jainu
|
|
« ตอบ #5925 เมื่อ: เมษายน 20, 2017, 08:22:12 AM » |
|
ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: เงินดอลล์แข็ง ฉุดทองคำปิดร่วง 10.7 ดอลลาร์
ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 20 เมษายน 2560 07:32:32 น. สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (19 เม.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด เนื่องจากสถาการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีและความไม่แน่นอนด้านการเมืองก่อนการเลือกตั้งในฝรั่งเศส ยังคงเป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนต้องการถือครองทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ลดลง 10.7 ดอลลาร์ หรือ 0.83% ปิดที่ระดับ 1,283.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 11 เซนต์ หรือ 0.60% ปิดที่ 18.162 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ร่วงลง 8.3 ดอลลาร์ หรือ 0.85% ปิดที่ 970.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 4.6 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 775.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปิดตลาดปรับตัวลง เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ส่งผลให้สัญญาทองคำมีมูลค่าที่ไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนจำนวนหนึ่งยังคงต้องการถือครองทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง เนื่องจากสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลียังคงตึงเครียด และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับสถานการณ์เลือกตั้งในฝรั่งเศส
ทั้งนี้ ฝรั่งเศสจะจัดการเลือกตั้งรอบแรกในวันที่ 23 เม.ย.นี้ โดยขณะนี้ยังไม่มีโพลล์สำนักใดสามารถฟันธงว่าผู้ใดจะชนะการเลือกตั้งในรอบแรกนี้ อย่างไรก็ดี ในการเลือกตั้งรอบ 2 นั้น ผลการสำรวจพบว่า นายเอมมานูเอล มาครอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ และมีแนวคิดสายกลาง จะเป็นผู้ประสบชัยชนะในการเลือกตั้ง
ส่วนสถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลียังไม่มีแนวโน้มคลี่คลาย หลังจากนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งอยู่ในระหว่างการเยือนญี่ปุ่น ได้ออกมาประณามเกาหลีเหนือว่าเป็นประเทศที่อันตรายที่สุดและเป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพในเอเชีย พร้อมให้คำมั่นว่า สหรัฐจะตอบโต้ด้วยมาตรการทางทหารที่รุนแรงและมีประสิทธิภาพ หากประเทศพันธมิตรถูกโจมตี
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--
อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2634973
ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดร่วง 1.97 ดอลล์ วิตกสต็อกน้ำมันเบนซินพุ่ง
ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 20 เมษายน 2560 07:13:15 น. สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (19 เม.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง ซึ่งข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานพลังงานที่สูงขึ้นในสหรัฐ
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ร่วงลง 1.97 ดอลลาร์ หรือ 3.8% ปิดที่ 50.44 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 1.96 ดอลลาร์ หรือ 3.6% ปิดที่ 52.93 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจากรายงานของ EIA ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ลดลง 1 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 532.3 ล้านบาร์เรล แต่สต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล ซึ่งตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 2 ล้านบาร์เรล
ทั้งนี้ การพุ่งขึ้นอย่างเหนือความคาดหมายของสต็อกน้ำมันเบนซิน ส่งผลให้สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนพ.ค.ปรับตัวลดลง 5.2 เซนต์ หรือ 3%
รายงานสต็อกน้ำมันที่ผันผวนของ EIA ยิ่งเพิ่มความวิตกกังวลให้กับตลาด หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตลาดได้รับแรงกดดันอยู่ก่อนแล้ว จากรายงานคาดการณ์ของ EIA ซึ่งระบุว่า การผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (shale oil) ในสหรัฐ จะเพิ่มขึ้น 124,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 5.19 ล้านบาร์เรล/วัน
นักลงทุนจับตาความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันอย่างใกล้ชิด โดยล่าสุดมีรายงานว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะพบปะกับผู้ผลิตน้ำมันจากประเทศนอกกลุ่มในวันที่ 25 พ.ค. เพื่อตัดสินใจว่าจะมีการขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันจนถึงสิ้นปีนี้หรือไม่
รัฐมนตรีน้ำมันของโอเปกจะประชุมกันที่สำนักงานใหญ่ในกรุงเวียนนาในวันที่ 25 พ.ค. ขณะที่การเจรจากับประเทศนอกกลุ่มจะมีขึ้นในวันเดียวกัน โดยการที่สมาชิกโอเปก และนอกกลุ่มโอเปกจะประชุมในวันเดียวกัน บ่งชี้ว่า ประเด็นการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน จะได้ข้อยุติเร็วกว่าปีที่แล้ว ซึ่งโอเปกประชุมในวันที่ 30 พ.ย. ขณะที่การประชุมกับกลุ่มนอกโอเปกมีขึ้นหลังจากนั้นกว่า 1 สัปดาห์
ทั้งนี้ โอเปกจัดการประชุมเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยได้บรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 32.5 ล้านบาร์เรล/วัน และจากนั้นในกลางเดือนธ.ค. ผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกได้ตกลงที่จะปรับลดกำลังการผลิตลง 558,000 บาร์เรล/วัน โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค.2017 และมีกำหนดเป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนมิ.ย.ปีนี้
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--
อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2634853
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
|
« ตอบ #5926 เมื่อ: เมษายน 20, 2017, 08:23:04 AM » |
|
นายกฯอังกฤษยันไม่ออกทีวีโต้วาทีกับผู้สมัครพรรคอื่นในศึกเลือกตั้งครั้งใหม่
ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 20 เมษายน 2560 00:07:58 น. นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวว่า ตนจะไม่ออกรายการโต้วาทีกับผู้สมัครจากพรรคอื่นที่จะมีการถ่ายทอดสดทั่วประเทศ ขณะที่อังกฤษจะจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนดในวันที่ 8 มิ.ย.
"เราจะไม่ออกรายการโต้วาทีทางทีวี" นางเมย์กล่าว โดยเสริมว่า นักการเมืองควรใช้เวลาในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง โดยเข้าพบปะกับประชาชน
อย่างไรก็ดี สถานีโทรทัศน์ไอทีวียืนยันว่า ทางสถานีจะจัดรายการโต้วาทีขึ้น แม้ว่านายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมหรือไม่ก็ตาม
ส่วนผู้นำของพรรคเสรีประชาธิปไตยกล่าวว่า สถานีโทรทัศน์ควรจัดรายการโต้วาที และหากนางเมย์ไม่เข้าร่วม ก็ให้มีการตั้งเก้าอี้เปล่าเป็นตัวแทนของนางเมย์
"การที่นายกรัฐมนตรีพยายามหลบเลี่ยงการตรวจสอบ แสดงให้เห็นถึงการดูถูกประชาชน" เขากล่าว
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--
อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2634834
เทเรซา เมย์ ชี้เลือกตั้งก่อนกำหนดช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้านการเจรจาของรัฐบาล
ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 19 เมษายน 2560 18:32:38 น. นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้ออกมาปกป้องการตัดสินใจของตนเองที่เสนอให้มีการจัดเลือกตั้งก่อนกำหนดในวันที่ 8 มิ.ย. โดยระบุว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของรัฐบาลในการเจรจาถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
นายกรัฐมนตรีอังกฤษ จะยื่นข้อเสนอการจัดการเลือกตั้งในวันที่ 8 มิ.ย. ต่อสภาสามัญชน (House of Commons) เพื่อลงมติในวันนี้ โดยภายใต้กฎหมาย Fixed-Term Parliaments Act ของอังกฤษนั้น นายกรัฐมนตรีสามารถประกาศจัดการเลือกตั้งได้ หากสมาชิกรัฐสภาจำนวน 2 ใน 3 ลงมติสนับสนุน
นายกรัฐมนตรีไม่ได้สนใจกับคำวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการเสนอให้มีการลงคะแนนเสียงเป็นครั้งที่ 3 ภายในระยะเวลา 2 ปี หลังการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีในปี 2558 และการลงประชามติ Brexit ในเดือนมิ.ย. 2559
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สกาวรัฐ บัวสำลี/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--
อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2634793
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
|
« ตอบ #5927 เมื่อ: เมษายน 24, 2017, 08:33:01 AM » |
|
บอกรักประเทศไทย รู้มั๊ย ประเทศไทยมีอะไรดี
========== ความแข็งแกร่งของประเทศไทย ประเทศไทยของคนไทยทุกคน ================================= ในของสหประชาชาติเกือบสองร้อยประเทศ ที่มีรัสเซียเป็นสมาชิกองการค้าโลกรายล่าสุด ประเทศไทยมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 31 ของโลก เป็นตลาดที่มีกำลังซื้ออันดับที่ 24 ดังนั้นอียู และอเมริกาจืงกระตือรือร้นที่จะมาขอทำเขตการค้าเสรี ที่เรียกว่า Free Trade Area ประเทศไทยเป็นประเทศผู้ส่งออกอันดับที่ 28 ซื่งแสดงว่า ถ้าประเทศไทยส่งออกไม่ได้ หรือไม่ส่งออก วุ่นทั้งโลก เห็นกันมาแล้วในตอนที่บริหารงานน้ำไม่เป็น การผลิตรถยนต์ คอมพิวเตอร์ วุ่นวายไปหมดทั้งโลก เมื่อไทยเกิดวิกฤติการเงินก็ส่งผลให้ลามไปทั้งเอเซีย รัสเซีย เข้ายุโรปด้วย ไปจนถืงละตินอเมริกา ประเทศไทยเล่นได้แซ่บแค่ไหน รู้กันดี CIA แอบรวบรวมข้อมูลเงินต่างประเทศที่ไหลเข้ามาลงทุนในประเทศไทย แล้วตะลืงว่ามีถืง 200 พันล้านเหรียญ อันนี้เป็นลงทุนทำโน่นนี่จริงๆ ไม่ใช่เงินในตลาดหุ้น เป็นที่อิจฉาของประเทศใกล้เคียงมาก ------------------------------------- ที่เงินไหลเข้ามาลงทุนในไทย มีหลายสาเหตุ เช่น คนไทยหน้าตาดี คนไทยทำงานเก่ง ประเทศที่คนไม่เก่งเขาไม่ค่อยไปลงทุนด้วย เวียดนามทุ่มสุดตัวสร้างโรงกลั่นน้ำมัน ปรากฏว่ากลั่นไม่ได้เรื่อง น้ำมันที่ได้คุณภาพต่ำ ต่างจากฝีมือวิศวกรไทย นักเคมีไทย เป็นผู้กลั่นน้ำมันที่สำคัญของเอเชีย เทียบกันทั่วโลกแล้ว ประเทศไทยจัดว่าเป็นประเทศที่การลงทุนทำได้ง่ายเป็นอันดับที่ 17 ของโลก เท่่าๆแคนาดา และเยอรมัน เช่น กู้เงินได้เร็ว ก่อสร้างได้เร็ว หาคนทำงานได้เร็ว จดทะเบียนบริษัทได้เร็วมาก เป็นประเทศที่ส่งออกและนำเข้าอันดับยี่สิบของโลก ถ้าไม่เอาทองเข้ามาเยอะ และไม่จำนำข้าวมโหฬารจะเกินดุลการค้า เกินดุลบัญชีเดินสะพัดแน่นอน ในยุคที่รายได้สำคัญของประเทศเกิดจากการขายการท่องเที่ยว การศืกษา การขนส่งทางอากาศ บริการสนามบิน กำไรจากการค้ากับต่างชาติเช่นค้าชายแดน ขายที่แพลตินั่ม โบ๊เบ๊ สำเพ็ง ขายบริการท่าเรือ เดินเรือ ขนส่งสินค้าทางบก บริการการแพทย์ ขายบริการเทเลคอม บริการธนาคาร หลักทรัพย์ บริหารงานก่อสร้าง ลงทุนก่อสร้าง ขายบริการนักบิน แอร์ สปา ประเทศไทยทำได้ไม่เลว ครับ เป็นประเทศที่ทำรายได้จากอุตสาหกรรมฐานความรู้ ความชำนาญเป็นอันดับที่30 ของโลก เป็นประเทศผู้ผลิตสินค้าอุตสาหกรรมอันดับสิบเจ็ด ----------------------------------------------- ประเทศไทยผลิตสินค้าเกษตรเป็นที่ 11 แต่เนื่องจากผลิตได้มากเกินไป จืงกลายเป็นผู้ส่งออกอาหารอันดับหก แนวเดียวกับเดนมาร์ก ออสเตรเลีย นักธุรกิจไทยโดยเฉพาะผู้หญิงน่ากลัวมาก เล่นของกันทั้งนั้น มีทั้งนางกวัก เจ้าแม่กวนอิม ฮวงจุ้ย พระพิฆเณศร์ ซองดักเงิน สักยันต์ เป่าคาถาใส่ลูกค้า ไหว้เจ้าที่ ห้อยพระ ติดสินบนเทพต่างๆ ผมเคยอธิบายให้เพื่อนฝรั่งฟัง แต่ก็ไม่รอด หย่าเมียมาแต่งงานกับสาวไทย ถูกเทคโอเวอร์ไปเรียบร้อย โดนของ ประเทศนี้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาอันดับที่ 19 ของโลก ขายบริการสนามบินได้เป็นอันดับที่17 ถ้าออสซี่ไม่พักกรุงเทพ เดินทางตรงไปยุโรป สลบแน่นอน เราโชคดีที่อยู่ในประเทศที่เจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจครับ และเราจะเจริญรุ่งเรืองต่อไป ตอนสงครามโลกครั้งที่สอง จบลง รายได้คนไทยแค่ 100 เหรียญต่อคนต่อปี ตอนผมเรียนตรีมหาวิทยาลัยราว 300 เหรียญ ตอนเรียนโทราว 600 เหรียญ ---------------------------------------- เมื่อเดือนกรกฏาคม 2554 ธนาคารโลกเลื่อนประเทศไทยขื้นสู่ประเทศกลุ่มรายได้ปานกลางขั้นสูง upper middle income country เพราะเขาบอกว่ารายได้เข้าเกณท์มาตั้งแต่ปี 2551 พวกฝรั่งที่มาวิจัยบอกว่า จริงๆแล้วรายได้คนไทยสูงกว่าที่แสดงไว้เยอะ เพราะมีรายได้นอกระบบ เช่น ค้าขาย โน่นนี่อีกร่วม 50% ซื่งต่างประเทศเขาลงนับ ของเราไม่ รายได้จากที่ไม่มีโฉนดก็ไม่แสดง หลบภาษีเก่งมาก ประเทศไทยมีอัตราคนว่างงานต่ำเป็นอันดับสองของโลก แถมยังมีคนต่างชาติมาทำงานอีก 3.7 ล้านคน แสดงว่ามีงานเกินคน จะจ้างคนทำงานหนื่งคน ต้องลงทุนสองล้านบาทขื้นจืงจะมีงานหนื่งตำแหน่ง การที่เรามีการทำเขตเศรษฐกิจเสรีกับออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ จีน อินเดีย อาเซียน เกาหลี รวมประชากรร่วมสองพันล่านคน เก้าสิบเปอร์เซนต์ของสินค้าในกลุ่มอาเซียนภาษีเท่ากับศูนย์ เมกา กับยุโรปจืงต้องการเข้ามาร่วมมาก ค่าครองชีพเมืองไทยอยู่ที่อันดับ 81 ถูกกว่าพม่า อินโดเยอะ ห้าปีที่ผ่านมาแพงขื้นมาก เดิมอยู่ที่อันดับ 105 ช่วงปี 2556 ไทยถูกจัดเป็นประเทศน่าลงทุนอันดับ 8 และถ้าคนในโลกจะเกษียนอายุ ผลการสำรวจบอกว่าเมืองไทยเหมาะมากอยู่ในอันดับเก้าของโลก เพิ่มข้อมูลอีกนิด ไทยเป็นประเทศผู้ส่งออกดิสค์อันดับหนื่ง ส่งออกยางอันดับสอง น้ำตาลด้วย ส่งข้าวออกเป็นที่หก ส่งรถยนต์ไปขายอันดับที่15 เป็นแหล่งผลิตอาหารอีกนานเพราะมื่อาหารสัตว์คือปลายข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพด ปลาป่น จืงเป็นผู้ผลิตส่งออกหมู ไก่ ไข่ เป็ด ชั้นนำ ผัก ผลไม้เพียบ ต่อไปจะส่งดอกไม่ตีตลาดโลกแบบโคแวนท์ มาร์เกตของอังกฤษ ต่างชาติชอบมาอยู่เมืองไทย มาทำงานเมืองไทย ที่พักระดับดีถูกสุดในเอเชีย อาหารดี โรงพยาบาลดี อยู่ประเทศอื่นต้องมาเมืองไทย โรงเรียนอินเตอร์ชั้นนำ เที่ยวได้ทั้งคืน กินเหล้าได้ทั้งคืน มีทะเลภูเขา ป่าไม้ มีอาหารทุกชาติ ห้างใหญ่สุด เมียจะได้เดินช้อปปิ้ง รถไฟฟ้าก็มี เป็นเมืองของหนุ่มสาว บรรยากาศลั้ลลา ต้อนรับคนทุกศาสนา มีเสรีภาพในการเป็นเกย์ ทอม ดี้ เลส โรงหนังชั้นเยี่ยม ระบบคมนาคมดีกว่าจาร์กาต้า ฮานอยเยอะ ที่สำคัญคุณหาห้องน้ำสะอาดได้ทั่วไป เรื่องนี้สำคัญสุดๆสำหรับผู้หญิงทุกคน สถานทูตอเมริกามาอยู่กันตั้งสี่พัน งบค่าเช่าบ้านแค่สี่ห้าหมื่น ย้ายไปอยู่ดาร์วิน ออสเตรเลียไม่ไหวหรอก หรืออยากย้ายไปอยู่เดลลี ย่างกุ้ง ไซ่ง่อนกัน คนนิสัยดี มีกาละเทศะ ไม่วุ่นวายเหมือนคนบางชาติ ให้เกียรติคน อากาศไม่ร้อนจัด เย็นจัดเหมือนอัลไมตี้ คาร์ซัคสถาน น่าอยู่ น่าทำงาน คนแพรคติคอล ดีกว่าแอลเอเยอะ ประเทศนี้แข็งแรง เติบโต ไม่มีใครมาแบน มันพูดเพ้อเจ้อไปงั้นเอง เป็นประเทศใหญ่ แข็งแรง สำคัญต่อเศรษฐกิจโลกมาก -----------------------------------------------
Somkiat Osotsapa ๓๐ มิ.ย. ๒๕๕๗
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
|
« ตอบ #5928 เมื่อ: เมษายน 24, 2017, 04:38:41 PM » |
|
บุรุษผู้ทวงเงินคืนชาติพันล้านบาทอ้อ...ตั้งแต่เขียนเรื่องพีพีโมเดลมาเกือบ 2 ปี ยังไม่เคยมีสักครั้งที่ผมเอ่ยชื่อหัวหน้าอุทยาน ขอเอ่ยนามเขาสักครั้ง เขาชื่อ “ศรายุทธ ตันเถียร” และคนในนามสกุล “ตันเถียร” ภาคภูมิใจกับเขาผู้นี้ครับ Thon Thamrongnawasawat นี่คือเรื่องของผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งเปลี่ยนประวัติศาสตร์ของวงการอุทยานแห่งชาติเมืองไทยไปตลอดกาล #บุรุษผู้ทวงเงินคืนชาติพันล้านบาท ย้อนกลับไปในปีงบประมาณ 2558 กรมอุทยานฯ เก็บเงินรายได้ค่าธรรมเนียมจากอุทยาน 147 แห่งทั่วประเทศ ได้ทั้งหมด 896 ล้านบาท
เดือนกรกฎาคม ปีนั้น เป็นช่วงที่หัวหน้าอุทยานคนหนึ่ง ถูกย้ายมาปฏิบัติหน้าที่ในอุทยานทางทะเลที่ได้ชื่อว่าโหดหินที่สุด มีปัญหาทุกอย่างรุมเร้า ไม่มีกำลังคน มีเรือยาง 1 ลำ มีทุ่นจอดเรือ 8 ลูก มีเรือขออนุญาตในระบบเพียง 90 ลำ และเป็นอุทยานที่เก็บเงินรายได้เพียงน้อยนิด เมื่อเทียบกับจำนวนนักท่องเที่ยวมหาศาลที่เห็นอยู่ด้วยสายตา จนกลายเป็นข้อเรียกร้องจากเพื่อนธรณ์ บอกว่าถึงเวลาปฏิรูปอุทยานแห่งชาติทางทะเล ในวันนั้น ทุกคนคาดหวังกับเขาให้มาแก้ปัญหา แต่ไม่มีใครคาดฝันว่า จะมีวันนี้ หัวหน้าหนึ่งคนกับลูกน้องเพียงไม่กี่คนบนเรือยาง สามารถเก็บเงินรายได้จากอุทยานแห่งเดียว ได้มากกว่าเงินรายได้รวมของอุทยานทั้งประเทศในปี 58 1 ปี 9 เดือนของการปฏิบัติหน้าที่ สถิติใหม่เกิดขึ้น และมันจะคงอยู่ไปชั่วกาล ในช่วงเวลาค่อนศตวรรษที่มีการจัดตั้งอุทยานในเมืองไทย นี่คือหัวหน้าอุทยานคนแรกที่สามารถเก็บเงินรายได้ 978 ล้านบาท และผลจากการกระทำ ทำให้เกิดแรงกระเพื่อมไปทั่ว ตัวเลขเงินรายได้อุทยานทั่วประเทศพุ่งกระฉูด จาก 896 ล้านบาท (ปี 58) กลายเป็น 1,982 ล้านบาท (ปี 59) และ 1,053 ล้านบาท ในเวลาเพียง 5 เดือนของปี 60 (ตุลา-กุมภา) เป็นไปได้ว่า ในปีงบประมาณ 60 กรมอุทยานจะมีเงินรายได้มากกว่า 2,400 ล้านบาท ลองคิดถึงปีต่อไป ต่อๆ ไป... คำพูดปวดใจที่สุดที่คนรักธรรมชาติได้ยินได้ฟัง เมื่อเห็นป่าในเขตอุทยานถูกทำลาย ทะเลพัง ด้วยเหตุผลง่ายๆ ว่า “ไม่มีงบประมาณ” มันจะไม่มีอีกต่อไป ! เน้นย้ำ มันจะไม่มีอีกแล้ว ! เพราะด้วยเงินรายได้มหาศาล และเป็นเงินที่จัดการโดยกรมอุทยานทั้งหมด ไม่ต้องส่งเข้าคลัง หมายความว่ากรมอุทยานมีอิสระในการใช้เงินเพื่อดูแลอุทยานทุกแห่ง กรมอุทยานกลายเป็นหน่วยงานราชการด้านการอนุรักษ์ ที่มีเงินในการบริหารจัดการ มากที่สุดในประเทศไทย ! จะเป็นท่านใดมาเป็นอธิบดี จะเป็นเจ้าหน้าที่คนไหนมาเป็นหัวหน้าอุทยาน คำตอบเดิมๆ ที่ได้ยินมากว่า 50 ปี จะจบลงในวันนี้ เมื่อมีเงินแล้ว ต่อจากนี้ คือความสามารถสถานเดียว ... ย้อนกลับมาที่พีพี เงินรายได้ที่เข้ามา ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างเหลือเชื่อ จากเรือยาง 1 ลำ กลายเป็นเรือตรวจ 14 ลำ จากทุ่น 8 ทุ่น กลายเป็น 200 ทุ่น (พรุ่งนี้จะมีพิธีวางทุ่นโดยท่านอธิบดีกรมอุทยาน จำนวนมากกว่า 150 ทุ่นที่หมู่เกาะพีพี ถือเป็นการวางทุ่นครั้งใหญ่ที่สุดในอุทยานของไทย) ระบบการจัดการใหม่ที่ทำให้มีเรือเข้าระบบจาก 90 ลำ กลายเป็นกว่า 1,900 ลำ การจับกุมอย่างต่อเนื่อง ทั้งการจับสัตว์น้ำผิดกฎหมาย ผู้ประกอบการทำผิดกฎ นักท่องเที่ยวทำร้ายธรรมชาติ ฯลฯ จำนวนสถิติพุ่งจนเกือบถึง 1 พันครั้ง นั่นคือคำตอบ เงินรายได้อุทยานนำไปทำอะไร ? และไม่ใช่เพียงแค่พีพี ยังหมายถึงอุทยานจากเหนือจรดใต้ เกือบ 150 แห่งทั่วประเทศ เงินรายได้สามารถจัดสรรปันส่วนไปถ้วนทั่ว วันหนึ่งข้างหน้า หากคุณเห็นรถตรวจการณ์คันใหม่กำลังวิ่งเข้าไปตรวจป่า เห็นเจ้าหน้าที่มีหน้าตายิ้มแย้มขึ้น มีวิทยุและอุปกรณ์ใหม่ วันใดที่คุณเห็นเรือตรวจการณ์อุทยานวิ่งผ่าน วันไหนที่คุณคล้องทุ่นจอดเรืออันใหม่โดยไม่ต้องทิ้งสมอเหมือนเคย ขอให้คุณคิดถึงเดือนกรกฎาคม พ.ศ.2558 หัวหน้าอุทยานคนหนึ่ง ก้าวเท้าลงมาเหยียบเกาะพีพีเป็นครั้งแรก จากนั้นเขาเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์การอนุรักษ์ธรรมชาติของไทย กระทำในสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด แม้ในฝันยังต้องอุทาน มันเป็นไปไม่ได้ บุรุษผู้เก็บเงินรายได้ให้อุทยานเกือบพันล้านบาท เงินอันเป็น "ต้นทุน" ของการพิทักษ์สมบัติของชาติไทย ! xxxxxxx หมายเหตุ ก่อนย้าย ขอพันล้านเหอะ ผมบอกอย่างนี้ โห...อาจารย์ ผมเหนื่อยมาก ขอให้คนอื่นเข้ามาทำบ้าง เฮ้ย ตอนนี้มันก็ได้ 978 ล้านแล้ว อีกไม่เกิน 2 อาทิตย์ ยังไงก็เกินพันล้าน ตัวเลขพันล้านมันเท่ หัวหน้าคนแรกที่เก็บเงินได้พันล้าน เอาไปเบ่ง เอ๊ย เอาไปคุยอวดได้ชั่วลูกชั่วหลาน เอ้อ...ก็ต้องแล้วแต่ผู้ใหญ่จะสั่งการครับ หัวหน้าเขาบอกเช่นนี้ ผมเองก็เข้าใจ การทำ #พีพีโมเดล มันคือเรื่องโหดหินที่สุดที่คนหนึ่งจะพบเจอได้ และวันนี้เราก็ผ่านมาจนถึงเวลาที่ทุกอย่างใกล้ลงตัว หัวหน้าคนนี้เสียสละมามากมาย เกินกว่าที่เราจะเรียกร้องอะไรจากเขาได้อีก จึงอยากบอกเพื่อนธรณ์ไว้ หากเกิดการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าอุทยานพีพี ไม่ใช่เป็นเพราะเขาถอดใจ ไม่ใช่เป็นเพราะแรงกดดันอะไร เพราะตอนนี้มันจิ๊บๆ เมื่อเทียบกับที่ผ่านมา ไม่ต้องมีคนไปเอาหน้าว่าสามารถย้ายหัวหน้าได้ มันเป็นเพียงเมื่อถึงเวลา งานเลี้ยงก็ต้องเลิกรา ทุกคนย่อมมีทางชีวิตของตนเอง แต่ไม่ต้องห่วงว่า #พีพีโมเดล จะพังทลาย อันที่จริง มันเป็นการก้าวไปในขั้นต่อไป และเป็นขั้นตอนสำคัญที่สุด คนจากไป ระบบจะคงอยู่ไหม โมเดลจะยังคงเป็นต้นแบบอีกหรือไม่ ? ธรณ์ไม่ไปไหน ธรณ์จะอยู่ที่นี่ เพราะธรณ์รักพีพีเกือบเท่าหนูดาวครับ ... อ้อ...ตั้งแต่เขียนเรื่องพีพีโมเดลมาเกือบ 2 ปี ยังไม่เคยมีสักครั้งที่ผมเอ่ยชื่อหัวหน้าอุทยาน ขอเอ่ยนามเขาสักครั้ง เขาชื่อ “ศรายุทธ ตันเถียร” และคนในนามสกุล “ตันเถียร” ภาคภูมิใจกับเขาผู้นี้ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
|
jainu
|
|
« ตอบ #5930 เมื่อ: เมษายน 26, 2017, 09:34:07 AM » |
|
ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดร่วง $10.30 หลังนลท.คลายกังวลสถานการณ์ต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 เม.ย. 60)--สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (25 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในต่างประเทศ รวมถึงชัยชนะของนายเอมมานูเอล มาครอง ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรก และการที่เกาหลีเหนือไม่ได้ทดลองนิวเคลียร์เมื่อวานนี้ ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เช่นหุ้นและสกุลเงินยูโร สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 10.30 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่ระดับ 1,267.20 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 26.7 เซนต์ หรือ 1.50% ปิดที่ 17.591 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 2.6 ดอลลาร์ หรือ 0.27% ปิดที่ 957.60 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 1.20 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 796.65 ดอลลาร์/ออนซ์ นักลงทุนยังคงเดินหน้าเทขายทองคำและหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เช่นหุ้นและสกุลเงินยูโร หลังจากผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรกระบุว่า นายเอมมานูเอล มาครอง ผู้สมัครซึ่งมีแนวคิดสายกลาง มีคะแนนนำเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งได้ลดความวิตกเกี่ยวกับการที่ฝรั่งเศสอาจแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป นักลงทุนผ่อนคลายความกังวลเกี่ยวกับคาบสมุทรเกาหลี หลังกองทัพเกาหลีใต้แถลงว่า เกาหลีเหนือได้เสร็จสิ้นการเฉลิมฉลองวันครบรอบปีที่ 85 ของการก่อตั้งกองทัพประชาชนเกาหลีเมื่อวานนี้ โดยไม่มีการทดลองนิวเคลียร์ และไม่มีการยิงขีปนาวุธแต่อย่างใด ยกเว้นการยิงปืนใหญ่บริเวณเมืองวอนซาน ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของประเทศ นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 5.8% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 621,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2016 และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 0.8% สู่ระดับ 583,000 ยูนิตในเดือนมี.ค. ขณะที่ผลสำรวจของสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐ พุ่งขึ้น 5.8% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้านี้ ส่วนดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 5.9% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.7% และเป็นการพุ่งขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2014
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--
World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 26 เมษายน 2560 07:37:42 น. ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 25 เม.ย.2560
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (25 เม.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ รวมถึงแคทเธอร์พิลลาร์ และแมคโดนัลด์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ รวมทั้งความหวังที่ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ จะเปิดเผยมาตรการปรับลดภาษีในวันนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,996.12 จุด พุ่งขึ้น 232.23 จุด หรือ +1.12% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,388.61 จุด เพิ่มขึ้น 14.46 จุด หรือ +0.61% และดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,025.49 จุด เพิ่มขึ้น 41.67 จุด หรือ +0.70%
- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรก โดยนายเอมมานูเอล มาครอง ผู้สมัครซึ่งมีแนวคิดสายกลาง มีคะแนนนำเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับการที่ฝรั่งเศสอาจแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.2% ปิดที่ 386.91 จุด ซึ่งเป็นระดับสุงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2558
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,277.88 จุด เพิ่มขึ้น 9.03 จุด หรือ +0.17% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,467.04 จุด เพิ่มขึ้น 12.06 จุด หรือ +0.10% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,275.64 จุด เพิ่มขึ้น 10.96 จุด หรือ +0.15%
- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ (25 เม.ย.) ด้วยแรงหนุนจากหุ้นจดทะเบียนรายใหญ่ที่ปรับตัวขึ้นกันถ้วนหน้า อย่างไรก็ตาม แรงเทขายในหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ได้สกัดช่วงบวกของดัชนี FTSE 100 เมื่อวานนี้
ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 10.96 จุด หรือ +0.15% ปิดที่ 7,275.64 จุด - สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักบางสกุล ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (25 เม.ย.) แม้ว่าสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ที่แข็งแกร่งเกินคาดการณ์ ขณะที่ยูโรยังคงแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยแรงหนุนจากผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบแรกในฝรั่งเศส ซึ่งคลายความวิตกเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมืองในยุโรป
ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0938 จากระดับ 1.0854 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.2828 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2789 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงที่ระดับ 0.7540 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7559 ดอลลาร์
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบเยน ที่ระดับ 111.11 เยน จากระดับ 109.79 เยน แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9932 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9969 ฟรังก์สวิส
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบซึ่งรายงานโดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) นั้น จะปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบขยับขึ้นในกรอบจำกัด เนื่องจากนักลงทุนไม่มั่นใจว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะสามารถทำให้ตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบทั่วโลกปรับตัวลงได้หรือไม่
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 33 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 49.56 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 50 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 52.10 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (25 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในต่างประเทศ รวมถึงชัยชนะของนายเอมมานูเอล มาครอง ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรก และการที่เกาหลีเหนือไม่ได้ทดลองนิวเคลียร์เมื่อวานนี้ ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เช่นหุ้นและสกุลเงินยูโร
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 10.30 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่ระดับ 1,267.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 26.7 เซนต์ หรือ 1.50% ปิดที่ 17.591 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 2.6 ดอลลาร์ หรือ 0.27% ปิดที่ 957.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 1.20 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 796.65 ดอลลาร์/ออนซ์
ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 6,025.49 จุด เพิ่มขึ้น 41.67 จุด, +0.70% ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,388.61 จุด เพิ่มขึ้น 14.46 จุด, +0.61%
ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 20,996.12 จุด เพิ่มขึ้น 232.23 จุด, +1.12% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,277.88 จุด เพิ่มขึ้น 9.03 จุด, +0.17% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,467.04 จุด เพิ่มขึ้น 12.06 จุด, +0.10% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,275.64 จุด เพิ่มขึ้น 10.96 จุด, +0.15% ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 29,943.24 จุด เพิ่มขึ้น 287.40 จุด, +0.97% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,163.93 จุด, เพิ่มขึ้น 19.90 จุด, +0.63% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,765.80 จุด เพิ่มขึ้น 9.75 จุด, +0.56% ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,680.80 จุด, เพิ่มขึ้น 16.32 จุด, +0.29%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 24,455.94 จุด, เพิ่มขึ้น 316.46 จุด, +1.31% ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนามปิดวันนี้ที่ 707.58 จุด ลดลง 1.81 จุด, -0.26% ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,700.46 จุด เพิ่มขึ้น 111.58 จุด, +1.47%
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,134.57 จุด เพิ่มขึ้น 5.04 จุด, +0.16% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,196.85 จุด เพิ่มขึ้น 23.11 จุด, +1.06% ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 19,079.33 จุด เพิ่มขึ้น 203.45 จุด, +1.08%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,841.71 จุด เพิ่มขึ้น 123.76 จุด, +1.27% *ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดทำการวันที่25 เม.ย. เนื่องในวันอนุสรณ์ทหารผ่านศึก --อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--
อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2638138
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
|
« ตอบ #5931 เมื่อ: เมษายน 26, 2017, 09:35:22 AM » |
|
(เพิ่มเติม) ครม.รับทราบวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงศพ 26 ต.ค.60-ให้เป็นวันหยุดราชการ
ข่าวทั่วไป สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 25 เมษายน 2560 15:40:16 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะประธานที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.รับทราบวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูอดุลยเดช ในวันที่ 26 ต.ค.60 พร้อมทั้งมีมติให้เป็นวันหยุดราชการ ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ ขอให้รอโฆษกรัฐบาลเป็นผู้ชี้แจง
ทั้งนี้ หมายกำหนดการพระราชพิธีถวายพระเพลิงศพ กำหนดจำนวน 5 วัน ระหว่างวันที่ 25-29 ต.ค.60
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงรายละเอียดหมายกำหนดการพระราชพิธีถวายพระเพลิงศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูอดุลยเดช ในวันที่ 25-29 ต.ค.60 ว่า งานเริ่มตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค. เวลา 17.30 น. จะมีพระราชพิธีพระราชกุศลออกพระเมรุมาศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในมหาราชวัง
ส่วนงานวันที่ 26 ต.ค. เวลา 07.00 น. พระราชพิธีเชิญศพจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ไปที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร ก่อนเปลี่ยนขึ้นราชรถเชิญไปยังพระเมรุมาศ และในเวลา 17.30-22.00 น. พระราชพิธีถวายพระเพลิงศพ ณ พระเมรุมาศ
งานวันที่ 27 ต.ค. เวลา 08.00 น. พระราชพิธีเก็บอัฐิ ณ พระเมรุมาศ งานวันที่ 28 ต.ค. เวลา 17.30 น. พระราชพิธีพระราชกุศลอัฐิ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
งานวันที่ 29 ต.ค. เวลา 10.30 น. พระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลและเชิญพระโกศอัฐิขึ้นประดิษฐานพระวิมานบนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เวลา 17.30 น. พระราชพิธีบรรจุราชสรีรางคาร ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม และวัดบวรนิเวศวิหาร
พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า ในวันพฤหัสบดีที่ 26 ต.ค.60 ซึ่งเป็นวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงศพ คณะกรรมการอำนวยการพระราชพิธีถวายพระเพลิงศพ จึงกำหนดให้เป็นวันหยุดราชการ ส่วนวันที่ 25 ต.ค. และวันที่ 27 ต.ค. ที่มีพระราชพิธีฯด้วยนั้น ณ เวลานี้ยังไม่กำหนดเป็นวันหยุดราชการ ให้รอคณะกรรมการอำนวยการพระราชพิธีฯ อาจมีการพิจารณาเรื่องนี้ต่อเนื่องและจะกำหนดอย่างไรให้รอฟังอีกครั้ง
ด้านพ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.รับทราบตามที่ครม.คณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูอดุลยเดช และมีมติอนุมัติกำหนดให้วันที่ 26 ต.ค.60 เป็นวันหยุดราชการ ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) เสนอ เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในงานพระราชพิธีฯ
โดย สปน. รายงานว่า ที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูอดุลยเดช ครั้งที่ 1/2560 เมื่อวันพุธที่ 1 มีนาคม 2560 ได้พิจารณาร่างหมายกำหนดการพระราชพิธีถวายพระเพลิงศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูอดุลยเดช ตั้งแต่การพระราชกุศลออกพระเมรุมาศเชิญศพไปพระเมรุมาศ ถวายพระเพลิงศพ เก็บอัฐิ พระราชกุศลอัฐิเลี้ยงพระ เชิญพระโกศอัฐิขึ้นประดิษฐานพระวิมาน และบรรจุราชสรีรางคาร โดยกำหนดวันที่ตามหมายกำหนดการพระราชพิธีฯ จำนวน 5 วัน ระหว่างวันที่ 25-29 ต.ค.60
การจัดงานภาพประดับซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ของประชาชน เห็นสมควรเป็นภาพฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูอดุลยเดช พร้อมภาพโกศ โดยขอพระราชทานพระราชานุญาตการบันทึกภาพโกศบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
การจัดนิทรรศการภายหลังพระราชพิธีถวายพระเพลิงศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูอดุลยเดช เห็นสมควรกำหนด 30 วัน ระหว่างวันที่ 1-30 พ.ย.60 โดยกระทรวงวัฒนธรรมเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการ
ทั้งนี้ สำนักราชเลขาธิการแจ้งว่า ได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาทรงทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้ว และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นไปตามมติที่ประชุม และพระราชทานตามที่ขอรับพระมหากรุณา
--อินโฟเควสท์ โดย ฐานิสร์ ทองนอก/รัชดา/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--
อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq01/2637844
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
|
jainu
|
|
« ตอบ #5933 เมื่อ: เมษายน 26, 2017, 04:40:44 PM » |
|
เตือน ...หลุดปากปุ๊ป ....โดน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
|
« ตอบ #5934 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2017, 06:05:30 PM » |
|
หาชมยาก! "วันขึ้นเป็นกษัตริย์" อย่างเป็นทางการ ของ "ในหลวง" พระราชพิธีบรมราชาภิเษก 2493 https://www.youtube....h?v=takn4RmnuMs
พระราชพิธีฉัตรมงคล ในรัชกาลที่ ๙ https://www.youtube....h?v=Und6gSvI3Js
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
|
« ตอบ #5935 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2017, 06:07:17 PM » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
|
« ตอบ #5936 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2017, 06:08:43 PM » |
|
วันนี้ในอดีต 5 พฤษภาคม พุทธศักราช 2493 . พระราชพิธีบรมราชาภิเษกในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูอดุลยเดช เป็นพระราชพิธีบรมราชาภิเษก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูอดุลยเดช เป็น พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูอดุลยเดชฯ สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ระหว่างวันที่ 4 - 8 พฤษภาคม พุทธศักราช 2493 . พราหมณ์ประกอบพิธีตักน้ำศักดิ์สิทธิ์จากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ทั่วประเทศ เช่น แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำบางปะกง แม่น้ำเพชรบุรี แม่น้ำราชบุรี สระเกษ สระแก้ว สระคงคา และสระยมนา ในจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นต้น มาทำพิธีเสกน้ำ สำหรับถวายเป็นน้ำอภิเษก และ น้ำสรงพระมูรธาภิเษก . นอกจากนี้ ยังมีการประกอบพิธีจารึกพระปรมาภิไธยลงบนพระสุพรรณบัฎ ดวงราชสมภพ และแกะดวงตราพระราชลัญจกรประจำรัชกาล ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อวันที่ 21 เมษายน พุทธศักราช 2493 ตามเวลาพระมหามงคลฤกษ์ . >>> วันที่ 4 พฤษภาคม พุทธศักราช 2493 (พิธีประกาศการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และเจริญพระพุทธมนต์) . วันที่ 4 พฤษภาคม 2493 เวลา 10.00 น. เจ้าพนักงานอาลักษณ์เชิญพระสุพรรณบัฏ พร้อมด้วยดวงพระราชสมภพ และพระราชลัญจกรประจำรัชกาล ออกจากพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม มาขึ้นพระราชยานกงที่เกยพลับพลาเปลื้องเครื่อง ประตูหลังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม มีกระบวนเครื่องสูง กลองชะนะและคู่แห่ แห่ไปตามถนนหน้าศาลาสหทัย เลี้ยวตามถนนจักรีจรัณย์เข้าประตูพิมานไชยศรี ไปตามถนนอมรวิถี ถึงหน้าประตูสนามราชกิจ แล้วเชิญไปประดิษฐาน ณ พระแท่นมณฑลในพระที่นั่งไพศาลทักษิณ . เวลา 18.00 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูอดุลยเดช ทรงเครื่องเต็มยศจอมพลทหารบก ประดับเครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรม เสด็จฯ พร้อมด้วยสมเด็จพระราชินี โดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระตำหนักจิตรลดารโหฐานมายังมหาราชวัง เสด็จพระราชดำเนินเข้าสู่พระทวารเทเวศร์รักษา ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยมไหยสูรยพิมาน ทรงเป็นองค์ประธานในพิธีประกาศการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และเจริญพระพุทธมนต์ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก . สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูอดุลยเดชมีพระราชปฏิสันถารแล้ว เสด็จพระราชดำเนินเข้าสู่พระที่นั่งอมรินทร์วินิจฉัย ทรงจุดธูปเทียนถวายนมัสการพระรัตนตรัย แล้วประทับพระราชอาสน์ พระยารามราชภักดี ปลัดกระทรวงมหาดไทย กราบบังคมทูลเบิกทายาทผู้สืบสกุลพระยาเมือง ข้าหลวงตรวจการกระทรวงมหาดไทย ข้าหลวงประจำจังหวัดเข้าเฝ้าทูลละอองธุลลีพระบาท คือ - เจ้าราชบุตร (วงษ์ตวัน ณ เชียงใหม่) ผู้สืบสกุลเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ - พระเพ็ชรคีรีศรีสงคราม (เจ้าแก้วเมืองไท ณ ลำปาง) ผู้สืบสกุลเจ้าผู้ครองนครลำปาง - เจ้าพงศ์ธาดา ณ ลำพูน ผู้สืบสกุลเจ้าผู้ครองนครลำพูน - เจ้าราชบุตร (หมอกฟ้า ณ น่าน) ผู้สืบสกุลเจ้าผู้ครองนครน่าน - พระพิพิธภักดี (ตนกูมุกดา อับดุลบุตร) ผู้สืบสกุลพระยาเมืองปัตตานี สายที่ 2 - ตนกูมะ บินกูปูเต๊ะ ผู้สืบสกุลพระยาเมืองปัตตานี สายที่ 1 - ตนกู ตึงเงาะ ผู้สืบสกุลพระยาเมืองนราธิวาส - ตนกู อับดุล เลาะรงโซะ ผู้สืบสกุลพระยาเมืองยะลา - ตนกู อิบบราฮิม บินตนกูอหมัด ผู้สืบสกุลพระยาเมืองสตูล สายที่ 1 - กูฮาหมัด บิบตำมะหงง ผู้สืบสกุลพระยาเมืองสตูล สายที่ 2 . พระดุลยพากย์สุวมัณฑ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม นำข้าหลวงยุติธรรมประจำภาคทั้ง 5 ภาค เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชปฏิสันถารแล้ว ปลัดกระทรวงยุติธรรม นำข้าหลวงยุติธรรมออกจากที่เฝ้า . สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูอดุลยเดชทรงจุดเทียนชนวน พระราชทานแก่พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าธานีนิวัต เพื่อทรงนำไปจุดเทียนที่เครื่องนมัสการบูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร แล้วสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูอดุลยเดช ทรงจุด เทียนพระมหามงคลและเทียนเท่าพระองค์ . จากนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูอดุลยเดช เสด็จฯ ขึ้นยังพระที่นั่งไพศาลทักษิณทางพระทวารเทวราชมเหศวร์ ชาวพนักงานประโคมสังข์ แตร ดุริยางค์ สังฆการี อาราธนาพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ 30 รูป มีสมเด็จพระสังฆราช เป็นประธาน ขึ้นสู่พระที่นั่งไพศาลทักษิณทางประตูสนามราชกิจ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการพระรัตนตรัย สมเด็จพระสังฆราชถวายศีล . ถึง เวลา 18.50 น. อันเป็นมหามงคลฤกษ์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูอดุลยเดชทรงจุดเทียนทองชนวน ทรงตั้งพระราชสัตยาธิษฐาน เสร็จแล้วถวายแด่สมเด็จพระสังฆราช จากนั้นสมเด็จพระสังฆราชเสด็จไปจุดเทียนชัยในพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยฯ พระสงฆ์ทั้งนั้นเจริญมงคลคาถา จุดเทียนชัย ชาวพนักงาน ประโคม ฆ้องชัย สังข์ บัณเฑาะว์ แตร ดุริยางค์ จากนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงจุดเทียนชนวนแก่มหาดเล็ก พร้อมด้วยธูปเงิน เทียนทอง และดอกไม้ ไปบูชาสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ คือ . พระมหาเศวตฉัตร 5 แห่ง ในพระที่นั่งต่าง ๆ ดังนี้ - พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยมไหยสูรยพิมาน - พระที่นั่งไพศาลทักษิณ - พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท - พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท - พระที่นั่งอนันตสมาคม . ปูชนียสถานสำคัญ อีก 13 แห่ง ดังนี้ - พระสยามเทวาธิราช ในพระที่นั่งไพศาลทักษิณ - รูป พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช - ทรงเครื่องต้น ที่ห้องภูษามาลา - เทวสถาน พระอิศวร - เทวสถาน พระนารายณ์ - เทวสถาน พระคเณศร์ - พระหลักเมือง - พระเสื้อเมือง - พระกาฬชัยศรี - พระเพลิง - พระเจตคุปต์ - เทวรูป ณ หอแก้วพระภูมิ - เทวรูป ณ หอเชือก - เทวรูป ณ ตึกดิน . สมเด็จพระสังฆราชเสด็จกลับไปขึ้นนั่งอาสนะที่เดิม พระศาสนโสภณ (จวน อุฎฐายี) วัดมกุฏกษัตริยาราม อ่านประกาศการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก จบแล้ว พระสงฆ์ในพระที่นั่งไพศาลทักษิณ 30 รูป และในพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย 45 รูป เจริญพระพุทธมนต์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก . พระครูวามเทพมุนี ประธานพิธีพราหมณ์ ถวายน้ำพระมหาสังข์ พราหมณ์เป่าสังข์ แล้วถวายใบสมิตสำหรับทรงปัดพระองค์ ประกอบด้วย - ใบมะม่วง 25 ใบ ได้แก่ ภยันตราย - ใบทอง 32 ใบ ได้แก่ อุปัทวันตราย - ใบตะขบ 56 ใบ ได้แก่ โรคันตราย . สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูอดุลยเดช ทรงรับใบสมิตมาทรงปัดพระองค์ เสร็จแล้ว พระราชครูวามเทพมุนี รับพระราชทานกลับไป กระทำพิธีศาสตร์ปุณยา ชุบโหมเพลิง ณ ที่ทำพิธีพราหมณ์ . สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูอดุลยเดช ทรงจุดเทียนพระมหามงคล เทียนเท่าพระองค์ ธูปเทียนบูชา พระสยามเทวาธิราช พระแท่นอัฐทิศ และพระที่นั่งภัทรบิฐ . จ้าพนักงานสังฆการี นิมนต์ พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ ชั้นพระราชาคณะ จำนวน 5 รูป ขึ้นนั่งยังอาสนะบนพระแท่นบรรทมในพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูอดุลยเดช เสด็จฯ ขึ้นยังห้องพระบรรทม พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน ทรงจุดธูปเทียน เครื่องนมัสการพระรัตนตรัย เสร็จแล้ว ประทับพระราชอาสน์ ณ ห้องกลาง ทรงพระมหามงคล พระสงฆ์ 5 รูป เจริญพระพุทธมนต์ พระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเทียรจบแล้ว ทรงเปลื้องพระมหามงคล พระสงฆ์ถวายบังคมลา . สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูอดุลยเดชเสด็จกลับไปประทับพระราชอาสน์ ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณ จากนั้นเสด็จออกพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ทรงจุดธูปเทียนบูชาธรรมที่พระแท่นสวดภาณวาร พระราชาคณะ นั่งปรก และสวดภาณวารต่อไปตลอดคืน เสด็จพระราชดำเนินกลับ . >>> วันที่ 5 พฤษภาคม พุทธศักราช 2493 (การพระราชพิธีบรมราชาภิเษก) . เวลา 11.20 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูอดุลยเดชเสด็จฯ ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกรับการสรงพระมูรธาภิเษกจากสหัสธารา พระสงฆ์ในมณฑลพระราชพิธี เจริญชัยมงคลคาถา ชาวพนักงานประโคมสังข์ แตร มโหระทึก และเครื่องดุริยางค์ ทหารกองเกียรติยศ ถวายความเคารพ แตรวงบรรเลง เพลงสรรเสริญพระบารมี ทหารปืนใหญ่ ยิงสลุตเฉลิมพระเกียรติ 21 นัด . จากนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูอดุลยเดชเสด็จฯ สู่พระที่นั่งไพศาลทักษิณ ประทับ พระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ ภายใต้พระบวรมหาเศวตฉัตร แปรพระพักตร์สู่ทิศบูรพาเป็นปฐม เพื่อรับน้ำอภิเษก จากสมาชิกรัฐสภา [1] เมื่อผันพระองค์เวียนมาสู่ทิศบูรพาอีกครั้งแล้ว เจ้าพระยาศรีธรรมาธิเบศร (จิตร ณ สงขลา) ประธานวุฒิสภา กราบบังคมทูลถวายชัยมงคล ด้วยภาษามคธ, นายเพียร ราชธรรมนิเทศ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กราบบังคมทูลเป็นภาษาไทย . เสร็จแล้ว พระราชครูวามเทพมุนี (สวาสดิ์ พราหมณกุล) ทำหน้าที่พระมหาราชครู กราบบังคมทูลถวายชัยมงคล ด้วยภาษามคธ และภาษาไทย แล้ว น้อมเกล้าฯ ถวาย พระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ขณะนี้ ชาวพนักงาน ประโคมสังข์ แตร เครื่องดุริยางค์ . จากนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูอดุยเดชเสด็จฯ ประทับ ณ พระที่นั่งภัทรบิฐ ภายใต้ พระนพปฎลมหาเศวตฉัตร พระราชครูวามเทพมุนี ร่ายเวทย์ สรรเสริญศิวาลัยไกรลาส จบแล้ว กราบบังคมทูลถวาย เครื่องราชกกุธภัณฑ์ เป็นภาษามคธ แล้วทูลเกล้าฯ ถวาย พระสุพรรณบัฎ จารึกพระปรมาภิไธยว่า “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร” , เครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์, เครื่องบรมขัตติยราชวราภรณ์, เครื่องราชูปโภค และ พระแสงราชศัสตราวุธ ขณะนั้น พระสงฆ์ เจริญชัยมงคลคาถา ชาวพนักงาน ประโคมสังข์ แตรฯ กองทหารถวายความเคารพ แตรวงบรรเลง เพลงสรรเสริญพระบารมี ทหารยิงปืนกองแก้วจินดา ตามกำลัง วันศุกร์ 21 นัด ทหารบก ทหารเรือ ยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติฝ่ายละ 101 นัด พระสงฆ์ทั่วพระราชอาณาจักร ย่ำระฆังถวายชัยมงคล . เมื่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูอดุลยเดชรับเครื่องราชกกุธภัณฑ์แล้วพระราชครูวามเทพมุนีกราบบังคมทูลถวายชัยมงคลด้วยภาษามคธและภาษาไทย จากนั้นจึงมี พระปฐมบรมราชโองการ พระราชทานอารักขาแก่พสกนิกรชาวไทยทั้งหลายว่า . "เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม" . พระราชครูวามเทพมุนี รับสนองพระปฐมบรมราชโองการ แล้วทรงหลั่งทักษิโณทก ตั้งพระราชสัตยาธิษฐานจะทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ปกครองราชอาณาจักรไทยโดยทศพิธราชธรรมจรรยา ดังพระปฐมบรมราชโองการ ที่พระราชทานไว้ ทุกประการ . ต่อมา เวลา 14.00 น. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูอดุลยเดชฯ สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตรเสด็จพระราชดำเนินออกมหาสมาคม ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย มไหยศูรยพิมาน โดยมี คณะองคมนตรี คณะรัฐมนตรี คณะทูตานุทูต สมาชิกรัฐสภา ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายชัยมงคล . จากนั้น เวลา 14.40 น. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูอดุลยเดชเป็นองค์ประธานในพระราชพิธีสถาปนาเฉลิมพระเกียรติยศ สมเด็จพระราชินีสิริกิติ์ พระอัครมเหสี ให้ทรงดำรงฐานันดรศักดิ์เป็น สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ราชินี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
|
« ตอบ #5937 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2017, 06:09:06 PM » |
|
จากนั้น เวลา 16.30 น. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูอดุลยเดชเสด็จด้วยกระบวนพยุหยาตราสถลมารคทรงประกาศพระองค์เป็นพุทธศาสนูปถัมภก ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม . >>> วันที่ 6 พฤษภาคม พุทธศักราช 2493 (พระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียร) . เวลา 19.54 น. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูอดุลยเดชฯ เสด็จฯ ในการพระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียร ณ พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ ราชินี ทรงประทับแรม ในมหาราชวัง รุ่งเช้า จึงเสด็จพระราชดำเนินกลับ . >>> วันที่ 7 พฤษภาคม พุทธศักราช 2493 (เสด็จออกสีหบัญชร) . เวลา 16.00 น. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูอดุลยเดชฯ เสด็จออกยังท้องพระโรงกลาง พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระราชทานราชวโรกาสให้คณะทูตานุทูตและกงสุลต่างประเทศ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายชัยมงคล . ต่อมาเวลา 16.30 น. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูอดุลยเดชฯ พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ ราชินีพระราชทานราชวโรกาสให้คณะบุคคลและสมาคมต่าง ๆ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายชัยมงคล ณ พระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาท . จากนั้น พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูอดุลยเดชฯ พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ ราชินีเสด็จออกสีหบัญชร พระราชทานราชวโรกาส ให้พสกนิกรเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท พระยารามราชภักดี ปลัดกระทรวงมหาดไทย กราบบังคมทูลถวายชัยมงคล ในนามพสกนิกรชาวไทย ทั่วพระราชอาณาจักร . เวลา 17.00 น. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูอดุลยเดชฯ พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ ราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยฯ ในพิธีเฉลิมพระนาม สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ และ พระราชทานสมณศักดิ์ แก่พระราชาคณะ เสร็จแล้ว ทรงสดับพระธรรมเทศนา มงคลสูตร รัตนสูตร และ เมตตสูตร รวมหนึ่งกัณฑ์ โดย สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ญานวโร) . >>> วันที่ 8 พฤษภาคม พุทธศักราช 2493 (พิธีสถาปนาฐานันดรศักดิ์พระ) . พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูอดุลยเดชฯ พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ ราชินี เสด็จฯ ทรงเป็นองค์ประธาน ในพิธีสถาปนาฐานันดรศักดิ์พระ ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยฯ พระที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ สถาปนาฐานันดรศักดิ์ ได้แก่ . - พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระชัยนาทนเรนทร (พระราชโอรสองค์ที่ 52 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาหม่อมเนื่อง สนิทวงศ์ เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ดำรงพระชนม์ชีพอยู่เป็นพระองค์สุดท้าย) - พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยลาภพฤฒิยากร (เป็นเสนาบดีกระทรวงธรรมการ ประธานองคมนตรี และผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์) - พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิวัฒนไชย (เป็นพระโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าไชยันตมงคล กรมหมื่นมหิศรราชหฤทัย กับหม่อมส้วน ไชยันต์ ณ อยุธยา เป็นผู้ว่าการคนแรกของธนาคารแห่งประเทศไทย) - พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้านักขัตรมงคล (พระนามเดิม หม่อมเจ้านักขัตรมงคล กิติยากร เป็นพระโอรสพระองค์ที่ 3 ในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระจันทบุรีนฤนาถ และหม่อมเจ้าอัปษรสมาน กิติยากร เป็นพระบิดาของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ราชินีนาถ เป็นพระสัสสุระ (พ่อตา) ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูอดุลยเดช และเป็นพระอัยกาของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร) . ที่มา . - พิธีถวายน้ำอภิเษกนี้ มีความหมายว่า เพื่ออัญเชิญสมเด็จพระมหากษัตริยาธิราชเจ้า ทรงแผ่พระราชอาณา ปกครองพสกนิกรทั้งหลาย ทั่วทิศทั้ง 8 - พระภิกษุที่ถวายพระธรรมเทศนา ในพระราชพิธี วันที่ 7 และ 8 พฤษภาคม ขึ้นนั่งบนพระแท่นมหาเศวตฉัตร มิใช่นั่งเทศน์ บนธรรมาสน์เทศน์ธรรมดา เช่นการพระราชพิธีอื่น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
jainu
|
|
« ตอบ #5938 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2017, 06:09:56 PM » |
|
เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ขอถวายพระพรชัยมงคล ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด เกล้ากระหม่อม ทีมงานเพจ โบราณนานมา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
finghting!!!
|
|
|
|
Gold Price today, Gold Trend Price Prediction, ราคาทองคํา, วิเคราะห์ทิศทางทองคํา
|
Thanks: ฝากรูป dictionary
---------------------Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. For more information on Moore Research products and services click here. --- http://www.mrci.com ----------
---------------------------------------------รูปกราฟแสดงราคาทองในอดีตปี 1974-1999 ของ Moore Research Center, Inc.
แสดงฤดูกาลที่ราคาทองขึ้นสูงสุดและตําสุด เอาแบบคร่าวๆ เส้นนําตาลหรือนําเงินก็ใกล้เคียงกัน เส้นนําตาลเฉลี่ย
15 ปี เส้นนําเงินเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุดของเส้นนําตาล หรือเฉลี่ย 15 ปี ในเดือน ปลายเดือน เมษ และปลายเดือน สค
ต่อต้นเดือน กย[/color] สูงสุดในเดือน กพ กับ พย / ส่วนเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุด ต้น กค กับ ปลาย สค และราคาสูงสุดในเดือน
กพ และ กลางเดือน ตค -----
แค่ดูคร่าวๆ เป็นแนวทาง อย่ายึดมั่นว่าจะต้องเป็นตามนี้
ข้างล่างเป็นกราฟราคานํามัน ตามฤดูกาล จาก Charts courtesy of Moore Research Center, Inc.
Thanks: ฝากรูป dictionary
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|