Forex-Currency Trading-Swiss based forex related website. Home ----- กระดานสนทนาหน้าแรก ----- Gold Chart,Silver,Copper,Oil Chart ----- gold-trend-price-prediction ----- ติดต่อเรา
หน้า: 1 2 3 [4] 5   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: The important day  (อ่าน 5813 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ไม่สามารถโหลดไฟล์ภาษา 'Aeva.thai-utf8' ได้
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #45 เมื่อ: สิงหาคม 07, 2015, 12:02:46 PM »

บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #46 เมื่อ: สิงหาคม 12, 2015, 10:34:22 AM »

บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #47 เมื่อ: ตุลาคม 23, 2015, 09:41:03 PM »

วันปิยะมหาราช



พระปิยะมหาราช
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #48 เมื่อ: พฤศจิกายน 25, 2015, 09:50:40 AM »

http://loykratong.kapook.com/

วันลอยกระทง
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #49 เมื่อ: ธันวาคม 05, 2015, 10:47:24 AM »


ิัby Aj Adisorn Pornsirikarn

ทรงพระเจริญ
Long live the king


บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #50 เมื่อ: เมษายน 25, 2016, 01:25:03 PM »




วันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช 25 เมษายน
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีคณะ ที่ 7 (ฝ่ายกฎหมาย) ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เป็นประธานที่เห็นชอบกำหนดให้ วันที่ 25 เมษายนของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เป็น วันรัฐพิธีแทนวันจันทร์ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 6 โดยให้มีการวางพวงมาลาสักการะและไม่ถือเป็นวันหยุดราชการ และกำหนดให้วันที่ ๑๘ มกราคมของทุกปี เป็นวันยุทธหัตถี เป็นวันรัฐพิธี แทนวันที่ 25 มกราคมของทุกปี

โดยให้มีการวางพานพุ่มสักการะและไม่ถือเป็นวันหยุดราชการตามที่คณะกรรมการเอกลักษณ์แห่งชาติ เสนอเรื่องนี้ คณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ ได้พิจารณาการกำหนดวันสมเด็จพระนเรศวรมหาราชตามจันทรคติ (ถือตามขึ้นแรม) เป็นวันรัฐพิธีนั้น เห็นว่าคนไทยปัจจุบันเคยชินกับวันทางสุริยคติซึ่งได้กำหนดวันที่ตายตัว และจะไม่ค่อยรู้จักหรือพูดถึงวันขึ้นแรมทางจันทรคติ การคำนวณวันทางสุริยคติในแต่ละปีโหรหลวงจะเป็นผู้คำนวณและประกาศให้ทราบโดย ทั่วไปว่าวันทางจันทรคติในปีนั้นๆ จะตรงกับวันทางสุริยคติวันใด ดังนั้นวันสำคัญของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชสมควรใช้เป็นวันทางสุริยคติจะเหมาะ สมกว่า จึงมอบหมายนายประเสริฐ ณ นคร ราชบัณฑิต คำนวณแล้วปรากฎผล ดังนี้

1. วันเสร็จสวรรคตทางจันทรคติตามที่ระบุในพระราชพงศาวดาร คือ วันจันทร์ เดือน 6 ขึ้น 8 ค่ำ จ.ศ. 967 ซึ่งในปี พ.ศ. 2148 ตรงกับวันจันทร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2148
2. วันที่ทรงกระทำยุทธหัตถีชนะราชศัตรูหรือวันยุทธหัตถีทางจันทรคติตาม ที่ระบุในพระราชพงศาวดารคือ วันจันทร์ เดือน 2 แรม 2 ค่ำ จ.ศ. 95 ตรงกับวันจันทร์ที่ 18 มกราคม 2135
3. การประกาศให้วันที่ 18 มกราคม เป็นวันยุทธหัตถี จะตรงต่อความเป็นจริงและเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาประวัติศาสตร์ไทยที่ถูกต้อง โดยจะไม่ส่งผลกระทบต่อวันที่ 25 มกราคม ซึ่งเป็นวันกองทัพไทย เพราะว่ากองทัพสามารถจะแสดงความรำลึกถึงสมเด็จพระนเรศวรมหาราชที่ทรงกระทำ ยุทธหัตถีชนะในวันใดก็ได้อยู่แล้ว

ทั้งนี้ในประวัติศาสตร์ได้จารึกไว้ถึงการสวรรคตของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชไว้ว่า ใน พ.ศ. 2147 ในสงครามอังวะ เมืองอังวะได้บุกรุกเข้ามายังเมืองนายและ เมืองแสนหวี พระองค์ทรงได้กรีธาทัพพร้อมสมเด็จพระเอกาทศรถไปยังเมืองเชียงใหม่ โดยแยกออกเป็นสองทาง สมเด็จพระเอกาทศรถยกทัพไปทางเมืองฝาก ส่วนพระองค์ยกทัพไปทางเมืองหาง
แต่ในขณะที่พระองค์ทรงประทับแรมที่ทุ่งแก้ว ได้เกิดประชวรเป็นหัวละลอก (ฝี) ขึ้นที่พระพักตร์จนเป็นพิษ ถึงกับเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2148 พระชนมพรรษา 50 พรรษา เสด็จอายุในราชสมบัติ 15 ปี
ที่มา : สำนักงานเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #51 เมื่อ: เมษายน 28, 2016, 05:38:16 PM »

คู่ฟ้า คู่แผ่นดิน
28 เมษายน 2559
66 ปี ราชาภิเษกสมรส











ในหลวง กับ พระราชินี ทรงจับพระหัตถ์กัน

https://www.youtube....h?v=7G2-ev9dFik

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
ขอบคุณเจ้าของภาพ 







http://fatherofthela...2013/05/50.html
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 28, 2016, 06:31:55 PM โดย jainu » บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #52 เมื่อ: มิถุนายน 01, 2016, 10:10:53 AM »

บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #53 เมื่อ: มิถุนายน 04, 2016, 07:38:21 AM »

4 มิถุนายน วันกอดแมวสากล

วันที่ 4 มิถุนายน เป็นวันที่เหล่าคนรักแมวทั้งหลายต้องเพิ่มเข้าไว้ในบันทึกวันสำคัญประจำปีของตัวเองแล้วล่ะ เพราะวันนี้คือ "วันกอดแมวสากล" หรือ "National Hug Your Cat Day" นั่นเอง วันแมว ๆ แบบนี้ทาสแมวผู้ภักดีพลาดไม่ได้แล้วจ้า

          ที่มาของวันกอดแมวสากลนี้ เริ่มต้นจาก มาริสา ดีวาริ นักเขียน และผู้เชี่ยวชาญเรื่องไวน์ชาวอเมริกัน ผู้เริ่มต้นให้มีวันกอดแมวขึ้นมาเพื่อแสดงความรักแก่เจ้า มีมี่ แมวเปอร์เซียสีขาวของเธอ และชักชวนให้คนอื่น ๆ ที่เลี้ยงแมวหันมาแสดงความรักกับแมวของตนเองด้วย เกิดเป็นความนิยมในหมู่คนเลี้ยงแมวจนกลายเป็นวันกอดแมวสากลไปในที่สุด โดยในปีนี้เวียนมาตรงกับวันที่ 4 มิถุนายนนั่นเอง และก็ไม่ใช่จะคนรักแมวในอเมริกาที่ยึดวันนี้เป็นวันสำคัญ เหล่าทาสแมวทั่วโลกก็พากันน้อมรับวันนี้เป็นวันกอดแมวนานาชาติไปด้วย ส่วนในบ้านเราก็ฮิตวันกอดแมวสากลไม่แพ้กันเหมือนกันนะ
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #54 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2016, 04:19:16 PM »

วันสิ่งแวดล้อมโลก 5 มิถุนายน

ในวันที่ 5 มิถุนายน ของทุกปีนั้น เป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก ซึ่งเป็นวันที่เราควรจะทำอะไรสักอย่างเพื่อสภาพแวดล้อมของเราที่ย่ำแย่ลงทุกวัน สังเกตได้จากปรากฏการณ์ต่าง ๆ ทั้งหิมะขั้วโลกเหนือละลาย น้ำท่วม แผ่นดินไหว หรืออากาศร้อนขึ้น ซึ่งผลเหล่านี้ล้วนมาจากการที่มนุษย์เป็นคนทำลายธรรมชาติ ทำลายสิ่งแวดล้อมดี ๆ นั่นเอง ทำให้หน่วยงานของโลกจัดตั้งวันสิ่งแวดล้อมโลกขึ้น

  สำหรับจุดเริ่มต้นของวันสิ่งแวดล้อมโลก หรือ World Environment Day นั้น จัดทำขึ้นเพื่อให้เกิดความตื่นตัวในด้านวิกฤตการณ์สิ่งแวดล้อมขึ้นทั่วโลก จึงมีมติให้จัดประชุมใหญ่ที่กรุงสตอกโฮล์ม ระหว่างวันที่ 5-16 มิถุนายน พ.ศ. 2515 ที่มีรัฐบาลของสวีเดนเป็นเจ้าภาพ โดยเรียกการประชุมนี้ว่า "การประชุมสหประชาชาติเรื่องสิ่งแวดล้อมของมนุษย์" หรือ "UN Conference on the Human Environment" ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 1,200 คน จาก 113 ประเทศ รวมถึงมีผู้สังเกตการณ์อีกกว่า 1,500 คนจากหน่วยงานของรัฐ องค์การสหประชาชาติ และสื่อมวลชนแขนงต่าง ๆ

          ทั้งนี้เพื่อร่วมกันหาหนทางแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ประเทศต่าง ๆ กำลังเผชิญอยู่ ซึ่งผลจากการประชุมครั้งนั้นได้มีข้อตกลงร่วมกันหลายอย่าง เช่น การจัดตั้งโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP : United Nations Environment Programme) ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงไนโรบี ประเทศเคนยา และรัฐบาลประเทศต่าง ๆ ก็ได้รับข้อตกลงจากการประชุมคราวนั้นไปจัดตั้งหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมขึ้นในประเทศของตน ดังนั้นเพื่อเป็นการระลึกถึงจุดเริ่มต้นของการร่วมมือจากหลากหลายชาติในด้านสิ่งแวดล้อม องค์การสหประชาชาติจึงได้ประกาศให้วันที่ 5 มิถุนายนของทุกปีเป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก

ซึ่งโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติมีหน้าที่ติดตาม และประเมินผลการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญทางด้านสิ่งแวดล้อม รวมทั้งกระตุ้นให้มีการเปลี่ยนแปลงไปสู่ทางที่ดี และเพื่อให้เป้าหมายบรรลุผลจึงได้กำหนดวิธีการไว้ดังนี้

          - สร้างความตื่นตัวในการเรียนรู้เรื่องสิ่งแวดล้อม และให้การศึกษากับประชาชนและนักศึกษาทั่วไป

          - ให้การสนับสนุนทางวิชาการ และเผยแพร่เรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม เพื่อกระตุ้นให้มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี

         - เสริมสร้างให้สถาบันและคนในสถาบันตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม

นอกจากนั้น ยังมีข้อตกลงจากการประชุมให้มาดำเนินการจัดตั้งหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมขึ้นในประเทศของตน ซึ่งประเทศไทยก็ได้ตราพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาสภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2518 และได้ก่อตั้งสำนักงานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติขึ้น เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2518 อันเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของการดำเนินงาน ด้านสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย โดยต่อมาในปี พ.ศ. 2535 ก็ได้มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างของสำนักงานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เป็น 3 หน่วยงาน คือ

          1.กรมควบคุมมลพิษ

          2 กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม

          3.สำนักนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม กระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม

และในส่วนของสถาบันการศึกษาก็ได้มีการจัดสอนหลักสูตรด้านสิ่งแวดล้อมขึ้นในหลาย ๆ มหาวิทยาลัย ซึ่งนับได้ว่าเป็นก้าวสำคัญของการตื่นตัวด้านสิ่งแวดล้อม อีกทั้งสื่อมวลชนก็ได้ส่งเสริมให้เกิดการตื่นตัวในปัญหาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งวันสิ่งแวดล้อมโลกในแต่ละปีก็จะมีหัวข้อที่ต่างกันออกไป


         - พ.ศ. 2528 เยาวชน ประชากร และสิ่งแวดล้อม (Youth, Population and Environment)

         - พ.ศ. 2529 ต้นไม้เพื่อสันติภาพ (A Tree for Peace)

          - พ.ศ. 2530 Public Participation, Environment Protection and Sustainable Development

          - พ.ศ. 2531 การมีส่วนร่วมของประชาชน การปกป้องคุ้มครองสิ่งแวดล้อม และการพัฒนาอย่างยั่งยืน (When people put the environment first, development will last)

          - พ.ศ. 2532 ภาวะโลกร้อน (Global Warming, Global Warming)

          - พ.ศ. 2533 เด็กและสิ่งแวดล้อม (Children and the Environment (Our Children, Their Earth))

          - พ.ศ. 2534 การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change : Need for Global Partnership)

          - พ.ศ. 2535 Only One Earth : Care and Share

          - พ.ศ. 2536 Poverty and the Environment : Breaking the Vicious Circle

          - พ.ศ. 2537 โลกใบเดียว ครอบครัวเดียวกัน (One Earth, One Family)

          - พ.ศ. 2538 ประชาชน เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งแวดล้อมโลก (We The Peoples, United for the Global Environment)
     
          - พ.ศ. 2539 รักโลก : ดูแลถิ่นฐานบ้านเรา (Our Earth, Our Habitat,Our Home)
 
          - พ.ศ. 2540 เพื่อชีวิตที่ยั่งยืนบนผืนโลก (For Life one Earth)

          - พ.ศ. 2541 เศรษฐกิจพอเพียง เลี้ยงชีวิตยั่งยืน (For Life on Earth "Save our Seas")

          - พ.ศ. 2542 รักโลก รักอนาคต รักษ์สิ่งแวดล้อม ("Our Earth, Our Future...Just Save It")

          - พ.ศ. 2543 ปี 2000 สหัสวรรษแห่งชีวิตสิ่งแวดล้อม : ร่วมคิด ร่วมทำ เพื่อโลก เพื่อเรา (2000 The Environment Millennium : Time to Act)

         - พ.ศ. 2544 เชื่อมโยงโลกกว้าง ร่วมสร้างสานสายใยชีวิต (CONNECT with the World Wide Web of Life)

          - พ.ศ. 2545 ให้โอกาสโลกฟื้น คืนความสดใสให้ชีวิต (Give Earth a Chance)

          - พ.ศ. 2546 รักษ์น้ำเพื่อสรรพชีวิต ก่อนวิกฤตจะมาเยือน (Water - Two Billion People are Dying for it !)

          - พ.ศ. 2547 ร่วมพิทักษ์ ร่วมรักษ์ทะเลไทย (Wanted! Sea and Oceans - Dead or Live?)

          - พ.ศ. 2548 เมืองเขียวสดใส ร่วมใจวางแผนเพื่อโลก (GREEN CITIES PLAN FOR THE PLANET !)

          - พ.ศ. 2549 เพิ่มความชุ่มชื้น คืนสู่ธรรมชาติ (DON'T DESERT DRYLANDS!)

          - พ.ศ. 2550 ลดโลกร้อน ด้วยชีวิตพอเพียง (MELTING ICE-A HOT TOPIC)

          - พ.ศ. 2551 ลดวิกฤตโลกร้อน : เปลี่ยนพฤติกรรม ปรับแนวคิด สู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ (Co2 Kick the Habit ! Towards a Low Carbon Economy)

          - พ.ศ. 2552 คุณคือพลัง ช่วยหยุดยั้งภาวะโลกร้อน (Your Planet Needs You - Unite to Combat Climate Change) 

          - พ.ศ. 2553 ความหลากหลายทางชีวภาพ กู้วิกฤตชีวิตโลก (Many Species One Planet One Future)

          - พ.ศ. 2554 ป่าไม้มีคุณ เกื้อหนุนสรรพชีวิต คิดถนอมรักษา (Forests : Nature at your Service)

          - พ.ศ. 2555 คุณคือพลัง สร้างสรรค์เศรษฐกิจ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Economy : Does it include you?)

          - พ.ศ. 2556 คิด กิน อยู่ (Think. Eat. Save.)

          - พ.ศ. 2557 ยกระดับความคิด แก้วิกฤตน้ำท่วมโลก (Raise your voice not the sea level)

          - พ.ศ. 2558 ฝัน 7 พันล้านใจ คิดห่วงใยผืนโลก (Seven billion Dreams, One Planet Consumer With Care)

          - พ.ศ. 2559 หยุดซื้อ หยุดขาย หยุดฆ่า แก้ปัญหาสัตว์ป่าสูญพันธุ์ (Zero Tolerance For The Illegal Wildlife Trade)

          โลกร้อน เกิดภัยพิบัติมากมาย ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่พวกเราจะร่วมช่วยกันรักษาสภาพแวดล้อมกันแบบจริง ๆ จัง ๆ เพื่อเก็บมันเอาไว้ให้ลูกหลานของเราได้เห็น



บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #55 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2016, 02:29:05 PM »




ปีมหามงคล ฉลองสิริราชสมบัติครบ 70 ปี
ทรงพระเจริญ


"พระราชาผู้ทรงธรรม" - เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์
https://www.youtube....h?v=_XTWTi__uDo

บันทึกการเข้า

finghting!!!