jainu
|
|
« ตอบ #255 เมื่อ: ตุลาคม 24, 2011, 10:25:11 PM » |
|
ข้าวหลาม ส่วนผสม ข้าวเหนียว 5 ถ้วย กะทิ 2 ถ้วย เกลือป่น 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย ถั่วดำ 1/2 ถ้วย ไม่ไผ่ชนิดไม่อ่อนไม่แก่เกินไปตัดเอาข้อไว้ด้านหนึ่ง อีกด้านไม่มีข้อ ใบตองแห้ง กาบมะพร้าวอ่อน ฉีกเป็นชิ้นเล็ก แล้วเอาใบตองแห้งห่อให้เป็นก้อนเล็ก ให้พอดีกับรูกระบอกไม้ไผ่สำหรับอุดกระบอกเวลาเผา วิธีทำ 1.แช่ข้าวเหนียวไว้ 1 คืนแล้วสงน้ำมาเคล้ากับถั่วดำ 2.ผสมกะทิ เกลือ และน้ำตาลคนให้เข้ากันจนน้ำตาลละลายหมด 3.กรอกข้าวเหนียวผสมถั่วดำลงในกระบอกไม้ไผ่ประมาณ 3/4 ของกระบอก ตักน้ำกะทิใส่ลงไปเกือบเต็ม แล้วใช้จุกอุดปากกระบอกให้แน่น 4.ทำที่เผาข้าวหลามโดยให้ปักห่างกันประมาณ 1 เมตรตามยาว เว้นที่ตรงกลางเพื่อก่อไฟสุม วางกระบอกข้าวหลามในแนวตั้งเพื่อไม่ให้หก หมั่นหมุนกระบอกเพื่อให้ได้ความร้อนทั่วทุกด้านจนข้าวเหนียวสุกดี นำออกมาผึ่งไว้ให้เย็น นำมาปอกเปลือกออกรับประทาน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
|
« ตอบ #256 เมื่อ: ตุลาคม 24, 2011, 10:26:52 PM » |
|
ปลาร้า
ปลาร้า เป็นผลิตภัณฑ์พื้นบ้านที่เป็นเอกลักษณ์ของไทยมาแต่ช้านาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือนิยมบริโภคและจัดเป็นอาหารประจำวันก็ว่าได้ คนในภาคเหนือและภาคกลางก็นิยมบริโภคเช่นกัน แต่จะต่างกันบ้างในลักษณะการนำมาประกอบอาหารเท่านั้น การผลิตปลาร้าส่วนใหญ่ทำกันระดับชาวบ้าน การผลิตแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ ปลาร้าข้าวคั่วและปลาร้ารำ ปลาร้าข้าวคั่วมักจะทำในภาคกลาง ส่วนปลาร้ารำมักจะทำจากปลาทั้งตัวในภาคอีสาน สีจะคล้ำกว่าปลาร้าข้าวคั่ว
วัตถุดิบ: ปลาช่อน ปลากระดี่
ส่วนผสม: เกลือ 20-25% (ของน้ำหนักปลา) ข้าวคั่วหรือรำ 10-12% (ของน้ำหนักปลา)
วิธีทำ: 1. นำปลามาตัดหัว ขอดเกล็ด ควักไส้ ล้างให้สะอาด ทิ้งให้สะเด็ดน้ำ 2. นำปลามาผสมกับเกลือให้เข้ากันดี จากนั้นจึงเติมข้าวคั่วหรือรำผสมให้เข้ากัน แล้วนำมาอัดใส่ไห ขัดด้วยไม้ไผ่ให้แน่นทิ้งไว้ 8 เดือน ถึง 1 ปี
***วิธีรับประทาน*** ---ควรปรุงให้สุกก่อนรับประทานนะคะ...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
|
« ตอบ #257 เมื่อ: ตุลาคม 24, 2011, 10:28:32 PM » |
|
การทำ applesauce
ส่วนผสม
1. แอปเปิ้ล 5 กิโลกรัม (ล้าง แล้วคว้านตรงกลางทิ้ง และตัดเป็นชิ้น ๆ ) 2. น้ำ 5 ถ้วย หรือ น้ำแอปเปิ้ล (apple cider)
วิธีทำ
1. เตรียมหม้อไว้ ปอกเปลือกแอปเปิ้ลหรือไม่ปลอกเปลือกก็ได้ ใส่ลงไปในหม้อตามด้วย น้ำหรือ น้ำแอปเปิ้ล ตามขนาดที่ระบุไว้ ต้มให้เดือด หลังจากเดือดแล้วให้หรี่ไฟ อ่อน ตั้งไฟอีกประมาณ 20 นาที หรือจนกระทั่ง แอปเปิ้ลนิ่ม 2. ปล่อยทิ้งไว้ให้เย็น หลังจากนั้นก็นำมาปั่นแบบ puree จนกระทั่ง smooth 3. เก็บไว้ในตู้เย็น (ระหว่างรอทำอาหารอบแห้ง)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
|
« ตอบ #258 เมื่อ: ตุลาคม 24, 2011, 10:30:10 PM » |
|
มะม่วงแผ่น
ส่วนผสม
1. มะม่วงสุก 2 กิโลกรัม 2. น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ 3. น้ำผึ้ง 2-3 ช้อนโต๊ะ หรือ มากกว่านั้น ถ้าต้องการเพิ่มรสชาด
วิธีทำ
1. ปอกเปลือกมะม่วง ปั่นให้ละเอียด ใส่น้ำมะนาวและน้ำผึ้งลงไป คนให้เข้ากัน ชิมรสเปรี้ยวหรือหวานตามชอบ 2. เตรียมถาด เคลือบด้วยน้ำมันพืช (เคลือบบาง ๆ ให้ทั่ว..) หลังจากนั้น เทลงในถาดที่จะอบแห้ง 3. อบแห้งประมาณ 8-10 ชั่วโมง 4. ม้วนหรือ พับเก็บด้วยกระดาษ waxed เก็บไว้ในภาชนะ ปิดฝาให้สนิท
****เก็บไว้ได้ ประมาณ 2 ปี ในภาชนะที่ปิดมิดชิด****
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
|
« ตอบ #259 เมื่อ: ตุลาคม 25, 2011, 09:57:35 PM » |
|
หมูกรอบ
ส่วนผสม 1. เนื้อหมูสามชั้น 1 กิโลกรัม 2. เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ 3. น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. หมูสามชั้น ล้างให้สะอาด ขูดขนออก 2. ต้มในน้ำพอเดือด หรี่ไฟให้อ่อนต้มนาน ประมาณ 45 นาที ปิดฝา 3. นำขึ้นผึ่งไว้พอหมาด ๆ บั้งตรงที่มีเนื้อตามยาว กรีดมีดลึกพอสมควร ห่างกันประมาร 1 นิ้ว ตามยาวตลอดชิ้น 4. ส่วนหนังหมูใช้มีดบั้ง เป็นตารางสี่เหลี่ยม ขนมเปียกปูน หรือสี่เหลี่ยมตามถนัด อย่าให้ลึกลงไปถึงมันหมู 5. ใช้ส้มจิ้ม ๆ หนังให้ทั่วอีกที ใช้เกลือทาตามเนื้อหมูให้ทั่ว ส่วนหนังใช้น้ำส้มสายชู ทาให้ทั่ว 6. นำหมูไปตากแดดให้แห้ง แล้วนำมาทอด หรืออบให้หนังพองสักครู่แล้วนำไปทอด รับประทานกับน้ำจิ้ม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
|
« ตอบ #260 เมื่อ: ตุลาคม 27, 2011, 04:19:45 PM » |
|
กล้วยอบม้วน
เครื่องปรุง / ส่วนผสม
๑. กล้วยน้ำว้า ๒. เกลือไอโอดีน
ขั้นตอน / วิธีทำ
๑. กล้วยน้ำว้าสุกงอม ๒. ปอกเปลือก ๓. ล้าง/แช่น้ำเกลือ ๔. เรียงบนถาด ๕. เข้าเตาอบลมร้อน ๗๐ องศา นาน ๔ ชั่วโมง ๖. ออกจากเตาทิ้งไว้ให้เย็น ๗. ม้วนกล้วยบรรจุกล่อง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
|
« ตอบ #261 เมื่อ: ตุลาคม 27, 2011, 04:23:00 PM » |
|
มะดันดอง
ส่วนผสม
๑. มะดัน ๒๐ - ๓๐ ผล ๒. เกลือป่น ๑/๒ ถ้วย ๓. น้ำเปล่า ๒ ๑/๒ ถ้วย
วิธีทำ
๑. มะดันล้างน้ำให้สะอาด ๒. เอาใส่ตะแกรงไว้ให้สะเด็ดน้ำ ๓. ผสมเกลือ น้ำตาล กับน้ำเปล่า ๔. คนให้เข้ากัน ๕. จากนั้นเอามะดันใส่โหล ๖. เทน้ำมะดันดองลงไปให้ท่วมพอดี ๗. ถ้ามะดันลอยหาไม้ขัดให้จม ๘. ตั้งทิ้งไว้ ๒ - ๓ วัน ก็ใช้ได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
|
« ตอบ #262 เมื่อ: ตุลาคม 27, 2011, 04:24:26 PM » |
|
หน่อไม้อัดปี๊บ/ถุง
ส่วนผสม หน่อไม้ลวก หน่อไม้เลี้ยง หรือหน่อไม้สีสุก
วิธีทำ
๑. นำหน่อไม้มาเผาไฟทั้งเปลือกให้สุก ๒. ปลอกเปลือกล้างน้ำให้สะอาด ๓. ล้างปี๊บให้สะอาด ๔. นำหน่อไม้ใส่ลงไปให้แน่น ๕. นำไปต้มทั้งปี๊บ เติมน้ำ ๒ ครั้ง ๖. ปิดผ้าปี๊บแล้วเชื่อมที่ฝาให้แน่น(ถ้าอัดถุงให้นำหน่อให้ที่ล้างน้ำแล้วใส่ถุงพลาสติก ๒ ชั้น รัดยางให้แน่น แล้วนำไปต้มในน้ำเดือดประมาณ ๒๐ นาที)
เทคนิคในการทำ (เคล็ดลับ)
๑. การทำหน่อไม้อัด ต้องปิดฝาปี๊บ หรือยัดยางให้แน่นอย่างให้มีอากาศเข้าไปได้ จะทำให้หน่อไม้เสียแต่หากพบรอยรั่วให้นำมาต้มใหม่ แล้วอัดตามขั้นตอนเดิมอีกครั้ง จะทำให้เก็บไว้ได้นานเหมือนเดิม ๒.ไม่ใช้หน่อไม้สีสุก เพราะจะทำให้เละ นำมาปรุงอาหารไม่อร่อย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
|
« ตอบ #263 เมื่อ: ตุลาคม 27, 2011, 04:27:23 PM » |
|
ปลาตะเพียนต้มเค็ม ส่วนผสม ๑. ปลาตะเพียน ๑๐ ตัว น้ำหนัก ๕ ก.ก ๒. อ้อยสด ๕๐๐ กรัม ๓. กระเทียม ๑๐๐ กรัม ๔. รากผักชี ๑๐๐ กรัม ๕. มะขามเปียก ๒๐๐ กรัม ๖. ขิงแก่ ๓๐๐ กรัม ๗. น้ำตาลทราย ๑.๕ ก.ก ๘. เกลือป่น ๒๐๐ กรัม ขั้นตอน / วิธีทำ
๑. ปลาตะเพียนมาฝ่าท้อง ล้างน้ำให้สะอาด นำผึ่งบนตะแกรง ๒. นำเครื่องปรุงทั้งหมดใส่ลงในหม้อ อ้อยตัดเป็นท่อนวางเรียงที่ก้นหม้อ ๓. ใส่น้ำลงในหม้อพอประมาณ นำไปตั้งไฟให้เดือด ๔. นำปลาตะเพียนเรียงลงในหม้อ ปิดฝาหม้อ ต้มโดยใช้ไฟกลาง ๕. ต้มเคี่ยวไปเรื่อยๆ ใช้เวลาประมาณ ๘-๑๐ ชั่วโมง เนื้อปลาจะสุกแต่ไม่เละ ก้างปลานิ่ม
เทคนิคในการทำ (เคล็ดลับ)
๑. ปลาตะเพียนต้องเป็นปลาสด ต้มแล้วจึงจะมีรสชาติอร่อย ๒. ปลาตะเพียนต้องไม่ขอดเกล็ด เพราะต้มแล้วเกล็ดจะฟูน่ารับประทาน ๓. ใส่อ้อยไว้ก้นหม้อ เวลาเคี่ยวไฟเนื้อปลาจะไม่ติดกับก้นหม้อ และน้ำหวานจากอ้อยจะค่อยๆออกมามีกลิ่นหอมชวนรับประทาน ๔. ขณะต้มเคี่ยวปลา ต้องใช้ไฟกลาง จะทำให้เกล็ดปลาฟูสวย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
|
« ตอบ #264 เมื่อ: ตุลาคม 27, 2011, 04:29:16 PM » |
|
แกงไตปลาแห้ง
ส่วนผสม
๑. พริกแกง ๒. ไตปลา ๓. ปลาแห้ง ๔. น้ำปลา น้ำตาล
ขั้นตอน / วิธีทำ
๑. นำส่วนผสมทั้งหมดเข้าเครื่องบด ๒. ใช้กรรมวิธีผ่านความร้อนให้วัตถุดิบทั้งหมดสุก ๓. บรรจุขวดจำหน่าย เทคนิคในการทำ (เคล็ดลับ) เก็บได้นาน ๑ ปี โดยไม่ต้องแช่เย็น (ไม่ใช้สารกันเชื้อรา หรือสารกันบูด)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
|
« ตอบ #265 เมื่อ: ตุลาคม 27, 2011, 04:31:35 PM » |
|
ไข่เค็ม ส่วนผสม ๑.ไข่เป็ด ๒.เกลือเม็ด ๓.แกลบ ๔.ดินจอมปลวก
วิธีทำ
๑.นำดินจอมปลวกไปแช่ให้ละลายประมาณ ๑ ชั่วโมง ๒.ใส่เกลือเม็ดคลุกเคล้ากับดินให้เข้ากัน ๓.คัดไข่เป็ดที่ไม่มีรอยร้าว คลุกกับดินที่ผสมเกลือแล้ว หมักไว้ในถัง เขียนวันที่ผลิตไว้ด้วยโดยกำหนดวันดังนี้ ไข่เค็มสำหรับทอดไข่ดาว หมักไว้ประมาณ ๗ วัน และไข่ต้มหมักไว้ประมาณ ๑๕ วัน ๔.เมื่อจะนำไปจำหน่ายให้นำไข่เค็มมาคลุกกับแกลบที่เผาแล้ว เพราะป้องกันไข่กระทบกันทำให้แตกได้ง่ายและเน่าได้ บรรจุใส่กล่องและนำไปจำหน่ายที่ตลาด ๕.ไข่เค็มสำหรับทอดไข่ดาว และไข่ต้ม สามารถนำไปประกอบอาหารได้หลายอย่าง เช่น เทคนิคในการทำ (เคล็ดลับ) ๑.ในทุกขั้นตอนการทำไข่เค็มห้ามไม่ให้ล้างไข่หรือถูกน้ำเปล่า หรือไข่มีรอยร้าวจะทำให้ไข่เน่า ไข่ใบอื่นติดเชื้อเน่าไปด้วยและมีกลิ่นเหม็น ๒.ส่วนผสมดิน ๓ ส่วน เกลือ ๑ ส่วน หากใส่เกลือน้อยเกินไปเมื่อหมักเสร็จแล้วอาจทำให้ไข่เน่าได้ เพราะเกลือเป็นส่วนที่ทำหน้าที่ถนอมอาหาร ๓.ควรเลือกซื้อไข่เป็ดจากฟาร์มที่เลี้ยงเป็ดในท้องถิ่น เพราะจะได้ไข่ที่มีคุณภาพ ไข่แดงมีสีเข้มและรสชาติอร่อยน่ารับประทาน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
|
« ตอบ #266 เมื่อ: ตุลาคม 27, 2011, 04:32:52 PM » |
|
ไข่เค็มดินสอพอง ส่วนผสม
๑. ไข่เป็ด ๑๐๐ ฟอง ๒. เกลือไอโอดีน ๑ ถ้วยตวง ๓. ดินสอพอง ๓ ถ้วยตวง ๔. แกลบดำ ๑ กะละมัง
ขั้นตอน / วิธีทำ
การทำไข่เค็มดินสอพอง"กรรมวิธีการทำเริ่มจากคัดไข่เป็ดดิบที่มีขนาดเท่ากัน ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไปล้างน้ำให้สะอาดและแช่ในน้ำเกลือไอโอดีนทิ้งไว้ 1-2 นาที ให้สารไอโอดีนจากเกลือเกาะติดเปลือกไข่จากนั้นนำเกลือไอโอดีนมาผสมกับดินสอพอง ใส่น้ำพอเหลว แล้วนำมาหุ้มปิดเปลือกไข่ทั้งใบไม่ให้หนาหรือบางเกินไป ขั้นต่อไปนำไข่ไปกลิ้งในแกลบดำหรือแกลบที่ผ่านการเผาแล้ว นำไปหมักในโอ่งดินเผาหรือบรรจุกล่องเพื่อรอส่งขายทีเดียวเลยก็ได้ สำหรับระยะเวลาหมัก เมื่อผ่านไป 10 วัน จะนำมาทอดเป็นไข่ดาวเค็มกินได้ แต่ถ้าหมัก 15 วันจะเป็นไข่เค็ม โดยต้องนำไปต้มจะเก็บไว้ได้กว่า 6 เดือน การใช้ดินสอพองหุ้มนั้น ดินสอพองจะกรองความเค็มของเกลือไม่ให้ซึมเข้าเนื้อไข่มากนักทำให้ไข่เค็มมีรสกลมกล่อม ไม่เค็มจัด!!
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
|
« ตอบ #267 เมื่อ: พฤศจิกายน 09, 2011, 08:22:49 PM » |
|
วิธีหุงข้าวสวยให้เก็บไว้ได้หลายวันโดยไม่บูด เพื่อแจกจ่ายสำหรับผู้ประสบปัญหาภัยน้ำท่วม สามารถนำไปใช้ได้
ตอนนี้พื้นที่น้ำท่วมเยอะมากบางที่ท่วมจนไม่สามารถจะทำอาหารได้ หรือไม่มีอุปกรณ์เพราะน้ำพาไปหมด ของที่บริจาคช่วยน้ำท่วมที่เราเห็นเยอะคือ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหรือข้าวสาร ซึ่งต้องทำให้สุกก่อนทาน หรือจะเป็นอาหารสำเร็จรูปบรรจุกระป๋องอย่าง ปลากระป๋องซึ่งทานอย่างเดียวก็ไม่อิ่มท้อง ข้าวสวยบรรจุกระป๋อง ก็มีราคาแพงและน้อยที่บ้านเรา
เวลาหุงข้าวสวย จะใส่น้ำส้มสายชูลงไปด้วย ข้าวสาร 3 กระป๋อง ใช้น้ำส้มสายชูประมาณ 1 ช้อนชา ซึ่งจริงๆก็กะเอาค่ะไม่ได้ตวงข้าวสวยที่หุงโดยการเติมน้ำส้มสายชูลงไป สามารถอยู่ได้โดยไม่บูดหลายวัน
เราเคยหุงแล้วตักมาทาน แล้วปิดฝาทิ้งไว้ ลืมไป 4 วัน มาเปิดหม้อดูอีกที ก็ไม่บูดค่ะ ไม่แฉะด้วยเรา ทดลองหุงแล้วตักมาทาน แล้วปล่อยทิ้งไว้คาหม้อ 4-5 วัน มาไม่ต่ำกว่า 5 ครั้งแล้วค่ะ
เพื่อพิสูจน์ว่ามันจะไม่บูดจริงๆ โดยเปิดฝาดูทุกวัน
ข้าวที่หุงทิ้งไว้ 4-5วัน เราก็เอามาทานจริงๆ ไม่มีกลิ่นบูด ไม่แฉะ เรา เลยคิดว่า อยากให้หุงข้าวด้วยการเติมน้ำส้มสายชูดังกล่าวแล้วบรรจุถุงแกง อาจจะรัดด้วยหนังยางหรือซีลด้วยเครื่องซีลถุงเอาไปบริจาคให้ผู้ที่อยู่ใน พื้นที่น้ำท่วมซึ่งไม่สามารถประกอบอาหารได้ทานข้าวสวยกับปลากระป๋อง อร่อยและอิ่มท้องกว่าทานปลากระป๋องอย่างเดียวค่ะ
ส่วน ตัวเราเอง ตอนนี้ทยอยหุงข้าวแล้ว pack ใส่ถุงพลาสติกเก็บไว้เป็นเสบียงแล้วค่ะเพราะอยู่ในพื้นที่เสี่ยงน้ำจะเข้า ท่วมในอีก2-3วัน เก็บของเตรียมพร้อมเรียบร้อยเอกสารสำคัญ ยา อาหาร ของจำเป็นในการดำรงชีวิต พร้อมลุย ไม่ต้องรอถุงยังชีพ
ขอบคุณ mcot
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
|
« ตอบ #268 เมื่อ: พฤศจิกายน 09, 2011, 08:38:32 PM » |
|
ข้าวต้มกุ้งสูตรการทำข้าวต้มกุ้ง
* กุ้ง 350 กรัม (ล้างและ แกะเปลือก)
* น้ำ 2 ถ้วยตวง
* ข้าวสุก 1 ถ้วยตวง
* หัวไชโป๊ 0.5 ช้อนชา
* น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
* ซิอิ๊ว 1 ช้อนโต๊ะ
* กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
* เห็ดหอมหั่นเป็นชิ้น
* คึ้นฉ่าย 1 ถ้วยตวง (หั่นเป็นชิ้นเล็ก ทั้งลำต้นและใบ)
* พริกไทย 0.5 ช้อนชา
* กระเทียมเจียว (จะมีหรือไม่มีก็ได้)
วิธีทำทีละขั้นตอน
1.ใส่น้ำมันลงในหม้อ นำไปตั้งไฟ ใส่กระเทียมลงไปเจียวพอให้เหลือง
2. เติมน้ำลงไปในหม้อ และรอจนน้ำเดือด จากนั้นเติมคึ้นฉ่าย, ซิอิ๊ว, น้ำปลา และพริกไทย คนให้เข้ากัน รอจนน้ำเดือดอีกครั้ง
3. เมื่อน้ำเดือดแล้ว ให้ใส่ข้าวสุก, หัวไชโป๊วและ เห็ดหอม คนให้เข้ากัน รอจนน้ำเริ่มเดือดจึงใส่กุ้งลงไปในหม้อ ต้มจนกุ้งสุกจึงปิดไฟ
4.ตักใส่ถ้วย โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียว, พริกไทย และแต่งหน้าด้วยผักชี เสริฟทันทีขณะยังร้อน
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 10, 2011, 11:10:20 PM โดย nujai »
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
|
« ตอบ #269 เมื่อ: พฤศจิกายน 09, 2011, 08:58:57 PM » |
|
สวัสดีค่ะ ขอแนะนำ ตึกเปิดใหม่ ที่แยกอโศก bts---> walk อาหารหลากหลาย ไม่แพงอย่างที่คิด อร่อย จิง จิง รวมร้านดังมากมาย หลากหลายเมนู ว่างๆๆผ่านมาลองแวะชิมดู อีกอย่างอย่าลืมพกกล้องมาถ่ายรูปด้วยน่ะจ้ะ อิ อิ have a good day kha
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
Gold Price today, Gold Trend Price Prediction, ราคาทองคํา, วิเคราะห์ทิศทางทองคํา
|
Thanks: ฝากรูป dictionary
---------------------Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. For more information on Moore Research products and services click here. --- http://www.mrci.com ----------
---------------------------------------------รูปกราฟแสดงราคาทองในอดีตปี 1974-1999 ของ Moore Research Center, Inc.
แสดงฤดูกาลที่ราคาทองขึ้นสูงสุดและตําสุด เอาแบบคร่าวๆ เส้นนําตาลหรือนําเงินก็ใกล้เคียงกัน เส้นนําตาลเฉลี่ย
15 ปี เส้นนําเงินเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุดของเส้นนําตาล หรือเฉลี่ย 15 ปี ในเดือน ปลายเดือน เมษ และปลายเดือน สค
ต่อต้นเดือน กย[/color] สูงสุดในเดือน กพ กับ พย / ส่วนเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุด ต้น กค กับ ปลาย สค และราคาสูงสุดในเดือน
กพ และ กลางเดือน ตค -----
แค่ดูคร่าวๆ เป็นแนวทาง อย่ายึดมั่นว่าจะต้องเป็นตามนี้
ข้างล่างเป็นกราฟราคานํามัน ตามฤดูกาล จาก Charts courtesy of Moore Research Center, Inc.
Thanks: ฝากรูป dictionary
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|