jainu
|
|
« ตอบ #150 เมื่อ: มีนาคม 09, 2011, 04:04:34 PM » |
|
ฮาโล ฮาโล ( Halo Halo) จานเด็ดของชาวฟิลิปปินส์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไม่แพ้ไข่บาลุท แต่รับประกันได้ว่าไม่น่าสะอิดสะเอียน ทั้งนี้ ฮาโล ฮาโล ไม่มีสูตรการทำที่แน่นอน แต่ดูๆ ไปก็ไม่ต่างอะไรกับน้ำแข็งใสของบ้านเรา โดยนำน้ำแข็งบดมาเติมด้วยเครื่องเคียง เช่น ถั่วเขียว ลูกตาล ขนุน มะพร้าวอ่อน ไอศกรีม วุ้นมะพร้าว สับปะรด และอื่นๆ ก่อนจะปิดท้ายด้วยการราดนมข้นหวานและน้ำเชื่อม โดยสามารถหารับประทานได้ทุกที่ในกรุงมะนิลา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
|
« ตอบ #151 เมื่อ: มีนาคม 09, 2011, 04:06:22 PM » |
|
ทีรามิสุเค้กชื่อดังของอิตาลีทำขึ้นจากเลดี้ฟิงเกอร์ราดเอสเปรสโซ่ สอดไส้ด้วยมาสคาร์โปนชีสและซาบากลิออเน ลือกันว่าทีรามิสุมีจุดกำเนิดมาจากการที่แม่บ้านของทหารในสงครามโลกครั้งที่สองทำเค้กให้สามีรับประทาน โดยเชื่อว่าส่วนผสมของคาเฟอีนกับน้ำตาลจะช่วยให้พวกเขามีพลังและแคล้วคลาดจากอันตราย ช่างโรแมนติคเสียนี่กะไร เหมาะจะเป็นของหวานรับวันวาเลนไทน์โดยแท้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
|
« ตอบ #152 เมื่อ: มีนาคม 09, 2011, 04:08:17 PM » |
|
แอปเปิล พาย เช่นเคย แม้จะฟังดูเป็นอเมริกันจ๋า แต่จริงๆ แล้วมีต้นกำเนิดจากเมืองผู้ดี โดยได้รับการคิดค้นขึ้นเมื่อปี 1381 และปกติจะอบด้วยแป้งสองชั้น ในสมัยก่อน ตอนที่ชาวอังกฤษอพยพมาตั้งรกรากในอเมริกา พวกเขาได้นำเมล็ดแอปเปิลมาปลูกด้วย จึงทำให้มันมีความเกี่ยวพันกับวัฒนธรรมของชาวมะกัน แต่ไม่ว่าจะที่โรงแรมในลอนดอนหรือภัตตาคารในแอลเอ แอปเปิลพายก็เป็นที่ถูกอกถูกใจบรรดาลูกค้าเหมือนกัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
|
« ตอบ #153 เมื่อ: มีนาคม 09, 2011, 04:10:27 PM » |
|
ไดฟุกุ ขนมเจลลาตินทรงกลมจากแดนอาทิตย์อุทัยมักสอดไส้ไว้ด้วยถั่วแดงหวาน (และบางครั้งก็อาจเป็นแยมสตอเบอร์รี่) โรยด้วยแป้งบางๆ โดยสามารถหาซื้อมารับประทานได้ทั้งจากกรุงโตเกียว โอซาก้า เกียวโต นากาโนะ และทุกแห่งในญี่ปุ่น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
|
« ตอบ #154 เมื่อ: มีนาคม 09, 2011, 04:12:18 PM » |
|
นาไนโม บาร์ ( Nanaimo Bars) แคนาดาขึ้นชื่อเรื่องขนมหวาน? ได้ยินแล้วไม่ต่างกับการพูดว่ากรุงเทพขึ้นชื่อเรื่องทะเลยังไงยังงั้น แต่กระนั้น ขนมรสเลิศดังกล่าวก็มีที่มาจากเกาะแวนคูเวอร์ในเมืองนาไนโม รัฐบริติชโคลัมเบีย โดยได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นจากฝีมือแม่บ้านท้องถิ่นซึ่งได้ส่งเจ้าขนมทรงจัตุรัสชิ้นนี้ไปประกวดในนิตยสารและคว้ารางวัลชนะเลิศมาได้ ปัจจุบัน เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนในแถบอเมริกาเหนือ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
|
« ตอบ #155 เมื่อ: มีนาคม 09, 2011, 04:13:53 PM » |
|
กุหลับ จามาน ( Gulab Jamenก้อนขนมปังหวานที่คงไม่ถูกปากฝรั่งตาน้ำข้าว แต่คอนเฟิร์มว่าอยู่ในรายชื่อขนมอันดับต้นๆ ของชาวอินเดีย และเมื่อมีคนกว่าพันล้านคนชื่นชอบ ก็ยากจะปฏิเสธได้ว่ามันไม่อร่อย ปกติแล้วมักทำขึ้นโดยใช้ครีมสองชั้นและราด้วยน้ำเชื่อมเข้มข้น เป็นที่นิยมในอินเดีย ปากีสถาน เนปาล และประเทศในแถบเอเชียใต้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
|
« ตอบ #156 เมื่อ: มีนาคม 09, 2011, 04:15:32 PM » |
|
บาคลาวา (Baklava) ประวัติที่แท้จริงของบาคลาวายากที่จะระบุให้แน่ชัดเพราะว่ากันว่ามันมีต้นกำเนิดจากจักรวรรดิอ็อตโตมัน ดินแดนเมโสโปเตเมีย และอาหรับ โดยขนมหวานชนิดนี้ทำขึ้นจากการนำแป้งฟิลโลมาสอดไส้ไว้ด้วยถั่ว น้ำผึ้ง หรือน้ำเชื่อม หากต้องการลิ้มลองรสชาติแบบต้นตำรับก็ต้องไปรับประทานถึงถิ่นที่อ้างว่าเป็นจุดกำเนิด ทั้งกรุงอิสตันบูล กรุงเอเธนส์ และกรุงเบรุต แม้แต่ละที่อาจจะมีรสแตกต่างกันไปบ้าง แต่ก็ยังการันตีได้ถึงความเอร็ดอร่อย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
|
« ตอบ #157 เมื่อ: มีนาคม 19, 2011, 10:33:43 AM » |
|
ดับกลิ่นในครัวห้องครัวถือเป็นหน้าตาของบ้านเหมือนกัน หากมีกลิ่นไม่พึงประสงค์คงไม่น่าอภิรมย์นัก นิตยสาร "ฟู้ดสไตต์" ฉบับล่าสุด มีวิธีดับกลิ่นมาฝาก กลิ่นปลาทอดเวลาทอดปลาจะมีกลิ่นคาวอบอวลไปทั่วบ้าน กว่าจะจางหายไปก็ต้องใช้เวลานาน วิธีขจัดกลิ่นทำได้โดยใช้น้ำส้มสายชูผสมน้ำอย่างละคร ึ่ง ต้มให้เดือดไปเรื่อยๆ กลิ่นน้ำส้มสายชูกับน้ำจะช่วยกลบกลิ่นปลาให้หมดไปได้ อย่างรวดเร็ว กลิ่นกระเทียมติดมือกลิ่นกระเทียมฉุนและแรง แถมติดมือนาน แก้ได้ด้วยการล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำยาล้างมือแล้วเช ็ดให้แห้ง จากนั้นบีบยาสีฟันลงบนแปรงที่ใช้ทำความสะอาดเล็บ ถูแปรงตามมือและซอกเล็บ เสร็จแล้วล้างยาสีฟันออก กลิ่นก็จะหายไป กลิ่นกะปิกลิ่นกะปิเหม็นติดมือนานพอๆ กับกระเทียม ล้างเท่าใดกลิ่นก็ไม่หายเหม็น วิธีแก้คือล้างมือให้สะอาด หลังจากนั้นเช็ดให้แห้ง แล้วขยำมือกับถังใส่ข้าวสารสัก 2-3 ครั้ง เพียงเท่านี้กลิ่นกะปิที่เหม็นติดมือก็จะหายไปเอง กลิ่นขยะห้องครัวมีแต่กลิ่นขยะไม่ดีแน่ จัดการได้โดยใช้กระดาษหนังสือพิมพ์เก่าๆ รองไว้ใต้ถังหรือถุงดำก่อนจะทิ้งขยะลงไป กระดาษหนังสือพิมพ์จะช่วยดูดซับกลิ่นขยะ หลังจากนั้นฝานมะนาวชิ้นใหญ่ๆ 3-4 ชิ้นใส่ในถังขยะ กลิ่นต่างๆ จะไม่มารบกวนให้รำคาญใจอีก กลิ่นในตู้เย็นตู้เย็นใช้เป็นที่เก็บผักสดสารพัดชนิด ทั้งผักสด เนื้อสัตว์ ไข่ไก่ และผลไม้ ทำให้มีกลิ่นสารพัด วิธีแก้ไขไม่ยาก นำถ่านที่ใช้ก่อไฟใส่ถ้วยเล็กๆ วางไว้มุมใดมุมหนึ่งของตู้เย็น ถ่านจะช่วยดูดกลิ่นต่างๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
|
jainu
|
|
« ตอบ #159 เมื่อ: เมษายน 14, 2011, 11:50:26 AM » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
|
« ตอบ #160 เมื่อ: เมษายน 14, 2011, 09:09:56 PM » |
|
นำบุญมาฝากพี่ๆๆเพื่อนๆๆด้วยค่ะ ไปทำบุญที่วัดฟังธรรม และถวายสังฆทาน ปล่อยปลา ปลาไหล กบ เต่า หอยขม มีความสุขทุกท่านน้ะค่ะวันนี้มีต้มยำปลาช่อนเนื้อขาวมาจากแม่น้ำ ธรรมชาติมากๆๆ แม่น้ำน้ะค่ะ ยำยอดมะพร้าวอ่อน อ่อนมากๆๆด้วย สูตรเป็นความลับ ลวงได้เมื่อไหร่แล้วจะมาบอก มะม่วงสุกงอม งอมจากสวนแท้ แท้ งั่ม งั่ม พอดีญาติมาเยี่ยม น่ะค่ะเลยพาไปเดินเล่นน้ำเเถวสีลม เราไม่สามารถฟ่าวงล้อมไปจนสุดถนนอีกด้านได้ เกือบแบนเป็นกล้วยปิ้ง คนมั่ก มั่ก มาก ม้าก มาก หายใจไม่ออกเลยต้องถอยกลับบ้านน่ะค่ะ หน้าขาววอกบอกได้ว่าทุกคน วอกหมด : น้ำก็หยดเป็นทาง ทุกคนค่ะ การันตรี ระวังสุขภาพด้วยน่ะค่ะ อากาศเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา จากใจค่ะ นู๋ใจ อิ อิ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
|
« ตอบ #161 เมื่อ: เมษายน 14, 2011, 09:44:55 PM » |
|
ทำข้าวผัดให้อร่อย การทำข้าวผัดให้อร่อย เริ่มจากข้าวสวยที่ผัดต้องหุง ให้เป็นเม็ดสวย "วิธีการหุงข้าว" ก็มีเคล็ดลับการหุงข้าวสารใหม่ต้องใส่น้ำน้อย เพราะข้าวยังมีความชื้นอยู่มาก แต่ถ้าเป็นข้าวเก่า ต้องใส่น้ำให้ท่วมข้าวหนึ่งองคุลี หุงแบบไม่เช็ดน้ำ หรือนึ่ง ก็จะได้ข้าวสวยที่เป็นเม็ดสวยมีคุณค่าสูง เมื่อสุกใหม่ร้อนๆ ต้องเกลี่ยใส่ถาด ให้ข้าวเย็นก่อนจึงนำมาผัดข้าวจะไม่เกาะตัวเป็นก้อน แต่ถ้าข้าวผัดที่ ทำจากข้าวกล้องนั้น มีวิธีหุงคือ ต้องใส่น้ำมาก เพราะข้าวกล้องดูดน้ำได้ดี แต่เมื่อสุกทิ้งให้เย็นต้องผัดเลยไม่ควรใช้ข้าวกล้องที่ทิ้งไว้นานมาผัด เพราะข้าวสวยที่หุงจากข้าวกล้องจะบูดง่ายกว่าข้าวสวยที่หุงจากขัาวขาว
เมื่อได้ข้าวสวยที่เหมาะในการทำข้าวผัดแล้ว ทำอย่างไรจึงจะผัดให้ข้าวเป็นเงาสวยน่ากินสิ่งสำคัญอยู่ที่ "ไฟ" ต้องใช้ไฟกลางในการเจียวกระเทียมจนเหลือง ใส่เครื่องปรุงที่เป็นเนื้อสัตว์ผัดจนสุกก่อน จึงใส่ข้าวผัดให้ทั่ว ถ้าข้าวผัดชนิดใดมีส่วนผสมของไข่ต้องใส่ไข่ทีหลังข้าวพอผัดข้าวจนทั่วเกลี่ยข้าวไว้อีกด้าน หนึ่งต่อยไข่ใส่กลบข้าวบนไข่พอสุกจึงค่อยผัดไข่ ในขั้นตอนนี้ต้องผัดเร็วๆ ไข่จะเกาะเม็ดข้าวดี และไม่แฉะ เช่น ข้าวผัดปู ข้าวผัดทะเล ข้าวผัดกุ้ง ข้าวผัดหมู ในกรณีที่เป็นข้าวผัดที่นำน้ำพริกมาประยุกต์ คลุกน้ำพริกกับข้าวให้ทั่วก่อน จึงค่อยผัดทีหลังจะทำให้ส่วนผสมเข้ากันได้ดี
"กระทะ" เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญในการทำข้าวผัดเลยทีเดียว กระทะเหล็กรับความร้อนได้เร็วและดี แต่ข้าวจะติดกระทะ ต้องผัดเร็วๆเหมาะสำหรับแม่ครัวที่ชำนาญในการผัดขัาว เพราะข้าวผัดที่ได้จะมีกลิ่นหอม ถ้าเป็นแม่ครัวมือใหม่ต้องใช้กระทะเทฟล่อน แต่กลิ่นหอมจะสู้ข้าวที่ผัดจากกระทะอะลูมิเนียม กระทะเหล็ก หรือกระทะเหล็กเคลือบไม่ได้ "ตะหลิว" ก็เช่นกันต้องเลือกด้ามที่ติดแน่น ทนความร้อนข้อมูลจาก : http://thefriedrice.exteen.com/20080907/entry-1
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
|
อุ๊
|
|
« ตอบ #163 เมื่อ: เมษายน 22, 2011, 11:02:38 AM » |
|
สูตรทำข้าวผัดให้อร่อย ลองแล้ว อร่อย และเม็ดข้าวสวยจริง ๆ จ้า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อุ๊
|
|
« ตอบ #164 เมื่อ: เมษายน 22, 2011, 11:04:51 AM » |
|
ช่วงนี้หน้าร้อน แถมร้อนจัดมาก ๆ ขอสูตรอาหารคลายร้อนให้เจ้าตัวเล็กหน่อยได้ไหมจ๊ะ ขอเป็นอาหารแบบไทย ๆ นะคะ ฝรั่ง ๆ ทำไม่ค่อยเป็งงงง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Gold Price today, Gold Trend Price Prediction, ราคาทองคํา, วิเคราะห์ทิศทางทองคํา
|
Thanks: ฝากรูป dictionary
---------------------Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. For more information on Moore Research products and services click here. --- http://www.mrci.com ----------
---------------------------------------------รูปกราฟแสดงราคาทองในอดีตปี 1974-1999 ของ Moore Research Center, Inc.
แสดงฤดูกาลที่ราคาทองขึ้นสูงสุดและตําสุด เอาแบบคร่าวๆ เส้นนําตาลหรือนําเงินก็ใกล้เคียงกัน เส้นนําตาลเฉลี่ย
15 ปี เส้นนําเงินเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุดของเส้นนําตาล หรือเฉลี่ย 15 ปี ในเดือน ปลายเดือน เมษ และปลายเดือน สค
ต่อต้นเดือน กย[/color] สูงสุดในเดือน กพ กับ พย / ส่วนเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุด ต้น กค กับ ปลาย สค และราคาสูงสุดในเดือน
กพ และ กลางเดือน ตค -----
แค่ดูคร่าวๆ เป็นแนวทาง อย่ายึดมั่นว่าจะต้องเป็นตามนี้
ข้างล่างเป็นกราฟราคานํามัน ตามฤดูกาล จาก Charts courtesy of Moore Research Center, Inc.
Thanks: ฝากรูป dictionary
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|