Forex-Currency Trading-Swiss based forex related website. Home ----- กระดานสนทนาหน้าแรก ----- Gold Chart,Silver,Copper,Oil Chart ----- gold-trend-price-prediction ----- ติดต่อเรา
หน้า: 1 ... 388 389 [390] 391 392 ... 402   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: เก็บข่าวมาฝากนะคะ  (อ่าน 256460 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 13 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #5835 เมื่อ: ธันวาคม 07, 2016, 11:07:31 AM »



ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ ชื่อภาพ "ในอ้อมพระกร"
ภาพนี้มีความคิดและความหมายลึกซึ้งยิ่งนัก เพราะหากจะดูในเรื่องเทคนิคการถ่ายภาพ พระองค์ทรงใช้เลนส์ตาปลา (fish eye) เพื่อให้ได้ภาพมุมกว้างที่มีขอบโค้งกลม ทรงใช้พระหัตถ์โอบหน้าเลนส์ไว้เล็กน้อยให้พอเห็นเบลอๆที่ขอบภาพ เป็นการถ่ายในมุมเสยขึ้นบนเพดาน ในภาพมองเห็นพระองค์ท่านเองและเหล่าผู้ร่วมงานหรือผู้ติดตาม (อาจเรียกว่าเป็นการเซลฟี่ในยุคแรกๆเลยก็ว่าได้)

... และถ้าหากมองในเชิงความหมาย รวมถึงความรู้สึกของคนที่มองภาพนี้ เราจะรู้สึกว่าพระองค์ทรงทอดพระเนตรมาหาเราด้วย ... ซึ่งอาจตีความได้ว่าชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนชาวไทยอยู่ในสายพระเนตรของพระองค์ตลอดเวลาเช่นกัน ... ถ้ายังไม่กระจ่างพอ ให้ลองมองภาพนี้ในระยะไกลออกมา จะเห็นเป็นภาพดวงตาขนาดใหญ่ (สีเข้มของฝ้าเพดานเปรียบเสมือนตาดำ)
 ... การตีความนี้ไม่ใช่การคิดไปเอง เพราะภาพนี้ได้รับการยกย่องจากศิลปินหลายต่อหลายคนว่าเป็นงานศิลปะสร้างสรรค์ นั่นคือ การถ่ายภาพภาพหนึ่งแต่มองเห็นเป็นภาพอีกภาพหนึ่ง ... จะเห็นได้ว่าพระอัจฉริยภาพด้านการถ่ายภาพ มิใช่แค่ภาพสวย แต่แฝงไว้ด้วยความสร้างสรรค์และความหมายอันลึกซึ้ง


ภาพนี้แสดงอยู่ที่ หออัครศิลปิน จ.ปทุมธานี
===
ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ในหลวงรัชกาลที่ 9 “ในอ้อมพระกร” ณ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ ออสเตรเลีย
Royal Thai Consulate-General Sydney, Australia ถ่ายเมื่อปีค.ศ.1962 (พ.ศ.๒๕๐๕)
ภาพจาก:: OHM (Office of His Majesty′s Principal Private Secretary), Thailand   
ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ในหลวงรัชกาลที่ 9 “ในอ้อมพระกร” ณ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ ออสเตรเลีย
Royal Thai Consulate-General Sydney, Australia ถ่ายเมื่อปีค.ศ.1962 (พ.ศ.๒๕๐๕)
ภาพจาก:: OHM (Office of His Majesty′s Principal Private Secretary), Thailand

.


บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #5836 เมื่อ: ธันวาคม 07, 2016, 11:11:34 AM »


by DINHIN


แม่เฒ่าตุ้ม จันทนิตย์ หญิงชราวัย 102 ปี บ้านธาตุน้อย ที่เฝ้ารับเสด็จในหลวง ถวายดอกบัวสามดอกที่เหี่ยวโรย เป็นที่ชาวไทยคุ้นตา และประทับใจในหัวใจเป็นที่สุด ตามที่ท่านเจ้าคุณพระราชธีราจารย์ เจ้าคณะจังหวัดนครพนม/เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ให้ความรู้“ ดอกบัวในใจยังคงบานไม่มีโรยรา” บนเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินทางสามแยกชยางกูร- เรณูนคร ตำบลพระกลางทุ่ง อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม เมื่อบ่ายวันที่ 13 พฤศจิกายน 2498 เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูอดุลยเดชเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมพสกนิกรภาคอีสานเป็นครั้งแรก
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #5837 เมื่อ: ธันวาคม 07, 2016, 11:29:58 AM »

เปิดภาพวิวัฒนาการธนบัตรไทย ตั้งแต่ในหลวงรัชกาลที่9 ขึ้นครองราชย์ จนถึงปัจจุบัน

http://news.mthai.com/hot-news/general-news/526853.html

ธนบัตรไทย: ธนบัตรแบบ 16

http://thaibanknotes.blogspot.com/2013/04/16.html



แนวคิด ธนบัตรแบบ 16 นี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์ไทย ตั้งแต่สมัยสุโขทัย อยุธยา ธนบุรี และรัตนโกสินทร์ ที่ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจอันเป็นคุณูปการแก่ประเทศชาติ

องค์ประกอบสำคัญที่ต้องมีอยู่ในธนบัตร
(1) ฉายาสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวซึ่งพิมพ์เป็นภาพประธาน ด้านหน้า อันหมายถึงธนบัตรไทยที่ออกใช้ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน
 (2) รูปพระครุฑพ่าห์ซึ่งเป็นตราแผ่นดิน อันแสดงถึงสัญลักษณ์แทนองค์พระมหากษัตริย์

ชนิดราคา   
 ชนิดราคา 20 บาท ยุคสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช
 ชนิดราคา 50 บาท ยุคสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
 ชนิดราคา 100 บาท ยุคสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
 ชนิดราคา 500 บาท ยุคสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
 ชนิดราคา 1000 บาท ยุคสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (พระปิยมหาราช)

ธนบัตรแบบ 16 ชนิดราคา 20 บาท






ภาพประธานด้านหน้า


ฉายาสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
 ในฉลองพระองค์ครุยมหาจักรีบรม

ภาพประธานด้านหลัง

ราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช ประทับบนพระแท่นมนังศิลาบาตร ภาพการประดิษฐ์อักษรไทย ภาพศิลาจารึกหลักที่ 1 จารึกพ่อขุนรามคำแหง ภาพลายสือไทย ภาพทรงรับเรื่องราวร้องทุกข์ของราษฎร ภาพกระดิ่ง และภาพเครื่องสังคโลก

ขนาด

๗.๒๐ x ๑๓.๘๐ เซนติเมตร

วันประกาศออกใช้

ลงวันที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๕

จ่ายแลก

วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๖

ธนบัตรแบบ 16 ชนิดราคา 50 บาท






ภาพประธานด้านหน้า

ฉายาสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
 ฉลองพระองค์ครุยมหาจักรีบรม

ภาพประธานด้านหลัง

ราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงหลั่งทักษิโณทก
 ภาพจิตรกรรมฝาผนัง ทรงพระแสงดาบ นำทหารเข้าตีค่ายพม่า -
 ราชานุสาวรีย์ ณ อนุสรณ์ดอนเจดีย์ และพระเจดีย์ชัยมงคล วัดใหญ่ชัยมงคล
 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ขนาด

๗.๒๐ x ๑๔.๔๐ เซนติเมตร

วันประกาศออกใช้

ลงวันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๕๔

จ่ายแลก

วันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๕๕

ธนบัตรแบบ 16 ชนิดราคา 500 บาท






ภาพประธานด้านหน้า

ฉายาสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฉลองพระองค์ครุยมหาจักรีบรม

ภาพประธานด้านหลัง

ราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ภาพวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ภาพป้อมพระสุเมรุ

ขนาด

๗.๒๐ x ๑๕.๖๐ เซนติเมตร

วันประกาศออกใช้

ลงวันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๕๖

จ่ายแลก

วันที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗​

ธนบัตรแบบ 16 ชนิดราคา 100 บาท






ภาพประธานด้านหน้า

ฉายาสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในฉลองพระองค์ครุยมหาจักรีบรม

ภาพประธานด้านหลัง

รูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

ขนาด

๗.๒๐ x ๑๕.๐๐ เซนติเมตร

วันประกาศออกใช้

ลงวันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๕๗

จ่ายแลก
   วันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ 


บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #5838 เมื่อ: ธันวาคม 07, 2016, 11:35:41 AM »


"ในหลวงของแผ่นดิน"
เมื่อ 27 ก.พ. พ.ศ. 2525 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงประทับรอยพระบาท ลงบนปูนปลาสเตอร์ ณ ดอยยาว - ดอยผาหม่น อ.ขุนตาล จ.เชียงราย เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่เหล่าทหารหาญ ในการสู้รบกับกองกำลังคอมมิวนิสต์ ในครั้งนั้น




ทรงประทับรอยพระบาท ลงบนปูนปลาสเตอร์ ณ ดอยยาว - ดอยผาหม่น อ.ขุนตาล จ.เชียงราย เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่เหล่าทหารหาญ ในการสู้รบกับกองกำลังคอมมิวนิสต์ ในครั้งนั้น
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #5839 เมื่อ: ธันวาคม 07, 2016, 11:44:41 AM »




สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์รับพระราชทานพัดยศจากพระเจ้าอยู่หัวเป็นสมเด็จองค์แรกแห่งรัชกาล








cr veraphant Hiranpaisal

4 December at 22:19



เอ้อ...เป็นอย่างนั้นไป
 อันตรายสุดๆ...นะ...โยมนะ
 โจรเข้ามาปล้นศาสนา เลยยกวัดให้แก่โจร
อีกอย่างหนึ่งคือ การฝากศาสนาไว้กับพระ ชาวพุทธเป็นจำนวนมากทีเดียวชอบฝากพระศาสนาไว้กับพระอย่างเดียว แทนที่จะถือตามคติของพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าตรัสว่าพระศาสนานั้นอยู่ด้วยบริษัท ๔ คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ไม่ใช่บริษัทใดบริษัทหนึ่ง แต่จะต้องช่วยกัน

ทีนี้ พวกเรามักจะมองว่าพระศาสนาเป็นเรื่องของพระ บางทีเมื่อมีพระประพฤติไม่ดี ชาวบ้านบางคนบอกว่าไม่อยากนับถือแล้วพุทธศาสนาอย่างนี้ก็มี แทนที่จะเห็นว่าพระพุทธศาสนาเป็นของเรา พระองค์นี้ประพฤติไม่ดีเราต้องช่วยกันแก้ ต้องเอาออกไป แทนที่จะคิดอย่างนั้น กลับกลายเป็นว่าเรายกศาสนาให้พระองค์นั้น เหมือนโจรผู้ร้ายเข้ามาปล้นบ้านของเรา แทนที่จะรักษาสมบัติของเรา กลับยกสมบัตินั้นให้โจรไปเสีย พระองค์ที่ไม่ดีก็เลยดีใจกลายเป็นเจ้าของศาสนา เรายกให้แล้วบอกไม่เอาแล้วศาสนานี้ เป็นอย่างนี้ก็มี นี่เป็นทัศนคติที่ผิด ชาวพุทธเราทั่วไปไม่น้อยมีความคิดแบบนี้ ทำเหมือนกับว่าพระพุทธศาสนาเป็นเรื่องของพระ เราก็ไม่ต้องรู้ด้วย
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต)
 วัดญาณเวศกวัน อ.สามพราน จ.นครปฐม


บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #5840 เมื่อ: ธันวาคม 07, 2016, 11:49:23 AM »

คนปลายซอย
 อังคาร ๖ ธันวาคม ๒๕๕๙
ว่าด้วยเรื่อง"อรัญวาสี-คามวาสี"
 -----------------------------------------
เป็นมหามงคล"รัชกาลที่ ๑๐"และเป็นบุญประเทศยิ่ง
 ที่เมื่อวาน(๕ ธค.๕๙)
 "สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรทิพยวรางกูร"รัชกาลที่ ๑๐ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน
 เนื่องในวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา"พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูอดุลยเดช" รัชกาลที่ ๙ ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
 และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานสถาปนาเลื่อน-แต่งตั้งสมณศักดิ์พระเถรานุเถระ ๑๕๙ รูป
 ในจำนวน ๑๕๙ รูปนั้น ที่ยังความปลาบปลื้มยินดีให้บังเกิดแก่พุทธศาสนิกชนเป็นพิเศษ
 ก็ดังความที่"ราชกิจจานุเบกษา"เผยแพร่ประกาศสถาปนาสมณศักดิ์ เมื่อวาน ดังนี้

 "สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศว่า โดยที่ทรงพระราชอนุสรณ์คำนึงถึง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูอดุลยเดชมหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร สมเด็จชนกนาถซึ่งเสด็จสวรรคต เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ ๑๓ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ ว่า ทรงเป็นพุทธมามกะ และอัครศาสนูปถัมภก ทรงใส่พระราชหฤทัยในการทะนุบำรุงและสืบทอดพระพุทธศาสนา โดยทรงพระกรุณาโปรดสถาปนา เลื่อนและตั้งสมณศักดิ์ถวายแก่พระสังฆาธิการ ซึ่งดำรงในสมณคุณ มีอุปการะยิ่งแก่การพระศาสนาเป็นประจำทุกปี

 บัดนี้ เพื่อเป็นการบำเพ็ญพระราชกุศลถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูอดุลยเดชมหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร

 จึงสมควรจะสถาปนาอิสริยยศและเลื่อนอิสริยฐานันดรพระสงฆ์ที่ดำรงอยู่ในสมณคุณ และมีอุปการะยิ่งแก่การพระศาสนาดังกล่าวสูงขึ้นเพื่อจักได้บริหารพระศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองสถาพร ตามโบราณราชประเพณีสืบต่อไป

 จึงทรงพระกรุณาโปรดสถาปนา

 ๑.พระพรหมคุณาภรณ์ ขึ้นเป็น สมเด็จพระราชาคณะ มีราชทินนามตามที่จารึกในสุพรรณบัฏว่า สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ญาณอดุลสุนทรนายก ปาพจนดิลก วรานุศาสน์ อารยางกูรพิลาสนามานุกรม คัมภีรญาณอุดมวิศิษฏ์ ตรีปิฎกบัณฑิต มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสีอรัญวาสี สถิต ณ วัดญาณเวศกวัน จังหวัดนครปฐม
 มีฐานานุศักดิ์ ตั้งฐานานุกรมได้ ๑๐ รูป

 ๒. พระธรรมวราจารย์ ขึ้นเป็น พระราชาคณะเจ้าคณะรอง มีราชทินนามตามที่จารึกในหิรัญบัฏว่าพระสุธรรมาธิบดี ปูชนียฐานประยุต มงคลวุฒคณาทร บวรศีลาจาร ศาสนภารธุราทร ธรรมยุตติกคณิสสรบวรสังฆาราม คามวาสี สถิต ณ วัดบวรนิเวศ ราชวรวิหาร พระอารามหลวง กรุงเทพมหานคร มีฐานานุศักดิ์ ตั้งฐานานุกรมได้ ๘ รูป

 ๓. พระธรรมสุธี ขึ้นเป็น พระราชาคณะเจ้าคณะรอง มีราชทินนามตามที่จารึกในหิรัญบัฏว่าพระธรรมปัญญาบดี ศรีสังฆวรนายก มหาจุฬาลงกรณดิลกสุพพิธาน นายกสภาบริหารบัณฑิตปริยัติกิจวรธาดา มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี สถิต ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร พระอารามหลวง กรุงเทพมหานคร
 มีฐานานุศักดิ์ ตั้งฐานานุกรมได้ ๘ รูป

 ๔.พระธรรมมังคลาจารย์ ขึ้นเป็น พระราชาคณะเจ้าคณะรอง มีราชทินนามตามที่จารึกในหิรัญบัฏว่า พระพรหมมงคล ภาวนาโกศลสุพพิธาน วิปัสสนาบริหารพิสุทธิ์ ปาวจนุตตมานุศาสน์คัมภีรญาณพิลาสธำรง มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี สถิต ณ วัดพระธาตุศรีจอมทอง วรวิหารพระอารามหลวง จังหวัดเชียงใหม่
 มีฐานานุศักดิ์ ตั้งฐานานุกรมได้ ๘ รูป

 ขออาราธนาพระคุณผู้ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณฐานันดร เพิ่มอิสริยยศ ในครั้งนี้ จงรับธุระพระพุทธศาสนา เป็นภาระสั่งสอน ช่วยระงับอธิกรณ์ และอนุเคราะห์พระภิกษุสามเณรในคณะและในพระอาราม ตามสมควรแก่กำลัง และอิสริยยศซึ่งพระราชทานนี้ และจงเจริญอายุ วรรณ สุข พลปฏิภาณ คุณสารสิริสวัสดิ์ จิรัฏฐิติ วิรุฬหิไพบูลย์ ในพระพุทธศาสนาเทอญ

 ประกาศ ณ วันที่ ๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ เป็นปีที่ ๑ ในรัชกาลปัจจุบัน
 ผู้รับสนองพระราชโองการ
 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
 นายกรัฐมนตรี

 ครับ...สมณศักดิ์ของสงฆ์ไทย ทั้งหมดมี ๙ ชั้น ๒๑ อันดับ ที่ควรสนใจระดับปกครองคณะสงฆ์ ก็

· ชั้น ๑ สกลมหาสังฆปรินายก เป็นตำแหน่งสังฆราช

 ชั้น ๒ มหาสังฆนายก เจ้าคณะใหญ่ ชั้นสุพรรณบัตร

 คือสมเด็จพระราชาคณะ มี ๔ ตำแหน่ง คือ
 พระพุทธโฆษาจารย์,พระวันรัต,พระพุทธาจารย์, มหาวีรวงศ์

 · ชั้น ๓ พระราชาคณะเจ้าคณะรอง มี ๒ อันดับ
 คือพระราชาคณะเจ้าคณะรอง ชั้นหิรัญบัตร

 · เอาเท่านี้พอ..........

 จะเห็นว่า"สมเด็จพระราชาคณะ"ชั้นสุพรรณบัฎที่"พระพรหมคุณาภรณ์ หรือท่านเจ้าคุณประยุทธ์ ปยุตโต ได้รับสถาปนา
 ราชทินนามตามที่จารึกว่า"สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์"นั้น รองลงมาจากสมเด็จพระสังฆราช สูงกว่าพระราชาคณะเจ้าคณะรองในชั้น"หิรัญบัฎ"
 และโปรดสังเกต..........

 ราชทินนามตามจารึกในสุพรรณบัฏว่า"สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ญาณอดุลสุนทรนายก ปาพจนดิลก วรานุศาสน์ อารยางกูรพิลาสนามานุกรม คัมภีรญาณอุดมวิศิษฏ์ ตรีปิฎกบัณฑิต มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสีอรัญวาสี สถิต ณ วัดญาณเวศกวัน จังหวัดนครปฐม"นั้น

 ระบุทั้ง"คามวาสีและอรัญวาสี"
 "อรัญวาสี-คามวาสี"คืออะไร หลายท่านอาจอยากทราบ?
 ทั้ง ๒ อย่างนั้น ใช้เป็นสร้อยนามสมณศักดิ์ สำหรับระดับพระราชาคณะขึ้นไปเท่านั้น เพื่อบ่งบอกว่า
 "อรัญวาสี"หมายถึงพระราชาคณะรูปนั้น เป็นพระป่า วัตรปฏิบัติจะมุ่งเน้น ๒ อย่าง คือการเจริญจิตภาวนาด้วยวิปัสสนากรรมฐาน และสอนคนให้เดินอยู่ในเส้นทางศีล-สมาธิ-ปัญญา ไม่เน้นงานด้านบริหารปกครองคณะสงฆ์

 "คามวาสี"หมายถึงพระราชาคณะรูปนั้น เป็นพระบ้าน คือพระในเมือง มุ่งงานด้านบริหารปกครอง ก่อสร้าง พัฒนา ด้านวัตถุ ด้านปริยัติ งานสวด งานเผา งานแต่ง ก็ต้องพระคามวาสีเป็นหลัก

 สรุป พระอรัญวาสี มุุ่งพัฒนาจิต พระคามวาสี มุ่งพัฒนาวัตถุ นี่เป็นหลักกว้างๆ
 เมื่อทราบหลักเช่นนี้แล้ว ก็ลองย้อนขึ้นไปดูราชทินนาม"สมเด็จพระราชาคณะ"คือสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ และพระราชาคณะเจ้าคณะรอง อีก ๓ รูปดู ก็จะทราบว่า รูปไหนเป็นพระป่า-พระบ้าน

 "สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์"มีทั้งคำว่า "อรัญวาสี"และ"คามวาสี"
 หมายถึง นับต่อจากนี้ เมื่อได้รับการสถาปนาขึ้นเป็น"สมเด็จพระราชาคณะ"รูปแรกและรูปเดียว เป็นปฐมแห่งแผ่นดินรัชกาลที่ ๑๐ แล้ว
 จากที่มุ่งทางอรัญวาสีแต่เดิม ก็จะต้องรับธุระด้าน"คามวาสี"คืองานปกครองคณะสงฆ์ควบคู่ไปด้วย

 ตามคำประกาศ ดังปรากฎในราชกิจจา ว่าด้วยการสถาปนาสมณศักดิ์ความเบื้องต้นว่า
 "เพื่อจักได้บริหารพระศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองสถาพร ตามโบราณราชประเพณีสืบต่อไป"
 และความเบื้องปลาย ว่า...........
 "จงรับธุระพระพุทธศาสนา เป็นภาระสั่งสอน ช่วยระงับอธิกรณ์ และอนุเคราะห์พระภิกษุสามเณรในคณะและในพระอารามตามสมควรแก่กำลังและอิสริยยศซึ่งพระราชทานนี้ "

 ทีนี้มาดู พระราชาคณะเจ้าคณะรอง ในชั้นหิรัญบัฎ อีก ๓ รูป
 พระสุธรรมาธิบดี วัดบวรฯ กทม.
 พระธรรมปัญญาบดี วัดมหาธาตุ กทม.
 พระพรหมมงคล วัดศรีจอมทอง เชียงใหม่

 เห็นชัด ว่าทั้ง ๓ รูป เป็นพระบ้าน คือพระทำหน้าที่ด้านคันถธุระ หมายถึงงานทางบริหาร-ปกครอง เพราะจารึกในหิรัญบัฎระบุ"คามวาสี"อย่างเดียว
 มีบางคนเข้าใจว่า คามวาสี ใช้กับพระมหานิกาย และอรัญวาสี ใช้กับพระฝ่ายธรรมยุต ไม่น่าถูกต้องนะ

 ดูตัวอย่างนี่ก็ได้"สมเด็จพระญาณสังวร"สมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร ฝ่ายธรรมยุต จารึกในสุพรรณบัฎ มีคำว่า"คามวาสี อรัญวาสี"
 เพราะพระองค์ทรงปฏิบัติทั้งวิปัสสนาธุระ ทั้งทรงทำหน้าที่ปกครองคณะสงฆ์ อันเป็นฝ่ายคันถธุระ

 สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ วัดปากน้ำ ซึ่งเป็นฝ่ายมหานิกายก็เช่นกัน นามตามจารึกในสุพรรณบัฏ ก็มี"คามวาสี อรัญวาสี"
 ในตำแหน่ง"สมเด็จพระราชาคณะ"ซึ่งต้องปกครองคณะสงฆ์ ก็ต้องทำหน้าที่ทั้งด้านพระป่าและพระบ้าน

 วันนี้"มึนตึ๊บ"อ่านไม่รู้เรื่องกันใช่มั้ย ผมเองยังมึนเลย!
 แต่รู้ไว้บ้างก็ดี ........
 เพราะนี่เป็นครั้งแรกในวงการสงฆ์ ที่พระจากวัดราษฏร์ คือวัดญานเวศกวัน"ทั้งเป็นพระป่า คือท่านเจ้าคุณประยุทธ์
 ได้รับสถาปนาขึ้นระดับสมเด็จพระราชาคณะที่"สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์"มาทำหน้าที่พระบ้านอีกด้านหนึ่ง
 และรู้ไว้ด้วยก็ไม่น่าเสียหาย..........

 ในการสถาปนาเลื่อน-แต่งตั้งสมณศักดิ์ ปี ๕๙ นี้ ในจำนวน"พระราชาคณะชั้นสามัญ" ๘๗ รูป
 อันดับที่ ๖๘"พระมหาโชว์"วัดศรีสุดาราม ที่คุ้นๆหน้าจากเวทีเสื้อแดง ได้เป็นเจ้าคุณด้วยที่"พระสุธีวีรบัณฑิต"
 ขอท่านเจ้าคุณโชว์จงงอกงามในกรรม.


====

บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #5841 เมื่อ: ธันวาคม 07, 2016, 11:51:33 AM »



ทำเนียบรัฐบาล อัญเชิญฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ประดิษฐานด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า
6 ธ.ค. 59- ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ในวันเดียวกันนี้ทางทำเนียบรัฐบาลได้อัญเชิญฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ประดิษฐาน ณ ด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า โดยประดับครุฑพ่าห์อยู่เบื้องล่างฉายาลักษณ์ เหนืออักษรข้อความทรงพระเจริญ พร้อมวางพานพุ่มเงินพานพุ่มทองเพื่อถวายราชสักการะ และได้อัญเชิญฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ประดิษฐาน ณ ด้านหน้าตึกสันติไมตรี พร้อมประดับพานพุ่มดอกไม้และเครื่องทองน้อยเป็นราชศักดิ์การะ
นอกจากนี้ที่บริเวณรั้วด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล และด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้าได้มีการประดับประดา ตกแต่งด้วยดอกดาวเรืองสีเหลือง ซึ่งเป็นสีประจำวันพระชลมวาร (วันจันทร์) หรือวันพระราชสมภพของทั้งสองพระองค์ และยังมีการตกแต่งบริเวณภายในทำเนียบรัฐบาล โดยนำต้นไม้นานาพันธุ์มาปรับแต่ง เพื่อความสวยงามด้วย.
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #5842 เมื่อ: ธันวาคม 07, 2016, 10:41:31 PM »














หารูปองค์ภากับพระเทพเซตนี้เจอแล้ว น่ารักมากกกก ทรงพระเจริญ - @PPEARzZ
Cr Suvinit Aum Pornnavalai




>> เจ้าหญิงนักกฎหมาย <<

....พระจริยวัตร ทรงงดงามยิ่ง
เป็นขวัญมิ่ง ของเรา ชาวสยาม
พระบารมี แผ่ปก ทั่วเขตคราม
ใต้พระนาม "องค์ภาฯ" ของปวงชน

 เนื่องในวันคล้ายวันประสูติพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา 7 ธันวาคม 2558

 ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะฯ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 07, 2016, 10:44:17 PM โดย jainu » บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #5843 เมื่อ: ธันวาคม 08, 2016, 10:22:13 AM »

พระองค์ทรงรัก ประเทศไทย และประชาชน



ในอาณาเขตของประเทศไทย ปัญหาที่แน่นหนานั้นได้รับการถอดสลักจากความทุ่มเท ความสร้างสรรค์ บนฐานแห่งความรู้และเทคโนโลยี จากพระอัจฉริยภาพของพระมหากษัตริย์ผู้เป็นที่รักยิ่งของคนไทย...พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูอดุลยเดช

เราอาจไม่ทันคิด ไม่ทันสังเกต เนื่องด้วยคุ้นตาแต่เล็กจนโตด้วยภาพที่พระองค์ท่านทรงงานหนักอย่างต่อเนื่องทั่วทุกถิ่นฐานในประเทศไทย เพียงแต่เราได้ลองตั้งคำถามกับตัวเองถึงกระบวนการทำงานในแต่ละที่ แต่ละวันของพระองค์ เราจะกระจ่างแจ้งว่า สิ่งที่พระองค์ท่านทรงถือปฏิบัติ มิได้คาดหวังเพียงที่จะแก้ปัญหาความทุกข์ยากเฉพาะหน้าให้แก่ราษฎร แต่ทรงได้มองลึกลงไปในแววตาของราษฎรที่เฝ้าฯ รับเสด็จเบื้องหน้า ทรงสัมผัสปัญหาอย่างใกล้ชิด ทั้งทรงนำปัญหาของราษฎรกลับมาครุ่นคิดดุจดั่งเป็นปัญหาของพระองค์เอง...

 อ่านต่อ : หยาดเหงื่อของพระราชา


http://www.tcdc.or.th/creativethailand/article/EditorNote/26553



“ การพัฒนาชนบทเป็นเรื่องใหญ่และสำคัญ เพราะประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศคือชาวชนบท ต้องพิจารณาปัญหาในส่วนรวมก่อน ทำเมื่อไร ตอบว่า ทำเดี๋ยวนี้ ทำที่ไหน ตอบว่าอยู่ในชื่อของพัฒนาชนบทแล้ว ทำทำไม ตอบว่าทำเพื่อมนุษยธรรม เมตตาต่อเพื่อนร่วมชาติ เพื่อความอยู่รอดของประเทศชาติ เพื่อความปลอดภัยและความก้าวหน้าของบ้านเมือง ทำอย่างไร ตอบว่าเรื่องนี้มีปัญหามาก การให้ความต้องการพื้นฐานอย่างถนนหรือชลประทานเป็นเบื้องต้น แต่ความเจริญอื่นๆ ไม่ได้ตามเข้าไปทันทีย่อมเกิดผลร้ายได้ ต้องจัดการให้ความเจริญทุกสิ่งทุกอย่างเข้าไปพร้อมกัน...”

พระราชดำรัสที่พระองค์พระราชทานแก่คณะผู้บริหารเร่งรัดพัฒนาชนบท ระดับผู้ว่าราชการจังหวัด ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน เมื่อวันศุกร์ที่ ๑๓ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๑๒

 อ่านต่อ : จากแนวพระราชดำริ “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” สู่บทเรียนเพื่อการสืบสานพระราชปณิธาน

http://goo.gl/zL3zXI

บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #5844 เมื่อ: ธันวาคม 10, 2016, 10:30:09 PM »





“ร.10″ เสด็จกระบี่ แถวเฝ้ารับ 16 กม. ”ทรงพระเจริญ” กึกก้อง ปลาบปลื้มชื่นชมพระบารมี
 9 ธ.ค.59
“ร.10″เสด็จกระบี่ แถวเฝ้ารับ16กม. “ทรงพระเจริญ”กึกก้อง ทรงเปิดศาลากลางใหม่ รอตี3-ชื่นชมพระบารมี ราชสกุลร.4-ร.5เจ้าภาพ บำเพ็ญพระราชกุศลร.9 กทม.ปลูกทองอุไรถวาย
“ร.10″ทรงพระเจริญกึกก้องกระบี่
เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จพระราชดำเนิน โดยเครื่องบินพระที่นั่ง จากท่าอากาศยานทหารดอนเมืองถึงท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ ต.เหนือคลอง อ.เหนือคลอง โดยมีนายพินิจ บุญเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายชัยรัตน์ ชัมพล ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดกระบี่ พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พล.ร.ต.วรงกรณ์ โอสถานนท์ ผู้บัญชาการฐานทัพเรือพังงา กองทัพเรือภาค 3 เฝ้าฯรับเสด็จ

จากนั้นประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จฯออกจากท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ ไปยังศูนย์รวมราชการศาลากลางจังหวัดกระบี่ ต.ปากน้ำ อ.เมืองกระบี่ ระยะทาง 16 กิโลเมตร ตลอดเส้นทางมีพสกนิการกว่า 30,000 คน เฝ้าฯรอรับเสด็จ พร้อมโบกธงชาติ และเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้อง จากนั้นขบวนรถยนต์พระที่นั่งเสด็จฯถึงศาลหลักเมืองจังหวัดกระบี่ นายสมควร ขันเงิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายกีรติศักดิ์ ภูเก้าล้วน นายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ เฝ้าฯรับเสด็จ เข้าสู่ศาลหลักเมือง ทรงวางพวงมาลา จุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายสักการะศาลหลักเมืองจังหวัดกระบี่
ทรงลงนามาภิไธยในสมุดเยี่ยม

จากนั้นเสด็จออกจากศาลหลักเมือง ไปยังที่ตั้งราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว วงดุริยางศ์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายนอบ คงพูน รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พร้อมข้าราชการ ประชาชน เฝ้าฯรับเสด็จ ทรงวางพานพุ่ม ทรงจุดเทียนเครื่องทองน้อยถวายสักการะราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

 จากนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จฯไปยังพลับพลาพิธี ทรงจุดธูปเทียน เครื่องสักการะบูชาพระพุทธนวราชบพิตร ประทับพระราชอาสน์ ทรงศีล ประธานสงฆ์ถวายศีล จบ มีข้าราชการ ประชาชน เฝ้าฯรอรับเสด็จกว่า 5,000 คน

ต่อมานายพินิจ บุญเลิศ ผู้ว่าฯกระบี่ กราบบังคมทูลรายงานความเป็นมาการก่อสร้างอาคารศาลากลางจังหวัดกระบี่หลังใหม่ ก่อนนายสมควร ขันเงิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กราบบังคมทูลเบิกตัวผู้มีอุปการคุณในการก่อสร้างอาคารศาลากลางจังหวัดกระบี่ หลังใหม่ 80 ราย เข้าเฝ้าฯรับพระราชทานของที่ระลึก จากนั้นนายพินิจ ขอพระราชทานพระราชานุญาตเข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯถวายแผ่นศิลา เพื่อทรงลงพระนามาภิไธย จากนั้นเสด็จออกจากพลับพลาพิธี ไปยังแท่นพิธีทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดแพรคลุมป้าย อาคารศาลากลางจังหวัดกระบี่หลังใหม่ พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา เจ้าพนักงานลั่นฆ้องชัย ประโคมสังข์ แตร ดุริยางค์ เสด็จฯเข้าสู่พลับพลาพิธี ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระสงฆ์ ประทับพระราชอาสน์ ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก

จากนั้นเสด็จพระดำเนินสู่อาคารศาลากลางจังหวัดกระบี่หลังใหม่ เสด็จขึ้นสู่ชั้น 4 โดยประทับห้องรับรอง ทรงลงพระนามาภิไธยในสมุดเยี่ยม จากนั้นเสด็จสู่ชั้น 3 ทรงฉายพระรูปกับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่กระทรวงมหาดไทย และข้าราชการจังหวัดกระบี่ 3 คณะ จากนั้นเสด็จพระราชดำเนิน โดยรถยนต์พระที่นั่ง ออกจากศาลากลางจังหวัดกระบี่ ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ เสด็จพระราชดำเนินกลับไปยังท่าอากาศทหารดอนเมือง
ทั้งนี้ จังหวัดกระบี่ถวายของที่ระลึกเป็นเรือหัวโทงจำลอง ข้าวสังข์หยด จาก ต.คลองประสงค์ ผลไม้ และกุ้งมังกร 10 ตัว
คนกระบี่ปีติแสดงความภักดี”ร.10″

นายพินิจ บุญเลิศ ผู้ว่าฯกระบี่ กล่าวว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ที่พสกนิกรชาวกระบี่ และจังหวัดใกล้เคียงมีโอกาสเฝ้าฯรับเสด็จ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จฯมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจทรงเปิดอาคารศาลากลาง จ.กระบี่ หลังใหม่ เป็นจังหวัดแรกในรัชสมัยรัชกาลที่ 10 ชาวกระบี่โชคดีมาก เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ทรงเปิดศาลากลางจังหวัดกระบี่หลังใหม่ เท่ากับว่ามีพระมหากษัตริย์สองพระองค์ เสด็จฯมา จ.กระบี่ โดยรัชกาลที่ 10 มาปฏิบัติราชกรณียกิจแทนรัชกาลที่ 9

“ศาลากลางกระบี่หลังใหม่ เริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2551 ใช้เวลาก่อสร้าง 5 ปี แล้วเสร็จเมื่อปี 2556 งบประมาณ 113,800,000 บาท ปัจจุบันใช้เป็นที่ตั้งสำนักงานส่วนราชการ แต่ยังไม่ได้มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ นับเป็นโชคดีของชาวจังหวัดกระบี่ เพราะกำลังอยู่ในช่วงแสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ได้มีโอกาสแสดงความอาลัย และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พร้อมทั้งได้แสดงความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์องค์ใหม่ รัชกาลที่ 10 ด้วย” นายพินิจกล่าว

พสกนิกรเฝ้าฯรับเสด็จตั้งแต่ตี3
นายพินิจกล่าวว่า มีพสกนิกรทั้งใน จ.กระบี่, ตรัง, สุราษฎร์ธานี, พังงา และ จ.ภูเก็ต มารอรับเสด็จตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง ตั้งแต่ท่าอากาศยานนานาชาติจังหวัดกระบี่จนถึงศาลากลางจังหวัดกระบี่ ระยะทางประมาณ 16 กิโลเมตร โดยทางจังหวัดมีรถรับส่งประชาชนโดยไม่คิดค่าบริการ รวมทั้งวางน้ำดื่มตามจุดต่างๆ ให้ประชาชนด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีประชาชนบางส่วนเดินทางมารอรับเสด็จ ตั้งเวลาเวลา 03.00 น. พร้อมถือฉายาลักษณ์ และธงชาติไทย โดยนำเสื่อมาปูรองนั่งเพื่อชื่นชมพระบารมี

น.ส.รจนา เนื้ออ่อน อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35/1 หมู่ 3 ต.แหลมสัก อ อ่าวลึก จ.กระบี่ กล่าวว่า เดินทางมาพร้อมเพื่อนบ้านตั้งแต่ช่วงเช้า เพื่อรอเฝ้าฯรับเสด็จ รู้สึกปลื้มปีติที่ในหลวงรัชกาลที่ 10 เสด็จฯมา จ.กระบี่ เป็นจังหวัดแรก ถือเป็นบุญของชาวกระบี่

นางนันทา เอ่งฉ้วน อายุ 85 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49 หมู่ 2 ต.เหนือคลอง อ.เหนือลอง จ.กระบี่ กล่าวว่า มาตั้งแต่ช่วงเช้าเพื่อรอรับเสด็จในหลวงรัชกาลที่ 10 อายุมากแล้ว คงเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตที่มีโอกาสเฝ้าฯรับเสด็จ ถือเป็นบุญที่เกิดมาเป็นคนไทย ที่มีพระมหากษัติร์ที่ยิ่งใหญ่ทั้งรัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10
ปลาบปลื้มชื่นชมพระบารมี”ร.10″

นางอาภัสร หนูเอียด อายุ 45 ปี ชาว ต.เขาเขน อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ กล่าวว่า มารอเฝ้าฯรับเสด็จที่บริเวณลานประติมากรรมปูดำตั้งแต่ช่วงเช้า รู้สึกปลาบปลื้มอย่างหาที่สุดมิได้ที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 เสด็จฯมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ใน จ.กระบี่ เป็นจังหวัดแรก ได้มีโอกาสชื่นชมพระบารมีและแสดงความจงรักภักดีต่อพระองค์ท่าน

นางมาลี สุขเจริญ อายุ 67 ปี ชาวสุราษฎร์ ธานี กล่าวว่า เดินทางมาจาก จ.สุราษฎร์ธานีพร้อมครอบครัวตั้งแต่เช้ามืดเพื่อจับจองพื้นที่ใกล้ที่สุดกับพลับพลาพิธี ที่ประทับเพื่อชื่นชมพระบารมี พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 รู้สึกปลาบปลื้มใจอย่างหาที่สุดมิได้

นายอับดลละ กะกา อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 ซอยวังตอ ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง กล่าวว่า เดินทางมารอตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 8 ธันวาคม โดยนอนค้างที่บ้านลูกสาว จากนั้นช่วงเช้าออกมาจับจองที่นั่งเข้าไปเฝ้าฯรับเสด็จ ภายในบริเวณศาลากลางจังหวัดกระบี่ พร้อมครอบครัว 4 คน ถือเป็นบุญอย่างยิ่งที่เข้าเฝ้าฯรับเสด็จ ในหลวงรัชกาลที่ 10 ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ

http://www.matichon.co.th/news/389799

คลิป News พระเจ้าอยู่หัว ร.10 เสด็จกระบี่ พสกนิกรเฝ้ารับเสด็จ

บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #5845 เมื่อ: ธันวาคม 10, 2016, 10:32:12 PM »





พสกนิกรจำนวนมากเดินทางมาสักการะศพเบื้องหน้าโกศ ที่ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในมหาราชวัง ตั้งแต่เช้าของวันเสาร์ที่ 10 ธันวาคม 2559 ท่ามกลางสภาพอากาศร้อนอบอ้าว มีแดดจัด#nna
ภาพ ชาลินี ถิระศุภะ (Chalinee Thirasupa)
 #‎ชาลินีถิระศุภะ #‎ChalineeThirasupa #‎NationPhoto




นักเรียนลูกเสือและเนตรนารีจิตอาสาชั้น ป.3 ช่วยกันเดินคัดแยกและเก็บขยะจากประชาชน ที่นั่งรอเข้าคิวในจุดพักคอยที่เต้นท์โซนเหนือ เพื่อเข้าสักการะศพเบื้องหน้าโกศ ที่ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในมหาราชวัง #nna
ภาพ / ชาลินี ถิระศุภะ (Chalinee Thirasupa) #‎NationPhoto

บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #5846 เมื่อ: ธันวาคม 10, 2016, 10:35:08 PM »

http://www.zocialx.com/8080/
“คิดถึง”…ในหลวงร.9 กลับมาหา”คุณทองแดง”ที่ชายหาดหัวหินทุกๆคืน(รายละเอียด)
www.zocialx.com
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #5847 เมื่อ: ธันวาคม 10, 2016, 10:36:12 PM »





10 ธันวาคม วันรัฐธรรมนูญ
รัฐธรรมนูญ หมายถึง กฎหมายว่าด้วยระเบียบการปกครองประเทศ
 ตรงกับ วันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 เป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
ได้พระราชทานรัฐธรรมนูญราชอาณาจักรสยาม ฉบับถาวร เพื่อเป็นหลักในการปกครองของประเทศให้แก่ประชาชนชาวไทย
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #5848 เมื่อ: ธันวาคม 10, 2016, 10:53:00 PM »


ภาพพิมพ์บนผ้าใบ " ทรงพระเมตตาต่อไพร่ฟ้าผู้ทุกข์ยาก " วันมหา มงคล ๕ ธ.ค. ๕๕
 Cr พุทธศิลป์ร่วมสมัย
บันทึกการเข้า

finghting!!!
admin
Administrator
Jr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 248


Gold is value because it's value!


« ตอบ #5849 เมื่อ: ธันวาคม 13, 2016, 08:13:58 PM »

 Smiley  ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า

Gold Price today, Gold Trend Price Prediction, ราคาทองคํา, วิเคราะห์ทิศทางทองคํา
   

images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary ---------------------Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. For more information on Moore Research products and services click here. --- http://www.mrci.com ---------- ---------------------------------------------รูปกราฟแสดงราคาทองในอดีตปี 1974-1999 ของ Moore Research Center, Inc. แสดงฤดูกาลที่ราคาทองขึ้นสูงสุดและตําสุด เอาแบบคร่าวๆ เส้นนําตาลหรือนําเงินก็ใกล้เคียงกัน เส้นนําตาลเฉลี่ย 15 ปี เส้นนําเงินเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุดของเส้นนําตาล หรือเฉลี่ย 15 ปี ในเดือน ปลายเดือน เมษ และปลายเดือน สค ต่อต้นเดือน กย[/color] สูงสุดในเดือน กพ กับ พย / ส่วนเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุด ต้น กค กับ ปลาย สค และราคาสูงสุดในเดือน กพ และ กลางเดือน ตค ----- แค่ดูคร่าวๆ เป็นแนวทาง อย่ายึดมั่นว่าจะต้องเป็นตามนี้ ข้างล่างเป็นกราฟราคานํามัน ตามฤดูกาล จาก Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary
 บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 388 389 [390] 391 392 ... 402   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: