ขออนุญาตพี่พอล ใช้พื้นที่ในกระทู้นะคะ คือไม่ทราบว่า มาจากคุณแม่คนไหนน่ะค่ะ เลยไม่ได้ตอบทางข้อความส่วนตัว และคิดว่าพอจะมีประโยชน์บ้างน่ะค่ะ
ขอตอบคุณแม่ก่อนนะคะ แต่ไม่ทราบว่า คุณ MVB ยกมาจากที่ตรงไหนน่ะค่ะ รบกวน ยกข้อความของพี่ ให้คุณแม่ได้รับรู้ด้วยนะคะ สวัสดีค่ะคุณแม่....
ในฐานะที่พี่ก็เป็นคุณแม่ของลูกคนหนึ่งเหมือนกัน เข้าใจในความรู้สึกของคุณแม่ด้วยกันดีค่ะ และก็เป็นหมอดมยาด้วยค่ะ มีประสบการณ์ดมยา เกือบสิบปี และเป็นหมอมาอีกหลายปีค่ะ...ขอบอกว่า ดมยาสลบไม่น่ากลัวอย่างที่คิดค่ะ แต่เป็นวิชาชีพ และวิธีการรักษา ที่ต้องปลอดภัย ร้อยเปอร์เซ็นต์ ห้ามมีความผิดพลาดเกิดขึ้น เหมือนพวกนนักบินน่ะค่ะ ที่ถ้าบินถึงที่หมายโดยปลอดภัย ถือว่า ทำหน้าที่ได้ ปกติ แต่ถ้ามีข้อผิดพลาดเครื่องบินตก และมีผู้บาดเจ็บ ถือว่าผิดพลาด... ดังนันดมยาสลบ หรือวิสัญญีวิทยา จึงเป็นเหมือนเรื่องลี้ลับที่ไม่ค่อยมีใครเข้าใจ เหมือนหมอดมยาไงคะ ปิดทองฐานพระ ไม่มีใครเห็นประโยชน์ เป็นเหมือนหมอไร้ตัวตน ไม่มีคนรู้จัก....โอ๊ย จะตอบคำถามเลยออกแนวน้อยใจชีวิต...ไม่ใช่นะคะ แค่อยากจะอธิบายให้ฟังเฉย ๆ ว่าไม่น่ากลัวอย่างที่คิด
ไม่ทราบว่า ลูกของคุณแม่ เป็นไส้เลื่อนขาหนีบ หรือเป็นไส้เลื่อน ที่ผนังหน้าท้อง (รบกวนแจ้งมานะคะ ที่ mail ก็ได้ค่ะ
rawiwann17@gmail.com )
เด็กส่วนมาก เป็นไส้เลื่อนขาหนีบค่ะ และพบในเด็กผู้ชายมากกว่าเด็กผู้หญิง ที่โรงพยาบาล มีเด็กเป็นไส้เลื่อนขาหนีบเยอะมาก ทำผ่าตัด อาทิตย์ละประมาณ 10 คน (คือทำประมาณ 5-7 รายต่อวัน อาทิตย์นึงทำผ่าตัดเด็ก 2 วันค่ะ ) พบว่า หากเด็กเป็นเด็กแข็งแรงดี ไม่ได้มีความผิดปกติ เช่น เป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด หรือเป็นหวัด เป็นไข้ ภายในสองสัปดาห์ก่อนผ่าตัด จะพบภาวะแทรกซ้อนจากการดมยาสลบ แทบจะ 0.2 เปอร์เซ็นต์ค่ะ เปรียบเหมือนเดินอยู่บนฟุตบาทดี ๆ แล้วมีรถมาชน ซึ่งเป็นเรื่องที่พบได้น้อยน่ะค่ะ...
วิธีการดมยา ก็คือ จะหลอกล่อให้เด็ก เป่าลูกโป่ง ซึ่งมีแก๊สนำสลบออกมา ไม่เหม็นค่ะ เพราะลูกโป่งจะใส่กลิ่นสตรอเบอรี่ หรือกล้วยหอมเอาไว้ แล้วเด็ก ก็จะได้รับแก๊ส สูดสลบ ร่วมกับออกซิเจนเปอร์เซ็นต์สูง ร่วมกับแก๊สหัวเราะ ( ดมแล้วอารมณ์ดีเคลิบเคลิ้ม เคยดูใน mega clever ไหมคะ) แล้วเด็กก็จะลอย ๆ และหลับไป หลังจากเด็กหลับลึก ก็จะมีวิสัญญีแพทย์อีกคน เปิดเส้น ให้น้ำเกลือค่ะ และให้ยา สลบทางน้ำเกลือ ร่วมกับแกีสสูดสลบ การดมยาสลบในผู้ป่วยหนึ่งคน จะเป็นการผสมผสาน ยาเป็นสิบตัว เพื่อเอาข้อดีของแต่ละตัวมาใช้ เพื่อให้หลับสบาย (เหมือนการปรุงอาหารให้อร่อยน่ะค่ะ) หลังจากให้ยาทางน้ำเกลือและทางการดมแล้ว ถ้าเป็นเด็กเป็นไส้เลื่อน ก็จะทำการฉีดยาชา สกัดเส้นประสาท บริเวณขาหนีบเพิ่ม เพื่อให้หลังผ่าตัด เด็กไม่เจ็บด้วย ซึ่งขั้นตอนการฉีดยาชานั้น จะทำขณะเด็กหลับ คือเด็กจะไม่รู้สึกเลยค่ะ ว่าถูกฉีดยา เพราะขั้นตอนการเจ็บทุกอย่างทำหลังจากที่เด็กหลับไปแล้ว...จะไม่เหมือนผู้ใหญ่ ที่ต้องให้น้ำเกลือตอนตื่อนหรือฉีดยาชาตอนตื่น ซึ่งจะเจ็บ
แต่เด็กเราจะรู้ว่าเด็กกลัวเข็ม และมี separation anxiety จากการพลัดพลาดจากพ่อแม่ ขณะอยู่ในห้องผ่าตัด และไม่อยากให้ความเจ็บปวด ฝังใจ ไปตลอด จึงให้หลับทุกอย่างค่ะ....
หลังจากฉีดยาชาแล้ว ก็เริ่มผ่าตัดได้ ซึ่งใช้เวลาประมาณ ครึ่งชั่วต่อหนึ่งข้าง ( หากเป็นไส้เลื่อนหนนึ่งข้างน่ะค่ะ) และเมื่อผ่าตัดเสร็จ ก็จะให้เด็กตื่นจากยาสลบ
เด็กก็จะสลึมสะลือตื่นมา แต่ไม่ปวด เพราะฉีดยาชาไว้แล้ว มีฤทธิ์ระงับปวด ไปอีก 2-3 ชั่วโมง ระหว่างเด็กหลับก็ให้แม่ไปเบิกยาแก้ปวด หรือยาแก้อักเสบ และ พอเด็กตื่นก็ ส่งเด็กให้พ่อแม่ และกลับบ้านค่ะ
ปัจจุบันมีเด็กเป็นโรคนี้เยอะมาก ที่โรงพยาบาล เป็นโรคพยาบาลของรัฐ ไม่มีเตียงพอ ให้เด็กที่มารับการผ่าตัด ประเภทนี้ งดน้ำงดอาหารมาจากบ้าน ประมาณ 6 ชั่วโมงค่ะ และ เมื่อผ่าตัดเสร็จ ก็กลับบ้านได้ และนัดมาดูแผลอีกประมาณ 1 สัปดาห์ค่ะ...
ไม่น่ากลัวอย่างที่คิดนะคะ เพราะเป็นการผ่าตัด ไม่นาน และไม่ได้เสียเลือดอะไรมากมาย หากเป็นเด็กแข็งแรงมาก่อน งดน้ำงดอาหาร ครบ และไม่เป็นหวัด แทบจะไม่มีภาวะแทรกซ้อนค่ะ..แต่ที่เคยได้ข่าวว่า ดมยาสลบแล้วไม่ตื่นก็มีเหมือนกัน แต่ไม่มาก แต่ละรายมีสาเหตุค่ะ...ซึ่งจะยาวเกินไปหากกล่าวในที่นี้ (แค่นี้ก็ยาวจนคนอ่านอาจจะเบื่อ) ...
คิดว่า ข้อความของพี่ คงจะช่วยคุณแม่ได้บ้างนะคะ...หากมีข้อสงสัยประการใด รบกวน สอบถามโดยตรงได้ค่ะ ยินดีตอบมาก หากตอบได้ค่ะ ตามเมล์ที่อยุ่ข้างบน หรือจะผ่านกระทู้ของพี่พอลก็ได้ค่ะ เผื่อคนอื่น จะได้เข้าใจในวิสัญญีเพิ่มขึ้นค่ะ...ขอบคุณเหมือนกันค่ะ ที่ได้มีโอกาสพูดเรื่องวิสัญญี ให้คนทั่วไปได้รับรู้...
เข้ามาขอขอบคุณคุณหมอrichyrichy สำหรับบทความที่เป็นเหมือนเปิดความลึกลับดำมืดในห้องผ่าตัด
ให้แม่อย่างดิฉันคลายกังวลลงอย่างมากนะคะ
พร้อมกันนี้ ดิฉันขอพาลูกชายคนสุดท้องกราบธุจ้า ขอบพระคุณ คุณพอล คุณmvb และเพื่อนสมาชิก ทุกท่าน... ทุกท่านจริงๆที่ให้กำลังใจ
(ตอนนี้ดิฉันแทบมองจอคอมไม่เห็น เพราะตาพร่าน้ำตาไปหมดแล้ว)
สรุปว่าเราจะพาลูก 1 ขวบเศษ เข้าผ่าตัดใส้เลื่อนที่ขาหนีบ ในเช้าวันอาทิตย์นี้แล้วค่ะ
มันช่างเป็นช่วงเวลาที่ผ่านไปช้ามาก... แต่ก็ไม่เพียงพอสำหรับการเตรียมตัวของแม่แก่ๆคนนี้เสียที
ดิฉัน พยายามเข้าอ่านหาข้อมูลแทบทุกเวป ติดต่อทุกคนทุกที่ที่จะให้ข้อมูลเรามากพอที่จะตัดสินใจพาลูกผ่าตัด
ข้อมูลที่หาได้ยากมากคือ วิธีการดมยาสลบให้ลูกเล็ก และผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ ไม่คิดฝันเลยว่าคุณหมอrichyrichy
จะเป็นคุณหมอดมยา
ถ้าไม่เป็นการรบกวนเวปคุณพอลเกินไป ดิฉันมีคำถามเรื่อง วิธีดมยาสลบให้ลูกว่าวิธีไหนมีข้อเสียน้อยที่สุดค่ะ?
จาก 3 วิธีที่พอได้ข้อมูลมา 1.ครอบหน้ากาก
2. สอดท่อครอบกล่องเสียง
3. สอดท่อเข้าหลอดลม
ลูกเล็กขนาดนี้ เมื่อหมอถามประวัติแพ้ยา หรือแพ้อาหาร เราก็มีข้อมูลน้อยมาก เพราะแกยังไม่เคยกินยาอะไร ข้าวก็เพิ่งเริ่มหัดกิน
ยอมรับอย่างอายๆว่า จุดที่กังวลมากที่สุดและพยายามหาข้อมูลมาตั้งแต่เริ่มรู้ว่าอาจต้องผ่าตัดลูกคือ
ผลข้างเคียงอะไรในห้องผ่าตัดเวลาดมยาสลบ? ที่เคยมีทำให้เด็กไม่ตื่นอีก..เป็นเจ้าชายนิทราคุณพอลคะ นับจากคืนนี้ไปจนถึงวันก่อนผ่าตัดเช้าวันอาทิตย์นี้ ดิฉันตั้งใจกับตัวเองว่า
จะพยายามตั้งจิตให้มั่นคงไว้ จนถึงเวลาที่เราจะอุ้มลูกส่งให้เขาบนเตียงผ่าตัด
ดิฉันไม่ทราบจะเขียนอะไนต่อแล้ว ขอบคุณทกท่านจากใจจริงค่ะ