Forex-Currency Trading-Swiss based forex related website. Home ----- กระดานสนทนาหน้าแรก ----- Gold Chart,Silver,Copper,Oil Chart ----- gold-trend-price-prediction ----- ติดต่อเรา
หน้า: 1 ... 18 19 [20] 21 22 ... 33   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ชวนกันเข้าครัว  (อ่าน 79168 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 15 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #285 เมื่อ: มกราคม 06, 2012, 06:45:05 PM »

แกงจืดสามกษัตริย์



แกงจืดสามกษัตริย์

 ส่วนผสม

เนื้อหมูหั่นชิ้นเล็กยาว 1 นิ้ว ¼ ถ้วย

อกไก่หั่นชิ้นเล็กยาว 1 นิ้ว ¼ ถ้วย

กุ้งขนาดกลางปอกเปลือกผ่าหลัง ¼ ถ้วย

ฟองเต้าหู้แบบแห้งตัดยาว 2 นิ้วกว้าง 1 นิ้ว 15 ชิ้น

หัวไชโป๊วเค็มหั่นเป็นเส้นเล็ก ๆ ยาวตามหัว 15 เส้น

หัวไชเท้าหั่นเป็นแว่นหนา ½ ซม 1 ถ้วย

รากผักชีซอย 1 ช้อนโต๊ะ


กระเทียมซอย 2 ช้อนชา

พริกไทยป่น ¼ ช้อนชา

ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนชา

เกลือป่น ½ ช้อนชา

น้ำซุปไก่ 2  ถ้วย

ต้นหอมหั่นยาว 1 นิ้ว 2 ต้น

ผักชีเด็ดเป็นใบ ๆ 1 ต้นเล็ก

วิธีทำ

1.โขลกรากผักชี กระเทียม พริกไทย ให้ละเอียด


2. นำหมู ไก่ กุ้ง วางบนฟองเต้าหู้ที่แช่น้ำแล้ว ม้วนให้แน่น มัดด้วยหัวไชโป๊ว

3.น้ำซุปตั้งไฟให้เดือด ใส่เครื่องที่โขลกไว้ รอให้เดือดแล้วใส่หัวไชเท้า พอสุกใส่หมูไก่กุ้งที่หมักไว้

4.ปรุงรส ใส่ต้นหอม แล้วยกลง โรย ผักชี เป็นอันเสร็จ
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #286 เมื่อ: มกราคม 06, 2012, 06:47:40 PM »

ไก่ผัดตะไคร้” หอมกรุ่นสมุนไพร



ส่วนผสม

เนื้ออกไก่ (หั่นเป็นชิ้นพอคำ) 160 กรัม
ตะไคร้ 2 ต้น
ข่า (หั่นเป็นแว่น) 3 ชิ้น
ใบมะกรูด 5 ใบ
เห็ดฟาง 1 ถ้วย
กระเทียม 4 กลีบเล็ก (บุบพอแตก)
รากผักชี 2 ต้น (บุบพอแตก)
หอมใหญ่ ½ หัว หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม
พริกชี้ฟ้า 1 เม็ด
น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
ซอสถั่วเหลือง 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาล 1 ช้อนชา
น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
น้ำสต็อกไก่ 20 มิลลิลิตร
แป้งทอดกรอบ 20 กรัม
พริกไทยป่น ¼ ช้อนชา
น้ำมันสำหรับทอด


วิธีทำ เริ่มจากตั้งกระทะ ใส่น้ำมันสำหรับทอด พอน้ำมันร้อน นำเนื้อไก่ลงคลุกกับแป้งทอดกรอบ นำลงทอดจนเนื้อไก่พอสุก ด้านนอกมีสีเหลือง ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน จากนั้นตั้งกระทะอีกใบ ใส่น้ำมันเล็กน้อย เมื่อน้ำมันร้อนใส่กระเทียม รากผักชี ตะไคร้หั่นท่อน ข่า และหอมใหญ่ ผัดจนหอม จากนั้นใส่เนื้อไก่ที่ทอดแล้วลงไป ใส่น้ำมันหอย ซอสถั่วเหลือง น้ำตาล พริกไทยป่น ใส่ใบมะกรูด และน้ำสต็อกไก่เล็กน้อย ผัดให้เข้ากัน แล้วใส่น้ำมะนาว ผัดให้เข้ากันแล้วปิดไฟ ตักขึ้นเสิร์ฟได้เลย

ขอขอบคุณ
สูตรอร่อยจาก โรงเรียนสอนทำอาหาร จินจา คุก โรงแรมเจดับบลิว แมริออท ภูเก็ต รีสอร์ท แอนด์ สปา
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #287 เมื่อ: มกราคม 06, 2012, 06:49:33 PM »

กุ้งราดซอสพริกไทยดำ




ส่วนผสมอาหาร

กุ้งแม่น้ำ300 กรัม

น้ำมันพืช2 ช้อนโต๊ะ

กระเทียมสับละเอียด2 ช้อนชา

พริกไทยดำบุบ2 ช้อนชา

พริกไทยสด2 ช้อนชา

น้ำปลา2 ช้อนโต๊ะ

ซอสหอยนางรม2 ช้อนโต๊ะ

น้ำตาลทราย1/2 ช้อนชา

น้ำซุป1/4 ถ้วย

วิธีทำอาหาร

1 กุ้งแม่น้ำนำมาย่างไฟอ่อนพอแห้งกุ้งสุกดี นำขึ้น แกะเปลือกจัดใสจาน

2 ใส่น้ำมันพืชละเลงในกระทะ ตั้งไฟพอร้อน ใส่กระเทียมลงเจียวจนเหลืองหอม ใส่พริกไทยดำ ปรุงรสด้วยน้ำปลา ซอสหอยนางรม น้ำตาลทราย ใส่พริกไทยสด เติมน้ำซุป เคี่ยวให้เข้ากันดี ชิมรสตามชอบ ยกขึ้นราดลงบนกุ้งที่จัดใส่จานไว้
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #288 เมื่อ: มกราคม 09, 2012, 08:19:07 PM »

เมี่ยงปลาช่อนย่างเกลือและตะไคร้


อร่อย แบบจัดเต็มกับมื้อเย็นสุดอิ่มแต่ดีต่อสุขภาพ อย่าง เมี่ยงปลาช่อนย่างเกลือกับตะไคร้ ซึ่งนำปลาช่อนตัวโตมาพอกเกลือผสมกับตะไคร้ตำกลิ่นหอม ช่วยลดคาวปลา รับประทานพร้อมผักสดและเครื่องเมี่ยงสมุนไพรนานาชนิด ทั้ง หอม ตะไคร้ พริกขี้หนู ช่วยขับลมและช่วยย่อย พร้อมน้ำจิ้มรสเปรี้ยวเผ็ดหวานจากถั่วกระจกเข้ากันได้ดี เพิ่มความกรุบกรอบด้วยเต้าหู้ตากแห้งทอดกรอบแทนกากหมู และถั่วงคั่ว จึงเพลิดเพลินกันได้ทุกคำเมี่ยง

ส่วนผสม (สำหรับรับประทาน 4 คน)
เตรียม 30 นาที ปรุง 45 นาที (รวมเวลาย่างปลา)


ปลาช่อนขนาด 700 กรัม ดึงเหงือกและไส้ทิ้ง ล้างให้สะอาด ไม่
ต้องขอดเกล็ด 1 ตัว
ตะไคร้ตำ ละเอียด 3 ถ้วย
เกลือสินเธาว์ 3 ถ้วย
ตะไคร้ทั้งต้นบุบพอแตก 4 ต้น และใบมะกรูด 10 ใบ สำหรับใส่ในท้องปลา
กระดาษชำระแผ่นใหญ่สำหรับซับน้ำส่วนเกินจากปลา


ส่วนผสมเครื่องเมี่ยง

แผ่นแป้งกะยอสำหรับรับประทานกับแหนมเนือง 40 แผ่น แช่น้ำเย็นแล้วนำขึ้นพักใส่จานรอให้นิ่ม
ผักกาดขาวเด็ดเป็นใบ หั่นชิ้นพอคำ 1 ต้นใหญ่ (แช่เย็นไว้ก่อนเสิร์ฟ)
เส้นขนมจีน 4 จับ
ถั่วงคั่ว 1 ถ้วย
พริกขี้หนูเม็ดใหญ่สีเขียวและแดงซอย ¼ ถ้วย
หอมเล็กปอกเปลือกหั่นเต๋า 10 หัว
เต้าหู้เหลืองแข็ง ½ ก้อน (หั่นเต๋าเล็กจิ๋ว ตากแดดจนแห้ง แล้วนำไปทอดกรอบ)
ตะไคร้ซอยบาง ½ ถ้วย
กระเทียมโทนดองซอยบาง ¼ ถ้วย
ใบสะระแหน่ตามชอบ


ส่วนผสมน้ำจิ้ม

กระเทียมกลีบเล็กปอกเปลือก 20 กลีบ
พริกขี้หนู 30 เม็ด
รากผักชีสับ 4 ช้อนโต๊ะ
ถั่วกระจก 1 ถ้วย
น้ำปลา 6 ช้อนโต๊ะ
น้ำกระเทียมดอง 1 ถ้วย
น้ำมะนาว 6 ช้อนโต๊ะ
ผักชีสับ 2 ต้น

วิธีทำ

ซับ ปลาด้วยกระดาษชำระแผ่นใหญ่ให้แห้ง ใส่ตะไคร้ ใบมะกรูดในท้องปลา จากนั้นผสมเกลือกับตะไคร้ตำ ใช้มือขยำให้เข้ากัน นำไปพอกบนตัวปลา แล้วนำไปย่างจนสุก พักไว้
ทำน้ำจิ้ม โดยตำกระเทียม พริกขี้หนู และรากผักชีให้ละเอียดเข้ากัน ใส่ถั่วกระจก ตำจนละเอียดดี ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำกระเทียมดอง น้ำมะนาว ใส่ผักชีสับลงไปเคล้า ตักใส่ถ้วยน้ำจิ้มพักไว้
จัด ผักและเครื่องเมี่ยงใส่จาน เสิร์ฟพร้อมกับปลาย่าง และน้ำจิ้ม โดยวิธีรับประทานคือ วางแผ่นกะยอที่นิ่มแล้วบนผักกาดขาว ตักเนื้อปลาวางลงไป ใส่เครื่องเมี่ยงต่าง ๆ แล้วราดด้วยน้ำจิ้ม รับประทานเป็นคำ
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #289 เมื่อ: มกราคม 18, 2012, 09:54:05 PM »

อาหารไหว้วันตรุษจีน



คนจีนจะแบ่งวันไหว้ออกเป็น 2 วัน นับเป็น 2 เทศกาลคือ วันที่ 29 หรือ 30 เดือน 12 ของจีน และ วันชิวอก ซึ่งเป็นเทศกาลปีใหม่ ซึ่งเริ่มมาจากฤดูใบไม้ผลิของคนจีน แต่คนไทยมักจะรวม 2 วันนี้เป็นวันเดียวกัน และไหว้พร้อมกันทีเดียว


ของไหว้ในวันที่ 29 หรือ 30 ของเดือน 12




อาหารไหว้ช่วงเช้า

 ช่วงเช้า  เวลาประมาณ 07.00 – 08.00 น. ตอนเช้าชาวจีนจะนิยมไหว้สิงศักดิ์สิทธิ์ในบ้าน และไหว้ปุ้งเท้า ซึ่งเป็นเทพท้องถิ่นที่คนทำมาค้าขายนิยมบูชา โดยจะไหว้ด้วยเนื้อสัตว์ 3 อย่าง หรือ ซาแซ  เช่น

 หมู  มีความหมายถึง ความอุดมสมบูรณ์
 เป็ด  มีความหมายถึง ความสามารถอันหลากหลาย ความมั่งคั่ง ความมีมาก
 ไก่   มีความหมายถึง ความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน โดยหงอนไก่ที่มีลักษณะเหมือนหมวกขุนนาง มีความหมายถึงความซื่อตรง
ความหมายถึงความซื่อตรง
 ขนมเข่ง  มีความหมายถึง การมีเพื่อนมาก



อาหารไหว้ช่วงสาย

 ช่วงสาย เวลาประมาณ 09.00 น. ถึงก่อนเที่ยง จะเป็นการไหว้บรรพบุรุษและบรรพชน อาหารที่ไหว้มีดังนี้

 อาหารคาว อาหารคาวต่าง ๆ มีความหมาย ดังต่อไปนี้

ลูกชิ้นปลา  หมายถึง ความเหลือกินเหลือใช้ ชีวิตราบรื่น
ผัดต้นกระเทียม  หมายถึง ความมั่งคั่ง มีเงินมีทองให้นับอยู่เสมอ
ผัดตับกับกุยช่าย  หมายถึง การมียศฐาบรรดาศักดิ์ ฐานะร่ำรวย
แกงจืด หมายถึง การให้ลูกหลานมีชีวิตราบรื่น
เป๋าฮื้อ หมายถึง ความเหลือกินเหลือใช้ มีไว้ให้ลูกหลาน
ผัดถั่วงอก หมายถึง ความงอกงาม เจริญรุ่งเรือง
เต้าหู้ หมายถึง การเจริญเติบโต บุญ ความสุข
สาหร่ายทะเล หมายถึง ความโชคดี ร่ำรวย

 อาหารหวาน มีความหมายต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

ซาลาเปา หมายถึง การห่อโชคลาภมาให้ลูกหลาน
ขนมถ้วยฟู หมายถึง ความเจริญงอกงาม
ขนมคัดท้อก้วย คือ ขนมไล้ถั่วต่าง ๆ ที่ทำเป็นลูกท้อ หมายถึง การอวยพรให้มีอายุยืนยาว
ขนมไข่ หมายถึง การเจริญเติบโต
ขนมอี๊ ทำจากแป้งกลม ๆ นวดแล้วเจือสีชมพู แล้วปั้นเป็นก้อนกลม ๆ ต้มกับน้ำตาล จะทำให้ เคี้ยวง่าย ขนมอิ๊จึงหมายถึงความราบรื่น
ขนมเทียน หมายถึง ความสว่างรุ่งเรือง

 ขนมเข่ง
 ชุดซาแซ คือ หมู เป็ด ไก่
 ข้าวสวย พูนใส่ให้ครบตามจำนวนของบรรพบุรุษ
 น้ำชา
 ผลไม้ ผลไม้ต่าง ๆ ที่ไหว้ในวันตรุษจีนมีความหมายดังต่อไปนี้

ส้ม หมายถึง โชคลาภ วาสนา มีความหมายถึงโชคดี
กล้วย หมายถึง การมีลูกหลานมาก และเรียกโชคลาภเข้าบ้าน
แอปเปิ้ล หมายถึง การมีสุขภาพแข็งแรง และความสุขสงบ
สับปะรด หมายถึง การมองเห็นได้กว้างไกล
องุ่น หมายถึง ความมั่งคั่งและความแข็งแรง
สาลี่ หมายถึง เงินทองไหลมาเทมา

 เครื่องกระดาษ มีความหมายต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

กระดาษเงินกระดาษทอง คนจีนเชื่อว่า เมื่อคนตายตายไปแล้ว ลูกหลานจะต้องส่งเงินทองไปให้เพื่อแสดงความกตัญญู และการเผากระดาษเงินกระดาษทอง ก็ยังหมายถึงสิริมงคลที่จะเกิดกับลูกหลานอีกด้วย
กอจี๊ หรือ จี๊จุ๊ย หมายถึง กระดาษทองชิ้นใหญ่มีกระดาษแดงตัดเป็นตัวอักษรว่า เผ่งอัน หมายถึง ความโชคดี
กิมจั๊ว หมายถึง กระดาษเงินกระดาษทองที่ลูกหลานนำมาทำเป็นชุด พับเป็นรูปดอกไม้ก่อนไหว้
กิมเต้า หมายถึง ถังเงินถังทอง ใช้ไหว้เทพยดาฟ้าดิน
กิมเตี๊ยว หรือ แท่งทอง ใช้สำหรับไหว้คนตาย
อิมกังจัวยี่ หรือ แบงค์กงเต็ก ใช้สำหรับเบิกทางไปสู่สวรรค์ขอคนตาย



อาหารไหว้ช่วงบ่าย

 ช่วงบ่าย เวลาประมาณ 13.00 – 15.00 น. จะเป็นการไหว้วิญญาณที่ไม่มีญาติ โดยประกอบไปด้วยเครื่องไหว้ดังนี้

 อาหารคาว
 อาหารหวาน
 เครื่องกระดาษ



อาหารไหว้วันตรุษจีน

 วันตรุษจีน เป็นการไหว้ในช่วงเช้าของวันที่ 1 ด้วยของเซ่นต่าง ๆ หลังจากนั้นจะให้ออกไปไหว้เจ้านอกบ้าน และไหว้บรรพบุรุษ เสร็จแล้วจะเดินทางไปเยี่ยมพี่น้อง โดยเครื่องไหว้ต่าง ๆ มีดังต่อไปนี้

 ส้ม หมายถึง โชคดี
 ของหวาน 5 อย่าง
 ขนมจันอับ หมายถึง ความเจริญงอกงามดุจดังเมล็ดพืช

วันตรุษจีนนี้ คงเป็นอีกวันที่เทพยดาฟ้าดินที่เราไหว้ จะนำพาความสุขสงบร่มเย็น พร้อมด้วยโชคลาภเงินทอง มาสู่เราตลอดปีนะคะ
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #290 เมื่อ: มกราคม 19, 2012, 09:45:48 PM »

ซีซาร์สลัดผักไฮโดรโปนิกส์


ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่) 
ผักสลัดไฮโดรโปนิกส์   1  ชามใหญ่ 
เชสด้าชีสขูด  1/2  ถ้วย 
แฮมหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ  1/2  ถ้วย 
ขนมปังอบกรอบ   1/2  ถ้วย


ส่วนผสมน้ำสลัด     
ไข่ไก่ (เฉพาะไข่แดง)  2  ฟอง 
นมสด  50  กรัม 
เนยจีด  50  กรัม 
พาร์สเลย์สับหยาบ  1  ช้อนชา 
น้ำมะนาวเหลือง   3  ช้อนชา 
พริกไทยดำบดหยาบ  1  ช้อนชา 
พริกไทยป่น (สำหรับปรุงรสตามชอบ)     
เกลือ (สำหรับปรุงรสตามชอบ)     
น้ำตาล (สำหรับปรุงรสตามชอบ)   
   
 
 
วิธีการทำ

1. นำไข่แดงตีกับนมสดและเนยจืดให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว จากนั้นเติมน้ำมะนาว พาร์สเลย์ และพริกไทยดำ ตีให้เข้ากัน

2. ปรุงรสด้วยพริกไทยป่น เกลือ และน้ำตาล จนได้รสชาติที่ชอบ จากนั้นนำส่วนผสมทั้งหมดไป ตุ๋น โดยหมั่นคนจนส่วนผสมงวดและข้นขึ้น พักไว้แล้วตักใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ปิดฝา

3. เตรียมผักสลัดโดยนำมาล้างให้สะอาด เด็ดเป็นใบจัดวางใส่จาน โรยหน้าด้วยแฮม ราดด้วยน้ำสลัด จากนั้นจึงโรยหน้าด้วยเชสด้าชีสขูดและขนมปังอบกรอบ
 

 
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #291 เมื่อ: มกราคม 19, 2012, 09:49:22 PM »

ห่อหมกปลา


ส่วนผสม

-ปลาช่อน 1 กิโลกรัม
-หัวกะทิ 1 ถ้วย
-หางกะทิ 2 ถ้วย
-ไข่เป็ด 2 ฟอง
-น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
-ผักชีเด็ดเป็นใบๆ 3 ต้น
-พริกแดงหั่นฝอย 6 เม็ด
-ใบมะกรูดหั่นฝอย 8-10 ใบ
-กะหล่ำปลีหรือโหระพาหรือใบยอ


ส่วนผสมพริกแกง

-พริกแห้ง 7 เม็ด
-หัวหอม ¼ ถ้วย
-กระเทียม ¼ ถ้วย
-พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา
-ผิวมะกรูด 1 ช้อนชา
-ข่าสับละเอียด 1 ช้อนชา
-ตะไคร้สับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
-รากผักชีสับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
-กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
-กระทง


วิธีทำ
1.ปลาช่อนขอดเกล็ดทำความสะอาด แล่เอาแต่เนื้อหั่นแฉลบเป็นชิ้นบางๆ ซับ พักไว้
2.ใบยอผ่าก้านกลางออก หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม หรือ โหระพาเด็ดเป็นใบๆ  หรือ กะหล่ำปลีหั่นฝอยหยาบๆ ลวกน้ำพอสุก
3.โขลกส่วนผสมพริกแกงทั้งหมดเข้าด้วยกันให้ละเอียด
4.นำปลามาคนกับหางกะทิ พอกะทิเข้าเนื้อปลาดี ใส่พริกแกงคนต่อจนข้นและเข้ากันดี ใส่ไข่ น้ำปลา คนต่อให้ส่วนผสมเข้ากันดี
5.หัวกะทิตั้งไฟพอเดือดยกลง
6.นำผักที่เตรียมไว้รองก้นกระทง ตักส่วนผสมห่อหมกใส่ให้จนเกือบเต็ม หยอดหัวกะทิ โรยหน้าด้วยใบมะกรูด พริกแดงและผักชี แล้วนึ่งให้สุก
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #292 เมื่อ: มกราคม 24, 2012, 09:11:16 PM »

ยำมะเขือยาวกับปลาคอดรมควันและฟิกสด




ส่วนผสม

มะเขือยาว  2-3  ลูก
พริกหวาน สีแดง  1  ลูก
พริกหวานสีเหลือง  1  ลูก
ปลาคอดรมควันแร่เป็นชิ้นบางๆ  200-300  กรัม
รอคเก็ต  1/2  ถ้วย
ฟิกสด  4  ลูก
พริกขี้หนูตามชอบ     
กระเทียม  4  กลีบ
น้ำมะนาว  4  ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทรายไม่ฟอก  2  ช้อนชาพูน
น้ำปลา  1  ช้อนชา
เกลือ  3  ช้อนชา

วิธีทำ

1.   เผา มะเขือด้วยเตาถ่าน ใช้ถ่านก้อนเล็ก เผาถ่านให้ระอุ รอจนหมดเปลว แล้ววางมะเขือลงบนถ่านให้มะเขือร้อนจัดกลับให้มะเขือโดน ถ่าน   ทั่วทั้งลูก ถ้ามะเขือไม่ร้อนทั่วกันก่อน ส่วนที่โดนไอร้อนแต่ไม่ถูกไฟจะดำ ขณะเผาให้กดดูว่ามะเขือนิ่มดีหรือยัง ไม่ต้องรอให้เกรียมหรือเละ เมื่อนิ่มดีแล้วกลับด้าน เผาให้นิ่มทั่วกัน แต่ยังเขียวสวยดี
2.  เมื่อมะเขือสุกดีแล้วยกออกจากเตาแช่ในน้ำเย็นผสมเกลือเล็กน้อย แล้วลอกเปลือกออก
3.  เผาพริกหวาน ให้สุก แต่ไม่ไหม้ เมื่อสุกดี แช่น้ำแล้วลอกเปลือกออก
4.  หั่น มะเขือเป็นท่อนยาวสามนิ้ว กรีดกลางตามยาว แล้วคลี่ออกให้เป็นแผ่นเรียบ ใช้มีดแล่เอาส่วนเม็ดออกเก็บไว้ เหลือแต่เนื้อมะเขือเป็นแผ่นสีเขียวบางๆ
5.  หั่นพริกเป็นชิ้น ขนาดให้เท่ากับชิ้นมะเขือที่เตรียมไว้ เอาเม็ดและไส้ออก
6.  โขลกพริกขี้หนูและกระเทียม ใส่น้ำตาล น้ำมะนาว น้ำปลาและเกลือ ผสมให้เขากัน กรองกากออก ใช้แต่น้ำ พักไว้
7.  เรียงมะเขือ พริกและปลาคอด สลับกันซ้อนเป็นชั้นๆ
8.  เวลาเสิร์ฟ ราดน้ำยำ วางใบรอคเก็ตสองสามใบข้างบน ตามด้วยลูกฟิกสดผ่าครึ่งตามยาว
H&C Tips

- ใช้มังคุดแทนลูกฟิกก็ได้ แต่ต้องปอกแล้วเสิร์ฟทันที ก่อนที่มังคุดจะสีคล้ำหมดสวย

นิตยสาร Health & Cuisine
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #293 เมื่อ: มกราคม 24, 2012, 09:17:30 PM »

สังขยาคาราเมลคัสตาร์ดฟักทอง


เครื่องปรุงคัสตาร์ด

-นํ้าตาลทราย 1/2 ถ้วยตวง
-หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง
-นมจืด 1 ถ้วยตวง
-กลิ่นมะพร้าว 1 ช้อนชา
-ไข่ไก่ 2 ฟอง
-ไข่แดงของไข่ไก่ 2 ฟอง
-น้ำตาลปี๊บ 150 กรัม
-เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
-เนื้อฟักทองหั่นเต๋า 100 กรัม (ลวกพอสุก)   

วิธีทำ

-เปิดเตาอบไว้ที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส
-นำ หม้อใส่น้ำตาลทรายตั้งเตาให้ร้อนกระทั่งน้ำตาลทรายละลาย จนน้ำตาลไหม้เป็นสีน้ำตาลอ่อน (แล้วแต่ความต้องการว่าอยากได้คัสตาร์ดรสชาติขมแค่ไหน)
-เทนํ้าตาลไหม้ลงไปเคลือบก้นถ้วยอบ ที่ทำด้วยเซรามิก พักไว้
-นำหัวกะทิ นมจืด และกลิ่นมะพร้าว มาต้มให้เดือด และพักไว้
-ผสมไข่ไก่ ไข่แดงของไข่ไก่ และนํ้าตาลปี๊บในชามผสมให้เข้ากัน จนนํ้าตาลละลายหมด
-ค่อย ๆ เทกะทิที่ต้มไว้ลงไปผสมกับไข่ และน้ำตาลปี๊บ เททีละนิดก่อน มิฉะนั้นไข่จะสุกและกลายเป็นไข่กวน
-เติมเกลือป่น 1 หยิบมือ ลงไปในส่วนผสมนม และไข่ กรองส่วนผสมด้วยผ้าขาวบาง
-เทส่วนผสมนี้ลงไปในถ้วยที่ได้เตรียมไว้ (ถ้วยที่มีน้ำตาลไหม้เคลือบอยู่) แล้ว โรยเนื้อฟักทองปอกเปลือกหั่นเต๋าบนคัสตาร์ด
-นำถ้วยคัสตาร์ดมาวางในถาดที่มีขอบสูง เทนํ้าร้อนลงไปในถาด ให้ระดับนํ้าสูงเท่ากับระดับส่วนผสมในถ้วย
-นำ ถาดตั้งไฟให้ร้อนและน้ำเริ่มเดือด จึงนำถาดไปใส่ในเตาอบ เปิดไฟที่ 180 องศาเซลเซียส ใช้เวลาอบประมาณ 40 นาที หรือจนกระทั่งคัสตาร์ดสุก
-นำถาดออกมาจากเตาอบ ยกถ้วยขนมในถาดออก พักให้เย็นสนิท และแช่ในตู้เย็น
-เวลา เสิร์ฟ นำถ้วยขนมออกจากตู้เย็น กรีดขอบข้างในถ้วยด้วยมีด และนำจานมาคว่ำและเคาะขนมออกจากพิมพ์ โดยหงายจานกลับขึ้น ชิ้นคัสตาร์ดก็จะหลุดจากพิมพ์ ลงบนจาน
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #294 เมื่อ: มกราคม 27, 2012, 08:13:06 AM »

ยำปลาทูทอด

 


:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง ::

- ปลาทูนึ่ง..ทอดพอเหลือง 2 ตัว ใหญ่ 4 ตัวตุ๊กแก 6 ตัวจิ้งจก ชิมว่าเค็มป่ะจะได้ใส่น้ำปลาน้อยๆ Cheesy
- ตะไคร้ 5 ต้นใหญ่
- หอมแดง 7 หัวกลางๆ
- พริกขี้หนูสวน ตามความชอบ  
- ถั่วทอด  เอาเปลือกออก
- น้ำตาลปี๊บ
- น้ำปลา
- มะนาว
- สะระแหน่ 5 กิ่ง

- ผักแกล้ม เช่น ถั่วฝักยาว ผักกาดขาว กะหล่ำปลี แตงล้าน แตงกวา ใบสะระแหน่



วิธีทำ

ไปเดินซื้อปลาทู Huh? ต่ะจัยนึกว่าตุ๊กแก Shocked ก้อตัวเท่ากันแด่เลย ฮิ ฮิ นำปลาทูล้างเบาๆ เดี๋ยวตุ๊กแก ต่ะจัยหนังลอกทีนี้จะเหลือแต่จิ่งจอก Undecided อิ อิ  เทวดา สะเด็ดน้ำ ทอดด้วยไฟอ่อนๆ ล้างผัก หลายๆ น้ำ หนูใจชอบใช้น้ำกรองล้าง
หั่นตะไคร้บางๆแกะหรือลอกเปลือกออกหน่อยน้ะจะเดี๋ยวเค้ารู้ว่าเกิดมานานแย้วว  :Smileyหั่นหอมแดงบางๆๆ ทุกครั้งปอกเปลือกออกแล้ว ขี้คร้านล้างโดน ดา ดา ดา ประจำ เดี๋ยวนี้ล้างแย้ววว เบื่อฟัง Grin  ซอยพริกบางๆหรือหั่นท่อนเล็กๆๆ
หาชามใหญ่ๆๆ หน่อย ใส่น้ำปลาลงไป ตามด้วยน้ำตาล ทรายแดง ปี๊บ น้ำตาลอ้อยก็ได้จ้ะ หอมสอย ตะไคร้ พริก ปลาสุกยัง เอามาแกะก้างตัดหัว เลาะเอาตะเค็บข้างออก ใส่ลงไปคลุก คลุก บีบมะนาว ชิม Azn ไปเอาถั่วมาโรย ใบสะระแหน่ เด็ดเป็นใบ ถ้ายังไม่ทานเลยก็เอาไปแช่เย็นก่อนนำมาทานก็ไปเอามาโรย  ยิ้ม   ผักแกล้มก็ล้างหลายๆๆน้ำเน้นสะอาดค่ะ เอาเข้าตู้เย็นก่อน แล้วผักมันจะสะดุ้งกรอบจ้ะ เทวดา



Cheesyทำไม่อร่อยก็เอาไปให้ข้างบ้านกินก่อน เทวดา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 27, 2012, 05:43:11 PM โดย nujai » บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #295 เมื่อ: มกราคม 27, 2012, 08:14:31 PM »

วุ้นนมสดสตรอว์เบอร์รี่  

 

ส่วนผสม

ผงวุ้น ½ ช้อนโต๊ะ
นมสดรสสตรอว์เบอร์รี่  200 มิลลิลิตร
โยเกิร์ตรสสตรอว์เบอร์รี่ 1 ถ้วย
น้ำเปล่า ¼ ถ้วยตวง
สตรอว์เบอร์รีสด 5-10 ผล
พิมพ์ขนมขนาด ½ ถ้วยตวง 5-6 ถ้วย

วิธีทำ

ผสมผงวุ้นกับน้ำเปล่าตั้งไฟอ่อน คนให้ละลายพอเดือดค่อยๆ ใส่นมสดคนให้เข้ากัน ยกลง
ใส่โยเกิร์ตคนให้เข้ากัน ตักใส่พิมพ์แล้วนำไปแช่ตู้เย็นเพื่อให้อยู่ตัว
เวลาเสิร์ฟแคะออกจากพิมพ์ แต่งหน้าด้วยสตรอว์เบอร์รี่สด
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #296 เมื่อ: มกราคม 27, 2012, 08:16:29 PM »

เคล็ดลับการล้างอาหารที่ถูกวิธี



1.การล้างด้วยน้ำเย็นจะช่วยรักษาความสดของอาหารได้ดี แต่ถ้าล้างด้วยน้ำอุ่นจะช่วยล้างยาฆ่าแมลงที่ติดอยู่บนผิวอาหารได้ดีกว่า


2. เวลาใช้น้ำประปาจากก๊อกน้ำล้างอาหาร ควรให้อาหารอยู่ห่างจากก๊อกประมาณ 15 ซม.


3. ถ้าใช้น้ำเกลือแช่ก่อนล้างจะได้ผลดียิ่งขึ้น


4. อาหารบางอย่างอาจใช้แปรงหรือฟองน้ำขัดได้ เช่น มะเขือ


5. อาหารบางชนิดไม่ควรล้างมากเพราะจะทำให้สูญเสียคุณค่าทางอาหารหรือรสชาติอาจเปลี่ยนแปลงเช่น เนื้อต่างๆ เป็นต้น
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #297 เมื่อ: มกราคม 29, 2012, 04:09:12 PM »

ครองแครงกร็อบ กรอบ



ส่วนผสม

- แป้งสาลี 500 กรัม
-ผงฟู 2 ช้อนชา
-หัวกะทิ 1½ ถ้วย
-ไข่ไก่ 2 ฟอง
-น้ำปูนใส 1 ช้อนโต๊ะ
-เกลือป่น 1 ช้อนชา
-น้ำตาลปี๊บ 200 กรัม
-รากผักชีสับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
-พริกไทยเม็ด ½ ช้อนโต๊ะ
-น้ำมันสำหรับทอด
-พิมพ์สำหรับทำครองแครง

วิธีทำ

-ร่อนแป้งสาลีและผงฟูเข้าด้วยกัน ใส่กะทิลงในแป้ง ตีไข่ให้เข้ากัน เทผสมกับแป้ง นวดแป้งไปเรื่อยๆ ใส่น้ำปูนใส นวดแป้งต่อไปประมาณ 30 นาที
-แบ่งแป้งเป็นก้อนเล็กๆ กดบนพิมพ์ครองแครง ใช้หัวแม่มือกดให้เป็นลายและให้เป็นแผ่นบางๆ วางเรียงในถาด โรยแป้งเล็กน้อย เพื่อไม่ให้แป้งติดกัน ทำเช่นนี้จนหมด
-นำแป้งที่ได้ลงทอดในน้ำมันร้อนๆ ให้เหลืองหรอบ พักไว้
-โขลกรากผักชี เม็ดพริกไทย และเกลือเข้าด้วยกันให้ละเอียด นำลงผัดกับน้ำตาลปี๊บ เคี่ยวให้เหนียวเป็นยางมะตูม เทครองแครงที่ทอดแล้วลงไปคนคลุกเคล้าให้ทั่ว ยกลงพักไว้ให้เย็น เก็บใส่ภาชนะที่มีฝาปิดสนิท เก็บไว้รับประทานได้นาน


บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #298 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2012, 05:43:56 PM »


ข้าวเม่าใบเตยบด


ส่วนผสม

ข้าวเม่าใบเตยจากข้าวเหนียว 3 ถ้วย
น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
มะพร้าวขูดละเอียด ½ ถ้วย
หัวกะทิ ½ ถ้วย
น้ำใบเตย 2 ช้อนโต๊ะ
ข้าวเม่าบดละเอียดจนเป็นแป้ง ½ ถ้วย


วิธีทำ

คั่วข้าวเม่าในกระทะจนกรอบแล้วนำมาบดละเอียดและร่อนพักไว้
ผสมกะทิ น้ำตาลทราย มะพร้าวขูด ในกระทะทองเหลือง ตั้งไฟแล้วกวนให้เข้ากันจนเป็นยางมะตูม ใส่ข้าวเม่าบด เกลือ และน้ำใบเตยลงกวนจนเหนียวเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน ทิ้งไว้ให้เย็น
ปั้นข้าวเม่าเป็นก้อนกลมเล็กพอดีคำ นำลงคลุกกับแป้งข้าวเม่าที่เตรียมไว้ นำไปอบควันเทียนหากต้องการให้หอมขึ้น เก็บใส่โหลไว้รับประทานได้นานหลายวัน


PaPaMenu

บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #299 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2012, 05:47:27 PM »

น้ำมันกุหลาบ



กุหลาบเป็นของคู่กับวาเลนไทน์ และน้ำมันกุหลาบก็เป็นน้ำมันที่ดีต่อผิวพรรณ รวมทั้งมีกลิ่นหอมที่ช่วยบรรเทาความเครียดและความหงุดหงิดได้เป็นอย่างดี มาลองทำน้ำมันกุหลาบใช้เองที่บ้าน แม้จะไม่มีคุณสมบัติเท่ากับน้ำมันกุหลาบจากร้าน แต่ก็สามารถใช้ได้ดีสำหรับการนวดตัวหรือทาผิว


-เลือกกลีบกุหลาบสดสักสองสามกำมือ เลือกที่ไม่ช้ำและไม่มีรอยแมลง ถ้าเป็นกุหลาบปลูกเองที่บ้านก็เลือกเก็บในตอนเช้าที่กลีบกุหลาบยังสดชื่น ด้วยหยาดน้ำค้าง

-บี้กลีบกุหลาบเบาๆ เพื่อช่วยให้กลิ่นและน้ำมันหลั่งออกมา

-เอากลีบกุหลาบใส่ในโหลแก้วใบใหญ่แบบมีฝาปิด และเทน้ำมัน (เช่น น้ำมันโจโจบา น้ำมันมะพร้าว หรือน้ำมันมะกอกคุณภาพดี) ลงไปให้ท่วมกลีบดอกไม้

-ปิดฝาขวดให้สนิทและปล่อยทิ้งไว้ 24 ชม.

-เอากลีบกุหลาบออกจากน้ำมันหลังจากครบ 24 ชม. แล้วกรองน้ำมันอีกครั้งเพื่อขจัดเศษผงที่ตกค้างอยู่

-เติมกลีบกุหลาบสดเข้าไปอีกครั้งและปล่อยทิ้งไว้อีก 24 ชม
.
-เอากลีบกุหลาบออกและกรองน้ำมันอีกครั้ง แล้วใส่กลีบกุหลาบลงไปอีก ทำซ้ำตามขั้นตอนนี้อีกราว 6-7 ครั้ง จนกระทั่งได้น้ำมันกลิ่นกุหลาบ และเทใส่ขวดเอาไว้ใช้ตามต้องการ

 
 
ขอบคุณ LISAGURU
 
บันทึกการเข้า

finghting!!!
Gold Price today, Gold Trend Price Prediction, ราคาทองคํา, วิเคราะห์ทิศทางทองคํา
   

images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary ---------------------Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. For more information on Moore Research products and services click here. --- http://www.mrci.com ---------- ---------------------------------------------รูปกราฟแสดงราคาทองในอดีตปี 1974-1999 ของ Moore Research Center, Inc. แสดงฤดูกาลที่ราคาทองขึ้นสูงสุดและตําสุด เอาแบบคร่าวๆ เส้นนําตาลหรือนําเงินก็ใกล้เคียงกัน เส้นนําตาลเฉลี่ย 15 ปี เส้นนําเงินเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุดของเส้นนําตาล หรือเฉลี่ย 15 ปี ในเดือน ปลายเดือน เมษ และปลายเดือน สค ต่อต้นเดือน กย[/color] สูงสุดในเดือน กพ กับ พย / ส่วนเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุด ต้น กค กับ ปลาย สค และราคาสูงสุดในเดือน กพ และ กลางเดือน ตค ----- แค่ดูคร่าวๆ เป็นแนวทาง อย่ายึดมั่นว่าจะต้องเป็นตามนี้ ข้างล่างเป็นกราฟราคานํามัน ตามฤดูกาล จาก Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary
 บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 18 19 [20] 21 22 ... 33   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: