Forex-Currency Trading-Swiss based forex related website. Home ----- กระดานสนทนาหน้าแรก ----- Gold Chart,Silver,Copper,Oil Chart ----- gold-trend-price-prediction ----- ติดต่อเรา
หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ทิศทางทองวันที่ 9---13/11/2009  (อ่าน 9071 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 5 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ทองใหม่
Hero Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1062


« ตอบ #75 เมื่อ: พฤศจิกายน 11, 2009, 01:11:21 PM »

ขอบคุณค่ะคุณทองใหม่

ใส่รูปไม่ได้แล้วครับ ทำไงดี?
เกิดข้อผิดพลาด!
โฟล์เดอร์ที่ใช้เก็บไฟล์แนบเต็ม โปรดลองด้วยไฟล์ที่เล็กกว่า หรือติดต่อ ผู้ดำเนินการ 



ทำไงดีค่ะ ใครช่ยแก้ไขด้วยค่ะ ขอบพระคุณค่ะ
(อยากดูตาแป๊ะ) Cheesy Cheesy Cheesy


โพรสแจ้งกระทู้นี้ให้แล้วค่ะ http://www.gold2gold.com/webboard/index.php?topic=322.new#new
ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า
brabus
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #76 เมื่อ: พฤศจิกายน 11, 2009, 01:57:22 PM »

ขอบคุณค่ะ คุณมิจิ Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า
MIJI
Hero Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2900



« ตอบ #77 เมื่อ: พฤศจิกายน 11, 2009, 04:33:09 PM »

 Wink Wink Wink
บันทึกการเข้า

บทวิเคราะห์คือแนวทาง  การตัดสินใจคือตัวเราเอง
Cindy
Jr. Member
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 347



« ตอบ #78 เมื่อ: พฤศจิกายน 11, 2009, 05:45:18 PM »

เก็บสะสมวันละนิดตามที่อาจารย์แนะนำ ว่าแต่ซื้อวันนี้คงปาเข้าไป 11 บาท/หน่วย Cry
บันทึกการเข้า
ทองใหม่
Hero Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1062


« ตอบ #79 เมื่อ: พฤศจิกายน 12, 2009, 06:39:25 AM »

 วิธีดูทิศทางทอง ต้าน๓----หนุน๓เป็นทิศทางทองที่จะเคลื่อนไหวในวันนี้ หากพุ่งทะลุต้าน๓หรือดิ่งทะลวงหนุน๓ แสดงถึงวันนั้นทองเคลื่อนไหวแรงเกินปกติ เส้นแดนเป็นเส้นที่จะแบ่งแยกทิศทางของทองที่จะขึ้นหรือลง หากทองเคลื่อนไหวอยู่ในทิศทางใดมากและนาน นั่นหมายถึงโอกาสเป็นไปได้มากที่ทองจะเคลื่อนไปในทิศทางนั้นๆ ในช่วงเวลานั้น (ยังต้องแบ่งออกในช่วงเวลาตลาดเอเซีย ยุโรป เมกาด้วย) ต้าน๑และหนุน๑หากถูกทดสอบแบบมีผล(ขึ้นลงมากกว่า๑ครั้ง)แล้วยืนอยู่ได้ นั่นคือทิศทางทองที่จะเดินต่อไปในช่วงเวลานั้น หากการวิเคราะเกิดขัดแย้งกันเมื่อไหร่ ให้หยุดมองดูอย่างเดียว ไม่ควรซื้อ-ขายในช่วงเวลานั้น แนวทางนี้เหมาะกับการเล่นสั้นมาก (เล่นแบบออนไลน์ในอนาคต) มีความแม่นยำถึง80%ครับ อีกอย่างข่าวปัจจัยพื้นฐานอาจเปลี่ยนทิศทางทองได้กะทันหันนะครับ
ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์กับการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย ถัาติดดอยเมื่อทองต่ำลงมา  หากยังมีเงินเหลืออยู่ ควรซื้อเพิ่ม เพิ่มที่ละนิด ต่ำอีกซื้ออีก เพื่อดึงต้นทุนที่สูงให้ต่ำลงมา ใครที่ยังไม่มีทองในมือควรทยอยซื้อเข้าอย่ามากนัก หากทองลงอีก เราก็ซื้ออีก ดีกว่าเวลาทองขึ้นเราไปไล่ซื้อในราคาที่สูง  จดจำเป็นคติเตือนใจว่า  เรามิอาจซื้อได้ในราคาที่ต่ำสุด และขายได้ในราคาที่สูงสุด ไม่มีการลงทุนใดที่ไม่เสี่ยง การบริหารพอร์ตให้ได้จังหวะ จะลดความเสี่ยงลงได้ครับ
กราฟสำคัญ ปัจจัยพื้นฐานก็สำคัญ จิตวิทยาการโน้มเอียงของคนก็สำคัญ สิ่งเหล่านี้หากเป็นไปในแนวเดียวกัน ก็จะมุ่งไปทางนั้น หากแย้งกันก็ต้องดูฝ่ายไหนเหนือกว่า.....ด้วยเหตุนี้ไม่มีนักวิเคราะห์คนใดที่จะทำนายได้แม่นยำตลอดกาลได้ครับ


บันทึกการเข้า
sue662
Full Member
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 616


« ตอบ #80 เมื่อ: พฤศจิกายน 12, 2009, 09:34:26 AM »

อรุณสวัสดิ์คุณทองใหม่ค่ะ
บันทึกการเข้า
ทองใหม่
Hero Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1062


« ตอบ #81 เมื่อ: พฤศจิกายน 12, 2009, 10:15:59 AM »

ธนาคารโลกเตือนเอเชียอาจเผชิญภาวะฟองสบู่

Posted on Thursday, November 12, 2009
หุ้นโลกเดินหน้าบวก ขณะทองทำนิวไฮต่อ

ตัวเลขภาคการผลิตของจีนที่สดใส บวกกับผลประกอบการของธุรกิจชั้นนำก็ได้สร้างความคึกคักให้กับตลาดหุ้นทั่วโลก นับตั้งแต่ตลาดเอเชียเมื่อวาน มาจนถึงยุโรปและอเมริกา

ปัจจัยผลดำเนินงานเริ่มจากธนาคารที่มีมาร์เก็ตแค็ปขนาดใหญ่อันดับ 3 ของฝรั่งเศส อย่าง Credit Agricole ที่ออกมาดีกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ด้วยตัวเลขกำไรในไตรมาส 3 ที่ 289 ล้านยูโร พร้อมกับการประกาศเปลี่ยนตัวซีอีโอในปีหน้า

ขณะที่ผู้ผลิตปูนซีเมนต์รายใหญ่อันดับสองของโลก อย่าง Holcim ก็เปิดเผยผลกำไรในไตรมาส 3 ที่ 673 ล้านฟรังค์สวิส เมื่อเทียบกับตัวเลข 460 ล้านฟรังก์สวิสที่ตลาดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ผลงานดังกล่าวก็เกิดขึ้นหลังจากที่บริษัทได้ทำการปิดตัวโรงงานหลายแห่ง รวมถึงการลดจำนวนพนักงาน ด้วยจุดประสงค์ที่อยากจะเห็นอัตรากำไรที่ดีขึ้น

นอกจากนั้น ผู้ให้บริการผลิตภัณฑ์ทางการเงินชั้นนำสัญชาติดัทช์ อย่าง ING Group ก็เปิดเผยผลกำไรเฉียด 500 ล้านยูโรในไตรมาสล่าสุด ซึ่งดีขึ้นจากที่เคยขาดทุน 478 ล้านยูโรในช่วงเดียวกันปีที่แล้ว

มาที่อเมริกา ที่ดัชนี S&P 500 ขยับขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 13 เดือน นำโดยแรงซื้อหุ้นในกลุ่มการเงิน อย่าง Bank of America, Goldman Sachs และ Wells Fargo เช่นเดียวกับหุ้นในกลุ่มรับสร้างบ้านที่บวกกันอย่างคึกคัก นำโดย Toll Brothers ที่เป็นบริษัทรับสร้างบ้านหรูหรารายใหญ่ที่สุดของประเทศ ราคาหุ้นกระโดดขึ้นถึง 16% ซึ่งนับว่าแรงที่สุดในรอบ 17 ปี หลังจากบริษัทบอกว่ายอดคำสั่งซื้อพุ่งขึ้นถึง 42% ในไตรมาสล่าสุด ขณะที่ยอดขายและกำไรก็ออกมาเหนือความคาดหมายของนักวิเคราะห์

ส่วนหุ้นในกลุ่มเดียวกัน เช่น Pulte Homes, KB Home, Lennar และ D.R.Horton ก็บวกขึ้นได้อย่างน้อย 5%

และก็ยังบวกได้อย่างต่อเนื่องสำหรับราคาทองคำ จนทำสถิติสูงสุดใหม่ได้ที่ 1,119.10 เหรียญต่อออนซ์เมื่อคืนนี้ ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าแนวโน้มเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าจะผลักให้ความต้องการในสินทรัพย์ที่เป็นทางเลือกเพิ่มมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น ตลาดก็ยังได้เห็นมุมมองของกูรูนักลงทุนชื่อดัง อย่าง Marc Faber ที่ระบุไว้ในงานเขียนฉบับล่าสุดว่า ราคาทองจะไม่หล่นลงไปต่ำกว่าระดับ 1,000 เหรียญอีกแล้ว ภายใต้สภาวะที่ธนาคารกลางต่างๆ ได้ทำการพิมพ์เงินเพื่อมาหนุนการขาดดุลงบประมาณ ซึ่งบางทีราคาทองในวันนี้อาจจะถูกกว่าในปี 2544 เสียด้วยซ้ำ หากสมมติให้ดอกเบี้ยอยู่ในระดับเดียวกัน

Faber ยังได้พูดถึงการที่จีนเดินหน้าซื้อทรัพยากรต่างๆ ที่รวมถึงทองด้วยว่า มีโอกาสเพิ่มขึ้นได้อีก พร้อมกับคาดว่าเศรษฐกิจของประเทศตลาดเกิดใหม่ก็น่าจะขยายตัวได้ในอัตราที่สูงสุดด้วย


จับตาทิศทางค่าเงินหยวน หลังถูกกดดันรอบด้าน

เงินหยวนถูกกดดันให้แข็งค่าอีกครั้ง หลังตัวเลขเศรษฐกิจจีนล่าสุดออกมาส่งสัญญาณเร่งตัวขึ้น ประจวบเหมาะกับการมาเยือนเอเชียของผู้นำสหรัฐฯ ที่ตั้งธงมาก่อนแล้วว่าจะหยิบยกประเด็นค่าเงินของจีนขึ้นมาพูดคุย

ขณะที่ท่าทีของนายกรัฐมนตรี นาย เหวิน เจี่ยเป่า ก็ยังไม่ได้พุ่งเป้ามาเปลี่ยนแปลงนโยบายในเรื่องค่าเงินมากนัก จนกว่าจะเห็นการฟื้นตัวอย่างมากสำหรับภาคส่งออกในฐานะที่จะเป็นตัวสร้างความมั่งคงในเศรษฐกิจของประเทศและเพิ่มการจ้างงาน

และนอกจากอเมริกาที่คาดหวังกับการเปลี่ยนทิศของนโยบายค่าเงินของจีนแล้ว ทางประธานของธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย หรือ ADB ก็พูดถึงค่าเงินของประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกแห่งนี้ด้วยว่า มีความจำเป็นและเหมาะสมแล้วที่จีนจะปล่อยให้ค่าเงินของตนเคลื่อนไหวในแบบที่ยืดหยุ่นมากขึ้น หลังจากที่รัฐบาลใช้มาตรการตอบโต้กับสภาวะวิกฤติในช่วงที่ผ่านมาได้อย่างดีเยี่ยม จนนำมาสู่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง

คำกล่าวของประธาน ADB นั้นก็สอดคล้องกับของผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่บอกว่าอยากเห็นจีนจัดการกับเรื่องค่าเงินของตนที่อ่อนเกินควร

ไฮไลท์ตัวเลขเศรษฐกิจจีนล่าสุดอยู่ที่ผลผลิตอุตสาหกรรมในเดือนตุลาคม ที่ขยายตัว 16.1% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และเป็นอัตราที่สูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2551 ขณะตัวเลขยอดค้าปลีกก็เพิ่มขึ้นด้วยอัตรา 16.2% ต่อปี ในเดือนเดียวกันนี้ด้วย เช่นเดียวกับ มูลค่าการเกินดุลการค้า ที่เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจากเดือนกันยายน มาอยู่ที่ 24,000 ล้านเหรียญ หลังมูลค่าส่งออกร่วงในอัตราที่ต่ำสุดของปีนี้

มาดูที่มุมมองของธนาคารกลางจีน ผ่านรายงานประจำไตรมาสล่าสุดที่ระบุว่า นโยบายอัตราแลกเปลี่ยนของประเทศจะมีการพิจารณาถึงปัจจัยเงินทุนเคลื่อนย้ายในโลกและการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินสกุลหลักเข้าไว้ด้วย ซึ่งนั่นก็อาจจะถูกตีความว่า มีความเป็นไปได้ที่จีนอาจจะปล่อยให้ค่าเงินของตนแข็งขึ้นได้ ขณะเดียวกับที่เงินดอลลาร์อ่อนค่า

และที่น่าสนใจก็คือ ข้อความในรายงานของแบงก์ชาติจีนล่าสุดดังกล่าว ได้เปลี่ยนไปจากฉบับก่อนหน้าที่เคยระบุถึงความต้องการที่จะปกป้องค่าเงินหยวนให้มีเสถียรภาพ


ประธานาธิบดีสหรัฐฯทัวร์เอเชียอย่างเป็นทางการครั้งแรก

ประธานาธิบดีบารัค โอบามา จะเริ่มเดินทางมาเยือนเอเชียอย่างเป็นทางการ ซึ่งนับเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ

ประเด็นที่น่าจับตา คงไม่พ้นเรื่องการเตรียมเจรจากับญี่ปุ่นในประเด็นฐานทัพโอกินาวา ที่ต้องการจะสางปัญหาดังกล่าว ก่อนเปิดการประชุม สุดยอดผู้นำเอเชียแปซิฟิก APEC (เสาร์-อาทิตย์นี้) หรือ เรียกว่า Leader meeting และปัญหาใหม่ล่าสุดที่เกิดขึ้นระหว่างปะทะกันในน่านน้ำทะเลเหลือง ระหว่างเกาหลีใต้ และเกาหลีเหนือ รวมถึง หารือเรื่องสงครามในอัฟกานิสถาน การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ โครงการอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ

ประธานาธิบดีโอบามา จะเดินทางเยือนญี่ปุ่นเป็นประเทศแรก ในวันศุกร์ ที่ 13 พ.ย. นี้ โดยจะเป็นการประชุมร่วมกับ ยูคิโอะ ฮาโตยามะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ในประเด็น ข้อตกลงเรื่องฐานทัพของสหรัฐในประเทศญี่ปุ่น

นายฮาโตยามะ ซึ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อ 2 เดือนที่แล้วให้คำมั่นว่า จะปรับเปลี่ยนข้อตกลงเมื่อปี 2549 ในเรื่องการเปลี่ยนฐานทัพอากาศฟูเตนมะที่เกาะโอกินาว่า ซึ่งมีทหารในสังกัดจำนวนมาก

ขณะที่พรรคเดโมเครติค ออฟ เจแปนต้องการให้มีการโยกย้ายฐานทัพออกจากเกาะโอกินาว่า เนื่องจากประชาชนในพื้นที่ได้ร้องเรียนมาเกี่ยวกับเรื่องมลพิษ เสียงรบกวน และอาชญากรรม

บลูมเบิร์กรายงานว่า โอบามาได้ให้สัมภาษณ์กับ NHK เทเลวิชั่น ว่า ญี่ปุ่นควรจะรักษาข้อตกลงไว้ ในเวลาต่อมา ทั้ง 2 ประเทศตกลงที่จะจัดตั้งคณะทำงานในระดับครม.ขึ้นมา เพื่อคลี่คลายความขัดแย้งในเรื่องดังกล่าว

ผู้เชี่ยวชาญในญี่ปุ่น ต่างออกมาประเมินสถานการณ์ ว่าปัญหาดังกล่าวอาจจะไม่สามารถหาข้อสรุปสุดท้ายได้ ภายในการเยือนญี่ปุ่นครั้งนี้ และในวันเสาร์-อาทิตย์ โอบามาจะเข้าร่วมประชุม APEC ที่สิงคโปร์ (Leader Meeting) ซึ่งผู้นำของไทย และทั้งหมด 21 ประเทศ (ชาติสมาชิกเอเปคประกอบไปด้วย ออสเตรเลีย บรูไน แคนาดา ชิลี จีน ฮ่องกง อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย เม็กซิโก นิวซีแลนด์ ปาปัวนิวกินี เปรู ฟิลิปปินส์ รัสเซีย สิงคโปร์ ไต้หวัน สหรัฐ เวียดนาม และไทย) จะเข้าร่วมในการประชุมครั้งนี้


EU เรียกประชุมเลือกประธานสหภาพยุโรปคนแรก

สหภาพยุโรป (EU) เรียกประชุมนัดพิเศษในวันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายนนี้ ที่บรัสเซล เพื่อเฟ้นหาประธานคนแรกของของกลุ่ม รัฐบาลสวีเดนระบุในเว็บไซต์โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปเกี่ยวกับผู้ที่จะมาดำรง 3 ตำแหน่งใหม่ในสหภาพยุโรปในการประชุมครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม ทางเว็บไซต์ไม่ได้เปิดเผยชื่อตัวเก็งที่เหมาะสมกับตำแหน่งดังกล่าว

โรเบอร์ต้า อเลเนียส โฆษกหญิงของรัฐบาลสวีเดน กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีเฟรดริก ไรน์เฟลด์ท ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานหมุนเวียน EU อยู่ในขณะนี้ จะปรึกษากับผู้นำกลุ่ม EU เป็นรอบที่สองก่อนที่การประชุมจะเริ่มขึ้นตามกำหนด

หลายฝ่ายเชื่อว่า เฮอร์แมน วอน รอมปุย นายกรัฐมนตรีเบลเยียม มีสิทธิได้นั่งเก้าอี้ประธาน EU หลังจากที่ โทนี่ แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประสบความล้มเหลวในการขอเสียงสนับสนุนจากกลุ่มสังคมนิยมในยุโรป ซึ่งเป็นพันธมิตรพรรคแรงงานอังกฤษ โดยส่วนหนึ่งเป็นเพราะโทนี่ แบลร์ ให้การสนับสนุนให้จอร์จ ดับเบิลยู บุช รุกล้ำเข้าสู่อิรักในปี 2546

สำหรับตัวเก็งที่จะคว้าตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของ EU ไปครองคือ มัสซิโม ดาเลมา อดีตนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศของอิตาลี

ชาดา อิสลาม นักวิเคราะห์จากศูนย์นโยบายยุโรปในบรัสเซลล์ กล่าวกับบลูมเบิร์กว่า "ตำแหน่งประธาน EU ยังไม่มีการกำหนดแบบตายตัว ดังนั้นผู้นำในกลุ่มสามารถเลือกได้ตั้งแต่คนดังไปจนถึงคนที่ไม่โดดเด่นอะไร แต่หาก EU ต้องการเปลี่ยนแปลงรูปแบบองค์กรที่ซบเซามานาน สมาชิกกลุ่มก็ควรเลือกผู้ที่มีความโดดเด่นและกระตือรือร้น"

ทั้งนี้ ประธาน EU จะมีวาระการทำงาน 2 ปีครึ่ง และมีบทบาทในการขับเคลื่อนการทำงานของที่ประชุมผู้นำ EU และช่วยประสานความร่วมมือและทำให้เกิดความสอดคล้องอย่างเป็นเอกฉันท์ตามที่กำหนดไว้ในสนธิสัญญาบอน


อังกฤษเผยว่างงานเพิ่มขึ้นน้อยสุดในรอบ 18 เดือน

จำนวนคนตกงานในอังกฤษปรับตัวสูงขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวที่สุดในรอบ 18 เดือน ส่งสัญญาณว่าความพยายามของรัฐบาลในการดึงเศรษฐกิจให้หลุดพ้นจากภาวะถดถอยนั้นกำลังได้ผล

สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ รายงานว่า จำนวนประชาชนที่ไม่มีงานทำเพิ่มขึ้นอีก 30,000 คน แตะ 2.46 ล้านคนในระหว่างเดือนก.ค.-ก.ย.2552 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่ช่วงไตรมาส มี.ค.- พ.ค. 2551 หรือในรอบ 18 เดือน

ขณะที่ จำนวนคนว่างงานที่ขอรับสวัสดิการจากรัฐในเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 12,900 คน มาอยู่ที่ 1.64 ล้านคน ซึ่งเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ปีที่แล้ว ส่วนจำนวนผู้มีงานทำเพิ่มขึ้น 6,000 คน แตะ 28.93 ล้านคน

ริคกี้ เวสต์วูด นักเศรษฐศาสตร์จากแคปิตอล อีโคโนมิคส์ กล่าวว่า ตลาดแรงงานอังกฤษที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้นน่าประทับใจ เมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ว่า เศรษฐกิจอังกฤษยังไม่หลุดพ้นจากภาวะถดถอย

จอร์จ บักลีย์ นักเศรษฐศาสตร์จากดอยช์แบงก์ เชื่อว่าเศรษฐกิจอาจหลุดพ้นจากภาวะถดถอยแล้ว แต่ยังไม่มั่นใจว่าจะเป็นการฟื้นตัวอย่างยั่งยืนหรือไม่

ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงในอัตราที่ชะลอตัวลง ด้านเคนเนธ คลาร์ก อดีตรัฐมนตรีคลังอังกฤษเชื่อว่า เมอร์วิน คิง ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษจะยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีหน้า เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ในขณะที่อังกฤษยังคงเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่

ขณะที่ธนาคารกลางอังกฤษได้มีการปรับคาดการณ์เงินเฟ้อว่าจะเกิน 2% ในปี 2555 แม้จะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ คลาร์ก กล่าวว่า "ผู้ว่าการธนาคารกำลังเผชิญกับการตัดสินใจครั้งสำคัญและเชื่อว่าผู้ว่าการแบงก์ชาติยังไม่ต้องการที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยภายในช่วง 12 เดือนนี้


ธนาคารโลกเตือนเอเชียอาจเผชิญภาวะฟองสบู่

โรเบิร์ต โซเอลลิก ประธานธนาคารโลกชี้ว่าผู้ว่าการธนาคารกลางในเอเชียจำเป็นต้องพิจารณาเรื่องมาตรการในการควบคุมด้านการเงิน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะฟองสบู่ด้านสินทรัพย์ ในขณะที่เศรษฐกิจของประเทศต่างๆในเอเชียกำลังฟื้นตัวขึ้นท่ามกลางสภาพคล่องที่หนาแน่น

แม้ว่าตัวเขาเองค่อนข้างจะสบายใจกับแนวโน้มของการขยายตัวของเศรษฐกิจในปีนี้ แต่คาดว่ายังมีความเสี่ยงในด้านต่างๆที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกในปีหน้า

หนึ่งในประเด็นที่สร้ญงความกังวลได้แก่ ภาวะฟองสบู่ด้านสินทรัพย์ในระบบเศรษฐกิจของเอเชียตะวันออกบางประเทศที่กลับมาขยายตัวแล้ว หลังจากที่ดิ่งลงอย่างหนักในช่วงเศรษฐกิจถดถอย ธนาคารกลางประเทศต่างๆทั่วโลกได้ลดอัตราดอกเบี้ยลงและอัดฉีดเงินจำนวนมากเข้าสู่ระบบการเงินในช่วงที่เกิดวิกฤตด้านการเงินครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 60 ปีตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3 ปีที่แล้ว

ประธานธนาคารโลกกล่าวต่อไปว่า ตอนนี้ ความท้าทายที่แท้จริงคือ ความเสี่ยงของบุคคลที่เราทำธุรกรรมด้วย ในขณะที่เศรษฐกิจเริ่มกลับมาขยายตัว เราก็จะเห็นว่าประเทศต่างๆต้องจมอยู่กับปัญหาสินเชื่อ

ในขณะที่ผู้ว่าการธนาคารกลางในประเทศต่าง ๆ ในเอเชียจะต้องเผชิญกับความท้าทายมากกว่าเดิม เนื่องจากธนาคารเหล่านี้ไม่สามารถเดินรอยตามธนาคารกลางสหรัฐได้เหมือนที่เคยทำในอดีต

ประธานธนาคารโลกกล่าวนอกรอบการประชุม APEC ว่า หลายประเทศอาจเสี่ยงที่จะเผชิญกับผลกระทบด้านเงินเฟ้อในบางธุรกิจ และยังทำให้เกิดอันตรายในเรื่องของการสร้างความเสี่ยงที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวได้ เนื่องจากสถานการณ์แวดล้อมในสหรัฐและยุโรปยังคงมีปัญหา ดังนั้นจุดยืนในการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำจึงเป็นเรื่องที่ยอมรับได้

ในบรรดาประเทศสมาชิก APEC ธนาคารกลางออสเตรเลียได้ขึ้นดอกเบี้ยไปแล้วถึง 2 ครั้งในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่ธนาคารกลางในเอเชียบางประเทศที่แนวโน้มเศรษฐกิจออกมาดีก็ดูเหมือนว่า จะพร้อมที่จะขึ้นดอกเบี้ยแล้ว

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่จะประกาศออกมาวันนี้ (พฤหัสบดีที่ 12 พ.ย. 2552)
? ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ
? ตัวเลขสต็อกน้ำมันสำรองประจำสัปดาห์ โดย EIA

ติดตาม Money Wake up ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ทาง Money Channel
 
บันทึกการเข้า
brabus
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #82 เมื่อ: พฤศจิกายน 12, 2009, 10:41:46 AM »

สวัสดีค่ะ คุณทองใหม่ Grin
บันทึกการเข้า
Cindy
Jr. Member
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 347



« ตอบ #83 เมื่อ: พฤศจิกายน 12, 2009, 12:07:39 PM »

ขอบคุณค่ะอาจารย์ .. set เขียววันแดงวัน Huh? ไปหาน้ำใบบัวบกกินก่อนนะคะ Sad
บันทึกการเข้า
ทองใหม่
Hero Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1062


« ตอบ #84 เมื่อ: พฤศจิกายน 12, 2009, 12:42:50 PM »

ขอบคุณค่ะอาจารย์ .. set เขียววันแดงวัน Huh? ไปหาน้ำใบบัวบกกินก่อนนะคะ Sad
๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕
บันทึกการเข้า
ทองใหม่
Hero Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1062


« ตอบ #85 เมื่อ: พฤศจิกายน 12, 2009, 12:51:56 PM »

http://www.thaigold.info/forum/index.php?topic=4594.165
บันทึกการเข้า
Jeera
Hero Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3992


Happy day!


« ตอบ #86 เมื่อ: พฤศจิกายน 12, 2009, 01:14:16 PM »

สวัสดีค่ะพี่ทองใหม่  Smiley

ไม่ได้คุยกันนานมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกเลย หายดีรึยังคะ ?
บันทึกการเข้า


Someone love one
Some one love two
But I love one
That One is...U  (^?^)-?
ทองใหม่
Hero Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1062


« ตอบ #87 เมื่อ: พฤศจิกายน 12, 2009, 02:48:27 PM »

สวัสดีค่ะพี่ทองใหม่  Smiley

ไม่ได้คุยกันนานมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกเลย หายดีรึยังคะ ?
ยังต้องไปพบหมอตามที่หมอนัดไว้อยู่จ้า ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า
Jeera
Hero Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3992


Happy day!


« ตอบ #88 เมื่อ: พฤศจิกายน 12, 2009, 03:27:41 PM »

สวัสดีค่ะพี่ทองใหม่  Smiley

ไม่ได้คุยกันนานมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกเลย หายดีรึยังคะ ?
ยังต้องไปพบหมอตามที่หมอนัดไว้อยู่จ้า ขอบคุณครับ

แต่ทานได้ปกติแล้วใช่มั้ยคะ  Wink อย่าลืมทานยาตามหมอสั่งนะคะ

และถ้ามีอาการปกติก็รีบไปพบแพทย์ อย่าสะสมไว้
บันทึกการเข้า


Someone love one
Some one love two
But I love one
That One is...U  (^?^)-?
oyo
Hero Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1760


« ตอบ #89 เมื่อ: พฤศจิกายน 12, 2009, 03:36:11 PM »

ขอบคุณครับ Cheesy
บันทึกการเข้า
Gold Price today, Gold Trend Price Prediction, ราคาทองคํา, วิเคราะห์ทิศทางทองคํา
   

images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary ---------------------Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. For more information on Moore Research products and services click here. --- http://www.mrci.com ---------- ---------------------------------------------รูปกราฟแสดงราคาทองในอดีตปี 1974-1999 ของ Moore Research Center, Inc. แสดงฤดูกาลที่ราคาทองขึ้นสูงสุดและตําสุด เอาแบบคร่าวๆ เส้นนําตาลหรือนําเงินก็ใกล้เคียงกัน เส้นนําตาลเฉลี่ย 15 ปี เส้นนําเงินเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุดของเส้นนําตาล หรือเฉลี่ย 15 ปี ในเดือน ปลายเดือน เมษ และปลายเดือน สค ต่อต้นเดือน กย[/color] สูงสุดในเดือน กพ กับ พย / ส่วนเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุด ต้น กค กับ ปลาย สค และราคาสูงสุดในเดือน กพ และ กลางเดือน ตค ----- แค่ดูคร่าวๆ เป็นแนวทาง อย่ายึดมั่นว่าจะต้องเป็นตามนี้ ข้างล่างเป็นกราฟราคานํามัน ตามฤดูกาล จาก Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary
 บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: