สวัสดีครับทุกท่าน พอมีเวลาบ้าง จะคุยเรื่องการทํางานทางอินเตอร์เนตให้อ่าน
กันเล่นๆ 1 เรื่อง มีประโยชน์ สําหรับท่าน
ที่เคยอ่านโฆษณาทํางานทางอินเตอร์เนต แล้วมีรายได้วันละ 500 บาท 1000 บาทบ้าง
เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ผมได้รับการแจกใบปลิวเล็กๆโฆษณา แถวสะพานลอยซีคอนสแควร์ ข้อความสั้นๆประมาณนี้
" ท่านที่ต้องการมีรายได้พิเศษวันละประมาณ 500 บาท ทํางานผ่านอินเตอร์เนต
1)คุณสมบัติ อายุ 18 ปีขึ้นไป
2)ใช้งานคอมพิวเตอร์เป็น
3)รับส่ง อีเมล์เป็น
สนใจติดต่อ คุณ ---------------โทร------------------
ให้นําใบโฆษณานี้มาด้วย เวลาติดต่อ มีเลขประจําใบโฆษณาเช่น ZX30579--- "ผมอ่านแล้วสนใจเหมือนกัน เพราะงานง่ายๆ รายได้วันละ 500 บาท ทํางานนอกเวลาได้ เอางานมาทําที่บ้านได้ เผื่อเอามาให้เด็กๆ
ที่มีเวลาว่างๆมาทํา โดยไม่ต้องไปเล่นเกมหรือเที่ยวกับเพื่อน
สนใจโทรไปถาม ไม่ได้ข้อมูลเพิ่มเติมอะไร ผู้ให้โฆษณาบอกต้องเข้าไปคุยเองจะได้รายละเอียด ผลคือผมไม่ได้ไป เพราะไม่มีเวลา
ต่อมาเมื่อ 2 เดือนก่อน เดินผ่านแถวรถไฟฟ้า BTS จตุจักร ได้รับใบปลิวแบบนี้อีก ก็โทรไปถามว่า งานที่คุณให้ทําผ่านอินเตอร์เนต
เป็นงานอะไร ขายสินค้าหรือเปล่า ต้องใช้เงินลงทุนหรือไม่ คนรับเป็นผู้หญิง ตอบมาด้วยว่า ไม่ทราบว่าขายสินค้าหรือไม่ เขาไม่ได้บอก
ส่วนเงินต้องใช้หรือไม่ เธอตอบว่าในใบปลิวเขียนว่าต้องเสียเงินหรือเปล่า ผมบอกไปว่าใบปลิว ไม่ได้เขียนว่าต้องเสียเงิน เธอก็บอกว่า
ก็ตามนั้นแหละ ถ้าเขียนว่าไม่เสียเงินก็ไม่ต้องเสียเงิน แล้วเธอก็รีบวางหู ผมโทรไปอีกครั้ง เธอบอกว่าต้องมาสัมภาษณ์ก่อน ว่าทางเธอจะรับ
ให้ทํางานหรือไม่ สถานที่สัมภาษณ์อยู่แถวหลักสี่ ผมถามว่าทําไมคุณไม่บอกรายละเอียดว่าทํางานอะไร คนสนใจเขาจะได้ตัดสินใจเลย
ว่าจะเอาหรือไม่ ทําไมต้องให้ไปสัมภาษณ์ทั้งที่ยังไม่รู้เลยว่างานเกี่ยวกับอะไร เสียเวลาทั้ง 2 ฝ่าย ผมต้องเสียเวลาเดินทางไป คุณก็ต้อง
เสียเวลาสัมภาษณ์ เธอคนนั้นไม่ตอบอะไร แต่บอกว่าให้มาสัมภาษณ์ ขอบคุณนะค่ะ
ผมก็นึกในใจ งานนี้ผิดกฎหมายหรือเปล่า แต่ก็ยังอยากรู้ว่างานคืออะไร พอดีวันอาทิตย์ที่ผ่านมา 19กย53
ผมว่างและมีธุระต้องไปแถวปากเกร็ด นนทบุรี เลยไปรถแทกซ๊ ไปที่สัมภาษณ์งาน แถวหลักสี่ เสียค่า TAXI ไปประมาณ 290 บาท
โทรไปที่บริษัททํางานผ่านอินเตอร์เนตนี้อีกครั้ง ก็ถามมาอีกว่า นัดไว้หรือเปล่า ผมบอกว่าไม่ได้นัดแต่เคยโทรมาคุย
ก็เลยเข้าไปที่สํานักงานแห่งนี้ ห้องกว้างขวาง มีพนักงานชาย 3-5 คน ใส่เสื้อสูตรเต็มที่ มีพนักงานหญิง3-5 คนใส่เสื้อสูตรแต่งหน้าแบบ
เต็มที่ ต้อนรับ ให้กรอกชื่อ โทร เลขที่บัตรประชาชน แล้วให้ไปนั่งคุยกับพนักงานผู้หญิงอีกคน ใส่สูตร แต่งตัวเต็มที่
แล้วก็คุยเรื่องการทํางานให้ฟัง ว่าเกี่ยวกับการขายสินค้าแบบขายตรง ต้องเอาสินค้าไปขาย หรือถ้าจะทํางานผ่านอินเตอร์เนต
จะมีคนสอน และให้โปรแกรมมาทําที่บ้านแต่ ต้องมีเงินลงทุนจํานวนหนึ่ง ผมไม่ได้ถามเท่าไร แต่เดาได้ว่า อย่างน้อยต้องเป็น
หลักพัน เพราะหลายปีก่อนเคยไปฟังธุรกิจแบบขายตรงมาครั้งหนึ่ง เลยบอกเธอไปว่า ไม่ครับ ผมไม่ตกลง
ผมขอตัวกลับก่อน รวมเวลาที่พนักงานหญิงคนนี้พูดจบประมาณ 2-3 นาที ผมก็เดินออกมา และเกิดความสงสาร
คนที่เข้าไปสัมภาษณ์อีกหลายคน โดยเฉพาะคนหนึ่งเป็นผู้ชาย แต่งกายเสื้อผ้าเก่าผอมๆ มาจาก ตจว นั่งหน้าซีด อยู่ที่เก้าอี้
รอคนสัมภาษณ์
ผมมาสรุป การไปสัมภาษณ์กับสํานักงานแห่งนี้ได้ว่า เขาขายสินค้าแบบตรง ไม่ผิดกฎหมายหรอกครับ แต่ผิดศีล คือแฝงไว้ด้วยการโกหก
โกหกตั้งแต่แรก ที่โทรไปถามว่า ทํางานอินเตอร์เนตแบบไหน เธอตอบว่าไม่ทราบ ต้องเข้ามาสัมภาษณ์ เพราะความจริงใน สนง
แห่งนี้ พอเข้าไปก็เห็นสินค้าที่เขาวางไว้สําหรับให้คนมาสมัครนําไปขายแล้ว แต่คนที่รับโทร กลับบอกไม่ทราบ ต้องมาสัมภาษณ์เอง
เหตุผลหนึ่ง ที่ผมคิดว่า สํานักงานแห่งนี้ต้องโกหก เพราะถ้าบอกความจริงแต่แรกว่าขายสินค้าแบบตรง คงมีคนเข้าไปสัมภาษณ์ไม่กี่คน
จึงต้องโกหกก่อน ให้คนเข้าไปสัมภาษณ์แล้ว ค่อยใส่คําพูดเชิงจิตวิทยาต่างๆ ยก ตย คนที่เคยขายแล้ว มีรายได้มากมายทุกๆวัน
รวยไปเยอะแล้ว อะไรทํานองนั้นๆ
ผมออกมาจาก สนง นั้น โดยใช้เวลาอยู่ในนั้นประมาณ 3-4 นาทีเท่านั้นเอง แต่ 3-4 นาทีนี้ ทําให้ผมเกิดความรู้เศร้าๆ
ไม่ใช่เศร้าเพราะไม่ได้งานมาทํานะครับ แต่เศร้าที่เพราะ สํานักงานแห่งนี้ พนักงานทั้งชายและหญิง อายุยังน้อย 20-25 เอง
มีรวมกันเป็นสิบๆคน มาทํางานที่ถูกต้องตามกฎหมายก็จริง แต่เริ่มต้นด้วยการโกหก ผิดศีลข้อ 4 ตั้งแต่แรก เพื่อจูงใจคน
ให้มาสัมภาษณ์แบบเข้าใจผิด ในเมื่อเขาและเธอ อายุยังน้อย หน้าต่าก็พอดูได้ ยังกล้าทําผิดโกหกให้คนเข้าใจผิดตั้งแต่แรก
แล้วต่อไปในอนาคต พวกเขาและเธอเหล่านี้ มีอายุมากขึ้น จะกล้าทําอะไรที่ผืดไปมากกว่านี้อีกหรือไม่ สงสารคนในสังคม
สงสารประเทศชาติ สงสารพวกเขาและเธอเหล่านั้น ว่ารู้หรือไม่ การโกหกหลอกลวงให้คนอื่นเข้าใจผิด และเสียทรัพย์ บาป
ลงนรกขุมที่ 4 แล้วงก็สงสารคนที่เข้าไปสัมภาษณ์ ที่ถูกคําพูดจิตวิทยา โน้มน้าวให้เชื่อ ถ้าไม่ต้องเสียเงินก็ดีไป แต่ถ้า
ต้องเสียเงิน ก็จะยิ่งมีความทุกข์
เจ้าของหรือคนก่อตั้งบริษัทขายตรง มีมากมายหลายแห่ง
การขายตรงก็ไม่ใช่เรื่องแย่หรือร้ายๆไปทั้งหมด ถ้าการขายตรงนั้น
เป็นการขายสินค้าที่มีคุณภาพดี และราคาถูกกว่าท้องตลาด แต่ในความเป็นจริงเกือบ 90% การขายสินค้าแบบตรง
จะเป็นสินค้าที่แพงกว่าท้องตลาด คนที่สมัครไป แล้วเอาสินค้าเขาไปขาย ใหม่ๆก็จะพอขายได้ ขายพ่อแม่ ญาติพี่น้องบ้าง
เอาไว้ใช้เอง กินเองบ้าง ขายให้เพื่อนๆบ้าง แต่พอนานไป จะขายไม่ได้ เพราะสินค้าที่นํามาต้องนํามาทุกเดือน
แต่คนซื้อ คนใช้ มีแต่น้อยลงทุกเดือน จนในที่สุด สินค้าที่เอามาจะเหลือเต็มบ้าน เงินก็ต้องจ่ายไปตลอด จนในที่สุดจะเป็นหนี้สิน
พวกเจ้าของบริษัทขายตรง จะมีเทคนิคมาหลอกล่อ ถ้าขายได้ถึงเป้า จะมีเงินพิเศษให้ และได้ไปเที่ยวต่างประเทศ
ผมมีคนรู้จักคนหนึ่ง เป็นหญิงสาว เมื่อ 10 ปีก่อน เธอไปทํางานขายตรงของสินค้าเกี่ยวกับเครื่องสําอางค์ยี่ห้อหนึ่ง ใหม่ๆก็ขายได้
มากมาย จนได้ไปเทียวเกาหลีถึง 2 ครั้ง ผมก็ดีใจกับเธอด้วย และหวังว่าอนาคตเธอคงจะดีขึ้นไปเรื่อยๆ แต่เรื่องจริงไม่ใช่
เมื่อขายมาถึงจุดหนึ่งขายสินค้าไม่ได้ จนต้องนําสินค้านั้นไปขายแบบเงินผ่อน โดนโกงไปก็เยอะ จนในที่สุด ไม่มีเงินจ่าย
บริษัทขายตรง โดย จม ทวงหนี้ ต้องคอยหลบหนี ย้ายที่อยู่บ่อยๆ
ความรวยที่ได้มาจากความทุกข์ของคนจํานวนมาก ผลกรรมแบบนี้ จะสนองให้ผลคือ รวยมากแค่ไหนก็ตาม แต่จะหาความสุขในชีวิตไม่ได้เลย จนกระทั่งหมดเวลาของอายุ และนรกก็น่าจะรออยู่ในท้ายสุด
อ่านเล่นๆครับ