Forex-Currency Trading-Swiss based forex related website. Home ----- กระดานสนทนาหน้าแรก ----- Gold Chart,Silver,Copper,Oil Chart ----- gold-trend-price-prediction ----- ติดต่อเรา
หน้า: 1 ... 38 39 [40] 41 42   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: Sa La Na Roo  (อ่าน 75049 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 7 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #585 เมื่อ: มีนาคม 16, 2017, 09:18:23 AM »

การจะหา “บ้านในฝัน” ซักหลังหนึ่งนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย บางคนต้องเข้าไปดูโครงการหลายสิบโครงการกว่าจะเจอบ้านที่ถูกใจ บางคนก็ยังคงไม่พอใจกับแบบบ้านของโครงการเหล่านี้ จึงเลือกที่จะหาซื้อที่ดินทำเลดีๆซักที่แล้วสร้างบ้านเองตามที่ใจอยากได้ แน่นอนว่าการซื้อที่ดินเพื่อปลูกบ้านเองไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะไหนจะต้องซื้อที่ดิน ต้องหาผู้รับเหมา จ้างสถาปนิกออกแบบ ยังไม่รวมถึงปัญหาเล็กๆน้อยๆที่ต้องเจอระหว่างทาง ซึ่งหัวใจหลักก่อนอื่นใดคือ “การเลือกที่ดิน” วันนี้ TerraBKK Research จึงขอแนะนำข้อควรรู้ก่อนซื้อที่ดินเปล่าเพื่อปลูกบ้าน

1. ตำแหน่งและรูปร่างที่ดิน

ก่อนอื่นคือเราต้องรู้ขอบเขตของตำแหน่งที่ดินที่แน่ชัด อีกทั้งรูปร่างของที่ดินผืนนั้นๆว่ามีรูปทรงเป็นอะไร เป็นสี่เหลี่ยมคางหมู สี่เหลี่ยมผืนผ้า ที่ดินเส้นก๋วยเตี๋ยว ที่ดินสามเหลี่ยม ฯลฯฯ ซึ่งที่ดินที่ดีควรมีรูปเป็นสี่เหลี่ยม จึงจะสามารถจัดวางตำแหน่งของตัวบ้านได้ง่ายกว่า

2. ข้อกฏหมายที่ต้องคำนึง

คงไม่ต้องลงลึกถึงข้อจำกัด FAR หรือ OSR แต่อย่างน้อยๆก็ควรรู้ถึงข้อกฏหมายเบื้องต้น เช่น  ระยะร่น เพื่อดูว่าที่ดินที่เราซื้อ จะได้บ้านที่มีพื้นที่ตามต้องการหรือเปล่า? หรือไปตรวจสอบกับทางราชการว่าในบริเวณนี้จะมีการเวนคืนที่ดินหรือไม่ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะตามมาในภายหลัง นอกจากนี้ในเรื่องสีของผังเมืองก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน ที่จะต้องดูว่าที่ดินที่คุณซื้ออยู่ในผังสีอะไร ระวังในเรื่องของโซนอุตสาหกรรม โซนโรงงาน เพราะไม่เหมาะกับการอยู่อาศัย และจะมีปัญหาทางด้านมลพิษเกิดขึ้นได้

3. ทางเข้า-ออก คือเรื่องสำคัญ
หัวใจของการซื้อที่ดิน คือ ทางเข้า-ออกที่จะสามารถไปสู่ถนนสาธาณะได้ ที่ดินที่ไม่มีทางเข้า-ออกเราเรียกว่า “ที่ดินตาบอด” หลายคนเข้าใจว่าที่ดินที่มีถนนอยู่ข้างหน้าคือทางเข้า-ออกของที่ดินเรา ซึ่งจริงๆเป็นเรื่องที่เข้าใจผิด แม้เจ้าของที่ดินเองก็ยังคงเข้าใจผิดเช่นกัน ทางเข้า-ออกที่เราเห็นอาจจะไม่ใช่ทางของเรา ดังนั้นทางที่ดีควรตรวจสอบกับกรมที่ดินก่อนตัดสินใจซื้อ

4. อ่านโฉนดให้เป็น

โฉนดที่ดิน คือเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดิน ซึ่งถือเป็นเอกสารสำคัญที่ทุกคนควรรู้ไว้ หลายคนไม่คอยมีความรู้เกี่ยวกับโฉนดที่ดิน คิดว่าที่ดินแปลงนี้มีโฉนดก็ถือว่าน่าเชื่อถือได้ ซึ่งจริงๆแล้ววิธีการอ่านโฉนดที่ถูกต้อง จะต้องดูหลายๆอย่างประกอบกัน ดังนี้
•การซื้อที่ดิน โฉนดในที่ดินจะต้องเป็นโฉนด น.ส.4 จึงจะสามารถซื้อขายโอนกรรมสิทธิ์ได้
•พื้นที่ขายและพื้นที่จริงตรงกันหรือไม่ เจ้าของอาจจะบอกขนาดเกินจริง (ซึ่งมองด้วยตาเปล่ายากมาก) ควรจตรวจสอบกับโฉนดอีกทีว่าตรงกันหรือไม่
•ตรวจสอบหลังโฉนดว่าเจ้าของที่ดินเดิมติดจำนองหรือไม่?
•เช็คว่าที่ดินนั้นโดนยึดหรือถูกอายัดไว้หรือไม่ ซึ่งตรงนี้จะไม่ปรากฎในโฉนดที่ดิน จะต้องตรวจสอบที่สำนักงานที่ดิน

5. หาผู้เชี่ยวชาญมาช่วย

หากการดูที่ดินในเบื้องต้นยังไม่สามารถช่วยพิสูจน์ได้ว่าที่ดินแปลงนี้น่าเชื่อถือพอหรือไม่ ก็ควรหาผู้เชี่ยวชาญมาช่วยดูอีกครั้ง ซึ่งผู้เชี่ยวชาญนี้อาจจะมีหลายๆด้าน เช่น ด้านสถาปัตย์ฯ ด้านกฎหมาย เป็นต้น เพื่อให้เกิดข้อผิดพลาดในการซื้อที่ดินให้น้อยที่สุด

ถึงอย่างไรการซื้อที่ดินเปล่าเพื่อปลูกบ้านนั้น ต้องคำนึงถึงงบประมาณที่จะต้องสร้างบ้านอีกด้วย และ ค่อยข้างจะมีปัญหามากกว่าการซื้อบ้านจากโครงการ แต่ทั้งนี้หากคุณเองคิดว่ามันดีกว่าที่จะได้บ้านที่ถูกใจตัวเอง หรือสามารถคุมงบได้ดีกว่า ก็ถือว่าคุ้มค่าที่จะเหนื่อยในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เพื่อให้ได้ “บ้านในฝัน” ที่แท้จริง – เทอร์ร่า บีเคเค

บทความโดย : TerraBKK คลังความรู้


TERRABKK.COM
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #586 เมื่อ: มีนาคม 26, 2017, 09:04:53 AM »

ถั่ว 1 เมล็ด มีอะไรบ้าง
 ข้อดีของการกินถั่ว คือ โปรตีนที่ได้จากถั่วจะไม่มีไขมันติดมามากเท่าเนื้อสัตว์ นอกจากนื้ในถั่วยังมีสารสีหรือสารพฤกษเคมีที่สามารถป้องกันการเกิดโรคได้หลายชนิด ในเมล็ดถั่ว 1 เมล็ดอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการและคุณค่าต่อร่างกายเรา เช่น
 1. เปลือกหุ้มเมล็ด มีหลากสี (เช่น เขียว ดำ แดง นํ้าตาลส้ม) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดพันธุ์ ซึ่งแต่ละพันธุ์จะให้สารสีที่แตกต่างกันไป เช่นในถั่วดำจะมีสารสีม่วง แอนโทไซยานิน ชนิดเดียวกับที่อยู่ในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ซึ่งมีคุณสมบัติบำรุงสายตาและป้องกันโรคได้มากมาย เช่น มะเร็ง ความดันเลือด หัวใจและหลอดเลือด
 2. เส้นใยอาหาร ในถั่วมีเส้นใยอาหารทั้งแบบละลายนํ้าได้และละลายนํ้าไม่ได้ ชนิดไม่ละลายในนํ้า จะช่วยเพิ่มกากใยและช่วยอุ้มนํ้า ทำให้อุจจาระนิ่มและขับถ่ายเป็นปกติ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่และริดสีดวงทวาร ส่วนชนิดละลายในนํ้า ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดในสมองแตก
 3.คาร์โบไฮเดรต เมื่อคนเรากินถั่วร่างกายจะย่อยแป้งที่มีอยูในถั่วและดูดซึมนํ้าตาลที่ได้ไปใช้อย่างช้าๆ ทำให้มีกลูโคสลำเลียงเข้าไปในเลือดอย่างสมํ่าเสมอ การกินถั่วเมล็ดแห้งจึงเป็นผลดีต่อผู้ที่เป็นเบาหวาน เพราะทำให้ควบคุมระดับนํ้าตาลในเลือดได้ดียิ่งขึ้น
 4. ไขมัน ในถั่วมีไขมันค่อนข้างตํ่า ยกเว้นถั่วเหลืองที่มีไขมันสูงถึงร้อยละ 30-35 แต่ไขมันดังกล่าวจะมีปริมาณของไขมันคุณภาพดี ได้แก่ กรดไลโนเลอิกและกรดโอเลอิก ซึ่งล้วนแต่มีความสำคัญต่อร่างกาย เช่น ช่วยสร้างความสมบูรณให้แก่ผิวหนัง ช่วยลดคอเลสเตอรอลในหลอดเลือด และจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของทารกและเด็ก
 5. โปรตีน ในเมล็ดถั่วเป็นแหล่งโปรตีนที่สำคัญ ในเมล็ดถั่วมีกรดอะมิโนจำเป็นอยู่ครบทั้ง 10 ชนิดไม่แตกต่างจากเนื้อสัตว์ เพียงแต่ปริมาณของกรดอะมิโนบางชนิดมีปริมาณน้อยกว่าที่ร่างกายต้องการ ดังนั้นการกินถั่วอย่างเดียว อาจทำให้ร่างกายได้รับกรดอะมิโนไม่เพียงพอ จึงควรกินธัญพืชอย่างอื่น (เช่น งา ลูกเดือย หรือเมล็ดอัลมอนด์) เสริมเข้าไปด้วย เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วนตามต้องการ

 (เครดิตภาพ : หัวใจจากท้องทะเล, สามจอ)


บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #587 เมื่อ: มกราคม 11, 2020, 08:16:22 PM »

https://www.youtube.com/watch?v=1M9_b2Oo_34&feature=youtu.be



Dr.V Channel
73.7K subscribers
ในแต่ละปี มีคนเสียชีวิตประมาณ 6 พันคนจาก เศษอาหารอุดหลอมลม

ถือว่าเป็นการเสียชีวิตแบบไม่ทันตั้งตัวมาก่อน

แน่นอนครับ ไม่มีใครอยากเห็นญาติเสียชีวิตขณะที่กำลังนั่งกินอาหารกันอยู่ด้วยความสุข

เห็นแล้ว รู้แล้ว แต่ช่วยไม่ได้ เพราะไม่รู้วิธีช่วย

วันนี้ผมจะสอนวิธีเอาอาหารออกจากหลอดลม เรียนรู้กันไว้ครับ

เผื่อซักวันท่านอาจจะได้ช่วยชีวิตใคร หรือแม้แต่ตัวท่านเอง

สำหรับในเด็กเล็ก
https://youtu.be/lTzDBxcYjGs
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #588 เมื่อ: มกราคม 11, 2020, 08:18:10 PM »

นพ. อายุ 62 ที่ดูหนุ่มและแข็งแรงเท่าตอนอายุ 36  เผยเคล็ดลับ  นอกจากกินมื้อเดียว แล้ว ยังต้องเดินมากๆ

     แนะให้ มาสร้างกระดูกขา ให้แข็งแรง ชดเชยแคลเซียม ได้ด้วยการเดินมากขึ้นเป็น 2 เท่าของคนปกติ !

เป็นคำแนะนำ จากนายแพทย์โยะชิโนะริ นะงุโมะ (Yoshinori Nagumo )ผู้อำนวยการใหญ่ของโรงพยาบาล 4 แห่งในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ได้เขียนหนังสือซึ่งเป็นผลงานระดับ Best sellerในญี่ปุ่นมาหลายเล่ม เกี่ยวกับการรักษาร่างกายให้แข็งแรง ดูหนุ่มสาวตลอด

และหนึ่งในนั้น มีบทหนึ่งที่ชื่อว่า “มาชดเชยแคลเซียมด้วยการเดินกันเถอะ” ซึ่งเหมาะกับผู้สูงวัย อยากขอหยิบยกมาเล่าสู่กันฟังดังต่อไปนี้

คุณหมอแนะนำว่า  "ถ้าอยากทำให้กระดูกแข็งแรง ต้องเดินให้มากเป็นสองเท่าของคนทั่วไป เพราะแรงโน้มถ่วง  จะทำให้กระดูกเพิ่มปริมาณแคลเซียมในกระดูกได้ตามธรรมชาติ"

ถ้าเป็นเช่นนั้น ทำไมจึงมีการพูดกันโดยทั่วไปว่า แคลเซียมจะลดน้อยลงตามอายุล่ะ?? คุณหมออธิบายเพิ่มเติมว่า
แต่เดิม  กระดูกเป็นเหมือนธนาคาร  ซึ่งเก็บสะสมแคลเซียมเอาไว้ เมื่อแคลเซียมในเลือดลดลง  ก็จะนำแคลเซียมจากกระดูกมาใช้แทน  และเมื่อผู้สูงวัยมีการเดินที่ไม่เพียงพอ กระดูกก็จะค่อยๆเปราะบางลง

ถึงแม้จะกินแคลเซียมมากเพียงใด  ก็ไม่มีผลช่วยอะไรมากนัก  เพราะปัจจัยหลักที่สำคัญ คือ "ปริมาณการออกกำลังกาย" ที่ผู้สูงวัยมีลดน้อยลง  ซึ่งบางรายในแต่ละวัน แทบไม่ได้มีการขยับตัวเลยนั่นเอง

นอกจากนี้  ยังเกี่ยวข้องกับปริมาณฮอร์โมนที่ลดลงอีกด้วย เพราะเดิมทีฮอร์โมนเพศ  ไม่ว่าจะเป็นฮอร์โมนเพศหญิง  หรือฮอร์โมนเพศชาย  ต่างก็มี “ฤทธิ์เสริมสร้าง” ทำให้กระดูกแข็งแรงและกล้ามเนื้อบึกบึน

สำหรับผู้ชายนั้น ถึงแม้จะใกล้วัย 80 ปี แต่ปริมาณฮอร์โมนเพศชายที่ผลิตออกมา  ก็ไม่น้อยไปกว่าช่วงวัยรุ่น ในขณะที่ฮอร์โมนเพศหญิง  จะเริ่มลดลงตั้งแต่อายุประมาณ 25 ปี และจะหยุดผลิตเมื่อหมดประจำเดือนตอนอายุประมาณ 50 ปี

แน่นอนว่า...หากไม่มีฮอร์โมนเพศ  ก็จะไม่สามารถหล่อเลี้ยงร่างกายได้ ธรรมชาติจึงจำเป็นต้องผลิตฮอร์โมนทดแทนขึ้นมา ชื่อว่า “แอนโดรเจน (Androgen)” ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศชาย  ที่หลั่งออกมาจากต่อมหมวกไตเพื่อชดเชยฮอร์โมนเพศหญิงในส่วนที่ขาด  แต่แอนโดรเจนก็ไม่ได้มีปริมาณมากเพียงพอ กระดูกจึงไม่สามารถรักษาแคลเซียมเอาไว้ได้

นอกจากนั้น พวกเราผู้สูงวัย  ยังมีแนวโน้มที่จะเดินน้อยลงเรื่อยๆ
ตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น  จึงยิ่งทำให้ขาดแคลเซียมมากขึ้นไปอีก ส่งผลทำให้มีอาการปวดหัวเข่า  และ ปวดสะโพก พอปวดแล้วก็จะยิ่งเดินน้อยลงไปอีก  จนถึงขั้นต้องนั่งรถเข็น  ซึ่งจะยิ่งเข้าสู่วงจรแย่ๆ  ที่ทำให้เพื่อนๆยิ่งมีกระดูกอ่อนแอลงไปจนเกินแก้ไขเดินด้วยขาตนเองไม่ได้

ในทางกลับกัน ต่อให้เป็นวัยหนุ่มสาว หากนั่งทำงานอยู่แต่หน้าคอมพิวเตอร์ วันๆแทบไม่มีการขยับตัว  แล้วจู่ๆวันหนึ่งก็ลุกขึ้นมาใช้ขาอย่างหักโหมในการไปท่องเที่ยวทันที  ก็จะมีอาการปวดข้อปวดเข่า เพราะร่างกายไม่เคยชิน ดังนั้น  เราจึงควรฝึกนิสัยรักการเดินให้เป็นกิจวัตรอย่างสม่ำเสมอ

คุณหมอโยะชิโนะริ นะงุโมะ (Yoshinori Nagumo )มีอายุถึง 60 ปีแล้ว แต่อายุกระดูกที่ตรวจวัดได้  ยังมีอายุเพียงแค่ 28 ปี ซึ่งอ่อนกว่าอายุจริงกว่า 30 ปี นั่นเป็นเพราะคุณหมอรักการเดินเป็นชีวิตจิตใจมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งคุณหมอบอกว่า  การเดินน้อยในวัยเด็กที่สะสมมา  จะมีผลอย่างยิ่งต่อระดับความรุนแรงของโรคกระดูกพรุน  เมื่ออายุมากขึ้น

ดังนั้น  พ่อแม่ที่โอ๋ลูกมาก ไม่ยอมให้ลูกได้เดินไกล  เพราะกลัวลูกเหนื่อย  หรือกลัวลูกลำบาก  ควรจะรีบเปลี่ยนความคิดใหม่  อย่าได้ทำร้ายสุขภาพของลูกในระยะยาว  ที่จะเดินด้วยขาตัวเองไม่ได้  เมื่อมีอายุที่มากขึ้น  เเละคุณหมอบอกว่า

พ่อแม่ชาวญี่ปุ่น จะฝึกให้ลูกเดินเยอะๆ  ถ้าบ้านและโรงเรียนไม่ไกลจากกันมากนัก  ก็จะใช้วิธีเดินไปกลับ  แทนการนั่งรถไฟฟ้า หรือ  ถ้าขึ้นรถไฟฟ้า  ก็จะพยายามให้เด็กๆได้ยืน  เพื่อฝึกกำลังขาและสะโพก  เพราะการฝึกขาและสะโพกให้แข็งแรงตั้งแต่วัยเด็ก  จะเป็นตัวกำหนดความแข็งแรงของกระดูกไปตลอดชีวิต"
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #589 เมื่อ: มกราคม 29, 2020, 04:17:47 PM »

https://www.youtube.com/watch?v=sjflPu0qejQ&feature=youtu.be&fbclid=IwAR2Z-N0av2ydlQb-aRF2QLI9Y9lVcfH64VFbG7I8qqxNee-hhhrsB_o-11I

รายการเจาะใจ ออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา 22.00 น. ทางช่อง 9 MCOT HD

เจาะใจ สัปดาห์นี้ พบกับ "หนุ่ย - พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์" กับบทเรียนเเห่งความล้มเหลว เเละความสำเร็จบนเส้นทางไอที ตลอด 20 ปี!!

#เจาะใจ #เเรงบันดาลใจ #หนุ่ย #พงศ์สุข #JSL

----------------------------------------------------------------------------------------------

ดูรายการทีวีย้อนหลัง รวมถึงคลิปล่าสุดของเรา พร้อมทั้งติดตามข่าวสาร แนะนำ ติชมรายการ และแสดงความคิดเห็น ผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้

Youtube : http://www.youtube.com/JSLGlobalMedia (Official channel)
Entertainment Web : http://www.jslglobalmedia.com
เจาะใจออนไลน์ : http://www.johjaionline.com
Official Web : http://www.jslsquare.com
Facebook : https://www.facebook.com/JSLGlobalMedia
Twitter : https://www.twitter.com/jslglobalmedia
Line : @JSLGlobalMedia

Copyright©2019 JSL Global Media Company Limited
บริษัท เจ เอส แอล โกลบอล มีเดีย จำกัด
154 ลาดพร้าว ซอย 107 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ 10240
154 Ladprao Road (Soi 107) Klongjan, Bangkapi, Bangkok 10240 Thailand
Tel: 66 2731 0630
FAX: 66 2377 0691, 66 2375 9033
E-Mail: webmaster@jslglobalmedia.com / jslglobalmedia@gmail.com

Show more
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #590 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2020, 12:18:12 PM »

https://www.youtube.com/watch?v=q1CRrLsXs-I&feature=youtu.be

เห็ดกระถินพิมานยับยั้งเซลล์มะเร็ง มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งตับ มะเร็งถุงน้ำดี มะเร็งกรวยไต มะเร็งปอด
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #591 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 25, 2020, 02:22:20 PM »

https://www.youtube.com/watch?v=oCV4rA0Algk&feature=youtu.be
มะม่วง #ผลไม้ไทย
ใช้พื้นที่น้อยอร่อยปลอดภัยปลูกผลไม้กินเองในตะกร้า (Growing fruit in container) Farm Station
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #592 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2020, 08:42:56 AM »

https://www.insuredd.com/uncategorized/การทำหน้ากากอนามัยแบบง/
การทำหน้ากากอนามัยแบบง่ายๆ
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #593 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2020, 08:48:59 AM »

https://www.tipinsure.com/Ph/step_1
ประกันภัยส่วนบุคคลคุ้มครองการติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา (Coronavirus (2019-nCoV))
SCB ออกมาแล้วค่ะ
JPประกันภัย
สินทรัพย์
ทิพยโควิทแคร์
เมืองไทยประกันภัย
วิริยะประกันภัย
ไทยประภัย
สินมั่นคง
TQM
สินทรัพย์ประกันภัย
โปร99/https://www.tqm.co.th/microinsure/register?productid=28705&producttype=pa&s=531123

โปร199/https://www.tqm.co.th/microinsure/register?productid=28706&producttype=pa&s=531123

โปร299/https://www.tqm.co.th/microinsure/register?productid=28707&producttype=pa&s=531123

โปร499/https://www.tqm.co.th/microinsure/register?productid=28708&producttype=pa&s=531123


ทิพย์ประกันภัย
โปร450/https://www.tqm.co.th/microinsure/register?productid=28746&producttype=pa&s=531123

โปร950/https://www.tqm.co.th/microinsure/register?productid=28747&producttype=pa&s=531123

โปร1250/https://www.tqm.co.th/microinsure/register?productid=28748&producttype=pa&s=531123


วิริยะประกันภัย
โปร455/https://www.tqm.co.th/microinsure/register?productid=28726&producttype=pa&s=531123

โปร555/https://www.tqm.co.th/microinsure/register?productid=28727&producttype=pa&s=531123


กรุงเทพประกันภัย
โปร799/https://www.tqm.co.th/microinsure/register?productid=28572&producttype=pa&s=531123...

เลือกได้ตามกระเป๋าตังค์เลยค่ะ

แนะนำให้มีในช่วงนี้ค่ะ
ไม่ได้โฆษณา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 19, 2020, 07:21:34 PM โดย jainu » บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #594 เมื่อ: มีนาคม 04, 2020, 10:20:25 PM »

การนอนดึก …เป็นการตั้งใจทำร้ายตนเอง อย่างร้ายแรงที่สุด ( ทำให้เป็นถึง มะเร็งได้ )

~ เพราะ…ทำให้สมอง หัวใจ หลอดเลือด ต่อมไร้ท่อ เข่น ต่อมไธรอยด์  และภูมิคุ้มกันร่างกายเสียหาย …เป็นเรื่องที่ต้องไม่ประมาท …มาฟังหมอด้านเวชศาสตร์ชลอวัย อธิบายให้เข้าใจ

 ~ นพ.กฤษดาฯ เล่าให้ฟังถึงผลเสียของการนอนดึก ใครที่นอนเกิน 5 ทุ่มครื่ง…จะมีผลทำให้ 5 อวัยวะหลัก…เสื่อมโทรมเร็วขึ้น… ทั้ง สมอง หัวใจ หลอดเลือด ต่อมไร้ท่อ เช่น  ต่อมไธรอยด์  และภูมิคุ้มกันร่างกาย …แต่ถ้าปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตมาเป็นคนนอนเร็วขึ้น ตั้งแต่ 4 ทุ่มไม่เกิน 5 ทุ่มครึ่ง … ซึ่งเป็นนาทีทอง …ก็จะช่วยให้มีสุขภาพดีขึ้นถึง 10 ประการ ได้แก่

1. สมองสร้างเคมีสุข
            อย่างที่รู้ว่า สมองเป็นหัวเรือใหญ่ในการแจกงานให้อวัยวะต่าง ๆ แม้แต่เวลานอน…ก็ยังมอบรางวัลให้ร่างกาย ทั้ง เคมีนิทรา (เมลาโทนิน), เคมีสุข (ซีโรโทนิน) และฮอร์โมนเพศ แถมยังมีเคมีบำรุงร่างกายออกมา  ช่วยควบคุมระบบในตัวเราให้ทำงานราบรื่น ตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่น สร้างเกราะป้องกันอาการป่วยเจ็บได้ด้วย

2. สร้างเคมีหนุ่มสาว
            ปกติแล้ว เคมีหนุ่มสาวที่เรียกว่า "โกรทฮอร์โมน" จะค่อย ๆ ลดลงตามวัย รวมทั้งการนอนดึก …ก็ทำให้โกรทฮอร์โมนน้อยลงไปด้วย …แต่ถ้าเราเข้านอนเร็ว สักราว 4 ทุ่ม ไม่เกิน 5 ทุ่มครึ่ง  สมองจะช่วยผลิตโกรทฮอร์โมนธรรมชาติให้ สรุปว่ายิ่งเราหลับไว หลับสนิท เราก็ยิ่งดูอ่อนเยาว์  เพราะโกรทฮอร์โมน จะหลั่งในช่วงเวลา  00.00-01.30 น. รวมเวลา 1 ชม.ครึ่งเท่านั้น ซึ่งจะช่วยซ่อมเสริมภูมิต้านทานโรค  ให้มีพลังร่างกายที่มีความสมบูรณ์มากขึ้น

3. ความจำดีขึ้น
            การศึกษาจากสมาคมจิตวิทยาอเมริกัน (APA) ระบุว่า คนที่นอนหลับได้ในช่วง 4 ทุ่ม ถึง 5 ทุ่ม  ปรากฏผลงานวิจัยติดตาม  พบว่า มีผลต่อความจำ, ความมีสมาธิ  อย่างมีนัยสำคัญ  และ ลดอุบัติเหตุลงได้มากขึ้น นั่นก็เพราะเวลาเรานอน สมองจะมีกลไกช่วยจัดระเบียบ  คล้ายกับการแยกอีเมลขยะออกไป แต่ถ้าเราอดนอน เราจะรู้สึกมึน ลืมง่าย หรือ ไม่ก็ลิ้นพันกัน  คิดอย่างพูดอย่าง  หรือ อาจเผลอเรอได้ง่ายๆ  ดังนั้น ต้องนอนให้เต็มอิ่ม  จะได้เป็นการชาร์จแบตให้สมอง พร้อมรับความจำใหม่ ๆ ได้ดี

4. คุมความดันโลหิตได้
            การนอนหลับเร็ว  จะช่วยให้ระบบประสาทอัตโนมัติทั้งหลาย และกลไกทางชีวิวิทยา  ที่เป็นเหมือนฟันเฟืองขนาดจิ๋ว  ที่ทำงานซับซ้อน ช่วยควบคุมหัวใจ และความดันโลหิตให้สงบลงไม่แกว่งขึ้นลงง่ายเหมือนกับตอนตื่นนอน

5. ร่างกายได้ซ่อมแซมส่วนสึกหรอ
            คนก็เหมือนเครื่องยนต์  ทำงานมาหนัก  ก็ต้องหยุดพักบ้างจริงไหม ซึ่งการนอนก็เหมือนเข้าอู่ซ่อมรถ ช่วยซ่อมแซมร่างกายที่สึกหรอ ช่วยให้สมองได้พักผ่อน กล้ามเนื้อคลายตัว หัวใจสงบขึ้น ความดันลดลง โดยเฉพาะ ถ้าหลับลึกได้ในข่วง 00.00 - 01.30 น. ในแต่ละคืน สุขภาพย่อมแข็งแรง  เสมือนย้อนไปในช่วงที่อยู่ในวัยเบญจเพศได้

6. ลดความเสี่ยงโรคอ้วน
            ถ้าเรานอนเร็ว  จะทำให้เราไม่หิวกลางดึก อันเป็นต้นเหตุที่ทำให้อ้วน  นอกจากนั้น ยังมีกลไกดับหิวด้วยการสร้างเคมีดับหิวขึ้นมา  ทำให้การนอนเร็วช่วยคุมน้ำหนักตัวได้ดีกว่า   อีกทั้งยังกระตุ้นเตาเผาในร่างกาย  ให้ทำงานได้ดี ช่วยให้ไม่อ้วนง่าย ไม่สร้างเคมีเก็บไขมันมากด้วย

7. มีความสุขง่ายขึ้น
            ยิ่งอดนอนมาก  สมองของเราก็ยิ่งอึมครึม ทำให้ขาดสมาธิ ความจำก็ไม่ดี อะไรมากระทบนิดกระทบหน่อย  ก็หงุดหงิดอารมณ์เสียแล้ว แล้วจะมีความสุขได้อย่างไรล่ะ  แต่ถ้าเราลองนอนให้เร็วขึ้น  เราจะได้นอนอย่างเต็มอิ่ม ร่างกายและสมองได้พักผ่อน ความจำดี มีสมาธิ มองอะไรก็มีความสุขได้ง่ายขึ้นจริง ๆ นะ

8. ได้ล้างพิษ
            เวลาที่เรานอน  จะเป็นช่วงเวลาที่อวัยวะอย่าง ตับ ไต ลำไส้ ซึ่งเป็นอวัยวะที่ช่วยล้างพิษทำงานได้ดีขึ้น ลองสังเกตดูสิ   ถ้าใครชอบอดนอน หรือ  นอนดึก นอกจากหน้าตาดูหม่นหมองแล้ว  ยังมีปัญหาท้องผูกด้วย  นั่นเพราะส่วนหนึ่งของพิษมาจากการนอนดึก เพราะฉะนั้น สาว ๆ ที่ชอบปวดรอบเดือนบ่อย ๆ ให้แก้ไขด้วยการนอนให้เร็วขึ้น จะช่วยคุมเคมีปวดได้มากขึ้น

9. ไม่เสี่ยงโรคกำเริบ
            เครื่องยนต์ที่ทำงานเกินเวลา  ก็เสียได้ นับประสาอะไรกับมนุษย์ที่ไม่ยอมพักผ่อน ไม่ยอมหลับยอมนอน ความเหนื่อยล้าอ่อนเพลีย  ก็อาจทำให้โรคที่พกอยู่ตามอวัยวะต่าง ๆ พากันแผลงฤทธิ์ขึ้นได้ โดยเฉพาะโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง ความดันสูง เบาหวาน ภูมิแพ้ โรคเครียด  โรคซึมเศร้า และโรคมะเร็ง เป็นต้น

10. ช่วยป้องกันการแก่ให้ช้าลง
            ไม่อยากแก่  รีบชวนกันนอนตั้งแต่ 4 ทุ่ม  หรือ สูงสุด ไม่เกิน 5 ทุ่มครึ่ง
เพราะ การนอนไม่ดึกมาก  จะช่วยเสริมสร้างความเป็นหนุ่มสาว และช่วยให้หลับสนิทได้ง่ายขึ้น  ไม่ทำร้ายร่างกายให้แก่ก่อนวัยอันควร   เพราะ จะช่วยป้องกันความเสื่อมชราให้ช้าลงได้ด้วย

           ~ ข้อดีของการเข้านอนเร็ว  มีมากขนาดนี้  ใครที่มักนอนดึก  ท่านควรรีบปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเอง   แล้วทำตามคำแนะนำของ นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติด้วย…จักทำให้ท่านมีสุขภาพที่ดีในระยะยาวอย่างยั่งยืน


Thank You Kha
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #595 เมื่อ: มีนาคม 29, 2020, 09:45:20 AM »

ั้นๆ ง่ายๆ กับคำถามที่ว่า เราจะใช้หน้ากากอนามัยซ้ำได้มั้ย / เรามีวิธีทำความสะอาดหน้ากากอนามัยอย่างไร

นักออกแบบผลิตภัณฑ์ชาวฮ่องกง Patrick Poon บอกว่า หมอมักแนะนำว่า หน้ากากอนามัยใช้ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น  ใช้แล้วต้องทิ้ง แต่การระบาดของ Corona virus รอบนี้ ทำให้มีปัญหาหน้ากากขาดแคลนทั่วโลก

เขาคิดว่า ประชาชนใช้หน้ากากในสภาพแวดล้อมปกติ ( ไม่เหมือนหมอที่ใช้ในโรงพยาบาล เพื่อตรวจ/ดูแลผู้ป่วย ซึ่ง มีความเสี่ยงสูงกว่ามาก) เราจะสามารถใช้หน้ากากซ้ำได้มั้ย / จะทำความสะอาดหน้ากากได้อย่างไร ?

เขาได้ทำการศึกษาค้นคว้าอย่างมีหลักวิทยาศาสตร์/ วิชาการ โดยศึกษาโครงสร้างของวัสดุที่ใช้ทำหน้ากากอนามัย พบว่า มันประกอบด้วยชั้นต่างๆ 3 ชั้น

 1. ชั้นนอก ทำจาก PP spunbond มีคุณสมบัติกันน้ำ / กันการซึมของเลือด/ ละอองของเหลวต่างๆจากการไอ/ จามของคนอื่น ไม่ให้โดนผู้ใส่โดยตรง

2. ชั้นกลาง เป็นแผ่นกรอง ซึ่งจะดักเชื้อโรคไว้ ไม่ว่า ไวรัส / แบคทีเรีย/ฝุ่น ทำจาก Melt-blown fabric

3. ชั้นใน จะช่วยซึมซับความชื้น จากลมหายใจ / ละอองของเหลวขนาดเล็ก/ใหญ่ต่างๆที่ออกมาเวลาเราไอ/จาม ไม่ให้กระจายออกสู่ภายนอก ทำจาก Non-woven fabric

เขาศึกษาวิธีทำความสะอาดต่างๆว่ามีผลต่อโครงสร้างของหน้ากากหรือไม่/ อย่างไร เปรียบเทียบกับหน้ากากปกติที่ยังไม่ได้ใช้งาน ด้วยการนึ่ง 10 นาที/ การต้ม 10 นาที / การแช่ในแอลกอฮอล 10 นาที

 จากการศึกษาละเอียดด้านโครงสร้าง ของหน้ากากที่ทำความสะอาดโดยวิธีต่างๆข้างต้น พบว่า วัสดุที่ใช้ทำหน้ากากนั้น แข็งแรง ทนทานกว่าที่คิดมาก มันไม่เสียหายเลยไม่ว่าเราจะทำความสะอาดหน้ากากที่ใช้แล้ววิธีไหน จึงพอสรุปได้ว่า ประสิทธิภาพของหน้ากากไม่เปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะซักด้วยวิธีใดก็ตาม ยังใช้ได้ (ขอเพียงไม่ฉีกขาด มีรูเท่านั้น)

เขาจึงสรุปว่า  เราสามารถทำความสะอาดและใช้หน้ากากอนามัยซ้ำได้หลายครั้ง  สำหรับประชาชนทั่วไปที่ใช้หน้ากากอนามัยในสภาพแวดล้อมปกติที่ไม่ใช่โรงพยาบาล (ตัวเขาเอง บางผืนซักแล้วใช้ซ้ำเป็นสิบครั้ง)

วิธีที่ง่ายสุด เขาแนะนำให้ใช้น้ำร้อน 75-100 องศาเซลเซียส แช่หน้ากากนาน 10 นาทีเพื่อฆ่าเชื้อโรค แล้วใช้น้ำสบู่ ทำความสะอาด อีกที อาจใช้แปรงเล็กๆขัดทั้งด้านนอก/ ในของหน้ากาก ล้างน้ำให้สะอาด แล้วผึ่งให้แห้ง (ตากแดดก็ดี) หน้ากากจะสะอาดและมีสภาพดีเหมือนใหม่ ใช้ซ้ำได้ ไม่มีปัญหา

วิธีนี้ทำได้ง่ายๆ ที่บ้าน ไม่ยุ่งยาก  ช่วยแก้ปัญหาหน้ากากขาดแคลนได้ ในช่วงนี้ เราควรเก็บแอลกอฮอล(ซึ่งหายากเหมือนกัน)ไว้ใช้ในโอกาสอื่นที่จำเป็นกว่า

เขาย้ำว่า นี่เป็นคำแนะนำสำหรับประชาชนทั่วไปที่ใส่หน้ากากเพื่อป้องกันตนเอง / ผู้อื่นจากการแพร่ระบาดของ COVD-19 ในสภาพแวดล้อมปกติ (ไม่ใช่ในโรงพยาบาลเหมือนหมอ)

showing you an Easy way to:
1. Sterilize by soaking in 80 ~100 C hot water,
2. Clean with hand soap using a soft bristle toothbrush,
3. Rinse and hang dry.

Many doctors, medical specialists, Govt, officials keep talking about the surgical masks cannot be reused.  The 100 degrees water temp will damage the filter material of the mask, etc. I'd agree not to reuse masks if we have plenty of supplies around. It's not expensive at normal times.

US Vice President - Pence was saying "healthy people do not need to wear a Mask" to suggest people not to panic to buy masks. I'm afraid that his remarks will let the spreading of the virus unchecked as many infected person without knowing himself, do not show any sign of fever or sickness. Without the mask on, this unknowing/hidden infected person will infect many many others. It's much better to advise general public who are not in hostile clinic / hospital environments, may consider to reuse their own masks by hot water then soap, then to walk around without a mask on !

Please give this a good try and let your friends know, to save the frustration of grouching for expensive masks. Couple masks can keep you going for many days or weeks.


https://youtu.be/Tal_LiRRAr8

thank you very much
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #596 เมื่อ: เมษายน 03, 2020, 11:11:19 PM »

https://www.youtube.com/watch?v=lchEVmOq2_Q
โควิด-19 เอาชนะได้ด้วยมือ 'พวกเราทุกคน'

นอกจากทีมแพทย์ นักวิจัย หรือเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องทั้งหลายแล้ว
อีกบุคคลสำคัญที่จะทำให้เราผ่านวิกฤตโคโรนาไวรัส 2019 ไปได้
ก็คือ 'พวกเราทุกคน' นี่เอง

'รู้ สู้! Flood' กลับมาอีกครั้งกับตอนพิเศษ 'รู้ สู้! COVID-19'
ถ้าดูแล้วเห็นว่ามีประโยชน์ ฝากแชร์ให้คนรอบข้างด้วยนะครับ
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #597 เมื่อ: เมษายน 05, 2020, 09:12:59 AM »

สุดยอดเลย!!!!
น้ำยาฆ่าเชื้อโรคอย่างง่ายด้วยน้ำเปล่า และเกลือ สามารถฉีดพ่นได้ เชิ้อโรคตายใน 3-5วินาที ปลอดภัยต่อคน
เรามาดูวิธีทำพร้อมกันนะครับ


https://youtu.be/VxhHdVWMi9w
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #598 เมื่อ: เมษายน 05, 2020, 09:15:23 AM »

https://m.pantip.com/topic/39768819?
เก็บของสดได้นาน 3 เดือน ช่วงเก็บตัวหนึโควิด
thank you
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #599 เมื่อ: มิถุนายน 18, 2020, 10:26:42 PM »

https://www.youtube.com/watch?v=dT0y8qXKMf4&feature=youtu.be

การกำจัดขยะในสิงคโปร์
10 ธ.ค. 2019


 
บันทึกการเข้า

finghting!!!
Gold Price today, Gold Trend Price Prediction, ราคาทองคํา, วิเคราะห์ทิศทางทองคํา
   

images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary ---------------------Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. For more information on Moore Research products and services click here. --- http://www.mrci.com ---------- ---------------------------------------------รูปกราฟแสดงราคาทองในอดีตปี 1974-1999 ของ Moore Research Center, Inc. แสดงฤดูกาลที่ราคาทองขึ้นสูงสุดและตําสุด เอาแบบคร่าวๆ เส้นนําตาลหรือนําเงินก็ใกล้เคียงกัน เส้นนําตาลเฉลี่ย 15 ปี เส้นนําเงินเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุดของเส้นนําตาล หรือเฉลี่ย 15 ปี ในเดือน ปลายเดือน เมษ และปลายเดือน สค ต่อต้นเดือน กย[/color] สูงสุดในเดือน กพ กับ พย / ส่วนเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุด ต้น กค กับ ปลาย สค และราคาสูงสุดในเดือน กพ และ กลางเดือน ตค ----- แค่ดูคร่าวๆ เป็นแนวทาง อย่ายึดมั่นว่าจะต้องเป็นตามนี้ ข้างล่างเป็นกราฟราคานํามัน ตามฤดูกาล จาก Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary
 บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 38 39 [40] 41 42   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: