Forex-Currency Trading-Swiss based forex related website. Home ----- กระดานสนทนาหน้าแรก ----- Gold Chart,Silver,Copper,Oil Chart ----- gold-trend-price-prediction ----- ติดต่อเรา
หน้า: 1 ... 396 397 [398] 399 400 ... 402   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: เก็บข่าวมาฝากนะคะ  (อ่าน 256246 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 7 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #5955 เมื่อ: พฤษภาคม 18, 2017, 01:04:17 PM »

ในด้านหนึ่ง แม้ความคิดความเชื่อและศิลปะวิทยาการแบบใหม่จากตะวันตกจะช่วยปรับปรุงให้คุณภาพชีวิตประจำวันของผู้คนในสังคมไทยดีขึ้นเป็นลำดับ แต่การปฏิเสธและตัดขาดจากความคิดความเชื่อเดิมในเรื่องโลกหน้าและมิติการรับรู้ที่ไปพ้นจากอายตนะห้า ทำให้ผู้คนเริ่มหันมาผูกติดกับการแสวงหาความสุขจากการเสพสิ่งต่างๆ ในโลกนี้ และมองความตายเป็นจุดสิ้นสุดของชีวิตและโอกาสที่จะเสพสุขต่อไป โดยเฉพาะการกลัวตัวตนดับสูญ จึงเริ่มมีทัศนคติที่เป็นปฏิปักษ์กับความตาย และพยายามหาวิธีรักษาตัวตนไม่ให้ดับสูญไปพร้อมกับความตาย จนเกิดความคิดในทำนอง “ตัวตายแต่ชื่อยัง” ฝากชื่อเสียงไว้ให้แก่คนรุ่นหลังได้ระลึกถึง ดังการจารึกชื่อไว้ตามสถานที่ต่างๆ จนกระทั่งการสร้างอนุสาวรีย์ที่เป็นศิลปวัตถุจริงๆ และที่เป็นผลงานแห่งชีวิตเพื่อเป็นการสืบต่อตัวตนออกไป

 เมื่อเริ่มมีทัศนคติเป็นปฏิปักษ์กับความตาย จึงเริ่มเกลียดกลัวความตาย พยายามอยู่ให้ห่างไกล ไม่พูดถึง ไม่เกี่ยวข้องด้วย แต่ก็ไม่สามารถหลีกหนีไปพ้นได้ เมื่อถึงเวลาที่ต้องเผชิญหน้ากับความตายจึงพยายามต่อสู้ดิ้นรนเอาชนะความตาย หรือยืดความตายออกไปให้นานที่สุด ผู้คนในปัจจุบันจึงตายได้ยากขึ้น เพราะไม่ยอมรับและยอมปล่อยให้การตายเป็นไปตามธรรมชาติ จนกลายเป็นสาเหตุสำคัญของความทุกข์ทรมานทั้งผู้ที่กำลังจะตายและคนรอบข้างที่อาจมีผลต่อเนื่องไปจนถึงหลังการตายอีกด้วย

 การสร้างเหตุปัจจัยเพื่อก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากทัศนคติที่เป็นปฏิปักษ์ต่อความตายในปัจจุบัน มาเป็นการยอมรับความตายว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต จำต้องอาศัยเหตุปัจจัยที่หลากหลาย การส่งเสริมให้ผู้คนระลึกถึงความตายในชีวิตประจำวัน เป็นเครื่องมือหรืออุบายสำคัญอย่างหนึ่งในการเตรียมตัวตายอย่างสงบ แต่นอกเหนือจากอุบายดังกล่าวแล้ว ประเพณีพิธีกรรมเป็นเครื่องมือทางสังคมอย่างหนึ่งที่ใช้รวมใจและมีพลังกระตุ้นเตือนผู้คนได้อย่างที่ไม่ควรมองข้าม ดังเช่นที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงยกย่องวันมาฆบูชาและวันอาสาฬหบูชาให้เป็นวันสำคัญทางพุทธศาสนาจนกลายเป็นประเพณีสืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน

 วันอัฏฐมีบูชา ย่อมเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งของพุทธศาสนาที่เราสามารถใช้เป็นปัจจัยส่งเสริมให้ผู้คนได้เกิดการตระหนักและเรียนรู้เรื่องความตาย และการระลึกถึงความตาย โดยเตือนให้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท ดังคำปัจฉิมโอวาทของพระพุทธเจ้า




เรียนรู้ความตายจากวันอัฏฐมีบูชา

วันอัฏฐมีบูชา หมายถึงวันแรม ๘ ค่ำ เดือน ๖ เป็นวันเผาพระสรีระของพระพุทธเจ้าหลังจากเสด็จปรินิพพาน ณ กรุงกุสินารา ที่อยู่ภายใต้การปกครองของมัลละ หลังจากบูชาพระศพใน ๗ วันแรกของการปรินิพพาน โดยมีพระมหากัสสปะเป็นประธานในพิธี หลังจากนั้น เมื่อบรรดากษัตริย์จาก ๗ แคว้นใหญ่ ได้แก่ กษัตริย์ลิจฉวี ศากยะ ถูลิยะ โกลิยะ อชาตศัตรู โมริยะ และมัลละแห่งเมืองปาวา ทราบข่าวการปรินิพพานของพระพุทธองค์ จึงได้ขอแบ่งสารีริกธาตุเพื่อนำไปบูชา แต่กษัตริย์มัลละไม่ยินยอม จนเรื่องราวเกือบจะบานปลายกลายเป็นสงคราม กระทั่งโทณพราหมณ์อาสาเป็นคนกลางเจรจาเพื่อแบ่งสารีริกธาตุออกเป็น ๘ ส่วนให้กษัตริย์แคว้นต่างๆ เรื่องราวจึงได้คลี่คลายลง

 เหตุการณ์ดังกล่าว ปรากฏความโดยละเอียดใน
 พระไตรปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค มหาปรินิพพานสูตร




ทางเลือกการปฏิบัติบูชาในวันอัฏฐมี
 วันสำคัญทางพระพุทธศาสนาจะมีความหมายก็ต่อเมื่อวันสำคัญนั้นๆ ได้ให้บทเรียน เตือนสติ หรือเร่งเร้าให้เราได้เรียนรู้ความจริงและทำความดี กองสาราณียกรขอเสนอทางเลือกในการปฏิบัติบูชาเนื่องในวันอัฏฐมีบูชาไว้ดังนี้ ท่านอาจทำทุกข้อ หรือทำเฉพาะตามความสะดวกของแต่ละท่าน•เยี่ยมชมและกราบนมัสการวัดที่มีพระพุทธรูปปางปรินิพพาน

•นั่งทำความสงบสัก ๓-๕ นาที ระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า ใคร่ครวญว่าที่ผ่านมาเราได้รับประโยชน์ใดจากคำสอนของพระองค์บ้าง

•ใคร่ครวญถึงเทศนาครั้งสุดท้ายของพระพุทธเจ้าที่ว่า "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บัดนี้ เราขอเตือนท่านทั้งหลายว่า สังขารทั้งหลาย มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลาย จงทำความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด"

•ระลึกถึงว่า ร่างกายของเราเองก็เป็นเช่นเดียวกับพระพุทธเจ้าที่ไม่อาจเอาชนะความตายได้ แต่เรามีศักยภาพที่จะยกระดับจิตใจให้เป็นอิสระจากความตาย ไม่ถูกบีบคั้นด้วยความทุกข์ได้เช่นเดียวกับพระองค์

•ทบทวนสิ่งสำคัญในชีวิตที่ปรารถนาจะทำก่อนตาย

•ไปเวียนเทียน หรือฟังเทศน์ ในวัดที่จัดงานบูชาในวันอัฏฐมี

•ถือศีล ๘ ร่วมกับหมู่คณะ

•ฟังเทปคำบรรยาย อ่านหนังสือธรรมะ

•ภาวนาในรูปแบบตามความถนัด ฯลฯ
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #5956 เมื่อ: พฤษภาคม 18, 2017, 01:07:27 PM »



ตามไปดูงานอัฏฐมีบูชาที่วัดทุ่งยั้ง

เล่ากันว่าชาวตำบลทุ่งยั้งและตำบลใกล้เคียงใน อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ จะสอนลูกหลานว่า ในพระพุทธศาสนามีวันสำคัญ ๔ วัน คือ วันมาฆบูชา วิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา และวันอัฐมีบูชา   

 เหตุที่วันอัฏฐมีบูชาถูกพูดถึงอย่างเด่นชัด ก็เห็นจะเป็นเพราะวัดธาตุทุ่งยั้งได้จัดงานบุญรำลึกถึงวันคล้ายวันถวายพระเพลิงแด่พระศพของพระพุทธเจ้าเป็นประจำทุกปี จัดต่อเนื่องมากว่า ๕๐ ปีแล้ว โดยจะจัดงานเทศนาและสวดพระอภิธรรมตั้งแต่วันวิสาขบูชา (ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖) จนกระทั่งถึงวันอัฏฐมีบูชา (ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๗) ของทุกปี   

 ในวันอัฏฐมีบูชานี้เอง ชาวเมืองทุ่งยั้งจะมีพิธีห่มธาตุทุ่งยั้งในช่วงเย็น และในช่วงค่ำจะมีการแสดงเวทีแสง สี เสียง จำลองพระพุทธประวัติตอนพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน จนถึงการเผาพระสรีระของพระพุทธเจ้าไปจนถึงกลางดึก   
 การจัดการแสดงพระพุทธประวัติตอนดังกล่าว ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงาน หลายภาคส่วนของจังหวัดอุตรดิตถ์ ตั้งแต่ คณะสงฆ์จังหวัดอุตรดิตถ์ ศาลาว่าการจังหวัด องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาลจังหวัด การไฟฟ้า มหาวิทยาราชภัฏอุตรดิตถ์ กองพันทหารปืนใหญ่ ฯลฯ แต่ละหน่วยงานสมทบทุน และปัจจัยคนละเล็กน้อย แต่เมื่อมาผสมผสานเข้าด้วยกันกลับสร้างสรรค์งานแสดงได้อย่างยิ่งใหญ่   

 แม้งานจะมีชื่อเสียงระดับประเทศ แต่ที่น่าสนใจคือนักแสดงในเวทีกว่าร้อยชีวิต กลับมาจากนักแสดงลุง ป้า น้าอา ลูกหลานในท้องถิ่น ตลอดจนเหล่าทหารจากกองพันทหารปืนใหญ่และนักศึกษานาฏศิลป์จากมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ การใช้นักแสดงในท้องถิ่นนั้นเท่ากับเป็นการเรียกแขกได้เป็นอย่างดี เพราะนักแสดงหนึ่งคนย่อมมีญาติมิตรลูกหลานตามมาเชียร์ให้กำลังใจอีกเป็นจำนวนมาก ดังเหตุนี้กระมังที่ทำให้ผู้เข้าร่วมงานนี้มีจำนวนหนึ่งหลักพันคน โดยที่คนร่วมงานส่วนใหญ่เป็นคนในท้องถิ่น
   
 ในช่วงเริ่มต้นของการแสดง ผู้จัดก็ไม่พลาดที่จะสอดแทรกปลูกฝันคุณค่า คุณธรรมต่างๆ แก่ชาวเมืองผู้ร่วมชมงาน เช่น ชาวเมืองลับแลมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เป็นธรรมชาติ ต่างก็มีความสมัครสมานสามัคคี แม้จะเป็นคนต่างรุ่นต่างสถานะ แต่ก็มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและเกื้อกูลซึ่งกันและกัน ไม่เว้นแม้แต่ฆราวาสกับพระสงฆ์ คุณค่าดังกล่าวสะท้อนผ่านการแสดงการละเล่นและประเพณีในท้องถิ่น เช่น เทศกาลขนมท้องถิ่น งานบุญสลากภัทร ก่อนที่จะเริ่มเข้าสู่พุทธประวัติอันเป็นหัวใจสำคัญของเรื่อง
   
 การแสดงดึงเอาเรื่องเล่าในพุทธประวัติตอนปรินิพพานและเผาพระศพมาตีความและจัดการแสดงได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ แม้การแสดงจะยาวนานกว่าสองชั่วโมง คนดูก็มิได้พร่องไปไหนเลย อาจเป็นเพราะทุกคนเฝ้ารอที่จะได้มีส่วนร่วมเป็นนักแสดงในมหรสพชิ้นนี้   

 การจัดงานจำลองพิธีดังกล่าว นับได้ว่าเป็นการเรียนรู้ผ่านการแสดงบทบาทสมมติระดับเมืองเลยก็ว่าได้ ผู้เข้าร่วมงานทุกคนจะได้ขึ้นถวายดอกบัวแด่พระศพจำลองก่อนที่จะเผาพระสรีระด้วยไฟจริง ภาพพระพุทธเจ้าที่เพิ่งปรินิพพานค่อยๆ มอดไหม้ในกองเพลิงจนกลายเป็นเถ้าถ่าน เร้าให้ผู้ชมเกิดความรู้สึกสะเทือนใจ สังเวชต่อกฎอนิจจัง เกิดความเพียรที่จะเรียนรู้ความจริงยิ่งๆ ขึ้นไป ผู้ชมรู้สึกว่าตนได้เขยิบเข้าไปใกล้ชิดกับพระพุทธเจ้าอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
   
 งานแสดงแสงสีเสียงตอนนี้ ในแง่หนึ่งอาจเป็นงานมหรสพ เพราะมีนางรำ มีเสียงเพลง มีดอกไม้ไฟ และเพลิงลุกโชติช่วง แต่อีกแง่หนึ่งก็เป็นนาฏกรรมของพระธรรม ที่ชี้ให้เห็นความแจ่มแจ้งของกฎไตรลักษณ์ ในงานแสดงดังกล่าว มิติทางโลกและทางธรรมอยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืน นักการเมือง นักแสดงบันเทิง นางรำ เด็กน้อย สามารถอยู่ร่วมกับ พระภิกษุ ชีพราหมณ์ ได้อย่างไม่เกื้อเขิน มหรสพชิ้นนี้ดูเอาสนุก บันเทิง จากอภินิหารตอนต่างๆ ก็ได้ เสพชมเอาความสุขและความงามจากการร่ายรำก็ได้ เอาความสังเวชเพื่อเร้าความไม่ประมาทในธรรมก็ได้
   
 การจัดงานกิจกรรมดังกล่าว นับเป็นภูมิปัญญาจากความร่วมมือทั้งระดับท้องถิ่นได้อย่างน่าสนใจ ที่สำคัญคือสามารถนำเอาพุทธธรรมมาดัดแปลงประยุกต์ สื่อสารให้ผู้ชมที่แม้จะมีความหลากหลายด้วยเพศ วัย ภูมิรู้ภูมิธรรม แต่ก็สามารถเอื้อให้เกิดความรู้สึกใกล้ชิดและศรัทธาต่อพระรัตนตรัยได้อย่างน่าสนใจและน่าดูชม   
   
   
แหล่งข้อมูลประกอบการเขียน:   •พุทธประวัติจากหินสลัก โดย พุทธทาสภิกขุ

•พระพุทธศาสนาไทยในอนาคต โดย พระไพศาล วิสาโล

•การเสวนาเรื่อง “อัฏฐมีบูชา กับ พระพุทธทัศน์ในทัศนะที่เปลี่ยนไป” โดย นภนาท อนุพงศ์พัฒน์ เมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ ณ หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ (สวนโมกข์กรุงเทพ)

•บทความ “ทางเลือกการปฏิบัติบูชาในวันอัฏฐมี” และ “ตามไปดูงานอัฏฐมีบูชาที่วัดทุ่งยั้ง” โดย เอกภพ สิทธิวรรณธนะ
   
      
ที่มา:
•จดหมายข่าวอาทิตย์อัสดง ปีที่ 6 ฉบับที่ 21 ประจำเดือน กรกฎาคม – กันยายน 2557

คอลัมน์:
•เพ่งพินิจเรื่องชีวิตและความตาย

ผู้เขียน:
•กองสาราณียกร

คำสำคัญ:
•อัฏฐมีบูชา

•พระพุทธเจ้า

•พุทธประวัติ

•พุทธจริต

•ปฐมสมโพธิกถา

•ปฐมสมโพธิ

•มรณานุสติ

บุคคลสำคัญ:

•พระมหาสมณเจ้า กรมสมเด็จพระปรมานุชิตชิโนรส สมเด็จพระสังฆราช (สา)

•สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส

•พุทธทาส

•พระไพศาล วิสาโล

•นภนาท อนุพงศ์พัฒน์

•เอกภพ สิทธิวรรณธนะ


96 0    
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #5957 เมื่อ: พฤษภาคม 18, 2017, 01:12:46 PM »

วุ้นกะทิน้องหมา ของดีเมืองปทุมธานี
ราคาของน้องหมา 25 บาทต่อกล่อง
ปล.ในเพจ มีวุ้นหลายๆแบบสามารถเลือกชมกันได้จร้า
สำหรับเอาไปขายต่อ งานเทพ งานทำบุญบ้าน งานทำบุญวัดเกิด งานเลี้ยงเพลพระ งานกฐิน งานผ้าป่า งานบวช งานเเต่ง งานศพ งานโรงทาน บ้านพักคนชรา บ้านเด็กกำพร้า บ้านต่าง เลี้ยงพนักงานในบริษัท งานมิตติ้งต่างๆ งานต่างๆๆ เหมาไปกินคนเดียวที่บ้าน หรือจะเป็น ขนมจัดเบรคงานประชุม สัมนาต่างๆ

https://www.google.co.th/url?
�� สั่งงานติดต่อทาง ��
✅✅Inbox :
✅✅ID:LINE >> 0859071570
✅✅โทรด่วน >> 0944518641 ปอ
 ดูสินค้าเพิ่มได้ที่เพจ >> https://www.facebook.com/Wilaiwan01/
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #5958 เมื่อ: พฤษภาคม 18, 2017, 07:33:14 PM »









Thailand Skyline added 12 new photos.
5 May at 19:01 · รูปที่โพสต์


สิ้นสุดการรอคอย! เผยรูปแบบล่าสุดโครงการ #รถไฟฟ้ารางเบาขอนแก่น (Khon Kaen Light Rail Transit) เส้นทางแรกในภูมิภาคของไทย สายท่าพระ-บ้านสำราญ บนถนนมิตรภาพ ระยะทาง 22.6 กม. จำนวน 16 สถานี โดยล่าสุดเตรียมอนุมัติขั้นสุดท้ายในเดือน พ.ค.นี้ พร้อมเริ่มก่อสร้างภายในปี 60 และคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปลายปี 62 หรืออย่างช้าภายในต้นปี 63

The latest perspective rendering of Khon Kaen Light Rail Transit (LRT), the first mass transit system in regional Thailand. The first 22.6 km line consists of 16 elevated and ground level stations departing from south part of Khon Kaen city to the north, scheduled to construct by end of this year and ready to officially operate by end of 2019.
© สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.)
#ThailandSkyline
คนอเมริกันเกือบครึ่ง ต้องการให้ทรัมป์ถูกฟ้องร้อง


โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกากำลังเผชิญกับวิกฤตความน่าเชื่อถือที่รุนแรงยิ่งขึ้น หลังจากที่โพลล์ล่าสุดที่ออกมาในวันอังคาร (16 พ.ค. 2017) ระบุว่า เกือบครึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิเลือกตั้งของสหรัฐอเมริกาต้องการให้เขาถูกฟ้องร้อง
ผลการสำรวจครั้งใหม่โดย Public Policy Polling ระบุว่า มีผู้ตอบแบบสำรวจร้อยละ 48 ที่ระบุว่าพวกเขาสนับสนุนการฟ้องร้องทรัมป์ ขณะที่มีเพียงร้อยละ 41 เท่านั้นที่แสดงความเห็นคัดค้านข้อหาดังกล่าว

ภายหลังเปิดเผยผลการสำรวจดังกล่าวต่อสาธารณชน ก็ได้เกิดการถกเถียงขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน รวมถึงกรณีนายเจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการเอฟบีไอที่เพิ่งถูกทรัมป์สั่งปลดไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วด้วย โดยสื่อรายงานว่าเขาได้เปิดเผยข้อมูลของหน่วยข่าวกรองที่เป็นความลับสุดยอดให้แก่เจ้าหน้าที่ของรัสเซีย ระหว่างการพบปะในห้องทำงานของประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา ในสัปดาห์เดียวกัน
ขณะเดียวกันก็ยังมีผลสำรวจความคิดเห็นที่ระบุว่าร้อยละ 40 ยอมรับในการทำงานของทรัมป์ ส่วนอีกร้อยละ 54 ไม่ยอมรับ
มีเสียงร้อยละ 43 เห็นว่าทรัมป์จะสามารถดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีได้จนสิ้นสุดวาระสี่ปีเต็มของเขา ขณะที่ร้อยละ 45 เห็นว่าเขาจะไม่สามารถทำงานได้นานขนาดนั้น
มีผู้แสดงความคิดเห็นร้อยละ 77 ที่คาดหวังให้โฆษกของประธานาธิบดีพูดความจริงเสมอ ขณะที่มีเพียงร้อยละ 14 ที่คาดหวังให้เป็นแบบอื่น
จนถึงตอนนี้ สถิติความยอมรับในการทำงานของทรัมป์ก็ยังไม่แน่นอน อยู่ที่ประมาณร้อยละ 30-40 และผลการสำรวจของบริษัท Gallup นั้นถือว่ามีสถิติการให้ความยอมรับประธานาธิบดีคนใหม่ที่ต่ำที่สุด นับตั้งแต่เริ่มต้นสำรวจในปี 1953





พานาโซนิคเรียกคืนชุดแบตเตอรี่แท็บเล็ตกว่า 280,000 ชุด


พานาโซนิค บริษัทด้านอิเล็คทรอนิคส์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น ได้ประกาศเรียกคืนแบตเตอรี่ประมาณ 279,000 ชุดที่ใช้สำหรับเครื่องแท็บเล็ตบางรุ่น หลังจากพบรายงานว่าเกิดการลุกไหม้หลายครั้ง
บริษัทได้ประกาศถึงการได้รับรายงาน 16 ฉบับเกี่ยวกับชุดแบตเตอรี่ที่ใช้ในแท็บเล็ตรุ่น Toughpad FZ-G1 ที่เกิดการลุกไหม้ในช่วงระหว่างเดือนมีนาคม 2015 ถึงเมษายน 2017 แต่ยังไม่มีรายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

สาเหตุหลักของปัญหานี้ก็คือมีการปนเปื้อนภายในเซลล์ของแบตเตอรี่ ทำให้เมื่อแบตเตอรี่ดังกล่าวถูกนำมาใช้ในสภาวะที่มีการแปรผันของอุณหภูมิสูง จึงทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร และนำไปสู่การเกิดเหตุลุกไหม้ได้
ชุดแบตเตอรี่ดังกล่าวถูกวางจำหน่ายในอเมริกาเหนือ ยุโรป ออสเตรเลีย รวมถึงญี่ปุ่น ซึ่งจะมีการเรียกคืนและเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้ใหม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุเช่นนี้อีกในอนาคต
ในช่วงเวลา 3 ปีที่ผ่านมา พานาโซนิคได้ประกาศเรียกคืนแบตเตอรี่เป็นจำนวนหลายแสนชุดแล้ว เพื่อแก้ปัญหาที่ใกล้เคียงกันนี้




China Xinhua News added 3 new photos.

23 hrs · รูปที่โพสต์


ดาวเทียมดวงจิ๋วของชาวอินเดีย เตรียมปล่อยสู่อวกาศ
ชายอินเดียวัย 18 ปีคนหนึ่งได้ออกแบบและประดิษฐ์ดาวเทียมโดยมนุษย์ดวงที่เล็กและเบาที่สุด ซึ่งจะปล่อยสู่อวกาศโดยองค์การนาซาของสหรัฐฯภายในปีนี้
รายงานระบุว่าชายคนนี้ชื่อว่า Rifath Sharook ใช้เทคโนโลยีการพิมพ์แบบ 3D ประดิษฐ์ดาวเทียม KalamSat ขึ้นมา ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนการ Cubes In Space ขององค์การนาซากับองค์กรด้านการศึกษา idoodlelearning

ดาวเทียมดวงนี้ประดิษฐ์โดยคาร์บอนไฟเบอร์เสริมแรง มีน้ำหนักเพียง 64 กรัม ซึ่งประโยชน์หลักก็คือแสดงให้เห็นความสามารถของวัสดุนี้กลางอวกาศ
เขากล่าวว่า “ดาวเทียมดวงนี้จะถูกส่งเข้าวงโควจรในอวกาศวันที่ 21 มิถุนายน โดยจะบินเป็นเวลา 4 ชั่วโมง ติดตั้งระบบเซ็นเซอร์ 8 อันเพื่อวัดความเร่งและหมุนตัว ตลอดจนข้อมูลชั้นบรรยากาศของโลกด้วย”


บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #5959 เมื่อ: พฤษภาคม 22, 2017, 03:01:59 PM »



คนจุฬาชวนถวายบังคม ล้นเกล้าสองรัชกาล 23พค.2560

http://www.siammanus...B8%99%E0%B9%80/
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #5960 เมื่อ: พฤษภาคม 22, 2017, 03:06:29 PM »



https://s-media-cach...d83f92cacbf.jpg

ส่งเสด็จ สู่สรวงสวรรค์ พิธีบำเพ็ญกุศลกงเต็กหลวง กำหนดจัดขึ้นในวันที่ ๒๓ พฤษภาคมนี้ ถวายพระราชกุศล พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท มหาราชวัง นับเป็นครั้งที่ ๔ ในลำดับถัดไป ๒๘ มิถุนายน ๒๕๖๐
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานพระราชานุญาต ให้หน่วยงานต่างๆ ร่วมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญกุศลถวายศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูอดุลยเดชแบบจีน หรือ พิธีกงเต็ก จำนวน ๕ ครั้ง ประกอบด้วย คณะสงฆ์จีนนิกาย วันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ คณะสงฆ์อนัมนิกาย วันที่ ๒๑ มีนาคม นายเจริญ และ คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี พร้อมครอบครัวสิริวัฒนภักดี วันที่ ๑๘ เมษายน สมาคมนักธุรกิจสัมพันธ์แห่งประเทศไทย วันที่ ๒๓ พฤษภาคม มูลนิธิป่อเต็กตึ้ง และ วันที่ ๒๘ มิถุนายน

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงเล่าไว้ในสาส์นสมเด็จว่านับแต่รัชกาลที่ ๔ เป็นต้นมา พิธีกงเต็กเข้าอยู่ในระเบียบงานพระศพ เป็นการใหญ่เพื่อถวายวงศานุวงศ์ สืบต่อมาโดยประเพณีการจัดพิธีกงเต็กหลวงอย่างยิ่งใหญ่ทุก ๗ วัน ๕๐ วัน และ ๑๐๐ วันนั้น เกิดขึ้นครั้งแรกในงานศพ สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ และ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้ากรรณาภรณ์เพ็ชรรัตน์เมื่อปี ๒๔๒๓ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงรับสั่งไว้ในพระราชพินัยกรรมก่อนสวรรคต โปรดให้จัดพิธีกงเต็กหลวงถวายในงานศพของพระองค์ด้วย
ในยุคแรกการประกอบพิธี พระสงฆ์จีนนิกาย และ พระสงฆ์อนัมนิกายในประเทศไทย จะประกอบพิธีร่วมกัน โดยสลับกันเป็นผู้นำพิธี กระทั่งในปัจจุบันพระสงฆ์ทั้ง ๒ คณะได้รับพระราชทานราชานุญาตให้ประกอบพิธีกงเต็กน้อมเกล้า ฯ ถวายทีละคณะสงฆ์ นอกจากพิธีกงเต็กที่คณะสงฆ์จัดถวายเป็นพระราชกุศลแล้ว ยังมีภาคเอกชน องค์กร คหบดี ชาวไทยเชื้อสายจีน ได้ขอราชานุญาต จัดพิธีกงเต็ก น้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศล เช่นเดียวกับขุนนางจีนเจ้าภาษีในอดีตได้อีกด้วย






สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดพิมพ์ หนังสือ บทเจริญพระพุทธมนต์ พระราชทานแก่ผู้มาร่วมในพิธีมหามงคลบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูอดุลยเดชและเจริญพระพุทธมนต์ ถวายพระพรชัยมงคลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ราชินีนาถ
หนังสือบทเจริญพระพุทธมนต์ เป็นหนังสือที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเรียบเรียงเนื้อหาด้วยพระองค์เอง เพื่อให้ประชาชน มีส่วนรวมในการสวดมนต์กันเป็นประจำเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต บ้านเมืองและชาติ และยังรวมกันสืบสานพระราชปณิธาน ธรรมราชินี ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ราชินีนาถ

หนังสือบทเจริญพระพุทธมนต์นั้น จัดพิมพ์ทั้งสิ้น จำนวน 20,000 เล่ม โดยสำนักพระราชวัง เป็นหนังสือปกอ่อน ความหนา 85 หน้า ซึ่งหน้าปกได้เชิญตราพระปรมาภิไธย ว.ป.ร. ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาประดิษฐานบนปกของหนังสือ พร้อมภาพวาดฝีพระหัตถ์พระราชทานของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นภาพที่ผู้คนกำลังนั่งคุกเข่า ถือธงชาติไทยด้วยรอยยิ้ม ถัดมาเป็นภาพครอบครัวพ่อแม่ลูกที่กำลังคุกเข่าแล้วพนมมือด้วยรอยยิ้ม โดยเบื้องหน้าเป็นโต๊ะหมู่บูชาที่มีพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ราชินีนาถ พร้อมข้อความทรงพระเจริญตั้งอยู่ และด้านล่างของหนังสือมีข้อความว่า สืบสานพระราชปณิธาน “ธรรมราชินี” ส่วนด้านในหนังสือมีบทสวดมนต์ 28 บท อาทิ บทนอบน้อมพระผู้มีพระภาคเจ้า, บทพระไตรสรณคมน์, บทนมการสิทธิคาถา, บทโพชฌังคปริตร, บทนักขัตตยักข์ เป็นต้น ซึ่งเป็นคำอ่านภาษาบาลี พร้อมคำแปล




cr Siriwanna Jill news
---------
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #5961 เมื่อ: พฤษภาคม 22, 2017, 03:11:43 PM »



20 พ.ค.60 ตามที่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชานุญาตให้สมาคมนักธุรกิจสัมพันธ์แห่งประเทศไทย จัดพิธีบำเพ็ญกุศลกงเต็กอุทิศถวายศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในมหาราชวัง เป็นคณะที่ 4 ในวัน 23 พฤษภาคม 2560 นั้น ในส่วนของเครื่องกระดาษเพื่อใช้ในการประกอบพิธี ได้ถูกจัดเตรียมไว้อย่างเรียบร้อย จากร้านโต๋วเจียบเส็ง ซึ่งเป็นร้านรับทำเครื่องกระดาษและจัดไหว้เจ้า ซอยประดู่ ถนนพระราม 4 เขตป้อมปราบฯ กรุงเทพฯ

โดย นายชัชวาล สุขเลิศนภากุล อายุ 33 ปี หนึ่งในผู้ออกแบบและจัดทำเครื่องกระดาษ เปิดเผยว่า พิธีบำเพ็ญกุศลกงเต็กอุทิศถวายศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูอดุลยเดช ครั้งที่ 4 ซึ่งที่ผ่านมาทางร้านได้จัดทำเครื่องกระดาษกงเต็กให้กับคณะสงฆ์จีนนิกายทั่วประเทศ ในพิธีบำเพ็ญกุศลกงเต็กครั้งแรก, พิธีบำเพ็ญกุศลกงเต็ก ครั้งที่ 3 ที่นายเจริญ คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี และครอบครัวเป็นเจ้าภาพ และครั้งนี้ซึ่งสมาคมนักธุรกิจสัมพันธ์แห่งประเทศไทย เป็นเจ้าภาพที่จะจัดขึ้นในวันอังคารที่ 23 พฤษภาคานี้ ซึ่งทางคณะเจ้าภาพไม่ใช้เป็นเครื่องกระดาษทั้งหมดอย่างที่ผ่านๆ มา แต่จะใช้เป็นโมเดลสถาปัตยกรรมเข้ามาร่วมด้วยเพื่อให้มีความแปลก และแตกต่างจากพิธีทั้ง 3 ครั้งที่ผ่านมา โดยเลือกจำลองโครงการพระราชดำริที่แสดงถึงพระอัจฉริยภาพทของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงทำเพื่อประชาชน ซึ่งทางร้านได้จำลองแบบแลนด์สเคป บ้านเลขที่ 1 และโครงการชั่งหัวมัน ขณะที่เครื่องบินทำฝนหลวง และกังหันชัยพัฒนายังเป็นเครื่องกระดาษเช่นเดิม




“ผมรับหน้าที่ทำเครื่องบินทำฝนหลวง โดยจำลองเครื่องบินทำฝนหลวง หมายเลข 1919 ที่เป็นเครื่องบินลำแรกที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทูลเกล้าฯ ถวายให้พระองค์ จำลองไว้ขนาดใหญ่มาก ยาว 1.30 เมตร สูง 1 เมตร ตัวเครื่องสีขาว เส้นคาดกลางลำตัวสีเขียวและสีดำ ซึ่งขณะนี้เสร็จ 100 เปอร์เซ็นต์ ส่วนกังหันชัยพัฒนา เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ในหลวง ร.9 ทรงคิดค้นขึ้น เพื่อช่วยให้ประชาชนมีน้ำใช้ในการเกษตร โดยเราจำลองเท่าขนาดจริง บนตัวกังหันมีข้อความว่า กังหันชัยพัฒนา โครงการบำบัดน้ำเสีย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยกองงาน กรมชลประทาน ซึ่งในวันที่ทำพิธีกงเต็กจะนำไปตั้งบนเหมือนกับของจริงที่ใช้งานจริง” นายชัชวาลกล่าว

ด้าน นายภากรณ์ ฉัตรเจริญสุข ผู้ดูแลรับผิดชอบในส่วนของโมเดลสถาปัตยกรรมบ้านเลขที่ 1 และโครงการชั่งหัวมัน เล่าว่า มีเวลาทำเพียง 3 สัปดาห์เท่านั้นไม่มีเวลาลงไปดูพื้นที่จริง จึงต้องศึกษาจากภาพถ่ายทางอากาศประกอบกับข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตเพื่อให้โครงการออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด โดยจำลองอัตราส่วนจากพื้นที่จริง 1 ต่อ 25 ในส่วนของบ้านเลขที่ 1 เป็นที่พระองค์ประทับเวลาเสด็จฯ ไปดูโครงการ ตัวอาคารเป็น 2 ชั้น ชั้นบนเป็นที่ประทับพระอิริยบท ส่วนชั้นล่างเป็นที่พักข้าราชบริพาร โมเดลที่ทำออกมาเราใช้เป็นโครงสร้างเหล็ก ผนังเป็นฝาไม้ซ้อนเกล็ด ขณะที่หลังคามุงด้วยกระเบื้องลอน บริเวณใต้ถุนเป็นที่จอดรถกระบะ เลขทะเบียน ก 9999 เชียงใหม่ ที่ทรงขับเวลาออกตรวจงาน ส่วนภายในโครงการช่างหัวมัน ประกอบด้วยแปลงทดลองปลูกพืชชนิดต่างๆ อาทิ กล้วยแคระ กล้วยโทนเป็นพันธุ์พื้นเมืองของ จ.เพชรบุรี สับปะรดพันธุ์ปัตตาเวีย ข้าวหอมมะลิ ข้าวไรซ์เบอร์รี่ เป็นต้น ทั้งยังจำลองหุ่นข้าราชบริพารที่เคยรับใช้ใกล้ชิดที่เสียชีวิตไปแล้วด้วย




นอกจากนี้ทางร้านยังได้รับมอบหมายให้ทำเครื่องกระดาษอื่นๆ ที่ใช้ประกอบในพิธี ประกอบด้วย ธงพุ่มเชิญพระวิญญาณ ตุ๊กตาพระโพธิสัตว์ อัมมันตลาศ 1 องค์ ภูเขาเงินภูเขาทองอย่างละ 1 ลูก หีบฉลองพระองค์ 1 ใบ หีบทอง 6 ใบใช้บรรจุ ใบเบิกทางซึ่งทางร้านพับเป็นกระทงรูปดอกบัว, กระดาษเงิน-กระดาษทอง, เสื้อผ้าผู้ชาย, เสื้อผ้าผู้หญิง, เสื้อผ้าเด็ก และทองแท่ง เพื่อเผาอุทิศให้กับดวงวิญญาณไร้ญาติ
ในส่วนของเครื่องสังเวยคาว-หวาน ทางร้านก็จัดเตรียมเช่นกัน ประกอบด้วยอาหารเจ 5 คือ วุ้นเส้น เห็ดหอม ดอกไม้จีน ฟองเต้าหู้ และสาหร่าย ผลไม้ 5 อย่างประกอบด้วย ส้ม กล้วย แก้วมังกร แอปเปิ้ล และองุ่น และยังมีกระทงดอกไม้สด 9 ใบ เทวทูตม้า 1 ตัว และปลาหมอสำหรับปล่อยอีก 500 ตัวด้วย


















20 พ.ค.60 ตามที่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชานุญาตให้สมาคมนักธุรกิจสัมพันธ์แห่งประเทศไทย จัดพิธีบำเพ็ญกุศลกงเต็กอุทิศถวายศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในมหาราชวัง เป็นคณะที่ 4 ในวัน…


NAEWNA.COM

บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #5962 เมื่อ: พฤษภาคม 22, 2017, 03:16:21 PM »

หนูน้อยที่ได้ชื่อว่าเป็น แดเนริส ตัวละครชื่อดังใน Game Of Thrones
Devina Smith หนูน้อยที่ให้กำเนิดโดย Jessica Smith คุณแม่วัย 27 ปี ในรัฐมิสซิสซิปปี สหรัฐอเมริกา หนูน้อยคนนี้ได้ชื่อว่าเป็น แดเนริส ตัวละครชื่อดังใน Game Of Thrones แพทย์เผยว่าหนูน้อยเกิดมาพร้อมกับภาวะเผือกทำให้เม็ดสีในร่างกายทำงานผิดปกติ หนูน้อยจึงมีผมขาว สำหรับผู้ที่มีภาวะเผือกนั้นมีโอกาสเกิด 5 ต่อ 100,000 คนในสหรัฐอเมริกา
สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ที่ www.nextsteptv.com
#GoodTVHD เพย์ทีวีดีๆ จาก Next Step
 โทร 020263399
www.tv.co.th






บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #5963 เมื่อ: พฤษภาคม 22, 2017, 03:19:30 PM »



22 พ.ค. 60 หลังจากมีรายงานข่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. ที่ผ่านมา เกิดเหตุแก๊สระเบิดเสียงดังภายในอาคารของโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ถนนราชวิถี ส่งผลให้ประชาชนที่มาใช้บริการ และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลต่างแตกตื่น วิ่งหนีตายอลหม่าน เบื้องต้น มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ส่วนสาเหตุและความเสียหาย ต้องรอเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

ต่อมา พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ได้เข้าตรวจสอบเกิดเหตุนานกว่า 1 ชั่วโมง และได้เปิดเผยในเวลาต่อมาว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เป็นระเบิดไม่ทราบชนิด เนื่องจากพบแผงวงจรไอซีทามเมอร์ เศษสายไฟ และเศษถ่านไฟฉายตกอยู่ในพื้นที่ คาดว่า มีผู้นำใส่ภาชนะมาวางไว้ในจุดดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ต้องตรวจสอบอย่างละเอียด และเรียกประชุมความคืบหน้าจากผู้ที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง และได้รายงาน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว

ศรีวราห์ประณามพวกจิตใจอำมหิต
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวต่อว่า ส่วนจะเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดที่หน้ากองสลาก และหน้าโรงละครแห่งชาติหรือไม่นั้น ต้องรอให้เจ้าหน้าที่อีโอดี เก็บหลักฐานไปตรวจสอบอีกครั้ง ส่วนจะมีการประสงค์ต่อชีวิตหรือไม่นั้นต้องรอผลเช่นกัน แต่มีผู้บาดเจ็บจำนวน 24 คน และจะเกี่ยวเนื่องกับครบรอบ 3 ปีคสช.หรือไม่นั้น ก็อยู่ระหว่างการตรวจสอบ" ทั้งนี้ต้องประณามผู้ที่ลงมือ ขนาดในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังไม่มีการวางระเบิดในโรงพยาบาล" พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าว
"ขอประนามไปยังผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ ถือว่ามีจิตใจโหดมอำมหิต เพราะลักษณะการก่อเหตุความรุนแรงหรือการก่อการร้ายในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ยังไม่เลือกพื้นที่เป้าหมายที่เป็นโรงพยาบาล ซึ่งถือว่า เป็นสถานที่รักษาผู้ป่วย" พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าว

รายงานข่าวระบุว่า จุดเกิดเหตุอยู่ภายในห้องวงษ์สุวรรณ์ ในจุดนั่งรอรับการรักษา ตรวจสอบพบเศษตะปูกระจัดกระจายเต็มพื้นที่ ผู้บาดเจ็บซึ่งมีนายพลทหารเกษียณอายุราชการ กว่า 10 คน ถูกนำตัวรับการรักษาพยาบาลโดยด่วน เบื้องต้น ตรวจสอบพบว่า เป็นระเบิดแสวงเครื่อง เช่นเดียวกับหน้ากองสลากฯ อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบอีกครั้ง

ขณะเดียวกัน พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับรายงานจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบกแล้วถึง กรณีเหตุระเบิดบริเวณ ห้องจ่ายยานายทหารสัญญาบัตร ชั้น 1 อาคารเฉลิมพระเกียรติของโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ในช่วงสายวันนี้ โดยมีผู้บาดเจ็บ เล็กน้อย ประมาณ 24 ราย ทั้งนี้ เบื้องต้น ทางโรงพยาบาลได้ควบคุมพื้นที่ เกิดเหตุได้ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดย นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแล ผู้บาดเจ็บ อย่างเต็มที่ และ ให้เร่งตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

ทบ.ส่งชุด'อีโอดี'ตรวจสอบพื้นที่
ซึ่งหลังเกิดเหตุ ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ขณะนี้กองทัพบกได้รับทราบเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว ซึ่งได้ส่งเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด อีโอดี เจ้าไปตรวจสอบสาเหตุแล้ว ซึ่งต้องรอผลการตรวจสอบก่อน

ด้าน พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีเกิดท่อแอร์ระเบิดที่ตึกเฉลิมพระเกียรติ รพ.พระมงกุฎเกล้าฯ ทำให้มีผู้บาดเจ็บเป็นจำนวนมากว่า ขอเวลาตรวจสอบข้อมูล ว่าเป็นอุบัติเหตุจากอุปกรณ์ หรือสาเหตุอื่น
ขณะที่ พ.อ.นายแพทย์ รัชตะ ลำกูล ประชาสัมพันธ์รพ.พระมงกุฎเกล้า กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ระบุสาเหตุที่เกิดขึ้น แต่คาดว่าเป็นคอมเพรสเซอร์แอร์ ซึ่งขอให้รอแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

ขณะที่ พล.ท.สาโรช เขียวขจี เจ้ากรมแพทย์ทหารบก เปิดเผยความคืบหน้าเหตุเสียงดังคล้ายระเบิด ที่รพ.พระมงกุฏเกล้า ว่า เบื้องต้น ยังไม่สามารถระบุสาเหตุได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ส่วนความเสียหายเป็นห้องจ่ายยาทหารสัญญาบัตร ชั้น 1 อาคารเฉลิมพระเกียรติ มีกระจกภายในห้องแตก และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 24 ราย มี 3 ราย ที่ยังต้องเฝ้าสังเกตุอาการอย่างใกล้ชิด ซึ่งส่วนใหญ่จะได้รับบาดเจ็บจากสเก็ตกระจกตามร่างกาย สภาพความเสียหาย ต้องขอระยะเวลาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งในภายหลัง

ผบช.น.-ผู้ว่าฯกทม.สั่งกันพื้นที่ห้ามเข้า
ด้าน พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. และ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. ได้เดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยตนเอง ซึ่งขณะนี้ยังคงอยู่ในพื้นที่ โดนกั้นพื้นที่ให้ผู้สื่อข่าวและผู้เกี่ยวข้อง อยู่บริเวณด้านหน้าอาคาร
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #5964 เมื่อ: พฤษภาคม 23, 2017, 09:39:16 AM »





ประชาชนไม่หวั่นอากาศร้อน
เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2560 ประชาชนต่างเดินทางมากราบสักการะศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในมหาราชวัง อย่างต่อเนื่อง ถึงแม้สภาพอากาศจะร้อน โดยมีเหล่าจิตอาสาช่วยบริการร่มกันแดดและรับส่งโดยจักรยานยนต์ให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
ภาพ ชาลินี ถิระศุภะ (Chalinee Thirasupa) #NationPhoto
#สนามหลวง #สักการะศพ #รัชกาลที่9






กทม.เพิ่มการรักษาความปลอดภัย
เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2560 เจ้าหน้าที่เทศกิจจากทุกเขตกรุงเทพมหานคร เข้าแถวโดยพร้อมเพรียงบริเวณท้องสนามหลวง โดยในขณะนี้มีการเพิ่มกำลังรักษาความปลอดภัยโดยรอบสนามหลวงและมหาราชวังมากขึ้นกว่าเดิม
ภาพ ชาลินี ถิระศุภะ (Chalinee Thirasupa) #NationPhoto
#สนามหลวง #นโยบายความปลอดภัย #เจ้าหน้าที่เทศกิจ
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #5965 เมื่อ: พฤษภาคม 23, 2017, 09:40:31 AM »

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดบวก $7.8 เหตุเงินดอลล์อ่อนหนุนแรงซื้อทอง


ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 23 พฤษภาคม 2560 07:10:05 น.
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยเมื่อสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงนั้น ทำให้ทองคำมีราคาที่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 7.8 ดอลลาร์ หรือ 0.62% ปิดที่ระดับ 1,261.40 ดอลลาร์/ออนซ์



สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 39.5 เซนต์ หรือ 2.35% ปิดที่ 17.191 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 10.1 ดอลลาร์ หรือ 1.07% ปิดที่ 950.3 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 1.60 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 759.10 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวลง 0.18% แตะที่ระดับ 96.95 เมื่อคืนนี้

ทั้งนี้ ดอลลาร์อ่อนค่าลงจากการที่นักลงทุนไม่ต้องการที่จะซื้อดอลลาร์ล็อตใหญ่ ท่ามกลางแรงกดดันต่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากที่เขาเผชิญข้อกล่าวหาแทรกแซงการทำงานของสำนักงานสอบสวนกลาง (FBI) นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังถูกกดดันจากความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี หลังจากที่เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

นักลงทุนจับตารายงานการประชุมประจำเดือนพ.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีกำหนดจะเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ในรายงานการประชุมดังกล่าว เฟดอาจจะส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า

สำหรับความเคลื่อนไหวล่าของของเจ้าหน้าที่เฟดนั้น นายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟดสาขาดัลลัส กล่าวเมื่อวานนี้ว่า เฟดควรเดินหน้าปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย และเริ่มต้นลดวงเงินในงบดุลบัญชีของเฟดก่อนสิ้นปีนี้ เนื่องจากขณะนี้เฟดกำลังมีความคืบหน้าในการบรรลุเป้าหมายทางเศรษฐกิจทั้ง 2 ประการ ซึ่งได้แก่ เงินเฟ้อที่มีเสถียรภาพ และการจ้างงานที่เต็มศักยภาพ

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2652275

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 89.99 จุด จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนฯ,กลุ่มผลิตอาวุธ
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 พ.ค. 60)--ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 พ.ค.) โดยดาวโจนส์ปิดในแดนบวกติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มผู้ผลิตอาวุธอย่างคึกคัก หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในข้อตกลงขายอาวุธแก่ซาอุดิอาระเบียมูลค่ากว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของราคาน้ำมัน หลังจากมีการคาดการณ์ว่า กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันจะจับมือกันขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตในการประชุมวันที่ 25 พ.ค.นี้
 ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,894.83 จุด เพิ่มขึ้น 89.99 จุด หรือ +0.43% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,394.02 จุด เพิ่มขึ้น 12.29 จุด หรือ +0.52% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,133.62 จุด เพิ่มขึ้น 49.92 จุด หรือ +0.82%
 หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มบริษัทผลิตอาวุธได้รับแรงซื้อส่งเข้าหนุน หลังจากมีรายงานว่า ปธน.ทรัมป์ได้ลงนามในข้อตกลงขายอาวุธแก่ซาอุดิอาระเบียมูลค่าราว 1.10 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งจะมีวงเงินเพิ่มขึ้นเป็น 3.50 แสนล้านดอลลาร์ในช่วงเวลา 10 ปี
 ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์เดินทางเยือนซาอุดิอาระเบียในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และได้เดินทางเยือนอิสราเอลเมื่อวานนี้ ก่อนที่จะเดินทางไปยังอิตาลี, นครรัฐวาติกัน และเบลเยียม
 หุ้นล็อคฮีด มาร์ติน พุ่งขึ้น 1.6% หุ้นเรย์ธีออน คอร์ป ดีดตัวขึ้น 0.6% หุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ พุ่งขึ้น 1.2% หุ้นไมโครซอฟท์ ดีดตัวขึ้น 1.1% หุ้นโบอิ้ง พุ่งขึ้น 1.6%
 หุ้นฟอร์ด มอเตอร์ ร่วงลง 2.1% หลังจากบริษัทได้ประกาศแผนแต่งตั้งนายจิม แฮคเก็ตต์ ดำรงตำแหน่งซีอีโอแทนนายมาร์ค ฟิลส์ ขณะที่หุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ ดิ่งลง 3.3% หลังจากมีการคาดการณ์ว่า ทางบริษัทอาจจะไม่สามารถทำข้อตกลงกับบริษัทอินเทล คอร์ป เกี่ยวกับการออกใบอนุญาต
 นักลงทุนจับตารายงานการประชุมประจำเดือนพ.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีกำหนดจะเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ในรายงานการประชุมดังกล่าว เฟดอาจจะส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า
 สำหรับความเคลื่อนไหวล่าของของเจ้าหน้าที่เฟดนั้น นายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟดสาขาดัลลัส กล่าวเมื่อวานนี้ว่า เฟดควรเดินหน้าปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย และเริ่มต้นลดวงเงินในงบดุลบัญชีของเฟดก่อนสิ้นปีนี้ เนื่องจากขณะนี้เฟดกำลังมีความคืบหน้าในการบรรลุเป้าหมายทางเศรษฐกิจทั้ง 2 ประการ ซึ่งได้แก่ เงินเฟ้อที่มีเสถียรภาพ และการจ้างงานที่เต็มศักยภาพ
 นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่เดือนเม.ย., ดัชนีราคาบ้านเดือนมี.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนพ.ค.โดยมาร์กิต, ดุลการค้าเดือนเม.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนเม.ย., ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศไตรมาส 1 (ประมาณการครั้งที่ 2), ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนพ.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--
 
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #5966 เมื่อ: พฤษภาคม 23, 2017, 09:41:35 AM »

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดบวก 40 เซนต์ รับคาดการณ์โอเปกไฟเขียวขยายเวลาลดกำลังการผลิต


ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 23 พฤษภาคม 2560 06:56:23 น.
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันจะจับมือกันขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตในการประชุมวันที่ 25 พ.ค.

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 40 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 50.73 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 26 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 53.87 ดอลลาร์/บาร์เรล



สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นขานรับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ว่า โอเปกอาจพิจารณาขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตออกไปอีก 6-9 เดือน เมื่อข้อตกลงเดิมสิ้นสุดในเดือนมิ.ย.นี้

ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการโอเปก ซึ่งรับผิดชอบต่อการประเมินสถานการณ์ตลาดสำหรับการประชุมกลุ่มโอเปกในวันที่ 25 พ.ค. กำลังพิจารณาทางเลือกในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันมากขึ้น โดยการขยายเวลาในการปรับลดการผลิตออกไปเกินกว่าเดือนมิ.ย.ปีนี้ มีเป้าหมายที่จะลดปริมาณน้ำมันจำนวนมากในตลาด

ก่อนหน้านี้ นายคาลิด อัล-ฟาลีห์ รัฐมนตรีพลังงานซาอุดิอาระเบีย และนายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รัฐมนตรีพลังงานรัสเซีย ได้แสดงความเห็นพ้องต้องกันที่จะขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไปจนถึงเดือนมี.ค.ปีหน้า โดยมีเป้าหมายที่จะสนับสนุนให้ตลาดน้ำมันดิบทั่วโลกกลับสู่ภาวะสมดุลอีกครั้ง

อย่างไรก็ดี สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นในกรอบจำกัด เนื่องจากการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐเป็นปัจจัยบดบังการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของโอเปก

ทั้งนี้ การผลิตน้ำมันของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 10% หรือเกือบ 900,000 บาร์เรล/วัน นับตั้งแต่กลางปีที่แล้ว สู่ระดับ 9.3 ล้านบาร์เรล/วัน

ทางด้านเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะบ่อน้ำมันสหรัฐ เปิดเผยรายงานแท่นขุดเจาะน้ำมันรายสัปดาห์ พบว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐ มีจำนวนเพิ่มขึ้น 8 แท่น สู่ระดับ 720 แท่นในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2015 และเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 18 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นช่วงเวลายาวนานที่สุดเป็นอันดับ 2

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2652271

ดับ 19 ศพ ระเบิดกลางคอนเสิร์ต 'อาเรียนา แกรนเด' ใน “แมนเชสเตอร์ อารีน่า”
ตำรวจยันพบผู้เสียชีวิตแล้ว 19 ราย บาดเจ็บอีก 50 ราย จากเหตุระเบิดกลางคอนเสิร์ตนักร้องสาว “อาเรียนา แกรนเด” ใน “แมนเชสเตอร์ อารีน่า”
 เจ้าหน้าที่ตำรวจอังกฤษ ยืนยันพบผู้เสียชีวิตแล้ว 19 ราย และบาดเจ็บอีก กว่า 50 คน หลังเกิดเหตุระเบิดขึ้นในงานคอนเสิร์ตของอาเรียนา แกรนเด นักร้องสาวชื่อดังชาวอเมริกัน ที่จัดขึ้นที่แมนเชสเตอร์ อารีนา ในเมืองแมนเชสเตอร์ ของอังกฤษ เมื่อกลางดึกวานนี้ ตามเวลาท้องถิ่น และว่า เจ้าหน้าที่รับมือกับเหตุการณ์นี้ แบบเดียวกับการก่อการร้าย จนกว่าจะรู้สาเหตุที่แน่ชัดว่าเป็นการก่อการร้ายหรือไม่
 ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ทันทีที่เพลงสุดท้ายจบลงก็ได้ยินเสียงคล้ายระเบิดหรือลูกปืนดังขึ้นทางด้านขวาของเวทีอย่างสนั่นหวั่นไหว จากนั้นก็มีกลุ่มควันโพยพุ่งออกมา ก่อนที่จะมีสัญญาณฉุกเฉินเตือนขึ้นแล้วทุกคนก็รีบวิ่งออกมาจากสถานที่เกิดเหตุ

http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/756103

พรรคอนุรักษ์นิยมอังกฤษยกเลิกการหาเสียงเลือกตั้ง หลังเกิดเหตุระเบิดที่แมนเชสเตอร์


ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 23 พฤษภาคม 2560 08:25:47 น.
สมาชิกพรรคอนุรักษ์นิยมของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศยกเลิกการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งทั่วไป หลังจากเกิดเหตุระเบิดที่แมนเชสเตอร์ อารีนา ซึ่งเป็นสถานที่จัดการแสดงคอนเสิร์ตของนักร้องสาว อาเรียนา แกรนเด โดยเหตุการณ์ดังกล่าวซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเช้านี้ตามเวลาไทย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 19 ราย และมีผู้บาดเจ็บราว 50 ราย

สำหรับการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษนั้น จะมีขึ้นในวันที่ 8 มิ.ย.นี้


--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/ปรียพรรณ โทร.02-2535000 ต่อ 338 อีเมล์: preeyapan@infoquest.co.th--

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2652476

ประธานาธิบดีบราซิลยันไม่ลาออก หลังเกิดกรณีอื้อฉาวพัวพันคอรัปชั่น


ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 23 พฤษภาคม 2560 00:57:39 น.
นายมิเชล เตเมร์ ประธานาธิบดีบราซิล กล่าวยืนยันว่า เขาจะไม่ลาออก หลังเกิดกรณีอื้อฉาวที่พบว่านายเตเมร์ให้การสนับสนุนความพยายามที่จะมีการจ่ายเงินแก่พยานคนหนึ่งเพื่อปิดปากในการให้การคดีการให้สินบนครั้งใหญ่ที่สุดของบราซิล

"ผมจะไม่ลาออก คุณมาไล่ผมได้เลย ถ้าคุณต้องการ แต่ผมจะไม่ออก เพราะจะเป็นการแสดงว่าผมยอมรับผิด" เขากล่าว



ทั้งนี้ ศาลฎีกาของบราซิลได้เผยแพร่เทปบันทึกคำสนทนาระหว่างนายเตเมร์ และนายโฮสลีย์ บาติสตา เจ้าของบริษัท JBS ซึ่งเป็นผู้ผลิตเนื้อรายใหญ่ของบราซิล โดยทั้งสองได้พูดคุยกันเกี่ยวกับการติดสินบนด้วยการจ่ายเงินให้กับนายเออดูร์โด คันฮา อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งถูกจำคุกอยู่ในขณะนี้ โดยเงินดังกล่าวจะเป็นหลักประกันว่า นายคันฮาจะไม่เปิดโปงประเด็นต่างๆที่เกี่ยวข้องกับบริษัท JBS

นอกจากนี้ นายบาติสตายังได้กล่าวถึงนายเกดเดล เวอิรา ลิมา อดีตรัฐมนตรีซึ่งเคยทำหน้าที่เป็นคนกลางระหว่างนายบาติสตาและนายเตเมร์ แต่ในระยะหลังการติดต่อกับนายลิมาเป็นไปอย่างยากลำบากเนื่องจากเขาถูกตรวจสอบ และได้ลาออกจากตำแหน่งไปในที่สุด

ในตอนหนึ่งของการบันทึกเสียงระบุว่า นายบาติสตาได้ขอให้ปธน.เตเมร์ หาคนกลางที่จะมาช่วยเจรจาแทนนายลิมา ซึ่งสามารถทำหน้าที่ดังกล่าวได้ ซึ่งปธน.เตเมร์ได้แนะนำนายโรดริโก ลอเรส ซึ่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยในเวลาต่อมา นายลอเรสได้ถูกถ่ายคลิปในขณะรับเงินสินบน 500,000 เรียล (ราว 148,000 ดอลลาร์สหรัฐ) จากนายบาติสตา

นายเตเมร์อ้างว่าเทปบันทึกคำสนทนาดังกล่าวได้ถูกตัดต่อ
ศาลฎีกาของบราซิลจะมีคำวินิจฉัยในวันพุธนี้ว่าจะระงับการสอบสวนนายเตเมร์ตามคำร้องของเขาหรือไม่ เพื่อรอให้มีการตรวจสอบดูว่าเทปบันทึกคำสนทนาได้มีการตัดต่อเพื่อใส่ร้ายเขาหรือไม่

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2652262
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #5967 เมื่อ: พฤษภาคม 23, 2017, 09:43:47 AM »

คะแนนนิยม มูน แจ อิน พุ่งแตะ 80% ทำสถิติสูงสุดเทียบผู้นำก่อนหน้า

รัสเซียชี้สหรัฐโจมตีกองทัพรัฐบาลซีเรียมีแต่ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง


ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 22 พฤษภาคม 2560 11:35:00 น.
สำนักข่าว TASS ของรัสเซียรายงานคำกล่าวของนายเลโอนิด สลุตสกี ผู้อำนวยการคณะกรรมการกิจการระหว่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎรรัสเซีย ว่า การที่สหรัฐโจมตีกองทัพรัฐบาลซีเรียยิ่งเป็นการบ่อนทำลายความพยายามในการยับยั้งการก่อการร้ายในภูมิภาค

นายสลุตสกีกล่าวว่า การกระทำของสหรัฐถือเป็นการขัดขวางกระบวนการเจรจาของซีเรีย อีกทั้งยังทำให้ความพยายามของทุกฝ่ายที่ต้องการยับยั้งการก่อการร้ายย่ำแย่ลงอีกด้วย

นอกจากนี้ นายสลุตสกียังกล่าวอีกด้วยว่า ในขณะที่รัสเซียเดินหน้าสนับสนุนให้ซีเรียยุติสงครามกลางเมือง แต่สหรัฐกลับเป็นผู้ที่ทำให้สถานการณ์ดังกล่าวยากลำบากมากขึ้นกว่าเดิม

ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า กองทัพสหรัฐได้โจมตีกองทัพรัฐบาลซีเรียในเขตจำกัดการสู้รบเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา หลังจากรัฐบาลรัสเซีย อิหร่าน และตุรกี ได้เสนอให้มีการจัดตั้งเขตจำกัดการสู้รบดังกล่าวในการประชุมที่เมืองอัสตานา ประเทศคาซัคสถาน



--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปัทมาสน์ ชนะรัชชรักษ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2651931

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 22 พฤษภาคม 2560 11:41:00 น.
โพลล์สำรวจความเห็นซึ่งจัดทำโดยเรียล มิเตอร์ ระบุว่า คะแนนนิยมของนายมูน แจ อิน ประธานาธิบดีคนใหม่ของเกาหลีใต้ พุ่งแตะระดับ 80% โดยโพลล์ดังกล่าวได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนครั้งแรก หลังจากที่นายมูนขึ้นรับตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา

ผลสำรวจระบุเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า นายมูนมีคะแนนนิยมอยู่ที่ 81.6%


ความนิยมของนายมูนถือว่าอยู่ในระดับที่สูงมากเมื่อเทียบกับคะแนนนิยมของประธานาธิบดีคนอื่นๆหลังเข้ารับตำแหน่ง โดยในคะแนนนิยมของปาร์ค กึน เฮ เมื่อครั้งที่เข้ารับตำแหน่งได้ไม่นานนั้น อยู่ที่ระดับ 54.8% และอดีตปธน.อี มยอง บัก อยู่ที่ระดับ 76%

ทั้งนี้ นายมูน แจ อิน อดีตทนายด้านสิทธิมนุษยชน ได้คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยนายมูนได้เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่แทนปาร์ค กึน เฮ อดีตประธานาธิบดีที่ถูกปลดออกจากตำแหน่งด้วยข้อหาคอร์รัปชั่น ซึ่งนับเป็นความท้าทายอย่างยิ่งที่นายมูนจะต้องเข้ามาแก้ปัญหาทั้งภายในและภายนอกประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจที่ซบเซาลง หรือการรับมือจากการยั่วยุของเกาหลีเหนือ

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปัทมาสน์ ชนะรัชชรักษ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2651935
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #5968 เมื่อ: พฤษภาคม 23, 2017, 10:18:31 AM »



รายละเอียดในพิธีมหามงคลฯ
 **ข้อมูลปรับปรุง ณ วันที่ 21 พค.60
"พิธีมหามงคลบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวาย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และ ถวายพระพรชัยมงคลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ราชินีนาถ"

-จัดขึ้น ในวันอังคาร ที่ 23 พฤษภาคม 2560 (ควรมาก่อนเวลา 16.30 น.) ณ พระลานพระราชวังดุสิต (ลานรูปทรงม้า) กทม.
- เป็นพิธีมหามงคลบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวาย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูอดุลยเดช บรมนาถบพิตร, สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า, พระสยามเทวาธิราช
-และถวายพระพรชัยมงคลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ราชินีนาถ
โดย สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก เสด็จมาเป็นประธานสงฆ์ พร้อมพระสงฆ์ที่เป็นที่เคารพและศรัทธาจากทั่วประเทศ อีก 175 รูป นำสวดเจริญพระพุทธมนต์ 28 บท
พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ เป็นประธานในพิธี
ภายในงานได้อัญเชิญพระพุทธนรสีห์ จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต เป็นพระประธานในพิธี
 ซึ่งพระพุทธนรสีห์ เป็นพระพุทธรูปสมัยเชียงแสน ปางมารวิชัย ที่มีประวัติอันยาวนาน มาตั้งแต่ รัชกาลที่ 5 ที่หาโอกาสได้สักการะ และชื่นชมในพุทธศิลป์ที่งดงามได้ยากมาก และไม่เคยอัญเชิญออกนอกสถานที่ให้ประชาชนทั่วไปได้ สักการะมาก่อน ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ซึ่งท่านจะได้ชมริ้วขบวนอัญเชิญตามแบบโบราณราชประเพณีที่งดงาม โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ พลอากาศเอก สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์ฯ เป็นผู้อัญเชิญพระพุทธนรสีห์
- ภายในงานมีการเตรียมการกางเต็นท์ขนาดใหญ่ สามารถจุคนได้กว่า 5,000 คน (ห้าพันคน) เพื่อรองรับสภาพดินฟ้าอากาศ
- ผู้ที่มาร่วมงานที่บริเวณลานพระราชวังดุสิต จะ ได้รับหนังสือสวดมนต์พระราชทาน ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเรียบเรียงด้วยพระองค์เอง เพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูอดุลยเดช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า พระสยามเทวาธิราช และถวายพระพรชัยมงคลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ราชินีนาถ และให้เกิดความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว
-ประชาชนควรมาก่อนเวลาเพื่อมาร่วมถวายบังคมรูปรัชกาลที่ 5 ซึ่งจะมีเครื่องสักการะพระราชทานแจกให้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น แต่จะได้รับบทสวดมนต์ สำหรับสวดมนต์เพื่อสร้างสมาธิจิตให้กับตัวเองและสังคมประเทศชาติสืบไป
- การเดินทางควรมาโดยรถขนส่งมวลชนสาธารณะ จะสะดวกที่สุด แต่หากนำรถส่วนตัวมา สามารถจอดได้ที่บริเวณลานจอดรถอาคารใหม่สวนอัมพร สนามม้านางเลิ้ง สวนสัตว์ดุสิต โดยที่สนามม้านางเลิ้งจะมีรถรับ ส่ง
- มีการบริการรถสุขาเคลื่อนที่ไว้บริการ ประจำจุดต่างๆ ครอบคลุมพื้นที่จัดงาน.
- การแต่งกายประชาชน แต่งชุดไว้ทุกข์
- ในส่วนต่างจังหวัด ร่วมพิธีได้ที่วัดที่ได้รับการมอบหมายใกล้บ้านท่าน
- สามารถดาวน์โหลดบทสวดมนต์ได้ที่ http://www.prd.go.th
-สามารถรับชมการถ่ายทอดสดพิธีมหามงคลครั้งนี้ ตั้งแต่เวลา 17.10 น.จนเสร็จพิธี ทาง สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
 (NBT2HD),ช่องดาวเทียมรับชมได้ทั่วโลก Thai TV Global Network (TGN) และทางช่องดาวเทียม NBT World หรือรับชมทาง Facebook : liveNBT2HD
-นอกจากนี้ สามารถรับฟังการถ่ายทอดเสียงพิธีมหามงคลครั้งนี้ ทาง สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย และเครือข่ายทั่วประเทศ
-สำหรับพิธีมหามงคลทรงบำเพ็ญพระราชกุศล จะจัดให้มีขึ้นในวันสำคัญต่างๆ อย่างต่อเนื่องอีกด้วย
cr Pisal puemongkong
ภาพ https://s-media-cach...b252330cb42.jpg
บันทึกการเข้า

finghting!!!
jainu
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11494


« ตอบ #5969 เมื่อ: พฤษภาคม 23, 2017, 10:20:08 AM »

เมื่อวันศุกร์ที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๖๐ เวลา ๑๕.๑๗ น.พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ทรงเปิดคลองภักดีรำไพ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองจันทบุรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดจันทบุรี
ขอบคุณภาพ.FB_RDPB Project










บันทึกการเข้า

finghting!!!
Gold Price today, Gold Trend Price Prediction, ราคาทองคํา, วิเคราะห์ทิศทางทองคํา
   

images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary ---------------------Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. For more information on Moore Research products and services click here. --- http://www.mrci.com ---------- ---------------------------------------------รูปกราฟแสดงราคาทองในอดีตปี 1974-1999 ของ Moore Research Center, Inc. แสดงฤดูกาลที่ราคาทองขึ้นสูงสุดและตําสุด เอาแบบคร่าวๆ เส้นนําตาลหรือนําเงินก็ใกล้เคียงกัน เส้นนําตาลเฉลี่ย 15 ปี เส้นนําเงินเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุดของเส้นนําตาล หรือเฉลี่ย 15 ปี ในเดือน ปลายเดือน เมษ และปลายเดือน สค ต่อต้นเดือน กย[/color] สูงสุดในเดือน กพ กับ พย / ส่วนเฉลี่ย 26 ปี ราคาตําสุด ต้น กค กับ ปลาย สค และราคาสูงสุดในเดือน กพ และ กลางเดือน ตค ----- แค่ดูคร่าวๆ เป็นแนวทาง อย่ายึดมั่นว่าจะต้องเป็นตามนี้ ข้างล่างเป็นกราฟราคานํามัน ตามฤดูกาล จาก Charts courtesy of Moore Research Center, Inc. images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป dictionary
 บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 396 397 [398] 399 400 ... 402   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: