ต่อไป »

[paul711]

  ขอบคุณมากครับคุณ jainu ที่รวบรวมบทความดีๆให้อ่านครับ

[jainu]

  ขอบคุณมากครับคุณ jainu ที่รวบรวมบทความดีๆให้อ่านครับ

 

[jainu]

USD Lives Or Dies By U.S. Election: 3 Scenarios

ผ่านไปแล้วสำหรับ NFP น่าผิดหวังเล็กน้อย ตลาดไม่ตอบรับ ตลาดกังวลกับการเลือกตั้งประธานาธิบดี ในวันอังคารของสหรัฐมากกว่า

ซึ่งถ้าทรัมป์ชนะ นักลงทุนกังวลว่า นอกจากตลาดจะ Sell-Off แล้ว สหรัฐอาจเจอกับการชลอตัวทางตัวเลขและ เฟด อาจเลื่อนการขึ้นดอกเบี้ยออกไป

แต่ถ้า คลินตันชนะ อันนี้คงต้องดูว่า ขนะมากน้อยขนาดใหน ตลาดจะตอบสนองตามจำนวนแต้มที่ชนะ

อาทิตย์หน้า กับ อาทิตย์ถัดไป ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญๆมาเขย่าขวัญมากนัก อาทิตย์หน้าหลักที่จับตามองนอกเหนือผลการเลือกตั้ง ก็มี RBNZ ตลาดคงวางน้ำหนักกับผลการเลือกตั้งมากกว่า

สิ่งที่จะเกิดขึ้น น่าจะเป็นไปได้ 3 รูปแบบคือ

เหตุการณ์ที่ 1# ทรัมป์เป็นประธานาธิบดี คลินตันยอมรับความพ่ายแพ้

สหรัฐจะได้ประธานาธิบดี ที่ไม่มีประสพการณ์การเมือง และ นโยบายที่ไม่อาจคาดเดาได้
ค่าเงินที่จะได้รับประโยชน์ : EUR CHF JPY
ค่าเงินที่จะย่ำแย่ : USD MNX CAD

เหตุการณ์ที่ 2# คลินตันเป็นประธานาธิบดี ทรัมป์ยอมรับความพ่ายแพ้

ในแง่นักลงทุนจะรู้สึกผ่อนคลาย

ค่าเงินที่จะได้รับประโยชน์ : USD MNX
ค่าเงินที่จะย่ำแย่ : JPY CHF ส่วน EUR น่าจะไม่มาก

อย่างไรก็ตาม มีข้อแม้ว่า เธอต้องชนะขาด....

เหตุการณ์ที่ 3# คลินตัน หรือ ทรัมป์ ได้เป็นประธานาธิบดี และ ฝ่ายแพ้ไม่ยอมรับ

เหตุการณ์นี้น่าจะเป็นไปได้มากที่สุด ประเด็นคือ ถ้าชนะไม่ขาด ความผันผวนจะเกิด และคงเกิดทันทีหลังการเลือกตั้ง

เรื่องๆอื่นๆ ยังไม่ต้องวิเคราะห์ ตัวเลขเศรษฐกิจที่จะออกๆกันมา คงโดน กระแสการเลือกตั้งกลบหมด

แต่ถ้าใครอยากทราบรายละเอียดก็เข้าไปอ่านเพิ่มเติมใด้ตามลิ๊งค์ด้านล่าง

ทองก็คงนี้ไม่พ้นที่จะผันผวนตาม ในสถานะ สินทรัพย์ระดับสวรรค์

¤¤¤¤มั่วซับไทยโดยถ้วยจบ¤¤¤¤



For the full story:
 http://www.investing.com/analysis/dollar-lives-or-dies-by-us-election-–-3-scenarios-200162901

[jainu]

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน 2559 00:15:55 น.
สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) ประกาศแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่ของรัฐนิวยอร์ก เท็กซัส และเวอร์จิเนียว่า กลุ่มอัล-เคดาอาจทำการโจมตีในวันที่ 8 พ.ย. ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

"เจ้าหน้าที่ต่อต้านการก่อการร้าย และรักษาความมั่นคงในมาตุภูมิ ยังคงใช้ความระมัดระวัง และเตรียมพร้อมรับมือการโจมตีที่จะมีขึ้นในสหรัฐ" เจ้าหน้าที่อาวุโสรายหนึ่งของ FBI กล่าว

"FBI กำลังทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกลาง รัฐบาลประจำรัฐ และประจำท้องถิ่น เพื่อแบ่งปัน และประเมินข่าวกรองเป็นรายวัน และจะร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับฝ่ายบังคับใช้กฎหมาย และหน่วยข่าวกรองในท้องถิ่น เพื่อตรวจหา และสกัดภัยคุกคามต่อความปลอดภัยของประชาชน" เขากล่าว





อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq38/2543339

[jainu]

10อันดับเหรียญหายาก                              

  https://www.youtube.com/watch?v=Xc3bC6zS2W0&feature=youtu.be

[jainu]

7-30 พย. นี้  อย่าลืมไปลงทะเบีบนที่ไปรษณีย์กันนะคะ เลขบัตรประชาชน 1 ใบ ต่อ 1 การ์ด  จะจัดส่งมาที่บ้านทางไปรษณีย์ค่ะ

https://stamprama9.com/#!/countdown/
ลงทะเบียน online

[jainu]

อย่าแค่แขวนฉายาลักษณ์ของพระองค์ไว้ในบ้าน...

ศาสตราจารย์แมนเฟรด คราเมส (Prof.Manfred Krames) เป็นคนเยอรมัน เขาอาศัยอยู่ในศรีลังกาหลายปี กระทั่งหลังเกิดมหาสึนามิไม่นานเขาจึงย้ายมาพำนักที่ ประเทศไทย ณ จังหวัดเชียงใหม่ ฝรั่งคนนี้มีมุมมองที่น่าสนใจยิ่งในเรื่องในหลวงกับคนไทย

เขาบอกว่า เวลาได้ยินคนไทยพูดว่า รักในหลวง เขารู้สึกเศร้าใจ

เขาถามว่า เป็นคุณๆจะไม่เศร้าใจหรือถ้าคุณมีลูกที่ไม่เคยเชื่อคำสอนของคุณเลย ไม่เคยเดินตามแนวทางที่คุณวางไว้ ไม่ต้องการเรียนรู้อะไรจากคุณ

"สิ่งที่พวกเขาทำนั้นเพียงแค่ก่อปัญหาแล้วก็เรียกร้องให้ท่านยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือเสมอ ในขณะเดียวกันก็พร่ำพูดว่า ลูกรักพ่อ ถ้าท่านเป็นพ่อ ท่านจะรู้สึกอย่างไร"

ในทัศนะของเขา ในหลวงคือ ครูผู้ยิ่งใหญ่ หรือ บรมครูผู้ที่เราต้องเรียนรู้จากพระองค์ท่าน

"...ทรงเป็นครูของเรา แต่ได้โปรดตระหนักไว้เสมอว่า อย่าศึกษาเล่าเรียนเพื่อเอาใจครู  แต่จงศึกษาเล่าเรียนเพื่อประโยชน์และความดีงามให้แก่ตัวท่านเอง...

...ผมคิดว่า เป็นการไม่รับผิดชอบ ที่จะนั่งๆนอนๆใช้ชีวิตอย่างสบายและให้คนคนเดียวทำงานอย่างหนัก เพื่อดูแลและแก้ไขปัญหาของชาติ ท่าทีเช่นนี้เป็นสิ่งที่แสดงถึงความไม่เคารพพระองค์ ซึ่งแย่เสียกว่าการพูดถึงพระองค์ในทางที่ไม่ดีในที่สาธารณะ

ประเทศหลายแห่งในโลกจะดีใจมาก  ที่มีพระมหากษัตริย์เช่นนี้ แต่ท่านเองเป็นคนไทย มีพระองค์เป็นกษัตริย์ แต่ไม่ได้นำประโยชน์จากพระองค์มาใช้ประโยชน์ในชีวิตเลย

ผมคิดว่า น่าละอาย ถ้าหากเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนไปสู่วาระใหม่และมีกระแสลมแรงมาจากทิศทางอื่น ประเทศหลายแห่งในโลกจะชี้มายังประเทศไทยและดูแคลนว่า ดูสิ พวกเขามีครูที่ยิ่งใหญ่แต่ได้เรียนรู้จากพระองค์น้อยมาก !

ผมรู้สึกสงสารพระองค์อย่างสุดซึ้ง เพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นบุคคลเพียงคนเดียว ที่พยายามพัฒนาชาติ ในขณะที่คนอื่นๆในชาติเฝ้าแต่รอให้สิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้น..."

ศ.คราเมส ระบุว่า จะพบเห็นว่า นักการเมืองจำนวนมากในเอเซีย ที่หลังจากครองอำนาจ และได้ผลประโยชน์แล้ว มักจะไม่ได้ช่วยเหลืออะไรแก่ประชาชนเลย นักการเมืองเหล่านั้น ทำให้ในหลวงทุกข์ใจ  พวกเขาเสแสร้งว่า ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ แต่นั่นเป็นการสร้างภาพไม่ใช่ความจริง!

"พวกเขาเพียงแค่ต้องการใช้ภาพความจงรักภักดีนี้  เพื่อโน้มน้าวให้ประชาชนเทคะแนนให้ ในการเลือกตั้ง และขึ้นสู่อำนาจในเวลาต่อมาเท่านั้น ประชาชนไทยมุ่งหวังว่า นักการเมืองจะอุทิศตนเพื่อประเทศชาติ เฉกเช่นเดียวกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  แต่พวกเขาก็ทำให้คนไทยทั้งชาติผิดหวัง พวกเขาไม่สามารถเป็นเช่นนั้นได้เพราะพวกนักการเมืองไทย ได้รับอิทธิพลแนวคิดแบบตะวันตก และมีหัวใจที่ถูกครอบงำไว้ด้วยธุรกิจ

สำหรับผม พวกเขาจึงไม่ได้มีความเป็นไทยอีกแล้ว นั่นคือ เหตุผลที่ว่า ทำไมคนธรรมดาสามัญทั้งหลาย จึงรู้สึกรับไม่ได้กับการคอร์รับชั่น ฉ้อราษฏร์บังหลวงและนักโกหกที่ทำลายประเทศ ลงด้วยมือของพวกเขาเอง..."

ศ.คราเมส เสนอแนะว่า คนไทยจะต้องเข้าใจคุณค่าของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างถ่องแท้ และผสมผสานแนวทางแห่งพระพุทธศาสนาของพระองค์ ลงไปในการดำเนินชีวิตประจำวันและถ่ายทอดเรื่องราวเหล่านี้ในโรงเรียนเพื่อให้คนรุ่นใหม่ ๆได้ศึกษาด้วย

เขาเห็นว่า พระราชดำริหรือสิ่งที่ทรงทำในทุก ๆ เรื่องนั้น ทรงใช้หัวใจทั้งสิ้น เพราะพระองค์เข้าใจดี ถึงคุณค่าของความรักและความซื่อสัตย์
คนไทยทั้งหลายรู้สึกเชื่อมโยงถึงพระองค์ท่านได้ก็เพราะสิ่งนี้

เขาคิดว่า คำสอนของในหลวงนั้นเป็นสากลเช่นเดียวกับคำสอนของพระพุทธเจ้า ด้วยเหตุนี้ คนทั่วโลกถึงเรียนรู้และปรับเอาความรู้จากในหลวงไปใช้ได้เช่นกัน

"พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้นทรงเป็นทั้งสัญลักษณ์ของความชาญฉลาด แบบตะวันตก และภูังปัญญาแบบตะวันออก ในบุคคลเดียวกัน ซึ่งถือว่า เป็นสิ่งสมบูรณ์พร้อมอย่างมาก..."

ศ.คราเมส ระบุว่า นักการเมืองไทยนั้นตกอยู่ในค่านิยมตะวันตก มักกระตุ้นคนด้วยการบริโภคนิยม กับอำนาจล่อใจของอิทธิพลทางการเมือง
และวัตถุนิยมกำลังเข้มแข็งมากเกินไปในสังคมไทย
เพราะมองเห็นเช่นนี้เขาจึงเตือนว่า
"คำสอนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงกำลังสูญหายไปตลอดกาล หากยังไม่มีใครตระหนักถึงคุณค่าความสำคัญแห่งคำสอนนั้น..
ทุกคนควรตระหนักว่า  หนทางเดียวที่จะแสดงความเคารพต่อครูก็คือ เรียนรู้จากพระองค์เพื่อที่จะนำความรู้นั้นไปช่วยเหลือคนอื่น ไม่ใช่เพียงแค่แขวนฉายาลักษณ์ของพระองค์ไว้ในบ้าน.”..

...หากคนทุกช่วยกันเก็บรักษาเจตนารมย์ อันแรงกล้าและคำสอนของพระองค์เอาไว้ ให้อยู่สืบต่อไปตราบชั่วลูกชั่วหลาน ผมเชื่อเหลือเกินว่า พระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ของทุกคน พระองค์นี้จะอยู่ในหัวใจคนไทยตลอดกาล"

ฝรั่งคนนี้เป็นใครยังไม่ได้สืบค้นแต่หลายคำของเขานั้นมีคุณค่าน่าเอามาใส่ใจ

บัดนี้ สิ่งที่เขาเตือนคนไทยมาหลายปีนั้น ปรากฎชัดว่า เป็นเช่นนั้นจริง ๆ เช่น หลายประเทศในโลก เห็นคุณค่าของในหลวง กับสิ่งที่พระองค์คิด และสิ่งที่พระองค์ทำ แม้กระทั่งองค์การสหประชาชาติก็ยกย่องสดุดีพระองค์ท่าน

ในไม่ช้านี้ คำเตือนของเขาอีกหลายอย่างก็คงจะเกิดขึ้นตามมา

น่าคิดว่า ถึงเวลาแล้วที่เราควรช่วยกันคิด ช่วยกันทำ ช่วยกันสืบทอด ช่วยกันบำรุงรักษา หรือพัฒนาพระราชมรดก ที่พระราชทานไว้ให้แก่สังคมเราสืบต่อไปได้อย่างไร

ภัทระ คำพิทักษ์ เรียบเรียงจากบทความเรื่อง
เรียนรู้จากพระเจ้าอยู่หัว โดย ศาสตราจารย์แมนเฟรด คราเมส (Prof.Manfred Krames)
ซึ่งตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสาร Lips ปีที่ 4 ฉบับที่ 16 วันที่ 6 สิงหาคม 2552

[jainu]

ชื่อภาพ "เทวาแห่งปวงไทย"
สีน้ำมันบนผ้าใบ
ขนาด80x60cm
ศิลปิน ชัชวาล รอดคลองตัน

[jainu]

เมื่อรัฐบาลเริ่มขับเคลื่อนโครงการตามพระราชดำริ
 โดย สิริอัญญา
 วันอังคารที่ 29 พฤศจิกายน 2559

หลังจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโกศเสด็จสวรรคตแล้ว พระราชกรณียกิจและผลงานต่าง ๆ ของพระองค์ได้ถูกนำมาบอกกล่าวเล่าขานอย่างกว้างขวางกึกก้องทั้งในประเทศและต่างประเทศ แม้ในองค์การสหประชาชาติ
ทำให้ชาวไทยและชาวโลกได้รู้จักพระราชกรณียกิจมากหลายที่พระมหาราชเจ้าพระองค์นั้นได้ทรงกระทำไว้ในราชอาณาจักรนี้ และหลายสิ่งหลายอย่างก็เผื่อแผ่เป็นอาณาประโยชน์แก่ชาวโลกด้วย

เพราะพระราชกรณียกิจทั้งหลายนั้น พระองค์มิได้ทรงผูกขาดไว้เฉพาะประเทศไทยเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง แม้จะเป็นผลึกแห่งพระปัญญาธิคุณของพระองค์ และได้รับการสดุดียกย่องอย่างยิ่งใหญ่จากสหประชาชาติ พระองค์ก็มิได้สงวนไว้เฉพาะประเทศไทยเท่านั้น

ชาติใดเมืองใดนำไปประพฤติปฏิบัติ ก็มิได้ทรงหวงห้าม กระทั่งทรงยินดีที่มีการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนี้ไปใช้ เพราะน้ำพระทัยอันเปี่ยมด้วยพระเมตตาคุณและพระมหากรุณาธิคุณนั้นเสมอด้วยพระมหาโพธิสัตว์อันมีอนาคตที่จะอุบัติเป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตกาลอันโพ้นโน้น

ดังนั้นหลายประเทศที่ได้นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปประพฤติปฏิบัติก็ย่อมได้รับผลอันงอกงามที่เกิดจากการปฏิบัตินั้นให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ ไม่ว่าโลกจะเกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจประการใด ผลจากหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงก็จะปกปักรักษาคุ้มครองให้ผู้ประพฤติปฏิบัติยืนอยู่ได้ไม่หวั่นไหวโอนเอนล่มล้มลง และมีความร่มเย็นเป็นสุขทุกสถานการณ์

พระมหาราชเจ้าพระองค์นั้นทรงพระราชทานพระราชดำริและตั้งขึ้นเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริกว่า 4,000 โครงการ ซึ่งในใต้หล้านี้ย่อมไม่มีผู้เป็นรัฏฐาธิปัตย์หรือผู้เป็นประมุขรัฐแห่งใดเคยทำมาก่อน มีแต่พระมหาราชเจ้าของชาวไทยพระองค์เดียวเท่านั้น

โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเหล่านี้ล้วนเป็นไปตามราชเจตนาที่ทรงประกาศเป็นพระปฐมบรมราชโองการเมื่อครั้งเสด็จขึ้นเถลิงถวัลย์สิริราชสมบัติว่า "เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม"

กว่า 4,000 โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ล้วนเป็นโครงการที่เป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยามทั้งสิ้น
แต่น่าเสียดายยิ่งนักที่ระบบการปกครองของประเทศไทยได้กีดกันพระมหากษัตริย์ออกจากประเทศและประชาชน ดังนั้นแม้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจอันเป็นประโยชน์ยิ่งใหญ่สักเพียงไหน รัฐบาลของนักการเมืองก็สนองพระเดชพระคุณแต่เพียงแค่ขอไปที ไม่เคยมีรัฐบาลไหนแม้แต่รัฐบาลเดียวที่จะอัญเชิญโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำรินั้นมาเป็นโครงการของรัฐบาล แล้วจัดตั้งงบประมาณดำเนินการให้เป็นมรรคเป็นผลและต่อยอดพัฒนาไปจากที่ทรงมีพระราชดำริไว้
เพราะนักการเมืองทำมาหากินกับโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริไม่ได้ จึงมุ่งแต่สนใจในการเสกสร้างโครงการทุเรศทุรังมากหลาย ที่มิได้เป็นไปเพื่อประโยชน์สุขของมหาชน แต่เป็นไปเพื่อเปิดทางทำมาหากินโกงชาติโกงแผ่นดินกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน
หาไม่แล้วป่านนี้ประเทศไทยเราก็คือแผ่นดินธรรมแผ่นดินทองของมวลมนุษย์ อาณาประชาราษฎรไม่ต้องเดือดร้อนทุกข์เข็ญดังที่เห็นกันอยู่ในวันนี้

โครงการอันเป็นประโยชน์อเนกอนันต์ต่อประเทศชาติกว่า 4,000 โครงการ ถูกรัฐบาลของนักการเมืองละเลยเพิกเฉย อยู่ได้ก็อยู่ไป ทำได้ก็ทำไป เป็นความจริงอันยิ่งใหญ่ที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้า ประชาชนชาวไทยในบัดนี้แล้ว ขอเพียงฟื้นฟูต่อยอดสรรพโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริให้ต่อยอดขยายตัวเดินหน้าบรรลุผลสำเร็จตามโครงการ ให้บรรลุผลจริงตามที่ทรงพระราชดำริได้เมื่อใด เมื่อนั้นแล้วประเทศไทยของเราย่อมดีกว่านี้แน่ ความมั่นคงมั่งคั่งอย่างยั่งยืนก็จะปรากฏให้เห็น

บัดนี้เป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้ริเริ่มออกเยี่ยมเยียนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริมา 2-3 โครงการแล้ว ทั้งได้แสดงท่าทีอย่างชัดเจนที่จะพัฒนาต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำรินั้นให้สัมฤทธิผล

สาธุ! ขอพระสยามเทวาธิราชได้บำรุงน้ำใจนายกรัฐมนตรีให้มีความหนักแน่นมั่นคงในการที่จะยืนหยัดพัฒนาต่อยอดและฟื้นฟูโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริทั้งหลายให้มีฐานะเป็นส่วนของโครงการของรัฐบาล และปรับปรุงกระบวนการหรือผู้ทำงานให้สอดคล้องกับยุคสมัย มุ่งหน้าสู่ทิศทางที่ทำให้โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำรินั้นสัมฤทธิผลดังพระราชดำรินั้นจงทุกประการ

ไม่ต้องไปลอกเลียนแบบประเทศไทยในเวอร์ชั่นไหน ๆ มาจากใคร และไม่ต้องเชื่อฟังนักวางแผนเศรษฐกิจและสังคมคนไหนๆ ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเป็นแค่ไปรษณีย์ที่รับยัดเยียดโครงการของต่างชาติมาเป็นแผนงานแห่งรัฐเพื่อประโยชน์ของต่างชาติดังที่ทำกันมากว่า 60 ปีแล้ว
ขอเพียงเดินหน้าพัฒนาต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริอย่างจริงจัง แน่วแน่ มั่นคง อย่างมีแผนงาน ในลักษณะที่ถือว่าเป็นโครงการแห่งรัฐ เพื่อให้บรรลุมรรคผลตามที่ทรงมีพระราชดำริไว้ เมื่อนั้นประเทศไทยของเราก็จะเป็นแผ่นดินธรรมแผ่นดินทองของคนไทยอย่างแท้จริง.

.

[jainu]

ขอบคุณภาพ http://www.photoonto...ng_photo_04.htm

[jainu]

ข้าพเจ้าขอตอบรับ

02122559 ประเทศไทยมีพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่แล้ว ทรงพระเจริญ ตามรอย ในหลวงรัชการที่ ๙
• ประเทศไทยมีพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่แล้ว ทรงพระเจริญ
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระเจริญ











https://www.facebook...123345767764094

02122559 ประเทศไทยมีพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่แล้ว ทรงพระเจริญ ตามรอย ในหลวงรัชการที่ ๙
 • ประเทศไทยมีพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่แล้ว ทรงพระเจริญ
 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระเจริญ
 ….. และแล้ว วันเวลาที่ประชาชนชาวไทยรอคอย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร. ๑๐
 ก็มาถึง โดยที่ตอนค่ำ ยังขานพระนามเป็นสมเด็จโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร
 เมื่อคืนตอนดึกของวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๕๙
 1. สมเด็จโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระราชทานพระราชวโรกาส ให้
 พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์, นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติปฏิบัติหน้าที่ประธานรัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ  นายวีระพล ตั้งสุวรรณ ประธานศาลฎีกา เข้าเฝ้าฯที่พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
 2. โอกาสนี้ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้กราบบังคมทูลเชิญ องค์รัชทายาทเสด็จฯขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์.สืบราชสันตติวงศ์
 3. สมเด็จโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร มีพระราชดำรัสตอบรับการขึ้นทรงราชย์
 4. พล.อ.เปรมกราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล
 5. ประกาศสนช.สมเด็จฯขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ ตั้งแต่13ต.ค.59
 6. ประกาศ เฉลิมพระปรมาภิไธย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ประกาศว่า ……..
 ประกาศ ณ วันที่ ๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ เป็นปีที่ ๑ ในรัชกาลปัจจุบัน
 ผู้รับสนองพระราชโองการ
 พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา
 นายกรัฐมนตรี
 7. นายกฯประกาศประเทศไทยมีพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่แล้ว

• นายกฯประกาศประเทศไทยมีพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่แล้ว
 %3A%20http://www.matichon.co.th/news/380447
 • ประกาศสนช.สมเด็จฯขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ ตั้งแต่13ต.ค.59
 01 ธันวาคม 2559 เวลา 22:54 น....: http://www.posttoday.com/social/royal/468258
 • โปรดเกล้าฯให้เฉลิมพระปรมาภิไธย "สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร"
 01 ธันวาคม 2559 เวลา 22:45 น....: http://www.posttoday.com/social/royal/468257
 ประกาศ เฉลิมพระปรมาภิไธย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร
 มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ประกาศว่า ……..
 ประกาศ ณ วันที่ ๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ เป็นปีที่ ๑ ในรัชกาลปัจจุบัน
 ผู้รับสนองพระราชโองการ
 พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา
 นายกรัฐมนตรี
 • สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่10เสด็จขึ้นทรงราชย์แล้ว ( 01 ธันวาคม 2559 เวลา 22:15 น. )
 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่10 ทรงมีพระราชดำรัสตอบรับการขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์แล้ว
 เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. สมเด็จโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระราชทานพระราชวโรกาส ให้
 พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์, นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติปฏิบัติหน้าที่ประธานรัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ นายวีระพล ตั้งสุวรรณ ประธานศาลฎีกา เข้าเฝ้าฯที่พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
 โอกาสนี้ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้กราบบังคมทูลเชิญ
 องค์รัชทายาทเสด็จฯขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์.สืบราชสันตติวงศ์

 ในการนี้สมเด็จโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร มีพระราชดำรัสตอบรับการขึ้นทรงราชย์ ความว่า "ตามที่ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ปฏิบัติหน้าที่ประธานรัฐสภาได้กล่าวในนามของปวงชนชาวไทย
 เชิญข้าพเจ้าขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ ว่า
 เป็นไปตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และ เป็นไปตามบทบัญญัติของกฎมณเฑียรบาล ว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์กับรัฐธรรามนูญแห่งราชอาณาจักรไทยนั้น ข้าพเจ้าขอตอบรับเพื่อสนองพระราชปณิธาน.และเพื่อประโยชน์ของประชาชนชาวไทยทั้งปวง"

 จากนั้นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จฯไปทรงกราบถวายบังคมหน้าฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯราชินีนาถ.

 พล.อ.เปรมกราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล จากนั้นทรงมีพระราชปฏิสันถารกับคณะผู้เข้าเฝ้าฯ
http://www.posttoday.com/social/royal/468256
 • ภาพประทับใจสมเด็จพระเทพฯถวายบังคมสมเด็จฯ 01 ธันวาคม 2559 เวลา 21:49 น..http://www.posttoday.com/social/royal/468255

 • โปรดเกล้าฯประกาศเฉลิมพระปรมาภิไธยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 01 ธันวาคม 2559 เวลา 21:37 น.
 เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. สำนักราชเลขาธิการได้ส่งหนังสือถึงอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์
 เรื่อง "ประกาศเฉลิมพระปรมาภิไธยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" โดยมีเนื้อหาดังนี้

 ในโอกาสที่ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติทำหน้าที่ประธานรัฐสภาในนามของปวงชนชาวไทยได้กราบบังคมทูลอัญเชิญองค์รัชทายาทขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ตามกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์พระพุทธศักราช 2467 และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 1 ธันวาคม 2559 นั้น

 ระหว่างที่ประชาชนยังมิได้ถวายพระปรมาภิไธยเนื่องในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกตามพระราชประเพณี สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ดังนี้

 1.ให้เฉลิมพระปรมาภิไธยว่า "สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร"
 คำอ่าน สม - เด็ด - พระ -เจ้า - อยู่หัว - มะ - หา - วะ - ชิ - รา - ลง - กอน -บอ -ดิน - ทระ- เทบ - พะ - ยะ - วะ - ราง - กูน
 2.ภาษาอังกฤษว่า "His Majesty King Maha Vajiralongkorn Bodindradebayavarangkun"
 : http://www.posttoday...al/royal/468254

 • "สมเด็จฯ"ทรงตอบรับขึ้นทรงราชย์เป็นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 | สยามรัฐ http://www.siamrath.co.th/n/5953
 • ภาพประวัติศาสตร์พสกนิกรไทย ทรงรับเป็น “สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” รัชกาลที่ 10%3A%20http://www.matichon.co.th/news/380374
 • สมเด็จฯเสด็จฯทรงบำเพ็ญพระราชกุศลปัญญาสมวาร 01 ธันวาคม 2559 เวลา 17:40 น..: http://www.posttoday...al/royal/468204
 • สำนักพระราชวังถวายพระนาม'ร.10' ใช้เป็นทางการวันที่ 2 ธ.ค.2559 http://www.naewna.com/royal/247142
 • "รัชกาลที่10" จักรี 01 ธันวาคม 2559 เวลา 10:51 น.http://www.posttoday...al/royal/468107
 • วิษณุเผย พล.อ.เปรมจะสิ้นสุดการเป็นผู้สำเร็จราชการฯหลังจากเข้าเฝ้า
 %3A%20http://www.matichon.co.th/news/380259
 • สมเด็จฯเสด็จฯทรงบำเพ็ญพระราชกุศลปัญญาสมวาร. http://www.posttoday.com/social/royal/468204
 • คณะสงฆ์อยุธยากว่า 500 วัด เจริญชัยมงคลคาถา ลั่นฆ้อง กลอง ระฆัง ถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 10m%3A%20http://www.matichon.co.th/news/380397
 • ผู้ว่าฯ-เจ้าคณะฯ ทั่วประเทศ ร่วมเจริญชัยมงคลคาถา-ลั่นฆ้อง โอกาสมหามงคล ค่ำวันนี้
 %3A%20http://www.matichon.co.th/news/380088
 • วิษณุย้ำให้ ปชช.ใช้ชีวิตตามปกติ รอฟังประกาศราชการ หลังประกาศกษัตริย์รัชกาลที่ 10%3A%20http://www.matichon.co.th/news/380006
• พัฒนาคุณภาพตน อ่านข่าวภาษาอังกฤษ วันละเรื่อง มีคำศัพท์พร้อม
 Invitation to new King imminent: Cabinet, NCPO, NLA agree
http://www.posttoday...ing/news/467772
 • เรื่องของคนกลัวคุก : ผักกาดหอม http://www.thaipost.net/…
 • การปฏิรูปต้องเริ่มด้วยการระเบิดกระทรวง โดย : ดร.ไสว บุญมา
 • อัยการเจ้าของสำนวนไร่ส้ม รู้สึกอย่างไร
http://www.naewna.co...columnist/27391
 • พุทธศาสนากับพรรคการเมือง http://www.naewna.com/politic/columnist/27387
 • โกลด์แมน แซคส์: แหล่งผลิตขุนคลัง http://www.naewna.co...columnist/27384
• "กรธ."เลื่อนเปิดเผยร่างกฎหมายพรรคการเมืองไปสัปดาห์หน้า เหตุยังอยู่ระหว่างทบทวนเนื้อหา จ่อส่งร่างกฎหมายองค์กรอิสระให้ สนช.ดูเพิ่ม . http://www.posttoday.../politic/468121
 • โฆษกสปท.เผย “นายกฯ” สั่งเร่งกฎหมายปฏิรูป 5 ฉบับ เตรียมแถลงผลงานในรอบ 1 ปี: http://www.posttoday.../politic/468142

.

[jainu]

ธงมหาราชใหญ่ซึ่งเชิญขึ้น ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต เมื่อวันศุกร์ ที่ ๒ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ เวลา ๐๘.๐๐ นาฬิกา เพื่อเป็นเครื่องหมายว่า พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิตเป็นที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร


ธงมหาราชใหญ่ มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส พื้นธงสีเหลือง มีรูปครุฑพ่าห์สีแดงอยู่ตรงกลาง




Royal Archives of OHM

[jainu]

"บ้านหมากแข้ง"สมรภูมิพระราชา

THAIPOST.NET



ร้อยเอกสมเด็จโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร ขณะกำลังเสวยพระกระยาหาร
ถ้าจะเล่าถึงบ้านหมากแข้ง ต.กกสะทอน อ.ด่านซ้าย จ.เลย คงต้องย้อนกลับไปช่วงปี พ.ศ.2511 ที่เป็นช่วงประเทศไทยทำสงครามกับลัทธิคอมมิวนิสต์ พื้นที่แห่งนี้ เต็มไปด้วยสงครามการสู้รบ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ.2516 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูอดุลยเดช พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ ราชินีนาถ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมบ้านหมากแข้ง เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่พลเรือน ตำรวจ ทหาร และประชาชนในพื้นที่



ร้อยเอกสมเด็จโอรสาธิราชฯ ทรงรับน้ำจากนายทหารอย่างเป็นกันเอง
และภายหลังจากที่พระองค์เสด็จฯ ยังบ้านกกสะทอนเป็นครั้งแรก มีพระราชดำริตั้งโครงการเย็นศิระขึ้นมา ให้มีการสร้างโรงเรียนในระดับประถมขึ้นที่บ้านหมากแข้งเป็นแห่งแรกของ ต.กกสะทอน และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ราชินีนาถ พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จฯ แทนพระองค์มาทรงเป็นประธานในพิธีเปิดป้ายโรงเรียนพระราชทานและโครงการเย็นศิระ บ้านหมากแข้ง
ต่อมา เมื่อปลายเดือนตุลาคม พ.ศ.2519 พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยได้ปะทะยิงสู้รบเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นเหตุให้เครื่องบินตก 1 ลำ ในวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ.2519 หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวไม่นาน ร้อยเอกสมเด็จโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร (พระอิสริยยศในขณะนั้น) เสด็จฯ ทรงเยี่ยมเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจในการสู้รบ ทรงออกบัญชาการรบที่แนวหน้าด้วยพระองค์เอง นับว่าเป็นความกล้าหาญอย่างยิ่ง และสร้างขวัญกำลังใจให้กับชาวบ้านและบรรดาทหารขณะนั้นเป็นอย่างมาก



ภาพพระองค์ที่กระโดดลงจากเฮลิคอปเตอร์และทรงวิ่งหลบกระสุนไปยังบังเกอร์
และขณะที่ร้อยเอกสมเด็จโอรสาธิราชฯ เสด็จฯ โดยเฮลิคอปเตอร์เพื่อไปยังแนวหน้านั้น ก็ได้มีการยิงถล่มจากพรรคคอมมิวนิสต์ฯ ทำให้เฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งไม่สามารถลงจอดได้ เหตุการณ์ในวันนั้นชาวบ้านในพื้นที่เล่าว่า พระองค์ทรงกระโดดลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ ความสูงประมาณ 12 เมตร แล้ววิ่งหลบฝ่ากระสุนที่ปลิวว่อนไปมาอย่างกล้าหาญ จากนั้นพระองค์จึงทรงวิเคราะห์และวางแผนการรบให้กับทหารในพื้นที่ ออกลาดตระเวน อยู่ยามเช่นเดียวกับทหารคนอื่นๆ
ที่บ้านหมากแข้ง ต.กกสะทอน อ.ด่านซ้าย จ.เลย แห่งนี้ พระองค์ได้ประทับแรมที่ฐานปฏิบัติการบ้านหมากแข้งเป็นเวลา 1 คืนจึงเสด็จฯ กลับ และได้เสด็จฯ มาเยี่ยมเยือนอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ.2519 ต่อมาพรรคคอมมิวนิสต์ในประเทศไทยประกาศยอมแพ้ สงครามสู้รบจึงสิ้นสุดลงในปี พ.ศ.2525



ภายในกระท่อมที่ร้อยเอกสมเด็จโอรสาธิราชฯ บรรทม
วีรกรรมของพระองค์ที่บ้านหมากแข้งในครั้งนี้จึงเกิดเป็น “อุทยานเทิดพระเกียรติบ้านหมากแข้ง” ที่สร้างขึ้นเพื่อจารึกความกล้าหาญของร้อยเอกสมเด็จโอรสาธิราชฯ ในขณะนั้น ต่อมาสมรภูมิแห่งนี้ได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าชมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย การเดินทางขึ้นมาที่ภูแห่งนี้ใช้เวลาประมาณ 20 นาที สนนราคาต่อเที่ยวประมาณ 6-10 คน ราคาอยู่ที่ 1,500-2,000 บาท โดยราคาดังกล่าวเป็นแบบเหมาจ่ายทั้งขึ้นและลง
สมิง สิงห์ขร นักสื่อความหมายบ้านกกสะทอน นักเรียนที่เคยรับเสด็จร้อยเอกโอรสาธิราชฯ ได้เล่าว่า สมัยนั้นตัวเองยังเรียนในระดับประถมศึกษาเท่านั้น พระองค์ทรงเป็นผู้ที่มีวิสัยทัศน์และมีความกล้าหาญมาก อย่างที่ทราบกันดี ในสถานการณ์แนวหน้านั้นมีโอกาสจะถูกยิงได้ทุกเมื่อ แต่พระองค์ก็ยังคงเสด็จฯ มาเพื่อบัญชาการและให้กำลังใจแก่ทหารในขณะนั้น



กระท่อมที่พระองค์เสวยพระกระยาหารในภาพ
สมิงยังเล่าต่อว่า ที่บ้านหมากแข้งนั้นยังพยายามรักษาสถานที่ที่พระองค์เคยเสด็จ ให้เหมือนเมื่อในอดีตให้มากที่สุด อย่างตัวซุ้มที่พระองค์ประทับนั่งเสวยพระกระยาหารร่วมกับบรรดานายทหาร กระท่อมที่พระองค์ได้บรรทม ที่ถึงแม้มันจะพังไปหลายรอบตามกาลเวลา แต่ก็พยายามบูรณะและสร้างไว้ให้ลูกหลานได้มาชม มาเรียนรู้สิ่งที่พระองค์ได้ทำเพื่อชาวบ้านหมากแข้ง
บรรยากาศโดยรอบอุทยานเทิดพระเกียรติบ้านหมากแข้งนั้น ซึ่งตั้งบนยอดภู ห้อมล้อมไปด้วยหุบเขาน้อยใหญ่ แทรกกายอยู่ในป่าสน ทันทีที่มาถึงก็จะเจอกับอาคารพิพิธภัณฑ์ มีพระสาทิสลักษณ์ร้อยเอกโอรสาธิราชฯ ขณะบัญชาการรบที่นี่ ที่หลายภาพก็หาชมได้ยาก ลุงสมิงเล่าอีกว่า ไปหาภาพมาจากสำนักพระราชวังเพื่อมาสร้างศูนย์แห่งนี้ แม้กระทั่งซากเครื่องบินตกจริงๆ ก็มีเก็บไว้ให้ชมด้วย



อนุสรณ์สถานบ้านหมากแข้ง
ด้านหลังของอาคารพิพิธภัณฑ์เป็นค่ายที่ร้อยเอกโอรสาธิราชฯ ใช้บัญชาการรบเมื่อครั้งอดีต ทั้งเพิงไม้ที่พระองค์ประทับนั่งเสวยพระกระยาหาร กระต๊อบที่บรรทม ได้ถูกจัดไว้ให้เหมือนกับในอดีตมากที่สุด หรือที่ต้นโพธิ์ต้นใหญ่ ลุงสมิงเล่าว่า มีรอยกระสุนที่ถูกยิงเมื่อสมัยสงครามคอมมิวนิสต์ แต่ตอนนี้ต้นโพธิ์ต้นนี้ได้โตขึ้นมาก ทำให้รอยกระสุนเห็นไม่ค่อยชัดแล้ว แต่ถ้าแงะดูก็จะเห็นกระสุนที่ฝังอยู่ในเนื้อไม้
นอกจากเรื่องราวประวัติศาสตร์ของบ้านหมากแข้งแล้ว วิวสองข้างทางตลอดการขึ้นและลงภูเขาแห่งนี้ก็สวยงามและอลังการอย่างยิ่ง แถมยังสามารถมองเห็นและไปเที่ยวต่อที่ภูลมโลได้อีกด้วย



สมิง สิงห์ขร กับภาพรับเสด็จสมัยอดีต
ทั้งหมดในทริปนี้เป็นเรื่องเล่าที่ทำให้เราขนลุกอยู่ไม่น้อย กับสิ่งที่บรรพบุรุษได้สร้างให้กับพวกเราเมื่อครั้งอดีต สิ่งที่เหลือไว้มีเพียงประวัติศาสตร์และความรุ่งเรืองที่ทิ้งไว้ให้ลูกหลานระลึกถึง และรักษาสิ่งที่พวกเขาได้สร้างไว้ให้ ประวัติศาสตร์เรื่องหนึ่งจบลง อีกเรื่องก็ได้เริ่มขึ้นและจะดำเนินต่อไปอย่างรุ่งโรจน์ให้สมกับความตั้งใจของจอมราชัน.



อนุสรณ์สถานของเหตุการณ์ในครั้งนี้
หมายเหตุ: รายงานพิเศษเรื่อง"บ้านหมากแข้ง"สมรภูมิพระราชา ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์เอ็กซ์ไซท์ไทยโพสต์ฉบับวันที่ 2 ธันวาคม 2559"

[jainu]

[jainu]

"...ทุกคนจำเป็นต้องหมั่นใช้ปัญญาพิจารณาการกระทำของตนให้รอบคอบอยู่ เสมอระมัดระวังทำการทุกอย่างด้วยเหตุผล ด้วยความมีสติและด้วยความรู้ตัว เพื่อเอาชนะความชั่วร้ายทั้งมวลให้ได้โดยตลอด และสามารถก้าวไปถึงความสำเร็จที่แท้จริง ทั้งในการงานและการครองชีวิต...”

ส่วนหนึ่งของราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรและอนุปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันศุกร์ที่ ๑๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๑๖

#ตามรอยธรรมราชา