Forex-Currency Trading-Swiss based forex related website. Home ----- กระดานสนทนาหน้าแรก ----- Gold Chart,Silver,Copper,Oil Chart ----- gold-trend-price-prediction ----- ติดต่อเรา
หน้า: 1 ... 16 17 [18]   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: read read readingggggggggggggg  (อ่าน 12561 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #255 เมื่อ: เมษายน 16, 2020, 03:05:11 PM »

ในความเป็นจริง ไม่ว่าประเทศไหน จะพูดว่า "ทั้งโลก" ก็ได้ ยิ่งไม่ป่วย-ไม่ตายได้มากเท่าไหร่ ยิ่งเป็นเรื่องควรดีใจมากเท่านั้น
    โดยเฉพาะสิงคโปร์ พี่น้องร่วมอาเซียน แถมชานเรือนติดกันพอตะโกนถึง เมื่อได้ข่าวกลับมาทรุดด้วยโควิดก็ห่วง     ถึงแม้เราไม่ทรุด แต่เพื่อนทรุด แล้วเราจะสุขแบบโดดเดี่ยวอยู่ได้อย่างไร
    จึงอยากถามไถ่ แต่ก็จนใจ ด้วยไปไม่ได้-ไปไม่ถึง
    โชคดีอยู่หน่อย ยุคนี้มีไอทีเชื่อมต่อ พอได้ทราบข่าวจากคนที่เขาไปมา คุณ "วินเซนต์" เล่าให้ฟังไว้ในโซเชียลประมาณนี้   
    -วินเซนต์
    สิงคโปร์กำลังระส่ำหนัก ทั้งโรคระบาด ทั้งสภาพเศรษฐกิจ
    นับจากนี้ไป คือ บทพิสูจน์ว่าระบบสาธารณสุข ฐานเศรษฐกิจและสภาพสังคมทุนนิยม ที่ต้องพึ่งพาการค้า การขาย การลงทุนและการท่องเที่ยวของสิงคโปร์จะเอาโควิดอยู่อย่างที่โม้และเชื่อมั่นกันหรือไม่?
    สิงคโปร์ประกาศล็อกดาวน์ช่วง ๗ เมษายน-๔ พฤษภาคม ๒๕๖๓ ประมาณ ๑ เดือน เพื่อปิดเกมโควิด
    ทว่ามันเหมือนเป็นเวรเป็นกรรมเล่นตลก พอประกาศไม่ทันไร สิงคโปร์ก็มีข่าวแรงงานต่างด้าวติดเชื้อ และเกิดการแพร่ระบาดหนัก ตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งพรวดๆ
    หากสิงคโปร์เอาไม่อยู่ สิงคโปร์อาจจะต้องเลื่อนการล็อกดาวน์ออกไป
    ซึ่งนั่นก็หมายความว่า เกาะสิงคโปร์กำลังจะโดนไวรัสโควิดจมเกาะ เพราะใช้เงินอัดฉีดไปมากแล้ว
    รัฐบาลสิงคโปร์ใช้เงินอัดฉีดไปมากมายมหาศาล ๓ ครั้ง ตลอด ๓-๔ เดือน กุมภา.-พฤษภา.
    เงินอัดฉีดที่นำมาใช้บางส่วน ก็เป็น "เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ" ด้วย
    จ่ายฟรีให้กับประชาชนทุกคนตั้งแต่อายุ ๒๑ ปีขึ้นไป ในขณะที่ภาคธุรกิจก็อัดฉีดเต็มที่
    หากยังขืนจ่ายแบบนี้อีกครั้ง-สองครั้ง หรืออีกแค่เดือนสองเดือน สิงคโปร์ก็คงจะหมดตูด!!
    สิงคโปร์เป็นเมืองทุนนิยม มนุษย์ตึก ชุมชนแออัด เป็นเกาะเล็กๆ ผู้คนอยู่รวมกันหนาแน่น
    ปัญหาต่างๆ ถูกหมักหมมรอวันระเบิดมานาน โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยที่มีจำกัด แรงงานต่างด้าวต้องเบียดเสียดกันอยู่
    ในยามวิกฤติ คนสิงคโปร์จึงหาอยู่-หาเลี้ยงตัวเองไม่ได้ ไม่มีสภาพสังคมพึ่งพาตนเอง รัฐต้องเลี้ยงดูในยามวิกฤติแบบเดือนต่อเดือน
    มาตรการเยียวยาของภาครัฐจึงมีออกมาทุกเดือน ในลักษณะ "หว่านแหลกแจกทุกคน"
    เหมือนเลี้ยงปลาทองในตู้ พออาหารหมดก็คงจะอดตายไปตามยถากรรม
    ยิ่งพอมาเจอสภาพผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มมาแบบก้าวกระโดดแบบนี้ สิงคโปร์ก็เลยเริ่มจะมีอาการระส่ำระสาย คล้ายๆ เกาะใกล้แตกเข้าไปทุกที!!
    ใครว่าสิงคโปร์ดี สุขสบาย รีบย้ายไปสิงคโปร์ได้เลย!!
    วินเซนต์
    ๑๔ เมษายน ๒๕๖๓
    ครับ.....
    จากอีกซักท่านคงไม่เป็นไรนะ เรามี ๒ หู ฟังให้ครบจากหลายๆ ด้าน ดีกว่าฟังหูเดียว
    จากอีกท่าน ผมก็ลอกตามเคย อ่านดูนะ
    Pat Hemasuk
    สิงคโปร์แซงไทยไปแล้ว ทั้งที่ประเทศมีพื้นที่เล็กกว่าครึ่งหนึ่งของกรุงเทพฯ เสียอีก
    ใครที่กรี๊ดชื่นชมสิงคโปร์ว่าจัดการโควิด-19 ได้ดีกว่าไทย แล้วด่าระบบสาธารณสุขของไทยว่าแย่
    ถ้าสมมุติให้แลกประเทศอยู่ชั่วคราวตอนนี้สักสองเดือนกับคนสิงคโปร์สักคนจะยอมไปไหม
    เวลานี้ มาเลย์ อินโดฯ ฟิลิปปินส์ แซงไทยไปหมดแล้ว ทำให้เห็นว่าระบบสาธารณสุขของไทยเรารับมือกับคน ๖๕ ล้านคน ได้ถูกทาง ถูกวิธีกว่าที่อื่น
    ความตายมาถึงประตูบ้านแล้ว แทนที่จะช่วยกันสู้กับโรคระบาด ยังทำตัวบ้าคลั่งการเมือง
    บางคนด่าได้แม้กระทั่งหมอที่ทำงานหนักในเวลานี้
    ก็เอาล่ะ..........
    พอเห็นภาพและเข้าใจสภาพกันแล้ว โบราณบอก "รู้เขา-รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง"
    แล้ว "ประเทศไทย" ที่ไทยบางพวกด่าทุกวันนี่ละ มีดี-มีเด่นตรงไหน ชาวโลกเขาถึงอิจฉา?
    ไม่รู้ใช่มั้ย ไม่เป็นไร ผมจะลอกมาบอก
    Caddie Hari
    ประเทศเรานี้ดียังไง?
    ประเทศไทย
   - เป็นประเทศที่คนสวมหน้ากากและป้องกันตัวเองเต็มรูปแบบเป็นประเทศแรกๆ
    - เป็นประเทศที่ประชาชนสนับสนุนและบริจาคอุปกรณ์ รวมถึงดูแลบุคลากรทางการเเพทย์มากและดีที่สุดในโลก
    - เป็นประเทศที่ตื่นตัวกับโรคระบาดใน social network มากเป็นอันดับต้นๆ
    - เป็นประเทศที่บุคลากรทางการแพทย์คอยดูแลรักษาคนไข้แบบตั้งใจที่สุด แม้ในกรณีคนไข้ไม่ให้ความร่วมมือก็ยังตามล่าจนได้ตัวมารักษา
    - เป็นประเทศที่มีการจัดเตรียมสถานที่กักบริเวณและอาหารบริการให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงอย่างหรูหราดีงามที่สุด
    - เป็นประเทศที่ระดมสมองในการประดิษฐ์นวัตกรรมเพื่อสนับสนุนเจ้าหน้าที่ในการรักษาโรคได้มากและหลากหลายที่สุด
    - เป็นประเทศที่ผู้คนมีน้ำใจให้กันและกันมากที่สุดในยามที่ทุกคนเผชิญความลำบาก
    เช่นนี้แล้ว ยังไม่รักและภูมิใจในประเทศตนเองได้อย่างไร จงอย่ามัวแต่มองในสิ่งไม่ดีจนไม่เห็นสิ่งดีๆ ที่เรามีกันเลย
    #รักเมืองไทยชูชาติไทย
--------------------------------
    จบ "ภารกิจการลอก" ขอรีบกลับไปคลุมโปงซักวัน.
-
-
-
--------เปลวสีเงิน--------
ขอบคุณค่ะ
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #256 เมื่อ: เมษายน 16, 2020, 03:57:46 PM »

“พ่อทำไว้ให้โดยลูกไม่เห็น”

April 15, 2020
เปลว สีเงิน-คนปลายซอย

พ้นเขตสงกรานต์ จังหวัดโน้น-นี้ เริ่มขยุกขยิก จะเปิดเมือง
นัยว่า ชาวบ้าน-ร้านค้า-สถานบริการ เรียกร้อง!ก็เข้าใจ ต่อให้เป็นกรงทองฝังเพชร คนอยากเป็นนกบินเย้ยธนู มากกว่าเป็นนกเจ็บเฝ้าคอน
 
ยิ่งเห็นตัวเลขป่วย ยืน ๒ หลัก สัปดาห์เต็ม ก็ยิ่งชะล่าใจ

อยาก “เสี่ยงเป็นศพ”……..
มากกว่า “กลัวโลงศพ” เป็นอารมณ์นั้นไปแล้ว?

ก็อยากจะบอก…..
“ทนกันอีกนี๊ดดดเถอะ แม่จำเนียร”!

อย่ารีบเสี่ยงกันนัก โลงศพเป็นของหายากตอนนี้ ทางละตินอเมริกา ตายจนไม่มีไม้ต่อโลง ต้องใช้กระดาษแทนแล้ว

ดู จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ เป็นตัวอย่าง “ดับคึก” ก็ได้
ดีใจ โควิดหายแล้ว กำราบ-ปราบอยู่หมัดแล้ว ก็เปิดเมือง เข้าสู่โหมดชีวิตใหม่
 
พอ “ลดการ์ด-เปิดเมือง” เท่านั้นแหละ โควิดที่แกล้งสลบโดดผึง ซัดเปรี้ยง ครางกันอ๋อยๆ

……..มันมารอบ ๒ แล้ววุ้ย!
สิงคโปร์ ก็ลดการ์ดแบบเดียวกัน แล้วตอนนี้เป็นไง?
 
วานซืน โควิดมันตลบหลัง วันเดียวติดเชื้อ ๒-๓ ร้อย ชิงอันดับ “คนป่วยอาเซียน” นำหน้าไทยไปเลย

เมื่อวาน (๑๕ เมย.) นึกว่าจะอ่อนข้อให้ไทย ที่ไหนได้ ขณะที่ไทย ตัวเลขอยู่ที่ ๓๐

สิงคโปร์ บอก…ข้าไม่รอละนะ พรวด..พรวด วันเดียวไปที่ ๓๓๔ !
ตอนนี้ “ทั้งโลก” ป่วยกว่า ๒ ล้าน ตายกว่าแสน “สหรัฐฯ-ยุโรป” กวาดอันดับป่วย ๑-๑๐ ไปครองเกลี้ยง

ถามว่า แล้วจะแก้กันยังไง?
คำตอบ ดูท่าทีค่ายตะวันตก “ปล่อยตามกรรม” เรียกว่า อยากตายก็ให้มันตายซะให้เข็ด

ถึงที่สุด ติดโควิดเหมือนติดหวัด!
ดูทั้งโลก ๒๐๐ กว่าประเทศ มันกว้าง

มาดูเฉพาะอาเซียนของเราดีกว่า ใน ๑๐ ประเทศ ว่าประเทศไหน อยู่ในอันดับไหนกันบ้าง?

เอาแค่ระดับ “ท็อปไฟว์” ก็พอกระมัง
ประชันศิลปะการสู้ศึกโควิดแต่ละมาตรการของแต่ละรัฐบาลเป็นอันดับไปเรื่อยๆ โดยวัดจากยอดคนป่วย
ประเทศไหน “ป่วยน้อยสุด” ครองถ้วยทองคำฝังเพชร “โควิด-๑๙” ไปเลย!

ณ ๑๕ เมษายน ๒๕๖๓ ผู้ป่วยโควิดอันดับ ๑-๕ ของอาเซียน เป็นดังนี้

อันดับ ๑ ฟิลิปปินส์ ป่วย ๒๙๑ สะสม ๕,๒๒๓

อันดับ ๒ มาเลย์ ป่วย ๑๗๐ สะสม ๔,๙๘๗

อันดับ ๓ อินโดฯ ป่วย ๒๘๒ สะสม ๔,๘๓๙

อันดับ ๔ สิงคโปร์ ป่วย ๓๓๔ สะสม ๓,๒๕๒

อันดับ ๕ ไทย ป่วย ๓๐ สะสม ๒,๖๔๓
ไทยเราบ๊วย!

แต่ถ้าชะล่าใจ “การ์ดตก” หลังสงกรานต์
ก็มีความเป็นไปได้ “จากบ๊วย” ไทยจะป่วยและตายพุ่งแซงหน้าสิงคโปร์ ขึ้นไปทาบอินโดฯ-มาเลย์
กระทั่งฟิลิปปินส์ “อันดับ ๑” ก็เถอะ……

ฉะนั้น อย่าเร่าร้อนผ่อนคลายมาตรการกันไวๆ โดยยกเศรษฐกิจจะพังอ้างบ้าง จะอดตายกันหมดแล้วอ้างบ้าง เพื่อกลับไปตามใจชอบเหมือนเดิม
 
เมื่อไม่ต้องการแซงอันดับสิงคโปร์ ต้องอึดเข้าไว้ เชื่อฟังมาตรการรัฐบาลและคำแนะนำหมออีกซักระยะ

จนถึง วันไหน…..
หมอทวีศิลป์ “ยิ้มตาหยี” ขึ้นโพเดียม ประกาศป่วย “เลขตัวเดียว” วันนั้น ค่อยทะลายกำแพง ออกไปยืดเส้น-ยืดสาย “เย้ยโควิด” ติดแฮชแท็กไปเลย

พูดถึง “โฆษก” ศบค………
“มีแฟนๆ ถาม ใครกันนะ หนุ่มใหญ่ สมาร์ท กทม.หล่อคูลๆ ที่แถลงข่าวภาคภาษาอังกฤษต่อจากหมอทวีศิลป์นั่นน่ะ ถึงนม-เนยดีจริงๆ?
ก็บอกให้ทราบตรงนี้….

“คุณณัฐภาณุ นพคุณ” รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ
หายสงสัยกันแล้วนะ

พูดถึงต่างประเทศ วานซืน (๑๔ เมย.) มีการประชุมสุดยอดอาเซียน สมัยพิเศษ ว่าด้วยโควิด เป็นการประชุมผ่านระบบทางไกล

ที่น่าสนใจ คือที่นายกฯ เสนอให้ตั้ง “กองทุนอาเซียนเพื่อรับมือกับโควิด-๑๙”
เพื่อจัดหาอุปกรณ์, เครื่องมือแพทย์ ให้ประเทศสมาชิกอาเซียน
สนับสนุนการวิจัยและพัฒนายา, วัคซีน เป็นการเริ่มต้นความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม ซึ่งที่ประชุมสนับสนุนข้อเสนอนี้

นอกจากนั้น………
นายกฯ แสดงความพร้อมของไทย จะมอบ “ชุดตรวจโควิด” ชนิด RT-PCR ที่ผลิตได้เอง ให้กับทุกประเทศสมาชิกอาเซียน ประเทศละ ๑๐,๐๐๐ ชุดด้วย

ตรงนี้ ตอนมีข่าวออกไป บ้างว่าเฟกนิวส์ บ้างว่าไม่เฟก ซึ่งจริงๆ แล้ว เป็นข่าวจริง!

ช่วงเถียง “จริง-ไม่จริง” พวกพยาธิไชส้นเกือก ลงมือทำงาน ระดมเมนท์ทันที…….

“ประเทศตัวเองยังไม่พอใช้ รัฐบาลหน้าใหญ่ เที่ยวเอาไปแจกเขาอีก” ประมาณนั้น

ก็บอกให้ทราบตรงนี้ไว้เลย
“ชุดตรวจโควิด” ชนิด RT-PCR ที่นายกฯ จะแบ่งปันให้เพื่อนประเทศอาเซียน นั้น

ไทยผลิตได้เอง โดยบริษัท “สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด” (Siam Bioscience) โรงงานอยู่ที่ บางใหญ่ นนทบุรี

เป็นการร่วมมือของ “กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม” โดย “มหาวิทยาลัยมหิดล” ร่วมกับ “กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์” และ “บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด”

ได้ร่วมกันวิจัยและพัฒนาชุดตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR เสร็จสมบูรณ์ ถึงขั้นตอน ผลิตสู่ตลาดแล้ว

เป็นวิธีการตรวจมาตรฐาน “องค์การอนามัยโลก-WHO” สำหรับหาเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ ในสภาวการณ์ปัจจุบัน

คงเห็นข่าวกันแล้ว เมื่อต้นเมษา……..
“สยามไบโอไซเอนซ์” นำชุดตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน ๒๐,๐๐๐ ชุดแรก ไปมอบรัฐบาล
เพื่อนำไปแจกให้ใช้ตามโรงพยาบาลทั่วประเทศ และตามห้องปฏิบัติการที่มีเครื่องตรวจกว่าร้อยแห่ง

ขณะเดียวกัน ก็เดินหน้าผลิต เพื่อให้ได้ ๑๐๐,๐๐๐ ชุด พร้อมทยอยส่งมอบให้ครบภายในเมษา.นี้
และจะผลิตให้ครบ ๑,๐๐๐,๐๐๐ ชุด ภายใน ๖ เดือน นับจากเมษา.!

อาเซียน ๑๐ ประเทศ ติมอร์ เลสเต อีก ๑ ไทยเราแบ่งปันให้ประเทศละ ๑๐,๐๐๐ ชุด ก็แค่ ๑๑๐,๐๐๐ ชุด เท่านั้น

จะซึ้งกันก็ตอนนี้แหละ มีอะไรช่วยกันได้ แบ่งปันกันได้ ก็ทำเลย
ความเห็นแก่ตัว โลภ มักได้ เป็นเครื่องหมายคนเลว เอื้อเฟื้อ แบ่งปัน ไม่ยึดประโยชน์เฉพาะตัว เป็นเครื่องหมายคนดี

นายกฯ ทำเช่นนั้น ประเสริฐชาติแล้ว
ต้องเข้าใจกันว่า ในความเป็นสังคมโลก ถ้าประเทศอื่นๆ ไม่รอด ถึงประเทศตัวเอง “ประเทศเดียว” รอด
มันก็ไม่รอดและอยู่ไม่ได้!

ฉะนั้น ช่วยได้ ต้องช่วยกัน เพื่ออยู่ร่วม แบบนั้น “โลกทั้งโลก” จึงจะรอด

ทีนี้ มาทำความรู้จักกันว่า บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด คืออะไร ทำอะไร

จู่ๆ ถึงปรากฏเป็นพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยชีวิตคนไทย และเพื่อนอาเซียนได้ขนาดนี้?

ชัดๆ ตรงๆ สั้นๆ
สยามไบโอฯ ก่อตั้ง พ.ศ.๒๕๕๒ เกิดจาก………
พระราชปณิธานใน “พระบาทสมเด็จชนกาธิเบศร มหาภูอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร” รัชกาล ที่ ๙

ทรงทำไว้เพื่ออะไร?
เพื่อชีวิตและสุขภาพที่ดีของ “ลูกของพ่อทุกคน” ในความเป็นประเทศไทย

แล้วสยามไบโอฯ ทำอะไร?
“คิดค้น-พัฒนา-วิจัย” ผลิตวัตถุดิบยา, ผลิตยา, บรรจุยา และจัดจำหน่าย “ยาชีววัตถุ”

ตั้งแต่ “ก้าวแรกของการผลิต” จนนำส่ง โดยไม่ต้องพึ่งพา “วัตถุดิบยา” จากภายนอก

โดยสยามไบโอฯ ผลิต “ยาชีววัตถุ” ผ่านเทคโนโลยีชั้นสูงแห่งเดียวของคนไทยและในอุษาคเนย์

“ยาชีววัตถุ” คืออะไร?
เป็นผลิตภัณฑ์ยาที่ได้จากสิ่งมีชีวิต ปัจจุบันยังผลิตจากการใช้เทคโนโลยีการตัดต่อทางพันธุกรรม เพื่อสร้างดีเอ็นเอสายผสม (recombinant DNA หรือ rDNA)
เพื่อให้ได้โมเลกุลของ DNA ที่สามารถผลิตโปรตีนที่เหมาะสมสำหรับพัฒนาเป็นยาบำบัดรักษาและป้องกันโรคต่างๆหลายกลุ่ม..ฯลฯ…(PharmCEpharmce.weebly.com)

เครือสยามไบโอฯ ประกอบด้วย ๒ บริษัทหลัก คือ

-“บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด”
วิจัย พัฒนา ผลิตยา เครื่องมือแพทย์ ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพต่างๆ โดยวิจัย-พัฒนา-ผลิต “ครบวงจร” ตั้งแต่ตัวยาสำคัญและสารออกฤทธิ์จนถึงผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป

-“บริษัท เอเพ็กซ์เซล่า จำกัด”
ทำการตลาดและการขาย ทั้งในประเทศและส่งออก รวมถึงบการพัฒนาธุรกิจสร้างเครือข่ายพันธมิตร ทั้งในและนอกประเทศ

ครับ…นี่คร่าวๆ นะ
“พ่อหลวงบนฟ้า” ทรงทำไว้ให้ เพื่อลูกๆ ทุกคนได้อยู่สุข และเพื่อบ้านเมืองไทยของทุกคน สืบไพศาลแท้จริง.


https://www.plewseengern.com/siam-bioscience/

ขอจงสถิตใจไทยทั่วหล้า
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อนขอเดชะ
ขอขอบคุณบทความดีๆ
ที่นำมาแบ่งปันกันค่ะ
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #257 เมื่อ: เมษายน 21, 2020, 12:33:26 PM »

หม่อมหลวงสิทธิไชย ไชยันต์
13 ชม.

แจกของลงขยะ
..................
เห็นคิวผู้คนไปรับของแจกตามที่ต่างๆแล้ว แรกๆนึกว่า คนยากไร้มีมากกว่าที่คิด

แต่ต่อมา ก็ได้เห็นภาพถังขยะริมถนนแห่งหนึ่ง ชานเมืองกทม.ที่มีคนเอาอาหารกล่องที่เพิ่งได้รับแจกไปทิ้ง

ทิ้งกันเป็นสิบเป็นร้อยกล่อง ล้นถังจนบางส่วนร่วงลงมาบนถนน

คนอื่นเดินผ่านไปมาในที่นั้นก็ไม่มีใครแยแสกับอาหารที่ยังกินได้ แกงบางถุงยังไม่ได้แกะ ก็ทิ้งไปทั้งที่ยังไม่ทันจะรู้รสชาติ

นี่ไม่ใช่คนจน ไม่ใช่คนขาดแคลน แต่เป็นคนที่มารับของเพื่อประโยชน์ส่วนตน อะไรพอเอาไปขายได้ก็หอบไป อะไรไม่ชอบก็ทิ้ง

อยากจะเล่าอะไรให้อ่านกันสักนิดนะครับ เป็นเรื่องการแจกของนี่แหละ

พ่อผมลาออกจากตำแหน่งกรรมการรองผู้จัดการใหญ่ธนาคารเอกชนในขณะอายุราวห้าสิบปี

ออกไปเพื่อทำงานให้กองอาสากาชาด สภากาชาดไทย ไม่มีเงินเดือน

ก่อนออกจากธนาคาร พ่อคุยกับผมว่า เรามีกันอยู่แค่สองคน ถึงจะไม่รวยแต่ก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร ขอให้พ่อได้ทำงานเพื่อความพอใจของพ่อบ้าง จะยอมเสียสละบ้างได้ไหม

ผมลองคิด กว่าไต่จะมาถึงตำแหน่งนี้ ไม่ใช่ง่าย และตำแหน่งระดับนี้ ถ้าไม่ออกจากธนาคาร สิบปีจะได้เงินกี่สิบล้าน  พ่อไม่เอา

แต่นี่คือชีวิตพ่อ เงินพ่อ ต้องแล้วแต่พ่อ ตัวผมเองมีความเป็นตัวตนสูงเหมือนกัน ถ้าผมจะทำอะไร ก็ไม่ชอบให้ใครมาขัด

ผมบอกว่าตามใจพ่อ ถ้าคิดว่าเบี้ยประชุม และเงินบำเหน็จ มันพอกิน ผมก็ไม่มีปัญหา

บำเหน็จพ่อได้ไม่มาก เพราะออกก่อนเกษียณสิบปี

ผมเรียนรามฯ ไม่ได้ใช้เงินมาก คุณย่าให้ค่าขนม ผมเขียนหนังสือได้ค่าหน่วยกิต บ้านมีอยู่ ไม่ต้องเช่า พอแล้ว

ตกลงเราก็อยู่กันแบบนั้น จนผมเรียนจบและสอบเข้าทำงานราชการหาเงินได้เอง ผ่านช่วงตื่นเต้นไปได้

ในช่วงที่พ่ออยู่กองอาสากาชาดนั้น ผมตามพ่อไปแจกของเป็นบางครั้ง ได้เห็นความทุกข์ยากของชาวบ้าน ได้เห็นความเสียสละของทหารตามชายแดน เห็นสภาพน่าตกใจของโรงพยาบาลสนาม

รู้สึกว่าพ่อทำถูกแล้วที่สละตำแหน่ง สละเงินทองมาทำงานเพื่อคนยากไร้

วันพุธที่ 22 เมษายน เป็นวันเกิดพ่อ ถ้ามีชีวิตอยู่ พ่อจะอายุ 96 ปี

ผมในฐานะลูก จะบอกว่าไม่ได้รับผลกระทบก็ไม่ได้ ที่จริงผมน่ะคือคนที่เจอผลกระทบโดยตรง

จากเดิมที่ไม่มีแม่ ก็มาแถมไม่มีพ่อเพราะมัวอยู่ตามชายแดน เงินก็ดันไม่ค่อยมีอีก เพราะพ่อเลิกหาเงินไปดื้อๆ

แต่ข้อดีคือ ผมมีโอกาสได้เห็นความยากลำบากของผู้คน รู้ว่าเมืองไทยยังมีคนยากไร้อยู่มาก

ในเวลาต่อมา เมื่อตัวผมเองมีโอกาส มาทำงานในตำแหน่งที่ช่วยเหลือชุมชนได้ ผมจึงดีใจ และได้มุ่งพัฒนางานด้านนี้มากเป็นพิเศษ

ประสบการณ์การแจกของ ทำให้รู้ว่าจำเป็นต้องมีการสำรวจว่าใครลำบากจริง ทำรายชื่อ แล้วแจกตามนั้น

มันอาจยังไม่ทั่วถึงอยู่ดี และรายชื่อก็ขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ของราชการในแต่ละพื้นที่จัดเตรียมมาให้ แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรเลย

คนที่มาแจกของสมัยนี้ บางคน ไม่จัดระเบียบ ไม่ทำรายชื่อ มันก็จะวุ่นวาย อันนี้ผมไม่ขอวิจารณ์ อาจไม่มีประสบการณ์หรือมีข้อขัดข้องอะไรที่ผมไม่ทราบ

แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น ที่เป็นประเด็นคือมีคนรับอาหารแล้วเอาไปทิ้ง และก็ทิ้งมันตรงนั้นแหละ ให้รู้ไปว่าของไม่ถูกปาก กูไม่กิน

ใครเคยจัดของแจกมาก่อน คงรู้ดีว่ามันเหน็ดเหนื่อยขนาดไหน

คนแจกบางคนอาจจะมีวัตถุประสงค์แอบแฝง คนรับเลยไม่เห็นคุณค่า แต่อย่างน้อยเขาก็มีน้ำใจพอจะนำของมาแจก

น่าจะรักษาน้ำใจกันบ้าง หรือนึกถึงคนอดอยากบ้าง ตัวเองไม่กินก็เอาไปให้คนขาดแคลนกินได้

พ่อสละเงินทองมากมาย สละความสุขสบายมาทำงานนี้ด้วยความเชื่อมั่นว่า ถ้าทุกคนช่วยกันทำงานเพื่อผู้ตกยากแล้ว วันหนึ่งประเทศชาติของเราต้องดีขึ้น

ผ่านไปสี่สิบปี เราได้มีสังคมที่คนรับของแจกแล้วเอาไปทิ้งขยะ ส่วนที่ไม่ทิ้งเก็บเอาไปขาย

ในภาวะวิกฤตอย่างนี้ มีคนทำกันได้อย่างนี้ ไม่ทราบว่าหัวใจทำด้วยอะไร มาจากมิติไหน

ถึงพ่อจะไม่ได้เป็นคนแจกของในสมัยนี้ แต่ถ้าพ่อมาเห็น พ่อคงเสียใจ

ผมก็เสียใจ

ม.ล.สิทธิไชย ไชยันต์


Thank you
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #258 เมื่อ: พฤษภาคม 03, 2020, 09:59:04 AM »

ควรอ่านอย่างยิ่งค่ะ

*คำปราศรัยของประธานาธิบดียูกันดาถึงคนในประเทศของเขา *
เป็นภูมิปัญญาที่เหมาะแก่การแบ่งปัน✨

ประธานาธิบดีของประเทศยูกันดา KAGUTA MUSEVENI เตือนคนที่ประพฤติตัวไม่เหมาะสมในช่วงระยะเวลา COVID-19 นี้ * "พระเจ้ามีงานจำนวนมากพระองค์มีคนทั้งโลกที่ต้องคอยดูแล

ด้านล่างเป็นคำแถลงการณ์​ของเขา

"ในสถานการณ์สงครามไม่มีใครขอให้ใครอยู่ในบ้าน * คุณเลือกอยู่ข้างในโดยตัวคุณเอง* และถ้าคุณมีห้องใต้ดิน คุณก็จะซ่อนตัวอยู่ที่นั่นตราบเท่าที่สงครามยังคงอยู่

 ในระหว่างสงครามคุณ * ไม่เคยเรียกหาอิสรภาพของคุณ * คุณยอมปล่อยมันผ่านไปเพื่อแลกกับการอยู่รอด

ในช่วงสงครามคุณไม่บ่นเรื่องความหิว * คุณแบกรับความหิวโหยและอธิษฐานขอให้คุณมีชีวิตอยู่เพื่อกินอีกครั้ง

ระหว่างสงครามคุณ * ไม่เคยเรียกร้องกับการเปิดธุรกิจของคุณ * คุณปิดร้านค้าของคุณ (ถ้าคุณมีเวลา) และวิ่งหนีเพื่อชีวิตของคุณ คุณสวดภาวนาเพื่อให้อยู่รอดในสงครามเพื่อที่คุณจะได้กลับไปทำธุรกิจของคุณ (นั่นคือถ้ามันไม่ได้ถูกปล้นหรือทำลายด้วยระเบิด)

ระหว่างสงครามคุณรู้สึกขอบคุณพระเจ้าที่ได้เห็นวันใหม่ในดินแดนแห่งชีวิต *

ในช่วงสงครามคุณ * ไม่กังวลกับการที่ลูก ๆ ของคุณไม่ไปโรงเรียน * คุณภาวนาให้รัฐบาลไม่บังคับกะเกณฑ์ให้เป็นเหมือนทหารที่ได้รับการฝึกฝนในสถานศึกษาที่ตอนนี้กลายเป็นค่ายทหาร

* โลกกำลังอยู่ในภาวะสงคราม สงครามที่ไม่ใช้ปืนและกระสุน สงครามที่ไม่มีทหาร สงครามที่ไร้พรมแดน สงครามที่ไม่มีข้อตกลงหยุดยิง สงครามที่ไม่มีห้องยุทธการ สงครามที่ไม่มีโซนศักดิ์สิทธิ์ *

กองทัพในสงครามนี้ไม่มีความปราณี มันเป็นสิ่งที่ปราศจากความเมตตา มันไม่เลือกว่าจะเป็นเด็กหรือผู้หญิงหรือศาสนสถาน กองทัพนี้ไม่สนใจผลพวงความเสียหายจากสงคราม มันไม่มีความตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง ไม่สนใจเกี่ยวกับแหล่งแร่ที่อุดมสมบูรณ์ใต้ผืนดิน มันไม่ได้สนใจที่อยากเป็นเป็นเจ้าโลกหรือเรื่องราวทางศาสนาเชื้อชาติหรืออุดมการณ์ ความทะเยอทะยานของมันไม่เกี่ยวอะไรกับเชื้อชาติ* มันเป็นกองทัพล่องหนที่โหดมและทรงประสิทธิภาพ​*

สิ่งเดียวที่มันต้องการคือการเก็บเกี่ยวความตาย มันจะหยุดก็ต่อเมื่อทำลายโลกได้เป็นวงกว้างและมันบรรลุวัตถุประสงค์ได้โดยไม่ต้องสงสัย  แม้มันจะปราศจากเครื่องจักรสะเทินน้ำสะเทินบกและยานอวกาศ แต่มันมีฐานทัพในเกือบทุกประเทศทั่วโลก การเคลื่อนไหวของมันไม่ได้ควบคุมโดยอนุสัญญาสงครามหรือโปรโตคอลใด ๆ ในระยะสั้น * มันเป็นกฎหมายแในตัวเอง มันคือโคโรนาไวรัส ยังเป็นที่รู้จักกันในนาม COVID-19 * (เพราะมันเริ่มการทำลายล้างในปี 2019)​

โชคดีที่กองทัพนี้มีจุดอ่อนและเราสามารถเอาชนะได้ มันต้องการเพียงแค่ความร่วมแรงร่วมใจและความีวินัยและความอดทนของเรา * COVID-19 ไม่สามารถอยู่รอดได้ในการรักษาระยะห่างทางสังคมและกายภาพ * มันจะเติบโตเมื่อคุณอยู่ใกล้ชิดกันเท่านั้น มันชอบการเผชิญหน้า มันจะยอมจำนนต่อสังคมที่มีวินัยและการรักษาระยะห่างทางร่างกาย มันยอมจำนนต่อคนที่มีสุขอนามัยส่วนบุคคลที่ดี มันทำอะไรคุณไม่ได้เมื่อคุณกำหนดชะตากรรมของคุณด้วยมือของคุณเองโดยรักษาสุขอนามัยให้บ่อยที่สุดเท่าที่ทำได้

* นี่ไม่ใช่เวลาที่จะร้องไห้เเพื่อร้องขออาหารเหมือนเด็กที่เอาแต่ใจตัวเอง*  ท้ายที่สุดพระคัมภีร์ บอกเราว่ามนุษย์เราไม่ใช่อยู่เพื่อกินเพียงอย่างเดียว * เราควรเชื่อฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ * เรามาทำให้สถิติการติดเชื้อ COVID-19 ลดลง เราต้องมีความอดทน มาเป็นผู้ดูแลพี่น้องของเรากันเถอะ * ในเวลาไม่นานเราจะได้รับอิสรภาพ องค์กรและสังคมตามปกติกลับคืนมา"*

ในท่ามกลางเหตุฉุกเฉินเราต้องยอมรับมาตรการเร่งด่วนและแบ่งปันความรักต่อผู้อื่น
ขอพระเจ้าอวยพรเราทุกคน

speech สุนทรพจน์สาธารณะที่ดีที่สุดและชาญฉลาดที่สุดเท่าที่เคยมีระหว่าง Covid-19  เปิดหมวกยกย่องเขาเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ


ขอขอบคุณบทความดีๆค่ะ
บันทึกการเข้า

finghting!!!
Gold Price today, Gold Trend Price Prediction, ราคาทองคํา, วิเคราะห์ทิศทางทองคํา
   

images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary ---------------------Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. For more information on Moore Research products and services click here. --- http://www.mrci.com ---------- ---------------------------------------------รูปกราฟแสดงราคาทองในอดีตปี 1974-1999 ของ Moore Research Center, Inc. แสดงฤดูกาลที่ราคาทองขึ้นสูงสุดและตําสุด เอาแบบคร่าวๆ เส้นนําตาลหรือนําเงินก็ใกล้เคียงกัน เส้นนําตาลเฉลี่ย 15 ปี เส้นนําเงินเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุดของเส้นนําตาล หรือเฉลี่ย 15 ปี ในเดือน ปลายเดือน เมษ และปลายเดือน สค ต่อต้นเดือน กย[/color] สูงสุดในเดือน กพ กับ พย / ส่วนเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุด ต้น กค กับ ปลาย สค และราคาสูงสุดในเดือน กพ และ กลางเดือน ตค ----- แค่ดูคร่าวๆ เป็นแนวทาง อย่ายึดมั่นว่าจะต้องเป็นตามนี้ ข้างล่างเป็นกราฟราคานํามัน ตามฤดูกาล จาก Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary
 บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 16 17 [18]   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: