ต่อไป »

[Icy]

เปิดฉาก การเทรด มา สองวัน ดอลลาร์ดูเหมือนจะมี แนวโน้มที่ดี หลังจากร่วงโรยรา มา สอง สัปดาห์

ใน เดือนสองเดือนนี้ ดอลลา น่าจะมีแรงส่งที่ดี โดยเฉพาะ ข่าว Non-Farm ในวันศุกร์นี้ ที่ คาดว่า จะ ออก มาดี

และ ถ้าเป็นไปตาม กลไก น่าจะส่ง ทอง ลง หลุม ได้เช่น กัน

แต่ในระยะยาว ดอลลาร์ ยังดูแย่ อาจลงถึง 55 (จาก การนับเวฟ ของ ควอทจี) ในช่วงไตรมาส สอง สาม สี่

[Keng09]

สวัสดีค่ะอ.Icy
ขอบคุณนะคะที่ส่งข่าว

[Icy]

Studying the classics
We will attempt to answer these questions by analyzing six
classic indicator entry rules in four major currency pairs.
This analysis will tell us if there is any value to these old
signals in the forex market, and if they could lend them-
selves to mechanical trading strategies. There are long and
short rules for each indicator.

  Relative Strength Index (RSI). Go long when the 14-day
RSI crosses above 30; go short when the indicator crosses
below 70.
  Stochastic oscillator overbought-oversold. Go long
when the 14-day stochastic oscillator crosses above 20;
go short when the indicator crosses below 80.




  Stochastic oscillator crossover. Go long when the fast
(%K) line crosses above the slow (%D) line; go short on
the opposite cross.



 Moving Average Convergence Divergence (MACD). Go
long when the 12-26-9 MACD histogram crosses above
zero; go short when the MACD histogram crosses below
zero.





  Parabolic SAR (PSAR). Go long when the PSAR (using
a 0.02 acceleration factor) switches to above yesterday’s
close; go short when the PSAR switches to below yester-
day’s close.
   Price-SMA crossover. Go long if yesterday’s close was
above the 50-day simple moving average (SMA) and
yesterday’s open was below it. Go short when the oppo-
site occurs.

These rules were applied to four major currency pairs:
Euro/U.S. dollar (EUR/USD), U.S. dollar/Swiss franc
(USD/CHF), British pound/U.S. dollar (GBP/USD), and
U.S. dollar/Japanese yen (USD/JPY). All analysis was con-
ducted using the Metatrader 4 platform on daily price data
from June 1, 2000 to June 1, 2010.



อินดิเคเตอร์ หรือ ดัชนี พื้นฐาน


RSI เข้าลองเมื่อ RSI 14 ตัดข้ามเส้น 30ขึ้นมา หรือ ตัดข้ามเส้น 70 ลงมา

STO แบบที่1 เมื่อถึงจุดอิ่มตัว ( OverBought / OverSold ) เข้าลอง เมื่อ STO 14 ตัดเส้น 20 ขึ้นไป และ เข้าชอตเมื่อ ตัดเส้น 80 ลงมา
STO แบบที่2 เมื่อถึงจุดอิ่มตัว ( OverBought / OverSold ) เข้าลอง เมื่อ เส้น K ตัดเส้น เส้น D ขึ้นไป เข้าชอต เมื่อ เส้น K ตัดเส่น D ลงมา

MACDg เข้าลอง เมื่อ MACD Histogram ตัดเส้นศูนย์ขึ้นไป หรือ เข้าชอต เมื่อ MACD ตัดเส้น ศูนย์ลงมา

ราคาและเส้น MA ตัดกัน เข้าลองเมื่อ ราคาปิด ขึ้นมาอยู่เหนือเส้น simple MA50   และเข้าชอต เมื่อ ราคา ลงมาอยุ่ต่ำกว่า เส้น simple MA 50

----------------------------------------------------------------------

หลักการดังการ เป็นหลักการ พื้นฐานและพื้นฐานมากจริงๆ
ในหลายๆ ครั้ง ที่เราเห็น เส้นดังกล่าว ตัดกัน เมื่อเราย้อนดู อดีตที่จบสิ้นลงแล้ว และกราฟ ไม่สามารถ repaint ได้อีกต่อไป เราจึงเห็นความถูกต้องสอดคล้องหลังจากการหักเห จบสิ้นลงแล้ว  แต่ในขณะที่กราฟนั้นกำลังอยู่ระหวางการหักเห กราฟเหล่านี้แทบไม่สามารถบอกอะไรเราได้เลย

ในตลาดฟอเรก ยุคใหม่ จะไม่สามารถใช้หลักการดังกล่าว ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มากนัก นอกจาก การคาดเดา และ เพ้อฝัน (จะใช้ได้ต่อเมือ การครบวัฏจักร นั้นๆ ถูกต้อง จริงๆ) บางครั้ง ฝันก้อเป็นจริง บางครั้งก้อไม่เป็นจริง (อันสืบเนื่องมาจาก ฮาร์โมนิกส์แอบแฝง ที่เรา มองข้ามไป โดยเจตนา หรือ ไม่เจตนา) เนื่อง มาจากเส้นดังกลาว สามารถเปลี่ยนกลับไปกลับมาได้ ในขณะที่ วัฏจักรยังไม่จบสิ้น

แล้วอะไร คือตัวกำหนด เพื่อตีกรอบ วัฏจักร ดังกล่าว

- หลักการพื้นฐาน โดย ดู ที่ความสามารถในการล้มเหลว ของ ดัชนีนั้นๆ  (Classic Rules and thier Failure )

- การเริ่มต้นของวัฏจักรใหม่ เป้นจุดเข้าที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุด

- การเคลื่อนไหว และ ขอบเขตจำกัด ของ ปริมาณ ราคา (Quantative Analysis)


ทั้งสองส่วนประกอบกัน โดยยอมรับ ระยะความเสี่ยงที่ว่า นั้น ได้มากน้อยเพียงใด (Money Management)

[Icy]

http://cat.postto.me/ii/zgold2011.jpg

ทองรายวัน ทำ Master Bar

ทองลงมา 5 วัน ติดต่อกัน

ขนาดการลง 1423 - 1353 = 70 เหรียญ โดยประมาณ

ประเมิน

1. ทอง ต้อง ทดสอบ โลไมเนอ ที่ 1363 แน่นอน
2. จากนั้น เราจะ กำหนดจุดเบรค

2.1 เบรคขึ้น ทะลุ 1278 เป้า 1291
2.2 เบรคลง ทะลุ 1252 เป้า 1323


ถ้า ทอง ใน 3 วัน ทอง เบรคขึ้นไม่ได้  ชอตต่อได้เลย

การรีบาวด์ขึ้นไป เมื่อคืนวันศุกร์ และไม่สามารถปิด บวกได้ อีกทั้งไม่สามารถทำ นิวไฮ ได้  น่าจะก่อให้ เกิด Range bound Trading Area หากทองต้องการจะรีบาว ถึง 30-40 เหรียญ ในอีก สามสี่วัน


มุมมอง ยังคง BEARISH ในระยะกลาง ระยะเป้าหมายรายวัน implied to FIBO FAN


=========================================================================
USD/CAD
bearish in the pair and break of 0.9887 will confirm resumption of recent decline.

On the upside, however, break of 1.0033 will indicate that a short term bottom is at least formed and should bring stronger rally towards 1.0207 resistance instead.

EUR/USD
Initial bias remains on the downside this week for 1.2643 support first
Break there will confirm that whole rebound from 1.1875 has finished with three waves up to 1.4281 and will bring deeper fall to 1.1875 and below.
On the upside, above 1.3022 minor resistance will turn bias neutral and bring consolidations. But another fall will remain in favor as long as 1.3433 resistance holds.

GBP/USD
GBPUSD's continued to engage in choppy sideway


AUD/USD
while there are some signs of reversal, AUD/USD is still staying well above 0.9830 support and hence, we'll still slightly prefer another rise.

Above 1.0054 will indicate that pull back from 1.0254 is finished

[Icy]

[Icy]

หากดูตามกราฟ ค่า StO RSI CCI FISHER ดูเหมือนจะ หักหัวกลับที่แนวรับคู่ขนาน (ฟ้า-ขาว ) และ กำลังจะทำให้ดูเหมือนจะตัดขึ้นเส้นศูนย์
(แต่ ในเชิง ศาสตร์เส้นค่าเฉลีย การวกกลับ ไปหา เส้นศูนย์ จะบอกถึงจุดชอต มากกว่าจะเป็นจุดตัดขึ้น ทำให้เกิด Zero-Rejection ที่เส้นศูนย์ ซึ่งจะทำให้ ฮิสโตรแกรม พุ่งลงมาใหม่ สิ่งที่ตามมา เราจะต้องจับตาดูว่า จุดต่ำสุดของราคา เทียบกับจุดต่ำสุดของ ฮิสโตแกรม เกิดไดเวอร์เจ้นบวก หรือ ไม่ เพื่อที่จะกำหนดยืนยันจุดกลับตัว ซึ่งจะเป็นจุด Entry ชุดใหม่)

โดย เบืองค้น ต้อง คาดเดาไว้ก่อนว่า กราฟน่าจะรีบาวด์ ได้ ที่ประมาณ 1370 - 1380 - 1388

แต่ การซื้อพันธบัตรยูโร ของ จีน กับ ญีปุ่น มาสร้างข้อจำกัด ของการรีบาวด์ครั้ง ซึ้งต้องถ่ายโอนมูลค่าจากทองเข้าสู่พันธบัตรให้เกิดความน่าเชื่อถือ ทำให้อาจไม่สามารถขึ้นไป ถึง เทรนคู่ขนานสูงสุดได้ (1388) ... แต่ในช่วง Distribution Phase 1388 เส้นเขียวบน ยังคงเป็นไปได้ อยู่ แม้กระนั้นก้อตาม

ความน่าจะเป็น คือ อาจขึ้นมาได้ระหว่าง 1365 - 1370 เพื่อที่จะลงสู่เป้าหมาย 1323 (ทดสอบโลเดิม -จากรูปด้านล่าง) ก่อนตรุษจีน




กำหนด กลยุทธ

แบ่งเข้าซื้อ สามจุด

1355
1320
1270

แต่ การซื้อพันธบัตรยูโร ของ จีน กับ ญีปุ่น มาสร้างข้อจำกัด ของการรีบาวด์ครั้ง ซึ้งต้องถ่ายโอนมูลค่าจากทองเข้าสู่พันธบัตรให้เกิดความน่าเชื่อถือ ทำให้อาจไม่สามารถขึ้นไป

แต่จากภาวะ วิกฤติระยะยาวของยุโรป จะเพียงแค่สามารถพยุงค่าเงินไปได้ ในช่วงเวลาระยะหนึ่งเท่านั้น ซึ่งจะส่งผลให้ทอง ถูกดันขึ้นต่อไป ในระยะกลางและระยะยาว



http://postto.me/iz/z_ghar.jpg

ตัวอย่างการใช้ ตลื่น ฮาร์โมนิกส์ แก้โจทย์

คลื่นฮาร์โมนิกส์ 2 ความถี่ โดย เลือก MACD 12-26-9 และ MACD - GUPPY

คลื่นฮาร์โมนิกส์ คู่นี้ จะสามารถแก้โจทย์ได้ทั้งหมด ไม่ว่ากรณ๊ใด หรือ ข้อยกเว้นใดๆ ของ อีเลียตเวฟ

จากตัวอย่าง ขณะเกิดคอเรคชั่น ทั้ง ฮาร์โนนิกสที่ 1 และ 2 เกิดเส้น แนวต้าน เช่นเดียวกัน ทำให้ เกิดการสอดคล้องประสาน ที่จุดแนวต้าน ทั้ง วงน้ำเงิน และ วงแดง

ณ ปัจจุบัน ทังสองฮาร์โมนิกส็ สอดคล้องกัน สมบูรณ์ โดย มีแนวต้านของ ฮาร์โมนิก 1 เป็น แนวต้านหลักและแข็งแกร่งมา จะทำให้เกิดการสอดคล้องของสัญญานลง อย่างรุนแรง ที่ วงแดง

จากตัวอย่าง จะ เห็นได้ว่า การใช้ฮาร์โมนิกส์ นั้นง่ายดายมาก สามารถ คาดเดาจุด สูงสุด-ต่ำสุดได้ทันที เพียง 2 ฮาร์โมนิกส์ เท่านั้น แอแอ
และในการ วิเตราะห์ ไดเวอเจน, ฮาร์โมนิกส์ ที่มีคาบสั้นกว่า จะแสดงผล การเกิดไดเวอเจ้น ได้ดีกว่า ซึ่งยัง สามารถไปคาดคะเน จุดกลับตัวได้ล่วงหน้า อีกด้วย ซึ่งในบางครั้ง ฮาร์โมนิกส์ที่มีค่าที่สูง กลับไม่แสดง การเกิดไดเวอร์เจน ขึ้นเลย

ประโยชน์อย่างเด่นชัด จะเห็นได้จาก ในช่วงเวลาที่ คลื่นที่มีความซับซ้อนมากๆ สามารถแยกออกมาได้ ให้เห็นวัฏจักรที่ซ้อนตัวอยู่ ( อาศัยหลัก ฟูเรียร์ทรานส์ฟอร์ม และ ทฤษฏี SuperPosition)   หวังว่า นักเทรดทุกท่าน น่าจะสามารถ นำไปใช้ประโยชน์ได้ นะคะ (เคยเขียนไว้หมดแล้ว เรือง ฮาร์โมนิกส์ เมื่อปีที่แล้ว นะคะ ไม่ใช่เรื่องใหม่)

บอรินเจอร์ ตั้งค่า 20-2 และ 20-1
ค่าเฉลี่ย ตั้งค่าตาม ดิถีดวงจันทร์


!!! และถ้า สองความถี่ฮาร์โมนิกส์ ไม่สอดประสานหละ !!! อิอิอิ คิดถึงผล กันเองนะคะ หายนะ จะมาเยือนขนาดไหน


ข้อสังเกตุ MACD 12-26-9 ไม่ใช่ค่าที่ดีที่สุด ในช่วงการเกิด FLAT หรือ Corrections หรือ Extension แต่จะใช้ได้ดี ก้อต่อเมื่อ เส้นค่าเฉลี่ย มี ความชัน มากกว่า 30 องศา  แต่กระนั้นก้อตาม MACD 12-26-9 ก้อเป็นเส้นคลื่นหลักสำหรับการอ้างอิงกับ ตลื่น ฮาร์โมนิกส์ อื่นๆ ได้ดี ถ้าคาบเวลาไม่ห่าง หรือ สั้นมากเกินไป เปรียบเทียบกัน นอกเหนือจากนั้น แอมปลิจูด หรือ ความกว้าง ของ 2 ฮาร์โมนิกส์ เปรียบเทียบกัน มีระยะห่างซึ่งกันและกัน จำกัด ระยะห่างนี้ยังช่วยให้คาดเดาจุดกลับ ได้พอสังเขป อีกทางหนึ่ง



http://postto.me/ig/z_ghar2.jpg
สุดท้าย แม้แต่คลื่น Corrective นับยังไง ก้อลงตัว แอ แอ - สังเกตุ คลื่น 5-fail   และ คลื่น a  อยู่ในแท่งเดียวกัน เนื่องจาก ไฮ เกิดก่อน โล และ ไม่มี b อื่นใด ที่จะสูง กว่า คลืน 4 ได้

จาก ค่า ฮาร์โมนิกส์ กำลังจะไป บรรจบกันที่ ฟิโบแฟน 23.6 ซึ่งจะทำให้เกิด 2ขาว หรือ 3เหลืองได้  จุดจบทั้งสองจะเปนตัวกำหนด ว่า เส้นทางสีขาว หรือ สีเหลือง คือ เส้นทางที่ควรจะเลือก

(แต่ถึงแม้จะเป็นเส้นขาว ปลายทางไม่น่าเกิน 1450 ก่อนทำคลืน Cขาว ดิ่งจม 12xx )





http://www.postto.me/show.php?id=17b3f4c65540fd3afba4b4173e94e71b[/url]

[Icy]

การประมาณคลื่นอีเลียตเวฟ ด้วย ฮาร์โมนิกส์

สมมติฐาน

1. ยอดคลื่น จะมีค่า ยอดฮาร์โนนิกส์สูงสุดเสมอ

2. - ยอดคลื่น ที่ 3 และ 5 สามารถเกิดไดเวอร์เจนท์ มีค่ายอดฮาร์โมนิกส์เท่ากับหรือต่ำกว่า ยอดคลื่นที่ 1

   หรือ

   - ยอดคลื่น ที่ 3 และ 5 ไม่กิดไดเวอร์เจนท์ มีค่ายอดฮาร์โมนิกส์สูงกว่า ยอดคลื่นที่ 1  
        - แต่ ก้นคลื่น 2 และ 4 จะเกิดไดเวอร์เจ้น ซึ่งกันและกัน
        - หรือ ยอดคลื่น ที่ 3 และ 5 เกิดไดเวอร์เจ้น ขึ้น ที่ ฮาร์โมนิกที่มีความถี่ที่น้อยกว่า (หรืออีกนัยนึง มีคาบเวลาที่สูงกว่า)

3. - ประเมินการล้มเหลวของคลื่น 5 ต่อเมื่อ ขณะที่ฮาร์โมนิกส์ของคลื่น 3 เกิดไดเวอร์เจ้น
      แต่ราคาของคลื่น 5 ยังไม่สามารถทำยอดราคาสูงกว่าคลื่น 3 สำหรับขาขึ้น และในเชิงตรงกันข้ามสำหรับขาลง

ดังนั้น ในการใช้ดัชนีใดๆ เป็นตัวแทน เช่น MACD, STO, RSI, CCI, หรือ อื่นๆ เราสามารถจำลอง ฮาร์โมนิกส์ขึ้นมาได้ เช่

MACD 12-26-9 และ GUPPY

STOแบบปมาตราฐาน เช่น STO 14-3-3 และ STO 9-3-3 หรือ STO 34-3-3 และ STO 14-3-3 หรือ
STOแบบปฏิทิน  เช่น STO เดือน-สัปดาห์-วัน เช่น STO 34-21-3 และ STO 17-9-2 (เป็นค่า 2/3 หรือ 1/2 ของฮาร์โมนิกส์ที่สูงกว่า หรือ
STOแบบสัมพัท กับ เส้น Moving Average ที่ใช้ แต่ตั้งค่า 2/3 หรือ 1/2 กับค่าเส้นเฉลี่ยนั้นๆ

RSI 14 และ RSI 9 หรือ  RSI 34 และ RSI 14

CCI 14 และ CCI 9 หรือ CCI 34 และ CCI 14

ในการสังเกต ต้นคลื่นที่ 1 บางครั้งเราสามารถ สังเกตุ Zero Acception ได้ ( ดัชนี ตัดผ่านค่ากึ่งกลาง ) แต่ไม่จำเป็นเสมอไป
เช่น คลื่นขยายที่ก่อตัวใหม่ ดังนั้น จุดสังเกตุที่ดีที่สุด คือ เมื่อเราสามารถจัดกลุ่ม 3 ลูกคลื่นฮาร์โมนิกส์ ลำดับจะต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ในตัวของมันเอง

ดังนั้น การเลือกคู่ฮาร์โมนิกส์ใดๆ ขึ้นอยู่กับ คาบเวลา ที่เราลงทุน  เช่น ลงทุน 2 ปีต่อครั้ง ก้อควรตั้งค่า ดัชนี ให้มาก หรือ ลงทุน สามเดือนต่อครั้ง หรือ ลงทุน 1ครั้งต่อเดือน หรือลงทุน 1ครั้งต่ออาทิตย์ หรือ ลงทุน 1ครั้งต่อวัน หรือ ลงทุน 3 ครั้ง ต่อวัน ก้อใช้ค่าความถี่ฮาร์โมนิกส์ที่สูงขึ้นตามลำดับ (หรือ ให้คาบเวลาสั้นลง ) ตามที่เรียกกันว่า ระยะสั้น ระยะกลาง หรือ ระยะยาว

Money Management

 การลงทุนที่ยอดคลื่นหรือก้นคลื่น ใดๆ จะต้องคำนึงถึงความเสี่ยง และ ระดับการลงทุน ให้เหมาะสมเสมอ เนืองจาก ยอดคลื่นหรือก้นคลื่นไมใช่จุด Entry ที่ดีที่สุด แต่อาศัยหลักการอื่น ในการหาจุดเข้าที่ ยอดคลื่น หรือ ก้นคลื่น ใดๆ ที่ ให้ความเสี่ยงน้อยลง  หรือ หาจุดเข้าที่มีความเสี่ยงต่ำ และ ไม่ช้าจนเกิน(บางครั้งรอ Lag Indicator หรือ อินดี้ที่สรุปจบล้าหลัง อาจช้าเกินไป ) และ ไม่ชิงเร็วตัดหน้าในขณะที่จุดเข้ายังไม่ยืนยัน
 --------------------------------------------------------------------------------------------

(ถ้ามี เวลา จะทำตัวอย่างให้ดูนะคะ)

[Icy]

หนึ่ง ภาพ สุดพรรณา

[Icy]

[Icy]

TIME AND SPACE

[Icy]

[url=http://216.206.35.42/mediaindustry/GoldDailySpotAndrewsJan2011.jpg]http://216.206.35.42/mediaindustry/GoldDailySpotAndrewsJan2011.jpg[/url]



http://216.206.35.42/mediaindustry/GoldDailyStockchartsJan2011.jpg


Gold's failure today puts price right at the low end of the wedge. The blue line you see is the 144 day moving average. This average has held all pullbacks in 2009 and 2010. Watch this 1314 area on Friday.



เข้าข่ายรุปแรก ( อย่าลืม ว่า ล้มเหลวได้ หากเกิด ปากฉลาม เหนือไฮเดิม )


----------------------------------------------

บทวิจารณ์

ทอง ยังอยู่ในลิ่ม โดยมี เส้น  MA144 คาบรายวันเป็นแนวรับ ปลายลิ่ม (เส้นกลาง ) อยุ่ประมาณ 1362

เส้น MA144 นับวันจะสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้จุดเบรคลง สูงขึ้นเรื่อย เช่นกัน ทำให้ ง่าย ต่อการ ประมาณขาลง เมื่อราคา
ลงต่ำกว่าเส้นนี้ ในเร็วๆ วันนี้

จากรูป เป้าหมายลิ่ม อยู่ประมาณ 1100 นี่จึงเป็นที่มาว่า ทำไมคนซื้อทองแท่ง จีงได้แต่กระดาษตั๋วมาเป็นที่ระลึก
เพราะ แม้แต่เจ้าใหญ่ ก็ยังไม่กล้าสตอคของ เพราะกลัวลิ่มหลน

แต่ เนื่องจากคลื่นสวิงรายวัน มีการแกว่งตัวสูง และ อยู่ในขาลงใหญ่ จะทำให้การซื้อขายทองแท่งระยะกลางและยาว กระทำได้ยากมาก

ดังนนั้นการประเมินกราฟ จะ ต้องอาศัย ดู คาบรายสี่ชม รายวัน และรายสัปดาห์ เพื่อกำหนดทิศทางในระยะเวลาสั้น
เพิอกำหนดขอบเขตการสวิง และ เวลาที่จะสวิง





แนววิ่ง

ชนขอบบนหรือทำสไปคที่ 1373 ลงทดสอบ ma144 ทะลุ ลงหา 1260

จาก 1260 เด้งกลับ ma144 แต่ไม่ผ่าน

ma144 ลง ต่อ 1100 ปลายทางสุดท้าย


เป้าหมายระยะยาว

1308 (จบ)
1260
1100
1023 (ก่อน พย 2011)

[MIJI]

สวัสดีปีใหม่จีนนะคะ ขอให้คุณไอซ์สุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์จ้ะ

[Icy]

ปรากฏการ การวัดค่า ด้วย STOHASTIC

สโต จากสูตร เป็นการวัด ตำแหน่ง ของราคา เทียบกับ ราคาสูงสุด-ต่ำสุด ในช่วงเวลาใดๆ

ค่าสโต ที่สูง บอกว่า ราคาอยู่ในตำแหน่ง ใกล้ ราคาสูงสุด
ค่าสโต ที่ต่ำ บอกว่า ราคาอยู่ในตำแหน่ง ใกล้ ราคาต่ำสุด

มาดูสูตร กันคะ


Calculation: The Stochastic indicator is calculated on the following way:

%K = ( Today's Close - LL ) / ( HH - LL ) * 100
where:
LL = Lowest Low price in PeriodK
HH = Highest High price in PeriodK
%D is calculated as a Moving Average of %K for PeriodD.

แปลเป็นภาษาชาวบ้าน คือ ค่าสโตร = การเปรียบเทียบต่ำแหน่งราคา วัดจาก ราคาสูงสุดต่ำสุด ว่า อยู่ตรงไหน โดยวัดเป็น เปอร์เซนต์

ผลกระทบ


สโต แปรผัน ตาม ตำแหน่งราคา (P)
สโต แปรผกผัน กับ ราคาสูงสุด ต่ำสุด (HL)


ดงีนั้น ถ้า HL มีค่าคงที่ การวัดค่าสโต จะมี ความเสถียร พอควร (ความเถียร ไม่ใช่ความแม่นยำ)

และ ถ้าสมมุติ HL มีการเลือนไหล เนื่องมาจาก จำนวนคาบเวลาขยับ และ ขณะที่ขยับ การจับ ค่า HL ได้ขยับตามค่าสูงต่ำที่ จำนวนแท่งที่กำหนด ขยับตามไป เรื่อยๆ หละ

กรณ๊ที่ 1 HL ลดลง แต่ P คงที่

เมื่อ HL ลดลงเรื่อยๆ จะทำให้ผลหารมีค่าสูงขึ้น ส่งผลให้ การวัดค่าสโต มีค่า สูงไปเรื่อยๆ เช่น ขณะที่ สโต อยู่ที่ 0 และค่าราคาเริ่มขยับในเล็กน้อยเป็นเวลานานๆ ยิ่งนานเท่าไหร่ ค่าสโต จะ สูงขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ราคา แทบไม่วิ่งไปไหน สโต อาจวิ่งจาก 0 จน ถึง 100 ได้

คำถาม คือ เมื่อค่าสโต ถึง 100 แล้ว นั้น เป็นการ OverBought หรือไม่ และ เป็นระดับที่ควร ชอต หรือไม่  คำตอบคือ ไม่ใช่


เมื่อเกิด ปรากฏการณ์ เช่นนี้ เรามักจะเห็น เสมอ ว่า ราคา จะ กระชากขึ้นไป อีก เพื่อ หา แนวต้าน อันดับถัดไป สอง ถึงสามระดับ เพื่อจะสร้าง ชุดสโตชุดใหม่ ที่แท้จริง ขึ้นมา เราจึงสามารถ เข้า ชอต ตามสัญญานภายหลังได้


กรณีที่ 2 HL เพิ่มขึ้น และ P คงที่

เมื่อ HL เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จะทำให้ผลหารมีค่าน้อยลงเรื่อยๆ ส่งผลให้ การวัดค่าสโต มีค่า ต่ำลงเรื่อยๆ เช่น ขณะที่ สโต อยู่ที่ 100 และค่าราคาเริ่มขยับกว้างขึ้นทีละนิดๆ เป็นเวลานานๆ ยิ่งนานเท่าไหร่ ค่าสโต จะ ยิ่งต่ำลงเรื่อยๆ ขณะที่ราคา แทบไม่วิ่งไปไหน สโต อาจวิ่งจาก 100 จน ถึง 0 ได้

คำถาม คือ เมื่อค่าสโต ถึง 0 แล้ว นั้น เป็นการ OverSold หรือไม่ และ เป็นระดับที่ควร ลอง หรือไม่  คำตอบคือ ไม่ใช่

เมื่อเกิด ปรากฏการณ์ เช่นนี้ เรามักจะเห็น เสมอ ว่า ราคา จะ ดิงลงไป อีก เพื่อ หา แนวรับ อันดับถัดไป สอง ถึงสามระดับ เพื่อจะสร้าง ชุดสโตชุดใหม่ ที่แท้จริง ขึ้นมา เราจึงสามารถ เข้า ลอง ตามสัญญานภายหลังได้


กรณ๊ที่ 3 HL คงที่ และ P วิ่งดี
กรณ๊ที่ 4 กรณี นอกเหนือ จาก 1 และ 2 เป็นกรณ๊ ที่เรา ชืนชอบ เราจะได้ค่าสโตที่แม่นยำ


สโต ในเชิง Multi-Time Frame (5m - 15m - 30m - 1H - 4H)


ถึงแม้ว่าเรา จะ ใช้ มัลติไทม์เฟรม มาวิเคราะหื สโต แต่ พฤติกรรม ข้างต้น ไม่ได้แตกต่างกัน เลย เราจึงไม่สามารถสรุป ได้ว่า
การตัดกันของสัญญาน ใน ลักษณะ มัลติไทม์เฟรม คือ สัญญาน การเข้าชอต หรือ เข้าลอง ใดๆ



ปรากฏการณ์ ไดเวอร์เจนท์ และ คอนเวอร์เจ้น ของจุดยอดสโต





ยกตัวอย่าง
ชณะที ่แท่งเทียน ขยับตามเวลา ไฮ ที่ต่ำลง และ ราคาที่ต่ำลง (จะสร้างโลใหม่ หรือไม่ก้อได้)  จะทำให้ สโต เคลือนตัว ลง อย่างช้าๆ
แต่ถ้า สร้างโลใหม่ ด้วย จะทำให้ สโต เคลือนตัว ลง อย่างรวดเร็ว
ดังนั้น เมือ สโต ลง อย่างรวดเร็ว มัน บอก เรา ว่า  เกิด โลใหม่ นั่น เอง


=========================================================================

=========================================================================

การ เลือนไหล ของ จำนวนแท่ง จะ ทำให้ ค่า สโต ผันผวน ในความผันผวน
ไดเวอเจน คือ สิ่งหนึ่ง ที่ เราสามารถใช้ ประโยข จาก สโต
แต่ ที่ สิ่งหนึ่ง ที่ บอก เป็น นัยๆ คือ
สโต คือ การมอง ค่า สูงสุด ต่่าสุด นั่น เอง
ซึ่ง นักลงทุน ให้ความสนใจ ตรงนี้
หรืออีก นัยหนึ่ง เข้าใกล้ ค่าสุงสุด ให้ชอต เข้าใกล้ ค่า ต่ำสุด ให้ ลอง

แล้ววววว

 เมื่อไหร่ หละ ที เข้าใกล้ค่าสูงสุด ต้องเข้า ลอง ?
 เมื่อ ใกล้ ค่า สูงสุด ให้ ชอต ?

ใครตอบ ได้ ช่วย บอก ที


ดังนั่น การปรับฐาน ที่เราได้ยิน บ่อยๆ ก้อ คือ การ ปรับค่า ไฮโล นั่นเอง ให้เกิดการบีบตัวเล้กลงเรื่อยๆ เพื่อที่ จะ กำหนด ทิศทางใหม่


ตัวอย่าง  การใช้งานสโต



ต้องใช้เทรนไลน์เป็นหลัก แล้วสโต จะบอกจุด อิ่มตัว ณ เทรนไลน์ ได้ดี

[Icy]

http://img23.imageshack.us/img23/7567/zgfeb.jpg


http://www.freeimagehosting.net/uploads/6590b2581e.jpg

แมคดี บอกการกลับตัว  เบื้องต้น  อาจมีการสไปค์ลง (1324) ก่อนก้อเป็นเป็นได้ เพื่อทะยาน ต่อ ทะลุผ่าน 1360

KDJ รายวัน เส้นเขียว ขึ้น แตะระดับสูงสุด โดยทั่วไป มีแนวโน้มลง จาก ตรงนี้
แต่เนื่องจาก เส้นสีชมภู อยู่ต่ำมาก อาจจะ เป็นตัวส่ง ให้ดีดขึ้นไป ได้ อีก หลังจาก การย่อเลืกน้อย ( 15 - 25 เหรียญ)
ทำนิวไฮ 19 กพ 2011 และ จะสูงสุด 6 มีนา 2011 เพื่อกลับตัว



http://www.freeimagehosting.net/uploads/3ac017dfdf.jpg


ในอีกมุมมองหนึ่ง


ราคาได้ ขึ้นมา ทดสอบ กึ่งกลาง ของ Dochian และ ยังคง ไม่สามารถยืนเหนือ Dochian นี้ได้ แท่งวันศุกร์ จึงเป็น ตัว กำหนดการ เทรด เบรคเอ้า เพราะ เป็นแท่ง Master Bar

ทำให้ช่วงการเทรด น่าจะกว้าง พอสมควร 1340 - 1361 (20 เหรียญ) และ อย่างแน่นอน ไม่ต้องสงสัย เราจะ ท้าทาย เจ้ามือ ด้วย การ ชอต ที่ 1361 หรือ ลอง ที่ 1340 เมื่อ มีการทดสอบ ครั้งแรก

และ การเทรด แบบ Medium Term (สำหรับคนเล่นฟิวเจอร์ หรือ ทองแท่ง) จะ กระทำเมือ ราคา อยู่เหนือ 1361 หรือ ราคาต่ำกว่า 1340 เท่านั้น จึงจะปลอดภัย

โปรดสังเกต ช่วงเทรด แต่ละ ช่วง มีขนาด 20 เหรียญ




http://img204.imageshack.us/img204/8478/zgfeb7.jpg
Update 2011-02-07

[Keng09]

ขอบคุณค่ะอ.Icy,มาให้กำลังใจด้วยค่ะ