Forex-Currency Trading-Swiss based forex related website. Home ----- กระดานสนทนาหน้าแรก ----- Gold Chart,Silver,Copper,Oil Chart ----- gold-trend-price-prediction ----- ติดต่อเรา
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 ... 42   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: Sa La Na Roo  (อ่าน 75097 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 4 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #45 เมื่อ: มีนาคม 08, 2010, 09:54:23 PM »

อย่าเปิดเครื่องปรับอากาศ (แอร์) ทันทีที่คุณขึ้นรถ ! ระวังอายุจะไม่ยืน เพราะกลัวร้อน

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากคุณจอดรถตากแดดไว้ ให้เปิดหน้าต่างหลังจากขึ้นรถ และอย่าเปิดแอร์ทันที ตามผลการวิจัย แผงหน้าปัทม์ ( คอนโซล ) เบาะที่นั่ง และน้ำหอมปรับอากาศ จะสร้างสารเบนซีน ที่เป็นสารก่อมะเร็งขึ้น ( อย่างที่คุณได้กลิ่นเหมือนพลาสติคจาง ๆ ในรถ " โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รถใหม่ " : ผู้แปล )

นอกจากเป็นสาเหตุให้เป็นมะเร็งแล้ว สารดังกล่าวยังเป็นพิษต่อกระดูก ทำให้เกิดโรคโลหิตจาง และลดจำนวนเม็ดเลือดขาว ซึ่งในระยะยาวอาจทำให้เป็นโรคลูคีเมีย และอาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์มารดาได้

ระดับของสารเบนซีนที่ยอมรับได้ในอาคาร /ในรถ คือ 50 มิลลิกรัม ต่อ ตารางฟุต แต่ระดับของสารเบนซีนในรถที่จอดอยู่ในร่ม มีค่าอยู่ที่ 400 - 800 มิลลิกรัม หากรถจอดอยู่กลางแจ้งที่มีอุณหภูมิสูงเกินกว่า 60 องศาฟาร์เรนไฮท์ (ประมาณ 15.5 องศาเซลเซียส) ( ในเมืองไทยจอดในร่มอุณหภูมิก็สูงเกินแล้ว : ผู้แปล ) ระดับของสารเบนซีนจะสูงขึ้นถึง 2000 - 4000 มิลลิกรัม คือสูงกว่าระดับที่ยอมรับได้ถึง 40 เท่า

คนที่อยู่ในรถจะหายใจเอาสารพิษ ที่สูงเกินมาตรฐานดังกล่าวเข้าไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ไ ด้

ดังนั้นจึงขอแนะนำว่า ให้คุณเปิดประตู หน้าต่างรถ ไว้สักระยะเพื่อให้อากาศที่อยู่ในตัวรถออกมาก่อนจะเข ้าไปนั่ง สารพิษที่ร่างกายคุณไม่สามารถขับออกได้โดยง่าย ซึ่งส่งผลร้ายต่อ ตับ ไต ไส้ พุง จะได้ลดปริมาณลง

ที่สำคัญ ช่วยประหยัดน้ำมัน และรักษาคอมเพรสเซอร์แอร์ ให้ทำงานได้ยาวนานขึ้นด้วยจ้า

--------------------------------------------

Please note and circulate...

Do not turn on A/C immediately as soon as you enter the car!

Please open the windows after you enter your car and do not turn ON the air-conditioning immediately. According to a research done, the car dashboard, sofa, air freshener emits Benzene, a Cancer causing toxin (carcinogen- take note of the heated plastic smell in your car). In addition to causing cancer, it poisons your bones, causes anemia, and reduces white blood cells. Prolonged exposure will cause Leukemia, increasing the risk of can cer may also cause miscarriage.

Acceptable Benzene level indoors is 50 mg per sq. ft. A car parked indoors with the windows closed will contain 400-800 mg of Benzene. If parked outdoors under the sun at a temperature above 60 degrees F, the Benzene level goes up to 2000-4000 mg, 40 times the acceptable level... & the people inside the car will inevitably inhale an excess amount of the toxins.

It is recommended that you open the window s and door to give time for the interior to air out before you enter. Benzene is a toxin that affects your kidney and liver, and is very difficult for your body to expel this toxic stuff.

"When someone shares something of value with you and you benefit from it,
you have a moral obligation to share it with others"
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #46 เมื่อ: เมษายน 11, 2010, 02:46:07 PM »

ความเป็นมาของ วันสงกรานต์






ตามหลักแล้วเทศกาลสงกรานต์ถูกกำหนดตามการคำนวณโดยหลักเกณฑ์ในคัมภีร์สุริยยาตร์ โดยวันแรกของเทศกาลซึ่งเป็นวันที่พระอาทิตย์ยกเข้าสู่ราศีเมษ (ย้ายจากราศีมีนไปราศีเมษ) เรียกว่า "วันมหาสงกรานต์" วันถัดมาเรียกว่า "วันเนา" และวันสุดท้ายซึ่งเป็นวันเปลี่ยนจุลศักราชและเริ่มใช้กาลโยคประจำปีใหม่ เรียกว่า "วันเถลิงศก" จากหลักการข้างต้นนี้ ทำให้ปัจจุบันเทศกาลสงกรานต์มักตรงกับวันที่ 14-16 เมษายน (ยกเว้นบางปี เช่น พ.ศ. 2551 และ พ.ศ. 2555 ที่สงกรานต์กลับมาตรงกับวันที่ 13-15 เมษายน) อย่างไรก็ตาม ปฏิทินไทยในขณะนี้กำหนดให้เทศกาลสงกรานต์ตรงกับวันที่ 13-15 เมษายน ของทุกปี และเป็นวันหยุดราชการ

          สงกรานต์ เป็นประเพณีเก่าแก่ของไทยซึ่งสืบทอดมาแต่โบราณคู่มากับประเพณีตรุษ จึงมีการเรียกรวมกันว่า ประเพณีตรุษสงกรานต์ หมายถึงประเพณีส่งท้ายปีเก่า และต้อนรับปีใหม่ คำว่าตรุษเป็นภาษาทมิฬ แปลว่าการสิ้นปี



พิธีสงกรานต์ เป็นพิธีกรรมที่เกิดขึ้นในสมาชิกในครอบครัว หรือชุมชนบ้านใกล้เรือนเคียง แต่ปัจจุบันได้เปลี่ยนไปสู่สังคมในวงกว้าง และมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนทัศนคติ และความเชื่อไป ในความเชื่อดั้งเดิมใช้สัญลักษณ์เป็นองค์ประกอบหลักในพิธี ได้แก่ การใช้น้ำเป็นตัวแทน แก้กันกับความหมายของฤดูร้อน ช่วงเวลาที่พระอาทิตย์เคลื่อนเข้าสู่ราศีเมษ ใช้น้ำรดให้แก่กันเพื่อความชุ่มชื่น มีการขอพรจากผู้ใหญ่ การรำลึกและกตัญญูต่อบรรพบุรุษที่ล่วงลับ ในชีวิตสมัยใหม่ของสังคมไทยเกิดประเพณีกลับบ้านในเทศกาลสงกรานต์ นับวันสงกรานต์เป็นวันครอบครัว ในพิธีเดิมมีการสรงน้ำพระที่นำสิริมงคล เพื่อให้เป็นการเริ่มต้นปีใหม่ที่มีความสุข

           ปัจจุบันมีพัฒนาการและมีแนวโน้มว่าได้มีการเสริมจนคลาดเคลื่อนบิดเบือนไป เกิดการประชาสัมพันธ์ในเชิงการท่องเที่ยวว่าเป็น "Water Festival" เป็นภาพของการใช้น้ำเพื่อแสดงความหมายเพียงประเพณีการเล่นน้ำ



การที่สังคมเปลี่ยนไป มีการเคลื่อนย้ายที่อยู่เข้าสู่เมืองใหญ่ และถือวันสงกรานต์เป็นวัน "กลับบ้าน" ทำให้การจราจรคับคั่งในช่วงวันก่อนสงกรานต์ วันแรกของเทศกาล และวันสุดท้ายของเทศกาล เกิดอุบัติเหตุทางถนนสูง นับเป็นปรากฏการณ์ทางสังคมที่เกิดขึ้นตามการเปลี่ยนแปลงหลายด้านของสังคม นอกจากนี้ เทศกาลสงกรานต์ยังถูกใช้ในการส่งเสริมการท่องเที่ยว ทั้งต่อคนไทย และต่อนักท่องเที่ยวต่างประเทศ
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #47 เมื่อ: เมษายน 11, 2010, 02:50:18 PM »

Smiley คำทำนายเกี่ยวกับวันสงกรานต์


คำทำนายเกี่ยวกับสงกรานต์ (วิกิพีเดีย)

          ตามตำราพรหมชาติ ฉบับหลวง ได้ให้คำทำนายเกี่ยวกับวันสงกรานต์ไว้ดังนี้



วันมหาสงกรานต์

              ถ้าปีใดวันมหาสงกรานต์เป็นวันอาทิตย์ ปีนั้นไร่นาเรือกสวน เผือกมัน มิสู้แพงแล

              ถ้าวันจันทร์เป็นวันมหาสงกรานต์ จะแพ้เสนาบดี ท้าวพระยาและนางพระยาทั้งหลาย

              ถ้าวันอังคารและวันเสาร์ เป็นวันมหาสงกรานต์ จะเกิดอันตรายกลางเมือง จะเกิดเพลิงและโจรผู้ร้าย และจะเจ็บไข้นักแล

              ถ้าวันพุธเป็นวันมหาสงกรานต์ ว่าท้าวพระยาจะได้เครื่องบรรณาการมาแต่ต่างเมือง แต่จะแพ้ลูกอ่อนนักแล

              ถ้าวันพฤหัสบดีเป็นวันมหาสงกรานต์ จะแพ้ข้าไท พระสงฆ์ราชาคณะจะได้รับความเดือดเนื้อร้อนใจกันแล

              ถ้าวันศุกร์เป็นวันมหาสงกรานต์ ข้าวน้ำ ลูกหมากรากไม้ทั้งหลายจะอุดม แต่จะแพ้เด็ก ฝนและพายุชุม จะเจ็บตากันมากนักแลฯ

    วันเนา


              ถ้าวันอาทิตย์เป็นวันเนา ข้าวจะตายฝอย จะได้ยินเสียงคนต่างภาษา ท้าวพระยาจะร้อนใจนักแล

              ถ้าวันจันทร์เป็นวันเนา เกลือจะแพง นางพระยาจะร้อนใจ มักจะเกิดความไข้ต่างๆ

              ถ้าวันอังคารเป็นวันเนา หมากพลู ข้าวปลาจะแพง จะแพ้อำมาตย์มนตรีทั้งปวง

              ถ้าวันพุธเป็นวันเนา ข้าวจะแพง คนทั้งหลายจะได้รับความทุกข์ร้อน แม่หม้ายจะพลัดที่อยู่

              ถ้าวันพฤหัสบดีเป็นวันเนา ลูกไม้จะแพง ตระกูลทั้งหลายจะร้อนใจนักแล

              ถ้าวันศุกร์เป็นวันเนา ข้าวจะแพง แร้งกาจะตายห่า สัตว์ในป่าจะเกิดอันตราย

              ถ้าวันเสาร์เป็นวันเนา ข้าวปลาจะแพง จะเกิดเพลิงกลางใจเมือง ขุนนางจะต้องโทษ ข้าวจะตายฝอย น้ำจะน้อยกว่าทุกปี สมณชีพราหมณ์จะร้อนใจนัก ผักปลาจะแพงแลฯ

   วันเถลิงศก

              ถ้าวันอาทิตย์เป็นวันเถลิงศก พระมหากษัตริย์จะรุ่งเรืองด้วยพระเดชานุภาพ จะมีชัยชนะแก่ศัตรูทั่วทิศาทั้งปวงแล

              ถ้าวันจันทร์เป็นวันเถลิงศก พระราชเทวี และหมู่นางสนม ราชบริพาร จะประกอบไปด้วยสุขและสมบัติทั้งปวง

              ถ้าวันอังคารเป็นวันเถลิงศก อำมาตย์มนตรีทั้งปวงจะอยู่เย็นเป็นสุข แม้จะต่อยุทธ์ด้วยปัจจามิตร ณ ใดๆ ก็จะมีชัยชนะทุกเมื่อแล

              ถ้าวันพุธเป็นวันเถลิงศก ราชบัณฑิต ปุโรหิตโหราจารย์ จะมีสุขสำราญเป็นอันมาก

              ถ้าวันพฤหัสบดีเป็นวันเถลิงศก สมณะพราหมณาจารย์จะปฏิบัติชอบด้วยธรรมวินัยอันประเสริฐแล

              ถ้าวันศุกร์เป็นวันเถลิงศก พ่อค้าพานิชทั้งหลาย อันไปค้าขายในประเทศต่างๆ จะประกอบไปด้วยพัสดุเงินทอง และมีความสุขเป็นอันมากแล

              ถ้าวันเสาร์เป็นวันเถลิงศก หมู่ทแกล้วทหารทั้งปวง จะประกอบไปด้วยความสุข และวิชาการต่างๆ แม้จะกระทำยุทธ์ด้วยข้าศึก ณ ทิศใด ๆ ก็จะมีชัยชนะทุกเมื่อแลฯ

บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #48 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2010, 09:12:08 PM »




ของว่างอย่างพวกคุกกี้มักจะทำด้วยน้ำตาลกลูโคส ฟรักโตส ทำให้สมองคิดว่าเรายังหิวอยู่ ผู้ผลิตใช้มันผสมเพื่อให้ขนมคงความชื้นและจับกันเป็น ก้อน...

นักวิจัยเปิดเผยให้ทราบว่า เหตุที่คนเราไม่อาจกินขนมหรือคุกกี้เพียงแค่ชิ้นเดีย วได้ ต้องกินต่อไปจนหนำใจ ก็เพราะน้ำเชื่อมกลูโคสและฟรักโตส อันเป็นน้ำตาลชนิดหนึ่งที่ได้จากผลไม้และน้ำผึ้ง

หนังสือพิมพ์รายวัน "เดอะ นิว ยอร์ก เดลี่ นิวส์" ที่นครนิวยอร์ก รายงานว่า นักวิจัยได้พบว่า ของว่างอย่างพวกคุกกี้มักจะทำด้วยน้ำตาลกลูโคส ฟรักโตส ทำให้สมองคิดว่าเรายังหิวอยู่ ผู้ผลิตใช้มันผสมเพื่อให้ขนมคงความชื้นและจับกันเป็น ก้อน

แพทย์ที่ปรึกษาในด้านโรคของการกินเกิน ของวิทยาลัยอิมพีเรียล ลอนดอน หมอคาเรล เลอ รูกซ์ กล่าวว่า ฟรักโตสได้ไปรบกวนการส่งสารไปยังสมองเพื่อให้รู้ว่าอ ิ่มเสีย "เมื่อเรากินน้ำตาล ร่างกายของเราจะปล่อยอินซูลิน ซึ่งจะไปแจ้งสมองว่าเรากินพอแล้ว การมีปริมาณอินซูลินระดับสูง เป็นปัจจัยอันหนึ่งที่ทำให้หายหิวลง แต่น้ำตาลอย่างฟรักโตสไปทำให้อินซูลินปฏิบัติตัวต่าง กับที่ทำกับน้ำตาล ธรรมดา สมองจึงไม่ได้รับสารที่บอกว่าเราอิ่มแล้ว".[/b]

บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #49 เมื่อ: พฤษภาคม 25, 2010, 09:50:10 AM »

วิธีหลีกเลี่ยงรังแค
ใครที่ไม่อยากให้ผมมีรังแค วันนี้เรามีวิธีหลีกเลี่ยงการเกิดของรังแคมาบอก



สระผมด้วยน้ำเย็น จะช่วยให้หนังศีรษะไม่แห้งและลอกเป็นขุย ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดรังแค ยังทำให้ผมดูนุ่มสลวย เงางามอีกต่างหาก

หลีกเลี่ยงแสงแดดที่จัด เพราะแสงแดดตัวการสำคัญที่ทำลายเส้นผมและหนังศีรษะ ทำให้หนังศีรษะแห้ง เส้นผมชี้ฟู ขาดน้ำหนัก และไม่เงางาม

นวดบำบัดขจัดรังแค ทุกครั้งที่สระผมควรนวดศีรษะเบา ๆ ซึ่งนอกจากจะช่วยผ่อนคลายความเครียดแล้ว ยังสามารถขจัดเซลล์หนังศีรษะที่ตายให้หลุดลอกได้ง่ายขึ้น

เลือกยาสระผมให้เหมาะสม  ควรใช้ยาสระผมที่ช่วยขจัดรังแคอย่างสม่ำเสมอ และควรล้างแชมพูให้สะอาดทุกครั้งหลังสระผม เพื่อขจัดสารเคมีที่ตกค้างบนหนังศีรษะ

รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ควรรับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบของธาตุสังกะสี วิตามินบี ซี และอี อยู่เสมอ เพื่อใช้ในการบำรุงหนังศีรษะ

ถ้าไม่อยากมีรังแค ก็ลองนำวิธีที่แนะนำไปปฏิบัติตามกันดูได้.


ที่มาข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #50 เมื่อ: มิถุนายน 08, 2010, 06:44:08 PM »




หัวเราะบำบัดสร้างสุขให้ครอบครัว/ดร.สุพาพร เทพยสุวรรณ 
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 มิถุนายน 2553 08:54 น.
 
   
 

ปัจจุบันนี้การ หัวเราะบำบัด (Laugh Therapy) เป็นศาสตร์แขนงใหม่ในการบำบัดโรคภัยไข้เจ็บที่นิยมใช ้กันอย่างแพร่หลายใน ประเทศอินเดีย ประเทศอังกฤษ และประเทศสหรัฐอเมริกา สำหรับเด็กๆ แล้วเสียงหัวเราะเป็นเหมือนเสียงสวรรค์ที่ผู้ใหญ่อยา กได้ยิน โดยเฉลี่ยแล้วเด็กๆ หัวเราะ มากกว่า 300 ครั้งต่อวัน ในขณะที่ผู้ใหญ่หัวเราะประมาณ 15 ครั้งต่อวัน

ทั้ง นี้เพราะโลกของเด็กๆ สวยงาม น่ารัก ไร้เดียงสา ในขณะที่โลกของผู้ใหญ่นั้นเต็มไปด้วยปัญหาและความเคร ียด โรคภัยไข้เจ็บที่มีอยู่ในโลกปัจจุบัน มากกว่า 70% เกิดขึ้นจากความเครียด เช่นโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ นอนไม่หลับ ปวดหัว (ไมเกรน) ภูมิแพ้ ความวิตกกังวลต่างๆ เป็นต้น ดังนั้นการขาดเสียงหัวเราะในชิวิตส่งผลให้เป็นอันตรา ยต่อร่างกาย ชิวิต และจิตใจได้

ประโยชน์มากมายจากการหัวเราะ คือ

• การหัวเราะช่วยลดความดันโลหิต
• ช่วยลดฮอร์โมนความเครียด
• ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
• ช่วยสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกาย
• ช่วยให้ร่างกายผลิตสารเอ็นโดฟินซึ่งเป็นสารแห่งความส ุข
• เป็นยาแก้ปวดที่ร่างกายสร้างขึ้นโดยธรรมชาติ
• ช่วยให้ปอดแข็งแรง
• ช่วยให้หัวใจมีการสูบฉีดโลหิตที่ดี
• ช่วยให้มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
• การหัวเราะสร้างเสน่ห์
• ช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดี
• ช่วยเปิดสมองให้แจ่มใส

   
 
นอกจากนี้สำหรับเด็กแล้ว การที่เด็กได้ยิ้มและหัวเราะเป็นการช่วยเสริมสร้างพั ฒนาการทางด้านอารมณ์และ สังคมของเด็กได้ดีอีกวิธีหนึ่งด้วย คุณพ่อคุณแม่สามารถสร้างเสียงหัวเราะให้ลูกด้วยวิธีง ่ายๆ ดังนี้

1. หอมพุง และเอาปากเป่าที่พุงลูก ทำเสียงแปลกๆ เด็กเล็กๆ จะชอบมาก ยิ่งถ้าเป็นเสียงผายลมเด็กๆ จะยิ่งหัวเราะคิกคัก

2. แกล้งจาม เด็กเล็กๆ ชอบฟังเสียงแปลกๆ แต่ไม่น่ากลัว ดังนั้นการแกล้งจามจึงเป็นวิธีหนึ่งที่เรียกเสียงหัว เราะของเด็กได้

3. เล่นเกม "จ๊ะเอ๋" เป็นการเล่นที่ง่ายๆ และเด็กชอบมาก

4. ทำหน้าและท่าทางตลกๆ กับลูก เช่น ผลัดกันทำหน้าเหมือนกบ เลียนแบบท่าเดินของเป็ด ซึ่งการเล่นแบบนี้จะทำให้เด็กชอบและสนุกสนานมากทีเดี ยว

5. กระดกลิ้น เป่าปาก ประสานสายตามองเด็กๆ ด้วยความอ่อนโยน และยิ้มกับลูก

6. เอาของเล่นหรือตัวสัตว์วางที่หัว เมื่อเด็กๆ เริ่มให้ความสนใจแล้ว ทำท่าตลกๆ ทำเหมือนไม่รู้ว่าอะไรอยู่ที่หัว และในที่สุดพูดว่าอยู่นี่เอง

7. เต้นรำกับลูก เด็กบางคนชอบโยกตัวเต้นรำกับคุณพ่อคุณแม่ แต่ต้องระวังอย่าเขย่า หรือสั่นศรีษะลูกเพราะจะกระทบกระเทือนสมองได้

8. เด็กบางคนชอบให้คุณพ่อ โยนแล้วรับ แต่ต้องระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยเป็นสำคัญ

9. เล่นเกมปูไต่หลังหรือจั๊กจี๊ เอวและเท้า เด็กๆ ส่วนใหญ่ชอบเล่นเกมนี้มาก แต่ต้องสังเกตความชอบของเด็กด้วย เด็กบางคนไวต่อการสัมผัส และอาจเกิดผลเสียได้

10. จับเท้าเล็กๆ ของลูกแล้วแกล้งเอาเข้าปาก ทำเสียงตลกๆ ที่ไม่น่ากลัว ง่ำ ง่ำ ง่ำ ง่ำ จะเรียกเสียงหัวเราะของเด็กได้เช่นกัน

11. หากเป็นเด็กโต ที่รู้เรื่องแล้วอาจแกล้งพูดประโยคผิดๆ เช่น เอารองเท้ามาใส่นมให้แม่หน่อย หรือเอาก้อนหินมาใส่กะทะ เป็นต้น เด็กจะหัวเราะแล้วยิ้มพร้อมทั้งแก้ประโยคให้คุณพ่อคุ ณแม่

12. แต่งตัวตลกๆ ให้ลูกเห็น เช่น เอารองเท้ามาใส่ที่มือ เอาถุงเท้าใส่ที่แขน เอากางเกงมาสวมที่ศีรษะ เป็นต้น เด็กจะรีบบอกทันทีว่า "ไม่ได้" แล้วหัวเราะคิกคัก

เสียง หัวเราะของเด็กๆ เป็นเหมือนเสียงสวรรค์ที่สร้างความสุขให้กับทุกคนในค รอบครัว ทั้งยังเป็นเหมือนยาวิเศษที่ช่วยผ่อนคลายความเหนื่อย อ่อนจากการทำงานของคุณ พ่อคุณแม่ให้หายไปในพริบตาอีกด้วย ดังนั้นวันนี้เรามาสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะในครอ บครัวกันเถอะค่ะ [/b]
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #51 เมื่อ: มิถุนายน 12, 2010, 10:24:09 PM »

ประโยชน์จากยอดผัก




ทราบหรือไม่ว่า ยอดผักที่รับประทานกันเป็นประจำ มีประโยชน์หลากหลาย วันนี้เดลินิวส์ออนไลน์มีเรื่องนี้มาฝาก...

- ผักบุ้ง ยอดผักบุ้งเป็นที่รวมของวิตามินเอ วิตามินบี 1 บี 2 วิตามินซี และใยอาหาร บำรุงสายตา

- ผักกระเฉด มีวิตามิน ทั้งธาตุเหล็ก แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินซี ที่สำคัญยังมีเบต้าแคโรทีน อาหารของผิวสวยรวมอยู่ด้วย

- ชะอม อุดมไปด้วยโปรตีนและวิตามินซี

- ยอดกระถิน มีเบต้าแคโรทีน ที่ต่อต้านโรคมะเร็ง และผู้หญิงที่กำลังมีรอบเดือน ถ้ากินกระถินแล้วจะได้ธาตุเหล็กกลับไปสร้างเม็ดเลือด ได้อีก

- ตำลึง อุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก วิตามินซี

รู้อย่างนี้แล้ว หันมารับประทานยอดผักชนิดต่าง ๆ กันดีกว่าเพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง.
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #52 เมื่อ: กรกฎาคม 16, 2010, 07:04:16 PM »

อิสราเอลทำมือถือเบาสุดในโลก ขายครั้งแรกที่อังกฤษ

 

เปิด ตัวมือถือน้ำหนักแค่ 43 กรัม กินเนสบุ๊กรับรองเป็นมือถือที่เบาที่สุดในโลก วางขายครั้งแรกในอังกฤษ หลายเสียงวิจารณ์ "เครื่องเบาแต่ราคาไม่เบา"...

แหล่ง ข่าวในอังกฤษรายงานเมื่อวันที่ 16 ก.ค. ว่า บริษัทผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือในอิสราเอล เปิดตัวโทรศัพท์มือถือน้ำหนักเบาที่สุดในโลก "Modu" ด้วยน้ำหนักเพียง 43 กรัม ขนาด 72.1x 37.6 x 7.8 มม. โดยได้รับการรับรองจากกินเนสบุ๊ก ออฟ เวิลด์ เรคคอร์ด ให้เป็นโทรศัพท์มือถือที่มีน้ำหนักเบาที่สุดในโลก

โทรศัพท์ รุ่นดังกล่าว สามารถเลือกฟังชั่นการทำงานได้โดยเลือกเป็นเพียงโทรศ ัพท์ หรือเพิ่มลูกเล่นเป็นกล้องถ่ายภาพ หรือเครื่องมือนับจำนวนก้าวเดิน เป็นต้น ภายในเครื่องมาพร้อมหน่วยความจำ 2GB หน้าจอ OLED ขนาด 1.3 นิ้ว มีบลูทูธ และ MP3 ซึ่งขณะนี้วางขายออนไลน์แล้ว ในเว็บไซต์ของ Purely Gadgets ตัวแทนค้าปลีกรายใหญ่ในอังกฤษ พร้อมเสริมโปรโมชั่นซิมการ์ดฟรี

สำหรับ ราคาสนนอยู่ที่ 129.99 ปอนด์ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 6,460 บาท ซึ่งหากอยากเพิ่มหน้ากาก สำหรับเสริมฟังก์ชั่นอื่น ๆ ต้องบวกอีกราว 30-50 ปอนด์ (1,490 - 2,485 บาท) จึงทำให้มีเสียงวิจารณ์ว่า ราคาที่แพงเกินควร และไม่สมเหตุสมผลเมื่อเทียบกับฟังก์ชั่นการทำงานที่ม ีอยู่ค่อนข้างจำกัด

พร้อมกันนี้ Modu ยังทำการเปิดตัวพร้อมกับๆ Modu รุ่น T ซึ่งได้ชื่อว่าโทรศัพท์มือถือระบบหน้าจอสัมผัสที่เล็ กที่สุดในโลกอีกด้วย.
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #53 เมื่อ: กรกฎาคม 21, 2010, 09:51:53 AM »




GOLD



คุณสมบัติของทองคำ
มีความแวววาวอยู่เสมอ ทองคำไม่ทำปฏิกริยากับออกซิเจนดังนั้นเมื่อสัมผัสถูก อากาศสีของทองจะไม่หมองและไม่เกิดสนิม
มีความอ่อนตัว ทองคำเป็นโลหะที่มีความอ่อนตัวมากที่สุด ด้วยทองเพียงประมาณ 2 บาท เราสามารถยืดออกเป็นเส้นลวดได้ยาวถึง 8 กิโลเมตร หรืออาจตีเป็นแผ่นบางได้ถึง 100 ตารางฟุต
เป็นตัวนำไฟฟ้าที่ดี ทองคำเป็นโลหะชนิดหนึ่งที่สามารถนำไฟฟ้าได้ดี
สะท้อนความร้อนได้ดี ทองคำสามารถสะท้อนความร้อนได้ดี ได้มีการนำทองคำไปฉาบไว้ที่หน้ากากหมวกของนักบินอวกา ศเพื่อป้องกันรังสีอินฟราเรด

หน่วยน้ำหนักของทองคำ
กรัม : ใช้กันเป็นส่วนใหญ่ ถือว่าเป็นหน่วยสากล


ทรอยเอานซ์ : ใช้ในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ เช่น อังกฤษ สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย
โทลา : ใช้กันทางประเทศแถบตะวันออกกลาง อินเดีย ปากีสถาน
ตำลึง : ใช้ในประเทศที่ใช้ภาษาจีน เช่น จีน ไต้หวัน ฮ่องกง
บาท : ใช้ในประเทศไทย
ชิ : ใช้ในประเทศเวียตนาม


การแปลงน้ำหนักทองคำ
ทองคำความบริสุทธิ์ 96.5% (มาตรฐานในประเทศไทย)
ทองรูปพรรณ น้ำหนัก 1 บาท เท่ากับ 15.16 กรัม
ทองคำแท่ง น้ำหนัก 1 บาท เท่ากับ 15.244 กรัม
ทองคำความบริสุทธิ์ 99.99%
ทองคำ 1 กิโลกรัม เท่ากับ 32.1508 ออนซ์
ทองคำ 1 ออนซ์ เท่ากับ 31.104 กรัม




รายชื่อผู้ผลิตทองรูปพรรณ ที่ผลิตทองรูปพรรณได้มาตรฐานและได้รับรอง โดย
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) ประจำปี 2550 - 2552


ลำดับ ชื่อ ที่อยู่ ถนน แขวง เขต จังหวัด โทรศัพท์


1 บริษัท ห้างขายทองจินฮั้วเฮง จำกัด 295-297 เยาวราช สัมพันธวงศ์ สัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ 02 224-0077

2 บริษัท ทอง โกลด์สมิท จำกัด 121/7-9  พาหุรัด วังบูรพาภิรมย์ พระนคร กรุงเทพฯ 02 6236996

3 ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างทองจิบฮุย 203 พาหุรัด วังบูรพาภิรมย์ พระนคร กรุงเทพฯ 02 225-6511-3

4 บริษัท หลูชั่งเฮงเฮงฮวด จำกัด 106-108 จักรวรรดิ จักรวรรดิ สัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ 02 221-5628

5 บริษัท ห้างค้าทอง หลูชั้งฮวด (2498) จำกัด 112-114 จักรวรรดิ จักรวรรดิ สัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ 02 222-5582

6 ห้างหุ้นส่วน สามัญนิติบุคคล ชั่งเซ้ง 173 จักรวรรดิ จักรวรรดิ สัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ 02 221-3322

7 บริษัท ชมพู ( บ้วนหลี ) จำกัด 54-56 จักรวรรดิ สัมพันธวงศ์ สัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ 02 221-2557

8 ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างทองเอ็งฮงฮวด 34 - 36 จักรวรรดิ สัมพันธวงศ์ สัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ 02 222-2862

9 บริษัท จูเจียบเซ้ง จำกัด 10-14 จักรวรรดิ สัมพันธวงศ์ สัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ 02 221-7521

10 ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างทอง คุณฮั้ว (หล่อ) 1/10-12 ตรีเพชร วังบูรพาภิรมย์ พระนคร กรุงเทพฯ 02 224-8065

11 ห้างหุ้นส่วนจำกัด เล่งหงษ์ 330 เยาวราช จักรวรรดิ สัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ 02 224-5237

12 บริษัท ห้างทองซินเจี้ยเชียง จำกัด 121/2-3  พาหุรัด วังบูรพาภิรมย์ พระนคร กรุงเทพฯ 02 623-9787

13 ห้างทองเพชรทองคำ 24-24/1 บ้านหม้อ วังบูรพาภิรมย์ พระนคร กรุงเทพฯ 02 225-4915-6

14 บริษัท แต้จิบฮุย จำกัด 102-104 บ้านหม้อ วังบูรพาภิรมย์ พระนคร กรุงเทพฯ 02 221-5428

15 บริษัท ซินคี่เชียงค้าส่ง จำกัด 143 บ้านหม้อ วังบูรพาภิรมย์ พระนคร กรุงเทพฯ 02 222-4396

16 บริษัท ขายทองแต้จิ้งเส็ง พานิชย์ จำกัด 49 เจริญกรุง วังบูรพาภิรมย์ พระนคร กรุงเทพฯ 02 221-7972

17 ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างทองเอกเส็งเฮง 19/6-7 เจริญกรุง วังบูรพาภิรมย์ พระนคร กรุงเทพฯ 02 221-4294

18 ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างทองน่ำเชียง 85-87 เจริญกรุง วังบูรภาพิรมย์ พระนคร กรุงเทพฯ 02 221-1202

19 ห้างหุ้นส่วนจำกัด เลี่ยงเส็งเฮงพาณิชย์ 63-63/1 พาหุรัด วังบูรพาภิรมย์ พระนคร กรุงเทพฯ 02 221-2544

20 บริษัท ประพันธ์ (กิมฮวด) จำกัด 97 พาหุรัด วังบูรพาภิรมย์ พระนคร กรุงเทพฯ 02 623-8001-2

21 ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างทองไท้เส็งเฮง 113 พาหุรัด วังบูรพาภิรมย์ พระนคร กรุงเทพฯ 02 222-9499

22 บริษัท ห้างขายทองเลี่ยงเซ่งเฮง จำกัด 303 เยาวราช สัมพันธวงศ์ สัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ 02 224-8139

23 บริษัท ที.พี.เฮช (๒๐๐๔) จำกัด 316 เยาวราช สัมพันธวงศ์ สัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ 02 224-6691

24 ห้างหุ้นส่วนจำกัด จินชอง 83 เยาวราช จักวรรดิ สัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ 02 222-5700

25 ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างขายทองฮั่วเซ่งเฮง 401-407 เยาวราช สัมพันธวงศ์ สัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ 02 225-0202

26 บริษัท ค้าทองโซวเซ่งเฮง จำกัด 456 เยาวราช สัมพันธวงศ์ สัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ 02 222-9249

27 บริษัท ทอง 24 กะรัต จำกัด 245-247 เยาวราช สัมพันธวงศ์ สัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ 02 225-9457

28 บริษัท ห้างทอง ตั้งมุ่ยกวง จำกัด 255/1  เจริญกรุง บ้านบาตร ป้อมปราบ กรุงเทพฯ 02 225-5151

29 ห้างทองย่งฮะฮวดซุ่นกี่ 213-215 เจริญกรุง บ้านบาตร ป้อมปราบ กรุงเทพฯ 02 221-0335

30 ห้างทองโอ้วไจ้เซ้ง 254-256 เจริญกรุง สัมพันธ์วงศ์ สัมพันธ์วงศ์ กรุงเทพฯ 02 223-0081

31 บริษัท ห้างทองลายกนก จำกัด 115/10-13 เจริญกรุง วังบูรพาภิรมย์ พระนคร กรุงเทพฯ 02 222-5145

32 บริษัท ห้างทอง เจียบเซ่งเฮง จำกัด 56 ตรีเพชร วังบูรพาภิรมย์ พระนคร กรุงเทพฯ 02 225-6520

33 ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างทองพุดเซ้ง 294 ตีทอง วังบูรพาภิรมย์ พระนคร กรุงเทพฯ 02 225-9750

34 บริษัท วิทเฮงหลี 2003 จำกัด 62 ตรีเพชร วังบูรพาภิรมย์ พระนคร กรุงเทพฯ 02 225-5522

35 ห้างหุ้นส่วนจำกัด จิ้นไถ่เฮง ( แม่ไฉน ) 412-414 วรจักร บ้านบาตร ป้อมปราบฯ กรุงเทพฯ 02 223-1787

36 บริษัท บ้านช่างทอง จำกัด 855 มหาไชย วังบูรพาภิรมย์ พระนคร กรุงเทพฯ 02 623-7991

37 ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทองเล้งหงษ์ 151 จักรวรรดิ สัมพันธวงศ์ สัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ 02 222-9745

38 บริษัท ห้างขายทองโง้วชั้งเซ้ง จำกัด 156 จักรวรรดิ จักรวรรดิ สัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ 02 622-9572

39 ห้างทอง เจี้ยฮั้ว 97 เยาวราช สัมพันธวงศ์ สัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ 02 223-5354

40 ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างทองก้วยเซ่งเฮง 65 บูรพา วังบูรพาภิรมย์ พระนคร กรุงเทพฯ 02 226-1222

41 ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างทองเคว่งหลี 85-87 บูรพา วังบูรพาภิรมย์ พระนคร กรุงเทพฯ 02 221-0912

42 ห้างทอง อั้งเซ่งเฮง 400-402 บริพัตร สัมพันธวงศ์ สัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ 02 622-6330

43 ห้างทอง ลี้น่ำฮวด 47 เจริญกรุง วังบูรพาภิรมย์ พระนคร กรุงเทพฯ 02 222-6900

44 ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างทองบ้วนฮั่วล้ง 608 เจริญกรุง สัมพันธวงศ์ สัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ 02 2213452

45 ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างค้าทองยู่หลงกิมกี่ 478-488 เจริญกรุง สัมพันธวงศ์ สัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ 02 222-1427

46 บริษัท ห้างขายทองทองใบเยาวราช ( 1988 ) จำกัด 374-378 เยาวราช จักรวรรดิ สัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ 02 222-4623

47 ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างขายทองโต๊ะกังเยาวราช 320 เยาวราช สัมพันธวงศ์ สัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ 02 223-5884-6

48 ห้างหุ้นส่วนจำกัด ตั้งโต๊ะกัง 345 วาณิช1 จักรวรรดิ สัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ 02 224-2422

49 คณะบุคคล ห้างทอง ทองไพโรจน์ ชัยภูมิ 657 จักรเพชร วังบูรพาภิรมย์ พระนคร กรุงเทพฯ 02 226-1885

50 บริษัท เจ.ที.เอช. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด  2-4 ตรีเพชร วังบูรพาภิรมย์ พระนคร กรุงเทพฯ 02 623-8754-6

51 ห้างหุ้นส่วนจำกัด แกรนด์ ดี เอส 252 จรัญสนิทวงศ์ อรุณอมรินทร์ บางกอกน้อย กรุงเทพฯ 02 884-5220-1

52 บริษัท เจริญช่างทอง จำกัด 166-168 เจริญกรุง สัมพันธวงศ์ สัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ 02 225-5095

53 บริษัท เอี่ยเส็งเฮง (วงเวียนใหญ่) จำกัด 55-57 อินทรพิทักษ์ บางยี่เรือ ธนบุรี กรุงเทพฯ 02 465-8112

54 บริษัท ห้างทองเตียฉ่งเฮง จำกัด 24/8 เจริญกรุง วังบูรพา พระนคร กรุงเทพฯ 02 222-7217

55 ห้างหุ้นส่วนจำกัด เล่งหงษ์เยาวราช ( 2529 ) 318-328 เยาวราช จักรวรรดิ สัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ 02 224-5345

56 บริษัท ห้างขายทองทองใบเยาวราช (สี่แยกวัดตึก) จำกัด 152-154-94 เยาวราช จักรวรรดิ สัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ 02 221-3776

57 บริษัท ไฟน์โกลด์ จำกัด 107 พาหุรัด วังบูรพาภิรมย์ พระนคร กรุงเทพฯ 02 224-9812

58 บริษัท สยามโกลด์แกลอรี่ จำกัด 310 เยาวราช จักรวรรดิ สัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ 02 622-5303

59 ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างทองย่งใช้ฮวด 4 เยาวราช วังบูรพาภิรมย์ พระนคร กรุงเทพฯ 02 623-6900

60 บริษัท ห้างทองตั้งเฮงล้ง จำกัด 91 เจริญกรุง วังบูรพาภิรมย์ พระนคร กรุงเทพฯ 02 622-2337

61 บริษัท ทองเปียเซ้ง จำกัด 210 เจริญกรุง สัมพันธวงศ์ สัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ 02 222-4366

62 ห้างทองไล่ฮี่เซ้ง 340-342 บริพัตร บ้านบาตร ป้อมปราบ กรุงเทพฯ 02 222-5315

63 บริษัท ทองเล่งหงษ์กรุ๊ป จำกัด 47 เยาวราช สัมพันธวงศ์ สัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ 02 221-5111

64 บริษัท แพรนด้า จิวเวลรี่ จำกัด(มหาชน) 333 บางนา-ตราด บางนา บางนา กรุงเทพฯ 02 361-3311

65 บริษัท จิบเฮง สี่กั๊ก จำกัด 1/19/2002 เจริญกรุง วังบูรพา พระนคร กรุงเทพฯ 02 222-9544

66 บริษัท ห้างขายทองนำเกียเฮง จำกัด 59 เจริญกรุง วังบูรพา พระนคร กรุงเทพฯ 02 221-4055

67 บริษัท ห้างทองหยงเตียน จำกัด 7/1 ธรรมนูญวิถี หาดใหญ่ หาดใหญ่ สงขลา 074 355-559

68 ห้างทองตุ้นเฮงหลี 27/1 พระราม 6 ทับเที่ยง เมือง ตรัง 075 222-711

69 ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างทองทองสวย 600/24-25 หน้าเมือง ในเมือง เมือง ขอนแก่น 043 320-758-9

70 บริษัท ไดนามิค ดี-พลัส จำกัด 25-25/1  กลางเมือง เมืองเก่า เมือง ขอนแก่น 043 270-976

71 ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างเพชรทองกอบกุล 405/14-15 อภิบาลบัญชา ในเมือง เมือง นครพนม 042 520-783
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 21, 2010, 09:54:59 AM โดย nujai » บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #54 เมื่อ: กรกฎาคม 21, 2010, 10:25:33 AM »



คนเรานั้นเมื่อหลับนอนอาจจะมีนิมิต (ฝัน) มาปรากฏในฝันไปในเรื่องต่างๆ อาจจะมีทั้งให้คุณและเกิดโทษจริงบ้างไม่จริงบ้าง อาจจะมีทั้งให้คุณและเกิดโทษจริงบ้างไม่จริงบ้าง นิมิตบอกโชคลาภบ้าง บอกลางร้ายให้รู้ล่วงหน้าก็มี

ต้นเหตุของความฝัน (เพราะเหตุใดคนเราถึงฝัน) 4 ประการ
1.บุรพนิมิต
ความฝันเกิดจากเรื่องราวในอดีตมาปรากฏให้คนนั้นฝันไป มักเป็นเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นจริงมาปรากฏบอกลางหรือ โชคลาภ
2.จิตนิวรณ์
ความฝันเกิดเพราะมีอารมณ์จดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ความฝันอย่างนี้เป็นเพราะอารมณ์จิตใจของผู้ฝันได้ผูก พันกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่อย่างมากตลอดเวลา เมื่อหลับไปก็เกิดความฝันในสิ่งนั้น ในเรื่องนั้น ที่ผู้ฝันฝักใฝ่อยู่ หรือได้พบเห็นแล้วจดจำโดยไม่มีวันลืม
3.เทพสังหรณ์
ความฝันเกิด ขึ้นเพราะเทวดาบันดาล ความฝันเช่นนี้เป็นเพราะเทวดาผู้ปกปักรักษาคุ้มครองธ รรมะได้ดลบันดาลให้ผู้ฝันเกิดความฝันไป เพื่อสำแดงแจ้งเหตุการณ์ล่วงหน้า โดยเฉพาะเรื่องมงคล แต่ถ้าเป็นฝันร้ายเรื่องร้ายก็เป็นเหมือนการตักเตือน ผู้ฝันให้ระวังภัยและป้องกัน
4.ธาตุโขภะ
ความฝันเกิดเพราะกินมาก นอนมาก จนท้องไส้อืด ท้องขึ้นท้องเฟ้อ ธาตุไม่ย่อย เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เวลานอนหลับไม่สนิทจึงฝันไปไ ร้สาระไม่มีมูลความจริง หรือให้ประโยชน์แต่อย่างใด
 
     
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #55 เมื่อ: กรกฎาคม 21, 2010, 10:28:19 AM »

ฝันวันอาทิตย์
ท่านฝันคืนวันอาทิตย์ ดีร้ายของความฝันนั้นได้แก่คนทั้งหลาย (คนอื่นๆ)


ฝันวันจันทร์
ท่านฝันคืนวันจันทร์ ดีร้ายของความฝันนั้นได้แก่วงศ์ญาติของท่าน

ฝันวันอังคาร
ท่านฝันคืนวันอังคาร ดีร้ายของความฝันนั้นได้แก่ พ่อแม่พี่น้องของท่านเอง


ฝันวันพุธ
ท่านฝันคืนวันพุธ ดีร้ายของความฝันนั้นได้แก่ บุตรและภรรยาหรือสามีของท่าน



ฝันวันพฤหัสบดี
ท่านฝันคืนวันพฤหัสบดี ดีร้ายของความฝันนั้นได้แก่ ครู อาจารย์ และมิตรสหายของท่าน


ฝันวันศุกร์
ท่านฝันคืนวันศุกร์ ดีร้ายของความฝันนั้นได้แก่ สัตว์เลี้ยงของท่าน



ฝันวันเสาร์
ท่านฝันคืนวันเสาร์ ดีร้ายของความฝันนั้นได้แก่ ตัวท่านเอง
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #56 เมื่อ: กรกฎาคม 21, 2010, 10:29:43 AM »

พระนันทาจารย์ ปราชญ์องค์หนึ่งในพระพุทธศาสนา ผู้แต่งคัมภีร์สารัตถะสังคหะ และเป็นผู้ยืนยันว่า พระอรหันต์ไม่ฝันด้วยเหตุผลดังว่านั้น ได้ระบุมูลเหตุของความฝันไว้ เป็นข้อคิดอยู่ 4 ประการ คือ
ความฝัน เกิดจากธาตุกำเริบ กล่าวคือร่างกายไม่ปกติครั้นหลับลงจึงฝันไปในรูปต่าง ๆ
ความฝันเกิดจากดวงจิตที่ฝังพะวง หรือพัวพันอยู่กับสิ่งหนึ่งก่อนหน้าจะหลับ จึงเก็บเอาสิ่งหนึ่งก่อนหน้าจะหลับ จึงเก็บเอาสิ่งนั้นมาฝัน
เกิดจากอิทธิฤทธิ์ของเทวดา เพราะเทวดาต้องการให้โทษหรือให้คุณ
ฝันโดยเป็นบุรุพนิมิต คือบอกให้รู้ล่วงหน้าว่าจะมีเหตุดีหรือร้ายอย่างหนึ่ งอย่างใดขึ้น
คัมภีร์อธิบายเรื่องฝันของพระนันทาจารย์เล่มนี้ ครั้งหนึ่งได้เคยใช้เป็นหลักสูตร ของตำราทางพระพุทธศาสนาแต่ต่อมาสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรสได้ทรงยกเลิกและใช้เรื่องอื่นแท น

อย่างไรก็ตาม ความฝันก็เป็นเรื่องที่บรรดานักปราชญ์หลายชาติได้ให้ ข้อคิดเห็นไว้ต่างๆ นาๆ และไม่ถึงกับจะลงความเห็นว่า ความฝันเป็นเรื่องไร้สาระไปเสียทีเดียวนัก เพราะนักปราชญ์บางคนก็ถึงกับลงทุนค้นคว้า ถึงสมุฏฐาน หรือที่มาของความฝันกันอย่างเคร่งครัด โดยถือเอาว่า ความฝันเป็นจิตวิทยาอย่างหนึ่งของคนเรา ที่จะจ้องศึกษาไว้ จนถึงกับทำเป็นตำรา หรือวิชาความฝันออกมาด้วยกันหลายเล่ม เป็นตำราที่เขียนขึ้นโดยนักปราชญ์ หรือนักจิตวิทยาหลายชนิด และดูเหมือนว่าวิชาเรื่องความฝันนี้ จะเป็นตำราที่เก่าแก่กว่าวิชาอื่นๆ ทั้งหลายในโลกก็ว่าได้

นักปราชญ์ชาวฝรั่งเศส ผู้มีชื่อเสียงท่านหนึ่งกล่าวว่า “วิชาความฝันนั้น เป็นวิชาเก่าเท่ากับตัวโลกเอง” คำกล่าวเช่นนี้ ไม่ผิดนัก เพราะนักปราชญ์หลายคนยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า ความฝันเป็นสิ่งที่มนุษย์รู้จัก และเริ่มสนใจมาตั้งแต่โบราณกาล และสืบทอดความสนใจในการค้นคว้า มาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ ซึ่งแทบจะกล่าวได้ว่า ไม่มีวิชาใด ที่จะมีผู้ค้นคว้าหาความรู้กันมาก เท่ากับวิชาความฝันนี้

เพราะตามบันทึกของ ศาสตร์จารย์ซิกมันต์ ฟรอยด์ นักปราชญ์ชาวออสเตรียนผู้มีชื่อเสียง ซึ่งเป็นทั้งนักจิตวิทยา และแพทย ์ได้ใช้เวลาในการค้นคว้าหาความจริงในเรื่องความฝันนี ้ โดยใช้การรวบรวมเรื่องควมฝันนี้เรื่องเดียวว่า มีหนังสือวิชาความฝันนี้ถึง 700 กว่าเล่ม เป็นภาษาต่างๆ ซึ่งมีภาษาเยอรมัน,ฝรั่งเศส, อังกฤษ, อิตาเลียน,สเปน,ลาติน,รัสเซีย, และฯลฯ และดูเหมือนว่า เยอรมันจะมีหนังสือประเภทนี้ออกมามากที่สุด รองลงไปก็คือ ฝรั่งเศส
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #57 เมื่อ: สิงหาคม 03, 2010, 09:11:14 PM »

อย.เตือน ล้างคอนแทคเลนส์ในตา อาจติดเชื้อได้


เลขา อย. ออกโรงเตือน วัยรุ่น หยอดน้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ในดวงตา อาจเกิดอาการติดเชื้อได้

          นายแพทย์พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ( อย. ) เตือนวัยรุ่นที่นิยมใช้น้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ หยอดตาทำความสะอาด ขณะใช้งานคอนเทคเลนส์อยู่ในดวงตา ซึ่งเป็นวิธีที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่นในขณะนี้ เนื่องจากเห็นว่าสะดวก รวดเร็ว ว่าไม่ควรกระทำ เพราะแม้น้ำยาจะไม่ทำอันตรายต่อดวงตา แต่สิ่งสกปรกที่หมักหมมอยู่ในดวงตาของผู้ใช้ ก็ไม่ได้ถูกล้างออก ทั้งยังทำให้เสี่ยงที่จะทำให้เกิดการติดเชื้อได้ ทางที่ดีควรจะถอดมาล้างตามปกติ จึงจะปลอดภัยกว่า

          อย่างไรก็ดี สำหรับอีก 1 วิธี คือ การนำน้ำเกลือมาล้างดวงตา ก็จะได้ผลเช่นเดียวกัน ถึงแม้จะไม่เป็นอันตรายต่อดวงตา แต่ก็ไม่สามารถที่จะล้างสิ่งสกปรกออกได้เช่นกัน
 
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #58 เมื่อ: สิงหาคม 13, 2010, 09:04:20 PM »

  วิธีใช้พัดลมแบบประหยัดพลังงาน



บ้านไหนที่อยากใช้พัดลมแบบประหยัดพลังงาน วันนี้เดลินิวส์ออนไลน์มีวิธีมาแนะนำ

- ควรใช้พัดลมตั้งพื้นหรือตั้งโต๊ะแทนพัดลมติดเพดานเพร าะจะกินไฟน้อยกว่าพัดลมติดเพดานประมาณครึ่งหนึ่ง

- อย่าเปิดพัดลมทิ้งไว้เมื่อไม่มีคนอยู่

- เมื่อเลิกใช้แล้วควรปิดพัดลมและถอดปลั๊กออก

- ปรับระดับความเร็วลมพอสมควร

- เลือกขนาดให้เหมาะสมกับการใช้งาน

- ควรเปิดหน้าต่างใช้ลมธรรมชาติแทนถ้าทำได้

เพียงเท่านี้ก็สามารถใช้พัดลมแบบประหยัดพลังงานได้แล้ว
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #59 เมื่อ: สิงหาคม 13, 2010, 09:06:48 PM »

  วิธีป้องกันคราบสีเหลืองบนปกเสื้อ



ใครที่ไม่อยากให้เสื้อตัวโปรดเกิดคราบสีเหลืองที่ปกเ สื้อ วันนี้เดลินิวส์ออนไลน์มีวิธีป้องกันคราบสีเหลืองนั้ นมาฝาก

โดยใช้แป้งแบบผงที่ใช้โรยตัวเด็ก นำมาทาก่อนที่จะใส่เสื้อตัวนั้น เพราะว่าคราบสกปรกต่าง ๆ เกิดจากเหงื่อไคลและน้ำมันที่อยู่ บนผิวหนังของคน คราบสกปรกพวกนี้จะซึมเข้าไปเกาะอยู่ในเนื้อผ้าที่สวม ใส่

นอกจากนั้นก็รวมถึงพวก ขี้ฝุ่นและผงต่าง ๆ ที่อยู่ในอากาศอีกด้วย ฉะนั้น ถ้าโรยแป้งลงไปดักเอาไว้ก่อนที่ สิ่งสกปรกพวกนี้จะมาเกาะบนเนื้อผ้า สิ่งสกปรกต่าง ๆ จะมาเกาะอยู่ที่แป้งทั้งหมด และเมื่อนำไปซัก แป้งเด็กนั้น จะมีคุณสมบัติพิเศษที่ละลายง่ายเมื่อโดนน้ำ ดังนั้นคราบสกปรกที่ติดอยู่ที่แป้ง จึงละลายออกไปได้ง่าย

เพียงเท่านี้คราบสีเหลืองก็จะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป.
บันทึกการเข้า

finghting!!!
Gold Price today, Gold Trend Price Prediction, ราคาทองคํา, วิเคราะห์ทิศทางทองคํา
   

images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary ---------------------Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. For more information on Moore Research products and services click here. --- http://www.mrci.com ---------- ---------------------------------------------รูปกราฟแสดงราคาทองในอดีตปี 1974-1999 ของ Moore Research Center, Inc. แสดงฤดูกาลที่ราคาทองขึ้นสูงสุดและตําสุด เอาแบบคร่าวๆ เส้นนําตาลหรือนําเงินก็ใกล้เคียงกัน เส้นนําตาลเฉลี่ย 15 ปี เส้นนําเงินเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุดของเส้นนําตาล หรือเฉลี่ย 15 ปี ในเดือน ปลายเดือน เมษ และปลายเดือน สค ต่อต้นเดือน กย[/color] สูงสุดในเดือน กพ กับ พย / ส่วนเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุด ต้น กค กับ ปลาย สค และราคาสูงสุดในเดือน กพ และ กลางเดือน ตค ----- แค่ดูคร่าวๆ เป็นแนวทาง อย่ายึดมั่นว่าจะต้องเป็นตามนี้ ข้างล่างเป็นกราฟราคานํามัน ตามฤดูกาล จาก Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary
 บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 ... 42   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: