Forex-Currency Trading-Swiss based forex related website. Home ----- กระดานสนทนาหน้าแรก ----- Gold Chart,Silver,Copper,Oil Chart ----- gold-trend-price-prediction ----- ติดต่อเรา
หน้า: 1 ... 21 22 [23] 24 25 ... 33   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ชวนกันเข้าครัว  (อ่าน 79370 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 26 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #330 เมื่อ: มีนาคม 28, 2012, 08:33:51 PM »

ไข่เจียวมันฝรั่ง



ส่วนผสม

• มันฝรั่ง 500 กรัม

• ไข่ไก่ 2 ฟอง

• กระเทียมสับละเอียด 6 กลีบ

• ผักชีสับละเอียด(ไม่ใช้ราก) 1 ช้อนโต๊ะ

• เนยสด 1 ช้อนโต๊ะ

• เกลือป่น 1 ช้อนชา

• พริกไทยป่น 1 ช้อนชา

• น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ

 

วิธีทำ

1. นำมันฝรั่ง มาปอกเปลือก ล้างน้ำ แล้วหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็กๆ

2. นำกระทะตั้งไฟ ใส่น้ำมันลงไป เมื่อร้อน นำมันฝรั่งลงไปทอดให้เหลืองแล้วตักขึ้น พักไว้บนกระดาษซับน้ำมัน

3. ในกระทะเดียวกัน เทน้ำมันออก เหลือติดไว้เล็กน้อย แล้วนำผักชี กระเทียม พริกไทย เกลือ ใส่ลงไป คนให้สุกทั่วกัน

4. นำมันฝรั่งทอด ที่พักไว้ใส่ลงไปในกระทะ ตามด้วยใส่เนยสด ลงไปข้างๆมันฝรั่งวนไปรอบๆ เพื่อให้เนยละลายเข้าไปในมันฝรั่งเสียก่อน จึงเทไข่ที่ตีจนขึ้นฟูไว้แล้ว ลงไปให้กลบมันฝรั่ง กะว่าพอเหลืองค่อยกลับพลิกอีกด้านให้เหลือง

5. ตักขึ้นใส่จาน เสิร์ฟกับซอสมะเขือเทศ รับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 28, 2012, 08:38:02 PM โดย nujai » บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #331 เมื่อ: มีนาคม 28, 2012, 08:35:25 PM »

ยำหมูยอ



เครื่องปรุง

หมูยอ ½ แท่ง
ผักกาดหอม 2 ใบ
หัวหอมใหญ่ ¼ หัว
ผักชีฝรั่ง 3 ต้น
ต้นหอม 1 ต้น
มะเขือเทศ 1 ลูก
น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ้วขาว (หรือน้ำปลา) 1 ½ ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ½ ช้อนชา
พริกป่น ½ ช้อนชา
น้ำเปล่า 3 ถ้วย
 

วิธีทำ

1. หั่นหมูยอเป็นชิ้นขนาดพอคำ

2. เปิดเตาที่ไฟแรง นำน้ำเปล่าใส่หม้อ รอจนน้ำเดือด เมื่อน้ำเดือดแล้วให้นำหมูยอที่หั่นไว้ลงไปลวก

ประมาณ 2 นาที จากนั้นก็เทน้ำที่ลวกทิ้งไปให้หมด

3. นำเครื่องปรุงต่างๆ คือ น้ำมะนาว ซีอิ้วขาว (หรือน้ำปลา) น้ำตาลทราย และพริกป่น

มาผสมรวมกันในถ้วยผสม ชิมรสตามชอบ

4. ปลอกเปลือกหัวหอมใหญ่ ตัดรากผักชีฝรั่งและต้นหอม เด็ดก้านมะเขือเทศและผักกาดหอมแล้วนำผักต่างๆ

ไปล้างน้ำให้สะอาด จากนั้น นำหัวหอมใหญ่มาซอยบางๆ นำผักชีฝรั่งและต้นหอมมาซอยหยาบๆ

ส่วนมะเขือเทศนำมาแบ่งเป็น 4 ส่วน ควักไส้ออกแล้วหั่นเป็นชิ้นขนาดพอดีคำ

5. นำผักต่างๆ ไปใส่ลงในชามผสมรวมกับหมูยอที่ลวกไว้แล้ว เทน้ำยำที่ปรุงรสไว้ลงไป

คลุกเคล้าเครื่องทั้งหมดให้เข้ากัน

6. จัดใส่จานที่รองด้วยผักกาดหอมเอาไว้ จากนั้นก็ยกเสิร์ฟได้เลยค่ะ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 28, 2012, 08:41:20 PM โดย nujai » บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #332 เมื่อ: มีนาคม 28, 2012, 08:39:46 PM »

กุ้งอบเนยกระเทียม



ส่วนผสม

-กุ้งลายเสือ1 ตัวหนักประมาณ 250 กรัม
-กระเทียมจีนแกะเปลือกสับ 1½ ช้อนโต๊ะ
-เนยสดเค็ม ½ ช้อนโต๊ะ
-ต้นหอมซอย ½ ช้อนโต๊ะ
-พริกไทยดำบด ¼ ช้อนชา
-เกลือ ¼ ช้อนชา

วิธีทำ

1.ล้างกุ้งให้สะอาดตัดเอาขาออกให้หมด จากนั้นใช้มีดหรือกรรไกรผ่ากลางหลังกุ้งจนถึงหัวส่วนหลังให้ผ่าให้เข้าถึงเนื้อประมาณครึ่งหนึ่งของเนื้อกุ้ง แล้วใช้มือแผ่เปลือกกุ้งออกให้คงลักษณะดังรูป พักไว้

2.นำเครื่องปรุงทั้งหมดผสมคลุกเคล้าใก้เข้ากัน จากนั้นนำมาทาบนเนื้อกุ้งจนทั่วดี

3.นำกุ้งที่ได้วางบนแผ่นฟลอยแล้วนำใส่ในเตาอบ อบด้วยไฟแรงปานกลางจนกุ้งสุกดี

4.นำกุ้งออกมาจัดใส่จาน เสิร์ฟร้อนๆ


บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #333 เมื่อ: มีนาคม 28, 2012, 08:42:46 PM »

มูสส้ม (Orange Mousse)


1.ส้ม 2-3 ผล(ส้มอะไรก็ได้มั้ง เอาที่รสจัดๆ เปรี้ยวอมหวานก็ดี)
2.น้ำตาลทราย 6 ชต
3.ไข่แดง 2 ฟอง
4.มาชเมลโลว์แบบครีม 1 ถ้วย
5.เฮฟวี่ครีม 1 ถ้วย
6.น้ำผึ้ง 1 ชต (เราไม่มี ใช้น้ำเชื่อมเมเปิล หรือน้ำตาลทรายก็ได้)

 

วิธีทำแบ่งเป็นดังนี้

1.ฝานเปลือกส้มเป็นชิ้นบางๆ อย่าให้ติดส่วนขาวๆมานะคะเอามาซัก 5-6 ชิ้น แบ่งไว้2-3 ชิ้น ที่เหลือซอยเป็นเส้นๆไว้แต่งหน้า

2.ทำน้ำเชื่อมส้ม โดยคั้นน้ำส้ม แล้วเอาใส่หม้อ ใส่น้ำตาลทราย ใส่ผิวส้ม ตั้งไฟ จนเดือด แล้วเคี่ยวจนเหลือครึ่งนึง หยิบชิ้นผิวส้มออก

3.นำ ไข่แดง 2 ฟอง มาตีให้ขึ้นขาว เทน้ำเชื่อมส้มลงไปเป็นสาย ตีตลอด อย่าให้ไข่สุกแล้วนำขึ้นตั้งไฟ คนเร็วๆ 2-3 นาที (ทำdouble boiler)

กรองแล้วเอาเข้าตู้เย็นไว้ หรือเอาอ่างน้ำแข็งมารองไว้ มันจะได้เย็นเร็วๆ จากนั้น ใส่มาชเมลโลว์ครีม คนให้เข้ากัน เสร็จแล้วพักไว้

4.นำเฮฟวี่ครีม มาตีให้ฟูตั้งยอดอ่อน ใส่น้ำผึ้ง เราไม่ตีมากนะคะ เดี๋ยวเนื้อไม่เนียน แล้วนำ ส่วนผสมข้อ 3 มาคนรวมให้เข้าใจ

5.จากนั้นเทใส่ถ้วยสวยๆ หรือแก้วอะไรก็ได้ แช่ตู้เย็น 2-3 ชม แต่งหน้าด้วยเปลือกส้ม ถ้ามีคุกกี้ เอามาบี้ๆใส่ลงไปด้วย อร่อยค่ะ
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #334 เมื่อ: มีนาคม 28, 2012, 09:25:57 PM »

ไข่ต้มรูปหัวใจ

อุปกรณ์
- กล่องนมหรือกล่องน้ำผลไม้ UHT ตัดให้เปิดออก ล้างสะอาด แล้วผึ่งแห้ง
- ตะเกียบแบบกลม (แบบเหลี่ยมก็ได้ แต่แบบกลมจะดีกว่า)
- หนังยางสะอาด ๆ

วิธีการทำ

ขั้นตอนแรก : ตัดกล่องนมและพับครึ่งตามยาว
ขั้นตอน 2: ไข่ต้มสุก (ถ้ายังอุ่นๆอยู่ก็ยิ่งดี ไม่ควรใช้ไข่ต้มแช่เย็น) วางลงไปตามยาว ตรงกลางกระดาษกล่องนมที่ตัดแล้ว
ขั้นตอน 3: วางตะเกียบลงไปตามยาว ให้แนวพาดผ่านกลางไข่
ขั้นตอน 4: รัดหนังยางที่ปลายทั้ง 2 ด้าน ปล่อยไว้ 10 นาที ถ้าอากาศร้อนก็เก็บไว้ในตู้เย็น
ขั้นตอน 6: แกะออก แล้วผ่าครึ่งตามขวาง หรือจะฝานเป็นแว่นๆตามขวางก็ได้ จะเห็นเป็นรูปหัวใจตามในภาพ



บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #335 เมื่อ: เมษายน 13, 2012, 08:39:29 AM »

‘แตงไทยน้ำกะทิ’ คลายร้อน


เดี๋ยวนี้ พออากาศร้อน ใครๆ ก็มักจะนึกถึงไอศกรีม ที่กินแล้วเย็นปาก บางครั้งจี๊ดขึ้นสมอง แต่คลายความรู้สึกร้อนได้ทันที ด้วยความสามารถแบบปัจจุบันทันด่วนนี้ ทำให้หลายคนลืมไปว่า ไอศกรีม คือแหล่งรวมของไขมันที่ไม่มีประโยชน์ ถ้าร้อนแล้วกินแต่ไอศกรีม ก็คงต้องระวังปัญหาสุขภาพตามมา


ทว่า ภูมิปัญญาของคนรุ่นก่อนๆ คิดเมนูดับร้อนด้วยการดึงสรรพคุณจากผลไม้ท้องถิ่น อย่าง แตงไทย ผลไม้เนื้อทรายฉ่ำน้ำ กลิ่นหอม ออกรสหวาน อุดมด้วยวิตามินเอ วิตามินซี ฟอสฟอรัส แคลเซียม และคาร์โบไฮเดรต กินแล้วจะช่วยดับกระหาย คลายความร้อน รู้สึกเย็นตัว แถมยังสามารถแก้ปัญหาเลือดกำเดาไหล เนื่องจากสาเหตุขาดวิตามินซี


สำหรับเมนูของหวานถ้วยเด่นจากแตงไทย แนะนำ ‘แตงไทยน้ำกะทิ’ ทำง่ายๆ แค่มีแตงไทยผลสุกขนาดพอเหมาะสัก 1 ลูก น้ำกะทิ น้ำตาลปี๊บ และเกลือ


เริ่ม ลงมือทำ ด้วยการนำแตงไทยล้างน้ำให้สะอาดแล้วปอกเปลือก คว้านเมล็ดออก เพราะจะใช้แต่เนื้อ หั่นให้เป็นชิ้นพอดีคำ หันไปทำน้ำกะทิ โดยละลายน้ำตาลปี๊บกับน้ำกะทิ แล้วนำไปตั้งไฟปานกลาง คนไปเรื่อยๆ จนกระทั้งน้ำกะทิเดือด จึงปิดไปและยกลง

เมื่อ ได้น้ำกะทิแล้ว จะใส่แตงไทยผสมลงไปในน้ำกะทิ หรือตักแตงไทยแยกใส่ถ้วยแล้วค่อยเติมน้ำกะทิก็ได้ ทั้งนี้ ยังสามารถเติมน้ำแข็งป่นเพิ่มความเย็นสดชื่นเข้าไปได้อีก.


บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #336 เมื่อ: เมษายน 15, 2012, 10:46:51 AM »

ไอศกรีมสตรอเบอรี่โยเกิร์ต


ส่วนผสม (สำหรับ 5 ที่) 

นมข้มจืดกระป๋อง ขนาด 405 กรัม   1/2  กระป๋อง 

โยเกิร์ต รสธรรมดา Fat-free 0%  500  กรัม 

สตรอเบอร์รี่สด  140  กรัม 
 
 
วิธีการทำ

1. หั่นสตรอเบอร์รี่เป็นชิ้นหยาบๆ ใส่ลงเครื่องปั่น แล้วปั่นพอให้เนื้อสตรอเบอร์รี่กระจายแตกเป็นชิ้นเล็กๆ

2. จากนั้นเทนมข้นจืดและสตรอเบอร์รี่ที่ปั่น เทลงไปในโถผสมอาหาร แล้วคนให้ส่วนผสมต่างๆ เข้ากัน

3. จากนั้นค่อยๆ เทโยเกิร์ตลงไปช้าๆ และขนผสมให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดี แล้วเทลงภาชนะที่เตรียมไว้ นำฟิลม์พลาสติกมาปิดด้านบน

4. แล้วนำไปแช่แข็ง 1 คืน เมื่อถึงเวลาเสิร์ฟ ให้นำออกจากช่องแข็งล่วงหน้าซัก 10-15 นาที แล้วค่อยเสิร์ฟนะคะ

Tips :

ลิ้มรสได้ถึงเนื้อสตรอเบอร์รี่อร่อยๆ ในขั้นตอนการปั่นเนื้อสตรอเบอร์รี่ อย่าปั่นนานจนเกินไป เพราะจะทำให้เนื้อสตรอเบอร์รี่แหลกจนเหลวจนเป็นน้ำ



ขอบคุณข้อมูลจาก goodfoodgoodlife

 
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #337 เมื่อ: เมษายน 15, 2012, 10:48:46 AM »

เสี่ยวหลงเปาไส้ต้มข่าปลาเก๋า


ส่วนผสมแป้ง

แป้งสาลีตราบัวแดง 200 กรัม
แป้งสาลีตราหงส์ขาว 30 กรัม
น้ำเปล่า (อุณหภูมิปกติ) 1/2 ถ้วย
ฟิล์มพลาสติกถนอมอาหาร
เข่งสำหรับนึ่งติ่มซำ
กระดาษไขเจาะรูให้ทั่วสำหรับรองเข่งติ่มซำ
แป้งสาลีสำหรับทำแป้งนวลขณะรีดแป้งเล็กน้อย

ส่วนผสมไส้ (ส่วน 1)

กะทิธัญพืช 1 1/4 ถ้วย
เจลาตินชนิดแผ่นแช่น้ำจนนิ่ม 8 แผ่น
ข่าแก่ตำหยาบ 1/2 ถ้วย
ตะไคร้ตำ หยาบ 3 ช้อนโต๊ะ
หอมแดงบุบ 10 หัว
ใบมะกรูดฉีก 4 ใบ
น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย

ส่วนผสมไส้ (ส่วน 2)

เนื้อปลาเก๋าบด 200 กรัม
เนื้อกุ้งทะเลบด 1/2 ถ้วย
เห็ดเข็มทองสับหยาบ 1/2 ถ้วย
ข่าอ่อนสับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
รากผักชี กระเทียม พริกไทย ตำรวมกัน 1 ช้อนโต๊ะ
ใบมะกรูดสับ 1/2 ช้อนชา
น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 1/2 ช้อนชา
เกลือเล็กน้อย

ส่วนผสมน้ำจิ้ม

จิ๊กโฉว่ 1/2 ถ้วย
ขิงอ่อนซอย 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

ทำแป้งเสี่ยวหลงเปา โดยรอนแป้งทั้งสองชนิดรวมกัน เทแป้งลงบนโต๊ะ ทำหลุมตรงกลางแป้ง ค่อย ๆ รินน้ำเปล่าลงไป ใช้นิ้วสี่นิ้วค่อย ๆ กวนแป้งจากบริเวณตรงกลางให้แป้งเข้าไปผสมกับน้ำ ค่อย ๆ รินน้ำเพิ่ม แล้วทำเช่นเดิมจนส่วนผสมเริ่มจับตัวเป็นก้อนทั้งหมด (ระวังอย่าให้เหลว) แล้วจึงนวดแป้งไปเรื่อยๆ จนไม่ติดมือ แล้วห่อด้วยฟิล์มถนอมอาหาร พักไว้ 1 ชั่วโมง
ระหว่างพักแป้ง เตรียมส่วนผสมของไส้ (ส่วน 1) โดยเริ่มจาก ผสมน้ำเปล่า กับกะทิธัญพืช ใส่ลงหม้อ ยกขึ้นตั้งไฟ ใสข่า ตะไคร้ หอมแดง และใบมะกรูด ลงไปเคี่ยวให้หอม ปิดไฟ ปรุงรสด้วย น้ำตาล น้ำปลา น้ำมะขามเปียก คนให้เข้ากัน ใส่เจลาตินแผ่นลงไปคนให้ละลาย เทส่วนผสมใส่ภาชนะแล้วนำเข้าตู้เย็นจนเซทตัวเป็นก้อน พักไว้
ทำส่วนผสมไส้ (ส่วน 2) โดยนวดเนื้อปลาบด เนื้อกุ้งบด เข้ากับรากผักชี กระเทียม พริกไทยตำ เห็ดเข็มทอง ข่าอ่อน ใบมะกรูดสับ ปรุงรสด้วย น้ำมันหอย น้ำตาลปี๊บ เกลือ พักไว้ นำส่วนผสมไส้ (ส่วน 1) ที่เซทตัวแล้ว ออกจากตู้เย็น หั่นเป็นเต๋าเล็ก ๆ แล้วใส่ลงนวดกับส่วนผสมไส้ (ส่วน 2) พอเข้ากัน แล้วนำไปพักไว้ในตู้เย็น 15 นาที
นำแป้งที่หมักไว้ ออกมาคลึงเป็นเส้นยาว แล้วหั่นเป็นก้อนเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 นิ้ว จากนั้นโรยแป้งสาลีลงบนเขียงไม้ นำแป้งเสียวหลงเปาคลุกแป้งนวลเล็กน้อย แล้วใช้ไม้รีดแป้งรีดจนเป็นแผ่นกลมบาง นำไส้ที่แช่ไว้ออกจากตู้เย็น ใช้ไม้พายตักไส้ใส่ลงบนแป้งที่คลึงไว้ แล้วจับจีบแผ่นแป้งให้สวยงาม โดยเว้นช่องของแป้งให้เป็นรูด้านบนตรงกลางชิ้นเสี่ยวหลงเปาเล็กน้อย ทำเช่นนี้จนหมดส่วนผสม
ตั้งลังถึงให้ร้อนเตรียมไว้ วางกระดาไขบนเข่ง เรียงเสียวหลงเปาลงไป นำไปนึ่งนานประมาณ 7-10 นาที พร้อมเสิร์ฟขณะร้อน กับน้ำจิ้ม ซึ่งทำจาก จิ๊กโฉว่และขิงอ่อนซอยคนผสมกัน


 

ขอบคุณบทความจาก healthandcuisine

บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #338 เมื่อ: เมษายน 16, 2012, 09:22:26 PM »

พุดดิ้งหวานๆ




ส่วนผสม


• นมวัว [รสจืด] 830 ml.

• น้ำตาล

• ไข่ไก่ 3 ฟอง

• กลิ่นวานิลา

• ช็อกโกแลต [แบบบีบ ๆ]

 

วิธีทำ

1. อุ่นนมวัวด้วยไฟอ่อน เติมน้ำตาลให้พอหอมหวาน [เราใส่ไป 4-5 ช้อนค่ะ ของแบบนี้ต้องลองกะกันดู] แล้วคนให้เข้ากันพอน้ำตาลละลายและปิดไฟค่ะ **ระวังอย่าให้นมเดือดนะคะ**

2. ตอกไข่ใส่ชามแล้วคนให้เข้ากัน **ไม่แยกไข่แดงไข่ขาวนะ**

3. เอานมในข้อ 1. มาเทใส่ไข่ใน ข้อ 2. คนให้เข้ากันและเติมกลิ่นวานิลาให้หอมค่ะ [ใส่ตามสะดวกเราค่ะ]

4. หลังจากนั้น ก็นำมาเทใส่ในตระแกรง ทำแบบนี้แล้วเนื้อจะนุ่มค่ะ เสร็จแล้วก็เทใส่แก้วได้เลย [แนะนำเป็นแก้วธรรมดา หรือแก้วกระเบื้องนะคะ ไม่แนะนำพวกแก้วที่ทำจากโลหะ เพราะจะทำให้พุดดิ้งร้อนเกินไป ส่วนพลาสติกกับแก้วกระดาษชานอ้อย สามารถใช้ได้ค่ะ ลองแล้ว แต่แก้วพลาสติกหนา ๆ หน่อย น่าจะดีกว่า ส่วนกระดาษชานอ้อยทำออกมาแล้วจะยวบ ๆ นิดนึงค่ะ

5. ช่วงข้อนี้ลงไปจะเป็นการนึ่งนะคะค่อนข้างสำคัญ--ใส่น้ำที่หมอนึ่งชั้นล่าง ไม่ต้องเยอะมากประมาณ 1/3 หรือเกือบครึ่งของหม้อก็พอค่ะ พออุ่นจนมีไอน้ำให้ปิดไฟ

6. แล้วก็วางแก้วพุดดิ้งลงไป ปิดฝา นึ่งด้วยไฟแรง 2-3นาที และต่อด้วยไฟอ่อน 14-17 นาที ตอนที่ลดเป็นไฟอ่อนแล้วค่อย ๆ แง้มฝาออกนิดนึงนะคะ [ยังนึ่งอยู่] ไอน้ำจะได้ลอยออกไปแล้วไม่หยดลงใส่พุดดิ้งเป็นรูค่ะ เป็นการค่อย ๆ ลดอุณภูมิด้วย

7. เอาไม้จิ้มฟันมาจิ้มลงในพุดดิ้ง ถ้าไม่มีอะไรติดไม้ขึ้นมาแปลว่าโอเคแล้ว แต่ถ้ายังมีติดยังดูเหลวเกินก็นึ่งต่อราว ๆ 5 นาทีค่ะ

8. พอได้ที่แล้วก็นำออกมาพักไว้ข้างนอก ทิ้งให้เย็นด้วยอุณภูมิห้อง พอหายร้อนแล้วก็นำเข้าตู้เย็นค่ะ [ตอนนึ่งเสร็จแล้วตัวพุดดิ้งอาจจะเหลว ๆ อยู่นะคะ ต้องทิ้งไว้ให้เย็นแล้วพอตอนแช่ตู้เย็นแล้วมันจะแข็งตัวเองค่ะ วิธีนี้ก็เหมือน ๆ กับไข่ตุ๋นค่ะ]

9. แช่อย่างต่ำราว ๆ 3 ชั่วโมง พอนำออกมาก็บีบช็อกโกแลตเป็นทอปปิ้งค่ะ [สูตรเราใช้ช็อกโกแลตแทนคาราเมล] ส่วนใครที่สนใจจะทำเป็นคาราเมล วิธีทำก็หาหม้อใบเล็ก ๆ ใส่น้ำเล็กน้อยกับน้ำตาลลงไปแล้วก็คนเร็ว ๆ จนน้ำตาลกลายเป็นสีน้ำตาลก็ให้รีบปิดไฟค่ะ

10. เสร็จแล้วค่ะ ทำสูตรเราเนื้อจะนุ่มค่ะ แบบละลายในปาก เราใช้วิธีนึ่งพุดดิ้งจะเป็นวุ้นๆเอง โดยที่ไม่ต้องใช้เจลาตินเลย
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #339 เมื่อ: เมษายน 16, 2012, 09:25:51 PM »

ไอศกรีมกะทิ





เครื่องปรุง

กะทิกระป๋อง (ขนาด 400 มล) 1 กระป๋อง

น้ำตาลทราย ½ ถ้วย

น้ำเปล่า ¼ ถ้วย

เกลือป่น ¼ ช้อนชา

เนื้อมะพร้าวอ่อน 80 กรัม



วิธีทำ

1. เปิดเตาที่ไฟปานกลาง ใส่น้ำตาลทรายและน้ำเปล่าลงในหม้อ คนจนน้ำตาลละลายเป็นน้ำเชื่อมจึง

ใส่กะทิกระป๋องลงในน้ำเชื่อม เติมเกลือป่นลงไป คนให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน

2. นำเนื้อมะพร้าวอ่อนมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วใส่ลงในส่วนผสมกะทิ จากนั้น นำส่วนผสมที่ได้

เข้าไปแช่ในช่องแข็งประมาณ 30 – 45 นาที หรือจนเย็นจัด

3. เทส่วนที่เย็นจัดลงในถังปั่นไอศกรีม ปั่นจนส่วนผสมแข็งตัว ก็จะได้ไอศกรีมกะทิหวานมัน

4. ตักใส่ถ้วย ตกแต่งตามชอบ จากนั้นก็ยกเสิร์ฟได้เลยค่ะ

บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #340 เมื่อ: เมษายน 16, 2012, 09:28:29 PM »

แซลมอนอบ



ส่วนผสม

แซลมอนขนาด 1 ปอนด์กว่า
เนยละลายสัก 2-3 ช้อนโต๊ะ
เลมอน 1 ลูก
เกลือ
พริกไทย
 

วิธีทำ

-ล้างแซลมอนให้สะอาดซับน้ำออกให้แห้ง หั้นเป็นชิ้นขนาดตามต้องการ

-ใช้เนยละลายสัก 2-3 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำเลมอนสด (1 ลูก) ราดไปบนตัวปลาที่วางอยู่บนถาด

-ถาดอบจะรองด้วยกระดาษฟรอยด์หน่อยก็ดี เพราอบแล้วหนังแซลมอนจะได้ไม่ติดถาด

-ต่อไปจะโรยพริกไทยป่นหยาบๆลงไปหรือขูดผิวเลมอนออกมา แล้วโรยลงบนแซลมอน

ก็จะได้กลิ่นหอมๆอร่อยไปอีกแบบ

-เมื่อพร้อมก็นำเข้าเตาอบอุณหภูมิ 400 องศาฟาเรนไฮต์อบนาน 17-18 นาที

ก็จะได้แซลมอนเนื้อนุ่มฉ่ำรับประทานค่ะ ระวังอย่างอบนานเกินไป ไม่งั้นแซลมอนจะแห้งทานไม่อร่อย
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #341 เมื่อ: เมษายน 18, 2012, 07:52:58 PM »

ผัดไทยมะละกอ…อิ่มอร่อยแบบไม่ต้องกลัวอ้วน


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณบ่งบ๊ง pantip.com

ได้ รับการันตีจากชาวต่างชาติแล้วว่า อาหารไทยอย่าง “ผัดไทย” อร่อยไม่แพ้อาหารจานไหน เลยไม่แปลกที่ผัดไทยจะขึ้นแท่นเป็นเมนูตามสั่งยอดฮิตของใครหลาย ๆ คน และสำหรับใครที่ชอบทานผัดไทย แต่อาจรู้สึกเบื่อความจำเจ อยากลองประยุกต์ผัดไทยจานโปรดให้แตกต่างไปจากจานเก่า แต่ยังคงความอร่อยไว้เหมือนเดิม กระปุกดอทคอม ก็มีเมนูผัดไทยสไตล์ใหม่มาฝากกัน นั่นก็คือ “ผัดไทยมะละกอ” เมนูผัดไทยไร้เส้นของ คุณบ่งบ๊ง จากห้องก้นครัว เว็บไซต์พันทิป นั่นเอง

งานนี้ คุณบ่งบ๊ง กระซิบบอกด้วยว่า ผัดไทยมะละกอจานนี้ ประชันความอร่อยได้สูสีกับผัดไทยทั่วไป แต่ชนะเลิศตรงที่คอเลสเตอรอลน้อยกว่า แถมมะละกอยังให้วิตามินความสวยอย่างวิตามินเอ และวิตามินซีสูงด้วย (อิอิ) เพราะฉะนั้น ผัดไทยมะละกอมื้อนี้คงถูกใจสาว ๆ เป็นแน่ ส่วนเครื่องปรุงและวิธีทำจะมีอะไรบ้างนั้น ตามคุณบ่งบ๊ง มาเลยจ้า


ส่วนผสมผัดไทยมะละกอ (สำหรับ 1 ที่)


- มะละกอสับ 200 กรัม
- ถั่วงอก  200  กรัม
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- ใบกุยช่าย หั่นท่อน 2 ต้น
- หัวหอมแดง 1 ช้อนโต๊ะ
- กุ้งสด มากน้อยตามชอบ
- เต้าหู้แข็งหั่นลูกเต๋า 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปีบเคี่ยว 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะขาม  2 ช้อนโต๊ะ
- พริกป่น 1 ช้อนชา
- น้ำมันพืช  3 ช้อนโต๊ะ
- หัวไชโป้วหวานสับ หรือหัวไชโป้วเส้น 2  ช้อนโต๊ะ
- ถั่วงคั่ว  2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว
- ผักเคียงตามชอบ อาทิ ถั่วงอก หัวปลี ใบบัวบก ใบกุยช่าย แตงล้าน


วิธีทำ



1.ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่น้ำมัน นำเต้าหู้ที่หั่นไว้ลงทอดพอเหลือง ใส่หัวหอมแดงลงผัดให้เนื้อสุกใส



2.ใส่มะละกอ ใส่หัวไชโป้ว ชอบกุ้งสุก ๆ ก็ใส่ไปก่อนได้ แต่พวกที่ปลื้มของดิบ ๆ ก็ต้องจัดไปทีหลังสุดนะเจ้าคะ ขอเหยาะพริกป่นปาปริก้าไปนิดหน่อยเป็นการเพิ่มสีสัน



3.ใส่มะละกอ ใส่หัวไชโป้ว ฯลฯ แล้วเราขอเพิ่มกุ้งแห้งฝอยที่ให้แคลเซียมไปหน่อยนะคะ ปรุงรสอร่อยด้วยน้ำมะขาม น้ำปลา น้ำตาลปี๊บเคี่ยว ใส่พริกป่น ผัดจนมะละกอนิ่ม ชิมรส



4.ปรุงรสและ ชิมเรียบร้อย ใส่ถั่วงอกและใบกุยช่ายลงไปตอนนี้ เพราะเราจะทำแบบห่อไข่ ฉะนั้นต้องใส่ผักไปก่อน แต่ไม่ต้องผัดนานนะคะ แค่พอคลุก ๆ เคล้า ๆ ให้ผักสลดก็พอแล้วค่ะ



5.ตีไข่ในชามแบบทำไข่เจียว แล้วเกลี่ยเส้นไปไว้ข้าง ๆ กระทะ แล้วเทไข่ลงไป



6.พอไข่สุก เล็กน้อยก็ค่อย ๆ เกลี่ยเส้นมะละกอมาในแผ่นไข่ ไม่ต้องให้ไข่สุกมาก เพราะตัวเส้นมะละกออมความร้อนอยู่แล้ว เกลี่ยลงมาไข่ก็จะสุกขึ้นอีกนะคะ



7.เรียบร้อย แล้วก็ตลบไข่ให้ปิดเส้น เราชอบแบบเปิดให้เห็นเนื้อใน โผล่ให้เห็นหน้าตาแบบนี้ถูกใจกว่าปิดมิดชิดมองไม่เห็นหน้าตาว่าเป็นอย่างไร



8.จัดใส่จาน เคียงข้างด้วยผักต่าง ๆ ปลื้มถั่วงอกและใบกุยช่ายก็จัดไปคะ ปลื้มนางตานี เย้อออ ปลีกล้วยตานีใบหวีเหี่ยวก็จัดไปคะ บางคนก็ชอบทานกับใบบัวบก แก้ชำใน แก้ชำใจและอกหัก ก็จัดไป บ้างก็ทานกับแตงกวาและแตงล้าน ก็จัดหนักได้เลยนะคะ



อ่อ .. อย่าลืมบุบ ๆๆๆๆ ถั่วงคั่วใหม่ ๆ โรยหน้าไปด้วยนะคะ ขาดไม่ได้เชียว เค้าของคู่กัน เหมือนสมบัติ คู่กับ อรัญญา นะคะ และอย่าลืมเพิ่มความเปรี้ยวจัดจ้านด้วยน้ำมะนาวนะเจ้าคะ

เห็นไหมว่า ผัดไทยมะละกอ จานนี้น่ารับประทานจริง ๆ อย่าลืมจดสูตรไปลองทำทานกันดูนะจ๊ะ



หัวเราะกันนะ
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #342 เมื่อ: เมษายน 19, 2012, 08:02:48 PM »

ยำผักบุ้งทอดกรอบ



ยำผักบุ้งทอดกรอบ
 

ส่วนผสม

ผักบุ้งเด็ดใบ 50 กรัม

แป้งทอดกรอบตราคนอร์ขนาด120กรัม ½ ซอง

แป้งสาลี ½ ถ้วยตวง

น้ำมันพืช 4 ถ้วยตวง

ปลาหมึกล้างหั่นท่อนพอดีคำ 100 กรัม

หมูสับ 50 กรัม

กุ้งแกะเปลือกเด็ดหัวไว้หางบั้งเส้นดำทิ้ง 100 กรัม

ไข่ต้มฝานเป็นแว่นหนาพอประมาณ 1 ฟอง

คื่นช่ายซอยหยาบ 2 ช้อนโต๊ะ

น้ำเปล่าสำหรับต้มหมู ½ ถ้วยตวง

น้ำเปล่าสำหรับลวกกุ้งและปลาหมึก 2½ ถ้วยตวง

พริกขี้หนูสวน 7-10 เม็ด

กระเทียมไทยแกะเปลือก 3 กลีบ

หอมแดงซอย 2 หัว

ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ

น้ำตาลปี๊บ 1½ ช้อนโต๊ะ

น้ำมะนาว 1½ ช้อนโต๊ะ

น้ำปลา 1½ ช้อนโต๊ะ

 

วิธีทำ

ตั้งหม้อน้ำด้วยไฟกลางจนเดือดใส่กุ้งและปลาหมึกลงไปลวกพอสุกอย่านาน จากนั้นตักขึ้นพักบนตะแกรงให้สะเด็ดน้ำ

ตั้งกระทะใส่น้ำสำหรับลวกหมูลงไปตั้งด้วยไฟกลางจนร้อน นำหมูสับลงไปลวกใส่ซีอิ้วขาวลงไป 1ช้อนโต๊ะ ต้มจนเหลือน้ำขลุกขลิกตักออกใส่ถ้วยพักไว้ล้างกระทะให้สะอาด

ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟกลางจนร้อน ระหว่างที่รอน้ำมันร้อนนำผักบุ้งไปคลุกเคล้ากับแป้งสาลีพอทั่ว จากนั้นนำแป้งทอดกรอบผสมกับน้ำเย็นจัดตามอัตตราส่วนที่กำหนดไว้ที่ซอง จนเข้ากันดี นำผักบุ้งลงชุบแป้งทอดกรอบแล้วนำไปทอดจนเหลืองกรอบ ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน ทำอย่างนี้ทีละน้อยจนผักบุ้งหมด

ทำน้ำยำ โดยโขลกพริกขี้หนูสวนพอละเอียดใส่กระเทียมลงไปโขลกด้วยกันพอละเอียดดีตักใส่ชามผสม จากนั้นผสมน้ำปลาและน้ำตาลปี๊บให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกันเติมน้ำมะนาว และหมูกับน้ำขลุกขลิกที่ลวกไว้ลงไปคลุกเค้าให้เข้ากันใส่ หอมแดงซอย คื่นช่ายซอย กุ้ง กับปลาหมึกลงไปคนอีกครั้ง ชิมรสปรุงตามชอบ

จัดจานให้สวยงามราดน้ำยำลงไปเรียงผักบุ้งวางไว้ด้านบนให้สวยงาม วางไข่ต้มฝานลงไป เสิร์ฟ เวลารับประทานให้รับประทานผักบุ้งทอดกรอบพร้อมกับน้ำยำและไข่ต้ม

บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #343 เมื่อ: เมษายน 19, 2012, 08:04:36 PM »

ผัดผักปวยเล้ง


ส่วนผสม

ผักปวยเล้งประมาณ  300  กรัม
กระเทียมบุบสับ  2-3  กลีบ
ซีอิ้วขาวหรือเกลือ     
น้ำมันสำหรับผัด 
   

วิธีทำ

ล้างผักให้สะอาด พักให้สะเด็ดน้ำ ผัดกับน้ำมันที่เจียวกระเทียมพอเหลือง ผัดไฟแรง เร็วๆ
พอผักใกล้จะสุก จึงใส่ซีอิ้วขาวหรือเกลือ รับประทานขณะที่ยังร้อนอยู่


บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #344 เมื่อ: พฤษภาคม 03, 2012, 07:58:18 PM »

พั้นซ์มรกต (พั้นซ์สีเขียว)



ส่วนผสม

1. น้ำส้ม
2. น้ำสับปะรด
3. น้ำแอปเปิล
4. น้ำเสาวรส
5. น้ำมะนาว
6. น้ำเชื่อมกลิ่น บลู เลมอน
7. น้ำเชื่อม
8. โซดา

วิธีทำ

1. ผสม น้ำส้ม น้ำสับปะรด น้ำแอปเปิล น้ำเสาวรส น้ำมะนาว น้ำเชื่อมกลิ่นบลูเลมอน น้ำเชื่อม และโซดาให้เข้ากัน พร้อมเสิร์ฟ




     ขอบคุณข้อมูลจาก
บันทึกการเข้า

finghting!!!
Gold Price today, Gold Trend Price Prediction, ราคาทองคํา, วิเคราะห์ทิศทางทองคํา
   

images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary ---------------------Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. For more information on Moore Research products and services click here. --- http://www.mrci.com ---------- ---------------------------------------------รูปกราฟแสดงราคาทองในอดีตปี 1974-1999 ของ Moore Research Center, Inc. แสดงฤดูกาลที่ราคาทองขึ้นสูงสุดและตําสุด เอาแบบคร่าวๆ เส้นนําตาลหรือนําเงินก็ใกล้เคียงกัน เส้นนําตาลเฉลี่ย 15 ปี เส้นนําเงินเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุดของเส้นนําตาล หรือเฉลี่ย 15 ปี ในเดือน ปลายเดือน เมษ และปลายเดือน สค ต่อต้นเดือน กย[/color] สูงสุดในเดือน กพ กับ พย / ส่วนเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุด ต้น กค กับ ปลาย สค และราคาสูงสุดในเดือน กพ และ กลางเดือน ตค ----- แค่ดูคร่าวๆ เป็นแนวทาง อย่ายึดมั่นว่าจะต้องเป็นตามนี้ ข้างล่างเป็นกราฟราคานํามัน ตามฤดูกาล จาก Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary
 บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 21 22 [23] 24 25 ... 33   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: