Forex-Currency Trading-Swiss based forex related website. Home ----- กระดานสนทนาหน้าแรก ----- Gold Chart,Silver,Copper,Oil Chart ----- gold-trend-price-prediction ----- ติดต่อเรา
หน้า: 1 ... 24 25 [26] 27 28 ... 42   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: Sa La Na Roo  (อ่าน 75505 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 7 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #375 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 08, 2014, 04:23:43 PM »




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 08, 2014, 04:32:42 PM โดย jainu » บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #376 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2014, 05:14:21 PM »




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 19, 2014, 10:35:58 PM โดย jainu » บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #377 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2014, 08:13:31 PM »

สูตร ล้างไต

สูตรล้างไต  
                   
ข่า+ตะไคร้+ใบมะกรูด+ใบมะนาว+กระชาย +หอมแดง +ใบสาระแหน่ อย่างละ 1 กำมือ
ใส่หม้อดิน เติมน้ำให้ท่วม ต้มให้เดือด ยกลงรอให้เย็น กินให้หมด ภายใน 1 วัน

สาเหตุที่ต้องล้างไต
   
-  กินอาหารรสจัด
-  กินอาหารผัดน้ำมันประจำ
-  กินเนื้อสัตว์ (เพราะไม่มีวิตามิน ซี บีหนึ่ง บีสาม บีหก มาช่วยเปลี่ยนโปรตีนให้เป็นกรดอะมิโนถึงจะมีประโยชน์ต่อร่างกาย)   
-  เกิดจากความกลัว ขี้ตกใจ ชอบขมขู่คนอื่น ถ้าเป็นอย่างนี้ร่างกายจะผลิตไขมันขึ้นมาเอง ให้เป็นไขมันฝ่ายร้าย

ถ้าอารมณ์ดี ไม่เครียด มีจิตใจเมตตา ก็จะเป็นไขมันฝ่ายดี
(ถ้าดูแลปอดดี ไตก็จะแข็งแรง เมื่อไตแข็งแรง กระดูกก็จะแข็งแรงด้วย ) 




คุณทราย บ้านเพื่อสุขภาพ
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #378 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2014, 08:17:11 PM »


Khondoendin Thai
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #379 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2014, 07:43:25 AM »



วิธีกิน “ช็อกโกแลต” ให้สุขภาพดี มีความสุข และไม่อ้วน

วันนี้ใครหลายคนอาจได้รับช็อกโกแลตมาเป็นของขวัญ จึงขอนำวิธีการกินช็อกโกแลตตามคำแนะนำของนักโภชนาการมาให้อ่านกัน

นักโภชนาการแนะ 4 วิธีการกินช็อกโกแลตให้มีความสุขและไม่อ้วน ย้ำเลี่ยงกินคู่กับไอศกรีม เค้ก ให้กินคู่กับชาหรือน้ำสมุนไพร ให้ค่อยเคี้ยวกินช้าๆ ช่วยให้รู้สึกมีความสุขได้มากกว่าเคี้ยวกินเร็วๆ แถมช่วยไม่กินจุบจิบ ระบุกินแล้วช่วยผิวพรรณดี ไม่ทำให้สิวขึ้นอย่างที่เข้าใจ เผยกินถูกหลักช่วยป้องกันสารพัดโรค

ดร.ฉัตรภา หัตถโกศล อาจารย์ประจำภาควิชาโภชนวิทยา คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เครือข่ายคนไทยไร้พุง ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย สนับสนุนโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ช็อกโกแลต เป็นเหมือนสัญลักษณ์แห่งความหอมหวาน ความสุข และความรัก จึงนิยมนำมาให้กันในวันพิเศษ โดยเฉพาะวันวาเลนไทน์ นอกจากนี้ เมื่อวิเคราะห์สารอาหารที่ได้จากช็อกโกแลต ช่วยลดฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งเป็นหนึ่งในฮอร์โมนที่ก่อให้เกิดความเครียด ความวิตกกังวล ความเจ็บปวด และเพิ่มฮอร์โมนแห่งความสุข และสงบ อย่างเอ็นโดรฟินและเซโรโทนิน รวมทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่สูง เช่น โพลีฟีนอล ช่วยปกป้องเซลล์ร่างกายจากอนุมูลอิสระ ทำให้ลดการเกิดโรคอัลไซเมอร์ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็ง และสารต้านการอักเสบ สารต้านการแพ้ สารต้านการก่อตัวของเซลล์มะเร็ง และสารต้านไวรัสด้วย แม้จะมีสารอาหารเยอะแต่ก็มีปริมาณน้ำตาลสูงมาก หากว่าได้รับปริมาณมากเกินไปจะทำให้อ้วนได้

ดร.ฉัตรภา กล่าวว่า วิธีกินช็อกโกแลตอย่างมีความสุขและไม่อ้วน คือ 1.กินเป็นของว่างหรือขนมหวาน ควรลดหรือหลีกเลี่ยงการกินไอศกรีม เค้ก คุกกี้ พร้อมกับช็อกโกแลต เพราะทำให้ได้รับพลังงานที่สูงเกินไป และทำให้อ้วนได้ ควรเลือกกินร่วมกับชาไม่ปรุงรส หรือน้ำสมุนไพรไม่ใส่น้ำตาล 2.กินช็อกโกแลตช้าๆ ค่อยๆ ให้ละลายในปาก แทนที่จะเคี้ยวและกลืนอย่างรวดเร็ว อุณหภูมิในร่างกายจะสูงกว่าจุดละลายของช็อกโกแลต เมื่อช็อกโกแลตเข้าในปากจะละลายได้ช้าๆ ช่วยให้ได้รับรสชาติของช็อกโกแลตมากกว่า และจะส่งผลต่อความรู้สึกมีผลให้สมองรับรู้ความสุข แม้ว่าจะกินในปริมาณน้อย แต่หากกินโดยการเคี้ยวและกลืนเร็วร่างกายจะต้องการช็อกโกแลตในปริมาณมากเพื่อให้เกิดความสุข ทำให้ร่างกายได้รับพลังงานสูงเกิน

ดร.ฉัตรภา กล่าวว่า 3.ก่อนเลือกซื้อช็อกโกแลต พยายามเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีเปอร์เซ็นต์ของโกโก้มากที่สุด มีน้ำตาลน้อย คือดาร์กช็อกโกแลต ดีกว่าช็อกโกแลตนม หรือไวท์ช็อกโกแลต 4.เลือกช็อกโกแลตที่มีขนาดชิ้นเล็กๆ ในแต่ละคำแทนที่จะเลือกชิ้นที่มีขนาดใหญ่ จากการวิจัยพบว่า การกินช็อกโกแลตดำขนาดเล็ก (5 กรัม) จะไม่ทำให้น้ำหนักขึ้นและช่วยให้ไม่รับประทานอาหารจุบจิบ นอกจากนี้ ยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดสมอง

“ความเชื่อว่ากินช็อกโกแลตมากจะเกิดสิวนั้น มีงานวิจัยในต่างประเทศที่พบว่า ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน และยังช่วยทำให้ผิวสวยขึ้นด้วยได้ อย่างไรก็ตาม การรับประทานอาหารที่ให้พลังงานสูง มีความหวานมาก จำเป็นต้องเสริมด้วยการออกกำลังกายให้มากขึ้นและเลือกรับประทานอาหารอย่างอื่นที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย รับประทานผักและผลไม้ให้สม่ำเสมอ” ดร.ฉัตรภา กล่าว

http://www.manager.co.th/
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #380 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 15, 2014, 10:20:47 AM »




ทำไมต้องห้ามกินฝรั่งตอนเป็นไข้

ผู้ใหญ่มักบอกต่อๆ กันมาว่า เมื่อเป็นไข้ตัวร้อนห้ามกินฝรั่ง แต่ไม่เคยจะบอกเหตุผลให้เข้าใจว่าทำไมต้องห้ามกิน วันนี้เราจึงขอไขข้อข้องใจข้อนี้ค่ะ ที่ว่าห้ามกินฝรั่งตอนเป็นไข้นั้น ไม่ได้เป็นแค่ความเชื่อโบราณเท่านั้นนะคะ แต่มีผลการพิสูจน์ และวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ และพบว่า ในฝรั่งนั้นมีสารโพแทสเซียมอยู่ในปริมาณที่สูงมาก และเจ้าสารโพแทสเซียมนี้ก็ส่งผลกระทบต่อร่างกาย ทำให้ร่างกายมีอุณหภูมิที่สูงขึ้นได้ค่ะ และถ้าหากกำลังเป็นไข้ ตัวร้อน อยู่แล้ว แล้วยังกินฝรั่งเข้าไปเพิ่มอุณหภูมิให้แก่ร่างกายอีก จึงมีผลทำให้ตัวร้อนเพิ่มมากขึ้น และอาจเกิดอาการชักได้เลยนะคะ

เพราะฉะนั้นจริงๆ แล้วไม่ใช่แค่เพียงฝรั่งที่ห้ามกินในตอนที่เป็นไข้เท่านั้นนะคะ แต่เป็นอาหารทุกชนิดที่มีโพแทสเซียมสูงค่ะ ที่เราควรหลีกเลี่ยง ทีนี้ก็รู้แล้วนะคะว่าทำไมต้องห้ามกินฝรั่งตอนเป็นไข้ด้วย ยังไงก็อย่าดื้อ ฝืนกินเข้าไปนะคะ เพื่อสุขภาพของตัวเองค่ะ

*********************************************************
>>> หมายเหตุ: พอดีมีคนสอบถามเรื่องการกินฝรั่งตอนเป็นไข้มา แอดมินเลยค้นหาข้อมูลเพิ่ม อ่านเจอบทความเรื่องฝรั่งอีกอันนึง เลยมาเพิ่มเติมข้อมูลให้ค่ะ

นพ. กฤษดา ศิรามพุช ผอ.สถาบันเวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ ให้สัมภาษณ์ว่า ของแสลงที่ไม่ควรกินตอนเป็นไข้ คือ แป้ง ของหวานจัด อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง อาหารที่มีกำมะถันเยอะ ๆ ทุเรียน ขนุน ลำไย ผักที่มีกลิ่น แรง ๆ เช่น ใบกุยช่าย หรือผักที่ห้ามกินตอนตรุษจีน เพราะจะเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ยิ่งทำให้อุณหภูมิของร่างกายสูงมากยิ่งขึ้น

ฝรั่ง ก็กินได้ เพราะฝรั่งมีวิตามินซีเยอะ จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับ ร่างกาย แต่ที่กลัวกัน คือ ในฝรั่ง มีโพแทสเซียม ถ้ามีไข้สูงและเป็นโรคไตด้วย ไม่ควรกิน เพราะอาจทำให้เกิดอาการชักได้ ถ้าไม่เป็นโรคไต ก็สามารถกินฝรั่งได้ตามปกติ แต่ใน 1 วัน ไม่ควรกินฝรั่งเกิน 5 มิลลิอีควิวาเลนท์ คำนวณแล้วก็ประมาณ 2 กิโลกรัมขึ้นไป ในความเป็นจริงเชื่อว่าคงไม่มีใครกินฝรั่งในปริมาณที่มากมายขนาดนั้น ดังนั้นถ้าไม่ได้มีไข้สูง เป็นแค่ไข้ธรรมดา และไม่ได้เป็นโรคไต ก็สามารถกินฝรั่งได้ตามปกติ

ส่วนผลไม้อื่นที่มีโพแทส เซียมสูง เช่น กล้วย ส้มโอ สามารถรับประทานได้เช่นกัน เพราะอย่างที่บอกจะต้องรับประทานมากถึง 2 กิโลกรัมขึ้นไป จึงอาจจะทำให้เกิดอันตราย

.................................................................
ที่มา : http://www.gotoknow.org/posts/520147
http://goo.gl/y7oZWA
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #381 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 15, 2014, 10:33:37 AM »

บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #382 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 19, 2014, 10:33:13 PM »

บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #383 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 19, 2014, 10:34:12 PM »

บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #384 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 21, 2014, 10:12:37 PM »





Hello ชาว chill เช้านี้มีเรื่องมาฝาก "ฉลากบนผลไม้" บอกอะไรกับเรา

เคยสงสัยถึงตัวเลขบนสติกเกอร์...ที่อยู่บนผลไม้จากเมืองนอกไหมครับ

ถ้ามีเลข 4 หลัก หมายความว่า เป็นการปลูกแบบปกติ ใช้ยา ใช่ปุ๋ย

ถ้ามีเลข 5 หลัก แล้วตัวแรกคือ 9 คือพวกออแกนิค ไร้สารครับ

แต่ถ้าเริ่มต้นด้วย 8 คือ GMOs มีการตัดต่อพันธุกรรมครับ
เอาไว้สังเกตุเวลาซื้อผลไม้มาทานกันเนอะ Smiley)

Credit : neutron.rmutphysics.com / ck healthy tips
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #385 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 21, 2014, 10:15:19 PM »

บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #386 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 21, 2014, 10:15:51 PM »

บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #387 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 21, 2014, 10:16:28 PM »

บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #388 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 21, 2014, 10:17:11 PM »

บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #389 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 21, 2014, 10:17:36 PM »

บันทึกการเข้า

finghting!!!
Gold Price today, Gold Trend Price Prediction, ราคาทองคํา, วิเคราะห์ทิศทางทองคํา
   

images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary ---------------------Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. For more information on Moore Research products and services click here. --- http://www.mrci.com ---------- ---------------------------------------------รูปกราฟแสดงราคาทองในอดีตปี 1974-1999 ของ Moore Research Center, Inc. แสดงฤดูกาลที่ราคาทองขึ้นสูงสุดและตําสุด เอาแบบคร่าวๆ เส้นนําตาลหรือนําเงินก็ใกล้เคียงกัน เส้นนําตาลเฉลี่ย 15 ปี เส้นนําเงินเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุดของเส้นนําตาล หรือเฉลี่ย 15 ปี ในเดือน ปลายเดือน เมษ และปลายเดือน สค ต่อต้นเดือน กย[/color] สูงสุดในเดือน กพ กับ พย / ส่วนเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุด ต้น กค กับ ปลาย สค และราคาสูงสุดในเดือน กพ และ กลางเดือน ตค ----- แค่ดูคร่าวๆ เป็นแนวทาง อย่ายึดมั่นว่าจะต้องเป็นตามนี้ ข้างล่างเป็นกราฟราคานํามัน ตามฤดูกาล จาก Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary
 บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 24 25 [26] 27 28 ... 42   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: