Forex-Currency Trading-Swiss based forex related website. Home ----- กระดานสนทนาหน้าแรก ----- Gold Chart,Silver,Copper,Oil Chart ----- gold-trend-price-prediction ----- ติดต่อเรา
หน้า: [1] 2   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ข่าวเศรษฐกิจและราคาทองคำ  (อ่าน 3001 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Golden
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 13



« เมื่อ: พฤศจิกายน 18, 2009, 03:18:25 PM »

 Grin

    สมาชิกใหม่ขออนุญาติเสนอข่าวสารฯ เริ่มพรุ่งนี้นะครับ (19/11/09)  ยังงัยก็แนะนำด้วยนะครับ       Tongue
บันทึกการเข้า
ccczaa
Jr. Member
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 354



« ตอบ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 18, 2009, 04:20:37 PM »

Grin

    สมาชิกใหม่ขออนุญาติเสนอข่าวสารฯ เริ่มพรุ่งนี้นะครับ (19/11/09)  ยังงัยก็แนะนำด้วยนะครับ       Tongue

ขอบคุณแทนสมาชิกในเวปทุกท่านครับ สำหรับข้อมูลข่าวสารฯ ที่จะช่วยเหลือกันครับ เพราะหลายๆครั้ง ต่างคนต่างไม่มีเวลา ตกข่าวกันครับ  Cry
บันทึกการเข้า

ทั้งหมดเป็นประสบการณ์ส่วนตัวได้จากการลองผิดลองถูก ควรพิจารณาและตัดสินใจด้วยตัวท่านเอง เพราะไม่มีอะไรดีที่สุดและถูกต้องเสมอไปครับ
mamai
Jr. Member
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 237



« ตอบ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 18, 2009, 06:36:28 PM »

ขอบคุณในความกรุณาครับ โกเด้ง เอ๊ย! คุณโกลด์เดน

ขออนุญาตแซวซะหนึ่งดอก     HA... Grin
บันทึกการเข้า

"ไม่เชื่อต้องศึกษา   ไม่มีปัญญาต้องเรียนรู้"
Golden
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 13



« ตอบ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2009, 10:02:12 AM »

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคา  : 
ทองทำสถิติสูงสุดหลังวิตกเงินเฟ้อ -- ราคาทองที่ตลาดสหรัฐปิดเพิ่มขึ้น หลังจากที่แตะจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เหนือ 1,150 ดอลลาร์/ออนซ์ในช่วงแรก ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐและการอ่อนค่าของ ดอลลาร์อย่างต่อเนื่อง กระตุ้นความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อ ทั้งนี้ ราคาทองส่งมอบเดือนธ.ค.ที่ตลาด COMEX ปิดเพิ่มขึ้น 1.80 ดอลลาร์ ที่ 1,141.20 ดอลลาร์/ออนซ์  และราคาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดพุ่งขึ้น 2.80 เซนต์ ที่ 18.415 ดอลลาร์/ออนซ์  กองทุน SPDR Gold Trust เปิดเผยว่าทางกองทุนได้ถือครองทองคำที่ระดับ 1,117.493 ตัน ณ วันที่ 18 พ.ย. ซึ่ง
เพิ่มขึ้น 3.66 ตัน หรือ 0.3 % จากเมื่อวันที่ 13 พ.ย.   กองทุน SPDR ได้ถือทองคำเพิ่มขึ้นครั้งแรกนับแต่วันที่ 3 พ.ย. ซึ่งหนุนการทะยานขึ้นเมื่อวานนี้
   ดอลลาร์ร่วงเทียบยูโรจากแนวโน้มดอกเบี้ยยังต่ำถึงปีหน้า -- ดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบ ยูโรวานนี้ หลังพุ่งขึ้นมากที่สุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อวันอังคาร ขณะที่ข้อมูล เศรษฐกิจใหม่ๆแทบไม่ได้เปลี่ยนแปลงมุมมองที่ว่า อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐจะยังคงอยู่ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ต่อไปจนถึงปีหน้า ทั้งนี้ ดอลลาร์อยู่ที่ 89.360 เยน เทียบกับระดับปิดวันอังคารที่ 89.320 เยน ส่วนยูโรอยู่ที่ 1.4966 ดอลลาร์ และ133.75 เยน เทียบกับระดับปิดวันอังคารที่ 1.4867 ดอลลาร์ และ 132.84 เยน 
    น้ำมันดิบปิดบวก 44 เซนต์ หลัง เปิดเผยสต็อกน้ำมันที่ลดเกินคาด -- ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปิดไต่ขึ้นในวันพุธ ในขณะที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) รายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบในคลังลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันดิบลดช่วงบวกในระหว่างวัน เนื่องจากตัวเลขเริ่มสร้างบ้านที่ซบเซาในสหรัฐทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และทำให้ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทอ่อนลง ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนธ.ค.บวกขึ้น 44 เซนต์ หรือ 0.56% มาปิดตลาดที่ 79.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล, ราคาน้ำมัน heating oil ส่งมอบ เดือนธ.ค.ร่วงลง 0.99 เซนต์ หรือ 0.48% สู่ 2.0486 ดอลลาร์ต่อแกลลอน, ราคาน้ำมันเบนซิน RBOB ส่งมอบเดือนธ.ค.ไต่ขึ้น 0.65 เซนต์ หรือ 0.32% สู่ 2.0114 
ดอลลาร์ต่อแกลลอน
                 กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)  พุ่งขึ้น 0.3%ในเดือนต.ค. มากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% และหลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.ย.   ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.2%มากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1%         เมื่อเทียบเป็นรายปี ดัชนี CPI ทั่วไปลดลง 0.2% ขณะที่ดัชนี CPI พื้นฐานเพิ่มขึ้น 1.7%
               กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านร่วงลงเกินคาดสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือนในเดือนต.ค. อันเป็นผลจากกิจกรรมการก่อสร้างที่ลดลงอย่างรุนแรงทั้งบ้านเดี่ยว และบ้านแบบหลายครอบครัว ทั้งนี้ การเริ่มสร้างบ้านร่วงลง 10.6% สู่ 529,000 ยูนิตซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. และร่วงลงรุนแรงที่สุดเมื่อคิดเป็นเปอร์เซนต์นับตั้งแต่เดือนม.ค. และตัวเลขการอนุญาตก่อสร้างร่วงลง 4% สู่ 552,000 ยูนิตในเดือนต.ค.
               สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงาน (EIA) ของสหรัฐเปิดเผยข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 13 พ.ย. ลดลงเกินคาด 900,000 บาร์เรลสู่ 336.8 ล้านบาร์เรล, สต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 300,000 บาร์เรล สู่ 167.4 ล้านบาร์เรล, สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล สู่ 209.1 ล้านบาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 0.5% สู่ 79.4%

ปัจจัยที่น่าติดตามวันนี้  :
   Conference Board จะเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนต.ค. เวลา 22.00 น. นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจจะเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนต.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนก.ย.
   ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียจะเปิดเผยผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจเดือนพ.ย. เวลา 22.00 น. นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดว่า ดัชนีแนวโน้มธุรกิจจะอยู่ที่ระดับ 12.5 ในเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้นจาก 11.5 ในเดือนต.ค.

บทวิเคราะห์เพิ่มเติม  : 
ราคาทองปรับตัวลงในเช้าวันนี้ โดยชะลอความแรงหลังปรับตัวเหนือ1,150 ดอลลาร์/ออนซ์วานนี้ สู่ระดับสูงเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ อันเนื่องมาจากการอ่อนแอต่อเนื่องของดอลลาร์และความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อ ซึ่งมีแรงกระตุ้นจากดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐที่แข็งแกร่ง แม้ว่าในขณะนี้ราคาทองปรับตัวขึ้นในช่วงราคา 1,150 ดอลลาร์แล้ว แต่คาดว่าเราจะเห็นตลาดชะลอความแรงในช่วงใกล้เทศกาลขอบคุณพระเจ้า ซึ่งอาจจะเป็นเดือนหน้าก่อนที่จะมีการทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งอีกครั้ง กองทุนการเงินระหว่างประเทศ ( IMF ) เปิดเผยว่าได้ขายทองคำ 2 ตันแก่ธนาคารกลางของมอริเชียสที่ราคาตลาดเมื่อวันที่ 11 พ.ย. ซึ่งเป็นข่าวที่เป็นที่จับตาของตลาด ในขณะนี้ ความสนใจของนักลงทุนได้เปลี่ยนมาอยู่ที่ทองที่เหลืออยู่จำนวน 403.3 ตัน ซึ่ง IMF วางแผนที่จะขายออก แม้ว่าจะมีการคาดการณ์ถึงปริมาณการซื้อขายที่อาจลดลงในสัปดาห์หน้านั้น ไม่อยากให้นักลงทุนวางใจในช่วงผันผวนเช่นนี้ ราคาวันนี้อาจมีการปรับตัวขึ้นไปได้อีกเนื่องจาก ความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย และภาวะเงินเฟ้อยังคงไม่จางหาย ทั้งนี้ดอลลาร์เองอาจยังไม่ฟื้นตัวจากระยะต่ำสุดในรอบ 15 เดือน  และการคาดการณ์เกี่ยวกับดัชนีชี้นำเศรษฐกิจที่อาจจะลดลงในวันนี้ อาจเป็นอีกแรงที่ฉุดดอลลาร์ให้ร่วงต่ำลงได้อีกทาง ดังนั้นอาจผลักดันให้นักลงทุนหันไปถือครองทองคำในฐานะแหล่งลงทุนที่สามารถประกันความเสี่ยงและให้ผลตอบแทนสูง ขอให้นักลงทุนใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมากในช่วงการซื้อ ? ขายระยะที่ผันผวนเช่นนี้

แนวรับ  -  แนวต้าน  วันนี้ 19/11/2009

Resistant 3   1158.51
Resistant 2   1149.36 ? 1152.91
Resistant 1   1146.05
Support 1   1139.93 ? 1136.46
Support 2   1130.07 ? 1127.50
Support 3   1123.29 ? 1122.80
บันทึกการเข้า
mamai
Jr. Member
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 237



« ตอบ #4 เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2009, 10:25:40 AM »

ขอบคุณครับ  Azn
บันทึกการเข้า

"ไม่เชื่อต้องศึกษา   ไม่มีปัญญาต้องเรียนรู้"
starbarge
Jr. Member
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 254


« ตอบ #5 เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2009, 10:37:43 AM »



 ขอบคุณค่ะ คุณ golden สำหรับข่าว
บันทึกการเข้า
oyo
Hero Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1760


« ตอบ #6 เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2009, 10:45:47 AM »

ขอบคุณครับ  Smiley
บันทึกการเข้า
Golden
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 13



« ตอบ #7 เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2009, 11:02:25 AM »

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมนะครับ  Cheesy
บันทึกการเข้า
mamai
Jr. Member
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 237



« ตอบ #8 เมื่อ: พฤศจิกายน 20, 2009, 12:47:19 PM »

มารออัพเดทข่าวครับผม  Grin
บันทึกการเข้า

"ไม่เชื่อต้องศึกษา   ไม่มีปัญญาต้องเรียนรู้"
Golden
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 13



« ตอบ #9 เมื่อ: พฤศจิกายน 20, 2009, 12:47:20 PM »

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคา  : 
            กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกทรงตัวที่ 505,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 14 พ.ย. แต่จำนวนเฉลี่ยในรอบ4 สัปดาห์ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 1 ปี ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานเริ่มฟื้นตัว  นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่ผ่านมาจะอยู่ที่ 505,000 ราย จาก 502,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้า
                     Conference Board เปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 7ติดต่อกันในเดือนต.ค.สู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี ซึ่งบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ  ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น 0.3% สู่ 103.8 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2007 แต่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้    นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจจะเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนต.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนก.ย.
                    ราคาทองปรับตัวลงเล็กน้อยในเช้าวันนี้ จากการที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นขณะที่บรรยากาศยังคงสดใสจากความต้องการทองคำแท่งที่แข็งแกร่งสำหรับการลงทุน    ณ เวลา 09.47 น.ตามเวลาไทย ราคาทองสปอตมีการซื้อขายที่ระดับ1,140.30 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อเทียบกับระดับปิดในตลาดสปอตนิวยอร์คเมื่อวานนี้ที่ระดับ 1,143.50 ดอลลาร์ โดยราคาทองสปอตแตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์ที่1,152.75 ดอลลาร์/ออนซ์เมื่อวันพุธ
        สัญญาทองล่วงหน้าส่งมอบเดือนธ.ค.ของสหรัฐปรับตัวขึ้น 0.2 % อยู่ที่1,144.1 ดอลลาร์/ออนซ์ จาก 1,141.90 ดอลลาร์/ออนซ์ที่ตลาด NYMEXโดยสัญญาล่วงหน้าแตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 1,153.40 ดอลลาร์เมื่อวันพุธ   กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลกเปิดเผยว่าทางกองทุนได้ถือครองทองคำที่ระดับ 1,117.493 ตัน ณ วันที่ 19 พ.ย.ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากวันที่ 18 พ.ย
                    ดอลลาร์และเยนแข็งค่าขึ้นต่อในช่วงเช้านี้ ขณะที่นักลงทุนยังคงขายสกุลเงินที่ให้ผลตอบแทนสูง และขายทำกำไรสินทรัพย์เสี่ยงจากการปรับตัวขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา    ดอลลาร์ออสเตรเลียและดอลลาร์นิวซีแลนด์ปรับตัวลงและยังคงเปราะบางหลังร่วงลงอย่างหนักเมื่อวานนี้สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ขณะที่นักลงทุนจำนวนมากขึ้นปรับลดสถานะซื้อสกุลเงินดังกล่าว     ดอลลาร์และเยนดูเหมือนจะยังคงรักษาแรงบวกในระยะใกล้ ขณะที่คาดว่าตลาดหุ้นเอเชียจะปรับตัวลงตามตลาดหุ้นวอลล์สตรีท และสกัดกั้นความต้องการเสี่ยงของนักลงทุน   ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปรับตัวลง 0.9% หลังตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจบ่งชี้ถึงความเปราะบางของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ     "เหตุผลใหญ่ที่สุดสำหรับการปรับตัวขึ้นของดอลลาร์ดูเหมือนจะเป็นปัจจัยตามฤดูกาล" นายมิโนรุ ชิโออิริ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนของ
บล.มิตซูบิชิ ยูเอฟเจกล่าว  "ดอลลาร์อาจได้รับอุปสงค์จากบริษัทต่างชาติก่อนสิ้นปีนอกเหนือจากการที่นักลงทุนปิดสถานะขายดอลลาร์" นายชิโออิริกล่าว   ยูโรปรับตัวลง 0.1% จากท้ายตลาดนิวยอร์คที่ 1.4915 ดอลลาร์  ดอลลาร์ปรับตัวลงสู่ 88.95 เยน โดยยังคงอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 6
สัปดาห์ที่ 88.63 เยนที่เข้าทดสอบในการซื้อขายผ่านระบบ EBS เมื่อวานนี้
                        ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐฟื้นตัวขึ้นใกล้ 78 ดอลลาร์/บาร์เรลในวันนี้ หลังจากที่ดิ่งลงกว่า 2 % เมื่อวานนี้ จากการอ่อนตัวลงของตลาดหุ้นและการแข็งค่าของดอลลาร์   ณ เวลา 09.39 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนธ.ค.ที่ตลาด NYMEX ปรับขึ้น 21 เซนต์ มาที่ 77.66 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากที่ปิดตลาดร่วงลง 2.12 ดอลลาร์เมื่อวานนี้ เมื่อตลาดหุ้นวอลล์สตรีทอ่อนตัวลงในวงกว้าง ซึ่งทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ และแนวโน้มการดีดตัวขึ้นของอุปสงค์พลังงาน  สัญญาส่งมอบเดือนธ.ค.ที่ตลาด NYMEX จะครบกำหนดส่งมอบในวันนี้  ซึอีโอของบริษัทเปเม็กซ์ ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของรัฐบาลเม็กซิโก กล่าวว่าเปเม็กซ์มีแนวโน้มที่จะระดมทุนจากตลาดต่างประเทศเพื่อหาเงินมาใช้ในการดำเนินโครงการต่างๆในปี 2010 ในขณะที่เปเม็กซ์พยายามตรึงปริมาณการผลิตน้ำมันไว้ที่2.5 ล้านบาร์เรล/วัน   บริษัทออยล์ มูฟเมนท์สของอังกฤษคาดการณ์ว่า ปริมาณการส่งออกน้ำมันทางทะเลของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่ไม่รวมแองโกลาและเอกวาดอร์อาจเพิ่มขึ้น 50,000 บาร์เรล/วันในช่วง 4 สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 5 ธ.ค.
  สำหรับวันนี้มีรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ
            
บทวิเคราะห์เพิ่มเติม  : 
   จากราคาทองคำทีผันผวนตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เกิดความวิตกต่อผลกระทบด้านราคาที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ โดยล่าสุดทองคำมีมูลค่ากว่า 1,153 ดอลลาร์/ออนซ์ หลายฝ่ายให้ความสนใจที่ว่าทองคำเป็นแหล่งลงทุนที่สามารถประกันความเสี่ยงได้ดี ขณะที่ดัชนีดอลลาร์สหรัฐเองนั้นกลับลดลงต่อเนื่องเช่นเดียวกัน ตลาดและนักวิเคราะห์โดยส่วนใหญ่มีมุมมองที่ว่า ดอลลาร์ยังคงมีแนวโน้มที่จะอยู่ในระดับต่ำอย่างนี้ต่อไป สาเหตุนี้ถือว่าสำคัญต่อทิศทางของทองคำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจาก เมื่อดอลลาร์ให้ผลตอบแทนน้อยค่ากว่า ขณะที่ทองคำราคาพุ่งสูงขึ้น นักลงทุนย่อมหันไปเลือกการถือครองทองคำเพื่อประกันความเสี่ยงและผลตอบแทนที่สูงกว่า  อย่างไรก็ตามการลดระดับของราคาทองคำเมื่อวานที่ผ่านมานั้น อาจเป็นเพียงการปรับฐานราคาเพื่อพักแรงบวกก่อนที่กลับขึ้นไปยืนเหนือราคา 1,150 ต่อไป สำหรับทิศทางราคาวันนี้นั้น เนื่องจากไม่มีการเปิดเผยข้อมูลด้านเศรษฐกิจ สหรัฐก็ตามแต่ปัจจัยทางเทคนิคยังมีแนวโน้มในทางบวกต่อไป แต่อาจมีช่วงราคาที่ไม่กว้างนัก และด้วยเหตุที่วันนี้เป็นวันสุดสัปดาห์และไม่มีข้อมูลประกาศ นักลงทุนอาจลด Position ลงเพื่อป้องกันการผันผวนราคาในสัปดาห์หน้า

แนวรับ ? แนวต้าน  ที่สำคัญ วันนี้

Resistant 3   1152.95
Resistant 2   1150.28
Resistant 1   1145.87
Support 1   1137.98
Support 2   1132.75
Support 3   1127.94
บันทึกการเข้า
Golden
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 13



« ตอบ #10 เมื่อ: พฤศจิกายน 20, 2009, 12:48:22 PM »

โทษทีนะครับ มาช้าไปหน่อยวันนี้   Grin
บันทึกการเข้า
mamai
Jr. Member
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 237



« ตอบ #11 เมื่อ: พฤศจิกายน 20, 2009, 12:51:37 PM »

ขอบคุณครับโกเด้ง  Cheesy
บันทึกการเข้า

"ไม่เชื่อต้องศึกษา   ไม่มีปัญญาต้องเรียนรู้"
verb2be
Jr. Member
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 278



« ตอบ #12 เมื่อ: พฤศจิกายน 20, 2009, 01:13:22 PM »

ขอบคุณค่ะ คุณ golden
บันทึกการเข้า
oyo
Hero Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1760


« ตอบ #13 เมื่อ: พฤศจิกายน 20, 2009, 01:49:59 PM »

ขอบคุณครับ  Smiley  คุณGOLDEN  เอาอีกๆๆๆๆๆๆ    Cheesy
บันทึกการเข้า
Golden
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 13



« ตอบ #14 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2009, 09:44:05 AM »



Open   High   Low   Close
1144.20   1150.96   1132.62   1150.10

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคา  :
     ดอลลาร์ไต่ขึ้นเป็นวันที่สองติดต่อกันในวันศุกร์ ในขณะที่นักลงทุนลดความต้องการซื้อสินทรัพย์เสี่ยง และขายสกุลเงินที่มีความเสี่ยงสูงออกมาก่อนที่จะถึงช่วงสัปดาห์หน้า ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่มีวันหยุดเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้าของสหรัฐ (26 พ.ย.)   ทั้งนี้ ดอลลาร์อยู่ที่ 88.97 เยน ขยับลงจากระดับปิดตลาดวันพฤหัสบดีที่ 89.03 เยน  ส่วนยูโรอยู่ที่ 1.4860 ดอลลาร์ ร่วงลงจาก 1.4918 ดอลลาร์ ทางด้านยูโร/เยนอยู่ที่ 132.22 เยน ดิ่งลงจาก 133.73 เยน ขณะที่ ตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐร่วงลงพร้อมกับราคาน้ำมัน, ทอง และสกุลเงินที่มีความเสี่ยงสูงอย่างเช่น ดอลลาร์ออสเตรเลีย     ดอลลาร์ดิ่งลงราว 14 % นับตั้งแต่กลางเดือนมี.ค. ในขณะที่สัญญาณบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์และสกุลเงินที่ ให้อัตราผลตอบแทนสูง
   สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กยังคงปิดบวกต่อเนื่องเมื่อคืนวันศุกร์ แม้ว่าสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐจะแข็งค่าขึ้น ขณะนักลงทุนกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับความยั่งยืนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ  สัญญาทองคำส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 1,146.80 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 4.90 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,132.50 - 1,150.10 ดอลลาร์ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 18.44 ดอลลาร์/ออนซ์ ตกลง 1.5 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 2.8 เซนต์ ปิดที่ 3.134 ดอลลาร์/ปอนด์ ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ปิดที่ 1,441.90 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 2 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 364.35 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 5.55 ดอลลาร์ นักลงทุนได้เริ่มโยกเงินทุนออกจากสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากกว่าเช่น หุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์และหันมาลงทุนในเงินดอลลาร์และตราสารหนี้ ซึ่งทองคำถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีความมั่นคง ดังนั้นราคาจึงปรับตัวขึ้นท่ามกลางเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น
   ราคาน้ำมันยังลดลงต่อเนื่องในวันศุกร์  ท่ามกลางดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นและความกังวลต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ขณะที่วอลล์สตรีท ปิดลบเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันจากผลประกอบการที่แย่เกินความคาดหมายของบริษัทยักษ์ใหญ่ สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 74 เซนต์ ปิดที่ 6.72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากดิ่งลงกว่า 2 ดอลลาร์เมื่อวันพฤหัสบดี (19) ขณะที่เบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน
ส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 44 เซนต์ ปิดที่ 77.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เทรดเดอร์ กล่าวว่าการลงทุนในตลาดน้ำมันเป็นไปตามทิศทางตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ ขณที่นักลงทุนกำลังชั่งน้ำหนักถึงแนวโน้มของตลาดในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ตลาดหุ้นในเอเชียและยุโรปต่างปิดลบกันถ้วนหน้า

ปัจจัยที่น่าติดตามวันนี้  :
   สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติจะรายงานยอดขายบ้านมือสองเดือนต.ค.  เวลา 22.00 น.  โดยนักเศรษฐศาสตร์ได้คาดว่า
 ยอดขายบ้านมือสองจะอยู่ที่ 5.65 ล้านยูนิตในเดือนต.ค. เพิ่มขึ้นจาก 5.57 ล้านยูนิตในเดือนก.ย.

บทวิเคราะห์เพิ่มเติม  : 
    ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกครั้งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยปิดตลาดที่ระดับ 1,150.10 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ซึ่งใกล้ระดับสูงสุด เนื่องจากภาวะความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ  แม้ว่าราคามีการปรับตัวลงไปต่ำกว่า 1,135 ดอลลาร์ แล้วก็ตาม แต่ความเชื่อมั่นต่อทิศทางของดอลลาร์ที่จะมีแรงบวกนั้นมีน้อยเกินกว่าที่นักลงทุนจะรับได้ จึงพยายามป้องกันความเสี่ยงโดยการถือครอง ทองคำในฐานะแหล่งลงทุนที่ปลอดภัย  นั่นบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่า ทองคำยังคงรักษาแรบวกได้อย่างชัดเจน
   แม้ว่าวันนี้การคาดการณ์ด้านข้อมูลยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐจะมีมุมมองในเชิงบวก แต่นั่นอาจไม่สามารถกระตุ้นให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่นที่ว่าดอลลาร์จะกลับมาแข็งค่าและดึงดูดนักลงทุนให้สนใจในผลตอบแทนของดอลลาร์ได้อีกครั้งในช่วงต้นสัปดาห์นี้ ขณะที่มีความกังวลกันมากยิ่งขึ้นในเรื่องที่ว่า ราคาสินทรัพย์เสี่ยงอาจพุ่งขึ้นมากเกินไป มีผู้เชี่ยวชาญตั้งคำถามว่า เศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่องหรือไม่ถ้าหากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล การขายดอลลาร์เพื่อซื้อหุ้น, สินค้าโภคภัณฑ์ และสกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงกลายเป็นรูปแบบการลงทุนที่ได้รับความนิยมในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยสหรัฐที่ระดับต่ำและสภาพคล่องที่ระดับสูงดึงดูดนักลงทุนให้เข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูง และดอลลาร์ยังคงมีโอกาสร่วงลงได้อีก แม้ว่าที่ผ่านมาดอลลาร์ไต่ขึ้นมาแล้ว 7.5 % จากสถิติต่ำสุดที่ 1.6040 ดอลลาร์/ยูโรที่ทำไว้ในเดือนก.ค.ปี 2008
นอกจากนี้ ปริมาณการถือครองสถานะขายในดอลลาร์ก็ไมได้อยู่ที่ระดับสูงเกินไปในปัจจุบัน ดังนั้นถ้าหากมีข่าวเศรษฐกิจในทางบวกออกมาอีก นักเก็งกำไรก็อาจรีบขายดอลลาร์ออก  ในระยะอันใกล้นี้ ตลาดสกุลเงินมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวตามตลาดหุ้น โดยค่าสัมประสิทธิ์ความสอดคล้อง (correlation coefficient)ระยะ 25 วันระหว่างดัชนี S&P 500 กับยูโร/ดอลลาร์อยู่ที่ 0.77 ในปัจจุบัน ถึงแม้ค่าความสัมพันธ์นี้อ่อนลงมาบ้างเล็กน้อยนับตั้งแต่เดือนต.ค.    ความอ่อนแอของดอลลาร์กลายเป็นปัจจัยที่กระตุ้นการทะยานขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐมากขึ้นเรื่อยๆในช่วงที่ผ่านมา แต่การทะยานขึ้นของตลาดหุ้นมีแนวโน้มที่ไม่ยั่งยืน เพราะข่าวเศรษฐกิจอยู่ในภาวะไร้ทิศทาง และราคาน้ำมันได้รับแรงกดดันในระยะนี้
              วันจันทร์ที่ 23 พ.ย.ก็ถือเป็นวันหยุดประจำชาติของญี่ปุ่น  ตลาดสหรัฐจะปิดทำการในวันพฤหัสบดีที่ 26 พ.ย.เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า และนักลงทุนหลายคนจะถือโอกาสลางานในวันศุกร์ที่ 27 พ.ย.ด้วย 

แนวรับ     แนวต้านวันนี้

Resistant 3   1172.50
Resistant 2   1169.20
Resistant 1   1166.67
Support 1   1151.60
Support 2   1146.05
Support 3   1143.09

บทวิเคราะห์ที่เขียนขึ้น อาจไม่ได้ระบุทิศทางหรือราคาที่ชัดเจนนะครับ เพราะไม่อยากฟันธงลงไป หากผิดพลาดจะกลายเป็นว่าเราแนะทางที่ไม่เหมาะสม คริคริ
บันทึกการเข้า
Gold Price today, Gold Trend Price Prediction, ราคาทองคํา, วิเคราะห์ทิศทางทองคํา
   

images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary ---------------------Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. For more information on Moore Research products and services click here. --- http://www.mrci.com ---------- ---------------------------------------------รูปกราฟแสดงราคาทองในอดีตปี 1974-1999 ของ Moore Research Center, Inc. แสดงฤดูกาลที่ราคาทองขึ้นสูงสุดและตําสุด เอาแบบคร่าวๆ เส้นนําตาลหรือนําเงินก็ใกล้เคียงกัน เส้นนําตาลเฉลี่ย 15 ปี เส้นนําเงินเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุดของเส้นนําตาล หรือเฉลี่ย 15 ปี ในเดือน ปลายเดือน เมษ และปลายเดือน สค ต่อต้นเดือน กย[/color] สูงสุดในเดือน กพ กับ พย / ส่วนเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุด ต้น กค กับ ปลาย สค และราคาสูงสุดในเดือน กพ และ กลางเดือน ตค ----- แค่ดูคร่าวๆ เป็นแนวทาง อย่ายึดมั่นว่าจะต้องเป็นตามนี้ ข้างล่างเป็นกราฟราคานํามัน ตามฤดูกาล จาก Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary
 บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: