แล้วการที่จีนจะออกพันธบัตรในอีกไม่นานนี้ จะทำให้ค่าเงินดอล อ่อนลงอีกมั้ยครับ จะส่งผมอย่างไรกับทองละครับ
ว่าจะเก็บไว้รวบรวมข้อมูลก่อน .. แต่ข่าวใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกัน ช่วงนี้! ..ก็มีเข้ามาเรื่อยๆ ทำให้ "เห็นภาพชัดขึ้น"
ผมจึงขออธิบาย .. "ตามมุมมองของผม" เพื่อให้เพื่อนๆ มองเห็น "ภาพกว้างๆ" .. นะครับ
ในการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน .. เราต้องแยกแยะถึง "จุดประสงค์หลัก" ของการกระทำต่างๆ ที่เกิดขึ้น
เราต้องไม่ใช่ .. แต่เพียง "อ่านข่าว" แต่เรา .. ควรจะ "วิเคราะห์ข่าวแต่ละข่าว" ว่าสอดคล้องกับความเป็นจริง .. หรือไม่?
อย่างเรื่อง .. Fed. เลื่อนการเข้าซื้อพันธบัตรฯ เพราะ "จงใจ" ที่จะทำให้ US Dollar อ่อนค่า .. คงได้อ่านมาก่อนหน้านี้แล้ว
เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว .. พอทองขยับขึ้นมา .."สู่พัน"
มีการออกข่าวว่า .. เพราะ จีน สนับสนุนให้ประชาชนหันมาซื้อทองคำเลยทำให้ .. ทองราคาสูงขึ้น
แต่ตอนนี้! .. จีน กำลังไล่เก็บ "ทองคำ จึงไม่อยากให้ราคาทองแพงๆ" ดังนั้น ข่าวที่ออกมา .. จึงไม่ใช่หัวใจของการประกาศทั่งหมด
แต่เป็นเพราะ รัฐบาลจีน ต้องการให้ประชาชน .. หันมาลงทุนใน "Hard Asset" เพื่อลดความร้อนแรงในตลาดหุ้น
หรือเพื่อควบคุมตลาดหุ้น .. ที่กำลังเกิด "ฟองสบู่" .. เมื่อราคาหุ้นสูงเกินกว่าปัจจัยพื้นฐานที่เป็นจริง
และที่สำคัญที่สุด คือ จีน กลายเป็นประเทศที่สามารถผลิตทองคำจากเหมือง .. ได้มากที่สุดในโลก
ดังนั้น Supply ของทองคำในตลาด .. จึงต้องถูกส่งออกมาจากจีนด้วย
แต่โดยที่ จีน .. ต้องการที่จะเก็บทองคำ ไว้เป็นทุนสำรองหนุนค่าเงินหยวน : Gold backed currency
จึงต้องการที่จะลดปริมาณการส่งออกทองคำ .. สู่ตลาดโลก เพื่อเก็บไว้เอง .. ตามวัตถุประสงค์ดังกล่าว
และเพื่อจะได้มีข้ออ้าง .. การส่งออกทองคำน้อยลง เพราะเป็น supply .. รองรับในการลงทุนของประชาชนภายในประเทศ
โดยที่ .. จีน กำลังไล่แซงอินเดีย เพื่อที่จะกลายเป็น .. ประเทศที่บริโภคทองคำมากที่สุดในโลก ในไม่ช้า
และจีน .. ไม่ต้องการให้ต่างชาติรู้ความเคลื่อนไหวและข้อมูลภายใน อันมีผลต่อนโยบายทางการเงินและเศรษฐกิจของประเทศ
(อ้างอิง :
http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9520000048627 )
Thus China, which only yesterday was the lowest per-capita consumer of gold in the world, is bidding to become the biggest. Some analysts believe it will pass India ? the top dog since forever ? as early as 2010. Clearly,
the government believes the country is strengthened if everyone who can holds some hard currency.
(อ้างอิง : http://www.gold-prices.biz/what-the-heck-is-going-on-with-china/#more-1321 )
อย่างกรณีที่ ..ฮ่องกง เรียกทองคำ ที่เก็บไว้ที่ลอนดอนคืน .. เพื่อเก็บรักษาเอง
ก็เพราะ จีน ต้องการใช้ "ฮ่องกง .. เป็น Hub" หรือศูนย์กลาง .. สำหรับตลาดซื้อขายทองคำทั่วโลก
China repatriates its bullion. Meanwhile, in early September numerous sources reported an announcement that Hong Kong is pulling all its physical gold holdings from depositories in London and transferring them to a newly built, high-security depository at the city?s airport.
That means the government is backing the promotion of Hong Kong to a more formidable status as a Swiss-style, regional trading hub for bullion, at the same time as it reduces London?s role as a key settlement and storage center. (อ้างอิง :
http://www.marketwatch.com/story/hong-kong-recalls-gold-reserves-from-london-2009-09-03 )
นั่นหมายความว่า .. "ตลาดซื้อขายทองคำ ในตลาดลอนดอน" ที่เคยเป็น "ตัวกำหนดทิศทางและราคาทองคำในตลาดโลก"
กำลัง .. ถูกลดบทบาทลงไป เมื่อ จีน ยังจำเป็นจะต้องใช้ทองคำ เพื่อเป็น Gold backed "Yuan" currency อีกมาก
และเพราะ "ทองคำ" ก็คือ "เครื่องมือตัวหนึ่ง" ที่ใช้ในการบริหารและควบคุมนโยบายทางการเงินและเศรษฐกิจ .. ของโลกตะวันตก
"Currency Crisis" หรือ "Gold War" .. กำลังจะเกิดขึ้น
ด้วย .. "การชิงไหว-ชิงพริบกัน" .. ระหว่างอเมริกา กับ จีน
บอกแล้ว! .. ว่า เรื่อง .. มันยาว
นี่แค่ .. เกริ่นๆ เท่านั้น แล้วผม .. จะมาเล่าต่อนะครับ