Forex-Currency Trading-Swiss based forex related website. Home ----- กระดานสนทนาหน้าแรก ----- Gold Chart,Silver,Copper,Oil Chart ----- gold-trend-price-prediction ----- ติดต่อเรา
หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 7   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ท่องเที่ยวทั่วไทย  (อ่าน 16106 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #30 เมื่อ: พฤษภาคม 20, 2012, 08:32:34 PM »

ตลาดน้ำปากช่อง ไปง่ายๆ อร่อยใกล้ๆ

ตลาดน้ำปากช่อง เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ ใน อ. ปากช่อง จ. นครราชสีมา ที่อยากให้คุณได้ไปลองสัมผัส เพิ่งเปิดมาได้ 5 เดือนเท่านั้น บรรยากาศตลาดน้ำรายรอบด้วยขุนเขา อยู่ห่างจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เพียงแค่นิดเดียว ภายในตลาดแบ่งออกเป็นโซนของอาหาร ผักผลไม้ สินค้าโอทอปฝีมือดี ใครอยากหาของกินอร่อยๆ หรือ ของฝากติดไม้ติดมือสามารถแวะไปเดินเที่ยวได้ หรือจะสนุกกับกิจกรรมต่างๆ เช่น ขี่ข้างเที่ยวตลาด พายเรือชมตลาดน้ำ ก็ไม่น่าพลาด








































บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #31 เมื่อ: สิงหาคม 06, 2012, 07:39:48 PM »

เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ แหล่งช้อปปิ้งแห่งใหม่ของคนกรุง




































































ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ Macrter, คุณ เด็กวัดช้าง, คุณ yakdon และ thaiasiatique.com

          ทั้ง ๆ ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นาน แต่ดูเหมือนว่าแหล่งท่องเที่ยวและช้อปปิ้งไลฟ์สไตล์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาอย่าง เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์  (ASIATIQUE, The Riverfront) จะทวีความแรงขึ้นเรื่อย ๆ อาจเพราะด้วยรูปลักษณ์ที่ตอบโจทย์ บวกกับบรรยากาศและทัศนียภาพที่แปลกใหม่ สวยงาม รวมถึงตกแต่งด้วยสไตล์สถาปัตยกรรมในช่วง พ.ศ. 2450 ถึง พ.ศ. 2490 จึงไม่แปลกที่ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ จะกลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ในระยะเวลาไม่นาน

ทั้งนี้ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ตั้งอยู่ตรงข้าม เจริญกรุง 93 เปิดบริการตั้งแต่เวลา 17.00 น.- 24.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0-2108-4487


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #32 เมื่อ: กันยายน 23, 2012, 02:20:18 PM »

เสน่ห์เจดีย์สีทองที่"วัดพระธาตุดอยหยวก"





วัดพระธาตุดอยหยวก อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่บนเนินเขา บรรยากาศร่มรื่นเงียบสงบ เป็นวัดสำคัญของอำเภอปง พระธาตุมีลักษณะงดงามมาก เป็นศิลปะเฉพาะของพะเยา เจดีย์สีทอง มีซุ้มจระนำประดิษฐานพระพุทธรูปทั้งสี่ทิศ ประดับกระจกสีตามซุ้มและฐานองค์ระฆัง ส่วนยอดเป็นฉัตรทองที่มุมทั้งสี่มีเจดีย์บริวาร

วิหาร เป็นทรงล้านนา หลังไม่ใหญ่แต่งดงามมีเสน่ห์ เป็นศิลปะแบบทางเหนือ หลังคามุงด้วยแป้นเกล็ด หน้าบรรณแกะสลักเป็นลายพรรณพฤกษาและดอกแก้ว ใบระกามีสีทอง หางหงส์เป็นไม้แกะสลักรูปพญานาคสีเขียว เชิงเทินเป็นไม้แกะสลักรูป 12 นักษัตรและรูปช้าง

ตำนานกล่าวไว้ว่า เมื่อครั้งพุทธกาล พระพุทธเจ้าเสด็จมายังดอยภูเติม พญานาคที่รักษาดอยนี้คิดว่าพระองค์เป็นพญาครุฑ จึงแทรกกายหนี ครั้นได้ฟังธรรมจากพระองค์ พญานาคก็เกิดความเลื่อมใส พระพุทธองค์จึงมอบพระเกศาให้ และตรัสกับพระอานนท์ว่า
เมื่อพระตถาคตนิพพานแล้ว ให้นำกระดูกริมตาขวามาไว้รวมกับพระเกศานั้น กาลข้างหน้าจะมีชื่อว่าพระธาตุภูเติม จึงมีการสร้างพระธาตุและบรรจุพระเกศาธาตุและสารีริกธาตุที่เป็นกระดูกตาขวาไว้ภายใน ต่อมาเรียกภายหลังว่า พระธาตุดอยหยวก

วัดพระธาตุดอยหยวก ตั้งอยู่ที่บ้านหนุน ตำบลปง อำเภอปง จังหวัดพะเยา การเดินทางจากอำเภอจุนใช้ทางหลวงหมายเลข 1091 ไปทางอ.ปง ผ่านตัวอำเภอไปประมาณ 4.5 กิโลเมตร วัดอยู่ทางขวามือ ริมทางหลวง จากอำเภอเชียงม่วนมุ่งหน้าสู่อำเภอปง ระยะทาง 30 กิโลเมตรถึงวัดพระธาตุดอยหยวก ใช้ทางหลวงหมายเลข 1091 ก่อนถึงอำเภอปง 4.5 กิโลเมตร วัดพระธาตุดอยหยวกอยู่ทางซ้ายมือริมทางหลวง




ข้อมูลโดย Visitphayao
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #33 เมื่อ: ตุลาคม 06, 2012, 08:03:23 PM »

เที่ยวภูกระดึง พิชิตยอดดอยแห่งอีสาน




คนชอบไปเที่ยวภูเขา เพราะมีอากาศเย็นสบาย หน้าหนาวก็หนาวสะใจ และภูเขายังมีแหล่งท่องเที่ยวดึงดูดความสนใจอีกมากมาย อย่าง พระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก ป่าใหญ่ ดอกไม้ป่างามๆ น้ำตก หน้าผาและจุดชมวิวสวยๆ

แนวทิวเขาของอีสานประกอบไปด้วยแนวทิวเขาเพชรบูรณ์และแนวเทือกเขาดงพญาเย็น ที่เป็นเสมือนสันกั้นพรมแดนระหว่างภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคอีสาน และเทือกเขาสันกำแพง ที่กั้นภาคตะวันออกออกจากภาคอีสาน ทั้งหมด ทำให้อีสานแยกตัวออกมาเป็นเอกเทศ และมีสภาพพื้นที่เป็นที่ราบอยู่บนที่สูง จากอีสานไม่ว่าจะเดินทางข้ามภาคไปภาคใดก็ต้องเจอภูเขา จะไปตามทางราบๆ ตลอดไม่ได้

แนวภูเขามากมายเหล่านี้ทำให้เกิดยอดเขาที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง แต่ยอดเขาตัดราบแบบโต๊ะ คุณหาเที่ยวที่ไหนไม่ได้นอกจากที่ภาคอีสาน

และยอดเขาตัดราบแบบโต๊ะ ที่โด่งดังที่สุดในประเทศก็คือภูกระดึง แห่งเทือกเขาเพชรบูรณ์ จังหวัดเลย ภูกระดึง คลาสสิกตลอดกาล ไม่เคยเสื่อมคลายมนต์ขลัง เพราะที่นี่มีทุกอย่างที่นักท่องเที่ยวต้องการ จุดเด่นของภูกระดึง คือ ความความสวยงามของภเขา สายหมอก หน้าผา พันธุ์ไม้ และสัตว์ป่า และแน่นอนว่ามีเรื่องราวไว้เล่าสู่กันฟัง “เธอไปภูกระดึงหรือยัง ยังหรือ เชยจัง”




• แหล่งท่องเที่ยว
• ผานกแอ่น อยู่ห่างจากที่ทำการประมาณ 2 กิโลเมตร และห่างจากหลังแป 2.5 กิโลเมตร ผานกแอ่นเป็นลานหินเล็กๆมีสนขึ้นโดดเด่นริมหน้าผาต้นหนึ่ง เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่งดงามยิ่ง มองเห็นทิวทัศน์เบื้องล่างซึ่งเป็นท้องทุ่งและเทือกเขา เห็นผานกเค้าได้ชัดเจน ริมทางเดินใกล้ผานกแอ่นเป็นสวนหินมีดอกกุหลาบป่าขึ้นอยู่เป็นดงใหญ่ จะบานสะพรั่งเต็มต้นในเดือนมีนาคม - เมษายน

• ผาหล่มสัก อยู่ห่างจากที่ทำการประมาณ 9 กิโลเมตร เป็นลานหินกว้าง และมีสนต้นหนึ่งขึ้นชิดริมผาใกล้กับชะง่อนหินที่ยื่นออกไปในอากาศทางทิศใต้ บริเวณผาหล่มสักนี้มองเห็นทิวทัศน์เทือกเขาสลับซับซ้อนในเขตจังหวัดเพชรบูรณ์ และเป็นจุดหนึ่งที่จะชมพระอาทิตย์ตกได้อย่างชัดเจนที่สุด บรรดาช่างภาพ สื่อมวลชน นิยมไปถ่ายภาพ ณ จุดนี้กันมาก เพราะยามตะวันตกดินจะเกิดทัศนียภาพที่งดงามมาก

• สระแก้ว อยู่ในส่วนต้นน้ำของลำธารสวรรค์ “ธารสวรรค์” ลักษณะเป็นวังน้ำลึกขนาดไม่กว้างนัก น้ำใสมากจนมองเห็นพื้นหินขาวสะอาด ต่อจากบริเวณสระแก้วมีทางเดินชมธรรมชาติผ่านลานหินซึ่งมีดอกหรีสีม่วงอมน้ำเงินเกสรสีเหลือง ขึ้นอยู่เป็นทุ่งไปจนถึงผาน้อยนาน้อย

• สระอโนดาด เป็นสระน้ำขนาดใหญ่ที่มีต้นสนขึ้นเป็นแนวแน่นขนัด ตามริมสระตอนปากธารน้ำไหลมีลานหินโผล่ขึ้นมา ยามน้ำน้อยสามารถไปนั่งเล่น ได้จากบริเวณสระอโนดาดยังมีทางเดินไปต่อบรรจบกับเส้นทางเดินเท้าสู่ถ้ำสอและถ้ำน้ำได้

• น้ำตกเพ็ญพบใหม่ เกิดจากลำธารวังกวาง น้ำตกผ่านผาหินรูปโค้ง ในหน้าหนาว ใบเมเปิ้ลที่อยู่บริเวณริมน้ำตกจะร่วงหล่นลอยไปตามผิวน้ำยามแดดสาดส่องผ่านลงมาจะเป็นสีแดงจัดตัดกับสีเขียวขจีของตะไคร่น้ำตามโขดหิน ลำธารวังกวางเป็นต้นกำเนิดน้ำตกที่มีชื่ออีกแห่งหนึ่ง คือ น้ำตกโผนพบ ซึ่งตั้งชื่อเป็นเกียรติแก่ โผน กิ่งเพชร นักชกแชมป์เปี้ยนโลกคนแรกของชาวไทยในฐานะเป็นผู้ค้นพบคนแรก เมื่อคราวที่ขึ้นไปซ้อมมวยให้ชินกับอากาศหนาว ก่อนเดินทางไปชกในต่างประเทศ

• น้ำตกตาดร้อง เกิดจากลำน้ำพอง ซึ่งไหลลงมาจากภูกระดึงด้านหุบเขาตะวันตกเฉียงเหนือ สองฝั่งของตาดร้องเป็นผาหินสูงชันมาก เมื่อน้ำตกผ่านผาหินกว้างที่ลดหลั่นเป็นชั้น ๆ จึงทำให้เกิดเสียงดังกึกก้อง จากบริเวณน้ำตกมองเห็นแนวภูเขาเปลือยขวางอยู่ข้างหน้าน้ำตกตาดร้องอยู่ห่างจากที่ทำการประมาณ 20 กิโลเมตร

• น้ำตกวังกวาง เป็นน้ำตกอยู่ใกล้กับที่พักมากที่สุดในบรรดาน้ำตกบนภูกระดึง ระยะทางเพียง 750 เมตร จากจุดเริ่มต้นตรงบริเวณบ้านพัก ลักษณะน้ำตกเป็นผาหินไม่สูงนัก ตัดขวางลำธาร ธารน้ำก็ไหลลดขึ้นลงยังวังน้ำเบื้องล่าง ซึ่งมีลักษณะคล้ายโพลงถ้ำมุดลงไปและบริเวณป่าใกล้ ๆ ก็เป็นที่อยู่อาศัยของฝูงกวางมักจะลงมากินน้ำอยู่เสมอ ๆ จึงเรียกน้ำตกอย่างน่าเอ็นดูว่า “น้ำตกวังกวาง” สูง 7 เมตร บริเวณน้ำตกมีที่กว้างขวางให้ได้นั่งพักสบาย ๆ หลายมุม

• น้ำตกถ้ำใหญ่ ห่างจากน้ำตกเพ็ญพบ ประมาณ 1 กิโลเมตร เส้นทางเดินไปสู่น้ำตกจะดูใกล้นิดเดียวสำหรับคนชอบธรรมชาติ ชมนกชมไม้ เพราะตลอดเส้นทางครอบคลุมไปด้วยป่าดิบเขาที่มีพรรณไม้ใหญ่และร่มครึ้มกว่าทุกเส้นทางน้ำตกอื่น ๆ อาจได้พบต้นส้มกุ้ง (Begonice sp.) ออกดอกเป็นสีชมพู เกสรกลางสีเหลือง ชอบขึ้นตามทางในพื้นที่สูงอย่างป่าดงดิบเขา ในเส้นทางถ้ำใหญ่นี้มีทางเดินบางช่วงที่เลียบข้างลำห้วยเล็ก ๆ มีต้นเมเปิ้ลอยู่เป็นระยะ ๆ หากช่วงต้นมกราคม เส้นทางนี้จะแดงฉานด้วยใบเมเปิ้ลที่ร่วงหล่นเกลื่อนพื้นป่า ความสวยงามของน้ำตกถ้ำใหญ่จะแปลกตาด้วยโขดหินมหึมาวางทับซ้อนไม่เป็นระเบียบ ลำธารนี้ขนาบข้างด้วยต้นเมเปิ้ล ยามเมเปิ้ลแดงล่วงหล่น ขัดสีให้ลำธารหินเขียวสวยงามมีสีสันและมีชีวิตชีวาขึ้นมามากนักเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยว

• น้ำตกธารสวรรค์ จากน้ำตกถ้ำใหญ่เมื่อออกสู่ป่าสนไม่ไกลนักจะมีทางแยกบนลานหินสู่น้ำตกธารสวรรค์ ซึ่งอยู่ห่างจากที่พักตามเส้นทางป่าสนผ่านลานองค์พระพุทธเมตตาเพียง 1.6 กม. เท่านั้น เป็นน้ำตกขนาดเล็ก

• น้ำตกโผนพบ เป็นหนึ่งในน้ำตกหลายจุดอันเกิดจากสายน้ำวังกวาง ห่างจากตัวน้ำตกเพ็ญพบใหม่เพียง 600 เมตรเท่านั้น ในส่วนของลำธารส่วนบนของน้ำตกโผนพบนี้ สามารถไปยืนชมตัวน้ำตกกลางลำธารซึ่งจะได้ชมทิวทัศน์ที่สวยงาม น้ำตกมี 8 ชั้น สูงประมาณ 30 เมตร เป็นน้ำตกขนาดใหญ่และสวยงามไม่น้อยบนภูเขานี้ สำหรับชื่อ “โผนพบ” เข้าใจว่า โผน กิ่งเพชร อดีตแชมป์โลกคนแรกของไทยเป็นผู้ค้นพบเมื่อครั้งขึ้นไปซ้อมร่างกายบนภูกระดึง จึงเรียกกันง่าย ๆ ว่า “โผนพบ”

• น้ำตกพระองค์ คล้ายกับน้ำตกถ้ำใหญ่ แต่เป็นน้ำตกขนาดเล็กกว่า เกิดจากลำธารพระองค์ไหลเป็นลำธารเล็กๆ แล้วดิ่งตกลงหน้าผาที่ไม่สูงมากนักมุ่งสู่หินเบื้องล่าง ลำธารพระองค์นี้เป็นลำห้วยเล็ก ๆ ที่ไหลจากสระอโนดาด สระน้ำกลางป่าสนซึ่งไม่เคยเหือดแห้ง จึงมีน้ำไหลตลอดปี

• น้ำตกสอเหนือ เป็นน้ำตกขนาดกลาง สูง 10 เมตร ชั้นเดียว เกิดจากการพังทลายของแผ่นดินขนาดใหญ่เช่นเดียวกับน้ำตกหลายแห่ง ผาหินคล้ายน้ำตกเพ็บพบใหม่ มีสายน้ำไหลกลายเป็นบริเวณกว้าง

• น้ำตกสอใต้ อยู่ในลำธารสายเดียวกับน้ำตกสอเหนือและอยู่ไม่ไกลกันนัก เป็นน้ำตกขนาดเล็กที่เกิดจากหน้าผาหินถล่มลงไป สภาพภูมิประเทศไม่ได้อำนวยให้เกิดเป็นชั้นน้ำตกเหมือนแห่งอื่น ๆ จึงอยู่นอกเหนือความนิยมของนักท่องเที่ยว




























ค่าธรรมเนียมการเข้าชมอุทยานแห่งชาติภูกระดึง
คนไทย ผู้ใหญ่ ๑๐๐ บาท และเด็ก ๕๐ บาท
ชาวต่างชาติผู้ใหญ่ ๕๐๐ บาท และเด็ก ๒๕๐ บาท
 และค่าจ้างลูกหาบ ราคากิโลกรัมละไม่เกิน ๓๐ บาท

โดยในปีนี้ทางอุทยานแห่งชาติภูกระดึงได้รณรงค์ให้นักท่องเที่ยวร่วมกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ให้ภูกระดึงคงคุณค่าอย่างยั่งยืน อาทิ การลดปริมาณขยะ การใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติก การเข้าร่วมโครงการอาสาสมัครพิทักษ์ภูกระดึง และโครงการมัดจำบรรจุภัณฑ์ นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปท่องเที่ยว และพักค้างคืนบนยอดภูกระดึง ควรวางแผนการเดินทาง และสำรองการใช้บริการล่วงหน้า เพราะมีการกำหนดจำนวนนักท่องเที่ยว เพียงวันละ ๕,๓๐๐ คน (ข้างบนยอดภูกระดึง ๕,๐๐๐ คน และ ที่พักบริเวณศูนย์บริการด้านล่างอีก ๓๐๐ คน)

สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
หรือสำรองบ้านพัก เต็นท์ และพื้นที่กางเต็นท์ได้ที่ อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
โทร. ๐ ๔๒๘๗ ๑๓๓๓/ ๐ ๔๒๘๗ ๑๔๕๘/ www.dnp.go.th
และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
สำนักงานเลย โทร. ๐ ๔๒๘๑ ๒๘๑๒/๐ ๔๒๘๑ ๑๔๐๕/
email: tatloei@tat.or.th
www.facebook.com/tatloei
Twitter: @tatloei


ข้อมูลโดย : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สำนักงานใหญ่)

บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #34 เมื่อ: ตุลาคม 06, 2012, 08:08:16 PM »

วัดสุวรรณาราม (วัดปลายแหลม) เกาะสมุย



วัดสุวรรณาราม หรือ ที่ชาวบ้านที่นี่นิยมเรียกกันว่า วัดปลายแหลม เป็นวัดเก่าแก่ที่มีความสวยงามมากแห่งหนึ่งของจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยวัดถูกก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ 2423 ตั้งอยู่ที่บริเวณบ้านปลายแหลม ค่อนไปทางด้านทิศเหนือของเกาะสมุย


ภายในวัดมี รูปปั้นพระสังกัจจายน์ คนส่วนใหญ่รู้จ้กในนาม “พระอ้วน” หรือ “พระมีความสุข” โดยพระสังกัจจายน์ หมายถึง ความสุข ความรัก นั่นคือพระที่เต็มไปด้วยความรัก เป็นผู้ซึ่งให้ความรักและความสุขมาสู่ปวงชน ปกติชาวจีนกราบไหว้เพื่อขอให้ร่ำรวยและมีความสุขเยอะๆ บางคนเชื่อว่าจะสามารถขอบุตรได้ด้วย


นอกจากนี้แล้ววัดปลายแหลมยังมีเจ้าแม่กวนอิมพันมืออยู่กลางสระน้ำ เมื่อคุณมาถึงวัด คุณจะเห็นเจ้าแม่กวนอิมพันมือสีขาวสวยงามมากสูง 20 เมตร แต่ละแขนแสดงถึงแต่ละด้านของศาสนาพุทธ สามารถเดินไปที่รูปปั้นได้ ข้ามหินและสะพานหินอ่อนไปยังรูปปั้นที่อยู่กลางสระน้ำ














บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #35 เมื่อ: ตุลาคม 06, 2012, 08:12:34 PM »

พระตำหนักประทับแรม ปากพนัง นครศรีธรรมราช


พระตำหนักประทับแรม ปากพนัง หรือ พระตำหนักประทับแรมเฉลิมพระเกียรติอำเภอปากพนัง ตั้งอยู่ที่ ตำบลหูล่อง อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นพระตำหนักแห่งแรกและแห่งเดียวของประเทศ ที่ก่อสร้างขึ้นจากความร่วมแรงร่วมใจของประชาชนชาวไทย เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วยความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นที่พระองค์ท่านทรงเมตตาต่อเหล่าพสกนิกรชาวปากพนังเป็นที่ยิ่ง


พระตำหนักประทับแรม ถูกสร้างขึ้นในโครงการสร้างบ้านให้พ่อซึ่งดำเนินการโดยความร่วมมือของชาวจังหวัดนครศรีธรรมราชและชาวไทยทั่วประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นพระตำหนักทรงงานถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในคราวเสด็จอยู่ และทรงงานในจังหวัดนครศรีธรรมราช ภายในพระตำหนักประกอบไปด้วยกลุ่มอาคารพระตำหนักฯ มีลักษณะสถาปัตยกรรมภาคใต้ ตั้งอยู่ในพื้นที่โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ



ในอดีต อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราชและในเขตพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง “พรุควนเคร็ง” ประสบกับปัญหาเดือดร้อนจากความเสื่อมโทรมของทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมอย่างหนัก ทั้งอุทกภัยการขาดแคลนน้ำจืด ปัญหาดินเปรี้ยว ปัญหาน้ำเค็มรุกล้ำพื้นที่เกษตร ผลผลิตตกต่ำ ซึ่งก่อให้เกิดความทุกข์ยากแร้นแค้น ส่งผลถึงการอพยพแรงงานและการโยกย้ายถิ่นฐาน จากดินแดนซึ่งเคยเป็น “อู่ข้าวอู่น้ำ” มีความอุดมสมบูรณ์ทั้งพื้นที่นาและในแม่น้ำ กลับกลายเป็นพื้นที่ที่มีความยากจนมากที่สุดของประเทศ


การเดินทาง จากอำเภอเมืองไปอำเภอปากพนัง ระยะทาง 35 กิโลเมตร ใช้ทางหลวงหมายเลข 4013 เลี้ยวขวาบริเวณสามแยกไปอำเภอปากพนังฝั่งตะวันออก ถึงสี่แยกเลี้ยวขวาอีกครั้ง เดินทางต่ออีกประมาณ 2 กิโลเมตร จะถึงโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มแม่น้ำปากพนังอันเนื่องมาจาก พระราชดำริ และหากจะเดินทางไปอำเภอปากพนังฝั่งตะวันออก ใช้ทางหลวงหมายเลข 4013 จากอำเภอเมืองเลี้ยวขวาบริเวณสามแยกผ่านสี่แยกและข้ามสะพานแม่น้ำปากพนัง










บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #36 เมื่อ: พฤศจิกายน 11, 2012, 08:20:04 PM »

เทศกาลดอกบัวตองบาน บนดอยแม่อูคอ วันที่ 1 พ.ย.– 13 ธ.ค.2555



นายวินัย จีนะบุตร นายกเทศมนตรีตำบลขุนยวม อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยเกี่ยวกับการจัด งานรื่นเริงเทศกาลดอกบัวตองบาน ประจำปี 2555 ว่า เนื่องจากในช่วงตั้งแต่ต้นเดือน พ.ย. ถึงต้นเดือน ธ.ค. ของทุกๆ ปี ดอกบัวตองจะออกดอกบานสะพรั่งเต็มภูเขา โดยเฉพาะบนดอยแม่อูคอ เและในทุกๆปี จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปชื่นชมความงดงามเป็นจำนวนมาก


ในส่วนของการส่งเสริมการท่องเที่ยวของเทศบาลตำบล (ทต.) ขุนยวม ได้กำหนดจัดงานรื่นเริงเทศกาลดอกบัวตองบาน ประจำปี 2555 ขึ้น ในระหว่างวันที่ 11-15 พ.ย. 2555 ซึ่งเป็นช่วงที่ดอกบัวตองเบ่งบานเต็มที่ เหลืองอร่ามไปทั่วขุนเขา และในงานก็จัดให้มีการแสดง การละเล่นอย่างหลากหลาย




โดยกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การประกวดธิดาบัวตอง ประจำปี 2555 การแสดงของสี่ชนเผ่า การประกวดพืชผลทางการเกษตร การแสดงคอนเสิร์ทของนักร้องดัง การประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง และการแข่งขันกีฬาเช่น มวยไทย เปตอง วอลเล่บอล ฯลฯ และที่พิเศษปีนี้ได้มีการจัดงาน "กาดล้านนา บัวตองบาน สานสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่น" เป็นการแสดงศิลป วัฒนธรรมของไทยและของญี่ปุ่น ในบริเวณใกล้เคียงกันอีกด้วย เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เที่ยวอย่างสนุกสนานและเพลิดเพลิน






















บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #37 เมื่อ: ธันวาคม 01, 2012, 06:20:48 PM »

8 จุดยอดนิยมชมซากุระเมืองไทย 



8 จุดยอดนิยมชมซากุระเมืองไทย
1. ขุนช่างเคี่ยน (เชียงใหม่)
2. ภูทับเบิก (เพชรบูรณ์)
3. ขุนแม่ยะ (แม่ฮ่องสอน)
4. ดอยแม่สลอง(เชียงราย)
5. ปางอุ๋ง(แม่ฮ่องสอน)
6. ดอยแม่ตะมาน และ สถานีวิจัยเกษตรที่สูงป่าเกี๊ยะ (เชียงใหม่)
7. ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนวาง (ดอยอินทนนท์ เชียงใหม่)
8. อุทยานแห่งชาติขุนสถาน (น่าน)


1. ขุนช่างเคี่ยน (เชียงใหม่)


เรายกให้ที่ขุนช่างเคียนมาเป็นอันดับหนึ่ง สำหรับการมาชทดอกซากุระบาน ด้วยว่าการเดินทางนั้นสะดวก และอยู่ใกล้เมืองเชียงใหม่มาก เพียง 32 กิโลเมตร เรียกได้ว่า ไม่จำเป็นต้องนอนบนเขาก็เที่ยวได้ นอนในเมืองแล้วขึ้นมาเที่ยวก็ใช้เวลาไม่นาน จากตัวเมืองเชียงใหม่ ขึ้นเขามาเส้นทางเดียวกับ การไปเที่ยวพระธาตุดอยสุเทพ พระตำหนักภูพิงค์ราชนิวเศน์ และบ้านม้งดอยปุย แต่ขุนช่างเคียนเลยไปอีก


ลักษณะของซากุระบานที่ขุนช่างเคี่ยน แห่งนี้ จะเป็นภาพที่เราจะเห็นต้นซากุระหรือพญาเสือโคร่งนี้ ตามเส้นทางเข้าหมู่บ้านขุนช่างเคี่ยน และในหมู่บ้านเหมือนจะบานทั้งหมู่บ้านทั้งภูเขากันเลยนะ ถ่ายรูปมาสวยมากๆ ทั่วบริเวณ สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน และหมู่บ้านชาวม้ง ในพื้นที่บริเวณนั้นทั้งหมด


สถานีเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน อยู่ภายใต้การดูแลของคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นสถานีวิจัยเกี่ยวกับ เมล็ด พันธุ์กาแฟ ไม้ผลเมืองหนาว เช่น ท้อ พลับ บ๊วย พลัม อะโวกาโด มะคาเดเมีย ในทุกๆปี ของหน้าหนาวช่วงปลายธ.ค-ม.ค. ต้นนางพญาเสือโคร่งจะออกดอกสีชมพู บานสะพรั่ง



ภาพ : ซากุระบานที่ขุนช่างเคี่ยน


ที่พัก : ใครสนใจนอนขุนช่างเคี่ยน สามารถมากางเต็นท์ได้ ที่หน่วยดอยปุย อช.ดอยสุเทพ และบริเวณสถานีเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน ส่วนใครที่สนใจบ้านพักมีอยู่ที่สถานีเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน 3หลัง


ที่ตั้ง : อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่


การเดินทาง : ใช้เส้นทางสายเชียงใหม่ - พระธาตุดอยสุเทพ ผ่านวัดพระธาตุดอยสุเทพ ผ่านพระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ไปประมาณ 8 กิโลเมตร ผ่านหมู่บ้านชาวม้งดอยปุย ระยะทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 32 กิโลเมตร ตลอดทางเป็นถนนลาดยางเข้าถึงสะดวก บางช่วงเป็นทางแคบโปรดใช้ความระมัดระวัง


รถสาธารณะต้องใช้วิธีเหมาเท่านั้นครับ โดยปกติรถสองแถวจะไปถึงแค่ ดอยสุเทพและหมู้บ้านม้งเท่านั้น ใครจะไปขุช่างเคี่ยนต้องเหมาเดินทางเข้าไปอีกพอสมควร


ผู้สนใจสามารถติดต่อที่พักได้ที่ สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน โทร. 053-944053 หรือ 053-222014 (ในวันและเวลาราชการ)




2. ภูทับเบิก (เพชรบูรณ์)


ด้วยความสูง 1,600 เมตรจากระดับน้ำทะเล และการเข้าถึงได้ง่าย ปัจจุบันภูทับเบิกจึงกลายเป็นจุดท่องเที่ยวสำัญอีกแห่งที่นักท่องเที่ยวไปสัมผัสความหนาวเย็นกัน และยังมีโอกาสได้ชมซากุระเมืองไทยหรือต้นพญาเสือโคร่งอีกด้วย ที่จะออกดอกบานสพรั่งสวยงาม เต็มภูเขา จุดที่เยอะที่สุดเห็นจะอยู่ในหมู่บ้านม้ง ซึ่งต้อง ต่อรถเข้าไปเที่ยวโดยใช้บริการรถ 4x4 ของชาวม้งในหมู่บ้านได้ครับ


สะดุตายกให้ ภูทับเบิกมาแรงเป็นอันดับสอง ด้วยว่าอยู่ในจุดที่เข้าถึงได้ง่ายและสูงมากหนาวมาก อย่างภูทับเบิก ซึ่งจะมีโอกาสเห้นการออกดอกซากุระได้เร็วกว่าที่อื่น ถ้ายิ่งหนาวเร็วหนาวนาน ซากกุระก็จะบานเร็วและนานเช่นกัน ทำให้ภูทับเบิกเป็นตัเลืกที่น่าสนใจ และการเดินทางกยังถือว่าไม่ไกลจากรุงเทพฯเหมือนการไปเที่ยวดอยอื่นๆ ยิ่งคนมีเวลาน้อย ภูทับเบิกดูจะเป็นตัวเลือกการท่องเที่ยวที่น่าสนใจอย่างมาก ยังสามารถเที่ยว ชมไร่กะหล่ำปลี เขาค้อ น้ำหนาว และถนนสาย12 ได้อีกด้วย กับระดับความหนาวเย็นในฤดูหนาว อุณหภูมิ 2-8 องศา หนาวมากเลยนะ


หลายคนมาเที่ยวภูทับเบิกมักจะเห็นต้นซากุระขึ้นไม่มากนักไม่เหมือนที่อื่นๆ ขึ้นเองตามธรรมชาติ อยู่ตามแนวป่า บริเวณเส้นทางเข้าไปยังหมู่บ้านม้ง บ้านทับเบิก แต่ข่าวล่ามาจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพิษณุโลกผู้ดูแลรับผิดชอบพื้นที่บริเวณนี้ ได้เข้าไปสำรวจแล้วว่า จุดที่เยอะที่สุดต้องเข้าไปดูที่หมู่บ้านม้งภูทับเบิก โดยจ้างรถของพี่น้องชาวม้งในพื้นที่พาเข้าเยี่ยมชมจะเห็นทั้งภูเขาเลยครับ เพราะบริเวรนั้นเป็นพื้นที่ปลูกทดแทนป่าเสื่อมโทรมเดิม ปัจจุบันได้ขนาดเต็มที่พร้อมออกดอกสะพรั่งรับนักท่อเงที่ยวกันแล้ว …อย่างไรก็ตาม ทางการท่องเที่ยวจะตามข่าวให้ว่าบานหรือยัง แล้วจะแจ้งให้นักท่องเที่ยวทราบอย่างแน่นอน


และที่ใกล้เคียง ภูลมโล อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ไปอีก 25 กม.ซึ่งจะมีต้นพญาเสือโคร่ง เป็นพันไร่



ภาพจาก ซากุระ ภูทับเบิก : www.thaimtb.com


ที่พักแนะนำ : บริเวณภูทับเบิกจะมีรีสอร์ทเรียงรายอยู่มากทายทีเดียวครับ เรื่องนี้ไม่ยาก เยอะมาก หรือจะเลือกกางเต็นท์ ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อบต. วังบาล ก็ได้ครับ ซึ่งอยู่บริเวณยอดเขาจุดสูงสุดของภูทับเบิก


ที่ตั้ง : ตำบลวังบาล อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ อยู่ห่างจากอำเภอหล่มเก่า 40 กม. และห่างจากตัวจังหวัดเพชรบูรณ์ประมาณ 97 กม.


การเดินทาง: จากทางหลวง 2331 มุ่งสู่ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ขึ้นทาง อ.หล่มเก่า จะมีแยกเข้าสู่ภูทับเบิก ตลอดเส้นทางเราก็จะเห็นต้นซากุระได้ไม่ยากครับ


หากไม่มีรถยนต์มาเอง ต้องนั่งรถโดยสารมาลงที่หล่มสัก การเดินทางมาหล่มสัก หลังจากนั้นเหมาสองแถวที่อยู่บริเวณหล่มสักเพื่อขึ้นสู่ภูทับเิบิก อัตราค่าจ้างประมาณ 1,200 บาท


ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมที่ : กลุ่มการท่องเที่ยวทับเบิก ศูนย์พัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขาเพชรบูรณ์ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ โทร. 056-810-737 และ องค์การบริหารส่วนตำบลวังบาล โทร. 056-747532 เว็บไซต์ http://www.wangban.go.th/


3. ขุนแม่ยะ (แม่ฮ่องสอน)


จุดนี้ให้คะแนนมาเป็นอันดับ3 ครับ ด้วยความที่โด่งดังมาหลายปี จากชื่อเสียงที่ชาวเชียงใหม่ขนานนามไว้ว่า "ดอยสีชมพู" เพราะปลูกไว้ทั้งภูเขา ที่หน่วยจัดการต้นน้ำขุนแม่ยะ จุดเด่นของที่นี่คือ ปายครับ ขุนแม่ยะตั้งอยู่ในเขตจังหวัดแม่ฮ่องสอน ถ้ามาจากเชียงใหม่จะถึงขุนแม่ยะก่อนอำเภอปาย คนที่มาเที่ยวปายส่วนใหญ่จึงจัดเวลาไว้สำหรับเที่ยวขุนแม่ยะ


แต่การเที่ยวขุนแม่ยะเข้าไปชมความงามของดอกซากุระนั้น สะดุดตาแนะนำให้จอดรถไว้ที่ปากทางเข้า แล้วใช้บริการของรถพื้นที่ ที่จะเข้าไปเที่ยวยังขุนแม่ยะ เพราะเส้นทางเป็นลูกรัง ฝุ่นมาก ทางแคบ และบางช่วงเป็นเขาชัน บางพื้นที่ก็อาจจะเจอโคลน รถที่เข้าต้องอยู่ในสภาพดี และขับได้อย่างชำนาญเท่านั้น ไม่งั้นเข้าไปรถติดยาวล่ะครับทำคนอื่นเสียเวลาเข้าไม่ถึงกันพอดี สะดุดตาเองเคยเข้าไปแบบเจอรถเข้าไม่ไหวหลายคัน ทำเอารถติดยาวบนทางชันภูเขา อันตรายมาก


อีกวิธีใช้บริกาซื้อทัวร์วันเดียวในอ.ปายมาเที่ยวก็ได้ครับ เขามีมาเที่ยวทุกวัน สำหรับคนที่ไม่มีรถส่วนตัวมานะครับ


ขุนแม่ยะชื่เต็มคือ หน่วยจัดการต้นน้ำขุนแม่ยะ อยู่ในสังกัดส่วนจัดการต้นน้ำ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ 2 จังหวัด เชียงใหม่ และ แม่ฮ่องสอน คือตำบลป่าแป๋ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ และตำบลแม่ฮี้ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นดอยสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 2,020 เมตร อาณาเขตพื้นที่ราว 87,500 ไร่ โดยพื้นที่ทั้งหมดอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่เลา–แม่แสะ



ภาพ : ซากุระที่ขุนแม่ยะ


ที่พัก : สามารถกางเต็นท์นอนได้ที่หน่วยจัดการต้นน้ำขุนแม่ยะ อยากน้อนสบายแนะนำให้นอนที่อ.ปาย แล้วขับรถมาเที่ยวก็สะดวก


ที่ตั้ง : ตำบลแม่ฮี้ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน


การเดินทาง: จากเชียงใหม่ ขับรถไปจามเส้นทาง แม่มาลัย-ปาย ขับไปเรื่อยๆตามถนนหลวงหมายเลข 1095 นั้นแหละครับ ขับผ่านอช.ห้วยน้ำดังไป จนถึงกม.ที่ 67 ก่อนถึงปาย จุดนั้นจะเป็นด่านตรวจขุนแม่ยะ จอดรถบริเวณนั้นได้เลย แล้วติดต่อรถนำเที่ยวเข้าไปชมดีที่สุดถนอมรถไว้ครับ (รถที่เข้าได้ควรเป็น 4x4เท่านั้น) เข้าไปอีก 8 กิโลเมตร ที่อาจจะต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงทีเดียว


ติดต่อสอบถาม : หน่วยจัดการต้นน้ำขุนแม่ยะ 0-5321-7453 สอบข้อมูลช่วงซากุระบาน ได้ที่คุณปัด โทร.081-023-4570




4. ดอยแม่สลอง(เชียงราย)


ซากุระดอยแม่สลอง ต้องถือว่าเป็นพื้นที่แรกๆของเมืองไทยที่ ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยโปรโมท ประชาสัมพันธ์ เจ้าต้อนพญาเสือโคร่งมาโดยตลอด ซึ่งทางดอยแม่สลองก็จะมีงาน "งานมหัศจรรย์ชา ซากุระบาน อาหารชนเผ่า ดอยแม่สลอง" ประจำปีขึ้น ระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม-4 มกราคม ของทุกปี ณ บริเวณอนุสรณ์สถานวีรชนอดีตทหารจีนคณะชาติ บ้านสันติคีรี(ดอยแม่สลอง) ตำบลแม่สลองนอก อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย


การมาเที่ยวดอยแม่สลองไม่เพียงจะได้ชมดอกซากุระบานที่ปลูกมานานต้งแต่สมัยเริ่มสร้างหมู่บ้านกันเลย ยังได้กินอาหารยูนนานอร่อยๆ ชิมชาสุดยอดของเมืองไทย ชาอู่หลง ซึ่งเป็นชาชันดี และได้สัมผัสกับอากาศที่หนาวเย็นสดชื่น นอกจากนี้ในพื้นที่ยังสามารถปลูกพืชผัก ไม้ผลและไม้ดอกเมืองหนาวหลากหลายชนิด ประกอบกับวิถีชีวิตชนเผ่ากว่า 7 ชนเผ่าที่อาศัยอยู่รวมกันเป็นเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางขึ้นมาสัมผัส



ภาพจาก http://teatalk.fix.gs/ ภาพซากุระบานที่ดอยแม่สลอง โดยคุณ Master Tea


ที่ตั้ง : ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย


การเดินทาง : ใช้ทางหลวงหมายเลข 10 จากตัวเมืองเชียงราย ไปทางอำเภอแม่จัน ระยะทาง 29 กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวง 1089 (แม่จัน-ท่าตอน) บริเวณหลัก กม.856 ก่อนถึงทางเข้าตัวอำเภอแม่จันเล็กน้อย ผ่านน้ำพุร้อนป่าตึง (กม.78) ลานทองวิลเลจ (ระหว่าง กม.73-74) ประมาณ 31 กิโลเมตร และ กม. 55 ให้เลี้ยวขวา ไปตามเส้นทางขึ้นดอยคดเคี้ยว ไปอีกประมาณ 15 กิโลเมตร รวมระยะทาง 75 กิโลเมตร


ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ : องค์การบริหารส่วนตำบล แม่สลองนอก โทร. 0 5376 5129


5. ปางอุ๋ง(แม่ฮ่องสอน)


ที่ปางอุ๋งอาจจะไม่มีต้นซากุระมากนักให้อลังการกัน แต่ก็เป็นอีกจุดที่นักท่องเที่ยวสามารถมาสัมผัสและใกล้ชิดกับต้นซากุระเมืองไทยหรือพญาเสือโคร่งได้ไม่ยาก ขนาดที่สามารถนอนกางเต้นท์ใต้ต้นซากุระได้ ห้องน้ำก็อยู่ใต้ต้นซากุระสุดโรแมนติก ซากุระที่ปางอุ๋งนี้จะปลูกแซมอยู่ในป่าสนครับ แนะนำไว้สำหรับใครที่ขึ้นไปเที่ยวปางอุ๋ง ก็อย่าลืมถ่ายรูปกับต้นซากุระกันได้ นั่งแพไม้ไผ่ จะเห็นมีต้นซากุระริมน้ำด้วย


หลายคนเลือกมาเที่ยวที่ปางอุ๋งเพราะจะได้สัมผัสกับการท่องเที่ยวที่หลากหลายประกอบกับปีใหม่ ช่วงที่ซากุระบาน มักจะอยู่สิ้นปี จะหยุดมาเที่ยวก็ได้เพียงครั้งเดียวการเลือกมาเที่ยวปางอุ๋ง เราจะได้ชมทั้งธรรมชาติป่าสน กางเต้นท์นอน หรือโฮมสเตย์แบบชาวเขา ได้สัมผัสกับทะเลสาบกลางหุบเขา ออกไปนิดก็ได้ชมอาหารยูนนานแท้ๆสุดอร่อย ชมบ้านดินวัฒนธรรมยูนนานที่บ้านรักไทย แล้วยังมีพระตำหนักปางตอง เที่ยวน้ำตกก็มี ยังใกล้เมืองแม่ฮ่องสอนอีกด้วย การเดินทางก็สะดวกทั้งรถส่วนตัวและรถสาธารณะ




ภาพ: กางเต้นท์ ใต้ต้นซากกุระที่ปางอุ๋ง


ที่พัก : แนะนำให้กางเต้นท์นอนที่ปางอุ๋ง ซึ่งต้องจองพื้นที่กางเต้นท์ล่วงหน้า หรือนอนรีสอร์ทในเมืองแม่ฮ่องสอนก็สะดวกครับ


ที่ตั้ง : อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน


การเดินทาง : จากปาย ผ่านอำเภอปางมะผ้า และอำเภอเมือง ก่อนถึงตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ประมาณ 17 กิโลเมตร (ผ่านถ้ำปลา) แล้วเลี้ยวขวาเข้าหมู่บ้านหมอกจำแป่ ไปยังบ้านรวมไทย ขึ้นเขาไปอีก 30กิโลเมตร ก็ถึง


ถ้ามาจากแม่ฮ่องสอน ก็ออกจากตัวเมืองมาตามถนน 1095 มุ่งหน้าปางมะผ้า ถึงกิโลเมตรที่ 10 เลี้ยวซ้ายไปยังบ้านหมอกจำแป่ จากบ้านหมอกจำแป่ ผ่าน บ้านห้วย มะเขือส้ม จนถึงบ้านรวมไทย รวมระยะทาง 45 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง สภาพถนนเป็นถนนลาดยางและคอนกรีตอย่างดี แต่ทางบางช่วงสูงชัน รถยนต์ทุกประเภทขึ้นได้แต่ควรมีสภาพดี


สำหรับใครไม่มีรถส่วนตัว ที่ตัวจังหวัดแม่ฮ่องสอน เขาจะมีรถสองแถวสีเหลือง บริการขึ้นมายังปางอุ๋งตอลดทั้งวันครับในช่วงฤดูท่องเที่ยว


ข้อมูลท่องเที่ยวปางอุ๋งเพิ่มเติมที่ : http://pangoung.sadoodta.com/
ศูนย์ศิลปาชีพจังหวัดแม่ฮ่องสอน โทร.053 - 611244 , 085 - 618 - 3303 โทรสาร 053 - 611649




6. ดอยแม่ตะมาน และ สถานีวิจัยเกษตรที่สูงป่าเกี๊ยะ (เชียงใหม่)


ดอยแม่ตะมาน ตั้งอยู่ในหน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน เป็นจุดที่เราจะได้เห็นต้นพญาเสือโคร่งออกดอกสวยงาม พร้อมกับวิวทิวทัศน์สุดอลังการ ที่เจะเห็นฉากหลังเป็นดอยเชียงดาว ทำให้เป็นสถาที่ วิวสวยงามจับใจดึงดูดนักท่องเที่ยวมาตั้งเต้นท์รอชมดวงอาทิตย์ขึ้นกัน และสัมผัสอากาศเย็นที่สดชื่น ในระดับความสูง ใกล้เคียงกับดอยหลวงเชียงดาวดอกซากุระหรือนางพญาเสือโคร่ง จะผลิบานเต็มที่ช่วงปลายเดือนธันวาคม ถึงกลางเดือนมกราคม
ตลอดเส้นทาง มายังดอยแม่ตะมาน จะเห็นดอกพญาเสือโคร่งสีชมพูบานได้ตลอดทาง


บริเวณที่เราจะสามารถเห็นภาพของดอยหลวงเชียงดาวได้ชัดเจนจะอยู่ที่ สถานีเกษตรที่สูงสันป่าเกี๊ยะ เป็นจุดที่นักท่อง เที่ยว นิยมมากางเต้นท์ เพื่อชมกับบรรยากาศพระอาทิตย์ขึ้น และทะเลหมอกที่สวยงามในยามเช้า ที่นี่เป็น สถานีทดลองของโครงการพัฒนาที่สูงไทย-ออสเตรเลีย ซึ่งอยู่ในความดูแลของคณะเกษตรศาสตร์


มีแปลงทดลองปลูกพืช และผลไม้เมืองหนาวหลายชนิดให้เยี่ยมชมกัน เช่น บ๊วย ท้อ และ พืชผัก เป็นแหล่งศึกษาธรรมชาติวิทยาและความหลากหลายทางชีวภาพของ เทือกเขาดอยเชียงดาว


การเยี่ยมชมควรติดต่อขออนุญาตจากสถานีวิจัยเกษตรที่สูงป่าเกี๊ยะ ดอยเชียงดาว คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ล่วงหน้าอย่างน้อย 10 วัน



ภาพจาก : โดยคุณ Nitivadee จากจุดนี้มองเห็นดอยหลวงเชียงดาว http://gonorththailand.com/





ที่พัก : บริเวณหน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน มีสถานที่กางเต้นท์ และ สถานีเกษตรที่สูงสันป่าเกี๊ยะ มีสถานที่กางเต้นท์


ที่ตั้ง : ตำบลแม่นะ อำเภอเชียงดาว จ.เชียงใหม่


การเดินทาง: ถนนค่อนข้างลำบาก เป็นทางลูกรังและเป็นหลุมบ่อ ต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อ เท่านั้น รถอื่นๆ ไม่สามารถขึ้นได้ เนื่องจากระยะทาง 21 กม. เป็นเส้นทางทางดินลูกรังและค่อนข้างชัน


สำหรับรถส่วนตัว มี 2 เส้นทาง
- จากตัวจังหวัดเชียงใหม่ ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 107 (เชียงใหม่-ฝาง) เลี้ยวซ้ายระหว่างหลัก กิโลเมตรที่ 67-68 เข้าตรงปากทางเข้าบ้านแม่นะ หน้าปากทางเขียนว่า วัดจอมคีรี ขับไปเรื่อย จะถึงเส้นทาง ออฟโรดผ่านทางลูกรัง และลาดชันกว่า 21กิโลเมตร ถึงที่ทำการหน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน ใช้เวลาในการเดิน ทางประมาณ 2.50 ชั่วโมง


- จากตัวจังหวัดเชียงใหม่ ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 107 (เชียงใหม่-ฝาง)เลี้ยวซ้ายระหว่างหลักกิโลเมตร ที่ 60-61 บ้านแก่งปันเต๊า ตำบลแม่นะ เลี้ยวซ้ายไปตามเส้นทางไปสวนชาระมิงค์ ถึงที่ทำการหน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน ระยะทางประมาณ 29กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ : สถานีเกษตรที่สูงสันป่าเกี๋ยะ 053 944 052




7. ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนวาง (ดอยอินทนนท์ เชียงใหม่)


ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนวาง เป็นอีกจุดที่มีต้นซากุระหรือพญาเสือโคร่งปลูกไว้จำนวนมาก และยังเป็นศูนย์การเรียนรู้ และสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสวยงามทางธรรมชาติ เป็นโครงการหลวงขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ไม่ไกลนักจาก โครงการหลวงอินทนนท์ ช่วงปลายเดือนธันวาคม ถึงเดือนมกราคม ต้นซากุระเมืองไทยหรือ พญาเสือโคร่งก็จะออกดอกสวยงามต้อนรับนักท่องเที่ยว เป็นประจำทุกปี


ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนวาง ก่อตั้งขึ้นปี พ.ศ. 2525 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปยังบ้านขุนวาง เป็นครั้งแรก ได้ทอดพระเนตรเห็นว่า บริเวณนี้ยังมีพืชเสพติดอยู่มาก ควรจะส่งเสริมการปลูกพืชชนิดอื่นๆ ที่มีรายได้ทัดเทียมหรือดีกว่าปลูกฝิ่นจึงรับสั่งให้หน่วยงานในพื้นที่ช่วยกันพิจารณา ปรับปรุงและพัฒนา มีหมู่บ้านในเขตรับผิดชอบจำนวน 7 หมู่บ้านคือ บ้านขุนวาง , บ้านป่ากล้วย , บ้านโป่งลมแรง , บ้านโป่งน้อยเก่า , บ้านห้วยยาว และบ้านขุนแม่วาก ประชากรส่วนใหญ่ เป็นชาวเผ่าม้งและปากะญอบางส่วน


มาเที่ยวที่นี้แล้วเที่ยวอินทนนท์ต่อได้เลยจร้า กิ่วแม่ปาน, อ่างกาหลวง ยอดอินทนนท์ น้ำตกแม่ยะ น้ำตกวชิรธาร น้ำตกสิริภูมิ นอกจากนี้ยัง มีกิจกรรมศึกษา เช่น เดินป่าเที่ยวน้ำตกผาดำ ห่างจากศูนย์ประมาณ 2.5 กิโลเมตร



ภาพจาก : โดยคุณ illlive http://www.bloggang.com/


ที่พัก : มีบริการบ้านพักรับรองแบบเอเฟรม และบ้านพักรับรองขนาด 4 ห้อง 1 หลัง รองรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 30 คน มีบริการเช่าเต็นท์และถุงนอน และสถานที่กางเต็นท์ หรือเลือกนอนในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ก็สะดวกดีครับ หรือจะเป็นรีสอร์ทรอบๆดอยอินทนนท์ก็มีเยอะ


ที่ตั้ง: ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนวาง บ้านขุนวาง หมู่ 12 ตำบลแม่วิน อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่


การเดินทาง : จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108 (เชียงใหม่-ฮอด) ก่อนถึงอำเภอจอมทอง มีทางแยกขวามือขึ้น ดอยอินทนนท์ ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1009 ราวหลักกิโลเมตรท ี่30-31 มีสามแยกตรงหมู่บ้านขุนกลาง ก็เลี้ยวขวาไปอีก 16 กิโลเมตร จะถึงหมู่บ้านขุนวาง เลยหมู่บ้านไปประมาณ 2 กิโลเมตร ก็จะถึงสถานนีเกษตรฯ ขุนวาง ถนนเป็นถนนลาดยาง อาจจะมีหลุมบาง


สำหรับรถประจำทางก็มีครับ ที่ตัวอำเภอจอมทอง จะมี รถสองแถวขึ้นดอยอินทนนท์ตรงวัดพระธาตุศรีจอมทอง


ติดต่อสอบถามที่ : ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนวาง โทร. 053-939102 , 088-0087291
เฟสบุ๊ค : http://www.facebook.com/pages/ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนวาง/195140347228123/




8. อุทยานแห่งชาติขุนสถาน (น่าน)


เป็นอีกจุดที่จะมีดอกซากุระบานสะพรั่งเต็มภูเขา นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับบรรยากาศโรแมนติก ด้วยดอกนางพญาเสือโคร่งสีสันสวยงาม พร้อมอากาศที่หนาวเย็น ซึ่งสูงจาก ระดับน้ำทะเลปานกลาง ประมาณ 1,424 เมตร


ระหว่างการเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติขุนสถาน นักท่องเที่ยวจะสัมผัสกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม วิถีชีวิตหมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้ง ชมสวนกะหล่ำปลีสีเขียวหัวโตๆ ปลูกเป็นแนวไปตามชายเขาราวกับภูเขากะหล่ำปลี แวะสวนสตรอเบอร์รี่ ที่นี่ท่านจะได้พบกับสตรอเบอร์รี่สีแดงสดที่เจ้าของบอกว่าเป็นการปลูกแบบออแกนิก ไม่มีการฉีดยาฆ่าแมลง หากต้องการซื้อสตรอเบอร์รี่ไปชิมนักท่องเที่ยวก็สามารถเลือกเก็บได้เองตามชอบใจ


ที่พัก : ที่อุทยานฯ มีพื้นที่บริการนักท่องเที่ยวอยู่บริเวณเชิงดอยแม่จอก (เนินดาวดิน) มีที่พักบรรยากาศดี สำหรับนักท่องเที่ยวจำนวน 4 หลัง พักได้ประมาณ 50 คน และมีพื้นที่สำหรับกางเต็นท์ได้ ทั้งนี้เพื่อความสะดวกในเรื่องอาหารและเครื่องดื่ม นักท่องเที่ยวควรจัดเตรียมมาเอง





ภาพโดย: คุณ bell-bellnaluck http://gonorththailand.com/


ที่ตั้ง: ตั้งอยู่หมู่ที่ 3 บ้านขุนสถาน ตำบลสันทะ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน


การเดินทาง : จากจังหวัดน่าน ใช้ทางหลวงหมายเลข 101 ตรงมาตามทางเรื่อยๆประมาณ 66 กิโลเมตร จะถึงหมู่บ้านห้วยแก๊ต ตรงจุดนี้เป็นสามแยก ให้เลี้ยวขวาไปตามเส้นทางหลวง 1216 ตรงปากทางจะเห็นป้ายบอกไป อุทยานแห่งชาติขุนสถาน ขับรถต่อไปอีกประมาณ 24 กิโลเมตรก็จะถึงที่ทำการอุทยานฯ


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือจองห้องพักได้ที่
อุทยานแห่งชาติขุนสถาน โทร.0-5470-1121, 0-5473-1585, 08-7173-9549
ททท.สำนักงานแพร่ โทรศัพท์ 0-5452-1118,0-5452-1127








ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับต้อนพญาเสือโคร่ง หรือ ซากุระเมืองไทย
นางพญาเสือโคร่ง เป็นพืชดอกในสกุล Prunus พบทั่วไปบนดอยสูง และพญาเสือโคร่งยังเป็นดอกไม้ประจำอำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่อีกด้วย นางพญาเสือโคร่ง เป็นพรรณไม้ที่มีการกระจายพันธุ์ตามธรรมชาติอยู่ที่ตอนเหนือของประเทศไทย ทางตอนใต้ของประเทศจีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน และถูกนิยมเรียกว่า"ซากุระเมืองไทย" เพราะมีลักษณะคล้ายซากุระ แม้จะเป็นคนละชนิดกันก็ตาม ในประเทศญี่ปุ่นจะเรียกดอกไม้พันธุ์นี้ว่า "ฮิมาลายาซากุระ"


คำว่า ซากุระ ใช้กับพืชที่อยู่ในสกุล Prunus โดยต้นนางพญาเสือโคร่งเป็นหนึ่งในสกุลนั้น โดยมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Prunus cerasoides ส่วนในประเทศญี่ปุ่นมีซากุระอยู่หลากหลายพันธุ์ โดยพันธุ์ที่พบมากสุดคือ โซะเมโยะชิโนะ ในชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Prunus × yedoensis


ความแตกต่างของซากุระเมืองไทย และ ซากุระญี่ปุ่น คือ จะออกดอกในช่วงเวลาที่แตกต่างกันเท่านั้น พญาเสือโคร่งออกดอกในเดือนธันวาคม-มกราคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูหนาว ส่วนซากุระในญี่ปุ่นออกดอกช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน ซึ่งเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่น


 
 



สะดุดตาดอทคอม
 
 
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #38 เมื่อ: มีนาคม 01, 2013, 11:42:11 AM »

"เกาะทะลุ" เงียบสงบ งดงาม น่าจดจำ




ท้องทะเลฝั่งอ่าวไทยอาจถูกนักท่องเที่ยวหลายคนมองว่างดงามเทียบเท่าท้องทะเลฝั่งอันดามันไม่ได้ แต่แท้ที่จริงแล้วทะเลฝั่งอ่าวไทยมีความสวยงามและเสน่ห์ที่ชวนให้เข้าไปสัมผัสอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นชายหาดและเกาะต่างๆ วันนี้ เดลินิวส์ออนไลน์ ขอแนะนำหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวแห่งท้องทะเลฝั่งอ่าวไทยที่มีความน่าสนใจไม่แพ้ทะเลฝั่งอันดามัน เหมาะสำหรับคนที่รักการเที่ยวทะเลพร้อมสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ในบรรยากาศส่วนตัวและเงียบสงบที่ เกาะทะลุ จ.ประจวบคีรีขันธ์

เกาะทะลุ ตั้งอยู่กลางอ่าวไทย ในเขต ต.ทรายทอง อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ห่างจากฝั่งประมาณ 7 กิโลเมตร ใช้เวลาการเดินทางด้วยสปีดโบ็ทจากท่าเรือประมาณ 20 นาที บนเกาะจะมีที่พักเพียงแห่งเดียวคือที่ เกาะทะลุ ไอส์แลนด์ รีสอร์ท โดยท่าเรือและรีสอร์ทจะตั้งอยู่ที่อ่าวใหญ่ซึ่งเป็นอ่าวที่ใหญ่ที่สุดของเกาะทะลุ นักท่องเที่ยวที่จะขึ้นมาพักที่เกาะทะลุจะต้องขึ้นฝั่งที่ท่าเรืออ่าวใหญ่ เราสามารถสัมผัสถึวความอุดมสมบูรณ์ของเกาะทะลุได้ตั้งแต่ก่อนเรือเข้าเทียบท่า เพราะจะสามารถเห็นฝูงปลาแหวกว่ายไปมาทั้งฝูงใหญ่ฝูงเล็กในบริเวณใกล้ท่าเทียบเรือได้อย่างชัดเจน สาเหตหนึ่งมาจากที่ เกาะทะลุ ไอส์แลนด์ รีสอร์ท รองรับนักท่องเที่ยวต่อวันในจำนวนจำกัด จึงทำให้พื้นที่ทั้งบริเวณชายหาด บนฝั่งรอบบริเวณเกาะ รวมถึงท้องทะเล คงความสมบูรณ์ได้เป็นอย่างดี





นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพักผ่อนยังเกาะทะลุสามารถเดินเล่นเรียบแนวชายหาดที่ที่ทอดตัวโค้งยาวอย่างสวยงามของอ่าวใหญ่ได้ทั้งในยามเย็นช่วงก่อนพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าและรุ่งเช้าช่วงเวลาก่อนพระอาทิตย์ขึ้น ทรายบริเวณชายหาดอ่าวใหญ่มีความนุ่มละมุนเท้าเพราะเป็นทรายที่เกิดจากซากปะการัง ทำให้ผู้มาเยือนสามารถเดินเท้าเปล่าสบายๆชมทัศนียภาพบนเกาะและความงดงามของผืนน้ำได้ไปจนสุดหาด เหมาะสำหรับคนที่ต้องการพักผ่อนอย่างเงียบสงบปล่อยวางภาระอันวุ่นวายจากโลกภายนอกเพื่อเติมพลังให้กับร่างกาย ส่วนคนที่ต้องการกิจกรรมสนุกๆที่อ่าวใหญ่ก็มีกิจกรรมอย่าง พายเรือคายัคหรือแล่นเรือใบ เพื่อออกไปชมความงามของผืนน้ำสีฟ้าใสที่มองเห็นโลกใต้ทะเลได้อย่างชัดเจน นับเป็นกิจกรรมที่คู่รักหรือกลุ่มเพื่อนฝูงที่มาพักผ่อนด้วยกันไม่ควรพลาด

สำหรับคนที่ไม่ต้องการออกจากฝั่งไปไกลมากนักก็สามารถเล่นน้ำบริเวณใกล้ชายฝั่งได้ นอกจากนี้บนชายหาดของเกาะทะลุยังมีกิจกรรมใหม่ที่ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานประจวบคีรีขันธ์กำลังสนับสนุนอย่าง กิจกรรมหมกทราย ไว้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่รักสุขภาพ การหมกทรายเป็นกิจกรรมผ่อนคลายที่มีประโยชน์เพราะในทรายและน้ำทะเลนั้นมีแร่ธาตุมากมาย ที่จะช่วยดูดซับสารพิษต่างๆออกจากร่างกายของมนุษย์ ถือเป็นกิจกรรมทางการท่องเที่ยวที่ช่วยรักษาสุขภาพพร้อมกับผ่อนคลายไปในตัว นอกจากนี้บนชายหาดอ่าวใหญ่ ยังเป็นที่ตั้งของ ศูนย์อนุบาลลูกเต่าทะเล ที่ทางกองทัพเรือและเกาะทะลุ ไอส์แลนด์ รีสอร์ท ร่วมมือกันจัดตั้งขึ้น เนื่องจากเห็นความสำคัญของเต่าทะเลที่ปัจจุบันมีจำนวนลดลงอย่างมาก ซึ่งเกาะทะลุเป็นสถานที่ที่เต่าทะเลจำนวนมากใช้เป็นแหล่งผสมพันธุ์และวางไข่ หากปล่อยไปตามธรรมชาติอัตราการรอดของลูกเต่าจะมีน้อยมาก เจ้าหน้าที่จึงเข้าช่วยเหลือโดยการนำไข่เหล่านั้นมาอนุบาลให้ฟักออกเป็นตัวและเลี้ยงจนแข็งแรงพอที่จะดูแลตัวเองได้จากนั้นจึงปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ





อีกหนี่งกิจกรรมที่ขาดไม่ได้และเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของเกาะทะลุนั่นก็คือ การดำน้ำดูปะการังบริเวณรอบเกาะ โดยที่นี่จะใช้เรือที่เปิดโล่งมีลักษณะคล้ายแพเป็นยานพาหนะในการล่องไปรอบเกาะ ทำให้สามารถรับลมทะเลอย่างเย็นสบายและมองเห็นทิวทัศน์รอบด้านได้อย่างสวยงามในมุมมองพาโนรามา 360 องศา เรือจะค่อยๆล่องให้นักท่องเที่ยวได้ชมความงามบริเวณชายฝั่งในอ่าวต่างๆของเกาะทะลุไปเรื่อยๆจนมาสุดเส้นทางที่จุดไฮไลท์ของเกาะบริเวณช่องเขาทะลุกลางทะเลด้านทิศเหนือของเกาะซึ่งเป็นที่มาของชื่อเกาะทะลุ เกิดขึ้นจากกระบวนการทางธรรมชาติที่ลมและน้ำทะเลกัดเซาะโตรกผาบริเวณนั้นปีแล้วปีเล่า จนทำให้เกิดช่องว่างตรงกลางโตรกผาขึ้น แต่ไม่ใช่ว่านักท่องเที่ยวทุกคนจะมีโอกาสได้มาถึงจุดนี้ได้ เพราะหากวันใดอากาศไม่เป็นใจเกิดปัญหาคลื่นลมแรง เรือก็จะเดินทางมาได้ยากลำบากหรืออาจมาไมได้เลยก็เป็นได้

เสร็จจากชมความอัศจรรย์ของช่อทะลุแล้ว เรือก็จะแล่นวกกลับมาให้นักท่องเที่ยวดำน้ำในจุดดำน้ำของเกาะซึ่งมีไฮไลท์อยู่ที่ฝูงปลานับร้อยที่แหวกว่ายรอให้เราเข้าไปชมอย่างใกล้ชิด แม้จะมี ปะการัง และดอกไม้ ไม่มากนัก แต่ความงดงามของฝูงปลาหลากสีสันก็จะช่วยสร้างความประทับใจให้ทุกคนได้ไม่มากก็น้อย โดยจะมีเวลาให้ชมความงามของโลกใต้ท้องทะเลประมาณ 1 ชั่วโมง ปัจจุบันเกาะทะลุได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมากขึ้นทำให้จะมีกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ซื้อแพคเกจวันเดย์ทริปเข้ามาใช้บริการจุดดำน้ำบริเวณนี้ด้วยเช่นกัน หลังจากเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้ามาจากการดำน้ำที่ เกาะทะลุ ไอส์แลนด์ รีสอร์ท ก็มีบริการนวดไทย นวดน้ำมัน และนวดเท้า โดยหมอนวดมืออาชีพไว้คอยให้บริการอีกด้วย

เกาะทะลุ ตั้งอยู่ที่ อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ การเดินทางไปยังเกาะทะลุมีอยู่ 2 วิธี คือ เช่าเหมาเรือมาเอง และติดต่อซื้อแพคเกจทัวร์ โดยสามารถติดต่อเช่าเรือได้ที่ท่าเรือบ้านปากคลอง บนเกาะทะลุจะมีกฎในการดับไฟฟ้าเวลากลางวัน 2 ช่วงเวลา คือประมาณ 09.00-11.00 น. และ15.00-17.00 น. เพื่อประหยัดพลังงาน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมในการเดินทางได้ที่ ททท.ประจวบคีรีขันธ์ โทร 0 3251 3885,0 3251 3871,0 3251 3854 หรือที่ เกาะทะลุ ไอส์แลนด์ รีสอร์ท โทร 0 8991 83715,0 89744 5639 และ 0 3244 2636

ทีมเดลินิวส์ออนไลน์















บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #39 เมื่อ: มีนาคม 01, 2013, 11:59:59 AM »

วัดพระพุทธบาทภูพานคำ



วัดพระพุทธบาทภูพานคำ
เป็นวัดที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลองและพระพุทธรูปสีขาวขนาดใหญ่บนยอดภูพานคำ ใกล้ทางเข้าเขื่อนอุบลรัต…ตั้งบริเวณไหล่เขาภูพานคำ อำเภออุบลรัตน์ เป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลองในมณฑป และ พระพุทธรูปสีขาวขนาดใหญ่ หรือหลวงพ่อใหญ่ สูง 14 เมตร อยู่บนยอดเขา มีบันไดทางขึ้นจากลานวัดไปยังยอดเขาจำนวน 1,049 ขั้น หรือจะขับรถยนต์ขึ้นไปถึงยอดเขาก็ได้ บนยอดเขามองเห็นทัศนียภาพทะเลสาบเขื่อนอุบลรัตน์ได้สวยงาม

การเดินทาง ใช้เส้นทางเดียวกับทางไปเขื่อนอุบลรัตน์ ก่อนถึงประตูทางเข้าบริเวณเขื่อนจะมีป้ายวัดอยู่ด้านซ้ายมือ หรือจะใช้ทางเข้าวัดซึ่งอยู่ตรงข้ามกับโรงพยาลอุบลรัตน์ก็ได้


หน้าวัดพระพุทธบาทภูพานคำ เป็นวัดที่มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ประดิษฐานบนยอดเขา ซึ่งฐานของพระพุทธรูปยังมีการสร้างเป็นศาลา พุทธศาสนิกชนสามารถเข้าไปในฐานขององค์พระเพื่อกราบไหว้พระพุทธรูปองค์เล็กที่ประดิษฐานอยู่ภายใน จากถนนหลักจากมิตรภาพเข้ามาทางเขื่อนอุบลรัตน์จะมีแยกเข้าชุมชนเมืองอุบลรัตน์ซึ่งจะมีซุ้มประตูทางเข้าวัดอยู่ขวามือ (ซอยสุขาภิบาล  ขับเข้ามาตามทางจะเริ่มมีต้นไม้ขึ้นปกคลุมบรรยากาศดูสงบมาก


ภายในวัดพระพุทธบาทภูพานคำ เมื่อผ่านซุ้มประตูเข้ามาจะเห็นศาลาและวงเวียนรูปปั้นช้าง ทางขวามือมีทางตัดเข้าไปได้อีกซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นในการเดินขึ้นเขาด้วยบันไดสวรรค์ 1049 ขั้น หรือจะเลือกขับรถขึ้นไปตามทางเล็กๆ ถึงยอดเขาก็ตามสะดวก เมื่อนานมาแล้วเราก็เคยใช้วิธีการเดินขึ้นไป นานเหมือนกันครับ สำหรับคราวนี้จะใช้วิธีการขับรถขึ้นไปแทน

บันไดสวรรค์ เป็นขั้นบันไดสูงขึ้นไปถึงยอดเขา 1049 ขั้น มีพญานาคเลื้อยทั้ง 2 ช้าง ยาวตลอดแนวของบันได จากตรงนี้มองเห็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่อยู่บนยอดเขา พระพุทธรูปองค์นี้มีพระนามว่า หลวงพ่อใหญ่ (ตามการเรียกขานของชาวบ้าน) สูง 14 เมตร เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่มีผู้คนศรัทธากันอย่างกว้างขวางในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากตรงนี้ขับตรงไปตามทางจะมีป้ายบอกทางขึ้นเขา เป็นทางลาดชันและคดเคี้ยว ที่สำคัญทางค่อนข้างแคบควรขับด้วยความระมัดระวังเพราะปกติจะมีรถขึ้นลงตลอด


บันไดสวรรค์ หากใครที่ได้เดินขึ้นบันไดนี้มาคงมีความประทับใจไม่น้อยที่ได้ผ่านความยากลำบากขึ้นมาได้ มองย้อนลงไปตามบันไดจะเห็นทิวทัศน์ได้สวยงาม

หลวงพ่อใหญ่ พระพุทธรูปสีขาวขนาดใหญ่ที่เห็นประดิษฐานอยู่อย่างนี้ตั้งแต่ผมไปเที่ยวเขื่อนอุบลรัตน์ครั้งแรกจำได้ว่าเกือบ 20 ปีแล้ว ส่วนพระพุทธรูปปางนาคปรกเป็นพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นมาใหม่ในปี 2550 เนื่องในวโรกาสมหามงคลพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภู อดุลยเดช พระนามว่าพระพุทธชัยบวรรัตนมหามงคล บริเวณนี้เป็นลานจอดรถบนยอดเขาซึ่งสามารถจอดได้ไม่มากนัก และประชาชนทั่วไปที่มาที่วัดแห่งนี้ก็นิยมการเดินขึ้นบันไดมากกว่า

เสี่ยงทายยกพระสังกัจจายน ก็เป็นการเสี่ยงทายในเรื่องโชคลาภ คำถามและวิธีการยกจะเขียนอยู่ที่ฐานพระ


การเดินทาง
ไปได้ตามทางหลวงหมายเลข 2 (ขอนแก่น-อุดรธานี) เป็นระยะทาง 26 กิโลเมตร จะมีทางแยกซ้ายมือเข้าไปทางเขื่อนอุบลรัตน์อีก 24 กิโลเมตร รวมระยะทางห่างจากตัวเมือง 50 กิโลเมตร วัดพระบาทภูพานคำ จะอยู่ด้านซ้ายมือ ใช้เส้นทางเดียวกับทางไปเขื่อนอุบลรัตน์ ก่อนถึงประตูทางเข้าบริเวณเขื่อนจะมีป้ายวัดอยู่ด้านซ้ายมือ หรือจะใช้ทางเข้าวัดซึ่งอยู่ตรงข้ามกับโรงพยาลอุบลรัตน์ก็ได้











บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #40 เมื่อ: มีนาคม 26, 2013, 08:23:23 AM »

ล่องเรือสุดสายน้ำค้นหาโบสถ์และพระพุทธรูปมหัศจรรย์ทำจากสแตนเลส

ล่องเรือสุดสายน้ำค้นหาโบสถ์และพระพุทธรูปมหัศจรรย์ทำจากสแตนเลส

โบสถ์แสตนเลส อ.ศรีสวัสดิ์ แหล่งท่องเที่ยว UNSEEN แห่งใหม่ ที่สร้างสรรค์จากแรงศรัทธาในพระพุทธศาสนา ก่อเกิดเป็นพระอุโบสถแสตนเลสหนึ่งเดียวในโลก ตั้งอยู่ทางตอนบนสุดของทะเลสาบเขื่อนศรีนครินทร์ ณ วัดปากลำขาแข้ง ต.เขาโจด เดินทางเข้าถึงได้ด้วยทางเรือเท่านั้น ภายในบริเวณวัดยังมีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่สร้างจากแสตนเลสอีกด้วย (สถานที่ตั้ง วัดปากลำขาแข้ง อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี)



โบสถ์แสตนเลส ณ วัดป่าลำขาแข้ง  และพระพุทธรูปแสตนเลส หนึ่งเดียวในโลก ฉลุลายไทยวิจิตรงดงาม สร้างสรรค์จากแรงศรัทธาของประชาชน ที่ช่วยกันบริจาคสร้างขึ้นเพื่อนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวในวโรกาสทรงเจริญพระชนพรรษาครบ 80 พรรษา เป็นสถานที่ท่องเที่ยว Unseen แห่งใหม่ในอำเภอ ศรีสวัสดิ์  การไปชมโบสถ์นี้ต้องนั่งเรือหางยาวจากเขื่อนศรีนครินทร์ไปชมความงดงามของโบสถ์แห่งนี้ เพราะ วัดตั้งอยู่บนเกาะกลางน้ำของเขื่อนศรีนครินทร์  ไม่สามารเดินทางด้วยพาหะนะอย่างอื่น


ตัวโบสถ์ส่องประกายงดงามยามเมื่อต้องแสงแดด และเมื่อเข้าใกล้จะได้เห็นลวดลายฉลุ ของายไทย บริเวณ ซุ้มประตูโบสถ์และหน้าต่าง เมื่อเข้าไปนั่งไหว้พระรู้สึกเย็นมาก ใครอาจจะคิดว่าโบสถ์สร้างด้วยเตนเลสเงางาม แบบนี้ ข้างในไม่ร้อนหรือ แต่ไม่ใช่อย่างที่คิดเพราะตัวโบสถ์ทำโครงเป็นสเตนเลส ใช้สเตนเลสแผ่นปะทั้งด้านใน และด้านนอก แต่อัดฉนวนไว้ตรงกลาง ทำให้กันความร้อนได้ดี รวมทั้งพื้นเป็นแกรนิตเลยโปร่งโล่งสบาย


นอกจากโบสถ์แสตนเลส ที่ วัดป่าลำขาแข้ง  ถัดมาไม่ไกลมีพระพุทธรูปปางประทานพรองค์ใหญ่ ขนาดกว้าง 8 เมตร สูง 12 เมตร ซึ่งเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งทำด้วยแสตนเลสเช่นกัน ตั้งตระหง่านหันหน้า สู่แม่น้ำใหญ่ ดูสงบและร่มเย็นยิ่งนัก


พระพุทธรูปแสตนเลส

หากมองออกไปบริเวณรอบๆวัดก็จะเห็นวิวทิวทัศน์ของขุนเขา ที่สวยงามท่ามกลางเขื่อนศรีนครินทร์ ลองลืมภาพ โบสถ์ที่สร้างด้วยปูซีเมนต์ในแบบเดิม มาเยี่ยมชมโบสถ์สเตนเลสและพระพุทธสเตนเลสที่ วัดนี้แล้วจะได้ความ แปลกใหม่สุดแสน Unseen มาเลยทีเดียว


รายละเอียดเพิ่มเติม
สำหรับใครที่สนใจมาเที่ยวชมโบสถ์สเตรเลสหากพักอยู่ที่รีสอร์ทแถวเขื่อนศรีนครินทร์อยู่แล้ว สามารติดต่อ เช่าเรือกับทางรีสอร์ทได้เลย แต่ถ้าไม่ได้พักก็สามารถติดต่อได้ที่เขื่อนศรีนครินทร์โดยตรง ก่อนนั่งเรือก็อย่าลืม เตรียมอุปกรณ์กันแดดมาให้พร้อม ทั้งร่ม หมวก แว่นตา เพิ่มอีกนิดนึงค่ะ เสื้อกันฝนหรือพลาสติกอะไรก็ได้ เพื่อมายังน้ำกระเด็นระหว่างนั่งเรือค่ะ หากใครสนใจมาสามารถสอบถามการเดินทางและรายละเอียดได้ที่ คุณแหม่ม โทร 084 647 9174 หรือเบอร์วัดโทร 034 546 613, 081 835 3953





















ขอบคุณ - paiduaykan.com
- คุณ  ttanachai /
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #41 เมื่อ: เมษายน 11, 2013, 10:34:02 AM »

เที่ยวสงกรานต์ 2556 เหนือ-ใต้-ออก-ตก ทั่วประเทศไทย


เตรียมพร้อมกันรึยัง ขาเที่ยวทุกคน สงกรานต์ปีนี้ ไปเที่ยวไหนดี เรามีคำตอบมาให้เลือกค่ะ ใครอยากไปเที่ยวที่ไหน เหนือ-ใต้-ออก-ตก เย็นฉ่ำกันทั่วประเทศไทย ตามเรามาดูกันเลย

เที่ยวงานสงกรานต์ ภาคกลาง

เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ ปี 2556 กรุงเทพมหานคร




 
 

12 เมษายน 2556 - 16 เมษายน 2556
การจัดกิจกรรมจำลองสงกรานต์ 4 ภาค “สนุกสนาน สงกรานต์ 4 ภาค” ดังนี้
การจัดสงกรานต์ภาคเหนือ ณ วัดพระเชตุพลวิมนมังคราราม ราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์)
การจัดสงกรานต์ภาคกลาง ณ วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร
การจัดสงกรานต์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ วัดราชโอรสราม
การจัดสงกรานต์ภาคใต้ ณ วัดสุทัศนเทพวราราม ราชวรมหาวิหาร
กิจกรรม : การสรงน้ำพระ ก่อเจดีย์ทราย การแสดงศิลปวัฒนธรรม การสาธิตหัตถกรรม และจำหน่ายสินค้า พื้นบ้าน อาหารพื้นเมืองของแต่ละภาค (ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้) และการรณรงค์แต่งชุดไทยเข้าวัด-ทำบุญ จัดทำจุดถ่ายภาพ Photo Backdrop สำหรับสร้างสีสันภายในงาน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ททท.สำนักงานกรุงเทพฯ โทร.0-2250-5500



งานประเพณีสงกรานต์กรุงเก่า ประจำปี 2556 จ.พระนครศรีอยุธยา


 
 

13 เมษายน 2556 - 16 เมษายน 2556 บริเวณรอบเกาะเมือง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และวัดทองบ่อ ตำบลเสากระโดง
กิจกรรม : ทำบุญตักบาตรหน้าวิหารพระมงคลบพิตร สรงน้ำพระพุทธรูปและพระนเรศวรมหาราช รดน้ำขอพรผู้สูงอายุ ชมขบวนแห่ประเพณีสงกรานต์กรุงเก่า การประกวดคุณย่ายังสาว-คุณยายยังสวย เล่นน้ำสงกรานต์กับช้าง และชมประเพณีแห่หงส์ธงตะขาบ การแต่งกายแบบมอญ ร่วมทำบุญตักบาตรแบบมอญ สรงน้ำพระจากรางไม้ไผ่ ที่วัดทองบ่อ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ททท. สำนักงานพระนครศรีอยุธยา โทร.0-3524-6076-7



งานประเพณีสงกรานต์เมืองสุโขทัย จ.สุโขทัย

 
 

12 เมษายน 2556 - 13 เมษายน 2556 บริเวณเมืองสุโขทัยและสวนสาธารณะสุโขทัย อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย
กิจกรรม : วันที่ 12 เมษายน 2556 ร่วมกิจกรรมการก่อพระเจดีย์ทรายเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ณ วัดไทยชุมพล
วันที่ 13 เมษายน 2556 ชมขบวนแห่สืบสานวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่สวยงามของตำนาน นางสงกรานต์ ขบวนแห่รอบตัวเมืองเทศบาลสุโขทัย ร่วมกิจกรรมสรงน้ำพระภิกษุสงฆ์และรูปหล่อพระแม่ย่าองค์จำลอง สนุกสนานกับกิจกรรมรำวงย้อนยุค การประกวดเทพีสงกรานต์หนูน้องสงกรานต์ และสาวงามวันวาน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ททท.สำนักงานสุโขทัย โทร.0-5561-6228-9, 0-5561-6366

ประเพณีสงกรานต์ - ถนนกล้วยตาก มหกรรมอาหารและพิษณุโลกแกรนด์เซลล์ จ.พิษณุโลก



 
 

9 เมษายน 2556 - 15 เมษายน 2556
กิจกรรม : การประกวดนางสงกรานต์ การประกวดหนูน้อยวันสงกรานต์ พิธีรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุจังหวัดพิษณุโลก กิจกรรมก่อเจดีย์ทราย พิธีสรงน้ำพระพุทธชินราชสารีริกธาตุการจำหน่ายอาหาร, การแสดงดนตรี และศิลปวัฒนธรรมไทย, การทำบุญตักบาตร ขบวนแหพระพุทธชินราชจำลอง ขบวนแห่นางสงกรานต์ การแสดงโฟมปาร์ตี้ มหกรรมพลุเฉลิมพระเกียรติ และ กิจกรรมเล่นน้ำสงกรานต์ถนนกล้วยตาก

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ททท. สำนักงานพิษณุโลก โทร.0-5525-2742-3, 0-5525-9907


งานประเพณีสงกรานต์สุพรรณบุรี ประจำปี 2556 จ.สุพรรณบุรี


 
 




11 เมษายน 2556 - 14 เมษายน 2556 บริเวณถนนเณรแก้วด้านใต้ ฝั่งตะวันตก เขตเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี
กิจกรรม : ขบวนแห่หลวงพ่อโตทองคำ ขบวนแห่ประเพณีสงกรานต์ ขบวนรถบุปผชาติและเทพีสงกรานต์ ชมการประกวดเทพีสงกรานต์ การแสดงศิลปวัฒนธรรมและการละเล่นพื้นบ้านการแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินนักร้องชื่อดัง และการแสดงดนตรีลูกทุ่งที่ชนะเลิศในการจัด ประกวดงานอนุสรณ์ดอนเจดีย์และงานกาชาดจังหวัดสุพรรณบุรี ประจำปี 2556

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ททท. สำนักงานสุพรรณบุรี โทร.0-3553-6030, 0-3553-5789, 0-3553-6189



สงกรานต์พระประแดง จ.สุมทรปราการ



19 เมษายน 2556 - 21 เมษายน 2556 บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ
กิจกรรม : ขบวนแห่หางหงส์ธงตะขาบ ขบวนนางสงกรานต์ ขบวนรถบุปผชาติ การละเล่นสะบ้าของชาวไทยรามัญ การละเล่นพื้นบ้าน ประกวดนางสงกรานต์ ประกวดหนุ่มลอยชาย ชมการกวนกาละแม การเล่นน้ำสงกรานต์แบบชาวไทยรามัญ และการแสดง แสง สี เสียง ณ โบราณสถานป้อมแผลงไฟฟ้า

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ททท.สำนักงานกรุงเทพฯ โทร.0-2250-5500 เทศบาลเมืองพระประแดง โทร.0-2463-4841


 
 
ประเพณีสงกรานต์แห่ปราสาทผึ้ง จ.กาญจนบุรี
 13 เมษายน 2556 - 17 เมษายน 2556

กิจกรรม : การแห่ปราสาทผึ้งด้วยริ้วขบวนรถที่มีการประดับตกแต่งอย่างสวยงาม ริ้วขบวนของชุมชนต่างๆ การทำบุญตักบาตรและสรงน้ำพระที่วัดของชุมชน การแสดงการละเล่นพื้นบ้านที่หา ชมได้ยากเป็นการละเล่นประจำถิ่น การชมมหรสพดนตรี และการออกร้านจำหน่ายสินค้า เลือกหาเลือกซื้อได้อย่างมากมาย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ททท.สำนักงานกาญจนบุรี โทร.0-3451-1200, 0-3451-2500



ประเพณีสงกรานต์ไทย-รามัญ (สังขละบุรี) จ.กาญจนบุรี

 13 เมษายน 2556 - 17 เมษายน 2556

กิจกรรม : การเข้าวัดถือศีลของชาวไทยรามัญ การละเล่นพื้นบ้านชาวมอญ (แข่งสะบ้า,แข่งขึ้นเสาน้ำมัน) พิธีสรงน้ำพระ ผ่านรางกระบอกไม้ไผ่ และพระเดินบนหลังคน พิธีกรวดน้ำสงกรานต์ ยกช่อเจดีย์ทราย สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และนมัสการสังขาร ของหลวงพ่ออุตตะมะ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ททท.สำนักงานกาญจนบุรี โทร.0-3451-1200, 0-3451-2500 / อำเภอสังขละบุรี โทร. 0-3459-5120



งานประเพณีสงกรานต์ “สงกรานต์ฝั่งเมย” จ.ตาก


13 เมษายน 2556 - 15 เมษายน 2556 ณ ตลาดริมเมย อ.แม่สอด จ.ตาก

กิจกรรม : เป็นเทศกาลที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ชมการประกวดนางสงกรานต์ไทย-พม่า การแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน ชมมวยคาดเชือกไทย-พม่า การจัดนิทรรศการ การแสดงสินค้า OTOP และการแสดงทางวัฒนธรรมไทย-พม่า เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และสร้างความสัมพันธ์ไมตรีกันของทั้งสองประเทศ
จึงเชิญชวนเที่ยวงานเทศกาลสงกรานต์ และการแข่งขันมวยคาดเชือกไทย-พม่า ณ บริเวณริมแม่น้ำเมย อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ททท. สำนักงานตาก โทร.0-5551-4341-3 อบจ.ตาก โทร.0-5551-2442




ประเพณีสงกรานต์เกาะสีชัง จ.ชลบุรี


13 เมษายน 2556 - 18 เมษายน 2556 ณ เกาะสีชัง และเกาะขามใหญ่ จังหวัดชลบุรี

กิจกรรม : ทำบุญตักบาตร ก่อเจดีย์ทราย สรงน้ำพระ รดน้ำขอพรผู้สูงอายุ แข่งเรือพายเรือคายัค และการแข่งขันอุ้มสาวลงน้ำ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ททท.สำนักงานพัทยา โทร.0-3842-7667, 0-3842-8750, 0-3842-3990



วันไหล และงานประเพณีกองข้าวเมืองพัทยา ปี 2556 พัทยา


18 เมษายน 2556 – 20 เมษายน 2556 บริเวณ ถ.เลียบชายหาดเมืองพัทยา

กิจกรรม : 18 เมษายน 2556 งานประเพณีวันไหลนาเกลือ ณ สวนสาธารณะลานโพธิ์นาเกลือ ทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง พระสงฆ์ จำนวน 99 รูป สรงน้ำพระพุทธรูป และรดน้ำขอพรจากผู้สูงอายุ ชมขบวนแห่พระพุทธรูปออกจากสวนสาธารณะลานโพธิ์ ไปรอบตลาดนาเกลือ เพื่อให้ประชาชนที่อยู่โดยรอบได้สรงน้ำพระ เพื่อความเป็นสิริมงคลในงานวันไหลพัทยา

19 เมษายน 2556 งานประเพณีวันไหลพัทยา ณ วัดชัยมงคล พัทยาใต้ สรงน้ำพระพุทธรูป พระสงฆ์ และรดน้ำขอพรจากผู้สูงอายุ เคลื่อนขบวนแห่พระพุทธรูป และขบวนบุปผชาติ จากวัดชัยมงคลไปตามถนนเลียบชายหาดพัทยาใต้ สิ้นสุดที่วงเวียนปลาโลมาและมุ่งหน้ากลับสู่วัดชัยมงคล

20 เมษายน 2556 งานประเพณีกองข้าวเมืองพัทยา ณ สวนสาธารณะลานโพธิ์ นาเกลือ แข่งขันยิงหนังสติ๊ก, แข่งขันตะกร้อลอดบ่วง, แข่งขันปริศนาคำกลอน, มวยทะเล, ปีนเสาน้ำมัน, เล่นเกมส์, การแสดงศิลปะการต่อสู้ พิธีบวงสรวงกองข้าวและขบวนแห่ นางฟ้า เทวดา ขบวนแห่ผีป่า, การออกร้านอาหารของชุมชนและหน่วยงานราชการ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ททท.สำนักงานพัทยา โทร.0-3842-7667, 0-3842-8750, 0-3842-3990



ประเพณีสงกรานต์ จ.ตราด


13 เมษายน 2556 - 15 เมษายน 2556

กิจกรรม : เพื่อส่งเสริมและสืบสานวัฒนธรรมประเพณีไทย กิจกรรมภายในงานประกอบไปด้วยพิธีทำบุญตักบาตร, พิธีสรงน้ำพระพุทธรูป พระสงฆ์ รดน้ำดำหัวขอพรผู้สูงอายุ พร้อมทั้งมีการจัดขบวนแห่วันสงกรานต์ไปตามถนนรอบเขตเทศบาลเมืองตราด รวมทั้งรณรงค์ให้งานสงกรานต์เมืองตราดปลอดเหล้า ปลอดแอลกอฮอล์

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ททท. สำนักงานตราด โทร.0-3959-7259-60




travel.truelife.com

 
 
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #42 เมื่อ: เมษายน 11, 2013, 10:36:02 AM »

ม่วนงานสงกรานต์ ภาคอีสาน


งานประเพณีสุดยอดสงกรานต์อีสาน เทศกาลดอกคูน - เสียงแคน และถนนข้าวเหนียว ประจำปี 2556 จ.ขอนแก่น


5 เมษายน 2556 - 15 เมษายน 2556 บริเวณบึงแก่งนครและถนนข้าวเหนียว (ถนนศรีจันทร์) อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น
กิจกรรม :การประกวดเกวียนบุปผชาติ รดน้ำอวยพรผู้สูงอายุ คลื่นมนุษย์เรืองแสง (Human wave) การแสดงรำวงย้อนยุคแบบฉบับเมืองขอนแก่น การสาธิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP และการเล่นน้ำสงกรานต์บนถนนข้าวเหนียว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ททท.สำนักงานขอนแก่น โทร.0-4324-4498-9

ประเพณีสงกรานต์ และอาหารอินโดจีน จ.อุบลราชธานี


13 เมษายน 2556 - 15 เมษายน 2556
กิจกรรม : เชิญเที่ยวงานประเพณีมหาสงกรานต์ และเทศกาลอาหารไทย - อินโดจีน ณ บริเวณทุ่งศรีเมือง ภายในงานมีกิจกรรมต่างๆมากมาย อาทิ พิธีสรงน้ำพระแก้วบุษราคัม ขบวนอัญเชิญพระแก้วบุษราคัมที่ยิ่งใหญ่ และขบวนแห่สงกรานต์จากเทศบาลนครอุบลราชธานี คุ้มวัดและชุมชนต่างๆที่สื่อความหมายถึงวีถีชีวิตชาวจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมทำบุญตักบาตรเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ไทย อิ่มอร่อยกับเทศกาลอาหารไทย - อินโดจีน สนุกชุ่มฉ่ำกับถนนดอกไม้และสายน้ำ (บริเวณหน้าศาลหลักเมือง) การแสดงดนตรีพื้นเมือง คอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ททท. สำนักงานอุบลราชธานี โทร.0-4524-3770, 0-4525-0714

งานประเพณีสงกรานต์นครพนม รื่นรมย์ บุญปีใหม่ ไทย-ลาว ประจำปี 2556 จ.นครพนม


11 เมษายน 2556 - 15 เมษายน 2556 บริเวณถนนข้าวปุ้น เขตเทศบาลเมืองนครพนม และเขตเทศบาลตำบลเรณูนคร จังหวัดนครพนม
กิจกรรม : ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรในวันขึ้นปีใหม่ไทยริมฝั่งโขง ก่อเจดีย์ทรายตบปะทาย รดน้ำขอพรผู้สูงอายุ ฮดสรงพระธาตุประจำวันเกิดทั้ง 7 สนุกสนานกับการเล่นน้ำสงกรานต์บนถนนข้าวปุ้น ชิมข้าวปุ้น รสอร่อยเด็ดเจ็ดย่านน้ำ ชมการแข่งขันกีฬาพื้นบ้านสะบ้าทอย และร่วมทอดผ้าป่ามหาสงกรานต์สืบสานวัฒนธรรมสองฝั่งโขงเชื่อมโยง 2 พระธาตุ (พระธาตุศรีโคตรบองและพระธาตุพนม)สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : เทศบาลเมืองนครพนม โทร.0-4251-6159, สนง.ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครพนม โทร.0-4251-6337, ททท.สำนักงานนครพนม โทร.0-4251-3490-1

งานประเพณีสงกรานต์อีสานหนองคาย ประจำปี 2556 จ.หนองคาย


6 เมษายน 2556 - 17 เมษายน 2556 บริเวณวัดโพธิ์ชัย ถนนประจักษ์ฯ และลานน้ำพุพญานาค อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย
กิจกรรม :การแข่งขันกีฬาต่างๆ การแข่งขันชกมวยนานาชาติ การทำบุญตักบาตร พิธีอัญเชิญและเวียนเทียนสมโภชน์หลวงพ่อพระใส ขบวนรถบุปผชาติ การประกวดเทพีสงกรานต์และการแสดงมหรสพ กิจกรรมส่งเสริมการเล่นน้ำสงกรานต์
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ททท.สำนักงานอุดรธานี โทร.0-4232-5406-7
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #43 เมื่อ: เมษายน 11, 2013, 10:37:59 AM »

เที่ยวงานสงกรานต์ ภาคใต้


งานประเพณีสงกรานต์และนมัสการหลวงพ่อแก่ จังหวัดตรัง

จังหวัดสตูล ขอเชิญชวนเที่ยวงาน ประเพณีสงกรานต์และนมัสการหลวงพ่อแก่ ประจำปี 2556 ในระหว่างวันที่ 13 - 15 เมษายน 2556 ณ สำนักงานเทศบาลเมืองสตูล

ซึ่งจะได้พบกับกิจกรรมหลากหลาย ได้แก่ การสรงน้ำพระพุทธรูป รดน้ำขอพรผู้สูงอายุ ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเพื่อชำระล้างสิ่งไม่ดีและรักษาประเพณีอันดีงามของชาวไทย ทั้งนี้ ใครที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เทศบาลเมืองสตูล โทรศัพท์ 0 7472 2997, องค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล โทรศัพท์ 0 7471 1273 หรือติดต่อการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานตรัง โทรศัพท์ 0 7521 5867, 0 7521 1058, 0 7521 1085

 Songkran on the Beach 2013 จังหวัดภูเก็ต

จังหวัดภูเก็ต ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ขอเชิญชวนเที่ยวงาน เทศกาล Songkran on the Beach 2013 ในระหว่างวันที่ 10 - 15 เมษายน 2556 บริเวณลานซอยบางลา หาดป่าตอง จังหวัดภูเก็ต

ภายในงานมีการจัดกิจกรรมขบวนแห่พระพุทธสิหิงค์รอบหาดป่าตอง ขบวนรถบุปผชาติ ประกวดหนูน้อยสงกรานต์ประกวดเทพีสงกรานต์ การแสดงทางศิลปวัฒนธรรม และการเล่นน้ำสงกรานต์ชายหาดป่าตอง ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เทศบาลเมืองป่าตอง โทรศัพท์ 0 7634 2080

 เทศกาลมหาสงกรานต์ แห่นางดานเมืองนคร จังหวัดนครศรีธรรมราช

จังหวัดนครศรีธรรมราช ขอเชิญชวนเที่ยวงาน เทศกาลมหาสงกรานต์ แห่นางดานเมืองนคร ประจำปี 2556 ในระหว่างวันที่ 11 - 15 เมษายน 2556 บริเวณสวนศรีธรรมโศกราชและหอพระอิศวร อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช

ภายในงานมีกิจกรรมพิธีบวงสรวงพระพุทธสิหิงค์ พิธีบวงสรวงพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช พิธีพุทธาภิเษกน้ำศักดิ์สิทธิ์ 6 แห่ง ทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 84 รูป สรงน้ำพระสงฆ์ การรดน้ำขอพรผู้สูงอายุ พิธีแห่นางดานหนึ่งเดียวในประเทศไทย มหกรรมขนมจีน 1,500 กิโลกรัม การแสดงศิลปิน ดารา มหกรรมคอนเสิร์ต งานมหกรรมขนมพื้นบ้านอาหารพื้นเมือง ชม Mini light and Sound ณ หอพระอิศวร และสนุกสนานเล่นน้ำสงกรานต์

สำหรับใครที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ ททท. สำนักงานนครศรีธรรมราช โทรศัพท์ 0 7534 6515-6

แจ่ม ๆ ทั้งนั้นเลยใช่ไหมค่ะกับสถานที่เล่นสงกรานต์ทั่วไทยที่เรานำมาฝาก เผื่อเป็นตัวเลือกสำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าปีนี้จะไปเล่นน้ำสงกรานต์ที่ไหน สำหรับวันขึ้นปีใหม่ไทยในปี 2556 นี้ เราก็ขอให้เล่นน้ำกันด้วยความระมัดระวัง และเล่นสงกรานต์ตามแบบประเพณีไทย ไม่เล่นรุนแรง เคารพซึ่งกันและกันนะคะ
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #44 เมื่อ: เมษายน 11, 2013, 10:39:51 AM »

แอ่วงานสงกรานต์ ภาคเหนือ


งานประเพณีสะรีปี๋ใหม่เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่


7 เมษายน 2556 - 16 เมษายน 2556 บริเวณทั่วเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
กิจกรรม : ขบวนแห่และสรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ ขบวนแห่แม่หญิงขี่รถถีบกางจ้องล้านนาไทย รดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ ก่อเจดีย์ทราย การแสดงพื้นเมือง การประกวดเทพี-เทพบุตรสงกรานต์ การสาธิตศิลปะพื้นบ้านล้านนา การเล่นน้ำสงกรานต์ ปีใหม่เมืองรอบคูเมือง ถนนวัฒนธรรมคนเมืองและอาหารนานาชาติ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ททท. สำนักงานเชียงใหม่ โทร.0-5324-8604, 0-5324-8607, 0-5330-2500

ประเพณีสงกรานต์ จ.เชียงราย ประจำปี 2556 จ.เชียงราย


13 เมษายน 2556 - 15 เมษายน 2556
กิจกรรม : พิธีอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ นำขบวนแห่ให้ประชาชนสรงน้ำ ณ วัดพระสิงห์ ขบวนแห่นางสงกรานต์ / การแข่งขันก่อเจดีย์ทราย การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ททท. สำนักงานเชียงราย โทร.0-5371-7433, 0-5374-4674-5 / เทศบาลนครเชียงราย โทร.0-5371-1333 ต่อ 304-305, 307


ประเพณีปี๋ใหม่เมืองแป้ นุ่งห่มหม้อห้อมแต้งามตา จ.แพร่


10 เมษายน 2556 - 17 เมษายน 2556
กิจกรรม :

วันที่ 12 เมษายน มีการแข่งขันจุดสะโป้ก “หนึ่งเดียวในโลกสะโป้กเมืองแป้” ตอนกลางคืน มีการจุดสะโป้ก เชื่อว่าจะขับไล่สิ่งไม่ดีออกจากบ้านเรือน และรับสิ่งดีๆเข้ามาในวันปีใหม่ไทย

วันที่ 15 เมษายน ซึ่งเรียกว่า “วันพญาวัน” ตอนเช้าทำบุญตักบาตรอุทิศกุศลให้แก่บรรพบุรุษผู้ล่วงลับไปแล้วและพิธีถวายเจดีย์ทรายโดยการ ปักตุง 12 ราศี,ตุงช่อ,ตุงไส้หมู,ตุงตะเข็บ หรือตุงไชย เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต

วันที่ 17 เมษายน ของทุกปี ชาวแพร่จะเล่นน้ำสงกรานต์, มีขบวนแห่นางสงกรานต์ และการประกวดนางสงกรานต์, มีพิธีรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ททท.สำนักงานแพร่ โทร.0-5452-1118
บันทึกการเข้า

finghting!!!
Gold Price today, Gold Trend Price Prediction, ราคาทองคํา, วิเคราะห์ทิศทางทองคํา
   

images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary ---------------------Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. For more information on Moore Research products and services click here. --- http://www.mrci.com ---------- ---------------------------------------------รูปกราฟแสดงราคาทองในอดีตปี 1974-1999 ของ Moore Research Center, Inc. แสดงฤดูกาลที่ราคาทองขึ้นสูงสุดและตําสุด เอาแบบคร่าวๆ เส้นนําตาลหรือนําเงินก็ใกล้เคียงกัน เส้นนําตาลเฉลี่ย 15 ปี เส้นนําเงินเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุดของเส้นนําตาล หรือเฉลี่ย 15 ปี ในเดือน ปลายเดือน เมษ และปลายเดือน สค ต่อต้นเดือน กย[/color] สูงสุดในเดือน กพ กับ พย / ส่วนเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุด ต้น กค กับ ปลาย สค และราคาสูงสุดในเดือน กพ และ กลางเดือน ตค ----- แค่ดูคร่าวๆ เป็นแนวทาง อย่ายึดมั่นว่าจะต้องเป็นตามนี้ ข้างล่างเป็นกราฟราคานํามัน ตามฤดูกาล จาก Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary
 บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 7   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: