ทองใหม่
|
|
« ตอบ #105 เมื่อ: พฤศจิกายน 05, 2009, 06:27:57 AM » |
|
สวัสดีตอนเช้าค่ะ อากาศยามเช้าสดชื่นน้ะค่ะ have agood day kha สวัสดีเช่นกันจ้า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ทองใหม่
|
|
« ตอบ #106 เมื่อ: พฤศจิกายน 05, 2009, 06:43:36 AM » |
|
วิธีดูทิศทางทอง ต้าน๓----หนุน๓เป็นทิศทางทองที่จะเคลื่อนไหวในวันนี้ หากพุ่งทะลุต้าน๓หรือดิ่งทะลวงหนุน๓ แสดงถึงวันนั้นทองเคลื่อนไหวแรงเกินปกติ เส้นแดนเป็นเส้นที่จะแบ่งแยกทิศทางของทองที่จะขึ้นหรือลง หากทองเคลื่อนไหวอยู่ในทิศทางใดมากและนาน นั่นหมายถึงโอกาสเป็นไปได้มากที่ทองจะเคลื่อนไปในทิศทางนั้นๆ ในช่วงเวลานั้น (ยังต้องแบ่งออกในช่วงเวลาตลาดเอเซีย ยุโรป เมกาด้วย) ต้าน๑และหนุน๑หากถูกทดสอบแบบมีผล(ขึ้นลงมากกว่า๑ครั้ง)แล้วยืนอยู่ได้ นั่นคือทิศทางทองที่จะเดินต่อไปในช่วงเวลานั้น หากการวิเคราะเกิดขัดแย้งกันเมื่อไหร่ ให้หยุดมองดูอย่างเดียว ไม่ควรซื้อ-ขายในช่วงเวลานั้น แนวทางนี้เหมาะกับการเล่นสั้นมาก (เล่นแบบออนไลน์ในอนาคต) มีความแม่นยำถึง80%ครับ อีกอย่างข่าวปัจจัยพื้นฐานอาจเปลี่ยนทิศทางทองได้กะทันหันนะครับ ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์กับการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย ถัาติดดอยเมื่อทองต่ำลงมา หากยังมีเงินเหลืออยู่ ควรซื้อเพิ่ม เพิ่มที่ละนิด ต่ำอีกซื้ออีก เพื่อดึงต้นทุนที่สูงให้ต่ำลงมา ใครที่ยังไม่มีทองในมือควรทยอยซื้อเข้าอย่ามากนัก หากทองลงอีก เราก็ซื้ออีก ดีกว่าเวลาทองขึ้นเราไปไล่ซื้อในราคาที่สูง จดจำเป็นคติเตือนใจว่า เรามิอาจซื้อได้ในราคาที่ต่ำสุด และขายได้ในราคาที่สูงสุด ไม่มีการลงทุนใดที่ไม่เสี่ยง การบริหารพอร์ตให้ได้จังหวะ จะลดความเสี่ยงลงได้ครับ กราฟสำคัญ ปัจจัยพื้นฐานก็สำคัญ จิตวิทยาการโน้มเอียงของคนก็สำคัญ สิ่งเหล่านี้หากเป็นไปในแนวเดียวกัน ก็จะมุ่งไปทางนั้น หากแย้งกันก็ต้องดูฝ่ายไหนเหนือกว่า.....ด้วยเหตุนี้ไม่มีนักวิเคราะห์คนใดที่จะทำนายได้แม่นยำตลอดกาลได้ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ทองใหม่
|
|
« ตอบ #107 เมื่อ: พฤศจิกายน 05, 2009, 06:45:14 AM » |
|
เส้นปากถุง(เส้นสีขาวทั้ง๓เส้น)แบบง่ายๆ ไม่ปวดเศียรเวียนเกล้า เส้นบน---แนวต้าน เส้นกลาง---แนวโน้ม(สำคัญสุด) เส้นล่าง---แนวหนุน ลักษณะที่๑---ทิศทางขึ้นเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น เส้นกลางหันหัวขึ้น เส้นล่างหันหัวลง ลักษณะที่๒---ทิศทางขึ้นเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวขึ้น เมื่อเจอลักษณะทั้ง๒นี้ ราคาระหว่างวันที่ขึ้นๆลงๆ เมื่อเจอจุดที่เห็นว่าต่ำแล้วให้ซื้อเข้าได้เลยครับ ขอเพียงเส้นกลาง(แนวโน้ม)ยังหันหัวขึ้นอยู่ แม้ราคาเแท่งเทียนจะอยู่ต่ำกว่าเส้นกลาง ก็ยังซื้อเข้าได้ หากเส้นบนเดินขวางเมื่อไหร่ ให้ทยอยลดพอร์ตได้เลยครับ ลักษณะที่๓---เลือกทิศทาง---เส้นบนหันหัวลง เส้นล่างหันหัวขี้น ปากถุงแคบลง ถึงช่วงนี้ ให้ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว หากใครยังคิดอยากเคลื่อนไหว ก็จงเคลื่อนไหวไปหน้าทีวี จงอย่าทำการอย่างอื่นใด หากใครเป็นจอมยุทธ์ ก็ชิงเคลื่อนไหวก่อนใครได้ ขอแถมอีกนิด จงโฟกัสที่เส้นกลาง หากเส้นกลางเริ่มขยบหัวหัวขึ้นหรือลง ทิศทางอาจขึ้นหรือลงตามเส้นกลางแนวโน้มนั้น ลักษณะที่๔---เคลื่อนไหวในกรอบแคบ---เส้นบน กลาง ล่าง เดินขวางทั้ง๓เส้น หากใครเล่นออนไลน์ สามารถเล่นได้เล็กน้อยอย่ามาก เมื่อราคาแท่งเทียนใกล้เส้นบน จงขาย ใกล้เส้นล่าง จงซื้อ ต้องเข้าออกให้ทันการณ์ หาไม่แล้วจากกำไรอาจขาดทุนได้นา ขอบอก ลักษณะที่๕---ทิศทางลงเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น เส้นกลางหันหัวลง เส้ยล่างหัวหัวลง ลักษณะที่๖---ทิศทางลงเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวลง เมื่อเส้นล่างเดินขวางเมื่อไหร่ ผู้ที่ใจกล้าที่เล่นออนไลน์ เริ่มทยอยซื้อเข้าได้ที่ละนิด อัตราเสี่ยงยังมีอยู่บ้างนะครับ สิบอกไห่ วิธีดูเส้นปากถุงที่กล่าวมานี้ .....ไม่ใช่ตำราของฝรั่ง แบบของฝรั่งผมเคยอ่านมาบ้างแล้ว ยาวมาก ปวดหัว ทำความเข้าใจได้ยากมากๆๆๆๆ ...........เหมาะเฉพาะกราฟราย๔ชม.และช่วงปกติเท่านั้นนะครับ (บางครั้งตลาดจงใจคึงขึ้นลงอย่าแรงๆ แทบหัวใจวายสำหรับผู้มีทองในมือและผิดทิศทางของตัวเอง เรียกว่า ช่วงไม่ปกติครับ)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
brabus
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #108 เมื่อ: พฤศจิกายน 05, 2009, 06:56:33 AM » |
|
สวัสดีตอนเช้าค่ะคุณทองใหม่ ขอบคุณสำหรับกราฟและการวิเคราะห์นะคะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ทองใหม่
|
|
« ตอบ #109 เมื่อ: พฤศจิกายน 05, 2009, 07:17:27 AM » |
|
กราฟ๑ชม. ทองลง กราฟเปลี่ยนเมื่อไหร่ จะกลับมาบอกนะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อุ๊
|
|
« ตอบ #110 เมื่อ: พฤศจิกายน 05, 2009, 08:40:33 AM » |
|
ขยันแต่เช้าทุกวันเลยค่ะพี่ทองใหม่ ขอบคุณค่ะ อย่าลืมทานอาหารเช้านะคะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
sue662
|
|
« ตอบ #111 เมื่อ: พฤศจิกายน 05, 2009, 08:59:42 AM » |
|
อยากเรียนถามคุณทองใหม่ค่ะว่า ตอนนี้ร่างกายอาการเป็นอย่างไรบ้างคะ ยังเจ็บอะไรตรงไหนบ้างมั๊ยคะ ขอบคุณสำหรับคำวิเคราะห์ด้วยค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ทองใหม่
|
|
« ตอบ #112 เมื่อ: พฤศจิกายน 05, 2009, 09:04:44 AM » |
|
ขยันแต่เช้าทุกวันเลยค่ะพี่ทองใหม่ ขอบคุณค่ะ อย่าลืมทานอาหารเช้านะคะ ไม่ลืมหรอกจ้า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ทองใหม่
|
|
« ตอบ #113 เมื่อ: พฤศจิกายน 05, 2009, 09:09:06 AM » |
|
อยากเรียนถามคุณทองใหม่ค่ะว่า ตอนนี้ร่างกายอาการเป็นอย่างไรบ้างคะ ยังเจ็บอะไรตรงไหนบ้างมั๊ยคะ ขอบคุณสำหรับคำวิเคราะห์ด้วยค่ะ
ที่แผลผ่าตัดยังมีอาการชาและเจ็บอยู่ครับ และยังต้องตรวจฉี่ ตรวจเลือด CT Scan ตามหมอนัดเรื่อยๆอยู่ มีนัดกับหมอจนถึงปีหน้าโน้นแหละครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ทองใหม่
|
|
« ตอบ #114 เมื่อ: พฤศจิกายน 05, 2009, 09:14:40 AM » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
mamai
Jr. Member
ออฟไลน์
กระทู้: 237
|
|
« ตอบ #115 เมื่อ: พฤศจิกายน 05, 2009, 09:48:38 AM » |
|
ขอบคุณมากครับคุณทองใหม่ เป็นหนึ่งในกิจวัตรที่ต้องเข้ามาอ่านความเห็นของคุณทองใหม่ รักษาสุขภาพด้วยนะครับ เป็นห่วง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"ไม่เชื่อต้องศึกษา ไม่มีปัญญาต้องเรียนรู้"
|
|
|
ทองใหม่
|
|
« ตอบ #116 เมื่อ: พฤศจิกายน 05, 2009, 10:43:27 AM » |
|
ธนาคารกลางสหรัฐฯคงดอกเบี้ยที่ 0- 0.25% ตราบเท่าที่เงินเฟ้อทรงตัวและอัตราว่างงานยังสูง
Posted on Thursday, November 05, 2009 Fed ส่งสัญญาณขยายเวลายืนดอกเบี้ย 0% ต่อ
ธนาคารกลางสหรัฐฯ ตัดสินใจคงดอกเบี้ย พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะยืดเวลาการยืนดอกเบี้ยที่ระดับ 0 ? 0.25% ต่อไป ตราบเท่าที่การคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อยังทรงตัวและสภาวะการว่างงานยังไม่ลดลง
เฟดระบุว่า ภาคธุรกิจยังคงปรับลดค่าใช้จ่ายทางด้านการลงทุน รวมถึงการปลดพนักงานออกอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะเป็นการลดในอัตราที่ต่ำลง ขณะที่ทางด้านการใช้จ่ายภาคครัวเรือน กลับพบว่ามีทิศทางที่ขยายตัวดีขึ้น แต่ก็ยังไม่พ้นถูกกดดันจากปัจจัยการว่างงาน ที่นายจ้างหลายแห่งๆ ยังเดินหน้าปลดพนักงานออกอยู่ต่อไป
นอกจากนั้นผู้บริโภคยังถูกฉุดจากเรื่องรายได้ที่ขยายตัวต่ำ มูลค่าบ้านที่ลดลง รวมถึงการจำกัดสินเชื่อจากภาคธนาคาร
นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ยังได้ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มการถอนมาตรการอัดฉีดเงิน ที่มีอยู่กว่า 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ออกจากระบบ ซึ่งก็ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์รูดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับยูโรในรอบสองเดือน
ขณะที่นักวิเคราะห์และเทรดเดอร์ก็เริ่มไม่แน่ใจว่า เฟดจะสามารถขึ้นดอกเบี้ยในช่วงต้นปีหน้าได้อย่างที่เคยคาดการณ์ไว้หรือไม่ หลังจากที่เห็นท่าทีที่มีความระมัดระวังมากขึ้นของธนาคารกลาง ซึ่งผลก็คือ การเกิดแนวโน้มเงินดอลลาร์ในเชิงลบ และมีผลทางบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ ในระดับที่ลดน้อยลง
ส่วนที่ตลาดหุ้น ดาวโจนส์ก็ลดแรงบวกลงในช่วงท้ายตลาด ขณะที่ราคาน้ำมันกลับบวกขึ้นไปยืนเหนือ 80 เหรียญต่อบาร์เรล หลังจากที่กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขสต็อกที่ลดลงผิดคาด โดยระดับการนำเข้าน้ำมันลดลงมาอยู่ที่จุดต่ำสุดในรอบสองเดือน
ตลาดหุ้นยังมีแรงขายออกมา หลังจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ผ่านกฎหมายควบคุมบัตรเครดิต ที่ส่วนหนึ่งจะทำให้ผู้ให้บริการขึ้นค่าธรรมเนียมต่างๆ ได้ยากขึ้น และปัจจัยนี้ก็นำไปสู่ความกังวลถึงผลที่จะกระทบต่อผลการดำเนินงานของหุ้นกลุ่มธนาคารในอนาคต
ราคาหุ้นของ Wells Fargo, JPMorgan Chase และ Citigroup ก็ฉุดให้หุ้นทั้งกลุ่มแบงก์ปรับตัวลงเมื่อคืนนี้
กูรูชี้อาจเห็นทองแตะ 2,000 เหรียญทศวรรษหน้า
หลังจากที่ราคาทองคำทำนิวไฮอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายคนอาจจะสงสัยว่าแนวโน้มหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร ซึ่งก็แน่นอนว่าจะต้องมีสองค่ายที่มองในคนละมุมกัน ทางด้านผู้ที่มองแนวโน้มราคาทองน่าจะปรับขึ้นต่อ ก็รวมถึงนักลงทุนชื่อดัง อย่างนาย Jim Rogers ซึ่งเป็นคนทำนายวัฏจักรขาขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2542
Rogers แสดงความไม่เห็นด้วยกับผู้ที่เตือนถึงสภาวะฟองสบู่ในราคาทองคำและหุ้นของประเทศตลาดเกิดใหม่ หรือ emerging market
ประธานของบริษัท Rogers Holdings ที่มีฐานใหญ่ในสิงค์โปร์ผู้นี้ บอกว่า ราคาสินค้าโภคภัณฑ์หลายตัวในตอนนี้ยังเรียกว่าต่ำกว่าระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เคยทำไว้ ขณะที่ตลาดหุ้นเองก็ยังไม่ได้ถึงขนาดอยู่ในสภาวะล่อแหลมต่อการถูกเทขายอย่างหนัก จนทำให้ราคาหุ้นดิ่งเหวลง
แต่ในทางกลับกัน ในส่วนของทองคำ เขามองว่ามีโอกาสที่ราคาอาจจะดับเบิ้ลขึ้นไปอยู่แถวๆ ระดับ 2,000 เหรียญในช่วง 10 ปีข้างหน้า
ก่อนหน้านี้ ทางด้านค่ายที่มองในด้านลบต่อราคาสินทรัพย์ ที่รวมถึงหุ้น นั้น ก็มีศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก นายนูเรี่ยล รูบินี่ (Nouriel Roubini) รวมอยู่ด้วย ซึ่งโปรเฟสเซอร์ผู้ทำนายวิกฤติการเงินโลกมาตั้งแต่ปี 2006 ก็ได้บอกเมื่อเดือนที่แล้วว่า การที่นักลงทุนใช้วิธีกู้เงินดอลลาร์เพื่อมาซื้อสินทรัพย์นั้น กำลังทำให้เกิดภาวะฟองสบู่อย่างหนักในตลาดสินทรัพย์
วิธีการที่เรียกว่า ?Carry Trade? แบบของจริงนี้ เริ่มทำให้หุ้นในตลาดเกิดใหม่แสดงสัญญาณฟองสบู่แล้ว รวมถึงค่าเงินของประเทศที่กำลังพัฒนา ที่เริ่มขยับเข้าสู่ระดับที่เรียกว่าแข็งค่าเกินจริง ขณะที่ราคาน้ำมันเองก็ไม่สะท้อนถึงปัจจัยพื้นฐานเท่าที่ควร
กลับมาที่มุมมองของ Jim Rogers เขาได้แสดงท่าทีคัดค้านความเห็นของ Roubini ด้วยการบอกว่า ตลาดหุ้นอย่างเช่น จีน หรือ ราคาน้ำตาล เงิน หรือแม้แต่เมล็ดกาแฟ ได้ร่วงหล่นลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อย่างน้อยราว 50% ซึ่งก็มีคำถามตามมาว่าแล้วเท่าไหร่ถึงจะเรียกว่าเข้าสู่เขตที่เป็นภาวะฟองสบู่
Rogers ตอบว่า ไม่มีความร้อนแรงใดๆ เกิดขึ้นแน่นอน แม้ราคาจะพุ่งขึ้นถึง 100% ในปีนี้ เพราะที่ระดับนั้นยังต่ำกว่าจุดสูงสุดเดิมถึงกว่า 70% ซึ่งเขาก็ได้ย้ำปิดท้ายการให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวด้วยว่า ไม่มี bubble แน่นอน แม้ทุกอย่างดูเหมือนจะสูงเกินไปสำหรับในปีนี้ และเชื่อได้เลยว่า นี่ไม่ใช่ภาวะฟองสบู่
IMF คาดหวังประเทศ G-20 สร้างสมดุลทางเศรษฐกิจ
นายโดมินิค สเตราส์-คาห์น ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดหวังว่า รัฐมนตรีคลังจากกลุ่มประเทศ G-20 จะกำหนดกรอบเวลาและจัดเตรียมแผนการหารือเพื่อสร้างความเชื่อมั่น ว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกครั้งต่อไปจะมีความสมดุลมากขึ้น
เจ้าหน้าที่อาจลงมติเห็นชอบเกี่ยวกับรายละเอียดเรื่องกรอบการทำงานของ IMF ในการวิเคราะห์ผลกระทบด้านนโยบายของแต่ละประเทศในการประชุมที่เมืองเซนต์แอนดรูส์ สกอตแลนด์ วันที่ 6-7 พฤศจิกายนนี้
พร้อมเสนอแนวทางสำหรับการประชุมครั้งต่อไปในเดือน มิ.ย. 2553 ขณะที่มีข้อมูลบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่รัฐบาลทั่วโลกใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไปกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
นายอแตร์ ดาร์ลิ่ง รัฐมนตรีคลังอังกฤษกล่าวว่า ในขณะที่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยังดำเนินต่อไป ก็ยังจำเป็นต้องร่วมมือกันเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น และ เศรษฐกิจทั่วโลกต้องพึ่งพาซึ่งกันและกัน"
นอกจากนี้ นายสเตราส์-คาห์น กล่าวเพิ่มเติมว่า การให้ความร่วมมือที่ชาติต่างๆแสดงออกมาในระหว่างที่เกิดวิกฤตนั้นจะไม่ลดระดับลง และเชื่อมั่นว่า หลายฝ่ายมีเจตนารมย์ทางการเมืองในการให้ความร่วมมือกัน
บลูมเบิร์กรายงานว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายกำลังหาทางสร้างความเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจจะสามารถกลับมาขยายตัวได้อย่างสมดุลในปีหน้า หลังจากที่ทั่วโลกสามารถแก้ปัญหาช่องว่างระหว่างการออม การใช้จ่าย การลงทุน และการปล่อยสินเชื่อในช่วงที่เกิดวิกฤตการเงิน
ทั้งนี้ ประเทศมหาอำนาจยักษ์ใหญ่ อย่างสหรัฐ จีน และเอเชียมีความมุ่งมั่นที่ต่อสู้กับปัญหาเรื่องความสมดุลทางการค้า ด้วยเห็นว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของทุกฝ่าย
ออสเตรเลีย ตั้งทีมสอบเหตุน้ำมันรั่วของ PTTEP
นายมาร์ติน เฟอร์กูสัน รมว.พลังงานออสเตรเลียเปิดเผยว่า รัฐบาลออสเตรเลียจะตั้งทีมตรวจสอบหาสาเหตุการรั่วไหลของน้ำมันกว่า 30,000 บาร์เรลในทะเลติมอร์ ซึ่งเป็นน้ำมันจากแท่นขุดเจาะของบริษัทในเครือบมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) จนเป็นเหตุให้นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมออกมาเรียกร้องให้ทางการออสเตรเลียระงับใบอนุญาตการสำรวจและขุดเจาะน้ำมันครั้งใหม่
รมว.พลังงานออสเตรเลียกล่าวว่า การตรวจสอบครั้งนี้มีเป้าหมายที่จะสืบหาสาเหตุของการรั่วไหลของน้ำมันจากโครงการมอนทารา ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา
การรั่วไหลของน้ำมันทำให้สมาคมอนุรักษ์ปลาวาฬและปลาโลมาของออสเตรเลียเรียกร้องให้รัฐบาลระงับการออกใบอนุญาตสำรวจและขุดเจาะน้ำมันครั้งใหม่ในทันที
ทาง PTTEP กล่าวว่า ทางบริษัทจะเริ่มดำเนินการสำรวจหาสาเหตุการรั่วไหลโดยเร็ว หลังจากเกิดเหตุเพลิงไหม้แท่นขุดเจาะปิโตรเลียมของ PTTEP ในโครงการมอนทาราเมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้ต้องหยุดการดำเนินการที่แท่นขุดเจาะดังกล่าว
การที่มีน้ำมันรั่วไหลลงสู่ทะเลติมอร์ นอกชายฝั่งคิมเบอร์ลีย์ของออสเตรเลีย จำนวนมากถึง 400 บาร์เรลต่อวัน สำนักงานป้องกันทางทะเลของออสเตรเลียระบุว่าเป็นเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหลครั้งใหญ่สุดอันดับ 3 ในประวัติศาสตร์ออสเตรเลีย
วุฒิสมาชิก ราเชล ซีเวิร์ต เปิดเผยว่า นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกลุ่ม Australian Greens คาดหวังว่ารัฐบาลจะตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างยุติธรรมและคาดหวังว่าจะได้รับความร่วมมืออย่างเต็มรูปแบบจากทั้ง PTTEP และรัฐบาลออสเตรเลีย เนื่องจากภัยพิบัติในครั้งนี้สร้างความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมทางทะเลาอย่างประเมินค่ามิได้
ขณะที่สมาคมอนุรักษ์ปลาวาฬและปลาโลมาเรียกร้องให้มีการตรวจสอบการปฏิบัติงานทางน้ำทั้งหมดของออสเตรเลีย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าการทำงานจะมีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง อีกทั้งเรียกร้องให้มีการทบทวนการออกใบอนุญาตการสำรวจน้ำมันและก๊าซ
โตโยต้า เตรียมถอนตัวจาก F1 หลังจบฤดูกาล 2552
โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป แถลงข่าวการถอนตัวจากการแข่งขันรถสูตร 1 หรือฟอร์มูลาวันเมื่อจบฤดูกาลแข่งขันปัจจุบัน โดยให้เหตุผลว่าต้องการลดต้นทุน ตามรอยฮอนด้า มอเตอร์ โค บริษัทผลิตยานยนต์อันดับ 2 ของญี่ปุ่นที่ตัดสินใจถอนตัวไปก่อนแล้วเมื่อปลายปีที่ผ่านมา
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า โตโยต้าไม่ต้องการแบกรับต้นทุนการทำทีมฟอร์มูลาวันที่สูงถึงปีละหลายสิบล้านเยน ซึ่งการตัดสินใจครั้งนี้ทำให้ไม่เหลือบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นในการแข่งขันฟอร์มูลาวันแม้แต่บริษัทเดียว และโตโยต้ากำลังมองหาบริษัทในยุโรปให้มาเทคโอเวอร์ทีมฟอร์มูลาวันต่อไป
โตโยต้ามีตัวเลขขาดทุนจากการดำเนินงาน 461,010 ล้านเยนในปีงบการเงิน 2551 ซึ่งถือว่าเป็นปีแรกที่ขาดทุนนับตั้งแต่ปีงบการเงิน 2480 และคาดว่าจะขาดทุนเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันในปีงบ 2552 ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนมีนาคมปีหน้า โดยคาดว่าอาจมีตัวเลขขาดทุนจากการดำเนินงานถึง 7.5 แสนล้านเยน ซึ่งถือว่าแย่สุดเป็นประวัติการณ์
หลังถอนตัวจากการแข่งขันฟอร์มูล่าวัน หรือ เอฟวัน โตโยต้าจะหันไปให้ความสำคัญกับการพัฒนารถประหยัดพลังงานซึ่งเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ให้บริษัทได้เป็นอย่างดี โดยดูได้จากรถไฮบริดรุ่นพรีอุสของโตโยต้าที่มียอดขายอย่างท่วมท้น
ทั้งนี้ โตโยต้าเข้าร่วมการแข่งขันรถฟอร์มูล่าวันเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2545 โดยหวังพัฒนาความสามารถด้านเทคโนโลยีและสร้างภาพลักษณ์ในยุโรป และเคยกล่าวว่าจะร่วมแข่งจนถึงปี 2555 โดยโตโยต้ารั้งอันดับ 5 จากทั้งหมด 10 ทีมในปีนี้
จีนไฟเขียว ?วอลท์ ดิสนีย์? สร้างสวนสนุกที่เซี่ยงไฮ้
วอล์ท ดิสนีย์ ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลจีนให้สร้างสวนสนุกที่เซี่ยงไฮ้ หวังสร้างรายได้จากสวนสนุกรายใหญ่อันดับ 2 ของบริษัท ซึ่งการอนุมัติจากรัฐบาลจะช่วยปูทางไปสู่การทำข้อตกลงด้านการก่อสร้างและการดำเนินการในขั้นสุดท้าย ตามข้อตกลงนั้น ดิสนีย์และรัฐบาลเซี่ยงไฮ้เสนอให้มีการสร้างสวนสนุกในเดือนม.ค.ปีหน้า
ขณะที่ดิสนีย์ตั้งความหวังกับตลาดจีนไว้มาก เนื่องจากจีนเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก และบริษัทก็ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่ดีนักเมื่อกำไรไตรมาส 3 จากกิจการสวนสนุกร่วงลง 19% และยอดขายก็ลดลงไป 9%
โรเบิร์ต เอ ไอเกอร์ ประธานของวอลท์ ดิสนีย์ กล่าวว่า จีนเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจที่น่าตื่นเต้น และเป็นประเทศที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก การอนุมัติให้มีการก่อสร้างครั้งนี้ถือเป็นความคืบหน้าครั้งสำคัญสำหรับดิสนีย์
สวนสนุกแห่งใหม่นี้จะตั้งอยู่ที่เขตพูตงของเซี่ยงไฮ้ ภายในจะมีทั้งสวนสนุกในสไตล์เมจิค คิงดอม ซึ่งจะมีการปรับคุณสมบัติและลักษณะให้เข้ากับภูมิประเทศของเซี่ยงไฮ้ อย่างไรก็ดี ดิสนีย์ไม่ได้เปิดเผยเรื่องต้นทุนในการดำเนินโครงการ
ดิสนีย์ได้เปิดให้บริการสวนสนุกที่ฮ่องกงเมื่อเดือนก.ย. 2548 ซึ่งมีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการถึง 17 ล้านคันนับตั้งแต่เปิดให้บริการ
ทางด้านแอนดรูว์ คัม กรรมการผู้จัดการของฮ่องกง ดิสนีย์แลนด์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 10 ก.ค.ว่า ดิสนีย์จะใช้งบประมาณ 3,500 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง เพื่อเพิ่มเครื่องเล่น อาทิ Toy Story Land และ Grizzly Trail และรัฐบาลจะเปลี่ยนเงินกู้ของรัฐที่ให้กับสวนสนุกให้อยู่ในรูปของหุ้น
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่ประกาศออกมาเมื่อวานนี้ (พุธที่ 4 พ.ย. 2552) ? ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน (ต.ค.) ลดลง 203,000 รายจากเดือนก่อนหน้า ? ดัชนีภาคบริการ (ต.ค.) อยู่ที่ระดับ 50.6 จุด ? ตัวเลขสต็อกน้ำมันสำรองประจำสัปดาห์ลดลง 4.0 ล้านบาร์เรล ? ที่ประชุม FOMC ของธนาคารกลางสหรัฐฯมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0-0.25%
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่จะประกาศออกมาวันนี้ (พฤหัสบดีที่ 5 พ.ย. 2552) ? ประสิทธิภาพการผลิตและต้นทุนการผลิต (Q3) โดยกระทรวงแรงงาน ? ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ
ติดตาม Money Wake up ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ทาง Money Channel
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ทองใหม่
|
|
« ตอบ #117 เมื่อ: พฤศจิกายน 05, 2009, 11:02:12 AM » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ทองใหม่
|
|
« ตอบ #118 เมื่อ: พฤศจิกายน 05, 2009, 11:04:41 AM » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ทองใหม่
|
|
« ตอบ #119 เมื่อ: พฤศจิกายน 05, 2009, 11:06:36 AM » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Gold Price today, Gold Trend Price Prediction, ราคาทองคํา, วิเคราะห์ทิศทางทองคํา
|
Thanks: ฝากรูป dictionary
---------------------Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. For more information on Moore Research products and services click here. --- http://www.mrci.com ----------
---------------------------------------------รูปกราฟแสดงราคาทองในอดีตปี 1974-1999 ของ Moore Research Center, Inc.
แสดงฤดูกาลที่ราคาทองขึ้นสูงสุดและตําสุด เอาแบบคร่าวๆ เส้นนําตาลหรือนําเงินก็ใกล้เคียงกัน เส้นนําตาลเฉลี่ย
15 ปี เส้นนําเงินเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุดของเส้นนําตาล หรือเฉลี่ย 15 ปี ในเดือน ปลายเดือน เมษ และปลายเดือน สค
ต่อต้นเดือน กย[/color] สูงสุดในเดือน กพ กับ พย / ส่วนเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุด ต้น กค กับ ปลาย สค และราคาสูงสุดในเดือน
กพ และ กลางเดือน ตค -----
แค่ดูคร่าวๆ เป็นแนวทาง อย่ายึดมั่นว่าจะต้องเป็นตามนี้
ข้างล่างเป็นกราฟราคานํามัน ตามฤดูกาล จาก Charts courtesy of Moore Research Center, Inc.
Thanks: ฝากรูป dictionary
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|