พิธีศพที่เลือนหาย ในยุคนี้ที่ความเชื่อไม่ค่อยมีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตขอ งคนไทยมากมายเหมือน เมื่อก่อนพิธีกรรมต่าง ๆ ที่คนโบราณเคยถือปฏิบัติกันมา ก็ดูเหมือนจะถูกกลืนหายไปกับกาลเวลาทุกวัน ทุกวัน
ด้วยความคิดของคนที่เปลี่ยนไป และเห็นว่าพิธีกรรมเดิม ๆ ที่เคยทำกันมานั้น
แสนจะยุ่งยากมากความซะเหลือเกิน
และพิธีกรรมเกี่ยวกับการทำศพก็คงเป็นหนึ่งในนั้นนั่น แหละค่ะ
เพราะสมัยนี้เวลามีคนตายเมื่อไหร่.. วัด ก็ดูเหมือนจะเป็นสถานที่ที่รับหน้าที่ทำศพไปอย่างไม่ ต้องสงสัย
อ๊ะ แต่อย่าได้เอาไปเทียบกับสมัยก่อนเชียวนะคุณ ๆ เพราะสำหรับคนโบราณแล้ว
กว่าจะถึงขั้นตอนการเผาศพหรือฝังศพได้เนี่ย ก็ต้องทำนู่นนี่อีรุงตุงนังมากมายเลยทีเดียวค่ะ
แต่ขั้นตอนของการทำศพในสมัยก่อนจะต้องทำอะไรบ้างก่อน หลัง คงไม่ขอพูดถึงดีกว่า
เพราะมันคงยาวยืดไปหลายตอนเลยทีเดียว.. เอาเป็นว่าเอนทรี่นี้
ขอหยิบยกเรื่องราวเกี่ยวกับการทำศพของคนสมัยก่อน
ที่ไม่มีให้เห็นแล้วในสมัยนี้มาเล่าให้เด็กสมัยใหม่ฟ ังกันดีกว่า
ว่าแล้วก็ไปดูกันว่า พิธีกรรมการทำศพที่เลือนหายไปแล้วน่ะมีอะไรบ้าง
1. เงินปากผี สมัยก่อนคนโบราณจะนำเงินพดด้วงผูกเชือกใส่ไว้ในปากศพ ด้วยความเชื่ออยู่ 3 อย่างค่ะ
หนึ่ง คือ เป็นปริศนาธรรมว่าคนตายไปแล้ว แม้แต่เงินทองก็เอาไปไม่ได้
สอง คือ เป็นค่าจ้างให้กับสัปเหร่อ เพราะเจ้าภาพต้องวุ่นอยู่กับการต้อนรับแขก
ไม่มีเวลาเอามาให้สัปเหร่อโดยตรง เลยเอาเงินค่าจ้างใส่ปากศพไว้ให้สัปเหร่อล้วงเอาไปนั ่นแหละ
สาม คือ เป็นค่าจ้างสำหรับผู้นำดวงวิญญาณของคนตายไปสู่โลกของ วิญญาณ
2. หมากปากผี คนโบราณจะตำหมากใส่ปากศพเพื่อเป็นปริศนาธรรมว่า
นอกจากคนตายจะเอาทรัพย์สินไปไม่ได้แล้ว แม้แต่หมากที่คนโบราณชอบเคี้ยวกันทุกวัน
พอตายไป ต่อให้ป้อนให้ก็ไม่สามารถเคี้ยวได้อีกต่อไปเหมือนกัน
3. อาบน้ำศพ คำว่าอาบน้ำศพของคนโบราณ คือการอาบน้ำทั้งตัวเลยค่ะ โดยจะต้มน้ำ
แล้วใส่สมุนไพรต่าง ๆ ลงไป จากนั้นรอให้น้ำอุ่นก่อนค่อยเอามาอาบน้ำให้ศพ
แล้วค่อยอาบด้วยน้ำเย็นอีกครั้ง ก่อนฟอกด้วยขมิ้นชันเป็นอันเสร็จพิธี
ส่วนพิธีรดน้ำที่มือศพที่หลายคนเรียกกันว่าอาบน้ำศพใ นสมัยนี้ ต้องเรียกว่า รดน้ำศพ ถึงจะถูกค่ะ
4. ประตูป่า ก็ คือประตูที่ทำเพื่อเอาศพออกโดยเฉพาะ ซึ่งสมัยก่อนคนโบราณจะรื้อฝาบ้านแล้วเอากิ่งไม้มาปัก ไว้แล้วรวบเป็นซุ้ม แล้วค่อยนำศพออกจากบ้าน โดยเอาปลายเท้าศพออกก่อน เพื่อไม่ให้ศพเห็นบ้านได้ ซึ่งพอเอาศพออกไปแล้ว เค้าก็จะรื้อประตูป่าทิ้งทันที แล้วปิดฝาบ้านที่ทำแบบนี้ เพราะเชื่อว่าวิญญาณคนตายจะหาทางเข้าบ้านไม่ได้นั่นเ อง(สมัยนี้ จะให้ทุบกำแพงบ้านที่เป็นปูนก็กระไรอยู่.. ก็มันไม่ได้ทำด้วยไม้เหมือนแต่ก่อนนี่หว่า)
5. บันไดผี นอกจากศพจะออกทางประตูไม่ได้แล้ว ยังลงบันไดเดียวกับคนเป็นไม่ได้ด้วยค่ะดังนั้นเมื่อเ อาศพออกจากบ้านแล้ว ต้องทำบันไดชั่วคราวไว้สำหรับขนศพลง
พอขนศพลงปุ๊บ ก็รื้อบันไดออกทันที ด้วยความเชื่อเดียวกันว่า จะทำให้วิญญาณกลับบ้านไม่ได้ให้ไปอยู่ในโลกของวิญญาณ ไม่ต้องห่วงลูกห่วงอะไรทางโลกคนเป็นอีก
6. บอกทางวิญญาณ เป็น พิธีที่ทำขณะขนศพไปวัด โดยญาติจะบอกทางกับศพไปตลอดทางว่าเลี้ยวซ้ายนะ เลี้ยวขวาแล้วนะ เพื่อให้วิญญาณตามศพไปค่ะ พิธีนี้แนนยังเห็นเค้าทำกันอยู่บ้างแถบภาคอีสานค่ะ
7. ซัดข้าวสาร ปัดเสนีดจัญไร สมัยโบราณตอนเอาศพออกจากบ้าน ถือว่าต้องปัดความอัปมงคลออกจากบ้านด้วยการซัดข้าวสา รพร้อมคาถา เพื่อให้ความอัปมงคลจากไปพร้อมกับศพค่ะ
8. โปรยข้าวสารตอก ขณะ เคลื่อนศพไปวัด คนโบราณจะโปรยข้าวสารตอกเป็นปริศนาธรรมให้กับคนเป็นว ่า คนเราตายแล้วไม่ฟื้น ก็เหมือนข้าวสารตอกที่โปรยลงดินแล้วไม่งอกขึ้นได้นั่ นแหละ
9. จุดเทียนขี้ผึ้ง แต่ก่อนพอคนตายแล้ว ยังไม่มีอะไรมายืนยันได้ว่าตายจริงหรือเปล่า
ดังนั้นคนโบราณจะใช้การจุดเทียนขี้ผึ้งแล้วรอจนกว่าเ ทียนดับ ถ้าเทียนดับแล้วไม่ฟื้น
ก็แสดงว่าคนตายแน่แล้ว ไม่สามารถฟื้นขึ้นมาได้อีกค่ะ
10. หวีผมแล้วหักหวี เดี๋ยว นี้แนนไม่รู้ว่ามีที่ไหนยังทำอยู่หรือเปล่านะคะ แต่ถ้าเป็นสมัยก่อนเค้าจะหวีผมให้ศพ โดยหวี 3 ครั้ง หวีไปข้างหน้าซีกหนึ่ง ข้างหลังซีกหนึ่ง สำหรับคนเป็นและตายเสร็จแล้วจะหักหวี อันนี้เป็นปริศนาธรรมอีกว่า หวีดี ๆ พอถูกหักก็ใช้การไม่ได้อีกเหมือนชีวิตคนนั่นแหละ