Forex-Currency Trading-Swiss based forex related website. Home ----- กระดานสนทนาหน้าแรก ----- Gold Chart,Silver,Copper,Oil Chart ----- gold-trend-price-prediction ----- ติดต่อเรา
หน้า: 1 ... 6 7 [8] 9 10 11   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: มุมสุขภาพ แบ่งปันเรื่องความรู้ทั่วไป  (อ่าน 21389 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Jeera
Hero Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3992


Happy day!


« ตอบ #105 เมื่อ: พฤศจิกายน 02, 2009, 08:54:02 PM »

ป้าพาตัวเล็กไปลอยกระทงที่ไหนป่าวคะ   Smiley
บันทึกการเข้า


Someone love one
Some one love two
But I love one
That One is...U  (^?^)-?
NN
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 174



« ตอบ #106 เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2009, 03:04:02 PM »



                   


เมื่อคืนพาลูกๆไปลอยกระทงจ้า...   พี่ๆสนุกกันใหญ่  แต่น้องเล็กตกใจกลัวเสียงประทัด .... 555...

เมื่อวานลอยกระทง ยังบ่นอยู่เลยว่าปีนี้ไม่ยักหนาว...   ตื่นเช้ามาอากาศเย็นสะท้านทั้งวันเลย...หุ...หุ...

อาคุณ Jeera อากาศแบบนี้  มีน้องแหง๋ๆ....   สู้ๆ  กับคุณพ่อน้องเอม+ออม หน่อยนะจ้ะ

ป้าเชียร์อยู่....    Cheesy    Cheesy    Cheesy
บันทึกการเข้า
Jeera
Hero Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3992


Happy day!


« ตอบ #107 เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2009, 03:43:38 PM »

เอางั้นเลยเหรอค่ะ   Cheesy
บันทึกการเข้า


Someone love one
Some one love two
But I love one
That One is...U  (^?^)-?
NN
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 174



« ตอบ #108 เมื่อ: พฤศจิกายน 04, 2009, 09:28:15 AM »


อ่า...  อากาศหนาวมา...

พร้อมกับทองขึ้นปรี๊ด...  1082 เหรียญ 17,050 บาท   ( โดนกั๊กไว้ 100 บาท... )

เพราะข่าวนี้แน่เลย...

ไอเอ็มเอฟขายทอง 200 ตันให้อินเดีย
 
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 พฤศจิกายน 2552 22:30 น.
 โดมินิก สเตราส์-คาห์น
 
 
       เอเอฟพี ? กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เริ่มต้นขายทองคำ 403.3 ตัน หรือราวหนึ่งในแปดส่วนที่ถือครองอยู่ออกไป เพื่อหาเงินมาปล่อยกู้ให้กับประเทศต่างๆ ในในช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจทั่วโลก และแถลงในวันจันทร์(2)ว่า สามารถขายไปได้แล้วราว 200 ตัน ให้กับอินเดียซึ่งเป็นผู้ซื้อทองคำรายใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยราคาที่สูงเกือบถึงระดับสถิติสูงสุด
 

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9520000132047


 
 
บันทึกการเข้า
NN
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 174



« ตอบ #109 เมื่อ: พฤศจิกายน 04, 2009, 11:24:58 AM »


 

10 วิธีการกินอาหารเพื่อสุขภาพที่ดี


     ในแต่ละวันเราจำเป็นต้องรับประทานอาหารมากมาย มีคำแนะนำจากหลายสำนักให้กินนั่น ห้ามกินนี่จนไม่รู้จะเชื่อใครดี วันนี้เราจึงมีเคล็ดลับง่ายๆ ของการกินให้ได้ประโยชน์สูงสุดต่อสุขภาพอย่างเต็มที่มาฝาก

1. กินอาหารเช้า เป็นพฤติกรรมพื้นฐานที่ส่งผลต่อจิตใจ และพลังชีวิตของคุณไปตลอดทั้งวัน และช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด ลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ ช่วยเผาผลาญพลังงานให้ดีขึ้น ทำให้คุณกินอาหารในมื้ออื่นๆ น้อยลง

2. เปลี่ยนน้ำมันที่ใช้ปรุงอาหาร ยอมจ่ายแพงสักนิดใช้น้ำมันมะกอก หรือน้ำมันดอกทานตะวัน ปรุงอาหารแทนน้ำมันแบบเดิมที่เคยใช้ เพราะเป็นไขมันที่ไม่เป็นโทษต่อร่างกาย และมีกรดไขมันอิ่มตัวที่เป็นประโยชน์ ช่วยลดไขมันในเส้นเลือดได้เป็นอย่างดี

3. ดื่มน้ำให้มากขึ้น คนเราควรดื่มน้ำวันละ 2 ลิตรเป็นอย่างน้อย (ยกเว้นในรายที่ไตทำงานผิดปกติ) เพื่อหล่อเลี้ยงเซลล์ในร่างกาย ฟื้นฟูระบบขับถ่าย รักษาระดับความเข้มข้นของเลือด จะทำให้สดชื่นตลอดวันเลยทีเดียว

4. เสริมสร้างแคลเซียมให้กับกระดูก ด้วยการดื่มนม กินปลาตัวเล็กทั้งตัวทั้งก้าง เต้าหู้ ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง ผักใบเขียว เพราะแคลเซียมเป็นสิ่งจำเป็นที่จะเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อและกระดูก ทำให้ระบบประสาททำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

5. บอกลาขนมและของกินจุบจิบ ตัดของโปรดประเภทโดนัท คุกกี้ เค้กหน้าครีมหนานุ่ม ออกจากชีวิตบ้าง แล้วหันมากินผลไม้เป็นของว่างแทน วิตามิน และกากใยในผลไม้ มีประโยชน์กว่าไขมัน และน้ำตาลจากขนมหวานเป็นไหนๆ

6. สร้างความคุ้นเคยกับการกินธัญพืช  และข้าวกล้องเมล็ดทานตะวัน ข้าวฟ่างและลูกเดือย รวมทั้งข้าวกล้องที่เคยคิดว่าเป็นอาหารนก ได้มีการศึกษาและค้นคว้าแล้ว พบว่า ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจถึง 1 ใน 3 เลยทีเดียว เพราะอุดมไปด้วยไฟเบอร์ ที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และควบคุมน้ำตาลในเลือดให้สมดุล

7. จัดน้ำชาให้ตัวเอง ทั้งชาดำ ชาเขียว ชาอู่ล่ง หรือเอิร์ลเกรย์ ล้วนแล้วแต่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ การดื่มชาวันละ 1 ถึง 3 แก้ว ช่วยลดอัตราเสี่ยงมะเร็งกระเพาะอาหารถึง 30%

8. กินให้ครบทุกสิ่งที่ธรรมชาติมี คุณต้องพยายามรับประทานผักผลไม้ต่างๆ ให้หลากสี เป็นต้นว่า สีแดงมะเขือเทศ สีม่วงองุ่น สีเขียวบล็อกเคอรี สีส้มแครอท อย่ายึดติดอยู่กับการกินอะไรเพียงอย่างเดียว เพราะพืชต่างสีกัน มีสารอาหารต่างชนิดกัน แถมยังเป็นการเพิ่มสีสันการกินให้กับคุณด้วย

9. เปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนรักปลา การกินปลาอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง ได้ทั้งความฉลาดและแข็งแรง เพราะปลามีกรดไขมันโอเมก้า 3 และโปรตีน ที่ช่วยควบคุมการเต้นของหัวใจให้เป็นปกติ และบำรุงเซลล์สมอง ทั้งยังมีไขมันน้อย อร่อย ย่อยง่าย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการหุ่นเพรียวลมเป็นที่สุด

10. กินถั่วให้เป็นนิสัย ทำให้ถั่วเป็นส่วนหนึ่งของอาหารที่คุณต้องกินทุกวัน วันละสัก 2 ช้อน ไม่ว่าจะเป็นของหวานของคาว หรือว่าของว่างก็ทั้งโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุสำคัญๆ หลายชนิด ต่างพากันไปชุมนุมอยู่ในถั่วเหล่านี้ ควรกินถั่วอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่ควรกินครั้งละมากๆ เพราะมีแคลอรี่สูง อาจทำให้อ้วนได้

   ถ้าปฏิบัติให้ได้ครบทุกข้อตามคำแนะนำข้างต้นนี้จนเป็นนิสัย สุขภาพดีๆ จะไปไหนเสีย !!


           

 

ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ 7 กรกฎาคม 2551 11:11 น. http://www.manager.co.th/MetroLife/ViewNews.aspx?NewsID=9510000079603
 
 


บันทึกการเข้า
~ uma ~
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 98



« ตอบ #110 เมื่อ: พฤศจิกายน 04, 2009, 11:35:39 AM »

มาติดตามอ่านสาระน่ารู้ค่ะ
บันทึกการเข้า
angie
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11


GOD BLESS U


« ตอบ #111 เมื่อ: พฤศจิกายน 05, 2009, 10:43:35 AM »

http://www.manager.co.th/SMEs/ViewNews.aspx?NewsID=9520000131788

บ้านยุงค่ะ
บันทึกการเข้า

ผู้มีใจให้ ย่อมเป็นสุข
NN
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 174



« ตอบ #112 เมื่อ: พฤศจิกายน 05, 2009, 07:26:05 PM »





โอ้โห...  เหลือเชื่อจริงๆ  เมื่อก่อนเคยได้ยินแค่ให้วางกล่องสีมืดๆ กลิ่นอับๆไว้ แล้วยุงจะเข้าไปอยู่ในนั้นค่ะ

อันนี้มาแบบหลักวิทยาศาสตร์เลย...   Smiley

ขอบคุณ คุณ angie มากค่ะ

บันทึกการเข้า
NN
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 174



« ตอบ #113 เมื่อ: พฤศจิกายน 09, 2009, 06:25:17 AM »


หวัดดียามเช้าวันจันทร์จ้า...   วันนี้หาน้ำขิงดื่มกันซักแก้วนะจ้ะ...   

ประโยชน์ของน้ำขิง?

              


 
-คุณค่าทางอาหาร : พรั่งพร้อมด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น แคลเซียมบำรุงกระดูกและฟัน และยังมีสารเบต้า-แคโรทีน ซึ่งช่วย
ต้านโรคมะเร็งอีกด้วย
-คุณค่าทางยา : แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม และขับเสมหะแก้อาการคลื่นใส้ อาเจียน เมารถเมาเรือ ช่วยเจริญอาหาร กินข้าวได้นอกจากนั้นยัง

ลดการจับตัวของลิ่มเลือด ช่วยย่อยอาหารโดยเพิ่มการหลั่งน้ำดีและน้ำย่อยต่างๆต้านการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร


 
ที่มา : http://www.healthcorners.com


บันทึกการเข้า
Jeera
Hero Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3992


Happy day!


« ตอบ #114 เมื่อ: พฤศจิกายน 09, 2009, 07:54:26 AM »

ถ้าเป็นน้ำขิงสำเร็จรูปมันจะมีประโยชน์มั้ยคะ  Undecided
บันทึกการเข้า


Someone love one
Some one love two
But I love one
That One is...U  (^?^)-?
NN
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 174



« ตอบ #115 เมื่อ: พฤศจิกายน 09, 2009, 01:17:00 PM »

แบบชงเป็นซองๆก็ใช้ได้จ้า คุณ Jeera  ป้าก็ดื่มอยู่...   ถ้ามีเวลาถึงจะต้มสดๆกินจ้า...

( ท้องจะได้ไม่ผูก  ให้ใครๆแซวอีกนา...  )

            


กินข้าวเที่ยงแก้กลุ้มกันเถอะจ้า  ...   ทองไม่ลงมาให้ซื้อซะที    


บันทึกการเข้า
Jeera
Hero Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3992


Happy day!


« ตอบ #116 เมื่อ: พฤศจิกายน 09, 2009, 11:00:09 PM »

ไม่มีไรให้แซวเดี๋ยวเค้าขาดใจตายกัน   หัวเราะกันนะ
บันทึกการเข้า


Someone love one
Some one love two
But I love one
That One is...U  (^?^)-?
NN
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 174



« ตอบ #117 เมื่อ: พฤศจิกายน 11, 2009, 12:35:13 PM »

ผลเสียของการอดนอน 



       
สำหรับหนุ่มสาว มหาวิทยาลัย และคนวัยทำงาน อาจจะเคยชินกับการทำงานตอนดึก ๆ เพราะรู้สึกว่าช่วงเวลากลางคืนทำให้สมองโลดแล่น
เกิดไอเดียบรรเจิด เกิดความคิดลื่นไหลปรู๊ดปร๊าด แต่คุณรู้ไหมว่าการนอนน้อย นอนดึก ส่งผลต่อสุขภาพร่างกายในระยะยาว โดยที่คุณเอง
ก็คาดไม่ถึง

ทั้งนี้ มีงานวิจัยเชิงทดลองที่ให้อาสาสมัครหนุ่มสาว ได้ทดลองนอนหลับวันละ 4 ชม. เป็นเวลา 6 คืน เมื่อเจาะตัวอย่างเลือดของอาสาสมัคร
เหล่านี้พบว่า พวกเขามีปัญหาระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้นและควบคุมยาก ซึ่งเกือบจะเป็นเหมือนโรคเบาหวานแล้ว

นอนไม่พอ...ทำให้อ้วน
 
การที่คนเราอดนอนมาก ๆ จะทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนกระตุ้นการเจริญเติบโตทางกายภาพ และควบคุม
สัดส่วนของไขมันต่อกล้ามเนื้อในร่างกายน้อยลง ทำให้ร่างกายรู้สึกอยากรับประทานอาหารมากขึ้น นอกจากนี้
การนอนไม่เพียงพอนั้น ยังส่งผลต่อฮอร์โมนเลปติน ซึ่งเป็นสารที่สื่อต่อระบบประสาทว่า ควรจะอิ่มได้เร็วหรือช้า
เท่าใด ตามความต้องการอาหารของร่างกาย เมื่อระดับเลปตินลดลงจากการนอนน้อย ผู้คนจะรู้สึกอยากอาหารมากขึ้น แม้จะได้กินอาหารจนได้พลังงานเพียงพอแล้วก็ตาม

นอนไม่พอ...ทำให้ขาดภูมิต้านทาน

ส่วนหนึ่งที่เห็นได้ชัดจากการอดกลับอดนอนนั่นคือ หากสมากชิกในบ้านของคุณหรือตัวคุณเองที่
อดนอนมาก ๆ จะหน้าตาซีดเซียว ไม่มีน้ำมีนวล เจ็บป่วยง่ายขึ้นเมื่อเจอเชื้อโรคเพราะการนอนไม่พอจะส่งผล
ต่อเม็ดเลือดขาว และกลไกการตอบสนองภูมิคุ้มกันต่าง ๆ ของร่างกายนั่นเอง

นอนไม่พอ...ทำให้เป็นมะเร็ง

การนอนไม่พออาจส่งผลร้ายแรงถึงขั้นเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งที่มีความเกี่ยวข้องกันในเรื่องวงจร
การหลั่ง ฮอร์โมนแปรปรวน เนื่องมาจากการอดนอนและ แสงรบกวนในเวลากลางคืน ทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการ
เป็น มะเร็งเต้านม ฉะนั้น นอกจากเราควรจะนอนให้เพียงพอแล้ว เรายังไม่ควรเปิดไฟนอนอีกด้วย

นอนไม่พอ...ทำให้โง่

ศ.เจอร์เกน ซัลเลย์ นักวิจัยพฤติกรรมการนอนหลับ วิทยาลัยแพทย์รีเกนส์เบิร์ก เปิดเผยว่า
การอดนอนส่งผลกระทบเลวร้ายต่อร่างกาย จะทำให้ประสิทธิภาพการจดจำลดลง ดังนั้นควรนอนพักผ่อนอย่างน้อยคืนละ 7 ชั่วโมงเพื่อความมีสุขภาพที่ดี

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะมีงานวิจัยหรือไม่ คนส่วนใหญ่ย่อมรู้กันดีว่า การที่คนเราอดนอนนั้นทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลงอยู่แล้ว
แต่เมื่อมีงานวิจัยออกมายืนยันถึงผลร้ายของการอดนอนแบบนี้ คนที่นอนไม่พอหรือยังบริหารเวลาในชีวิตการทำงานและชีวิตครอบครัวไม่ดี
ควรตระหนักและเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสียตั้งแต่วันนี้ ก่อนจะเกิดผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวของคุณ




                                                                                                                                                         
บันทึกการเข้า
Jeera
Hero Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3992


Happy day!


« ตอบ #118 เมื่อ: พฤศจิกายน 11, 2009, 12:38:54 PM »

มิน่า......................โง่   Cry
บันทึกการเข้า


Someone love one
Some one love two
But I love one
That One is...U  (^?^)-?
NN
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 174



« ตอบ #119 เมื่อ: พฤศจิกายน 12, 2009, 11:04:30 AM »

มิน่า......................โง่   Cry

โถ...   น่ารักมีอารมณ์ขันขนาดนี้..   คุณสามีรักตายเลย...   Wink



บันทึกการเข้า
Gold Price today, Gold Trend Price Prediction, ราคาทองคํา, วิเคราะห์ทิศทางทองคํา
   

images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary ---------------------Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. For more information on Moore Research products and services click here. --- http://www.mrci.com ---------- ---------------------------------------------รูปกราฟแสดงราคาทองในอดีตปี 1974-1999 ของ Moore Research Center, Inc. แสดงฤดูกาลที่ราคาทองขึ้นสูงสุดและตําสุด เอาแบบคร่าวๆ เส้นนําตาลหรือนําเงินก็ใกล้เคียงกัน เส้นนําตาลเฉลี่ย 15 ปี เส้นนําเงินเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุดของเส้นนําตาล หรือเฉลี่ย 15 ปี ในเดือน ปลายเดือน เมษ และปลายเดือน สค ต่อต้นเดือน กย[/color] สูงสุดในเดือน กพ กับ พย / ส่วนเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุด ต้น กค กับ ปลาย สค และราคาสูงสุดในเดือน กพ และ กลางเดือน ตค ----- แค่ดูคร่าวๆ เป็นแนวทาง อย่ายึดมั่นว่าจะต้องเป็นตามนี้ ข้างล่างเป็นกราฟราคานํามัน ตามฤดูกาล จาก Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary
 บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 6 7 [8] 9 10 11   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: