Forex-Currency Trading-Swiss based forex related website. Home ----- กระดานสนทนาหน้าแรก ----- Gold Chart,Silver,Copper,Oil Chart ----- gold-trend-price-prediction ----- ติดต่อเรา
หน้า: 1 2 [3] 4 5   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: "การวิเคราะห์ .. ปัจจัยพื้นฐาน" : ว่าด้วยเรื่อง "Insiders"  (อ่าน 18214 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 7 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ffr_manoj243
Moderator
Full Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 895


« ตอบ #30 เมื่อ: กันยายน 30, 2009, 03:05:00 AM »

GoldCore Precious Metals Update
http://www.goldcore.com/goldcore_blog/goldcore_precious_metals_update_gold_consolidate_above_support_985oz


Gold

US stocks rallied yesterday and the gold price soon recovered after initial falls, and resolutely stayed around the $990/oz level. The erratic nature of the dollar, at the moment, means that gold may still have its direction dictated by dollar volatility and traders may exploit this and push the limits of gold support in the short term, looking for favourable entry points.

If gold continues to hold above $990/oz it will show that gold has the maturity to de-couple itself from short term influences.

Jitters over Iran led to higher oil prices yesterday and there are prospects of new tough sanctions against Iran if Thursday's meeting of the UN Security Council and Germany (the so-called P5+1 ? US, UK, France, China, Russia and Germany) yields little progress.

Analysts realise that should this geopolitical risk escalate, gold is likely to react positively.


สภาวะ .. การแข็งค่าของค่าเงิน US Dollar .. เป็นเพียงปัจจัยระยะสั้น


วันจันทร์ .. 28/09/09

Dollar gains as foreign officials weigh in on 'exits'
http://www.marketwatch.com/story/yen-notches-8-month-high-versus-dollar-2009-09-28

European Central Bank President Jean-Claude Trichet, in two separate venues, said it was too soon to start a so-called "exit strategy" from loose monetary policy programs. He also said it was important to have a strong U.S. dollar, according to media reports.



วันอังคาร .. 29/09/09

Dollar gains as Japan complains about yen strength
http://www.marketwatch.com/story/yen-slips-as-intervention-put-back-on-table-2009-09-29

NEW YORK (MarketWatch) -- The U.S. dollar posted small gains against major rivals Tuesday, edging higher on the Japanese currency after the nation's finance minister hinted at the possibility of intervention to arrest the yen's rise


Forex calendar :  http://www.forexfactory.com/calendar.php?month=9&year=2009

Tue   4:30am  GBP  Current Account   -11.4B -7.7B -4.1B
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 30, 2009, 04:29:22 AM โดย ffr_manoj243 » บันทึกการเข้า
ffr_manoj243
Moderator
Full Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 895


« ตอบ #31 เมื่อ: ตุลาคม 02, 2009, 10:52:02 AM »

Bernanke: A new super-currency would weaken the dollar


WASHINGTON (MarketWatch) - Russia and China are advocating the creation of a new super currency, which Fed Chairman Ben Bernanke said Thursday would weaken the dollar if it were to be established.

"It would weaken the dollar, and we would have to watch for any inflationary consequences of that, " Bernanke said during the question and answer segment of a House Financial Services Committee hearing.
"I don't see that as a risk as long as we as a country take efforts to manage our risk and keep inflation low."

Bernanke added that the dollar is not at any immediate risk of losing its status as a reserve currency, however he acknowledged that if the U.S. doesn't put its "economic house in order," risk could eventually grow for the U.S. currency.


Bernanke added that he believes the Fed can manage policies to support the U.S. economy without inducing inflation in the short term. "We believe we have the tools and political will to achieve that," he said.

He responded to a lawmaker who raised concerns about the U.S.'s extensive foreign borrowing, saying that the U.S. needed to save more and spend less.

"The best way we have to raise our savings rate is to improve our financial position," Bernanke said.

During the second quarter ending in June, the U.S. current account deficit was 2.8% of the U.S. gross domestic product. The current account in the second quarter was $99 billion, which means the U.S. needs to borrow more than $1 billion a day.

The current account deficit was as high as 6.5% of GDP in 2005.


http://www.marketwatch.com/story/bernanke-a-new-super-currency-would-weaken-dollar-2009-10-01

บันทึกการเข้า
ffr_manoj243
Moderator
Full Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 895


« ตอบ #32 เมื่อ: ตุลาคม 02, 2009, 12:05:23 PM »

UPDATE 1-Gold Fields says Q1 output, costs in line with fcast


JOHANNESBURG, Oct 1 (Reuters) - South Africa's Gold Fields (GFIJ.J), the world's No. 4 gold producer, on Thursday reported first-quarter production in line with its guidance and said it kept costs down despite a stronger than expected rand.
Gold Fields said it produced 906,000 ounces during the quarter. Output at its South African operations fell slightly to 527,000 ounces from 529,000 ounces the previous quarter.

The company said its cash costs rose to $590 per ounce, on the back of a new pay deal for workers, higher electricity tariffs and a stronger rand to the U.S. dollar.

The company said it expects to produce between 925,00-950,000 ounces of gold per quarter over the remainder of the financial year, which runs from June to June.

The company forecast in August that output could rise between 3.7 million ounces and 3.8 million ounces in the current 2010 fiscal year. Shares in the company were trading up 3.37 percent at 104.92 rand, compared with a 1.07 percent stronger JSE Top 40 blue chip index .JTOPI. (Reporting by Agnieszka Flak)

* Q1 total attributable production at 906,000 oz

* Targest quarterly output of between 925,000-950,000 oz

* Shares up 3.37 percent


http://www.reuters.com/article/rbssIndustryMaterialsUtilitiesNews/idUSL149634420091001



" .. The company said its cash costs rose to $590 per ounce.. "

ต้นทุนเฉลี่ย .. ทองคำหน้าเหมือง .. "$590"
บันทึกการเข้า
ffr_manoj243
Moderator
Full Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 895


« ตอบ #33 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2009, 12:35:32 AM »




SPDR gold ETF

ทำกำไรใน "Margin Market"  กินรวบ! .. ทั้ง "Long & Short"

ใน Bullion Market (London)  เทขายทองจริง!  .. แล้วช้อนหุ้นทองคำกระดาษ : GLD ขึ้น


http://www.spdrgoldshares.com/sites/us/value/historical_archive/
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 05, 2009, 12:57:32 AM โดย ffr_manoj243 » บันทึกการเข้า
ffr_manoj243
Moderator
Full Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 895


« ตอบ #34 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2009, 04:18:33 AM »

การขึ้นภาษีสินค้าจีนจะหวนมาเล่นงานคนอเมริกัน

การที่สหรัฐฯตัดสินใจขึ้นภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าราคาถูกจากจีน อาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ให้เห็นว่าทำเนียบขาวกำลังพิจารณาที่จะใช้การเล่นบทเป็นนักลัทธิกีดกันการค้า ตลอดจนการที่ค่าเงินดอลลาร์กำลังอ่อนตัว มาเอื้ออำนวยประโยชน์ให้แก่ตนเอง อย่างไรก็ตาม ลงท้ายแล้วคนที่ต้องแบกรับภาระทั้งหลาย ก็จะกลายเป็นชาวอเมริกันนั่นเอง
       
       คณะรัฐบาลบารัค โอบามา เฝ้ารอจนกระทั่งถึงตอนดึกของวันที่ 11 กันยายน จึงค่อยบอกกล่าวอย่างเงียบๆ ต่อชาวอเมริกันว่า ตัดสินใจที่จะขึ้นอัตราภาษีศุลกากรยางรถคุณภาพต่ำที่นำเข้าจากประเทศจีน ความเคลื่อนไหวคราวนี้บังเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันก่อนหน้าการประชุมกลุ่มจี 20 อันสำคัญยิ่งที่นครพิตส์เบิร์ก ซึ่งเป็นวาระที่จีนน่าที่จะเปิดการรณรงค์อีกครั้งเพื่อผลักดันให้โลกก้าวไปสู่เศรษฐกิจยุคหลังเงินดอลลาร์ ดังนั้น จังหวะเวลาของการประกาศคราวนี้จึงดูจะเลวร้ายหนักข้อเป็นพิเศษ
       
       มันเสมือนเป็นการโบกธงแดงต่อหน้าวัวกระทิง ไม่น่าประหลาดใจเลยที่จีนตอบโต้ทันทีด้วยการพิจารณาที่จะขึ้นอัตราภาษีศุลกากรของตน ที่เรียกเก็บจากชิ้นส่วนรถยนต์และผลิตภัณฑ์การเกษตรของสหรัฐฯ
       
       การกระทำเช่นนี้ของคณะรัฐบาลโอบามา สามารถอธิบายได้ง่ายๆ ว่าเนื่องจากท่านประธานาธิบดีจำเป็นจะต้องเอาอกเอาใจพวกสหภาพแรงงาน ซึ่งได้แสดงบทบาทสำคัญในการทำให้ท่านได้ก้าวขึ้นสู่อำนาจ อย่างไรก็ตาม สมการของเรื่องนี้น่าจะมีความสลับซับซ้อนมากกว่านี้
       
       ถึงแม้จะมีเสียงหัวเราะอย่างพึงพอใจเล็กๆ ของพวกไร้ความคิดที่เชื่อว่าสหรัฐฯจะประสบกับ ?การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจแบบที่ไม่ก่อให้เกิดการจ้างงาน? (jobless recovery) แต่การจ้างงานย่อมต้องเป็นกุญแจสำคัญไปสู่เศรษฐกิจที่มีสุขภาพดีอย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น นอกจากนั้นมันยังอาจกลายเป็นประเด็นปัญหาทางการเมืองที่สำคัญอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อพวกสหภาพแรงงานต่างมีแนวความคิดกันว่า ลัทธิกีดกันการค้า (protectionism) ที่อยู่ในรูปแบบของการสร้างกำแพงต่างๆ ขึ้นมาเพื่อกีดขวางการค้า จะสามารถรักษาตำแหน่งงานให้คงอยู่ภายในประเทศได้
       
       มันดูเหมือนเป็นจริงเป็นจังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ที่อเมริกาและจีนแท้จริงคือหุ้นส่วนที่กำลังแข่งขันกันในท่ามกลางการต่อสู้ชิงอำนาจทางการเมืองอันละเอียดอ่อนและมีความหมายเป็นอย่างยิ่ง เพียงแต่ว่าต้องมาร่วมมือกันในลักษณะชั่วคราวจากการมีผลประโยชน์ร่วมกันอยู่ นั่นคือ อเมริกันคือผู้บริโภคที่ยิ่งใหญ่ของโลก ส่วนจีนก็เป็นผู้ผลิตที่ยิ่งใหญ่ของโลก
       
       ทว่าผลของความสัมพันธ์เช่นนี้ก็คือ ฐานทางด้านอุตสาหกรรมการผลิตของอเมริกันกำลังผุกร่อนลงอย่างสาหัส และบางทีอาจจะถึงขั้นล้มหายตายจากไปเลย การเสื่อมสูญทางด้านอุตสาหกรรมนี้แหละคือปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้คนอเมริกันต้องตกอยู่ในภาวะว่างงานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเวลานี้ใกล้จะอยู่ในระดับ 20% แล้ว ถึงแม้ตัวเลขที่ระบุนี้จะคิดเป็นราวๆ สองเท่าตัวของตัวเลขการว่างงานที่มีการเผยแพร่ออกมาอย่างเป็นทางการ ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 10% แต่มันก็เป็นเครื่องบ่งชี้ภาวะของตลาดแรงงานที่ถูกต้องมากกว่า
       
       ความแตกต่างของตัวเลขเช่นนี้บังเกิดขึ้นจากวิธีการคำนวณที่ต่างกัน กล่าวคือ ตัวเลขการว่างงานอย่างเป็นทางการนั้น จะยกเว้นไม่รวมถึงพวกที่เลิกคิดหางานเต็มเวลาทำไปแล้ว ตลอดจนพวกที่สามารถหางานทำได้แค่งานไม่เต็มเวลา ทั้งนี้ในอดีตไม่ว่าในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ (Great Depression) หรือระยะที่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยพร้อมเงินเฟ้อขึ้นสูง (stagflation) ในยุคทศวรรษ 1970 ต่างก็ไม่ได้มีการรวมเอาคนงานผู้ไม่มีโชคเหล่านี้เข้าไว้เป็นผู้ว่างงาน และก็เป็นเคราะห์ร้ายที่การรณรงค์ในลักษณะโฆษณาชวนเชื่อเช่นนี้ ซึ่งมีจุดประสงค์ที่จะซ่อนระดับการว่างงานอันแท้จริงเอาไว้ ยังคงประสบความสำเร็จอย่างมหาศาลเรื่อยๆ มา
       

       พวกนักวิพากษ์วิจารณ์ลัทธิกีดกันการค้าแสดงความคิดเห็นเอาไว้อย่างถูกต้องทีเดียวว่า เมื่อเกิดสงครามการค้าขึ้นมา แต่ละฝ่ายก็จะต้องเกิดการตั้งกำแพงขัดขวางการค้าตอบโต้กัน ซึ่งจะกลายเป็นผลลบที่ตัดทอนผลบวกอันอาจบังเกิดขึ้นจากเจตนารมณ์ในการปกป้องคุ้มครองอุตสาหกรรมต่างๆ ภายในประเทศ ด้วยเหตุดังกล่าวนี้ พวกเขาจึงมองนโยบายนี้ของคณะรัฐบาลโอบามาว่า เป็นการประจันหน้ากับจีนอย่างงี่เง่า

     
       แต่ต้องระลึกเอาไว้ว่า การขึ้นภาษีศุลกากรครั้งนี้บังเกิดขึ้นในเวลาที่เงินดอลลาร์กำลังอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง บางทีคณะรัฐบาลโอบามาอาจจะตระหนักความเป็นจริงขึ้นมาว่า กำแพงภาษีที่ทางจีนจะตั้งขึ้นมาเพื่อตอบโต้นั้น สามารถที่จะเอาชนะได้ด้วยความได้เปรียบในการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นสืบเนื่องจากการเอื้ออำนวยของค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลง บางทีนี่เลยทำให้พวกเขามีความมั่นอกมั่นใจที่จะทอดลูกเต๋าลองเสี่ยงดู       
 

      การที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงทำให้ผลิตภัณฑ์อเมริกันมีความสามารถในการแข่งขันในต่างแดนได้มากขึ้น จึงเป็นการช่วยเหลือการส่งออกสินค้าอเมริกัน นอกจากนั้นเมื่อมองจากมุมมองของคณะรัฐบาลแล้ว การอ่อนค่าของดอลลาร์ยังอาจจะอำนวยประโยชน์อื่นๆ ให้แก่สหรัฐฯ เป็นต้นว่า เป็นการลดมูลค่าแท้จริงของหนี้สิ้นที่อยู่ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯทั้งหมด เนื่องจากเวลานี้อเมริกามีหนี้สินทั้งสิ้นประมาณ 58 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หากค่าเงินเกิดอ่อนตัวลงไปสัก 30% ย่อมเท่ากับว่าจำนวนหนี้สิ้นลงลง 17.4 ล้านล้านดอลลาร์ ... ช่างเป็นการประหยัดได้ก้อนมหึมาทีเดียว 
     
       มีความเป็นไปได้อย่างมากว่า คณะรัฐบาลโอบามากำลังแสดงท่าทีอย่างเปิดเผยโจ่งแจ้งว่ามุ่งดำเนินโยบายใหม่ที่เป็นกีดกันการค้าเพิ่มมากขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็กลับปกปิดไม่แพร่งพรายว่ากำลังดำเนินนโยบายค่อยๆ ลดค่าเงินดอลลาร์ไปด้วย โดยการกระทำทั้งสองด้านเช่นนี้ก็ด้วยหวังว่า จะสามารถลดภาระหนี้สินต่างประเทศคงค้างของอเมริกา และก็สามารถปกป้องคุ้มครองอุตสาหกรรมการผลิตของคนอเมริกัน       


       อย่างไรก็ตาม ถ้าหากคุณยอมปล่อยให้สกุลเงินตราของคุณเองตกอยู่ในกองเพลิง คุณนั่นแหละจะเป็นคนแรกที่ถูกไฟไหม้ ยุทธศาสตร์gเช่นนี้แม้จะไม่ถึงกับเป็นการฆ่าตัวตายชัดๆ อย่างที่ผู้คนจำนวนมากทึกทักกันก็จริง แต่มันก็ยังละเลยไม่คำนึงถึงเหยื่อรายใหญ่ที่สุดของนโยบายเช่นนี้อยู่ดี ซึ่งก็คือ ชาวอเมริกันโดยเฉลี่ยทั่วไป ขณะที่โอบามาอาจอ้างความได้หน้าได้ตาในการทำให้หนี้สินลดต่ำลงและการส่งออกเพิ่มพูนขึ้น ชาวอเมริกันกลับจะต้องควักกระเป๋าเพิ่มขึ้นในรูปของราคาสินค้าที่สูงขึ้นทุกๆ อย่าง ตั้งแต่ยางรถไปจนถึงนม แถมยังคงไม่มีงานทำ และเงินออมก็หดหายไปอีกด้วย
       

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9520000116999
บันทึกการเข้า
Neung99k
Full Member
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 565



« ตอบ #35 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2009, 05:16:39 AM »

ขอบคุณคุณมาโนชครับ Grin
บันทึกการเข้า

http://www.smart90days.com/neung999kk/  ธุรกิจท่องเที่ยวรับเงินแสน
http://www.azpaypoint.com/chitdech  รายจ่ายจะกลับมาเป็นรายได้
Yai Carmungwed
Full Member
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 584



« ตอบ #36 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2009, 05:56:22 AM »

ขอบคุณท่านมาโนชครับ
(ขั้นเซียนแล้วครับท่านมาโนช)
บันทึกการเข้า

Yai Carmungwed  (Sapankwane)  Nakhonpathom
MOOK
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 136



« ตอบ #37 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2009, 12:40:00 PM »


Smileyขอบคุณข้อมูลดีดีๆ Smiley
บันทึกการเข้า
ffr_manoj243
Moderator
Full Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 895


« ตอบ #38 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2009, 03:31:31 AM »

Desperate Dollar Heading to the Basement  
http://www.gold-prices.biz/desperate-dollar-heading-to-the-basement/




The above chart shows a snap shot of the US Dollar sliding lower and lower on a daily basis,
the next stop is at the ?72? level from where its rallied the last time it traded so low.

This is a key support level that needs to hold if the dollar is to retain any credibility. If that fails then the dollar could go into free fall sending gold prices dramatically higher. As we have said before the action in the gold sector is all about the dollar, but only for now. So keep an eye on it as golds inverse relationship with the dollar remains intact and will continue to rise as this correlation remains in place.

Our necks are on the block as we are sticking to our prediction that gold prices will be trading around the $1250/oz mark by New Years Eve, so its either bubbly or table wine in a brown bag to be consumed in the car park behind the Chez Nous for us
บันทึกการเข้า
aoodii
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 74



« ตอบ #39 เมื่อ: ตุลาคม 29, 2009, 03:52:26 PM »

ขอบคุณมากครับท่านอาจารย์ ไม่เคยรู้เรื่องเลยจนมาลงทุนทองนี่แหละ

ตอนนี้วัฏจักรจะดูเหมือว่ากองทุนต่างๆ ถอนออกจากตลาดหุ้นทั่วโลกแล้วใช่ไหมครับตอนที่ ดอลล่าตกต่ำ เห็นตลาดหุ้นหลายประเทศร่วงลงมากันหมด แล้วก็ FED ออกมาประมูลพันธบัตรพอดี ดอลล่าก็จะแข็งค่าขึ้นกลับมาตามที่เค้าวางเกมไว้ใช่ไหมครับ แล้วจากนี้วัฏจักรเค้าจะทำไงกันต่อไปครับ พอกองทุนมีเงินดอลในมือมากและแข็งด้วยน่ะครับ เค้าจะเทไปทางไหน ไม่ทราบผมเข้าใจผิดไปไหมครับ  Huh?
บันทึกการเข้า

Smiley Smiley Smiley
ffr_manoj243
Moderator
Full Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 895


« ตอบ #40 เมื่อ: ตุลาคม 30, 2009, 01:47:35 PM »

กองทุน กับ Fed. .. มีความสัมพันธ์ต่อกัน หรือ มีผลประโยชน์ร่วมกัน

เป็นที่ทราบว่า .. เจ้าหนี้รายใหญ่ๆ เช่น จีน รัสเซีย ญี่ปุ่น ฯ
เริ่มที่จะลดความผูกพันธ์ .. ในการเข้าซื้อหนี้เน่า = พันธบัตรอเมริกันแล้ว

Fed.+ รัฐบาลโอบามา .. สุดท้าย! (หรือตั้งแต่เริ่มต้น .. ก็ว่าได้)
ก็ต้องหันกลับมาใช้ .. นโยบาย USD อ่อนค่า และงบประมาณขาดดุล / Deficit ต่อไป
(ถอนทหารออกจากอิรัก  ..  แต่ไปเพิ่มทหารและงบประมาณที่อัฟริกา :  CHANGE .. ?)

เมื่ออเมริกา .. ไม่สามารถออกพันธบัตร และมีเจ้าหนี้รายใหญ่ๆ เข้าซื้อ (ทำให้ USD แข็งค่าขึ้นมา)
อเมริกา จึงใช้นโยบาย USD อ่อนค่า เพื่อมุ่งหวังที่จะใช้ "US Dollar Carry Trade" "เงินI้ดอกเบี้ยต่ำ"


จากเดือน มีนา 09 ..  ที่ USDX อยู่ที่ 89.64
นับจากวันที่ 19/3 .. Fed. / Bernanke' .. "ประกาศนโยบาย เข้าซื้อพันธบัตรเอง" .. "Quantitatives Easing"
ทำให้ USD อ่อนค่าลงมาอย่างต่อเนื่อง  นักลงทุน .. จึงทิ้งเงินสด / สกุลเงินที่ถือเป็น USD
ไปลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ .. ซึ่งในขณะนั้น ยังมีราคาถูก (กว่าค่าเงิน USD)

ยิ่งนักลงทุน .. ทิ้งสกุลเงิน USD ออกไปซื้อสินทรัพย์ต่างๆ ในตลาดมากขึ้น
ค่าเงิน USD ก็ยิ่งอ่อนค่าลง .. เมื่อเทียบกับสกุลเงินต่างๆ ที่กลับแข็งค่าขึ้นมา

เมื่อค่าเงิน USD อ่อนกว่าสกุลเงินอื่นๆ มากๆ .. ทำให้ USD กลายเป็น "แหล่งเงินI้ .. ที่มีดอกเบี้ยต่ำ"
เพราะ รัฐบาลทั่วโลก .. ยังใช้นโนบาย ดอกเบี้ยใกล้ 0% "ZIRP .. Zero Interest Rate Policy"
กองทุน .. ก็จะนำเงิน USD .. จากธนาคารเพื่อการลงทุน (ที่ รัฐบาลอเมริกัน .. ให้อัดฉีด ด้วยเงิน "Bail-Out")

กองทุนเหล่านี้ .. นำเงินสกุล USD (ที่อ่อนค่า) เข้าไปลงทุนในตลาดหุ้น .. กว้านซื้อสินทรัพย์โภคภัณฑ์
ทำให้  .. ตลาดหุ้นทั่วโลก เกิดปรากฏการณ์ที่ "บูม! ขึ้นมาอีกครั้งและอย่างรวดเร็ว"  (เร็วกว่า การอ่อนค่าของ USD)

ดังนั้น เมื่อ "การแข็งค่าของ สกุลเงินต่างๆ ทั่วโลก" .. ไม่ได้เกิดจาก เศรษฐกิจของตัวเองที่แข็งแกร่งหรือดีขึ้น
ต้นทุนการผลิต และค่าจ้างแรงงาน .. ภายในประเทศนั้นๆ  ก็จะสูงขึ้น  = ต้นทุนสินค้าส่งออก .. สูงขึ้น
ใน "ตลาดหุ้น"  ราคาหุ้นที่สูงขึ้น .. ไม่ได้สท้อนถึง ปัจจัยพื้นฐานจากผลประกอบการ .. ที่เป็นจริง
"ราคาน้ำมัน" .. ไม่ได้ขยับขึ้นมา .. จากการบริโภคของภาคอุตสาหกรรม (ที่ลดกำลังผลิตหรือปิดกิจการลง)
"ราคาทองคำ" . ไม่ได้ขยับขึ้นมา .. เพราะเงินเฟ้อ (เมื่อเทียบกับ CPI : Consumer Price Index)  ที่แท้จริง

แต่ทั้งหมดนี้!  ที่เกิดการขยายตัว .. (อย่างผิดปกติ)  เพราะ .. การอ่อนค่าของ US Dollar เป็น "ปัจจัยสำคัญ"
จึงกลายเป็น "การสร้างฟองสบู่" ให้เกิดขึ้น ในตลาดทุนและสินค้าโภคภัณฑ์ .. ที่มีมูลค่าสูงขึ้นเกินความเป็นจริง

สำหรับ .. กองทุน / Hedge Fnd.  เมื่อนำ USD เข้าไปลงทุนแล้ว .. USD อ่อนค่าลงไปเรื่อยๆ
ทำให้ .. สกุลเงินอื่นๆ หรือสินค้าโภคภัณฑ์ .. มีราคาสูงขึ้น
เท่ากับ .. ปริมาณหรือจำนวนเงิน USD ที่เข้าไปลงทุนในครั้งแรก .. จะมีปริมาณเพิ่มขึ้น
เมื่อทยอยขายหุ้น หรือสินค้าโภคภัณฑ์ .. แลกกลับมาเป็นสกุลเงิน USD จะได้จำนวน / ปริมาณเพิ่มขึ้น

ก็นำเงิน USD ที่ได้มาจากการทยอยขายหุ้น .. (แล้ว นักลงทุนรายย่อย .. ไล่ซื้อเข้ามาแทนที่)
ไปใช้หนี้เงินI้ .. ที่กุ้มาจาก ธนาคารในอเมริกัน  .. และยังมีเงินที่กำไรเหลืออยู่อีก

เมื่อกองทุน .. ได้จำนวน / ปริมาณ US Dollar ตามเป้าหมาย .. และทยอยออกจากตลาดที่ละน้อยๆ แล้ว
ก็จะเทขายหุ้น / สินค้าโภคภัณฑ์ .. Lot ใหญ่ๆ    เพื่อให้  US Dollar .. กลับขึ้นมาแข็งค่าขึ้น
ตลาดทุนและสินค้าโภคภัณฑ์ .. ก็จะมีราคาถูกลง  ค่าเงินสกุลต่างๆ .. ก็ปรับตัวลดลง
ก็จะย้อนกลับ .. เอา USD (ที่แข็งค่า) เข้าไปลงทุนในตลาดหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์ .. ที่มีราคาถูกๆ ใหม่

รัฐบาลอเมริกัน .. ก็สามารถที่จะออกพันธบัตรรุ่นใหม่ออกมาได้เรื่อยๆ
Fed. ก็สามารถที่จะพิมพ์แบงค์ USD .. ออกมาได้เรื่อยๆ
เพราะมี .. กองทุน!  ที่จะดูดซับ .. สกุลเงิน USD ออกไปเรื่อยๆ
โดยที่ไม่ต้องพึ่งพา .. ประเทศเจ้าหนี้ ที่เคยเป็นลูกค้าพันธบัตรอีกต่อไป

เมื่อ USD อ่อนค่าลง .. ยังหมายถึง  ต้นทุนสินค้าส่งออก .. ถูกลง
และปริมาณหนี้สินต่างประเทศ .. ลดลงไปด้วย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 30, 2009, 01:49:24 PM โดย ffr_manoj243 » บันทึกการเข้า
Seyren
Jr. Member
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 222


« ตอบ #41 เมื่อ: ตุลาคม 30, 2009, 03:02:42 PM »

ขอบคุณครับคุณมาโนช อ่านบทความของคุณมาโนชแล้วช่วยให้เข้าใจความเป็นไป
และลูกเล่นต่างๆได้เยอะขึ้นมากเลยครับ^^
บันทึกการเข้า

อุปสรรคที่เกินทน จะหลอมคนให้ทนทาน~
aoodii
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 74



« ตอบ #42 เมื่อ: ตุลาคม 31, 2009, 12:26:42 AM »

 Angry อย่างนี้นี่เอง ขอบคุณมากครับ  Cheesy

ตอนนี้ดอลล่าแข็งขึ้นมาแล้วงั้นอีกเดี๋ยวเค้าก็คงพิมพ์เงินออกมาอีกให้กู้ต่อไป
ถ้าเค้าทำแบบนี้วนไปหลายๆครั้ง แล้วสุดท้ายมันจะออกมาแบบไหนครับ ดอลล่าจะอ่อนค่าไปเรื่อยๆหรือเปล่าครับ
บันทึกการเข้า

Smiley Smiley Smiley
mamai
Jr. Member
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 237



« ตอบ #43 เมื่อ: ตุลาคม 31, 2009, 06:52:05 AM »

 Smiley Smiley Smiley ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า

"ไม่เชื่อต้องศึกษา   ไม่มีปัญญาต้องเรียนรู้"
sue662
Full Member
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 616


« ตอบ #44 เมื่อ: ตุลาคม 31, 2009, 12:28:59 PM »

โห ท่านอาจารย์ต้องเป็นนักเศรษฐศาสตร์ นักคิดวิเคราะห์ นักคำนวณ มือหนึ่งแน่เชียวค่ะ ขอบพระคุณค่ะ
บันทึกการเข้า
Gold Price today, Gold Trend Price Prediction, ราคาทองคํา, วิเคราะห์ทิศทางทองคํา
   

images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary ---------------------Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. For more information on Moore Research products and services click here. --- http://www.mrci.com ---------- ---------------------------------------------รูปกราฟแสดงราคาทองในอดีตปี 1974-1999 ของ Moore Research Center, Inc. แสดงฤดูกาลที่ราคาทองขึ้นสูงสุดและตําสุด เอาแบบคร่าวๆ เส้นนําตาลหรือนําเงินก็ใกล้เคียงกัน เส้นนําตาลเฉลี่ย 15 ปี เส้นนําเงินเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุดของเส้นนําตาล หรือเฉลี่ย 15 ปี ในเดือน ปลายเดือน เมษ และปลายเดือน สค ต่อต้นเดือน กย[/color] สูงสุดในเดือน กพ กับ พย / ส่วนเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุด ต้น กค กับ ปลาย สค และราคาสูงสุดในเดือน กพ และ กลางเดือน ตค ----- แค่ดูคร่าวๆ เป็นแนวทาง อย่ายึดมั่นว่าจะต้องเป็นตามนี้ ข้างล่างเป็นกราฟราคานํามัน ตามฤดูกาล จาก Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary
 บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3] 4 5   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: