Forex-Currency Trading-Swiss based forex related website. Home ----- กระดานสนทนาหน้าแรก ----- Gold Chart,Silver,Copper,Oil Chart ----- gold-trend-price-prediction ----- ติดต่อเรา
หน้า: 1 ... 8 9 [10] 11 12 ... 15   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ขออานิสงฆ์ บังเกิดแก่ผู้อ่าน  (อ่าน 18851 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 5 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #135 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2014, 08:55:34 PM »








ทุกอย่าง ตายแล้วเอาไปไม่ได้
เพราะธรรมชาติกำหนดไว้ สำหรับอยู่กันในโลกนี้
""ท่านพุทธทาสภิกขุ""

ขอบคุณรูปภาพเสรีชน คนไชยานะคะ
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #136 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2014, 08:58:14 PM »










บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #137 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2014, 09:00:44 PM »



“ ...คำพูดที่ว่า สุดแล้วแต่โชคชะตา
อันนี้เป็นคำพูดของคนหลงผิด
แล้วมักปล่อยชีวิตไปตามเรื่องตามราว
ถ้าเป็นเรือก็เรียกว่า ไม่ถ่อไม้พาย ไม่เดินเครื่องแล้ว
สุดแล้วแต่เรื่อง เรือมันก็ไปชนหินโสกโครกเท่านั้นเอง
แล้วเรือนั้นก็ไปไม่ได้ ชีวิตของคนเรานั้นก็เหมือนกัน
คนใดที่ชอบพูดว่า สุดแล้วแต่โชคชะตา
คนนั้นไม่ใช่คนต่อสู้ในการดำรงชีวิต
แต่เป็นคนที่ไม่ค่อยจะเอาเรื่อง มักจะเป็นไปตามเหตุการณ์
เป็นไปตามสิ่งแวดล้อม ผลที่สุดก็ไม่ค่อยได้สาระ...”

ปัญญานันทภิกขุ
(จากหนังสือชนะทุกข์ หน้า 407)



บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #138 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2014, 09:01:02 PM »




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 08, 2014, 11:23:16 AM โดย jainu » บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #139 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2014, 09:06:31 PM »


...อุบายสอนศิษย์..ของพระอรหันต์..

อุบาสิกาท่านหนึ่ง มีความซาบซึ้งดื่มด่ำในธรรมที่หลวงปู่ตื้อแสดงอย่างยิ่ง เมื่อเทศน์จบลง อุบาสิกาท่านนี้ก็คลานคล้อยเข้าไปเบื้องหน้าธรรมาสน์ที่ท่านนั่งแสดงธรรม พนมมือนมัสการกราบเรียนหลวงปู่ว่า

"หลวงปู่เจ้าค่ะ อีฉันได้ฟังหลวงปู่เทศนาแล้ว เบากายเบาใจเหลือเกิน อีฉันปล่อยวางได้หมดแล้วเจ้าค่ะ"

"อนุโมทนาด้วยคุณโยม ที่เกิดดวงตาเห็นธรรม"

"อีฉันไม่ยึดมั่นถือมั่นอีกต่อไปแล้วเจ้าค่ะหลวงปู่"

หลวงปู่ตื้อนิ่งไปนิดหนึ่ง ก่อนจะพูดเสียงดังฟังชัดว่า

"อีตอแหล!"

สิ้นคำหลวงปู่ อุบาสิกาท่านนั้นถึงกับหน้าแดงก่ำทั้งโกรธทั้งอาย ต่อว่าหลวงปู่ตื้อเสียงสั่นว่า ทำไมท่านจึงมาด่าว่าตนท่ามกลางสาธารณชนเช่นนี้

หลวงปู่ตื้อได้แต่หัวเราะหึ ๆ ไม่อธิบายโต้ตอบอะไร ขณะที่คนทั้งศาลาหัวเราะกันครืน เพราะเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า อุบาสิกาปล่อยวางอะไรไม่ได้เลย และยังยึดมั่นตัวตนของตนอย่างเหนียวแน่นครบถ้วน

...หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม...


บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #140 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 08, 2014, 11:17:03 AM »




คนอื่นไม่ดี เราพอรู้ได้ แต่เราเป็นคนไม่ดีในการคิด การพูดและการทำ ไม่ค่อยจะรู้เรื่องของตัว จึงหาทางแก้ไขยาก ทำนองเรามองดูขนตาคนอื่นเห็นได้ชัด แต่พอย้อนกลับมามองดูขนตาของเราเองเลยไม่เห็น ต้องใช้กระจกเงาเข้าช่วยมองจึงเห็นได้ การมองดูความผิด ถูก ชั่ว ดีของตัวก็ต้องใช้ปัญญา ซึ่งเปรียบกับกระจกเงาส่องเข้าหาตัวเราเสมอ เราสังเกตคนอื่นอย่างไร ควรจะใช้ความสังเกตตัวเราในทำนองเดียวกัน หรือมากกว่านั้น ถ้าใช้ความสังเกตสอดรู้ตัวเองดังที่ว่านี้ จะต้องเห็นจุดดีชั่ว ซึ่งแสดงอยู่ภายในตัวได้ชัด และพอมีทางแก้ไขและส่งเสริมได้เป็นลำดับ ในธรรมที่กล่าวมานี้คือ ธรรมที่ชี้บอกให้ค้นหาของดีในตัวของเราแต่ละราย ๆ พยายามถอดถอนสิ่งที่ชั่วออกไป

หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
จากหนังสือคำถาม คำตอบ ปัญหาธรรม
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #141 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2014, 08:11:15 AM »







บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #142 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2014, 08:11:28 AM »




บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #143 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2014, 08:11:47 AM »






บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #144 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2014, 08:12:09 AM »












บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #145 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2014, 10:00:44 PM »

บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #146 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2014, 10:01:08 PM »

บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #147 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 18, 2014, 05:27:36 PM »




บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #148 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 22, 2014, 10:45:13 PM »

























Watcharin Kongtanasatja
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #149 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2014, 08:20:55 AM »

ธรรมะ ๙ ตา !!

๑. ความรู้จักสิ่งทั้งปวงว่า เป็นสิ่งที่ปรุงแต่งขึ้นมาจากเหตุปัจจัยที่ปรุงแต่ง และจะปรุงแต่งสิ่งอื่นๆอีกต่อไป ไม่มีที่สิ้นสุด นั้นคือ กระแสแห่งความเปลี่ยนแปลง หรือ ความไม่เที่ยง ซึ่งเรียกว่า “ อนิจจัง”.

๒. เพราะต้องเป็นไปกับด้วยสิ่งที่เป็นอนิจจังหรือการเปลี่ยนแปลงเรื่อย ก็เกิดอาการที่เป็นทุกข์ คือ ทนได้ยาก(ทนอยู่ในสภาพนั้นไม่ได้ตลอดไป) หรือ สิ่งที่เรียกว่า “ ทุกขัง ”.**

๓. เพราะไม่มีอะไรจะต้านทานได้ ต่อสิ่งที่ไม่เที่ยงและเป็นทุกข์นี้จึงเรียกว่า ไม่มีตัวตน หรือ ไม่ใช่ตัวตน หรือ “อนัตตา”.

๔. การที่เป็นไปด้วย อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา นี้ เรียกว่า
“ธัมมัฏฐิตัตตา” คือ ความที่ต้องเป็นไปเช่นนี้ เป็นธรรมดา.

๕. ทั้งนี้เป็นเพราะ มีกฎของธรรมชาติบังคับอยู่ นี้เรียกว่า “ธรรมนิยามตา”.

๖. อาการที่ต้องเป็นไปตามเหตุปัจจัยอย่างนี้ เรียกว่า
“ อิทัปปัจจยตา " เป็นกฎธรรมชาติ มีอำนาจเสมอสิ่งที่เรียกว่า “ พระเป็นเจ้า”.

๗. การที่ไม่มีอะไรต้านทานกฏอิทัปปัจจยตานี้ได้ เรียกว่า “ สุญญตา” คือ ความว่างจากตัวตน หรือ ว่างจากความหมายแห่งตัวตน.

๘. ความจริงอันสูงสุดเรียกว่า “ตถตา” คือ ความเป็นเช่นนั้นเอง อย่างไม่ฟังเสียงใคร ใครจะฝืนให้เป็นไปตามใจตนมันก็กัดเอง คือ เป็นทุกข์.

๙. ในที่สุดก็เกิดความรู้สึกขั้นสุดท้ายว่า “ อตัมมยตา” ความที่ไม่อาจอาศัย หรือ เกี่ยวข้องกับสิ่งนี้อีกต่อไป ซึ่งมีความหมายอย่างภาษาชาวบ้านพูดว่า “ กูไม่เอากะอีกต่อไปแล้ว ” สลัดออกไปเสีย ก็คือ การบรรลุมรรคผล.

" ธัมมฐิติญาณ " รู้ความจริงของสังขาร ก็สุดลงที่ อตัมมยตา ต่อจากนั้นก็เป็นกลุ่มนิพพานญาณ เป็นฝ่าย โลกุตตระ เริ่มต้นแห่งความเย็น หรือ ความหมายของนิพพาน.

(พุทธทาส ภิกขุ)

คำว่า " ทุกขัง " ในที่นี้ เป็น ความทุกข์ใน ไตรลักษณ์ มิใช่ " ทุกขัง " ในอริยสัจ ๔..


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 28, 2014, 08:24:31 AM โดย jainu » บันทึกการเข้า

finghting!!!
Gold Price today, Gold Trend Price Prediction, ราคาทองคํา, วิเคราะห์ทิศทางทองคํา
   

images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary ---------------------Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. For more information on Moore Research products and services click here. --- http://www.mrci.com ---------- ---------------------------------------------รูปกราฟแสดงราคาทองในอดีตปี 1974-1999 ของ Moore Research Center, Inc. แสดงฤดูกาลที่ราคาทองขึ้นสูงสุดและตําสุด เอาแบบคร่าวๆ เส้นนําตาลหรือนําเงินก็ใกล้เคียงกัน เส้นนําตาลเฉลี่ย 15 ปี เส้นนําเงินเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุดของเส้นนําตาล หรือเฉลี่ย 15 ปี ในเดือน ปลายเดือน เมษ และปลายเดือน สค ต่อต้นเดือน กย[/color] สูงสุดในเดือน กพ กับ พย / ส่วนเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุด ต้น กค กับ ปลาย สค และราคาสูงสุดในเดือน กพ และ กลางเดือน ตค ----- แค่ดูคร่าวๆ เป็นแนวทาง อย่ายึดมั่นว่าจะต้องเป็นตามนี้ ข้างล่างเป็นกราฟราคานํามัน ตามฤดูกาล จาก Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary
 บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 8 9 [10] 11 12 ... 15   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: