Forex-Currency Trading-Swiss based forex related website. Home ----- กระดานสนทนาหน้าแรก ----- Gold Chart,Silver,Copper,Oil Chart ----- gold-trend-price-prediction ----- ติดต่อเรา
หน้า: 1 ... 390 391 [392] 393 394 ... 402   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: เก็บข่าวมาฝากนะคะ  (อ่าน 256376 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 9 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #5865 เมื่อ: มกราคม 09, 2017, 08:50:27 AM »


มีจำหน่ายที่ "ร้านภูฟ้า" ทุกสาขา
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #5866 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2017, 02:16:11 PM »











พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ พร้อมด้วย ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้แทนส่วนราชการต่าง ๆ หน่วยงาน ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย สมาคม ชมรม มูลนิธิ ตลอดจนทหารผ่านศึกนอกประจำการ กรณีสงครามต่าง ๆ ร่วมวางพวงมาลา เนื่องในวันทหารผ่านศึก ประจำปี 2560 เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2560 ณ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ในราชูปถัมภ์ ในฐานะหน่วยงานที่ทำหน้าที่ดูแลให้องค์การสงเคราะห์แก่ทหารผ่านศึก ครอบครัวทหารผ่านศึก ทหารนอกประจำการและผู้ปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาความมั่นคงของชาติ ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีเพื่อสดุดีและรำลึกถึงวีรกรรมความกล้าหาญของทหารผ่านศึกผู้เสียสละเลือดเนื้อและชีวิต ปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้คงอยู่ และเป็นการเชิดชูเกียรติทหารผ่านศึกให้เป็นที่ประจักษ์แก่ประชาชนชาวไทย

 ภาพ ชาลินี ถิระศุภะ (Chalinee Thirasupa)

.
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #5867 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2017, 02:34:43 PM »

บทความเรื่องเหตุผลควรใช้รถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้อ VIRA ของคนไทย
 1. ทำให้คนไทยมียี่ห้อรถยนต์ที่ผลิตโดยคนไทยจริง อย่างน้อยก็ชาตินิยมแบบญี่ปุ่นเกาหลีจนประเทศเขาเจริญอยู่ทุกวันนี้ครับ

 2. แนวโน้มในอีกห้าปีข้างหน้ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันจากน้ำมันจะเป็น obsolete goods (สินค้าล้าสมัย)และ disruptive (ตลาดล่มสลาย) เช่นเดียวกับกล้องถ่ายรูปใช้ฟิล์มและพิมพ์ดีด เพราะชิ้นส่วนมาก ค่าเชื้อเชื้อเพลิงต่อ กม. แพงประมาณ 3-4เท่าของการใช้รถไฟฟ้า แบตเตอรี่จะพัฒนาจนมีราคาถูกลงครึ่งหนึ่งของปัจจุบันและมีอายุทนทานใช้ได้ตลอดอายุของตัวรถ

 3. .ไม่ต้องเสียเวลาจุกจิกการการซ่อมแซมและบำรุงรักษา เปรียบเสมือนการใช้เครื่อง ไฟฟ้า เช่น แอร์ พัดลม ตู้เย็น เพราะรถฟ้าใช้ มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนจึงทนทาน

 4. ลดการก่อมลพิษ ในเมืองใหญ่ๆทำให้น่าอยู่อาศัยมากขึ้น

 5. รถยนต์ไฟฟ้าจะพัฒนาอย่างรวดเร็วเชื่อมต่อกันได้เช่นเดียวกับคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์สมารตโฟน เปรียบเสมือนคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือติดล้อ
 6. การเติมพลังงานในอนาคตจะง่ายสะดวกสบาย เติมที่บ้าน ที่ห้างสรรพสินค้า ลานจอดรถ แม้กระทั่งริมถนน

 7. เป็นการสนับสนุนให้ประเทศไทยมียี่ห้อรถยนต์ของตนเอง ไม่ต้องไปเริ่มพัฒนาใหม่เรื่องเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังแบบเก่าใช้เกียร์และเพลาล้อ คือเท่ากับเริ่มพัฒนาพร้อมกับประเทศที่เจริญแล้ววิจัยและพัฒนาตามทันโดยไม่ทิ้งห่างกัน

 8. หากคนไทยไม่สนับสนุนให้รถไฟฟ้ายี่ห้อไทยเกิดเราก็จะเสียโอกาสและมีคู่แข่งเช่น มาเลเซีย เขมร(ซึ่งมียี่ห้ออังกอร์หรือนครวัดแล้ว) สิงค์โปร์ อินโดนีเซีย


บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #5868 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2017, 02:37:39 PM »

บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #5869 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2017, 02:46:30 PM »



Cr Suti Teapia

แค่วันเดียวถ้าทำไม่ได้ อยู่บ้านดีกว่า คุณไม่ต้องมาครับ....Huh? ฝากบอกต่อๆด้วยครับ
 เมื่อวานผมเข้าเวรบ่าย ต้องไปเข้าเวรที่สนามหลวง พอผมผ่านการตรวจกล้องตรวร่างกายของเจ้าหน้าที่ ตร.ทหาร เสร็จก็เดินเข้าไปในบรเวณที่ประชาชนนั่งรอเพื่อที่จะเข้าไป กราบศพในมหาราชวัง พอผมเดินเข้าไปถึงก็มีน้องเจ้าหน้าที่ ที่คุ้นๆหน้ากัน ที่คอยอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนตรงจุดนั้น เดินเข้ามาหผมทันที น้องคนหนึงพูดกับผมว่าพี่ครับ ช่วยผมหน่อยครับ ผมถามว่ามีอะไรครับ น้องบอกกับผมว่า พี่ช่วยเขียนข่าวให้ผมหน่อย ช่วยบอกประชาชนที่เดินทาง มากราบศพให้หน่อยครับ เดียวนี้มีเยอะมากไม่ค่อยให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เลย เวลาเข้าไปพูดบอกก็ไม่ฟัง ปัญหาที่เกิดในตอนนี้คือเรื่องการแต่งตัวไม่เหมาะสม ไม่เคารพกฎระเบียบ ส่วนใหญ่ปัญหาที่เกิดจะเป็น สาวทอม ส่วนจะนุ่งกางเกงมาเข้ากราบศพ ซึ่งมันผิดกฎระเบียบทางสำนักพระราชวัง เพราะเรื่องการแต่งตัวทางราชสำนักกระชับมา พอทางเราบอกให้ไปเปลี่ยนชุด ก็ไม่เปลี่ยนพูดบอกก็ไม่ฟัง ยิ่งไปกว่านั้น ผู้หญิงบางคนแต่งตัวรัดรูปโชว์อก แล้วเวลเข้าไปกราบศพข้างใน มันดูไม่เหมาะสมแต่ก็ยังมีบางคนแต่งตัวแบบนี้มาเกือบจะทุกวัน และอีกปัญหาที่เกิดในตอนนี้บางคนทำเป็นเนียน มาขอเปลี่ยนชุดดำ พอเปลี่ยนเสร็จไม่ยอมกลับไปที่เดิม มาทำเป็นเนียนมั่วเข้าไปนั่งในแถว พวกเราไม่รู้จะทำยังไงดีแล้วปวดหัวมาก...ผมรับปากน้องๆเจ้าหน้าที่เอาไว้ ผมทำตามสัญญาให้แล้วครับน้อง

 ??....ทำไมทำนิสัยแย่ๆ แบบนั้นล่ะครับ ส่วนสิ่งที่น้องๆเจ้าหน้าที่มาพูดให้ผมฟังเมื่อวานนี้ มันก็ตรงกับสิ่งที่ผมเห็นเมื่อวานนี้กับตาตัวเอง คือการแต่งตัวของ สาวทอมสามสีคน นุ่งกางเกง เจ้าหน้าที่บอกให้ไปเปลี่ยนชุดที่ทางเจ้าหน้าที่เค้าจัดเตรียมเอาให้ ก็ไม่ยอมเปลี่ยนจะเข้าไปให้ได้ แต่สุดท้ายไม่ได้เข้า ทำไมครับแค่คุณทำตามที่เจ้าหน้าที่เค้าบอกมันจะทำให้พวกคุณมีอันเป็นไปเลยรึ....อย่าให้ผมต้องถ่ายรูป การแต่งตัวผิดกฎระเบียบของพวกคุณมาลงประจานเลยครับ วันนี้ผมขอเตือนพวกคุณๆที่รักสวยรักงามโดยที่ไม่เคารพสถานที่ และไม่รู้กาละเทศะกันหน่อยเลยครับ...ขอเตื่อนเป็นตัวหนังสือก็แล้วกัน ครั้งหน้าจะลงรูปภาพประจานเป็นตัวบุคคลเลยนะ

 พวกคุณจะทำอะไร ควรเห็นใจเจ้าหน้าที่เข้าบ้างครับ เวลาเกิดปัญหาจากการทำผิดกฎระเบียบแล้วเจ้าหน้าที่เค้าปล่อยพวกคุณเข้าไป เจ้าหน้าที่ทั้งหมด เข้าก็จะถูกตำหนิว่าไม่ดูแลให้ดีปล่อยให้เข้ามาได้อย่างไร จงเข้าใจเอาไว้ด้วยครับ โตๆ กันแล้ว แต่ละคนที่สร้างปัญหาส่วนใหญ่ดูจากหน้าตาเป็นคนมีการศึกษากันทั้งนั้น...แต่ทำไมไม่มีสมองกันบ้างนะ

 ทำเพื่ออะไรครับ แค่วันเดียวพวกเราทำให้ไม่ได้เลยหรือ การที่พวกเราได้มีโอกาสเข้าไปเข้ากราบถวายสักการะ เบื้องหน้าพระโกศ ศพ ในหาราชวัง ณ.ตรงจุดนั้นถือเป็นบุญอันใหญ่หลวงของพวกเราแล้ว เราทำให้พระองค์ท่านไม่ได้เชียวหรือ ถ้าคุณคิดว่า การที่พวกคุณแต่งตัวถูกกฎระเบียบแล้ว มันทำให้พวกคุณ อึดอัด และทำให้พวกคุณสบายใจแล้วละก็ ผมว่าพวกคุณนอนอยู่บ้านดีกว่า ไม่ต้องมาให้ลำบากใจหรอกครับ

สุดประทับใจ!! "หนุ่มใหญ่ชาวต่างชาติ" คุกเข่ากราบแนบพื้นดิน ขณะทำพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลสตมว
 ติดตามข่าวสารจากทั้ง 77 จังหวัด ได้ที่ www.77jowo.com

77JOWO.COM
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #5870 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2017, 07:30:26 PM »



วันมาฆบูชา ไม่ทำชั่ว ทำแต่ความดี ทำจิตใจให้ผ่องใส


Thai PBS

10 hrs · รูปที่โพสต์ คลิป

วันเพ็ญ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ พระจันทร์เสวยมาฆฤกษ์ พระอรหันต์ผู้ได้อภิญญา ๖ จำนวน ๑,๒๕๐ รูปมาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย พระพุทธเจ้าแสดง "โอวาทปาฏิโมกข์" หลักคำสอนสำคัญของพระพุทธศาสนา ถือเป็นวันแห่งเหตุอัศจรรย์ ๔ ประการ ทำให้วันมาฆบูชาเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "วันจาตุรงคสันนิบาต" #ThaiPBS





ภาพจันทรุปราคาเงามัวเช้าวันมาฆบูชา เมื่อ 06.20 น. 11 ก.พ. 2560 ณ หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ จ.ฉะเชิงเทรา ค่ะ#จันทรุปราคา #ThaiPBS

 Cr : ขอบคุณภาพโดยคุณศุภฤกษ์ คฤหานนท์ จากสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ( สดร.)


บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #5871 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2017, 07:31:18 PM »



หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara)

1 hr · รูปที่โพสต์


ขอถวายมุทิตาสักการะแด่องค์สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อัมพร อมฺพโรมหาเถระ)
 ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐
“มาตรา 7 พระมหากษัตริย์ทรงสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชองค์หนึ่ง และให้นายกรัฐมนตรีลงนามรับสนองราชโองการ”

การตรากฎหมายคืนพระราชอำนาจในการสถาปนาพระภิกษุผู้เป็นมหาเถระ ผู้มีจริยาวัตรที่สะอาด ฉลาด สว่าง สงบ น่าเลื่อมใสศรัทธา เป็นที่ยอมรับของพระเจ้าแผ่นดินและมหาชนคนทั้งแผ่นดิน
จึงถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติตามโบราณราชประเพณีที่มีมาแต่เมื่อครั้งกรุงศรีอยุธยา
ด้วยเพราะพระมหาเถระผู้ถูกสถาปนานอกจากจะทำหน้าที่ปกครองทั่วทั้งสังฆมณฑลแล้ว ยังต้องทรงทำหน้าที่ให้คำปรึกษาในข้ออรรถธรรมและไขปัญหาทั้งทางโลกและทางธรรมที่พระเจ้าแผ่นดินทรงมีพระประสงค์จะให้ทูลถาม
เช่นนี้ผู้ที่เข้ามาดำรงตำแหน่งพระสังฆราชจึงจำต้องเป็นพระภิกษุที่หมู่บรรพชิตและคฤหัสถ์ให้ความเคารพศรัทธาย่อมรับได้โดยมิมีข้อกังขาใดๆ
จึงจักทำให้งานการถวายคำวินิจฉัยแด่พระเจ้าแผ่นดินสำเร็จประโยชน์ รวมทั้งการวินิจฉัยข้ออรรถธรรมในพระธรรมวินัยพุทธบัญญัติต่างๆ จักต้องแม่นยำเที่ยงตรง
ฉะนั้นการที่รัฐบาลนำรายชื่อสมเด็จอัมพร และมหาเถระรูปอื่นๆ นำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายต่อพระเจ้าอยู่หัว เพื่อทรงใช้พระราชวินิจฉัยเลือกสรรพระมหาเถระผู้เป็นสัตบุรุษ จึงชอบแล้วด้วยโบราณราชประเพณีและชอบด้วยพระราชอำนาจที่ทรงมี
วันนี้ประเทศไทยมีสมเด็จพระสังฆราชที่สะอาด ฉลาด สว่าง สงบ องค์ที่ ๒๐ จึงถือว่าเป็นมหามงคลอันยิ่งใหญ่ของพุทธบริษัทไทยทั่วโลก
นับว่าไม่เสียแรงที่พวกเราชาวพุทธช่วยกันต่อสู้เรียกร้องถวิลหาพระผู้เป็นสัตบุรุษ ที่งดงามเป็นที่ยอมรับได้ทั้งบรรพชิตและคฤหัสถ์ พุทธบริษัท ๔ นับว่าเป็นบุญของแผ่นดินไทยยิ่งนัก
พุทธะอิสระหวังว่าปัญหาที่หมักหมมคาราคาซังเน่าเหม็น ที่มีอยู่ในสังฆมณฑลจะถูกรื้อค้นขึ้นมากำจัดให้หมดสิ้นไปด้วยพระบารมีของสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่
เช่นนี้จะถือว่าพวกเราสู้มาไม่เหนื่อยเปล่าแล้ว
พุทธะอิสระ
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #5872 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2017, 07:34:06 PM »

















cr Chanakan
วันมาฆบูชา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 "แห่ผ้าขึ้นธาตุ" วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #5873 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2017, 07:40:29 PM »

ตำรวจเปิด 217 จุดเสี่ยงทั่วกรุงเทพ อันตรายห้ามเดินคนเดียว!
วันที่ 4 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาล ดำเนินการสำรวจจุดเสี่ยงจุดล่อแหลมต่อการเกิดอาชญากรรมในพื้นที่กรุงเทพ พบว่ามีจำนวนทั้งสิ้น 217 แห่ง โดยได้ประสานให้กรุงเทพมหานครทำการปรับปรุงแก้ไขปัญหาด้วยการติดตั้งไฟฟ้า ปรับพื้นที่รกร้าง รื้อถอนอาคารร้าง รวมถึงติดตั้งกล้องวงจรปิด เพื่อป้องกันปัญหาอาชญากรรมที่อาจจะเกิดขึ้นกับประชาชน โดยพื้นที่ดังกล่าวประกอบด้วย

กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 มีจำนวน 11 แห่ง ได้แก่
1.บริเวณสะพานลอยคนข้ามถนนหลานหลวง เขตห้วยขวาง
 2.โรงแรมอวานี่เอเทเรี่ยม บางกอก เขตห้วยขวาง
 3.สถานีรถไฟสามเสนถนนเทิดดำริ เขตดุสิต
 4.ริมถนนรัชดาภิเษกตั้งแต่แยกพระราม9-แยกเทียมร่วมมิตร เขตห้วยขวาง
 5.ริมถนนรัชดาภิเษกตั้งแต่แยกพระราม9-แยกเทียมร่วมมิตรเขตดินแดง
 6.ถนนเพชรบุรีตั้งแต่แยกราชเทวี-มิตรสัมพันธ์ เขตราชเทวี
 7.ถนนราชินีหน้าสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ต่อเนื่องถนนพระอาทิตย์ ถึงบริเวณโค้งใต้สะพานพระปิ่นเกล้า เขตพระนคร
 8.ซอยวัดประชาระบือธรรมเขตดุสิต
 9.ถนนภายในซอยหอการค้าถนนประชาสงเคราะห์ เขตดินแดง
 10.ถนนประชาราษฎร์สาย 1 หน้าร้านอาหารบ้านสเต็กเขตบางซื่อ
 11.ถนนประชาราษฎร์สาย 1 บริเวณหน้าร้านข้าวต้มรุ่งโรจน์เขตบางซื่อ
กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 มีจำนวน 39 แห่ง ได้แก่
1.ถนนประชาราษฎร์สาย 2 บริเวณจุดกลับรถใต้สะพานสูงเขตบางซื่อ
 2.ถนนในซอยสรงประภา 28 เขตดอนเมือง
 3.ริมถนนกำแพงเพชร 6 หน้าโรงเรียนทหารอากาศบำรุง
 4.ใต้สะพานลอย 5 แยกลาดพร้าวเขตจตุจักร
 5.สวนหย่อมรัชวิภาเขตจตุจักร
 6.ป้ายรถประจำทางหน้ากรมป่าไม้ เขตจตุจักร
 7.ท้ายซอยพหลโยธิน 64/1 เขตสายไหม
 8.ถนนสายไหม 17 เขตสายไหม
 9.บ้านร้างหมู่บ้านศรีธราวรรณถนนวัดเกาะ เขตสายไหม
 10.ซอยเพิ่มสิน 64 ถนนเพิ่มสิน เขตสายไหม
 11.ซอยสายไหม 60 ถนนสายไหม เขตสายไหม
 12.ถนนสุขาภิบาล 5 แยก 77 ถนนสุขาภิบาล 5 เขตสายไหม
 13.ใต้ทางด่วนหมู่บ้านจิรทิพย์ถนนสุขาภิบาล 5 เขตสายไหม
 14.ซอยวัชรพลซอย 4 ถนนวัชรพล เขตสายไหม
 15.ทางเท้าหน้าสวนลุมไนท์บาซาถนนลาดพร้าวขาเช้า เขตจตุจักร
 16.ปากซอยและภายในซอยลาดพร้าว 20 เขตจตุจักร
 17.ริมถนนลาดพร้าวหน้าสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินพหลโยธินเขตจตุจักร
 18.สำนักงานเขตสายไหม
 จุดที่19.-27. ทางสำนักงานเขตหลักสี่ กำลังติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่าง
 จุดที่ 28-30 เป็นจุดเสี่ยงในพื้นที่สน.โคกคราม อยู่ระหว่างปรับปรุงพื้นที่
 31.ชุมชนรัชดาเขตจตุจักร
 32.ซอยประชาชื่น 37 เขตบางซื่อ
 33.ป้ายรถประจำทางหน้าธนาคารทหารไทยสำนักงานใหญ่ เขตจตุจักร
 34.หน้าโรงเรียนการบินพลเรือนถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร
 35.ป้ายรถประจำทางซอยวิภาวดี 5 เขตจตุจักร
 36.ริมฟุตปาธถนนกำแพงเพชร 3 เขตจตุจักร
 37.บ้านพักรถไฟแฟลต 10 กม. ถนนวิภาวดีรังสิต เขตจตุจักร
 38.ป้ายรถประจำทางปากซอยพหลโยธิน 4 เขตพญาไท
 39.ภายในซอยอารีย์ 5 เขตพญาไท

กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 มีจำนวน 35 แห่ง ได้แก่
1.ปากซอยรามคำแหง 166 เขตมีนบุรี
 2.ซอยสุวินทวงศ์ 13 แยก 20,21 ถนนสุวินทวงศ์
 3.บริเวณร้านเซเว่นอีเลฟเว่นแยกบาแลกีแวะห์ ถนนราษฎร์อุทิศเขตมีนบุรี
 4.บริเวณแยกกีบหมูถนนเจริญพัฒนา เขตคลองสามวา
 5.บริเวณแยกพิมานมีนถนนเจริญพัฒนา เขตมีนบุรี
 6.ป้ายรถประจำทางใกล้ปั๊มน้ำมันเชลล์ถนนรามอินทรา เขตมีนบุรี
 7.ตลาดท็อป เขตหนองจอก
 8.มหาวิทยาลัยมหานครเขตหนองจอก
 9.สะพานลอยหลังวัดคลอง 1 เขตลาดกระบัง
 10.คลอง 2 เขตลาดกระบัง
 11.ซอยร่มเกล้า 15 เขตมีนบุรี
 12.ซอยร่มเกล้า 19 เขตมีนบุรี
 13.ซอยเคหะร่มเกล้า 64 เขตลาดกระบัง
 14.จุดกลับรถใต้สะพานต่างระดับฉลองกรุงเขตลาดกระบัง
 15.ท้ายซอยฉลองกรุงรีสอร์ท เขตลาดกระบัง
 16.จุดกลับรถใต้สะพานฉลองกรุง 3 เขตลาดกระบัง และ
 จุดที่ 17- 31 ทางเขตหนองจอกอยู่ระหว่างเร่งติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่าง
 ส่วนจุดที่ 32.คือบริเวณซอยนำโชคถนนประชาสำราญ

กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 มีจำนวน 19 แห่ง ได้แก่
1.ใต้ทางด่วนศรีรัชสำนักงานเขตสวนหลวง
 2.บริเวณสะพานปูนเลียบคลองแสนแสบท้ายซอยลาดพร้าว 130-140 เขตบางกะปิ
 3.ซอยนวมินทร์ 51 เขตบางกะปิ
 4.ซอยนวมินทร์ 51 ถนนนวิทนทร์(แยกที่ดิน) เขตบางกะปิ
 5.ซอยลาดพร้าว 101 เขตบางกะปิ
 6.บริเวณซอยแยกลาดพร้าว 122 เขตวังทองหลาง
 7.ซอยนาคนิวาส 48 เขตลาดพร้าว
 8.ซอยสุคนธสวัสดิ์ 1 เขตลาดพร้าว
 9.ซอยนาคนิวาส 1,3,5 เขตลาดพร้าว
 10.ซอยสังคมสงเคราะห์ 24 เขตลาดพร้าว
 11.ร้านเซเว่นสาขาปตท.ถนนเกษตร-นวมินทร์ เขตลาดพร้าว
 12.สวนสาธารณะหมู่บ้านอยู่เจริญ 11 ซอยลาดพร้าววังหิน 22 เขตลาดพร้าว
 13.ซอยนวมินทร์ 70 แยก 1 ถนนนวมินทร์ออกซอยประเสริฐมนูญกิจ 45 เขตบึงกุ่ม
 14.ทางเข้าหมู่บ้านกรุงเทพเสริมมิตรซอยประเสิรฐมนูญกิจ 46 เขตบึงกุ่ม
 15.ซอยนวมินทร์ 68 เขตบึงกุ่ม
 16.ป้ายรถประจำทางหน้าบริษัทสยามอินเตอร์การประมูลใกล้แยกมิสทีน ถนนรามคำแหงขาเข้าเขตสะพานสูง
 17.ซอยอ่อนนุช 66 แยก 19-16 เขตสวนหลวง
 18.ซอยกรุงเทพกรีฑา 20 แยก 3 เขตสะพานสูง
 19.ซอยเฉิมพระเกียรติ 62 ตัดคู่ขนานวงแหวนกาญจนาภิเษก เขตประเวศ
กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 มีจำนวน 37 แห่ง ได้แก่
1.ริมทางใต้ทางด่วน(ไอด้า) ติดสนามกีฬาฟุตบอลทางเข้าคู่ขนาน เขตบางคอแหลม
 2.หน้าสวนหย่อมใต้ด่วนอยู่ดีถนนเจริญราษฎร์ 5 เขตสาทร
 3.ริมถนนพระราม 3 ฝั่งมุ่งหน้าขาออกกทม.(หน้าโรงปูนซีเมนต์ตราช้าง) เขตบางคอแหลม
 4.สวนสาธารณะเชิงสะพานกรุงเทพเขตบางคอแหลม
 5.ซอยเจริญกรุง 89 เขตบางคอแหลม
 6.ซอยสุดประเสริฐ 2/2 เขตบางคอแหลม
 7.ทางลัดจากคู่ขนานเข้าปลายซอยราษฎร์อุทิศ 1 เขตบางคอแหลม
 8.สุดซอยตระกูลโต๋วถนนจันทน์ 43 แยก18 เขตบางคอแหลม
 9.ในซอยเจริญกรุง 93 ถนนเจริญกรุง เขตบางคอแหลม
 10.ในซอยวัดบางโคล่นอกถนนพระราม 3 เขตบางคอแหลม
 11.ซอยสาธุประดิษฐ์ 6 และซอยสาธุประดิษฐ์ 12 ซอยสาธุประดิษฐ์ 28 เขตสาทร
 12.บริเวณฟุตบาทปากซอยนราธิวาส 22-24
 13.สวนหย่อมแยกถนนยานนาวาตัดสาธุฯ
 14.ป้ายหยุดรถประจำทางถนนพระราม 3 ซอย 47
 15.สวนหย่อมแยกถนนยานนาวาตัดถนนพระราม 3
 16.ป้ายหยุดรถประจำทางบีอาร์ทีวัดดอกไม้ เขตสาทร
 17.ซอยศาลาแดงเขตบางรัก
 18.ซอยนราธิวาสซอย 3 พิพัฒน์ 2 เขตบางรัก
 19.ถนนสาทรบริเวณหน้าร้านบ้านขนิษฐาเขตสาทร
 20.ซอยพระพินิจเขตสาทร
 21.บริเวณหมู่บ้านอาคารสงเคราะห์เขตสาทร
 22.ถนนเย็นอากาศ เขตยานนาวา
 23.ซอยสุวรรณสวัสดิ์เขตยานาวา
 24.หอนาฬิกา(พระราม3ซอย64) เขตยานนาวา
 25.ถนนราชดำริ-เพลินจิตเขตปทุมวัน
 26.ถนนวิทยุเหนือซอยนายเลิศ เขตปทุมวัน
 27.ถนนดวงพิทักษ์ เขตคลองเตย
 28.ทางลัดถนนสุขุมวิทซอย 3 ออกซอย19 เขตวัฒนา
 29.หน้าร้านข้าวมันไก่ 888 พัฒนาการเขตสวนหลวง
 30.ใต้สะพานข้ามแยกคลองตันฝั่งเพชรบุรี เขตสวนหลวง
 31.หน้าสวนชูวิทย์เขตคลองเตย
 32.ใต้สะพานข้ามคลองแสนแสบฝั่งสุขุมวิท 71 เขตวัฒนา
 33.ใต้ด่วนมีสุวรรณ 3 เขตวัฒนา
 34.ป้ายรถประจำทางตรงข้ามเดอะเนชั่น เขตบางนา
 35.ปากซอยสรรพาวุธ 2 เขตบางนา
 36.ปากซอยแบริ่ง 13 เขตบางนา
 37.ทางเข้าชุมชนพัฒนาใหม่(ซอยคั่วพริก)เขตคลองเตย

กองบังคับการตำรวจนครบาล 6 มีจำนวน 25 แห่งได้แก่
1.ทางเข้าและปะท่าเรือราชินีเขตพระนคร
 2.แนวถนนจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์
 3.สวนหย่อมพระธีรญาณมณี เขตสัมพันธวงศ์
 4.ถนนศิริพงษ์รอบสวนรมณีนาถ เขตพระนคร
 5.ถนนอัษฎางค์ริมคลองหลอด เขตพระนคร
 6.ถนนตรีทองถึงแยก เฉลิมกรุง เขตพระนคร
 7.ถนนตรีทอง เขตพระนคร
 8.สะพานลอยคนข้ามนพวงศ์เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย
 9.สะพานลอยคนข้ามหน้าโรงเรียนวัดพลับพลาไชยเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย
 10.สะพานลอยคนข้ามหน้าโรงเรียนเทพศิรินทร์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย
 11.สะพานลอยคนข้ามหน้าโรงเรียนสายปัญญาเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย
 12.ตึกร้างตรงข้ามโรงพยาบาลหัวเฉียวเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย
 13.ซอยเปลี่ยวถนนสวนมะลิ 1 เขตเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย
 14.ลานกว้างเชิงสะพาน(ตลาดโบ๊เบ๊) เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย
 15.ใต้คอสะพานแยกนพวงศ์เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย
 16.ใต้คอสะพานแยกกษัตริย์ศึก เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย
 17.บริเวณถนนกรุงเกษมเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย
 18.บริเวณสะพานเจริญสวัสดิ์เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย
 19.บริเวณถนนทรงวาดเขตสัมพันธวงศ์
 20.พื้นที่ร้างก่อนถึงแยกทรัพย์ตัดถนนสี่พระยาระยะห่าง 10 เมตร เขตบางรัก
 21.ตึกแถว-อาคารร้างเลขที่336/15-17ตรอกฉลองกรุงถ.พระรามสี่เขตบางรัก
 22.ตึกแถว-อาคารร้างเลขที่336/15-17ตรอกฉลองกรุงถ.พระรามสี่เขตบางรัก
 23.ซอยเล็กในซอยสันติภาพเขตบางรัก
 24.ซอยสันติภาพจากคลองช่องนนทรี-ถนนทรัพย์ด้านหลังสถานทูตรัสเซียถนนทรัพย์
 25.สวนหย่อมใต้สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสินติดท่าเรือสาทร เขตสาทร
กองบังคับการตำรวจนครบาล 7 มีจำนวน 8 แห่งได้แก่
1.ตึกร้างซอยจรัญ 95/1 เขตบางพลัด
 2.ซอยจรัญ 25 เขตบางกอกน้อย
 3.ซอยจรัญ 37 เขตบางกอกน้อย
 4.ซอยจรัญ 37 แยกอำนวยผล 8 เขตบางกอกน้อย
 5.ซอยอิสรภาพ 44 เขตบางกอกน้อย
 6.ติดสวนอาหารตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน
 7.หมู่บ้านจัดสรรซอยทุ่งมังกร 9
 8.สวนหย่อมสาธารณะถนนพุทธมณฑลสาย 2 เขตทวีวัฒนา

กองบังคับการตำรวจนครบาล 8 มีจำนวน 15 แห่ง ได้แก่
1.บริเวณป้ายรถประจำทางใต้สะพานแยกตลาดพลู ถ.เทอดไทเขตธนบุรี
 2.ถนนราชพฤกษ์ตั้งแต่แยกตากสิน ถึงสถานีรถไฟฟ้าโพธิ์นิมิต
 3.ถนนกรุงธนบุรีตั้งแต่ปากซอยกรุงธนบุรี 1 ถึงแยกเจริญนครเขตธนบุรี
 4.บริเวณทางเท้าป้ายรถประจำทางหน้าคอนโดซิทรีน– สถานีรถไฟฟ้าวงเวียนใหญ่เขตคลองสาน
 5.ที่ดินรกร้างของเอกชนบริเวณปากซอยเจริญนคร 41-43 แขวงลำภูล่าง เขตคลองสาน
 6.ซอยหลังหมู่บ้านวรการซอยพระราม 2 ที่ 38 เขตจอมทอง
 7.ทางลอดใต้คลองสนามชัยเขตบางขุนเทียน
 8.สวนหย่อมหมู่บ้านวิเศษสุข ซอยประชาอุทิศ 79 เขตทุ่งครุ
 9.บริเวณหน้าตลาดน้ำคลองบางมดถนนเลียบทางด่วน เขตทุ่งครุ
 10.ป้ายรถเมล์ตรงข้ามซอยประชาอุทิศ 79 เขตทุ่งครุ
 11.ท้ายซอยประชาอุทิศ 72 ถนนเลียบด่วน เขตทุ่งครุ
 12.สะพานพระพุทธยอดฟ้า เขตคลองสาน
 13.ปลายถนนประชาธิปกเขตธนบุรี
 14.ป้ายรถประจำทางถนนสุขสวัสดิ์ซอย 3 เขตราษฎร์บูรณะ
 15.สวนหย่อมเฉลิมพระเกียรติแยกมไหสวรรย์ ถนนรัชดาเขตธนบุรี
กองบังคับการตำรวจนครบาล 9 มี จำนวน 28 แห่ง ได้แก่
1.บริเวณถนนเลียบทางด่วนจากสะพานหมู่บ้านคาซ่าพรีเมียม–โรงเรียนสวนกุหลาบธนบุรี
 2.บริเวณสถานีรถไฟการเคหะถึงซอยพระราม 2 ที่ 62
 3.อาคารทิ้งร้างลักษณะเป็นตึกแถว 4 ชั้นเลขที่ 77/620-626 ถนนพะราม 2 เขตบางขุนเทียน
 4.สวนหย่อมใต้ต่างระดับเอกชัยเขตบางบอน
 5.ป้ายรถประจำทางปากซอยเอกมัย 100 เขตบางบอน
 6.ตึกร้างถนนกัลปพฤกษ์ติดกับสนามฟุตบอลไพจิตรเขตบางบอน
 7.สะพานลอยปากซอยเพชรเกษม 42 เขตภาษีเจริญ
 8.สะพานลอยปากซอยเพชรเกษม 46 เขตภาษีเจริญ
 9.สะพานลอยปากซอยเพชรเกษม 48 เขตภาษีเจริญ
 10.สะพานลอยปากซอยเพชรเกษม 50/4 เขตภาษีเจริญ
 11.สะพานลอยปากซอยเพชรเกษม 54 เขตภาษีเจริญ
 12.ปากซอยเพชรเกษม 58 เขตภาษีเจริญ
 13.สะพานลอยปากซอยเพชรเกษม 20 เขตภาษีเจริญ
 14.สะพานลอยตลาดบ่อปลาเขตภาษีเจริญ
 15.สะพานลอยปากซอยเพชรเกษม 28 เขตภาษีเจริญ
 16.สะพานลอยหน้าปั๊มพีทีใกล้ซอย เพชรเกษม 25/3 เขตภาษีเจริญ
 17.สะพานลอยหน้ามหาวิทยาลัยสยามเขตภาษีเจริญ
 18.สะพานลอยใกล้บีทีเอส ปากทางเข้าวัดประดู่บางจากเขตภาษีเจริญ
 19.สะพานหน้าศูนย์ฟอร์ดราชพฤกษ์ เขตภาษีเจริญ
 20.สะพานลอยหน้าโรงพยาบาลสัตว์ถนนราชพฤกษ์
 21.ซอยเพชรเกษม 62/3 เขตบางแค
 22.ซอยเพชรเกษม 88/1 เขตบางแค
 23.ซอยเพชรเกษม92/4 และ 102/4 เขตบางแค
 24.หน้าวัดม่วง เขตบางแค
 25.ซอยมาเจริญ1 แยก 3 เขตหนองแขม
 26.ซอยเพชรเกษม 77 แยก1-20 และแยก 3-4 เขตหนองแขม
 27.ซอยเพชรเกษม 116 เขตหนองแขม และ
 28.ถนนชายแดนหลังหมู่บ้านแตรชัย-เสริมโชคเขตหนองแขม
ข่าวสด
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_207531

บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #5874 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 13, 2017, 12:06:40 PM »

วันเสาร์ที่ปลายซอย
 ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐
 วรธรรมคติ"ประทาน"สื่อมวลชน
วันนี้"ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ ปีวอก"ตรงกับเสาร์ที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๐
 เป็นวัน"มาฆบูชา"
 และ"พรุุ่งนี้"อาทิตย์ ที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ณ.วัดพระศรีรัตนศาสดาราม "สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร"จะเสด็จฯไปในพระราชพิธี
 สถาปนา"สมเด็จพระมหามุนีวงศ์(อัมพร อมฺพโร)"วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร
 ขึ้นเป็น"สมเด็จพระสังฆราช" องค์ที่ ๒๐ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
 นับแต่วันแรก(๗ กพ.๖๐).......
 ที่นายกฯประยุทธ์บอกนักข่าวว่า มีการโปรดสถาปนา"สมเด็จพระมหามุนีวงศ์"ขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ ๒๐
 เมื่อข่าวแพร่ออกไป ถึงหูใคร ทั้งฝ่ายสงฆ์และฝ่ายฆราวาส ใครก็ก้มกราบ"สาธุการ"
 เฉพาะช่วงชีวิตที่ผมจำได้ ในการสถาปนา"สมเด็จพระสังฆราช"องค์ก่อนๆ ในความปีติของสงฆ์-ของฆราวาส ที่เหมือนกัน
 ในครั้งนี้ เป็นเหมือนที่มีกระแส จิตสมานฉันท์ เจิดจ้า ปีติ-ตื่นตัว-เต็มตื้น กันเป็นพิเศษ
 และเมื่อวาน(๑๐ กพ.)เกิดปรากฏการณ์"บุญในบาป-บาปในบุญ"เป็นอุทาหรณ์เตือนใจ
 ผมอยากนำมาบอกเล่า เพื่อเอาไปคิด-เอาไปสำนึกกัน .........
 โดยเฉพาะกับ"สื่อมวลชน"ทุกแขนง ควรน้อมนำไปพิจารณา เพื่อพัฒนาตัวเองและองค์กร ให้เป็น"ต้นแบบงาม"ของสังคม
 ที่สังคมไทยเรา"ขาด"มากๆจากอดีต สู่ปัจจุบัน ยันอนาคต คือจิตสำนึกด้านระเบียบ-วินัย
 สะท้อนให้เห็นจากภาพ"คนไทยเข้าแถวไม่เป็น"!
 เคยคุยกันบ่อยครั้ง ถ้าประเทศไหน ผู้คนพลเมืองยังเข้าแถวไม่เป็น ไม่รู้จักคำว่า"เข้าแถว-เข้าคิว"
 ไปไหน-มาไหน-ทำอะไร ก็แย่งชิง แซงหน้า-แซงหลัง มะรุม-มะตุ้ม กูก่อน..กูก่อน ท่าเดียว
 ประเทศนั้น"ยาก...."ที่จะพัฒนาให้เจริญได้!
 เพราะนั่นหมายถึง ละเลย-ไม่ฝึกฝนให้ผู้คนในชาติมีระเบียบ-วินัย อันเป็นคุณสมบัติประชาธิปไตยพื้นฐานมนุษย์
 การพิทักษ์สิทธิ์ตัวเอง ไม่ละเมิดสิทธิ์ผู้อื่น มีความเคารพสิทธิ์ของกันและกัน นั่นคือ คุณสมบัติประชาธิปไตยพื้นฐาน
 เรื่อง"สิทธิ-หน้าที่-ความผิดชอบ"เป็นสิ่งงอกเงยและงอกงาม มาจากการฝึกฝนคนในชาติ ให้มี"ระเบียบ-วินัย"
 เมื่อมีระเบียบวินัย.........
 ผู้คนก็จะเติบโตพร้อมจิตรับผิดชอบ มีจิตสำนึกทางสังคม มีความอดทน-อดกลั้นในการทำ ในการอคอย
 สิ่งเหล่านี้ คนชาติไหน"มี-ไม่มี"สังเกตไม่ยาก
 ถ้า"เข้าแถวเป็น"แสดงว่ามี
 ถ้าแยงชิง-ชุลมุน-วุ่นวาย จะขึ้นรถ จะซื้อของ จะจ่ายบิล จะซื้อตั๋ว จะรอรับบริการ ต่างแย่งชิง แซงหน้า-แซงหลัง ไม่รู้จักใครมาก่อน-มาหลัง เข้าแถวไม่เป็น
 แสดงว่า...ไม่มี!
 เมื่อวาน"คุณออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมต.สำนักนายกฯพร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ไปที่วัดราชบพิธฯ
 นำฎีกาถวายนิมนต์"สมเด็จพระมหามุนีวงศ์"เข้ารับการสถาปนาเป็น สมเด็จพระสังฆราช วันที่ ๑๒ กพ. ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
 ภาพน่าละอาย ที่เห็นกันเป็นอาจินต์ ก็เกิดซ้ำซากขึ้นอีก แม้ในพระอุโบสถ ก็ไม่เว้น
งานใหญ่ๆทุกงาน พวกช่างภาพที่เรียกกันว่า"สื่อมวลชน"เป็นร้อย มาเป็นกองทัพ ต่างมะรุมมะตุ้ม แย่งชิงกันถ่ายรูป
 ที่วัดราชบพิธฯเมื่อวาน ก็เช่นนั้้น.......
 กองทัพช่างภาพ เหมือนงานชิงเปรต ต่างแย่งชิงกันถ่ายรูป"สมเด็จพระมหามุนีวงศ์"
 สภาพคนถ่ายที่ตะกาย-แย่งชิงกันถ่าย ก็ถูกถ่ายสภาพนั้นออกมา อย่างที่เห็นให้ทุเรศกันตามข่าวโทรทัศน์ประจำ
 สมัยก่อน มีแค่ช่างภาพหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์มีไม่กี่ช่อง และเลือกไปเฉพาะงาน การแช่งยิงก็ไม่ค่อยเท่าไหร่
 แต่ปัจจุบัน ไม่รู้ว่าช่างภาพจากไหน-ต่อไหน สื่อจริง สื่อเทียม สื่อหากิน กระสือสื่อ ต่างชาติก็มี เหมาเรียกทั้งหมดว่า"สื่อมวลชน"มากันเป็นร้อยๆ
 แย่งชิงกันถ่ายภาพ เหมือน"เปรตชิงลงนรก"ต่อหน้า"สมเด็จพระมหามุนีวงศ์"
 พระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณ เห็น...ก็ปลงธรรมสังเวช
 ช่างภาพ-นักข่าว ที่เรียกว่า"สื่อมวลชน"จึงเป็นผู้มีบุญในบาป-บาปในบุญ ได้รับฟัง"เทศนาธรรม"กัณฑ์แรก
 จากพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณ"สมเด็จพระสังฆราช"องค์ที่ ๒๐ ที่จะสถาปนาในวันพรุ่งนี้
 เพื่อสติ เพื่อน้อมนำไปปรับปรุง-แก้ไขพฤติกรรม และเพื่อเป็นกิริยาบุญร่วมกัน
 ผมขอนำ"วรธรรมคติ"กัณฑ์แรก ที่พระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณ ประทานแก่สื่อมวลชนมาให้ตรองและตรึก ดังต่อไปนี้
 "ผู้ที่มาร่วมภายในงานก็ดี นักข่าว หรือผู้สื่อข่าวก็ดี ควรเห็นใจซึ่งกันและกัน
 เพราะฉะนั้น .......
 เราต่างคนต่างรู้ ต่างคนต่างเข้าใจกันแล้ว ก็ควรที่จะประสานกัน ให้เป็นไปด้วยความงดงาม ดูดี ไม่ใช่ตุ้บตั้บๆ อย่างที่ทำกันทั่วไปอย่างทุกวันนี้ คิดว่างานนี้ ครั้งนี้ คงจะเป็นงานขั้นต้น
 ท่านทั้งหลายไม่ต้องแย่งกันจับภาพ เราจับภาพไปพร้อมๆ กัน แล้วมันจะสวยจะงาม
 แล้วสถานที่นี้ เราก็นึกดูแล้วกัน เป็นพระอุโบสถที่"พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว"ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐทรงสร้างไว้
 พวกเรารู้กันดีแล้ว........
 ต่อจากนี้ ก็ขอให้ท่านทั้งหลาย ไม่ว่าที่แห่งใดก็ตาม ก็ขอไม่ต้องยื้อแย่งกัน อาตมาจะนั่งให้ถ่ายอย่างดีๆ"
 อย่านึกว่า นี่...คือการตำหนิ
 ขอให้เข้าใจว่า"นี่คือการชี้ทางสู่ความเป็นผู้อารยะ"ถ้าพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณ"สมเด็จพระมหามุนีวงศ์"ไม่เมตตาประทานวรธรรมคตินี้แล้ว
 ก็ไม่แน่ใจว่า ในกัป-ในกัลป์ ไหน ........
 จะมีพระสงฆ์ผู้เจริญรูปไหน"ให้ธรรม"เตือนสติบรรดาช่างภาพ-นักข่าวที่ประพฤติน่าละอายเช่นนั้นเป็นอาจินต์
 ได้พัฒนาและปรับปรุงตัวเอง ให้มีระเบียบ-วินัย รู้จักกาล-รู้จักบุคคล-รู้จักสถานที่ และมีมรรยาท ให้เป็นแบบอย่างดีงามกับสังคม
 นี่แหละ ที่บุร่ำ-บุราณพูดกันว่า.........
 พระมีหน้าที่"สอนคน"
 สมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่ของเรา เห็นชัดแต่นาทีแรกเลยว่า พระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณ มุ่งเน้น"สอนคน"ให้เป็นคนดี ด้วยเมตตาธรรมเป็นที่ตั้ง
 ไม่มีการ"ประจบเอาใจ"ญาติโยม!
 อะไรผิดจนฝังลึก แค่สะกิด-สะเกา ไม่รู้สึกหรอก การจะเตือนด้วยปรารถนาดี ต้องกระตุกกันแรงๆ จึงจะได้ผล
 มาฆบูชานี้ ช่างภาพ-นักข่าว เป็นหมู่แรกได้รับการ"โปรดสัตว์"ถ้าองค์กรสื่อทั้งหลาย นำ"ปฐมวรธรรมคติ"ของสมเด็จพระสังฆราช
 จารณ์ลงแผ่นใหญ่ๆ.........
 แล้วนำไปแจกจ่าย ไปติดไว้ทุกสมาคม ทุกสำนักสื่อ ให้เห็นตำตา-ตำใจ-ตำจิตสำนึกทุกวัน
 เมื่อทะลุหนังเข้าเนื้อ-เข้าสำนึกแล้ว ไปบอกสปท.เขา
 "พรบ.สื่อ"ไม่จำเป็นแล้ว ไม่ต้องมีก็ได้!
 คุยเรื่องนี้ซะยาว มาคุยเรื่องวันนี้กันบ้าง คือวันมาฆบูชา คงไม่ต้องบอกอีกกระมัง ว่ามาฆบูชา มีความหมายถึงอะไรบ้าง เพราะบอกกันมาทุกที
 บอกอีก ก็ลืมกันอีก.........
 ก็ไม่เป็นไร เอาอย่างนี้ดีกว่า จะเกิดประโยชน์มากกว่า"แค่รู้"ว่าวันนี้มีความหมายถึงอะไร
 "สัพพะปาปัสสะ อะกะระณัง"จงละความชั่วทั้งหลาย
 "กุสะลัสสูปะสัมปะทา"ทำแต่กุศลความดี
 "สจิตตปริโยทปนัง"ชำระจิตใจให้ผ่องใสจากกิเลส
 "เอตัง พุทธานสาสนัง"พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ทรงตรัสอย่างนี้ทั้งหมด
 ครับ...นี่แหละ"โอวาทปาฏิโมกข์"
 ที่เราเรียกกันว่า"หัวใจพระพุทธศาสนา เป็นหลักคำสอนสำคัญของพระพุทธศาสนา
 พระพุทธเจ้าตรัสแก่พระอรหันต์ ๑,๒๕๐ รูป ผู้ไปประชุมกันโดยมิได้นัดหมาย ณ พระเวฬุวนาราม ในวันเพ็ญเดือน ๓ เมื่อ ๒๕๖๐ กว่าปี ที่เราเรียกกันว่าวันมาฆบูชา
 ก็คือวันนี้แหละ!
 จำแล้วทำ"ละความชั่ว-ทำความดี-ชำระจิตใจให้ผ่องใสเสมอ"
 พระพุทธเจ้าที่มีมาแล้วกี่พระองค์ แต่ละพระองค์ ตรัสสอนอย่างนี้เหมือนกันหมดทุกพระองค์
 ก็จำตรงนี้กันให้ได้นะ อย่างอื่นจำบ้าง-ลืมบ้างไม่เป็นไร แต่"ละความชั่้ว-ทำความดี-ชำระใจให้ผ่องใส"ต้องจำและทำ
 ทำแล้ว อะไรที่ไม่เคยรู้ และอยากรู้ ก็จะรู้ได้ทันที!
 ทุกปี นอกจากตามวัดแล้ว จะไปไหว้พระ-เวียนเทียนกันที่ท้องสนามหลวง ปีนี้่ เขาย้ายมาที่"สวนลุมพินี"ไม่ใกล้-ไม่ไกลจากไทยโพสต์
 มีกิจธรรมเพื่อ"ละชั่ว-ทำดี-อุ้มใจให้ใสสด"ตลอดทั้งวัน มากันวันนี้แล้ว พรุ่งนี้ วันอาทิตย์
 ไปวัดพระแก้ว.....
 ไปกราบสาธุการ"สมเด็จพระสังฆราช"องค์ที่ ๒๐ กัน.


บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #5875 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 13, 2017, 12:11:17 PM »

cvปฐมพงษ์ โพธิสิทธินันท์
อานิสงส์ของสมาธิ:
สมาธิที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนไม่เข้าใครออกใคร นักวิทยาศาสตร์หลายสถาบันออกมายืนยันว่าฝึกแล้วทำให้มีความสุข ทำงานได้ดียิ่งขึ้น กลายเป็นคนสงบและสุขุมมากยิ่งขึ้น ลดความก้าวร้าวลง ใครฝึกก็ได้ประโยชน์ ปัญญาชนในหลายๆ ประเทศของตะวันตกจึงนำสมาธิจากตะวันออกไปเผยแพร่กันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ให้เด็กได้ฝึก โตขึ้นจะได้ไม่กลายเป็นเด็กตั้งแก๊งเหลือขอข้างถนน ชีวิตจะได้ไม่สั้นก่อนวัยอันควร ผู้นำไทยมักจะเข้าข่ายวิสัยทัศน์กุด ใกล้เกลือกินด่าง มีต้นทุนดีแต่ไม่รู้จักใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด วิ่งตามชาวบ้านเขาอยู่นั่นแหละ ที่จริงควรจะให้เด็กฝึกเป็นภาคบังคับทุกระดับชั้น ทุกวันนี้ ยังมีแค่บางโรงเรียนเท่านั้นที่ให้เด็กฝึกกันเป็นกิจวัตร ที่เหลือเรียนสมาธิแบบงูๆ ปลาๆ พอโตกันขึ้นมาจึงเป็นอย่างที่เห็นกันโดยมากนั่นแหละครับ
 ภาพที่เห็นคือเด็กอาฟริกา พองานวิจัยออกมาว่าการฝึกสมาธิดี ปัญญาชนอาฟริกาก็ไม่รอช้าเหมือนปัญญาชนไทยหรอกครับ แต่ไหนแต่ไรมา คนดูแลกระทรวงศึกษาธิการเป็นโค้วต้าการเมือง คนของใครสำคัญกว่ารู้อะไรมา ไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องการพัฒนาเด็กดีนักหรอกครับก็เป็นรัฐมนตรีกันได้
 ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐
 (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)
 *หมายเหตุ: ๑.ถ้าจะแชร์ ไม่ต้องขออนุญาตแต่โปรดอ้างที่มาให้ชัดเจน ๒.หากจะวิจารณ์โปรดใช้คำสุภาพ สองข้อนี้สำคัญเพื่อป้องกันมิให้ผิดพรบ.คอมพิวเตอร์ โปรดสะกดใช้คำให้ถูกต้องตามหลักภาษาไทยด้วย ข้อความวิจารณ์ที่หยาบและสะกดผิด จะลบออกทุกครั้งที่เห็น ในกรณีที่วิจารณ์ไม่เข้าเรื่องหรือหยาบเกินไปบ่อยๆ ผมอาจจะบล็อคไม่ให้วิจารณ์อีกนะครับ





ประธานาธิบดีอัสสาดของซีเรียยืนยันว่าในคาราวานผู้อพยพมีกลุ่มก่อการร้ายแฝงอยู่:
คนอเมริกันจำนวนมากที่ไม่โง่คงหูตาสว่างมากขึ้น เมื่อประธานาธิบดีอัสสาด ของซีเรียออกกล่าวยืนยันทางสื่อว่าในกองคาราวานผู้อพยพมุสลิมไปตามประเทศต่างๆ นั้น มีกลุ่มก่อการร้ายแฝงไปร่วมอยู่ด้วย
เพราะขืนสู้ต่อไปในซีเรียก็ไม่มีทางชนะแล้ว จึงจำเป็นต้องไปแสวงหาชีวิตใหม่ในต่างแดน ด้วยเหตุนี้แหละครับ นำผู้อพยพเข้ากระเทศจึงเหมือนเอาอาชญากรมาไว้กับตัว เห็นหรือยังครับว่าเหตุใด คนอพยพถึงก่อคดีข่มขืน ปล้นสดมภ์ชาวบ้านเขาบ่อยๆ หรือยั่วยุให้เกิดความแตกแยกอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าคนพวกนี้จะอพยพไปอยู่ที่ไหนก็ตาม สรุปสั้นๆ ว่า *อย่าโลกสวย* ครับ
 ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐
 *หมายเหตุ: ๑.ถ้าจะแชร์ ไม่ต้องขออนุญาตแต่โปรดอ้างที่มาให้ชัดเจน ๒.หากจะวิจารณ์โปรดใช้คำสุภาพ สองข้อนี้สำคัญเพื่อป้องกันมิให้ผิดพรบ.คอมพิวเตอร์ โปรดสะกดใช้คำให้ถูกต้องตามหลักภาษาไทยด้วย ข้อความวิจารณ์ที่หยาบและสะกดผิด จะลบออกทุกครั้งที่เห็น ในกรณีที่วิจารณ์ไม่เข้าเรื่องหรือหยาบเกินไปบ่อยๆ ผมอาจจะบล็อคไม่ให้วิจารณ์อีกนะครับ
https://www.youtube.com/watch?v=HQ0xeLLX11s
===

กรรมกำลังไล่ตามจอร์จ โซรอส:
มีข่าว ๒ ข่าวครับ ๑.ประชาชนกำลังล่ารายชื่อให้ครบ ๑ แสนคนเพื่อเสนอทำเนียบขาวให้จับกุมจอร์จ โซรอสเนื่องจากทำให้บ้านเมืองเกิดความไม่มั่นคง ๒.ประชาชนแคนาดากำลังกดดันให้รัฐบาลแคนาดาประกาศว่าจอร์จ โซรอสเป็นบุคคลไม่พึงปรารถนาให้เข้าประเทศ เพราะเปรตตนนี้ไปถึงประเทศไหน ประเทศนั้น จะมี NGOs ทำงานล้มรัฐบาล อ้างว่าเพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย แต่แอบแฝงผลประโยชน์ทางการเมืองโดยตลอด เมืองไทยก็ส่องๆ กันดูบ้างนะครับ ควรรวบรวมให้ละเอียดว่าองค์กรไหนบ้างที่ได้ทุนสนับสนุนจากมูลนิธิสังคมเปิดของเขา แฉให้ประชาชนได้ทราบได้ยิ่งดี จะได้ช่วยกันจับตาดู
 ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐
 *หมายเหตุ: ๑.ถ้าจะแชร์ ไม่ต้องขออนุญาตแต่โปรดอ้างที่มาให้ชัดเจน ๒.หากจะวิจารณ์โปรดใช้คำสุภาพ สองข้อนี้สำคัญเพื่อป้องกันมิให้ผิดพรบ.คอมพิวเตอร์ โปรดสะกดใช้คำให้ถูกต้องตามหลักภาษาไทยด้วย ข้อความวิจารณ์ที่หยาบและสะกดผิด จะลบออกทุกครั้งที่เห็น ในกรณีที่วิจารณ์ไม่เข้าเรื่องหรือหยาบเกินไปบ่อยๆ ผมอาจจะบล็อคไม่ให้วิจารณ์อีกนะครับ
http://www.neonnettle.com/…/1891-white-house-petition-to-ar…

====

หนึ่งในชาติที่สนับสนุนการก่อการร้ายตัวเอ้จริงๆ คือซาอุดิอาระเบีย:
คราวก่อน ผมเคยเล่าให้ฟังจากข่าวแล้วว่ากลุ่มวะฮาบีย์ (Wahhabism) ของซาอุฯ และกลุ่มยิวนิยม (Zionism) ของอิสราเอลคือ *ตัวปัญหาหลัก* ในตะวันออกกลาง วันนี่ รอน พอลออกมาแฉว่าซาอุฯ คือชาติที่สร้างก่อการร้ายขึ้นมาป่วนตะวันออกกลางด้วยหวังจะเป็นชาติอาหรับที่ทรงอิทธิพลที่สุดในตะวันออกกลางแทน ไม่ใช่อิหร่าน เพราะอิหร่านไม่เคยรุกรานชาติไหนๆ เลย ยกเว้นจะส่งนักรบเฮสบอเลาะห์ไปช่วยปราบโจรผู้ร้ายที่โน่นที่นี่ เช่น ในซีเรีย อิรักและเยเมน เป็นต้น

ขณะนี้ ผู้แทนซาอุฯ เป็นหัวหน้ากรรมาธิการสิทธิมนุษยชนประจำสหประชาชาติ โดยการผลักดันของสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ เวลาอ่านข่าวว่าแอมเนสตี้ตำหนิไทยเรื่องสิทธิมนุษยชน ตอกกลับด้วยนะครับว่าอเมริกา อิสราเอลและซาอุฯ สามชาติที่เป็นพันธมิตรกันรุกรานชาติอื่น ละเมิดสิทธิมนุษยชนและฆ่าคนมากี่รายแล้ว ขอให้แอมเนสตี้หันไปด่าบ้างนะครับ ไม่เช่นนั้น ผู้คนทั่วไปเขาจะมองว่าองค์กรนี้เป็นแค่เครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อ ท่าดีทีเหลว ทำทีเป็นนักบุญแค่ภายนอกเท่านั้นเอง
 ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐
 *หมายเหตุ: ๑.ถ้าจะแชร์ ไม่ต้องขออนุญาตแต่โปรดอ้างที่มาให้ชัดเจน ๒.หากจะวิจารณ์โปรดใช้คำสุภาพ สองข้อนี้สำคัญเพื่อป้องกันมิให้ผิดพรบ.คอมพิวเตอร์ โปรดสะกดใช้คำให้ถูกต้องตามหลักภาษาไทยด้วย ข้อความวิจารณ์ที่หยาบและสะกดผิด จะลบออกทุกครั้งที่เห็น ในกรณีที่วิจารณ์ไม่เข้าเรื่องหรือหยาบเกินไปบ่อยๆ ผมอาจจะบล็อคไม่ให้วิจารณ์อีกนะครับ
http://ronpaulinstitute.org/…/trump-is-wrong-saudi-arabia-…/
====
จีนกับรัสเซียแข่งกันซื้อทองคำเก็บ:
 หลังจากประกาศให้สองธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศของตนยุติใช้เงินดอลล่าร์ หันไปใช้เงินหยวนและรูเบิ้ลแทน รัสเซียและจีนมีภารกิจที่ต้องดำเนินไปไม่หยุดยั้งเลยก็คือกว้านซื้อทองคำต่อไปเรื่อยๆ เพื่อป้องกันมิให้อเมริกาเข้ามาควบคุมราคาซื้อขายได้ เมื่อสองชาตินี้ซื้อตุนทองไว้เป็นส่วนมากแล้ว ราคาทองคำจะสูงขึ้นและค่าเงินดอลล่าร์จะลดลง ถ้าสองชาตินี้สามารถกักตุนทองคำไว้เกินครึ่งที่มีอยู่ทั้งหมดได้ อเมริกาก็ไม่สามารถทำอะไรได้ แม้จะล็อบบี้ชาติต่างๆ ที่มีทองคำมาสู้ก็ตาม
 จะจีบรัสเซีย แน่ใจหรือยังว่ารัสเซียจะเล่นด้วย? ต่อให้ร่ายคาถายังไง ปูตินก็อ่านออกหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งพ่อค้านักธุรกิจมาเป็นประธานาธิบดี ดักทางเล่ห์เหลี่ยมไม่ยากหรอกครับ
 ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐
 *หมายเหตุ: ๑.ถ้าจะแชร์ ไม่ต้องขออนุญาตแต่โปรดอ้างที่มาให้ชัดเจน ๒.หากจะวิจารณ์โปรดใช้คำสุภาพ สองข้อนี้สำคัญเพื่อป้องกันมิให้ผิดพรบ.คอมพิวเตอร์ โปรดสะกดใช้คำให้ถูกต้องตามหลักภาษาไทยด้วย ข้อความวิจารณ์ที่หยาบและสะกดผิด จะลบออกทุกครั้งที่เห็น ในกรณีที่วิจารณ์ไม่เข้าเรื่องหรือหยาบเกินไปบ่อยๆ ผมอาจจะบล็อคไม่ให้วิจารณ์อีกนะครับ
http://russia-insider.com/…/its-happening-russia-ch…/ri18875
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #5876 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2017, 08:45:06 PM »

(ภาพบน) : พ.ศ.๒๕๓๒ ในหลวง รัชกาลที ๙ ทรงถวายน้ำสรง ในพระราชพิธีสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที ๑๙ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

(ภาพล่าง) : พ.ศ.๒๕๖๐ ในหลวง รัชกาลที ๑๐ ทรงถวายน้ำสรง ในพระราชพิธีสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที ๒๐ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์




สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินพระราชพิธีสถาปนา สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

ประชาสัมพันธ์ข่าวสารทางพระพุทธศาสนา
ประมวลภาพบรรยากาศพระราชพิธีการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ลำดับพระองค์ที่ ๒๐ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ในวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในมหาราชวัง — at พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม.



































ถ่ายทอดสด สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินในการพระราชพิธีส
https://www.youtube.com/watch?v=-CvpXl5a5fY


ย้อนชมคลิปภาพ หาชมยาก!! ครั้น"ในหลวง ร.๙" ทรงสถาปนา"สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก" องค์ที่๑๙ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

http://www.tnews.co.th/contents/301174
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #5877 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2017, 08:52:06 PM »































สำนักข่าวไทย added 61 new photos to the album พระราชพิธีสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช 12/02/2560.ภาพ

12 February at 18:27 ·
รูปที่โพสต์

พระราชพิธีสถาปนา สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก องค์ที่ 20 ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในมหาราชวัง
ถ่ายทอดสด สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินในการพระราชพิธีส
นายกฯ นำ ครม.เข้าถวายสักการะสมเด็จพระสังฆราช
สมเด็จพระสังฆราช ประทานพร (จาก NBT ช่อง ๑๑) ๑๓ ก.พ. ๒๕๖๐ - YouTube
สํานักข่าวไทย TNAMCOT




วันศุกร์ที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๐
 เวลา ๑๐.๐๐ น.
 นายออมสิน ชีวพฤกษ์
 รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายพนม ศรศิลป์
 ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และคณะผู้บริหารสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

เข้าถวายฎีกานิมนต์
 เจ้าประคุณสมเด็จพระมหามุนีวงศ์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เพื่อเข้ารับการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๒๐ในวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์นี้ ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในมหาราชวัง
ภาพ/ข่าว : สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #5878 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2017, 08:54:02 PM »

คนคิดมิเท่าลิขิตฟ้า!
 โดย สิริอัญญา
 วันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ 2560
นับตั้งแต่ปี 2535 เป็นต้นมา ได้บังเกิดขบวนการบ่อนทำลายสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และขยายตัวเติบใหญ่มาโดยลำดับ จนหลายครั้งหลายหนประชาชนทั้งหลายพากันหวาดวิตกว่าหายนะกำลังเกิดขึ้นในแผ่นดิน และก่อให้เกิดความทุกข์ใจแก่ประชาชนเป็นอันมาก
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กระบวนการบ่อนทำลายชาติและพระมหากษัตริย์ได้ซึมลึกลงไป แม้กระทั่งในการตรารัฐธรรมนูญที่ลิดรอนพระราชอำนาจ แยกประชาชนจากพระมหากษัตริย์ แยกข้าราชการและกองทัพออกจากพระมหากษัตริย์ ดังตัวอย่างที่มีบทบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ 2540, 2549, 2550, 2557 และที่ต้องแก้ไขกันอยู่ในปัจจุบันนี้ด้วย

ดังนั้นบรรดาผู้เกี่ยวข้องทั้งหลายจึงต้องสังวรตระหนักให้จงดีว่าสิ่งที่เรียกว่าขบวนล้มเจ้านั้น หาได้มีอยู่ในโซเชี่ยลมีเดียของบางกลุ่มบางพวกไม่ แต่ยังมีปรากฏร่องรอยให้เห็นอยู่ในรัฐธรรมนูญด้วย จึงต้องร่วมจิตร่วมใจกันด้วยความรู้เท่าทันและป้องกันแก้ไขเสียให้สิ้นซาก

สำหรับกระบวนการในการบ่อนทำลายศาสนานั้น ก็ได้มีการสร้างความขัดแย้งอย่างลึกซึ้งระหว่างศาสนิกของศาสนาต่าง ๆ โดยเฉพาะระหว่างคริสต์กับอิสลาม ระหว่างพุทธกับคริสต์ และระหว่างพุทธกับอิสลาม แม้กระทั่งภายในวงแห่งศาสนิกผู้นับถือศาสนาอิสลามเอง โดยก่อให้เกิดความขัดแย้งแตกแยกระหว่างสำนักคิดต่าง ๆ จนกระทั่งในบางประเทศเกิดเป็นสงครามฆ่าฟันกันเอง ซึ่งมิใช่หลักธรรมคำสอนของเอกองค์อัลเลาะห์แต่ประการใดเลย

ในเรื่องนี้กระบวนการบ่อนทำลายพระพุทธศาสนาได้เกิดขึ้นอย่างลึกซึ้งในสองกระบวนการ

กระบวนการแรก คือการจัดตั้งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แยกการบริหารดูแลกิจการทางพระพุทธศาสนาออกมาจากกิจการศาสนาอื่น และในที่สุดก็ไม่ต่างกับสภาพเด็กวัดที่ปรนนิบัติรับใช้พระที่ตนอาศัยอยู่ จนกระทั่งการบริหารกิจการพระพุทธศาสนาได้ก่อให้เกิดปัญหามากหลายขึ้นโดยเฉพาะการทำลายพระธรรมวินัย การปล่อยปละละเลยให้อลัชชีเดียรถีย์เข้ามายึดครองกลไกการบริหารกิจการพระพุทธศาสนา จนกระทั่งมีการซื้อขายตำแหน่งสมภารและเมื่อซื้อสมภารแล้วก็มีการขายทรัพย์สมบัติของวัดอย่างอเนจอนาถในหลายพื้นที่ของประเทศไทย

กระบวนการที่สอง เป็นกระบวนการแย่งยึดพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ที่แต่เดิมมานั้นพระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชและสมเด็จพระราชาคณะทั้งหลาย ทำให้การปกครองคณะสงฆ์ดำเนินมาด้วยความเรียบร้อยราบรื่น และพระสงฆ์ก็เป็นที่ตั้งแห่งความเคารพศรัทธาของประชาชนมาช้านาน

ในปี 2535 ก็มีการแก้ไขกฎหมายคณะสงฆ์ แย่งยึดพระราชอำนาจในการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชไปให้แก่มหาเถรสมาคม โดยฝ่ายการเมืองรู้เห็นเป็นใจหรือตกเป็นเครื่องมือในการเดินหมากเดินเกม จนในที่สุดฝ่ายการเมืองก็พินาศวายวอดไป

นับแต่นั้นมาก็เกิดกระบวนการแย่งชิงอำนาจสมเด็จพระสังฆราชตามมาอีก จนเกิดความขัดแย้งรุนแรงในวงการคณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชน กลายเป็นหนึ่งในความขัดแย้งหลักของบ้านเมือง

 ขบวนการนี้ก็หาได้สำเหนียกสังวรไม่ว่าแผ่นดินนี้ศักดิ์สิทธิ์ พระสยามเทวาธิราชมีจริง สิ่งชั่วร้ายจะต้องถูกกำจัดให้มลายสูญหายไป
ในที่สุด ดังนั้นในขณะที่มุ่งมั่นวางแผนลึกลับซับซ้อนลักตื่นลักหลับ เพื่อทำตามแผนการบ่อนทำลายพระพุทธศาสนา ส่งเสริมอลัชชีเดียรถีย์ยึดครองการบริหารกิจการพระพุทธศาสนาอย่างฮึกเหิมลำพอง

แม้กระนั้นก็ไม่สำเร็จ ถึงคิด ถึงวางแผน ถึงวางเครือข่าย และวางอุบายสลับซับซ้อนหลอกโน่นลวงนี่ประการใดก็ตาม ก็ไม่อาจทำให้ความศักดิ์สิทธิ์ของบ้านเมืองและความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธศาสนาจางคลายหายไปได้

ในยามที่บ้านเมืองวิกฤต อาณาประชาราษฎรตกอยู่ในความวิปโยคโศกเศร้าเป็นที่สุด เคราะห์ก็ซ้ำกรรมก็ซัดระลอกแล้วระลอกเล่า ในที่สุดความศักดิ์สิทธิ์ของบ้านเมืองก็สำแดงอานุภาพให้ปรากฏจนได้

 สภานิติบัญญัติแห่งชาติได้ริเริ่มพิจารณาแก้ไขกฎหมายคณะสงฆ์ที่ขบวนการบ่อนทำลายพระพุทธศาสนาได้ทำไว้ ด้วยการถวายคืนพระราชอำนาจให้พระมหากษัตริย์มีพระราชอำนาจในการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชดังเดิม

เสียงแซ่ซร้องสาธุการสนับสนุนกึกก้องกระหึ่มไปทั้งบ้านทั้งเมือง กึกก้องมาจากคณะสงฆ์ทุกฝ่ายและประชาชนทุกหมู่เหล่า เพราะรู้เห็นเชื่อมั่นเป็นอย่างเดียวกันว่านี่แล้วคือหนทางสายเอกสายเดียวที่จะรับดับอธิกรณ์และแก้ไขปัญหาทั้งหลายในวงการบริหารพระศาสนาได้

และแล้วกฎหมายดังกล่าวก็มีผลใช้บังคับ และนายกรัฐมนตรีก็ได้กราบบังคมทูลพระเจ้าอยู่หัวว่าตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราชว่างลงและตามกฎหมายคณะสงฆ์บัญญัติให้เป็นพระราชอำนาจที่จะทรงสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช

ดังนั้นจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 20 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ก่อให้เกิดความอิ่มอกอิ่มใจ ความเลื่อมใสศรัทธา ความสามัคคีในบริษัททั้งหลายกลับฟื้นคืนมาอีกครั้งหนึ่ง

ความคิดเป็นของคน ความสำเร็จเป็นของฟ้า แผ่นดินนี้ศักดิ์สิทธิ์ พระสยามเทวาธิราชมีจริงแท้แน่นอน.


====

บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #5879 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2017, 08:56:35 PM »

คนปลายซอย
 อังคารที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐

"มันมาด้วยองศาทำลายล้าง"
เป็นปรากฏการณ์"ศรัทธามหาปีติ"อร่ามเรืองแผ่นดิน ในรัชกาลที่ ๑๐ อย่างนั้นจริงๆ!
 ก็ใครจะไปเชื่อ...........
 เป็นหมื่นๆ ทั้งสงฆ์-ทั้งฆราวาส ด้วย"บริสุทธิจิต"หลอมเป็นดวงเดียวกัน หลั่งไหลไปแสดงมุทิตาสักการะ"สมเด็จพระอริยวงศาคตญาน"ที่วัดราชบพิธ อันใครก็ไม่คาดหมายว่า จะมากมายขนาดนี้
 ถึงขั้นเรียกว่า"ล้นทะลักวัด"!
 ทะลักจริงๆ และเชื่อว่า ๑๔-๑๕ กุมภา.อีก ๒ วัน ก็จะต้องล้นทะลัก ซึ่งเป็นล้นทะลัก ที่สร้างปีติ-ตื้นตัน ให้ผู้พบเห็น จนน้ำตาไหลไม่รู้ตัว
 ด้วยบารมีพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ เป็นอานิสงส์คุ้มประเทศโดยแท้ ได้พระผู้เป็น"เนื้อนาบุญประเสริฐ"ขึ้นเป็นประมุขพุทธจักร
 เป็นสิ่งยืนยันพุทธภาษิตที่ว่า.......
 "ธมฺโมหเว รักขติ ธรรมจารึ"พระธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม ไม่ให้ตกไปในที่ชั่ว.
 "ธมฺโม สุจิณฺโณ สุขมาวหาติ"ธรรมที่ผู้ประพฤติดีแล้ว ย่อมนำสุขมาให้.
 ถอดเป็นคำพูดไทยๆที่พูดกันเสมอว่า
 ทำดี เมื่อถึงที่สุด ย่อมมีผลดี,ทำไม่ดี เมื่อถึงที่สุด ย่อมมีผลไม่ดี,นี้ แน่แท้ จะแปรเปลี่ยนเป็นอื่นไปไม่ได้เลย!
 ผมดูโทรทัศน์เย็นวาน(๑๓ กพ.๖๐)กับญาติโยมที่เข้าไปถวายมุทิตาสักการะ
 "สมเด็จพระอริยวงศาคตญาน"ตรัสไม่กี่คำ ก็ สาธุ..สาธุ..สาธุ..พระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ จึงกล่าวด้วยพระพักตรยิ้มๆเปี่ยมเมตตาว่า
 "อย่าเพิ่งสาธุกันเร็วนัก ฟังให้จบเสียก่อนค่อยสาธุก็ได้"ประมาณนี้
 จากนั้น ก็ทรงให้ศีล-ให้พรต่อจนจบ ..........
 เป็นที่ชื่นเย็นชุ่มฉ่ำใจ"ในพรสมเด็จฯ"กันถ้วนหน้า เปล่งวาจา สาธุ..สาธุ..สาธุ..กันอีกรอบเสียงใส
 พรนี้ จะไม่สัมฤทธิ์ผล ถ้าเพียงรับไป แต่ไม่นำไปปฏิบัติ!
 ถ้านำไปปฏิบัติ .......
 ด้วยพรจากโอษฐ์สมเด็จพระสังฆราช"พระผู้เป็นอริยสงฆ์"ขอบอกว่า"ขลังนัก"
 จะเป็นดั่งเมล็ดข้าวพันธุ์ดี หว่านโปรยลงในเนื้อนาดี ถ้าเราทำตัวเป็นเนื้อนาดี"ด้วยการปฏิบัติดี"
 ข้าว คือ"พรอริยสงฆ์"ย่อมเจริญงอกงาม-งอกเงยดี ให้ผลผลิตดี สถานเดียว!
 ถ้าจำไม่ได้ว่า"สมเด็จพระอริยวงศาคตญาน"ตรัสสอนเป็นพรประเสริฐว่าอย่างไร โปรดทบทวน ดังต่อไปนี้่
 “ท่านทั้งหลายมีธรรม ความดี-ความงามประจำใจอยู่ และขอให้รักษาความดี ความงามที่มี ให้คงอยู่ตลอดไป
 ท่านทั้งหลาย เป็นอุบาสก อุบาสิกา เพราะฉะนั้น ขอให้รักษาจิตใจที่เลื่อมใสศรัทธาในพระรัตนตรัยให้คงที่ไว้
 หลักธรรมสำคัญ ๓ ข้อ ที่พระพุทธองค์ทรงสอน และขอให้ยึดถือเป็นประจำ คือ ศีล สมาธิ ปัญญา
 คือ ทำ กาย วาจา ใจ ให้เป็นปกติ นึกถึงสภาวะธรรมที่ว่างเป็นปกติ
 "มีสมาธิ"..........
 "ปัญญาก็เกิดขึ้น"ตามลำดับ
 เพราะฉะนั้น .......
 ขอให้นึกถึงหลักธรรมที่พระพุทธองค์ได้สอนเราไว้ ๓ ข้อง่ายๆ ทุกคนจะมีความสุขใจ
 อนึ่ง รัชกาลที่ ๕ ได้ทรงสร้างวัดราชบพิธฯในสมัยของพระองค์ มีธรรมภาษิตอยู่บทหนึ่ง คือ
 "สัพเพสัง สังฆะภูตานัง สามัคคี วุฑฒิสาธิกา"ความพร้อมเพรียงแห่งชนผู้อยู่ร่วมกันเป็นหมู่ ยังความเจริญวัฒนาถาวรให้สำเร็จ"
 ให้รักษาคำนี้ไว้ .........
 ความพร้อมเพรียงนำความเจริญรุ่งเรืองให้สำเร็จได้
 ขณะนี้ ประเทศเรา กำลังต้องการการพัฒนา ขอให้ท่านนึกถึงธรรมภาษิตนี้ รวมถึงศีลทั้ง ๓ ข้อ
 หวังว่า ทุกท่านจะเข้าใจ และยึดถือ"ศีล-สมาธิ-ปัญญา"
 มีความสามัคคีเท่านี้ ประเทศชาติของเราก็จะเจริญรุ่งเรือง”
 ครับ...คุยกันด้วย"แก่นธรรม"ก็สบายใจ ยิ่งนำไปปฏิบัติ ยิ่งอภิมหาสบายใจ
 แต่ถ้าคุย"เปลือกธรรม"หลวงพ่อวัดนั้น ลงเลข-เศกผ้ายันต์-เป่าน้ำมัน-พ่นน้ำมนต์ ละก็
 อาจสบายใจ แต่สบายแบบเร่าร้อน นอนรอความขลังบันดาล ลงท้าย"ตกนรก"
 เพราะด่าพระในใจ"ไม่เห็นเจ๋งเลย..จาน"?
 เอาหละ ยุติไว้แค่นี้ ..........
 มาคุยเรื่องนี้ดีกว่า เพราะผมมองว่า ในเหตุการณ์ที่ทำเหมือน"ไม่จงใจ"เมื่อค่ำวันอาทิตย์ ๑๒ กพ.๖๐
 หลังเสร็จงานพระราชพิธีสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช ที่วัดพระแก้ว
 คงทราบกันแล้ว มีหญิงคนหนึ่ง ทำเป็นป่วย"โรคจิต"กระโดดตัดหน้าขบวนเสด็จฯในระยะประชิด
 ต้องขอชม คนขับรถคันนั้น สติดีมาก มีสมองส่งการและแยกแยะสถานการณ์ สู่การตัดสินใจในนาทีฉับพลันได้เยี่ยม
 นับว่า ศักยภาพสูงคู่ควรกับหน้าที่ ซึ่งต้องบุคคลเช่นนี้เท่านั้น ที่คู่ควร
 เขาเบรกรถได้ทันท่วงที.......
 และด้วย"สติมั่้นคง"รีบขับรถต่อไปตามปกติ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพื่อไม่สร้างความกระเพื่อมให้กับสถานการณ์
 ซึ่งนั่น ผมมองว่า ไม่ใช่ความบังเอิญจาก"หญิงบกพร่องทางสติ"คนนั้น หากแต่ มันซ่อนความมะลำ-มะเลืองเป็น"เบื้องหลังฉาก"
 ชนิดที่"ระดับรัฐบาล"ควรต้องหยิบเรื่องนี้ พิจารณาด่วน!
 ก็ดีแล้ว ที่เรื่องไม่ถูกนำไปขยายเป็นข่าวใหญ่โต แต่ที่ผมนำมาคุย เพียงยกเป็น"เหตุปรารภ"สู่มุมมอง เพื่อการเตือนสติ ว่า
 "มันมาในรูปแบบใหม่"แล้ว!!!
 ที่ทั้ง"ภาครัฐ-ภาคราษฎร์"ควรต้องรู้ทัน และช่วยกันระวัง ป้องกัน อย่าให้แผนชั่วร้าย ที่มันหวังนำไปขยายผล ได้เกิดขึ้นเป็นอันขาด
 กรณีที่เกิดวันอาทิตย์ ก็อย่าไปเพ่งโทษเจ้าหน้าที่ ที่ถวายการอารักขาขบวนเสด็จฯตามรายทางเลย
 อาจตั้งคำถามได้ว่า หละหลวมกันแบบไหน จึงปล่อยให้มีคนวิ่งตัดหน้ารถขบวน ด้วยหวังสร้างเหตุ ถึงขั้นใช้ชีวิตเป็นเดิมพัน
 เพื่อใช้เป็นข้อมูลทางป้องกันคราวต่อๆไป.........
 จะพูดว่า เป็นปรากฎการณ์แรกในประวัติศาสตร์ก็ย่อมได้ การเฝ้าแหนขบวนเสด็จฯนั้น จัดระเบียบได้ และจัดอยู่แล้ว
 แต่จะห้ามประชาชนมาเฝ้าแหนตามรายทาง ทั้ง ๒ ข้างทาง ย่อมไม่ได้!
 เมื่อไม่ได้......
 จึงเป็นช่องให้ผู้หวัง"สร้างสถานการณ์"ใช้ตรงนั้น เป็น"จังหวะ-โอกาส"
 กระโดดพรวดพราด ตัดหน้ารถขบวน ด้วยอ้าง...จะถวายฎีกา!?
 เคราะห์ดี คนขับ"ประสิทธิภาพสูง"...........
 แผนที่ซ่อนเร้นของ"ใครบางคน"จึงล้มเหลว!
 การไม่เพ่งเล็งโทษผู้อารักขาตลอดเส้นทาง นั่นก็ใช่ว่า จะไม่ต้องสอบสวนทวนความ เพื่อนำข้อบกพร่องเป็นบทเรียนที่ต้อง"ไม่เกิดอย่างนี้ขึ้นได้อีก"เป็นอันขาด
 พูดกันจริงๆ คนเสียสติ หรือคนพิการจิตจริงๆ ย่อมสังเกตเห็นความแตกต่างกับคนดีๆทั่วไปได้ ในหมู่คนที่้มารอเฝ้าแหน
 แต่ที่ผ่านเข้าไปเฝ้าแหนอยู่ ๒ ข้างทางได้ เหมือนพสกนิกรทั่วไป นั่นแสดงว่า ถ้าไม่ใช่เจ้าหน้าที่หละหลวม-ละเลยจริงๆ
 แสดงว่า คนนั้น ก็เป็นคนสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ เพียงแต่"จิตแฝง"เจตนาชั่้วร้ายอยู่ภายใน
 และที่สำคัญยิ่ง..........
 ในขบวนเสด็จฯนั้น มีรถจำนวนมาก และใช้ความเร็วพิเศษ อย่าว่าแต่คนโรคจิตเลย
 คนจิตดี-สติดีทั่วไป บางทียังไม่รู้-มองไม่ทันด้วยซ้ำไปว่า รถคันไหนเป็นรถในขบวน และคันไหนเป็นรถพระที่นั่ง?
 แต่หญิงที่อ้างป่วยโรคจิต ถึงมีบัตรโรงพยาบาลก็เถอะ จะสรุปทันทีว่าเป็นคนเสียสติ ก็ยังไม่ใช่ กลับเลือกคันที่กระโดดตัดหน้าได้ถูก
 น่าคิดเอามากๆใช่ไหม!?
 ด้วยพระมหากรุณาธิคุณ ทรงมีพระเมตตาเป็นที่ตั้ง ไม่ทรงถือโทษเอาความก็ตาม
 แต่ระดับรัฐบาล ต้องนำตัวหญิงคนนี้ รวมทั้งฝ่ายอารักขาเส้นทางตรงนั้น-วัน-เวลานั้น มาตรวจสอบให้รู้ความ
 ถ้าหละหลวมอย่างนี้ กรณีเมื่อวันอาทิตย์ เปลี่ยนจากหญิงโรคจิต กระโดดตัดหน้ารถจะถวายฏีกา เป็นคนอื่้น ด้วยเจตนาอื่น
 แล้วจะทำอย่างไร?
 ใครจะรับผิดชอบ?
 ฉะนั้น ต้องตื่นตัว รับมือ"กลยุทธ์-กลวิธี"รูปแบบใหม่ ของฝ่ายที่ไม่ต้องการให้ใครอยู่เป็นสุข ถ้าเขาไม่สุข
 ด้วยอำมหิต เห็นแก่ตัว เหิมเกริม เพียงประสงค์ผล ทำได้ทุกอย่าง โดยไม่เกี่ยงรูปแบบและวิธีการ
 ตั้งแต่ระดับรัฐบาลลงมา จะประมาท หรือ มองข้ามเรื่องนี้ไม่ได้เลย!
 ทั้งหมดนี้ ไม่ได้หมายความว่า ที่ผ่านมา รัฐบาล หรือหน่วยงานผู้มีหน้าที่บกพร่อง
 ผมหมายถึงว่า..
 มันเป็นสัญญาน"รูปแบบใหม่"ของฝ่ายที่ ไม่ได้ด้วยเล่ห์ ก็เอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ ก็เอาด้วยคาถา ไม่ได้ด้วยสัมมา ก็เอาด้วยมิจฉาพาโล
 ซึ่งต้องรู้ทัน ป้องกัน สกัดกั้น กำราบปราบปราม และถอนราก ให้สำเร็จ!
 "สมเด็จพระอริยวงศาคตญาน"สมเด็จพระสังฆราช ตรัสเมื่อวานเองว่า"มีความสามัคคี ประเทศชาติของเราก็จะเจริญ"
 มันจ้อง"ขัดขวาง-ทำลาย"ตรงนี้ และสร้างเหตุ ทุกขณะจิต คนไทยด้วยชาติ-ศาสน์-กษัตริย์"ต้องรู้ทัน"และจำให้ขึ้นใจ
 แตกสามัคคีเมื่อไหร่ คนไทยไม่มีวันที่มีชีวิตรอดได้.
บันทึกการเข้า

finghting!!!
Gold Price today, Gold Trend Price Prediction, ราคาทองคํา, วิเคราะห์ทิศทางทองคํา
   

images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary ---------------------Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. For more information on Moore Research products and services click here. --- http://www.mrci.com ---------- ---------------------------------------------รูปกราฟแสดงราคาทองในอดีตปี 1974-1999 ของ Moore Research Center, Inc. แสดงฤดูกาลที่ราคาทองขึ้นสูงสุดและตําสุด เอาแบบคร่าวๆ เส้นนําตาลหรือนําเงินก็ใกล้เคียงกัน เส้นนําตาลเฉลี่ย 15 ปี เส้นนําเงินเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุดของเส้นนําตาล หรือเฉลี่ย 15 ปี ในเดือน ปลายเดือน เมษ และปลายเดือน สค ต่อต้นเดือน กย[/color] สูงสุดในเดือน กพ กับ พย / ส่วนเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุด ต้น กค กับ ปลาย สค และราคาสูงสุดในเดือน กพ และ กลางเดือน ตค ----- แค่ดูคร่าวๆ เป็นแนวทาง อย่ายึดมั่นว่าจะต้องเป็นตามนี้ ข้างล่างเป็นกราฟราคานํามัน ตามฤดูกาล จาก Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary
 บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 390 391 [392] 393 394 ... 402   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: