Forex-Currency Trading-Swiss based forex related website.
Home
-----
กระดานสนทนาหน้าแรก
-----
Gold Chart,Silver,Copper,Oil Chart
-----
gold-trend-price-prediction
-----
ติดต่อเรา
หัวข้อ: :) ความสุขเล็ก ๆ เริ่มหัวข้อโดย: newa ที่ มีนาคม 04, 2010, 09:14:22 PM เพียงแค่มีบางสิ่ง ชีวิตก็มีความหมาย...
เราอาจจะหาความหมายของทุกสิ่งมาตลอดชีวิต ....แล้ววันหนึ่งเราก็พบว่า เพียงแค่มีบางสิ่ง ชีวิตก็มีความหมายแล้ว... มนุษย์เกิดขึ้นมาท่ามกลางความโดดเดี่ยว พร้อมด้วยหัวใจคนละ 1 ดวง เมื่อมนุษย์ 2 คนมาพบกัน เราจึงเรียนรู้ว่า 1 + 1 อาจจะยัง คงเท่ากับ 1 แต่ความโดดเดี่ยวนั้นหายไป ที่เล็กๆ ขนาดไม่ใหญ่โตไปกว่ากำปั้น ทำให้เราอยู่ด้วยกันบนโลกใบนี้ อวัยวะที่สะกดด้วยอักษรง่ายๆ ใช้แทนคำว่า "รัก" ได้เป็นอย่างดี นั่นก็คือ “หัวใจ” ที่ๆ เมื่อมีใครสักคนอยู่ในนั้น หัวใจจะเต้นด้วยจังหวะของความสุข เราอาจจะหาความหมายของทุกสิ่งมาตลอดชีวิต ....แล้ววันหนึ่งเราก็พบว่า เพียงแค่มี “รัก” ชีวิตก็มีความหมายแล้ว... ;D ;D ;D ;D ;D หัวข้อ: Re: :) ความสุขเล็ก ๆ เริ่มหัวข้อโดย: cupid ที่ เมษายน 01, 2010, 10:00:05 PM *ellow_yellow_christmas_editio บางทีหัวจัยดวงเดียวก็ดีกว่านะฮะ เศร้าจัง สำหรับคนอกหัก :'( :'( :'( :'( :'( :'( *ellow_yellow_christmas_editio
หัวข้อ: Re: :) ความสุขเล็ก ๆ เริ่มหัวข้อโดย: newa ที่ เมษายน 09, 2010, 10:46:16 AM ;D ;D ยิ้มก่อนชม ชมแล้วยิ้ม ;) ;)
YouTube - Kseniya Simonova's Amazing Sand Drawing (http://www.youtube.com/watch_popup?v=vOhf3OvRXKg#) หัวข้อ: Re: :) ความสุขเล็ก ๆ เริ่มหัวข้อโดย: newa ที่ กรกฎาคม 15, 2010, 02:55:03 PM ;) ;D สวัสดีค่ะ
วันนี้ มีเรื่องความรักกับการให้มาฝากค่ะ กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว... มีเกาะแห่งหนึ่งซึ่งรวบรวมความรู้สึก ทั้งหมดอาศัยอยู่ด้วยกัน ความสุข ความเศร้า ความรู้ ความรวย และอื่น ๆ รวมทั้งความรัก วันหนึ่ง... มีประกาศไปยังความรู้สึกทั้งหมดว่า เกาะกำลังจะจม ดังนั้น ทั้งหมดจึงได้เตรียมเรือเพื่อที่จะหนีออกไปจากเกาะ ความรัก เท่านั้นที่ตัดสินใจอยู่บนเกาะ ความรักต้องการที่จะอยู่จนกระทั่งวินาทีสุดท้าย เมื่อเกาะเกือบจะจมแล้ว ความรักจึงตัดสินใจขอความช่วยเหลือ... ความรวย แล่นเรือผ่าน ความรวยตอบว่า " ไม่ได้หรอก ฉันรับเธอไม่ได้ เพราะเรือฉันน่ะเต็มไปด้วยเงินและทองแล้ว มันไม่มีที่ให้คุณ " ความรักตัดสินใจจะถาม ความเห็นแก่ตัว ซึ่งผ่านมาเหมือนกันด้วยเรือลำงาม "ความเห็นแก่ตัวช่วยฉันด้วย " "ฉันช่วยคุณไม่ได้หรอก ความรักคุณน่ะทั้งเปียก อาจจะทำให้เรือฉันเปียกด้วย" ความเศร้า ได้พายเรือใกล้เข้ามา ความรักก็ได้เอ่ยขอความช่วยเหลืออีก "ความเศร้าอนุญาตให้ฉันขึ้นเรือคุณด้วยนะ " "โอ้ความรักฉันกำลังเศร้ามากเลย ฉันต้องการอยู่คนเดียว ขอโทษนะ " ความสุข ได้ผ่านความรักไปเหมือนกัน แต่เขาไม่ได้ยินแม้แต่เสียงเรียกขอความช่วยเหลือของความรัก เพราะว่ามัวแต่กำลังสุข ทันใดนั้น มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา " มานี่ความรักฉันจะรับคุณไปเอง " เสียงนั้นเป็นเสียงของคนแก่คนหนึ่ง ความรักรู้สึกขอบคุณและดีใจเป็นอย่างยิ่ง จนลืมถามชื่อว่า ใครคือผู้ใจดีผู้นั้น เมื่อพวกเขามาถึงแผ่นดินที่แห้งคนแก่ก็จากไปตามทางของเขา ความรักนึกขึ้นได้ว่าลืมถามชื่อชายแก่คนนั้น ความรักจึงไปถาม ความรู้ "ใครเหรอที่เป็นคนช่วยฉัน " ความรู้ตอบว่า " ความไม่หวังผลไงล่ะ ความรัก " "แต่ทำไมความไม่หวังผลจึงช่วยฉันล่ะ " ความรู้ยิ้มในความรอบรู้ของตัวเอง แล้วตอบความรักกลับไปว่า "ก็เพราะว่ามีเพียงความไม่หวังผลตอบแทนเท่านั้นที่เข้าใจว่าการทำงานฟรีคือทางรอดของความรัก " ...จากหนังสือดอกบัวน้อย... :) :) :) ..... ;) ;)... ;D... หัวข้อ: Re: :) ความสุขเล็ก ๆ เริ่มหัวข้อโดย: TJ ^^ ที่ เมษายน 10, 2011, 06:15:34 AM ไม่ต้องเศร้าจ้า อกหักฟังเพลงนี้ เพลงโปรดของเราตอนอกหัก ^^
Videos Romanticos (Rod Stewart - Sailing) (http://www.youtube.com/watch?v=qnz7etZSYoI#ws) หัวข้อ: Re: :) ความสุขเล็ก ๆ เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กรกฎาคม 07, 2013, 07:46:08 PM การตายของยอดรัก...
"ในกรณีของยอดรัก สลักใจ เมื่อรู้ว่ามีเวลาเหลืออยู่ไม่มาก แทนที่เขาจะสู้กับความตายในห้องไอซียู ยอดรักตัดสินใจกลับไปยังห้องพักเพื่อใช้เวลาน้อยนิดนั้นกับครอบครัวอย่างสงบ" (http://photos-c.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/319469_274590539219366_5112608_a.jpg) แต่น่าเสียดายที่ความปรารถนาดังกล่าวของเขาดูจะไม่เป็นที่เข้าใจ หรือได้รับการตอบสนองจากมิตรสหาย เพราะปรากฏว่าห้องของเขานั้นเต็มไปด้วยผู้คน ในชีวิตนี้มีหลายสิ่งที่เราสามารถหนีห่างให้ไกลได้ แต่ก็มีอีกหลายอย่างที่เราไม่อาจหนีพ้น ในกรณีเช่นนั้นไม่มีอะไรที่ดีกว่าการเตรียมรับมือกับมันด้วยใจสงบ ความตายเป็นสิ่งหนึ่งที่ไม่มีใครหนีพ้น แต่คนจำนวนไม่น้อยกลับปฏิเสธ พยายามเบือนหน้าหนี ทำทีราวกับว่าตนจะอยู่อย่างเป็นอมตะ แม้เมื่อมันมาประชิดตัวก็ยังไม่ยอมรับความจริง คิดจะหนีต่อไปอีก ทั้ง ๆ ที่ในยามนี้สิ่งที่ควรทำเป็นอย่างแรก ก็คือ ยอมรับมันว่าเป็นความจริงที่จะต้องเกิดขึ้นกับตน การยอมรับเช่นนี้แหละคือ ขั้นตอนสำคัญที่สุดของของการเตรียมใจรับมือกับความตาย อีกทั้งเป็นเงื่อนไขประการแรกของการนำความสงบมาสู่จิตใจในยามวิกฤต 1.ยอดรัก สลักใจ เป็นผู้หนึ่งที่ยอมรับความจริงได้เมื่อรู้ว่าตนเองเป็นมะเร็งในขั้นร้ายแรง แทนที่จะเป็นทุกข์หรือตีโพยตีพายในชะตากรรม เขายังสามารถมองในแง่บวกว่า “โชคดีเสียอีกที่รู้วันตายของตัวเอง” เพราะมีคนจำนวนมากที่ไม่รู้ว่าจะต้องตายเมื่อใด แม้เขาอายุเพียง 52 ปี แต่เขาก็มองว่าตัวเอง “มีกำไรมากกว่าพ่อ” เพราะบิดาจากไปด้วยวัย 50 ปีเท่านั้น สำหรับคนที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย เขาน่าจะหวงแหนชีวิตเอาไว้จนถึงที่สุด แต่เมื่อรู้ว่าเป็นไปได้ยาก เขาก็ดูจะไม่อาลัยอาวรณ์ชีวิต กลับบอกว่า ตายเมื่อไรก็สบายเมื่อนั้น เพราะเขารู้ดีว่าชีวิตของคนเด่นดังนั้นก็เช่นเดียวกับคนทั่วไป ไม่ได้มีแต่สุขอย่างเดียว แต่ยังเต็มไปด้วยความทุกข์และภาระ แน่นอนหากเลือกได้ยอดรักย่อมเลือกที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป แต่เมื่อเลือกไม่ได้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ก็ควรหาประโยชน์จากมันให้ได้ อย่างน้อยก็มองให้ได้ว่ามันมีแง่ดีอย่างไรบ้าง ดีกว่าที่จะเห็นแต่ความเลวร้ายของมัน หรือมัวก่นด่าชะตากรรมและคร่ำครวญว่า “ทำไมถึงต้องเป็นฉัน” การทำเช่นนั้นมีแต่จะซ้ำเติมตัวเองให้ทุกข์ใจนอกเหนือจากทุกข์กาย ซึ่งก็มีมากอยู่แล้ว เพราะโรคภัยไข้เจ็บ มีหญิงสูงอายุผู้หนึ่งเข้าออกโรงพยาบาลอยู่เป็นประจำ โดยไม่รู้ว่าตนเป็นโรคอะไร แล้ววันหนึ่งหมอก็บอกอย่างไม่อ้อมค้อมว่า “ป้าเป็นมะเร็งตับนะ อยู่ได้ไม่เกิน 3 เดือน” ผู้ป่วยถึงกับตกตะลึง ไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน ปรากฏว่าเธออยู่ได้เพียง 12 วันก็ถึงแก่ความตาย สาเหตุที่เธอจากไปอย่างรวดเร็วเช่นนั้นไม่ใช่เพราะก้อนมะเร็งเป็นสำคัญ แต่เป็นเพราะใจที่ยอมรับความจริงไม่ได้ต่างหาก ที่ทำให้ร่างกายทรุดลงอย่างรวดเร็ว จนตายเร็วกว่าที่หมอพยากรณ์ 2.ยอดรักได้ใช้การรักษาหลายวิธี ทั้งสมุนไพรและการแพทย์แผนใหม่ เคยใช้วิธีเคมีบำบัด แต่ก็ต้องเลิกไป เพราะเจ้าตัวทนฤทธิ์และผลข้างเคียงไม่ไหว เมื่อร่างกายทรุดหนักก็ต้องเข้าโรงพยาบาล หมอก็ได้แต่รักษาตามอาการ ในที่สุดเมื่ออาการใกล้ขั้นวิกฤตจึงถูกนำเข้าห้องไอซียู แต่เมื่อรู้ว่ามะเร็งลุกลามอย่างหนักเกินกว่าจะเยียวยาได้แล้ว ยอดรักและครอบครัวได้ตัดสินใจที่จะไม่รับการรักษาใดๆ เพื่อยืดชีวิตอีกต่อไป ไม่ว่าด้วยการปั๊มหัวใจ ใช้กระแสไฟฟ้าช็อต หรือเจาะคอใส่ท่อช่วยหายใจ แม้ว่าชีพจรจะเต้นต่ำลง ก็จะไม่ให้มีการกระทำใดๆ กับยอดรักอีก หากแต่ให้เยียวยาตามอาการเท่านั้น ดังนั้นจึงมีการนำยอดรักออกจากห้องไอซียู เพื่อใช้เวลาช่วงสุดท้ายกับครอบครัวที่ห้องผู้ป่วย การตัดสินใจดังกล่าวของยอดรักและครอบครัว นับว่าทวนกระแสค่านิยมของผู้คนในสังคมปัจจุบัน ที่มักเรียกร้องให้ยื้อชีวิตผู้ป่วยด้วยเทคโนโลยีนานาชนิดจนถึงวินาทีสุดท้าย ผลก็คือห้องไอซียูกลายเป็นห้องจบชีวิตของคนเป็นอันมาก เกิดเป็นความเชื่อที่แพร่หลายว่า ถ้าผู้ป่วยไม่ได้ตายในห้องไอซียูถือว่าญาติไม่ได้ทำหน้าที่ของตนอย่างถึงที่สุด แต่หารู้ไม่ว่า การยื้อชีวิตผู้ป่วยเช่นนั้นอาจเป็นการสร้างความทุกข์ทรมานแก่ผู้ป่วย แทนที่จะเป็นการยืดชีวิตหรือต่อลมหายใจ กลับกลายเป็นการยืดกระบวนการตายให้ทอดยาวออกไป ซึ่งไม่เป็นผลดีทั้งต่อผู้ป่วยและญาติเอง การยื้อชีวิตผู้ป่วยเพื่อรอคอยการสะสางความในใจระหว่างผู้ป่วยกับญาติมิตร หรือเพื่อให้ผู้ป่วยได้พบกับใครบางคนที่มีความหมายต่อชีวิตของเขา (แม้เขาจะไม่รู้สึกตัวแล้ว แต่ก็ยังสามารถรับรู้ได้) ก่อนที่เขาจะสิ้นลมนั้นเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อจิตใจของผู้ป่วยก็จริง แต่การยื้อชีวิตของเขาเพียงเพราะญาติอยากให้เขามีลมหายใจนานที่สุด หรือเพียงเพื่อให้ญาติได้ชื่อว่าเป็นคนกตัญญูต่อผู้มีพระคุณนั้น อาจจะกลายเป็นการทำร้ายเขาโดยไม่รู้ตัว ไม่เพียงทำให้เขาทุกข์ทรมานขณะมีลมหายใจเท่านั้น แต่ยังอาจทำให้เขาไปสู่ทุคติได้ ในทางพุทธศาสนาถือว่าอาสันนกรรมหรือกรรมจวนเจียนนั้นสำคัญมาก สามารถส่งผลถึงภพภูมิข้างหน้าได้ หากจิตก่อนตายนั้นเป็นอกุศล เพราะถูกบีบคั้นด้วยความเจ็บปวดทุกข์ทรมาน (เช่นจากการแทรกแซงของเทคโนโลยีต่าง ๆ) ก็ย่อมเข้าสู่ทุคติภูมิได้เลยทันทีที่ตาย เรามักเข้าใจว่า การยื้อชีวิตผู้ป่วยด้วยเทคโนโลยีนานาชนิดในยามใกล้ตายนั้น เป็นวิธีการที่ดีที่สุดเท่าที่ญาติและหมอจะทำได้ แต่นั่นเป็นการมองเฉพาะในแง่กายภาพ ผู้ป่วยไม่ได้มีแต่กายเท่านั้น หากยังมีจิตใจด้วย ผู้คนส่วนใหญ่คิดแต่จะเยียวยากาย แต่กลับลืมจิตใจของผู้ป่วย ซึ่งก็ต้องการการดูแลรักษาเช่นเดียวกัน ในขณะที่ร่างกายของผู้ป่วยนั้น เมื่อมาถึงจุดหนึ่งก็ยากแก่การเยียวยาให้ดีขึ้นได้ แต่จิตใจของเขานั้นยังสามารถเยียวยาฟื้นฟูได้เสมอ แม้เขาจะอยู่ในภาวะโคม่าหรือไม่รู้สึกตัว (จากสายตาของเรา) แล้วก็ตาม แทนที่จะระดมเทคโนโลยีนานาชนิดเพื่อกระตุ้นสัญญาณชีพ เช่น ชีพจร การหายใจ การเต้นของหัวใจ ฯลฯ ทั้ง ๆ ที่ผู้ป่วยอยู่ในภาวะเกินกว่าจะรักษาได้แล้ว ไม่เป็นการดีกว่าหรือ หากเราจะใช้เวลาที่เหลืออยู่ช่วยให้เขาได้พบกับความสงบในจิตใจ ซึ่งเป็นสิ่งล้ำค่าที่สุดเท่าที่มนุษย์คนหนึ่งจะพึงได้รับในยามนี้ 3.มีผู้ป่วยคนหนึ่งซึ่งไตวายขณะที่อวัยวะส่วนอี่นทยอยเสียไปทีละส่วน ลูก ๆ ได้ขอร้องให้หมอทำทุกอย่างเพื่อยืดชีวิตของแม่ รวมทั้งการล้างไตอย่างต่อเนื่อง และหากหัวใจของแม่หยุดเต้น ก็ขอให้หมอปั๊มหัวใจแม่ขึ้นมา คุณหมอสุมาลี นิมมานนิตย์ ซึ่งเป็นเจ้าของไข้และผู้เชี่ยวชาญโรคไต เห็นว่าการทำเช่นนั้นนอกจากจะไม่ช่วยคนไข้แล้ว กลับก่อผลเสียต่ออวัยวะส่วนอื่น ๆ ของคนไข้ จึงแนะนำลูก ๆ ว่า ยังมีวิธีอื่นที่ดีกว่านั้นที่ลูก ๆ สามารถทำให้แก่แม่ได้ นั่นก็คือ ช่วยให้แม่ได้รับความสงบใจ เพราะความสงบใจในวาระสุดท้ายของชีวิตเป็นสิ่งสำคัญมาก คำแนะนำดังกล่าวทำให้ลูกๆ ได้คิด และหันไปใช้เวลาช่วงที่เหลือนั้นในการอยู่กับแม่ พูดคุยกับแม่ถึงสิ่งที่แม่ศรัทธาและการกระทำที่แม่ภาคภูมิใจ รวมทั้งพูดถึงความรู้สึกดี ๆ ที่ได้รับจากแม่ ในที่สุดลูก ๆ ก็มาบอกกับคุณหมอสุมาลีว่าหากแม่เป็นอะไรก็ไม่ต้องปั๊มหัวใจแม่แล้ว ผู้คนมักคิดแต่การยื้อชีวิตด้วยเทคโนโลยี นอกจากเป็นเพราะยอมรับความตายของผู้ป่วยไม่ได้แล้ว ยังเพราะคิดว่านั่นคือสิ่งเดียวที่ญาติสามารถทำได้ให้แก่ผู้ป่วย แต่หากญาติรู้ว่ามีวิธีอื่นที่ดีกว่านั้น ซึ่งตนสามารถทำได้ (และทำได้ดีกว่าหมอและพยาบาลด้วย) อันได้แก่การช่วยเหลือให้ผู้ป่วยได้รับความสงบทางจิตใจ การเรียกร้องให้พาผู้ป่วยเข้าห้องไอซียูสถานเดียว ก็จะกลายเป็นเรื่องรองไป แต่นั่นก็หมายความว่าญาติ ๆ ก็ต้องพร้อมจะให้เวลากับคนไข้ รวมทั้งศึกษาหาวิธีที่จะช่วยให้คนไข้มีใจที่สงบ เช่น การน้อมใจให้เขานึกถึงสิ่งดี ๆ ให้ความรักอย่างไม่มีเงื่อนไขแก่เขา ช่วยเขาปลดเปลื้องภาระหรือสิ่งค้างคาใจ และที่สำคัญไม่น้อยก็คือ การสร้างบรรยากาศแห่งความสงบ ในกรณีของยอดรัก สลักใจ เมื่อรู้ว่ามีเวลาเหลืออยู่ไม่มาก แทนที่เขาจะสู้กับความตายในห้องไอซียู ยอดรักตัดสินใจกลับไปยังห้องพัก เพื่อใช้เวลาน้อยนิดนั้นกับครอบครัวอย่างสงบ แต่น่าเสียดายที่ความปรารถนาดังกล่าวของเขาดูจะไม่เป็นที่เข้าใจ หรือได้รับการตอบสนองจากมิตรสหาย เพราะปรากฏว่าห้องของเขานั้นเต็มไปด้วยผู้คน ต่างพูดคุยสังสรรค์กัน บางคนถึงกับหัวเราะเป็นที่สนุกสนาน จนหมอเจ้าของไข้ต้องมาขอร้องผ่านสื่อมวลชน ขอให้เพื่อน ๆ อย่ารบกวนคนไข้ ควรให้คนไข้ได้ใช้เวลาที่ยังเหลืออยู่กับลูกและภรรยาให้มากที่สุด ไม่ว่าเสียงหัวเราะหรือร้องไห้ รวมทั้งเสียงพูดคุยโต้เถียงของญาติมิตรรอบเตียง ตลอดจนเสียงโทรทัศน์ที่ญาติดูในระหว่างเฝ้าไข้ ล้วนมีผลเสียต่อจิตใจของผู้ป่วยทั้งสิ้น ญาติมิตรควรช่วยกันสร้างบรรยากาศที่เอื้อให้ผู้ป่วยน้อมใจในทางกุศล ภาคภูมิใจในชีวิตที่ผ่านมา ไม่มีเรื่องติดค้างใจ และดียิ่งกว่านั้นคือมีสติที่รู้เท่าทันและยอมรับทุกขเวทนาได้ สภาพจิตดังกล่าวล้วนจำเป็นต่อการช่วยให้สามารถเผชิญความตายได้อย่างสงบ และยังสามารถทำให้นาทีสุดท้ายก่อนตายเป็น “นาทีทอง”ของชีวิต ดังคำของท่านอาจารย์พุทธทาสได้ 4.ความตายนั้นไม่ใช่เป็นสิ่งเลวร้ายไปเสียหมด มันเป็นวิกฤตก็จริง แต่ก็เป็นโอกาสได้เช่นกัน นั่นคือโอกาสที่จะเข้าถึงความสงบในจิตใจอันเกิดจากการปล่อยวาง และอาจทำให้เกิดความสว่างแห่งปัญญาได้ด้วยหากเห็นสัจธรรมจากความตายว่า สังขารทั้งหลายไม่มีอะไรที่น่ายึดถือได้สักอย่างเดียว ทุกอย่างล้วนเป็นทุกข์ จิตที่ปล่อยวางจากความยึดถือในสิ่งทั้งปวงย่อมบรรลุถึงธรรมขั้นสูง ชนิดที่สามารถอยู่เหนือทุกข์ทั้งปวง นี้คือสภาวะที่อยู่เหนือความตายอย่างแท้จริง แม้ว่าเรายังไม่สามารถพัฒนาจิตไปถึงขั้นนั้นได้ แต่หากเราเข้าใจความตายอย่างแท้จริง ก็จะรู้ว่าความตายไม่ใช่สิ่งน่ากลัว ความกลัวตายต่างหากที่น่ากลัวกว่าความตาย ความตายนั้นไม่จำเป็นต้องมาพร้อมกับความเศร้าโศก แต่สามารถเรียกน้ำตาแห่งความปลาบปลื้มปีติได้ หากเป็นการตายดี ผู้ป่วยคนหนึ่งเป็นมะเร็งเต้านม ต่อมาอาการลุกลาม ซ้ำยังมีโรคแทรกคือตับเป็นพิษ เมื่อรู้ว่าอาการหนัก เธอปฏิเสธการรักษา และกลับมาอยู่ที่บ้านเพราะต้องการใช้เวลาที่เหลืออยู่กับครอบครัวอย่างสงบ ทุกวันแม่และสามีกับลูก ๆ รวมทั้งพี่น้องมาเป็นกำลังใจให้เธอ ชวนเธอสวดมนต์ รำลึกถึงพระรัตนตรัย นั่งสมาธิ และถวาสังฆทาน วันสุดท้ายก่อนตายญาติได้ชวนเธอขอขมาซึ่งกันและกัน รวมทั้งขออโหสิกรรมจากเจ้ากรรมนายเวร ตลอด 7 วันเธอมีความรู้สึกตัวโดยตลอด วันสุดท้ายญาติ ๆ ได้พากันสวดมนต์ให้เธอเป็นภาษาจีนสั้น ๆ 1,000 จบ ระหว่างนั้นเธอยังรู้สึกตัวอยู่ แต่เมื่อสวดได้ถึง 600 จบ ก็พบว่าเธอสิ้นลมแล้ว เป็นการจากไปอย่างสงบราวกับใบไม้ปลิดจากขั้ว แต่ทุกคนก็สวดต่อจนจบครบพัน ถือว่าเป็นการให้ของขวัญสุดท้ายแก่เธอ การจากไปของเธอได้เรียกน้ำตาแห่งความปลาบปลื้มจากแม่ สามี ลูก ๆ และพี่น้อง เพราะดีใจที่เธอจากไปอย่างสงบ ไม่มีอาการแห่งความโศกเศร้า เพราะทุกคนรู้ว่าเธอไปดี ทุกคนสามารถตายดีและไปดีได้ทั้งนั้น ขอเพียงแต่พร้อมเผชิญความตายอย่างสงบ โดยไม่ต่อต้านขัดขืน หวาดกลัว หรือคิดแต่จะหนีความตายสถานเดียว เรื่อง : พระไพศาล วิสาโล (เครือข่ายพุทธิกา www.budnet.info (http://www.budnet.info) หัวข้อ: Re: :) ความสุขเล็ก ๆ เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กรกฎาคม 07, 2013, 07:48:37 PM หลักการเตรียมตัว เพื่อจากไปอย่างสงบ
(http://sphotos-g.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-prn2/p480x480/971481_619308078089264_924176715_n.jpg) คำถาม: มีหลักการอะไรบ้างที่ใช้เพื่อเตรียมตัวเพื่อให้จากไปอย่างสงบ คำตอบ: แบ่งเป็น ๒ ส่วน ภาวะปกติ คือ ในยามที่ไม่มีเรื่องเดือดร้อนในชีวิต ให้ทำความดีสม่ำเสมอ จะช่วยให้เราไม่ต้องเดือดร้อนใจเมื่อเกิดวิกฤติ หรือเวลาใกล้ตายก็ไม่มีอะไรที่ต้องเดือดเนื้อร้อนใจว่าเราได้ทำความชั่วหรือเบียดเบียนใคร และหมั่นเจริญมรณสติเสมอว่าความตาย เป็นของแน่นอน แต่เราไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไหร่ จะตายอย่างไร ที่ไหน ด้วยสาเหตุอะไร จึงต้องพิจารณาและเตรียมใจว่าความตายมาเยือนเราได้เสมอ หรืออาจพิจารณาความตายในสื่อให้มองว่ามันอาจเกิดขึ้นกับเราไม่วันใดก็วันหนึ่ง รวมทั้งเวลาไปเยี่ยมผู้ป่วย ไปงานศพ ก็ให้น้อมเข้ามาใส่ตัวว่าวันหนึ่งเราอาจเป็นอย่างเขา และคิดว่าถ้าจะเป็นหรือไม่เป็นอย่างเขาเราจะทำอย่างไร ให้เป็นการบ้านที่สอนใจเราอยู่ตลอด ภาวะไม่ปกติ คือ เวลาเจ็บป่วย พลัดพราก สูญเสีย ให้มองว่าความเจ็บปวด พลัดพราก สูญเสียนั้นเป็นการซักซ้อมของความตาย อย่าตีโพยตีพายหรือทุกข์กับมัน ควรรักษาใจให้เป็นปกติ ฝึกสติให้เห็นความเจ็บแต่ไม่ใช่ผู้เจ็บ จะทำให้เราแคล่วคล่องว่องไวเมื่อเผชิญความทุกข์ในวาระสุดท้ายได้ - See more at: http://www.budnet.org/sunset/node/87#sthash.djHu7x2T.dpuf (http://www.budnet.org/sunset/node/87#sthash.djHu7x2T.dpuf) |