jainu
|
|
« ตอบ #150 เมื่อ: มีนาคม 09, 2022, 09:42:48 AM » |
|
อ่านกี่ครั้ง ก็รู้สึก"ดี" เตือนใจครับ
เศรษฐีนีจาก "กว่างโจว" ชื่อ"เจี๋ยเหงียหลี"(เจียงหย่าลี่) ขับรถอยู่บนถนน เกิดอุบัติเหตุถูกเฉี่ยวชน , โชคดีไม่รุนแรงมาก , และเธอก็ได้รับบาดเจ็บแค่ถลอกนิดหน่อยเท่านั้น , หลังจากเอารถเข้าอู่เพื่อซ่อมสีแล้ว , เธอพลันนึกได้ว่า , บ้านพ่อแม่อยู่ใกล้ๆแถวๆนี้เอง , และเธอก็ไม่ได้กลับไปที่บ้านนานแล้ว ,
"เจียงหย่าลี่" กลับไปพักค้างคืนที่บ้านพ่อแม่ 1 คืน รุ่งเช้าขณะที่เธอจะกลับไป"กว่างโจว" , คุณแม่ไดัส่งเสื้อผ้าคืนมาให้เธอ , ปรากฎว่า รอยขาดที่เกิดจากอุบัติเหตุเมื่อวานนี้ ได้รับการปะชุนอย่างปรานีตจากมือของคุณแม่เรียบร้อยแล้ว , เธอรู้สึกประทับใจในความรักของคุณแม่ ที่เอาใจใส่เธออย่างดี แม้เธอจะเติบโตจนเป็นนักธุรกิจที่ประสพความสำเร็จ เป็นเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งของเมือง"กว่างโจว"แล้วก็ตาม , แต่เธอก็มีความรู้สึกว่า , มันก็ประหยัดเกินไปหน่อยแล้ว , ตอนนี้เราก็มีเงินมากมาย , เดี๋ยวกลับไปถึงบริษัทเราคงต้องทิ้งไปดีกว่า...
งานของ"เจียงหย่าลี่" ยุ่งมาก , พอกลับถึงบริษัทก็ลืมเรื่องนี้ไป... เธอใส่เสื้อผ้าที่มีรอยปะชุนของแม่ ติดต่องานหลายแห่ง และยังเจรจางานธุรกิจชิ้นสำคัญสำเร็จด้วย , จนตกเย็นเธอกลับถึงบ้าน เธอนึกขึ้นได้ว่า วันนี้ติดต่อธุรกิจทั้งวัน และนุ่งเสื้อผ้าขาดๆที่มีรอยปะชุน , พอนึกได้ดังนี้ เธอจึงถอดออกมาแล้วทิ้งใส่ถังขยะทันที , ... วันต่อมา ธุรกิจล๊อกใหญ่ที่เธอเจรจาสำเร็จเมื่อวานนี้ กำลังจะทำการเซ็นสัญญา , คู่ค้าคู่สัญญาพลันถามขึ้นว่า " เสื้อผ้าชุดที่มีรอยขาดปะเมื่อวานนี้ ทำไมวันนี้คุณไม่ใส่มาอีก ? ... เธอรู้สึกเขินที่ถูกถามเช่นนั้น จึงตอบไปว่า " ถอดไปซักแล้วค่ะ" ....
คู่ค้าสำคัญรายนี้บอกว่า "คุณคงไม่รู้นะครับว่า" ที่ผมเซ็นสัญญากับคุณวันนี้ได้เพราะ คุณใส่เสื้อผ้าที่มีรอยปะ แม้จะเป็นรอยที่ปะชุนอย่างปรานีต ผมก็ดูออกครับ , คุณคือคนที่มีความประหยัดมัธยัตไม่ใช่คนฟุ้งเฟ้อ , การร่วมทำธุรกิจกับคนอย่างคุณ , ทำให้ผมมั่นใจที่ได้ร่วมทำธุรกิจเป็นหุ้นส่วนกับคุณจริงๆครับ.... "เจียงหย่าลี่"กลับมาถึงบ้าน , เธอรีบไปรื้อถังขยะ หยิบเสื้อผ้าที่แม่ปะชุนอย่างดีกลับขึ้นมาซัก เธอซักแล้วซักอีก , ตากแห้งแล้วเก็บใว้ในที่ลับตา คิดว่าวันหลัง หากมีการติดต่อธุรกิจสำคัญ คงต้องพึ่งเจ้าชุดเก่งนี้อีกครั้งหนึ่งแน่.......
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป , เช้าวันหนึ่ง ก่อนที่เธอจะไปบริษัท , ที่บ้านของ"เจียงหย่าลี่" ปรากฎมีตำรวจมาหาเธอ2คน , ...... ที่แท้เมื่ออาทิตย์ก่อนตอนค่ำ มีเศรษฐีนีอีกคนหนึ่งถูกคนร้ายจับมัดตัวเรียกค่าไถ่ แถมฉีกเสื้อผ้าลวนลามเธออีก , ขณะเดียวกันโจรคนนั้นก็ถูกจับได้ในคืนนั้นเอง , จากการสอบสวนของตำรวจ คนร้ายได้สารภาพว่า ความจริงคนที่เขาต้องการปล้น คือ"เจียงหย่าลี่" เพราะฉะนั้น" วันนี้ตำรวจจึงมาเตือนให้เธอระวังตัว , "เจียงหย่าลี่" รู้สึกตกใจกลัวอย่างมาก แต่ได้ถามตำรวจว่า , แล้วทำไมคนร้ายถึงเปลี่ยนใจไม่จับฉันเรียกค่าไถ่ ? ตำรวจตอบว่า เพราะวันนั้นเสื้อผ้าที่เธอใส่มีรอยปะชุน คนร้ายเลยไม่ลงมือ เพราะคิดว่า เธอคงไม่รวยจริงดังคำร่ำลือ , เพราะคนรวย ต้องไม่ใส่เสื้อผ้าปะชุนเด็ดขาด......
" เจียงหย่าลี่"กลืนน้ำลายเอื๊อก , คิดไม่ถึงว่าการใส่เสื้อผ้าที่มีรอยปะชุน กลับส่งผลดีกับเธออย่างไม่คาดคิด , เท่ากับช่วยชีวิตเธอได้ครั้งหนึ่ง , หลังตำรวจกลับไปแล้ว "เจียงหย่าลี่" เปิดตู้เสื้อผ้าหยิบชุดขาดที่แม่ปะชุนออกมา , เธอบรรจงลูบรอยปะชุนที่ปรานีตบรรจงของแม่ , เธอค่อยๆลูบไปทีละฝีเข็ม , ทีละฝีเข็ม, ตอนนี้เธอ.....เศรษฐีนีผู้ประสพความสำเร็จในชีวิต จนได้รับการขนานนามว่า "ปู๊พั้ว"(เศรษฐีนี) กลับร้องไห้ออกมาเหมือนเด็กๆแล้ว......
....ชีวิตหนึ่งของคนเรา ไม่ว่าจะร่ำรวยแค่ไหน สถานะในสังคมสูงส่งเพียงใด , ขอให้จดจำใว้ให้ดีว่า " ต้องกตัญญูต่อพ่อแม่ " ต้องรู้บุญคุณคนที่เคยช่วยเหลือ , อย่าได้หลงลืมจุดเริ่มต้นของชีวิต , ความรักของแม่เปรียบเช่นน้ำทิพย์ชโลมใจ , แม้จะไม่มีเสียง , แต่สามารถแทรกซึมเข้าไปในหัวใจที่แห้งผาก; แม้ฝีเข็มที่ปะชุน จะเป็นเรื่องธรรมดาที่แสนธรรมดา , แต่มันได้สร้างเรื่องที่ยิ่งใหญ่ใว้ในใจเธอ ตลอดกาล.......
แปล และเรียบเรียงโดย เจงเอี่ยม แซ่อึ้ง 黄振炎 29/12/2017
|