Forex-Currency Trading-Swiss based forex related website. Home ----- กระดานสนทนาหน้าแรก ----- Gold Chart,Silver,Copper,Oil Chart ----- gold-trend-price-prediction ----- ติดต่อเรา
หน้า: 1 ... 12 13 [14] 15   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ขออานิสงฆ์ บังเกิดแก่ผู้อ่าน  (อ่าน 18741 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 7 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #195 เมื่อ: เมษายน 03, 2015, 10:17:16 PM »




สามารถมีความสุขอยู่ทุก ๆ ขั้นตอนของการมีชีวิต ของการบริหารชีวิต นี่ทำไมจึงไม่มองเห็น ? ทำไมจึงไม่มองเอาความสุขกันที่ตรงนี้ซึ่งเป็นของจริง ? จะไปเอาความสุขกันที่สวรรค์วิมานที่ไหนที่ก็ยังไม่รู้ ที่ก็ยังไม่มีอะไรเป็นที่แน่นอน...

การทำหน้าที่ของตน ๆ นั่นแหละคือการมีธรรมะ

 ข้อนี้อาจจะเป็นที่ไม่เข้าใจ แก่คนที่มีความยึดถือไว้สูงเกินไป ยกเอาเรื่องที่จะต้องปฏิบัติในชั้นสูงที่วัดหรือในป่าหรือในที่อันศักดิ์สิทธิ์ว่าเป็นธรรมะ

 แต่เดี๋ยวนี้อาตมาอยากจะให้เป็นธรรมะ ตามความหมายอันแท้จริงของคำคำนี้ คือความหมายว่าหน้าที่ พูดกันอีกครั้งหนึ่งก็ได้ว่า มนุษย์คนแรกในโลก ได้สังเกตเห็นสิ่งที่เรียกว่าหน้าที่ ที่มันเป็นของมีอยู่และจำเป็น เขาก็เลยเรียกชื่อสิ่งนั้นว่า ธรรมะ ในภาษานั้น ในถิ่นนั้น ในเวลานั้น ในยุคนั้น ธรรมะ แปลว่าหน้าที่ เพราะฉะนั้น การปฏิบัติธรรมะก็คือการปฏิบัติสิ่งซึ่งเป็นหน้าที่

 เมื่อเขายังรู้จักสิ่งที่เรียกว่าหน้าที่ต่ำ ๆ อยู่ ก็สอนธรรมะต่ำ ๆ กันไปพลาง ครั้นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเกิดขึ้น ก็สอนธรรมะคือหน้าที่ชั้นสูงสุด จนกระทั่งบรรลุมรรคผลนิพพาน มันก็ยังเป็นหน้าที่อยู่นั่นเอง

 หน้าที่นั้นมันมีอยู่ ๒ ชั้น หรือ ๒ ระดับ
 พูดแล้วพูดอีกไม่กลัวใครรำคาญ...

หน้าที่ชั้นแรก ระดับแรก ก็คือหน้าที่เพื่อให้รอดชีวิตอยู่ได้ นี้ชั้นหนึ่ง
 หน้าที่ชั้นที่ ๒ ระดับที่ ๒ ก็คือหน้าที่ที่ทำให้อยู่เป็นสุขปราศจากทุกข์

 พุทธทาสภิกขุ
 ที่มา ธรรมะคำเดียว

บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #196 เมื่อ: เมษายน 22, 2015, 09:58:56 AM »

บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #197 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2015, 06:33:35 PM »

บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #198 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2015, 06:33:57 PM »

บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #199 เมื่อ: กรกฎาคม 23, 2015, 01:27:08 PM »

บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #200 เมื่อ: พฤศจิกายน 04, 2015, 09:24:11 AM »

เวลามีชีวิตอยู่ใครก็พอช่วยเราได้
 ขาดตกบกพร่องจำเป็นอะไรๆ
เพื่อนฝูง ลูกเมีย หรือผัว ช่วยได้ทั้งนั้น
แต่เวลาจำเป็นจริงๆนี้ หมอก็ช่วยได้ในทางเจ็บไข้ได้ป่วย
แต่ถึงคราวจำเป็นจริงๆ นั่นล่ะ ไม่มีใครช่วยได้
ยิ่งเวลาขาดใจลงไปแล้ว ใครจะตามช่วยได้ล่ะ
ท่านจึงตัองสอนให้ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
พยายามสร้างที่พึ่งไว้เสียตั้งแต่บัดนี้
ที่เป็นวิสัยทำได้อยู่ อย่าได้ประมาทนอนใจ
ถึงคราวจำเป็นมา จะไม่มีใครช่วยเราเลย
นอกจากคุณงามความดีเท่านั้น จะเป็นผู้ช่วยเรา
เพราะภายนอกมันหมดวิสัย ที่จะช่วยกันได้แล้ว
ก็มีภายในคือบุญกุศลที่เราสร้างไว้นี้แหล่ะ
 จะเป็นธรรมชาติที่สนิทติดแนบอยู่กับใจ
พาไปสู่สถานที่ดีคติที่งาม แล้วเสวย ความสุข
ก็เสวยได้จาก กุศลที่เราสร้างไว้นี้แหล่ะ
จนกระทั่งถึงที่สุดจุดหมายปลายทางก็ปล่อยวางกันได้


โอวาทธรรม หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 04, 2015, 09:25:43 AM โดย jainu » บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #201 เมื่อ: พฤศจิกายน 10, 2015, 07:22:18 AM »



บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #202 เมื่อ: พฤศจิกายน 10, 2015, 07:23:50 AM »

บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #203 เมื่อ: พฤศจิกายน 18, 2015, 11:14:55 AM »


 http://www.oknation.net/blog/kan

"...เมื่อกล่าวโดยกรรม
ในศานาพุทธ
ความบังเอิญไม่มี

การกระทำทุกอย่าง
ย่อมมีผล เราเรียก
ผลนั้นว่า "วิบากกรรม"

สิ่งใดจะเกิดได้ ต้องมี
เหตุปัจจัยประชุมพร้อม
กรรมจึงสามารถส่งผล
หรือให้วิบากได้

ไม่มีโชคลาภเกิดขึ้นได้
โดยไม่อาศัยบุญ-กรรม

โชคลาภ ไม่สามารถจะ
เกิดขึ้นลอยๆ หรือ
บังเอิญ โดยไม่มีเหตุปัจจัย

ทุกปัญหาเกิดขึ้น
อย่างมีสาเหตุทั้งนั้น
กิ่งไม้ตกใส่หัว
ฟ้าผ่าหัวหมา
ล้วนเกิดจากกรรม

เหมือนใครกิน คนนั้น
ก็อิ่ม คนอื่นอิ่มแทนไม่ได้

เกลือ เค็มเหมือนกันหมด
ไทย ฝรั่ง ลาว แขก

กินในที่ลับ ที่แจ้งก็เค็ม
ดุจกัน เกลืออย่างไร
กรรมก็อย่างนั้น
ทุกชาติศาสนา"


โอวาทธรรม
หลวงปู่หลุย จันทสาโร
วันนี้วันพระ
น้อมนำธรรมสู่ชีวิต
บันทึกการเข้า

finghting!!!
hyiphyip
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2


« ตอบ #204 เมื่อ: มิถุนายน 21, 2016, 03:08:24 PM »

สาธุค่ะ  เทวดา
บันทึกการเข้า

ถึงแม้เกิดเป็นผู้หญิง ไม่ได้มีโอกาสบวชให้พ่อแม่ อย่างน้อยชีวิตนี้ก็ขอรักษาศีล5ให้ได้ก็พอ แค่นี้พ่อแม่ก็มีความสุขแล้ว
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #205 เมื่อ: สิงหาคม 27, 2016, 10:26:29 AM »



บ้าบุญ เมาบุญ นั่นแหละ เป็นมูลเหตุแห่งโรคจิตชนิดหนึ่ง เป็นโรคประสาทชนิดหนึ่ง หรือกลายเป็นโรคจิตไปเลยก็ได้ มีโรคจิตชนิดหนึ่งซึ่งหมอเขาจัดไว้ว่ามีมูลเหตุมาจากพระศาสนา จะหมายถึงพุทธศาสนา หรือศาสนาอื่นก็ได้ทั้งนั้นแหละ แต่ถ้าความวุ่นวายใจ ความไม่พักผ่อนแห่งจิตใจ มันได้เกิดขึ้นเพราะความหลงใหลในศาสนาเป็นต้นเหตุ

แล้วโรคจิตชนิดนั้นก็จัดไว้ว่าเป็นโรคจิตที่มีมูลมาจากพระศาสนา รักษายาก ยิ่งกว่าโรคจิตธรรมดา อาตมาเคยสนทนากับหมอโรคจิต บางคนเขาเอาตำราให้ดูว่า โรคจิตที่เนื่องมาแต่ศาสนานี่รักษายากที่สุดเลย เพราะมันลึกซึ้งเหนียวแน่น ยิ่งกว่าโรคจิตธรรมดา ซึ่งกระทบอารมณ์เพียงบางอย่างบางคราวนี้ อาจจะหายไปได้ แต่ถ้าเป็นโรคจิตมามีมูลมาจากเรื่องทางศาสนา ฝังแน่นลึกอยู่ในสันดาน แล้วรักษายาก นี่แหละจึงเป็นสิ่งที่ต้องเอาใจใส่ แล้วสิ่งที่ต้องศึกษา ต้องใคร่ครวญดูให้ดี ๆ

 ทีนี้ ก็จะสรุปความว่า จะเอือมบุญกันเมื่อไร มันก็แล้วแต่บารมีที่สร้างสมมาดีหรือไม่ ถ้าสร้างสมบารมีมาดี มันก็จะเอือมบุญกันได้เร็วกว่า พูดอย่างนี้อย่าเข้าใจผิด ว่าอาตมาสอนให้เลิกทำบุญ ไม่ได้สอนให้เลิกทำบุญ เพราะบุญที่เป็นชื่อของความสุขที่ควรปรารถนาก็มี แล้วบุญเป็นชื่อของเครื่องชำระบาป ล้างบาปให้หมดไปก็มี คนทำบุญอย่างนี้ไปได้ แต่ขอให้มันถูกต้องอย่างนี้ อย่าให้กลายเป็นบุญที่เป็นที่ตั้งแห่งความบ้าบุญ เมาบุญ จนกระทั่งเป็นโรคจิตไปเสีย

 ทำไมจึงต้องหยิบปัญหานี้ ขึ้นมาพิจารณาเพราะว่าเรื่องบุญนี้ มันมีด้วยกันทุกชาติ ทุกศาสนา ในบรรดาหมู่มนุษย์ในโลกนี้ ก็มีคำพูดใช้ตรงกันหมด คือสิ่งที่เรียกว่าดี หรือว่าบุญ แล้วก็ส่วนใหญ่มันก็เนื่องกันอยู่กับศาสนา หรือเป็นคำสอนในทางศาสนา สอนให้รู้เรื่องบุญ ให้ทำบุญ ให้มีบุญ เขาสอนผิด ๆ เขาก็อาจจะเลยไปถึงว่าให้บ้าบุญ

 ถ้าเอากันแต่เพียงว่าเป็นเครื่องล้างบาปอย่างนี้ ก็จะไม่เป็นไร เช่นทำบุญให้ทาน เพื่อจะล้างความขี้เหนียวความตระหนี่ ล้างความเห็นแก่ตัว ล้างโทสะ ล้างจิตที่มันเลวร้ายก็ดีแหละ มันเป็นส่วนดี เป็นความดีโดยส่วนเดียว บุญที่เป็นเครื่องชำระกิเลส แต่แล้วส่วนมากในโลกนี้ เกือบจะทุกศาสนา ไม่ค่อยจะได้มีบุญกันในลักษณะล้างบาป แต่มีบุญกันในลักษณะที่เป็นอุปธิ คือของหนักที่ยินดีที่จะแบก จะหาม จะทูน จะหอบ จะหิ้ว ไปกับตัวทีเดียว เป็นเสียอย่างนี้โดยมาก แล้วก็เป็นโรคประสาทหรือเป็นโรคจิตเพราะบุญนั้นเองก็ไม่รู้สึก มันก็ไม่รู้สึก

 พุทธทาสภิกขุ

 ที่มา : ปกิณณกธรรมบรรยาย ครั้งที่ 3 เรื่อง บุญแท้เมื่อหมดความรู้สึกอยากมีบุญ
 ปี พ.ศ. 2525 #จดหมายเหตุพุทธทาส
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #206 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2016, 09:31:01 AM »

เมื่ออะไรเกิดขึ้นในชีวิต
อย่าคิดว่า.....เป็นเรื่องคนอื่นทำให้
อย่าคิดว่า........เป็นโชคชะตาราศี
อย่าคิดว่า............ดวงดี ดวงไม่ดี
อย่าคิดว่า......อะไรๆ มาทำให้เป็น
แต่จงคิดให้ถูกต้องว่า....
ฉันเองแหล่ะ.....เป็นผู้ทำสิ่งนั้น


หลวงพ่อปัญญานันทภิขุ




บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #207 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2016, 09:38:26 AM »

       คนที่ไม่มีโรคทางกาย
นับว่าประเสริฐ แต่คนที่ไม่มีโรคทางใจ
       คือกิเลส ประเสริฐกว่า

     -หลวงปู่แหวน สุจิณโน-
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #208 เมื่อ: ตุลาคม 16, 2016, 11:00:28 AM »

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺ​โช
เทศน์ ณ วัดสวนสันติธรรม
๑๕ ตุลาคม ๒๕๕๙


-เรื่องธรรมดานะ! ท่านอายุมากแล้ว
มีชีวิตอยู่อายุเยอะๆ​ ไม่สบายนะ! ทรมานมาก
ร่างกายมันช่วยตัวเองไม่ได้
หายใจก็ต้องใช้เครื่องช่วย
ไตก็ต้องเครื่องช่วย
อะไรก็ต้องใช้เครื่องช่วย
มีแต่เรื่องเจ็บ.. เจ็บตัวตลอด
-
หลวงพ่อก็เป็น​คนไข้​โรงพยาบาล​ศิริราชเหมือนกัน
หมอก็มาเล่าให้ฟังเหมือนกัน
ท่านถูกฉีดยา ถูกเจาะ ถูกผ่า
หลังๆท่านก็ฮึดเหมือนกัน อะไรอย่างนี้
หลังๆท่านก็ฮึดสู้เหมือนกัน
หมอจะฉีด ท่านก็จะรับ​สั่งว่า​ "จำเป็นอะไร?"
โดนเยอะ! ทรมานนะ!
ไม่ใช่ชีวิตเป็นของวิเศษวิโสหรอก
-
ในส่วนตัวท่าน ท่านสบายของท่านอยู่แล้ว
เพราะความดีท่านทำมาเยอะแล้ว
-
ที่ว้าวุ่นใจ​ คือพวกเราเองแหละ
เราไม่มั่นใจในความดีของเรา
หวังจะพึ่งท่าน
คิดว่าบ้านเมืองไม่มีท่าน.. อยู่ไม่ได้แล้ว
ไปๆมาๆ​ รักตัวเองเยอะนะ!

-รักท่าน ท่านก็พอดีของท่านแล้ว
ไม่ทรมานมาก แค่นี้ก็ทรมานมากอยู่แล้วล่ะ
-
บางทีพ่อแม่เราไม่สบายมากๆนะ
โดนหมอทำอย่างโน้นอย่างนี้นะ
เรายังอยากปล่อยเลย
-
เวลาอะไรก็เหมาะสมไปทุกอย่างนะตอนนี้
บ้านเมืองกำลังร่มเย็นอยู่ สงบอยู่
คิดดู.. ถ้าเร็วกว่านี้สัก ๒​ ปี เกิดอะไรขึ้น!
นึกภาพไม่ออกเลย
ตอนนี้ก็เหมาะ.. เหมาะสมแล้วล่ะ!
คนที่จงรักภักดีกำลังมีอำนาจอยู่
ถ้าได้พวกคิดร้าย เกิดภาวะอย่างนี้
ฉวยโอกาสทำอะไรได้เยอะแยะเลย
บ้านเมืองเสียหายมากกว่านี้
-
ฉะนั้น​ ตรงนี้สมควรแล้ว เหมาะพอดี
-
ชาวพุทธเรามองทุกอย่างด้วยเหตุด้วยผล
ท่านก็แสดงธรรมะให้เราดู..
ไม่เที่ยง​ เป็นอนัตตา
ไม่อยากคิดถึงด้วยซ้ำไปว่า​ ท่านจะสิ้น
แค่คิดเรายังไม่อยากจะคิดเลย
ท่านก็จะต้องสิ้นจนได้
-
ฉะนั้น​ ไม่ใช่เวลาที่จะมาเศร้าโศกนาน

เศร้าโศกนิดหน่อยพอสมควร
ทำความดีไป
บอกว่ารักพ่อ รักพ่อ
ทำอย่างพ่อให้ได้ก็แล้วกัน
-
ตั้งอกตั้งใจปฏิบัติเข้า
อย่างน้อยก็ลดคนเลวลงไปคนหนึ่งในสังคม
รู้ไหมว่า.. คนเลวอยู่ที่ไหน ?
ลดลงสักคนก็ดีนะ​ บ้านเมืองจะดีขึ้น!
พ่อรู้.. พ่อก็ชื่นใจ!
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #209 เมื่อ: ธันวาคม 07, 2016, 10:29:50 AM »

บันทึกการเข้า

finghting!!!
Gold Price today, Gold Trend Price Prediction, ราคาทองคํา, วิเคราะห์ทิศทางทองคํา
   

images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary ---------------------Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. For more information on Moore Research products and services click here. --- http://www.mrci.com ---------- ---------------------------------------------รูปกราฟแสดงราคาทองในอดีตปี 1974-1999 ของ Moore Research Center, Inc. แสดงฤดูกาลที่ราคาทองขึ้นสูงสุดและตําสุด เอาแบบคร่าวๆ เส้นนําตาลหรือนําเงินก็ใกล้เคียงกัน เส้นนําตาลเฉลี่ย 15 ปี เส้นนําเงินเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุดของเส้นนําตาล หรือเฉลี่ย 15 ปี ในเดือน ปลายเดือน เมษ และปลายเดือน สค ต่อต้นเดือน กย[/color] สูงสุดในเดือน กพ กับ พย / ส่วนเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุด ต้น กค กับ ปลาย สค และราคาสูงสุดในเดือน กพ และ กลางเดือน ตค ----- แค่ดูคร่าวๆ เป็นแนวทาง อย่ายึดมั่นว่าจะต้องเป็นตามนี้ ข้างล่างเป็นกราฟราคานํามัน ตามฤดูกาล จาก Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary
 บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 12 13 [14] 15   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: