Gold Price today, Gold Trend Price Prediction, ราคาทองคํา, วิเคราะห์ทิศทางทองคํา

คุยเรื่องธรรมะ ทําบุญ => ธรรม พาให้มีสุข => ข้อความที่เริ่มโดย: newa ที่ มีนาคม 04, 2010, 09:14:22 PM

Forex-Currency Trading-Swiss based forex related website. Home ----- กระดานสนทนาหน้าแรก ----- Gold Chart,Silver,Copper,Oil Chart ----- gold-trend-price-prediction ----- ติดต่อเรา

หัวข้อ: :) ความสุขเล็ก ๆ
เริ่มหัวข้อโดย: newa ที่ มีนาคม 04, 2010, 09:14:22 PM
เพียงแค่มีบางสิ่ง ชีวิตก็มีความหมาย...  

เราอาจจะหาความหมายของทุกสิ่งมาตลอดชีวิต
....แล้ววันหนึ่งเราก็พบว่า
เพียงแค่มีบางสิ่ง ชีวิตก็มีความหมายแล้ว...

มนุษย์เกิดขึ้นมาท่ามกลางความโดดเดี่ยว
พร้อมด้วยหัวใจคนละ 1 ดวง
เมื่อมนุษย์ 2 คนมาพบกัน เราจึงเรียนรู้ว่า
1 + 1 อาจจะยัง คงเท่ากับ 1
แต่ความโดดเดี่ยวนั้นหายไป

ที่เล็กๆ ขนาดไม่ใหญ่โตไปกว่ากำปั้น
ทำให้เราอยู่ด้วยกันบนโลกใบนี้
อวัยวะที่สะกดด้วยอักษรง่ายๆ
ใช้แทนคำว่า "รัก" ได้เป็นอย่างดี
นั่นก็คือ “หัวใจ”
ที่ๆ เมื่อมีใครสักคนอยู่ในนั้น
หัวใจจะเต้นด้วยจังหวะของความสุข

เราอาจจะหาความหมายของทุกสิ่งมาตลอดชีวิต
....แล้ววันหนึ่งเราก็พบว่า
เพียงแค่มี “รัก” ชีวิตก็มีความหมายแล้ว...  

 ;D ;D ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: :) ความสุขเล็ก ๆ
เริ่มหัวข้อโดย: cupid ที่ เมษายน 01, 2010, 10:00:05 PM
 *ellow_yellow_christmas_editio บางทีหัวจัยดวงเดียวก็ดีกว่านะฮะ เศร้าจัง สำหรับคนอกหัก  :'( :'( :'( :'( :'( :'( *ellow_yellow_christmas_editio


หัวข้อ: Re: :) ความสุขเล็ก ๆ
เริ่มหัวข้อโดย: newa ที่ เมษายน 09, 2010, 10:46:16 AM
 ;D   ;D   ยิ้มก่อนชม  ชมแล้วยิ้ม    ;) ;)

YouTube - Kseniya Simonova's Amazing Sand Drawing (http://www.youtube.com/watch_popup?v=vOhf3OvRXKg#)


หัวข้อ: Re: :) ความสุขเล็ก ๆ
เริ่มหัวข้อโดย: newa ที่ กรกฎาคม 15, 2010, 02:55:03 PM
 ;)   ;D  สวัสดีค่ะ

          วันนี้  มีเรื่องความรักกับการให้มาฝากค่ะ

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว...
มีเกาะแห่งหนึ่งซึ่งรวบรวมความรู้สึก
ทั้งหมดอาศัยอยู่ด้วยกัน  ความสุข  ความเศร้า  ความรู้  ความรวย  และอื่น ๆ รวมทั้งความรัก

วันหนึ่ง...
มีประกาศไปยังความรู้สึกทั้งหมดว่า
เกาะกำลังจะจม  ดังนั้น  ทั้งหมดจึงได้เตรียมเรือเพื่อที่จะหนีออกไปจากเกาะ

ความรัก  เท่านั้นที่ตัดสินใจอยู่บนเกาะ
ความรักต้องการที่จะอยู่จนกระทั่งวินาทีสุดท้าย

เมื่อเกาะเกือบจะจมแล้ว
ความรักจึงตัดสินใจขอความช่วยเหลือ...

ความรวย  แล่นเรือผ่าน
ความรวยตอบว่า  " ไม่ได้หรอก  ฉันรับเธอไม่ได้  เพราะเรือฉันน่ะเต็มไปด้วยเงินและทองแล้ว  มันไม่มีที่ให้คุณ "

ความรักตัดสินใจจะถาม  ความเห็นแก่ตัว    ซึ่งผ่านมาเหมือนกันด้วยเรือลำงาม
"ความเห็นแก่ตัวช่วยฉันด้วย "
"ฉันช่วยคุณไม่ได้หรอก  ความรักคุณน่ะทั้งเปียก  อาจจะทำให้เรือฉันเปียกด้วย"

ความเศร้า   ได้พายเรือใกล้เข้ามา 
ความรักก็ได้เอ่ยขอความช่วยเหลืออีก
"ความเศร้าอนุญาตให้ฉันขึ้นเรือคุณด้วยนะ "
"โอ้ความรักฉันกำลังเศร้ามากเลย  ฉันต้องการอยู่คนเดียว  ขอโทษนะ "

ความสุข  ได้ผ่านความรักไปเหมือนกัน 
แต่เขาไม่ได้ยินแม้แต่เสียงเรียกขอความช่วยเหลือของความรัก  เพราะว่ามัวแต่กำลังสุข

ทันใดนั้น  มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา 
" มานี่ความรักฉันจะรับคุณไปเอง "
เสียงนั้นเป็นเสียงของคนแก่คนหนึ่ง
ความรักรู้สึกขอบคุณและดีใจเป็นอย่างยิ่ง  จนลืมถามชื่อว่า  ใครคือผู้ใจดีผู้นั้น
เมื่อพวกเขามาถึงแผ่นดินที่แห้งคนแก่ก็จากไปตามทางของเขา 
ความรักนึกขึ้นได้ว่าลืมถามชื่อชายแก่คนนั้น 

ความรักจึงไปถาม  ความรู้
"ใครเหรอที่เป็นคนช่วยฉัน "
ความรู้ตอบว่า  " ความไม่หวังผลไงล่ะ  ความรัก "
"แต่ทำไมความไม่หวังผลจึงช่วยฉันล่ะ "
ความรู้ยิ้มในความรอบรู้ของตัวเอง  แล้วตอบความรักกลับไปว่า
"ก็เพราะว่ามีเพียงความไม่หวังผลตอบแทนเท่านั้นที่เข้าใจว่าการทำงานฟรีคือทางรอดของความรัก "

...จากหนังสือดอกบัวน้อย... :) :) :) ..... ;) ;)... ;D...







หัวข้อ: Re: :) ความสุขเล็ก ๆ
เริ่มหัวข้อโดย: TJ ^^ ที่ เมษายน 10, 2011, 06:15:34 AM
ไม่ต้องเศร้าจ้า อกหักฟังเพลงนี้ เพลงโปรดของเราตอนอกหัก ^^

Videos Romanticos (Rod Stewart - Sailing) (http://www.youtube.com/watch?v=qnz7etZSYoI#ws)


หัวข้อ: Re: :) ความสุขเล็ก ๆ
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กรกฎาคม 07, 2013, 07:46:08 PM
การตายของยอดรัก...

"ในกรณีของยอดรัก สลักใจ เมื่อรู้ว่ามีเวลาเหลืออยู่ไม่มาก
แทนที่เขาจะสู้กับความตายในห้องไอซียู
ยอดรักตัดสินใจกลับไปยังห้องพักเพื่อใช้เวลาน้อยนิดนั้นกับครอบครัวอย่างสงบ"




(http://photos-c.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/319469_274590539219366_5112608_a.jpg)

แต่น่าเสียดายที่ความปรารถนาดังกล่าวของเขาดูจะไม่เป็นที่เข้าใจ
หรือได้รับการตอบสนองจากมิตรสหาย เพราะปรากฏว่าห้องของเขานั้นเต็มไปด้วยผู้คน

ในชีวิตนี้มีหลายสิ่งที่เราสามารถหนีห่างให้ไกลได้ แต่ก็มีอีกหลายอย่างที่เราไม่อาจหนีพ้น ในกรณีเช่นนั้นไม่มีอะไรที่ดีกว่าการเตรียมรับมือกับมันด้วยใจสงบ ความตายเป็นสิ่งหนึ่งที่ไม่มีใครหนีพ้น แต่คนจำนวนไม่น้อยกลับปฏิเสธ พยายามเบือนหน้าหนี ทำทีราวกับว่าตนจะอยู่อย่างเป็นอมตะ แม้เมื่อมันมาประชิดตัวก็ยังไม่ยอมรับความจริง คิดจะหนีต่อไปอีก

ทั้ง ๆ ที่ในยามนี้สิ่งที่ควรทำเป็นอย่างแรก ก็คือ ยอมรับมันว่าเป็นความจริงที่จะต้องเกิดขึ้นกับตน การยอมรับเช่นนี้แหละคือ ขั้นตอนสำคัญที่สุดของของการเตรียมใจรับมือกับความตาย อีกทั้งเป็นเงื่อนไขประการแรกของการนำความสงบมาสู่จิตใจในยามวิกฤต

1.ยอดรัก สลักใจ เป็นผู้หนึ่งที่ยอมรับความจริงได้เมื่อรู้ว่าตนเองเป็นมะเร็งในขั้นร้ายแรง แทนที่จะเป็นทุกข์หรือตีโพยตีพายในชะตากรรม เขายังสามารถมองในแง่บวกว่า
“โชคดีเสียอีกที่รู้วันตายของตัวเอง” เพราะมีคนจำนวนมากที่ไม่รู้ว่าจะต้องตายเมื่อใด
แม้เขาอายุเพียง 52 ปี แต่เขาก็มองว่าตัวเอง “มีกำไรมากกว่าพ่อ” เพราะบิดาจากไปด้วยวัย 50 ปีเท่านั้น

สำหรับคนที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย เขาน่าจะหวงแหนชีวิตเอาไว้จนถึงที่สุด
แต่เมื่อรู้ว่าเป็นไปได้ยาก เขาก็ดูจะไม่อาลัยอาวรณ์ชีวิต กลับบอกว่า ตายเมื่อไรก็สบายเมื่อนั้น
เพราะเขารู้ดีว่าชีวิตของคนเด่นดังนั้นก็เช่นเดียวกับคนทั่วไป ไม่ได้มีแต่สุขอย่างเดียว
แต่ยังเต็มไปด้วยความทุกข์และภาระ

แน่นอนหากเลือกได้ยอดรักย่อมเลือกที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป แต่เมื่อเลือกไม่ได้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
ก็ควรหาประโยชน์จากมันให้ได้ อย่างน้อยก็มองให้ได้ว่ามันมีแง่ดีอย่างไรบ้าง
ดีกว่าที่จะเห็นแต่ความเลวร้ายของมัน หรือมัวก่นด่าชะตากรรมและคร่ำครวญว่า
“ทำไมถึงต้องเป็นฉัน” การทำเช่นนั้นมีแต่จะซ้ำเติมตัวเองให้ทุกข์ใจนอกเหนือจากทุกข์กาย
ซึ่งก็มีมากอยู่แล้ว เพราะโรคภัยไข้เจ็บ

มีหญิงสูงอายุผู้หนึ่งเข้าออกโรงพยาบาลอยู่เป็นประจำ โดยไม่รู้ว่าตนเป็นโรคอะไร
แล้ววันหนึ่งหมอก็บอกอย่างไม่อ้อมค้อมว่า “ป้าเป็นมะเร็งตับนะ อยู่ได้ไม่เกิน 3 เดือน”
ผู้ป่วยถึงกับตกตะลึง ไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน ปรากฏว่าเธออยู่ได้เพียง 12 วันก็ถึงแก่ความตาย
สาเหตุที่เธอจากไปอย่างรวดเร็วเช่นนั้นไม่ใช่เพราะก้อนมะเร็งเป็นสำคัญ
แต่เป็นเพราะใจที่ยอมรับความจริงไม่ได้ต่างหาก ที่ทำให้ร่างกายทรุดลงอย่างรวดเร็ว
จนตายเร็วกว่าที่หมอพยากรณ์

2.ยอดรักได้ใช้การรักษาหลายวิธี ทั้งสมุนไพรและการแพทย์แผนใหม่
เคยใช้วิธีเคมีบำบัด แต่ก็ต้องเลิกไป เพราะเจ้าตัวทนฤทธิ์และผลข้างเคียงไม่ไหว
เมื่อร่างกายทรุดหนักก็ต้องเข้าโรงพยาบาล หมอก็ได้แต่รักษาตามอาการ
ในที่สุดเมื่ออาการใกล้ขั้นวิกฤตจึงถูกนำเข้าห้องไอซียู

แต่เมื่อรู้ว่ามะเร็งลุกลามอย่างหนักเกินกว่าจะเยียวยาได้แล้ว
ยอดรักและครอบครัวได้ตัดสินใจที่จะไม่รับการรักษาใดๆ เพื่อยืดชีวิตอีกต่อไป
ไม่ว่าด้วยการปั๊มหัวใจ ใช้กระแสไฟฟ้าช็อต หรือเจาะคอใส่ท่อช่วยหายใจ
แม้ว่าชีพจรจะเต้นต่ำลง ก็จะไม่ให้มีการกระทำใดๆ กับยอดรักอีก
หากแต่ให้เยียวยาตามอาการเท่านั้น ดังนั้นจึงมีการนำยอดรักออกจากห้องไอซียู
เพื่อใช้เวลาช่วงสุดท้ายกับครอบครัวที่ห้องผู้ป่วย

การตัดสินใจดังกล่าวของยอดรักและครอบครัว
นับว่าทวนกระแสค่านิยมของผู้คนในสังคมปัจจุบัน
ที่มักเรียกร้องให้ยื้อชีวิตผู้ป่วยด้วยเทคโนโลยีนานาชนิดจนถึงวินาทีสุดท้าย
ผลก็คือห้องไอซียูกลายเป็นห้องจบชีวิตของคนเป็นอันมาก
เกิดเป็นความเชื่อที่แพร่หลายว่า
ถ้าผู้ป่วยไม่ได้ตายในห้องไอซียูถือว่าญาติไม่ได้ทำหน้าที่ของตนอย่างถึงที่สุด

แต่หารู้ไม่ว่า การยื้อชีวิตผู้ป่วยเช่นนั้นอาจเป็นการสร้างความทุกข์ทรมานแก่ผู้ป่วย
แทนที่จะเป็นการยืดชีวิตหรือต่อลมหายใจ
กลับกลายเป็นการยืดกระบวนการตายให้ทอดยาวออกไป
ซึ่งไม่เป็นผลดีทั้งต่อผู้ป่วยและญาติเอง

การยื้อชีวิตผู้ป่วยเพื่อรอคอยการสะสางความในใจระหว่างผู้ป่วยกับญาติมิตร
หรือเพื่อให้ผู้ป่วยได้พบกับใครบางคนที่มีความหมายต่อชีวิตของเขา
(แม้เขาจะไม่รู้สึกตัวแล้ว แต่ก็ยังสามารถรับรู้ได้)
ก่อนที่เขาจะสิ้นลมนั้นเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อจิตใจของผู้ป่วยก็จริง
แต่การยื้อชีวิตของเขาเพียงเพราะญาติอยากให้เขามีลมหายใจนานที่สุด
หรือเพียงเพื่อให้ญาติได้ชื่อว่าเป็นคนกตัญญูต่อผู้มีพระคุณนั้น
อาจจะกลายเป็นการทำร้ายเขาโดยไม่รู้ตัว ไม่เพียงทำให้เขาทุกข์ทรมานขณะมีลมหายใจเท่านั้น
แต่ยังอาจทำให้เขาไปสู่ทุคติได้

ในทางพุทธศาสนาถือว่าอาสันนกรรมหรือกรรมจวนเจียนนั้นสำคัญมาก
สามารถส่งผลถึงภพภูมิข้างหน้าได้ หากจิตก่อนตายนั้นเป็นอกุศล
เพราะถูกบีบคั้นด้วยความเจ็บปวดทุกข์ทรมาน
(เช่นจากการแทรกแซงของเทคโนโลยีต่าง ๆ) ก็ย่อมเข้าสู่ทุคติภูมิได้เลยทันทีที่ตาย

เรามักเข้าใจว่า การยื้อชีวิตผู้ป่วยด้วยเทคโนโลยีนานาชนิดในยามใกล้ตายนั้น
เป็นวิธีการที่ดีที่สุดเท่าที่ญาติและหมอจะทำได้
แต่นั่นเป็นการมองเฉพาะในแง่กายภาพ ผู้ป่วยไม่ได้มีแต่กายเท่านั้น
หากยังมีจิตใจด้วย ผู้คนส่วนใหญ่คิดแต่จะเยียวยากาย แต่กลับลืมจิตใจของผู้ป่วย
ซึ่งก็ต้องการการดูแลรักษาเช่นเดียวกัน

ในขณะที่ร่างกายของผู้ป่วยนั้น เมื่อมาถึงจุดหนึ่งก็ยากแก่การเยียวยาให้ดีขึ้นได้
แต่จิตใจของเขานั้นยังสามารถเยียวยาฟื้นฟูได้เสมอ แม้เขาจะอยู่ในภาวะโคม่าหรือไม่รู้สึกตัว
(จากสายตาของเรา) แล้วก็ตาม แทนที่จะระดมเทคโนโลยีนานาชนิดเพื่อกระตุ้นสัญญาณชีพ
เช่น ชีพจร การหายใจ การเต้นของหัวใจ ฯลฯ

ทั้ง ๆ ที่ผู้ป่วยอยู่ในภาวะเกินกว่าจะรักษาได้แล้ว ไม่เป็นการดีกว่าหรือ
หากเราจะใช้เวลาที่เหลืออยู่ช่วยให้เขาได้พบกับความสงบในจิตใจ
ซึ่งเป็นสิ่งล้ำค่าที่สุดเท่าที่มนุษย์คนหนึ่งจะพึงได้รับในยามนี้

3.มีผู้ป่วยคนหนึ่งซึ่งไตวายขณะที่อวัยวะส่วนอี่นทยอยเสียไปทีละส่วน ลูก ๆ
ได้ขอร้องให้หมอทำทุกอย่างเพื่อยืดชีวิตของแม่ รวมทั้งการล้างไตอย่างต่อเนื่อง
และหากหัวใจของแม่หยุดเต้น ก็ขอให้หมอปั๊มหัวใจแม่ขึ้นมา

คุณหมอสุมาลี นิมมานนิตย์ ซึ่งเป็นเจ้าของไข้และผู้เชี่ยวชาญโรคไต
เห็นว่าการทำเช่นนั้นนอกจากจะไม่ช่วยคนไข้แล้ว
กลับก่อผลเสียต่ออวัยวะส่วนอื่น ๆ ของคนไข้ จึงแนะนำลูก ๆ ว่า
ยังมีวิธีอื่นที่ดีกว่านั้นที่ลูก ๆ สามารถทำให้แก่แม่ได้ นั่นก็คือ ช่วยให้แม่ได้รับความสงบใจ

เพราะความสงบใจในวาระสุดท้ายของชีวิตเป็นสิ่งสำคัญมาก
คำแนะนำดังกล่าวทำให้ลูกๆ ได้คิด และหันไปใช้เวลาช่วงที่เหลือนั้นในการอยู่กับแม่
พูดคุยกับแม่ถึงสิ่งที่แม่ศรัทธาและการกระทำที่แม่ภาคภูมิใจ รวมทั้งพูดถึงความรู้สึกดี ๆ
ที่ได้รับจากแม่ ในที่สุดลูก ๆ ก็มาบอกกับคุณหมอสุมาลีว่าหากแม่เป็นอะไรก็ไม่ต้องปั๊มหัวใจแม่แล้ว

ผู้คนมักคิดแต่การยื้อชีวิตด้วยเทคโนโลยี นอกจากเป็นเพราะยอมรับความตายของผู้ป่วยไม่ได้แล้ว
ยังเพราะคิดว่านั่นคือสิ่งเดียวที่ญาติสามารถทำได้ให้แก่ผู้ป่วย
แต่หากญาติรู้ว่ามีวิธีอื่นที่ดีกว่านั้น ซึ่งตนสามารถทำได้
(และทำได้ดีกว่าหมอและพยาบาลด้วย) อันได้แก่การช่วยเหลือให้ผู้ป่วยได้รับความสงบทางจิตใจ

การเรียกร้องให้พาผู้ป่วยเข้าห้องไอซียูสถานเดียว ก็จะกลายเป็นเรื่องรองไป
แต่นั่นก็หมายความว่าญาติ ๆ ก็ต้องพร้อมจะให้เวลากับคนไข้
รวมทั้งศึกษาหาวิธีที่จะช่วยให้คนไข้มีใจที่สงบ เช่น การน้อมใจให้เขานึกถึงสิ่งดี ๆ
ให้ความรักอย่างไม่มีเงื่อนไขแก่เขา ช่วยเขาปลดเปลื้องภาระหรือสิ่งค้างคาใจ
และที่สำคัญไม่น้อยก็คือ การสร้างบรรยากาศแห่งความสงบ

ในกรณีของยอดรัก สลักใจ เมื่อรู้ว่ามีเวลาเหลืออยู่ไม่มาก
แทนที่เขาจะสู้กับความตายในห้องไอซียู ยอดรักตัดสินใจกลับไปยังห้องพัก
เพื่อใช้เวลาน้อยนิดนั้นกับครอบครัวอย่างสงบ

แต่น่าเสียดายที่ความปรารถนาดังกล่าวของเขาดูจะไม่เป็นที่เข้าใจ
หรือได้รับการตอบสนองจากมิตรสหาย เพราะปรากฏว่าห้องของเขานั้นเต็มไปด้วยผู้คน
ต่างพูดคุยสังสรรค์กัน บางคนถึงกับหัวเราะเป็นที่สนุกสนาน
จนหมอเจ้าของไข้ต้องมาขอร้องผ่านสื่อมวลชน ขอให้เพื่อน ๆ
อย่ารบกวนคนไข้ ควรให้คนไข้ได้ใช้เวลาที่ยังเหลืออยู่กับลูกและภรรยาให้มากที่สุด

ไม่ว่าเสียงหัวเราะหรือร้องไห้ รวมทั้งเสียงพูดคุยโต้เถียงของญาติมิตรรอบเตียง
ตลอดจนเสียงโทรทัศน์ที่ญาติดูในระหว่างเฝ้าไข้ ล้วนมีผลเสียต่อจิตใจของผู้ป่วยทั้งสิ้น
ญาติมิตรควรช่วยกันสร้างบรรยากาศที่เอื้อให้ผู้ป่วยน้อมใจในทางกุศล
ภาคภูมิใจในชีวิตที่ผ่านมา ไม่มีเรื่องติดค้างใจ
และดียิ่งกว่านั้นคือมีสติที่รู้เท่าทันและยอมรับทุกขเวทนาได้

สภาพจิตดังกล่าวล้วนจำเป็นต่อการช่วยให้สามารถเผชิญความตายได้อย่างสงบ
และยังสามารถทำให้นาทีสุดท้ายก่อนตายเป็น “นาทีทอง”ของชีวิต
ดังคำของท่านอาจารย์พุทธทาสได้

4.ความตายนั้นไม่ใช่เป็นสิ่งเลวร้ายไปเสียหมด มันเป็นวิกฤตก็จริง
แต่ก็เป็นโอกาสได้เช่นกัน นั่นคือโอกาสที่จะเข้าถึงความสงบในจิตใจอันเกิดจากการปล่อยวาง
และอาจทำให้เกิดความสว่างแห่งปัญญาได้ด้วยหากเห็นสัจธรรมจากความตายว่า
สังขารทั้งหลายไม่มีอะไรที่น่ายึดถือได้สักอย่างเดียว ทุกอย่างล้วนเป็นทุกข์
จิตที่ปล่อยวางจากความยึดถือในสิ่งทั้งปวงย่อมบรรลุถึงธรรมขั้นสูง
ชนิดที่สามารถอยู่เหนือทุกข์ทั้งปวง นี้คือสภาวะที่อยู่เหนือความตายอย่างแท้จริง

แม้ว่าเรายังไม่สามารถพัฒนาจิตไปถึงขั้นนั้นได้ แต่หากเราเข้าใจความตายอย่างแท้จริง
ก็จะรู้ว่าความตายไม่ใช่สิ่งน่ากลัว ความกลัวตายต่างหากที่น่ากลัวกว่าความตาย
ความตายนั้นไม่จำเป็นต้องมาพร้อมกับความเศร้าโศก
แต่สามารถเรียกน้ำตาแห่งความปลาบปลื้มปีติได้ หากเป็นการตายดี

ผู้ป่วยคนหนึ่งเป็นมะเร็งเต้านม ต่อมาอาการลุกลาม
ซ้ำยังมีโรคแทรกคือตับเป็นพิษ เมื่อรู้ว่าอาการหนัก เธอปฏิเสธการรักษา
และกลับมาอยู่ที่บ้านเพราะต้องการใช้เวลาที่เหลืออยู่กับครอบครัวอย่างสงบ
ทุกวันแม่และสามีกับลูก ๆ รวมทั้งพี่น้องมาเป็นกำลังใจให้เธอ ชวนเธอสวดมนต์ รำลึกถึงพระรัตนตรัย
นั่งสมาธิ และถวาสังฆทาน วันสุดท้ายก่อนตายญาติได้ชวนเธอขอขมาซึ่งกันและกัน

รวมทั้งขออโหสิกรรมจากเจ้ากรรมนายเวร ตลอด 7 วันเธอมีความรู้สึกตัวโดยตลอด
วันสุดท้ายญาติ ๆ ได้พากันสวดมนต์ให้เธอเป็นภาษาจีนสั้น ๆ 1,000 จบ ระหว่างนั้นเธอยังรู้สึกตัวอยู่
แต่เมื่อสวดได้ถึง 600 จบ ก็พบว่าเธอสิ้นลมแล้ว
เป็นการจากไปอย่างสงบราวกับใบไม้ปลิดจากขั้ว
แต่ทุกคนก็สวดต่อจนจบครบพัน ถือว่าเป็นการให้ของขวัญสุดท้ายแก่เธอ

การจากไปของเธอได้เรียกน้ำตาแห่งความปลาบปลื้มจากแม่ สามี ลูก ๆ และพี่น้อง
เพราะดีใจที่เธอจากไปอย่างสงบ ไม่มีอาการแห่งความโศกเศร้า เพราะทุกคนรู้ว่าเธอไปดี

ทุกคนสามารถตายดีและไปดีได้ทั้งนั้น ขอเพียงแต่พร้อมเผชิญความตายอย่างสงบ
โดยไม่ต่อต้านขัดขืน หวาดกลัว หรือคิดแต่จะหนีความตายสถานเดียว

เรื่อง : พระไพศาล วิสาโล (เครือข่ายพุทธิกา www.budnet.info (http://www.budnet.info)


หัวข้อ: Re: :) ความสุขเล็ก ๆ
เริ่มหัวข้อโดย: jainu ที่ กรกฎาคม 07, 2013, 07:48:37 PM
หลักการเตรียมตัว เพื่อจากไปอย่างสงบ

(http://sphotos-g.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-prn2/p480x480/971481_619308078089264_924176715_n.jpg)


 คำถาม: มีหลักการอะไรบ้างที่ใช้เพื่อเตรียมตัวเพื่อให้จากไปอย่างสงบ
คำตอบ: แบ่งเป็น ๒ ส่วน
ภาวะปกติ คือ ในยามที่ไม่มีเรื่องเดือดร้อนในชีวิต ให้ทำความดีสม่ำเสมอ
จะช่วยให้เราไม่ต้องเดือดร้อนใจเมื่อเกิดวิกฤติ หรือเวลาใกล้ตายก็ไม่มีอะไรที่ต้องเดือดเนื้อร้อนใจว่าเราได้ทำความชั่วหรือเบียดเบียนใคร และหมั่นเจริญมรณสติเสมอว่าความตาย
เป็นของแน่นอน แต่เราไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไหร่ จะตายอย่างไร ที่ไหน ด้วยสาเหตุอะไร จึงต้องพิจารณาและเตรียมใจว่าความตายมาเยือนเราได้เสมอ
หรืออาจพิจารณาความตายในสื่อให้มองว่ามันอาจเกิดขึ้นกับเราไม่วันใดก็วันหนึ่ง
รวมทั้งเวลาไปเยี่ยมผู้ป่วย ไปงานศพ ก็ให้น้อมเข้ามาใส่ตัวว่าวันหนึ่งเราอาจเป็นอย่างเขา
และคิดว่าถ้าจะเป็นหรือไม่เป็นอย่างเขาเราจะทำอย่างไร ให้เป็นการบ้านที่สอนใจเราอยู่ตลอด

ภาวะไม่ปกติ คือ เวลาเจ็บป่วย พลัดพราก สูญเสีย ให้มองว่าความเจ็บปวด พลัดพราก
สูญเสียนั้นเป็นการซักซ้อมของความตาย อย่าตีโพยตีพายหรือทุกข์กับมัน
ควรรักษาใจให้เป็นปกติ ฝึกสติให้เห็นความเจ็บแต่ไม่ใช่ผู้เจ็บ
จะทำให้เราแคล่วคล่องว่องไวเมื่อเผชิญความทุกข์ในวาระสุดท้ายได้

- See more at: http://www.budnet.org/sunset/node/87#sthash.djHu7x2T.dpuf (http://www.budnet.org/sunset/node/87#sthash.djHu7x2T.dpuf)