Forex-Currency Trading-Swiss based forex related website. Home ----- กระดานสนทนาหน้าแรก ----- Gold Chart,Silver,Copper,Oil Chart ----- gold-trend-price-prediction ----- ติดต่อเรา
หน้า: 1 ... 40 41 [42]   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: เพื่อสุขภาพ  (อ่าน 71594 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 5 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #615 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2022, 08:48:04 AM »

"10 เรื่องดี เมื่ออายุมาก"

1. ลืมไปเลย เรื่อง ”อกหัก”
เพราะอกเรา เลยวัยเปราะบางแล้ว
ไม่มีใครมาทำให้อกหักได้อีก
อายุขนาดนี้ มีแต่แน่นหน้าอก
หายใจไม่ออก กินอิ่มไป ก็ไม่ได้
ปล่อยให้หิว ก็ไม่ได้  ลมมัน..
แน่นหน้าอก จากกรดไหลย้อน

2. ฝันเราเป็นจริง ง่ายขึ้น
เพราะอายุปูนนี้แล้ว ฝันไกลนัก
ไม่ได้  เวลาไม่พอให้ฝันไกล
ได้แต่ฝันใกล้ๆ ที่เป็นไปได้นี่ละ
ฝันเราจึงเป็นจริงเสมอในวัยนี้
เช่น ฝันไปเที่ยวใกล้ๆ บ้าน
หรือฝันจะกินอะไรดีฯ

3. ไม่ต้องกังวลเรื่องเสื้อผ้า
ว่า..จะแต่งตัวออกงานอย่างไร
จะใส่สีอะไร แบบไหน คับไป
หลวมไปไหม?
วัยขนาดนี้ เอาที่ใส่สบายๆ ไว้ก่อน
เน้นหลวมๆ ไม่ต้องสลิมเข้ารูป
เพราะไม่เหลือโค้งเว้าให้สลิมแล้ว สีสัน ก็เอาที่มีอยู่ในตู้เยอะแยะ
เอาแค่ให้ mix & match ก็แล้วกัน
ยิ่งอายุมาก เสื้อผ้าก็ยิ่งใส่..
สีเดียวเป็นหลัก ไม่ขาว ก็ดำ
เพราะส่วนใหญ่ ก็ไปงานไว้อาลัยเพื่อนรุ่นเดียวกันนี่แหละ

4. กินอะไรง่ายกว่าตอนหนุ่มๆ สาวๆ
เพราะลิ้นรับรส กินอะไร
ก็คล้ายๆ กันไปหมด
จะร้อน จะเย็น จะขม จะจืดฯ
ก็กลืนๆ เข้าไป สบายมาก
กลายเป็นคนง่ายๆ ที่น่ารัก
บางคนทำเป็นเรื่องมาก
รักษาฟอร์ม กลัวลูกหลานรู้ว่า
กินอะไร ก็เหมือนกันหมด
ลิ้นไม่ค่อยรู้รสแล้ว
คนวัยนี้ ถึงกินมะระตุ๋นอร่อยไง!

5. แต่งตัวเร็วขึ้น เพราะแต่งยังไง
ก็เหมือนเดิม
ไม่ต้องก่อ โบก ฉาบ โบ้ะหน้าหนาๆ
เหมือนวัยกลางคน

6. ไปไหนมาไหน ไม่เดินเกะกะขวางทางใครแล้ว
เพราะเน้นนั่งเป็นหลัก
ลุกนั่งบ่อยไม่คล่อง
ยืนนาน เดินไกลก็ไม่ค่อยไหวแล้ว
ส่วนใหญ่..นั่งแหมะอยู่กับที่

7. วัยขนาดนี้เริ่มเป็นจอมยุทธ
เพราะเริ่มใช้วิชาตัวเบา ไปไหน
มาไหน ไม่หอบหิ้วอะไรเยอะแล้ว
ในกระเป๋าถือ
มีแค่ยาอม ยาดม ยาหม่อง
ถ้าจะไปชอปปิ้งจริงๆ
ก็ใช้รถเข็น หิ้วไม่ไหว
ส่วนเงินทอง ที่เป็นสมบัติพัสถาน
ก็โอนให้ลูกหลานไปหมด
ตัวจึงเบาสบาย

8. วัยที่มากขึ้น
จะเริ่มเป็นคนจริงใจขึ้นเรื่อยๆ
พูดเสียงดัง เปิดเผย
ไม่ค่อยมีความลับแล้ว เพราะ..
พูดค่อยๆ คิดว่าคนอื่นจะไม่ได้ยิน
หูเริ่มไม่ค่อยดีแล้ว
เลยต้องตะโกนคุยกัน

9. ตื่นเช้าขึ้นมา ไม่ต้อง..
ละลีตาเหลือก รีบอาบน้ำแต่งตัว
ไปทำงานเหมือนแต่ก่อน
เพราะชีวิตสโลว์ไลฟ์แล้ว
ค่อยๆ ลุก ค่อยๆ ตื่น
ขึ้นมาล้างหน้าแปรงฟัน
รอรับคำอวยพรตอนเช้า
จากสติ้กเกอร์ดอกไม้ประจำวัน
ที่เพื่อนๆ ส่งมาให้
แล้วก็ค่อยๆ ส่งกลับไป
เอาของอีกคน ส่งให้อีกคนหนึ่ง
สลับกันไป เป็นการลับสมอง สนุกดี

10. ลืมเรื่องว่า..
จะไปชกต่อยทุบตีกับใคร
เพราะวัยขนาดนี้ ยืนนุ่งกางเกงใน
ยังจะไม่ไหวเลย
แค่ลุกไปเข้าห้องน้ำ ยังหอบ
แล้วจะตบตีชกต่อยกับใครได้ 
ชีวิตอยู่ในประเภท..
”เสียงดังจนหน้าแดง แต่แรงไม่มี”
ชีวิตจึงอยู่สงบสุข
สบายตัว สบายใจ
เพราะไปมีเรื่องกับใครไม่ไหวแล้ว

เห็นไหม! ดีออก..ที่อายุมาก
(แก่แล้ว)

เครดิต : บ้านสวนตาจิต
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #616 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2022, 07:49:56 PM »





9 อาหารแก้หวัด หายเป็นปลิดทิ้ง


พออากาศเปลี่ยน อุณหภูมิร่างกายก็เปลี่ยน แล้วยิ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ทันตั้งตัวแล้ว อาการหวัดและไข้หวัดก็จะถามหาเอาได้ แล้วที่สำคัญคือ ปัจจุบัน แค่ยาปฏิชีวนะเพียงอย่างเดียวนั้นไม่อาจสู้หวัดให้หายได้ในเร็ววัน เพราะเชื้อไข้หวัดนั้น ก็พัฒนาตัวเองตามกาลเวลา ดังนั้น การรักษาโรคหวัดที่ดีคือนอกจากทานยาแล้ว ยังต้องดูแลตนเองให้ถูกสุขลักษณะ เลือกอาหารที่มีสารอาหารในการป้องกันหวัดช่วยเพิ่มภูมิต้านทาน ดังอาหาร 9 ชนิดที่เรารวบรวมมาให้นี้

1. ซุปไก่ร้อนๆ
ตามรายงานวิจัยพบว่าซุปไก่มีฤทธิ์ยับยั้งการเคลื่อนที่ของเม็ดเลือดขาวชนิดที่เรียกว่า นิวโทรฟิลด์ ไปยังเนื้อเยื่อปอด ทำให้ลดกระบวนการอักเสบในปอด และลดอาการไอได้ รวมถึง ต้มยำไก่ แกงไก่ ยังมีสมุนไพรที่ช่วยต้านหวัดรวมอยู่อีกหลายชนิด

2. อาหารรสเผ็ด
อาหารที่ช่วยให้จมูกโล่ง หายคัดจมูก ก็คืออาหารรสเผ็ดร้อนที่มีพริกเป็นส่วนประกอบ ไม่ว่าจะเป็น พริกขี้หนู พริกชี้ฟ้า พริกแห้ง รวมไปถึงพริกไทย และสมุนไพรรสเผ็ดร้อนอื่นๆ

3. กระเทียม
เป็นยาดีช่วยลดอาการหวัดได้ เมื่อมีอาการหวัด ให้นำกระเทียม 1 กลีบเล็กมาหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ แล้วใช้ช้อนบี้ให้แตก เติมน้ำร้อนลงไป 1 ถ้วย ปิดฝาทิ้งไว้ 5 นาที จากนั้นเติมน้ำผึ้ง และมะนาวเล็กน้อย ดื่มวันละ 2 ถ้วย จะช่วยบรรเทาอาการได้ เพราะกระเทียมจะช่วยป้องกันและรักษาไข้หวัดได้อย่างดี
4. ดื่มน้ำมากๆ
แต่ไม่ควรดื่มน้ำเย็นซึ่งจะทำให้เจ็บคอและไอมากขึ้น ควรจิบน้ำอุ่นหรือน้ำสมุนไพรอุ่น ๆ ตลอดเวลา เช่น น้ำตะไคร้ น้ำมะตูม น้ำใบเตย น้ำเก๊กฮวย จะช่วยให้ชุ่มคอ บรรเทาอาการไอ และละลายเสมหะ การจิบน้ำอุ่นบ่อย ๆ ร่วมกับการรักษาความสะอาดภายในช่องปาก จะช่วยให้อาการเจ็บคอทุเลาและฟื้นตัวได้เร็วขึ้นด้วย

5. ผลไม้ตระกูลส้ม
เพราะมีวิตามินซีสูง วิตามินซีป้องกันหวัดได้ ถ้ารู้ตัวว่าร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง ติดหวัด เป็นหวัดง่าย ก็ต้องกินผักและผลไม้ให้วิตามินซีมากๆ เช่น ส้ม มะละกอสุก มะม่วง ฝรั่ง สับปะรด ส้มโอ ชมพู่ พุทรา มะขาม แตงโม ฯลฯ

6. ขิง
ขิงช่วยขับเหงื่อ มีฤทธิ์ แก้หวัดเย็น (หวัดเย็น คือรู้สึกหนาว มีไข้ต่ำ ไม่ค่อยมีเหงื่อออก มีเสมหะมักเหลวใส) และยังช่วยบรรเทาอาการปวดท้อง ท้องอืด และข้ออักเสบได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจอีกด้วย

7. น้ำผักผลไม้สด
เช่น แครอท ผักใบเขียวจัด ส้ม ฝรั่ง องุ่น แคนตาลูป มะละกอสุก เป็นต้น มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ จะช่วยกำจัดสิ่งแปลกปลอมหรือเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย ป้องกันการติดเชื้อ เน้นว่าควรเป็นผักและผลไม้สด เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระกันแบบเต็ม ๆ

8. ชาร้อน
ชาร้อนทุกชนิดล้วนมีสารโพลิฟีนนอล สารแอนติออกซีเดนต์ในพืชที่ช่วยลดอาการติดเชื้อ ทำให้เยื่อบุโพรงจมูกชุ่มชื้น หายใจสะดวก ควรชงชาในน้ำร้อนตั้งทิ้งไว้ราว 1 นาที จะดึงคุณสมบัติ แก้หวัด ชาได้ดีที่สุด

9. โยเกิร์ต
มีการศึกษาพบว่า โยเกิร์ตช่วยเพิ่มการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว และช่วยเพิ่มการสร้างสารแอนติบอดีบางชนิดได้ แนะนำให้เลือกโยเกิร์ตรสธรรมชาติชนิดไขมันต่ำ น้ำตาลน้อย และมีจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ซึ่งยังมีชีวิตอยู่ จะได้ประโยชน์อย่างเต็มที่

นอกเหนือจากเมนูที่จะช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานและบรรเทาอาการหวัดดังที่กล่าวมานี้ อย่าลืมรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ พักผ่อนให้เพียงพอ เพียงเท่านี้ คนรักสุขภาพทั้งหลายก็พอจะสู้กับหวัดได้แล้ว แต่หากไม่ดีขึ้น หรือเป็นหนักควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษาเป็นวิธีที่ดีที่สุด

ขอบคุณที่มาจาก : www.emaginfo.com See less
— with สพบ. สนพ. and
2 others.



ที่มา

https://www.facebook.com/PRK514/photos/a.190019678162286/993354544495458/
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #617 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2022, 07:52:08 PM »



ลดการปรุง ลดโรคร้าย

การรับประทานอาหารรสจัด เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม เผ็ด มากจนเกินไป ส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยไม่รู้ตัว และยังเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยจากโรคต่าง ๆ โดยเฉพาะกลุ่มโรค NCDs หรือกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง

1. เลือกวัตถุดิบสดใหม่ เพราะจะมีรสชาติอร่อย โดยไม่ต้องปรุงเพิ่ม

2. กินสดๆ ดีกว่า เพราะอาหารที่ผ่านการปรุงแต่งน้อย จะยังคงสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายไว้ได้มากที่สุด

3. ชิมก่อนปรุง เพื่อป้องกันไม่ให้เติมเครื่องปรุง เช่น น้ำปลา น้ำตาลมากเกินไป

4. ดื่มน้ำเปล่าปรับการรับรส อย่างน้อยวันละ 1.5 ลิตร เพื่อไม่ให้ติดรสหวาน หันมาเลือกดื่มน้ำเปล่าที่ไม่ให้พลังงานแทนน้ำหวาน น้ำอัดลม น้ำผลไม้ และกาแฟ ชา ซึ่งเติมน้ำตาลที่ให้พลังงานสูง

5. เลือกเครื่องปรุงรสจากธรรมชาติ หากจำเป็นต้องใช้เครื่องปรุงรส ให้เลือกเครื่องปรุงรสจากธรรมชาติ แทนเครื่องปรุงรสที่ผลิตในระบบอุตสาหกรรมและมีสารปรุงแต่งสี กลิ่น รส สารกันบูด


ที่มา : SOOK MAGAZINE ฉบับที่ 45
— with สพบ. สนพ. and สนพ. กทม.
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #618 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2022, 07:55:23 PM »



ปรับไลฟ์สไตล์ต้านภัยไขมันพอกตับ

ไขมันพอกตับ เป็นอาการสะสมของไขมันที่ตับในปริมาณมากเกินไป จนทำให้เกิดการอักเสบที่ตับ กลายเป็นแผลเป็น และทำให้ตับเสียหาย ไม่สามารถรักษาให้กลับมาเป็นอย่างเดิมได้ ภาวะไขมันพอกตับนั้นอาจจะยากต่อการวินิจฉัยพบตั้งแต่ในระยะแรก ทำให้กว่าที่เราจะพบว่าตัวเองมีภาวะไขมันพอกตับนั้น ตับก็เกิดความเสียหายมากเกินไปเสียแล้ว แต่โชคดีที่ภาวะไขมันพอกตับนี้สามารถป้องกันได้เพียงแค่คุณปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์เหล่านี้

1. ลดน้ำหนัก ผู้ที่มีภาวะไขมันพอกตับ ควรลดน้ำหนักตัวลดอย่างน้อย 3 – 5% ของน้ำหนักตัว เพื่อช่วยลดการสะสมของไขมันที่ตับ

2. ดื่มกาแฟ มีงานวิจัยเมื่อปี 2016 พบว่า การดื่มกาแฟสามารถช่วยกระตุ้นการผลิตเอนไซม์ตับที่มีส่วนช่วยในการต้านอักเสบ

3. ออกกำลังกาย การออกกำลังกายวันละ 30-60 นาที เป็นเวลา 5 วันต่อสัปดาห์ สามารถช่วยลดการสะสมของไขมันตับได้มากถึง 10%

4. เลือกกินอาหารที่ช่วยลดไขมันตับ ได้แก่ น้ำมันมะกอก เวย์โปรตีน ชาเขียว และใยอาหาร

5. ลดคาร์โบไฮเดรต ลดการบริโภคแป้ง และคาร์โบไฮเดรตที่ผ่านการขัดสีแล้ว เนื่องจากคาร์โบไฮเดรตส่วนเกินที่อยู่ในร่างกายนั้นจะเปลี่ยนไปเป็นไขมัน และไขมันเหล่านี้ก็จะไปสะสมที่ตับ


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
https://hellokhunmor.com
— with สพบ. สนพ. and
2 others
.
Comments


บันทึกการเข้า

finghting!!!
Gold Price today, Gold Trend Price Prediction, ราคาทองคํา, วิเคราะห์ทิศทางทองคํา
   

images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary ---------------------Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. For more information on Moore Research products and services click here. --- http://www.mrci.com ---------- ---------------------------------------------รูปกราฟแสดงราคาทองในอดีตปี 1974-1999 ของ Moore Research Center, Inc. แสดงฤดูกาลที่ราคาทองขึ้นสูงสุดและตําสุด เอาแบบคร่าวๆ เส้นนําตาลหรือนําเงินก็ใกล้เคียงกัน เส้นนําตาลเฉลี่ย 15 ปี เส้นนําเงินเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุดของเส้นนําตาล หรือเฉลี่ย 15 ปี ในเดือน ปลายเดือน เมษ และปลายเดือน สค ต่อต้นเดือน กย[/color] สูงสุดในเดือน กพ กับ พย / ส่วนเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุด ต้น กค กับ ปลาย สค และราคาสูงสุดในเดือน กพ และ กลางเดือน ตค ----- แค่ดูคร่าวๆ เป็นแนวทาง อย่ายึดมั่นว่าจะต้องเป็นตามนี้ ข้างล่างเป็นกราฟราคานํามัน ตามฤดูกาล จาก Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary
 บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 40 41 [42]   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: