Forex-Currency Trading-Swiss based forex related website. Home ----- กระดานสนทนาหน้าแรก ----- Gold Chart,Silver,Copper,Oil Chart ----- gold-trend-price-prediction ----- ติดต่อเรา
หน้า: 1 ... 56 57 [58] 59 60 ... 67   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: อ่าน เพลิน เพลิน  (อ่าน 90649 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 12 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #855 เมื่อ: กรกฎาคม 23, 2014, 10:35:17 PM »





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 19, 2015, 11:24:54 AM โดย jainu » บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #856 เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2014, 04:53:52 PM »








« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 19, 2015, 11:27:59 AM โดย jainu » บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #857 เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2014, 04:57:56 PM »










« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 19, 2015, 11:34:05 AM โดย jainu » บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #858 เมื่อ: กรกฎาคม 28, 2014, 09:27:26 PM »










« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 19, 2015, 11:39:58 AM โดย jainu » บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #859 เมื่อ: กรกฎาคม 28, 2014, 09:28:09 PM »

อกหักอีกแล้วเด้อ

รักครั้งนี้มันลางๆ พอมันจางเธอก็จากไป

จะรักกันต่อไป  เพื่ออะไร  ถ้ามันเลือนลางและ จางหายไป



แค่คิดภึงเรื่องของเรา
 ใจก็เศร้าเพราะรักที่ซ้ำ ซ้ำ
ใจที่ช้ำ ช้ำ ก็ทนเจ็บอยู่ร่ำไป
มาในวันนี้ไม่อยากได้อะไร จากคนดี
ขอเป็นคนที่จากไป ในสายลม


เวลาที่ทนเจ็บมันมากมายเกินไปไหม
 จึงไม่เห็นใจคนที่ทนเจ็บนี้สักที
อยากได้อะไรจากฉันหรือคนดี
หรือไม่อยากมีฉันคนนี้อีกต่อไป

มีฉันไว้คลายเหงา เวลาเศร้าเข้ามาหา เวลาสุข สำราญ เบิกบานตา แม้แต่หน้าไม่อยากมอง



เศร้า น้ะ แต่ก็ช่างหัวมัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 19, 2015, 12:16:59 PM โดย jainu » บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #860 เมื่อ: กรกฎาคม 28, 2014, 09:28:38 PM »

ปากเธอบอกว่า “เสียใจ”
แต่ทำไม คนที่ “ร้องไห้” กลับเป็นเรา

อย่าทำเหมือน “รักกัน”
ในวันที่ฉัน “จะไป”

ยอมรับ .. คำว่า “จากลา” ดีกว่า
ต้องมานั่ง “เสียน้ำตา” ให้กับ
“ความเย็นชา” ของเธอ


ทำอะไรด้วยกันตั้งมากมาย
สุดท้าย “หมาหัวเน่า”
ก็เป็นแค่เราคนเดียว

ได้คบกับเธอ…
เหมือนได้ออกรายการ “ฝันที่เป็นจริง”
แต่พอโดนเธอทิ้ง…
เหมือนได้ออก “เรื่องจริง ผ่านจอ”
ไม่มีค่าในสายตา
ก็เพราะว่า…
เรามัน ‘ส่วนเกิน’
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 19, 2015, 11:12:00 AM โดย jainu » บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #861 เมื่อ: กรกฎาคม 28, 2014, 09:39:55 PM »

นักวิ่งหนี(ตัวเอง)
 :::::::::::::::::::::::::
‪#‎พศิน_อินทรวงค์‬
มนุษย์เราชอบวิ่งหนีตัวเอง
 หนีไปทะเล ภูเขา เข้าถ้ำ
 เที่ยวห้าง ฟังเพลง
 หนีไปมีความสำเร็จ หนีไปมีอุดมการณ์
 หรือหนีไปซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดของใครซักคน
 เราหนีอยู่เสมอ
 เราพยายามหนี และหนีตลอดมา
 ทว่า เราจะหนีตนเองไปได้อย่างไร ไม่มีทาง!!!
สุดล่าฟ้าเขียว สุดแผ่นน้ำจรดแผ่นฟ้า
 ตัวเราก็หาตัวเราจนเจออยู่วันยังค่ำ
 เพราะการค้นพบตัวเอง และความสุขที่แท้จริงนั้น
 ไม่เกี่ยวกับอะไร หรือใครทั้งสิ้น
 อะไรหรือใครนั้น
 ทำหน้าที่เบี่ยงเบนความสนใจของเราได้ชั่วคราว
 เหมือนยาเสพติดที่ทำให้เราหายไปจากโลกได้ชั่วขณะ
 ต่อเมื่อเราหลุดจากภวังค์ของมัน
 ชีวิตจริงย่อมตายทั้งเป็น
 นอกจากโคเคน กัญชา ยาบ้า ยาไอซ์แล้ว
 ชีวิตของเรายังมีสิ่งเสพติดอีกหลายอย่าง
 ความโลภคือยาเสพติดชั้นเลว
 ดีขึ้นมาหน่อยก็เป็นความฝัน
 ส่วนความรักคือยาเสพติดชั้นเยี่ยม
 อำนาจ ชื่อเสียงคือยาเสพติดชั้นต่ำ
 แต่อย่างไรเสีย จะเลวกว่า ดีกว่ามันก็คือยาเสพติด
 และเราไม่อาจเข้าถึงความสุขได้ ถ้าเราเป็นคนติดยา
 ความสุขที่แท้จริงนั้นต้องการอิสระ
 ต้องการความโล่ง โปร่ง สบาย
 ไม่ต้องการความหนัก แต่ต้องการความเบา
 ไม่ใช่เรื่องของการกอบโกย
 แต่เป็นเรื่องของการตัดทิ้ง
 มันเป็นเรื่องของการเยียวยาจิตวิญญาณที่บาดเจ็บ
 และคนที่บาดเจ็บก็ไม่ควรแบกอะไรให้หนักเกินไป
 ความสุขที่แท้เป็นเรื่องของการตระหนักรู้อยู่กับปัจจุบัน
 รู้คิด รู้เคลื่อนไหว
 รู้ภาวะชั่วคราว และการเคลื่อนผ่านของสิ่งต่างๆ
 เป็นสิ่งที่เราไม่ต้องทำความเข้าใจ
 แต่ต้องทำความเข้าถึง
 การพยายามทำความเข้าใจเป็นเรื่องดี
 ถ้าเราใช้มันเพื่อเรียนรู้อย่างอื่น
 แต่สำหรับเรื่องของความสุขแล้ว
 การทำความเข้าใจนั้น
 กลายเป็นกำแพงกั้นขวางไม่ให้พบความสุขที่แท้จริงได้เลย
 เราต้องทิ้งความฉลาดแล้วกลับเข้าไปอยู่ในความไร้เดียงสา
 เพราะเด็กทุกคนจะรู้ดีว่าความสุขอยู่ตรงไหน
 ผู้ใหญ่ฉลาดเกินไป เขาจึงมีความทุกข์มากกว่าเด็ก
 ความเป็นผู้ใหญ่ทำให้เรากลายเป็นคนอวดดี
 ประกาศตัวทำสงครามกับความทุกข์
 และความทุกข์ก็กระทืบเราจมดิน
 เราดูเก่งกล้าแต่เราก็ร้องไห้
 เราดูยิ่งใหญ่แต่เราก็หวาดกลัว
 เราหลอกตัวเองถึงเรื่องราวของความสุขไปวันๆ
 เรายิ้ม เราฉวบฉวย เราพูดจาปราศรัย
 แสดงให้โลกรู้ว่าเรากำลังมีความสุข
 ขณะที่ใจกำลังสับสน
 สมองก็สงสัย ส่วนสองเท้าก็ก้าวไป
 แน่นอนว่า ยิ่งเราเติบโต ทักษะการวิ่งของเรายิ่งพัฒนา
 แต่ใครเล่าจะวิ่งหนีตัวเองไปได้
 ไม่มีทาง ไม่มีทาง ไม่มีทาง

♡|♡|♡|♡


บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #862 เมื่อ: สิงหาคม 02, 2014, 03:32:16 PM »

“ความรัก”
“ยิ่งตามหา” ก็ “ยิ่งท้อ”
“ยิ่งรอ” ก็ “ยิ่งล้า”
“ยิ่งหวัง” ก็ “ยิ่งเย็นชา”
“ยิ่งโหยหา” ก็ “ยิ่งปวดใจ”



การที่ “ไม่มีใครสักคน”
แล้วทำให้เรา “ยิ้ม” ได้
ยังดีกว่า การมี “ใครคนหนึ่ง”
แต่ทำให้เรา “ร้องไห้” ได้ตลอดเวลา


เคยมั้ย Huh?
ที่เราเป็นคน “บอกลา”
แต่กลับกลายเป็นว่า
เรามี “น้ำตา” ซะเอง


คบกันนานมากขึ้น
ความใส่ใจยิ่งลดลง
มีความเป็นตัวเองมากขึ้น
แคร์ความรู้สึกกันน้อยลง



ทำไมรักกัน ถึงทะเลาะกัน
ทำไมรักกัน ถึงไม่เข้าใจกัน
ทำไมรักกัน ถึงไม่ไว้ใจกัน
ทำไมรักกัน ถึงไม่ให้เกียรติกัน
ทำไมรักกัน ถึงจ้องแต่จะเอาชนะกัน
ทำไมรักกัน ถึงทำเหมือนไม่รักกัน
ทำไม…..
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 19, 2015, 11:22:04 AM โดย jainu » บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #863 เมื่อ: สิงหาคม 02, 2014, 03:33:04 PM »

“มนุษย์มีกรรมเหมือนสัตว์อื่นๆ
แต่มนุษย์เป็นสัตว์ชนิดเดียว
ที่เปลี่ยนแปลงกรรมได้”
เพราะมนุษย์มีความคิด ความรู้สึก
เลือกที่จะทำอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะดี หรือจะชั่ว

ไม่ว่ากรรมเก่าเราจะทำให้ชีวิตชาตินี้
เราจะตกทุกข์ได้ยากเพียงใด
เราก็สามารถอดทน ขยัน และเปลี่ยนแปลงชีวิตในทางที่ดีได้
เช่นกันตายจากชาติที่แล้ว เกิดมาใหม่ในชาตินี้
ก็เปรียบเหมือน การนอนหลับแล้วตื่นขึ้นมาวันใหม่

เมื่อวาน ขี้เกียจ ไม่ทำงาน จึงไม่มีรายได้ ไม่รวย
แต่วันนี้ ตื่นมาพร้อมความไม่มีเงินเหมือนเดิม
แต่ตั้งมั่นว่าจะอดทนขยันขันแข็งทำงาน
จึงทำให้วันนี้มีเงิน หรือร่ำรวย

นี่คือการเปลี่ยนแปลงกรรม
หรือเรียกว่า #ลิขิตชีวิตตัวเองจากมานะของตนเอง
โดยปราศจากการอ้อนวอนแล้วนั่งนอนรอผู้บันดาล
หรือ ปล่อยชีวิตให้ลอยล่อง แล้วโทษเวรโทษกรรม

.

»

"ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน"
ผู้เขียน: คคุ้นเคย


บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #864 เมื่อ: สิงหาคม 02, 2014, 03:33:49 PM »

#วิปัสสนา -------------------- จะมอบสภาวะนี้ แด่จิตทุกดวง

• เมื่ออยู่ว่างๆ เช่นต้องรอใครนานเป็นชั่วโมง คุณไม่ปล่อยใจไปกับวิมานในอากาศ
ไม่ย้อนนึกถึงเรื่องที่ผ่านไปแล้ว ไม่คำนึงนึกล่วงหน้าถึงเรื่องที่ยังรออีกไกล
แต่นึกถึงลมหายใจ คุณฝักใฝ่กับลมหายใจเพราะมันทำให้คุณมีความสุขอยู่กับปัจจุบัน
ไม่ใช่เพราะบังคับตัวเองให้ฝืนทำเพื่อจะได้เป็นนักวิปัสสนา

• เมื่อมีใครทำให้คุณโกรธ คุณรู้ตามจริงว่ากำลังโกรธ แต่แทนการมองหน้าเขาด้วยตาขุ่น
กลับมองความโกรธในใจตัวเองด้วยความเป็นกลาง
คือไม่คิดเรื่องถูกผิดของเขาหรือของเรา คิดถึงแต่ว่าใจเรามีความโกรธ
เพื่อเห็นตามจริงว่าภาวะโกรธเหมือนไฟที่ลุกวาบขึ้น
แสดงความแปรปรวนให้ดูเล่นอีกครั้งเท่านั้นเอง

• เมื่อเวลาผ่านไป
คุณเริ่มพบว่าตัวเองเฝ้าตามรู้ทุกการเคลื่อนไหว ทุกภาวะอารมณ์
เพื่อเห็นว่าสิ่งเหล่านั้นไม่เที่ยง
บังคับบัญชาหรือสั่งคุมให้เป็นไปตามปรารถนาไม่ได้ แม้กระทั่งขณะขับถ่ายปัสสาวะ!

• เมื่อเงยหน้ามองเมฆหรือมองดาว
แทนที่จะเกิดจินตนาการเพ้อฝันอ่อนหวาน
คุณกลับเห็นแค่ความเบานิ่งสม่ำเสมอของใจ
โดยปราศจากความติดใจไยดีรสสุขอันเกิดแต่ความเบานิ่งสม่ำเสมอนั้น

• เมื่อเกิดอัตตามานะถือเขาถือเรา เทียบศักดิ์เทียบชั้นแรงๆ
แล้วคุณรู้สึกรังเกียจสิ่งที่เกิดขึ้นในใจตัวเอง
เท่ากับที่คนตาดีเห็นเห็บหมัดสุนัขมากลุ้มรุมเกาะร่างของตนยุ่บยั่บ

• เมื่อคุณเห็นข้อเสียของตัวเองเกิดขึ้นจากการคิด การพูด หรือการกระทำใดๆ
แล้วทราบชัดว่าจิตมีลักษณะเป็นอกุศล
เช่นขุ่นเคือง รู้สึกหม่นมืด ในหัวฟุ้งแรง อกใจเร่าร้อน ฯลฯ
แล้วเกิดสติสำนึกผิดแบบใหม่ คือไม่เศร้าโศกเสียใจหรือโทษตัวเอง
แต่เห็นว่าบาปอกุศลเป็นแค่เงาดำเงาหนึ่งที่ปรากฏทาบจิต
เพียงรู้ชัดว่าเงาดำนั้นไม่ใช่ตัวคุณ เกิดแล้วต้องสลายตัวเป็นธรรมดา
คุณก็เกิดความรู้สึกว่างขึ้นแทนที่

• เมื่อเป็นนักวิปัสสนาไปเรื่อยๆ
นับวันความว่างก็ขยายขอบเขตออกกว้างไกลขึ้นทุกที
คือเห็นอาการใดในใจดับลง ใจก็เหมือนมีพื้นที่ว่างมากขึ้นเรื่อยๆ
และพลอยมีความสุขที่แปลกประหลาดมากขึ้นเรื่อยๆ

• เมื่อเลิกนิสัยคิดว่าตัวเองรู้ดี รู้ว่าคนอื่นเป็นอย่างไร
หันมาเห็นว่าตนเองไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับตัวเองตามจริงสักเท่าไหร่
จนในที่สุดนิสัยใหม่ค่อยๆถูกเพาะขึ้น
คือสำรวจตนเองมากกว่าสอดส่องออกไปหาเรื่องของคนอื่นข้างนอก

• เมื่อเกิดความกลัว คุณเห็นว่าความกลัวเป็นเพียงอารมณ์อีกชนิดหนึ่งที่ล่อให้นึกว่า
‘มีคุณ’ ที่กำลังจะเป็นผู้เคราะห์ร้าย ต่อเมื่อส่องอย่างใกล้ชิดด้วยวิปัสสนาแล้ว
กลับเห็นว่าเหลือแต่ความกลัว หาได้มีผู้เคราะห์ร้ายที่ตรงไหนไม่

• เมื่อตระหนักว่ายอดสุดแห่งข้อเสียคือความเหม่อลอยไร้สติ

• เมื่อรู้สึกว่าอดีตที่ผ่านมาเป็นแค่ความทรงจำ
แล้วก็รู้สึกด้วยว่าความทรงจำเปรียบเสมือนแสงเทียนที่ค่อยๆหรี่ลงสู่ความดับเข้าไปเรื่อยๆด้วย

• เมื่อพบว่านิสัยบางอย่างเปลี่ยนไป เช่นจากที่เคยช่างคุยกับตัวเอง
หรือกระทั่งรบกับเสียงในหัวของตัวเองอย่างหนัก มาพักอยู่กับความสงัดเงียบภายในใจแทน

• เมื่อมีคนบอกว่าคุณผ่องใส แล้วคุณรู้สึกว่าเขาพูดถึงภาวะผ่องใส ไม่ได้พูดถึงตัวคุณ

• เมื่อรู้ตามจริงว่าคุณแตกต่างจากคนรอบข้างที่ไม่ได้ภาวนา
แต่ไม่เห็นตัวเองแปลกคน
เพราะทุกคนเสมอกันด้วยความเป็นสิ่งที่ปรากฏแล้วต้องเสื่อมสลายลงทั้งสิ้น

• เมื่อมีใครแนะนำให้คนอื่นรู้จักว่าคุณเป็น "นักวิปัสสนาคนหนึ่ง"
ใจคุณนึกปฏิเสธ ไม่รู้สึกภาคภูมิใจ ไม่นึกว่าเป็นเกียรติยศ
และเห็นว่าแม้การ "เป็นนักวิปัสสนา" ก็ไม่ใช่คุณเอาเลย

• ธรรมะที่ดีที่สุดคือสิ่งที่กำลังปรากฏเด่นต่อสติอยู่เดี๋ยวนี้

สิ่งใดแสดงให้เห็นว่าเกิดขึ้นแล้วต้องดับลงเป็นธรรมดา

เห็นแล้วกระทำจิตให้คลายจากความยึดมั่นเสียได้

สิ่งนั้นน่าสนใจดูยิ่งกว่าสิ่งมหัศจรรย์ทั้งหมดในโลกรวมกัน •

===================================+
ขอบคุณ------http://dungtrin.com/


บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #865 เมื่อ: สิงหาคม 02, 2014, 03:34:28 PM »

ลืมตา...o___o อยู่อย่างมีสติ
เดิน ยืน นั่ง นอน
ล้างหน้า แปลงฟัน อาบน้ำ
ทำสวน ทำความสะอาดบ้าน กวาดพื้น ล้างถ้วยชาม
เดินเล่น วิ่ง นั่งรถ เดินทาง

ทุกอย่างที่ทำ สามารถกำหนดรู้ เช่นการหายใจเข้า-ออก
การทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันต่างๆ เป็นวิปัจสนาโดยง่ายตรง หากมีสมาธิอยู่กับสิ่งนั้น
กำหนดรู้การเคลื่อนไหว ก็จะมีสมาธิต่อเนื่อง ... ... ... เช่นนี้


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 19, 2015, 12:37:09 PM โดย jainu » บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #866 เมื่อ: กันยายน 06, 2014, 02:10:58 PM »



แว่วทำนอง..ของความเหงา…
คลอมา.เบาเบา..กับ.สายลมที่เหน็บหนาว
ในคืนมืดมิด..ไร้ซึ่ง.แสงจันทร์และแสงดาว
ต้องฝืนข่ม.ความปวดร้าว..ที่ซ่าน..จากทรวงใน

ปิดไฟ.ข่มตานอน…
เอนกาย.ก่ายหมอน..สงบจิตที่หวั่นไหว
ทำนอง.ของความเหงา..ยังดังก้อง.ทุกห้องหัวใจ
ความเหงาเอย.เหตุใด..แกล้งทรมาน.หัวใจ..ด้วยความเดียวดาย
(คนจร 16 พ.ย.2556)




กรุณาอย่าเอ่ยนาม “ค ว า ม ห่ ว ง ใ ย”
หากเป็นสิ่งที่ใจ ไม่ได้คิดเช่นนั้น
กรุณาอย่าเอ่ยนาม “ค ว า ม รั ก” กัน
คนที่เจ็บคงเป็นฉัน…นั้นเรื่องจริง

กรุณาอย่าเอ่ยนาม “ค ว า ม คิ ด ถึ ง”
หากมองฉันเป็นที่พึ่งเพราะทุกสิ่ง-
เพราะทุกอย่างของเราเฝ้าแอบอิง
แล้ววันหนึ่งเธอก็ทิ้ง…และเดิน จาก ฉันไป
(หทัยกาญจน์ 17 มี.ค.56)



วามรัก – - กับ – - ฉัน
มักลงเอยด้วยความหวั่นไหว
ความรักของฉัน . . . ยิ่งตามหา ~ ยิ่งห่างไกล
ฉันแตกต่างจากคนอื่นตรงไหน?
ถึงต้องลงเอยด้วยความช้ำใจ . . ทุกที~*
(แป้งน้ำ 1 มี.ค.56)



ความรักเหมือนปากา
พอหมึกหมดก็จืดจาง
กลายเป็นรักทิ้งขว้าง
เมื่อจืดจางและห่างกัน
By: เอกาว่า

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 19, 2015, 12:34:46 PM โดย jainu » บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #867 เมื่อ: กันยายน 06, 2014, 02:18:00 PM »


รักคือ…..ความสุข
หรือรักคือ…..ความทุกข์อย่างมหัน
รักคือ…..ความผูกพัน
หรือรักคือ…..พยันต์อันตราย

รักคือ…..ยาพิษ
รักคือ…..ยาเสพติดอย่างร้าย
รักคือ…..ความอับอาย
รักคือ…..จุดหมายของน้ำตา

รักคือ…..ความเศร้า
รักคือ…..สิ่งที่ไม่มียาบรรเทารักษา
รักคือ…..การบอกลา
หรือรักคือ…..คุณค่าของความทรงจำ

ไม่เสียใจที่เป็นคนอย่างนี้
ถึงไม่ใช่คนดี แต่ก็รักชีวิตนี้และเห็นค่า
ถึงเธอจะไม่เห็น ไม่รักใคร่
ไม่ใส่ใจตลอดมาโลกนี้ยังมีชีวิตชีวา
เพราะฉันยังมีเสียงหัวเราะและน้ำตาจะให้มัน


ถึงเราไม่ได้เรียนหมอ แต่ก็รู้จัก ” รักษาคำพูด “


รักแท้หรือเพียงแค่ตัวเธอเหงา
รักแท้หรือเพราะเราไม่รู้ทัน
รักแท้หรือว่าแค่อยากหลอกฉัน
รักแท้หรือว่ามันแค่แค่คำลว


ถ้าจะตัด..ก็ตัดให้พ้นใจ
อย่าให้เหลือเยื่อใย..ไว้ทอฝัน
อย่าให้เหลือแม้เศษเสี้ยว..ไว้เกี่ยวพัน
เคยรักกันมากแค่ไหน..จะได้ลืม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 19, 2015, 12:51:20 PM โดย jainu » บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #868 เมื่อ: กันยายน 06, 2014, 02:41:03 PM »

บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #869 เมื่อ: กันยายน 06, 2014, 02:42:17 PM »






« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 19, 2015, 10:09:19 AM โดย jainu » บันทึกการเข้า

finghting!!!
Gold Price today, Gold Trend Price Prediction, ราคาทองคํา, วิเคราะห์ทิศทางทองคํา
   

images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary ---------------------Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. For more information on Moore Research products and services click here. --- http://www.mrci.com ---------- ---------------------------------------------รูปกราฟแสดงราคาทองในอดีตปี 1974-1999 ของ Moore Research Center, Inc. แสดงฤดูกาลที่ราคาทองขึ้นสูงสุดและตําสุด เอาแบบคร่าวๆ เส้นนําตาลหรือนําเงินก็ใกล้เคียงกัน เส้นนําตาลเฉลี่ย 15 ปี เส้นนําเงินเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุดของเส้นนําตาล หรือเฉลี่ย 15 ปี ในเดือน ปลายเดือน เมษ และปลายเดือน สค ต่อต้นเดือน กย[/color] สูงสุดในเดือน กพ กับ พย / ส่วนเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุด ต้น กค กับ ปลาย สค และราคาสูงสุดในเดือน กพ และ กลางเดือน ตค ----- แค่ดูคร่าวๆ เป็นแนวทาง อย่ายึดมั่นว่าจะต้องเป็นตามนี้ ข้างล่างเป็นกราฟราคานํามัน ตามฤดูกาล จาก Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary
 บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 56 57 [58] 59 60 ... 67   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: