Forex-Currency Trading-Swiss based forex related website. Home ----- กระดานสนทนาหน้าแรก ----- Gold Chart,Silver,Copper,Oil Chart ----- gold-trend-price-prediction ----- ติดต่อเรา
หน้า: 1 ... 31 32 [33] 34 35 ... 51   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ทิศทางทองสวัสดีปีใหม่2010  (อ่าน 57983 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
sa
Jr. Member
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 264


« ตอบ #480 เมื่อ: มกราคม 28, 2010, 09:58:25 AM »

สวัสดีค่ะคุณทองใหม่    อ่านเจอที่ไทยโกลมีคนถามว่าทองแท่งหลอมแล้วเหลือเปอร์เซนต์92.5กับ93.5 เหรอคะไม่เคยทราบเลย  รู้แต่ว่าถ้าเอาทอง96.5หรือทองรูปพรรณไปสกัดเป็นทองแท่งหลังหลอมแล้วเอาซิลเวอร์และน้ำประสานออกไปเหลือแต่เนื้อทองจะตีเป็น%โดยมากก็อยู่ที่ประมาณ91-95%ขึ้นอยู่กับว่าทองที่เอาไปหลอม%สูงหรือต่ำค่ะ
บันทึกการเข้า
ทองใหม่
Hero Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1062


« ตอบ #481 เมื่อ: มกราคม 28, 2010, 10:05:17 AM »

ประเด็นสำคัญ
  - ราคาทองปิดร่วงหลังดอลล์พุ่ง ขณะจับตาผลประชุมเฟด
  - ดอลล์พุ่งสูงสุดรอบ 6 เดือนเทียบยูโร
  - ปัจจัยทางเทคนิคกดน้ำมันดิบร่วงลง
  - ดาวโจนส์ปิดบวกรับเฟดตรึงดอกเบี้ยใกล้ 0%

   ปิดต่ำลง 1.3% ในวันพุธ ในขณะที่ดอลลาร์แตะจุดสูงสุดรอบ 6 เดือนเมื่อเทียบกับยูโร และตลาดทองมีแนวโน้มที่จะมีการซื้อขายออปชันที่ผันผวนและมีการย้ายฐานสัญญาก่อนการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สัญญาทองส่งมอบเดือนก.พ.เคลื่อนตัวในช่วง 1,102.10-1,090.10 ดอลลาร์ เทรดเดอร์กล่าวว่า ตลาดมีความระมัดระวังก่อนการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของเฟดในวันพุธและวันครบกำหนดส่งมอบวันแรกในวันศุกร์ ดีลเลอร์กล่าวว่า เป็นไปได้ที่จะมีการระบายสัญญา ถ้าราคาร่วงลงต่ำกว่า 1,080-1,085 ดอลลาร์

   นักวิเคราะห์จากบริษัท R.F.Lafferty Inc. ในนิวยอร์กกล่าวว่า ตลาดทองคำถูกกดดันอย่างหนักหลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 0.3% เมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินหลักๆในตะกร้าเงิน นอกจากนี้ ภาวะซบเซาในตลาดหุ้นยังส่งผลให้นักลงทุนบางกลุ่มเทขายสัญญาทองคำเพื่อชดเชยการขาดทุนในตลาดหุ้น อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์จาก Investec Global Gold Fund คาดว่า ราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นแตะระดับ 1,300 ดอลลาร์/ออนซ์ในอีก 6 เดือนข้างหน้านี้ เนื่องจากดีมานด์ยังคงแข็งแกร่ง

   ตลาดมุ่งความสนใจไปที่การแถลงนโยบายประจำปีของปธน.โอบามาในเช้าวันพฤหัสบดีนี้ตามเวลาประเทศไทย รวมถึงการลงมติของวุฒิสภาสหรัฐเพื่อยืนยันการแต่งตั้งนายเบน เบอร์นันเก้ เป็นประธานเฟดสมัยที่ 2 ขณะที่วาระการดำรงตำแหน่งในปัจจุบันจะสิ้นสุดลงวันอาทิตย์นี้

    กองทุน SPDR Gold trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยว่าทางกองทุนได้ถือครองทองแท่งระดับ 1,111.922 ตัน ณ วันที่ 27 มกราคม 2553 ลดลง 0.914 ตัน จากวันที่ 15 มกราคม 2553

 กลยุทธ์ : ช่วงสัปดาห์นี้อาจจะเล่นในกรอบ 1,105 ? 1,078 US$ เพื่อเปลี่ยนแนวโน้มในปลายสัปดาห์ เลยแนะนำเป็นการเล่นเด้งระยะสั้นเท่านั้นในช่วงต้นสัปดาห์ปลายสัปดาห์น่าจะปรับฐานลงต่อเนื่องจากแรงกดดันทั้งค่าเงิน US$ แข็ง ERU$ อ่อนต่อเนื่อง
 
บันทึกการเข้า
sa
Jr. Member
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 264


« ตอบ #482 เมื่อ: มกราคม 28, 2010, 10:19:08 AM »

ขอบคุณค่ะคุณทองใหม่   ตอนแรกว่าจะซื้อเพิ่มแต่พออ่านข่าวแล้วรออาทิตย์หน้าดีกว่าค่ะ  ชัวร์กว่า
บันทึกการเข้า
ทองใหม่
Hero Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1062


« ตอบ #483 เมื่อ: มกราคม 28, 2010, 10:20:56 AM »

สวัสดีค่ะคุณทองใหม่    อ่านเจอที่ไทยโกลมีคนถามว่าทองแท่งหลอมแล้วเหลือเปอร์เซนต์92.5กับ93.5 เหรอคะไม่เคยทราบเลย  รู้แต่ว่าถ้าเอาทอง96.5หรือทองรูปพรรณไปสกัดเป็นทองแท่งหลังหลอมแล้วเอาซิลเวอร์และน้ำประสานออกไปเหลือแต่เนื้อทองจะตีเป็น%โดยมากก็อยู่ที่ประมาณ91-95%ขึ้นอยู่กับว่าทองที่เอาไปหลอม%สูงหรือต่ำค่ะ
ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า
ทองใหม่
Hero Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1062


« ตอบ #484 เมื่อ: มกราคม 28, 2010, 10:36:41 AM »

โตโยต้าสหรัฐฯระงับการขายรถรุ่นที่ถูกเรียกคืน 8 รุ่น - ECB ส่งสัญญานดึงสภาพคล่องออกจากระบบ

Posted on Thursday, January 28, 2010
ECB ส่งสัญญานดึงสภาพคล่องออกจากระบบ

เอเซล เวเบอร์ หนึ่งในคณะกรรมาธิการธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวระหว่างการเข้าร่วมการประชุม World Economic Forum ที่เมืองดาวอส ว่า ก้าวต่อไปของธนาคารกลางยุโรปในช่วงครึ่งแรกของปีนี้การพิจารณาถึง Exit Policy ซึ่งก็หมายรวมถึง การถอนสภาพคล่องออกจากระบบการเงิน หลังจากเห็นว่าเศรษฐกิจเริ่มที่จะมีความแข็งแกร่งขึ้นแล้ว

ถ้าย้อนกลับไปดูการให้ความช่วยเหลือของธนาคารที่ให้กับสถาบันการเงินต่างๆ เพื่อต่อสู้กับวิกฤติก็คือ การปล่อยเงินกู้ให้ธนาคารพาณิชย์มากเท่าที่ธนาคารเหล่านั้นต้องการ ด้วยอัตราดอกเบี้ย benchmark interest rate ที่ระดับ 1% :ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ แต่หลังจากที่เศรษฐกิจของยุโรปเริ่มหลุดออกจากภาวะถดถอยและเริ่มฟื้นตัวอย่างมีเสถียรภาพมากขึ้นแล้ว ธนาคารกลางยุโรปก็เริ่มที่จะมีการดึงเงินกูฉุกเฉินเหล่านั้นออกจากระบบ

หลังจากการแสดงความคิดเห็นของเวเบอร์นั้นก็ส่งผลให้ ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ

นักเศรษฐศาสตร์จาก RBS กล่าวว่า สิ่งที่เวเบอร์ได้กล่าวไปนั้นเป็นการยืนยันว่า มาตรการเยียวยาวิกฤติที่เหลือนั้นจะถอดถอนออกเรื่อยๆ จากนี้ไป และการที่เวเบอร์ออกมากล่าวแบบนั้นเพื่อให้ตลาดได้รับรู้ถึงแนวทางในอนาคตและไม่ตื่นตกใจกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น โดยเมื่อเดือนที่ผ่านมา ECB กล่าวว่า การเสนอเงินกู้ 12 เดือนให้กับบรรดาแบงก์พาณิชย์เป็นครั้งที่ 3 ถือว่าเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว และก็ประกาศด้วยว่าจะหยุดการให้เงินกู้ 6 เดือนในเดือนมีนาคมนี้

ส่วนการให้ความช่วยเหลือผ่านเงินสดแบบไม่จำกัด และการช่วยเหลือทางการเงินอื่นๆ นั้นจะให้ได้ไปจนกระทั่งอย่างน้อย 13 เม.ย.

ต่อกรณีที่มีผู้สือข่าวได้ถาม เอเซล เวเบอร์ เกี่ยวกับการที่เขาจะขึ้นเป็นประธาน ECB แทนนาย ชอง-คล็อด ทริเชตต์ ที่จะหมดวาระลงในปี 2554 นั้น เขาได้ปฏิเสธที่จะให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เพียงแต่บอกว่า ณ ปัจจุบัน ธนาคารกลางยุโรป มีประธานที่ดีมากอยู่แล้ว


โตโยต้าระงับการขายรถรุ่นที่ถูกเรียกคืน 8 รุ่นในสหรัฐฯ

โตโยต้า มอเตอร์ เซลส์ ยูเอสเอ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ดูแลด้านการขายของโตโยต้า มอเตอร์ ในสหรัฐ ได้แจ้งกับดีลเลอร์ประมาณ 1,250 รายในสหรัฐให้ระงับการขายรถ 8 รุ่นที่ถูกเรียกคืนไปก่อนหน้านี้

การระงับการขายดังกล่าว อาจจะทำให้โตโยต้าต้องระงับการผลิตรุ่นเหล่านี้ที่โรงงานในอเมริกาเหนือ 54 แห่ง ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.เป็นต้นไป

โตโยต้า มอเตอร์ ได้เรียกคืนรถยนต์จำนวน 2.3 ล้านคันในสหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อนำกลับมาแก้ปัญหาเกี่ยวกับคันเร่งค้าง

รถรุ่นที่เรียกคืนได้แก่โตโยต้า ราฟโฟร์ ปี 2009-2010 // โตโยต้า โคโรลล่า ปี 2009-2010 // โตโยต้า แมทริกซ์ ปี 2009-2010 // โตโยต้า อวาลอน ปี 2005-2010 // โตโยต้า คัมรี ปี 2007-2010 // โตโยต้า ไฮแลนเดอร์ ปี 2010 // โตโยต้า ทุนดร้า ปี 2007-2010 และ โตโยต้า ซีคัวย่า ปี 2008-2010

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกที่บริษัทรถยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นจะระงับทั้งการขายและการผลิตในสหรัฐ ทั้งที่บริษัทได้พยายามที่จะฟื้นยอดขายที่ร่วงลงในสหรัฐ

บ็อบ คาร์เตอร์ ผู้จัดการทั่วไปและรองประธานกลุ่มของโตโยต้า กล่าวว่า การดำเนินการครั้งนี้เป็นเรื่องที่จำเป็นจนกว่าจะมีการแก้ปัญหาได้ เราพยายามทุกวิถีทางที่จะแก้ปัญหาให้กับลูกค้าโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ก่อนหน้านี้ เอิร์ฟ มิลเลอร์ รองประธานโตโยต้า มอเตอร์ เซลส์ กรุ๊ป กล่าวว่า จากการสำรวจของเราบ่งชี้ว่า มีความเป็นไปได้ที่ระบบคันเร่งอาจจะค้างในสถานการณ์ใดสถานการณ์หนึ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยครั้งนัก

โตโยต้าระบุว่า การเรียกคืนครั้งล่าสุดนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการเรียกคืนรถโตโยต้าและเล็กซัสประมาณ 4.2 ล้านคัน เพื่อลดความเสี่ยงเรื่องคันเร่งค้างอันเนื่องมาจากพรมปูพื้นที่อาจจะขัดคันเร่ง


เฟดยืนดอกเบี้ยตามคาด ขณะที่ Dow Jones ไต่ขึ้นมาปิดบวก

ตลาดหุ้นประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำทั่วโลกปรับตัวลงเป็นวันที่ 6 จากความกังวลว่าเศรษฐกิจอาจแผ่วลงตามการถอนมาตรการอัดฉีดของธนาคารกลางหลักๆ อย่างเฟดและอีซีบี รวมถึงการคาดการณ์ว่าแบงก์ชาติในที่อื่นๆ เช่น จีน อินเดีย บราซิล และออสเตรเลีย จะดันดอกเบี้ยในประเทศขึ้นอีก

อย่างไรก็ดี ที่ตลาดสหรัฐฯ แรงซื้อในกลุ่มธนาคารก็ช่วยให้ดัชนีหุ้นปรับตัวขึ้น ขณะที่เฟดตัดสินใจคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ตามที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ นอกจากนั้น ยังยืนยันแผนที่จะยุติโครงการซื้อหลักทรัพย์ที่มีอสังหาริมทรัพย์เป็นหลักประกัน ภายใต้วงเงิน 1.25 ล้านล้านเหรียญ ภายในเดือนมีนาคม

ในแถลงการณ์ของเฟดระบุว่า การใช้จ่ายภาคครัวเรือนขยายตัวในระดับปานกลาง แต่ยังคงถูกฉุดไว้ด้วยตลาดแรงงานที่อ่อนแอ มูลค่าบ้านที่ยังต่ำลง ไปจนถึงสภาวะสินเชื่อตึงตัว ส่วนการใช้จ่ายในภาคธุรกิจ เฟดมองว่าการลงทุนในซอฟท์แวร์และอุปกรณ์อื่นๆ กำลังฟื้นตัวขึ้น แต่การลงทุนที่เป็นเรื่องโครงสร้างต่างๆ กลับหดตัวลง และที่แน่ๆ ก็คือ การจ้างงานยังไม่ดีขึ้นสักเท่าไหร่

บรรยากาศการลงทุนที่อเมริกาในช่วงแรกๆ ของเมื่อคืนนี้ถูกกดดันด้วยตัวเลขยอดขายบ้านเดือนธันวาคมที่ออกมาลดลง ซึ่งผิดไปจากที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น และเป็นเหมือนการตอกย้ำว่าความย่ำแย่ในตลาดบ้านจะยังไม่ผ่านพ้นไปง่ายๆ ขณะที่มาตรการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเองก็ยังไม่สามารถช่วยกระตุ้นให้ดีมานด์กลับมาได้มากพอ

สำหรับปัจจัยลบที่มาจากฝั่ง corporate ก็มีให้เห็นจากรายของ Caterpillar ที่เป็นผู้ผลิตเครื่องจักรก่อสร้างยักษ์ใหญ่ของโลก ที่ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 4 ร่วงลงถึง 65% พร้อมกับคาดการณ์แนวโน้มตัวเลขในปีนี้ต่ำกว่าระดับที่นักวิเคราะห์คาดไว้ และแม้บริษัทภายใต้การนำของ Jim Owens ที่ใช้ความพยายามอย่างหนักเพื่อพลิกฟื้นธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการปรับลดกำลังการผลิต หรือการปลดพนักงานออกกว่า 30,000 คน แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะรับมือกับความตกต่ำของดีมานด์ที่ทำให้ยอดขายดิ่งลงถึง 37% ซึ่งเป็นอัตราการลดลงที่สูงสุดนับตั้งแต่ทศวรรษ 1940 เลยทีเดียว


IATA เตือนปริมาณจราจรของสายการบินจ่อฟื้นตัวช้า

ข่าวร้ายในอุตสาหกรรมการบินยังดูเหมือนจะไม่จบลงง่ายๆ เมื่อสมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ หรือ IATA เปิดเผยถึงข้อมูลปริมาณจราจรของผู้โดยสารสายการบินปรับตัวลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในปีที่แล้ว ซ้ำยังเตือนด้วยว่าตัวเลขดีมานด์ที่ดีขึ้นในเดือนหลังๆ ไม่ได้หมายความว่ารายรับจากค่าโดยสารกำลังสูงขึ้น

ตัวชี้วัด traffic หมายถึง จำนวนผู้โดยสารคูณด้วยระยะทางในการบิน ซึ่งตัวเลขออกมาร่วงลง 3.5% ในปีที่แล้ว โดย traffic ในตลาดยุโรป อเมริกาเหนือ รวมทั้งในภูมิภาคเอเชีย ปรับตัวลงเกินกว่าระดับ 5%

ผู้บริหารของสมาคมที่ดูแลข้อมูลครอบคลุมกว่า 230 สายการบินนี้กล่าวว่า อุตสาหกรรมเริ่มต้นปี 2553 ด้วยความท้าทายที่ยังมีอยู่มาก ขณะที่การปรับตัวดีขึ้นของรายได้จะยังคงช้ากว่าการขยายตัวของดีมานด์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนกำลังจะเห็นในเร็วๆ นี้ และนั่นก็หมายความว่าความสามารถในการทำกำไรจะฟื้นตัวช้าลง

ในส่วนของ yield หรือรายได้ต่อผู้โดยสาร นั้น IATA ระบุว่า ตัวเลขจะเริ่มดีขึ้นภายหลังจากที่สายการบินปรับลดกำลังการบิน ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ต่ำกว่าระดับปี 2008 เพียง 5-10% เท่านั้น และก็เป็นเหตุผลว่าทำไมเหล่าสายการบินจึงพยายามดิ้นรนที่จะปรับขึ้นค่าโดยสาร แม้ว่าความต้องการเดินทางเพิ่งเริ่มที่จะเงยหน้าขึ้นได้เท่านั้น

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ IATA เตือนถึงแนวโน้มธุรกิจการบินในปีนี้ว่า สภาวะเศรษฐกิจถดถอยและวิกฤติสินเชื่อ ได้กดดันให้อุตสาหกรรมต้องเผชิญกับการหดตัวของจำนวนผู้โดยสารมาแล้วกว่า 2 ปีครึ่ง ขณะที่จำนวนการขนส่งสินค้าทางอากาศก็หดหายไปตลอดช่วงกว่า 3 ปีเช่นเดียวกัน

สถานการณ์เช่นนี้ก็ไม่น่าแปลกใจถ้าแนวโน้มในปี 2010 จะเป็นอีกปีที่มีการกระหน่ำลดต้นทุนและจำกัดกำลังการบินอย่างหนัก ส่งผลให้ยอดการขาดทุนของสายการบินทั่วโลกในปีนี้ถูกประเมินว่าจะอยู่ที่ 5,600 ล้านเหรียญ เมื่อเทียบกับตัวเลขติดลบราว 11,000 ล้านเหรียญในปีที่แล้ว

และยิ่งน่าตกใจถ้าไปดูการดิ่งลงของรายได้ราว 80,000 ล้านเหรียญในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นตัวเลขที่ย่ำแย่ที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา แม้แต่เมื่อเทียบกับปี 2001 ที่มีเหตุผู้ก่อการร้ายถล่มตึก World Trade และทำให้รายได้ของสายการบินร่วงลงไป 13,000 ล้านเหรียญ


โพลล์ชี้ CEO ทั่วโลกเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก

ไพรซ์วอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส (PwC) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ทั่วโลก ว่า ซีอีโอทั่วโลกเริ่มมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มการเติบโตในอนาคตของเศรษฐกิจ หลังจากความเชื่อมั่นถดถอยลงในปีที่แล้วเนื่องจากเศรษฐกิจทั่วโลกหดตัว

PwC เปิดเผยในรายงานก่อนการประชุม "World Economic Forum" ที่เมืองดาวอส ว่า 81% ของซีอีโอทั่วโลกที่ตอบแบบสำรวจในครั้งนี้ มีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลกในอีก 12 เดือนข้างหน้า และมีซีอีโอเพียง 18% เท่านั้นที่ยังคงมีมุมมองที่เป็นลบต่อเศรษฐกิจโลก

รายงานระบุว่า 67% ของซีอีโอทั่วโลกเชื่อว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว ขณะที่ 35% คาดว่าเศรษฐกิจยังไม่มีแนวโน้มขยายตัว

นอกจากนี้ รายงานยังบ่งชี้ว่า 31% ของซีอีโอแสดงความ "เชื่อมั่นมาก" ต่อแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะสั้น เพิ่มขึ้น 10% จากปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม ซีอีโอมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันไปเกี่ยวกับแนวโน้มการขยายตัวของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่และกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว

80% ของซีอีโอคาดว่าเศรษฐกิจในอเมริกาเหนือและยุโรปตะวันออกจะขยายตัวในปีนี้ เมื่อเทียบกับซีอีโอ 91% ที่เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจกลุ่มละตินอเมริกาและจีนจะขยายตัว และ 97% ที่เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจอินเดียจะขยายตัว ส่วนในระยะยาวนั้น ซีอีโอกว่า 90% แสดงความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวในอีก 3 ปีข้างหน้า

ความเชื่อมั่นที่สูงขึ้นทำให้ซีอีโอของบริษัททั่วโลกวางแผนเพิ่มการจ้างงาน โดยผลสำรวจระบุว่า 40% ของซีอีโอวางโครงการว่าจะเพิ่มการจ้างงานในตำแหน่งที่สำคัญในปีนี้ ขณะที่ซีอีโอ 25% วางแผนลดการจ้างงาน

ทั้งนี้ PwC จัดทำผลสำรวจความคิดเห็นครั้งล่าสุดด้วยการสัมภาษณ์ซีอีโอ 1,1198 คน ใน 52 ประเทศ ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2552


ICBC ยืนยันไม่ระงับการปล่อยสินเชื่อ

อินดัสเทรียล แอนด์ คอมเมอร์เชียล แบงก์ ออฟ ไชน่า ( ICBC ) ซึ่งเป็นธนาคารผู้ปล่อยสินเชื่อรายใหญ่สุดในโลกเมื่อพิจารณาตามมูลค่าตลาด กล่าวว่า ธนาคารจะยังคงการปล่อยกู้ในระดับที่สมเหตุผลและสมดุลต่อไป

การออกมาแถลงของ ICBC ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อคลายความกังวลเกี่ยวกับกระแสข่าวที่ว่าธนาคารต่างๆของจีนจะควบคุมสินเชื่อ

ธนาคารระบุในแถลงการณ์ว่า " ICBC จะไม่รีบปล่อยสินเชื่อ แต่ก็จะไม่ระงับการปล่อยสินเชื่อเช่นกัน" พร้อมระบุด้วยว่า ICBC จะยึดมั่นในนโยบายการปล่อยสินเชื่อด้วยความระมัดระวัง และจะยังคงอัตราการปล่อยสินเชื่ออย่างสมเหตุสมผลและสมดุลต่อไป โดยพิจารณาจากอุปสงค์ที่แท้จริงและความสามารถของธนาคารในการรับมือกับความเสี่ยงด้านการเงิน

แถลงการณ์ยังเผยด้วยว่า การปล่อยสินเชื่อในช่วงต้น-กลางเดือนมกราคมมีอัตราการขยายตัวค่อนข้างเร็ว เนื่องจากโครงการหลายโครงการที่กำลังดำเนินอยู่ต้องการเงินทุน แต่หลังจากนั้น อัตราการปล่อยกู้ก็เริ่มมีเสถียรภาพ

นอกจากนี้ ICBC ยังระบุในแถลงการณ์ด้วยว่า ธนาคารจะมุ่งเน้นไปที่การจัดหาเงินทุนให้กับโครงการต่างๆของรัฐบาลที่อยู่ในระหว่างดำเนินการ และจะขยายการปล่อยสินเชื่อให้แก่ธุรกิจขนาดเล็กมากขึ้น

ขณะเดียวกันก็จะควบคุมการปล่อยเงินกู้ในโครงการใหม่ๆ และการปล่อยกู้แก่อุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานและปล่อยมลพิษสูงอย่างเข้มงวดมากขึ้น

ทั้งนี้ รัฐบาลจีนได้ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า จะควบคุมการขยายตัวของสินเชื่อโดยรวมให้อยู่ที่ระดับ 7.5 ล้านล้านหยวน (1.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในปีนี้ เทียบกับระดับ 9.59 ล้านล้านหยวนในปีที่แล้ว โดยมีเป้าหมายเพื่อป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจร้อนแรงเกินไป

ขณะที่สื่อจีนรายงานเมื่อวานนี้ว่า ธนาคารของจีนได้ปล่อยเงินกู้ใหม่แล้ว 1.45 ล้านล้านหยวน ในช่วง 19 วันแรกของปีนี้ ซึ่งส่งผลให้หน่วยงานกำกับดูแลจับตาความเคลื่อนไหวของธนาคารต่างๆอย่างใกล้ชิดมากขึ้น ด้วยการขอให้ธนาคารเหล่านี้นำส่งข้อมูลการปล่อยสินเชื่อรายวัน

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการควบคุมการปล่อยสินเชื่อไม่ให้มากจนเกินไป ธนาคารกลางจีนจึงได้ตัดสินใจเพิ่มสัดส่วนการกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ 0.5% เป็นครั้งแรกในรอบ 18 เดือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า จะช่วยลดสภาพคล่องได้ 2.5 แสนล้านหยวน

ความเคลื่อนไหวต่างๆจากทางการจีนทำให้นักลงทุนในตลาดหุ้นกังวลว่าสภาพคล่องในตลาดจะได้รับผลกระทบ และส่งผลให้ตลาดหุ้นจีนร่วงลงเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันและปิดที่ระดับ 2,986.6 จุดในวันนี้ ซึ่งเป็นการปิดที่ระดับต่ำกว่า 3,000 จุดเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน


รัฐบาลญี่ปุ่นให้คำมั่นจะลดหนี้สาธารณะจำนวนมหาศาล

นายนาโอโตะ คัน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของญี่ปุ่น ให้คำมั่นว่ารัฐบาลจะตัดลดหนี้สาธารณะที่พุ่งทะยาน หลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงินรายงานว่า ความพยายามของรัฐบาลญี่ปุ่นในการจัดระเบียบหนี้สาธารณะเป็นไปอย่างเชื่องช้า เตือนว่าอาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือการชำระหนี้

นายนาโอโตะ ให้คำมั่นว่า จะสามารถลดหนี้สาธารณะที่มีอยู่มหาศาล ด้วยวิธีทบทวนนโยบายการคลังและเปลี่ยนแปลงนโยบายเศรษฐกิจเพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโต

ทั้งนี้ การฟื้นตัวของญี่ปุ่นยังคงเป็นไปอย่างกระจัดกระจาย ท่ามกลางภาวะเงินฝืดและความอ่อนแอของการบริโภคภายในประเทศ รมต.คลังญี่ปุ่น กล่าวว่า การใช้จ่ายของภาครัฐยังเป็นสิ่งจำเป็น แต่จะใช้จ่ายเฉพาะโครงการที่มีความจำเป็นอย่างแท้จริงเท่านั้น


เกาหลีใต้ออกแถลงการณ์เตือนเกาหลีเหนือหลังเกิดการยั่วยุทางทหาร

เกาหลีใต้ได้ออกแถลงการณ์เตือนเกาหลีเหนือไม่ให้ดำเนินการที่มีลักษณะเป็นการยั่วยุทางการทหาร โดยเกาหลีใต้พร้อมตอบโต้หากเกาหลีเหนือยังคงดำเนินการใดๆต่อจากนี้

เกาหลีใต้ออกแถลงการณ์เตือนดังกล่าวหลังจากที่เกาหลีเหนือได้ยิงปืนใหญ่ประมาณ 30 ครั้งมายังน่านน้ำใกล้กับพรมแดนทางทะเลที่เป็นข้อพิพาทระหว่างสองฝ่ายอยู่ในขณะนี้

เกาหลีใต้ยังได้เรียกร้องให้เกาหลีเหนือยกเลิกประกาศเขตห้ามเดินเรือบริเวณพรมแดนตะวันตกที่เป็นข้อพิพาทของทั้ง 2 ฝ่ายด้วย

อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวระบุว่า หลังจากที่เกาหลีใต้ได้ส่งแถลงการณ์เตือนออกไป เกาหลีเหนือก็ยังยิงปืนใหญ่ตามมาอีกหลายนัดที่บริเวณเดียวกันเมื่อเวลา 15.25 น.ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่เกาหลีเหนือได้ออกแถลงการณ์เช่นกัน โดยระบุว่า การยิงปืนใหญ่ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการซ้อมยิงประจำปี


ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่ประกาศออกมาเมื่อวานนี้ (พุธที่ 27 ม.ค. 2553)
? ตัวเลขสต็อกน้ำมันสำรองประจำสัปดาห์ ลดลง 3.9 ล้านบาร์เรล
? ยอดขายบ้านใหม่ (ธ.ค.) อยู่ที่ 342,000 ยูนิต
? คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินสหรัฐฯ (FOMC) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0-0.25%

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่จะประกาศออกมาวันนี้ (พฤหัสบดีที่ 28 ม.ค. 2553)
? ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ
? ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน (ธ.ค.) โดยกระทรวงพาณิชย์

ติดตาม Money Wake up ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ออกอากาศซ้ำเวลา 11.00 น. ทาง Money Channel
 

 
บันทึกการเข้า
Jeera
Hero Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3992


Happy day!


« ตอบ #485 เมื่อ: มกราคม 28, 2010, 10:51:52 AM »

สวัสดีค่ะพี่ทองใหม่  Smiley

ตอนนี้สุขภาพกายและใจเป็นยังไงบ้างคะ

ส่วนหนู...ไม่ค่อยดีเลยอ่ะ   Undecided  ไม่รู้เพราะเครียดรึป่าว
บันทึกการเข้า


Someone love one
Some one love two
But I love one
That One is...U  (^?^)-?
ทองใหม่
Hero Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1062


« ตอบ #486 เมื่อ: มกราคม 28, 2010, 11:16:51 AM »

28 ม.ค. 2553


สรุปภาวะตลาดเมื่อวาน
    ราคาโกลด์ฟิวเจอร์สปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ในขณะที่ราคาทองคำสปอตปรับตัวผันผวนเล็กน้อย ทองคำแท่งสมาคมฯปิดที่ 17,100/200 บาท เงินบาทอ่อนค่าตามดอลลาร์ที่แข็งขึ้น


ปัจจัยที่อาจส่งผลต่อเนื่องถึงวันนี้
    ปัญหาเรื่องกรีซยังเป็นจุดสนใจของนักลงทุนอย่างต่อเนื่องโดยสหภาพยุโรปได้ออกมาให้ความเห็นว่ามาตรการต่างๆของกรีซที่ออกมายังไม่ดีพอที่จะช่วยลดหนี้สาธารณะของรัฐบาลได้ นักลงทุนจึงกลับมากังวลปัญหาของกลุ่มยูโรทั้งระบบ ส่งผลให้ค่เกเงินยูโรอ่อนค่าลงต่อเนื่อง [Reuters, Bloomberg]
    ในการที่นายไกธ์เนอร์ รมต.คลังสหรัฐฯได้อธิบายเกี่ยวกับเรื่องการตัดสินใจให้เงินช่วยเหลือให้บริษัท AIG เมื่อคืนนี้ คณะกรรมการสอบสวนได้มีการพูดคุยกล่าวโทษค่อนข้างรุนแรงจนเป็นปัญหายืดเยื้อถึงปัจจุบัน ทำให้นักลงทุนเริ่มกังวลเรื่องปัญหาการเมืองที่อาจเกิดขึ้น กดดันให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยงเนื่องจากกลัวความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น [Reuters, Whitehouse, TCAF Research]
    ผลการประชุมเฟดปรากฏว่าไม่ได้มีการถอนมาตรการกระตุ้นก่อนกำหนดแต่อย่างใด และยังให้ความเห็นว่าจะดำเนินนโยบายผ่อนคลายไปอีกนาน โดยมีคณะกรรมการท่านหนึ่งแสดงความไม่เห็นด้วยโดยเขาคิดว่าเฟดน่าจะเตรียมตัวขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้แล้ว อย่างไรก็ตามรายงานดังกล่าวได้แสดงให้เห็นถึงมุมมองของเฟดต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯที่เป็นบวกอย่างต่อเนื่อง จึงดึงดูดเงินลงทุนเข้าสินทรัพย์เสี่ยงได้ในระยะสั้น [US FRB, TCAF Research]
   ในการลงคะแนนรับรองนายเบอร์นานกี้เป็นประธานเฟดอย่างเป็นทางการในคืนวันนี้ เรามองว่าน่าจะส่งผลบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงโดยรวม ซึ่งรวมไปถึงราคาทองคำด้วยเนื่องจากนักลงทุนน่าจะได้รับข่าวดีเกี่ยวกับนโยบายการเงินที่สามารถดำเนินได้อย่างต่อเนื่อง [TCAF Research]


แนวโน้มทองคำวันนี้
    เรามองว่านักลงทุนน่าจะยังกังวลปัญหาการเมืองในสหรัฐฯต่อไปอีกระยะหนึ่งในขณะที่การรับรองนายเบอร์นันกี้น่าจะส่งผลบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงรวมถึงทองคำ เราจึงมองว่า "ราคาทองคำน่าจะแกว่งตัวอยู่ในช่วงแคบ ก่อนปรับตัวแกว่งตัวขึ้นข้ามคืน" เราจึงแนะนำให้ "หยุดรอดูสถานการณ์ และปิดสถานะ SHORT ก่อนหมดวัน"


มุมมองทองคำ
    แนวโน้มเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวน่าจะมีความสำคัญที่สุดในช่วงนี้ ในขณะที่มาตรการต่างๆของมหาอำนาจก็น่าจับตามองไม่แพ้กันเนื่องจากอาจส่งผลต่อการรับความเสี่ยงของนักลงทุนและส่งผลต่อสถานะของทองคำได้

บันทึกการเข้า
ทองใหม่
Hero Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1062


« ตอบ #487 เมื่อ: มกราคม 28, 2010, 11:21:12 AM »

สวัสดีค่ะพี่ทองใหม่  Smiley

ตอนนี้สุขภาพกายและใจเป็นยังไงบ้างคะ

ส่วนหนู...ไม่ค่อยดีเลยอ่ะ   Undecided  ไม่รู้เพราะเครียดรึป่าว
ผมตอนนี้ยังดีอยู่ครับ แต่ยังเล่นทองไม่ค่อยได้ เพราะพอเครียดความดันก็จะขึ้นจ้า
ส่วนของคุณJeeraอาจเกิดจากความเครียดก็ได้นะครับ ลองดูแลความเครียดหน่อย อาจดีขึ้นก็ได้นะครับ
บันทึกการเข้า
ทองใหม่
Hero Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1062


« ตอบ #488 เมื่อ: มกราคม 28, 2010, 11:32:20 AM »

กิมเอ็งโกลด์ฟิวเจอร์วันนี้
วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม 2010 เวลา 10:33 น. ทีมออนไลน์ ข่าวรายวัน - ข่าวในประเทศ   
User Rating: / 0
แย่ดีที่สุด
ราคาทองคำส่งมอบทันที ตลาดลอนดอน วานนี้อ่อนตัวลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 อีก US$10.20 หรือ 0.9% ปิดที่ US$1,087.50 /ounce หลังเฟดประกาศคงนโยบายการเงินต่างๆ ไว้

โดยเฉพาะการรับซื้อพันธบัตรรัฐบาลที่จะหมดอายุลงสิ้นเดือนมี.ค.นี้ เป็นการส่งสัญญาณการใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดตามมา สะท้อนเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ฟื้นตัวอย่างมีเสถียรภาพ ทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าเทียบกับยูโร และกดดันราคาทองคำทั้งทางตรงและทางอ้อม

การเคลื่อนไหวค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ วานนี้ทรงตัวที่ 33.02 บาท/US$ จากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าเทียบกับยูโร และเงินทุนไหลออกจากตลาดเงินและตลาดทุนไทยอย่างต่อเนื่อง ทำให้ค่าเงินบาทอยู่ในทิศทางที่อ่อนค่าลง

ปริมาณการซื้อขายทองคำล่วงหน้า ส่งมอบเดือนก.พ. หดตัวลงอีกครั้ง 29.2% หรือ 835 สัญญา และ OI ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลงเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 205 สัญญา หรือ 3.2% สะท้อนนักลงทุนส่วนใหญ่ไม่มั่นใจ ต่อทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงสั้นนี้ จึงทยอยลดสถานะการถือครองลง

หลังราคาทองคำในตลาดโลกปรับฐานลงต่ำกว่า US$1,090/ounce แล้ว เชื่อว่า ราคาทองคำจะยังอยู่ในทิศทางอ่อนตัวลงต่อเนื่อง จากภาวะการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงที่เป็น Bearish ต่อเนื่อง จากการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินเป็นเข้มงวดมากขึ้น ทำให้เกิดเงินทุนไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยง  เงินสกุลดอลลาร์กลายเป็นสกุลเงินที่ดีต่อการพักเงินชั่วคราว กดดันราคาทองคำทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยแนวรับถัดไปอยู่บริเวณ US$1,080 และ US$1,050 ตามลำดับ

กลยุทธ์การลงทุน : 1.ผู้ถือสถานะ Long ใน GFG10 ยืนยันทยอยปิดสถานะ เพราะคาดว่าราคาทองคำยังคงมี Downside Risk ที่เปิดกว้างอยู่ 2. ผู้ถือสถานะ Short ใน GFG10 แนะนำให้ถือสถานะข้ามวัน หรือหาจังหวะในการปิดบริเวณ 17,100 บาท หรือต่ำกว่า เพื่อทำกำไรช่วงสั้น 3. นักลงทุนใหม่ แนะนำ ?เปิดสถานะ Short  ใน GFG10 หาก GFG10 มีการขยับขึ้นสู่บริเวณ 17,300 บาท? และถือสถานะข้ามสัปดาห์

Turning Point:   GFG10 > 17, 350 บาท ปิด Short และ เปิด Long

บันทึกการเข้า
Jeera
Hero Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3992


Happy day!


« ตอบ #489 เมื่อ: มกราคม 28, 2010, 11:33:05 AM »

สวัสดีค่ะพี่ทองใหม่  Smiley

ตอนนี้สุขภาพกายและใจเป็นยังไงบ้างคะ

ส่วนหนู...ไม่ค่อยดีเลยอ่ะ   Undecided  ไม่รู้เพราะเครียดรึป่าว
ผมตอนนี้ยังดีอยู่ครับ แต่ยังเล่นทองไม่ค่อยได้ เพราะพอเครียดความดันก็จะขึ้นจ้า
ส่วนของคุณJeeraอาจเกิดจากความเครียดก็ได้นะครับ ลองดูแลความเครียดหน่อย อาจดีขึ้นก็ได้นะครับ

พยายามอยู่ค่ะ   Embarrassed
บันทึกการเข้า


Someone love one
Some one love two
But I love one
That One is...U  (^?^)-?
Cindy
Jr. Member
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 347



« ตอบ #490 เมื่อ: มกราคม 28, 2010, 12:19:48 PM »

ทองตกแต่เงินดอลล์อ่อน ราคา nav ของ k gold เพิ่ม เอ่ออ่ะนะ คิดว่าจะได้ซื้อถูกกว่าซะอีก กลับซื้อแพง Sad

ช่วงนี้มีแต่ความเครียดกันถ้วนหน้าเลยนะคะอาจารย์-นู๋เซนเซ Undecided
บันทึกการเข้า
ทองใหม่
Hero Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1062


« ตอบ #491 เมื่อ: มกราคม 28, 2010, 12:34:41 PM »

http://www.thaigold.info/forum/index.php?topic=4852.880
บันทึกการเข้า
brabus
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #492 เมื่อ: มกราคม 28, 2010, 01:20:01 PM »

ขอบคุณค่ะพี่ทองใหม่ Grin
บันทึกการเข้า
Jeera
Hero Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3992


Happy day!


« ตอบ #493 เมื่อ: มกราคม 28, 2010, 01:23:49 PM »

ทองตกแต่เงินดอลล์อ่อน ราคา nav ของ k gold เพิ่ม เอ่ออ่ะนะ คิดว่าจะได้ซื้อถูกกว่าซะอีก กลับซื้อแพง Sad

ช่วงนี้มีแต่ความเครียดกันถ้วนหน้าเลยนะคะอาจารย์-นู๋เซนเซ Undecided

ดอยทุกอย่างเลยค่ะพี่ซินดี้   Cry  ทำตัวไม่ถูกเลย
บันทึกการเข้า


Someone love one
Some one love two
But I love one
That One is...U  (^?^)-?
paul711
Hero Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4406


Gold is value because it's value!


« ตอบ #494 เมื่อ: มกราคม 28, 2010, 02:34:17 PM »

ประเด็นสำคัญ
  - ราคาทองปิดร่วงหลังดอลล์พุ่ง ขณะจับตาผลประชุมเฟด
  - ดอลล์พุ่งสูงสุดรอบ 6 เดือนเทียบยูโร
  - ปัจจัยทางเทคนิคกดน้ำมันดิบร่วงลง
  - ดาวโจนส์ปิดบวกรับเฟดตรึงดอกเบี้ยใกล้ 0%

   ปิดต่ำลง 1.3% ในวันพุธ ในขณะที่ดอลลาร์แตะจุดสูงสุดรอบ 6 เดือนเมื่อเทียบกับยูโร และตลาดทองมีแนวโน้มที่จะมีการซื้อขายออปชันที่ผันผวนและมีการย้ายฐานสัญญาก่อนการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สัญญาทองส่งมอบเดือนก.พ.เคลื่อนตัวในช่วง 1,102.10-1,090.10 ดอลลาร์ เทรดเดอร์กล่าวว่า ตลาดมีความระมัดระวังก่อนการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของเฟดในวันพุธและวันครบกำหนดส่งมอบวันแรกในวันศุกร์ ดีลเลอร์กล่าวว่า เป็นไปได้ที่จะมีการระบายสัญญา ถ้าราคาร่วงลงต่ำกว่า 1,080-1,085 ดอลลาร์

   นักวิเคราะห์จากบริษัท R.F.Lafferty Inc. ในนิวยอร์กกล่าวว่า ตลาดทองคำถูกกดดันอย่างหนักหลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 0.3% เมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินหลักๆในตะกร้าเงิน นอกจากนี้ ภาวะซบเซาในตลาดหุ้นยังส่งผลให้นักลงทุนบางกลุ่มเทขายสัญญาทองคำเพื่อชดเชยการขาดทุนในตลาดหุ้น อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์จาก Investec Global Gold Fund คาดว่า ราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นแตะระดับ 1,300 ดอลลาร์/ออนซ์ในอีก 6 เดือนข้างหน้านี้ เนื่องจากดีมานด์ยังคงแข็งแกร่ง

   ตลาดมุ่งความสนใจไปที่การแถลงนโยบายประจำปีของปธน.โอบามาในเช้าวันพฤหัสบดีนี้ตามเวลาประเทศไทย รวมถึงการลงมติของวุฒิสภาสหรัฐเพื่อยืนยันการแต่งตั้งนายเบน เบอร์นันเก้ เป็นประธานเฟดสมัยที่ 2 ขณะที่วาระการดำรงตำแหน่งในปัจจุบันจะสิ้นสุดลงวันอาทิตย์นี้

    กองทุน SPDR Gold trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยว่าทางกองทุนได้ถือครองทองแท่งระดับ 1,111.922 ตัน ณ วันที่ 27 มกราคม 2553 ลดลง 0.914 ตัน จากวันที่ 15 มกราคม 2553

 กลยุทธ์ : ช่วงสัปดาห์นี้อาจจะเล่นในกรอบ 1,105 ? 1,078 US$ เพื่อเปลี่ยนแนวโน้มในปลายสัปดาห์ เลยแนะนำเป็นการเล่นเด้งระยะสั้นเท่านั้นในช่วงต้นสัปดาห์ปลายสัปดาห์น่าจะปรับฐานลงต่อเนื่องจากแรงกดดันทั้งค่าเงิน US$ แข็ง ERU$ อ่อนต่อเนื่อง
 


 Smiley  ขอบคุณครับคุณทองใหม่
บันทึกการเข้า

ผมไม่ใช่กูรูเรื่องทอง ไม่เคยเขียนหรือพูดแม้แต่ครั้งเดียวว่าเก่งเรื่องทองอ่านที่ผมเขียน แล้วตัดสินใจเอง เกิดผิดพลาด ต้องรับผิดชอบเองอย่าโทษผู้อื่นว่าพลาดเพราะไปเชื่อคนอื่น ไม่มีใครบังคับให้ท่านเชื่อ ผมเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดา----Paul711 
จุดหมาย 1) ทองแท่ง ให้ได้กําไร อย่างน้อย 10% ทุก 3 เดือน 2) Gold Future ให้ได้กําไรอย่างน้อย 5% ทุกเดือน 3) gold online ให้ได้กําไร อย่างน้อย 5% ทุกเดือน 
ชีวิตต้องมีหลักและจุดหมายที่ดีและแน่นอน ชีวิตที่ไม่มีหลักที่ดีเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวก็เปรียบเหมือนเรือที่ไม่มีหางเสือ ใครชวนให้ทําดีก็ดีไป ใครชวนให้ทําเรื่องไม่ดี ก็จะพบกับความล้มเหลวและภัยพิบัติได้


http://ichpp.egat.co.th/

Gold2Gold.com
Gold Price today, Gold Trend Price Prediction, ราคาทองคํา, วิเคราะห์ทิศทางทองคํา
   

images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary ---------------------Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. For more information on Moore Research products and services click here. --- http://www.mrci.com ---------- ---------------------------------------------รูปกราฟแสดงราคาทองในอดีตปี 1974-1999 ของ Moore Research Center, Inc. แสดงฤดูกาลที่ราคาทองขึ้นสูงสุดและตําสุด เอาแบบคร่าวๆ เส้นนําตาลหรือนําเงินก็ใกล้เคียงกัน เส้นนําตาลเฉลี่ย 15 ปี เส้นนําเงินเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุดของเส้นนําตาล หรือเฉลี่ย 15 ปี ในเดือน ปลายเดือน เมษ และปลายเดือน สค ต่อต้นเดือน กย[/color] สูงสุดในเดือน กพ กับ พย / ส่วนเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุด ต้น กค กับ ปลาย สค และราคาสูงสุดในเดือน กพ และ กลางเดือน ตค ----- แค่ดูคร่าวๆ เป็นแนวทาง อย่ายึดมั่นว่าจะต้องเป็นตามนี้ ข้างล่างเป็นกราฟราคานํามัน ตามฤดูกาล จาก Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary
 บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 31 32 [33] 34 35 ... 51   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: