Forex-Currency Trading-Swiss based forex related website. Home ----- กระดานสนทนาหน้าแรก ----- Gold Chart,Silver,Copper,Oil Chart ----- gold-trend-price-prediction ----- ติดต่อเรา
หน้า: 1 ... 93 94 [95] 96 97 ... 1237   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ผมลงทุนทองแบบนี้ ช่วยแสดงความเห็นด้วยครับ  (อ่าน 1578314 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 5 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
paul711
Moderator
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4406


Gold is value because it's value!


« ตอบ #1410 เมื่อ: กันยายน 30, 2009, 01:46:41 AM »

 Smiley ถูกต้องครับคุณ miji ในความเห็นของผมนะ ผมว่าพระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี พระอรหันต์
ยังมีอยู่ในโลก และในไทย เพียงแต่เราไม่รู้เท่านั้นเอง และพระโสดาบัน ก็แยกออกจากคนทั่วไปยาก ถ้าเรามองแค่ผิว
เผิน ไม่ได้ไปสัมผัสใกล้ชิด เพราะพระโสดาบัน ยังมีรัก โลภ โกรธ หลง อยู่ ดีใจ หัวเราะ ร้องไห้ สนุกสนาน มีที่แตกต่าง
จากคนทั่วไปคือ ยึดมั่นในศีลห้า จะไม่ละเมิดศีล  ๕ โดนเจตนาอย่างเด็ดขาด
ดังงนั้นการไหว้ตอบ เป็นการป้องกันที่ดี  ผมเองส่วนใหญ่ไหว้ตอบหมด ไม่ว่าห้างไหน แต่ถ้าไม่ได้ไหว้ตอบ เพราะมือถือของ
ก็จะใช้การพูดแทน เช่นสวัสดีครับ หรือไม่ก็ก้มศรีษะ ตอบรับ เป็นการตอบกลับการไหว้ของเขา

ปล หลายเดือนมาแล้ว มีสุภาพสตรีท่านหนึ่ง รู้จักกัน เธอไปบวชชี 1 เดือน ถือศีล ๘  แล้วบังเอิญ เธอมาเจอผมเข้า เธอยกมือไหว้ ก่อน
[ตามปกติก่อนที่เธอจะไปบวชเธอจะสวัสดีก่อน] ทําเอาผม หน้าซีดไปเลย ผมตกใจ รีบยกมือไหว้กลับทันที พอคุยกันได้สักพัก ผมค่อยๆบอกเธอว่า
แม่ชี ตอนนี้บวชอยู่ มีศีล ๘  ถ้าเจอผมที่ไหนอีก อย่ายกมือไหว้ผมนะครับ เพราะแม่ชีมีศีลมากกว่าผม ผมจะเป็นบาปได้ ผมไหว้เธออีกครั้ง
แล้วขออโหสิกรรม ที่ล่วงเกิน
ท่านที่ไม่เชื่อเรื่องแบบนี้ ก็แค่อ่านเล่นๆพอครับ อย่าไปคิดมากเกินไป

อีกเรื่องเล่าเล่นๆนะครับ ไม่เกี่ยวกับการไหว้ แต่เกี่ยวกับการถ่ายรูป 
กล้องธรรมดานี่แหละ เมื่อหลายปีก่อน ผมเจอนักการเมือง
ที่เป็นคนดีคนหนึ่ง ผมก็ถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก ต่อมาไม่เกิน 6 เดือน นักการเมืองคนนั้น ก็ตกจากการเป็นรัฐมนตรี
กลายเป็นคนที่มีประวัติไม่ดีไปเลย ผมก็ยังไม่คิดอะไร ต่อมาไปถ่ายรูปนักการเมืองนําดี อีก คน หลังจากนั้นไม่เกืน 6 เดือน
นักการเมืองคนนี้ก็หลุดจากตําแหน่งอีก เลือกตั้งอีกก้ไม่ได้ ต่อมาไปถ่ายภาพนักการเมืองนําดีอีก 2 คน เหตุการณ์ก็เป็นแบบเดียวกัน
จนตอนหลังผมไม่กล้าถ่ายรูปนักการเมืองดีๆอีก กลัวว่าเขาจะมีอันเป็นไป ก็มีแค่นี้คุยให้ฟังเล่นๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 30, 2009, 02:04:41 AM โดย paul711 » บันทึกการเข้า

ผมไม่ใช่กูรูเรื่องทอง ไม่เคยเขียนหรือพูดแม้แต่ครั้งเดียวว่าเก่งเรื่องทองอ่านที่ผมเขียน แล้วตัดสินใจเอง เกิดผิดพลาด ต้องรับผิดชอบเองอย่าโทษผู้อื่นว่าพลาดเพราะไปเชื่อคนอื่น ไม่มีใครบังคับให้ท่านเชื่อ ผมเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดา----Paul711 
จุดหมาย 1) ทองแท่ง ให้ได้กําไร อย่างน้อย 10% ทุก 3 เดือน 2) Gold Future ให้ได้กําไรอย่างน้อย 5% ทุกเดือน 3) gold online ให้ได้กําไร อย่างน้อย 5% ทุกเดือน 
ชีวิตต้องมีหลักและจุดหมายที่ดีและแน่นอน ชีวิตที่ไม่มีหลักที่ดีเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวก็เปรียบเหมือนเรือที่ไม่มีหางเสือ ใครชวนให้ทําดีก็ดีไป ใครชวนให้ทําเรื่องไม่ดี ก็จะพบกับความล้มเหลวและภัยพิบัติได้


http://ichpp.egat.co.th/

Gold2Gold.com
nokeang
Full Member
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 720



« ตอบ #1411 เมื่อ: กันยายน 30, 2009, 05:05:09 AM »

   Smiley อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณพอล    Smiley 

 ขอบคุณนะคะสำหรับความรู้เรื่องการไหว้   Smiley (เคยสงสัยอยู่เหมือนกัน )คนเราจะอยู่กันได้หรือไม่ สำหรับเอี๊ยงนะค่ะ
ไม่ว่าจะเป็นชีวิตคู่ หรือ การที่เราจะอยู่ร่วมกันใคร  เราจะคบกันได้ยืดหรือยืนยาว ต้องมีศีลเสมอกัน หรือใกล้เคียงกันมากที่ทำให้เรามาคบกันได้
หรืออยู่ร่วมกันได้นะค่ะ ยิ่งชีวิตคู่จะยืนยาวคนสองคนนั้นต้องมีศีลเท่ากัน ลองสังเกตกันดูนะค่ะ  Wink

 >> สงสัยต้องให้คุณพอลไปถ่ายรูปนักการเมืองที่แย่ๆ ดูบ้างนะค่ะ (ลองดูนะค่ะ  Grin) เผื่อหลุดไปเลย 
บันทึกการเข้า

ไม่มีน้ำหนักใด...หนักกว่ากรรม
ไม่มีหนทางใด...ยาวเท่าหนทางแห่งกรรม
อุ๊
Hero Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1778



« ตอบ #1412 เมื่อ: กันยายน 30, 2009, 07:07:37 AM »

สวัสดีตอนเช้าค่ะ Grin
บันทึกการเข้า
Theephat
Hero Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2435



« ตอบ #1413 เมื่อ: กันยายน 30, 2009, 07:35:50 AM »

สวัสดีตอนเช้าครับ Grin Grin
บันทึกการเข้า
dang1976
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 106



« ตอบ #1414 เมื่อ: กันยายน 30, 2009, 07:57:15 AM »

สวัสดีตอนเช้าด้วยค่ะ  Grin
บันทึกการเข้า
IPSUM
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7478



« ตอบ #1415 เมื่อ: กันยายน 30, 2009, 08:34:12 AM »

ขอบคุณคุณพอลค่ะ Cheesy
 Grin อิอิ คุณพ่อน้องเอมชวนป๋าพอลไปโอเกะเหรอคะ.....  Grin อยากจะเห็นวันนั้นจริงๆ Grin Grin

เชื่อมั้ยว่าถ้าพี่ดีเจเห็นต้องตาโตแน่ๆ  Grin

ม่ายเชื่อ  Grin
พี่อิ๊ปว่าพี่ดีเจตาตี่เหรอคะ Lips Sealed Grin

ไม่ได้พูดเลยนะพี่ จริงๆ  Grin
บันทึกการเข้า

   รัก เธอ ประ เทศ ไทย  รัก เธอ ตลอด ไป...
IPSUM
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7478



« ตอบ #1416 เมื่อ: กันยายน 30, 2009, 08:43:57 AM »

  Smiley Ok ครับคุณ Goldproject ตอบมา ผมเลยขอเขียนต่อเลยจะได้จบในวันนี้
ส่วนใหญ่ก็คงมีความเห็นคล้ายๆคุณ Goldproject  เมื่อก่อนผมได้ยินผู้ใหญ่ว่าอย่าไปไหว้เด็ก เดี๋ยวจะไม่ดีกับเด็ก
ผมก็ไม่เข้าใจว่าไม่ดีอย่างไร แต่พอตอนหลังมาอ่านศึกษาเรื่องคําสอนของพระพุทธเจ้ามากขึ้น  ได้ความรู้
และประสบการณ์มากขึ้น จึงอยากเขียนให้อ่านกันเล่นๆ
1]ที่ผู้ใหญ่ไม่ไหว้ตอบเด็ก เหตุผลจริงๆ คือเด็กยังไม่มีศีล เด็กในที่นี้ ผมหมายถึงอายุ น้อยกว่า 7 ปี  ที่ผู้ใหญ่ไม่ควรไหว้ตอบเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 7 ปี เพราะเด็กอายุน้อยกว่า 7 ปี
ยังไม่สามารถรักษาศีล ได้อย่างมั่นคง ศีลในที่นี้คือ อย่างน้อย ศีล ๕ ข้อ  เป็นข้อความที่ผมทราบมาคือ คนที่มีศีล มากกว่า
ไปไหว้คนที่มีศีล น้อยกว่า หรือไปไหว้คนที่ไม่มีศีล แล้วคนที่มีศีล น้อยกว่า หรือคนไม่มีศีล ไม่ไหว้ตอบ โดยเจตนา
หรือไม่ก็ตาม คนที่มีศีลน้อยกว่าแล้วไม่ไหว้ตอบคนที่มีศีล มากกว่า  คนๆนั้นจะได้รับบาป ส่งผลให้เกิดความไม่เจริญ
เกิดความวิบัติทางใดทางหนึ่ง  แต่ถ้าไหว้ตอบแล้ว ก็จบกัน ไม่มีบาปอะไร
ตย ถ้าพระที่มีศีลครบ แต่เกิดไปไหว้พระไม่มีศีล หรือพระที่มีศีลน้อยกว่า โดยสาเหตุอะไรก็ตาม แล้วคนไม่มีศีลหรือมีศีลน้อยกว่า
ไม่ไหว้ตอบ และไม่กล่าวคําขออโหสิกรรม กรรมไม่ดีจะเกิดกับคนๆนั้น ได้อย่างแรงๆ
ดังนั้นในสังคมที่เราอยู่ เราไม่รู้หรอกว่า คนที่มาไหว้เราก่อน มีศีลมากกว่าเราหรือไม่ เราจึงต้องรีบไหว้กลับทันทีทุกครั้ง
ยกเว้นลูกหลานไหว้พ่อแม่ พ่อแม่ไม่ต้องไหว้ตอบ
2] ส่วนเด็กที่ผมเน้น อายุน้อยกว่า 7 ปี ไม่ต้องไหว้ตอบ  แต่ถ้าเด็กอายุเกิน 7 ปีไปแล้ว เวลามาไหว้เราก่อน
เราควรไหว้ตอบกลับไปด้วย เหตุผลคือ ตามพระไตปิฎก เด็กอายุ 7 ปีขึ้นไป สามารถเข้าสู่เป็นอาริยบุคคลได้แล้ว
คือสามารถเป็น พระโสดาบันได้ ถึงแม้ไม่ได้บวช เพราะบุญเก่าสร้างมาถึงแล้ว ถ้าเกิดเด็กคนนั้นเป็นโสดาบัน แล้ว
เราไม่รู้ไม่ไหว้ตอบ บาปที่เกิดยังมีแต่น้อย เพราะความไม่รู้ แต่เพือ่ป้องกันไม่ให้เกิดบาป จากกรณีนี้ ไหว้ตอบเด็กทุกคนที่เกิน
7 ปี ก็หมดปัญหาเรื่องนี้ไปได้ ส่วนเด็กที่เกิน 7 ปี แต่ศีลยังน้อย หรือไม่มีศีลเลย ถ้าเราไหว้ตอบก้ไม่มีผลเสียอะไร เพราะเด็กไหว้เราก่อน
พระโสดาบัน คือบุคคลที่อยู่ในศีล ๕ อย่างมั่นคง แต่ยังมีความโลภ โกรธ หลงได้ แต่ยังไงก็ไม่ละเมิดเกินศีล ๕
ยังมีความดีใจ เสียใจ หัวเราะ ร้องไห้ ได้อยู่เหมือนคนทั่วไป
ก็เขียนให้อ่านกันเล่นๆครับ เชื่อหรือไม่เชื่อ แล้วแต่ความคิดของแต่ละท่าน แค่ได้อ่านผ่านตาสักครั้ง ผมก็ว่าดีกว่าไม่ได้อ่าน



อย่างนี้ถ้าพนักงานแคชเชียร์ของห้างไหว้เรา เราก็ต้องรับไหว้เพื่อกันไว้ไม่ให้บาปใช่ไหมคะ โดยส่วนตัวคิดว่าเขาไหว้เราเพราะ

ทางห้างตั้งกฏขึ้นมาเพราะสังเกตุจากพนักงานเหมือนไม่เต็มใจสักเท่าไหร่ จริงๆ ห้างน่าจะปรับปรุงด้านบริการให้ดีขึ้นมากกว่า

เพื่อนของลูกอยู่อนุบาลไหว้ผม ผมก็ไหว้ตอบนะ
บันทึกการเข้า

   รัก เธอ ประ เทศ ไทย  รัก เธอ ตลอด ไป...
sue662
Full Member
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 616


« ตอบ #1417 เมื่อ: กันยายน 30, 2009, 08:55:17 AM »

อรุณสวัสดิ์ทุกคนด้วยคนค่ะ เมื่อวานกะจะลุยเดี่ยวซื้อเฉลี่ยดอย คิดไปคิดมาเกิดปอดค่ะ ตามผู้ใหญ่สุนัขจะไม่กัด ก็เลยเดี๋ยวขอตามคุณพอลดีกว่าค่ะ คุณพอลซื้อเมื่อไหร่ค่อยซื้อตาม จะรอสัญญาณนะคะ
บันทึกการเข้า
mammoth
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 14



« ตอบ #1418 เมื่อ: กันยายน 30, 2009, 09:30:40 AM »

สวัสดีตอนเช้าค่ะคุณพอล มารอสัญญาณจากคุณพอลค่ะ นอกจากเรื่องทองคำแล้วคุณพอลยังสอดแทรกเนื้อหาสาระดีๆที่บางทีเรามักมองข้าม
มาให้พวกเราได้ข้อคิดอยู่เสมอ ดิฉันเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งเลยค่ะเรื่องการไหว้ เพราะนอกจากเป็นประเพณีที่ดีงามแล้วการไหว้และการรับไหว้ยังบ่งบอกถึงมารยาทได้เป็นอย่างดีค่ะ ขอเสริมอีกนิดนึงนะคะเมื่อวานเพิ่งติวหนังสือให้ลูกอยู่ชั้นป.1 เค้าเขียนว่าเมื่อคนไทยอายุครบ7ขวบก็จะต้อง
ปวารณาตัวเป็นพุทธมามะกะ ก็คือเริ่มถือศีล5 อย่างที่คุณพอลบอกอ่ะค่ะ ขอบคุณมากๆเลยค่ะสำหรับความรู้มากมายที่มีให้เสมอมา
บันทึกการเข้า
Richy
Newbie
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 71



« ตอบ #1419 เมื่อ: กันยายน 30, 2009, 10:06:08 AM »

Good Morning krab everyone,
    K Paul krab i do agree with K Nokeang na krab  Grin Why don't try taking photo of the bad politician so that all the chaos in the country will simmer down and the people living in harmony.  Grin
บันทึกการเข้า
Jeera
Hero Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3992


Happy day!


« ตอบ #1420 เมื่อ: กันยายน 30, 2009, 10:13:24 AM »

สวัสดีค่ะคุณพอล

เพิ่งมาได้อ่านเรื่องที่คุณพอลไปธนาคารมา เข้าใจความรู้สึกดีค่ะ
เคยเจออะไรคล้ายๆแบบนี้เหมือนกัน เลยเข็ดกับธนาคารนี้ไปพอสมควร
แต่ก็ยังต้องทนใช้ต่อไป เพราะเงินเดือนเข้าธนาคารนี้   Cry
บันทึกการเข้า


Someone love one
Some one love two
But I love one
That One is...U  (^?^)-?
Neung99k
Full Member
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 565



« ตอบ #1421 เมื่อ: กันยายน 30, 2009, 10:22:29 AM »

สวัสดีครับคุณพอล ได้อ่านที่คุณพอลเขียนเลยไปอ่าน ๆ ข้อมูลเก่า ๆดู เลยเอามาฝากครับเผื่อเป็นความรู้เพิ่มเติม Cheesy

พระโสดาบันคือบุคคลที่เริ่มละความหลงได้

การละความหลง(ละอวิชชา) หรือละสังโยชน์ข้อที่ ๑ ถึง ๓ ได้หมดจริง ๆ (ละได้ ๑๐๐%)นั้น น่าจะเป็นพระอรหันต์เท่านั้นที่ทำได้.

พระโสดาบันจึงเป็นผู้ที่เริ่มละความหลง(เริ่มดับอวิชชา)ได้* คือ เริ่มมีความรู้เรื่องอริยสัจ ๔ รวมทั้งมีความรู้เรื่องไตรลักษณ์ตามความเป็นจริง(ไตรลักษณ์มีอยู่ในเรื่องสติปัฏฐาน ๔ ).

นางวิสาขา เมื่ออายุได้ ๗ ขวบ พร้อมกับเพื่อนทั้งหมด เมื่อได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าเพียงครั้งเดียว ต่างก็มีดวงตาเห็นธรรมที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสสอน จึงเป็นพระโสดาบันทั้งหมด เพราะเริ่มรู้เรื่องอริยสัจ ๔ ตามความเป็นจริง.

ท่านอุปติสสะ(ชื่อเดิมของพระสารีบุตร)ได้ฟังธรรมเรื่องอริยสัจ ๔ จากพระอัสสชิ(หนึ่งในปัญจวัคคีย์)เพียงครั้งเดียว เมื่อฟังจบ ก็เริ่มมีความรู้เรื่องอริยสัจ ๔ ตามความเป็นจริง หรือมีดวงตาเห็นธรรมตามความเป็นจริง จึงเป็นพระโสดาบัน.

ใน วันเดียวกัน ท่านอุปติสสะได้ไปเล่าเรื่องอริยสัจ ๔ ที่จดจำมาได้ให้กับท่านโกลิต(ชื่อเดิมของพระโมคคัลลานะ)ฟัง เมื่อท่านโกลิตฟังจบ ก็เริ่มมีความรู้เรื่องอริยสัจ ๔ ตามความเป็นจริง หรือมีดวงตาเห็นธรรมเป็นพระโสดาบันในวันเดียวกันนั้นเอง.

โจรองคุลิมาล ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าเพียงครั้งเดียว เมื่อฟังจบก็เริ่มมีความรู้เรื่องอริยสัจ ๔ ตามความเป็นจริง หรือมีดวงตาเห็นธรรมเป็นพระโสดาบันทันที.

พระเจ้าสุทโธทนะ(พระราชบิดาของพระพุทธเจ้า) ประทับยืนฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าบนถนนเพียงครั้งเดียว เมื่อทรงฟังธรรมจบ ก็เริ่มมีความรู้ในอริยสัจ ๔ ตามความเป็นจริง หรือเป็นผู้ที่มีพระเนตรเห็นธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสสอน จึงเป็นพระโสดาบัน.

จะเห็นได้ว่า การเป็นพระโสดาบันนั้น ไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป ขอเพียงให้ท่านได้ศึกษาอริยสัจ ๔ ด้วยสติปัญญาอย่างถูกต้อง ครบถ้วน ตามความเป็นจริง เพื่อเริ่มดับความหลง(เริ่มดับอวิชชา)ได้ตรงประเด็น ซึ่งมีเนื้อหาไม่มากนัก(เปรียบเหมือนใบไม้ในกำมือเดียว) เพราะใช้เวลาสั้น ๆ ในการฟังธรรมเพียงครั้งเดียว.

พระโสดาบันยังมีกิเลสอยู่ เพราะเพิ่งเริ่มดับความหลง(เริ่มดับอวิชชา)

พระโสดาบันเป็นอริยบุคคลที่เริ่มรู้จักดับความหลง(เริ่มดับหัวหน้าของกิเลส) และเริ่มก้าวเข้าสู่กระแส(เส้นทาง)ของความพ้นทุกข์(กระแสนิพพาน) จึงอาจมีความทุกข์มากจากความคิดที่เป็นกิเลส.

พระโสดาบันยังมีความหลง(อวิชชา)เหลืออยู่มากพอสมควร ดังนั้น พระโสดาบันจึงยังมีการคิดด้วยกิเลส(คิดด้วยความโลภและความโกรธ)อยู่อีก เช่น ยังคิดอยากรวย น้อยใจ ท้อแท้ เบื่อหน่าย ร้องไห้ คร่ำครวญ จู้จี้ โมโห โกรธ เป็นต้น.

พระโสดาบัน เช่น นางวิสาขา เมื่อคราวที่หลานตาย ก็มีความทุกข์มาก ถึงกับร้องไห้และคร่ำครวญเพราะคิดด้วยกิเลสจนมีความยึดมั่นถือมั่น เนื่องจากขณะนั้นยังมีความหลง(มีอวิชชา)อยู่ไม่น้อย จึงทำให้ไม่สามารถรู้เห็นและควบคุมความคิดได้ดีพอ.

พระโสดาบัน เช่น ท่านอนาถบิณฑิกะ ซึ่งเป็นมหาเศรษฐี เมื่อคราวที่ลูกสาวคนเล็กตาย ก็ยังเป็นทุกข์มาก จนถึงกับร้องไห้คร่ำครวญเช่นกัน เพราะคิดด้วยกิเลสจนมีความยึดมั่นถือมั่น (อนาถบิณฑิกะ เล่ม ๑ หน้า ๙๑ รังสี สุทนต์).๗๐

พระ อานนท์เมื่อครั้งยังเป็นพระโสดาบันอยู่นั้น เป็นผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับพระพุทธเจ้าและติดตามฟังธรรมพร้อมทั้งจดจำธรรมไว้ ได้มากมาย แต่พอทราบข่าวว่า พระพุทธเจ้าจะปรินิพพาน ก็เป็นทุกข์มาก ถึงกับร้องไห้ คร่ำครวญ และเข่าอ่อนแรง จนต้องยืนเกาะกลอนประตูเพื่อพยุงตัวเอาไว้. ความทุกข์ดังกล่าวเกิดขึ้นจากการคิดด้วยกิเลสจนมีความยึดมั่นถือมั่นมาก (พุทธประวัติ เล่ม ๓ หน้า ๓๒ สมเด็จสังฆราช(สา)).๗๑

นาง วิสาขา ท่านอนาถบิณฑิกะ และพระอานนท์ ต่างก็เป็นพระโสดาบันด้วยกันทั้งสิ้น แต่ทุกท่านยังคิดด้วยกิเลส(มีสังขาร)ในเรื่องของการพลัดพรากเพราะยังดับ สังโยชน์ข้อที่ ๑ - ๓ ไม่หมด* หรือดับความหลงยังไม่หมด(มีอวิชชา) จึงทำให้มีความคิดทะยานอยาก(มีตัณหา) และมีความคิดยึดมั่นถือมั่น(มีอุปาทาน) เป็นผลให้มีความทุกข์เกิดขึ้นมาก จนถึงขั้นร้องไห้และคร่ำครวญ(โสกะ ปริเทวะ).

การร้องไห้ของพระโสดาบันทั้ง ๓ ท่านนั้น เป็นการแสดงว่า มีการคิดด้วยกิเลสอย่างรุนแรงและมีความทุกข์ในจิตใจมาก. ถ้าพระโสดาบันสามารถละสังโยชน์ข้อที่ ๑ - ๓ ได้หมด คงจะไม่มีการร้องไห้และคร่ำครวญเกิดขึ้นเป็นแน่.

มีพุทธพจน์อยู่ตอนหนึ่ง ที่กล่าวถึงคุณสมบัติของพระโสดาบัน พอจะสรุปได้ว่า ?สาวกที่(เริ่ม*)มีความรู้เรื่องอริยสัจ ๔ และรู้จักทางออกจากความคิดที่ยึดมั่นถือมั่น(อุปาทาน)ในขันธ์ ๕ (รู้จักวิธีดับความคิดที่เป็นกิเลส*)ตามความเป็นจริง คือ พระโสดาบัน? (พุทธธรรม หน้า ๓๕๕ ป.อ.ปยุตโต).๗๒

ท่านควรฝึกประเมินระดับจิตใจของตนเองว่า ในปัจจุบันขณะนี้ เริ่มมีความรู้ในอริยสัจ ๔ (เริ่มละความหลง)ตามความเป็นจริงหรือยัง. ถ้าเริ่มมีบ้างแล้ว ก็น่าจะอยู่ในข่ายของบุคคลที่มีดวงตาเห็นธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนแล้ว และจิตใจของท่านน่าจะอยู่ที่ระดับจิตใจของพระโสดาบันเป็นการชั่วคราว.

พระโสดาบันควรเป็นผู้เริ่มมีความรู้ในอริยสัจ ๔ ตามความเป็นจริง(เริ่มละความหลงได้) แต่ยังไม่มีความสามารถที่จะดับความโลภและความโกรธในชีวิตประจำวันได้. ดังนั้น คนส่วนใหญ่ที่ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้า มักจะเป็นพระโสดาบันในทันทีที่ฟังธรรมจบ แต่ยังไม่สามารถดับความทุกข์ได้ เพราะการมีดวงตาเห็นธรรมนั้น เป็นเพียงการเริ่มมีความรู้ในอริยสัจ ๔ ภาคทฤษฎีตามความเป็นจริง.
http://www.geocities.com/satipanya/noble6.html
บันทึกการเข้า

http://www.smart90days.com/neung999kk/  ธุรกิจท่องเที่ยวรับเงินแสน
http://www.azpaypoint.com/chitdech  รายจ่ายจะกลับมาเป็นรายได้
mvb
Hero Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4457


« ตอบ #1422 เมื่อ: กันยายน 30, 2009, 11:34:06 AM »

สวัสดีครับพี่พอล

กระทู้วิ่งเร้วมากเลยครับ ไม่ได้เข้ามาวันเดียว เด่วตามอ่านนะครับ
บันทึกการเข้า
ลูกเจี๊ยบ
Jr. Member
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 200


กำไรน้อยดีกว่าไม่ได้กำไร ไม่ได้กำไรดีกว่าขาดทุน


« ตอบ #1423 เมื่อ: กันยายน 30, 2009, 11:53:50 AM »

  Smiley อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณพอล    Smiley  

 ขอบคุณนะคะสำหรับความรู้เรื่องการไหว้   Smiley (เคยสงสัยอยู่เหมือนกัน )คนเราจะอยู่กันได้หรือไม่ สำหรับเอี๊ยงนะค่ะ
ไม่ว่าจะเป็นชีวิตคู่ หรือ การที่เราจะอยู่ร่วมกันใคร  เราจะคบกันได้ยืดหรือยืนยาว ต้องมีศีลเสมอกัน หรือใกล้เคียงกันมากที่ทำให้เรามาคบกันได้
หรืออยู่ร่วมกันได้นะค่ะ ยิ่งชีวิตคู่จะยืนยาวคนสองคนนั้นต้องมีศีลเท่ากัน ลองสังเกตกันดูนะค่ะ  Wink

>> สงสัยต้องให้คุณพอลไปถ่ายรูปนักการเมืองที่แย่ๆ ดูบ้างนะค่ะ (ลองดูนะค่ะ  Grin) เผื่อหลุดไปเลย  

OH! Good Idea  Grin
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 30, 2009, 12:14:36 PM โดย ลูกเจี๊ยบ » บันทึกการเข้า

ยิ้มหน่อยทู๊กโคน อ่ะ แช๊ะ
yoh
Jr. Member
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 201



« ตอบ #1424 เมื่อ: กันยายน 30, 2009, 12:28:31 PM »

 Grin Grinขอบคุณครับป๋า ได้เนื้อหานอกจากเรื่องทองด้วย อยากอ่านอีกครับ Grin Grin
บันทึกการเข้า
Gold Price today, Gold Trend Price Prediction, ราคาทองคํา, วิเคราะห์ทิศทางทองคํา
   

images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary ---------------------Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. For more information on Moore Research products and services click here. --- http://www.mrci.com ---------- ---------------------------------------------รูปกราฟแสดงราคาทองในอดีตปี 1974-1999 ของ Moore Research Center, Inc. แสดงฤดูกาลที่ราคาทองขึ้นสูงสุดและตําสุด เอาแบบคร่าวๆ เส้นนําตาลหรือนําเงินก็ใกล้เคียงกัน เส้นนําตาลเฉลี่ย 15 ปี เส้นนําเงินเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุดของเส้นนําตาล หรือเฉลี่ย 15 ปี ในเดือน ปลายเดือน เมษ และปลายเดือน สค ต่อต้นเดือน กย[/color] สูงสุดในเดือน กพ กับ พย / ส่วนเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุด ต้น กค กับ ปลาย สค และราคาสูงสุดในเดือน กพ และ กลางเดือน ตค ----- แค่ดูคร่าวๆ เป็นแนวทาง อย่ายึดมั่นว่าจะต้องเป็นตามนี้ ข้างล่างเป็นกราฟราคานํามัน ตามฤดูกาล จาก Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary
 บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 93 94 [95] 96 97 ... 1237   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: