพื่อกระตุ้นเม็ดเงินคงคลัง แต่กลุ่มลูกจ้างในกรีซได้แสดงความไม่พอใจและเตรียมก่อเหตุประท้วงในวันพุธ

นักลงทุนส่วนใหญ่ไม่มั่นใจว่ารัฐบาลกรีซจะสามารถแก้ปัญหายอดขาดดุลงบประมาณและหนี้สาธารณะได้ แม้นายจอร์จ ปาปันเดรอู นายกรัฐมนตรีของกรีซ ประกาศมาตรการวินัยด้านการเงินการคลังที่ครอบคลุมถึงการระงับการขึ้นเงินเดือนข้าราชการ และขึ้นภาษีเชื้อเพลิง เพื่อพยุงให้กรีซรอดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจครั้งรุนแรง นอกจากนี้ นายปาปันเดรอูได้เรียกร้องให้ประชาชนและคู่แข่งทางการเมืองสนับสนุนมาตรการของเขาเพื่อช่วยไม่ให้สถานะการเงินของประเทศย่ำแย่ลงไปมากกว่านี้

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันมากขึ้นเมื่อนายอลัน กรีนสแปน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) กล่าวแสดงความคิดเห็นทางสถานีโทรทัศน์ ABC ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้นตัวค่อนข้างช้า ซึ่งสภาวะเช่นนี้จะยิ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นดิ่งลง เนื่องจากราคาหุ้นมีผลกระทบที่สำคัญต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และคาดว่าอัตราว่างงานในปีนี้จะทรงตัวอยู่ระหว่าง 9-10%

นักลงทุนจับตารายงานเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯในสัปดาห์นี้ โดย

- วันอังคาร กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ จะเปิดเผยข้อมูลสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนธ.ค.
- วันพุธ กระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนธ.ค. และกระทรวงการคลังจะเปิดเผยงบประมาณของรัฐบาลกลางประจำเดือนม.ค.
- วันพฤหัสบดี  กระทรวงแรงงานจะเปิดเผยนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และกระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนม.ค.
- วันศุกร์ มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนก.พ.ของสหรัฐฯ

- Dow Jones ปิดที่ 9,908.39 จุด (-1.04%)
- S&P 500 ปิดที่ 1,056.74 จุด (-0.89%)
- Nasdaq ปิดที่ 2,126.05 จุด (-0.70%)
 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2010, 09:53:27 AM
ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัว หลังนักลงทุนคาดความต้องการใช้น้ำมันมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น

Posted on Tuesday, February 09, 2010
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์ก ส่งมอบเดือน มี.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 0.70 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่ 71.89 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

ปัจจัยบวกที่มีผลต่อราคาน้ำมัน

- สภาพอากาศที่หนาวเย็นและหิมะที่ตกอย่างหนักทางตะวันออกของสหรัฐฯส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้น หลังจากลดลงอย่างหนักเกือบ 6 ดอลลาร์สหรัฐในสัปดาห์ก่อน โดยมีการคาดการณ์ว่าความต้องการน้ำมันทำความร้อนในสหรัฐฯสัปดาห์นี้จะเพิ่มขึ้น 7.6% จากระดับปกติ หลังจากที่สัปดาห์ก่อนเพิ่มขึ้น 7.3%

- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับตระกร้าเงิน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงทางเทคนิค หลังตลาดหุ้นในเอเชียไม่ได้ปรับตัวลดลงมากเมื่อวานนี้  ทำให้มีการหันกลับไปซื้อสกุลเงินที่มีดอกเบี้ยสูง และสินค้าโภคภัณฑ์รวมทั้งน้ำมัน

- อิหร่านประกาศเพิ่มการผลิตแร่ยูเรเนียมและที่ผลิตนิวเคลียร์ อีก 10 แห่ง สร้างความกังวลให้กับประเทศทางตะวันตกว่าอิหร่านจะทำการผลิตระเปิดปรมาณู และส่งผลให้สหรัฐฯและฝรั่งเศสออกมากดดันประเทศต่างๆให้เพิ่มมาตรการลงโทษกับอิหร่าน

ปัจจัยลบที่มีผลต่อราคาน้ำมัน

- ตลาดยังคงกังวลต่อปัญหาหนี้สูงของประเทศในกลุ่มยูโร ทั้งกรีซ โปรตุเกส และสเปน  และส่งผลให้ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลงลงกว่า 103 จุด ปิดตลาดต่ำกว่า 10,000 จุด เป็นครั้งแรกจากเดือนพ.ย. 2552 โดยมีแรงขายหุ้นกลุ่มธนาคารออกมาอย่างหนัก เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าธนาคารเหล่านี้อาจต้องเพิ่มทุนหากหนี้ของประเทศดังกล่าวเกิดปัญหา

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์  ตลาดลอนดอน ส่งมอบเดือน มี.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 0.52 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่ 70.11 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบดูไบ  ตลาดสิงคโปร์ ปรับลดลง 1.19 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่ 69.28 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

-สนับสนุนข้อมูลโดย บมจ. ไทยออยล์-
 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2010, 10:03:21 AM
หุ้นจีนอาจดีดตัวหลังหยุดยาวช่วงตรุษจีน ส่วนตลาดอสังหาฯ ฮ่องกงจะเข้าสู่ระยะพักฐานเร็ว ๆ นี้

Posted on Tuesday, February 09, 2010
คาดตลาดอสังหาฯ ฮ่องกงจะเข้าสู่ระยะพักฐานเร็ว ๆ นี้

จัสติน จิว ผู้อำนวยการบริหารบริษัท เฉิงกง (โฮลดิ้งส์) กล่าวแสดงความคิดเห็นว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ฮ่องกงขยายตัวรวดเร็วเกินไป และคาดว่าตลาดจะเข้าสู่ระยะพักฐานในไม่ช้านี้ พร้อมกับเตือนให้ผู้ซื้อตระหนักถึงภาวะฟองสบู่ที่อาจเกิดขึ้นในวันข้างหน้า

นายจิวกล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อบ้านที่อยู่ในระดับต่ำและคำสั่งซื้อจำนวนมากจากนักลงทุนจีน ส่งผลให้ราคาบ้านในฮ่องกงพุ่งขึ้น 29% ในปีที่แล้ว และทำให้ฮ่องกงมีความเสี่ยงสูงที่จะเผชิญกับภาวะฟองสบู่ ทั้งนี้ นายจิวแนะนำให้ผู้ซื้อระมัดระวังก่อนที่จะตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์

ก่อนหน้านี้ เฉิงกง ซึ่งมีนายลี กา-ชิง เป็นประธาน คาดการณ์ว่าราคาบ้านระดับหรูหราในฮ่องกงจะพุ่งขึ้น 15% ในปีนี้ และคาดว่าราคาที่พักอาศัยโดยทั่วโลกจะทะยานขึ้น 15-20%

บริษัท ไนท์แฟรงค์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังระดับโลกและมีสำนักงานอยู่ในกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ เปิดเผยในรายงานว่า ราคาบ้านในฮ่องกงทะยานขึ้นสูงสุดในปีที่แล้วเมื่อเทียบกับบรรดาตลาดอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ทั่วโลก ซึ่งเป็นสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นว่าฮ่องกงอาจเผชิญกับภาวะฟองสบู่ด้านอสังหาริมทรัพย์

ไนท์แฟรงค์ เปิดเผยดัชนีราคาอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลก โดยระบุว่าราคาบ้านโดยเฉลี่ยในฮ่องกงพุ่งขึ้น 33% แซงหน้าราคาบ้านในอิสราเอลที่เพิ่มขึ้น 22% และเกือบ 16% ในนอร์เวย์

ปัจจัยที่ทำให้ราคาบ้านในฮ่องกงทะยานขึ้นเหนือประเทศอื่นๆมาจากอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ และจากการที่รัฐบาลใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อสกัดกั้นการร่วงลงของราคาอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลก จนส่งผลให้ราคาบ้านในฮ่องกงพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรง และทำให้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ต้องออกรายงานเตือนรัฐบาลฮ่องกงให้ใช้นโยบายชะลอความร้อนแรงของตลาดอสังหาริมทรัพย์


ตลาดคาดหุ้นจีนดีดตัวหลังการเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่ช่วงตรุษจีน

ผู้เชี่ยวชาญคาดดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนอาจดีดตัวขึ้นหลังผ่านพ้นเทศกาลตรุษจีน หลังจากที่ดัชนีร่วงลงไป 11% นับตั้งแต่ต้นปี เนื่องจากรัฐบาลจะผ่อนคลายการใช้นโนบายคุมเข้มทางการเงินในเชิงรุก

เจ้าหน้าที่จากบริษัทหลักทรัพย์ซิติก ซีเคียวริตี้ส์คาดการณ์ว่า รัฐบาลจะเริ่มผ่อนคลายความเข้มงวดในการใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงิน เนื่องจากเศรษฐกิจอาจอ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจทำให้นักลงทุนอาจเข้ามาซื้อขายในตลาดหุ้นมากขึ้น

ขณะที่รัฐบาลอาจเพิ่มการออกเงินกู้เพื่อให้ความช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรมบางกลุ่ม โดยเฉพาะภาคอสังหาริมทรัพย์ หลังจากที่การขยายตัวทางเศรษฐกิจเริ่มอ่อนแรงลงในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นที่ซบเซาในระยะนี้มีสาเหตุจากการใช้มาตรการควบคุมการขยายตัวด้านเงินกู้ของรัฐบาลและการใช้มาตรการป้องกันภาวะฟองสบู่ด้านสินทรัพย์

เมื่อเดือนที่ผ่านมา จีนได้เริ่มดำเนินนโยบายการเงินแบบเข้มงวด จากกรณีที่ธนาคารกลางจีนประกาศเพิ่มสัดส่วนการกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์เพื่อควบคุมการขยายตัวของสินเชื่อ ซึ่งหนุนให้ราคาอสังหาริมทรัพย์เดือนธ.ค. พุ่งสูงสุดในรอบ 18 เดือน ขณะที่ภาวะฟองสบู่ในสินทรัพย์ก็เป็นปัญหาที่น่าวิตกกังวลสำหรับเศรษฐกิจจีน

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนจะเปิดเผยข้อมูลราคาบ้าน อัตราเงินเฟ้อ ตัวเลขการค้า ปริมาณเงินหมุนเวียน และเงินกู้ภาคธนาคารประจำเดือนม.ค.ในสัปดาห์นี้ โดยคาดว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือนม.ค.จะเพิ่มขึ้น 2.1% และดัชนีราคาผู้ผลิตจะขยายตัว 3.5% ส่วนการส่งออกในเดือนที่ผ่านมาจะทะยานขึ้น 29.5% จากปีก่อนหน้านี้

สำหรับเทศกาลตรุษจีน ก็จะพิธีการเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่ ชาวจีนทั่วประเทศต่างเตรียมตัวฉลองเทศกาลตรุษจีนอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะแรงงานอพยพในกรุงปักกิ่ง ต่างนับถอยหลังเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป

กระทรวงการรถไฟของจีนคาดการณ์ในเดือน ม.ค.ว่า ระบบการคมนาคมขนส่งทางรถไฟของจีนจะมีผู้โดยสารใช้บริการ 210 ล้านคน ในระหว่างวันที่ 30 ม.ค.-10 มี.ค. 2553 ซึ่งเป็นช่วงก่อนและหลังเทศกาลตรุษจีน เพิ่มขึ้น 10% จากเมื่อปีที่แล้ว

บรรดาคนงานต่างมีความเห็นตรงกันว่า บรรยากาศช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้คึกคักกว่าปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่จีนได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจและการเงินโลก

ขณะเดียวกัน มีการคาดกันว่าเศรษฐกิจจีนปีนี้จะขยายตัวถึงร้อยละ 10 จากแรงขับเคลื่อนของการขยายตัวด้านการลงทุนและการบริโภคภายในประเทศ ด้านกระทรวงรถไฟจีน คาดจะมีผู้โดยสารใช้บริการขนส่งสาธารณะทั้งทางรถไฟ รถโดยสาร และเครื่องบิน ราว 200 ล้านคน ในช่วงเทศกาลวันหยุดที่ยาวนานถึง 40 วัน

ในฝั่งของการลงทุน ตลาดหุ้นจีนจะหยุดเทรด ตั้งแต่วันที่ 15-19 ก.พ. นี้


กังวลขาดดุลยุโรปยังถ่วงหุ้น ขณะราคาโภคภัณฑ์ดีดกลับ

ดัชนี MSCI World Index ยังติดลบก่อนเปิดตลาดเอเชียเช้าวันนี้ แม้นักลงทุนบางส่วนจะหวนกลับเข้าช้อนซื้อหุ้นในหมวดอาหารไปจนถึงธุรกิจเหมือง จนส่งผลให้ตลาดหุ้นยุโรปสามารถปิดบวกขึ้นได้เป็นครั้งแรก หลังจากที่เพิ่งทำสถิติการลดลงรายสัปดาห์ที่แรงที่สุดในเกือบปีไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รวมถึงการที่มีตัวชี้วัดทางเทคนิคที่ส่งสัญญาณว่าหุ้นอาจเข้าข่ายการถูกขายมากเกินไปในขณะนี้

ในขณะเดียวกัน ราคาสินค้าโภคภัณฑ์หลายประเภทก็ดีดตัวกลับขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมัน ทองแดง อลูมินั่ม สังกะสี รวมไปถึงทองคำ

อย่างไรก็ดี ที่ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ความวิตกในเรื่องการขาดดุลการคลังของรัฐบาลยุโรปบางประเทศยังคงปกคลุมบรรยากาศการลงทุน และกดดันให้ดัชนี Dow Jones ร่วงลงต่ำกว่าระดับ 10,000 จุดเป็นวันที่สามติดต่อกันแล้ว นำโดยแรงขายหุ้นในกลุ่มธนาคาร ที่รวมถึง Bank of America

และแม้ว่ารัฐมนตรีคลังรวมถึงนายธนาคารกลางของยุโรปจะยังแสดงความเชื่อมั่นว่ากรีซจะสามารถแก้ปัญหาการคลังของตัวเองได้ แต่นักลงทุนในตลาดดูเหมือนจะไม่คิดเช่นนั้น เมื่อดูจากมุมมองผู้บริหารของกองทุนพันธบัตรยักษ์ใหญ่ อย่าง Pacific Investment Management หรือ PIMCO ที่บอกว่า กรีซมีความจำเป็นที่ต้องพึ่งพิงความช่วยเหลือจากภายนอกสำหรับการแก้ปัญหาการขาดดุลที่มากที่สุดในบรรดาประเทศสหภาพยุโรป ขณะที่ผู้บริหารส่วนงานวิจัยของ Roubini Global Economics ที่ลอนดอน ระบุว่า ปัญหากำลังลุกลามไปยังตลาดอื่น ถ้าหากยังไม่สามารถหาวิธีที่จะหยุดยั้งสถานการณ์ได้

ถ้าไปดูอัตราค่าความเสี่ยงของภาคธุรกิจ หรือ corporate credit risk ในตอนนี้จะพบว่า ตัวเลขได้ไต่ขึ้นไปอยู่ในระดับที่สูงสุดในรอบมากกว่าสองเดือนแล้ว ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงความวิตกของนักลงทุนในเรื่องผลกระทบที่อาจจะขยายวงกว้างออกไปสู่สินทรัพย์ประเภทอื่นๆ

จากปัจจัยดังกล่าวทำให้หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงหนักเมื่อเทียบกับกลุ่มอื่น และยังคงกดดันดัชนี S&P 500 ที่ได้ปรับตัวลดลงมาแล้วเป็นสัปดาห์ที่สี่ติดต่อกัน ซึ่งปัจจัยลบก็ยังรวมไปถึงความเป็นห่วงในเรื่องสถานะทางเครดิตของประเทศหรือการที่จีนออกมาตรการชะลอเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา


อดีตผู้บริหารเมอร์ริลลินช์เข้ารับตำแหน่งซีอีโอ CIT Group

อดีตประธานเจ้าหน้าที่ผู้บริหารของ Merrill Lynch นั่นคือ นาย John Thain ที่สวมบทแมวเก้าชีวิตกลับมารั้งตำแหน่งผู้คุมบังเหียนของสถาบันการเงิน ที่เป็นผู้ปล่อยกู้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ อย่าง CIT Group

ขาใหญ่แห่งแวดวงการเงินอสังหาฯ รายนี้ เพิ่งผงาดกลับขึ้นมาได้จากสภาวะการคุ้มครองล้มละลายเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา และใช้ความพยายามอยู่ถึงเกือบ 4 เดือนก่อนที่จะสามารถหาตัวผู้ที่สมควรขึ้นมานั่งแท่นตำแหน่งแทนผู้นำคนเก่าได้

CIT ระบุผ่านแถลงการณ์ว่า Thain ได้เข้ามานั่งดำรงตำแหน่งซีอีโอ หรือ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซึ่งจะมีผลในทันที แทนตำแหน่งที่ถูกรักษาการโดยสมาชิกคณะกรรมการบริษัท คือ นาย Peter Tobin หลังจากการลาออกของซีอีโอคนก่อน ที่เป็นลูกหม้อของ Merrill Lynch เช่นกัน ซึ่งก็คือ นาย Jeffrey Peek ที่นั่งแท่นผู้นำมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปี 2004 ก่อนมาถึงทางตันด้วยการจมอยู่กับสินทรัพย์ subprime ที่นำไปสู่การล้มละลายเหมือนกับสถาบันการเงินหลายแห่ง

Thain ถูกนาย Kenneth Lewis ที่ต่อมากลายมาเป็นซีอีโอของ Bank of America บีบให้ลาออกภายหลังจากดีลการเทคโอเวอร์ Merrill Lynch จบสิ้นลง และคราวนี้เขากำลังกลับเข้ามารับบทหนักอีกครั้ง ในการนำพาสถาบันการเงินที่ยังมีสถานะทางการเงินอยู่บนเส้นด้าย และกำลังพึ่งพาแค่เพียงเงินช่วยเหลือที่ได้มาจากรัฐเมื่อปี 2551 เท่านั้น แถมยังปิดประตูไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมเลยแม้แต่ในตลาดตราสารภาคเอกชน หรือ commercial paper ที่ถือว่าเป็นแหล่งระดมทุนแบบดั้งเดิมที่เคยใช้กันมาตลอด

ด้วยสถานะในปัจจุบันของ CIT ที่มีฐานที่มั่นในนิวยอร์ก ได้ปล่อยสินเชื่อให้แก่ภาคธุรกิจกว่า 3,000 บริษัท และถือว่าเป็นยักษ์ใหญ่เบอร์ 3 ของวงการปล่อยลีสซิ่งรถไฟ ไปจนถึงเครื่องบิน ที่ตลาดสหรัฐฯ ซึ่งเขาเองก็จะมีพนักงานภายใต้บังคับบัญชาถึงกว่า 4,000 คน แม้ว่าจะเป็นตัวเลขเพียงแค่เศษเสี้ยวของจำนวนพนักงานราว 64,000 จากสถาบันการเงินที่เขาได้ก้าวขาออกมา อย่าง Merrill Lynch ก็ตาม

ต่อจากนี้งานหินของ John Thain ที่ต้องทำก็คือ การหาวิธีการระดมทุนแบบต้นทุนต่ำ การยกเลิกกฏข้อบังคับในฝ่ายงานที่ทำธุรกิจธนาคาร รวมถึงการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ดูแลนโยบายจากรัฐ ที่กำลังเป็นห่วงถึงเงินช่วยเหลือในส่วนของกระทรวงการคลังที่ถูกละลายหายไปแล้วราว 2,300 ล้านเหรียญ


ออสเตรเลียปรับนโยบายผู้อพยพ ดูดแรงงานทักษะสูง

คริส อีแวนส์ รัฐมนตรีกระทรวงการอพยพเข้าเมืองของออสเตรเลีย ประกาศเปลี่ยนแปลงนโยบายเพื่อดึงดูดให้แรงงานที่มีทักษะสูงเข้าประเทศมากขึ้น โดยออสเตรเลียจะยกเลิกมาตรการบังคับให้แรงงานต้องมีทักษะ 106 อย่าง และจะพิจารณาเกณฑ์การวัดผลคะแนนของผู้อพยพเข้าประเทศใหม่อีกครั้ง นอกจากนั้นจะเน้นรับผู้ที่มีความรู้ด้านสุขภาพเข้าประเทศมากขึ้น ซึ่งรวมถึงหมอและพยาบาล

อีแวนส์ กล่าวว่า "ตอนนี้มีนักเรียนหลายหมื่นคนที่ต้องเรียนทำอาหาร ทำผม และทำบัญชี เพียงเพื่อให้ได้อาศัยอยู่ในออสเตรเลียเป็นการถาวร เพราะทักษะดังกล่าวอยู่ในรายชื่อทักษะที่ผู้อพยพต้องมี"

ขณะเดียวกันข้อเสนอดังกล่าวก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากอุตสาหกรรมเหมืองแร่ เนื่องจากบริษัทใหญ่อย่าง บีเอชพี บิลลิตัน และ ริโอ ทินโต กำลังต้องการแรงงานหลายหมื่นอัตราเพื่อรองรับดีมานด์จากจีน

ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติของออสเตรเลียรายงานว่าในออสเตรเลียมีชาวต่างชาติอาศัยอยู่ถึง 4.4 ล้านคน และเมื่อปีที่แล้วมีผู้อพยพที่ยื่นเรื่องขออาศัยและทำงานในออสเตรเลียเป็นการถาวรราว 170,000 คน แต่มีงานว่างเพียง 108,100 อัตรา


อินเดียคาดเศรษฐกิจประเทศขยายตัว 7.2%

รัฐบาลอินเดียออกแถลงการณ์คาดการณ์ในวานนี้ว่า เศรษฐกิจอินเดียมีแนวโน้มขยายตัว 7.2% ในปีงบประมาณ 2552 ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนมีนาคมนี้ เพิ่มขึ้นจากระดับ 6.7% ในปีงบประมาณ 2551 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจขยายตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

เหล่านี้เป็นสัญญาณบ่งชี้ที่อาจทำให้รัฐบาลอินเดียตัดสินใจถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระหว่างการแถลงงบประมาณฉบับใหม่ในเดือนนี้

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวยังต่ำกว่าที่ธนาคารกลางอินเดียคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 7.5% ซึ่งทำให้นักลงทุนผิดหวังและฉุดตลาดหุ้นอินเดียดิ่งลง

กระทรวงสถิติอินเดียเปิดเผยว่า ความแข็งแกร่งในภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการได้ช่วยชดเชยภาวะหดตัวในภาคการเกษตรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง

ส่วนภาคอุตสาหกรรมมีแนวโน้มขยายตัว 8.2% ในปีงบประมาณ 2552 และภาคบริการ รวมถึงการเงิน อสังหาริมทรัพย์ และโรงแรม มีแนวโน้มขยายตัว 8.7% นอกจากนี้ คาดว่ารายได้ประชาชาติต่อหัวจะเพิ่มขึ้น 5.4% แตะที่ 33,540 รูปี หรือ 716.66 ดอลลาร์สหรัฐ


จีนปิดเว็บไซต์สอนแฮกเกอร์ใหญ่ที่สุดในประเทศ

จีนปิดเว็บไซต์ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นเว็บไซต์สอนแฮกเกอร์ใหญ่ที่สุดในประเทศ และจับกุมสมาชิกเว็บไซต์ 3 คน

หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น รายงานอ้างตำรวจเมืองหวงกัง ทางตะวันตกของเมืองหวู่ฮั่น ว่า เว็บไซต์ ?แบล็ค ฮอว์ก เซฟตี้ เน็ต? สอนเทคนิคการเจาะข้อมูล และให้บริการดาวน์โหลดซอฟต์แวร์สำหรับเจาะระบบโดยคิดค่าบริการ เว็บไซต์นี้ถูกปิดไปเมื่อปลายเดือน พ.ย.ปีก่อน ส่วนสมาชิก 3 คนถูกจับฐานต้องสงสัยก่ออาชญากรรม

การเจาะข้อมูลทางคอมพิวเตอร์ในจีนได้รับความสนใจจากทั่วโลก หลังจากเว็บไซต์กูเกิล ขู่จะปิดให้บริการในจีนเมื่อเดือนก่อน เพราะถูกแฮกเกอร์จากจีนโจมตีอย่างหนักทำให้ทรัพย์สินทางปัญญาบางอย่างถูกขโมยไป แต่ทางการจีนปฏิเสธมีส่วนเกี่ยวข้อง ขณะที่ นายเจมส์ มูลเวนอน ผู้เชี่ยวชาญด้านไซเบอร์ เคยให้การต่อรัฐสภาสหรัฐ เมื่อปี 2551 ว่า เมืองหวู่ฮั่น เป็นที่ตั้งขององค์กรฝึกฝนแฮกเกอร์ในจีน

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่จะประกาศออกมาวันนี้ (อังคารที่ 2 ก.พ. 2553)
? ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (ธ.ค.) โดย สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติสหรัฐฯ

ติดตาม Money Wake up ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ออกอากาศซ้ำเวลา 11.00 น. ทาง Money Channel
 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: nokeang ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2010, 10:07:28 AM
([url]http://upic.me/i/v4/aaik1.gif[/url]) ([url]http://upic.me/show.php?id=180217eeb0678e519c43f779296b1f05[/url])
ดัชนีไทย 60นาทีช่วงปิดตลาด
  ([url]http://upic.me/i/gu/e2ki2.gif[/url]) ([url]http://upic.me/show.php?id=f6b0b141edd111da8e55acc32a27982d[/url])

    :) สวัสดีค่ะคุณทองใหม่ เซ็ทมีกราฟแป๊ะยิ้มด้วยเหรอค่ะ รบกวนนำมาฝากบ่อยๆ หรือแนะนำบ้างได้รึป่าวค่ะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ   :)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2010, 10:26:08 AM
 (http://upic.me/i/j8/013c1.gif) (http://upic.me/show.php?id=23c941f1cb60579ca63a7b2f791e703a)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2010, 10:26:36 AM
 (http://upic.me/i/at/mq1z2.gif) (http://upic.me/show.php?id=273a9db4c0610d2779a12e80e8782ad9)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2010, 10:30:16 AM
([url]http://upic.me/i/v4/aaik1.gif[/url]) ([url]http://upic.me/show.php?id=180217eeb0678e519c43f779296b1f05[/url])
ดัชนีไทย 60นาทีช่วงปิดตลาด
  ([url]http://upic.me/i/gu/e2ki2.gif[/url]) ([url]http://upic.me/show.php?id=f6b0b141edd111da8e55acc32a27982d[/url])

    :) สวัสดีค่ะคุณทองใหม่ เซ็ทมีกราฟแป๊ะยิ้มด้วยเหรอค่ะ รบกวนนำมาฝากบ่อยๆ หรือแนะนำบ้างได้รึป่าวค่ะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ   :)
กราฟนี่ไม่ใช่ตาแป๊ะ กราฟตาแป๊ะอยู่ด้านบนหน้านี้ กราฟนี้คือกราฟใหม่2010จ้า


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2010, 10:48:16 AM
ดัชนีไทย 60นาที แป๊ะรองไห้ที่พื้น
 (http://upic.me/i/ag/q6p21.gif) (http://upic.me/show.php?id=9c1bb953e750de2cea4c8cae7b9b0673)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2010, 11:23:21 AM
09 ก.พ. 2553


Gole Market Commentaly

ประเด็นสำคัญ
-         แรงซื้อคืนหนุนทองปิดบวก 1.3%
-         ดอลล์อ่อนหลังตลาดหุ้นตปท.ฟื้นหนุนความต้องการเสี่ยง
-         อากาศหนาวหนุนน้ำมันดิบปิดบวก 70 เซนต์
-         ดาวโจนส์ปิดร่วง 103.84 จุด ต่ำกว่า 10,000 จากวิตกหนี้ยูโรโซน


ราคาทองที่ตลาดสหรัฐปิดปรับขึ้น 1.3% ในวันจันทร์ โดยได้แรงหนุนจากการร่วงลงของดอลลาร์และแรงซื้อคืน หลังจากที่ทองร่วงสู่จุดต่ำสุดรอบ 3 เดือนเมื่อวันศุกร์   สัญญาทองส่งมอบเดือนเม.ย.เคลื่อนตัวในช่วง 1,061.80-1,074.30 ดอลลาร์   ในขณะที่มีปริมาณการซื้อขายราว 138,431 สัญญา ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 1,481.00 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 5.90 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 407.65 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 9.40 ดอลลาร์
      ทองได้แรงหนุนจากการปรับตัวลงของดัชนีดอลลาร์และค่ายูโรที่มีเสถียรภาพมากขึ้น  แต่ความวิตกเกี่ยวกับเสถียรภาพด้านการคลังของกรีซ, โปรตุเกสและสเปนส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลกในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งสกัดกั้นความต้องการสินทรัพย์เสี่ยง
        หุ้นกลุ่มการเงินยังถูกกดดันจากกฏเกณฑ์ที่เข้มงวดมากขึ้นที่คณะบริหารของปธน.โอบามาเสนอเมื่อไม่นานมานี้เพื่อควบคุมการแบกรับความเสี่ยงของภาคธนาคาร   
   นักวิเคราะห์จากบริษัท Quantitative Commodity Research กล่าวว่า สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนแอลงทำให้นักลงทุนแห่ซื้อสัญญาทองคำ ส่งผลให้ราคาสัญญาทะยานขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบ 1 สัปดาห์ โดยเมื่อวานนี้ ดัชนี U.S. Dollar Index ร่วงลง 0.4% นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้รับแรงหนุนจากคำสั่งซื้อของนักลงทุนจีน ก่อนที่เทศกาลตรุษจีนจะเริ่มขึ้นในวันที่ 14 ก.พ.นี้
      กองทุน SPDR Gold trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยว่าทางกองทุนได้ถือครองทองแท่งระดับ 1,106.378 ตัน ณ วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2553 เพิ่มขึ้น 1.828 ตัน จากวันที่ 5 กุมภาพันธ์
       กลยุทธ์ :  สัปดาห์นี้ราคาทองอาจจะแกว่งในกรอบราคา 20-30US$
1074 ? 1045 US$ ให้เล่นสั้นทำกำไร อาจจะหาจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาปรับฐานลงมาได้ในต้นสัปดาห์ แล้วหาโอกาสขายทิ้งช่วงวันศุกร์ทำกำไร เพราะจะมีโอกาสลงไปที่แนวแนวระดับราคา 1040 US$ ในอีกในช่วงกลางเดือนเกิดขึ้นได้


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2010, 11:41:16 AM
ขอบคุณค่ะคุณทองใหม่   ข้อมูลแยอะมากอ่านอิ่มเลยค่ะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2010, 11:42:55 AM
แป๊ะร้องไห้ที่พื้หมายถึงว่าราคาลงมากแล้วซื้อได้แล้วรึเปล่าคะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: oyo ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2010, 11:47:48 AM
ขอบคุณครับคุณทองใหม่ ขยันทุกวัน รักษาสุขภาพด้วยนะครับ ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2010, 12:38:52 PM
แป๊ะร้องไห้ที่พื้หมายถึงว่าราคาลงมากแล้วซื้อได้แล้วรึเปล่าคะ
ใช่ครับ อันนั้นดัชนีไทยนา ไม่ใช่ทองนะครับ ราย60นาทีจ้า


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2010, 12:44:43 PM
 ทอง
(http://upic.me/i/1j/nqc1a.gif) (http://upic.me/show.php?id=1fc1bfeb72824322263888faa49455c9)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2010, 12:46:07 PM
ดัชนีดอลล์เมกา
 (http://upic.me/i/tt/hyp2a.gif) (http://upic.me/show.php?id=834b7b56da69f7c2a0ab4ca27e8382a9)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2010, 12:47:27 PM
น้ำมัน
 (http://upic.me/i/s3/t1q3a.gif) (http://upic.me/show.php?id=b1215f8f506b821883fc7e1866d621f3)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: nokeang ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2010, 12:50:58 PM
 :)  ขอบคุณค่ะ คุณทองใหม่ แป๊ะยังไม่ยิ้ม จึงยิ้มไม่ออกเหมือนกัน  :'( :'( ???


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2010, 01:57:35 PM
 (http://upic.me/i/9l/0ycv1.gif) (http://upic.me/show.php?id=50c137659c6039ed3d2fcf10630256ac)  (http://upic.me/i/j8/7qbk2.gif) (http://upic.me/show.php?id=ee3f56f07c68898badf607f9b3b5137b)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Cindy ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2010, 02:03:21 PM
ขอบคุณค่ะอาจารย์... เห็นราคาทองแล้วอยากซื้อ แต่ก็กลัวว่าจะร่วงลงอีกเลยไม่กล้าเข้า
กลัวได้ดอยมาอีก เพราะที่มีก็เยอะอยู่แล้ว รอสัปดาห์หน้าหลังตรุษจีนค่อยว่ากันใหม่
รอเงินทุนจากแต๊ะเอีย555 ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2010, 02:55:45 PM
ขอบคุณค่ะคุณทองใหม่  แล้วกราฟทองมีตัวหนังสือสีแดงขึ้นที่แถวๆ1050ก็แสดงว่าเป็นราคาที่น่าซื้อเหรอคะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2010, 03:17:28 PM
ขอบคุณค่ะคุณทองใหม่  แล้วกราฟทองมีตัวหนังสือสีแดงขึ้นที่แถวๆ1050ก็แสดงว่าเป็นราคาที่น่าซื้อเหรอคะ
ใช่ครับ แต่แค่ตัวเดียวยังไม่แข็งแรง โอกาสผิดพลาดยังมีอยู่ครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Belmont ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2010, 03:55:04 PM
ขอบคุณพี่ทองใหม่ครับ
แสดงว่าตรุษจีนปีนี้ ถึงขึ้นก็คงขึ้นไม่แรงใช่มั๊ยครับ
นี้ม่า ผมเมื่อวานก็ไปต่อคิวได้ตั๋วกลับมาหวังขายตรุษจีนนี้


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2010, 05:24:51 PM
 (http://upic.me/t/da/krb41.gif) (http://upic.me/show.php?id=479086d8ba02a48b4e6fc50e4b0f931e)
ดัชนีไทยตาแป๊ะ60นาทีช่วงปิดตลาด  
 (http://upic.me/t/yq/fbmk2.gif) (http://upic.me/show.php?id=1a17d7affb49d3a416a4d3d55a5f9b18)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2010, 06:21:42 PM
SETพรุ่งนี้(10ก.พ.)ร่อแร่-แนะขึ้นขายลงซื้อ         
Tuesday, 09 February 2010 16:54 
หุ้นไทยพรุ่งนี้ (10ก.พ.2553) โดนถล่มทั้งนอกและใน โบรกแนะจับตาตลาดหุ้นนอก-ราคาน้ำมัน-ค่าเงินดอลลาร์-ตัวเลข
เศรษฐกิจสหรัฐฯ พร้อมชี้กลยุทธ์ซื้อเมื่ออ่อนตัวหรือขายเมื่อดัชนีฯขึ้น ให้แนวรับ 680-670 จุด แนวต้าน 690-695 จุด

 นางสาวอาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงภาพรวมดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยในวันนี้ ว่า ดัชนีฯปรับตัวลดลงค่อนข้างมากในการซื้อขายช่วงเช้า เนื่องจากนักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาการคลังของประเทศแถบยูโรโซน นอกจากนี้ ตลาดหุ้นไทยยังได้รับปัจจัยลบจากประเด็นการเมืองภายในประเทศ ทั้งในและนอกสภา ทำให้นักลงทุนระมัดระวังในการลงทุน แต่อย่างไรก็ตาม ในการซื้อขายภาคบ่ายดัชนีฯเริ่มรีบาวน์ เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากทิศทางของตลาดหุ้นภูมิภาคที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น อาทิ ตลาดหุ้นฮั่งเส็ง และตลาดหุ้นไต้หวัน ทั้งนี้แม้ว่าตลาดหุ้นไทยจะรีบาวน์แต่มีมูลค่าการซื้อขายน้อย บ่งชี้ว่านักลงทุนยังระมัดระวังในการลงทุนค่อนข้างมากและยังไม่มั่นใจกับภาวะตลาดฯ

 โดยดัชนี ฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดตลาดที่ระดับ 19,790.28 จุด เพิ่มขึ้น 239.39 จุด หรือ 1.22 % ด้านดัชนี เวทเต็ด ตลาดหุ้นไต้หวัน ปิดตลาดที่ระดับ 7,361.04 จุด เพิ่มขึ้น 145.16 จุด หรือ 2.01 % และดัชนี สเตรทไทม์ ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ปิดตลาดที่ระดับ 2,745.02 จุด เพิ่มขึ้น 51.40 จุด หรือ 1.91 %

 สำหรับแนวโน้มดัชนีฯในวันพรุ่งนี้(10 ก.พ.53) ประเมินว่า ดัชนีฯน่าจะแกว่งตัว ซึ่งอาจรีบาวน์ได้จำกัด เนื่องจากมีปัจจัยกดดันทั้งภายในและภายนอก แต่ทั้งนี้คงต้องติดตามทิศทางการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นต่างประเทศ รวมถึงราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกและค่าเงินดอลลาร์ เนื่องจากประเด็นดังกล่าวมีผลกระทบต่อจิตวิทยาการลงทุน

ปัจจัยที่ต้องติดตามสัปดาห์นี้ คือ ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ วันที่ 10 ก.พ.ตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์, 11 ก.พ. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจธ.ค., 12 ก.พ.ดัชนีความเชื่อมั่นขั้นต้นก.พ.

อย่างไรก็ตาม สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำ ซื้อเมื่ออ่อนตัว หรือขายเมื่อดัชนีฯปรับตัวเพิ่มขึ้นเพื่อปรับพอร์ต เนื่องจากมองว่าตลาดหุ้นไทยยังแกว่งตัวขาลง โดยให้แนวรับ 680-670 จุด แนวต้าน 690-695 จุด 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2010, 06:23:44 PM
ทองโลกโดนดอลล์-ยุโรปฉุดแตะ1,080-1,090เหรียญ       
Tuesday, 09 February 2010 15:28 
สมาคมค้าทองฯ เผยระยะสั้นทองโลกยังติดแนวต้าน 1,080-1,090 เหรียญ หลังเงินดอลล์แข็งค่า-เศรษฐกิจยุโรปกดดัน
 นายแพทย์กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ รองเลขาธิการสมาคมค้าทองคำแห่งประเทศไทย กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำตลาดโลกในระยะสั้นยังมีแนวต้านสำคัญที่ 1,080-1,090 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากมีปัจจัยกดดันจากประเด็นค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า เพราะนักลงทุนกังวลปัญหาเศรษฐกิจในประเทศแถบยุโรป ส่งผลให้เม็ดเงินจากตลาดหุ้น รวมถึงสินค้าโภคภัณฑ์ทั้งราคาน้ำมันและทองคำไหลกลับเข้ามาในเงินดอลลาร์แทน ส่วนแนวรับราคาทองคำโลกประเมินไว้ที่ 1,045-1,020 ดอลลาร์/ออนซ์

 โดยปัจจุบันราคาทองคำในตลาดโลกยังมีแนวโน้มผันผวนยังไม่สามารถประเมินราคาทองคำในระยะกลาง-ยาวได้ และแม้ว่าจะใกล้ช่วงเทศกาลตรุษจีนซึ่งตามปกติราคามีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่เพราะปัจจัยค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าและตัวเลขเศรษฐกิจโลกไม่ดียังกดดันเป็นหลัก

 'ใกล้ตรุษจีนแต่ราคาทองกลับยังมีทิศทางลงอยู่เพราะว่าปัญหาค่าเงินดอลล์ที่แข็งค่า และเรื่องตัวเลขเศรษฐกิจไม่ดีโดยเฉพาะช่วงนี้ที่มีข่าวร้ายจากฝั่งยุโรป ดังนั้น 2 ปัจจัยดังกล่าวจะต้องติดตามอย่างใกล้ชิดหากสถานการณ์ฝั่งยุโรปคลี่คลาย ก็อาจทำให้เงินยุโรปแข็งค่าได้ และค่าเงินดอลล์กลับมาอ่อนค่า เหมือนเดิมสนับสนุนราคาทองคำเป็นบวก  ' นายแพทย์กฤชรัตน์กล่าว

 ทั้งนี้พฤติกรรมของผู้บริโภคทองคำในประเทศปัจจุบัน ส่วนใหญ่จะเข้ามาลงทุนแบบเก็งกำไรมากกว่าการซื้อเพื่อสะสมหรือซื้อเพื่อเป็นเครื่องประดับ ทั้งในทองคำแท่ง Gold Futures หรือกองทุนที่เกี่ยวข้องกับทองคำมากขึ้น 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2010, 06:27:51 PM
ขอบคุณพี่ทองใหม่ครับ
แสดงว่าตรุษจีนปีนี้ ถึงขึ้นก็คงขึ้นไม่แรงใช่มั๊ยครับ
นี้ม่า ผมเมื่อวานก็ไปต่อคิวได้ตั๋วกลับมาหวังขายตรุษจีนนี้
หากถึงวันตรุษจีนแล้วทอง ทองขึ้นได้ไม่มาก..ผมคิดว่าถึงเวลานั้นควรจะขายออกจะดีกว่า กลัวหลังตรุษจีนแล้วทองจะดิ่งลง  ตอนนี้ยังไม่ทราบ ดูไปก่อนครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2010, 06:58:28 PM
สวัสดีค่ะ  คุณทองใหม่ทานข้าวเย็นรึยังคะ 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2010, 07:20:10 PM
สวัสดีค่ะ  คุณทองใหม่ทานข้าวเย็นรึยังคะ 
ยังจ้า โดยปกติแล้วผมจะไม่ทานข้าวเย็นจ๊ะ จะทานเฉพาะข้าวร้อนครับบบบบบบบ ;D ;D ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2010, 07:33:37 PM
14นี้ใครไปเยาวราชเจอกันครับกทม. ชวนเที่ยวงานตรุษจีนไชน่าทาวน์เยาวราช 14-15 ก.พ. นี้
วันอังคารที่ 09 กุมภาพันธ์ 2010 เวลา 18:46 น. ณัฐญา เนตรหิน ข่าวรายวัน - ข่าวในประเทศ   
User Rating: / 0
แย่ดีที่สุด
นายถนอม อ่อนเกตุพล โฆษกกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 3/2553 ซึ่งมี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุม เกี่ยวกับการจัดงานตรุษจีน ไชน่าทาวน์ เยาวราช ประจำปี 2553 ซึ่งกรุงเทพมหานคร ร่วมกับประชาคมเขตสัมพันธวงศ์ จัดกิจกรรมต้อนรับเทศกาลตรุษจีน ระหว่างวันที่ 14-15 ก.พ. นี้ ตั้งแต่เวลา 12.00-24.00 น. ณ บริเวณซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา ถ.เยาวราช จนถึงแยกเฉลิมบุรี เพื่อกระชับความสัมพันธ์ไทย-จีนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดงานวันที่ 14 ก.พ. 53 เวลา 17.00 น.
ภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย อาทิ การแสดงศิลปวัฒนธรรมจากประเทศจีน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของเมืองไทยที่จะได้ชมการแสดงนาฏศิลป์ส่งตรงจาก 10 มณฑลของประเทศจีนที่ให้เกียรติมาเปิดการแสดง พร้อมด้วยนักแสดงกว่า 200 ชีวิต เพื่อเป็นของขวัญพิเศษจากรัฐบาลจีน และกระชับความสัมพันธ์อันดีของรัฐบาลไทย-จีน ตระการตากับโคมไฟนับพัน พร้อมลอดซุ้มประตูโคมไฟเสริมสิริมงคล สนุกกับกิจกรรมสืบสานวัฒนธรรมจีน เช่น การดูโหงวเฮ้ง การดูดวงแบบจีน การแสดงงิ้วเด็ก หมั่นหมิงหรือการดึงขนบนใบหน้าด้วยด้าย หมากรุกจีน การทำเครื่องดื่มจีน อาหารโบราณจีน ขนมโบราณจีน และการแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินแกรมมี่
 

จึงขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนและประชาชนที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรม ฉลองเทศกาลตรุษจีนที่ถนนเยาวราชได้ตั้งแต่เที่ยงวันยันเที่ยงคืน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ สำนักงานเขตสัมพันธ์วงศ์ โทร. 0 2234 9688, 0. 2233 1224-8


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Theephat ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2010, 07:47:47 PM
ขอบคุณคุณทองใหม่ครับ แล้วก่อนตรุษจีนจะได้เห็นทองคำยืนเหนือ 18,000 หรือเปล่าครับ :)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2010, 07:07:51 AM
 วิธีดูทิศทางทอง ต้าน๓----หนุน๓เป็นทิศทางทองที่จะเคลื่อนไหวในวันนี้ หากพุ่งทะลุต้าน๓หรือดิ่งทะลวงหนุน๓ แสดงถึงวันนั้นทองเคลื่อนไหวแรงเกินปกติ เส้นแดนเป็นเส้นที่จะแบ่งแยกทิศทางของทองที่จะขึ้นหรือลง หากทองเคลื่อนไหวอยู่ในทิศทางใดมากและนาน นั่นหมายถึงโอกาสเป็นไปได้มากที่ทองจะเคลื่อนไปในทิศทางนั้นๆ ในช่วงเวลานั้น (ยังต้องแบ่งออกในช่วงเวลาตลาดเอเซีย ยุโรป เมกาด้วย) ต้าน๑และหนุน๑หากถูกทดสอบแบบมีผล(ขึ้นลงมากกว่า๑ครั้ง)แล้วยืนอยู่ได้ นั่นคือทิศทางทองที่จะเดินต่อไปในช่วงเวลานั้น หากการวิเคราะเกิดขัดแย้งกันเมื่อไหร่ ให้หยุดมองดูอย่างเดียว ไม่ควรซื้อ-ขายในช่วงเวลานั้น แนวทางนี้เหมาะกับการเล่นสั้นมาก (เล่นแบบออนไลน์ในอนาคต) มีความแม่นยำถึง80%ครับ อีกอย่างข่าวปัจจัยพื้นฐานอาจเปลี่ยนทิศทางทองได้กะทันหันนะครับ
ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์กับการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย ถัาติดดอยเมื่อทองต่ำลงมา  หากยังมีเงินเหลืออยู่ ควรซื้อเพิ่ม เพิ่มที่ละนิด ต่ำอีกซื้ออีก เพื่อดึงต้นทุนที่สูงให้ต่ำลงมา ใครที่ยังไม่มีทองในมือควรทยอยซื้อเข้าอย่ามากนัก หากทองลงอีก เราก็ซื้ออีก ดีกว่าเวลาทองขึ้นเราไปไล่ซื้อในราคาที่สูง  จดจำเป็นคติเตือนใจว่า  เรามิอาจซื้อได้ในราคาที่ต่ำสุด และขายได้ในราคาที่สูงสุด ไม่มีการลงทุนใดที่ไม่เสี่ยง การบริหารพอร์ตให้ได้จังหวะ จะลดความเสี่ยงลงได้ครับ
กราฟสำคัญ ปัจจัยพื้นฐานก็สำคัญ จิตวิทยาการโน้มเอียงของคนก็สำคัญ สิ่งเหล่านี้หากเป็นไปในแนวเดียวกัน ก็จะมุ่งไปทางนั้น หากแย้งกันก็ต้องดูฝ่ายไหนเหนือกว่า.....ด้วยเหตุนี้ไม่มีนักวิเคราะห์คนใดที่จะทำนายได้แม่นยำตลอดกาลได้ครับ
 (http://upic.me/i/g0/vqn71.gif) (http://upic.me/show.php?id=da5187f6668bcd37cf51ad1bbc2aa46a)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2010, 07:09:01 AM
เส้นปากถุง (BollingerBandsเส้นสีขาวทั้ง๓เส้น)แบบง่ายๆ ไม่ปวดเศียรเวียนเกล้า
เส้นบน---แนวต้าน
เส้นกลาง---แนวโน้ม(สำคัญสุด)
เส้นล่าง---แนวหนุน
ลักษณะที่๑---ทิศทางขึ้นเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น   เส้นกลางหันหัวขึ้น   เส้นล่างหันหัวลง
ลักษณะที่๒---ทิศทางขึ้นเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวขึ้น
เมื่อเจอลักษณะทั้ง๒นี้ ราคาระหว่างวันที่ขึ้นๆลงๆ เมื่อเจอจุดที่เห็นว่าต่ำแล้วให้ซื้อเข้าได้เลยครับ  ขอเพียงเส้นกลาง(แนวโน้ม)ยังหันหัวขึ้นอยู่ แม้ราคาเแท่งเทียนจะอยู่ต่ำกว่าเส้นกลาง ก็ยังซื้อเข้าได้ หากเส้นบนเดินขวางเมื่อไหร่ ให้ทยอยลดพอร์ตได้เลยครับ
ลักษณะที่๓---เลือกทิศทาง---เส้นบนหันหัวลง เส้นล่างหันหัวขี้น ปากถุงแคบลง ถึงช่วงนี้ ให้ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว หากใครยังคิดอยากเคลื่อนไหว ก็จงเคลื่อนไหวไปหน้าทีวี จงอย่าทำการอย่างอื่นใด หากใครเป็นจอมยุทธ์ ก็ชิงเคลื่อนไหวก่อนใครได้  
ขอแถมอีกนิด จงโฟกัสที่เส้นกลาง หากเส้นกลางเริ่มขยบหัวหัวขึ้นหรือลง ทิศทางอาจขึ้นหรือลงตามเส้นกลางแนวโน้มนั้น
ลักษณะที่๔---เคลื่อนไหวในกรอบแคบ---เส้นบน กลาง ล่าง เดินขวางทั้ง๓เส้น หากใครเล่นออนไลน์ สามารถเล่นได้เล็กน้อยอย่ามาก เมื่อราคาแท่งเทียนใกล้เส้นบน จงขาย ใกล้เส้นล่าง จงซื้อ ต้องเข้าออกให้ทันการณ์ หาไม่แล้วจากกำไรอาจขาดทุนได้นา ขอบอก
ลักษณะที่๕---ทิศทางลงเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น เส้นกลางหันหัวลง เส้ยล่างหัวหัวลง
ลักษณะที่๖---ทิศทางลงเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวลง  เมื่อเส้นล่างเดินขวางเมื่อไหร่ ผู้ที่ใจกล้าที่เล่นออนไลน์ เริ่มทยอยซื้อเข้าได้ที่ละนิด อัตราเสี่ยงยังมีอยู่บ้างนะครับ สิบอกไห่
วิธีดูเส้นปากถุงที่กล่าวมานี้ .....ไม่ใช่ตำราของฝรั่ง แบบของฝรั่งผมเคยอ่านมาบ้างแล้ว ยาวมาก ปวดหัว ทำความเข้าใจได้ยากมากๆๆๆๆ ...........เหมาะเฉพาะกราฟราย๔ชม.และช่วงปกติเท่านั้นนะครับ  (บางครั้งตลาดจงใจคึงขึ้นลงอย่าแรงๆ แทบหัวใจวายสำหรับผู้มีทองในมือและผิดทิศทางของตัวเอง เรียกว่า ช่วงไม่ปกติครับ)

 (http://upic.me/i/d5/jmsn2.gif) (http://upic.me/show.php?id=e1094f50a5c2d2f70ec45ee37658edcc)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2010, 07:10:36 AM
กราฟGold 1
ช่อง1 เส้นแดงอยู่เหนือเส้นเขียว---ทิศทางขึ้น  ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น  สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นเขียวอยู่เหนือเส้นแดง---ทิศทางลง     ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นแดงและเขียวประสานเป็นกากะบาด ---กำลังจะเปลี่ยนทิศ ให้ดูเส้นแนวโน้มประกอบ  หากเส้นแดงและเขียวกำลังจะประสาน แต่ไม่ทันได้ประสานก็หันหันหัวกลับขึ้นหรือลง  แสดงว่ากำลังมีเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนี่งเกิดขึ้น หากขึ้นทะลุเส้นปะแนวต้าน ให้ดูเส้นปะแนวต้านเส้นต่อไป หากลงทะลุเส้นปะแนวหนุน ให้ดูเส้นแนวหนุนเส้นต่อไป   ส่วนจุดกลมเหลืองทอง---ทิศทางลง  จุดกลมฟ้า---ทิศทางขึ้น  หากกราฟวิ่งในยามปกติ พอเชื่อถือได้ หากกราฟวิ่งขึ้นลงแรงๆ คือยามไม่ปกติ ไม่อาจเชือถือได้
ช่อง2  ให้ดูเส้นสีม่วง ประกอบกับเส้นแนวโน้มในช่อง1 หากหันหัวไปในทิศทางเดียวกัน  โอกาสที่จะผิดพลาดก็มีน้อย  ส่วนเส้นปะสีเหลืองทองและฟ้า  หากขึ้นเหนือเลข80 เข้าสู่เขตซื้อเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ทุกเมื่อ  หากลงต่ำกว่าเลข20 เข้าสู่เขตขายเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ตลอดเวลา
ช่อง3   ให้ดูทั้ง2เส้น คือเหลืองทองและฟ้า หันหัวไปทิศทางเดียวกันหรือไม่  เท่านั้นยังไม่พอ  ให้ดูประกอบทิศทางในช่อง1ว่าเป็นทิศทางเดียวกันหรือไม่  หากทิศทางหันหัวในแนวเดียวกัน  ทิศทางนั้นเชื่อถือได้

 (http://upic.me/i/f5/l15s3.gif) (http://upic.me/show.php?id=127f0ab97f53aeb31ec615b15d7b8158)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2010, 07:12:26 AM
ขอบคุณคุณทองใหม่ครับ แล้วก่อนตรุษจีนจะได้เห็นทองคำยืนเหนือ 18,000 หรือเปล่าครับ :)
ต้องรอดูต่อไปครับ ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2010, 08:04:36 AM
 (http://upic.me/i/xr/10_1215065958.jpg) (http://upic.me/show.php?id=3286c498092c74a4fb73e591c980bc93)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2010, 08:09:18 AM
http://bbs.520dn.com/thread-214960-1-1.html (http://bbs.520dn.com/thread-214960-1-1.html)
 (http://upic.me/i/53/20101288551143.gif) (http://upic.me/show.php?id=46e71c81b1509d94d01df9e8ca041501)  (http://upic.me/i/sd/20101288551291.gif) (http://upic.me/show.php?id=da1abb1c5663d9209acba954ac1742e0)  (http://upic.me/i/7c/20101288551422.gif) (http://upic.me/show.php?id=cef740621bd41e8233c6d2ee1bac3c63)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2010, 08:19:29 AM
ดอลลาร์อ่อนค่าหนุนทองคำปิดบวก 11ดอลลาร์
วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ 2010 เวลา 08:11 น. ณัฐญา เนตรหิน ข่าวรายวัน - ข่าวต่างประเทศ   
 
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (9ก.พ.)ปิดบวก 11 ดอลลาร์สหรัฐ โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 1,077.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พุ่งขึ้น 11.00 ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,062.10-1,083.80 ดอลลาร์
 เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลงได้กระตุ้นนักลงทุนให้เข้าซื้อสัญญาทองคำ  โดยเมื่อวานนี้ ดัชนี Dollar Index ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของ 6 สกุลเงินในประเทศคู่ค้าหลักของสหรัฐ ดิ่งลง 0.9%

นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่า ไชน่า อินเวสเมนท์ คอร์ป (CIC) ซึ่งเป็นกองทุนบริหารความมั่งคั่งของรัฐบาลจีน เข้าซื้อหุ้นในกองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก จำนวน 1.45 ล้านหุ้น หรือร้อยละ 0.4 คิดเป็นมูลค่า 115.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2010, 08:55:13 AM
[url]http://bbs.520dn.com/thread-214960-1-1.html[/url] ([url]http://bbs.520dn.com/thread-214960-1-1.html[/url])
 ([url]http://upic.me/i/53/20101288551143.gif[/url]) ([url]http://upic.me/show.php?id=46e71c81b1509d94d01df9e8ca041501[/url])  ([url]http://upic.me/i/sd/20101288551291.gif[/url]) ([url]http://upic.me/show.php?id=da1abb1c5663d9209acba954ac1742e0[/url])  ([url]http://upic.me/i/7c/20101288551422.gif[/url]) ([url]http://upic.me/show.php?id=cef740621bd41e8233c6d2ee1bac3c63[/url])

เพื่อนโทรฯมา ผมถามว่า เข้าดูกระทู้แล้วได้ฟังเพลงตรุษจีนยัง? เพื่อนตอบว่า เห็นแต่ภาพตรุษฯ ไม่เห็นมีเพลงเลย  ...แสดงว่า ไม่เป็นจุดให้สังเกตุเห็น เอาใหม่
เว็บเพลงตรุษจีน
    http://bbs.520dn.com/thread-214960-1-1.html (http://bbs.520dn.com/thread-214960-1-1.html)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2010, 10:04:40 AM
Futuresเช้า(10ก.พ.)บวกรับแก้ปัญหากรีซ 11ก.พ.       
Wednesday, 10 February 2010 09:33 
โบรกมอง SET50 Futures เช้านี้ (10 ก.พ.2553) บวกรับธนาคารกลงยุโรปเตรียมหารือแก้ปัญหาการเงินกรีซ 11 ก.พ.นี้ แถมดาวโจนส์ กลับมายืนเหนือ 1 หมื่นจุด - น้ำมันบวกเกือบ 2 เหรียญ ช่วยหนุน แนะเก็งกำไรฝั่งซื้อ ในสัญญา H10 ให้แนวรับ 470 จุด แนวต้าน 485 จุด 

นางสาวมยุรี โชวิกรานต์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEST เปิดเผยถึงการซื้อขายสินค้า SET50 Futures ตลาดอนุพันธ์แห่งประเทศไทย (TFEX) วันนี้ว่า ดัชนีฯ มีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้นตามทิศทางเดียวกับดัชนีอ้างอิง SET50 ที่มีโอกาสปรับตัวขึ้นไป 480 จุด หลังจากได้รับปัจัจยบวกจากการประชุมด่วนของธนาคารกลางยุโรป ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์นี้ เพื่อหารือมาตรการช่วยเหลือภาวะทางการเงินของกรีซอย่างเป็นรูปธรรม 

ทั้งนี้จากปัจจัยเรื่องการประชุมดังกล่าว มีผลออกมาในทิศทางที่ดี ก็จะส่งผลบวกต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์และตลาดหุ้นทั่วโลกให้ฟื้นตัวขึ้นอย่างน้อย 2% เพื่อชดเชยกับการปรับฐานลงอย่างหนักในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่เชื่อว่าการฟื้นตัวดังกล่าวจะเป็นไปในลักษณะรีบาวน์ช่วงสั้นๆ เนื่องจากวิกฤตการเงินในยุโรปยังคงต้องใช้เวลาในการแก้ไขปัญหา

นอกจากนี้ดัชนีดาวโจนส์และราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ก็เป็นปัจจัยบวกต่อการลงทุนในระยะสั้นเช่นกัน โดยวานนี้ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นมาเหนือ 10,000 จุดอีกครั้ง โดยเพิ่มขึ้น 150.25 จุด หรือ 1.52 % ปิดที่ระดับ 10,058.64 จุด จากประเด็นเรื่องความคาดหวังจากการประชุมธนาคารกลางยุโรป ที่เตรียมจะหารือเพื่อแก้วิกฤตการเงินในกรีซ

ด้านราคาน้ำมันในตลาดโลก ปรับตัวขึ้นต่อเป็นวันที่ 2 อีก  1.91 ดอลลาร์ มาอยุ่ที่ระดับ 73.80 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงมาเมื่อเทียบกับเงินยูโร หลังจากเม็ดเงินไหลเข้าสู่ตลาดยุโรปในระยะสั้น เพื่อเก็งกำไรรับประเด็นประชุมธนาคารกลางยุโรป

อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยลบจากแรงขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติ ที่ยังขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน 1,116 ล้านบาทรวมถึงขายสุทธิในตลาดอนุพันธ์อีกเป็นวันที่ 3 อีก 1,427 สัญญา สะท้อนว่าตลาดหุ้นไทยยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาสร้างความน่าสนใจ             

โดยกลยุทธ์การลงทุนแนะนำให้เก็งกำไรฝั่งซื้อ โดยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวช่วงสั้นไว้ที่ 480-485 จุด ในสัญญา S50H10 เดือนมีนาคม 2553 ประเมินแนวรับไว้ที่ 470 จุด แนวต้าน 485 จุด  ส่วนดัชนี SET50 ประเมินแนวรับไว้ที่ 475 จุด แนวต้าน 485-490 จุด   


 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2010, 10:14:15 AM
ราคาทองคำปิดบวก หลังค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า และจีนเข้าซื้อ ETF ทองคำ  

Posted on Wednesday, February 10, 2010
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัวลงได้กระตุ้นนักลงทุนให้เข้าซื้อสัญญาทองคำ นอกจากนี้ ข่าวที่ว่าสหภาพยุโรป (EU) กำลังวางแผนแก้ปัญหาหนี้สาธารณะและยอดขาดดุลงบประมาณของกรีซยังช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลด้วย

นักวิเคราะห์จาก TheBullionDesk.com กล่าวว่า ปัจจัยหลักๆที่ทำให้สัญญาทองคำทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่องมาจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัวลง โดยเมื่อวานนี้ ดัชนี Dollar Index ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของ 6 สกุลเงินในประเทศคู่ค้าหลักของสหรัฐฯ  ดิ่งลง 0.9% เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าสหภาพยุโรปจะช่วยแก้ปัญหายอดขาดดุลงบประมาณของกรีซ

นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่า ไชน่า อินเวสเมนท์ คอร์ป (CIC) ซึ่งเป็นกองทุนบริหารความมั่งคั่งของรัฐบาลจีน เข้าซื้อหุ้นในกองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก จำนวน 1.45 ล้านหุ้น หรือร้อยละ 0.4 คิดเป็นมูลค่า 115.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ทั้งนี้ CIC ได้อัดฉีดเงินลงทุนในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับสินค้าโภคภัณฑ์เป็นวงเงินสูงถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงครึ่งหลังของปี 2552

- ทองคำ ส่งมอบเดือนเมษายน ปิดที่ 1,077.20 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ (+0.11 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์)
- เงิน ส่งมอบเดือนมีนาคม ปิดที่ 15.435 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ (+0.35 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์)
 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2010, 10:49:43 AM
10 ก.พ. 2553


สรุปภาวะตลาดเมื่อวาน
ราคาโกลด์ฟิวเจอร์สแกว่งตัวอยู่ในช่วงแคบเช่นเดิม เช่นเดียวกับราคาทองคำ
สปอตที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นรุนแรงเมื่อคืนนี้ ทองคำแท่งสมาคมฯปิดที่ 16,800/900 บาท เงินบาทแข็งตามดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง


ปัจจัยที่อาจส่งผลต่อเนื่องถึงวันนี้
       กรีซยังมีแนวโน้มประสบปัญหาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะมาตรการลดการขาดดุลของกรีซที่หยุดการขึ้นเงินเดือนและลดสวัสดิการภาครัฐ ได้ส่งผลให้สหภาพแรงงานออกประท้วงต้านอย่างต่อเนื่อง  [Bloomberg, TCAF Research]
       นักลงทุนกลับมาตั้งความหวังว่าปัญหาหนี้สาธารณะของประเทศในยุโรปน่าจะได้รับความช่วยเหลือจากประเทศในกลุ่มอียูในไม่ช้า โดยเฉพาะหลังเมื่อนายทริเชต์ ประธานอีซีบีได้ตัดสินใจออกจากการประชุมเอกสารัตถ์ (Symposium) เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปีของธนาคารกลางออสเตรเลียก่อนกำหนดเพื่อเตรียมการประชุมสุดยอดกลุ่มอียูอย่างไม่เป็นทางการในวันพฤหัสบดีนี้ ทำให้นักลงทุนเริ่มเก็งว่าทางกลุ่มอียูอาจมีการพูดถึงเรื่องมาตรการช่วยเหลือประเทศเล็กๆโดยเฉพาะกรีซ ส่งผลให้ค่าเงินยูโร และสินทรัพย์เสี่ยงต่างรวมถึงทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นไปได้ช้าๆอย่างต่อเนื่อง  [Reuters, RBA, TCAF Research]
       ราคาทองคำ ค่าเงินยูโรและสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆปรับตัวเพิ่มขึ้นรุนแรงอีกครั้งเมื่อแหล่งข่าวของสำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่ารัฐบาลเยอรมันได้ตัดสินใจเตรียมตัวช่วยเหลือกรีซแล้ว ซึ่งโฆษกของรัฐบาลได้ออกมาแก้ข่าวว่าไม่ได้มีรายงานใดที่มีข้อสรุปดังกล่าว อย่างไรก็ตามข่าวทางบวกดังกล่าวได้สร้างความหวังให้กับนักลงทุนได้เป็นอย่างดีส่งผลให้ราคาทองคำแกว่งตัวขึ้นอย่างรุนแรง  [Reuters, TCAF Research]
       ในการประชุมสภาฯสหรัฐฯเมื่อวานได้มีข้อสรุปเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นแรงงาน ทำให้กฎหมายใหม่ที่เป็นผลประโยชน์ต่อประเทศผ่านออกมาได้ ซึ่งนับว่าเป็นข่าวดีหลังจากที่พรรครัฐบาลได้สูญเสียคะแนนเสียงบางส่วนให้กับพรรคฝ่ายค้านในการเลือกตั้งท้องถิ่นที่ผ่านมาไม่นานนี้  [Reuters, TCAF Research]


แนวโน้มทองคำวันนี้
ความเชื่อมั่นของนักลงทุนน่าจะเริ่มกลับมาอย่างต่อเนื่องทั้งจากความหวังและจากรายงานเศรษฐกิจต่างๆในวันนี้ที่น่าจะส่งผลบวกทั้งรายงานการนำเข้า-ส่งออกของจีนและรายงานผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของยุโรปซึ่งน่าจะฟื้นตัวแล้ว เราจึงมองว่า "ราคาทองคำน่าจะเริ่มแกว่งตัวขึ้น" และแนะนำให้ "ค่อยๆสะสม LONG GF ที่มีพรีเมียมต่อเดือนไม่สูงมากนัก โดยจะต้องจับตาการเคลื่อนไหวของภาครัฐในยุโรปอย่างใกล้ชิด"


มุมมองทองคำ
มาตรการต่างๆของมหาอำนาจและพฤติกรรมของผู้บริโภคน่าจะส่งผลต่อราคาทองคำได้ดีที่สุด โดยเรามองว่าเศรษฐกิจโลกน่าจะชัดเจนแล้วว่าสามารถฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง



หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2010, 10:52:03 AM
ประเด็นสำคัญ


-         ราคาทองปิดบวก 1% หลังยูโรทะยาน
-         ยูโรทะยานรับข่าวยุโรปอาจช่วยเหลือกรีซ
-         ข่าวกรีซหนุนน้ำมันดิบปิดบวก 1.86 ดอลล์
-         ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 1.52% รับข่าวแผนช่วยเหลือกรีซ
 
ราคาทองที่ตลาดสหรัฐปิดเหนือ 1,070 ดอลลาร์/ออนซ์ในวันอังคาร โดยเดินหน้าขึ้น 1% จากความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ในขณะที่ยูโรแข็งค่า หลังจากที่มีรายงานถึงแผนความช่วยเหลือจากยุโรปที่เป็นไปได้สำหรับกรีซซึ่งประสบปัญหาหนี้สิน ทองได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์, การทะยานขึ้นของน้ำมัน, การปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลก ท่ามกลางข่าวความช่วยเหลือสำหรับกรีซ
        ความเชื่อมั่นในตลาดอยู่ในภาวะสดใส หลังจากที่บริษัทไชน่า อินเวสต์เมนต์ คอร์ป เปิดเผยว่า ทางบริษัทลงทุนในกองทุน ETF ทอง และหุ้นกลุ่มเหมืองทอง     
    นักวิเคราะห์จาก TheBullionDesk.com กล่าวว่า ปัจจัยหลักๆที่ทำให้สัญญาทองคำทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่องมาจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลง โดยเมื่อวานนี้ ดัชนี Dollar Index ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของ 6 สกุลเงินในประเทศคู่ค้าหลักของสหรัฐ ดิ่งลง 0.9% เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าสหภาพยุโรปจะช่วยแก้ปัญหายอดขาดดุลงบประมาณของกรีซ
    นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่า ไชน่า อินเวสเมนท์ คอร์ป (CIC) ซึ่งเป็นกองทุนบริหารความมั่งคั่งของรัฐบาลจีน เข้าซื้อหุ้นในกองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก จำนวน 1.45 ล้านหุ้น หรือร้อยละ 0.4 คิดเป็นมูลค่า 115.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐทั้งนี้ CIC ได้อัดฉีดเงินลงทุนในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับสินค้าโภคภัณฑ์เป็นวงเงินสูงถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงครึ่งหลังของปี 2552
     กองทุน SPDR Gold trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยว่าทางกองทุนได้ถือครองทองแท่งระดับ 1,106.378 ตัน ณ วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2553 เพิ่มขึ้น 1.828 ตัน จากวันที่ 5 กุมภาพันธ์
       กลยุทธ์ :  สัปดาห์นี้ราคาทองอาจจะแกว่งในกรอบ Correction แกว่งในกรอบ 1,085 ? 1,060US$ เท่านั้น ให้เล่นสั้นทำกำไร อาจจะหาจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาปรับฐานลงมาได้ในต้นสัปดาห์ แล้วหาโอกาสขายทิ้งช่วงวันศุกร์ทำกำไร


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2010, 10:56:02 AM
10 ก.พ. 2553


ตลาดทองเอเชีย:ราคาทองทรงตัวเหนือ 1,075 ดอลลาร์เช้านี้
   

        ราคาทองทรงตัวเหนือ 1,075 ดอลลาร์/ออนซ์ในเช้าวันนี้ หลังทะยานขึ้น
กว่า 1 % วานนี้ จากมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับเศรษฐกิจ ขณะที่ยูโรแข็งค่าขึ้นจาก
รายงานเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือของยุโรปที่อาจจะมีขึ้นสำหรับกรีซที่กำลังประสบ
ปัญหาหนี้สิน
        ณ เวลา 09.09 น.ตามเวลาไทย ราคาทองสปอตมีการซื้อขายที่ระดับ
1,077.15 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อเทียบกับระดับปิดในตลาดสปอตนิวยอร์คเมื่อวานนี้
ที่ระดับ 1,076.95 ดอลลาร์ แต่ต่ำกว่าระดับสูงสุดของวานนี้ที่ 1,083.05 ดอลลาร์
        สัญญาทองล่วงหน้าส่งมอบเดือนเม.ย.ที่ตลาด COMEX ขยับขึ้น 0.1 %
อยู่ที่ 1,078.60 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยเมื่อวานนี้สัญญาปิดดีดตัวขึ้น 11 ดอลลาร์
อยู่ที่ 1,077.20 ดอลลาร์/ออนซ์
        แหล่งข่าวระดับสูงรายหนึ่งของเยอรมนีกล่าววานนี้ว่า รัฐบาลของ
ประเทศในยุโรปได้ตกลงกันในหลักการที่จะช่วยเหลือกรีซที่มีปัญหาหนี้สินอย่างหนัก
ซึ่งจะเป็นมาตรการช่วยเหลือครั้งแรกสำหรับสมาชิกยูโรโซนในประวัติศาสตร์
11 ปีของการใช้สกุลเงินยูโร
        เมื่อวันศุกร์ ทองสปอตมีการซื้อขายต่ำถึง 1,043.75 ดอลลาร์
ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย. ขณะที่ยูโรอ่อนค่าลงจากความวิตก
เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของบางประเทศในยูโรโซน
        กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่
ที่สุดในโลก เปิดเผยว่าทางกองทุนได้ถือครองทองคำที่ระดับ 1,106.378 ตัน
ณ วันที่ 9 ก.พ. ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากวันที่ 5 ก.พ. โดยกองทุนได้ถือครอง
ทองคำสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 1,134.03 ตัน เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.

        แหล่งที่มา : รอยเตอร์


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2010, 10:59:07 AM
UBS ธนาคารสัญชาติสวิสบันทึกกำไรเป็นครั้งแรกหลังวิกฤติ แต่ลูกค้ายังแห่ถอนเงิน

Posted on Wednesday, February 10, 2010
UBS บันทึกกำไรเป็นครั้งแรกหลังวิกฤติ แต่ลูกค้ายังแห่ถอนเงิน

ผลการดำเนินงานของธนาคารจากสวิสเซอร์แลนด์อย่าง UBS สามารถพลิกกลับมาบันทึกผลประกอบการที่เป็นกำไรได้เป็นครั้งแรกในรอบมากกว่าหนึ่งปี

แต่นักลงทุนกลับแสดงความเป็นห่วงในเรื่องฐานลูกค้าของส่วนงาน wealth management ที่ขอไถ่ถอนเงินออกไปเป็นจำนวนที่มากถึง 45,000 ล้านฟรังก์สวิสในไตรมาสที่ 4 จากตัวเลขที่เคยอยู่ที่ราวๆ 26,000 ล้านฟรังก์เท่านั้นในไตรมาส 3 แถมยังจะมากกว่าที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ว่าเงินไหลออกของลูกค้าน่าจะอยู่แถวๆ 17,000 ล้านฟรังก์

ธนาคารที่มีฐานที่มั่นในเมืองซูริครายนี้ รายงานกำไรที่ทำได้ในไตรมาส 4 ที่ 1,210 ล้านฟรังก์สวิส ซึ่งเป็นตัวเลขกำไรที่ไม่เคยเห็นมาก่อนนับตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ปี 2008 สาเหตุส่วนหนึ่งก็มาจากต้นทุนภาระหนี้ที่ลดลง รวมถึงการได้เครดิตภาษีคืนบางส่วนด้วย

ส่วนเรื่องเจ้าปัญหา อย่าง เงินโบนัสพนักงาน UBS ก็รายงานว่า ได้จ่ายค่าเหนื่อยให้กับพนักงานเป็นรางวัลถึง 2,900 ล้านฟรังก์ในปี 2552 ซึ่งมากกว่าปีที่แล้วกว่า 30%

ทางด้านนาย Oswald Gruebel ซีอีโอวัย 66 ปีระบุว่า การพลิกกลับมาทำกำไรได้ของ UBS ในหนนี้ จะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่า หลังจากทุกส่วนงานของ UBS สามารถบันทึกผลกำไรได้ในครั้งนี้ ทำให้ UBS พร้อมแล้วที่จะกลับมาเดินหน้าในเรื่องการปรับปรุงภาพลักษณ์รวมถึงชื่อเสียงของตน เพื่อที่จะดึงดูดเงินลูกค้าที่เคยไถ่ถอนออกไปกลับคืนมาให้ได้

แต่สำหรับในเรื่องราคาหุ้น เรียกได้ว่า UBS ยัง underperform เพื่อนร่วมวงการนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา โดยราคาหุ้นหล่นลงไปราวๆ 14% เมื่อเทียบกับดัชนี Europe Banks and Financial Services ของ Bloomberg ที่ปรับตัวลงไปเพียง 10%

ธนาคารที่มีขนาดสินทรัพย์ใหญ่ที่สุดในสวิสเซอร์แลนด์แห่งนี้ ที่แม้อาจจะรายงานตัวเลขกำไรรายปีได้เป็นครั้งแรกในปีนี้นับตั้งแต่ปี 2006 กำลังพยายามผ่องถ่ายสินทรัพย์กลับคืนเข้าไปยังกองทุนของธนาคารกลาง และลดต้นทุนอย่างหนักด้วยการปลดพนักงานจำนวน 18,500 คน รวมถึงการแต่งตั้งผู้บริหารใหม่ 11 คนเข้ามานั่งในเก้าอี้คณะกรรมการบริหารของธนาคารด้วย

ส่วนเป้าหมายในระยะกลางจนถึงระยะยาวภายใต้การนำของ Gruebel ก็คือ การผลักดันธนาคารที่มีขนาดใหญ่ของยุโรปแห่งนี้ ทวงคืนรายได้วาณิชธนกิจที่หดหายไปในช่วงวิกฤติ ก่อนที่จะเดินหน้ากอบโกยรายได้ก่อนหักภาษีให้กลับขึ้นมาถึง 15,000 ล้านฟรังก์สวิสภายใน 3 ? 5 ปีจากนี้


EU เผยกำลังถกมาตรการช่วยกรีซ ส่งผลหุ้น-โภคภัณฑ์ฟื้น

สหภาพยุโรปเปิดเผยว่ากำลังพิจารณาการให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศกรีซ ที่กำลังติดอยู่กับปัญหาการขาดดุลงบประมาณระดับสูง จนส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจยุโรป

นาย Olli Rehn ที่เป็นสมาชิกกรรมการ EU และดูแลงานทางด้านเศรษฐกิจคนใหม่ เปิดเผยว่า ทางสหภาพยุโรปกำลังพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องการช่วยเหลือนี้ในระดับภาพรวม ขณะที่ทางโฆษกของนายกรัฐมนตรี Angela Merkel ก็ระบุว่า มาตรการความช่วยเหลือจะอยู่ภายใต้กฏที่เข้มงวด และขึ้นอยู่กับการปฏิรูปภาครัฐครั้งใหญ่ที่กรีซเองด้วย

สถานการณ์เริ่มสุกงอมจนทำให้เกิดการตัดสินใจให้ความช่วยเหลือจากกลุ่มประเทศ EU เมื่อกรีซกลายมาเป็นเหยื่อรายแรกของยุโรปสำหรับความพยายามต่อสู้กับวิกฤติเศรษฐกิจถดถอยรอบล่าสุด ทำให้รัฐบาลต้องแบกรับภาระการกู้ยืมอย่างมาก ขณะเดียวกัน ก็ยังลุกลามให้ค่าเงินยูโรร่วงลงต่ำที่สุดในรอบ 9 เดือนในสัปดาห์นี้ เช่นเดียวกับตลาดพันธบัตรของกรีซที่ปรับตัวลงตกต่ำในรอบเกือบทศวรรษ แม้รัฐบาลจะพยายามสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนว่าสามารถลดการขาดดุลที่อยู่สูงกว่าระดับ 12% ของ GDP ได้
ความเคลื่อนไหวของ EU ในการพยายามจัดการปัญหาของกรีซก็ทำให้บรรยากาศการลงทุนเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น เมื่อดูจากการตอบสนองของตลาดหุ้นทั้งที่ยุโรป Emerging market มาจนถึงตลาดหุ้นสหรัฐฯ ขณะที่ดัชนี ASE ของกรีซเองก็สามารถดีดตัวขึ้นได้กว่า 5% หลังจากที่ติดลบตลอด 4 วันที่ผ่านมา เช่นเดียวกับทางด้านค่าเงินยูโร ที่กลับมาพุ่งขึ้นแรงที่สุดในรอบ 5 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์ และยังไม่รวมราคาสินค้าโภคภัณฑ์ อย่าง น้ำมัน ทองแดง และอลูมินั่ม ที่ราคาขยับขึ้นมาอย่างน้อยๆ 2% เมื่อคืนนี้

คาดกันว่านโยบายช่วยเหลือจะประกาศออกมาอย่างเป็นทางการในการประชุมของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปในวันพฤหัสฯ นี้ ท่ามกลางความวุ่นวายในประเทศกรีซเอง ที่กำลังจะเจอปัญหาการนัดหยุดงานประท้วงครั้งใหญ่ ที่จะมีการปิดโรงเรียน โรงพยาบาล ไปจนถึงสนามบิน เพื่อตอบโต้แผนลดการขาดดุลงบประมาณของนายกรัฐมนตรี George Papandreou


JAL ตัดสินใจเป็นพันธมิตรกับอเมริกันแอร์ไลน์สต่อ

เจแปน แอร์ไลน์ส คอร์ป เจ้าของสายการบินเจแปน แอร์ไลน์ส (JAL) ซึ่งได้ยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์จากการล้มละลายไปเมื่อเดือนที่แล้ว ตัดสินใจที่จะอยู่เป็นสมาชิกของกลุ่มพันธมิตรสายการบิน วันเวิลด์ ซึ่งมีอเมริกัน แอร์ไลน์ส อิงค์ เป็นแกนนำต่อไป

เจแปน แอร์ไลน์ส จะกระชับความสัมพันธ์ที่มีอยู่เดิมกับ อเมริกัน แอร์ไลน์ ซึ่งเป็นสายการบินรายใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐ เพื่อหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการหันไปร่วมมือกับกลุ่ม สกายทีม ซึ่งมีเดลต้า แอร์ ไลน์ อิงค์ บริษัทสายการบินรายใหญ่สุดของสหรัฐ เป็นแกนนำ

แหล่งข่าวเผยว่า เจแปน แอร์ไลน์ส พิจารณาแล้วเห็นว่า การร่วมมือเป็นพันธมิตรกับเดลต้านั้นอาจจะส่งผลกระทบต่อเป้าหมายในการปรับโครงสร้างและฟื้นฟูกิจการภายในกำหนดระยะเวลา 3 ปีได้ ทั้งในเรื่องของระยะเวลาและต้นทุน

นอกจากนี้ หาก JAL เลือกที่จะจับมือเป็นพันธมิตรกับเดลต้าและกลุ่มสกายทีม ซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญของกลุ่มวันเวิลด์ ก็อาจจะทำให้เกิดความสับสนในกลุ่มผู้ใช้บริการได้ และสถานการณ์นี้อาจจะทำให้รายได้ของสายการบินลดลง

ทั้งนี้ เดลต้า แอร์ไลน์ส และ อเมริกัน แอร์ไลน์ส แข่งกันจีบเจแปน แอร์ไลน์ส มาตลอด นับตั้งแต่ที่สายการบินญี่ปุ่นประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก เนื่องจากสองสายการบินคู่แข่งของอเมริกาหวังอาศัยเส้นทางบินในเอเชียซึ่งถือเป็นแหล่งรายได้สำคัญของสายการบินทั่วโลกในยามที่อุตสาหกรรมการบินในภูมิภาคอื่นๆซบเซา

ก่อนหน้านี้ได้มีกระแสคาดการณ์ว่า JAL มีแนวโน้มที่จะหันไปผูกสัมพันธ์กับเดลต้า เนื่องจาก JAL มองว่า บริษัทจะได้ประโยชน์จากเส้นทางบินของเดลต้า ซึ่งจะช่วยให้ JAL มีความสามารถในการแข่งขันทั้งในระยะกลางและระยะยาวเพิ่มมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับเรื่องนี้ เผยว่า JAL ตัดสินใจที่จะคงความสัมพันธ์กับอเมริกัน แอร์ไลน์ส ต่อไปหลังจากที่เจแปน แอร์ไลน์ส เพิ่งเปิดตัวคณะผู้บริหารชุดใหม่ ซึ่งนำโดยนายคาซูโอะ อินาโมริ ประธานกรรมการ เมื่อต้นเดือนนี้

ทั้งนี้ อเมริกัน แอร์ไลน์ส ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือเอเอ็มอาร์ คอร์ป กล่าวว่า สายการบิน รวมถึงสมาชิกกลุ่มวันเวิลด์ และทีพีจี อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทเพื่อการลงทุนของสหรัฐ ได้เตรียมพร้อมที่จะเข้าลงทุนสูงถึง 1.4 พันล้านดอลลาร์ในเจแปน แอร์ไลน์ส แต่ JAL อาจไม่ยอมรับเงินจำนวนดังกล่าวเนื่องจากบริษัทกำลังเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการภายใต้การสนับสนุนของ Enterprise Turnaround Initiative Corp. of Japan ซึ่งเป็นบริษัทที่รัฐบาลญี่ปุ่นได้มอบหมายหน้าที่ให้ดูแลการปรับโครงสร้างของ JAL


ประธานาธิบดีเวเนซูเอลาประกาศภาวะฉุกเฉินด้านพลังงาน

เวเนซูเอลาระส่ำหลังวิกฤตด้านพลังงานรุมเร้า ล่าสุดประธานาธิบดีฮูโก ชาเวซ ได้ประกาศภาวะฉุกเฉิน เพื่อเปิดทางให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาขาดแคลนกระแสไฟฟ้าได้โดยสะดวก

ประกาศดังกล่าวกำหนดให้มีการลดอัตราการใช้ไฟฟ้าลง 10% หรือจ่ายค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 75% อย่างไรก็ดี ผู้ที่ใช้ไฟฟ้าลดลง 10-20% จะได้รับส่วนลดค่าไฟต่อเดือนที่ระดับ 25% ส่วนผู้ที่ลดการใช้ไฟฟ้าลงกว่า 20% จะได้รับส่วนลด 50%

สำหรับสถานประกอบการขนาดใหญ่และโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆต้องลดการใช้ไฟฟ้าลง 20% หากฝ่าฝืนจะถูกทำโทษด้วยการงดจ่ายไฟเป็นเวลา 1-2 วัน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ในเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลเวเนซูเอลาได้เริ่มจัดสรรการใช้น้ำและการผลิตไฟฟ้าเพื่อป้องกันภาวะขาดแคลนกระแสไฟฟ้า

หลังระดับน้ำในเขื่อน Guri ลดลงเข้าขั้นวิกฤต ซึ่งเขื่อนดังกล่าวเป็นแหล่งกักเก็บน้ำที่ใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าหลักของประเทศ

ทั้งนี้ เวเนซูเอลาเป็นหนึ่งในประเทศที่เผชิญกับปัญหาภัยแล้งจากปรากฏการณ์เอลนินโญซึ่งส่งผลให้กระแสน้ำในมหาสมุทรแปซิฟิกเปลี่ยนทิศทาง ซึ่งประธานาธิบดีชาเวซเกรงว่า สภาพอากาศในเวเนซูเอลาอาจเลวร้ายลงมากกว่านี้ หากฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล

รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของเวเนซูเอลาประกาศว่า คณะทำงานภายใต้การนำของนายชาเวซมีแผนใช้จ่ายเงิน 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าในอีก 5 ปีข้างหน้า


ICBC หนุนปล่อยกู้โครงการเพื่อสิ่งแวดล้อม

อินดัสเทรียล แอนด์ คอมเมอร์เชียล แบงก์ ออฟ ไชน่า (ICBC) ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่สุดของจีน จะปรับเปลี่ยนนโยบายด้านสินเชื่อของธนาคารให้เหมาะสม เพื่อส่งเสริมให้การขยายตัวของเศรษฐกิจมีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

พร้อมเตรียมลงโทษภาคอุตสาหกรรมที่ฝ่าฝืนข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมของรัฐบาล และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่สะสมที่ดินเพื่อเก็งกำไร

ไอซีบีซีระบุในแถลงการณ์ว่า ธนาคารจะส่งเสริมการให้สินเชื่อแก่อุตสาหกรรมเกิดใหม่และภาคบริการที่ทันสมัย รวมถึงอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำและรีไซเคิล

นอกจากนี้ ธนาคารจะเพิ่มการสนับสนุนทางการเงินแก่ธุรกิจขนาดย่อม และจะช่วยกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศด้วย เพื่อให้สอดคล้องกับรูปแบบใหม่ของการขยายตัวของเศรษฐกิจจีน ที่มุ่งเน้นการพัฒนาด้านพลังงาน สิ่งแวดล้อม และการบริโภคภายในประเทศมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในทางกลับกัน ธนาคารจะควบคุมการปล่อยสินเชื่ออย่างเข้มงวดสำหรับโครงการที่ปล่อยมลพิษสูงและมีความอ่อนไหวด้านพลังงาน รวมถึงโครงการที่ไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัยด้านสิ่งแวดล้อม และโครงการที่อยู่นอกเหนือแผนการพัฒนาของรัฐบาล ซึ่งโครงการที่เข้าข่ายดังกล่าวรวมถึงโครงการอุตสาหกรรมและอสังหาริมทรัพย์

นอกจากประเด็นเรื่องความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยังมีสิทธิถูกปฏิเสธสินเชื่อ หากธนาคารพบว่าธุรกิจดังกล่าวสะสมที่ดินหรือบ้านเพื่อเก็งกำไร และจะถอนเงินกู้ที่ได้ให้ไปแล้วด้วย

พร้อมกันนี้ ICBC ซึ่งได้ปล่อยเงินกู้ใหม่จำนวน 1.1 แสนล้านหยวนในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ยืนยันว่าจะบริหารจัดการอัตราการขยายตัวและระดับการปล่อยสินเชื่อให้มีความเหมาะสม ตลอดจนป้องกันความเสี่ยงด้านสินเชื่อ และจะยังคงเดินหน้าปรับปรุงโครงสร้างสินเชื่อต่อไป

ทั้งนี้ แถลงการณ์ของไอซีบีซีถูกมองว่าเป็นความเคลื่อนไหวเพื่อให้สอดคล้องกับความพยายามของรัฐบาลจีนในการจำกัดการลงทุนที่มากเกินไป และคลายความร้อนแรงของราคาสินทรัพย์จากภาวะฟองสบู่ นอกจากนี้ รัฐบาลจีนกำลังพยายามที่จะเพิ่มอุปทานที่อยู่อาศัยที่มีราคาพอประมาณด้วย

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลจีนได้ออกมาเตือนธนาคารต่างๆที่ปล่อยเงินกู้โดยขาดความระมัดระวัง เนื่องจากทำให้มีเม็ดเงินลงทุนหลั่งไหลเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมบางประเภทมากเกินไป อาทิ เหล็ก และ ซีเมนต์ รวมถึงทำให้ราคาหุ้นและอสังหาริมทรัพย์พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง

ในเดือนที่แล้ว ธนาคารกลางจีนกำหนดให้ธนาคารพาณิชย์เพิ่มการกันสำรองเงินฝาก 0.5% เพื่อป้องกันไม่ให้การขยายตัวของสินเชื่อทะยานไปมากกว่านี้ หลังจากที่ในปีที่แล้วได้มีการปล่อยเงินกู้อย่างมหาศาลเพื่อสนับสนุนโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ

นอกจากนี้ หลิว หมิงกัง ประธานคณะกรรมการกำกับดูแลภาคธุรกิจธนาคารจีน กล่าวในเดือนที่แล้วเช่นกันว่า จะควบคุมการปล่อยสินเชื่อของธนาคารต่างๆในประเทศลงมาอยู่ที่ราว 7.5 ล้านล้านหยวน (1.1 ล้านล้านดอลลาร์) ในปีนี้ จากระดับ 9.5 ล้านล้านหยวน (1.4 ล้านล้านดอลลาร์) ในปี 2552


HSBC คาดแบงค์ชาติจีนขึ้นดอกเบี้ย 2 ครั้งช่วงครึ่งปีแรก

ฉู หงปิน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเอชเอสบีซีคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางจีนอาจจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.27% ถึง 2 ครั้งในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ เพื่อควบคุมเศรษฐกิจไม่ให้ขยายตัวร้อนแรงเกินไป และคาดว่าการส่งออกจะมีส่วนผลักดันผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีน 0.5% และอาจจะทำให้จีดีพีขยายตัวถึง 9.5% หากการส่งออกของจีนฟื้นตัวขึ้นในระดับปานกลางปีนี้

อย่างไรก็ดี หากการส่งออกขยายตัวกว่า 20% ในปีนี้ จีดีพีของจีนก็อาจจะขยายตัว 12-13% ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น จีนก็จำเป็นต้องใช้นโยบายเพื่อควบคุมการขยายตัวไม่ให้ร้อนแรงจนเกินไป

หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์เอชเอสบีซีได้เรียกร้องให้รัฐบาลลดการลงทุนใหม่ๆในโครงการสาธารณูปโภค เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวอย่างร้อนแรงเกินไป

ทั้งนี้ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์กล่าวด้วยว่า ธนาคารกลางจีนอาจจะขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในเดือนเม.ย.นี้ และอาจจะขึ้นเพดานสำรองของธนาคารพาณิชย์เป็น 18% อีก 3-4 ครั้งในช่วง 6 เดือนนี้


รมว. คมนาคมญี่ปุ่นตำหนิโตโยต้าตอบสนองปัญหาที่เกิดขึ้นล่าช้า

เซอิจิ มาเอฮาระ รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมญี่ปุ่นได้ออกมาวิจารณ์โตโยต้าว่าตอบสนองล่าช้าต่อการร้องเรียนเรื่องความปลอดภัยในการใช้รถของบริษัท และไม่มองปัญหาในมุมของลูกค้า

รมว.คมนาคมกล่าวว่า บริษัทอาจจะมองปัญหานี้ว่าเป็นปัญหาเล็กๆ และกล่าวว่าโตโยต้าจะต้องรับมือกับปัญหาอย่างรวดเร็วด้วยการพิจารณาปัญหาในมุมมองของลูกค้า ขณะที่รัฐบาลญี่ปุ่นจะพยายามป้องกันไม่ให้การเรียกคืนรถครั้งนี้กลายเป็นความขัดแย้งทางการทูต และจะพบกับนายจอห์น รอส เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำญี่ปุ่นในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากตลาดในอเมริกาเหนือถือเป็นตลาดที่สำคัญของโตโยต้า

โตโยต้าได้เรียกคืนรถไฮบริด 4 รุ่น จำนวนประมาณ 400,000 คันทั่วโลก เพื่อนำกลับมาแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น โดยรถรุ่นที่ถูกเรียกคืน ได้แก่ โตโยต้า พรีอุส, เล็กซัส HS250h, Sai และพรีอุส ไฮบริด รุ่นพลัก-อิน


ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่ประกาศออกมาเมื่อวานนี้ (อังคารที่ 9 ก.พ. 2553)
? ยอดสินค้าภาคค้าส่ง (ธ.ค.) ลดลง 0.8% จากเดือนก่อนหน้า

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่จะประกาศออกมาวันนี้ (พุธที่ 10 ก.พ. 2553)
? ดุลการค้าระหว่างประเทศ (ธ.ค.) โดย กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ
? ตัวเลขสต็อกน้ำมันสำรองประจำสัปดาห์ โดย EIA

ติดตาม Money Wake up ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ออกอากาศซ้ำเวลา 11.00 น. ทาง Money Channel


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2010, 11:27:40 AM
วันนี้โชคดี กราฟตาแป๊ะลืมปิดหรือเปิดให้ดูส่งท้ายปีจีนกราฟตาแป๊ะซ้ายบน มีการเปลี่ยนแปลงนิดหนี่ง มีคำว่า  ตัวหนังสือสีเขียว ? ---ขาย และ  ตัวหนังสือสีแดง?----ซื้อ  เพิ่มเข้ามา ผสมเข้ากับกาฟตาแป๊ะช่องซ้ายบน
กราฟตาแป๊ะซ้ายบน ตัวหนังสือสีเขียว ? ---ขาย   ตัวหนังสือสีแดง?----ซื้อ  เส้นสีแดงหนา---ขาขึ้น เส้นสีเขียวหนา---ขาลงขวาบน  เส้นสีแดง---เสนอซื้มากกว่าเสนอขาย เส้นสีเขียว---เสนอขายมากกว่าเสนอซื้อ  ส่วนช่วงกลางที่มีแท่งสีแดงกับเขียวนั้น แท่งแดง---แรงซื้อขึ้น   แท่งเขียว---แรงขายลง
ขวาช่องสอง  แท่งเหลืองคู่เส้นแดง---ขาขึ้น   แท่งฟ้าคู่เส้นเขียว---ขาลง โดยปกติ ช่องนี้จะเปลี่ยนแนวโน้มช้ากว่าเพื่อน หากเปลี่ยนแนวโน้มเมื่อไหร่ เขาให้ขายออกหรือซื้อเข้าได้ทันที่ ยกเว้นมีปัจจัยพื้นฐานแรงๆแทรกเข้ามา จึงจะทำให้แนวโน้มกลับเปลี่ยนได้โดยกะทันหัน
ซ้ายช่องสอง หน้าเหลืองแป๊ะยิ้ม---ขาขึ้น หน้าแดงแป๊ะร้องไห้---ขาลง  แท่งสีเขียว---เพดาน   แท่งสีแดง---พื้นดินโดยปกติ ช่องนี้จะส่งสัญญาณว่า กำลังจะเปลี่ยนแนวทางแล้วนะ แต่ยังไม่เต็มร้อย อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยกะทันหันก็ได้ ต้องดูซ้ายบนและขวาช่อง๒ประกอบด้วย จึงจะให้ความมั่นใจได้
4กราฟล่างเป็นกราฟในชุดกราฟใหม่2010 เป็นกราฟที่เข้าใจง่ายเช่นเคย ไม่อธิบายก็คงเข้าใจไดนะครับ
ดัชนีไทยรายวัน
(http://upic.me/i/tw/6k04a.gif) (http://upic.me/show.php?id=2dae7e76b0f45edd120715a4d53f985b)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2010, 11:29:28 AM
ดัชนีไทย60นาที
 (http://upic.me/i/a2/6v4a1.gif) (http://upic.me/show.php?id=237c8e8b90d36fbce9ac769d3fb6efcf)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2010, 11:49:07 AM
ทอง
 (http://upic.me/i/oo/dlp1a.gif) (http://upic.me/show.php?id=8787e86ed705c69d5d442740baf6c6da)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2010, 11:50:34 AM
ดัชนีดอลล์เมกา
 (http://upic.me/i/7m/kag2a.gif) (http://upic.me/show.php?id=637163996453b08c4c430772a5a98ca4)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2010, 11:51:51 AM
น้ำมัน
 (http://upic.me/i/c9/gbt3a.gif) (http://upic.me/show.php?id=e2eeacbbc4933249a27567abca1e7340)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2010, 12:44:50 PM
 (http://upic.me/i/ep/zmov1.gif) (http://upic.me/show.php?id=58e7cf837ebb7c2569c610542b833fe4)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2010, 12:45:21 PM
 (http://upic.me/i/m6/fa3l2.gif) (http://upic.me/show.php?id=a297240506fb4cf57955afc1a70ba402)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2010, 12:46:25 PM
 (http://upic.me/i/cl/8mcp3.gif) (http://upic.me/show.php?id=07d654e0f136e166ab5a55a019eb669a)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2010, 02:45:11 PM
ขอบคุณสำหรับข้อมูลแล้วก็เพลงน่ารัก ๆ ค่ะ   เมื่อกี้สาแบ่งขายไปบ้างแล้วค่ะได้กำไร 200 / บาท เหลือไว้อีกส่วนรอขาย 1090 ค่ะ คุณทองใหม่ว่าจะไปถึงมั๊ยคะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2010, 03:19:17 PM
ขอบคุณสำหรับข้อมูลแล้วก็เพลงน่ารัก ๆ ค่ะ   เมื่อกี้สาแบ่งขายไปบ้างแล้วค่ะได้กำไร 200 / บาท เหลือไว้อีกส่วนรอขาย 1090 ค่ะ คุณทองใหม่ว่าจะไปถึงมั๊ยคะ
มีโอกาสถึงมากเลยครับ ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Neung99k ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2010, 07:05:51 PM
สวัสดีครับพี่ทองใหม่ สุขภาพเป็นไงบ้างครับ  ข้อมูลแน่นปั๊งทุกวันน่ะครับ  ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2010, 07:35:14 PM
สวัสดีครับพี่ทองใหม่ สุขภาพเป็นไงบ้างครับ  ข้อมูลแน่นปั๊งทุกวันน่ะครับ  ;D
หวัดดีเช่นกันครับ ตอนนี้สุขภาพยังดีอยู่ครับ ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2010, 06:50:08 AM
เส้นปากถุง (BollingerBandsเส้นสีขาวทั้ง๓เส้น)แบบง่ายๆ ไม่ปวดเศียรเวียนเกล้า
เส้นบน---แนวต้าน
เส้นกลาง---แนวโน้ม(สำคัญสุด)
เส้นล่าง---แนวหนุน
ลักษณะที่๑---ทิศทางขึ้นเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น   เส้นกลางหันหัวขึ้น   เส้นล่างหันหัวลง
ลักษณะที่๒---ทิศทางขึ้นเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวขึ้น
เมื่อเจอลักษณะทั้ง๒นี้ ราคาระหว่างวันที่ขึ้นๆลงๆ เมื่อเจอจุดที่เห็นว่าต่ำแล้วให้ซื้อเข้าได้เลยครับ  ขอเพียงเส้นกลาง(แนวโน้ม)ยังหันหัวขึ้นอยู่ แม้ราคาเแท่งเทียนจะอยู่ต่ำกว่าเส้นกลาง ก็ยังซื้อเข้าได้ หากเส้นบนเดินขวางเมื่อไหร่ ให้ทยอยลดพอร์ตได้เลยครับ
ลักษณะที่๓---เลือกทิศทาง---เส้นบนหันหัวลง เส้นล่างหันหัวขี้น ปากถุงแคบลง ถึงช่วงนี้ ให้ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว หากใครยังคิดอยากเคลื่อนไหว ก็จงเคลื่อนไหวไปหน้าทีวี จงอย่าทำการอย่างอื่นใด หากใครเป็นจอมยุทธ์ ก็ชิงเคลื่อนไหวก่อนใครได้  
ขอแถมอีกนิด จงโฟกัสที่เส้นกลาง หากเส้นกลางเริ่มขยบหัวหัวขึ้นหรือลง ทิศทางอาจขึ้นหรือลงตามเส้นกลางแนวโน้มนั้น
ลักษณะที่๔---เคลื่อนไหวในกรอบแคบ---เส้นบน กลาง ล่าง เดินขวางทั้ง๓เส้น หากใครเล่นออนไลน์ สามารถเล่นได้เล็กน้อยอย่ามาก เมื่อราคาแท่งเทียนใกล้เส้นบน จงขาย ใกล้เส้นล่าง จงซื้อ ต้องเข้าออกให้ทันการณ์ หาไม่แล้วจากกำไรอาจขาดทุนได้นา ขอบอก
ลักษณะที่๕---ทิศทางลงเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น เส้นกลางหันหัวลง เส้ยล่างหัวหัวลง
ลักษณะที่๖---ทิศทางลงเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวลง  เมื่อเส้นล่างเดินขวางเมื่อไหร่ ผู้ที่ใจกล้าที่เล่นออนไลน์ เริ่มทยอยซื้อเข้าได้ที่ละนิด อัตราเสี่ยงยังมีอยู่บ้างนะครับ สิบอกไห่
วิธีดูเส้นปากถุงที่กล่าวมานี้ .....ไม่ใช่ตำราของฝรั่ง แบบของฝรั่งผมเคยอ่านมาบ้างแล้ว ยาวมาก ปวดหัว ทำความเข้าใจได้ยากมากๆๆๆๆ ...........เหมาะเฉพาะกราฟราย๔ชม.และช่วงปกติเท่านั้นนะครับ  (บางครั้งตลาดจงใจคึงขึ้นลงอย่าแรงๆ แทบหัวใจวายสำหรับผู้มีทองในมือและผิดทิศทางของตัวเอง เรียกว่า ช่วงไม่ปกติครับ)

 (http://upic.me/i/6b/67em2.gif) (http://upic.me/show.php?id=77f174847466bd52ae15741686c7d2ad)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2010, 06:51:12 AM
กราฟGold 1
ช่อง1 เส้นแดงอยู่เหนือเส้นเขียว---ทิศทางขึ้น  ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น  สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นเขียวอยู่เหนือเส้นแดง---ทิศทางลง     ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นแดงและเขียวประสานเป็นกากะบาด ---กำลังจะเปลี่ยนทิศ ให้ดูเส้นแนวโน้มประกอบ  หากเส้นแดงและเขียวกำลังจะประสาน แต่ไม่ทันได้ประสานก็หันหันหัวกลับขึ้นหรือลง  แสดงว่ากำลังมีเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนี่งเกิดขึ้น หากขึ้นทะลุเส้นปะแนวต้าน ให้ดูเส้นปะแนวต้านเส้นต่อไป หากลงทะลุเส้นปะแนวหนุน ให้ดูเส้นแนวหนุนเส้นต่อไป   ส่วนจุดกลมเหลืองทอง---ทิศทางลง  จุดกลมฟ้า---ทิศทางขึ้น  หากกราฟวิ่งในยามปกติ พอเชื่อถือได้ หากกราฟวิ่งขึ้นลงแรงๆ คือยามไม่ปกติ ไม่อาจเชือถือได้
ช่อง2  ให้ดูเส้นสีม่วง ประกอบกับเส้นแนวโน้มในช่อง1 หากหันหัวไปในทิศทางเดียวกัน  โอกาสที่จะผิดพลาดก็มีน้อย  ส่วนเส้นปะสีเหลืองทองและฟ้า  หากขึ้นเหนือเลข80 เข้าสู่เขตซื้อเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ทุกเมื่อ  หากลงต่ำกว่าเลข20 เข้าสู่เขตขายเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ตลอดเวลา
ช่อง3   ให้ดูทั้ง2เส้น คือเหลืองทองและฟ้า หันหัวไปทิศทางเดียวกันหรือไม่  เท่านั้นยังไม่พอ  ให้ดูประกอบทิศทางในช่อง1ว่าเป็นทิศทางเดียวกันหรือไม่  หากทิศทางหันหัวในแนวเดียวกัน  ทิศทางนั้นเชื่อถือได้

 (http://upic.me/i/0g/up8w3.gif) (http://upic.me/show.php?id=9c7d625ead6b96b689c3b5c5f337d2ab)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2010, 06:54:02 AM
 (http://upic.me/i/ge/10_1651577759.jpg) (http://upic.me/show.php?id=fcafca587d14624471f286c836dd3aa5)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2010, 06:58:49 AM
  วิธีดูทิศทางทอง ต้าน๓----หนุน๓เป็นทิศทางทองที่จะเคลื่อนไหวในวันนี้ หากพุ่งทะลุต้าน๓หรือดิ่งทะลวงหนุน๓ แสดงถึงวันนั้นทองเคลื่อนไหวแรงเกินปกติ เส้นแดนเป็นเส้นที่จะแบ่งแยกทิศทางของทองที่จะขึ้นหรือลง หากทองเคลื่อนไหวอยู่ในทิศทางใดมากและนาน นั่นหมายถึงโอกาสเป็นไปได้มากที่ทองจะเคลื่อนไปในทิศทางนั้นๆ ในช่วงเวลานั้น (ยังต้องแบ่งออกในช่วงเวลาตลาดเอเซีย ยุโรป เมกาด้วย) ต้าน๑และหนุน๑หากถูกทดสอบแบบมีผล(ขึ้นลงมากกว่า๑ครั้ง)แล้วยืนอยู่ได้ นั่นคือทิศทางทองที่จะเดินต่อไปในช่วงเวลานั้น หากการวิเคราะเกิดขัดแย้งกันเมื่อไหร่ ให้หยุดมองดูอย่างเดียว ไม่ควรซื้อ-ขายในช่วงเวลานั้น แนวทางนี้เหมาะกับการเล่นสั้นมาก (เล่นแบบออนไลน์ในอนาคต) มีความแม่นยำถึง80%ครับ อีกอย่างข่าวปัจจัยพื้นฐานอาจเปลี่ยนทิศทางทองได้กะทันหันนะครับ
ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์กับการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย ถัาติดดอยเมื่อทองต่ำลงมา  หากยังมีเงินเหลืออยู่ ควรซื้อเพิ่ม เพิ่มที่ละนิด ต่ำอีกซื้ออีก เพื่อดึงต้นทุนที่สูงให้ต่ำลงมา ใครที่ยังไม่มีทองในมือควรทยอยซื้อเข้าอย่ามากนัก หากทองลงอีก เราก็ซื้ออีก ดีกว่าเวลาทองขึ้นเราไปไล่ซื้อในราคาที่สูง  จดจำเป็นคติเตือนใจว่า  เรามิอาจซื้อได้ในราคาที่ต่ำสุด และขายได้ในราคาที่สูงสุด ไม่มีการลงทุนใดที่ไม่เสี่ยง การบริหารพอร์ตให้ได้จังหวะ จะลดความเสี่ยงลงได้ครับ
กราฟสำคัญ ปัจจัยพื้นฐานก็สำคัญ จิตวิทยาการโน้มเอียงของคนก็สำคัญ สิ่งเหล่านี้หากเป็นไปในแนวเดียวกัน ก็จะมุ่งไปทางนั้น หากแย้งกันก็ต้องดูฝ่ายไหนเหนือกว่า.....ด้วยเหตุนี้ไม่มีนักวิเคราะห์คนใดที่จะทำนายได้แม่นยำตลอดกาลได้ครับ

 (http://upic.me/i/bd/1rnm2.gif) (http://upic.me/show.php?id=fbeb03721abe0a0a5550b53e653c7234)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: อุ๊ ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2010, 10:02:00 AM
มารับอั้งเปาค่ะ ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2010, 10:27:13 AM
ดัชนีไทย60นาที (http://upic.me/i/jj/1rpw2.gif) (http://upic.me/show.php?id=b414254b63e72243a54aafda0d89aada)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2010, 10:30:03 AM
ดัชนีไทยรายวัน
(http://img97.imageshack.us/img97/3986/33874344.gif) (http://img97.imageshack.us/i/33874344.gif/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2010, 10:37:02 AM
ราคาทองคำปิดลบ หลังประธานเฟดเผยแผยถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

Posted on Thursday, February 11, 2010
สัญญาทองคำร่วงลงเพราะถูกดดันจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น โดยเมื่อวานนี้ ดัชนี ICE Futures US dollar ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลักของสหรัฐฯ พุ่งขึ้น 0.2% หลังจากนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) แถลงต่อสภาคองเกรสเมื่อคืนนี้ว่า FED วางแผนถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ครอบคลุมถึงการใช้นโยบายคุมเข้มด้านสินเชื่อ

- ทองคำ ส่งมอบเดือนเมษายน ปิดที่ 1,076.30 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ (-0.90 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์)
- เงิน ส่งมอบเดือนมีนาคม ปิดที่ 15.30 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ (-0.13 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์)
 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2010, 10:43:39 AM
11 ก.พ. 2553


สรุปภาวะตลาดเมื่อวาน


ราคาโกลด์ฟิวเจอร์สแกว่งตัวอยู่ในช่วงแคบ ในขณะที่ราคารทองคำสปอตแกว่งตัวอยู่ในช่วงกว้างกว่าและแกว่งตัวรุนแรงเมื่อคืน ทองคำแท่งสมาคมฯปิดที่ 16,900/17,000 บาท เงินบาททรงตัว
ปัจจัยที่อาจส่งผลต่อเนื่องถึงวันนี้


       ฝรั่งเศสรายงานผลการผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงกว่าคาดอย่างมากและยังปรับตัวเลขรายงานของเดือนก่อนหน้านี้ลดลงอีกสร้างความตื่นตระหนกให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์อย่างรุนแรง อย่างไรก็ตามตัวเลขที่แย่ดังกล่าวได้ถูกปรับลดลงไปด้วยการปรับวิธีการคิดคำนวณเท่านั้น ไม่ได้เกิดจากปัญหาเศรษฐกิจรุนแรงแต่อย่างใด รายงานดังกล่าวจึงสร้างความผันผวนให้กับราคาทองคำเป็นอย่างดี  [French Government, TCAF Research]
       ราคาหุ้นและทองคำปรับตัวลดลงรุนแรงเมื่อ นายเบอร์นานกี้ ประธานเฟดให้ความเห็นในสภาว่าเฟดเตรียมการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในไม่ช้าเพื่อลดเม็ดเงินในตลาดแทนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวจะเป็นการลดปริมาณเม็ดเงินในตลาดโดยไม่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อธุรกิจธนาคารและต่อเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามความเห็นดังกล่าวได้ส่งผลกระทบรุนแรงต่อสินทรัพย์เสี่ยงทั้งหุ้นและทองคำ เนื่องจากนักลงทุนเห็นว่าอาจกระทบต่อมุมมองแนวโน้มการเติบโตเศรษฐกิจในระยะสั้นได้  [US FRB, TCAF Research]
       ราคาหุ้นและทองคำค่อยๆปรับตัวกลับขึ้นมาเมื่อนักลงทุนเริ่มเห็นว่าประเทศในยุโรปเริ่มกลับมาใส่ใจพยายามช่วยเหลือกรีซอย่างจริงจังโดยเฉพาะจากฝรั่งเศสและเยอรมัน และล่าสุดที่สมาชิกกลุ่มอียู16มีการหารือพิเศษก่อนการประชุมสุดยอดกลุ่มในวันนี้และมีการมอบหมายงานให้เพื่อสรุปให้ได้ว่าทางกลุ่มจะช่วยเหลือกรีซได้อย่างไร โดยเฉพาะมีกฎอียูบัญญัติไว้ว่าห้ามประเทศสมาชิกใช้หนี้แทนกัน อย่างไรก็ตามความใส่ใจดังกล่าวได้เรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับคืนมาผลักดันให้ราคาทองคำและหุ้นปรับตัวกลับขึ้นไป  [Reuters, TCAF Research]
แนวโน้มทองคำวันนี้


ความเชื่อมั่นของนักลงทุนเริ่มกลับมาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะแนวโน้มที่กลุ่มอียูจะช่วยเหลือกรีซอย่างจริงจัง ในขณะที่เฟดยังไม่มีแนวโน้มเพิ่มอัตราเงินกู้ เราจึงมองว่า "ราคาทองคำน่าจะปรับตัวขึ้นต่อ" และแนะนำให้ "สะสม LONG GF ที่มีพรีเมียมต่อเดือนไม่สูงมากนัก โดยจะต้องจับตาการประชุมสุดยอดอียูอย่างใกล้ชิด"
มุมมองทองคำ


มาตรการต่างๆของมหาอำนาจและพฤติกรรมของผู้บริโภคน่าจะส่งผลต่อราคาทองคำได้ดีที่สุด โดยเรามองว่าเศรษฐกิจโลกน่าจะชัดเจนแล้วว่าสามารถฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2010, 10:45:24 AM
ประเด็นสำคัญ
-         ราคาทองจากปัจจัย ดอลล์แข็ง ฉุดทองคำปิดลบ 90 เซนต์
-         ยูโรร่วงจากวิตกปัญหากรีซ ขณะวาทะ"เบอร์นันเก้"หนุนดอลล์ 
-         น้ำมันดิบปิดพุ่ง 77 เซนต์ หลังสหรัฐเพิ่มคาดการณ์ดีมานด์พลังงาน
-         ดาวโจนส์ปิดลบ 20.26 จุด จากข่าวเฟดเล็งถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ


    สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (10 ก.พ.) เพราะได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น หลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยแนวทางการถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
     สัญญาทองคำส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 1,076.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 90.00 เซนต์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,063.10-1,083.00 ดอลลาร์ ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 15.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 13.50 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลงสู่ระดับ 2.989 ดอลลาร์/ปอนด์ ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 1,512.90 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 10.50 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 413.35 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 3.25 ดอลลาร์
       สัญญาทองคำร่วงลงเพราะถูกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น โดยเมื่อวานนี้ ดัชนี ICE Futures US dollar ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลักของสหรัฐ พุ่งขึ้น 0.2% หลังจากเบอร์นันเก้แถลงต่อสภาคองเกรสเมื่อคืนนี้ว่า เฟดวางแผนถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ครอบคลุมถึงการใช้นโยบายคุมเข้มด้านสินเชื่อ     
    นักลงทุนจับตาดูรายงานเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ยอดค้าปลีกเดือนม.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนก.พ.ของสหรัฐ
 กองทุน SPDR Gold trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยว่าทางกองทุนได้ถือครองทองแท่งระดับ 1,106.378 ตัน ณ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2553 เพิ่มขึ้น 1.828 ตัน จากวันที่ 5 กุมภาพันธ์
       กลยุทธ์ :  สัปดาห์นี้ราคาทองอาจจะแกว่งในกรอบ Correction แกว่งในกรอบ 1,085 ? 1,060US$ เท่านั้น ให้เล่นสั้นทำกำไร อาจจะหาจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาปรับฐานลงมาได้ในต้นสัปดาห์ แล้วหาโอกาสขายทิ้งช่วงวันศุกร์ทำกำไร เพราะจะมีโอกาสลงไปที่แนวแนวระดับราคา 1040 US$ อีกรอบในปลายเดือนเกิดขึ้นได้


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2010, 11:05:10 AM
ประธานเฟดเล็งเพิ่มดอกเบี้ยปล่อยกู้ให้แก่สถาบันการเงิน หวังปรับระบบให้เข้าสู่ภาวะปกติ

Posted on Thursday, February 11, 2010
ประธานเฟดย้ำปรับดอกเบี้ย ฉุด Dow Jones ร่วง

แม้ว่าดัชนีหุ้นยุโรปจะปิดบวกได้เป็นวันที่ 3 ท่ามกลางการเก็งว่ารัฐบาลเยอรมันจะออกเสียงสนับสนุนการช่วยเหลือทางการเงินแก่ประเทศกรีซ จนคลายความกังวลเรื่องความสามารถในการจ่ายหนี้ที่จะกระทบการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แต่ที่ทางสหรัฐฯ กลับมีปัจจัยในเรื่องดอกเบี้ยกลับเข้ามา รวมถึงผลประกอบการไตรมาสแรกของบางบริษัทที่ออกมาผิดความคาดหมาย

ปัจจัยดอกเบี้ยครั้งนี้ออกมาจากปากของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ Ben Bernanke สำหรับการเตรียมแถลงต่อคณะกรรมการที่ดูแลทางด้านการเงินของสภาผู้แทนราษฎร

Bernanke บอกว่า เฟดอาจจะปรับเพิ่ม discount rate หรืออัตราดอกเบี้ยที่ปล่อยกู้ให้กับสถาบันการเงิน เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายที่ต้องการดึงกระบวนการปล่อยกู้ในระบบกลับเข้าสู่สภาวะปกติอีกครั้งก่อนที่จะนานเกินไป พร้อมกับย้ำว่านโยบายนี้ไม่ได้ถือเป็นสัญญาณการเปลี่ยนมุมมองทางด้านนโยบายการเงินแต่อย่างใด

ประธานเฟดยังให้ความมั่นใจว่านโยบายดอกเบี้ยต่ำยังจะดำเนินอยู่ต่อไป โดยเฟดอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงตัวดอกเบี้ยนโยบายที่ใช้ไว้ชั่วคราว คือการเปลี่ยนจากที่เคยใช้ Fed funds rate มาเป็นดอกเบี้ยที่จ่ายให้กับเงินฝากของสถาบันการเงิน หากพบว่า Fed funds rate ยังไม่เคลื่อนไหวสอดคล้องกับสภาวะตลาดที่เกิดขึ้นจริงและไม่สามารถใช้เป็นเครื่องชี้วัดได้เหมือนปกติ

ข้อมูลล่าสุดระบุว่า การกู้ยืมของสถาบันการเงินจากเฟด หรือที่เรียกว่าช่องทาง discount window มีอยู่รวมกัน 14,700 ล้านเหรียญ ณ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ลดลงจากระดับ 100,000 ล้านเหรียญที่เคยเกิดขึ้นหลังเกิดเหตุวิกฤติ Lehman Brothers ในเดือนตุลาคมปี 2551

กลับมาดูที่ตลาดหุ้น บริษัทรายล่าสุดที่สร้างความผิดหวังให้กับนักวิเคราะห์ก็คือ ผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สายรายใหญ่อันดับ 3 ของสหรัฐฯ อย่าง Sprint Nextel หลังจากลูกค้าเปลี่ยนใจหันไปซบค่ายคู่แข่งที่ชูตัวโทรศัพท์ยอดนิยม อย่าง iPhone ให้แก่ลูกค้า และฉุดให้ยอดขายของบริษัทในไตรมาส 4 ออกมาปรับตัวลงกว่า 6%

หุ้นของ Sprint ดิ่งลงแรงที่สุดในรอบ 6 เดือนเมื่อคืนนี้


ยักษ์ผลิตเหล็ก ArcelorMittal เผยมุมมองกำไร Q1 ต่ำกว่าคาด

มีคนบอกว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นหรือไม่ฟื้นอาจดูได้จากแนวโน้มราคาสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะสินค้าจำพวกวัตถุดิบอุตสาหกรรม อย่างเช่น เหล็ก ที่มีดีมานด์จากทั่วโลกเป็นตัวขับเคลื่อน แต่สถานการณ์ของราคาเหล็กท่ามกลางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในรอบนี้อาจจะไม่เหมือนครั้งก่อนๆ ที่จะสามารถช่วยให้บริษัทผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ที่สุดของโลก ArcelorMittal พ้นจากสภาวะการตกต่ำของผลกำไรได้

ราคาหุ้นของยักษ์ใหญ่เหมืองเหล็กที่มีฐานอยู่ใน Luxembourg ดิ่งลงแรงที่สุดในรอบ 6 เดือน หลังบริษัทออกมาเตือนถึงผลกำไรไตรมาสแรกที่ต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ นั่นก็เพราะสภาวะราคาที่ยังคงร่วงลงและต้นทุนที่สูงขึ้น

Arcelor ประเมินรายได้ก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา หรือที่เรียกว่า Ebitda (อีบิทดา) จะออกมาอยู่แถวๆ 1,800 ? 2,200 ล้านเหรียญ ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะอยู่ที่ประมาณ 2,700 ล้านเหรียญ

นักวิเคราะห์รายหนึ่งใน Amsterdam มองว่า เป็นเพราะวัตถุดิบที่เป็นสินแร่เหล็ก และถ่านหินโค้ก หรือ Coking Coal วิ่งขึ้นไปไกลเกินกว่าที่ราคาเหล็กจะไล่ตามทัน ทำให้บริษัทเกิดปัญหาในเรื่องมาร์จิ้น จนต้องยอมเปิดเผยมุมมองที่น่าผิดหวังออกมา

ออเดอร์ของบริษัทในไตรมาสแรกได้ถูกบันทึกไว้ในบัญชีงวดไตรมาส 4 ซึ่งเป็นช่วงที่มีข้อมูลระบุว่า ราคาเหล็กรีดร้อน (Hot-rolled coil) ที่เป็นวัตถุดิบสำหรับไว้ใช้ในอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์และภาคก่อสร้าง ร่วงลงถึง 15% ซึ่งไปส่งผลลบล้างการปรับตัวขึ้น 16% ในไตรมาส 3 ที่เป็นอัตราการเพิ่มที่สูงสุดในรอบ 15 เดือน

ทางด้านหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินก็กล่าวยอมรับว่า ในไตรมาส 4 บริษัทเผชิญกับสภาวะราคาที่ปรับตัวลง ซึ่งส่งผลต่ออุตสาหกรรมเหล็กทั่วทั้งโลก ขณะแนวโน้มโดยรวมก็ยังคงดูอ่อนแออยู่ เหมือนกับที่บางคนยังมีความเป็นห่วงว่าเศรษฐกิจโลกรอบนี้จะฟื้นเร็วหรือช้าอย่างไร และตรงนี้ก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ราคาร่วงลง

ArcelorMittal รายงานกำไรไตรมาส 4 ที่ 1,070 ล้านเหรียญ เมื่อเทียบกับตัวเลขขาดทุน 2,630 ล้านเหรียญในไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า ขณะที่ยอดขายกลับเพิ่มขึ้น 16% มาอยู่ที่ 18,600 ล้านเหรียญ

ต้นทุนมีทิศทางจะขยับขึ้นในไตรมาสแรกนี้ ซึ่งเป็นไปตามแนวโน้มราคาวัตถุดิบ ขณะที่บริษัทกำลังกลับมาเดินเครื่องเตาหลอมอีกครั้ง โดยนักวิเคราะห์จาก Credit Suisse Group ประมาณการว่าตัว Iron-ore หรือสินแร่เหล็ก จะเพิ่มขึ้น 50% ในปีนี้ ขณะที่ analyst จากอีกค่าย อย่าง Nomura Holdings ก็คาดการณ์ว่า ถ่านหินโค้กอาจจะพุ่งขึ้นทะลุระดับ 200 เหรียญต่อเมตริกตัน จากที่อยู่ระดับเฉียดๆ 130 เหรียญในขณะนี้


โซรอสมั่นใจกรีซสามารถรักษาสถานะชาติสมาชิกยุโรปได้

จอร์จ โซรอส มหาเศรษฐีนักลงทุนชื่อดังระดับโลก เปิดเผยว่า เขาเชื่อมั่นว่ารัฐบาลกรีซจะทำทุกอย่างเท่าที่จำเป็นเพื่อรักษาฐานะการเป็นสมาชิกของกลุ่มประเทศยุโรป

โซรอสกล่าวนอกรอบการประชุมที่กรุงจาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซียในวันนี้ว่า "มั่นใจอย่างมากว่ากรีซจะทำทุกอย่างเพื่อรักษาสถานะการเป็นชาติสมาชิกของยุโรป และเพื่อให้มีคุณสมบัติในการรับความช่วยเหลือจากสหภาพยุโรป (EU) และเชื่อมั่นว่าอียูและธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะต้องหาทางช่วยเหลือด้านการเงินแก่รัฐบาลกรีซในวิถีทางมีต้นทุนการดำเนินงานที่ไม่สูงและไม่ทำให้กรีซต้องแบกภาระหนัก

ทั้งนี้ ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือน และราคาพันธบัตรร่วงลงอย่างหนัก เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่ากรีซจะไม่สามารถรับมือกับยอดขาดดุลงบประมาณที่อยู่ในระดับสูงสุดในกลุ่มอียูได้

ขณะที่ผู้นำ EU เตรียมจัดประชุมสุดยอดเพื่อคลี่คลายปัญหายอดขาดดุลของกรีซที่เมืองบรัสเซลส์ในวันนี้

นอกจากนี้ มีรายงานว่านายโวล์ฟกัง ชอยเบิล รัฐมนตรีคลังเยอรมนี ได้จัดประชุมร่วมกับสมาชิกสภานิติบัญญัติของเยอรมนีเมื่อวานนี้ เพื่อกำหนดกรอบการให้ความช่วยเหลือรัฐบาลกรีซที่กำลังประสบปัญหายอดขาดดุลงบประมาณและเผชิญแรงกดดันจากการก่อต้านของสหภาพข้าราชการและสหภาพแรงงานที่ชุมนุมประท้วงต่อต้านการควบคุมงบประมาณ

โซรอสมีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดในปี 2535 เมื่อเขาคาดการณ์ว่าอังกฤษจะไม่สามารถนำสกุลเงินปอนด์รวมอยู่ในระบบอัตราแลกเปลี่ยนของยุโรปได้

นอกจากนี้ โซรอสยังคาดว่าสกุลเงินมาร์คของเยอรมนีจะแข็งแกร่งหลังจากการล่มสลายของกำแพงเบอร์ลินในปี 2532 และตลาดหุ้นญี่ปุ่นจะเริ่มตกต่ำในปีเดียวกัน

ส่วนทางด้านอดีตคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางอังกฤษ นาย ชาร์ลส์ กู๊ดฮาร์ท เสนอแนะว่า อียูควรจะให้ IMF ยื่นมือเข้ามาช่วยกรีซมากกว่าที่ให้ดียูให้ความช่วยเหลือประเทศกรีซโดยตรง แม้ว่าจำนวนเงินที่จะต้องให้ความช่วยเหลืออาจจะเป็นจำนวนไม่มากนัก


โอบามาย้ำเห็นด้วยกับการจ่ายเงินโบนัสบนพื้นฐานที่ถูกต้อง

ประธานาธิบดีโอบามาให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Bloomberg ว่า ไม่ได้รู้สึก ไม่เห็นด้วย หรือ ไม่ชอบ การจ่ายเงินโบนัสจำนวน 17 ล้านดอลลาร์ ให้กับ นาย เจมี่ ดิมอน ผู้บริหารของ JP Morgan Chase และ 9 ล้านดอลลาร์ ให้กับ ลอยด์ แบลงก์ไฟน์ ผู้บริหารของ โกลด์แมน แซค

โอบามากล่าวว่า ผู้บริหารทั้งสองคนนั้นเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ ซึ่งตัวเค้าเองก็เหมือนกับประชาชนชาวอเมริกันคนอื่นๆ นั่นก็คือ ไม่ได้รู้สึก ความสำเร็จ หรือความมั่งคั่งของบุคคลเหล่านี้ และก็มองว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องปกติธรรมดาของตลาดแบบทุนนิยมเสรี

นอกจากนี้โอบามายังวางแผนที่จะสื่อข้อความเหล่านี้สู่ภาคเอกชนอีกครั้งในการประชุมร่วมกันกับบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ในวันที่ 24 ก.พ. ที่วอชิงตัน

ทั้งนี้ผู้บริหารทั้ง 2 คนที่พูดถึงข้างต้นนั้น จะรับเงินโบนัสในรูปของหุ้น มากกว่าเงินสด ซึ่งโอบามาบอกว่า เค้าอยากจะให้องค์กรอื่นๆ ดูเป็นตัวอย่างในเรื่องของการจ่ายผลตอบแทน เพราะโอบามามองว่าการจ่ายผลตอบแทนในรูปของหุ้นจะเป็นการพิสูจน์ถึงฝีมือในการบริหารงานของผู้บริหารท่านนั้นๆ และจะทำให้ผลงานของบริษัทเอกชนสหรัฐฯ ดีขึ้นด้วย

การแสดงความคิดเห็นของโอบามานั้นมีขึ้นหลังจากที่ มีการประกาศแพ็กเกจการจ่ายเงินโนนัสสำหรับปี 2552 ให้กับ เจมี ดิมอน และ ลอยด์ แบงก์ไฟน์ โดย แบงก์ไฟน์ได้พาให้โกลด์แมน แซค ทำกำไรได้เพิ่มขึ้นเท่าตัวในปีที่แล้ว และ ธนาคารทั้งสองแห่งนั้นก็ได้ชำระคืนเงินช่วยเหลือที่ได้รับมาจากรัฐบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ถ้าจะแตกรายละเอียดของเงินโบนัสที่ทั้งสองคนได้รับ เป็นดังนี้
- ลอยด์ แบงก์ไฟน์ ผู้บริหารของโกลด์แมน แซค จะได้รับโบนัสในรูปของหุ้นมูลค่า 9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
- เจมี ดิมอนของ JP Morgan Chase นั้น ได้รับเงินโบนัสในปี 2550 สูงถึง 27.8 ล้านดอลลาร์ ส่วนปี 2551 ได้เงินเดือน 1 ล้านดอลลาร์ต่อปี ในขณะที่ปีที่แล้ว 2009 เค้าได้รับโบนัสในรูปหุ้น ออพชั่น แต่ไม่มีเงินสดในเงินโบนัส


อินเดียสร้างสถานีสำรองน้ำมันฉุกเฉินแห่งแรกเสร็จกลางปีหน้า

ทางการอินเดียคาดโครงการก่อสร้างสถานีสำรองน้ำมันฉุกเฉินจะแล้วเสร็จช่วงกลางปีหน้า หวังตั้งเป้าพัฒนาโครงการด้านพลังงานให้ทัดเทียมสหรัฐ จีน และญี่ปุ่น

อินเดีย ประเทศที่พึ่งพาการนำเข้าน้ำมัน 77% กำลังเร่งหามาตรการป้องกันผลกระทบจากความผันผวนของราคาน้ำมัน รวมถึงสร้างหลักประกันด้านผลผลิตเชื้อเพลิง ซึ่งรัฐบาลคาดว่าโครงการก่อสร้างสถานีสำรองน้ำมันบริเวณชายฝั่งตะวันออกของนิวเดลีจะมีกำลังการผลิตน้ำมันที่ 1.33 ล้านตัน และอัตราการสำรองน้ำมันจะพุ่งแตะระดับ 5 ล้านตันหากการก่อสร้างสถานีสำรองน้ำมันอีก 2 ในเมืองมังกะลอร์แล้วเสร็จในเวลาต่อมา

ในช่วงเดือนเม.ย. - ธ.ค.2552 อินเดียมียอดนำเข้าน้ำมัน 109.32 ล้านตัน ซึ่งเพิ่มขึ้น 12% จากปีก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ ความผันผวนของราคาน้ำมันทำให้อินเดียต้องหามาตรการสกัดกั้นผลกระทบที่อาจสร้างความเสียหายต่ออัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในประเทศที่มีอัตราการเติบโตเร็วที่สุดในโลก

หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบร่วงลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 147.27 ดอลลาร์/บาร์เรลในเดือนก.ค.2551 เนื่องจากอุปสงค์ปรับตัวลดลงตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา ขณะที่ปีที่แล้ว ราคาน้ำมันทะยานกว่า 86% หลังเศรษฐกิจฟื้นตัว

นอกจากนี้ โรงกลั่นน้ำมันในอินเดียก็เดินหน้าขยายเพดานการผลิตเพื่อรองรับอุปสงค์ในประเทศที่มีอัตราการขยายตัวเร็วที่สุดเป็นอันดับสองของโลก

บริษัทมังกะลอร์ รีไฟเนอรี แอนด์ ปิโตรเคมิคอล เตรียมเดินเครื่องผลิตน้ำมันดิบ 15 ล้านตันภายในปี 2555 จากปัจจุบันนี้ที่ 9.69 ล้านตัน


จีนเผยการส่งออก-นำเข้าพุ่ง 44.4% ในเดือน ม.ค.

สำนักงานศุลการกรจีนเปิดเผยว่า การค้าระหว่างประเทศของจีนในเดือนมกราคม 2553 ขยายตัว 44.4% จากปีก่อน โดยการส่งออกอยู่ที่ 109,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 21% ส่วนยอดนำเข้าทะยานขึ้น 85.5% แตะ 95,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

มูลค่าการค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลนี้มีสาเหตุมาจากฐานการเปรียบเทียบที่ต่ำกว่าของปีก่อน ซึ่งในเวลานั้น การส่งออกของจีนได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตการเงินโลก

สำหรับยอดเกินดุลการค้าของจีนลดลง 63.8% แตะ 14,160 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากวัตถุดิบที่ภาคอุตสาหกรรมจีนนำเข้าจากต่างประเทศ อาทิ สินค้าโภคภัณฑ์ และ น้ำมัน มีต้นทุนสูงขึ้นจากปีที่แล้ว ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้มูลค่าการนำเข้าของจีนพุ่งขึ้นอย่างมากในเดือนม.ค.ปีนี้

สหภาพยุโรป (EU) และสหรัฐอเมริกายังคงเป็นคู่ค้ารายใหญ่สุดของจีน ขณะที่สมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) แซงญี่ปุ่นขึ้นมาเป็นคู่ค้าอันดับ 3 ด้วยมูลค่าการค้าที่ทะยานขึ้นถึง 80% แตะ 21,480 ล้านดอลลาร์ หลังจากที่เขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2553

ขณะที่สมาคมผู้ผลิตยานยนต์จีนเผยยอดการนำเข้าและการส่งออกรถของจีนในปี 2552 ซบเซา ท่ามกลางวิกฤตการเงินโลก แต่สถิติที่ลดลงนั้นดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากดีมานด์ที่สูงขึ้นในประเทศ และเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น

เมื่อปีที่แล้ว จีนได้นำเข้ารถ 420,800 คัน เพิ่มขึ้น 2.62% จากระดับปี 2551 ส่วนมูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้น 1.41% แตะ 1.53 หมื่นล้านดอลลาร์


เกาหลีใต้เผชิญยอดว่างงานแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี

ยอดผู้ว่างงานในเดือน ม.ค. พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี ที่ 4.8% จากข้อมูลนี้ เป็นแรงหนุนให้เชื่อว่า ธ.กลางจะไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในเร็วๆนี้

เสียงของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ต่างลงความเห็นว่า ธ.กลางจะคงดอกเบี้ยที่ระดับ 2% เป็นเดือนที่ 12 ในการประชุมที่จะมีขึ้นเช้าวันนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ธนาคารมีแนวโน้มที่จะเตือนว่าอาจจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยเมื่อใดก็ได้ เพื่อสกัดสั้นแรงกดดันเงินเฟ้อ

สัญญาณนี้ ได้ส่งไปยังตลาดพันธบัตร ส่งผลให้สัญญาล่วงหน้า พันธบัตรที่จะส่งมอบในเดือน มี.ค. วานนี้ ปิดบวก 2 จุด อยู่ที่ 109.87 หลังจากร่วงอย่างหนักในภาคเช้า


ฮอนด้าเรียกคืนรถกว่า 4 แสนคันจากปัญหาถุงลมนิรภัย

ฮอนด้าเผยเตรียมเรียกคืนรถ 437,763 คันทั่วโลก จากปัญหาที่เกิดขึ้นกับถุงลมนิรภัยของผู้ขับขี่ หลังจากที่บริษัทได้เคยแก้ปัญหาเดียวกันนี้กับรถจำนวน 514,000 คันมาแล้วเมื่อปี 2551 และ 2552

การประกาศเรียกคืนครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ฮอนด้าได้เปิดเผยแผนการเรียกคืนรถประประมาณ 646,000 คัน เมื่อ 12 วันก่อนหน้านี้ จากปัญหาที่เกิดขึ้นกับสวิทช์กระจกหน้าต่าง โดยรถที่จะถูกเรียกคืนนี้ประกอบด้วยรถในสหรัฐ 378,758 คัน แคนาดา 41,685 คัน ญี่ปุ่น 4,042 คัน และประเทศอื่นๆอีก 13,278 คัน

สำหรับรุ่นของรถที่ถูกเรียกคืนในสหรัฐนั้นมี 7 รุ่น รวมถึง แอ็คคอร์ดและซีวิค ขณะที่รุ่นที่ถูกเรียกคืนในญี่ปุ่นมีทั้งรุ่น Inspire Saber และ Lagreat

ทั้งนี้ รถที่ถูกเรียกคืน 952,000 คันเพราะปัญหาที่ถุงลมนิรภัยนั้น เป็นรถที่ประกอบขึ้นในปี 2544 และ 2545

ฮอนด้าชี้ว่า ถุงลมนิรภัยของผู้ขับขี่อาจมีแรงอัดมากเกินไป ซึ่งอาจจะทำให้ถุงลมแตกหรือฉีกขาด ส่งผลให้ผู้ใช้งานได้รับบาดเจ็บได้


ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯที่ประกาศออกมาเมื่อวานนี้ (พุธที่ 10 ก.พ. 2553)
? ดุลการค้าระหว่างประเทศ (ธ.ค.) ขาดดุล 40,200 ล้านดอลลาร์ (มากกว่าคาดการณ์และเดือนก่อนหน้า)

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯที่จะประกาศออกมาวันนี้ (พฤหัสบดีที่ 4 ก.พ. 2553)
? ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ
? ต้นทุนการผลิตและประสิทธิภาพการผลิต (Q4/2009) โดย กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ
? ยอดสั่งซื้อสินค้าโรงงาน (ธ.ค.) โดย กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ

ติดตาม Money Wake up ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ออกอากาศซ้ำเวลา 11.00 น. ทาง Money Channel
 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: IPSUM ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2010, 11:28:21 AM
สวัสดีคุณทองใหม่ครับ

ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้ ครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2010, 12:03:38 PM
บล.ฟิลลิป เชียร์กองทุน ASP-GOLD
http://www.posttoday.com/ (http://www.posttoday.com/)เงิน-หุ้น-ทอง/ทองต่อเงิน/กองทุนทองคำ/9019/บล-ฟิลลิป-เชียร์กองทุน-ASP-GOLD


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2010, 12:07:05 PM
สวัสดีคุณทองใหม่ครับ

ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้ ครับ
ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้ เช่นกันครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2010, 12:14:57 PM
วันนี้เว็บฝากรูปขัดข้อง ตามไปดูกราฟตาแป๊ะที่นี่ครับ
http://www.thaigold.info/forum/index.php?topic=4852.1480 (http://www.thaigold.info/forum/index.php?topic=4852.1480)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2010, 01:18:38 PM
SET50 Futures บ่ายนี้ยังขยับกรอบแคบแนะเก็งกำไร       
Thursday, 11 February 2010 13:09 
นายศราวุธ เตโชชวลิต  ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจตราสารอนุพันธ์ บล.ซิกโก้ (SSEC)  เปิดเผยถึงการซื้อขายสินค้า SET50 Futures ในตลาดอนุพันธ์แห่งประเทศไทย (TFEX) วันนี้ว่า ดัชนีฯ ปรับตัวขึ้นมาเล็กน้อย และมีปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง

โดยปัจจัยบวกยังมาจากความคาดหวัง ของนักลงทุนรอดูผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรป และกลุ่มผู้นำสหภาพยุโรป ถึงการหาแนวทางแก้ไขปัญหาการเงินในประเทศกรีซ ว่าจะออกมาเป็นรูปธรรมมากน้อยเพียงใด

ด้านปัจจัยการเมือง แม้ว่าจะมีประเด็นเรื่องการประชุมรัฐสภาของไทยวันนี้ ที่มีประเด็นเรื่องพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ยังไม่มีผลต่อการลงทุน เพราะเชื่อว่าจะยังไม่ได้ข้อสรุปในวันนี้

เช่นเดียวกับราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากพายุหิมะที่พัดถล่มสหรัฐฯ ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันสูงขึ้น ก็ช่วยสนับสนุนหุ้นกลุ่มพลังงานในระยะสั้นเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม  ภาพรวมตลาดทุนทั่วเอเชียที่กำลังจะเข้าสู่เทศกาลตรุษจีน ก็ส่งผลให้นักลงทุนต่างชะลอการลงทุนออกไป โดยสังเกตุได้จากปริมาณการซื้อขาย SET50 Futures ช่วงเช้าที่เข้ามาเพียง 4,000 สัญญาเท่านั้น

สำหรับในช่วงบ่ายคาดว่าดัชนี SET50 Futures มีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวในกรอบแคบต่อ เนื่องจากปริมาณการซื้อขาย เบาบาง เพราะใกล้ช่วงเทศกาลตรุษจีน นักลงทุนที่เข้ามาซื้อขายอนุพันธ์ในช่วงนี้ จะเข้ามาในลักษณะเก็งกำไรวันต่อวัน

ดังนั้นแนะนำกลยุทธ์การลงทุนในช่วงบ่าย ควรเก็งกำไรในกรอบ 474- 479 จุด ในสัญญา S50H10 เดือนนาคม 2553  ส่วนดัชนี SET50 ประเมินแนวรับไว้ที่ 480 จุด แนวต้าน 485-489 จุด

 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2010, 02:48:57 PM
โกลด์ฟิวเจอร์วันนี้
วันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ 2010 เวลา 14:06 น. สมพร ฟ้อยกท์ ข่าวรายวัน - ข่าวในประเทศ   
User Rating: / 0
แย่ดีที่สุด
ราคาทองคำส่งมอบทันที ตลาดลอนดอน วานนี้เคลื่อนไหวในกรอบที่แคบลง ระหว่าง 1,064-1,082 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์  ปิดลดลง เพียง 4.60 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 0.4% ปิดที่ 1,072.05 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ เพราะได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่กลับมาแข็งค่าเทียบกับยูโร จากความกังวลต่อการ Testimony ของประธานเฟดคืนวานนี้ แม้ว่าตลาดหุ้นทั่วโลกจะขยับขึ้นอย่างโดดเด่น ต่อการเก็งกำไรแผนการช่วยเหลือกรีสในคืนวันนี้

ขณะที่ค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ เคลื่อนไหวในกรอบแคบ ปิดที่  33.15 บาท/US$ แข็งค่าเป็นวันที่ 3 อีก 0.02 บาท/ ดอลลาร์สหรัฐ แม้ว่าเงินดอลลาร์จะกลับมาแข็งค่าเทียบกับยูโร แต่ถูกชดเชยจากเงินทุนไหลเข้าสุทธิทั้งตลาดทุนและตลาดตราสารหนี้สุทธิวานนี้SPDR Gold Trust Fund ทรงตัวเป็นวันที่ 4 ปิดที่ 1,106.38 ตัน

ปริมาณการซื้อขายทองคำล่วงหน้า ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 29.6% sinv 344 สัญญา แต่ OI ส่งมอบเดือนก.พ. กลับหดตัวลงอีกครั้ง 166 สัญญา หรือ 3.3%หลังราคาทองคำระหว่างชั่วโมงการซื้อขายเคลี่อนไหวในกรอบแคบ และไร้ทิศทางที่ชัดเจน

การเคลื่อนไหวของราคาทองคำ ส่งมอบทันทีตลาดลอนดอน กิมเอ็งเชื่อว่าจะยังมีทิศทางเป็น Sideways อีกวันหรือจนกว่าจะเห็นแนวทางการช่วยเหลือกรีส จากการประชุมระหว่างECB และผู้นำประเทศสมาชิกในกลุ่มอียูคืนวันนี้ น่าจะเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลกได้ในช่วงสั้นนี้ และทำให้ค่าเงินยูโรกลับมาแข็งค่าเทียบกับดอลลาร์ได้อีกครั้ง บวกกับการประมูล

พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ คืนนี้เป็นคืนสุดท้าย วงเงินเพียง US$1.6 หมื่นล้านเท่านั้น จะเป็นอีกแรงบวกต่อค่าเงินยูโร ทำให้ราคาทองคำสามารถขยับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,080 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ได้ในช่วงสั้นๆ นี้ แต่คิดว่าผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ค่อนข้างยากเช่นกัน

กลยุทธ์การลงทุน : 1.GFG10 : แนะนำ ?ถือสถานะ Long? เพื่อรอปิดทำกำไรบริเวณ 17,100 บาทหรือสูงกว่า ต่อกรณีการเก็งกำไรต่อการมาตรการช่วยเหลือของธนาคารกลางยุโรป( ECB) และทิศทางค่าเงินยูโร 2.หาก GFG10 < 16,950 บาท ปิดสถานะ Long


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2010, 02:58:07 PM
กิมเอ็ง: วิเคราะห์แนวโน้มตลาดวันนี้
วันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ 2010 เวลา 14:37 น. สมพร ฟ้อยกท์ ข่าวรายวัน - ข่าวในประเทศ   
กิงเอ็งคาดว่าตลาดหุ้นไทยจะแกว่งตัวในกรอบแคบในวันนี้และในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ โดยกรอบการปรับตัวขาขึ้นยังคงค่อนข้างจำกัด โดยวานนี้ดัชนี SET บวกเพียง 2.52 จุด ในขณะที่ปริมาณการซื้อขายลดลงมาอยู่ที่ 11,556 ลบ.

และเห็นว่าการเข้าลงทุนในระยะนี้ควรใช้ความระมัดระวัง จากความไม่แน่นอนทางการเมืองที่เพิ่มขึ้น ในกรณีการตัดสินคดียึดทรัพย์ของ พ.ต.ท. ทักษิณ ในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้า รวมทั้งการเข้าสู่ช่วงตรุษจีน ซึ่งปกติจะเป็นช่วงที่ปริมาณการซื้อขายเบาบาง โดยแนะนำนักลงทุนให้หาจังหวะเข้าสะสมหุ้นที่มีพื้นฐานดี และกำไรมีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่ง รวมทั้งหุ้นที่คาดการณ์การรายงานผลประกอบการที่โดดเด่นในช่วงปลายเดือนนี้ โดยหุ้นที่เราแนะนำในวันนี้ ได้แก่ BEC PTT และ SCB

นักลงทุนยังเลือกที่จะชะลอการลงทุนในเวลานี้: ภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้บ่งชี้ทิศทางตลาดในระยะ 3-4 วันข้างหน้าได้เป็นอย่างดี แม้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปจะปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งจากข่าวเชิงบวกเรื่องการให้ความช่วยเหลือประเทศกรีซ แต่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นเพียง 2.52 จุด มาปิดที่ระดับ 688.41 จุด โดยมูลค่าการซื้อขายโดยรวมลดลงเหลือเพียง 11,556 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนสถาบันในประเทศ และต่างประเทศกลับมาซื้อสุทธิ 544 ล้านบาท และ 616 ล้านบาทตามลำดับวานนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนที่เราเฝ้ารออยู่ อย่างไรก็ตามมูลค่าการซื้อขายที่เบาบางบ่งชี้ชัดว่านักลงทุนส่วนใหญ่ขอเลือกที่จะชะลอการลงทุนจนกว่าสถานการณ์ต่างๆ จะเริ่มคลี่คลายชัดเจน แล้วค่อยเข้าสะสมหุ้นอีกครั้ง

นักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ เริ่มกังวลกับทิศทางนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้นของธนาคารกลางสหรัฐฯ : ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงเล็กน้อยวานนี้ จากแผนงานของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ นายเบ็น เบอร์นันเค ที่ระบุว่าทางการจะเริ่มลดมาตรการให้ความช่วยเหลือแก่สถาบันการเงินในสหรัฐฯ บางอย่างลง

ทั้งนี้รัฐสภาสหรัฐฯ ปิดทำการในคืนที่ผ่านมาเนื่องจากหิมะตกหนักมาก และทำให้กำหนดการแถลงแผนการดำเนินงานของนายเบ็น เบอร์นันเค ต่อวุติสภาต้องถูกเลื่อนออกไป ทำให้ทางการได้เพียงแต่ตีพิมพ์แผนการดำเนินงานดังกล่าวออกสู่สาธารณะชนเท่านั้น เรามีความเห็นว่าแผนการดังกล่าวบ่งชี้ชัดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะเริ่มใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้น รวมถึงมีความเป็นไปได้มากขึ้นที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเล็กน้อยในระยะต่อไป

แม้ว่านั่นจะไม่ใช่สัญญาณที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ต้องการสื่อต่อสาธารณชนโดยตรง แต่เชื่อว่าท่านเองมีความตั้งใจที่จะบอกเป็นนัย นอกจากนี้ยังพบว่านักลงทุนยังมีความกังวลกับแผนการให้ความช่วยเหลือของสหภาพยุโรปแก่กรีซ เนื่องจากรายละเอียดของแผนยังไม่ชัดเจนจนกว่าผู้นำสหภาพยุโรปจะมีการประชุมกันในวันนี้ ทั้งนี้ดัชนีดาวโจนส์ ปรับตัวขึ้น 20.26 จุด หรือ 0.20% ขณะที่ดัชนี เอส แอนด์พี500 และ แนสทาน ปรับตัวขึ้น 0.22% และ 0.14% ตามลำดับ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ และราคาสินค้าโภคภัณฑ์เคลื่อนไหวแกว่งตัว: ในคืนที่ผ่านมาค่าเงิน ดอลลาร์ เทียบยูโร และเยนแข็งค่าขึ้น 0.5% และ 0.3% ตามลำดับ แต่ขณะที่ค่าเงิน US dollar เทียบปอนด์อ่อนตัวลง 0.8% ทั้งนี้เนื่องจากนักลงทุนยังมีความกังวลกับแผนการให้ความช่วยเหลือของสหภาพยุโรปแก่กรีซ

รวมถึงตัวเลขการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 3.64 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายนเป็น 4.02 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนธันวาคม และพบว่าราคาสินค้าโภคภัณฑ์เคลื่อนไหวแกว่งตัว โดยราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าปรับตัวขึ้น 0.27 ดอลลาร์สหรัฐ เป็น 74.79 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาทองคำล่วงหน้าปรับตัวขึ้น 1.10 ดอลลาร์สหรัฐ เป็น 1,076.1 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อออนซ์


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Theephat ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2010, 03:11:52 PM
ขอบคุณครับคุณทองใหม่ :)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2010, 07:00:59 PM
SET50 Futures พรุ่งนี้แกว่งในแดนบวกแนะรอขายแนวต้าน 485 จุด       
Thursday, 11 February 2010 17:36 
นายกิดาการ สุวรรณธรรมา  ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจอนุพันธ์บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ PST  เปิดเผยถึงการซื้อขายสินค้า SET50 Futures ในตลาดอนุพันธ์แห่งประเทศไทย (TFEX) วันนี้ว่า ดัชนีฯ ปรับตัวขึ้นมาตามความคาดหวัง ของนักลงทุนจากการประชุมของธนาคารกลางยุโรป และกลุ่มผู้นำสหภาพยุโรป ถึงการหารทางแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในประเทศกรีซ ว่าจะออกมาเป็นรูปธรรมมากขึ้น

ประกอบกับราคาน้ำมันในตลาดโลกยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง  จากพายุหิมะที่พัดถล่มสหรัฐฯ ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันสูงขึ้น ก็ช่วยสนับสนุนหุ้นกลุ่มพลังงานในระยะสั้นเช่นกัน

นอกจากนี้ยังมีข่าวจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ได้ประเมินตัวเลขจีดีพีของไทยในปี 2553 ว่า จะถึงระดับ 4% ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสนับสนุนต่อบรรยากาศการลงทุนเช่นกัน

ด้านปัจจัยเรื่องข่าวที่ทางเวียดนามประกาศลดค่าเงินด่องลง ยังไม่มีอิทธิพลต่อการลงทุน เนื่องจากทางธนาคารกลางแห่งประเทศไทยออกมายืนยันแล้วว่า ไม่กระทบต่อการแข่งขันการค้าของไทย เช่นเดียวกับปัจจัยเรื่องงบการเงินของหุ้นกลุ่มพลังงาน และกลุ่มสื่อสารที่จะประกาศออกมาในช่วงนี้ ยังไม่มีอิทธิพลต่อการลงทุนเช่นกัน เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ให้ความสนใจกับปัจัจยเรื่องยุโรปมากกว่า

สำหรับในวันพรุ่งนี้ คาดว่าดัชนี SET50 Futures จะแกว่งตัวขึ้นต่อ จากความเชื่อมั่นถึงการแก้ปัญหาการเงินในกรีซ ที่หลายประเทศในยุโรปเตรียมจะหารือกันในคืนนี้

แต่อย่างไรก็ตามหากพิจารณาภาพรวมตลาดยังอยู่ในทิศทางขาลง เพราะมีปัจจัยเรื่องการเมืองเข้ามากดดัน

โดยกลยุทธ์การลงทุน แนะนำสำหรับนักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงไหว ควรรอเปิดสถานะขายบริเวณแนวต้านในสัญญา S50H10 เดือนมีนาคม 2553 ประเมินแนวรับ 474 จุด  แนวต้าน 485 จุด ส่วนดัชนี SET50 ประเมินแนวรับไว้ที่ 482 จุด แนวต้าน 494 จุด

 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2010, 07:02:24 PM
หุ้นไทยพรุ่งนี้สัญญาณดีมีลุ้นเด้งต่อ       
Thursday, 11 February 2010 17:31 
นางสาวธีรดา ชาญยิ่งยงค์  ผู้ช่วยผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคาะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวอยู่ในทิศทางเชิงบวก โดยดัชนีฯปรับตัวเพิ่มตามทิศทางเดียวกันกับ ตลาดหุ้นในแถบภูมิภาคเอเชีย เนื่องจาก นักลงทุนเริ่มคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับกรณีปัญหาวิกฤตการเงินในประเทศแถบยุโรป อาทิ ประเทศกรีซ โปรตุเกส  สเปน และอิตาลี  หลังทางกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป(อียู)เตรียมมาตรการเข้ามาช่วยเหลือ  ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันยังปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนบรรยากาศการลงทุนในช่วงระหว่างการซื้อขายวันนี้ 

อย่างไรก็ตาม แม้ตลาดฯจะมีปัจจัยบวกเข้ามาสนับสนุนแต่มองว่านักลงทุนยังไม่กล้าเข้ามาลงทุนแบบเต็มที่ สะท้อนได้จากปริมาณการซื้อขายที่ไม่มากนัก เพราะยังมีปัจจัยการเมืองภายในประเทศกดดันบรรยากาศการลงทุนอยู่ อีกทั้งนักลงทุนต่างชาติก็ยังส่งสัญญาณกลังบมาเข้ามาซื้ออย่างชัดเจน โดยวานนี้ต่างชาติซื้อสุทธิไปกว่า 600 กว่าล้านบาท ถือว่าไม่มากเท่าใด

สำหรับ แนวโน้มดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยพรุ่งนี้ คาดว่าจะมีโอกาสรีบาวน์ เนื่องจาก ค่ำคืนนี้จะมีการประชุมของกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป (อียู) ดังนั้น มองว่านักลงทุนคงจะตอบรับกับข้อสรุปมาตรการที่จะช่วยเหลือประเทศกรีซในวันพรุ่งนี้ ส่วนกรณีที่นายเบน เบอร์นันกีผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯหรือเฟด ระบุว่าอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน หรือ discount rate นักลงทุนควรติดตาม โดยมองว่า จะยังไม่ปรับดอกเบี้ยนโยบายตอนนี้เพราะปัญหาการชำระหนี้ประเทศยุโรปยังไม่ได้แก้ปัญหา อย่างไรก็ดี นักลงทุนควรติดตาม การประกาศจีดีพี ไตรมาส 4/52 ของสภาพัฒฯในวันที่ 22 ก.พ.นี้ด้วย

กลยุทธ์การลงทุน แนะเก็งกำไร 50% ของพอร์ต แม้ว่าบรรยากาศภายนอกประเทศจะเริ่มดูดี แต่ปัจจัยการเมืองยังกดดันอยู่ โดยประเมินแนวรับไว้ที่ 688 จุด และประเมินแนวต้านไว้ที่ 703 จุด

ด้านนายทวีรัชต์ มัททวีวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซียไซรัส กล่าวว่า ภาพรวมดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยในวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่มีปริมาณการซื้อขายเบาบางมาก ซึ่งในเชิงเทคนิคเรียกว่าสัญญาณขัดแย้งกันเองในเชิงบวก หรือ Bullish Divergence โดย MACD RSI และ Stochastic มีจุดต่ำสุดยกสูงขึ้น ซึ่งนับว่าขัดแย้งกัน 

ทั้งนี้ ปัจจัยหลักจากการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยหุ้นยุโรปปรับตัวรีบาวน์ขึ้น จากความคาดหวังมาตรการความช่วยเหลือทางการเงินกับประเทศกรีซ ในการประชุมประเทศสหภาพยุโรป (อียู) ในวันนี้ว่าจะมีทางออกในทิศทางที่ดี ส่วนกรณีที่ประเทศเวียดนามประกาศลดค่าเงินด่องอัตรา 3.36% ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 เดือน เพื่อลดการขาดดุลบัญชีนั้น นักวิเคราะห์มองว่า เรื่องดังกล่าวไม่ได้มีผลต่อบรรยากาศการลงทุนตลาดวันนี้ และเชื่อว่าในวันพรุ่งนี้ก็จะไม่ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน

สำหรับแนวโน้มในวันพรุ่งนี้ (12 ก.พ. 53)  คาดว่าดัชนีฯจะปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ปริมาณการซื้อขายก็จะยังคงเบาบาง โดยต้องรอประเมินจากการเคลื่อนไหวของดัชนีฯดาวโจนส์ ว่ าจะไม่ปรับลดลงต่ำกว่า 1 หมื่นจุด ซึ่งจะไม่เป็นผลดีนัก กลยุทธ์การลงทุนจึงแนะนำให้ลงทุนระยะสั้น ในช่วงก่อนวันที่ 26 ก.พ. 53 ที่องค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดฟังคำพิพากษาคดี เวลา 13.00 น. ในคดีที่อัยการสูงสุด ยื่นคำร้องให้ศาลมีคำสั่งยึดทรัพย์สินจำนวน 76,000 ล้านบาท ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี  และครอบครัว ตกเป็นของแผ่นดิน โดยหากในช่วงก่อนวันดังกล่าว หุ้นปรับตัวลดลงแรง ถือเป็นโอกาสในการซื้อเพื่อรอรีบาวน์ แต่ก็ต้องรอประเมินสถานการณ์อีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ประเมินแนวรับอยู่ที่ 692 จุด 680 จุด และ 660 จุด ตามลำดับ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 700 จุด และ710 จุด หากผ่านแนวต้านที่ 710 จุดก็มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปที่แนวต้านถัดไป 720 จุด       
 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: prim ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2010, 07:54:35 PM


สวัสดีค่ะคุณทองใหม่  มาอ่านข่าวทอง และเซ็ทค่ะ  ขอบคุณมาก ๆสำหรับข่าวค่ะ  เข้ามาอ่านทุกวันแต่บางทีไม่ได้ทักทายค่ะ   ขอบคุณมากๆๆค่ะ   ;D ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2010, 08:50:08 PM
???????????   48? 45.6?  44?
แรงงานขอเบี้ยสวัสดิการตกงาน ครั้งก่อน48หมื่น  คาดการณ์45.6หมื่น  ผลประกาศ44หมื่น
ดีกว่าเดิมครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2010, 08:51:18 PM


สวัสดีค่ะคุณทองใหม่  มาอ่านข่าวทอง และเซ็ทค่ะ  ขอบคุณมาก ๆสำหรับข่าวค่ะ  เข้ามาอ่านทุกวันแต่บางทีไม่ได้ทักทายค่ะ   ขอบคุณมากๆๆค่ะ   ;D ;D
;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2010, 06:35:09 AM
เส้นปากถุง (BollingerBandsเส้นสีขาวทั้ง๓เส้น)แบบง่ายๆ ไม่ปวดเศียรเวียนเกล้า
เส้นบน---แนวต้าน
เส้นกลาง---แนวโน้ม(สำคัญสุด)
เส้นล่าง---แนวหนุน
ลักษณะที่๑---ทิศทางขึ้นเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น   เส้นกลางหันหัวขึ้น   เส้นล่างหันหัวลง
ลักษณะที่๒---ทิศทางขึ้นเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวขึ้น
เมื่อเจอลักษณะทั้ง๒นี้ ราคาระหว่างวันที่ขึ้นๆลงๆ เมื่อเจอจุดที่เห็นว่าต่ำแล้วให้ซื้อเข้าได้เลยครับ  ขอเพียงเส้นกลาง(แนวโน้ม)ยังหันหัวขึ้นอยู่ แม้ราคาเแท่งเทียนจะอยู่ต่ำกว่าเส้นกลาง ก็ยังซื้อเข้าได้ หากเส้นบนเดินขวางเมื่อไหร่ ให้ทยอยลดพอร์ตได้เลยครับ
ลักษณะที่๓---เลือกทิศทาง---เส้นบนหันหัวลง เส้นล่างหันหัวขี้น ปากถุงแคบลง ถึงช่วงนี้ ให้ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว หากใครยังคิดอยากเคลื่อนไหว ก็จงเคลื่อนไหวไปหน้าทีวี จงอย่าทำการอย่างอื่นใด หากใครเป็นจอมยุทธ์ ก็ชิงเคลื่อนไหวก่อนใครได้  
ขอแถมอีกนิด จงโฟกัสที่เส้นกลาง หากเส้นกลางเริ่มขยบหัวหัวขึ้นหรือลง ทิศทางอาจขึ้นหรือลงตามเส้นกลางแนวโน้มนั้น
ลักษณะที่๔---เคลื่อนไหวในกรอบแคบ---เส้นบน กลาง ล่าง เดินขวางทั้ง๓เส้น หากใครเล่นออนไลน์ สามารถเล่นได้เล็กน้อยอย่ามาก เมื่อราคาแท่งเทียนใกล้เส้นบน จงขาย ใกล้เส้นล่าง จงซื้อ ต้องเข้าออกให้ทันการณ์ หาไม่แล้วจากกำไรอาจขาดทุนได้นา ขอบอก
ลักษณะที่๕---ทิศทางลงเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น เส้นกลางหันหัวลง เส้ยล่างหัวหัวลง
ลักษณะที่๖---ทิศทางลงเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวลง  เมื่อเส้นล่างเดินขวางเมื่อไหร่ ผู้ที่ใจกล้าที่เล่นออนไลน์ เริ่มทยอยซื้อเข้าได้ที่ละนิด อัตราเสี่ยงยังมีอยู่บ้างนะครับ สิบอกไห่
วิธีดูเส้นปากถุงที่กล่าวมานี้ .....ไม่ใช่ตำราของฝรั่ง แบบของฝรั่งผมเคยอ่านมาบ้างแล้ว ยาวมาก ปวดหัว ทำความเข้าใจได้ยากมากๆๆๆๆ ...........เหมาะเฉพาะกราฟราย๔ชม.และช่วงปกติเท่านั้นนะครับ  (บางครั้งตลาดจงใจคึงขึ้นลงอย่าแรงๆ แทบหัวใจวายสำหรับผู้มีทองในมือและผิดทิศทางของตัวเอง เรียกว่า ช่วงไม่ปกติครับ)

 (http://upic.me/i/l8/7zsw1.gif) (http://upic.me/show.php?id=9c87522cc2d84c39009ee4b1e123f38d)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2010, 06:36:20 AM
กราฟGold 1
ช่อง1 เส้นแดงอยู่เหนือเส้นเขียว---ทิศทางขึ้น  ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น  สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นเขียวอยู่เหนือเส้นแดง---ทิศทางลง     ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น สีเหลืองทอง?ทิศทางลง สีขาว?กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน  เส้นแดงและเขียวประสานเป็นกากะบาด ---กำลังจะเปลี่ยนทิศ ให้ดูเส้นแนวโน้มประกอบ  หากเส้นแดงและเขียวกำลังจะประสาน แต่ไม่ทันได้ประสานก็หันหันหัวกลับขึ้นหรือลง  แสดงว่ากำลังมีเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนี่งเกิดขึ้น หากขึ้นทะลุเส้นปะแนวต้าน ให้ดูเส้นปะแนวต้านเส้นต่อไป หากลงทะลุเส้นปะแนวหนุน ให้ดูเส้นแนวหนุนเส้นต่อไป   ส่วนจุดกลมเหลืองทอง---ทิศทางลง  จุดกลมฟ้า---ทิศทางขึ้น  หากกราฟวิ่งในยามปกติ พอเชื่อถือได้ หากกราฟวิ่งขึ้นลงแรงๆ คือยามไม่ปกติ ไม่อาจเชือถือได้
ช่อง2  ให้ดูเส้นสีม่วง ประกอบกับเส้นแนวโน้มในช่อง1 หากหันหัวไปในทิศทางเดียวกัน  โอกาสที่จะผิดพลาดก็มีน้อย  ส่วนเส้นปะสีเหลืองทองและฟ้า  หากขึ้นเหนือเลข80 เข้าสู่เขตซื้อเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ทุกเมื่อ  หากลงต่ำกว่าเลข20 เข้าสู่เขตขายเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ตลอดเวลา
ช่อง3   ให้ดูทั้ง2เส้น คือเหลืองทองและฟ้า หันหัวไปทิศทางเดียวกันหรือไม่  เท่านั้นยังไม่พอ  ให้ดูประกอบทิศทางในช่อง1ว่าเป็นทิศทางเดียวกันหรือไม่  หากทิศทางหันหัวในแนวเดียวกัน  ทิศทางนั้นเชื่อถือได้

 (http://upic.me/i/qq/c2y42.gif) (http://upic.me/show.php?id=ec0934f12884be4c9e9f57daded2d255)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2010, 06:57:33 AM
วิธีดูทิศทางทอง ต้าน๓----หนุน๓เป็นทิศทางทองที่จะเคลื่อนไหวในวันนี้ หากพุ่งทะลุต้าน๓หรือดิ่งทะลวงหนุน๓ แสดงถึงวันนั้นทองเคลื่อนไหวแรงเกินปกติ เส้นแดนเป็นเส้นที่จะแบ่งแยกทิศทางของทองที่จะขึ้นหรือลง หากทองเคลื่อนไหวอยู่ในทิศทางใดมากและนาน นั่นหมายถึงโอกาสเป็นไปได้มากที่ทองจะเคลื่อนไปในทิศทางนั้นๆ ในช่วงเวลานั้น (ยังต้องแบ่งออกในช่วงเวลาตลาดเอเซีย ยุโรป เมกาด้วย) ต้าน๑และหนุน๑หากถูกทดสอบแบบมีผล(ขึ้นลงมากกว่า๑ครั้ง)แล้วยืนอยู่ได้ นั่นคือทิศทางทองที่จะเดินต่อไปในช่วงเวลานั้น หากการวิเคราะเกิดขัดแย้งกันเมื่อไหร่ ให้หยุดมองดูอย่างเดียว ไม่ควรซื้อ-ขายในช่วงเวลานั้น แนวทางนี้เหมาะกับการเล่นสั้นมาก (เล่นแบบออนไลน์ในอนาคต) มีความแม่นยำถึง80%ครับ อีกอย่างข่าวปัจจัยพื้นฐานอาจเปลี่ยนทิศทางทองได้กะทันหันนะครับ
ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์กับการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย ถัาติดดอยเมื่อทองต่ำลงมา  หากยังมีเงินเหลืออยู่ ควรซื้อเพิ่ม เพิ่มที่ละนิด ต่ำอีกซื้ออีก เพื่อดึงต้นทุนที่สูงให้ต่ำลงมา ใครที่ยังไม่มีทองในมือควรทยอยซื้อเข้าอย่ามากนัก หากทองลงอีก เราก็ซื้ออีก ดีกว่าเวลาทองขึ้นเราไปไล่ซื้อในราคาที่สูง  จดจำเป็นคติเตือนใจว่า  เรามิอาจซื้อได้ในราคาที่ต่ำสุด และขายได้ในราคาที่สูงสุด ไม่มีการลงทุนใดที่ไม่เสี่ยง การบริหารพอร์ตให้ได้จังหวะ จะลดความเสี่ยงลงได้ครับ
กราฟสำคัญ ปัจจัยพื้นฐานก็สำคัญ จิตวิทยาการโน้มเอียงของคนก็สำคัญ สิ่งเหล่านี้หากเป็นไปในแนวเดียวกัน ก็จะมุ่งไปทางนั้น หากแย้งกันก็ต้องดูฝ่ายไหนเหนือกว่า.....ด้วยเหตุนี้ไม่มีนักวิเคราะห์คนใดที่จะทำนายได้แม่นยำตลอดกาลได้ครับ
 (http://upic.me/i/gc/by8o1.gif) (http://upic.me/show.php?id=7d2fd63c0528571bdcca940b477a0407)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2010, 07:07:26 AM
อียูบรรลุข้อตกลงช่วยเหลือกรีซ
วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2010 เวลา 06:00 น. สมพร ฟ้อยกท์ ข่าวรายวัน - ข่าวต่างประเทศ   
User Rating: / 0
แย่ดีที่สุด
นายเฮอร์มาน แวน รอมปาย ประธานสหภาพยุโรป(อียู) เผยว่าผู้นำอียู ได้บรรลุข้อตกลงในการจัดหาความช่วยเหลือให้กรีซ  ถือเป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่เคยมีมาก่อนเพื่อหยุดการลุกลามของวิกฤติในกลุ่ม 16 ชาติสมาชิกที่ใช้เงินสกุลยูโร

ทั้งนี้ข้อตกลงเกิดขึ้นในการเจรจาระหว่าง แวน รอมปาย และโจเซ มานูเอล บาร์โรโซ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป รวมถึงนิโคลาส ซาร์โกซีประธานาธิบดีฝรั่งเศส แองเจล่า เมอร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมัน ฌอง คล็อด ทริเช็ต ประธานธนาคารกลางยุโรป และจอร์จ ปาปันดรัว นายกรัฐมนตรีกรีกนายโดนัล ทัสค์ นายกรัฐมนตรีโปแลนด์ กล่าวกับผู้สื่อข่าก่อนหน้านี้ว่า ความช่วยเหลือจะออกมาในรูปเงินกู้ให้กรีซ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2010, 07:15:57 AM
อียูบรรลุข้อตกลงช่วยเหลือกรีซ
วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2010 เวลา 06:00 น. สมพร ฟ้อยกท์ ข่าวรายวัน - ข่าวต่างประเทศ   
User Rating: / 0
แย่ดีที่สุด
นายเฮอร์มาน แวน รอมปาย ประธานสหภาพยุโรป(อียู) เผยว่าผู้นำอียู ได้บรรลุข้อตกลงในการจัดหาความช่วยเหลือให้กรีซ  ถือเป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่เคยมีมาก่อนเพื่อหยุดการลุกลามของวิกฤติในกลุ่ม 16 ชาติสมาชิกที่ใช้เงินสกุลยูโร

ทั้งนี้ข้อตกลงเกิดขึ้นในการเจรจาระหว่าง แวน รอมปาย และโจเซ มานูเอล บาร์โรโซ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป รวมถึงนิโคลาส ซาร์โกซีประธานาธิบดีฝรั่งเศส แองเจล่า เมอร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมัน ฌอง คล็อด ทริเช็ต ประธานธนาคารกลางยุโรป และจอร์จ ปาปันดรัว นายกรัฐมนตรีกรีกนายโดนัล ทัสค์ นายกรัฐมนตรีโปแลนด์ กล่าวกับผู้สื่อข่าก่อนหน้านี้ว่า ความช่วยเหลือจะออกมาในรูปเงินกู้ให้กรีซ

ข่าวจากเว็บจีน---ถึงอียูจะตกลงช่วยกริช แต่ยังไม่มีแผนการและรายละเอียด จึงยังไม่อาจเรียกร้องให้ตลาดเชื่อถือได้ ในขณะเดียวกัน ตลาดยังจับตาดูสเปนและปอต่เกตุ ซึ่งกำลังย่ำแย่เช่นกัน...........


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2010, 07:22:57 AM
สเปนหนีไม่พ้นวิกฤติ  
วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2010 เวลา 06:45 น. สมพร ฟ้อยกท์ ข่าวรายวัน - ข่าวต่างประเทศ   
 
ข้อมูลเป็นทางการ ระบุ ว่า สเปนเป็นประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปประเทศล่าสุดที่เข้าสู่ภาวะวิกฤติ โดยงบประมาณขาดดุลที่เกิดขึ้นยังส่งผลกระทบไปถึงยูโรโซน

ในขณะที่ภาระหนี้ของกรีซและภาวะการขาดดุลงบประมาณ กลายเป็นความเสี่ยงที่ลามไปถึงยูโรโซน และกลายเป็นประเด็นสำคัญของการประชุมผู้นำสหภาพยุโรป(อียู)ที่กรุงบรัสเซลล์

เศรษฐกิจตกต่ำได้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อสเปน โดยอัตราคนตกงานสูงถึง 19% สูงสุดในกลุ่มประเทศสมาชิกอียู 27 ประเทศ

สเปนซึ่งเศรษฐกิจใหญ่อันดับห้าของยุโรป ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอต่อผลกระทบวิกฤติการเงินโลก เนื่องจากการขยายตัวถึงพาสินเชื่อเป็นตัวกระตุ้นความต้องการในประเทศ

และพร็อพเพอร์ตี้บูม ซึ่งเป็นผลจากการเข้าถึงเงินกู้ได้ง่าย จนนำไปสู่การล่มสลายปลายปี 2551 หลังจากสร้างความโกลาหลมาเป็นสิบปี

ตอนนี้มีข้อสงสัยว่าสเปนจะสามารถปลดภาวะขาดดุลงยประมาณตามที่อียูกำหนดเพดานที่ 3% ภายในปี 2556 ตามที่ให้สัญญาไว้ได้หรือไม่ หลังจากขาดดุลปีที่แล้วลงมาถึง 11.4%

ด้านผู้นำอียูเพิ่งรายงานข้อตกลงช่วยเหลือกรีซ ซึ่งตอนนี้ขาดดุลงบประมาณ 12.7% เป็นเรื่องที่อียูจะไม่นำไปใช้กับสเปนเช่นกัน

โดยเศรษฐสเปนหดตัว 0.1% ในช่วงไตรมาสสี่ที่ผ่านมา



หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2010, 09:11:15 AM
??????????????1161.
[ ?? 2010-02-12 09:28:48 ]
??????????????????
                                          ??????????????1161.

       ??????1072???1097.95???1072????1092.4.?????????????????????30??1198?????????????????1198??????????????1090??????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????2?6???????????????????????????1?30??????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????1082-1085???????1098??1107?????????1095.?????????????1060??????????????????????1161???????????????????????????????????????????????????57228461

เอาบทวิเคราะห์ของ1นักวิเคราะห์มาฝาก ไม่รับผิดชอบในการผิดถูกนะครับ ขอบอกไว้ก่อน
โดยใจความ----วันนี้ทองยังจะน่าจะลงได้อีกหน่อย ระดับต่ำที่1082--1085 ส่วนขึ้นมองถึง1098---1107 คืนนี้หากรัษาระดับทองอยู่ได้ โดยไม่ลงต่ำกว่า1060 วันนี้จะเป็นวันปูพื้น สัปดาห์หน้าขึ้น เป้าหมายที่1161


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2010, 10:19:35 AM
กิมเอ็ง: โกลด์ฟิวเจอร์วันนี้
วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2010 เวลา 09:53 น. สมพร ฟ้อยกท์ ข่าวรายวัน - ข่าวในประเทศ   
User Rating: / 0
แย่ดีที่สุด
ราคาทองคำส่งมอบทันที ตลาดลอนดอน วานนี้ ฟื้นตัวขึ้นจากวันก่อนหน้า และทะลุแนวต้านหลัก 1,080 ดอลลาร์สหรัฐ หลังการประชุมธนาคารกลางยุโรป( ECB) และผู้นำประเทศสมาชิกในกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู) เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือกรีซ เป็นเพียงการยืนยันความช่วยเหลือ แต่ยังขาดรายละเอียด ทำให้ตลาดกังวลต่อสถานภาพของกรีซ อีกทั้งตลาดหุ้นในสหรัฐฯ และสินค้าโภคภัณฑ์เพิ่มขึ้นโดดเด่น สร้างผลบวกต่อราคาทองคำทั้งทางตรงและทางอ้อม ปิดตลาดวานนี้ราคาทองคำส่งมอบทันที เพิ่มขึ้น 23.45 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2.2% ปิดที่ 1,095.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
 
ส่วนค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 อีก 0.02 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่ 33.13 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ จากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า และการไหลข้าวของเงินทุนในตลาดเงินและตลาดทุนสุทธิต่อเนื่อง

SPDR Gold Trust Fund ทรงตัวเป็นวันที่ 5ปิดที่ 1,106.38 ตัน

ปริมาณการซื้อขายทองคำล่วงหน้า ส่งมอบเดือนก.พ. หดตัวลงถึง 26.5% หรือ 399 สัญญา พร้อมกับ OI ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลงอีก 5.5% หรือ 267 สัญญา สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อทิศทางราคาทองคำไม่ชัดเจน ทำให้ชะลอการลงทุนออกไปอย่างต่อเนื่อง

ทิศทางราคาทองคำส่งมอบทันที ตลาดลอนดอนวันนี้ KimEng คาดเริ่มทรงตัวมากขึ้น แม้ว่าจะไต่ระดับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,100 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ในวันนี้ แต่เชื่อว่าจะทะลุผ่านได้ยาก หลังขยับขึ้นแรงเพื่อสะท้อนถึงความเสี่ยงและขาดความชัดเจนของแผนการช่วยเหลือกรีสคืนวานนี้ ขณะที่อาจเกิดแรงขายทำกำไรช่วงสั้น อาจทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงสู่แนวรับบริเวณ 1,080 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

สำหรับทิศทางในสัปดาห์หน้า คาดว่าราคาทองคำส่งมอบทันที ตลาดลอนดอนจะยังคงเคลื่อนไหวระหว่าง 1,050-1,100 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ โดยมีปัจจัยชี้นำจากทิศทางค่าเงินดอลลาร์เป็นสำคัญ แม้ไม่มีการประมูลพันธบัตรสหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้า แต่กรณี PIGS ทำให้นักลงทุนยังคงระมัดระวังต่อการลงทุนในอียูเช่นกัน

กลยุทธ์การลงทุน : 1. GFG10 : แนะนำ ?ปิดสถานะ Long? เพื่อทำกำไรบริเวณ 17,300 บาทหรือสุงกว่า และถือเงินสด เพราะทิศทางราคาทองคำในคืนนี้ไม่ชัดเจนในด้านใดด้านหนึ่ง 2.หาก GFG10 < 16,950 บาท ปิดสถานะ Long


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2010, 10:20:50 AM
กิมเอ็ง: มุมมอง SET50 Index
วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2010 เวลา 09:45 น. สมพร ฟ้อยกท์ ข่าวรายวัน - ข่าวในประเทศ   
User Rating: / 0
แย่ดีที่สุด
SET50 Index วานนี้ปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 2 อีก 5.17 จุด ปิดที่ 487.96 จุด พร้อมกับมูลค่าการซื้อขายที่เบาบางต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่สอดคล้องกับภาวะการลงทุนตลาดหุ้นเอชียและยุโรป ขยับขึ้นโดดเด่นต่อเนื่อง แต่ความเสี่ยงเป็นกรณีพิเศษของไทย คือการเมืองภายในประเทศ กดดัน Upside Gain และทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่ชะลอการลงทุนออกไป แต่นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิอีกครั้ง 260 ล้านบาท แต่ยังคง Long สุทธิใน Futures ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 อีก 409 สัญญา เนื่องจาก S50H10 ต่ำกว่า SET50 Index กว่า 11 จุด ทำให้นักลงทุนกลุ่มนี้อาจเลือกทำ Arbitrage ระหว่าง 2 ตลาด KimEng ประเมินว่านักลงทุนต่างชาติยังไม่ได้มีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทยช่วงสั้นนี้

สำหรับทิศทาง SET50 Index วันนี้เชื่อว่าจะอยู่ในกรอบระหว่าง 480-495 จุด พร้อมกับมูลค่าการซื้อขายที่เบาบางต่อเนื่อง เพราะซื้อขายเป็นวันสุดท้ายของสัปดาห์ ประเด็นของกรีส หลังที่ประชุมยืนยันช่วยเหลือกรีส แต่ยังขาดรายละเอียดตามมา คาดว่าจะทำให้นักลงทุนยังคงกังวลต่อประเด็น และอาจเกิดแรงขายสินทรัพย์เสี่ยงตามมา

สัปดาห์หน้า KimEng คาดว่า SET50 Index จะแกว่งตัวในกรอบแคบลง พร้อมกับมูลค่าการซื้อขายที่เบาบางต่อเนื่อง เพราะตลาดหุ้นหลักๆ อย่าง จีน และไต้หวัน ปิดทำการทั้งสัปดาห์ ส่วนตลาดหุ้นฮ่องกง และสิงคโปร์ปิดทำการวันที่ 15-16 น่าจะทำให้เม็ดเงินทุนต่างชาติชะลอการลงทุนในตลาดเอเชีย บวกกับการย่างเข้าสู่สัปดาห์ที่ 22 ก.พ. ซึ่งประเด็นการเมืองภายในประเทศจะทวีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น

กลยุทธ์การลงทุน:  ?ทยอยสะสมบริเวณ 4.78 บาทหรือต่ำกว่า?DJIA เพิ่มขึ้นถึง 105.81 จุด ปิดที่ 10,144.19 จุด เมื่อผู้นำประเทศในกลุ่มอียูประกาศช่วยเหลือกรีส ตามมาด้วยฟิลิป มอร์ริส อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ ประกาศแผนซื้อหุ้นคืนวงเงิน 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

และราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า NYMEX เพิ่มขึ้นอีก US$0.76 ปิดที่  75.28ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล เมื่อ IEA ปรับประมาณการความต้องการใช้น้ำมันปีนี้เพิ่มขึ้นอีก 1.7 แสนบาร์เรล/วัน เป็น 86.5 ล้านบาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้น 1.8% จากปีก่อน

KimEng : คาด SET50 วันนี้ เคลื่อนไหวในกรอบ 480-495 จุด


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2010, 10:25:37 AM
ดัชนีไทยรายวัน
 (http://upic.me/i/ak/itd4a.gif) (http://upic.me/show.php?id=1047736d6f04507d504df95d7d611063)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2010, 10:26:29 AM
ดัชนีไทย60นาที
 (http://upic.me/i/r9/7k4a1.gif) (http://upic.me/show.php?id=c471e295fadc52fd71fc5d75f0f21613)
 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2010, 10:45:24 AM
นักลงทุนแห่ซื้อทองคำเพื่อเลี่ยงความเสี่ยง หนุนราคาทองคำปิดทะยาน

Posted on Friday, February 12, 2010
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแข็งแกร่ง เนื่องจากนักลงทุนแห่ซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในช่วงที่ตลาดปริวรรตเงินตราผันผวนอย่างหนัก หลังจากผู้นำชาติยุโรปไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเบื้องลึกเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือกรีซที่กำลังประสบปัญหาการขาดดุลงบประมาณ

นักวิเคราะห์จากเอ็มเอฟ โกลบอลกล่าวว่า นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง เนื่องจากตลาดเงินผันผวนอย่างหนักหลังจากผู้นำชาติยุโรปไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเบื้องลึกเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือกรีซที่กำลังประสบปัญหาการขาดดุลงบประมาณ แม้นายแฮร์มัน ฟาน รอมปุย ประธานสหภาพยุโรป (EU) เปิดเผยว่า ผู้นำชาติยุโรปได้บรรลุข้อตกลงว่าด้วยการช่วยเหลือกรีซให้สามารถจัดการรับมือกับวิกฤตขาดดุลงบประมาณแล้วก็ตาม

- ทองคำ ส่งมอบเดือนเมษายน ปิดที่ 1,094.70 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ (+18.40 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์)
- เงิน ส่งมอบเดือนมีนาคม ปิดที่ 15.59 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ (+0.29 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์)
 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2010, 10:58:20 AM
สายการบินสหรัฐสูญรายได้มหาศาลจากพายุหิมะ

Posted on Friday, February 12, 2010
สายการบินสหรัฐสูญรายได้มหาศาลจากพายุหิมะ

ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมการบินของสหรัฐเปิดเผยว่า สายการบินในสหรัฐกำลังสูญเสียรายได้หลายร้อยล้านดอลลาร์อันเนื่องมาจากพายุหิมะที่โหมกระหน่ำภูมิภาคฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ และอาจส่งผลให้อุตสาหกรรมสายการบินสหรัฐต้องยกเลิกเที่ยวบินครั้งใหญ่สุดเป็นประวัติการณ์

การระงับเที่ยวบินทำให้สายการบินสหรัฐมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเพราะต้องจ่ายเงินชดเชยให้กับผู้โดยสารที่ติดอยู่ที่สนามบิน โดยมีรายงานว่าสายการบินในสหรัฐระงับเที่ยวบินรวมกันกว่า 5,959 เที่ยวในวันนี้ ต่อเนื่องจากวานนี้ที่ระงับเที่ยวบินไปแล้ว 2,700 เที่ยวทั่วภูมิภาคทางตอนเหนือ โดยสายการบินยูเอส คอนติเนนตัล แอร์ไลน์ส ประกาศลดเที่ยวบินไปแล้ว 1 ใน 3 ของเที่ยวบินทั้งหมด รวมถึงการให้บริการเที่ยวบินที่สนามบินนานาชาติรัฐนิวเจอร์ซี และสายการบินยูเอส แอร์เวย์ส ระงับเที่ยวบินไปแล้ว 55% ของตารางการบินประจำวัน ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะทำให้สายการบินสูญเสียรายได้หลายล้านดอลลาร์

FlightStats.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ติดตามความเคลื่อนไหวของเที่ยวบินทั่วสหรัฐ ประมาณการณ์ว่าขณะนี้เที่ยวบินในสหรัฐมีอยู่ประมาณ 50,000 เที่ยวต่อวัน

นอกจากนี้ การยกเลิกเที่ยวบินอยู่ที่ 12% ของเที่ยวบินทั้งหมด ซึ่งเป็นสถิติการยกเลิกเที่ยวบินครั้งใหญ่สุดนับตั้งแต่ FlightStats.com เริ่มรวบรวมข้อมูลในปี 2547

พายุหิมะกระหน่ำนิวยอร์กและฟิลาเดลเฟีย ขณะที่วอชิงตันถูกกระทบจากพายุหิมะเป็นครั้งที่สองภายในระยะเวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์ ซึ่งภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งนี้ส่งผลให้สนามบินนานาชาติเรแกนปิดทำการในวันนี้ด้วย ทั้งนี้มีรายงานล่าสุดว่า สายการบินยูเอส แอร์เวย์ ประกาศยกเลิกเที่ยวบิน 1,682 เที่ยวในวันนี้ และจะยกเลิกเที่ยวบินอีก 478 เที่ยวในวันพรุ่งนี้ ขณะที่สายการบินเดลต้า แอร์ไลน์ส ยกเลิก 960 เที่ยวบินในวันนี้ และคาดว่าจะระงับการให้บริการที่สนามบินวอชิงตันและฟิลาเดลเฟียไปจนถึงช่วงเที่ยงของวันพรุ่งนี้

ส่วนสายการบินคอนติเนนตัล แอร์ไลน์ ยกเลิกเที่ยวบินในวันนี้ 900 เที่ยว ขณะที่ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ยกเลิกเที่ยวบินในวันนี้ 750 เที่ยว และอเมริกัน แอร์ไลน์ส ยกเลิกเที่ยวบินในวันนี้ 540 เที่ยว พร้อมกับยกเลิกเที่ยวบินในวันพรุ่งนี้ 180 เที่ยว ส่วนเจ็ทบลูยกเลิกเที่ยวบินวันี้ 364 เที่ยว

รายงานระบุว่า ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2550 พายุหิมะส่งผลให้สายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ยกเลิกเที่ยวบิน 3,900 เที่ยว ส่งผลให้ทางสายการบินสูญเสียรายได้ถึง 40 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ พายุหิมะในปี 2550 ยังทำให้สายการบินเจ็ทบลู แอร์เวย์ส สูญเสียรายได้ถึง 41 ล้านดอลลาร์


EU บรรลุข้อตกลงช่วยเหลือกรีซ หวังฟื้นเสถียรภาพภูมิภาค

นักลงทุนมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นอีกครั้ง เมื่อที่ประชุมกลุ่มประเทศยุโรปได้ข้อตกลงร่วมกันสำหรับการช่วยเหลือประเทศกรีซ ซึ่งส่งผลให้ราคาหุ้นทั้งในยุโรปและสหรัฐฯ ไปจนถึงสินค้าโภคภัณฑ์และพลังงานปรับตัวขึ้น ขณะที่ตลาดพันธบัตรกลับมาลดลง

นานๆ ทีถึงจะได้เห็นภาพการจับมือกันระหว่างผู้นำประเทศ ประธานธนาคารกลาง รวมถึงคนในระดับ VIP ถ้าไม่ใช่การประชุมนัดใหญ่ๆ ในระดับนานาชาติ แต่ในครั้งนี้ agenda ของการประชุมสุดยอดของกลุ่มประเทศยุโรปต้องถูกเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ด้วยเรื่องที่ทุกคนกำลังเป็นกังวลและให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก นั่นก็คือ วิกฤติหนี้ของประเทศกรีซ

จากสถานการณ์ที่อาจลุกลามจนกลายเป็นวิกฤติเศรษฐกิจครั้งรุนแรงอีกครั้งหนึ่ง ก็นำมาสู่ข้อสรุปที่ได้ในเบื้องต้นสำหรับการประชุมเมื่อวานนี้ ด้วยการที่ผู้นำประเทศในยุโรปต่างเห็นพ้องที่จะให้ออกมาตรการควบคุมสถานการณ์ของกรีซให้อยู่ในระดับที่ควบคุมได้ และเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือประเทศเล็กๆ แต่มียอดการขาดดุลงบประมาณอันมหาศาลแห่งนี้ และกำลังสร้างความปั่นป่วนให้กับค่าเงินในภูมิภาคครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 11 ปีของประวัติศาสตร์ค่าเงินยูโรเลยทีเดียว

ข้อตกลงที่หลายคนรอคอยเกิดขึ้นด้วยการประสานของ 3 บุคคลสำคัญ อย่าง นายกรัฐมนตรีเยอรมัน Angela Merkel ผู้นำกรีซ George Papandreou และที่ขาดไม่ได้ก็คือ ประธานธนาคารกลางยุโรป Jean-Claude Trichet ซึ่งทั้งหมดต่างได้เข้าพูดคุยและบรรลุข้อตกลงก่อนหน้าการประชุมสุดยอดของสหภาพยุโรปจะเริ่มขึ้นที่กรุงบรัสเซล

นายเฮอร์มาน ฟาน รอมพาย (Herman Van Rompuy) ประธานสหภาพยุโรป กล่าวว่า ประเทศสมาชิกยูโรโซนตกลงกันที่จะใช้มาตรการแบบเจาะจงและร่วมมือในการรักษาเสถียรภาพทางการเงินของภูมิภาคโดยรวม โดยพร้อมให้ความสนับสนุนความพยายามจากรัฐบาลกรีซและการดำเนินการใดๆ ก็ตามที่มีความจำเป็นในการแก้ปัญหา

ข้อตกลงช่วยเหลือล่าสุดได้เปิดช่องไว้ให้กับทาง EU เพื่อที่จะจัดการกับคลื่นการเก็งกำไรโจมตีประเทศกรีซรอบใหม่ ซึ่งก็รวมถึงประเทศที่มีปัญหาคล้ายๆ กัน อย่าง สเปนและโปรตุเกสด้วย

คำแถลงของ EU ยังเป็นเหมือนการสะท้อนให้กรีซเร่งเคลียร์ปัญหาบัญชีของตัวเอง และต้องการผลักดันให้ประเทศยอมรับการเข้ามาตรวจสอบจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ด้วย

ผู้นำเยอรมัน Angela Merkel ที่มีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้ ได้แสดงท่าทีต้องการกดดันประเทศสมาชิกใดๆ ก็ตามที่กำลังโหมใช้เงินงบประมาณอย่างหนัก แต่มีการออมในประเทศในระดับต่ำ ด้วยการบีบให้ประเทศเหล่านี้ต้องอยู่ภายใต้กฏเกณฑ์ที่เข้มงวดต่อไป


ยอดขายบ้านสหรัฐฯ Q4 ขยับบวก จากอานิสงส์เรื่องภาษี

ยอดขายบ้านในสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น 14% ในไตรมาส 4 หลังจากมาตรการอัดฉีดเงินซื้อ mortgage bonds ของธนาคารกลางสหรัฐฯ และการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ เริ่มออกดอกออกผลและกระตุ้นกำลังซื้อกลับเข้ามาในตลาดอีกครั้ง

สมาคมผู้ประกอบธุรกิจอสังหาฯ ของสหรัฐฯ ที่เป็นเจ้าของข้อมูลในรอบนี้ เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านเดี่ยวที่สร้างเสร็จ รวมถึงคอนโดมิเนียมและอพาร์ทเมนท์ เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่อัตรา 6,030,000 หน่วยต่อปีในไตรมาส 4 จากที่เคยอยู่ที่ 5,290,000 หน่วยในไตรมาสก่อนหน้า

อย่างไรก็ดี รายงานระบุว่า ราคาบ้านโดยเฉลี่ยยังปรับตัวลง 4.1% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และทำให้นักเศรษฐศาสตร์บางรายยังไม่หายวิตกว่า สภาวะราคาบ้านอาจกลับมาร่วงลงอีกครั้ง หลังจากที่มาตรการเฟดจะสิ้นสุดลงในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ ขณะที่การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจะหมดอายุลงในปลายเดือนเมษายน

จริงๆ แล้วรัฐบาลของประธานาธิบดี บารัค โอบามา ได้ต่ออายุมาตรการจูงใจทางภาษีมาแล้วรอบหนึ่งเมื่อเดือนพฤศจิกายน ซึ่งในเวอร์ชั่นใหม่นี้ยังได้ช่วยให้ผู้ที่ซื้อบ้านหลังแรกได้เงินคืนจำนวน 8,000 เหรียญ รวมถึงการช่วยเหลือในเรื่องสินเชื่อด้วย และสำหรับมาตรการของเฟดที่อัดฉีดเงินผ่านการซื้อพันธบัตรที่มีสินเชื่อบ้านหนุนหลัง มีวงเงินที่สูงถึง 1.25 ล้านล้านเหรียญและเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ด้วยจุดประสงค์การกดดอกเบี้ยเงินกู้ให้ต่ำลง ซึ่งในที่สุดก็เป็นไปตามความตั้งใจเมื่ออัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมลดลงมาสู่ระดับต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์แรกของเดือนธันวาคม ที่ 4.71% ตามข้อมูลของ Freddie Mac

แต่ด่านแรกที่หลายคนยังกังวลอยู่ก็คือ มาตรการของเฟดที่กำลังจะสิ้นสุดลงในไตรมาสนี้ ขณะที่สถานการณ์ราคาบ้านยังไม่พ้นจากแนวโน้มที่ติดลบ ต่อเนื่องจากตัวเลขในปี 2009 ที่ราคาบ้านร่วงลง 12% มาอยู่ที่ 173,500 เหรียญโดยเฉลี่ย เร่งตัวจากปี 2008 ที่ราคาลดลง 9.5%


ยอดขายขนมหวานในสหรัฐช่วงวาเลนไทน์มีแนวโน้มโต 0.8%

ยอดขายช็อคโกแลตและขนมหวานในสหรัฐช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ในปีนี้มีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้นจากปีก่อน เพราะได้รับอานิสงส์จากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวดีขึ้น

โฆษกประจำสมาคมธุรกิจลูกกวาดแห่งสหรัฐ คาดการณ์ว่า ยอดขายช็อคโกแลตและขนมหวานอาจปรับตัวขึ้น 0.8% แตะที่ 935 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 928 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับที่ลดลง 9.4% โดยยอดขายช็อคโกแลตมีสัดส่วนประมาณ 75% ของยอดซื้อของหวานโดยรวมในช่วงเทศกาลแห่งความรัก

ทางสมาคมให้เหตุผลว่า ยอดขายของหวานสำหรับเทศกาลวาเลนไทน์เมื่อปีที่ผ่านมาปรับตัวลดลงเนื่องจากวาเลนไทน์ปีที่แล้วตรงกับวันเสาร์ ซึ่งมักเป็นวันที่ร้านค้าต่างๆขายสินค้าได้น้อยที่สุดของสัปดาห์

อย่างไรก็ตาม โฆษกของสมาคมฯอีกท่านมองว่า แม้ในปีนี้วันวาเลนไทน์จะตรงกับวันอาทิตย์ แต่จากสภาพอากาศที่เลวร้ายในสหรัฐก็อาจส่งผลกระทบต่อยอดขายสินค้าด้วย

อย่างเช่นในวันนี้ พายุหิมะได้ถล่มปกคลุมพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐ ทำให้ประชาชนในหลายพื้นที่ไม่สามารถเดินทางสัญจรไปมาได้ตามปกติ

ทั้งนี้ สัญญาซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทโกโก้พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 30 ปีเมื่อเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากผลผลิตโกโก้ ซึ่งเป็นส่วนผสมหลักของช็อคโกแลตปรับตัวลดลง เช่นเดียวกับราคาน้ำตาลในเดือนก.พ.ที่พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 30 ปี


เวียดนามลดค่าเงินดอง ฉุดค่าเงินดิ่งหนักสุดเป็นประวัติการณ์

ธนาคารกลางเวียดนามประกาศลดค่าเงินดอง 3.4% สู่ระดับ 18,544 ดอง/ดอลลาร์ในเช้าวานนี้ โดยธนาคารกลางอนุญาตให้เงินดองเคลื่อนไหวบวกลบไม่เกิน 3% ส่งผลให้ค่าเงินดองร่วงลงทันที 1.4% แตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 18,725 ดอง/ดอลลาร์

การประกาศลดค่าเงินดองในวันนี้นับเป็นครั้งที่สอง นับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปี 2552 โดยธนาคารกลางเวียดนามมีเพื่อเป้าหมายที่จะลดยอดขาดดุลการค้าที่เป็นปัจจัยคุกคามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยเงินดองที่มีมูลค่าลดลงจะช่วยให้กลุ่มผู้ส่งออกของเวียดนามมีกำไรมากขึ้นในตลาดต่างประเทศ

นอกจากนี้ ธนาคารกลางเวียดนามยังมีเป้าหมายที่จะปรับสมดุลดีมานด์และซัพพลายในตลาดปริวรรตเงินตรา และหนุนเศรษฐกิจให้มีเสถียรภาพมากขึ้น

เมื่อวันที่ 25 พ.ย.ปี 2552 ธนาคารกลางเวียดนามได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 1% เป็น 8% จากเดิมที่ระดับ 7% ซึ่งนับเป็นการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 11 เดือน โดยมีเป้าหมายที่จะยับยั้งเงินเฟ้อ พร้อมกับประกาศลดช่วงการซื้อขายเงินดองลงสู่ระดับ 3% จากเดิมที่ระดับ 5%

ล่าสุดเดือนม.ค.ที่ผ่านมา เวียดนามมียอดขาดดุลการค้าสูงถึง 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ


จีนสั่งเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยรับเทศกาลตรุษจีน

กระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีนได้ออกประกาศให้หน่วยงานที่ดูแลด้านการจราจรในท้องถิ่นเพิ่มมาตรการในการรับมือกับเหตุฉุกเฉินที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีน เพื่อให้ประชาชนได้เดินทางกลับภูมิลำเนาอย่างปลอดภัย

มณฑลชานซี เหอหนาน เจียงซู อันฮุย ชานตง และฉ่านซีได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่ย่ำแย่ ทั้งอุณหภูมิต่ำ ฝนตก และพายุหิมะ ซึ่งเป็นปัญหาต่อการเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่จะมีการเดินทางกันอย่างหนาแน่น

สำนักงานบริหารการจราจรได้ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในมณฑลต่างๆใช้มาตรการที่จำเป็น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุถึงขั้นเสียชีวิต รวมทั้งปัญหาการจราจรติดขัด

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กระทรวงความมั่นคงฯยังได้ขอให้หน่วยงานที่ดูแลด้านการจราจรปรับปรุงระบบการเตือนภัยจากสภาพอากาศแบบเรียลไทม์ด้วยการประสานงานกับกรมอุตุนิยมวิทยา และประเมินผลกระทบของสภาพอากาศที่จะเกิดขึ้นต่อการสัญจร

นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้มีการติดป้ายเตือนเรื่องความปลอดภัยตามท้องถนน รวมทั้งสำรองเกลือเพื่อละลายหิมะ และอุปกรณ์เคลื่อนย้ายสิ่งกีดขวางออกจากท้องถนน

ขณะเดียวกัน สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า คาดว่าจะมีชาวจีนเดินทางออกไปท่องเที่ยวในต่างประเทศมากกว่า 54 ล้านคนในช่วงเทศกาลตรุษจีน ด้วยมูลค่าการใช้จ่ายที่คาดว่าจะอยู่ที่ 48,000 หมื่นล้านดอลลาร์

ส่วนการท่องเที่ยวเกาหลีใต้คาดว่า จะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาเยือนเกาหลีใต้มากขึ้นในช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีนปีนี้ โดยคาดว่า จะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาประมาณ 38,000 คน ตั้งแต่วันที่ 13-19 ก.พ. ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว

พร้อมกันนี้ การท่องเที่ยวเกาหลีใต้ยังได้คาดการณ์ด้วยว่า นักท่องเที่ยวชาวจีนจะใช้จ่ายกันประมาณ 250 ล้านหยวน หรือ 36.6 ล้านดอลลาร์เพื่อซื้อสินค้าในช่วงเทศกาลวันหยุด ซึ่งจะช่วยกระตุ้นธุรกิจภายในประเทศ

อย่างไรก็ดี การท่องเที่ยวเกาหลีใต้ชี้ว่า จำนวนชาวเกาหลีใต้ที่เดินทางไปท่องเที่ยวยังต่างประเทศก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยตั๋วเครื่องบินไปต่างประเทศจำหน่ายออกไปเกือบหมดแล้ว


จีนตั้งข้อหาติดสินบน และขายข้อมูลกับพนักงานริโอทินโต

จีนตั้งข้อหาและดำเนินคดีกับพนักงาน 4 รายของบริษัท ริโอ ทินโต บริษัทเหมืองแร่ยักษ์ใหญ่ของออสเตรเลีย โดยสำนักงานอัยการได้ยื่นเรื่องให้ศาลพิจารณาคดีนายสเติร์น หู อดีตผู้บริหารของริโอ ทินโต ที่เซี่ยงไฮ้ รวมทั้งพนักงานอีก 3 ราย

ทางการจีน ได้ตั้งข้อหา การฉวยโอกาสจากตำแหน่งหน้าที่การงานของตนเองเพื่อหาประโยชน์จากผู้อื่น และยังขอให้หน่วยงานที่ดูแลเรื่องเหล็กของจีนรับเงินจำนวนมากแบบผิดกฎหมาย เพื่อดึงข้อมูลความลับทางการค้าของบริษัทที่ทำธุรกิจเหล็กหลายครั้ง ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจจะส่งผลร้ายแรงตามมากับบริษัทจำนวนมาก

เจียง หยู โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน กล่าวเมื่อวันที่ 12 ม.ค.ว่า จีนได้ดำเนินการกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามกฎหมายของจีน รวมทั้งข้อตกลงทางการทูตระหว่างจีนและออสเตรเลีย


IEA เพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกปีนี้

สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกปี 2553 เป็น 86.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากเดิมที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนม.ค.ที่ระดับ 86.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียเริ่มขยายตัวดีขึ้น

IEA ระบุในรายงานประจำเดือนว่า อุปสงค์น้ำมันโดยเฉลี่ยในปีนี้จะสูงกว่าในปีที่ผ่านมา 1.6 ล้านบาร์เรล/วัน โดยตัวเลขประมาณการณ์อุปสงค์น้ำมันปี 2552 อยู่ที่ระดับ 84.9 ล้านบาร์เรล/วัน

อย่างไรก็ตาม IEA ระบุว่า หากเศรษฐกิจโลกขยายตัวผิดไปจากที่คาดการณ์ไว้ อุปสงค์น้ำมันในปีนี้อาจหดตัวลงราว 400,000 บาร์เรลต่อวัน


ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯที่ประกาศออกมาเมื่อวานนี้ (พฤหัสบดีที่ 11 ก.พ. 2553)
? ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ 440,000 ราย

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯที่จะประกาศออกมาวันนี้ (ศุกร์ที่ 12 ก.พ. 2553)
? ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.พ.) โดย มหาวิทยาลัยมิชิแกน
? สินค้าคงคลังภาคธุรกิจ (ธ.ค.) โดย กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ
? ยอดค้าปลีก (ม.ค.) โดยกระทรวงพาณิชย์

ติดตาม Money Wake up ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ออกอากาศซ้ำเวลา 11.00 น. ทาง Money Channel
 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2010, 11:06:11 AM
12 ก.พ. 2553


สรุปภาวะตลาดเมื่อวาน


ราคาโกลด์ฟิวเจอร์สแกว่งตัวอยู่ในช่วงแคบเช่นเดียวกับราคาทองคำสปอตที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นรุนแรงเมื่อคืนตามที่เราคาดการณ์ไว้ ทองคำแท่งสมาคมฯปิดที่ 16,900/17,000 บาท เงินบาททรงตัว
ปัจจัยที่อาจส่งผลต่อเนื่องถึงวันนี้


       พายุหิมะพัดถล่มทั้งสหรัฐฯและยุโรป ทำให้การประชุมสุดยอดอียูต้องล่าช้าออกไปเล็กน้อยและราคาทองคำปรับตัวช้ากว่าที่เราได้คาดไว้  [Reuters]
       รายงานการว่างงานรายสัปดาห์กลับมาอยู่ในระดับเดิมคือระดับ 4 แสนต้นๆ โดยเรามองว่าตัวเลขที่กระโดดขึ้นไปในสัปดาห์ที่แล้วน่าจะเกิดจากความผันผวนในช่วงเทศกาล ซึ่งรายงานดังกล่าวได้ส่งผลให้นักลงทุนกลับมามองเศรษฐกิจในมุมมองที่ค่อนข้างเป็นบวกเช่นเดิม แต่ไม่ได้ผลักดันราคาสินทรัพยในขณะที่นักลงทุนยังจับตามองมติของกลุ่มอียู  [Econoday, TCAF Research]
       กลุ่มอียูมีมติว่าจะช่วยเหลือกรีซอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วยให้กรีซสามารถลดการขาดดุลให้เหลือต่ำกว่า 4% ในปี 2553 ซึ่งทางกรีซไม่ได้เรียกร้องความช่วยเหลือทางการเงินแต่อย่างใด ทั้งนี้ทางกลุ่มอียูอาจขอคำปรึกษาจากความเชี่ยวชาญของ IMF แต่จะไม่มีการกู้เงินจาก IMF แต่อย่างใด และทางกลุ่มฯได้มีมติให้กำหนดรายละเอียดช่วยเหลือเพิ่มเติมในการประชุมอีโคฟิน วันอังคารที่ 16 ก.พ. นี้ ข่าวดังกล่าวจึงผลักดันให้ราคาทองคำและสินทรัพย์เสี่ยงปรับเพิ่มสูงขึ้นไป อย่างไรก็ตามสำนักข่าวต่างๆไม่ได้รายงานถึงกำหนดการเพิ่มเติมในการประชุมอีโคฟิน นักลงทุนบางส่วนจึงเห็นว่าไม่มีรายละเอียดและเริ่มขายทำกำไรทองคำออกมา เราจึงมองว่านักลงทุนยังรับข่าวการช่วยเหลือดังกล่าวไม่หมด  [EU, TCAF Research]
       ในวันนี้นักลงทุนบางส่วนอาจหันมาจับตามองรายงานจีดีพีของกลุ่มอียู ในขณะที่นักลงทุนอีกส่วนหนึ่งจะยังจับตามองความเคลื่อไหวของกรีซอยู่
แนวโน้มทองคำวันนี้


เรามองว่าความเชื่อมั่นของนักลงทุนน่าจะกลับมาแล้วและวันนี้น่าจะมีการพูดถึงวิธีการช่วยเหลือกรีซมากขึ้นซึ่งน่าจะเป็นผลบวก ในขณะที่จีดีพีของยุโรปมีโอกาสกดดันราคาทองคำได้ เราจึงมองว่า "ราคาทองคำน่าจะแกว่งตัวขึ้นช้าๆ" และแนะนำให้ "ถือสถานะ LONG เพื่อซื้อขายในช่วง S1/R1 และตัดขาดทุนเมื่อราคาปรับตัวต่ำกว่า S2"
มุมมองทองคำ


มาตรการต่างๆของมหาอำนาจและพฤติกรรมของผู้บริโภคน่าจะส่งผลต่อราคาทองคำได้ดีที่สุด โดยเรามองว่าเศรษฐกิจโลกน่าจะชัดเจนแล้วว่าสามารถฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2010, 11:08:49 AM
12 ก.พ. 2553


Gold Market Commentaly





 

ประเด็นสำคัญ
-         ราคาทองทองปิดเหนือ 1,090 ดอลล์/ออนซ์
-         ยูโรร่วงหลังแผนช่วยเหลือกรีซขาดรายละเอียด 
-         น้ำมันดิบปิดพุ่งขึ้นตามตลาดหุ้นรับข่าวกรีซ
-         ดาวโจนส์ปิดบวก 1.05% รับข่าวอียูหนุนกรีซ
    ราคาทองที่ตลาดสหรัฐปิดเหนือ 1,090 ดอลลาร์/ออนซ์ในวันพฤหัสบดี ในขณะที่นักลงทุนเข้าซื้อทองในฐานะเครื่องมือประกันความเสี่ยงต่อความผันผวนของตลาดเงินหลังจากที่มีข่าวว่า รัฐบาลยุโรปตกลงในหลักการที่จะสนับสนุนกรีซซึ่งประสบปัญหาหนี้สินอย่างหนัก   สัญญาทองส่งมอบเดือนเม.ย.เคลื่อนตัวในช่วง 1,072.90-1,098.40 ดอลลาร์   ในขณะที่มีปริมาณการซื้อขายราว 170,541 สัญญา   ทองได้รับแรงหนุน ในขณะที่ยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังจากที่ปรับตัวในช่วง 1.38-1.35 ดอลลาร์
      คาดว่าจะยังไม่มีการตัดสินใจขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับรายละเอียดของแผนความช่วยเหลือกรีซจนกว่ารมว.คลังอียูจะประชุมกันในสัปดาห์หน้า   
   ข้อมูลที่บ่งชี้ถึงเสถียรภาพในตลาดแรงงานสหรัฐได้ช่วยหนุนตลาด
    จีนซึ่งเป็นผู้ใช้โลหะพื้นฐานสูงสุดของโลกรายงานการปล่อยกู้พุ่งขึ้นและเงินเฟ้อที่ชะลอลง ซึ่งบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจจีนยังคงขยายตัว
       แต่ปัจจัยใหญ่ที่สุดที่หนุนตลาดขึ้นเกือบ 1% ในวันนี้ได้แก่การที่สหภาพยุโรปยืนยันที่จะสนับสนุนกรีซ นักลงทุนเห็นถึงความพยายามของอียูที่จะหลีกเลี่ยงผลกระทบจากปัญหาด้านการคลังในกรีซ และประเทศอื่นๆในยูโรโซนอาทิ โปรตุเกสและสเปน
       ก่อนเปิดตลาดรัฐบาลสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานร่วงลงเกินคาดในสัปดาห์ล่าสุดซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ตลาดแรงงานยังคงฟื้นตัว   
 กองทุน SPDR Gold trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยว่าทางกองทุนได้ถือครองทองแท่งระดับ 1,106.378 ตัน ณ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2553 เพิ่มขึ้น 1.828 ตัน จากวันที่ 5 กุมภาพันธ์
   กลยุทธ์ :  สัปดาห์นี้ราคาทองอาจจะแกว่งในกรอบ Correction แกว่งในกรอบ 1,095 ? 1,060US$ เท่านั้น ให้เล่นสั้นทำกำไร อาจจะหาจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาปรับฐานลงมาได้ในต้นสัปดาห์ แล้วหาโอกาสขายทิ้งช่วงวันศุกร์ทำกำไร เพราะจะมีโอกาสลงไปที่แนวแนวระดับราคา 1040 US$ อีกรอบในปลายเดือนเกิดขึ้นได้


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2010, 11:52:48 AM
กราฟตาแป๊ะซ้ายบน มีการเปลี่ยนแปลงนิดหนี่ง มีคำว่า  ตัวหนังสือสีเขียว ? ---ขาย และ  ตัวหนังสือสีแดง?----ซื้อ  เพิ่มเข้ามา ผสมเข้ากับกาฟตาแป๊ะช่องซ้ายบน
กราฟตาแป๊ะซ้ายบน ตัวหนังสือสีเขียว ? ---ขาย   ตัวหนังสือสีแดง?----ซื้อ  เส้นสีแดงหนา---ขาขึ้น เส้นสีเขียวหนา---ขาลงขวาบน  เส้นสีแดง---เสนอซื้มากกว่าเสนอขาย เส้นสีเขียว---เสนอขายมากกว่าเสนอซื้อ  ส่วนช่วงกลางที่มีแท่งสีแดงกับเขียวนั้น แท่งแดง---แรงซื้อขึ้น   แท่งเขียว---แรงขายลง
ขวาช่องสอง  แท่งเหลืองคู่เส้นแดง---ขาขึ้น   แท่งฟ้าคู่เส้นเขียว---ขาลง โดยปกติ ช่องนี้จะเปลี่ยนแนวโน้มช้ากว่าเพื่อน หากเปลี่ยนแนวโน้มเมื่อไหร่ เขาให้ขายออกหรือซื้อเข้าได้ทันที่ ยกเว้นมีปัจจัยพื้นฐานแรงๆแทรกเข้ามา จึงจะทำให้แนวโน้มกลับเปลี่ยนได้โดยกะทันหัน
ซ้ายช่องสอง หน้าเหลืองแป๊ะยิ้ม---ขาขึ้น หน้าแดงแป๊ะร้องไห้---ขาลง  แท่งสีเขียว---เพดาน   แท่งสีแดง---พื้นดินโดยปกติ ช่องนี้จะส่งสัญญาณว่า กำลังจะเปลี่ยนแนวทางแล้วนะ แต่ยังไม่เต็มร้อย อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยกะทันหันก็ได้ ต้องดูซ้ายบนและขวาช่อง๒ประกอบด้วย จึงจะให้ความมั่นใจได้
4กราฟล่างเป็นกราฟในชุดกราฟใหม่2010 เป็นกราฟที่เข้าใจง่ายเช่นเคย ไม่อธิบายก็คงเข้าใจไดนะครับ
ทอง
 (http://upic.me/i/m5/re71a.gif) (http://upic.me/show.php?id=4ef3fd97511499a016e14bc0c6615fa9)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2010, 11:53:46 AM
ดัชนีดอลล์เมกา
 (http://upic.me/i/ds/5et2a.gif) (http://upic.me/show.php?id=3aae6f5fbacb4b1b08def22b4fc1f88d)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2010, 11:55:29 AM
น้ำมัน
 (http://upic.me/i/83/oql3a.gif) (http://upic.me/show.php?id=dcef90969889bcc35cff2dc03e3f4282)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: newa ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2010, 12:10:36 PM
 ;D  สวัสดีค่ะคุณทองใหม่

       ขอบคุณมากค่ะ
 

                         (http://i.kapook.com/glitter/2010/th/02/T110210_12CM.gif) (http://glitter.kapook.com/category.php?category_id=3&sid=caa1af7a6329d2cbff457a9e551cbb74)

                   
  ;D  ซินเจียยู่อี่  ซินนี้ฮวดใช้ค่ะ   ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: soda ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2010, 12:58:17 PM
(http://www.myuppic.com/iz/th_09012008_01.gif) (http://www.myuppic.com/show.php?id=a6031160dd92699d39a3992ceb61494c)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sara80 ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2010, 01:19:12 PM
(http://i.kapook.com/glitter/2010/th/01/T260110_15CM.gif) (http://glitter.kapook.com/category.php?category_id=111&sid=6410d61e6ed7630c83715fa52cf336d9)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: เพชร ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2010, 01:45:55 PM
 :)  สวัสดีค่ะคุณทองใหม่  และเพื่อน ๆ ชาว gold2gold ทุกท่าน

            ขอให้คุณทองใหม่  ครอบครัวคุณทองใหม่ และเพื่อน ๆ ชาว gold2gold ทุกท่านมีความสุข  สุขภาพแข็งแรงนะคะ.........
       
     


       
                                       (http://i.kapook.com/glitter/2010/th/02/T040210_13C.gif) (http://glitter.kapook.com/category.php?category_id=114&sid=86e31f2dc703e5ea33ed803ed089b3ae)


                   
       angel.gif  ซินเจียยู่อี่  ซินนี้ฮวดใช้  และ  สุขสันต์วันวาเลนไทน์ค่ะ   angel.gif 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2010, 02:43:07 PM
SETวันนี้(12ก.พ.)ท้าชน 705ก่อนตรุษจีน       
Friday, 12 February 2010 09:48 
หุ้นไทยวันนี้(12 ก.พ.2553) ท้าชน 702-705 จุด แม้ภาพรวมยังเงียบเหงาคละเคล้าบรรยากาศวันหยุดตรุษจีน กูรูสั่งจับตาตัวเลขงบไตรมาส 4/52 ที่เตรียมประกาศ  และผลคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท อดีตนายกฯ พร้อมแนะเลือกซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานที่แนวต้าน ส่วนแนวรับ 687 จุด

 นายชัย จิระเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.พัฒนสิน กล่าวว่า แนวโน้มดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยวันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ และมีปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง เนื่องจากขาดปัจจัยชี้นำจากตลาดหุ้นในภูมิภาคที่เริ่มมีการทยอยปิดซื้อขายในช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีน อาทิ ตลาดหุ้นฮ่องกง จีน และไต้หวัน

 อย่างไรก็ดี ในช่วงเปิดตลาดหุ้น ดัชนีฯ มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 702 - 705 จุด ทั้งนี้มาจากปัจจัยสนับสนุนจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ค ที่ปิดตลาดฯ ปรับเพิ่มขึ้น 105 จุด ตอบรับกรณีข่าวหลังจากประชุมของสหภาพยุโรป(EU) มีมติที่จะให้ความช่วยเหลือปัญหาหนี้ในประเทศกรีซ อีกทั้งมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นบางกลุ่ม นอกจากนี้ยังมีปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นส่งผลให้ราคามายืนเหนือที่ระดับ 75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจะเป็นอานิสงส์ต่อราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานให้มีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อจากที่ได้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมาในช่วง 1-2 วันก่อนหน้านี้

 สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ ตัวเลขผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนประจำไตรมาส 4/2552 ในส่วนที่เหลือว่าจะมีแนวโน้มออกมาอย่างไร รวมทั้งปัจจัยการเมืองในประเทศในวันที่ 26 ก.พ.นี้ จะมีการพิจารณาคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท ของอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่าจะมีความชัดเจนออกมาอย่างไร กลยุทธ์การลงทุน แนะนำซื้อในหุ้นกลุ่มพลังงานที่บริเวณแนวต้าน 702 - 705 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่ 687 จุด

 นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยช่วงเช้าวันนี้จะปรับตัวเพิ่มขึ้น มีโอกาสเคลื่อนไหวทดสอบแนวต้านที่ระดับ 705 จุด เนื่องจากได้รับปัจจัยสนับสนุนตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 100 จุด หลังจากที่นักลงทุนได้ขานรับกับข่าวผู้นำชาติยุโรปได้บรรลุข้อตกลงช่วยเหลือประเทศกรีซที่ประสบกับวิกฤตทางการเงิน เพื่อให้สามารถรับมือกับปัญหาการขาดดุลงบประมาณได้ นอกจากนี้ตลาดฯ ยังได้รับแรงสนับสนุนจากจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ปรับลดลงเกินคาดในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ประกอบกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ยังปรับตัวเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงเป็นแรงส่งเชิงบวกทางด้านจิตวิทยาการลงทุนในช่วงระหว่างการซื้อขายวันนี้ด้วย

 อย่างไรก็ตาม ภาวะตลาดโดยรวมยังคงมีปัจจัยเสี่ยงจากปัญหาทางด้านการเมืองภายในประเทศ โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. เพราะใกล้วันที่ 26 ก.พ.ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะตัดสินคดียึดทรัพย์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อีกทั้งแผนการถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ครอบคลุมถึงการเตรียมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน (Discount Rate) ซึ่งการปรับดอกเบี้ยมาตรฐานอาจจะส่งผลให้ผู้บริโภคมีต้นทุนในการกู้ยืมที่สูงขึ้น ดังนั้นนักลงทุนควรติดตามอย่างใกล้ชิด

 นอกจากนี้ ในวันที่ 22 ก.พ.สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสศช. จะมีการแถลงตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 4/52 ซึ่งปัจจัยดังกล่าวนักลงทุนต้องติดตามด้วยเพราะจะส่งผลต่อบรรยากาศการลงทุน กลยุทธ์การลงทุน หากดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิน 700 จุดให้ขายทำกำไร โดยประเมินแนวรับไว้ที่ 680 จุด แนวต้าน 705 จุด

 ด้านนายเผดิมภพ สงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า แนวโน้มดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยในเช้าวันนี้จะมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบ 706 จุด โดยเชื่อว่าจะสามารถยืนเหนือ 695 จุดซึ่งเป็นจุดเส้นคาดเกี่ยว 10 วันตามสัญญาณในเชิงเทคนิคที่ขณะนี้นับว่าอยู่ในเกณฑ์ดี  ภายหลังจากวานนี้ปิดตลาดที่ 695.41 จุดได้ รวมทั้งได้รับแรงหนุนจากปัจจัยต่างชาติ ได้แก่ ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ค ปิดที่ระดับ  10144.19 จุด เพิ่มขึ้น 105.81 จุด หรือ 1.05% ถือเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นชี้นำตลาดฯ หลังสหภาพยุโรป หรืออียู ประกาศให้คำมั่นว่าจะช่วยเหลือกรีซรับมือวิกฤติหนี้สิน แม้จะยังไม่เปิดเผยรายละเอียดละเอียดของแผนการช่วยเหลือดังกล่าว ขณะที่ข้อมูลจำนวนผูตกงานที่ยื่นขอรับความช่วยเหลือจากภาครัฐลดลงเป็นครั้งแรกในรอบหลายสัปดาห์ ด้านราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 76 เซ็นต์ ปิดที่ 75.28 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

 นอกจากนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 71.9  เพิ่มขึ้นจากเดือนธ.ค.ที่อยู่ที่ระดับ 70.4 และนับเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และเป็นระดับที่สูงสุดในรอบ 21 เดือน นับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2551 เป็นต้นมา ซึ่งแสดงถึงภาพรวมเศรษฐกิจไทยที่ดีขึ้น

 อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการลงทุนยังคงปัจจัยกดดันสำคัญ ได้แก่ การเมืองภายในที่ร้อนแรง และยังต้องรอความชัดเจนในวันที่ 26 ก.พ.นี้ถึงกรณีที่ศาลจะมีคำสั่งพิจารณาในคดียึดทรัพย์ตระกูลชินวัตร ซึ่งส่งผลต่อแรงวิตกของนักลงทุนพอสมควร อีกทั้งธนาคารกลางสหรัฐเตรียมถอนมาตรการเศรษฐกิจ ดังนั้นระดับความกังวลเรื่องอัตราดอกเบี้ยจะเริ่มมาอีกระรอกหนึ่ง ดังนั้นจึงเห็นได้ว่าปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง

 ด้านประเด็นที่อัยการสูงสุด (อสส.) ได้ยื่นศาลปกครองผ่อนผัน 12 โครงการมาบตาพุดแล้ว  โดยเตรียมยื่นอุทธรณ์หากศาลมีคำสั่งยกคำร้อง นักวิเคราะห์มองว่าเรื่องดังกล่าวไม่ค่อยมีน้ำหนักมากนัก เนื่องจากต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งกว่าจะมีข้อสรุปออกมา กลยุทธ์การลงทุน แนะนำให้เก็งกำไร ในประเด็นการควบรวมบริษัทในเครือปตท. ส่วนการเก็งกำไรในหุ้นอื่นๆ นั้น มองว่าค่อนข้างกระจัดกระจาย ซึ่งต้องติดตามการเคลื่อนไหวเป็นระยะๆ ทั้งนี้ประเมินแนวต้านอยู่ที่ 706 จุด  ส่วนแนวรับอยู่ที่ 695 จุด แต่หากปรับตัวลดลงต่ำ
กว่าแนวรับดังกล่าวจะไปสู่แนวรับถัดไปที่ 685 จุด


 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: paul711 ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2010, 04:05:04 PM
 :) ;) :D  laugh.gif http://upic.me/i/9i/biggrin1.g (http://upic.me/i/9i/biggrin1.g)  โชคดีมีความสุข และรํารวยครับคุณทองใหม่  



(http://i.kapook.com/glitter/2010/th/01/T260110_10CM.gif) (http://glitter.kapook.com/category.php?category_id=120&sid=538fd2c140cb067324ce16638774ce97)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2010, 05:08:11 PM
ตัวเลขGDPของยูโรออกมาแย่ ทำให้ดอลล์เมกาแข็งขึ้น  ส่งผลให้ทองขึ้นได้ยากสสสสส์ ...ยกเว้นขาใหญ่เจตนาจะเอาขึ้น
 (http://upic.me/i/i7/71cq1.gif) (http://upic.me/show.php?id=ada5314264c559eeecb55755b4664b95)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2010, 05:15:20 PM
:) ;) :D  laugh.gif [url]http://upic.me/i/9i/biggrin1.g[/url] ([url]http://upic.me/i/9i/biggrin1.g[/url])  โชคดีมีความสุข และรํารวยครับคุณทองใหม่  



([url]http://i.kapook.com/glitter/2010/th/01/T260110_10CM.gif[/url]) ([url]http://glitter.kapook.com/category.php?category_id=120&sid=538fd2c140cb067324ce16638774ce97[/url])

ขอให้คุณพอลและเพื่อนๆทุกคน  รวย รวย รวย มหารวยครับ
(http://upic.me/i/fx/168_841966_1c8337ef622e125.jpg) (http://upic.me/show.php?id=c8be9ed24fd8d5c2b9a30cb4d78f6158)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2010, 06:02:06 PM

สวัสดีค่ะพี่ทองใหม่

(http://i.kapook.com/glitter/2010/th/01/T260110_14CM.gif)


เอ้....จะไปรับซองอั่งเปาดั้ยที่ไหนค่ะ :-X ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2010, 06:13:29 PM

สวัสดีค่ะพี่ทองใหม่

([url]http://i.kapook.com/glitter/2010/th/01/T260110_14CM.gif[/url])


เอ้....จะไปรับซองอั่งเปาดั้ยที่ไหนค่ะ :-X ;D
ไปเข้าแถวรับได้ที่เยาวราช เขาแจกอังเปาทุกปีเลยครับ ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Cindy ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2010, 06:22:49 PM
HAPPY CHINESE NEW YEAR 2010

HAPPY TIGER YEAR

ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ค่ะอาจารย์ ขอให้ร่ำรวย สุขภาพแข็งแรงนะคะ :)

(http://i512.photobucket.com/albums/t325/pattyzaizai/1258313935-0010aa7fmedium.jpg)




หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2010, 07:46:04 PM
HAPPY CHINESE NEW YEAR 2010

HAPPY TIGER YEAR

ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ค่ะอาจารย์ ขอให้ร่ำรวย สุขภาพแข็งแรงนะคะ :)

([url]http://i512.photobucket.com/albums/t325/pattyzaizai/1258313935-0010aa7fmedium.jpg[/url])




 (http://upic.me/i/lb/10_16515766116.jpg) (http://upic.me/show.php?id=f68bdab082275877390a2132bdf99e76)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2010, 08:44:36 PM
ตัวเลขของเมกาประกาศแล้ว2ตัว ล้วนดีกว่าเดิม อีก2ตัวที่ยังไม่ประกาศ ดูท่าคืนนี้ทองจะขึ้นลำบาก ยกเว้นขึ้นพร้อมดอลล์ อย่างเมื่อคืนที่ผ่านมา..
(http://upic.me/i/xp/mu6x1.gif) (http://upic.me/show.php?id=b3776d904648bc8fea481e53dbbfa40d)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: nadia ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2010, 11:19:03 PM
สวัสดีค่ะ คุณทองใหม่ ขอให้มีความสุข และ สุขภาพแข็งแรง ตลอดปีและตลอดไปนะค่ะ

(http://widget.sanook.com/static_content/widget/full/graphic_1/1665/286665/448592100d400d1c8a8325cda1d0514a_1231386294.gif) (http://widget.sanook.com/view-widget/graphic/?widget=286665)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: nokeang ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2010, 04:59:14 AM
 ;D  สวัสดีค่ะคุณทองใหม่ เอาอั่งเปามาแจกค่ะ ซินเจียยู่อี่ ซินนี่ฮวดไช้ค่ะ  ;D

(http://i.kapook.com/glitter/2010/th/01/T260110_14CM_r.gif)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2010, 06:24:25 AM
ฮาฮา ในที่สุด เมกาเขาก็ดีงทองขึ้นจนได้ ผมนึกแล้วว่า ฝรั่งจะไม่ยอมให้ชาวจีนซื้อทองถูกได้ง่ายๆหรอก ขนาดไม่มีปัจจัยที่จะดึงทองขึ้น แต่เขาทำได้ใต้ดวงพระอาทิตย์และพระจันทร์นี้ ฮาฮา


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2010, 06:39:00 AM
กราฟตาแป๊ะซ้ายบน มีการเปลี่ยนแปลงนิดหนี่ง มีคำว่า  ตัวหนังสือสีเขียว ? ---ขาย และ  ตัวหนังสือสีแดง?----ซื้อ  เพิ่มเข้ามา ผสมเข้ากับกาฟตาแป๊ะช่องซ้ายบน
กราฟตาแป๊ะซ้ายบน ตัวหนังสือสีเขียว ? ---ขาย   ตัวหนังสือสีแดง?----ซื้อ  เส้นสีแดงหนา---ขาขึ้น เส้นสีเขียวหนา---ขาลงขวาบน  เส้นสีแดง---เสนอซื้มากกว่าเสนอขาย เส้นสีเขียว---เสนอขายมากกว่าเสนอซื้อ  ส่วนช่วงกลางที่มีแท่งสีแดงกับเขียวนั้น แท่งแดง---แรงซื้อขึ้น   แท่งเขียว---แรงขายลง
ขวาช่องสอง  แท่งเหลืองคู่เส้นแดง---ขาขึ้น   แท่งฟ้าคู่เส้นเขียว---ขาลง โดยปกติ ช่องนี้จะเปลี่ยนแนวโน้มช้ากว่าเพื่อน หากเปลี่ยนแนวโน้มเมื่อไหร่ เขาให้ขายออกหรือซื้อเข้าได้ทันที่ ยกเว้นมีปัจจัยพื้นฐานแรงๆแทรกเข้ามา จึงจะทำให้แนวโน้มกลับเปลี่ยนได้โดยกะทันหัน
ซ้ายช่องสอง หน้าเหลืองแป๊ะยิ้ม---ขาขึ้น หน้าแดงแป๊ะร้องไห้---ขาลง  แท่งสีเขียว---เพดาน   แท่งสีแดง---พื้นดินโดยปกติ ช่องนี้จะส่งสัญญาณว่า กำลังจะเปลี่ยนแนวทางแล้วนะ แต่ยังไม่เต็มร้อย อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยกะทันหันก็ได้ ต้องดูซ้ายบนและขวาช่อง๒ประกอบด้วย จึงจะให้ความมั่นใจได้
4กราฟล่างเป็นกราฟในชุดกราฟใหม่2010 เป็นกราฟที่เข้าใจง่ายเช่นเคย ไม่อธิบายก็คงเข้าใจไดนะครับ
ทอง
 (http://upic.me/i/3y/dq71a.gif) (http://upic.me/show.php?id=402fb516d9cf5cc34134f9e22a01b2ba)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2010, 06:39:49 AM
ดัชนีเงินเมกา
 (http://upic.me/i/yh/z4t2a.gif) (http://upic.me/show.php?id=ac8aeec0efb28a9b21da84d165b0f0af)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2010, 06:41:18 AM
น้ำมัน
 (http://upic.me/i/in/2bd3a.gif) (http://upic.me/show.php?id=42769e81a068e99303e005cca51441b4)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2010, 06:42:06 AM
ดัชนีไทยรายวัน
 (http://upic.me/i/og/lef4a.gif) (http://upic.me/show.php?id=a7b88de666ab13cc27fc80083ad478c6)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2010, 06:43:55 AM
ดัชนีไทย60นาที
 (http://upic.me/i/af/ix4a1.gif) (http://upic.me/show.php?id=43822faddcb0847f7114ec4a4cc419e0)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2010, 07:15:28 AM
 (http://upic.me/i/52/5i523.jpg) (http://upic.me/show.php?id=8060e425199bff49c1acbce415248fd2)

เพลงตรุษจีนจ้า        http://yc.5sing.com/96615.html (http://yc.5sing.com/96615.html)

 (http://upic.me/i/ac/200812975339552_2.jpg) (http://upic.me/show.php?id=027bca4ca2f50eaf821c1b614799f849)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2010, 07:31:35 AM
เช้านี้ตื่นนอนเตรียมกับข้าวใส่บาตร จากนั้นก็โพสกราฟของคืนวันศุกร์ คอยพระแต่พระไม่มา เลยขับรถไปใส่บาตรที่วัด และยังได้ถือโอกาสปล่อยปลาหลายชนิดและหอยด้วย กลับถึงบ้านจึงโพสภาพตรุษฯและเพลงให้เพื่อนๆพร้อมบอกบุญที่ได้ทำมาให้เพื่อนๆได้อนุโมทนาด้วย
วันนี้เป็นวันไหว้และผมก็ได้ไหว้พระแล้วตั้งแต่เช้าพร้อมทำบุญได้บุญสังฆทานด้วย
ด้วยบุญนี้ขอจงถึงบิดามารดาตลอดผู้มีอุปการะคุณต่อข้าพเจ้า +เจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้าทั้งหมดทั้งปวง พระภูมิเจ้าที่ทั้งบริวารของพระภูมิเจ้าที่ เทวดาพรหมในเคหะสถานที่ของข้าพเจ้าด้วย ขอท่านทั้งหลายที่กล่าวมาแล้วและที่อาจลืมกล่าวถึงด้วย จงได้รับซื่งอนิสงค์แห่งบุญนี้โดยทั่วถึงกันเถิด ขอท่านทั้งหลายจงมีสุขยิ่งๆขึ้นไปและจงพ้นจากทุกข์ทั้งปวงเถิด สาธุ..


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2010, 07:54:51 AM
 (http://upic.me/i/tg/55_83.gif) (http://upic.me/show.php?id=2af2a72eaf5f5b4d23aafc24ae2c19d9)  (http://upic.me/i/m9/gold8.1.jpg) (http://upic.me/show.php?id=0100b87d2c504f6cc29c616f57010865)  (http://upic.me/i/04/gold9.jpg) (http://upic.me/show.php?id=8ef0316467c97ab0b11c97d25a5762ff)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2010, 08:15:16 AM
ฮาฮา ในที่สุด เมกาเขาก็ดึงทองขึ้นจนได้ ผมนึกแล้วว่า ฝรั่งจะไม่ยอมให้ชาวจีนซื้อทองถูกได้ง่ายๆหรอก ขนาดไม่มีปัจจัยที่จะดึงทองขึ้น แต่เขาทำได้ใต้ดวงพระอาทิตย์และพระจันทร์นี้ ฮาฮา
ลืมบอกไป ใครที่ซื้อเมื่อวันเสาร์-อาทิตย์ที่แล้ว วันนี้ขายก็มีอั่งเปาตรุษจีนแล้วนา ขอบอก


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2010, 08:27:05 AM
วันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2010 เวลา 08:11 น. ณัฐญา เนตรหิน ข่าวรายวัน - ข่าวต่างประเทศ   

ปิดตลาดหุ้นสรัฐดตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อคืนที่ผ่านมา ดัชนีดาวน์โจนส์ ลดลง 45.05 จุด หรือ 0.44% ปิด 10,099.14 จุดดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 6.12 จุด หรือ 0.28 % ปิด 2,183.53 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี ลดลง 2.96 จุดหรือ 0.27 % ปิด 1,075.51 จุด

ดาวน์โจนส์ที่ปรับลดลงเนื่องจากความกังวลของนักลงทุน ต่อความเคลื่อนไหวจำกัดการเติบโตของจีนและวิกฤตหนี้ของกรีซ ซึ่งไปบดบังทำลายข่าวดีเกี่ยวกับยอดการค้าปลีกของสหรัฐ

ด้าน ตลาดไนเม็กซ์ของสหรัฐฯ ราคาน้ำมันดิบ ไลท์สวีต ครูด งวดส่งมอบ เดือนมีนาคม ลดลง 1.08 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่ 74.13 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล  ขณะที่ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ทะเลเหนือ ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.22 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่ 72.90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2010, 08:34:37 AM
SETสัปดาห์หน้า(15-19ก.พ.)การเมืองระอุ-ชะลอลงทุน         
 
หุ้นไทยสัปดาห์หน้า (15-19ก.พ.2553) วิ่งรับ EU สางปมการเงินกรีซ 16 ก.พ.นี้ แถมการเมืองระอุ ไม่หนุนบรรยากาศการลงทุน  แนะชะลอการลงทุน ให้แนวรับ 680 จุด แนวต้าน 700 จุด

 นางสาวปองรัตน์ รัตนะตวณานนท์ ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยวันนี้เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เพราะได้รับปัจจัยสนันสนุนจากตลาดหุ้นต่างประเทศที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากนักลงทุนขานรับกับข่าวการออกมาตรการช่วยเหลือประเทศกรีซ และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯฟื้นตัวดีขึ้น ขณะเดียวกันนักลงทุนยังคงรอความชัดเจนจากผลการประชุมของสหภาพยุโรปในวันที่ 16 ก.พ.นี้ ว่าจะมีมาตรการใดออกมาช่วยเหลือประเทศกรีซที่ประสบปัญหาวิกฤตทางการเงิน  อย่างไรก็ตาม ปริมาณการซื้อขายเป็นไปอย่างเบาบางเนื่องจากในช่วงเทศกาลตรุษจีน

 ด้านความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดต่างประเทศ  ดัชนี ฮั่งเส็ง:  ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดตลาดที่ระดับ 20,268.69 จุด ลดลง 22.00 จุด หรือ -0.11 %ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดที่ระดับ 10,092.19 จุด เพิ่มขึ้น 128.20 จุด หรือ +1.29%  ดัชนี สเตรทไทม์:  ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ปิดตลาดที่ระดับ 2,758.90 จุด เพิ่มขึ้น 5.27 จุด หรือ 0.19 % สำหรับแนวโน้มตลาดหลักทรัพย์ไทยในสัปดาห์หน้าจะแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบๆ เนื่องจากนักลงทุนจะยังคงรอความชัดเจนของผลการประชุมของกลุ่มสหภาพยุโรป(EU) เพื่อช่วยเหลือประเทศกรีซที่ประสบปัญหาวิกฤตการเงิน รวมทั้งปัจจัยการเมืองภายในประเทศยังสร้างแรงกดดัน โดยเฉพาะใกล้ช่วงวันที่ 26 กพ.นี้ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งอาจจะมีกาเคลื่อนของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการณ์
กลยุทธ์การลงทุน แนะชลอการลงทุน โดยประเมินแนวรับไว้ที่ 680 จุด และประเมินแนวต้านไว้ที่ 700 จุด

 นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซีย พลัส(ASP)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยไทยในสัปดาห์หน้าคาดว่าดัชนีฯจะเคลื่อนไหวแกว่งตัวในกรอบแคบ โดยมีแนวต้านที่ 700-710 จุด หากขึ้นไปแล้วจะมีแรงขายออกมา และหากลงมาที่ระดับ 680-685 จุด เป็นจังหวะเข้าไปรับ อย่างไรก็ตาม การปรับตัวเพิ่มขึ้นของดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันที่ 12 ก.พ.53 เนื่องมาจากการที่บริษัทจดทะเบียนประกาศผลประกอบการออกมาดี รวมถึงให้ผลตอบแทนที่ดี เชื่อว่า earning เทียบ YoY จะออกมาสูงกว่าปีก่อน นอกจากนั้น ปัญหายุโรปคลี่คลายลงไปแล้ว

 แต่การเมืองยังเป็นปัจจัยเข้มข้นขึ้นก็ต้องรอดูว่าจะเปลี่ยนเป็นอย่างไรในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตาม ราคาสินค้า Commodity มีแนวโน้มจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในช่วงหลังตรุษจีน ปัจจัยเหล่านี้เป็นตัวหนุนตลาดหุ้นในกรอบแคบๆ แต่ยืนอยู่ได้ในแดนบวก

 แนวโน้มการลงทุนสัปดาห์หน้าให้แนวรับที่ 680-685 จุด และแนวต้านที่ 700-710 จุด มองว่ายังบวกได้เช่นเดียวกับวันนี้ โดยเน้นข่าวดีจากผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาดีขึ้น และแนวโน้มราคา  Commodity หลังตรุษจีนยังสูง


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: IPSUM ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2010, 09:27:25 AM
(http://widget.sanook.com/static_content/widget/full/graphic_1/0425/297425/afabb0fcb92bd427ef7551e4c085170a_1232374726.gif) (http://widget.sanook.com/view-widget/graphic/?widget=297425)     ของตกแต่งโดนๆคลิกเลย (http://widget.sanook.com/)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2010, 10:06:16 AM
ทองคำปิดลดลง4.70ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
วันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2010 เวลา 08:43 น. ณัฐญา เนตรหิน ข่าวรายวัน - ข่าวต่างประเทศ   
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (12 ก.พ.)ปิดลดลง4.70ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์   โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 1,090 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ร่วงลง 4.70 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,078.10-1,097.70 ดอลลาร์

ราคาทองคำที่ลดลงเป็นผลจากเมื่อวานนี้ทางการจีนสั่งการให้ธนาคารในประเทศเพิ่มสัดส่วนการกันสำรองเงินฝากเป็นครั้งที่ 2 ในรอบหนึ่งเดือน  เพราะเกรงยอดการปล่อยกู้และราคาอสังหาริมทรัพย์ที่พุ่งสูงขึ้นอาจทำให้เกิดภาวะฟองสบู่
 (http://upic.me/i/zw/r2001.gif) (http://upic.me/show.php?id=3bcab6e4c266914b1067723f16ec7210)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2010, 10:09:38 AM
ปิดถนนเยาวราชฉลองตรุษจีน13-15ก.พ.
วันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2010 เวลา 09:25 น. ณัฐญา เนตรหิน ข่าวรายวัน - ข่าวในประเทศ   

พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น. กล่าวว่า พล.ต.ต.อุทัยวรรณ แก้วสอาด ผบก.จร. ได้ออกข้อบังคับเจ้าพนักงานจราจร ปิดการจราจรชั่วคราว ห้ามจอดรถ และกำหนดให้เดินรถทางเดียว ในงานเทศกาลตรุษจีน เขตสัมพันธ์วงศ์ กรุงเทพมหานคร ระหว่าง 13-15 ก.พ. ดังนี้

วันที่ 13 ก.พ. เวลา 00.01 น.-24.00 น. ห้ามเดินรถ ห้ามจอดรถทุกชนิด ในถนนเยาวราช ตั้งแต่ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ(วงเวียนโอเดียน) ถึงแยกตัดถนนลำพูนไชย

สำหรับวันที่ 14 ก.พ. ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ถึง วันที่ 15 ก.พ.53 เวลา 24.00 น. ห้ามเดินรถ ห้ามจอดรถทุกชนิด ในถนนเยาวราช ตั้งแต่ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ(วงเวียนโอเดียน) ถึงแยกเฉลิมบุรี ในถนนทรงวาดตลอดสาย และถนนทรงสวัสดิ์ ตั้งแต่ท่าน้ำสวัสดีถึงแยกหมอมีตลอดเวลาทั้งสองฝั่ง โดยจะกำหนดให้รถเดินทางเดียวกลับทิศทาง ในถนนทรงวาด โดยให้เข้าทางแยกมุมถนนตรีมิตรตัดถนนทรงวาด ไปทางท่าน้ำสวัสดีไปออกถนน จึงฝากประชาสัมพันธ์ประชาชนที่ไม่มีธุระจำเป็นหลีกเลี่ยงเส้นทางตามวัน-เวลาดังกล่าว
พรุ่งนี้ใครไปเดินเที่ยวเยาวราช อาจชนกันก็ได้นา ฮาฮา


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2010, 11:19:37 AM
สหรัฐฯการฟื้นตัวสดใจจากยอดขายค้าปลีกพุ่ง
วันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2010 เวลา 10:45 น. สมพร ฟ้อยกท์ ข่าวรายวัน - ข่าวต่างประเทศ   
User Rating: / 0
แย่ดีที่สุด
ยอดค้าปลีกในสหรัฐอเมริกาพุ่งสูงกว่าคาดหมายไว้ในเดือนมกราคาท่ามกลางภาวะซื้อรถที่ยังทรงตัว โดยผู้บริโภครู้สึกสบายใจขึ้นในการใช้จ่ายและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐกล่าววานนี้ว่ายอดขายปลีกรวมเพิ่มขึ้น 0.5%  เทียบกับเดือนธันวาคมและพฤศจิกายนที่ยอดการใช้จ่ายชะลอลง

นักวิเคราะห์คาดการณืยอดขายปลีกเดือนที่แล้วเพิ่มขึ้น 0.3% เทียบกับเดือนมกราคมปีที่แล้วยอดขายปลีกเพิ่มขึ้น 4.7%


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2010, 11:21:10 AM
ทองคำแท่งขายออกวันนี้บาทละ 17,200บาทปรับขึ้น 100บาท
วันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2010 เวลา 11:00 น. ณัฐญา เนตรหิน ข่าวรายวัน - ข่าวในประเทศ   
 
สมาคมค้าทองคำประกาศราคาซื้อขายทองคำแท่งและทองคำรูปพรรณประจำวันนี้ (13 ก.พ.)ทองคำแท่งซื้อที่บาทละ 17,100 บาท และขายออกบาทละ 17,200 บาทส่วนทองคำรูปพรรณซื้อที่บาทละ 16,857.92 บาทและขายออกบาทละ 17,600บาท

ทั้งนี้ ราคาทองคำในวันนี้ปรับขึ้นจากราคาเมื่อวานนี้อีก 100 บาท จากราคาขายทองแท่งเมื่อวาน(12 ก.พ.)อยู่ที่บาทละ 17,100 บาท และทองคำรูปพรรณขายออกบาทละ17,500 บาท


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2010, 11:58:28 AM
เช้านี้ตื่นนอนเตรียมกับข้าวใส่บาตร จากนั้นก็โพสกราฟของคืนวันศุกร์ คอยพระแต่พระไม่มา เลยขับรถไปใส่บาตรที่วัด และยังได้ถือโอกาสปล่อยปลาหลายชนิดและหอยด้วย กลับถึงบ้านจึงโพสภาพตรุษฯและเพลงให้เพื่อนๆพร้อมบอกบุญที่ได้ทำมาให้เพื่อนๆได้อนุโมทนาด้วย
วันนี้เป็นวันไหว้และผมก็ได้ไหว้พระแล้วตั้งแต่เช้าพร้อมทำบุญได้บุญสังฆทานด้วย
ด้วยบุญนี้ขอจงถึงบิดามารดาตลอดผู้มีอุปการะคุณต่อข้าพเจ้า +เจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้าทั้งหมดทั้งปวง พระเจ้าที่ทั้งบริวารของพระเจ้าที่ เทวดาพรหมในเคหะสถานที่ของข้าพเจ้าด้วย ขอท่านทั้งหลายที่กล่าวมาแล้วและที่อาจลืมกล่าวถึงด้วย จงได้รับซื่งอนิสงค์แห่งบุญนี้โดยทั่วถึงกันเถิด ขอท่านทั้งหลายจงมีสุขยิ่งๆขึ้นไปและจงพ้นจากทุกข์ทั้งปวงเถิด สาธุ..

  ซินเจียยู่อี่  ซินนี้ฮวดไช้   สวัสดีวันตรุษจีนค่ะ  ขอร่วมอนุโมทนาบุญด้วยนะคะวันนี้สาก็ใส่บาตรค่ะตอนเช้าพระมา 2 สายค่ะ (ปรกติก็ใส่ทุกวันค่ะ) ขอให้ผลบุญนี้ส่งผลให้คุณทองใหม่มีสุขภาพสมบรูณ์แข็งแรง  คิดเงินได้เงิน  คิดทองได้ทองนะคะ   พรุ่งนี้เที่ยวให้สนุกนะคะเที่ยวเผื่อด้วยค่ะสาอยู่ต่างจังหวัดอดไปเสียดายจังค่ะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: JO-JO ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2010, 03:42:35 PM
Happy Chinese New Year & Happy Valentine Day ครับ

ขอให้คุณทองใหม่ มีสุขภาพแข็งแรง และร่ำรวยเงินทองนะครับ


 :)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2010, 03:52:04 PM
 (http://upic.me/i/na/f2ir1.jpg) (http://upic.me/show.php?id=af95b185395f91b159b14deb21f1f92b)
เยาวราชคึกคนแห่ซื้อของเซ่นไหว้รับเทศกาลตรุษจีน


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2010, 03:55:03 PM
แนวโน้มซื้อทองคำตรุษจีนจะดีขึ้น13 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา 15:31 น.

นายกสมาคมค้าทองคำเชื่อแนวโน้มการซื้อทองคำช่วงตรุษจีนจะดีกว่าที่ผ่านมา

นายจิตติ ตั้งสิทธิภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า ราคาทองคำในขณะนี้ถือว่าสถานการณ์ราคาทองคำผันผวนเล็กน้อย แต่จะสามารถดูราคาที่ชัดเจนได้อีกครั้งในวันจันทร์นี้ (15 ก.พ.53)

ส่วนภาวะการซื้อขายทองคำในวันนี้ที่เป็นวันไหว้ของเทศกาลตรุษจีนมีการซื้อขายทองคำในระดับปกติ โดยต้องรอดูอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ หลังจากที่ประชาชนได้รับอั่งเปาแล้ว ซึ่งอาจมีประชาชนมาซื้อทองคำเพิ่มมากขึ้น

"เชื่อว่าแนวโน้มการซื้อทองคำจะดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากราคาทองลดลงจากปลายปีที่แล้ว โดยช่วงที่ผ่านมาที่ราคาทองปรับลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นผลให้ประชาชนกลับมาซื้อทองกันมากขึ้น"นายกสมาคมค้าทองคำกล่าว


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2010, 03:56:59 PM
Happy Chinese New Year & Happy Valentine Day ครับ

ขอให้คุณทองใหม่ มีสุขภาพแข็งแรง และร่ำรวยเงินทองนะครับ


 :)
เช่นเดียวกันครับ Happy Chinese New Year & Happy Valentine Day
ขอให้รวยรวย มหารวยนะครับ
 (http://upic.me/i/tg/55_83.gif) (http://upic.me/show.php?id=2af2a72eaf5f5b4d23aafc24ae2c19d9)  (http://upic.me/i/m9/gold8.1.jpg) (http://upic.me/show.php?id=0100b87d2c504f6cc29c616f57010865)  (http://upic.me/i/04/gold9.jpg) (http://upic.me/show.php?id=8ef0316467c97ab0b11c97d25a5762ff)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Theephat ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2010, 05:22:56 PM
ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ครับคุณทองใหม่ ตรุษจีนนี้ขอให้คุณทองใหม่มีสุขภาพที่แข็งแรง คิดหวังสิ่งใดขอให้สมความปรารถนาทุกประการครับ

ขอให้เฮง เฮง เฮง รวย รวย รวยครับ ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2010, 06:21:13 PM
 (http://upic.me/i/t7/168_841966_ad3dc27c43dd994.jpg) (http://upic.me/show.php?id=3134a2b96c9c3d73550b5be73b092027)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2010, 06:42:36 PM
เพลง"เทพเจ้าสมบัติมาถึงหน้าบ้านฉัน"
http://fc.5sing.com/1792135.html (http://fc.5sing.com/1792135.html)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 14, 2010, 10:54:24 AM
(http://upic.me/i/5w/1861611_8.gif) (http://upic.me/show.php?id=7cb7d833f75270d9d0c0a72a1c14e922)  (http://upic.me/i/44/20101288551546.gif) (http://upic.me/show.php?id=2809cee3c4daee170dcf3ee6d507e72c)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 14, 2010, 10:55:01 AM
(http://upic.me/i/4o/20101288551713.gif) (http://upic.me/show.php?id=412867cc661582ce199b2d43ffdc0ce5)  (http://upic.me/i/oq/20101288552464.gif) (http://upic.me/show.php?id=056524665f5bcb044d4bd5566c91f655)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 14, 2010, 10:55:48 AM
(http://upic.me/i/2c/10_16515769812.jpg) (http://upic.me/show.php?id=4d5827e0e37e3b731f4fcddc300f41a4)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: ทองใหม่ ที่ กุมภาพันธ์ 14, 2010, 12:06:39 PM
http://fc.5sing.com/1895159.html (http://fc.5sing.com/1895159.html)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: paul711 ที่ กุมภาพันธ์ 26, 2010, 02:27:55 PM
   :) ;) :D  สวัสดีครับ คุณทองใหม่ ไม่ได้มาหลายวันแล้วครับ สบายดีหรือเปล่าครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ กุมภาพันธ์ 27, 2010, 09:35:43 AM
มาปัดกวาดบ้านที่นี่รอคุณทองใหม่ค่ะ   แต่ยังตามไปอ่านที่ไทยโกลนะคะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: cupid ที่ มีนาคม 01, 2010, 09:28:06 PM
[url]http://fc.5sing.com/1895159.html[/url] ([url]http://fc.5sing.com/1895159.html[/url])


 *ellow_yellow_christmas_editio  ขอบพระคุณมากมายฮะอาจารย์ทองใหม่จัยดีเสมอ

นู๋ชอบไปเที่ยวจีนมั๊กมั๊ก แต่นู๋ไม่รู้ภาษาจีน ตอนอยู่บ้านสมาคมสมัยก่อนนู๋สมัครเป็นสมาชิกมั้ยดั้ย

แต่นู๋ก้อพยายามเรียนกับคุณจินตนา แต่ก้อไม่ดั้ยเรื่องเหมียนเดิมฮะ  เที่ยวอย่างเดียวพอ ฮิ ฮิ  laugh.gif laugh.gif ;D

นู๋เคยไปจิ่วจ้ายโกวกับป้า มีการแสดงเพลงพื้นเมือง ไม่รู้ความหมายแต่ก็ชอบฟังมากฮะ มีพลังมากๆเลย

ที่กุ้ยหลินก็ไพเราะไปอีกแบบนึง ไว้ว่างๆนู๋จะเอาซีดีที่ซื้อมา มาลงหั้ยฟังนะฮะ ประทับจัยจริงๆ  *ellow_yellow_christmas_editio


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sara80 ที่ มีนาคม 02, 2010, 05:42:18 PM
ก๊อก ก๊อก ก๊อก สบายดีมั้ยคะ พี่ทองใหม่  :D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Jeera ที่ มีนาคม 02, 2010, 07:43:40 PM
หนีห่าว   :)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ มีนาคม 03, 2010, 01:56:48 PM
ก๊อกๆๆๆๆมีใครอยู่มั๊ยคะ 


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Belmont ที่ มีนาคม 04, 2010, 10:20:47 AM
พี่ทองใหม่ หายไปไหนครับ
ไม่สบายหรือป่าวครับ พี่  ::)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: oyo ที่ มีนาคม 04, 2010, 11:44:23 AM
สวัสดีครับมารอด้วยคนจ้า :D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: brabus ที่ มีนาคม 04, 2010, 01:12:43 PM
 ;D มารอพี่ทองใหม่ด้วยคนค่ะ ;D


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Theephat ที่ มีนาคม 09, 2010, 03:51:56 PM
คุณทองใหม่ยังไม่มา :)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: newa ที่ มีนาคม 09, 2010, 05:18:45 PM
 :D  สวัสดีค่ะคุณทองใหม่  อากาศร้อน  รักษาสุขภาพด้วยนะคะ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Jeera ที่ มีนาคม 10, 2010, 09:08:31 PM
พี่ทองใหม่หายไปไหน   ???


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: sa ที่ มีนาคม 16, 2010, 02:42:12 PM
คุณทองใหม่คะ.........


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Theephat ที่ มีนาคม 16, 2010, 07:13:10 PM
พี่ทองใหม่หายไปไหน   ???
รอคุณทองใหม่เหมือนกัน หายไปหลายวันแล้วครับไม่รู้สบายดีหรือเปล่า ??? ???


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: paul711 ที่ มีนาคม 22, 2010, 03:26:15 PM
 :) ;) :D  รอคุณทองใหม่  ครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: Jeera ที่ มีนาคม 22, 2010, 03:49:42 PM
พี่ทองใหม่ไม่ได้เป็นไรใช่ป่ะคะ  :(  หายไปเที่ยวไหน???


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: newa ที่ มีนาคม 25, 2010, 08:17:49 AM
   ;D อรุณสวัสดิ์ค่ะ  ;D

              (http://i.kapook.com/glitter/2010/th/01/T110110_01C.gif) (http://glitter.kapook.com/category.php?category_id=16&sid=227b6f06ab640bb7a62e1ce82450506b)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: aaxx123 ที่ เมษายน 09, 2010, 02:54:28 PM

Joined: Today Online Status: Online
Posts: 5
Reputation: 416
 

  Posted: Today at 6:58am
 
Love..world of warcraft power leveling

 (http://www.vipowerleveling.com/buywowpowerleveling.asp) what is love? A lot of people shared their views to what Love really is, or at least what Love

is in their eyes. Perhaps love is just an illusion. A strong illusion, especially for those who are

searching for a purpose of life. Is love an answer? Love can be wonderful,  special, complicated, a

distress, a gift, a curse, a tragedy, and most of all, an experience
Love is a mysterious and a complicated force. What do a person mean when they say they love someone?

Love is many different things. Each of us have our own understanding of Love is, and most of the time

we base our definitions from feelings and experiences. The book defines love in many ways. "It is a

strong affection for another arising out of kinship or personal ties." It can be an affection and

tenderness felt by lovers. Love is the object of attachment, devotion, or admiration.
Just when we thought we finally grasp what love is, somebody asks: "Does anyone really know what

'LOVE' mean?wow power leveling (http://www.wowpower-level.net), I believe I have a true

love, but 'True love' is always hurt, isn't it?"
I scratches my head with this thought and began to wonder. wow power levelingWhat is the answer to

this? "This I have to know!" I said to myself.world of warcraft gold, I looked in the mirror and

asked "Is it a true love when you know you want to live with this special person for the rest of your

life? Have we reached 'true love' when we are ready to give everything away towards our subject?

world of warcraft gold (http://www.eing.com/wow-gold/), Or maybe when can go as far as to

sacrifice ourselves for our love? What about love as an obsession? Is that possible?
"But isn't love suppose to be an obsession? If it is not, then you'd have to rationalize. If you

rationalize then it's not love, because there is always a better rationalization."
world of warcraft gold
"I think the "in love" phase is obsessive but according to Williamson (and backed up by my paltry

experience), love does not involve the ego,world of

warcraft gold (http://www.wotlkgolds.com/wow-gold.asp),is selfless and the opposite of obsession."
According to Marriane Williamson, the author of "A Return to Love," there is a "holy love" and a

"special love." "The latter type is the obsessiveone;, finding that one 'special' person absorbs

_ALL_ your attention."
So who is right and who is wrong about love? There is no wrong answer.

world of warcraft power leveling (http://www.gamfay.com/wow-power-leveling.asp),Love is many

wonderful things. Love may not work out all the time but it leaves you a special sort of feeling,

like nothing you have ever imagined. Is love a purpose of life? I think are life will be dull without

it. But is it necessary? Important? It is a part of life,world of warcraft power leveling and forever

it will be a part of us.


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: aon-87 ที่ เมษายน 09, 2010, 09:48:07 PM
([url]http://upic.me/i/2c/10_16515769812.jpg[/url]) ([url]http://upic.me/show.php?id=4d5827e0e37e3b731f4fcddc300f41a4[/url])


 8) เห็นจานทองใหม่วันตรุษจีน วาเลนไทน์ แล้วนี่ใครทราบข่าวบ้าง รักษาสุขภาพนะครับ เป็นห่วงเสมอครับ คนดี มีน้ำใจ  8)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: aon-87 ที่ ตุลาคม 15, 2010, 10:13:58 PM
 8) คิดถึงคนมีน้ำใจอย่างคุณทองใหม่ จากใจจริงครับ ส่งข่าวคราวบ้างนะครับ  8)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: paul711 ที่ มกราคม 04, 2011, 04:22:24 PM
 เวลา 1 ปี ผ่านไปเร็วเหลือเกิน เพิ่งอวยพรปีใหม่กันเมื่อเร็วๆนี้เอง
ตอนนี้ก็เข้าปีใหม่อีกแล้ว
angel.gif  " เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ 2554 ผมขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายช่วยดลบันดาลให้คุณทองใหม่และครอบครัว มีความสุข สมหวังในทุกสิ่งที่ปรารถนา
มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง เจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ และมีกําไรในการลงทุนทอง ตลอดปี 2554 นี้ด้วยเทอญ
 " angel.gif


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: thuncpe200 ที่ เมษายน 15, 2011, 11:18:44 PM
 ;)


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: toppii ที่ มิถุนายน 28, 2011, 03:38:29 PM
เข้ามาสวัสดีเจ้าของโพส ครับ


หัวข้อ: Re: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ มกราคม 01, 2012, 10:03:03 AM
 :)สวัสดัปีใหม่ค่ะ

(http://www.lucky-flower.com/images/flower-l/flower-308.jpg)

       ขอให้คุณทองใหม่และครอบครัว มีความสุข สุขภาพแข็งแรง น้ะค่ะ :)