Forex-Currency Trading-Swiss based forex related website. Home ----- กระดานสนทนาหน้าแรก ----- Gold Chart,Silver,Copper,Oil Chart ----- gold-trend-price-prediction ----- ติดต่อเรา
หน้า: [1]   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: NewsUpdate 14/12/09 - 18/12/09  (อ่าน 927 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Golden
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 13



« เมื่อ: ธันวาคม 14, 2009, 09:44:25 AM »


   Open      High      Low     Close
1131.15   1142.13   1109.33    1114.99


ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคา  :
                 ราคาทองได้รับแรงกดดัน และปรับตัวใกล้จุดต่ำสุดรอบ 4 สัปดาห์ในวันนี้ขณะที่ดอลลาร์ยังคงแข็งค่าเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินสำคัญ หลังจากที่ข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้บรรยากาศในตลาดดีขึ้น  ราคาทองสปอตอยู่ที่ 1,115.57 ดอลลาร์/ออนซ์ในการซื้อขายเช้านี้จากระดับปิดที่ตลาดทองสปอตนิวยอร์คที่ 1,113.85 ดอลลาร์ โดยราคาทองคำแท่งแตะจุดต่ำสุดรอบ 4 สัปดาห์ที่ 1,109.10 ดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ ในขณะที่ข้อมูลยอดค้าปลีกที่ดีเกินคาดของสหรัฐ ช่วยหนุนความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ยั่งยืน และเป็นปัจจัยบวกต่อดอลลาร์ ซึ่งทำให้นักลงทุนทองพากันลดการถือครองโพสิชัน    ในขณะนี้ราคาทองสปอตอยู่ต่ำกว่าจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำไว้เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.กว่า 100 ดอลลาร์ อันเป็นผลจากการที่นักลงทุนระบายสัญญาโดยระดับสูงสุดดังกล่าวอยู่ที่ 1,226.10 ดอลลาร์/ออนซ์     สัญญาทองล่วงหน้าส่งมอบเดือนก.พ.ของสหรัฐปรับตัวลง 0.3 % สู่ 1,117.00 ดอลลาร์ เมื่อเทียบกับ 1,119.90 ดอลลาร์/ออนซ์ที่ตลาด COMEXนอกจากนี้ สัญญาล่วงหน้ายังอ่อนตัวลงจากจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,227.50ดอลลาร์กว่า 100 ดอลลาร์ โดยจุดสูงสุดดังกล่าวทำไว้เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.   รายงานรายสัปดาห์ของคณะกรรมาธิการการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้าของสหรัฐแสดงว่า โพสิชันการซื้อทองล่วงหน้าสุทธินอกกลุ่มคอมเมอร์เชียลของสหรัฐลดลงสู่ 254,429 ล็อตในสัปดาห์ที่สิ้นสุดลงในวันที่ 8 ธ.ค. จาก 259,064 ล็อต   กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดของโลก เปิดเผยว่า ทางกองทุนถือครองทอง 1,116.247 ตัน ณ วันที่ 11 ธ.ค.ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันที่ 8 ธ.ค.
                                     ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเช้านี้ โดยอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนเมื่อเทียบกับยูโรจากการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มคุมเข้มนโยบายการเงินเร็วกว่าที่คาดกันไว้  การคาดการณ์ดังกล่าวได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐเมื่อวันศุกร์ โดยยอดค้าปลีกของสหรัฐปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.ในเดือนที่ผ่านมา ขณะที่ความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นอย่างมากในเดือนธ.ค.   สัญญาอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นล่วงหน้าได้ปรับตัวรับโอกาสที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% กลางปี 2010 เฟดจะเริ่มการประชุม 2 วันในวันพรุ่งนี้และมีแนวโน้มที่จะคงอัตราดอกเบี้ยใกล้ 0% ขณะที่ตลาดจะจับตาแถลงการณ์หลังการประชุม และหากเฟดระบุถึงแนวโน้มในเชิงผ่อนคลายและไม่ได้ระบุถึงข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมา นักวิเคราะห์กล่าวว่า ดัชนีดอลลาร์อาจลดแรงบวกลงจากช่วงที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน หากเฟดบ่งชี้ถึงแนวโน้มในการคุมเข้มนโยบาย ดอลลาร์ก็จะปรับตัวขึ้น  ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ ขณะที่ยูโรอยู่ที่1.4615 ดอลลาร์ ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนที่ 1.4587 ดอลลาร์ซึ่งเข้าทดสอบเมื่อวันศุกร์ โดยยูโรร่วงลงมากกว่า 3% แล้วนับตั้งแต่แตะระดับสูงสุดในรอบ 16 เดือนเหนือ 1.51 ดอลลาร์ในเดือนพ.ย.   ยูโรร่วงลง 1.6% ในสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งเป็นการร่วงลงรายสัปดาห์รุนแรงที่สุดในรอบกว่า 1 เดือน โดยได้รับผลกระทบจากความวิตกที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับภาวะการคลังของกรีซหลังจากบริษัทฟิทช์ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ ขณะที่ปัจจัยทางเทคนิคบ่งชี้ว่า ยูโรอาจร่วงลงต่ำถึง 1.4125 ดอลลาร์ หากปิดตลาดต่ำกว่า 1.4600 ดอลลาร์   ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยนที่ 89.24 เยนโดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้นสู่ 130.50 เยน จาก 130.28 เยนในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์คเมื่อวันศุกร์ ดอลลาร์ออสเตรเลียแล
                                    สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐปรับตัวลงต่อเป็นวันที่ 9 ติดต่อกันในวันนี้ใกล้หลุดระดับ 69 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้รับความผลกระทบจากความวิตกเกี่ยวกับสต็อกน้ำมันที่ระดับสูงและดอลลาร์ที่แข็งค่า    ณ เวลา 09.06 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 84 เซนต์ สู่ 69.03 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังปิดลดลง 67 เซนต์สู่ 69.87 ดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนต.ค.  ราคาน้ำมันได้รับแรงกดดันจากการพุ่งขึ้นของค่าเงินดอลลาร์ หลังมีรายงานว่า ยอดค้าปลีกของสหรัฐอยู่ในระดับสูงเกินคาดในเดือนพ.ย.   การดีดตัวขึ้นของดอลลาร์กระตุ้นให้นักลงทุนเทขายสินค้าโภคภัณฑ์ออกมาและมีแนวโน้มที่จะกดดันราคาน้ำมันดิบให้อ่อนตัวลง  คณะกรรมการการค้าสัญญาล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ (CFTC) รายงานในวันศุกร์ว่า ผู้จัดการกองทุนปรับลดสถานะซื้อสุทธิในสัญญาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX ในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 8 ธ.ค. ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบร่วงลง  ขณะเดียวกัน ความสามารถในการกักเก็บน้ำมันที่เมืองคุชชิง รัฐโอกลาโฮมาซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมันดิบที่สำคัญของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 5.2 ล้านบาร์เรลในปีนี้ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงที่ว่าการขาดแคลนแหล่งกักเก็บน้ำมันอาจจะทำให้ราคาน้ำมันดิ่งลง  ส่วนคาดการณ์จากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) แสดงว่า อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเกือบ 1.5 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2010 สู่ 86.3 ล้านบาร์เรล/วันและอัตราการขยายตัวของอุปสงค์จะดำเนินไปเร็วขึ้น

ปัจจัยที่น่าติดตามวันนี้  :
            วันนี้ไม่มีประกาศข้อมูลเศรษฐกิจ สหรัฐ ฯ

บทวิเคราะห์เพิ่มเติม  : 
    จำนวนชาวสหรัฐที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ลดลงจากระดับที่สูงมากในเดือนมี.ค. ขณะที่ยอดขาดดุลการค้าลดลงอย่างพลิกความคาดหมายในเดือนต.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง  การเพิ่มขึ้นในครั้งนี้อาจมีสาเหตุมาจากการปลดพนักงานออกตามปัจจัยด้านฤดูกาลในอุตสาหกรรมบางประเภท เช่น อุตสาหกรรมก่อสร้าง และจากการเพิ่มขึ้นของตัวเลขผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานหลังจากผ่านพ้นช่วงเทศกาลวันหยุดเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้าแล้ว อย่างไรก็ดี ตลาดแรงงานดูเหมือนว่าจะฟื้นตัวขึ้น โดยสหรัฐรายงานในสัปดาห์ที่แล้วว่า อัตราการว่างงานร่วงลงสู่ 10 % ในเดือนพ.ย. จาก 10.2 %ในเดือนต.ค. ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดในรอบ 26 ปีครึ่ง ส่วนนายจ้างสหรัฐปรับลดการจ้างงานลงในเดือนพ.ย.ในระดับที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในเดือนธ.ค.2007 เป็นต้นมา
              ถึงแม้ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ตัวเลขดังกล่าวก็ลดลงจากระดับที่สูงมากในเดือนมี.ค. โดยค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ซึ่งเป็นตัวเลขที่บ่งชี้ถึงแนวโน้มพื้นฐานได้ดีกว่า ลดลงสู่ 473,750 รายในสัปดาห์ที่แล้วจาก 481,500 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านั้น   ตัวเลขดังกล่าวถือเป็นสัญญาณบ่งชี้อย่างชัดเจนว่าในเร็วๆนี้เศรษฐกิจจะเริ่มต้นสร้างงานใหม่ ซึ่งเป็นปัจจัยที่จะช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ


        Support                                         Resistant

Support 1   1116.22                             Resistant 1   1124.08 ? 1127.55
Support 2   1110.55                             Resistant 2   1133.84-1136.10
Support 3   1105.54                             Resistant 3   1142.13
บันทึกการเข้า
Neung99k
Full Member
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 565



« ตอบ #1 เมื่อ: ธันวาคม 14, 2009, 03:29:28 PM »

ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ Azn
บันทึกการเข้า

http://www.smart90days.com/neung999kk/  ธุรกิจท่องเที่ยวรับเงินแสน
http://www.azpaypoint.com/chitdech  รายจ่ายจะกลับมาเป็นรายได้
Neung99k
Full Member
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 565



« ตอบ #2 เมื่อ: ธันวาคม 30, 2009, 12:25:19 PM »

ปีใหม่นี้ขอให้คุณGolden และครอบครัวประสบแต่ความสุขสมหวังนะครับ ร่ำรวยๆสุขภาพแข็งแรงครับ Grin
บันทึกการเข้า

http://www.smart90days.com/neung999kk/  ธุรกิจท่องเที่ยวรับเงินแสน
http://www.azpaypoint.com/chitdech  รายจ่ายจะกลับมาเป็นรายได้
Gold Price today, Gold Trend Price Prediction, ราคาทองคํา, วิเคราะห์ทิศทางทองคํา
   

images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary ---------------------Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. For more information on Moore Research products and services click here. --- http://www.mrci.com ---------- ---------------------------------------------รูปกราฟแสดงราคาทองในอดีตปี 1974-1999 ของ Moore Research Center, Inc. แสดงฤดูกาลที่ราคาทองขึ้นสูงสุดและตําสุด เอาแบบคร่าวๆ เส้นนําตาลหรือนําเงินก็ใกล้เคียงกัน เส้นนําตาลเฉลี่ย 15 ปี เส้นนําเงินเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุดของเส้นนําตาล หรือเฉลี่ย 15 ปี ในเดือน ปลายเดือน เมษ และปลายเดือน สค ต่อต้นเดือน กย[/color] สูงสุดในเดือน กพ กับ พย / ส่วนเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุด ต้น กค กับ ปลาย สค และราคาสูงสุดในเดือน กพ และ กลางเดือน ตค ----- แค่ดูคร่าวๆ เป็นแนวทาง อย่ายึดมั่นว่าจะต้องเป็นตามนี้ ข้างล่างเป็นกราฟราคานํามัน ตามฤดูกาล จาก Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary
 บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: